แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ 32101 ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 กลมุ่ สาระ ภาษาตา่ งประเทศ จดั ทำโดย นางสาว วธญั ญา ฟองตา ตำแหน่ง นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตำบลช่างเคงิ่ อำเภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชยี งใหม่ สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สำนกั งานการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

ผงั มโนทัศน์ รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน รหสั วชิ า อ32101 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง How Often Do You Work Out? จำนวน 10 ชวั่ โมง : 10 คะแนน ชอ่ื เรือ่ ง New Language ชอ่ื เรอื่ ง Conversation จำนวน 2 ชัว่ โมง : 2 คะแนน จำนวน 2 ชวั่ โมง : 2 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง How Often Do You Work Out? จำนวน 10 ชวั่ โมง ชอื่ เรอ่ื ง Writing ชอ่ื เรื่อง Reading จำนวน 2 ชวั่ โมง : 2 คะแนน จำนวน 2 ช่ัวโมง : 2 คะแนน ชอ่ื เร่อื ง Grammar จำนวน 2 ชัว่ โมง : 2 คะแนน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง How Often Do You Work Out? รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1-5 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา (10 ชวั่ โมง) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนฟังข้อความเกี่ยวกับการทำงานบ้านช่วยเหลือพ่อแม่ พูดตอบ คำถามเก่ียวกับกิจกรรมยามว่างทชี่ อบและไมช่ อบทำ อา่ นบทอา่ นเกี่ยวกับประเภทของนักเรยี น และเขียนบรรยาย เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของตนเอง รวมทั้งหน้าท่ีภาษา โครงสร้างประโยค และไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ กิจกรรมการฟงั พูด อ่าน และเขยี นในหนว่ ยการเรยี นรูน้ ้ี 2. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้ีวดั สาระที่ 1 : ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรอื่ งท่ฟี งั และอา่ นจากสอ่ื ประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมเี หตุผล ม.3/4 เลือก/ระบุหวั ข้อเรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับเรื่องท่ี ฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทตา่ ง ๆ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอื่ สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเหน็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ม.3/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่ฟั ง หรอื อ่านอยา่ งเหมาะสม ม.3/5 พูดและเขียนบรรยายความรู้สึก และความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ กิจกรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู และการ เขยี น ม.3/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกับตนเองประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ /เรอ่ื ง/ ประเดน็ ต่าง ๆ ท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม

สาระท่ี 2 : ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ ได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะ ม.3/1 เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทาง เหมาะกับบุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทยและนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม ม.3/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่าง ๆ และการลำดับคำตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระท่ี 3 : ภาษากับความสมั พนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรอู้ นื่ มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ บั กล่มุ สาระการเรียนรอู้ น่ื และเปน็ พ้นื ฐานใน การพฒั นาแสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน ม.3 /1 ค้นคว้า รวบรวม และสรุปข้อมูล/ ข้อเท็จจริงท่เี กี่ยวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ืน่ จาก แหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน สาระที่ 4 : ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ม.3/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขน้ึ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชมุ ชนและ สังคม 3. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 4. ทกั ษะเฉพาะวิชา การฟงั : สรุปใจความสำคญั ระบขุ อ้ มูลเฉพาะจากการฟัง การพูด : พูดตอบคำถาม การอ่าน : ระบใุ จความสำคัญ การเขียน : เขียนบรรยาย

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง How Often Do You Work Out? รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง New Language ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งที่ตอ้ งรูแ้ ละปฏิบตั ิได้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวัดผลและประเมนิ ผล และตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม.3/4 ระบุใจความสำคัญจากการ คำตอบทีไ่ ดจ้ าก ประเมนิ ผลจากจำนวน อ่านและฟังข้อมูลเกี่ยวกับ การทำกจิ กรรม คำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้ สิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบ และ Language เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 70 ความถใ่ี นการทำสิ่งน้ัน ๆ Check 2. ความรู้ คำศัพท์ - extreme sports (n.): (กีฬาโลดโผนและเสีย่ งอันตราย) - hobby (n.): (งานอดิเรก) - motorcycle riding (n.): (การขบั ขี่มอเตอร์ไซค์) - social media (n.): (สงั คมออนไลน์) - bake (v.): (อบ) - exercise (v.): (ออกกำลังกาย) - jog (v.): (วิง่ เหยาะ ๆ) - work out (v.): (ออกกำลงั กาย) หนา้ ทภี่ าษา - To talk about how often one does everyday activities - To express likes and dislikes โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Frequency Adverbs and Expressions - Gerunds as Objects of Verbs

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรม New Language ( 2 ชว่ั โมง) 1. ขน้ั นำ (Warm up) - ครแู นะนำตัวเองและบอกข้อมูลเก่ียวกบั กจิ วตั รประจำวนั ความชอบหรอื ไมช่ อบ การใชเ้ วลาว่าง เป็นต้น เพอ่ื สร้างความคนุ้ เคยกับนกั เรียน เชน่ - I like watching movies on TV. - I hate cleaning the bathroom. - On Sunday, I usually go shopping. - ครูซักถามนักเรียนบางคน เพื่อเป็นตัวอยา่ งในการถาม-ตอบเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน ลักษณะนิสัยการ ใช้เวลาวา่ งและความสนใจ เชน่ - What do you usually do after school? - What do you like doing? 2. ขนั้ นำเสนอ (Presentation) แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ - ครูบอกนักเรียนว่า ในหน่วยการเรียนรู้นี้นักเรียนจะได้อ่านข้อความของบุคคลที่บอกความชอบหรือไม่ ชอบทำส่งิ ต่าง ๆ และความถท่ี ที่ ำส่งิ นั้น ๆ - ครูให้นักเรียนดูภาพกิจกรรม New Language ในหนังสือเรียน หน้า 2-3 แล้วครูซักถามความเห็นของ นักเรยี นเกีย่ วกบั ภาพ เช่น - Where is Hannah? - What is she doing? - ครูใชค้ ำถามถามนักเรียนทลี ะภาพ เพอื่ เปน็ การกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนได้แสดงความคิดเห็น 3. ข้นั ฝกึ (Practice) - ครูเปดิ ซีดบี นั ทึกเสยี ง CD 1 Track 2 คร้งั ที่ 1 นักเรียนฟังและช้ีท่ภี าพ - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 2 ครั้งที่ 2 ครูหยุดซีดีเมื่อจบแต่ละตอน ให้นักเรียนอ่านออกเสียง ตาม - ครูสุ่มนักเรียนอ่านข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลดัง ๆ และให้เพื่อนในชั้นเรียนบอกชื่อของบุคคลที่ทำกิจกรรม ตามท่ีอา่ น

4. ขน้ั นำไปใช้ (Production) - ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นข้อมูลของแตล่ ่ะบุคคลแล้วตอบคำถามกิจกรรม Language Check - นกั เรียนทำกจิ กรรม Language Check ในหนังสอื เรียน หน้า 3 5. ขั้นสรปุ (Wrap up) - ครูอ่านออกเสยี งประโยคทัง้ 6 ประโยคให้นักเรียนช่วยกันบอกคำตอบและตรวจสอบคำตอบดว้ ยตนเอง จนครบทกุ ขอ้ 4. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น New World 3 2. ซดี ีบนั ทึกเสียง 3. เครือ่ งเล่นซดี ี 4. Power Point 5. ประเมนิ ผล - ครูประเมนิ ความเข้าใจข้อความที่อ่านจากจำนวนคำตอบทถ่ี ูกต้องในการทำกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรยี น หน้า 3 โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 70

Language Check ________ Hannah never runs in the morning. ________ Ben often goes to the gym. ________ Emma enjoys exercising. ________ Claudia’s favorite hobby is tennis. ________ Noah is crazy about movies. ________ Becky seldom practices the guitar.

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง How Often Do You Work Out? รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง Conversation ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทต่ี อ้ งรูแ้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.3/4 ระบุใจความสำคัญและ คำตอบทไี่ ด้จากการ ประเมนิ ผลจากจำนวน รายละเอยี ดจากการฟัง คำตอบทีถ่ ูกต้อง โดยใช้ บทสัมภาษณน์ ักเรียน ทำกิจกรรม About เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 70 วยั รุ่นเก่ียวกบั the Conversation ชีวติ ประจำวนั ต 1.2 ม.3/5, พดู เรยี กความสนใจจาก ถอ้ ยคำพูดเรียกความ ประเมินการพูดโดยใช้ ต 4.1 ม.3/1 บุคคลดว้ ยภาษาของ สนใจจากบคุ คลในภาษา เกณฑ์การประเมนิ การ ชนชาติกลุ่มอาเซียน ของชนชาติกลมุ่ อาเซียน พูด และใชเ้ กณฑ์ผา่ น และนำเสนอโดยการพดู ระดบั พอใช้ 2. ความรู้ คำศัพท์ - early bird (n.): (คนทีต่ ื่นนอนแต่เชา้ ) - assignment (n.): (งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย) - hardworking (adj.): (ขยนั , พากเพยี ร) - participate (v.): (มสี ว่ นร่วม) - collect (v.): (สะสม, เก็บ) หนา้ ทภ่ี าษา - To talk about how often one does everyday activities โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Frequency Adverbs and Expressions - Gerunds as Objects of Verbs

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม Conversation ( 2 ชว่ั โมง) 1. ขั้นนำ (Warm up) - ครูถามคำถามนักเรยี นเกย่ี วกบั กจิ วตั รประจำวนั ดงั ตวั อย่างประโยคคำถามต่อไปนี้ และใหน้ ักเรียนตอบ - What time do you get up? - Do you have breakfast? - What do you eat? 2. ขั้นนำเสนอ (Presentation) - ครูใหน้ ักเรยี นดภู าพประกอบบทสนทนาและถามนกั เรียนเกีย่ วกบั ภาพ ดงั ตัวอย่างคำถามต่อไปน้ี - Where is the teen? - What is she doing? - What do you think that the teen likes? 3. ขั้นฝกึ (Practice) - ครูอธบิ ายว่า วยั รุ่นในภาพกำลงั ตอบคำถามการสำรวจ - ครเู ปิดซดี บี นั ทึกเสยี ง CD 1 Track 5 ในหนังสือเรียน หน้า 4 ใหน้ กั เรียนฟังโดยไม่เปิดหนังสอื เรียน และ ถามนักเรียนเกี่ยวกบั บทสนทนาทฟี่ งั - ครเู ปดิ ซดี ีบนั ทึกเสยี ง CD 1 Track 5 อีกครั้ง ให้นักเรยี นฟงั และอา่ นตามในใจ - ครูบอกใหน้ กั เรียนดกู จิ กรรม About the Conversation และอ่านคำถามดงั ๆ 4. ขั้นนำไปใช้ (Production) - ครใู ห้นักเรียนจบั คู่อา่ นบทสนทนาอีกคร้ังและช่วยกนั ตอบคำถาม 5. ขั้นสรุป (Wrap up) - ให้นำเสนอคำตอบในชั้นเรียน (ดูเฉลยท้ายเล่ม) ขณะอ่านบทสนทนาอาจมีนักเรียนบางคนไม่ทราบ ความหมายของคำศพั ทบ์ างคำ ให้ครอู ธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรยี นฟัง 4. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น New World 3 2. ซดี บี ันทกึ เสียง 3. เครอื่ งเลน่ ซดี ี 5. ประเมนิ ผล - ครปู ระเมนิ ความเข้าใจข้อความท่ีอ่านจากจำนวนคำตอบทถี่ ูกต้องในการทำกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรยี น หน้า 3 โดยใช้เกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 70

Conversation Reporter: Now, Laura, I'd like to ask you a few questions about your day, for the School Network. Laura: Well, I'm an early bird. I usually get up at six o'clock. I work out for half an hour. Then I take a shower, have breakfast, and ride the bus to school. What's your morning like? Reporter: What kind of student are you? Laura: I always do my assignments, and I study hard, especially before tests. I guess I'm hardworking.! Reporter: Do you normally get good grades? Laura: I usually get average grades. Reporter: What are you like in class? I mean, do you participate in class? Laura: Yes. I ask and answer questions, and I always pay attention in class. Reporter: And what do you do for fun? Laura: I enjoy collecting things: stuffed animals, rocks, old records, T-shirts with funny sayings ... stuff like that. About the Conversation Does Laura usually get up early? …………………………………………………………………………………………………………………………………….. How does she normally go to school? …………………………………………………………………………………………………………………………………….. What kind of student is Laura? …………………………………………………………………………………………………………………………………….. Does she participate? …………………………………………………………………………………………………………………………………….. What is her favorite hobby? ……………………………………………………………………………………………………………………………………..

เกณฑก์ ารประเมนิ การพดู ระดบั คะแนน นำ้ หนกั ความสำ ประเดน็ 432 1 คะแนน การประเมนิ คญั รวม - ส่ือสารได้ - ส่อื สารได้ - สือ่ สารได้ - สื่อสารไมค่ อ่ ย 2 8 ความถกู ตอ้ ง ตรงประเดน็ 2 8 ดา้ นเนอ้ื หา ตรงประเดน็ ตรงประเด็น ตรงประเด็นเป็น - เน้อื หาไมค่ ่อย ถูกต้อง 1 4 การออกเสยี ง - เนือ้ หาถกู ตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่ บางสว่ น การใชค้ ำศพั ท์ - ออกเสียง 5 20 สำนวน และ ตามหัวขอ้ ท่ี - เนือ้ หาถกู ต้อง - เนื้อหาถูกต้อง ไม่ถกู ตอ้ ง โครงสรา้ งภาษา กำหนด เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น - ใช้คำศพั ท์ ความสามารถ - ออกเสียง - ออกเสียง - ออกเสียง สำนวน และ ในการพดู โครงสร้างภาษา ถูกตอ้ ง ได้ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง แบบ ง่าย ๆ และ - ใช้คำศัพท์ เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น มีขอ้ ผดิ มาก สำนวน และ - ใช้คำศพั ท์ - ใชค้ ำศพั ท์ - พูดเหมอื น โครงสรา้ งภาษา สำนวน และ สำนวน และ ทอ่ งจำ - ประสาน ถกู ต้องและ โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา สายตากับผฟู้ ัง บา้ งเป็นระยะ เหมาะสม ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ น แบบ ใหญ่ งา่ ย ๆ และ มขี ้อผิดบ้าง - พดู ได้ - พูดได้ - พดู ได้ คล่องแคลว่ คลอ่ งแคล่ว คล่องแคล่ว แต่ - พูดเปน็ - พดู เป็น ไมเ่ ปน็ ธรรมชาติ ธรรมชาติ ธรรมชาติ - ประสาน - ประสาน - ประสาน สายตากับ ผู้ฟงั สายตากับผ้ฟู งั สายตากบั ผู้ฟัง น้อย - แสดงออกทาง - แสดงออกทาง สีหน้าและทา่ ทาง สีหนา้ และทา่ ทาง อย่างเหมาะสม บ้างเล็กน้อย รวม เกณฑก์ ารประเมนิ ดีมาก 16-20 คะแนน ดี 13-15 คะแนน พอใช้ 10-12 คะแนน ควรปรบั ปรงุ น้อยกวา่ 10 คะแนน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง How Often Do You Work Out? รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง Grammar ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เวลา (2 ชวั่ โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรยี นร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทต่ี อ้ งรู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชนิ้ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชวี้ ดั เขยี นประโยคให้ข้อมลู ผลงานเขยี นใหข้ ้อมลู ประเมินการเขียนประโยค ต 1.2 ม.3/4, เก่ียวกบั ความถ่ีของ เกีย่ วกบั ความถข่ี อง ใหข้ อ้ มูล โดยใชเ้ กณฑ์การ ต 2.2 ม.3/1 กจิ กรรมท่ีทำ กิจกรรมท่ีทำ ประเมินการเขียน และใช้ เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ 2. ความรู้ (เสมอ, ตลอดเวลา) คำศัพท์ (ปกต,ิ สว่ นมาก) - always (adv.): - usually (adv.): - never (adv.): (ไม่เคย) - rarely (adv.): (นาน ๆ คร้ัง) - seldom (adv.): (แทบจะไม่) - sometimes (adv.): (บางคร้งั ) หนา้ ทภี่ าษา - To talk about how often one does everyday activities - To express likes and dislikes โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Frequency Adverbs and Expressions - Gerunds as Objects of Verbs 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม Grammar ( 2 ชวั่ โมง) 1. ขน้ั นำ (Warm up) - ครซู ักถามเกี่ยวกับกิจวตั รประจำวันของนักเรียนด้วยคำถาม How often …? เชน่ - How often do you study English in a week? (Three times a week.)

2. ขน้ั นำเสนอ (Presentation) - ครูบอกนักเรียนว่านักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้ Frequency Adverbs and Expressions และ การใช้ Gerunds as Objects of Verbs เพ่ือนำไปเขียนขอและใหข้ ้อมลู เกี่ยวกับความถี่ของกิจกรรมท่ีทำ และการบอกสิง่ ที่ชอบและไมช่ อบทำ - ครูให้นักเรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รื่อง Frequency Adverbs and Expressions พร้อมบันทกึ ลงในสมุด 3. ขั้นฝึก (Practice) - ครเู ขยี นประโยคตัวอย่างเกย่ี วกบั กจิ วัตรประจำวนั ท่มี ีการใช้ Frequency Adverbs บนกระดาน เชน่ - I often go shopping on Saturday morning. - My mother sometimes watches tennis on TV. - My brother never gets up early on Sundays. 4. ขัน้ นำไปใช้ (Production) - ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม Grammar B ในหนังสือเรียน หน้า 6 โดยให้นักเรียนดูข้อที่ 1 เป็นตัวอย่าง และใหแ้ ต่ละคนทำข้อทีเ่ หลือ 5. ขั้นสรปุ (Wrap up) - ครูตรวจคำตอบของนักเรียน โดยสุ่มนักเรียนบางคนออกมาเขียนประโยคเกี่ยวกับตัวเอง โดยใช้ Frequency Adverbs and Expressions 4. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน New World 3 2. Power Point 3. ใบความรู้ Frequency Adverbs and Expressions 5. ประเมนิ ผล - ครูประเมินการเขียนประโยคให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบทำในยามว่าง โดยใช้เกณฑ์การ ประเมินการเขียน และใช้เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้

คำกริยาวเิ ศษณ์บอกความถี่ (Adverbs of frequency) คือ คำทีใ่ ชบ้ อกความถ่ขี องเหตุการณห์ รอื การกระทำตา่ ง ๆ วา่ มมี ากน้อยขนาดไหน แบ่งเปน็ 2 กลุ่ม 1. Adverb of Indefinite Frequency (กรยิ าวเิ ศษณบ์ อกความถไี่ มช่ ดั เจน) จะบอกความถีค่ รา่ ว ๆ วา่ เหตกุ ารณห์ รอื การกระทำนน้ั เกดิ ขนึ้ บอ่ ยแคไ่ หน ซง่ึ แตล่ ะคำจะมรี ะดบั ความถ่ี % Adverbs of frequency ความหมาย 100% always เสมอ 90% usually ปกติ 80% normally / generally โดยท่วั ไป 70 % often / frequently บอ่ ย ๆ 50% sometimes บางครัง้ 30% occasionally บางโอกาส 10% seldom นาน ๆ ครง้ั 5% hardly ever / rarely แทบจะไมเ่ คย/แทบจะไม่ 0% never ไม่เคย ตำแหนง่ ของ Adverb of Indefinite Frequency จะแทรกตวั อยตู่ ามกลุ่มกรยิ า ดงั น้ี 1.1 คำบอกความถอี่ ยหู่ นา้ กรยิ าหลกั (ยกเวน้ กรยิ าหลักคอื Verb to be) Subject + Adverb of Indefinite Frequency + Main verb I always get up early. (ฉนั ตน่ื แตเ่ ช้าเสมอ) 1.2 Verb to be เปน็ กรยิ าหลกั จะวางคำบอกความถไ่ี วห้ ลงั Verb to be Subject + Verb to be + Adverb of Indefinite Frequency I am never late for work. (ฉนั ไม่เคยทำงานชา้ ) 1.3ถา้ ในประโยคมกี รยิ าชว่ ย (have, will, must, might, could, would, can, etc.) คำบอกความถจี่ ะ อยรู่ ะหวา่ งกรยิ าชว่ ยกบั กริยาหลัก Subject + Auxiliary verb + Adverb of Indefinite Frequency + main verb She has often gone on vacation in summer. (เธอไปพกั ร้อนในฤดูร้อนบ่อย ๆ)

ขอ้ สงั เกตการใช้ Adverb of Indefinite Frequency Adverb บางคำสามารถอยตู่ น้ ประโยคหรอื ทา้ ยประโยคกไ็ ด้ ไดแ้ ก่ occasionally, sometimes, usually, normally, often Sometimes Chana is late. หรือ Chana is late sometimes. (ชนะสายเป็นบางครงั้ ) Adverb บางคำอยตู่ น้ ประโยคไมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ always, rarely, seldom, hardly ever, never Correct: Manee hardly ever gets up before noon. Incorrect: Hardly ever Manee gets up before noon. 3. Adverb บางคำไม่ใชใ้ นประโยคปฏเิ สธ ไดแ้ ก่ rarely, seldom, never เนอื่ งจากมีความถชี่ า้ มาก Correct: Pete seldom helps his mother in the kitchen. Incorrect: Pete doesn’t seldom helps his mother in the kitchen. 2. Adverb of Definite Frequency (กรยิ าวเิ ศษณบ์ อกความถชี่ ดั เจน) จะบอกชดั เจนเลยวา่ เหตกุ ารณห์ รอื การ กระทำนนั้ มคี วามถคี่ วามบอ่ ยแค่ไหน เชน่ hourly = ทกุ ชวั่ โมง daily = ทุกวนั weekly = ทกุ สปั ดาห์ monthly = ทกุ เดอื น annually = ทุกปี yearly = ทกุ ปี, ประจำปี every day = แต่ละวัน, ทกุ วนั every week = ทกุ สัปดาห์ every month = ทุกเดอื น every year = ทุกปี once a day = วนั ละคร้ัง once a month = เดือนละคร้ัง twice a year = ปลี ะสองครง้ั four times a day = สค่ี ร้ังตอ่ วัน every other day = วนั เวน้ วนั every other week = สัปดาห์เวน้ สัปดาห์ ตำแหนง่ ของ Adverb of Definite Frequency จะอยตู่ น้ ประโยคหรอื ทา้ ยประโยคเทา่ น้นั และถา้ อยตู่ น้ ประโยค จะตอ้ งตามดว้ ยเครอื่ งหมาย comma (,) Every year, we celebrate Christmas. We celebrate Christmas every year. (พวกเราฉลองครสิ ต์มาสทกุ ปี) เพมิ่ เตมิ : คำกริยาวิเศษณ์ท่ลี งทา้ ย -ly สามารถทำหนา้ ท่ีเป็น adjective ไดด้ ว้ ย เช่น ‘yearly meetings.’ (การ ประชุมประจำปี), ‘monthly report’ ( รายงานประจำเดือน), ‘hourly updates’ (อัพเดททุกชวั่ โมง)

B Make sentences about yourself. Use frequency adverbs and expressions. 1. sleep/ a day I usually sleep eight hours a day. 2. do homework / right after school ________________________________________ 3. talk on the phone ________________________________________ 4.wacth television / after dinner ________________________________________ 5. exercise / in the afternoon ________________________________________ 6. hang out with friend / on the weekend ________________________________________

เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี น ระดบั คะแนน 4 3 2 1 นำ้ หนกั คะแนน ประเดน็ ความสำ รวม การประเมนิ เขียนโดยใช้ เขยี นโดยใช้ เขียนโดยใช้ เขียนโดยใช้ 8 โครงสร้าง โครงสร้าง โครงสรา้ ง โครงสร้าง คญั โครงสรา้ งทาง ไวยากรณ์ได้ ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ 2 4 ไวยากรณ์ ถกู ต้อง ผดิ พลาดเล็กน้อย ผดิ พลาด ผิดพลาด ทุกประโยค หลายแห่ง เกนิ ครึ่งหนึ่ง 1 4 การสะกดคำ สะกดคำและ ของงานเขียน และการใช้ สะกดคำและ ใช้เครอ่ื งหมาย สะกดคำและ สะกดคำและ 1 8 เครอ่ื งหมายวรรค ใชเ้ ครื่องหมาย วรรคตอน ใช้เครอ่ื งหมาย ใช้เครือ่ งหมาย วรรคตอน ผดิ พลาดเลก็ นอ้ ย วรรคตอน วรรคตอน 2 24 ตอน ถกู ต้องท้งั หมด ผิดพลาด ผิดพลาด ใช้คำศัพทแ์ ละ หลายแห่ง เกินคร่ึงหนง่ึ 6 การใชค้ ำศพั ท์ ใชค้ ำศพั ท์ สำนวน ของงานเขียน และสำนวน เหมาะสม มีปญั หาอยูบ่ ้าง ใช้คำศัพท์ การนำเสนอ เหมาะสม แต่อา่ นแล้ว ในการใช้คำศพั ท์ และสำนวน เนอ้ื หา อา่ นแลว้ เข้าใจ ไม่เขา้ ใจ และสำนวน ผดิ พลาด ชดั เจนทง้ั หมด บางแหง่ อา่ นแลว้ ไมเ่ ข้าใจ หลายแห่ง เขียนไดค้ อ่ นขา้ ง หลายแห่ง อ่านแลว้ ไมเ่ ข้าใจ เขียนไดต้ รง ตรงประเดน็ เป็นสว่ นมาก ประเด็น ตามท่ีกำหนด เขยี นไม่ค่อย เขียนไมต่ รง ตามที่กำหนด และเรยี บเรียง ตรงประเดน็ ประเดน็ และเรยี บเรยี ง เน้ือหาได้ ตามท่ีกำหนด ตามทีก่ ำหนด เนื้อหาตามลำดบั คอ่ นขา้ ง และเรียบเรียง และเรียบเรยี ง เหมาะสม เหมาะสม เนื้อหาไมค่ อ่ ย เนื้อหาไมเ่ ป็นไป เหมาะสม ตามลำดับ รวม เท่าท่ีควร เกณฑก์ ารประเมนิ ดีมาก 16-20 คะแนน ดี 13-15 คะแนน พอใช้ 10-12 คะแนน ควร น้อยกวา่ 10 คะแนน ปรับปรุง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง How Often Do You Work Out? รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 เรอ่ื ง Writing ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา (2 ชวั่ โมง) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรยี นร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทตี่ อ้ งรู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชนิ้ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั เขยี นบรรยายเกยี่ วกบั ผลงานเขยี นบรรยาย ประเมนิ การเขียน ต 1.3 ม.3/1 กิจวัตรประจำวนั ของ ตนเอง เกยี่ วกบั กิจวัตรประจำวัน บรรยาย โดยใชเ้ กณฑ์ ของตนเอง การประเมินการเขียน และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดบั พอใช้ 2. ความรู้ คำศัพท์ - หนา้ ทภ่ี าษา - To write about typical day โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Frequency Adverbs and Expressions 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม Writing ( 2 ชวั่ โมง) 1. ขั้นนำ (Warm up) - ครถู ามคำถามนกั เรียนเกี่ยวกับชวี ิตประจำวนั ดังตัวอยา่ งประโยคต่อไปนี้ - What do you do every day? - Do you usually get up early or late? - How often do you watch movies? - How do you usually go to school? - What do you do before you go to bed?

2. ขัน้ นำเสนอ (Presentation) - ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั บอกกฎการใช้ Frequency Adverbs and Expressions เพือ่ สรา้ งความมัน่ ใจ ในการเขียนประโยคเกี่ยวกับกจิ วัตรประจำวันของตนเอง 3. ขั้นฝึก (Practice) - ครูให้นักเรียนอ่านคำสัง่ ในกิจกรรม Writing ในหนังสือเรียน หน้า 6 และให้นักเรยี นชว่ ยกันบอกกิจวตั ร ประจำวนั มา คนละ 1 อย่าง ครูเขียนคำท่นี ักเรียนบอกบนกระดาน เชน่ - get up - start school - have breakfast - study many subjects - go to school - hang out with friends - meet friends - go to bed 4. ขั้นนำไปใช้ (Production) - ครูใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคปากเปล่า โดยใชค้ ำ/กลุม่ คำบนกระดาน และใหใ้ ช้ Frequency Adverbs ใน ประโยคดว้ ย - ครใู หน้ ักเรยี นแต่ละคนเขียนเก่ียวกับกจิ วัตรประจำวนั ของตนเอง 1 ย่อหนา้ ดงั ตวั อยา่ ง My Typical Day My typical day is a school day. I get up at six o’clock. I never get up late. Then I take a shower. After that, I eat breakfast. I usually have a yogurt and fruit. Then I walk to school. It takes me ten minutes. I usually meet some friends along the way, and we talk about school, music and sports. I start school at eight. I have math and science in the morning, and I have English, history, art and computer in the afternoon. My favorite class is English. After school, I have soccer practice three days a week. The other day I hang out with friends. I get home at four and I usually do my homework. I help make supper and clean up. After supper, I usually go on the computer or watch TV or both. I go to bed early on school night so that I am ready for the next day. 5. ขั้นสรุป (Wrap up) - ครูให้นักเรียนจับคู่ตรวจสอบงานเขียนของแต่ละคน โดยให้เพื่อนตรวจดูความถูกต้อง แล้วนำกลับมา ปรบั แก้ใหม่ - ครูใหท้ ุกคนนำผลงานเขียนบรรยายกิจวัตรประจำวนั ของตนเองทป่ี รับแก้เรยี บร้อยแล้ว ติดบนปา้ ยนิเทศ ในห้องเรยี น

4. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน New World 5. ประเมนิ ผล - ครูประเมินการพูดตอบคำถามเกี่ยวกับกิจกรรมยามว่างที่ชอบและไม่ชอบทำของตนเอง โดยใช้เกณฑ์ การประเมิน การพูด และใช้เกณฑผ์ า่ นระดบั พอใช้

Writing Writing about your typical day. ……………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี น ระดบั คะแนน 4 32 1 นำ้ หนกั คะแนน ประเดน็ ความสำ รวม การประเมนิ เขยี นโดยใช้ เขยี นโดยใช้ เขยี นโดยใช้ เขียนโดยใช้ 8 โครงสร้าง โครงสรา้ ง คญั โครงสรา้ งทาง ไวยากรณไ์ ด้ โครงสรา้ ง โครงสร้าง ไวยากรณ์ 2 4 ไวยากรณ์ ถูกต้อง ผิดพลาด ทุกประโยค ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ เกินคร่งึ หนึ่ง 1 4 การสะกดคำ ของงานเขยี น และการใช้ สะกดคำและ ผดิ พลาดเลก็ นอ้ ย ผดิ พลาด สะกดคำและ 1 8 เครอื่ งหมายวรรค ใช้เคร่อื งหมาย ใชเ้ ครอื่ งหมาย วรรคตอน หลายแห่ง วรรคตอน 2 24 ตอน ถกู ต้องทัง้ หมด ผดิ พลาด สะกดคำและ สะกดคำและ เกินครง่ึ หนงึ่ 6 การใชค้ ำศพั ท์ ใช้คำศพั ท์ ของงานเขียน และสำนวน ใช้เคร่ืองหมาย ใช้เคร่อื งหมาย ใช้คำศพั ท์ การนำเสนอ เหมาะสม และสำนวน เนอื้ หา อา่ นแล้วเข้าใจ วรรคตอน วรรคตอน ผดิ พลาด ชัดเจนทงั้ หมด หลายแห่ง ผดิ พลาดเล็กนอ้ ย ผิดพลาด อา่ นแลว้ ไมเ่ ข้าใจ เขยี นไดต้ รง เปน็ สว่ นมาก ประเดน็ หลายแหง่ เขยี นไมต่ รง ตามทก่ี ำหนด ประเด็น และเรยี บเรยี ง ใชค้ ำศพั ท์และ มปี ญั หาอยบู่ ้าง ตามท่ีกำหนด เนอื้ หาตามลำดับ สำนวน ในการใช้คำศัพท์ และเรียบเรยี ง เหมาะสม เหมาะสม และสำนวน เนอื้ หาไมเ่ ปน็ ไป แต่อา่ นแลว้ อ่านแล้วไมเ่ ข้าใจ ตามลำดบั ไม่เข้าใจ หลายแหง่ บางแห่ง เขียนไดค้ ่อนข้าง เขียนไมค่ อ่ ย ตรงประเด็น ตรงประเดน็ ตามที่กำหนด ตามทก่ี ำหนด และเรียบเรยี ง และเรยี บเรียง เนือ้ หาได้ เนือ้ หาไม่คอ่ ย ค่อนข้าง เหมาะสม เหมาะสม เท่าท่คี วร รวม เกณฑก์ ารประเมนิ 5-6 คะแนน ดีมาก 4-3 คะแนน ปานกลาง 2-1 คะแนนปรบั ปรุง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง How Often Do You Work Out? รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ ง Reading ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ทต่ี อ้ งรู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ม.3/4 ระบใุ จความสำคญั จาก คำตอบที่ได้จากการ ประเมินผลการอ่านและ บทอ่านเกยี่ วกบั ประเภท ทำกิจกรรม About ระบใุ จความสำคัญ จาก the Reading จำนวนคำตอบที่ถูกต้อง ของนักเรียน โดยใช้เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60 2. ความรู้ (ขาดความรับผิดชอบ) คำศัพท์ irresponsible (adj.): - deadline (n.): (กำหนดเวลาในการทำงาน) หนา้ ทภี่ าษา - To talk about how often one does everyday activities โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Frequency Adverbs and Expressions 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม Reading ( 2 ชว่ั โมง) 1. ขัน้ นำ (Warm up) - ครูถามคำถามเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของนักเรียนในโรงเรียน ดังตัวอย่าง ประโยคคำถามต่อไปนี้ - Are you good students? - Do you like to study all the time? - Have you got good grades? - Do you love going to school?

- What kind of student are you? 2. ข้นั นำเสนอ (Presentation) - ครูถาม What kind of student are you? และให้นักเรียนตอบ ครูเขียนประโยคที่นักเรียนตอบบน กระดาน เช่น - I am a good student. - I am very good at computer. - I am a lazy student. 3. ข้ันฝกึ (Practice) 1. ใชเ้ ทคนคิ การอ่านกวาดสายตาเพื่อหาข้อมลู เฉพาะ (Scanning) - ครูให้นักเรยี นทกุ คนอา่ นกวาดสายตาเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะภายใน 2-3 นาที 2. อา่ นจบั ใจความ - ครูเปดิ ซีดบี นั ทกึ เสยี ง CD 1 Track 7 นกั เรียนฟงั อยา่ งตงั้ ใจและสรุปเร่ืองที่ฟงั โดยใชค้ ำพูดของนักเรียน เอง ไมเ่ นน้ ถกู ผดิ แตค่ รพู ยายามฝกึ ให้นักเรียนคิดและตอบคำถาม 4. ขัน้ นำไปใช้ (Production) - ครูให้นักเรียนอ่านบทอ่านอีกครั้ง และทำกิจกรรม About the Reading ตามรายละเอียดในบทอ่าน และเขียนคำตอบในสมุด 5. ขั้นสรปุ (Wrap up) - ครตู รวจสอบคำตอบโดยอ่านประโยคดงั ๆ และใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบตามทีไ่ ดเ้ ขยี นไว้แล้วในสมดุ (ดูเฉลยทา้ ยเลม่ ) ครูให้นกั เรียนแกไ้ ขประโยคทผี่ ดิ อกี คร้ัง - ครูให้นักเรียนอ่านบทอ่านอีกครั้งและขีดเส้นใต้คำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ครูฝึกให้นักเรียนเดาหรือทาย ความหมายของคำศัพทจ์ ากบรบิ ทที่อ่านหรอื อาจใช้พจนานกุ รมก็ได้ 4. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน New World 3 หน้า 7 2. หนงั สือแบบฝึกหัด New World 3 หน้า 4 3. ซดี ีบันทกึ เสียง 4. เครื่องเลน่ ซดี ี 5. ประเมนิ ผล - ครปู ระเมินผลการอา่ นบทอ่านและระบุใจความสำคัญของบทอา่ น จากจำนวนประโยคทถ่ี ูกต้องในการ ทำกจิ กรรม About the Reading โดยใชเ้ กณฑ์ผ่านร้อยละ 60

Reading What kind of Student Are You? Students can be divided into various categories. See which one(s) you fit into. The Know-It-All: These students think they know everything. They always answer the teacher's questions, and they never will admit that they're wrong. The Teacher's Pet: This kind of student sits in front of the class, pays attention to everything the teacher says, usually raises his/her hand to answer questions, and is always near the teacher. The Hardworking Type: This student takes notes in class, reviews material at home, always does homework, and gets good grades. The Lazy Type: These students are irresponsible. They sometimes fall asleep in class, study little, and hardly ever do homework. Their grades are always bad. The Friendly Type: This student is popular with all the classmates. He/she usually copies homework from other students' notebooks and always asks for help during tests. The Firefighter: These students are always in a hurry. They usually study for tests or exams the night before, and they do their homework and assignments just before the deadline. The Talker: This student doesn't stop talking in class and never listens to what the teacher is saying. The Poor Student: This student studies really hard, does homework, but always gets poor grades. The Average Guy: This student pays attention in class, does homework, and studies enough to get passing grades. The Comedian: Every class has one. These students love to - laugh at their own jokes—and sometimes others do too. About the reading Answer true or false. _______ The lazy student often gets good grades. _______ The teacher’s pet seldom sits at the back. _______ The talk usually listens to the teacher. _______ The hard worker always does assignments.

เฉลย Language Check ____F____ Hannah never runs in the morning. ____T____ Ben often goes to the gym. ____F____ Emma enjoys exercising. ____F____ Claudia’s favorite hobby is tennis. ____T____ Noah is crazy about movies. ____F____ Becky seldom practices the guitar. เฉลย About the Conversation 1. Yes, she does. 2. She rides the bus to school. 3. She is a hardworking student. 4. Yes, she does. 5. She enjoys collecting things like stuffed animals, rocks, old records, T-shirts with funny saying เฉลย B Make sentences about yourself. Use frequency adverbs and expressions. 1. sleep/ a day I usually sleep eight hours a day. 2. do homework / right after school Answers will vary. 3. talk on the phone Answers will vary. 4.wacth television / after dinner Answers will vary. 5. exercise / in the afternoon Answers will vary. 6. hang out with friend / on the weekend Answers will vary. เฉลย About the Reading ___F____ The lazy student often gets good grades. ___T____ The teacher’s pet seldom sits at the back. ___F____ The talk usually listens to the teacher. ___T____ The hard worker always does assignments.

แบบบนั ทกึ หลังสอน ผลการจดั การเรียนรู้ (Learning Outcome) ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................................................... ..... .................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ............................................................................. ................................................................................................................................................... ................................. .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. ปญั หา ( Problems) ถ้ามี (Optional) ............................................................................................................................. ....................................................... ...................................................................................................................................................................... .............. .................................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................... ......................................................... .......................................................................................................................................... .......................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................... .................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ (Suggestions) ถ้ามี (Optional) ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................................... ..................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................... ................................................. .................................................................................................................................................................................... .......................................................................................................... ........................................................................ ลงชื่อ…………………………………..….…. ( นางสาว วธัญญา ฟองตา) นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู วนั ท.่ี .....เดอื น..................พ.ศ............

ความคดิ เหน็ ของครพู เี่ ล้ียง .................................................................................................................................................................... ................ .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................. ................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................ ........................................................ ..................................................................................................................................... .............................................. ลงช่ือ ......................................................ผูต้ รวจ (นายชาญยุทธ สทุ ธิธรานนท)์ ครพู ีเ่ ลีย้ ง วันท่ี ....../ ........... / ............. ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ าร ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................................... ......................................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ........................................................ (นางวิลาวลั ย์ ปาลี) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 วนั ท่ี ....../ ........... /………..

ผงั มโนทศั น์ รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน รหสั วชิ า อ32101 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง Don’t Worry! Be Happy. จำนวน 10 ชว่ั โมง : 10 คะแนน ชอ่ื เรอื่ ง New Language ชอ่ื เรือ่ ง Grammar จำนวน 2 ชว่ั โมง : 2 คะแนน จำนวน 2 ชั่วโมง : 2 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง Don’t Worry! Be Happy. จำนวน 10 ชวั่ โมง ชอื่ เร่ือง Writing ชอ่ื เรือ่ ง Reading จำนวน 2 ช่วั โมง : 2 คะแนน จำนวน 2 ช่วั โมง : 2 คะแนน ชอื่ เรื่อง Conversation จำนวน 2 ชั่วโมง : 2 คะแนน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง Don’t Worry! Be Happy. รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1-5 ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา (10 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนฟังข้อความที่แสดงอารมณ์และความรู้สึกของบุคคล พูดถามและ บอกสาเหตทุ ี่มาของอารมณแ์ ละความรูส้ ึก อ่านบทอา่ นเก่ยี วกับสตั ว์ และเขยี นบรรยายสิ่งท่ีทำให้ตนเกิดความรู้สึก หรืออารมณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งให้เหตุผล รวมทั้งหน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค และไวยากรณ์ที่เป็นพื้นฐานของ กจิ กรรมการฟงั พูด อ่าน และเขยี นในหน่วยการเรียนรู้น้ี 2.สาระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั สาระท่ี 1 : ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองทฟ่ี งั และอา่ นจากส่ือประเภทตา่ ง ๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมเี หตผุ ล ม.3/4 ตอบคำถามจากการฟงั หรือ อ่านประโยค บทสนทนา หรอื นิทานง่าย ๆ มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรสู้ กึ และความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ม.3/1 พดู โตต้ อบดว้ ยคำสนั้ ๆ งา่ ย ๆ ในการส่ือสารระหวา่ งบคุ คลตามแบบที่ฟัง ม.3/2 ใชค้ ำสง่ั และคำขอรอ้ งง่าย ๆ ตามแบบท่ีฟงั ม.3/3 บอกความตอ้ งการง่าย ๆ ของตนเองตามแบบที่ฟงั ม.3/5 บอกความรูส้ ึกของตนเองเกย่ี วกับสง่ิ ต่าง ๆ ใกล้ตัวหรอื กิจกรรมตา่ ง ๆ ตามแบบทฟ่ี งั มาตรฐานต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสารความคดิ รวบยอดและความคิดเหน็ ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ โดยการพูดและการเขียน ม.3/1 พดู ให้ข้อมูลเก่ียวกบั ตนเอง และเร่อื งใกลต้ วั สาระที่ 2 : ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม กบั กาลเทศะ ม.3/1 พูดและทำทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คม/ วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

สาระที่ 3 : ภาษากบั ความสมั พันธ์กับกล่มุ สาระการเรยี นร้อู ่ืน มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในการเชอื่ มโยงความรูก้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ น่ื และเปน็ พนื้ ฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน ม.3/1 บอกคำศัพท์ท่เี กยี่ วข้องกบั กล่มุ สาระการเรยี นรู้อื่น สาระที่ 4 : ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชนและสังคม ม.3/1 ฟงั /พดู ในสถานการณ์ง่าย ๆ ท่เี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน 3. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. ทกั ษะเฉพาะวชิ า การฟัง : สรปุ ใจความสำคญั การพูด : พูดแสดงความรู้สึก การอ่าน : ระบใุ จความสำคัญ การเขียน : เขยี นบรรยายความรสู้ ึกพรอ้ มท้งั ให้เหตผุ ล

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง Don’t Worry! Be Happy. รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอ่ื ง New Language ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั ระบใุ จความสำคัญจาก คำตอบทไี่ ด้จากการ ประเมนิ ผลความเข้าใจ ต 1.1 ม.3/4 บทสนทนาที่อ่านจาก จำนวนคำตอบท่ีถูกต้อง บทสนทนาท่ีอา่ น ทำกจิ กรรม Language โดยใชเ้ กณฑผ์ ่านร้อยละ 70 Check 2. ความรู้ คำศพั ท์ - sleepy (adj.): (งว่ งนอน) - tired (adj.): (เหนือ่ ย, ออ่ นล้า) - bored (adj.): (เบอื่ หนา่ ย) - laugh (v.): (หวั เราะ) - funny (adj.): (นา่ ขบขัน, ตลก) - angry (adj.): (โกรธ, โมโห) - happy (adj.): (มีความสขุ , อารมณ์ดี) - sad (adj.): (เศร้า, ไม่มีความสขุ ) - lonely (adj.): (เหงา, โดดเด่ียว) - frightened (adj.): (ตกใจ, กลัว) - nervous (adj.): (กระวนกระวาย, เป็นประสาท) - afraid of (adj.): (กลวั ) หนา้ ทภี่ าษา - To talk about emotions - To make suggestions - To give reasons

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Negative Questions with Why - Why? / Because 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรม New Language ( 2 ชว่ั โมง) 1. ขนั้ นำ (Warm up) - ครูทกั ทายนักเรียน ถามสารทกุ ขส์ ุกดบิ และโยงเข้าสู่คำคุณศัพท์ท่บี อกอารมณ์และความรสู้ ึก พรอ้ มถาม สาเหตุทีม่ าของอารมณน์ นั้ ๆ เชน่ T: How are you today? S: I am happy. T: Why are you happy? S: Because it’s my birthday. 2. ขั้นนำเสนอ (Presentation) - ครใู ห้นกั เรียนเปิดหนังสอื และดูภาพในกจิ กรรม New Language ในหนงั สือเรยี น หนา้ 8-9 ครถู ามคำถามเกีย่ วกบั ภาพ โดยใชค้ ำถามดงั นี้ - What is happening in this picture? - How do you think he / she feels? - Why? - ครูอา่ นออกเสียงคำถามที่อยูต่ อนบนของหนังสอื เรียน หน้า 8 ในกิจกรรม New Language - Which emotions are you feeling now? - ครบู อกนกั เรยี นวา่ นกั เรยี นจะไดอ้ ่านบทสนทนาโต้ตอบส้ัน ๆ เกย่ี วกบั การถามเหตุผลและสาเหตุทีก่ อ่ ให้เกิด อารมณ์ 3. ข้นั ฝึก (Practice) - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 8 ให้นักเรียนฟังคำพูดโต้ตอบแต่ละตอนและชี้ไปที่ภาพ ครูบอกให้ นกั เรยี นขีดเส้นใต้คำคุณศพั ท์ทีบ่ อกอารมณ์ในแต่ละคำพดู - ครูให้นักเรียนบอกคำศัพท์ที่ตนขีดเส้นใต้ ครูเขียนคำศัพท์เหล่านั้นบนกระดาน และให้นักเรียนบอก ความหมายของคำศัพท์ทที่ ราบ และครใู หน้ กั เรียนเปิดพจนานกุ รมหาคำศพั ท์ท่ีเหลือบนกระดาน

- ครูให้นักเรียนอ่านประโยคในกิจกรรม Language Check ทำความเข้าใจ สรุปความหมายและใช้เป็น จุดประสงคใ์ นการอ่าน 4. ข้นั นำไปใช้ (Production) - ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม Language Check ด้วยตนเอง 5. ข้นั สรปุ (Wrap up) - ครูอา่ นออกเสยี งประโยคทั้ง 6 ประโยค ใหน้ ักเรียนช่วยกันบอกคำตอบและตรวจสอบคำตอบดว้ ยตนเอง (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) - ครตู รวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยชไ้ี ปท่ภี าพและใหน้ ักเรยี นพดู ประโยคที่มีคำบอกอารมณ์มาคนละ 1 ประโยค เช่น 5. ประเมนิ ผล - ประเมนิ ผลความเข้าใจบทสนทนาทอี่ ่านจากจำนวนคำตอบทถี่ กู ต้อง โดยใชเ้ กณฑผ์ า่ นร้อยละ 70

Language Check Answer true or false. 1. ______ Sarita isn’t tired---she’s just bored. 2. ______ The couple are sad because the movies is funny. 3. ______ The mother isn’t happy with her son. 4. ______ The little boy is sad because he’s alone. 5. ______ The girl are frightened because of the boy. 6. ______ The passenger is nervous because this is his first time on a plane.

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง Don’t Worry! Be Happy. รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง Conversation ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เปา้ หมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั ระบุใจความสำคญั และ คำตอบทไ่ี ด้จากการ ประเมนิ ผลจากจำนวน ต 1.1 ม.3/4 รายละเอียดจากการฟงั ทำกจิ กรรม About the คำตอบทีถ่ ูกตอ้ ง โดยใช้ บทสัมภาษณน์ ักเรยี น Conversation เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 70 วัยรุ่นเก่ยี วกับ ชวี ิตประจำวัน ต 1.2 ม.3/5, พดู เรียกความสนใจจาก ถ้อยคำพดู เรยี กความ ประเมนิ การพดู โดยใช้ ต 4.1 ม.3/1 บคุ คลด้วยภาษาของ สนใจจากบุคคลในภาษา เกณฑ์การประเมนิ การ ชนชาติกล่มุ อาเซียน ของชนชาตกิ ลุ่มอาเซยี น พดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ น และนำเสนอโดยการพูด ระดบั พอใช้ 2. ความรู้ คำศัพท์ - worried (adj.): (กงั วล, เป็นทกุ ข์) - speeding (n.): (การขับรถเกนิ ความเรว็ ทกี่ ฎหมายกำหนด) - fine (n.): (เงินค่าปรบั ) - permission (n.): (ความยนิ ยอม, การอนุญาต) หนา้ ทภี่ าษา - To make suggestions - To give reasons โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Negative Questions with Why - Why? / Because

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรม Conversation ( 2 ชว่ั โมง) 1. ขนั้ นำ (Warm up) - ครนู ำนกั เรียนพูดคยุ เกยี่ วกบั ความสามารถในการขบั รถ การขอยืมรถคนอ่ืนมาขบั หรอื ปัญหาทอี่ าจเกิดข้ึน ขณะใชร้ ถของผู้อ่ืน และให้นกั เรยี นชว่ ยกนั แบง่ ปันความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั ปญั หาท่เี กดิ ขึ้นขณะขับ 2. ขั้นนำเสนอ (Presentation) - ครูบอกนักเรียนว่า นกั เรยี นจะไดฟ้ งั การสนทนาถามตอบเกีย่ วกบั อารมณแ์ ละความรสู้ กึ ของบุคคลที่กระทำ ผิด จากการเอารถยนต์ของผู้อนื่ ไปขับโดยไม่ไดข้ ออนุญาต และเกิดอบุ ตั เิ หตุกบั รถยนตด์ งั กล่าว - ครูเปิดซดี ีบันทึกเสยี ง CD 1 Track 11 ของกจิ กรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 10 ให้นักเรียน ฟงั โดยไม่เปดิ หนงั สือเรยี น และถามนักเรียนเกย่ี วกับบทสนทนาทฟ่ี ัง 3. ขั้นฝกึ (Practice) - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 11 อีกครัง้ ให้นักเรยี นฟังและอา่ นตามในใจ - ครใู ห้นักเรยี นจับครกู บั เพ่อื นแล้วสนทนากนั 4. ขนั้ นำไปใช้ (Production) - ครูบอกให้นักเรียนดูกิจกรรม About the Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 10 ให้นักเรียนอ่าน ประโยคคำถามแตล่ ะข้อ และตอบคำถาม 5. ขน้ั สรปุ (Wrap up) - ครสู ุ่มนักเรียนใหเ้ สนอคำตอบในช้ันเรยี น (ดเู ฉลยทา้ ยเลม่ ) 4. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น New World 3 2. เสียงคลิปสนทนา 3. เครื่องเลน่ ซดี ี 5. ประเมนิ ผล - ประเมนิ ผลจากจำนวนคำตอบทถ่ี ูกต้อง โดยใชเ้ กณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 70 - ประเมินการพูดโดยใช้เกณฑ์การประเมินการพดู และใชเ้ กณฑ์ผา่ นระดับพอใช้

Conversation Luke: Hi, Nico. You look worried. What's the matter? Nico: I'm really nervous. Luke: Why? Nico: I got a fine for speeding. Luke: So, what's the problem? Just pay the fine. Nico: It's not that simple. You see, I used my father's car without his permission. Luke: Oh-oh! Why don't you tell him the truth? I'm sure he'll understand. Nico: No, he's going to be really mad. You see, the police took the car away.4 About the conversation 1. Why did Nico get a ticket? ______________________________________________________ 2. Why is he worried? ______________________________________________________ 3. What’s Luke’s suggestion? ______________________________________________________ 4. What happened to the car? ______________________________________________________

เกณฑก์ ารประเมนิ การพดู ระดบั คะแนน นำ้ หนกั ความสำ ประเดน็ 432 1 คะแนน การประเมนิ คญั รวม - ส่ือสารได้ - ส่อื สารได้ - สือ่ สารได้ - สื่อสารไมค่ อ่ ย 2 8 ความถกู ตอ้ ง ตรงประเดน็ 2 8 ดา้ นเนอื้ หา ตรงประเดน็ ตรงประเด็น ตรงประเด็นเป็น - เน้อื หาไมค่ ่อย ถูกต้อง 1 4 การออกเสยี ง - เนือ้ หาถกู ตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่ บางสว่ น การใชค้ ำศพั ท์ - ออกเสียง 5 20 สำนวน และ ตามหัวขอ้ ท่ี - เนือ้ หาถกู ต้อง - เนื้อหาถูกต้อง ไม่ถกู ตอ้ ง โครงสรา้ งภาษา กำหนด เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น - ใช้คำศพั ท์ ความสามารถ - ออกเสียง - ออกเสียง - ออกเสียง สำนวน และ ในการพดู โครงสร้างภาษา ถูกตอ้ ง ได้ถูกต้อง ถกู ต้อง แบบ ง่าย ๆ และ - ใช้คำศัพท์ เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น มีขอ้ ผดิ มาก สำนวน และ - ใช้คำศพั ท์ - ใชค้ ำศพั ท์ - พูดเหมอื น โครงสรา้ งภาษา สำนวน และ สำนวน และ ทอ่ งจำ - ประสาน ถกู ต้องและ โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา สายตากับผฟู้ ัง บา้ งเป็นระยะ เหมาะสม ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ น แบบ ใหญ่ งา่ ย ๆ และ มขี ้อผิดบ้าง - พดู ได้ - พูดได้ - พดู ได้ คล่องแคลว่ คลอ่ งแคล่ว คล่องแคล่ว แต่ - พูดเปน็ - พดู เป็น ไมเ่ ปน็ ธรรมชาติ ธรรมชาติ ธรรมชาติ - ประสาน - ประสาน - ประสาน สายตากับ ผู้ฟงั สายตากับผ้ฟู งั สายตากบั ผู้ฟัง น้อย - แสดงออกทาง - แสดงออกทาง สีหน้าและทา่ ทาง สีหนา้ และทา่ ทาง อย่างเหมาะสม บ้างเล็กน้อย รวม เกณฑก์ ารประเมนิ ดีมาก 16-20 คะแนน ดี 13-15 คะแนน พอใช้ 10-12 คะแนน ควรปรบั ปรงุ นอ้ ยกว่า 10 คะแนน

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง Don’t Worry! Be Happy. รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง Grammar ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทตี่ อ้ งรู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั ต 1.3 ม.3/3 เขียนประโยคคำถาม คำตอบท่ีได้จากการทำ ประเมนิ ผลการเขียนจาก เพื่อหาเหตผุ ล และ กจิ กรรม Grammar จำนวนคำตอบท่ีถูก โดย ใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 คำตอบ เพื่อบอกเหตุผล 2. ความรู้ คำศัพท์ (การงบี หลับระหวา่ งวนั ) - nap (n.): - bite (v.): (กัด) - dangerous (adj.): (อนั ตราย, เป็นพิษเปน็ ภยั ) - cute (adj.): (นา่ รกั ) - strong (adj.): (แข็งแรง, มีกำลัง) หนา้ ทภี่ าษา - To make suggestions - To give reasons โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Negative Question with Why - Why? / Because - Intensifiers: very, so, a little, a bit 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรม Grammar ( 2 ชวั่ โมง) 1. ขัน้ นำ (Warm up) - ครูใหน้ กั เรยี นพูดประโยคท่ีแสดงอารมณต์ ่าง ๆ คนละ 1 ประโยค เชน่ - I’m angry that my brother always tells a lie. - I’m happy when I pass my exam.

2. ข้นั นำเสนอ (Presentation) - ครูให้นักเรียนอ่านบทสนทนา ในกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หน้า 11 ด้านซ้ายมือ ครูอธิบาย คำศพั ท์ nap (a short sleep, especially during the day = การงีบหลับในระหว่างวัน) - ครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่า ตอนท้ายของบทสนทนาจะเป็นคำแนะนำ (take a nap, go to bed) ซึ่งอยู่หลัง ประโยค Why don’t …? 3. ขน้ั ฝึก (Practice) - ครูเขียนสถานการณบ์ นกระดาน ให้นกั เรยี นจับคู่ชว่ ยกันเขียนประโยคให้คำแนะนำตามสถานการณ์ นนั้ ๆ พรอ้ มกับคำตอบท่คี าดหวงั เช่น - I have a headache. (Why don’t you see a doctor?) - I’m bored. (Why don’t you hang out with friends?) - My new camera doesn’t work. (Why don’t you check the battery?) 4. ขนั้ นำไปใช้ (Production) - ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม Grammar B ในหนังสือเรียน หน้า 11 โดยครูและนักเรียนช่วยกันทำข้อที่ 1 เปน็ ตัวอย่างพรอ้ มกัน และให้นกั เรยี นแต่ละคนทำขอ้ ท่เี หลือ 5. ขน้ั สรุป (Wrap up) - ครตู รวจคำตอบของนกั เรยี น โดยส่มุ นักเรยี นบางคนออกมาเขยี นประโยคให้คำแนะนำบนกระดาน และ ซกั ถามนักเรยี นทเี่ หลือว่าถูกหรอื ผิด แล้วใหน้ กั เรยี นตรวจคำตอบของตนเองจากเฉลยบนกระดาน (ดูเฉลยทา้ ยเล่ม) 4. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี น New World 3 2. แบบฝกึ หดั 5. ประเมนิ ผล - ประเมนิ ผลการเขียนจากจำนวนคำตอบที่ถูก โดยใช้เกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 60

B Write suggestions. 1. Dong is worried about his grades. (study/ more) Why doesn’t he study more? 2. Linda is afraid of dogs. (get/ cat) ____________________________________ 3. I’m cold! (put on/ jacket) ____________________________________ 4. The driver is sleepy. (stop/ take a rest) ____________________________________ 5. The children are bored. (paly/outside) ____________________________________ 6. I’m angry about the noisy neighbors ____________________________________ (tall/ about the problem)

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง Don’t Worry! Be Happy. รายวชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 4 เรอ่ื ง Writing ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา (2 ชวั่ โมง) ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เปา้ หมายการเรยี นร/ู้ หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สงิ่ ทตี่ อ้ งรู้และปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั เขยี นบรรยายสิ่งท่ที ำให้ งานเขยี นบรรยายสงิ่ ท่ีทำ ประเมนิ งานเขยี น ต 1.3 ม.3/1 ตนเกิดความรู้สึก ตา่ ง ๆ พรอ้ มท้ังให้ เหตผุ ล ให้ตนเกดิ ความรูส้ ึก บรรยาย โดยใชเ้ กณฑ์ ตา่ ง ๆ การประเมินการเขียน พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ล และใช้เกณฑ์ผา่ นระดบั พอใช้ 2. ความรู้ คำศัพท์ - หนา้ ทภ่ี าษา - To write about the things that make you angry, happy, sad, bored, nervous and worried โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - Why? / Because - Intensifiers: very, so, a little, a bit 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กิจกรรม Writing ( 2 ชั่วโมง) 1. ขน้ั นำ (Warm up) - ครถู ามนกั เรียนดว้ ยคำถาม ดังต่อไปน้ี - How are you today? - Why are you sad / happy? 2. ข้ันนำเสนอ (Presentation) - ครูใหน้ กั เรยี นอ่านคำสง่ั ในกิจกรรม Writing ในหนังสือเรยี น หน้า 12 และให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์ ทบ่ี อกความรู้สกึ ทีอ่ ยใู่ นคำสั่ง

- ครูอา่ นประโยคตัวอยา่ งจากกจิ กรรม Writing ในหนงั สอื เรียน หน้า 12 - I hate standing in line. I get very nervous when I’m waiting. 3. ขั้นฝกึ (Practice) - ครใู ห้นักเรยี นทำความเขา้ ใจประโยค และฝึกสรา้ งประโยคตามตวั อยา่ ง เชน่ - I like music. I am very happy when I listen to them. - I don’t like traveling by airplane. I get very nervous when I’m getting on the airplane. 4. ข้นั นำไปใช้ (Production) - ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรม Writing สรา้ งประโยคเกน่ี วกับความรู้สกึ แบบตา่ ง ๆ - ครูขออาสาสมัครนกั เรียนออกมานำเสนอสิง่ ที่ทำให้ตนเองเกิดรู้สกึ แบบตา่ ง ๆ และครูเขียนประโยคของ นักเรียนบนกระดาน 5. ขน้ั สรุป (Wrap up) - ครแู นะนำนกั เรยี นให้เขียนประโยคบรรยายทง้ั ในอารมณด์ า้ นบวกและลบ - ครูให้นกั เรียนจับคูเ่ ปรยี บเทียบการเขียนของตนเองกบั เพื่อนท่นี ่ังข้าง ๆ และนำเสนอในชน้ั เรียน 4. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียน New World 3 2. แบบฝกึ หัด 5. ประเมนิ ผล - ครูประเมินงานเขียนของนกั เรียน โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินการเขียน และใชเ้ กณฑผ์ ่านระดับพอใช้

Writing Writing about the things that make you angry, happy, sad, bored, nervous, and worried. Then compare and discuss with a partner. EX: I hate standing in line. I get very nervous when I’ m waiting. __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________ __________________________________________________________________________________

เกณฑก์ ารประเมนิ การเขยี น ระดบั คะแนน 4 3 2 1 นำ้ หนกั คะแนน ประเดน็ ความสำ รวม การประเมนิ เขียนโดยใช้ เขยี นโดยใช้ เขียนโดยใช้ เขียนโดยใช้ 8 โครงสร้าง โครงสร้าง โครงสรา้ ง โครงสร้าง คญั โครงสรา้ งทาง ไวยากรณ์ได้ ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ ไวยากรณ์ 2 4 ไวยากรณ์ ถกู ต้อง ผดิ พลาดเล็กน้อย ผดิ พลาด ผิดพลาด ทุกประโยค หลายแห่ง เกนิ ครึ่งหนึ่ง 1 4 การสะกดคำ สะกดคำและ ของงานเขียน และการใช้ สะกดคำและ ใช้เครอ่ื งหมาย สะกดคำและ สะกดคำและ 1 8 เครอ่ื งหมายวรรค ใชเ้ ครื่องหมาย วรรคตอน ใช้เครอ่ื งหมาย ใช้เครือ่ งหมาย วรรคตอน ผดิ พลาดเลก็ นอ้ ย วรรคตอน วรรคตอน 2 24 ตอน ถกู ต้องท้งั หมด ผิดพลาด ผิดพลาด ใช้คำศัพทแ์ ละ หลายแห่ง เกินคร่ึงหนง่ึ 6 การใชค้ ำศพั ท์ ใชค้ ำศพั ท์ สำนวน ของงานเขียน และสำนวน เหมาะสม มีปญั หาอยูบ่ ้าง ใช้คำศัพท์ การนำเสนอ เหมาะสม แต่อา่ นแล้ว ในการใช้คำศพั ท์ และสำนวน เนอ้ื หา อา่ นแลว้ เข้าใจ ไม่เขา้ ใจ และสำนวน ผดิ พลาด ชดั เจนทง้ั หมด บางแหง่ อา่ นแลว้ ไมเ่ ข้าใจ หลายแห่ง เขียนไดค้ อ่ นขา้ ง หลายแห่ง อ่านแลว้ ไมเ่ ข้าใจ เขียนไดต้ รง ตรงประเดน็ เป็นสว่ นมาก ประเด็น ตามท่ีกำหนด เขยี นไม่ค่อย เขียนไมต่ รง ตามที่กำหนด และเรยี บเรียง ตรงประเดน็ ประเดน็ และเรยี บเรยี ง เน้ือหาได้ ตามท่ีกำหนด ตามทีก่ ำหนด เนื้อหาตามลำดบั คอ่ นขา้ ง และเรียบเรียง และเรียบเรยี ง เหมาะสม เหมาะสม เนื้อหาไมค่ อ่ ย เนื้อหาไมเ่ ป็นไป เหมาะสม ตามลำดับ รวม เท่าท่ีควร เกณฑก์ ารประเมนิ ดีมาก 16-20 คะแนน ดี 13-15 คะแนน พอใช้ 10-12 คะแนน ควร น้อยกวา่ 10 คะแนน ปรับปรุง

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง Don’t Worry! Be Happy. รายวชิ า ภาษาองั กฤษพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง Reading ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 เวลา (2 ชว่ั โมง) ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 ผสู้ อน นางสาว วธญั ญา ฟองตา *************************************************************** 1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลักฐานการเรียนร/ู้ การวดั ผลและประเมนิ ผล มาตรฐานการเรยี นรู้ สง่ิ ทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน/ชน้ิ งาน การวดั ผลและประเมนิ ผล และตวั ชว้ี ดั ระบุใจความสำคัญจาก คำตอบทไ่ี ดจ้ ากการทำ ประเมนิ ผลการอ่านและ ต 1.1 ม.3/4 การอา่ นบทอา่ นเกี่ยวกบั กิจกรรม About the ระบใุ จความสำคัญ จาก สตั ว์ Reading จำนวนคำตอบท่ีถูกต้อง โดยใช้เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60 2. ความรู้ คำศัพท์ - react (v.): (เกดิ ปฏกิ ริ ยิ า, ตอบสนอง) - strange (adj.): (แปลก, ประหลาด) - aquarium (n.): (พพิ ธิ ภณั ฑ์สัตว์น้ำ) - obstacle (n.): (สิ่งกีดขวาง) - creature (n.): (สง่ิ มชี วี ติ เช่น คนหรือสัตว์) - squirt (v.): (พน่ หรือฉีดออกมาเปน็ สาย) หนา้ ทภี่ าษา - To talk about emotions โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์ - 3. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม Reading ( 2 ชวั่ โมง) 1. ข้ันนำ (Warm up) - ครูใหน้ ักเรียนบอกชอื่ สตั ว์ท่ีอาศยั อยใู่ นทะเล มาคนละ 1 ชนดิ ครเู ขยี นคำศัพท์บนกระดาน ใหน้ กั เรยี น ชว่ ยกันอภปิ รายวา่ สตั วช์ นดิ ใดน่าสนใจมากที่สุด

2. ข้นั นำเสนอ (Presentation) - ครูให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 13 และพูดเกี่ยวกับภาพและช่วยกันบอกว่าบทอ่านน่าจะ เกีย่ วกบั อะไรบา้ ง - ครูถามนักเรียนว่า What do you know about the octopus? ให้นักเรียนตอบคำถาม และครูเขียน คำตอบของนกั เรยี นบนกระดาน 3. ขั้นฝึก (Practice) - ครูให้นกั เรียนอา่ นบทอ่านแบบ Scanning เพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ - ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 13 ให้นักเรียนฟัง แล้วสรุปเรื่องที่ฟัง โดยใช้คำพูดของนักเรียนเอง ไม่เนน้ ถูกผดิ แต่พยายามฝกึ ให้นกั เรยี นคิดและตอบ - ครใู ห้นักเรียนอา่ นบทอ่าน และวงรอบคำคณุ ศพั ทท์ ี่บรรยายอารมณข์ องปลาหมึก 4. ขนั้ นำไปใช้ (Production) - ครูให้นักเรียนหาคำตอบเกี่ยวกับวิธีแสดงอารมณ์ของปลาหมึก และให้เขียนลงในตารางด้านขวาหัวข้อ How They Show Their Emotions ปฏิบัติเช่นนี้ไปจนจบบทอ่านกิจกรรม About the Reading A ใน หนังสือเรยี น หนา้ 13 5. ข้ันสรุป (Wrap up) - ครูให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับปลาหมึกที่น่าสนใจที่สุด หรือแปลกประหลาด ทสี่ ดุ จากบทอา่ น และครูเขยี นบนกระดาน เพือ่ สรปุ เป็นข้อมลู เกยี่ วกับปลาหมึก 4. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน New World 3 หน้า 13 2. ซดี ีบันทกึ เสยี ง 3. เครอื่ งเลน่ ซดี ี 5. ประเมนิ ผล - ครปู ระเมนิ ผลการอ่านและระบุใจความสำคญั ของบทอา่ น จากจำนวนประโยคทถ่ี ูกต้องในการทำ กจิ กรรม About the Reading โดยใช้เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60

Reading THE OCTOPUS When you think of an animal that reacts to people, what comes to your mind? Is it a dog, a cat, or a horse? You probably don't think of an octopus. To most people, the octopus doesn't look intelligent because of its strange appearance. But octopuses have very large brains, and they are quite smart. For example, an octopus is in an aquarium, and it sees food outside. What happens? It finds a way to reach the food with its long arms. Octopuses are also very strong, and they often remove obstacles that separate them from their meal. Octopuses are generally shy creatures. But they sometimes show some emotions. For example, they respond in a very human way when they come in contact with people. They actually seem friendly. They like to play, and they come to get food. When they are afraid, they swim away. When people make them angry, they squirt ink on them. Under the sea, octopuses change color to hide in their environment. They also change color to show emotion. When the octopus is attacking its prey, it becomes darker. When it is sick or scared, it becomes light and pale. And when it doesn't get the food it wants, it turns red. It seems mad! About the Reading A Read the text. Make a list of words that describe octopuses. Their Emotions How They Show Their Emotion