Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการสอนวิชาบัญชีบริหาร

แผนการสอนวิชาบัญชีบริหาร

Published by nalinee.2523, 2020-09-21 01:50:29

Description: แผนการสอนวิชาบัญชีบริหาร

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ น(ช.ม.) 3 (3) ท-ป-น- 0-3-3 น(ท-ป-ศ).............................. รหสั 3201-2018 วชิ า การบญั ชบี ริหาร หลกั สตู ร ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สงู พุทธศักราช 2557 ประเภทวิชา บรหิ ารธรุ กิจ สาขาวิชาการบญั ชี สาขางานการบญั ชี จดั ทาโดย นางสาวนลินี ศรจี ันทร์ ครูประจาแผนวชิ าการบญั ชี วิทยาลยั การอาชพี สว่างแดนดนิ อาชีวศกึ ษาจังหวดั สกลนคร

แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั 3201-2018 วิชา การบัญชบี รหิ าร โดย นางสาวนลินี ศรีจันทร์ วฒุ ิปริญญาโท บรหิ ารธรุ กจิ

แบบคาขออนุมัติใชแ้ ผนการเรียนรู้ แผนการเรยี นรู้ รายวชิ า การบัญชีบรหิ าร รหสั 3201-2018 ลงชอื่ .......................... (นางสาวนลนิ ี ศรีจนั ทร์) ครู คศ.2 ผ้จู ดั ทา ความเหน็ หัวหนา้ แผนกวชิ าการบญั ชี ความเห็นหัวหนา้ งานพัฒนาหลักสตู รฯ ......................................................... ............................................................ ........................................................ ............................................................. (นางประไพศรี วงศป์ รีดี) (นายคุมดวง พรมอินทร์) หวั หน้าแผนกวชิ าการบญั ชี หัวหนา้ งานพฒั นาหลักสูตรการเรียนการสอน ความเห็นรองผอู้ านวยการฝา่ ยวิขาการ ............................................................. ............................................................. (นายทินกร พรหมอนิ ทร์) รองผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ ความเหน็ ผ้อู านวยการวทิ ยาลัยการอาชีพสว่างแดนดนิ อนุมตั ิ ไม่อนุมัติ ………………………….. (นางวรรณภา พ่วงกลุ ) ผู้อานวยการวิทยาลยั การอาชพี สวา่ งแดนดนิ

คานา พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่ไดป้ ระกาศใช้ตั้งแต่เดอื นสิงหาคม 2542 เปน็ ต้นมา ได้เนน้ ให้ครู-อาจารย์และผู้เกีย่ วข้องท้ังหลายจัดการเรียนการสอนโดยเนน้ ผู้เรียนสาคัญท่ีสุดซ่ึง กจิ กรรมการเรียนการสอนท่ีจัด ควรมีลักษณะสาคัญดงั น้ี 1. ผ้เู รยี นไดเ้ รียนร้จู ากการปฏิบตั จิ รงิ 2. ผู้เรยี นมโี อกาสเลือกเรียนรู้ในสง่ิ ทต่ี นถนัดและสนใจ 3. ผเู้ รยี นไดม้ โี อกาสแสวงหาความร้แู ละสรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตัวเอง 4. ผ้เู รยี นได้มีโอกาสทจี่ ะนาความรไู้ ปปฏบิ ตั ิใช้จรงิ ในชีวิตประจาวนั 5. ผู้เรยี นมสี ่วนร่วมในการประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องตนเอง ครผู ู้สอนได้ตระหนกั ถึงภารกิจของนักศึกษา ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ ด้วยการบูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ไว้ในรายวิชา และในการคิดกิจกรรมที่จะส่งเสรมิ การเรียนรขู้ องนกั ศกึ ษาตามพระราชบัญญตั ิ การศกึ ษาแห่งชาติให้เป็นรูปธรรม แผนการเรียนรู้ รายวชิ าการบญั ชีบริหาร รหสั 3201-2018 ซงึ่ ประกอบด้วย  มาตรฐานสมรรถนะและตวั บ่งช้ี หมวดวชิ าชพี สาขางาน  ลกั ษณะรายวชิ า  ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตร  กาหนดการสอนที่บูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์  แผนการจดั การเรียนรู้ท่บี ูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ครผู ู้สอนหวงั ว่าแผนการเรียนรู้เล่มน้ีคงเปน็ ประโยชนแ์ ก่ผสู้ นใจไดใ้ ช้เปน็ แนวทางในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ใหบ้ รรลตุ ามวตั ถุประสงคต์ อ่ ไป นลนิ ี ศรีจนั ทร์ มีนาคม 2563

สารบัญ มาตรฐานสมรรถนะ และตวั บง่ ช้ีหมวดวิชาชีพสาขางาน ลักษณะรายวชิ า ตารางวเิ คราะหห์ ลักสูตร กาหนดการสอนท่ีบรู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ แผนการจัดการเรยี นรูท้ บ่ี รู ณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 11 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 12 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 13 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 14 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 16 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 17 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18 ภาคผนวก ก ตัวอย่างแบบประเมินดว้ ยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ข ตวั อย่างแบบสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัตงิ านรายบุคคล ค ตวั อยา่ งแบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ ง ตัวอย่างแบบประเมินการนาเสนอผลงานรายบุคคล จ ตัวอย่างแบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ฉ ตัวอย่างแบบรวมคะแนนการประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ช ตัวอย่างแบบสรปุ ผลการประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ซ วธิ ีการใชแ้ บบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์

รหสั 3201-2018 3(3) วิชา การบญั ชบี รหิ าร ชนั้ ประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สงู สาขาวิชาการบญั ชี/หมวดวิชาชีพสาขางาน พฤติกรรม พทุ ธิพิสยั (40%) ความรู้ ชื่อหน่วย ความเ ้ขาใจ การนาไปใ ้ช กกาารร ิวเคราะห์ สกังาเรคปรราะะเห์ิมน ทักษะ ิพสัย (30%) ิจต ิพสัย (30%) รวม ลาดับความสาคัญ จานวนชั ่วโมง 1. ขอ้ มลู ทางการบญั ชกี บั การบรหิ าร 1 1 1 - -- 3 3 9 6 3 6 2. การวเิ คราะหง์ บการเงนิ 1 1 1.5 1.5 - - 4 4 13 2 3 6 3. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ตน้ ทุนเพอ่ื การบรหิ าร 1 1 1 1 - - 3 3 10 5 6 6 4. ตน้ ทุนผนั แปร: เคร่อื งมอื สาหรบั การบรหิ ารธุรกจิ 1 1 1 1 - - 3 3 10 5 6 6 5. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งต้นทนุ -จานวน-กาไร 1 1 1.5 1 - - 3 3 10.5 5 6 6. ขอ้ มูลทม่ี คี วามหมายเพอ่ื การตดั สนิ ใจเฉพาะดา้ น 1 1 1 1 - - 3 3 10 5 7. งบประมาณหลกั เพอ่ื การวางแผนและการควบคมุ 1 1 1.5 1.5 - - 4 4 13 2 8. การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน 1 1 1.5 1.5 - - 3 3 11 3 9. การตดั สนิ ใจดา้ นการงบประมาณรายจ่ายฝ่ายทนุ 1 1 2 1.5 - - 4 4 13.5 1 สอบกลางภาค 9 9 12 10 - - 30 30 100 3 สอบปลายภาค 3 54 รวม ลาดบั ความสาคญั 4423 11 หมายเหตุ 1.การสอบปลายภาคเรยี นสาหรบั รายวชิ านอ้ี าจจะมหี รอื ไมก่ ไ็ ด้ ขน้ึ อยกู่ บั อาจารย์ ผสู้ อน 2.ตารางวเิ คราะหน์ ้ี จะแตกตา่ งจากในหนงั สอื บญั ชบี รหิ าร เพราะมกี ารปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงบางส่วน

รหสั 3101-2018 วิชา การบญั ชบี รหิ าร 3 หน่วยกิต (3 ชวั่ โมง) เวลาเรียนต่อภาค 54 ชวั่ โมง รายวิชาตามหลกั สูตร สมรรถนะรายวชิ า* ชวั ่ โมง จดุ ประสงคร์ ายวิชา  สมรรถนะหลกั 1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในการประมวลขอ้ มลู ท่ใี ชใ้ น 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใช้ การวางแผน และการตดั สนิ ใจ ในการวางแผน และตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. มที กั ษะในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ การจดั ทา งบประมาณประจาปี และงบประมาณการลงทนุ สมรรถนะย่อย 3. มเี จตคตทิ ่ดี ตี อ่ วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจใน การวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ มาตรฐานรายวิชา งบประมาณการลงทุน 1. รูว้ ธิ กี ารคานวณขอ้ มลู ใชใ้ นการวางแผนและการ ตดั สนิ ใจ 2. วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 3. ทางบประมาณประจาปี งบประมาณการลงทุน 4. เลอื กขอ้ มลู เพอ่ื การตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คาอธิบายรายวิชา รวม 54 ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ ก่ยี วกบั หลกั การของการ บญั ชบี รหิ ารประเภทขอ้ มลู การวางแผน และการตดั สนิ ใจ การวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปี งบประมาณ การลงทนุ และจดั ทารายงานการเงนิ * สมรรถนะรายวชิ าน้ี เป็นเพยี งแนวทางเพอ่ื ใชใ้ นการประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รยี นเทา่ นนั้ สามารถเปลย่ี นแปลงได้

กาหนดการสอนท่ีบรู ณาการคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ วิชา รหสั 3201-2018 วิชา การบญั ชีบริหาร 3(3) หน่วย ช่ือหน่วย/สาระสาคญั สปั ดาห์ ชวั่ โมง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ คุณธรรม จริยธรรม ท่ี ที่ ท่ี ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะ 1 ข้อมลู ทางการบญั ชกี บั การบริหาร 1 1-3 1. อธบิ ายประเภทของขอ้ มลู ได้ อนั พึงประสงค์ 2. อธบิ ายกระบวนการทางการ 1. ประเภทของขอ้ มลู บญั ชไี ด้ ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2. กระบวนการทางการบญั ชี 3. อธบิ ายกระบวนการทางการ ความมวี นิ ัย 3. กระบวนการทางการบรหิ าร บรหิ ารได้ ความรบั ผดิ ชอบ 4. ความตอ้ งการของผบู้ รหิ ารในดา้ น 4. อธบิ ายความตอ้ งการของ ความเช่อื มนั่ ในตนเอง ผบู้ รหิ ารในดา้ นขอ้ มลู ได้ ความสนใจใฝ่ รู้ ขอ้ มลู 5. อธบิ ายความแตกต่างระหวา่ ง ความรกั สามคั คี 5. ความแตกตา่ งระหวา่ งการบญั ชี การบญั ชกี ารเงนิ กบั การบญั ชี ความกตญั ญูกตเวที บรหิ ารได้ การเงนิ กบั การบญั ชบี รหิ าร 6. อธบิ ายสงิ่ แวดลอ้ มทางธรุ กจิ ใน 6. สง่ิ แวดลอ้ มทางธรุ กจิ ในปัจจบุ นั ปัจจบุ นั ได้ 7. ขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างจรยิ ธรรมของการบญั ชี 7. อธบิ ายขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างจรยิ ธรรม ของการบญั ชบี รหิ ารได้ บรหิ าร 4-6 1. อธบิ ายวตั ถุประสงคข์ องการ 2 การวิเคราะห์งบการเงิน 2 วเิ คราะหง์ บการเงนิ ได้ 1. วตั ถปุ ระสงคข์ องการวเิ คราะหง์ บ 2. อธบิ ายวธิ กี ารท่ใี ชใ้ นการ วเิ คราะหง์ บการเงนิ ได้ การเงนิ 3. วเิ คราะหแ์ นวราบได้ 2. วธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหง์ บการเงนิ 4. วเิ คราะหแ์ นวโน้มได้ 5. วเิ คราะหแ์ นวดง่ิ ได้ 3. การวเิ คราะหแ์ นวราบ 7-9 6. วเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ นได้ 7. อธบิ ายขอ้ จากดั ในการวเิ คราะห์ 4. การวเิ คราะหแ์ นวโน้ม งบการเงนิ ได้ 5. การวเิ คราะหแ์ นวดงิ่ 10-12 1. อธบิ ายความหมายและคา 6. การวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ น 3 เฉพาะของตน้ ทุนได้ 7. ขอ้ จากดั ในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ 2. อธบิ ายตน้ ทุนทางตรงและ ตน้ ทนุ ทางออ้ มได้ 3 ความร้เู บอื้ งต้นเกีย่ วกบั ต้นทนุ 4 3. อธบิ ายตน้ ทนุ ผลติ ภณั ฑแ์ ละ เพอื่ การบริหาร ตน้ ทนุ ตามงวดเวลาได้ 1. ความหมายและคาเฉพาะของตน้ ทุน 4. อธบิ ายการจดั ประเภทตน้ ทุน 2. ตน้ ทนุ ทางตรงและตน้ ทนุ ทางออ้ ม เพอ่ื ใชใ้ นการตดั สนิ ใจได้ 3. ตน้ ทุนผลติ ภณั ฑแ์ ละตน้ ทุนตามงวด 5. อธบิ ายรูปแบบพฤตกิ รรม เวลา ตน้ ทุนได้ 4. การจดั ประเภทตน้ ทนุ เพอ่ื ใชใ้ นการ ตดั สนิ ใจ 5. รูปแบบพฤตกิ รรมตน้ ทนุ

หน่วย ช่ือหน่วย/สาระสาคญั สปั ดาห์ ชวั่ โมง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม ที่ ท่ี ท่ี คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ต้นทุนผนั แปร: เครอื่ งมือสาหรบั การ 5 13-15 บริหารธรุ กิจ 1. อธบิ ายลกั ษณะงบกาไรขาดทนุ 1. งบกาไรขาดทุนตามรูปแบบแสดง ตามรูปแบบแสดงกาไรสว่ นเกนิ ได้ 4 กาไรสว่ นเกนิ 2. อธบิ ายการคดิ ตน้ ทุนผลติ ภณั ฑ์ 2. การคดิ ตน้ ทุนผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยวธิ ี 6 16-18 ดว้ ยวธิ ตี น้ ทนุ ผนั แปรได้ ตน้ ทนุ ผนั แปร 3. บอกประโยชน์ของวธิ ตี น้ ทนุ ผนั 3. ประโยชน์ของวธิ ตี น้ ทนุ ผนั แปร แปรได้ 5 ความสมั พนั ธ์ระหว่างต้นทนุ -จานวน- 7 19-21 1. อธบิ ายหลกั พ้นื ฐานสาคญั ของ กาไร การวเิ คราะหต์ น้ ทนุ -จานวน- 1. หลกั พน้ื ฐานสาคญั ของการวเิ คราะห์ กาไรและนาไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้ ตน้ ทนุ -จานวน-กาไร 2. อธบิ ายและคานวณการ 2. การวเิ คราะหจ์ ดุ คมุ้ ทนุ วเิ คราะหจ์ ดุ คมุ้ ทุนได้ 3. การวเิ คราะหจ์ ดุ กาไรตามเป้าหมาย 3. อธบิ ายและคานวณการวเิ คราะห์ 4. สว่ นเกนิ ท่ปี ลอดภยั จดุ กาไรตามเป้าหมายได้ 5. สว่ นผสมในการขายผลติ ภณั ฑห์ ลาย 8 22-24 4. อธบิ ายและคานวณสว่ นเกนิ ท่ี ปลอดภยั ได้ ชนิด 5. อธบิ ายและคานวณสว่ นผสมใน ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6. การเลอื กโครงสรา้ งตน้ ทุนโดยการ ความมวี นิ ยั การขายผลติ ภณั ฑห์ ลายชนิดได้ ความรบั ผดิ ชอบ พจิ ารณา CVP 6. อธบิ ายและวเิ คราะหก์ ารเลอื ก ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 7. สมมตฐิ านของการวเิ คราะห์ CVP ความสนใจใฝ่ รู้ โครงสรา้ งตน้ ทนุ โดยการ ความรกั สามคั คี พจิ ารณา CVP ได้ ความกตญั ญกู ตเวที 7. บอกสมมตฐิ านของการ วเิ คราะห์ CVP ได้ 6 ข้อมลู ที่มีความหมายเพือ่ การ 9 25-27 ตดั สินใจเฉพาะด้าน 1. อธบิ ายแนวคดิ ของตน้ ทุนเพอ่ื 1. แนวคดิ ของตน้ ทนุ เพ่อื การตดั สนิ ใจ การตดั สนิ ใจได้ 2. การตดั สนิ ใจเฉพาะดา้ น 2. อธบิ ายและวเิ คราะหก์ าร 2. กรตดั สนิ ใจเฉพาะดาน (ตอ่ ) 10 28-30 ตดั สนิ ใจเฉพาะดา้ นได้ - ทบทวน/สอบกลางภาคเรียน 11 31-33 7 งบประมาณหลกั เพอ่ื การวางแผนและ 12 34-36 การควบคมุ 1. อธบิ ายงบประมาณและวงจร 1. งบประมาณและวงจรการจดั ทา การจดั ทางบประมาณได้ งบประมาณ 2. อธบิ ายงบประมาณหลกั ได้ 2. งบประมาณหลกั 13 37-39 3. จดั ทางบประมาณหลกั ได้ 3. การจดั ทางบประมาณหลกั

หน่วย ช่ือหน่วย/สาระสาคญั สปั ดาห์ ชวั่ โมง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ คณุ ธรรม จริยธรรม ท่ี ท่ี ที่ คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะ การประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 14 40-42 อนั พึงประสงค์ 1. งบประมาณยดื หยนุ่ 1. อธบิ ายและจดั ทางบประมาณ ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 8 ความมวี นิ ยั 2. การบญั ชตี ามความรบั ผดิ ชอบ 15 43-45 ยดื หยนุ่ ได้ ความรบั ผดิ ชอบ 2. อธบิ ายการบญั ชตี ามความ ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 9 การตดั สินใจดา้ นการงบประมาณ ความสนใจใฝ่ รู้ รายจา่ ยฝ่ ายทนุ รบั ผดิ ชอบและจดั ทารายงาน ความรกั สามคั คี ความกตญั ญกู ตเวที 1. ประเภทของการตดั สนิ ใจดา้ น ผลการปฏบิ ตั งิ านได้ การงบประมาณรายจา่ ยฝ่ายทุน 16 46-48 1. อธบิ ายประเภทของการ 2. มลู คา่ เงนิ ตามเวลา ตดั สนิ ใจดา้ นการงบประมาณ 3. วธิ กี ระแสเงนิ สดคดิ ลด รายจา่ ยฝ่ายทนุ ได้ 2. อธบิ ายมลู คา่ เงนิ ตามเวลาได้ 4. กระแสเงนิ สดทม่ี คี วามหมายตอ่ การ 3. อธบิ ายและวเิ คราะหว์ ธิ กี ระแส 17 49-51 เงนิ สดคดิ ลดได้ วเิ คราะหก์ ระแสเงนิ สดคดิ ลด 4. คานวณกระแสเงนิ สดทม่ี ี ความหมายต่อการวเิ คราะห์ กระแสเงนิ สดคดิ ลดได้ - ทบทวน/สอบปลายภาคเรียน 18 52-54 หมายเหตุ กาหนดการสอนทบ่ี ูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคน์ ้ี จดั ทาขน้ึ เพอ่ื เป็นแนวทางใหก้ บั ครผู สู้ อนในการจดั การเรยี นการสอนเท่านนั้ สามารถ เปลย่ี นแปลงไดข้ น้ึ อยกู่ บั ผสู้ อน และสถานศกึ ษาทจ่ี ะนาไปประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นสาคญั ผเู้ ขยี นแผนจดั การเรยี นรู้

การวดั ผลและประเมินผลวิชาการบญั ชีบริหาร การวดั ผล 20% 20% 1. สอบกลางภาค 10% 2. สอบปลายภาค 10% 3. บรู ณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 20% 4. การเขา้ ชนั้ เรยี น 20% 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น 6. ใบงาน/แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ หมายเหตุ ผเู้ รยี นต้องเขา้ เรยี นไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 ของเวลาเรยี นทงั้ หมด แตก่ ารแบ่งคะแนน การวดั ผลน้ีสามารถเปล่ยี นแปลงได้ขน้ึ อยู่กบั ครูเป็นสาคญั และเน่ืองจากเป็นวชิ าท่เี น้นการนา ทกั ษะความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั โดยทัว่ ไป การวดั ผลสามารถจดั เข้าไปในเร่อื ง คณุ ธรรม จรยิ ธรรมได้ เพ่อื ใหเ้ หน็ เป็นรปู ธรรมท่ชี ดั เจน จงึ จะขอแยกเรอ่ื งการวดั ผลดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ในรูปเคร่อื งมอื วดั ผลเป็นแบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา โดยทงั้ ครูและผู้เรยี น จะประเมินคุณลกั ษณะจากพฤตกิ รรมบ่งช้ที ่ีกาหนดไว้ และต้องทาควบคู่กับกระบวนการทา กจิ กรรมการเรยี นการสอน ซ่งึ อาจอยู่ในรูปของกลุ่มผเู้ รยี นหรอื เป็นรายบุคคล โดยอาจสบั เปล่ยี น กนั เป็นผู้ประเมินร่วมกบั ครู เพ่อื ความเท่ยี งตรงของการประเมนิ ดงั นัน้ แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ งั้ ของครู และผเู้ รยี นจงึ เป็นชดุ เดยี วกนั และเพ่อื ดูพฒั นาการของผเู้ รยี น จะใชแ้ บบประเมนิ ชดุ น้เี ป็นเคร่อื งมอื ประเมนิ การประเมินผล กาหนดค่าระดบั คะแนน ตามเกณฑด์ งั น้ี คะแนนรอ้ ยละ 80-100 ไดเ้ กรด 4 คะแนนรอ้ ยละ 75-79 ไดเ้ กรด 3.5 คะแนนรอ้ ยละ 70-74 ไดเ้ กรด 3 คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ไดเ้ กรด 2.5 คะแนนรอ้ ยละ 60-64 ไดเ้ กรด 2 คะแนนรอ้ ยละ 55-59 ไดเ้ กรด 1.5 คะแนนรอ้ ยละ 50-54 ไดเ้ กรด 1 คะแนนรอ้ ยละ 0-49 ไดเ้ กรด 0 หนังสือประกอบการเรียน อาจารยพ์ รหมนิ ทร์ สทิ ธพิ รพรหม. วิชาการบญั ชีบริหาร. .กรงุ เทพฯ: เอม พนั ธ,์ 2553.

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบูรณาการที่ 1 หน่วยที่ 1 รหสั วชิ า 3201-2018 การบญั ชบี รหิ าร3(3) สอนครงั้ ที่ 1 (1-3) ชอ่ื หน่วย ขอ้ มูลทางการบญั ชกี บั การบรหิ าร จานวน 3 ชม. สาระสาคญั การบัญชบี รหิ ารเป็นการศึกษาถึงการนาข้อมูลทางการเงนิ ท่รี วบรวมได้จากกระบวนการทางบญั ชี การเงนิ มาใช้ประโยชน์ทางการบรหิ ารจดั การธุรกิจในด้านต่างๆ ทงั้ ในส่วนของการวางแผนและการควบคุม เพ่อื ใหธ้ ุรกิจประสบความสาเรจ็ ตามเป้าท่ตี งั้ ไว้ ดงั นัน้ เพ่อื ท่จี ะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมลู ทางการบญั ชี ไดม้ ากทส่ี ุด ผู้ใชข้ อ้ มลู จงึ ควรทจ่ี ะทราบถงึ กระบวนการทางการบรหิ าร สงิ่ แวดลอ้ มทางธุรกจิ ทเ่ี ป็นอยู่ในปัจจบุ นั รวมถงึ ประเดน็ ในดา้ นของจรยิ ธรรมทางการบรหิ าร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายประเภทของขอ้ มลู ได้ 2. อธบิ ายกระบวนการทางการบญั ชไี ด้ 3. อธบิ ายกระบวนการทางการบรหิ ารได้ 4. อธบิ ายความต้องการของผบู้ รหิ ารในดา้ นขอ้ มลู ได้ 5. อธบิ ายความแตกต่างระหว่างการบญั ชกี ารเงนิ กบั การบญั ชบี รหิ ารได้ 6. อธบิ ายสงิ่ แวดลอ้ มทางธรุ กจิ ในปัจจบุ นั ได้ 7. อธบิ ายขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างจรยิ ธรรมของการบญั ชบี รหิ ารได้ 8. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 8.2 ความมวี นิ ยั 8.3 ความรบั ผดิ ชอบ 8.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 8.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 8.6 การประหยดั 8.7 ความสนใจใฝ่รู้ 8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 8.9 ความรกั สามคั คี 8.10 ความกตญั ญกู ตเวที

สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทุน ตวั บง่ ชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทนุ เนือ้ หาสาระ 1. ประเภทของขอ้ มลู 2. กระบวนการทางการบญั ชี 3. กระบวนการทางการบรหิ าร 4. ความต้องการของผบู้ รหิ ารในดา้ นขอ้ มลู 5. ความแตกต่างระหว่างการบญั ชกี ารเงนิ กบั การบญั ชบี รหิ าร 6. สง่ิ แวดลอ้ มทางธุรกจิ ในปัจจุบนั 7. ขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างจรยิ ธรรมของการบญั ชบี รหิ าร กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูแจง้ จุดประสงค์รายวชิ า มาตรฐานรายวชิ า คาอธิบายรายวชิ า และสมรรถนะแก่ผู้้เรยี น พรอ้ มทงั้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2. ผเู้ รยี นสนทนากนั เร่อื งความหมายของการบญั ชที ่เี คยศกึ ษามาแล้วอย่างสรุป คอื การจดบนั ทึก การจาแนกรายการคา้ เป็นหมวดหมู่ การสรปุ ผล การวเิ คราะหแ์ ละแปลความหมาย ซง่ึ ผเู้ รยี นกเ็ ขา้ ใจดี 3. ผเู้ รยี นรบั ฟังคาช้แี จงสงั เขปรายวชิ าและการวดั ประเมนิ ผล ซกั ถามขอ้ ปัญหารวมทงั้ แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การ เรยี นวชิ าน้ี ขนั้ สอน 4. ครอู ธบิ ายประเภทของขอ้ มลู กระบวนการทางการบญั ชี กระบวนการทางการบรหิ าร ความตอ้ งการของผบู้ รหิ ารใน ดา้ นขอ้ มลู ความแตกตา่ งระหวา่ งการบญั ชกี ารเงนิ กบั การบญั ชบี รหิ าร สง่ิ แวดลอ้ มทางธรุ กจิ ในปัจจบุ นั และขอ้ ปฏบิ ตั ทิ างจรยิ ธรรม ของการบญั ชบี รหิ าร โดยใชส้ อ่ื แผน่ ใสประกอบ 5. ผเู้ รยี นยกตวั อย่างขอ้ มลู ภายใน และขอ้ มลู ภายนอกของกจิ การ ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง

6. ผเู้ รยี นเขยี นแผนภูมกิ ระบวนการบญั ชี และแผนภูมขิ องกระบวนการทางบรหิ าร พรอ้ มคาอธบิ าย ประกอบ 7. ครนู ารปู ภาพของวงจรการวางแผนและการควบคมุ มาแสดงใหผ้ เู้ รยี นดแู ละพจิ ารณา 8. ผเู้ รยี นหาบทความเก่ยี วกบั ความตอ้ งการของผู้บรหิ ารด้านขอ้ มลู มาคนละ 1 บทความพร้อมสรุป สาระสาคญั 9. ผเู้ รยี นอ่านกรณี แลว้ วเิ คราะหแ์ ต่ละกรณใี หส้ อดคลอ้ งกบั เน้อื หาสาระ 10. ครอู ภิปรายเพมิ่ เติมเกย่ี วกบั การดาเนินธุรกจิ โดยหวงั เพยี งกาไรอย่างเดยี วคงจะไม่ได้ ควรมกี าร นาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกต์ใช้ ด้วยการยดึ หลกั ความพอประมาณ คอื ใชป้ ระโยชน์จากการใช้ ทรพั ยากรอยา่ งประหยดั และเตม็ ประสทิ ธภิ าพ เน้นการใหบ้ รกิ ารท่มี คี ุณภาพ และสอดคลอ้ งกบั ความสามารถใน การบรหิ ารจดั การ ไม่เน้นการทาผลกาไรมากในระยะสนั้ บรหิ ารธุรกจิ ในด้านท่มี ีความถนัด ยดึ หลกั ความมี เหตุผล คอื การสรา้ งระบบการดาเนินงานภายในองคก์ ร โดยมรี ะบบการพฒั นาทรพั ยากรบุคคลอย่างชดั เจน และ ใหค้ วามสาคญั กบั คณุ ภาพชวี ติ ของพนกั งาน มรี ะบบบรหิ ารจดั การคณุ ภาพชวี ติ การทางานในสถานประกอบการ เน้นคุณภาพสนิ ค้า ไม่บดิ เบือนขอ้ มลู สนิ คา้ ยดึ หลกั การมภี ูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ี คอื มกี ารกระจายความเสย่ี ง เพม่ิ สมดุล ของรายไดเ้ พอ่ื ลดความเสย่ี งจากความไมแ่ น่นอน มกี ารประเมนิ ความเสย่ี งของตนเองว่าควรดาเนินไปทางใด อยู่ ในความไม่ประมาท สนบั สนุนพนักงานให้มคี วามรู้ความเชย่ี วชาญอย่างต่อเน่ือง สง่ เสรมิ ให้อย่รู ่วมกนั ในสงั คม อย่างมนั่ คง สงบสขุ ใหม้ สี ขุ ภาวะทส่ี มบูรณ์ 11. ครูแนะนาผู้เรยี นบนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย โดยกล่าวถงึ เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั การแก้ไขปัญหาความ ยากจนภาคปฏบิ ตั ิ เป็นการลงมอื ปฏบิ ตั ิเพ่อื นาพาตวั เองส่เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง ซ่งึ กค็ อื การอย่อู ย่างพ่งึ ตนเองใน ระดบั ครวั เรอื น จะต้องมคี วามพรอ้ มท่จี ะอยอู่ ยา่ งพง่ึ ตนเองดว้ ยการ ลดรายจ่าย เพม่ิ รายได้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การออม การพง่ึ ตนเองจะตอ้ งอาศยั การจดบนั ทกึ หรอื เรยี กว่า “จดเป็น พง่ึ ตนเองได”้ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 12. ผเู้ รยี นสรปุ เน้ือหาตามข้อสรุปผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวงั และวางแผนศกึ ษาขอ้ มูลทางการบญั ชกี บั การบรหิ ารมาประยุกตใ์ นภายในองคก์ รและภายนอกองคก์ ร โดยให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ 13. ผเู้ รยี นทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ชว่ ยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในส่อื สงิ่ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ชอ่ื 3. แผนจดั การเรยี นรู้

การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. โจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ ่าน 50% 4 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ..................................................................................................................................... .................... .............................................................................................................. ........................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ................................................................................................................................... ...................... ......................................................................................................................................................... ปัญหาที่พบ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ แนวทางแก้ปัญหา ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ......................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบรู ณาการที่ 2 หน่วยท่ี 2 รหสั วชิ า 3201-2018 วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ท่ี 2 (4-6) ช่ือหน่วย การวิเคราะหง์ บการเงิน จานวน 3 ชม. สาระสาคญั การวเิ คราะหง์ บการเงนิ เป็นการนาขอ้ มลู ทางการเงนิ ของธุรกจิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในอดตี มาประเมนิ ผล เพ่อื ทจ่ี ะ เป็นแนวทางในการพยากรณ์หรอื วางแผนการดาเนินงานในอนาคต ซ่งึ อาจเป็นการคงไว้สาหรบั แนวทางเดมิ หรอื ปรบั เปลย่ี นใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ ตามแต่ผบู้ รหิ ารจะต้องการ โดยการวเิ คราะหง์ บการเงนิ น้มี วี ธิ กี ารท่ี นยิ มใชก้ นั อย่างแพร่หลายคอื การวเิ คราะหใ์ นลกั ษณะเปรยี บเทยี บ 4 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์แนวราบ การ วเิ คราะหแ์ นวโน้ม การวเิ คราะหแ์ นวดง่ิ และการวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ น จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวตั ถุประสงคข์ องการวเิ คราะหง์ บการเงนิ ได้ 2. อธบิ ายวธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหง์ บการเงนิ ได้ 3. วเิ คราะหแ์ นวราบได้ 4. วเิ คราะหแ์ นวโน้มได้ 5. วเิ คราะหแ์ นวดงิ่ ได้ 6. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้สาเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6.2 ความมวี นิ ยั 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ 6.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 6.6 การประหยดั 6.7 ความสนใจใฝ่รู้ 6.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 6.9 ความรกั สามคั คี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทนุ

ตวั บง่ ชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทุน เนื้อหาสาระ 1. วตั ถุประสงคข์ องการวเิ คราะหง์ บการเงนิ 2. วธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหง์ บการเงนิ 3. การวเิ คราะหแ์ นวราบ 4. การวเิ คราะหแ์ นวโน้ม 5. การวเิ คราะหแ์ นวดงิ่ กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครูผู้สอนกล่าวถึงงบการเงินเป็นข้อมูลท่เี กิดข้นึ จากกระบวนการทางการบญั ชี และเป็นข้อมูล เบ้อื งต้นท่ผี บู้ รหิ ารใชส้ ่อื ใหท้ ราบถงึ สภาวะทางการเงนิ ขององคก์ ารดา้ นความมงั่ คงทางการเงนิ และการดาเนิน ดา้ นต่าง ๆ ทเ่ี ป็นอยู่ 2. ผู้เรียนเล่าประสบการณ์ท่ีพบเห็นมาว่า ผู้บรหิ ารก็ใช้ประโยชน์จากข้อมูล เช่น ข้อมูลจากงบ การเงนิ ซง่ึ สามารถนามาซง่ึ การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านเปรยี บเทยี บกบั แผนทก่ี าหนดไว้ เพอ่ื เป็นแนวทางใน การพจิ ารณาหรอื พฒั นาต่อไป 3. ครแู จง้ กจิ กรรมทต่ี ้องปฏบิ ตั ใิ นสปั ดาหน์ ้ี และแนะนาใหศ้ กึ ษาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จากเน้อื หาทม่ี อี ยู่ ขนั้ สอน 4. ครูผู้สอนใช้เทคนิคการอธิบายวตั ถุประสงค์ของการวเิ คราะห์งบการเงนิ และวิธกี ารท่ใี ช้ในการ วเิ คราะหง์ บการเงนิ โดยใชส้ ่อื แผ่นใสประกอบ 5. ผู้เรียนหาข่าวสารข้อมูลเก่ียวกบั การวิเคราะห์งบการเงนิ ของธุรกิจมาคนละ 1 ข่าว เพ่ือสรุป สาระสาคญั เร่อื งวตั ถุประสงคข์ องการวเิ คราะหง์ บการเงนิ และวธิ กี ารทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหง์ บการเงนิ 6. ครใู ชเ้ ทคนิคการสอนโดยการอธบิ ายและสาธติ แสดงการคานวณการวเิ คราะหแ์ นวราบ (Horizontal Analysis) ตามโจทยต์ วั อย่างของบรษิ ทั พรพรหม จากดั ในหนงั สอื หน้าท่ี 29 และใหผ้ เู้ รยี นรว่ มแสดงการสาธติ การคานวณไปพรอ้ มกนั เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นซกั ถามในเร่อื งหรอื ประเดน็ ทไ่ี มเ่ ขา้ ใจ 7. ผเู้ รยี นแปลความหมายจากผลการวเิ คราะห์ดา้ นสภาวการณ์ทางการเงนิ ในงบดุล และด้านผลการ ดาเนินงานในงบกาไรขาดทุนในงบกาไรขาดทนุ 8. ครูและผเู้ รยี นสรุปภาพรวมจากการคานวณและแปลความหมายจากโจทยข์ องบรษิ ทั พรพรหม จากดั 9. ครูอธบิ ายและสาธติ การคานวณการวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis) และแนวด่ิง (Vertical Analysis) โดยอาศยั ขอ้ มลู จากโจทยเ์ ดมิ ของบรษิ ทั พรพรหม จากดั

10. ครแู ละผูเ้ รยี นแสดงผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในรปู ตวั เลข และในรปู แบบกราฟ ดงั แสดงตามตวั อยา่ ง ในหน้า 36-39 11. ใหผ้ เู้ รยี นปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนการดาเนนิ กจิ กรรมดงั น้ี ขนั้ ท่ี 1 แบ่งผเู้ รยี นออกเป็นกลุม่ ๆ ละประมาณ 5 คน ขนั้ ท่ี 2 แต่ละกลมุ่ ทาโจทยพ์ เิ ศษเรอ่ื งการวเิ คราะหแ์ นวราบ และการวเิ คราะหแ์ นวโน้ม อย่างละ 1 ขอ้ พรอ้ มเฉลยใหถ้ กู ต้องสมบูรณ์ ขนั้ ท่ี 3 ใหน้ ารายละเอยี ดขา้ งตน้ มาวเิ คราะหแ์ ละอภปิ รายการเรยี นรทู้ เ่ี กดิ ขน้ึ ร่วมกบั ผเู้ รยี นคน อ่นื ๆ ในชนั้ เรยี น เพอ่ื แลกเปลย่ี นความรซู้ ง่ึ กนั และกนั ขนั้ ท่ี 4 ผสู้ อน / ผเู้ รยี นวดั และประเมนิ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นตามสภาพทแ่ี ทจ้ รงิ ขนั้ ท่ี 5 จดั ทาผลงานสง่ ผสู้ อนเพ่อื ประเมนิ ผลอกี ครงั้ 12. ครเู น้นการพง่ึ ตนเองเป็นหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทาให้ครอบครวั พอมพี อกนิ พง่ึ ตนเองคอื ทากจิ กรรมในครวั เรอื นเอง มกี าลงั เท่าไรกท็ าเท่านนั้ ใชแ้ รงงานในครวั เรอื น ไม่ต้องจา้ งแรงงานภายนอก แนว ทางการพง่ึ ตนเองอกี อย่างหน่ึงคอื การลดรายจ่ายและการเพมิ่ รายได้ การลดรายจ่ายทาไดอ้ ยา่ งง่าย ดว้ ยการทา บัญชีรายรบั -รายจ่ายในครวั เรือน ถ้าทาบัญชีรายรบั -รายจ่ายจะทาให้รู้ว่ามีอะไรบ้างท่ีไม่สมควรต้องจ่าย อะไรบา้ ง 13. ครอู ธบิ ายการจดั ทาบญั ชคี รวั เรอื น หรอื บัญชรี ายรบั รายจ่ายน้ี ไม่ใช่เป็นแต่เพยี งการจดบนั ทกึ รายการต่างๆ ทเ่ี ป็นเงนิ เท่านนั้ แต่ยงั เป็นการสรา้ งความสามคั คภี ายในครอบครวั รู้จกั ช่วยเหลอื แบ่งปันกนั ใน สงั คม มกี ารเรยี นรซู้ ง่ึ กนั และกนั ซ่งึ เกดิ จากประสบการณ์ต่างๆ ท่ไี ดร้ บั จากการจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ทเ่ี ป็นประโยชน์ ทาให้ประชาชนทุกคนร้จู ักการบริหารจดั การด้านการเงนิ และการวางแผนการทางานทุกอย่างเพ่อื ให้บรรลุ เป้าหมายได้ การทาบญั ชคี รวั เรอื นทาใหค้ รอบครวั มคี วามสุขใช้ชวี ติ โดยยดึ หลกั ความพอเพยี ง มเี หตุมผี ล รจู้ กั พง่ึ พาตนเอง มคี วามพอประมาณ การเงนิ มสี ภาพคลอ่ ง รูจ้ กั การเกบ็ ออม ทุกคนรูถ้ ึงแหล่งทม่ี าของรายรบั และ การใชไ้ ปของคา่ ใชจ้ า่ ยในแต่ละวนั สามารถนาขอ้ มลู การใชจ้ ่ายมาวางแผนบรหิ ารการเงนิ ในอนาคตได้ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 14. ผเู้ รยี นและครสู รปุ ในภาพรวมถือได้ว่าบรษิ ทั บรหิ ารงานภายใต้การตดิ ตามภาวการณ์ทางการเงนิ ของบรษิ ทั และปรบั ตวั ได้อยา่ งทนั ท่วงที ถอื เป็นการบรหิ ารท่ยี ดื หยุ่นไม่อย่บู นความเส่ียงทม่ี ากหรอื น้อยเกนิ ไป เพราะในหลกั ทางการบรหิ ารการเงนิ แลว้ ความเสย่ี งกบั ผลตอบแทนจะไปในทศิ ทางเดยี วกนั คอื หากต้องการ ผลตอบแทนในระดบั สงู ความเสย่ี งกย็ ง่ิ สงู ตาม พรอ้ มกบั การบรหิ ารการดาเนินงานโดยใช้กลยุทธด์ า้ นการตลาด และการเงนิ โดยเฉพาะการบรหิ ารต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มปี ระสิทธภิ าพประกอบกนั ทาให้ยงั คงรกั ษาระดบั ความสามารถทากาไรทด่ี ไี ด้ 15. ผเู้ รยี นทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ

16. ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5. ชอ่ื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ชว่ ยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในสอ่ื สง่ิ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ชอ่ื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. โจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ า่ น 50% 4 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพ่อื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้ บญั ชีรายรบั -รายจ่าย ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................... ประจาวนั ที.่ ............................................................... วนั เดือนปี รายรบั จานวนเงิน รายจ่าย จานวนเงิน คงเหลือ

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ปัญหาที่พบ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................. ................................................ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ...............................

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบรู ณาการที่ 3 หน่วยที่ 2 รหสั วชิ า 3201-2018 วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ที่ 3 (7-9) ช่ือหน่วย การวเิ คราะหง์ บการเงนิ จานวน 3 ชม. สาระสาคญั การวเิ คราะหง์ บการเงนิ เป็นการนาขอ้ มลู ทางการเงนิ ของธุรกจิ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในอดตี มาประเมนิ ผล เพอ่ื ทจ่ี ะ เป็นแนวทางในการพยากรณ์หรอื วางแผนการดาเนินงานในอนาคต ซ่งึ อาจเป็นการคงไว้สาหรบั แนวทางเดิม หรอื ปรบั เปลย่ี นใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ ตามแต่ผบู้ รหิ ารจะต้องการ โดยการวเิ คราะห์งบการเงนิ น้มี วี ธิ กี ารท่ี นิยมใช้กนั อย่างแพร่หลายคอื การวเิ คราะหใ์ นลกั ษณะเปรยี บเทยี บ 4 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ การวเิ คราะหแ์ นวราบ การ วเิ คราะหแ์ นวโน้ม การวเิ คราะหแ์ นวดง่ิ และการวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ น จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6. วเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ นได้ 7. อธบิ ายขอ้ จากดั ในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ ได้ 8. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 8.2 ความมวี นิ ยั 8.3 ความรบั ผดิ ชอบ 8.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 8.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 8.6 การประหยดั 8.7 ความสนใจใฝ่รู้ 8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 8.9 ความรกั สามคั คี 8.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทนุ ตวั บง่ ชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ

918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทุน เนื้อหาสาระ 6. การวเิ คราะหอ์ ตั ราส่วน 7. ขอ้ จากดั ในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครกู ลา่ วถงึ การวเิ คราะหง์ บการเงนิ ในลกั ษณะของการวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ นนนั้ สามารถนามาใชเ้ ป็น เครอ่ื งมอื ประกอบกระบวนการบรหิ ารของผบู้ รหิ ารในองคก์ ารต่าง ๆ ซง่ึ ชว่ ยใหผ้ บู้ รหิ ารประเมนิ ประสทิ ธภิ าพใน สง่ิ ทไ่ี ดป้ ฏบิ ตั ผิ า่ นไปแลว้ ในอดตี และพยากรณ์ถงึ สถานการณ์ในอนาคตไดอ้ กี ดว้ ย 2. ครแู จง้ ใหผ้ เู้ รยี นทราบว่าในหน่วยการเรยี นน้จี ะศกึ ษาการวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ น 3 ประการ ไดแ้ ก่ (1) การวเิ คราะหอ์ ตั ราส่วนสภาพคล่อง (2) การวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ นความคมุ้ ครอง (3) การวเิ คราะหอ์ ตั ราส่วนความสามารถทากาไร ขนั้ สอน 3. ครผู ู้สอนใช้เทคนิคการสอนแบบอธบิ าย และสาธติ การวเิ คราะหอ์ ตั ราส่วน และอธบิ ายขอ้ จากดั ใน การวเิ คราะหง์ บการเงนิ ใชส้ ่อื แผน่ ใสประกอบ 4. ผเู้ รยี นแสดงการสาธติ การวเิ คราะหอ์ ตั ราส่วนเงนิ ทุนหมุนเวยี น อตั ราสว่ นเงนิ ทนุ หมุนเวยี น อตั รา การหมนุ ของลกู หน้ี อตั ราการหมนุ ของสนิ คา้ และระยะเวลาเฉลย่ี ในการขายสนิ ค้า โดยอธบิ ายแปลความหมาย ของผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ และการรายงานผลการวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ น 5. ผู้เรยี นแสดงการสาธิตอตั ราส่วนความคุ้มครอง ได้แก่ อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของเจ้าของ อัตราส่วนหน้ีสินรวมต่อสินทรพั ย์รวม และอัตราส่วนความสามารถในการจ่ายดอกเบ้ีย โดยอธิบาย แปล ความหมายผลลพั ธท์ ไ่ี ด้ และการรายงานผลการวเิ คราะหอ์ ตั ราส่วน 6. ผ้เู รยี นแสดงการสาธติ โดยแบ่งกลุ่มตามหวั ข้อเร่อื งดงั น้ี: อตั ราส่วนความสามารถทากาไร ได้แก่ อัตรากาไรขนั้ ต้นต่อยอดขาย อัตราผลตอบแทนจากยอดขาย อัตราผลตอบแทนจากสนิ ทรพั ย์รวม อัตรา ผลตอบแทนจากสว่ นของเจ้าของ หรอื อตั ราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถอื หนุ้ สามญั กาไรต่อหนุ้ อตั ราส่วนการ จา่ ยเงนิ ปันผล อตั ราผลตอบแทนทแ่ี ทจ้ รงิ จากเงนิ ปันผล อตั ราส่วนราคาหุน้ ต่อกาไร และมูลค่าตามบญั ชตี ่อหุ้น เม่อื แสดงการคานวณไดผ้ ลลพั ธ์แล้ว ให้อธบิ ายแปลความหมาย และการรายงานผลการวิเคราะห์อตั ราส่วน ประกอบดว้ ย 7. ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั อธบิ ายขอ้ จากดั ในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ ในหวั ขอ้ เรอ่ื งต่างๆ 8. ครูเน้นความรู้เร่อื งความพอเพียงของเศรษฐกิจพอเพียง จะต้องประกอบด้วยคุณลักษณะ 3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว โดยความหมายของความ พอประมาณนนั้ หมายถงึ ความพอดี ทไ่ี ม่น้อยเกนิ ไปและไม่มากเกนิ ไป โดยไมเ่ บยี ดเบยี นตนเองและผอู้ ่นื

ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 9. ครแู ละผ้เู รยี นช่วยกนั สรุปจากข้อสรุปผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวงั และให้ผ้เู รยี นทาโจทย์ปัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะในหน่วยท่ี 2 10. ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5. ชอ่ื ผเู้ รยี น ประสบการณพ์ น้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ชว่ ยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในส่อื สง่ิ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน 1.บนั ทกึ การสอน 2.ใบเชค็ ช่อื 3.แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ

4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. โจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ า่ น 50% 4 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพ่อื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้ บญั ชีรายรบั -รายจ่าย ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................... ประจาวนั ที.่ ............................................................... วนั เดือนปี รายรบั จานวนเงิน รายจ่าย จานวนเงิน คงเหลือ

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................. ................................................ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ...............................

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบูรณาการท่ี 4 หน่วยท่ี 3 รหสั วิชา 3201-2018 วิชาการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ที่ 4 (10-12) ช่ือหน่วย ความร้เู บือ้ งต้นเก่ียวกบั ต้นทนุ เพ่ือการบริหาร จานวน 3 ชม. สาระสาคญั การบรหิ ารธรุ กจิ ไมว่ า่ จะเป็นในรปู แบบใดกต็ าม ยอ่ มตอ้ งเก่ยี วขอ้ งกบั ประเดน็ การบรหิ ารตน้ ทนุ ในองคก์ ารทงั้ สน้ิ ดงั นัน้ เพอ่ ใหก้ ารบรหิ ารตน้ ทนุ เป็นไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและนามาซ่งึ กาไรของธรุ กจิ สงู ทส่ี ดุ แลว้ ผบู้ รหิ ารหรอื ผเู้ ก่ยี วขอ้ งจาเป็นตอ้ งรจู้ ัก และขา้ ใจถงึ ตน้ ทุนอยา่ งขดั เจนเป็นลาดบั แรก นอกจากนนั้ เพอ่ื ใหผ้ ู้บรหิ ารสามารถบรหิ ารตน้ ทุนท่เี กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ สงู สดุ การทาความเขา้ ใจและสามารถระบุพฤตกิ รรมของตน้ ทนุ ไดน้ นั้ ถอื เป็นสง่ิ จาเป็นอยา่ งยง่ิ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายและคาเฉพาะของตน้ ทนุ ได้ 2. อธบิ ายตน้ ทนุ ทางตรงและต้นทนุ ทางออ้ มได้ 3. อธบิ ายตน้ ทุนผลติ ภณั ฑแ์ ละต้นทนุ ตามงวดเวลาได้ 4. อธบิ ายการจดั ประเภทตน้ ทุนเพ่อื ใชใ้ นการตดั สนิ ใจได้ 5. อธบิ ายรปู แบบพฤตกิ รรมตน้ ทนุ ได้ 6. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สาเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6.2 ความมวี นิ ยั 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 6.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 6.6 การประหยดั 6.7 ความสนใจใฝ่รู้ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 6.9 ความรกั สามคั คี 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม

สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทุน ตวั บ่งชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทุน เนื้อหาสาระ 1. ความหมายและคาเฉพาะของต้นทนุ 2. ตน้ ทนุ ทางตรงและต้นทุนทางออ้ ม 3. ต้นทุนผลติ ภณั ฑแ์ ละตน้ ทนุ ตามงวดเวลา 4. การจดั ประเภทต้นทุนเพ่อื ใชใ้ นการตดั สนิ ใจ 5. รปู แบบพฤตกิ รรมตน้ ทุน กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครอู ภปิ รายวา่ เพ่อื เป็นแนวทางในการตดั สนิ ใจ ผบู้ รหิ ารจงึ มกั ต้องการทราบถงึ ต้นทนุ สาหรบั สงิ่ ใด สง่ิ หน่งึ โดยเฉพาะวา่ มจี านวนทม่ี ากน้อยเพยี งใด เชน่ ต้นทนุ ผลติ ภณั ฑ์ ต้นทนุ เคร่อื งจกั ร ฯลฯ 2. ผู้เรยี นยกตัวอย่างต้นทุนในการผลิตสินค้าท่ีเคยศึกษามาแล้ว เช่น ค่าแรงงาน ค่าวัตถุดิบ คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลติ ซง่ึ ผเู้ รยี นเคยศกึ ษามาแลว้ เพ่อื เชอ่ื มโยงเขา้ ส่เู น้อื หาการเรยี นการสอน ขนั้ สอน 3. ครูสอนโดยใชร้ ปู แบบการเรยี นแบบ TAI (Team Assisted Individualization) เพ่อื อธบิ ายโดยเน้น การเรยี นของแต่ละบุคคล และสาธติ ประกอบดว้ ย (1) ความหมายและคาเฉพาะของต้นทุน (2) ตน้ ทุนทางตรงและต้นทนุ ทางอ้อม (3) ต้นทนุ ผลติ ภณั ฑแ์ ละตน้ ทุนตามงวดเวลา (4) การจดั ประเภทต้นทนุ เพอ่ื ใชใ้ นการตดั สนิ ใจ (5) รปู แบบพฤตกิ รรมตน้ ทนุ 4. ผเู้ รยี นแสดงวธิ ที าโจทยก์ รณีศกึ ษา เพ่อื แกป้ ัญหาดงั น้ี 4.1 เป้าหมายตน้ ทุนทม่ี กี ารนาขน้ึ มาพจิ ารณา 4.2 คานวณต้นทนุ รวมทงั้ หมดทเ่ี กดิ ขน้ึ ในแต่ละแผนกผลติ 4.3 คานวณตน้ ทนุ รวมของสนิ คา้ แต่ละชนิดวา่ มจี านวนเทา่ ใด ก่อนทจ่ี ะถูกสง่ เขา้ คลงั สนิ คา้ ต่อไป

5. ผเู้ รยี นศกึ ษาโจทยก์ รณีศกึ ษา เพ่อื แยกประเภทต้นทนุ แต่ละรายการทแ่ี สดงในโจทยน์ นั้ เป็นต้นทุน ทางตรงหรอื ตน้ ทนุ ทางอ้อมสาหรบั เป้าหมายต้นทุนทเ่ี ป็นผลติ ภณั ฑแ์ ต่ละหน่วย 6. ผเู้ รยี นศกึ ษาโจทยก์ รณีศกึ ษาของบรษิ ทั พรพรหม จากดั แลว้ ใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั น้ี 6.1 ตน้ ทนุ ทางตรงและต้นทุนทางออ้ มของแต่ละผลติ ภณั ฑม์ จี านวนเทา่ ใด 6.2 เพราะเหตุใด บรษิ ทั จงึ ตอ้ งการทจ่ี ะตดิ ตามตน้ ทุนดา้ นพลงั งานของโรงงานทช่ี ลบุรี เพอ่ื การกาหนดตน้ ทุนมากกว่าการใชว้ ธิ กี ารปันสว่ นทป่ี ฏบิ ตั อิ ยเู่ ดมิ 6.3 คานวณหาตน้ ทุนรวมต่อหน่วยของแต่ละผลติ ภณั ฑ์ 7. ครูอภิปรายเพิ่มเติมในปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง นอกเหนือจากคุณลกั ษณะด้านความ พอประมาณ ยงั มีคุณลกั ษณะด้านความมีเหตุผล ท่หี มายถึง การตัดสินใจเก่ยี วกบั ระดบั ของความพอเพยี ง จะต้องเป็นไปอย่างมเี หตุผลโดยพจิ ารณาจากเหตุปัจจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ตลอดจนคานึงถงึ ผลท่คี าดว่าจะเกดิ ขน้ึ จาก การกระทานนั้ ๆ อย่างรอบคอบ นนั้ สามารถนามาประยุกต์ให้เขา้ กบั การดาเนินธุรกจิ ได้อย่างไร เม่อื พจิ ารณา หน่วยธุรกจิ หน่ึงๆ ในทางเศรษฐศาสตร์ถอื ว่าเป็นหน่วยการผลิต ทาหน้าท่แี ปลงปัจจยั การผลติ ให้กลายเป็น ผลผลติ เพ่อื สง่ ต่อไปยงั หน่วยการบรโิ ภคท่เี ป็นครวั เรอื นและผบู้ รโิ ภคลาดบั สุดท้าย หรอื ไปยงั หน่วยการผลติ อ่นื ตามสายอุปทาน การพจิ ารณาเหตุปัจจยั ท่เี กย่ี วขอ้ งและผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จากหน่วยการผลติ จะแยกเป็น 2 ระดบั คอื ความมเี หตุผลในหน่วยการผลติ หรอื ภายในตวั กจิ การเอง กบั ความมเี หตุผลระหวา่ งตวั กจิ การกบั หน่วยการผลติ อ่นื และผบู้ รโิ ภค ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 8. สรุปเน้อื หาโดยการให้ทากรณีศกึ ษา และถามตอบเป็นรายบุคคลหรอื รายกลุ่ม เพ่อื ประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ต่อไป 9. ผเู้ รยี นทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื ฝึกทกั ษะ และประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5. ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5.

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ชว่ ยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในสอ่ื สงิ่ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ช่อื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. โจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ า่ น 50% 4 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้ บญั ชีรายรบั -รายจ่าย ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................... ประจาวนั ที.่ ............................................................... วนั เดือนปี รายรบั จานวนเงิน รายจ่าย จานวนเงิน คงเหลือ

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ปัญหาท่ีพบ ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ...............................

แผนการจดั การเรยี นร้แู บบบรู ณาการท่ี 5 หน่วยที่ 4 รหสั วชิ า 3201-2018 วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ท่ี 5 (13-15) ชื่อหน่วย ตน้ ทนุ ผนั แปร: เคร่อื งมอื สาหรบั การบรหิ ารธุรกจิ จานวน 3 ชม. สาระสาคญั รายงานผลการดาเนินงานหรอื งบกาไรขาดทุนของธุรกิจท่ไี ด้จดั ทาข้นึ ตามรูปแบบปฏิบตั ิเดิม ซ่งึ มี หลกั การคดิ ต้นทุนผลติ ภณั ฑ์ภายใตว้ ธิ ตี ้นทุนคดิ เขา้ งาน และมุ่งใชเ้ พ่อื รายงานต่อภายนอกเป็นหลกั นนั้ หากจะ นามาใช้เป็นข้อมูลเพ่อื ประโยชน์ทางการบริหาร โดยเฉพาะทางด้านการบรหิ ารต้นทุน ย่อมจะไม่เกิดความ ชดั เจนและไมเ่ หมาะสมท่จี ะนามาใชเ้ พ่อื ประกอบการวเิ คราะหแ์ ละตดั สนิ ใจทางการบรหิ าร ดงั นั้น เพ่อื ให้ขอ้ มูล ผลการดาเนินงานของธรุ กจิ สามารถนามาใชป้ ระโยชน์ทางการบรหิ ารไดอ้ ย่างเหมาะสม จงึ มรี ปู แบบของงบกาไร ขาดทุนอกี ลกั ษณะหน่ึง คอื งบกาไรขาดทุนตามรปู แบบแสดงกาไรส่วนเกนิ โดยมหี ลกั การคดิ ตน้ ทุนผลติ ภณั ฑ์ อกี วธิ หี น่งึ เรยี กว่า วธิ ตี ้นทนุ ผนั แปร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายลกั ษณะงบกาไรขาดทนุ ตามรปู แบบแสดงกาไรส่วนเกนิ ได้ 2. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผ้สู าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 2.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 2.2 ความมวี นิ ยั 2.3 ความรบั ผดิ ชอบ 2.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 2.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 2.6 การประหยดั 2.7 ความสนใจใฝ่รู้ 2.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 2.9 ความรกั สามคั คี 2.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทนุ

ตวั บ่งชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทุน เนื้อหาสาระ 1. งบกาไรขาดทุนตามรปู แบบแสดงกาไรสว่ นเกนิ กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครกู ล่าวถึง ผูบ้ รหิ ารเม่อื ไดต้ ดิ ตามต้นทุนและแยกประเภทต้นทุนตามพฤติกรรมในลกั ษณะของ ต้นทุนผนั แปรและตน้ ทนุ คงทแ่ี ลว้ กจ็ ะจดั การกบั ขอ้ มลู เหล่านนั้ ในรปู แบบต่าง ๆ ทต่ี อ้ งการ 2. ผเู้ รยี นยกตวั อย่างการนาขอ้ มลู ไปจดั การในเร่อื งต่าง ๆ ของผู้บรหิ าร เช่น งบกาไรขาดทุน งบดุล หรอื นาขอ้ มลู ไปใชต้ ดั สนิ ใจในการบรหิ ารงานดา้ นต่าง ๆ ของกจิ การ ขนั้ สอน 3. ครูผูส้ อนใชเ้ ทคนิคโดยการอธิบาย และสาธติ การจดั ทางบกาไรขาดทุนตามรูปแบบแสดงกาไร สว่ นเกนิ โดยใชส้ อ่ื แผน่ ใสประกอบ 4. ผเู้ รยี นอ่านกรณศี กึ ษาของบรษิ ทั ภาสกรฮารด์ แวร์ จากดั แลว้ ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 4.1 ระบุว่าค่าใช้จ่ายของบริษัทท่ีเกิดข้ึนแต่ละรายการรวมทัง้ ต้นทุนสินค้ าท่ีขายมีรูปแบบ พฤตกิ รรมตน้ ทนุ ในลกั ษณะใด (ผนั แปร คงท่ี หรอื ผสม) 4.2 ใชว้ ธิ พี จิ ารณาจากค่าสงู สุด-ต่าสดุ เพ่อื แยกคา่ ใชจ้ ่ายทม่ี ลี กั ษณะพฤตกิ รรมแบบต้นทนุ ผสม ว่า มสี ว่ นทเ่ี ป็นตน้ ทนุ หรอื ค่าใชจ้ ่ายผนั แปรเทา่ ใด และส่วนทเ่ี ป็นตน้ ทุนหรอื คา่ ใชจ้ า่ ยคงทเ่ี ทา่ ใด 4.3 จดั ทางบกาไรขาดทนุ ทงั้ 3 เดอื นใหม่ โดยใหแ้ สดงตามรปู แบบแสดงกาไรสว่ นเกนิ แทน 5. ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะ โดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 6. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ แนวเศรษฐกจิ พอเพยี งระดบั กา้ วหน้า จะให้ความสาคญั กบั การแบ่งปันหรอื การ ใช้ทรพั ยากรร่วมกนั หรอื การรวมกลุ่มทงั้ ในแนวดง่ิ ตามสายอุปทาน และแนวราบในลกั ษณะของเครอื ข่าย วสิ าหกจิ เป็นบนั ไดขนั้ ทส่ี องจนพฒั นามาส่คู วามร่วมมอื ระหวา่ งกลุ่มธรุ กจิ หรอื เครอื ข่ายวสิ าหกจิ ต่างๆ เพ่อื สรา้ ง ใหเ้ กดิ ความยงั่ ยนื ของกจิ การ เป็นบนั ไดขนั้ ท่สี าม การประยุกต์ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งทงั้ สามขนั้ ข้างต้น ชใ้ี หเ้ หน็ ถงึ การพฒั นาทเ่ี รม่ิ ตน้ จากหลกั ของการพง่ึ ตนเอง ใหม้ คี วามเขม้ แขง็ เป็นอสิ ระ แลว้ จงึ พฒั นาขน้ึ มาเป็น การแลกเปล่ยี น การรวมกลุ่มช่วยเหลอื กนั จนนาไปส่กู ารพ่งึ พิงอิงกนั เกอ้ื กูล ร่วมมอื กนั และประสานกบั โลก ภายนอก เพอ่ื ใหป้ ระเทศกลายเป็นสงั คมทม่ี คี วามสมดุลและพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลงต่อโลกยคุ โลกาภวิ ตั น์ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 7. ผเู้ รยี นรว่ มกนั ประเมนิ โดยพจิ ารณาจากขอ้ มลู ความรู้ การใหเ้ หตุผลการใชภ้ าษา และความ พรอ้ มในการอภปิ ราย ครสู รปุ สาระสาคญั โดยการใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถาม

8. ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี ช่อื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5. ชอ่ื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ช่วยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในส่อื สงิ่ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ชอ่ื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครอ่ื งมอื วดั ผล

1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. โจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ ่าน 50% 4 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจ่าย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้ บญั ชีรายรบั -รายจ่าย ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................... ประจาวนั ที.่ ............................................................... วนั เดือนปี รายรบั จานวนเงิน รายจ่าย จานวนเงิน คงเหลือ

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ปัญหาที่พบ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................. ................................................ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ...............................

แผนการจดั การเรยี นรแู้ บบบูรณาการท่ี 6 หน่วยท่ี 4 รหสั วชิ า 3201-2018 วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ท่ี 6 (16-18) ช่ือหน่วย ตน้ ทุนผนั แปร: เครอ่ื งมอื สาหรบั การบรหิ ารธุรกจิ จานวน 3 ชม. สาระสาคญั รายงานผลการดาเนินงานหรอื งบกาไรขาดทุนของธุรกจิ ท่ไี ด้จดั ทาข้นึ ตามรูปแบบปฏิบตั เิ ดมิ ซ่งึ มี หลกั การคดิ ต้นทุนผลติ ภณั ฑภ์ ายใต้วธิ ตี ้นทุนคดิ เข้างาน และมุ่งใชเ้ พ่อื รายงานต่อภายนอกเป็นหลกั นนั้ หากจะ นามาใช้เป็นข้อมูลเพ่อื ประโยชน์ทางการบริหาร โดยเฉพาะทางด้านการบรหิ ารต้นทุน ย่อมจะไม่เกิดความ ชดั เจนและไมเ่ หมาะสมทจ่ี ะนามาใชเ้ พ่อื ประกอบการวเิ คราะหแ์ ละตดั สนิ ใจทางการบรหิ าร ดงั นนั้ เพ่อื ใหข้ อ้ มลู ผลการดาเนินงานของธุรกจิ สามารถนามาใชป้ ระโยชน์ทางการบรหิ ารไดอ้ ย่างเหมาะสม จงึ มรี ปู แบบของงบกาไร ขาดทุนอกี ลกั ษณะหน่ึง คอื งบกาไรขาดทุนตามรูปแบบแสดงกาไรส่วนเกนิ โดยมหี ลกั การคดิ ต้นทุนผลติ ภณั ฑ์ อกี วธิ หี น่งึ เรยี กว่า วธิ ตี ้นทุนผนั แปร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2. อธบิ ายการคดิ ต้นทนุ ผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยวธิ ตี ้นทุนผนั แปรได้ 3. บอกประโยชน์ของวธิ ตี น้ ทนุ ผนั แปรได้ 4. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผูส้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 4.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝ่รู้ 4.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทนุ

ตวั บง่ ชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทนุ เนื้อหาสาระ 2.การคดิ ต้นทนุ ผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยวธิ ตี ้นทนุ ผนั แปร 3.ประโยชน์ของวธิ ตี น้ ทนุ ผนั แปร กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครแู ละผ้เู รยี นทบทวนงบกาไรขาดทนุ ตามรปู แบบแสดงกาไรส่วนเกนิ แตกต่างจากงบกาไรขาดทุน ทแ่ี สดงอยา่ งเป็นทางการ หรอื เรยี กว่ารูปแบบปฏบิ ตั เิ ดมิ เป็นการแสดงขอ้ มลู โดยแบ่งแยกตน้ ทุนตามพฤติกรรม เป็นส่วนตน้ ทุนผนั แปรและส่วนตน้ ทุนคงท่ี เม่อื นายอดขายหกั ดว้ ยต้นทนุ ผนั แปร ผลลพั ธ์ทไ่ี ดก้ ค็ อื กาไรส่วนเกนิ และจานวนกาไรส่วนเกนิ กจ็ ะถกู นาไปชาระต้นทนุ คงท่ี หากมเี หลอื กจ็ ะยกยอดไปรอบระยะเวลาบญั ชนี นั้ ต่าไป 2. ครูนางบกาไรขาดทุนมาแสดงให้ผู้เรยี นร่วมแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกนั ซ่งึ เป็นแบบฟอร์มตาม มาตรฐานการบญั ชี ฉบบั ท่ี 1 (ปรบั ปรุง 2552) เพ่อื เชอ่ื มโยงเขา้ สเู่ น้อื หาการเรยี นการสอนต่อเน่อื งกนั กบั สปั ดาห์ ทผ่ี า่ นมา ขนั้ สอน 3. ครูผู้สอนใช้เทคนิคการอธบิ าย และสาธติ การคดิ ต้นทุนผลิตภัณฑ์ด้วยวิธตี ้นทุนผนั แปร และ ประโยชน์ของวธิ ตี น้ ทุนผนั โดยใชส้ ่อื แผ่นใสประกอบ 4. ผเู้ รยี นฝึกทกั ษะ โดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามโจทย์ของบรษิ ทั ดจุ เดอื น จากดั เม่อื ศกึ ษาขอ้ แลว้ ให้ทา ดงั งบกาไรขาดทนุ ตามวธิ ตี ้นทุนผนั แปร และอธบิ ายความแตกต่างในกาไรก่อนต้นทุนทางการเงนิ และภาษีเงนิ ไดข้ องทงั้ สองวธิ พี รอ้ มแสดงการพสิ จู น์ผลแตกต่างนนั้ 5. ครกู ลา่ วถงึ ปัญหาของธุรกจิ ท่ตี ้องการน้อมนาปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาปฏบิ ตั ใิ นขณะน้ี คอื การขาดทฤษฎที ไ่ี ดร้ บั การพสิ จู น์และทดสอบยนื ยนั ผลของการประยุกตอ์ ยา่ งเป็นระบบ และสามารถนาไปปฏบิ ตั ิ ซ้าไดส้ าเรจ็ เช่น เกษตรกรรมทม่ี รี ปู แบบของ “เกษตรทฤษฎใี หม่” ซง่ึ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ไดท้ รงคดิ ค้น ขน้ึ ด้วยพระองค์เอง และประสบผลสาเรจ็ ทาให้มสี ถานภาพเป็นทฤษฎีทไ่ี ด้รบั การพสิ จู น์และทดสอบแล้ว การ แปลง \"ปรชั ญา\" เศรษฐกจิ พอเพยี ง ใหเ้ ป็น \"ทฤษฎ\"ี ธุรกิจในแต่ละสาขาจงึ เป็นสง่ิ ท่ตี ้องทาใหไ้ ด้ ดงั นัน้ การ ดาเนินธรุ กจิ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ ไม่ไดห้ มายความวา่ ธรุ กจิ จะต้องลดกาไรลงหรอื ตอ้ งลดกาลงั การผลติ ลง จึงจะเรียกว่าพอเพียงทุกธุรกิจยงั สามารถแสวงหากาไรสูงสุดได้ และต้องยังคงมุ่งหมายให้ได้มาซ่ึง ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลสงู สุดในการผลติ เพ่อื การพฒั นากา้ วหน้าขององคก์ ร เพยี งแต่วา่ ในกระบวนการนนั้

ต้องทาใหเ้ กดิ การเบยี ดเบยี นกนั ใหน้ ้อยทส่ี ุด ทงั้ การเบยี ดเบยี นตนเอง และการเบยี ดเบยี นผอู้ ่นื 6. ครูแนะนาให้ผู้เรียนนาเง่อื นไขความรู้ไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ประกอบด้วยความรอบรเู้ ก่ยี วกบั วชิ าการต่างๆ ท่ีเก่ยี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบท่จี ะนาความรู้เหล่านัน้ มาพิจารณาให้เช่อื มโยงกนั เพ่ือ ประกอบการวางแผนและความระมดั ระวงั ในการปฏิบตั ิ และเงอ่ื นไขคุณธรรมทจ่ี ะต้องเสรมิ สรา้ ง ประกอบดว้ ยมี ความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วามซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชวี ติ ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 7. ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั สรปุ เน้ือหา โดยการถามตอบ นอกจากนนั้ ยงั ใชก้ รณีศกึ ษาเป็นโจทยแ์ สดงวิธี ทารูปแบบงบกาไรขาดทุนวิธีต่างๆ เพ่ือให้สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาต่อและทางานได้ใน ชวี ติ ประจาวนั 8. ผเู้ รยี นสรุปโดยการถามตอบ และประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5. ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณพ์ น้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ชว่ ยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในส่อื สง่ิ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ชอ่ื 3. แผนจดั การเรยี นรู้

การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น รว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี ่องปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. โจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ ่าน 50% 4 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้ บญั ชีรายรบั -รายจ่าย ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................... ประจาวนั ที่................................................................ วนั เดือนปี รายรบั จานวนเงิน รายจ่าย จานวนเงิน คงเหลือ

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... แนวทางแก้ปัญหา ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ...............................

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบูรณาการที่ 7 หน่วยท่ี 5 รหสั วชิ า 3201-2018 วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ท่ี 7 (19-21) ชื่อหน่วย ความสมั พนั ธร์ ะหว่างต้นทุน-จานวน-กาไร จานวน 3 ชม. สาระสาคญั เป้าหมายของการดาเนินธุรกจิ คอื การสรา้ งกาไรให้เกดิ ขน้ึ การจะไปถึงจุดท่ธี ุรกจิ จะทากาไรได้ตาม เป้าหมายนนั้ จะต้องทราบถึงจุดคมุ้ ทุนก่อน เพ่อื ประเมนิ วา่ ปัจจยั แวดลอ้ มต่างๆ จะทาให้ธุรกจิ ดาเนินงานผ่าน จุดคุ้มทุนและไปยงั กาไรตามเป้าหมายไดห้ รอื ไม่ ซ่งึ การวเิ คราะห์และประเมนิ ผลในเร่อื งดงั กล่าวจะต้องอาศยั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งต้นทนุ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั จานวนหน่วยทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ทงั้ ตน้ ทุนและกาไร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลกั พน้ื ฐานสาคญั ของการวเิ คราะหต์ น้ ทุน-จานวน-กาไรและนาไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้ 2. อธบิ ายและคานวณการวเิ คราะหจ์ ดุ คมุ้ ทนุ ได้ 3. อธบิ ายและคานวณการวเิ คราะหจ์ ดุ กาไรตามเป้าหมายได้ 4. อธบิ ายและคานวณส่วนเกนิ ทป่ี ลอดภยั ได้ 5. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สาเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 5.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 5.2 ความมวี นิ ยั 5.3 ความรบั ผดิ ชอบ 5.4 ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ 5.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 5.6 การประหยดั 5.7 ความสนใจใฝ่รู้ 5.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 5.9 ความรกั สามคั คี 5.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทนุ ตวั บง่ ชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร

918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ 918.103 จดั ทางบประมาณประจาปี 918.104 จดั ทางบประมาณการลงทนุ เนื้อหาสาระ 1. หลกั พน้ื ฐานสาคญั ของการวเิ คราะหต์ น้ ทนุ -จานวน-กาไร 2. การวเิ คราะหจ์ ุดคมุ้ ทุน 3. การวเิ คราะหจ์ ุดกาไรตามเป้าหมาย 4. สว่ นเกนิ ทป่ี ลอดภยั กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครกู ล่าวถึงการวิเคราะห์ต้นทุน-จานวนกาไร ถือเป็นเคร่อื งมือท่ีมปี ระสทิ ธทิ างการบรหิ ารอย่าง หน่ึงสาหรบั ผู้บริหารในองค์การธุรกิจ โดยการวิเคราะห์ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้บริหารเกิดความเข้าใจถึง ความสมั พนั ธท์ มี รี ะหวา่ งกนั ของตน้ ทนุ จานวน และกาไรทเ่ี กดิ ขน้ึ 2. ผเู้ รยี นองคป์ ระกอบของผลกระท่มี รี ะหว่างกนั ได้แก่ ราคาขายของผลติ ภณั ฑ์ จานวนหรอื ระดบั ของกจิ กรรม จานวนหรอื ระดบั ของกจิ กรรม ตน้ ทนุ ผนั แปรต่อหน่วย ต้นทนุ คงทร่ี วม ส่วนผสมการขายผลติ ภณั ฑ์ เพ่อื เชอ่ื มโยงเขา้ ส่เู น้อื หาการเรยี นการสอน ขนั้ สอน 3. ครผู สู้ อนใชเ้ ทคนคิ วธิ กี ารอธบิ ายหลกั พน้ื ฐานสาคญั ของการวเิ คราะหต์ ้นทุน-จานวน-กาไร สาธติ การวเิ คราะหจ์ ุดคุม้ ทุน สาธติ การวเิ คราะห์จุดกาไรตามเป้าหมาย และส่วนเกนิ ท่ปี ลอดภยั โดยให้ผเู้ รยี น ปฏบิ ตั ติ าม หากมขี อ้ สงสยั ใหซ้ กั ถามจนกว่าจะปฏบิ ตั ไิ ดด้ ว้ ยตนเอง 4. ผเู้ รยี นจดั ทางบกาไรขาดทุนแบบแสดงกาไรส่วนเกนิ และอธบิ ายแปลความหมายในการวเิ คราะห์ ต้นทุน จานวน กาไร ของกจิ การ จากโจทยก์ รณีศกึ ษาทค่ี รกู าหนดให้ 5. ครอู ธบิ ายการนาแนวคดิ CVP ไปประยุกตใ์ ชต้ ามกรณตี ่าง ๆ ดงั น้ี (1) กรณตี ้นทุนคงทแ่ี ละจานนหน่วยขายเปลย่ี นแปลง โดยสาธติ การคานวณและวเิ คราะหป์ ระกอบ (2) กรณีต้นทุนผนั แปรและจานวนหน่วยขายเปลย่ี นแปลง และ (3) กรณตี ้นทนุ คงทร่ี าคาขายและจานวนหน่วยขายเปลย่ี นแปลง (4) กรณีตน้ ทนุ ผนั แปร ตน้ ทนุ คงทแ่ี ละจานวนหน่วยขายเปลย่ี นแปลง เมอ่ื แสดงการคานวณทงั้ 5 ขอ้ ย่อยและไดผ้ ลลพั ธแ์ ลว้ ผเู้ รยี นจะวเิ คราะหค์ วามเป็นไปไดต้ ามสภาพจรงิ ของกจิ การ และบอกเหตุผลในการวเิ คราะหป์ ระกอบว่ากจิ การจะทาให้กาไรจากการดาเนินงานท่ไี ดร้ บั เพม่ิ ข้นึ หรอื ไม่ อย่างไร 6. ครอู ธบิ ายความสาคญั ของกาไรส่วนเกนิ เน่ืองจากเป็นเคร่อื งมอื ท่แี สดงให้เหน็ ถงึ การผสมผสาน ของข้อมูลหรอื ปัจจยั ท่จี ะกระทบต่อความสามารถในการสรา้ งผลกาไรให้แก่ธุรกจิ ได้มากท่สี ุด ประกอบด้วย ต้นทนุ ผนั แปร ต้นทนุ คงท่ี ราคาขายและจานวนหน่วยขาย

7. ครอู ธบิ ายและสาธติ ความสมั พนั ธข์ อง CVP ในลกั ษณะของกราฟ โดยใชส้ อ่ื แผน่ ใสสาเรจ็ รปู เพอ่ื ช้ี ใหผ้ เู้ รยี นเหน็ ว่าความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งต้นทนุ จานวนกาไรนนั้ สามารถนามาแสดงดว้ ยรปู แบบของกราฟได้ 8. ผู้เรยี นทบทวนโดยบอกความสมั พนั ธ์ของกราฟ ระหว่างต้นทุน จานวนและกาไรอีกครงั้ หน่ึง เพ่อื ใหแ้ น่วา่ ผเู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจและปฏบิ ตั ไิ ดม้ ากน้อยเพยี งใด 9. ครอู ธบิ ายและสาธติ การคานวณหาจุดคมุ้ ทุน โดยใชร้ ูปแบบสมการ เพ่อื ใหส้ ามารถใชป้ ระโยชน์กบั การวเิ คราะห์ CVP ไดอ้ ย่างกว้างขวางมากขน้ึ ในขณะเดยี วกนั กใ็ หผ้ เู้ รยี นสาธติ ตามและเปิดโอกาสให้ซกั ถามได้ ตลอดเวลาระหวา่ งการสาธติ นอกจากนนั้ ครกู แ็ นะนาใหผ้ เู้ รยี นฝึกทกั ษะในการคานวณและวเิ คราะหใ์ หส้ ม่าเสมอ เพ่อื ประโยชน์ในการเรยี น 10. ครูและผู้เรียนช่วยกนั อธิบายและสาธิตการวเิ คราะห์จุดกาไรตามเป้าหมาย เป็นการประยุกต์ แนวทางของการคานวณหาจุดคมุ้ ทุนใช้กบั การวเิ คราะหห์ าจุดใดจุดหน่ึง จะบอกใหท้ ราบถงึ ปรมิ าณ ซง่ึ มหี ลาย วธิ ไี ดแ้ ก่ (1) วธิ สี มการ (2) วธิ กี าไรสว่ นเกนิ 11. ครูแนะนาให้ผู้เรยี นบันทึกบัญชรี ายรบั -รายจ่ายทุกวนั เพ่อื ฝึกนิสยั ให้เป็นคนรู้จกั ใช้จ่ายอย่าง ประหยดั และยงั สามารถช่วยครอบครวั ไดอ้ กี ดว้ ย 12. ครูเน้นให้ผู้เรียนใช้ความระมัดระวังในเร่ืองการทางาน และการศึกษาเล่าเรียนรู้จกั ความ พอประมาณ และนาความรไู้ ปใชอ้ ย่างรอบคอบ มคี วามเพยี รพยายามและอดทนในการเรยี นรวมทงั้ การทางาน โดยน้อมนาเอาหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชใ้ หเ้ กดิ คณุ คา่ ในชวี ติ ประจาวนั อย่างต่อเน่อื ง ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 13. ผเู้ รยี นสรปุ สาระสาคญั ของเน้อื หาโดยการถามตอบ และฝึกทกั ษะการคานวณหาจุดคุ้มทุนและ วเิ คราะหต์ ามกรณตี ่างๆ และสง่ ครผู สู้ อน 14. ผเู้ รยี นทาโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ พรอ้ มประเมนิ ตนเองตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5.

ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบญั ชบี รหิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. VIDEO ช่วยสอน 3. ขอ้ มลู เศรษฐกจิ ในสอ่ื สง่ิ พมิ พต์ ่าง ๆ หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ช่อื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 3. ตรวจโจทยป์ ัญหาเพ่อื การฝึกทกั ษะ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 3. แบบตรวจโจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะ 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี น ร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มชี อ่ งปรบั ปรุง 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป)

3. โจทยป์ ัญหาเพอ่ื การฝึกทกั ษะมเี กณฑผ์ า่ น 50% 4 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ กิจกรรมเสนอแนะ 1. บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย 2. ฝึกทาโจทยป์ ัญหาเพ่อื ฝึกทกั ษะ 3. อ่านทบทวนความรู้ บญั ชีรายรบั -รายจ่าย ของนาย/นาง/นางสาว.......................................................... ประจาวนั ที.่ ............................................................... วนั เดือนปี รายรบั จานวนเงิน รายจ่าย จานวนเงิน คงเหลือ

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ............................................................................................................................... ................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... ปัญหาที่พบ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................. ................................................ ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ................................................................................................................... ............................... .................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................... ................................................................................................................... ...............................

แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการท่ี 8 หน่วยที่ 5 รหสั วชิ า 3201-2018 วชิ าการบญั ชบี รหิ าร 3(3) สอนครงั้ ที่ 8 (22-24) ช่ือหน่วย ความสมั พนั ธร์ ะหว่างต้นทนุ -จานวน-กาไร จานวน 3 ชม. สาระสาคญั เป้าหมายของการดาเนินธุรกจิ คือการสร้างกาไรให้เกดิ ข้นึ การจะไปถึงจุดทธ่ี ุรกจิ จะทากาไรได้ตาม เป้าหมายนนั้ จะต้องทราบถงึ จุดคมุ้ ทุนก่อน เพ่อื ประเมนิ วา่ ปัจจยั แวดลอ้ มต่างๆ จะทาให้ธุรกจิ ดาเนินงานผ่าน จุดคุ้มทุนและไปยงั กาไรตามเป้าหมายได้หรอื ไม่ ซ่งึ การวเิ คราะห์และประเมนิ ผลในเร่อื งดงั กล่าวจะต้องอาศยั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตน้ ทนุ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั จานวนหน่วยทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ ทงั้ ต้นทนุ และกาไร จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 5. อธบิ ายและคานวณสว่ นผสมในการขายผลติ ภณั ฑห์ ลายชนดิ ได้ 6. อธบิ ายและวเิ คราะหก์ ารเลอื กโครงสรา้ งต้นทนุ โดยการพจิ ารณา CVP ได้ 7. บอกสมมตฐิ านของการวเิ คราะห์ CVP ได้ 8. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของผ้สู าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง 8.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 8.2 ความมวี นิ ยั 8.3 ความรบั ผดิ ชอบ 8.4 ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ 8.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 8.6 การประหยดั 8.7 ความสนใจใฝ่รู้ 8.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 8.9 ความรกั สามคั คี 8.10 ความกตญั ญกู ตเวที สมรรถนะหลกั 918.วเิ คราะหแ์ ละปฏบิ ตั งิ านประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สมรรถนะย่อย 918.1 ศกึ ษาและวางแผนเลอื กขอ้ มลู มาใชต้ ดั สนิ ใจในการวเิ คราะหง์ บการเงนิ งบประมาณประจาปีและ งบประมาณการลงทุน ตวั บง่ ชี้ 918.101 เลอื กขอ้ มลู และคานวณขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการวางแผนและตดั สนิ ใจในการทาบญั ชบี รหิ าร 918.102 วเิ คราะหง์ บการเงนิ และทารายงานการเงนิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook