Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานวิจัย-การศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ทางกฎหมายฯ - อ.ไพสิฐ

รายงานวิจัย-การศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ทางกฎหมายฯ - อ.ไพสิฐ

Published by E-books, 2021-03-02 04:03:19

Description: รายงานวิจัย-การศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ทางกฎหมายฯ-ไพสิฐ

Search

Read the Text Version

รายงานวิจยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนุนองคค์ วามรู้ เพอ่ื การพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนไร้บา้ น รหสั โครงการ 59-00124-05 จริง โดยเฉพาะในบ่อนการพนัน หรือ แผงขายสินค้าละเมิดลิขสิทธ์ิ ซ่ึงถ่ายทอดผ่านประสบการณ์การ จับบ่อนการพนันขนาดใหญ่ของเจ้าหน้าท่ีสายสืบดังกล่าว ซ่ึงได้พบวิธีการที่นายบ่อนใช้ในการจัดหาคน ติดคุกแทน คือเม่ือถูกเจ้าหน้าท่ีจับกุมน้ัน ในแต่ละบ่อนจะมี \"นักว่ิง\" คอยวิ่งเคลียร์กับเจ้าหน้าท่ี และ จัดหาคนมารับจ้างติดคุกแทนนักพนัน ท้ังเปล่ียนตัวผู้ต้องหา เปลี่ยนบัตรประจาตัวประชาชน โดย กระบวนการทั้งหมดต้องเรียบร้อยก่อนที่ร้อยเวรจะลงบันทึกประจาวัน นอกจากน้ันทีมล่าความจริงยัง ได้อ้างข้อมูลของมูลนิธิอิสรชน ท่ีช้ีให้เห็นว่ามีผู้มีส่วนร่วมในขบวนการรับจ้างติดคุก ประกอบด้วย ผู้กระทาผิดตัวจริง ผู้รับจ้าง และเจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีมีส่วนรู้เห็นตั้งแต่ช้ันจับกุมไปจนถึงข้ันตอนการส่ง ฟ้อง170 โดยในสกู๊ปข่าวดังกล่าว นที สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน ได้ให้ข้อมูลในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกบั คนไร้บ้านว่า อาชีพรับจ้างติดคุกนั้นมีคนเร่ร่อนเข้าไปอยู่ในขบวนการดังกล่าวจานวนไม่น้อย ส่วนใหญ่ เป็นคดีความที่เกิดในกรุงเทพมหานครหรือในเขตเมือง โดยมีการมาติดต่อให้ไปติดคุกแทนในคดีละเมิด ลิขสิทธิ์ เช่น การขายซีดีเถื่อน หรือคดีลักลอบเล่นการพนัน เมื่อมีการจับกุมผู้ค้าซีดีหรือนักพนันตัวจริง ก็จะมีการจัดหาคนเร่ร่อนมา \"สมอ้าง\" เป็นผู้กระทาผิด เพื่อรับโทษและติดคุกแทน โดยได้กล่าวว่า “เจ้าหน้าท่ีรัฐที่เกี่ยวข้องกับคดีพวกน้ีจะคุ้นชินกับคนเร่ร่อน จะมีการบอกกล่าวเจรจาให้มาติดคุกแทน เพราะคนที่ทาผิดตัวจริงไม่อยากให้ประวัติเสีย ก็จะมีการต่อรองหาคนมาติดคุกแทน ราคาอยู่ที่หลักพนั ตดิ คกุ 1-2 วนั แลว้ ก็เปรยี บเทยี บปรบั คนท่กี ระทาผิดตวั จริงเปน็ คนจ่ายเงิน แต่ไมต่ อ้ งเสียประวัติ\" โดย กลา่ วอีกว่า \"ค่าจา้ งของคนเรร่ ่อนท่ีไปติดคุกแทน เท่าทเี่ คยคุย ราคาอยทู่ ่ี 3-5 พันบาท เพราะเป็นคดีไม่ รา้ ยแรง คนทร่ี ับงานพวกน้ีไม่มขี าจร ส่วนใหญเ่ ป็นขาประจา เจ้าหนา้ ทเ่ี องก็ร้จู กั ดี\"171 สกู๊ปข่าวเรื่อง “รับจ้างติดคุก” อาชีพสะท้อนความเหล่ือมล้า กับช่องโหว่ของ กบก.ยุติธรรม” ของ ธนธรณ์ แซ่อึ้ง (2556)ได้นาเสนอกรณีคนไร้บ้านท่ีรับจ้างติดคุกแทนผู้กระทาความผิดตัวจริง 3 เหตุการณ์ คือ กรณีของ นายดา คนไร้บ้านคนแรก ท่ีรับจ้างติดคุกแทนในข้อหาจาหน่ายซีดีลามก อนาจาร ด้วยจานวนเงินเพียง 500 บาท ซ่ึงได้เปิดเผยข้ันตอนการรับจ้างติดคุกว่า ทุกครั้งจะมีคนข่ี จักรยานยนตร์มาตะโกนด้วยถ้อยคาวา่ “ซดี ีๆ ไปไหม” โดยเปน็ ถ้อยคาท่ีเข้าใจกันในกลุ่มผู้รบั จ้างติดคุก แทนว่ามีการจ้างให้ไปติดคุกในข้อหาขายซีดีลามกอนาจาร และเมื่อไปถึงร้านซีดี ผู้จ้างจะให้ถือถุงซีดวี ง่ิ บ้าง หรือบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็จัดหาซีดีไว้เป็นหลักฐานแล้ว หลังจากนั้นก็ไปท่ีสถานีตารวจและทาเร่ือง สอบพยานหลักฐานตามปกติ โดยนายดาเล่าว่า “พอไปถึงโรงพัก ผมก็รับสารภาพ ตารวจก็จะบันทึก ข้อมูลทุกอย่าง โดยใช้ช่ือ-นามสกุลจริง ตามบัตรประชาชน และจะติดคุก 1 คืน เพ่ือรอส่งตัวไปท่ีศาล พอขึ้นช้นั ศาล จะมีคนมาประกันตวั จากนน้ั เขาให้ค่าจา้ ง บางครง้ั ทห่ี นา้ ศาล บางครงั้ ก็ไปเอาทีร่ ้าน” คนไรบ้ ้านคนต่อมา เลา่ ว่าเคยได้รบั จ้างไปติดคุกในคดกี ารพนัน โดยมนี ายหน้าจากบ่อนมาเรียก ตัว เมือ่ ไปถงึ ทบี่ อ่ นแลว้ อปุ กรณท์ ใ่ี ช้เล่นพนนั ซงึ่ เปน็ หลกั ฐานการจบั กุมถกู จัดเตรียมไว้หมด เขามีหนา้ ท่ี ให้ร้อยเวรจดช่ือนามสกุลและไปโรงพัก โดยเจ้าของบ่อนจะให้เงินสดติดตัวไว้ เมื่อศาลตัดสินให้เสีย ค่าปรับก็จา่ ยคา่ ปรับเอง สว่ นเงินทเ่ี หลือกถ็ ือเปน็ คา่ จ้าง คร้งั ล่าสุดได้เงินมาจานวน 2,000 บาท โดยให้ เหตผุ ลในการกระทา ท่ีแม้จะถูกต้ังคาถามถงึ ความเส่ียงในกรณีท่ีถูกจับและไดร้ บั โทษนกั กว่าเดิมว่า ไม่มี ใครอยากทาเพราะมันเสี่ยง แต่ไม่ทาก็ไม่มีอะไรกิน และคนไร้บ้านคนสุดท้ายได้เล่าถึงประสบการณ์ท่ี 170 ทีมล่าความจริง. (2559). ผา่ ขบวนการ \"รับจา้ งตดิ คุก\". [ขอ้ มลู ออนไลน]์ แหลง่ ขอ้ มลู :http://www.now26.tv/view/94663 สบื คน้ วนั ท่ี 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2560 171 เพ่ิงอา้ ง 4 - 58

รายงานวจิ ัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพ่ือการพฒั นาคุณภาพชีวติ คนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 59-00124-05 ครั้งหนึ่งเคยไปรับจ้างติดคุกข้อหาขายซีดีลามกอนาจาร แต่กลับไม่มีใครมาเสียค่าปรับให้ จึงต้องติดคุก ประมาณ 20 วัน และถึงแม้ออกมาแล้ว เจ้าของร้านจะให้ค่าจ้าง 2,000 บาทก็ตาม แต่เขาก็ไม่คิดจะ ทาอกี โดยกล่าวว่า “แตเ่ หตุการณ์ครั้งน้ันทาให้ผมเขด็ และไม่ไปรบั จา้ งแบบน้ีอกี ”172 นอกจากนี้ สกู๊ปข่าวของ ธนธรณ์ แซ่อ้ึง ยังได้ให้ข้อมูลที่อ้างจากทัศนคติของบุคคลท่ีมีความรู้ และความเชีย่ วชาญในแง่มมุ ตา่ งๆ ดังน้ี นที สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน มองว่าการรับจ้างติดคุกเป็นหนทางหน่ึงของคนเร่ร่อนใน การหาเล้ียงชพี ให้อยู่รอด ซ่ึงแบ่งได้เป็น หน่ึง การรับจ้างเข้าไปอยใู่ นคุกโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นตัว เงิน แต่แลกกับการอยู่ในพื้นท่ีท่ีมีอาหารมีเส้ือผ้าให้ กับ สอง การรับจ้างติดคุกแบบได้ค่าตอบแทนเป็น เงิน โดยเหตุผลท่ีคนไร้บ้านรับจ้างติดคุกในลักษณะดังกล่าวก็เพราะต้นทุนทางสังคมต่า ขาดความ น่าเชือ่ ถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่มีความรู้ทางกฎหมาย จึงไม่ทราบว่าการกระทาน้ันจะเป็นการทาให้ เสยี ประวัติ หรือไมท่ ราบวา่ คดีจะส้ินสุดเมอ่ื ใด วันชัย สอนศิริ ผู้เคยประกอบอาชีพทนายความ ซึ่งมีช่ือเสียงมาจากการเผยแพร่ความรู้ทาง กฎหมาย นั้นมองว่า สาเหตุหลักท่ีคนเร่ร่อนยอมแลกอิสรภาพตัวเองกับค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย นั้นคือการขาดความรู้ด้านกฎหมาย ทาให้คนถูกเอาเปรียบและต้องเผชิญกับความเส่ียงในการตกเป็น จาเลยในข้อหาอ่ืน ท่ีหากพวกเขาถูกจับได้ว่ารับจ้างถูกจับ-รับจ้างติดคุกแทนผู้กระทาผิดตัวจริง วันชัย ยังได้กล่าวอีกว่า คนเร่ร่อนส่วนมากคิดว่าการประกันตัวคือคดีส้ินสุดเพราะไม่รู้กฎหมาย ซึ่งความจริง แล้วเขาจะถกู ออกหมายจับ แต่สว่ นมากไม่มีใครลงไปจับ เพราะคนเร่ร่อนไม่อย่เู ป็นที่ หรือถา้ เจา้ ท่ีรู้เห็น กไ็ ม่ตามจับ เพราะกลัวเร่ืองขน้ึ ส่ชู ั้นศาลแล้วเส่ียงถูกจับได้ ซ่ึงเปน็ การแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของ กระบวนการยุติธรรมช้ันต้น ท่ีเกิดจากการทุจริตโดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย และความเหลื่อมล้าท่ี คนรวยอาศัยโอกาสในความอ่อนด้อยทางสังคม ทางด้านเศรษฐกิจและความรู้ของคนท่ีด้อยกว่า เพ่ือ ผลประโยชน์แก่ตนเอง นอกจากนี้ วันชัย ยังได้ให้ข้อมูลถึงมาตรการการลงโทษตามกฎหมายว่า กรณีรับจ้างติดคุกน้ัน เป็นความผดิ ตามกฎหมายดว้ ย หากถูกจบั ได้คนเรร่ ่อนน้ันอาจจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ในหลายๆ กรณี อาทิ มาตรา 137 ฐานแจ้งความเท็จ หรือมาตรา 167 ฐานติดสินบนเจ้าพนักงาน สว่ นผู้จา้ งจะมคี วามผดิ ตามมาตรา 189 ฐานช่วยผ้อู น่ื กระทาผิด หรอื มาตรา 267 ฐานแจ้งใหพ้ นกั งาน จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการ ส่วนคดีท่ีข้ึนสู่การพิจารณาของศาล ยังมีความผิดตาม ป. อาญา มาตรา 177 ฐานเบิกความเท็จ หรือมาตรา 180 ฐานให้การเท็จ วนั ชัย ยังกล่าวว่า กรณรี บั จา้ ง ติดคุก หากมีเจ้าหน้าท่ีของรัฐ อาทิ ตารวจ เข้าไปเก่ียวข้องด้วย ก็มีอาจมีความผิดตาม มาตรา 157 ฐานปฏิบัติหนา้ ทีโ่ ดยมิชอบ มาตรา 201 ฐานรบั สนิ บน หรอื มาตรา 177 ฐานะเบิกความเท็จ ในส่วนช่องโหว่ของมาตรการทางกฎหมายนั้น จากการให้ข้อมูลของ ร.ต.ท. นพดล บัวปรอท กล่าวว่า เหตุผลท่ที าใหอ้ าจมีการจับตัวผู้ต้องหาผิดตัว เนอ่ื งจากตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความ อาญา มาตรา 87 กาหนดไว้ว่า หา้ มมิใหค้ วบคมุ ผู้ต้องหาผ้ถู กู จับไวเ้ กนิ กว่า 48 ช่วั โมง และหากเปน็ ผู้ที่ 172 ธนกรณ์ แซ่อึ้ง. (2556). “รับจ้างติดคุก” อาชีพสะท้อนความเหล่ือมล้า กับช่องโหว่ของ กบก.ยุติธรรม. [ข้อมูล ออนไลน์] แหล่งข้อมูล : https://www.isranews.org/isranews-scoop/22819-1-sp-997_22819.html สบื ค้นวนั ที่ 27 กุมภาพนั ธ์ 2560 4 - 59

รายงานวิจัยฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพือ่ การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนไรบ้ า้ น รหัสโครงการ 59-00124-05 ถูกจา้ งมาจรงิ เมอื่ ขนึ้ โรงพกั กม็ ักจะสารภาพ พอทาประวตั เิ ขียนสานวนเรียบร้อย กต็ ้องสง่ เรื่องไปที่ศาล ทาให้ตารวจไม่มีเวลามาพิสูจน์ว่าใช่ตัวจริงหรือไม่ อีกท้ังในกรณีท่ีรับจ้างติดคุกโดยใช้ช่ือปลอม หลายๆ กรณีพบว่าผถู้ ูกจับอา้ งว่าไม่ได้พกบัตรประชาชน ซ่งึ ระบบการสืบคน้ ทะเบยี นราษฎร์ในเวลาดังกล่าว ยัง ไมส่ ามารถตรวจสอบจากหน้าคนได้ ทาได้เพียงตรวจสอบประวตั ิเท่านัน้ เพราะฉะนัน้ ปญั หาทแ่ี ทจ้ ริงคือ จานวนคนเร่ร่อนที่ไม่ได้ลดลง และต้องดารงชีวิตด้วยการรับจ้างติดคุก ซึ่งเป็นปัญหาท่ีหน่วยงานรัฐท่ี เกยี่ วข้องควรจะทาการทบทวน ในมุมมองด้านสิทธิมนุษยชน กรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นพ. นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ มองว่า อาชีพรับจ้างติดคุก ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนเร่ร่อนหรือคนไร้บ้านอย่างแน่นอน เพราะ พวกเขาทาด้วยความไม่รู้ถึงหลักกฎหมาย ทาไปด้วยความจาเป็น คนเร่ร่อนอาจมองว่าไม่ได้ถูกละเมิด สทิ ธิ เพราะได้เงิน หรือมที ี่ให้อยู่ มีข้าวใหก้ ิน ซง่ึ เป็นความคิดที่ผิด เพราะตามหลักสิทธิมนุษยชนถือเป็น ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่มองว่าคนเป็นวัตถุท่ีสามารถซื้อขายได้ โดยได้กล่าวผ่านแนวคิดสิทธิ มนุษยชนว่า แม้ในกรณีคนเร่ร่อนรับจ้างติดคุก ในแง่กฎหมายถือว่ามีความผิด แต่ในหลักสิทธิมนุษยชน แล้ว รัฐควรจะแยกให้ออกระหว่างผู้ที่จงใจละเมิดและทาผิดกฎหมาย กับผู้ท่ีต้องอยู่ในสภาพท่ียอม จานน ฉะน้ันการใช้กฎหมายจึงต้องมองถึงหลักสิทธิมนุษยชนด้วย รัฐต้องแก้ไขต้นตอสาเหตุที่ทาให้เขา ถูกละเมดิ และตอ้ งบงั คับใช้กฎหมายไปเอาผิดคนทจี่ งใจบิดเบือนความจริง173 รายงานการวิจัยโครงการถอดบทเรียนรูปแบบช่วยเหลือเด็กเร่ร่อน กรณีครูข้างถนนและ บ้านพักสาหรับเด็ก โดย นางสาวทองพูล บัวศรี และ นางแววรุ้ง สุบงกฎ (2552) ที่ทาการลงพ้ืนท่ี สารวจข้อมูลพบว่า ในพ้ืนท่ีแทบสะพานพุทธ เด็กเร่ร่อนจะมีการรับจ้างติดคุกแทน โดยใช้ศัพท์เรียก แทนว่า ไป “ช่วยราชการ” โดยไปรับผิดแทนเจ้าของ โดยเฉพาะร้านซีดีเถ่ือน เพราะมีอาหารการกินท่ี โรงพัก เมื่อออกมาแล้วจะได้รับค่าจ้าง 10 วัน ได้ประมาณ 1,000-1,500 บาท174 อีกทั้งยังมีการ นาเสนอ ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กไรบ้ ้านกบั เจ้าหน้าท่ีตารวจว่ามีความคุ้นเคยกันพอสมควร เนอ่ื งจากมี การเผชิญหน้ากันบ่อยๆ แต่เด็กมีความรู้สึกท่ีไม่ดีกับตารวจ เน่ืองจากมีตารวจบางคนทาการไถเงินจาก พวกเขา บางครั้งเด็กไม่ได้กระทาความผิด แต่ก็ถูกจับไปโดยอาจเสียค่าปรับ หรือหากสนิทกันตารวจก็ อาจให้ทาความสะอาดที่สานักงานให้ หรือบางคนก็มีการรับจ้างติดคุกแทนโดยเฉพาะเรื่องการขาย ซดี ี175 2) รบั จา้ งชุมนมุ ทางการเมอื ง การชุมนุมเคล่ือนไหวทางการเมืองในแต่ละครั้งนั้น ฐานหรือจานวนตัวเลขของมวลชน ถือเป็น ปัจจัยสาคัญท่ีชี้วัดความสาเร็จของการชุมนุม ดังน้ันในบ้างครั้งจึงมีการว่าจ้างให้บุคคลที่ไม่ได้มีความ เก่ียวข้อง หรือไม่ได้มีทัศนคติไปในทิศทางเดียวกันมาร่วมชุมนุม เพื่อเพ่ิมฐานหรือจานวนตัวเลขมวลชน ซง่ึ มักจะปรากฏข้อเท็จจริงว่า การชุมนมุ ในระดับใหญ่หลายคร้ัง ทม่ี กั จดั ตัง้ ขนึ้ ในบริเวณพ้ืนท่สี าธารณะ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มคนไร้บ้าน ประกอบกับการท่ีกลุ่มคนไร้บ้านถูกมองว่าเป็นผู้ว่างงานหรือมี 173 เพ่ิงอา้ ง 174 นางสาวทองพลู บัวศรี และ นางแววร้งุ สบุ งกฎ. (2553). รายงานการวิจยั โครงการถอดบทเรยี นรปู แบบชว่ ยเหลอื เดก็ เรร่ อ่ น กรณีครูขา้ งถนนและบ้านพักสาหรับเดก็ . มลู นธิ สิ าธารณสขุ . หนา้ 21 175 เพงิ่ อา้ ง, หน้า 205 4 - 60

รายงานวจิ ยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวติ คนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 59-00124-05 รายได้น้อย จึงทาให้กลุ่มคนไร้บ้านมักจะถูกแสวงหาประโยชน์ จากการเป็นฐานตัวเลขของการชุมนุม ลักษณะดงั กล่าว ผ่านทางกศุ โลบายการแจกนา้ -อาหารหรือการวา่ จ้างในรปู แบบดงั กลา่ วเสมอ สกู๊ปข่าวเร่ือง “รับจ้างติดคุก-ม็อบ-หนูทดลองยา” โดย ธนธรณ์ แซ่อ้ึง (2556) ได้ทาการ นาเสนอประสบการณ์การรับจ้างชุนนุมของคนไร้บ้านผู้หนึ่ง ที่ได้เล่าว่า เคยรับจ้างไปอยู่ในกลมุ่ ผู้ชนุ นมุ โดยมีนายหน้ามาหารับคนไปนงั่ โบกธงหรือตะโกนตามแกนนาหรอื ผู้ชมุ นมุ คนอ่นื ๆ ซง่ึ ค่าจา้ งหลังโดนหัก ค่านายหน้าวันหน่ึงได้ 100-300 บาท แต่จะได้รับเงินแบบผลัดวัน เช่น มาวันจันทร์จ่ายวันอังคาร เหมือนบงั คับ ถ้าอยากได้เงนิ อีกวันต้องมา โดยไดเ้ ปิดเผยอีกว่า ไมใ่ ชค่ นไรบ้ ้านทุกคนท่ีถูกจ้างไป แต่คน ไร้บ้านบางคนน้ันไปด้วยความเต็มใจ บ้างไปอาศัยทานอาหาร อาบน้า ฟรี รวมถึง นาเอาของที่แจกฟรี มาทาการขายตอ่ แต่จะกลบั ในชว่ งเวลาทเ่ี ร่มิ มดื เพราะยงั คงเกรงกลวั อนั ตรายที่อาจจะเกิดขึน้ 176 การรายงานขา่ ว ทางสถานีโทรทัศนไ์ ทยพีบเี อส TPBS ในช่วงการชุมนมุ ทางการเมืองของกลุ่ม แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแหง่ ชาติ (นปช.) ในปี 2552 ได้นาเสนอข้อมูลจากคนไร้บ้านท่ี มีประสบการณ์ในการรับจ้างเข้าไปร่วมกับการชุมนุมดังกล่าว คนไร้บ้านรายแรก ได้ถ่ายทอด ประสบการณ์ว่า ตนเคยเขา้ ไปรว่ มชมุ นุมโดยไดร้ ับเงินคร้ังละ 200 บาท และหากอยูต่ อ่ ในเวลากลางคืน กจ็ ะไดเ้ พิม่ อีกคร้ังละ 200 บาท โดยลกั ษณะงานคอื เขา้ ไปนง่ั ฟังการปราศรัย โดยบางครง้ั ก็ไม่เต็มใจฟัง เพราะไมไ่ ด้สนใจเรื่องความขัดแยง้ ทางการเมือง แตบ่ างคร้ังกม็ กี ารไปน่ังฟงั การปราศรยั โดยไมไ่ ด้รับการ ว่าจ้าง เพราะต้องการเข้าไปทานอาหารฟรี คนไร้บ้านรายท่ีสอง ได้ให้ข้อมูลว่า ตนได้เข้าไปทาการขาย แผ่นพลาสติกให้กลุ่มผู้ชุมนุมใช้รองน่ัง ระหว่างนั้นได้รับฟังการปราศรัยซ้าไปซ้ามา ทาให้ซึมซับความ ขัดแย้งทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากน้ันยังมีการนาเสนอข้อมูลท่ีอ้างว่า มีคนไร้บ้านอีก หลายคนท่ีเข้าไปร่วมชุมนุมเพียงเพื่อต้องการเพ่ือน และอาหารฟรี เป็นประจา จนทาให้คล้อยตาม เรอื่ งราวท่ีถูกถา่ ยทอดในท่ชี ุมนมุ ในการรายงานข่าวดงั กลา่ ว สมพร หารพรม เจ้าหน้าที่มูลนิธพิ ัฒนาที่อยอู่ าศัยให้คนไรบ้ ้าน ได้ ให้ทรรศนะท่ีน่าสนใจโดยกล่าวว่า การท่ีคนไร้บ้านเข้าร่วมชุมนุม นอกจากการแสวงหาประโยชน์จาก การดารงชีวิตและแสวงหากาไรแล้ว การเข้าร่วมชุมนุมยังทาให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมและมีบทบาทใน สังคม เร่ิมมีการแลกเปล่ียนทัศนะทางการเมืองกับผู้อ่ืน เนื่องจากตอนท่ีอาศัยอยู่สนามหลวงตามปกติ น้ัน พวกเขารู้สึกถูกรังแก และรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า แต่การเข้าร่วมดังกล่าวน้ี ทาให้พวกเขารู้สึกเท่าเทียม และมีคณุ คา่ มากข้นึ 177 ความสัมพันธ์ระหว่างคนไรบ้ ้านกับการชุมนมุ ทางการเมือง ปรากฏในทัศนคติของผู้นาประเทศ ท่ีมักจะมองว่าคนไร้บ้านน้ันเป็นส่วนหน่ึงของการชมุ นุมในแต่ละครั้ง เช่น ในปี 2549 ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในสมัยน้ันได้แสดงความคิดเห็นว่า กลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวขับไล่และล้มล้าง รฐั บาลของตนนนั้ มีทงั้ กลุ่มคนท่รี ับจ้างและกลุ่มคนเร่ร่อน จงึ ตอ้ งใหก้ ระทรวงการพัฒนาสงั คมและความ 176 ธนกรณ์ แซอ่ ึง้ . (2556). เปดิ อาชพี แปลกคนเรร่ อ่ น ‘รบั จา้ งติดคุก-มอ็ บ-หนูทดลองยา’. [ข้อมูลออนไลน]์ แหล่งข้อมูล : http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/21503-lldddlw.html สืบค้นวันท่ี 27 กมุ ภาพันธ์ 2560 177 รายงานข่าวจากทางสถานโี ทรทศั นไ์ ทยพบี ีเอส TPBS. (2553). [ขอ้ มลู ออนไลน์] แหล่งที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=QttIVWM_XTM สืบคน้ วนั ท่ี 27 กมุ ภาพันธ์ 2560 4 - 61

รายงานวจิ ัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนับสนนุ องคค์ วามรู้ เพือ่ การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 59-00124-05 มั่นคงของมนุษย์ร่วมกับตารวจนครบาล นาคนเร่ร่อนเหล่าน้ีไปบาบัดฟ้ืนฟู เพราะคนเร่ร่อนเหล่าน้ีไม่มี อะไร ใครจ้างหรือใหไ้ ปไหนกไ็ ป178 อย่างไรก็ตาม แม้การเข้าร่วมชุมนุมดังกล่าวจะส่งผลดีต่อกลุ่มคนไร้บ้านในบางประการ แต่ก็ ยังคงส่งผลกระทบในระยะยาวกับสังคม น่ันคือการเพ่ิมจานวนคนไร้บ้านในพ้ืนท่ี ภายหลังจากการ ชุมนมุ เสรจ็ สิน้ ในปี 2557 มูลนิธิอิสรชนได้เปิดเผยข้อมูลผลสารวจคนเร่ร่อนปี 2556 พบว่าคนไร้บ้านมี อัตราเพิ่มข้ึนอย่างก้าวกระโดด จากสัดส่วนที่เพ่ิมขึ้นปีละ 100 คน แต่ปี 2556 น้ันเพ่ิมขึ้นจากปีก่อน กว่า 200 คน โดยระบวุ า่ ปจั จยั ชุมนุมทางการเมือง ส่งผลให้คนเร่ร่อนมีจานวนมากขน้ึ ส่วนหน่งึ มาจาก การตกค้างของคนที่มาร่วมชุมนุมทางการเมืองท่ียังคงมีอยู่ขณะน้ัน เมื่อทาการสารวจพบว่ามีคนเร่ร่อน หน้าใหม่ที่เดินทางมาจากภาคใต้เป็นจานวนมาก เมื่อสอบถามจึงทราบว่าเป็นการเดินทางมาเพ่ือร่วม ชมุ นมุ ทางการเมอื ง และไมอ่ ยากกลับบา้ น179 นที สรวารี ได้ใหข้ ้อมูลเกยี่ วกบั เรือ่ งดงั กลา่ ววา่ การตกคา้ งของคนกลุ่มผชู้ มุ นุมในปี 2557 น้นั ไม่ได้มีเฉพาะการชุมนุมท่ีเพ่ิงเกิดข้ึนในปี 2556-2557 เท่านั้น แต่พบว่ามีการสะสมและตกค้างมา เกอื บทุกๆ การชมุ นุม ตัง้ แตป่ ี 2516 ปี 2519 ปี 2535 และปี 2546 ซึ่งจากการสอบถามคนไร้บ้าน ท่ีตกคา้ งจากการชุมนมุ ครั้งก่อนๆ พวกเขายังคงสามารถเลา่ เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ไดอ้ ยา่ งแมน่ ยา โดย นที ยัง ได้กล่าวอีกว่า จากการทางานในพื้นท่ีมากกว่า 10 ปที ี่ผา่ นมา จากการชมุ นุมใหญ่ 3-4 ครั้ง ก็จะพบว่า มคี นตกค้างอยู่ตลอด ฉะนัน้ แลว้ การชุมนมุ ในแตล่ ะคร้งั ควรจะตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกดิ ข้นึ และผู้ ทพ่ี าคนเหล่าน้ีมาชุมนมุ ก็ไม่ควรปฏเิ สธความรบั ผดิ ชอบเชงิ สังคม180 3) การหาประโยชน์ในรูปแบบอ่นื นอกจากการหาประโยชน์จากคนไร้บ้านทนี่ าเสนอไปข้างตน้ นั้น ยงั มีการแสวงหาประโยชน์จาก ทางร่ายกายของคนไร้บ้านอีกรูปแบบหนึ่งทเี่ รียกวา่ “หนูทดลองยา” โดยมีการเปดิ เผยในบทความ สกู๊ป ขา่ วเรื่อง “รบั จา้ งตดิ คุก-ม็อบ-หนูทดลองยา” ของ ธนธรณ์ แซอ่ ง้ึ ได้มีการนาเสนอว่า อาชพี ทดลองยา เป็นอีกหน่ึงอาชีพท่ีคนเร่ร่อนใช้ทามาหาเลี้ยงชพี โดยได้เปิดเผยประสบการณ์ของคนไร้บ้านผหู้ นงึ่ ท่ีเคย ยึดอาชีพน้ีมากว่า 6 ปี ซึ่งมีทัศนคติว่าการกระทาดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือรักษาคนให้หายจากความ เจ็บป่วยได้หลายชีวิต คนไร้บ้านดังกล่าวได้เล่าว่า ครั้งแรกท่ีเริ่มทางาน เกิดจากการอยากตรวจสุขภาพ จึงไปเจาะเลือดเพ่ือทาการตรวจ แต่เม่ือไปถึงหมอกลับให้ยามารับประทาน และได้ทาการจดช่ือประวตั ิ ของเขาและบอกให้มากินยาทุกวัน วันละ 1 เม็ด โดยจะได้เงินวันละ 70 บาท และถ้าภายในหนึ่ง อาทิตย์มากินยาตามนัดโดยไม่ขาด จะได้โบนัส 400 บาท โดยมีการเจาะตรวจเลือดทุก 3 เดือน และ ได้เล่าอีกว่าคนท่ีไปลองยานั้นมีท้ังคนท่ีเป็นโรคเอดส์และไม่เป็น เพราะถึงเวลาเจาะเลือดหมอจะเอาไป 178 “แม้ว” เดอื ดซดั มอ็ บแคค่ นเร่รอ่ น-พวกโกงแบงกร์ วมหวั ไล่ ส่ังรือ้ คดีฟนั . (2549). [ข้อมลู ออนไลน์] แหล่งทม่ี า : http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000007219 สบื ค้นวันท่ี 27 กุมภาพันธ์ 2560 179 สถิตคิ นเร่รอ่ นปี 56 พงุ่ พบการ์ด กปปส.ใชบ้ ริการทางเพศแบบไมใ่ ส่ถุงยาง. (2557). [ขอ้ มูลออนไลน์] แหล่งขอ้ มลู : http://www.thairath.co.th/content/409433 สบื ค้นวันที่ 27 กมุ ภาพันธ์ 2560 180 สารวจคนเรร่ ่อนตกค้าง “มอ็ บการเมือง”. (2557). [ข้อมูลออนไลน]์ แหลง่ ข้อมลู : http://www.thairath.co.th/content/409475 สืบคน้ วนั ท่ี 27 กมุ ภาพันธ์ 2560 4 - 62

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพ่ือการพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนไร้บ้าน รหสั โครงการ 59-00124-05 เปรียบเทียบปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น แต่หมอก็ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่ายานั้นมีสารอะไรบ้าง หรือกินเพื่ออะไร ใน ตอนแรกก็มีอาการกลัว เพราะอาทิตย์แรกที่กนิ รูส้ ึกอ่อนเพลียและท้องเสยี 1 อาทิตย์ แต่หลงั จากกินไป เรอื่ ยๆ กไ็ มม่ อี ะไรเกิดขนึ้ ในระหวา่ งนาเสนอขา่ วก็ยงั แขง็ แรงดีและโครงการนีก้ ็ยกเลิกไปแลว้ 181 จากการลงสารวจภาคสนามโดยการสอบถามข้อมูลคนไร้บ้าน ในโครงการพัฒนาศักยภาพนัก ส่อื สาร โดย มูลนิธพิ ิพธิ ภัณพ์แรงงานไทย (2558) พบวา่ กระบวนการหลอกลวงคนไรบ้ ้านนั้นเกิดขึ้น ในหลายรูปแบบ เช่น หลอกให้คนไร้บ้านที่มีบัตรประชาชนไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ โดยจ่ายค่าจ้างตอบ แทน แต่กลายเป็นหน้ีเม่ือคนที่ให้ออกรถไม่ยอมผ่อนรถต่อ หลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร หรือรับจ้าง ทดลองยาต้านไวรสั ไดค้ า่ จ้างวันละ 120 บาท ซง่ึ คนไรบ้ า้ นบางคนทดลองยาจนตัวเหลือง อกี อาชีพคือ รับจ้างติดคุกแทน เม่ือมีคดีความ ไม่ว่าจะเป็นคดียาเสพติด หรือเล่นการพนัน หรือกลัวเสียงานเม่ือโดน ตารวจจับก็จะมาจ้างคนไร้บ้านไปติดคุกแทน คนไร้บ้านบางคนถูกจับในคดีร้ายแรงต้องติดคุกโดยไม่มี ความผดิ และยังถูกตารวจจบั ตาดพู ฤตกิ รรม182 นอกจากน้ันยังมีการแสวงหาประโยชน์ในเชิงนามธรรม นั้นคือการสร้างช่ือเสียงผ่านการ ช่วยเหลือคนไร้บ้านจนทาให้เกิดผลเสีย มากกว่าประโยชน์ต่อคนไร้บ้าน โดยในสกู๊ปข่าวเร่ือง \"แจก อาหารคนไร้บ้าน\" เม่ือความปรารถนาดีกลายเป็นความเดือดร้อน?....” โดย อินทรชัย พาณิชกุล (2559) เปิดเผยว่า หลังจากรถหมูแดง ของมูลนิธิกระจกเงา ได้เริ่มเข้าไปแจกอาหาร เครื่องด่ืม ขนม นมเนย และยารักษาโรคแก่คนไร้บ้าน ภายใต้โครงการ Food for Friends ณ ลานคนเมือง ย่านเสา ชิงช้า ทุกคืนวันจันทร์ 20.00-22.00 น. ในปี 2557 นั้น โครงการน้ีเรียกเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง วีรกรรมดังกล่าวได้จุดกระแสและเรียกความสนใจจากสังคมได้ไม่น้อย ปลุกกระแสให้ดารา คนดัง ผู้ใจ บุญทั้งหลาย หลั่งไหลเข้ามาบริจาคของกันอย่างลน้ หลาม กระท่ังจานวนคนไร้บ้านเพ่ิมขึ้นตามจานวนผู้ ท่ีมาแจก จนส่งผลกระทบทาให้ท่ีตามมาคือ ปัญหาทิ้งขยะเรี่ยราดสกปรก ขับถ่ายไม่เป็นท่ีเป็นทาง กิน เหลา้ เมาเสียงดัง ทะเลาะวิวาทกันภายในกลุ่มคนไร้บ้าน สร้างความเดือดร้อนราคาญให้ชาวบ้านท่ีอาศัย อย่ลู ะแวกนั้นเป็นอย่างมาก 183 ซง่ึ ปัญหาเหลา่ นี้ลว้ นแลว้ แตส่ ่งผลต่อภาพลักษณข์ องคนไรบ้ า้ นทงั้ สน้ิ ในกรณนี ้ี บญุ เลศิ วิเศษปรีชา (2559) ไดใ้ ห้ความเห็นไวว้ ่าการแจกอาการนน้ั เปน็ การกระทา ที่ไม่ผิดแต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาคนไร้บ้านที่แท้จริง ควรจะมีกิจกรรมอย่างอื่น เช่น การพูดคุยแลกเปลี่ยน ขอ้ มูลดว้ ย เพ่ือให้ทราบถงึ ปัญหา เพื่อนาไปสู่การแก้ไขปญั หาในระยะยาว184 อีกหนึ่งการแสวงหาประโยชนจ์ ากคนไร้บา้ นโดยใช้เหตุผลทางศีลธรรมน้ัน อยู่ในรูปแบบการใช้ แรงงานเพ่ือแลกเปลี่ยนท่ีอยู่อาศัยหรืออาหาร อันเป็นการกระทาท่ีอยู่นอกเหนือการกากับดูแลทาง กฎหมาย นั่นคอื การทางานให้กบั วัด ซง่ึ เปน็ ท่ที ราบโดยทั่วไปวา่ วัดน้ันมักเป็นสถานพักพิงของคนไร้บ้าน และตาม พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกบั วัดนนั้ ไดก้ าหนดให้เจา้ อาวาสมี อานาจสั่งให้บรรพชิตและคฤหัสถ์ที่มีที่อยู่หรือพานักอาศัยในวัด ทางาน หรือให้ทาทัณฑ์บน หรือให้ขอ 181 อา้ งแลว้ , เชงิ อรรถท่ี (176) 182 นกั สือ่ สารแรงงานกับชวี ิตคนไรบ้ า้ น. (2558). [ขอ้ มูลออนไลน์] แหลง่ ขอ้ มูล : http://voicelabour.org/นกั ส่อื สาร-ศึกษาชีวติ คน/ สบื คน้ วนั ที่ 27 กุมภาพนั ธ์ 2560 183 \"แจกอาหารคนไรบ้ า้ น\" เม่ือความปรารถนาดกี ลายเป็นความเดอื ดรอ้ น?.... . (2559). [ขอ้ มูลออนไลน์] แหลง่ ท่มี า : http://www.posttoday.com/local/scoop_bkk/457969 สบื คน้ วนั ท่ี 27 กมุ ภาพนั ธ์ 2560 184 เพ่งิ อ้าง 4 - 63

รายงานวิจยั ฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ เพื่อการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหสั โครงการ 59-00124-05 ขมาโทษ เมอื่ บรรพชิตหรือคฤหสั ถ์น้นั ประพฤติผิดคาส่ังเจ้าอาวาสได้185 ซง่ึ ยอ่ มตีความไดว้ ่า คนไรบ้ ้าน ที่อาศัยอยู่ในวัด มีฐานะเป็นคฤหัสถ์ที่พานักอาศัยในวัด จึงต้องอยู่ภายใต้อานาจการส่ังการของเจ้า อาวาส ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการแสวงหาประโยชน์ด้านแรงงาน จากคนไร้บ้านโดยไม่มี คา่ ตอบแทน 3.4 กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องในประเดน็ คนไร้บ้านและองค์กรอาชญากรรม กฎหมายที่เก่ยี วข้องในประเด็นคนไรบ้ า้ นและองค์กรอาชญากรรมในระดับระหว่างประเทศ ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีใน อนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อการต่อต้าน อาชญากรรมข้ามชาติที่จัดต้ังในลักษณะองค์กร ( United Nations Convention against Transnational Organized Crime ) และ พิธีสารเพื่อป้องกัน ปราบปรามและลงโทษ การค้า มนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็ก (Protocol to Prevent, Suppress and Punish Trafficking in Persons, Especially Women and Children, supplementing the United Nations Convention against Transnational Organization Crime) ต่อผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ในปี 2556 ทาให้อนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใชใ้ นประเทศไทยนับตั้งแตช่ ่วงเวลา ดังกล่าว186 ซ่ึงถือเป็นการให้สัตยาบันที่ท้ิงช่วงห่างจากระยะเวลาที่ทาการลงนาม มากกว่า 10 ปี (ประเทศไทยได้ลงนามอนุสัญญาสหประชาชาตเิ พ่ือการต่อตา้ นอาชญากรรมข้ามชาติท่จี ัดตั้งในลักษณะ องค์กร เม่ือวันท่ี 13 ธันวาคม 2543 และพิธีสารเพื่อป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก เสริมอนุสัญญาฯ เม่ือวันท่ี 18 ธันวาคม 2544) การให้สัตยาบันดังกล่าวจึง เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยในปัจจุบันน้ัน มีการต่ืนตัวและให้ความสาคัญกับการแก้ปัญหา องคก์ รอาชญากรรม ในรูปแบบการคา้ มนุษย์อยมู่ ากพอสมควร อนุสัญญาสหประชาชาตเิ พ่ือการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติท่ีจัดตั้งในลักษณะองค์กร ถือ เปน็ การกาหนดกรอบความรว่ มมือทางกฎหมายท่ีกาหนดมาตรฐานในระดบั สากล ท่ีเกี่ยวกบั การตอ่ ต้าน อาชญากรรมข้ามชาติ ซ่ึงการค้ามนุษย์ก็ถือเป็นการกระทาท่ีเข้าข่ายดังกล่าว โดยมีการกาหนดขอบเขต การบังคับใช้ในด้านการป้องกัน การสืบสวนและการดาเนินคดีเก่ียวกับฐานความผิดที่กาหนดไว้ใน อนุสัญญาดงั กล่าว โดยได้มกี ารระบุถึงการให้ความร่วมมือระหวา่ งรฐั ภาคี ในหลายรูปแบบ พิธีสารเพ่ือป้องกัน ปราบปราม และลงโทษการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็ก มี วัตถุประสงค์หลักเพ่ือป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ เป็นพิธีสารเพ่ิมเติมในส่วนของการต่อต้าน อาชญากรรมข้ามชาติท่ีจัดตั้งในลักษณะองค์กร โดยมุ่งเน้นไปท่ีสตรีและผู้ที่มีสถานะเป็นเด็ก เน้นย้าถึง การให้ความสาคัญกับปัญหาการค้ามนษุ ย์ และกาหนดให้การกระทาที่เป็นการค้ามนุษย์เป็นการกระทา ทมี่ ีความผิดทางอาญา โดยได้กาหนดมาตรการในคมุ้ ครอง และช่วยเหลือผเู้ สียหายจากการค้ามนุษย์ อีก หลายประการ 185 อนุ 3 มาตรา 38 แห่งพระราชบญั ญัตคิ ณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 186 อ้างแล้ว, เชงิ อรรถท่ี (123) 4 - 64

รายงานวิจัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวติ คนไร้บ้าน รหสั โครงการ 59-00124-05 นอกจากน้ัน ยังมีลักษณะของความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวท่ี ประเทศไทยได้เขา้ ไปมีส่วนร่วมในระดับ ทวิภาค หรอื ภมู ิภาค ประกอบดว้ ย 187 188 - อนุสัญญาแรงงานฉบับต่างๆ ท่ีเก่ียวข้อง เช่น ฉบับท่ี 29 และ 106 ว่าด้วยการเกณฑ์ แรงงานหรือแรงงานบังคับ และการยกเลิกแรงงานฉบับท่ี 13 ว่าด้วยอายุข้ันต่าที่อนุญาตให้จ้างงานได้ ฉบบั ที่ 182 ว่าด้วยรูปแบบท่เี ลวรา้ ยท่สี ุดของการใชแ้ รงงานเด็ก - ประเทศไทยได้มีความตกลงกับ ประเทศ กัมพูชา ลาว เวียดนาม และเมียนมาร์ โดยจัดทา บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขจัดการค้าเด็กและสตรีและการช่วยเหลือเหย่ือของการค้ามนุษย์ ( MOU on Bilateral Cooperation for Eliminating Trafficking in Children and Women and Assisting Victims of Trafficking) - จัดทาบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข่าวสารสาหรับการ ป้องกันและต่อต้านการค้ามนุษย์ (Memorandum of Cooperation between the Government of Japan and Thailand concerning the Exchange of Information for the Purpose of Preventing and Combating Trafficking in Persons) - จัดทาบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือด้านการจ้างแรงงาน เพื่อลด ความเสี่ยงของการค้ามนุษย์ในภาคแรงงาน ซึ่งประเทศไทยมีความตกลงในลักษณะนี้กับประเทศ อิสราเอล และกาลังอย่พู จิ ารณารา่ งความตกลงกบั ประเทศบังกลาเทศ - เข้าร่วมประชุมในระดับรัฐมนตรีของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เกี่ยวกับการ ลักลอบขนคนเข้าเมือง การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติกระบวนการบาหลี (Regional Ministerial Conference on People Smuggling, Trafficking in Persons and Related Transnational Crime - Bali Process) - จดั ทาบันทกึ ความเข้าใจระดบั พหุภาคีระหวา่ งประเทศสมาชิกในอนุภูมภิ าคล่มุ แมน่ า้ โขง - ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคี ใน ASEAN Declaration Against Trafficking in Persons Particularly Women and Children ในปี 2547 ซ่ึงมุ้งเน้นเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การคัด แยกเหยอ่ื ออกจากผกู้ ระทาผิด และการกาหนดบทลงโทษทีร่ นุ แรงแก่ผกู้ ระทาผิดฐานคา้ มนุษย์ - ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันในสนธิสัญญาว่าด้วยความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเร่ืองทาง อาญาของภูมิภาคอาเซียน (The Treaty on Mutual Legal Assistance in Criminal Matters among Like-Minded ASEAN Member Countries) ในปี 2556 - ประเทศไทยกาลังพิจารณาร่วมกับชาติอาเซียนในการจัดทา อนุสัญญาอาเซียนว่าด้วย การคา้ มนุษย์ (ASEAN Convention on Trafficking in Persons) 187 การดาเนนิ ความร่วมมือระหวา่ งประเทศดา้ นการป้องกนั และปราบปรามการค้ามนุษย์. (2557). [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งที่มา : http://www.mfa.go.th/main/th/issues/9894-การค้ามนุษย์.html สืบค้นวันท่ี 27 กุมภาพันธ์ 2560 188 ศิบดี นพประเสริฐ. (2558). การค้ามนุษย์ในไทย. จุลสารความมั่นคง มิถุนายน 2558 ฉบับที่ 158. หน้า 25- 28 4 - 65

รายงานวิจยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพอ่ื การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนไร้บา้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 4. ประเดน็ การจัดการความขัดแยง้ ของคนไรบ้ า้ น 4.1 สภาพปัญหาทีเ่ กิดขึน้ ในคนไร้บา้ น ในประเด็นเร่ืองของความขัดแย้งในคนไร้บ้านนั้น พบว่า ปัญหาความขัดแย้งท่ีพบในกลุ่มคนไร้ บ้านน้ันมีในหลากหลายมิติ ซึ่งโดยสาเหตุหลกั คือ ความขัดแย้งเนื่องจาก ระบบความสัมพันธ์ที่ล้มเหลว และ คนไร้บ้านถูกสร้างความเป็นอื่น (otherness) เนื่องจากวัฒนธรรมที่แตกต่าง นาไปสู่ปัญหาความ รนุ แรง รูปแบบความขัดแยง้ ที่พบในคนไร้บ้าน ซ่ึงจะแบง่ เป็นประเด็นได้ดงั นี้ 1. ความขัดแย้งทีเ่ กดิ ข้ึนภายในกลุ่มของคนไร้บ้านเอง เกิดจากกรณกี ารสรา้ งวัฒนธรรมระหว่างคนไรบ้ า้ นเอง งานศกึ ษาของบุญเลศิ พบวา่ ในกลุม่ คน ไรบ้ า้ นกไ็ ดม้ ีการแบ่งกลุ่มชนชน้ั กันเองด้วย คอื กลมุ่ ระดับกลาง คือ คนไรบ้ า้ นทีป่ ระกอบอาชีพขายของ เก่า กลมุ่ ระดับล่างคือ ชนชั้นพ้ืนฐาน คอื กลมุ่ คนไร้บ้านพวก “ผี” ซึง่ หมายถงึ กลุ่มคนไร้บ้านที่ไม่มีงาน ประจา และมีกลมุ่ หน่งึ ที่ถูกจัดประเภทเป็นชนชน้ั ล่างสุด คือ กลมุ่ “คนเดนิ ชนตังค์” คอื กลุ่มคนไร้บ้าน ที่อาศัยการได้เงินมาจากการขอเงิน หรือ ขอทาน โดยกลุ่มนี้จะไม่ได้รับการยอมรับ และถูกกีดกันไม่ให้ เขา้ ร่วมกลุ่มของคนไร้บา้ น189 0. ความขดั แยง้ ที่เกิดกบั สงั คมภายนอก พฤติกรรมความขัดแย้งท่ีเกิดขึ้นในคนไร้บ้านและสังคมน้ัน เกิดจากลักษณะความไม่เท่าเทียม กันของสังคม ชนชั้น เศรษฐกิจ และ วัฒนธรรม ได้นาไปสู่ความขัดแย้ง เนื่องจากการเข้ากันไม่ได้ จึง สร้างวฒั นธรรมของตนขนึ้ มาใหม่ โดยไดร้ บั การยอมรบั กนั เองในกลุ่ม ซ่งึ วฒั นธรรมทส่ี ร้างขึ้นมาใหม่น้ัน อาจจะสอดรับกับวัฒนธรรม หรือขัดแย้งกันก็ได้เช่น การไม่มีบ้าน การนอนข้างถนน การแต่งตัว มอมแมม ฯลฯ เป็นสิ่งท่ีทาให้คนไร้บ้านถูกตีตราวา่ ต่างจากบุคคลท่ัวไป ก่อให้เกิดความแปลกแยก และ นาไปสคู่ วามขัดแย้ง 3. ความขัดแยง้ ในความสมั พันธ์ของสถาบนั ครอบครัวคือสาเหตใุ นการเป็นคนไร้บ้าน กลายเป็นคนไร้บา้ นเนอ่ื งจากความขัดแย้ง เชน่ เน่อื งจากความขัดแยง้ ภายในครอบครัวนาไปสู่ การล่มสลายของสถาบันครอบครัว190 จากรายงานการวิจัย โครงการถอดบทเรียนรูปแบบการ ชว่ ยเหลือเด็กเรร่ ่อน กรณคี รูขา้ งถนนและบา้ นพักสาหรับเด็ก191 พบวา่ เด็กเร่รอ่ นที่ออกมาใช้ชวี ิตนอก บา้ นสาเหตสุ ่วนใหญม่ าจาก ปัญหาครอบครัว เช่น มกี ารใชค้ วามรนุ แรงในครอบครัว พ่อแม่หยา่ ร้าง พ่อ หรอื แม่มีครอบครัวใหม่และเด็กเขา้ กับครอบครวั ใหมไ่ มไ่ ด้ 189 บุญเลศิ วิเศษปรชี า. (2552). โลกของไร้บ้าน. กรงุ เทพ: ศูนย์มานษุ ยวทิ ยา, หน้า 122-125,149 190 เพงิ่ อา้ ง, หน้า 63 191 ทองพูล บัวศรี และ แววร้งุ สุบงกฎ. (2553). รายงานการวิจัยโครงการถอดบทเรียนรูปแบบช่วยเหลอื เดก็ เรร่ อ่ น : กรณคี รูข้างถนนและบา้ นพักสาหรบั เด็ก. ชุดโครงการพัฒนาการมีสว่ นรว่ มในการกาหนดนโยบายสาธารณะ ดา้ นสิทธิทเ่ี ชือ่ มโยงกบั สุขภาวะ มลู นิธสิ าธารณสขุ แห่งชาติ (มสช.), หน้า 2-3 4 - 65

รายงานวิจยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพอ่ื การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนไร้บา้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 0. พฤติกรรมความขัดแย้งจนนาไปสู่ความรนุ แรงของคนไรบ้ ้าน จากการศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมและสุขภาพ พบว่าเด็กในช่วงวัยรุ่นท่ีออกจากบ้านมาก่อนท่ี จะได้การดูแลจากมูลนิธิ สังคมสังเคราะห์ล้วนเคยผ่านความรุนแรงไม่ว่าจะเป็น ชกต่อย ทะเลาะวิวาท เน่อื งจากอยใู่ นชว่ งวัยคึกคะนองก็เปน็ สาเหตุหน่ึง และ มพี ฤตกิ รรมที่มักจะมปี ัญหาและความขัดแย้งกับ ผู้อืน่ ไดง้ า่ ย 192 มกี ารแบ่งพรรคแบง่ พวก บางคนตงั้ ตนเป็นมาเฟีย ทาใหเ้ กิดเหตกุ ารณ์การทะเลาะเบาะ แว้งกัน193 สอดคล้องกับงานศึกษาของเกี่ยวกับความขัดแย้ง ซึ่งนาไปสู่การจับกุมคนไร้บ้านเด็กและ วัยรุน่ พบวา่ เดก็ และวัยรุน่ กลมุ่ นม้ี ีปัญหาเรื่องของความยากจนและปญั หาครอบครวั แตกแยก 194 4.2 แนวคิดในการจดั การความขดั แยง้ มาตรการในการจัดการความขัดแยง้ ของคนไร้บ้าน 1.1) การจดั การความขัดแย้งโดยวธิ ีใช้ความรนุ แรง 1. การบีบบังคับ (Forcing) วิธีน้ีจะใช้ได้ผลเม่ือคู่กรณีมีอานาจ (power) ที่ไม่เท่ากัน โดย ฝ่ายที่ด้อยกว่ามักจะยินยอมแต่ไม่ได้หมายถึงยอมรับหรือเห็นด้วย ซ่ึงการแก้วิธีน้ีใช้ได้ระยะส้ันเท่านั้น โดยมุ่งลดผลท่ีตามมาไม่ได้ลดท่ีเหตุของปัญหา เช่น กรณีศึกษาของบุญเลิศ ท่ีกลุ่มคนไร้บ้านต่อต้าน สังคมสังเคราะห์ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ แม้จะถูกจับตัวไป แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ดี หรือพยายาม หลบหนีเจ้าหน้าท่ีของรัฐ195 ซึ่งผู้เขียนได้เคยลงไปสัมภาษณ์คนไร้บ้าน และถามว่า เหตุใดจึงไม่ไปอยู่ที่ บ้านที่รัฐจัดให้ ซ่ึงได้คาตอบมาหลายทาง เช่น ไม่อยากไปอยู่ เพราะท่ีน่ันไม่ให้ด่ืมเหล้า หรือ บางคนไม่ อยากไปอย่เู พราะชอบอสิ ระ หรอื มกี ระท่งั พอถามคาถามเหล่านี้ก็เดินหนีกล่มุ ผูเ้ ขยี นไปเลย เห็นไดว้ า่ คน ไร้บ้านบางกลุ่มไม่ได้เห็นด้วยกับวิธีการในการให้ความช่วยเหลือของรัฐ จึงต่อต้านและไม่ยอมรับความ ช่วยเหลือจากรัฐ แต่ในทางกฎหมายน้ัน ตามพระราชบัญญัติคนไร้ท่ีพึ่ง พ.ศ. 0997 เป็นมาตรการใน เชิงบังคับ กล่าวคือ คนไร้บ้านบางคนท่ีไม่ได้เข้าไปอยู่ในสถานคุ้มครองคนไร้บ้านโดยยินยอม การอาศัย หลับนอนยังทส่ี าธารณะก็อาจกระทาผิดตามกฎหมายท้องถ่นิ ในเร่อื งการอาศัยหลับนอนในที่สาธารณะ มีข้อกาหนดว่า หากคนไร้บ้านไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสถานคุ้มครอง ก็จะส่งตัวคนไร้บ้านมายัง เจ้าหน้าที่ให้ดาเนินการตามกฎหมาย เน่ืองจากมีความผิดเรื่องอาศัยหลับนอนในที่สาธารณะ ซึ่งคนไร้ บ้าน คนเร่ร่อนท่ีไม่อยากเขา้ ศนู ย์คมุ้ ครองกม็ ีความเสย่ี งทถี่ ูกมาตรการน้ีใช้บงั คับ 192 ภาวนา บุญมุสิก,ปรีย์กมล และรัชนกุล ศิริพร ขัมภลิขิต, (2554) พฤติกรรมสุขภาพและความต้องการการดูแล เร่ืองสุขภาพของวยั รนุ่ เร่รอ่ น, Thai journal of nursing council Vol.26 special issue Jan-Mar 2011, หนา้ 89 193 อินทรชัย พานิชกุล. (2559). “แจกอาหารคนไร้บ้าน” เม่ือความปรารถนาดีกลายเป็นความเดือดร้อน. [ข้อมูล ออนไลน์] แหล่งข้อมูล : http://www.posttoday.com/local/scoop_bkk/457969 สืบค้นวันท่ี 16 กันยายน 2560 http://www.posttoday.com/local/scoop_bkk/457969 194 Horowitz V. Sandra, Boardman K.Susan,and Redlener Irwin. (2537). Constructive Conflict manager and coping in Homeless Children and adolescent, Journal of social Issues, Vol.50,No.1 195 อ้างแลว้ , เชิงอรรถท่ี (189), หน้า 80 4 - 66

รายงานวจิ ยั ฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปัญหาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพอ่ื การพฒั นาคุณภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 2. การใช้กาลัง วิธีการน้ีจะเห็นในการจัดการความขัดแย้งของคนไร้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการ ววิ าทของคนไร้บ้านและคนไร้บา้ นดว้ ยกันเอง หรือ กบั บคุ คลอน่ื ที่มักจะใช้กาลังเพ่ือจัดการปัญหา และ ลงเอยด้วยการบาดเจ็บและปัญหาบานปลาย 1.2) การจดั การความรุนแรงโดยไมใ่ ชค้ วามรุนแรง 1. ใช้ความร่วมมือ รัฐมีการออกกฎหมายมากมายเพื่อให้คนไร้บ้าน อยู่ในสังคมได้อย่าง สันติสุขไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งศูนย์ที่พักพิงแก่คนไร้บ้าน จัดตั้งองค์กรในการช่วยเหลือคนไร้บ้าน ซ่ึง โครงการต่างๆ สาเร็จได้ด้วยดีก็โดยอาศัยความร่วมมือของไร้บ้านเป็นสาคัญ ท่ีมีการสารวจความ ต้องการคนไร้บ้านเพ่ือคนไร้บ้านอย่างแท้จริง เช่น ในส่วนของรัฐได้จัดสร้างบ้านสร้างโอกาส 3 แห่งคือ กรงุ เทพมหานคร ปทมุ ธานี และ นนทบุรี196 โดยเป็นสิทธิของคนไรบ้ ้าน เพ่ือเสรมิ สรา้ งศักยภาพในการ ประกอบอาชีพ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอสาหรับการมีท่ีพักอาศัยเป็นของตนเอง รวมไปถึงการจัดตั้งศูนย์ คุ้มครองและพักพิงแก่คนไร้บ้านทั่วประเทศ โดยการจัดทาสวัสดิการแก่คนไร้บ้านดังน้ี ช่วยลดปัญหา และความขัดแย้งทจ่ี ะเกิดในอนาคต หรอื เมื่อมีคดีเกิดจากความขัดแย้งข้ึน ซึง่ มาตรการนี้เป็นมาตรการ ท่ีจะได้ผลและไม่เกิดความรุนแรง ต่อเม่ือเกิดจากความยินยอมของคนไร้บ้านในการเข้าสู่กระบวนการ คุ้มครองโดยรฐั ซ่ึงไม่เกดิ กับทกุ กรณี 4.3 กรณีความขดั แยง้ ระหว่างคนไร้บ้านและชุมชน คนในสังคมมักจะมีมุมมองท่ีไม่ดีต่อคนไร้บ้าน และมักจะมองว่าเป็นปัญหาสังคม ท้ังไม่ได้รับ การยอมรับ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา คนไร้บ้านคือ ปัญหาสังคมท่ีสั่งสมเรื้อรังยาวนาน คนไร้บ้านจะถูก มองวา่ เป็นคนเกยี จครา้ น เฉอื่ ยชา และ มชี วี ติ อยู่เพอ่ื รอสวสั ดิการจากรัฐ โดยเบียดเบียนเงินจากภาษีที่ ต้องจ่ายเพ่ือนามาใช้ในปัญหาคนไร้บ้าน197 ทาให้คนไร้บ้านได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีจากคนในสังคม ซึ่ง หากจะอธิบายผ่านแนวคิดเรื่องทุนนิยม ในประเด็นความขัดแย้งของคนไร้บ้านและชุมชนผ่านมุมมอง ของคาร์ล มาร์ก (Karl Marx)198 สามารถอธิบายได้ว่า ในสังคมนั้นมีมนุษย์อยู่ 2 ชนช้ัน คือ ชนช้ัน นายทุนและ ชนช้ันแรงงาน ชนชั้นนายทุนมักจะเอาเปรียบชนช้ันแรงงาน กีดกันแรงงานออกจากความ จาเปน็ พืน้ ฐานของมนุษย์ เช่น อาหาร หรอื ท่อี ย่อู าศยั ขณะท่ี ชนช้นั แรงงาน เชือ่ ว่า นายทนุ จะสามารถ เป็นหลักประกันในความกินอยู่ที่ดีของตนได้ แต่ความจริงแล้วนายทุนนั้นมุ่งนึกถึงแต่การสร้างความมั่ง คั่งซ่ึงชนชั้นแรงงานเป็นเพียงผลประโยชน์ของนายทุนเท่าน้ัน โดยภายใต้ทฤษฎีความขัดแย้ง ผู้คน จานวนมากในระบอบทุนนิยมนิยามความม่ังคั่ง คือ สิ่งซ่ึงได้รับผ่านการศึกษา การอุทิศตนเพื่องานหนกั 196 มงคล ยะภักดี. (2552). คนไร้บ้าน : การจัดบริการด้านท่ีพักอาศัยชั่วคราว. [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งข้อมูล : https://www.gotoknow.org/posts/267536 สืบค้นวันที่ 16 กันยายน 2560 197 Ultius. (2560). An Analysis of Homelessness Using the Conflict Theory. [ข้อมลู ออนไลน]์ แหล่งข้อมูล : https://www.ultius.com/ultius-blog/entry/an-analysis-of-homelessness-using-the- conflict-theory.html สืบค้นวนั ที่ 20 กนั ยายน 2560 198 Marvelous-Essays Blog. Applying the Conflict Theory to the Issue of Homelessness. (2560). [ขอ้ มลู ออนไลน์] แหล่งข้อมูล : https://marvelous-essays.com/blog/applying-the-conflict-theory-to-the-issue- of-homelessness.html สบื ค้นวันที่ 16 กนั ยายน 2560 4 - 67

รายงานวจิ ัยฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนนุ องค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไรบ้ า้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 ซ่ึงคนจนและคนไร้บ้านถูกมองว่าเป็นผู้ที่เฉ่ือยชา เกียจคร้าน ขาดการศึกษา และเช่ือว่ากลุ่มเหล่านี้ ต้องการสวัสดิการจากรัฐ ซึ่งมาจากน้าพักน้าแรงของพวกเขาจากการจ่ายภาษี ซึ่งมาร์กอธิบายโดย ทฤษฎีความขัดแย้งว่า ระบอบทุนนิยมและ คนไร้บ้าน คอื ผลลัพธ์จากความไม่พอใจทเ่ี กิดขึ้นตลอดเวลา ระหว่างคนที่มี และ ไมม่ ี ซงึ่ ความแตกตา่ งของอานาจระหว่างชนชน้ั นน้ั ถกู อธิบายในสังคมทนุ นิยม และ ทั่วทุกประเทศที่ถูกปกครองโดยกลุ่มผู้ม่ังคั่ง ซึ่งสามารถควบคุมส่ิงต่างๆ ได้ผ่านการแข่งขันและอานาจ ซึ่งจะเหน็ ไดว้ า่ ระบอบทนุ นยิ มน้ัน สามารถใช้อธิบายถงึ ความขัดแยง้ ของคนไรบ้ า้ นและคนในสังคม ในประเทศไทย คนไร้บ้านนั้นจะพบเห็นได้โดยทั่วไปโดยกระจายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ เพ่ืออาศัย หลับนอน ดาเนินกิจกรรมดารงชีวิต ไม่ว่าจะเป็น เก็บของเก่า เร่ขายของ เราจึงจะพบคนไร้บ้านได้ทั่ว ทุกพื้นที่และชุมชน ไม่ว่าจะใช้เป็นเส้นทางสัญจรผ่านชุมชน การเข้าไปหาของเก่าตามถังขยะหน้าบ้าน ของคนในชุมชน หรือ บางชุมชนมีคนไร้บ้านมาอาศัยหลับนอนอยู่ ดังน้ัน สิ่งท่ีจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ ความขัดแย้ง อีกทั้งคนไร้บ้านถือเป็นประชากรกลุ่มท่ีมีความเปราะบางอยู่แล้ว จึงมีความเส่ียงท่ีจะเกิด การความขัดแย้ง เช่น ทะเลาะเบาะแว้ง หรือ ถูกคนในสังคมท่ีไม่เข้าใจผลักไสไล่สง่ และบางครั้งเปน็ ไป ในลักษณะการใช้กาลัง ซ่ึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ท้ังคนไร้บ้านเป็นผู้กระทาความผิด และเปน็ เหยื่อ ในการใหค้ วามช่วยเหลอื ของรฐั น้ัน ไดม้ มี าตรการในการช่วยเหลือคนไร้บา้ นในการเข้าถึง กระบวนการยุติธรรม ซ่ึงในบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560199 คนไร้บ้าน ถือเป็นผู้ยากไร้ ซ่ึงรัฐจะต้องให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาทนาย ให้ คาแนะนาปรึกษาเก่ียวกับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และการกระทาความผิดที่พบในคนไร้บ้าน มักจะเป็นความผิดในความผิดต่อชีวิตและร่างกายและทรัพย์สิน ได้แก่ ความผิดฐานทาร้ายร่างกาย (มาตรา 295-300) ซึ่งอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชวี ิต (มาตรา 288-291) หรือ คนไร้บ้านบางกลุ่มกม็ ี นิสัยลักเล็กขโมยน้อย ซึ่งอาจมีความผิดฐานลักทรัพย์ (มาตรา 334) ตามประมวลกฎหมายอาญา 200 ดังตวั อยา่ งในกรณีศึกษาน้ี 199 รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยมาตรา 68 รฐั พงึ จดั ระบบการบริหารงานในกระบวนการยตุ ิธรรมทุกดา้ นใหม้ ปี ระสทิ ธิภาพเปน็ ธรรม และไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ และให้ประชาชนเข้าถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรมได้โดยสะดวก รวดเร็วและไมเ่ สียคา่ ใช้จา่ ยสงู เกินสมควร รัฐพึงมีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าท่ีของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าท่ีได้โดยเครง่ ครดั ปราศจากจากการแทรกแซงหรือครอบงาใดๆ รัฐพึงให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายที่จาเป็นและเหมาะสมแก่ผู้ยากไร้หรือผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึง กระบวนการยุตธิ รรม รวมตลอดถึงการจัดหาทนายความให้ 200 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 059 ผู้ใดทาร้ายผ้อู ่นื จนเปน็ เหตใุ ห้เกิดอันตรายแกก่ ายหรือจิตใจของผู้อ่ืนน้ัน ผนู้ ้นั กระทาความผิด ฐานทาร้ายรา่ งกาย ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ สองปี หรือปรบั ไม่เกินสีพ่ นั บาท หรือทง้ั จา มาตรา 056 ผู้ใดกระทาทาความผิดฐานทาร้ายร่างกาย ถ้าความผิดนั้น มีลักษณะประการหน่ึงประการใด ดงั ท่บี ัญญัตไิ วใ้ นมาตรา 085 ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ สามปี หรือปรบั ไม่เกินหกพันบาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั มาตรา 057 ผู้ใดกระทาความผิดฐานทาร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทาร้ายรับอันตรายสาหัส ต้อง ระวางโทษจาคุกต้งั แตห่ กเดือนถงึ สิบปี อันตรายสาหสั นัน้ คือ (1) ตาบอด หูหนวก ลิน้ ขาด หรอื เสียฆานประสาท (0) เสยี อวยั วะสืบพนั ธุ์ 4 - 68

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนับสนุนองคค์ วามรู้ เพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ คนไร้บา้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 1) กรณีศกึ ษาการเดนิ นับแจงสารวจคนไรบ้ ้าน จังหวดั เชียงใหม่ เม่ือวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินแจงนับเพื่อสารวจข้อมูลสถิติ จานวนของคนไร้บ้านจังหวัดเชียงใหม่ผ่านการสังเกตและสัมภาษณ์จากแบบสอบถาม ในพื้นท่ีขนส่ง ช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ ปัญหาที่พบในเรื่องความขัดแย้งของคนไร้บ้านและชุมชน มีข้อเท็จจริงคือ คนไร้บ้านไดม้ ปี ญั หากับคนในชุมชน จากการสอบถามพบวา่ คนไร้บา้ นได้ทาร้ายรา่ งกายหญิงคนหนึ่งซ่ึง อาศัยอยู่บริเวณขนส่งชา้ งเผือก และในวันดังกล่าวเวลากลางคืนไดม้ ีกลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์เข้ามาหา (3) เสียแขน ขา มอื เทา้ นว้ิ หรือ อวยั วะอื่นใด (0) หนา้ เสียโฉมอย่างติดตวั (9) แทง้ ลกู (6) จติ พกิ ารอย่างติดตวั (7) ทพุ พลภาพ หรอื เจ็บป่วยเรอื้ รงั ซ่ึงอาจถึงตลอดชวี ติ (8) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่ายีส่ ิบวันหรือจนประกอบกรณยี กจิ ตามปกติไม่ได้ เกนิ กว่าย่สี บิ วนั มาตรา 055 ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหน่ึงบุคคลใดไม่วา่ จะ เปน็ ผู้ทเ่ี ขา้ ร่วมในการน้ันหรอื ไมร่ บั อันตรายสาหสั โดยการกระทาในการชุลมุนตอ่ สู้น้ัน ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกนิ หนง่ึ ปหี รอื ปรับไม่เกินสองพันบาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรับ ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้น้ันแสดงได้ว่า ได้กระทาไปเพื่อห้ามการชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพ่ือป้องกันโดย ชอบดว้ ยกฎหมาย ผนู้ ั้นไมต่ อ้ งรบั โทษ มาตรา 322 ผู้ใดกระทาโดยประมาท และการกระทาน้ันเป็นเหตุให้ผูอ้ ่ืนรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษ จาคกุ ไม่เกนิ สามปี หรอื ปรบั ไมเ่ กินหกพนั บาท หรือทงั้ จาทั้งปรบั มาตรา 088 ผใู้ ดฆา่ ผ้อู น่ื ต้องระวางโทษประหารชีวิต จาคกุ ตลอดชีวติ หรอื จาคุกตัง้ แต่สบิ ห้าปถี ึงยี่สบิ ปี มาตรา 085 ผู้ใด (1) ฆ่าบุพการี (0) ฆา่ เจา้ พนกั งาน ซง่ึ กระทาการตามหน้าท่ี หรอื เพราะเหตทุ ่ีจะกระทา หรือได้กระทาการตามหนา้ ท่ี (3) ฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน ในกาที่เจา้ พนักงานนั้นกระทาตามหน้าท่ี หรือ เพราะเหตทุ ่ีบุคคลน้ันจะชว่ ย หรือไดช้ ว่ ยพนกั งานดงั กล่าวแลว้ (0) ฆ่าผอู้ ื่นโดยไตร่ตรองไวก้ อ่ น (9) ฆ่าผูอ้ ่ืนโดยทรมานหรือกระทาทารุณโหดรา้ ย (6) ฆา่ ผ้อู นื่ เพ่ือตระเตรียมการ หรือ เพอ่ื ความสะดวกในการทีจ่ ะกระทาความผิดอยา่ งอ่นื หรอื (7) ฆ่าผู้อ่ืนเพ่ือจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทาความผิดอื่น เพ่ือปกปิด ความผดิ อืน่ ของตน หรอื เพื่อหลักเลี่ยงใหพ้ น้ อาญาในความผิดอน่ื ที่ตนได้กระทาได้ ต้องระวางโทษประหารชีวิต มาตรา 052 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทาร้ายผู้อ่ืนจนเป็นเหตุให้ผู้น้ันถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจาคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี ถ้าความผิดน้ันมีลักษณะประการหนึ่งประการใด ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 085 ผู้กระทาต้องระวางโทษ จาคุกต้ังแต่สามปถี ึงย่สี บิ ปี มาตรา 051 ผู้ใดกระทาโดยประมาท และการกระทาน้ันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษ จาคุกไม่เกินสบิ ปี และปรบั ไม่เกินสองแสนบาท มาตรา 334 ผ้ใู ดเอาทรัพยข์ องผ้อู น่ื หรอื ทผี่ อู้ ืน่ เป็นเจ้าของรวมอยไู่ ปโดยทุจรติ นน้ั ผู้นน้ั กระทาความผดิ ฐาน ลักทรัพย์ ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ สามปี และปรบั ไม่เกินหกหม่ืนบาท 4 - 69

รายงานวิจยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพ่อื การพฒั นาคุณภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 เรื่องคนไร้บ้านซ่ึงผู้เขียนและกลุ่มกาลังสัมภาษณ์ และสอบถาม ถึงเร่ืองราวท่ีเกิดขึ้นในการท่ีคนไร้บ้าน ทารา้ ยผู้หญงิ โดยมีท่าทีคกุ คามและหาเร่ือง จนกล่มุ ผูส้ ัมภาษณ์ไดเ้ ข้าไปไกล่เกลี่ยจนกระทงั่ ชายสองคน ไดจ้ ากไป แตก่ ็ไดฝ้ ากบอกวา่ “อยา่ มาให้เห็นทีน่ ีอ่ ีก ไม่งน้ั โดนแน่” และกอ่ นทผ่ี ู้เขียนและกลมุ่ จะได้ออก จากพื้นที่ตรงนั้น พบว่า ชายวัยรุ่นคนน้ัน กาลังขี่รถจักรยานยนต์ไปรอบๆ บริเวณขนส่งช้างเผือกมีท่าที เหมือนกาลังตามหาบางอย่าง ซ่ึงจากการสังเกตเบ้ืองต้นขณะเข้าสัมภาษณ์คนไร้บ้านคนดังกล่าวพบว่า คนไร้บ้านคนนั้น มีอาการป่วยทางจิต และเป็นคนไร้บ้านซ่ึงอยู่ในกลุ่มที่เห็นควรจะต้องได้รับความ ชว่ ยเหลืออยา่ งเร่งดว่ น 2) กรณีศกึ ษา ปฏิสมั พนั ธ์ของคนไรบ้ ้านและชมุ ชน จากสถิติการสารวจจานวนคนไรบ้ ้านในประเทศไทยพบว่ามีอยู่ประมาณ 32,222 201 เฉพาะ คนไร้บ้านในกรุงเทพมหานครปี พ.ศ.2557 พบว่า มีจานวนคนไรบ้ ้านอาศัยอยูใ่ นบริเวณต่างๆ จานวน 3,249 คน กระจายตัวไปตามเขตตา่ งๆ ไม่วา่ จะเป็น เขตพระนคร จตจุ กั ร บางซ่ือ ปทมุ วนั สมั พนั ธ์วงศ์ โดยส่วนใหญ่พบบริเวณสนามหลวง เป็นเพศชายถึงร้อยละ 60 และ ร้อยละ 10-20 ของคนไร้บ้านท่ี พบเป็นผู้ป่วยจิตเวช 202 อีกหนึ่งเหตุการณ์ท่ีเป็นข่าวสะเทือนขวัญในช่วงปลายปี พ.ศ. 2559 ที่พบศพคนเร่ร่อนที่เก็บ ของเก่าขายถูกฆาตกรรมต่อเนื่องกว่า 5 ราย ทุกรายท่ีพบเป็นศพล้วนมีสถานะเป็นคนเร่ร่อน ทาให้ทั้ง ชาวบา้ นและคนเรร่ อ่ นเองตา่ งหวาดผวา 203 จากข้อมูลเชิงปริมาณข้างต้น และข่าวซึ่งเป็นข้อมูลที่เผยแพร่สาธารณะ เหล่าน้ีเป็นสาเหตุหนึง่ ที่ทาให้บุคคลทั่วไปมองภาพของคนไร้บ้านไม่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นคดีใหญ่ที่มีคาว่า “คนไร้บ้าน” มา เก่ียวข้องรวมถึงข้อมูลสถิติท่ีพบว่ามีผู้ป่วยจิตเวชในกลุ่มคนไร้บ้านด้วย ทาให้คนในชุมชนที่มีคนไร้บ้าน อาศัยอยู่ หรือ คนท่ีพบเห็นบางคนที่ไม่เข้าใจมีความหวาดกลัวและรังเกียจคนไร้บ้าน แต่ในความเป็น จรงิ แลว้ ความหวาดกลวั ท่ชี าวบ้านหรอื ชุมชนมตี ่อคนไรบ้ า้ น เปน็ ความเช่อื ท่ีผดิ จากบทความของไทยรัฐ ออนไลน์เรื่อง คนจรจัดเกล่ือนกรุง เร่ร่อน VS ป่วยจิต เจาะมูลเหตุกาเนิดคนข้างถนน ได้ลงพื้นท่ี สมั ภาษณ์ นายสิทธิพล ชปู ระจง หวั หน้าโครงการผปู้ ว่ ยข้างถนน มลู นิธิกระจกเงา ซ่งึ เปิดเผยวา่ แมจ้ ะมี คนไร้บ้านจานวนหน่ึงเป็นผู้ป่วยจิตเวชซ่ึงต้องควรได้รับยาทุกวัน คนเหล่าน้ีคือ คนไร้บ้านในกลุ่มที่ควร ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่กระนั้น พฤติกรรมของคนไร้บ้านกลุ่มนี้ ไม่ได้มีพฤติกรรมท่ีรุนแรง และก่อเหตุร้าย ส่วนมากจะเปน็ ในลักษณะที่พูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว ไม่ทารา้ ยใคร สว่ นพฤติกรรม ก้าวร้าว รุนแรง และคุ้มคลั่งจะพบเห็นได้ในกลุ่มคนท่ีเสพยาเสพติดมากกว่า สอดคล้องกับสถิติการ สารวจคนคนไร้บ้านในกรุงเทพฯ พบว่ากลุ่มคนไร้บ้านเป็นกลุ่มบุคคลท่ีเสี่ยงจะถูกทาร้าย มากกว่าจะ เป็นผู้ก่อความรุนแรง โดยคนไร้บ้านร้อยละ 32.5 เคยมีประสบการณ์ชว่ งใชช้ วี ิตเป็นคนไรบ้ ้าน ตกเป็น 201 ปิยวรรณ อร. (2558). เข้าใจและให้โอกาสคนไร้บ้าน เร่ืองเล่าภาคี สสส. [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งข้อมูล : /Content/28652%27เขา้ ใจใหโ้ อกาส%27%20คนไร้บา้ น.html สบื ค้นวันท่ี 18 กันยายน 2560 202 ไทยรัฐออนไลน์. (2558). คนจรจัดเกล่ือนกรุง EP.1 เร่ร่อน VS ป่วยจิต เจาะมูลเหตุกาเนิดคนข้างถนน. [ข้อมลู อ อ น ไ ล น์ ] . แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล : http://www.thairath.co.th/content/541696http://www.thairath.co.th /content/541696 สบื ค้นวันที่ 16 กนั ยายน 2560 203 มติชนออนไลน์. (2559). เขย่าขวัญ ชาวบ้านกลัวหลังพบศพที่ !5 คนเร่ร่อนถูกฆ่าตายสะพานลอยนวมนิ ทร์ 92. ขอ้ มูลออนไลน]์ . แหลง่ ขอ้ มูล : http://www.matichon.co.th/news/324654 สบื คน้ วนั ที่ 16 กนั ยายน 2560 4 - 70

รายงานวิจยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนับสนุนองคค์ วามรู้ เพือ่ การพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนไร้บ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 เหยื่อของการละเมิดและความรุนแรงจากคนในสังคม เช่น ผู้ใช้สารเสพติด วัยรุ่นที่คึกคะนอง หรือ อันธพาล204 ในงานของบุญเลิศก็ได้มีคาอธิบายในเรื่องน้ีเชน่ เดียวกัน205 กล่าวคอื การทคี่ นเขา้ ใจภาพวา่ คน ไร้บ้านท่ีนอนข้างถนนในท่ีมืดและเปลี่ยว ทาให้คนมองว่าสถานท่ีท่ีคนไร้บ้านอาศัยหลับนอนอยู่เป็น พืน้ ที่ทสี่ ามารถเกิดอาชญากรรมได้ทุกรูปแบบนัน้ แต่ในความเป็นจรงิ สถานที่ดงั กลา่ ว ก็เป็นคนสถานที่ ที่คนไร้บ้านหลีกเลี่ยงด้วยเช่นกัน เช่น สถานีรถไฟที่คนไร้บ้านเข้าไปอาศัยหลับนอน ซ่ึงในเวลานี้ก็ได้มี กรณีท่ีคนไร้บ้านถูกขับไล่จากการรถไฟจากแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร โดยข้อเท็จจริงคือ การ รถไฟแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศ ไม่อนุญาตให้คนไร้บ้านเข้ามาอาศัยหลับนอนค้างคืน ภายใน บริเวณชานชาลาสถานีรถไฟหัวลาโพง ทาให้คนไร้บ้านต้องออกมานอนข้างนอก จนมีผู้พบเห็นและถา่ ย ลงโซเชียลมีเดีย พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจไม่ปลอดภัย พร้อมท้ังเรียกร้องให้ผ้ทู ี่เกี่ยวข้องลงมาจดั การ ผู้ส่ือข่าวได้สอบถามไปยังนายสิริพงษ์ กลั่นศิริ ที่ปรึกษาผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึง สาเหตุที่ออกประกาศ ห้ามไม่ให้คนไร้บ้านเข้ามาอาศัยหลับนอนอีกต่อไป พบว่าสาเหตุน้ันมาจากก่อน หน้านี้มีคนที่เป็นผู้โดยสาร ที่เดินทางโดยรถไฟจานวนมากร้องเรียนว่า กลุ่มคนไร้บ้านน้ัน ไม่มีระเบียบ และก่อความเดือดร้อนราคาญ เช่น กีดขวางตามทางเดิน การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้มีการจัด ระเบยี บเพือ่ รกั ษาความปลอดภัย ซึ่งมาตรการนี้มีมาตั้งแตเ่ ดือนมนี าคม ปี 2558 206 และหลังจากการ จัดระเบียบแล้วพบว่า จานวนของคนไร้บ้านมีจานวนน้อยลง แต่ก็ยังมีบ้างท่ียังมาวนเวียนอยู่บริเวณ สถานรี ถไฟ จะเห็นได้ว่า ชุมชนนั้นมองภาพคนไร้บ้านไม่ดี และ มองว่าเป็นปัญหาสังคม ท่ีก่อความ เดือดร้อนราคาญ ซึ่งจากการสอบถามจากการรถไฟฯ ในทาการสอบถามส่วนของคนไร้บ้าน ที่เข้ามา อาศัยหลับนอนในสถานีรถไฟ พบว่ากลุ่มคนดังกล่าว ไม่อยากกลับบ้านของตนเอง เนื่องจากมีปัญหาไม่ มีเงิน จึงเข้ามาอาศัยท่ีสถานีรถไฟ เห็นว่ามาตรการการขับไล่คนไร้บ้านออกจากบริเวณสถานี ไม่ได้มีท่ี พักอาศัยชั่วคราวมารองรับ ในการท่ีจะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ี ทาให้กลุ่มคนไร้บ้านย้ายออกไปข้างนอก บรเิ วณสถานีรถไฟแทน จึงไมไ่ ดเ้ ปน็ การแกไ้ ขปัญหาอยา่ งแท้จรงิ 4.4. มาตรการในการจดั การปญั หาคนไรบ้ า้ นโดยอาศัยการมสี ่วนร่วมของทุกภาคสว่ น คนไร้บ้านในภาวะปัจจุบันถูกมองว่าเป็นปัญหาสังคม เช่น ปัญหาในเรื่องการจัดการพื้นที่ ตัวอย่างในกรณีศึกษา การไล่ท่ีของสถานีรถไฟ หรือ ปัญหาอาชญากรรม ซ่ึงมีผลต่อความปลอดภัยต่อ ชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อให้คนไร้บ้านสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้ สานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้าง 204 อนรรฆ พิทักษ์ธานิน อ้างถึงใน รณภูมิ สามัคคีคารมย์. (2559). นิยาม และมายาคติกับความเป็นจริงของคนไร้ บ้านในพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร การสารวจข้อมูลทางประชากรเชิงลึกของคนไร้บ้านในเขตกรุงเทพมหานครและพ้ืนที่ เก่ียวเนือ่ ง นิยาม และมายาคติกบั ความเปน็ จริงของคนไร้บ้านในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานคร. [ข้อมลู ออนไลน]์ แหลง่ ข้อมูล :https://www.facebook.com/Penguinhomeless/photos/ms.c.eJwzNTc3NDUwMrQ0NDIxsLTU M4XwjYxMTM1NjI0AZJoGRQ~-~-.bps.a.577100559129065.1073741829.197235950448863 /577150219124099/?type=3&theater สบื คน้ วนั ท่ี 20 กันยายน 2560 205 อ้างแล้ว, เชิงอรรถท่ี (185), หน้า 92 206 Live ไทยรฐั เจาะประเดน็ . (2560). [ข้อมูลออนไลน์]. แหล่งท่ีมา : https://www.thairath.co.th/clip/112207 สืบค้นวันท่ี 20 กนั ยายน 2560 4 - 71

รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพื่อการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 เสริมสุขภาพ หรือ สสส. ได้มีจัดกิจกรรมโดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคสว่ น ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการพัฒนากลไกระดับพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน อยา่ งยง่ั ยนื ในโครงการ “ดึงศักยภาพทอ้ งถน่ิ คนื สิทธิคนไรบ้ ้าน”207 โดยไดเ้ รม่ิ ในพนื้ ทจ่ี ังหวดั ขอนแก่น ซ่ึงมีหลักการคือ ให้ชุมชนท้องถ่ินคือผู้ท่ีมีบทบาทมากที่สุด เพราะความย่ังยืนท่ีแท้จริงคือ การสร้าง สังคม และครอบครัวทอี่ บอุ่น ร่วมกันแก้ไขปัญหา คนไม่หนอี อกชุมชนโดยเฉพาะเดก็ ซึง่ เป็นอนาคตของ ชาติ การขับเคลื่อนในภาพรวมจะทา 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือการร่วมกับภาคประชาสังคม โดย ดาเนินการเรื่องของบัตรประจาตัวประชาชน ซ่ึงพบว่าคนไร้บ้านจานวนมากไม่มีบัตรประชาชน ท่ีอาจ มาจากหลายสาเหตุ ท้ังนี้การมีบัตรประชาชนเป็นสิ่งสาคัญ เพราะช่วยให้คนไร้บ้านสามารถเข้าถึงสิทธิ และสวัสดิการขั้นพื้นฐานของรัฐได้ แต่ปัญหาคือ โดยปกติในการจะทาบัตรประชาชน ต้องเป็นผู้มี สัญชาติไทยและมีช่ือในทะเบียนบ้าน แต่การท่ีคนไร้บ้านซึ่งอาจพลัดถิ่นมา แม้มีสัญชาติไทย แต่ก็มี ปัญหาในเรื่องเอกสารทางทะเบียน เมื่อมีหน่วยงานมาช่วยประสานงานในเร่ืองการทาบัตรประชาชน ให้แก่คนไร้บ้าน สิทธิข้ันพื้นฐาน เช่น การรักษาพยาบาล หรือ การออกสิทธิออกเสียงในคนไร้บ้านก็จะ พึงมีในฐานะของประชาชนไทย ในกรณีบุคคลที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ก็เป็นเร่ืองท่ีต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ ซึ่ง จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่เคยเดินแจงสารวจคนไร้บ้าน พบว่า คนไร้บ้านส่วนใหญ่มีสัญชาติไทย มีทั้งมีบัตรประชาชนและไม่มีบัตรประชาชน ส่วนที่สอง เนื่องจากพบว่าคนไร้บ้านมีข้อมูลส่วนตัวน้อย มาก อาจเป็นเพราะย้ายท่ีอยู่ไม่มีหลักแหล่ง และบางคนไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน มีการจัดทีมที่เข้ามา ช่วยแก้ปัญหาในส่วนน้ี และทาให้คนไร้บ้านกลับเข้ามาในชุมชนได้ ส่วนที่ 3 คือ การผลักดันด้าน นโยบาย โดยให้เกิดการบรู ณาการนโยบาย สถานการณ์คนไร้บ้านในประเทศไทย ต้องยอมรบั วา่ มิใช่ปัญหาท่ีแกไ้ ด้ในเร็ววัน และคนไร้บ้าน ก็ยังคงมีอยู่ในสังคมไทยสืบเน่ืองไป ดังน้ัน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้าน ดังเช่น โครงการแจกอาหารแก่คนไร้บ้านของหน่วยงานต่างๆ เป็นมาตรการเบ้ืองต้นในการให้ความ ช่วยเหลือคนไร้บ้าน เช่น ปรากฏการณ์ “รถหมูแดง”208 จากมูลนิธิกระจกเงาที่เร่ิมเข้าไปแจกอาหาร เครือ่ งดืม่ ขนม และยารักษาโรคแกค่ นไรบ้ ้าน ภายใต้โครงการ Food for Friends ณ ลานคนเมือง ยา่ น เสาชิงช้า ทุกคืนวันจันทร์ 20.00 - 22.00 น. เรียกเสียงช่ืนชมอย่างกว้างขวาง เหตุการณ์ดังกล่าวจุด กระแสให้ผู้คนมากหน้าหลายตาแห่กันเข้าไปบริจาค ส่งผลให้จานวนคนไร้บ้านเพิ่มข้ึนจากหลักสิบเป็น ร้อย จากแวะเวียนมาเฉพาะวนั ท่ีมีการแจกของกลายเป็นปักหลักรอคอยไม่ไปไหน ผลกระทบตามมาคือ ปัญหาท่ีสั่งสมไว้ไม่ว่าเป็นท้ิงขยะเร่ียราดสกปรก ขับถ่ายไม่เป็นท่ีเป็นทาง กินเหล้าเมาเสียงดัง เป็นเหตุ ใหเ้ กดิ ความราคาญแกค่ นในละแวกนั้น และผูเ้ ดินสญั จรไปมา งานศกึ ษาวิจยั เก่ยี วกบั การจัดการความขัดแย้งของคนไรบ้ ้านมปี รากฏออกมาอย่างต่อเน่ืองเห็น ได้จากงานศึกษาของ สิทธิพล ชูประจง 209 หัวหน้าโครงการได้กล่าวและยอมรับว่า โครงการแจก 207 ภาวิณี เทพคาราม. (2558). ดึงศักยภาพท้องถิ่น คืนสิทธิคนไร้บ้าน, สสส. [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งข้อมูล : http://www.thaihealth.or.th/Content/07381 สืบค้นวันที่ 19 กนั ยายน 2560 208 \"ร ถ ห มู แ ด ง \" เ มื่ อ ล า น ค น เ มื อ ง ไ ม่ ต้ อ น รั บ ค น ไ ร้ บ้ า น . 2559. [ข้ อ มู ล อ อ น ไ ล น์ ] แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล : https://www.posttoday.com/local/scoop_bkk/414624 สืบค้นวนั ท่ี 16 กนั ยายน 2560 209 อา้ งแลว้ , เชิงอรรถที่ (153) 4 - 72

รายงานวิจยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพอ่ื การพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 อาหารแก่คนไร้บ้านพบปัญหาเกิดข้ึนหลายประการ เน่ืองจากการจัดการที่ไม่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องขยะ ท่ี พบว่ามีการท้งิ ขยะเรยี่ ราด หรือ เกดิ เหตุการณ์ที่คนไร้บ้านจานวนมาก ตา่ งเฝา้ รอแจกอาหารจึงปักหลัก อยู่บริเวณดังกล่าว และ บางคนอาศัยหลับนอนอยู่บริเวณหน้าบ้านของคนชุมชน ขับถ่ายไม่เป็นท่ีเป็น ทาง บางกลุ่มตั้งวงดื่มสุราและก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทาให้ข้าวของชาวบ้านเสียหาย อีกท้ัง ยังพบ พฤตกิ รรมกลุม่ มาเฟยี ทม่ี ีคนไร้บา้ นบางคนตง้ั ตนเปน็ มาเฟีย จดั การระเบยี บการแจกอาหารโดยใช้ความ รุนแรง มีการเรียกผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นให้พวกของตนได้รับของก่อน หรือ นาของที่ได้รับมานาไป ขายต่ออีกทอด และบ่อยครั้งเกิดการปะทะคารมกับเจ้าหน้าเนื่องจากชักช้าและไม่ได้ดั่งใจ นามาซ่ึง ความรุนแรงในบางคร้ัง สิทธิพล ชูประจง ยังพบว่า เป็นปรากฏการณ์หนึ่งซึ่งทาให้ชุมชนบริเวณย่านเสาชิงเกิดความ เดือดร้อน ราคาญ รวมไปถึงเจ้าหน้าท่ีที่บางครั้งมีปฏิปักษ์กับคนไร้บ้าน การแจกอาหารให้แก่คนไร้บา้ น ในโครงการตอ่ มาจะไดถ้ อื ปรากฏการณ์นี้เปน็ บทเรียน เพอื่ ไมใ่ ห้เกิดปัญหาอีกในโครงการอน่ื ๆ ในเรื่องของการแจกอาหารแก่คนไร้บ้าน บุญเลิศ วิเศษปรีชา210 ได้ให้ข้อเสนอว่า การแจก อาหารนั้นไม่ผิด แต่ควรกิจกรรมอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย บุญเลิศได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแจกอาหาร คนไรบ้ า้ นไว้วา่ “ผมอยากให้ก้าวพ้นคาว่าแจกของ เปลย่ี นเปน็ คุณมานงั่ ฟังเขาดีกว่า จะไดเ้ รียนรู้อะไรจากชีวิต ของเขากลับไป มากกว่าแจกอาหารแล้วกลบั บ้าน การแจกอาหารทาได้แตต่ ้องทาอย่างอื่นควบคไู่ ปด้วย ควรทาใหก้ ารแจกอาหารนนั้ เป็นเคร่อื งมอื ท่จี ะนาไปสกู่ ารทาให้คนมาแจกได้เจอกบั คนไรบ้ ้าน ไดเ้ ขา้ อก เขา้ ใจปัญหาท่ีแทจ้ ริง คิดถงึ การแก้ไขปัญหาในระยะยาว การแจกอาหารก็เหมือนทาบญุ แต่พอพดู วา่ จะ ทายังไงให้คนไร้บ้านมีที่อยู่อาศัย คนจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องยาก ซับซ้อน เป็นไปไม่ได้ ซึ่งเราควรมาบริหาร จัดการตรงนี้ ทาใหไ้ ปไกลกวา่ การแจกอาหารไปวันๆ” อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือคนไร้บ้านด้วยวิธีการแจกอาหารนั้นมีข้อดี เน่ืองจากไม่มีความ ยุง่ ยากในการจัดเตรยี ม และเป็นการให้ความช่วยเหลือได้รวดเร็ว แตก่ ็ไม่ต่างจากการแก้ปัญหาระยะสั้น ส่งิ ที่ควรใหค้ วามสาคัญคือ การแกป้ ญั หาระยะยาว และตง้ั คาถามว่าทาอย่างไรให้คนไร้บ้านมีท่ีอยู่อาศัย สามารถทามาหาเล้ียงตนเองหรือครอบครัวได้อย่างเป็นกิจจะลักษณะ ซ่ึงเป็นผลดีในระยะยาวมากกว่า และมาตรการต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือคนไร้บ้าน ไม่ใช่ทุกวิถีทางที่จะเกิดผลดี และตอบโจทย์ของปัญหา ซึ่งในอนาคตก็ต้องมีการปรับเปล่ียนมาตรการ โดยศึกษาจากมาตรการท่ี ไดผ้ ลดี และ มาตรการทไ่ี ม่ได้ผล 4.5 ความขดั แย้งของคนไรบ้ า้ นกบั นโยบายพัฒนาเมอื ง (ระบบทนุ ) คนไร้บ้านเป็นกลุ่มประชากรท่ีพบได้ท่ัวโลก ส่วนมากจะพบในเมืองใหญ่และเจริญแล้ว จาก สถิติจานวนคนไร้บ้านในเมืองใหญ่ มีมากท่ีสุดในเมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ รองลงมาคือ นิวยอรก์ 210 \"แจกอาหารอย่างเดียวไม่ช่วยแก้ปัญหาคนไร้บ้าน \". (2559). [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งข้อมูล : https://www.posttoday.com/analysis/interview/465097 สืบค้นวันที่ 18 กนั ยายน 2560 4 - 73

รายงานวจิ ัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนับสนนุ องค์ความรู้ เพ่ือการพัฒนาคณุ ภาพชีวิตคนไรบ้ ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 ลอสแองเจลลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา มอสโก ประเทศรัสเซีย ตามลาดับ211 ซ่ึงสาเหตุในการทาให้คน กลายมาเป็นคนไร้บ้านน้ัน แตกต่างกันไปในแต่ประเทศ แต่ท่ีคล้ายกันก็คือ ผลจากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัวบางประเทศ ปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่ที่น่าชวนคิด คือ เหตุใดคนไร้บ้านจึงมัก พบในเมืองใหญ่ โดยจุดร่วมของเมืองเหล่านี้คือ เป็นเมืองใหญ่และเข้าถึงการพัฒนาเมือง และ เม่ือ กล่าวถึงวาทกรรมการพัฒนานั้น สิ่งท่ีจาเป็นนามาใช้เป็นแนวคิดในการศึกษา คือ SDGs (Sustainable development goals) คอื วาระการพัฒนาภายหลังปี พ.ศ. 2558 คอื การจดั ทาเป้าหมายการพัฒนา ที่ย่ังยืนโดยองค์การสหประชาชาติ (United nation) โดยในเป้าหมายที่สามารถนามาปรับใช้เพ่ือแก้ไข ปญั หาคนไรบ้ า้ น มี 3 เป้าหมายทีจ่ ะไดน้ ามาปรับใช้เพอ่ื จัดการกบั ปัญหาคนไรบ้ ้านอยา่ งย่ังยนื คอื เป้าหมายที่ 1 คือ ขจัดความยากจน 212 ในสถานการณ์ความยากจนของโลกน้ัน พบว่ากว่า 800 ล้านคน ยังขาดการเข้าถึงส่ิงจาเป็นข้ันพื้นฐาน ซ่ึงตามปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชนข้อ 25 (1)213 ไดก้ าหนดถึงการเขา้ ถึงมาตรฐานการครองชพี และ ปัจจยั ทจี่ าเปน็ ในการดารงชีวติ แตค่ นไร้บ้าน นนั้ พบว่าขาดการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพ้นื ฐาน คือ ท่ีอยอู่ าศยั ดงั น้นั การท่ีคนไรบ้ ้านมักจะอาศัยอยู่ ในเมืองใหญ่ และ เป็นเมืองท่ีค่าครองชีพสูงในประเทศนั้นๆ แน่นอนว่าการเข้าถึงสิทธิอาศัยของคนไร้ บ้าน ถูกจากัดด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจเป็นสาคัญ แต่ทั้งน้ันการท่ีจะเข้าถึงปัจจัยการดารงชีพอย่างอ่ืน น้ัน คนไร้บ้านจาเป็นท่ีจะต้องอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ เช่น อาหารท่ีคนไร้บ้านอาจใช้วิธีการขอทาน หรือ รบั อาหารท่แี จกฟรี หรอื การเข้าถงึ การประกอบสัมมาชีพ ท่จี ะมีโอกาสมากกว่าหากอยู่ในเมืองใหญ่ ทา ให้ปัญหาคนไร้บ้านเป็นปัญหาที่ยากต่อการแก้ไข ดังนั้น การท่ีจะแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านน้ัน จาเป็นที่ จะต้องแก้ไขปัญหาความยากจน เพ่ือให้สามารถเข้าถึงปัจจัยข้ันพื้นฐานที่หลากหลายมากข้ึน และมี โอกาสที่จะหลุดพน้ จากการเป็นคนไรบ้ ้าน เป้าหมายที่ 11 214 การจัดการพ้ืนที่ในเมืองอย่างอย่างยืน ในสถานการณ์ปัจจุบันนั้น การ เตบิ โตอยา่ งรวดเร็วของเมือง ในประเทศท่ีกาลังพฒั นาทาใหเ้ กิดการเคล่ือนยา้ ยประชากร จากชนบทเข้า มาในเมืองเพ่ือมาเสาะแสวงหาโอกาส และในการพัฒนาเมืองนั้นสิ่งท่ีต้องพัฒนาควบคู่ไปด้วยคือ การ 211 โ ส ภ ณ พ ร โ ช ค ชั ย .( 2559) . แ ก้ ปั ญ ห า ค น เ ร่ ร่ อ น อ ย่ า ง ไ ร ดี . [ข้ อ มู ล อ อ น ไ ล น์ ] แ ห ล่ ง ข้ อ มู ล : http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1609.ht m สืบค้นวันที่ 18 กนั ยายน 2560 212 เปา้ หมายของการพัฒนาทยี่ ่ังยนื (Sustainable development goals) เป้าหมายที่ 1 คือ ขจัดปัญหาความยากจนในทุกรูปแบบในทุกพ้ืนที่ภายในปี ค.ศ.2030 รวมไปถึง การ สร้างความเชื่อมั่นแก่คนยากจนและกลุ่มคนเปราะบางและถูกปกป้องจากสังคม และเพิ่มอัตราการเข้าถึงบริการข้ัน พื้นฐาน รวมถึงการป้องกันภัยพิบัติ ไม่ว่า ภัยธรรมชาติ หรือ ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับ ผลกระทบจากความขัดแยง้ 213 ปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชนข้อ 25 (1) ทุกคนมีสิทธิในมาตรฐานการ ครองชีพอันเพียงพอสาหรั บสุข ภาพและความอยู่ดีของตนและคร อบครั ว รวมท้ัง อาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การดูและรักษาทางการแพทย์ และบริการทางสังคมที่จาเป็น และมีสิทธิใน หลักประกันยามว่างงาน เจ็บป่วย พิการ หม้าย วัยชรา หรือปราศจากการดารงชีพอ่ืนในสภาวะ แวดล้อมนอกเหนือ การควบคมุ ของตน 214 เป้าหมายของการพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื (Sustainable development goals) เป้าหมายท่ี 11 ในการสรา้ งความเป็นเมืองและถ่ินฐานมนุษย์อย่างย่งั ยืน ทาให้เมอื งและการตัง้ ถน่ิ ฐานของ มนษุ ย์มีความปลอดภัย ท่วั ถึง พรอ้ มรบั การเปล่ียนแปลงและพฒั นาอย่างยัง่ ยนื 4 - 74

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพ่อื การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไรบ้ า้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 พัฒนาสาธารณปู โภค เพื่อรองรบั บริการสาธารณะให้เพียงพอต่อความตอ้ งการของประชากร ทห่ี ลง่ั ไหล เข้ามาในเมือง ซึ่งการสร้างสาธารณูปโภคเหล่านี้ ล้วนเป็นการท่ีรัฐต้องเข้าจัดการพ้ืนที่ ทาให้อาจส่งผล กระทบต่อประชาชน เช่น ถูกเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างถนน ดังนั้น จึงจาเป็นท่ีจะต้องมีการทาประชา พิจารณ์ และ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซ่ึงในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต้ังแต่ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา ได้ให้ความสาคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน และจนมาถึง รัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ก็ได้บัญญัติถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการท่ีเป็นส่วนหนึ่งของ รายงานการประเมนิ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน215 อกี ท้งั ยงั ต้องคานึงถึงสทิ ธมิ นุษยชนคือ สิทธิขั้นพื้นฐานสาหรับมนุษย์ทุกคนโดยไม่เลือกประติบัติ โดยใช้คุ้มครองร่วมกับสิทธเิ สรีภาพที่ประกาศ จากรัฐ (Freedom from The State) และสิทธิและเสรีภาพที่กาหนดบังคับใช้โดยผ่านรัฐ (Freedom though The State)216 เช่น สิทธิในการได้รับการสงเคราะห์ช่วยเหลือให้สามารถมีท่ีพักอาศัยที่ เหมาะสม หรือ สิทธิที่จะมีเสรีภาพหรือได้รับอิสระจากการถูกขับไล่เชิงบังคับ ที่ดาเนินการโดยรัฐ นอกจากนั้น สิทธมิ นุษยชนไดถ้ ูกให้ความสาคัญโดยกฎหมาย ระดับกฎหมายทั้งกฎหมายภายในประเทศ เขตท้องถ่ินและระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายขั้นลาดับตา่ งๆ ระเบียบข้อบังคับ มาตรการต่างๆ น้ัน จะต้องอยู่บนแนวพ้ืนฐานของสิทธิมนุษยชน เพื่อให้เป็นหลักประกันได้ว่า บุคคลผู้เป็นมนุษย์ทุกคน น้ันต้องได้รับการปฏิบัติ และได้รับการคุ้มครองสิทธิต่างๆ ตามสิทธิมนุษยชน เพื่อป้องกันการถูกละเมิด หรือปฏิเสธสิทธิ รวมถึง การดาเนินตามหลักการที่ต้องไม่ถูกเลือกประติบัติ (Non-Discrimination) 215 รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 มาตรา 67 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติว่า \"การดาเนินโครงการ หรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน อย่างรุนแรง ท้ังทางด้านคุณภาพส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ จะกระทามิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและ ประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความ คิดเห็นของประชาชนและผ้มู สี ่วนได้เสียก่อน รวมท้ังไดใ้ ห้องค์การอิสระ ซึ่ง ด้านส่ิงแวดลอ้ ม หรือทรัพยากรธรรมชาติ หรือดา้ นสขุ ภาพ ให้ความเห็นประกอบก่อนมกี ารดาเนินการดังกลา่ ว\" รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 98 “การดาเนินการใดของรัฐจะอนุญาตให้ผู้ใดดาเนินการ ถ้าการน้ันอาจมีผลกระทบต่อ ทรพั ยากรธรรมชาติ คณุ ภาพสิ่งแวดล้อม สขุ ภาพ อนามยั คณุ ภาพชีวติ หรือ ส่วนได้เสยี สาคญั อื่นใดของประชาชนหรอื ชมุ ชนหรือสิง่ แวดลอ้ มอย่างรุนแรง รัฐตอ้ งดาเนนิ การใหม้ ีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคณุ ภาพสิง่ แวดลอ้ มและ สุขภาพของประชาชนหรือชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและประชาชนและชุมชนที่ เก่ยี วข้องก่อน เพอ่ื นามาประกอบการพิจารณาดาเนินการหรอื อนญุ าตตามทก่ี ฎหมายบัญญตั ิ บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิได้รับข้อมูล คาชี้แจง และเหตุผลจากหน่วยงานของรัฐก่อนการดาเนินการหรือ อนุญาตตามวรรคหน่ึง ในการดาเนินการหรืออนุญาตตามวรรคตามวรรคหนึ่ง รัฐต้องระมัดระวังให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ชมุ ชน สิง่ แวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพนอ้ ยทส่ี ดุ และต้องดาเนินการให้มกี ารเยียวยาความเดือดรอ้ นหรอื เสยี หายให้แก่ประชาชนหรือชมุ ชนทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบอย่างเปน็ ธรรมและโดยไม่ชักช้า” 216 สเุ ทพ เอีย่ มคง. (2556). สทิ ธิและเสรีภาพของชนชาวไทย. [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งข้อมูล : http://wiki.kpi.ac.th/ index.php?title=สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย สบื คน้ วนั ที่ 20 กันยายน 2560 4 - 75

รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนับสนนุ องค์ความรู้ เพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 หรือไม่กีดกันให้เป็นบุคคลอื่น (Excluded) หรือ ทาให้ถูกกลายเป็นบุคคลชายขอบ (Marginalized Groups) 217 จากการพัฒนาประเทศไทยในเวลาท่ีผ่านมา ทาให้คนจากชนบทอพยพหล่ังไหลเข้ามาหางาน ทาในเมือง ทาให้เกิดการประกอบสร้างเป็นคนไร้บ้าน เนื่องจากปัญหาเชิงโครงสร้างซึ่งเป็นผลมาจาก การพัฒนาเศรษฐกิจ มีการอพยพจากชนบทเข้าสู่เมือง เน่ืองจากนโยบายการพัฒนาเมืองที่เอ้ือเฉพาะ “ในเมือง” ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคท่ีทันสมัย หรือ อัตราการจ้างงานท่ีมาก เป็นต้น คนจนซึ่งกระจายตัวอยู่ตามพ้ืนที่ต่างๆ ตามพื้นที่รอบนอกจึงถูกกีดกันจากทรัพยากรของเมือง และ ระบบสวัสดิการไม่สามารถเข้าถึงได้ ทาให้เคล่ือนย้ายเข้ามาสู่เมืองและเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ จน กลายมาเป็นคนไร้บ้าน ถือได้ว่าบริบทของเมืองเอื้อให้เกิดคนไร้บ้าน เดิมทีการอพยพช่วงแรกเร่ิมก็ได้มี การบุกเบิกท่ีดินสร้างบ้านเรือน ต้ังถิ่นฐานอาศัยอยู่รวมกันเป็นย่านชุมชนแออัดหรือสลัม แทรกอยู่ตาม ความเจริญของเมือง ต่อมาเมื่อมีการเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตัวเมืองมากข้ึน และการเสาะแสวงหาท่ีอยู่อาศัย นั้นกเ็ ป็นสงิ่ ท่ียากลาบากขน้ึ ตามกาลเวลา ที่ดินมีราคาแพงขึ้นเร่ือยๆ ทาให้คนทเ่ี คลื่อนย้ายเข้ามาในช่วง หลังไม่สามารถเสาะแสวงหาที่อยู่อาศัยได้ จึงมีการปรับตัวเกิดชุมชนใต้สะพาน กระทั่งมีคนจนเมือง รปู แบบใหมท่ ่ีต้องอาศัยหลับนอนในที่สาธารณะแทน “บ้าน” นานเป็นเดอื น เปน็ ปี กลา่ วคอื คนไร้บ้าน น่ันเอง218 ปัญหาสาคัญที่ทาให้กลายเป็นคนไร้บ้าน คือ ไม่สามารถจ่ายค่าที่อยู่ได้219 จึงอาศัยที่ สาธารณะเปน็ ทพ่ี ักหลบั นอน แมน่ ้าหรอื วดั กลายเปน็ ท่ชี าระลา้ งรา่ งกาย เสอ้ื ผา้ ผลลัพธ์จากการพัฒนาเมืองที่ทาให้คนกลายมาเป็นคนไร้บ้านอีกประการหนึ่งคือ การพัฒนา อย่างไม่หยุดย้ังก่อให้เกิดความเหลอื่ มลา้ ทางสงั คม เป็นผลจากการกระจายรายได้ทไ่ี ม่เท่าเทียม บางคน ผิดหวัง ล้มเหลวจากการเข้ามาทาในเมือง และ เมื่อกลายมาเป็นคนไร้บ้านก็มีความเป็นไปได้ยาก ท่ีจะ กลับตัวขน้ึ มาเป็นปกตอิ ีกครงั้ ซ่งึ จะไดใ้ ชแ้ นวคดิ อธบิ ายดงั น้ี คนไร้บ้าน ถือได้ว่าเป็นกลุ่มคนชายขอบของสงั คม พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร220 ได้ นิยามคาว่า “คนชายขอบ” คือ คนด้อยโอกาส ตรงข้ามกับ คนไม่ด้อยโอกาส คือ คนท่ีอยู่ในศูนย์กลาง ของการพัฒนาที่ได้รับความเอาใจใส่จากสังคมและรัฐ มนุษย์ที่ไม่ด้อยโอกาสย่อมมี “ต้นทุน” ที่บริโภค และอุปโภคได้อย่างความเท่าเทียมกับบุคคลอ่ืนๆ โดยจะจาแนกธรรมชาติของความด้อยโอกาสที่ทาให้ มนุษย์ตกเป็นคนชายขอบไว้ 3 กรณีด้วยกัน กล่าวคือ 1. ความด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม 0. ความด้อยโอกาสทางการศึกษา และ 3. ความด้อยโอกาสทางกฎหมาย คนไร้บ้าน คือ คนที่ด้อยโอกาสทางสังคมท่ีมักจะด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจ ซ่ึงในขณะเดียวกัน คนท่ีด้อยโอกาสทางเศรษฐกิจมักด้อยโอกาสทางสังคม การเปลี่ยนแปลงของสังคมท่ีมีการพัฒนา 217 ก ร ม พั ฒ น า สั งค ม แ ล ะ สวั ส ดิก า ร ก ร ะ ท ร ว งก า ร พั ฒ น า สั งค ม แ ละ ค ว าม ม่ั น คงข อ งม นุ ษ ย์ และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2559). รายงานฉบับสมบรู ณ์ การถอดบทเรยี นการดาเนนิ งานมาตรฐานการจัดบริการคน ไร้ที่พ่ึงในสถานค้มุ ครองคนไร้ทพ่ี ง่ึ . กรุงเทพฯ : เจพริ้นท์, หนา้ 36-37 218 อ้างแล้ว, เชงิ อรรถท่ี (185), หน้า 185 219 เพง่ิ อ้าง, หน้า 84 220 พันธ์ุทิพย์ กาญจนะจติ ร. (2551). คนชายขอบ (Marginal People) ในความหมายของ ICCPR Country Report. [ขอ้ มูลออนไลน]์ แหลง่ ขอ้ มูล : https://www.gotoknow.org/posts/ 020503 https://www.gotoknow.org/posts/204923 สบื คน้ วนั ที่ 24 กันยายน 2560 4 - 76

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 เศรษฐกิจก็ส่งผลกระทบต่อคนไร้บ้านดว้ ย เช่น เหตุการณ์ในปีพ.ศ. 0900 ซ่ึงประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ในการจัดประชุม APEC ในสมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ได้มีการจัดระเบียบบ้านเมืองให้ สวยงามเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง คนไร้บ้านคือ กลุ่มคนท่ีได้รับผลกระทบเน่ืองจากส่งผลต่อ ภาพลักษณ์ของประเทศ จึงได้มีการจัดระเบียบโดยการกักขังคนไร้บ้านไว้ท่ีเดียวกัน221 หรือ ประเทศ อื่นๆในเอเชีย อย่างเวียดนามก็ได้มีการจัดระเบียบคนไร้บ้านโดยใช้วิธีการที่รุนแรง ในรายงานของ ฮิวแมนไรซ์วอชเปิดเผยว่า รัฐบาลเวียดนามได้จัดระเบียบโดยการยัดข้อหา และ กักขังเด็กเร่ร่อนข้าง ถนน222 โดยเหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนถึง ภาพการมองเห็นถึงปัญหาคนไร้บ้านอย่างตื้นเขินว่า คือ ปัญหาที่ส่งผลต่อความสวยงามของประเทศ แต่ไม่ได้มองถึงปัญหาที่แท้จริงว่า กลุ่มคนเหล่านี้คือส่ิง สะทอ้ นถงึ ความล้มเหลวของการบรหิ ารประเทศ และรัฐไม่ได้ให้ความสนใจทจ่ี ะแกป้ ญั หาอย่างแทจ้ ริง และผลกระทบที่กลุ่มคนไร้บ้านได้รับจากการพัฒนาอีกประเด็นคือ ในเร่ืองการจัดสร้าง สาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure) เพื่อสอดรับกับการพัฒนาเมือง ซ่ึงโดยปกติในโครงการ การจัดสร้างระบบสาธารณูปโภคพ้ืนฐานโดยรัฐโครงการใหญ่ๆ จะต้องมีการจัดทา EIA เพ่ือประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EHIA ในการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพก่อนมีการทาโครงการต่างๆ เพ่ือ รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในเร่ืองท่ีมีผลกระทบชีวิตของประชาชนทุกคน โดยการจัดทา ประชาพิจารณ์ โดยเฉพาะผู้มีส่วนได้เสียตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.0992 ในเร่ือง กระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคน ไร้บ้านคือ กลุ่มคนไร้บ้านซ่ึงมีหลากหลายกลุ่ม อาจจะเข้ามาอาศัยอยู่พ้ืนท่ีท่ีกาลังมีการจัดทาประชา พิจารณ์ เพื่อสร้างโครงการใดโครงการหนึ่ง เช่น ถนน โรงไฟฟ้า แต่กลุ่มคนไร้บ้านไม่เคยมีส่วนร่วมใน การทาประชาพิจารณ์ ทั้งที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบหรือเป็นสมาชิกในชุมชน ซึ่งย่อมได้รับผลกระทบใน การจัดสร้างโครงการต่างๆของรัฐ อาจจะเนื่องจากเหตุผลการไม่มีสัญชาติ หรือ เป็นผู้พลัดถิ่นมาจากท่ี อน่ื จึงไมม่ ที ะเบยี นในท้องทท่ี ่ีอาศยั อยู่ตามความเป็นจรงิ จึงไม่มีส่วนรว่ มในการตดั สินใจ และ เป้าหมายที่ 16223 คือการส่งเสริมสันติสุข ควบคู่กับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยอยู่ บนฐานของนิติธรรม (Rule of law) เน่ืองจาก การอยู่ร่วมกันอย่างสันติน้ันมีความจาเป็นที่จะต้อง ตระหนักถึง หากต้องการท่ีประสบความสาเร็จในวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยทุกคนต้องเป็นอิสระ จากความกลวั จากความรุนแรง ความขดั แยง้ และรสู้ กึ ปลอดภยั ไม่วา่ จะอยู่ ณ ท่ีใด ไม่มกี ารแบง่ แยก ซ่ึง การที่จะเข้าถึงเป้าหมายของความยุติธรรม และ สันติภาพน้ันส่ิงที่สาคัญคือ รัฐ ประชาสังคม และ ชุมชนทางาน ควรทางานร่วมกันช่วยกันแก้ปัญหา ลดความขัดแย้ง ต่อต้านการทุจริต มุ่งท่ีจะลดความ รนุ แรงทกุ รูปแบบ 221 อ้างแลว้ , เชงิ อรรถท่ี (185), หนา้ 4 222 แฉเวียดนามกวาดเด็กข้างถนนโรยหน้าประชุมเอเปก . (2549). [ข้อมูลออนไลน์] แหล่งข้อมูล : http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000140347 สื บ ค้ น วั น ที่ 20 กนั ยายน 2560 223 เป้าหมายของการพัฒนาทีย่ ่ังยืน (Sustainable development goals) เปา้ หมายที่ 16 สันติและความยตุ ธิ รรมส่งเสริมสงั คมทีมคี วามสงบสขุ ไมม่ กี ารแบง่ แยกเพื่อการพัฒนาอยา่ ง ยงั่ ยนื ใหม้ ีความยุติธรรมสาหรับทุกคนและสรา้ งสถาบนั ทม่ี ีประสทิ ธิภาพ เปน็ ท่พี ึ่งของสว่ นรวมและเปน็ ท่ียอมรับในทกุ ระดับ 4 - 77

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพ่อื การพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนไร้บ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 การสร้างสันติสุข สงบสุขน้ัน บุคคลทุกคนจาต้องมีสิทธิที่จะดาเนินชีวิตอย่างมีอิสรเสรี มีความ ปลอดภัย และไม่ถูกเลือกปฏิบัติในการเข้าถึงความยุติธรรม ซ่ึงประเด็นเรื่องดังกล่าวก็ได้บัญญัติไว้ใน ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนด้วย224 แต่สถานการณ์ของคนไร้บ้าน พบว่าความปลอดภัยเชิง กายภาพของคนไร้บ้าน มักจะอยู่ภายในภาวะถูกคุกคาม เน่ืองจากขาดพ้ืนที่ท่ีปลอดภยั ในการดารงชีวติ อยู่ บุคคลไร้ท่ีพ่ึงจึงดาเนินอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นอันตรายถูกก่ออาชญากรรม และถูกทาร้ายได้ โดยงา่ ย225 ในด้านของสิทธิในการไมถ่ ูกเลือกปฏบิ ัติของบุคคลไรท้ ่ีพึ่ง ซ่ึงมีสทิ ธไิ ดร้ บั ความเท่าเทยี มและ อิสระจากการถูกเลือกปฏิบัติอันเป็นสิทธิข้ันพ้ืนฐานของมนุษย์ แต่ในความเป็นจริงคนไร้ที่พึ่งส่วนใหญ่ มักจะถูกตีตรา (stigmatization) ถูกเลือกปฏิบัติในหลายลักษณะท้ังในการให้ทางานทา การเข้าถึง บริการสุขภาพ การเข้าถึงการศึกษาหรือการฝึกอบรม รวมถึงการถูกเอาไปเปรียบเทียบเทียบกับบุคคล กลุ่มอื่นในสังคม ปัจจัยเหล่าน้ีล้วนเป็นสาเหตุทาให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มคนไร้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นการ ตกอยู่ความเสี่ยงของวังวนความขัดแย้ง การถูกเลือกปฏิบัติจากสังคมและคนรอบข้าง จึงแสดงออกมา ใหป้ รากฏเหน็ ในความขัดแย้งรปู แบบต่างๆ 4.6 การรวมกลุ่มของคนไร้บ้าน 1) สิทธิในการเรียกร้องของกล่มุ การรวมกลุ่มน้ัน เป็น สิทธิข้ันพื้นฐานของประชาชนทุกคน ท้ังบัญญัติเป็นมาตรฐานไว้ใน ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal declaration of Human right) 226 และจากแนวคิด ตามปฏิญญาสากลดังกล่าว เป็นฐานคิดในเร่ืองของการมีส่วนร่วมของประชาชนไม่ว่าระดับไหน ดังท่ี ปรากฏในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยพ.ศ.0962 227 ในการรวมกลุ่มของคนไร้บ้าน เกิดจากการที่เกิดความขัดแย้งระหว่างสังคม และคนไร้บ้าน ไม่ ว่าจะเป็น การพัฒนาเมืองตามนโยบายรัฐ และคนไร้บ้านถูกไล่ท่ีอยู่อาศัยหลับนอนของเขา อาจจะ เน่ืองมาจากการพัฒนาภูมิทัศน์ของเมือง หรือ การเวนคืนพ้ืนท่ีเพ่ือสร้างสาธารณูปโภค การถูกไล่ท่ีหรอื 224 ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสิทธมิ นษุ ยชน ข้อ 3 บญั ญตั ิว่า “ทุกคนมีสทิ ธใิ นการมชี ีวิต เสรีภาพและความมัน่ คงแห่งบุคคล” ขอ้ 7 บญั ญัติวา่ “ทุกคนเสมอกนั ตามกฎหมายและมสี ิทธิทจี่ ะไดร้ บั ความคุม้ ครองของกฎหมายเท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลอื กปฏบิ ัติใด ๆ ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รบั ความคุ้มครองเท่าเทียมกันจากการเลือกปฏิบัติใดๆอันเป็น การลว่ งละเมิดปฏิญญา และจากการยุยงให้เลือกปฏิบตั ิดงั กลา่ ว” 225 อา้ งแล้ว, เชงิ อรรถท่ี (217), หน้า 48. 226 ปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสิทธมิ นษุ ยชน (Universal declaration of Human right) ขอ้ 20 “ทุกคนมสี ทิ ธใิ นอิสรภาพแห่งการร่วมประชมุ และการต้งั สมาคมโดยสันติ” 227 ดงั ทป่ี รากฏในรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยพ.ศ.2560 มาตรา 42 “บุคคลย่อมมีเสรภี าพในการรวมกันเป็นสมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือ หมู่คณะ อน่ื โดยการจากัดเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ี ตราขึ้นเพ่ือค้มุ ครองประโยชนส์ าธารณะ เพ่อื รักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศีลธรรมอันดขี องประชาชน หรอื เพอ่ื การ ป้องกนั หรอื ขจัดการกดี กนั หรือการผูกขาด” 4 - 78

รายงานวจิ ัยฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปัญหาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพอ่ื การพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 เวนคืนพื้นที่อาจสร้างความไม่พอใจแก่คนไร้บ้าน ความขัดแย้งท่ีเกิดข้ึนนี้จึงทาให้เกิดการรวมตัวกันข้ึน ของคนไร้บ้าน 2) สภาพปญั หาในเร่ืองการรวมกลุ่มของคนไรบ้ ้าน คนไรบ้ ้านก็ถือเปน็ กลุม่ คนท่ีเป็นสมาชกิ ของสงั คม ดังน้นั ในกลมุ่ คนไรบ้ า้ นเองก็ไดก้ ารรวมกลุ่ม และมีกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งรัฐธรรมนูญได้บัญญัติรับรองสิทธิของการรวมกลุ่มไว้ในรูปแบบของ สมาคม สหกรณ์ สหภาพ องค์กร ชุมชน หรือ หมู่คณะอ่ืน แต่ในทางปฏิบัติมีการออกกฎหมายลาดับรอง หรือ ข้อบังคับซ่ึงเป็นการจากัดเสรีภาพการรวมกลุ่ม เช่น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มีการ กาหนดให้ต้องจดทะเบียนต่อหน่วยงานของรัฐในการรวมกลุ่มแบบนิติบุคคล ซึ่งเป็นไปโดยชอบด้วย กฎหมาย แต่ในความเป็นจริง องค์กรภาคประชาชนหลายองค์กรมีการดาเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณะ ประโยชน์ แต่มิได้จดทะเบียนหรือไม่สามารถจดทะเบียนไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ดังน้ัน การรวมกลุ่มใน ลักษณะน้ีจะไม่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย เช่นเดียวกับ การรวมกลุ่มในคนไร้บ้าน เครือข่ายสลัมส่ี ภาค เปน็ ตน้ อีกประเด็นปัญหาของภาวะคนไร้ที่พ่ึง คนเร่ร่อน กับ สิทธิท่ีจะมีอิสรภาพในการเคล่ือนย้าย หรอื มกี ารรวมตวั ในการบุคคลไรท้ ี่พ่ึงมสี ทิ ธิท่จี ะเคล่ือนย้ายตนเองไปทีใ่ ดในบริเวณสาธารณะก็ได้ แต่ใน ความเป็นจริงกลมุ่ บุคคลเหลา่ น้ี มักถูกกาหนดขอบเขตสถานท่ี ถูกดาเนินการจดั ระเบยี บ ถูกคกุ คามหรือ ดาเนนิ การในเชงิ ลบจากสมาชกิ กล่มุ อนื่ ในสงั คม เชน่ ถกู ไล่ท่ี ถกู ขับไลจ่ ากชมุ ชน และไม่มสี ิทธแิ ละเสียง ในสังคม228 แม้คนไร้บ้านจะไม่ได้รับการยอมรับในสังคม แต่สถานการณ์คนไร้บ้านในปัจจุบันในเรื่องการ รวมกลุ่ม ถือว่ากาลังเจริญเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนใหญ่จะเป็นการรวมกล่มุ กันเพ่ือเรียกร้องใน เรอ่ื งสิทธอิ าศัย ซ่งึ ในกลมุ่ คนไร้บา้ นก็ได้มีการรวมกลมุ่ กัน และไดร้ บั ความรว่ มมือจากหลายภาคส่วน ดงั กรณศี กึ ษาดงั นี้ กรณศี กึ ษาการรวมกลมุ่ เครอื ข่ายคนไร้บ้าน “สลมั สี่ภาค” กลุ่มเครือข่ายสลัมส่ีภาค คือ องค์กรภาคประชาชนที่มาจากการรวมตัวกันของผูเ้ ดือดร้อนดา้ น สิทธิที่อยู่อาศัย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปที่ดินเมืองเพ่ือสร้างความม่ันคงในท่ีอยู่อาศัยของคนจน และพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของคนจนเมืองให้ดีขึ้น รวมถึงการมีส่วนรว่ มผลักดนั เชิงนโยบายท่เี ปน็ ธรรมทาง สงั คมโดยเครือข่ายสลมั 0 ภาคมีเครอื ข่ายสมาชกิ ประกอบด้วยสมาชกิ 1. ศนู ยร์ วมพฒั นาชุมชน 0. กลุ่มพัฒนาชุมชนใต้สะพาน 3. เครอื ขา่ ยชมุ ชนริมทางรถไฟสายใต้-ตะวันตก 0. เครอื ขา่ ยสลมั พระราม3 9. เครือขา่ ยคนไรบ้ ้าน 228 อ้างแล้ว, เชิงอรรถท่ี 214, หนา้ 44-46 4 - 79

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนับสนุนองค์ความรู้ เพอ่ื การพฒั นาคุณภาพชีวติ คนไร้บา้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 6. เครือข่ายชุมชนเพือ่ การพัฒนา 7. เครือขา่ ยฟ้นื ฟปู ระชาสร้างสรรค์ 8. เครอื ข่ายพฒั นาสทิ ธิชุมชนภาคใต้ โดยเครือข่ายคนไร้บ้านก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของเครือข่ายสลัมส่ีภาค โดยห้วงเวลาท่ีผ่านมา การเคล่ือนไหวของเครือขา่ ยสลัม 0 ภาคซ่ึงเปน็ องค์กรท่เี คลื่อนไหวเกีย่ วกับสทิ ธิอาศัย ทีผ่ ่านมาได้มีการ ออกมาเคลื่อนไหวในเหตุการณ์ต่างๆ เพ่ือออกมาแสดงสิทธิและความเห็นของคนในเครือข่ายไม่ว่าจะ เป็น เมื่อวันท่ี 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 0962 ท่ีเครือข่ายสลัม 0 ภาค รวมตัวกันประมาณ 92 คน ได้เข้า ย่ืนหนังสือปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้แก้ปัญหาที่อยู่อาศัย ให้ชุมชนในท่ีดินของการรถไฟ แห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยมีข้อเรยี กร้องตอ่ รัฐมนตรกี ระทรวงคมนาคม ใหย้ ุตกิ ารขยายถนนเลยี บทาง รถไฟจรัญสนิทวงศ์ เน่ืองจากส่งผลกระทบต่อบา้ นเรือนบรเิ วณดังกล่าว หรือ เหตุการณ์ท่ีเครือขา่ ยสลมั 0 ภาค ได้ออกมาเคล่ือนไหวให้รัฐบาลหยุดไล่ร้ือชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นต้น นอกจากจะเคล่ือนไหว ด้านสิทธทิ อ่ี ยอู่ าศัยแล้ว ยงั เคล่ือนไหวทางการเมือง เช่น เครอื ขา่ ยสลมั 0 ภาคร่วมมอื กับนิสติ นักศึกษา ออกแถลงการณ์ \"หยุดจับกุมประชาชนท่ีเห็นต่าง: ปล่อยตัวคนเห็นตา่ งทันที” เนื่องจากขัดกับหลักสทิ ธิ มนษุ ยชน เห็นได้วา่ เครอื ข่ายคนไรบ้ ้านในปัจจบุ ันได้มกี ารพัฒนาเปลี่ยนรปู แบบ จากเดิมท่เี นน้ อาศัยอยู่ ปจั เจกมปี ฏสิ ัมพันธ์เฉพาะบางพวกบางกลมุ่ แตใ่ นปจั จบุ ันสถานการณ์การรวมกลุ่มของคนไรบ้ า้ นเป็นไป ในทางท่ีดีข้ึน และมีการเคลื่อนไหวและแสดงออกอยู่เป็นประจา ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในการพัฒนา คุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านได้ดีกว่า การออกกฎหมายบังคับใช้เพื่อจัดการควบคุมปัญหาคนไร้บ้าน แทนทีก่ ารใช้รว่ มมอื และฟังเสียงถึงความต้องการท่แี ท้จริงของคนไรบ้ ้าน 4.7 กฎหมายท่เี ก่ยี วขอ้ งกับการจดั การความขดั แย้งของคนไรบ้ า้ น สถานการณ์คนที่ไร้พ่ึงในประเทศไทยพบว่า มีหลายสาเหตุ โดยสาเหตุหลักคือ ปัญหาทางด้าน เศรษฐกิจ ปัญหาครอบครัว ซึ่งคนไร้ที่พึ่งนั้นเป็นกลุ่มคนท่ีมีสุ่มเส่ียง ในการที่จะเกิดปัญหาความขัดแยง้ เน่อื งจากมคี วามเปราะบาง โดย “รายงานการวจิ ยั การถอดบทเรียนการดาเนนิ งานมาตรฐานการจัดบริ การคนไร้ท่ีพ่ึงในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง”229 ซ่ึงได้อธิบายถึงสภาวการณ์ของคนไร้ที่พ่ึงกับสิทธิ มนุษยชน ในส่วนของคนไร้ที่พ่ึง คนเร่ร่อนกับสิทธิด้านความปลอดภัยและการถูกได้รับปฏิบัติระดับ บคุ คล โดยอา้ งองิ ตามปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธมิ นุษยชน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 68 รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุตธิ รรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ\" เป็นธรรม และไม่เลือกปดิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว และ ไม่เสยี ค่าใช้จ่ายสูงเกนิ สมควร รัฐพึงมีมาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าท่ีของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปดิบัติหน้าที่ได้ โดยเครง่ ครัด ปราศจากการแทรกแซง หรือ ครอบงาใดๆ 229 อา้ งแลว้ , เชงิ อรรถท่ี (010), หนา้ 45-47 4 - 80

รายงานวิจัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ เพ่ือการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 งให้ความชว่ ยเหลอื ทางก้หมายท่ีจาเปน็ และเหมาะสมกบั ผู้ยากไรห้ รือผดู้ ้อยโอกาสในการรัฐพึ เข้าถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรม รวมตลอดถงึ การจัดหาทนายความให้\" มาตรา 71 วรรคสาม “รัฐพึงให้ความช่วยเหลือเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสให้สามารถดารงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และคุ้มครองป้องกันมิให้บุคคลดังกล่าวถูกใช้ ความรุนแรงหรือ ปดิบัติอย่างไม่เป็นธรรม รวมตลอดทั้งให้การบาบัด ฟื้นฟู เยียวยาผู้ถูกกระทาการ ดังกลา่ ว” พระราชบัญญัตกิ ารคมุ้ ครองคนไร้ท่พี ่ึง พ.ศ. 2557 มาตรา 3 กาหนดใหค้ นไร้ที่พึ่ง หมายถงึ “บุคคลซึ่งไรท้ อ่ี ยู่อาศยั และไม่มรี ายไดเ้ พียงพอแก่การ ยังชีพ และให้รวมถงึ บคุ คลท่ีอยูใ่ นสภาวะยากลาบากและไม่อาจพ่ึงพาบุคคลอื่นได้” โดยกฎหมายไดน้ ยิ ามตามประกาศคณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง เรอ่ื ง กาหนดประเภทหรือ ลักษณะของบคุ คลที่อยูใ่ นสภาวะยากลาบากและไม่อาจพ่งึ พาบุคคลอืน่ ได้ ขอ้ 3 “ประเภทหรอื ลักษณะของบุคคลท่ีอยู่ในสภาวะยากลาบากและไม่อาจพึ่งพาบุคคลอื่นได้ เปน็ คนไร้ท่ีพงึ่ ไดแ้ ก่ 1) บคุ คลทป่ี ระสบความเดือดรอ้ น หมายถงึ บคุ คลสัญชาตไิ ทยที่มีความยากลาบากในการดารง ชีพเนือ่ งจากเหตหุ ัวหน้าครอบครัวหรือบุคคลทเี่ ปน็ หลกั ในครอบครัว (ก) ตาย (ข) ทอดท้ิงสาบสญู หรอื ตอ้ งโทษจาคุก (ค) ประสบอุบัตเิ หตุหรอื เจบ็ ปว่ ยร้ายแรงจนไม่สามารถประกอบอาชีพได้ (ง) ไม่สามารถดแู ลครอบครัวได้ด้วยเหตอุ น่ื ใด 2) คนเร่ร่อน หมายถึง บุคคลสัญชาติไทยที่ออกมาจากที่พักอาศัยเดิม มาอยู่ในท่ีสาธารณะ หรือ มาใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหม่ในที่สาธารณะ และทั้งสองกลุ่มอาจจะย้ายท่ีพักไปเร่ือยๆ หรืออาศัย อยู่ทใี่ ดท่ีหน่งึ ในช่วงระยะเวลาหน่งึ เพื่อดารงชวี ติ ประจาวนั ในท่ีสาธารณะนนั้ ๆ 3) บคุ คลซึง่ อาศัยท่สี าธารณะเป็นทพ่ี ักนอนชว่ั คราว หมายถงึ บคุ คลสัญชาตไิ ทยที่มาทาภารกิจ บางอยา่ งและไม่มที ่ีพักอาศัย ไมม่ ีเงินเช่าท่ีพกั 4) บุคคลที่มีสถานะทางทะเบียนราษ้รแต่ไร้สัญชาติ หมายถึง บุคคลท่ีถูกบันทึกทางทะเบียน ราษ้ร ของรัฐใดรัฐหนึ่งแต่มิได้รับการรับรองในสถานะคนสัญชาติโดยรัฐน้ันหรือรัฐอื่นใด ที่ประสบ ปญั หาการดารงชพี 5) บุคคลทไ่ี มม่ สี ถานะทางทะเบยี นราษ้ร หมายถงึ คนไร้รัฐซงึ่ อาจจะเปน็ คนท่เี กิดในประเทศ ไทยหรือนอกประเทศไทยก็ไดแ้ ต่มเี หตุทาใหต้ กหล่นจากทะเบยี นราษ้รทง้ั ของประเทศต้นทางและของ ประเทศไทย ท่ีประสบปญั หาการดารงชีพ” มาตรา 22 “ในกรณีท่ีบุคคลใดถูกกล่าวหาว่ากระทาความผิดเก่ียวกับการพักอาศัยในที่ สาธารณะตามก้หมายหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นหากเจ้าหน้าท่ีตามก้หมาย หรือ ข้อบัญญัติท้องถิ่นน้ัน 4 - 81

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปัญหาและสนับสนนุ องคค์ วามรู้ เพอื่ การพฒั นาคุณภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 เห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะเป็นคนไร้ท่ีพึ่งและสมควรได้รับการคุ้มครองในสถานคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง ให้เจ้าหนา้ ทีส่ ง่ ตวั คนไร้ที่พ่งึ นั้นไปยังสถานคุ้มครองคนไรท้ ่ีพงึ่ หรือศูนย์คมุ้ ครองคนไรท้ ่ีพ่ึง ทั้งน้โี ดยความ ยินยอมของคนไร้ท่ีพึ่งอยู่ในภาวะที่ไม่อาจให้ความยินยอมได้ และให้เจ้าหน้าที่ระงับการดาเนินคดีไว้ ช่ัวคราวจนกวา่ จะไดร้ บั แจง้ ตามวรรคสอง ในกรณีที่คนไร้ที่พ่ึงไม่ปดบิ ตั ิตามเงื่อนไขของสถานคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง ให้สถานคุ้มครองคนไรท้ ่ี พ่ึงแจง้ ใหเ้ จา้ หน้าทีต่ ามก้หมายหรอื ขอ้ บัญญัติท้องถน่ิ พจิ ารณาดาเนินคดตี อ่ ไป ในกรณีที่คนไร้ที่พึ่งได้ปดิบัติตามเงื่อนไขของสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ให้สถานคุ้มครองคนไร้ที่ พ่ึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตามก้หมายหรือข้อบัญญัติท้องถ่ินนั้นยุติการดาเนินคดี และให้ถือว่าสิทธินา คดอี าญามาฟ้องระงบั ตามประมวลก้หมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา” กฎหมายได้บัญญัติถึงการให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลตามนิยามความของ “คนไร้ท่ีพ่ึง” ซ่ึงใน สถานการณ์จริงน้ัน กลุ่มคนไร้บ้านซึ่งเป็นบุคคลตามคานิยามของคนไร้ท่ีพึ่ง และ กลุ่มคนไร้บ้านเองก็ การจัดประเภทของกลุ่มคนไร้บ้านเองด้วย ซ่ึงหนึ่งในประเภทของคนไร้บ้านซ่ึงไม่ได้อยู่ตามความหมาย ของคนไร้ท่ีพึ่ง คือ คนไร้บ้านกลุ่มขอทาน ซ่ึงการขอทานน้ันตามกฎหมายที่บัญญัติน้ัน มีความผิดตาม กฎหมายอาญา ซ่งึ ในจดุ น้ถี อื เป็นความทบั ซอ้ นกันของกฎหมายท่ีประกาศใช้ ข้อบัญญัติท้องถ่ิน : ข้อบัญญัติตาบล เร่ือง การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบ เรยี บรอ้ ยของบา้ นเมือง พ.ศ. 2550 ขอ้ 37 ห้ามมใิ ห้ผูใ้ ดยนื น่งั หรือ นอนบนราวสาธารณะ หรอื นอนในทสี่ าธารณะ ข้อ 49 ผู้ใดฝ่าฝืนข้อ 9 ข้อ 14 ข้อ 36 ข้อ 37 หรือข้อ 38 หรือไม่ปดิบัติตามประกาศ เจ้า พนักงานท้องถิ่นทไ่ี ดป้ ระกาศตามข้อ 44 ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กินหา้ รอ้ ยบาท พระราชบญั ญัตคิ วบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 มาตรา 13 หา้ มบุคคลใดทาการขอทาน การกระทาอย่างใดอยา่ งหน่งึ ดังต่อไปนใี้ ห้ถือว่าเป็นการขอทาน (1) การขอเงนิ หรือทรัพยส์ ินจากผ้อู ื่นเพื่อเลย้ี งชีวิต ไม่ว่าจะเปน็ การขอดว้ ยวาจา ขอ้ ความหรือ การแสดงกริ ิยาอาการใดๆ (2) การกระทาด้วยวธิ กี ารใดให้ผอู้ ืน่ เกิดความสงสารและสง่ มอบเงนิ หรอื ทรัพย์สินให้ การแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเลน่ ดนตรีหรือการแสดงอื่นใด เพ่ือให้ได้มาซ่ึงเงินหรือ ทรัพย์สินจากผู้ชมหรือผู้ฟัง การขอเงินหรือทรัพย์สินกันฐานญาติมิตร หรือการเร่ียไรตามก้หมายว่า ด้วยควบคุมการเรีย่ ไร ไมถ่ ือว่าเป็นการขอทานตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา 15 เมอ่ื ปรากดตอ่ พนกั งานเจ้าหน้าท่ีวา่ มผี ู้ใดกระทาการฝา่ ฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่งให้ พนักงานเจ้าหน้าท่ีส่งตัวผู้ซึ่งฝ่าฝืนน้ันไปยังสถานคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพ่ือทาการคัดกรอง และหากการคัดกรองพบว่าผู้ทาการขอทานเป็นเด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการหรือ ทุพพลภาพ ที่ต้องดาเนินการตามก้หมายเฉพาะ ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีประสานกับหน่วยงาน ที่ เก่ยี วขอ้ งตามก้หมายเฉพาะเพ่ือดาเนนิ การตามอานาจหน้าท่ีต่อไป 4 - 82

รายงานวจิ ยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนุนองคค์ วามรู้ เพื่อการพฒั นาคุณภาพชีวิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 มาตรา 16 เมื่อปรากดจากการคัดกรองว่าผู้ทาการขอทานไม่ใช่บุคคลตามมาตรา 15 แต่เป็น บุคคลซึง่ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ไม่มญี าติมิตรอปุ การะเลย้ี งดูและไมม่ ีทางเล้ียงชีพอย่างอ่นื หรืออยู่ ในสภาวะยากลาบาก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่จัดให้บุคคลดังกล่าวเข้ารับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี มาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงเดือนหรือปรับไม่ เกินหนึง่ หมืน่ บาทหรือทง้ั จาทง้ั ปรับ 4 - 83

รายงานวจิ ัยฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปญั หาและสนับสนุนองค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตคนไร้บา้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 5. ประเด็นการเขา้ สกู่ ระบวนการยุติธรรมทางอาญาของคนไร้บา้ น 5.1 คนไร้บา้ นในพื้นท่สี าธารณะ กบั การจดั ระเบยี บของรัฐ คนไร้บ้าน เป็นบุคคลท่ีออกมาใช้ชีวิตในท่ีสาธารณะ ย่อมเก่ียวข้องกับการใช้พ้ืนท่ีสาธารณะใน การดาเนินชีวิตประจาวัน เช่นการใช้ที่สาธารณะเป็นท่ีพักผ่อนนอนหลับ เป็นท่ีพักอาศัย รวมถึงเป็น สถานท่ีในการทามาหาเลี้ยงชพี ด้วยการเก็บขยะหรือของเก่า การจัดการสิ่งของก่อนนาไปขาย และการ ขอทาน แม้ว่าโดยทัว่ ไปแล้ว การใช้ประโยชน์ในพน้ื ที่สาธารณะจะเป็นสทิ ธิของประชาชนท่ตี ่างมรี ่วมกัน แต่การกระทาบางประการในพ้ืนที่สาธารณะเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมาย โดยท่ีคนไร้บ้านบางคนได้ใช้ พื้นที่สาธารณะเลี้ยงชีพด้วยวธิ กี ารนอกกฎหมายอย่างการค้ายาเสพติด รวมไปถึงการค้าบริการทางเพศ นอกจากนั้นคนบ้านยังมีโอกาสท่ีจะถูกคุกคามหรือละเมิดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นถูกทาร้าย ข่มขืนหรือ กลน่ั แกลง้ รงั แก กระทั่งถกู ฆาตกรรมด้วยเหตุจากความเกลยี ดชังก็ได้ 5.1.1 พนื้ ท่สี าธารณะกบั การดารงชวี ติ ส่งิ ทส่ี ามารถพบเหน็ ไดโ้ ดยทัว่ ไปคือ การพบเห็นคนไร้บ้านอาศัยพ้ืนทสี่ าธารณะเปน็ ท่ีหลับนอน นอกจากนี้กิจกรรมหรือกิจวัตรของคนไร้บ้าน ท่ีมักปรากฏให้พบเห็นคือ การหาของเก่าแล้วนาไปขาย เพ่ือนาเงนิ มายงั ชีพ เมอื่ หาของเก่าได้จะสะสมไว้เป็นจานวนทลี ะมากๆ ปัญหาที่ตามมาคือคนไร้บ้านไม่ มีสถานทีห่ รือท่ดี ินเปน็ ของตนเองแน่นอนเป็นหลักแหล่ง ทาใหบ้ างรายตอ้ งจดั การสิ่งของ หรือของเก่าท่ี ตนหามาได้ ด้วยการวางไวใ้ นบรเิ วณทีท่ ี่ปลอดภัย230ซึง่ อาจลุกลามไปยงั ถนน ทางสญั จรสาธารณะ การนอนในพื้นที่สาธารณะ และอาชีพเก็บของเก่าของคนไร้บ้าน จึงเกี่ยวข้องกับการใช้พ้ืนท่ี สาธารณะในการขัดแยกของก่อนนาไปขาย ซึ่งสัมพันธ์กับกฎหมายของรัฐ ที่พยายามจัดการความ สะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง อันมีสาระสาคัญของกฎหมายที่เก่ียวข้อง กับการ ห้ามวางส่ิงของหรอื กองวัตถุใด ๆ บนถนน231และนอนในทส่ี าธารณะ232 พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 0939 นอกจากจะกาหนดข้อห้ามและอัตราโทษ ยังให้อานาจเจ้าพนักงานท้องถ่ินและพนักงานเจ้าหน้าท่ี จับกุม รวมถึงดาเนินคดีกับผู้กระทาความผิดท่ีไม่เช่ือฟังคาตักเตือน233 และให้อานาจแก่ประชาชนท่ัวไปในฐานะ ผเู้ สยี หายตามประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา แจง้ ความกบั เจ้าพนักงานท้องถ่นิ และพนักงานได้ 5.1.2 ขอทาน นอกจากนี้กิจกรรมในการดารงชีพ ที่สัมพันธ์กับการใช้พ้ืนท่ีสาธารณะอีกประการ ของคนไร้ บ้านและอาจรวมถึงคนท่ีแสดงตวั ว่าเปน็ คนไร้บ้าน คือ การขอทาน เนื่องจากการขอทานต้องอาศัยผู้คน 230 บุญเลิศ วิเศษปรีชา. (2552). โลกของคนไร้บา้ น. กรงุ เทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสริ นิ ทร (องค์การมหาชน(, หน้า 135-140 231 พระราชบญั ญัตริ ักษาความสะอาดและความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยของบ้านเมือง พ .ศ.2535 มาตรา 19 “ห้ามมิให้ผู้ใดต้งั วาง หรือกองวตั ถใุ ด ๆ บนถนน …” 232 พระราชบัญญตั ิรกั ษาความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ยของบ้านเมอื ง พ.ศ. 2535 มาตรา 37 “ห้ามมิให้ผูใ้ ดยนื นงั่ หรอื นอนบนราวสะพานสาธารณะ หรือนอนในที่สาธารณะ…” 233 พระราชบัญญตั ิรกั ษาความสะอาดและความเป็นระเบยี บเรยี บร้อยของบา้ นเมือง พ 0939 .ศ.มาตรา 44 “…ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถิน่ และพนักงานเจา้ หนา้ ที่มอี านาจหนา้ ท…ี่ ตกั เตือนผกู้ ระทาความผดิ หรือสง่ั ให้ ผูก้ ระทาความผดิ แก้ไข…จบั กุมผกู้ ระทาความผิดซ่งึ ไมเ่ ช่ือฟังคาตักเตอื นและดาเนินคดตี ามพระราชบญั ญัติน”ี้ 4 - 84

รายงานวจิ ัยฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนับสนุนองค์ความรู้ เพ่อื การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนไร้บา้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 ทส่ี ัญจรผา่ นไปมาในพ้ืนท่สี าธารณะตา่ งๆในการขอทาน ไมว่ ่าจะเป็น สะพานลอย สถานที่ราชการ หรือ ตลาด หนึ่งในวิธีการในการหาเล้ียงชีพของคนไร้บ้านบางกลุ่ม ที่เป็นสร้างความลาคานให้แก่บุคคล ท่ัวไป อันเป็นการสร้างภาพทางลบให้แก่คนไร้บ้านที่มีอาชีพประจาน่ันคือ การหาเงินด้วยวิธีการเข้าไป ขอเงินกบั บุคคลผเู้ ดินสัญจรไปมา หรอื อยูต่ ามท่สี าธารณะ กระทั่งการนั่งขอทานท่ีพบเห็นได้ท่ัวไป เช่น รอ้ งเพลงเพ่ือแลกกับการได้เงนิ อย่างไรกต็ ามไมอ่ าจกล่าวโดยสรปุ ไดว้ า่ คนขอทานทั้งหมดเปน็ คนไร้บ้าน เพราะคนขอทานบางส่วนอยู่ในกระบวนการค้ามนุษย์ท่เี กิดกว่าการจากัดความของคาว่าคนไรบ้ ้าน234 คาว่าขอทานตามพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 หมายถึง การขอเงินหรือ ทรัพย์สินจากผู้อ่ืนเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความ หรือการแสดงกิริยาอาการใด และ การกระทาด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้ 235 ซ่ึงมี ความหมายไปในทศิ ทางเดยี วกบั การชนตัง ทกี่ ลุม่ คนไร้บ้านได้นยิ ามการขอทานไว้ อย่างไรก็ตามหากพนักงานเจ้าหน้าที่พบเห็นการกระทาดังกล่าว มีอานาจส่งตัวคนไร้บ้านท่ีทา การขอทานหรอื ชนตัง เขา้ รับการคุม้ ครองและพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต236เพอ่ื รับ การช่วยเหลอื บาบัดรกั ษา ฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการฝึกอาชีพให้แก่ผู้ทาการขอทาน มิเช่นน้ันอาจต้องโทษจาคุก และหรือปรับ237 และหากพบว่าเป็นขอทานเป็นเด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนวิกลจริต คนพิการหรือ ทุพพลภาพพนักงานเจ้าหนา้ ท่ีประสานกับหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องตามกฎหมายเฉพาะเพื่อดาเนินการตาม อานาจหนา้ ทตี่ อ่ ไป238 5.1.3 เลี้ยงชพี ดว้ ยเรอื นรา่ ง นอกจากการเก็บของเกา่ ขาย รับจ้างรายวัน หรอื แม้กระทั่งชนตังหรือขอทานแล้ว อาชพี หน่ึงท่ี คนไรบ้ ้านจาเปน็ ตอ้ งทาเพือ่ หาเงนิ มาประทงั ชวี ติ ในแต่ละวัน คือ การขายบรกิ ารทางเพศ คนไรบ้านทม่ี า ขายบริการทางเพศ มักจะทาด้วยความจาเป็น รูปร่างหน้าตาของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่ปัจจัยหลักในการ ดึงดูดผูร้ ับบริการ อายุทม่ี าก สว่ นหน่งึ ขายบริการทางเพศเพราะต้องการเงนิ ไปใช้เกีย่ วกบั ยาเสพติด บาง คนไมเ่ คยเสพก็ตอ้ งเสพเพือ่ ให้มคี วามกลา้ ในการขายบริการทางเพศ239 234 อัจฉรา รักยุติธรรม .(0995( .คนไร้บ้าน การเดนิ ทางสคู่ วามโดดเดย่ี ว .กรุงเทพฯ: ภาพพมิ พ์, หนา้ 57 235 พระราชบัญญตั คิ วบคมุ การขอทาน พ.ศ. 0995 มาตรา 13 “...การกระทาอยา่ งหนึ่งอยา่ งใดดงั ตอ่ ไปน้ี ให้ถือว่าเป็นการขอทานการขอเงินหรอื ทรพั ยส์ นิ จากผู้อน่ื เพือ่ ... การกระทาด้วยวธิ ีการใดใหผ้ ู้อน่ื เกดิ ความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรพั ยส์ นิ ให้...เลี้ยงชีวิต…” 236 พระราชบญั ญตั ิควบคมุ การขอทาน พ.ศ. 0995 มาตรา 16 “เมอื่ ปรากฏจากการคดั กรองวา่ ผทู้ าการขอทานเปน็ บคุ คลซ่ึงไมส่ ามารถประกอบอาชพี ได้ ไมม่ ญี าตมิ ติ ร... างอืน่ หรอื อยใู่ นสภาวะยากลาบาก ให้พนักงานเจา้ หน้าทจี่ ดั ใหบ้ ุคคลดังกลา่ วอปุ การะเล้ียงดแู ละไม่มีทางเลีย้ งชพี อย่ เขา้ รับการคุ้มครองและพัฒนาคณุ ภาพ…ตามระเบียบทอ่ี ธบิ ดกี าหนด” 237 พระราชบัญญัติควบคมุ การขอทาน พ .ศ.2559 มาตรา 19 “…ผู้ทาการขอทานผูน้ ัน้ ไมย่ อมรบั การคุม้ ครองและพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต และได้ออกไปจากสถานคมุ้ ครอง และพฒั นาคณุ ภาพชีวติ โดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต ต้องระวางโทษ…” 238 พระราชบัญญตั ิควบคมุ การขอทาน พ .ศ.2559 มาตรา 19 “...หากการคดั กรองพบวา่ ผทู้ าการขอทานเป็นเด็ก หญิงมคี รรภ์ ผสู้ งู อายุ คนวิกลจรติ คนพิการหรือทพุ พล ภาพ ทต่ี อ้ งดาเนนิ การตามกฎหมายเฉพาะ…” 239 อา้ งแลว้ , เชงิ อรรถที่ 230, หนา้ 103 4 - 85

รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนับสนนุ องคค์ วามรู้ เพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนไรบ้ า้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 การหาเงินหรือหารายได้กรณีของเด็ก โดยทั่วไปแล้วเด็กจะยู่รวมกันเป็นกลุ่ม หางานหรือ รับจ้างเพ่ือประทังชีวิต เช่นขายพวงมาลัย บางรายเมื่อโตข้ึนจะเข้าสู่วงจรยาเสพติดและการขายบรกิ าร ทางเพศ ในบางกรณีต้องถูกถ่ายวิดีโอในขณะมีกิจกรรมทางเพศ240 บางกรณีอาจมีการรวมกลุ่มหาเงิน เพื่อนาเงินมาเช่าที่พักอาศัยชั่วคราวด้วยการขายบริการทางเพศ หากเงินหมดก็ไปใช้ชีวิตข้างนอก241 และเข้าสู่วงจรเดิม ในสังคมคนไร้บ้านที่เป็นเด็กและอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ท่ีอยู่ภายใต้การนาของเด็กชาย เด็กหญิง จะเป็นเหมือนสมบัติของกลุ่ม ถกู ใชเ้ ปน็ เครื่องระบายอารมณ์ทางเพศของกลุ่ม โดยเฉพาะกับเด็กหญิงที่ เพิ่งเข้ามาในกลุ่ม รวมถึงใช้เป็นเครื่องมือในการเล้ียงชีพของกลุ่ม ด้วยการขอร้องก่ึงบังคับจากกลุ่ม ให้ ขายบริการทางเพศเพือ่ นาเงินท่ีไดจ้ ุนเจือกลุ่ม242 แม้ว่าคนไร้บ้าน จะมีความจาเป็นในการขายบริการทางเพศ พระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 0935 ได้กาหนดให้การกระทาในลักษณะเป็นการเข้าติดต่อ ชักชวน แนะนาตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามท่ีสาธารณะหรือที่ใดๆ เพ่ือการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผย และน่าอับอาย หรือเป็นท่ีเดือนร้อนราคาญแก่สาธารณชน ให้เป็นการกระทาที่ผิดกฎหมาย 243 นอกจากนยี้ ังรวมถงึ การโฆษณาการขายบรกิ ารทางเพศนน้ั ดว้ ย244 ทั้งน้ีหากเป็นบุคคลอายุยังไม่เกิน18ปี และไม่เคยต้องคดีหรือโดนจาคุกมาก่อน ให้พนักงาน สอบสวนในกรณที ี่ได้เปรยี บเทยี บปรับแล้ว แจ้งกรมพัฒนาสังคมและสวสั ดิการเพ่ือดาเนนิ การจัดส่งตัวผู้ น้ันไปเพื่อรับการดูแลในสถานแรกรับท่ีมีเขตรับผิดชอบ245 กรณีเป็นบุคคลอายุมากกว่า 18 ปี ให้ถาม ความสมัครใจก่อนจะดาเนินการใหค้ วามดแู ลหรือคุ้มครองตามกฎหมาย246 5.1.4 ลกั ขโมย ยาเสพตดิ สังคมตตี ราสเู่ สน้ ทางอาชญากร และความเกลียดชงั 240 เด็กเรร่ อ่ นฮิตขายตัวพุ่ง. (2553). [ขอ้ มลู ออนไลน]์ แหลง่ ท่ีมา : http://www.posttoday.com/analysis/ สบื คน้ วันท่ี 3077325 มกราคม 2560 241 ปิยนาถ ประยูร, หนเู พียร แสนอนิ ทร์ และ ก่ิงกาญจน์ ศรปี ริญญาศิลป.์ (2554). ครขู า้ งถนน คนเคยี งขา้ ง พ่อ พระ นักบู๊ พอ่ เปน็ ครู เดก็ เรียกแม.่ กรุงเทพฯ: มลู นธิ สิ าธารณสุขแหง่ ชาติ, หนา้ 37 242 สมพงษ์ จติ ระดับ. (2550). วัฒนธรรมเด็กเรร่ อ่ นในทอ้ งถนน. กรงุ เทพฯ: จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย, หน้า 7-9 243 พระราชบญั ญตั ิป้องกนั และปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 0935 มาตรา9 “ผูใ้ ดเขา้ ตดิ ตอ่ ชักชวน แนะนาตวั ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลตามถนนหรือสาธารณสถาน หรอื กระทาการ ดังกลา่ วในทอ่ี ่ืนใด เพ่อื การคา้ ประเวณีอนั เปน็ การเปิดเผยและนา่ อบั อายหรือเป็นท่ีเดือนรอ้ นราคาญแก่สาธารณชน ต้องระวางโทษ...” 244 พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกันและปราบปรามการคา้ ประเวณี พ.ศ. 0935 มาตรา7 “ผใู้ ด...กระทาให้แพรห่ ลายดว้ ยวิธใี ดไปยงั สาธารณะ...เพอื่ การคา้ ประเวณีของตนเองหรือผอู้ ื่น ตอ้ งระวาง โทษ...” 245 พระราชบัญญัตปิ อ้ งกันและปราบปรามการคา้ ประเวณี พ.ศ. 0935 มาตรา 33 “ในกรณีท่ีผกู้ ระทาความผดิ ..เปน็ บุคคลอายยุ ังไม่เกินสิบแปดปี และไม่ปรากฏว่าตอ้ งหาหรอื อย่ใู นระหว่างถูก ดาเนินคดใี นความผดิ ฐานอื่นซึง่ เปน็ ความผิดทมี่ ีโทษจาคุก หรอื ต้องคาพพิ ากษาใหจ้ าคุก ใหพ้ นักงานสอบสวนในกรณที ่ี ได้เปรยี บเทยี บคดีแล้วแจง้ กรมพฒั นาสังคมและสวสั ดกิ าร” 246 พระราชบัญญัตปิ อ้ งกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539 มาตรา 33 “กรณีตามวรรคหนึง่ หากเปน็ บุคคลอายกุ ว่าสิบแปดปี ถ้าบคุ คลน้ันประสงคท์ จี่ ะไดร้ ับการคุ้มครองและ พฒั นาอาชีพในสถานคมุ้ ครองและพัฒนาอาชพี ให้พนักงานสอบสวนแจ้งกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ *เพือ่ ดาเนินการจัดสง่ ตัวผนู้ น้ั ไปเพื่อรับการดแู ลในสถานแรกรับท่มี เี ขตรบั ผดิ ชอบ...” 4 - 86

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปัญหาและสนับสนุนองคค์ วามรู้ เพอื่ การพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนไร้บ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 วิธีการหายรายได้อีกวิธีการหนึ่ง แต่เป็นงานที่ไม่ถูกกฎหมายของกลุ่มคนไร้บ้าน เช่นการลัก ทรพั ย์ ต้ังแตก่ ารลักเล็กขโมยน้อย จนไปถงึ ลักษณะการการหยิบฉวยเอาทรัพย์สนิ ของคนไร้บ้านด้วยกัน เองหรือคนทั่วไป หรือการสอยเสื้อผ้าที่ตากอยู่ตามบ้านเรือน หรือลักรองเท้าท่ีถอดไว้ตามสถานท่ี สาธารณะ เพ่ือนาไปขายเป็นของเก่าหรือเป็นของมือสองบ้าง ท้ังนี้การขายของมือสองก็มีความเส่ียง ที่ จะเป็นการได้มาซ่ึงของท่ีมาการการกระทาความผิด และการประกอบอาชีพขายของเก่าจากการหาของ ตามสถานที่ต่างๆ อาจนาไปสู่การทาลายทรัพย์สินเพื่อให้ได้ของเก่าเช่นกัน บางกรณีเป็นการชิงทรัพย์ ดว้ ยการทุบตีศรี ษะผู้เสียหาย เพอื่ ให้สง่ิ ของมา247 การประกอบอาชีพลกั เลก็ ขโมยนอ้ ยเชน่ นี้ ส่วนหนง่ึ มาจากกลุ่มคนไร้บ้านเอง ซง่ึ กลุ่มคนไร้บ้าน ที่หาเงินประทังชีวิตด้วยวิธีการท่ีสังคมเรยี กว่า “อาชญากร” มักเป็นคนไร้บ้านท่ีไม่อยู่เป็นหลักแหล่ง มี การย้ายพื้นท่ีตลอด และปรากฏว่ามีพฤติกรรมเช่นน้ีอยู่บ่อยๆ แต่ยังไม่ถูกดาเนินคดีหรือยังจับตัวไม่ได้ หรอื อาจพบในคนไร้บา้ นท่พี น้ โทษมาแลว้ แตม่ ีไม่มากเน่อื งจากเข็ดหลาบ248 บางครั้งอาจเลยเถิดไปมากกว่าการลักเล็กขโมยน้อย กล่าวคือมีการทาลายทรัพย์สินเพ่ือเข้าไป ในยังสถานท่ีนั้นเพ่ือหลับนอน หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งส่ิงของท่ีต้องการ เช่นในกรณีท่ีคนเร่ร่อน ได้ลอบเข้า ไปในบา้ นผ้เู สียหาย ทาการลกั ทรพั ยแ์ ละวางเพลิงบ้านดงั กล่าวจนทาใหม้ ีผู้เสียชวี ติ ก่อนหลบหนีไป249 อีกทั้งการนอนในท่ีสาธารณะของคนไร้บ้าน ก็มีความเป็นไปได้ท่ีจะเป็นการเข้าไปในอาณา บรเิ วณซ่ึง มีการหวงกันหรือหวงห้าม ทงั้ จากเอกชนหรือราชการ เน่อื งจากสถานที่บางแห่งมีการเปิดปิด เป็นเวลา หรือมีลักษณะคล้ายกับไม่มีเจ้าของหวงกัน บางคร้ังอาจถูกเจ้าของหรือผู้ดูแลพ้ืนที่ขับไล่ออก จากพ้ืนท่ีนั้นๆ250เป็นเหตุให้การใช้ชีวิตของคนไร้บ้านสุ่มเส่ียง หรือเก่ียวพันกันการถูกดาเนินคดีใน ขอ้ หาบกุ รุก นอกจากการเลี้ยงชีพด้วยการลักเล็กขโมยน้อยแล้ว และดังที่ได้กล่าวไปข้างต้นถึงการเลี้ยงชีพ ดว้ ยการค้าบริการทางเพศ ท้งั สองต่างมีความเป็นไปได้ท่ีคนไรบ้ ้านในกลุ่มนจ้ี ะมีความสัมพันธ์กับยาเสพ ตดิ ทั้งในแง่ของการเสพย้อมใจก่อนลงมือ หรอื อยู่ในกระบวนการคา้ ยาเสยี เอง251 ท้ังน้ียังพบว่าคนไร้บ้านบางคนเข้าสู่วิถีชีวิตคนไร้บ้าน เพราะต้องออกจากงานรับจ้างหรืองาน ประจา เนื่องจากที่ทางานไม่สบายใจ ท่ีจะทางานร่วมกับบุคคลที่เคยต้องคดียาเสพติดมาก่อน จนทาให้ บคุ คลดังกล่าวออกเกบ็ ของเกา่ ขาย ใชช้ ีวิตแบบคนไร้บา้ น252 คนไร้บ้านบางคนถูกคนในสังคมรังเกียจ ไมย่ อมรับ เชน่ ถกู มองอยา่ งรงั เกียจ หรอื เดินหนีเพราะ พบเห็นรอยสักที่มือ หรือเอามือมาปิดบริเวณคอหรือสร้อยคอ บางคนเคยต้องคดีใหญ่ถูกจาคุกอย่หู ลาย สิบปีเม่ือพ้นโทษออกมาสังคมเปล่ียนไปไม่สามารถกลับสู่สังคมปกติได้ จาเป็นต้องออกมาใช้ชีวิตข้าง นอก ยิ่งไปกว่าน้ัน บางคนถูกปฏิเสธหรือรังเกียจ เพราะการใช้สิทธิของผู้พ้นโทษ ในการโดยสารรถ 247 อ้างแลว้ , เชงิ อรรถท่ี 241, หนา้ 61 248 อ้างแลว้ , เชงิ อรรถที่ 230, หนา้ 75-77 249 ตนี แมวจรจดั ลักทรัพย์-เผา ยา่ งสลด1ศพ! ร้านสูทเตาปนู . (2558). [ขอ้ มูลออนไลน]์ แหลง่ ทมี่ า : http://www.thairath.co.th/content/541260 สืบคน้ วนั ที่ 25 มกราคม 2560 250 อา้ งแล้ว, เชิงอรรถที่ 234, หนา้ 68 251 รวบหนุ่มเรร่ อ่ นขนยาบา้ ทมี ขา่ วอาวาากรรม .เมดม 047ปนู .(2559). [ขอ้ มูลออนไลน]์ แหล่งทมี่ า : http://www.manager.co.th/Crime/Viewnews.aspx?NewsID=9590000012369 สืบค้นวนั ท่ี 15 มกราคม 252 อา้ งแล้ว, เชิงอรรถท่ี 230, หนา้ 75 4 - 87

รายงานวิจยั ฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนับสนนุ องคค์ วามรู้ เพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 ประจาทาง หรือ รับประทานอาหาร เม่ือแสดงบัตรจะถูกปฏิเสธหรือถูกรังเกียจจากผู้คน เช่น ผู้คนเดิน ออกหา่ ง ทาท่ารังเกยี จ หรอื ไมร่ ่วมน่งั เก้าอี้หรือโตะ๊ เดยี วกัน253 อาจกล่าวได้ว่า การเข้าสู่วิถีชีวิตคนไร้บ้านอาจมาจากปัจจัยของการเป็นผู้พ้นโทษ ผู้ซึ่งเคย กระทาความผิดอาญาถูกลงโทษตามกฎหมายแล้ว ผู้พ้นโทษจะถูกสังคมตีตรา ว่าเป็นบุคคลเบ่ียงเบน จากสังคมปกติ เป็นบุคคลที่อันตรายไม่น่าคบหา นาไปสู่การถูกปฏิเสธจากที่ทางาน ครอบครัว และ สงั คมและทาให้เขาเหลา่ นั้นต้องออกมาใช้ชีวิตในทีส่ าธารณะ ไม่ยุ่งเกยี่ วกับครอบครัว ชมุ ชนดังเดิมของ ตน อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่า ผู้พ้นโทษทุกคนจะต้องเข้าสู่ชีวิตคนไร้บ้าน และคนไร้บ้านเป็นผู้ พน้ โทษเสยี ทเี ดียว นอกจากนี้พาดหัวขา่ วในหนังสอื พิมพ์ หรือในอนิ เตอร์เนต็ สามารถพบเหน็ ขา่ วคราวการกระทา ความผิดทางอาญา ที่อาจเก่ียวโยงกับคนไร้บ้าน ไม่ว่าจะเป็นข่าวการวางเพลิงเผาสะพานไทย-เบลเยียม 254จากความประมาทเลินเลอ่ หรือเจตนาของคนไร้บ้าน คนเร่รอนก่อเหตุข่มขืนหรือกระทาอนาจาร255 หรือในกรณีของกลุ่มคนไร้บ้านท่ีทาอาชีพเช็ดกระจกบังหน้า การบังคับข่มขู่ผู้ใช้รถให้รับบริการจาก ตน256 อาจเป็นเหตุที่ทาให้สังคมมองว่าคนไร้บ้านเป็นภัยต่อสังคม สมควรได้รับการต่อต้านและกาจัด ห่างจากสังคม กระทั่งคนไร้บ้านตกเป็นผู้เสียหายเสียเอง เช่น กรณีท่ีพบศพคนไร้บ้านถูกฆ่าอย่างทารณุ แล้วท้ิงไว้257 คนไรบ้ า้ นถกู จดุ ไฟเผาทัง้ เป็นจากกลุ่มวันร่นุ 258 หรอื ตกเปน็ เหยอื่ ของฆาตกร 259 ในแง่ของผู้กระทาผิด ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นกฎหมายทีคุ้มครองหรือ ประกันสิทธิของบุคคลท่ีจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั้งในฐานะที่ตกเป็นผู้เสียหายและตอ้ ง กระทาความผิด ท่ีต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาผ่านกระบวนการนี้ทั้งสิ้น ซ่ึงประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นไปตามแนวทางที่ข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และรัฐธรรมนูญไทยกาหนดไว้ในเรื่องสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิใน กระบวนการยุติธรรม หลกั การโดยเบอ้ื งต้นท่คี มุ้ ครองบคุ คลเมือ่ จะต้องสู่กระบวนการยุตธิ รรมทางอาญา เมื่อคนไร้บ้านตกเป็นผู้เสียหาย ย่อมมีสิทธิในฐานะผู้เสียหายในทางอาญาเช่นเดียวกับที่บุคคล ในรัฐไทยทั่วไปมีสิทธิ เบ้ืองต้นคือการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดาเนินคดีอาญา รวมถึงบุคคลที่ กฎหมายอนุญาตให้ดาเนินฟอ้ งคดี ถอนฟอ้ งหรอื ยอมความแทนคนไรบ้ า้ นได้แล้วแตก่ รณี 253 เพง่ิ อา้ ง, หนา้ 77 254 รวบคนเรร่ อ่ นเผาสะพานไทย-เบลเยยี ม สารภาพทิ้งก้นบหุ รี่จนไฟลกุ ลาม. (2567). [ขอ้ มลู ออนไลน]์ . แหล่งที่มา : http://news.ch0.com/detail/227583/จบั คนเรร่ อ่ นเผาสะพานไทย_เบลเยียม.html 9597777712369 สืบค้นวันที่ 25 มกราคม 2567 255 เจาะประเดนม Special : ภัยคนเรร่ ่อน ก่อเหตทุ าอนาจาร-ข่มขืน.ลุกลาม. (2560). [ข้อมูลออนไลน]์ . แหล่งทม่ี า : http://news.ch7.com/detail/241739 สบื ค้นวันท่ี 25 มกราคม 2560 256 กวาดจับ 39 คนเรร่ อ่ น-ขอทาน ตดั ไฟตน้ ลม ‘นักเลงเวดม กระจก-ทาไฟไหมส้ ะพาน’. (2560). : แหล่งทีม่ า : http://www.thairath.co.th/content/885886สบื คน้ วันที่ 25 มกราคม 2560 257 อกี ศพ! หาิงเรร่ อ่ นเปลอื ยทอ่ นลา่ งถกู มดั มือ-แทง ใตส้ ะพานขา้ มแยกลาดพรา้ ว. (2559). [ข้อมูลออนไลน์]. แหลง่ ทม่ี า : https://www.thairath.co.th/content/048296 สบื ค้นเมอื่ 15 กนั ยายน 2567 258 แฉแกง๊ ค์วยั รุ่นราดนา้ มัน .จดุ ไฟเผาคนเรร่ อ่ นกลางกรงุ -(2557). [ขอ้ มูลออนไลน]์ . แหล่งที่มา : http://www.posttoday.com/local/bkk/0952 มกราคม 09 สืบค้นเมือ่ 329703 259 เขย่าขวัา วาวบ้านกลวั หลังพบศพที่ !5 คนเร่ร่อนถูกฆ่าตายสะพานลอยนวมินทร9์ 2 .(2559). [ขอ้ มูลออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา : http://www.matichon.co.th/news/324654 สบื คน้ เมอ่ื 0952 มกราคม 09 4 - 88

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพ่ือการพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนไร้บา้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 สว่ นความผิดท่เี ก่ียวกบั ยาเสพติด ในกรณที ่ีเป็นผู้เสพ ปัจจบุ ันพระราชบัญญัติฟ้ืนฟสู มรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติด เมื่อเป็นผู้เสพหรือผู้มีไว้ครอบครองเพื่อเสพตามกฎหมาย เม่ือถูกจับกุมต้องส่งไปฟ้ืนฟู สมรรถภาพ ภายใน 03 ชั่วโมง นบั แต่มาถงึ ที่ทาการของพนักงานสอบสวน 260 หากพบวา่ การเสพและ มีไว้ในครอบครอบเพื่อจาหน่ายหรือจาหน่ายในภายหลัง เพ่ือให้ตนเองถูกส่งไปฟ้ืนฟูเพื่อเลี่ยงการ ดาเนนิ คดี จะไมม่ ีสิทธิไดร้ ับการฟืน้ ฟู261 5.2 การเขา้ สู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของคนไร้บ้าน คนไร้บ้านคือบุคคลท่ีออกมาใช้ชีวิตในที่สาธารณะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมเกี่ยวข้อง กับการใช้พื้นที่สาธารณะในการดาเนินชีวิตประจาวัน เช่นการใช้ท่ีสาธารณะเป็นท่ีพักผ่อนนอนหลับ เป็นท่ีพักอาศัย รวมถึงเป็นสถานที่ในการทามาหาเลี้ยงชีพด้วยการเก็บขยะหรือของเก่า การจัดการ สิ่งของก่อนนาไปขาย ท่ีลุกลา้ เขา้ ไปในที่ทางสาธารณะ และการขอทาน การขอทานเป็นการหารายได้ทางหน่ึงของคนไร้บ้าน บางคนอาจนิยามว่าเป็นการหาเงินท่ีก่อ ความราคาญแก่ผู้คนท่ัวไป และอาจถูกมองอย่างเหมารวมว่าเป็นกิจกรรมหารายได้จากความสงสาร หรือเปน็ การเรี่ยไรเงนิ อย่างเป็นกระบวนการ โดยทีผ่ ้ขู อทานไม่ได้ไร้ท่ีพ่ึงอยา่ งแท้จริง อยา่ งไรกต็ ามยังมี การขอทานทเ่ี ป็นหนทางหนึง่ ในการดารงชีพของคนไรบ้ ้านบางกลุ่มซ่งึ ไร้ที่พึ่งแลว้ จริงๆ การขอทานของ คนไร้บ้านจึงเป็นการเลี้ยงชีพที่คาบเก่ียวระหว่าง การก่อความราคาญและเป็นภาพท่ีไม่จาเริญตา ต่อ สังคม และกิจกรรมอนั ชว่ ยตอ่ ชวี ิตให้กลมุ่ คนไร้บา้ น วิถีชีวิตของคนไร้บ้านในการใช้ชีวิตในท่ีสาธารณะเป็นที่หลับนอน หาเลี้ยงชีพด้วยการหาและ ขายของเก่า ล้วนแล้วแต่ถูกควบคุมโดยการจัดการเป็นเรียบร้อยโดยรัฐ เพราะแม้ว่าพ้ืนท่ีสาธารณะ ประชาชนต่างมีสิทธิใช้ร่วมกัน แต่ต้องใช้บนพ้ืนฐานของการเคารพสิทธิของบุคคลอ่ืนและต้องร่วมกัน รกั ษาสาธารณะสมบัตนิ น้ั ดงั นน้ั การใช้พ้ืนที่สาธารณะของคนไร้บ้าน จงึ ตอ้ งอยู่ภายใต้กฎหมายท่ีออกมา ควบคุมกิจกรรมในพ้ืนที่สาธารณะ ทั้งกฎหมายระดับพระราชบัญญัติและกฎหมายของท้องถ่ินแต่ละ พื้นท่ี ในขณะที่การขอทานซ่ึงเปน็ วถิ ีชวี ิตของคนไรบ้ า้ นบางส่วนก็ถกู ควบคมุ โดยรฐั เชน่ เดียวกนั การใช้พ้ืนที่สาธารณะและการขอทานของคนไร้บ้าน หากได้ดาเนินไปในลักษณะท่ีเป็นการ ละเมิดต่อกฎหมายหรือเกนิ ที่กฎหมายอนุญาตให้ทาได้ คนไรบ้ ้านทเ่ี ปน็ บุคคล “ไรท้ ่พี ึ่ง” ยอ่ มได้รับโทษ 260 พระราชบัญญตั ฟิ น้ื ฟสู มรรถภาพผู้ติดยาเสพตดิ พ.ศ. 0909 มาตรา 15 “ผ้ใู ดตอ้ งหาวา่ กระทาความผิดฐานเสพยาเสพตดิ เสพและมไี วใ้ นครอบครอง...ถ้าไม่ปรากฏว่าตอ้ งหาหรอื อยู่ ในระหว่างถูกดาเนินคดีในความผดิ ฐานอนื่ ซ่ึงเป็นความผดิ ทม่ี โี ทษจาคุกหรืออยใู่ นระหว่างรับโทษจาคกุ ตามคา พพิ ากษาของศาล ใหพ้ นกั งานสอบสวนนาตัวผตู้ ้องหาไปศาลภายในส่สี ิบแปดชว่ั โมงนับแตเ่ วลาท่ผี ตู้ อ้ งหานั้นมาถงึ ท่ที า การของพนกั งานสอบสวน เพื่อให้ศาลพิจารณามีคาส่ังใหส้ ่งตวั ผู้นนั้ ไปตรวจพิสจู นก์ ารเสพหรือการตดิ ยาเสพตดิ เว้น แตม่ เี หตุสดุ วิสยั ... ใหศ้ าลพิจารณาส่งตวั ไปควบคุมเพื่อตรวจพิสจู นท์ ศ่ี นู ยฟ์ ้นื ฟสู มรรถภาพผตู้ ิดยาเสพ...โดยคานงึ ถงึ อายุ เพศ และลักษณะเฉพาะบคุ คลประกอบดว้ ย แล้วให้ศาลแจ้งคณะอนกุ รรมการฟ้นื ฟสู มรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพตดิ ทราบ...ในระหวา่ งท่ผี ตู้ ้องหาถูกควบคมุ ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี พนักงานสอบสวนหรอื พนกั งานอยั การไม่ต้องดาเนินการ ฝากขังหรือขอผดั ฟอ้ งตามกฎหมาย” 261 พระราชบัญญตั ฟิ ้ืนฟูสมรรถภาพผูต้ ิดยาเสพตดิ พ.ศ. 0909 มาตรา 02 “ถา้ ปรากฏว่าผตู้ ้องหา...เพอ่ื ใหต้ นเองไดร้ บั การส่งตัวไปฟื้นฟสู มรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพตดิ และไมต่ อ้ งถกู ดาเนนิ คดใี นข้อหาฐานเสพและมไี วใ้ นครอบครอง ...ผนู้ น้ั ไมม่ สี ิทธไิ ดร้ บั การฟน้ื ฟูสมรรถภาพผตู้ ิดยาเสพตดิ ตาม พระราชบญั ญัตนิ ้ี ...ดาเนินคดีตอ่ ไปตามกฎหมาย…” 4 - 89

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 ทันทางกฎหมาย ด้วยการจาคุกและหรือการปรับเป็นเงิน ทว่าการลงโทษคนไร้บ้านที่เป็นบุคคลซึ่งไร้ท่ี พ่ึงพิงในสังคม ด้วยโทษจาคุก อันเป็นโทษท่ีต้องการแยกบุคคลที่เป็นอาชญากรออกจากสังคมเพื่อการ ขัดเกลาสภาพจิตใจ จะเหมาะสมกับการนามาใช้กับคนไร้บ้านท่ีกระทาละเมิดต่อกฎหมาย เพียงเพราะ วิถีดารงชีวิตของคนไร้บ้านอยู่ในสภาพที่ไม่ได้มีตัวเลือกน้ันเท่านั้นหรือ ประกอบกับการลงโทษด้วยการ ปรับเป็นเงินกับบุคคลท่ีมีทรัพย์สินในการประคองชีพอันน้อยนิดหรือแถบจะไม่มีเลย จะสามารถแก้ไข ปญั หาท่ตี ้นตอได้จริงหรือ นอกจากนคี้ นไรบ้ า้ นบางคนอาจใช้พ้ืนทส่ี าธารณะ เป็นหนทางในการหารายได้ทีไ่ ด้ผลตอบแทน สูงกว่าการขายของเก่าหรือการขอทาน จากงานหรือสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการลักเล็กขโมยน้อย การค้ายาเสพติด จนไปถึงการค้าบริการทางเพศ ทั้งน้ีไม่ว่าการหาเลี้ยงชีพของคนไร้บ้านจะเป็นงานท่ี ต้องห้ามด้วยกฎหมายหรือไม่ ย่อมเกิดทรัพย์สนิ เป็นของตวั เองขนึ้ แมจ้ ะมไี ม่มากแต่กม็ ีเพ่ือการดารงชีวิต คนไร้บ้านเองจึงเสี่ยงท่ีจะตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมได้เช่นกัน จากการถูกลักขโมย การถูกทาร้าย รา่ งกายเพื่อเอาทรัพยส์ นิ จากมจิ ฉาชีพหรือคนไร้บ้านด้วยกันเอง จนไปถึงการเผชิญความเสย่ี งต่อชีวิตใน งานบริการทางเพศจากการทารุณกรรม การตกเป็นเย่ืออาชญากรรมท่ีเกิดจากความเกลียดชัง (Hate Crime( ที่มกั จะพบในรูปแบบของการทาร้ายร่างกายคนไร้บ้าน เพอ่ื สนองความเกลียดชังโดยคนท่ัวไปท่ี มองว่าคนไรบ้ า้ นมลี ักษณะทแี่ ตกต่างออกไปจากตนและสงั คม 5.2.1 กรอบแห่งกระบวนการยตุ ธิ รรมทางอาญาต่อคนไรบ้าน การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของคนไร้บ้าน จากการใช้พื้นท่ีสาธารณะเช่นการ จัดการทรัพย์สินก่อนนาไปขายของเก่า และได้มีการละเมิดต่อกฎหมายโดยมีการกองไว้ที่บริเวณทาง สาธารณะหรือลุกลามไปยงั ท้องถนน การนอนในพื้นที่สาธารณะ รวมไปถึงการขอทานของคนไร้บ้าน ที่ มักถูกการปราบปราบโดยเจ้าหน้าท่ีรัฐ เน่ืองจากเกิดการละเมิดบทบัญญัติกฎหมายขึ้น รวมไปถึงการ ละเมิดและถกู ละเมิดสทิ ธิอืน่ ๆเชน่ ถกู ทารา้ ยร่างกาย ลักทรพั ย์ เช่นเดียวกับพลเมืองของรัฐทุกคน คนไร้บ้านย่อมมีศักดิ์ศรีและสิทธิในความเป็นมนุษย์ท่ีจะ ไดร้ บั การคมุ้ ครองในหลักการเคารพศักดิ์ศรีความเปน็ มนุษย์ ความเสมอภาค และการไม่เลือกปฏิบัติ262 ไม่วา่ จะเป็นการเข้าถงึ กระบวนการยุติธรรมในฐานะผลู้ ะเมิดสิทธิของบุคคลอืน่ หรือต่อกฎหมาย หรอื ใน ฐานะผู้เสียหายเอง กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับกระบวนการยุติธรรมย่อมต้องอยู่ภายใต้หลักการใน กระบวนการยุติธรรมทางอาญาให้เป็นไปตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ ตามปฏิญญาสากลว่า ด้วยสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศที่เก่ียวกับสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็น กติการะหว่าง ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สงั คม และวัฒนธรรม และปฏิญญาวา่ ดว้ ยหลกั พ้ืนฐานเกีย่ วกบั การอานวยความยุตธิ รรมแกผ่ ู้ได้รับความ เสียหาย จากอาชญากรรมและการใช้อานาจโดยมิชอบ รวมไปถึงกรอบเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals–SDGs) ข้อท่ี 16 ดว้ ย 262 “หลักการเคารพศักด์ศิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์” เปน็ หลักพ้นื ฐานท่ีมนษุ ย์ทกุ คนมีมาโดยกาเนดิ ไมม่ ีผ้ใู ดสามารถพราก ไปจากบุคคลหนงึ่ ๆได้ “หลักความเสมอภาค” ทมี่ นษุ ย์ทุกคนมีเสรภี าพ และมสี ทิ ธทิ ี่จะไดร้ ับการปฏิบตั ิและคมุ้ ครอง อยา่ งเสมอกัน ซงึ่ สอดคลอ้ กับ “หลกั การไมเ่ ลอื กประติบัต”ิ อนั เปน็ หลักประกันหลักความเสมอภาค กลา่ วคอื มนษุ ย์ จะต้อถกู ปฏิบตั ิ ดว้ ยมาตรฐานเดียวกันท้งั สน้ิ ไม่มเี กณฑ์วัดใดทจี่ ะทาใหบ้ คุ คลตอ้ งดอ้ ยหรือเหนือกวา่ บุคคลหน่ึงๆ ไม่ ว่าจะเป็น เพศ ความเชื่อ เช้ือชาติ การศึกษา เศรษฐกจิ 4 - 90

รายงานวจิ ยั ฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปญั หาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพอื่ การพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนไร้บ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 ประเทศไทยได้เข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติลาดับที่ 99 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 0035 ต่อมาที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ให้การรับรอง เม่ือวันท่ี 12 ธันวาคม พ.ศ. 0051 โดย ประเทศไทยออกเสยี งสนับสนนุ ประเทศไทยในฐานะภาคีสมาชิก ต้องนาหลักการของปฏิญญาสากลว่า ด้วยสิทธมิ นุษยชน ไปปรับใช้ในประเทศ ในปัจจุบันประเทศไทยเป็นภาคีตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ที่วางหลักการในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ให้เป็นไปตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ ท้ังนี้ ตราสารระหว่างประเทศดา้ นสิทธมิ นษุ ยชนทเี่ ก่ียวขอ้ งกับกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญา ทอี่ าจเกยี่ วกับ คนไร้บ้าน มดี งั ต่อไปน้ี 1) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights - ICCPR) โดยหลักการท่ีกฎหมายระหว่างประเทศ ดงั กลา่ วได้วางไว้ ท่เี ก่ยี วข้องกับการวางกรอบกระบวนการยตุ ธิ รรม ที่เป็นเหมอื นกรอบของกระบวนการ ยตุ ธิ รรม โดยสามารถพบเหน็ ได้ใน รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.2560 ประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความอาญา และกฎหมายอื่นๆท่ีมีลักษณะเป็นกฎหมายอาญา ซ่ึง ICCPR มีสาระสาคัญคือรัฐ ตอ้ งเคารพ ไม่เลือกประติบัติดว้ ยเหตแุ หง่ ความแตกต่างของมนุษย์ โดยประกนั สทิ ธวิ า่ บุคคลท่ีถูกละเมิด จะได้รับการเยียวยา และไม่ว่ามีสถานะทางสังคม เศรษฐกิจ หรือวัฒนธรรมแบบใด ก็จะได้รับสิทธิ พลเมอื งและการเมืองอย่างเทา่ เทียมกนั 263 2) กตกิ าระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (International Covenant on Economic, Social and Cultural Rights - ICESCR) กฎหมายระหว่างประเทศนี้ เก่ียวข้องโดยทั่วไปเก่ียวข้อกับการประกันสิทธิในการทางาน สิทธิในชีวิตความเป็นอยู่ท่ีดี สิทธิในด้าน การศึกษา สิทธิด้านสุขภาพ สิทธิในวัฒนธรรมของพลเมือง ซ่ึงในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับกระบวนการ ยุติธรรมทางอาญาในคนไร้บ้าน เป็นส่วนท่ีรัฐจะต้องประกันสิทธิแก่พลเมือง ไม่เลือกประติบัติด้วยเหตุ แห่งความแตกตา่ งของมนุษย์264 ซ่งึ พลเมอื งของรัฐมสี ิทธทิ ีจ่ ะหาเลีย้ งชีพของตนอย่างเสรี และไดร้ บั การ ปกป้องสิทธิน้ัน ซ่ึงรัฐอาจต้องจัดให้มีคาแนะนาหรือสง่ เสริมทางวิชาชีพ แก่ผู้ที่เขาถึงโอกาสในการเลี้ยง ชพี ไดไ้ มเ่ ทา่ เทยี มบุคคลอื่น265 3) ปฏิญญาว่าด้วยหลักพ้ืนฐานเกี่ยวกับการอานวยความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับความเสียหาย จากอาชญากรรมและการใช้อานาจโดยมิชอบ (Declaration of Basic Principle of Justice for Victims of Crime and Abuse of Power) เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศท่ีเก่ียวข้องกับสิทธิ 263 กติการะหว่างประเทศวา่ ดว้ ยสทิ ธิพลเมอื งและสทิ ธทิ างการเมือง ข้อ 2 “รัฐภาคีแตล่ ะรฐั แห่งกติกานีร้ บั ทจี่ ะเคารพและประกันแกป่ ัจเจกบคุ คลทงั้ ปวงภายในดินแดนของตนและ ภายใต้เขตอานาจของตนในสิทธทิ งั้ หลายท่ีรับรองไวใ้ นกตกิ าน้ี โดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ อาทิ ทรัพยส์ ิน ... กาเนิด หรอื สถานะอื่นๆ” 264 กติการะหว่างประเทศวา่ ดว้ ยสิทธิทางเศรษฐกจิ สังคม และวัฒนธรรม ขอ้ 2 “รัฐภาคแี ตล่ ะรฐั แหง่ กติกานรี้ ับทจี่ ะเคารพและประกนั แกป่ จั เจกบคุ คลทงั้ ปวงภายในดนิ แดนของตนและ ภายใตเ้ ขตอานาจของตนในสิทธิทง้ั หลายที่รับรองไว้ในกตกิ านี้ โดยปราศจากการแบง่ แยกใดๆ อาทิ ทรัพยส์ ิน ... กาเนิด หรอื สถานะอื่นๆ” 265 กตกิ าระหวา่ งประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ข้อ 6 “รฐั ภาคีใหค้ าทางเทคนคิ และวชิ าชีพและโครงการฝกึ อบรม นโยบายและเทคนิคท่จี ะทาใ...หบ้ รรลผุ ลในการ พฒั นาทางเศรษฐกจิ สังคม และวฒั นธรรมอย่างสม่าเสมอ” 4 - 91

รายงานวิจัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพ่อื การพัฒนาคุณภาพชวี ิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 มนุษยชนในกระบวนการทางอาญา แม้จะไม่ใช่ตราสารหลัก แต่ได้บัญญัติหลักการในการคุ้มครองผู้ ได้รับความเสียหายจากอาชญากรรมและการใช้อานาจโดยมิชอบ ในการได้รับการปฏิบัติด้วยความเห็น อกเห็นใจ เคารพในศักดิศรีความเป็นมนุษย์ ได้รับเยียวยาในลักษณะค่าสินไหมทดแทนอย่างเพียงพอ เหมาะสม ผา่ นกระบวนการยุตธิ รรมย่างรวดเร็ว ประหยดั เปน็ ธรรม และเข้าถงึ ได้ง่าย ทงั้ นภี้ ายใต้กรอบของสหประชาชาติที่นอกจากจะมีปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชนแล้ว ยัง มีวาระการพัฒนาภายหลังปี พ.ศ. 0993 (post-0219 development agenda) ที่มุ่งเน้น “การ พัฒนาที่ยั่งยืน” ในการจัดทาเป้าหมายการพัฒนาท่ีย่ังยืน (Sustainable Development Goals– SDGs) ทั้ง17 ข้อ ที่ใช้เป็นกรอบในการดาเนินนโยบายของประเทศภาคีสมาชิกสหประชาชาติ ซ่ึงใน SDGs ข้อที่ 16266 ได้มุ่งเน้นการส่งเสริมสังคมสงบสุข ยุติธรรม ไม่แบ่งแยก ทางานร่วมกับรัฐบาลและ ชุมชนเพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหาคงอย่างย่ังยืน รัฐไทยจึงต้องดาเนินนโยบายที่เกี่ยวกับกระบวนการ ยุติธรรมทเี่ ป็นไปตามหลกั การของเป้าหมายดงั กลา่ ว เม่ือพิจารณาในระดับนโยบายได้มีการจัดทา (ร่าง(ยุทธศาสตร์แห่งชาติ พ.ศ. 0952-0975 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.0952 หมวด 5 แนวนโยบายแห่งรัฐ มาตรา 59 เพ่ือกาหนดกรอบและแนวทางการพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องทาตาม ซ่ึงในยุทธศาสตร์ ท่ี 0 ว่าด้วยการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่มุ่งเน้นให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคมใน เรื่องความม่ันคงทางเศรษฐกิจ โดยต้องมีการเสริมสร้างพลังทางสังคมท่ีเปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถ จัดการทรพั ยากรด้วยตนเอง และการสร้างความสมานฉันท์ในสังคมทส่ี นับสนุนให้เกิดความเสมอภาคใน การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ด้วยการแก้ไขหรือปรับปรุงข้อกฎหมายให้ลดความเหล่ือมล้า รวมถึง การให้โอกาสแก่กลุม่ คนผูด้ อยโอกาสให้พฒั นาตนเองและแสดงศักยภาพของตนเองดว้ ยตัวเองได้267 ขณะเดียวกันตามระบบกฎหมายภายในของไทย จะพบว่าได้มีการอนุวัติการเอาหลักการใน ขอ้ ตกลงหรอื ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธมิ นุษยชนแลว้ ในรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย นอกจากจะบัญญัติรับรองเรื่อง สิทธิและเสรีภาพ ส่วนบุคคล และความเสมอภาคไว้แล้ว ยังได้บัญญตั เิ กยี่ วกบั “สิทธใิ นกระบวนการยตุ ิธรรม” ไว้เป็นการ เฉพาะได้บัญญัติไว้ 3 มาตรา คือ มาตรา 25268 ในเรื่องการได้รับการได้รับการเยียวยาในผู้เสียหาย 266 สาระสาคญั ของ SDGs ข้อที่ 16 “...มุง่ ม่ันทีจ่ ะลดความรนุ แรงทุกรปู แบบ พร้อมทางานร่วมกับรฐั บาลและชมุ ชนเพื่อหาแนวทางแกไ้ ขปัญหา ความขดั แยง้ และความไมม่ ่ันคงอย่างยั่งยนื การสง่ เสริมการปกครองดว้ ยกฎหมายและการสง่ เสริมสทิ ธมิ นุษยชน เปน็ กุญแจสาคญั ในกระบวนการนี้เช่นเดยี วกับการลดอาวธุ ผิดกฎหมาย สง่ เสริมการมีส่วนร่วมของประเทศกาลังพัฒนาใน สถาบนั การปกครองทว่ั โลก” 267 รา่ งกรอบยุทธศาสตรแ์ หง่ ชาตริ ะยะ 20 ปี. (2559). [ข้อมลู ออนไลน์]. แหล่งทม่ี า : http://www.thaigov.go.th/uploads/document/66/2017/01/pdf/20year-may59.pdf สบื ค้นเมอ่ื 15 กันยายน 2560 268 รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ0952.ศ.มาตรา 05 “...บคุ คลซ่งึ ไดร้ บั ความเสยี หายของบุคคลอ่นื ยอ่ มมสี ทิ ธิทจ่ี ะไดร้ บั การเยยี วยาหรอื ช่วยเหลอื จากรฐั ตามที่... กฎหมายบญั ญตั ”ิ 4 - 92

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนุนองคค์ วามรู้ เพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนไร้บา้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 มาตรา28269 และ29270 ในเรื่องกระบวนการยุติธรรมทางอาญาอันชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับ มาตรา68 แห่งหมวดที่ 6 ว่าด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐ271 ที่รัฐต้องกาหนดแนวนโยบาย ที่มุ่งเน้น กระบวนการยุติธรรมตามหลักความยุติธรรมสากล บุคคลต้องได้การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่าง เท่าเทียมเป็นธรรม ถูกปฏิบัติต่อด้วยความมีมนุษยธรรมและอยู่ภายใต้กฎหมายท่ีเป็นธรรม ซ่ึง สอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในข้อที่ 7 ไปจนถึงข้อที่ 11272 ประกอบกับ ICCPR ในข้อท่ี2 9 10 และ14273 ICESCR ในข้อที่ 2 และ 6 และปฏิญญาว่าด้วยหลักพื้นฐานเก่ียวกับการ อานวยความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับความเสียหาย จากอาชญากรรมและการใช้อานาจโดยมิชอบ โดย กฎหมายลาดบั รองลงมา ต้องรบั เอาหลกั การของกติกาและอนุสญั ญาระหวา่ งประเทศไปใช้ 5.2.2 มาตรฐานองคก์ ารสหประชาชาตวิ ่าดว้ ยกระบวนการยุติธรรมทางอาญา นอกจากประเทศไทยได้เข้าร่วมผูกพันต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ด้านสิทธิมนุษยชนของ สหประชาชาติ ท่ีคอยเป็นกรอบคุ้มครองสิทธิของบุคคลในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมดังที่กล่าวไป แล้วนัน้ ยงั มีมาตรฐานองค์การสหประชาชาติว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ซึง่ ประเทศไทย ได้เข้ารว่ มประชุมและเป็นเจา้ ภาพในการจดั ประชมุ โดยมาตรฐานองค์การสหประชาชาติฯทมี่ ที ัง้ ส้ิน 23 ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์หลักในการมุ่งคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม ให้กระบวนการ ยุติธรรมเป็นไปตามมาตรฐานการคุ้มครองสิทธิของประชาชน ในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย ผู้ถูกกล่าวหา ผ้กู ระทาความผิด ตลอดจนพยาน ในมาตรฐานทวี่ ่าดว้ ยการต่อต้านการปฏิบตั ิหรือการลงโทษท่ีเป็นการ 269 รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.0952มาตรา 03 “บคุ คลย่อมมสี ิทธิและเสรีภาพในชวี ติ และร่างกาย...การจบั และการคุมขังบคุ คลจะกระทามไิ ด้ …การทรมาน ทารุณกรรม หรอื การลงโทษดว้ ยวธิ กี ารโหดรา้ ยหรอื ไรม้ นษุ ยธรรม จะกระทามไิ ด้” 270 รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ0952.ศ.มาตรา 05 “บคุ คลไม่ตอ้ งรับโทษอาญา เวน้ แตไ่ ด้กระทาการอันกฎหมายที่ใชอ้ ยู่ในเวลาทก่ี ระทานนั้ บัญญตั เิ ปน็ ความผิด และกาหนดโทษ....” 271 รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ 0952.ศ.มาตรา 53 “รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยตุ ิธรรมทุกดา้ นใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ เป็นธรรม และไมเ่ ลอื ก ปฏบิ ตั ิ มารถปฏิบตั หิ นา้ ท่ไี ด้ โดยเครง่ ครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือในกระบวนการยตุ ิธรรม ใหส้ า...มมี าตรการ... ... พงึ ให้ความช่วยเหลอื ทางกฎหมายทจี่ าเปน็ และเหมาะสมแก่ผยู้ ากไร้หรือผู้ดอ้ ยโอกาส..ครอบงาใดๆ” 272 ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นุษยชน ข้อ 7 -11 “ทกุ คนเสมอภาคกันตามกฎหมายและมสี ิทธิทจี่ ะไดร้ บั ความค้มุ ครองของกฎหมายเท่าเทยี มกนั โดย ปราศจากการเลอื กปฏบิ ัติใด...บุคคลจะถูกจบั กมุ กกั ขงั หรอื เนรเทศตามอาเภอใจไมไ่ ด้...มีสทิ ธทิ ี่จะได้รบั การเยยี วยา... นธรมีสิทธใิ นความเสมอภาค อยา่ งเตม็ ที่ในการได้รบั การพิจารณาคดที ีเ่ ป็รมและเปดิ เผยจากศาลท่อี สิ ระและไมล่ าเอยี ง ในการพิจารณากาหนดสิทธิและหนา้ ท่ขี องตนและขอ้ กลา่ วหาอาญาใดตอ่ ตนมสี ทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ ับการสนั นิษฐานไว้กอ่ น... ...วา่ บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์” 273 กตกิ าระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยสิทธพิ ลเมืองและสิทธทิ างการเมอื ง ขอ้ 9 “บุคคลทุกคนมสี ิทธใิ นเสรภี าพและความปลอดภยั ของรา่ งกาย บคุ คลจะถูกจับกมุ หรอื ควบคมุ โดยอาเภอใจ มไิ ด้บคุ คลจะถกู ลิดรอนเสรภี าพของตนมไิ ด้...” ข้อ 10 “บุคคลทั้งปวงที่ถูกลิดรอนแสรภี าพต้องไดร้ บั การประตบิ ตั ดิ ้วยความมมี นษุ ยธรรม และความเคารพ ในศกั ด์ิศรีแตก่ าเนิดแห่งความเปน็ มนุษย์...” และ ข้อ 10 “บุคคลท้ังปวงย่อมเสมอกนั ในการพิจารณาของศาลและคณะตลุ าการบคุ คลทกุ คนยอ่ มมีสิทธ.ิ .. ...ไดร้ บั การพจิ ารณาอยา่ งเปดิ เผยและเป็นธรรม” 4 - 93

รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนุนองคค์ วามรู้ เพ่ือการพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 ทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือลดศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ มาตรฐานข้ันต่าในกระบวนการท่ีกระทา ต่อเด็กและเยาวชน การปอ้ งกันการสอบสวน และ การบังคับให้หายสาบสญู เปน็ ตน้ เมื่อคนคนไร้บ้านนนั้ ตัวเล็กและเสียงไม่ดงั การกระทาและการมีอยู่ของพวกเขาไม่ค่อยเป็นท่ีได้ รบั รขู้ องผ้คู นในสังคม หากคนไรบ้ ้านคนหนึ่งหายไปจากชุมชนหนึ่งๆ ในวันรงุ่ ขน้ึ วถิ ีชวี ติ ในชมุ ชนที่จอแจ ยังคงดาเนินต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะมีการพบเห็นเขาคนน้ันอีกครั้งทว่าในสภาพไม่มีลมหายใจแล้ว คน ไร้บา้ นจึงมีโอกาสทจี่ ะถกู ละเมดิ สิทธไิ ด้อยู่เสมอ เพราะปราศจากความสนใจและใส่ใจของสงั คม กฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ จึงอาจไม่เพียงพอต่อการ คุ้มครองสิทธิ ในกรณีของผู้ท่ีตกอยู่ในสถานะเสี่ยงต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างมาก เช่น ในคน ไร้บ้านที่ไม่กล้ามีปากเสียงกับเจ้าหน้าท่ีของรัฐ เพราะกลัวจะถูกปราบปรามออกจากพ้ืนที่ คนไร้บ้านที่ เป็นเด็ก เยาวชน หรือบุคคลท่ีถูกครอบงาได้ง่ายเพราะด้อยในประสบการณ์ คนไร้บ้านท่ีถูกชุมชนตีตรา เหมารวมว่าเป็นตวั ปญั หา มาตรฐานองค์การสหประชาชาติว่าดว้ ยกระบวนการยตุ ิธรรมทางอาญา เป็นอีกแนวทางในการ กาหนดมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม ให้อยู่ในแนวทางท่ีจะไม่เป็นการเลือกประติบัติใน กระบวนการยุติธรรมต่อกลุ่มเสี่ยง เพราะความแตกต่างเพราะอคติและการตีตราของสังคม และความ ดอ้ ยในประการณ์ของเดก็ และเยาวชน คนไร้บ้านเป็นกลุ่มเส่ียงเพราะอคติและการตีตราของสังคม เม่ือสังคมมองอย่างเหมารวมว่าคน ไรบ้ า้ นเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรม เพียงเพราะสภาพความเปน็ อยู่ท่ไี มเ่ ปน็ ไปตามระดับมาตรฐาน ของสังคม รอยสักตามร่างกาย และข่าวสารท่ีนาเสนอว่าคนไร้บ้านก่ออาชญากรรม274 เมื่อเกิดการ กระทาความผิดขึ้นคนไร้บ้านจึงอาจถูกเพ่งเล็งจากคนในท้องที่ ซึ่งต่างเห็นพ้องให้กันคนไร้บ้านออกไป จากชุมชน จึงไม่ใช่เรื่องประหลาดใจของคนในชุมชน หากคนไร้บ้านถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าท่ีตารวจ แล้วหายไปจากชุมชนช่ัวคราวหรือถาวรแล้วแต่กรณี หรือถูกซ้อมทาร้ายตามอาเภอใจ เพราะเงาหมอก ของการตตี ราดังกลา่ ว ท่ีบดบงั ความเป็นมนษุ ย์ของคนไรบ้ า้ น ในขณะเดียวกันเด็กและเยาวชนคนไร้บ้าน ก็พลอยได้ถูกการตีตราว่าเป็นตัวปัญหาเช่นกัน ยิ่ง ไปกว่าน้ัน การกระทาความผิดเล็กๆน้อยๆของเด็กท่ีไม่ใช่อาชญากรร้ายแรง อย่างการทาลายทรัพย์สิน การทะเลาะวิวาท ที่เกิดจากการอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่อานวยต่อพัฒนาการที่ดี และขาดการอบรมสั่ง สอนที่เหมาะสม ฝันร้ายอาจต้องกลายจริงของเขาเหล่านั้นในอนาคต เพราะเรื่องราวเก่าๆได้ตีตราเด็ก หรอื เยาวชนผา่ นประวตั อิ าชญากรรม หรอื แฟ้มข่าวผา่ นวิธีการทางสือ่ สารมวลชน มาตรฐานองค์การสหประชาชาติฯ ในปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลให้พ้นจากการ กระทาอันทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอ่ืนที่เป็นการทารุณโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือลด ศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์275 เป็นการป้องการการลงโทษหรือทรมานตามอาเภอใจรูปแบบหนึ่ง เพราะ มุ่งเน้นให้ “การทรมาน” ในกระบวนการยุติธรรมเพ่ือให้ได้มาซ่ึงคาสารภาพหรอื ข้อสนเทศ ที่ได้กระทา โดยเจา้ หนา้ ที่รฐั หรือบุคคลซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ในตาแหน่งทางการ เป็นการความผิดทาอาญา ซ่งึ แม้จะได้ กระทาโดยอ้างว่ากระทาไปโดยหน้าที่ ก็ไม่สามารถมารถนามายกเว้นความรับผิดได้ ภายใต้การกากับ 274 อา้ งแลว้ , เชงิ อรรถท่ี 230, หนา้ 75 275 กิตติพงษ์ กติ ยารกั ษ,์ ชาติ ชยั เดชสรุ ิยะ และ ณัฐวสา ฉัตรไพฑรู ย์ .มาตรฐานองคก์ ารสหประวาวาตวิ ่าดว้ ย กระบวนการยตุ ิธรรมทางอาาา .กรงุ เทพฯ: เดือนตลุ า, หน้า 30-31 4 - 94

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนุนองค์ความรู้ เพือ่ การพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตคนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 ดูแลและสอบสวนของคณะกรรมการต่อต้านการทรมาน276 ตามหลักการในการสอบสวนหรือแสวงหา หลักฐานอย่างมีประสิทธิภาพ เก่ียวกับการกระทาทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นท่ีเป็นการ ทารณุ โหดร้าย ไรม้ นุษยธรรม หรอื ลดศักด์ศิ รีความเป็นมนษุ ย์277 เพอื่ ให้รัฐเกดิ ความรบั ผิดชอบ เยยี วยา ผู้ถูกละเมิด ป้องกันการเกิดการละเมิดซ้า โดยคาร้องเรียนนั้นจะได้รับพิจารณาอย่างรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ โดยต่อมาประเทศไทยได้เข้าผูกพันและให้สัตยาบนั ต่ออนุสัญญาว่าดว้ ยการต่อต้านการ ทรมาน และการกระทาอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือท่ีย่ายีศักดิ์ศรี (The Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishment - CAT) เม่อื วนั ที่ 0 ตลุ าคม 0992 และมีผลใชบ้ ังคบั กับไทยเม่อื วนั ที่ 1 พฤศจกิ ายน 0992 ปฏญิ ญาว่าด้วยการคุ้มครองบคุ คลทุกคนใหพ้ ้นจากการถกู ใชก้ าลังบงั คับใหส้ ญู หาย278 เปน็ อีกหน่ึงในมาตรฐาน ท่ีมุ่งเน้นให้การทาให้บุคคลสาบสูญระหว่างกระบวนการยุติธรรมทางอาญา แม้จะ เป็นเพียงชว่ั ขณะหนง่ึ และปรากฏตัวในภายหลังก็ตาม ตอ้ งได้รบั การสบื สวนตดิ ตามในกระบวนพิจารณา โดยไม่ได้รอใหเ้ กดิ ความเสยี หายขนึ้ แกผ่ ู้ทสี่ ญู หายอยา่ งเปน็ ประจกั ษ์ แตเ่ ดมิ เปน็ เพียงความผดิ ฐานกักขัง หน่วงเหน่ียวเท่านั้นซึ่งภายหลังประเทศไทยได้เข้าผูกพันต่อ อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการ คุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance - CED) เม่ือวันที่ 5 มกราคม 0999 อย่รู ะหวา่ งดาเนินการให้สัตยาบนั กฎมาตรฐานข้ันต่าขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยการบริหารกระบวนการยุติธรรม สาหรับเยาวชน279 และ แนวทางขององค์การสหประชาชาติว่าดว้ ยการป้องกันการกระทาความผิด ของเยาวชน280 ไดเ้ น้นยา้ แนวทางในกระบวนการยตุ ิธรรมทางอาญาว่า จะต้องแตกตา่ งกบั บคุ คลทีเ่ ป็น นิเสธของเด็กหรือเยาวชน ภายใต้หลักความได้สัดส่วนของผู้กระทาความผิดท่ีเป็นเด็กและพฤติการณ์ และความพอเหมาะพอดี เน้นการอบรมและพัฒนามากกว่าการลงโทษ หรือตีตราเด็ก เน่ืองจากเด็ก จะต้องพฒั นาเปน็ ผู้ใหญใ่ นวนั ข้างหน้า การปอ้ งกนั การกระทาความผิดในเด็กดว้ ยวธิ ีการดังกลา่ ว จึงเปน็ การลดการอาชญากรรมในสังคมไปด้วย นอกจากน้ียังให้ความสาคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ประวัติอาชญากรรมเด็ก ท่ีอาจส่งผลต่อการตีตราในอนาคต และการส่ือสารมวลชนต้องพิจารณาความ เปน็ ส่วนตวั ของเด็กและเยาวชน และการตีตราเดก็ เป็นสาคัญ 5.3 คมุ้ ครองคนไรท้ ่ีพ่งึ พิงด้วยกฎหมายเพ่ือคนไร้ทพ่ี ่ึง การแก้ไขปัญหาการกระทาความผิดในพ้ืนที่สาธารณะ ด้วยวิธีการลงโทษทางอาญาทั้งการ จาคุก หรอื การปรับเปน็ เงิน ไมว่ า่ จะเป็น การค้ายาเสพติด การคา้ บริการทางเพศ การขอทานของคนไร้ บ้าน คงไมใ่ ชว่ ธิ กี ารท่ยี ่งั ยนื ในการจัดการปัญหาเหล่านนั้ อาจทาใหก้ ารกระทาความผิดเกดิ ขึ้นน้อยลงใน พื้นที่เปิด แต่กลับเพ่ิมมากข้ึนในพ้ืนที่ที่กฎหมายหรือรัฐเข้าไปจัดการไม่ถึง การแก้ไขปัญหาใน 276 อนุสัญญาวา่ ด้วยการต่อตา้ นการทรมาน และการกระทาอืน่ ๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรอื ที่ย่ายีศกั ดศิ์ รี ข้อ 17 และ 20 277 อ้างแลว้ , เชงิ อรรถท่ี 275, หน้า 255 278 เพง่ิ อา้ ง, หนา้ 244-254 279 เพงิ่ อ้าง, หนา้ 77-97 280 เพ่ิงอา้ ง, หนา้ 188-196 4 - 95

รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนนุ องค์ความรู้ เพอ่ื การพฒั นาคุณภาพชีวิตคนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 29-22100-95 กระบวนการยุติธรรมอย่างย่ังยืน เพ่ือท่ีจะให้เกิดสังคมสมานฉันท์ในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม นโยบายหรือกฎหมายนามาแก้ไขปัญหาจาเป็นต้องลดความลดความเหลือ่ มล้าจากสภาพทางเศรษฐกจิ และความเป็นอยู่ของ “ประชากร” ด้วยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม พร้อมกับ สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาตัวตนเองของประชาชนในการหาเล้ียงชีพ อย่างเท่าเทียมและไม่ถูก เลอื กประติบตั ดิ ้วย 5.3.1 พระราชบัญญัตคิ ้มุ ครองคนไรท้ ่ีพึ่งพ.ศ. 2557 เม่ือคนไร้บ้านได้ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของ บ้านเมือง พ.ศ. 2535 หรือมีการค้าบริการทางเพศในที่สาธารณะ ตลอดจนคนไร้บ้านท่ีค้ายาเสพติด เป็นตัวอย่างหนึง่ ของการกระทาความผิดเก่ยี วกับการพักอาศัยในที่สาธารณะตามกฎหมาย ท้ังน้ีหาก บุคคลละเมิดต่อกฎหมายท่ีควบคุม หรือกฎหมายท้องถ่ินท่ีเกี่ยวกับการน้ี บุคคลที่อยู่ในสภาพของ “บคุ คลไร้ทพ่ี ง่ึ ” ตามพระราชบญั ญัติคุ้มครองคนไรท้ ่ีพ่ึงพ.ศ. 2557 การลงโทษหรือวธิ ีการจัดการย่อม เป็นไปตามกฎหมายอยา่ งหลงั นี้ พระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงพ.ศ. 0997 ต้องการจะพัฒนามาตรฐานการดารงชีพของ คนในสังคม ทป่ี ระสบปัญหาสงั คมและเศรษฐกิจ จนไม่สามารถดาเนินชวี ิตอย่างคนทว่ั ไปได้ เชน่ การไม่มี ที่อยู่ การขาดรายได้ที่เพียงพอต่อการยังชีพแก่คนไร้ท่ีพ่ึง281 โดยคนไร้ท่ีพ่ึงตามพระราชบัญญัติน้ี หมายถึง บุคคลซ่ึงไร้ท่ีอยู่อาศัยและไม่มีรายได้เพียงพอแกก่ ารยงั ชพี และให้รวมถึงบคุ คลที่อยู่ในสภาวะ ยากลาบากและไมอ่ าจพ่งึ พาบุคคลอ่นื ได้282 นอกจากนีย้ ังรวมถึงคนไร้บ้าน ในความหมายของคนเร่ร่อน ด้วย283 จุดเช่ือมโยงของพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่งพ.ศ. 0997 คนไร้บ้าน และกฎหมายอ่ืนๆ คือ มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เป็นกรณีของคนไร้บ้านซึ่งเป็นคนไร้ที่พึ่งตาม พระราชบัญญตั ินี้ ไดก้ ระทาความผดิ ตามกฎหมายหน่ึงซงึ่ เปน็ กระทาความผิดเกี่ยวกบั การพักอาศัยในท่ี 281 หมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติคมุ้ ครองคนไร้ทีพ่ ่ึง พ.ศ. 0997 “เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิฉบบั นี.้ ..คนไรท้ ่พี ่ึงเป็นบคุ คลทีป่ ระสบปญั หาในสงั คมขาดความ มัน่ คงในการดารงชวี ิต...สมควรตอ้ งคุ้มครองใหค้ นไร้ท่ีพึ่งสามารถดารงชีวติ อยใู่ นสงั คมได้อย่างปกติสุข มีปัจจยั พน้ื ฐาน ในการดารงชีวติ และมสี ภาพร่างกายและจติ ใจ เชน่ เดยี วกับบคุ คลทวั่ ไป โดยกาหนดวธิ กี ารคมุ้ ครองไวอ้ ย่างชัดเจนและ เหมาะสม...” 282 พระราชบัญญตั กิ ารคุม้ ครองคนไร้ท่พี ึ่งพ.ศ. 0997 มาตรา 3 “คนไรท้ พ่ี ่ึง หมายความว่า บคุ คลซึ่งไรท้ ่อี ยู่อาศยั และไมม่ รี ายไดเ้ พียงพอแก่การยงั ชพี และใหร้ วมถงึ บคุ คลท่ี อยู่ในสภาวะยากลาบากและไม่อาจพึ่งพาบคุ คลอื่นได้ ท้งั นตี้ ามทีค่ ณะกรรมการประกาศกาหนด” 283 ประกาศคณะกรรมการคุม้ ครองคนไร้ท่พี งึ่ เร่อื ง กาหนดประเภทหรอื ลกั ษณะของบคุ คลทอี่ ยใู่ นสภาวะยากลาบาก และไมอ่ าจพึง่ พาบุคคลอน่ื ได้ “ประเภทหรอื ลักษณะของบุคคลที่อย่ใู นสภาวะยากลาบากและไม่อาจพง่ึ พาบุคคลอื่นไดเ้ ปน็ คนไรท้ ีพ่ งึ่ ได้แก่ ... (2) คนเร่ร่อน หมายถงึ บคุ คลสญั ชาตไิ ทยที่ออกมาจากทพี่ ักอาศยั เดิม ไม่วา่ ดว้ ยเหตุใด ๆ ก็ตาม มาอยู่ในที่ สาธารณะ หรือบุคคลทอ่ี อกมาจากที่พกั อาศัยเดมิ มาต้ังครอบครวั หรอื มาใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหม่ในท่ีสาธารณะ และ ทั้งสองกลุ่มอาจจะยา้ ยที่พกั ไปเร่ือย ๆ หรอื อาศัยอย่ทู ใี่ ดท่หี น่งึ ในชว่ งระยะเวลาหน่งึ เพอ่ื ดารงชวี ติ ประจาวันในท่ี สาธารณะน้ัน ๆ (3) บุคคลซึง่ อาศัยทส่ี าธารณะเปน็ ท่ีพักนอนช่วั คราว หมายถงึ บคุ คลสญั ชาติไทยทมี่ าทาภารกจิ บางอยา่ ง และไมม่ ีทีพ่ ักอาศัย ไมม่ ีเงินเชา่ ทพี่ ัก...” 4 - 96

รายงานวจิ ัยฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและสนบั สนุนองค์ความรู้ เพอื่ การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ คนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 สาธารณะตามกฎหมายหรือข้อบัญญัติท้องถ่ิน การดาเนินการก็จะเป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ีคือการ จัดใหม้ กี ารคุ้มครองคนไรพ้ ่ีพง่ึ ณ สถานท่ที ร่ี ฐั จัดให้ เม่ือพิจารณาแล้ว พบว่าพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงพ.ศ. 0997 มีท้ังส่วนท่ีเป็นการ ปราบปราบควบคุมคนไร้บ้าน ดังท่ีกฎหมายบัญญัติให้ พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่จัดส่งคนไร้ที่พึ่งไปยัง สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหรือศูนย์คุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง ท้ังในกรณีที่พบเห็นเองหรือได้รับแจ้งจาก ประชาชน284 และในกรณีที่คนไรบ้ า้ นไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศนู ย์ คนไร้บา้ นกอ็ าจถกู ดาเนินคดีต่อไป การส่งคนไร้บ้านไปยังสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งหรอื ศูนย์คุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง อาจมีวัตถุประสงค์ เพ่ือต้องการการคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง ให้อยู่ในสถานท่ีที่เป็นหลักแหล่ง มีระบบระเบียบเหมาะสมตาม สุขลักษณะ เพอื่ ใหเ้ กิดคุณภาพชีวิตที่ดี ตามทบี่ ญั ญัติกฎหมายนี้ไว้ในหมวดท่ีว่าด้วยการคุ้มครองคนไร้ท่ี พงึ่ ทัง้ น้ี การกระทาท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าทีจ่ ัดส่งคนไร้บ้านไปยังสถานท่ตี ่างๆ เหมอื นภาพด้านลบ ที่ส่งผลต่อความรู้สึกไม่ดีต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี และสถานที่ๆคนไร้บ้านถูกส่งไปคุ้มครอง โดยมองว่าคน ไร้บ้านต้องถูกปราบปรามจากพื้นเหมือนเคย ทั้งจากสายตาของคนไร้บ้านเองและผู้คนทั่วไปท่ีพบเห็น แมถ้ ้อยคาตามกฎหมายจะบญั ญตั ิวา่ เปน็ การคุ้มครองคนไร้บา้ นก็ตาม นอกจากนั้นแล้ว การจัดแจงให้คนไร้บ้านไปอยู่ ณ สถานท่ีท่ีเรียกว่า “ศูนย์” หรือสถานท่ีรวม ของกลุ่มคน ท่ีสังคมมองว่าเป็นชายขอบของสังคม ทาให้คนไร้บ้านบางคนไม่ยอมรับและมองว่าการ ช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการกระทาด้านลบ ท่ีตีตราพวกให้พวกเขาเป็นคนนอกจากสังคม นอกจากนี้แม้ การคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงจะเป็นการการจัดสวัสดิการสังคม ส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ แต่การเปล่ียน สภาพแวดล้อมของคนไร้บ้านอย่างส้ินเชิง อย่างน้อยที่สุดคือการตัดขาดจากกลุ่มสังคมที่เคยพบปะ ติดต่อกัน ส่ิงท่ีต้องคานึงต่อไปคือ การปรับตัวของคนไร้บา้ นให้เข้ากับสังคมหรือสภาพแวดล้อมใหมท่ ่รี ัฐ กาหนดให้ ขณะท่ีรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา สานักงานสวัสดิการเพ่ือคนไร้บ้านของนครนิวยอร์ก (NYC Department of Homeless Services หรอื DHS) มกี ารจดั ตงั้ ศนู ยใ์ นลักษณะเช่นเดยี วกันนี้ แต่ นอกจากจะมีการช่วยเหลือฟื้นฟูให้คนไร้บ้านได้มีโอกาสในการมีอาชีพแล้ว สภาพแวดล้อมเดิมที่คนไร้ บ้านคุ้ยเคยก็มีความสาคัญ DHSได้จัดต้ังศูนย์ฯขึ้นมากกว่า 200 แห่งทั้งจากหน่วยงานของรัฐ และจาก เอกชนภายใต้การควบคุมของ DHS285 ให้ครอบคลุมเนื้อที่ของเมือง เพื่อท่ีเจ้าหน้าท่ีจะสามารถจัดแจง ให้คนไร้บ้านเข้าอยูใ่ นศนู ยท์ ี่ใกลก้ ับแหลง่ ท่ีอย่เู ดมิ ของคนไรบ้ า้ นได้ 286 ท้ังนี้ในอีกด้านหนึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง พ.ศ. 0997 ก็เป็นกฎหมายหรือ กระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่ก้าก่ึงว่าจะควบคุมหรืออานวยสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ดังที่กฎหมาย ได้พยายามคุ้มครองคนไร้บ้านที่ถูกกล่าวหาว่ากระทาความผิดเก่ียวกับการพักอาศัยในท่ี สาธารณะ ตามกฎหมายหรอื ขอ้ บญั ญัติท้องถ่ิน ซงึ่ คนไรบ้ า้ นอาจไมต่ ้องถูกดาเนินการตามกฎหมายน้ันๆ 284 พระราชบัญญตั ิการค้มุ ครองคนไร้ทพี่ ่งึ พ.ศ. 0997 มาตรา 02 “...ให้พนักงานเจา้ หน้าทีม่ หี น้าท่ีใหค้ าปรึกษา แนะนา และชว่ ยเหลอื ตลอดจนจดั ส่งคนไร้ทีพ่ งึ่ ไปยังสถาน คุม้ ครองคนไร้ทพี่ ่ึงหรือศูนยค์ มุ้ ครองคนไร้ทีพ่ ่ึง” 285 Diamond, S. DEPARTMENT OF HOMELESS SERVICES. [ขอ้ มลู ออนไลน์]. แหลง่ ที่ขอ้ มลู : http://www.nyc.gov/html/ops/downloads/pdf/mmr/dhs.pdf สบื ค้นเมอื่ 19 กันยายน 0952 286 คนไร้บ้าน…แหง่ มหานครนิวยอรก์ ด้วยศกั ดิ์ศรีของความเปน็ มนุษย์. (0999(. [ข้อมลู ออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา : http://www.manager.co.th/qol/viewnews.aspx?NewsID=5992222251971 สบื คน้ เม่ือ 19 กนั ยายน 0952 4 - 97

รายงานวจิ ัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพ่ือการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ คนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 29-22100-95 ให้ยุติการดาเนินคดี และให้ถือว่าสิทธินาคดีอาญามาฟ้องระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ อาญา ในกรณีท่ีคนไร้บ้านยินยอมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ส่งตัวคนไร้บ้านไปยังสถานคุ้มครอง ท้ังนี้หาก คนไรบ้ ้านไมย่ ินยอมไปยังสถานคมุ้ ครอง กจ็ ะต้องถูกดาเนนิ คดตี ามกฎหมายน้ันๆ การที่คนไร้บ้านยินยอมไปยังสถานคุ้มครองโดยแลกกับการไม่ต้องถูกดาเนินคดีในกฎหมาย เฉพาะ ดูเหมือนเป็นการจัดแจงตาแหน่ง หรือควบคุมคนไร้บ้านทางอ้อม แต่ในขณะเดียวกันยังเป็นการ อานวยสิทธิแก่คนไร้บ้านในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในเคารพความสมัครใจท่ีจะการรับความ คุ้มครอง ว่าจะอยู่ภายใต้หลักการดาเนินคดีอย่างคนทั่วไปท่ีทาผิดกฎหมายเฉพาะ หรือได้รับการปฏิบตั ิ อยา่ งคนไร้บ้าน ที่มีความพร้อมในทางสงั คมและเศรษฐกจิ ท่ีไมถ่ ึงระดับมาตรฐานซึ่งสงั คมตั้งไว้ อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งพ.ศ. 0997 ยังครอบคลุมการคุ้มครอง สิทธิคนไร้ท่ีพึ่งท่ีไม่ใช่บุคคลสัญชาติไทย กล่าวคือ คนไร้บ้านท่ีเป็นกลุ่มคนไร้สัญชาติไม่ว่าจะไม่มี สถานะทางทะเบียนหรือมีสถานะทางทะเบียนแต่ไร้สัญชาติ ก็จะได้รับการคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่งตาม พระราชบัญญัตินี้ แสดงให้เห็นว่าพระราชบัญญัติน้ีในทางหนึ่ง นอกจากที่จะให้ความสาคัญต่อสิทธิของ บุคคลในรัฐแล้ว ยังให้ความสาคัญต่อสิทธิในความเป็นมนุษย์ของมนุษยชาติ เป็นการปฏิบัติต่อเพ่ือน มนุษย์โดยไม่นาเร่ืองชนชาติ หรือชาติกาเนิดมาแบ่งแยก หากมีข้อโต้เถียงเร่ืองความสิ้นเปลืองของ ทรัพยากรที่รัฐต้อนามาใช้จัดสรรแก่คนท่ีไม่มีสัญชาติไทย ต้องไม่ลืมว่าคนไร้บ้านที่แม้ไม่มีสัญชาติไทยก็ ได้ทาหน้าที่ชาระภาษีให้แก่รัฐเช่นเดียวกันพลเมืองไทย ในการชาระภาษีมูลค่าเพ่ิมซ่ึงเป็นรายได้ของ ภาครัฐในการจัดเก็บภาษี ภาษีมูลค่าเพิ่มสร้างรายได้สูงสุดแก่รัฐในบรรดาการเก็บภาษีทุกประเภท287 จากการอุปโภคบริโภคของเขาเหล่านั้น ท้ังนี้กฎหมายจะมีประสิทธิภาพก็ต้องขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของ พนกั งานของเจ้าหน้าที่ ทตี่ อ้ งปราศจากอคติและคานึงถงึ คณุ ค่าของความเป็นมนษุ ยเ์ ปน็ สาคญั 5.3.2 พระราชบญั ญตั คิ วบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 ในขณะเดียวกันก็มีความพยายามในการจัดระเบียบการบนพื้นท่ีสาธารณะ ด้วยการแยกการ ขอทานจากคนไร้ที่พึ่งพิงที่แท้จริงอย่างคนไร้บ้าน กับการขอทานที่เป็นธุรกิจ หรือองค์กรอาชญากรรม ดว้ ยพระราชบญั ญัติควบคุมการขอทานพ.ศ. 2559 ในแง่ของการจัดระเบียบการขอทานที่มาจากคนไร้ บ้าน หากพิจารณาตามเหตุผลของการร่างพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559288 เหตุผล หลักน้ันเพ่ือเป็นการแก้ปัญหาสังคม และคุ้มครองสวัสดิภาพของบุคคลให้เหมาะสมย่ิงข้ึน จากการ กาหนดให้มี“การคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิต”เพิ่มเติมนอกจากโทษทางอาญา จึงมีลักษณะเป็น การมุ่งคุ้มครองคนไร้บา้ นมากกวา่ จะเปน็ การปราบปราม พระราชบญั ญัตคิ วบคมุ การขอทาน พ.ศ. 0995 มาตรา 16 ไดใ้ ห้อานาจพนักงานเจ้าหน้าที่ส่ง ตัวคนไร้บ้านท่ีทาการขอทาน เข้ารับการคุ้มครองและพัฒนาคุณภาพชีวิต ซ่ึงหมายถึง การช่วยเหลือ การบาบดั รักษา การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจติ ใจ ตลอดจนการฝึกอาชีพใหแ้ ก่ผู้ทาการขอทาน ในขณะ 287 ผลการจัดเกบม รายได้ของรัฐบาลปี พ.ศ. 2558 ถึง พ.ศ.2559. (2567). [ข้อมูลออนไลน]์ . แหล่งที่มา : http://dataservices.mof.go.th/Dataservices/GovernmentRevenue สบื ค้นเมื่อ 15 กันยายน 2567 288 เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชบญั ญัตคิ วบคุมการขอทาน พ.ศ. 0995 “โดยท่พี ระราชบญั ญตั คิ วบคมุ การขอทาน พุทธศักราช 0030 ได้ใช้บงั คบั มานานแลว้ บทบญั ญตั ิเกยี่ วกบั การสงเคราะหผ์ ู้ทาการขอทานตามพระราชบญั ญตั ดิ งั กลา่ วไม่เหมาะสมกบั สถานการณใ์ นปจั จุบนั …เพอ่ื เปน็ การ แก้ปญั หาสงั คมและคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพของบคุ คลใหเ้ หมาะสม”... 4 - 98

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนไรบ้ า้ น รหัสโครงการ 29-22100-95 พระราชบญั ญตั คิ วบคุมการขอทาน พ.ศ. 0995 ท่จี ะมผี ลเปน็ การปราบปรามกบั คนไรบ้ ้านก็ต่อเม่ือ คน ไร้บ้านทาการชนตังหรือขอทานโดยไม่ชอบดว้ ยพระราชบัญญตั ิน้ี และคนไร้บ้านที่พยายามหลบเลี่ยงไม่ ยอมเขา้ รบั การคุม้ ครองและพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต ซึ่งหากต้องการให้เป็นการคุ้มครองสิทธิคนไร้บ้าน ในทางปฏิบัติย่อมเลือกใช้วิถีทางท่ีรอมชอม กับคนไร้บ้าน การใชโ้ ทษทางอาญาไมว่ ่าเป็นเป็นการจาคกุ และหรือโทษปรบั คงไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ ต้นเหตุและย่ังยืน เพ่ือจะนาบุคคลออกจากท้องถนนซึ่งเป็นจุดเร่ิมต้นของการลดจานวนคนไร้บ้านและ ปญั หาการคา้ มนุษย์ การใช้วิธกี ารรอมชอมที่มุ่งส่งเสริม ฟืน้ ฟู คนไร้บา้ น ประกอบกบั อาศัยความร่วมมือ กับประชาชนท่ัวไป เจ้าหน้าท่ีทุกภาคส่วนในการทาความเข้าใจพระราชบัญญัตินี้เพื่อแนวทางปฏิบัติที่ เปน็ อันหนงึ่ อนั เดยี วกนั นอกจากน้ียังมีผู้เสนอว่าควรนาพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กและพระราชบัญญัติผู้สูงอายุมา ปรับใช้ด้วยอย่างจริงจัง เพราะแม้พระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 0995 มาตรา 15 จะ กาหนดใหเ้ จา้ หนา้ ทปี่ ระสานกบั หนว่ ยงานที่เกี่ยวขอ้ งตามกฎหมายเฉพาะ เม่อื พบว่าเป็นขอทานเป็นเด็ก หญิงมคี รรภ์ ผู้สูงอายุ คนวกิ ลจรติ คนพิการหรือทพุ พลภาพ แต่พระราชบัญญัตินก้ี ไ็ มไ่ ด้เป็นหลกั ประกัน ว่า กลุ่มเส่ียงดังกล่าวจะได้รับสวัสดิการอย่างเพียงพอและเท่าเทียม หากไม่มีการนาพระราชบัญญัติ คมุ้ ครองเด็กและพระราชบญั ญตั ผิ ้สู งู อายุมาปรบั ใช้ดว้ ยอย่างจริงจัง289 การที่ภาครัฐได้ดาเนินการจัดระเบียบคนขอทานไปแล้วบางส่วนในช่วงต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 ในพื้นท่ีกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยได้คัดกรองการขอทานที่มีแนวโน้มจะเป็นการค้ามนุษย์กับ การขอทานที่เป็นคนไร้บ้านออกจากกัน การขอทานอย่างหลังเจ้าหน้าท่ีได้ทาการส่งไปช่วยเหลือฟื้นฟู ตอ่ ไป290 เป็นสัญญาณทด่ี ใี นการใชพ้ ระราชบญั ญัตคิ วบคุมการขอทาน พ.ศ. 0995 เชิงคุ้มครองใหส้ ทิ ธิ กบั คนไรบ้ ้านในการแกไ้ ขปญั หาปากท้องของคนไร้บา้ น ใหม้ คี ุณภาพชวี ิตท่ีดีขึน้ ต่อไปอย่างย่ังยนื 5.3.3 พระราชบญั ญัตกิ องทุนยุตธิ รรม นอกจากคนไร้บ้านจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมผ่านพระราชบัญญัติคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง พ.ศ. 0997 และพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ. 0995 แล้ว คนไร้บ้านยังอาจเข้าสู่กระบวนการ ยุติธรรมจากตกเป็นผ้เู สียหายในคดีอาญา หรอื การเป็นผูก้ ระทาความผิดทางอาญาเสยี เอง อยา่ งไรกต็ าม แมว้ า่ กฎหมายจะใหส้ ทิ ธิตอ่ คนไร้บ้านในการดาเนินคดที างอาญาอย่างรวดเร็ว โปรง่ ใส และมีสิทธิในการ มีทนายแก้ต่างหรือต่อสู้คดีความ ตลอดจดมีสิทธิขอปล่อยตัวช่ัวคราวกรณีท่ีถูกกล่าวหาว่าได้กระทา ความผิด แต่การเข้าถึงสิทธิดังกล่าวกลับเป็นไปได้ยาก เม่ือการดาเนินการทางคดีอาญามีค่าใช้จ่ายเข้า มาเก่ียวข้อง เงินซึ่งเป็นปัจจัยต้นๆท่ีค้นไร้บ้านขาดแคลนกับกลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการนาเข้าสู่ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา จึงเปน็ การปดิ โอกาสในการเขา้ ถึงสิทธิในกระบวนการยุตธิ รรมของคนไร้ บ้านตงั้ แต่ยงั ไม่เริ่มต้นกระบวนการ พระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรมเป็นไปตามปฏิญญาว่าด้วยหลักพ้ืนฐานเกี่ยวกับการอานวย ความยุติธรรมแก่ผู้ได้รบั ความเสียหาย จากอาชญากรรมและการใช้อานาจโดยมิชอบ เป็นกฎหมายหน่ึง ท่ีจะนาบุคคลเข้าสู่กระบวนยุติธรรม ในลักษณะการอานวยสิทธิ โดยพระราชบัญญัติน้ีกาหนดให้จัดตั้ง 289 เปิดร่างพ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน: แยกวนพิ กออกจากขอทาน-ค้ามนษุ ย์มีโทษหนัก. (2558). [ข้อมูลออนไลน]์ . แหลง่ ทม่ี า : https://ilaw.or.th/node/3034 สบื ค้นเม่ือ 15 กนั ยายน 2567 290 พม.จดั ระเบยี บ “คนเรร่ ่อน-คนขอทาน” 5 วนั จบั แล้ว 175 ราย กาวบั กทม.-ตารวจร่วมปฏิบตั กิ าร.(2558). [ขอ้ มลู ออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา : https://www.matichon.co.th/news/486163 สบื ค้นเมอ่ื 15 กนั ยายน 4 - 99

รายงานวจิ ัยฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนุนองคค์ วามรู้ เพ่อื การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไร้บ้าน รหสั โครงการ 29-22100-95 กองทุนยุติธรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสาหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนใน การดาเนินคดี การขอปล่อยชั่วคราวผตู้ ้องหาหรือจาเลย การถกู ละเมดิ สิทธิมนุษยชน และการให้ความรู้ ทางกฎหมายแกป่ ระชาชน291 โดยไมจ่ ากดั ว่าบุคคลผรู้ อ้ งขอความชว่ ยเหลือจะตอ้ งมีสัญชาติไทยเทา่ น้นั การขอรบั ความชว่ ยเหลอื จากกองทนุ ในการดาเนินคดี ซง่ึ ประกอบไปดว้ ย ค่าจา้ งทนายความ คา่ ฤชาธรรมเนยี ม และคา่ ใชจ้ ่ายอ่นื ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งในการดาเนนิ คดี การขอปล่อยชัว่ คราว การถูกละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชนหรือการไดร้ ับผลกระทบจากการถกู ละเมิดสิทธิมนษุ ยชน รวมถึงการสนบั สนุนโครงการให้ ความรทู้ างกฎหมายแก่ประชาชน292 อย่างไรก็ตามการจะขอรับความช่วยเหลือจากกองทุน ต้องเป็นผู้เสียหายจากการป้องกันโดย ชอบด้วยกฎหมายหรือ เป็นจาเลยที่ถูกคุมขังตามคาพิพากษาเกินกาหนด หรือเป็นจาเลยที่มีสิทธิได้รับ ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตามกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่ จาเลยในคดีอาญา และถูกคุมขังในระหว่างสอบสวน หรือการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกรณีอ่ืนใดตามที่ คณะกรรมการเหน็ สมควร293 แม้วา่ การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมจะมีข้อจากัดอยู่บ้าง แต่กอ็ านวยสทิ ธแิ ก่คน ไร้บ้านที่เป็นผู้ไร้ที่พึ่งพิงได้ระดับหนึ่ง เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนในรัฐได้เข้าถึงกระบวนการ ยตุ ิธรรมอยา่ งเทา่ เทยี มและท่ัวถงึ โดยไมแ่ บ่งแยกระหว่างชนช้นั หรอื ฐานะของแต่ละบุคคล 291 พระราชบัญญตั ิกองทนุ ยตุ ธิ รรม มาตรา 9 “เงนิ กองทุนให้ใชจ้ า่ ยเพอ่ื …การชว่ ยเหลือประชาชนในการดาเนินคด.ี ..การขอปล่อยชว่ั คราว...การช่วยเหลือ ผถู้ ูกละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชนหรอื ผไู้ ดร้ ับผลกระทบจากการถกู ละเมดิ สทิ ธิมนษุ ยชน” 292 พระราชบญั ญัติกองทนุ ยุติธรรม มาตรา 9 “กองทุนยุติธรรม...มีวัตถุประสงคเ์ พื่อเปน็ แหลง่ เงินทุนสาหรับใชจ้ ่ายเก่ยี วกบั การช่วยเหลือประชาชนในการ ดาเนินคดี การขอปลอ่ ยชั่วคราวผตู้ อ้ งหาหรือจาเลย การถกู ละเมดิ สทิ ธิมนษุ ยชน และการใหค้ วามรทู้ างกฎหมายแก่ ประชาชน” 293 ระเบยี บคณะกรรมการกองทุนยุตธิ รรมว่าด้วยหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขในการชว่ ยเหลือผ้ถู กู ละเมดิ สทิ ธิ มนษุ ยชนหรอื ผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากการถกู ละเมดิ สิทธิมนษุ ยชน พ.ศ. 0995 ข้อ 5 “ผขู้ อรับความชว่ ยเหลือจากการกระทาในกรณีดงั ต่อไปน.้ี ..เปน็ ผเู้ สยี หายจากการปอ้ งกันโดยชอบด้วย กฎหมาย เปน็ จาเลยท่ถี กู คมุ ขงั ตามคาพพิ ากษาเกนิ กาหนด เป็นจาเลยท่ีมสี ิทธไิ ดร้ ับค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ยตาม กฎหมายว่าด้วยคา่ ตอบแทนผเู้ สยี หายและคา่ ทดแทน และคา่ ใชจ้ ่ายแกจ่ าเลยในคดอี าญา และถูกคุมขงั ในระหวา่ ง สอบสวน การละเมิดสทิ ธิมนุษยชนในกรณีอ่นื ใดตามทคี่ ณะกรรมการเหน็ สมควร” 4 - 100

รายงานวิจัยฉบบั สมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนับสนนุ องคค์ วามรู้ เพอื่ การพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนไรบ้ ้าน รหสั โครงการ 95-22100-29 สว่ นท่ี 5 พระราชบัญญัตกิ ารคุม้ ครองคนไรท้ พ่ี ง่ึ พ.ศ. 2557 และ พระราชบัญญัติควบคมุ การขอทาน พ.ศ. 2559 1. พระราชบญั ญตั ิการคมุ้ ครองคนไร้ท่พี งึ่ พ.ศ. 2557 1.1 สาระสาคัญของพระราชบญั ญตั ิการคุ้มครองคนไร้ทพ่ี งึ่ พ.ศ. 2557 (1) มีการกาหนดคานิยาม “คนไร้ที่พึ่ง” หมายความถึง บุคคลซึ่งไร้ที่อยู่อาศัยและไม่มี รายได้เพียงพอแก่การยงั ชีพ บคุ คลท่ีมีฐานะยากจน บุคคลทไี่ ม่สามารถประกอบอาชีพได้ และใหร้ วมถึง บคุ คลที่อยใู่ นสภาวะยากลาบาก และไมอ่ าจพงึ่ พาบุคคลอ่ืนได้1 (2) กาหนดให้มีคณะกรรมการคุม้ ครองคนไร้ท่ีพึง่ - กาหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พ่งึ อันประกอบด้วยรฐั มนตรวี า่ การกระทรวง การพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์เป็นประธานกรรมการ มีกรรมการโดยตาแหน่งจานวน 11 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่รัฐมนตรีแต่งต้ังจานวนไม่เกิน 11 คน โดยอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและ สวัสดิการเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยคณะกรรมการมีอานาจเสนอนโยบายและมาตรการเก่ียวกับ การคุม้ ครองคนไรท้ ่พี ึ่งตอ่ คณะรัฐมนตรีเพ่ือพิจารณา2 1 พระราชบญั ญัติการคุ้มครองคนไรท้ ี่พึง่ พ.ศ. 2557 มาตรา 3 “คนไร้ทีพ่ งึ่ ” หมายความวา่ บุคคลซึง่ ไร้ทอี่ ยู่อาศัยและไม่มรี ายไดเ้ พยี งพอแก่การยงั ชพี และให้รวมถงึ บุคคล ทอี่ ยใู่ นสภาวะยากลาบากและไม่อาจพึ่งพาบุคคลอ่ืนได้ ทั้งน้ี ตามที่คณะกรรมการประกาศกาหนด “การคมุ้ ครองคนไร้ที่พ่ึง” หมายความวา่ การจัดสวัสดกิ ารสงั คม การเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางร่างกายและ จิตใจ การรักษาพยาบาล การส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ การส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างโอกาสในสังคม การ พฒั นาคณุ ภาพชีวิต การสนบั สนุนให้คนไรท้ ีพ่ ึง่ มีงานทาและมที ่ีพักอาศยั และการป้องกันมิใหม้ ีการเลอื กปฏบิ ัตทิ ่ีไม่เป็น ธรรมตอ่ คนไรท้ ี่พงึ่ 2 พระราชบญั ญตั กิ ารคุ้มครองคนไรท้ ี่พ่งึ พ.ศ. 2557 มาตรา 5 ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ ม่ันคงของมนุษย์เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นรองประธาน กรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงแรงงาน ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้อานวยการสานกั งบประมาณ ผ้บู ัญชาการตารวจแห่งชาติ และ กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิซึ่งรฐั มนตรีแต่งตงั้ ไม่เกนิ สิบเอ็ดคน เปน็ กรรมการ ให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและ สวสั ดิการแตง่ ตั้งข้าราชการของกรมพัฒนาสงั คมและสวสั ดิการอีกไม่เกนิ สองคนเป็นผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิซึ่งรฐั มนตรีแต่งตัง้ ตามวรรคหนึง่ ใหแ้ ตง่ ตง้ั จากผู้มีความรู้และความเชีย่ วชาญด้านการ คุ้มครองคนไรท้ ่พี ึ่ง การสงั คมสงเคราะห์ การพัฒนาสังคม หรอื การจัดสวัสดกิ ารสังคม ซึ่งไมเ่ ป็นข้าราชการที่มีตาแหน่ง หรือเงินเดือนประจา พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่เป็นผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ โดยใน จานวนนี้ต้องแต่งต้ังจากผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์จานวนสองคนและผู้แทนองค์กรสวัสดิการชุมชนจานวนสอง คน 5-1

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปัญหาและสนบั สนนุ องค์ความรู้ เพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ คนไรบ้ ้าน รหัสโครงการ 95-22100-29 - กาหนดให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ทาหน้าที่เป็นสานักงานเลขานุการของ คณะกรรมการ รับผดิ ชอบงานธรุ การ งานประชมุ และกิจการตา่ งๆ ที่เกย่ี วกบั งานของคณะกรรมการ (3) กาหนดใหม้ สี ถานค้มุ ครองคนไร้ทพี่ ึ่งและศนู ยค์ ้มุ ครองคนไร้ท่พี ึง่ 3 - กาหนดให้มีการจัดต้ังสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง โดย กาหนดให้สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งมีอานาจหน้าท่ีในการคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง เช่น สารวจและติดตาม สภาพและปัญหาเก่ียวกับคนไร้ที่พ่ึง จัดให้มีท่ีพักอาศัย อาหาร เครือ่ งน่งุ ห่ม บรกิ ารทางการแพทย์ และ ฝกึ อบรมอาชีพแกค่ นไรท้ ี่พึ่ง - กาหนดให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สนับสนุนด้าน การเงิน หรือด้านอื่นๆ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการ ชุมชน องค์กรเอกชนอ่ืนท่ีจัดให้มีการดาเนินการในลักษณะเดียวกับสถานคุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง หรือศูนย์ คมุ้ ครองคนไรท้ ี่พงึ่ 4 (4) กาหนดใหม้ กี ารคุ้มครองคนไรท้ พี่ ่ึง - การคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงในด้านต่างๆ ได้แก่ การจัดสวัสดิการสังคม การส่งเสริมและ สนบั สนนุ การสรา้ งโอกาสในสังคม การเสริมสร้างสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ การพัฒนาคุณภาพชีวิต , การส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ การสนับสนุนให้คนไร้ท่ีพ่ึงมีงานทาและมีที่พักอาศัย และการ รักษาพยาบาลการป้องกันมิให้มีการเลอื กปฏบิ ัตทิ ่ีไมเ่ ป็นธรรมต่อคนไรท้ ่ีพ่ึง - กาหนดแนวทางให้คนไร้ท่ีพ่ึงมีสิทธิขอรับการคุ้มครองจากสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง หรือศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง โดยพิจารณาให้ความคุ้มครองหรือความชว่ ยเหลือตามความเหมาะสมของ สภาพและปญั หา - กาหนดให้มีการช่วยเหลือเท่าที่จาเป็นในเบื้องต้นแก่คนไร้ท่ีพ่ึง ที่มีกฎหมายเฉพาะ คมุ้ ครองและสง่ ตวั ไปรับบรกิ ารจากหนว่ ยงานทีร่ ับผดิ ชอบตามกฎหมายนน้ั - กาหนดให้จัดทาข้อตกลงเข้าร่วมการอบรมเพ่ือฟ้ืนฟูสภาพร่างกายและจิตใจ การ ประกอบอาชีพและทางาน ซึ่งหากคนไร้ท่ีพ่ึงปฏิเสธการจัดทาข้อตกลงหรือฝ่าฝืนข้อตกลง สถานคุ้มครอง คนไร้ท่ีพงึ่ อาจงดใหก้ ารคุ้มครองบางประการแก่คนไร้ท่ีพง่ึ ผู้นน้ั ได้ 3 พระราชบัญญัตกิ ารคมุ้ ครองคนไร้ทีพ่ ่ึง พ.ศ. 2557 มาตรา 13 ในกรณีท่ีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นสมควรจัดตงั้ สถานคุ้มครองคนไรท้ ี่พ่ึงใน เขตพ้ืนท่ใี ด หรือเห็นสมควรให้สถานสงเคราะห์ใดที่ดาเนินการคุ้มครองคนไรท้ ี่พงึ่ เป็นสถานค้มุ ครองคนไร้ทพี่ ึ่ง ใหเ้ สนอ ต่อคณะกรรมการเพอ่ื พจิ ารณาประกาศการจัดต้ังสถานคุ้มครองคนไร้ทีพ่ ่ึง ประกาศการจดั ต้ังสถานคุ้มครองคนไรท้ ่พี งึ่ ใหก้ าหนดเขตพืน้ ท่ีที่ใหก้ ารคมุ้ ครองไว้ดว้ ย ให้กรมพัฒนาสังคมและสวสั ดิการมีหนา้ ที่รบั ผดิ ชอบการดาเนินงานของสถานคมุ้ ครองคนไรท้ ี่พงึ่ 4 พระราชบัญญตั กิ ารคุ้มครองคนไรท้ ่พี ึ่ง พ.ศ. 2557 มาตรา 15 ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน องค์กร สาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรภาคเอกชนอ่ืน สถาบันศาสนาหรือกลุ่มคนไร้ท่ีพ่ึง จัดให้มีการ ดาเนินการในลกั ษณะเดียวกับสถานคุม้ ครองคนไร้ท่ีพง่ึ หรอื มีส่วนรว่ มในการคุ้มครองคนไรท้ ่พี ่ึง 5-2

รายงานวจิ ยั ฉบบั สมบูรณ์ โครงการศึกษาและวเิ คราะห์สภาพปัญหาและสนบั สนนุ องคค์ วามรู้ เพือ่ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตคนไร้บ้าน รหสั โครงการ 95-22100-29 1) ประเภทและลกั ษณะของบคุ คลทต่ี กอยู่ในสภาวะยากลาบากและไมอ่ าจพ่ึงพาบุคคลอนื่ ได้ 1. บุคคลที่ประสบความเดือดร้อน บุคคลสัญชาติไทยท่ีมีความยากลาบากในการดารงชีพ เน่ืองจากเหตุหัวหน้าครอบครัวตาย ทอดทิ้ง สาบสูญ ต้องโทษจาคุก ประสบอุบัติเหตุ หรือไม่อาจดูแล ครอบครัวได้ดว้ ยเหตุอืน่ ใด 2. คนเร่รอ่ น บุคคลสัญชาติไทยท่ีออกมาจากท่ีพักอาศัยเดิม ไม่ว่าด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม มาอยู่ใน ทีส่ าธารณะหรอื บคุ คลที่ออกมาตงั้ ครอบครวั ในทสี่ าธารณะ และอาจจะย้ายที่พกั ไปเรอ่ื ยๆ 3. บุคคลซึ่งอาศัยท่ีสาธารณะเป็นท่ีพักนอนชั่วคราว บุคคลสัญชาติไทยที่มาทาภารกิจ บางอยา่ งและไม่มที ่พี ักอาศัย ไมม่ เี งินเชา่ ท่ีพกั 4. บุคคลที่มีสถานะทางทะเบียนราษฎรแต่ยังไร้สัญชาติ บุคคลที่ถูกบันทึกทางทะเบียน ราษฎรของรัฐใดรัฐหน่ึง แต่มิได้รับการรับรองในสถานะคนสัญชาติโดยรัฐนั้นหรือรัฐอื่นใดที่ประสบ ปญั หาการดารงชพี 5. บคุ คลผไู้ มม่ ีสถานะทางทะเบยี นราษฎร คนไรร้ ัฐซ่ึงอาจจะเป็นคนท่เี กิดในประเทศไทยหรือ นอกประเทศไทยก็ได้ แต่มีเหตุทาให้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ทั้งของประเทศต้นทางและของ ประเทศไทยทีป่ ระสบปัญหาการดารงชีพ 2) โครงสร้างการดาเนนิ งานตามกฎหมาย 1.กลไกการบรหิ ารการบังคบั ใชก้ ฎหมาย 1.1 คณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ท่พี ่ึง โดยตาแหนง่ 11 คน ประกอบดว้ ย ประธาน รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ รองประธาน ปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ กรรมการ ปลดั กระทรวงการคลงั ปลดั กระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลดั กระทรวงแรงงาน ปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ปลดั กระทรวงสาธารณสุข ผูอ้ านวยการสานักงบประมาณ ผบู้ ัญชาการตารวจแหง่ ชาติ เลขานกุ าร อธบิ ดกี รมพฒั นาสังคมและสวัสดิการ ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร อธิบดกี รมพฒั นาสังคมและสวัสดกิ ารแตง่ ตง้ั ข้าราชการของกรมไม่ เกิน 2 คน 5-3

รายงานวจิ ัยฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนนุ องคค์ วามรู้ เพอ่ื การพฒั นาคุณภาพชีวิตคนไรบ้ า้ น รหสั โครงการ 95-22100-29 ทั้งนี้ กาหนดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกิน 11 คน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ แต่งตง้ั จากผมู้ คี วามรู้ ความเชย่ี วชาญ และไม่เป็นขา้ ราชการทม่ี ีตาแหน่งหรือ เงินเดือนประจา พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่ เป็นผู้สอนในสถาบันอุดมศึกษาของ รัฐ ในด้านต่างๆ คือ ด้านคุ้มครองคนไร้ท่ีพ่ึง ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านพัฒนาสังคม หรือ ด้านจัด สวัสดิการสงั คม ในจานวนไม่เกิน 11 คน ต้องแต่งตั้งจาก ผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์ 2 คน และ ผู้แทน องค์กรสวัสดิการชมุ ชน 2 คน อานาจหน้าทข่ี องคณะกรรมการคุม้ ครองคนไร้ทพี่ ึ่ง 1) เสนอนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อ พิจารณาและมอบหมายใหห้ นว่ ยงานของรัฐทเี่ ก่ียวข้องรับไปดาเนินการ 2) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีให้มีหรือปรับปรุงกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คับหรือ มติคณะรฐั มนตรี ที่สนบั สนนุ นโยบายและมาตรการเกีย่ วกับการคุ้มครองคนไร้ทพ่ี ่ึง 3) ประกาศกาหนดประเภทหรือลักษณะของบุคคล ท่ีอยู่ในสภาวะยากลาบากและไม่ อาจพงึ่ พาบุคคลอื่นได้ เพอ่ื ใหก้ ารคมุ้ ครองตามพระราชบัญญัตินี้ 4) ประกาศกาหนดหลกั เกณฑก์ ารคมุ้ ครองคนไรท้ ่ีพึง่ 5) ประกาศกาหนดมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านของสถานคุ้มครองคนไร้ท่ีพ่ึง 6) ประกาศกาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสนับสนุนการดาเนินการแก่ หน่วยงานของรัฐ องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรภาคเอกชนอื่น สถาบัน ศาสนา กลุม่ คนไร้ทพี่ งึ่ หรือกลมุ่ บคุ คล เพ่ือการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 7) ประกาศกาหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการร้องเรียนตามมาตรา 27 8) ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของหน่วยงานของรัฐ องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กร สวสั ดิการชุมชน และองคก์ รภาคเอกชนอืน่ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความร่วมมอื ในการปฏิบัติงาน 9) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลในการค้มุ ครองคนไรท้ ่พี ึ่ง 10) ปฏิบัติการอื่นใดตามท่ีกฎหมายกาหนด ให้เป็นอานาจหน้าท่ีของคณะกรรมการ หรอื ตามทีค่ ณะรัฐมนตรมี อบหมาย 1.2 สานกั งานเลขานุการคณะกรรมการคุ้มครองคนไรท้ พ่ี ึ่ง 1. รับผิดชอบงานธุรการ งานประชุม และกิจการต่างๆ ที่เก่ียวกับงานของ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ และรวบรวมขอ้ มลู ศกึ ษา วจิ ัย และพัฒนางานเก่ียวกับการคมุ้ ครอง คนไรท้ ่พี ่งึ 2. ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการ ชุมชน และองคก์ รภาคเอกชนอน่ื เพอื่ ดาเนนิ การจัดทานโยบายและมาตรการเก่ียวกบั การคมุ้ ครองคนไร้ที่ 5-4

รายงานวจิ ยั ฉบับสมบรู ณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะหส์ ภาพปัญหาและสนบั สนุนองคค์ วามรู้ เพ่ือการพัฒนาคุณภาพชวี ติ คนไร้บา้ น รหสั โครงการ 95-22100-29 พึง่ เสนอตอ่ คณะกรรมการ และดาเนินการใหม้ ีการปฏิบตั ิตามนโยบายและมาตรการเก่ียวกบั การคุ้มครอง คนไรท้ ีพ่ ึ่ง 3. เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดของนโยบายและมาตรการเก่ียวกับการ คมุ้ ครองคนไร้ท่ีพ่งึ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิตามนโยบายและมาตรการเกยี่ วกับการ คมุ้ ครองคนไร้ที่พึ่ง 2. กลไกระดบั การปฏบิ ตั ิ 2.1 สถานคุ้มครองคนไร้ท่พี ง่ึ 1. คณะกรรมการคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึง ประกาศการจัดตั้งสถานคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงตามที่ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความม่นั คงของมนุษย์เสนอ 2. คณะกรรมการคุ้มครองคนไรท้ ่ีพ่ึงกาหนดเขตพืน้ ที่ให้การคุ้มครองของสถานคุม้ ครองคนไร้ที่ พ่งึ อานาจหนา้ ที่ของสถานคุ้มครองคนไรท้ ี่พง่ึ 1. สารวจและตดิ ตามสภาพและปัญหาเก่ยี วกบั คนไร้ทีพ่ งึ่ ในเขตพ้ืนทท่ี ร่ี ับผิดชอบ 2. สบื เสาะข้อมูลทีเ่ ก่ียวกับคนไร้ที่พงึ่ ขอรับการคุ้มครองหรือทีถ่ ูกสง่ ตัวมายังสถานคุ้มครองคน ไรท้ พ่ี ง่ึ ตามมาตรา 02 หรือมาตรา 00 และให้การคุ้มครอง รวมทัง้ รับตัวคนไร้ทพ่ี ง่ึ ไว้ 3. จัดให้มีที่พักอาศัย อาหาร และเครื่องนุ่งห่มท่ีเหมาะสม ถูกสุขลักษณะ จัดให้มีการตรวจ สุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ฝึกอบรมและฝกึ อาชพี รวมทง้ั หาอาชพี ให้แกค่ นไรท้ ี่พง่ึ 4. ประสานงานเพือ่ จดั สง่ คนไรท้ ่พี ง่ึ ไปยงั หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบ ในกรณีทม่ี ีกฎหมายเฉพาะเพ่ือ คุ้มครองคนไร้ท่พี ง่ึ ประเภทนน้ั 5. ให้คาปรกึ ษา แนะนา และช่วยเหลือคนไรท้ พ่ี ่ึงในด้านการดารงชวี ิต ดา้ นกฎหมาย หรอื ดา้ น อืน่ เพื่อให้สามารถดารงชวี ติ อย่ใู นสงั คมได้อย่างปกติสขุ เช่นเดยี วกับบคุ คลทั่วไป 6. ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลในการค้มุ ครองคนไร้ท่ีพงึ่ 7. ดาเนนิ การอน่ื ใดตามทีค่ ณะกรรมการกาหนด ภารกจิ ในการสนบั สนุนใหภ้ าคสว่ นท่เี กย่ี วข้องดาเนนิ งานคุ้มครองคนไรท้ พ่ี ง่ึ 1. ให้กระทรวงสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กร สวัสดิการชุมชน องค์กรภาคเอกชน สถาบันศาสนา กลุ่มคนไร้ท่ีพ่ึง จัดให้มีการดาเนินการในลักษณะ เดียวกบั สถานคุ้มครองคนไรท้ ่ีพงึ่ หรือมีส่วนรว่ มในการคุ้มครองคนไรท้ ีพ่ ่งึ 2. กรณีท่ีองค์กรข้างต้นดาเนินการได้ตามมาตรฐานที่คณะกรรมการกาหนด ให้กระทรวง พิจารณาสนับสนุนด้านการเงินหรือด้านอ่ืนๆ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่คณะกรรมการ กาหนด 5-5

รายงานวิจยั ฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัญหาและสนับสนนุ องค์ความรู้ เพ่อื การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ คนไร้บ้าน รหัสโครงการ 95-22100-29 2.2 ศนู ย์คุ้มครองคนไร้ทพี่ ึง่ 1. ศูนย์คุ้มครองคนไร้ท่ีพ่ึงเกิดข้ึนโดยผลของกฎหมาย ได้แก่ สานักงานพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศูนย์พัฒนาสังคมประจาจังหวัดหรือส่วนราชการอื่นตามที่ปลัดกระทรวงการ พัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์กาหนด (มาตรา 18) ปัจจุบันมีการประกาศจัดตั้งศูนย์คุ้มครอง คนไรท้ พ่ี ่ึง จานวน 36 จังหวดั 2. ศูนยค์ ุ้มครองคนไรท้ พี่ ึง่ ที่สถานคุ้มครองคนไรท้ ี่พง่ึ จดั ให้มขี นึ้ (มาตรา 16) 3. หน่วยงานของรัฐ องค์กรสาธารณประโยชน์ องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรภาคเอกชน สถาบันศาสนากลุ่มคนไร้ท่ีพึ่ง หรือกลุ่มบุคคลที่จัดให้มีการดาเนินการในลักษณะเดียวกับศูนย์คุ้มครอง คนไร้ที่พึ่ง (มาตรา 17) อานาจหนา้ ทข่ี องศนู ยค์ ุ้มครองคนไรท้ ี่พง่ึ 1. สารวจและตดิ ตามสภาพและปญั หาเกีย่ วกบั คนไร้ทพี่ งึ่ 2. สืบเสาะข้อมูลที่เกี่ยวกับคนไร้ที่พึ่ง ท่ีขอรับการคุ้มครองหรือที่ถูกส่งตัวมายังศูนย์คุ้มครอง คนไร้ท่ีพ่ึง ตามมาตรา 20 หรือมาตรา 22 และให้การคุ้มครองในเบื้องต้นแก่คนไร้ที่พ่ึง รวมท้ังรับตัว คนไรท้ พ่ี ึ่งไว้ 3. ประสานงานเพอ่ื จดั สง่ คนไร้ทพี่ ่งึ ไปยงั สถานคุ้มครองคนไร้ทพ่ี ง่ึ 4. ให้การคุม้ ครองคนไร้ที่พึ่งตามที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พง่ึ มอบหมาย หรอื ตามท่ีศูนย์คุ้มครอง คนไร้ทพี่ ง่ึ เห็นสมควร ภารกิจในการสนบั สนุนใหภ้ าคสว่ นทีด่ าเนนิ งานในลกั ษณะศูนย์คมุ้ ครองคนไรท้ ่ีพ่ึง ให้กระทรวงสนับสนุนด้านการเงินหรือด้านอ่ืนๆ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน องค์กร สาธารณประโยชน์องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรภาคเอกชนสถาบันศาสนา กลุ่มคนไร้ที่พ่ึง ที่จัดให้มี การดาเนินการในลักษณะเดียวกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขท่ี คณะกรรมการกาหนด 3. วธิ ีการคุ้มครองคนไร้ที่พึง่ 1. คนไร้ท่ีพงึ่ มสี ิทธิขอรับการคุ้มครองจากสถาน / ศนู ยค์ มุ้ ครองคนไรท้ ่ีพ่ึงได้ 2. กาหนดใหพ้ นักงานเจ้าหน้าที่ทพี่ บเห็นหรือได้รับแจ้งเกี่ยวกับคนไร้ท่ีพ่งึ มีหน้าท่ีให้คาแนะนา ปรึกษา ช่วยเหลือ และจัดส่งไปยังสถาน / ศูนย์คุ้มครองคนไร้ท่ีพึ่ง ทั้งน้ีพนักงานเจ้าหน้าท่ี ต้องเป็น บุคคลผู้ซึ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ แต่งต้ังให้ปฏิบัติการ ตาม พ.ร.บ. 3. การคุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงแต่ละรายให้สถาน / ศูนย์คุ้มครองคนไร้ท่ีพ่ึง ให้พิจารณาตามความ เหมาะสม และสภาพปัญหาของคนไร้ท่ีพึ่งแต่ละราย และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการ กาหนด 5-6