ปอ้ งกนั และปราบปรามการคา้ มนษุ ย์ พ.ศ. 2551 ควรไดร้ บั การปรบั ปรงุ ใหค้ มุ้ ครอง ขยายไปถงึ ลักษณะการแสวงหาประโยชน์ในรปู แบบใหมๆ่ หรือไม่ ท้ังนตี้ ้องคำ� นึง วา่ การปรบั ปรงุ กฎหมายเกยี่ วกบั การคา้ มนษุ ยซ์ ง่ึ เหยอ่ื มกั เปน็ ผทู้ เ่ี ปราะบางตอ่ การ ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่แล้วควรปรับปรุงในแนวทางท่ีค�ำนึงถึงสิทธิ (Right- based approach) มากกว่าการเน้นการป้องกันปราบปรามการเข้าเมืองผิด กฎหมายซงึ่ ทำ� ให้กลุ่มเปราะบางถูกกดทบั มากข้ึน 100 วารสารนิติสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ปที ี่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
บรรณานกุ รม มูลนธิ ิเพอ่ื สทิ ธมิ นษุ ยชนและการพัฒนา. (2557). คู่มอื เรื่อง ทบทวนข้อกฎหมาย และการจัดการของรัฐไทยภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศและ กฎหมายภายใน กรณีศึกษาแนวทางการใช้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มโร ฮิงญาจำ� นวน 5 คนในพืน้ ที่จังหวดั สงขลา. กรงุ เทพ: มลู นิธิสิทธมิ นุษย ชนและการพัฒนา. International Labour Organization Special Action Programme to Com- bat Forced Labour, Trafficking in persons and Forced Labour Exploitation, Guidelines for Legislation and Law Enforce- ment, Geneva: Internatioanl Labour Organization, 2005. Recommended Principles and Guidelines on Human Rights and Traf- ficking in persons, Text presented to the Economic and Social Council as an addendum to the report of the United Nations High Commissioner for Human Rights (E/2002/68/Add. https:// www.unodc.org/cld/case-law-doc/traffickingpersonscrimetype/ tha/2013/samaesan.html?lng=en&tmpl=htms Report of the Special Rapporteur on trafficking in persons, especially women and children, Maria Grazia Giammarinaro, A/HR 1), Retrieved June 26, 2016, from C/29/38/Add.1, Human Rights Council, Twenty-ninth session, June 2015, Agenda item 3, Promotion and protection of all human rights, civil, political, economic, social and cultural rights, including the right to development, Addendum, Mission to Malaysia. เขา้ นอก ออกใน 101
Sentencing Judgement in the Kunarac, Kovac and Vukovic (Foca) Case, The Hague, 12 June 2002, CVO/ P.I.S./679-E, The International Criminal Tribunal for the former Yugoslavia (ICTY), http://www. icty.org/en/press/sentencing-judgement-kunarac-kovac- and-vukovic-foca-case Testimony of Matthew Smith, Executive Director of Fortify Rights, House Committee of Foreign Affairs, Subcommittee on A Testimony of Matthew Smith, Executive Director of Fortify Rights, House Committee of Foreign Affairs, Subcommittee on Africa, Global Health, Global Human Rights, and International Organizations, “Accountability and Transformation: Tier Rankings in the Fight against Trafficking in persons” on April 22, 2015. United Nations Office of Human Rights Commissioner, Human Rights and Trafficking in persons, Fact Sheet No. 36, the United Nations: New York and Geneva, 2014. United Nations Office on Drug and Crime, Issue Paper, the Concept of ‘Exploitation’ in the Trafficking in Persons Protocol, Vi- enna: United Nations, 2015. 102 วารสารนติ ิสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
บรรณานกุ รมภาษาไทยทีแ่ ปลเป็นภาษาองั กฤษ Human Rights and Development Foundation. (2014). Review of Law and Management of the Thai State under Obligation of International and Domestic laws: Case Study of Assistance to Five Rohingyas in Songkhla Province. Bangkok: Human Rights and Development Foundation. (in Thai) เข้านอก ออกใน 103
การใหค้ วามช่วยเหลอื ทางกฎหมายแก่คนไทยพลดั ถ่ิน ผา่ นความร่วมมือพหุภาคีระหว่างภาครฐั องค์กรวชิ าการและภาคประชาสงั คม : กรณศี ึกษาพื้นที่จังหวดั ระนองและประจวบครี ีขนั ธ์ เสาวณยี ์ แกว้ จลุ กาญจน1์ วิศรตุ สำ�ลอี ่อน2 บทคัดยอ่ 1 2 ภายหลงั จากพระราชบัญญัตสิ ญั ชาต(ิ ฉบบั ที่ 5) พ.ศ.2555 มีผลใช้บงั คบั อาจกล่าวได้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นจุดเปล่ียนท่ีสำ� คัญต่อกลุ่มประชากร กลมุ่ คนไทยพลดั ถน่ิ ได้ เนอื่ งจากไดม้ กี ารวางหลกั การพสิ จู นแ์ ละคนื สญั ชาตไิ ทยให้ คนไทยพลดั ถน่ิ แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามอาจกลา่ วไดว้ า่ การบงั คบั ใชพ้ ระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ ว ยงั ไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพเทา่ ทคี่ วรซง่ึ สว่ นหนง่ึ มาจากปญั หาการขาดความเปน็ เอกภาพ ในตัวเอกสารพสิ จู นต์ วั บคุ คล (ป.ค. 14) และภาครัฐประสบปญั หาการขาดแคลน บุคลากร ประกอบกับเจตคติในเร่ืองความม่ันคงของหน่วยงานภาครัฐต่อกลุ่ม ประชากรคนไทยพลดั ถน่ิ ซงึ่ จากปญั หาดงั กลา่ วเองนำ� ไปสกู่ ารจดั ทำ� บนั ทกึ ขอ้ ตกลง ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพิสูจน์สัญชาติและรับรองความเป็นคนไทยพลัดถ่ิน ระหวา่ งกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกบั มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ มหาวทิ ยาลยั รงั สติ สำ� นกั งานประสานการพฒั นาสงั คมสขุ ภาวะ (สปพส.) มลู นธิ ชิ มุ ชนไท (มชท.) 1 อาจารยป์ ระจ�ำคณะนติ ศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั ทักษณิ 90000. Email ตดิ ตอ่ : [email protected] 2 อาจารย์ประจำ� คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั รงั สิต 12000. Email ติดต่อ: [email protected] 104 วารสารนติ ิสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ปีท่ี 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
และส�ำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (ส�ำนักงาน กสม.) ลงวันที่ 16 มกราคม 2559 จากบนั ทกึ ข้อตกลงดังกล่าวก่อใหเ้ กดิ โครงการ“การชว่ ยเหลอื ประชาชนผดู้ อ้ ยโอกาสทม่ี ปี ญั หาเกยี่ วกบั สถานะบคุ คล (คนไทยพลดั ถน่ิ )” โดยคณะ นติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ รบั ผดิ ชอบในการชว่ ยเหลอื และอำ� นวยความสะดวก ใหก้ บั เจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยปกครองในการยนื่ คำ� รอ้ งและการรวบรวมพยานหลกั ฐานเรอื่ ง การพิสูจน์สัญชาติแก่กลุ่มคนไทยพลัดถ่ินในพ้ืนท่ีจังหวัดระนองขณะที่พ้ืนท่ีความ รบั ผดิ ชอบของมหาวทิ ยาลยั รงั สติ คอื พนื้ ทใี่ นบรเิ วณจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ผลการ ลงนามผ่านความร่วมมือดังกล่าวแม้ว่าจะก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติหลาย ประการไมว่ า่ จะเปน็ ปญั หาเรอื่ ง 1) ปญั หาดา้ นแบบฟอรม์ เรอ่ื งการพสิ จู นแ์ ละรบั รอง ความเป็นคนไทยพลัดถ่ินที่ไม่มีเอกภาพ 2) ปัญหาความต่อเน่ืองของบุคลากรใน การปฏิบัตหิ น้าทปี่ ระจ�ำท้องที่ 3) ปัญหาเร่อื งทัศนคติของเจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐในพน้ื ที่ ตอ่ นสิ ติ นกั ศกึ ษาทเี่ ขา้ ไปชว่ ยเหลอื งาน แตอ่ ยา่ งไรกด็ กี ารลงนามในบนั ทกึ ขอ้ ตกลง ดังกล่าวก่อให้เกิดผลดีหลายประการ เช่น ก่อให้เกิดการท�ำงานท่ีประสานกัน ระหว่างภาคีเครือข่ายส่งผลให้การแก้ปัญหาการพิสูจน์และรับรองสัญชาติคนไทย พลัดถ่ินมีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้นก่อให้เกิดการลดภาระการท�ำงานของเจ้าหน้าท่ี นอกจากนก้ี อ่ ใหเ้ กดิ กระบวนการสรา้ งจติ อาสาใหก้ บั นสิ ติ และนกั ศกึ ษาในการเขา้ ใจ และเห็นอกเหน็ ใจในเพอื่ นมนุษย์มากขึน้ คำ� ส�ำคัญ: คนไทยพลัดถนิ่ ; กระบวนการพิสจู น์สญั ชาต;ิ พระราชบัญญัติสญั ชาติ เข้านอก ออกใน 105
Legal Aid for Thai Displaced People through Multilateral Cooperation Between State Organs, Academic Institutes andCivil Societies: study on Ranong and PrachuapKhiri Khan Provinces SSaovanee Kaewjullakarn 3 Wisarut Samlee-on 4 Abstract3 4 After the Nationality Act (the 5th Amendment) B.E.2555 came into force, it seems that this Act brings a significant change to a group of Thai displaced people because this Nationality Act provides channels for displaced populations to verify and regain their nationality. However, it can be said that the enforcement of this Act is not effective as it should be. The problems lack of unity regarding national verification form (Por. Kor 14) and the shortage of staff. Moreover, the attitude of provincial administration officers toward security causes less effectiveness to the enforcement of the Act. Therefore, in order to mitigate those barriers, on 16th January 2016, a Memorandum of Understanding (MOU) was signed. This MOU consists of several parties such as the Provincial Administration Department, Thaksin University and Rangsit University, Coordination Office to Develop well-being Society, the Chum Chon Thai Foundation and the National Human Rights Commission. The result of 3 lecturer, Faculty of Law, Thaksin University 90000. E-mail: [email protected] 4 lecturer, Faculty of Law, Rangsit University 12000. E-mail: [email protected] 106 วารสารนติ สิ งั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ปที ่ี 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
this MOU causes the establishment of the project called “the assistance of Thai Displaced People” which aims to assist and facilitate district officials in handling demands and helps community members gathering documentary evidences which are necessary for nationality verification in Ranong by Thak- sin University and PrachuapKhiri Khan Provinces by Rangsit University. Although the MOU already established, some difficulties have not been resolved yet, namely 1). The problems lack of unity regarding national verification form (Por. Kor 14) 2). The inconsistency of working period of a district chief officer, 3) the attitude of provincial administration officers toward students. It should be noted that the results of establishment this MOU also bring several ben- efits to the nationality verification process such as creating cooperation with all parties under MOU which leads to have sufficient in term of national verification and recognition of Thai displaced people as well as enhancing a capacity of local administrative staff by getting help from students. Further- more, working under this MOU is likely to encourage students to have a volunteer spirit. Keywords: Thaidisplaced people; Nationality verification proce- dures; Thai Nationality Act เขา้ นอก ออกใน 107
1. ความนำ� ในสงั คมโลกซงึ่ เกดิ จากการรวมกลมุ่ ของรฐั ปญั หาเรอ่ื งของความไรร้ ฐั ของ บุคคลยังคงเป็นปัญหาท่ีรอการแก้ไข จากรายงานของข้าหลวงใหญ่ผู้ล้ีภัยแห่ง สหประชาชาติ (The United Nations High Commissioner for Refugees : UNHCR) อา้ งวา่ อยา่ งนอ้ ยทีส่ ุดคนประมาณ 10 ล้านคน ตกอยใู่ นสถานะของการ เปน็ คนไรร้ ัฐ5 สภาวะของความไร้รฐั (Statelessness) หมายถึง สภาวะของบคุ คล ท่ีไมไ่ ดก้ ารยอมรับจากรัฐใดๆ ใหเ้ ปน็ คนชาตขิ องรฐั น้ันๆ ส่งผลให้กลมุ่ บุคคลไรร้ ัฐ ดงั กล่าวประสบปญั หาการเขา้ ถงึ สทิ ธพิ นื้ ฐานทค่ี นชาตจิ ะพงึ ไดร้ ับ เชน่ สทิ ธใิ นการ รักษาพยาบาลและบริการ หรือสิทธิในการท�ำงานและได้รับความคุ้มครองตาม กฎหมายแรงงาน เป็นต้น ในทางทฤษฎีสภาวะของความไร้รัฐของบุคคลสามารถ แบง่ อธิบาย ได้ดังน้ี กลา่ วคือ 1) สภาวะความไร้รฐั โดยผลของกฎหมาย (dejure) ซ่งึ หมายถึง ผู้ทไ่ี ม่ได้ ถกู นับรวมวา่ เปน็ คนชาติโดยกฎหมายของรัฐใดๆ เลย 2) สภาวะความไรร้ ฐั โดยขอ้ เทจ็ จรงิ (defacto) เกดิ ขน้ึ เมอื่ บคุ คลไดด้ ำ� เนนิ กระบวนการดา้ นสญั ชาติ แตก่ ระบวนการดา้ นสญั ชาตดิ งั กลา่ วยงั ไมม่ ผี ลรบั รองให้ กลุ่มบุคคลสามารถใช้สัญชาติได้6 ซ่ึงอาจรวมถึงกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้พลัดถิ่นไม่ สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางของตนเองได้หรือไม่สามารถพิสูจน์สัญชาติ ของตนเองได้หรอื อยูร่ ะหวา่ งรอการพสิ ูจน์สัญชาต7ิ 5 the United Nation High Commission for Refugees (UNHCR)Global 2014-24 Ac- tion Plan to End Statelessness, p.4. Retrieved from http://www.refworld.org/ docid/545b47d64.html 6 the United Nation High Commission for Refugees (UNHCR), Legal and Protec- tion Policy Research Series UNHCR and De Facto Statelessness. p.i. เข้าถึงจาก http://www.unhcr.org/4bc2ddeb9.pdf 7 กฤตยา อาชวนิจกลุ (2554) “การจัดการระบบคนไรร้ ัฐในบริบทประเทศไทย” สถาบนั วิจยั ประชากรและสงั คม มหาวิทยาลัยมหิดล น.104 108 วารสารนติ สิ ังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ปีท่ี 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
ข้อสงั เกต สภาวการณ์ไร้รัฐโดยข้อเท็จจริงและโดยข้อกฎหมายเกิดขึ้นได้ในกรณี ถ้าหน่วยงานทางทะเบียนได้จดทะเบียนบุคคลดังกล่าวในฐานะเป็นผู้ไม่รู้ถึง สัญชาติหรือการไม่สามารถก�ำหนดสัญชาติของบุคคลน้ันได้ (Unknown or undetermined nationality) หรอื แมก้ ระทง่ั การทหี่ นว่ ยงานทางทะเบยี นไดร้ ะบุ ให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในสถานะของผู้ท่ีอยู่ระหว่างการตรวจสอบสัญชาติ “under investigation” การแบ่งประเภทตามลักษณะดังกล่าวเกิดข้ึนได้ภายใต้เหตุผล ในลักษณะของมาตรการภายในระยะเวลาท่จี �ำกดั 8 ตัวอย่างของกลุ่มบุคคลที่มีสถานะเป็นผู้ไร้รัฐโดยผลของกฎหมายได้แก่ โรฮิงญาแม้จะมีข้อเท็จจริงปรากฏว่าโรฮิงญาเกิดในบริเวณรัฐฉานของพม่าแต่ผล ของกฎหมายความเปน็ พลเมอื งของพมา่ ปี ค.ศ.1982 (Burma Citizenship Law 1980) ภายใต้หมวด 2 ข้อ 3 และข้อ 4 ว่าดว้ ยความเป็นพลเมอื งไดก้ ำ� หนดใหก้ ลุ่ม ของกลุ่มชาติพันธุ์ดังต่อไปนี้ถือว่ามีสัญชาติพม่าได้แก่ คะฉ่ิน คะยา กะเหรี่ยง ชิน เบอร์มัน มอญ ยะไข่ หรือฉานและกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้ต้ังถิ่นฐานในดินแดน ทอี่ ยภู่ ายในรฐั เปน็ การถาวรในชว่ งเวลากอ่ น ค.ศ. 1823 และแมว้ า่ กฎหมายดงั กลา่ ว จะเปิดช่องค�ำว่า “กลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้ต้ังถ่ินฐานในดินแดนท่ีอยู่ภายในรัฐเป็นการ ถาวรในชว่ งเวลากอ่ น ค.ศ. 1823” แตก่ ารไดส้ ญั ชาตพิ มา่ ภายใตบ้ รบิ ทดงั กลา่ วขนึ้ อยูก่ ับดุลยพนิ จิ ของสภาของชาตพิ ม่า สง่ ผลให้กลมุ่ โรฮงิ ญาถอื เปน็ ผ้ทู ่ีไมม่ สี ญั ชาติ พม่าได9้ ส่วนกลุ่มตัวอย่างของกลุ่มบุคคลผู้ตกอยู่ในสภาวะความไร้รัฐโดยข้อเท็จ จริงได้แก่ กลุ่มของคนไทยพลัดถ่ินน้ันเอง ท้ังนี้เนื่องจากพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2555 ในมาตราดังต่อไปนี้ ไดแ้ ก่ มาตรา 9/1 ถงึ 9/7 ประกอบกบั 8 อา้ งแลว้ เชงิ อรรคที่ 6 หน้า 29 9 BurmaCitizenshipLaw1982เขา้ ถงึ จากhttp://www.refworld.org/docid/3ae6b4f71b. html เขา้ นอก ออกใน 109
กฎกระทรวงพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่น พ.ศ. 2555 วันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ไดเ้ ปดิ โอกาสใหค้ นไทยพลดั ถนิ่ ทม่ี เี งอ่ื นไขครบองคป์ ระกอบมสี ทิ ธิ ไดร้ ับการคืนสัญชาติไทย อาจกล่าวไดว้ า่ ปจั จบุ นั คนไทยพลัดถนิ่ ประมาณ 3 ใน 4 กลับเขา้ มาเปน็ ไทยในแผ่นดินไทยโดยแผนการอพยพของคนไทยพลัดถิ่นจากพม่าเข้ามาสู่ฝั่งไทย สามารถแบง่ ไดด้ ังน้คี อื (1) คนไทยพลดั ถ่ินจากเขตตะนาวศรี-สิงขร ส่วนใหญอ่ พยพเขา้ มาอาศัยและ เป็นคนไทยพลดั ถน่ิ ในไทยในพื้นที่อำ� เภอเมือง อำ� เภอบางสะพานนอ้ ย อ�ำเภอบางสะพานและอำ� เภอทับสะแก จังหวดั ประจวบครี ีขันธ์ (2) คนไทยพลัดถิ่นในพม่าจากพน้ื ที่ลงั เคยี๊ ะ ส่วนใหญอ่ พยพเข้ามาอาศัยและ เป็นคนไทยพลดั ถ่ินในไทยในพน้ื ท่อี ำ� เภอทา่ แชะ จังหวัดชมุ พร (บางสว่ น ก็อพยพไปตงั้ หลกั แหล่งในพ้นื ทจ่ี งั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ (3) คนไทยพลัดถิ่นในพมา่ จากพืน้ ท่บี กเปี้ยน สว่ นใหญ่อพยพเขา้ มาอาศยั และเป็นคนไทยพลัดถ่ินในไทยในพ้ืนทีอ่ �ำเภอเมอื งและอำ� เภอกะเปอร์ จงั หวดั ระนอง (4) คนไทยพลัดถ่ินในพมา่ จากเขตมะลิวัลยแ์ ละเกาะสอง ส่วนใหญ่อพยพเข้า มาอาศยั และเปน็ คนไทยพลัดถิน่ ในพ้ืนทอ่ี ำ� เภอกระบุรี อ�ำเภอละอนุ่ แล อำ� เภอเมอื ง จังหวัดระนอง10 โดยทบ่ี ทความนคี้ ณะผเู้ ขียนใชก้ ลุ่มคนไทยพลัดถ่ินเป็นกลุ่มบุคคลท่ีถือว่า ไร้สัญชาติโดยข้อเท็จจริงในพื้นที่จังหวัดระนองและประจวบคีรีขันธ์มาอธิบายถึง แนวทางการแก้ปัญหาเรื่องการขจัดการไร้สัญชาติผ่านกระบวนการภายใต้บันทึก 10 อาจารย์ ดร. ฐริ วฒุ ิ เสนาค�ำ “ ไทยพลดั ถ่ินในและจากมณฑลตะนาวศรกี บั ปญั หารัฐ-ชาต”ิ เอกสารประกอบการสมั มนาทางวชิ าการ (ทกั ษณิ วชิ าการ 51) ระหวา่ งวนั ที่ 15-16 สงิ หาคม 2551 สถาบันทกั ษิณคดี มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ หนา้ 6-7. 110 วารสารนติ สิ ังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ปที ี่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพิสูจน์สัญชาติและรับรองความเป็นคนไทย พลัดถิ่นระหว่างกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกับมหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยรังสิต ส�ำนักงานประสานการพัฒนาสังคมสุขภาวะ (สปพส.) มูลนิธิ ชุมชนไท (มชท.) และสำ� นกั งานคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ (ส�ำนกั งาน กสม.) ลงวนั ท่ี 16 มกราคม 2559 จากการที่ได้อธิบายไปแล้วดังข้างต้นว่าสัญชาติเป็นตัวยึดโยงก่อสิทธิและ หนา้ ทใี่ หบ้ คุ คลไดม้ ปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั รฐั เมอ่ื ใดกต็ ามถา้ รฐั ไมร่ บั รองความมสี ถานะของ บุคคลผ่านสัญชาติส่งผลเสียหลายประการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงสิทธิต่างๆ ภายในรัฐน้นั ๆ ซึง่ การทีค่ นไทยพลดั ถ่ินมสี ถานะเป็น “ผู้ถือบัตรคนซึ่งไมม่ ีสญั ชาติ ไทย” สง่ ผลให้ไดร้ บั สทิ ธขิ ั้นพนื้ ฐานตามทกี่ ฎหมายไทยกำ� หนดไดแ้ ก่ - สิทธิในการอยู่อาศยั ในประเทศไทยและการมชี ือ่ ในทะเบยี นราษฎรตาม ท.ร.38 ก หรือ ท.ร.13 แล้วแตก่ รณี - สทิ ธิในการเดินทางออกนอกพ้ืนท่ีภายใต้การขออนุญาตเปน็ รายกรณี - สิทธใิ นการทำ� งานภายใตน้ โยบายทร่ี ฐั ก�ำหนด - สทิ ธไิ ดร้ บั การศึกษา - สทิ ธิในการถือกรรมสิทธ์ิสิทธิในสังหาริมทรัพย์ - สทิ ธใิ นการถอื กรรมสทิ ธใ์ิ นอสงั หารมิ ทรพั ย์ ภายใตเ้ งอื่ นไขของกฎหมาย และนโยบายทร่ี ัฐก�ำหนด -สิทธิทจ่ี ะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายและมสี ทิ ธฟิ ้องร้องคดีต่างๆ ซ่ึงจากสิทธิดังกล่าวจะเห็นได้ว่าสิทธิบางประการอยู่ภายใต้เง่ือนไขและ หลักเกณฑ์ที่รัฐก�ำหนด นอกจากนี้ประเด็นในเร่ืองสิทธิในการรักษาพยาบาลจะ เห็นได้ว่ากลุ่มคนไทยพลัดถิ่นไม่สามารถเข้าถึงการใช้สิทธิตามหลักประกันสุขภาพ ถว้ นหน้าได้ เขา้ นอก ออกใน 111
2. สภาพปัญหาความไร้รัฐ ไร้สัญชาติของคนไทยพลัดถ่ินในประเทศไทย และจุดเร่ิมต้นของการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายผ่านบันทึก ความตกลงพหภุ าคีฯ เดิมทีกฎหมายระหว่างประเทศให้การยอมรับว่ารัฐและองค์การระหว่าง ประเทศมีสถานะเป็นบุคคลในทางกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ผลของ วิวัฒนาการของกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศส่งผลให้ปัจเจกชนได้รับ การรับรองและคุ้มครองให้มีสถานะเป็นผู้ทรงสิทธิในทางระหว่างประเทศบาง ประการ11 สทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ บั สญั ชาตถิ อื เปน็ สทิ ธขิ น้ั พนื้ ฐานของบคุ คล โดยกฎหมายสทิ ธิ มนุษยชนระหว่างประเทศได้ก�ำหนดให้รัฐสามารถก�ำหนดหลักเกณฑ์การได้มา การเสียไป และการกลับคืนมาซ่ึงสัญชาติของบุคคลจะต้องกระท�ำโดยอยู่บนพื้น ฐานของพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งในทางปฏิบัตินั้นรัฐจะปรับใช้สองหลักใน การก�ำหนดให้สัญชาติของตัวบุคคลได้แก่หลักสืบสายโลหิต (jus sanjuinis) คอื การไดส้ ญั ชาตขิ องบคุ คลขน้ึ อยกู่ บั สญั ชาตขิ องบดิ าหรอื มารดา และ หลกั ดนิ แดน (jus soli) กล่าวคือรัฐเจ้าของดินแดนจะเป็นผู้พิจารณาให้สัญชาติแก่บุคคลที่เกิด ในดนิ แดนของรัฐดงั กลา่ วภายใตห้ ลกั เกณฑ์หรือเง่อื นไขที่กฎหมายไดก้ �ำหนด12 ในทางกฎหมายสทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั สญั ชาตขิ องบคุ คลนน้ั ถกู กำ� หนดไวท้ งั้ กรอบ ของกฎหมายระหว่างประเทศและกรอบตามกฎหมายภายในดังนคี้ อื 1) กรอบตามกฎหมายระหวา่ งประเทศ ได้แก่ ปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิ มนุษยชน โดยในมาตรา 15 ไดก้ �ำหนดไวว้ ่า “ไม่มีใครสามารถพรากสญั ชาตขิ อง 11 อานนท์ ศรีบุญโรจน์,“สถานะของปัจเจกชนในบริบทกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่” ในบทบณั ฑิตย,์ เล่มท่ี 68 ตอน 3, กนั ยายน 2555, น.78 12 SaovaneeKaewjullakarn and ArnonSriboonroj, “How does human rights func- tion properly to the forgotten group (Rohingyas)?”ในวารสารวิชาการนติ ิศาสตร์ มหาวิทาลัยทักษณิ , ปีท่ี 5 ฉบับท่ี 7, มกราคม-ธนั วาคม 2558, น.85. 112 วารสารนติ สิ ังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปที ่ี 9 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
บุคคลไปโดยต้ังใจได้” รวมทั้งตราสารระหว่างประเทศฉบับอื่นๆ ได้แก่ กติกา ระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยสทิ ธพิ ลเมอื งและสทิ ธทิ างการเมอื ง13 อนสุ ญั ญาวา่ ดว้ ยสทิ ธิ เด็ก14 อนุสัญญาวา่ ด้วยสิทธคิ นพกิ าร15 นอกจากนี้สมัชชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติ ภายใตข้ อ้ มตทิ ี่ 50/152 ไดร้ บั รองหลกั การหา้ มพรากสญั ชาตขิ องบคุ คลไวเ้ ชน่ กนั 16 2) กรอบตามกฎหมายภายใน ได้แก่พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ พระราชบญั ญัตสิ ัญชาติ (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ.2555 อาจกล่าวไดว้ ่า พระราชบญั ญตั ฉิ บบั นไี้ ดใ้ หส้ ทิ ธแิ กค่ นไทยพลดั ถน่ิ ทผ่ี า่ นกระบวนการพสิ จู นส์ ญั ชาติ ให้ไดร้ ับสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิต 2.1 ความหมายและลกั ษณะของคนไทยพลดั ถิ่น คนไทยพลดั ถน่ิ คอื กลมุ่ คนไทยทเ่ี สยี สญั ชาตไิ ทยเพราะผลสบื เนอ่ื งจากการ แบ่งแยกเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศองั กฤษในปี ค.ศ. 1968 กอ่ นที่ รัฐบาลอังกฤษจะท�ำการยกดินแดนส่วนนี้ให้พม่า ซึ่งเดิมพื้นที่มะริด ทวายและ ตะนาวศรถี อื วา่ เปน็ ดนิ แดนของประเทศไทยมากอ่ น และเมอ่ื ประมาณ 30 ปที ผี่ า่ น มารัฐบาลเมียนมาร์ได้ปราบปรามชนกลุ่มน้อยในประเทศตนส่งผลให้คนไทยท่ีมี ถ่ินก�ำเนิดเดิมอยู่ในเมืองมะริด ทวายและตะนาวศรีได้รับผลกระทบและตัดสินใน อพยพย้ายถิ่นมาอยู่กับญาติพี่น้องที่ไทยโดยเฉพาะอย่างย่ิงในพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร และประจวบคีรขี นั ธ1์ 7 13 ข้อบทท่ี 24(3) 14 ขอ้ บทที่ 7 และ 8 15 ข้อบทที่ 18 16 United Nations Human Rights Office of the High Commission .Rights to Nation- ality and Statelessness.25 June 2016 Retrieved from http://www.ohchr.org/ EN/Issues/Pages/Nationality.aspx 17 วรรธิดา เมืองแก้ว.2558. ปัญหาและอุปสรรคของการน�ำนโยบายไปปฏิบัติตามพระราช บัญญัติสัญชาติไทย (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2555 : กรณีศึกษาคนไทยพลัดถ่ิน จังหวัดระนอง และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์.วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต,สาขาวิชา เข้านอก ออกใน 113
นอกจากนี้พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับท่ี 5) พ.ศ.2555 ประกอบกฎ กระทรวงการพสิ จู นแ์ ละการรบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถนิ่ พ.ศ. 2555 ไดก้ ำ� หนด คำ� นิยามและวางหลกั การคืนสญั ชาติไทยใหค้ นไทยพลัดถน่ิ ไว้ดังนี้ มาตรา 4 ของพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2555 ไดก้ �ำหนด นยิ ามของ คนไทยพลดั ถน่ิ ไวด้ ังนี้คอื “ผู้ท่ีมีเช้ือสายไทยที่ต้องกลายเป็นคนในบังคับของประเทศอ่ืนโดย เหตอุ นั เกดิ จากการเปลยี่ นแปลงอาณาเขตของราชอาณาจกั รไทยใน อดตี ซงึ่ ปจั จบุ นั ผนู้ น้ั ไมไ่ ดถ้ อื สญั ชาตขิ องประเทศอน่ื และไดอ้ พยพเขา้ มาอยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นระยะเวลาหนึ่งและมีวิถีชีวิตเป็นคน ไทยโดยไดร้ บั การสำ� รวจจดั ทำ� ทะเบยี นราษฎรภายใตห้ ลกั เกณฑแ์ ละ เงื่อนไขท่ีคณะรัฐมนตรีก�ำหนด หรือเป็นผู้ซึ่งมีลักษณะอื่นท�ำนอง เดียวกนั ตามทก่ี ฎกระทรวงก�ำหนด” ซ่ึงจากค�ำนยิ ามดงั กล่าวสามารถแยกพิจารณาถึงลักษณะของคนไทยพลัด ถน่ิ ไดด้ งั นี้คอื 1) บุคคลมีเช้ือสายไทยแต่ต้องกลายเป็นคนในบังคับของประเทศอ่ืนโดย เหตุอันเกดิ จากการเปลีย่ นแปลงอาณาเขตของราชอาณาจกั รไทยในอดีต 2) บคุ คลผูน้ ้นั มิได้ถอื สัญชาติของประเทศอ่นื 3) บคุ คลผนู้ ้นั ได้อพยพเข้ามาอาศยั อยใู่ นประเทศไทยเป็นระยะเวลาหนึง่ 4) มีวิถีชวี ติ เป็นคนไทย 5) ไดร้ บั การจดั ทำ� ทะเบยี นราษฎรภายใตห้ ลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไขทรี่ ฐั มนตรี กำ� หนด รฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์. 114 วารสารนิตสิ งั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีที่ 9 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
โดยในมาตรา 9/1 ถึงมาตรา 9/7 ได้วางหลักการและก�ำหนดถึงการ ได้มาซ่ึงสัญชาติไทยของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นไว้ โดยกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นท่ีได้รับ ประโยชนภ์ ายใตพ้ ระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติ (ฉบบั ท่ี 5) สามารถแบง่ ออกเปน็ กลมุ่ ตา่ งๆ ไดด้ งั น้ี คือ 1) ผ้อู พยพเช้อื สายไทยจากเกาะกง ประเทศกมั พูชา ท่เี ข้ามาในประเทศ ไทยก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2520 2) ผู้หลบหนีเข้าเมืองเช้ือสายไทยจากจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่เขา้ มาในประเทศไทยหลังวนั ที่ 15 พฤศจกิ ายน 2520 3) ผพู้ ลดั ถิน่ สัญชาตพิ ม่าเชือ้ สายไทยท่เี ข้ามาก่อนวนั ท่ี 9 มีนาคม 2519 และ 4) ผู้พลัดถิ่นสญั ชาติพมา่ เชือ้ สายไทยทีเ่ ขา้ มาหลังวนั ท่ี 9 มนี าคม 2519 จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนเหล่าน้ีตกอยู่ในสถานะ “ผู้ถือบัตรคนซ่ึงไม่มีสัญชาติ ไทย” ส่วนบุตรของบุคคลดงั กล่าวท่ีเกดิ ในไทยให้พจิ ารณาสญั ชาตไิ ทยตามมาตรา 7 ทวิ ของพระราชบัญญตั ิสัญชาติ พ.ศ. 2508 แกไ้ ขเพ่มิ เติม พ.ศ. 2555 ในการด�ำเนินการพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถ่ิน กระทรวง มหาดไทย ได้กำ� หนดหลกั เกณฑ์ ข้ันตอน เงื่อนไขและแบบคำ� รอ้ ง โดยได้ออกเปน็ กฎกระทรวงการพสิ จู นแ์ ละการรบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถิ่น พ.ศ. 2555 และ ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรอื่ งคำ� ขอพสิ จู นแ์ ละการรบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถน่ิ ใบรบั และหนงั สอื รบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถนิ่ ซงึ่ ไดม้ ปี ระกาศในราชกจิ จา นุเบกษาแล้ว เม่ือวันที่ 18 กรกฎาคม 2555 ซ่ึงมีแนวปฏิบัติโดยเม่ือพนักงาน เจา้ หนา้ ทไ่ี ดร้ บั คำ� ขอพสิ จู นด์ งั กลา่ ว จะมกี ารตรวจสอบเอกสารเพอ่ื ความครบถว้ น ถกู ตอ้ งตามกฎหมาย และออกใบรบั คำ� ขอไวเ้ ปน็ หลกั ฐานวา่ ผนู้ นั้ ไดม้ กี ารยนื่ เอกสาร เรยี บรอ้ ยแลว้ หลงั จากนนั้ นายอำ� เภอกจ็ ะรวบรวมเอกสารเสนอผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เพ่ือตรวจสอบความถูกต้องอีกคร้ังหนึ่งก่อนส่งให้คณะกรรมการรับรองความเป็น เข้านอก ออกใน 115
คนไทยพลัดถ่ินพิจารณาอนุมัติ โดยมีฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการรับรองความ เป็นคนไทยพลดั ถิน่ (อธิบดกี รมการปกครอง) เป็นผ้รู บั ผิดชอบ จัดให้มกี ารประชมุ คณะกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าวและเม่ือมีมติเห็นชอบให้แก่ผู้ใดก็จะออก หนงั สอื รบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถนิ่ ใหก้ บั ผยู้ น่ื คำ� ขอนนั้ เพอื่ นำ� ไปเปน็ หลกั ฐาน การขอเปล่ียนแปลงการลงรายการสญั ชาติไทยโดยการเกดิ ต่อไป อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่าขั้นตอนและวิธีการในการยื่นค�ำร้องและเอกสาร ประกอบเร่อื งคนไทยพลัดถน่ิ สามารถอธิบายอย่างยอ่ ได้ดงั น้ี กล่าวคอื 1) ผรู้ อ้ ง (คนไทยพลดั ถนิ่ ) ยนื่ คำ� รอ้ งตอ่ เขตทต่ี นเองอาศยั อยู่ โดยทเี่ อกสาร ประกอบการใช้ยื่นประกอบด้วยเอกสารทางทะเบยี นเกย่ี วกบั ถน่ิ ท่อี ยู่ของผูน้ ั้น ผัง เครอื ญาตซิ ง่ึ ตอ้ งอธบิ ายไดถ้ งึ ความเชอื่ มโยงในตวั บคุ คลไรส้ ญั ชาตกิ บั จดุ เกาะเกย่ี ว ในความเป็นไทย นอกจากน้ีต้องมีพยานรับรองความถูกต้องแท้จริงของเอกสาร จำ� นวน 2 คน ในประเดน็ พยานรบั รองเอกสารมขี อ้ สงั เกตวา่ หนว่ ยงานทอ้ งถน่ิ บางหนว่ ย งานจะต้องเป็นผู้น�ำหมู่บ้านหรือผู้ที่มีความน่าเชื่อถือในหมู่บ้านซ่ึงอาจกล่าวได้ว่า เงอื่ นไขดงั กลา่ วเปน็ เงอื่ นไขทก่ี ำ� หนดขน้ึ มาโดยหนว่ ยงานในแตล่ ะพนื้ ทซี่ ง่ึ กอ่ ใหเ้ กดิ ความไม่แน่นอนในการปฏบิ ัติงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพสิ ูจนส์ ัญชาติ 2) เมอื่ เอกสารตามทกี่ ำ� หนดครบถว้ นแลว้ เจา้ หนา้ ทฝี่ า่ ยบรหิ ารของทอ้ งที่ ดงั กลา่ วจะพิจารณาแลว้ ส่งตอ่ ไปยงั คณะกรรมการกลาง18 2.2 ปัญหาในกระบวนการพสิ จู นแ์ ละรบั รองความเป็นคนไทยพลดั ถิน่ จากการที่ได้กล่าวไปแล้วยังข้างต้นว่าพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับท่ี 5 พ.ศ.2555) มีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อคืนสัญชาติให้แก่คนในเชื้อสายไทยที่ต้อง กลายเป็นคนในบังคับของประเทศอื่น โดยเหตุอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลง 18 Arisne Kupfeman-Sutthavong (2016) Stateless fight for Thai identity. June 25 2016.Retrived from http://www.bangkokpost.com/print/903200/ 116 วารสารนิติสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ปที ี่ 9 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
อาณาเขตของราชอาณาจกั รไทยในอดตี ซงึ่ ปจั จบุ นั มไิ ดถ้ อื สญั ชาตขิ องประเทศอน่ื และไดอ้ พยพเขา้ มาอยอู่ าศยั ในประเทศไทยเปน็ ระยะเวลาหนง่ึ โดยมวี ถิ ชี วี ติ เปน็ คน ไทยและไดร้ บั การจดั ทำ� สำ� รวจจดั ทำ� ทะเบยี นราษฎร์ ภายใตเ้ งอ่ื นไขทค่ี ณะรฐั มนตรี กำ� หนด แตอ่ ยา่ งไรกด็ จี ากสถติ พิ บวา่ ในปี พ.ศ.2556-2557 คนไทยพลดั ถน่ิ จำ� นวน เพยี งแค่ประมาณ 2,000 คน ได้รับประโยชน์จากพระราชบญั ญตั ิสญั ชาตฉิ บบั ที่ 5 และตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 มีผู้ได้สัญชาติไทยแล้วจ�ำนวน 166 ราย จากจำ� นวนคนไทยพลดั ถิ่นทีย่ ่ืนค�ำรอ้ งพสิ ูจนส์ ัญชาตจิ ำ� นวน 8,266 ราย โดยคิดจากผู้ที่ได้ย่ืนค�ำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นไทยแล้วและทางอ�ำเภอก็ได้ รบั เอกสารแล้ว19 เหตดุ งั กลา่ วเกดิ จากขอ้ จำ� กดั และอปุ สรรคหลายประการกลา่ วคอื (1) การ ขาดความเป็นเอกภาพในตัวเอกสารพิสูจน์ตัวบุคคล สาเหตุเน่ืองด้วยมีข้อสังเกต จากคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ บิ างทา่ นในประเดน็ ทว่ี า่ คำ� รอ้ งขอและรบั รองความ เป็นคนไทยพลัดถิ่นที่เสนอต่อกรมการปกครองน้ันยังขาดความชัดเจนในเงื่อนไขที่ ก�ำหนดตามคำ� นิยามคนไทยพลัดถ่ินในมาตรา 3 พระราชบัญญตั ิสญั ชาติ (ฉบับท่ี 5 พ.ศ.2555) ส่งผลให้เกิดแนวความคิดน�ำแบบ ป.ค.14 ซ่ึงถือเป็นแนวทางการ สอบสวนบคุ คลไปปรบั ใชต้ ามความเหมาะสม20 ผลจากการดงั กลา่ วเปดิ ชอ่ งใหก้ าร สอบสวนหาข้อเท็จจริงในรายละเอียดของบุคคลก่อให้เกิดผลท่ีตามมาคือแบบใน การสอบสวนพิสูจน์บุคคลของคนไทยพลัดถ่ินมีลักษณะแตกต่างกันไป ขาดความ เปน็ เอกภาพในแงร่ ปู แบบและขน้ึ อยดู่ ลุ ยพนิ จิ ของเจา้ หนา้ ทฝี่ า่ ยปกครองระดบั เขต เชน่ นายอำ� เภอ หรอื ปลดั อำ� เภอทรี่ บั ผดิ ชอบในพนื้ ทด่ี งั กลา่ ว (2) ปญั หาเจา้ หนา้ ท่ี ของฝ่ายปกครองมจี �ำนวนไม่เพยี งพอในการปฏบิ ตั ิงาน ดว้ ยเหตุนเ้ี องถอื วา่ ปญั หา ดงั กลา่ วจงึ เปน็ อปุ สรรคทส่ี ำ� คญั ตอ่ กระบวนการพสิ จู นส์ ญั ชาตขิ องกลมุ่ คนไทยพลดั ถนิ่ (3) ปญั หาเรอื่ งหนว่ ยงานของรฐั มองวา่ ประเดน็ สญั ชาตเิ ปน็ เรอื่ งของความมนั่ คง 19 การพิสจู น์ความเป็นคนไทยพลัดถน่ิ ตาม พ.ร.บ. สัญชาติฉบบั ที่ 5 พ.ศ.2555. 20 มถิ นุ ายน 2559 จากhttp://chumchonthai.or.th/node/326 20 หนงั สอื กรมการปกครอง ดว่ นที่สดุ ท่ี มท 0309.1/ว 17344 ลงวนั ที่ 25 กรกฎาคม 2555 เขา้ นอก ออกใน 117
เป็นต้น ส่งผลให้เกิดแนวความคิดการจัดท�ำบันทึกความตกลงระหว่างหน่วยงาน ตา่ งๆ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื แกป้ ญั หาและเพอื่ กอ่ ใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธติ์ ามหลกั การท่ี กำ� หนดไว้ในพระราชบัญญตั ิสัญชาติ (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2555 น่ันเอง 2.3 การท�ำบันทึกความตกลงพหุภาคีเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าใน กระบวนการพิสูจนแ์ ละรับรองความเป็นคนไทยพลดั ถน่ิ จากตัวเลขดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าภายหลังจากท่ีพระราชบัญญัติ สัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 พ.ศ.2555 ใช้บังคับจนถึงปัจจุบันคือ ประมาณ 4 ปีเศษ มจี ำ� นวนคนไทยพลดั ถ่ินที่ไดร้ บั การพสิ ูจน์และรับรองความเปน็ คนไทยพลัดถ่ินและได้สัญชาติไทยแล้วน้อยมาก ส่ิงนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหา การแปลงกฎหมายและนโยบายของรัฐไปสู่การปฏิบัติท่ีเป็นรูปธรรมนั้นไม่มี ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ซึ่งจากปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวน�ำไปสู่การ เกิดข้ึนของบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพิสูจน์สัญชาติและรับรอง ความเป็นคนไทยพลัดถ่ินระหว่างกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยกับ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยรังสิต ส�ำนักงานประสานการพัฒนาสังคมสุข ภาวะ (สปพส.) มลู นธิ ชิ มุ ชนไท (มชท.) และสำ� นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน แหง่ ชาติ (ส�ำนกั งาน กสม.) โดยลงวนั ที่ 16 มกราคม 2559 ซึ่งเน้อื หาของบันทึก ขอ้ ตกลงความร่วมมอื ดังกล่าวสามารถแบง่ ได้ดงั นคี้ ือ 1) กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย มีพันธะกรณีหลักคือประสาน งานหลกั ระหวา่ งสว่ นกลางและอำ� เภอโดยการสง่ เจา้ หนา้ ทจ่ี ากสว่ นกลางไปรว่ มกบั อำ� เภอเป้าหมายซึ่งได้แกพ่ ืน้ ท่จี ังหวัดประจวบครี ีขันธ์ ชมุ พร และระนอง เปน็ ตน้ นอกจากนย้ี งั มกี ารใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั กฎหมายโดยเนน้ ทรี่ ะเบยี บปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั งาน สญั ชาติ การจดั ทำ� ผงั เครอื ญาติ และการยนื่ คำ� ขอตามแบบฟอรม์ ตา่ งๆ ใหแ้ กอ่ งคก์ ร ภาคีเครือข่าย และสุดท้ายคือการเป็นหน่วยงานกลางคอยประสานการท�ำงาน ระหว่างองค์กรภาคีเครือขา่ ยและหน่วยงานในระดบั อำ� เภอ 118 วารสารนิตสิ งั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ปีท่ี 9 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
2) องคก์ รภาคการศกึ ษาไดแ้ กม่ หาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ และมหาวทิ ยาลยั รงั สติ ภายใตก้ ารดำ� เนนิ ในกรอบความรว่ มมอื ดงั กลา่ วองคก์ รการศกึ ษาทงั้ สองหนว่ ยงาน มีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการให้ความรู้ด้านกฎหมายเก่ียวกับสัญชาติแก่กลุ่มคน ไทยพลัดถ่ินและบุคคลที่เก่ียวข้อง รวมท้ังสนับสนุนการปฏิบัติงานของอ�ำเภอโดย การนำ� นกั ศกึ ษาทผี่ า่ นการฝกึ อบรมทง้ั ภาคทฤษฎแี ละภาคปฏบิ ตั เิ พอ่ื ชว่ ยเหลอื เจา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยปกครองทงั้ ในระดบั สว่ นกลาง สว่ นภมู ภิ าคในการรบั คำ� รอ้ ง ใหค้ ำ� แนะนำ� กบั ผยู้ น่ื คำ� รอ้ ง รวมทง้ั การเตรยี มพยานหลกั ฐานจดั ทำ� เอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ ง เชน่ การ จัดท�ำผังเครือญาติ รวมทั้งการช่วยสอบและบันทึกถ้อยค�ำผู้ขอพิสูจน์ความเป็น คนไทยพลดั ถนิ่ และบคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งในแบบฟอรม์ เพอื่ พสิ จู นแ์ ละรบั รองความเปน็ คนไทยพลัดถิ่นและงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและ สัญชาตภิ ายใต้กรอบความรว่ มมือท่ีก�ำหนด 3) มลู นธิ ชิ มุ ชนไท (มชท.) และสำ� นกั งานประสานการพฒั นาสงั คมสขุ ภาวะ (สปสพ.) มีความรับผิดชอบหลัก คือ ช่วยเหลือการท�ำงานภายใต้ความตกลงดัง กลา่ วใหส้ �ำเร็จลุล่วง 4) สำ� นกั งานคณะกรรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ (กสม.) จะดำ� เนนิ การ ในสว่ นของตดิ ตามประเมนิ ผลการแกป้ ญั หาสทิ ธสิ ถานะโดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ กลมุ่ คน ไทยพลดั ถนิ่ รวมทงั้ เปน็ หนว่ ยงานกลางคอยประสานการแกไ้ ขปญั หากรณรี อ้ งเรยี น ของคนไทยพลัดถิ่น อีกท้งั ยังรบั ผิดชอบในการจดั ท�ำขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายและ ข้อเสนอแนะเชิงกฎหมายต่อหน่วยงานต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้องในประเด็นปัญหาท่ี เกีย่ วข้องกับสถานะและสทิ ธขิ องกลมุ่ คนไทยพลัดถิน่ ผลของความร่วมมือดังกล่าวท�ำให้นิสิตนักศึกษาของท้ังสองมหาวิทยาลัย คอื มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ และมหาวทิ ยาลยั รงั สติ ไดเ้ ขา้ มาเปน็ กลไกขบั เคลอื่ นทสี่ ำ� คญั เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าท่ีฝ่ายปกครองในระดับพื้นที่ในการย่ืนค�ำขอและช่วยเหลือ ตวั แทนของสมาชกิ ชมุ ชนในการรวบรวมพยานหลกั ฐานเพอ่ื พสิ จู นส์ ญั ชาตใิ หก้ บั คน ไทยพลดั ถ่ิน เข้านอก ออกใน 119
3. การดำ� เนนิ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื คนไทยพลดั ถนิ่ ตามบนั ทกึ ความตกลงฯ ผลจากการทำ� งานรว่ มกนั ภายใตก้ รอบความรว่ มมอื ดงั กลา่ ว มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ และมหาวทิ ยาลยั รงั สติ รวมทงั้ องคก์ รภาคเี ครอื ขา่ ยไดร้ ว่ มกนั จดั “โครงการ ชว่ ยเหลอื ประชาชนผดู้ อ้ ยโอกาสทมี่ ปี ญั หาเกยี่ วกบั สถานะบคุ คล (คนไทยพลดั ถน่ิ )” โดยแบง่ เขตพน้ื ทกี่ นั รบั ผดิ ชอบดงั นี้ คอื มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ รบั ผดิ ชอบในเขตพน้ื ที่ จังหวัดระนอง โดยมีการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือแล้ว 1 คร้ัง ระหว่างวันที่ 30 เมษายน-3 พฤษภาคม 2559 ณ พื้นทีอ่ ำ� เภอเมืองจังหวัดระนอง และมนี กั ศกึ ษา จติ อาสาจ�ำนวน 39 คนเขา้ ร่วมโครงการ ขณะทม่ี หาวทิ ยาลยั รงั สติ รบั ผดิ ชอบในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ โดยมี การลงพน้ื ทปี่ ฏบิ ัตงิ านแลว้ 2 คร้งั คร้ังที่ 1 ระหวา่ งวนั ที่ 9 – 12 มนี าคม 2559 โดยดำ� เนนิ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในพน้ื ท่ี อ.เมอื งประจวบครี ขี นั ธ,์ อ.ทบั สะแก และ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ มนี กั ศึกษาเขา้ ร่วมโครงการราว 25 คน และคร้งั ท่ี 2 ระหวา่ งวนั ที่ 22 – 28 พฤษภาคม 2559 โดยด�ำเนินการใหค้ วามช่วยเหลอื ใน พน้ื ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบครี ขี นั ธ์ มนี กั ศกึ ษาเขา้ รว่ มโครงการเพมิ่ เปน็ 45 คน อย่างไรก็ดีการด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือคนไทยพลัดถิ่นตามบันทึก ความเข้าใจยังไม่เสร็จสิ้นลงดังนั้นจึงยังจะมีการลงพื้นท่ีให้ความช่วยเหลือของท้ัง สองสถาบันอีกหลายครัง้ นบั จากนี้ ในการดำ� เนนิ งานใหค้ วามชว่ ยเหลอื แตล่ ะครง้ั มขี นั้ ตอนการดำ� เนนิ งานดงั น้ี 3.1 การก�ำหนดพ้นื ที่ใหค้ วามชว่ ยเหลือ อาจกลา่ วไดว้ า่ พระราชบญั ญตั สิ ญั ชาตฉิ บบั ท่ี 5 พ.ศ.2555 ไดก้ ำ� หนดนยิ าม ให้ความหมายของคนไทยพลัดถ่ินไว้ว่ากลุ่มของบุคคลท่ีตกเป็นคนในบังคับของ ประเทศอนื่ โดยเหตแุ หง่ การเปลยี่ นแปลงราชอาณาจกั รไทยในอดตี และผนู้ นั้ มไิ ดถ้ อื สญั ชาตขิ องประเทศอนื่ สง่ ผลใหค้ ณะผเู้ ขยี นจำ� กดั ขอบเขตการศกึ ษาและการลงพน้ื ท่ีเฉพาะ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระนอง เท่านั้นที่ได้รับสิทธิคืนสัญชาติไทยตาม 120 วารสารนิตสิ งั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ปีที่ 9 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
พระราชบัญญัติฉบบั นี้ในประเด็นของการคืนสญั ชาตไิ ทย นอกจากน้ยี งั ถือไดว้ ่าท้ัง สองจงั หวดั มีประชากรพลดั ถิ่นอาศยั อยู่เปน็ จ�ำนวนมาก และมกี ารติดตอ่ ประสาน งานระหวา่ งชมุ ชนกบั มลู นธิ ชิ มุ ชนไทซง่ึ ถอื วา่ หนง่ึ ในองคก์ รภาคเี ครอื ขา่ ยตามบนั ทกึ ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพิสูจน์และการรับรองความเป็นคนไทยพลัด ถน่ิ อยกู่ อ่ นแลว้ จงึ นา่ จะรวบรวมเอกสารสำ� คญั ทตี่ อ้ งใชป้ ระกอบการดำ� เนนิ การยน่ื คำ� รอ้ งขอพิสูจนค์ วามเปน็ คนไทยพลดั ถ่นิ ตามกฎกระทรวงได้ง่ายกวา่ พื้นท่อี ืน่ และในการนี้มหาวิทยาลัยรังสิตได้อาสารับผิดชอบการให้ความช่วยเหลือ ในพื้นท่ีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณได้ อาสารบั ผดิ ชอบการให้ความชว่ ยเหลอื ในพนื้ ทจี่ งั หวดั ระนองตามทไี่ ดก้ ลา่ วมาแลว้ ขา้ งตน้ 3.2 การอบรมความรดู้ า้ นกฎหมายและแนวทางปฏบิ ตั งิ านแกน่ กั ศกึ ษากอ่ น การลงพืน้ ที่ กอ่ นทคี่ ณะนติ ศิ าสตรท์ ง้ั สองแหง่ จะนำ� นกั ศกึ ษาลงพน้ื ทใ่ี หค้ วามชว่ ยเหลอื ประชาชนไดน้ นั้ มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ ทนี่ กั ศกึ ษาจะตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเบอ้ื ง ต้นเกี่ยวกับกฎหมายที่เก่ียวข้องซึ่งโดยหลักแล้ว ได้แก่ พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 พ.ศ.2555, พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 และพระราชบญั ญตั กิ ารทะเบยี นราษฎร พ.ศ.2534 และยังตอ้ งเขา้ ใจถึงขั้น ตอนการทำ� งานจรงิ ในการชว่ ยเหลอื เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ในการรวบรวมเอกสาร ดงั นนั้ การอบรมทจี่ ะเกดิ ขน้ึ นจี้ งึ ตอ้ งใชร้ ปู แบบของการสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร (workshop) เพื่อให้ครอบคลมุ ท้งั การใหค้ วามรู้เชงิ ทฤษฎแี ละการฝกึ ภาคปฏบิ ัติ การสมั มนาเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารถกู ออกแบบใหใ้ ชร้ ะยะเวลา 2 วนั วนั แรกจะเนน้ การให้ความรู้เชิงทฤษฎีใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ องค์ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย สญั ชาตติ ามพระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติ พ.ศ.2508 และกฎหมายอน่ื ๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง โดย มหาวทิ ยาลยั รงั สติ และมหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ จะเปน็ ผดู้ แู ลในการสมั มนาสว่ นนี้ และ องค์ความรู้เก่ยี วกบั การจดั ท�ำทะเบียนราษฎร โดยกรมการปกครองเป็นผูด้ ูแล เข้านอก ออกใน 121
และในวันท่ีสองจะเน้นการฝึกภาคปฏิบัติ ได้แก่ การท�ำความเข้าใจแบบ ฟอรม์ เอกสารต่างๆ เช่น แบบบนั ทกึ ปากคำ� (ป.ค.14) ท่ใี ช้ประกอบการยน่ื คำ� ขอ พิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นของอ�ำเภอที่จะเข้าไปปฏิบัติการ การอา่ นและทำ� ความเขา้ ใจผงั เครอื ญาติ เอกสารทต่ี อ้ งใชป้ ระกอบการยนื่ คำ� ขอโดย มูลนิธชิ มุ ชนไทเป็นผดู้ แู ลรบั ผดิ ชอบการอบรม ในระหวา่ งการสมั มนามขี อ้ สงั เกตวา่ นสิ ติ นกั ศกึ ษาอาสาสมคั รสว่ นใหญจ่ าก ทั้งสองสถาบันเป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีท่ี 3 (และส�ำหรับมหาวิทยาลัย รังสิต มีนักศึกษาจากวิทยาลัยนวัตกรรมสังคมร่วมด้วย) ซึ่งนักศึกษาจากทั้งสอง สถาบันน้ียังไม่เคยไดศ้ ึกษากฎหมายสัญชาติ, กฎหมายคนเขา้ เมือง หรือกฎหมาย การทะเบียนราษฎรมาก่อน เน่ืองจากเป็นสาระการเรียนรู้ในรายวิชากฎหมาย ระหวา่ งประเทศแผนกคดบี คุ คล ซง่ึ เปน็ รายวชิ าในการเรยี นชนั้ ปที ี่ 4 วทิ ยากรทรี่ บั ผิดชอบในการบรรยายถึงหลักกฎหมายท้ังสามข้างต้นจึงต้องพยายามใช้ภาษาท่ี เขา้ ใจงา่ ย หลกี เลยี่ งการใชภ้ าษากฎหมายทไี่ มจ่ ำ� เปน็ และตอ้ งใชต้ วั อยา่ งกรณศี กึ ษา มาประกอบการบรรยายจงึ จะท�ำใหน้ กั ศกึ ษาเข้าใจหลกั กฎหมายไดง้ า่ ยขึ้น 3.3 การวางแผนและลงพน้ื ทีป่ ฏิบัติงานจรงิ หลังจากจบการสัมมนาเชิงวิชาการก่อนท่ีมหาวิทยาลัยท้ังสองแห่งได้น�ำ นักศึกษาเดินทางไปยังพ้นื ที่ปฏบิ ตั งิ านท่กี �ำหนดเอาไว้จำ� เป็นทีจ่ ะตอ้ งวางแผนการ ทำ� งานในแตล่ ะวนั พรอ้ มทง้ั จดั เตรยี มอปุ กรณซ์ งึ่ นกั ศกึ ษาจะประชมุ ระดมสมองกนั เพอื่ จดั ตารางเวลาการทำ� งาน ทำ� รายการสงิ่ ของเครอ่ื งใชจ้ ำ� เปน็ วางผงั สถานที่ ฯลฯ ซ่งึ ถอื เป็นโอกาสอันดีทน่ี ักศกึ ษาจะได้ฝกึ ฝนทักษะการวางแผนงาน และกอ่ นจะถงึ วนั ลงพน้ื ทก่ี รมการปกครองจะมหี นงั สอื แจง้ ไปยงั นายอำ� เภอ ของพื้นที่เป้าหมายให้ได้รับทราบว่าจะมีคณะท�ำงานประกอบด้วยนักศึกษา, อาจารย์ผู้ดูแลและเจ้าหน้าท่ีจากมูลนิธิชุมชนไทเข้าไปให้ความช่วยเหลือร่วมมือ กลุ่มประชากรคนไทยพลัดถ่ินและให้ทางอ�ำเภอปรึกษาหารือกับคณะท�ำงานเพื่อ 122 วารสารนติ ิสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ปีท่ี 9 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
ก�ำหนดบทบาทการท�ำงานในระหว่างที่มีการลงพื้นท่ีท�ำให้การปฏิบัติงานได้รับ ความรว่ มมือและความไวว้ างใจจากเจ้าหนา้ ทรี่ ฐั ในพื้นท่ีได้พอสมควร ในการปฏบิ ตั งิ านนกั ศกึ ษาอาสาสมคั รจะไดร้ บั มอบหมายใหเ้ ปน็ ผสู้ อบถาม และบนั ทกึ ขอ้ เทจ็ จรงิ เบอ้ื งตน้ ของประชากรคนไทยพลดั ถน่ิ ทป่ี ระสงคจ์ ะยน่ื คำ� ขอ พิสูจนแ์ ละรับรองความเป็นคนไทยพลัดถน่ิ แตล่ ะราย รวมถงึ บนั ทกึ ถอ้ ยค�ำของผทู้ ่ี เดินทางมาเป็นพยานให้แกผ่ ทู้ ีป่ ระสงค์จะยื่นค�ำขออีกดว้ ย การดำ� เนนิ การเชน่ นเี้ กดิ ผลดตี อ่ ตน้ ทางของกระบวนการพสิ จู นแ์ ละรบั รอง ความเป็นคนไทยพลัดถ่ิน กล่าวคือเป็นการลดภาระการท�ำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ประจ�ำอ�ำเภอ (โดยปกติคือปลัดอ�ำเภอท่ีได้รับมอบหมายจากนายอ�ำเภอ) ท่ีโดย ปกตแิ ลว้ จะดำ� เนนิ การรบั คำ� ขอไดเ้ พยี ง 2-3 รายตอ่ วนั เมอ่ื พจิ ารณาจากภาระความ รับผิดชอบของปลัดอ�ำเภอท่ีจะต้องปฏิบัติหน้าท่ีด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย แต่คณะ นักศึกษาสามารถรบั คำ� ขอรวมกันไดถ้ ึงวันละ 30-40 ราย และปลัดอ�ำเภอสามารถ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งครบถว้ นของเนอื้ หาในเอกสารทนี่ กั ศกึ ษาเปน็ ผลู้ งบนั ทกึ เอา ไว้ หากถกู ตอ้ งครบถว้ นกส็ ามารถลงนามรบั รองและสง่ เขา้ สกู่ ระบวนการพสิ จู นแ์ ละ รับรองความเป็นคนไทยพลัดถ่ินได้ทันที ส่วนกรณีใดท่ีปลัดอ�ำเภอเห็นว่าจะต้อง สอบขอ้ เทจ็ จรงิ หรอื เรยี กเอกสารประกอบใดเพม่ิ เตมิ กส็ ามารถตดิ ตอ่ ผยู้ น่ื คำ� ขอให้ มาให้ปากค�ำหรือมาย่นื เอกสารเพิม่ เติมได้ 3.4 การสรุปผลสัมฤทธิแ์ ละปัญหาจากการปฏิบัตงิ าน เม่ือการลงพื้นที่ปฏิบัติงานเสร็จส้ินลงภาคีทุกฝ่ายจะนัดประชุมเพื่อสรุป ผลสมั ฤทธทิ์ งั้ ในเชงิ ปรมิ าณ โดยชวี้ ดั จากจำ� นวนชดุ เอกสารประกอบการยนื่ คำ� ขอฯ ทน่ี กั ศึกษาสามารถจัดท�ำได้ท้งั หมดและในเชงิ คุณภาพ โดยชวี้ ัดจากอัตราความถูก ตอ้ งของเอกสารการยน่ื คำ� ขอฯ พรอ้ มทงั้ สรปุ ปญั หาของการปฏบิ ตั งิ านเพอื่ กำ� หนด แนวทางการพฒั นาการทำ� งานของภาคีแต่ละฝ่ายในการลงพ้นื ทีค่ ร้ังต่อไป เข้านอก ออกใน 123
3.5 ปญั หาในกระบวนการพสิ จู นแ์ ละรบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถน่ิ ทค่ี ณะ ท�ำงานได้พบจากการลงพน้ื ท่ปี ฏบิ ตั งิ าน จากการลงพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั งิ านตามบนั ทกึ ความตกลงฯทงั้ 3 ครงั้ คณะทำ� งาน ได้สรุปประเด็นปัญหาหรือข้ออุปสรรคที่ส่งผลให้กระบวนการได้สัญชาติไทยของ กล่มุ คนไทยพลัดถิน่ ค่อนขา้ งลา่ ชา้ ไดด้ ังนี้ 1) ปัญหาดา้ นแบบฟอรม์ เรอ่ื งการพิสูจนแ์ ละรบั รองความเปน็ คนไทย พลดั ถ่นิ ท่ีไม่มีเอกภาพ จากการลงพื้นท่ีปฏิบัติงานพบว่าอุปสรรคท่ีท�ำให้กระบวนการพิสูจน์และ รับรองความเป็นคนไทยพลัดถ่ิน ท้ังในพ้ืนท่ีจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัด ระนองค่อนข้างล่าช้าคือความไม่เป็นเอกภาพของเน้ือหาในเอกสารท่ีใช้ประกอบ การยืน่ คำ� ขอ กล่าวคือ แบบบันทกึ ปากคำ� (ป.ค.14) น้นั แมก้ รมการปกครองจะได้ มแี นวทางระบขุ อ้ คำ� ถามพน้ื ฐานสำ� หรบั การสอบปากคำ� ทจ่ี ะตอ้ งปรากฏอยใู่ นแบบ ฟอร์มก็ตาม ทว่าแต่ละท้องที่ก็สามารถปรับเปล่ียนรายละเอียดของข้อค�ำถามได้ เช่น ในพ้ืนที่อ�ำเภอเมืองระนองแบบ (ป.ค. 14) จะเป็นในลักษณะที่ให้เจา้ พนักงาน เป็นผู้ถามค�ำถามแล้วให้เจ้าพนักงานเป็นผู้จดบันทึกค�ำตอบ แต่ในพ้ืนท่ีจังหวัด ประจวบครี ีขันธแ์ บบ (ป.ค. 14) จะมขี อ้ คำ� ถามที่ให้เจา้ พนกั งานเปน็ ผู้บันทกึ ขอ้ มลู โดยการทำ� เครอ่ื งหมายหนา้ กลอ่ งขอ้ ความทตี่ รงกบั คำ� ตอบทไ่ี ดจ้ งึ ทำ� ใหร้ ายละเอยี ด ของเน้ือหาเอกสารในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน บางแห่งมีข้อค�ำถามที่ไม่ เก่ียวข้องกับกระบวนการพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัดถ่ินส่งผลให้การ ปฏบิ ตั ิงานของนิสติ นกั ศกึ ษาค่อนข้างจะลำ� บากและขาดความเป็นเอกภาพ 2) ปัญหาความตอ่ เนื่องของบุคลากรในการปฏบิ ตั ิหนา้ ทปี่ ระจำ� ท้องที่ อาจกลา่ วไดว้ า่ ประเดน็ ปญั หาเรอ่ื งการใหส้ ญั ชาตคิ อ่ นขา้ งเปน็ ประเดน็ ทมี่ ี ความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาของเจ้าหน้าท่ีฝ่ายปกครองท�ำให้ การพจิ ารณาคำ� ขอแตล่ ะราย เจา้ หน้าทฝ่ี า่ ยปกครองโดยเฉพาะปลัดอ�ำเภอที่ได้รับ 124 วารสารนติ สิ งั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ปที ่ี 9 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
มอบอำ� นาจจากนายอำ� เภอใหเ้ ปน็ ผรู้ บั คำ� ขอและพจิ ารณาในชน้ั ตน้ จะตอ้ งพจิ ารณา อย่างรอบคอบมากโดยเฉพาะเม่ือมีการปรับย้ายท้องที่ปฏิบัติงานของปลัดอำ� เภอ แต่ละคน ปลัดอ�ำเภอท่ีเข้ามารับต�ำแหน่งใหม่ก็มักจะเริ่มต้นพิจารณาค�ำขอที่ค้าง พิจารณาจากปลัดอ�ำเภอคนก่อนใหม่ทั้งหมดเน่ืองจากปลัดอ�ำเภออาจต้องรับผิด ทางวนิ ยั หากลงชอ่ื รบั รองใหแ้ กค่ ำ� ขอรายใดแลว้ ตอ่ มาภายหลงั ปรากฏวา่ มกี ารสวม สทิ ธิหรือเป็นผู้ไม่มีสิทธยิ ื่นค�ำขอโดยประการอนื่ 3) ปญั หาเรื่องทศั นคตขิ องเจ้าหน้าทีข่ องรัฐในพื้นทีต่ อ่ นิสิตนักศึกษา ท่ีเข้าไปชว่ ยเหลืองาน จากการท่ีได้กล่าวมาแล้วดังข้างต้นว่าวัตถุประสงค์หลักของการจัดท�ำ บันทกึ ข้อตกลงฉบบั น้คี ือเพ่อื อำ� นวยความสะดวกและช่วยเหลอื เจา้ หน้าทีก่ รมการ ปกครองในประเดน็ เรอ่ื งการดำ� เนนิ การแกไ้ ขปญั หาสถานะและสทิ ธขิ องบคุ คลโดย เฉพาะกลมุ่ คนไทยพลดั ถน่ิ ดว้ ยเหตนุ มี้ หาวทิ ยาลยั ทงั้ สองแหง่ ในฐานะองคก์ รภาคี มีความรับผิดชอบในการช่วยเหลืออ�ำนวยความสะดวกในประเด็นดังกล่าว แต่ใน ทางปฏิบัติกลับพบว่าเจ้าหน้าที่ปกครองฝ่ายปฏิบัติการกลับขาดความเช่ือมั่นใน ความสามารถของนสิ ติ /นกั ศกึ ษาทลี่ งไปชว่ ยอำ� นวยความสะดวกดงั กลา่ ว เนอ่ื งจาก เจ้าหน้าท่ีฝ่ายปกครองมีความเห็นว่าระยะเวลาในการฝึกอบรมสอบแบบปากค�ำ ของนสิ ติ /นกั ศกึ ษามรี ะยะเวลาทส่ี น้ั เกนิ ไป จงึ เกรงวา่ อาจเกดิ ปญั หาการสอบปากคำ� มีความไม่ละเอียดรอบคอบซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้า พนกั งานฝา่ ยปกครองในประเด็นความรับผิดทางกฎหมาย 21 21 รายงานวเิ คราะห์ผลการปฏิบัตงิ านลงพืน้ ที่ของนิสิต มหาวทิ ยาลัยทกั ษณิ ภายใต้ “โครงการ ชว่ ยเหลอื ประชาชนผดู้ อ้ ยโอกาสที่มีปญั หาเกย่ี วกับสถานะบุคคล (คนไทยพลดั ถ่ิน) ระหวา่ ง วันท่ี 30 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2559” เขา้ นอก ออกใน 125
4. ประโยชน์ที่ภาคีแต่ละฝ่ายได้รับจากบันทึกความตกลงฉบับน้ี และ แนวทางการทำ� งานหลงั จากนี้ การแก้ไขปัญหาสภาวะความไร้รัฐ ไร้สัญชาติของกลุ่มประชากรคนไทย พลัดถิ่นท่ีประสบปัญหาความล่าช้าในขั้นตอนกระบวนการพิสูจน์และรับรองเพ่ือ ให้ได้รับสัญชาติไทยโดยความร่วมมือระหว่างภาคีภาครัฐ ภาควิชาการ และภาค ประชาสงั คมผา่ นการทำ� บนั ทกึ ความตกลงเชน่ นกี้ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนไ์ มเ่ พยี งตอ่ ภาคี ผเู้ กยี่ วขอ้ งทกุ ฝา่ ยเทา่ นน้ั แตย่ งั เกดิ ประโยชนต์ อ่ ประชากรคนไทยพลดั ถน่ิ ทรี่ อคอย ความหวังในการขอพิสูจน์สัญชาติไทยรวมถึงนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมลงพื้นท่ีให้ ความช่วยเหลืออกี ดว้ ยโดยสามารถสรปุ ประโยชน์ทีแ่ ตล่ ะฝ่ายไดร้ ับได้ดังนี้ 4.1 ประโยชน์ท่ภี าคีภาครฐั ได้รับ เราอาจเห็นได้ว่าแม้ภาคีฝ่ายภาครัฐน�ำโดยกรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐทั้งในระดับจังหวัดและระดับอ�ำเภอจะได้ใช้ความ พยายามอย่างเต็มที่แล้วในการด�ำเนินการพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทยพลัด ถิ่นแต่ด้วยข้อจ�ำกัดด้านจ�ำนวนบุคลากรและภาระการท�ำงานในด้านอ่ืนๆ ท�ำให้ กระบวนการดังกล่าวเปน็ ไปอย่างลา่ ชา้ มาก ดงั น้ันความช่วยเหลอื จากภาคองค์กร วชิ าการโดยมหาวทิ ยาลยั ทง้ั สองแหง่ ทเี่ ปน็ แกนนำ� ในการระดมนสิ ติ นกั ศกึ ษาทม่ี จี ติ อาสาจงึ สามารถบรรเทาปญั หาการขาดแคลนบคุ ลากรในการทำ� งานของเจา้ หนา้ ที่ ภาครฐั ไดแ้ ละท�ำให้กระบวนการข้นั ต้นในระดับอำ� เภอเกิดความรวดเรว็ มากขน้ึ โปรดพึงระลึกว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนิสิตนักศึกษาน้ันมิได้ปฏิบัติหน้าที่ อยา่ งปลัดอำ� เภอทม่ี ีอ�ำนาจในการลงนามรบั รองเอกสารใดๆ หากแตเ่ ปน็ เสมือนผู้ ช่วยปลัดอ�ำเภอในการจดบันทึกปากค�ำ รวบรวมและจัดเรียงเอกสารเพ่ือให้เกิด ความสะดวกในการพิจารณาเท่านั้นแต่ล�ำพังเท่าน้ีก็ท�ำให้ปลัดอ�ำเภอในท้องท่ี สามารถท�ำงานได้อย่างคล่องตัวข้ึนมากโดยไม่ต้องสอบปากค�ำด้วยตนเองแต่ สามารถพจิ ารณาจากบนั ทกึ การสอบปากคำ� ทนี่ สิ ติ นกั ศกึ ษาจดไวโ้ ดยอาจมกี ารเรยี ก ผ้ยู ื่นค�ำขอมาสอบปากคำ� เพม่ิ เตมิ ในบางกรณีเท่าน้ัน 126 วารสารนิตสิ ังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ปที ่ี 9 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
4.2 ประโยชนท์ ่ีภาคฝี ่ายองค์กรวิชาการไดร้ บั คณะผู้เขียนเช่ือว่าบรรดาครูผู้สอนกฎหมายในมหาวิทยาลัยทุกแห่งใน ประเทศไทยต่างตระหนักถึงความส�ำคัญของการศึกษากฎหมายภาคปฏิบัติหรือ การใช้การศึกษากฎหมายเชิงคลนิ กิ (clinical legal education) ที่สามารถสรา้ ง ความตระหนกั รถู้ งึ ความสำ� คญั และคณุ คา่ ของการใชก้ ฎหมายอยา่ งเปน็ ธรรมใหแ้ ก่ นักศกึ ษา แตด่ ้วยขอ้ จำ� กัดทั้งด้านงบประมาณ เวลา ภาระหนา้ ท่ี และการแสวงหา พ้ืนท่ีเรียนรู้การใช้กฎหมายภาคปฏิบัติท�ำให้การน�ำนักศึกษาออกไปปฏิบัติหน้าที่ ใช้ความรู้ความสามารถด้านกฎหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือด ร้อนอยา่ งจริงจังนนั้ ท�ำไดย้ ากยงิ่ การมีความตกลงกับภาคีฝ่ายองค์กรประชาสังคมจึงเป็นเสมือนการสร้าง พื้นทเ่ี รียนรกู้ ารใชก้ ฎหมายภาคปฏบิ ัติให้แกน่ สิ ิตนักศึกษาไดเ้ ป็นอย่างดี เนื่องจาก องค์กรประชาสังคมจะสัมผัสอยู่กับปัญหาของประชาชนอยู่ตลอดเวลาท�ำให้ สามารถน�ำเสนอกรณีปัญหากฎหมายในสังคมให้แก่นิสิตนักศึกษาน�ำไปค้นคว้าหา แนวทางการแกป้ ญั หาไดข้ ณะเดยี วกนั การไดร้ บั ความรว่ มมอื จากภาคภี าครฐั กท็ ำ� ให้ การให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนของนิสิตนักศึกษาได้รับความร่วมมือจากเจ้า หน้าที่ของรัฐในพ้นื ท่ปี ฏิบัตงิ านอยา่ งดี จากการพูดคุยกับนิสิตนักศึกษาท้ังสองมหาวิทยาลัยที่ผ่านการลงพื้นท่ีให้ ความชว่ ยเหลอื ประชาชนภายใตบ้ นั ทกึ ความตกลงนพี้ บวา่ นสิ ติ นกั ศกึ ษาเกอื บทกุ คนตระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของตวั เองจากการทไ่ี ดเ้ ปน็ นกั ศกึ ษากฎหมายและไดใ้ ชค้ วาม รกู้ ฎหมายเพอื่ ชว่ ยเหลอื ประชาชนอยา่ งเปน็ รปู ธรรม และหลายคนยนื ยนั วา่ จะเขา้ ร่วมกิจกรรมลกั ษณะนอี้ กี แมว้ า่ ตนจะส�ำเรจ็ การศึกษาไปแล้วก็ตาม 4.3 ประโยชน์ท่ภี าคีฝ่ายประชาสังคมได้รับ แม้ว่าภาคประชาสังคม ดังความตกลงน้ีคือมูลนิธิชุมชนไทน้ันจะท�ำงาน ในพน้ื ทแี่ ละสมั ผสั กบั ประชากรคนไทยพลดั ถน่ิ ผปู้ ระสบปญั หาความไรร้ ฐั ไรส้ ญั ชาติ เข้านอก ออกใน 127
มาเปน็ เวลานานทำ� ใหม้ ีความรูเ้ ก่ยี วกบั กฎหมายสญั ชาติ กลา่ วคือพระราชบัญญัติ สัญชาติ พ.ศ.2508 อยู่พอสมควรแต่การท�ำงานร่วมกับองค์กรวิชาการก็ท�ำให้ บุคลากรของมูลนิธิได้มีโอกาสทบทวนและเพ่ิมเติมองค์ความรู้เก่ียวกับกฎหมาย สัญชาติและกฎหมายอ่ืนท่เี กี่ยวข้อง ส่วนปัญหาส�ำคัญของภาคีฝ่ายประชาสังคมอันได้แก่ปัญหาการประสาน งานกับเจา้ หนา้ ทฝ่ี ่ายรัฐกไ็ ดร้ ับการบรรเทาลงจากบันทึกความตกลงน้ีเช่นกนั โดย เจา้ หนา้ ทรี่ ฐั และภาคประชาสงั คมไดม้ โี อกาสเขา้ มารว่ มกนั รบั รแู้ ละแกไ้ ขปญั หาใน กระบวนการพสิ จู นแ์ ละรบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถนิ่ ทำ� ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจทตี่ รง กันและการแสวงหาแนวทางการทำ� งานรว่ มกันในอนาคต 4.4 ประโยชนต์ ่อกลุ่มประชากรคนไทยพลดั ถ่ิน เราเห็นอย่างชัดเจนว่าปัญหาความล่าช้าในกระบวนการต้นน�้ำของการ พสิ จู นแ์ ละรบั รองความเปน็ คนไทยพลดั ถน่ิ ไดร้ บั การแกไ้ ขใหเ้ บาบางลง ทำ� ใหก้ ลมุ่ ประชากรคนไทยพลดั ถน่ิ ทเี่ ขา้ มายน่ื คำ� ขอพสิ จู นส์ ถานะคนไทยพลดั ถนิ่ มคี วามหวงั ว่าพวกเขาจะได้รับการพสิ ูจน์และรับรองสัญชาติไทยตามสทิ ธทิ ่ีพึงมี และหากเกดิ ปัญหาในกระบวนการขั้นตอนใดๆ พวกเขาก็เช่ือม่ันว่าตนจะได้รับค�ำแนะน�ำช่วย เหลือจากภาคใี นบันทึกความตกลงน้ี 5. บทสรุป แมว้ า่ พระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติ (ฉบบั ที่ 5) พ.ศ.2555 ไดบ้ ญั ญตั ริ บั รองสทิ ธิ ในสญั ชาตไิ ทยและกระบวนการพสิ จู นส์ ทิ ธดิ งั กลา่ วใหแ้ กก่ ลมุ่ ประชากรคนไทยพลดั ถนิ่ ไวแ้ ลว้ ก็ตามแตป่ ัญหาในกระบวนการพสิ ูจนแ์ ละรบั รองสิทธใิ นทางปฏิบตั ยิ งั คง มีอยู่จากการขาดแคลนบุคลากรภาครัฐที่รับผิดชอบโดยตรงในการด�ำเนิน กระบวนการพิสูจน์สัญชาติให้แกก่ ลุ่มประชากรคนไทยพลดั ถน่ิ อกี ทงั้ ภาระหน้าท่ี 128 วารสารนิตสิ งั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
ดูแลประชาชนอันมีมากมายเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับอ�ำเภอท�ำให้การพิสูจน์และ รับรองสิทธิในสัญชาติแก่คนไทยพลัดถิ่นเป็นไปอย่างล่าช้าซึ่งปัญหาดังกล่าวน�ำไป สกู่ ารทำ� บนั ทกึ ขอ้ ตกลงเพอ่ื สรา้ งความรว่ มมอื ระหวา่ งหนว่ ยงานภาครฐั ภาคองคก์ ร วิชาการ และภาคประชาสังคมเพื่อเป็นหน่ึงในแนวทางการบรรเทาปัญหาความ ล่าช้าในกระบวนการทพ่ี งึ ไดร้ ับการพจิ ารณา อาจกลา่ วไดว้ า่ ภาคคี วามตกลงแตล่ ะฝา่ ยสามารถใชข้ อ้ ดขี องตนเองเขา้ มา เสรมิ การทำ� งานใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ โดยภาคภี าครฐั ถอื เปน็ ผทู้ ม่ี อี ำ� นาจตาม กฎหมายในการด�ำเนนิ การพสิ ูจนแ์ ละรบั รองความเป็นคนไทยพลดั ถน่ิ ขณะท่ีภาค องค์กรวิชาการก็มีองค์ความรู้ทางวิชาการและมีนิสิตนักศึกษาจิตอาสาท่ีพร้อมจะ เขา้ มาชว่ ยสนบั สนนุ การทำ� งานของเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั สว่ นภาคภี าคประชาสงั คมกม็ เี ครอื ขา่ ยตดิ ตอ่ สมั พนั ธก์ บั กลมุ่ ประชากรคนไทยพลดั ถนิ่ ทสี่ ามารถนำ� ผทู้ ม่ี คี ณุ สมบตั ติ าม กฎหมายมาเขา้ กระบวนการเพอื่ รบั การรบั รองสญั ชาตไิ ดพ้ รอ้ มกนั เปน็ จำ� นวนมาก แตอ่ ยา่ งไรกด็ แี มว้ า่ บนั ทกึ ขอ้ ตกลงฉบบั ดงั กลา่ วจะเปน็ นวตั กรรมใหมข่ อง การสรา้ งความรว่ มมือระหวา่ งรฐั ภาควิชาการและองค์กรภาคประชาสังคม แตใ่ น ทางปฏิบัติกลับพบว่ายังมีปัญหาในเร่ืองความไม่มีเอกภาพของตัวเอกสารในเรื่อง การรบั รองและพสิ จู นส์ ญั ชาตโิ ดยในแตล่ ะพนื้ ทจี่ ะกำ� หนดรายละเอยี ดของเอกสาร ที่แตกต่างกันประกอบกับเจตคติของเจ้าหน้าภาครัฐที่ยังคงให้ความส�ำคัญกับ ประเด็นในเรื่องความมั่นคงส่งผลให้บันทึกข้อตกลงฉบับดังกล่าวอาจไม่สามารถ ตอบสนองกบั วตั ถปุ ระสงคแ์ ละเจตนารมณท์ แ่ี ทจ้ รงิ ในการสง่ เสรมิ การบงั คบั ใชพ้ ระ ราชบญั ญัตสิ ัญชาติ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2555 ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ คณะผเู้ ขยี นเชอื่ วา่ การทำ� งานภายใตค้ วามรว่ มมอื ของทกุ ภาคสว่ นในสงั คม ในลกั ษณะเดยี วกับการท�ำบนั ทกึ ความตกลงท่กี ลา่ วถงึ ในบทความชิ้นน้ี ถอื เปน็ จุด เริม่ ต้นทส่ี ำ� คญั ที่สามารถน�ำไปประยุกต์ใช้กบั การแก้ไขปัญหาสทิ ธใิ นสถานะบคุ คล ในประเดน็ อน่ื ๆ ไดเ้ ชน่ กนั อกี ทงั้ ยงั เกดิ ประโยชนไ์ มเ่ พยี งตอ่ กลมุ่ ประชากรทป่ี ระสบ เข้านอก ออกใน 129
ปัญหาสิทธิในสถานะบุคคลเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อภาคีทุกฝ่ายท่ีเข้ามา ท�ำงานร่วมกนั ด้วย 130 วารสารนติ สิ งั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ปที ่ี 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
บรรณานกุ รม ภาษาไทย การพสิ ูจน์ความเป็นคนไทยพลดั ถ่นิ ตาม พ.ร.บ. สัญชาติฉบบั ท่ี 5 พ.ศ.2555. 20 มิถนุ ายน 2559 จากhttp://chumchonthai.or.th/node/326 กฤตยา อาชวนจิ กุล. (2554). การจดั การระบบคนไรร้ ัฐในบริบทประเทศไทย. สถาบันวิจยั ประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหดิ ล น.104. จตรุ นต์ ถริ ะวตั น์. (2555). กฎหมายระหวา่ งประเทศ. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 3 กรุงเทพฯ, วิญญูชน. อานนท์ ศรบี ญุ โรจน.์ “สถานะของปัจเจกชนในบริบทกฎหมายระหวา่ งประเทศ สมัยใหม่” ในบทบัณฑติ ย.์ เลม่ ท่ี 68 ตอน 3. กันยายน 2555, น.78. Saovanee Kaewjullakarn and Arnon Sriboonroj, “How does human rights function properly to the forgotten group (Rohingyas)?”ใน วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทาลัยทักษิณ. ปที ่ี 5 ฉบับท่ี 7. มกราคม-ธันวาคม 2558, น.85. คนไทยพลัดถ่ิน” ชะตากรรมทตี่ นองไมไ่ ดก้ อ่ ต้นตอปญั หาเกิด จากรฐั ไทยหรอื พมา่ หรอื นกั ล่าอาณานคิ ม!? (จบ) 27 มิถุนายนจาก http://prachatai. com/journal/2007/10/14657 คืนสัญชาติ คนื ศกั ดิศ์ รี คนื มาตุภมู ิ 12 คนไทยพลัดถน่ิ 18 มิถุนายน 2559 จาก http://transbordernews.in.th/home/?p=7082 รายงานวิเคราะห์ผลการปฏิบัติงานลงพ้ืนท่ีของนิสิต มหาวิทยาลัยทักษิณ ภายใต้ “โครงการช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสที่มีปัญหาเกี่ยวกับ สถานะบคุ คล (คนไทยพลดั ถน่ิ ) ระหวา่ งวนั ที่ 30 เมษายน – 3 พฤษภาคม 2559. เข้านอก ออกใน 131
วรรธิดา เมืองแก้ว. (2558). “ปัญหาและอุปสรรคของการน�ำนโยบายไปปฏิบัติ ตามพระราชบัญญตั ิสญั ชาติไทย. (ฉบบั ท่ี 5).พ.ศ. 2555 : กรณีศกึ ษาคน ไทยพลดั ถนิ่ จังหวดั ระนองและจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์” วิทยานพิ นธ์รัฐ ประศาสนศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชารฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์. ฐิรวฒุ ิ เสนาคำ� . “ไทยพลัดถ่ินในและจากมณฑลตะนาวศรีกบั ปญั หารัฐ-ชาติ” เอกสารประกอบการสัมมนาทางวชิ าการ (ทกั ษณิ วิชาการ 51) ระหวา่ ง วันที่ 15-16 สิงหาคม 2551 สถาบนั ทกั ษณิ คดี มหาวิทยาลัยทกั ษณิ . กฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ ง กฎกระทรวงพิสูจน์และรบั รองความเป็นคนไทยพลดั ถิ่น พ.ศ.2555 ประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ืองค�ำขอพิสูจน์และรับรองความเป็นคนไทย พลดั ถ่นิ ใบรบั และหนงั สอื รับรองความเป็นคนไทยพลัดถนิ่ แบบคำ� ขอพิสูจน์ความเป็นคนไทยพลัดถ่ินตามพระราชบัญญตั สิ ัญชาติ พ.ศ.2508 พระราชบญั ญัติสญั ชาติ (ฉบบั ที่5)พ.ศ.2555 ภาษาอังกฤษ Arisne Kupfeman-Sutthavong. (2016). Stateless fight for Thai identity. June 25 2016.Retrived from http://www.bangkok- post.com/print/903200/ United Nation High Commission for Refugees (UNHCR) (2014). Global 2014-24 Action Plan to End Statelessness. Retrieved 132 วารสารนิตสิ งั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปที ่ี 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
June 25 2016 from http://www.refworld.org/docid/545b47d64. html United Nation High Commission for Refugees (UNHCR). Legal and Protection Policy Research Series UNHCR and De Facto Statelessness. p.I. 20 June 2016 Retrieved from http://www. unhcr.org/4bc2ddeb9.pdf United Nations Human Rights Office of the High Commission. Rights to Nationality and Statelessness. 25 June 2016 retrieved from http://www.ohchr.org/EN/Issues/Pages/Nation- ality.aspx. เข้านอก ออกใน 133
บรรณานกุ รมภาษาไทยท่ีแปลเป็นภาษาอังกฤษ Analyzing Report of the actual survey of Thaksin University’s students under the the project so called Providing Legal Aid for Thai Displaced Persons between 30 April to 3 May 2016. ( in Thai) Archavanikul, K. ( 2011 ). Towards Managing Stateless People in Thai- land’s Context. Journal of institute for population and social research of Mahidol University. 104 ( in Thai) Kaewjullakarn, S. and Sriboonroj, A. (2014) How do human rights function properly of the forgotten group (Rohingya). Legal journal of faculty of law Thaksin University. 5(7). 85 (in Thai) Mauagkaew, W. (2015). The Problems and Impediments in the Implementation of Nationality Act (No.5) B.E. 2555 (2012) A case Study of Stateless Thais in Ranong and Prachuap Khiri Khan Provinces. A Minor Thesis for the Degree of Master of Public Administration in Public Admistration Prince of Songkhla Univerisity. (in Thai) Ministerial regulations of verification and recogizaiton of Thai displaced persons B.E. 2555 (2012) Nationality Act. B.E. 2508 (1965) latest amend B.E. 2555( 2012 ) Senakam, T.( 2008 ) Thai Diaspora and Limitations of Nation-State knowledge in Thai society. Academic seminar of the Institute for Southern Thai Studies of Thaksin University on 15-16 August 2008,1-39 ( in Thai) 134 วารสารนิติสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ปที ่ี 9 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
Sriboonroj, A. ( 2012 ). Status of Individual under the context of mod- ern International law. Bot Bundit- law journal of the Thai bar 68 (3) 78. ( in Thai) Thai displaced person the karma that caused by others the source of problem from Thailand to Myanmar or state colonialism” (end) Retrieved October ,30 2007 http://prachatai.com/ Journal/2007/10/14657 (in Thai) The application for nationality verification of Thai displaced person under Nationality Act. B.E. 2508 (1965) The declaration of Ministry of interior entitled the request of verifica- tion and recogizaiton of Thai displaced persons Thirawat, J. ( 2012 ). International law in context. Bangkok : Winyoochon Printing House. ( in Thai ) เข้านอก ออกใน 135
คนนอกอยากเข้า กิตวิ รญา รัตนมณ1ี บทคัดย่อ1 บทความฉบับนม้ี ีความม่งุ หมายทีจ่ ะแสวงหาคำ� ตอบ 4 ประการ เกยี่ วกบั คนตา่ งดา้ วทเ่ี คลอ่ื นยา้ ยถนิ่ ฐาน หรอื อพยพขา้ มแดนเขา้ มาอาศยั อยใู่ นประเทศไทย กลา่ วคอื ประการแรก ใครบา้ งเปน็ คนตา่ งดา้ วทอี่ ยากเขา้ มาอาศยั ในประเทศไทย? ประการท่สี อง เพราะเหตุใดคนต่างด้าวกลุ่มนี้จึงเข้ามาในประเทศไทย? ประการท่ี สาม คนต่างด้าวเหล่าน้ีมีความหวังและความฝันในการใช้ชีวิตอย่างไร? มีความ กลมกลืนกับรัฐไทยแค่ไหน? และ ประการสดุ ท้าย ประเทศไทยมีกฎหมายรวมถึง นโยบายทจี่ ะทำ� ใหค้ นกลมุ่ นมี้ สี ทิ ธใิ นสญั ชาตไิ ทยไดอ้ ยา่ งไร? โดยศกึ ษาจาก 6 กรณี ศึกษา ค�ำสำ� คญั : คนตา่ งดา้ ว; การขา้ มแดน; คนชายขอบ; การแปลงสัญชาต;ิ สัญชาติ ไทย 1 อาจารยป์ ระจำ� คณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร 65000. E-mail : [email protected] 136 วารสารนิติสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ปที ี่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
From Aliens to Thai Citizenship Kitiwaraya Rattanamanee2 Abstract2 This paper aims to seek answers for four questions regarding aliens or immigrants who came to live in Thailand. Firstly, according to Thai’s laws, who are the aliens? Secondly, why do they want to enter and live in Thailand? Thirdly, what are their hope and dream in life? Are those in harmony with Thai State? Finally, how could Thai’s laws and policies could help in granting citizenship to such aliens? The answers to these questions are based on six case studies which represent aliens in Thailand. Keywords: Alien; Migration; Marginal People; Naturalization; Thai nationality 2 Lecturer, Faculty of Law Naresuan University 65000. E-mail : [email protected] เขา้ นอก ออกใน 137
บทน�ำ คุณเคยก้าวออกจากบ้านโดยปราศจากกระเป๋าสตางค์ บัตรประจ�ำตัว ประชาชน หรือหนังสือเดินทางหรือไม่? คุณรู้หรือไม่ ส�ำหรับบางคนการมีบัตร ประจำ� ตวั ประชาชนสกั ใบกลบั สำ� คญั กวา่ การมเี งนิ ในกระเปา๋ สตางค!์ ! หลายคนยอม เดินทางขา้ มป่าข้ามเขา ข้ามนำ้� ข้ามทะเลมาหลายร้อยกิโลเมตร ยอมเสยี่ งท่จี ะถกู ต�ำรวจจับ ยอมเป็นมนุษย์ล่องหนในสายตาของกฎหมาย3 ยอมจ่ายเงินหลายพัน บาทหลายหมนื่ บาท4 เพื่อให้ไดม้ าซึ่งบตั รประชาชนเพยี งใบเดยี ว เพื่อให้ไดใ้ ช้ชวี ิต อยู่ในประเทศไทยแบบคนสัญชาติไทย คนเหล่านี้อาจอยู่ใกล้ตัวคุณจนคาดไม่ถึง ลองสงั เกตผคู้ นรอบๆ ตวั ตง้ั แตแ่ มบ่ า้ นทบี่ า้ น ลกู จา้ งในรา้ นอาหาร คนขายโรตหี นา้ หมบู่ า้ น เพือ่ นนกั เรียน เพอ่ื นร่วมงาน เจ้านาย-นายจา้ ง หรอื แมแ้ ต่พอ่ แม่ ปู่ ยา่ ตา ยาย ของคณุ เอง อยากทราบหรอื ไม่ เหตใุ ดเขาจงึ เขา้ มาในประเทศไทย? เขาคดิ อะไรอยู่? เขามีความหวังและความฝันในการใช้ชีวิตอย่างไร? และประเทศไทยมี กฎหมายรวมถงึ นโยบายทจี่ ะทำ� ใหค้ นเหลา่ นม้ี สี ทิ ธใิ นสญั ชาตไิ ทยมสี ถานะเปน็ คน ไทยเต็มข้ันได้อย่างไร? 1. คนต่างดา้ วที่เข้ามาอาศยั อยู่ในประเทศไทยมใี ครบา้ ง ? หากดูจากสภาพทางภูมิศาสตร์ในปัจจุบันจะพบว่าประเทศไทยตั้งอยู่ใน ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ มอี าณาเขตดา้ นทศิ เหนอื ตดิ ตอ่ กบั สหภาพเมยี นมา (เมยี นมา) และสาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ทิศใต้ตดิ ตอ่ กับสหพนั ธรัฐ 3 อายุ โพ นามเทพ, อายุ (โพ) นามเทพ : คนไร้รฐั และมนุษย์ลอ่ งหน, http://www.archan- well.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=230&d_id=229 (สืบค้นเมื่อ 30 กรกฎาคม 2559) 4 จากการสัมภาษณ์นายยอดรัก กรณีศึกษาภายใต้โครงการบางกอกคลินิก คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ทางโทรศพั ท์เมอ่ื เดอื นมีนาคม พ.ศ. 2549 138 วารสารนติ ิสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ ปที ี่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
มาเลเซีย ทศิ ตะวนั ออกตดิ ต่อกบั สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชนลาว และราช อาณาจักรกัมพูชา และทิศตะวันตกติดต่อกับสหภาพเมียนมา ด้วยลักษณะทาง ภูมิศาสตร์ภายหลังการสถาปนารัฐสมัยใหม่ก่อให้เกิดการแบ่งเขตแดนมีความเป็น “ชายแดน” “ชายขอบ” “คนใน หรือ คนสัญชาติไทย” และ “คนนอก หรือ คน ต่างดา้ ว (Alien)” ชดั เจนยงิ่ ข้นึ พบวา่ มกี ารเคลอื่ นยา้ ยขา้ มแดนทง้ั ของคนสญั ชาตไิ ทยและคนตา่ งดา้ ว ซงึ่ มคี วามแตกตา่ งทางเชอื้ ชาต/ิ ชาตพิ นั ธ์ุ ภาษา ศาสนา รวมถงึ วฒั นธรรม โดยเฉพาะ บริเวณจังหวัดชายแดน เช่น เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี อุบลราชธานี หนองคาย มุกดาหาร ตราด สงขลา ยะลา เป็นต้น5 โดยสามารถ จำ� แนกสถานะบคุ คลของคนตา่ งดา้ วทอ่ี าศยั อยใู่ นประเทศไทยตามกฎหมายวา่ ดว้ ย คนเขา้ เมอื ง6 เปน็ 3 กลุ่ม ดงั นี้ (1) คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งถกู กฎหมาย คนตา่ งดา้ วกลมุ่ นเี้ ปน็ คนเขา้ เมอื งโดย แท้ซ่ึงเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมืองโดยมี หนังสือเดินทาง (Passport) หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง (เช่น Travel Document for Alien -TD, Certificate of Identity –C.I, Border Pass) และ ผ่านการตรวจลงตราตามวิธกี ารและหลักเกณฑ์ทก่ี ฎหมายก�ำหนด7 5 ขอ้ มลู คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งทเ่ี ดนิ ทางผา่ นจดุ ผา่ นแดนเขา้ มาในราชอาณาจกั รโดยถกู กฎหมาย จากส�ำนักงานตรวจคนเข้าเมอื ง ทม่ี า: http://www.immigration.go.th/nov2004/base. php?page=stat (สืบค้นเมอ่ื 30 กรกฎาคม 2559) 6 ผเู้ ขยี นรวบรวมขอ้ มลู จากการสอบขอ้ เทจ็ จรงิ ของกรณศี กึ ษาทเ่ี คยเขา้ มาขอคำ� ปรกึ ษาระหวา่ ง ปี 2549-2552 ภายใต้โครงการบางกอกคลนิ ิกเพ่ือคำ� ปรกึ ษากฎหมายดา้ นสถานะและสิทธิ บุคคล ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนศาสตราจารย์คนึง ฦาไชย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และระหว่างปี 2553-ปัจจุบัน ภายใต้โครงการคลินิกกฎหมาย นเรศวรเพ่อื สิทธิมนษุ ยชน คณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร 7 เงอื่ นไขในการเขา้ เมอื งเปน็ ไปตามบทบญั ญตั มิ าตรา 12, 13, 15 และ 17 แหง่ พระราชบญั ญตั ิ คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 เขา้ นอก ออกใน 139
เม่ือพิจารณาจากสถานะบุคคลตามกฎหมายสัญชาติสามารถจ�ำแนกคน ตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งถกู กฎหมายเปน็ 3 กลมุ่ คอื หนง่ึ คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งถกู กฎหมาย ท่ีมสี ญั ชาตขิ องรฐั ใดรัฐหน่งึ เพยี งรัฐเดยี ว (ได้แก่ กรณีนายบุญยนื 8, กรณีนายยอด รกั 9-เมอื่ ผา่ นการพสิ จู นส์ ญั ชาตเิ มยี นมาแลว้ ) สอง คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งถกู กฎหมาย ที่มหี ลายสญั ชาติ สาม คนตา่ งด้าวเขา้ เมืองถกู กฎหมายแตไ่ ร้สญั ชาติ (2) คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งผดิ กฎหมาย คนตา่ งดา้ วกลมุ่ นเี้ ปน็ คนเขา้ เมอื งโดย แท้ซ่ึงเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง ไม่มี หนงั สอื เดนิ ทางหรอื เอกสารใชแ้ ทนหนงั สอื เดนิ ทาง และไมไ่ ดผ้ า่ นการตรวจลงตรา ตามวธิ ีการและหลกั เกณฑ์ท่กี ฎหมายก�ำหนด เม่ือพิจารณาจากสถานะบุคคลตามกฎหมายสัญชาติสามารถจ�ำแนกคน ตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งผดิ กฎหมายเปน็ 3 กลมุ่ คอื หนงึ่ คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งผดิ กฎหมาย ที่มีสัญชาติของรัฐใดรัฐหน่ึงเพียงรัฐเดียว (ได้แก่ กรณีนางสาวราณี10) สอง คน ตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งผดิ กฎหมายทมี่ หี ลายสญั ชาติ สาม คนตา่ งดา้ วเขา้ เมอื งผดิ กฎหมาย และไรส้ ญั ชาติ (nationality-less) (ไดแ้ ก่ กรณนี างอายุ นามเทพ11, กรณนี ายกอบี 8 กรณีศึกษาภายใตโ้ ครงการบางกอกคลินกิ คณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ซ่ึงเขา้ มาหารอื รศ.ดร.พนั ธท์ุ พิ ย์ กาญจนะจติ รา สายสนุ ทร อาจารยป์ ระจำ� ภาควชิ ากฎหมายระหวา่ ง ประเทศ คณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ต้ังแต่ พ.ศ.2548 9 กรณศี ึกษาภายใตโ้ ครงการบางกอกคลนิ กิ คณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึง่ เข้า มาหารอื รศ.ดร.พนั ธท์ุ พิ ย์ กาญจนะจติ รา สายสนุ ทร อาจารยป์ ระจำ� ภาควชิ ากฎหมายระหวา่ ง ประเทศ คณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ตงั้ แต่ พ.ศ.2549 10 กรณีศึกษาภายใต้โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซง่ึ เข้ามาหารือตง้ั แตเ่ ดอื นกรกฎาคม พ.ศ.2559 11 อดตี อาจารยว์ ทิ ยาลยั ดรุ ยิ ศลิ ป์ มหาวทิ ยาลยั พายพั กรณศี กึ ษาภายใตโ้ ครงการบางกอกคลนิ กิ คณะนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซ่งึ เข้ามาหารอื รศ.ดร.พันธุ์ทพิ ย์ กาญจนะจติ รา สายสุนทร อาจารยป์ ระจ�ำภาควชิ ากฎหมายระหวา่ งประเทศ คณะนติ ิศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ต้งั แต่เดือนมิถุนายน พ.ศ.2548 140 วารสารนติ ิสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
รามดั 12,กรณนี างสันที หรอื นางแสนถ1ี 3) (3) คนต่างด้าวซ่ึงเกิดในประเทศไทยแต่ถูกถือว่าเป็นคนต่างด้าวเข้าเมือง ผดิ กฎหมาย14 คนตา่ งดา้ วกลมุ่ นเ้ี กดิ ในประเทศไทยตงั้ แต่ 26 กมุ ภาพนั ธ์ 2535 โดย ขณะท่ีเกิดบิดาหรือมารดาเป็นคนต่างด้าวที่ได้รับการผ่อนผันให้อาศัยอยู่ในราช อาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย หรือได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในราชอาณาจักร เปน็ การช่ัวคราว หรอื เขา้ มาในราชอาณาจกั รโดยไมไ่ ด้รบั อนุญาตตามกฎหมายวา่ ดว้ ยคนเข้าเมือง15 อย่างไรก็ดีบทความฉบับนี้ผู้เขียนมุ่งศึกษาเฉพาะกลุ่มบุคคลต่างด้าว เข้าเมืองถูกกฎหมายและคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมายท่ีมีปัญหาสถานะบุคคล ตามกฎหมายสัญชาติ 2 กลุ่ม เท่านั้น คือ กลุ่มหน่ึง คนต่างด้าวไร้สัญชาติ และ กลมุ่ สอง คนตา่ งดา้ วทม่ี สี ญั ชาตขิ องรฐั ตา่ งประเทศแตม่ จี ดุ เกาะเกยี่ วเขม้ ขน้ กบั ไทย จึงประสบปัญหาการใช้สิทธิในสัญชาติ หรือ “คนต่างด้าวเสมือนไร้สัญชาติ” ซึ่งผ้เู ขยี นจะได้กลา่ วต่อไป 12 กรณีศึกษาภายใต้โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสิทธิมนุษยชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ซงึ่ เขา้ มาหารือตัง้ แต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2559 13 กรณศี ึกษาภายใตโ้ ครงการบางกอกคลนิ กิ คณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ ซึง่ เขา้ มาหารอื รศ.ดร.พนั ธท์ุ พิ ย์ กาญจนะจติ รา สายสนุ ทร อาจารยป์ ระจำ� ภาควชิ ากฎหมายระหวา่ ง ประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ต้งั แต่ พ.ศ.2549 14 เปน็ ไปตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสาม แห่งพระราชบญั ญัตสิ ญั ชาติ พ.ศ.2508 ซง่ึ แก้ไขเพ่มิ เติม โดย พระราชบญั ญัตสิ ัญชาติ(ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2535 และพระราชบญั ญตั ิสญั ชาต(ิ ฉบับท่ี 4) พ.ศ.2551 15 บตุ รของบคุ คลซง่ึ เขา้ มาในราชอาณาจกั รโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตตามกฎหมายวา่ ดว้ ยคนเขา้ เมอื ง เช่น บคุ คลตามมตคิ ณะรัฐมนตรเี ม่อื วนั ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 เร่ืองการดำ� เนินงานตาม ยทุ ธศาสตรก์ ารจดั การปญั หาสถานะและสทิ ธขิ องบคุ คล ซงึ่ อาศยั อำ� นาจตามมาตรา 17 แหง่ พระราชบญั ญตั คิ นเขา้ เมอื ง พ.ศ.2522 เพอื่ อนญุ าตใหบ้ คุ คลทม่ี ปี ญั หาสถานะและสทิ ธอิ าศยั อยู่ในประเทศไทยเป็นการชัว่ คราวระหวา่ งรอการพจิ ารณาก�ำหนดสถานะบคุ คล เข้านอก ออกใน 141
กลมุ่ หนงึ่ คนตา่ งดา้ วไรส้ ญั ชาติ คอื คนตา่ งดา้ วทไ่ี มม่ สี ญั ชาตขิ องรฐั ใดเลย ในโลก (nationality-less)16 แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าบุคคลกลุ่มน้ีมีจุดเกาะเก่ียว แท้จริง (real connecting point / genuine link) ภายหลังการเกดิ กบั รฐั ไทย เพราะ (1) อาศัยและตั้งบ้านเรือนอยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด, (2) ประกอบ อาชพี ในประเทศไทย, (3) มที รัพย์สนิ อยใู่ นประเทศไทย, (4) กอ่ ตงั้ ครอบครวั กบั บุคคลสัญชาติไทย และ (5) มีสมาชิกในครอบครัวเป็นคนสัญชาติไทย เป็นต้น ตวั อยา่ งของคนต่างดา้ วกลมุ่ น้ี ไดแ้ ก่ นางสันที หรือนางแสนถี, นางอายุ นามเทพ และ นายกอบีรามดั (นามสมมตุ ิ) กลุ่มสอง คนต่างด้าวเสมือนไร้สัญชาติ คือ คนต่างด้าวท่ีมีรัฐเจ้าของตัว บุคคล (personal state) อาจมีสัญชาติของรัฐใดรัฐหน่ึงหรือมีสัญชาติของรัฐ มากกว่า 1 รัฐ และสัญชาติที่มีนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลน้ันเน่ืองจาก บุคคลนั้นไม่ได้มีจุดเกาะเกี่ยวท่ีแท้จริงกับรัฐเจ้าของสัญชาติแต่มีจุดเกาะเก่ียว ทแี่ ทจ้ รงิ กบั รฐั ไทยเพราะ (1) อาศยั และตงั้ บา้ นเรอื นอยใู่ นประเทศไทยมาโดยตลอด, (2) ประกอบอาชีพในประเทศไทย, (3) มที รพั ยส์ ินอยใู่ นประเทศไทย, (4) กอ่ ตั้ง ครอบครวั กบั บคุ คลสญั ชาตไิ ทย และ (5) มสี มาชกิ ในครอบครวั เปน็ คนสญั ชาตไิ ทย เป็นตน้ ตัวอย่างของคนตา่ งดา้ วกลมุ่ นี้ ไดแ้ ก่ กรณีนายบุญยืน (นามสมมตุ ิ), กรณี นายยอดรัก (นามสมมตุ ิ), กรณีนางสาวราณี (นามสมมุติ) จากการศึกษาข้อเท็จจริงผ่านค�ำบอกเล่าของกรณีศึกษาทั้ง 6 ชีวิต ต่าง ชว่ งเวลาตา่ งสถานที่ พบวา่ มหี ลายปจั จยั ทส่ี ง่ ผลให้ “คนตา่ งดา้ ว” หรอื “คนนอก” เหลา่ นต้ี อ้ งเดนิ ทางเขา้ มาอาศยั อยใู่ นประเทศไทยซงึ่ ผเู้ ขยี นจะกลา่ วถงึ สถานการณ์ ขอ้ เทจ็ จรงิ เกย่ี วกบั ประวตั คิ วามเปน็ มารวมถงึ มลู เหตเุ บอื้ งตน้ ในการเขา้ มาอาศยั ใน ประเทศไทยของ “คนต่างด้าวไร้สัญชาติ” และ “คนต่างด้าวเสมือนไร้สัญชาติ” 16 พันธ์ุทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสนุ ทร, ความเปน็ คนไรร้ ัฐและคนไร้สญั ชาตใิ นประเทศไทย : คืออะไร ? และควรจัดการอย่างไร ?, บทความเพ่ือหนังสือที่ระลึกวันรพี 2547 ของคณะ นติ ศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 29 กรกฎาคม 2547 http://www.archanwell.org/ office/download.php?id=402&file=376.pdf&fol=2 (สืบค้นเมอ่ื 30 กรกฎาคม 2559) 142 วารสารนติ สิ งั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ปที ี่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2559)
ดงั ต่อไปน้ี 1.1 คนต่างด้าวไรส้ ัญชาติ กรณนี างสันที หรือนางแสนถ1ี 7 “ฉันเป็นคนมอญ อยู่ทวาย เข้ามานานแล้วจ้า มาต้ังแต่รุ่นๆ อายุ 16-17 เดินเทา้ เขา้ มาทางด่านเจดยี ์สามองค์ ตอนน้นั เดนิ กัน 3 วนั กบั อกี 3 คนื ฉนั อยทู่ โ่ี นน่ ไมไ่ ดจ้ รงิ นะ เคา้ มกี ารรบกนั เคา้ ยดึ ทนี่ า ท่ี สวนของฉนั ไม่ร้จู ะทำ� อะไรกนิ เลยตอ้ งหนีออกมา ทงิ้ บ้านท้งิ สวน มาหางานทำ� เอาขา้ งหนา้ สมยั นน้ั ทบี่ า้ นจดั วา่ รวยนะมกี นิ มใี ช้ พอฉนั มาอยู่ท่ที ุง่ กา้ งย่าง18นีต่ ้องรบั จ้างทำ� งานทกุ อยา่ ง ท�ำงานกันสองคน กบั สามีตวั เปน็ เกลียวเลย” นางสนั ทเี กดิ ทเี่ มอื งทวายในเมยี นมาเมอื่ ประมาณปี พ.ศ.2490 ถอื เปน็ คน รนุ่ แรกๆ ทอี่ พยพหนภี ัยความตายมาจากเมียนมา19 เน่อื งจากในช่วงปี พ.ศ.2505 มกี ารปราบปรามชนกลุ่มนอ้ ยและกลมุ่ ชาติพนั ธ์ตุ ่างๆ ในเมียนมา20 ในชว่ งน้นั คน มอญในหมบู่ า้ นเดยี วกบั นางสนั ทกี พ็ ากนั อพยพเขา้ มาประเทศไทย ในปี พ.ศ.2506 นางสนั ทจี งึ เดนิ ทางเขา้ มาในประเทศไทยพรอ้ มญาตโิ ดยการเดนิ เทา้ และพกั คา้ งแรม 17 ข้อมูลจากการรวบรวมข้อเท็จจริงโดยการสัมภาษณ์และการลงพื้นที่ภาคสนามระหว่างปี พ.ศ.2549-2557 ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโครงการบางกอกคลินิก คณะนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ และคณะอนกุ รรมการดา้ นสทิ ธแิ ละสถานะบคุ คลของผไู้ รส้ ญั ชาติ ไทยพลดั ถนิ่ ผูอ้ พยพ และชนพน้ื เมอื ง ในคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 18 หมู่บ้านทงุ่ ก้างยา่ ง ต�ำบลไทรโยค อ�ำเภอไทยโยค จังหวดั กาญจนบุรี 19 ดรณุ ี ไพศาลพาณชิ ยก์ ลุ . บนั ทกึ ถงึ ระหวา่ งทางการเปลย่ี นผา่ นจากความไรร้ ฐั ไรส้ ญั ชาติ ของ คนมอญอพยพสามรุ่นในรัฐไทย https://www.gotoknow.org/posts/469711 (สืบค้น เมื่อ 30 กรกฎาคม 2559) 20 พรพิมล ตรีโชติ, การต่างประเทศพม่า: ปฏิสัมพันธ์กับเพ่ือนบ้านและชนกลุ่มน้อย, หน่วย ปฏิบัติการวิจัยแม่โขงศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2551 (หน้า 126-137). เขา้ นอก ออกใน 143
ในปา่ ราว 2-3 วัน นางสนั ทเี ข้ามาโดยไมม่ ีหนงั สือเดนิ ทางหรือบตั รประจำ� ตวั ใดๆ จากเมียนมา เขา้ มาอาศัยท่ี อ.สงั ขละบรุ ี จ.กาญจนบรุ ี จนกระทั่งอยกู่ ินกับนาย สอนซึ่งเป็นคนมอญเหมือนกัน ทั้งสองคนมีบุตรรวม 8 คน21 บุตรทุกคนเกิดใน ประเทศไทยและมีสิทธิในสญั ชาติโดยหลักดนิ แดน22 นางสันทมี ีหลาน23 3 คน ทุก คนเกิดในประเทศไทยเช่นกัน หลานของนางสันทีมีสัญชาติไทยโดยหลักสืบสาย โลหติ เพราะบดิ าหรือมารดามีสัญชาติไทย กล่าวไดว้ ่าสมาชกิ ในครอบครัวทกุ คนมี สิทธิในสัญชาติไทยยกเว้นนางสันทีคนเดียวท่ีมีสถานะเป็นคนต่างด้าวไร้รัฐและ ไรส้ ัญชาติ นางสันทีไม่เหลือญาติพ่ีน้องในเมียนมาเพราะพ่ีชายอีกคนก็อพยพเข้ามา ในประเทศไทย นางสนั ทไี ม่เหลอื ทรพั ย์สินใดๆ ในเมยี นมา นางสันทีพดู ภาษาไทย และมอญได้แต่ไม่สามารถส่ือสารด้วยภาษาเมียนมาได้เลย นางสันทีไม่เคยหวังที่ จะเดินทางกลับไปใชช้ วี ิตในบา้ นเกิดท่เี มยี นมา 21 กิตวิ รญา รัตนมณ,ี กรณศี ึกษา : นางแสนถี (หรอื ป้าสนั ที) คนมอญไรส้ ัญชาตจิ ากทวาย ทม่ี ี จุดเกาะเก่ียวกับประเทศไทย https://www.gotoknow.org/posts/470819 (สืบค้นเม่ือ 30 กรกฎาคม 2559) 22 บุตรของนางสันทีเกิดในประเทศไทยแต่บุตรบางคนถูกถอนสัญชาติโดยผลของ ข้อ 1 แห่ง ประกาศของคณะปฏวิ ตั ทิ ี่ 337 ลงวนั ท่ี 14 ธนั วาคม 2515 ในขณะทบี่ ตุ รบางคนไมไ่ ดส้ ญั ชาติ ไทยโดยผลของ ข้อ 2 แห่งประกาศของคณะปฏิวัตทิ ่ี 337 ลงวนั ท่ี 14 ธันวาคม 2515 และ ต่อมาไดร้ ับการคนื สทิ ธใิ นสญั ชาติไทยโดยหลกั ดินแดน โดยผลของมาตรา 23 แห่งพระราช บัญญตั สิ ัญชาติ(ฉบับท่ี 4) พ.ศ.2551 โดยเมือ่ วันที่ 13 มนี าคม 2555 บุตรของนางแสนถที ี่ ยังมชี วี ติ อย่ทู ้ัง 5 คน ได้ยน่ื คำ� รอ้ งขอเพม่ิ ชอื่ ในทะเบียนบ้าน ทร.14 ณ สำ� นักทะเบียนอำ� เภอ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ในสถานะบุคคลสัญชาติไทยตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติ สัญชาติ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2551 และได้รับการอนุญาตให้เพ่ิมช่ือพร้อมถ่ายบัตรประจ�ำตัว ประชาชนเมือ่ ตน้ ปี พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา 23 พันธ์ุทพิ ย์ กาญจนะจติ รา สายสุนทร, รวมงานเขยี นเก่ยี วกบั กรณศี ึกษาเดก็ ชายวิษณุ บุญชา และครอบครวั : คนไรร้ ฐั ไรส้ ญั ชาติแหง่ สมทุ รปราการ http://www.archanwell.org/au- topage/show_page.php?t=2&s_id=64&d_id=57 (สบื ค้นเม่ือ 30 กรกฎาคม 2559) 144 วารสารนิติสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ปีท่ี 9 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
นางสันทีหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายร่วมกับลูกๆ และหลานๆ ใน ประเทศไทย กรณีนางอายุ นามเทพ “คุณเคยอย่ทู า่ มกลางคนหมู่มาก ยืนต่อหนา้ คนนบั พนั และ ยงั รูส้ ึก วา่ ตนเองเปน็ มนษุ ยล์ อ่ งหน ไมม่ ตี วั ตนหรอื ไม่ นน่ั แหละ คอื ตวั ฉนั ละ่ และถา้ บงั เอญิ คณุ กเ็ ปน็ อยา่ งทฉ่ี นั เปน็ อยู่ กอ็ ยา่ ไดห้ ยดุ เรยี กรอ้ ง สทิ ธิ การเป็นคนของคุณเลยนะ” 24 นางอายุมีชาติพันธุ์กะเหร่ียงเกิดเม่ือวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2498 ณ ปาพนั คอทเุ รย ์ บรเิ วณชายแดนของประเทศเมยี นมา เมอื่ ปี พ.ศ.2502 นางอายุ ได้อพยพตามบุพการีเพ่ือลี้ภัยทางการเมืองโดยการเดินเท้าจากเมียนมาเข้ามาใน ประเทศไทยเขา้ มาอาศยั ใน อ.แมส่ ะเรียง จ.แมฮ่ อ่ งสอน นางอายุและครอบครัวไม่ เคยมีบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางซ่ึงออกให้โดยรัฐบาลเมียนมา นางอายุ สมรสกบั ชายสัญชาติไทยและมบี ตุ รดว้ ยกัน 2 คน25 บุตรท้ังสองมสี ทิ ธิในสญั ชาติ ไทยโดยหลักสบื สายโลหิตตามบิดา เมือ่ พ.ศ.2550 นางอายไุ ด้รับการสำ� รวจและ จัดท�ำทะเบียนประวัติบุคคลท่ีไม่มีสถานะทางทะเบียน (ท.ร.38ก)26 โดยรัฐไทยมี 24 อา้ งแล้ว (เชงิ อรรถ 3) 25 พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร, กรณีอาจารย์อายุ นามเทพ : คนไร้รัฐท่ีเกิดนอก ประเทศไทยแต่ท�ำคุณประโยชน์อย่างสูงส่งต่อประเทศไทย กรณีศึกษาภายใต้โครงการวิจัย ผลกระทบของความไรร้ ัฐและความไรส้ ัญชาตขิ องเดก็ เยาวชน และครอบครัวในสงั คมไทย: การตรวจสอบปญั หาและแนวคดิ ในการแกไ้ ขปญั หา หรอื เรยี กโดยยอ่ วา่ “โครงการเดก็ ไรร้ ฐั ” ภายใต้ความร่วมมอื ระหว่างกองทนุ ศาสตราจารย์คนงึ ฦาไชย คณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย ธรรมศาสตร์ และมลู นธิ ิสาธารณสขุ แหง่ ชาติ รวบรวม เม่ือวนั เสารท์ ี่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2549 ปรบั ปรงุ ลา่ สดุ เมอ่ื วนั ท่ี 12 มกราคม พ.ศ.2553 http://www.archanwell.org/autopage/ show_page.php?t=2&s_id=55&d_id=56 (สบื คน้ เมือ่ 30 กรกฎาคม 2559) 26 ตามมาตรา 38 วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญัติการทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 ซึ่งแกไ้ ขเพิ่ม เตมิ โดยพระราชบญั ญตั กิ ารทะเบยี นราษฎร(ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2551 ประกอบกบั ระเบยี บสำ� นกั ทะเบียนกลางว่าด้วยการส�ำรวจและจัดท�ำทะเบียนส�ำหรับบุคคลท่ีไม่มีสถานะทางทะเบียน เข้านอก ออกใน 145
เลขประจ�ำตวั ประชาชน 13 หลัก ข้ึนตน้ ด้วย “0”27 นางอายจุ งึ มีสถานะเป็นคน ตา่ งดา้ วไร้สัญชาติแตไ่ ม่ไรร้ ัฐ นางอายุประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนดนตรีในมหาวิทยาลัยพายัพ ปัจจุบันเกษียณอายแุ ลว้ นางอายเุ คยสร้างช่ือเสยี งให้แกป่ ระเทศไทยในระดบั โลก หลายคร้ัง ท้ังในฐานะนักดนตรีและฐานะผู้ฝึกสอนนักร้องประสานเสียง ซ่ึงได้รับรางวัลในการแข่งขัน World Choir Games 2006 ณ เมืองซีเหมิน สาธารณรฐั ประชาธปิ ไตยประชาชนจนี , World Choir Games 2008 ณ กรงุ กราซ สาธารณรฐั ออสเตรยี 28 และลา่ สดุ World Choir Games 2012 ณ มลรฐั โอไฮโอ สหรฐั อเมรกิ า29 นางอายุไม่เหลือญาติพ่ีน้องในเมียนมาเพราะทุกคนอพยพเข้ามาใน ประเทศไทย ไมเ่ คยกลบั ไปเมยี นมา ไมม่ ที รพั ยส์ นิ ใดๆ ในเมยี นมา ไมเ่ คยคดิ จะกลบั ไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดทเ่ี มียนมา นางอายุหวังว่าอุทิศตนเพ่ืองานดนตรีที่รักในวิทยาลัยดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ เธอหวงั วา่ จะไดท้ �ำประโยชนแ์ ละสรา้ งช่ือเสยี งใหป้ ระเทศไทย อกี เร่อื ยๆ เพอื่ ตอบแทนบญุ คุณแกแ่ ผน่ ดนิ ซงึ่ ให้ท่พี กั พิงแก่ครอบครัว และหวังวา่ จะใช้ชวี ติ รว่ มกับญาติพ่นี อ้ งและลูกๆ ในประเทศไทย พ.ศ. 2548 ลงวันที่ 31 มนี าคม 2548 27 กิตวิ รญา รัตนมณ,ี คนต่างดา้ วในทะเบยี นราษฎรไทย, วิทยานิพนธ์ นติ ศิ าสตรมหาบณั ฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,2552 หนา้ 78. 28 ปุณฑวิชญ์ ฉัตรมงคลชาติ,กรณีศึกษา : อายุ นามเทพ, https://www.gotoknow.org/ posts/424605 (สบื คน้ เม่ือ 30 กรกฎาคม 2559) 29 คณะนกั ร้องประสานเสยี งวทิ ยาลัยดรุ ยิ ศลิ ป์ ม.พายัพ สร้างชือ่ คว้า 2 เหรียญเงนิ “World Choir Games 2012” เมอื งซินซเิ นติ ประเทศสหรัฐอเมริกา http://www.chiangmaic- itylife.com/news-archive/payap-choir-win-two-silver-medals/ (สืบค้นเม่ือ 30 กรกฎาคม 2559) 146 วารสารนติ สิ ังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
กรณนี ายกอบีรามดั (นามสมมุต)ิ 30 “ประเทศไทยเปน็ บา้ นของผม ผมเกดิ ในเมยี นมากจ็ รงิ แตผ่ มเตบิ โต ท่ีน่ี มคี รอบครวั ท่นี ่ี มลี กู ๆ สัญชาติไทย จะให้กลบั ไปเมยี นมาผมไม่ ไปหรอก จะใชช้ ีวิตทน่ี ่นั ไดอ้ ยา่ งไร” 31 นายกอบรี ามดั เกิดเม่อื พ.ศ.2495 ทีร่ ัฐอาระกัน ในเมียนมา เดินทางเข้า มาในประเทศไทยเมอ่ื พ.ศ.2514 เนอื่ งจากจบการศกึ ษาชนั้ ประถม 10 แตถ่ กู กดี กนั ไม่ให้เรียนต่อเพราะเป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลามประกอบกับปัญหา เศรษฐกิจเน่ืองจากทางบ้านมีฐานะยากจนจึงต้องด้ินรนหางานท�ำเพ่ือเลี้ยงตนเอง นายกอบีรามัดจงึ ท�ำงานเกบ็ เงนิ เป็นคา่ ใช้จา่ ยในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย โดยนง่ั เครอ่ื งบนิ จากอาระกนั มาลงทย่ี า่ งกงุ้ และนงั่ รถรบั จา้ งจากยา่ งกงุ้ มาถงึ บรเิ วณ ชายแดนใกล้ๆ ด่านวังผาและเดินเท้าเข้ามาในประเทศไทยทางด่านวังผา อ�ำเภอ แมส่ อด จงั หวดั ตาก และตง้ั รกรากประกอบการคา้ ขายพลอยทอี่ ำ� เภอแมส่ อดเรอ่ื ย มาจนถงึ ปจั จบุ นั โดยไมเ่ คยกลบั ไปหาญาตพิ น่ี อ้ งทปี่ ระเทศตน้ ทางเลยเปน็ เวลากวา่ 45 ปี ปัจจุบันนายกอบีรามัดมีใบส�ำคัญประจ�ำตัวคนต่างด้าว32 ใบส�ำคัญถ่ิน ทอ่ี ย3ู่ 3 ได้รบั การบนั ทกึ ในทะเบียนราษฎรคนอยู่ถาวร ท.ร.1434 ต้ังแต่ พ.ศ. 2552 มเี ลขประจ�ำตัวประชาชน 13 หลัก ข้ึนตน้ ดว้ ย “8” 30 ข้อมูลจากการรวบรวมข้อเท็จจริงระหว่างปี พ.ศ.2557-2559 โดยเป็นกรณีศึกษาภายใต้ โครงการคลินิกกฎหมายนเรศวรเพ่ือสทิ ธิมนุษยชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 31 จากการสมั ภาษณ์ เมอ่ื วนั ที่ 11 ตลุ าคม 2557 ณ ชมุ ชนมสุ ลมิ โรฮงิ ญา อำ� เภอแมส่ อด จงั หวดั ตาก ในกิจกรรมห้องเรียนสิทธิมนุษยชนเคลื่อนท่ี คร้ังที่ 7 ศึกษาสถานการณ์ด้านสถานะ บคุ คลและสทิ ธขิ องคนชายแดนในพน้ื ที่ อำ� เภออมุ้ ผาง และอำ� เภอแมส่ อด จงั หวดั ตาก ระหวา่ ง วนั ท่ี 4-11 ตลุ าคม 2557 ภายใต้โครงการคลนิ ิกกฎหมายนเรศวรเพื่อสทิ ธิมนษุ ยชน คณะ นติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร 32 พระราชบัญญัตกิ ารทะเบียนคนตา่ งด้าว พ.ศ.2493 33 พระราชบญั ญตั ิคนเขา้ เมอื ง พ.ศ.2522 34 มาตรา 36 แหง่ พระราชบัญญัติการทะเบยี นราษฎร พ.ศ.2534 เขา้ นอก ออกใน 147
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่านายกอบีรามัดจึงมีสถานะเป็นคนต่างด้าวไร้สัญชาติ แต่ไม่ไร้รฐั เพราะมรี ัฐไทยเปน็ รัฐเจ้าของตวั บคุ คลเช่นเดียวกบั นางอายุ นายกอบีรามัดมีบุตรซ่ึงเกิดในประเทศไทย 3 คน บุตรทั้งสามคน มีสิทธิสัญชาติไทยโดยการเกิดโดยหลักดินแดนตามมาตรา 7 ทวิ วรรคสองแห่ง พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508 ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ปัจจุบันบุตรทั้งสามคนได้สัญชาติไทยแล้ว บุตรชายคนโต ทำ� งานในบรษิ ทั เอกชนทก่ี รงุ เทพฯ สว่ นบตุ รสาวสองคนกำ� ลงั ศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา ในมหาวิทยาลัยนเรศวร นายกอบีรามัดไม่เคยกลับไปเมียนมาเลย ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ในเมียนมา ไมเ่ คยคิดจะกลับไปใช้ชวี ิตในเมยี นมา นายกอบีรามัดหวังว่าจะท�ำมาหากินและใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวในบ้าน หอ้ งแถวซง่ึ ตนซื้อไว้ใน อ.แม่สอด จ.ตาก ในประเทศไทย 1.2 คนต่างด้าวเสมือนไรส้ ญั ชาติ กรณนี ายบุญยนื สุขเสน่ห์ 35 36 37 “ผมเกิดมาเป็น “คนอเมริกัน”... ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ กลายเป็น “ฝรัง่ ”...ข้นึ เหนือ ก็เป็น “มะแกว๋ ”... แลว้ ผมจะตายเมื่อไร ผมก็ขอ ตายเป็น “คนไทย” สาธุๆๆ...” 38 35 ขอ้ มลู จากการรวบรวมข้อเท็จจรงิ ระหว่างปี พ.ศ.2549 - 2552 โดยเป็นกรณศี ึกษาภายใต้ โครงการบางกอกคลนิ กิ คณะนิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ 36 พันธทุ์ ิพย์ สายสนุ ทร. กรณีศึกษาครอบครวั สขุ เสน่ห์. https://www.gotoknow.org/posts/537195 (สืบคน้ เมอ่ื 30 กรกฎาคม 2559) 37 บุญยืน สุขเสน่ห์. 30 ปี ในประเทศไทยของครอบครัวสุขเสน่ห์ http://www.wungfon. com/index.php?option=com_content&view=article&id=783:2011-11-17-18-03- 09&catid=178:2011-07-05-02-33-10&Itemid=218 (สืบค้นเมอื่ 30 กรกฎาคม 2559) 38 บญุ ยนื สขุ เสนห่ .์ https://www.facebook.com/gene.long.712?fref=ts (สบื คน้ เมอ่ื 30 148 วารสารนิตสิ ังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ ปที ่ี 9 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2559)
นายบญุ ยืน เกิดและเติบโตในสหรฐั อเมริกา เป็นคนสญั ชาตอิ เมรกิ ัน เม่ือ พ.ศ.2521 ขณะอายไุ ดส้ ามสบิ กวา่ ปี ไดเ้ ดนิ ทางเขา้ มาในประเทศไทยทางเครอ่ื งบนิ โดยถอื หนงั สอื เดนิ ทางอเมรกิ นั ไดร้ บั วซี า่ 39 ใหเ้ ขา้ มาทำ� งานพฒั นาสงั คมโดยเปน็ มชิ ชันนารีสอนศาสนาควบคู่กับการพัฒนาชุมชนมลาบรีในพ้ืนที่อ�ำเภอร้องกวาง จงั หวดั แพร่ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ.252140 ตอ่ เนอ่ื งมาจนถงึ ปจั จบุ นั โดยไดร้ บั การเพมิ่ ชอ่ื ใน ทะเบยี นราษฎรคนอยชู่ ว่ั คราว ท.ร.1341 มเี ลขประจำ� ตวั ประชาชน 13 หลกั ขนึ้ ตน้ ด้วย “6” ตงั้ แตป่ ี พ.ศ.2546 แม้ว่านายบุญยืนจะไม่ไร้สัญชาติและยังมีญาติพ่ีน้องในสหรัฐอเมริกา แต่ นายบุญยืนและสมาชิกในครอบครัวใช้ชีวิตตั้งบ้านเรือนรวมถึงมีทรัพย์สินอยู่ใน ประเทศไทย ประกอบธรุ กจิ ในประเทศไทย จา่ ยภาษที ง้ั ทางตรงและทางออ้ มใหแ้ ก่ รฐั ไทย สง่ บตุ รเขา้ ศกึ ษาในสถาบนั การศกึ ษาในประเทศไทย บตุ รคนสดุ ทอ้ งชอ่ื ฟอง จนั ทร์ สขุ เสนห่ ์ เกดิ ในประเทศไทยและมสี ัญชาตไิ ทยโดยการเกิดโดยหลกั ดินแดน ตามมาตรา 23 แหง่ พระราชบญั ญตั สิ ญั ชาติ (ฉบับท่ี 4) พ.ศ.2551 นายบุญยืนจงึ เป็นบุคคลต่างด้าวท่ีมีสัญชาติของรัฐต่างประเทศแต่มีจุดเกาะเกี่ยวกับรัฐไทยภาย หลงั การเกดิ อยา่ งเขม้ ขน้ ดงั นน้ั การมสี ทิ ธริ วมถงึ การใชส้ ทิ ธใิ นสถานะบคุ คลสญั ชาติ อเมริกันจึงไมเ่ อ้ือประโยชน์ต่อการใช้ชวี ติ ในปัจจุบันของนายบญุ ยนื อาจกล่าวได้ วา่ นายบุญยืนย่อมตกอยู่ในสภาวะ “เสมอื นไรส้ ัญชาต”ิ กรกฎาคม 2559) 39 ตามมาตรา 34(5) ประกอบกับมาตรา 35(3) แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 กล่าวคอื ไดร้ บั อนุญาตใหเ้ ขา้ มาในราชอาณาจกั รเป็นการช่วั คราวเพอ่ื ประกอบธุรกจิ โดยได้ รับอนญุ าตใหอ้ ยู่ได้คราวละไม่เกิน 1 ปี 40 กิติวรญา รัตนมณี, คนต่างด้าวในทะเบียนราษฎรไทย, วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร,์ 2552 หน้า 13. 41 ตามมาตรา 38 วรรคหน่งึ แหง่ พระราชบญั ญตั ิการทะเบยี นราษฎร พ.ศ.2534 ซงึ่ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญัตกิ ารทะเบยี นราษฎร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 เขา้ นอก ออกใน 149
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231