\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"36 2.2.10 ดอกรกั ดอกรักเป็นดอกไม้ที่ไม่ควรพรมน้ํามากจะทําให้ดอกรักใสและชํ้า ดอกรักที่ ยังไม่แกะเปลือกให้พรมนํ้าบางๆ การเก็บให้คลุมด้วยผ้าขาวบางและเก็บในท่ีเย็น ส่วนดอกรักท่ีแกะ เปลอื ก ใหห้ อ่ ดว้ ยใบตองใส่ ในถงุ พลาสตกิ รัดปากถุงให้แน่นเกบ็ ในตู้เย็นช่องผัก 2.2.11 ใบแก้ว การเก็บใบแกว้ ใหพ้ รมนํา้ ให้ท่วั เกบ็ ในถาดคลุมผ้าขาวบางหรือใส่ถุงพลาสติก รดั ปากถงุ ให้แน่นเก็บไว้ในท่อี ากาศไม่รอ้ น 2.2.12 ใบเงนิ ใบทอง ใบนาค ใบไม้ทั้งสามใบมีวิธีการเก็บรักษาในลักษณะเดียวกัน ถ้าเป็นช่อให้นําก้าน ช่อแช่น้ําและพรมน้ําให้ท่ัว แต่ถ้าเด็ดเป็นใบๆ ให้พรมนํ้ามากๆ เวลาเก็บให้ห่อด้วยใบตองใส่ ถงุ พลาสติกเก็บในตู้เยน็ 2.2.13 ใบตอง การเก็บรักษาใบตองให้สดทนนาน ควรนําใบตองแช่นํ้าอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน นาํ มาม้วนเปน็ มัด คลุมด้วยผ้าช้ืน ใส่ในถุงพลาสติกรัดปากถุงให้แน่น และควรเก็บตั้งไว้ใน ที่ ทมี่ ีความชื้น 2.2.14 ใบมะยม ควรเลอื กชนดิ ทีเ่ ป็นชอ่ ใบมกี ้านติด เก็บโดยนาํ ก้านแช่ในนาํ้ พรมนํ้าบางๆ ที่ ใบให้ทั่ว แต่ถ้าเป็นชนิดที่เด็ดออกเป็นใบๆ พรมนํ้าให้ท่ัวใส่ถาดคลุมด้วยใยตองหรือผ้าขาวบางชุบ นํ้าพอหมาดๆ หรืออีกวิธีหน่ึงให้พรมนํ้ามากๆ จนทั่วใบ นําใส่ถุงพลาสติกรัดปากถุงให้แน่น เก็บใน ตเู้ ยน็ ช่องผักด้านล่าง 2.2.15 ใบสนฉตั ร ใบสนฉัตรท่ีตัดมาใช้งานให้เลือกตัดเฉพาะขนาดท่ีต้องการ เวลาเก็บให้ห่อ ด้วยใบตอง หรือกระดาษ ใส่ถุงพลาสติกเก็บในตู้เย็น หรือขณะใช้งานให้ใส่ถาดคลุมด้วยผ้าชุบนํ้า หมาดๆ 2.3 การเลือกวสั ดุและอปุ กรณ์ การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ในพิธีมงคลสมรสถือเป็นส่วนท่ีสําคัญท่ี ชว่ ยให้การจัดดอกไม้ดาํ เนนิ ไปดว้ ยความสะดวกรวดเร็ว โดยมีวิธกี ารเลือกดงั ตอ่ ไปนี้ 2.3.1 การเลือกภาชนะ ภาชนะที่ใช้จัดดอกไม้ หมายถึง พาน หรือ แจกันสําหรับจัดดอกไม้รูปทรงต่างๆ ที่มีความสวยงาม สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและหลายลักษณะ ในการเลือกภาชนะท่ีใช้ จดั แจกนั จดั ดอกไม้ควรเลือกขนาดใหเ้ หมาะสมกับสถานท่แี ละลักษณะของการนําไปใชง้ านดังน้ี 1) พาน พานท่ีใช้สําหรับเป็นท่ีรองรับดอกไม้ ในการจัดพานรูปแบบต่างๆ ควร เลือกพานที่มีลักษณะก้นลึก สามารถใส่นํ้าได้มากพอ และควรเลือกใช้พานทองเหลืองจะให้ความรู้สึก ม่นั คงและสง่างาม 2) พานแกว้ ควรเลอื กพานแกว้ ที่มสี ขี าวเปน็ ประกายวาววับ
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 37 2.3.2 ท่ยี ดึ ดอกไม้ ที่ยึดอดไม้ถือได้ว่าเป็นวัสดุอุปกรณ์ท่ีช่วยยึดดอกไม้ ใบไม้ให้ยึดติดกับภาชนะ และชว่ ยใหก้ ารจดั ดอกไม้ในรปู แบบตา่ งๆ ได้สะดวกย่งิ ขึน้ ท่ยี ึดดอกไม้ทนี่ ํามาใช้มดี งั นี้ 1) โฟมดูดน้า ควรเลือกชนดิ ทดี่ ดู ซับนํ้าได้ดี เน้ือโฟมดูดน้ําละเอียดไม่ขาดไม่ยุ้ย ไดง้ า่ ย 2) ขี้เล้ือย ใช้สําหรับจัดพานขันหมากต่างๆ รวมถึงการจัดพานรับน้ําสังข์ ควร เลอื ก ข้ีเลอื้ ยเนอื้ ละเอยี ด และสามารถดดู ซบั นํ้าไดส้ ะดวก 3) โฟม ใช้สําหรับภาชนะท่ีมีปากกว้าง เช่น พานทองเหลือง โดยเลือกโฟม เนื้อ ละเอียดจะดกี วา่ โฟมเนือ้ หยาบโดยเกลาเป็นรปู ทรงพ่มุ หรือรูปครง่ึ วงกลม 4) ดนิ เหนยี ว ใช้สําหรบั จัดพานจากหนุ่ ดินเหนียวควรเลือกดินเหนียวที่ไม่มีกรวด หนิ ปนอยู่ และดินเหนยี วจะต้องไม่แหง้ หรือเปยี กจนเกินไป 5) กา้ นผกั ตบชวา ใชส้ าํ หรบั จัดพานจากหุ่นผักตบชวาควรเลือกผักตบชวาที่ก้าน ตรง แนน่ ไม่พอง 2.3.3 เครื่องมือเครื่องใช้ การเลือกใช้เครื่องมือเครื่องใช้ท่ีเหมาะสมจะช่วยให้การจัดดอกไม้ได้สะดวก ประหยัดเวลาและแรงงาน โดยเลอื กเครอ่ื งมอื และเคร่ืองใชท้ ี่เหมาะสมกับหนา้ ที่ใช้สอยดังน้ี 1) เข็ม ใชใ้ นการเย็บ ใชร้ ้อยมาลยั อบุ ะ หรือส่ิงอนื่ ๆ มีสองชนิดคือ เข็มขนาด ส้ันหรือเขม็ มือกบั เข็มขนาดยาวที่ใช้สาํ หรับร้อยมาลยั 2) ด้าย ที่ใช้มีสองชนิดคือ ด้ายหลอดเบอร์ 60 ใช้สําหรับเย็บแบบต่างๆ ร้อย เฟ่อื งร้อยอบุ ะ และดา้ ยท่ใี ชส้ าํ หรับรูดมาลยั 3) กรรไกร ที่ใช้มีสองขนาดคือ ที่ใช้สําหรับตัดแบบใบตอง กลีบดอกไม้หรือ ใบไม้ตา่ ง ๆ เวลาเลือกใช้ควรเลือกใชใ้ หเ้ หมาะกับลกั ษณะของงาน 4) คีมตัดลวด ใช้สําหรับตัดลวด หรือใช้ในการดึงเข็มมาลัยในขณะรูดมาลัย ออกจากเขม็ มาลัย 5) มดี ใชส้ ําหรับตัดหรอื เฉอื นสิง่ ตา่ งๆ ควรมที ั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ 6) มีดคัตเตอร์ ใชต้ ัดสง่ิ ต่าง ๆ เชน่ ใชส้ าํ หรับผา่ ไม้กลดั ให้มขี นาดเล็ก 7) ไม้กลัด ใช้เสียบดอกไม้สําหรับปักติดกับหุ่นพาน โดยท่ัวไปไม้กลัดมีสอง ขนาดคอื ขนาดส้นั และขนาดยาว ควรเลือกใชใ้ หเ้ หมาะกับลกั ษณะการใชง้ าน 8) เข็มหมดุ ใชส้ าํ หรบั ปักดอกไมแ้ ละใบไม้ใชย้ ึดตดิ กบั ตวั ห่นุ พาน เข็มหมุดท่ี ใช้จะเป็นชนิดหวั กลมคล้ายตะปูแต่ขนาดจะเล็กกวา่ 9) ลวด ที่ใช้มีหลายขนาดใช้สําหรับดามแบบกลีบบัว เสริมก้านดอกไม้ให้ แข็งแรงและยังใช้สําหรับทําลวดตวั ยู 10) ไมไ้ ผ่ ใช้เหลาใหม้ ีขนาดเลก็ สาํ หรบั ร้อยยอดในแบบงานท่ีมีการใช้ยอด และ ยังใช้ยึดชนิ้ งานท่มี ขี นาดใหญ่ 11) ทฉี่ ดี นา้ ใช้สําหรบั ฉีดนํา้ ดอกไม้ ใบไม้ ให้สดอยตู่ ลอดเวลา ควรเลือกชนิดที่ มีหวั ปบั ใหเ้ ป็นละอองฝอย ๆ
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"38 12) ผา้ ขาวบาง ใช้สําหรบั คลมุ ดอกไม้ ใบไม้ หรือพานต่างๆ ทจ่ี ดั เสร็จ แลว้ เพื่อ ไมใ่ ห้ชิ้นงานเหยี่ วเฉา 13) กระดาษทราย สําหรับไว้ขัดเข็มมาลัย เข็มมือเมื่อมีสนิมเกาะ ควรเลือกใช้ เบอร์ 0 เพราะมคี วามละเอยี ดทส่ี ดุ 14) น้ามนั วาสลิน สาํ หรับไว้ทาเข็มมาลัยกอ่ นร้อย ขณะรอ้ ยและก่อนจะรูด มาลยั ออกจากเขม็ 15) กะละมัง สาํ หรับไว้พักดอกไม้ ใบไม้ 16) ถาด สาํ หรบั ใส่ดอกไม้ ใบไม้ และอปุ กรณต์ ่างๆ 2.4 การเก็บรักษาอุปกรณ์ การเกบ็ รกั ษาอุปกรณ์ ควรปฏิบตั ิดังตอ่ ไปน้ี 2.4.1 ทําความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์หลังจากการใช้งานทุกครั้ง โดยล้างให้ สะอาด และถา้ เปน็ อปุ กรณ์ทเ่ี ปน็ เหล็กควรเชด็ ให้แห้ง กอ่ นเก็บทานํ้ามนั ปอ้ งกนั การเปน็ สนิม 2.4.2 เก็บเคร่ืองมืออุปกรณ์ท่ีใช้ให้เป็นระบบโดยแยกใส่ภาชนะ ให้เรียบร้อยเป็น หมวดหมู่ โดยยดึ หลัก “เปน็ ระเบยี บ หายกร็ ู้ ดกู ็งามตา” 2.4.3 ใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับชนิดของงาน สํารวจเคร่ืองมือและ อปุ กรณ์ทกุ ครัง้ ก่อนและหลงั การทาํ งาน เพอ่ื ปอ้ งกันการสญู หาย 2.4.4 อุปกรณ์เครื่องมือที่มีหลายชิ้น ควรทําเครื่องหมายไว้ทุกชิ้น เพ่ือสะดวกในการ นับและเกบ็ อุปกรณ์ 2.4.5 เครื่องมอื หรืออปุ กรณ์ชํารุดควรซอ่ มแซมกอ่ นนําไปใช้ เพอ่ื ป้องกนั อนั ตราย 2.4.6 อปุ กรณ์ทเ่ี ป็นกระดาษควรมตี ู้เก็บเพอื่ จะไดไ้ มเ่ ปยี กนํ้าและไม่ยับ 2.4.7 โฟมดูดนํ้าเป็นอุปกรณ์ท่ียึดดอกไม้ถ้าใช้กับดอกไม้แห้งก็ไม่ต้องแช่นํ้า แต่ถ้า เปน็ ชนดิ ที่ใชก้ ับดอกไมส้ ดต้องแชน่ ํา้ ใหอ้ มิ่ น้ําก่อนใช้ การเก็บต้องแห้งและใสก่ ล่องไว้ 2.4.8 อุปกรณ์ท่ีเป็นผ้าควรมีตู้เก็บเฉพาะเพ่ือความเป็นระเบียบในการพับเก็บและ หยิบใช้ ไดส้ ะดวก ก่อนเกบ็ ควรซักรีดใหส้ ะอาด 2.4.9 อปุ กรณ์ของมีคมควรเก็บใส่ซองเฉพาะช้นิ เมอื่ จะหยบิ ใช้สะดวกและปลอดภัย 2.4.10 อุปกรณ์ที่เป็นเข็ม ควรเก็บในกล่องแยกเป็นชนิด เช่น เข็มเย็บผ้า เข็มหมุด หวั กลม เขม็ หมุดหวั เล็ก เข็มซ่อนปลาย เป็นตน้ 2.4.11 อปุ กรณ์อื่นๆ เช่น ตะกร้า แจกัน หรือวัสดุตกแต่ง ก็ควรแยกเป็นช้ันๆ เพ่ือ ความสวยงามและหาง่าย หยิบใชง้ ่าย
39 สรุป ดอกไม้ตามลักษณะธรรมชาติมีหลากหลายชนิดซึ่งแบ่งตามลักษณะได้ 4 ลักษณะ คือ ดอกไมเ้ ป็นช่อเป็นแนว ดอกไม้กลีบซ้อน ดอกไม้ท่ีรูปทรงเด่นชัด และดอกไม้เสริมหรือแซม ส่วนใบไม้ ที่นํามาจัดคู่กับดอกไม้มีลักษณะรูปทรงของใบและการใช้งานซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะคือ ใบที่มี รูปร่างเป็นเสน้ แนว ใบที่มีลักษณะใบซ้อน และใบท่ีมีรูปทรงสวยงาม ซ่ึงดอกไม้ และใบไม้ที่ซ้ือมาจาก ตลาดควรได้รบั การปรบั สภาพให้สดกอ่ นทีจ่ ะนาํ มาจดั ดว้ ยวธิ กี ารรดิ ใบ ตัดก้านและแช่นํ้า ในการเลือก ภาชนะสําหรบั การจดั ดอกไม้ควร เลอื กภาชนะที่ใส่นํ้าไดม้ ากพอสมควร เพ่ือให้ก้านดอกไม้แช่นํ้าให้สด อยู่เสมอ ควรเลือกใช้แจกัน สีกลาง สีเข้ม ทึบแสง และแจกันควรมีน้ําหนักเหมาะกับขนาดของตัว แจกนั \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
40 แบบฝึกหดั ท้ายบท 1. ลกั ษณะของดอกไม้แบบธรรมชาตมิ ีก่ลี ักษณะอะไรบ้าง 2. ลกั ษณะของใบไม้มีกี่ลกั ษณะอะไรบ้าง 3. การเลือกดอกไม้และใบไม้สําหรับการจัดแจกัน กระเชา้ ควรเลอื กอย่างไร 4. ดอกไม้ ใบไม้ ทซี่ ้ือมาจากตลาดมีวิธีการเก็บรกั ษาอย่างไรบา้ ง 5. การเลือกวสั ดุและอปุ กรณ์ในการจดั แจกัน ช่อ กระเชา้ มีวิธกี ารอย่างไร \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
41 เอกสารอ้างอิง อฤชร พงษ์ไสว. (2544). ไมด้ อกแสนสวย. กรุงเทพฯ: บา้ นและสวน. พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสด์ิ. (2545). หลกั การจัดแจกนั ดอกไม้.กรงุ เทพฯ: สํานกั พิมพแ์ ม่บา้ น. . (2546). การจดั ดอกไม้.หลกั สตู รคหกรรมศาสตร์ คณะมนษุ ยศาตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. . (2547). เอกสารประกอบการสอนการจดั ดอกไมใ้ นพิธีมงคลสมรส. โปรแกรมวิชาคหกรรมสาสตร์ท่วั ไป คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ิต. \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
\" มหาวิทยาลัยสวนดุสติ เพ่อื การศกึ ษาเทา่ น้นั \"
43 บทที่ 4 วัส การจดั แจกนั ดอกไม้ ผศ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์ที่จะต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์การจัดดอกไม้ เน่ืองจาก จะตอ้ งใช้ดอกไม้ท่ีแตกตา่ งกนั ในหลากหลายสี การไล่โทนสี การนาเอาดอกไม้หรือใบไม้ ตลอดจนวัสดุ ตา่ งๆ มาจดั ใหอ้ ย่ใู นองคป์ ระกอบทางศิลปะ ซ่ึงต้องมีความสมั พนั ธก์ ัน และทาให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการท่ีสืบทอดกันมาช้านานการจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัด เลียนแบบดอกไม้สดธรรมชาติ วิธีการจดั และหลกั การจัดแจกันดอกไม้ การจัดดอกไม้เป็นการนาดอกไม้ ใบไม้และสิ่งประกอบอื่นๆ เช่น ภาชนะ และของตกแต่ง นามาจัดร่วมกันอย่างกลมกลืนให้เกิดภาพ 3 มิติ คือ มีความสูง ความกว้างและความลึกท่ีชวนดู การจัดดอกไม้ไม่ได้จากัดเฉพาะ “การจัดแจกัน” เท่านั้น แต่รวมถึงการจัดช่อดอกไม้ การจัดกระเช้า ดอกไม้ การจัดช่อติดเส้ือ รวมท้ังการจัดดอกไม้ในภาชนะต่างๆ และการจัดดอกไม้โดยไม่มีภาชนะใน รูปแบบต่างๆ โดยมีวิธกี ารจัด และรปู ทรงการจดั ดอกไมเ้ ทยี มดังนี้ 1. วธิ กี ารจดั ดอกไม้ การจดั ดอกไม้ผู้จัดจะต้องศึกษาถึงองค์ประกอบของจัดดอกไม้ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ท่ีจะใช้ ในการจัดดอกไม้ ซ่ึงมีข้ันตอนและวิธีการจัดดอกไม้โดยมีการเตรียมเครื่องใช้ท่ีจาเป็นจัดเรียง ตามลาดบั การจดั ดอกไม้ เพือ่ ความสะดวกควรจัดจากทางด้านขวาไปทางด้านซ้ายหรือจากซ้ายไปด้น ขวา ผู้จัดจะน่ังหรือยืนแล้วแต่ความถนัด และท่ีสาคัญข้ึนอยู่กับความสูงของโต๊ะท่ีใช้ในงาน พิจารณา สถานที่ ท่ีจะนาดอกไม้ไปวาง ก่อนท่ีจะตัดสินใจเลือกรูปแบบการจัดดอกไม้ สถานที่สาหรับการจัด ดอกไม้ ควรเป็นสถานทจี่ ะวางแจกันดอกไมห้ รอื ให้อยใู่ กลเ้ พอื่ จะได้ไม่ต้องเคล่ือนย้ายแจกันดอกไม้ ซ่ึง จะทาใหร้ ปู ทรงการจดั ดอกไมเ้ ปลี่ยนไป จะทาให้ตอ้ งเสียเวลาในการจัดใหม่ เม่ือเตรียมทุกอย่างพร้อม ให้ลงมือจัดดอกไม้ การตัดหรือต่อก้านดอกไม้ส้ันยาว แล้วแต่สัดส่วนของภาชนะและรูปแบบการจัด นาหลักศิลปะเขา้ มาใช้ในการตัดสินใจในเรอื่ ง สี สัดส่วน การเทียบส่วน ความสมดุล และการสร้าง จุดเด่น ควรเลือกที่รองภาชนะให้เหมาะสมในเร่ือง ขนาด สัดส่วน รูปทรง ผิวสัมผัส เพื่อเสริมให้ ดอกไมท้ ีจ่ ัดดูเดน่ และสวยงาม สารวจโดยรอบแจกนั ดอกไมอ้ ยา่ ให้มองเห็นที่ยึดนาไปวางในที่ ที่ทาให้ ดอกไมด้ ดู ี 2. หลกั การจัดแจกนั ดอกไม้ หลักการจัดแจกันดอกไม้ ผู้จัดแจกนั ดอกไมจ้ าเปน็ จะตอ้ งศกึ ษารายละเอยี ดตา่ งๆ ดังน้ี 1. หน้าท่ีและประโยชน์ใช้สอย ก่อนจัดควรจะทราบวตั ถุประสงคใ์ นการจัดตกแต่งก่อนว่า จะใชใ้ นงานอะไร และจะจัดวางที่ไหน เช่น วางกลางโต๊ะ วางมุมโต๊ะ ชิดผลัก หรือแจกันติดผนัง เป็น
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"44 ต้น และควรดดู ้วยว่า ลักษณะของหอ้ งทจี่ ะจดั วางเป็นห้องลกั ษณะแบบใด ทรงใด และขนาดเล็ก ปาน กลางหรือใหญ่ เพื่อเราจะได้เลือกแจกันและดอกไม้ที่เหมาะสมกบั ห้องนนั้ ๆ ดว้ ย 2. สัดสว่ น สดั ส่วนเป็นเร่ืองสาคัญมาก ท่จี ะกาหนดวา่ แจกันทจี่ ัดเสรจ็ จะสวยหรือไม่สวย ถา้ สัดส่วนไมส่ มดุลแจกันท่จี ัดออกมากไ็ มส่ วย สิ่งที่ต้องคานงึ 2.1 ภาชนะทรงเตีย้ ความสูงท่จี ัดควรเปน็ 1.5-2 เทา่ ของความกวา้ งของภาชนะ 2.2 ภาชนะทรงสงู ความสงู ที่จดั ควรเป็น 1.5-2 เทา่ ของความสูงของภาชนะ 2.3. การเทียบส่วน ระหว่างดอกไมก้ ับแจกนั , แจกันกับขนาดของห้อง 2.4. ความสมดุล เป็นความถ่วงดุล เช่น ซ้ายขวาเท่ากัน หรือ สองข้างไม่เท่ากันแต่ หนักไปทางใดทางหนึง่ กไ็ ด้ ทง้ั นี้ขึน้ อยู่กับวตั ถุประสงคข์ องผ้จู ดั 2.5. การเลือกสี เส้นและขนาดให้แตกต่าง กัน เช่น สีกลาง อ่อน เส้นที่โค้งเรียว ขนาดดอกมีใหญ่เลก็ เป็นตน้ 2.6. ความกลมกลนื คือ การเข้ากนั อย่างสอดคลอ้ งขององค์ประกอบตา่ งๆ 2.7. ความแตกต่าง เช่น สีของดอก ใบ และภาชนะท่ีมีสีแตกต่างกัน แต่ความ แตกต่างไม่ควรเกิน 20% 2.8. การสร้างจดุ เดน่ คอื จัดให้มีตัวเดน่ ตัวรอง เพ่ือสง่ เสริมกนั และกัน เทคนคิ บางประการการจดั ดอกไม้ การจดั ดอกไม้ใหเ้ กิดความสมดุล และสวยงามจะต้องใช้ เทคนิคการจัดดอกไม้ดงั น้ี 1. การจดั ดอกไม้ไม่ควรจดั ดอกไมใ้ ห้มากจนดูแน่นทึบ 2. วสั ดทุ ีย่ ึดกา้ นควรเปน็ ดนิ นา้ มัน หรอื โอเอซีส เปน็ ตน้ 3. ควรเลือกดอกไม้ขนาดไล่เลีย่ กนั จากดอกตูม แย้ม บาน 4. ท่ยี ดึ ดอกไม้ทุกชนดิ ควรปดิ บงั ใหม้ ิดชิดเมื่อจดั เสรจ็ แลว้ จะไมเ่ ห็น 5. สง่ิ แวดล้อมหรอื ฉากด้านหลงั จะชว่ ยใหด้ อกไมท้ ี่จัดดูเดน่ ข้นึ 6. ดูแลทาความสะอาดดอกไม้ ใบไม้ และแจกันอย่างสมา่ เสมอ รปู แบบการจัดแจกนั ดอกไม้ ดอกไม้ที่มีเลือกซื้อมาอย่างสวยงาม จะต้องนาไปจัดในแจกันแบบต่างๆ ให้เหมาะสมและ สวยงาม ซ่ึงในการจัดแจกันดอกไม้ได้แบ่งการจัดออกเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะของรูปทรงซ่ึง รูปทรงการจัดดอกไม้ ถือว่ามีส่วนสาคัญในการพิจารณาก่อนที่จะจัดดอกไม้ให้เหมาะสมกับการ นาไปใช้งานในแต่ละโอกาส ซึ่งการจัดแจกัน หมายถึง ภาชนะท่ีใสด่ อกไม้ มีรูปต่างลักษณะแตกต่าง กันออกไป รูปทรงของภาชนะสาหรับการจัดดอกไม้ ได้แก่ เซรามิก เครื่องแก้ว เคร่ืองทองเหลือง เครื่องพลาสติก การจัดแจกันดอกไม้มีหลากรูปทรงให้เลือกจัดตามความเหมาะสม โดยพิจารณาจาก รูปทรงของภาชนะ ซึ่งมีอยู่ 3 ลักษณะ ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับท่ีตั้ง และดอกไม้ ภาชนะท่ีใช้จัด ดอกไม้ประกอบด้วย แจกันทรงเต้ียเป็นแจกันท่ีมีทรงเต้ียมากกว่าความกว้าง x ยาว แจกันทรงสูง เป็นแจกันท่ีมีทรงสูงมากกว่าความกว้าง x ยาว และแจกันทรงกลาง เป็นแจกันท่ีมีความสูงเท่ากับ ความกว้าง x ยาว เช่น กระถางตน้ ไม้ ในการจัดดอกไม้แบบสากลเป็นการจัดดอกไม้ตามลักษณะตาม
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 45 ธรรมชาติท่ีมีรูปทรงแตกต่างกัน ในการจัดแจกันดอกไม้เน้นการจัดดอกไม้แบบตะวันตก เป็นการจัด ดอกไมท้ ที่ างกลุม่ ประเทศยุโรป อเมรกิ า แคนาดา ที่นยิ มจดั ดอกไม้แบบธรรมชาติ ซึ่งแบ่งเป็น 3 แบบ ดงั นี้ 1. การจัดดอกไม้รูปทรงเรขาคณิต เป็นแนวคิดท่ีเกิดจากการสร้างรูปทรงต่างๆ ซึ่ง ปัจจุบันได้นารูปทรงเรขาคณิตมาประยุกต์ใช้ในการจัดดอกไม้ ในประเทศทางตะวันตกนิยมจัดใน ลกั ษณะนี้ ซงึ่ การจดั ก็ยังจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ รูปทรงที่นิยมจัด คือ ครึ่งวงกลม วงกลม วงรี สามเหลยี่ ม ดังภาพตัวอยา่ ง ก า ร จั ด แ จ กั น ด อ ก ไ ม้ ใ น บ ท น้ี เ ลื อ ก ใ ห้ นั ก ศึ ก ไ ด้ เ รี ย น แ ล ะ ป ฎิ บั ติ ก า ร แ จ กั น ด อ ก ไ ม้ ประกอบดว้ ย 1.1 แบบรปู ทรงกลม (All- round Arrangement) เป็นรูปทรงที่ยังนิยมต้ังแต่อดีต จนถงึ ปัจจุบัน ซึ่งเปน็ การจัดดอกไม้เลียนแบบดอกไม้ จุดเด่นของรูปทรงอยู่ที่จุดศูนย์กลางของรูปทรง โดยจัดดอกไม้จากจุดศูนย์กลางของภาชนะให้มีรัศมีเท่าๆ โดยเลือกภาชนะรูปทรงกลม จะทาให้การ ปักงา่ ยข้ึนและสามารถใชเ้ ป็นแนวการปกั ได้เปน็ อย่างดี ซงึ่ วิธกี ารจดั มขี น้ั ตอนดังต่อไปน้ี ภาพที่ 4.1 แจกันรูปทรงกลม ท่ีมา : พรยุพรรณ พรสขุ สวัสด์ิ, 2543, หนา้ 23
46 การเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ มีการเตรยี มวัสดแุ ละอปุ กรณ์ดังน้ี 1. ดอกกหุ ลาบสีแดง 25 ดอก 2. ดอกมากาเรต็ หนู 2 ชอ่ 3. ใบเฟิร์นมะขาม 1 กา 4. โฟมดดู น้า ½ กอ้ น 5. แจกันทรงเต้ียสี่เหล่ียมสีขาว 1 ใบ 6. ถว้ ยแกว้ สาหรับใส่นา้ 1 ใบ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 7. กรรไกรตดั ก่งิ ไม้ 1 อัน ข้ันตอนและวธิ กี ารจัด มีขนั้ ตอนการจัดดงั นี้ 1. เลือกดอกกุหลาบดอกตูมจานวน 1 ดอก วัด 2. ปักกงิ่ ท่ี 1 ตรงกลางทย่ี ึด โดยปักใหต้ ง้ั ฉาก ความสูงของก่ิงที่ 1 สูงประมาณ 1.5 เท่าของ 3. เลือกดอกกุหลาบดอกตูมอีก 4 ดอก วัดความ ความกว้างของปากแจกัน เพ่ือปักในท่ียึดอีก 1 สูงของก่ิงที่ 2 เท่ากับ 3/4 ของงกิ่งท่ี 1 ปัก 2 น้ิว ดอกแรกมุมตรงข้ามกัน จากน้ันปักอีก 2 ดอกมุม ตรงข้ามกัน โดยใหด้ อกช้อนขึ้นเล็ก 4. เลือกดอกกุหลาบขนาดกลาง 4 ดอก วัดความ 5. เลือกดอกกุหลาบขนาดกลาง 4 ดอก วัด สูงจากกิ่งที่ 2 เท่ากับ 3/4 ของงก่ิง ปักสับหว่าง ความสูงจากกิ่งที่ 1 เท่ากับ 3/4 ของงกิ่ง ปัก มุมปากแจกันทั้ง 4 ดา้ น ท้งั 4 ดา้ น โดยรอบก่งิ ท่ี 1
47 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 6. กหุ ลาบดอกโต ตัดก้าน ¾ ของแต่ละตาแหน่ง 7. ปักแซมดว้ ยดอกคัตเตอร์ โดยเริ่มแซมจากตรง ทจี่ ะ ปักลงไปสับหว่างโดยรอบตวั แจกนั กลางโดยรอบกิง่ ท่ี 1 8. ปักแซมดอกคัตเตอร์ตามช่องว่าง โดยรอบ 9. ปักแซมด้วยใบเฟิร์นมะขามรอบปากแจกัน แจกัน ตรงกลางแจกนั ตดั ใบสัน้ ๆ ปักแซมเพอ่ื บงั ทย่ี ดึ 1.2 การจัดดอกไม้รปู ทรงแนวนอน (Horizontal Arrangement) เป็นการจดั ดอกไม้ใน ลักษณะในแนวนอน เน้นให้เห็นถึงความกว้าง และเป็นท่ีนิยมใช้ในหลายโอกาสได้แก่ประดับตกแต่ง กลางโต๊ะรบั แขก โต๊ะน่ังรับประทานอาหาร โต๊ะประชุมที่มีรูปยาวและประดับหน้าแท่นกล่าวรายงาน ซ่ึงอาจจัดให้มีความกว้างและความยาวเพิ่มข้ึนให้ได้สัดส่วนกับขนาดโต๊ะแต่ไม่ควรให้มีความสูงมาก เพราะจะบังมมุ มอง หรือบังหนา้ ผู้นัง่
48 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพที่ 4.2 การจดั ดอกไมร้ ูปทรงแนวนอน ท่ีมา : พรยุพรรณ พรสุขสวัสดิ์, 2543, หนา้ 56 การเตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ มีการเตรียมวสั ดแุ ละอปุ กรณด์ ังน้ี 1. ดอกลินล่สี ีชมพู 3 ดอก 2. ดอกกหุ ลาบสีชมพู 25 ดอก 3. ใบเฟิร์นมะขาม 1 กา 4. กงิ่ หลิว 2 ชอ่ 5. ดอกคตั เตอร์ 3 ช่อ 6. แจกนั ทรงเตี้ยสีขาว 1 ใบ 7. โฟมดดู นา้ ½ กอ้ น ขน้ั ตอนและวธิ ีการจัด มขี นั้ ตอนการจดั ดงั นี้ 1. ดอกกุหลาบกิ่งท่ี 1 มี 2 ดอก วัดความสูงของ 4. กงิ่ ที่ 4 มี 4 ดอก วัดความสูงของดอกประมาณ ¾ ดอก ประมาณ 1 ½ เท่าของความกว้างของปาก ของกิ่งที่ 1 ปักอยู่มุมด้านข้างด้านละ 2 ดอก ปักทั้ง แจกัน ปักมุม ด้านข้างท้งั 2 ดา้ น 2 ดา้ น
49 2. กิ่งที่ 2 วัดความสูงของดอกประมาณ ½ ของ กง่ิ ที่ 1 ปักตรงกลางทีย่ ดึ 5. ก่ิงที่ 5 มี 4 ดอก วัดความสูงของดอกประมาณ ¾ 3. กิ่งที่ 3 มี 2 ดอก วัดความสูงของดอก ของกงิ่ ท่ี 3 ปักอยู่มุมด้านหน้า และด้านหลังปักด้าน ประมาณ ¾ ของก่ิงท่ี 1 ปักอยู่มุมด้านหน้า 1 ละ 2 ดอก ปกั ท้งั 2 ดา้ น ดอก ด้านหลัง 1 ดอก \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 6. กิ่งที่ 6 มี 6 ดอก วัดความสูงของดอก 8. นาดอกลิลลี่ 3 ดอก ปักรอบก่ิงที่ 2 โดยให้ต่าจาก ประมาณ ¾ ของก่ิงท่ี 4 ปักสับหว่างมุม ก่ิงที่ 2 เล็กน้อย ดา้ นขา้ งด้านละ 3 ดอก ปกั ทง้ั 2 ดา้ น 7. กิ่งท่ี 7 มี 4 ดอก วัดความสูงของดอก 9. ตัดดอกคัตเตอร์เป็นช่อ ปักตามช่องว่างตาม ประมาณ ¾ ของก่ิงที่ 6 ปักสับหว่างอยู่ตรง รปู ทรงโดยรอบ ใหแ้ ต่ละช่อสงู บ้างตา่ บ้าง กลาง 2 ดอก ระหว่างกิง่ ท่ี 6 ปกั ทง้ั 2 ดา้ น 10. ตดั กงิ่ หลวิ แซมตามรูปทรงโดยรอบแจกัน 4) แบบรูปทรงสามเหลี่ยม (Triangular Arrangement) เป็นการจัดดอกไม้ หน้าเดียว ควรเลือกมมุ วางชิดผนังหอ้ ง การจดั ดอกไม้แบบน้ีใช้ได้หลายโอกาส เช่นให้เป็นของขวัญวัน เกิด ปีใหม่ เย่ียมไข้ แสดงความยินดี ท้ังน้ีอาจปรับขนาดให้ใหญ่หรือเล็กได้ตามขนาดของห้องที่จะ
50 นาไปจัดวางโดยการเปล่ียนขนาดภาชนะ และดอกไม้ตามความเหมาะสม อีกท้ังยังสามารถเลือกใช้ ภาชนะได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดแจกันดอกไม้ การกระเช้าดอกไม้ การจัดช่อดอกไม้ ซ่งึ มรี ายละเอียดดังน้ี 1.3 การจัดดอกไม้รูปทรงสามเหล่ียมด้านเท่า การจัดดอกไม้ทรง สามเหลย่ี มด้านเท่าเปน็ การจัดดอกไมท้ ม่ี ีความยาวของโครงสร้างเทา่ กันท้ังสามด้าน โดยมีข้ันตอนการ จัดตามโครงสรา้ งดงั ตอ่ ไปน้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพที่ 4.3 การจัดดอกไมร้ ูปทรงสามเหลีย่ มด้านเท่า ทีม่ า : พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสดิ์, 2543, หน้า 27 การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ 25 ดอก 1. ดอกกุหลาบสีโอโรส ½ กา 2. ดอกสร้อยทอง 1 กา 3. ใบเฟริ ์นมะขาม 1 กา 4. แจกนั ทรงเตี้ยสีน้าตาล ½ ก้อน 5. โฟมดูดน้า 1 อนั 6. กรรไกรตดั ก้าน 1 ใบ 7. ถว้ ยแก้วสาหรบั ใส่นา้
51 ขั้นตอนและวธิ กี ารจัด \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1. เลือกช่อดอกสรอ้ ยทองขนาดก้านยาว 1 ช่อ 2. เลือกช่อดอกสร้อยทองขนาดกลางจานวน 3 วัดความสูงของก่ิงที่ 1 มีความสูงเท่ากับ 2 ½ ช่อ ความสูงของก่ิงที่ 2 เท่ากับ ½ ของกิ่งที่ 1 เท่าของความกว้างของปากแจกัน ปักลงให้ ปักดอกสรอ้ ย 2 ช่อ ทางมุมด้านซ้ายและด้านขวา หา่ งจากปากแจกันด้านหลัง ประมาณ 1.5 น้ิว ตง้ั ฉากขนานกับพื้น ปักลงไปตรงๆ 3.ช่อดอกสร้อยทองอีก 1 ช่อ ปักมุมด้านหน้า 4.เลอื กชอ่ ดอกสร้อยขนาดกลางจานวน 2 ช่อ ให้ ตรงกับ ก่ิงที่ 1 มีความสูงเท่ากับ 3/4 ของก่ิงท่ี 1 ปักมุม ด้านซา้ ยและดา้ นขวาของกิ่งท่ี 1
52 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"5. ชอ่ ดอกสรอ้ ยทองช่อเล็ก 3 ช่อ วัดความสูง7. เลอื กดอกกุหลาบขนาดเลก็ 1 ดอกวดั ความสงู ของกิ่งท่ี 2 เท่ากับ 3/4 ของก่ิงท่ี 2 ก่ิงปัก ของกิ่งเทา่ กบั ½ ของช่อดอกสร้อยทอง ช่อท่ี 1 มุมด้านหลังกิ่ง ท่ี 2 ท้ังมุมทางด้านซ้ายและ มุมด้านขวา 6. ส่วนช่อดอกสร้อยทองอีก 1 ช่อปักอยู่มุม ขวามือ 8. เลือกดอกกุหลาบขนาดเล็กอีก 3 ดอก วัด 9. ดอกกหุ ลาบอีก 1 ดอก ปักอยู่ระหวา่ งกงิ่ ที่ 2 ความสูงของดอกเท่ากับ ¾ ของดอกท่ี 1 ปัก กับกงิ่ ที่ 3 ด้านหนา้ อยู่ระหวา่ งกง่ิ ที่ 2 และกงิ่ ท่ี 3 ของทง้ั 2 ดา้ น
53 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 10. เลือกดอกกุหลาบให้มีขนาดโตข้ึนเล็กน้อย 2 11. ตาแหน่งที่ว่างปักดอกกุหลาบในแต่ละ ดอก ตัดก้านสูง ¾ ของดอกกุหลาบ ดอกท่ี 1 ปัก ตาแหน่ง ความยาวก้านดอกกุหลาบแต่ละดอก ด้านซา้ ยและขวาของดอกที่ 1 ประมาณ ¼ ของแต่ละดอก - เลือกกุหลาบขนาดโตข้ึน จานวน 6 ดอก ตัด กา้ นสูง ¾ ของดอกกุหลาบดอกที่ 2 ในตาแหน่งที่ 2 ปักด้านหน้าและด้านหลังของตาแหน่งท่ี 2 ทั้ง 2 ด้าน - ดอกกุหลาบอีก 2 ดอก ปักมุมด้านหน้าซ่ึง ตรงกับตาแหน่งที่ 1 12. นาดอกสร้อยทองปกั แซมตามชอ่ งว่างโดยรอบ 13. ปักใบเฟริ น์ มะขามโดยรอบปากแจกนั ใหม้ รี ะดับต่างกัน 1.4 การจัดดอกไม้รูปทรงสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า ในการจัดดอกไม้รูปทรงสามเหล่ียม ด้านไม่เท่า สามารถจัดได้ท้ังมุมฉากด้านซ้ายและมุมฉากด้านขวานิยมใช้ตกแต่งสถานท่ี มองเห็น ดอกไม้ด้านเดียว นิยมจัดด้วยแจกันทรงเตี้ยซ่ึงในการจัดดอกไม้รูปทรงสามเหลี่ยมด้านไม่เท่า จะมี ข้ันตอนดังนี้
54 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพที่ 4.4 การจัดดอกไมร้ ปู ทรงสามเหลี่ยมด้านไมเ่ ท่า ท่มี า : พรยุพรรณ พรสุขสวัสด,์ิ 2543, หน้า 31 การเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ มกี ารเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ดงั น้ี 1. ดอกแกลดอิ อรัสสีเหลอื ง 3 ช่อ 2. ดอกคาร์เนช่นั สเปรโ์ อโรส 5 ชอ่ 3. ดอกเบญจมาศสีมว่ ง 3 ชอ่ 4. แจกันกลมทรงเต้ียสดี า 1 ใบ 5. ดอกคาร์เนชั่นสเปรส์ ขี าว 2 ช่อ 6. ใบโปร่งฟ้า ½ กา ข้นั ตอนและวิธีการจัด ซงึ่ มีวิธีการจดั ดังนี้ 1. เลือกช่อแกลดิออรัสช่อตรงยาว วัดความสูง 2. เลอื กช่อแกลดอิ อรสั ท่มี ลี ักษณะโค้งตดั ความสูง ของก่ิงท่ี 1 จากความกว้างของปากแจกัน ของกง่ิ ที่ 2 ประมาณ ¾ ของช่อแกลดิออรัสช่อท่ี ประมาณ 2 เท่าบวก 1 นิว้ สาหรบั ปักลงในที่ยึด 1 ปักมมุ ขวาดา้ นหนา้ ใหก้ ้านชอ่ ชอ้ นขึ้น ปักชดิ มมุ ด้านหลงั แจกัน
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 55 3. ตัดดอกคาร์เนชั่นความสูงประมาณ ½ ของ 4. แกลดิออรัสช่อสั้น วัดความสูงของก้าน ช่อแกลดิออรัสช่อที่ 1 ปักมุมทางซ้ายของ ประมาณ ½ ของก่ิงที่ 1 ปักมุมทางด้านซ้ายของ แจกัน จากนั้นปักดอกคาร์เนช่ันอีก 1 ดอก ให้ แจกัน ตา่ กว่าดอกคารเ์ นช่ันดอกแรก ส่วนทางด้านขวา ของแจกันปักช่อแกลดิออรัส 1 ช่อ ดอกคาร์ เนชั่นดอกท่ี 3 อีก 1 ดอกเช่นเดียวกับทาง ดา้ นซา้ ย 5. ตัดดอกคาร์เนชั่นดอกที่ 4 ประมาณ ½ ของ 6. ดอกคาร์เนชั่นดอกที่ 6 ตัด ½ ของช่อแกลดิ ช่อแกลดิออรัสช่อท่ี 2 ปักมุมด้านหน้าช่อแกลดิ ออรัส ช่อท่ี 3 นามาปักอยู่มุมด้านหน้าของช่อ ออรัส จากนั้นตัดดอกคาร์เนชั่น ดอกที่ 5 อีก 1 แกลดิออรัส ส่วนมุมตรงกลางปักดอกคาร์เนชั่นสี ดอก ประมาณ ¾ ของดอกคาร์เนชั่นมุมด้านหน้า เหลอื งอ่อน ปกั มุมดา้ นหลังดอกแกลดิออรัส
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"56 7. ตัดดอกคาร์เนช่ัน ดอกท่ี 7 ตัดก้าน ½ ของช่อ 8. ช่องว่างตา่ งๆ ปักแซมดว้ ยดอกคารเ์ นช่นั สี แกลดิออรัสช่อท่ี 1 ปักตรงกับช่อท่ี 1 จากน้ันปัก ขาว ดอกเบญจมาศสีมว่ ง ดอกคาร์เนชั่นอีก 2 ดอก ความยาวของดอก ประมาณ ¾ ของดอกคาร์เนชั่นดอกที่ 7 และปัก ดอกบานของแกลดิออรสั 9. ตดั ใบโปร่งฟา้ ให้มขี นาดตา่ งกนั ปักโดยรอบเพ่ือปิดทีย่ ดึ ในแจกัน 2. การจัดดอกไม้รูปทรงตัวอักษร เป็นการจัดดอกไม้ที่มีลักษณะเป็นเส้นรูปทรง ตัวอักษรเช่น รูปทรงตัว C I L T S U ซึ่งเป็นการจัดดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในการจัดโดยส่วนใหญ่ที่ จัดจะมีรูปทรง C L S U ตามความเหมาะสมในแต่ละโอกาส การจัดดอกไม้รูปทรงตัวอักษรมีลาดับ ขน้ั ตอนการจัดแตล่ ะรปู ทรงดังนี้
57 2.1 แบบรูปทรงตัว C (C–Line) เป็นการจัดดอกไม้อีกรูปแบบท่ีมักจะนามาจัดใน แจกันดอกไม้รวมไปถึงการจัดกระเช้าดอกไม้ซึ่งการจัดรูปทรงในลักษณะน้ีเหมาะท่ีจะจัดด้วยก่ิงก้าน และดอกท่ีโคง้ และอ่อนช้อยตามรปู ทรง การจดั ดอกไม้รูปทรงตวั C มีข้ันตอนการจดั ดงั นี้ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพท่ี 4.5 แจกนั รูปทรงตัว C ท่มี า : พรยุพรรณ พรสขุ สวสั ด์,ิ 2543, หน้า 23 การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ มกี ารเตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์ดังนี้ 1. ดอกลลิ ลี่ 5 ดอก 2. ดอกกุหลาบสีชมพู 20 ดอก 3. ทางหมาก 6 ก้าน 4. ดอกมากาเร็ตหนู ¼ กา 5. แจกันทรงสงู สนี ้าตาล 1 ใบ 6. โฟมดูดนา้ ½ ก้อน 7. ใบเฟิร์นนาคราช 1 กา
58 ขน้ั ตอนและวธิ กี ารจดั ซ่งึ มวี ิธกี ารจัดดังน้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1. นาทางหมากตดั ลิดใบออกทั้ง 4 ทางดัดแต่ละ 4. ทางหมากก่ิงท่ี 3 วัดความสูง ¾ เท่าของก่ิง กง่ิ ให้โคง้ ได้รปู ทรง หมากก่งิ แรก ปักชิดปากแจกันหน้ากง่ิ ที่ 1 2. เลือกทางหมากกิ่งท่ียาววัดความสูงของก่ิงท่ี 5. ทางหมากก่ิงที่ 4 วัดความสูงขอก่ิง ¾ เท่าของ 1 จะใช้ 2 ½ เท่าของความสูงของตัวแจกัน ปัก กิ่งหมากกิ่งท่ี 2 ปักชิดปากแจกันมุมด้านหน้ากิ่งท่ี ชิดปากแจกันทางด้านซ้าย 2 3. ทางหมากกิง่ ท่ี 2 วดั ความสงู จากก่ิงที่ 1 โดย ใช้ ½ เท่า ปักชิดปากแจกันด้านขวา หันก่ิงด้าน โคง้ ให้ชอ้ นขึ้น 6. เลือกกุหลาบดอกตูม 1 ดอก วัดความสูงของ 10. กุหลาบดอกที่ 5 วัดความสูง ¾ ของกุหลาบ ดอกจากทางหมากก่ิงที่ 1 ประมาณ ½ เท่า ปัก ดอกที่ 2 ปักให้ต่าลงมาจากกุหลาบดอกที่ 2 ก้านดอกโค้งตามกิ่งหมากกิง่ ที่ 1 ประมาณ 1 นว้ิ 7. กุหลาบดอกท่ี 2 วัดความสูง ½ เท่าของก่ิง 11. กุหลาบดอกที่ 6วัดความสูง¾ ของกุหลาบ หมากกิ่งที่ 3 ปกั โคง้ ตามกิง่ หมากกิง่ ท่ี 3 ดอกที่ 3 ปกั มมุ ดา้ นหนา้ กหุ ลาบดอกที่ 3 8. กุหลาบดอกท่ี 3 วัดความสูง ½ เท่าของก่ิง 12. กุหลาบดอกที่7วัดความสูง ¾ ของกุหลาบ หมากกงิ่ ท่ี 2 ปกั ตามกง่ิ หมากกง่ิ ที่ 2 ดอกท่ี 1 ปักตามดอกกุหลาบดอกแรกเล็กน้อย 9. กุหลาบดอกที่ 4 วัดความสูง 1 เท่าของความ อย่ดู ้านหลงั กวา้ งของปากแจกนั ปักมมุ ตรงกลางดา้ นหนา้ 13.กุหลาบดอกท่ี8วัดความสูง ¾ ของกุหลาบ
59 ดอกที่ 7 ปักตา่ ลงมาจากกหุ ลาบดอกที่ 7 14.กุหลาบดอกท่ี 9 วัดความสูง ¾ ของกุหลาบ ดอกที่ 8 ปกั ต่ากว่ากหุ ลาบดอกที่ 8 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 15. ปักดอกลิลลด่ี อกตูมสุดระหว่างกุหลาบดอกท่ี 20. นาดอกมากาเร็ตหนูปักแซมโดยรอบของ 7 และ 8 มุมดา้ นหลัง รปู ทรง 16. ปกั ดอกลิลล่ดี อกตูมอีก 1 ดอกระหว่างดอกที่ 21. ปกั ใบเฟิรน์ นาคราช รอบตัวแจกนั 2และ6 ตรงกับดอกกุหลาบดอกท่ี 1 17. ปักดอกลิลล่ีดอกแย้มอยู่ระหว่างดอกกุหลาบ ดอกท่ี 2 และ 3 ใหต้ ่าลงมาเลก็ นอ้ ย 18. ดอกลิลลี่ดอกบาน 2 ดอกปักคู่กันด้านหลัง 1 ดอก ด้านหน้าอีก 1 ดอก ตาแหน่งของดอกลิลล่ี แตล่ ะดอกท่ปี กั ลงไปจะต้องมองเห็นชัดเจน 19. ดอกกุหลาบท่ีเหลืออีก 6 ดอก ปักแซม ช่องวา่ งโดยรอบรปู ทรง
60 2.2 แบบรูปทรงตัว L (L – Line) การจัดดอกไม้รูปทรงตัว L เป็นการจัดท่ีใช้ ศิลปะในการจัดวางรูปทรง ซ่ึงในการจัดดอกไม้รูปทรงตัว L จะต้องคานึงถึงตาแหน่งท่ีจะนาไปตั้ง น้าหนักของรูปทรงจะต้องไม่เอนเอียงไปทางใดทางหน่ึง ตาแหน่งดอกที่มีน้าหนักควรจะอยู่บริเวณ ปากภาชนะ การจดั ดอกไมร้ ปู ทรงตวั L มีขัน้ ตอนการจัดดังนี้ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพท่ี 4.6 แจกนั รปู ทรงตัว L ที่มา : พรยุพรรณ พรสุขสวัสด์ิ, 2543, หน้า 37 การเตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์ 3 ชอ่ 1. ดอกแกลดิออรสั สเี หลือง 10 ดอก 2. ดอกกหุ ลาบสีโอลดโ์ รส 1 ช่อ 3. ดอกคารเ์ นชัน่ สเปรยส์ ขี าว 7 ใบ 4. ใบซานาดู 1 ชดุ 5. กระถาง 6 เหลีย่ มพร้อมจานรองสนี า้ ตาลเทา 3 ดอก 6. ดอกคารเ์ นชน่ั สีเหลอื งของสีโอลดโ์ รส
61 ขั้นตอนและวิธกี ารจดั ซ่งึ มวี ธิ กี ารจัดดงั น้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1. เลือกช่อแกลดิออรัสช่อยาว 1 ช่อ วัดความสูง 3. ตัดช่อแกลดิออรัส 1 ช่อ ความยาวของช่อ ของช่อประมาณ 2 เท่าของความกว้างของปาก ประมาณ ½ ของช่อแกลดิออรัส ช่อที่ 2 ปักอยู่ แจกัน ปักชิดกับปากแจกัน ทางมุมด้านซ้ายของ ตรงกลางระหว่างกง่ิ ท่ี 1 กบั กิ่งที่ 2 แจกัน 4. ปักดอกคาร์เนชั่นสีขาวประมาณ ½ เท่าของ 2. ช่อแกลดิออรัสช่อที่ 2 วัดความสูงของช่อ ช่อแกลดิออรัสช่อที่ 1 ส่วนอีก 1 ดอกปักต่าลง ประมาณ ¾ ของช่อแรก ปักมุมตรงข้ามกับช่อที่ มาประมาณคร่ึงหนึ่งของดอกแรก 1 ให้ก้านช่อต้งั ฉากขนานกบั พน้ื 5. ปักดอกคาร์เนช่นั สีเหลอื งขอบสีโอลด์โรส ตรงกลางแจกันให้ 2 ดอก อยู่ต่างระดับกัน จากน้ันปักดอกแกลดิออรัส ดอกบานทาง ดา้ นหนา้ ดา้ นหลังปกั เพ่ิมประมาณ 2-3 ดอก 6. เร่ิมปักดอกกุหลาบสีโอลด์โรสตามโครงสร้าง 7. ปักใบซานาดูโดยรอบตามโครงสร้างของ ของรูปทรงโดยรอบ รูปทรง 7 ใบ
62 2.3 แบบรูปทรงตัว S (S-Line) เป็นการจัดดอกไม้ที่มีหลายลักษณะ เช่น การจัด แบบเส้นโคง้ ในแนวเฉยี ง แบบเส้นโคง้ แนวตงั้ แบบเส้นโค้งแนวนอน และแบบเส้นโค้งต่อกันเป็นรูปตัว เอส จุดศูนย์กลางของการจัดอยู่ตรงกลาง ภาชนะที่ใช้ควรใช้ภาชนะทรงสูง จะทาให้รูปทรงการจัดดู โดดเด่น การจดั ดอกไม้รูปทรงแบบนีจ้ ะตอ้ งเลอื กกา้ นโค้งงอไปตามรปู ทรง \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพท่ี 4.7 แจกันรปู ทรงตัว S ท่มี า : พรยุพรรณ พรสขุ สวสั ดิ,์ 2543, หน้า 43 การเตรยี มวสั ดอุ ุปกรณ์ 3 ชอ่ 1. ก่ิงหลวิ 12 ดอก 2. ดอกคารเ์ นชนั่ สชี มพู 1 กา 3. ใบเฟิรน์ มะขาม 3 ช่อ 4. ดอกเบญจมาสีมว่ ง 1 ใบ 5. แจกันทรงสงู รปู ทรงส่ีเหล่ียมปากผาย
63 ขั้นตอนและวิธกี ารจดั ซ่ึงมีวิธกี ารจัดดังนี้ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1. ตัดแบ่งกิ่งหลิวเป็นก่ิงๆ นาแต่ละก่ิงมาคอยๆ 4. กิ่งหลิวก่ิงที่ 3 ใช้ ¾ ของกิ่งที่ 1 ปักหน้าก่ิง ดัดให้โคง้ งอใหไ้ ด้รปู ทรง หลวิ ก่งิ แรก 2. วัดความสูงของก่ิงหลิวกิ่งที่ 1 ประมาณ 2.5 5. กิ่งหลิวกิ่งที่ 4 ใช้ ¾ ของกิ่งหลิวกงิ่ ท่ี 3 ปักอยู่ เท่าของความสูงของตัวแจกัน ปักมุมซ้ายของ ด้านหน้ากิ่งท่ี 3 แจกันดดั ให้โค้งมาทางดา้ นขวาของแจกนั 6. กิ่งหลิวก่ิงที่ 5 ใช้ ¾ ของกิ่งหลวิ กง่ิ ที่ 2 ปักอยู่ 3. วัดก่ิงหลิวก่ิงท่ี 2 ประมาณ ½ ของก่ิงหลิวกิ่ง ด้านขวาของแจกัน ปกั ดา้ นหลังกิง่ ท่ี 2 ท่ี 1 ปักมุมด้านขวาของแจกัน ดัดให้โค้งปักมา 7. กิ่งหลิวก่ิงที่ 6 ใช้ ¾ ของก่ิงหลิวก่ิงท่ี 5 ปัก ทางด้านซา้ ยของแจกัน ถัดไปจากกิง่ ท่ี 5 ดดั แต่ละกงิ่ ให้โคง้ ตามรูปทรง 8. เร่ิมปักดอกคาร์เนช่ันดอกแรกใช้ความสูง ½ 13. คาร์เนช่ันดอกที่ 6 ใช้ความสูง ¾ ของดอก ของก่ิงหลวิ กงิ่ ท่ี 1 ปักตรงกับกง่ิ หลิวก่ิงแรก คาร์เนชั่นดอกที่ 1 ปักตรงกลางระหว่างดอกคาร์
64 9. คารเ์ นช่นั ดอกที่ 2 ใช้ความสูง ¾ ของดอกคาร์ เนช่ันดอกท่ี 1 และ 2 โดยให้ต่ากว่าดอกคาร์ เนชน่ั ดอกที่ 1 ปกั ตรงกบั ก่งิ หลวิ กง่ิ ท่ี 4 เนชน่ั ดอกที่ 2 เลก็ น้อย 10. คาร์เนชั่นดอกที่ 3 ใช้ความสูง ¾ ของดอก 14. คาร์เนชั่นดอกท่ี 7 และ8 ใช้ความสูง ¾ ของ คาร์เนช่ันดอกที่ 2 ปกั ใหต้ า่ ลงจากกง่ิ หลิว กิ่งที่ 4 ดอกคาร์เนช่นั ดอกที่ 6 ปักอยู่ด้านหลัง ส่วนอีก 1 11. คารเ์ นชัน่ ดอกท่ี 4 ใช้ความสูง ¼ ของกิ่งหลิว ดอกปักอยู่ตรงกลางระหว่างดอกคาร์เนชั่นดอกท่ี ก่ิงท่ี 2 ปักตรงกับก่ิงหลิว กิ่งที่ 2 ปักมาทาง 2 และดอกที่ 3 ด้านหนา้ เลก็ น้อย 15. คาร์เนช่ันดอกที่ 9 และ 10 ใช้ความสูง ¾ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 12. คาร์เนชั่นดอกที่ 5 ใช้ความสูง ¾ ของดอก ของดอกท่ี 7 กับ 8 ปักตรงกลางระหว่างดอกท่ี 7 คาร์เนชน่ั ดอกท่ี 4 ปกั ตรงกับกิง่ หลิวก่งิ ที่ 5 และดอกที่ 8 และอีก1ดอกปักอยหู่ น้าดอกที่ 3 16. คาร์เนชั่นดอกท่ี 11ใช้ความสูง ¼ ของดอก ท่ี 8 ปักอยูร่ ะหวา่ งดอกท่ี 5 และดอกท่ี 8 17. ดอกคาร์เนช่ันดอกสุดท้ายปักอยู่ใต้ดอกคาร์ เนช่ันดอกที่ 4 18. ปักดอกเบญจมาศแซมตามช่องว่าง 19. ตัดใบเฟริ น์ มะขามขนาดส้นั ปกั รอบปากแจกนั เพ่ือบงั ทยี่ ดึ
65 1.2.4 แบบรูปทรงตัว U หรือแบบกลุ่มแนวคู่ขนาน (Parallel Systems) เป็นการ นาดอกไม้มาจัดเป็นแนวขนานให้ช่อเป็นแนวตั้งขึ้น โดยใช้ดอกไม้ในกลุ่มเดียวกัน ใช้ภาชนะลักษณะ ทรงแนวนอนเพือ่ ส่งใหเ้ ห็นกล่มุ ดอกไมแ้ ละชอ่ งไฟเดน่ ชัด \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพที่ 4.8 แจกนั รปู ทรงตวั U ทมี่ า : พรยุพรรณ พรสขุ สวสั ดิ์, 2543, หนา้ 50 การเตรียมวัสดอุ ปุ กรณ์ 1. ดอกกระเจียวสชี มพูอมมว่ ง 2 ช่อ 2. ดอกปทุมรัตน์สีมว่ ง 8 ช่อ 3. ดอกคาร์เนช่ันสโี อลด์โรส 6 ดอก 4. ดอกมากาเร็ตหนู 2 ชอ่ 5. แจกันทรงเตยี้ สีดา 1 ใบ 6. โฟมดดู นา้ ½ ก้อน 7. ใบหมากผ้หู มากเมีย 5 ใบ
66 ข้นั ตอนและวธิ กี ารจดั ซงึ่ มวี ิธกี ารจดั ดังน้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 1. ดอกกระเจียวดอกแรกวัดความสูงของกิ่งท่ี 1 3. ปักดอกประทุมรัตน์กอละ 2 ดอก โดยวัด ประมาณ 2 เท่าของความกว้างของปากแจกัน ความสูงของดอก ½ เท่าของดอกกระเจียวแต่ละ นาไปปักทางดา้ นซ้ายของแจกนั กอ 2. ปักดอกกระเจียวดอกที่ 2 ทางด้านขวาของ แจกันให้ระดับของดอกต่าลงประมาณ ¼ เท่า ของก่งิ ท่ี 1 4. ตัดก้านดอกประทุมรัตน์ยาว ¾ เท่าของ 2 8. ปกั ดอกคาร์เนช่ันดา้ นหน้า 4 ดอก โดยตัดก้าน ดอกแรก ปักตรงกับดอกกระเจียวทางด้านซ้าย สงู ¾ เทา่ ของความกว้างของปากแจกนั ของแจกัน 9. ปักดอกคาร์เนช่ัน 2 ดอก ทางด้านหลัง วัด 5. ดอกประทุมรัตน์ตัดก้านยาว ¾ เท่าของดอก ความสูง 1 เท่าของความกวา้ งของปากแจกัน ประทุมรัตนด์ อกที่ 4 ปักดา้ นหนา้ ดอกกระเจียว 6. จดั มุมทางด้านขวาของแจกนั เชน่ เดียวกบั ข้อ 5 7. ปกั ดอกประทุมรัตน์ 2 ดอก ติดขอบปากแจกัน สงู ประมาณ ¼ เท่าของดอกกระเจียว
67 10. ปักแซมด้วยดอกมากาเร็ตหนู 11. ใบหมากผู้หมากเมียตัดแบ่งครึ่งใบ ด้านโคนใบตัดเป็นปากฉลาม ปักรอบปาก แจกัน เพ่อื ปิดบงั ทีย่ ึดไมใ่ หม้ องเห็น 3. การจัดดอกไม้รูปทรงอิสระ การจัดดอกไมร้ ูปทรงอสิ ระ เปน็ การจัดดอกไม้รุปทรงที่ไม่อยใู่ นรปุ ทรงเรขาคณติ และ รูปทรงตวั อกั ษร อาจใชเ้ สน้ ตามทิศทางของกง่ิ ไมท้ ี่คดงอไปตามธรรมชาติ รวมถึงการตดั แต่งกิ่งให้ได้ รูปทรงของผจู้ ดั เป็นแบบที่มีรปู ทรงไม่แน่นอนซ่ึงเกดิ จากการผสมผสานรปู ทรง เส้น ท่ีเปน็ อสิ ร ซงึ่ ใน การจดั ดอกไม้รูปทรงอสิ ระท้ังของไทยและของสากลจะมลี กั ษณะคล้ายคลงึ กัน ประโยชน์ การจัดแจกันดอกไมน้ าไปใช้ประโยชนด์ ังนี้ 1. เป็นของท่ีมอบให้แขกผ้มู ีเกียรติ ท่ีมาในรว่ มงาน 2. สาหรับใช้เย่ยี มผู้ปว่ ย 3. เพื่อแสดงความยินดี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
68 สรุป การจัดแจกันดอกไม้เป็นการนาดอกไม้ ใบไม้และสิ่งประกอบอ่ืนๆ เช่น ภาชนะ และของ ตกแตง่ นามาจัดรว่ มกนั อยา่ งกลมกลนื ให้เกิดภาพ 3 มิติ คือ มีความสูง ความกว้างและความลึกท่ีชวน ดูชวนมอง การจัดดอกไม้ไม่ได้จากัดเฉพาะ “การจัดแจกัน” เท่าน้ัน แต่รวมถึงการจัดช่อดอกไม้ การ จดั กระเชา้ ดอกไม้ การจัดช่อติดเส้ือ รวมทั้งการจัดดอกไม้ในภาชนะต่างๆ และการจัดดอกไม้โดยไม่มี ภาชนะในรูปแบบต่าง ๆซ่ึงในการจัดดอกไม้จะต้องคานึงถึง หน้าท่ีและประโยชน์ใช้สอย สัดส่วน การ เลือกสี ความกลมกลืน จุดเด่นของผลงาน ในการจัดดอกไม้สดได้แบ่งการจัดแจกันดอกไม้ออกเป็น 3 แบบ คือ การจัดดอกไม้รูปทรงเรขาคณิต การจัดดอกไม้รูปทรงตัวอักษรและการจัดดอกไม้รูปทรง อสิ ระ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
69 แบบฝึกหดั ทา้ ยบท 1. หลักการจัดแจกนั ดอกไม้มีขนั้ ตอนและมวี ิธีการจดั ดอกไม้อย่างไร 2. การจัดดอกไม้มกี ี่ประเภทอะไรบ้าง 3, การจดั ดอกไมร้ ูปทรงตัวอักษรประกอบดว้ ยรปู ทรง อะไรบา้ ง 4. การจัดแจกนั รปู ทรงสามเหลย่ี มด้านไม่เท่ามีหลกั การวางกงิ่ สาคัญอยา่ งไร 5, การจดั ดอกไม้ทรงสูงควรปักดอกไมด้ อกแรกมี ความสูงเปน็ เทา่ ไรของตัวแจกนั \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
70 เอกสารอ้างอิง พรยุพรรณ พรสุขสวสั ด์ิ. (2545). หลกั การจัดแจกนั ดอกไม้.กรุงเทพฯ: สานักพิมพแ์ ม่บ้าน. พรยพุ รรณ พรสุขสวัสด์ิ. (2546). การจัดดอกไม้.หลักสตู รคหกรรมศาสตร์ คณะมนษุ ยศาตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนดสุ ิต. มณรี ัตน์ จันทนะผะลนิ . (2542). การจดั ดอกแบบธรรมชาติอภวิ าทจอมราชัน. กรุงเทพฯ : อมรินทรพ์ ริน้ ต้งิ แอนดพ์ ับลิชชิง่ . \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
71 บทท่ี 5 วสั การจัดช่อดอกไม้ ผศ การจัดช่อดอกไม้มีหลากหลายรูปแบบให้ผู้จัดได้เลือกจัดตามความเหมาะสม กับ โอกาสทีน่ าไปใช้ ซึ่งรูปแบบการจัดช่อที่นิยมจัดในปัจจุบัน มี 5 รูปแบบ คือ การจัดช่อติดเสื้อ การจัด ช่อกลม การจดั ชอ่ หน้าเดยี ว การจดั ช่อรปู ทรงสามเหล่ียม และการจัดชอ่ อิสระ ซ่ึงการจัดช่อหน้าเดียว รูปทรงสามเหลี่ยมและการจัดช่อรูปทรงอิสระหรือการจัดช่อตามความคิดสร้างสรรค์ เป็นรูปทรงที่ นยิ มใชม้ ากในปัจจุบัน มกั ใหแ้ กก่ นั ในโอกาสแสดงการตอ้ นรับ แสดงความยนิ ดี เป็นช่อท่ีมีลักษณะยาว ถือได้สะดวก ส่วนช่อกลมมักนิยมใช้ในงานแต่งงาน โดยใช้กระดาษชนิดต่างๆ ห่อหุ้มตบแต่งตัวช่อ ดอกไม้ เพอ่ื ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ดอกไมบ้ อบช้าและเปรอะเป้ือนเสื้อผ้า ซ่ึงมีการจัดช่อดอกไม้มีขั้นตอนการจัด ดังนี้ การเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" การจัดช่อดอกไม้ ท้ังการจัดช่อติดเส้ือ การจัดช่อดอกไม้ช่อกลม การจัดช่อดอกไม้หน้าเดียว การจดั ชอ่ ดอกไมร้ ูปทรงอิสระ มีการเตรียมวัสดอุ ุปกรณด์ ังน้ี 1.เตรียมดอกไม้ ใบไม้ สาลี กระดาษตะก่ัว กระสา กระดาษฉลุลวยลายสวยงาม 2. เตรยี มโบว์ ลวดตะกัว่ สาหรับมัด 3. เลอื กดอกไมใ้ ห้มขี นาด ใหญ่ กลาง เลก็ ไลข่ นาดกนั เดด็ ใบบางส่วนออก 4. เตรียมดอกไมแ้ ซม ตัดแบง่ เป็นชอ่ พรอ้ มที่จะจัด 5. เตรยี มเชอื กฟางตัด แบ่งพร้อมใชง้ าน หรือสก๊อดเทป การจัดชอ่ ดอกไมแ้ บบช่อกลม การจดั ชอ่ ดอกไมแ้ บบช่อกลม มวี ธิ กี ารจดั 2 แบบคือ แบบท่ีใช้ท่ียึดเป็นแบบท่ีใช้โฟมดูดน้า ตัดเป็นท่อนเกลาให้กลมห่อด้วยลวดตาข่ายปลายด้ามปักด้วยไม้กลมพันด้วยกระดาษฟรอยล์หรือท่ีมี จาหน่ายในทอ้ งตลาด ซึ่งการจัดช่อดอกไม้แบบน้ีดอกไม้จะได้น้าดีกว่าแต่จะมีน้าหนักมากดอกไม้หลุด ร่วงได้งา่ ยส่วนการจัดช่อดอกไม้แบบที่ไม่ใช้ที่ยึด เป็นแบบท่ีผู้จัดช่อดอกไม้จะต้องออกแบบช่อดอกไม้ ไวก้ อ่ นแล้ว โดยจะต้องแยกดอกไม้ ใบไม้ออกเป็นดอกๆ จากน้ันจึงนาดอกไม้ ใบไม้ มากาไว้ในมือทีละ อย่าง จัดวางตาแหน่งตามรูปทรง เสร็จแล้วมัดด้วยเชือกหรือเทป ตัดก้านให้ยาว 5 น้ิว จากน้ันจึงห่อ ดว้ ยสาลี กระดาษฟอยล์ เพื่อหลอ่ นา้ ให้ดอกไมใ้ บไมใ้ หม้ ีความสด และห่อด้วยกระดาษ ผ้าหรือวัสดุอ่ืน ตามสมยั นยิ ม สดุ ท้ายจงึ นาโบวม์ าผกู ให้สวยงาม นอกจากนี้การจัดช่อดอกไม้แบบช่อกลมในปจัจุบันมี รูปแบบท่หี ลากหลายทีน่ าวสั ดุต่างๆ มาจดั เชน่ การนาผลไม้มาจัดรวมกับดอกไม้ ใบไม้ดังภาพ
72 ภาพท่ี 5.1 การจดั ชอ่ กลมแบบผสมผสาน ท่ีมา : พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสด,์ิ 2546, หน้า 40 สาหรับการเรียนการสอนในเบ้ืองต้นผู้เรียน จาเป็นจะต้องเรียนรู้หลักการจัดช่อกลมท่ีให้ เข้าใจ ซึง่ การจัดช่อกลมโดยใชว้ ธิ กี ารกาดอกไม้ไวใ้ นมือมวี ิธีการจัดดังนี้ 1.1 การจัดชอ่ กลมแบบท่ี 1 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพท่ี 5.2 การจดั ชอ่ กลม แบบท่ี 1 ที่มา : พรยุพรรณ พรสุขสวัสดิ์, 2546, หน้า 40 การเตรยี มวัสดอุ ุปกรณ์ 50 ดอก 1. ดอกกุหลาบสีแดง 5 ใบ 2. ใบยาง
73 3. กระดาษสาญ่ีปนุ่ สีขาว 2 แผ่น แผ่น 4. กระดาษสาญี่ปนุ่ สแี ดง 2 เมตร ใบ 5. รบิ บิ้นสที องกวา้ ง 1 น้ิวยาว 2 แผน่ แผน่ 6. ใบกาแพงเงิน 3 เมตร 7. สาลี 1 8. กะดาษฟรอยล์ 1 9. ลวดสที อง 1 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ขั้นตอนและวธิ กี ารจดั ซง่ึ มวี ธิ กี ารจดั ดังน้ี 1. นาดอกกุหลาบ4ดอกกาเป็นวงกลม จากนั้น 3. นาใบกาแพงเงิน 2 ใบ จับไขว้กันกีดเป็น นาดอกกหุ ลาบวางสบั หวา่ งเป็นรอบทีส่ อง เสน้ 2. นาดอกกุหลาบเข้าช่อแต่ละช้ันสับหว่างลงมา ใหเ้ ปน็ วงกลม 4. นาใบกาแพงเงนิ วางพาดด้านบนทงั้ สองใบ 5. พนั ทบคล้องใบกาแพงเงินสองใบยดึ ติด ใต้ดอกกุหลาบ
74 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"6. นาใบยางวางรอบช่อดอกไม้ 5 ใบ มดั ใหแ้ น่น 7. นากระดาษสาสีขาวพบั จบั จบี ท้ังสอง จากนัน้ พันด้วยสาลีนาไปจุ่มน้าห่อดว้ ย แผน่ กระดาษฟรอยลท์ ่ีด้ามจับ 8. มดั กระดาษสาติดในตัวช่อทง้ั 2 แผ่น 9. ห่อดว้ ยกระดาษสาสีแดงซ้อนทับกับกับ กระดาษสาสีขาว 10. นาริบบ้นิ สีทองจับโบว์ สามหมู ดั ดว้ ยลวดให้แน่นจากนนั้ นาไปผูกตดิ กับชอ่ ดอกไม้
75 1.2 การจัดช่อกลมแบบที่ 2 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพที่ 5.3 การจดั ช่อกลม แบบท่ี 2 ทม่ี า : พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ดิ,์ 2546, หน้า 40 การเตรยี มวสั ดุอปุ กรณ์ มดี ังน้ี 25 ดอก 1. ดอกกหุ ลาบ 1 กา 2. ดอกพดุ ซ้อน 4 แผน่ 3. กระดาษสา 1 ก้อน 4. ฟลอรา่ โฟม 1 เมตร 5. รบิ บน้ิ ขนาด 1 น้ิว 3 เมตร 6. เชอื กฟาง 1 เมตร 7. ลวดตะก่ัวสีทอง 1 แผน่ 8. อลมู เิ นียมฟรอยล์ 1 แผน่ 9. สาลี 1 ใบ 10. ถงุ พลาสตกิ ขนั้ ตอนและวธิ กี ารจดั ซ่ึงมวี ธิ กี ารจัดดงั นี้ 1.นาดอกกุหลาบสามดอกเรียงให้ปลาดอกเสมอกัน พันสก๊อตเทปให้ตากว่าปลายดอก ประมาณ 7 น้ิว 2. นาดอกกุหลาบมาวางเรยี งให้หนา้ ดอกเสมอกันและรูปทรงกลม 3. นาดอกพุดซอ้ นสลับวางรอบดอกกหุ ลาบ
76 4. ปักแซมด้วยใบพุดนาดอกกหุ ลาบวางโดยรอบ จัดใบพุดใหช้ ปู ลายใบขึน้ 5. มดั ดว้ ยเชือกใหแ้ นน่ 6. นากระดาษา พับทบครง่ึ จบั จีบย่นห่อชอ่ ดอกไม้ 2 ชนั้ มดั ด้วยเชือกใหแ้ น่น 7.นาสาลีห่อโคนช่อ แลว้ นาถงุ พลาสตกิ สวมทับพนั มัดด้วยเชอื ก 8. นาอลูมิเนียมหอ่ ปดด ถุงพลาสติก จากน้นั นากระดาษสา หอ่ โคนดา้ มช่อแล้วนากระดาษสา ห่อโคนดา้ มช่อ 9.นาริบบ้ิน มาทาโบว์ด้านละ 2 ด ด ดลวดตะก่ัวสีทองจากนั้นผูกติดกับ ตวั ช่อ การจัดชอ่ หนา้ เดียว การจัดชอ่ หนา้ เดยี วเปน็ การจัดชอ่ ดอกไมท้ ไ่ี ดร้ ับความนยิ มและนาไปใช้ในหลายโอกาส ข้ึนอยกู่ ับโอกาสทีจ่ ะนาไปมอบใหบ้ ุคคลต่างๆ ซ่ึงมวี ธิ ีการจดั 4 แบบดังน้ี 1. การจัดช่อดอกไม้โดยไม่ใช้ท่ียึด เป็นแบบท่ีสะดวกและรวดเร็วแต่จะต้อง ควบคุมใหไ้ ดร้ ูปทรงซ่ึงมวี ิธีการจดั ดงั นี้ 1.1 การจัดชอ่ หนา้ เดียวแบบท่ี 1 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพท่ี 5.4 การจดั ช่อหนา้ เดียว แบบท่ี 1 ทม่ี า : พรยุพรรณ พรสขุ สวสั ดิ,์ 2546, หนา้ 50 การเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ 20 ดอก 1. ดอกกุหลาบสชี มพู 5 ช่อ 2. ดอกแกลดอิ อรัส 0.5 แผน่ 3. ดอกแคสเปยี 1 4. ใบเฟดรน์ มะขาม 2 เมตร 5. ผา้ โปรง่ สีชมพู 2 เมตร 6. รบิ บ้ินสชี มพูเข้ม 1 นว้ิ 1 เมตร 7. ลวดตะก่ัวสที อง
77 ขน้ั ตอนและวธิ กี ารจดั ซงึ่ มีวธิ ีการจัดดงั น้ี \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"1. ว่างดอกแกลดิออรัส 5 ช่อจากน้ันนาใบ 2. นาดอกกุหลาบวางเรยี งลงมา 5 ดอก เฟดร์นมะขาม วางเรียงดา้ นบน 3. วางดอกกหุ ลาบสับหว่างจานวน 12 ดอก 4. แซมใบเฟดร์นมะขามด้านขา้ งด้านละ 1 ใบมดั จากนั้นแซมดว้ ยดอกแคสเปีย ด้วยเชือกใหแ้ น่น 5. นาผ้าโปร่งพบั ทบซ้อนสองช้นั นาตวั ชอ่ 6. หอ่ ผา้ โปร่งมาทางดา้ นหนา้ จบั ปลายผา้ โปร่ง ดอกไม้วางตรงกลาง ทบข้ึน
78 7. พบั ผา้ โปร่งซ้อนเป็นจีบมัดดว้ ยเชอื กให้ 8. นาริบบนิ้ ผูกเปน็ โบว์ ผกู ตดิ กับตัวชอ่ แน่น ดอกไมด้ า้ นใต้ผ้าโปรง่ 1.2 การจัดชอ่ หน้าเดียวแบบที่ 2 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพท่ี 5.5 การจดั ชอ่ หนา้ เดียว แบบที่ 2 ท่มี า : พรยพุ รรณ พรสขุ สวัสด,ิ์ 2546, หนา้ 60 การเตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ 10 ดอก 1. ดอกกุหลาบสีเหลือง 5 ชอ่ 2. ดอกสแตตีสสนี ้าเงิน 3 กง่ิ 3. กกธปู ฤษี
79 4. ใบฟดลโลมะละกอ 2 ใบ 5. ผา้ โปรง่ สีเขยี ว 2 เมตร 6. รบิ บน้ิ สชี มพูเข้ม 1 นิว้ 2 เมตร 7. กระดาษสาสเี ขียว 1 แผ่น 8. ลวดตะกัว่ สีทอง 1 เมตร 9. อลูมิเนยี มฟรอยล์ 1 แผ่น 10. สาลี 3 แผน่ 11. ถงุ พลาสติก 1 ใบ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ขั้นตอนและวิธกี ารจัด ซึ่งมีวธิ กี ารจดั ดงั น้ี 1 .นากกธูป 3 2. นาดอกกหุ ลายปักจากด้านบนลงมาเปน็ ชั้นๆ ช้ัน แรก 1ดอ 2 ดอก 3 ดอก และ4 ดอก 3. ปักดอกแซมด้วยดอกสแตตสี 4. ม้วนกระดาษ 2 แผ่น ใสด่ า้ นหลังช่อมัดให้แน 5. นาใบฟดลโลมะละกอ ใส่ด้านล่าง 3 ใบ ดใ 6. นาอลมู ิเนยี มฟอย ห่อปดด ถุงพลาสตกิ แลว้ นากระดาษสามาห่อก้านจับจีบดา้ นหน้า 7. มัดโบว์ 2 หู นาไปผูกกบั ด้ามชอ่ 2. การจดั ชอ่ ดอกไมโ้ ดยใช้ทย่ี ดึ เปน็ อุปกรณ์การจัด ซึ่งมีท้ังที่เป็นอุปกรณ์สาเร็จรูป ท่ีเรียกว่าบูเก้ โฮลเดอร์ ที่ทาให้ง่ายและสะดวกต่อการจัด เนื่องจากมีโฟมดูดน้าสาหรับปักดอกไม้อยู่ ด้านใน หรือการตัดโฟมดูดน้าเป็นก้อนจากนั้นใส่ไม้กลมปักเป็นแกนท่ีจับ ห่อด้วยลวดตาข่ายมัดให้ แนน่ ซ่งึ การจดั ดอกไม้ในลักษณะน้ีไม่ควรร้อื บอ่ ยๆ เพราะจะทาให้ท่ยี ดึ แตกไดง้ า่ ย 3. การจดั ช่อดอกไม้โดยใชเ้ ทคนิคการต่อก้านดอกไม้ ใบไม้ โดยใส่ถุงน้า มัดติดกับ ก้านไม้กลม และก้านดอกไม้ ปักบนก้านผักตบชวา ซึ่งวิธีที่ตลาดมักนิยมใช้จัดเป็นส่วนใหญ่เน่ืองจาก จะทาให้ดอกไม้สวยงามคงทนและยงั สามารถปรบั เปล่ยี นดอกไมไ้ ด้สะดวก 4. การจัดช่อตามความคิดสร้างสรรค์ เป็นการจัดช่อดอกไม้โดยการออกแบบการ จัดช่อดอกไม้แบบอิสระ ไม่จากัด รูปทรง อาจไม่เหมือนกับรูปแบบทั่วไป และวัสดุที่ใช้มีความ หลากหลายที่นามาใช้ในการจัดท้งั ทเ่ี ปน็ ก่ิงไม้ เถาวัลย์ ฯลฯ ซึ่งการจดั ดอกไมท้ ่ใี ช้ทย่ี ดึ มีวิธีการจดั ดงั น้ี
80 \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"ภาพท่ี 5.6 การจัดช่อตามความคดิ สรา้ งสรรค์ ท่ีมา : พรยุพรรณ พรสุขสวสั ด์,ิ 2546, หนา้ 58 การเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ 5 ดอก 1. ดอกลิลล่สี ขี าว 4 ดอก 2. ดอกคาร์เนชัน่ สมี ่วง ½ กา 3. ดอกแคสเปีย 1 กำ 4. ใบดอกพุด 3 ใบ 5. ใบว่านเงนิ ไหล 2 กิ่ง 6. เถาวลั ย์ 5 กา้ น 7. ก้านผักตบชวา 3 แผน่ 8. กระดาษสาญ่ีปนุ่ สีมว่ ง 2 แผ่น 9. กระดาษสาญี่ปุ่นสีขาว 1 เมตร 12 อัน 10. ผ้าตาข่ายสมี ว่ ง 12 เสน้ 11. ไม้กลมยาว 5 นิว้ 12 เส้น 12. หนงั ยาง 1 แผ่น 13. เชอื กฟาง ยาว 5 นิว้ 12 ใบ 14. กระดาษฟรอยล์ 2 เมตร 15. ถงุ พลาสติกขนาดเล็ก 1 เมตร 16. รบิ บนิ้ สีขาวขนาด 1 น้วิ ยาว 17. ลวดสีทอง
\" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" 81 ข้นั ตอนและวิธกี ารจัด ซ่งึ มีวิธกี ารจัดดงั น้ี 1. ตดั ผักตบชวาเป็นท่อนยาว 7 นว้ิ จานวน 8 ทอ่ น มดั ด้วยเชือกฟางแบ่งเปน็ 3 ส่วนตดั ใหเ้ ท่ากัน 2. ตดั กา้ นดอกคารเ์ นช่ันสีม่วง ยาว 7 น้ิว ใสถ่ ุงนา้ มัดตดิ กบั ไมก้ ลมท้งั 4 ดอก 3. ตัดก้านดอกลิลล่ีใส่ถงุ น้า มดั ติดกับไม้กลมทง้ั 5 ดอก 4. ปกั ใบว่านเงนิ ไหล 3 ใบในตัวยึด จากนนั้ ทีป่ ักเถาวัลย์ 2 กง่ิ 5. ปกั ดอกลิลลี่ 1 ดอกตรงกลางใหต้ ่าลงมา3/4 ของใบไม้ จากน้นั ปักดอก คารเ์ นชนั่ ใต้ดอกลลิ ล่ี 3 ดอก 6. ปักแซมด้วยดอกแคสเปียโดยรอบ 7. ปกั ดอกลิลล่ีตรงกลาง 1 ดอก ด้านซ้ายและด้านขวาดา้ นละ 1 ดอก จากน้ันปกั ดอกคาร์เนชนั่ ใตด้ อกลลิ ล่ีตรงกลาง 1 ดอก และปักดอกลิลล่ีตรงกลางอีก 1 ดอก 8. ปักแซมดว้ ยดอกแคสเปียโดยรอบจากน้นั ปักแซมด้วยใบดอกพุด 9. หอ่ ดว้ ยกระดาษฟรอยล์ 10. ห่อกระดาษสีม่วงด้านหลงั ชอ่ ดอกไม้ 1 แผ่นมัดด้วยเชอื กใหแ้ นน่ จากน้นั จับผา้ ตาขา่ ยให้เป็นจีบพองท้ังสองข้าง 11. พบั กระดาษสาสีขาวเปน็ รปู สามเหลี่ยมพบั ทบเป็นจบี ทั้งสองแผ่นมัดติดในตวั ชอ่ จากนน้ั นากระดาษสาสีม่วงอีก แผ่นห่อเข้าในตัวชอ่ 12. นากระดาษสาสมี ว่ งมนั ที่ดา้ มจบั ใหแ้ น่นมดั ดว้ ยลวดให้แน่น 13. จบั โบว์สามหูมัดด้วยลวดสที องจากน้นั นาไปมัดติดกับตวั ช่อดอกไม้ ประโยชนก์ ารจัดชอ่ ดอกไม้ การจัดชอ่ ดอกไมน้ าไปใชป้ ระโยชนด์ งั นี้ 1. มอบใหแ้ ขกผู้มีเกียรติ ท่ีมาในร่วมงาน 2. มอบแสดงความยินเนื่องในโอกาสรับพระราชทานปริญญาบัติ 3. มอบแสดงความยนิ เนื่องในโอกาสเล่อื นยศเลื่อนตาแหน่ง 4. มอบแสดงความยินเนื่องในโอกาสรับรางวัลต่างๆ 5. มอบสาหรับเย่ียมผู้ป่วย 6. ใช้เปน็ ชอ่ ถอื สาหรบั เจ้าสาว 2. สาหรับใชเ้ ยี่ยมผู้ป่วย 3. เพ่อื แสดงความยนิ ดีในโอกาสพเิ ศษ 4. ใชใ้ นพิธแี ต่งงานสาหรับเจา้ สาวถือ
82 สรุป การจัดช่อดอกไม้มีหลากหลายรูปแบบทั้งการจัดช่อติดเสื้อ การจัดช่อกลม การจัดช่อหน้า เดียว การจัดช่อรูปทรงสามเหลี่ยม การจัดช่ออิสระ ซ่ึงการจัดช่อหน้าเดียว และการจัดช่อรูปทรง สามเหล่ยี ม เป็นรูปทรงท่ีนิยมใช้ในปัจจุบัน การจัดช่อดอกไม้แบบช่อกลม มีวิธีการจัด 2 วิธี คือ แบบ ท่ีใช้ทีย่ ดึ ซงึ่ การจดั ชอ่ ดอกไมแ้ บบนดี้ อกไม้จะไดน้ า้ ดกี วา่ แตจ่ ะมนี า้ หนกั มากดอกไม้หลุดร่วงได้ง่ายส่วน การจัดช่อดอกไม้แบบที่ไม่ใช้ที่ยึด เป็นแบบท่ีผู้จัดช่อดอกไม้จะต้องออกแบบช่อดอกไม้ไว้ก่อนแล้ว โดยจะต้องแยกดอกไม้ ใบไม้ออกเป็นดอกๆ จากนั้นจึงนาดอกไม้ ใบไม้ มากาไว้ในมือใช้เชือกหรือส ก๊อตเทปมัด และการจัดช่อหน้าเดียวเป็นการจัดช่อดอกไม้ที่ได้รับความนิยมและนาไปใช้ในหลาย โอกาสซ่ึงมีเทคนิควิธีการจัด 2 วิธี คือการจัดช่อดอกไม้โดยไม่ใช้ท่ียึด การจัดช่อดอกไม้โดยใช้ท่ียึด เป็นอุปกรณ์การจัด และการจัดช่อดอกไม้โดยใช้เทคนิคการต่อก้านดอกไม้ ใบไม้ ด้วยถุงน้า รวมถึง การจัดชอ่ ตามความคิดสร้างสรรค์ \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
83 คาถามทา้ ยบท 1. การจดั ชอ่ กลมมองเห็นรอบดา้ นเหมาะทจ่ี ะนาไปใชใ้ นโอกาสใดมากท่ีสดุ 2. การจดั ชอ่ แบบใดท่ีควบคุมรูปทรงไดย้ าก เพราะเหตใุ ด 3. การจัดช่อยาวหน้าเดยี วนยิ มนาไปใชใ้ นโอกาสใด 4. การมอบช่อดอกไมม้ ักนยิ มมอบใหใ้ นโอกาสใดพร้อมยกตัวอย่าง 5. การจัดดอกไมห้ น้าเดยี วมกี ่ีเทคนิคอะไรบ้าง \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
84 เอกสารอ้างอิง กรี ตี ชนา (2543) จดั ดอกไม้แบบสากล ข้นั พื้นฐาน กรงุ เทพมหานคร อมรินทรบ์ ุ๊คเซนเตอร์ . (2540). จดั ช่อห่อดอกไม้. กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พค์ าทอง. พรยพุ รรณ พรสุขสวสั ด์ิ. (2549). งานดอกไมส้ ด กรุงเทพฯ : ศรสี ยามการพมิ พ์. . (2548). การจัดดอกไม้ในพิธีมงคลสมรส. กรุงเทพฯ :มหาวทิ ยาลยั มณรี ตั น์ จันทนะผะลิน. (2542). การจัดดอกแบบธรรมชาตอิ ภวิ าทจอมราชนั . กรงุ เทพฯ : อมรินทร์พร้นิ ติ้งแอนด์พบั ลชิ ชิ่ง. \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \"
85 บทท่ี 6 การจัดกระเช้าดอกไม้ อาจารย์ กาญจนา เฟื่องศรี ความหมายของกระเชา้ กระเช้าหมายถึง ภาชนะสานมีหูเป็นวงโค้งขึ้นไปสาหรับหิ้ว บางอย่างก็ใช้ตั้ง (พจนานุกรม อ. เปลื้อง ณ. นคร) กระเช้าเป็นภาชนะสาหรับใส่สิ่งของต่างๆ มีหลายประเภทเรียกตามสิ่งของที่บรรจุอยู่ ภายในกระเช้า เช่น กระเช้าของขวัญ กระเช้าดอกไม้ กระเช้าผลไม้ กระเช้าของท่ีระลึก กระเช้าน้ันมีหลาย รูปทรง เช่น กระเช้าทรงกลม กระเช้าทรงรี กระเช้าทรงส่ีเหลี่ยม ฯลฯ วัสดุท่ีนิยมนามาประดิษฐ์กระเช้ามี หลายชนิด เช่น ไม้หวาย ไม้ไผ่ เถาวัลย์ ผักตบชวา ใบตอง โลหะ พลาสติก ฯลฯ กระเช้านั้นนิยมให้ใน เทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ วันเกิด การเข้าเยี่ยมให้กาลังใจผู่ป่วยหรือการอวยพรต่างๆ จึงนิยม มอบกระเช้าของขวัญกระเช้าดอกไม้หรือกระเช้าของที่ระลึกให้กันและกัน เพื่อส่งมอบความสุขและความ ปราถนาดีให้กับบุคคลที่รักเคารพนับถือ ดังนั้นการจัดตกแต่งกระเช้าที่จะส่งมอบในโอกาสต่างๆน้ัน ผู้ให้ควร ให้ความสาคัญในเรื่องการตกแต่งกระเช้าให้มีความสวยงามและน่าสนใจ จะทาให้กระเช้าที่ส่งมอบให้ผู้รับมี ความสุขและเห็นคุณค่าให้ความสาคญั กับส่งิ ที่ได้รบั \" มหาวิทยา ัลยสวน ุด ิสต เพื่อการ ึศกษาเ ่ทานั้น \" ภาพที่ 6.1 กระเชา้ ของขวัญ ภาพที่ 6.2 กระเช้าดอกไม้ ภาพที่ 6.3 กระเชา้ ผลไม้ ภาพท่ี 6.4 กระเชา้ ของท่ีระลึก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239