Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖

ประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖

Published by Thanarat MCU Surin, 2023-02-17 03:29:08

Description: ประชุมพงศาวดาร ฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖

Search

Read the Text Version

จดหมายเหตุของหมอบรดั เล 35 เซอร์จอหน์ เบาว์รงิ (Sir John Bowring) ตอ่ มาไดร้ บั พระราชทานบรรดาศักด์ิเปน็ พระยาสยามานุกลู กจิ สยามมิตรมหายศ กปั ตันเทาน์เซนด์ แฮรสิ (Townsend Harris)

36 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ พฤศจิกายน ที่ ๙ เรือกลไฟพระที่นั่งล�ำแรกท�ำส�ำเร็จ เรือล�ำน้ีชื่อ รอแยล ซีต1 (สยามอรสุมพล) พระนายไวย2 (คือ เจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์) เปน็ นายงาน หมอจันดเลเปน็ ผดู้ ูการ พฤศจกิ ายน ท่ี ๑๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสด้วยเรือ พระท่ีนงั่ กลไฟล�ำใหม่ ๑๘๕๖ มกราคม ท่ี ๖ เรือรบองั กฤษช่ือ สรเซน นายเรือช่อื ยอน ริชาตส์ 3 มาถงึ ปากน�ำ้ โดยได้รับอนญุ าตใหล้ งมอื ท�ำแผนทที่ ะเลอา่ วสยาม กมุ ภาพนั ธ์ ที่ ๑๔ เจ้าจอมมารดา (ปราง)4 ของกรมหลวงวงษาธิราชสนิท ถึงอนจิ กรรม มนี าคม ท่ี ๑๗ นายแฮรี ปากส์ มากับภรรยา น�ำสญั ญาองั กฤษเขา้ มาแลก เมษายน ท่ี ๕ แลกหนังสอื สัญญาไทยกับอังกฤษ 1 เรอื รอแยล ซีต (Royal Seat) เปน็ เรอื ขนาดเล็ก ๑๒ แรงมา้ ซ้อื เคร่อื งยนตม์ าจากนวิ ยอรก์ สหรฐั อเมรกิ า เปน็ เรือกลไฟ ล�ำแรกท่ีสร้างในประเทศไทย 2 จม่ืนไวยวรนารถ (วร บุนนาค) ต�ำแหน่งหัวหมื่นมหาดเล็ก เป็นบุตรคนโตของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) กับท่านผู้หญิงกลิ่น สมัยรัชกาลท่ี ๓ เข้ารับราชการเป็นนายฉัน (หรือจัน) หุ้มแพรมหาดเล็ก ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ เป็นจม่ืนไวยวรนารถ แล้วเป็นพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ จางวางมหาดเล็ก โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นราชทูตน�ำคณะทูตไทยไป เจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศสเรื่องกัมพูชา ใน พ.ศ. ๒๔๑๐ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้เป็นเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ ท่ีสมุหพระกลาโหมใน พ.ศ. ๒๔๑๒ ถึงแก่อสัญกรรมในรัชกาลท่ี ๕ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๑ อายุได้ ๖๐ ปี ท่านมีบุตรธิดาท่ีเป็น บุคคลส�ำคัญ เช่น เจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักด์ิ (โต บุนนาค) เจ้าคุณพระประยูรวงศ์ (เจ้าจอมมารดาแพ) เจ้าจอมมารดาโหมด เป็นต้น 3 จอห์น ริชารด์ (John Richard) เปน็ ผ้บู งั คบั การเรอื รบองั กฤษชอ่ื สาระเซน (Saracen) 4 เป็นธดิ าของขรัวยายทองอนิ และขรัวตาบุญเกิด มีพนี่ อ้ ง ๗ คน อยใู่ นราชนิ กิ ลู บางชา้ ง เปน็ พระสนมเอกในรัชกาลที่ ๒ มพี ระราชโอรส คือ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนทิ ต้นราชสกุล สนิทวงศ์

จดหมายเหตขุ องหมอบรดั เล 37 ปมี ะโรง จุลศักราช ๑๒๑๘ พ.ศ. ๒๓๙๙ เมษายน ที่ ๒๑ กัปตันเตาน์เซนด์ แฮรสิ 1 ทตู อเมรกิ นั เขา้ มาขอท�ำสัญญา พฤษภาคม ที่ ๑๕ นายแฮรี ปากส์ กับภรรยากลบั ไป พฤษภาคม ที่ ๒๙ ท�ำหนังสือสัญญาไทยกับยุไนส์ติดสเตต2 อเมริกา หมอมัตตูน มชิ ชนั นารีอเมรกิ นั ได้เปน็ กงสุล3 คนแรก พฤษภาคม ท่ี ๓๑ กปั ตันเตาน์เซนด์ แฮริส ทตู อเมริกันกลบั ไป มถิ นุ ายน ที่ ๑๐ นายฮลิ เลีย4 กงสุลองั กฤษคนแรกเขา้ มาถงึ กรกฎาคม ที่ ๑๔ มองสิเออมองตคิ นี5 ราชทตู ฝร่ังเศสเขา้ มาขอท�ำหนงั สือสัญญา สงิ หาคม ที่ ๑๖ ท�ำหนงั สอื สัญญาไทยกับฝรงั่ เศส กนั ยายน มองสเิ ออมองตคิ นี ราชทตู ฝรัง่ เศสกลับไป ตลุ าคม ที่ ๑๘ นายฮิลเลีย กงสุลอังกฤษป่วยเป็นบดิ ถึงแกก่ รรม 1 กัปตันเทาน์เซนด์ แฮริส (Townsend Harris) พ.ศ. ๒๓๔๗ - ๒๔๑๔ (ค.ศ. ๑๘๐๔ - ๑๘๗๑) เป็นชาวอเมริกัน รัฐบาลสหรัฐอเมริกาส่งเข้ามาท�ำสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับไทยในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีผลส�ำเร็จราบรื่น ภายหลังกัปตัน เทาน์เซนด์ แฮริส ได้รับแต่งต้ังเป็นกงสุลใหญ่ (Consul General) คนแรกของสหรัฐอเมริกาประจ�ำญ่ีปุ่นท่ีเมืองเอโดะ (Edo) ต่อมาคือ เมอื งโตเกยี ว (Tokyo) ตามขอ้ ตกลงตามสนธสิ ัญญาเปอร์รี (Perry Treaty) เมอื่ วนั ท่ี ๓๑ มีนาคม ค.ศ. ๑๘๕๔ 2 เรียกว่า “หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีประเทศอเมริกันแลประเทศสยาม” หรือสนธิสัญญาแฮร์ริส มีสาระส�ำคัญ เชน่ เดยี วกับหนังสือสัญญา ซง่ึ ไทยท�ำกับอังกฤษใน พ.ศ. ๒๓๙๘ ทเ่ี รียกวา่ “สัญญาเบาวร์ งิ ” กล่าวคอื ไทยยินยอมใหค้ นอเมริกัน เขา้ มาท�ำการคา้ ขายกบั ไทยได้โดยเสรแี ละเสยี ภาษสี นิ ค้าตามอตั ราทก่ี �ำหนด ภาษีสนิ ค้าขาเข้า ไม่เกินรอ้ ยละ ๓ ภาษสี ินค้าขาออก เก็บได้คร้ังเดียวตามพิกัดอัตราภาษีแนบท้ายสัญญา และไทยต้องยอมเสียสิทธิทางการศาล ท่ีเรียกว่า “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” (Extra - territorial rights) 3 เป็นต�ำแหน่งซึ่งรัฐบาลแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนไปประจ�ำอีกประเทศหนึ่ง เพ่ือดูแลผลประโยชน์ทั่วไป มีฐานะต�่ำกว่า ต�ำแหน่งทตู (Minister) 4 ซี. บี. ฮิลเลีย (C. B. Hillier) ปฏิบัติหน้าท่ีกงสุลอังกฤษประจ�ำประเทศไทยอยู่ได้เพียง ๔ เดือน ก็ถึงแก่กรรมด้วย โรคบดิ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๓๙๙ 5 ชาลส์ เดอ มงติญยี (Charles de Montigny) บางครั้งเรียก “มองติงี” เป็นราชทูตฝร่ังเศสท่ีพระเจ้านโปเลียนท่ี ๓ แหง่ ฝรงั่ เศส (Napoleon III พ.ศ. ๒๓๙๕ - ๒๔๑๖) ทรงส่งเข้ามาเจรจาท�ำสนธิสัญญาทางพระราชไมตรี การพาณชิ ย์ และการเดนิ เรอื

38 ประชมุ พงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ ๑๘๕๗ มกราคม ที่ ๑ มีเรือก�ำปั่นพ่อค้าทอดอยู่ในแม่น�้ำถึง ๖๐ ล�ำ เพราะเหตุท่ีได้ท�ำ หนังสือสัญญากับต่างประเทศ การค้าขายเจริญขึ้นรวดเร็ว ไม่เคยมี เหมอื นเช่นน้มี าแต่กอ่ น มีนาคม นายยลิ คัล ผู้รง้ั กงสลุ องั กฤษกบั ภรรยาเขา้ มาถึง ปีมะเสง็ จุลศักราช ๑๒๑๙ พ.ศ. ๒๔๐๐ มถิ นุ ายน ท่ี ๓ ดอกเตอบรัดเล1 ทูต น�ำสญั ญาท�ำกับอเมริกันเข้ามาแลก มิถนุ ายน ท่ี ๑๕ ดอกเตอบรัดเล ทตู กลบั ไป มถิ นุ ายน ที่ ๒๕ ราชทตู ไทย (คราวพระยามนตรสี ุริยวงษ)์ 2 ออกไปเมอื งองั กฤษ พฤศจิกายน ที่ ๑๘ นายเฮอรเ์ ตยี เข้ามาร้ังการกงสลุ ฝร่งั เศส ธนั วาคม ท่ี ๘ เซอรร์ อเบติ จอมเบิค3 กงสุลอังกฤษเขา้ มาถงึ ๑๘๕๘ กุมภาพนั ธ์ ที่ ๘ สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาพิไชยญาติพิราลยั 1 Dr. William C. Bradley กงสุลสหรัฐอเมริกาประจ�ำเมืองหนิงปัว (Ning po) ได้รับมอบอ�ำนาจจากประธานาธิบดี เจมส์ บูแคนนั (James Buchanan) ใหเ้ ขา้ มาแลกเปล่ียนหนังสือใหส้ ตั ยาบันสนธิสัญญาระหวา่ งสหรัฐอเมริกากบั ไทย พ.ศ. ๒๓๙๙ 2 พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) เป็นบุตรของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) กับท่าน ผู้หญิงจันทร์ เป็นราชทูตเชิญพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไปถวายสมเด็จ พระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐ 3 เซอร์รอเบริ ต์ ชอมเบริ ก์ (Sir Robert H. Schomburgk) กงสลุ อังกฤษประจ�ำประเทศไทยคนท่ี ๒ ตอ่ จาก ซี. บ.ี ฮิลเลยี (C. B. Hillier) ด�ำรงต�ำแหนง่ ต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๐๐ - ๒๔๐๗ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงชมเชยวา่ เป็นผู้มีอธั ยาศยั ดี ซ่ือตรง ไม่ขู่เข็ญคนไทยเหมือนกงสุลฮิลเลีย ชอมเบิร์กเป็นผู้แนะน�ำให้รัฐบาลไทยคัดค้านการอ้างสิทธิของฝรั่งเศสเหนือเขมร เพราะเห็นว่าฝา่ ยไทยมหี ลกั ฐานยนื ยันการมสี ทิ ธิดังกล่าวมากกว่าญวนซึง่ เปน็ ของฝรั่งเศส

จดหมายเหตขุ องหมอบรดั เล 39 คณะราชทตู ไทยเข้าเฝา้ ถวายพระราชสาสน์ และเครอื่ งราชบรรณาการ แดส่ มเดจ็ พระราชินีนาถวกิ ตอเรียแหง่ องั กฤษ พ.ศ. ๒๔๐๐ พระยามนตรสี ุรยิ วงศ์ (ชุ่ม บนุ นาค)

40 ประชมุ พงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ ปมี ะเมยี จุลศักราช ๑๒๒๐ พ.ศ. ๒๔๐๑ ๑๘๕๙ มกราคม ที่ ๒๑ เจ้าเมืองหมาเก๊า1 เข้ามาถึง เพื่อจะขอท�ำหนังสือสัญญา ทางพระราชไมตรีกบั โปจเุ กต กมุ ภาพนั ธ ์ ท�ำหนังสอื สัญญาในระหว่างไทยกบั โปจเุ กต ปมี ะแม จุลศกั ราช ๑๒๒๑ พ.ศ. ๒๔๐๒ พฤษภาคม ท่ี ๗ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเลี้ยงฝร่ัง ที่พระท่ีนั่งใหม่2 (คือ หมู่อภิเนาวนิเวศน์ ที่ทรงสร้างตอนหลังพระท่ีน่ัง สทุ ไธสวรรย)์ 3 สงิ หาคม ท่ี ๒ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมือง ตะวนั ตก กระบวนเรอื ตามเสด็จมาก แตเ่ รอื ไฟถึง ๖ หรอื ๘ ล�ำ ธันวาคม ท่ี ๑๒ เซอร์รอเบิต จอมเบิค กงสุลอังกฤษได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปเมือง เชยี งใหม่ แลว้ เดินทางบกออกไปเมอื งเมาะล�ำเลงิ 1 ผู้ว่าราชการเมืองมาเก๊า (Governor of Macao) มีชื่อว่า อิชิโดโร ฟรานซิสโก กิมาราเอส (Isidoro Francisco Guimarães) เมืองมาเก๊าเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสในประเทศจีน ภายหลังการท�ำสัญญานี้แล้ว ได้รับแต่งต้ังให้เป็นราชทูต ผมู้ ีอ�ำนาจเต็มของโปรตุเกสประจ�ำราชส�ำนกั ไทย จนี และญ่ีปนุ่ 2 หมายถึง พระอภิเนาวนิเวศน์ เป็นหมู่พระที่น่ังที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นใน พระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๗ ในบริเวณท่ีเคยเป็นสวนขวา แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๒ และมีพระราชพิธีเฉลิม พระมหามณเฑยี ร ระหว่างวันท่ี ๒ - ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๐๒ 3 เดิมเป็นพระที่น่ังพลับพลาสูงท่ีสร้างในสมัยรัชกาลท่ี ๑ เป็นพลับพลาโถงจัตุรมุข หลังคาไม่มียอด สร้างบนก�ำแพง พระบรมมหาราชวังด้านทิศตะวันออก ส�ำหรับเป็นท่ีประทับทอดพระเนตรกระบวนแห่พระราชพิธีคเชนทรัศวสนาน (คือพระราชพิธี สระสนานใหญ่) และทอดพระเนตรการฝึกช้าง ต่อมารัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้า ฯ ให้ปฏิสังขรณ์ท�ำเป็นผนังก่ออิฐ ยอดปราสาท มงุ กระเบอ้ื งเคลือบประดบั กระจก ชอ่ ฟ้าใบระกา พระราชทานนามว่า พระทน่ี ่ังสุทธาสวรรย์ ในรัชกาลท่ี ๔ โปรดเกล้าฯ ใหเ้ ปล่ียน นามเป็น พระทนี่ งั่ สุทไธสวรรยป์ ราสาท

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 41 โรงกษาปณส์ ิทธิการ ในพระบรมมหาราชวงั ๑๘๖๐ มนี าคม ที่ ๑๓ ช่างกลอังกฤษ ช่ือ ชาลส์ วิคส์สี1 ซึ่งเรียกเข้ามาต้ังเครื่อง โรงกระสาปน์ 2 ตกน้�ำตาย กมุ ภาพันธ์ ท่ี ๒๖ หมอจันดเลซ่งึ ได้เป็นผรู้ ัง้ กงสลุ อเมริกนั กลบั ออกไปอเมริกา 1 ชาลส์ วิคลยี ์ (Charles Wigley) 2 โรงกษาปณ์สิทธิการ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างขึ้นในพระบรม มหาราชวัง ข้างประตูสุวรรณบริบาล ด้านทิศตะวันออก เพ่ือผลิตเงินเหรียญกษาปณ์ใช้แทนเงินพดด้วง โดยทรงมอบหมายให้ พระยามนตรสี ุรยิ วงศ์ (ชุม่ บุนนาค) ราชทูตพเิ ศษของไทยท่เี ดินทางไปถวายพระราชสาสน์ และเจรญิ ทางพระราชไมตรกี บั สมเด็จพระ ราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๐ จัดซ้ือเครื่องจักรผลิตเงินเหรียญ พร้อมจ้างช่างชาวอังกฤษ ๓ คน เข้ามา ควบคุมการติดตั้ง แต่นายช่างทั้ง ๓ คน เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน ต่อมาหลวงวิสูตรโยธามาตย์ (โหมด อมาตยกุล ต่อมา เป็นพระยากษาปณกิจโกศล) สามารถติดต้ังเคร่ืองจักรได้ส�ำเร็จ พระราชทานนามว่า “โรงกษาปณ์สิทธิการ” ผลิตเงินเหรียญ ออกใช้คร้ังแรกเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๐๕

42 ประชุมพงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ ปีวอก จลุ ศักราช ๑๒๒๒ พ.ศ. ๒๔๐๓ มีนาคม ที่ ๒๗ เกิดอหิวาตกโรค เมษายน ที่ ๕ ชกั พระศพกรมสมเดจ็ พระเดชาดิศร1 เมษายน ท่ี ๒๖ เซอร์รอเบติ จอมเบิค กงสลุ อังกฤษ กลับมาถึง พฤษภาคม ที่ ๑๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเมืองเพ็ชรบุรี เป็นครั้งท่ี ๒ ในปีนี้ ไปทอดพระเนตรการสร้างพระราชวังบนยอดเขา มิถนุ ายน ที่ ๑๑ ชา้ งเผอื กมาถงึ จากเมืองนครราชสมิ า มิถนุ ายน ท่ี ๒๒ แหพ่ ระไปเมอื งเพช็ รบุรี มถิ นุ ายนที่ ๒๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเมืองเพ็ชรบุรี ครง้ั ที่ ๓ ตลุ าคม ที่ ๑๙ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชันษา ๕๖ พระราชทานเล้ยี งฝรง่ั ท่ีพระทน่ี ัง่ ใหม่ รงุ่ ข้ึนเสด็จเมอื งเพ็ชรบรุ ี พฤศจิกายน ท่ี ๑๙ ดองเกอร์ เดอเทยี ส2 ราชทตู ฮอลันดาเขา้ มาขอท�ำหนงั สือสัญญา ทางพระราชไมตรี 1 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ามั่ง เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย กับเจ้าจอมมารดานิ่ม ประสูติเม่ือวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๓๖ ต่อมาทรงได้รับการสถาปนาเป็น กรมหม่ืนเดชอดศิ ร ทรงก�ำกับกรมพระอาลกั ษณ์ในรัชกาลที่ ๓ เล่อื นเปน็ กรมขุน เม่ือ พ.ศ. ๒๓๗๕ และในรชั กาลที่ ๔ เลอ่ื นเป็น กรมสมเดจ็ พระเดชาดิศร ทรงก�ำกบั กรมพระอาลักษณ์ และกรมนา ส้ินพระชนมเ์ ม่อื พ.ศ. ๒๔๐๒ ทรงเปน็ ตน้ ราชสกลุ เดชาติวงศ์ 2 เจ. เอช. ดองเกอร์ เคอเทยี ส (J. H. Donker Curtius)

จดหมายเหตขุ องหมอบรดั เล 43 พระนครครี ี หรอื เขาวงั เมอื งเพชรบรุ ี ธนั วาคม ท่ี ๑๗ ท�ำหนังสือสญั ญาระหว่างไทยกับฮอลนั ดา1 ธันวาคม ที่ ๒๓2 ราชทตู ฮอลนั ดากลบั ไป ๑๘๖๑ กมุ ภาพันธ์ ที่ ๑๗ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั เสด็จพระพทุ ธบาท กุมภาพันธ์ ท่ี ๒๗ ไฟไหม้ท่ีข้างวดั หงษ์ 3 มนี าคม ท่ี ๑ ชา้ งเผือกทีไ่ ด้ใหม่ลม้ ที่ (เขาแกว้ ) 1 เรยี กว่า “หนงั สอื สญั ญาทางพระราชไมตรีประเทศนเิ ซอแลนด์ แลประเทศสยาม” มีสาระส�ำคญั เช่นเดียวกบั สนธสิ ญั ญา ซึ่งไทยท�ำกับอังกฤษใน พ.ศ. ๒๓๙๘ ที่เรียกว่า สัญญาเบาว์ริง กล่าวคือ ไทยยินยอมให้ฮอลันดาเข้ามาท�ำการค้าได้อย่างเสรี โดยเสียภาษสี นิ ค้าเขา้ ไม่เกนิ รอ้ ยละ ๓ ภาษีสินค้าขาออกเก็บได้ครัง้ เดยี ว ตามพกิ ัดอตั ราภาษีแนบทา้ ยสญั ญา การให้สทิ ธิในฐานะ ชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์อย่างยิ่ง (Most Favoured Nation) และไทยต้องยอมให้สิทธิสภาพนอกอาณาเขตแก่คนในบังคับ ฮอลันดาดว้ ย 2 พระราชพงศาวดารกรุงรตั นโกสนิ ทร์ รัชกาลท่ี ๔ ระบวุ า่ ตรงกับวันท่ี ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๓ 3 เดิมชอ่ื วัดเจ้าขรวั หง หรือวดั เจ้าสวั หง หรอื วดั เจ๊สวั หง ต้ังอยรู่ ิมคลองบางกอกใหญฝ่ ง่ั เหนือ สร้างมาแต่คร้ังสมัยอยธุ ยา สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงบูรณะใหม่ แล้วยกเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า วัดหงส์อาวาสวิหาร ต่อมา ในรัชกาลที่ ๑ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า ฯ กรมหลวงอิศรสุนทร (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) ขณะทรงด�ำรงต�ำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ประทับที่พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ทรงเปลี่ยนช่ือวัดเป็นวัดหงส์อาวาส บวรวิหาร คร้ันถึงรัชกาลท่ี ๓ กรมสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้า ฯ กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ทรงบรู ณะตอ่ มาและทรงเปล่ยี นชื่อวดั เปน็ วัดหงศาราม ตอ่ มาในรัชกาลที่ ๔ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดหงสร์ ตั นาราม

44 ประชมุ พงศาวดารฉบับกาญจนาภเิ ษก เลม่ ๑๖ ปรี ะกา จลุ ศกั ราช ๑๒๒๓ พ.ศ. ๒๔๐๔ มีนาคม ท่ี ๑๒ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้พิมพ์ปดิทิน1 ซ่งึ ทรงพระราชนพิ นธข์ ึ้นเปน็ ครั้งแรก มนี าคม ที่ ๒๓ ราชทูตไทย (คราวพระยาศรพี ิพฒั น2์ ) ไปเมืองฝรงั่ เศส เมษายน ที่ ๑๓ ฝรั่งประชุมกันท่ีสถานกงสุลอังกฤษ เพ่ือจะท�ำเร่ืองราวถวาย ขอพระราชทานที่สร้างโรงสวดของพวกครสิ ตงั ฝ่ายโปรเตสตนั ต์ พฤษภาคม ที่ ๙ พระราชทานท่ีให้สร้างโรงสวด ฯ (อยู่ริมแม่น�้ำในบริเวณข้างใต้ อูบ่ างกอกด๊อก3 เดีย๋ วนี้) 1 หมอบรัดเลบันทึกว่า รัชกาลท่ี ๔ ทรงออกปฏิทินภาษาไทยฉบับนี้เพื่อแก้ไขวันทางจันทรคติให้ถูกต้อง ราษฎรจะได้ ปฏิบัติศาสนกิจตรงวันส�ำคัญทางพุทธศาสนา ตลอดจนเพื่อแจ้งวันเวลาท่ีจะเกิดจันทรคราสและการเคลื่อนย้ายต�ำแหน่ง ของดาวพุธ 2 นามเดิม แพ บุนนาค เป็นบุตรของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัต บุนนาค) กับหม่อมหงิม เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๒ ในรัชกาลที่ ๓ รับราชการเป็นนายศัลวิไชย หุ้มแพรมหาดเล็ก และจม่ืนสมุหพิมาน ปลัดกรมพระต�ำรวจสนมทหาร ในรัชกาลท่ี ๔ เป็นพระพรหมบริรักษ์ เจ้ากรมพระต�ำรวจสนมทหาร ต่อมาเป็นพระยาศรีพิพัฒน์ จางวางกรมพระคลังสินค้า ใน พ.ศ. ๒๔๐๔ โปรดให้เป็นราชทูตเชิญพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการไปเจริญทางพระราชไมตรีกับฝร่ังเศสในสมัย จักรพรรดินโปเลียนท่ี ๓ (Napoleon III) ต่อมาในรัชกาลที่ ๕ เป็นสมาชิกสภาท่ีปรึกษาราชการแผ่นดิน (State Council) และ สมาชิกสภาท่ีปรึกษาในพระองค์ (Privy Council) เม่ือ พ.ศ. ๒๔๑๗ ในปีเดียวกันน้ี เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ รัตนราชโกษา แต่ยังด�ำรงต�ำแหน่งจางวางกรมพระคลังสินค้าอยู่ตามเดิม ถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. ๒๔๒๙ อายุ ๖๙ ปี 3 อ่เู รอื ของบริษทั บางกอกดอ็ ก (Bangkok Dock Company) สร้างเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๐๘ อยูร่ ิมแม่น�้ำเจา้ พระยาฝ่ังตะวันออก ต�ำบลคอกควาย (ปัจจบุ ันอยู่ในเขตยานนาวา) เปน็ อูเ่ รือที่ใหญท่ ่ีสดุ ในกรุงเทพ ฯ รับจา้ งซอ่ มและต่อเรือก�ำปน่ั ใบ เรอื กลไฟทง้ั เรือไม้ และเรอื เหลก็ รวมทงั้ รบั เหมากอ่ สรา้ งงานวศิ วกรรมทกุ สาขา มกี ปั ตนั บชุ (Bush) (ตอ่ มาคอื พระยาวสิ ตู รสาครดฐิ ) เปน็ ผจู้ ดั การคนแรก ช่วงสงครามโลกครงั้ ที่ ๒ รฐั บาลไทยเขา้ ยึดกิจการฝ่ายอู่เรือ และจัดต้งั บริษัทใหม่ เมอื่ พ.ศ. ๒๔๘๖ ช่ือว่า บริษทั อกู่ รุงเทพ จ�ำกดั ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๕๐๐ รัฐบาลซอื้ กิจการทัง้ หมด เรยี กช่อื บริษทั เปน็ ภาษาองั กฤษว่า “The Bangkok Dock Company (1957) Ltd.”

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 45 คณะราชทตู ไทยเขา้ เฝ้าถวายพระราชสาส์นและเครือ่ งราชบรรณาการ แดจ่ ักรพรรดินโปเลียนท่ี ๓ แหง่ ฝรั่งเศส พ.ศ. ๒๔๐๔ พระยาศรพี ิพัฒน์ (แพ บุนนาค)

46 ประชมุ พงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ พฤษภาคม ท่ี ๑๖ อเมริกันคน ๑ ชื่อ เรดแมน1 พยายามจะฆ่าหมอจันดเล กงสุลอเมรกิ ัน กับนายมลิ เลอ2 มิถุนายน ท่ี ๑๕ หมอบรัดเลซื้อกรรมสิทธ์ิหนังสือนิราศลอนดอน3 มาจากหม่อม ราโชไทย4 (ม.ร.ว. กระต่าย อิศรางกูร ณ กรุงเทพ ฯ นับเป็นการขาย กรรมสทิ ธ์หิ นังสือกนั คร้ังแรกในเมืองไทย) มถิ นุ ายน กรมหลวงสรรพศิลปป์ รีชา5 สน้ิ พระชนม์ กรกฎาคม ที่ ๔ เหน็ ดาวหาง 1 ชาลส์ เรดแมน (Charles Redman) พอ่ คา้ ชาวอเมริกัน 2 ทอมัส มลิ เลอร์ (Thomas Miller) ชาวอเมรกิ นั เปน็ ตวั แทนของบรษิ ัทขายเรอื ยนตช์ ่ือ The American Steam Tug and Lighter Company มิลเลอร์ถูกพ่อค้าช่ือ ชาลส์ เรดเมน (Charles Redman) บุกเข้าท�ำร้าย มีสาเหตุจากการท่ีมิลเลอร์เป็น ผู้จัดการทรัพย์สินของคิมบอล (Kimball) ซึ่งเสียชีวิตแล้วและมีหนี้สินอยู่กับเรดแมน แต่มิลเลอร์ยังไม่ช�ำระหนี้สินของคิมบอล ให้เรดเมน เพราะชันดเลอร์ (Chandler) รักษาการกงสุลอเมริกันประจ�ำประเทศไทย ต้องการให้เรดแมนจัดการหลักฐานต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน เรดแมนจึงโกรธแค้น ใช้อาวุธท้ังมีดและปืนบุกเข้าท�ำร้ายชันดเลอร์และมิลเลอร์ แต่บุคคลท้ังสองไม่ได้รับ บาดเจ็บ เรดแมนถกู ศาลกงสลุ ตดั สินลงโทษจ�ำคกุ ๑๐ ปี และถกู ส่งตวั ไปรบั โทษในสหรฐั อเมริกา 3 เป็นหนังสือท่ีหม่อมราโชทัย (หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร) แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๒ หลังจากแต่ง “จดหมายเหตุ ระยะทางราชทตู ไทยไปลอนดอน” เมอ่ื คร้งั เป็นล่ามหลวงไปกับคณะราชทตู ไทย ซงึ่ มพี ระยามนตรีสุรยิ วงศ์ (ช่มุ บุนนาค) เปน็ ราชทูต เชญิ พระราชสาสน์ และเครอ่ื งราชบรรณาการไปเจรญิ ทางพระราชไมตรกี บั สมเดจ็ พระราชนิ นี าถวกิ ตอเรยี แหง่ องั กฤษ ใน พ.ศ. ๒๔๐๐ หนังสือนิราศลอนดอนแต่งเป็นกลอน ได้รับยกย่องว่าเป็น “ช้ินเอกในหนังสือกลอนไทย” เล่มหนึ่ง นับเป็นนิราศเรื่องแรกท่ีกล่าวถึง บ้านเมอื งในประเทศตะวันตก หมอ่ มราโชทยั ขายลขิ สิทธเ์ิ พื่อพมิ พเ์ ผยแพร่ใหแ้ กห่ มอบรดั เลในราคา ๔๐๐ บาท 4 เดิมชอื่ หม่อมราชวงศ์กระต่าย อศิ รางกรู เกิดเม่อื วนั ที่ ๑๒ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๓๖๓ เป็นโอรสของกรมหมื่นเทวานรุ กั ษ์ (หม่อมเจ้าชะอุ่ม) ถวายตัวกับสมเด็จเจ้าฟ้ามงกุฎเมื่อครั้งทรงพระผนวช หม่อมราชวงศ์กระต่ายได้ศึกษากับมิชชันนารีจนมีความรู้ ภาษาองั กฤษอยา่ งดี พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว โปรดเกล้า ฯ ใหเ้ ป็น “หม่อมราโชทัย” และเปน็ ลา่ มในคณะทูตไปเจรญิ ทางพระราชไมตรีกับอังกฤษในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย ใน พ.ศ. ๒๔๐๐ เมื่อกลับมาแล้วโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นอธิบดี พิพากษาศาลต่างประเทศเป็นคนแรก หม่อมราโชทัยถึงแก่อนิจกรรมเม่ือวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ 5 พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพศิลป์ปรีชา พระนามเดิมว่า พระองคเ์ จ้าชุมแสง เปน็ พระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั กับเจ้าจอมมารดาทมิ ประสตู เิ มื่อวันท่ี ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๔๘ ในรัชกาลที่ ๔ ทรงไดร้ ับการสถาปนา เป็นกรมขุนสรรพศลิ ปป์ รีชา เม่ือ พ.ศ. ๒๓๙๔ แล้วเล่อื นเปน็ กรมหลวงในปเี ดยี วกนั ทรงก�ำกับกรมหมอนวด ส้นิ พระชนม์เมอื่ วนั ที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๐๔ ทรงเปน็ ตน้ ราชสกลุ ชุมแสง

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 47 กรกฎาคม ท่ี ๑๗ เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ไปเมืองสิงคโปร์ มีเรือไฟที่ต่อในเมืองไทย ลงไปส่งท่ีปากน้�ำถึง ๗ ล�ำ (คราวนกี้ รมหม่ืนวิศณุนารถ1 แลพระองคเ์ จา้ คคั ณางคยุคล2 เสดจ็ ด้วย) สงิ หาคม ท่ี ๑๗ กรมหลวงวงษาธิราชสนทิ ประชวรอมั พาตเบือ้ งซา้ ย สิงหาคม ท่ี ๑๙ เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์กลับจากไปตรวจการเมืองสิงคโปร์ เมอื งมละกา เมอื งปินงั มาถึงกรงุ เทพ ฯ สิงหาคม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดให้ สรา้ งถนนใหม่ (คอื ถนนเจริญกรุง)3 ผา่ นไปขา้ งหลงั บา้ นฝรัง่ 1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนวิษณุนารถนิภาธร พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าสุประดิษฐ เป็นพระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาน้อย (พระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ประสูติเม่ือ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๖๗ ในรัชกาลท่ี ๔ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นกรมหมื่นวิษณุนารถนิภาธร เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๙ ทรงก�ำกับกรมพระคลังมหาสมบัติ ส้ินพระชนม์เม่ือวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๕ ทรงเป็นต้นราชสกุล สุประดิษฐ 2 ต่อมาคือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาพึ่ง ประสูติเมื่อวันท่ี ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๙๘ ในสมัยรัชกาลท่ี ๕ ทรงด�ำรงต�ำแหน่งเป็นอธิบดีศาลรับสั่ง ช�ำระความฎีกา ข้าหลวงต่างพระองค์ประจ�ำมณฑลอีสานและเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม สิ้นพระชนม์เม่ือวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๒ ทรงเปน็ ต้นราชสกลุ คคั ณางค์ 3 สืบเนื่องจากกงสุลของประเทศทางตะวันตกเข้าช่ือกันขอให้สร้างถนนไว้ขี่ม้า หรือนั่งรถม้าตากอากาศ พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชด�ำริว่า บ้านเมืองของชาวตะวันตกมีถนนหนทางที่สะดวกสบาย แตกต่างจากเมืองไทย ท่ีถนนหนทางเป็นตรอกเล็กซอยน้อย ถึงจะเป็นถนนใหญ่ก็สกปรกไม่เป็นท่ีเจริญตา อีกทั้งในเวลานั้นชาวตะวันตกเข้ามาอยู่ใน กรุงเทพ ฯ มากข้นึ ดงั นน้ั ใน พ.ศ. ๒๔๐๔ จึงโปรดเกลา้ ฯ ให้เจ้าพระยาศรีสรุ ยิ วงศ์ (ช่วง บนุ นาค) ทีส่ มหุ พระกลาโหมเปน็ แมก่ อง และพระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมืองเป็นนายงานสร้างถนน เร่ิมจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามไปจนถึงชานพระนครด้านใต้ บรเิ วณบางรกั และบางคอแหลม (ถนนตก) เปน็ ยา่ นการค้าและทอี่ ยู่ของชาวตะวนั ตก สน้ิ คา่ ก่อสร้างรวม ๑๙,๗๐๐ บาท พระราชทาน นามว่า ถนนเจรญิ กรงุ แตน่ ยิ มเรียกกนั ทว่ั ไปว่า ถนนใหม่ (New Road) ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว โปรดเกลา้ ฯ ให้สร้างตึกแถวชั้นเดียวสองฟากถนนเป็นระยะเพื่อให้เช่า ต่อมาส่วนใหญ่เป็นร้านค้าของชาวจีนและห้างฝร่ัง ท�ำให้กลายเป็นย่าน การค้าของกรงุ เทพ ฯ สบื มาจนถึงทกุ วันน้ี

48 ประชุมพงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ กนั ยายน ที่ ๙ สมเด็จพระอคั รมเหสี 1 (คือ สมเดจ็ พระเทพศิรินทรา บรมราชนิ )ี สวรรคต ตามสถานกงสุลแลเรอื ก�ำป่นั ลดธงไวท้ ุกขห์ มด ตลุ าคม ที่ ๑๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชันษา ๕๗ พระราชทานเลี้ยงฝรงั่ ในพระราชวัง ตุลาคม ที่ ๒๙ เจ้าฟ้าอศิ ราพงษ์ 2 ส้ินพระชนม์ พฤศจกิ ายน ที่ ๖ เจา้ จอมมารดาแพ 3 พระสนมเอกถงึ อสัญกรรม เนือ่ งตอ่ ประสูติ พระเจา้ ลกู เธอ พฤศจกิ ายน ที่ ๖ แรกพมิ พ์นริ าศลอนดอนของหมอ่ มราโชไทย ออกจ�ำหนา่ ย 1 สมเด็จพระนางร�ำเพยภมราภิรมย์ พระอัครมเหสีในรัชกาลท่ี ๔ ทรงพระประชวรด้วยพระยอดเม็ดเล็ก (ฝี) และทรง พระกาสะ (ไอ) เป็นโลหิต เวลานั้นมีพระชนมพรรษา ๒๘ พรรษา พระองค์เป็นพระราชนัดดาในรัชกาลท่ี ๓ และเป็นสมเด็จ พระบรมราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ สมเด็จ ฯ เจ้าฟ้าจันทรมณฑลโสภณภควดี กรมหลวง วิสทุ ธิกษตั ริย์ สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟ้าจาตรุ นตร์ ัศมี กรมพระจกั รพรรดพิ งศ์ และสมเดจ็ ฯ เจ้าฟ้าภาณรุ ังษสี วา่ งวงศ์ กรมพระยาภาณพุ ันธุ วงศ์วรเดช ต่อมาในรัชกาลที่ ๕ ทรงเฉลิมพระนามพระอัฐิเป็นกรมสมเด็จพระเทพศิรินทรามาตย์ และรัชกาลที่ ๖ ทรงเฉลิม พระนามว่า สมเด็จพระเทพศริ นิ ทรา บรมราชินี 2 พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอิศราพงศ์ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระ บวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กับพระองค์เจ้าดาราวดี (พระราชธิดาในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท) ในรัชกาลท่ี ๔ ทรงได้รับการสถาปนาเปน็ พระเจา้ ราชวรวงศ์เธอ เจา้ ฟา้ อิศราพงศ์ ใน พ.ศ. ๒๓๙๔ สิ้นพระชนม์เม่ือวนั ท่ี ๒๙ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๐๔ ทรงเป็นต้นราชสกุล อิศรศักด์ิ 3 เป็นธิดาของพระส�ำราญหฤทัย (อ้าว ธรรมสโรช) กับท้าวทรงกันดาล (สี) ปรากฏหลักฐานจากพระราชหัตถเลขา ในพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ วั ถึงพระองคเ์ จ้าปทั มราช ความตอนหนึ่งว่า “วันอังคาร ขึ้นสามค�่ำ เดือนสิบสอง นางแพ มารดายิ่งเยาวลักษณ แล ภกั ตรพิมลพรรณ และเกษมสันตโ์ สภาคย์ แลมนุษยน์ าคมานพน้ัน คลอดบตุ รเป็นหญิง ออกแลว้ ครรภมล (รก) ไม่ออกตั้งแต่เวลาห้าทมุ่ หกบาทไป หมอแกไ้ ขหลายหมอแล้ว ก็ไม่ออก คร้ันเวลาเจ็ดทุ่มก็ต้ังหอบตาตั้ง คร้ันเวลาสามยาม หมอบรัดเล อเมริกัน เข้าชักครรภมลออกได้ แต่เม่ือนั้นอาการหนักชีพจรอ่อนเสียแล้ว แก้ไม่ฟื้น ครั้นเวลา สามยามส่บี าท ก็ขาดใจตาย ไดใ้ ห้เอาศพไปฝังไวว้ ดั สมอราย แต่บุตรน้นั ยงั ดีอย”ู่ เจ้าจอมมารดาแพถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๔ มีพระราชโอรสและพระราชธิดา รวม ๕ พระองค์ คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าย่ิงเยาวลักษณ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพักตร์พิมลพรรณ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมสันต์โสภาคย์ (ต่อมาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ ต้นราชสกุล เกษมสันต์) พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ (ต่อมาคือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส) และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบรรจบเบญจมา

จดหมายเหตุของหมอบรดั เล 49 พฤศจกิ ายน ที่ ๑๒ ดาวพระพุธเข้าดวงพระอาทิตย์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า เจา้ อยู่หัวทอดพระเนตรทเ่ี ขาวงั 1 เมอื งเพช็ รบุรี ธันวาคม ท่ี ๑๐ ราชทตู ไทยท่ไี ปเมืองฝรัง่ เศสกลับมาถงึ ธนั วาคม ท่ี ๑๒ คอนต์เอยเลินบูรค์2 ราชทูตปรุสเซีย เข้ามาขอท�ำสัญญาทาง พระราชไมตรี ธนั วาคม ที่ ๒๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั พระราชทานเงนิ พระคลัง ข้างท่ี ๑,๐๐๐ เหรียญ ให้ส่งไปยังแหม่มแคสเวล3 ซ่ึงเป็นหม้ายของ หมอแคสเวล ผู้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษถวายแต่เมื่อยังทรงผนวช ขอ้ ทีท่ รงระลกึ ถึงคณุ ูประการน้ี ฝร่งั สรรเสรญิ มาก ๑๘๖๒ กุมภาพนั ธ์ ท่ี ๓ นายเวสเตอเวลต4 เข้ามาถึง เข้ารั้งการกงสุลอเมริกันแทน นายจนั ดเล 1 อยู่ที่อ�ำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี เดิมช่ือเขาสมณ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามวา่ เขามหาสวรรย์ แตน่ ิยมเรียกกันทัว่ ไปวา่ “เขาวัง” เพราะเปน็ ท่ตี ั้งของพระนครครี ี พระราชวังแหง่ แรกในหวั เมือง พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั โปรดเกล้า ฯ ใหเ้ จา้ พระยาศรสี ุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เปน็ แม่กองก่อสร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๐๑ เพอ่ื ประทับในฤดูรอ้ น ประกอบด้วย พระทีน่ ่งั พระต�ำหนัก วดั หอดดู าว และกล่มุ อาคารตา่ ง ๆ เปน็ การผสมผสานสถาปตั ยกรรม ตะวันตกแบบนีโอคลาสสิก สถาปัตยกรรมจีน และสถาปัตยกรรมไทยได้อย่างกลมกลืนงดงาม ปัจจุบัน เขาวังหรือพระนครคีรี เปน็ ท่ตี ัง้ ของอุทยานประวัติศาสตรพ์ ระนครคีรี และพพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ พระนครครี ี 2 Count Fritz Eulenburg พระเจ้าวลิ เลยี มท่ี ๑ แห่งปรสั เซยี ทรงแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะส�ำรวจทางทะเล พ.ศ. ๒๔๐๓ - ๒๔๐๕ (ค.ศ. ๑๘๖๐ - ๑๘๖๒) เพ่ือเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศตะวันออก เช่น จีนและญ่ีปุ่น และท�ำสนธิสัญญากับไทย เม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๔ 3 Mrs. Caswell เป็นภรรยาของหมอแคสเวลล์ ซึ่งเป็นครูสอนภาษาอังกฤษของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงพระผนวชอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร หลังจากหมอแคสเวลล์เสียชีวิต นางแคสเวลล์และลูก ๆ เดินทางกลับสหรัฐอเมริกา ใน พ.ศ. ๒๓๙๒ 4 เอรอน เจ. เวสเตอร์เวลต์ (Aron J. Westervelt) เป็นนักเผชิญโชคชาวอเมริกันผู้มีความสามารถในการต่อเรือ มีบิดาเป็นนักต่อเรือผู้มีชื่อเสียงของนครนิวยอร์ก เวสเตอร์เวลต์เดินทางมากรุงเทพ ฯ และสร้างอู่ต่อเรือใน พ.ศ. ๒๔๐๑ โดยร่วมหุ้นกับนายชาลส์ อัลเลน (Charles Allen) ในปีเดียวกันน้ีได้ต่อเรือกลไฟลากจูงส�ำหรับขึ้นล่องระหว่างกรุงเทพ ฯ กับปากน้ำ� ตอ่ มาด�ำรงต�ำแหน่งกงสุลอเมริกนั ประจ�ำประเทศไทยตอ่ จากนายชันดเลอร์ (Chandler) ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๔๐๔ - ๒๔๐๖ ลูกสาวของนายเวสเตอร์เวลต์ที่เกิดจากภรรยาคนไทย ได้เข้าถวายตัวเป็นเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

50 ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ กุมภาพันธ์ ที่ ๗ คอนต์ เอยเลินบูรค์ ราชทูตปรุสเซีย ท�ำหนังสือสัญญาทาง พระราชไมตรีกับไทย1 กมุ ภาพันธ์ ที่ ๑๖ กรมหมืน่ เชษฐาธิเบนทร์ 2 ส้นิ พระชนม์ กุมภาพันธ์ ที่ ๑๙ คอนต์ เอยเลนิ บรู ค์ ราชทูตปรสุ เซียกลับไป มีนาคม ท่ี ๑๑ นายอเลกซานเดอ ลูดอน 3 น�ำหนังสอื สญั ญามาแลกเปลย่ี น มีนาคม ท่ี ๑๖ เร่ิมพิธีโสกันต์ พระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ คณะทปี่ รกึ ษาทำ� สนธสิ ัญญาทางการคา้ ฝ่ายไทยกบั ราชทูตปรุสเซยี 1 เรียกว่า “หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีประเทศปรอยซิน (เยอรมัน) แลประเทศสยาม” มีสาระส�ำคัญเช่นเดียวกับ สนธิสัญญาเบาว์ริงท่ีไทยท�ำกับอังกฤษใน พ.ศ. ๒๓๙๘ 2 พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าโกเมน เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาเฟือง ประสูติเม่ือวันท่ี ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๕๘ ในรัชกาลท่ี ๔ ทรงได้รับการสถาปนาเป็นกรมหมื่นเชษฐาธิเบนทร์ สิ้นพระชนม์ เมอ่ื วนั ที่ ๑๖ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๐๔ ทรงเป็นต้นราชสกลุ โกเมน 3 Alexander Loudon เป็นผู้น�ำหนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีระหว่างสยามกับเนเธอร์แลนด์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓ ซึ่งรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้สัตยาบันแล้วเข้ามาแลกเปล่ียนกับฝ่ายไทย

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 51 ปีจอ จุลศกั ราช ๑๒๒๔ พ.ศ. ๒๔๐๕ เมษายน ที่ ๑ พระยาพิศาล ช่ืน1 ถงึ อนิจกรรม เมษายน ที่ ๓ นางลิโอโนเวนส์2 ลงมือสอนภาษาอังกฤษสมเด็จพระราชโอรส แลพระเจ้าลูกเธอ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (นางลิโอ โนเวลส์นี้ ในวังเรียกกันว่า “ยายแหม่ม”) เมษายน ที่ ๑๘ พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระอัครมเหสี เมษายน กองโปลศิ 3 ทจี่ ดั ขนึ้ ใหม่ ลงมอื รกั ษาหนา้ ทตี่ อนส�ำเพง็ พฤษภาคม ท่ี ๑๒ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จด้วยเรือกลไฟ กลบั มาถงึ พระนครจากเมอื งเพช็ รบรุ ี เสดจ็ คราวนเี้ ฉลมิ พระทร่ี าชมณเฑยี ร ทพ่ี ระนครคริ ี แลบรรจุพระธาตใุ นพระเจดียศ์ ิลาทย่ี อดเขามหาสมณั ดว้ ย 1 คือ พระยาพิศาลผลพานิช (ชื่น แซ่กัว) เป็นต้นสกุล พิศาลบุตร พระยาพิศาลผลพานิชเดินทางจากประเทศจีน เข้ามาประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ ๓ ต่อมาได้เป็นเจ้าภาษีนายอากร ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีกิจการเรือส�ำเภาค้าขายระหว่าง กรงุ เทพ ฯ - ซวั เถา และเป็นผบู้ กุ เบกิ กิจการเรือกลไฟเมล์ระหว่างกรุงเทพ ฯ - ฮ่องกง เป็นเจา้ ของรา้ นเคร่ืองลายครามย่ีห้อโปจลู กี่ ่ี 2 คือ แอนนา เอช. เลียวโนเวนส์ (Anna H. Leonowens) เป็นหญิงหม้ายชาวอังกฤษ ขณะท่ีท�ำงานเป็นครูที่โรงเรียน ในสงิ คโปร์ รชั กาลที่ ๔ โปรดใหจ้ า้ งมาเป็นครูสอนภาษาองั กฤษและวิชาการอ่ืน ๆ ถวายสมเดจ็ พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจฬุ าลงกรณ์ (ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ตลอดจนพระราชโอรสและพระราชธิดาอีกหลายพระองค์ นางแอนนา พรอ้ มกับบุตรชายชื่อ หลุยส์ (Louis T. Leonowens) เดินทางเขา้ มากรงุ เทพ ฯ ใน พ.ศ. ๒๔๐๕ อยูจ่ นถงึ พ.ศ. ๒๔๑๐ จงึ เดนิ ทาง กลับไปอังกฤษ นางแอนนาเขียนหนังสือเก่ียวกับประเทศไทยไว้ ๒ เล่ม ช่ือ The English Governess at the Siamese Court (พิมพ์ท่ีสหรัฐอเมริกาเม่ือ พ.ศ. ๒๔๑๓) และ The Romance of the Harem (พิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖) นางแอนนายอมรับว่า ได้สอดแทรกเรื่องต่ืนเต้นเร้าใจไว้ในหนังสือทั้งสองเล่มน้ี เพ่ือให้น่าสนใจส�ำหรับผู้อ่านชาวตะวันตก ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๘๖ นางมาการ์เรต แลนดอน (Magaret Landon) ชาวอเมริกันน�ำหนังสือท้ังสองเร่ืองนี้ไปเรียบเรียงข้ึนใหม่และให้ช่ือว่า Anna and the King of Siam หนังสือเล่มน้ีมีผู้นิยมอ่านกันแพร่หลาย มีการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ และมีผู้น�ำไปท�ำเป็น บทละครเพลงและภาพยนตรใ์ นช่ือว่า The King and I 3 หน่วยราชการท่ีจัดตั้งเพ่ือท�ำหน้าท่ีดูแลรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในกรุงเทพ ฯ ตามแบบอย่าง โปลิศ (Police) ของชาติทางตะวันตก แต่ด้วยเหตุท่ีในเวลาน้ันยังไม่มีศัพท์ภาษาไทย จึงใช้ทับศัพท์ว่า “โปลิศ” นับเป็นจุดเร่ิมต้น ของกรมต�ำรวจในสมัยต่อมา

52 ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภเิ ษก เล่ม ๑๖ พระสงั ฆราชฌัง - บัปตสิ ต์ ปาลเลอกัวซ์ (Jean - Baptiste Pallegoix) แอนนา เอช. เลียวโนเวนส์ (Anna H. Leonowens)

จดหมายเหตุของหมอบรดั เล 53 มถิ นุ ายน ที่ ๒๕ พระสงั ฆราชปาลกวั 1 หวั หนา้ บาทหลวงครสิ ตงั มรณภาพ กรกฎาคม ที่ ๙ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ มงี านเฉลมิ พระชนั ษา ๕๔ เลย้ี งฝรง่ั ทวี่ งั ในบ่ายวันนั้น พวกฝร่ังพร้อมกันไปจัดการแข่งเรือถวายทอดพระเนตร ทหี่ นา้ วงั สิงหาคม ที่ ๗ พวกผู้หญิงฝรั่งนัดฝร่ังประชุมเป็นคร้ังแรก ที่สถานกงสุลอังกฤษ เพอ่ื ปรึกษาจัดการสมาคมของพวกฝรงั่ ทอี่ ยูใ่ นกรุงเทพ ฯ กันยายน ท่ี ๑ พระยาวรพงษพ์ ิพฒั น์ (แยม้ บุนนาค) ถงึ อนจิ กรรม กนั ยายน ที่ ๓ หมูน่ ้ีเห็นดาวหาง กันยายน ที่ ๙ พวกผหู้ ญิงฝรงั่ นดั ประชมุ อย่างคราวก่อนทส่ี ถานกงสุลอเมรกิ นั กันยายน ที่ ๑๘ ใชอ้ ัฐดบี ุก2 แทนเบย้ี อัฐนี้ไทยท�ำท่โี รงกระสาปน์ ตุลาคม ท่ี ๑๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชันษา ๕๘ พระราชทานเลีย้ งฝร่ังตามเคย พฤศจิกายน ท่ี ๔ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เสดจ็ ไปประพาสเมอื งลพบรุ ี กลบั มาถงึ พระนคร 1 มีนามวา่ ฌัง - บปั ตสิ ต์ ปาลเลอกวั ซ์ (Jean - Baptiste Pallegoix) เกิดเม่ือวันที่ ๒๔ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๓๔๘ (ค.ศ. ๑๘๐๕) ท่เี มอื งกอมแบรโตลท์ (โกต - ดอร์) และบวชเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๐ ณ Séminaire des Missions Étrangères de la Rue de Bac เดินทางมาถงึ กรงุ เทพ ฯ เม่ือวนั ท่ี ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๗๒ (ค.ศ. ๑๘๓๐) ตอ่ มาวันที่ ๓ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๓๘๑ (ค.ศ. ๑๘๓๘) ไดร้ บั สมณศักดเ์ิ ปน็ มขุ นายกมิสซังแหง่ มัลโลส์ (Evêque de Mallos) ประกอบพิธสี งั ฆาภิเษก ณ วดั ญวนสามเสน (Église de la Conception) ขณะมีอายุ ๓๘ ปี นับแต่นั้นได้ปกครองบาทหลวงในประเทศไทย ปาลเลอกัวซ์อยู่ในประเทศไทยถึง ๒๔ ปี จงึ ไดเ้ ดนิ ทางกลบั ไปฝรง่ั เศส ๒ ปี ระหวา่ งน้ีได้เขยี นหนงั สอื ชอื่ วา่ Description du Royaume Thai ou Siam (เลา่ เรอื่ งเมืองไทย) จัดพิมพ์เมื่อ พ.ศ. ๒๓๙๗ (ค.ศ. ๑๘๕๔) ต่อมาเดินทางกลับมาประเทศไทยอีกคร้ัง นับเป็นชาวต่างชาติที่ได้รู้เห็นความเป็นไป ของสังคมไทยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์อยู่มาก นอกจากน้ี ยังมีงานค้นคว้าเรียบเรียงอีกเร่ืองหนึ่ง คือ “ศริพจน์ภาษาไทย์” ซง่ึ เป็นปทานุกรม ๔ ภาษา คอื ไทย ฝรัง่ เศส องั กฤษ และโรมนั ใชเ้ วลาถึง ๑๐ ปี ในการตรวจช�ำระและพิมพ์เสร็จเป็นครั้งแรก เมือ่ วนั ท่ี ๑ มนี าคม พ.ศ. ๒๓๙๑ (ค.ศ. ๑๘๔๙) Abstract of the Journal of Rev. Dan Beach Bradley ระบุว่า ปาลเลอกวั ซ์ ถงึ แก่มรณภาพ เม่อื วันที่ ๑๘ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๐๕ (ค.ศ. ๑๘๖๒) ๒ เงินเหรียญกษาปณ์ชนิดหนง่ึ ท�ำจากดีบกุ ๘ อฐั เท่ากบั ๑ เฟื้อง

54 ประชมุ พงศาวดารฉบับกาญจนาภเิ ษก เล่ม ๑๖ พฤศจิกายน ท่ี ๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเรือกลไฟเสด็จไป ประพาสอา่ งหิน พฤศจกิ ายน ที่ ๑๘ พวกผ้หู ญิงฝรงั่ มกี ารประชุมเป็นครั้งท่ี ๓ ทสี่ ถานกงสุลองั กฤษ พฤศจิกายน ท่ี ๒๖ พระราชทานเพลิงพระยาวรพงษ์พพิ ฒั น์ ธันวาคม ท่ี ๑๔ กรมหม่ืนวิศณนุ ารถนภิ าธร สน้ิ พระชนม์ ๑๘๖๓ มกราคม ที่ ๑๕ เสร็จงานโสกันต์พระเจา้ ลกู เธอ มกราคม ที่ ๒๕ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จด้วยเรือกลไฟ ไปประพาสเมืองเพ็ชรบรุ ี กุมภาพนั ธ์ ท่ี ๗ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับจากเมือง เพ็ชรบุรี กมุ ภาพันธ์ ท่ี ๑๔ มองสเิ ออยูล์สะนล1 กงสลุ ฝรั่งเศสคนใหม่เขา้ มาถึง กมุ ภาพันธ์ ที่ ๑๖ กงสุลฝร่ังเศสคนใหม่กับลูกจ้างไทย ๔ - ๕ คน ถือมีดไปเท่ียว ตลาดส�ำเพ็ง โปลิศจับด้วยไม่รู้ว่ากงสุล เกิดเป็นผลถุ้งเถียงกับรัฐบาล ลงปลายตกลงกนั เรยี บรอ้ ย กุมภาพนั ธ์ ที่ ๒๐ เรอื รบรูเซยี แรกเขา้ มาเมอื งไทย ๒ ล�ำ 2 1 นายจลู ส์ ซานอล (Jules Zanole) กงสุลฝรงั่ เศสประจ�ำกรงุ เทพ ฯ ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๐๕ - ๒๔๐๖ ท�ำงานไดไ้ มก่ ี่เดือน ก็เสยี ชีวิตดว้ ยโรคบดิ (dysentery) และเส้นเลอื ดในสมองแตก (apoplexy) เม่อื วนั ท่ี ๒๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๔๐๖ 2 ช่ือเรอื Haydamack และ Novech

จดหมายเหตุของหมอบรัดเล 55 ปีกุน จุลศักราช ๑๒๒๕ พ.ศ. ๒๔๐๖ เมษายน ท่ี ๒ ชา้ งเผือกเขา้ มาถงึ อกี ตวั ๑1 เมษายน ท่ี ๒๓ เรือรบฝรั่งเศสเข้ามาถึง เชิญเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เลยอง ดอเนอร์ 2 มาถวาย พฤษภาคม ที่ ๑๐ นายพันริบูล3 ทูตฝรั่งเศส ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว พฤษภาคม ที่ ๑๓ ถวายเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ฝร่ังเศสแก่พระบาทสมเด็จ พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มถิ ุนายน ท่ี ๓ เรือรบฮอลันดามาถึง เชิญพระราชสาส์นแลเคร่ืองราช บรรณาการ สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมท่ี ๓4 มาถวายพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มิถุนายน ท่ี ๑๐ ราชทตู ฮอลันดาเขา้ เฝา้ มถิ นุ ายน ที่ ๒๖5 ฝงั ศพมองสเิ ออยูล์สะนล กงสุลฝร่ังเศส กรกฎาคม ท่ี ๙ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท เฉลิมพระชันษา ๕๖ เล้ียงโต๊ะ ประทานพวกฝรง่ั 1 คือ ช้างพระเศวตสวุ รรณภาพรรณ เป็นช้างพงั สปี ระหลาด คือ มีสีเหลืองเปน็ พนื้ เจือแดงเป็นฝุ่นแตน่ ้อย เป็นชา้ งเผอื กโท คล้องได้ในเขตลาว 2 Légion d’ Honneur (เลชิอง ดอนเนอร์) เป็นเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ของฝรั่งเศสที่นโปเลียน โบนาปาร์ต (Napoléon Bonaparte) พ.ศ. ๒๓๑๒ - ๒๓๖๔ (ค.ศ. ๑๗๖๙ - ๑๘๒๑) ให้จดั ท�ำขึ้นเม่ือ พ.ศ. ๒๓๔๕ คร้งั ด�ำรงต�ำแหน่ง “กงสลุ คนแรก” ปกครองฝร่ังเศสหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส พ.ศ. ๒๓๓๒ (ค.ศ. ๑๗๘๙) เพื่อเป็นรางวัลแก่ทหารและพลเรือนผู้ท�ำประโยชน์แก่สังคม ต่อมาใน พ.ศ. ๒๓๔๗ นโปเลียน โบนาปาร์ต สถาปนาพระองค์ข้ึนเป็นจักรพรรดิ มีพระนามาภิไธยว่า นโปเลียนที่ ๑ จักรพรรดิ แห่งชาวฝร่ังเศส แม้ว่าจะส้ินอ�ำนาจใน พ.ศ. ๒๓๕๘ แต่เครื่องราชอิสริยาภรณ์น้ี ยังคงมีสืบมาโดยมอบให้แก่บุคคลท่ัวไป จนถงึ ทุกวนั น้ี 3 พันเอกเรอบูล (Colonel Reboul) ในหมายรับสั่งเร่ือง “เจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสแต่งราชทูตให้น�ำเคร่ืองราชอิสริยยศ เขา้ มาทลู เกลา้ ฯ ถวาย” เรียก พนั เอกเรอบูล ว่า “คะระแมน ลบิ โป” 4 สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมท่ี ๓ (William III พ.ศ. ๒๓๖๐ - ๒๔๓๓) กษัตริย์ฮอลันดา (พ.ศ. ๒๓๙๒ - ๒๔๓๓) พระนามเตม็ คือ Willem Alexander Paul Frederik Lodewijk van Oranje - Nassau 5 Abstract of the Journal of Rev. Dan Beach Bradley ระบวุ า่ วันที่ ๒๗ มถิ ุนายน

56 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภเิ ษก เล่ม ๑๖ กรกฎาคม ที่ ๑๑ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว เสด็จเรือกลไฟไปอ่างหิน แล้วเสด็จไปทรงปดิ ทองพระทบี่ างพระ1 กรกฎาคม ที่ ๒๐ พวกฝร่ังโปรเตสตันต์ประชุมเรี่ยไรเงินสร้างวัดฝรั่ง ซึ่งยังค้างอยู่ ส�ำเรจ็ ได้ สิงหาคม เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ไปด้วยเรือกลไฟโวแลนต์ 2 ล่วงหน้า ไปจัดการรับเสด็จท่ีเมืองสงขลา สิงหาคม ที่ ๒๓3 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จด้วยเรือกลไฟ ประพาสเมืองสงขลา กนั ยายน ท่ี ๒๐ (เสด็จกลับแล้ว) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประชวรพระโรคจกุ เสียด พระอาการมากถึงตามหมอฝรง่ั แตเ่ มอ่ื หมอฝรงั่ เข้าไปถึงท้องพระโรง หมอไทยแก้พระอาการหายแล้ว หมอบรัดเล ทราบวา่ ตง้ั พระโอสถประกอบดว้ ยดงี ู 4 1 Abstract of the Journal of Rev. Dan Beach Bradley ระบวุ า่ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั เสด็จ ฯ ไปเหนอื และขอให้นางแอนนาตามเสดจ็ ด้วย 2 Volant 3 Abstract of the Journal of Rev. Dan Beach Bradley ระบุวา่ วันท่ี ๒๗ สงิ หาคม 4 เป็นส่วนผสมยาแผนโบราณท่ีได้จากพืชและสัตว์ ดีงูที่เป็นพืช หมายถึง สมอดีงู ในตระกูลสมอ หากเป็นดีงูจากงู มักจะได้จากงูพิษ ที่นิยมคือ งูเห่า โดยกรีดท้อง เอาดีงูไปตากแห้งส�ำหรับใช้ผสมเป็นยา เช่ือว่ามีสรรพคุณในการขจัดพิษ และชว่ ยย่อยอาหาร

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 57 พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั และสมเด็จ ฯ เจา้ ฟ้าจนั ทรมณฑล โสภณภควดี กรมหลวงวิสุทธิกษตั รีย์ กันยายน ที่ ๒๒ ไดข้ า่ วว่าฝรง่ั เศสลอบไปท�ำหนงั สอื สัญญากับกรุงกมั พชู า ตลุ าคม ท่ี ๑๙ เฉลิมพระชันษา ๕๙ โปรดให้เล้ียงโต๊ะพระราชทานพวกฝรั่ง ในพระราชวัง เล้ียงที่ใหม่กว้างขวางดีกว่าแต่ก่อน วันเฉลิมพระชันษา ท่ี ๑๘ แต่เป็นวันอาทิตย์จึงโปรดให้เลี้ยงวันนี้ ๑๘๖๔ มกราคม ท่ี ๒๐ เจา้ พระยานิกรบดนิ ทร1 ที่สมหุ นายกถึงอสญั กรรม กมุ ภาพันธ์ ที่ ๑๖ เร่ิมงานพระเมรุสมเดจ็ พระเจา้ ลูกเธอ เจา้ ฟ้าหญิงจันทรมณฑล มีนาคม ที่ ๑๖ เปิดถนนท�ำใหม่ (คือ ถนนเจริญกรงุ ) มีนาคม ท่ี ๓๐2 เซอรอเบิต จอมเบคิ กงสุลอังกฤษกลบั ไปยโุ รป 1 นามเดิม โต เป็นบุตรหลวงพิชัยวารี (มัน แซ่อ๋ึง) เป็นข้าหลวงเดิมในรัชกาลที่ ๓ เริ่มรับราชการในรัชกาลที่ ๒ เป็นท่ีพระพิชยั วารี ในรชั กาลที่ ๓ เล่อื นเป็นพระยาพชิ ยั วารี และพระยาราชสุภาวดี ว่าท่สี มุหนายก ตามล�ำดบั คร้ันถงึ รัชกาลที่ ๔ เลอื่ นเปน็ เจา้ พระยานกิ รบดนิ ทร ทสี่ มหุ นายก ถงึ แกอ่ สญั กรรมเมอื่ วนั ท่ี ๒๐ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๐๖ อายุ ๘๐ ปี เปน็ ตน้ สกลุ กลั ยาณมติ ร 2 Bangkok Calendar ระบวุ า่ วนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม

58 ประชุมพงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ ปีชวด จุลศักราช ๑๒๒๖ พ.ศ. ๒๔๐๗ มถิ ุนายน ที่ ๑๓ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จไปรับช้างเผือก ทกี่ รงุ เกา่ (คือนางพระยาศิวโรจน์)1 กรกฎาคม ที่ ๒๘ หนังสือพิมพ์ชื่อ สยามไตมส์ 2 ออกคร้ังแรก สิงหาคม ท่ี ๒๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแต่งงานหลานเธอ หม่อมเจ้าชายบงกช ในกรมหม่ืนมเหศวร3 กับหม่อมเจ้าหญิงจันทร ในกรมหมื่นวิศณนุ ารถ มงี านหลายวนั สงิ หาคม ที่ ๒๗ น้�ำในแมน่ ำ้� แดงเหมอื นสีอิฐ อยู่ ๓ วัน ตุลาคม ท่ี ๑๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชันษา ๖๐ คนท้ังหลายพากันมีความยินดีแต่งประทีปจุดดอกไม้ไฟ แลมีมหรสพ หลายวัน โปรดให้เล้ียงโต๊ะพระราชทานฝรั่งท่ีในพระบรมมหาราชวัง กลับได้ความร�ำคาญพระราชหฤทัย ด้วยพวกกงสุลรังเกียจ ไม่อยาก น่ังโต๊ะกับพวกพ่อคา้ 1 พระราชพงศาวดารกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลท่ี ๔ ระบวุ า่ มลี กั ษณะเปน็ ชา้ งเผอื กเอก คอื มสี ขี าวบรสิ ทุ ธ์ิ จกั ษขุ าวใสบรสิ ทุ ธ์ิ ขนหางขาวเจือเหลือง ตัวสีขาวเจือชาด จะงอยปากล่างขบข้ึนไปเหมือนปากนกแก้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมขนุ บ�ำราบปรปักษ์ ทรงคล้องได้ทพี่ รมแดนเมืองนครนายกต่อเมอื งปราจีนบุรี พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั โปรดเกล้า ฯ ใหป้ ลกู โรงอยทู่ ห่ี นา้ เพนยี ดเกา่ กรงุ ศรอี ยธุ ยาเปน็ การชวั่ คราว กอ่ นทจี่ ะเดนิ ทางมากรงุ เทพ ฯ แตช่ า้ งปว่ ยและลม้ ในอกี หนง่ึ เดอื นตอ่ มา 2 สยามไทมส์ (The Siam Times) เป็นหนังสือรายสัปดาห์ หมอจันดเล หรือชันดเลอร์ เป็นเจ้าของและบรรณาธิการ ออกจ�ำหน่ายครง้ั แรก ใน พ.ศ. ๒๔๐๗ 3 คือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมเหศวรศิววิลาส พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้านพวงศ์ เป็นพระราชโอรส พระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาน้อย (พระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ประสูตเิ มอื่ วันที่ ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๖๕ รชั กาลที่ ๔ โปรดเกลา้ ฯ ให้ทรงก�ำกบั กรมล้อมพระราชวงั และกรมพระคลังมหาสมบัติ สน้ิ พระชนมเ์ ม่อื วันท่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ ทรงเป็นตน้ ราชสกลุ นพวงศ์

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 59 พฤศจกิ ายน ท่ี ๒๑ มกี �ำป่นั พ่อคา้ ทอดอยใู่ นล�ำแมน่ ำ�้ พร้อมกันถึง ๑๐๐ ล�ำ ไมเ่ คยมี มากเหมือนอย่างน้ีมาแต่ก่อน เรือเหล่านี้มาซ้ือข้าวสารจะไปขายเมืองจีน เปน็ เหตใุ ห้ราคาขา้ วสารขึน้ ทันที จนถึงเกวียนละ ๑๒๐ บาท แลเกวียนละ ๑๒๕ บาท ไมเ่ คยมีราคาเท่านมี้ าแต่ก่อน พฤศจกิ ายน ท่ี ๒๕ ประกาศปิดข้าว1 ไม่ให้บรรทุกออกนอกพระราชอาณาจักร มกี �ำหนด ๗ เดอื น ๑๘๖๕ มกราคม ที่ ๑๖ เสรจ็ งานโสกนั ต์พระเจา้ ลูกเธอที่เมืองเพช็ รบุรี มกราคม ท่ี ๑๖ หนังสือพิมพ์บางกอกริคอเดอกลับออกใหม่ เดือนละครงั้ 2 มกราคม ท่ี ๒๕ ลงมือห้ามไม่ให้จ�ำหน่ายข้าวออกนอกพระราชอาณาจักร ก�ำหนด ๗ เดือน กมุ ภาพนั ธ์ ท่ี ๑๓ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสเมือง กาญจนบรุ ี 1 คือการประกาศห้ามขายข้าวเป็นสินค้าออกชั่วคราวมีก�ำหนด ๗ เดือน เน่ืองจากมีพ่อค้ามาซื้อข้าวจากประเทศไทย ไปขายยังประเทศจีนเป็นจ�ำนวนมาก ท�ำให้ราคาข้าวในประเทศสูงข้ึนอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความต่ืนตระหนกในหมู่ประชาชนว่า ข้าวมีราคาแพงเกินไป ทั้งยังอาจมีปัญหาข้าวขาดแคลนในประเทศ รัฐบาลไทยจึงประกาศห้ามขายข้าวออกเป็นการช่ัวคราว (ดูประชุมประกาศรัชกาลท่ี ๔ เร่ือง ประกาศไม่ให้จ�ำหน่ายข้าวออกไปนอกประเทศ ณ วันจันทร์ เดือนอ้าย แรม ๑๓ ค่�ำ ปีชวด ฉศก ตรงกับวันที่ ๒๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๐๗) ในสนธสิ ญั ญาทางพระราชไมตรแี ละการพาณชิ ยท์ ร่ี ัฐบาลไทยท�ำกับนานาประเทศ ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ น้ัน มีข้อก�ำหนดให้รัฐบาลไทยสามารถระงับการขายข้าวเป็นสินค้าออกเป็นการช่ัวคราวได้ หากเกิดปัญหา ข้าวขาดแคลน 2 Bangkok Calendar ระบเุ ปน็ รายปกั ษ์ (semi - monthly)

60 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ ปฉี ลู จลุ ศกั ราช ๑๒๒๗ พ.ศ. ๒๔๐๘ เมษายน ที่ ๑๗ ไทยเลกิ หนงั สอื สญั ญากบั เขมร แลท�ำสญั ญากบั ฝรง่ั เศสดว้ ยเรอื่ ง เมอื งเขมร1 พฤษภาคม ท่ี ๑ หนังสือพิมพ์บางกอกริคอเดอพิมพ์ส�ำเนาหนังสือสัญญา ซึ่งมองสเิ ออโอบะเรต์ 2 กงสลุ ฝร่งั เศสท�ำกับนายอากรสรุ า (โดยพลการ)3 เกิดประหลาดใจกันมาก ท้ัง ๒ ฝ่ายก็ไม่ทราบว่าหนังสือพิมพ์ได้ส�ำเนา มาอยา่ งไร กรกฎาคม ที่ ๑๐ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ เฉลมิ พระชันษา ๕๗ เล้ยี งโตะ๊ ฝร่ัง กรกฎาคม ที่ ๑๑ ไฟไหมท้ ต่ี �ำบลคอกควาย4 1 หนังสือสัญญาระหว่างไทยกับเขมรที่ยกเลิกไปคือ สัญญาท่ีลงนามในวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๖ (ค.ศ. ๑๘๖๓) ระหว่างราชส�ำนักไทยกับสมเด็จพระนโรดม กษัตริย์เขมร มีสาระส�ำคัญระบุให้ไทยเป็นผู้คุ้มครองเขมรได้เช่นเดียวกับฝรั่งเศส และยืนยันว่าเมืองพระตะบอง เสียมราฐ โพธิสัตว์ และก�ำปงสวายเป็นของไทย ฝ่ายไทยเรียกสัญญาฉบับน้ีว่า “สัญญาช้างเผือก” เพราะมีข้อความในสัญญาระบุว่าหากจับช้างเผือกได้ให้เขมรส่งช้างเผือกให้ไทย ฝ่ายฝรั่งเศสเรียกว่า “สัญญาลับ” เพราะฝร่ังเศส ไม่รเู้ รอื่ งการท�ำสญั ญาดังกล่าวเปน็ เวลานาน ทางราชส�ำนักไทยใหเ้ ขมรท�ำสญั ญานีก้ บั ไทย เพื่อใช้ถว่ งอ�ำนาจฝร่งั เศสท่ีบีบบังคบั ให้ สมเดจ็ พระนโรดมทรงลงพระนามในสัญญายอมใหเ้ ขมรเป็นรฐั ในอารกั ขาของฝร่ังเศสมากอ่ นหนา้ น้ี ฝรงั่ เศสไมพ่ อใจเป็นอย่างมาก ท่ีไทยท�ำสัญญาช้างเผือกกับเขมร และพยายามกดดันให้ไทยยกเลิกสัญญา ในท่ีสุดพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต้องทรงยอมท�ำสัญญากับฝรั่งเศสในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๐๘ ยกเลิกสัญญาช้างเผือกและถอนอ�ำนาจออกจากเขมร ยกเว้น พระตะบอง เสียมราฐ โพธิสัตว์ และก�ำปงสวาย 2 กาเบรียล โอบาเรต์ (Gabriel Aubaret) กงสลุ ฝรั่งเศสประจ�ำกรงุ เทพ ฯ (พ.ศ. ๒๔๐๖ - ๒๔๐๙) และอปุ ทตู ประจ�ำเมอื งเว้ ในญวน โอบาเรต์ฟ้องร้องหมอบรัดเลในความผิดฐานหม่ินประมาทต่อศาลกงสุลอเมริกัน เพราะไม่พอใจที่หมอบรัดเลลงข่าวเร่ือง โอบาเรต์ดักถวายหนังสือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกร้องให้ทรงปลดเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมุหพระกลาโหม ข่าวนี้ลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางกอกรีคอร์เดอร์ (Bangkok Recorder) ฉบับเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๙ โอบาเรต์ชนะคดี ศาลสั่งให้หมอบรัดเลจา่ ยค่าเสียหายให้โอบาเรต์เป็นจ�ำนวน ๑๐๐ เหรียญสหรัฐ 3 นายอากรสุรา คือ หลวงบริบูรณ์สุรากร สัญญาที่ท�ำมีสาระส�ำคัญว่า รัฐบาลไทยยินยอมให้มีการขายสุราจากฝร่ังเศส ในกรงุ เทพ ฯ โดยให้กงสุลฝรง่ั เศสและนายอากรสรุ าของไทยรว่ มกนั ออกใบอนญุ าตและควบคมุ ดูแล สาเหตุที่มีการตกลงกันในคร้ังน้ี สืบเน่ืองมาจากข้อตกลงใน “หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีประเทศฝร่ังเศสและ ประเทศสยาม” พ.ศ. ๒๓๙๙ ที่ก�ำหนดให้ฝ่ายฝรั่งเศสสามารถน�ำเหล้าองุ่นและสุรามาขายในประเทศไทยโดยปลอดภาษีทุกชนิด ยกเว้นภาษีสินค้าขาเข้าร้อยละ ๓ ฝ่ายไทยไม่พอใจข้อตกลงนี้ เพราะไทยก็ผลิตสุราได้เองและจ�ำหน่ายโดยนายอากรสุราของไทย นอกจากนั้นข้อตกลงน้ียังเป็นช่องทางให้พ่อค้าฝรั่งเศสน�ำสุราคุณภาพต�่ำ และพ่อค้าจีนน�ำสุราเถื่อนซึ่งมีราคาถูกเข้ามาขายได้ ท�ำให้ฝา่ ยไทยสูญเสียผลประโยชน์เปน็ อย่างมาก 4 ปัจจุบนั คือ เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 61 สิงหาคม ที่ ๒๒ เลิกห้ามข้าวออกจากพระราชอาณาจกั ร กันยายน ท่ี ๕ มองสิเออโอบะเรต์ กงสุลฝรั่งเศสไปยุโรป กนั ยายน ที่ ๙ นายเยมส์ มดิสัน ฮูด1 กงสลุ อเมริกันมาถึง ตลุ าคม ท่ี ๑๕ มองสเิ ออกราปเิ นต์ 2 ผ้รู ัง้ กงสุลฝรัง่ เศสมาถึง ตุลาคม ที่ ๑๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชันษา ๖๑ โปรดให้เล้ียงฝร่ังตามเคย ทรงได้ความร�ำคาญอีก คราวน้ีจัดโต๊ะเล้ียง ๒ โต๊ะ ใหพ้ วกกงสลุ นงั่ โตะ๊ ๑ พวกพอ่ ค้าน่งั โต๊ะ ๑ พวกพ่อค้าว่าเลวไป ไมพ่ อใจ ๑๘๖๖ มกราคม ที่ ๑ วันต้นพระราชพิธีโสกันต์สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ สมเด็จ พระบรมราชโอรส มกราคม ที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปนิ่ เกลา้ เจา้ อยู่หัวสวรรคต พระชันษา ๕๘ มกราคม ที่ ๑๖ น้องหญิงของเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์อสัญกรรม อายุ ๔๗ (ช่ือเจา้ คุณหรนุ่ เรยี กกนั วา่ เจ้าคุณนอ้ ย) 3 1 เจมส์ เมดิสัน ฮูด (James Madison Hood) ขณะด�ำรงต�ำแหน่งกงสุลเป็นผู้ตัดสินคดีความส�ำคัญของชาวอเมริกัน หลายคดี เช่น คดีท่ีโอบาเรต์กงสุลฝร่ังเศสประจ�ำประเทศไทยฟ้องหมอบรัดเล มิชชันนารีอเมริกัน ผู้พิมพ์หนังสือพิมพ์บางกอก รีคอร์เดอร์ (Bangkok Recorder) ในข้อหาหม่ินประมาท คดีชันดเลอร์ (Chandler) มิชชันนารีอเมริกันไม่ช�ำระหน้ีสิน ปรากฏว่า ฮูดขยันพิจารณาคดีเพ่ือเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากคู่ความ นอกจากนั้นยังมีพฤติกรรมทุจริตอีกหลายอย่าง เช่น เบิกเงินค่าจ้าง เจ้าหน้าที่สถานกงสุลสูงเกินจริง และหาผลประโยชน์จากการจดทะเบียนคนจีนในประเทศไทยให้เป็นคนในบังคับของ สหรัฐอเมริกา ในท่ีสุดนักธุรกิจชาวอเมริกันในไทยได้ท�ำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐบาลอเมริกัน ฮูดจึงพ้นจากต�ำแหน่งและเดินทาง ออกจากประเทศไทยไปใน พ.ศ. ๒๔๑๐ 2 มองสิเออกราปิเนต์ (Grapinet) รกั ษาการกงสลุ ฝร่งั เศส 3 เจ้าคุณหญงิ หร่นุ หรอื เจา้ คณุ น้อย เป็นธดิ าของสมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหาประยรู วงศ์ (ดิศ บนุ นาค) กบั ทา่ นผู้หญงิ จนั ทร์ เกดิ ในรชั กาลที่ ๒ พ.ศ. ๒๓๖๒

62 ประชุมพงศาวดารฉบบั กาญจนาภเิ ษก เลม่ ๑๖ กาเบรียล โอบาเรต์ (Gabriel Aubaret) เซอร์ทอมสั จอร์จ นอกซ์ กงสลุ ฝร่งั เศสประจ�ำกรงุ เทพ ฯ (Sir Thomas George Knox) มกราคม ที่ ๓๐ เรือรบอังกฤษ ชอ่ื โคเคต 1 พาทอมัส ยอช นอกส์ 2 เปน็ กงสุล เยเนอราลอังกฤษเข้ามาถึง (นายนอกส์ คนน้ีเดิมเป็นนายทหารอังกฤษ รบั ราชการอยอู่ นิ เดยี ละราชการทหารองั กฤษมาเมอื งไทยเมอ่ื ค.ศ. ๑๘๕๑ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวจ้างไว้เป็นครูทหารวังหน้า จน ค.ศ. ๑๘๕๗ กลับรับราชการองั กฤษเป็นล่ามที่ ๑ ในสถานกงสลุ ) กุมภาพนั ธ์ ท่ี ๑ หมอจันดเล เข้ารับราชการในรัฐบาลไทย ส�ำหรับเป็นครูสอน ภาษาองั กฤษ แลเป็นผ้แู ปลหนังสอื อังกฤษ ของเจา้ พระยาศรสี ุรยิ วงษ์ 1 Coquette 2 เซอร์ทอมัส จอร์จ นอกซ์ (Sir Thomas George Knox) กงสุลอังกฤษประจ�ำกรุงเทพ ฯ ตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๔๐๗ - ๒๔๒๒ เป็นผู้มีบทบาทส�ำคัญทางการเมืองของไทยในช่วงปลายสมัยรัชกาลท่ี ๔ ถึงต้นรัชกาลท่ี ๕ เน่ืองจากสามารถสร้างความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับราชส�ำนักไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานสตรีไทยนามว่า ปราง ให้เปน็ ภรรยา นอกจากนั้น นอกซ์ยงั มคี วามสัมพันธใ์ กล้ชิดกับเจ้าพระยาศรีสรุ ิยวงศ์ (ช่วง บนุ นาค) ซงึ่ ต่อมาโปรดเกล้า ฯ ใหเ้ ล่อื น เป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้ส�ำเร็จราชการแผ่นดินในสมัยรัชกาลที่ ๕ ด้วยเหตุนี้ เม่ือเกิดความขัดแย้งระหว่าง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ ใน พ.ศ. ๒๔๑๗ ท่ีเรียกว่า “วิกฤตการณ์วังหน้า” กรมพระราชวังบวร ฯ จึงเสด็จไปประทับท่ีสถานกงสุลอังกฤษ แม้ว่าขณะนั้นกงสุลนอกซ์จะไม่อยู่ในไทยก็ตาม เหตุการณ์ยุติ เมื่อเซอร์แอนดรูว์ คลากส์ (Sir Andrew Clarks) ผู้ว่าราชการอังกฤษประจ�ำสเตรทส์ เซทเทิลเมนต์ (Straits Settlements) ตดั สินใจไม่ให้องั กฤษแทรกแซงการเมืองภายในของไทย ใน พ.ศ. ๒๔๒๒ เกิดกรณีที่พระปรีชากลการ (ส�ำอาง อมาตยกุล) เจ้าเมืองปราจีนบุรี ผู้เป็นบุตรเขยของกงสุลนอกซ์ (พระปรีชากลการแต่งงานกับแฟนนี (Fanny) บุตรสาวคนโตของนอกซ์ท่ีเกิดกับปราง) ถูกจับกุมในข้อหาทุจริตและฆ่าคนตาย โดยไม่เจตนา นอกซ์พยายามช่วยเหลือพระปรีชากลการ โดยส่ังให้เรือรบอังกฤษจากสิงคโปร์เข้ามายังกรุงเทพ ฯ รัฐบาลอังกฤษ จึงเรียกตัวนอกซ์กลับประเทศ เพราะเห็นว่าก้าวก่ายกิจการภายในของไทย แต่ด้วยเหตุที่นอกซ์ปฏิบัติหน้าที่รักษาผลประโยชน์ ของอังกฤษในไทยด้วยดีตลอดมา จึงได้รับบรรดาศักดิ์ชั้นเซอร์ (Sir) เป็นการตอบแทน นอกซ์ใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษจนถึงแก่กรรม ใน พ.ศ. ๒๔๓๐

จดหมายเหตขุ องหมอบรดั เล 63 ปีขาล จลุ ศกั ราช ๑๒๒๘ พ.ศ. ๒๔๐๙ มีนาคม ที่ ๓๑1 เผาศพ (เจา้ คุณหรนุ่ ) นอ้ งหญิงของเจา้ พระยาศรีสรุ ิยวงษ์ เมษายน ที่ ๓ นายปอล เลสเลอร์ 2 กงสุลปรุสเซีย กลับมาถึง นายฮูด กงสุล อเมริกัน ขายสมบัติของหมอจันดเลที่เป็นกงสุลอยู่ก่อนส�ำเร็จ (กงสุลฮูด คนน้ี แลว้ เกิดววิ าทกบั พวกอเมรกิ ัน) เมษายน ท่ี ๑๒ เรือไฟของไทยล�ำ ๑ ช่ือ สยาม ถึงอับปางในทะเลระหว่าง เมอื งเมาะล�ำเลงิ กับเมืองกาละกตั ตา 3 เมษายน ที่ ๒๔ รัฐบาลไทยท�ำหนังสืออนุญาตให้สร้างสายโทรเลขแต่เมืองร่างกุ้ง ผา่ นแดนไทยลงมาเมอื งสงิ คโปร์ แลมสี ายแยกมากรุงเทพ ฯ เมษายน ที่ ๒๕ สถานกงสุลอเมริกัน ย้ายเป็นคร้ังที่ ๑๐ เดี๋ยวนี้มาเช่าตึกของ หา้ งปิเกนแปก๊ 4 อยู่ พฤษภาคม ที่ ๙ พระยาเพ็ชร์ปาณี (นก) ผู้พิพากษาคน ๑ ในศาลต่างประเทศ ถงึ อนจิ กรรม มิถุนายน ท่ี ๑๑ พระยามนตรีสุริยวงษ์ (ชุ่ม) น้องเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ ถึงอสัญกรรม มิถนุ ายน ท่ี ๓๐ มองสเิ ออโอบะเรต์ กงสุลฝรงั่ เศส กลับมาถงึ กรกฎาคม ท่ี ๑๗ พระยาอภัยสงคราม 5 น้องต่างมารดาเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ ถงึ อนิจกรรม 1 Bangkok Calendar ระบวุ า่ วันที่ ๕ มนี าคม ๒ Paul Lessler ๓ คือ เมืองกัลกัตตา (Calcutta) ปัจจุบันออกเสียงว่า โกลกาตา (Kolkata) อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศอินเดีย Bangkok Calendar ระบวุ ่า เรืออบั ปางระหว่างทางจากมะละแหมง่ ไปโกลกาตา 4 ห้างพอล พกิ เคนแพก (Paul Pickenpack Thies & Co.) หรือคนไทยเรียกว่า ห้างเพาสปกิ เคนปัก ตงั้ อยทู่ ่ถี นนเจริญกรงุ ขายสินคา้ ประเภทเคร่ืองจกั รกล 5 นามเดิมว่า นกยูง บุนนาค เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) กับหม่อมเกษ เกิดเม่ือ พ.ศ. ๒๓๖๖ ด�ำรงต�ำแหน่งจางวางอาสาหกเหล่า ฝ่ายพระราชวังบวรสถานมงคล

64 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ กนั ยายน ที่ ๓ พระเจา้ กาวิโลรส พระเจา้ เชียงใหม่1 กับพวกประมาณ ๑๐๐ คน ลงเรือไฟไปเท่ยี วทะเล เมาคลน่ื ไปไมไ่ ดต้ อ้ งกลบั กันยายน ท่ี ๑๑ กงสุลอเมริกันพาพวกมิชชันนารีไปหาเจ้าเชียงใหม่ท่ีหน้าวัดแจ้ง ขออนุญาตไปต้ังสอนศาสนาคริสตังที่เมืองเชียงใหม่ พระเจ้าเชียงใหม่ อนุญาต กนั ยายน ที่ ๑๘ โจทย์กนั ว่าพระบางปาฏหิ าริย์ ทว่ี ดั สามปลืม้ 2 ตลุ าคม ท่ี ๑๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเรือกลไฟเสด็จ ประพาสถึงเมอื งนครสวรรค์ (ทจี่ รงิ เสดจ็ เพียงเขาธรรมามูล เมืองไชยนาท) ตลุ าคม ที่ ๒๕ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเรือกลไฟพระที่นั่ง (อรรคราชวรเดช)3 เสดจ็ ไปประพาสเมืองพศิ ณุโลก ตลุ าคม ที่ ๒๖ นาย ร. ศ. สกอ๊ ต4 น�ำเครือ่ งแกส๊ คือประทปี จดุ ด้วยลม เข้ามาใช้ ในกรุง ฯ ครง้ั แรก พฤศจิกายน ที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับจากเมือง พิศณโุ ลก 1 คือ พระเจา้ กาวิโลรสสุรยิ วงศ์ เจ้านครเชยี งใหม่ องคท์ ่ี ๖ (พ.ศ. ๒๓๙๙ - ๒๔๑๒) พระนามเดิมวา่ เจา้ หนานสุริยวงศ์ เป็นโอรสของพระเจ้ากาวิละ เจ้านครเชียงใหม่องค์ท่ี ๑ กับแม่เจ้าจันตามหาเทวี ชายาคือ แม่เจ้าอุษา มีธิดา ๒ องค์ คือ แม่เจ้าทิพไกรสร (หรือเทพไกรสร เปน็ พระชนนขี องพระราชชายา เจ้าดารารัศม)ี และแม่เจา้ อุบลวรรณา พระเจา้ กาวิโลรสสรุ ิยวงศ์ ถงึ แกพ่ ริ าลยั เมือ่ พ.ศ. ๒๔๑๒ 2 ตั้งอยู่รมิ คลองสามปลื้ม ใกล้ส�ำเพ็ง ในสมัยรัชกาลที่ ๒ นายสิงห์ (ตอ่ มาเปน็ เจ้าพระยาบดนิ ทรเดชา ตน้ สกลุ สิงหเสน)ี ขณะนน้ั ถกู ถอดจากต�ำแหนง่ พระยาเกษตรรกั ษา ไดถ้ อยแพจากฝง่ั ธนบรุ หี นา้ บา้ นเจา้ พระยานกิ รบดนิ ทร (โต กลั ยาณมติ ร) ขา้ มมาอยู่ ปากคลองสามปลื้ม และบูรณะวัดสามปลื้มเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๒ เม่ือกลับเข้ารับราชการใหม่ใน พ.ศ. ๒๓๖๙ จึงถวายวัดสามปล้ืม เป็นพระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามใหม่ว่า วัดจักรวรรดิราชาวาส เมื่อเจ้าพระยา บดินทรเดชากลับจากการท�ำศึกปราบเจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์ ได้อัญเชิญพระบางมาประดิษฐานที่วัดจักรวรรดิราชาวาส ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบางกลับคืนไปประดิษฐานที่เมืองหลวงพระบาง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๙ เพราะเช่ือกันว่าพระบางท�ำใหฝ้ นแล้ง 3 เรือกลไฟพระท่ีนั่งล�ำนี้ เดิมช่ือ “บรมราชวรฤทธิ์” เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ต่อถวายพระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั เป็นเรอื ยอชต์ (yacht) ตัวเรอื เป็นไม้ ล�ำยาว ๒๑๒ ฟุต กว้าง ๒๐ ฟุต ระวางขับนำ้� ๖๐๐ ตนั เป็นเรือ จกั รข้าง ๒ ปลอ่ ง ปืนใหญ่ ๒ กระบอก คนประจ�ำเรอื ๙๐ คน มงี านฉลองเรือท่ีทา่ ราชวรดฐิ เมอ่ื วนั ท่ี ๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๐๖ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า เรืออรรคราชวรเดช 4 R. S. Scott

จดหมายเหตขุ องหมอบรดั เล 65 เรอื พระทน่ี งั่ อรรคราชวรเดช พระเจา้ กาวโิ ลรสสรุ ยิ วงศ์ เจ้านครเชยี งใหม่

66 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ พฤศจกิ ายน ท่ี ๑๒ นายแดเนียล วินซอร์1 เลขานุการของเจ้าพระยาพระคลัง คุมของไทยไปตั้งแสดงพิพิธภัณฑ์ท่ีปารีส2 กับขุนสมุทโคจร3 (พุ่ม คือ เจา้ พระยารัตนาธเิ บศร์ ในรัชกาลที่ ๕) ธนั วาคม ท่ี ๑๐ พระยาบุรษุ 4 (คอื เจา้ พระยามหนิ ทร) ซอ้ื โรงสไี ฟของห้างสกอ๊ ต ธนั วาคม ท่ี ๒๔ มองสิเออโอบะเรต์ กงสุลฝรั่งเศส ฟ้องหมอบรัดเลเจ้าของ หนังสอื พิมพ์บางกอกริคอเดอ หาว่าหม่นิ ประมาทโดยกล่าวว่า มองสเิ ออ โอบะเรต์ ขอให้รัฐบาลไทยเอาเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ออกจากอัครมหา เสนาบดี เรยี กคา่ ท�ำขวัญจากหมอบรดั เล ๑,๕๐๐ เหรียญ ๑๘๖๗ มกราคม ท่ี ๒ นายร้อยเอก แบค5 นายทหารช่างอังกฤษเข้ามาถึง เพ่ือการท�ำ แผนท่ีเขตแดนกรงุ สยามตอ่ กบั เมืองพมา่ ของอังกฤษ มกราคม ที่ ๑๖ หนังสือพิมพ์บางกอกริคอเดอ ลงความขอขมามองสิเออ โอบะเรต์ กงสุลฝร่ังเศส ในเรื่องได้ลงพิมพ์ว่าขู่รัฐบาลสยาม อันเป็นเหตุ ให้มองสิเออโอบะเรต์ ฟ้องนั้น หนังสือพิมพ์บางกอกริคอเดอ ออกคราวหลังนี้ ๒ ปี มาหยุด เพียงน้ี 1 นายแดเนียล วินด์เซอร์ (Daniel Windsor) พ่อค้าชาวฝร่ังเศสท่ีเข้ามาค้าขายในกรุงเทพ ฯ จนมีความรู้ภาษาไทย ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔๑๐ ได้ตดิ ตามไปในคณะทูตไทย ซง่ึ มีพระยาสรุ วงศ์ไวยวัฒน์ (วร บนุ นาค) เปน็ ราชทูต เพ่ือไปเจรจากับรฐั บาล ฝรั่งเศสเรื่องเขมร เข้าใจว่านายวินด์เซอร์ท�ำหน้าที่เป็นล่ามประจ�ำตัวราชทูต ต่อมานายวินด์เซอร์ได้ตั้งห้างในกรุงเทพ ฯ มีชื่อว่า “ห้างวินเซอร”์ 2 พพิ ิธภณั ฑล์ ูฟวร์ (Louvre) กรุงปารสี ประเทศฝรั่งเศส 3 นามเดิมว่า พุม่ ศรีไชยนั ต เปน็ ขา้ หลวงเดมิ ในรชั กาลท่ี ๔ เมื่อเสด็จขน้ึ ครองราชสมบัติ โปรดเกล้า ฯ ใหเ้ ป็นขุนสมุทโคจร เจ้าพนักงานจัดหาซ้ือสิ่งของต่าง ๆ ส�ำหรับทูลเกล้า ฯ ถวาย สังกัดกรมมหาดเล็ก ถือศักดินา ๔๐๐ ต�ำแหน่งขุนสมุทโคจรน้ี ไม่ปรากฏในพระไอยการต�ำแหน่งนาพลเรือน กฎหมายตราสามดวง เข้าใจว่าเป็นต�ำแหน่งท่ีต้ังข้ึนในรัชกาลท่ี ๔ เพ่ือส่งไปจัดซ้ือ สิ่งของตามพระราชประสงค์จากประเทศข้างเคียง ถึงรัชกาลที่ ๕ เลื่อนเป็นพระนรินทรราชเสนี ปลัดบาญชีกรมพระกลาโหม พระยาเทพประชุน ปลัดทูลฉลองกรมพระกลาโหม เจ้าพระยาพลเทพ เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ และเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ที่สมุหพระกลาโหม ตามล�ำดับ ถึงแก่อสัญกรรมเม่ือวันท่ี ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๔๔ อายุ ๘๑ ปี 4 พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (เพ็ง เพ็ญกุล) ข้าหลวงเดิมในรัชกาลท่ี ๔ ต่อมาโปรดเกล้า ฯ ให้ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้าหมื่น สรรเพธภกั ดี หัวหมนื่ มหาดเล็ก และพระยาบรุ ษุ รัตนราชพัลลภ จางวางมหาดเลก็ ตามล�ำดับ คร้ันถึงรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้ เลอื่ นเปน็ พระยาราชสภุ าวดี สมหุ พระสรุ สั วดี และเจา้ พระยามหนิ ทรศกั ดธิ �ำรง บงั คบั บญั ชากรมพระสรุ สั วดี และเปน็ ทป่ี รกึ ษาราชการ แผ่นดนิ ถงึ แก่อสัญกรรมเม่ือวันท่ี ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๗ เปน็ ต้นสกลุ เพ็ญกุล 5 Captain A. H. Bagge

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 67 มกราคม ที่ ๑๘ พระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ เป็นราชทูตออกไปเมืองฝร่ังเศส (เร่ืองกงสุลโอบะเรต์ว่นุ วายท�ำหนงั สือสญั ญาเร่อื งสุรา)1 มกราคม ท่ี ๒๕ กรมหมืน่ อุดมรัตนราษี 2 สน้ิ พระชนม์ กุมภาพนั ธ์ ท่ี ๒ นายฮูด กงสุลอเมริกัน เปิดศาลช�ำระความเรื่องมองสิเออ โอบะเรต์ กงสุลฝรั่งเศส หาว่าหมอบรัดเลหมิ่นประมาท ในหนังสือพิมพ์ บางกอกรคิ อเดอ เรียกค่าท�ำขวญั ๑,๕๐๐ เหรียญ คดเี ร่อื งนี้นดั เลอื่ นมา ๒ คร้ัง จ�ำเลยแก้ว่าไม่เป็นหม่ินประมาท เพราะลงด้วยมีเหตุอันสมควร ด้วยไทยพากันตกใจในเรื่องน้ี อ้างจดหมายของนางลิโอโนเวนส์ ครูสอน หนังสืออังกฤษในพระราชวังรับว่าได้ยินไทยโจทย์กันมากว่า มองสิเออ โอบะเรต์ ขู่รัฐบาลจริง ศาลกงสุลอเมริกันตัดสินให้หมอบรัดเลแพ้ แต่ยกข้อกรุณาว่า เพราะหมอบรัดเลลงพิมพ์โดยเชื่อว่า ความนั้นเป็นความจริง มิได้แกล้ง ประการ ๑ หมอบรัดเลเป็นคนชราแลยากจนประการ ๑ แลเป็นผู้ที่ได้ ท�ำคุณมาแก่บ้านเมืองประการ ๑ จึงปรบั ใหท้ �ำขวญั เพยี ง ๑๐๐ เหรยี ญ กมุ ภาพันธ์ ที่ ๖ ได้ขา่ วว่าเกดิ จลาจลทก่ี รุงกัมพูชา กุมภาพนั ธ์ที่ ๘ พระยาจฬุ าราชมนตรี (น้อย)3 ถึงอนิจกรรม กมุ ภาพนั ธ์ ท่ี ๑๗ พระราชทานเพลงิ พระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั 1 การที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั โปรดเกล้า ฯ ให้พระยาสุรวงศไ์ วยวฒั น์ (วร บนุ นาค) เปน็ ราชทตู ไปเจรจา กบั รัฐบาลฝรั่งเศสในคร้งั นี้ เพอ่ื ตกลงเร่อื งปญั หาเขมร และในวนั ท่ี ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ ราชทตู ไทยและผูแ้ ทนรฐั บาลฝรง่ั เศส ได้ลงนาม “หนังสือสัญญาเฃตรแดนเมืองพัตบอง” มีสาระส�ำคัญดังนี้คือ สัญญาใด ๆ ที่ไทยเคยท�ำไว้กับเขมรถือเป็นโมฆะ เมืองพระตะบองและเสียมราฐเท่าน้ันท่ีอยู่ใต้อ�ำนาจของไทย และชาวฝร่ังเศสสามารถเดินเรือได้อย่างเสรีในล�ำน�้ำโขงและ ทะเลสาบเขมร ในส่วนท่ีเก่ียวกับสุรา มีการท�ำอนุสัญญาระหว่างสองประเทศมีความว่า ฝร่ังเศสสามารถน�ำสุราเข้ามาขายในไทย แต่ต้องเสียภาษีสินค้าขาเข้าร้อยละ ๓ และการขายปลีกสุราดังกล่าว จะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลไทย และต้องเสียภาษี ประจ�ำปีดว้ ย อนุสัญญา ฯ ฉบับนีม้ ีอายุ ๕ ปี แตอ่ าจตอ่ อายุได้เป็นรายปี 2 พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอรรณพ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดา พ่ึง ประสูติเม่ือวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๓๖๓ ในรัชกาลท่ี ๔ ทรงสถาปนาเป็นกรมหมื่นอุดมรัตนราษี ทรงก�ำกับกรมสังฆการี และธรรมการ สน้ิ พระชนม์ในรชั กาลท่ี ๔ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๙ ทรงเปน็ ตน้ ราชสกลุ อรรณพ 3 เปน็ บุตรของพระยาจฬุ าราชมนตรี (อากาหย่ี) ในรัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้า ฯ ใหด้ �ำรงต�ำแหนง่ จฬุ าราชมนตรี

68 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เล่ม ๑๖ กุมภาพนั ธท์ ่ี ๑๙ ฝรั่งในกรุงเทพ ฯ เร่ียไรกันเป็นเงิน ๓๐๐ บาท ส่งไปให้หมอ บรัดเล ให้เสียค่าแพ้ความกงสุลฝรั่งเศส เป็นการแสดงความสงสาร แลเขา้ ด้วยหมอบรัดเล มีนาคม ที่ ๘ พระราชทานเพลงิ พระศพ กรมหมื่นอุดมรตั นราษี มนี าคม ท่ี ๑๕ นายนอกส์ กงสุลอังกฤษไปเมืองนอก (ทางน้ีนายอาลบาสเตอ1 รกั ษาการแทน) เมษายน ท่ี ๑ หมอแดเนียล แมกกิลวารี 2 มิชชันนารีขึ้นไปถึงเมืองเชียงใหม่ (มชิ ชนั นารอี เมรกิ ันไปตัง้ เมอื งเชยี งใหมเ่ ป็นคร้งั แรก) 1 เฮนรี อาลาบาสเตอร์ (Henry Alabaster) หรอื อะลาบาสเตอร์ เป็นชาวองั กฤษ เกดิ ใน พ.ศ. ๒๓๗๙ ไดร้ ับการศกึ ษา หลายสาขาวิชา มีความรู้กว้างขวางท้ังในด้านอักษรศาสตร์ กฎหมายระหว่างประเทศ วิศวกรรมศาสตร์ และธรรมชาติวิทยา เคยรับราชการประจำ�สถานทูตอังกฤษในประเทศจีน ต่อมาย้ายเข้ามาประเทศไทย ในฐานะนักเรียนล่ามประจำ�สถานกงสุลอังกฤษ เมื่อนายทอมัส จอร์จ นอกซ์ (Thomas George Knox) กงสุลอังกฤษเดินทางกลับไปยุโรปช่ัวคราว ระหว่างเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ - พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๑ นายอาลาบาสเตอร์ ได้ทำ�หน้าที่รักษาการกงสุล ในช่วงเวลานี้ นายอาลาบาสเตอร์ เกิดขัดแย้งกับเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ที่สมุหพระกลาโหม โดยมีสาเหตุมาจากการท่ีเจ้าภาษีฝ่ินของไทยเข้าไป จับฝิ่นเถื่อนบริเวณวัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) มีการต่อสู้กับพวกง้ิวโรงก๊วน (เช่น โรงฝ่ิน) และเกิดไฟไหม้ ไฟได้ลุกลามไปยังห้าง ของชาวอินเดียซ่ึงเป็นคนในบังคับอังกฤษ สร้างความเสียหายเป็นอันมาก ฝ่ายไทยยินยอมชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ไม่ยอมตั้ง ข้าหลวงไต่สวนเจ้าภาษีฝ่ินตามท่ีอาลาบาสเตอร์เรียกร้อง เมื่อกงสุลนอกซ์กลับมาและตัดสินว่าอาลาบาสเตอร์เป็นฝ่ายผิด อาลาบาสเตอร์จึงลาออกจากราชการองั กฤษและเดนิ ทางกลบั ไปยุโรป นายอาลาบาสเตอร์กลับมาประเทศไทยอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๕ และต่อมาเข้ารับราชการในต�ำแหน่ง ราชเลขานุการส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่ร่างจดหมายโต้ตอบกับชาวต่างประเทศ และให้ค�ำแนะน�ำในการปรับปรุงบ้านเมืองบางประการ เช่น เร่ิมจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานและเป็นผู้อ�ำนวยการคนแรก ช่วยจัดตั้ง กิจการไปรษณยี ์ โทรเลข โทรศัพท์ สร้างประภาคารที่ปากน้ำ� และเปน็ แมก่ องซอ่ มแซมถนน เป็นตน้ นายอาลาบาสเตอรร์ ับราชการ จนถึงแกก่ รรมใน พ.ศ. ๒๔๒๗ เป็นต้นสกลุ เศวตศลิ า ผลงานด้านภูมิปัญญาของนายอาลาบาสเตอร์ประการหน่ึง คือ งานเขียนหนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาชื่อ The Wheel of the Law ซึ่งเป็นที่นิยมอ่านในหมู่ชาวยุโรปในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังแปลข้อเขียนเก่ียวกับศาสนาพุทธบางตอน ของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ (ข�ำ บุนนาค) คือ “หนังสือแสดงกิจจานุกิจ” เป็นภาษาอังกฤษและพิมพ์เผยแพร่ ช่ือว่า The Modern Buddhist ตีพิมพ์ในกรุงลอนดอน พ.ศ. ๒๔๑๓ 2 ศาสนาจารย์แดเนียล แมกกิลวารี (Daniel McGilvary) มิชชันนารีสังกัดคริสตจักรเพรสไบทีเรียนแห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๑ และแต่งงานกับโซเฟีย บรัดเล (Sophia Bradley) ซ่ึงเป็นลูกสาวของหมอบรัดเล ศาสนาจารย์แมกกิลวารี เป็นมิชชันนารีคนแรกที่เข้ามาเผยแผ่คริสต์ศาสนาและการแพทย์แผนปัจจุบันในเมืองเชียงใหม่ แต่ใน Abstract of the Journal of Rev. Dan Beach Bradley ระบุว่าเดินทางข้ึนไปเมอื งเชยี งใหมต่ ั้งแตว่ ันท่ี ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๐๖ และมีบทบาทส�ำคัญในการรักษาโรคไข้จับสั่น โดยใช้ยาควินินและป้องกันโรคไข้ทรพิษด้วยการปลูกฝี ศาสนาจารย์ แมกกลิ วารเี ขยี นหนงั สอื เกี่ยวกบั ประเทศไทย เรอื่ ง Half Century ถึงแกก่ รรมเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๕๔

จดหมายเหตุของหมอบรัดเล 69 ปีเถาะ จลุ ศกั ราช ๑๒๒๙ พ.ศ. ๒๔๑๐ พฤษภาคม ท่ี ๒๒ หนังสือพมิ พส์ ยาม วีกลี มอนเิ ตอร์ 1 ออกครั้งแรก พฤษภาคม ที่ ๓๐ ราวนี้ นายฮดู กงสลุ อเมรกิ นั ออกหนงั สอื รบั จนี อยใู่ นรม่ ธงอเมรกิ นั มถิ ุนายน ที่ ๒๘ หมอฮอลันดา ช่ือ โฮเคนสตระเตน 2 (ซึ่งเรียกกันภายหลังว่า หมอแก)่ เป็นหมอรักษานัยนต์ าเขา้ มาถึง (หมอน้ีได้ผ่าตอ้ รักษาพระเนตร กรมหมืน่ ภูมินทรภกั ด3ี แลผา่ ตอ้ เจา้ พระยาทิพากรวงษ์)4 กรกฎาคม ที่ ๕ นางลิโอโนเวนส์ กับบุตร (คือ นายหลุย ลิโอโนเวนส์) กลับไป เมอื งนอก กรกฎาคม ท่ี ๒๕ กรมหมืน่ มเหศวรศิววลิ าศ สนิ้ พระชนม์ กรกฎาคม ที่ ๒๙ มองสเิ ออโอบะเรต์ กงสุลฝร่งั เศสไปเมืองนอก (เลยเสียจรติ ) กรกฎาคม ที่ ๓๑ หมอ่ มราโชไทย (ม.ร.ว. กระต่าย) ถึงอนจิ กรรม สิงหาคม ท่ี ๒๐ โปรดให้หมอจันดเล เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ถวายสมเด็จ เจา้ ฟา้ จุฬาลงกรณ์ 1 The Siam Weekly Monitor เป็นวารสารรายสัปดาห์ ซ่ึงหมอบรัดเลเป็นเจ้าของ ออกระหวา่ ง พ.ศ. ๒๔๑๐ - ๒๔๑๑ 2 Dr. Hoogenstratten เป็นจักษแุ พทย์ ชาวฮอลแลนด์ 3 พระนามเดิมว่า พระองคเ์ จ้าลดาวลั ย์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยูห่ ัว กบั เจา้ จอมมารดาเอมนอ้ ย ประสตู ิเมือ่ พ.ศ. ๒๓๕๘ ในรัชกาลที่ ๔ ทรงไดร้ ับการสถาปนาเปน็ กรมหม่ืนภมู ินทรภักดี โปรดเกล้า ฯ ใหท้ รงก�ำกับกรมช่างสบิ หมู่ สน้ิ พระชนมใ์ นรัชกาลที่ ๕ เมือ่ พ.ศ. ๒๔๑๗ ทรงเปน็ ตน้ ราชสกลุ ลดาวลั ย์ 4 นามเดิมวา่ ข�ำ บุนนาค เป็นบตุ รสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยรู วงศ์ (ดิศ บนุ นาค) กบั หมอ่ มรอด (ข้าหลวงของสมเดจ็ ฯ เจ้าฟ้า ฯ กรมหลวงเทพวดี) เกิดในรัชกาลท่ี ๒ พ.ศ. ๒๓๕๖ ในรัชกาลที่ ๓ เป็นนายพลพันมหาดเล็กหุ้มแพร ต่อมาเล่ือนเป็น จม่ืนราชามาตย์ ปลัดกรมต�ำรวจ ในรัชกาลที่ ๔ เป็นเจ้าพระยาผู้ช่วยกรมท่า จนกระทั่งบิดาถึงแก่พิราลัย ต่อมาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานสุพรรณบัฏเป็นเจ้าพระยารวิวงศมหาโกษาธิบดี นับเป็นผู้ที่สนใจวิชาการตะวันตกที่มิชชันนารีน�ำเข้ามา โดยเฉพาะ ด้านวิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และศาสนาเปรียบเทียบ จึงเขียน “หนังสือแสดงกิจจานุกิจ” อธิบายโลกสัณฐานแบบตะวันตกและ สาระส�ำคัญของพระพุทธศาสนา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนามิได้ขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์ เจ้าพระยารวิวงศ์ ฯ ป่วยด้วย โรคตาจนเกือบจะบอด รัชกาลที่ ๔ จึงพระราชทานนามใหม่ว่า เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี เม่ือ พ.ศ. ๒๔๑๐ ถึงสมัยรัชกาลท่ี ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้แต่งพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์จากเอกสารราชการต่าง ๆ เช่น ใบบอกหัวเมือง หมายรับส่ังต่าง ๆ เป็นต้น เรียกว่า พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๑ ถึงรัชกาลท่ี ๔ รวมเป็น ๔ เล่ม ต่อมา ลาออกจากราชการเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๑๐ ถึงแก่พิราลัยในรัชกาลที่ ๕ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๑๓

70 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ กันยายน ท่ี ๑๙ พระราชทานเพลิงศพหมอ่ มราโชไทยทวี่ ัดแจง้ กันยายน ที่ ๒๖ พระยาสรุ วงษไ์ วยวัฒนร์ าชทูต กลับมาจากเมอื งฝร่ังเศส ตุลาคม ท่ี ๑๐ กรมหม่ืนอลงกฎกิจปรีชา 1 สนิ้ พระชนม์ พฤศจกิ ายน ที่ ๔ มองสิเออ เดอ เบลกูรต์ 2 ราชทูตฝร่ังเศส เข้ามาถึง (มาแลก หนงั สอื สัญญา) พฤศจิกายน ที่ ๑๐ ฝรั่งเศส ๒ คน ไปยงิ นกในวัดเทวราชกุญชร 3 ถกู พระตเี จบ็ ปว่ ย สาหัส พฤศจิกายน ที่ ๑๒ ดองโยเซ ฮอรตา 4 โปจเุ กต เจา้ เมืองหมาเก๊า 5 เขา้ มา 1 พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้านิลรัตน เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กับเจ้าจอม มารดาพิม ประสูตเิ มื่อวันท่ี ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๓๕๔ ในรชั กาลที่ ๔ ทรงได้รบั การสถาปนาเป็นกรมหมื่นอลงกฎกิจปรชี า ทรงก�ำกับ กรมแสงปืนต้น กรมแสงหอกดาบ และก�ำกับช่างเงินโรงกษาปณ์ท�ำเงินเหรียญ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๔ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๑๐ ทรงเป็นตน้ ราชสกลุ นลิ รตั น 2 Gustave Duchesne de Bellecourt เอกสารฝ่ายไทยเรียกว่า “มองซิเออ เดอ เชตเนอ่ เดอเปลเล่อกรสุ ” เปน็ ราชทตู (Minister) ผู้มอี �ำนาจเต็ม น�ำหนังสอื ให้สตั ยาบนั “หนงั สอื สญั ญาเฃตรแดนเมอื งพัตบอง” พ.ศ. ๒๔๑๐ เข้ามาแลกเปลยี่ นกับไทย เป็นสนธิสัญญาซ่ึงพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) เป็นราชทูตไปเจรจาและลงนามกับฝร่ังเศสท่ีกรุงปารีส เม่ือวันท่ี ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ มีสาระส�ำคัญก�ำหนดให้ไทยถอนตัวออกจากเขมร ยกเว้นเมืองพระตะบองและเสียมราฐ 3 เดิมชื่อวัดสมอแครง ต้ังอยู่ริมแม่น้�ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก เหนือปากคลองผดุงกรุงเกษมข้างทิศเหนือ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาททรงบูรณปฏิสังขรณ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า วดั เทวราชกญุ ชร 4 Jose Maria de Ponta Horta ชาวโปรตเุ กส จุดประสงค์ทีเ่ ข้ามาเพือ่ เชอ่ื มสมั พันธไมตรี 5 เมืองมาเก๊า (Macau หรือ Macao) ขณะน้ันเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสและเป็นเมืองท่าต้ังอยู่ชายฝั่งทะเล ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจีน พ่อค้าโปรตุเกสเร่ิมเข้าไปค้าขายในเมืองมาเก๊าเมื่อ พ.ศ. ๒๐๗๘ โดยได้รับอนุญาตให้จอดเรือ ค้าขายไดแ้ ตไ่ มม่ สี ิทธไิ ปอาศัยบนฝัง่ ตอ่ มาราว พ.ศ. ๒๐๙๕ - ๒๐๙๘ จึงได้รับอนญุ าตให้ตั้งเพงิ พักช่ัวคราวบนฝัง่ ถึง พ.ศ. ๒๑๐๐ ได้รับอนุญาตให้ต้ังถ่ินฐานได้โดยเสียค่าเช่า หลังจากนั้นจึงมีชาวโปรตุเกสเข้าไปค้าขายมากขึ้น และเรียกร้องที่จะปกครองตนเอง ต่อมาพระสันตะปาปาเกรกอรีท่ี ๑๓ (Pope Gregory XIII) ประกาศให้เป็นสังฆมณฑลใน พ.ศ. ๒๑๑๙ และได้รับอนุญาตให้มี สภาซีเนตท�ำหนา้ ที่ดูแลด้านเศรษฐกิจและสังคม แตไ่ มม่ ีอ�ำนาจอธิปไตยใน พ.ศ. ๒๑๒๖ คร้นั ถงึ พ.ศ. ๒๔๓๐ ราชวงศ์ชงิ ของจนี ถูกโปรตุเกสบีบให้ลงนามในสนธิสัญญาทางไมตรีและการพาณิชย์ (Sino - Portuguese Treaty of Amity and Commerce) โปรตุเกสมีสิทธิครอบครองและปกครองเมืองมาเก๊าตลอดไป นับจากนั้นเมืองมาเก๊าจึงเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสอย่าง เป็นทางการ หลงั การปฏิวัตซิ ินไฮ่ พ.ศ. ๒๔๕๔ มกี ารท�ำสนธิสัญญาทางไมตรีและการพาณิชยร์ ะหวา่ งจีนกับโปรตุเกส พ.ศ. ๒๔๗๑ แต่ไม่ได้ท�ำให้สถานะของเมืองมาเก๊าเปลี่ยนแปลง เม่ือมีการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ พ.ศ. ๒๔๙๒ จีนประกาศว่า สนธิสัญญา พ.ศ. ๒๔๗๑ เป็นสนธิสัญญาท่ีไม่เสมอภาค แต่ไม่ได้ด�ำเนินการอย่างไร จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๑๗ โปรตุเกสมีรัฐบาลฝ่ายซ้าย ประกาศนโยบายที่จะละท้ิงอาณานิคม การเจรจาฐานะของเมืองมาเก๊าเร่ิมในพ.ศ. ๒๕๒๙ และปีต่อมาจึงออกแถลงการณ์ รว่ มกันว่า เมอื งมาเกา๊ เปน็ เขตปกครองพิเศษของจีน และมีพิธสี ง่ มอบเมืองมาเก๊าคืนแก่จีนในวนั ท่ี ๒๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

จดหมายเหตุของหมอบรดั เล 71 พฤศจกิ ายน ที่ ๑๕ เริ่มงานโสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๖ พระองค์ (ท่ีจริงเป็น ๒ คราว คือ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล พระองค์เจ้าศุขสวัสด์ิ พระองค์เจ้า ทวีถวัลยลาภ1 งาน ๑ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่2 พระองค์เจ้า อรณุ วดี พระองค์เจา้ ศิริในสมเดจ็ เจา้ ฟา้ กรมขนุ บ�ำราบปรปักษ์ อกี งาน ๑ แตง่ านตอ่ ติดกนั ) พฤศจิกายน ท่ี ๒๓ เจ้าพระยาพระคลัง (คือ เจ้าพระยาทิพากรวงษ์) แรกจ�ำหน่าย หนงั สอื แสดงกิจจานกุ ิจ3 ฉบบั พมิ พด์ ้วยพมิ พ์หิน พฤศจกิ ายน ที่ ๒๔ แลกหนังสือสัญญาเรื่องสุรากับฝร่ังเศส เป็นอันเสร็จข้อซึ่ง ถงุ้ เถียงกนั มาชา้ นาน ธนั วาคม ที่ ๖ เจา้ พระยาภธู ราภัย4 ท�ำบุญอายุ ๖๐ มีงานใหญ่ ธันวาคม ท่ี ๑๘ เจ้าพระยาพระคลังเปดิ ตกึ อาไศรยสถาน5 ทีอ่ า่ งหนิ ธันวาคม ที่ ๒๓ เจ้าพระยาศรสี รุ ิยวงษ์ ท�ำบุญอายุ ๖๐ มีงานใหญ่ 1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมน่ื ภูธเรศธ�ำรงศกั ด์ิ เปน็ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั กบั เจ้าจอม มารดาตลับ ประสูตเิ ม่ือวันท่ี ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๙๘ ในสมัยรชั กาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้ทรงด�ำรงต�ำแหนง่ เป็นเสนาบดีกระทรวง นครบาล สิ้นพระชนมเ์ ม่ือวันท่ี ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๔๐ ทรงเป็นต้นราชสกุล ทวีวงศ์ 2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กบั เจา้ จอมมารดาสังวาลย์ ประสตู เิ มอ่ื วันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๓๙๙ ในสมยั รัชกาลท่ี ๕ โปรดเกลา้ ฯ ให้ทรงเปน็ แม่ทัพปราบฮ่อ และเป็นข้าหลวงต่างพระองค์ส�ำเร็จราชการมณฑลอุดร เสนาบดีกระทรวงวัง กระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารเรือ ตามล�ำดบั สิ้นพระชนมเ์ มอื่ วนั ท่ี ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๗ ทรงเปน็ ต้นราชสกลุ ทองใหญ่ 3 ชื่อหนังสือท่ีเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) แต่งข้ึนเม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๘ โดยการเลือกสรรเร่ือง ท่ีน่าสนใจแต่ยังไม่เป็นที่ทราบกันทั่วไปมารวบรวมไว้คือ วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ศาสนาเปรียบเทียบ ที่ส�ำคัญคือท่านได้อธิบาย แก่นของพุทธศาสนา โดยแสดงเหตุผลหักล้างข้อกล่าวหาของมิชชันนารี เป็นการอธิบายพุทธศาสนาและโลกภูมิให้สอดคล้อง กับหลักวิทยาศาสตร์ เป็นเหตุให้มิชชันนารีปฏิเสธที่จะตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นอุปสรรคในการเผยแผ่คริสต์ศาสนา เจา้ พระยาทพิ ากรวงศ์ ฯ จงึ ตง้ั โรงพมิ พข์ องทา่ นเองโดยใช้แทน่ พมิ พห์ ิน คอื ใช้แผ่นหินอ่อนสลกั เป็นแมพ่ ิมพ์ หนังสอื แสดงกิจจานุกจิ มีจ�ำนวน ๓๙๐ หนา้ พมิ พจ์ �ำหนา่ ยโดยไมเ่ อาก�ำไร เพราะมีจุดประสงคเ์ ผยแพรค่ วามรู้แกก่ ุลบตุ รกลุ ธดิ า 4 นามเดิมว่า นุช บุณยรัตพันธุ์ เป็นบุตรเจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย บุณยรัตพันธุ์) ในรัชกาลที่ ๓ เข้ารับราชการเป็น นายสนิทห้มุ แพร ตอ่ มาเล่อื นเป็นหลวงศักดินายเวร และพระสรุ ยิ ภกั ดี แล้วถกู ถอดปลายสมัยรัชกาลท่ี ๓ ในรัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้า ฯ ใหเ้ ป็นพระยามหามนตรี ต่อมา พ.ศ. ๒๓๙๕ เปน็ เจา้ พระยายมราช เสนาบดจี ตุสดมภ์ กรมเมอื ง ถึง พ.ศ. ๒๔๐๖ โปรดเกลา้ ฯ ให้เป็นเจ้าพระยาภูธราภัย ด�ำรงต�ำแหน่งท่ีสมุหนายก พ.ศ. ๒๔๐๖ - ๒๔๒๐ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑ อายุ ๗๑ ปี 5 Bangkok Calendar ระบุวา่ “Sanitarium” หมายถึง บา้ นพกั ตากอากาศ

72 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภเิ ษก เลม่ ๑๖ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระเจา้ ลกู ยาเธอ เจา้ ฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขนุ พินติ ประชานารถ (ต่อมาคอื พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว) เจ้าพระยาทพิ ากรวงศมหาโกษาธบิ ดี (ขำ� บุนนาค) และผลงาน “หนังสือแสดงกิจจานกุ จิ ”

จดหมายเหตขุ องหมอบรดั เล 73 ธันวาคม ที่ ๒๕ หนังสือพิมพ์สยามวิกลีมอนิเตอร์ ลงพิมพ์ประจานความชั่วร้าย ของนายฮูด กงสุลอเมริกัน ธนั วาคม ที่ ๓๐ นายฮูด กงสุลอเมริกัน ขายเลหลังสิ่งของ ๆ ตน แล้วกลับไป เมอื งนอก ๑๘๖๘ มกราคม ที่ ๑๓ พระราชทานเพลงิ พระศพ กรมหมนื่ อลงกฎกจิ ปรชี า มกราคม ท่ี ๑๓ เจ้าพระยาศรสี ุรยิ วงษ์ เล้ยี งโตะ๊ พวกกงสุลแลชาวต่างประเทศ มกราคม ท่ี ๑๕ นายรอ้ ยเอกแบ๊ค นายทหารองั กฤษ ไปท�ำแผนทีก่ ลับมาถึง มกราคม ท่ี ๑๙ พระราชทานเพลงิ พระศพ พระองคเ์ จา้ ดารา1 พระมารดา เจา้ ฟา้ อศิ ราพงษ์ มกราคม ที่ ๒๙ เจ้าพระยาทิพากรวงษ์ จักษุมืด กราบถวายบังคมลาออกจาก ต�ำแหน่งเสนาบดีว่าการต่างประเทศ โปรดให้กรมขุนวรจักรธรานุภาพ2 เป็นแทน กุมภาพันธ์ ท่ี ๒๑ เรือไฟช่ือกลาโหม (ของพระยาภูเก็จ)3 แรกเข้ามาเดินระหว่าง กรงุ เทพ ฯ กับสงิ คโปร์ มนี าคม ท่ี ๑๐ ฉลองวดั หงษ์ มนี าคม ที่ ๑๕ เลอ่ื นกรมสมเดจ็ เจา้ ฟา้ จฬุ าลงกรณ์ เปน็ กรมขนุ พนิ ติ ประชานารถ 1 พระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดาราวดี ประสูติเม่ือ พ.ศ. ๒๓๒๘ เป็นพระราชธิดาของสมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท กับเจ้าจอมมารดาน้อย และเป็นพระชายาของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลท่ี ๔ เม่ือ พ.ศ. ๒๔๑๐ 2 พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าปราโมช เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กับเจ้าจอมมารดา อมั พา ประสตู เิ มอื่ วันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๕๙ ในรัชกาลท่ี ๔ ทรงสถาปนาเปน็ กรมหม่นื และกรมขนุ วรจักรธรานุภาพ ตามล�ำดบั ทรงก�ำกับกรมพระนครบาล และได้ว่ากรมหมอ กรมช่างเคลือบ ช่างหุงกระจก กรมญวนหก ได้ช�ำระความรับสั่ง และว่ากรมท่า สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เม่ือวันท่ี ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๑๕ ทรงเป็นต้นราชสกุล ปราโมช 3 นามเดมิ ว่า ทดั รตั นดลิ ก

74 ประชมุ พงศาวดารฉบบั กาญจนาภเิ ษก เลม่ ๑๖ ปีมะโรง จุลศักราช ๑๒๓๐ พ.ศ. ๒๔๑๑ มนี าคม ที่ ๒๔ พระราชทานเล้ยี งโต๊ะฝร่ังที่รับราชการในงานปใี หม่ เมษายน ท่ี ๕ พระยาไทรบรุ ี (อะหมัด)1 เขา้ มาเฝา้ ฯ เมษายน ที่ ๒๕ โสกันต์พระเจ้าลูกเธอ ๒ พระองค์ หม่อมเจ้าหลานเธอองค์ ๑ (สืบได้ความวา่ โสกนั ต์คราวนี้ พระเจา้ ลูกเธอ คอื พระองคเ์ จ้าเกษมสนั ต์ โสภาคย์ 2 พระองค์เจ้ากมลาศเลอสรรค์ 3 แต่หลานเธอนั้นเป็น ๓ คือ พระองค์เจ้าพรหเมศ 4 ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กับหม่อมเจ้าเจ๊ก หม่อมเจ้าหญิงกลาง ในกรมหมื่นมเหศวรศิววิลาศ รวม ๕ ด้วยกัน) เมษายน ท่ี ๒๙ นายมูร 5 ออกจากต�ำแหน่งกงสุลโปจุเกต กลบั ไปเมืองนอก พฤษภาคมท่ี ๑๑ เรอื รบฝรัง่ เศสชอ่ื เฟริลอง 6 ออกจากกรุงเทพ ฯ ไปเที่ยวตรวจหา ที่ส�ำหรบั โหรฝรงั่ เศสจะมาดูสรุ ิยอุปราคาหมดดวง7 1 นามเดมิ ว่า ตนกอู าหมดั เปน็ บตุ รของพระยาไทรบุรี (ดาอี) ต่อมาในรชั กาลที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๒๕ โปรดเกลา้ ฯ ให้เลื่อนเปน็ เจา้ พระยาไทรบรุ ี เจ้าเมอื งไทรบุรี ถงึ แกอ่ สญั กรรมเม่ือวันที่ ๒๒ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๔๒๒ 2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพรหมวรานุรักษ์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาแพ ประสูติเมื่อวันท่ี ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๓๙๙ ในรัชกาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้ทรงด�ำรงต�ำแหน่งเป็นอธิบดี ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ทรงเป็นผู้พิมพ์และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ฉบับแรกของคนไทยช่ือว่า ดรุโณวาท เริ่มพิมพ์ ครั้งแรกใน พ.ศ. ๒๔๑๗ แต่ต้องปิดกิจการในปีต่อมา ในรัชกาลท่ี ๖ โปรดเกล้า ฯ ให้ทรงด�ำรงต�ำแหน่งเป็นกรรมการศาลฎีกา สนิ้ พระชนมเ์ ม่อื วันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๗ ทรงเป็นตน้ ราชสกุล เกษมสันต์ 3 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นราชศักดิสโมสร เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กบั เจ้าจอมมารดาเท่ยี ง ประสตู เิ ม่อื วนั ที่ ๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๓๙๙ ในสมยั รชั กาลท่ี ๕ โปรดเกลา้ ฯ ใหท้ รงก�ำกับช่างทองหลวง สน้ิ พระชนมเ์ มอ่ื วนั ท่ี ๑๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๗๔ ทรงเปน็ ต้นราชสกลุ กมลาสน์ 4 พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าพรหเมศ เปน็ พระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระปิน่ เกล้าเจ้าอยู่หวั กับเจ้าจอมมารดา พรหมา ประสูติเมอ่ื วันที่ ๒๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๓๙๙ สนิ้ พระชนมเ์ มอ่ื วนั ท่ี ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ ทรงเปน็ ตน้ ราชสกุล พรห เมศ 5 Antonio Frederico Moor 6 Frelon เป็นเรอื ฝรัง่ เศสเขา้ มาส�ำรวจดสู รุ ิยปุ ราคา 7 เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารท่ี ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ การเกิดสุริยุปราคาคร้ังน้ัน แสดงถึง พระปรชี าสามารถทางดา้ นดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ในพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจา้ อยหู่ วั ทท่ี รงใช้วธิ ใี นการค�ำนวณล่วงหน้า อย่างแม่นย�ำ ทั้งช่วงเวลาและบริเวณท่ีสามารถมองเห็น ศูนย์กลางท่ีเห็นชัดเจนที่สุดคือ ต�ำบลหว้ากอ แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์ โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ พี ิมพป์ ระกาศเร่ืองน้ใี หท้ ราบโดยทั่วกนั พระองคเ์ สดจ็ ฯ ไปทอดพระเนตรสรุ ิยปุ ราคาพรอ้ มดว้ ยพระบรมวงศานวุ งศ์ และขุนนาง ครั้งนั้นมีชาวต่างประเทศเข้ามาดูด้วย เช่น เซอร์แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์และภรรยา และนักดาราศาสตร์ฝรั่งเศส

จดหมายเหตุของหมอบรัดเล 75 พฤษภาคม ที่ ๒๐ เรือรบเฟริลองตรวจหาท่ไี ด้แล้ว กลบั มาถงึ พฤษภาคม ท่ี ๒๕ นายร้อยเอก ตักเกอ กับนายร้อยโทปูล1 ไปตรวจท�ำแผนที่ (เขตแดนไทยกบั องั กฤษตอนแขวง) เมืองเชยี งใหม่ ๙ เดือนกลบั มาถึง มิถนุ ายน ที่ ๘ เรอื รบอเมริกัน ช่ือ อนุ าดิลา2 เข้ามาถงึ เปน็ เรือรบอเมริกันล�ำแรก ทีไ่ ด้เขา้ มาในแม่น�้ำ มิถุนายน ที่ ๑๗ เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ ปลงศพภรรยาสมเด็จเจ้าพระยาบรม มหาประยูรวงษ์คน ๑ ท่ีวัดดอกไม้3 (สืบได้ความว่าช่ือ หม่อมปราง เปน็ มารดาพระยาราชานุประพนั ธ์ โต) มถิ ุนายน ที่ ๑๗ ชกั ธงเยอรมนั เหนอื เปน็ คร้งั แรกในกรุง ฯ มถิ ุนายน ที่ ๒๙ พระยาเทพประชุน4 (คือ เจ้าพระยาภาณุวงษ์) เป็นข้าหลวง ไประงบั วุน่ วายทเี่ มืองภเู ก็จ ท�ำการส�ำเรจ็ กลับเขา้ มาถงึ กรกฎาคม ที่ ๓ ท�ำหนังสือสัญญากับอังกฤษ ก�ำหนดเขตแดนกรุงสยามกับ แดนพม่าของอังกฤษ5 กรกฎาคม ท่ี ๑๐ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท เฉลมิ พระชันษา ๖๑ พวกฝร่ังมแี ข่งเรอื ถวายท่ีปากนำ้� 1 Captain L. Tucker และ Lieutenant H. Poole ออกเดินทางจากกรุงเทพ ฯ ไปเชียงใหม่เม่ือวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๐ เพ่อื ส�ำรวจท่ตี ้งั ของสถานท่สี �ำคัญต่าง ๆ ส�ำหรบั ท�ำแผนที่ตามล�ำนำ�้ เจ้าพระยาต้งั แต่กรงุ เทพ ฯ ไปจนถึงเชียงใหม่ 2 Unadilla 3 ตง้ั อยรู่ ิมคลองบปุ ผาราม ธนบุรี ทา่ นผู้หญิงจนั ทร์ ภรรยาเจา้ พระยาพระคลงั (ดิศ บนุ นาค ตอ่ มาเปน็ สมเดจ็ เจ้าพระยา บรมมหาประยูรวงศ์) เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์ในรัชกาลท่ี ๓ ภายหลังจมื่นไวยวรนาถ (ช่วง บุนนาค ต่อมาเป็นสมเด็จเจ้าพระยา บรมมหาศรีสุริยวงศ์) กับจม่ืนราชามาตย์ (ข�ำ บุนนาค ต่อมาเป็นเจ้าพระยาทิพากรวงศ์) บูรณะสืบต่อมา แล้วถวายเป็น พระอารามหลวง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามใหม่ว่า วัดบุปผาราม 4 นามเดิมว่า ท้วม บุนนาค ด�ำรงต�ำแหน่งผู้ช่วยกรมท่า เป็นบุตรสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ (ดิศ บุนนาค) กบั หมอ่ มพงึ่ ซึ่งเปน็ ธิดาของเจา้ พระยาพลเทพ (บุนนาค บ้านแม่ลา) ในรชั กาลที่ ๕ โปรดเกล้า ฯ ให้เลอื่ นบรรดาศักดเ์ิ ปน็ เจ้าพระยา ภาณุวงศ์มหาโกษาธิบดี เสนาบดกี รมทา่ ลาออกจากราชการ พ.ศ. ๒๔๒๘ ถงึ แกอ่ สญั กรรมเมอ่ื วันท่ี ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๖ 5 เรยี กว่า “อนุสัญญาระหว่างกษัตริย์สยามกับข้าหลวงใหญแ่ หง่ อินเดีย ว่าดว้ ยเร่ืองก�ำหนดเฃตรแดนบนผนื แผ่นดินใหญ่ ระหว่างราชอาณาจักรสยามและมณฑลของอังกฤส คือ เทนเนสเซอริม” (ไทยเรียกว่า ตะนาวศรี) ลงนามในวันท่ี ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๑๐ (ค.ศ. ๑๘๖๘) และมกี ารแลกเปลยี่ นหนงั สือให้สัตยาบันในวนั ท่ี ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ (ค.ศ. ๑๘๖๘)

76 ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภเิ ษก เล่ม ๑๖ กรกฎาคม ที่ ๒๐ เจา้ พระยาศรสี ุรยิ วงษ์ ถวายเรอื รบสยามปู รสั ดัมภ์ ซ่ึงตอ่ ขนึ้ ใหม่ กรกฎาคม ที่ ๒๖ มองสเิ ออคอรส์ 1 กงสลุ ฝรั่งเศสเขา้ มาถึง กรกฎาคม ท่ี ๒๙ เสด็จลงทอดพระเนตรเรือสยามูปรัสดัมภ์2 แลพระราชทาน บ�ำเหน็จแก่เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ สิงหาคม ท่ี ๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จจากกรุงเทพ ฯ ไปทอดพระเนตรสุริยอุปราคาหมดดวง (ที่ต�ำบลหว้ากอ3 แขวงจังหวัด ประจวบคิรขี นั ธ์) สิงหาคม ที่ ๑๘ มีสุริยอปุ ราคาหมดดวง มดื อย่ถู ึง ๖ นาที กับ ๔๖ วินาที สิงหาคม ที่ ๑๙ ซนิ ยอเวยี นา4 มาเป็นกงสุลเยเนราลโปจเุ กต สิงหาคม ที่ ๒๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว เสด็จกลับจากหว้ากอ สงิ หาคม ที่ ๒๙ หนงั สอื พิมพ์สยามวิกลีมอนิเตอร์ หยดุ พมิ พ์ สิงหาคม ท่ี ๓๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประชวรมาหลายวัน เรียกหมอแคมเบล5 กับหมอบรัดเลเข้าไปปรึกษากับแพทย์หลวง แต่หา ได้เขา้ ไปตรวจพระอาการไม่ กันยายน ที่ ๑ ได้ขา่ วว่าผ้ทู ไี่ ปตามเสด็จกลบั มาเปน็ ไขต้ ายสกั ๔ - ๕ คน กันยายน ท่ี ๑ ไฟไหม้ทตี่ ลาดวดั เกาะ (เนอ่ื งในเรื่องจับฝ่นิ เถ่อื น) 1 มองสเิ ออรค์ อรส์ (Gorsse) กงสุลฝรงั่ เศสประจ�ำกรุงเทพ ฯ มาถงึ กรงุ เทพ ฯ เม่อื พ.ศ. ๒๔๑๑ 2 เรือรบสยามูปรสั ดมั ภ์ (Siam Supporter) เป็นเรือรบแบบคอร์เวต ตวั เรือเปน็ ไม้ ลกั ษณะแบบเรอื บารค์ ๓ เสา ขนาดยาว ๖๐ เมตร กวา้ ง ๙.๕ เมตร ระวางขับนำ้� ๘๒๐ ตนั จักรทา้ ย ปืนใหญ่ ๑๐ กระบอก คนประจ�ำเรอื ๑๗๐ คน สมเดจ็ เจา้ พระยา บรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ให้บุตรชายคือ พระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค ต่อมาเป็นเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์) เปน็ ผู้อ�ำนวยการตอ่ เรือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัวเสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรเรือเม่ือวนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๑๑ พระราชทานนามว่า เรอื สยามูปรัสดัมภ์ ต่อมาเรือล�ำน้จี มในแมน่ ้�ำเจ้าพระยาเมือ่ วันท่ี ๒๓ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๑ 3 ปัจจุบันคือ บ้านหว้ากอ ต�ำบลคลองวาฬ อ�ำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีข้อสังเกตว่า ในบันทึกของหมอบรดั เลและของชาวต่างชาตอิ ่นื ๆ เรยี กสถานทแี่ ห่งนวี้ า่ หวั วาฬ (Hua Wan) 4 จี. เอฟ. เวยี นนา (G. F. Vianna) 5 Dr. James Campbell นายแพทยช์ าวองั กฤษ

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 77 พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั เสด็จพระราชดำ� เนนิ ไปทอดพระเนตรสรุ ิยปุ ราคา ณ ตำ� บลหว้ากอ เมืองประจวบคีรขี ันธ์

78 ประชุมพงศาวดารฉบบั กาญจนาภเิ ษก เลม่ ๑๖ กนั ยายน ที่ ๑๒ เรยี กหมอแคมเบล แลหมอบรดั เล เขา้ ไปปรกึ ษาอาการพระประชวร กบั แพทยห์ ลวงอีก1 กนั ยายน ท่ี ๑๔ นายอาลบาสเตอ ผู้แทนกงสุลอังกฤษ เกิดวิวาทกับเจ้าพระยา ศรีสรุ ยิ วงษ์ เรอื่ ง (สมบัติคนในร่มธงองั กฤษต้อง) ไฟไหม้ที่วัดเกาะ กนั ยายน ท่ี ๑๕ หมอสมทิ ออกหนงั สอื พมิ พข์ า่ วรายวนั เรยี กชอ่ื สยามเดลี แอดเวอ ไตเซอ2 กันยายน ที่ ๑๙ เรียกหมอแคมเบล แลหมอบรัดเล เขา้ ไปปรกึ ษากบั แพทย์หลวง ที่ในท้องพระโรง หมอแคมเบลได้เข้าไปตรวจพระอาการ แต่ไม่ได้ตั้ง พระโอสถ กันยายน ท่ี ๒๕ กรมขุนราชสีหวิกรม3 ประชวรไข้ เนื่องมาแต่ไปตามเสด็จ ท่ีหวา้ กอ ส้ินพระชนม์ ตุลาคม ท่ี ๑ พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั สวรรคต พระชนั ษาได้ ๖๔ เสวยราชย์ได้ ๑๘ ปี สมเด็จพระราชโอรส เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์เสด็จผ่าน พิภพ กรมหม่นื บวรวิไชยชาญ4 เป็นพระมหาอุปราช 1 Bangkok Calendar ระบวุ า่ แต่ไม่ได้รับอนญุ าตใหท้ �ำอะไร 2 The Siam Daily Advertiser เปน็ หนังสือพมิ พ์รายวัน ออกระหวา่ ง พ.ศ. ๒๔๑๑ - ๒๔๒๕ โดยศาสนาจารยแ์ ซมวล เจ. สมิท (Rev. Samuel J. Smith) เป็นเจา้ ของ 3 พระนามเดมิ วา่ พระองคเ์ จา้ ชมุ สาย พระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั กบั เจา้ จอมมารดาเอมใหญ่ ประสูติเมื่อวันท่ี ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๓๕๙ ในรัชกาลท่ี ๔ ทรงสถาปนาเป็นกรมหมื่นและกรมขุนราชสีหวิกรม ตามล�ำดับ ทรงก�ำกับกรมช่างศิลาและกรมช่างสิบหมู่ ส้ินพระชนม์ในรัชกาลที่ ๔ ทรงเป็นต้นราชสกุล ชุมสาย 4 พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ายอดย่ิงยศ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิน่ เกล้าเจ้าอยหู่ วั กับเจา้ คุณจอมมารดาเอม ประสตู ิเมื่อวันท่ี ๖ กนั ยายน พ.ศ. ๒๓๘๑ ในรชั กาลที่ ๔ ทรงสถาปนาเปน็ กรมหมืน่ บวรวิไชยชาญเมือ่ พ.ศ. ๒๔๐๔ ในรัชกาลท่ี ๕ ได้รับพระราชทานอุปราชาภเิ ษกเปน็ กรมพระราชวงั บวรสถานมงคล ทวิ งคตเมอ่ื วนั ที่ ๒๘ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๒๘

จดหมายเหตุของหมอบรัดเล 79 รชั กาลที่ ๕ ตลุ าคม ท่ี ๑๓ ออกหมายประกาศ เรียกอัฐดบี กุ คนื พฤศจิกายน ที่ ๑๑ บรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พฤศจกิ ายน ที่ ๑๕ เรือรบอังกฤษ ชื่อ สลามสิ 1 มาถงึ นายพลเรอื เกปเปล กบั กงสลุ เยเนราล นอกส์ มาดว้ ย ในเรอื น้ี พฤศจิกายน ที่ ๑๘ แหเ่ สด็จเลียบพระนคร พฤศจิกายน ท่ี ๒๕ อปุ ราชาภเิ ษก กรมพระราชวงั บวร ฯ ธนั วาคม ท่ี ๖ เจา้ พระยาภธู ราภยั ท�ำบญุ อายุ ๖๑ ธันวาคม ท่ี ๙ ไฟไหม้ท่บี ้านหม้อ2 ธนั วาคม ที่ ๒๓ เจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ท�ำบุญอายุ ๖๑ พวกฝรั่งเข้ากันท�ำของต้ัง กลางโต๊ะ เปน็ รปู ประภาคารเงนิ ใหเ้ ปน็ ของขวัญ ๑๘๖๙ มกราคม ท่ี ๑ หมอสมิทออกหนังสอื พมิ พ์ ช่อื สยาม เรโปสติ อร3ี มกราคม ที่ ๑๙ เปิดคลองยี่สาน4 (แต่สมุทสงครามไปเพ็ชรบรุ ี) 1 Salamis มีกปั ตันเรือชือ่ Keppel 2 เหตุที่ช่ือว่าบ้านหม้อ เพราะเป็นย่านท�ำหม้อขาย ต่อมาในรัชกาลท่ี ๓ พ.ศ. ๒๓๗๔ เกิดไฟไหม้บ้านเรือนราษฎร ที่บ้านหม้อเป็นบริเวณกว้าง รวมท้ังวังพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนสุนทรธิบดี ปัจจุบันบ้านหม้อมีช่ือเสียงในฐานะเป็นย่าน ขายเพชรพลอยและเครื่องเสยี ง 3 The Siam Repository เปน็ วารสารราย ๓ เดือน ออกระหว่าง พ.ศ. ๒๔๑๑ - ๒๔๒๗ โดยศาสนาจารยแ์ ซมวล เจ. สมทิ (Rev. Samuel J. Smith) เปน็ เจา้ ของ เนือ้ หาว่าดว้ ยขา่ วสารต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ เศรษฐกจิ การเมือง วรรณคดี และอ่ืน ๆ 4 เปน็ คลองขุดยาว ๗ กิโลเมตร จากคลองก�ำนันสมบุญ เขตต�ำบลยสี่ าร จังหวัดสมทุ รสงคราม ไปออกแมน่ ำ้� บางตะบนู เขตต�ำบลบางตะบูน อ�ำเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบรุ ี

80 ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั ในพระราชพิธบี รมราชาภิเษก คร้ังที่ ๑ พ.ศ. ๒๔๑๑ กมุ ภาพันธ์ ท่ี ๑๑ กรมพระราชวัง ฯ เสด็จไป (ตรวจป้อม) เมืองจันทบุรี ๑๒ วัน กลบั มาถงึ กรงุ เทพ ฯ กุมภาพนั ธ์ ที่ ๒๑ พระราชทานเพลิงพระศพกรมขุนราชสีหวกิ รมท่ีวดั แจง้ มีนาคม ท่ี ๖ ผรู้ า้ ยฆา่ พระธรรมเจดยี 1์ อายุ ๘๗ ปี ทว่ี ัดโพธ์ิ เมษายน ท่ี ๑๑ เรือสยามูปรสั ดมั ภ์ ไปเมืองตรงั กานู (กลับวันที่ ๒๕) 1 นามเดิมว่า อุ่น เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๖ ในรัชกาลท่ี ๓ เป็นพระราชาคณะท่ีพระสุนทรสมาจารย์ อยู่วัดพระเชตุพน วมิ ลมงั คลาราม ถงึ รัชกาลที่ ๔ ทรงตั้งเปน็ พระราชาคณะผ้ใู หญท่ ี่พระธรรมเจดยี ์ เมอื่ พ.ศ. ๒๔๐๑

จดหมายเหตขุ องหมอบรัดเล 81 ปีมะเสง็ จุลศกั ราช ๑๒๓๑ พ.ศ. ๒๔๑๒ เมษายน ที่ ๒๘1 เรอื รบออสเตรยี ชอื่ ดองนา2 พาราชทตู ออสเตรยี มาขอท�ำหนงั สอื สัญญาทางพระราชไมตร3ี เมษายน ท่ี ๒๘ รับพระราชสาส์น สมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย4 มีมาถวายสมเด็จ พระเจ้าแผน่ ดนิ พระองคใ์ หม่ วิธรี ับพระราชสาสน์ จดั อย่างใหม่ (เลกิ แห)่ 5 พฤษภาคม ท่ี ๔ บารอนแอนทอนี เปทส6์ ราชทตู ออสเตรยี เขา้ เฝา้ ฯ พฤษภาคม ท่ี ๑๓ ประหารชวี ติ ผูร้ า้ ยที่ฆ่าพระธรรมเจดยี ์ ๕ คน พฤษภาคม ที่ ๑๗ ท�ำหนังสอื สญั ญาระหว่างกรงุ สยามกับออสเตรยี มถิ ุนายน ที่ ๑๘ ประหารชวี ิตอา้ ยนาก อ้ายกล่อม ผู้ร้ายฆ่ากปั ตันสมทิ มิถนุ ายน ท่ี ๒๗ ประกาศต้ังเจ้าพระยาศรีสุริยวงษ์ เป็นผู้ส�ำเร็จราชการแผ่นดิน พร้อมกับต้ังเจ้าพระยาทิพากรวงษ์ ส�ำเร็จราชการต่างประเทศ พระยา สุรวงษ์ไวยวัฒน์ เป็นเจ้าพระยาที่สมุหพระกลาโหม พระยาเทพประชุน เป็นเจา้ พระยาภาณุวงษ์ วา่ การตา่ งประเทศ7 กรกฎาคม ที่ ๕ พระราชทานเพลงิ พระศพกรมหมน่ื อมรมนตรี 8 1 Abstract of the Journal of Rev. Dan Beach Bradley ระบุวา่ เรอื มาถึงวนั ที่ ๓๐ เมษายน ประมาณเทีย่ งวนั 2 Donau 3 เรียกว่า “หนังสือสัญญาทางพระราชไมตรีประเทศออศเตรียแลประเทศสยาม” ลงนามในวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๑๒ (ค.ศ. ๑๘๖๙) มสี าระส�ำคญั เชน่ เดียวกับสนธสิ ัญญาเบาว์ริง 4 สมเด็จพระราชินีนาถอเล็กซานดรินา วิกตอเรีย (Queen Alexandrina Victoria) (พ.ศ. ๒๓๖๒ - ๒๔๔๔) ทรงเป็น สมเด็จพระราชินีนาถปกครองอังกฤษ (พ.ศ. ๒๓๘๐ - ๒๔๔๔) และพระจักรพรรดินีปกครองอินเดีย (พ.ศ. ๒๔๑๙ - ๒๔๔๔) เปน็ สมยั ท่อี งั กฤษขยายจักรวรรดิออกไปกวา้ งขวางทส่ี ดุ และมีความเจริญทางวัฒนธรรมเป็นอนั มาก เรยี กว่า ยุควกิ ตอเรีย 5 หมายถึง การยกเลิกการแต่งเรือกระบวนลงไปรับพระราชสาส์นมาจากสถานกงสุล ก่อนหน้าสมัยรัชกาลที่ ๕ เรือท่ีใช้รับพระราชสาส์นคือ เรือเอกชัย และเรือท่ีใช้รับคณะทูตคือ เรือกัญญา เมื่อคราวรับพระราชสาส์นจากสมเด็จพระราชินีนาถ วิกตอเรีย ในครั้งนี้เปล่ียนเป็นจัดเรือกลไฟไปรับแทน 6 Baron Antony Petz 7 Bangkok Calendar ระบุว่า มีพระบรมราชโองการแต่งต้ังในวันท่ี ๖ พฤษภาคม ส่วนประกาศท่ีออกในวันที่ ๒๗ มิถุนายนน้ี เปน็ ฉบับภาษาองั กฤษ 8 พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าปาน เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาเสนานุรักษ์ กับเจ้าจอมมารดาน่วม ประสูติเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๗ ในรัชกาลท่ี ๓ ทรงสถาปนาเป็นกรมหมื่นอมรมนตรี สิ้นพระชนม์ในรัชกาลท่ี ๔

82 ประชุมพงศาวดารฉบบั กาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ กรกฎาคม ที่ ๒๙ จับฝิ่นเถ่ือนได้ท่ีเรือใบอังกฤษชื่อ ควีนสแลนต์1 ฝิ่นดิบ ๔๐๐ ก้อน ฝนิ่ สกุ ๕,๘๐๐ ต�ำลงึ สงิ หาคม ที่ ๒๐ หมอสมิทออกหนังสือพิมพ์ สยามวิกลี แอตเวอไตเซอ2 อีก หนงั สอื พิมพน์ อ้ี อกแล้วต้องหยดุ มา ๓ คราว กนั ยายน ที่ ๑ รับพระราชสาส์นสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินปรุสเซีย3 แทนสมาคม เยอรมันฝา่ ยเหนอื กนั ยายน ที่ ๗ เรือสยามู ฯ ไปเมอื งตรงั กานอู ีก กนั ยายน ที่ ๑๒ พระเจ้าเชียงใหม่กาวิโลรสสุริยวงษ์ ประหารชีวิตลาวที่เข้ารีต เสีย ๒ คน พวกมชิ ชนั นารตี กใจกันมาก กนั ยายน ที่ ๑๔ พระพมิ ลธรรม (ย้มิ ) วัดโพธิ์ มรณภาพ กนั ยายน ที่ ๒๐ เจ้าพระยาภาณุวงษ์เล้ียงโต๊ะกงสุลแลฝร่ังอ่ืน (ในงานเฉลิม พระชนั ษา) กันยายน ที่ ๒๑ รับพระราชสาส์นสมเดจ็ พระเจา้ แผ่นดินโปจุเกต4 กันยายน ที่ ๒๗ ผสู้ �ำเร็จราชการแผ่นดนิ เลีย้ งโต๊ะกงสุลแลฝร่งั อื่น 1 Queensland 2 Siam Weekly Advertiser เป็นวารสารรายสัปดาห์ ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๑๒ - ๒๔๒๙ ศาสนาจารย์แซมวล เจ. สมิท เปน็ เจา้ ของ 3 เป็นพระองคเ์ ดียวกบั พระจกั รพรรดเิ ยอรมนั คือ พระเจา้ วลิ เลียมท่ี ๑ (Kaiser Wilhelm I) หลังสงครามระหวา่ งออสเตรีย กบั ปรัสเซีย (Austro - Prussian War) ใน ค.ศ. ๑๘๖๖ ปรัสเซียสามารถรวมแควน้ เยอรมนั ทางเหนือแมน่ ำ�้ เมน (Maine) ต้งั เป็น สมาพันธรัฐเยอรมันทางเหนือ (North German Confederation) ใน ค.ศ. ๑๘๖๗ ต่อมาหลังจากปรัสเซียรบชนะในสงคราม กบั ฝรง่ั เศส (Franco - Prussian War, ค.ศ. ๑๘๗๐ - ๑๘๗๑) พระเจา้ วิลเลียมที่ ๑ รวมแควน้ เยอรมันเป็นจักรวรรดิ มพี ระองค์ เป็นพระจักรพรรดิ 4 สมเดจ็ พระเจา้ หลยุ สท์ ่ี ๑ แห่งราชวงศบ์ รากานซา (Louis I of Braganza พ.ศ. ๒๓๘๑ - ๒๔๓๒) กษตั ริย์ปกครอง โปรตุเกส พ.ศ. ๒๔๐๔ - ๒๔๓๒

จดหมายเหตุของหมอบรัดเล 83 กนั ยายน ที่ ๒๙ เจ้าพระยาพลเทพ (หลง)1 ถงึ อสัญกรรม กันยายน ที่ ๓๐ นายพล ปาตรชิ 2 กงสุลอเมรกิ ันเขา้ มาถงึ ตลุ าคม ท่ี ๑๘ กรมหลวงวงษาธิราชสนทิ เสดจ็ ข้ึนไปประทานกฐินเมืองพิศณุโลก ตุลาคม ที่ ๒๐ นายพล ปาตริช ถวายอักษรสาส์นของประธานาธิบดียุไนเตด เสตต อเมริกา3 ตุลาคม ท่ี ๒๐ จับฝิ่นเถ่อื นไดใ้ นเรอื เจ้าพระยา4 เมือ่ จับตอ่ สู้กนั ข้ึน พฤศจิกายน ท่ี ๕ พวกมิชชันนารี พร้อมกันแต่งให้นายแมกดอนัลด์กับนายยอช มิชชันนารีข้ึนไปเมืองเชียงใหม่ เพ่ือข้ึนไปเยี่ยมถามข่าวพวกมิชชันนารี ในเหตุที่พระเจา้ กาวโิ ลรสฆา่ ลาวเขา้ รตี พฤศจกิ ายน ที่ ๑๔ มองสิเออดลิ อง5 เขา้ มาเป็นกงสลุ ฝรง่ั เศส พฤศจิกายน ท่ี ๑๕ รัฐบาลให้หลวงพิบูลย์สมบัติขึ้นไปเป็นเพื่อนมิชชันนารี ๒ คน ท่ไี ปเชียงใหม่ พฤศจิกายน ที่ ๒๓ ไฟไหมโ้ รงสีของไทย ทค่ี ลองผดุงกรุงเกษม 1 เจ้าพระยาพลเทพ (หลง บญุ - หลง) เสนาบดกี รมนา (พ.ศ. ๒๓๙๔ - ๒๔๑๒) เปน็ บุตรของเจา้ พระยาสุระบดินทร์ (บญุ ชี) ในสมยั ธนบุรี เกดิ เม่ือวนั ที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๓๔ ในรชั กาลท่ี ๔ ด�ำรงต�ำแหนง่ เปน็ พระยาพชิ ยั บรุ ินทร์ อธบิ ดกี รมเมอื งฝา่ ยวังหน้า ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าพระยาพลเทพ ตามล�ำดับ หลักฐานจากเรื่องต้ังเจ้าพระยาในกรุงรัตนโกสินทร์ ระบุว่าถงึ แกอ่ สัญกรรมเมอ่ื วนั ท่ี ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๒ อายุ ๗๘ ปี 2 Brigadier General Frederick W. Partridge ด�ำรงต�ำแหน่งกงสุลอเมริกันประจ�ำประเทศไทยต่อจากกงสุลฮูด (Hood) ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๑๒ - ๒๔๑๙ หมอบรัดเล มชิ ชันนารอี เมริกนั ไดเ้ ขียนเกย่ี วกับนายพลปาตรชิ วา่ เปน็ คนทจุ รติ เพราะใช้ ต�ำแหน่งหน้าท่ีหาผลประโยชน์ส่วนตัวอยู่เสมอ เช่น แสวงหารายได้จากการข้ึนทะเบียนชาวจีนในประเทศไทยเป็นคนในบังคับ ของสหรฐั อเมริกา เพอ่ื ชาวจนี เหลา่ น้ันจะไดข้ ายเหล้าเถ่อื นได้ เป็นต้น 3 คอื แอนดรวู ์ จอหน์ สัน (Andrew Johnson) ด�ำรงต�ำแหน่งประธานาธิบดีสหรฐั อเมริกา ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๔๐๘ - ๒๔๑๒ (ค.ศ. ๑๘๖๕ - ๑๘๖๙) 4 เป็นเรือเมล์กลไฟล�ำแรกของไทยเดินระหว่างกรุงเทพ ฯ - สิงคโปร์ เดิมเป็นเรือสินค้าอังกฤษ ต่อมา พ.ศ. ๒๔๐๑ เป็นเรือเหล็กจักรท้าย ขนาด ๓๖๓ ตัน พระภาษีสมบัติบริบูรณ์ (เจ๊สัวยิ้ม ต่อมาเป็นพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ ต้นสกุล พิศลยบุตร) ซื้อมาเม่ือ พ.ศ. ๒๔๐๔ เพื่อเป็นเรือเมล์โดยสารขนส่ง 5 Dillon

84 ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เลม่ ๑๖ พฤศจกิ ายน ที่ ๒๙ หมอฮอลันดา ช่ือ โฮเคนสตระเตน ท่ีรักษาตาเจ้าพระยา ทิพากรวงษ์ กลบั มาอีกครงั้ ๑ พฤศจิกายน ที่ ๒๙ เสร็จการท่ีเกิดโต้แย้งกับกงสุลฝรั่งเศสคนใหม่1 ในเร่ืองกิริยา ทจี่ ะเข้าเฝา้ ถวายพระราชสาสน์ พฤศจกิ ายน ที่ ๓๐ กงสุลฝร่ังเศสเข้าเฝ้าถวายพระราชสาส์นของสมเด็จพระเจ้า เอมเปรอนะโปเลยี น ท่ี ๓ ธนั วาคม ที่ ๑๐ กรมพระราชวงั บวร ฯ เสด็จไปตรวจหัวเมอื งชายทะเลตะวนั ออก ๑๖ วนั กลบั มาถึง ธนั วาคม ที่ ๑๑ ช้างด่าง (คือ พระเสวตรวรวรรณ)2 ลงมาจากเมืองเชียงใหม่ คนต่ืนกันไปดูมาก ธนั วาคม ที่ ๑๗ พระราชทานเพลิงศพเจา้ พระยาพลเทพ (หลง) ที่วดั แจ้ง ธนั วาคม ที่ ๒๓ ผ้สู �ำเรจ็ ราชการท�ำบุญอายุ ๖๒3 ธนั วาคม ที่ ๓๐ พระราชทานเพลงิ ศพพระพิมลธรรม (ยม้ิ ) 1 คือ นายดิยง (F. Dillon) ยื่นความประสงค์ขอน่ังเรือและนั่งช้างตามประเพณีเดิมของไทย รวมท้ังขอให้มีเก้าอ้ีนั่งใน ท้องพระโรงส�ำหรับตนและผู้ติดตาม เพ่ือเข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์น แต่ไทยปฏิเสธ นายดิยงจึงเปลี่ยนขอยืนเข้าเฝ้า ฯ ไทยไม่ปฏิเสธ เพราะเคยอนุญาตให้ผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศยืน หรือนั่งเข้าเฝ้า ฯ มาก่อนแล้ว 2 เป็นชา้ งเผอื กท่ีเมอื งพร้าว ซ่งึ ข้ึนกับนครเชยี งใหม่ มลี กั ษณะเปน็ ช้างพลายดา่ งด�ำพงศถ์ นิม สงู ๒ ศอก ๑ คบื ๓ นวิ้ มีสีผิวออกขาวที่ขาทั้งสี่ ท้อง หน้า งวง และหาง พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ พระเจ้านครเชียงใหม่น้อมเกล้า ฯ ถวาย เมื่อสมโภช ข้ึนระวางแลว้ พระราชทานนามวา่ พระเสวตวรวรรณ มหารพีพรรณคชพงษ์ 3 Bangkok Calendar ระบุวา่ อายุ ๖๑ ปี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook