แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยนี ่ารู้ รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี เร่ือง การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 1 ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ผู้สอน นางฐติ ิยาภรณ์ ทวี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวช้ีวดั มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี เพือ่ การดารงชวี ิตในสังคมทม่ี กี ารเปล่ยี นแปลง อย่างรวดเรว็ ใช้ความรแู้ ละทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ นื่ ๆ เพ่ือแก้ปัญหาหรอื พฒั นางานอยา่ งมีความคดิ สรา้ งสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่าง เหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม ตัวชวี้ ัด ม.4/1 วิเคราะห์แนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีความสมั พนั ธ์กับศาสตรอ์ ่ืนโดยเฉพาะ วทิ ยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ รวมทง้ั ประเมินผลกระทบท่ีจะเกิดขนึ้ ต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม เพือ่ เปน็ แนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยี 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (เรยี ง K P A) 2.1 นักเรยี นสามารถวิเคราะห์สาเหตหุ รอื ปัจจยั ที่ทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ (K) 2.2 นักเรยี นสามารถนาเสนอสาเหตหุ รอื ปัจจยั ที่ทาใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีทาง การแพทย์ได้ (P) 2.3 นกั เรยี นมีความรับผิดชอบงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A) 3. สมรรถนะท่สี าคญั 3.1 ความสามารถในการสอื่ สาร 3.2 ความสามารถในการคดิ 3.3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (ตามหลกั สูตร) 4.1 มีวินัย 4.2 ใฝ่เรียนรู้ 4.3 มงุ่ มน่ั ในการทางาน 5. สาระสาคัญ มนุษย์สร้างหรอื พัฒนาเทคโนโลยีขน้ึ มาเพ่ือแก้ปญั หาหรอื สนองความต้องการ ซึ่งเทคโนโลยีทถ่ี กู สร้าง ขึ้นจะมีประโยชน์ ณ ชว่ งเวลาใดเวลาหน่ึง เม่ือเวลาผา่ นไป มนุษย์อาจพบปญั หาหรอื สถานการณใ์ หม่ ทาให้
ตอ้ งสรา้ งหรอื พัฒนาเทคโนโลยขี ึน้ มาเพ่ือใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ท่ีเปล่ยี นไป ปจั จยั ท่สี ่งผลตอ่ การ เปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีต้ังแตอ่ ดตี จนถงึ ปัจจุบนั มีสาเหตุมาจากหลายด้าน เชน่ ปัญหาความตอ้ งการ ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ สภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสงิ่ แวดล้อม ซึ่งความเขา้ ใจเกี่ยวกับ ปจั จยั ท่ีส่งผลต่อการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีเหลา่ น้ี สามารถใชเ้ ป็นแนวทางเพอ่ื การพัฒนาต่อยอด เทคโนโลยีให้มปี ระสิทธิภาพและทันสมัย ตลอดจนสามารถคาดการณ์เทคโนโลยีท่อี าจเกดิ ขึน้ ในอนาคตได้ 6. สาระการเรียนรู/้ เนื้อหายอ่ ย 6.1 สาเหตหุ รือปัจจัยการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี 6.2 ตวั อย่างการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี 7. ภาระงาน/ชิน้ งาน 7.1 ใบงานที่ 1.2 การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี 8. เกณฑ์การประเมนิ (แนบทา้ ยแผน) 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 3 สอนแบบ onsite สอนแบบ online 9.1 ครผู ู้สอนแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้ใู หน้ ักเรยี น 9.1 ครผู ู้สอนแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ กั เรยี น ทราบ ทราบ ผ่าน Google Meet 9.2 ครูผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียนด้วยการยกตวั อย่าง 9.2 ครผู ูส้ อนนาเข้าสู่บทเรยี นด้วยการยกตวั อยา่ ง เทคโนโลยรี อบตัวทีม่ ีการเปล่ยี นแปลงทีเ่ ห็นได้อย่าง เทคโนโลยรี อบตวั ท่มี กี ารเปลยี่ นแปลงทเี่ ห็นไดอ้ ย่าง ชัดเจน เชน่ โทรศัพทม์ ือถือ คอมพวิ เตอร์ บรรจุ ชัดเจน เชน่ โทรศัพทม์ ือถอื คอมพวิ เตอร์ บรรจุ ภัณฑร์ กั ษ์สิง่ แวดลอ้ ม ภณั ฑร์ ักษ์สิ่งแวดลอ้ ม ผ่าน Google Meet 9.3 ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าหาความรู้ จากหนังสอื เรียน 9.3 ผ้เู รียนศึกษาคน้ ควา้ หาความรู้ ในเวบ็ ไซต์ สสวท. วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี http://gg.gg/DAT-M4 บทที่ 2 หวั ขอ้ เรอื่ ง สาเหตุ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 บทท่ี 2 หวั ขอ้ เร่อื ง สาเหตุหรือ หรือปจั จัยของการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ปัจจยั ของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 9.4 ครูผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกนั อภิปรายเกย่ี วกับ 9.4 ครผู ู้สอนและผู้เรียนรว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับ หวั ขอ้ เรือ่ ง สาเหตุหรือปจั จยั ของการเปลยี่ นแปลงของ หวั ข้อเร่อื ง สาเหตุหรือปัจจยั ของการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยี เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจ โดยให้ ของเทคโนโลยี ผ่าน Google Meet เพ่อื ตรวจสอบ นักเรยี นแสดงความคิดเห็น ครูแนะนาเพม่ิ เติม ความรู้ ความเข้าใจ โดยให้นักเรียนแสดงความคิดเหน็ ครแู นะนาเพ่มิ เติม 9.5 ผู้เรยี นทาใบงานท่ี 1.2 การเปลย่ี นแปลงของ 9.5 ผ้เู รยี นทาใบงานท่ี 1.2 การเปล่ียนแปลงของ เทคโนโลยี ในโปรแกรม Google Doc เพ่ือตรวจสอบ เทคโนโลยี โปรแกรม Google Doc เพอื่ ตรวจสอบ
สอนแบบ onsite สอนแบบ online ความรู้ความเข้าใจ ความรูค้ วามเข้าใจ 9.6 ผเู้ รียนสง่ ใบงานที่ 1.2 ในชน้ั เรียน Google 9.6 ผู้เรยี นสง่ ใบงานที่ 1.2 ในชนั้ เรยี น Google Classroom Classroom 9.7 ครูผู้สอนอภิปรายและสรุปองค์ความรู้เรือ่ ง 9.7 ครผู ู้สอนอภิปรายและสรปุ องค์ความร้เู รอ่ื ง การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ผ่าน Google Meet 10. สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ online onsite 10.1 เว็บไซต์ http://gg.gg/DAT-M4 10.1 หนงั สือเรยี น สสวท. วชิ าการออกแบบและ 10.2 Google Doc เทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 10.3 Google Classroom 10.2 Google Doc 10.4 Google Meet 10.3 Google Classroom 11. การวัดและประเมินผล 11.1 วิธีการ 1) ประเมนิ ชนิ้ งาน 2) สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 11.2 เครือ่ งมอื 1) แบบประเมินชนิ้ งาน 2) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ 11.3 เกณฑก์ ารประเมิน 1) มผี ลการประเมนิ ชิ้นงานระดับคุณภาพดี 2) มพี ฤตกิ รรมการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์ระดับคณุ ภาพดี
ส่ือการเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ บทเรียนออนไลน์ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 เว็บไซต์ http://gg.gg/ DAT-M4 ที่สรา้ งด้วย Google Sites สรา้ งโดย นางฐิตยิ าภรณ์ ทวี ***********************
ส่อื การเรยี นรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ หนงั สอื เรียน สสวท. วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ***********************
สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ โปรแกรม Google Doc ***********************
สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ หอ้ งเรยี นสาหรบั ส่งงาน ทส่ี รา้ งด้วย Google Classroom ***********************
สื่อการเรียนรู/้ แหล่งเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหลงั เรยี น ทีส่ ร้างด้วย Google Meet ***********************
ใบงานที่ 1.2 การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ******************************* หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยีนา่ รู้ รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ประกอบแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 เวลา 1 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ คาชแี้ จง : ให้นกั เรียนสงั เกตเลือกเทคโนโลยีท่พี บเหน็ ในชีวติ ประจำวันและไมใ่ ช่ตวั อยำ่ งในบทเรียนมำอยำ่ ง น้อย 3 ชนิด แล้วอธบิ ำยลกั ษณะของเทคโนโลยเี หล่ำนน้ั ว่ำมีกำรเปล่ียนแปลงจำกอดีตจนถึงปจั จบุ ันอยำ่ งไรใน ประเดน็ ต่ำงๆ เชน่ รปู ร่ำง กำรใช้งำน ควำมปลอดภัย ควำมแขง็ แรง รำคำ โดยอำจสืบค้นขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ พร้อม ทั้งวเิ ครำะห์สำเหตหุ รอื ปัจจัยท่ที ำให้เกิดกำรเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยี แลว้ นำเสนอ เทคโนโลยี ลักษณะของเทคโนโลยีท่เี ปล่ยี นแปลง สำเหตุหรอื ปจั จยั ท่ีทำใหเ้ กิดกำร 1. จำกอดตี จนถึงถึงปจั จุบัน เปลีย่ นแปลง 2. 3.
ใบงานที่ 1.2 การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี ******************************* หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยีน่ารู้ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ประกอบแผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 เวลา 1 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ คาช้ีแจง : ให้นักเรียนสงั เกตเลือกเทคโนโลยีทพ่ี บเห็นในชีวติ ประจำวันและไมใ่ ชต่ วั อยำ่ งในบทเรยี นมำอยำ่ ง นอ้ ย 3 ชนิด แล้วอธิบำยลักษณะของเทคโนโลยีเหล่ำนั้นวำ่ มกี ำรเปล่ยี นแปลงจำกอดีตจนถึงปัจจบุ ันอยำ่ งไรใน ประเดน็ ต่ำงๆ เชน่ รูปรำ่ ง กำรใช้งำน ควำมปลอดภยั ควำมแขง็ แรง รำคำ โดยอำจสบื คน้ ขอ้ มูลเพิ่มเติมพร้อม ทง้ั วเิ ครำะหส์ ำเหตุหรอื ปจั จยั ทที่ ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี แลว้ นำเสนอ เทคโนโลยี ลกั ษณะของเทคโนโลยีทีเ่ ปลีย่ นแปลงจำก สำเหตุหรอื ปจั จัยทท่ี ำใหเ้ กดิ กำรเปล่ยี นแปลง อดตี จนถึงถึงปจั จุบนั 1. เคร่ืองนุ่งหม่ - ใชเ้ ทคโนโลยีฮีทเทค (heattech) นุ่มหม่ - มนุษยม์ คี วำมต้องกำรเครื่องนุ่งหม่ ท่มี คี วำม สบำยในหน้ำรอ้ น และอุ่นในหนำ้ หนำว สบำยสวยงำมและเหมำะสมกับฤดกู ำล - เปลีย่ นจำกกำรใชเ้ ส้นใยพืช (เชน่ ปอ ป่ำน) - ควำมก้ำวหน้ำของวิทยำศำสตร์ดำ้ นนำโน และเสน้ ใยสัตว์ (เช่น ไหม) เป็นเส้นใยนำโนที่ เทคโนโลยี นำมำใช้ในกำรผลิตเส้นใยนำโนที่มี มีสมบัตไิ มเ่ ปยี กน้ำ ป้องกันกำรยบั หรอื สมบตั ติ ำมต้องกำร ปอ้ งกันเช้อื รำบำงชนดิ ได้ 2. เคร่อื งพิมพ์ - 2 มติ ิ พิมพง์ ำนเอกสำรบนกระดำษ - มนุษยม์ คี วำมตอ้ งกำรเครือ่ งมอื สำหรับกำร พลำสติก ผ้ำหรอื วัสดุอนื่ ๆ โดยใชห้ มึกพิมพ์ พมิ พช์ ้ินงำน กำรขึน้ รูปชิน้ งำนเป็น 3 มติ ิ - 3 มิติ ใช้ขึ้นรปู ชิ้นงำนเปน็ 3 มติ ิ เช่น - ควำมก้ำวหนำ้ ของวิทยำศำสตรแ์ ละ กำรผลติ ชิน้ ส่วนรถยนต์ กำรผลติ อุปกรณ์ เทคโนโลยดี ้ำนกำรพมิ พด์ ำ้ นวสั ดุประเภท ทำงกำรแพทย์ พลำสตกิ ชนิดพิเศษสำหรับกำรข้นึ รปู ช้นิ งำน 3. กล้องถ่ำยรปู - มองเหน็ ภำพผำ่ นจอแสดงผล - ควำมต้องกำรของมนษุ ย์ในกำรถำ่ ยภำพท่ี - ไดภ้ ำพสีซงึ่ ใกลเ้ คียงกบั ภำพจริง คล้ำยภำพท่ีตำมองเหน็ - เปลีย่ นจำกบันทึกภำพลงฟลิ ม์ เป็นกำร - ควำมก้ำวหน้ำของวทิ ยำศำสตรใ์ นกำร เปล่ยี นสัญญำณภำพเป็นสัญญำณดิจทิ ัลโดยมี พฒั นำเลนส์ และเซ็นเซอร์ เพื่อรบั และเปลี่ยน หนว่ ยควำมจำภำยในกล้องและภำยนอก ทำ สัญญำณภำพเป็นสญั ญำณดิจิทัล ให้ได้จำนวนภำพมำกข้ึน
แบบประเมนิ ใบงานที่ 1.2 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ******************************* หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เทคโนโลยนี ่ารู้ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ประกอบแผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 3 การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 เวลา 1 ชัว่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกติ --------------------------------------------------------------------------------------- ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 4 /............... เลขที่ ช่ือ-สกุล ประเดน็ ประเมินที่ 1 รวมคะแนน ระดบั 4 4 คุณภาพ ลงชอ่ื ผู้ประเมิน (........................................................) เกณฑ์การตัดสนิ ระดับคุณภาพ คะแนน 4 คะแนน หมำยถึง ระดบั คุณภำพ ดีมำก คะแนน 3 คะแนน หมำยถงึ ระดับคุณภำพ ดี คะแนน 2 คะแนน หมำยถึง ระดบั คุณภำพ พอใช้ คะแนน 1 คะแนน หมำยถึง ระดับคุณภำพ ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การประเมิน ประเด็น 4 ระดบั คะแนน 1 การประเมนิ วิเครำะหส์ ำเหตหุ รอื 32 วเิ ครำะห์สำเหตุหรอื ปัจจัยที่ทำใหเ้ กดิ วิเครำะห์สำเหตุหรือ วเิ ครำะหส์ ำเหตหุ รือ ปัจจัยที่ทำใหเ้ กดิ กำรวเิ ครำะห์ กำรเปล่ยี นแปลง ปจั จัยท่ีทำใหเ้ กิด ปัจจยั ที่ทำให้เกิด กำรเปล่ียนแปลง สำเหตุหรือ เทคโนโลยี พร้อม กำรเปลีย่ นแปลง กำรเปล่ยี นแปลง เทคโนโลยีได้ แต่ ปจั จัยที่ทำให้ อธิบำยเหตผุ ลได้ เทคโนโลยี พร้อม เทคโนโลยี พรอ้ ม อธิบำยเหตุผลไม่ เกิดกำร ถูกตอ้ ง ครบถว้ น อธบิ ำยเหตุผลได้ อธิบำยเหตุผลได้ ถกู ตอ้ ง เปล่ียนแปลง ถูกตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่ ถูกต้อง เป็นบำงส่วน เทคโนโลยี
แบบสงั เกตพฤติกรรมผู้เรียน ชน้ั ...............................................จำนวน...................คน สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ วนั ท่.ี .............เดอื น....................................................พ.ศ........................ พฤตกิ รรม ความ ความ การตอบ ทางานทัน มีสว่ นร่วม ตั้งใจใน สนใจ คาถาม ตาม ในกจิ กรรมหรอื รวม (20) เลขท่ี ชือ่ -สกลุ การเรยี น และการ (4) กาหนดเวลา งานกลุ่ม (4) ซกั ถาม (4) (4) (4) 1. 2. 3. 4. 5. ลงชื่อ ......................................ผู้ประเมิน ............/............/.......... เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ มีดังนี้ คะแนน 18 – 20 ดมี ำก คะแนน 14 – 17 ดี คะแนน 10 – 13 พอใช้ คะแนน 0 – 9 ควรปรบั ปรุง เกณฑ์ให้คะแนนจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ คอื เกณฑก์ ำรให้คะแนน 4 คะแนน เมื่อนกั เรียนแสดงพฤติกรรมตำมที่ตอ้ งกำรเปน็ ประจำสม่ำเสมอ เกณฑ์กำรให้คะแนน 3 คะแนน เม่ือนักเรียนแสดงพฤตกิ รรมตำมท่ตี ้องกำรค่อนข้ำงจะสม่ำเสมอ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน 2 คะแนน เมอ่ื นักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมตำมทตี่ อ้ งกำรคอ่ นขำ้ งน้อย เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน 1 คะแนน เมือ่ นกั เรียนแสดงพฤติกรรมตำมทต่ี อ้ งกำรนอ้ ย
เกณฑก์ ารประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน เกณฑ์การใหค้ ะแนน รายการประเมนิ ดีมาก(4) ดี(3) พอใช(้ 2) ต้องปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจในการเรยี น สนใจในกำรเรียนไม่ สนใจในกำรเรียน สนใจในกำรเรยี น ไม่สนใจในกำร 2. ความสนใจและการ ซักถาม คยุ หรือเลน่ กัน คยุ กันเลก็ นอ้ ย คุยกนั และเล่นกนั เรยี นคยุ และเล่น 3. การตอบคาถาม ในขณะเรยี น ในขณะเรยี น ในขณะเรยี นเปน็ กนั ในขณะเรียน 4. ทางานทนั ตาม บำงครง้ั กาหนดเวลา มกี ำรถำมในหวั ขอ้ ท่ี มกี ำรถำมใน มีกำรถำมใน ไมถ่ ำมในหวั ข้อท่ี 5. มีส่วนรว่ ม ในกจิ กรรมหรืองานกลมุ่ ตนไมเ่ ข้ำใจทกุ เร่อื ง หวั ขอ้ ทต่ี นไม่ หวั ขอ้ ทตี่ นไม่ ตนไมเ่ ข้ำใจและ และกลำ้ แสดงออก เขำ้ ใจเปน็ เขำ้ ใจเปน็ บำงคร้ัง ไมก่ ลำ้ แสดงออก ส่วนมำกและกล้ำ และไมค่ ่อยกล้ำ แสดงออก แสดงออก รว่ มตอบคำถำมใน ร่วมตอบคำถำม ร่วมตอบคำถำม ไมต่ อบคำถำม เรอ่ื งท่คี รถู ำมและ ในเรอื่ งท่ีครูถำม ในเรื่องทีค่ รถู ำม ตอบคำถำมถูกทุกขอ้ และตอบคำถำม เป็นบำงครงั้ และ ส่วนมำกถกู ตอบคำถำมถูก เปน็ บำงครง้ั ทำงำนสง่ ตำมเวลำที่ ทำงำนส่งตำม สง่ งำนช้ำและไม่ สง่ งำนช้ำและไม่ กำหนดและถูกต้อง เวลำทก่ี ำหนด ค่อยถกู ต้อง ถูกตอ้ ง ชัดเจน และส่วนใหญ่ ชดั เจน ถูกตอ้ ง ร่วมมอื และชว่ ยเหลือ รว่ มมือและ รว่ มมือและ ไมม่ ีควำมรว่ มมอื เพอ่ื นในกำรทำ ช่วยเหลอื เพ่ือน ชว่ ยเหลอื เพ่ือนใน ในขณะทำ กจิ กรรม เป็นสว่ นใหญใ่ น กำรทำกิจกรรม กิจกรรม กำรทำกิจกรรม เปน็ บำงครัง้
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีนา่ รู้ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี เรื่อง ผลกระทบของเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 2 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 ผ้สู อน นางฐิตยิ าภรณ์ ทวี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ช้ีวดั มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี เพ่อื การดารงชวี ติ ในสังคมทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ เพอ่ื แกป้ ัญหาหรือ พฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยอี ยา่ ง เหมาะสม โดยคานึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม ตัวชี้วัด ม.4/1 วเิ คราะห์แนวคดิ หลักของเทคโนโลยคี วามสัมพันธ์กบั ศาสตรอ์ ืน่ โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ หรอื คณิตศาสตร์ รวมทัง้ ประเมนิ ผลกระทบทจ่ี ะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และ ส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาเทคโนโลยี 2. จุดประสงค์การเรยี นรู้ (เรยี ง K P A) 2.1 นักเรยี นสามารถวเิ คราะห์ผลกระทบของเทคโนโลยที ้งั ดา้ นบวกและด้านลบทส่ี ง่ ผลตอ่ มนุษย์ สงั คม เศรษฐกจิ และสิ่งแวดล้อมได้ (K) 2.2 นักเรียนสามารถนาเสนอแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปญั หาทเี่ กดิ จากผลกระทบของ เทคโนโลยีได้ (P) 2.3 นกั เรยี นมีความรบั ผดิ ชอบงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A) 3. สมรรถนะทีส่ าคญั 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคดิ 3.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ตามหลักสูตร) 4.1 มีวนิ ัย 4.2 ใฝเ่ รียนรู้ 4.3 มงุ่ มนั่ ในการทางาน
5. สาระสาคัญ การเลอื กใชเ้ ทคโนโลยี ผู้ใช้ ผู้พฒั นา และผ้สู รา้ งเทคโนโลยีจาเป็นตอ้ งมีการคานงึ ถึง และวิเคราะห์ ถึงผลกระทบของเทคโนโลยีทัง้ ในทางดา้ นบวกและด้านลบทส่ี ่งผลตอ่ มนุษย์ สังคม เศรษฐกจิ และสิ่งแวดล้อม รวมท้ังการเสนอแนวทางการปอ้ งกันและแกไ้ ขปญั หา ซึง่ ปัญหาน้นั อาจเกิดข้ึนแลว้ หรือคาดการณว์ า่ จะเกดิ ข้นึ ในอนาคตจากการใช้เทคโนโลยี เพื่อเปน็ การสรา้ งความตระหนักใหเ้ กิดข้ึนแก่ผใู้ ช้ ผพู้ ฒั นา และผสู้ ร้าง เทคโนโลยีท่ีสง่ ผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างยัง่ ยืน 6. สาระการเรียนรู้/เนื้อหาย่อย 6.1 ผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อมนษุ ยแ์ ละสังคม 6.2 ผลกระทบของเทคโนโลยีตอ่ เศรษฐกจิ 6.3 ผลกระทบของเทคโนโลยีต่อสิง่ แวดล้อม 6.4 ตัวอยา่ งการวิเคราะหผ์ ลกระทบของเทคโนโลยี 7. ภาระงาน/ชน้ิ งาน 7.1 ใบงานที่ 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี 8. เกณฑก์ ารประเมนิ (แนบท้ายแผน) 9. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชัว่ โมงท่ี 4-5 สอนแบบ onsite สอนแบบ online 9.1 ครผู ู้สอนแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ใหน้ ักเรียน 9.1 ครผู ู้สอนแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นกั เรียน ทราบ ทราบ ผ่าน Google Meet 9.2 ครูผู้สอนกระตนุ้ ความสนใจผู้เรยี นดว้ ยวีดทิ ัศน์ 9.2 ครผู ู้สอนกระตุ้นความสนใจผเู้ รยี นด้วยวีดทิ ศั น์ เรอื่ ง ผลกระทบของเทคโนโลยีท้ังดา้ นบวกและด้าน เรอื่ ง ผลกระทบของเทคโนโลยีท้ังด้านบวกและดา้ น ลบจากนัน้ ใหผ้ ู้เรยี นตอบคาถามวา่ “นักเรียนคิดวา่ ลบจากนั้นให้ผู้เรียนตอบคาถามว่า “นักเรียนคดิ ว่า การใชเ้ ทคโนโลยขี องมนุษย์ไม่วา่ จะเป็นเทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยขี องมนษุ ย์ไมว่ ่าจะเปน็ เทคโนโลยี ทางการคมนาคม เทคโนโลยีทางการแพทย์ ทางการคมนาคม เทคโนโลยีทางการแพทย์ เทคโนโลยกี ารสอ่ื สาร ส่งผลกระทบต่อมนุษย์อยา่ งไร” เทคโนโลยกี ารส่ือสาร ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ อยา่ งไร” ผ่าน Google Meet 9.3 ผู้เรยี นศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้ จากหนงั สือเรียน 9.3 ผเู้ รียนศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้ ในเวบ็ ไซต์ สสวท. วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี http://gg.gg/DAT-M4 บทท่ี 3 หัวขอ้ เรอ่ื ง ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 บทที่ 3 หัวข้อเรอื่ ง ผลกระทบ ผลกระทบของเทคโนโลยี ของเทคโนโลยี
สอนแบบ onsite สอนแบบ online 9.4 ครผู ู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกนั อภิปรายเกีย่ วกับ 9.4 ครผู ู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกับ หัวข้อเรือ่ ง ผลกระทบของเทคโนโลยีทง้ั ด้านบวกและ หวั ข้อเรอ่ื ง ผลกระทบของเทคโนโลยีทั้งดา้ นบวกและ ดา้ นลบที่ส่งผลตอ่ มนษุ ย์ สังคม เศรษฐกิจ และ ด้านลบที่สง่ ผลต่อมนษุ ย์ สังคม เศรษฐกิจ และ ส่ิงแวดลอ้ ม เพ่อื ตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจ สิง่ แวดลอ้ ม ผ่าน Google Meet เพ่อื ตรวจสอบ โดยใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็ ครแู นะนาเพม่ิ เติม ความรู้ ความเข้าใจ โดยให้นักเรียนแสดงความคดิ เหน็ ครูแนะนาเพม่ิ เตมิ 9.5 ผ้เู รียนทาใบงานที่ 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี 9.5 ผูเ้ รยี นทาใบงานที่ 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี ในโปรแกรม Google Doc เพอื่ ตรวจสอบความรู้ โปรแกรม Google Doc เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจ ความเขา้ ใจ 9.6 ผู้เรียนสง่ ใบงานที่ 1.3 ในชั้นเรียน Google 9.6 ผู้เรียนส่งใบงานที่ 1.3 ในช้ันเรยี น Google Classroom Classroom 9.7 ผ้เู รียนนาเสนอผลงานผลงานจากใบงานที่ 3 9.7 ผเู้ รียนนาเสนอผลงานผลงานจากใบงานท่ี 3 หนา้ ชั้นเรียน ผ่าน Google Meet 9.8 ครผู ู้สอนอภปิ รายและสรุปองค์ความร้เู รอ่ื ง 9.8 ครผู ู้สอนอภิปรายและสรุปองค์ความรู้เรอ่ื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี ผลกระทบของเทคโนโลยี ผ่าน Google Meet 9.9 ผเู้ รียนเขา้ ทาแบบทดสอบหลังเรียนใน Google 9.9 ผ้เู รยี นเข้าทาแบบทดสอบหลงั เรยี นใน Google Forms เร่อื ง เทคโนโลยนี ่ารู้ จานวน 20 ข้อ Forms เร่ือง เทคโนโลยนี ่ารู้ จานวน 20 ขอ้ 10. ส่ือการเรียนรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ online onsite 10.1 เว็บไซต์ http://gg.gg/DAT-M4 10.1 หนังสอื เรยี น สสวท. วชิ าการออกแบบและ 10.2 Google Doc เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 10.3 Google Classroom 10.2 Google Doc 10.4 Google Forms 10.3 Google Classroom 10.5 Google Meet 10.4 Google Forms 11. การวัดและประเมนิ ผล 11.1 วิธกี าร 1) ทดสอบหลงั เรียน 2) ประเมนิ ช้ินงาน 3) สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
11.2 เครือ่ งมอื 1) แบบทดสอบหลังเรยี น 2) แบบประเมนิ ชิ้นงาน 3) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ 11.3 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) มีคะแนนหลังเรียนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80 2) มผี ลการประเมนิ ชน้ิ งานระดบั คุณภาพดี 3) มพี ฤตกิ รรมการเรียนรู้ผา่ นเกณฑ์ระดบั คณุ ภาพดี
แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง เทคโนโลยนี ่ารู้ *********************** รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 จานวน 20 ข้อ 30 นาที ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ตอ้ งท่ีสุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. ระบบ หมายถงึ อะไร 5. จากภาพหมายเลข 2 ควรเตมิ คาใด ก. กำรอยู่รว่ มกนั ขององคป์ ระกอบต่ำงๆ ข. เปน็ สิง่ ทม่ี นษุ ยส์ ร้ำงข้ึนหรอื พัฒนำขึน้ เพอ่ื ใช้แกป้ ญั หำ สนองควำมตอ้ งกำร ค. เปน็ คำใชเ้ รยี กแทนสง่ิ ต่ำงๆทมี่ สี ว่ นประกอบตั้งแต่สอง ก. กระบวนกำร ข. ตัวปอ้ น สว่ นขึน้ ไปรวมเขำ้ ดว้ ยกันและทำงำนสมั พันธ์กัน ค. ผลผลิต ง. ขอ้ มลู ยอ้ นกลับ ง. ตวั ป้อน (input) กระบวนกำร (process) ผลผลิตหรอื ผลลพั ธ์ (output/outcome) 6. จากภาพหมายเลข 3 ควรเติมคาใด 2. ระบบทางเทคโนโลยี หมายถึง ก. กำรแปลงรูปธรรมให้เปน็ นำมธรรมและแปลงนำมธรรม ให้เปน็ รูปธรรม ข. กำรเปลีย่ นปรำกฏกำรณ์ทเ่ี ป็นกฎธรรมชำตใิ หเ้ ป็น ก. กระบวนกำร ข. ตวั ป้อน คณิตศำสตร์ ค. ผลผลติ ง. ขอ้ มลู ย้อนกลบั ค. กำรดัดแปลงคณติ ศำสตรใ์ ห้อยใู่ นรปู แบบใหม่ ทอี่ ธิบำย ปรำกฏกำรณ์ธรรมชำตไิ ดล้ ึกซึ้งขึน้ 7. จากภาพหมายเลข 4 ควรเตมิ คาใด ง. กล่มุ ของสว่ นต่ำงๆตง้ั แตส่ องสว่ นขนึ้ ไปประกอบเข้ำ ดว้ ยกันและทำงำนร่วมกนั เพอื่ ใหบ้ รรลวุ ัตถุประสงค์ 3. ขอ้ ใดไม่ใชอ่ งคป์ ระกอบของระบบทางเทคโนโลยี ก. ตวั ป้อน (input) ก. กระบวนกำร ข. ตวั ปอ้ น ข. กระบวนกำร (process) ค. ผลผลิตหรือผลลพั ธ์ (output/outcome) ค. ผลผลติ ง. ขอ้ มูลยอ้ นกลบั ง. หนว่ ยควำมจำ (memory) 4. จากภาพหมายเลข 1 ควรเตมิ คาใด 8. ข้อใดคอื นิยามของคาว่าระบบทางเทคโนโลยีท่ซี บั ซอ้ น ก. เป็นระบบท่ีนำสัญญำณจำกผลลพั ธข์ องระบบป้อนกลับมำ เปรยี บเทียบกับสญั ญำณจำกตัวปอ้ นใหก้ บั ระบบ ข. ส่ิงท่เี ปน็ ข้อจำกัดหรือขอ้ คำนงึ ถึงในกำรสรำ้ งสรรค์ และ พัฒนำเทคโนโลยี ค. เป็นระบบทตี่ ่ำของผลลพั ธ์ไม่มีผลตอ่ กำรควบคุม ก. กระบวนกำร ข. ตัวปอ้ น กระบวนกำรของระบบ ไมม่ ีกำรนำเอำค่ำของผลลัพธท์ ป่ี ้อนใหก้ ับ ค. ผลผลติ ง. ข้อมูลยอ้ นกลับ ระบบ ง. เทคโนโลยีท่ปี ระกอบไปดว้ ยระบบย่อยตงั้ แตส่ องระบบขึ้นไป ทำงำนร่วมกัน
9. ระบบหม้อหงุ ขา้ วไฟฟา้ ในชอ่ ง ผลผลติ ควรเปน็ สิ่งใด 13. การเปลี่ยนแปลงในข้อใดมีสาเหตหุ ลกั มาจากปจั จัยดา้ น สังคมและวัฒนธรรม ก. กำรเดนิ ทำงโดยเครือ่ งบนิ ข. กำรกำจัดขยะด้วยตซู้ ือ้ ขยะ ค. บทสวดมนต์ในรูปแบบหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ ง. กำรใช้รถไฟฟำ้ ขบั เคลอ่ื นดว้ ยพลังงำนแสงอำทิตย์ ก. ขำ้ วที่หุงสุก 14. เหตผุ ลใดไม่ใช่สาเหตุหรอื ปัจจัยของการพัฒนาระบบโอน ข. ขำ้ ว+นำ้ เงิน ในข้อความตอ่ ไปน้ี “จดุ เดน่ ของระบบโอนเงนิ ระบบนี้ คือ ค. พลงั งำนไฟฟำ้ รวดเร็ว โอนและรบั เงินได้ทวั่ โลก โดยไม่ต้องมีบัญชกี บั ธนาคาร ง. กำรเปลีย่ นพลังงำนไฟฟำ้ เปน็ ควำมรอ้ นเพอ่ื ทำให้น้ำเดือด สะดวก มจี ดุ ให้บรกิ ารทัว่ ประเทศ และให้บรกิ ารบน 10. ระบบหมอ้ หุงขา้ วไฟฟา้ ในช่อง กระบวนการ ควรเปน็ Application มอื ถอื ได้” สง่ิ ใด ก. ควำมก้ำวหนำ้ ด้ำนเทคโนโลยี ข. กำรตอบสนองด้ำนวถิ ีชวี ิตของคนในสังคม ค. กำรแก้ปญั หำให้กำรทำธุรกรรมปลอดภยั มำกขึน้ ง. กำรแกป้ ัญหำใหม้ ีพ้ืนท่ีกำรบริกำรครอบคลมุ มำกข้นึ 15. ข้อใด \"ไม่ใช่\" ตัวอยา่ งของการทางานของเทคโนโลยใี น รูปแบบ Internet of Things (IoT) ก. ข้ำวทหี่ งุ สกุ ก. รถยนต์ไร้คนขบั ข. ระบบกำรทำฟำรม์ อัจฉรยิ ะ ข. ข้ำว+น้ำ ค. ปำกกำลบหมกึ ได้ ง. หนุ่ ยนต์กู้ภัย ค. พลังงำนไฟฟำ้ 16. ข้อใดเป็นการวิเคราะหผ์ ลกระทบของเทคโนโลยดี า้ นสงั คม ง. กำรเปลย่ี นพลงั งำนไฟฟำ้ เปน็ ควำมรอ้ นเพ่ือทำใหน้ ้ำเดอื ด และวฒั นธรรม ก. รถยนต์ กอ่ ใหเ้ กิดมลพิษทำงอำกำศ 11. ข้อใดเปน็ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยีทมี่ ีปจั จยั ข. โทรศพั ท์ ช่วยใหก้ ำรสอื่ สำรทำไดร้ วดเร็วข้ึน เนอ่ื งจากสภาพสิ่งแวดลอ้ มในปจั จุบัน ค. โทรศัพท์ เมือ่ หมดอำยกุ ำรใชง้ ำนกใ็ หเ้ กดิ ขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ ก. กำรทำนำเกลือ เพ่มิ ขน้ึ ข. กำรขำยสินค้ำผำ่ นระบบออนไลน์ ง. เครอื่ งปรับอำกำศ กอ่ ให้เกิดภำวะโลกร้อนและเป็นแหล่ง ค. กำรใชเ้ ลเซอรก์ ำจดั รอยแผลเป็น สะสมของเชือ้ โรค ง. กำรผลิตขวดน้ำจำกวัสดยุ ่อยสลำยง่ำย 12. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สาเหตทุ ีท่ าใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลงหูฟงั 17. ข้อใดเปน็ การวเิ คราะหผ์ ลกระทบของเทคโนโลยดี า้ น แพทย์จากเปน็ เครื่องมอื ทม่ี ีขนาดเลก็ น้าหนกั เบา กลายเปน็ เศรษฐกจิ ก. กำรส่ือสำรผ่ำนเครอื ขำ่ ยสงั คมออนไลน์ ทำใหค้ วำมสมั พันธ์ หูฟงั อิเล็กทรอนิกส์ ของคนในสังคมลดลง ก. ควำมกำ้ วหน้ำด้ำนวัสดอุ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ ข. กำรสร้ำงเขอ่ื น ต้องตดั ต้นไม้เป็นจำนวนมำก และสตั ว์บำง ข. ควำมตอ้ งกำรควำมแมน่ ยำในกำรวนิ จิ ฉัย ชนดิ อำจสูญพันธ์ ค. ควำมแตกต่ำงด้ำนเพศของแพทย์และผปู้ ว่ ย ค. กำรสร้ำงสนำมบิน ก่อให้เกดิ มลภำวะทำงอำกำศแก่ผ้ทู ี่ ง. ควำมตอ้ งกำรควำมรวดเรว็ ในกำรวนิ จิ ฉยั อำศัยในบรเิ วณใกลเ้ คยี ง ง. กำรใชห้ นุ่ ยนตเ์ ป็นแรงงำนในกำรผลติ ช่วยลดต้นทุนในกำร ผลติ ของโรงงำนอุตสำหกรรมได้
18. ขอ้ ใดเป็นการวเิ คราะหผ์ ลกระทบของเทคโนโลยดี า้ น 20. ข้อใดวิเคราะหผ์ ลกระทบของเคร่อื งถา่ ยเอกสารทมี่ ีผลต่อ ส่งิ แวดล้อม สงั คมและวัฒนธรรมได้ถูกต้องเหมาะสมมากท่สี ดุ ก. กำรใช้พลำสตกิ ทำใหเ้ กดิ ขยะท่ยี ่อยสลำยยำก ก. ดำ้ นบวก ใชง้ ำนง่ำย ขน้ั ตอนไม่ซับซ้อน ข. กำรใช้พลำสติก ทำให้ลดกำรปนเปื้อนของอำหำร ข. ดำ้ นบวก ได้เอกสำรปริมำณมำก ในรำคำถูก ค. กำรใชห้ ุน่ ยนต์ ทำให้เกดิ ปัญหำกำรว่ำงงำน ค. ดำ้ นลบ สง่ เสริมให้เกิดกำรละเมดิ ลขิ สิทธิ์ทำงปัญญำ ง. กำรใช้อปุ กรณ์กำรแพทย์ทีท่ ันสมัย ทำใหค้ นมอี ำยุยืนยำว ง. ดำ้ นลบ หมกึ จำกกำรถ่ำยเอกสำรอำจเปน็ อันตรำยต่อผใู้ ช้ 19. ขอ้ ใด \"ไม่ใช\"่ ผลกระทบดา้ นบวกของรถยนต์ไฮบรดิ ที่ ใช้ไฟฟา้ เป็นพลงั งานแทนการใช้น้ามันในการขับเคล่ือน ก. ชว่ ยลดมลพิษในสิ่งแวดล้อม ข. ผ้ใู ช้ลดคำ่ ใชจ้ ่ำยในกำรใช้รถยนต์ ค. เพิ่มทำงเลอื กในกำรใช้พำหนะในกำรเดนิ ทำง ง. เกิดควำมก้ำวหน้ำของวิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยีดำ้ น ยำนยนต์
ส่ือการเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ บทเรียนออนไลน์ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 เว็บไซต์ http://gg.gg/ DAT-M4 ที่สรา้ งด้วย Google Sites สรา้ งโดย นางฐิตยิ าภรณ์ ทวี ***********************
ส่อื การเรยี นรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ หนงั สอื เรียน สสวท. วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ***********************
สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ โปรแกรม Google Doc ***********************
สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ หอ้ งเรยี นสาหรบั ส่งงาน ทส่ี รา้ งด้วย Google Classroom ***********************
สือ่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรียนหลงั เรียน ทส่ี ร้างด้วย Goggle Forms ***********************
สื่อการเรียนรู/้ แหล่งเรยี นรู้ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นหลงั เรยี น ทีส่ ร้างด้วย Google Meet ***********************
ใบงานที่ 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี ******************************* หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีน่ารู้ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 ผลกระทบของเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 เวลา 1 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกติ คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นเลอื กเทคโนโลยีท่สี นใจและวเิ คราะห์ผลกระทบด้านบวกและดา้ นลบของการใช้ เทคโนโลยี โดยเลอื กวิเคราะห์ผลกระทบเทคโนโลยี 1 ประเดน็ จากผลกระทบตอ่ มนุษย์และสังคม ผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจ หรอื ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดล้อม เทคโนโลยีที่สนใจ คอื ผลกระทบของเทคโนโลยตี ่อ ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบดา้ นลบ
ใบงานท่ี 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี ******************************* หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยนี า่ รู้ รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ประกอบแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 ผลกระทบของเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 เวลา 1 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต คาช้ีแจง : ให้นักเรยี นเลือกเทคโนโลยีทสี่ นใจและวเิ คราะหผ์ ลกระทบด้านบวกและดา้ นลบของการใช้ เทคโนโลยี โดยเลอื กวิเคราะหผ์ ลกระทบเทคโนโลยี 1 ประเด็น จากผลกระทบตอ่ มนษุ ยแ์ ละสังคม ผลกระทบ ตอ่ เศรษฐกจิ หรอื ผลกระทบต่อสง่ิ แวดล้อม เทคโนโลยีท่สี นใจ คอื เครอื่ งวดั ความดันแบบดิจทิ ัล ผลกระทบของเทคโนโลยีตอ่ สงั คมและมนุษย์ ผลกระทบดา้ นบวก 1. ใชเ้ วลาในการตรวจวัดความดนั เรว็ ขึน้ 2. ประชาชนสามารถตรวจสอบสุขภาพของตนเองได้ อย่างสม่าเสมอ 3. สามารถวิเคราะห์ผลได้อยา่ งแม่นยา่ และรวดเร็ว ผลกระทบดา้ นลบ 1. ต้องมกี ารดแู ลรักษาอยู่ตลอดเวลา 2. ผู้ใช้งานต้องมีความรู้ในการใชง้ าน 3. อาจเกิดผดิ พลาดในการตรวจวัด
แบบประเมินใบงานท่ี 1.3 ผลกระทบของเทคโนโลยี ******************************* หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เทคโนโลยนี า่ รู้ รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ประกอบแผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 ผลกระทบของเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 เวลา 1 ชว่ั โมง จานวน 0.5 หนว่ ยกิต --------------------------------------------------------------------------------------- ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 /............... ประเดน็ ประเดน็ รวมคะแนน ระดบั เลขท่ี ชื่อ-สกุล ประเมนิ ท่ี 1 ประเมนิ ท่ี 2 4 คุณภาพ 4 4 ลงชอ่ื ผู้ประเมิน (........................................................) เกณฑก์ ารตัดสนิ ระดบั คณุ ภาพ คะแนน 7-8 คะแนน หมายถึง ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก คะแนน 5-6 คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ดี คะแนน 3-4 คะแนน หมายถึง ระดับคณุ ภาพ พอใช้ คะแนน 1-2 คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การประเมิน ประเดน็ ระดบั คะแนน การประเมนิ การวเิ คราะห์ 4321 ผลกระทบของ เทคโนโลยี การวเิ คราะห์ การวิเคราะห์ การวิเคราะห์ การวิเคราะห์ การส่ารวจ ผลกระทบของ ผลกระทบของ ผลกระทบของ ผลกระทบของ วเิ คราะห์ ผลกระทบของ เทคโนโลยที ้ังทางด้าน เทคโนโลยที ง้ั เทคโนโลยีท้งั เทคโนโลยที งั้ เทคโนโลยีและ เสนอแนวทาง บวกและด้านลบได้ ทางดา้ นบวกและ ทางด้านบวกและ ทางดา้ นบวกและ ป้องกันและ แก้ไขปัญหา ชัดเจน และสอดคลอ้ ง ด้านลบได้ชดั เจน ดา้ นลบได้สอดคล้อง ดา้ นลบได้แตไ่ ม่ กับสถานการณ์ได้ และสอดคลอ้ งกับ กับสถานการณ์แต่ไม่ สอดคลอ้ งกับ ถูกตอ้ ง ครบถว้ น สถานการณ์ได้ ชัดเจน สถานการณ์ ถูกตอ้ ง เป็นสว่ นใหญ่ การวเิ คราะห์ การวเิ คราะห์ การวเิ คราะห์ การวเิ คราะห์ ผลกระทบของ ผลกระทบของ ผลกระทบของ ผลกระทบของ เทคโนโลยที ั้งทางดา้ น เทคโนโลยที ้งั เทคโนโลยีท้งั เทคโนโลยที ัง้ บวกและดา้ นลบได้ ทางดา้ นบวกและ ทางดา้ นบวกและ ทางด้านบวกและ ชัดเจนและเสนอ ด้านลบไดช้ ัดเจนและ ดา้ นลบไดช้ ดั เจนและ ด้านลบไดไ้ มช่ ัดเจน วิธีการป้องกนั และ เสนอวธิ ีการปอ้ งกัน เสนอวิธีการป้องกัน และไม่สามารถเสนอ แก้ไขปญั หาได้และ และแก้ไขปญั หาได้ และแก้ไขปญั หาได้ วิธกี ารป้องกันและ เป็นไปได้ ได้ถูกตอ้ ง และเป็นไปได้ ได้ และเปน็ ไปได้ ได้ แก้ไขปัญหาได้ ครบถ้วน ถูกตอ้ ง เปน็ สว่ นใหญ่ ถูกตอ้ ง เป็นบางส่วน
แบบสงั เกตพฤติกรรมผู้เรียน ชน้ั ...............................................จำนวน...................คน สงั เกตพฤติกรรมกำรเรียนรู้ วนั ท่.ี .............เดอื น....................................................พ.ศ........................ พฤตกิ รรม ความ ความ การตอบ ทางานทัน มีสว่ นร่วม ตั้งใจใน สนใจ คาถาม ตาม ในกจิ กรรมหรอื รวม (20) เลขท่ี ชือ่ -สกลุ การเรยี น และการ (4) กาหนดเวลา งานกลุ่ม (4) ซกั ถาม (4) (4) (4) 1. 2. 3. 4. 5. ลงชื่อ ......................................ผู้ประเมิน ............/............/.......... เกณฑ์การประเมนิ ในการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ มีดังนี้ คะแนน 18 – 20 ดมี ำก คะแนน 14 – 17 ดี คะแนน 10 – 13 พอใช้ คะแนน 0 – 9 ควรปรบั ปรุง เกณฑ์ให้คะแนนจากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ คอื เกณฑก์ ำรให้คะแนน 4 คะแนน เมื่อนกั เรียนแสดงพฤติกรรมตำมที่ตอ้ งกำรเปน็ ประจำสม่ำเสมอ เกณฑ์กำรให้คะแนน 3 คะแนน เม่ือนักเรียนแสดงพฤตกิ รรมตำมท่ตี ้องกำรค่อนข้ำงจะสม่ำเสมอ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน 2 คะแนน เมอ่ื นักเรยี นแสดงพฤตกิ รรมตำมทตี่ อ้ งกำรคอ่ นขำ้ งน้อย เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน 1 คะแนน เมือ่ นกั เรียนแสดงพฤติกรรมตำมทต่ี อ้ งกำรนอ้ ย
เกณฑก์ ารประเมนิ การสงั เกตพฤตกิ รรมผเู้ รียน เกณฑ์การใหค้ ะแนน รายการประเมนิ ดีมาก(4) ดี(3) พอใช(้ 2) ต้องปรบั ปรงุ (1) 1. ความต้ังใจในการเรยี น สนใจในกำรเรียนไม่ สนใจในกำรเรียน สนใจในกำรเรยี น ไม่สนใจในกำร 2. ความสนใจและการ ซักถาม คยุ หรือเลน่ กัน คยุ กันเลก็ นอ้ ย คุยกนั และเล่นกนั เรยี นคยุ และเล่น 3. การตอบคาถาม ในขณะเรยี น ในขณะเรยี น ในขณะเรยี นเปน็ กนั ในขณะเรียน 4. ทางานทนั ตาม บำงครง้ั กาหนดเวลา มกี ำรถำมในหวั ขอ้ ท่ี มกี ำรถำมใน มีกำรถำมใน ไมถ่ ำมในหวั ข้อท่ี 5. มีส่วนรว่ ม ในกจิ กรรมหรืองานกลมุ่ ตนไมเ่ ข้ำใจทกุ เร่อื ง หวั ขอ้ ทต่ี นไม่ หวั ขอ้ ทตี่ นไม่ ตนไมเ่ ข้ำใจและ และกลำ้ แสดงออก เขำ้ ใจเปน็ เขำ้ ใจเปน็ บำงคร้ัง ไมก่ ลำ้ แสดงออก ส่วนมำกและกล้ำ และไมค่ ่อยกล้ำ แสดงออก แสดงออก รว่ มตอบคำถำมใน ร่วมตอบคำถำม ร่วมตอบคำถำม ไมต่ อบคำถำม เรอ่ื งท่คี รถู ำมและ ในเรอื่ งท่ีครูถำม ในเรื่องทีค่ รถู ำม ตอบคำถำมถูกทุกขอ้ และตอบคำถำม เป็นบำงครงั้ และ ส่วนมำกถกู ตอบคำถำมถูก เปน็ บำงครง้ั ทำงำนสง่ ตำมเวลำที่ ทำงำนส่งตำม สง่ งำนช้ำและไม่ สง่ งำนช้ำและไม่ กำหนดและถูกต้อง เวลำทก่ี ำหนด ค่อยถกู ต้อง ถูกตอ้ ง ชัดเจน และส่วนใหญ่ ชดั เจน ถูกตอ้ ง ร่วมมอื และชว่ ยเหลือ รว่ มมือและ รว่ มมือและ ไมม่ ีควำมรว่ มมอื เพอ่ื นในกำรทำ ช่วยเหลอื เพ่ือน ชว่ ยเหลอื เพ่ือนใน ในขณะทำ กจิ กรรม เป็นสว่ นใหญใ่ น กำรทำกิจกรรม กิจกรรม กำรทำกิจกรรม เปน็ บำงครัง้
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง ความรู้และทกั ษะพน้ื ฐาน เฉพาะดา้ น
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ความรู้และทกั ษะพน้ื ฐานเฉพาะดา้ น รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี เรอ่ื ง วัสดแุ ละเคร่ืองมอื พืน้ ฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 3 ชวั่ โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ผู้สอน นางฐติ ยิ าภรณ์ ทวี 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และตัวช้ีวัด มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยี เพอื่ การดารงชวี ิตในสังคมท่ีมกี ารเปลีย่ นแปลง อยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่นื ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรอื พฒั นางานอย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ย่าง เหมาะสม โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และส่งิ แวดล้อม ตัวช้ีวัด ม.4/5 ใช้ความร้แู ละทกั ษะเกย่ี วกบั วัสดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื กลไก ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนกิ ส์ และเทคโนโลยีที่ซบั ซ้อนในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางาน ได้อย่างถกู ตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภยั 2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เรียง K P A) 2.1 นกั เรียนสามารถวิเคราะห์สมบัตขิ องวัสดุไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (K) 2.2 นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์และเลือกเครือ่ งมอื พ้ืนฐานได้อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสมและปลอดภยั (K) 2.3 นกั เรยี นสามารถออกแบบอปุ กรณใ์ นหอ้ งนา้ หรอื ห้องครัวสาหรับผูส้ ูงอายุได้ (P) 2.4 นักเรียนมคี วามรับผดิ ชอบงานท่ีได้รบั มอบหมาย (A) 3. สมรรถนะทสี่ าคัญ 3.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 3.2 ความสามารถในการคดิ 3.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 3.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (ตามหลกั สตู ร) 4.1 มวี ินัย 4.2 ใฝเ่ รยี นรู้ 4.3 มุ่งมั่นในการทางาน 5. สาระสาคญั วัสดมุ อี ยหู่ ลายประเภท แต่ละประเภทมีสมบัตทิ ่ีเหมอื นและแตกต่างกัน เราจงึ ตอ้ งเลอื กใช้วัสดุให้ เหมาะสมกบั การใช้งาน และต้องเลือกใชอ้ ุปกรณ์ เครอ่ื งมือในการปฏิบตั งิ านให้เหมาะสมกบั ลักษณะ ของงาน เชน่ การตดั และการเจาะ นอกจากน้ีผปู้ ฏิบัตงิ านตอ้ งมคี วามรู้เก่ยี วกับการใช้อุปกรณ์ เครื่องมอื เป็นอยา่ งดี เพื่อความปลอดภัยในการปฏบิ ตั งิ าน
6. สาระการเรยี นร/ู้ เน้อื หายอ่ ย 6.1 วัสดุ 6.2 เคร่อื งมือพ้นื ฐาน 6.3 การตัด ตอ่ และข้นึ รปู วสั ดุ 7. ภาระงาน/ชิ้นงาน 7.1 ใบงานที่ 2.1 ประเภทและสมบัติของวัสดุ 7.2 ใบงานท่ี 2.2 เคร่ืองมือพ้ืนฐานในการสรา้ งสิ่งของเครอ่ื งใช้ 7.3 งานนาเสนอการออกแบบอปุ กรณใ์ นหอ้ งนา้ หรอื ห้องครวั สาหรับผู้สูงอายุ 8. เกณฑก์ ารประเมิน (แนบทา้ ยแผน) 9. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่วั โมงที่ 6 9.1 ครผู ู้สอนแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรูใ้ ห้นักเรียนทราบ 9.2 ผู้เรยี นเขา้ ทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นใน Google Forms เรื่อง ความรู้และทักษะพื้นฐานเฉพาะดา้ น จานวน 20 ข้อ 9.3 ครูผู้สอนแสดงตวั อยา่ งวสั ดหุ รอื อุปกรณ์ใหผ้ เู้ รยี นศึกษา เชน่ พัดลม เตารีด กระติกน้า รอ้ น กระทะ คอมพิวเตอร์สว่ นบุคคล กลอ่ งที่ทา จากโลหะ กระจก จากนัน้ ครูผู้สอนต้ังคาถามเพือ่ ให้ผเู้ รียนอภิปราย เก่ยี วกับวสั ดุ อุปกรณ์ ในประเด็นดงั ต่อไปน้ี 1) อปุ กรณเ์ หล่าน้ีมีชิน้ ส่วนอะไรบา้ ง 2) แต่ละชนิ้ สว่ นทา จากวสั ดุอะไร วัสดดุ งั กล่าวมีสมบตั ิอย่างไร แนวคาตอบ 1) พดั ลม ประกอบด้วยใบพดั มอเตอร์ สวติ ชก์ ลไกการเปดิ -ปดิ และปรบั ระดบั ความแรง ของพัดลมและตัวเครอ่ื ง ซ่ึงวสั ดสุ ่วนมากที่นามาผลติ เปน็ พัดลม คอื พลาสติกที่มีความหนาแนน่ สงู เพราะ สามารถรบั แรงกระแทกได้ดี นา้ หนักเบา 2) กระทะ ประกอบด้วยตัวกระทะ และด้ามจับ โดยตัวกระทะทาจากเหล็ก สเตนเลส หรือ อะลูมเิ นียม ซ่งึ นาความรอ้ นได้ดที าใหอ้ าหารสกุ ได้ทัว่ ถงึ ในขณะที่ดา้ นจับทาจากฉนวนความรอ้ นเพือ่ ปอ้ งกนั ความร้อนมาสู่มือผูใ้ ชง้ าน 9.4 ครูผู้สอนใชค้ าถามชวนคดิ เพ่ือให้ผ้เู รียนรว่ มกันอภปิ ราย ดงั นี้ “ควรใช้วัสดุประเภทใดทีส่ ามารถ นามาผลติ เปน็ ผลิตภณั ฑท์ ่ีสามารถปอ้ งกันความร้อน เพอื่ ป้องกนั ความรอ้ นจากวัสดุมาสู่มอื และเพราะ เหตุใดจึงเลือกวสั ดุประเภทนนั้ ” แนวคาตอบ ผลติ ภัณฑท์ ส่ี ามารถป้องกนั ความรอ้ นได้ ควรเปน็ ผลิตภณั ฑ์ที่ผลติ มาจาก วสั ดปุ ระเภท กระเบ้ือง แกว้ ไม้ ผ้า หรือพลาสตกิ เพราะเป็นวสั ดทุ ่ีนาความร้อนได้ไมด่ ี หรือเรยี กวา่ ฉนวนความร้อน
9.5 ผู้เรยี นศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนงั สือเรียน สสวท. หรอื ในเว็บไซต์ http://gg.gg/DAT-M4 วชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 บทที่ 4 หวั ขอ้ เร่ือง วสั ดุ 9.6 ครูผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกับหัวขอ้ เร่ือง วัสดุ และสมบตั ิของวสั ดุ เพอื่ ตรวจสอบ ความรู้ ความเข้าใจ โดยให้นักเรยี นแสดงความคิดเห็น ครูแนะนาเพม่ิ เติม 9.6 ผู้เรยี นทาใบงานที่ 2.1 ประเภทและสมบัตขิ องวัสดุ ในโปรแกรม Google Doc เพ่อื ตรวจสอบ ความรู้ ความเขา้ ใจ 9.7 ผ้เู รียนส่งใบงานท่ี 2.1 ประเภทและสมบัตขิ องวัสดุ ในชน้ั เรยี น Google Classroom ชัว่ โมงที่ 7 9.8 ครูผู้สอนสอบถามนกั เรยี น เพอื่ ทบทวนความรู้ เร่ือง ประเภทวสั ดแุ ละสมบัตขิ องวัสดุ 9.9 ครูผู้สอนใช้คาถามชวนคดิ ดงั น้ี “ยกตวั อยา่ งชิ้นงานที่ประกอบดว้ ยวัสดปุ ระเภทเดียวกนั และ ชิ้นงานทป่ี ระกอบด้วยวัสดุตา่ งประเภท ประเภทละ 1 ชิ้น และเราสามารถใช้เคร่ืองมือใดบ้างในการสร้าง ช้ินงานเหล่านนั้ ” จากน้ันครูผสู้ อนสมุ่ ตัวแทนผู้เรยี นนาเสนอ และครูผูส้ อนนาอภปิ รายประเดน็ ในการสร้าง ชิ้นงานท่ีครูผสู้ อนเตรียมไว้ เช่น เกา้ อไ้ี ม้ แนวคาตอบ เก้าอ้ีไม้ เครื่องมือที่ใช้ ฉากเหล็ก คอ้ น ตะปู สวา่ น สกรู นอต เครือ่ งไสไม้ ไฟฟา้ ไม้บรรทัดเหล็ก 9.10 ผู้เรยี นศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้จากหนังสือเรียน สสวท. หรือในเวบ็ ไซต์ http://gg.gg/DAT-M4 วชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4 บทท่ี 4 หัวข้อเร่ือง เครอื่ งมอื พ้นื ฐาน 9.11 ครูผู้สอนและผเู้ รียนร่วมกนั อภปิ รายเก่ียวกบั หวั ขอ้ เร่ือง เครือ่ งมือพื้นฐาน เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจ โดยใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็น ครแู นะนาเพมิ่ เตมิ 9.12 ผเู้ รียนทาใบงานที่ 2.2 เครือ่ งมือพ้ืนฐานในการสรา้ งสิง่ ของเครอื่ งใช้ ในโปรแกรม Google Doc เพือ่ ตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจ 9.13 ผูเ้ รยี นส่งใบงานท่ี 2.2 เครอ่ื งมือพื้นฐานในการสร้างสิ่งของเครอ่ื งใช้ ในชัน้ เรียน Google Classroom ชั่วโมงท่ี 8 9.14 ผเู้ รยี นแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4-5 คน ทางานนาเสนอการออกแบบอปุ กรณ์ชว่ ยเหลือสาหรับ ผสู้ งู อายุหรอื สาหรบั เดก็ 9.15 ผู้เรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนองาน ครูผสู้ อนประเมินการนาเสนองานผเู้ รยี นแต่ละคน 9.16 ครผู ู้สอนและผเู้ รียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกบั หวั ขอ้ เร่ือง วัสดแุ ละเครื่องมอื พื้นฐาน เพ่อื ตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจ โดยให้นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ ครแู นะนาเพิ่มเตมิ 9.17 ครผู สู้ อนอภิปรายและสรปุ องค์ความรู้เรื่อง วัสดแุ ละเครือ่ งมือพ้ืนฐาน 10. สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 10.1 หนงั สือเรียน สสวท. วชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 10.2 เวบ็ ไซต์ http://gg.gg/DAT-M4 10.3 Google Doc
10.4 Google Slide 10.5 Google Classroom 10.6 Google Forms 11. การวัดและประเมนิ ผล 11.1 วิธกี าร 1) ทดสอบก่อนเรียน 2) ประเมนิ ช้ินงาน 3) สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 11.2 เครอ่ื งมอื 1) แบบทดสอบก่อนเรียน 2) แบบประเมนิ ชน้ิ งาน 3) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ 11.3 เกณฑ์การประเมิน 1) มผี ลการประเมนิ ชิ้นงานระดบั คณุ ภาพดี 2) มีพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑร์ ะดบั คณุ ภาพดี
แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง ความรู้และทักษะพ้ืนฐานเฉพาะดา้ น *********************** รายวชิ า ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 จานวน 20 ขอ้ 30 นาที ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดคอื วสั ดุทมี่ ีความยืดหยุน่ เมอื่ ออกแรงดงึ และกด 9. เป็นวสั ดทุ ม่ี ีความทนทานตอ่ การใช้งานทอี่ ุณหภมู สิ ูง ก. ยำง ข. โลหะ ไม่นาความร้อน ทนทานต่อการกัดกรอ่ น เปราะและแตกหกั ง่าย ค. เหล็ก ง. พลำสติก เป็นวัสดุผสมประเภทใด 2. ข้อใดเปน็ วสั ดุท่ีนาความรอ้ นได้ดี ก. วสั ดเุ ชงิ ประกอบพอลิเมอร์ ก. พอลิเมอร์ ข. เซรำมิก ข. วัสดุเชงิ ประกอบโลหะ ค. อะลูมเิ นยี ม ง. พลำสติก ค. วัสดุเชงิ ประกอบเซรำมิก 3. ขอ้ ใดไมใ่ ชโ่ ลหะประเภทเหลก็ ง. วสั ดเุ ชิงประกอบพลำสตกิ ก. เหลก็ หลอ่ ข. เหลก็ เหนียว 10. ข้อใดไม่ใช่เครื่องมอื สาหรับวดั ขนาด ค. เหลก็ กลำ้ ง. เหลก็ แท่ง ก. ไมโครมเิ ตอร์ ข. เวอร์เนียร์คำลเิ ปอร์ 4. โลหะที่ขึ้นรูปได้ง่าย มีความแข็งแรง ทนต่อการเกดิ สนิม ค. ใบวัดมมุ ง. เชือก และการกัดกรอ่ น 11. ข้อใดเปน็ ดอกสว่านสาหรบั เจาะเหลก็ ก. สังกะสี ข. ทองคำ ก. ค. อะลมู เิ นียม ง. ทองแดง ข. ค. 5. โลหะทม่ี ีนา้ หนกั เบา ง่ายตอ่ การเปล่ยี นแปลงรปู ร่าง นา ง. 12. ข้อใดเปน็ ดอกสว่านสาหรับเจาะกระเบ้ือง ไฟฟ้าและนาความรอ้ นไดด้ ี ก. สังกะสี ข. ทองคำ ค. อะลมู ิเนยี ม ง. ทองแดง 6. โลหะทองเหลือง ได้มาจากการผสมระหวา่ งโลหะชนิดใด ก. ก. ทองแดงและสงั กะสี ข. ข. ทองคำและอลูมเิ นียม ค. ค. อะลูมเิ นียมและทองแดง ง. ง. ทองคำและสงั กะสี 13. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การข้ึนรูปแบบเยน็ 7. ขอ้ ใดไมใ่ ชว่ ัสดปุ ระเภทเซรามิก ก. กำรดดั ข. กำรอดั รีด ก. กระจก ข. แก้วนำ ค. กำรบดิ งอ ง. กำรตีเหล็ก ค. เครอื่ งสขุ ภณั ฑ์ ง. สงั กะสี 14. เฟืองประเภทใดที่ใชส้ าหรับขับเคลอื่ นในรถแทรกเตอร์ 8. กระจกประเภทใดท่ีแข็งแรง เมื่อแตกจะกระจายออกเปน็ ก. เฟอื งตรง ข. เฟืองสะพำน เมด็ เล็กๆ คลา้ ยเม็ดข้าวโพดและมคี วามคมนอ้ ย ค. เฟืองวงแหวน ง. เฟืองดอกจอก ก. กระจกนริ ภยั ข. กระจกก่ึงนริ ภยั 15. เฟืองประเภทใดทน่ี ามาใชใ้ นระบบสง่ กาลงั ค. กระจกสะทอ้ นแสง ง. กระจกเงำ ก. เฟอื งตรง ข. เฟืองสะพำน ค. เฟอื งตัวหนอน ง. เฟืองวงแหวน
16. ภาพใดเป็นรอกเดีย่ วเคล่ือนท่ี 18. ขอ้ ใดไมใ่ ช่อุปกรณ์ทีใ่ ชม้ อเตอร์ไฟฟา้ กระแสสลับ ก. ก. เครื่องซกั ผำ้ ข. พดั ลมไฟฟ้ำ ข. ค. เคร่ืองป่ันนำผลไม้ ง. เตำอบไมโครเวฟ ค. 19. ข้อใดไม่ใชอ่ ปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ ง. ก. ตวั ต้ำนทำน ข. ตัวเกบ็ ประจุ ค. ไดโอด ง. เซ็นเซอร์ 20. จากภาพอปุ กรณ์ใดเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจบั เสียง ก. ข. 17. รอกชนิดใดท่ชี ่วยอานวยความสะดวกในการทางานแต่ ค. ไมช่ ่วยผ่อนแรง ก. ง. ข. ค. ง.
สือ่ การเรียนร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ บทเรียนออนไลน์ รายวิชา ว30115 การออกแบบและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 เว็บไซต์ http://gg.gg/ DAT-M4 ท่ีสร้างด้วย Google Sites สร้างโดย นางฐิติยาภรณ์ ทวี ***********************
ส่อื การเรียนรู/้ แหลง่ เรยี นรู้ หนงั สอื เรียน สสวท. วชิ า การออกแบบและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 ***********************
สอื่ การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ หอ้ งเรยี นสาหรบั ส่งงาน ทส่ี รา้ งด้วย Google Classroom ***********************
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198