\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"136 2. แบ่งตามลักษณะรูปทรงและลวดลาย รูปทรงและลวดลายเป็นลักษณะของการแบ่งการร้อยพวงมาลัยด้วยลวดลายท่ีใช้ร้อยซ่ึงมี ช่ือเรียกแตกต่างกันดังน้ี มาลัยซีกหรือมาลัยเก้ียว มาลัยกลม มาลัยเกลียว มาลัยคดกริช มาลัยตัว หนอน มาลัยลายข้าวหลามตัด มาลัยตาสมุทร มาลัยสามเหล่ียม มาลัยแบน มาลัยตุ้ม มาลัยลูกโซ่ มาลัยตัวสัตว์ มาลัยลายผสม การร้อยมาลัยต่างๆ เหล่าน้ีมลี กั ษณะลวดลายที่แตกตา่ งกนั ความงดงาม ของพวงมาลัยข้ึนอยู่กับสีของดอกไม้และใบไม้ รวมถึงขนาดรูปทรง สัดส่วนความประณีตและความ สวยงามของดอกไม้ ซ่งึ ในปัจจบุ นั มดี อกไมม้ ากมายหลากหลายชนดิ ทเี่ หมาะแกก่ ารที่จะนามาประดิษฐ์ และร้อยกรองเป็นพวงมาลัยได้อย่างเหมาะสมสวยงามและได้ลวดลายท่ีแตกต่างกันออกไป (มณีรัตน์ จันทนะผะลนิ , 2539, หน้า 82) 3. แบง่ ตามลกั ษณะรปู ทรงของมาลยั การแบ่งตามลักษณะโครงร่างโดยทั่วไปของมาลัยได้แบ่งออกเป็น 6 แบบดังนี้ มาลัยตัวสัตว์ เป็นมาลัยที่ร้อยให้มีลักษณะรูปร่างของมาลัยคล้ายตัวสัตว์ เช่น มาลัยตัวกระรอก ตัว กระแต ตัวกระต่าย ตัวหนู มาลัยลูกโซ่เป็นมาลยั ท่ีร้อยเป็นมาลัยซีกหรือมาลัยกลม นามาผูกคล้องต่อ กันต้ังแต่สองห่วงขึ้นไปคล้ายโซ่ มาลัยเปีย เป็นมาลัยที่ร้อยมาจากมาลัยกลมและมาลัยตุ้มนามา ประกอบเป็นพวง โดยนามาลยั กลมผูกต่อเป็นวงตรงกลาง ส่วนด้านบนและด้านลา่ งร้อยต่อด้วยมาลัย ตุ้มด้านละ1 ตุ้ม มาลัยเถา เป็นมาลัยที่นามาลัยซีกผูกต่อเป็นวงกลม วางเรียงไล่ขนาดซ้อนกันข้ึนไป เป็นลักษณะเปน็ เถา มาลัยครยุ เป็นมาลัยที่นามาลัยกลมขนาดใหญ่ทีน่ าอุบะตุ้งติ้งผูกห้อยระบายเป็น ครุยโดยรอบท้ังด้านนอกและด้านใน ใช้สาหรับสวมสะพายจากไหล่ด้านขวามาด้านซ้าย และมาลัย ดอกกล้วยไม้ เป็นมาลัยท่ีใช้ดอกกล้วยไม้ร้อยเป็นตัวมาลัยตลอดทั้งพวง โดยไม่ต้องร้อยดอกไม้อื่นๆ แซมเป็นลวดลาย (จันทนา สวุ รรณมาล,ี 2533, หนา้ 3) สว่ นประกอบของพวงมาลัย การร้อยพวงมาลัยในแต่ละพวง ผูร้ ้อยควรจะต้องทราบถึงส่วนประกอบต่างๆ ของมาลัย ซึ่ง มีส่วนประกอบดังนี้ ตัวมาลัย จะใช้มาลัยกลม มาลัยแบน มาลัยรี มาลัยสามเหลี่ยม หรือมาลัยตุ้ม อุบะ ท่ีนิยมใช้ห้อยประดับพวงมาลัยได้แก่ อุบะแขก อุบะพู่ อุบะไทยทรงเรื่องหรืออุบะไทยธรรมดา หรือตุ้งต้ิง ซีกใช้สาหรับผูกปิดรอยต่อระหว่างตัวมาลัยกับอุบะและควรเป็นซีกที่มีขนาดสัดส่วนท่ี เหมาะสมกับตัวมาลยั และริบบน้ิ ถอื เป็นส่วนประกอบของมาลยั สาหรับมาลยั ท่ีใช้คลอ้ งคอหรอื มาลัย ชารว่ ย ประเภทของพวงมาลยั การร้อยพวงมาลัยในหนังสือเล่มนี้ผู้เขียนได้แบ่งการร้อยมาลัยตามการนาไปใช้ในงาน ประกอบด้วย พวงมาลัยชาร่วย พวงมาลัยชายเดียว พวงมาลัยสองชาย ซึ่งมีรูปแบบการประดิษฐ์ ดงั นี้ 1. มาลัยชาร่วย มาลัยชาร่วยเป็นมาลัยท่ีมีการร้อยในรูปแบบต่างๆ ซ่ึงมีขนาดเล็ก ใช้สาหรับมอบให้ บคุ คลเป็นจานวนมาก เป็นของชาร่วยขอบคณุ ในการมารว่ มหลั่งนา้ พระพุทธมนต์ประสาทพรให้คู่บา่ ว
137 สาว ซึ่งการร้อยมาลัยชาร่วยมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก มาลัยบางแบบไม่มีอุบะที่ชายมาลัย เช่น มาลยั ตัวสัตวช์ นดิ ตา่ งๆ มาลัยผา้ เชด็ หนา้ โดยมีวธิ ีการรอ้ ยดงั ตอ่ ไปนี้ 1.1 พวงมาลัยชาร่วยห่วงรัก เป็นพวงมาลัยชาร่วยห่วงรักสองห่วงคล้องเป็นโซ่ โดยใช้ กลีบดอกรักร้อยเป็นตัวมาลัย ร้อยยอดรักเป็นลายตรงกลางลายใช้ดอกบานไม่รู้โรย ซ่ึงมีวิธีการร้อย ดังนี้ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพที่ 8.1 พวงมาลัยชาร่วยหว่ งรัก ทีม่ า : พรยุพรรณ พรสุขสวัสดิ์, 2546, หนา้ 390 1.1.1 ส่ิงท่ีต้องเตรียม การร้อยพวงมาลยั ชาร่วยห่วงรัก มกี ารเตรยี มวัสดุอุปกรณ์ดงั น้ี 1) ดอกกลว้ ยไมส้ ีมว่ งออ่ น 50 กลบี 2) ดอกรัก 1 ลติ ร 3) ดอกบานไมร่ โู้ รย 10 ดอก 4) กลบี เล้ยี งดอกรกั 5 กลบี 5) กลีบเลีย้ งพลาสตกิ 5 กลีบ 6) ด้ายขาวเบอร์ 60 1 หลอด 7) ด้ายรูดมาลัย 1 หลอด 8) ริบบ้นิ ขนาด 1.5 นิว้ 0.5 เมตร 9) ใบตองกวา้ ง 5นว้ิ 1 ชน้ิ 10) เข็มมาลัย 2 เล่ม 11) เขม็ มอื เบอร์ 9 1 อนั
138 1.1.2 วิธีร้อยมาลยั กลมยกดอก มีวธิ ีการรอ้ ยดงั น้ี 1) ร้อยมาลัยกลมยกดอกตามผังลาย โดยใช้ แทนดอกบานไม่รู้โรย ใช้ แทนยอดรัก และใช้ แทนกลบี ดอกรกั ตามผงั ลายดงั แผนผัง ผงั ลายมาลยั กลมยกดอก 11 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 แถวที่ 2) ร้อยชั้นแรก 6 กลีบ ชน้ั ต่อมาใสส่ บั หวา่ ง อีก 6 กลีบ 3) ชั้นที่ 7 รอ้ ยลายตามผงั มาลยั 4) ช้ันที่ 12 รอ้ ยตอ่ ด้วยดอกรักอีก 12 ช้นั จากนน้ั รอ้ ย ลายท่ี 2 ตามแผนผัง มาลยั กลมลายยกดอก
139 1.1.3 วิธีร้อยมาลยั ซีกยกดอก 1) ร้อยมาลัยซีกยกดอกห้าหลัก โดยใช้ แทนดอกบานไม่รู้โรย ใช้ แทนยอดรกั และใช้ แทนกลีบดอกรักตามผงั ลายมาลัยซกี ยกดอก ดงั แผนภาพ ผงั ลายมาลัยซกี ยกดอก 5 หลกั แถวที่ 14 แถวท่ี 13 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" แถวที่ 12 แถวที่ 11 แถวท่ี 10 แถวท่ี 9 แถวท่ี 8 แถวท่ี 7 แถวที่ 6 แถวที่ 5 แถวที่ 4 แถวที่ 3 แถวท่ี 2 แถวท่ี 1 2) ร้อยช้นั แรก 3 กลีบ ช้นั ที่ 2 รอ้ ย 2 กลีบ ชั้นต่อมาร้อยสลับกันไป 3) ชั้นที่ 6 ร้อยลายตามผังลายจนจบลายร้อยดอกรักต่ออีก 6 ชั้นจากน้ัน รอ้ ยลายที่ 2 1.1.4 วิธรี ้อยมาลัยซกี มวี ิธีการรอ้ ยดังน้ี 1) ร้อยมาลัยซีกห้าหลัก โดยใช้ แทนดอกเล็บมือนางตามผังลายดัง แผนภาพ ผงั ลายมาลัยซกี แถวท่ี 10 แถวท่ี 9 แถวที่ 8 แถวท่ี 7 แถวที่ 6 แถวที่ 5 แถวท่ี 4 แถวที่ 3 แถวท่ี 2 แถวท่ี 1
140 2) ร้อยมาลยั ซีกให้ได้ความยาว 3.5 นิว้ 1 เข็ม 1.1.5 วธิ รี ้อยอุบะ มีวิธกี ารร้อยดงั น้ี 1) เย็บดอกตุ้ม 3 ดอก 2) ร้อยอบุ ะไทยธรรมดา 1 พวง 1.1.6 วิธีเย็บโบ 1) ตดั สายโบยาว 7 น้ิว พบั ริมเข้าดา้ นบนพบั รมิ เยบ็ ตดิ 2) ตดั หโู บยาว 6 นิ้ว พบั ทบริมจากนน้ั ทบครง่ึ ให้ริมเกยกนั ตรงกลาง 3) ตัดหางโบยาว 5 นวิ้ เยบ็ ติดหูโบและเย็บรบิ บิน้ บดิ ตรงกลาง 4) นาหูโบเย็บติดกบั สายโบ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1.1.7 วิธีแตง่ ตัวมาลัย มวี ธิ ีการแตง่ ตวั มาลยั ดงั น้ี 1) นามาลยั กลมผูกเป็นวง 2) คลอ้ งมาลัยซกี ยกดอกมัดตรงกลางหว่ งรกั
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 141 3) ผูกอบุ ะต่อกับมาลยั ซกี ตดั เส้นดา้ ยออก 4) รัดมาลัยซกี ตรงรอยต่อของดา้ ย 5) ผูกโบติดด้านบน 1.2 พวงมาลัยชาร่วยโซร่ ัก เป็นการรอ้ ยโดยใช้ดอกรักเดด็ กลีบและยอดรักออกนามา ร้อยเป็นหว่ งรักสามห่วง ผูกคล้องกันทั้งสามห่วงคล้ายโซ่ ซ่ึงมีวธิ ีการร้อยดงั นี้ ภาพท่ี 8.2 พวงมาลยั ชารว่ ยโซร่ ัก ท่มี า : พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสด,์ิ 2546, หน้า 398
142 1.2.1 ส่ิงทต่ี ้องเตรยี ม การร้อยมาลัยโซร่ กั มกี ารเตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ดังนี้ 1) ดอกกล้วยไม้สีมว่ ง 80 กลบี 2) ดอกบานไม่รู้โรย 10 ดอก 3) ดอกรัก 1 ลติ ร 4) ใบตองกว้าง 5 น้ิว 1 ช้ิน 5) กลบี เลี้ยงดอกรัก 10 กลีบ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 6) กลบี เล้ียงพลาสติก 10 กลบี 7) โบวส์ เี งนิ 2 หู 1 อัน 8) ด้ายขาวเบอร์ 60 1 หลอด 9) ดา้ ยรูดมาลัยเบอร์ 2 1 หลอด 10) เขม็ มอื เบอร์ 9 1 ห่อ 11) เขม็ มาลัย 2 เลม่ 12) กรรไกร 1 อนั 1.2.2 วิธรี ้อยมาลัยกลม มีวธิ กี ารรอ้ ยดังน้ี 1) ร้อยมาลัยกลมยกดอกตามผงั มาลัยความยาว 7.5 น้วิ จานวน 2 เข็ม 2) ร้อยมาลัยกลมยกดอกตามผังลาย โดยใช้ แทนดอกบานไม่รู้โรย ใช้ แทนยอดรัก และใช้ แทนกลีบดอกรกั ตามผังลายดังแผนภาพ
143 แผนผังลายมาลัยกลมยกดอก 11 10 9 8 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 7 6 5 4 3 2 1 แถวท่ี 1.2.3 วธิ รี ้อยมาลัยซกี 3- 2 1) รอ้ ยมาลัยซกี 3-2 จากยอดรักตามโดยใช้ แทนดอกรักตามแผนผังมาลยั ซกี 5 หลัก ผังลายมาลยั ซีก 5 หลกั แถวที่ 10 แถวท่ี 9 แถวที่ 8 แถวที่ 7 แถวที่ 6 แถวที่ 5 แถวท่ี 4 แถวท่ี 3 แถวท่ี 2 แถวที่ 1
144 2) ร้อยมาลยั ซีกความยาว 3.5 น้วิ จานวน 1 เข็ม \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 3) รอ้ ยมาลัยซีกยกดอก 3-2 โดยใช้ แทนดอกบานไมร่ โู้ รย ใช้ แทนยอดรกั และใช้ แทนกลีบดอกรกั ตามผังมาลยั ลายความยาว 4 นิ้ว 1 เสน้ ดงั แผนผงั แผนผงั ลายมาลัยซกี ยกดอก 5 หลัก แถวที่ 14 แถวที่ 13 แถวที่ 12 แถวที่ 11 แถวท่ี 10 แถวท่ี 9 แถวที่ 8 แถวที่ 7 แถวที่ 6 แถวที่ 5 แถวที่ 4 แถวที่ 3 แถวที่ 2 แถวท่ี 1 1.2.4 วธิ เี ย็บดอกตุ้ม มวี ิธกี ารเย็บดงั น้ี 1) ฉีกใบตองกวา้ ง 1.5 น้วิ วางกลบี กล้วยไม้ 2) มว้ นแกนใบตองใหแ้ น่น ตรงกลาง
145 3) หุ้มกลบี กลว้ ยไม้โดยรอบ 3 กลบี 4) หมุ้ กลบี กลว้ ยไม้ 3 กลบี สับหวา่ งกบั ชั้นแรก \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"5) ร้อยต้งุ ต้ิง 2 ขา นามาผูกรวมกันรอ้ ยต่อ 6) นาอุบะทั้ง 3 พวง ผกู รวมกันโดยให้ปลาย ด้วยดอกตมุ้ 1ดอกและดอกรกั 1 ดอก ดอกตมุ้ เทา่ กนั จากนั้นร้อยต่อด้วยดอกรัก 1.2.5 วธิ ีแต่งตัวมาลัย มวี ิธกี ารแตง่ ตวั มาลัยดังนี้ 2) ผกู อุบะต่อกบั มาลยั ซกี ยกดอกและผกู 1) นามาลยั กลมดอกรักผกู คล้องกันและมดั มาลัยซกี ปิดรอยต่อดา้ ย คลอ้ งมาลยั ซีกยกดอกคล้องเปน็ โซ่
146 3) ด้านบนนาโบผกู ติดกับตัวมาลยั \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1.3 พวงมาลยั ชาร่วยผ้าเช็ดหนา้ เป็นการรอ้ ยโดยใช้ผา้ เช็ดหน้ารดั ดว้ ยมาลยั แบนยกดอก ซึ่งมีวิธีการรอ้ ยดงั น้ี 1.3.1 ส่ิงทตี่ ้องเตรียม พวงมาลัยชารว่ ยผา้ เช็ดหนา้ มีการเตรียมวัสดอุ ปุ กรณด์ งั นี้ 1) กลว้ ยไม้ 1 กา 2) ดอกรักเปลอื ก 1 ลิตร 3) ดอกพดุ 1 ลติ ร 4) ดอกเบญจมาศนา้ 1 หอ่ 5) ขวั้ ชบา พลาสตกิ 7 ขวั้ 6) ใบตอง 1 กโิ ลกรมั 7) ผ้าเช็ดหนา้ 1 ผนื 8) ดา้ ยร้อยมาลยั (เบอร์ 8) 1 มว้ น 9) เขม็ รอ้ ยมาลยั 1 อนั 10) กรรไกร 1 อนั 11) เขม็ มอื (เบอร์ 8, 9) 1 อัน 1.3.2 วิธรี อ้ ยมาลยั กลม มีวิธกี ารรอ้ ยดงั นี้ 1) รอ้ ยมาลัยแบนลายขนมเปียกปนู หรอื ยกดอก สอดไส้ จานวน 10 ลาย 1 สายตามผังมาลัย 2) แถวที่ 1 กลบี กล้วยไม้ 1 กลบี ดอกพุด 1 ดอก กลบี กล้วยไม้ 1 กลีบ 3) แถวที่ 2 กลีบกลว้ ยไม้ 1 กลบี ดอกพุด 2 ดอก กลบี กล้วยไม้ 1 กลบี
147 4) แถวท่ี 3 กลีบกลว้ ยไม้ 1 กลีบ ดอกพุด 1 ดอก ดอกเบญจมาศนา้ 1 ดอก ดอกพดุ 1 ดอก กลบี กลว้ ยไม้ 1 กลีบ 5) แถวท่ี 4 ร้อยเหมือนแถวท่ี 2 6) แถวท่ี 5 รอ้ ยเหมอื นแถวท่ี 1 7) ร้อยจน ครบ 10 ลาย และจบดว้ ยดอกพดุ 1 ดอก 8) เมอ่ื เสรจ็ แล้วปดิ ด้วยใบตองพับ แลว้ รูดออกจากเข็ม ใช้ด้วย 4 เส้น เพ่อื ใหเ้ สน้ มาลัยมคี วามแข็งตัวของลายทีร่ ้อย 9) รอ้ ยมาลัยซีกดอกพดุ 5 หลกั ยาว 6 นิ้ว 1 เสน้ รดู ออกใส่ด้าย 10) วิธรี อ้ ย แถวที่ 1 ดอกพดุ 3 ดอก ร้อยเรียงตอ่ กันไมเ่ กนิ ครง่ึ วงกลมให้ระยะ เทา่ กัน 11) แถวที่ 2 ดอกพดุ 2 ดอก รอ้ ยสับหว่างกับแถวที่ 1 ตอ่ ไปเหมือนแถวท่ี 1 และ แถวที่ 2 ต่อไปเร่ือย ๆ จนได้ความยาว 5-6 นิ้ว รดู ใส่ดา้ ย 12) มดั ดอกข่า 7 ดอก ร้อยทาอบุ ะ แขก 7 ขา แต่ละขา ใส่ดอกรัก 7 ดอก เม่ือ เสรจ็ แลว้ มดั รวมกนั เพ่ือนามาประกอบพวงมาลัยซีกท่ีมดั กับผา้ เช็ดหนา้ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม 13) นาดอกพดุ ซกี ผูกท่ีข้อตกแตง่ ใหส้ วยงา \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" แผนผังมาลยั แบนลายขนมเปียกปนู สอดไส้ 9 8 7 6 5 4 3 2 1 สญั ลกั ษณ์ = กลบี กลว้ ยไม้ = ดอกเบญจมาศน้า = ดอกพดุ * หมายเหต:ุ 5 แถว เทา่ กับ 1
148 แผนผังมาลยั ซกี ห้าหลัก (ดอกพดุ หรือแกนดอกรกั ) 10 9 8 7 6\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 5 4 3 2 1 สัญลกั ษณ์ = ดอกพดุ * หมายเหตุ: ขน้ึ 3 จบด้วย 2.เพอื่ ให้ลายจบเท่ากัน
\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \" 149
\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \" 150
151 1.4 มาลัยตัวกระแต เปน็ การรอ้ ยลักษณะเดียวกบั มาลัยตุ้มตา่ งกนั ตรงใส่ตาและหูตวั กระแต ซ่ึงมวี ธิ ีการร้อยดงั น้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพท่ี 8.3 มาลยั ตวั กระแต ที่มา : สายบังอร ปานพรม, 2557 1.4.1 สิ่งทตี่ ้องเตรยี ม การร้อยมาลัยตวั กระแต มีการเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ดงั น้ี 1) กล้วยไม้ 1 กา 2) ดอกกหุ ลาบฝา้ ย 1 ถุง 3) ดอกพุด ½ ลติ ร 4) กิ่งแกว้ 1 กิ่ง 5) ข้วั ชบา พลาสตกิ 7 ข้วั 6) ใบตอง 1 กิโลกรัม 7) บานไม่ร้โู รย 1 ลิตร 8) ทางมะพร้าว 4 ทาง 9) เขม็ ร้อยมาลยั 1 อนั 10) กรรไกร 1 อนั
152 11) เขม็ มือ (เบอร์ 8, 9) 1 อัน 12) ดา้ ยขาว 1 ม้วน 13) ริ้บบ้นิ ทอง ยาว 2 เมตร 1 เสน้ 14) ลวดเส้นสเี ขยี ว (เบอร์ 4) 1 มัด 1.3.2 วิธีร้อยมาลัยตวั กระแต มวี ิธกี ารรอ้ ยดงั นี้ 1) รอ้ ยมาลยั ตัวกระแต 1 ตัว จานวน 20 ชนั้ ตามผังมาลยั ตวั กระแต 2) เตรียมเหลาทางมะพร้าว จานวน 4 ทาง และ เตรยี มกรองหางตวั กระแต 1 หาง 2) แถวท่ี 1 กลบี กล้วยไม้ 6 กลบี ตามผงั มาลัยตวั กระแต 3) แถวที่ 2 กลีบกล้วยไม้ 7 กลบี ตามผงั มาลยั ตวั กระแต แต่ละชั้นกดใหแ้ น่น 4) แถวที่ 3 กลบี กล้วยไม้ 8 กลบี ตามผังมาลยั ตัวกระแต 5) แถวท่ี 4 รอ้ ยต่อไปตามผงั มาลัยตวั กระแต จากแถว 4 ถึงแถวท่ี 10 6) แถวท่ี 11 ร้อยเหมือน กลีบกล้วยไม้ 1 กลีบ ใบแก้ว 2 ใบ เพ่อื ทาเป็นหู กลบี กลว้ ยไม้ 1 กลบี 7) แถวท่ี 12 กลบี กล้วยไม้ 5 กลบี ตามผงั รอ้ ยตวั กระแต 8) แถวที่ 13 กลีบกล้วยไม้ 1 กลีบ ดอกกหุ ลาบพันดอกพดุ 2 ดอก เพอื่ ทาตาตัว กระแต กลบี กล้วยไม้ 1 กลีบ 9) แถวท่ี 14 กลบี กล้วยไม้ 5 กลบี ตามผังมาลัยตัวกระแต 10) แถวที่ 15 กลีบกล้วยไม้ 4 กลีบ 3 กลบี และ 2 กลบี ถึงแถวท่ี 17 11) แถวที่ 18 กลบี กล้วยไม้ 3 กลบี 2 กลบี และ 1 กลีบ 12) นากิง่ แก้วมาตดั ตกแต่งให้ก่งิ สวยงาม นาตวั กระแตท่ีได้มาประกอบกบั ก่ิง ใส่หาง กระแตตกแต่งด้วยดอกไม้ให้สวยงาม \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
153 แผนผังมาลัยตัวกระแต 20 1 19 2 18 3 17 2 16 3 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 15 4 14 5 13 4 12 5 11 4 10 5 9 6 8 7 7 8 6 9 5 10 4 9 3 8 2 7 1 6 แถวที่ จานวนกลบี สญั ลกั ษณ์ = กลบี กล้วยไม้ หรือ ดอกพุด = ใบแก้ว = ดอกกุหลาบพันดอกพุด
\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \" 154 ภาพขั้นตอนการร้อยตัวกระแต
155 2. พวงมาลยั ชายเดียว มาลัยชายเดียวหรือมาลัยคล้องข้อมือเป็นมาลัยที่มีลักษณะเป็นพวงวงกลมมีอุบะแบบ ต่างๆ ผูกห้อยเป็นชายมาลัยตรงกลาง ใช้สาหรับมอบเป็นของชาร่วยให้ผู้มาเป็นประธานในพิธี ประสาทพรในการหล่ังน้าพระพุทธมนต์ให้คู่บ่าวสาว มาลัยชายเดียวท่ีมอบให้ประธานจัดเป็นมาลัย ชาร่วยท่ีมีขนาดใหญ่กว่ามาลัยชาร่วยในรูปแบบอื่นๆ เพ่ือให้ความสาคัญแก่ผู้เป็นประธานในพิธี บาง คนเรยี กมาลยั มอื มาลัยคลอ้ งข้อมอื หรือมาลยั โซ่เน่ืองจากมีลกั ษณะเป็นห่วงโซ่ มาลยั เหล่านมี้ ีหน้าที่ สาหรับใช้ถือกาไว้ในมือสอดคล้องนิ้วมือหรือใช้สาหรับคล้องข้อมือ จากน้ันผู้รับมักจะนาไปบูชาพระ หรือประดับตกแต่งสถานที่ ซ่ึงมวี ธิ ีการร้อยดังน้ี 2.1 พวงมาลัยชายเดยี วเกลยี วรกั พวงมาลัยชายเดียวเกลยี วรัก เป็นมาลยั ที่ออกแบบ การร้อยโดยการนากลีบดอก รัก ยอดรกั มามาลัยกลมนามาผูกคลอ้ งกนั เป็นโซ่ ซงึ่ มีวธิ ีการร้อยดังน้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพที่ 8.4 พวงมาลยั ชายเดียวเกลียวรัก ทม่ี า : พรยพุ รรณ พรสขุ สวสั ดิ์, 2546, หนา้ 382 2.1.1 สง่ิ ทต่ี ้องเตรียม การรอ้ ยพวงมาลยั ชายเดียวเกลยี วรัก มีการเตรียมวสั ดุ อุปกรณ์ดงั น้ี 1) กลว้ ยไมส้ มี ่วง 1 กา 2) ดอกบานไมร่ ู้โรย 20 ดอก 3) ดอกรัก 4 ลติ ร 4) ใบตองกว้าง 10 นิ้ว 1 ช้นิ 5) กลีบเลย้ี งดอกรัก 15 กลบี 6) กลบี เลย้ี งพลาสติก 15 กลบี 7) ดา้ ยขาวเบอร์ 60, เบอร์ 2 1 หลอด 8) เข็มมือเบอร์ 9 1 ห่อ 9) เขม็ มาลยั 2 เล่ม 10) วาสลีน 1 ตลบั 11) กรรไกร 1 อัน
156 2.1.2 วธิ รี ้อยมาลัยตัวหนอน 1) ร้อยกลีบกลว้ ยไม้ 5 กลบี วางโดยรอบเขม็ มาลัย 2) ชน้ั ท่ี 2 รอ้ ยกลีบกลว้ ยไม้ 5 กลีบวางสบั หวา่ งโดยรอบ 3) ชน้ั ที่ 3 รอ้ ยกลีบกล้วยไม้โดยดตู ามผงั ลายใช้ 0 แทนกลบี กุหลาบ ร้อย แต่ละแถวให้สับหว่างกันทุกชั้นดังแผนผงั มาลัยตวั หนอนดังแผนภาพ แผนผงั มาลยั ตัวหนอน \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 25 24 23 22 21 20 19 18 17 16 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 แถวที่ จานวนกลีบ
157 4) รอ้ ยมาลยั ตัวหนอนใหไ้ ด้ความยาว 6 นิว้ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"2.1.3 วิธีรอ้ ยมาลัยกลมลายเกลียว มวี ธิ กี ารร้อยดงั นี้ 1) ร้อยกลีบดอกรัก 2 กลบี ยอดรกั 1 ยอด 2) ร้อยกลีบดอกรักชั้นต่อ ๆ มาสบั หว่างกนั และกลบี ดอกรัก 3 กลีบวางรอบเข็ม ทกุ ชั้น มาลยั 4) ร้อยมาลัยกลมลายเกลียวตามผังลาย โดยใช้ แทนยอดรกั และใช้▲แทนกลบี ดอกรกั ตามผัง ลายดงั แผนผงั แผนผังลายมาลัยกลมลายเกลียว 10 ▲ ▲ ▲ ▲ ▲ 9 ▲▲▲ ▲▲ 8 ▲▲▲ ▲▲ 7 ▲▲▲ ▲▲ 6 ▲▲ ▲ ▲▲ 5 ▲▲▲ ▲▲ 4 ▲▲▲ ▲▲ 3 ▲▲▲ ▲▲ 2 ▲▲▲ ▲▲ 1 ▲ ▲ ▲ ▲▲ แถวท่ี
158 4) รอ้ ยมาลัยกลมลายเกลียวความยาว 8 นวิ้ จานวน 3 เข็ม 2.1.4 วธิ รี อ้ ยมาลยั กลมยกดอก มีวธิ ีรอ้ ยดังน้ี 1) รอ้ ยกลีบดอกรกั 6 กลีบ วางรอบเข็มมาลัย 2) รอ้ ยกลบี ดอกรกั ชั้นต่อมา 6 กลบี วางสับหว่างกนั ทุกชั้น \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 3) รอ้ ยมาลัยกลมยกดอกตามผังลาย โดยใช้ แทนดอกบานไมร่ ูโ้ รย ใช้ แทนยอดรัก และใช้ แทนกลีบดอกรกั ตามผงั ลายดังแผนผงั ผงั ลายมาลัยกลมยกดอก 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 แถวที่
159 4) ร้อยลายยกดอกดว้ ยยอดรักตรงกลาง 5) รอ้ ยกลบี ดอกรักต่อจากลายยกดอก ลายรอ้ ยดอกบานไมร่ ้โู รย \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"6) รอ้ ยมาลยั กลมยกดอกเข็มละ 2 ลาย 2 เข็ม และร้อยความยาว1 ลาย 1 เข็ม 2.3.5 วิธีร้อยมาลยั ซกี ยอดรกั มีวธิ กี ารรอ้ ยดังน้ี 1) รอ้ ยยอดรกั ชนั้ แรก 3 กลีบ ชั้นท่ี 2 สบั หวา่ ง 2) ร้อยช้นั ต่อมาในลักษณะเดียวกบั ชนั้ แรกและ กับชน้ั แรก 2 กลีบ ช้ันท่ี 2 3) ร้อยมาลัยซกี 3-2 โดยใช้ แทนยอดรกั ตามผงั ลายมาลัยซีกดังแผนผงั
160 แผนผังลายมาลัยซกี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"แถวที่ 10 แถวที่ 9 แถวท่ี 8 แถวที่ 7 แถวที่ 6 แถวที่ 5 แถวที่ 4 แถวท่ี 3 แถวที่ 2 แถวท่ี 1 4) รอ้ ยมาลยั ซีกยอดรักความยาว 2.5 นวิ้ 1 เสน้ 2.1.6 วธิ เี ย็บดอกตุม้ มีวธิ ีการเยบ็ ดังนี้ 1) ฉีกใบตองกวา้ ง 1 นิว้ วางกลีบกลว้ ยไมต้ รงกลางใบตอง 2) มว้ นใบตองให้แน่น 3) พับกระบงุ้ กลีบกล้วยไมห้ มุ้ ตรงกัน 2 กลีบ 4) พบั กระบงุ้ กลบี กลว้ ยไม้ใส่สบั หวา่ งลงมา 5) ใส่กลีบกลว้ ยไม้โดยรอบเย็บตรึงให้แน่น 6) ข้ันตอนการเยบ็ ดอกตมุ้ ดังภาพ 7) ร้อยตงุ้ ติ้ง 3 ขา นามาผูกรวมกับรอ้ ยต่อ 8) นาอุบะทั้ง 3 พวงผกู รวมกันใหป้ ลายดอกตุ้ม ด้วยดอกต้มุ กลีบเล้ียงดอกรกั และกลบี เทา่ กนั รอ้ ยตอ่ ด้วยดอกตุ้มกลีบเล้ียงดอกรกั เลยี้ งพลาสติกรอ้ ยจานวน 3 พวง กลีบเลย้ี งพลาสตกิ และดอกรักนาอุบะทง้ั 3 พวง ผูกรวมกนั เปน็ พวงใหญ่
161 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"2.1.7 วธิ ีแตง่ ตวั มาลยั มีวธิ แี ต่งตัวมาลัยดงั นี้ 1) นามาลยั ตวั หนอน มาลัยกลมลายเกลียว 2) คลอ้ งมาลยั กลมยกดอกผกู เปน็ โซ่ ผูกตอ่ กนั 3) คล้องมาลยั กลมลายเกลยี วกลางมาลยั 4) นามาลัยกลมยกดอกลาย 2 มดั กลางมาลยั กลมยกดอกทง้ั 2 ข้าง กลมลายเกลียว 5) ผูกอุบะไทยทรงเครอ่ื งตอ่ กับมาลัยกลม 6) นามาลัยซกี ยอดรักผูกปดิ รอยต่อด้าย ยกดอกแบบท่ีสอง
162 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"2.2 การรอ้ ยพวงมาลัยชายเดียวแต่งช่อ 2.2.1 ส่ิงท่ตี อ้ งเตรียม การร้อยมาลัยกลมแต่งชอ่ มีการเตรียมวัสดอุ ุปกรณด์ งั นี้ 1) กล้วยไม้ 1 กา 2) ดอกรักเปลือก 1 ลิตร 3) ดอกพุด 1 ลติ ร 4) บานไมร่ ้โู รย 1 ขีด 5) ดอกเบญจมาศน้า 1 ห่อ 6) ขั้วชบา พลาสติก 15 ข้ัว 7) ใบตอง 1 กิโลกรัม 8) ดา้ ยรอ้ ยมาลยั (เบอร์ 8) 1 มว้ น 9) เขม็ ร้อยมาลยั 1 อนั 10) กรรไกร 1 อนั 11) เขม็ มอื (เบอร์ 8, 9) 1 อัน 2.2.2 วธิ ีร้อยมาลยั กลม ยาว 6 นว้ิ 3 เสน้ (ยาว 18 น้วิ ) 1) วธิ ที า ทาแป้นใบตอง 2) แถวท่ี 1 รอ้ ยดอกพดุ รอบ 15 ดอก ตามผังลายการรอ้ ยมาลยั กลม 3) แถวที่ 2 ร้อยเหมอื นแถวที่ 1 แต่ให้เฉยี งหรือสับหวา่ งระหว่างดอกที่ 1 และ ดอกที่ 2 ของแถวที่ 1 ตามผงั ลายการร้อยมาลัยกลม 4) แถวท่ี 3 รอ้ ยเหมอื นแถวที่ 2 เฉยี งสบั หว่าง ไปเรอ่ื ยๆ ตามผังลาย การรอ้ ยมาลัยกลม 5) รอ้ ย 6 นิ้ว 3 เส้น นามาประกอบ ให้ได้ 1 เสน้ ผูกใหเ้ ป็นวงกลม 6) ร้อยมาลัยซีกยกดอก ยาว 6 น้วิ 1 เส้น พักไว้
163 7) ร้อยบานไมร่ ู้โรยซกี ยาว 3 นว้ิ (7 ดอก) พกั ไว้ 8) ร้อยตัวกระแต 1 ตัว และดอกไม้ (ดอกขา่ 7 ดอก) พักไว้ 2.2.2 วธิ ีรอ้ ยอุบะ 1) วิธกี ารทาอุบะพู่ ดอกรัก 7 ดอก จานวน 1 เสน้ 2) ดอกรกั 6 ดอก จานวน 5 เสน้ 3) ดอกรัก 4 ดอก จานวน 8 เสน้ 4) ร้อยอุบะพู่ 1 พวง ผกู รวมกัน 5) นามาลัยซีกยกดอกคาดกลางมาลัยกลมดอกพดุ แลว้ ผูกอุบะพู่ ปิดรอยต่อ ดว้ ยมาลัยซีกดอกบานไมร่ โู้ รยเพอื่ ปิดรอยต่อให้เรยี บร้อย 6) นาตวั กระแต และช่อดอกไม้ (ดอกขา่ 7 ดอก) ประกอบตกแตง่ ให้สวยงาม บนมาลยั กลม ตกแตง่ และจัดชอ่ ใหแ้ นน่ และสวยงาม แผนผงั มาลยั กลม 5 4 3 2 1 15 14 13 12 11 10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 สญั ลักษณ์ = ดอกพุด * หมายเหตุ : ร้อย แถวเฉียงไปเร่ือย ๆ ได้ความยาว 6 น้ิว 3 เสน้ (ยาว 18 นว้ิ ) \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \" 164
165 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพท่ี 8.5 มาลยั สองชายแต่งชอ่ ที่มา : สายบงั อร ปานพรม, 2557 2.3 การร้อยพวงมาลัสองชายลายเกลยี ว 2.3.1 ส่ิงทีต่ ้องเตรยี ม การร้อยพวงมาลยั สองชายลายเกลยี ว มีการเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ดงั น้ี 1) กล้วยไม้ขาว 1 กา 2) กหุ ลาบเหลือง 1 กา 3) กุหลาบมอญ (ดอกใหญ่) 1 ถุง 4) ใบแกว้ 300 ใบ 5) ดอกรกั เปลือก 1 ลิตร 6) ดอกพดุ 1 ลิตร 7) บานไม่รโู้ รย 1 กิโลกรมั 8) ขว้ั ชบา พลาสตกิ 14 ขวั้ 9) ใบตอง 1 กิโลกรมั 10) ดา้ ยรอ้ ยมาลยั (เบอร์ 8) 1 มว้ น 11) เขม็ รอ้ ยมาลยั (เขม็ ดา หรอื เข็มญป่ี ่นุ ) 1 อัน 12) กรรไกร 1 อัน 13) เขม็ มือ (เบอร์ 8, 9) 1 อัน 2.2.3 วิธีรอ้ ยมาลัยกลม 1) รอ้ ยมาลยั กลมลายเกลียว สลับสตี ามผงั ลาย ยาว 9 นิ้ว 2 เสน้ (ยาว 18 นิ้ว)
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"166 2) วธิ ีทา ตดั แตง่ ใบแก้วใหค้ รบ 300 ใบ ทาแป้นใบตอง 3) แถวที่ 1 กลบี กุหลาบมอญ 2 กลีบ กลบี กุหลาบสเี หลอื ง 2 กลีบ ใบแก้ว 2 ใบ และดอกพดุ 2 ดอก ตามผงั ลายมาลยั กลมลายเกลยี ว 4) แถวท่ี 2 ร้อยเหมือนแถวท่ี 1 แตใ่ ห้เฉยี งกลีบกุหลาบมอญ 2 กลบี ให้ชดิ กบั กลบี กุหลาบสเี หลือง และร้อยเฉยี งไป 5) แถวท่ี 3 รอ้ ยเหมอื นแถวท่ี 2 ใหเ้ ฉียงกลีบกหุ ลาบมอญ 2 กลบี เฉยี งขน้ึ ไปเรอื่ ย ๆ จนครบ 9 นิ้ว จานวน 2 เขม็ เสร็จแล้วรดู ใส่ได้ ผูกเพื่อให้เป็นเสน้ เดยี วกัน และรวบผูกให้ ไดว้ งกลม 6) ร้อยดอกบานไมร่ ู้โรยซีกยาว 3 นว้ิ (ประมาณ 7 ดอก) 1 เสน้ 7) วิธีการทาอบุ ะพู่ เสน้ ที่ 1 ดอกรกั 7 ดอก 1 ขา ดอกรกั 6 ดอก 4 ขา ดอกรัก 4 ดอก 8 ขา นามาผกู รวมเปน็ 1 พวง 8) วธิ ที า ชอ่ เอื้อง ดอกใหญ่ 1 ดอก ใชจ้ มกู 3 กลบี กลีบใหญ่ 4 ชนั้ รวม ประมาณ 18 – 20 กลีบ 9) ดอกกลาง จานวน 4 ดอก ใช้จมูก 3 กลีบ กลบี ใหญ่ 3 ช้นั รวม ประมาณ 12 กลบี 10) ดอกเลก็ จานวน 6 ดอก ใชจ้ มูก 3 กลีบ กลีบใหญ่ 2 ชนั้ รวมประมาณ 6 - 9 กลบี 11) นามาลัยกลมลายเกลยี ว ผูกกบั อบุ ะพู่ ขอ้ ผูกด้วยบานไม่รโู้ รยซกี เพื่อปดิ รอยตอ่ ให้เรียบร้อย 12) นาดอกท้ัง 3 ขนาด มาประกอบเปน็ ชอ่ ได้ 2 ชอ่ แลว้ นามาประกอบ ตกแตง่ ชอ่ เอื้องให้สวยงามบนมาลัยกลมลายเกลยี ว ตกแตง่ และจดั ช่อใหแ้ น่นและสวยงาม แผนผงั มาลัยกลมลายเกลยี ว 8 7 6 5 4 3 2 1 8 7 6 54321
167 สญั ญาลักษณ์ = กลบี กหุ ลาบมอญ = กลบี กหุ ลาบสเี หลอื ง = ใบแก้ว = ดอกพุด \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"168 ภาพท่ี 8.6 มาลัยสองชายลายเกลียว ท่ีมา : สายบังอร ปานพรม, 2557 3. พวงมาลัยสองชาย พวงมาลัยสองชายหรือมาลัยคล้องคอมีลักษณะเป็นมาลัยสองชายโดยผูกติดกับโบว์หรือ รบิ บิ้นผูกต่อด้วยอุบะทั้งสองข้างใช้สาหรับคล้องคอคู่บ่าวสาวเพ่ือช่วยเสริมให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเด่นและ สง่างามเป็นพิเศษในงานเล้ียงฉลองการสมรส ปัจจุบันมาลัยสองชายมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ให้ เหมาะกบั บคุ ลกิ ภาพของคู่บา่ วสาว ซ่งึ ในบทน้ีไดน้ าเสนอรูปแบบและวธิ ีการรอ้ ยมาลัยสองชายไว้ ดังนี้
169 3.1 พวงมาลัยสองชายหว่ งรกั เป็นการออกแบบโดยใชด้ อกรักร้อยมาลัยกลมผกู เป็น ห่วงกลมตรงกลางผูกด้วยพวงอบุ ะ ซึง่ มีวิธกี ารร้อยดังนี้ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพที่ 8.7 พวงมาลยั สองชายหว่ งรัก ทมี่ า : พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสดิ,์ 2546, หน้า 349 3.1.1 ส่ิงทตี่ ้องเตรียม การร้อยพวงมาลยั สองชายหว่ งรัก มีการเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ดังนี้ 1) กลว้ ยไม้สชี มพู 1 กา 2) ดอกรัก 3 ลติ ร 3) กลีบเลีย้ งดอกรกั 25 กลีบ 4) กลีบเลย้ี งพลาสติก 25 กลบี 5) ดา้ ยขาวเบอร์ 60 1 หลอด 6) ดา้ ยขาวเบอร์ 8 1 หลอด 7) โบทองยาว 40 นว้ิ 8) ใบตองกวา้ ง 5 นิว้ 1 แผน่ 9) เขม็ มาลัย 2 เลม่ 10) วาสลนี 1 ตลับ 11) กรรไกร 1 อัน 3.1.2 วิธีรอ้ ยมาลยั กลมดอกรัก มวี ธิ กี ารรอ้ ยดงั นี้ 1) รอ้ ยมาลยั กลมดอกรกั ขนึ้ ต้น 6 กลีบ ร้อยแต่ละช้ัน ให้สบั หว่างกันทุกช้ัน
170 2) ร้อยมาลัยกลมดอกรักตามแผนผังมาลัยให้ได้ความยาว 10 น้ิว โดยใช้ แทนกลีบดอกรัก ดังแผนผงั ลายมาลยั กลม 12 หลัก ดังผงั แผนผังมาลยั กลม 11 10 9 8 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 7 6 5 4 3 2 1 แถวท่ี 3) ร้อยมาลัยกลมจานวน 2 เขม็ 4) มัดมาลยั กลมดอกรักให้เป็นวงกลม 3.1.3 วธิ รี อ้ ยอบุ ะ มีวธิ กี ารร้อยอุบะดังน้ี 1) เยบ็ ดอกตุ้มกลบี กล้วยไม้จานวน 18 ดอก 2) ร้อยอบุ ะแขก 9 ขา จานวน 2 พวง 3) เยบ็ ดอกตุ้มดอกขนาดเลก็ 6 ดอก ร้อยอุบะ ไทยธรรมดา 2 พวง
171 3.1.4 วิธีรอ้ ยมาลัยซกี มีวธิ กี ารรอ้ ยมาลัยซีกดงั นี้ 1) นายอดรกั ร้อยมาลัยซีกตามแผนผงั โดยใช้ แทนยอดรกั ดงั แผนผังลาย มาลัยซกี 5 หลักดังแผนผัง แผนผงั มาลัยซีก 5 หลกั แถวท่ี 10 แถวท่ี 9 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" แถวที่ 8 แถวท่ี 7 แถวท่ี 6 แถวที่ 5 แถวที่ 4 แถวที่ 3 แถวที่ 2 แถวที่ 1 2) ร้อยมาลยั ซีกยอดรักความยาว 3.5 น้ิว จานวน 2 เข็ม รดู ใสด่ ้ายเบอร์ 8 3.1.5 วธิ เี ยบ็ โบ มีวธิ กี ารเย็บดังนี้ 1) ตดั ริบบิน้ ทาสายคล้องคอยาว 19 น้วิ 1 เสน้ 2) ตดั รบิ บน้ิ ทาหูโบยาว 5.5 นว้ิ 4 เส้น จับปลายรบิ บ้นิ เกยทับกนั ตรงกลางเนารูด ด้วยด้าย 3) เย็บริบบน้ิ อีกหน่งึ เสน้ ในลักษณะเดียวกนั เนาหโู บทงั้ สองหตู ่อกนั 4) ตดั ชายโบยาว 4.5 น้วิ ตดั แต่งชายท้งั สองขา้ งเย็บหูโบวต์ ดิ ด้านล่าง เยบ็ ตรงึ ตรง กลางดว้ ยด้นิ ทอง 5) เยบ็ หูโบตดิ กับปลายดา้ ยยาว 3 นว้ิ สาหรับผกู มาลยั
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"172 3.1.6 ประกอบมาลยั มวี ธิ ีการประกอบมาลยั ดงั น้ี 1) นาอบุ ะไทยธรรมดาผูกกลางมาลยั กลม 2) ผูกอบุ ะแขกดา้ นลา่ งหว่ งรกั กลีบดอกรกั 3) ผูกโบคล้องคอตดิ กบั หว่ งรักทั้งสองข้าง 4) รดั มาลัยซีกยอดรักปิดปมรอยต่อ 3.2 พวงมาลัยสองชายคูท่ ับทิม เปน็ แบบมาลยั ท่ีออกแบบการรอ้ ยโดยร้อยเปน็ มาลยั แบนสองด้านหวั ทา้ ยเรยี ว ผกู ต่อกันสองเข็ม ปิดรอยต่อมาลัยดว้ ยมาลยั ซีกยอดรกั ซึง่ มวี ิธีการรอ้ ยดงั น้ี
173 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพท่ี 8.8 พวงมาลัยสองชายคทู่ ับทมิ ทม่ี า : พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ด,์ิ 2546, หนา้ 358 3.2.1 สิ่งทต่ี ้องเตรยี ม การรอ้ ยพวงมาลยั สองชายคู่ทับทิม มีการเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ดงั น้ี 1) กลว้ ยไม้ยอ้ มสชี มพู 1 กา 2) กลว้ ยไม้สขี าว 1 กา 3) ดอกเบญจมาศน้า 30 ดอก 4) ดอกพุด 0.5 ลิตร 5) ดอกรัก 2 ลติ ร 6) กลบี เลยี้ งดอกรกั 20 กลีบ 7) กลีบเล้ียงพลาสติก 20 กลีบ 8) ใบตองกว้าง 10 นว้ิ 1 แผ่น 9) โบว์ 40 นิ้ว 10) ดา้ ยขาวเบอร์ 60และเบอร์ 2 1 หลอด 11) วาสลีน 1 ตลับ 12) เข็มมอื เบอร์ 9 1 ห่อ 13) เขม็ มาลยั 2 เลม่ 14) กรรไกร 1 อัน
174 3.2.2 วธิ รี ้อยมาลัยแบนสองหนา้ มวี ิธกี ารร้อยดงั น้ี 1) แถวแรกร้อยกลบี กลว้ ยไม้ 4 กลบี ส่งกลบี เท่ากันทง้ั สก่ี ลีบ จากน้ันวา่ งกลีบท้งั สม่ี ุม \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"2) แถวท่สี องรอ้ ยกลบี กลว้ ยไม้เพมิ่ เปน็3) แถวท่ีสามร้อยกลบี เพมิ่ เป็น 8 กลีบสง่ กลีบ 6 กลีบ ส่งกลบี ให้ยาวข้นึ ใหย้ าวขึ้น 4) แถวทส่ี ีถ่ ึงหกร้อยกลบี กล้วยไมเ้ พ่ิมช้ัน 5) เรม่ิ รอ้ ยมาลัยแบนลายขนมเปียกปูน ละ 2 กลีบ ยกดอก 6) ร้อยมาลัยแบนยกดอกสองหน้าตามผังลายโดยใช้ X แทนกลบี กล้วยไม้ ใช้ 0 แทนดอกพุดและใช้ แทนดอกเบญจมาศน้า ดงั แผนผัง
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 175 แผนผังมาลยั แบนยกดอกสองหน้า 13 X 0 X 0 12 X X 0 0 X X 0 0 11 X 0 0 X 0 0 10 X X 0 0 X X 0 0 9 X0X0 8 XX00XX00 7 X 00 X 0 0 6 XX00XX00 5 X0X0 4 XX00XX00 3 X 0 0 X 0 0 2 XX00XX00 1 X0X0 แถวท่ี จานวนกลบี หมายเหตุ = ดอกเบญจมาศนา้ 0 = ดอกพดุ X = กลบี กล้วยไม้ 7) ร้อยมาลัยแบนสองหนา้ ใหไ้ ด้ 5 ลายร้อย กลีบกล้วยไมส้ ีขาว ลกั ษณะเหมือนเร่ิมตน้ 3.2.3 วิธรี อ้ ยมาลัยซีก มวี ธิ กี ารรอ้ ยมาลยั ซีกดังน้ี 1) นายอดรักร้อยมาลยั ซีกตามแผนผงั โดยใช้ แทนยอดรกั ดังแผนผังลาย มาลยั ซีก 5 หลัก
176 ผงั มาลัยซีก 5 หลัก แถวที่ 10 แถวท่ี 9 แถวท่ี 8 แถวที่ 7 แถวท่ี 6 แถวที่ 5 แถวท่ี 4 แถวที่ 3 แถวที่ 2 แถวที่ 1 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 2) ร้อยมาลยั ซกี ยอดรักความยาว 3.5 นิ้ว จานวน 4 เข็ม รูด ใสด่ ้ายเบอร์ 8 3.2.4 วธิ เี ย็บดอกตุ้ม มวี ิธกี ารเยบ็ ดังนี้ 1) นากลบี กลว้ ยไม้สีชมพูกลบี มนเยบ็ ดอกตุ้มทรงกลีบแย้มจานวน 18 ดอก 2) รอ้ ยอุบะแขก 2 พวง ๆ ละ 7 ขา
177 3.2.5 วธิ เี ยบ็ โบ มวี ิธเี ยบ็ โบว์ดังน้ี 1) เยบ็ หูโบ 2) เย็บหูโบตดิ ติดกับสายคล้องคอเหลือปลายด้าย ยาว 3 นวิ้ สาหรับผกู มาลยั \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 3.2.6 วธิ แี ตง่ ตัวมาลยั มีวธิ ีแตง่ ตวั มาลัยดงั น้ี 2) ผกู มาลยั ซีกตรงรอยตอ่ ดา้ ยดา้ นบน 1) นาสว่ นปลายของมาลยั แบน ท้ังสองเขม็ ผกู ตอ่ กนั ท้ังสองด้านมดั ใหแ้ น่น สองหรอื สามครง้ั ตดั ปลายด้ายออกจากน้ันผูก มาลัยซีกตรงรอยต่อด้ายด้านล่าง
178 3) นาปลายดา้ ยของโบผกู ติดกบั ปลายด้าย 4) นาอบุ ะผูกด้านล่างของชายมาลยั ท้งั สองข้าง ของตัวมาลัยทั้งสองข้าง โดยจะตอ้ งมดั ปม ด้ายใหแ้ นน่ เพอ่ื กนั ไม่ใหม้ าลยั หลุด \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"5) นามาลยั ซกี ยอดรักผูกปดิ ปมรอยต่อด้ายมัด 6) ผูกมาลัยซีกยอดรักอีกดา้ นในลกั ษณะ ปมดา้ ยให้แน่นจากนนั้ ตดั ปลายด้ายออก เดียวกนั เก็บปมดา้ ยซ่อนในกลีบดอกกล้วยไม้ ประโยชน์ของพวงมาลัย มาลัยมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดมีหน้าที่ใช้สอยต่างกันไปตามโอกาสและความ เหมาะสม ดงั นัน้ จะขอกลา่ วถงึ ประโยชน์โดยรวมของมาลยั ชนดิ ตา่ ง ๆ มดี งั นคี้ อื 1. ใชส้ าหรับคลอ้ งคอเพื่อเปน็ เกียรตแิ ก่เจ้าของงาน เช่น เจ้าบ่าว-เจ้าสาว ในงานแต่งงาน ผู้บังคับบัญชา หรือผู้มาร่วมงานคนใหม่ในงานเลี้ยงรับผู้มาใหม่ หรือผู้ท่ีจะย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ยังท่ี ทางานอ่ืนในงานเลี้ยงส่งผู้ที่จะจากไปยังท่ีอ่ืน ถ้าจัดงานเป็นพิธีมักจะนิยมใช้มาลัยสองชายชนิด สาหรับคล้องคอ เพ่อื เปน็ การแสดงถงึ การให้เกียรตแิ กบ่ ุคคลน้ันๆ เปน็ สาคญั 2. ใช้สาหรับคล้องคอ เพ่ือแสดงความยินดี หรือต้อนรับแขกผู้มาเยือน เช่น การต้อนรับ แขกต่างประเทศ อาจใช้มาลัยสองชายสาหรับคล้องคอ ในตอนที่ไปรับที่สนามบินเพ่ือเป็นการบ่ง บอกหรือแสดงออกถงึ ความยินดีทบ่ี ุคคลน้นั ได้มาเยือน
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 179 3. ใช้สาหรบั คล้องคอ เพ่ือแสดงความยินดี หรือเป็นเกยี รตแิ ก่ผ้มู ีชัยชนะในการประกวด ต่างๆ เช่น การประกวดความงาม การประกวดร้องเพลง หรือการประกวดการแสดงต่างๆ ฯลฯ ส่วนใหญม่ กั นิยมใช้มาลัยสองชาย หรืออาจเป็นมาลยั พวงดอกไม้สวยๆ 4. ใช้สาหรับคล้องคอ เพ่ือแสดงความยินดี หรือเป็นเกียรติแก่ผู้มีชัยชนะในการแข่งขัน ต่างๆ เช่น การแข่งขันกีฬา กรีฑา และการละเล่นต่างๆ ส่วนใหญ่นิยมใช้มาลัยสองชาย หรือ มาลัยสาหรับสวมคอ 5. ใช้สาหรับมอบให้กับบุคคลผู้มีช่ือเสียง เพื่อเป็นการรับขวัญหรือเพ่ือเป็นการแสดงออก ซงึ่ ความรักและศรัทธา ความนิยมชมชอบ เช่น บุคคลสาคัญ บุคคลดีเด่น หรือดาราที่เป็นขวัญใจ ประชาชน สว่ นใหญ่นิยมใช้มาลัยสองชายสาหรบั สวมคอ หรือมาลัยคลอ้ งมือ 6. ใช้สาหรับทูลเกล้าฯ ถวายในการรับเสด็จในการเข้าเฝ้าตามโอกาสท่ีเหมาะสม ส่วน ใหญก่ น็ ิยมใช้มาลัยคลอ้ งมือ ท่ีเรียกวา่ มาลยั ขอ้ พระกร 7. ใชส้ าหรับมอบให้แก่ประธานหรือแขกผู้ใหญใ่ นงาน เช่น งานหล่งั นา้ สงั ข์แก่คูบ่ ่าวสาว งานมอบประกาศนยี บัตร งานมอบทุนต่างๆ ซงึ่ มักจะใช้มาลัยคลอ้ งมือหรือมาลยั มือถือ 8. ใช้สาหรับเป็นของชารว่ ยแกแ่ ขกท่ีมาในงาน เช่น งานหลง่ั น้าสังขแ์ ก่คบู่ ่าวสาวในงาน มงคลสมรสท่ีนยิ มใช้คอื มาลัยชาร่วยขนาดเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มหรอื มาลยั ตวั สตั วข์ นาดเลก็ 9. ใช้สาหรับในงานประเพณีพ้ืนบ้านของไทยบางท้องถิ่น เช่น ภาคเหนือจังหวัด เชียงใหม่ นิยมใช้มาลัยพวงดอกมะลิคล้องท่ีคอ เช่น งานเล้ียงขันโตก งานทาบุญในวันสงกรานต์ ประเพณีรดน้าดาหัวผู้ใหญ่ ฯลฯ ซึ่งผู้ที่มาร่วมในงานน้ันต่างก็คล้องมาลัยพวงดอกมะลิ ซึ่งก็เป็น เอกลักษณ์แบบไทยท่ีดีและน่าภาคภูมิใจอย่างหน่ึงเช่นกัน เพราะนอกจากจะสวยงามแล้วยังส่งกลิ่น หอมช่วยสรา้ งบรรยากาศในงานให้สดชนื่ 10. ใช้แขวนประตู หนา้ ต่าง หรอื เพดานตามช่องแคบๆ แทนเครื่องแขวนชนิดเล็ก เช่น มาลยั โซ่ มาลยั เปยี 11. ใช้เป็นเฟ่อื งขนาดใหญ่ เช่น มาลัยแบน มาลยั กลม มาลยั ตัวหนอน และมาลัยรี 12. ใช้บูชาพระพุทธรูปหรือสิ่งศักด์ิสิทธิ์ต่างๆ เช่น มาลัยชายเดียว หรือมาลัยสองชาย จะใชข้ นาดพวงเลก็ ใหญ่แล้วแต่ความเหมาะสมเป็นสาคัญ 13. ใช้แขวนหรือห้อยประดับเครื่องดนตรีไทยในเวลาที่จะเล่น นอกจากน้ันยังเป็นการ กราบระลกึ ถึงครูบาอาจารย์ผทู้ ่ีใหค้ วามรู้และอีกประการหนงึ่ เพ่ือเป็นขวญั กาลงั ใจ ทนี่ ิยมใช้ก็คือมาลัย ซีก หรือมาลัยกลมขนาดเลก็ มีอุบะห้อยเป็นชาย 14. ใชใ้ นการประกอบทา่ ราไทยบางชุด เชน่ ฟอ้ นมาลยั รจนาเสี่ยงพวงมาลัย ฯลฯ ซ่ึง นิยมใชม้ าลยั ชายเดียวขนาดเล็ก อาจจะเป็นมาลัยซีกหรือมาลยั กลม 15. ใช้ในพิธีบวงสรวงเทพยดาต่างๆ เช่น พิธีบวงสรวง พิธีแก้บน มักจะนิยมใช้มาลัย ชายเดยี ว หรือมาลัยพวงดอกไม้ เชน่ มาลยั สามสี มาลัยเจ็ดสเี จด็ ศอก 16. ใชส้ าหรับตกแตง่ รัดมวยผม เช่น มาลยั ซกี ดอกมะลิ หรือมาลยั ซีกกลีบกหุ ลาบ 17. ใช้ประดิษฐ์เป็นดอกไม้สาหรับจดั แจกัน หรือจัดตกแต่งสถานทีต่ ่างๆ เช่น มาลัยตุ้ม เสรมิ กา้ นไม้ผูกมดั เปน็ ดอกไม้
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"180 18. ใช้ในการคารวะผู้ที่เคารพนับถือ ท่ีได้ล่วงลับไปแล้ว เช่น ห้อยคล้องกรอบรูป ซ่ึง มักจะนิยมใชม้ าลัยสองชายริบบนิ้ สดี าหรอื ขาว 19. ใช้ในการประดับตกแต่งงานดอกไม้สดต่างๆ เช่น มาลัยกลม มาลัยแบน มาลัยตัว หนอน มาลยั ลกู โซ่ ฯลฯ 20. ใชใ้ นการตกแตง่ สง่ิ ตา่ งๆ บางโอกาส เชน่ รดั ฐานพระพุทธรปู รัดธปู เทยี นแพ รัด เอวโกศ ฯลฯ ส่วนใหญ่นยิ มใชม้ าลัยซีก มาลัยกลม และมาลัยแบน 21. ใช้แขวนหรือห้อยหน้ารถ หัวเรือ รูปปั้นอนุสาวรีย์บุคคลสาคัญ หรือส่ิงท่ีเคารพ บชู าตา่ งๆ ส่วนใหญน่ ยิ มใช้มาลยั สองชายหรอื มาลยั ชายเดยี ว 22. ใช้ในการตกแตง่ ประดับเวที หรือสถานที่ในงานพิธี เช่น ตกแต่งเวทีที่ประทับในงาน พระราชทานปริญญาบัตร ตกแต่งโต๊ะอาหารในงานเลี้ยงรับรองพิธีใหญ่ๆ ตกแต่งโต๊ะอาหารในงาน เล้ียงฉลองมงคลสมรส ฯลฯ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ คือ มาลัยกลม มาลัยแบน มาลัยรี มาลัยตัว หนอน และมาลยั ตุ้ม ความงามของพวงมาลยั ความงามของมาลยั ขน้ึ อยู่กับสง่ิ ตา่ งๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. สัดส่วนของพวงมาลัย มาลัยแต่ละแบบแต่ละชนิดมีสัดส่วนท่ีเฉพาะในพวงน้ันๆ ซ่ึง ไม่อาจกล่าวเป็นตัวเลขท่ีกาหนดเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวแน่นอน แต่ต้องคานึงถึงสัดส่วนเป็นสาคัญ โดย จะต้องคานึงถึงขนาดของมาลัยต่อความยาวของอบุ ะ จานวนขาของอุบะทีใ่ ช้ ขนาดของมาลัยซีกที่ จะใช้รัด และส่วนประกอบอื่นๆ ทุกชิ้น ควรจะต้องไดส้ ดั ส่วนกันจึงจะเกดิ ความงามได้ 2. สีสันของพวงมาลัย สีของดอกไม้ ใบไม้ที่ร้อยมาลัยเป็นส่ิงสาคัญอีกประการหนึ่ง เช่นกัน ควรจะเป็นสีท่ีสดใสไม่เศร้าหมอง มาลัยแต่ละพวงแต่ละแบบควรจะใช้สีท่ีมีความกลมกลืน เข้ากันได้ในบางส่วน แต่บางส่วนที่ควรจะเน้นให้เกิดจุดเด่น ควรใช้สีท่ีตัดกันจะช่วยเพ่ิมความน่าดู และสวยงามขึ้นได้ เช่น มาลัยที่ร้อยใส่ลวดลายต่างๆ ควรจะเลือกใช้สีที่ตัดกันเพ่ือจะได้เน้นลายให้ เดน่ ชัดขึ้น 3. ฝีมือการร้อย จะต้องมีความประณีตตั้งแต่การตัดกลีบ (สาหรับดอกไม้ ใบไม้บาง ชนิด)การพับกลบี การส่งกลีบ การรอ้ ยส่งกลีบเรียงใหเ้ สมอกัน การผกู ให้เรียบร้อย สง่ิ เหล่าน้ีถา้ ทา ดว้ ยความประณีตจะทาใหม้ าลยั เกิดความสวยงาม 4. ความสดของดอกไม้ ดอกไม้หรือใบไม้ท่ีใช้ในการร้อยมาลัย ควรจะต้องสดและใหม่ อยู่เสมอมีการดูแลรักษาอย่างถูกต้องตามธรรมชาติของดอกไม้แต่ละชนิด และในระหว่างการร้อย มาลยั ควรจบั ต้องดอกไม้ ใบไม้อย่างเบามือ เพ่อื จะไดไ้ มเ่ กิดรอยช้าเหย่ี วเฉาได้งา่ ย การเก็บรักษาพวงมาลัย มาลยั ทีร่ อ้ ยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ายงั ไมถ่ งึ เวลาทจ่ี ะใชค้ วรจะตอ้ งมวี ธิ ีการเก็บรกั ษาทดี่ ี เพื่อให้พวงมาลัยมีความสดอยู่ได้นานเทา่ ทคี่ วร ซง่ึ มีหลายวิธีด้วยกนั คอื 1.วางในถาดท่รี องด้วยใบตอง คลมุ ดว้ ยผ้าขาวบางชุบน้าบดิ หมาดๆ เกบ็ ไวใ้ นทเ่ี ยน็ ลม ไม่โกรก วธิ นี ี้นยิ มใช้กับการเก็บระยะเวลาไม่นานนัก
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 181 2.ใสถ่ งุ พลาสติกวางหรอื แขวนไวใ้ นทีเ่ ยน็ แต่ลมไมโ่ กรก วิธีการน้ีนิยมใช้กบั การเกบ็ ใน ระยะเวลานานกว่าวธิ กี ารแรก 3.ใสถ่ งุ พลาสตกิ เก็บไวใ้ นชอ่ งเกบ็ ผักสดในตู้เย็น วิธีการนี้ใชเ้ กบ็ ในระยะเวลาหลายชวั่ โมง หรอื การเก็บคา้ งคืน สรุป พวงมาลัย หมายถึง การประดิษฐด์ อกไม้โดยการร้อยกรองดอกไม้ในลักษณะการรอ้ ยแบบ ไทยโดยนาดอกไม้ กลีบดอกไม้ ใบไมต้ ่างๆ ที่สามารสนามาตัด พับและร้อยด้วยเข็มมาลัย แล้วรูดออก ใสด่ ้าย ผกู เป็นพวงมีลกั ษณะแตกต่างกนั พวงมาลัยแบง่ ออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ พวงมาลัยชาร่วย เป็นมาลัยขนาดเล็ก ๆ สาหรับใช้เป็นของชาร่วย มีหลายแบบ อาจมี ลักษณะชายเดียวมีโบและอุบะ 2 ขา หรือมาลัยตัวสัตว์ มาลัยตุ้ม มาลัยโซ่ กระรอก กระแต ตัวหนู มาลัยตัวชะนี มาลัยตัวด้วง หรือมาลัยผ้าเช็ดหน้า มาลัยชาร่วย นิยมมอบให้เพ่ือขอบคุณในงาน เช่น งานแต่งงาน การร้อยมาลัยชาร่วย รูปแบบที่ง่ายไปจนถึงการร้อยมาลัยที่มีลวดลาย หลากสีสัน งาน มาลัยนอกจากจะก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว ยังเกิดคุณค่าที่แสดงถึงความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของ ไทย ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า สร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นถึงความ ละเอยี ดออ่ นงดงาม ควรค่าแก่การอนรุ ักษ์ คุณค่าทางสังคม พวงมาลัยชายเดียว หรือ มาลัยข้อมือ เน่ืองจากใช้ถือ บางคนเรียก มาลัยข้อพระกร มาลัย ข้อมือ หรือ มาลัยคล้องแขน บางคนเรียกมาลัยเปีย ซึ่งเป็นมาลัยที่ผูกต่อเป็นวงกลมมีอุบะห้อยชาย เพียงพวงเดียว ใช้ในงานมงคลสมรส มอบให้แขกผู้เป็นประธานในพิธีหลั่งน้าอวยพรคุ่บ่าวสาว การ ร้อยมาลัยคล้องมือทาได้หลายแบบ จะร้อยเป็นมาลัยกลม มาลัยแบน มาลัยโซ่ ลักษณะการร้อย รูปทรงตามขวางเป็นวงกลม และรูปทรงตามยาวตรงและขนานกันไปตลอดเข็ม ขนาดและความ สวยงามจะแตกต่างกันไปตามชนิดของดอกไมแ้ ละใบไม้ท่ีนามาร้อยประกอบเข้าด้วยกันพร้อมการให้สี ตามวัตถุประสงค์การนาไปใช้ท่ีแตกต่างกัน การร้อยมาลัยท่ีใช้หลักการร้อยด้วยการนับจานวน ดอก กลีบดอก และใบ ซ่ึงประกอบไปด้วย มาลัยกลมหกหลัก มาลัยกลมแปดหลัก มาลัยกลมสิบหลัก มาลัยกลมสิบสองหลัก เป็นต้น ส่วนแบบมาลัยจะประกอบด้วย 2 แบบใหญ่ ๆ คือ มาลัยกลมแบบ ไม่มีลาย หรอื เรยี กอีกอย่างหนึ่งว่า มาลัยเกลี้ยง หรือ ตอน หมายถงึ มาลยั กลมท่ีร้อยด้วยกลีบดอกไม้ หรือดอกไม้ หรือใบไม้ล้วน ๆ ไม่มีลวดลาย และเป็นสีเดียวกันตลอด และมาลัยกลมแบบมีลาย หรือ บางคนเรียกว่า มาลัยกลมยกดอก หมายถึง มาลัยกลมท่ีร้อยใส่ลวดลายต่าง ๆ ลงไป ลายท่ีนิยมใช้ สาหรับร้อยใส่มาลัยกลมได้แก่ ลายเกลียว ลายคดกริช ลายตาประชุม และลายตาประกอบ นิยมสีท่ี กลมกลนื ลวดลายเด่นชัดและมีขนาดสดั สว่ นท่ีเหมาะสมกับการนาไปใชง้ าน พวงมาลัยสองชายหรือมาลัยคล้องคอมีลักษณะเป็นมาลัยสองชายโดยผูกติดกับโบว์หรือ ริบบิ้นผูกต่อด้วยอุบะท้ังสองข้างใช้สาหรับคล้องคอคู่บ่าวสาวเพ่ือช่วยเสริมให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเด่นและ สง่างามเป็นพิเศษในงานเลี้ยงฉลองการสมรส ปัจจุบันมาลัยสองชายมีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ให้ เหมาะกบั บุคลกิ ภาพของคู่บา่ วสาว
182 แบบฝกึ หัดทา้ ยบท 1. การร้อยมาลัยชารว่ ยมักนยิ มนาไปใชใ้ นโอกาสใด พรอ้ มยกตัวอยา่ ง 2. การร้อยมาลัยชารว่ ยมกี รี่ ปู แบบอะไรบ้าง พรอ้ มยกตัวอย่าง 3. จงอธบิ ายความหมายการร้อยมาลัยชายเดียว พร้อมยกตัวอยา่ ง 4. จงอธบิ ายรปู แบบของการรอ้ ยมาลัยสองชายคู่ทบั ทิม พร้อมยกตวั อย่าง 5. หากท่านจะนาวธิ กี ารร้อยมาลยั ชายเดยี ว ไปประยกุ ต์ใชท้ ่านจะนาไปใชอ้ ยา่ งไร ยกตวั อยา่ งมา 2 รูปแบบ พร้อมอธิบายเหตุผล \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
183 เอกสารอา้ งองิ จันทนา สวุ รรณมาล.ี (2533). มาลยั . กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร.์ ชุมสาย สวนสิร.ิ (2534). ดอกไม้สด. ตาราเลม่ พิเศษในเครือนิตยสารขวญั เรือนและงานฝีมือ, ศรีสยามการพมิ พ์ จากดั , กรุงเทพมหานคร. . (2553) เรียงร้อยมาลัย, รวมมาลัยดอกไมส้ ดแบบต่างๆ . กรงุ เทพมหานคร, ขวัญเรือน – งานฝีมอื . บษุ กร เข่งเจริญ, (2553).ร้อยกรองมาลยั ดอกไม้สด, สถาบันภาษา ศิลปะและวฒั นธรรม มหาวิทยาลัยราชภฏั สวนดุสิต. ประดดิ ประดอย หมวดวัฒนธรรม, สานักพิมพ์ แมบ่ า้ น จากดั , พิมพ์ครงั้ ที่ 1. พรยุพรรณ พรสุขสวสั ดิ์. (2548). การจดั ดอกไมใ้ นพธิ ีมงคลสมรส. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัย ราชภฏั สวนดสุ ติ . มณรี ัตน์ จันทนะผะลิน. (2521) มะลสิ ัญลักษณ์วนั แม่ของไทยหนังสอื ชุด มรดกไทยเล่ม 2, เอกสารนเิ ทศ การศกึ ษา ฉบบั ท่ี 224 หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ กรมการฝึกหดั ครูวทิ ยาลยั ครูสวนดสุ ิต. รัตนลักษณ์ ปัญจวฒุ ิพฒั น์. (2547)งานดอกไมส้ ดในวัฒนธรรมไทย. กรงุ เทพมหานคร : เศรษฐศลิ ป์. วันเพญ็ พงษเ์ กา่ . (2548) เอกลักษณ์ไทยมาลยั ดอกไม้สด. สานกั พมิ พแ์ ม่บา้ น จากดั , กรงุ เทพมหานคร. \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \"
185 บทที่ 9 วสั การประดิษฐเ์ ครอ่ื งแขวนพวงดอกไม้ ผศ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" การประดิษฐเ์ คร่ืองแขวนพวงดอกไม้เปน็ ศิลปะที่มคี วามละเอยี ดอ่อน ตอ้ งใชค้ วามอดทนใน การประดิษฐจ์ ากหลกั ฐานทางโบราณคดตี ามโบราณสถานต่างๆ ในแถบทวีปเอเชยี ชใี้ ห้เหน็ วา่ คนใน สมัยก่อนจะนําดอกไม้มาประดับบา้ นเรือน ประเทศไทยเป็นดินแดนท่ีอุดมไปด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทําให้ประเทศไทยมี พรรณไม้ท่ีสวยงามหลากหลายชนิด ผนวกกับแนวความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย ที่ชอบงานศิลปะ ประดิษฐ์มาต้ังแต่สมัยโบราณ ก่อให้เกิดงานศิลปะประดิษฐ์อันประณีตงดงามมากมายหลายแขนง หนึ่งในน้ันคือ การประดิษฐ์เครื่องแขวนพวงดอกไม้ ซ่ึงด้วยดอกไม้มีอายุการใช้งานท่ีสั้น ทําให้เกิดภูมิ ปญั ญาทเ่ี กดิ จากการเลียนแบบของจริง ส่งผลให้เกิดลายปูนป้ันเป็นรูปดอกไม้ต่างๆ อาทิ ทับหลังของ ปราสาทในเขมร ลายปูนป้ันในพระราชวังในอินเดีย ลวดลายของสถูปเจดีย์ในวัดพระเชตุพลวิมลคลา รามเปน็ ตน้ การประดิษฐ์เคร่ืองแขวนพวงดอกไม้ ถือเป็นงานประดิษฐ์ที่ทําขึ้นเพ่ือใช้ในการประดับ ตกแต่งอาคาร สถานที่ และสิ่งที่เคารพบูชา เคร่ืองแขวนพวงดอกไม้มีรูปร่างเป็นเป็นพวงดอกไม้ท่ี สร้างสรรค์ข้ึนจากการนําดอกไม้ขนาดเล็ก มาเรียงร้อยรวมกันด้วยเส้นด้าย ประดิษฐ์เป็นเส้น เฟื่อง ลวดลายตาข่ายรูปต่างๆ การประดิษฐ์เคร่ืองแขวนพวงดอกไม้มี 2 ลักษณะคือ แบบสองมิติและแบบ สามมติ ซิ ึง่ มรี ายละเอียดดังน้ี แบบสองมิติ เป็นแบบของเคร่ืองแขวนท่ีมีลักษณะแบน มองเห็นได้ทั้ง 2 ด้าน เช่น ตาข่าย หน้าชา้ ง บันไดแก้ว วมิ านแทน่ เป็นตน้ ส่วนใหญ่จะใช้แขวนบรเิ วณหนา้ ต่าง ช่องประตู ที่มีลมผัดผ่าน เมื่อลมพัดเข้ามาในตัวอาคารที่ประดับด้วยเคร่ืองแขวนพวงดอกไม้ก็จะหอมอบอวลด้วยกลิ่นดอกไม้ที่ แขวนอยู่สร้างบรรยากาศทีส่ ดชนื่ ให้ผู้ที่อยู่อาศัย แบบสามมิติคือ แบบที่สามารถมองเห็นได้รอบทิศทาง เช่น กลิ่นคว่ํา พวงแก้ว พู่กลิ่น ระย้าน้อย ระย้าใหญ่ เป็นต้น เครื่องแขวนพวงดอกไม้ในลักษณะแบบน้ีจะใช้แขวนประดับภายใน บ้านเรอื นเพอื่ ให้เกดิ ความสวยงามและความประทับใจต่อผู้ท่ีได้พบเหน็ รูปแบบของเครื่องแขวนพวงดอกไม้สด ได้รับการพัฒนามาตามยุคสมัย โดยเฉพาะช่วงท่ี ประเทศมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติมากข้ึน รูปแบบวัฒนธรรมที่มาพร้อมกับชาวต่างชาติท่ีมี อทิ ธพิ ลตอ่ ชาวไทยในแต่ละยุคอยไู่ มน่ ้อย ทําให้เครือ่ งแขวนพวงดอกไม้สดเริ่มมีการปรับรูปแบบให้เข้า กับสมัยนิยมมากข้ึนอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ เช่น โคมจีน โคมไฟแบบยุโรป ซึ่งเป็นเครื่องแขวน พวงดอกไม้ ที่มีการผสมผสานทางวัฒนธรรมของงานดอกไม้สดที่เชิดหน้าชูตาของชาวไทยทําให้เกิด ความภาคภูมิใจในงานศิลปะประดิษฐ์อันทรงคุณค่า ที่ได้บ่มเพาะภูมิปัญญามาอย่างต่อเน่ืองจากรุ่นสู่ รุ่น จนถึงยุคปัจจุบัน ความงดงามของงานเครื่องแขวน ยังคงปรากฏให้คนรุ่นหลังได้สัมผัสถึงความ งดงาม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239