“หมูบ านตวั อยา ง 4 ดี วิถพี อเพียง”     บา นเขาสารภี    หมูที่ 3 ตำบลทับพริก อำเภออรญั ประเทศ จงั หวัดสระแกว                                                        จังหวัดสระแกว                                                             รวมกบั               มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ ในพระบรมราชปู ถัมภ สระแกว                      ภายใตโ ครงการสระแกว เมืองแหงความสขุ ดวยวถิ พี อเพียง                       กจิ กรรมพฒั นาศูนยก ารเรยี นรสู ระแกว 4 ดี วถิ พี อเพยี ง
บา้ นเขาสารภี
“หมบู่ ้านตัวอย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพียง”    บา้ นเขาสารภี หมทู่ ี่ 3 ต�ำบลทบั พรกิ อำ� เภออรญั ประเทศ จังหวดั สระแกว้    ข้อมูลทางบรรณานกุ รมของหอสมุดแหง่ ชาติ     เฉลิมพงษ์ จนั ทร์สุขา.   	 หมบู่ ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถีพอเพียง หมู่ท่ี 3 ต�ำบลทบั พริก อ�ำเภออรญั ประเทศ จงั หวัดสระแกว้ .   -- พิมพ์ครง้ั ท่ี 2. -- สระแกว้ : มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ สระแก้ว,   2564.   	 116 หน้า.   	 1.การพฒั นาชุมชน. 2. เศรษฐกิจพอเพียง. I. ช่อื เร่อื ง.   307.14   ISBN 978-616-16-2498-9    สงวนลขิ สทิ ธิต์ ามราชบญั ญตั ิ  ห้ามท�ำการลอกเลยี นแบบไมว่ า่ ส่วนใดสว่ นหนึ่งของหนงั สือเลม่ นี้ นอกจากจะได้รบั อนุญาต    พมิ พ์ครง้ั ที่ 2	      มกราคม 2564  บรรณาธกิ ารอำ� นวยการ	  ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สพุ จน์ ทรายแก้ว  	                       รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ธนานันต์  	                       อาจารยป์ ยิ ะ สงวนสิน  	                       ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์เศกพร ตนั ศรปี ระภาศริ ิ  ผู้จดั ท�ำ	             อาจารยเ์ ฉลมิ พงษ์ จันทร์สขุ า  ศลิ ปกรรม	              พจิ ิตร พรมลี  ออกแบบปก 	              พิจิตร พรมลี  ประสานงานการผลิต	       อาจารย์เฉลิมพงษ์ จนั ทร์สุขา  จดั พมิ พ์โดย	          มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์  	                       ในพระบรมราชูปถัมภ์ สระแก้ว  	                       เลขท่ี 1177 หม่ทู ี่ 2 ต�ำบลท่าเกษม  	                       อ�ำเภอเมืองสระแกว้ จังหวัดสระแกว้ 27000  	                       โทรศัพท์ : 037-447-111  	                       http://www.sk.vru.ac.th  พมิ พท์ 	่ี             บริษทั ดไี ซน์ ดีไลท์ จ�ำกัด  	                       เลขที่ 69/18 หม่ทู ี่ 7 ถนนรตั นาธิเบศร์  	                       ตำ� บลเสาธงหิน อ�ำเภอบางใหญ่  	                       จังหวดั นนทบุรี 11140  	                       โทรศพั ท์ 089-812-2140    “หมูบ่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”
บ้านเขาสารภี 1
สารบัญ                                         4                                                 8  บทน�ำ	                                        38  ประวตั ิบา้ นเขาสารภ	ี                        55  ขอ้ มลู พน้ื ฐานบ้านเขาสารภี	                 60  การวเิ คราะห์ SWOT ระดบั ต�ำบล	               63  กระบวนการศึกษาบริบทชุมชน	                     64  ข้นั ตอนการส�ำรวจขอ้ มูลชมุ ชน	               68  การศึกษาชมุ ชนด้วย เครอ่ื งมือตน้ ไมป้ ัญหา	  กระบวนการจัดท�ำธรรมนญู ชุมชน	                 70  ประเดน็ การถอดบทเรียน                         72  	 - มิตดิ า้ นสงั คม	                         74  	 - มติ ดิ า้ นการเมอื ง	                     76  	 - มิติด้านเศรษฐกจิ 	                        78  	 - มติ ิดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม	                   80  	 - มิติดา้ นเทคโนโลยี	  กระบวนการคน้ หาบคุ คลตน้ แบบ	    2 “หมบู่ า้ นตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง”
บทวเิ คราะหเ์ ชงิ พื้นที	่          96  	 - ระดับบุคคล (คนด,ี สุขภาพดี)	    96  	 - ระดบั ครวั เรือน (รายไดด้ ี)	  100  	 - ระดับชุมชน (ส่ิงแวดล้อมดี)	    102  กระบวนการจดั ทำ� แผนพฒั นาชมุ ชน	  104  บทสรุป	                            106  ข้อเสนอแนะ	                        109                                       บ้านเขาสารภี 3
บทนำ�      	 จังหวัดสระแก้ว มีนโยบายพัฒนา “สระแก้วเมืองแห่งความ    สขุ ภายใต้ 4 ดี วิถพี อเพยี ง” (Sa Kaeo Happiness Model) โดยให้    ประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างความสุข ด้วยการเป็น คนดี สุขภาพดี    รายได้ดี และสงิ่ แวดล้อมดี ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง โดยนำ�    หลักปรัชญาดังกล่าวมาใช้ขับเคลื่อนแบบสามเหล่ียมเขยื้อนภูเขา คือ    1. การใช้องค์ความรู้หรือวิชาการโดยภาคราชการและภาควิชาการ    2. การใชพ้ ลังประชาสังคม ทีเ่ ป็นภาคตี ่าง ๆ ได้แก่ บา้ น วัด โรงเรยี น    สถานีอนามัย/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล องค์กรปกครอง    ส่วนท้องถ่ิน และ 3. การก�ำหนดเป็นนโยบายสาธารณะระดับองค์กร    ปกครองส่วนทอ้ งถิน่    	 กระบวนการทำ� งานท่ีต้องเน้นการบูรณาการ งาน คน และการ    จัดการร่วมกัน โดยเร่ิมด�ำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 มีพ้ืนท่ี    น�ำร่อง เต็มรูปแบบอ�ำเภอละ 1 ต�ำบล ต�ำบลที่เหลือให้น�ำนโยบายไป    ปรับใช้ตามบริบท และมีปรับปรุงกระบวนการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม    กับพ้ืนท่ีเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทอย่างต่อเน่ือง ปีงบประมาณ พ.ศ.    2558 เพ่มิ พน้ื ที่เปา้ หมายโดยความสมัครใจ รวมท้ังสิ้น 33 ตำ� บล และ    ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 มีนโยบายเน้นพัฒนาระบบให้มีคุณภาพ    ในพ้ืนที่เป้าหมายเดิม และให้ต�ำบลที่เหลือน�ำรูปแบบไปพัฒนาตาม    บรบิ ทของพนื้ ท่ี    4 “หมู่บ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”
บ้านเขาสารภี 5
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สระแก้ว  ในฐานะที่เป็นภาคีภาควิชาการในพ้ืนที่จังหวัดสระแก้วตามแนวคิดการ  ขับเคลื่อนแบบสามเหล่ียมเขย้ือนภูเขาที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จึงร่วม  ขับเคลื่อนนโยบาย “สระแกว้ เมอื งแหง่ ความสขุ ภายใต้ 4 ดี วิถพี อเพียง”  (Sa Kaeo Happiness Model) ผ่านรูปแบบการด�ำเนินกิจกรรม  เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน นอกจากนั้นยัง ส่งเสริมให้เกิด  การวิจัยเพ่ือพัฒนาท้องถิ่น (Research and Development) ในเชิงพ้ืนท่ี    6 “หมู่บ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถีพอเพยี ง”
อีกด้วย การด�ำเนินการดังกล่าวนั้น มีความสอดคล้องกับทิศทางและ  ยุทธศาสตรด์ า้ นการวจิ ยั ของมหาวทิ ยาลัยฯ (2560 - 2564) ในเป้าหมายที่  2 วิจัยนวัตกรรมเพ่ือการแก้ไขปัญหาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นพันธกิจส�ำคัญของ  มหาวิทยาลัยที่จะต้องด�ำเนินการร่วมกันกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ เพ่ือให้  สามารถสร้างองค์ความรู้อันจะน�ำไปสู่การขยายผลสู่ชุมชนท้องถ่ินต่าง ๆ  ทั้งในจังหวัดสระแก้วและจังหวัดอ่ืน ๆ ต่อไปเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่  “มั่งคง มั่งคั่ง ยงั ยืน”                                                                       บา้ นเขาสารภี 7
ประวตั บิ า้ นเขาสารภี    หมู่ที่ 3 ตำ� บลทับพริก อำ� เภออรญั ประเทศ จังหวดั สระแก้ว    	 บา้ นเขาสารภี เร่ิมก่อตัง้ เมอื่ ปี พ.ศ. 2506 ข้นึ ตรงต่อ ต�ำบลคลองน�ำ้ ใส  อ�ำเภออรัญประเทศ จงั หวัดปราจีนบรุ ี เดมิ ชาวบา้ นอาศยั อย่ทู บี่ ้านทับวงั มน  แต่เน่ืองจากเกิดสงครามในกัมพูชาท�ำให้ชาวบ้านอพยพครัวเรือนมาต้ัง  ถิ่นฐานอยู่ที่บ้านเขาสารภีในปัจจุบัน พ้ืนท่ีบริเวณป่าบนภูเขาใกล้หมู่บ้าน  มีต้นไม้ที่มีรูปร่างคล้ายทัพพี จึงได้ตั้งช่ือหมู่บ้านว่าบ้านเขาสารภี ในปี  พ.ศ. 2526 บ้านเขาสารภีได้ต้ังเป็นหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง  และในปี พ.ศ. 2527 ได้รบั รางวลั การประกวดหม่บู า้ น รองชนะเลศิ ระดับ  จงั หวดั ปราจีนบรุ ี    8 “หมบู่ า้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ พี อเพียง”
ทตี่ ั้ง อาณาเขตติดตอ่ และสภาพทางกายภาพของหมู่บ้าน    	 บา้ นเขาสารภี มอี าณาเขตตดิ ต่อกับพน้ื ทต่ี ่าง ๆ ดงั นี้  	 ทิศเหนือ	 จรด	 อ�ำเภออรญั ประเทศ  	 ทิศใต้	  จรด	 อ�ำเภอคลองหาด  	 ทิศตะวันตก	 จรด	 อ�ำเภอคลองหาด  	 ทศิ ตะวันออก	 จรด	 อ�ำเภอคลองหาด  	 ลักษณะทางกายภาพของหมบู่ ้านโดยทว่ั เปน็ ท่ีราบสูงภูเขา การต้ัง  บ้านเรือนของชาวบ้านจะตั้งบ้านเรือนตามเส้นทางคมนาคมสาย อรัญ –  คลองหาด                                                                 บา้ นเขาสารภี 9
10 “หม่บู ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”
บ้านเขาสารภีมีวัดเขาสารภีประจ�ำหมู่บ้านซึ่งเป็นท่ี  เคารพของสมาชิกในชุมชนก่อตั้งปี พ.ศ. 2512 มีพระภิกษุ  อยู่ท่ีวัดจ�ำนวน 5 รูป ปัจจุบัน วัดเขาสารภี อยู่ในช่วงของ  การด�ำเนินการขออนุญาตจัดต้ังวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย  คือโรงเรียนในชุมชน โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดน  บา้ นเขาสารภี หมู่ 3 ต.ทับพริก อ.อรัญประเทศ จ.สระแกว้  ก่อตั้งปี พ.ศ. 2513 โดยความร่วมมือระหว่างชาวบ้าน  บ้านทับวังมนและกองก�ำกับต�ำรวจตระเวนชายแดนที่ 12  เดิมโรงเรียนแห่งนี้ต้ังอยู่ที่บ้านทับวังมน แต่เน่ืองจาก  ทหารเวียดนามและเขมรแดงได้เข้ามาปล้นสะดมในหมู่บ้าน  เป็นผลให้ชาวบ้านอพยพย้ายถิ่น จนกระทั่งได้มาต้ังถ่ินฐาน  ที่บ้านเขาสารภี และต่อมาก็ได้ย้ายโรงเรียนมาต้ังที่บ้าน  เขาสารภีในปัจจุบันน้ี  	 ในชุมชนบ้านเขาสารภีมีสถานอี นามยั มี 1 แห่ง โดยมี  เจ้าหน้าที่ให้บริการท่ีสถานีอนามัยบ้านคลองหว้า ทางด้าน  สุขภาพของประชาชน ส่วนใหญ่มีปัญหาโรค ไข้เลือดออก  และมาลาเรีย เน่ืองจากมีปัญหาเร่ืองการแพร่ระบาดของ  ยุงลายและยุงก้นปล่อง ซ่ึงได้รับการสนับสนุนงบประมาณ  จาก อบต. ในการด�ำเนินการเพ่ือควบคุมและป้องกันโรค  นอกจากนี้ก็ยังมีปัญหาในเรื่องของยาเสพติดและโรคเอดส์  ทีก่ ำ� ลงั แพรร่ ะบาดเขา้ มาเปน็ จ�ำนวนมาก                                                       บา้ นเขาสารภี 11
อเปาน็ชอีพยแา่ ลงะไรร.า..ยไดข้ องบา้ นเขาสารภี    	 อาชีพหลักของชาวบ้านสารภี ได้แก่ อาชีพรับจ้าง โดยมีรายได้  13,000 บาท/คน/ปี ซ่ึงยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกจากน้ียังท�ำการ  เกษตรอ่ืน ๆ ได้แก่ การเล้ียงสุกร การเล้ียงไก่ ท�ำไร่ เล้ียงเป็ด เลี้ยงโค ซึ่ง  รายไดโ้ ดยเฉล่ยี จากอาชพี เสรมิ ทั้งหมดของคนในหมู่บา้ นคือ 13,000 บาท/  คน/ปี ซง่ึ ยงั ไม่ไดห้ ักคา่ ใช้จา่ ยใด ๆ    12 “หมบู่ า้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง”
การปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน    	 บ้านเขาสารภี ก่อต้งั เมอ่ื ปี พ.ศ. 2506 ปจั จุบนั มบี คุ คลที่ดำ� รงตำ� แหนง่  ต่าง ๆ น้ี  	 1. ผ้ใู หญบ่ ้าน	 ไดแ้ ก่	นางประนอม ลือค�ำหาญ  	 2. อบต.	 ไดแ้ ก	่ นายบญุ เลิศ เงางาม และ นางคำ� เวยี ง จอมรตั น์                                                                        บ้านเขาสารภี 13
สงั คมและวฒั นธรรมบา้ นเขาสารภี    	 บ้านเขาสารภีเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีการช่วยเหลือเก้ือกูลกัน  แตใ่ นช่วงปี พ.ศ. 2526 มีการเปล่ยี นแปลงวิถชี ีวติ ท่สี �ำคญั ทำ� ใหช้ ีวิตเกษตร  เปล่ียนจากเจ้าของที่ดินมาเป็นลูกจ้าง เน่ืองจากการหล่ังไหลของนายทุน  เข้ามากวาดซ้ือที่ดินของชาวบ้านและจากการหลั่งไหลของวัฒนธรรมจาก  ภายในและภายนอก ท�ำให้ในปัจจุบันชาวบ้านมีการช่วยเหลือเก้ือกูล  กันน้อยลงมีการด้ินรนเพ่ือเล้ียงชีพมากขึ้น ชาวบ้านว่างงานกันมากขึ้น  เน่ืองจากมีแรงงานต่างชาติราคาถูกเข้ามานอกจากนี้ก็ยังมีการแพร่หลาย    14 “หมบู่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง”
ของยาเสพติดและโรคเอดส์ที่มีอัตราสูงขึ้นด้วยวิถีของชุมชน การด�ำเนิน  ชีวิตของประชาชนเป็นวิถีชีวิตแบบของเกษตรกรรมและรับจ้างต้องด้ินรน  ต่อสู้กับความยากจน ไม่มีการวางแผนในการจัดการทรัพยากร (ทุน)  ของชุมชนที่มีประสิทธิภาพ วัฒนธรรมสมัยใหม่หล่ังไหลสู่ชุมชนส่งผลให้  ชาวบา้ นปรับตวั ไมท่ นั ส�ำหรับประเพณีและวฒั นธรรม ชว่ งวันสำ� คญั ตา่ ง ๆ  มีการจัดกิจกรรมเวียนเทียนเป็นประจ�ำทุกปี นอกจากน้ีมีการแนะน�ำ  สาธุชน ประจ�ำวนั พระ ขนึ้ 8 ค�่ำ, แรม 8 คำ�่ , ขึน้ 15 คำ่� และแรม 14 - 15 ค�่ำ                                                                        บา้ นเขาสารภี 15
ประวัตคิ วามเปน็ มาของต�ำบลทับพริก  เปน็ อยา่ งไร...    	 ประวัติศาสตร์ต�ำบลทับพริก ได้มาจากค�ำบอกเล่าของคนในชุมชน  ที่อยู่อาศัย ในพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเริ่มจัดต้ังหมู่บา้ นและชาวชุมชนท่ีเป็นคนรุ่น  ลูกหลานที่ช่วยกันเล่าเรื่องราวของหมู่บ้าน ท้ังจากประสบการณ์ตรงและ  จากท่ีได้ยินมา ประวัติศาสตร์ต�ำบลทับพริกแบ่งออกเป็นยุคต่าง ๆ ตาม  การเปล่ียนแปลงท่ีเกดิ ขึน้ ในหมู่บ้าน เป็น 8 ยุค คือ    16 “หมู่บ้านตัวอย่าง 4 ดี วถิ พี อเพียง”
ยคุ ท่ี 1 “บกุ เบิก”	                              (พ.ศ.	2503 - 2507)    ยุคท่ี 2 “ต้ังชุมชน”	                              (พ.ศ.	2507 - 2517)    ยคุ ท่ี 3 “อพยพ”	                                  (พ.ศ.	2517 - 2520)    ยคุ ที่ 4 “กลบั ถ่นิ - ฟนื้ ฟู - ต่อสู้ - พัฒนา”	  (พ.ศ.	2 5 2 1 - 2 5 3 0 )    ยุคที่ 5 “ยคุ สงครามสงบกลับสรู้ บเศรษฐกิจ”	 (พ.ศ.	2 5 3 1 - 2 5 3 7 )    ยคุ ที่ 6 “ร่วมใจพฒั นา - แก้ปัญหาสังคม”	          (พ.ศ.	2537 - ปจั จบุ ัน)    ยคุ ที่ 7 “การจดั การตนเอง”	                       (พ.ศ.	2546 - 2552)    ยคุ ท่ี 8 “เปิดพ้นื ที่แหลง่ การเรียนรูส้ ู่สังคมสขุ ภาวะ”	(พ.ศ.	2553 - ปจั จุบัน)                                                       บา้ นเขาสารภี 17
ยคุ ท่ี 1 “บุกเบิก”    (พ.ศ. 2503 - 2507)  	 ก่อนปี พ.ศ. 2503 บริเวณต�ำบลทับพริกเป็นป่าทึบ ต่อมาในปี  พ.ศ. 2503 ชาวบ้านหมู่ 7 ต�ำบลคลอองน�้ำใส ซ่ึงเป็นชาวญ้อ ประมาณ  3-5 ครอบครวั โดยนายชา บญุ แถม (ผู้นำ� ชมุ ชนในยคุ นัน้ ) อพยพลงมาแล้ว  ตั้งเป็นที่อยู่อาศัย และท�ำการเกษตรอยู่ในบริเวณนี้ ในช่วงเวลาท่ีใกล้เคียง  กันนั้น บริษัทพานทองซ่ึงได้สัมปทานตัดไม้ในบริเวณนี้ เข้ามาพร้อมกับ  ลูกจ้างตัดไม้ ซึ่งเป็นชาวส่วยจากหมู่ท่ี 12 ต�ำบลคลองน้�ำใส กลุ่มลูกจ้าง  ท่ีเข้ามานี้ ได้มาสร้าง “ทับ” ซึ่งหมายถึงเพิงพักอาศัยและปลูกต้นพริกไว้  ทพี่ กั จงึ ได้ต้ังช่อื วา่ “ทบั พรกิ ”    18 “หมบู่ า้ นตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง”
ผู้อพยพเข้ามาอยู่ในบริเวณน้ีมีมากขึ้นรวมประมาณ 22 ครัวเรือน  ชาวบ้านเข้ามารับจ้างตัดไม้ท�ำไร่ข้าวโพดและปลูกฝ้าย เนื่องจากพื้นดิน  บรเิ วณนี้ไมเ่ หมาะสมกบั การท�ำนา ชาวบ้านเอาฝ้ายไปขายและน�ำไปซือ้ ข้าว  รวมทงั้ ปจั จัย 4 จากบริเวณทศิ เหนือของต�ำบลคลองนำ้� ใส                                                                        บา้ นเขาสารภี 19
ยุคท่ี 2 “ตั้งชมุ ชน”    (พ.ศ. 2507 - 2517)  	 เมื่อมีผู้อยู่อาศัยในชุมชนมากข้ึนชาวบ้านจึงใช้ชื่อหมู่บ้านว่า  “บ้านทับพริก” หมู่ที่ 12 ขึ้น ต�ำบลคลองน้�ำใส มีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือ  นายพรม เชื้อค�ำศรี เน่ืองจากผลจากการตัดไม้ของบริษัทท่ีได้สัมปทาน  ท�ำให้ป่าไม้หมดไปและชาวบ้านท�ำการเกษตรมากข้ึนพื้นที่ป่าถูกเปลี่ยน  มาเป็นพน้ื ท่ีเกษตรกรรม มีคนอพยพเข้ามาในชุมชนมากขึ้น  	 ในปี พ.ศ. 2508 มีการต้ังโรงเรียน 2 โรง คือโรงเรียนทับวังมนและ  โรงเรียนทับพริก มีการสร้างส�ำนักสงฆ์ทับพริกผู้คนต้ังถ่ินฐานอยู่บริเวณ  ทศิ ตะวนั ออกของตำ� บลในปัจจุบันซง่ึ ติดกบั ชายแดน    20 “หมูบ่ ้านตวั อย่าง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”
ปี พ.ศ. 2509 เม่ือวันที่ 9 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2509 สมเด็จ  พระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเสด็จพระราชด�ำเนินมา ณ ต�ำบล  ทบั พรกิ บรเิ วณโรงเรยี นสระปทมุ (เดิม) ซ่งึ ขณะน้ันมเี น้อื ทป่ี ระมาณ 19 ไร่  2 งาน พระองค์ทรงจารึกพระนามไว้บนป้ายทองเหลือง ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่  โรงเรียนสระปทุม                                                                        บา้ นเขาสารภี 21
ช่วงปี พ.ศ. 2515 - 2516 กลุ่มท่ีอพยพเข้ามาอยู่อาศัยและท�ำกิน  ในต�ำบลทับพริกช่วงนี้คือ ญาติคนรู้จักของชาวต�ำบลทับพริกท่ีได้ข่าวแบบ  ปากต่อปากว่า ท่ีนี่มีพื้นที่การเกษตรอยู่มาก ที่ยังไม่มีการจับจอง ผู้คนจาก  จังหวัดต่าง ๆ ในภาคกลาง เช่น ลพบุรี สระบุรี และจากจังหวัดใกล้เคียง    22 “หมู่บา้ นตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพยี ง”
เช่น ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านจากภาคอีสาน  เข้ามาอย่บู รเิ วณนีด้ ว้ ย หลังจากผูใ้ หญบ่ า้ นคนแรกเสียชีวิตประมาณปลายปี  พ.ศ. 2518 นายช้อย ท�ำกิจการ เป็นผู้ใหญ่บ้านคนที่ 2 ต้ังแต่วันที่  19 ธันวาคม พ.ศ. 2518                                                                        บ้านเขาสารภี 23
ยคุ ท่ี 3 “อพยพ”    (พ.ศ. 2517 - 2520)  	 พ.ศ. 2517 - 2518 ชาวบ้านเล่าว่ามีทหารจากกาญจนบุรี มาสร้าง  ถนนลูกรังผ่านต�ำบลทับพริก ท�ำให้การเดินทางสะดวกข้ึนมีผู้คนอพยพ  เข้ามาในพื้นที่เพิ่มข้ึน ส่วนอาชีพหลักของชาวชุมชนทับพริก ในช่วงแรก  ชาวทับพริกนิยมปลูกข้าวโพดและฝ้าย ต่อมามีการเร่ิมปลูกพืชเศรษฐกิจ  อื่น ๆ เช่น มันส�ำปะหลัง ถั่วเหลือง และถ่ังเขียว เป็นต้น ช่วงนี้เป็นอีก  ช ่ ว ง ห นึ่ ง ที่ เ กิ ด ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ค ร้ั ง ส� ำ คั ญ ข อ ง ต� ำ บ ล ทั บ พ ริ ก คื อ  เมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2517 สงครามในประเทศกัมพชู า แบง่ เป็น 2 ฝา่ ย  คือ ฝ่ายกัมพูชาหรือเขมรแดง และฝ่ายเวียดนาม โดยเขมรแดงได้ปกครอง  กมั พชู าและในปนี ้นั มที หารเขมรแดงมากอ่ ต้งั กองทัพอยู่ฝัง่ เขมร ตรงกบั บา้ น  ทับวังมน ประกอบกับขณะนั้นมีการก่อตัวของคอมมิวนิสต์ในประเทศไทย    24 “หมบู่ า้ นตัวอย่าง 4 ดี วถิ พี อเพียง”
และได้เข้าร่วมมือกับเขมรแดง เขมรแดงได้เข้ามาตั้งฐานทัพตรงข้ามกับ  ประเทศไทย ท่ีทับวังมน จนถึงปี พ.ศ. 2519 สถานการณ์ทวีความรุนแรง  ขนึ้ มีทหารเขมรแดงบุกเข้ามาถึงชายแดนไทย 4 ชมุ ชน คือ บา้ นสแ่ี ยกทันใจ  บ้านทับวังมน บ้านเขาสารภี บ้านคลองหว้า และบ้านทับพริก เหตุการณ์  ท่ชี าวบ้านจำ� ได้อยา่ งแม่นยำ� คอื วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ทหารเขมรแดง  เผาท�ำลายวัด ท่ีอยู่อาศัย ชาวบ้านต้องอพยพถอยออกจากบริเวณชายแดน  บรเิ วณดงั กลา่ วเปน็ ทรี่ า้ งทมี่ ที หารตำ� รวจไทยเขา้ มารกั ษาความสงบหา่ งจาก  ชายแดนและพื้นท่ีชายแดนตลอดแนวเป็นพื้นท่ีสู้รบในเขตแดนกัมพูชา  มีการสู้รบกับทหารเวียดนาม ทหารเวียดนามตีเขมรแดงแตก หนีเข้ามาอยู่  ในหมู่ 4 บา้ นทับพริก ทำ� ให้เกิดศูนย์อพยพเกิดขึน้ ในหมนู่ ้ี                                                                        บา้ นเขาสารภี 25
ยุคที่ 4 “กลบั ถ่นิ ฟ้นื ฟู - ต่อสพู้ ฒั นา”    (พ.ศ. 2521 - 2530)    	 ในปี พ.ศ. 2521 หน่วย กรป.กลาง เข้ามาจัดที่อยู่อาศัยให้แก่  ชาวบ้านในหมู่ท่ี 2 และหมู่ที่ 6 ให้ประชาชนอยู่อาศัยรายละ 2 งาน  (โดยมีเอกสารสิทธิ์) มีการจัดแบ่งพื้นท่ีอาศัยไว้เป็น 310 ล็อก ในช่วงน้ัน  มีคนเข้ามาอยู่ประมาณ 100 ล็อก ผู้ท่ีได้รับการจัดสรรส่วนใหญ่เป็นผู้ที่  เคยอยู่บริเวณนี้มาก่อน ส�ำหรับที่ท�ำกินในท่ีใดก็ให้ท�ำต่อไปได้ (โดยไม่มี  เอกสารสิทธ์ิ) ในการจัดล็อคบ้านน้ัน ได้มีผู้ท่ีเสียสละที่ดินให้กับทาง  ราชการเพื่อจัดสรรเป็นล็อกบ้านอีกคือ นายอ่อนสา กอนเกียน โดยเสีย  สละที่ดินจ�ำนวน 50 ไร่ ซึ่งในขณะน้ันด�ำรงต�ำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน    26 “หมบู่ ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพยี ง”
นอกจากน้ี คุณลุงโสมและคุณป้าดา กอนเกียน ท�ำการเสียสละท่ีดิน  ให้สร้างโรงเรียนในพื้นท่ีหมู่ 6 ส่วนวัดที่ถูกเผาท�ำลายก็ได้มีการย้ายเข้ามา  สร้างในบริเวณหมู่บ้านที่มีการจัดล็อกเช่นเดียวกันโดยผู้ที่เสียสละท่ีดิน  คือ นายโสม กอนเกียน และ นายอ่อนสา กอนเกียน เพื่อสร้างวัด ได้แก่  หลวงพ่อเต็ม สุริยวงค์ จนทุกวันนี้ ต�ำบลทับพริกได้แบ่งเขตการปกครอง  ออกจากต�ำบลคลองน้�ำใส ในวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2521 ประกอบด้วย  หมู่ที่ 2 บา้ นทับพริก หมทู่ ่ี 3 บา้ นเขาสารภี และ หมทู่ ี่ 4 บ้านคลองหว้า โดย  มผี ู้ใหญ่บา้ น นายช้อย ท�ำกจิ การ เป็นกำ� นนั คนแรกของตำ� บลทับพรกิ                                                                        บ้านเขาสารภี 27
การเปล่ียนแปลง คร้ังส�ำคัญอีกประการหนึ่งในช่วงน้ีคือ ประมาณ  ปี พ.ศ. 2528 – 2529 มีการจัดสรรที่ดินให้ประชาชนในหมู่ท่ี 4 ก่อน  โดยหน่วยทหารพัฒนาการเคลื่อนที่ เมื่อชาวบ้านท่ีเคยจับจองที่ดิน  และท�ำการเกษตรบนที่ดินท่ีจับจองไว้ก่อนแล้ว ต่างก็พากันขายท่ีดินให้กับ  นายทุน ที่มารับซ้ือ สาเหตุเพราะกลัวว่า ท่ีดินจะถูกจัดสรรเหมือนหมู่ที่ 4  (นายทุนมีข้อมูลจากทหารว่าที่ดินบริเวณใดบ้างที่จะถูกน�ำไปจัดสรร  แต่ชาวบ้านไม่มีข้อมูล และนายทุนจะถือโอกาสกว้านซ้ือท่ีดินที่อยู่นอก  พืน้ ทีจ่ ัดสรร)    28 “หมู่บา้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถีพอเพยี ง”
ในคร้ังน้ี นับเป็นการจัดสรรที่ดินคร้ังท่ี 2 แบ่งเป็น ที่อยู่อาศัย 1 ไร่  และ พื้นที่การเกษตร 14 ไร่ ผู้ที่ขายที่ดินไปแล้วและไม่ได้รับการจัดสรร  จึงกลายเป็นผู้ขายแรงงานรับจ้างนายทุนท่ีซ้ือท่ีดินปลูกอ้อยและข้าวโพด  การสู้รบในเขมรยังคงด�ำเนินอยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2529 – 2530 ผู้หญิง เด็ก  คนชรา ต้องอพยพออกไปนอกชุมชนเป็นระยะ ๆ ครั้งละ 4-5 วัน ส�ำหรับ  ผชู้ ายจะยงั คงอยใู่ นชุมชนและทำ� งานประกอบอาชีพในชมุ ชนต่อไป                                                                        บ้านเขาสารภี 29
ยุคท่ี 5 “ยุคสงครามสงบสรู้ บเศรษฐกิจ”    (พ.ศ. 2531 - 2537)   	 หลังส้ินสุดสงคราม พ.ศ. 2531 - 2537 มีนายทุนจากจังหวัด   ชลบุรีมากว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านในราคาถูก โดยซ้ือท่ีดินผ่านนายหน้า   ซ่ึงเป็นคนในต�ำบลทบั พรกิ    30 “หมู่บ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถพี อเพียง”
โดยอาศัยสถานการณ์ปล่อยข่าวเรื่องการจัดสรรท่ีดินท�ำกิน ท�ำให้  ชาวบ้านขายท่ีดินในราคาถูก คนต�ำบลทับพริก ซ่ึงเป็นเจ้าของท่ีดิน  กลับกลายเป็นลูกจ้างขายแรงงานบางส่วนประมาณ ร้อยละ 3% และ  เป็นเจ้าของที่ดินท�ำกินประมาณ ร้อยละ 40% ท�ำให้ราษฎรในชุมชน  มหี นี้สนิ เกิดขน้ึ                                                                       บา้ นเขาสารภี 31
ยคุ ท่ี 6 “ร่วมใจพัฒนาแก้ปัญหาสงั คม”    (พ.ศ. 2537 - ปัจจุบัน)    	 ในปี พ.ศ. 2540 ได้มีการจัดสรรท่ีดินเป็นคร้ังท่ี 3 โดยกรมที่ดิน  ในหมู่ท่ี 4 และหมู่ท่ี 7 จ�ำนวน 15 ครัวเรือนแบ่งเป็นพ้ืนที่ท�ำกิน 10 ไร่  ท�ำการเกษตร 15 ไร่ จ�ำนวน 15 ครัวเรือนซึ่งเป็นการจัดท่ีดินท�ำกิน  ให้ชาวบ้านเป็นครั้งที่ 3 ในขณะท่ีต�ำบลทับพริกมีโครงการพัฒนาเกิดขึ้น  หลายโครงการ การจดั ตง้ั กลมุ่ ในหมูบ่ า้ นเกิดขน้ึ ในช่วงปี พ.ศ. 2541 - 2544  โดยเฉพาะกลุ่มออมทรัพย์ และกลุ่มส่งเสริมอาชีพ มีงบประมาณมา  สนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ในต�ำบล ขณะเดียวกันน้ันปัญหาสังคมเร่ิมเห็น    32 “หมบู่ า้ นตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”
ได้อย่างชัดเจนข้ึน เช่น ปัญหายาเสพติด โรคเอดส์ การลักขโมย เนื่องจาก  ต�ำบลทับพริกเป็นเขตติดชายแดนมีแรงงานต่างถ่ินเข้ามาจาก 2 แหล่ง  ได้แก่ ผู้ใช้แรงงานตัดอ้อยซึ่งเป็นแรงงานจากภาคอีสาน และ แรงงาน  จากเขมร ในปี พ.ศ. 2545 หมู่ท่ี 3 ได้ขอขยายพ้ืนที่ท�ำกินเพ่ิมเติมอยู่ใน  ระหว่างด�ำเนินการซึ่งหากได้รับการพิจารณาให้จัดสรรท่ีดินท�ำกินเสริม  ให้ราษฎรอกี ถือเปน็ ครง้ั ท่ี 4 ทม่ี กี ารจัดพ้ืนทท่ี �ำกนิ ใหร้ าษฎรตำ� บลทบั พรกิ                                                                        บ้านเขาสารภี 33
ยุคที่ 7 “การจัดการตนเอง”    (พ.ศ. 2546 - 2552)    	 ต�ำบลทับพริกได้รับการคัดเลือกเป็นพื้นที่การท�ำงานวิจัยเกี่ยวกับ  การสร้างและการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน โดยได้รับสนับสนุน  งบประมาณจากประเทศออสเตรเลีย โดยมีกรมพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพ  ในการด�ำเนินงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนต�ำบลทับพริกด้วย จึงมี  การท�ำงานแบบบูรณาการร่วมกันขององค์กรในชุมชน เกิดการพัฒนา  กลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในชุมชน เกิดการพัฒนากลุ่มองค์กรต่าง ๆ ในชุมชน  เช่น กลุ่มเกษตรอินทรีย์ กลุ่มฌาปนกิจ เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและ    34 “หมู่บ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถีพอเพยี ง”
ทรัพย์สิน มีการจัดตั้งศูนย์ต่อสู้เพ่ือเอาชนะยาเสพติด องค์การบริหารส่วน  ต�ำบลทับพริก ได้สนับสนุนให้กับสาธารณสุขมูลฐานชุมชน มีการจัดต้ัง  อปพร. โดยท�ำงานบูรณาการร่วมกับ ชรบ. ต�ำรวจตระเวนชายแดน ได้เกิด  กลุ่มเฝ้าระวังเกิดขึ้นและมีการต้ังกลุ่มเพื่อการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากร  ธรรมชาติขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการท�ำการเกษตรเป็นการปลูกพืชเศรษฐกิจ  แปลงใหญ่ การใช้สารเคมเี พ่มิ มากข้นึ นน้ั เอง                                                                        บา้ นเขาสารภี 35
ยุคท่ี 8 “เปิดพนื้ ที่แหลง่ การเรียนรู้สสู่ งั คมสุขภาวะ”    (พ.ศ. 2553 - ปจั จบุ นั )    	 ผลจากการก�ำหนดยุทธศาสตร์เพ่ือการพัฒนาสู่การจัดการตนเอง    เพื่อความเข้มแข็งของชุมชน เช่น การขับเคล่ือนโครงการต�ำบลสุขภาวะ  ของต�ำบลทับพริก ท�ำให้ปี พ.ศ. 2556 กระทรวงการพัฒนาสังคมและ  ความม่ันคงของมนุษย์ ได้คัดเลือกพื้นท่ีในการจัดท�ำเวทีเพื่อการวิจัย  ให้ความรู้เก่ียวกับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ศูนย์  สาธารณสุขมูลฐานภาคกลาง ได้เข้ามาท�ำการศึกษาวิจัยเพื่อการพัฒนา  ระบบสุขภาพชุมชนของต�ำบลทับพริก ท�ำให้ต�ำบลทับพริกได้กลายเป็น  แหล่งศึกษาดูงานจากผู้คนทั่วประเทศโดยเฉพาะด้านการจัดการสุขภาพ  และระบบสวัสดกิ ารชุมชน    36 “หม่บู ้านตัวอย่าง 4 ดี วิถีพอเพียง”
ปี พ.ศ. 2557 ต�ำบลทับพริก ได้รับการคัดเลือกจากจังหวัดสระแก้ว  ให้เป็นพื้นที่น�ำร่องด�ำเนินการ โครงการต�ำบลแห่งความสุขด้วย 4 ดี  วิถีพอเพียง (คนดี รายได้ดี สุขภาพดี ส่ิงแวดล้อมดี) ซึ่งจากการก�ำหนด  ยุทธศาสตร์การพัฒนาต�ำบลท่ีเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางอย่างต่อ  เนื่องท�ำให้ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  คัดเลือกต�ำบลทับพริก เป็นแม่ข่ายการด�ำเนินงานต�ำบลสุขภาวะ โดยมี  นายณปภัช ลาน้อย นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบลทับพริก คนปัจจุบัน  เป็นหัวหน้าโครงการ                                                                        บา้ นเขาสารภี 37
ที่ต้ังอาณาเขตตำ� บลทับพริก    	 ทิศเหนือ ติดต่อต�ำบลผ่านศึก อ�ำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว  โดยทีแ่ นวเขตเรมิ่ ตน้ จากหลักไมแ้ กน่ บรเิ วณหว้ ยไผ่ บริเวณพิกัด TA112035  ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวหลักไม้แก่นถนนสายบ้านไผ่ล้อม -  บ้านป้ายเขียว ห่างหลักกิโลเมตรที่ 31 ทางทิศใต้ประมาณ 50 เมตรไป  ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สิ้นสุดที่หลักไม้แก่นบริเวณพิกัด TA 145015  ระยะทางด้านทิศเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร ทิศใต้ ติดต่อต�ำบลคลอง  หาด จังหวัดสระแก้วโดยมีแนวเขตเร่ิมต้นจากหลักไม้แก่นบริเวณพิกัด  TA146918 ไปทางตะวันตก ตามแนวหลักไม้แก่นถึงคลองขุดห่างจาก  โรงเรียนต�ำรวจตระเวนชายแดนบ้านทับวังมน (บ้านเขาสารภี) ทางทิศใต้  ประมาณ 500 เมตร ไปทางทศิ ตะวนั ตกตามก่ึงกลางคลองสน้ิ สดุ ทีท่ างหลวง  หมายเลข 3067 บริเวณพิกัด TV 100909 รวมระยะทางทิศใต้ประมาณ  6 กิโลเมตร ทิศตะวันตก ติดต่อกับต�ำบลเบญจขร อ�ำเภอคลองหาด    38 “หมู่บ้านตวั อย่าง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”
จังหวัดสระแก้ว โดยมีแนวเขตเริ่มต้นจากทางหลวงแผ่นดินบริเวณ  พิกัด TV100909 ไปทางทิศเหนือไปทางล�ำธารถึงล�ำรางสันปันน้�ำ  เขาสารภี บริเวณพิกัด TA094937 ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร  ไปตามกึ่งกลางคลองสีเสียดถึงบริเวณคลองขุดบรรจบคลองสีเสียด  ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ บ้านสามแยกทับพริกบริเวณพิกัด TA104907  ระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตรไปทางทิศเหนือตามก่ึงกลางคลองขุด  ถึงคลองห้วยไผ่บริเวณพิกัด TA 112018 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร  ไปทางทิศตะวันตกตามก่ึงกลางคลองห้วยไผ่ ถึงบริเวณพิกัด TA104028  ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือตามกึ่งกลางคลองห้วย  ไผ่ส้ินสุดท่ีหลักไม้แก่นบริเวณห้วยไผ่บริเวณพิกัด TA112035 รวมระยะ  ทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 9.5 กิโลเมตร ทิศตะวันออก ติดต่อกับ  สาธารณรฐั กมั พชู า พน้ื ท่ที ั้งหมด 68.96 ตารางกโิ ลเมตร หรือ 43,100 ไร่                                                                        บา้ นเขาสารภี 39
ขอ้ มลู ดา้ นประชากร    หม่บู ้าน 	 หลงั คาเรือน                               ประชากร  รวม                                                   ชาย หญิง       313  หมู่ที่ 1 บา้ นสีแ่ ยกทันใจ	               119	  146	 167	      831  หมู่ที่ 2 บา้ นทบั พรกิ 	                  380	                 234  หมทู่ ี่ 3 บา้ นเขาสารภี	                  202	  416	 415	      388  หมทู่ ่ี 4 บ้านคลองหว้า	                   185	                                                   121	 113	                                                     189	 199	    40 “หมู่บ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ ีพอเพียง”
หมูบ่ ้าน              	 หลังคาเรอื น        ประชากร  รวม  หม่ทู ่ี 5 บ้านปา้ ยเขยี ว	      130	        ชาย หญิง       387                                                 195	 192	    หมทู่ ี่ 6 บา้ นทบั พริก	    163	 260	 245	 505    หมทู่ ี่ 7 บา้ นคลองหวา้ ใหม่	 325	 529	 543	 1,072    รวม	 1,504	 1,856	 1,874	 3,730                                 (ขอ้ มูล ณ 22 เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2561)                                                 บา้ นเขาสารภี 41
ดา้ นเศรษฐกิจ    	 โครงสรา้ งทางเศรษฐกิจ    	 ประชาชนบ้านเขาสารภีมี รายได้เฉล่ีย 69,182 บาท/คน/ปี โดย  ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รองลงมาประกอบอาชีพรับจ้าง  ในโรงงานอุตสาหกรรม อีกทั้งประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและท่ีไม่ได้  ประกอบอาชพี    42 “หมบู่ ้านตวั อยา่ ง 4 ดี วถิ พี อเพียง”
การเกษตรกรรมของบ้านเขาสารภี มีการท�ำเกษตรกรรม    จ�ำนวน 794 ครัวเรือน ทั้งนี้มูลค่าผลผลิตทางการเกษตรรวมประมาณ  162 ล้านบาท/ปี    		 การพาณิชยกรรมและบริการ (สถานประกอบการ)    บ้านเขาสารภี ประกอบด้วย ร้านแผงลอยจ�ำหน่ายอาหาร ร้านขาย  อาหารสด ลานมัน สถานีบริการน้�ำมัน ร้านค้าท่ัวไป รวมถึงการท่องเท่ียว  (อ่างเก็บน�ำ้ บา้ นคลองหว้า, บา้ นเขากา้ นเหลอื ง, บ้านเขาสารภ)ี                                                                        บ้านเขาสารภี 43
ดา้ นสังคม    	 มติ ิทางศาสนา ประชาชนท้ังหมดนบั ถือศาสนาพทุ ธ ร้อยละ 100%    ท้ังน้ี ภายในชุมชนมี วัด จ�ำนวน 3 แห่ง ส�ำนักสงฆ์ จ�ำนวน 2 แห่งและมี  พระ/เณร/แมช่ ี จำ� นวน 14 รปู    	 มิติทางวฒั นธรรม /ภาษา มภี าษาทีใ่ ช้มอี ยู่ 3 ภาษา คอื ภาษาญ้อ    ภาษาลาว และภาษาไทยทใ่ี ช้กันส่วนมากคอื ภาษาญอ้    44 “หมู่บ้านตัวอยา่ ง 4 ดี วิถพี อเพยี ง”
ประเพณี วัฒนธรรม มีงานส�ำคัญทางศาสนาส�ำคัญ เช่น    วันสงกรานต์มีการรดน�้ำขอพรผู้ใหญ่ และยังมีประเพณีท้องถิ่นที่ท�ำเป็น  ประจ�ำทุกปี ได้แก่ แห่ปราสาทผ้ึง บ้ังไฟ งานศาลตาปู่ทองค�ำ และยังมี  การรวมกลุ่ม จดั หาผา้ ปา่ สามัคคที อดใหก้ ับวดั ในพ้ืนท่ี    	 ขอ้ มลู อาสาสมัคร    	 บ้านเขาสารภีมีการรวมกลุ่มเพ่ือพัฒนาชุมชนของตนเอง ประกอบ  ด้วย กลุ่ม อสม. จ�ำนวน 125 คน กลุ่มอาสาสมัครปศุสัตว์ จ�ำนวน 2 คน  กลมุ่ อปพร. จ�ำนวน 41 คน กลมุ่ อาสาสมคั รตำ� รวจชุมชน จำ� นวน 35 คน  และกลุม่ อาสาสมคั รเกษตรหมู่บา้ น จ�ำนวน 7 คน                                                                        บา้ นเขาสารภี 45
ดา้ นสาธารณสขุ    	 ต�ำบลทับพริก มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล  จ�ำนวน 2 แห่ง การเจ็บป่วยท่ีเข้ารับการรักษา 5 อันดับ  แรก ได้แก่  	 1.	โรคระบบทางเดินหายใจ  	 2.	โรคระบบกล้ามเนอื้ รวมโครงรา่ งและเนื้อยดึ  	 3.	โรคผวิ หนัง และเน้ือยึดใต้ผิวหนงั  	 4.	โรคติดเช้อื และปรสิต  	 5.	สาเหตจุ ากภายนอกอนื่ ๆ ที่ทำ� ให้ป่วยหรือตาย    ทั้งน้มี กี ลุ่มประชากรท่ีตอ้ งได้รับการดแู ลเปน็ พเิ ศษ  	 -	 ผู้พกิ ารขน้ึ ทะเบียน	                  164	 คน  		 (ณ พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2561)  	 -	 ผู้ป่วยเรอ้ื รังโรคความดันโลหติ สงู 	 100	 คน  	 -	 ผู้ปว่ ยเรอ้ื รังเบาหวาน	               80	 คน  	 -	 ผปู้ ่วยโรคจติ ลมชกั ปญั ญาอ่อน	 9	 คน  	 -	 เด็กอายรุ ะหว่าง 1 - 5 ป	ี              367	 คน  	 -	 ผสู้ ูงอายุ	                            428	 คน  		 (ณ พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2561)    46 “หมบู่ า้ นตวั อย่าง 4 ดี วถิ พี อเพียง”
                                
                                
                                Search
                            
                            Read the Text Version
- 1
 - 2
 - 3
 - 4
 - 5
 - 6
 - 7
 - 8
 - 9
 - 10
 - 11
 - 12
 - 13
 - 14
 - 15
 - 16
 - 17
 - 18
 - 19
 - 20
 - 21
 - 22
 - 23
 - 24
 - 25
 - 26
 - 27
 - 28
 - 29
 - 30
 - 31
 - 32
 - 33
 - 34
 - 35
 - 36
 - 37
 - 38
 - 39
 - 40
 - 41
 - 42
 - 43
 - 44
 - 45
 - 46
 - 47
 - 48
 - 49
 - 50
 - 51
 - 52
 - 53
 - 54
 - 55
 - 56
 - 57
 - 58
 - 59
 - 60
 - 61
 - 62
 - 63
 - 64
 - 65
 - 66
 - 67
 - 68
 - 69
 - 70
 - 71
 - 72
 - 73
 - 74
 - 75
 - 76
 - 77
 - 78
 - 79
 - 80
 - 81
 - 82
 - 83
 - 84
 - 85
 - 86
 - 87
 - 88
 - 89
 - 90
 - 91
 - 92
 - 93
 - 94
 - 95
 - 96
 - 97
 - 98
 - 99
 - 100
 - 101
 - 102
 - 103
 - 104
 - 105
 - 106
 - 107
 - 108
 - 109
 - 110
 - 111
 - 112
 - 113
 - 114
 - 115
 - 116