หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พทุ ธศกั ราช 2564 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช 2560) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระท่ี 6 : ฟิสิกส์ (สาระเพม่ิ เติม) สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
คาสง่ั โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ที่ ………. / 2564 เรื่อง แตง่ ตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสตู รและวิชาการกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ****************** เพ่ือให้การบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 4 มาตรา 27 ที่กาหนด ไว้ให้สถานศกึ ษา มีการจดั ทาสาระของหลักสตู รเพ่ือความเปน็ ไทย ความเปน็ พลเมืองทีด่ ีของชาติ การดารงชีวิต และการประกอบอาชีพ ตลอดจนเพื่อการศึกษาต่อ ในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับสภาพของปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่ือเป็นสมาชิกท่ดี ขี องครอบครวั ชมุ ชน สังคมและประเทศชาติ อาศัยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและงานวิชาการสถานศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. 2544 ข้อ 5 และประกาศการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ลงวันท่ี 11 กรกฎาคมพ.ศ. 2551 และคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. 1237/2560 สั่ง ณ วันท่ี 9 สิงหาคม 2560 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ดงั นี้ 1. นางสาวณฐั ธนญั า บญุ ถงึ ประธานกรรมการ 2. นายธนพฒั น์ อิศรางกรู ณ อยุธยา กรรมการ 3. นางสาวกานดา วุฒิเศลา กรรมการ 4. นางสาวจันจิรา ธนันชยั กรรมการ 5. นางอมลสิริ คาฟู กรรมการ 6. นางสาวฐติ ารัตน์ คัมภรี ะ กรรมการ 7. นางสาวปาริชาติ สิงคาโล กรรมการ 8. นางธญั ญรตั น์ ศลิ าคา กรรมการ 9. นายพงศธ์ ร เปงวงศ์ กรรมการ 10. ว่าทร่ี อ้ ยตรีสมพงษ์ ตระการศภุ กร กรรมการ 11. นายเสรี แซ่จาง กรรมการ 12. นางสาวสดุ าภรณ์ สบื บุญเปยี่ ม กรรมการ 13. นางสาวจิรัชญา ชัยธีรธรรม กรรมการ 14. นางสาวศิรวิ รรณ มนุ มิ คา กรรมการ 15. นายเอกราช หมแี กว้ กรรมการ 16. นางสาวธนั ชนก ชัยบุตร กรรมการ 17. นางกมลชนก เทพบุ กรรมการและเลขานุการ
มหี น้าท่ี 1. วางแผนดาเนินงาน กาหนดสาระ รายละเอียดของหลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัดและผล การเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้สอดคล้องกับหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรบั ปรุง 2560) 2. จัดทาคู่มือบริหารหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นิเทศ กากับ ติดตาม เกี่ยวกับ การพัฒนาหลักสูตร การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ให้สอดคล้องและเป็นไปตาม มาตรฐานหลกั สูตรการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน 3. ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร เก่ียวกับ การพัฒนาหลักสูตรและการจัดกระบวนการ เรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล ให้เปน็ ไปตามจุดมุ่งหมายและแนวทางในการดาเนินการของหลักสตู ร 4. ประสานความร่วมมือจากบุคคล หน่วยงาน องค์กรต่างๆและชุมชน เพื่อให้การใช้หลักสูตรเป็นไป อยา่ งมปี ระสิทธิภาพและคุณภาพ 5. ประชาสัมพันธ์หลักสูตรและการใช้หลักสูตรแก่แก่ผู้เรียน ผู้ปกครองชุมชนและผู้ที่เกี่ยวข้องและนา ข้อมูลป้อนกลับจากฝ่ายต่างๆ มาพิจารณาเพ่ือการปรับปรุงและพัฒนา หลักสูตรของกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6. ส่งเสริมและสนบั สนุนการวจิ ัยเกี่ยวกบั การพฒั นาหลกั สตู รและกระบวนการเรียนรู้ 7. ติดตามผลการเรียนของผู้เรียนรายบุคคล ระดับช้ันในปีการศึกษาท่ีผ่านมา เพื่อปรับปรุง แก้ไขและ พัฒนาการดาเนนิ งานตา่ งๆของสถานศึกษา 8. ตรวจสอบทบทวนประเมินมาตรฐาน การปฏิบัติงานของครูและการบริหารหลักสูตรและกลุ่มสาระ การเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยใี นรอบปีทผี่ ่านมา แล้วใช้ผลการประเมินหลักสูตรเพอื่ วางแผนพัฒนาการ ปฏบิ ัติงานของครแู ละการบรหิ ารหลักสตู รและในปกี ารศกึ ษาต่อไป 9. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบริหาร หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีโดย เน้นผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน คณะกรรมการฝ่าย บรหิ าร สาธารณะชนและผทู้ ่เี กย่ี วข้อง ท้ังน้ี ต้ังแตบ่ ดั น้เี ปน็ ต้นไป สง่ั ณ วันท่ี 20 เดอื นเมษายน พ.ศ. 2564 (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31
ประกาศโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 เร่ือง ให้ใช้หลักสูตรโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 พทุ ธศักราช 2564 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ………………………………. ตามที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ประกาศใช้หลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พทุ ธศกั ราช 2564 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) โดยเริ่มใช้หลักสตู รดงั กล่าว กบั ผเู้ รียนทุกระดบั ชนั้ ในปีการศึกษา 2563 ต่อมาในปีการศึกษา 2564 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ไดเ้ พ่ิมรายวิชาเพมิ่ เติมเพื่อให้สอดคล้องกับ นโยบายเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ มีเวลาในการทากิจกรรมเพ่ือพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม การสร้างวนิ ัย การมีจิตสานึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความภาคภูมิใจใน ความเป็นไทย โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ได้ดาเนินการจัดทาหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) สอดคล้องตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง การบริหารจัดการเวลาเรียนและปรับมาตรฐานและตัวชวี้ ัด สอดคล้องกบั คาส่ัง สพฐ. ที่ 1239/60 และประกาศ สพฐ.ลงวันที่ 8 มกราคม 2561 เป็นท่เี รียบร้อยแล้ว ทั้งนี้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ข้ันพื้นฐาน เมื่อวันท่ี 20 เมษายน 2564 จึงประกาศให้ใช้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560) ตั้งแตบ่ ัดนเ้ี ป็นต้นไป ประกาศ ณ วนั ที่ 20 เดอื น เมษายน พ.ศ. 2564 ลงช่อื ลงชือ่ (นายกฤกษฎ์ิ พยัคกาฬ) (นายอดศิ ร แดงเรือน) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31
กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ บทนา ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) น้ีไดก้ าหนด สาระการเรียนรู้ออกเปน็ 8 สาระ ได้แก่ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ สาระท่ี 4 ชวี วทิ ยา สาระที่ 5 เคมี สาระที่ 6 ฟิสิกส์ สาระที่ 7 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ และสาระท่ี 8 เทคโนโลยี ซึ่งองค์ประกอบของหลักสูตร ท้ังในด้านของเน้ือหา การจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้นั้น มีความสาคัญอย่างย่ิงในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ของผู้เรียนในแต่ละระดับช้ันให้มีความต่อเน่ืองเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 จนถึงชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 สาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้กาหนดตัวชี้วัดและสาระ การ เรียนรู้แกนกลางที่ผู้เรียนจาเป็นต้องเรียนเป็นพ้ืนฐาน เพื่อให้สามารถนาความรู้นี้ไปใช้ในการดารงชีวิต หรือ ศึกษาต่อ ในวิชาชีพท่ีต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ โดยจัดเรียงลาดับความยากง่ายของเน้ือหา ท้ัง 8 สาระ ในแต่ละระดับช้นั ใหม้ ีการเช่ือมโยงความรู้กบั กระบวนการเรียนรู้ และการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่สี ่งเสริม ให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ท้ังความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สาคัญทั้ง ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วย กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลาย และประจักษ์พยานทต่ี รวจสอบได้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตระหนักถึงความสาคัญของการจัด การเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีทม่ี ุ่งหวังใหเ้ กิดผลสมั ฤทธ์ติ ่อผู้เรียนมากท่สี ดุ จึงได้จัดทาตวั ช้ีวดั และสาระ การเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) ข้ึน เพื่อให้สถานศึกษา ครูผู้สอน ตลอดจนหน่วยงาน ตา่ งๆ ได้ใชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาหนังสือเรียน คู่มอื ครู สอ่ื ประกอบการเรียนการสอน ตลอดจนการวัดและ ประเมินผล โดยตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตาม หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ทจ่ี ัดทาขึ้นน้ี ไดป้ รบั ปรุง เพื่อให้มีความสอดคล้องและเช่ือมโยงกันภายในสาระการเรียนรู้เดียวกันและระหว่างสาระการเรียนรู้ ในกลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนการเชื่อมโยงเน้ือหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับ คณิตศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงเพ่ือให้มีความทันสมัยต่อการเปล่ียนแปลงและความเจริญก้าวหน้า ของวิทยาการต่างๆ และทัดเทียมกับนานาชาติ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สรุปเป็น แผนภาพได้ ดังนี้
เป้าหมายของวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี มุง่ เนน้ ให้ผเู้ รยี นได้ค้นพบความรู้ดว้ ยตนเองมากทส่ี ุด เพ่อื ใหไ้ ด้ ทั้งกระบวนการและความรูจ้ ากวธิ กี ารสังเกต การสารวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนาผลทไี่ ดม้ า จดั ระบบ เป็นหลกั การ แนวคิดและองค์ความรู้ การจดั การเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงมีเปา้ หมายท่ี สาคญั ดงั นี้ 1. เพ่อื ให้เข้าใจหลกั การ ทฤษฎี และกฎที่เป็นพน้ื ฐานในวชิ าวิทยาศาสตร์ 2. เพ่อื ใหเ้ ขา้ ใจขอบเขตของธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละข้อจากดั ในการศึกษาวชิ าวิทยาศาสตร์ 3. เพ่อื ให้มที กั ษะที่สาคัญในการศกึ ษาค้นควา้ และคดิ คน้ ทางเทคโนโลยี 4. เพื่อให้ตระหนักถงึ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์ และสภาพแวดล้อม ในเชงิ ทม่ี อี ทิ ธพิ ลและผลกระทบซึ่งกันและกนั 5. เพอ่ื นาความรู้ความเขา้ ใจในวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตอ่ สังคม และ การดารงชีวติ 6. เพอ่ื พฒั นากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจัดการ ทกั ษะ ในการสือ่ สาร และความสามารถในการตัดสนิ ใจ 7. เพื่อใหเ้ ปน็ ผู้ทมี่ จี ติ วทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี อยา่ งสร้างสรรค์
เรียนรอู้ ะไรในวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มงุ่ หวังใหผ้ ้เู รียนได้เรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่เี นน้ การเชอ่ื มโยงความรกู้ ับกระบวนการ มที ักษะสาคัญในการค้นคว้าและสรา้ งองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการ ในการสืบเสาะหาความรู้และแก้ปัญหาท่ีหลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกข้ันตอน มีการทา กจิ กรรมดว้ ยการลงมือปฏิบัติจรงิ อย่างหลากหลาย เหมาะสมกบั ระดับช้นั โดยกาหนดสาระสาคัญดังนี้ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรูเ้ ก่ยี วกับ ชวี ติ ในส่งิ แวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชวี ติ การดารงชวี ิตของ มนษุ ยแ์ ละสัตว์ การดารงชีวิตของพืช พันธกุ รรม ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ฒั นาการของสิ่งมีชีวิต วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปล่ียนแปลงของสาร การเคล่ือนที่ พลงั งานและคลื่น วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับโลกในเอกภพ ระบบโลก และมนุษย์กับการเปล่ยี นแปลง ของโลก ชีววทิ ยา เรียนร้เู ก่ยี วกบั การศกึ ษาชวี วทิ ยา สารเคมีในส่งิ มีชวี ติ เซลล์ของสิ่งมชี ีวติ พนั ธุกรรมและการ ถ่ายทอด วิวัฒนาการ ความหลากหลายทางชวี ภาพ โครงสร้างและการทางานของส่วนต่างๆ ในพืชดอก ระบบ และการทางานในอวยั วะตา่ งๆ ของสัตว์และมนุษยแ์ ละส่ิงมีชวี ิตและส่งิ แวดลอ้ ม เคมี เรียนรู้เก่ียวกับ ปริมาณสาร องค์ประกอบและสมบัติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร ทักษะ และการแก้ปญั หาทางเคมี ฟสิ ิกส์ เรยี นรูเ้ กี่ยวกบั ธรรมชาตแิ ละการคน้ พบทางฟิสิกส์ แรงและการเคล่ือนที่และพลังงาน โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ เรียนรู้เก่ียวกับ โลกและกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาข้อมลู ทางธรณีวทิ ยาและการนาไปใช้ประโยชน์ การถา่ ยโอนพลงั งานความร้อนของโลก การเปล่ียนแปลงลักษณะ ลม ฟา้ อากาศกบั การดารงชวี ิตของมนษุ ย์ โลกในเอกภพและดาราศาสตรก์ บั มนุษย์ เทคโนโลยี * การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เก่ียวกับ การพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ เทคโนโลยีเพ่ือดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่นๆ เพ่ือแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการ ออกแบบ เชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม * วิทยาการคานวณ เรียนรู้เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะการคิด เชิง คานวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศส่อื สารในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตจริงไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงไม่มีชีวิตกับส่ิงมีชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตต่างๆ ในระบบนิเวศการถ่ายทอดพลังงาน การ เปล่ียนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการ แกไ้ ขปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มรวมทั้งนาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบต่างๆของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์ กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กัน รวมทง้ั นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมสารพันธุกรรม เปลี่ยนแปลงทางพันธกุ รรมที่มีผลต่อส่งิ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวฒั นาการ ของสงิ่ มชี วี ิต รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้างและแรงยดึ เหนย่ี วระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลย่ี นแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงท่ีกระทาต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนท่ี แบบต่างๆ ของวัตถุรวมท้งั นาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลย่ี นแปลงและการถ่ายโอนพลงั งานปฏิสัมพนั ธ์ระหว่าง สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เก่ียวข้อง กบั เสียง แสง และคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ รวมทั้งนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และววิ ัฒนาการของเอกภพกาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิต และการ ประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทัง้ ผลตอ่ สงิ่ มชี ีวิตและสงิ่ แวดลอ้ ม
สาระที่ 4 ชีววิทยา มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจธรรมชาติของส่ิงมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็น องค์ประกอบ ของสง่ิ มีชวี ติ ปฏกิ ริ ิยาเคมใี นเซลล์ของสิ่งมีชวี ติ กลอ้ งจลุ ทรรศน์ โครงสร้างและ หน้าที่ของเซลล์ การลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับ เซลล์ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม การถ่ายทอดยนี บนโครโมโซม สมบตั แิ ละหนา้ ที่ของ สารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูลและแนวคิดเก่ียวกับ ววิ ัฒนาการของสิง่ มชี ีวิต ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกดิ สปชี สี ์ใหม่ความหลากหลาย ทางชีวภาพ กาเนิดของส่ิงมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมท้ังนา ความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 4.3 เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้าของพืช การลาเลียงของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการตอบสนอง ของพืช รวมท้งั นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 4.4 เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการแลกเปล่ียนแก๊ส การ ลาเลียง สารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และ การ ตอบสนอง การเคลอ่ื นท่ี การสบื พันธ์แุ ละการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกบั การรักษาดุลยภาพและ พฤติกรรมของสัตว์ รวมท้งั นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 4.5 เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร ใน ระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพ่ิมของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ปญั หาและ ผลกระทบท่เี กดิ จากการใช้ประโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปัญหา สาระท่ี 5 เคมี มาตรฐาน ว 5.1 เข้าใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติ ของสาร แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมทั้งการนาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 5.2 เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิรยิ าเคมี อัตราการเกิดปฏิกิรยิ า เคมีสมดุลในปฏิกิริยาเคมีสมบัติและปฏิกิริยาของกรด–เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์ และเซลล เคมไี ฟฟ้า รวมทัง้ การนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 5.3 เขา้ ใจหลกั การทาปฏิบัตกิ ารเคมี การวดั ปรมิ าณสารหนว่ ยวดั และการเปลย่ี นหนว่ ยการคานวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทั้งการบูรณาการความรู้และทักษะ ในการ อธบิ าย ปรากฏการณใ์ นชีวติ ประจาวันและการแกป้ ญั หาทางเคมี
สาระที่ 6 ฟิสิกส์ มาตรฐาน ว 6.1 เข้าใจธรรมชาตทิ างฟิสกิ ส์ ปริมาณและกระบวนการวดั การเคล่ือนทีแ่ นวตรง แรงและ กฎการ เคล่ือนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการ อนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคล่ือนท่ีแนวโค้ง รวมทั้งนา ความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 6.2 เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคล่ืน เสียงและการได้ยิ น ปรากฏการณท์ ีเ่ กย่ี วข้องกับเสียง แสงและการเห็น ปรากฏการณท์ เี่ กี่ยวข้องกบั แสง รวมท้งั นา ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 6.3 เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และ กฎของโอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกาลังไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงาน ทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทากับประจุไฟฟ้า และ กระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนาแม่เหล็กไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟ้ากระแสสลับ คล่ืน แมเ่ หล็กไฟฟา้ และการสื่อสาร รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 6.4 เข้าใจความสัมพันธ์ของความรอ้ นกับการเปล่ียนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่น ของวัสดุ และมอดูลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุง และหลักของอาร์คิมีดีส ความตึง ผวิ และแรงหนืดของของเหลว ของไหลอดุ มคติ และสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎจี ลน์ ของแก๊สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงาน นิวเคลยี ร์ ฟิสกิ ส์ อนภุ าค รวมท้ังนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ สาระท่ี 7 โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ มาตรฐาน ว 7.1 เข้าใจกระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม การศึกษาลาดับชัน้ หิน ทรพั ยากรธรณี แผนท่แี ละการนาไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว 7.2 เข้าใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียนของน้าใน มหาสมุทร การเกิดเมฆ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกและผลต่อสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อม รวมทั้งการพยากรณอ์ ากาศ มาตรฐาน ว 7.3 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ และระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตาแหน่งดาว บนทรง กลมฟ้าและปฏิสมั พนั ธ์ภายในระบบสุริยะ รวมทัง้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ สาระที่ 8 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 8.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม มาตรฐาน ว 8.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทัน และมีจริยธรรม
คณุ ภาพผเู้ รยี น จบช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ❖ เข้าใจการลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกันใน ร่างกายของมนุษย์และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ท่ีพืชสร้างข้ึน การ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรม วิวัฒนาการที่ทาให้เกิดความหลากหลายของ สิ่งมชี ีวติ ความสาคัญและผลของเทคโนโลยีทางดเี อ็นเอต่อมนุษยส์ ิง่ มีชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ ม ❖ เข้าใจการลาเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ กลไกการรักษาดุลยภาพของมนุษย์ ภูมิคุ้มกันใน ร่างกายของมนุษย์และความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน การใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ที่พืชสร้างขึ้น การ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม วิวัฒนาการท่ีทาให้เกิดความหลากหลายของ สิง่ มีชวี ติ ความสาคัญและผลของเทคโนโลยที างดีเอ็นเอต่อมนุษยส์ ่ิงมีชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม ❖ เข้าใจชนิดของอนุภาคสาคัญท่ีเป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอม สมบัติบางประการของธาตุ การจดั เรียงธาตุในตารางธาตุ ชนิดของแรงยดึ เหนยี่ วระหวา่ งอนุภาคและสมบตั ิต่าง ๆ ของสารทีม่ คี วามสัมพันธ์ กับแรงยึดเหน่ียว พันธะเคมี โครงสร้างและสมบตั ิของพอลิเมอร์การเกิดปฏิกิริยาเคมี ปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการ เกดิ ปฏิกิริยาเคมี และการเขยี นสมการเคมี ❖ เข้าใจปริมาณที่เก่ียวกับการเคล่ือนที่ ความสัมพันธ์ระหว่างแรง มวลและความเร่งผลของความเร่ง ที่มีต่อการเคลื่อนท่ีแบบต่าง ๆ ของวัตถุ แรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กและ กระแสไฟฟ้า และแรงภายในนิวเคลียส ❖ เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน การเปล่ียนพลังงานทดแทนเป็น พลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีด้านพลังงาน การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบนและการรวมคล่ืน การได้ยิน ปรากฏการณท์ เ่ี กี่ยวขอ้ งกับเสียง สกี ับการมองเห็นสี คลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ และประโยชน์ของคลื่นแม่เหล็กไฟฟา้ ❖ เข้าใจการแบ่งช้ันและสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคล่ือนท่ีของแผ่นธรณีที่ สมั พันธก์ ับการเกดิ ลักษณะธรณีสัณฐาน สาเหตุ กระบวนการเกดิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ผลกระทบ แนวทางการเฝา้ ระวัง และการปฏบิ ัติตนให้ปลอดภัย ❖ เข้าใจผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส ท่ีมีต่อการหมุนเวียน ของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลท่ีมีต่อภูมิอากาศความสัมพันธ์ของการหมุนเวยี น ของอากาศ และการหมนุ เวียนของกระแสนา้ ผวิ หนา้ ในมหาสมุทรและผลต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สง่ิ มีชวี ิตและ สง่ิ แวดล้อม ปจั จยั ต่าง ๆ ทีม่ ีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และแนวปฏิบัติเพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ท่ี ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลกรวมท้ังการแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศท่ีสาคัญจากแผนท่ี อากาศ และข้อมูลสารสนเทศ
❖ เข้าใจการกาเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพ หลักฐานท่ี สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง ประเภทของกาแล็กซี โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก กระบวนการเกดิ และการสร้างพลังงาน ปัจจยั ทีส่ ง่ ผลตอ่ ความส่องสวา่ งของดาวฤกษ์ และความสัมพันธร์ ะหว่าง ความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสีอุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการและการเปล่ียนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขต บริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ท่ีเอ้ือต่อการดารงชีวิต การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะและผลท่ีมี ต่อโลก รวมท้ังการสารวจอวกาศและการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ ❖ ระบุปัญหา ต้ังคาถามท่ีจะสารวจตรวจสอบ โดยมีการกาหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ต้ังสมมติฐานท่ีเป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือกตรวจสอบสมมติฐานที่ เป็นไปได้ ❖ ต้ังคาถามหรือกาหนดปัญหาท่ีอยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ ท่ีแสดง ให้เห็นถึงการใชค้ วามคิดระดับสงู ท่ีสามารถสารวจตรวจสอบหรือศึกษาคน้ คว้าได้อย่างครอบคลมุ และเชอ่ื ถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบ เพ่ือนาไปสู่การสารวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการ สารวจตรวจสอบตามสมมติฐานทก่ี าหนดไวไ้ ด้อย่างเหมาะสมมีหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เลอื กวัสดุ อุปกรณ์ รวมท้งั วิธีการในการสารวจตรวจสอบอย่างถูกต้องท้ังในเชิงปริมาณและคุณภาพ และบันทึกผลการสารวจตรวจสอบ อยา่ งเป็นระบบ ❖ วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพ่ือตรวจสอบกับ สมมติฐานท่ีต้ังไว้ ให้ข้อเสนอแนะเพ่ือปรับปรุงวธิ ีการสารวจตรวจสอบ จัดกระทาข้อมูลและนาเสนอข้อมลู ด้วย เทคนิควิธีท่ีเหมาะสม ส่ือสารแนวคิด ความรู้จากผลการสารวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน จัดแสดงหรือใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือใหผ้ ู้อืน่ เขา้ ใจโดยมหี ลกั ฐานอ้างอิงหรอื มที ฤษฎรี องรับ ❖ แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซ่ือสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้ โดยใช้ เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทางวิทยาศาสตร์อาจมีการ เปล่ยี นแปลงได้ ❖ แสดงถึงความพอใจและเหน็ คณุ ค่าในการค้นพบความรู้ พบคาตอบ หรอื แกป้ ัญหาไดท้ างานร่วมกับ ผู้อ่ืนอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมีข้อมูลอ้างอิงและเหตุผลประกอบเก่ียวกับผลของการพัฒนาและ การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและส่ิงแวดล้อม และยอมรับฟังความคิดเห็นของ ผอู้ น่ื ❖ เขา้ ใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ทมี่ ีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยปี ระเภทต่าง ๆ และการ พัฒนาเทคโนโลยีท่ีส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าผลของเทคโนโลยีตอ่ ชีวิต สังคม และ สิ่งแวดล้อม ❖ ตระหนกั ถึงความสาคญั และเห็นคุณค่าของความรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีท่ใี ช้ในชีวิตประจาวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดารงชีวิตและการประกอบอาชีพ แสดงความ ชื่นชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ช้ินงานท่ีเป็นผลมาจากภูมิปัญญาท้องถ่ิน และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ ทันสมัย ศึกษาหาความรเู้ พม่ิ เติม ทาโครงงานหรือสรา้ งชนิ้ งานตามความสนใจ ❖ แสดงความซาบซ้ึง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแลทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดลอ้ มของทอ้ งถนิ่
❖ วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยี โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และ ส่ิงแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ ทรัพยากรเพ่ือออกแบบสร้างหรือพัฒนาผลงาน สาหรับแก้ปัญหาท่ีมี ผลกระทบต่อสังคม โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนาเสนอ ผลงาน เลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย รวมทั้งคานึงถึงทรัพย์สินทาง ปญั ญา ❖ ใช้ความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ ส่ือดิจิทัล เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เพ่ือ รวบรวมขอ้ มูลในชีวิตจริงจากแหล่งตา่ ง ๆ และความร้จู ากศาสตร์อ่ืน มาประยุกต์ใช้สร้างความรู้ใหม่ เขา้ ใจการ เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีทม่ี ีผลตอ่ การดาเนินชวี ติ อาชพี สงั คมวฒั นธรรม และใชอ้ ยา่ งปลอดภยั มจี ริยธรรม ธรรมชาต/ิ ลักษณะเฉพาะ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เป็น หลักสูตรท่ีโรงเรียนได้พัฒนาข้ึนเพ่ือพัฒนาผู้เรียน โดยยึดองค์ประกอบหลักสาคัญ 5 ส่วน คือ 1) หลักสูตร แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 2) มาตรฐานการเรียนรู้ตวั ช้วี ดั และผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551(ฉบับ ปรับปรงุ พ.ศ.2560) 2) นโยบายการจดั การเรียนร้ทู เ่ี น้นผู้เรียนเปน็ สาคญั 4) กรอบหลักสูตรระดบั ทอ้ งถ่ิน และ 5) สาระสาคัญ จุดเนน้ ท่ีโรงเรียนพัฒนาเพม่ิ เติม เปน็ กรอบในการจัดทารายละเอยี ดเพ่ือใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐาน การศึกษาขั้นพ้ืนฐานที่กาหนด เหมาะสมกับสภาพชุมชนและท้องถ่ินและจุดเน้นของโรงเรียน โดยหลักสูตร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ปรับปรงุ 2560) ที่พฒั นาขึน้ มีลักษณะของหลกั สตู ร ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 สาหรับจัดการศึกษาในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานจัดในระดับมัธยมศึกษา (ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6) 2. เป็นหลักสูตรท่ีมีความเป็นเอกภาพสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 สาหรับใหค้ รูผสู้ อนนาไปจัดการเรียนรไู้ ด้อย่างหลากหลาย โดยกาหนดใหม้ ีรายละเอยี ด ดังนี้ 2.1 สาระการเรียนรู้ที่โรงเรียนใช้เป็นหลักเพ่ือสร้างพ้ืนฐานการคิด การเรียนรู้และการแก้ปัญหา ประกอบดว้ ย ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 2.2 สาระการเรยี นรูท้ ีเ่ สริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพการคิด การทางาน ประกอบดว้ ย สขุ ศึกษาและพลศึกษา ศลิ ปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยแี ละภาษาอังกฤษ 2.3 สาระการเรียนรู้เพิ่มเติม โดยจัดทาเป็นรายวิชา/กิจกรรมเพิ่มเติมตามความเหมาะสมและ สอดคล้องกับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น ความต้องการของผู้เรียน และบริบทของโรงเรียน และเพม่ิ วชิ าหนา้ ทพี่ ลเมอื งให้สอดคล้องกับนโยบายหน่วยเหนอื ดว้ ย
2.4 กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อพัฒนาผู้เรียนท้ังด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์และสังคม เสริมสรา้ งการเรียนร้นู อกจากกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 8 กลุ่ม และการพัฒนาตนตามศักยภาพ 2.5 การกาหนดมาตรฐานของโรงเรียนที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับต่างๆ เพ่ือเป็นเป้าหมาย ของการพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียน จดั ทารายละเอยี ดสาระการเรียนรู้ และจัดกระบวนการเรยี นรู้ให้ สอดคลอ้ งกบั สภาพในชุมชน สังคมและภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น 3. มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายสาคัญ ของการพัฒนาคุณภาพหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เป็นหลักสูตรที่มีมาตรฐานเป็นตัวกาหนดเกี่ยวกับ ความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการ ประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา โดยมกี ารกาหนดมาตรฐานไว้ ดังน้ี 3.1 มาตรฐานหลักสูตร เป็นมาตรฐานด้านผู้เรียนหรือผลผลิตของหลักสูตรโรงเรียน เกิดขึ้นจาก การจัดกิจกรรมตามโครงสรา้ งของหลกั สตู รทัง้ หมดของครู และใช้เปน็ แนวทางในการตรวจสอบคณุ ภาพโดยรวม ของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดับ ซ่ึงโรงเรียนต้องใช้สาหรับการประเมินตนเองเพื่อจัดทารายงาน ประจาปีตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษา เพื่อนามาเป็นข้อมูลในการกาหนดแนวปฏิบัติในการ สง่ เสริม กากบั ติดตาม ดแู ลและปรับปรงุ คณุ ภาพ เพ่อื ให้ไดต้ ามมาตรฐานทกี่ าหนด 3.2 มีตัวช้ีวัดชั้นปี เป็นเป้าหมายระบุส่ิงท่ีผู้เรียนพึงรู้และปฏิบัติได้ รวมท้ังคุณลักษณะของผู้เรียน ในแต่ละระดับช้ันซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการเรียนรู้ มีความเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม นาไปใช้ในการ กาหนดเนื้อหา จัดทาหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนรู้และเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรับการวัดประเมินผลเพ่ือตรวจสอบ คุณภาพผู้เรียน ตรวจสอบพัฒนาการผเู้ รียน ความรู้ ทักษะ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมอันพึง ประสงค์ และเป็นหลักในการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากการศึกษาในระบบ นอกระบบและตาม อธั ยาศัย 3.3 มีความเป็นสากล ความเปน็ สากลของหลักสตู รโรงเรียน มุ่งให้ผเู้ รียนมีความรู้ ความสามารถ ในเรอื่ งเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาอังกฤษ การจดั การสง่ิ แวดล้อม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น มีคณุ ลกั ษณะท่ีจาเป็นใน การอยู่ในสังคม ได้แก่ ความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสียสละ การเอื้อเฟื้อ โดยอยู่บน พนื้ ฐานของความพอดีระหว่างการเป็นผูน้ าและผู้ตาม การทางานเปน็ ทมี และการทางานตามลาพัง การแข่งขัน การรู้จักพอ และการร่วมมือกันเพื่อสังคม วิทยาการสมัยใหม่และภูมิปัญญาท้องถ่ิน การรับวัฒนธรรม ต่างประเทศและการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยการฝึกฝนทกั ษะเฉพาะทางและการบูรณาการในลกั ษณะทีเ่ ป็น องคร์ วม 4. มีความยืดหยุ่นหลากหลาย หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียน ราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) เป็นหลักสูตรท่ีโรงเรียนจัดทารายละเอียดต่างๆ ขึ้นเอง โดยยึดโครงสร้างหลักที่กาหนดไว้ใน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 กรอบหลักสูตรระดับท้องถิ่น เป็นขอบข่ายในการ จัดทา จึงทาให้หลักสูตรของโรงเรียนมีความยืดหยุ่นหลากหลาย สอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการ ของทอ้ งถิน่ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ มีความเหมาะสมกับตัวผู้เรียน
5. การวัดและประเมินผล เน้นหลักการพื้นฐาน 2 ประการ คือ การประเมินเพ่ือพัฒนาผู้เรียนและ เพ่ือตัดสินผลการเรียน โดยผู้เรียนต้องได้รับการพัฒนาและประเมินตามตัวชว้ี ดั เพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการ เรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน เป็นเป้าหมายหลักในการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษาและ ระดบั ชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และใชผ้ ลการประเมินเป็น ข้อมลู และสารสนเทศทีแ่ สดงพัฒนาการ ความกา้ วหน้าและความสาเร็จทางการเรยี นของผเู้ รียน ตลอดจนข้อมูล ทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ การส่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นเกดิ การพัฒนาและเรียนรู้อยา่ งเต็มตามศกั ยภาพ วสิ ัยทศั น์หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง 2560) มุ่งพัฒนา ผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่มีสมบูรณ์ มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ภูมิใจในท้องถิ่น มสี านึกความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะที่จาเป็นในศตวรรษท่ี 21 โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ บนพื้นฐานความเชอ่ื ว่าทกุ คนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพ จดุ มงุ่ หมายหลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเรื่องของการเรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติโดยมนุษย์ใช้กระบวนการ สังเกต สารวจตรวจสอบและการทดลอง เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและนาผลมาจัดระบบหลักการ แนวคดิ และทฤษฎีดังน้นั การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตร์จึงม่งุ เน้น ใหผ้ ู้เรียนไดเ้ ป็นผู้เรยี นรู้และค้นพบดว้ ยตนเอง มากท่ีสุดน่ันคือให้ได้ทั้งกระบวนการและองค์ความรู้ ต้ังแต่วัยเร่ิมแรกก่อนเข้าเรียนเมื่ออยู่ในสถานศึกษาและ เมอื่ ออกจากสถานศึกษาไปประกอบอาชีพแล้ว การจดั การเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตร์ในสถานศกึ ษามเี ป้าหมาย สาคัญดงั น้ี 1. เพอ่ื ให้เข้าใจหลกั การทฤษฎีท่เี ปน็ พ้ืนฐานในวทิ ยาศาสตร์ 2. เพอื่ ใหเ้ ข้าใจขอบเขตธรรมชาตแิ ละข้อจากดั ของวิทยาศาสตร์ 3. เพอ่ื ใหม้ ีทักษะทส่ี าคญั ในการศกึ ษาคน้ คว้าและคิดคน้ ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. เพ่อื พฒั นากระบวนการคิดและจนิ ตนาการความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจดั การทกั ษะใน การสือ่ สารและความสามารถในการตดั สนิ ใจ 5. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมวลมนุษย์และสภาพแวดล้อมใน เชิงทมี่ ีอทิ ธิพลและผลกระทบซงึ่ กันและกัน 6. เพื่อนาความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและ การดารงชีวติ 7. เพ่ือให้เป็นคนมีจิตวิทยาศาสตร์มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสรา้ งสรรค์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 พทุ ธศกั ราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช 2560) มุง่ ให้ผู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดงั นี้ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึกและทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลด ปญั หาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไมร่ ับข้อมูลข่าวสาร ดว้ ยหลักเหตผุ ลและความถูกต้อง ตลอดจนการ เลือกใช้วิธกี ารสื่อสารทม่ี ีประสิทธภิ าพโดยคานึงถึงผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพอ่ื การตัดสนิ ใจเกีย่ วกบั ตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมีการตดั สนิ ใจทมี่ ปี ระสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบที่เกดิ ขึ้นต่อตนเอง สังคมและสงิ่ แวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่างๆ ไปใช้ใน การดาเนินชีวติ ประจาวนั การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การเรยี นร้อู ยา่ งตอ่ เนื่องการทางาน และการอยู่รว่ มกันในสงั คม ดว้ ยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจดั การปญั หาและความขดั แย้งตา่ งๆ อย่างเหมาะสม การ ปรบั ตัวให้ทนั กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรจู้ ักหลีกเลยี่ งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู ื่น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การ แก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสมและมคี ุณธรรม
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมี ความสุข ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก มี 8 ประการ ได้แก่ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝ่เรยี นรู้ 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ การกาหนดตวั ชีว้ ัดรายปี กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ดั รายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ 1. สบื คน้ ข้อมูลและอธบิ ายความสมั พนั ธ์ ชีวภาพ ใจความหลากหลาย ของสภาพทางภูมิศาสตรบ์ นโลกกับความ ของระบบนเิ วศ หลากหลายของไบโอม และยกตวั อย่างไบ ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง โอมชนดิ ตา่ งๆ สง่ิ ไม่มชี วี ติ กบั 2. สืบคน้ ขอ้ มูล อภปิ รายสาเหตุ และ ส่ิงมชี วี ิต และ ยกตวั อย่างการเปลย่ี นแปลงแทนที่ของ ความสัมพนั ธร์ ะหว่าง ระบบนเิ วศ สง่ิ มีชวี ิตกบั สิ่งมชี วี ิต 3. สบื ค้นข้อมูล อธิบายและยกตวั อย่าง ต่างๆในระบบนเิ วศ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบ การถา่ ยทอดพลงั งาน ทางกายภาพ การเปล่ยี นแปลง 4. สืบคน้ ข้อมูลและอภปิ รายเกี่ยวกบั ปญั หา แทนท่ใี นระบบนเิ วศ และมนษุ ยใ์ ช้ทรพั ยากรธรรมชาตโิ ดย ความหมายของ ปราศจากผลกระทบ ที่มีต่อ ประชากร ปัญหาและ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละความระมดั ระวัง ผลกระทบที่มีต่อ และมีการพัฒนาเทคโนโลยใี หมๆ่ ทรัพยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดลอ้ ม พรอ้ มทั้งนาเสนอแนวทางใน และส่ิงแวดล้อม การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการ แนวทางในการ แก้ไขปญั หาส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลง อนรุ กั ษ์ ทรพั ยากรธรรมชาติสงิ่ แวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ และการแก้ไขปญั หา ส่ิงแวดลอ้ ม รวมทง้ั นา ความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั รายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจ 1. อธบิ ายโครงสร้างและสมบัตขิ องเยือ่ หุ้ม วทิ ยาศาสตร์ สมบัติของส่งิ มีชีวิต เซลล์ทสี่ มั พนั ธ์กบั การ ลาเลยี งสารและ ชวี ภาพ หนว่ ยพน้ื ฐานของ เปรียบเทยี บ การลาเลยี งสารผา่ น ส่งิ มชี วี ิต การลาเลียง เยือ่ หุ้มเซลลแ์ บบตา่ งๆ สารเข้า และออกจาก 2. อธิบายการควบคุมดลุ ยภาพของน้า เซลล์ความสัมพันธข์ อง และสารในเลอื ดโดยการทางานของไต โครงสรา้ งและหน้าท่ี 3. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของ กรด- ของระบบต่างๆ ของ เบสของการทางานของไตและปอด สตั วแ์ ละมนษุ ย์ท่ี 4. อธบิ ายการควบคุมดลุ ยภาพของ ทางานสัมพันธ์กนั อุณหภูมภิ ายในระบบหมุนเวียนเลอื ด ความสัมพนั ธข์ อง ผวิ หนงั และกล้ามเน้ือโครงรา่ ง โครงสรา้ งและหน้าที่ 5. อธบิ ายและเขยี นแผนผังเกย่ี วกบั การ ของอวยั วะต่างๆ ของ ตอบสนองร่างกายแบบไม่จาเพาะและ พชื ทท่ี างานสัมพันธ์กัน แบบจาเพาะต่อแปลกปลอมของร่างกาย รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ 6. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบายและยกตวั อยา่ งโรค ประโยชน์ หรืออาการที่เกิดจากความผิดปกตขิ อง ระบบภมู คิ ุ้มกัน 7. อธิบายภาวะภูมคิ มุ้ กนั บกพรอ่ งทม่ี ี สาเหตุมาจากการติดเชอื้ HIV 8. ทดสอบและบอกชนิดของสารอาหารท่ี พชื สงั เคราะหไ์ ด้ 9. สบื ค้นขอ้ มลู อภปิ รายและยกตวั อย่าง เกยี่ วกับ การใชป้ ระโยชนจ์ ากสารตา่ ง ๆ ทีพ่ ชื บางชนิดสร้างขึน้ 10. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และ อธิบายเก่ียวกับปัจจัยภายนอกท่ีมี ผลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืช 11. สบื ค้นขอ้ มลู เก่ยี วกบั สารควบคุมการ เจรญิ เติบโตของพืชที่มนษุ ย์สังเคราะห์ ขน้ึ และยกตัวอยา่ งการนามาประยุกตใ์ ช้ ทางดา้ นการเกษตรของพืช 12. สงั เกตและอธิบายการตอบสนองของสง่ิ เรา้ ในรปู แบบตา่ งๆ ทม่ี ผี ลตอ่ การเจริญ เตบิ โตของพชื
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัดรายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจ 1. อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างยีน การ ชวี ภาพ กระบวนการและ สังเคราะห์ โปรตนี และลักษณะทาง ความสาคัญของการ พันธุกรรม ถ่ายทอดลกั ษณะทาง 2. อธบิ ายหลักการถา่ ยทอดลกั ษณะท่ถี ูก พนั ธุกรรม สาร ควบคุมดว้ ยยีนทีอ่ ย่บู นโครโมโซมเพศ พันธุกรรม การ และมลั ติเปิล แอลลลี เปลีย่ นแปลงทาง 3. อธบิ ายผลที่เกิดจากการเปลีย่ นแปลง พันธุกรรมท่ีมผี ลตอ่ ลาดับนิวคลีโอไทด์ในดเี อน็ เอต่อการ ส่ิงมชี วี ิต ความ แสดงลักษณะของสงิ่ มชี วี ติ หลากหลาย ทาง 4. สบื ค้นข้อมลู และยกตวั อยา่ งการนา ชีวภาพและ มวิ เทชนั ไปใช้ ประโยชน์ วิวฒั นาการของ 5. สบื ค้นข้อมูล และอภิปรายผลของ สงิ่ มีชวี ติ รวมท้ังนา เทคโนโลยีทางดีเอน็ เอท่มี ีต่อมนุษย์ ความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ และสง่ิ แวดล้อม 6. สบื ค้นขอ้ มลู อธิบาย และยกตวั อยา่ ง ความหลากหลายของส่ิงมชี วี ติ ซึง่ เป็น ผลมาจากวิวัฒนาการ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ช้วี ัดรายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจ 1. ระบวุ า่ สารเป็นธาตหุ รอื สารประกอบ และ กายภาพ สมบตั ิของสสาร อยู่ในรูปอะตอมโมเลกุล หรือไอออนจาก องคป์ ระกอบของสสาร สตู รเคมี ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สมบัติ ของสสารกบั 2. เปรยี บเทยี บความเหมือนและความ โครงสรา้ งและแรงยึด แตกตา่ ง ของแบบจาลองอะตอมของโบร์ เหนี่ยวระหว่างอนุภาค กบั แบบจาลอง อะตอมแบบกลุ่มหมอก หลักและธรรมชาติของ การเปลยี่ นแปลง 3. ระบุจานวนโปรตอน นวิ ตรอน และ สถานะของสสาร การ อิเลก็ ตรอน ของอะตอมและไอออนทีเ่ กิด เกิดสารละลาย และ จากอะตอมเดียว การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 4. เขยี นสัญลักษณน์ วิ เคลยี รข์ องธาตุและระบุ การเป็นไอโซโทป 5. ระบุหมแู่ ละคาบของธาตแุ ละระบุว่าธาตุ เป็น โลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ กลุม่ ธาตเุ รพรี เซนเททีฟหรือกลุ่มธาตุ แทรนซชิ นั จากตารางธาตุ 6. เปรียบเทียบสมบัตกิ ารนาไฟฟ้า การให้ และรับ อิเล็กตรอนระหวา่ งธาตใุ นกลุม่ โลหะกับอโลหะ 7. สบื ค้นข้อมูลและนาเสนอตวั อย่าง ประโยชนแ์ ละ อันตรายท่ีเกิดจากธาตเุ รพรี เซนเททฟี และธาตุแทรนซิชัน 8. ระบุวา่ พนั ธะโคเวเลนต์เปน็ พันธะเด่ยี ว พันธะค่หู รอื พันธะสาม และระบจุ านวนคู่ อิเลก็ ตรอน ระหวา่ งอะตอมคู่ร่วมพนั ธะ จากสตู รโครงสร้าง 9. ระบุสภาพข้วั ของสารทีโ่ มเลกุล ประกอบด้วย 2 อะตอม 10. ระบุสารท่เี กดิ พนั ธะไฮโดรเจน ไดจ้ ากสูตร โครงสรา้ ง 11. อธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งจดุ เดือดของ สารโคเวเลนตก์ ับแรงดงึ ดูดระหวา่ ง โมเลกุลตามสภาพขั้วหรอื การเกดิ พนั ธะ ไฮโดรเจน
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตวั ชวี้ ัดรายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจ 12. เขียนสตู รเคมีของไอออนและ กายภาพ สมบัตขิ องสสาร สารประกอบไอออนิก องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหวา่ ง 13. ระบวุ า่ สารเกดิ การละลายแบบแตกตวั สมบตั ิ ของสสารกบั หรอื ไมแ่ ตกตวั พร้อมให้เหตผุ ลและระบุ โครงสรา้ งและแรงยดึ วา่ สารละลายทีไ่ ด้เป็นสารละลาย เหนีย่ วระหว่างอนุภาค อิเลก็ โทรไลตห์ รือนอนอิเลก็ โทรไลต์ หลกั และธรรมชาติของ การเปลยี่ นแปลง 14. ระบสุ ารประกอบอนิ ทรีย์ประเภท สถานะของสสาร การ ไฮโดรคาร์บอนว่าอ่ิมตวั หรือไม่อิม่ ตวั จาก เกดิ สารละลาย และ สตู รโครงสรา้ ง การเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี 15. สืบคน้ ข้อมูลและเปรียบเทียบสมบตั ิ ทาง กายภาพระหว่างพอลเิ มอรแ์ ละมอนอเมอร์ ของพอลิเมอรช์ นดิ น้ัน 16. ระบุสมบตั คิ วามเป็นกรด-เบส จาก โครงสรา้ งของสารประกอบอินทรีย์ 17. อธิบายสมบัติการละลายในตัวทาละลาย ชนดิ ตา่ ง ๆ ของสาร 18. วิเคราะห์และอธบิ ายความสัมพนั ธ์ ระหวา่ ง โครงสร้างกับสมบตั เิ ทอรม์ อ- พลาสตกิ และเทอรม์ อเซตของพอลิเมอร์ และการนาพอลิเมอร์ไปใชป้ ระโยชน์ 19. สบื คน้ ขอ้ มลู และนาเสนอผลกระทบของ การใช้ ผลติ ภณั ฑ์พอลิเมอร์ท่มี ีต่อ สง่ิ มีชีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม พรอ้ มแนวทาง ปอ้ งกันหรอื แก้ไข 20. ระบสุ ูตรเคมีของสารตั้งต้น ผลติ ภัณฑ์ และแปลความหมายของสญั ลักษณ์ใน สมการเคมีของปฏิกริ ิยาเคมี 21. ทดลองและอธบิ ายผลของความเข้มข้น พนื้ ที่ผิวอุณหภมู ิและตวั เรง่ ปฏกิ ิรยิ าทม่ี ี ผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี 22. สืบค้นขอ้ มูลและอธิบายปัจจัยที่มผี ลต่อ อัตรา การเกิดปฏิกิริยาเคมีท่ีใช้ประโยชน์ ในชวี ติ ประจาวนั หรือในอุตสาหกรรม
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ตัวชวี้ ดั รายปี ม. 6 ม. 5 สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์ มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจ 23. อธิบายความหมายของปฏิกริ ยิ ารีดอกซ์ กายภาพ สมบัติของสสาร 24. อธบิ ายสมบัติของสารกัมมนั ตรงั สี และ องคป์ ระกอบของสสาร คานวณคร่ึงชวี ติ และปรมิ าณของสาร ความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง กัมมันตรังสี สมบัติ ของสสารกับ 25. สืบค้นข้อมลู และนาเสนอตวั อยา่ ง โครงสรา้ งและแรงยดึ ประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการ เหน่ียวระหว่างอนุภาค ปอ้ งกนั อันตราย ที่เกิดจาก หลักและธรรมชาติ กัมมนั ตภาพรงั สี ของการเปลย่ี นแปลง สถานะของสสาร การ เกิดสารละลาย และ การเกดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ัดรายปี ม. 6 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจ ม. 4 ม. 5 วทิ ยาศาสตร์ ธรรมชาติของแรงใน กายภาพ ชวี ิตประจาวนั ผลของ 1. วิเคราะห์และแปลความหมายขอ้ มลู แรงที่กระทาต่อวัตถุ ความเรว็ กับเวลาของการเคลื่อนทขี่ องวัตถุ ลักษณะการเคลือ่ นที่ เพอ่ื อธบิ ายความเรง่ ของวตั ถุ แบบต่างๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ 2. สงั เกตและอธบิ ายการหาแรงลพั ธท์ ี่เกิดจาก ประโยชน์ แรงหลายแรงทีอ่ ยใู่ นระนาบเดยี วกันที่ กระทาต่อวัตถโุ ดยการเขียนแผนภาพการ รวมแบบ เวกเตอร์ 3. สังเกต วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายความสัมพันธ์ ระหว่างความเร่งของวตั ถกุ ับแรงลพั ธ์ท่ี กระทาต่อวัตถุและมวลของวตั ถุ 4. สงั เกตและอธิบายแรงกิรยิ าและแรง ปฏกิ ิริยาระหวา่ งวตั ถุค่หู นงึ่ ๆ 5. สังเกตและอธบิ ายผลของความเร่งที่มีตอ่ การเคลื่อนท่ีแบบต่างๆ ของวตั ถุ ไดแ้ ก่ การเคลือ่ นทแี่ นวตรง การเคลอื่ นที่แบบ โพรเจกไทล์ การเคลื่อนที่แบบวงกลมและ การเคล่อื นท่แี บบส่ัน 6. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธิบายแรงโน้มถว่ งที่ เก่ยี วกบั การเคล่อื นทข่ี องวัตถุต่าง ๆ รอบ โลก 7. สงั เกตและอธิบายการเกิดสนามแมเ่ หล็ก เนอ่ื งจากกระแสไฟฟ้า 8. สังเกตและอธบิ ายแรงแมเ่ หลก็ ที่กระทาตอ่ อนุภาคท่ีมปี ระจุไฟฟา้ ทีเ่ คลือ่ นท่ีใน สนามแม่เหลก็ และแรงแมเ่ หลก็ ทก่ี ระทาต่อ ลวดตัวนาทมี่ กี ระแสไฟฟ้าผา่ นใน สนามแม่เหลก็ รวมท้ังอธิบายหลักการ ทางาน 9. สังเกตและอธิบายการเกิดอีเอ็มเอฟ รวมท้งั ยกตวั อย่างการนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 10. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายแรงเข้มและแรง ออ่ น อ่อน
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจ 1. สบื คน้ ข้อมูลและอธิบายพลงั งานนวิ เคลียร์ วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของ ฟิชชันและฟวิ ชัน และความสมั พันธ์ กายภาพ พลงั งาน การ ระหวา่ งมวลกับพลังงานทปี่ ลดปลอ่ ย เปลยี่ นแปลงและการ ออกมาจากฟชิ ชนั และฟิวชัน ถา่ ยโอนพลงั งาน ปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ ง 2. สบื คน้ ขอ้ มลู และอธบิ ายการเปล่ียน สสารและพลังงาน พลงั งาน ทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า พลงั งานใน รวมทั้งสืบคน้ และ อภิปรายเกย่ี วกบั ชีวิตประจาวัน เทคโนโลยที น่ี ามาแกป้ ญั หา หรอื ธรรมชาติของคลนื่ ตอบสนองความต้องการทางดา้ นพลังงาน ปรากฏการณ์ที่ โดยเน้นด้านประสิทธิภาพและความคมุ้ คา่ เกี่ยวขอ้ งกับเสียง แสง ดา้ นคา่ ใชจ้ า่ ย และคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟา้ รวมท้งั นาความรู้ไปใช้ 3. สังเกตและอธบิ ายการสะท้อน การหกั เห ประโยชน์ การเลีย้ วเบน และการรวมคลืน่ 4. สังเกตและอธบิ ายความถี่ธรรมชาติ การสั่น พ้อง และผลทีเ่ กิดข้ึนจากการสั่นพ้อง 5. สงั เกตและอธิบายการสะท้อน การหกั เห การเลย้ี วเบนและการรวมคล่นื ของคลน่ื เสยี ง 6. สืบคน้ ข้อมลู และอธบิ ายความสัมพนั ธ์ ระหว่าง ความเขม้ เสยี งกบั ระดับเสียงและ ผลของความถี่กบั ระดบั เสียงท่ีมตี ่อการได้ ยินเสียง 7. สงั เกตและอธิบายการเกิดเสียงสะท้อน กลับ บีต ดอปเพลอร์ และการสั่นพ้องของ เสียง 8. สืบคน้ ขอ้ มลู และยกตวั อยา่ งการนาความรู้ เกี่ยวกับเสียงไปใชป้ ระโยชน์ใน ชีวติ ประจาวัน 9. สงั เกตและอธบิ ายการมองเห็นสขี องวตั ถุ และความผิดปกติในการมองเห็นสี 10. สังเกตและอธิบายการทางานของแผ่น กรอง แสงสี การผสมแสงสี การผสมสารสี และการนาไปใช้ประโยชนใ์ น ชวี ติ ประจาวนั
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั รายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 1 มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจ 11. สบื ค้นข้อมูลและอธิบายคลืน่ วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของ แม่เหลก็ ไฟฟ้า ส่วนประกอบคล่ืน กายภาพ พลงั งาน การ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า และหลกั การทางานของ เปล่ียนแปลงและการ อปุ กรณบ์ างชนดิ ท่ีอาศัยคลนื่ ถ่ายโอนพลงั งาน แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหวา่ ง สสารและพลงั งาน 12. สบื คน้ ข้อมูลและอธิบายการสือ่ สาร โดย พลงั งานใน อาศยั คล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ ในการส่งผ่าน ชวี ติ ประจาวัน สารสนเทศ และเปรยี บเทียบการสื่อสาร ธรรมชาติของคล่ืน ด้วยสัญญาณ อนาลอ็ กกับสญั ญาณดจิ ิทัล ปรากฏการณ์ท่ี เกยี่ วข้องกบั เสยี ง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นาความรู้ไปใช้ ประโยชน์
สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั รายปี ม. 4 ม. 5 ม. 6 สาระท่ี 1 มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจ 1. อธิบายการกาเนิดและการเปล่ียนแปลง วทิ ยาศาสตร์ องคป์ ระกอบ ลักษณะ พลงั งาน อุณหภูมิของเอกภพหลังเกดิ ทฤษฎี โลก และ กระบวนการเกิดและ บกิ แบง ตามวิวฒั นาการของเอกภพ อวกาศ วิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และ 2. อธบิ ายหลักฐานทสี่ นับสนุนทฤษฎบี ิกแบง ระบบสรุ ิยะ รวมท้งั จากความสมั พันธร์ ะหวา่ งความเร็วกบั ปฏิสัมพันธภ์ ายใน ระยะทางของกาแล็กซี รวมทั้งขอ้ มูลการ ระบบสรุ ิยะ ทส่ี ง่ ผลต่อ คน้ พบไมโครเวฟพน้ื หลังจากอวกาศ สง่ิ มีชวี ิตและการ ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยี 3. อธบิ ายโครงสร้างและองคป์ ระกอบของ อวกาศ กาแลก็ ซี ทางช้างเผือกและระบตุ าแหนง่ ของ ระบบสรุ ยิ ะ พรอ้ มอธิบายเชื่อมโยงกบั การ สังเกตเห็นทางชา้ งเผอื กของคนบนโลก 4. อธบิ ายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ โดยแสดง การเปลยี่ นแปลงความดนั อณุ หภูมิ ขนาด จากดาวฤกษก์ อ่ นเกดิ จนเป็นดาวฤกษ์ 5. ระบุปจั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ ความส่องสว่างของ ดาว ฤกษ์ และอธิบายความสมั พันธ์ระหวา่ งความ ส่องสวา่ งกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ 6. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสี อณุ หภมู ิผวิ และสเปกตรมั ของดาวฤกษ์ 7. อธิบายลาดับวิวัฒนาการทสี่ ัมพนั ธ์กับมวลตัง้ ต้น และวิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงสมบตั ิบาง ประการของดาวฤกษ์ 8. อธบิ ายกระบวนการเกดิ ระบบสรุ ยิ ะและการ แบง่ เขตบรวิ ารของดวงอาทิตยแ์ ละลกั ษณะ ของ ดาวเคราะหท์ ี่เอือ้ ตอ่ การดารงชีวิต 9. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิด ลม สรุ ยิ ะ พายสุ ุริยะ และสบื ค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ นาเสนอปรากฏการณห์ รอื เหตุการณท์ ี่ เกีย่ วขอ้ ง กับผลของลมสุริยะและพายสุ รุ ิยะที่ มตี อ่ โลก รวมทั้งประเทศไทย 10. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายการสารวจอวกาศ โดย ใชก้ ล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลืน่ ตา่ งๆ ดาวเทยี ม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอ แนวคดิ การนาความร้ทู างดา้ นเทคโนโลยีอวกาศ มาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั หรอื ในอนาคต
สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัดรายปี ม. 4 ม. 5 ม. 6 สาระท่ี 3 มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจ 1. อธิบายการแบง่ ชั้นและสมบัติของโครงสรา้ ง วทิ ยาศาสตร์ องคป์ ระกอบและ โลก พรอ้ มยกตวั อยา่ งข้อมูลทส่ี นับสนนุ โลก และ ความสัมพันธข์ อง อวกาศ ระบบโลก 2. อธิบายหลักฐานทางธรณีวิทยาท่สี นับสนนุ กระบวนการ การเคลอื่ นท่ขี องแผน่ ธรณี เปลีย่ นแปลง ภายใน โลกและบนผิวโลก 3. ระบสุ าเหตุและอธบิ ายรูปแบบแนวรอยต่อของ ธรณพี บิ ตั ิภยั แผ่นธรณที ่ีสมั พนั ธ์กบั การเคลอื่ นที่ของแผ่น กระบวนการ ธรณี พรอ้ มยกตวั อย่างหลักฐานทาง เปลีย่ นแปลง ลมฟ้า ธรณีวิทยาที่พบ อากาศและภูมิอากาศ โลก รวมทงั้ ผลต่อ 4. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภเู ขาไฟระเบดิ ส่งิ มีชวี ิตและ รวมทั้งสบื คน้ ข้อมูลพนื้ ท่ีเส่ยี งภยั ออกแบบ สงิ่ แวดล้อม และนาเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการ ปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัย 5. อธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและ ความรนุ แรงและผลจากแผ่นดนิ ไหว รวมทงั้ สืบค้นขอ้ มลู พืน้ ทีเ่ สีย่ งภัย ออกแบบและ นาเสนอแนวทางการเฝา้ ระวงั และการปฏิบตั ิ ตนใหป้ ลอดภยั 6. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดและผลจาก สนึ ามริ วมท้งั สืบคน้ ข้อมลู พื้นท่เี สยี่ งภัย ออกแบบและนาเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง และการปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัย 7. อธบิ ายปจั จยั สาคญั ทม่ี ีผลต่อการไดร้ ับ พลังงานจากดวงอาทติ ย์แตกต่างกนั ในแตล่ ะ บริเวณของโลก 8. อธบิ ายการหมนุ เวยี นของอากาศ ท่เี ปน็ ผลมา จากความแตกตา่ งของความกดอากาศ 9. อธบิ ายทศิ ทางการเคล่อื นท่ีของอากาศ ทเ่ี ป็น ผลมาจากการหมุนรอบตวั เองของโลก 10. อธบิ ายการหมุนเวียนของอากาศตามเขต ละตจิ ดู และผลท่ีมีตอ่ ภูมิอากาศ 11. อธบิ ายปัจจยั ทีท่ าให้เกิดการหมุนเวยี นของ น้า ผิวหน้าในมหาสมทุ รและรูปแบบการ หมุนเวียนของนา้ ผวิ หน้าในมหาสมทุ ร
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัดรายปี ม. 4 ม. 5 ม. 6 สาระที่ 3 มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจ 12. อธบิ ายผลของการหมนุ เวยี นของอากาศและ วทิ ยาศาสตร์ องค์ประกอบและ น้าผวิ หน้าในมหาสมุทรท่ีมตี ่อลกั ษณะ โลก และ ความสมั พันธข์ อง ภมู ิอากาศ ลมฟ้าอากาศ สิ่งมชี วี ติ และ อวกาศ ระบบโลก ส่ิงแวดลอ้ ม กระบวนการ เปลี่ยนแปลง ภายใน 13. อธบิ ายปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การเปลี่ยนแปลง โลกและบนผิวโลก ภูมอิ ากาศของโลก พร้อมทัง้ นาเสนอแนว ธรณีพบิ ตั ิภยั ปฏบิ ตั ิ เพ่ือลดกจิ กรรมของมนุษย์ท่สี ง่ ผลตอ่ กระบวนการ การเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศโลก เปลย่ี นแปลง ลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศ 14. แปลความหมายสญั ลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่ โลก รวมทัง้ ผลต่อ สาคัญจากแผนที่อากาศ และนาข้อมูล สิ่งมีชีวติ และ สารสนเทศตา่ งๆ มาวางแผนการดาเนินชีวิต ส่งิ แวดลอ้ ม ให้สอดคล้องกบั สภาพลมฟา้ อากาศ
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจ 1. วิเคราะหแ์ นวคิดหลักของ 1. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรแู้ ละ แนวคิดหลกั ของ เทคโนโลยี ความสัมพนั ธ์ ทกั ษะจากศาสตร์ต่างๆ เทคโนโลยเี พอ่ื การ กบั ศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะ รวมท้งั ทรพั ยากรในการ ดารงชวี ิตในสังคมที่มี วทิ ยาศาสตร์ หรือ ทาโครงงานเพอ่ื การเปล่ยี นแปลง อย่าง คณิตศาสตร์ รวมทง้ั แกป้ ัญหาหรอื พฒั นา รวดเรว็ ใชค้ วามร้แู ละ ประเมนิ ผลกระทบท่ีจะ งาน ทกั ษะทางด้าน เกิดข้นึ ตอ่ มนุษย์ สังคม วทิ ยาศาสตร์ เศรษฐกิจและ คณิตศาสตร์และ สิ่งแวดลอ้ ม เพื่อเป็น ศาสตรอ์ ่ืนๆ เพ่อื แนวทางในการพัฒนา แกป้ ัญหาหรือพัฒนา 2. ระบุปญั หาหรอื ความ งานอยา่ งมีความคิด ตอ้ งการที่มผี ลกระทบตอ่ สร้างสรรค์ ด้วย สงั คม รวบรวม วเิ คราะห์ กระบวนการออกแบบ ขอ้ มลู และแนวคิด ท่ี เชงิ วิศวกรรม เลอื กใช้ เก่ยี วข้องกับปัญหาท่มี ี เทคโนโลยอี ยา่ ง ความซบั ซอ้ น เพ่ือ เหมาะสม โดยคานึงถึง สงั เคราะห์วิธีการ ผลกระทบต่อชีวิต เทคนคิ ในการแกป้ ญั หา สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม โดยคานงึ ถึงความถูกต้อง ด้านทรัพย์สินทางปญั ญา 3. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบและ ตดั สินใจเลอื กข้อมูลท่ี จาเปน็ ภายใตเ้ ง่อื นไข และทรพั ยากรทีม่ ีอยู่ นาเสนอแนวทางการ แก้ปัญหาใหผ้ ู้อื่นเขา้ ใจ ดว้ ยเทคนคิ หรอื วธิ ีการท่ี หลากหลาย โดยใช้ ซอฟต์แวร์ ชว่ ยในการ ออกแบบ วางแผน ขนั้ ตอนการทางานและ ดาเนินการแก้ปัญหา
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัดรายปี ม. 6 ม. 4 ม. 5 สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจ 4. ทดสอบ ประเมินผล แนวคิดหลกั ของ วเิ คราะห์ และให้เหตุผล เทคโนโลยีเพ่อื การ ของปญั หาหรือ ดารงชีวิตในสังคมที่มี ขอ้ บกพร่องทเี่ กิดขึน้ การเปล่ยี นแปลง อยา่ ง ภายใตก้ รอบเง่ือนไข หา รวดเรว็ ใชค้ วามร้แู ละ แนวทางการปรบั ปรุง ทกั ษะทางดา้ น แกไ้ ขและนาเสนอผลการ วิทยาศาสตร์ แกป้ ญั หา พร้อมท้งั เสนอ คณิตศาสตร์และ แนวทางการพฒั นาต่อ ศาสตรอ์ ืน่ ๆ เพื่อ ยอด แกป้ ัญหาหรือพฒั นา 5. ใชค้ วามรู้และทักษะ งานอยา่ งมคี วามคิด เกย่ี วกบั วสั ดุ อปุ กรณ์ สรา้ งสรรค์ ดว้ ย เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟา้ กระบวนการออกแบบ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์ และ เชิงวศิ วกรรม เลือกใช้ เทคโนโลยีทซี่ บั ซอ้ นใน เทคโนโลยีอยา่ ง การแกป้ ัญหาหรือพฒั นา เหมาะสม โดยคานึงถงึ งานได้อย่างถูกต้อง ผลกระทบต่อชีวติ เหมาะสม และปลอดภยั สงั คมและส่ิงแวดล้อม
สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัดรายปี สาระท่ี 4 ม. 4 ม. 5 ม. 6 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 1. ประยกุ ตใ์ ช้ 1. รวบรวม วเิ คราะห์ 1. ใช้เทคโนโลยี เขา้ ใจและใช้ แนวคดิ เชงิ ข้อมลู และใช้ความรู้ สารสนเทศในการ แนวคิดเชงิ คานวณในการ ด้านวทิ ยาการ นาเสนอ และ คานวณในการ พฒั นาโครงงานท่ี คอมพิวเตอร์ สื่อ แบ่งปนั ขอ้ มลู อยา่ ง แก้ปัญหาท่ีพบ มกี ารบูรณาการ ดิจทิ ลั เทคโนโลยี ปลอดภัย มี ในชีวิตจรงิ อยา่ ง กับวิชาอ่ืน อย่าง สารสนเทศในการ จริยธรรมและ เป็นขน้ั ตอนและ สรา้ งสรรค์ และ แกป้ ญั หาหรอื เพ่ิม วิเคราะห์การ เป็นระบบ ใช้ เช่อื มโยงกบั ชีวติ มลู คา่ ใหก้ บั บรกิ าร เปล่ียนแปลง เทคโนโลยี จรงิ หรอื ผลติ ภณั ฑท์ ่ีใช้ใน เทคโนโลยี สารสนเทศและ ชวี ิตจรงิ สารสนเทศท่ีมผี ล การสอ่ื สารใน ตอ่ การดาเนินชีวิต การเรียนรู้ การ อาชีพ สังคมและ ทางาน และการ วัฒนธรรม แก้ปญั หาได้ อยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมี จริยธรรม
ผลการเรยี นรแู้ ละสาระการเรยี นรูเ้ พมิ่ เติม วทิ ยาศาสตรเ์ พ่มิ เติม ผูเ้ รยี นจะไดเ้ รียนรู้สาระสาคญั ดงั นี้ ✧ ชีววิทยา เรยี นรเู้ ก่ียวกบั การศกึ ษาชวี วิทยา สารที่เปน็ องค์ประกอบของสง่ิ มีชวี ติ เซลลข์ องสง่ิ มชี วี ิต พนั ธกุ รรมและการถ่ายทอด ววิ ัฒนาการความหลากหลายทางชีวภาพ โครงสรา้ งและการทางานของส่วนตา่ ง ๆ ใน พืชดอก ระบบและการทางานในอวัยวะตา่ งๆ ของสัตว์ มนุษย์ และสงิ่ มีชวี ติ และส่งิ แวดลอ้ ม ✧ เคมี เรยี นรู้เกยี่ วกับ ปริมาณสาร องคป์ ระกอบและสมบตั ขิ องสาร การเปลีย่ นแปลงของสาร ทักษะ และการแกป้ ญั หาทางเคมี ✧ ฟิสกิ ส์ เรยี นรู้เก่ยี วกบั ธรรมชาตแิ ละการคน้ พบทางฟสิ ิกส์ แรงและการเคล่ือนทแ่ี ละพลงั งาน ✧ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เรยี นรเู้ ก่ียวกับ โลกและกระบวนการเปลยี่ นแปลงทางธรณวี ทิ ยา ขอ้ มลู ทางธรณีวิทยาและการนาไปใช้ประโยชน์ การถ่ายโอนพลงั งานความร้อนของโลก การเปลยี่ นแปลงลกั ษณะ ลมฟ้าอากาศกบั การดารงชวี ติ ของมนษุ ย์ โลกในเอกภพ และดาราศาสตร์ กบั มนุษย์ สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พ่มิ เตมิ สาระชวี วิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติของส่ิงมีชีวติ การศกึ ษาชวี วิทยาและวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ สารทเ่ี ปน็ องค์ประกอบ ของส่งิ มีชีวติ ปฏิกิรยิ าเคมีในเซลล์ของส่ิงมชี ีวิต กล้องจลุ ทรรศน์ โครงสรา้ งและหน้าท่ขี องเซลล์ การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์และการหายใจระดบั เซลล์ 2. เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม สมบัตแิ ละหน้าท่ีของสาร พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐานข้อมูลและแนวคิด เกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวนเ์ บิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กาเนิดของส่ิงมีชีวิต ความ หลากหลายของสงิ่ มีชีวติ และอนุกรมวธิ าน รวมทัง้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 3. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้าของพืช การลาเลียงของพืช การ สังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธ์ุของพืชดอกและการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพชื รวมทัง้ นาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 4. เขา้ ใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมท้ังการหายใจและการแลกเปลีย่ นแก๊ส การลาเลียงสาร และการหมนุ เวียนเลอื ด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขบั ถ่าย การรับรู้และการตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพและพฤติกรรมของสตั ว์ รวมทัง้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 5. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียน สารในระบบ นิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปล่ียนแปลงแทนท่ีของส่ิงมีชีวิตในระบบนิเวศประชากรและรูปแบบการ เพิ่มของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบทเ่ี กดิ จากการใชป้ ระโยชนแ์ ละแนว ทางการแกไ้ ขปญั หา
สาระเคมี 1. เขา้ ใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ สมบัติของธาตุ พันธะเคมแี ละสมบัติของสาร แกส๊ และสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอนิ ทรีย์และพอลเิ มอร์ รวมทัง้ การนาความร้ไู ปใช้ ประโยชน์ 2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพนั ธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุล ในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด-เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า รวมท้ังการนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 3. เขา้ ใจหลักการทาปฏิบัตกิ ารเคมี การวดั ปรมิ าณสาร หนว่ ยวดั และการเปล่ยี นหนว่ ย การคานวณ ปริมาณของสาร ความเข้มข้นของสารละลาย รวมทง้ั การบูรณาการความรู้และทักษะในการอธบิ ายปรากฏการณใ์ น ชีวติ ประจาวันและการแก้ปญั หาทางเคมี สาระฟิสกิ ส์ 1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรงแรงและกฎ การเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและกฎการอนุรักษ์ พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้ง รวมทง้ั นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ 2. เข้าใจการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกส์อย่างง่าย ธรรมชาติของคลื่นเสียง การได้ยินปรากฏการณ์ที่ เกี่ยวข้องกับเสียง แสงและการเห็นปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสง รวมทั้งนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ 3. เขา้ ใจแรงไฟฟ้าและกฎของคลู อมบ์ สนามไฟฟ้า ศกั ยไ์ ฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าและกฎของโอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้าและกาลังไฟฟ้า การเปลีย่ นพลังงานทดแทนเปน็ พลังงานไฟฟ้า สนามแมเ่ หล็ก แรงแม่เหลก็ ทีก่ ระทากับประจไุ ฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนา แม่เหล็กไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ ไฟฟ้า กระแสสลับ คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และการสือ่ สาร รวมทั้งนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุ และมอดูลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติและสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏิกริ ยิ านวิ เคลยี ร์ พลงั งานนวิ เคลียร์ ฟสิ ิกส์อนุภาค รวมทั้งนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1. เข้าใจกระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัยและผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิง่ แวดลอ้ ม การศึกษาลาดบั ช้นั หิน ทรัพยากรธรณี แผนท่ีและการนาไปใชป้ ระโยชน์ 2. เข้าใจสมดลุ พลังงานของโลก การหมนุ เวียนของอากาศบนโลก การหมนุ เวียนของำน้ในมหาสมุทร การเกิด เมฆ การเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศโลกและผลตอ่ สิง่ มชี วี ิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการพยากรณ์อากาศ 3. เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะกระบวนการเกิดและวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และ ระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตาแหน่ง ดาวบนทรงกลมฟ้าและปฏิสัมพันธ์ ภายในระบบสุริยะ รวมทัง้ การประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยอี วกาศ
การกาหนดผลการเรยี นรู้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรรู้ ายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระ ชีววิทยา 1. เขา้ ใจธรรมชาติ 1. อธบิ าย และสรปุ สมบัติท่สี าคัญของส่งิ มีชีวิต ของสิง่ มชี วี ติ และความสมั พนั ธ์ของการจดั ระบบในสง่ิ มชี ีวติ การศึกษา ทที่ าให้ส่ิงมีชีวติ ดารงชวี ิตอย่ไู ด้ ชีววิทยาและ วธิ กี ารทาง 2. อภิปราย และบอกความสาคญั ของการระบุ วิทยาศาสตร์สารท่ี ปญั หา ความสัมพันธร์ ะหวา่ งปัญหา เป็นองค์ประกอบ สมมตฐิ าน และวิธีการตรวจสอบสมมติฐาน ของสิง่ มีชีวิต รวมทง้ั ออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบ ปฏิกิรยิ าเคมใี น สมมตฐิ าน เซลลข์ อง ส่งิ มีชวี ิต กลอ้ ง 3. สืบค้นข้อมลู อธิบายเกย่ี วกับสมบตั ิของนา้ จุลทรรศน์ และบอกความสาคญั ของนา้ ท่ีมีต่อส่ิงมชี วี ติ โครงสร้างและ และยกตัวอยา่ งธาตุชนดิ ต่างๆ ท่ีมคี วามสาคญั หนา้ ท่ีของเซลล์ ต่อร่างกายสิ่งมชี วี ติ การลาเลยี งสาร เข้าและออกจาก 4. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสรา้ งของ เซลล์ การแบง่ คารโ์ บไฮเดรต ระบุกลุ่มของคารโ์ บไฮเดรต เซลล์ และการ รวมทัง้ ความสาคัญของคาร์โบไฮเดรตท่ีมีตอ่ หายใจระดับเซลล์ สง่ิ มชี ีวิต 5. สืบคน้ ข้อมูล อธิบายโครงสร้างของโปรตีน และความสาคญั ของโปรตีนท่ีมีตอ่ สง่ิ มีชีวติ 6. สืบค้นข้อมูล อธบิ ายโครงสร้างของลิพดิ และ ความสาคญั ของลิพิดท่ีมตี ่อสงิ่ มชี ีวิต 7. อธิบายโครงสรา้ งของกรดนวิ คลอิ กิ และระบุ ชนิดของกรดนิวคลอิ ิก และความสาคัญของ กรดนิวคลิอกิ ทมี่ ีต่อสิง่ มีชวี ิต 8. สืบคน้ ข้อมูลและอธบิ ายปฏิกริ ิยาเคมที ่ี เกดิ ข้นึ ในสิง่ มีชีวติ 9. อธบิ ายการทางานของเอนไซมใ์ นการเรง่ ปฏิกริ ิยา เคมีในสงิ่ มีชีวติ และระบปุ จั จยั ท่มี ีผลต่อการทางาน ของเอนไซม์
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรูร้ ายปี ม. 5 ม. 6 ม. 4 สาระ ชีววิทยา 1. เข้าใจธรรมชาติ 10. บอกวธิ ีการ และเตรยี มตวั อย่างสง่ิ มชี วี ิตเพ่ือ ของสิ่งมีชวี ติ ศกึ ษาภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ใช้แสงวัดขนาด การศกึ ษา โดยประมาณ และวาดภาพที่ปรากฏภายใตก้ ล้อง ชีววิทยาและ บอกวธิ ีการใช้ และการดูแลรกั ษากล้องจลุ ทรรศน์ วิธีการทาง ใชแ้ สงท่ีถกู ต้อง วทิ ยาศาสตร์สารที่ เป็นองค์ประกอบ 11. อธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของส่วนทหี่ ่อหมุ้ ของสิ่งมีชวี ติ เซลลข์ องเซลล์พชื และเซลล์สัตว์ ปฏิกริ ยิ าเคมใี น เซลลข์ อง 12. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ ายและระบชุ นดิ และหน้าที่ของ ส่งิ มีชวี ิต กลอ้ ง ออร์แกเนลล์ จุลทรรศน์ โครงสร้างและ 13. อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของนวิ เคลยี ส หนา้ ที่ของเซลล์ 14. อธิบาย และเปรียบเทียบการแพร่ ออสโมซิส การ การลาเลียงสาร เข้าและออกจาก แพร่แบบฟาซลิ เิ ทต และ แอกทีฟทรานสปอร์ต เซลล์ การแบ่ง 15. สบื ค้นขอ้ มลู อธิบาย และเขยี นแผนภาพ การ เซลล์ และการ หายใจระดับเซลล์ ลาเลยี งสารโมเลกลุ ใหญอ่ อกจากเซลล์ ดว้ ย กระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลาเลียง สาร โมเลกุลใหญเ่ ขา้ สเู่ ซลลด์ ว้ ยกระบวนการเอนโด ไซโทซสิ 16. สังเกตการแบง่ นวิ เคลยี สแบบไมโทซิสและแบบ ไมโอซสิ จากตัวอย่างภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ พรอ้ ม ทัง้ อธิบายและเปรียบเทยี บการแบ่ง นวิ เคลยี ส แบบไมโทซิสและแบบไมโอซิส 17. อธบิ าย เปรยี บเทยี บและสรุปขั้นตอน การหายใจ ระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซเิ จน เพยี งพอ และ ภาวะที่มอี อกซเิ จนไมเ่ พยี งพอ
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นร้รู ายปี ม. 4 ม.5 ม.6 สาระ ชีววิทยา 2. เขา้ ใจการ 1. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย และ 1. อภปิ รายความสาคญั ของ ความหลากหลายทาง ถา่ ยทอดลักษณะ สรปุ ผลการทดลอง ของ ชวี ภาพและความเชื่อมโยง ระหว่างความหลากหลาย ทางพันธกุ รรม เมนเดล ทางพนั ธุกรรม ความ หลากหลายของสปีชีส์ และ การถ่ายทอดยนี 2. อธบิ าย และสรปุ กฎ ความหลากหลายของระบบ แหง่ การแยก และกฎแหง่ นิเวศ บนโครโมโซม การรวมกลมุ่ อยา่ งอสิ ระ 2. อธบิ ายการเกดิ เซลล์ สมบัติ และหน้าที่ และนากฎของ เมนเดลน้ี เร่มิ แรกของสิง่ มชี ีวติ และ ของสารพันธุกรรม ไปอธิบายการถ่ายทอด วิวฒั นาการของสง่ิ มีชวี ิต การเกดิ มวิ เทชนั ลกั ษณะทาง พนั ธุกรรมและ เซลลเ์ ดยี ว เทคโนโลยีทางดี ใชใ้ นการคานวณโอกาสใน เอ็นเอ หลักฐาน การเกิดฟีโนไทป์และจโี น 3. อธบิ ายลกั ษณะสาคัญ และ ยกตวั อย่างสงิ่ มชี ีวติ กลุม่ ขอ้ มลู และแนวคิด ไทป์แบบตา่ ง ๆ ของรุ่น F1 แบคทีเรยี สง่ิ มชี วี ติ กลุ่ม เกีย่ วกบั และ F2 โพรทิสต์ ส่ิงมชี วี ิต กล่มุ วิวฒั นาการของ 3. สืบค้นขอ้ มลู วิเคราะห์ พชื สง่ิ มชี วี ิตกลมุ่ ฟังไจ ส่ิงมีชีวติ ภาวะ อธบิ ายและสรุปเกีย่ วกบั และสิง่ มีชวี ิต กลุ่มสัตว์ สมดุลของฮาร์ดี- การถา่ ยทอดลักษณะทาง ไวนเ์ บิร์ก การ พนั ธกุ รรมที่เปน็ ส่วนขยาย 4. อธิบายและยกตัวอยา่ งการ จาแนกสิง่ มีชวี ิต จาก เกิดสปชี ีสใ์ หม่ ของพันธศุ าสตร์เมนเดล หมวดหมใู่ หญจ่ นถึง หมวดหม่ยู ่อยและวิธี เขยี น ความหลากหลาย 4. สบื คน้ ข้อมูล วเิ คราะห์ และ ชอ่ื วทิ ยาศาสตรใ์ นลาดับ ทางชวี ภาพ กาเนดิ เปรียบเทียบลกั ษณะทาง ขน้ั สปีชสี ์ ของส่ิงมีชวี ติ พนั ธุกรรมที่มกี ารแปรผันไม่ 5. สรา้ งไดโคโทมสั คยี ใ์ นการ ระบสุ ่งิ มชี วี ติ หรอื ตวั อยา่ ง ความหลากหลาย ตอ่ เนื่อง และลกั ษณะทาง ท่ีกาหนดออกเป็น หมวดหมู่ ของสงิ่ มชี วี ิต และ พันธกุ รรมท่ีมีการแปรผนั อนุกรมวิธาน ตอ่ เนื่อง รวมท้งั นาความรู้ 5. อธบิ ายการถา่ ยทอดยนี บน ไปใชป้ ระโยชน์ โครโมโซมและยกตัวอยา่ ง ลักษณะทางพนั ธุกรรมทถ่ี ูก ควบคุม ด้วยยนี บนออโตโซม และยนี บนโครโมโซมเพศ 6. สืบคน้ ข้อมูล อธิบาย สมบตั แิ ละหนา้ ท่ีของ สาร พันธกุ รรม โครงสร้างและ องคป์ ระกอบ ทางเคมีของ DNA และสรุปการจาลอง DNA
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้รายปี ม.6 ม. 4 ม.5 สาระ ชีววิทยา 2. เข้าใจการ 7. อธบิ ายและระบุข้ันตอนใน ถา่ ยทอดลกั ษณะ กระบวนการ สงั เคราะห์ ทางพันธกุ รรม โปรตนี และหนา้ ทข่ี อง การถา่ ยทอดยนี DNA และ RNA แตล่ ะ บนโครโมโซม ชนิดในกระบวนการ สมบตั ิ และหน้าที่ สงั เคราะห์ โปรตีน ของสารพนั ธุกรรม 8. สรุปความสมั พันธร์ ะหวา่ ง การเกิดมวิ เทชัน สารพันธุกรรม แอลลีล เทคโนโลยที างดี โปรตนี ลกั ษณะทาง เอ็นเอ หลักฐาน พนั ธกุ รรมและเชือ่ มโยง ขอ้ มลู และแนวคดิ กับความรเู้ รอ่ื งพนั ธศุ าสตร์ เกีย่ วกบั เมนเดล วิวัฒนาการของ 9. สืบคน้ ข้อมูลและอธบิ าย สง่ิ มีชวี ติ ภาวะ การเกิดมิวเทชัน ระดับยีน สมดุลของฮาร์ดี- และระดบั โครโมโซม ไวน์เบริ ์ก การ สาเหตุการเกดิ มวิ เทชัน เกดิ สปชี สี ์ใหม่ รวมท้ังยกตวั อยา่ งโรคและ ความหลากหลาย กลุม่ อาการท่ีเปน็ ผลของ ทางชวี ภาพ กาเนิด การเกิดมวิ เทชัน ของสง่ิ มีชีวิต 10. อธบิ ายหลกั การสร้าง ความหลากหลาย สง่ิ มีชีวติ ดดั แปรพนั ธกุ รรม ของสง่ิ มีชีวิต และ โดยใช้ดีเอน็ เอรคี อม อนกุ รมวิธาน บิแนนท์ รวมท้ังนาความรู้ 11. สบื คน้ ขอ้ มลู ยกตัวอยา่ ง ไปใช้ประโยชน์ และอภิปรายการนา เทคโนโลยีทางดีเอน็ เอไป ประยกุ ตใ์ ชท้ ้ังในดา้ น สิ่งแวดล้อม นิติ วิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตรและ อุตสาหกรรม และข้อควร คานึง ถึงดา้ นชีวจรยิ ธรรม
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรรู้ ายปี ม.6 ม. 4 ม.5 สาระ ชีววิทยา 2. เขา้ ใจการ 12. สบื ค้นขอ้ มลู และอธบิ าย ถา่ ยทอดลักษณะ เกย่ี วกบั หลกั ฐาน ที่ ทางพนั ธุกรรม สนับสนุนและขอ้ มลู ท่ีใช้ การถ่ายทอดยีน อธบิ ายการเกิด บนโครโมโซม ววิ ฒั นาการของสงิ่ มีชีวติ สมบตั ิ และหน้าท่ี 13. อธิบายและเปรยี บเทียบ ของสารพนั ธกุ รรม แนวคิดเกย่ี วกบั การเกิดมวิ เทชัน ววิ ัฒนาการของสิง่ มีชวี ติ เทคโนโลยที างดี ของฌอง ลามาร์ก และ เอน็ เอ หลกั ฐาน ทฤษฎีเก่ียวกับ ขอ้ มลู และแนวคิด ววิ ัฒนาการของส่งิ มชี วี ติ เกยี่ วกับ ของชาลส์ ดาร์วนิ ววิ ัฒนาการของ 14. ระบุสาระสาคัญ และ สง่ิ มชี วี ิต ภาวะ อธบิ ายเงือ่ นไขของภาวะ สมดลุ ของฮาร์ดี- สมดุลของฮาร์ด-ี ไวนเ์ บริ ก์ ไวน์เบิร์ก การ ปจั จยั ทีท่ าใหเ้ กิดการ เกิดสปชี ีสใ์ หม่ เปลี่ยนแปลงความถขี่ อง ความหลากหลาย แอลลีลในประชากร ทางชวี ภาพ กาเนิด พร้อมทงั้ คานวณหา ของสิ่งมีชวี ติ ความถี่ ของแอลลีลและ ความหลากหลาย จีโนไทปข์ องประชากร ของสิ่งมชี วี ติ และ โดยใชห้ ลักของ ฮารด์ ี-ไวน์ อนุกรมวิธาน เบิรก์ รวมท้ังนาความรู้ 15. สืบค้นขอ้ มลู อภปิ ราย ไปใช้ประโยชน์ และอธบิ าย กระบวนการ เกดิ สปีชสี ์ใหม่ของ สง่ิ มีชวี ติ
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรรู้ ายปี ม. 6 ม. 5 สาระ ชีววิทยา 3. เขา้ ใจ 1. อธบิ ายเก่ยี วกับชนดิ และลักษณะของเน้ือเยื่อพืช สว่ นประกอบ และเขียนแผนผงั เพ่ือสรปุ ชนิดของเนื้อเยอ่ื พชื ของพชื การ แลกเปล่ยี นแกส๊ 2. สงั เกต อธบิ ายและเปรยี บเทียบโครงสร้าง และคายนา้ ของ ภายในของรากพชื ใบเลี้ยงเด่ยี วและรากพชื ใบ พืช การลาเลยี ง เลีย้ งคู่จากการตดั ตามขวาง ของพืช การ สงั เคราะห์ดว้ ย 3. สังเกต อธบิ าย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ ง แสง การสืบพนั ธ์ุ ภายในของลาตน้ พืชใบเลี้ยงเดี่ยวและลาต้นพืช ของพชื ดอกและ ใบเลี้ยงค่จู ากการตัดตามขวาง การเจรญิ เตบิ โต และการ 4. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างภายในของใบพืช ตอบสนองของ จากการตัดตามขวาง พืช รวมทง้ั นา ความร้ไู ปใช้ 5. สบื ค้นขอ้ มลู สังเกต และอธิบายการ ประโยชน์ แลกเปลี่ยน แกส๊ และการคายน้าของพืช 6. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธบิ ายกลไกการลาเลียงน้า และธาตุอาหารของพชื 7. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายความสาคัญของธาตุ อาหารและยกตวั อยา่ งธาตุอาหารที่สาคัญท่ีมีผล ตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื 8. อธิบายกลไกการลาเลยี งอาหารในพืช 9. สบื คน้ ขอ้ มลู และสรปุ การศึกษาท่ไี ดจ้ ากการ ทดลองของนักวิทยาศาสตรใ์ นอดตี เกยี่ วกับ กระบวนการสังเคราะหด์ ้วยแสง 10. อธบิ ายขัน้ ตอนทเ่ี กิดข้นึ ในกระบวนการ สงั เคราะหด์ ้วยแสงของพืช C3 11. เปรยี บเทยี บกลไกการตรงึ คาร์บอนไดออกไซด์ ในพืช C3 พืช C4 และพืช CAM 12. สบื คน้ ข้อมูล อภิปรายและสรุปปัจจยั ความเข้ม ของแสงความเขม้ ขน้ ของคาร์บอนไดออกไซด์ และอณุ หภูมิที่มผี ลต่อการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง ของพืช 13. อธบิ ายวัฏจักรชีวติ แบบสลับของพืชดอก 14. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสรา้ ง เซลลส์ ืบพนั ธ์ุเพศผู้และเพศเมยี ของพืชดอก และอธิบายการปฏิสนธิของพืชดอก
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรู้รายปี ม. 6 ม. 5 สาระ ชีววิทยา 3. เขา้ ใจ 15. อธบิ ายการเกดิ เมล็ดและการเกิดผลของพชื ดอก สว่ นประกอบ โครงสรา้ งของเมล็ดและผลและยกตวั อย่าง ของพชื การ การใชป้ ระโยชนจ์ ากโครงสรา้ งต่างๆ ของเมล็ด แลกเปลีย่ นแก๊ส และผล และคายนา้ ของ พืช การลาเลียง 16. ทดลองและอธิบายเก่ยี วกับปัจจยั ต่างๆ ทมี่ ีผล ของพชื การ ต่อการงอกของเมล็ด สภาพพกั ตวั ของเมล็ดและ สงั เคราะห์ด้วย บอกแนวทางในการแก้สภาพพักตัวของเมล็ด แสง การสืบพันธุ์ ของพชื ดอกและ 17. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายบทบาทและหน้าทีข่ อง การเจริญเตบิ โต ออกซนิ ไซโทไคนิน จิบเบอ-เรลลิน เอทิลนี และการ และกรด แอบไซซกิ และอภิปรายเกีย่ วกบั การ ตอบสนองของ นาไปใช้ประโยชนท์ างการเกษตร พชื รวมทั้งนา ความรู้ไปใช้ 18. สืบค้นขอ้ มลู ทดลองและอภิปรายเกีย่ วกับสิ่ง ประโยชน์ เรา้ ภายนอกทีม่ ีผลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรรู้ ายปี สาระ 4. เข้าใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสัตว์ และมนษุ ย์ การ 1. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายและ 1. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย หายใจและการ เปรยี บเทยี บโครงสรา้ ง และเปรยี บเทยี บ แลกเปลี่ยนแก๊ส และกระบวนการย่อย โครงสรา้ ง และหนา้ ท่ี การลาเลยี งสาร อาหารของสัตว์ที่ไมม่ ี ของระบบประสาทของ และการ ทางเดนิ อาหารสตั วท์ ม่ี ี ไฮดรา พลานาเรยี หมุนเวียนเลอื ด ทางเดินอาหารแบบไม่ ไสเ้ ดือนดนิ กุง้ หอย ภมู คิ ุ้มกนั ของ สมบรู ณแ์ ละสตั วท์ ่มี ี แมลงและสัตวม์ กี ระดูก รา่ งกาย การ ทางเดินอาหารแบบ สันหลัง ขับถา่ ย การรบั รู้ สมบูรณ์ และการ 2. อธบิ ายเก่ยี วกับ ตอบสนอง การ 2. สังเกต อธบิ ายการกิน โครงสรา้ งและ เคลือ่ นท่ี การ อาหารของไฮดราและ หนา้ ทข่ี องเซลล์ สืบพันธุแ์ ละการ พลานาเรยี ประสาท เจริญเตบิ โต ฮอร์โมนกบั การ 3. อธบิ ายเก่ยี วกบั โครงสร้าง 3. อธิบายเก่ยี วกับการ รักษาดลุ ยภาพ หนา้ ที่และกระบวนการ เปล่ยี นแปลงของ และพฤติกรรม ย่อยอาหารและการดูดซึม ศักย์ไฟฟ้าทเ่ี ยื่อหมุ้ เซลล์ ของสัตว์ รวมท้ัง สารอาหารภายในระบบ ของเซลลป์ ระสาทและ นาความรไู้ ปใช้ ย่อยอาหารของมนุษย์ กลไก การถ่ายทอด ประโยชน์ กระแสประสาท 4. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและ เปรียบเทียบโครงสรา้ ง ที่ 4. อธบิ าย และสรปุ ทาหน้าทแ่ี ลกเปลี่ยน เก่ยี วกบั โครงสรา้ งของ แกส๊ ของฟองน้า ไฮดรา ระบบประสาท พลานาเรยี ไส้เดือนดนิ ส่วนกลางและระบบ แมลง ปลา กบและนก ประสาทรอบนอก 5. สงั เกต และอธบิ าย 5. สบื ค้นข้อมลู อธบิ าย โครงสร้างของปอดในสตั ว์ โครงสรา้ งและหนา้ ท่ี เลีย้ งลูกด้วยน้านม ของสว่ นต่าง ๆ ในสมอง ส่วนหนา้ สมอง 6. สบื คน้ ขอ้ มลู อธิบาย สว่ นกลาง สมองสว่ น โครงสรา้ งที่ใชใ้ นการ หลงั และไขสนั หลงั แลกเปลย่ี นแกส๊ และ กระบวนการแลกเปล่ียน 6. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย แก๊สของมนุษย์ เปรียบเทยี บ และ ยกตัวอยา่ งการทางาน ของระบบ
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นร้รู ายปี สาระ 4. เขา้ ใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสตั ว์ และมนุษย์ การ 7. อธบิ ายการทางานของ 7. สบื ค้นข้อมลู อธิบาย หายใจและการ แลกเปล่ียนแกส๊ ปอด และทดลองวดั โครงสร้างและหน้าท่ี การลาเลยี งสาร และการ ปรมิ าตรของอากาศในการ ของตา หู จมูก ล้ินและ หมนุ เวียนเลือด ภมู คิ มุ้ กนั ของ หายใจออกของมนษุ ย์ ผวิ หนงั ของมนุษย์ รา่ งกาย การ ขับถา่ ย การรับรู้ 8. สืบคน้ ข้อมลู อธิบายและ ยกตวั อย่างโรคตา่ งๆ ที่ และการ ตอบสนอง การ เปรียบเทยี บระบบ เกีย่ วข้องและบอก เคล่ือนท่ี การ สบื พนั ธ์แุ ละการ หมนุ เวียนเลอื ดแบบเปดิ แนวทางในการดูแล เจรญิ เตบิ โต ฮอร์โมนกับ การ และระบบหมุนเวยี นเลือด ปอ้ งกัน และรกั ษา รักษาดลุ ยภาพ และพฤติกรรม แบบปดิ 8. สงั เกต และอธบิ ายการ ของสตั ว์ รวมท้งั นาความรไู้ ปใช้ 9. สงั เกตและอธิบายทศิ หาตาแหน่งของจุดบอด ประโยชน์ ทางการไหลของเลือด และ โฟเวยี และความไวในการ การเคลอื่ นทขี่ องเซลลเ์ ม็ด รบั สมั ผสั ของผวิ หนงั เลอื ดในหางปลา และสรุป 9. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งขนาด เปรยี บเทียบโครงสรา้ ง ของหลอดเลอื ดกับความเร็ว และหน้าทข่ี องอวยั วะที่ ในการไหลของเลือด เก่ยี วข้องกับการเคล่ือนท่ี 10. อธบิ ายโครงสร้างและการ ของแมงกะพรุน หมกึ ทางานของหวั ใจและ ดาวทะเล ไสเ้ ดอื นดนิ หลอดเลอื ดในมนษุ ย์ แมลง ปลา และนก 11. สงั เกต และอธิบาย 10. สบื ค้นข้อมลู และ โครงสรา้ งหวั ใจของสตั ว์ อธิบาย โครงสรา้ งและ เลี้ยงลกู ดว้ ยน้านม ทศิ หน้าทข่ี องกระดกู และ ทางการไหลของเลอื ดผ่าน กล้ามเนือ้ ท่ีเกี่ยวข้อง หวั ใจของมนุษย์ กบั การเคลอื่ นไหวและ และเขียนแผนผังสรุป การเคล่ือนทข่ี อง การหมนุ เวยี นเลือดของ มนษุ ย์ มนุษย์ 11. สงั เกตและอธบิ ายการ 12. สบื ค้นข้อมลู ระบุความ ทางานของข้อต่อชนดิ แตกต่างของเซลล์เมด็ ตา่ งๆ และการทางาน เลือดแดง เซลลเ์ มด็ เลือด ของกลา้ มเน้ือโครงร่างท่ี ขาวเพลตเลต และ เกี่ยวข้องกบั การ พลาสมา เคลอื่ นไหวและการ เคลอื่ นท่ีของมนุษย์
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรูร้ ายปี สาระ 4. เขา้ ใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสตั ว์ และมนุษย์ การ 13. อธบิ ายหม่เู ลอื ดและ 12. สบื คน้ ขอ้ มลู อธบิ าย หายใจและการ หลกั การให้และรบั เลือด และยกตวั อยา่ ง การ แลกเปลยี่ นแกส๊ ABO และระบบ Rh สบื พนั ธแ์ุ บบไมอ่ าศยั การลาเลียงสาร เพศและการสบื พนั ธุ์ และการ 14. อธบิ าย และสรปุ แบบอาศัยเพศในสตั ว์ หมนุ เวียนเลอื ด เกยี่ วกับส่วนประกอบ ภมู คิ ุ้มกันของ และ หนา้ ทข่ี อง 13. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย ร่างกาย การ น้าเหลอื ง รวมท้ัง โครงสรา้ งและหน้าท่ี ขับถา่ ย การรับรู้ โครงสร้างและ หน้าท่ี ของอวัยวะในระบบ และการ ของหลอดนา้ เหลอื ง สืบพันธุเ์ พศชายและ ตอบสนอง การ และต่อมนา้ เหลอื ง ระบบสบื พันธ์เุ พศหญิง เคล่ือนที่ การ สืบพันธแ์ุ ละการ 15. สืบคน้ ขอ้ มลู อธิบาย 14. อธบิ ายกระบวนการ เจรญิ เตบิ โต และเปรียบเทียบกลไก สรา้ งสเปิรม์ ฮอร์โมนกับ การ การต่อตา้ นหรือทาลาย กระบวนการ สร้างเซลล์ รักษาดลุ ยภาพ สงิ่ แปลกปลอม แบบไม่ ไข่ และการปฏิสนธใิ น และพฤติกรรม จาเพาะและแบบจาเพาะ มนษุ ย์ ของสตั ว์ รวมทั้ง นาความรไู้ ปใช้ 16. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย 15. อธบิ ายการเจริญเติบโต ประโยชน์ และเปรยี บเทียบการ ระยะเอม็ บรโิ อและ สรา้ งภมู ิคุม้ กนั ก่อเอง ระยะหลงั เอม็ บริโอของ และภูมิคุ้มกนั รับมา กบ ไกแ่ ละมนุษย์ 17. สบื คน้ ขอ้ มูลและอธบิ าย 16. อธบิ ายการเจรญิ เตบิ โต เก่ยี วกับความผิดปกตขิ อง ระยะเอ็มบรโิ อและ ระบบภูมิค้มุ กนั ท่ีทาให้ ระยะหลังเอ็มบริโอของ เกดิ เอดส์ ภมู แิ พ้ การ กบ ไก่ และมนุษย์ สรา้ งภมู ิต้านทานต่อ เน้อื เย่ือตนเอง 17. สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย และเขยี นแผนผงั สรปุ 18. สบื คน้ ข้อมลู อธบิ ายและ หนา้ ทข่ี องฮอรโ์ มนจาก เปรยี บเทียบ โครงสรา้ ง ต่อมไรท้ อ่ และเนื้อเย่ือ และหนา้ ทใ่ี นการกาจัด ท่สี รา้ งฮอรโ์ มน ของเสียออกจากร่างกาย ของฟองน้า ไฮดรา พลา นาเรีย ไสเ้ ดือน ดิน แมลง และสัตวม์ ี กระดูกสนั หลงั
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้รายปี สาระ 4. เขา้ ใจการย่อย ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา อาหารของสตั ว์ และมนษุ ย์ การ 19. อธบิ ายโครงสรา้ งและ 18. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ าย หายใจและการ แลกเปล่ียนแก๊ส หน้าทข่ี องไต และ เปรยี บเทยี บ และ การลาเลียงสาร และการ โครงสรา้ งทีใ่ ช้ลาเลยี ง ยกตวั อย่างพฤติกรรม หมุนเวียนเลอื ด ภูมคิ ้มุ กนั ของ ปัสสาวะออกจาก ร่างกาย ท่เี ป็นมาแต่กาเนดิ ร่างกาย การ ขบั ถา่ ย การรบั รู้ 20. อธิบายกลไกการทางาน และพฤตกิ รรมที่เกดิ และการ ตอบสนอง การ ของหนว่ ยไต ในการ จากการเรียนรู้ของ เคลอื่ นที่ การ สืบพันธแ์ุ ละการ กาจดั สตั ว์ เจริญเตบิ โต ฮอรโ์ มนกับ การ ของเสยี ออกจากรา่ งกาย 19. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย รักษาดุลยภาพ และพฤติกรรม และเขยี น แผนผงั สรปุ และยกตวั อย่าง ของสตั ว์ รวมท้ัง นาความร้ไู ปใช้ ขั้นตอนการกาจดั ของเสีย ความสัมพันธ์ระหวา่ ง ประโยชน์ ออกจากร่างกายโดย พฤติกรรมกบั หนว่ ย ววิ ัฒนาการของระบบ ไต ประสาท 21. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ าย และ 20. สบื ค้นข้อมูล อธิบายและ ยกตัวอย่างเก่ยี วกับความ ยกตวั อย่างการสื่อสาร ผดิ ปกตขิ องไตอัน ระหว่างสัตว์ทีท่ าใหส้ ัตว์ เนื่องมาจากโรคตา่ ง ๆ แสดงพฤติกรรม
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรูร้ ายปี สาระ 5. เข้าใจแนวคิด ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชวี วิทยา เก่ยี วกบั ระบบ นเิ วศ 1. วิเคราะห์ อธบิ าย และยกตัวอย่างกระบวนการ กระบวนการ ถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ ถ่ายทอด พลังงานและการ 2. อธบิ าย ยกตวั อยา่ งการเกิดไบโอแมกนฟิ ิเคชัน หมุนเวยี นสารใน และบอกแนวทางในการลดการเกิด ไบโอแมก- ระบบนิเวศ นฟิ ิเคชนั ความ หลากหลาย 3. สืบค้นข้อมูลและเขยี นแผนภาพ เพอ่ื อธิบาย ของไบโอม การ วฏั จกั รไนโตรเจน วฏั จักรกามะถัน และวัฏจักร เปล่ยี นแปลง ฟอสฟอรัส แทนที่ ของ ส่งิ มีชวี ิตในระบบ 4. สบื ค้นข้อมลู ยกตวั อยา่ ง และอธบิ ายลักษณะ นิเวศ ประชากร ของไบโอมท่กี ระจายอย่ตู ามเขตภูมิศาสตร์ตา่ งๆ และรูปแบบการ บนโลก เพ่ิมของ ประชากร 5. สบื ค้นข้อมูล ยกตวั อย่าง อธิบาย และเปรยี บเทียบ ทรัพยากร การเปล่ยี นแปลงแทนท่แี บบปฐมภมู ิ และ การ ธรรมชาติ เปลย่ี นแปลงแทนทแี่ บบทุติยภูมิ และสิ่งแวดลอ้ ม ปัญหาและ 6. สืบค้นข้อมลู อธบิ าย ยกตวั อยา่ ง และสรุป ผลกระทบท่เี กดิ เกี่ยวกบั ลักษณะเฉพาะของประชากรของ จากการใช้ สิ่งมีชวี ติ บางชนิด ประโยชน์ และ แนวทางการ 7. สืบค้นข้อมูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และยกตัวอย่าง แก้ไขปัญหา การเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชยี ลและ การเพม่ิ ของประชากรแบบลอจสิ ติก 8. อธิบายและยกตวั อย่างปจั จัยท่คี วบคมุ การเตบิ โต ของประชากร 9. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรุปปญั หา การขาดแคลนน้า การเกดิ มลพษิ ทางนา้ และ ผลกระทบท่มี ีตอ่ มนษุ ยแ์ ละส่ิงแวดลอ้ ม รวมทงั้ เสนอแนวทางการวางแผนการจดั การนา้ 10. วเิ คราะห์ อภิปรายและสรุปปัญหามลพษิ ทาง อากาศ และผลกระทบที่มีตอ่ มนุษย์และ สงิ่ แวดลอ้ ม รวมทงั้ เสนอแนวทางการแกไ้ ข ปัญหา 11. วิเคราะห์ อภิปราย และสรปุ ปญั หาทเี่ กิดกับ ทรัพยากรดนิ และผลกระทบทีม่ ตี ่อมนุษยแ์ ละ สงิ่ แวดล้อม รวมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไข
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรูร้ ายปี สาระ 5. เข้าใจแนวคดิ ม. 4 ม. 5 ม. 6 ชีววิทยา เกยี่ วกบั ระบบ นิเวศ 12. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรุปปัญหา ผลกระทบ กระบวนการ ทเ่ี กิดจากการทาลายปา่ ไม้ รวมทง้ั เสนอแนวทาง ถ่ายทอด ในการป้องกนั การทาลายป่าไมแ้ ละการอนรุ ักษ์ พลงั งานและการ ป่าไม้ หมนุ เวยี นสารใน ระบบนิเวศ 13. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหา ผลกระทบ ความ ทท่ี าให้สัตวป์ ่ามจี านวนลดลงและแนวทางใน หลากหลาย การอนรุ กั ษส์ ตั วป์ า่ ของไบโอม การ เปลี่ยนแปลง แทนที่ ของ ส่ิงมีชีวิตในระบบ นิเวศ ประชากร และรปู แบบการ เพ่ิมของ ประชากร ทรพั ยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ปญั หาและ ผลกระทบทีเ่ กดิ จากการใช้ ประโยชน์ และ แนวทางการ แก้ไขปัญหา
สาระ มาตรฐาน ผลการเรยี นรูร้ ายปี สาระเคมี ม. 4 ม. 5 ม. 6 1. เขา้ ใจโครงสร้าง 1. สบื ค้นขอ้ มลู 1. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ 1. สบื คน้ ขอ้ มูลและ อะตอม การ สมมตฐิ าน การ และคานวณปริมาตร นาเสนอตัวอยา่ ง จดั เรยี งธาตใุ น ทดลอง หรอื ผล ความดัน หรือ สารประกอบ ตารางธาตุ การทดลองทีเ่ ป็น อณุ หภมู ขิ องแก๊สท่ี อนิ ทรีย์ทมี่ ีพันธะ สมบัติของธาตุ ประจักษ์พยานใน ภาวะต่าง ๆ ตามกฎ เดี่ยว พันธะค่หู รอื พันธะเคมีและ การเสนอ ของบอยล์ กฎของ พันธะสามท่ีพบใน สมบัตขิ องสาร แบบจาลอง ชารล์ กฎของเกย์ ชีวิตประจาวนั แก๊สและสมบตั ิ อะตอมของ ลสู แซก 2. เขียนสตู ร ของแก๊ส นกั วทิ ยาศาสตร์ 2. คานวณปริมาตร โครงสร้างลวิ อิส ประเภทและ และอธบิ าย ความดนั หรอื อณุ หภูมิ สตู รโครงสร้างแบบ สมบตั ขิ อง ววิ ัฒนาการของ ของแก๊สที่ภาวะตา่ ง ๆ ย่อ และสูตร สารประกอบ แบบจาลอง ตามกฎรวมแก๊ส โครงสร้างแบบเสน้ อนิ ทรยี ์และพอ อะตอม 3. คานวณปริมาตร ของสารประกอบ ลิเมอร์ รวมทงั้ 2. เขียนสญั ลักษณ์ ความดนั อณุ หภมู ิ อินทรีย์ การนาความรไู้ ป นวิ เคลยี ร์ของธาตุ จานวนโมล หรอื มวล 3. วเิ คราะห์ ใช้ประโยชน์ และระบุจานวน ของแก๊ส จาก โครงสร้าง และ โปรตอน ความสมั พนั ธ์ตามกฎ ระบุประเภทของ นวิ ตรอน และ ของ อาโวกาโดร และ สารประกอบ อิเลก็ ตรอนของ กฎแกส๊ อดุ มคติ อนิ ทรยี ์จากหมู่ อะตอมจาก 4. คานวณความดนั ย่อย ฟังกช์ ัน สญั ลกั ษณ์ หรอื จานวนโมลของ 4. เขียนสูตร นิวเคลียร์ รวมท้ัง แก๊ส ในแก๊สผสม โดย โครงสร้างและ บอก ความหมาย ใชก้ ฎความดนั ย่อย เรยี กชอ่ื ของไอโซโทป ของดอลตนั สารประกอบ 3. อธบิ าย และเขยี น 5. อธิบายการแพรข่ อง อนิ ทรยี ์ประเภท การจดั เรยี ง แก๊สโดยใชท้ ฤษฎจี ลน์ ต่างๆ ท่มี หี มู่ อิเลก็ ตรอน ใน ของแก๊ส คานวณและ ฟงั ก์ชนั ไม่เกิน 1 ระดบั พลังงาน เปรยี บเทยี บอัตรา หมู่ ตามระบบ หลักและระดับ การแพรข่ องแกส๊ โดย IUPAC พลงั งานย่อย เม่ือ ใชก้ ฎการแพรผ่ า่ นของ 5. เขียนไอโซเมอร์ ทราบเลขอะตอม เกรแฮม โครงสร้างของ ของธาตุ สารประกอบ อินทรียป์ ระเภท ตา่ ง ๆ
สาระ มาตรฐาน ผลการเรียนรู้รายปี สาระเคมี ม. 4 ม. 5 ม. 6 1. เขา้ ใจโครงสรา้ ง 4. ระบุหมู่ คาบ 6. สบื คน้ ข้อมลู 6. วเิ คราะห์ และ อะตอม การ ความเป็นโลหะ นาเสนอตัวอย่าง เปรยี บเทยี บจุดเดือด จดั เรียงธาตุใน อโลหะ และ กึ่ง และอธบิ ายการ และ การละลายในนา้ ตารางธาตุ โลหะของธาตุ ประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ ของสารประกอบ สมบัติของธาตุ เรพรีเซนเททีฟและ เกีย่ วกบั สมบตั ิและ อินทรยี ์ทม่ี ี หมู่ฟงั ก์ชัน พันธะเคมีและ ธาตุแทรนซิชันใน กฎต่างๆของแกส๊ ขนาดโมเลกุล หรอื สมบัตขิ องสาร ตารางธาตุ ในการอธิบาย โครงสร้างตา่ งกนั แกส๊ และสมบัติ 5. วิเคราะห์ และบอก ปรากฏการณ์ หรือ 7. ระบปุ ระเภทของ ของแกส๊ แนวโน้มสมบัติของ แกป้ ัญหาใน สารประกอบ ประเภทและ ธาตุ เรพรเี ซนเททฟี ชวี ติ ประจาวนั และ ไฮโดรคารบ์ อน และ สมบัตขิ อง ตามหมูแ่ ละตามคาบ ในอตุ สาหกรรม เขียนผลติ ภณั ฑ์จาก สารประกอบ 6. บอกสมบตั ิของธาตุ ปฏกิ ิรยิ าการเผาไหม้ อนิ ทรียแ์ ละพอ โลหะแทรนซชิ นั ปฏิกริ ยิ ากับโบรมีน ลเิ มอร์ รวมทัง้ และ เปรยี บเทยี บ หรือปฏกิ ริ ิยากับ การนาความรู้ไป สมบตั กิ บั ธาตโุ ลหะ โพแทสเซียมเปอรแ์ มง ใชป้ ระโยชน์ ในกลุม่ ธาตุ เรพรี กาเนฟ เซนเททีฟ 8. เขียนสมการเคมแี ละ 7. อธิบายสมบตั ิ และ อธิบายการ คานวณคร่งึ ชวี ติ ของ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ า ไอโซโทป กัมมนั ตรังสี เอสเทอริฟเิ คชัน 8. สืบค้นขอ้ มลู และ ปฏิกริ ยิ าการ ยกตวั อยา่ งการนา สงั เคราะหเ์ อไมด์ ธาตุ มาใช้ประโยชน์ ปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส รวมท้งั ผลกระทบต่อ และปฏิกิริยาสะปอน สง่ิ มชี วี ติ และ นิฟเิ คชัน ส่งิ แวดลอ้ ม 9. ทดสอบปฏกิ ริ ิยา 9. อธิบายการเกดิ เอสเทอรฟิ ิเคชัน ไอออนและการเกดิ ปฏกิ ิรยิ า ไฮโดรลิซิส พันธะไอออนิก โดย และปฏกิ ริ ิยา ใช้แผนภาพหรอื สะปอนนฟิ เิ คชัน สัญลกั ษณแ์ บบจุด ของลิวอิส
สาระ มาตรฐาน ม. 4 ผลการเรยี นรู้รายปี สาระเคมี 1. เขา้ ใจโครงสรา้ ง 10. เขยี นสตู ร และ ม. 5 ม. 6 อะตอม การ เรยี กชื่อ 10. สืบค้นข้อมูล และ นาเสนอตวั อย่างการ จดั เรียงธาตใุ น สารประกอบ นา สารประกอบ อินทรียไ์ ปใช้ ตารางธาตุ ไอออนกิ ประโยชนใ์ น ชวี ติ ประจาวันและ สมบตั ขิ องธาตุ 11. คานวณพลังงานท่ี อตุ สาหกรรม พันธะเคมีและ เกย่ี วขอ้ งกับ 11. ระบปุ ระเภทของ ปฏกิ ิรยิ าการเกิด สมบัติของสาร ปฏกิ ิรยิ า การเกดิ พอลิเมอร์ จาก โครงสร้างของมอนอ แกส๊ และสมบตั ิ สารประกอบไอ เมอร์หรอื พอลเิ มอร์ ของแกส๊ ออนกิ จากวฏั จักร 12. วเิ คราะห์ และ ประเภทและ บอรน์ -ฮาเบอร์ อธิบายความสมั พันธ์ ระหว่าง โครงสร้าง สมบัติของ 12. อธบิ ายสมบัตขิ อง และสมบตั ิของพอลิ เมอร์ รวมทั้ง การ สารประกอบ สารประกอบ นาไปใชป้ ระโยชน์ อนิ ทรียแ์ ละพอ ไอออนิก 13. ทดสอบ และระบุ ประเภทของพลาสติก ลิเมอร์ รวมทัง้ 13. เขยี นสมการ และผลติ ภณั ฑ์ยาง รวมทง้ั การนาไปใช้ การนาความรไู้ ป ไอออนิกและ ประโยชน์ ใช้ประโยชน์ สมการไอออนิก 14. อธิบายผลของการ ปรบั เปล่ียนโครงสร้าง สทุ ธิของปฏกิ ริ ิยา และการสังเคราะห์ พอลิเมอร์ท่ีมีต่อ ของสารประกอบ สมบตั ขิ องพอลเิ มอร์ ไอออนิก 14. อธิบายการเกิด พนั ธะโคเวเลนต์ แบบพันธะเดย่ี ว พันธะคู่และพันธะ สามดว้ ยโครงสร้าง ลวิ อสิ 15. เขยี นสูตร และ เรยี กชือ่ สาร โคเวเลนต์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127