Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore edu-class-reduce-01

edu-class-reduce-01

Published by Phrapradaeng District Public Library, 2019-05-14 10:30:26

Description: edu-class-reduce-01

Search

Read the Text Version

95 ตวั อยา่ งกิจกรรมที่ ๔ ๑. ชือ่ กิจกรรม อาสาพัฒนา พาสุขใจ ๒. เวลาทีใ่ ช้ ๒ ชวั่ โมง ๓. วตั ถุประสงค์ เพ่ือปลกู ฝังความรับผิดชอบ มวี นิ ัย อดทนและเสียสละตอ่ สว่ นรวม ๔.กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครปู ระชาสมั พนั ธร์ ับสมัครนักเรยี นท่มี จี ติ อาสา ๒. แบง่ นกั เรียนเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ ๕-๑๐ คน ๓. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มดาเนินการกระบวนการถกแถลงเพ่ือวางแผนในการดาเนินงาน เช่น ๑) กาหนดพนื้ ทใ่ี นการพัฒนา ๒) วัสดุอปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการพัฒนา ๓) บุคคล หรือหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง ๔) เวลาทใี่ ช้การพัฒนา ๕) การดแู ลรักษาต่อเนื่อง ๔. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ สรุปผลการถกแถลงถงึ แผนการดาเนินงาน ๕. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ปฏิบตั ิกิจกรรมตามแผน ๖. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติงาน และนาภาพกจิ กรรม จดั ปา้ ยนเิ ทศเผยแพร่ผลงาน ๖. การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรยี น  นอ้ ยทีส่ ุด น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

96 ตวั อย่างกิจกรรมที่ ๕ ๑. ชอื่ กิจกรรม ติวเตอรน์ อ้ ย ๒. เวลาที่ใช้ ๘ ชัว่ โมง (ครัง้ ละ ๒ ชว่ั โมง ๔ คร้งั ) ๓. วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อปลูกฝงั ความเสียสละและมงุ่ ม่ันในการทางานเพอ่ื ประโยชนข์ องส่วนรวม ๔.กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูวางแผนการตวิ โดยคดั เลอื กนักเรยี นทีม่ ผี ลการเรียนดีและมีความประพฤติดใี นระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ จานวนตามท่ีโรงเรียนเห็นสมควร ๑.๑ กาหนดกล่มุ เปา้ หมายการตวิ (นักเรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี๑และ๒)จานวนนักเรยี น ๑ ต่อ ๕ คน ๑.๒ จดั เตรียมตัวนกั เรยี นในการติวท่ตี รงกบั ความต้องการของนักเรยี น ๑.๓ กาหนดสถานที่ตวิ ๑.๔ ครจู ดั ทาเอกสารการตวิ ใหน้ กั เรียนท่ีเป็นตวิ เตอร์ ๒. ครูควบคมุ /กากับห้องเรียนตลอดการติว ๓. ครูนาภาพกจิ กรรมที่นักเรยี นฝึกปฏิบัติมาจดั ป้ายนเิ ทศและเขียนแสดงความชน่ื ชม ๔. ครแู จกเกียรติบัตรให้กับนักเรยี นผ้เู ปน็ ติวเตอร์ ๕.สอ่ื การเรียนรูแ้ ละแหล่งเรยี นรู้ ๑. เอกสารประกอบการตวิ ๒. พืน้ ที่ใชต้ ิว ๖. การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเขา้ ร่วมกิจกรรมของนักเรยี น  น้อยที่สดุ น้อย ปานกลาง มาก มากทีส่ ดุ

97 ตวั อย่างกจิ กรรมที่ ๖ ๑. ชอ่ื กจิ กรรม ปลูกพืชสมุนไพรและผกั พื้นบา้ น ๒. เวลาทใี่ ช้ ๔ ชั่วโมง ๓. วัตถปุ ระสงค์ เพื่อปลกู ฝังความรับผิดชอบ มีวนิ ยั อดทนและเสยี สละตอ่ ส่วนรวม ๔.กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ การเตรียมการ ๑) ครปู ระชาสมั พนั ธ์รบั สมคั รนกั เรียนทสี่ นใจเข้าร่วมกิจกรรมปลกู พืชสมุนไพรและผัก พนื้ บ้านในโรงเรียน ๒) กาหนดพื้นทก่ี ารปลกู ๓) จัดเตรยี มอุปกรณก์ ารปลูก (จอบ เสยี ม บุ้งกี๋ พลัว่ กระป้องน้า ฝักบวั รดน้า พชื สมุนไพร ผกั พืน้ บ้าน) ๔) จดั เตรียมพันธ์ุพืชสมุนไพร และผกั พื้นบ้าน จากครแู ละนักเรยี น ๔.๒ ครชู ี้แจงนักเรียนถึงข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ๔.๓ นกั เรียนลงพื้นทปี่ ฏิบัติงานปลกู พชื สมนุ ไพรและผกั พื้นบา้ นในโรงเรียนในพนื้ ท่ีทก่ี าหนด ๔.๔ นกั เรียนนาภาพกิจกรรมทนี่ ักเรยี นฝึกปฏบิ ตั มิ าจดั ป้ายนเิ ทศ ๕.ส่ือการเรยี นรูแ้ ละแหล่งเรียนรู้ ๑.อปุ กรณ์การปลูกพชื สมนุ ไพรและผักพื้นบา้ นในโรงเรยี น ๒.พน้ื ท่ปี ลูกพชื สมุนไพรและผกั พ้นื บา้ นในโรงเรียน ๖. การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเรื่องต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกิจกรรมของนักเรียน  นอ้ ยทสี่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ

98 หมวดที่ ๓ สรา้ งเสรมิ คณุ ลกั ษณะและคา่ นิยม กลุ่มกจิ กรรมท่ี ๑๒ ปลกู ฝังและสรา้ งความภาคภมู ิใจในความเปน็ ไทย ตัวอย่างกิจกรรมที่ ๑ ๑. ช่ือกจิ กรรม กวนี อ้ ย ๒. เวลาทใ่ี ช้ ๒ ชว่ั โมง ๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอ่ื ฝึกทักษะด้านการเขยี นบทรอ้ ยแก้ว ๒. เพื่อสร้างเสริมความภูมิใจในความเป็นไทยดว้ ยการใชภ้ าษาไทยให้ถูกต้อง ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครนู าภาพที่คิดวา่ สามารถสรา้ งจนิ ตนาการให้กับนกั เรียนได้คิด เชน่ ภาพววิ ทวิ ทศั น์ เป็นตน้ ให้ นักเรียนดู แลว้ ให้นักเรยี นเขียนคาสาคัญท่ีได้จากภาพ (เช่น ภเู ขา แมน่ า ต้นไม้ คน นก เป็นตน้ ) ๒. นกั เรียนนาคาสาคญั เหล่านนั มาแตง่ ประโยค ๓. นักเรียนนาประโยคเหลา่ นนั มารอ้ ยเรียงเป็นบทร้อยแกว้ ความยาว ๑๐-๑๕ บรรทัด ๔. ครสู มุ่ ผลงานนักเรยี นมา ๒-3 คน แลว้ ให้นกั เรยี นเจา้ ของผลงานออกมาอา่ นให้เพ่ือนฟัง ๕. ครกู ลา่ วช่นื ชมนักเรียนและใหร้ างวัล ๕. สอ่ื การเรียนรแู้ ละแหล่งการเรียนรู้ ภาพสร้างจนิ ตนาการให้กบั นักเรยี นได้คดิ เชน่ ภาพววิ ทิวทัศน์ เปน็ ตน้ ๖. การวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปนี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี น  น้อยทส่ี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากท่ีสดุ

99 ตัวอย่างกจิ กรรมที่ ๒ ๑. ช่ือกจิ กรรม เรียนร้ปู ระวัตศิ าสตร์ผ่านภาพยนตร์ ๒. เวลาทีใ่ ช้ ๒ ชั่วโมง ๓. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นรู้ประวตั ิศาสตร์ไทยผา่ นการชมภาพยนตร์ ๒. เพ่ือสร้างเสรมิ ความภูมิใจในความเป็นไทย ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครคู ดั เลอื กภาพยนตร์อิงประวัติศาสตรไ์ ทยเพ่ือเตรยี มฉายให้นกั เรยี นชม ๒. ครูเตรียมประเดน็ คาถามนาเพ่อื ให้นกั เรียนเตรียมวเิ คราะห์เรอ่ื งราวจากภาพยนตร์ ๓. นกั เรยี นชมภาพยนตรต์ ามวันและเวลาทก่ี าหนดจากตารางทแ่ี จ้ง ๔. ครกู ับนักเรยี นร่วมกันถกแถลงตามประเด็นคาถามที่ครูกาหนด ๕. นักเรยี นกลับไปเขยี นการบ้านในหวั ข้อ “ความภูมใิ จในความเป็นไทย” ๖. นาผลงานจัดป้ายนิเทศ ๕. สือ่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. แผน่ DVD ภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ไทย ๒. หอ้ งเรยี นทสี่ ามารถเปดิ ฉายภาพยนตรไ์ ด้ และมีจอภาพคมชัด เครอ่ื งเสียงคมชัด ๖. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเร่ืองต่อไปนี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรียน  น้อยท่สี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด

100 ตวั อย่างกจิ กรรมท่ี ๓ 1. ช่อื กิจกรรม ครนื้ เครงเพลงพ้นื บา้ น 2. เวลา ๘ ชวั่ โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ ฝึกนักเรยี นให้สามารถร้องเพลงพืนบ้านตา่ ง ๆได้ (เชน่ เพลงอแี ซว เพลงฉอ่ ย ลาตัดเปน็ ตน้ ) 2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนอนุรกั ษ์ สบื สานเพลงพนื บ้าน ให้เป็นท่ีรู้จกั และดารงอยจู่ ากรนุ่ ตอ่ รุ่นสืบไป 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี ๑-๒ 1. ครสู นทนาซกั ถามนักเรียนเกีย่ วกับความสาคญั และประโยชนข์ องเพลงพนื บ้าน 2. นักเรียนดูการแสดงเพลงพืนบ้าน จากอนิ เทอร์เนต็ ท่ีเวบ็ ไซต์ https://www.Youtube.com/watch?v=1LIZYX_0TzE https://www.youtube.com/watch?v=BF43RadKL1U ชว่ั โมงท่ี ๓ – ๔ 1. ครูเตรียมเนือเพลงพืนบ้านตามทกี่ าหนด 2. ครูสาธิตการร้องเพลงพนื บา้ น 3. นักเรียนฝึกร้องเพลงพนื บ้าน ตามโดยใหน้ กั เรยี นฝกึ ร้องตามทีละวรรคจนเกิดความชานาญ 4. นักเรียนและครรู อ้ งเพลงพร้อมกัน ชัว่ โมงท่ี ๕ – ๖ 1. นกั เรียนแบ่งกล่มุ ตามเพลงพนื บ้านที่กาหนด(เช่น เพลงอแี ซว เพลงฉ่อย ลาตัดเป็นตน้ ) ๒. นักเรียนแต่ละกลุ่ม ฝึกรอ้ งเพลงทต่ี นเองเลือกให้ถกู ต้องตามทานองและจังหวะของเพลงพืนบา้ น นัน ๆ ช่ัวโมงที่ ๗ – 8 1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอการร้องเพลงพืนบา้ นเพื่อนและครูให้กาลังใจและช่วยเคาะจังหวะ/ ลูกคู่ (นักเรียนควรแตง่ กายใหส้ วยงามโดยขอยมื จากครูนาฏศิลป์) 2. นกั เรยี นนาภาพกิจกรรมการแสดงจัดปา้ ยนเิ ทศตามความเหมาะสม ๕. สื่อการเรยี นรู้ 1. เว็บไซต์ดูวิดโี อการแสดงเพลงพนื บา้ น 2. ใบความรเู้ รอื่ ง เพลงพนื บ้าน 3. เคร่ืองดนตรี ฉ่ิง กรบั ตะโพน

๖. การวัดและประเมนิ ผล 101 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นในเร่ืองต่อไปนี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม  1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนักเรียน มากทสี่ ุด     นอ้ ยที่สุด นอ้ ย ปานกลาง มาก ๗. ภาพประกอบ ภาพท่ี 9 การแสดงพืนบ้าน (ท่มี า : http://cdasp72000.blogspot.com/2014/04/blog-post.html) ๘. อ้างอิงแหลง่ ที่มา http://cdasp72000.blogspot.com/2014/04/blog-post.html เม่ือวันท่ี ๑๕ กันยายน ๒๕๕๘.

102 ตัวอย่างกิจกรรมท่ี ๔ ๑. ชื่อกิจกรรม สืบสานภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ ๒. เวลาทใ่ี ช้ 9 ช่วั โมง 3. วัตถุประสงค์ 1. นกั เรียนตัดกระดาษพวงมโหตร เพ่อื ใชใ้ นงาน/กิจกรรมต่าง ๆ ได้ 2. นักเรียนทาผ้าด้นมอื ได้ 3. นักเรยี นสานพัดดว้ ยไม้ไผไ่ ด้ 4. นักเรียนอนุรักษ์ สบื สาน ภูมปิ ัญญาท้องถิน่ ให้เป็นทร่ี ้จู ักและดารงอยจู่ ากร่นุ ตอ่ รุน่ สืบไป 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากบั นักเรียนเกีย่ วกบั ความสาคัญของภมู ปิ ัญญาพนื บา้ น พร้อมทังใหน้ ักเรียน ยกตัวอยา่ งภมู ปิ ัญญาพืนบา้ นทน่ี กั เรียนรู้จัก 2. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเป็นกลมุ่ ๆละ ไม่เกนิ ๑0 คน กลุม่ ท่ี 1 ตดั กระดาษพวงมโหตรงานบุญ กลุ่มที่ 2 เยบ็ ปกั ผ้าด้นมือ กลุ่มท่ี 3 จกั สานงานพัด 3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาเรยี นรู้ภูมปิ ัญญาท้องถ่ินจากวิทยากรท้องถ่นิ ที่มาให้ความรูต้ ามกลุ่ม ทกี่ าหนด (กล่มุ ละ 3 ชั่วโมง) 4. วทิ ยากรในแต่ละกลุม่ แนะนาอุปกรณ์และขันตอนการจัดทาพร้อมทังสาธิตให้นักเรียนดู 5. นกั เรยี นฝึกปฏบิ ัตติ ามขนั ตอนท่วี ทิ ยากรแนะนาจนครบกระบวนการ 6. นกั เรียนแต่ละคนนาความรูแ้ ละทักษะทไี่ ด้จากการเรยี นมาสรา้ งสรรคช์ ินงานของตน 7. นกั เรียนแลกเปล่ียนช่ืนชมชนิ งานโดยออกมานาเสนอผลงานของตน 8. ตัวแทนนักเรยี นออกมาแสดงความรู้สึกทไ่ี ดเ้ รียนรสู้ ืบสานภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ พร้อมทงั กลา่ ว ขอบคุณวทิ ยากรท่ไี ด้เสียสละเวลามาใหค้ วามรู้ 5. สอ่ื การเรียนรู้ ๑. วิทยากรท้องถิน่ ๓ ทา่ น ประกอบด้วย - วิทยากรผูใ้ ห้ความรู้ด้านการตัดกระดาษพวงมโหตร - วิทยากรผูใ้ ห้ความรู้ดา้ นการทาผา้ ด้นมือ - วิทยากรผูใ้ ห้ความรูด้ า้ นการจักสาน ๒. กระดาษว่าวสีต่าง ๆ ๓. ตอกไม้ไผย่ อ้ มสตี า่ ง ๆ ๔. ผา้ ใยบวั กระดาษ ดนิ สอ เข็ม ดา้ ย กรรไกร

6. การวดั และประเมินผล 103 1. สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเรื่องต่อไปนี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม  1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมของนักเรยี น มากทีส่ ดุ     นอ้ ยทส่ี ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก 7. ภาพประกอบ ภาพท่ี 16 การตัดกระดาษพวงมโหตร ภาพที่ 17 พวงมโหตร (ทม่ี า : สารสนเทศโรงเรียนท่าทองพิทยาคม, 1557) (ท่ีมา : http://dekphetch.blogspot.com) 8. อ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล ข้อมลู สารสนเทศโรงเรยี นทา่ ทองพิทยาคม. (๒๕๕๕). แหลง่ เรียนรู้และภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน นอกโรงเรียน. พิษณโุ ลก. แหลง่ ทมี่ า http://dekphetch.blogspot.com. (๑๕ กันยายน ๒๕๕๘).

104 ตวั อย่างกิจกรรมที่ ๕ ๑. ชื่อกจิ กรรม ภูมใิ จในบา้ นเกดิ ๒. เวลาทีใ่ ช้ ๖ ช่วั โมง 3. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือฝึกทกั ษะการใชค้ อมพวิ เตอร์สร้างสรรคช์ ินงาน (แผ่นพบั ) ได้ 2. เพือ่ เสริมสร้างทักษะการคิดสรา้ งสรรค์ของนักเรยี น 3. เสริมสรา้ งทกั ษะในการสืบค้นขอ้ มลู รวบรวมข้อมูลจากแหลง่ เรยี นร้ตู ่าง ๆ 4. ปลกู จติ สานึกรกั ภาคภูมิใจในท้องถนิ่ และมจี ติ สาธารณะ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ (ชัว่ โมงที่ ๑ - ๒) ๑. นกั เรยี นดโู ฆษณาเกยี่ วกบั ประเทศไทยจากวดี โิ อหรอื จากอนิ เทอร์เนต็ ทีเ่ วบ็ ไซต์ https://www.youtube.com/watch?v=9-xwIfQUKxY 2. ครูใหน้ ักเรียนตงั ช่อื โฆษณาทไ่ี ดด้ วู า่ ควรตงั ชื่อว่าอยา่ งไร พร้อมทังให้เหตุผลโบราณวตั ถุ 3. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับศิลปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี โบราณวัตถุ โบราณสถาน และสถานท่ีท่องเท่ียวในประเทศไทย ในท้องถิ่นหรือจังหวัด ของตนเองมีสถานท่ีสาคัญ ๆ ดังกลา่ วอะไรบ้าง 4. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ ๓ คน เลือกสบื คน้ ขอ้ มลู ในทอ้ งถน่ิ เชน่ - โบราณสถาน โบราณวัตถุ - ศิลปวัฒนธรรม - ขนบธรรมเนียมประเพณี - สถานทที่ อ่ งเทย่ี ว - ภูมปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ 5. นักเรียนใช้กระบวนการกลมุ่ ในการทางาน และสบื ค้นข้อมูล จากแหลง่ เรียนร้ตู า่ ง ๆ เชน่ ห้องสมดุ อินเทอรเ์ น็ต เป็นต้น (ชวั่ โมงที่ ๓ - ๔) ๑. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ นาขอ้ มลู ทส่ี ืบค้นไดม้ าจัดทาแผ่นพับตามแนวคิดของกลุม่ อยา่ งสร้างสรรค์ 2. นักเรยี นแลกเปล่ยี นชืน่ ชมผลงานของแตล่ ะกลุม่ ครูช่วยตรวจสอบแนะนาในสว่ นทีต่ ้องปรับปรุง แก้ไขให้ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์พรอ้ มที่จะเผยแพร่ 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับสถานที่สาคัญในท้องถิ่นตนและความภูมิใจในการมีส่วน รว่ มในการอนุรักษ์และเผยแพรว่ ฒั นธรรมประเพณใี หผ้ ู้อืน่ ได้รบั รู้

105 4. ครูนาแผ่นพับของนักเรียนทุกกลุ่มไปจัดทาสาเนาภาพสีท่ีสวยงามตามต้นฉบับของนักเรียน พร้อมทังนาผลงานนักเรียนไปมอบให้กับห้องสมุด/ประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน/วัด หรือ สถานที่เก่ียวข้อง ตามแผน่ พับเพ่ือเป็นการเผยแพร่สูส่ าธารณะ 5. สื่อการเรียนรู้ ๑. เว็บไซต์/วิดโี อโฆษณาเมืองไทย https://www.Youtube.com/watch?v=9-xwIfQUKxY ๒. ห้องสมดุ หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นในเรื่องต่อไปนี 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี น  นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากที่สดุ

106 ตัวอย่างกิจกรรมท่ี ๖ ๑. ชื่อกจิ กรรม กลองยาวเถดิ เทิง 2. เวลาที่ใช้ ๔ ชั่วโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื นักเรียนมีความรพู้ นื ฐานเรอื่ งกลองยาว และสามารถบรรเลงได้ถูกต้อง 2. เพอ่ื นักเรยี นมีสุนทรียภาพทางอารมณ์ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรียนชมการแสดงกลองยาวจาก You tube 2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั อภิปรายถงึ หลกั การสาคญั และโอกาสของการบรรเลงกลองยาว เพ่ือ กระต้นุ ใหน้ ักเรยี นเกิดกระบวนการคดิ และแสดงความคิดเห็นอยา่ งอิสระ ๓. ครูสาธติ การบรรเลงกลองยาว แลว้ ให้นกั เรยี นปฏิบัติตาม จากนันใหน้ ักเรียนทดลองฝึกซ้อม และจดั ขบวน เพื่อการบรรเลงเหมือนสภาพจรงิ 4. ใหน้ กั เรียนบรรเลงกลองยาวและจัดขบวนแห่ในสถานการณ์จริง เพื่อวัดประเมนิ ผล โดยมคี รู คอยชีแนะและวดั ประเมินผลร่วมกับนกั เรยี น 5. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรยี นรู้ 1. ส่อื วดี ทิ ัศน์ 2. กลองยาว 3. เคร่อื งประกอบจังหวะ ได้แก่ ฉงิ่ ฉาบ กรับ โหมง่ 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปนี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ ร่วมกจิ กรรมของนักเรียน  น้อยท่ีสดุ น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด

107 7. ภาพประกอบ ภาพที่ 25 กลองยาวชนิดต่าง ๆ (ที่มา : www.xn--62cczxgkbonqbc4vua7c.com) ภาพท่ี 26 นักเรยี นตีกลองยาว ภาพท่ี 27 นักเรยี นตีฆ้อง ฉาบ และกลองยาว (ท่ีมา : สารสนเทศโรงเรียนภทั รญาณวิทยา, (ที่มา : สารสนเทศโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา, 2557) 2557) ๘. อา้ งอิงแหลง่ ทีม่ าของข้อมูล ท่มี า http://www.ถ่ินฐานทาฆ้อง.com. (วันท่ี 17 กันยายน 2558). ข้อมูลสารสนเทศโสตทัศนศึกษา โรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา. (วนั ท่ี 17 กันยายน 2558).

108 ตวั อย่างกิจกรรมที่ ๗ ๑.ชื่อกิจกรรม ร้องเลน่ ครน้ื เครงเพลงหรรษา ๒.เวลาทใ่ี ช้ ๒ ชว่ั โมง ๓.วัตถปุ ระสงค์ ๓.๑ เพอื่ ฝึกนกั เรยี นร้องเพลงไทยลูกทุ่ง อย่างถูกวธิ ีการทางดนตรี ๓.๒ เพอ่ื นักเรยี นเรียนร้อู ย่างมีความสขุ เกิดสนุ ทรียภาพทางอารมณ์ ๔.กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ครเู ลือกเปดิ เพลงเพลงลูกทุ่งตามสมัยนยิ มทก่ี าลังฮิตให้นกั เรยี นฟังแลว้ ร่วมกนั อภิปราย ๒. ครูคัดเลือกนักเรียนทีร่ อ้ งเพลงลูกทงุ่ ไพเราะและร้องถูกวธิ ีมารอ้ งให้เพ่ือนฟัง ครกู ล่าวชน่ื ชม ๓. ครูสาธติ วธิ ฝี ึกการรอ้ งเพลงอย่างถกู ต้อง เช่น เสียงไมส่ ั่น รอ้ งให้เต็มเสียง ร้องให้ถูกจังหวะ การฝึกหายใจ เปน็ ตน้ ๔. ครใู หน้ กั เรียนเลือกเพลงลกู ท่งุ ทต่ี นชอบคนละ ๑ เพลง แลว้ หดั ร้องใหเ้ พราะ โดยมีนกั เรียนท่ี ร้องเพลงเกง่ ช่วยแนะนาเปน็ พีเ่ ลยี ง ๕. ครใู ห้นกั เรยี นท่ีเข้ารว่ มกิจกรรม ออกมาร้องเพลงให้เพื่อนฟงั แลว้ ครูให้คาแนะนา/ช่ืนชม ๕. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรยี นรู้ ๕.๑ เพลงลกู ทงุ่ ใน YouTube ๕.๒ เพลงทน่ี กั เรียนร้อง ๖. การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเรื่องต่อไปนี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมของนักเรยี น  น้อยทีส่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่ีสุด

109 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี ๘ ๑. ช่ือกิจกรรม กฬี ามวยไทย ๒. เวลาทใ่ี ช้ ๔ ชว่ั โมง ๓. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือฝกึ ทักษะการชกมวยไทยทถ่ี ูกตอ้ ง ๒. เพื่อสบื สานศลิ ปะมวยไทยให้กบั เยาวชน ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. นกั เรียนชมคลปิ วดี ิโอ ท่าแมไ่ ม้มวยไทย และการชกมวยไทย ๒. นักเรียนอภิปรายร่วมกับครถู งึ ความสาคัญศิลปะมวยไทยอนั เป็นมรดกทางวัฒนธรรมประจา ชาติไทย ๓. ครสู าธติ แม่ไมม้ วยไทยแลว้ ใหน้ ักเรยี นปฏิบตั ิตาม ๔. ครูคดั เลือกนกั เรยี นท่มี ที ักษะมวยไทยชกมวยไทยใหเ้ พือ่ นชมโดยแบ่งนักเรียนออกเปน็ ๒ ฝ่าย คอื ฝ่ายแดงกบั ฝา่ ยนาเงิน ๕. ครฝู กึ มารยาทการเชียร์มวยไทยใหก้ บั นักเรยี น ๖. ครใู หน้ ักเรยี นรว่ มกันจดั ป้ายนิเทศ โดยนาภาพกิจกรรมที่ได้ฝกึ ปฏิบัตใิ นชันเรยี นมาประกอบ เนือหาท่ีนักเรียนคน้ คว้าเพ่ิมเติม ๕. ส่ือการเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรียนรู้ ๑. เวที สนาม และอปุ กรณ์มวยไทย ๒. หนังสือเสริมความรเู้ รอื่ ง กีฬามวยไทย และกตกิ ากฬี ามวยไทยสมคั รเล่น ๓. วีดีทัศน์ทักษะและการแข่งขนั กีฬามวยไทย ๖. การวัดและประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเรื่องต่อไปนี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ ร่วมกิจกรรมของนักเรียน 

110 นอ้ ยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ ๗. อา้ งองิ และแหลง่ ทีม่ าของข้อมูล กรมพลศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. คู่มอื การเรยี นการสอนวิชามวยไทย หลักสตู รมธั ยมศึกษา ปวช. ป.กศ.สงู (พลศึกษา), กรุงเทพฯ : โรงพมิ พอ์ งค์การรบั ส่งสนิ คา้ และพสั ดภุ ัณฑ์ (ร.ส.พ.), 2544. กรมพลศึกษา, กระทรวงการทอ่ งเทย่ี วและกีฬา. คู่มือผูฝ้ ึกสอนกฬี ามวยไทยสมัครเลน่ T- Licence. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ชมุ ชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด, 2552. ศึกเดช กันตามระ. แมไ่ มม้ วยไทยศิลปะปอ้ งกนั ตวั . พมิ พ์ครงั ที่ 2 , กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2553. กตกิ ามวยไทยสมคั รเลน่ ฝ่ายเทคนิคและวิชาการ สมาคมมวยไทยสมัครเลน่ แหง่ ประเทศไทย

111 หมวดที่ ๔ สร้างเสรมิ ทกั ษะการทางาน การดารงชีพและทกั ษะชวี ติ กลุ่มกจิ กรรมท่ี 13 ตอบสนองความสนใจ ความถนัด และความต้องการ ของผ้เู รียนตามความแตกต่างระหวา่ งบุคคล ตวั อยา่ งกิจกรรมท่ี ๑ ๑. ชื่อกจิ กรรม นาฏลีลาเพ่ือชีวาของคนไทย ๒. จานวน ๒ ช่วั โมง ๓. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียนฝึกปฏิบัตทิ ่าราเบื้องต้นได้ ๒. เพื่อใหน้ กั เรยี นปฏบิ ัติทา่ ราได้อย่างถูกต้องและสวยงาม ๓. จัดแสดงผลงานนาฏศิลปไ์ ด้ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ฝึกปฏบิ ตั นิ าฏยศพั ท์เบื้องต้น ๒. ปฏบิ ตั ิทา่ ราในเพลงต่างๆสาหรบั ใช้ในการแสดง ๕. สือ่ การเรยี นรู้และแหลง่ การเรยี นรู้ ๑. DVD เก่ียวกบั นาฏยศัพท์เบอื้ งตน้ ๒. DVD เก่ียวกบั เพลงท่ใี ช้แสดงในโอกาสตา่ งๆ ๖. การวัดและการประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรยี น  น้อยท่ีสุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ

112 ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี ๒ ๑. ช่อื กิจกรรม มีของต้องสาแดง “ดนตรใี นสวน” ๒. เวลาท่ีใช้ ๒ ชั่วโมง ๓. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อให้นักเรียนไดแ้ สดงความสามารถทางดา้ นดนตรี ๒. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ๓. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเกดิ ความภูมใิ จในกิจกรรมทตี่ นปฏิบัติ ๔. เพื่อเปน็ แนวทางในการสร้างอาชพี ในอนาคต ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นักเรียนที่มีความสนใจและมีความสามารถทางดนตรีรวมกลุ่มฝึกซ้อมดนตรีที่ตนเองถนัดและ สนใจ เช่น วงดนตรีไทย วงสตริง วงแซมเบอร์มิวสิค วงลูกทุ่ง วงโฟค์ซอง วง Percussion Ensember วงดรมั ไลน์ เป็นต้น ๒. จัดหาสถานที่แสดงความสามารถด้านดนตรี เช่น โรงอาหาร สวนหน้าอาคารเรียน หอประชุม เป็นตน้ ๕. สื่อการเรียนร้แู ละแหลง่ การเรียนรุ้ ๑. สอื่ ทางอินเตอร์เน็ต เช่น เว็บไซตต์ ่างๆ You tube วีดีโอสาธติ เป็นตน้ ๒. เครือ่ งดนตรี ๓. โน้ตเพลง ๔. เครื่องเสียง ๖. การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น  นอ้ ยท่ีสดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด ๗. ภาพประกอบ

113 ตวั อยา่ งกจิ กรรมที่ ๓ ๑. ชื่อ กิจกรรม ศลิ ปะสร้างสรรค์ ๒. เวลาท่ใี ช้ ๒ ชั่วโมง ๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นเข้าใจและมที ักษะทางด้านงานศลิ ปะ ๒. เพื่อใหผ้ ้เู รียนนาทกั ษะและความคิดสร้างสรรคไ์ ปใชใ้ นการสร้างสรรค์ผลงานได้ ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑ นักเรยี นเรยี นรกู้ ารสร้างงานศิลปะท่ตี นเองสนใจจากคุณครู ๒. นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานศิลปะทเ่ี กิดจากความสนใจของตนเอง ๒. ครูให้คาแนะนาเทคนคิ วิธีการเพ่มิ เติมในการสร้างสรรคง์ าน ๕. ส่ือการเรยี นรูแ้ ละแหล่งการเรยี นรู้ ห้องเรียนศิลปะ ๖. การวดั และการประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรื่องต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ ร่วมกิจกรรมของนักเรยี น  น้อยท่สี ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด

114 ตัวอยา่ งกิจกรรมท่ี ๔ ๑. ชอื่ กิจกรรม ศิลปะสร้างสรรค์“เทคนคิ การเขียนภาพด้วยสโี ปสเตอร์” ๒. เวลาทใ่ี ช้ ๒ ชั่วโมง ๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อให้นกั เรยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจพน้ื ฐานทางศลิ ปะที่สมั พนั ธ์ตอ่ การดารงชีวติ ๒. เพื่อใชศ้ ิลปะสาหรบั เปน็ เครอื่ งมือในการผลติ ช้ินงาน ๓. เพ่อื ฝึกปฏบิ ตั ใิ ห้นกั เรยี นเกิดความคดิ สรา้ งสรรค์ในการนาวชิ าศิลปะมาใชใ้ นการดารงชีวิตอยา่ ง มีสุนทรียภาพ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ลาดับท่ี บทบาทนักเรยี น บทบาทครู ๑ นักเรยี นชมภาพสีโปสเตอรแ์ ละ ครูอธิบายให้นกั เรยี นฟังว่าเทคนิคการเขียนภาพดว้ ยสี รบั ฟงั ครูอธิบายเทคนิคการเขียน โปสเตอร์ทีส่ าคัญคอื การเพ่มิ น้าหนกั สรี ะยะอ่อน กลาง ภาพด้วยสีโปสเตอร์ และแก่ ๒ นกั เรียนชมการสาธิตการเขียนภาพ เทคนิคการระบายสีโปสเตอร์ข้ันพน้ื ฐานมกี ารระบายให้ ด้วยสโี ปสเตอรต์ ามคลิปวีดีโอ สีผสมผสานกลมกลืนกนั ๒ วิธี ดังน้คี อื ๑.การระบายสแี ก่ไปหาสีออ่ น เป็นการระบายสโี ดย คานงึ ถงึ เงาเข้มของภาพก่อนแลว้ คอ่ ยลดน้าหนักให้อ่อนลง ด้วยการผสมสีขาวหรอื สีใกล้เคียงกนั ในวงจรสที ี่มีน้าหนกั ออ่ นลงตามลาดบั มาผสมเพ่มิ เข้าไปทีละนอ้ ยในลักษณะ ของการไลร่ ะยะสเี พอ่ื ให้ภาพสว่างกลมกลืนกนั ๒. การระบายสีจากสอี ่อนไปหาสีแก่ เปน็ การระบายสี โดยคานงึ ถงึ ส่วนสว่างหรือส่วนที่ได้รับแสงก่อนแลว้ จงึ คอ่ ย ๆเพม่ิ น้าหนักใหเ้ ข้มขนึ้ ทลี ะน้อยดว้ ยการผสมสดี าหรือสีตรง ขา้ มหรือสีใกล้เคียงกนั ในวงจรสที ี่มีน้าหนกั เข้มขึ้น ตามลาดบั ในลกั ษณะของการไลน่ ้าหนกั สี เพื่อให้เกดิ การ ประสานกลมกลืนกัน ครูนาคลปิ วดี โี อเร่อื งวาดภาพดว้ ยสโี ปสเตอร์ ของทรูปลกู ปัญญา กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ ชั้นม.๑-๓ turepookpanya.com เวลา ๑๐นาที

115 ๓ นักเรียนลงมอื ปฏิบัตริ ่างภาพและ ครใู หค้ าแนะนาการวาดภาพของนกั เรยี นอยา่ งอิสระตาม เขยี นภาพสเตอร์ จินตนาการของแต่ละคน ๔ นกั เรยี นนาผลงานสาเร็จมาแสดงผล ครชู นื่ ชมและประเมินผลงานนักเรียน งานตามความเหมาะสม เช่น จัด ป้ายนิเทศ เปน็ ตน้ ๕. สื่อการเรยี นรูแ้ ละแหล่งเรียนรู้ คลิปวีดโี อ เร่ือง ศิลปะสรา้ งสรรค์“เทคนิคการเขียนภาพด้วยสีโปสเตอร์”ของtruepookpanya.com ๖. การวดั และประเมินผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเรื่องต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมของนักเรยี น  น้อยท่สี ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ดุ

116 ตวั อย่างกิจกรรมที่ ๕ 1. ชอื่ กิจกรรม Evolution Dance 2. เวลา 20 ชว่ั โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพือ่ ให้ผเู้ รยี นได้ฝึกทกั ษะการเต้นตามความสนใจ 2. เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้การทางานเป็นทีม แบ่งปันความรู้ช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างนักเรียน ที่มีทักษะดกี ับนักเรยี นทม่ี ีทกั ษะออ่ น 3. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถจัดแสดงผลงานการเต้นในรูปแบบต่าง ๆ มีความภาคภูมิใจในตนเองและ มคี วามสุขกิจกรรมท่ีตนชนื่ ชอบ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 1. สมาชกิ แต่ละคนแนะนาตนเอง และบอกเปา้ หมายและความคาดหวังในการเขา้ รว่ มกลุ่ม กจิ กรรม Evolution Dance 2. สมาชกิ รว่ มกันเลือกสรรประธานกลุ่มกิจกรรม Evolution Dance 3. สมาชิกร่วมกนั สรปุ เปา้ หมายของกจิ กรรม Evolution Dance และสรา้ งกติกาทใ่ี ช้รว่ มกัน ในการเข้าร่วมกิจกรรม Evolution Dance 4. สมาชิกแบง่ กลุ่มการเต้นตามความสนใจและความถนัด เชน่ การเต้น B boy ,การเต้น โคฟเวอร์แดนซ์ ,การเต้นเบรกแดนซ์ ,การเต้นแจซ๊ แดนซ์ ,การเต้นคอนเทมโพรารี่แดนซ์เป็นต้น 5. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สนใจ หาคลิปวดี ิทศั น์ต้นแบบการเตน้ ท่จี ะศึกษาและ ฝกึ ทักษะการเต้น ชัว่ โมงที่ 2 1. นักเรยี นแตก่ ลุ่มความสนใจการเต้น นาเสนอคลิปต้นแบบการเต้น และกลา่ วถงึ แรง บนั ดาลใจที่เลอื กคลปิ ต้นแบบการเตน้ น้ี 2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มความสนใจการเต้นเลือกประธานกลมุ่ ย่อย และแยกกล่มุ ฝกึ ซ้อมทกั ษะ การเต้น โดยครเู ปน็ ผ้สู นับสนุนในการจดั หาสถานท่ี วสั ดุอุปกรณ์ ในการฝึกซ้อม เชน่ เครือ่ งเสยี ง แผ่นยาง ปูพ้นื สาหรับฝึกซ้อมเต้น เป็นตน้ ชวั่ โมงที่ ๓ – ๑๘

117 1. นักเรียนแต่ละกลมุ่ ความสนใจการเต้น แยกกลุ่มฝกึ ซ้อมทกั ษะการเตน้ 2. นกั เรยี นประชุมสรุปชดุ การแสดง ท่ีจะนาเสนอในวันจัดกจิ กรรม Evolution Dance Day ของแต่ละกลุ่ม หมายเหตุ นักเรยี นที่ไมไ่ ดเ้ สนอผลงาน อาจเปน็ เบื้องหลงั ในส่วนอืน่ เชน่ พิธกี ร ชว่ ยแตง่ กาย แตง่ หนา้ จดั สถานที่ ประชาสัมพันธ์ ประเมนิ ผล เป็นตน้ ชว่ั โมงท่ี ๑๙ Show Time : Evolution Dance Day สมาชิกกิจกรรม Evolution Danceจัดแสดงผลงาน โดยเชญิ สมาชกิ กิจกรรมเสรอี ื่น ๆ มาเปน็ ผูช้ ม ชัว่ โมงที่ ๒๐ ประเมินตนเอง วางแผนพฒั นา 1. สมาชิกกจิ กรรม Evolution Danceประเมนิ ตนเอง และร่วมแชรป์ ระสบการณ์และ ความรสู้ ึกจากการรว่ มกจิ กรรม 2. สมาชกิ กจิ กรรม Evolution Danceวางแผนพฒั นาเพอื่ สร้างผลงานในโอกาสต่อไป 5. สื่อการเรียนรู้ คลิปวีดิทศั นก์ ารแสดงเตน้ ในรูปแบบตา่ ง ๆ 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกิจกรรมของนักเรียน  นอ้ ยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด 7. ภาพประกอบ ภาพการเต้น Hiphop (ที่มา: www.thaithesims3.com/topic.php?topic)

118 ภาพการเตน้ Coverdance (ที่มา: www.dek-d.com/board/view/2680758/) ภาพการเต้น Contemporary dance (ทม่ี า : www.flussodanceproject.com/index.php?id=8&tx_ttnews%5Btt_news%5D) ภาพการเต้น B - Boy (ท่ีมา : zowiempire.wordpress.com/2011/11/16/americas-best-dance-crew-s01) 8. อา้ งอิงแหล่งที่มาของขอ้ มลู http://www.thaithesims3.com/topic.php?topic=94618(ข้อมูลวนั ที่ ๑๗ กนั ยายน ๒๕๕๘) http://www.dek-d.com/board/view/2680758/(ข้อมูลวนั ท่ี ๑๗ กนั ยายน ๒๕๕๘) http://www.flussodanceproject.com/index.php?id=8&tx_ttnews%5Btt_news%5D=3 3&cHash=afcbcc5a4c7461c74c6f6db7e6cf8dd8 (ข้อมูลวนั ที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘) https://zowiempire.wordpress.com/2011/11/16/americas-best-dance-crew-s01- jabbawockeez-jbwkz/ (ข้อมลู วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๘)

119 ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี ๖ 1. ชื่อกิจกรรม จดั สวยด้วยสวนถาด 2. เวลาทใี่ ช้ ๖ ช่วั โมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อใหน้ ักเรยี นฝกึ การออกแบบและจดั สวนถาดแบบต่าง ๆ ได้ 2. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นมีทักษะในการจัดสวนถาดและกาหนดราคาจดั จาหน่วยได้ 3. เพือ่ ใหน้ ักเรยี นฝึกปฏบิ ัติการจริงในการจาหน่ายสวนถาดท่ผี ลติ เอง 4.กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครสู นทนากบั นักเรียนถึงรูปแบบและวสั ดุอปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการจดั สวนถาด ๒. ครูสาธติ การออกแบบและการจัดสวนถาดแบบชื้นและแบบแหง้ ให้นักเรียนดู ๓. ครูใหน้ กั เรียนฝกึ การออกแบบสวดถาดท้ังแบบชืน้ และแบบแหง้ ๔. ใหน้ ักเรยี นฝกึ จดั สวนถาดตามที่ออกแบบไว้ ๕. ครูและนักเรยี นร่วมกันประเมนิ ผลงานเพอ่ื พฒั นา ปรบั ปรุง แก้ไขใหด้ ีข้ึน ๖. ครูฝึกให้นักเรยี นกาหนดราคาจาหน่ายผลผลิตของตนเอง ๗. นักเรียนสรปุ ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมเป็นผงั มโนทศั น์ จดั แสดงผลงานและปฏิบัตกิ ารจดั จาหนา่ ย สวนถาดท่ีผลติ ขึ้นในโอกาสท่ีเหมาะสม 5.สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ถาด 2. พนั ธุ์ไมป้ ระเภทตา่ ง ๆ 3. ดนิ 4. แบบในการจัดสวนถาด 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเร่ืองต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะปฏิบัติกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเขา้ รว่ มกจิ กรรมของนกั เรียน  น้อยทีส่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด

120 7. ภาพประกอบ การจดั สวนถาด เตรียมเครอ่ื งมือและวัสดุอปุ กรณ์ เตรียมดิน

121 ดาเนนิ การจดั ทา 8. อ้างอิงแหลง่ ที่มาของขอ้ มลู - www.paktho.ac.th

122 ใบความรู้ ข้ันตอนการจดั สวนถาด การจดั สวนถาด คือต้องคิดและทาเป็นข้ันตอนตามลาดับก่อนหลังจะทาใหก้ ารจัดสวนถาดแตล่ ะข้ันตอนสอดรบั กนั ผลสดุ ทา้ ยก็จะไดส้ วนถาดตามท่ีต้องการ ซึง่ ข้ันตอนการจดั ทาควรเร่ิมต้ังแต่กาหนดรูปแบบเตรยี มเครื่องมือ วสั ดอุ ปุ กรณ์ เตรยี มดินและดาเนินการจดั ทา กาหนดรูปแบบ ขัน้ ตอนแรกได้แก่ การกาหนดรูปแบบของสวนท่ีจะจัด โดยคดิ รปู แบบที่จะจดั ว่าจะจดั สวนถาดแบบ ใด จะจดั แบบแจกนั แบบย่อทิวทศั น์ธรรมชาตหิ รอื แบบย่อเรื่องราว จากน้ันจึงตดั สนิ ใจเลือกรูปแบบขั้นตอน ต่อไปคิดรูปทรง หรือรูปร่างหน้าตาของสวนทจ่ี ะจัดว่าควรมีรปู ทรงอยา่ งไรเหมาะสมหรือไม่ เตรียมเคร่อื งมอื และวัสดุอุปกรณ์ เม่อื ได้กาหนดรูปแบบและรูปทรงของสวนทจี่ ะจดั จะทาใหผ้ ้จู ดั มองเหน็ โครงสรา้ งหรอื โครงสวนถาด ทาให้รูว้ ่าวสั ดุอปุ กรณห์ ลกั ที่จะใช้ประกอบเปน็ โครงสวนถาดไดแ้ ก่อะไรบา้ ง วสั ดุอุปกรณ์ท่ีจะใชป้ ระกอบ เป็นโครงสวนนา้ ตก ได้แกห่ ินรปู ทรงต่าง ๆ ท่ีจะใชป้ ระกอบเปน็ นา้ ตก รากไม้แก่นไมท้ ี่คดโค้ง เพอื่ ให้มอสส์

123 และเฟิร์นเกาะเก่ยี วเจริญงอกงามจะต้องบันทกึ รายการอปุ กรณ์และจัดเตรียมให้เรียบร้อยโดยเฉพาะถาด ตอ้ งล้างใหส้ ะอาดเพราะต้องนามาใช้ในการวางโครงสวน ส่วนเครือ่ งมือเคร่ืองใชใ้ นการจดั สวนถาดตอ้ ง เตรยี มให้พร้อมที่จะใช้งาน เตรยี มดนิ เม่อื กาหนดรูปแบบของสวนถาดไว้แล้ว และรวู้ ่าจะใชต้ ้นไม้อะไรบา้ ง จงึ ต้องเตรยี มดินท่ีจะใช้จดั สวน ถาดเอาไว้ใหพ้ ร้อม และเหมาะสมกบั ตน้ ไม้ทีน่ ามาใช้จัดสวนถาด สว่ นผสมของดนิ เตรียมตามท่ีได้กล่าว มาแล้ว ดาเนนิ การจดั ทา กาหนดรปู แบบของสวน ได้จดั เตรียมอปุ กรณ์และไดเ้ ตรียมดนิ ไว้พร้อมแล้ว การจัดทาสวนถาด ดังนี้ 1. พจิ ารณาขนาดวัสดุอปุ กรณห์ ลักและขนาดของถาดเพ่ือจะไดร้ ู้วา่ ขนาดของอุปกรณห์ ลักได้ สัดส่วนกับขนาดของถาดหรอื ไม่ ถา้ ไม่ได้สัดสว่ นกนั ให้เปล่ยี นถาดใหม่ เพราะการจดั หาถาดทาไดง้ ่ายกวา่ การจัดหาวัสดุอุปกรณห์ ลัก วสั ดอุ ุปกรณห์ ลัก เชน่ หนิ รากไม้ แก่นไม้และตน้ ไม้ทจี่ ะใชเ้ ป็นโครงสวน

124 2.พจิ ารณาขนาดของวสั ดุอปุ กรณ์ทีจ่ ะนามาใชจ้ ดั ในถาดเดยี วกนั โดยพจิ ารณาวา่ ขนาดของวสั ดุ อปุ กรณห์ ลักแต่ละช้ินได้สดั ส่วนกนั หรือไม่ ควรใชว้ สั ดุอปุ กรณ์ทไี่ ด้สัดส่นกนั ในดา้ นของขนาด ถ้าขนาดไม่ได้ สดั สว่ นกนั เชน่ เล็กใหญ่ต่างกันมาก ในกรณีเช่นน้ตี อ้ งจดั หาวัสดุอุปกรณใ์ หม่ 3.พิจารณาดา้ นรปู ทรงของวัสดุอุปกรณห์ ลัก วัสดุอุปกรณห์ ลักทน่ี ามาประกอบเป็นโครงสวนตอ้ ง กลมกลืนกันในดา้ นรูปทรง รูปทรงจะกลมกลืนกนั ประมาณร้อยละ 70-80 และแตกต่างกนั ประมาณร้อย ละ 20-30 4.วางโครงร่างของสวนถาด หมายถึงโครงสรา้ งใหญ่ของสวนเท่านัน้ ไม่ได้หมายถงึ รายละเอียด ท้ังหมดของสวนถาดการวางโครงสวนถาดทาได้หลายวธิ ี 4.1 รองกน้ กระถางและใส่ดินในกระถาง โดยนาอิฐท่ที บุ เปน็ ก้อนขนาดปลายน้วิ กอ้ ยใช้รองก้น กระถางและปิดรูกระถาง 4.2 กาหนดมุมมองทส่ี าคัญทสี่ ดุ การจดั สวนถาดจึงตอ้ งใหส้ วยงามมคี วามละเอยี ด ประณีต และสะอาดทุกด้าน 4.3 กาหนดตาแหนงจุดเด่น ใหจ้ ดุ เด่นอยู่ตรงจดุ สนใจและสมั พันธ์กบั มุมมองท่ีสาคัญที่สุดใช้ส่ิง ใดเปน็ จดุ เด่นให้วางสิ่งน้ันตรงจุดน้ัน

125 ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๗ 1. ชื่อกิจกรรม ดอกไม้ธนบตั ร 2. เวลาท่ีใช้ 2 ชั่วโมง 3. วตั ถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักเรียนฝึกทักษะการพบั ดอกไม้จากธนบตั รแบบตา่ ง ๆ 2. เพ่ือให้นกั เรียนฝึกทักษะการจดั ตกแตง่ เป็นแจกันหรือช่อดอกไม้ และกาหนดราคาจาหน่วยได้ 4. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ครสู นทนากับนกั เรยี นเก่ียวกับการฝกึ ทักษะการพับดอกไม้จากธนบัตรแบบตา่ ง ๆ ๒. นกั เรียนฝกึ จัดแจกันหรือตกแตง่ เข้าชอ่ ใหส้ วยงาม และกาหนดราคาจาหน่วยได้ 5.สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ใบกจิ กรรม การพบั ดอกไม้จากธนบัตรต่างๆ 2. ตัวอยา่ งแจกนั และช่อดอกไม้จากธนบัตร 3. วัสดอุ ปุ กรณ์การประดษิ ฐ์ดอกไมจ้ ากธนบัตร 6.การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนขณะปฏิบัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนักเรียน  น้อยทสี่ ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทสี่ ุด 7. ภาพประกอบ

126 8. อ้างอิงแหล่งทีม่ าของข้อมลู http://topicstock.pantip.com/ https://rossananroses.wordpress.com

127 ตัวอย่างกิจกรรมที่ ๘ 1. ช่ือกจิ กรรม สบ่สู ลักลาย 2. เวลาท่ใี ช้ 4 ชง่ั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อใหน้ ักเรยี นฝึกทกั ษะการแกะสลกั สบู่ 2. เพ่ือให้นกั เรยี นฝึกจดั ตกแตง่ และกาหนดราคาจาหน่ายได้ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูอธิบายถึงลักษณะของงานแกะสลกั การเลอื กสบู่ตลอดจนสาธติ การใช้เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการ แกะสลักและการเก็บรักษาเคร่ืองมือ ๒. นักเรียนฝกึ ทักษะการแกะสลักสบู่ และสร้างผลงานแกะสลกั ได้สวยงามและสร้างสรรค์ ๓. นกั เรียนคานวณราคาจาหนา่ ยได้เหมาะสมกับชน้ิ งาน 5. ส่อื การเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรมการแกะสลักสบู่ 2. ตัวอยา่ งสบูแ่ กะสลกั รูปแบบตา่ งๆ 3. วสั ดอุ ุปกรณ์การแกะสลักสบู่ 6. การวดั และประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรียน  น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากที่สดุ

128 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหลง่ ทมี่ าของขอ้ มลู http://www.kruaklaibaan.com/viewtopic.php?p=322509 http://krabiwalkingstreet.com/

129 ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี ๙ 1. ช่ือกจิ กรรม สุกรนอนแดด (หมูแดดเดียว) 2. เวลาทใี่ ช้ 2 ช่วั โมง 3. วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือใหน้ กั เรียนฝึกปฏิบตั กิ ารทาหมแู ดดเดียว 2. เพื่อให้นกั เรียนกาหนดราคาและจัดจาหนา่ ยได้ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. สาธิตขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ เร่ิมตัง้ แต่ การลา้ ง การแล่ การห่ัน การหมักเน้ือหมู ๒. นักเรยี นเตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ และปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนการทาหมแู ดดเดียวตามใบงาน ๓. นกั เรียนออกแบบบรรจุภัณฑ์และกาหนดราคาจาหน่วยได้ 5. สือ่ การเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรมการทาหมูแดดเดียว 2. ตวั อย่างบรรจุภณั ฑห์ มูแดดเดียว ๓. วสั ดุอุปกรณ์และเครือ่ งปรุงการทาหมูแดดเดยี ว 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้ารว่ มกจิ กรรมของนกั เรียน  นอ้ ยท่ีสดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากที่สุด

130 7. ภาพประกอบ หมูแดดเดียว รบั ประทานกับนา้ พรกิ เผา ผักสด 8. อ้างอิงแหลง่ ท่มี าของขอ้ มลู www.Pibul.ac.th ใบกิจกรรม

131 เรื่อง สกุ รนอนแดด (หมูแดดเดียว) จุดประสงค์ ถนอมอาหารจากการตากแห้งได้ เวลา 2 ช่ัวโมง ส่วนผสม เนื้อหมสู ว่ นสะโพก 1 กโิ ลกรัม กระเทยี มปอกเปลอื กแล้ว 10 กลบี พริกไทย 1 ช้อนชา นา้ ตาลปีบ 1 ชอ้ นโตะ๊ เกลือปน่ 1 ชอ้ นชา ซีอว้ิ ขาว 4 ช้อนโต๊ะ นา้ ปลาดี 5 ช้อนโตะ๊ วิธที า 1. ล้างเนอ้ื หมูให้สะอาด แล่เนอ้ื หมู บาง ๆ และห่ันเป็นเส้นยาว 2. โขลกพรกิ ไทยใหล้ ะเอียด 3. เคลา้ หมูกบั เคร่ืองทโ่ี ขลก ใสซ่ ีอ้ิวขาว เกลือ น้าปลา นา้ ตาลปีบ เคลา้ เขา้ ด้วยกัน หมักไว้ 20 นาที 4. เรยี งหมลู งกระจาดโปรง่ ผึ่งแดดให้เน้อื หมูหมาด 1 – 2 ชัว่ โมง 5. ทอดหมูในนา้ มนั มาก ๆ ใชไ้ ฟกลาง ทอดใหส้ กุ ตกั ข้นึ พักให้สะเดด็ นา้ มนั 6. เมือ่ หมูแดดเดยี ว เย็นตัวแลว้ เกบ็ ในภาชนะท่ีแหง้ สนิท และมฝี าปิดมิดชดิ เก็บไวร้ บั ประทาน ไดห้ ลายวนั

132 ตวั อยา่ งกิจกรรมที่ ๑๐ 1. ชื่อกจิ กรรม สุขใจกับใบตอง 2. เวลาที่ใช้ 4 ชั่วโมง 3. วัตถปุ ระสงค์ ๑. นกั เรยี นปฏิบัตงิ านประดษิ ฐใ์ บตองตามแผนทวี่ างไว้ อยา่ งประณีตงดงาม ๒. นกั เรยี นคานวณงบประมาณ และกาหนดราคาจดั จาหน่ายได้ 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. นักเรยี นออกแบบ หรือทาตามแบบโดยครูสาธิตและสอนข้นั ตอนการทาใบตองในรูปแบบต่าง ๆ ๒. นักเรยี นวางแผนการทากระทงใบตองในรูปแบบตา่ ง ๆ ที่ไดเ้ ลือกและออกแบบไว้ ๓. ฝกึ ทักษะการทากระทงใบตอง 5. ส่อื การเรียนรู้ 1. ใบกจิ กรรม การประดษิ ฐ์ใบตองแบบตา่ ง ๆ 2. ตวั อย่างการประดิษฐใ์ บตองรปู แบบตา่ ง ๆ 3. วัสดุอปุ กรณ์การประดิษฐใ์ บตอง 6. การวัดและประเมินผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น  น้อยท่สี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากที่สดุ

133 7. ภาพประกอบ กระทง 2 มมุ และ 4 มมุ 8. อ้างอิงแหลง่ ท่มี าของขอ้ มูล -http://www.lovingcorner.com/http://www.pim.in.th/

134 ตวั อย่างกิจกรรมที่ ๑๑ 1. ช่ือกจิ กรรม เสน้ สายรอ้ ยมาลัย 2. เวลาท่ีใช้ ๖ ชั่วโมง 3. วัตถปุ ระสงค์ ๑. นักเรยี นออกแบบ วางแผนการปฏิบตั งิ านรอ้ ยมาลยั ได้ถกู ต้องตามข้นั ตอนการทางาน ๒. นักเรียนปฏบิ ัตงิ านร้อยมาลยั ตามแผนที่วางไว้ อย่างประณีตสวยงาม 4. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ดูวดี ิทัศน์การร้อยมาลัยแบบตา่ ง ๆ ๒. ครสู าธิตการร้อยมาลัยตามข้นั ตอน ๓. นักเรียนลงมือปฏิบัตกิ ารร้อยมาลยั ตามขนั้ ตอนทคี่ รสู าธิต 5. สือ่ การเรยี นรู้ 1. ใบกิจกรรมการร้อยมาลัย 2. วดิ ทิ ศั น์แสดงการรอ้ ยมาลัยแบบตา่ ง ๆ 3. วัสดุอปุ กรณ์การรอ้ ยมาลยั 6. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเรื่องต่อไปนี้ 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกิจกรรมของนกั เรียน  นอ้ ยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากทีส่ ุด

135 7. ภาพประกอบ 8. อา้ งอิงแหลง่ ท่มี าของขอ้ มูล - http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=lonelymod&month=13-06- 2009&group=1&gblog=2 - http://www.clayflower99.com/

136 ตัวอยา่ งกจิ กรรมท่ี ๑๒ ๑. ชื่อกจิ กรรม หนังสอื ในดวงใจ ๒. เวลาทใี่ ช้ ๒ ช่วั โมง ๓. วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพื่อส่งเสรมิ ให้นกั เรยี นมนี ิสยั รกั การอา่ น 2. เพื่อใหน้ กั เรียนสามารถแนะนาหนงั สอื ในดวงใจของตนเองแกผ่ ู้อนื่ ได้ 3. เพื่อใหน้ ักเรยี นร้จู ักใช้เวลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ๑) นกั เรียนเลอื กหนังสอื หลากหลายประเภทจากห้องสมุดโรงเรียนหรือหอ้ งสมุดประจากลุ่มสาระ การเรยี นรู้ หรือแหลง่ ศึกษาค้นควา้ อน่ื ๆ คนละ ๒ - ๓ เลม่ ๒) พจิ ารณาสว่ นต่าง ๆ ของหนังสือแตล่ ะเล่ม เลอื กอ่านบางตอนหรอื บางสว่ นท่ตี นเองสนใจ ๓) แลกเปลีย่ นเรียนรู้กับเพ่อื น ในประเด็นต่อไปน้ี ๓.๑) บอกประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการอ่าน ๓.๒) ถ้าให้เลือกหนังสือเลม่ ใดเลม่ หนง่ึ เป็นหนังสือในดวงใจ นกั เรียนจะเลอื กหนงั สอื เลม่ ใด เพราะเหตุใด ๔) นกั เรยี นเลอื กอ่านหนงั สือในดวงใจของตนเอง ๑ เลม่ นอกเวลาเรยี น และเตรียมนาเสนอ แลกเปลี่ยนเรียนรูก้ บั เพ่อื น ในชว่ั โมงต่อไป ชั่วโมงท่ี ๒ ๑) นักเรียนนาเสนอหนังสือในดวงใจของตน ใหเ้ พื่อนฟัง ๒) นักเรยี นเขียนหนงั สือตามจนิ ตนาการของตนเอง ๑ ชน้ิ งาน ๕. สอ่ื การเรียนรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ หอ้ งสมดุ โรงเรยี นห้องสมดุ ประจากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ หรือแหล่งศกึ ษาค้นควา้ อ่นื ๆ ๖. การวัดผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนักเรียน  น้อยทีส่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่ีสุด

137

137 หมวดที่ ๔ สรา้ งเสรมิ ทักษะการทางาน การดารงชพี และทกั ษะชวี ติ กลุ่มกจิ กรรมที่ 1๔ ฝึกการทางาน ทกั ษะทางอาชีพ และอยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง) ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๑ ๑. ชื่อกจิ กรรม พัฒนาทกั ษะชีวิตด้วยงานประดิษฐ์ ๒. เวลาท่ีใช้ ๒ ชว่ั โมง ๓. วตั ถุประสงค์ เพอื่ ฝึกปฏิบตั ิงานประดิษฐ์ ทาของท่ีระลึกจากวสั ดุท้องถน่ิ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ครกู าหนดและเตรียมวัสดุทอ้ งถ่นิ ท่ีสามารถนามาประดิษฐ์ของท่ีระลึกได้ ๒. ครูเตรียมชน้ิ งานสาเร็จและข้ันตอนการประดษิ ฐ์ชน้ิ งานมาใหน้ กั เรียนเลือก ๑- ๒รายการ ๓. ครูสาธติ การประดษิ ฐช์ ้นิ งาน ๔. นกั เรยี นฝึกปฏบิ ัตทิ าชิ้นงานทเี่ ลือก ๔. นาชิ้นงานทน่ี กั เรียนจัดทา มาแสดงผลงานใหน้ ักเรียนทว่ั รับรู้ ๕. สือ่ การเรยี นรู้และแหล่งการเรยี นรู้ ๑. วัสดุท้องถิน่ ทีเ่ ลือก ๒. ช้ินงานสาเรจ็ ท่ีนามาเปน็ ตวั อย่าง ๖. การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเร่ืองต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏิบัติกิจกรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ รว่ มกิจกรรมของนกั เรียน  นอ้ ยทีส่ ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด

138 ตัวอย่างกิจกรรมที่ ๒ ๑. ชอ่ื กจิ กรรม พัฒนาทกั ษะชีวติ ดว้ ยสวนสวยงาม ๒. เวลาทใี่ ช้ ๒ ช่ัวโมง ๓. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อเสริมทักษะชีวิตด้านการเพาะปลูกพชื ให้นักเรยี น ๒. เพ่ือปลกู ฝงั ให้นักเรยี นมจี ิตสานกึ ในการอนุรกั ษ์ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๑. ครูสารวจพรรณไม้ในโรงเรียนทีส่ ามารถนามาเพาะขยายพันธไ์ุ ด้จานวนอย่างน้อย 3 รายการ ๒. ครูสาธิตการขยายพนั ธุ์พืชแบบตา่ ง ๆ (การตอน ตดิ ตา ตอ่ กง่ิ ปักชา) ๓. นกั เรยี นเลอื กวธิ กี ารขยายพนั ธ์พุ ืชคนละ ๑ รายการ และลงมือปฏบิ ตั ติ ามขั้นตอน ๔. ครกู าหนดตารางใหน้ ักเรยี นปฏิบัติเพอื่ ดูแลต้นไม้ท่ขี นายพันธจ์ นกว่าตน้ ไม้จะสามารถนาไป เพาะปลูกได้(ทาตารางใหน้ ักเรยี นจดบันทกึ ) ๕. ครูวางแผนร่วมกับนักเรยี นนาตน้ ไม้ตามข้อ๔ ไปเพาะปลูกในบรเิ วณโรงเรียน และรับผิดชอบ ดแู ลต่อไป ๕. สือ่ การเรยี นรูแ้ ละแหล่งการเรียนรู้ ๑. ตน้ ไม้ทเ่ี ลือกขยายพันธุ์ ๒. อุปกรณ์ การขยายพันธ์พุ ชื ๖. การวดั และประเมนิ ผล 1. สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนในเร่ืองต่อไปนี้ 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเรจ็ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเข้ารว่ มกิจกรรมของนกั เรยี น  นอ้ ยท่ีสุด น้อย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด

139 ตวั อยา่ งกิจกรรมที่ ๓ 1. ชอ่ื กจิ กรรม ดอกกหุ ลาบจากเชือกฟาง 2. เวลาท่ีใช้ 2 ชวั่ โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อเสริมทักษะชีวติ ด้านการเลือกใช้วัสดเุ หลือใช(้ เชือกฟาง)มาจดั ทาดอกไม้ให้นักเรยี น ๒. เพ่ือปลกู ฝงั ใหน้ ักเรยี นมที ักษะพื้นฐานอาชพี 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่มประมาณกลุ่มละ 4 – 5 คน เก็บรวบรวมเชือกฟางท่ีเหลือใช้ที่จะสามารถ นามาประดษิ ฐ์เป็นดอกกุหลาบได้ 2. ครูสาธิตหรือให้นกั เรยี นดคู ลปิ วีดโิ อการประดษิ ฐ์ดอกกหุ ลาบเชอื กจากฟาง 3. นักเรยี นลงมอื ปฏบิ ัติประดิษฐ์ดอกกหุ ลาบจากเชอื กฟาง 4 ครใู หน้ กั เรียนจัดดอกไมเ้ ข้าช่อ/จดั แจกัน/ตามทีน่ กั เรียนสนใจ 6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงาน 5. ส่อื การเรียนรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. อปุ กรณ์และเครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ นงานประดษิ ฐ์ดอกกหุ ลาบจากเชือกฟาง 2. คลปิ วดี ิโอการประดษิ ฐ์ดอกกหุ ลาบเชือกจากฟาง ๓. ชน้ิ งานสาเรจ็ ดอกกหุ ลาบจากเชือกฟาง 6. การวัดผลประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเรจ็ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเขา้ ร่วมกจิ กรรมของนักเรยี น  นอ้ ยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ

140 7. ภาพประกอบ ภาพท่ี 18 พับดอกกหุ ลาบจากเชอื กฟาง (ทม่ี า : สารสนเทศโรงเรียนท่าทองพทิ ยาคม, 1557) ภาพท่ี 19 ดอกกหุ ลาบทาจากเชอื กฟาง (ทม่ี า : สารสนเทศโรงเรียนทา่ ทองพทิ ยาคม, 2557) 8. อา้ งอิงแหล่งท่มี าของข้อมูล - สารสนเทศโรงเรียนท่าทองพทิ ยาคม, 2557.

141 ตวั อย่างกิจกรรมท่ี ๔ 1. ชื่อกิจกรรม ตะกร้าสารพัดประโยชน์ 2. เวลาทใ่ี ช้ ๒ ชว่ั โมง 3. วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพื่อเสริมทกั ษะชวี ิตดา้ นการประดิษฐต์ ะกรา้ สารพดั ประโยชน์จากวสั ดุเหลือใช้ใหน้ กั เรียน ๒. เพื่อปลูกฝงั ใหน้ ักเรยี นมีทักษะพน้ื ฐานอาชพี 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ๆละ 4 – 5 คน เตรยี มตะกรา้ เกา่ หรอื ใหม่มากลุ่มละ ๑ ใบ และวสั ดเุ หลอื ใช้ ทีจ่ ะสามารถนาใชป้ ระดิษฐ์ตะกรา้ สารพัดประโยชนไ์ ดไ้ ดแ้ ก่ เศษฟองน้า และเศษผา้ ท่เี หลอื ใช้ 2. ครูสาธติ หรอื ให้นักเรยี นดคู ลิปวีดโิ อการประดิษฐต์ ะกรา้ สารพดั ประโยชนจ์ ากวสั ดุเหลอื ใช้ 3. นกั เรยี นลงมือปฏบิ ตั ปิ ระดษิ ฐต์ ะกร้าสารพดั ประโยชน์จากวสั ดเุ หลือใช้ ๔. นักเรยี นแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงาน 5. สอื่ การเรียนรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. อุปกรณแ์ ละเครื่องมอื ทใี่ ช้ในงานประดิษฐ์ตะกร้าสารพดั ประโยชนจ์ ากวัสดเุ หลือใช้ ๒. คลปิ วดี ิโอการประดษิ ฐต์ ะกรา้ สารพดั ประโยชนจ์ ากวัสดเุ หลือใช้ 6. การวัดผลประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรมนักเรียนในเรื่องต่อไปน้ี 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นขณะปฏบิ ัติกิจกรรม 1.2 สังเกตผลงานความสาเร็จ ของกิจกรรม 2. แบบสอบถามความพงึ พอใจต่อการเขา้ ร่วมกจิ กรรมของนักเรียน  นอ้ ยท่สี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด

142 ตัวอย่างกจิ กรรมท่ี ๕ 1. ชื่อกิจกรรม ตุ๊กตาไลย่ งุ 2. เวลา 2 ช่วั โมง 3. วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพ่ือเสรมิ ทกั ษะชวี ติ ดา้ นการประดิษฐต์ ุ๊กตาไลย่ ุงให้นกั เรียน ๒. เพื่อปลกู ฝงั ใหน้ ักเรียนมที ักษะพนื้ ฐานอาชีพ 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ครูครสู าธติ หรือให้นกั เรยี นดูคลิปวดี โิ อการประดิษฐต์ ุ๊กตาไล่ยุง ๒. นักเรียนแต่ละกลุม่ ปฏิบตั ิประดิษฐต์ ๊กุ ตาไล่ยงุ ดงั น้ี ๒.๑ นาถุงเทา้ มาตัดแบง่ คร่ึงเป็นสองส่วน ใช้สว่ นปลายถงุ เทา้ ให้ทาเป็นหวั ตกุ๊ ตา สว่ น หมุ้ ขอ้ ทาเป็นหมวกของตกุ๊ ตา ๒.๒ นาสว่ นปลายถุงเทา้ ใส่ใยสังเคราะห์ให้กลม ตัดเชอื กขนาดเล็กความยาวประมาณ 8 นวิ้ มดั ด้วยเชือกสีขาวขนาดเลก็ สาหรบั ทาแขน ขมวดปมตรงปลายเชอื ก ๒.๓ นาเชอื กเส้นใหญ่มาตัดความยาวประมาณ 10 นิว้ แล้วพับครึง่ สอดไปในกระโปรง ของตุ๊กตาแล้วผนกึ ดว้ ยกาวทาเปน็ ขา ขมวดปมตรงปลายเชอื ก ๓.๔ นาริบบิ้นมาผกู เป็นโบวแ์ ลว้ ตดิ ตรงคอตุ๊กตา ๓.๕ นกั เรยี นนาถุงเท้าท่ีเป็นส่วนหุ้มข้อเทา้ ท่ตี ัดเอาไว้มาพบั ขอบให้สวย แลว้ นาไปใส่ท่ี หัวตุ๊กตา ๓.6 ตัดรบิ บนิ้ ผ้าสแี ดงเปน็ สามเหลยี่ มแล้วผนกึ ด้วยกาวทาเปน็ ปาก ๓.7 ติดจมกู ดว้ ยลกู ปดั สดี า ๓.8 ติดลูกตา ๓.9 นากล่ินตะไครม้ าหยอดใสส่ ่วนหวั ตุก๊ ตา ๓.10 นาเชอื กสีทองร้อยเข็ม และนามาร้อยทห่ี วั ตุก๊ ตา ทาเปน็ ท่ีแขวน ๓.11 นาตกุ๊ ตาใสถ่ งุ และปิดปากถุงพลาสตกิ เพอื่ ไมใ่ หก้ ลน่ิ ตะไคร้ออก ๓.๑๒ แสดงผลงานนกั เรียน 5. สอ่ื การเรยี นรูแ้ ละแหล่งการเรียนรู้ 2. ลกุ ตาปลอม 1. ผ้ายืด หรือถงุ เท้าส้ันหลากสีตามทชี่ อบ 4. ลูกปัดสีดา 3. ริบบ้ิน (ทาโบว)์ 6. เชือกสีขาวขนาดเล็ก (ทาแขน) 5. ถงุ พลาสติกสาหรบั บรรจุ 8. ใยสงั เคราะห์ 7. เชอื กสีขาวขนาดใหญ่ (ทาขา) 10. ดา้ ย 9. กรรไกร 12. กาว 11. เขม็ 13. กล่นิ ตระไคร้หอม

143 6. การวัดผลประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นในเร่ืองต่อไปน้ี 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม 1.2 สงั เกตผลงานความสาเร็จ ของกจิ กรรม 2. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรยี น  น้อยทีส่ ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากทสี่ ุด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook