สาระการเรยี นรู ้ 1. ความหมายและประเภทของค่าแรงงาน 2. วนั เวลา และชวั่ โมงทางานตามพระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงาน 3 .การจดั เกบ็ เวลาการทางาน 4. เงนิ ประกนั สงั คม 5. ภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดาหกั ณ ทจ่ี า่ ย 6. รายการหกั ต่างๆ 7. ทะเบยี นค่าแรง 8. การคานวณ และการบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั คา่ แรงงาน 9. ความหมายของคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 10. ประเภทของคา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ
กจิ การอตุ สาหกรรมขนาดใหญ่มกี ารแบง่ การดาเนินงานออกเป็ น 2 สว่ น คอื ส่วนของสานักงานและสว่ นของโรงงาน ดงั นั้นคา่ จา้ งจงึ แบง่ เป็ น 2 ลกั ษณะของงานทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ คา่ จา้ ง คอื เงนิ เดอื นและคา่ แรงงาน
ค่าแรงงาน (Labor) หมายถงึ คา่ ตอบแทนทก่ี จิ การจ่ายใหแ้ ก่คนงานทท่ี างานใน โรงงาน ทท่ี าการผลติ สนิ คา้ หรอื ฝ่ายทใ่ี หบ้ รกิ าร การจา่ ยคา่ แรงงานนนั้ อาจจ่าย เป็นรายชน้ิ รายชวั่ โมง รายวนั รายสปั ดาหห์ รอื รายเดอื น หรอื อาจจ่ายในรปู ของ ค่าลว่ งเวลา หรอื เงนิ รางวลั เป็นตน้
ประเภทของคา่ แรงงาน แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ดงั นี้ 1.คา่ แรงงานทางตรง (Direct Labor) หมายถงึ คา่ ตอบแทนที่ กจิ การจา่ ยใหค้ นงานทที่ างานในโรงงานเพอื่ แปรสภาพวตั ถดุ บิ ให ้ เป็ นสนิ คา้ สาเรจ็ รปู เป็ นคา่ แรงทเี่ กยี่ วขอ้ งโดยตรงกบั การผลติ สนิ คา้ นั้นๆ และสามารถคานวณคา่ แรงงานเป็ นรายหน่วยการผลติ ไดง้ ่าย
เชน่
ค่าแรงงานของพนกั งานที่เยบ็ เส้ือผา้ สาเร็จรูปในโรงงานผลิตเส้ือผา้ สาเร็จรูป ค่าแรงงานของคนงานที่ผลิตผลไมก้ ระป๋ องในโรงงานแปรรูปผลไม้ ค่าแรงงานของพนกั งานที่ผลิตบะหม่ีสาเร็จรูปในโรงงานผลิตบะหม่ีสาเร็จรูป
โดยคา่ แรงงานทางตรงจะตอ้ งมี 2 ลักษณะ ดงั น้ี
1.1 แรงงานทใี่ ชใ้ นการผลติ ตอ้ งเป็ นสว่ นสาคญั ในการผลติ สนิ คา้ 1.2 สามารถคานวณคา่ แรงงานเขา้ เป็ นตน้ ทุนการผลติ รายหน่วยได้ หากมคี า่ แรงงานเกิดขน้ึ และเข้าเง่ือนไขทัง้ 2 ขอ้ น้ี ถอื ไดว้ า่ ค่าแรงงานนนั้ เป็นค่าแรงงาน ทางตรง แตถ่ า้ เขา้ เพยี งขอ้ ใดขอ้ หน่งึ หรอื ไมเ่ ขา้ เงอ่ื นไขขอ้ ใดเลย คา่ แรงงานนัน้ ถอื เป็น ค่าแรงงานทางออ้ ม ซ่งึ ค่าแรงงานทางตรงจะมีความสัมพนั ธก์ ับปริมาณการผลิต ถา้ มกี ารผลติ มาก คา่ แรงงานก็จะต้องจา่ ยสูง แตถ่ า้ ผลติ นอ้ ยคา่ แรงงานกจ็ ะลดลงตามสดั สว่ น หรือถ้าไม่มีการผลติ ก็ จะไมม่ ีการจา่ ยคา่ แรงงาน บัญชคี า่ แรงงานทางตรงถือเปน็ ส่วนประกอบของต้นทุนผลติ สนิ คา้
2.ค่าแรงงานทางออ้ ม (Indirect Labor) หมายถึง ค่าตอบแทนท่ีไม่เก่ียวขอ้ งโดยตรง กบั การผลิต แตม่ ีส่วนช่วยใหก้ ารผลิตน้นั สาเร็จลุล่วงดว้ ยดี ในการคานวณตน้ ทุน การผลิตจะจดั อยใู่ นส่วนของคา่ ใชจ้ ่ายในการผลิต เช่น ค่าแรงงานหวั หนา้ ผคู้ วบคุม การผลิต เงินเดือนผจู้ ดั การโรงงาน เงินเดือนพนกั งานทาความสะอาด เป็นตน้ วนั เวลา และชวั่ โมงทางานตามพระราชบญั ญตั คิ ุม้ ครองแรงงาน ซง่ึ ได้บัญญัติข้ึน เพ่ือคุ้มครองลูกจ้างในเร่ืองเวลาการทางาน จานวนชั่วโมงในการทางานที่เหมาะสม ของงานแต่ละประเภท และผลประโยชน์ ได้แก่ เวลาทางานปกติ เวลาพัก วันหยุด การทางานล่วงเวลา หรอื การทางานในวันหยดุ วันลา และค่าตอบแทนในการทางาน (คา่ จา้ ง)
อตั ราคา่ จา้ งข้นั ต่า เป็นอตั ราค่าจา้ งท่ีคณะกรรมการคา่ จา้ งกาหนดตามพระราชบญั ญตั ิคุม้ ครองแรงงาน โดย คณะกรรมการค่าจา้ งมีแนวคิดเก่ียวกบั อตั ราค่าจา้ งข้นั ต่าวา่ “เป็นอตั ราค่าจา้ งท่ีเพียงพอสาหรับแรงงานเพอื่ พฒั นา ฝีมือ 1 คน ใหส้ ามารถดารงชีพอยไู่ ดต้ ามสมควรแก่สภาพเศรษฐกิจและสงั คมโดยมีมาตรฐานการครองชีพท่ี เหมาะสมตามความสามารถของธุรกิจ โดยการกาหนดอตั ราคา่ จา้ งข้นั ต่าเป็นอานาจหนา้ ท่ีของคณะกรรมการ คา่ จา้ ง ซ่ึงเป็นองคก์ รไตรภาคีตามพระราชบญั ญตั ิคุม้ ครองแรงงงาน ประกอบดว้ ยผแู้ ทนฝ่ ายนายจา้ ง ผแู้ ทนฝ่ าย ลูกจา้ ง และผแู้ ทนฝ่ ายรัฐบาลฝ่ ายละ 5 คนเท่าน้นั ส่วนอตั ราคา่ จา้ งตามมาตรฐานฝีมือ หมายถึง อตั ราค่าจา้ งท่ี คณะกรรมการค่าจา้ งกาหนดข้ึนในแตล่ ะสาขาอาชีพตามมาตรฐานฝีมือ สาหรับการประกาศอตั ราค่าจา้ งข้นั ต่า มกั จะมีการเปล่ียนแปลงอยเู่ สมอ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั นโยบายของรัฐบาล
การจดั เก็บเวลาการทางานทว่ั ไปจะมเี อกสารทใี่ ชจ้ ดั เก็บเวลาการทางาน 2 ประเภท คอื
1.บตั รลงเวลา (Clock Card) คือ บตั รที่ใชบ้ นั ทึกเวลาใน การทางานของพนกั งานและลูกจา้ ง การบนั ทึกเวลาการ ทางานของพนกั งานและลูกจา้ งน้นั มีหลายวิธี ไดแ้ ก่
1.1 ระบบให้เกียรติ ใช้บันทึกในแผ่นลงเวลา ตามปกติโดยไม่มีพนกั งานดูแลหรือควบคุมใดๆ
1.2ระบบอาศยั หวั หนา้ งานคอยควบคุม โดยพนกั งานและ ลูกจา้ งแต่ละคนจะมีบตั รประจาตวั บนั ทึกการเขา้ และออกจาก หน่วยงาน โดยใหห้ วั หนา้ แต่ละส่วนงานเป็นผบู้ นั ทึกเวลาเขา้ ทางานและเวลาเลิกงาน หรือใหพ้ นกั งานและลูกจา้ งเป็นผู้ บนั ทึกและหวั หนา้ เป็นผลู้ งนามยนื ยนั กไ็ ด้
1.3 ระบบบตั รนาฬิกา (Time Clock) โดยอาศยั เคร่ืองมืออิเลก็ ทรอนิกส์ช่วยควบคุม โดยคนงานแตล่ ะคนจะมีบตั รนาฬิกาหรือบตั รลง เวลาประจาตวั เม่ือเร่ิมปฏิบตั ิงานในหน่วยงาน แผนกหรือหนา้ ที่งานใด กจ็ ะนาบตั รลงเวลา ดงั กล่าวสอดเขา้ ไปในนาฬิกาเพอื่ บนั ทึกเวลาการเขา้ ทางาน เมื่อทาเสร็จกท็ าการบนั ทึกเวลาเลิก งาน ซ่ึงจะเป็นประโยชนต์ อ่ การจ่ายคา่ แรงและการจาแนกคา่ แรงงานของแผนกต่างๆ หรือแยก คา่ แรงงานตามคาสงั่ ผลิตสินคา้ แตล่ ะรุ่น ในบตั รลงเวลาจะตอ้ งมีช่ือของคนงาน รหสั ประจาตวั แผนกงานที่สังกดั และตอ้ งวางไวใ้ กลก้ บั นาฬิกาและตอ้ งเป็นทางเขา้ และออกจากหน่วยงาน เพอื่ ความสะดวกในการบนั ทึกเวลา อาจติดต้งั ระบบปิ ดนาฬิกาอตั โนมตั ิเมื่อถึงเวลาเขา้ ทางาน เพ่อื ให้ คนท่ีมาทางานสายไม่มีโอกาสบนั ทึกเวลาได้ แผนกผคู้ วบคุมเวลาการทางาน จะทาการตรวจสอบ บตั รลงเวลาน้ี จากน้นั จะรวบรวมเพื่อไปคานวณค่าแรงงาน หรืออาจส่งใหห้ น่วยงานท่ีมีหนา้ ที่ใน การคานวณทาการคานวณตอ่ ไป
1.4 ระบบบนั ทึกเวลาดว้ ยลายนิ้วมือ (บตั ร Finger Scan and Card Time Attendance System) เครื่องสแกนลายนิ้วมือเป็นอุปกรณ์ที่เขา้ มามีบทบาทอยา่ งมากในดา้ นการบนั ทึกเวลาทางาน ซ่ึงมี คุณสมบตั ิท่ีหลากหลาย สามารถใชง้ านไดท้ ุกรูปแบบที่แตกตา่ งกนั ออกไป ทาใหเ้ ลือกใชเ้ ครื่องบนั ทึก เวลาในปัจจุบนั สะดวกสบายมากข้ึน เครื่องสแกนลายนิ้วมือ หรือเครื่องบนั ทึกเวลาน้ีเป็นระบบบนั ทึกเวลาทางาน เป็นระบบการทางาน สมยั ใหม่แบบออนไลน์ โดยขอ้ มูลของพนกั งานท้งั หมดจะถูกส่งไปจดั เกบ็ อยา่ งปลอดภยั พร้อมใชง้ าน ผา่ นเวบ็ เบราวเ์ ซอร์ จะแตกต่างจากระบบเดิมไม่จาเป็นตอ้ งตอ่ เช่ือมกบั เคร่ืองคอมพวิ เตอร์หรือเครื่องแม่ ข่าย และไม่จาเป็นตอ้ งซ้ือหรือติดต้งั ซอฟตแ์ วร์พิเศษใดๆ เพยี งตอ่ อุปกรณ์อ่านบตั รและลายนิ้วมือเขา้ กบั เครือข่ายภายใน (LAN) เดิมท่ีสามารถเช่ือมกบั อินเทอร์เน็ตได้ ขอ้ มูลเวลาเขา้ -ออกของพนกั งาน ท้งั หมดจะถูกส่งไปจดั เกบ็ อยา่ งปลอดภยั ในศูนยข์ อ้ มูลของไมโครซอฟต์ ผบู้ ริหาร เจา้ หนา้ ท่ีฝ่ ายบุคคล รวมท้งั พนกั งานในองคก์ รทุกคนสามารถเขา้ ใชง้ านระบบผา่ นเวบ็ เบราวเ์ ซอร์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ แทบ็ เลต็ หรือสมาร์ทโฟนเพ่ือตรวจสอบขอ้ มูลเวลาทางาน ส่งคาขอลากิจ ลาป่ วย ทางานล่วงเวลา อนุมตั ิหรือ ปฏิเสธคาขอตา่ งๆ ไดจ้ ากทุกท่ีตลอดเวลา โดยไม่ตอ้ งลงทุนซ้ืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรือซอฟตแ์ วร์ราคาสูง
1.5เครื่องบนั ทึกเวลาดว้ ยระบบคอมพวิ เตอร์ (Time Attendance) เครื่องบนั ทึกเวลาดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์เป็นเทคโนโลยที ่ีนามาช่วยลดข้นั ตอนการ ทางานท่ียงุ่ ยาก เช่น ระบบบาร์โคด้ (Barcode) แบบแถบแม่เหลก็ (Magnetic) แบบคล่ืนวิทยุ (Proximity) แบบสมาร์ทการ์ด (Contactless Smart Card) และแบบใชฝ้ ่ ามือ (Biometric) โดย เคร่ืองน้ีจะช่วยในการบนั ทึกขอ้ มูล การลงเวลาของพนกั งาน เม่ือพนกั งานทาการบนั ทึก เวลา ขอ้ มูลจะเกบ็ ลงในหน่วยความจาของตวั เคร่ืองในรูปของขอ้ มูลดิบ (Text File) แลว้ ส่งขอ้ มูลมายงั คอมพิวเตอร์ซ่ึงมีโปรแกรมประมวลผลเวลาทางาน รายงานการทางาน สรุปตามวนั และชวั่ โมงการทางาน การขาด ลา สาย การทางานล่วงเวลา ฯลฯ พร้อมท้งั คานวณค่าจา้ งหรือเงินเดือนของพนกั งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงสามารถรองรับ ระบบโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ไดอ้ ยา่ งดี
2.ใบสรุปเวลาการทางาน หรือเรียกวา่ “บตั รจาแนกเวลาการทางาน” คือ หลกั ฐานที่ใชบ้ นั ทึกเวลาในการทางานของพนกั งานวา่ ไดใ้ ชเ้ วลาในการ ทางานไปกบั การผลิตงานใดบา้ ง ซ่ึงจะแสดงใหท้ ราบถึงประเภทงาน สถานที่ และเวลาท่ีแต่ละคนปฏิบตั ิงาน โดยทวั่ ไปหวั หนา้ หรือผคู้ วบคุมคนงานมกั มี หนา้ ที่ในการกรอกใบสรุปเวลาการทางานดงั กล่าว แต่บางคร้ังอาจให้ พนกั งานเป็นผจู้ ดบนั ทึกเอง ถา้ ในกรณีที่เป็นพนกั งานไดร้ ับคา่ ตอบแทนใน รูปของเงินเดือน กไ็ ม่จาเป็นตอ้ งจดั ทาบตั รบนั ทึกเวลาการทางาน เพราะ พนกั งานเหล่าน้นั ทางานในแผนกเดียว หนา้ ที่เดียว ซ่ึงค่าแรงงานท่ีเกิดข้ึน ท้งั หมดถือเป็นค่าแรงงานทางออ้ ม และจะนาไปคิดเป็นค่าใชจ้ ่ายในการผลิต
การบนั ทกึ เวลาการทางานน้ันอาจแบง่ ไดเ้ ป็ น 2 ลกั ษณะ คอื
บตั รบันทึกเวลาประจางาน (Job Time Ticket) และบตั รบนั ทกึ เวลาประจาวนั (Daily Time Ticket) บตั รบนั ทกึ ประจางานนนั้ ในทางปฏบิ ตั อิ าจมคี วามแตกตา่ งกนั ไปในแต่ละ กจิ การ แตโ่ ดยทวั่ ไปแลว้ จะประกอบไปดว้ ยขอ้ มลู ของเวลาเรม่ิ และสน้ิ สุดของงาน ลกั ษณะงาน อตั ราคา่ แรงและตน้ ทนุ รวมของคา่ แรงงานทใ่ี ชใ้ นการทางานประเภท นนั้ กรณที พ่ี นกั งานคนใดคนหน่ึงตอ้ งมกี ารเปลย่ี นงานทาในหลายประเภทหรอื หลายชน้ิ งานในแต่ละวนั ดงั นนั้ แทนทก่ี จิ การจะมกี ารทาบตั รบนั ทกึ เวลาประจางาน ขน้ึ หลายใบตามลกั ษณะงานทเ่ี ปลย่ี นไปกอ็ าจเปลย่ี นมาใชบ้ ตั รบนั ทกึ เวลาประจาวนั การคานวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ท่ีจ่าย ตามมาตรา50(1)แห่งประมวล รษั ฎากร กรณีการจ่ายเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา40(1)แห่งประมวลรษั ฎากร แต่ ไมร่ วมถงึ เงนิ ไดท้ น่ี ายจา้ งจา่ ยใหค้ รงั้ เดยี วเพราะเหตุออกจากงาน
1. กฎหมายเกยี่ วกบั ภาษีเงนิ ไดห้ กั ณ ทจี่ า่ ย 1.1 มาตรา 50 ใหบ้ ุคคล หา้ งหุน้ สว่ น บรษิ ทั สมาคม หรอื คณะบุคคล ผู้จ่ายเงนิ ได้พงึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 หกั ภาษีเงนิ ได้ทุกคราวท่จี ่ายเงนิ ได้พึงประเมนิ กรณที จ่ี า่ ยเงนิ เดอื น คา่ จา้ ง 40 (1) (2) ใหค้ านวณตามเกณฑม์ าตรา 48 1.2 มาตรา 3 เตรส โดยคาสงั่ กรมสรรพากรท่ี 1.3 มาตรา 69 ทวิ ผหู้ กั ภาษี ณ ที่จ่ายเป็นรัฐบาล เก่ียวข้อง ผู้จ่ายเงินและหักภาษีเป็ นนิติบุคคล เป็นผจู้ ่ายเงินตามมาตรา 40 ใหก้ บั นิติบุคคล คานวณ จา่ ยใหแ้ กผ่ เู้ สยี ภาษที เ่ี ป็นบคุ คลธรรมดา และผเู้ สยี ภาษที เ่ี ป็นนิตบิ ุคคล หกั ภาษีเงินไดไ้ ว้ ณ ท่ีจ่ายในอตั ราร้อยละ 1 1.4มาตรา 69 ตรี ใหบ้ ุคคล หา้ งหนุ้ สว่ น บรษิ ทั สมาคม 1.5 มาตรา 70 สาหรับนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายของ หรอื คณะบคุ คลจา่ ยเงนิ ไดต้ ามมาตรา 40 (8) เฉพาะท่ี ต่างประเทศไม่ไดป้ ระกอบกิจการในประเทศไทยไดร้ ับเงิน จา่ ยใหก้ บั บรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนิตบิ ุคคลซง่ึ ขาย ไดต้ ามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ท่ีจ่ายจากหรือใน อสงั หารมิ ทรพั ย์ ประเทศไทย
มาตรา 76 หา้ มมิใหน้ ายจา้ งหกั ค่าจา้ ง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยดุ และค่าล่วงเวลาในวนั หยดุ ยกเวน้
1. ชาระภาษีเงินไดต้ ามจานวนท่ีลูกจา้ งตอ้ งจ่ายหรือชาระเงินอื่นตามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิไว้
2. ชาระค่าบารุงสหภาพแรงงานตามขอ้ บงั คบั ของสหภาพแรงงาน
3. ชาระหน้ีสินสหกรณ์ออมทรัพยห์ รือสหกรณ์อื่นที่มีลกั ษณะเดียวกนั หรือหน้ีที่เป็นไปเพื่อ สวสั ดิการที่เป็นประโยชนแ์ ก่ลูกจา้ งฝ่ ายเดียว โดยไดร้ ับความยนิ ยอมล่วงหนา้ จากลูกจา้ ง
4. เป็นเงินประกนั ตามมาตรา 10 หรือชดใชค้ ่าเสียหายใหแ้ ก่นายจา้ ง ซ่ึงลูกจา้ งได้ กระทาโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออยา่ งร้ายแรง โดยไดร้ ับความยนิ ยอมจากลูกจา้ ง
5. เป็นเงินสะสมตามขอ้ ตกลงเก่ียวกบั กองทุนเงินสะสม
การหกั ตาม (2) (3) (4) (5) ในแตล่ ะกรณีหา้ มหกั เกินร้อยละ 10 และจะหกั รวมกนั ไดไ้ ม่เกิน 1 ใน 5 ของเงินที่ลูกจา้ งมีสิทธิไดร้ ับ เวน้ แต่จะไดร้ ับความ ยนิ ยอมจากลูกจา้ ง หา้ มนายจา้ งหกั ค่าตอบแทนในการทางาน ไดแ้ ก่ ค่าจา้ ง ค่า ล่วงเวลา คา่ ทางานในวนั หยดุ และค่าลว่ งเวลาในวนั หยดุ ทะเบียนค่าแรง โดยทะเบียนคา่ แรง (Payroll Register) ใชบ้ นั ทึกรายละเอียด เก่ียวกบั คา่ แรงงานท้งั หมดท่ีกิจการจะตอ้ งจ่ายในแต่ละงวดของพนกั งานและ คนงาน โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกบั เงินเดือน ค่าแรง ค่าลว่ งเวลา (ถา้ มี) รายการหกั ต่างๆ เช่น เงินสมทบกองทุนประกนั สงั คม ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาหกั ณ ที่จ่าย เงินสะสมกองทุนสารองเล้ียงชีพ เงินเบิกล่วงหนา้ เงินกยู้ มื เป็นตน้ โดยทวั่ ไปฝ่ ายบญั ชีคา่ แรงงาน (Payroll Accounting Dept.) จะเป็นผทู้ าหนา้ ที่ จดั เกบ็ และรวบรวมขอ้ มูลเวลาการทางานของพนกั งานและลูกจา้ ง เพ่ือคานวณ ค่าแรงรวมถึงการบนั ทึกบญั ชี แตก่ ิจการบางแห่งอาจใหเ้ ป็นหนา้ ที่ของฝ่ าย บุคคล ส่วนฝ่ ายบญั ชีค่าแรงจะคานวณและบนั ทึกบญั ชี
ข้นั ตอนของการปฏิบตั ิ โดยการบนั ทึกบญั ชีเกี่ยวกบั ค่าแรงน้นั มีวธิ ีปฏิบตั ิอยู่ 2 วธิ ี คือ วิธีบญั ชีสินคา้ คงเหลือแบบสิ้นงวด (Periodic Inventory Method) และวธิ ีบญั ชีสินคา้ คงเหลือแบบต่อเน่ือง (Perpetual Inventory Method) มีหลกั การบนั ทึกบญั ชี ดงั ต่อไปน้ี
รายการ วธิ ีสินค้าคงเหลือแบบสิ้นงวด วธิ ีสินค้าคงเหลือแบบต่อเน่ือง 1.เมื่อจ่ายค่าแรงทางตรง และค่าแรง เดบิตค่าแรงทางตรง XX เดบิตงานระหวา่ งทา XX ทางออ้ มเป็นเงินสด ค่าแรงทางออ้ ม XX ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต XX 2.เมื่อจ่ายค่าล่วงเวลาทางตรง และค่า ล่วงเวลาทางทางออ้ ม เครดิต เงินสด XX เครดิตเงินสด XX 3.เมื่อมีการปรับปรุงค่าแรงทางตรงและ เดบิตค่าแรงทางตรง XX เดบิตงานระหวา่ งทา XX ค่าแรงทางออ้ ม ค่าแรงทางออ้ ม XX ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต XX เครดิตเงินสด XX เครดิตเงินสด XX 4.เมื่อจ่ายค่าแรงค้างจ่าย XX เดบิตค่าแรงทางตรง เดบิตงานระหวา่ งทา XX ค่าแรงทางออ้ ม XX XX ค่าใชจ้ ่ายในการผลิต XX เครดิตค่าแรงคา้ งจ่าย XX เครดิตค่าแรงคา้ งจ่าย XX เดบิตค่าแรงค้างจ่าย เดบิตค่าแรงค้างจ่าย XX เครดติ เงนิ สด XX เครดติ เงนิ สด XX
5.เม่ือจ่ายค่าแรงทางตรง หกั เงินประกนั สังคม เดบิตคา่ แรงคา้ งจ่ายXX เดบิตงานระหวา่ งทา XX เงินสมทบกองทุนประกนั สงั คม XX และภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาหกั ณ ท่ีจ่าย เครดิตเงินสด XX เครดิตเงินประกนั สงั คมคา้ งจ่ายXX ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่ายเงินสดXX 6.เมื่อจ่ายคา่ แรงทางออ้ ม หกั เงินประกนั สังคม เดบิตค่าแรงทางตรง XX และภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา เงินสมทบกองทุนประกนั สังคม XX เดบิตคา่ ใชจ้ ่ายในการผลิต XX เครดิตเงินประกนั สังคมคา้ งจ่าย XX เงินสมทบกองทุนประกนั สงั คม XX ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่ายเงินสด XX เครดิตเงินประกนั สงั คมคา้ งจ่ายXX ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่ายเงินสดXX 7.นาส่งเงินสมทบกองทุนประกนั สงั คม (ภายใน เดบิตเงินประกนั สังคมคา้ งจ่ายXX วนั ท่ี 15 ของเดือนถดั ไป) เครดิตเงินสด/เงินฝากธนาคารXX เดบิตเงินประกนั สังคมคา้ งจ่ายXX เครดิตเงินสด/เงินฝากธนาคารXX 8.นาส่งภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาหกั ณ ท่ีจ่าย เดบิตภาษีเงินไดฯ้ หกั ณ ท่ีจ่ายXX เดบิตภาษีเงินไดฯ้ หกั ณ ที่จ่ายXX (ภายใน 7 วนั นบั แตว่ นั เครดิตเงินสด/เงินฝากธนาคารXX เครดิตเงินสด/เงินฝากธนาคารXX สิ้นเดือนของเดือนท่ีจ่ายเงิน)
การบนั ทกึ บญั ชี เกยี่ วกบั สทิ ธบิ ตั ร ดงั นี้ เมื่อมีการซ้ือสิทธิบตั ร จะบนั ทึกบญั ชีดงั น้ี เดบิต สิทธิบตั ร XX เครดิต เงินสด/เจา้ หน้ี XX เม่ือมีการตดั บญั ชี หรือตดั จาหน่ายเป็นคา่ ใชจ้ ่าย จะบนั ทึกบญั ชีดงั น้ี เดบิต สิทธิบตั รตดั บญั ชี(ตดั จาหน่าย) XX เครดิตสิทธิบตั ร XX หรือในวนั สิ้นงวดบญั ชี จะบนั ทึกรายการปรับปรุงค่าตดั จาหน่ายสิทธิบตั ร ไดด้ งั น้ี เดบิตค่าตดั จาหน่าย-สิทธิบตั ร XX เครดิตคา่ ตดั จาหน่ายสะสม-สิทธิบตั ร XX หมายเหตุ บญั ชีสิทธิบตั รถือเป็นบญั ชีประเภทสินทรัพยไ์ ม่หมุนเวียนส่วนบญั ชีค่า ตดั จาหน่ายสะสม-สิทธิบตั ร จดั เป็ นบญั ชีปรับมูลค่าสินทรัพย์ โดยแสดงเป็ นรายการหัก จากบญั ชีสิทธิบตั ร จะแสดงในงบแสดงฐานะการเงิน ส่วนบญั ชีสิทธิบตั รตดั บญั ชี (ตดั จาหน่าย) จดั เป็นบญั ชีประเภทค่าใชจ้ ่ายในการผลิต จะแสดงในงบตน้ ทุนผลิต
หน่วยที่ 6 คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ
สาระการเรยี นรู ้
1. การบนั ทกึ บญั ชีเก่ียวกบั คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ 2. การคดิ คา่ ใชจ้ า่ ยการผลติ เขา้ เป็นตน้ ทนุ ผลติ ภณั ฑ์ 3. ความหมายของต้นทุนการผลิต 4. สนิ คา้ คงเหลอื ของกจิ การอุตสาหกรรม 5. การคานวณตน้ ทนุ สนิ คา้ คงเหลอื
ค่าใช้จ่ายการผลติ และ ประเภทของค่าใช้จ่ายการผลติ รวมท้งั การคานวณและ บันทกึ บญั ชีทเี่ กย่ี วข้อง โดยค่าใช้จ่ายการผลติ ถือเป็ น ค่าใช้จ่ายของกจิ การอตุ สาหกรรม การบันทกึ บญั ชี เหมือนกบั ค่าใช้จ่ายอื่นๆ คือ
เดบิต ค่าใชจ้ ่ายการผลิตต่างๆ XX เครดิตเงินสด/ธนาคาร/บญั ชีท่ีปรับปรุงต่างๆ XX ค่าใชจ้ ่ายการผลิต โดยทว่ั ไปจะมีการบนั ทึกบญั ชีอยู่ 2 วธิ ี ดงั น้ี 1. การบนั ทึกบญั ชีแบบสิ้นงวด (Periodic Method) 2. การบนั ทึกบญั ชีแบบต่อเน่ือง (Perpetual Method)
หลกั การบนั ทึกบญั ชีเก่ียวกบั ค่าใชจ้ ่ายการผลิต (บางส่วน) มีดงั น้ี รายการ แบบสิ้นงวด (Periodic Method) แบบต่อเน่ือง (Perpetual Method) 1.ปรับปรุงคา่ ใชจ้ ่ายใน เดบิตค่าใชจ้ ่าย (ระบุช่ือ) XX เดบิตคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX เครดิตค่าใชจ้ ่ายคา้ งจ่าย(ระบุช่ือ) XX โรงงานคา้ งจ่าย เครดิตค่าใชจ้ ่ายคา้ งจ่าย (ระบชุ ่ือ)XX 2.ปรับปรุงวสั ดุโรงงานใช้ เดบิตวสั ดุโรงงานใชไ้ ป XX เดบิตคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX ไป(วสั ดุสิ้นเปลืองใชไ้ ป) เครดิตวสั ดุโรงงาน XX เครดิตวสั ดุโรงงาน XX 3.โอนค่าสาธารณูปโภค เดบิตคา่ สาธารณูปโภคโรงงานXX เดบิตคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX ไปโรงงาน เครดิตคา่ สาธารณูปโภค XX เครดิตคา่ สาธารณูปโภค XX 4.เม่ือมีการตดั บญั ชี หรือ เดบิตสิทธิบตั รตดั บญั ชี (ตดั จาหน่าย) XX เดบิตค่าใชจ้ ่ายการผลิต XX ตดั จาหน่ายเป็นค่าใชจ้ ่าย เครดิตสิทธิบตั ร XX เครดิต สิทธิบตั ร XX หรือเดบิตคา่ ตดั จาหน่าย-สิทธิบตั ร XX หรือเดบิตคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX เครดิตค่าตดั จาหน่ายสะสม-สิทธิบตั ร XX เครดิตค่าตดั จาหน่ายสะสม-สิทธิบตั ร XX
5.คิดคา่ เส่ือมราคาสินทรัพยใ์ นโรงงาน เดบิตคา่ เส่ือมราคา-(ระบุชื่อ)XX เดบิตคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX เครดิตค่าเส่ือมราคาสะสม-(ระบุช่ือ) เครดิตคา่ เสื่อมราคาสะสม-(ระบุช่ือ) XX XX 6.โอนค่าเบ้ียประกนั ภยั จ่ายลว่ งหนา้ ของโรงงาน เดบิตค่าเบ้ียประกนั ภยั โรงงาน XX เดบิตคา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX เครดิตคา่ เบ้ียประกนั จ่ายลว่ งหนา้ XX เครดิตคา่ เบ้ียประกนั จ่ายลว่ งหนา้ XX 7.โอนคา่ ใชจ้ ่ายในการผลิตเขา้ บญั ชีงานระหวา่ งทา ไม่บนั ทึกบญั ชี เดบิตงานระหวา่ งทา XX เครดิต คา่ ใชจ้ ่ายการผลิต XX 8.โอนงานระหวา่ งทาท่ีผลิตเสร็จเขา้ บญั ชีสินคา้ ไม่บนั ทึกบญั ชี เดบิตสินคา้ สาเร็จรูป XX สาเร็จรูป เครดิตงานระหวา่ งทา XX
สินคา้ คงเหลือของกิจการอุตสาหกรรม ตามมาตรฐานการบญั ชี ฉบบั ท่ี 2 เรื่อง สินคา้ คงเหลือ 01 ถือไว้เพื่อขาย ตามลกั ษณะการประกอบธุรกจิ ตามปกติ ของกจิ การ
02 อยูใ่ นระหวา่ งกระบวนการผลติ เพอื่ ใหเ้ ป็ นสนิ คา้ สาเรจ็ รูปเพอื่ ขาย
03 อยู่ในรูปของวตั ถุดบิ หรือวสั ดุทมี่ ไี ว้เพื่อใช้ใกระบวน การผลติ สินค้า หรือให้บริการ
ประเภทของสินค้าคงเหลือประกอบด้วย 1. สินค้าสาเร็จรูป 2. งานระหว่างทา/สินค้าระหว่างผลิต (Finished Goods) (Work-in-Process Inventory / Goods in Process Inventory) 3. วตั ถุดบิ 4. วสั ดุโรงงาน (Material Inventory) (Factory Supplies)
การคานวณตน้ ทุนสินคา้ คงเหลือ โดยการคานวณตน้ ทุนสินคา้ คงเหลือตาม มาตรฐานการบญั ชี และ International Accounting Standard หรือ IAS จึงแบ่งออกเป็น 4 วธิ ี ดงั น้ี
1. วธิ ีราคาเจาะจง (Specific Identification Method) 2. วธิ ีเขา้ ก่อน-ออกก่อน (First-In, First-Out Method/FIFO) 3. วธิ ีถวั เฉล่ียถ่วงน้าหนกั (Weighted Average Method) 4. วิธีถวั เฉลี่ยเคล่ือนไหว หรือเคลื่อนท่ี (Moving Average Method)
การคานวณตน้ ทนุ สนิ คา้ คงเหลอื โดยการคานวณตน้ ทุนสนิ คา้ คงเหลอื มี 3 วธิ คี อื
1. วิธีราคาเจาะจง (Specific Identification Method) วธิ ีน้ี เหมาะสาหรับสินคา้ ที่ มีปริมาณไม่มาก และไม่อาจสบั เปลี่ยนกนั ได้ หรือเป็นสินคา้ ท่ีผลิตข้ึนและแยก ต่างหากไว้ สาหรับโครงการหน่ึงโครงการใดโดยเฉพาะ การเลือกใชว้ ธิ ีน้ีทาให้ ทราบราคาทุนที่แทจ้ ริงของสินคา้ แต่ละรายการ เน่ืองจากการนาสินคา้ ไปใชจ้ ะ เป็นลกั ษณะที่สินคา้ ท่ีทราบตน้ ทุนอยา่ งชดั เจน
2. วธิ ีเขา้ ก่อน-ออกก่อน (First- In, First-Out Method/FIFO) วธิ ีน้ีเหมาะสาหรับสินคา้ ที่มีปริมาณมากหรือสินคา้ ท่ีมีลกั ษณะการนาไปใช้ ในลกั ษณะคลา้ ยคลึงกนั หรือใกลเ้ คียงกนั หรือสบั เปลี่ยนกนั ได้ การเลือกใช้ วธิ ีน้ีทาใหท้ ราบราคาทุนที่ใกลเ้ คียงกบั ความเป็นจริงในปัจจุบนั เน่ืองจากการ นาสินคา้ ไปใชจ้ ะเป็นลกั ษณะที่สินคา้ ที่ซ้ือเขา้ มาก่อนจะถูกนาไปใชก้ ่อน ดงั น้นั สินคา้ คงเหลือจะเป็นสินคา้ ท่ีซ้ือมาคร้ังหลงั ๆ
3. วธิ ีถวั เฉล่ียถ่วงน้าหนกั (Weighted Average Method) วธิ ีน้ีเหมาะสาหรับ สินคา้ ท่ีมีปริมาณมากหรือสินคา้ ท่ีมีลกั ษณะการนาไปใชใ้ นลกั ษณะคลา้ ยคลึง กนั หรือใกลเ้ คียงกนั หรือสบั เปลี่ยนกนั ได้ คลา้ ยกบั วธิ ีเขา้ ก่อน-ออกก่อน การ เลือกใชว้ ธิ ีน้ีทาใหท้ ราบราคาทุนถวั เฉล่ีย ราคาทุนจะสูงหรือต่า ข้ึนอยกู่ บั ตน้ ทุนการซ้ือหรือการผลิตในแต่ละคร้ัง วธิ ีน้ีใชก้ บั กิจการที่ใชว้ ิธีบนั ทึกบญั ชี สินคา้ แบบสิ้นงวด
รายการสินคา้ คงเหลือของกิจการผลิตในงบการเงิน โดยสินคา้ คงเหลือ ไม่วา่ จะเป็นของกิจการประเภทใด ถือเป็นสินทรัพยห์ มุนเวยี น (Current Assets) สาหรับกิจการผลิต สินคา้ คงเหลือ จะแสดงในงบต่าง ๆ ดงั น้ี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198