ผลการประเมิน/ผลการทดสอบ เตม็ มา ดมี าก ปานกลาง ปรับปรุง สรุป จำนวน รอ้ ยละ ทกั ษะทจ่ี ำเปน็ ในการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 3Rs คือทักษะพน้ื ฐานท่จี ำเปน็ ต่อผูเ้ รยี นทกุ คน มีดังนี้ 1. Reading คอื สามารถอ่านออก 2. (W) Riteing คือ สามารถเขียนได้ 3. (A) Rithmatic คอื มีทักษะในการคำนวณ 3Rs คือ 8Cs ซ่ึงเป็นทักษะต่าง ๆ ท่ีจำเป็นเช่นกัน ซ่ึงทุกทักษะสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนรู้ ได้ ทุกวิชา มีดังน้ี 1. Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่ าง มีวจิ ารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ 2. Creativity and innovation คอื การคดิ อย่างสร้างสรรค์และคดิ เชิงนวตั กรรม 3. Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคิดขา้ มวฒั นธรรม 4. Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผนู้ ำ 5. Communication information and media literacy คือ มี ทั กษ ะใน การสื่อสารและ การรเู้ ทา่ ทนั สอื่ 6. Computing and IT literacy คอื มีทกั ษะการใชค้ อมพิวเตอร์และรู้เท่าทันเทคโนโลยี 7. Career and learning skills คอื มที ักษะอาชพี และการเรยี นรู้ 8. Compassion คอื มีความเมตตากรณุ า มีคณุ ธรรม และมรี ะเบยี บวินัย ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จึงประกอบดว้ ยคณุ สมบตั ิ ดังน้ี 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผู้อน่ื เชน่ การผลิตและการบริโภคท่อี ยู่ในระดับพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ
อยา่ งรอบคอบ 3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึ งถึงความเป็น ไป ได้ของสถานการณ์ ต่างๆ ท่ี คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยมเี งอ่ื นไข ของการตดั สนิ ใจและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ใหอ้ ยใู่ นระดบั พอเพยี ง 2 ประการ ดงั นี้ 1) เงอ่ื นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้านความ รอบคอบที่จะนำความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังใน การปฏิบัติ 2) เง่ือนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ ซ่ือสัตย์สจุ ริตและมคี วามอดทน มีความเพยี ร ใช้สติปญั ญาในการดำเนินชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริน้ันแตกต่างจากเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของตะวันตก ซึ่งให้ความสำคัญกับเร่ืองวัตถุที่เป็นรูปธรรม เช่น เงิน ทรัพย์สิน กำไร โดยไม่นำเร่ืองของสภาพจิตใจหรือ เรื่องนามธรรมมาเกี่ยวข้อง อีกท้ังเศรษฐกิจพอเพียงยังมีขอบเขตท่ีกว้างขวางกว่าเศรษฐกิจนายทุน หรือเศรษฐกิจธุรกิจ เพราะสามารถครอบคลุมได้ถึง 4 ด้าน คือ มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านจิตใจ มิติด้านสังคม และมิตดิ ้านวฒั นธรรม ดงั น้ี 1. มิติด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจแบบพออยู่พอกิน ให้มีความขยันหมั่นเพียร ประกอบสัมมาอาชีพ เพอื่ ให้พ่ึงตนเองได้ ให้พน้ จากความยากจน 2. มิติด้านจิตใจ เศรษฐกิจพอเพียงเน้นท่ีจิตใจท่ีรู้จักพอ คือ พอดี พอประมาณและพอใจในสิ่งที่ มี ยินดใี นสิ่งที่ได้ไม่โลภ เศรษฐกจิ พอเพยี งจะต้องเรม่ิ ท่ีตัวเอง โดยสร้างรากฐานทางจติ ใจที่มน่ั คง โดยเร่ิมจาก ใจทรี่ ้จู ักพอ เป็นการปฏิบตั ิตามทางสายกลาง หรอื มัชฌิมาปฏปิ ทา 3. มิติด้านสังคม เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดสังคมท่ีมีความสุขสงบ ประชาชนมีความเมตตา เอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ใชต่ ่างคนตา่ งอยู่ มุ่งให้เกิดความสามัคคีร่วมมือกัน เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกัน ไดโ้ ดยปราศจากการเบียนเบียนกัน การเอารัดเอาเปรียบกนั การมงุ่ ร้ายทำลายกนั 4. มิติด้านวัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดวัฒนธรรมหรือ วิถีชีวิตท่ีประหยัด อดออม มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ซึง่ ทำใหเ้ กดิ การเป็นหน้ีเป็นสิน เกดิ การทจุ ริตคอรปั ชนั่ เปน็ ปญั หาสังคมทร่ี ้ายแรงทีส่ ุดปัญหาหนงึ่ ที่บ่อนทำลาย ความมั่นคงของชาติ มิติทั้ง 4 ด้านของเศรษฐกิจพอเพียงได้สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ส่งผลดีต่อแค่ด้าน เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อด้านต่างๆ ท่ีมีส่วนช่วยให้คนในประเทศอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตามวิถชี ีวติ ท่ีไมฟ่ ุง้ เฟอ้ และอยบู่ นพ้ืนฐานของความพอดี
แบบประเมินทกั ษะทจี่ ำเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ขอ้ เสนอแนะ ลงนาม 3Rs 8Cs 3 หว่ ง 2 เงือ่ นไข 4 มติ ิ ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มิติ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เง่ือนไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มิติ3 (นายธรี ะพร ไวยครฑุ ธี) ครูผู้สอน ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 (นางสาวพมิ พ์พรรณ แกว้ โต) ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มติ ิ1 หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เง่อื นไข2 ������ มิติ2 (นางปานทอง แสงจนั ทร์งาม) หวั หน้ากลมุ่ บริหารวชิ าการ ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ หว่ ง3 ������ มติ ิ3 (นายพรอ้ มพันธุ์ ลายลักษณ์) ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวิชาการ ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มติ ิ1 (นางสาวชลารักษ์ สายอุทัศน์) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนฯ ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงื่อนไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มติ ิ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มติ ิ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เงื่อนไข2 ������ มิติ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มิติ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มิติ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เงอ่ื นไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ หว่ ง3 ������ มติ ิ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4
6
2 หนว่ ยการเรยี นรู้ การขับรอ้ ง และบรรเลงดนตรี
6
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 คาบที่ 3 รหัสวิชา ศ23101 วชิ า ศลิ ปะ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ปกี ารศึกษา 2564 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาทง้ั หมด 4 คาบ ใชเ้ วลา 1 คาบ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง การขับร้องและบรรเลงดนตรี เรอื่ ง เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องเด่ยี ว ชื่อ - สกุล (ผู้จัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้) นายธีระพร ไวยครุฑธี 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรอี ย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณค์ ณุ คา่ ดนตรี ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคิดตอ่ ดนตรี อยา่ งอิสระ ชื่นชมและประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ตัวชว้ี ัด ศ 2.1 ม.3/2 รอ้ งเพลง เล่นดนตรเี ดยี่ วและรวมวง โดยเนน้ เทคนคิ การรอ้ ง การเลน่ การแสดงออก และคุณภาพเสยี ง 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 ความรู้ 1) เทคนิคและการแสดงออกในการขบั ร้องเด่ยี ว 2.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2) ทักษะกระบวนการทำงาน 3) ทกั ษะการจดั การ 4) ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา 5) ทักษะการทำงานร่วมกนั 3. สาระสำคญั การขับร้องเด่ียวผู้ขับร้องควรมีเทคนิคในการขับร้อง มีน้ำเสียงไพเราะ จะทำให้ขับร้องบทเพลงได้ ไพเราะ
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ความรู้ (K) - อธิบายเทคนิคและการแสดงออกในการขบั ร้องเด่ยี ว 4.2 ทักษะทสี่ ำคัญ (P) - ฝกึ การขับร้อง โดยใช้เทคนิคและการแสดงออกในการขบั รอ้ งเดี่ยว 4.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) - มุง่ ม่นั ในการทำงาน ตวั ชีว้ ดั ท่ี 6.2 ทำงานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย 4.4 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (C) - ความสามารถในการสือ่ สาร 5. จุดเน้นส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน 5.1 ทักษะของคนในศตวรรษท่ี 21 คือ การเรียนรู้ 3Rs X 8Cs Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผูน้ ำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทนั สอื่ (Communications, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง (Change)
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 6.1 ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถามทา้ ทาย ดงั น้ี - นักเรียนคิดว่านกั รอ้ งเดี่ยวควรมคี วามสามารถในเรอื่ งใดบ้าง 6.2 ให้นักเรียนยกตัวอย่างศิลปินเดี่ยวท่ีมีรูปแบบและเทคนิคในการขับร้องเพลงท่ีโดดเด่น หรือ แตกต่างจากศิลปินคนอนื่ ๆ อธิบายรูปแบบหรือเทคนิคที่โดดเด่นเหล่านั้น จากนัน้ อภิปรายแสดงความคิดเห็น ว่าเทคนิคในการรอ้ งเพลง มคี วามสำคัญกบั ความสำเร็จของศลิ ปินอย่างไร 6.3 ครอู ธิบายความหมายและรปู แบบของการขับรอ้ งเดย่ี ว ใหน้ ักเรียนฟัง 6.4 ให้นักเรียนศึกษาเทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องเด่ียว จากหนังสือเรียนหรือแหล่งการ เรียนรอู้ ่ืน จากนัน้ ร่วมกันอภปิ รายสรปุ ความรู้ 6.5 ครูสาธิตการขับร้องเดี่ยว ในบทเพลง ลาวสมเด็จ (2 ช้ัน) และเพลงอ่ิมอุ่น โดยใช้เทคนิคและการ แสดงออกในการขับร้องเดี่ยว ใหน้ กั เรยี นฟัง 6.6 ให้นักเรยี นฝึกขับรอ้ งเดี่ยวในบทเพลง ลาวสมเด็จ (2 ช้ัน) และเพลงอิ่มอุ่น โดยใช้เทคนคิ และการ แสดงออกในการขับรอ้ งเด่ยี ว 6.7 ให้นกั เรียนเลือกบทเพลงไทย และบทเพลงไทยสากลที่ชื่นชอบประเภทละ 1 บทเพลง แล้วฝึกขับ รอ้ ง จากน้นั ออกมารอ้ งหนา้ ช้ันเรยี น ครูประเมินผลการขับรอ้ งลงในแบบประเมิน ดังตวั อย่าง แบบประเมินผลการขบั รอ้ งเด่ยี ว รายการประเมิน ขน้ั ดีเย่ียม ขนั้ ดี ข้ันพอใช้ ขัน้ ปรบั ปรงุ (2 คะแนน) (1.5 คะแนน) (1 คะแนน) (0.5 คะแนน) 1. จงั หวะ (Rhythm) 2. เสยี ง (Tone) 3. ทำนอง (Melody) 4. รูปแบบหรอื สไตล์ (Form Style) 5. การออกเสียงและอักขระ คะแนนเต็ม 10 คะแนน รวมคะแนน......................คะแนน ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ ...............................................
6.8 ให้นกั เรียนบนั ทึกผลการขบั ร้องเดยี่ วของตนเองลงในแบบบนั ทึก ดงั ตวั อยา่ ง แบบบนั ทกึ การขบั ร้องเดีย่ ว 1. เพลงทขี่ บั ร้อง คือ....................................................................................................................... 2. เป็นเพลงประเภทใด................................................................................................................... 3. มีจังหวะอย่างไร......................................................................................................................... 4. บทเพลงมีเน้ือหาเก่ยี วกับอะไร................................................................................................... 5. นกั เรียนมีเทคนิคในการขับร้องอย่างไร...................................................................................... ....................................................................................... ............................................................ 6.9 นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้ ดงั นี้ - การขบั ร้องเด่ียวผขู้ บั ร้องควรมีเทคนิคในการขับรอ้ ง มีน้ำเสยี งไพเราะ จะทำให้ ขับรอ้ งบทเพลงได้ไพเราะ 7. สอื่ /นวัตกรรม/แหลง่ เรยี นรู้ 7.1 หนงั สือเรยี น ดนตรี-นาฏศิลป์ ม.3 7.2 อนิ เทอรเ์ น็ต 7.3 Power Point 8. ชิ้นงานหรือภาระงาน - ฝกึ การขบั ร้อง โดยใช้เทคนิคและการแสดงออกในการขบั รอ้ งเด่ยี ว 9. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 9.1 วิธีการวดั และประเมินผล - การทดสอบกอ่ นเรียน - สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม - สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน - ประเมนิ ผลการขับร้องเดย่ี ว 9.2 เครื่องมือ - แบบทดสอบก่อนเรยี น - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
- แบบประเมนิ ผลการขับรอ้ งเดี่ยว 9.3 เกณฑ์การประเมนิ 9.3.1 การประเมนิ ผลตัวชี้วดั ให้ครูประเมินการสร้างสรรค์ผลงานการร้องเพลงของนักเรียน โดยเขียนคะแนนลง ในแบบประเมนิ แบบประเมินผลงานการขบั ร้องเด่ยี ว รายการประเมิน ขน้ั ดเี ย่ยี ม ขนั้ ดี ขั้นพอใช้ ขน้ั ปรบั ปรงุ (2 คะแนน) (1.5 คะแนน) (1 คะแนน) (0.5 คะแนน) 1. จังหวะ (Rhythm) 2. เสียง (Tone) 3. ทำนอง (Melody) 4. รูปแบบหรือสไตล์ (Form Style) 5. การออกเสียงและอักขระ เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั คะแนน ระดับคุณภาพ 9 – 10 ดเี ย่ียม 7–8 ดี 5–6 พอใช้ 1–4 ควรปรบั ปรงุ 9.3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น 9.3.3 การประเมินผลคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - ม่งุ มน่ั ในการทำงาน ตัวช้ีวัดท่ี 6.2 ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสำเร็จตาม เป้าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้ ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดีเยย่ี ม (3) 1. ทมุ่ เททำงาน อดทน ไม่ขยัน อดทน ใน ทำงานดว้ ยความ ทำงานดว้ ยความ ทำงานด้วยความ ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อปัญหาและ การทำงาน ขยนั อดทน ขยนั อดทน ขยนั อดทน
พฤติกรรมบง่ ชี้ ไม่ผ่าน (0) ผา่ น (1) ดี (2) ดเี ยย่ี ม (3) อุปสรรคในการทำงาน พยายามให้งาน ไม่ย่อท้อต่อปญั หา ไมย่ ่อทอ้ ต่อปัญหา 2. พยายามแกป้ ัญหา สำเร็จตาม และอปุ สรรคในการ เปา้ หมาย ในการทำงาน พยายามแกป้ ัญหา ทำงานใหส้ ำเร็จ 3. ชน่ื ชมผลงานดว้ ย พยายามให้งาน อุปสรรคในการ ความภาคภูมใิ จ สำเร็จตาม ทำงาน ให้งาน เปา้ หมาย ช่ืนชม สำเร็จตาม ผลงานด้วยความ เปา้ หมายภายใน ภาคภมู ิใจ เวลาที่กำหนด ช่ืนชมผลงานดว้ ย ความภาคภูมิใจ 9.4 การประเมินสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์และทักษะศตวรรษท่ี 21 (การเรียนรู้ 3Rs x 8Cs) ประเด็นการประเมนิ แหล่งเรียนรู้ วธิ ีวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การให้ การสนทนา คะแนน ทักษะด้านการคดิ อย่าง ซกั ถาม - ประเมนิ ผลงาน - แบบประเมนิ ผล มวี จิ ารณญาณและ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้ - สงั เกตพฤติกรรม งาน - รอ้ ยละ 60 ผ่าน ทักษะในการแก้ไข การทำงาน - แบบสงั เกต เกณฑ์ ปัญหา (Critical การสรา้ งสรรค์ รายบคุ คล พฤติกรรมการ - ระดับคณุ ภาพ 2 Thinking and ชนิ้ งาน ทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ Problem Solving) - ประเมนิ ผลงาน ทักษะด้านการ - การเขา้ ร่วม - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินผล - รอ้ ยละ 60 ผ่าน สรา้ งสรรค์ และ กจิ กรรม การทำงาน งาน เกณฑ์ นวัตกรรม (Creativity - การสนทนา รายบคุ คล - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 and Innovation) ซักถาม พฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ์ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ สงั เกตความมวี นิ ยั ทำงานรายบุคคล ทกั ษะดา้ นความเข้า การใชส้ ารสนเทศ ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มั่นใน แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2 ใจความตา่ งวัฒนธรรม การทำงาน และ คณุ ลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ ต่างกระบวนทัศน์ รักความเป็นไทย ประสงค์ (Cross-cultural ระดับคุณภาพ 2 Understanding) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร
ประเด็นการประเมนิ แหลง่ เรยี นรู้ วธิ ีวดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การให้ คะแนน สารสนเทศและรเู้ ทา่ และเทคโนโลยี การทำงาน พฤติกรรมการ ทนั สอ่ื รายบคุ คล ทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ (Communications, Information, and Media Literacy) 10. แนวทางการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 10.1 ผู้สอนนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ หลักพอเพยี ง ความพอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมคิ ุ้มกันในตวั ทดี่ ี ประเด็น วเิ คราะหห์ ลักสูตร เน้ือหา เลือกเรื่องทส่ี อนให้ เพอื่ ใหก้ ารจัดกจิ กรรมการ ออกแบบ และจัดกิจกรรม สอดคลอ้ งกบั ท้องถน่ิ เรียนรู้ครอบคลุมตาม เนือ้ หา ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน และผ้เู รียน เพ่ือใหเ้ หน็ จดุ ประสงค์ ตวั ช้ีวัด และบรบิ ทของ ความสำคัญของการ ทอ้ งถิ่น อนุรักษ์ภมู ปิ ัญญา จัดการเรียนรู้เหมาะสม จัดการเรยี นรู้ไดต้ าม เพื่อให้การจัดกิจกรรมการ เวลา เพียงพอกับเวลาท่ีกำหนดไว้ กระบวนการ ครบถว้ น เรยี นรู้ได้ครบตาม ตามทีว่ างแผนไว้ จุดประสงค์ท่ีกำหนดไว้ นักเรียนปฏิบัตติ าม เพ่อื ใหน้ ักเรียนนำความรู้ 1. เพือ่ ใหน้ ักเรียนได้ กจิ กรรม และเกดิ การ ทีไ่ ด้ไปปฏบิ ตั ิ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ และ เรยี นรูด้ ้วยตนเอง แสดงศกั ยภาพของตนเอง วิธกี ารจดั กิจกรรม เพอื่ ใหเ้ กิดความภาคภูมใิ จ 2. เพ่อื ตรวจสอบศักยภาพ ของนักเรยี นเปน็ รายบุคล สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรง ตามความสามารถ กำหนดภาระงาน/ชน้ิ งาน เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหผ้ เู้ รียน เตรียมวิธปี อ้ งกนั และ แหลง่ เรยี นรู้ ในการทำผลิตภณั ฑ์ ใฝ่เรยี นรู้ และส่งเสริมการ แกป้ ญั หาจากการปฏิบัติ ท้องถ่นิ ไดเ้ หมาะสมกับ ใช้เทคโนโลยี และภมู ิ กิจกรรม
หลกั พอเพียง ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี ประเดน็ จดุ ประสงค์และวัยผเู้ รียน ปัญญาท้องถ่ิน 1. จดั เตรยี มใบความร้แู ละ 1. ออกแบบการเรียนรู้ เตรยี มแผนการจดั การ ใบงานท่เี หมาะสมกับ เพ่ือใหเ้ หน็ คณุ คา่ ของ เรยี นรู้ หรือ ส่อื สำรอง เนอ้ื หาทส่ี อน และความ ภมู ปิ ัญญาท้องถนิ่ เพ่ือรองรบั กรณีท่ีมีการ สือ่ /อปุ กรณ์ สนใจของผู้เรียน 2. นกั เรยี นไดร้ บั ประสบ เปลยี่ นแปลง 2. จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ การณ์ตรงในการเรียนรู้ เหมาะสมกับวยั ของผู้เรียน และเกิดความภาคภูมิใจ ในความสามารถของตนเอง การประเมนิ ผล ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ของ เพอ่ื สง่ เสริมและพฒั นา เตรียมวิธกี ารประเมนิ ให้ ผเู้ รยี น ผู้เรียนไดเ้ ตม็ ศักยภาพ เหมาะสมกบั ผู้เรียน ความรู้ท่คี รู - มคี วามรใู้ นหลักสตู ร เน้ือหาสาระ ได้แก่ ความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกับดนตรี จำเป็นตอ้ งมี - หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง - ใช้หลักความยุตธิ รรม มคี วามรบั ผิดชอบ มวี นิ ัยในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ปฏิบัตหิ นา้ ทีด่ ว้ ยความซื่อสัตย์ ขยนั หมั่นเพียร อดทน มีจิตสาธารณะ และ คุณธรรมของครู ใชส้ ติปญั ญาในการจดั การเรียนรู้ - จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ไม่เบยี ดเบียนตนเองและผอู้ น่ื ไม่ทำลายธรรมชาติ และ ส่งิ แวดล้อม และไมส่ รา้ งความแตกแยกในสังคม ชุมชน - มีความคิดรเิ ร่มิ สร้างสรรค์เพ่ือพัฒนาผ้อู น่ื และตนเองใหเ้ ป็นคนดขี องสังคม 10.2 ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ กับผู้เรยี นสอดคลอ้ งกับหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จากการจัดกจิ กรรม การเรียนรู้ 1) ผู้เรยี นไดเ้ รียนรหู้ ลกั คิด และฝึกปฏบิ ัติ ตาม 3 หว่ ง 2 เงื่อน ดังน้ี ความพอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ุ้มกนั ในตัวทดี่ ี นักเรยี นมพี น้ื ฐานในการวัด และ นกั เรียนวเิ คราะห์ และตัดสนิ ใจ นกั เรียนนำความร้ทู ่ีได้จากการ ประเมนิ ผล ในการรว่ มกิจกรรมระหว่างเรียน ปฐมนิเทศพื้นฐานเพื่อประกอบ การตัดสนิ ใจ การทำกจิ กรรม ความรู้ - นกั เรยี นทราบรายละเอียดในการวดั ผล และประเมินผลรายวชิ า ศิลปะ 5 (ศ23101) คณุ ธรรม - นกั เรยี นมวี นิ ยั ซ่อื สัตย์ สุจริต และตรงต่อเวลา
2) ผูเ้ รยี นได้เรยี นรู้การใชช้ ีวิตที่สมดุลและพรอ้ มรับการเปลีย่ นแปลงใน 4 มติ ติ ามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง ดงั นี้ ดา้ น สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ องค์ประกอบ วตั ถุ สังคม สงิ่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม ได้ความรเู้ กี่ยวกบั 1. มีการวางแผนใน มคี วามรอบรู้ใน 1. การเรียนรู้ แนวทางในการวัด การทำงานเปน็ การวางแผนชีวติ ใน สอดคล้องกับวิถี และประเมินผล กระบวนการแบบ อนาคต ชวี ิตของคนใน รายวิชา ศิลปะ 5 กลุ่ม ชมุ ชน ความรู้ (ศ23101) 2. นักเรียนมีการ 2. เห็นคุณค่าของ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ 3. นักเรยี นได้ ชว่ ยเหลือซ่ึงกนั และกัน 1. มที ักษะในการใช้ 1. มีทักษะในการ ใช้ประโยชน์จาก 1. ดำรงตนอยู่ใน วัสดุอปุ กรณ์อย่าง ทำงาน สง่ิ แวดล้อมอย่าง สงั คมอย่างมี ทกั ษะ ประหยัด และคุ้มค่า 2. มีความสามารถใน ระมัดระวัง และ ความสขุ 2. การเลือกใชว้ สั ดุ การนำความรูท้ ่ีไดร้ ับ ค้มุ ค่า 2. มที ักษะในการ อุปกรณ์ได้อย่าง ไปรว่ มกันแก้ปัญหา คำนวณและนำไปใช้ เหมาะสม เพื่อหาข้อสรุปได้ ได้อย่างเหมาะสม ตระหนักถึงผลที่ 1. มคี วามรับผิด 1. มีจิตสำนึกใน 1. สืบสานอนุรักษ์ เกิดจากการใชว้ สั ดุ ชอบต่อการทำงาน การอนรุ ักษภ์ ูมิ ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน อปุ กรณ์ในการ ของกล่มุ ปัญญาท้องถน่ิ 2. ใชแ้ หล่งเรยี นรู้ คา่ นิยม ปฏิบัตงิ าน 2. ยอมรับความ 2. ใช้ทรัพยากร โดยใชภ้ ูมิปญั ญา คิดเหน็ ซ่ึงกันและ และสิ่งแวดล้อม ท้องถ่ิน กนั มีความเสีย อย่างประหยัด สละและอดทน ลงชอื่ ........................................................................ (นายธรี ะพร ไวยครุฑธี) .........../................./..............
แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง การขบั ร้องและบรรเลงดนตรี ช่ือ-นามสกลุ ....................................................................................................ชนั้ ม.3/.............เลขที่............. คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องที่สดุ เพียงขอ้ เดียว 1. การฝึกหายใจในการขบั ร้องมีประโยชน์อยา่ งไร 1 ทำให้หายใจถูกต้องตามวรรคตอนของบทเพลง 2 ทำใหข้ ับรอ้ งเพลงได้ไพเราะมากข้นึ 3 ทำใหม้ ีเสียงในการขับร้องถกู ต้อง ชดั เจน 4 ทำให้เก็บลมหายใจไว้ไดน้ านขณะร้องเพลง 2. ผู้ท่ีจะขับรอ้ งเดี่ยวจะต้องมีความสามารถในข้อใด 1 ออกเสียงชัดเจนตามหลกั ภาษา 2 มนี ำ้ เสียงเปน็ เอกลกั ษณ์ 3 มีความแม่นยำในจังหวะและทำนองเพลง 4 กล้าแสดงออกในการขับร้องเพลงอารมณ์ต่าง ๆ 3. ขอ้ ใดไม่ใช่เทคนิคที่ใช้ในการขบั ร้องเดีย่ ว 1 ออกเสียงได้ชดั เจนทุกคำ 2 ถา่ ยทอดอารมณข์ ับร้องของตนเอง 3 แสดงท่าทางยิ้มแยม้ เมื่อร้องเพลงสนุกสนาน 4 สง่ สายตาใหก้ บั ผู้ชมขณะขบั ร้องเพลง 4. การขบั รอ้ งหมทู่ มี่ ีความไพเราะต้องคำนงึ ถึงสิง่ ใดเป็นสำคัญ 1 การขับร้องโดยใชน้ ้ำเสียงเดียวกันตลอด 2 บทเพลงที่จะใชใ้ นการขบั ร้องต้องไพเราะ 3 วงดนตรที ใี่ ชบ้ รรเลงประกอบการขับร้อง 4 ความพร้อมเพรียงในการขบั รอ้ ง 5. การขับรอ้ งหมู่ มีลกั ษณะอยา่ งไร 1 รอ้ งตง้ั แต่ 2 คนขน้ึ ไป ดว้ ยระดบั เสยี งเดยี วกัน 2 เป็นการขบั รอ้ งคนละท่อนเพลง 3 ขับร้องโดยใชท้ ำนองเพลงตา่ งกัน 4 ขบั ร้องเฉพาะบทเพลงคลาสสิก 6. เครอ่ื งดนตรีข้อใดไมน่ ิยมใชบ้ รรเลงเดี่ยว 1 ซอสามสาย 2 กลองเบส 3 ไวโอลนิ 4 ฟลูต
7. ขอ้ ใดคือเทคนคิ ทใี่ ช้ในการบรรเลงเดี่ยว 2 ฝึกแสดงท่าทางในการบรรเลงดนตรี 1 ฝกึ ขับร้องบทเพลงท่ีจะใช้บรรเลง 4 ฝกึ บรรเลงเฉพาะเครื่องดนตรที ที่ ันสมัย 3 ฝกึ อา่ นตัวโน้ต จำจังหวะและทำนองเพลง 8. ข้อใดคือจุดมุ่งหมายของการบรรเลงเดี่ยว 2 เพือ่ แสดงถงึ ความสวยงามของเคร่ืองดนตรี 1 เพื่อแสดงถงึ ความคดิ ของผปู้ ระพนั ธเ์ พลง 4 เพอื่ แสดงถึงความสามารถของผ้บู รรเลง 3 เพอื่ แสดงถงึ บคุ ลิกลักษณะของผูบ้ รรเลง 9. การบรรเลงรวมวงเปน็ วงดนตรนี ัน้ ฝึกให้ผูบ้ รรเลงมีจติ สำนึกในด้านใด 1 ความรับผดิ ชอบในการทำงานรว่ มกัน 2 ความซ่อื สตั ยใ์ นการทำงาน 3 ความกลา้ แสดงออก 4 ความเอ้อื เฟ้ือเผ่ือแผ่ 10. การบรรเลงจะต้องคำนงึ ถึงส่ิงใด 1 ใช้เครือ่ งดนตรที ีห่ ลากหลาย 2 ผบู้ รรเลงตอ้ งมีความสามารถมาก 3 บรรเลงโดยใช้เทคนคิ เฉพาะของเครื่องดนตรี 4 เคร่อื งดนตรีต้องมีความเหมาะสมกลมกลืนกัน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 1. 2 2. 3 3. 4 4. 1 5. 1 6. 2 7. 4 8. 2 9. 1 10. 4
แบบประเมนิ ผลงานการขับร้องเดี่ยว คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน ประเมินผลงานการขับร้องเดี่ยวของนักเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน ท่ี ชอื่ -สกุล จังหวะ เสยี ง ทำนอง รูปแบบ การออก รวม ของผูร้ ับการประเมิน หรือสไตล์ เสยี งและ 10 อกั ขระ คะแนน 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 ลงชอ่ื .......................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../............... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมข้ันดีเย่ยี ม ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมข้ันดี ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมขั้นพอใช้ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมขั้นปรบั ปรุง ให้ 2 คะแนน 9 - 10 ดีมาก ให้ 1 คะแนน 7 - 8 ดี 5 - 6 พอใช้ ตำ่ กว่า 4 ปรบั ปรุง
แบบสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงใน ชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน การแก้ไข ที่ ชอ่ื -สกุล ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตั้งใจ ปญั หา/ ของผู้รบั การประเมนิ รว่ มมือกัน ความ ความ ทำงาน หรอื รวม คิดเหน็ คิดเหน็ ปรับปรุง 20 ทำ ผลงาน คะแนน กิจกรรม กลุ่ม 4321 4321 432 14321 4321 ลงชอ่ื .......................................................ผ้ปู ระเมนิ .............../.................../................. เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รักชาติ 1.1 ยนื ตรงเมอื่ ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมาย ศาสน์ กษตั ริย์ ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ิตนและชกั ชวนผอู้ ่ืนปฏิบตั ิตามสิทธิและหนา้ ทข่ี องพลเมอื ง 1.3 ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทำกิจกรรมกบั สมาชิกในโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม 1.4 เปน็ ผู้นำหรอื เป็นแบบอยา่ งในการจดั กิจกรรมท่ีสร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้องความเปน็ ชาตไิ ทย 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถอื ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ของ ศาสนา และเปน็ ตัวอยา่ งท่ดี ีของศาสนกิ ชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามท่ีโรงเรียนและชุมชนจดั ขน้ึ ชนื่ ชมในพระ ราชกรณยี กิจ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั ริย์และพระราชวงศ์ 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถ่ี กู ต้อง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏบิ ัติในสิ่งท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทำความผดิ ทำ ตามสญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั เพอื่ น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็น แบบอย่างท่ีดดี ้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบตั ิตนต่อผ้อู ่ืนดว้ ยความซอื่ ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถูกตอ้ ง และเปน็ แบบอย่างที่ดีแก่เพอื่ นด้านความซ่ือสัตย์ 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว โรงเรียน และสงั คม ไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผอู้ ืน่ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวนั และรับผดิ ชอบในการทำงาน ปฏิบัตเิ ปน็ ปกติวสิ ยั และเปน็ แบบอย่างท่ีดี 4 ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินของตนเอง เชน่ สิง่ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั พอเพียง คุ้มค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 6. มงุ่ มั่นในการ 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแล ทำงาน อยา่ งดี 7. รักความเปน็ 5.3 ปฏิบัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล ไทย 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อื่น และไมท่ ำให้ผอู้ ืน่ เดือดร้อน พร้อมให้อภยั เม่ือผอู้ ่ืน 8. มจี ิตสาธารณะ กระทำผิดพลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตวั อยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6.1 เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ตั ิหน้าทที่ ี่ได้รบั มอบหมาย 6.2 ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเร็จ 6.3 ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานอย่างรอบคอบ 6.4 ทมุ่ เท ทำงาน อดทน ไม่ท้อต่อปญั หาและอุปสรรค 6.5 พยายามแกป้ ญั หาและอปุ สรรคในการทำงานให้สำเร็จ 6.6 ช่นื ชมผลงานความสำเรจ็ ด้วยความภาคภมู ิใจ 7.1 มจี ติ สำนกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทำ แบ่งปนั สง่ิ ของ ทรัพยส์ นิ และอื่น ๆ พรอ้ มช่วยแกป้ ญั หา 8.3 ดูแล รกั ษาทรพั ย์สนิ ของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชมุ ชน เพ่ือแกป้ ญั หาหรือรว่ มสรา้ งสง่ิ ทดี่ งี ามตามสถานการณ์ท่เี กดิ ขน้ึ ลงช่อื .......................................................ผปู้ ระเมิน .............../.................../.................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน 104 - 124 ดมี าก 83 - 103 ดี 62- 82 พอใช้ ตำ่ กวา่ 62 ปรับปรงุ
บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ รหสั วิชา........................รายวชิ า.....................................................ชั้นมัธยมศกึ ษาปที .ี่ ..........เวลา............ช่ัวโมง เรื่องทีส่ อน............................................................................................................................................................ ช้ัน เตม็ ขาด ผลการจัดการเรยี นรู้ ปญั หา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข ม.3/1 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/2 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/3 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/4 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... .......................................
ชน้ั เต็ม ขาด ผลการจดั การเรียนรู้ ปัญหา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/5 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/6 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/7 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... .......................................
ผลการประเมนิ /ผลการทดสอบ เตม็ มา ดมี าก ปานกลาง ปรับปรงุ สรุป จำนวน ร้อยละ ทักษะทีจ่ ำเป็นในการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21 3Rs คือทักษะพ้นื ฐานท่ีจำเปน็ ตอ่ ผ้เู รยี นทกุ คน มดี ังน้ี 1. Reading คอื สามารถอา่ นออก 2. (W) Riteing คือ สามารถเขียนได้ 3. (A) Rithmatic คอื มีทักษะในการคำนวณ 3Rs คือ 8Cs ซึ่งเป็นทักษะต่าง ๆ ท่ีจำเป็นเช่นกัน ซ่ึงทุกทักษะสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนรู้ ได้ ทกุ วชิ า มีดงั น้ี 1. Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่ าง มวี ิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ 2. Creativity and innovation คอื การคิดอยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละคดิ เชิงนวตั กรรม 3. Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคดิ ขา้ มวัฒนธรรม 4. Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้นำ 5. Communication information and media literacy คือ มี ทั กษ ะใน การสื่อสารและ การรู้เท่าทันส่ือ 6. Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละรูเ้ ท่าทันเทคโนโลยี 7. Career and learning skills คือ มีทกั ษะอาชีพและการเรยี นรู้ 8. Compassion คอื มคี วามเมตตากรณุ า มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จึงประกอบด้วยคณุ สมบัติ ดงั น้ี 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผอู้ นื่ เช่น การผลติ และการบริโภคที่อย่ใู นระดับพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทำน้ัน ๆ อย่างรอบคอบ
3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึน โดยคำนึ งถึงความเป็น ไป ได้ของสถานการณ์ ต่างๆ ที่ คาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคต โดยมเี งอ่ื นไข ของการตัดสินใจและดำเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ ใหอ้ ยูใ่ นระดับพอเพยี ง 2 ประการ ดังนี้ 1) เงอ่ื นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องรอบด้านความ รอบคอบท่ีจะนำความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังใน การปฏบิ ัติ 2) เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ ซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดำเนนิ ชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรินั้นแตกต่างจากเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของตะวันตก ซ่ึงให้ความสำคัญกับเร่ืองวัตถุที่เป็นรูปธรรม เช่น เงิน ทรัพย์สิน กำไร โดยไม่นำเรื่องของสภาพจิตใจหรือ เร่ืองนามธรรมมาเกี่ยวข้อง อีกท้ังเศรษฐกิจพอเพียงยังมีขอบเขตท่ีกว้างขวางกว่าเศรษฐกิจนายทุน หรือเศรษฐกิจธุรกิจ เพราะสามารถครอบคลุมได้ถึง 4 ด้าน คือ มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านจิตใจ มิติด้านสังคม และมติ ดิ า้ นวัฒนธรรม ดังน้ี 1. มิติด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจแบบพออยู่พอกิน ให้มีความขยันหม่ันเพียร ประกอบสัมมาอาชีพ เพือ่ ให้พึ่งตนเองได้ ให้พน้ จากความยากจน 2. มิติด้านจิตใจ เศรษฐกิจพอเพียงเน้นที่จิตใจที่รู้จักพอ คือ พอดี พอประมาณและพอใจในสิ่งท่ี มี ยินดใี นส่ิงท่ีไดไ้ ม่โลภ เศรษฐกิจพอเพียงจะตอ้ งเร่ิมทีต่ ัวเอง โดยสร้างรากฐานทางจติ ใจที่ม่ันคง โดยเริ่มจาก ใจทรี่ จู้ กั พอ เปน็ การปฏบิ ัตติ ามทางสายกลาง หรือมัชฌิมาปฏปิ ทา 3. มิติด้านสังคม เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดสังคมท่ีมีความสุขสงบ ประชาชนมีความเมตตา เอื้ออาทรชว่ ยเหลือซึ่งกันและกนั ไมใ่ ชต่ ่างคนต่างอยู่ มุ่งใหเ้ กิดความสามัคคีร่วมมือกัน เพ่ือให้ทุกคนอยู่ร่วมกัน ไดโ้ ดยปราศจากการเบียนเบียนกัน การเอารดั เอาเปรียบกนั การมุ่งรา้ ยทำลายกนั 4. มิติด้านวัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดวัฒนธรรมหรือ วิถีชีวิตท่ีประหยัด อดออม มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ซึง่ ทำให้เกิดการเป็นหนเ้ี ป็นสิน เกดิ การทจุ รติ คอรัปชน่ั เป็นปัญหาสังคมท่ีร้ายแรงท่สี ุดปญั หาหนึ่งท่ีบอ่ นทำลาย ความม่นั คงของชาติ มิติทั้ง 4 ด้านของเศรษฐกิจพอเพียงได้สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ส่งผลดีต่อแค่ด้าน เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อด้านต่างๆ ท่ีมีส่วนช่วยให้คนในประเทศอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตามวิถชี ีวติ ทไ่ี มฟ่ งุ้ เฟ้อ และอยู่บนพ้ืนฐานของความพอดี
แบบประเมินทกั ษะทจี่ ำเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ขอ้ เสนอแนะ ลงนาม 3Rs 8Cs 3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข 4 มติ ิ ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มติ ิ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เง่อื นไข2 ������ มิติ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มิติ3 (นายธรี ะพร ไวยครฑุ ธี) ครูผู้สอน ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 (นางสาวพมิ พ์พรรณ แกว้ โต) ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มติ ิ1 หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงื่อนไข2 ������ มิติ2 (นางปานทอง แสงจนั ทร์งาม) หวั หน้ากลมุ่ บริหารวชิ าการ ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ หว่ ง3 ������ มิติ3 (นายพรอ้ มพันธุ์ ลายลักษณ์) ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มติ ิ1 (นางสาวชลารักษ์ สายอุทัศน์) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนฯ ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงอื่ นไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มติ ิ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ ห่วง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มิติ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงอ่ื นไข2 ������ มิติ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มิติ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มิติ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เงอ่ื นไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มติ ิ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 คาบท่ี 4 รหัสวชิ า ศ23101 วิชา ศลิ ปะ 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ ปกี ารศกึ ษา 2564 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาท้งั หมด 4 คาบ ใช้เวลา 1 คาบ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรื่อง การขบั ร้องและบรรเลงดนตรี เร่ือง เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องหมู่ ชื่อ - สกุล (ผู้จดั ทำแผนการจัดการเรียนร้)ู นายธีระพร ไวยครฑุ ธี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษว์ ิจารณค์ ุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความร้สู กึ ความคดิ ตอ่ ดนตรี อยา่ งอิสระ ชืน่ ชมและประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ตวั ชีว้ ดั ศ 2.1 ม.3/2 ร้องเพลง เล่นดนตรเี ดี่ยวและรวมวง โดยเน้นเทคนคิ การร้อง การเลน่ การแสดงออก และคณุ ภาพเสียง 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 ความรู้ 1) เทคนิคและการแสดงออกในการขบั ร้องหมู่ 2.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2) ทักษะกระบวนการทำงาน 3) ทักษะการจัดการ 4) ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา 5) ทกั ษะการทำงานร่วมกนั 3. สาระสำคัญ การขับร้องหมู่ ผู้ขับร้องจะต้องร้องด้วยความพร้อมเพรียงกัน และใช้เทคนิคในการขับร้องเพ่ือให้ขับ รอ้ งได้ไพเราะ น่าฟงั
4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ความรู้ (K) - อธิบายเทคนคิ และการแสดงออกในการขับร้องหมู่ 4.2 ทักษะท่ีสำคัญ (P) - ฝกึ การขับรอ้ ง โดยใช้เทคนิคและการแสดงออกในการขับรอ้ งหมู่ 4.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) - มุ่งมน่ั ในการทำงาน ตวั ชว้ี ดั ที่ 6.2 ทำงานด้วยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่อื ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย 4.4 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น (C) - ความสามารถในการสือ่ สาร 5. จุดเนน้ สกู่ ารพัฒนาคุณภาพผ้เู รยี น 5.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คอื การเรียนรู้ 3Rs X 8Cs Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทักษะด้านการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทำงานเป็นทมี และภาวะผ้นู ำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและรู้เทา่ ทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change)
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 6.1 ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครใู ช้คำถามทา้ ทาย ดังน้ี - เพลงใดบา้ งท่สี ามารถนำมาขับร้องหมไู่ ด้ 6.2 ให้นักเรียนยกตัวอย่างกลุ่มศิลปินที่มีรูปแบบและเทคนิคในการขับร้องเพลงที่โดดเด่น หรือ แตกตา่ ง อธิบายรูปแบบหรือเทคนคิ ทโ่ี ดดเดน่ เหล่านั้น 6.3 ครอู ธิบายความหมายและรูปแบบของการขบั รอ้ งหมู่ใหน้ ักเรียนฟัง 6.4 ให้นักเรียนศึกษาเทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องหมู่ จากหนังสือเรียนหรือแหล่ ง การเรยี นรู้อน่ื จากน้ันร่วมกนั อภปิ รายสรุปความรู้ 6.5 ครูสาธิตการขับรอ้ ง ขับร้องหมู่ ในบทเพลง MARCHING SONG โดยใช้เทคนิคและการแสดงออก ในการขับรอ้ งหมู่ ให้นักเรยี นฟงั 6.6 ให้นักเรียนฝึกขับร้องหมู่ โดยใช้เพลงท่ีครูสาธิตในบทเพลง MARCHING SONG โดยใช้เทคนิค และการแสดงออกในการขับรอ้ งหมู่ 6.7 ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 2 กลมุ่ ให้แต่ละกลุ่มเลอื กบทเพลงที่สนใจ 1 บทเพลง แลว้ ฝึกการขับร้องหมู่ จากนนั้ ออกมาร้องทีห่ น้าชนั้ เรียนทีละกลุ่ม ครปู ระเมนิ ผลการขบั รอ้ งลงในแบบประเมิน ดงั ตวั อยา่ ง แบบประเมินผลการขับร้องหมู่ รายการประเมนิ ข้ันดีเยยี่ ม ขน้ั ดี ขัน้ พอใช้ ข้นั ปรับปรงุ (2 คะแนน) (1.5 คะแนน) (1 คะแนน) (0.5 คะแนน) 1. จงั หวะ (Rhythm) 2. เสียง (Tone) 3. ทำนอง (Melody) 4. รปู แบบหรอื สไตล์ (Form Style) 5. การประสานเสยี ง (Harmony) คะแนนเต็ม 10 คะแนน รวมคะแนน......................คะแนน ลงชือ่ ผู้ประเมิน...............................................
6.8 เมอ่ื นักเรียนขบั ร้องหมจู่ บทุกกลมุ่ ใหแ้ ต่ละคนบันทึกผลการขับรอ้ ง ลงในแบบบนั ทกึ ดังตวั อยา่ ง แบบบันทึกการขับร้องหมู่ 1. เพลงทขี่ บั ร้อง คือ....................................................................................................................... 2. เป็นเพลงประเภทใด................................................................................................................... 3. มีจังหวะอยา่ งไร......................................................................................................................... 4. บทเพลงมีเนื้อหาเก่ียวกับอะไร................................................................................................... 5. นักเรยี นมเี ทคนคิ ในการขบั ร้องอย่างไร...................................................................................... ................................................................................................................................................... 6.9 ให้นกั เรียนสรุปความสำคัญของเทคนิคในการขบั รอ้ งเพลง ลงในแผนภาพ ดังตัวอยา่ ง ................................. ................................ ................................. ................................ ........ .... ความสำคญั ของเทคนิคในการขบั ร้อง ................................. ............................. ................................. ............................. .......... ....... 6.10 ให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่ือสรุปความรู้เกี่ยวกับ เทคนิคและการแสดงออก ในการขับรอ้ งเด่ียวและหมู่โดยครใู ช้คำถาม ดงั น้ี - การขับร้องเพลงไทยมเี ทคนคิ แตกต่างจากการขับร้องเพลงไทยสากลอยา่ งไร - การมีเทคนคิ การขับร้อง ทำให้การขบั ร้องเพลงเป็นอยา่ งไร - การขบั ร้องเพลงที่ไพเราะ ผู้ขับร้องควรมีลักษณะอยา่ งไร - การขบั ร้องหม่มู ีเทคนิคการขบั ร้องอย่างไร 6.11 นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้ ดงั นี้ - การขับร้องหมู่ ผู้ขับร้องจะต้องร้องด้วยความพร้อมเพรียงกัน และใช้เทคนิคในการขับร้อง เพอื่ ให้ขบั รอ้ งไดไ้ พเราะ น่าฟงั
7. สื่อ/นวตั กรรม/แหล่งเรยี นรู้ 7.1 หนังสือเรียน ดนตรี-นาฏศิลป์ ม.3 7.2 อินเทอรเ์ น็ต 7.3 Power Point 8. ช้ินงานหรือภาระงาน - ฝึกการขับร้อง โดยใช้เทคนิคและการแสดงออกในการขับร้องหมู่ 9. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 9.1 วิธกี ารวดั และประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม - สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ - สังเกตความมีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน - ประเมินผลการขับร้องหมู่ 9.2 เครือ่ งมอื - แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมินผลการขับรอ้ งหมู่ 9.3 เกณฑ์การประเมิน 9.3.1 การประเมินผลตวั ชี้วัด ให้ครูประเมินการสร้างสรรค์ผลงานการร้องเพลงของนักเรียน โดยเขียนคะแนนลง ในแบบประเมิน แบบประเมนิ ผลงานการขบั ร้องหมู่ รายการประเมิน ขัน้ ดเี ย่ยี ม ขนั้ ดี ข้นั พอใช้ ข้ันปรบั ปรงุ (2 คะแนน) (1.5 คะแนน) (1 คะแนน) (0.5 คะแนน) 1. จงั หวะ (Rhythm) 2. เสียง (Tone) 3. ทำนอง (Melody) 4. รูปแบบหรอื สไตล์ (Form Style) 5. การประสานเสยี ง (Harmony)
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั คะแนน ระดับคุณภาพ 9 – 10 ดเี ย่ยี ม 7–8 ดี 5–6 พอใช้ 1–4 ควรปรับปรงุ 9.3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผา่ นตัง้ แต่ 2 รายการ ถอื วา่ ผา่ น ผา่ น 1 รายการ ถือว่า ไมผ่ ่าน 9.3.3 การประเมินพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คะแนน 18 - 20 ระดับ ดีมาก คะแนน 14 - 17 ระดับ ดี คะแนน 10 - 13 ระดบั พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ระดับ ควรปรับปรุง 9.3.4 การประเมนิ ผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ม่งุ มน่ั ในการทำงาน ตัวชี้วัดที่ 6.2 ทำงานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสำเร็จตาม เปา้ หมาย พฤติกรรมบ่งช้ี ไม่ผา่ น (0) ผ่าน (1) ดี (2) ดีเย่ยี ม (3) 1. ทุ่มเททำงาน อดทน ไม่ขยัน อดทน ใน ทำงานด้วยความ ทำงานดว้ ยความ ทำงานดว้ ยความ ไม่ยอ่ ทอ้ ต่อปญั หาและ การทำงาน ขยนั อดทน อุปสรรคในการทำงาน พยายามให้งาน ขยนั อดทน ขยัน อดทน 2. พยายามแก้ปญั หา สำเร็จตาม และอุปสรรคในการ เป้าหมาย ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อปญั หา ไมย่ ่อท้อตอ่ ปญั หา ทำงานให้สำเร็จ 3. ช่ืนชมผลงานดว้ ย ในการทำงาน พยายามแก้ปัญหา ความภาคภูมิใจ พยายามให้งาน อปุ สรรคในการ สำเร็จตาม ทำงาน ให้งาน เป้าหมาย ชน่ื ชม สำเร็จตาม ผลงานด้วยความ เปา้ หมายภายใน ภาคภมู ใิ จ เวลาท่กี ำหนด ชน่ื ชมผลงานด้วย ความภาคภูมิใจ
9.4 การประเมนิ สมรรถนะสำคญั คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคแ์ ละทกั ษะศตวรรษท่ี 21 (การเรยี นรู้ 3Rs x 8Cs) ประเดน็ การประเมนิ แหล่งเรยี นรู้ วธิ วี ัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การให้ การสนทนา - ประเมนิ ผลงาน คะแนน ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ ง ซกั ถาม - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินผล มวี ิจารณญาณและ แลกเปล่ียนเรียนรู้ การทำงาน งาน - รอ้ ยละ 60 ผา่ น ทักษะในการแก้ไข รายบุคคล - แบบสงั เกต เกณฑ์ ปัญหา (Critical การสรา้ งสรรค์ พฤติกรรมการ - ระดบั คุณภาพ 2 Thinking and ช้ินงาน - ประเมินผลงาน ทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์ Problem Solving) - สังเกตพฤติกรรม ทกั ษะด้านการ - การเขา้ ร่วม การทำงาน - แบบประเมินผล - ร้อยละ 60 ผา่ น สรา้ งสรรค์ และ กจิ กรรม รายบุคคล งาน เกณฑ์ นวตั กรรม (Creativity - การสนทนา - แบบสงั เกต - ระดบั คณุ ภาพ 2 and Innovation) ซกั ถาม สังเกตความมวี ินยั พฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ์ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ใน ทำงานรายบคุ คล ทกั ษะดา้ นความเข้า การนำเสนอ การทำงาน และ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2 ใจความตา่ งวัฒนธรรม กระบวนการ รักความเปน็ ไทย คุณลักษณะอนั พงึ ผา่ นเกณฑ์ ต่างกระบวนทัศน์ ทำงานกลุ่ม ประสงค์ (Cross-cultural สังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 Understanding) การใช้สารสนเทศ การทำงานกลุม่ แบบสังเกต ผา่ นเกณฑ์ ทกั ษะด้านความ และเทคโนโลยี พฤติกรรมการ รว่ มมอื การทำงานเป็น - สงั เกตพฤติกรรม ทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ทมี และภาวะผนู้ ำ การทำงาน ผ่านเกณฑ์ (Collaboration, รายบุคคล - แบบสังเกต Teamwork and พฤติกรรมการ Leadership) ทำงานรายบุคคล ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรูเ้ ท่า ทันสื่อ (Communications, Information, and Media Literacy)
10. แนวทางการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 10.1 ผู้สอนนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ หลกั พอเพยี ง ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู ิคมุ้ กันในตัวทดี่ ี ประเดน็ วเิ คราะห์หลกั สูตร เนอ้ื หา เลอื กเรื่องทส่ี อนให้ เพอ่ื ให้การจัดกจิ กรรมการ ออกแบบ และจดั กิจกรรม สอดคล้องกบั ท้องถนิ่ เรยี นรู้ครอบคลุมตาม เน้อื หา ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน และผู้เรยี น เพื่อให้เหน็ จดุ ประสงค์ ตัวชว้ี ัด และบรบิ ทของ ความสำคญั ของการ ท้องถิน่ อนุรักษภ์ มู ปิ ัญญา จัดการเรียนรู้เหมาะสม จดั การเรียนร้ไู ด้ตาม เพอื่ ให้การจัดกิจกรรมการ เวลา เพียงพอกับเวลาท่ีกำหนดไว้ กระบวนการ ครบถ้วน เรียนรู้ไดค้ รบตาม ตามที่วางแผนไว้ จดุ ประสงคท์ ี่กำหนดไว้ นกั เรียนปฏบิ ตั ิตาม เพอื่ ให้นักเรยี นนำความรู้ 1. เพื่อให้นักเรียนได้ กจิ กรรม และเกิดการ ท่ไี ด้ไปปฏบิ ัติ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ และ เรยี นรู้ด้วยตนเอง แสดงศกั ยภาพของตนเอง วิธกี ารจดั กจิ กรรม เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจ 2. เพ่ือตรวจสอบศกั ยภาพ ของนักเรียนเป็นรายบคุ ล สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรง ตามความสามารถ กำหนดภาระงาน/ช้ินงาน เพอื่ ส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รยี น เตรยี มวธิ ีปอ้ งกัน และ แหลง่ เรียนรู้ ในการทำผลติ ภณั ฑ์ ใฝเ่ รยี นรู้ และสง่ เสริมการ แกป้ ญั หาจากการปฏิบัติ ทอ้ งถิ่นไดเ้ หมาะสมกับ ใชเ้ ทคโนโลยี และภูมิ กิจกรรม จดุ ประสงค์และวัยผ้เู รยี น ปญั ญาท้องถน่ิ 1. จดั เตรยี มใบความรู้และ 1. ออกแบบการเรยี นรู้ เตรยี มแผนการจดั การ ใบงานท่ีเหมาะสมกบั เพอ่ื ให้เหน็ คณุ คา่ ของ เรยี นรู้ หรอื สอื่ สำรอง เนอื้ หาที่สอน และความ ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน เพื่อรองรับกรณีที่มีการ สอ่ื /อปุ กรณ์ สนใจของผูเ้ รยี น 2. นักเรยี นไดร้ ับประสบ เปล่ยี นแปลง 2. จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ การณต์ รงในการเรยี นรู้ เหมาะสมกบั วยั ของผ้เู รยี น และเกดิ ความภาคภูมิใจ ในความสามารถของ
หลกั พอเพยี ง ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคุ้มกนั ในตัวที่ดี ประเด็น ตนเอง การประเมนิ ผล ประเมินตามสภาพจรงิ ของ เพอ่ื ส่งเสรมิ และพฒั นา เตรียมวธิ กี ารประเมนิ ให้ ผเู้ รยี น ผู้เรียนไดเ้ ตม็ ศักยภาพ เหมาะสมกับผเู้ รียน ความรู้ท่คี รู - มีความรใู้ นหลกั สตู ร เนอ้ื หาสาระ ไดแ้ ก่ ความรู้พืน้ ฐานเก่ียวกับดนตรี จำเปน็ ต้องมี - หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง - ใชห้ ลักความยุตธิ รรม มคี วามรบั ผดิ ชอบ มวี ินัยในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ - ปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ดี ้วยความซ่อื สัตย์ ขยนั หม่นั เพียร อดทน มีจติ สาธารณะ และ คุณธรรมของครู ใช้สติปัญญาในการจัดการเรยี นรู้ - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ีไม่เบียดเบียนตนเองและผอู้ ื่น ไม่ทำลายธรรมชาติ และ สง่ิ แวดล้อม และไมส่ ร้างความแตกแยกในสังคม ชุมชน - มคี วามคิดริเริม่ สร้างสรรค์เพือ่ พฒั นาผอู้ ่ืน และตนเองใหเ้ ปน็ คนดขี องสังคม 10.2 ผลท่ีเกดิ ขนึ้ กับผเู้ รยี นสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จากการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ 1) ผ้เู รยี นได้เรยี นรหู้ ลกั คิด และฝกึ ปฏบิ ัติ ตาม 3 ห่วง 2 เงื่อน ดังน้ี ความพอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดี นักเรยี นมีพ้ืนฐานในการวัด และ นักเรียนวิเคราะห์ และตัดสนิ ใจ นักเรียนนำความรูท้ ี่ไดจ้ ากการ ประเมินผล ในการร่วมกจิ กรรมระหว่างเรียน ปฐมนิเทศพื้นฐานเพ่ือประกอบ การตัดสนิ ใจ การทำกิจกรรม ความรู้ - นักเรยี นทราบรายละเอียดในการวัดผล และประเมนิ ผลรายวิชา ศลิ ปะ 5 (ศ23101) คุณธรรม - นกั เรียนมีวนิ ัย ซอื่ สัตย์ สจุ รติ และตรงต่อเวลา 2) ผ้เู รียนได้เรียนร้กู ารใชช้ ีวติ ท่ีสมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลงใน 4 มิติตามหลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกจิ พอเพียง ดังนี้ ดา้ น สมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ องค์ประกอบ วตั ถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรม ความรู้ ได้ความร้เู ก่ยี วกบั 1. มีการวางแผนใน มคี วามรอบรู้ใน 1. การเรียนรู้ แนวทางในการวัด การทำงานเป็น การวางแผนชีวิตใน สอดคล้องกับวถิ ี
ดา้ น สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลงในด้านตา่ ง ๆ องค์ประกอบ วตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วัฒนธรรม และประเมินผล กระบวนการแบบ อนาคต ชีวติ ของคนใน รายวชิ า ศิลปะ 5 กลุ่ม ชมุ ชน (ศ23101) 2. นักเรยี นมีการ 2. เห็นคุณค่าของ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ 3. นักเรยี นได้ ช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน 1. มีทักษะในการใช้ 1. มที ักษะในการ ใชป้ ระโยชน์จาก 1. ดำรงตนอยู่ใน วัสดุอุปกรณ์อย่าง ทำงาน ส่ิงแวดล้อมอย่าง สงั คมอย่างมี ทกั ษะ ประหยัด และคุ้มค่า 2. มีความสามารถใน ระมัดระวงั และ ความสุข 2. การเลือกใช้วัสดุ การนำความรู้ที่ไดร้ ับ คุม้ ค่า 2. มที ักษะในการ อปุ กรณ์ได้อย่าง ไปร่วมกันแกป้ ัญหา คำนวณและนำไปใช้ เหมาะสม เพ่ือหาข้อสรุปได้ ได้อย่างเหมาะสม ตระหนักถึงผลที่ 1. มคี วามรับผดิ 1. มจี ิตสำนึกใน 1. สืบสานอนรุ ักษ์ เกิดจากการใชว้ ัสดุ ชอบต่อการทำงาน การอนรุ ักษภ์ มู ิ ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน อุปกรณ์ในการ ของกลมุ่ ปัญญาท้องถน่ิ 2. ใช้แหล่งเรียนรู้ คา่ นิยม ปฏบิ ัตงิ าน 2. ยอมรับความ 2. ใช้ทรัพยากร โดยใชภ้ มู ปิ ญั ญา คิดเห็นซ่ึงกันและ และสิ่งแวดล้อม ทอ้ งถิ่น กัน มีความเสีย อย่างประหยัด สละและอดทน ลงช่ือ........................................................................ (นายธีระพร ไวยครุฑธี) .........../................./..............
แบบประเมนิ ผลงานการขบั ร้องหมู่ คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมินผลงานการขับร้องหมู่ของนักเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องทีต่ รงกับระดับคะแนน ท่ี ชือ่ -สกุล จงั หวะ เสียง ทำนอง รปู แบบ การ รวม ของผรู้ ับการประเมนิ หรอื สไตล์ ประสาน 10 เสียง คะแนน 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 2 1.5 1 0.5 ลงชือ่ .......................................................ผู้ประเมนิ .............../.................../................. เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมขั้นดเี ย่ยี ม ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมขั้นดี ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมขั้นพอใช้ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมขั้นปรบั ปรุง ให้ 2 คะแนน 9 - 10 ดีมาก ให้ 1 คะแนน 7 - 8 ดี 5 - 6 พอใช้ ต่ำกวา่ 4 ปรบั ปรงุ
แบบสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คำชแ้ี จง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงใน ชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน การแก้ไข ที่ ชอ่ื -สกุล ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตั้งใจ ปญั หา/ ของผู้รบั การประเมนิ รว่ มมือกัน ความ ความ ทำงาน หรอื รวม คิดเหน็ คิดเหน็ ปรับปรุง 20 ทำ ผลงาน คะแนน กิจกรรม กลุ่ม 4321 4321 432 14321 4321 ลงชอ่ื .......................................................ผ้ปู ระเมนิ .............../.................../................. เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครัง้ ให้ 1 คะแนน 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ต่ำกวา่ 10 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชีแ้ จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น 4321 1. รักชาติ 1.1 ยนื ตรงเมอื่ ได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาตไิ ด้ และอธิบายความหมาย ศาสน์ กษตั ริย์ ของเพลงชาติ 1.2 ปฏิบตั ิตนและชกั ชวนผอู้ ่ืนปฏิบตั ิตามสิทธิและหนา้ ทข่ี องพลเมอื ง 1.3 ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทำกิจกรรมกบั สมาชิกในโรงเรยี น ชมุ ชนและสงั คม 1.4 เปน็ ผู้นำหรอื เป็นแบบอยา่ งในการจดั กิจกรรมท่ีสร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชน และสังคม ชื่นชม ปกป้องความเปน็ ชาตไิ ทย 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทีต่ นนบั ถอื ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ของ ศาสนา และเปน็ ตัวอยา่ งท่ดี ีของศาสนกิ ชน 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมและมสี ่วนรว่ มในการจดั กิจกรรมทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ตามท่ีโรงเรียนและชุมชนจดั ขน้ึ ชนื่ ชมในพระ ราชกรณยี กิจ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั ริย์และพระราชวงศ์ 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถ่ี กู ต้อง และเปน็ จรงิ 2.2 ปฏบิ ัติในสิ่งท่ีถกู ตอ้ ง ละอาย และเกรงกลวั ทจ่ี ะกระทำความผดิ ทำ ตามสญั ญาทต่ี นให้ไวก้ บั เพอื่ น พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง และครู เป็น แบบอย่างท่ีดดี ้านความซื่อสัตย์ 2.3 ปฏิบตั ิตนต่อผ้อู ่ืนดว้ ยความซอื่ ตรง ไม่หาประโยชน์ในทางทไ่ี ม่ถูกตอ้ ง และเปน็ แบบอย่างที่ดีแก่เพอื่ นด้านความซ่ือสัตย์ 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว โรงเรียน และสงั คม ไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผอู้ ืน่ ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั ิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวนั และรับผดิ ชอบในการทำงาน ปฏิบัตเิ ปน็ ปกติวสิ ยั และเปน็ แบบอย่างท่ีดี 4 ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ 4.2 มีการจดบันทกึ ความรู้อยา่ งเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรูไ้ ดอ้ ยา่ งมีเหตุผล
5. อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใชท้ รัพย์สินของตนเอง เชน่ สิง่ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั พอเพียง คุ้มค่า และเก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี และใช้เวลาอยา่ งเหมาะสม 6. มงุ่ มั่นในการ 5.2 ใชท้ รพั ยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั ค้มุ คา่ และเก็บรักษาดูแล ทำงาน อยา่ งดี 7. รักความเปน็ 5.3 ปฏิบัตติ นและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล ไทย 5.4 ไม่เอาเปรยี บผู้อื่น และไมท่ ำให้ผอู้ ืน่ เดือดร้อน พร้อมให้อภยั เม่ือผอู้ ่ืน 8. มจี ิตสาธารณะ กระทำผิดพลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวนั บนพ้ืนฐาน ของความรู้ ข้อมลู ข่าวสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปลี่ยนแปลงทางสงั คม และสภาพแวดล้อม ยอมรบั และปรบั ตวั อยูร่ ว่ มกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ย่างมคี วามสขุ 6.1 เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ตั ิหน้าทที่ ี่ได้รบั มอบหมาย 6.2 ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบในการทำงานใหส้ ำเร็จ 6.3 ปรบั ปรุงและพัฒนาการทำงานอย่างรอบคอบ 6.4 ทมุ่ เท ทำงาน อดทน ไม่ท้อต่อปญั หาและอุปสรรค 6.5 พยายามแกป้ ญั หาและอปุ สรรคในการทำงานให้สำเร็จ 6.6 ช่นื ชมผลงานความสำเรจ็ ด้วยความภาคภมู ิใจ 7.1 มจี ติ สำนกึ ในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทำงาน 8.2 อาสาทำงาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทำ แบ่งปนั สง่ิ ของ ทรัพยส์ นิ และอื่น ๆ พรอ้ มช่วยแกป้ ญั หา 8.3 ดูแล รกั ษาทรพั ย์สนิ ของหอ้ งเรียน โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ชมุ ชน เพ่ือแกป้ ญั หาหรือรว่ มสรา้ งสง่ิ ทดี่ งี ามตามสถานการณ์ท่เี กดิ ขน้ึ ลงช่อื .......................................................ผปู้ ระเมิน .............../.................../.................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน 104 - 124 ดมี าก 83 - 103 ดี 62- 82 พอใช้ ตำ่ กวา่ 62 ปรับปรงุ
บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ รหสั วิชา........................รายวชิ า.....................................................ชั้นมัธยมศกึ ษาปที .ี่ ..........เวลา............ช่ัวโมง เรื่องทีส่ อน............................................................................................................................................................ ช้ัน เตม็ ขาด ผลการจัดการเรยี นรู้ ปญั หา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข ม.3/1 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/2 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/3 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/4 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... .......................................
ชน้ั เต็ม ขาด ผลการจดั การเรียนรู้ ปัญหา/อุปสรรค แนวทางแก้ไข ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/5 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/6 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ม.3/7 ........ ........ ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ...................................... ...................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... ....................................... .......................................
ผลการประเมนิ /ผลการทดสอบ เตม็ มา ดมี าก ปานกลาง ปรับปรงุ สรุป จำนวน ร้อยละ ทักษะทีจ่ ำเป็นในการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ 21 3Rs คือทักษะพ้นื ฐานท่ีจำเปน็ ตอ่ ผ้เู รยี นทกุ คน มดี ังน้ี 1. Reading คอื สามารถอา่ นออก 2. (W) Riteing คือ สามารถเขียนได้ 3. (A) Rithmatic คอื มีทักษะในการคำนวณ 3Rs คือ 8Cs ซึ่งเป็นทักษะต่าง ๆ ท่ีจำเป็นเช่นกัน ซ่ึงทุกทักษะสามารถนำไปปรับใช้ในการเรียนรู้ ได้ ทกุ วชิ า มีดงั น้ี 1. Critical thinking and problem solving คือ มีทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่ าง มวี ิจารณญาณและสามารถแก้ไขปัญหาได้ 2. Creativity and innovation คอื การคิดอยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละคดิ เชิงนวตั กรรม 3. Cross-cultural understanding คือ ความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมและ กระบวนการคดิ ขา้ มวัฒนธรรม 4. Collaboration teamwork and leadership คือ ความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะ ความเป็นผู้นำ 5. Communication information and media literacy คือ มี ทั กษ ะใน การสื่อสารและ การรู้เท่าทันส่ือ 6. Computing and IT literacy คือ มีทักษะการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละรูเ้ ท่าทันเทคโนโลยี 7. Career and learning skills คือ มีทกั ษะอาชีพและการเรยี นรู้ 8. Compassion คอื มคี วามเมตตากรณุ า มีคุณธรรม และมีระเบียบวินัย ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จึงประกอบด้วยคณุ สมบัติ ดงั น้ี 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน ตนเองและผอู้ นื่ เช่น การผลติ และการบริโภคที่อย่ใู นระดับพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดข้ึนจากการกระทำน้ัน ๆ อย่างรอบคอบ
3. ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปล่ียนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึน โดยคำนึ งถึงความเป็น ไป ได้ของสถานการณ์ ต่างๆ ที่ คาดว่าจะเกิดข้ึนในอนาคต โดยมเี งอ่ื นไข ของการตัดสินใจและดำเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ ใหอ้ ยูใ่ นระดับพอเพยี ง 2 ประการ ดังนี้ 1) เงอ่ื นไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เก่ียวกับวิชาการต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องรอบด้านความ รอบคอบท่ีจะนำความรู้เหล่าน้ันมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังใน การปฏบิ ัติ 2) เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความ ซ่ือสัตย์สุจริตและมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดำเนนิ ชีวิต เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำรินั้นแตกต่างจากเศรษฐกิจแบบทุนนิยมของตะวันตก ซ่ึงให้ความสำคัญกับเร่ืองวัตถุที่เป็นรูปธรรม เช่น เงิน ทรัพย์สิน กำไร โดยไม่นำเรื่องของสภาพจิตใจหรือ เร่ืองนามธรรมมาเกี่ยวข้อง อีกท้ังเศรษฐกิจพอเพียงยังมีขอบเขตท่ีกว้างขวางกว่าเศรษฐกิจนายทุน หรือเศรษฐกิจธุรกิจ เพราะสามารถครอบคลุมได้ถึง 4 ด้าน คือ มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านจิตใจ มิติด้านสังคม และมติ ดิ า้ นวัฒนธรรม ดังน้ี 1. มิติด้านเศรษฐกิจ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจแบบพออยู่พอกิน ให้มีความขยันหม่ันเพียร ประกอบสัมมาอาชีพ เพือ่ ให้พึ่งตนเองได้ ให้พน้ จากความยากจน 2. มิติด้านจิตใจ เศรษฐกิจพอเพียงเน้นที่จิตใจที่รู้จักพอ คือ พอดี พอประมาณและพอใจในสิ่งท่ี มี ยินดใี นส่ิงท่ีไดไ้ ม่โลภ เศรษฐกิจพอเพียงจะตอ้ งเร่ิมทีต่ ัวเอง โดยสร้างรากฐานทางจติ ใจที่ม่ันคง โดยเริ่มจาก ใจทรี่ จู้ กั พอ เปน็ การปฏบิ ัตติ ามทางสายกลาง หรือมัชฌิมาปฏปิ ทา 3. มิติด้านสังคม เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดสังคมท่ีมีความสุขสงบ ประชาชนมีความเมตตา เอื้ออาทรชว่ ยเหลือซึ่งกันและกนั ไมใ่ ชต่ ่างคนต่างอยู่ มุ่งใหเ้ กิดความสามัคคีร่วมมือกัน เพ่ือให้ทุกคนอยู่ร่วมกัน ไดโ้ ดยปราศจากการเบียนเบียนกัน การเอารดั เอาเปรียบกนั การมุ่งรา้ ยทำลายกนั 4. มิติด้านวัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิตของประชาชน เศรษฐกิจพอเพียงมุ่งให้เกิดวัฒนธรรมหรือ วิถีชีวิตท่ีประหยัด อดออม มีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ไม่ตกเป็นทาสของวัตถุนิยมและบริโภคนิยม ซึง่ ทำให้เกิดการเป็นหนเ้ี ป็นสิน เกดิ การทจุ รติ คอรัปชน่ั เป็นปัญหาสังคมท่ีร้ายแรงท่สี ุดปญั หาหนึ่งท่ีบอ่ นทำลาย ความม่นั คงของชาติ มิติทั้ง 4 ด้านของเศรษฐกิจพอเพียงได้สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้ส่งผลดีต่อแค่ด้าน เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อด้านต่างๆ ท่ีมีส่วนช่วยให้คนในประเทศอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตามวิถชี ีวติ ทไ่ี มฟ่ งุ้ เฟ้อ และอยู่บนพ้ืนฐานของความพอดี
แบบประเมินทกั ษะทจี่ ำเปน็ ในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 และปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ขอ้ เสนอแนะ ลงนาม 3Rs 8Cs 3 หว่ ง 2 เงอ่ื นไข 4 มติ ิ ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มติ ิ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เง่อื นไข2 ������ มิติ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มิติ3 (นายธรี ะพร ไวยครฑุ ธี) ครูผู้สอน ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 (นางสาวพมิ พ์พรรณ แกว้ โต) ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มติ ิ1 หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงื่อนไข2 ������ มิติ2 (นางปานทอง แสงจนั ทร์งาม) หวั หน้ากลมุ่ บริหารวชิ าการ ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ หว่ ง3 ������ มิติ3 (นายพรอ้ มพันธุ์ ลายลักษณ์) ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มติ ิ1 (นางสาวชลารักษ์ สายอุทัศน์) ผ้อู ำนวยการโรงเรียนฯ ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงอื่ นไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มติ ิ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ ห่วง1 ������ เงอ่ื นไข1 ������ มิติ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ ห่วง2 ������ เงอ่ื นไข2 ������ มิติ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มิติ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4 ������ R1 ������ C1 ������ C2 ������ หว่ ง1 ������ เงื่อนไข1 ������ มิติ1 ������ R2 ������ C3 ������ C4 ������ หว่ ง2 ������ เงอ่ื นไข2 ������ มติ ิ2 ������ R3 ������ C5 ������ C6 ������ ห่วง3 ������ มติ ิ3 ������ C7 ������ C8 ������ มติ ิ4
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 คาบที่ 5 รหัสวชิ า ศ23101 วิชา ศิลปะ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ ปกี ารศึกษา 2564 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาทงั้ หมด 4 คาบ ใชเ้ วลา 1 คาบ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เร่อื ง การขบั ร้องและบรรเลงดนตรี เรอื่ ง เทคนิคและการแสดงออกในการบรรเลงดนตรเี ดี่ยว ชอ่ื - สกุล (ผู้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้) นายธีระพร ไวยครฑุ ธี 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วจิ ารณ์คุณคา่ ดนตรี ถา่ ยทอดความรูส้ ึก ความคดิ ต่อดนตรี อยา่ งอสิ ระ ชืน่ ชมและประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวัน ตวั ชว้ี ดั ศ 2.1 ม.3/2 ร้องเพลง เล่นดนตรเี ดีย่ วและรวมวง โดยเนน้ เทคนิคการร้อง การเล่น การแสดงออก และคุณภาพเสยี ง 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 ความรู้ 1) เทคนิคและการแสดงออกในการบรรเลงดนตรเี ด่ยี ว 2.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ 1) ทกั ษะการแสวงหาความรู้ 2) ทกั ษะกระบวนการทำงาน 3) ทักษะการจดั การ 4) ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา 5) ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 3. สาระสำคัญ การบรรเลงดนตรีเดี่ยว เป็นการแสดงความสามารถท้ังจังหวะ ทำนอง ฝีมือ ผู้บรรเลง ซึ่งต้องมีความ แมน่ ยำในตัวโน้ต มเี ทคนคิ ในการบรรเลง จะทำใหบ้ รรเลงบทเพลงได้ถูกต้อง ไพเราะ
4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ความรู้ (K) - อธบิ ายเทคนิคและการแสดงออกในการบรรเลงดนตรเี ดยี่ ว 4.2 ทักษะที่สำคญั (P) - ฝกึ บรรเลงดนตรี โดยใชเ้ ทคนคิ และการบรรเลงดนตรเี ดีย่ ว 4.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) - ม่งุ มน่ั ในการทำงาน ตัวช้วี ดั ที่ 6.2 ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย 4.4 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น (C) - ความสามารถในการส่ือสาร 5. จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น 5.1 ทักษะของคนในศตวรรษที่ 21 คือ การเรียนรู้ 3Rs X 8Cs Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ ำ (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สอ่ื (Communications, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208