ร่าง คมู่ อื การตรวจสอบเอกสารเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จดั จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง https://online.pubhtml5.com/pann/mlqq/ กองคลงั สำนักงานปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2564
(ก) คำนำ ตามที่กระทรวงการคลัง ได้ออกพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และสภาวการณ์ปัจจุบัน ประกาศ ในราชกจิ จานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 กมุ ภาพันธ์ 2560 และมผี ลบังคบั ใชต้ ัง้ แต่วันที่ 23 สิงหาคม 2560 เปน็ ต้นไป ให้หนว่ ยงานของรฐั ทุกแหง่ ถือปฏิบตั ิ โดยหน่วยงานของรฐั ต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามวธิ ีการที่กำหนด และจากการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ทำให้เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสาร การเบิกจ่ายเงินจากการจัดซ้ือจัดจ้าง ตอ้ งมีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย ระเบยี บ หนงั สอื เวียนท่ีเก่ียวข้อง และขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงเอกสารประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อใช้ในการ ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงิน ก่อนนำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติ เบกิ จา่ ยเงนิ ใหก้ บั เจา้ หนี้หรือผูม้ ีสิทธิ ดังนั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงินจากการ จัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เข้าใจถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เพื่อใช้เป็นแนวทาง ในการตรวจสอบเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดทำคู่มือเล่มนี้ข้ึน โดยผู้จัดทำหวังว่าคู่มือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานหรือผู้สนใจ หากมีส่วนใดขาดตกบกพร่อง หรือมีข้อเสนอแนะ ขอให้แจ้งผู้จัดทำไปเพื่อจักได้ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ขึ้น โดยแจ้งไปยัง E-mail : [email protected] ตอ่ ไปดว้ ย จกั ขอบคณุ มาก วนิดา โฆษติ เสถยี รกลุ เมษายน 2564
สารบญั (ข) คำนำ หน้า สารบัญ บทท่ี 1 บทนำ (ก) (ข) - หลกั การและเหตุผล 1 - วัตถปุ ระสงค์ 1 - ขอบเขต 1 บทท่ี 2 สาระสำคัญของกฎหมาย และระเบยี บทเ่ี กี่ยวข้อง 2 - นิยามศัพทเ์ ฉพาะ 3 บทที่ 3 กระบวนการจดั ซื้อจัดจา้ ง 3 - Work Flow กระบวนการจดั ซื้อจดั จ้าง 12 - Work Flow กระบวนการจัดซื้อจดั จ้างวธิ ีเฉพาะเจาะจง 13 บทท่ี 4 การตรวจสอบเอกสารเบกิ จ่ายเงนิ 25 - ขัน้ ตอนการปฏบิ ตั งิ าน 34 - มาตรฐานคณุ ภาพงาน 34 - เอกสารอา้ งอิง 114 115
บทท่ี 1 บทนำ หลักการและเหตผุ ล ตามท่กี ระทรวงการคลัง ไดอ้ อกพระราชบัญญัติการจดั ซ้อื จัดจ้างและการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และสภาวการณ์ปัจจุบัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2560 ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งถือปฏิบัติ โดยการดำเนินการ จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐ จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการจัดซ้ือ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการจัดซ้ือ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ตลอดจนหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี เฉพาะเจาะจง เป็นวิธีหนึ่งที่ถูกกำหนดขึ้นให้ส่วนราชการเลือกใช้หากเข้าหลักเกณฑ์ของวิธีดังกล่าว และจากการเปลย่ี นแปลงกฎหมาย วิธีปฏบิ ัติตา่ ง ๆ ทำใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีผ้ปู ฏบิ ตั ิงานด้านการตรวจสอบเอกสาร การเบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อจัดจ้าง จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจในกฎหมาย ระเบียบ หนังสือเวียน ท่ีเกี่ยวขอ้ ง และขัน้ ตอนการจัดซ้อื จดั จ้าง รวมถึงเอกสารประกอบการดำเนินงานตามขั้นตอนตา่ ง ๆ เพอื่ ใช้ ในการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสารประกอบการเบิกจ่ายเงินก่อนนำเสนอผู้มีอำนาจอนุมัติ เบกิ จ่ายเงินให้กับเจ้าหนห้ี รอื ผมู้ ีสิทธิ เพื่อให้การตรวจสอบเอกสารประกอบการจดั ซือ้ จัดจ้างโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานรัฐมนตรี สำหรับการขออนุมัติ เบิกจ่ายเงินต่อปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นไปด้วยความถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถเบิกจ่ายเงินได้รวดเร็วขึ้น จึงเห็นควรจัดทำคู่มือการตรวจสอบเอกสาร การเบิกจ่ายเงินจาการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน ของเจ้าหนา้ ท่ีผปู้ ฏิบัตงิ านดา้ นการตรวจสอบเอกสารใหม้ ีประสทิ ธภิ าพมากยิ่งข้นึ 1. วัตถุประสงค์ 1.1 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงินจากการจัดซ้ือ จัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ทราบถึงขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซอ้ื จัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครฐั พ.ศ.2560 1.2 เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสาร ประกอบการเบกิ จา่ ยเงนิ ให้มแี นวทางปฏบิ ัติเป็นไปในแนวทางเดยี วกัน และสามารถปฏิบตั ิงานแทนกันได้
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซือ้ จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 2 2. ขอบเขต คู่มือปฏบิ ตั ิงานนี้อธิบายถึงการจัดซื้อจัดจ้างตามหมวดที่ 6 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เพื่อให้ทราบถึงหลักการ ขั้นตอน การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เพื่อนำมาใช้เป็นแนวทางในการตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงิน ใหก้ ับเจา้ หน้าท่ีผปู้ ฏิบตั งิ านด้านการตรวจสอบเอกสารก่อนนำเสนอขออนุมตั เิ บิกจ่ายเงนิ ต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ
บทท่ี 2 สาระสำคญั ของกฎหมาย และระเบยี บทเ่ี ก่ียวข้อง 1. กฎหมายท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั การจดั ซ้ือจดั จา้ งและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั 1. พระราชบญั ญตั ิการจดั ซ้อื จัดจ้างและการบริหารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. 2560 2. กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบญั ญัตกิ ารจดั ซอ้ื จดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ ภาครฐั พ.ศ. 2560 3. ระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยการจดั ซ้อื จดั จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 2. นยิ ามศพั ทเ์ ฉพาะ การจัดซื้อจัดจ้าง หมายความว่า การดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุโดยการซื้อ จ้าง เช่า แลกเปล่ียน หรอื โดยนิตกิ รรมอ่นื ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง พัสดุ หมายความว่า สนิ ค้า งานบรกิ าร งานก่อสร้าง งานจา้ งท่ีปรึกษาและงานจ้างออกแบบ หรอื ควบคมุ งานก่อสร้าง รวมทั้งการดำเนินการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง สินค้า หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอื่นใด รวมท้ัง งานบริการท่รี วมอย่ใู นสินคา้ นนั้ ดว้ ย แต่มลู คา่ ของงานบรกิ ารตอ้ งไม่สงู กวา่ มูลคา่ ของสินค้านน้ั งานบริการ หมายความวา่ งานจ้างบรกิ าร งานจ้างเหมาบริการ งานจา้ งทำของและการรับขน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล แต่ไม่หมายความรวมถึงการจ้าง ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ การรับขนในการเดินทางไปราชการหรือไปปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ งานจ้างที่ปรึกษา งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณชิ ย์ งานก่อสร้าง หมายความว่า งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือส่ิงปลูกสร้าง อ่ืนใด และการซอ่ มแซม ต่อเติม ปรบั ปรงุ ร้อื ถอน หรือการกระทำอน่ื ท่มี ลี ักษณะทำนองเดยี วกนั ต่ออาคาร สาธารณูปโภค หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว รวมทั้งงานบริการทีร่ วมอยู่ในงานกอ่ สร้างนั้นด้วย แต่มูลค่าของ งานบรกิ ารต้องไมส่ งู กว่ามูลคา่ ของงานกอ่ สรา้ งนั้น อาคาร หมายความวา่ สิง่ ปลกู สรา้ งถาวรทบี่ ุคคลอาจเข้าอยูห่ รือใชส้ อยได้ เชน่ อาคารทที่ ำการ โรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรอื สิ่งปลูกสร้างอย่างอ่นื ทม่ี ีลกั ษณะทำนองเดียวกัน รวมทง้ั สิง่ กอ่ สร้างอื่น ๆ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยสำหรับอาคารน้ัน ๆ เช่น เสาธง รั้ว ท่อระบายน้ำ หอถังน้ำ ถนน ประปา ไฟฟา้ หรอื สง่ิ อ่นื ๆ ซ่ึงเปน็ สว่ นประกอบของตวั อาคาร เช่น เครอ่ื งปรบั อากาศ ลิฟท์ หรอื เครอ่ื งเรือน สาธารณูปโภค หมายความว่า งานอันเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การโทรคมนาคม การสื่อสาร การระบายน้ำ การขนส่งทางท่อ ทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ หรือทางราง หรือการอื่น ท่ีเกี่ยวข้องซ่ึงดำเนนิ การในระดบั พ้ืนดนิ ใตด้ ิน หรือเหนอื พ้นื ดนิ
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจัดซ้อื จัดจา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 4 งานจ้างที่ปรึกษา หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเพื่อเป็น ผู้ให้คำปรึกษาหรือแนะนำแก่หน่วยงานของรัฐในด้านวิศวกรรม สถาปัตยกรรม ผังเมือง กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ การเงิน การคลัง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรม การศึกษาวจิ ัย หรอื ดา้ นอื่นทอี่ ยูใ่ นภารกจิ ของรฐั หรือของหนว่ ยงานของรัฐ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคล ธรรมดาหรือนติ ิบคุ คลเพอื่ ออกแบบหรอื ควบคุมงานกอ่ สร้าง การบริหารพัสดุ หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบำรงุ รกั ษา และการจำหน่ายพัสดุ ราคากลาง หมายความว่า ราคาเพื่อใช้เป็นฐานสำหรับเปรียบเทียบราคาที่ผู้ยื่นข้อเสนอ ได้ย่นื เสนอไว้ซึ่งสามารถจดั ซอ้ื จัดจา้ งได้จรงิ ตามลำดบั ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ราคาที่ได้มาจากการคำนวณตามหลกั เกณฑท์ ่คี ณะกรรมการราคากลางกำหนด (2) ราคาท่ีได้มาจากฐานขอ้ มลู ราคาอ้างอิงของพสั ดุที่กรมบัญชีกลางจัดทำ (3) ราคามาตรฐานท่สี ำนกั งบประมาณหรือหนว่ ยงานกลางอืน่ กำหนด (4) ราคาท่ไี ดม้ าจากการสบื ราคาจากทอ้ งตลาด (5) ราคาทเ่ี คยซือ้ หรือจา้ งคร้งั หลงั สดุ ภายในระยะเวลาสองปีงบประมาณ (6) ราคาอน่ื ใดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวปฏบิ ัติของหนว่ ยงานของรฐั น้นั ๆ ในกรณีที่มีราคาตาม (1) ให้ใช้ราคาตาม (1) ก่อน ในกรณีที่ไม่มีราคาตาม (1) แต่มีราคา ตาม (2) หรือ (3) ให้ใช้ราคาตาม (2) หรือ (3) ก่อน โดยจะใช้ราคาใดตาม (2) หรือ (3) ให้คำนึงถึง ประโยชน์ของหน่วยงานของรฐั เป็นสำคัญ ในกรณีที่ไม่มีราคาตาม (1) (2) และ (3) ให้ใช้ราคาตาม (4) (5) หรือ (6) โดยจะใชร้ าคาใดตาม (4) (5) หรือ (6) ใหค้ ำนึงถงึ ประโยชนข์ องหน่วยงานของรฐั เปน็ สำคัญ เงินงบประมาณ หมายความว่า เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ หรือกฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐ ได้รับไว้โดยได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีให้ไม่ต้องนำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง เงินซึ่งหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยไม่ต้องนำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ตามกฎหมาย และเงินภาษีอากร ค่าธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ตกเป็นรายได้ของราชการ ส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายหรือที่ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจเรียกเก็บตามกฎหมาย และให้หมายความ รวมถึงเงนิ กู้ เงนิ ชว่ ยเหลือ และเงินอื่นตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง หน่วยงานของรัฐ หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการ สว่ นทอ้ งถนิ่ รัฐวสิ าหกิจตามกฎหมายวา่ ด้วยวิธีการงบประมาณ องคก์ ารมหาชน องค์กรอิสระ องค์กรตาม รัฐธรรมนูญ หน่วยธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกำกับของ รฐั สภา หน่วยงานอิสระของรฐั และหน่วยงานอน่ื ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งในกรณี ราชการส่วนกลาง หมายถงึ อธิบดี หรอื หวั หนา้ ส่วนราชการทเ่ี รยี กชือ่ อย่างอ่ืนและมฐี านะเปน็ นิตบิ ุคคล
คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจดั ซ้อื จดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 5 หัวหน้าเจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสายงานซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุตามที่กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐน้ัน กำหนด หรอื ผ้ทู ่ไี ด้รบั มอบหมายจากหวั หน้าหน่วยงานของรัฐให้เป็นหวั หน้าเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ ไดร้ บั มอบหมายจากผู้มีอำนาจให้ปฏิบัติหนา้ ทเ่ี ก่ยี วกับการจัดซ้ือจัดจา้ งหรือการบริหารพัสดขุ องหน่วยงาน ของรัฐ ผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน หมายความว่า บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เข้าเสนอราคา หรือ เข้ายื่นข้อเสนอในการจัดซื้อจัดจ้างต่อหน่วยงานของรัฐใด เปน็ ผู้มีสว่ นไดเ้ สยี ไม่วา่ โดยทางตรงหรือทางอ้อม ในกิจการของบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่นที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐนั้ น ในคราวเดยี วกนั ผู้มีหน้าท่ตี รวจสอบคณุ สมบตั ิ หมายความว่า คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก คณะกรรมการดําเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป คณะกรรมการดําเนินงานจ้ าง ที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก คณะกรรมการดําเนินงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีประกาศ เชิญชวนทั่วไป คณะกรรมการดําเนินงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างโดยวิธีคัดเลือก และ คณะกรรมการดาํ เนนิ งานจา้ งออกแบบงานก่อสรา้ งโดยวธิ ปี ระกวดแบบ 3. คณะกรรมการจดั ซอ้ื จัดจ้าง 1. การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละครั้ง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการ ซื้อหรอื จา้ งขึ้น เพื่อปฏิบัติการตามระเบยี บ พรอ้ มกบั กำหนดระยะเวลาในการพจิ ารณาของคณะกรรมการ แล้วแตก่ รณี ดงั น้ี 1.1 คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ 1.2 คณะกรรมการพิจารณาผลการสอบราคา 1.3 คณะกรรมการซอื้ หรือจ้างโดยวิธคี ดั เลอื ก 1.4 คณะกรรมการซอ้ื หรอื จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง 1.5 คณะกรรมการตรวจรับพสั ดุ 2. ให้คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะ รายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐภายในระยะเวลาที่กำหนด ถ้ามีเหตุที่ทำให้การรายงานล่าช้า ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ พจิ ารณาขยายเวลาใหต้ ามความจำเป็น 3. คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน และ กรรมการอย่างน้อย 2 คน ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงาน มหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น โดยให้คำนึงถึง ลักษณะหนา้ ทแ่ี ละความรับผดิ ชอบของผ้ทู ีไ่ ด้รบั แตง่ ต้งั เป็นสำคัญ
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซอื้ จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 6 4. ในกรณีจำเป็นหรือเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐจะแต่งตั้งบุคคลอื่นร่วมเป็น กรรมการดว้ ยกไ็ ด้ แตจ่ ำนวนกรรมการที่เป็นบคุ คลอนื่ นัน้ จะต้องไม่มากกวา่ จำนวนกรรมการตามที่กำหนด 5. การซื้อหรือจ้างครั้งเดียวกัน ห้ามแต่งตั้งผู้ที่เป็นกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กรรมการพิจารณาผลการสอบราคา หรอื กรรมการซอ้ื หรือจา้ งโดยวิธคี ดั เลือกเป็นกรรมการ ตรวจรับพสั ดุ 6. คณะกรรมการซื้อหรือจ้างทุกคณะ ควรแต่งตั้งผู้ชำนาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับ งานซื้อหรือจ้างนัน้ ๆ เข้ารว่ มเป็นกรรมการด้วย 7. การประชุมของคณะกรรมการแต่ละคณะ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนกรรมการทั้งหมด ให้ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีเสียงหนึ่งในการลงมติ โดยประธานกรรมการตอ้ งอยู่ด้วยทุกครั้งในการประชุม หากประธานกรรมการไม่สามารถปฏบิ ัตหิ น้าที่ได้ ให้หวั หน้าหนว่ ยงานของรัฐแต่งตัง้ ประธานกรรมการคนใหม่เป็นประธานกรรมการแทน 8. มติของคณะกรรมการให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการ ออกเสียงเพิม่ ขนึ้ อกี เสียงหนึ่งเปน็ เสยี งช้ีขาด เว้นแต่ คณะกรรมการตรวจรับพัสดใุ ห้ถือมตเิ อกฉันท์ 9. กรรมการของคณะใดไม่เหน็ ดว้ ยกับมติของคณะกรรมการ ใหท้ ำบันทกึ ความเห็นแย้งไวด้ ้วย 10. ประธานกรรมการและกรรมการ จะต้องไม่เปน็ ผ้มู สี ่วนไดเ้ สียกับผูย้ ่นื ข้อเสนอหรอื คสู่ ัญญา ในการซื้อหรือจ้างครั้งนั้น ทั้งน้ี การมีส่วนได้เสียในเรื่องซึ่งที่ประชุมพิจารณาของประธานกรรมการและ กรรมการให้เปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ปี ฏบิ ัติราชการทางปกครอง หากประธานหรือกรรมการทราบว่า ตนเปน็ ผมู้ สี ่วนได้เสียกบั ผู้ยื่นขอ้ เสนอหรอื คู่สญั ญาในการซอื้ หรือจา้ งครั้งนั้น ให้ประธานหรือกรรมการผู้น้ัน ลาออกจากการเป็นประธานหรือกรรมการในคณะกรรมการท่ีตนได้รับการแต่งตั้งนั้น และให้รายงาน หวั หนา้ หน่วยงานของรฐั ทราบเพอ่ื สั่งการตามที่เหน็ สมควรตอ่ ไป 4. การตรวจสอบผมู้ ีผลประโยชน์ร่วมกนั 1. เพือ่ เปน็ การเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ให้ผู้มหี นา้ ที่ตรวจสอบคุณสมบัติ ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละรายว่าเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ หากปรากฏว่ามีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน ให้ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติตัดรายชื่อ ผูย้ น่ื ขอ้ เสนอออกจากการเปน็ ผู้ย่ืนขอ้ เสนอในคร้ังนน้ั 2. ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอแต่ละราย ให้เจ้าหน้าที่กำหนดให้ ผูย้ ่นื ข้อเสนอย่ืนเอกสารแสดงคณุ สมบัติแยกมาตา่ งหาก โดยอย่างน้อยตอ้ งมีเอกสารดังต่อไปนี้ 2.1 ในกรณีผู้ย่นื ข้อเสนอเป็นนติ บิ ุคคล 2.1.1 ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการ จดทะเบยี นนติ บิ คุ คล บัญชีรายชอ่ื หุ้นส่วนผจู้ ดั การ ผ้มู อี ำนาจควบคุม (ถ้ามี) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 7 2.1.2 บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจด ทะเบียนนิติบคุ คล หนงั สือบรคิ ณห์สนธิ บญั ชรี ายชือ่ กรรมการผูจ้ ัดการ ผูม้ ีอำนาจควบคุม (ถา้ มี) และบัญชี รายชอ่ื ผู้ถอื หนุ้ รายใหญ่ (ถ้ามี) พร้อมท้งั รับรองสำเนาถูกต้อง 2.2 ในกรณีผู้ยื่นข้อเสนอเป็นบุคคลธรรมดาหรอื คณะบุคคลที่มใิ ช่นติ ิบุคคล ให้ยื่นสำเนา บัตรประจำตัวประชาชนของผู้นั้น สำเนาข้อตกลงที่แสดงถึงการเข้าเป็นหุ้นส่วน (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัว ประชาชนของผู้เป็นหุ้นสว่ น พร้อมทงั้ รับรองสำเนาถูกตอ้ ง 2.3 ในกรณีผู้ยนื่ ข้อเสนอเปน็ ผยู้ น่ื ข้อเสนอรว่ มกนั ในฐานะเปน็ ผู้ร่วมค้า ใหย้ ่ืนสำเนาสัญญา ของการเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใดเป็นบุคคล ธรรมดาที่มิได้ถือสัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือถ้าผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคลให้ยื่น เอกสารตามที่ระบไุ วใ้ น 2.1 2.4 เอกสารอื่นตามที่หน่วยงานของรัฐกำหนด เช่น สำเนาใบทะเบียนพาณิชย์ สำเนา ใบทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพม่ิ การยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติให้ยื่นมาพร้อมกับการยื่นข้อเสนอตามวิธีการ ที่กำหนด ในระเบียบนี้ การมีสว่ นได้เสยี ไม่วา่ โดยทางตรงหรือทางอ้อมของบุคคลธรรมดาหรอื นติ ิบุคคล ได้แก่ การที่ บุคคลธรรมดาหรอื นติ บิ คุ คลมคี วามสัมพันธก์ ันในลกั ษณะ ดังตอ่ ไปน้ี (1) มีความสัมพันธ์กันในเชิงบริหาร โดยผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผบู้ รหิ าร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนนิ งานในกิจการของบุคคลธรรมดาหรอื ของนิติบุคคลรายหน่ึง มีอํานาจ หรือสามารถใช้อํานาจในการบริหารจัดการกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของนิติบุคคลอีกรายหนึ่ง หรือหลายราย ที่เขา้ เสนอราคาหรอื เขา้ ย่ืนข้อเสนอตอ่ หน่วยงานของรฐั นน้ั ในคราวเดียวกัน (2) มีความสัมพันธ์กันในเชิงทุน โดยผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือผู้เป็นหุ้นส่วน ไม่จํากัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัด เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ น้ันในคราวเดยี วกัน คําว่า “ผ้ถู อื หนุ้ รายใหญ่” หมายความวา่ ผู้ถอื หนุ้ ซ่งึ ถือหนุ้ เกนิ กวา่ ร้อยละย่สี บิ ห้าในกิจการนั้น หรือในอัตราอื่นตามที่ผู้รักษาการตามระเบียบเห็นสมควรประกาศกําหนดสําหรับกิจการบางประเภท หรือบางขนาด (3) มีความสัมพันธก์ ันในลักษณะไขว้กันระหว่าง (1) และ (2) โดยผู้จดั การ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของบุคคลธรรมดา หรือของ นิติบุคคลรายหนึ่ง เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือห้างหุ้นส่วนจํากัด หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ในบริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดอีกรายหนึ่งหรือหลายราย ที่เข้าเสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอ ต่อหนว่ ยงานของรฐั นัน้ ในคราวเดยี วกนั หรือในนัยกลับกนั
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซอ้ื จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 8 การดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วน หรือการเข้าถือหุ้นดังกล่าวข้างต้นของคู่สมรสหรือบุตร ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลใน (1) (2) หรือ (3) ให้ถือว่าเป็นการดํารงตําแหน่ง การเป็นหุ้นส่วนหรือ การถอื หุน้ ของบุคคลดังกลา่ ว ในกรณีบุคคลใดใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร ผ้เู ปน็ หุน้ ส่วน หรือผู้ถือหนุ้ โดยทตี่ นเองเปน็ ผู้ใช้อํานาจในการบรหิ ารท่ีแท้จริง หรอื เปน็ หนุ้ ส่วน หรือผู้ถือหุ้น ที่แท้จริงของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจํากัด หรือบริษัทมหาชนจํากัด แล้วแต่กรณี และห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทจาํ กัด หรือบรษิ ัทมหาชนจํากัดท่ีเกี่ยวข้องได้เขา้ เสนอราคาหรือเข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐนั้น ในคราวเดียวกัน ให้ถอื วา่ ผยู้ น่ื ขอ้ เสนอนน้ั มคี วามสมั พันธ์กนั ตาม (1) (2) หรอื (3) แลว้ แตก่ รณี 5. การอทุ ธรณ์ ผู้ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอเพื่อทําการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับหน่วยงานของรัฐมีสิทธิอุทธรณ์เกี่ยวกับ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ในกรณีที่เห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบตั ิให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ กําหนดในพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในพระราชบัญญัติน้ี เปน็ เหตุให้ตนไม่ไดร้ บั การประกาศผลเปน็ ผู้ชนะหรือไม่ได้รบั การคดั เลือกเป็นคู่สญั ญากบั หน่วยงานของรฐั ผู้มสี ทิ ธิอทุ ธรณจ์ ะย่ืนอทุ ธรณใ์ นเรอ่ื งดังต่อไปน้ี ไมไ่ ด้ (1) การเลือกใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างหรือเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาผลการจัดซื้อจัดจ้าง ตามพระราชบัญญัตนิ ้ขี องหน่วยงานของรฐั (2) การยกเลิกการจดั ซื้อจดั จ้างตามมาตรา ๖๗ โดยมรี ายละเอียด ดังนี้ - หน่วยงานของรัฐนั้นไม่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือเงินงบประมาณทีไ่ ดร้ ับการจัดสรรไม่เพยี งพอท่จี ะทำการจัดซอ้ื จดั จา้ งน้ันต่อไป - ผู้ได้รับการคัดเลือกมีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือมีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอรายอ่ืน หรอื มีการขดั ขวางการแขง่ ขนั อย่างเปน็ ธรรม หรอื สมยอมกันกบั ผูย้ น่ื ข้อเสนอรายอื่น - เป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่ถ้าดำเนินการต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงาน ของรฐั หรือกระทบตอ่ ประโยชนส์ าธารณะ - กรณีอนื่ ตามทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง (3) การละเว้นการอ้างถึงพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตาม พระราชบัญญตั ินี้ ในสว่ นทเ่ี กย่ี วข้องโดยตรงกับการจัดซ้ือจัดจ้างในประกาศ เอกสาร หรอื หนงั สือเชิญชวน ของหน่วยงานของรัฐ (4) กรณีอนื่ ตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง การอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้อุทธรณ์ ต้องใช้ถ้อยคำสุภาพ และระบุ ขอ้ เทจ็ จรงิ และเหตุผลอันเปน็ เหตุแห่งการอุทธรณ์ให้ชดั เจน พร้อมแนบเอกสารหลกั ฐานทเ่ี กีย่ วข้อง
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 9 ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐนั้นภายในเจ็ดวันทําการ นับแต่วันประกาศ ผลการจัดซอ้ื จดั จ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบญั ชีกลาง มาตรา 118 กำหนดให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน เจ็ดวันทําการนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีที่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ก็ให้ดําเนินการตามความเห็นนั้น ภายในกาํ หนดเวลาดังกล่าว ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้เร่งรายงาน ความเห็นพรอ้ มเหตุผลไปยังคณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์ตามมาตรา ๑๑๙ ภายในสามวันทาํ การนับแต่ วนั ท่ีครบกําหนดตามวรรคหน่งึ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐแล้วให้พิจารณา อุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวนั นับแตว่ ันที่ได้รับรายงานดังกล่าว หากเรื่องใดไม่อาจพิจารณาได้ทัน ในกําหนดนั้น ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกินสองครั้ง ครั้งละไม่เกิน สิบห้าวนั นบั แตว่ ันท่ีครบกําหนดเวลาดังกลา่ ว และแจง้ ใหผ้ ู้อุทธรณ์และผชู้ นะการจดั ซื้อจัดจ้างหรือผู้ได้รับ การคดั เลอื กทราบ ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์ฟังขึ้นและมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้าง อย่างมีนัยสําคัญ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์สั่งให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการให้มีการจัดซ้ือ จัดจ้างใหม่ หรือเริ่มจากขั้นตอนใดตามที่เห็นสมควร ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่า อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น หรือไม่มีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสําคัญ ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐเพื่อทําการ จดั ซ้ือจัดจา้ งตอ่ ไป การวนิ จิ ฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ให้เปน็ ทส่ี ุด ในกรณีที่พ้นกําหนดระยะเวลาพิจารณาอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งแล้ว คณะกรรมการพิจารณา อุทธรณย์ งั พจิ ารณาไม่แล้วเสรจ็ ให้ยตุ เิ รื่อง และใหค้ ณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์แจ้งผูอ้ ุทธรณ์และผู้ชนะ การจัดซ้อื จดั จ้างหรือผไู้ ดร้ บั การคัดเลือกทราบ พรอ้ มกับแจง้ ให้หน่วยงานของรัฐทาํ การจัดซอ้ื จัดจา้ งตอ่ ไป ผู้อุทธรณ์ผู้ใดไม่พอใจคําวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ หรือการยุติเรื่อง และ เห็นวา่ หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้คา่ เสียหาย ผนู้ ้นั มสี ิทธฟิ อ้ งคดีต่อศาลเพ่ือเรียกให้หน่วยงานของรัฐ ชดใชค้ า่ เสียหายได้ แต่การฟ้องคดดี ังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างที่หนว่ ยงานของรัฐได้ลงนาม ในสัญญาจดั ซ้อื จัดจ้างนัน้ แลว้ 6. หลกั การจัดซอ้ื จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครัฐ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุในหน่วยงานของรัฐต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แก่หน่วยงานของรัฐ และต้องสอดคล้องกบั หลกั การดังน้ี 1. คุ้มค่า คือ พัสดุที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต้องมีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนอง วัตถุประสงค์ในการใช้งานของหน่วยงานของรัฐ มีราคาเหมาะสม และมีแผนการบริหารพัสดุที่เหมาะสม และชดั เจน
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 10 2. โปร่งใส คือ การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุต้องกระทําโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดําเนินงานชัดเจน และมีการ เปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดใุ นทุกขน้ั ตอน 3. มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล คือ ต้องมีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุล่วงหน้าเพื่อให้การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีการกําหนดเวลา ที่เหมาะสมโดยมีการประเมนิ และเปดิ เผยผลสมั ฤทธิข์ องการจัดซ้ือจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุ 4. ตรวจสอบได้ คือ มีการจัดเก็บขอ้ มลู การจัดซอ้ื จดั จ้างและการบริหารพสั ดุอย่างเป็นระบบ เพอ่ื ประโยชนใ์ นการตรวจสอบ 7. บทกำหนดโทษ มาตรา 120 กำหนดวา่ ผ้ใู ดเป็นเจา้ หนา้ ท่ีหรอื เปน็ ผู้มีอาํ นาจหนา้ ท่ใี นการดาํ เนนิ การเก่ียวกับ การจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือ การบริหารพัสดุตามพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน พระราชบัญญตั ินีโ้ ดยมิชอบเพ่ือให้เกิดความเสียหายแก่ผูห้ นึ่งผู้ใด หรือปฏิบตั ิหรอื ละเวน้ การปฏบิ ัติหนา้ ที่ ตามพระราชบัญญัติน้ี โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาท ถงึ สองแสนบาท หรอื ทั้งจําทงั้ ปรับ ผู้ใดเป็นผู้ใช้หรือผูส้ นับสนุนในการกระทําความผิดตามวรรคหนึง่ ผู้นั้นต้องระวางโทษตามท่ี กำหนดไว้สำหรบั ความผดิ ตามวรรคหนึง่ 8. ผมู้ ีอำนาจและการมอบอำนาจ ผู้มีอำนาจดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซือ้ จัดจา้ งและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ได้แก่ ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่กระทรวงกลาโหม หรือหน่วยงานของรฐั อ่ืนที่ผูร้ ักษาการตามระเบียบประกาศกำหนดใหห้ น่วยงานของรัฐนั้นสามารถกำหนด หนว่ ยงานระดับใด ผ้บู ังคับบัญชาชั้นใด ตำแหนง่ ใด มีอำนาจดำเนินการตามระเบยี บนกี้ ็ใหก้ ระทำได้ ผู้มีอำนาจดำเนินการข้างต้น หรือผู้มีอำนาจสั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามระเบียบนี้จะมอบอำนาจ เป็นหนังสือให้แก่ผู้ดำรงตำแหน่งใดก็ได้ซึ่งสังกัดหน่วยงานของรัฐเดียวกัน โดยให้คำนึงถึงระดับตำแหน่ง หน้าทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบของผทู้ ไี่ ดร้ บั มอบอำนาจเปน็ สำคัญ เม่ือมีการมอบอำนาจ ผรู้ ับมอบอำนาจมหี น้าทต่ี ้องรับมอบอำนาจน้นั และจะมอบอำนาจนั้น ให้แกผ่ ู้ดำรงตำแหนง่ อ่ืนตอ่ ไปไม่ได้ เวน้ แต่ (1) การมอบอำนาจให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจมอบอำนาจนั้นต่อไปได้ ในกรณดี งั ต่อไปน้ี
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 11 (ก) กรณีมอบอำนาจให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวดั ผูช้ ว่ ยผู้ว่าราชการจงั หวดั ปลดั จังหวัด หรอื หัวหน้าสว่ นราชการประจำจังหวดั ให้ผูว้ า่ ราชการจงั หวัดแจง้ ใหผ้ มู้ อบอำนาจชน้ั ตน้ ทราบด้วย (ข) กรณีมอบอำนาจให้แก่บุคคลอื่น นอกจากที่กล่าวใน (ก) จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับ ความเห็นชอบจากผมู้ อบอำนาจช้นั ตน้ แล้ว (2) การมอบอำนาจและการมอบอำนาจต่อตามระเบียบหรือคำสั่งกระทรวงกลาโหมหรือ ของหน่วยงานของรัฐอ่นื ทีร่ ัฐมนตรีประกาศกำหนด ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดเรื่องการมอบอำนาจและการมอบอำนาจต่อไว้เป็นการเฉพาะ กใ็ หเ้ ป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการน้นั เพื่อความคล่องตัวในการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมอบอำนาจในการสั่งการ และดำเนินการจดั ซ้ือจัดจ้าง ให้แก่ผูด้ ำรงตำแหน่งรองลงไปเป็นลำดบั
บทท่ี 3 Work Flow กระบวนการจดั ซ้ือจดั จ้าง ไดร้ ับความเหน็ ชอบวงเงนิ งบประมาณ จดั ทำแผนจัดซอื้ /จ้าง/(จัดทำแผนเพ่มิ เตมิ ) จัดทำรา่ งขอบเขตของงาน หรอื รายละเอียดคณุ ลักษะเฉพาะของพัสดุ จัดทำรายงานขอซ้ือขอจ้าง ดำเนนิ การซ้ือหรอื จา้ ง จดั ทำสญั ญา บริหารสญั ญา/ตรวจรบั พัสดุ บริหารพสั ดุ เบกิ จา่ ยเงิน 1. การจัดทำและประกาศแผนการจดั ซ้อื จดั จ้าง 1.1 เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้าง จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายในการปฏิบัติงานนั้น จัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพ่อื ขอความเหน็ ชอบ 1.2 แผนการจัดซือ้ จดั จ้างประจำปี ให้ประกอบด้วยรายการอยา่ งน้อย ดงั ตอ่ ไปน้ี 1.2.1 ชือ่ โครงการทจี่ ะจัดซ้ือจดั จา้ ง 1.2.2 วงเงนิ ทจี่ ะจัดซอ้ื จัดจ้างโดยประมาณ 1.2.3 ระยะเวลาทีค่ าดว่าจะจัดซ้อื จดั จา้ ง 1.2.4 รายการอน่ื ตามทีก่ รมบัญชีกลางกำหนด 1.3 เมอ่ื หวั หน้าหน่วยงานของรฐั ให้ความเห็นชอบแผนการจัดซ้ือจดั จ้างประจำปตี ามข้อ 1.1 แล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหนา้ ที่ประกาศเผยแพร่ในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงาน ของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศ ของหนว่ ยงานของรัฐ
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจัดซอ้ื จัดจา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 13 หากไม่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการใดในระบบเครือข่ายสารสนเทศ ของกรมบญั ชกี ลาง จะไม่สามารถดำเนนิ การจัดซ้ือจัดจา้ งในโครงการน้นั ได้ เว้นแต่ กรณดี ังตอ่ ไปน้ี ไม่ต้อง ประกาศแผนการจัดซือ้ จัดจา้ ง 1.3.1 กรณที ม่ี ีความจำเปน็ เรง่ ด่วนหรอื เป็นพัสดุทใี่ ชใ้ นราชการลับ 1.3.2 กรณีที่มีวงเงินในการจัดซ้ือจดั จา้ งตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรอื มีความจำเป็น ต้องใช้พัสดุโดยฉกุ เฉนิ หรือเปน็ พัสดทุ จี่ ะขายทอดตลาด 1.3.3 กรณีที่เป็นงานจ้างที่ปรึกษาที่มีวงเงินค่าจ้างตามที่กำหนดในกฎกระทรวงหรือที่มี ความจำเป็นเร่งด่วนหรือทีเ่ ก่ยี วกับความมั่นคงของชาติ 1.3.4 กรณีที่เป็นงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หรือทเี่ ก่ียวกบั ความมน่ั คงของชาติ 1.4 หลังจากที่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีแล้วให้หน่วยงานของรัฐ รบี ดำเนนิ การจัดซื้อจดั จา้ งใหเ้ ป็นไปตามแผนและขั้นตอน เพื่อให้พร้อมที่จะทำสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันที เมื่อไดร้ บั อนุมตั ิทางการเงินแล้ว 1.5 ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี ให้เจ้าหน้าท่ี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายในการปฏิบัติงานนั้นจัดทำรายงานพร้อมระบุเหตุผลที่ขอเปลี่ยนแปลงเสนอ หวั หน้า หนว่ ยงานของรฐั เพื่อขอความเหน็ ชอบ และเมอื่ ไดร้ ับความเหน็ ชอบแล้วใหด้ ำเนนิ การตามข้อ 1.3 กรณีที่ถือว่าหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณ ที่ใช้ในการจัดซื้อ จัดจ้างตามระเบยี บฯ 2560 คอื กรณีดังต่อไปนี้ 1. กรณใี ชง้ บประมาณตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หรือพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... หมายถึง เม่ือ คณะกรรมาธิการวิสามัญพจิ ารณาร่างพระราชบญั ญัติงบประมาณรายจา่ ย ไดพ้ ิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... หรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม หรือ พระราชบญั ญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... แล้วเสร็จก่อนเสนอสภาผแู้ ทนราษฎรพิจารณาในวาระท่ี 2 2. กรณีที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีออกใช้ไมท่ ัน ซึ่งตามพระราชบญั ญตั ิ วธิ ีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 12 บญั ญัตวิ ่า “ในกรณีที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ออกใช้ไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อนได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ผู้อำนวยการกำหนดโดยอนุมัตินายกรัฐมนตรี” หมายถึง การจัดซื้อจัดจ้าง โดยใชเ้ งนิ งบประมาณรายจ่ายของหนว่ ยงานของรฐั ตามหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขการใชง้ บประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. .... ไปพลางก่อน สำหรับวงเงินงบประมาณเมื่อสำนักงบประมาณเห็นชอบ แผนปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณของแต่ละหน่วยงานของรัฐแล้ว ถือว่าหน่วยงานของรัฐ ได้รบั ความเห็นชอบวงเงนิ งบประมาณทจ่ี ะใช้จัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบ ข้อ 11
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจัดจา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 14 3. กรณีเป็นเงินงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือ จำเป็น หมายถึง หน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย งบกลาง รายการ เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่หน่วยงานของรัฐได้รับการอนุมัติแล้วตามกฎหมายว่าด้วย วธิ ีการงบประมาณ 4. กรณีเป็นเงินงบประมาณเบิกแทนกัน หมายถึง หน่วยงานของรัฐเจ้าของงบประมาณ ทีไ่ ด้รับอนุมัตเิ งินจดั สรรจากสำนักงบประมาณแล้ว และหนว่ ยงานผ้เู บิกแทนได้ย่ืนแบบใบแจ้งการเบิกเงิน งบประมาณแทนกันต่อกรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด แล้วแต่กรณี และกรมบัญชีกลางหรือ สำนักงานคลงั จังหวัดไดต้ รวจสอบรายการถูกตอ้ งและมีเงนิ จัดสรรเพยี งพอแลว้ 5. กรณีเป็นเงินงบประมาณที่ต้องดำเนินการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่าย ซ่ึงตามกฎหมาย ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ประกาศ ขอ้ บญั ญตั ิ และข้อกำหนดใด ๆ เกย่ี วกบั การโอนเปล่ียนแปลง งบประมาณรายจา่ ยของหน่วยงานของรัฐ หมายความถึง หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ จากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐได้อนุมัติให้โอนและหรือเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายแล้ว หรือสำนัก งบประมาณได้อนมุ ตั ิแลว้ แล้วแตก่ รณี 2. การจดั ทำร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคณุ ลักษณะเฉพาะของพัสดุ 2.1 การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐ คำนึงถงึ คุณภาพ เทคนิค และวัตถปุ ระสงค์ของการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุนนั้ และหา้ มมใิ ห้กำหนดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง หรือของผู้ขายรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ เว้นแต่พัสดุ ที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างตามวัตถุประสงค์นั้นมียี่ห้อเดียวหรือจะต้องใช้อะไหล่ของยี่ห้อใด ก็ให้ระบุยี่ห้อ น้นั ได้ 2.2 ในการซ้อื หรอื จา้ งท่ีมใิ ช่การจ้างก่อสร้าง ให้หัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาคณะหนึ่ง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบในการจัดทำร่างขอบเขตของงาน หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณา คัดเลือกข้อเสนอดว้ ย 2.3 เพื่อให้การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างมีมาตรฐาน และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หากพัสดุท่ีจะซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการ กอ่ สรา้ งตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรอื เพ่อื ความสะดวกจะระบุเฉพาะหมายเลขมาตรฐานก็ได้ หรือในกรณีพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างใดยังไม่มีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มีผู้ได้รับ การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ไว้กับกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ของพัสดุที่จะซ้ือหรือจ้างหรือรายการในการก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามท่ี ระบใุ นคู่มือผ้ซู ือ้ หรอื ใบแทรกคมู่ ือผู้ซ้ือทกี่ ระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำขึ้น
คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซอื้ จัดจา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 15 2.4 ในการจ้างก่อสร้างให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือจะดำเนินการจ้าง ตามความในหมวด 4 งานจา้ งออกแบบหรือควบคมุ งานก่อสร้างก็ได้ 2.5 องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไปตามท่ี หัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐกำหนดตามความจำเปน็ และเหมาะสม 3. การจัดทำรายงานขอซ้อื ขอจา้ ง 3.1 ในการซื้อหรือจ้างแต่ละวิธี นอกจากการซื้อที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ให้เจ้าหน้าที่จัดทำ รายงานขอซื้อหรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้า เจา้ หนา้ ที่ ตามรายการดงั ต่อไปนี้ 3.1.1 เหตผุ ลและความจำเป็นทต่ี ้องซอ้ื หรือจา้ ง 3.1.2 ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพสั ดุหรือแบบรูปรายการ งานกอ่ สร้างทจี่ ะซ้ือหรือจ้าง แลว้ แตก่ รณี 3.1.3 ราคากลางของพสั ดทุ จี่ ะซอ้ื หรือจ้าง 3.1.4 วงเงินท่ีจะซอ้ื หรือจ้าง โดยใหร้ ะบุวงเงินงบประมาณ ถา้ ไม่มวี งเงินดังกล่าวให้ระบุ วงเงินทป่ี ระมาณว่าจะซอ้ื หรือจา้ งในครงั้ นั้น 3.1.5 กำหนดเวลาท่ตี อ้ งการใช้พัสดุน้ันหรอื ใหง้ านนน้ั แล้วเสร็จ 3.1.6 วธิ ที ่จี ะซือ้ หรือจา้ งและเหตุผลท่ีต้องซื้อหรอื จา้ งโดยวิธีนัน้ 3.1.7 หลักเกณฑก์ ารพจิ ารณาคัดเลือกขอ้ เสนอ 3.1.8 ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซือ้ หรือจา้ ง การออกประกาศและเอกสารเชิญชวน และหนงั สือเชญิ ชวน การซื้อหรือจ้างกรณีจำเป็นเร่งด่วนอันเนื่องมาจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ หรือ กรณีมีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน หรือกรณีการซื้อหรือจ้างที่มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนด ในกฎกระทรวง ซึ่งไม่อาจทำรายงานตามปกติได้ เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏิบัติงานนั้นจะทำ รายงานเฉพาะรายการท่เี ห็นว่าจำเป็นก็ได้ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบตามรายงานที่เสนอแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ ดำเนนิ การตามวธิ ีซอื้ หรอื จ้างน้ันต่อไปได้ 4. การจัดทำและเปดิ เผยราคากลาง กรมบัญชีกลางมีหนังสือเวียน ด่วนที่สุด ที่ กค 0433.2/ว 206 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 แจ้งแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางเกี่ยวกบั การจดั ซื้อจัดจ้าง ของหน่วยงานของรัฐ สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินเกิน 500,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐประกาศ
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซอ้ื จดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 16 รายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐและเว็บไซต์ ศูนยข์ อ้ มลู การจดั ซ้ือจัดจ้างภาครฐั (www.gprocurement.go.th) ของกรมบัญชีกลาง แบบตารางแสดงวงเงินงบประมาณได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อ จดั จ้าง มีจำนวน 6 ประเภท ดงั น้ี 1) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณท่ไี ดร้ บั จัดสรรและราคากลางในงานจา้ งก่อสรา้ ง 2) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณท่ีได้รับจัดสรรและราคากลางในงานจ้างควบคุมงาน ก่อสรา้ ง 3) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจดั สรรและราคากลางในงานจ้างออกแบบ 4) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการ จา้ งท่ปี รึกษา 5) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการจ้างพัฒนา ระบบคอมพวิ เตอร์ 6) ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายการจัดซื้อจัดจ้าง ทมี่ ใิ ช่งานก่อสร้าง 5. วิธีการจัดซ้อื จดั จา้ ง วธิ กี ารดำเนินการจดั ซือ้ จัดจา้ งพสั ดุตามพระราชบญั ญัติการจัดซือ้ จัดจา้ งและการบริหารพัสดุ ภาครฐั พ.ศ. 2560 มาตรา 55 กำหนดไว้ 3 วธิ ี คอื 1. วธิ ปี ระกาศเชิญชวนทัว่ ไป 2. วิธคี ัดเลือก 3. วธิ ีเฉพาะเจาะจง
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซอื้ จดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 17 การจัดซื้อจัด้จาง มาตรา 55้ขอ 28,29 วธิ ีประกาศเชิญชวน วิธคี ัดเลือก วิธเี ฉพาะเจาะจง ทัว่ ไป วิธีตลาดอเิ ลก็ ทรอนิก้ส วิธีประกวดราคา วธิ สี อบราคา (e-market) อเิ ลก็ ทรอนกิ้ส (e-bidding) การเสนอราคา การเสนอราคาโดยการ โดยใบเสนอราคา ประมลู อิเล็กทรอนิก้ส 1. วธิ ปี ระกาศเชิญชวนท่วั ไป ไดแ้ ก่ การที่หน่วยงานของรฐั เชิญชวนผปู้ ระกอบการท่ัวไป ท่มี ีคุณสมบัติตรงตามเง่อื นไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนดให้เขา้ ยื่นขอ้ เสนอ โดยทำได้ 3 วิธี ดังนี้ 1.1 วธิ ตี ลาดอเิ ล็กทรอนิกส์ (Electronic Market : e - market) คอื การซื้อหรือจ้างท่ีมี รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่ไม่ซับซ้อนหรือเป็นสินค้าหรืองานบริการที่มีมาตรฐาน และ กำหนดให้หน่วยงานของรัฐจัดซื้อสินค้าหรืองานบริการที่กำหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e – catalog) สามารถดำเนินการได้ 2 แบบ ดงั นี้ 1) การเสนอราคาโดยใบเสนอราคา (Request for Quotation: RFQ) คือ การจดั ซือ้ จัดจา้ งพสั ดคุ รั้งหนงึ่ ซึง่ มีวงเงินเกนิ 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท 2) การเสนอราคาโดยการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ (Thai Auction) คือ การจัดซ้ือ จัดจา้ งพัสดคุ ร้งั หนง่ึ ซงึ่ มวี งเงนิ เกนิ 5,000,000 บาท 1.2 วธิ ปี ระกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding: e – bidding) คอื การจัดซ้ือ จัดจ้างพัสดุครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท โดยเป็นการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะที่มีความซับซ้อน มีเทคนิคเฉพาะ หรือเป็นสินค้าหรืองานบริการที่ไม่ได้กำหนด รายละเอียดคุณลกั ษณะเฉพาะของพัสดุไว้ในระบบขอ้ มลู สนิ คา้ (e – catalog)
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 18 1.3 วิธีสอบราคา คือ การซื้อหรือจ้างพัสดุครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท กระทำได้ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐนั้นตั้งอยู่ในสภาพพื้นที่มีข้อจำกัดในการ ดำเนินการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e-market) หรือวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) หรือหากดำเนินการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์แล้ว อาจก่อให้เกิดความล่าช้าหรือเป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ให้หน่วยงานของ รัฐรายงานเหตุผลความจำเป็นที่ไม่อาจดำเนินการซื้อหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธี ประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกสไ์ วใ้ นรายงานขอซ้ือขอจ้างด้วย 2. วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 3 ราย ให้เข้ายื่นข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ัน มีผู้ประกอบการทมี่ ีคณุ สมบัติตรงตามที่กำหนดน้อยกว่า 3 ราย 3. วิธเี ฉพาะเจาะจง ไดแ้ ก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ตรงตามเงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกำหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอ หรือให้เข้ามาเจรจาต่อรอง ราคา รวมทัง้ การจัดซื้อจดั จา้ งพัสดกุ ับผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อย ตามทก่ี ำหนดในกฎกระทรวง ทอี่ อกตามความในมาตรา 96 วรรค 2 6. เกณฑ์การพจิ ารณาคดั เลือกข้อเสนอ การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือก ให้หน่วยงาน ของรัฐดําเนินการโดยพิจารณาถึงประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ และวัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสําคัญ ตามหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี (1) การซอ้ื หรอื จ้างทมี่ ีการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีเป็นมาตรฐาน และมีคุณภาพดี เพียงพอตามความต้องการใช้งาน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐแล้ว กรณีนี้หน่วยงานของรัฐ สามารถใช้เกณฑ์ราคาในการคัดเลือกผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดเป็นผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับการ คัดเลือก (2) การซื้อหรอื จา้ งทม่ี คี วามซบั ซ้อน มเี ทคโนโลยสี ูง หรอื มเี ทคนิคเฉพาะ จาํ เป็นต้องคัดเลือก พัสดุมีคุณภาพดีตามความต้องการใช้งานของหน่วยงานของรัฐนั้น และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรฐั มากที่สุด กรณนี ห้ี น่วยงานของรฐั สามารถใชเ้ กณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อนื่ ตามความในมาตรา 65 วรรคหน่ึง ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณภาพและคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน ซึ่งได้คะแนนรวมสูงสุด เป็นผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก แต่หากหน่วยงานของรัฐไม่อาจเลือกใช้เกณฑ์อื่น ประกอบและจําเป็นต้องใช้เกณฑ์เดยี วในการพจิ ารณา ให้ใชเ้ กณฑร์ าคา (3) การซื้อหรือจ้างที่มีการกําหนดคุณลักษณะเฉพาะที่จะต้องคํานึงถึงเทคโนโลยีของพัสดุ หรือคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ ซึ่งอาจจะมีข้อเสนอที่ไม่อยู่ในฐานเดียวกันเป็นเหตุให้มีปัญหาในการ พิจารณาคัดเลือกข้อเสนอให้หน่วยงานของรัฐกําหนดเป็นเงื่อนไขให้มีการยื่นข้อเสนอด้ านเทคนิค
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซอื้ จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 19 หรือข้อเสนออื่นแยกมาต่างหาก และให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติ ถกู ต้อง ครบถว้ น และเปน็ ประโยชนต์ อ่ หนว่ ยงานของรฐั ซ่งึ ไดค้ ะแนนข้อเสนอดา้ นเทคนิคหรือขอ้ เสนออื่น ผ่านเกณฑข์ น้ั ตำ่ ตามทีห่ นว่ ยงานของรฐั กําหนด แลว้ ใหด้ ําเนนิ การตาม (1) หรือ (2) ต่อไป ความตามมาตรา 65 วรรคหนึ่ง ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีตามมาตรา 55 (1) คือวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป หรือ (2) คือวิธีคัดเลือก ให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการโดยพิจารณาถึง ประโยชนข์ องหน่วยงานของรฐั และวตั ถปุ ระสงค์ของการใช้งานเป็นสําคัญ โดยใหค้ ํานงึ ถงึ เกณฑ์ราคาและ พจิ ารณาเกณฑ์อ่นื ประกอบดว้ ย ดงั ต่อไปน้ี 1. ตน้ ทนุ ของพสั ดุนน้ั ตลอดอายุการใชง้ าน 2. มาตรฐานของสนิ คา้ หรือบรกิ าร 3. บรกิ ารหลงั การขาย 4. พัสดุทรี่ ฐั ต้องการส่งเสรมิ หรือสนับสนุน 5. การประเมนิ ผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ 6. ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น ในกรณีที่กําหนดให้มีการยื่นข้อเสนอ ด้านเทคนคิ หรอื ขอ้ เสนออืน่ กอ่ นตามวรรคหก 7. เกณฑ์อื่นตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง พัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุนตามข้อ 4 ให้เป็นไปตามที่กำหนดใน กฎกระทรวง ซ่งึ อยา่ งนอ้ ยต้องส่งเสริมหรือสนบั สนนุ พัสดุทีส่ ร้างนวตั กรรมหรือพัสดุที่อนุรักษ์พลังงานหรือ ส่ิงแวดล้อม 7. การอนุมตั สิ ัง่ ซื้อส่งั จ้าง อำนาจในการสั่งซื้อหรือสั่งจ้างให้เป็นอำนาจของผู้ดำรงตำแหน่งและภายในวงเงินตามท่ี ระเบยี บกระทรวงการคลังว่าดว้ ยการจัดซอื้ จดั จา้ งและการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กำหนดไว้ ดังน้ี ผมู้ อี ำนาจ หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐ ผ้มู ีอำนาจเหนือขนึ้ ไปหน่งึ ชั้น วธิ ซี ้ือ/จ้าง ประกาศเชญิ ชวนทั่วไป ไม่เกนิ 200 ลา้ นบาท เกนิ 200 ล้านบาท คัดเลอื ก ไมเ่ กนิ 100 ล้านบาท เกิน 100 ลา้ นบาท เฉพาะเจาะจง ไมเ่ กิน 50 ลา้ นบาท เกนิ 50 ลา้ นบาท 8. การจัดทำสัญญาและหลกั ประกัน การลงนามในสัญญาและการแก้ไขสัญญาเป็นอำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ท่ี ได้รบั มอบอำนาจ และจะกระทำได้เมือ่ พ้นระยะเวลาการอทุ ธรณ์แล้ว
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจดั ซื้อจัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 20 1) รูปแบบของสัญญา หน่วยงานของรัฐต้องทำสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบาย กำหนด หรืออาจจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือโดยไม่ทำตามแบบสัญญา ตามความในมาตรา 96 ของ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ หรือในกรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงิน เล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวงจะไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือไว้ต่อกันก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานในการ จดั ซือ้ จดั จา้ งนน้ั แบบสญั ญาทคี่ ณะกรรมการนโยบายกำหนด (1) สัญญาจา้ งก่อสร้าง (2) สญั ญาซื้อขาย (3) สญั ญาจะซ้ือจะขายแบบราคาคงทไ่ี มจ่ ำกดั ปรมิ าณ (4) สญั ญาซื้อขายคอมพิวเตอร์ (5) สัญญาซ้อื ขายและอนญุ าตให้ใชส้ ทิ ธิในโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ (6) สัญญาเชา่ คอมพิวเตอร์ (7) สัญญาจ้างบริการบำรุงรกั ษาและซอ่ มแซมแก้ไขคอมพิวเตอร์ (8) สัญญาเช่ารถยนต์ (9) สญั ญาจา้ งทำความสะอาดอาคาร (10) สัญญาจ้างใหบ้ ริการรักษาความปลอดภยั (11) สญั ญาเชา่ เครอ่ื งถ่ายเอกสาร (12) สญั ญาแลกเปลี่ยน (13) สญั ญาจา้ งออกแบบและควบคมุ งานก่อสร้าง (14) สญั ญาจ้างผเู้ ชย่ี วชาญรายบคุ คลหรอื จา้ งบริษทั ท่ีปรกึ ษา (15) สัญญาจ้างทำของ การทำสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ นอกจากการจ้างที่ปรึกษาให้กำหนดค่าปรับ เป็นรายวันในอัตราตายตัวระหว่างร้อยละ 0.01 – 0.20 ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ เว้นการจ้าง ซง่ึ ต้องการผลสำเรจ็ ของงานทง้ั หมดพร้อมกัน ใหก้ ำหนดค่าปรบั เป็นรายวันเป็นจำนวนเงินตายตัวในอัตรา รอ้ ยละ 0.01 – 0.10 ของราคางานจา้ งนนั้ แต่จะต้องไม่ตำ่ กว่าวันละ 100 บาท การกําหนดค่าปรับในอัตราหรือเป็นจำนวนเงินเท่าใด ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐคำนึงถึง ราคา กําหนดระยะเวลาของการใช้งาน และลักษณะของพัสดุซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการที่คู่สัญญาของ หน่วยงานของรัฐจะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือกระทบต่อการจราจร หรือความเสียหาย แกป่ ระโยชนส์ าธารณะ แลว้ แตก่ รณี ใ น ก ร ณ ี ท ี ่ ห น ่ ว ย ง า น ข อ ง ร ั ฐ เ ห ็ น ว ่ า ม ี ค ว า ม จ ํ า เ ป ็ น จ ะ ต ้ อ ง ก ํ า ห น ด ค ่ า ป ร ั บ น อ ก เ ห นื อ จากที่กําหนดไว้ในระเบียบ ข้อ ๑๖๒ เนื่องจากถ้าไม่กําหนดค่าปรับไว้ในสัญญาจะเกิดความเสียหายแก่ หนว่ ยงานของรฐั เชน่ งานที่เกยี่ วกบั เทคโนโลยีสารสนเทศ หรอื งานทอี่ ยู่ระหว่างการรับประกนั ความชํารุด
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจัดซ้ือจัดจา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 21 บกพร่องจากการซื้อขายคอมพิวเตอร์ ให้พิจารณากําหนดอัตราค่าปรับในกรณีดังกล่าว โดยคํานึงถึง ความสําคัญ และลักษณะของงานที่จะกําหนด และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่หน่วยงานของรัฐ เป็นสําคัญ โดยหลักแล้วสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่ได้ลงนามแล้วจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เวน้ แต่ ในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้ ให้อยู่ในดุลพนิ จิ ของผู้มอี ำนาจท่จี ะพจิ ารณาอนมุ ัตใิ ห้แก้ไขได้ (1) เป็นการแก้ไขสญั ญาตามความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสดุ (2) ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง หากการแก้ไขนั้นไม่ทำให้ หน่วยงานของรัฐเสียประโยชน์ (3) เป็นการแก้ไขเพอ่ื ประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐหรอื ประโยชนส์ าธารณะ (4) กรณีอน่ื ตามทกี่ ำหนดในกฎกระทรวง การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง ต้องอยู่ภายในขอบข่ายแห่งวัตถุประสงค์เดิมของสัญญาหรือ ข้อตกลงนั้น โดยหน่วยงานของรัฐต้องพิจารณาเปรียบเทียบคุณภาพของพัสดุ หรือรายละเอียดของงาน รวมทั้งราคาของพัสดุหรืองานตามสัญญาหรือข้อตกลงกับพัสดุที่จะทำการแก้ไขนั้นก่อนแก้ไขสัญญาหรือ ข้อตกลงดว้ ย ในกรณีการแก้ไขสัญญาที่หน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะมีปัญหาในทางเสียประโยชน์หรือ ไมร่ ัดกมุ พอ กใ็ ห้สง่ ร่างสัญญาทแี่ กไ้ ขนนั้ ไปใหส้ ำนกั งานอัยการสงู สดุ พิจารณาใหค้ วามเหน็ ชอบก่อน การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง หากมีความจำเป็นต้องเพิ่มหรือลดวงเงิน หรือเพิ่มหรือลดระยะเวลาส่งมอบหรือ ระยะเวลาในการทำงาน ใหต้ กลงพร้อมกนั ไป ในกรณีที่มีการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพื่อเพิ่มวงเงิน เมื่อรวมวงเงินตามสัญญาหรือ ข้อตกลงเดิมและวงเงินที่เพิ่มขึ้นใหม่แล้ว หากวงเงินรวมดังกล่าวมีผลทำให้ผู้มีอำ นาจอนุมัติสั่งซื้อหรือ สั่งจ้างเปลี่ยนแปลงไป จะต้องดำเนินการให้ผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามวงเงินรวมดังกล่าว เปน็ ผอู้ นุมัตกิ ารแกไ้ ขสญั ญาหรือขอ้ ตกลงด้วย ในกรณีที่มีการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพื่อลดวงเงิน ให้ผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้าง ตามวงเงนิ เดิมเปน็ ผูอ้ นมุ ตั ิการแกไ้ ขสัญญาหรอื ข้อตกลง 2) หลักประกันสัญญา หมายถึง หลักประกันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ที่เป็นคู่สัญญากับ หน่วยงานของรัฐ นำมาวางขณะทำสัญญาเพื่อประกันความเสียหายจากการผิดเงื่อนไขตามข้อกำหนด ในสัญญา ใช้เปน็ หลกั ประกนั จนกวา่ จะส้นิ สุดข้อผูกพันตามสัญญา โดยมูลคา่ หลักประกนั สัญญาจะกําหนด มูลค่าเป็นจํานวนเต็ม ในอัตราร้อยละห้าของวงเงินงบประมาณหรือราคาพัสดุที่จัดซื้อจัดจ้างครั้งนั้น แล้วแต่กรณี เว้นแต่การจดั ซื้อจัดจ้างท่ีหวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั เหน็ ว่ามีความสําคัญเป็นพิเศษ จะกําหนด อตั ราสงู กวา่ ร้อยละห้าแต่ไมเ่ กนิ ร้อยละสิบก็ได้
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซ้อื จดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 22 3) หลกั ประกนั การเสนอราคา/หลกั ประกนั สัญญา ใหใ้ ชห้ ลกั ประกนั อยา่ งใดอย่างหนง่ึ ดงั นี้ (1) เงนิ สด (2) เชค็ หรอื ดารฟทท์ ี่ธนาคารเซ็นส่งั จา่ ย (3) หนงั สือค้ำประกันของธนาคารในประเทศ (4) หนังสอื ค้ำประกนั ของบริษทั เงนิ ทนุ (5) พนั ธบัตรรัฐบาลไทย 4) การคืนหลกั ประกัน ในสญั ญาจะมขี อ้ กำหนดการคืนหลกั ประกนั โดยมหี ลักเกณฑ์ ดังนี้ - หลักประกันการเสนอราคา ให้คืนภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่หัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐไดพ้ จิ ารณาเหน็ ชอบรายงานผลคัดเลอื กผู้ชนะการซื้อจดั หรอื จา้ งเรยี บรอ้ ยแล้ว - หลักประกันสัญญา ให้คืนโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 15 วัน นับถัดจากวันที่คู่สัญญา พน้ ขอ้ ผกู พันแล้ว 9. การตรวจรบั พสั ดุ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานซ้อื หรอื งานจ้าง มีหน้าที่ดงั นี้ (1) ตรวจรบั พสั ดุ ณ ทีท่ ําการของผใู้ ช้พสั ดุนัน้ หรือสถานท่ีซึง่ กาํ หนดไว้ในสัญญาหรือ ข้อตกลง การตรวจรับพัสดุ ณ สถานที่อื่น ในกรณีที่ไม่มีสัญญาหรือข้อตกลง จะต้องได้รับอนุมัติจาก หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐก่อน (2) ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานที่ตกลงกันไว้ สําหรับกรณีที่มีการทดลอง หรือตรวจสอบในทางเทคนิคหรือทางวิทยาศาสตร์ จะเชิญผู้ชาํ นาญการหรอื ผูท้ รงคุณวุฒเิ กีย่ วกับพสั ดนุ ั้น มาให้คําปรึกษา หรือส่งพัสดุนั้นไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ สถานที่ของผู้ชํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิ นั้น ๆ กไ็ ด้ ในกรณีจาํ เปน็ ที่ไม่สามารถตรวจนบั เปน็ จํานวนหนว่ ยทัง้ หมดได้ ให้ตรวจรบั ตามหลักวชิ าการ สถิติ (3) ให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนําพัสดุมาส่งและให้ดําเนินการให้เสร็จสิ้น โดยเร็วทสี่ ุด (4) เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบพัสดุ ถูกต้องครบถว้ นต้ังแตว่ นั ที่ผูข้ ายหรือผรู้ บั จ้างนําพัสดุนน้ั มาส่ง แลว้ มอบแก่เจา้ หน้าท่ีพร้อมกบั ทําใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 1 ฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และเจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพื่อดาํ เนินการเบกิ จ่ายเงนิ ตามระเบียบของหนว่ ยงานของรัฐและรายงานให้หัวหนา้ หน่วยงานของรฐั ทราบ ในกรณที ี่เห็นวา่ พัสดุที่สง่ มอบ มีรายละเอียดไม่เป็นไปตามข้อกําหนดในสัญญาหรือข้อตกลง ให้รายงานหวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจา้ หนา้ ท่ี เพ่อื ทราบและสั่งการ
คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจดั ซอื้ จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 23 (5) ในกรณีที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างส่งมอบพัสดุถูกต้องแต่ไม่ครบจํานวน หรือส่งมอบครบ จาํ นวนแตไ่ ม่ถกู ตอ้ งทง้ั หมด ถา้ สญั ญาหรอื ขอ้ ตกลงมิได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น ใหต้ รวจรับไวเ้ ฉพาะจํานวน ที่ถูกต้อง โดยถือปฏิบัติตาม (4) และให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อ แจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจากวันตรวจพบ แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิ์หน่วยงาน ของรัฐท่จี ะปรับผ้ขู ายหรอื ผู้รบั จ้างในจาํ นวนท่สี ง่ มอบไมค่ รบถว้ นหรือไมถ่ ูกตอ้ งนัน้ (6) การตรวจรบั พัสดุท่ปี ระกอบกันเป็นชดุ หรือหน่วย ถ้าขาดสว่ นประกอบอย่างใดอย่างหน่ึง ไปแล้วจะไมส่ ามารถใช้การไดโ้ ดยสมบูรณ์ ให้ถือวา่ ผู้ขายหรือผู้รับจา้ งยังมิได้ส่งมอบพัสดุน้ัน และโดยปกติ ให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อแจง้ ใหผ้ ู้ขายหรือผู้รับจา้ งทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจาก วนั ทีต่ รวจพบ (7) ถ้ากรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับพัสดุโดยทําความเห็นแย้งไว้ให้เสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสั่งการให้รับพัสดุนั้นไว้ จึงดําเนินการ ตาม (4) หรอื (5) แล้วแตก่ รณี การคิดค่าปรับ กรณีที่สัญญาหรือข้อตกลงได้ครบกำหนดส่งมอบแล้ว และมีค่าปรับเกิดขึ้น ให้หน่วยงานงานของรัฐแจ้งการเรียกค่าปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงจากคู่สัญญาภายใน 7 วันทำการ นับถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบ และเมื่อคู่สัญญาได้ส่งมอบพัสดุ ให้หน่วยงานของรัฐบอกสงวนสิทธ์ิ การเรียกคา่ ปรบั ในขณะทรี่ บั มอบพัสดุนัน้ ด้วย การนับวันปรับ ให้นับถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบตามสัญญา/ข้อตกลงจนถึงวันที่ผู้ขาย หรอื ผูร้ บั จ้างสง่ มอบส่ิงของถูกต้องครบถ้วน หรอื จนถงึ วันทบ่ี อกเลิกสัญญา/ข้อตกลง (หักด้วยระยะเวลาที่ คณะกรรมการตรวจรบั ใช้ไปในการตรวจรบั ออกจากจำนวนวนั ท่ตี ้องถูกปรับด้วย) การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ให้อยใู่ นดลุ พินิจของผูม้ ีอำนาจทจ่ี ะพิจารณาได้ตามจำนวนวนั ทม่ี ีเหตเุ กิดขนึ้ จริง เฉพาะในกรณีดงั ต่อไปน้ี 1. เหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหนว่ ยงานของรัฐ 2. เหตุสดุ วิสยั 3. เหตเุ กดิ จากพฤติการณ์อันหน่งึ อนั ใดทคี่ ู่สญั ญาไมต่ อ้ งรับผดิ ตามกฎหมาย 4. เหตุอนื่ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ในกรณีที่มีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ หรือเหตุสุดวิสัย หรอื เกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอนั ใดท่ีคสู่ ัญญาไมต่ ้องรับผดิ ตามกฎหมาย หรือเหตุอื่นตามที่กําหนด ในกฎกระทรวง ทําใหค้ ่สู ัญญาไม่สามารถสง่ มอบสิง่ ของหรืองานตามเง่ือนไขและกําหนดเวลาแห่งสัญญาได้ ให้หน่วยงานของรัฐระบุไว้ในสัญญาหรือข้อตกลงกําหนดให้คู่สัญญาต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้หน่วยงาน ของรฐั ทราบภายใน 15 วนั นับถัดจากวนั ที่เหตนุ ้นั ได้ส้ินสุดลง หรอื ตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง หากมิได้ แจ้งภายในเวลาที่กําหนด คู่สัญญาจะยกมากล่าวอ้างเพื่อของด หรือลดค่าปรับ หรือขอขยายเวลา
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซ้อื จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 24 ในภายหลังมิได้ เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐซึ่งมีหลักฐาน ชัดแจง้ หรือหนว่ ยงานของรัฐทราบดอี ยู่แล้วตัง้ แต่ตน้ การงด ลดค่าปรบั หรอื การขยายเวลา 1. การพิจารณางดหรือลดค่าปรับ จะเป็นการพิจารณาอนุมัติให้ในเวลาที่ล่วงเลยกำหนด ระยะเวลาของสัญญาหรือข้อตกลงไปแลว้ และเปน็ กรณที ่ีมคี ่าปรบั เกดิ ขึ้นแลว้ 2. การพิจารณาขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือข้อตกลง ซึ่งจะเป็นการพิจารณาอนุมัติ ให้ก่อนทจ่ี ะครบกำหนดสญั ญา และคา่ ปรบั ยงั ไมเ่ กดิ 10. การจัดทำบันทกึ รายงานผลการพิจารณา (ข้อ 16) เมื่อสิน้ สุดกระบวนการจัดซื้อจดั จ้างในแต่ละโครงการ ใหห้ นว่ ยงานของรัฐจัดให้มีการบันทึก รายงานผลการพิจารณา รายละเอียดวิธีการและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างพร้อมทั้งเอกสารหลักฐาน ประกอบเพอื่ การตรวจสอบ โดยอย่างน้อยต้องมรี ายการดังต่อไปนี้ (๑) รายงานขอซ้อื ขอจา้ ง (๒) ร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง และ ร่างเอกสารเชญิ ชวน รวมทัง้ เอกสารเกย่ี วกบั การรบั ฟงั ความคิดเหน็ และผลการพิจารณาในเร่ืองน้ัน (ถา้ ม)ี (๓) ประกาศและเอกสารเชิญชวน หรือหนงั สอื เชญิ ชวน และเอกสารอ่ืนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง (๔) ข้อเสนอของผู้ย่นื ข้อเสนอทุกราย (๕) บนั ทึกรายงานผลการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอ (๖) ประกาศผลการพิจารณาคดั เลอื กผู้ชนะการจดั ซ้ือจดั จา้ งหรือผู้ไดร้ บั การคัดเลือก (๗) สัญญาหรอื ขอ้ ตกลงเป็นหนงั สือ รวมท้งั การแกไ้ ขสญั ญาหรือข้อตกลงเปน็ หนงั สือ (ถ้ามี) (๘) บันทึกรายงานผลการตรวจรับพสั ดุ
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซอ้ื จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 25 Work flow กระบวนการจดั ซื้อจดั จ้างวธิ เี ฉพาะเจาะจง จนท.พสั ดุ/ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมายจดั ทำแผนจัดซือ้ จัดจา้ ง ยกเว้น กรณซี ือ้ /จ้าง (พรบ.มาตรา 11 + ระเบยี บฯ ขอ้ 11) ตาม ม.56 (2) (ข) (ง) หรือ (ฉ) ไม่ คณะกรรมการ/เจา้ หน้าท่ีพัสดุ/ผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย จัดทำรา่ งขอบเขตของงาน (ขอ้ 21) ต้องจดั ทำแผน เจ้าหนา้ ทีพ่ สั ดจุ ดั ทำรายงานขอซ้ือหรอื จา้ งโดยวิธเี ฉพาะเจาะจง (ข้อ 78 ประกอบ 22) (พรบ.มาตรา 11) หัวหนา้ หน่วยงานของรฐั ใหค้ วามเห็นชอบรายงานขอซ้อื หรือจ้าง การเชญิ ชวน/เจรจาตอ่ รอง กรณีตาม ม.56(2)(ก)(ค)(ง)(จ)(ฉ)(ช) คณะกรรมการซอ้ื หรือจา้ ง กรณีตาม ม.56(2)(ข) (ไม่เกนิ 500,000 บาท) โดยวธิ เี ฉพาะเจาะจงจัดทำหนังสอื เชญิ ชวนสง่ ไปยงั ผปู้ ระกอบการ เจ้าหน้าท่เี จรจาตกลงราคากับผปู้ ระกอบการท่มี อี าชีพ ที่มคี ณุ สมบตั ิตามที่กำหนด (ข้อ 78(1) หรอื รบั จ้างน้นั โดยตรง (ขอ้ 79) คณะกรรมการฯ จดั ทำรายงานผลการพจิ ารณาขอ้ เสนอ/ เจา้ หน้าทพ่ี ัสดจุ ดั ทำรายงานผลการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง ต่อรองราคาตามความเหมาะสมแล้วแตก่ รณี คณะกรรมการฯ รายงานผลการพจิ ารณาและเสนอความเหน็ หวั หนา้ เจา้ หนา้ ทซี่ ื้อหรือจ้างภายในวงเงนิ ทไี่ ดร้ ับ ต่อหัวหน้าหน่วยงานของรฐั (อนุโลมขอ้ 55(4) ประกอบ ขอ้ 78(2) ความเห็นชอบจากหัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐ (ขอ้ 79) หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐและผมู้ อี ำนาจอนมุ ัติซือ้ หรือจา้ งเหน็ ชอบ แจง้ คณะกรรมการ ผลการคัดเลือก (ข้อ 81) ตรวจรับพัสดุ วิธเี ฉพาะเจาะจงไมจ่ ำเป็นต้องรอให้ ประกาศผทู้ ีไ่ ด้รับการคดั เลือกการจดั ซือ้ จดั จา้ ง กรณีวงเงนิ เกิน พน้ ระยะเวลาอทุ ธรณ์ (มาตรา 66) ดว้ ยวิธีเฉพาะเจาะจง (ขอ้ 81) 1 ล้านบาท แจ้ง สตง./สรรพากร ลงนามในสญั ญาตามแบบทคี่ ณะกรรมการนโยบายกำหนด หรอื ขอ้ ตกลง (มาตรา66) และระเบยี บฯ ข้อ161
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซอื้ จดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 26 การจัดซ้ือจดั จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง วิธีเฉพาะเจาะจง ได้แก่ การท่หี นว่ ยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตาม เงื่อนไขที่หน่วยงานของรัฐกําหนดรายใดรายหนึ่งให้เข้ายื่นข้อเสนอหรือให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคา กบั หน่วยงานของรฐั รวมทงั้ การจดั ซือ้ จดั จา้ งพสั ดุกับผู้ประกอบการโดยตรงในวงเงนิ เลก็ นอ้ ยตามท่ีกำหนด ในกฎกระทรวง การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 (2) กำหนดให้หน่วยงานของรัฐเลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธีคัดเลือกก่อน เวน้ แต่ กรณีดังตอ่ ไปน้ใี หใ้ ชว้ ิธีเฉพาะเจาะจง (ก) ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ยื่น ขอ้ เสนอหรือขอ้ เสนอนั้นไม่ได้รบั การคัดเลอื ก (ข) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และมีวงเงิน ในการจดั ซอ้ื จัดจ้างคร้ังหนึ่งไมเ่ กนิ วงเงินตามท่ีกำหนดในกฎกระทรวง (ค) การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรือ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วย กฎหมายเพียงรายเดยี วในประเทศ และไม่มพี ัสดอุ นื่ ท่ีจะใชท้ ดแทนได้ (ง) มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติหรือ เกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวน หรือ วธิ ีคดั เลือกอาจก่อใหเ้ กิดความลา่ ชา้ และอาจทำให้เกดิ ความเสยี หายรา้ ยแรง (จ) พสั ดทุ ี่จะทำการจัดซื้อจัดจา้ งเป็นพสั ดทุ ี่เกี่ยวพันกบั พสั ดุท่ีได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างไวก้ ่อนแล้ว และมีความจำเป็นต้องทำการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์หรือต่อเนื่องในการใช้พัสดุน้ัน โดยมลู ค่าของพัสดุท่ีทำการจัดซือ้ จัดจ้างเพ่ิมเตมิ ต้องไมส่ งู กว่าพสั ดุท่ีได้ทำการจัดซ้ือจดั จา้ งไว้ก่อนแล้ว (ฉ) เป็นพัสดุท่ีจะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศ หรือ หนว่ ยงานของต่างประเทศ (ช) เปน็ พัสดทุ เ่ี ป็นรายการที่ดนิ และสิ่งก่อสร้าง ซึง่ จำเปน็ ต้องจดั ซื้อเฉพาะแหง่ (ซ) กรณีอื่นตามท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง กฎกระทรวงที่ออกตามความในพระราชบัญญัติการจดั ซ้ือจัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ได้กำหนดวงเงินการจดั ซ้ือจัดจ้างพสั ดโุ ดยวธิ เี ฉพาะเจาะจง ไว้ดงั น้ี 1. การจดั ซ้อื จัดจา้ งสินค้า งานบรกิ าร หรืองานก่อสรา้ ง ที่มกี ารผลติ จำหนา่ ย ก่อสร้าง หรือ ใหบ้ ริการท่ัวไป และมีวงเงนิ ในการจัดซอื้ จัดจ้างคร้ังหนึง่ ไมเ่ กนิ 500,000 บาท 2. งานจา้ งทป่ี รกึ ษาทีม่ ีวงเงนิ ค่าจา้ งครงั้ หนง่ึ ไมเ่ กิน 500,000 บาท
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจัดซือ้ จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 27 3. งานจ้างที่มีที่ปรึกษาในงานที่จะจ้างนั้นจำนวนจำกัด และมีวงเงินค่าจ้างครั้งหนึ่งไม่เกิน 5,000,000 บาท 4. งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างท่มี ีวงเงินงบประมาณคา่ ก่อสรา้ งครั้งหน่ึงไม่เกิน 5,000,000 บาท ขนั้ ตอนการจัดซื้อจดั จ้างโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ดำเนนิ การดังน้ี 1. จัดทำแผนการจัดซ้ือจัดจ้าง เมื่อหน่วยงานของรัฐได้รับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณที่ จะใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้มีอำนาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจ้าหน้าที่พัสดุหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายในการปฏิบัติงานนั้นจัดทำแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปีให้ประกอบด้วย รายการอย่างนอ้ ยดังตอ่ ไปน้ี (1) ช่ือโครงการที่จะจัดซอื้ จัดจา้ ง (2) วงเงินที่จะจดั ซ้ือจัดจา้ งโดยประมาณ (3) ระยะเวลาที่คาดวา่ จะจัดซื้อจัดจา้ ง (4) รายการอื่นตามทกี่ รมบญั ชกี ลางกำหนด เม่อื หวั หนา้ หน่วยงานของรฐั ให้ความเห็นชอบแผนการจัดซื้อจัดจา้ งประจำปีตามท่ีเสนอแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศเผยแพร่แผนดังกล่าวในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง และของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานท่ี ปิดประกาศของหน่วยงานของรฐั ยกเว้น กรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุตามมาตรา 56 (2) (ข) (ง) หรือ (ฉ) ไม่ต้องจัดทำแผน การจัดซ้อื จดั จ้าง ดงั รายการต่อไปน้ี - การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และ มีวงเงินในการจัดซอ้ื จัดจ้างครัง้ หนึ่งไมเ่ กนิ วงเงนิ ตามท่กี ำหนดในกฎกระทรวง (มาตรา 56 (2) (ข)) - มีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ หรือ เกิดโรคตดิ ต่ออนั ตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และ การจัดซอื้ จัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวน หรือ วธิ คี ัดเลือกอาจกอ่ ให้เกิดความล่าช้า และอาจทำใหเ้ กดิ ความเสยี หายรา้ ยแรง (มาตรา 56 (2) (ง)) - เป็นพสั ดุทีจ่ ะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องคก์ ารระหว่างประเทศ หรอื หน่วยงานของตา่ งประเทศ (มาตรา 56 (2) (ฉ)) ในกรณีที่มีความเป็นจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจำปี ให้เจ้าหน้าท่ี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายใหป้ ฏิบัติงานนั้น จัดทำรายงานพร้อมระบุเหตุผลที่ขอเปลี่ยนแปลง เสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศ เผยแพร่แผนดงั กล่าวตามวิธีการทีก่ รมบญั ชีกลางกำหนดตอ่ ไป
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 28 2. จดั ทำรา่ งขอบเขตของงานหรือรายละเอยี ดคุณลักษณะเฉพาะของพสั ดุ ให้หัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคณะหนึ่ง หรือให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจัดทำร่างขอบเขต ของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอไว้ด้วย และเพื่อให้การกำหนดรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างมีมาตรฐาน และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ หากพัสดุที่จะ ซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการก่อสร้างตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ เพื่อความสะดวกจะระบุเฉพาะหมายเลขมาตรฐานก็ได้ หรือในกรณีพสั ดุทจี่ ะซื้อหรือจ้างใดยังไมม่ ีประกาศ กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มีผู้ได้รับการจดทะเบียนผลิตภั ณฑ์ไว้กับกระทรวง อุตสาหกรรมแล้ว ให้กำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการ ก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามที่ระบุในคู่มือผู้ซื้อหรือใบแทรกคู่มือผู้ซื้อ ที่กระทรวงอตุ สาหกรรมจัดทำขน้ึ ทั้งนี้ องค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชุมของคณะกรรมการให้เป็นไป ตามทห่ี วั หนา้ หน่วยงานของรฐั กำหนดตามความจำเป็นและเหมาะสม 3. จัดทำรายงานขอซื้อหรือขอจ้างโดยวิธีฉพาะเจาะจง เจ้าหน้าที่จัดทำรายงานขอซ้ือ หรือขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ตามรายการดงั ตอ่ ไปน้ี 3.1 เหตุผลและความจำเป็นที่ต้องซื้อหรอื จ้าง 3.2 ขอบเขตของงานหรอื รายละเอยี ดคุณลกั ษณะเฉพาะของพสั ดุหรือแบบรูปรายการ งานก่อสร้างทีจ่ ะซ้ือหรือจ้าง แลว้ แต่กรณี 3.3 ราคากลางของพัสดทุ ่จี ะซื้อหรือจา้ ง 3.4 วงเงินที่จะซอ้ื หรือจ้าง โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถา้ ไมม่ วี งเงนิ ดังกล่าวใหร้ ะบุ วงเงินท่ปี ระมาณว่าจะซอ้ื หรือจา้ งในครั้งนัน้ 3.5 กำหนดเวลาทต่ี ้องการใชพ้ สั ดนุ ้นั หรอื ใหง้ านนั้นแลว้ เสร็จ 3.6 วธิ ีทีจ่ ะซื้อหรอื จ้างและเหตผุ ลทต่ี อ้ งซื้อหรอื จ้างโดยวิธีนัน้ 3.7 หลักเกณฑ์การพิจารณาคดั เลอื กข้อเสนอ 3.8 ข้อเสนออนื่ ๆ เชน่ การขออนุมัตแิ ตง่ ตั้งคณะกรรมการตา่ ง ๆ ทีจ่ ำเป็นในการซือ้ หรือ การจา้ ง การออกประกาศและเอกสารเชญิ ชวน และหนังสอื เชิญชวน ท้ังน้ี หากการจดั ซื้อจดั จา้ งเปน็ ไปตามเง่ือนไขดังน้ี เจา้ หนา้ ทห่ี รือผู้ที่รบั ผิดชอบในการ ปฏิบตั งิ านนน้ั จะทำรายงานขอซอื้ ขอจ้างเฉพาะรายการที่เห็นว่าจำเป็นกไ็ ด้
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซื้อจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 29 - หน่วยงานมีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากอุบัติภัยหรือ ภัยธรรมชาติหรือเกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี ประกาศเชญิ ชวน หรอื วธิ ีคดั เลือกอาจกอ่ ให้เกดิ ความลา่ ช้า และอาจทำให้เกิดความเสยี หายรา้ ยแรง - กรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่มีวงเงินเล็กน้อยตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตาม ความในมาตรา 96 วรรคสอง ซง่ึ ไมอ่ าจทำรายงานตามปกติได้ 4. เมือ่ หวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั ใหค้ วามเห็นชอบรายงานขอซ้ือขอจา้ งแล้ว ให้คณะกรรมการ ซ้ือหรอื จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ดำเนนิ การดังตอ่ ไปน้ี 4.1 จัดทำหนังสือเชญิ ชวนผูป้ ระกอบการที่มคี ณุ สมบัติตรงตามเงอ่ื นไขท่ีหน่วยงานของรฐั กำหนดรายใดรายหน่งึ ใหเ้ ขา้ ย่ืนขอ้ เสนอหรือให้เขา้ มาเจรจาต่อรองราคา โดยใหด้ ำเนนิ การดังตอ่ ไปนี้ 4.1.1 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนง่ึ (2) (ก) คอื ใช้ท้งั วธิ ปี ระกาศเชิญชวนท่ัวไปและ วิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลอื กแล้ว แต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรอื ข้อเสนอนน้ั ไม่ไดร้ ับการคดั เลือก • ใหเ้ ชญิ ผู้ประกอบการที่มีอาชพี ขายหรือรบั จ้างน้ันโดยตรงหรือจากผู้ย่ืนข้อเสนอ ในการซอื้ หรือจ้างโดยวธิ ีประกาศเชิญชวนทัว่ ไปหรือวธิ ีคดั เลือกซึ่งถูกยกเลิกไป (ถา้ ม)ี ให้มาย่ืนเสนอราคา ทั้งน้ี หากเหน็ วา่ ผ้ปู ระกอบการรายที่เห็นสมควรซื้อหรือจ้างเสนอราคาสูงกวา่ ราคาในท้องตลาด หรือราคา ท่ปี ระมาณได้ หรอื ราคาที่คณะกรรมการเหน็ สมควร ใหต้ อ่ รองราคาลงเท่าทีจ่ ะทำได้ 4.1.2 กรณตี ามมาตรา 56 วรรคหน่งึ (2) (ค) , (ง) คอื การจดั ซือ้ จดั จา้ งพสั ดทุ ี่มี ผู้ประกอบการซึ่งมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียว หรือการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการซึ่งเป็น ตัวแทนจำหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดียวในประเทศไทย และไม่มีพัสดุ อื่นที่จะใช้ทดแทนได้ (ค), หรือมีความจำเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดอุบัติภัยหรือภัย ธรรมชาติหรือเกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศ เชญิ ชวนท่ัวไปหรือวิธีคัดเลอื กอาจก่อให้เกดิ ความลา่ ช้าและอาจทำให้เกิดความเสียหายอยา่ งร้ายแรง (ง) • ให้เชิญผู้ประกอบการที่มีอาชีพขายหรือรับจ้างนั้นโดยตรงมายื่นเสนอราคา หากเห็นว่าราคาที่เสนอนั้นยังสูงกว่าราคาในท้องถิ่น หรือราคาที่ประมาณได้ หรือราคาที่คณะกรรมการ เห็นสมควร ให้ต่อรองราคาลงเทา่ ทจ่ี ะทำได้ 4.1.3 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (จ) คือ พัสดุที่จะทำการจัดซื้อจัดจ้างเป็น พัสดุที่เกี่ยวพันกับพัสดุที่ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว และมีความจำเป็นต้องทำการจัดซื้อจัดจ้าง เพิ่มเติมเพื่อความสมบรู ณห์ รือต่อเนือ่ งในการใช้พัสดุนั้น โดยมูลค่าของพัสดุที่ทำการจดั ซือ้ จัดจ้างเพิ่มเตมิ จะต้องไม่สงู กวา่ พสั ดุทีไ่ ดท้ ำการจดั ซ้ือจดั จ้างไวก้ ่อนแล้ว • ให้เจรจากับผู้ประกอบการรายเดิมตามสัญญาหรือข้อตกลงซึ่งยังไม่สิ้นสุด ระยะเวลาส่งมอบ เพื่อขอให้มีการซื้อหรือจ้างตามรายละเอียดและราคาที่ต่ำกว่าหรือราคาเดิมภายใต้
คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจัดซ้อื จดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 30 เงื่อนไขที่ดีกว่าหรือเงื่อนไขเดิม โดยคำนึงถึงราคาต่อหน่วยตามสัญญาเดิม (ถ้ามี) เพื่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุดตอ่ หนว่ ยงานของรฐั 4.1.4 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ฉ) คือ เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดย หน่วยงานของรัฐ องคก์ ารระหว่างประเทศหรือหนว่ ยงานของตา่ งประเทศ • ให้ดำเนนิ การโดยวธิ เี จรจาตกลงราคา 4.1.5 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ช) คือ เป็นพัสดุที่เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ซง่ึ จำเป็นต้องซอื้ เฉพาะแห่ง • ให้เชิญเจ้าของที่ดินหรอื สิง่ ปลูกสรา้ งโดยตรงมาเสนอราคา หากเห็นว่าราคา ทเ่ี สนอนั้นยงั สูงกว่าราคาในท้องตลาด หรือราคาทคี่ ณะกรรมการเห็นสมควร ให้ต่อรองราคาลงเทา่ ทจ่ี ะทำได้ 4.1.6 กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ข) คือ การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหนา่ ย กอ่ สรา้ ง หรอื ใหบ้ ริการท่ัวไป และมวี งเงนิ ในการจัดซ้ือจัดจ้างครั้งหน่ึงไม่เกินวงเงินตามท่ีกำหนด ในกฎกระทรวง (ไม่เกนิ 500,000 บาท) • ให้เจ้าหน้าที่เจรจาตกลงราคากบั ผู้ประกอบการทีม่ ีอาชีพขายหรือรับจ้างนน้ั โดยตรง แล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่ซื้อหรือจ้างได้ภายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจากหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐ • กรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อน และ ไม่อาจดำเนินการตามปกติได้ทัน ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการปฏบิ ัติงานน้ัน ดำเนินการไปก่อน แล้วรีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้าหน่วนงานของรัฐ และเมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรั ฐ ให้ความเห็นชอบแลว้ ใหถ้ ือว่ารายงานดงั กล่าวเป็นหลกั ฐานการตรวจรับโดยอนุโลม 5. จัดทำรายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารที่ได้รับไว้ทั้งหมดเสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ทั้งน้ี รายงานผลการ พจิ ารณาดังกลา่ ว ให้ประกอบด้วยรายการอย่างนอ้ ย ดังตอ่ ไปน้ี 5.1 รายการพสั ดทุ ี่จะซ้ือหรอื จา้ ง 5.2 รายช่ือผ้ยู น่ื ขอ้ เสนอ ราคาท่ีเสนอ และข้อเสนอของผู้ย่ืนขอ้ เสนอทกุ ราย 5.3 รายชอ่ื ผู้ย่นื ข้อเสนอทีผ่ ่านการคดั เลือกว่าไม่เป็นผมู้ ีผลประโยชนร์ ่วมกนั 5.4 หลักเกณฑ์การพจิ ารณาคัดเลอื กข้อเสนอ พร้อมเกณฑ์การให้คะแนน 5.5 ผลการพิจารณาคัดเลอื กขอ้ เสนอและการให้คะแนนข้อเสนอของผู้ย่ืนข้อเสนอ ทุกรายพร้อมเหตุผลสนบั สนนุ ในการพจิ ารณา 6. ประกาศผลผู้ได้รับการคดั เลอื กโดยวิธเี ฉพาะเจาะจง โดยเมื่อหัวหนา้ หนว่ ยงานของรฐั ให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณาและผู้มีอำนาจอนุมัติสั่งซื้อหรือส่ังจ้างแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ี ประกาศผลผู้ชนะการซื้อหรือจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงาน
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบิกจ่ายเงนิ จากการจัดซอ้ื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 31 ของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกำหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปิดประกาศของ หน่วยงานของรัฐนั้น และแจ้งให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ตามแบบที่กรมบญั ชีกลางกำหนด 7. การจดั ทำสัญญาและลงนามในสญั ญา เมื่อล่วงพ้นระยะเวลาอทุ ธรณแ์ ละไมม่ ผี ู้ใดอทุ ธรณ์ ตามมาตรา 117 คือ ให้ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ยื่นอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐนั้นภายในเจ็ดวันทำการนับแต่ วันประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างในระบบเครือข่ายสนเทศของกรมบัญชีกลาง ให้แจ้งผู้ชนะการเสนอราคา เข้ามาทำสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด โดยการลงนามในสัญญาและการแก้ไขสัญญา เป็นอำนาจของหัวหนา้ หน่วยงานของรฐั กรณกี ารจดั ซ้อื จดั จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หรือการจดั ซือ้ จัดจ้างท่ีมีวงเงินเล็กน้อยตามท่ี กำหนดในกฎกระทรวง ไม่ต้องรอให้พน้ ระยะเวลาอทุ ธรณ์ 7.1 หน่วยงานของรัฐอาจจัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือโดยไม่ทำสัญญาตามแบบที่ คณะกรรมการนโยบายกำหนดกไ็ ด้ เฉพาะในกรณี ดงั ต่อไปนี้ 7.1.1 การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 56 (2) หรือการจ้าง ทีป่ รกึ ษาโดยวิธเี ฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 70 (3) กรณี ดงั นี้ - การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่มีการผลิต จำหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บริการทั่วไป และมีวงเงินในการจัดซอื้ จัดจ้างคร้งั หนึง่ ไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มาตรา 56 (2) (ข) - มีความจำเปน็ ตอ้ งใช้พสั ดนุ ั้นโดยฉุกเฉิน เนอื่ งจากอุบตั ิภยั หรือภัยธรรมชาติ หรือเกิดโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ และ การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวน หรอื วิธคี ดั เลอื กอาจก่อให้เกิดความล่าช้า และอาจทำใหเ้ กิดความเสียหายร้ายแรง มาตรา 56 (2) (ง) - เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องคก์ ารระหวา่ งประเทศ หรือหนว่ ยงานของต่างประเทศ มาตรา 56 (2) (ฉ) - งานจ้างที่มวี งเงินค่าจ้างคร้นั หนงึ่ ไม่เกินวงเงินตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มาตรา 70 (3) (ข) 7.1.2 การจดั ซ้อื จดั จา้ งจากหน่วยงานของรฐั 7.1.3 กรณีที่คู่สัญญาสามารถส่งมอบพัสดุได้ครบถ้วนภายในห้าวันทำการนับตั้งแต่ วันถัดจากวันทำขอ้ ตกลงเปน็ หนงั สือ 7.1.4 การเชา่ ซ่งึ ผู้เช่าไมต่ อ้ งเสียเงนิ อ่นื ใดนอกจากคา่ เชา่ 7.1.5 กรณอี น่ื ตามทคี่ ณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนดในราชกจิ จานุเบกษา 7.2 การจดั ซือ้ จัดจา้ งท่ีมวี งเงินเล็กนอ้ ยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไม่เกิน 100,000 บาท) จะไมท่ ำขอ้ ตกลงเปน็ หนงั สอื ไวต้ ่อกันก็ได้ แตต่ อ้ งมีหลักฐานในการจดั ซื้อจดั จา้ งน้นั
คมู่ อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจดั ซ้ือจัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 32 8. การตรวจรับพัสดุ ใหค้ ณะกรรมการตรวจรับพสั ดุในงานซือ้ หรอื งานจา้ ง มหี นา้ ที่ดงั น้ี 8.1 ตรวจรบั พสั ดุ ณ ท่ีทําการของผใู้ ช้พสั ดนุ นั้ หรอื สถานที่ซ่ึงกาํ หนดไวใ้ นสญั ญาหรอื ข้อตกลง การตรวจรับพัสดุ ณ สถานที่อ่นื ในกรณีทไ่ี มม่ ีสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง จะต้องได้รบั อนมุ ัติจาก หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐก่อน 8.2 ตรวจรบั พสั ดุให้ถูกตอ้ งครบถว้ นตามหลกั ฐานทีต่ กลงกันไว้ สําหรับกรณที ม่ี กี าร ทดลอง หรือตรวจสอบในทางเทคนิคหรือทางวิทยาศาสตร์ จะเชิญผ้ชู ํานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเก่ียวกับ พัสดุนั้นมาให้คําปรึกษา หรือส่งพัสดุนั้นไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ สถานที่ของผู้ชํานาญการหรือ ผู้ทรงคุณวุฒนิ ้นั ๆ ก็ได้ ในกรณีจําเป็นที่ไม่สามารถตรวจนับเป็นจํานวนหน่วยทั้งหมดได้ ให้ตรวจรับตามหลัก วชิ าการสถติ ิ 8.3 ให้ตรวจรับพสั ดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รบั จ้างนาํ พัสดุมาส่ง และให้ดําเนินการให้เสร็จสนิ้ โดยเร็วทส่ี ุด 8.4 เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบ พัสดุถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนําพัสดุนั้นมาส่ง แล้วมอบแก่เจ้าหน้าที่พร้อมกับ ทําใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 2 ฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และ เจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพื่อดําเนินการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบของหน่วยงานของรัฐและรายงานให้หัวหน้า หนว่ ยงานของรฐั ทราบ ในกรณีที่เห็นว่าพัสดุที่ส่งมอบ มีรายละเอียดไม่เป็นไปตามข้อกําหนดในสัญญา หรอื ขอ้ ตกลง ให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรฐั ผา่ นหัวหน้าเจา้ หน้าท่ี เพอ่ื ทราบและสง่ั การ 8.5 ในกรณีทผี่ ู้ขายหรือผูร้ ับจา้ งสง่ มอบพสั ดุถกู ต้องแตไ่ มค่ รบจาํ นวน หรือสง่ มอบครบ จํานวนแตไ่ ม่ถกู ตอ้ งทัง้ หมด ถา้ สัญญาหรอื ข้อตกลงมิได้กําหนดไว้เปน็ อยา่ งอนื่ ใหต้ รวจรบั ไวเ้ ฉพาะจาํ นวน ที่ถูกต้อง โดยถือปฏิบัติตาม (8.4) และให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจากวันตรวจพบ แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธ์ิ หน่วยงานของรฐั ทีจ่ ะปรับผ้ขู ายหรือผ้รู บั จา้ งในจํานวนทส่ี ง่ มอบไม่ครบถว้ นหรอื ไม่ถกู ต้องนั้น 8.6 การตรวจรบั พสั ดุท่ีประกอบกันเปน็ ชุดหรือหน่วย ถ้าขาดส่วนประกอบอย่างใดอย่างหน่ึง ไปแลว้ จะไมส่ ามารถใชก้ ารได้โดยสมบรู ณ์ ใหถ้ อื ว่าผขู้ ายหรือผรู้ ับจ้างยงั มิได้ส่งมอบพัสดุนนั้ และโดยปกติ ให้รีบรายงานหวั หน้าหน่วยงานของรฐั เพื่อแจง้ ให้ผู้ขายหรือผู้รับจา้ งทราบภายใน 3 วันทําการ นับถัดจาก วันท่ีตรวจพบ 8.7 ถ้ากรรมการตรวจรับพสั ดบุ างคนไม่ยอมรับพัสดุโดยทําความเหน็ แยง้ ไว้ให้เสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสั่งการให้รับพัสดุนั้นไว้ จึงดําเนินการตาม (8.4) หรอื (8.5) แลว้ แต่กรณี
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้ือจดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 33 ในกรณีท่กี ารจดั ซ้อื จดั จา้ งมีวงเงินเลก็ นอ้ ยตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ไมเ่ กนิ 100,000 บาท) จะแต่งตั้งบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้ตรวจรับพัสดุนั้น โดยให้ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับคณะกรรมการ ตรวจรับพัสดุกไ็ ด้
บทที่ 4 การตรวจสอบเอกสารเบิกจา่ ยเงิน การตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี เฉพาะเจาะจง ของกลุ่มตรวจสอบ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นการตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารประกอบการขอเบิกเงินให้กับเจ้าหนี้หรือผู้มีสิทธิ ตามที่สำนัก กอง ศูนย์ สถาบัน หรอื สำนักงานตา่ ง ๆ ส่งเร่อื งขออนมุ ตั เิ บิกจา่ ยเงนิ หลังจากผ้ขู ายหรอื ผรู้ บั จ้างได้ดำเนินการส่งมอบ พสั ดุ และแจง้ หน้ี โดยผู้ตรวจรับพสั ดุหรือคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดไุ ดท้ ำการตรวจรับพัสดุเรียบร้อยแล้ว ในที่นี้จะกล่าวถึงการตรวจสอบเอกสารเบิกจ่ายเงินจากการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 56 (2) (ข) วงเงิน ไมเ่ กนิ 500,000 บาท เมื่อกลุ่มตรวจสอบ กองคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับเรื่องจาก สำนัก กอง ศูนย์ สถาบนั หรอื สำนักงานต่าง ๆ ทส่ี ง่ เร่อื งมาขออนมุ ัติเบิกจา่ ยเงินคา่ จดั ซ้ือจดั จา้ งพสั ดุให้กับ เจ้าหนีห้ รือผมู้ ีสิทธิ จะดำเนนิ การตรวจสอบเอกสารแนบประกอบการขออนมุ ัติเบิกเงินให้ครบถว้ น ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเสนอขออนุมัติเบิกจ่ายเงิน จากผ้มู อี ำนาจอนุมตั ิ โดยในแต่ละขั้นตอนจะมีเอกสารประกอบท่ตี ้องตรวจสอบ ดังนี้ 1. ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการ งานก่อสร้างที่จะซื้อหรือจ้าง แล้วแต่กรณี กรณีที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดขอบเขตของงาน หรือรายละเอยี ดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ ต้องแนบคำสง่ั แตง่ ต้งั คณะกรรมการกำหนดราคากลาง (ถ้ามี) โดยจะต้องมีรายงานผลของคณะกรรมการ และในเอกสารขอบเขตของงานหรือรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะ ของพัสดุ ตอ้ งมลี ายมือชอ่ื ของกรรมการทกุ คนเซน็ ตก์ ำกบั บนเอกสารทุกฉบบั พรอ้ มทั้งมกี ารเผยแพรร่ าคากลาง โดยใช้แบบถูกต้องตามประเภทของการจัดซอื้ จดั จ้าง ตามหนงั สือกรมบัญชกี ลาง ด่วนท่สี ุด ท่ี กค 0433.2/ว 206 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 และแนบเอกสารเกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตของงาน หรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง และผลการพิจารณาในครั้งนั้น (ถ้ามี) ดงั ตวั อย่างต่อไปนี้
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซ้ือจัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 35 หนังสือขออนมุ ตั ิแต่งต้ังคณะกรรมการจัดทำรายละเอียดคุณลกั ษณะเฉพาะ และราคากลาง
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจดั ซอ้ื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 36 ลงนามอนุมัตโิ ดยหัวหน้า หนว่ ยงานของรัฐ หรือ ผู้ไดร้ บั มอบอำนาจ
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จ่ายเงนิ จากการจดั ซอ้ื จดั จา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 37 รายงานผลการจดั ทำรายละเอยี ดคุณลกั ษณะเฉพาะและราคากลางของคณะกรรมการฯ
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 38
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 39
คมู่ ือตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจัดซื้อจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 40 รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ กรรมการลงลายมือชื่อกำกบั ทุกฉบับ
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 41
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 42
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 43
ค่มู อื ตรวจสอบเอกสารการเบกิ จา่ ยเงนิ จากการจดั ซื้อจดั จา้ งโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง หน้า 44 เงอ่ื นไขการสง่ มอบงานทต่ี ้องตรวจสอบว่าผ้รู ับจ้างส่งมอบงาน ครบถว้ น ถูกตอ้ งเป็นไปตามเงอ่ื นไข และกรรมการตรวจรับพัสดุ ได้ตรวจรับถกู ต้องแล้ว
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 45
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 46
ค่มู ือตรวจสอบเอกสารการเบิกจา่ ยเงนิ จากการจดั ซ้อื จัดจา้ งโดยวิธีเฉพาะเจาะจง หน้า 47
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118