Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวม มคอ 5 ปีการศึกษา 2565_หลักสูตร พธ.ด (พระพุทธศาสนา)

รวม มคอ 5 ปีการศึกษา 2565_หลักสูตร พธ.ด (พระพุทธศาสนา)

Published by Thanarat MCU Surin, 2023-06-21 02:35:28

Description: รวม มคอ 5 ปีการศึกษา 2565_หลักสูตร พธ.ด (พระพุทธศาสนา)

Search

Read the Text Version

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๒ การรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา ชื่อสถาบนั อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขต/คณะ/ภาควชิ า วทิ ยาเขตสุรินทร์ / คณะพุทธศาสตร/์ ภาควชิ าพระพุทธศาสนา หมวดที่ 1 ข้อมลู โดยท่วั ไป 1. รหสั และช่ือรายวิชา ๘๐๑ ๓๒๓ สมั มนาอารยธรรมพรมดงรกั (Seminar on Civilization of Phanom Dongrak) 2. รายวิชาทตี่ อ้ งเรยี นก่อนรายวิชานี้ (ถา้ มี) ไม่มี 3. อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบอาจารยผ์ สู้ อนและกลุม่ เรียน (section) พระครปู รยิ ัตวิ สิ ุทธคิ ุณ, รศ.ดร. ดร.ธนรฐั สะอาดเอ่ียม 4. ภาคการศกึ ษา/ปีการศึกษาท่ีเปิดสอนรายวิชา เปดิ สอนภาคการศกึ ษาที่ ๒/๒๕๖๕ ชนั้ ปที ี่ ๑ (นิสิตปริญญา เอก รุ่นท่ี ๒ สาขาวิชา พระพทุ ธศาสนา) 5. สถานทเ่ี รยี น บณั ฑิตศึกษา มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๓ หมวดที่ 2 การจดั การเรียนการสอนทีเ่ ปรียบเทยี บกับแผนการสอน 1. รายงานชั่วโมงการสอนจรงิ เทยี บกับแผนการสอน จำนวน จำนวน ระบุสาเหตุที่การสอน หัวข้อ ช ั ่ ว โ ม ง ชั่วโมงท่ี จรงิ ตา่ งจาก แนะนำรายวชิ าและแผนการสอน ตาม ได้ แ ผ น ก า ร ส อ น ห า ก มี ชแ้ี จงแนวสงั เขปและรายละเอยี ดประจำวชิ าเกณฑ์ การศกึ ษาตามระเบียบของมหาวิทยาลยั , แผนการ สอนจรงิ ความแตกต่าง การวดั ผลประเมนิ ผล สอน เกิน 25% 33 บทท่ี ๑ ความรู้เบื้องตน้ เกีย่ วกับอารยธรรมมนุษย์ 33 บทท่ี ๒ อารยธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 3 3 บทที่ ๓ อารยธรรมในประเทศไทย 3 3 บทที่ ๔ ประวัติและพัฒนาการของอารยธรรมพนมดงรัก 3 3 บทที่ ๕ พระพุทธศาสนากับวิถีชีวติ ของกลุ่มชาติพันธใ์ น 3 3 อารยธรรมพนมดงรัก ผ่านมิติการศึกษา ฟูนัน-จัมมา: อาณาจักรขอมโบราณ (ที่ตั้งและประวัติศาสตร์) 3 3 (วิทยากรพิเศษ) บทท่ี ๖ พระพทุ ธศาสนากับการเมืองในอารยธรรมพนม 3 3 ดงรกั (วิทยากรพิเศษ) 3 3 สอบกลางภาค บทที่ ๗ จารึกในอารยธรรมพนมดงรักกับการศึกษา พระพุทธศาสนา (วิทยากรพิเศษ) บทท่ี ๘ พระพุทธศาสนากับสังคมในอารยธรรมพนมดง 3 3 รัก (วิทยากรพเิ ศษ) บทที่ ๙ พระพทุ ธศาสนากับศิลปวัฒนธรรมในอารย 33 ธรรมพนมดงรัก (วิทยากรพิเศษ) บทที่ ๑๐ อิทธิพลของอาณาจักรล้านช้างที่มีต่อ 3 3 พระพุทธศาสนาและวิถีชีวิตของคนแถบเทือกเขาพนม ดงรัก (วิทยากรพเิ ศษ)

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๔ ศกึ ษาภาคสนาม ครัง้ ที่ ๑ 33 เสน้ ทาง: จ.สุรินทร์-จ.นครราชสีมา 33 (ปราสาทหนิ พิมาย,พิพิธภณั ฑสถานพิมาย) 33 ศึกษาภาคสนาม ครัง้ ท่ี ๒ เสน้ ทาง: จ.สุรนิ ทร์-จ.บุรีรมั ย์ (ปราสาทหนิ บ้านบุ-ปราสาทตาเมอื น ฯลฯ) ศึกษาภาคสนาม ครั้งที่ ๓ เส้นทาง: จ.สุรินทร์-จ.ศรสี ะเกษ (ปราสาทหินสระกำแพงน้อย-ใหญ่ ฯลฯ) 2. หัวข้อท่ีสอนไมค่ รอบคลุมตามแผน หัวข้อท่ีสอนไมค่ รอบคลุม นัยสำคัญของหัวขอ้ ท่ีสอนไม่ แนวทางชดเชย ตามแผน (ถ้ามี) ครอบคลมุ ตามแผน ไมม่ ี 3. ประสทิ ธิผลของวธิ สี อนที่ทำใหเ้ กดิ ผลการเรยี นรู้ตามที่ระบใุ นรายละเอียดของรายวิชา ผลการเรยี นรู้ วธิ ีสอนท่รี ะบุในรายละเอียดประสทิ ธิผล ประสิทธิผล ปญั หาของการใช้วธิ สี อน รายวชิ า (ถา้ มี) พรอ้ มข้อเสนอแนะใน การแก้ไข มี ไมม่ ี คุณธรรมจรยิ ธรรม - บรรยายพร้อมยกตวั อย่างกรณศี ึกษา / - กำหนดให้นักศึกษาหาตัวอย่างท่ี เก่ยี วข้อง โดยเนน้ ผู้เรยี นเป็นศูนย์กลาง - อภิปรายกลุ่ม โดยสอดแทรกเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม - จดั ทำแบบฝกึ หัดในแตล่ ะบทเรยี น ความรู้ - บรรยาย อภิปราย การทำงานกลุ่ม / การวิเคราะห์กรณีศึกษา มอบหมายให้ หาตัวอย่างเอกสารทางบัญชีเพื่อนำมา บันทึกตามวงจรบัญชี

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๕ ผลการเรียนรู้ วธิ สี อนทร่ี ะบุในรายละเอียด ประสิทธิผล ปญั หาของการใช้วธิ ีสอน (ถ้ามี) ประสทิ ธิผล มี ไม่มี พรอ้ มขอ้ เสนอแนะในการแก้ไข รายวิชา / ตามหวั ข้อท่ีได้รับมอบหมาย / โดยเน้นผเู้ รียนเป็นศนู ย์กลาง ทักษะทางปัญญา - ม อ บ ห ม า ย ว ิ เ ค ร า ะ ห์ กรณีศึกษาและนำเสนอผล การศึกษา - อภปิ รายกลมุ่ ทักษะความสัมพันธ์ - จัดกิจกรรมกลุ่ม โดยเน้น ระหว่างบุคคลและ ผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยร่วมกัน ความรบั ผิดชอบ วิเคราะห์กรณีศึกษา และการ น ำ เ ส น อ ร า ย ง า น ท ี ่ ไ ด ้ รั บ มอบหมายเป็นทมี ทักษะการวิเคราะห์ - มีการนำเสนองานกลมุ่ / เชิงตัวเลข การ สื่อสาร และการใช้ เ ท ค โ น โ ล ยี สารสนเทศ 4. ข้อเสนอการดำเนินการเพื่อปรบั ปรุงวธิ ีสอน หลักสูตรได้กำหนดวิธีการสอนที่เน้นให้นักศึกษาได้ปฏิบัติจริง และการแก้ไขปัญหาในการ ปฏิบัติ โดยการจัดทำแบบฝึกหัดและปัญหาต่าง ๆ กัน จัดให้มีสื่อการสอนเพื่อประหยัดเวลาในการสอน ให้เข้าใจได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากเนื้อหามีจำนวนมาก และกลยุทธในการสอนดังกล่าวได้รั บการประเมิน สมั ฤทธผิ ลการเรียนของนักศึกษาในระดบั ดี หมวดที่ 3 สรุปผลการจดั การเรยี นการสอนของรายวชิ า 1. จำนวนนักศึกษาทล่ี งทะเบียนเรยี น ๗ รปู /คน ต้องแยกแต่ละตอน และเขยี น มคอ 5 ทุกตอน กลมุ่ บรรพชติ จำนวน ๗ รปู กลมุ่ คฤหัสถ์ จำนวน - คน 2. จำนวนนักศกึ ษาท่ีคงอยู่เมื่อสิ้นสดุ ภาคการศึกษา (จำนวนนกั ศกึ ษาทสี่ อบผ่านในรายวิชาน้ี) ๔ รปู /คน

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๖ 3. จำนวนนกั ศกึ ษาท่ีถอน (W) - คน เพม่ิ ข้อมูลจากข้อมลู ทีเ่ ก็บไว้ แยกแต่ละตอน 4. การกระจายของระดับคะแนน (เกรด) ระดบั คะแนน ค่ารอ้ ยละ จำนวน คิดเป็นรอ้ ยละ ๔๒.๘๖ ๓ ๔๒.๘๖ A - - A- - ๑ ๑๔.๒๙ B+ ๑๔.๒๙ - - B - - - - - C+ - - C - - - F - - - - S (Satisfactory) เปน็ ท่นี า่ พอใจ - - - U (Unsatisfactoryไม่ - - เป็นทน่ี า่ พอใจ - 0 0 ไมส่ มบูรณ์ (I) ขาดสอบปลายภาค(M) - ถอน (W) - - 5. ปัจจัยทท่ี ำให้ระดบั คะแนนผิดปกติ (ถ้ามี) ไม่มี 6. ความคลาดเคล่ือนจากแผนการประเมินท่กี ำหนดไวใ้ นรายละเอยี ดรายวิชา 6.1 ความคลาดเคลือ่ นด้านกำหนดเวลาการประเมนิ ความคลาดเคลื่อน เหตุผล การประเมินพฤติกรรม ไมส่ ามารถทำได้ทุกสัปดาห์ เวลาที่ใช้ในการสอนมีความพอดีกับเนื้อหามาก ทีเ่ ขา้ สอน ทำไดป้ ระมาณ 2-3 ครงั้ ใหด้ ูวา่ กำหนด การประเมินพฤติกรรมเป็นรายบุคคลค่อนข้าง ใน มคอ 3 กคี่ รั้งประกอบด้วย เป็นไปได้ยาก ทำได้เฉพาะการส่งงาน การเข้า ห้องเรียน

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๗ 6.2 ความคลาดเคลอ่ื นดา้ นวธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เหตุผล ความคลาดเคล่อื น ไม่มี ไมม่ ี 7. การทวนสอบผลสัมฤทธ์ิของนกั ศึกษา วธิ กี ารทวนสอบ สรุปผล ประชมุ กรรมการกำกบั มาตรฐาน พจิ ารณาข้อสอบ เพิ่มข้อสรุปจากการประชุม กับการวดั และประเมนิ ผลรายวิชา หมวดที่ 4 ปญั หาและผลกระทบต่อการดำเนินการ 1. ประเดน็ ด้านทรัพยากรประกอบการเรียนและส่ิงอำนวยความสะดวก ปัญหาในการใช้แหลง่ ทรัพยากรประกอบการ ผลกระทบ เรียนการสอน (ถ้ามี) แหล่งสอ่ื สารสนเทศได้แก่ระบบอินเตอรเ์ น็ต ของ มีอุปสรรคสำหรับนสิ ติ ในการเขา้ ถึงแหล่งข้อมลู มหาวทิ ยาลัย สญั ญาณไมด่ ี ผ่านชอ่ งทางอินเตอร์เนต็ 2. ประเดน็ ด้านการบริหารและองค์กร ผลกระทบต่อผลการเรียนรูข้ องนกั ศกึ ษา ปัญหาดา้ นการบริหารและองค์กร ผู้บริหาร ระดับผู้อำนวยการ ซึ่งมีความรับผิดชอบ นิสิตขาดประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนทักษะใน โดยตรงในการดูแล และบริหารหลักสูตร ยังไม่ให้ กระบวนการวิชาสัมมนา และมีปัญหาในการ ความสำคัญในการสนับสนุนงบประมาณ ให้กับ นำเสนองานสัมมนาฯ คณาจารย์ในการเชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญมาร่วม สมั มนาในรายวิชานี้ หมวดท่ี 5 การประเมินรายวชิ า 1. ผลการประเมินรายวิชาโดยนกั ศึกษา 1.1 ข้อวิพากษ์ทส่ี ำคัญจากผลการประเมินโดยนกั ศึกษา - ไม่มี 1.2 ความเหน็ ของอาจารยผ์ สู้ อนต่อผลการประเมนิ ตามข้อ 1.1 - ไมม่ ี 2. ผลการประเมินรายวิชาโดยวิธีอืน่

สั ม ม น า อ า ร ย ธ ร ร ม พ น ม ด ง รั ก | ๘ 2.1 ข้อวิพากษ์ท่สี ำคัญจากผลการประเมนิ โดยวิธีอนื่ - ไม่มี 2.2 ความเห็นของอาจารย์ผู้สอนตอ่ ผลการประเมนิ ตามข้อ 2.1 - ไมม่ ี หมวดที่ 6 แผนการปรับปรุง 1. ความกา้ วหน้าของการปรบั ปรงุ การเรยี นการสอนตามทีเ่ สนอในรายงาน/รายวิชาคร้งั ท่ี ผา่ นมา แผนการปรับปรุงทเี่ สนอในภาคการศึกษา/ปกี ารศกึ ษาทผ่ี ่านมา ผลการดำเนนิ การ -- 2. การดำเนินการอื่นๆในการปรับปรงุ รายวชิ า ปรับวิธีการสอน เพิ่มตัวอย่าง ให้นักศึกษาได้ค้นคว้ามากขึ้น จัดอภิปรายกลุ่มย่อย กระตุ้นให้ เกิดความตั้งใจเรียน เชิญวิทยากรภายนอกมานำเสนอ และนำนิสิตลงศึกษาภาคสนามอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพ่ือใหน้ สิ ติ ไดศ้ กึ ษาเชิงลึก 3. ข้อเสนอแผนการปรบั ปรุงสำหรบั ภาคการศึกษา/ปีการศกึ ษาตอ่ ไป ข้อเสนอ กำหนดเวลาที่แลว้ เสร็จ ผู้รับผดิ ชอบ เชญิ อาจารย์พเิ ศษ หรอื ผทู้ ี่มีความ สัปดาห์ที่ 16ระหว่างการสอน พระครปู รยิ ัติวิสุทธคิ ณุ , รศ.ดร. ช ำนาญการในเรื่องสัมมนา หัวข้อ รวมหัวข้อการสัมมนา โดย ดร.ธนรัฐ สะอาดเอี่ยม พระพุทธศาสนา มาร่วมวิพากษ์ วิทยากร ผู้ทรงคุณวุฒิ มีความ วิจารณง์ านสมั มนาของนิสติ ชำนาญการในการสัมมนาและ องคค์ วามรู้ทางพระพุทธศาสนา 4. ข้อเสนอแนะของอาจารย์ผู้รับผดิ ชอบรายวชิ าต่ออาจารยผ์ ู้รบั ผิดชอบหลักสูตร จัดให้มีการสัมมนาในระหว่างต่างสถาบัน หรือต่างหน่วยงาน เพื่อให้นิสิตได้มีประสบการณ์ในการ แลกเปลี่ยนความรู้ และเกิดทักษะในการคิดเป็นระบบ มีเหตุผลในการสัมมนา ตามกระบวนทัศน์ของ รายวชิ า ชอื่ อาจารย์ผรู้ ับผดิ ชอบรายวิชา: ชื่ออาจารย์ผ้รู ับผิดชอบหลกั สูตร: ....................................................... ............................ ...... ....................... ลงชื่อ พระครปู ริยัตวิ ิสุทธคิ ุณ, รศ.ดร. ลงชือ่ ดร.ธนรัฐ สะอาดเอี่ยม วันทร่ี ายงาน ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๖ วนั ทีร่ ายงาน ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖

มคอ.๕ วิชา พระพุทธศาสนากบั ศาสตร์แห่งการใช้เหตผุ ล

๑ แบบ มคอ. ๓ รายละเอียดของรายวชิ า ๘๐๑ ๓๐๙ พระพุทธศาสนากับศาสตรแ์ ห่งการใชเ้ หตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ช่อื สถาบนั อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตสุรินทร์/วิทยาลยั สงฆ์สรุ นิ ทร/์ บณั ฑิตศกึ ษา/หลกั สูตรพทุ ธศาสตรดุษฎีบณั ฑิตสาขาวชิ า พระพทุ ธศาสนา หมวดที่ ๑ ขอ้ มลู ท่ัวไป ๑. รหสั และชอ่ื รายวิชา : ๘๐๑ ๓๐๙ พระพทุ ธศาสนากบั ศาสตรแ์ ห่งการใช้เหตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ๒. จานวนหนว่ ยกติ : (๓) (๓-๐-๖) ๓. หลักสตู รและประเภทของรายวิชา : พุทธศาสตรดษุ ฏบี ณั ฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา วชิ าเอกไม่นบั หน่วยกติ ๔. อาจารย์ผรู้ ับผิดชอบรายวชิ าและอาจารย์ผสู้ อน: รศ.ดร.ทวศี กั ดิ์ ทองทิพย์, พระครศู รีปญั ญาวกิ รม,ผศ.ดร. และ ดร.ภัฎชวชั ร์ สขุ เสน ๕. ภาคการศึกษา/ชั้นปีทเ่ี รยี น: ภาคการศกึ ษาท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ชัน้ ปีท่ี ๒ ๖. รายวชิ าทต่ี อ้ งเรยี นมากอ่ น (pre-requisite) : (ไม่มี) ๗. รายวชิ าท่ีต้องเรียนพรอ้ มกนั (co-requisite) : (ไม่มี) ๘. สถานทเ่ี รียน : สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑติ ศึกษา วิทยาลัยสงฆ์สุรนิ ทร์ มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลง กรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรนิ ทร์ ๙. วนั ที่จดั ทาหรอื ปรบั ปรุงรายละเอยี ดของรายวชิ าครงั้ ลา่ สุด : ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ หมวดท่ี ๒ จดุ ม่งุ หมายและวตั ถปุ ระสงค์ ๑. จดุ มุ่งหมายของรายวิชา เพอ่ื ใหผ้ ู้ศึกษาในรายวิชานี้ มคี วามรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องในเร่ือง วิธีคิดและวิธีการใช้เหตุผล ในพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเทียบกับวิธีคิดและการใช้เหตุผลแบบต่างๆ ของตะวันตก เช่น การคิดเชิง วิเคราะห์ การคิดเชิงสังเคราะห์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผลทางตรรกแบบนิร นัยและอุปนัย เน้นศกึ ษาวิธคี ดิ และการใช้เหตผุ ลที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน

๒ ๒. วัตถปุ ระสงค์ในการพัฒนา / ปรับปรงุ รายวชิ า เพอ่ื ปรับปรงุ เปลีย่ นแปลงเน้ือหาของรายวชิ าน้ีให้มคี วามสอดคล้องกับสถานการณใ์ นปจั จบุ นั ซึง่ เปน็ ผลจากงานวจิ ัยและข้อคน้ พบใหม่ ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกบั เรื่องของการวิจัยด้านปรัชญาและศาสนา หมวดที่ ๓ ลกั ษณะและการดาเนินการ ๑. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาวิธคี ิดและวธิ ีการใช้เหตุผลในพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเทียบกับวิธีคิดและการใช้เหตุผลแบบ ตา่ งๆ ของตะวันตก เชน่ การคดิ เชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสังเคราะห์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผลทางตรรกแบบนิรนัยและอุปนัย เน้นศึกษาวิธีคิดและการใช้เหตุผลที่ปรากฏในคัมภีร์ พระพทุ ธศาสนาเถรวาทและมหายาน ๒. จานวนชว่ั โมงทใ่ี ช้สอนต่อภาคการศึกษา ๓ ชม./สปั ดาห,์ สอน ๑๖ สปั ดาห์ รวม ๔๘ ชม. /ภาค การศกึ ษา บรรยาย สอนเสรมิ การฝึกปฏิบัติ/งานภาคสนาม/การฝึกงาน การศกึ ษาดว้ ยตนเอง ๓ ชม./สัปดาห์ - - ๖ ชม.ตอ่ สัปดาห์ ๓. จานวนชั่วโมงตอ่ สัปดาหท์ อี่ าจารย์ใหค้ าปรึกษาและแนะนาทางวิชาการแกน่ ิสติ เป็นรายบุคคล จดั ให้นสิ ิตพบอาจารย์เพือ่ ขอคาปรึกษาและขอคาแนะนาสปั ดาห์ละ ๓ ช่วั โมง โดยอาจารยแ์ จ้งวันเวลา ที่แนน่ อนใหน้ ิสติ ทราบและพมิ พเ์ ปน็ ตารางตดิ ไวท้ เ่ี บอร์ดหนา้ ห้องพกั ของอาจารย์ หมวดท่ี ๔ การพัฒนาผลการเรียนรขู้ องนิสติ ๑. คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (Moral and Ethics) ๑.๑ ผลการเรียนรู้ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นิสิตมีคุณธรรม จริยธรรม มีความตระหนักในคุณค่าของการดาเนินภารกิจ ที่ส่งผลต่อการ พฒั นาคุณภาพชวี ิต การทาประโยชน์ การปอ้ งกนั การแกไ้ ขปญั หา และการดาเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ อย่างราบรื่น โดยมีคณุ สมบัติโดยสังเขปดงั น้ี ๑.๑.๑ มีความมุ่งมั่นพัฒนาตนให้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรม ประกอบด้วยศีลาจาร วตั รงดงามและเป็นแบบอย่างที่ดขี องสงั คม ๑.๑.๒ มีความร้คู ่คู ณุ ธรรม สามารถประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อแก้ปัญหาชีวิตตน และเพื่อน รว่ มสงั คมได้อย่างเหมาะสม ดา้ นการครองตน ครองคน ครองงาน ๑.๑.๓ เป็นผู้มีนา้ ใจเสยี สละ มีจติ อาสาอทุ ศิ ตนเพ่ือพระพุทธศาสนาและสงั คม ๑.๑.๔ มีความเป็นผู้นาด้านจิตใจและปัญญา และส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตามหลัก

๓ คุณธรรมจริยธรรม ๑.๑.๕ เคารพสทิ ธิ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความ เป็นมนษุ ย์ ๑.๑.๖ การยอมรับประเด็นทางศีลธรรมและจริยธรรมอันเนื่องมาจากความหลากหลายทาง วฒั นธรรมและการอย่รู ่วมกนั อยา่ งสันติ ๑.๒ กลยุทธ์การสอนท่ใี ช้พัฒนาการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม เพื่อให้เกิดผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม หลักสูตรจึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพ่ือ พฒั นาการเรยี นรูข้ องผู้เรยี นดังนี้ ๑.๒.๑ การจัดกิจกรรมในรายวิชาที่เน้นการปลูกฝังให้นิสิตมีระเบียบวินัยในตนเอง แต่งกาย เหมาะสมกับสถานภาพนกั ศกึ ษา มีความรบั ผดิ ชอบในการเข้าเรียนและการสง่ งานตรงเวลา ๑.๒.๒ ฝกึ ฝนภาวะความเป็นผู้นา ผู้ตาม รวมถึงการเคารพสิทธิ และการรับฟังความคิดเห็น ผู้อื่นในการปฏบิ ตั งิ านเป็นทีมและการทางานวิจัย ๑.๒.๓ การสอดแทรกความรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนการสอน ทั้งในด้านการ ดารงชีวติ อยู่ในสงั คม และในการวจิ ัย ๑.๓ กลยุทธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม มีการประเมินผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม ท้ังระหว่างกาลังศึกษา และภายหลัง สาเร็จการศกึ ษา ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม การใช้แบบสอบถาม แบบ ประเมนิ และแบบวัดผล โดยประเมินจากหลายๆ ดา้ น ดงั น้ี ๑.๓.๑ ประเมินจากการมีวินัยในการเรียน การตรงเวลา การทางานเสร็จและส่งงานตาม กาหนด ๑.๓.๒ ประเมินจากความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานเป็นทีม การทางานวิจัย และการเข้า ร่วมกิจกรรมในการใช้องคค์ วามร้ทู างการศึกษาทาประโยชน์ต่อสังคม ๑.๓.๓ ประเมนิ จากความซ่อื สตั ย์ และจรรยาบรรณในการสอบ ๑.๓.๔ ผู้เรียนประเมินตนเองและประเมินโดยเพื่อนและอาจารย์ โดยใช้แบบประเมินและ แบบวดั ผล ๑.๓.๕ ภายหลงั สาเร็จการศกึ ษา ใหด้ ุษฎีบัณฑิตประเมินตนเอง โดยประเมินจากผูใ้ ช้บณั ฑิต และประเมินจากผูป้ กครองของดษุ ฎบี ณั ฑติ โดยใช้แบบสอบถาม ๒. ดา้ นความรู้ (Knowledge) ๒.๑ ผลการเรียนรู้ด้านความรู้ นิสิตมีความรู้และเช่ียวชาญทั้งภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบัตมิ ีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถคิดและวิเคราะห์ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความรู้ในการวิจัยสร้างนวัตกรรมใหม่ที่สามารถนามาใช้ให้ เกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ และมีศักยภาพในการผลิตงานวิจัยเชิงบูรณาการเพ่ือการพัฒนาประเทศ โดยมี คุณสมบตั ิสรปุ โดยสงั เขปดังตอ่ ไปน้ี ๒.๑.๑ มคี วามรู้เช่ยี วชาญในพระไตรปิฎกและคัมภรี ท์ างพระพทุ ธศาสนา ๒.๑.๒ มีความใฝ่รู้ใฝ่คิดสร้างสรรค์ในงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนา และสามารถบูรณา การองคค์ วามรใู้ นพระพุทธศาสนากบั ศาสตร์สมยั ใหม่ได้ ๒.๑.๓ สามารถพัฒนาสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่จากงานวิจัย เพ่ือตอบสนองความต้องการ ทางสังคมในด้านวิชาการพระพทุ ธศาสนา

๔ ๒.๑.๔ มโี ลกทรรศนก์ วา้ งไกลและรู้เทา่ ทันความเปลยี่ นแปลงทางสงั คม ๒.๑.๕ สามารถพัฒนาองค์ความรู้ จากงานวิจัยเพ่ือเชื่อมโยงกับการพัฒนาองค์กรเพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการของสงั คม ๒.๑.๖ สามารถสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์งานด้านภาษาบาลีและ คมั ภีรพ์ ทุ ธศาสนา ๒.๒ กลยทุ ธก์ ารสอนทใ่ี ช้พฒั นาการเรียนรูด้ ้านความรู้ เพ่ือให้เกิดผลการเรียนรู้ด้านความรู้ หลักสูตรจึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียนดังน้ี ๒.๒.๑ การจัดการเรยี นรู้โดยผูเ้ รียนเป็นสาคญั และมงุ่ เน้นให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจศาสตร์ ในเชงิ ลกึ ผสมผสานให้นาไปสู่วธิ ีการดาเนนิ การทเ่ี ปน็ การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้วิธีการเรียนการสอนที่เน้น หลักการทางทฤษฎี และปฏิบัติการวิจัยในสภาพแวดล้อมจริง เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้เกิดการคิด วิเคราะห์ และตดั สนิ ใจดว้ ยตนเอง เช่นให้มีการนาเสนองาน การร่วมแสดงความคิดเห็น การตอบคาถาม เพื่อ สนับสนนุ ให้นสิ ิตคิดเปน็ และมนี ิสยั ใฝร่ ู้ ๒.๒.๒ การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีอิสระในการแสวงหาความรู้โดยไม่ยึดติดกับการรับ ขอ้ มลู จากผ้สู อนเพียงฝา่ ยเดียว ๒.๒.๓ การจดั การเรยี นรแู้ บบมีส่วนร่วม ๒.๒.๔ การจดั การเรียนรจู้ ากสถานการณ์จรงิ มกี ารเรยี นรทู้ ้ังในชัน้ เรียนและการศึกษาดงู าน ๒.๒.๕ การทาวิจยั ท้งั ในรายวชิ าทเ่ี กีย่ วขอ้ งและวทิ ยานพิ นธ์ ๒.๒.๖ การเรียนรู้ที่เน้นการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในงานวิจัยและงานการสอนที่เป็น ประโยชนต์ อ่ ชุมชน ทอ้ งถิน่ และในระดบั ที่สูงข้ึน ๒.๓ กลยทุ ธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรดู้ า้ นความรู้ ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนิสิต ให้ครอบคลุมในทุกด้าน ด้วยวิธีการ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๒.๓.๑ การทดสอบย่อย ๒.๓.๒ การสอบกลางภาคและปลายภาค ๒.๓.๓ การวัดผลสาเรจ็ ของการปฏิบตั ิงานเปน็ ทีม ๒.๓.๔ การนาเสนอผลงาน ๒.๓.๕ การนาความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ ห้สัมพนั ธก์ บั ศาสตร์สมัยใหม่ ๒.๓.๖ การสอบประมวลความรู้ ๒.๓.๗ การสอบวัดคุณสมบัติในรายวิชาที่หลักสูตรกาหนด และสอบความรู้ภาษาท่ีหลักสูตร กาหนด ๒.๓.๘ การสอบวิทยานพิ นธ์ ๓.ทักษะทางปญั ญา (Cognitive Skills) ๓.๑ ผลการเรียนรู้ดา้ นทกั ษะทางปัญญา นิสิตมีวิจารณญาณในการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์โดยใช้องค์ความรู้ทาง วชิ าชพี ท่เี รยี นมาท้งั ภาคทฤษฎี ภาคปฏบิ ัติและประสบการณ์จรงิ มาบรู ณาการใช้ในการแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ การประกอบอาชีพและการดารงชีวิต เพอ่ื ให้เกิดผลลัพธ์ท่ีมีคุณภาพ และเป็นประโยชน์ท้ังต่อตนเองและสังคม

๕ โดยมคี ณุ สมบตั สิ รุปโดยสงั เขปดังต่อไปนี้ ๓.๑.๑ สามารถเข้าใจทฤษฎที างพระพุทธศาสนานาไปสู่การวจิ ัยอยา่ งสร้างสรรค์ ๓.๑.๒ สามารถวิเคราะหแ์ ละสังเคราะหผ์ ลงานวจิ ัยและทฤษฎีเพ่ือพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ด้าน พระพุทธศาสนา ๓.๑.๓ สามารถจดั การความรู้ทางดา้ นภาษาบาลแี ละคมั ภีรพ์ ระพทุ ธศาสนาอยา่ งเป็นระบบ ๓.๑.๔ สามารถออกแบบและดาเนนิ การวจิ ัยในประเดน็ สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา ๓.๑.๕ สามารถวางแผนและดาเนินการโครงการที่สาคัญหรือโครงการวิจัยค้นคว้าทางพระ พุทธศสนาและคมั ภีรพ์ ระพุทธศาสนา ไดด้ ว้ ยตนเอง ๓.๑.๖ สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลกั พทุ ธธรรมในการแกป้ ญั หาที่เกดิ ข้นึ ในสงั คมสมัยใหม่ ๓.๒ กลยทุ ธ์การสอนทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาการเรยี นรู้ด้านทกั ษะทางปญั ญา เพ่ือให้เกิดผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญา หลักสูตรจึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพ่ือ พฒั นาการเรยี นรูข้ องผู้เรยี นดังน้ี ๓.๒.๑ เน้นการฝกึ ทกั ษะด้านการคิดและการสรา้ งสรรคง์ านวิชาการ ๓.๒.๒ เน้นการเรียนรดู้ ้วยตนเอง และการปฏิบัติงานวิจัยอยา่ งจรงิ จัง ๓.๒.๓ เน้นการเรียนรู้ที่สามารถประยุกต์ใช้กับการวิจัยค้นคว้าในสถานการณ์จริง โดยใช้ ปญั หาเปน็ ตวั กระตนุ้ ให้เกิดการเรยี นรู้ ๓.๒.๔ เนน้ การอภปิ รายกลมุ่ ๓.๓ กลยทุ ธก์ ารประเมินผลการเรยี นรู้ดา้ นทักษะทางปญั ญา ประเมนิ ทกั ษะทางปญั ญาดว้ ยวธิ กี ารดงั ตอ่ ไปน้ี ๓.๓.๑ วัดผลจากการแสดงออกทางกระบวนการคิดและการแกไ้ ขปญั หา ๓.๓.๒ วัดผลจากการปฏบิ ัติงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ๓.๓.๓ วดั ผลจากการนาเสนอผลงาน ๓.๓.๔ วดั ผลจากการอธบิ าย การถาม และตอบคาถาม ๓.๓.๕ วดั ผลจากการโตต้ อบสอื่ สารกับผอู้ ่ืน ๓.๓.๖ วดั ผลจากการอภิปรายกลุ่ม ๔. ด้านทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบ (Interpersonal Skill and Responsibilies) ๔.๑ ผลการเรยี นรู้ดา้ นทักษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรับผิดชอบ นิสิตมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ สามารถในการปรับตัวเข้ากับกลุ่มคนต่างๆ ได้ มีความ เคารพและยอมรบั ความแตกตา่ งระหว่างบุคคลและสังคม มคี วามรบั ผดิ ชอบในบทบาทหนา้ ท่ี เรียนรู้และพัฒนา ตนเอง และสงั คมอยา่ งตอ่ เนือ่ ง โดยมีคุณสมบัตสิ รปุ โดยสังเขปดงั ต่อไปนี้ ๔.๑.๑ มีความสามารถในการแสดงความเหน็ ทางวชิ าการดา้ นพระพทุ ธศาสนา ๔.๑.๒ มคี วามรบั ผดิ ชอบในการพฒั นาความรู้ของตนเอง องคก์ ร และสงั คม ๔.๑.๓ สามารถใช้ความร้ดู ้านพระพุทธศาสนามาช้นี าสงั คมในประเดน็ ทเี่ หมาะสม ๔.๑.๔ มภี าวะความเป็นผู้นาที่โดดเด่นในองค์กร บริหารทางานเป็นทีม และภาวะการเป็นผู้ ตามในทมี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามโอกาสและสถานการณ์ ๔.๑.๕ สามารถแสดงทักษะภาวะความเป็นผู้นาได้อย่างเหมาะสมตามโอกาสและสถานการณ์เพ่ือ เพ่ิมพนู ประสทิ ธิภาพในการทางานเปน็ กลุ่ม ๔.๑.๖ สามารถให้ความร่วมมือในการทางานเป็นกลุ่มพรอ้ มทั้งสามารถชแี้ จงแสดงเหตุผลเพื่อเพิ่มพนู

๖ ประสิทธิภาพระหวา่ งกลุ่ม ๔.๒ กลยุทธ์การสอนท่ีใชพ้ ัฒนาการเรยี นรู้ ด้านทักษะความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคล และ ความ รับผิดชอบ เพ่อื ให้เกิดผลการเรียนรูด้ ้านทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบคุ คล และความรับผิดชอบหลักสูตร จึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ของผ้เู รียนดงั นี้ ๔.๒.๑ การจัดกิจกรรมในรายวิชาที่เน้นการเรียนการสอนท่ีมีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ผเู้ รยี นและผ้สู อน ๔.๒.๒ จัดใหม้ กี ิจกรรมฝกึ ฝนภาวะความเป็นผนู้ า ผ้ตู าม การแสดงออกถงึ ภาวะความเป็นผู้นา และผู้ตามท่ีดี การมีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีกับผู้ร่วมงาน และการรับฟังความคิดเห็นผู้อ่ืนในการปฏิบัติงานเป็นทีม และการทางานวจิ ัย ๔.๒.๓ จัดใหม้ ีกิจกรรมฝกึ ฝนการทากิจกรรมเพอื่ สงั คม ๔.๒.๔ จดั ให้มกี ิจกรรมฝกึ ฝนการวางตวั ที่เหมาะสมตอ่ กาลเทศะ ๔ . ๒ . ๕ จั ด ใ ห้ มี กิ จ ก ร ร ม ฝึ ก ฝ น ก า ร ป ร ะ ส า น ง า น กั บ ผู้ อ่ื น ท้ั ง ภ า ย ใ น แ ล ะ ภ า ย น อ ก สถาบนั การศึกษา ๔.๓ กลยุทธ์การประเมินผลการเรียนรู้ ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และ ความ รับผดิ ชอบ ประเมินทักษะความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบด้วยวธิ ีการดังต่อไปน้ี ๔.๓.๑ สังเกตจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนิสิตในหลายๆ ด้าน ระหว่างกิจกรรมการ เรยี นการสอน เช่น พฤตกิ รรมความสนใจ ต้งั ใจเรยี นรู้ และพฒั นาตนเอง ๔.๓.๒ สังเกตจากพฤติกรรมการแสดงบทบาทภาวะผู้นาและผู้ตามท่ีดี ความสามารถในการ ทางานรว่ มกับผอู้ ื่น ๔.๓.๓ สังเกตจากพฤติกรรมความรับผิดชอบในการเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย การ นาเสนอผลงาน การทางานวิจัย และการร่วมทากจิ กรรมเพ่อื สังคม ๕. ดา้ นทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสือ่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills) ๕.๑ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ นสิ ติ สามารถประยกุ ต์ใชค้ วามรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สถิติและคณิตศาสตร์ ในการ วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ในการเรียนการสอน การปฏิบัติงาน และการทางาน วิจัยได้ สามารถเรียนรู้ศาสตร์ทางด้านวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี และรู้จักนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้เกิด ประโยชนต์ อ่ สังคม โดยมคี ุณสมบตั ิสรุปโดยสงั เขปดังตอ่ ไปนี้ ๕.๑.๑ สามารถคัดกรองข้อมูลและใช้หลักตรรกะทางคณิตศาสตร์และสถิติ ในการศึกษา ค้นคว้าปัญหา สรุปปญั หาและเสนอแนะแกไ้ ขปัญหาในดา้ นต่างๆ ดว้ ยหลักการทางพระพุทธศาสนา ๕.๑.๒ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา เชิงตัวเลขและสถิติในการศึกษากาหนดประเด็น ปญั หาทีส่ าคัญไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ๕.๑.๓ สามารถนาเสนอรายงานการวิจัยดุษฎีนิพนธ์ ทั้งในรูปแบบท่ีเป็นทางการและไม่เป็น ทางการ

๗ ๕.๑.๔ สามารถส่ือสารโดยใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสื่อสาร กบั กลมุ่ บคุ คลต่างๆ ทง้ั ในวงการวชิ าการและวิชาชพี รวมถึงชมุ ชนท่วั ไปได้อยา่ งเหมาะสม ๕.๑.๕ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอรายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ หรือ โครงการค้นควา้ ที่สาคญั ทัง้ ในรูปแบบทเี่ ป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงการตีพิมพ์ผ่านส่ือทางวิชาการ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕.๑.๖ สามารถสอ่ื สารและสร้างสรรคง์ านทางด้านภาษาบาลี ท้ังในวงวิชาการและวิชาชีพ ได้ อย่างเหมาะสม ๕.๒ กลยทุ ธ์การสอนท่ีใชพ้ ัฒนาการเรียนรดู้ า้ นทักษะการวเิ คราะหเ์ ชิงตัวเลข การส่ือสาร และ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอ่ื ให้เกดิ ผลการเรยี นรูด้ า้ นทักษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ หลักสูตรจึงใช้กลยทุ ธ์ในการสอนเพือ่ พัฒนาการเรยี นร้ขู องผูเ้ รียนดงั น้ี ๕.๒.๑ จัดการเรยี นรายวิชาสมั มนาให้นสิ ิตได้ฝึกทักษะทั้งด้านการวิเคราะห์ การวิจารณ์ การ สอื่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ในการคน้ คว้าและนาเสนองานทง้ั เป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ๕.๒.๒ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสาร และการ นาเสนอโดยใชเ้ ทคโนโลยีทง้ั ดว้ ยตนเองและรว่ มกับผ้อู นื่ การอภปิ ราย ๕.๒.๓ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการวิเคราะห์ปัญหาทางปรัชญาและการทางาน วจิ ยั ๕.๒.๔ จัดกจิ กรรมเพือ่ ใหเ้ กดิ ทกั ษะในการบริหารจัดการขอ้ มูลที่ได้จากการศกึ ษาและวจิ ัย ๕.๓ กลยุทธ์การประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นทักษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสอ่ื สารและการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ประเมินทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วย วิธีการดังต่อไปน้ี ๕.๓.๑ การทดสอบความร้แู ละเทคนคิ การวเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์ทฤษฎีหรือแนวคิดใหม่ ๆ ๕.๓.๒ การทางานวจิ ยั ต้ังแต่เรมิ่ ตน้ จนถึงขนั้ ตอนการเขียนรายงาน และการนาเสนอผลงาน

๘ หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมนิ ผล ๕.๑. แผนการสอนและการประเมินผล สัปดาหท์ ี่ หัวข้อ/รายละเอียด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอนสื่อท่ี ผูส้ อน ช่วั โมง รศ.ดร.ทวศี ักดิ์ - แนะนาวธิ เี รยี น (มคอ. ๓) - ขานช่ือนสิ ิตเข้าช้นั เรียน ทองทพิ ย์ และ บทท่ี ๑ บทนา - ผู้สอนแจก มคอ. ๓ ความรเู้ กยี่ วกับการใช้เหตุผล - อภิปราย คณะ ๑ -การใชเ้ หตผุ ลเชิงคณติ ศาสตร์ ๓ - บรรยาย รศ.ดร.โสวิทย์ -การใช้เหตผุ ลทางตรรกศาสตร์ - ซกั ถาม บารงุ ภกั ด์ิ -การใชเ้ หตุผลแบบนิรนยั (Deductive) -การใขเ้ หตผุ ลแบบอุปนยั (Inductive) - ค้นควา้ ด้วยตนเอง - พระครูศรี การใช้เหตผุ ลของพระพุทธเจ้า - อภปิ ราย ปญั ญาวิกรม, ผศ.ดร. ๒ -การใช้เหตุผลแบบสืบคน้ ต้นตอปัญหา ๓ - บรรยาย - ซักถาม -การใช้เหตผุ ลความเชอื่ ของกาลามสตู ร -การใชเ้ หตผุ ลตามหลกั วิทยาศาสตร์ - ค้นคว้าดว้ ยตนเอง การใช้เหตุผลในพระไตรปิฎก - อภิปราย ๓ -การใช้เหตผุ ลตามพระธรรมวนิ ยั ๓ - บรรยาย กรณียกตัวอย่างเพ่ือวิเคราะหฯ์ - ซกั ถาม - ค้นควา้ ด้วยตนเอง การใชเ้ หตุผลในพระไตรปิฎก - อภิปราย -ใช้เหตุผลตามพระสตุ ตนั ตปฎิ ก ๔ กรณียกตัวอยา่ งเพอ่ื วเิ คราะหฯ์ ๓ - บรรยาย - ซกั ถาม - คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง การใช้เหตผุ ลทางตะวันตก อภปิ ราย -การใช้เหตุผลของ Socrates and ๕ Plato และเหตุผลของ Aristotle ๓ - บรรยาย - ซักถาม - ค้นคว้าด้วยตนเอง การใช้เหตผุ ลตะวันตกสมัยใหม่ - อภิปราย - พระครศู รี ๖ -การใช้เหตผุ ลของ Thomas ๓ - บรรยาย ปญั ญาวิกรม, - การใชเ้ หตผุ ลของ Samuelson - ซักถาม ผศ.ดร. - ค้นคว้าด้วยตนเอง

๙ สัปดาห์ที่ หวั ข้อ/รายละเอยี ด จานวน กจิ กรรมการเรียนการสอนสอ่ื ท่ี ผูส้ อน ชัว่ โมง การใช้เหตุผลทางตะวันออก - อภปิ ราย - บรรยาย -การใช้เหตุผลของขงจื้อ ๓ - ซกั ถาม ๗ - การใชเ้ หตผุ ลของลัทธิเตา๋ - ค้นคว้าดว้ ยตนเอง ๘ สอบกลางภาค ๓ นิสิตเข้าสอบกลางภาค - รศ.ดร.ทวศี กั ด์ิ ทองทิพย์, การใชเ้ หตผุ ลพทุ ธศาสนามหายาน - พระครศู รี -การใช้เหตุผลของมหายานในจนี ปัญญาวกิ รม,ผศ. -การใช้เหตผุ ลของมหายานในญี่ปนุ่ - ดร. ดร.ภัฎช ๙ -การใชเ้ หตุผลของมหายานในไทย วชั ร์ สขุ เสน การใช้เหตุผลพุทธศาสนาวัชรยาน - อภิปราย รศ.ดร.ทวีศักด์ิ -การใชเ้ หตผุ ลของวชั รยานในทเิ บส - บรรยาย ทองทพิ ย์ และ -การใชเ้ หตุผลของวชั รยานในไทย ๓ - ซักถาม - ค้นควา้ ด้วยตนเอง คณะ ๑๐ - อภิปราย - บรรยาย ๓ - ซกั ถาม - คน้ ควา้ ด้วยตนเอง การใช้เหตผุ ลพุทธศาสนาเถรวาท - อภิปราย -การใช้เหตผุ ลของมหานิกายในไทย - บรรยาย ๑๑- -กรณีการใช้เหตุผลจาเป็นของไท ๓ - ซักถาม - คน้ คว้าดว้ ยตนเอง การใชเ้ หตผุ ลพุทธศาสนาเถรวาท - อภิปราย ๑๒ -การใชเ้ หตุผลของธรรมยุตกิ นิกาย - บรรยาย พม.สมบูรณ์ ในกรณกี ารใชเ้ หตุผลจาเปน็ ของไทย ๓ - ซักถาม วฑุ ฺฒิกโร,รศ.ดร. - ค้นควา้ ดว้ ยตนเอง

๑๐ สัปดาห์ หวั ข้อ/รายละเอยี ด จานวน กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผสู้ อน ท่ี ชว่ั โมง และสือ่ รศ.ดร.ทวศี ักดิ์ การนาเสนอของนสิ ติ -กรณีศึกษา - อภปิ ราย ทองทพิ ย์ และ ๑๓ การใช้เหตผุ ลในพระไตรปฎิ ก - บรรยาย คณะ ๓ - ซักถาม - รศ.ดร.ทวีศักดิ์ การสรุปเน้ือหาสาระสาคญั เพอื่ - คน้ ควา้ ด้วยตนเอง ทองทิพย์, เตรยี มสอย (ปลายภาคเรยี น) - อภิปราย - พระครศู รี ๑๔ - บรรยาย ปัญญาวกิ รม,ผศ. ๓ - ซกั ถาม - ดร. ดร.ภัฎช ๑๕ สอบปลายภาค - ค้นคว้าดว้ ยตนเอง วัชร์ สุขเสน รวม ๓ นิสิตเข้าสอบปลายภาค ๔๕ ๕.๒ แผนการประเมนิ ผล ท่ี การพัฒนาการเรยี นรู้ของ วิธกี ารประเมนิ สัปดาห์ที่ สัดส่วนของการ นิสิต ประเมนิ ประเมนิ เปน็ ผูม้ นี า้ ใจเสียสละ มจี ิต ๑ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม อาสาอทุ ิศตนเพือ่ ตลอดภาค ๒๐ % พระพุทธศาสนาและสังคม การศึกษา ๒ ด้านความรู้ มโี ลกทรรศน์กว้างไกลและ ตลอดภาค ๓๐ % รู้เท่าทนั ความเปลีย่ นแปลง การศึกษา ๓๐ % ทางสังคม ามารถออกแบบและ ๓ ดา้ นทกั ษะทางปญั ญา ดาเนนิ การวิจัยในประเดน็ ตลอดภาค สาคญั ทางพระพุทธศาสนา การศึกษา ด้านทกั ษะความสัมพันธ์ มคี วามสามารถในการแสดง ตลอดภาค การศึกษา ๔ ระหว่างบคุ คลและความ ความเหน็ ทางวชิ าการด้าน ๑๐ % รับผิดชอบ พระพทุ ธศาสนา

๑๑ ที่ การพัฒนาการเรียนรขู้ อง วิธีการประเมนิ สปั ดาห์ที่ สัดสว่ นของการ นิสิต ประเมนิ ประเมิน สามารถคัดกรองขอ้ มลู และใช้ หลักตรรกะทางคณติ ศาสตร์ ด้านทกั ษะการวเิ คราะห์ และสถิติ ในการศกึ ษาค้นคว้า ตลอดภาค การศกึ ษา ๕ การส่อื สาร และเทคโนโลยี ปญั หา สรปุ ปญั หาและ ๒๐ % สารสนเทศ เสนอแนะแกไ้ ขปญั หาในด้าน ต่างๆ ด้วยหลกั การทาง พระพทุ ธศาสนา รวม ๑๐๐ % หมวดท่ี ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน เอกสารและตาราหลกั อภินนั ท์ จนั ตะน.ี (2564). เอกสารฯ “พระพทุ ธศาสนากับศาสตรแ์ หง่ การใชเ้ หตผุ ล”. วิทยาลัยสงฆ์หนองคาย วทิ ยาเขตหนองคาย มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย (มจร.) ๑. ข้อมูลปฐมภูมิ คัมภรี ์พระไตรปิฎก มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . พระไตรปฎิ กภาษาบาลี. ฉบับมหาจฬุ า เตปิฏก ๒๕๐๐.กรุงเทพฯ: โรงพิมพร์ ุง่ เรอื งธรรม, ๒๕๐๖. ๒. พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั .กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์มหาจฬุ าลงกรณราช วิทยาลัย,๒๕๓๙. ๓. ธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโฺ ต),พระ. พทุ ธธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๘. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย. ๒๕๔๒. ๔. ปรชั ญา. กรุงเทพฯ: ส านกั พิมพ์ศยาม, ๒๕๓๗. สทิ ิธ์ บตุ รอนิ ทร์, ผศ.ดร. ตรรกศาสตร์ วิชาการใช้เหตุผล. กรุงเทพฯ: มหามกฏุ ราชวิทยาลยั , ๒๕๒๒. ๕. เสถยี ร โพธนิ ันทะ. ประวัตศิ าสตร์พระพุทธศาสนา. พมิ พ์ครั้งที่ ๓, กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ๑๘๔ มหามกุฏราช วิทยาลัย, ๒๕๔๓. เอม็ .เจ.ฮาร์มอน. ความคิดทางการเมอื งจากเปลโตถงึ ปจั จบุ ัน. แปลโดย เสนห่ ์ จามรกิ , พิมพค์ ร้ังที่ ๒, กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๑๕. ๖. งานวิจยั และวทิ ยานิพนธ์ กันต์ วฑมฺ นว โส (มโนวฒั นนั ท์), พระมหา. “การศึกษาเปรยี บเทียบแนวความคิด เรื่องเกณฑ์ตดั สนิ ทางจริยธรรมในจริยศาสตร์ของคา้ นท์กับในพุทธจริยศาสตร์ตามทรรศนะของพระ เทพเวที (ประยทุ ธ์ ปยตุ ฺ โต)”วทิ ยานพิ นธป์ ริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาปรชั ญา บณั ฑิต วทิ ยาลัย มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ,๒๕๓๕. ๗. ปรีชา ช้างขวญั ยนื . “การศึกษาจริยศาสตรส์ งั คมในพทุ ธศาสนาในเชิงวิจารณ์”. วทิ ยานพิ นธ์ ปรญิ ญา อกั ษรศาสตรมหาบณั ฑติ , แผนกวชิ าปรชั ญา บณั ฑิตวิทยาลัย จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย. ๒๕๒๐. ๘. ไพรัชน์ เขียนวงศ.์ “พุทธจรยิ ศาสตร์เถรวาทเป็นอตั นยิ มหรือไม”่ . วิทยานพิ นธป์ รญิ ญาอกั ษร ศาสตรมหา บัณฑติ , บัณฑติ วิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ๒๕๓๙.

๑๒ Govinda, Lama Anagarika. The Psychological Attitude of Early Buddhist Philosophy. London: Rider & Company, 1969. Jayasuriya, W. F.Dr.The Psychology and philosophy of Buddhism. Kuala Lumpur: Buddhist Missionsry Society, 1976. Jayatilleke, K.N. Ethics in Buddhist Perspective. Ceylon: Buddhist Publication, 1970. Buddhism: The Religion of Analysis. London: George Allen & Unwin, 1969. Kalupahana, David, J. A History of Buddhist Philosophy. Hawaii: University of Hawaii Press, 1992. Medis, N.K.G. The Question of King Milinda an Abridgement of the Milindapanha. : Buddhist Publication Society, 2001. Stcherbatsky, F.Th. Buddhist Logic.Vol 1-2. Delhi: Low Price Publication, 1999 เอกสารและข้อมูลแนะนา ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย : WWW.mcu.ac.th , WWW.polmcu.com การคน้ คว้าวทิ ยานพิ นธ์ (Thesis) : WWW.ThaiLIS สภาพฒั นาเศรษฐกิจ (สศช) : WW.nesdb.go.th หมวดท่ี ๗ การประเมนิ และปรับปรงุ การดาเนนิ การของรายวชิ า ๑. กลยทุ ธก์ ารประเมินประสทิ ธผิ ลของรายวชิ าโดยนสิ ติ ใหน้ สิ ิตประเมนิ ประสิทธิผลของรายวชิ า ได้แก่ วธิ ีการสอน การจดั กิจกรรมหลักสูตในรายวชิ า สิ่ง สนบั สนนุ การเรยี นการสอน ซ่งึ มผี ลกระทบตอ่ การเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้ทีไ่ ด้รบั พรอ้ มข้อเสนอแนะเพ่อื นาไปใช้ในการปรับปรุงการจัดการเรยี นการสอนคราวต่อไป ๒. กลยุทธ์การประเมนิ การสอน ประเมนิ โดยสาขาวชิ าหรอื หลักสูตรแตง่ ต้ังคณะกรรมการประเมนิ หรอื จากการสงั เกตการสอนโดย อาจารย์ในสาขาวิชาหรือหลกั สูตร ๓. การปรับปรงุ การสอน สาขาวชิ ากาหนดให้อาจารย์ผสู้ อนทบทวนและปรบั ปรงุ กลยุทธ์และวธิ ีการสอนจากผลการ ประเมินประสิทธภิ าพของรายวชิ า แลว้ จดั ทารายงานเมอ่ื สอนจบภาคเรยี นใน มคอ. ๕ นอกจากน้ียังไดม้ กี าร กาหนดใหอ้ าจารยผ์ ู้สอนเข้ารับการฝึกอบรมกลยุทธ์การสอนหรอื การวิจัยเพื่อพฒั นาการเรยี นการสอน มกี าร ประชุมอาจารย์ในหลกั สูตรเพื่อหารอื ปัญหาการเรียนรู้ของนิสติ และร่วมกันหาแนวทางแกไ้ ข ๔. การทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธิ์ของนสิ ติ ในรายวิชา สาขาวิชาหรอื หลักสูตรมีคณะกรรมการประเมนิ ขอ้ สอบและความเหมาะสมของการให้คะแนน ๕. การดาเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรงุ ประสิทธผิ ลของรายวชิ า สาขาวชิ าหรือหลักสตู รมรี ะบบการทบทวนประสทิ ธิผลของรายวิชา โดยพจิ ารณาจากผลการประเมิน การสอนโดยนสิ ิต ผลการประเมินโดยคณะกรรมการประเมนิ ของสาขาวชิ า การรายงานรายวชิ าโดยอาจารย์ ผสู้ อนตามที่ปรากฏใน มคอ.๕ หลังการทบทวนประสทิ ธผิ ลของรายวชิ า อาจารย์ผ้สู อนรบั ผิดชอบในการ ทบทวนเนอ้ื หาที่สอนและกลยทุ ธ์การสอนท่ีใช้ และนาเสนอแนวทางในการปรบั ปรุงและพัฒนาในรายงาน รายวชิ า มคอ.๕ เสนอตอ่ ท่ีประชมุ อาจารยป์ ระจาหลกั สตู รพิจารณาให้ความคิดเหน็ และสรุปวางแผนพัฒนา ปรบั ปรุง และได้รายงานให้สาขาวิชาหรอื หลักสตู ร/วิทยาลัยสงฆ์ รับทราบ *************************

๑ มคอ.๕ รายละเอยี ดของรายวชิ า รายวชิ า : ๘๐๑ ๓๐๙ พระพุทธศาสนากับศาสตรแ์ หง่ การใช้เหตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ชื่อสถาบันอุดมศกึ ษา : มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ คณะ / ภาควิชา : สาขาวชิ าพระพุทธศาสนา หมวดที่ ๑ ขอ้ มลู โดยท่ัวไป ๑. รหสั และช่อื รายวิชา : ๘๐๑ ๓๐๙ พระพทุ ธศาสนากับศาสตร์แหง่ การใชเ้ หตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ๓ (๓-๐-๖) ๒. รายวชิ าทต่ี ้องเรียนกอ่ นรายวิชานี้ (ไมม่ )ี ๓. อาจารย์ผ้รู บั ผิดชอบ อาจารยผ์ ู้สอนและกลมุ่ เรยี น (Section) : อาจารย์ผ้รู บั ผดิ ชอบและผู้สอน คอื รศ.ดร. ทวีศกั ดิ์ ทองทพิ ย์ , พระครูศรปี ัญญาวิกรม,ผศ.ดร., ดร.ภชั วชั ร์ สเุ สน และคณะ /กลุ่มผูเ้ รยี น คอื นิสิตชน้ั ปีที่ ๑ ๔. ภาคการศึกษา/ปีการศึกษาท่ีเปิดสอนรายวชิ า : ภาคการศกึ ษาที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ๕. สถานทเ่ี รยี น : สาขาวชิ าพระพทุ ธศาสนา มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ หมวดที่ ๒ การจัดการเรียนการสอนทเ่ี ปรียบเทยี บกบั แผนการสอน ๑. รายงานช่วั โมงการสอนจริงเทยี บกับแผนการสอน จานวน ชั่วโมง จานวน ระบสุ าเหตทุ ีก่ ารสอนจรงิ ตา่ ง หัวขอ้ แผนการสอน ช่วั โมง ที่ได้ จากแผนการสอนหากมีความ สอนจรงิ แตกต่างเกนิ ๒๕% ๑. - แนะนาวิธีเรียน (มคอ. ๓) -ความร้เู กย่ี วกบั การใช้เหตผุ ล -การใชเ้ หตุผลคอื อะไร ๓๓ - - มีความเปน็ มาอย่างไร -การใช้เหตผุ ลแบ่งได้อยา่ งไร - รปู แบบการใชเ้ หตผุ ลทส่ี มเหตุสมผล ๒. -การใช้เหตุผลทางตรรกศาสตร์ ๓๓ - - การใชเ้ หตผุ ลแบบนิรนัย - การใชเ้ หตุผลแบบอุปนัย

๒ หัวข้อ จานวน ชั่วโมง จานวน ระบสุ าเหตทุ ีก่ ารสอนจริงต่าง แผนการสอน ชัว่ โมง ทไ่ี ด้ จากแผนการสอนหากมคี วาม ๓.- บรรยายพเิ ศษ เร่อื ง “วิธคี ดิ และการใช้ สอนจรงิ ๓ แตกตา่ งเกิน ๒๕% เหตผุ ลในพระพุทธศาสนาและเหตผุ ลแบบ ๓ - ๓ ตะวันตก ๓ ๓ - ๓ - -การใชเ้ หตุผลแบบสบื คน้ ต้นตอปญั หา ๓ -การใชเ้ หตผุ ลความเชอื่ ของกาลามสูตร ๓ - การใชเ้ หตุผลตามหลกั วทิ ยาศาสตร์ - การคิดเชิงวเิ คราะห์ - การคดิ เชิงสงั เคราะห์ - การคิดเชิงกลยทุ ธ์ - การคิดแบบสรา้ งสรรค์ ๔. การใช้เหตุผลท่ปี รากฏในคัมภีร์พระพทุ ธศาสนาเถร วาท - นิสิตสบื ค้นและนาเสนอตัวอยา่ ง การใช้ เหตผุ ลจากพระวินยั ปิฎก เรือ่ ง “การระงบั อธิกรณใ์ นพระวนิ ัยปิฎก”หลกั อธิกรณ์กลวิธรี ะงบั ความ ขัดแยง้ ในหมูส่ งฆ์” - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใช้เหตุผล - การใชเ้ หตผุ ล - วเิ คราะห/์ สรปุ - เขียนบทความวชิ าการ ๑ เร่อื ง ๕. - บรรยายพเิ ศษ เร่ือง “วิธีคิดและการใชเ้ หตุผลที่ ปรากฏในคมั ภรี พ์ ระพุทธศาสนา นกิ ายสรวาสติวาท” ๖. การใชเ้ หตุผลท่ปี รากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถร วาท - นิสติ สืบคน้ และนาเสนอตวั อย่าง การใช้ เหตผุ ลจากพระ สุตตันตปิฎก เร่ือง “ภราปวาสูตร” คาสอนในพระพทุ ธศาสนาบง่ บอกพฤติกรรมความเส่อื ม ของบคุ คล” - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใช้เหตผุ ล - การใช้เหตผุ ล - วิเคราะห์/สรุป - เขียนบทความวิชาการ ๑ เรอ่ื ง

๓ หวั ขอ้ จานวน ชั่วโมง จานวน ระบุสาเหตุที่การสอนจริงต่าง แผนการสอน ชัว่ โมง ที่ได้ จากแผนการสอนหากมคี วาม ๗. สอบกลางภาค สอนจรงิ ๘. บรรยายพิเศษ เรื่อง “วิธคี ิดและการใช้ ๓ แตกตา่ งเกิน ๒๕% ๓ ๓ - เหตุผลทีป่ รากฏในคัมภีรพ์ ระพทุ ธศาสนา ๓ - มหายาน นิกายมาธยมกิ ะ” ๓ ๙. -การใชเ้ หตุผลท่ปี รากฏในคมั ภรี ์ ๓ - พระพุทธศาสนาเถรวาท ๓ ๓ - - นสิ ิตสืบคน้ และนาเสนอตัวอย่าง ๓ การใช้เหตุผลจากพระ ๓ - สุตตนั ตปิฎก เร่อื ง “ศีล ๕ กบั การ พฒั นาสู่ความหลุดพัน (ศีลในพรหมชาลสูตรกับ การพฒั นาชีวติ สู่ความหลุดพ้น) - ประเดน็ ในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใช้เหตุผล - การใชเ้ หตุผล - วเิ คราะห์/สรปุ - เขยี นบทความวิชาการ ๑ เรือ่ ง ๑๐. -การใชเ้ หตผุ ลทีป่ รากฎในคัมภรี ์ พระพุทธศาสนาเถรวาท - นิสติ สืบคน้ และนาเสนอตัวอย่าง การใชเ้ หตผุ ลจากพระอภิธรรม ปิฎก เรื่อง ................................. - ประเดน็ ในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอื้ หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใชเ้ หตผุ ล - การใชเ้ หตผุ ล - วิเคราะห/์ สรปุ - เขียนบทความวิชาการ ๑ เรือ่ ง ๑๑. -บรรยายพิเศษเรอ่ื ง “วิธีคดิ และการใช้ เหตุผลท่ปี รากฏในคมั ภรี พ์ ระพุทธศาสนา มหายานนิกายโยคาจาร

๔ หวั ข้อ จานวน ชั่วโมง จานวน ระบุสาเหตทุ กี่ ารสอนจรงิ ต่าง แผนการสอน ช่วั โมง ที่ได้ จากแผนการสอนหากมีความ ๑๒. -การใชเ้ หตุผลท่ปี รากฏในคัมภีร์ สอนจริง พระพุทธศาสนาเถรวาท ๓ แตกตา่ งเกิน ๒๕% ๓ - นิสิตสืบคน้ และนาเสนอตัวอย่าง ๓ - การใชเ้ หตผุ ลจากคัมภีร์มลิ นิ ทปญั หา ๓ เรื่อง “วิเคราะห์การใช้เหตุผลจากคมั ภรี ์มลิ ินท ๓ ปญั หา” ๓ - ประเดน็ ในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนื้อหาโดยยอ่ - ตวั อย่างของการใช้เหตุผล - การใช้เหตผุ ล - วิเคราะห/์ สรุป - เขยี นบทความวชิ าการ ๑ เร่ือง ๑๓. -การใชเ้ หตผุ ลที่ปรากฏในคมั ภรี ์ พระพุทธศาสนาเถรวาท - นิสติ สืบค้นและนาเสนอตวั อยา่ งการ ใชเ้ หตผุ ลจากคมั ภีร์อรรถกถาธรรมบท เรื่อง “การใชเ้ หตผุ ลจากคัมภรี ์อรรถ กถาธรรมบทวิเคราะหจ์ ากเรื่องของมัฏฐกุณฑลี”. - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเปน็ มา - เนื้อหาโดยย่อ - ตัวอย่างของการใชเ้ หตุผล - การใช้เหตผุ ล - วิเคราะห/์ สรุป - เขยี นบทความวชิ าการ ๑ เรื่อง ๑๔.การใช้เหตุผลที่ปรากฏในคัมภีร์ พระพทุ ธศาสนาเถรวาท - นสิ ิตสืบคน้ และนาเสนอตวั อย่างการใช้เหตุผล จากคมั ภีร์วิสุทธมิ รรค เร่อื ง การใชเ้ หตุผลในศลี นเิ ทศแห่งคัมภีรว์ ิสุทธมิ รรค” “ปาริสุทธิศลี ๔ หลกั การปฏิบตั ิเพอ่ื ความหมด - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเปน็ มา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอย่างของการใชเ้ หตผุ ล - แบบการใช้เหตผุ ล - วเิ คราะห/์ สรุป - เขยี นบทความวิชาการ ๑ เรอ่ื ง

๕ จานวน ชัว่ โมง จานวน ระบุสาเหตุทก่ี ารสอนจริงตา่ ง แผนการสอน หัวข้อ ชั่วโมง ท่ีได้ จากแผนการสอนหากมคี วาม ๓ ๑๕.- บรรยายพเิ ศษ เรื่อง“ตรรกวิทยาใน ๓ สอนจริง แตกต่างเกนิ ๒๕% วรรณกรรมพระพทุ ธศาสนา” ๓ ๑๖. สอบปลายภาค รวม ๓ - ๔๘ ๑. หวั ขอ้ ท่สี อนไมค่ รอบคลมุ ตามแผน นยั สาคญั ของหัวขอ้ ทีส่ อนไม่ แนวทางชดเชย หวั ขอ้ ทสี่ อนไมค่ รอบคลุมตามแผน(ถา้ ม)ี ครอบคลุมตามแผน ไมม่ ี ไมม่ ี ไมม่ ี ๓. ประสิทธิผลของวธิ กี ารสอนทท่ี าใหเ้ กดิ ผลการเรยี นรู้ตามท่ีระบใุ นรายละเอยี ดของรายวชิ า ประสิทธิผล ปัญหาของการใช้วธิ กี าร ผลการเรียนรู้ วิธีสอนทร่ี ะบุในรายละเอียดรายวิชา มี ไม่มี สอน(ถา้ ม)ี พรอ้ ม ข้อเสนอแนะในการแกไ้ ข ๑. จัดกิจกรรมเชงิ วิชาการและ ภาคปฏิบัติท่ี ส่งเสริมการเรยี นรู้ ด้าน ๑. ด้านคณุ ธรรม คณุ ธรรม จริยธรรม ใหเ้ ปน็ ผู้มีน้าใจ / เสียสละ อุทิศตนเพื่อระพุทธศาสนาและ จริยธรรม(Moral สังคม ๒. การจดั กจิ กรรมในรายวิชาท่เี น้นการ and Ethics) ปลูกฝงั ใหน้ สิ ิตมีเป็นผูม้ ีน้าใจเสียสละ มี จติ อาสาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา และสังคม

๖ ประสทิ ธิผล ปญั หาของการใช้วธิ ีการ ผลการเรียนรู้ วธิ สี อนทีร่ ะบุในรายละเอยี ดรายวิชา มี ไมม่ ี สอน(ถ้ามี) พรอ้ ม ขอ้ เสนอแนะในการแก้ไข ๒. ดา้ นความ้รู้ จัดให้มีการศึกษาค้นคว้าเน้นความรู้ให้ / (Knowledge) นิสิตมีโลกทรรศน์กว้างไกลและรู้เท่าทัน / / ความเปลี่ยนแปลงทางสงั คม / ๓. ทกั ษะทาง เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการ ปัญญา(Cognitive ปฏิบัติงานจริง มารถออกแบบและ ดาเนินการวิจัยในประเด็นสาคัญทาง Skills) พระพุทธศาสนา ๔. ทกั ษะ ฝึกฝนภาวะความเป็นผ้นู าผตู้ าม การ ความสมั พันธ์ แสดงออกถงึ ภาวะความเป็นผู้นาและผู้ ระหว่างบคุ คลและ ตามท่ดี ี การ ความรับผดิ ชอบ มีมนษุ ยสมั พนั ธท์ ่ีดีกับผูร้ ่วมงานและการ (Interpersonal รั บ ฟั ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ผู้ อ่ื น ใ น ก า ร Skill and ปฏิบัตงิ านเปน็ ทีมและการทางานวิจัย Responsibilies) ๕. ทกั ษะการ วิเคราะหเ์ ชิง ตวั เลข การสือ่ สาร จัดการเรียนการสอน เพ่ือให้นิสิต และการใช้ ส า ม า ร ถ คั ด ก ร อ ง ข้ อ มู ล แ ล ะ ใ ช้ ห ลั ก เทคโนโลยี ตรรกะทางคณิตศาสตร์และสถิติ ใน สารสนเทศ การศึกษาค้นคว้าปัญหา สรุปปัญหาและ (Numerical เสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ด้วย Analysis, หลักการทางพระพทุ ธศาสนา Communication and Information Technology Skills) ๔. ขอ้ เสนอการดาเนนิ การเพ่ือปรับปรงุ วธิ สี อน การเรยี นวชิ าพระพุทธศาสนากับการใชเ้ หตผุ ล มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ให้ผ้ศู กึ ษาในรายวิชาน้ี เพื่อให้ผู้ศึกษาใน รายวิชานี้ มีความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่อง วิธีคิดและวิธีการใช้เหตุผลในพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเทียบกับวิธีคิดและการใช้เหตุผลแบบต่างๆ ของตะวันตก เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิง สังเคราะห์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผลทางตรรกแบบนิรนัยและอุปนัย เน้น ศกึ ษาวิธคี ดิ และการใช้เหตุผลท่ปี รากฏในคมั ภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน ผลการดาเนินการที่ผ่าน มาไดพ้ บว่า ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ และด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ นสิ ติ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดไม่ค่อยจะมีปญั หาการเรียนการสอนในรายวิชาน้ี

๗ ด้านทักษะทางปัญญา ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นิสิตส่วนใหญ่ยังมีปัญหา กล่าวคือ ด้านทักษะทางปัญญา นิสิตส่วนใหญ่ยังใช้วิธีการศึกษาเพ่ือให้จาและเข้าใจ แต่ขาดการศึกษาเพื่อให้สามารถนาไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า ด้านทักษะการ วเิ คราะห์เชงิ ตัวเลข นสิ ิตยงั ขาดทกั ษะการนาตวั เลขมาใชเ้ พื่อจัดลาดับหัวข้อในการเขียนงานนาเสนอได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ ดา้ นการสอ่ื สาร นสิ ิตสว่ นใหญ่ยังขาดทกั ษะการใชภ้ าษาในการเขียนเพื่อสื่อสารให้ผู้อ่านเข้าใจใน สงิ่ ที่ตนเองนาเสนอไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการใช้เทคโนโลยี นิสิตส่วนหน่ึงโดยเฉพาะนิสิตท่ีมีอายุมากยัง ขาดทกั ษะการใช้เทคโนโลยี สาหรับนิสิตที่มีอายุน้อยสามารถใช้เทคโนโลยีได้แต่ก็ยังขาดการนาเทคโนโลยีที่มี อยมู่ าใช้ให้เกิดประโยชน์ในการศึกษาค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่ยังใช้เพื่อความบันเทิงและสนุกสนานเพลิดเพลิน มากกวา่ จะนามาใช้เพอื่ ประโยชนใ์ นการศึกษาคน้ คว้าอย่างประสทิ ธภิ าพ แนวทางแก้ไข คือ เมื่อนิสติ นาเสนองานจบแลว้ ผู้สอนช้ีให้เห็นข้อบกพร่องแต่ละด้านในทันที เช่น ด้านทักษะทางปัญญา ช้ีให้เห็นข้อบกพร่องว่า การศึกษาเพ่ือให้จาและเข้าใจน้ันเป็นสิ่งท่ีดี แต่การศึกษาใน ระดบั บัณฑิตศึกษาไมค่ วรหยุดอย่เู พียงเท่านั้น ตอ้ งสามารถนาสงิ่ ท่ีศึกษามาแล้วไปใช้ได้ วเิ คราะห์ได้ สังเคราะห์ ได้ และ ประเมินค่าได้ จึงจะเป็นการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพ ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข ช้ีให้เห็น ข้อบกพร่องว่า การจัดลาดับหัวข้อหลัก หัวข้อรอง หัวข้อย่อย ของงานท่ีศึกษาค้นคว้าควรนาตัวเลขมา ชว่ ยในการจัด คือ หวั ข้อหลักควรมที ศนิยมสองตาแหน่ง หัวข้อรองควรมีทศนิยมสามตาแหน่ง หัวข้อย่อย ควรมที ศนิยมสามตาแหนง่ เปน็ ต้น ด้านการสอ่ื สารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ชี้ให้เห็นข้อบกพร่องว่า การเขียนงานวชิ าการเพือ่ สอ่ื สารใหผ้ ู้อา่ นเขา้ ใจในสง่ิ ทผี เู้ ขียนนาเสนอควรจะเป็นอย่างไร เร่ิมตั้งแต่การกาหนด หัวข้อ กาหนดประเด็นหลัก ประเด็นรอง และประเด็นย่อย ตลอดการใช้ภาษาสื่อสารและการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศมาใช้ เป็นต้น ต่อจากน้ันผู้สอนก็ฝึกทักษะการคิดและการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับนิสิต จากการ ดาเนนิ การแกป้ ัญหาดังกล่าวทาใหส้ ามารถแก้ปญั หาไดเ้ ป็นอย่างดี เห็นได้ว่างานท่ีนิสิตนาเสนอภายหลังจากได้ ฟงั คาแนะนาจากผ้สู อนแลว้ ทาใหง้ านทน่ี าเสนอมคี ุณภาพดีขน้ึ กวา่ เดิมเป็นอย่างมาก หมวดท่ี ๓ สรุปผลการจัดการเรียนการสอนของรายวชิ า ๑. จานวนนิสติ ท่ีลงทะเบียนเรยี น ๘ รูป/คน ๒. จานวนนิสติ ที่คงอยู่เมอื่ ส้ินสดุ ภาคการศกึ ษา ๘ รปู /คน ๓. จานวนนิสติ ศกึ ษาทถ่ี อน (W) ๐ รูป/คน ๔. การกระจายของระดบั คะแนน (เกรด) ระดับคะแนน จานวน คิดเปน็ รอ้ ยละ A - - A- - - B+ - - B - - - - ไม่สมบูรณ์ (I) ๘ ผ่าน (P,S) - ๑๐๐ ตก (U) - - ตอน (W) -

๘ รวม ๘ ๑๐๐ ๕. ปจั จัยทที่ าใหร้ ะดับคะแนนผิดปกติ (ไม่มี) ๖.ความคลาดเคลอ่ื นจากแผนการประเมนิ ท่ีกาหนดไวใ้ นรายละเอียดรายวชิ า ๖.๑ ความคลาดเคลอื่ นดา้ นกาหนดเวลาการประเมนิ ความคลาดเคลื่อน เหตุผล ไมม่ ี - ๖.๒ ความคลาดเคลื่อนดา้ นวิธีการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ความคลาดเคลื่อน เหตผุ ล ไมม่ ี - ๗. การทวนสอบผลสัมฤทธ์ขิ องนกั ศึกษา วธิ กี ารทวนสอบ สรุปผล สาขาวิชาหรือหลักสูตรแต่งต้ังคณะกรรมการ คณะกรรมการได้ตรวจสอบแล้วมีมติเห็นชอบตามที่ ตรวจสอบความเหมาะสมการใหค้ ะแนนในรายวชิ าน้ี ผู้สอนประเมินไว้ทุกประการโดยมิได้มีข้อเสนอแนะ เลก็ น้อย หมวดที่ ๔ ปัญหาและผลกระทบต่อการดาเนินการ ๑. ประเดน็ ทรพั ยากรประกอบการเรียนและสงิ่ อานวยความสะดวก ปญั หาในการใชแ้ หล่งทรพั ยากรประกอบการเรียน ผลกระทบ การสอน - บณั ฑิตศกึ ษายังขาด Website เพอ่ื ตดิ ตอ่ สอ่ื สาร - ทาใหก้ ารตดิ ตอ่ ส่ือสารกบั สงั คมไมส่ ะดวกและขาด และนาเสนอข้อมลู กับสังคม ความรวดเรว็ ๒. ประเด็นด้านการบริหารและองคก์ ร ปญั หาด้านการบรหิ ารและองค์กร (ถ้าม)ี ผลกระทบตอ่ การเรียนรขู้ องนักศึกษา ๑. อาจารย์ผูรับผิดชอบหลักสูตรเป็นผู้บริหาร ๑. มีภารกิจทางด้านการบริหารในระดับสูงของ ระดับสูง(ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการและฝ่าย มหาวิทยาลัยและกิจการคณะสงฆ์มากทาให้มีเวลาใน กิจการทั่วไป) และเป็นผู้บริหารคณะสงฆ์ระดับสูง การรว่ มบรหิ ารหลักสูตรการเรยี นการสอนไดไ้ ม่เตม็ ที่ ของจงั หวัดสุรินทร์

๙ หมวดที่ ๕ การประเมินรายวิชา ๑. ผลการประเมินรายวชิ าโดยนักศึกษา(แนบเอกสาร) ๑.๑ ข้อวิพากษ์ทสี่ าคญั จากผลการประเมินโดยนักศกึ ษา ผลการประเมนิ การสอนโดยนสิ ิตทาง ออนไลน์ มคี ่าเฉลย่ี อยูท่ ี่ ๔.๙๖ จากคะแนนเต็ม ๕ คะแนน ไดร้ ะดับพึงพอใจมากที่สุด ๑.๒ ความเห็นของอาจารยผ์ ูส้ อนตอ่ ผลการประเมนิ ตามข้อท่ี จากผลการเรยี นของนสิ ติ ในรายวชิ า ๘๐๑ ๓๐๙ พระพุทธศาสนากบั ศาสตร์แห่งการใช้เหตุผล ทาให้ทราบ ว่า มีจานวนนิสิตร้อยละร้อยสอบผ่านเกณฑ์ตามท่ีหลักสูตรกาหนด มีผลการเรียนในระดับ S แสดงให้เห็นว่า นสิ ิตไดร้ ับการพฒั นาองค์ความรแู้ ละทักษะเก่ียวกบั ระเบียบวิธีวจิ ัยสูงผ่านตามเกณฑ์ทหี่ ลักสูตกาหนด ๒. ผลการประเมนิ รายวชิ าโดยวิธีอืน่ ๒.๑ ข้อวิพากษ์ท่ีสาคญั จากผลการประเมินโดยวธิ อี ื่น จากการสุ่มถามนิสิตบางรูป โดยผู้สอนเอง พบว่า บรรยากาศในการเรียนการสอนรายวิชานี้เป็น ธรรมชาติ เน้ือหาน่าสนใจและมีความสอดคล้องกับสาขาวิชาพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก นิสิตได้มีโอกาสใน การศกึ ษาคน้ ควา้ งานที่ผ้สู อนมอบหมาย มโี อกาสในการนาเสนอผลงานทศี่ กึ ษาคน้ ควา้ และมีส่วนร่วมในการต้ัง คาถาม อภปิ ราย วพิ ากษ์ วิจารณ์ และตอบคาถามในงานท่ีนาเสนออย่างสร้างสรรค์ ๒.๒ ความเหน็ ชอบของอาจารย์ผู้สอนตอ่ ผลการประเมินตามข้อ ๒.๑ ผลการประเมินจากการสุ่มถามนิสิตบางรูป/คน โดยผู้สอนเองทาให้ทราบว่า นิสิต ยังต้องได้รับการ พฒั นาองคค์ วามรู้และทกั ษะเก่ยี วกับระเบียบวิธีวิจยั ชั้นสงู ให้สูงขึ้นอีก ดังนั้นในการปรับปรุงการเรียนการสอน คร้ังต่อไปนอกจากสอนทฤษฎีให้มากแล้วต้องให้ทางานภาคปฏิบัติเพ่ิมขึ้นอีก และผู้สอนต้องตรวจงานนิสิต พร้อมให้ข้อเสนอแนะอย่างใกล้ชดิ และมีความสมา่ เสมอ หมวดที่ ๖ แผนการปรับปรงุ ๑. ความก้าวหนา้ ของการปรบั ปรุงการเรียนการสอนตามทีเ่ สนอในรายงาน/รายวชิ าครงั้ ทผ่ี า่ นมา แผนการปรับปรุงทีเ่ สนอในภาคการศึกษา/ปี ผลการดาเนนิ การ การศกึ ษาท่ีผา่ นมา - มีนิสิตบางรูปเป็นพระสังฆาธิการมีภารกิจทางคณะ - นิสิตที่มีภารกิจทางคณะสงฆ์มากเมื่อเปล่ียนมาใช้ สงฆ์มากทาให้มีเวลาเดินทางมาเข้าช้ันเรียนน้อย วิธีการสอนแบบออนไลน์ในบางเวลาทาให้นิสิต ประกอบกับปีการศึกษานี้เกิดโรคไวรัสโควิด ๑๙ สามารถเข้ามาร่วมในการเรียนการสอนได้ เนื่องจาก ระบาด บางชว่ งเวลาไม่สามารจดั การเรียนการสอนใน สามารถเรียนได้โดยไม่ต้องเดินทางมาเข้าช้ันเรียน ณ สถานที่ตั้งตามปรกติได้ ดังนั้นจึงได้มีการเรียนการ สถานท่ีตั้งในอาคารเรียนวิทยาเขตสุรินทร์ ผลจากการ สอนในสถานที่ตั้งบางเวลาและสอนโดยใช้ช่องทาง ดาเนินการสามารถแก้ปัญหาขาดเรียนให้ลดนอ้ ยลงได้

๑๐ ออนไลน์ ๒. การดาเนินการอื่นๆ ในการปรบั ปรงุ รายวิชา เน้ือหาในรายวิชานี้โดยภาพรวมเห็นว่า ในช่วงเวลานี้ยังมีความเหมาะสมดีหากเห็นข้อบกจะได้ เสนอแนะในการปรบั ปรงุ รายวชิ าให้มคี วามเหมาะสมยิง่ ขึน้ ในโอกาสต่อไป ๓. ข้อเสนอแผนการปรับปรงุ สาหรับภาคการศกึ ษา /ปกี ารศึกษาต่อไป ขอ้ เสนอ กาหนดเวลาทีแ่ ล้วเสรจ็ ผู้รบั ผิดชอบ - ผู้รบั ผดิ ชอบรายวชิ าควรมีกจิ กรรมเสริมหลักสูตร - ควรดาเนินการให้ได้ภายปี ในด้านการวิจัยให้เข้มค้นข้น โดยวางแผนร่วมกับ การศึกษาตอ่ ไป หลกั สตู รพทุ ธ ผู้สอนในรายวิชาอ่ืน เชิญวิทยากรท่ีมีความ ศาสตรดุษฎี เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้านการวิจัยทั้งในชั้นเรียน บัณฑติ สาขาวิชา และบรรยายผ่านสื่อออนไลน์ให้มากขึ้น และให้ พระพุทธศาสนา นิสิตมีโอกาสได้ฝึกทาวจิ ัยเลม่ เลก็ ๆมากขึ้น ๔. ข้อเสนอแนะของอาจารยผ์ ู้รับผิดชอบรายวิชา ตอ่ อาจารย์ผูร้ ับผิดชอบหลกั สูตร รายวชิ านเ้ี ป็นวิชาทม่ี คี วามสาคญั อย่างมาก เพราะเป็นพ้ืนฐานสาคัญที่จะทาให้นิสิตสามารถเขียน บทความทางวิชาการ ทาสารนพิ นธ์ และทาดุษฎนี ิพนธ์ในการขอจบการศกึ ษาได้ ดังนน้ั หลักสตู รพุทธศาสตรดษุ ฎีฑติ สาวิชาพระพุทธศาสนา ร่วมกับอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรควร จดั กิจกรรมเสรมิ หลกั สตู รในรายวชิ านใี้ ห้เหมาะสม เพือ่ ให้นิสิตได้รบั ประโยชน์สงู สุดในปกี ารศึกษาต่อไป ชอ่ื อาจารย์ผรู้ ับผิดชอบรายวชิ า รศ.ดร.ทวีศกั ด์ิ ทองทิพย์, พระครศู รีปัญญาวกิ รม,ผศ.ดร., ดร.ภัชวชั ร์ สขุ เสน และคณะ / ผ้รู ายงาน ลงชือ่ วนั ท่ีรายงาน ๒๑ ต.ค. ๒๕๖๕ ชื่ออาจารยผ์ ู้รบั ผดิ ชอบหลกั สตู ร ๑) พระราชวิมลโมลี,ผศ.ดร. ๒) รศ.ดร.ทวีศกั ดิ์ ทองทิพย์ ๓) ดร.ภชั วัชร์ สุเสน ลงช่ือ วนั ที่ รายงาน ๒๑ ต.ค. ๒๕๖๕

มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ใบส่งระดับคะแนนตวั อกั ษร ราชวทิ ยาลัย สถาบนั วิทยาเขตสรุ ินทร์ ภาคการศกึ ษาท่ี 1/2565 ระดบั การศกึ ษา ปริญญาเอก บณั ฑิตวิทยาลัย รายวชิ า 801309 : พระพุทธศาสนากบั ศาสตร์แห่งการใช้เหตผุ ล ผ้สู อน รศ. ดร. ทวีศักด์ิ ทองทพิ ย์ กลมุ่ ที่ 1 ลาดบั รหัสประจาตวั ช่อื QUIZ MIDTERM FINAL รวม เกรด - 89.00 S 1 6409105007 พระครูโกศลสมาธวิ ตั ร ปญฺญาธโร 89.00 - - 86.00 S - 84.00 S 2 6409105008 Ven. Thep Thach 86.00 - - 88.00 S - 93.00 S 3 6409105010 พระครูนมิ ติ รัตนาภรณ์ อภิวณฺโณ 84.00 - - 84.00 S - .00 U 4 6409105012 พระครูโกสมุ สมณวตั ร กสุ โุ ม 88.00 - - 84.00 S - 84.00 S 5 6409105013 พระครูปริยตั กิ จิ ธารง อคคฺ เสโน 93.00 - 6 6409105015 พระอธกิ ารประจวบ ปริปญุ ฺโญ 84.00 - 7 6409105016 พระครูสวุ รรณจนั ทรสรคณุ จนฺทสโร .00 - 8 6409105017 พระครูพบิ ูลพฒั นประสตุ ญาณเมธี 84.00 - 9 6409105018 พระณฏั ฐ์ธนชยั กลยฺ าณธมโฺ ม 84.00 - เกรด ช่วงเกรด MANUAL รวม % A <<->> 0 0.00 B+ <<->> 0 0.00 B <<->> 0 0.00 C+ <<->> 0 0.00 C <<->> 0 0.00 D+ <<->> 0 0.00 D <<->> 0 0.00 F <<->> 0 0.00 S - 8 88.89 U - 1 11.11 CONTROLCODE SECTION: 1 = 696750 ------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------ ------------------------------------------------------------ หวั หน้าสาขาวชิ า คณบดี อาจารยป์ ระจาวชิ า พมิ พเ์ ม่ือ : 30/05/2566 14:50 รศ. ดร. ทวศี กั ดิ์ ทองทพิ ย์

มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผลการประเมนิ การสอน รายวชิ า : 801309 : พระพทุ ธศาสนากบั ศาสตร์แหง่ การใช้เหตผุ ล Sec. 1 ภาคการศกึ ษาท่ี : 1/2565 ระดบั การศึกษา : ปริญญาเอก ผู้สอน : รศ. ดร. ทวศี กั ด์ิ ทองทพิ ย์ จำนวนนิสิตทล่ี งทะเบยี น : 9 จำนวนนิสติ ท่กี รอกแบบประเมิน : 8 (88.89%) คะแนนเฉล่ยี สะสม : <2.00 = 0 2.00 - 2.74 = 0 ระดบั การประเมนิ : 2.75 - 3.24 = 0 3.25 - 4.00 = 8 (100.00%) 5 : พึงพอใจมากท่ีสดุ 4 : พึงพอใจมาก 3 : พงึ พอใจปานกลาง 2 : พงึ พอใจน้อย 1 : พงึ พอใจน้อยทสี่ ุด No. รายการ Mean SD 1 2 3 4 5 ดา้ นเนือ้ หาวิชา ดา้ นเน้ือหาวชิ า 1 มีการแจง้ ใหน้ ิสิตทราบเกี่ยวกบั คำอธิบายรายวชิ า ขอบขา่ ยเนอ้ื หารายวิชา แผนการสอน 4.88 0.35 0 0 0 1 7 การประเมนิ ผล และหนงั สอื อา่ นประกอบรายวิชาและหนังสืออา่ นเสริมได้อย่างเหมาะสม 2 การจัดลำดบั เนอ้ื หาเปน็ ไปอย่างมรี ะบบและขนั้ ตอนชดั เจน 4.75 0.46 0 0 0 2 6 3 ไดร้ บั ความรใู้ นรายวชิ านีค้ รบถ้วนตามแผนการสอน 4.75 0.46 0 0 0 2 6 4 สอนเนือ้ หารายวิชาให้สามารถนำไปประยุกตใ์ ชไ้ ดใ้ นชีวติ ประจำวันและสถานการณ์ปจั จุบนั 4.63 0.74 0 0 1 1 6 5 นำเสนอประเดน็ ใหม่ๆ ทที่ นั สมยั ในกรอบเน้ือหารายวชิ า 4.75 0.71 0 0 1 0 7 รวม 4.75 0.54 0 0 2 6 32 ดา้ นการจัดการเรียนการสอน ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน 1 มกี ารใช้ส่ือการสอนท่ีส่งเสริมการเรียนรู้ทเี่ หมาะสมและหลากหลายทำใหผ้ ้เู รียนเขา้ ใจเนอื้ หาม 4.75 0.71 0 0 1 0 7 ากยิง่ ข้นึ 2 สง่ เสรมิ ให้ผ้เู รยี นสามารถคิดวเิ คราะห์อยา่ งมีเหตผุ ล 4.75 0.46 0 0 0 2 6 3 ใหข้ ้อมูลและช้แี นะแหลง่ ค้นควา้ หาความรู้เพม่ิ เตมิ 4.75 0.71 0 0 1 0 7 4 จัดเน้ือหาและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนดั ของผูเ้ รยี น 4.75 0.71 0 0 1 0 7 5 มีการสอดแทรกเรอ่ื งคุณธรรมและจริยธรรมทม่ี สี ารประโยชน์ในกจิ กรรมการเรยี นการสอน 4.75 0.71 0 0 1 0 7 6 เปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนไดเ้ สนอความคดิ เหน็ ในการเรียนการสอน 4.88 0.35 0 0 0 1 7 สร้างบรรยากาศในช้นั เรียนแบบประชาธิปไตย 7 มีการวดั ผลและประเมินผลหลายรปู แบบ 4.88 0.35 0 0 0 1 7 โดยผเู้ รยี นมีสว่ นรว่ มและรบั ทราบในการกำหนดสดั ส่วนคะแนน รวม 4.79 0.56 0 0 4 4 48 ด้านคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมของอาจารย์ 8 มีความเมตตา กรุณา ปราศจากอคตติ ่อผู้เรยี น 4.88 0.35 0 0 0 1 7 9 มคี วามอดทนตอ่ พฤตกิ รรมที่ไมเ่ หมาะสมของผู้เรียนในขณะทำการเรียนการสอน 4.88 0.35 0 0 0 1 7 10 ปฏิบตั ิตนให้เปน็ ทเี่ คารพนับถือท้งั ในและนอกเวลาปฏิบัติงานสอน 4.88 0.35 0 0 0 1 7 11 มีเวลาใหค้ ำปรึกษาแก่ผ้เู รียน ตรงต่อเวลาและอทุ ิศตนให้กับการสอนเต็มที่ 4.88 0.35 0 0 0 1 7 รวม 4.88 0.34 0 0 0 4 28 รวมท้งหมด 4.80 0.51 0 0 6 14 108 ข้อเสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ อาจารย์มคี วามเมตตาและเป็นกันเองตอ่ นิสิตมาก

๑ แบบ มคอ. ๓ รายละเอียดของรายวชิ า ๘๐๑ ๓๐๙ พระพุทธศาสนากับศาสตรแ์ ห่งการใชเ้ หตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ช่อื สถาบนั อุดมศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตสุรินทร์/วิทยาลยั สงฆ์สรุ นิ ทร/์ บณั ฑิตศกึ ษา/หลกั สูตรพทุ ธศาสตรดุษฎีบณั ฑิตสาขาวชิ า พระพทุ ธศาสนา หมวดที่ ๑ ขอ้ มลู ท่ัวไป ๑. รหสั และชอ่ื รายวิชา : ๘๐๑ ๓๐๙ พระพทุ ธศาสนากบั ศาสตรแ์ ห่งการใช้เหตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ๒. จานวนหนว่ ยกติ : (๓) (๓-๐-๖) ๓. หลักสตู รและประเภทของรายวิชา : พุทธศาสตรดษุ ฏบี ณั ฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา วชิ าเอกไม่นบั หน่วยกติ ๔. อาจารย์ผรู้ ับผิดชอบรายวชิ าและอาจารย์ผสู้ อน: รศ.ดร.ทวศี กั ดิ์ ทองทิพย์, พระครศู รีปญั ญาวกิ รม,ผศ.ดร. และ ดร.ภัฎชวชั ร์ สขุ เสน ๕. ภาคการศึกษา/ชั้นปีทเ่ี รยี น: ภาคการศกึ ษาท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ชัน้ ปีท่ี ๒ ๖. รายวชิ าทต่ี อ้ งเรยี นมากอ่ น (pre-requisite) : (ไม่มี) ๗. รายวชิ าท่ีต้องเรียนพรอ้ มกนั (co-requisite) : (ไม่มี) ๘. สถานทเ่ี รียน : สาขาวิชาพระพุทธศาสนา บัณฑติ ศึกษา วิทยาลัยสงฆ์สุรนิ ทร์ มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลง กรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรนิ ทร์ ๙. วนั ที่จดั ทาหรอื ปรบั ปรุงรายละเอยี ดของรายวชิ าครงั้ ลา่ สุด : ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ หมวดท่ี ๒ จดุ ม่งุ หมายและวตั ถปุ ระสงค์ ๑. จดุ มุ่งหมายของรายวิชา เพอ่ื ใหผ้ ู้ศึกษาในรายวิชานี้ มคี วามรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องในเร่ือง วิธีคิดและวิธีการใช้เหตุผล ในพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเทียบกับวิธีคิดและการใช้เหตุผลแบบต่างๆ ของตะวันตก เช่น การคิดเชิง วิเคราะห์ การคิดเชิงสังเคราะห์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผลทางตรรกแบบนิร นัยและอุปนัย เน้นศกึ ษาวิธคี ดิ และการใช้เหตผุ ลที่ปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน

๒ ๒. วัตถปุ ระสงค์ในการพัฒนา / ปรับปรงุ รายวชิ า เพอ่ื ปรับปรงุ เปลีย่ นแปลงเน้ือหาของรายวชิ าน้ีให้มคี วามสอดคล้องกับสถานการณใ์ นปจั จบุ นั ซึง่ เปน็ ผลจากงานวจิ ัยและข้อคน้ พบใหม่ ๆ ท่ีเกย่ี วข้องกบั เรื่องของการวิจัยด้านปรัชญาและศาสนา หมวดที่ ๓ ลกั ษณะและการดาเนินการ ๑. คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาวิธคี ิดและวธิ ีการใช้เหตุผลในพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเทียบกับวิธีคิดและการใช้เหตุผลแบบ ตา่ งๆ ของตะวันตก เชน่ การคดิ เชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงสังเคราะห์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผลทางตรรกแบบนิรนัยและอุปนัย เน้นศึกษาวิธีคิดและการใช้เหตุผลที่ปรากฏในคัมภีร์ พระพทุ ธศาสนาเถรวาทและมหายาน ๒. จานวนชว่ั โมงทใ่ี ช้สอนต่อภาคการศึกษา ๓ ชม./สปั ดาห,์ สอน ๑๖ สปั ดาห์ รวม ๔๘ ชม. /ภาค การศกึ ษา บรรยาย สอนเสรมิ การฝึกปฏิบัติ/งานภาคสนาม/การฝึกงาน การศกึ ษาดว้ ยตนเอง ๓ ชม./สัปดาห์ - - ๖ ชม.ตอ่ สัปดาห์ ๓. จานวนชั่วโมงตอ่ สัปดาหท์ อี่ าจารย์ใหค้ าปรึกษาและแนะนาทางวิชาการแกน่ ิสติ เป็นรายบุคคล จดั ให้นสิ ิตพบอาจารย์เพือ่ ขอคาปรึกษาและขอคาแนะนาสปั ดาห์ละ ๓ ช่วั โมง โดยอาจารยแ์ จ้งวันเวลา ที่แนน่ อนใหน้ ิสติ ทราบและพมิ พเ์ ปน็ ตารางตดิ ไวท้ เ่ี บอร์ดหนา้ ห้องพกั ของอาจารย์ หมวดท่ี ๔ การพัฒนาผลการเรียนรขู้ องนิสติ ๑. คณุ ธรรมจรยิ ธรรม (Moral and Ethics) ๑.๑ ผลการเรียนรู้ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม นิสิตมีคุณธรรม จริยธรรม มีความตระหนักในคุณค่าของการดาเนินภารกิจ ที่ส่งผลต่อการ พฒั นาคุณภาพชวี ิต การทาประโยชน์ การปอ้ งกนั การแกไ้ ขปญั หา และการดาเนินชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ อย่างราบรื่น โดยมีคณุ สมบัติโดยสังเขปดงั น้ี ๑.๑.๑ มีความมุ่งมั่นพัฒนาตนให้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรม ประกอบด้วยศีลาจาร วตั รงดงามและเป็นแบบอย่างที่ดขี องสงั คม ๑.๑.๒ มีความร้คู ่คู ณุ ธรรม สามารถประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อแก้ปัญหาชีวิตตน และเพื่อน รว่ มสงั คมได้อย่างเหมาะสม ดา้ นการครองตน ครองคน ครองงาน ๑.๑.๓ เป็นผู้มีนา้ ใจเสยี สละ มีจติ อาสาอทุ ศิ ตนเพ่ือพระพุทธศาสนาและสงั คม ๑.๑.๔ มีความเป็นผู้นาด้านจิตใจและปัญญา และส่งเสริมให้มีการประพฤติปฏิบัติตามหลัก

๓ คุณธรรมจริยธรรม ๑.๑.๕ เคารพสทิ ธิ รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รวมถึงเคารพในคุณค่าและศักดิ์ศรีของความ เป็นมนษุ ย์ ๑.๑.๖ การยอมรับประเด็นทางศีลธรรมและจริยธรรมอันเนื่องมาจากความหลากหลายทาง วฒั นธรรมและการอย่รู ่วมกนั อยา่ งสันติ ๑.๒ กลยุทธ์การสอนท่ใี ช้พัฒนาการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม เพื่อให้เกิดผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม หลักสูตรจึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพ่ือ พฒั นาการเรยี นรูข้ องผู้เรยี นดังนี้ ๑.๒.๑ การจัดกิจกรรมในรายวิชาที่เน้นการปลูกฝังให้นิสิตมีระเบียบวินัยในตนเอง แต่งกาย เหมาะสมกับสถานภาพนกั ศกึ ษา มีความรบั ผดิ ชอบในการเข้าเรียนและการสง่ งานตรงเวลา ๑.๒.๒ ฝกึ ฝนภาวะความเป็นผู้นา ผู้ตาม รวมถึงการเคารพสิทธิ และการรับฟังความคิดเห็น ผู้อื่นในการปฏบิ ตั งิ านเป็นทีมและการทางานวิจัย ๑.๒.๓ การสอดแทรกความรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม ในการเรียนการสอน ทั้งในด้านการ ดารงชีวติ อยู่ในสงั คม และในการวจิ ัย ๑.๓ กลยุทธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม มีการประเมินผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม ท้ังระหว่างกาลังศึกษา และภายหลัง สาเร็จการศกึ ษา ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การสังเกต การสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม การใช้แบบสอบถาม แบบ ประเมนิ และแบบวัดผล โดยประเมินจากหลายๆ ดา้ น ดงั น้ี ๑.๓.๑ ประเมินจากการมีวินัยในการเรียน การตรงเวลา การทางานเสร็จและส่งงานตาม กาหนด ๑.๓.๒ ประเมินจากความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานเป็นทีม การทางานวิจัย และการเข้า ร่วมกิจกรรมในการใช้องคค์ วามร้ทู างการศึกษาทาประโยชน์ต่อสังคม ๑.๓.๓ ประเมนิ จากความซ่อื สตั ย์ และจรรยาบรรณในการสอบ ๑.๓.๔ ผู้เรียนประเมินตนเองและประเมินโดยเพื่อนและอาจารย์ โดยใช้แบบประเมินและ แบบวดั ผล ๑.๓.๕ ภายหลงั สาเร็จการศกึ ษา ใหด้ ุษฎีบัณฑิตประเมินตนเอง โดยประเมินจากผูใ้ ช้บณั ฑิต และประเมินจากผูป้ กครองของดษุ ฎบี ณั ฑติ โดยใช้แบบสอบถาม ๒. ดา้ นความรู้ (Knowledge) ๒.๑ ผลการเรียนรู้ด้านความรู้ นิสิตมีความรู้และเช่ียวชาญทั้งภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบัตมิ ีความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถคิดและวิเคราะห์ปัญหาอย่างเป็นระบบ มีความรู้ในการวิจัยสร้างนวัตกรรมใหม่ที่สามารถนามาใช้ให้ เกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ และมีศักยภาพในการผลิตงานวิจัยเชิงบูรณาการเพ่ือการพัฒนาประเทศ โดยมี คุณสมบตั ิสรปุ โดยสงั เขปดังตอ่ ไปน้ี ๒.๑.๑ มคี วามรู้เช่ยี วชาญในพระไตรปิฎกและคัมภรี ท์ างพระพทุ ธศาสนา ๒.๑.๒ มีความใฝ่รู้ใฝ่คิดสร้างสรรค์ในงานวิชาการด้านพระพุทธศาสนา และสามารถบูรณา การองคค์ วามรใู้ นพระพุทธศาสนากบั ศาสตร์สมยั ใหม่ได้ ๒.๑.๓ สามารถพัฒนาสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่จากงานวิจัย เพ่ือตอบสนองความต้องการ ทางสังคมในด้านวิชาการพระพทุ ธศาสนา

๔ ๒.๑.๔ มโี ลกทรรศนก์ วา้ งไกลและรู้เทา่ ทันความเปลยี่ นแปลงทางสงั คม ๒.๑.๕ สามารถพัฒนาองค์ความรู้ จากงานวิจัยเพ่ือเชื่อมโยงกับการพัฒนาองค์กรเพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการของสงั คม ๒.๑.๖ สามารถสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์งานด้านภาษาบาลีและ คมั ภีรพ์ ทุ ธศาสนา ๒.๒ กลยทุ ธก์ ารสอนทใ่ี ช้พฒั นาการเรียนรูด้ ้านความรู้ เพ่ือให้เกิดผลการเรียนรู้ด้านความรู้ หลักสูตรจึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพ่ือพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียนดังน้ี ๒.๒.๑ การจัดการเรยี นรู้โดยผูเ้ รียนเป็นสาคญั และมงุ่ เน้นให้นิสิตมีความรู้ความเข้าใจศาสตร์ ในเชงิ ลกึ ผสมผสานให้นาไปสู่วธิ ีการดาเนนิ การทเ่ี ปน็ การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้วิธีการเรียนการสอนที่เน้น หลักการทางทฤษฎี และปฏิบัติการวิจัยในสภาพแวดล้อมจริง เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้เกิดการคิด วิเคราะห์ และตดั สนิ ใจดว้ ยตนเอง เช่นให้มีการนาเสนองาน การร่วมแสดงความคิดเห็น การตอบคาถาม เพื่อ สนับสนนุ ให้นสิ ิตคิดเปน็ และมนี ิสยั ใฝร่ ู้ ๒.๒.๒ การจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีอิสระในการแสวงหาความรู้โดยไม่ยึดติดกับการรับ ขอ้ มลู จากผ้สู อนเพียงฝา่ ยเดียว ๒.๒.๓ การจดั การเรยี นรแู้ บบมีส่วนร่วม ๒.๒.๔ การจดั การเรียนรจู้ ากสถานการณ์จรงิ มกี ารเรยี นรทู้ ้ังในชัน้ เรียนและการศึกษาดงู าน ๒.๒.๕ การทาวิจยั ท้งั ในรายวชิ าทเ่ี กีย่ วขอ้ งและวทิ ยานพิ นธ์ ๒.๒.๖ การเรียนรู้ที่เน้นการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในงานวิจัยและงานการสอนที่เป็น ประโยชนต์ อ่ ชุมชน ทอ้ งถิน่ และในระดบั ที่สูงข้ึน ๒.๓ กลยทุ ธ์การประเมนิ ผลการเรยี นรดู้ า้ นความรู้ ประเมินจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการปฏิบัติของนิสิต ให้ครอบคลุมในทุกด้าน ด้วยวิธีการ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๒.๓.๑ การทดสอบย่อย ๒.๓.๒ การสอบกลางภาคและปลายภาค ๒.๓.๓ การวัดผลสาเรจ็ ของการปฏิบตั ิงานเปน็ ทีม ๒.๓.๔ การนาเสนอผลงาน ๒.๓.๕ การนาความรู้ไปประยุกต์ใชใ้ ห้สัมพนั ธก์ บั ศาสตร์สมัยใหม่ ๒.๓.๖ การสอบประมวลความรู้ ๒.๓.๗ การสอบวัดคุณสมบัติในรายวิชาที่หลักสูตรกาหนด และสอบความรู้ภาษาท่ีหลักสูตร กาหนด ๒.๓.๘ การสอบวิทยานพิ นธ์ ๓.ทักษะทางปญั ญา (Cognitive Skills) ๓.๑ ผลการเรียนรู้ดา้ นทกั ษะทางปัญญา นิสิตมีวิจารณญาณในการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและสร้างสรรค์โดยใช้องค์ความรู้ทาง วชิ าชพี ท่เี รยี นมาท้งั ภาคทฤษฎี ภาคปฏบิ ัติและประสบการณ์จรงิ มาบรู ณาการใช้ในการแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ การประกอบอาชีพและการดารงชีวิต เพอ่ื ให้เกิดผลลัพธ์ท่ีมีคุณภาพ และเป็นประโยชน์ท้ังต่อตนเองและสังคม

๕ โดยมคี ณุ สมบตั สิ รุปโดยสงั เขปดังต่อไปนี้ ๓.๑.๑ สามารถเข้าใจทฤษฎที างพระพุทธศาสนานาไปสู่การวจิ ัยอยา่ งสร้างสรรค์ ๓.๑.๒ สามารถวิเคราะหแ์ ละสังเคราะหผ์ ลงานวจิ ัยและทฤษฎีเพ่ือพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ด้าน พระพุทธศาสนา ๓.๑.๓ สามารถจดั การความรู้ทางดา้ นภาษาบาลแี ละคมั ภีรพ์ ระพทุ ธศาสนาอยา่ งเป็นระบบ ๓.๑.๔ สามารถออกแบบและดาเนนิ การวจิ ัยในประเดน็ สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา ๓.๑.๕ สามารถวางแผนและดาเนินการโครงการที่สาคัญหรือโครงการวิจัยค้นคว้าทางพระ พุทธศสนาและคมั ภีรพ์ ระพุทธศาสนา ไดด้ ว้ ยตนเอง ๓.๑.๖ สามารถประยกุ ตใ์ ช้หลกั พทุ ธธรรมในการแกป้ ญั หาที่เกดิ ข้นึ ในสงั คมสมัยใหม่ ๓.๒ กลยทุ ธ์การสอนทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาการเรยี นรู้ด้านทกั ษะทางปญั ญา เพ่ือให้เกิดผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญา หลักสูตรจึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพ่ือ พฒั นาการเรยี นรูข้ องผู้เรยี นดังน้ี ๓.๒.๑ เน้นการฝกึ ทกั ษะด้านการคิดและการสรา้ งสรรคง์ านวิชาการ ๓.๒.๒ เน้นการเรียนรดู้ ้วยตนเอง และการปฏิบัติงานวิจัยอยา่ งจรงิ จัง ๓.๒.๓ เน้นการเรียนรู้ที่สามารถประยุกต์ใช้กับการวิจัยค้นคว้าในสถานการณ์จริง โดยใช้ ปญั หาเปน็ ตวั กระตนุ้ ให้เกิดการเรยี นรู้ ๓.๒.๔ เนน้ การอภปิ รายกลมุ่ ๓.๓ กลยทุ ธก์ ารประเมินผลการเรยี นรู้ดา้ นทักษะทางปญั ญา ประเมนิ ทกั ษะทางปญั ญาดว้ ยวธิ กี ารดงั ตอ่ ไปน้ี ๓.๓.๑ วัดผลจากการแสดงออกทางกระบวนการคิดและการแกไ้ ขปญั หา ๓.๓.๒ วัดผลจากการปฏบิ ัติงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ๓.๓.๓ วดั ผลจากการนาเสนอผลงาน ๓.๓.๔ วดั ผลจากการอธบิ าย การถาม และตอบคาถาม ๓.๓.๕ วดั ผลจากการโตต้ อบสอื่ สารกับผอู้ ่ืน ๓.๓.๖ วดั ผลจากการอภิปรายกลุ่ม ๔. ด้านทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบ (Interpersonal Skill and Responsibilies) ๔.๑ ผลการเรยี นรู้ดา้ นทักษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรับผิดชอบ นิสิตมีปฏิสัมพันธ์อย่างสร้างสรรค์ สามารถในการปรับตัวเข้ากับกลุ่มคนต่างๆ ได้ มีความ เคารพและยอมรบั ความแตกตา่ งระหว่างบุคคลและสังคม มคี วามรบั ผดิ ชอบในบทบาทหนา้ ท่ี เรียนรู้และพัฒนา ตนเอง และสงั คมอยา่ งตอ่ เนือ่ ง โดยมีคุณสมบัตสิ รปุ โดยสังเขปดงั ต่อไปนี้ ๔.๑.๑ มีความสามารถในการแสดงความเหน็ ทางวชิ าการดา้ นพระพทุ ธศาสนา ๔.๑.๒ มคี วามรบั ผดิ ชอบในการพฒั นาความรู้ของตนเอง องคก์ ร และสงั คม ๔.๑.๓ สามารถใช้ความร้ดู ้านพระพุทธศาสนามาช้นี าสงั คมในประเดน็ ทเี่ หมาะสม ๔.๑.๔ มภี าวะความเป็นผู้นาที่โดดเด่นในองค์กร บริหารทางานเป็นทีม และภาวะการเป็นผู้ ตามในทมี ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามโอกาสและสถานการณ์ ๔.๑.๕ สามารถแสดงทักษะภาวะความเป็นผู้นาได้อย่างเหมาะสมตามโอกาสและสถานการณ์เพ่ือ เพ่ิมพนู ประสทิ ธิภาพในการทางานเปน็ กลุ่ม ๔.๑.๖ สามารถให้ความร่วมมือในการทางานเป็นกลุ่มพรอ้ มทั้งสามารถชแี้ จงแสดงเหตุผลเพื่อเพิ่มพนู

๖ ประสิทธิภาพระหวา่ งกลุ่ม ๔.๒ กลยุทธ์การสอนท่ีใชพ้ ัฒนาการเรยี นรู้ ด้านทักษะความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบุคคล และ ความ รับผิดชอบ เพ่อื ให้เกิดผลการเรียนรูด้ ้านทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบคุ คล และความรับผิดชอบหลักสูตร จึงใช้กลยุทธ์ในการสอนเพื่อพัฒนาการเรยี นรู้ของผ้เู รียนดงั นี้ ๔.๒.๑ การจัดกิจกรรมในรายวิชาที่เน้นการเรียนการสอนท่ีมีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง ผเู้ รยี นและผ้สู อน ๔.๒.๒ จัดใหม้ กี ิจกรรมฝกึ ฝนภาวะความเป็นผนู้ า ผ้ตู าม การแสดงออกถงึ ภาวะความเป็นผู้นา และผู้ตามท่ีดี การมีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีกับผู้ร่วมงาน และการรับฟังความคิดเห็นผู้อ่ืนในการปฏิบัติงานเป็นทีม และการทางานวจิ ัย ๔.๒.๓ จัดใหม้ ีกิจกรรมฝกึ ฝนการทากิจกรรมเพอื่ สงั คม ๔.๒.๔ จดั ให้มกี ิจกรรมฝกึ ฝนการวางตวั ที่เหมาะสมตอ่ กาลเทศะ ๔ . ๒ . ๕ จั ด ใ ห้ มี กิ จ ก ร ร ม ฝึ ก ฝ น ก า ร ป ร ะ ส า น ง า น กั บ ผู้ อ่ื น ท้ั ง ภ า ย ใ น แ ล ะ ภ า ย น อ ก สถาบนั การศึกษา ๔.๓ กลยุทธ์การประเมินผลการเรียนรู้ ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และ ความ รับผดิ ชอบ ประเมินทักษะความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบด้วยวธิ ีการดังต่อไปน้ี ๔.๓.๑ สังเกตจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนิสิตในหลายๆ ด้าน ระหว่างกิจกรรมการ เรยี นการสอน เช่น พฤตกิ รรมความสนใจ ต้งั ใจเรยี นรู้ และพฒั นาตนเอง ๔.๓.๒ สังเกตจากพฤติกรรมการแสดงบทบาทภาวะผู้นาและผู้ตามท่ีดี ความสามารถในการ ทางานรว่ มกับผอู้ ื่น ๔.๓.๓ สังเกตจากพฤติกรรมความรับผิดชอบในการเรียนและงานที่ได้รับมอบหมาย การ นาเสนอผลงาน การทางานวิจัย และการร่วมทากจิ กรรมเพ่อื สังคม ๕. ดา้ นทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสือ่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ (Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills) ๕.๑ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ นสิ ติ สามารถประยกุ ต์ใชค้ วามรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สถิติและคณิตศาสตร์ ในการ วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ในการเรียนการสอน การปฏิบัติงาน และการทางาน วิจัยได้ สามารถเรียนรู้ศาสตร์ทางด้านวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี และรู้จักนาเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ให้เกิด ประโยชนต์ อ่ สังคม โดยมคี ุณสมบตั ิสรุปโดยสงั เขปดังตอ่ ไปนี้ ๕.๑.๑ สามารถคัดกรองข้อมูลและใช้หลักตรรกะทางคณิตศาสตร์และสถิติ ในการศึกษา ค้นคว้าปัญหา สรุปปญั หาและเสนอแนะแกไ้ ขปัญหาในดา้ นต่างๆ ดว้ ยหลักการทางพระพุทธศาสนา ๕.๑.๒ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา เชิงตัวเลขและสถิติในการศึกษากาหนดประเด็น ปญั หาทีส่ าคัญไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ๕.๑.๓ สามารถนาเสนอรายงานการวิจัยดุษฎีนิพนธ์ ทั้งในรูปแบบท่ีเป็นทางการและไม่เป็น ทางการ

๗ ๕.๑.๔ สามารถส่ือสารโดยใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสื่อสาร กบั กลมุ่ บคุ คลต่างๆ ทง้ั ในวงการวชิ าการและวิชาชพี รวมถึงชมุ ชนท่วั ไปได้อยา่ งเหมาะสม ๕.๑.๕ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนาเสนอรายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ หรือ โครงการค้นควา้ ที่สาคญั ทัง้ ในรูปแบบทเี่ ป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมถึงการตีพิมพ์ผ่านส่ือทางวิชาการ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕.๑.๖ สามารถสอ่ื สารและสร้างสรรคง์ านทางด้านภาษาบาลี ท้ังในวงวิชาการและวิชาชีพ ได้ อย่างเหมาะสม ๕.๒ กลยทุ ธ์การสอนท่ีใชพ้ ัฒนาการเรียนรดู้ า้ นทักษะการวเิ คราะหเ์ ชิงตัวเลข การส่ือสาร และ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ เพอ่ื ให้เกดิ ผลการเรยี นรูด้ า้ นทักษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ หลักสูตรจึงใช้กลยทุ ธ์ในการสอนเพือ่ พัฒนาการเรยี นร้ขู องผูเ้ รียนดงั น้ี ๕.๒.๑ จัดการเรยี นรายวิชาสมั มนาให้นสิ ิตได้ฝึกทักษะทั้งด้านการวิเคราะห์ การวิจารณ์ การ สอื่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ในการคน้ คว้าและนาเสนองานทง้ั เป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ ๕.๒.๒ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการสื่อสาร และการ นาเสนอโดยใชเ้ ทคโนโลยีทง้ั ดว้ ยตนเองและรว่ มกับผ้อู นื่ การอภปิ ราย ๕.๒.๓ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นการวิเคราะห์ปัญหาทางปรัชญาและการทางาน วจิ ยั ๕.๒.๔ จัดกจิ กรรมเพือ่ ใหเ้ กดิ ทกั ษะในการบริหารจัดการขอ้ มูลที่ได้จากการศกึ ษาและวจิ ัย ๕.๓ กลยุทธ์การประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นทักษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การสอ่ื สารและการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศ ประเมินทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วย วิธีการดังต่อไปน้ี ๕.๓.๑ การทดสอบความร้แู ละเทคนคิ การวเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์ทฤษฎีหรือแนวคิดใหม่ ๆ ๕.๓.๒ การทางานวจิ ยั ต้ังแต่เรมิ่ ตน้ จนถึงขนั้ ตอนการเขียนรายงาน และการนาเสนอผลงาน

๘ หมวดที่ ๕ แผนการสอนและการประเมนิ ผล ๕.๑. แผนการสอนและการประเมินผล สัปดาหท์ ี่ หัวข้อ/รายละเอียด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอนสื่อท่ี ผูส้ อน ช่วั โมง รศ.ดร.ทวศี ักดิ์ - แนะนาวธิ เี รยี น (มคอ. ๓) - ขานช่ือนสิ ิตเข้าช้นั เรียน ทองทพิ ย์ และ บทท่ี ๑ บทนา - ผู้สอนแจก มคอ. ๓ ความรเู้ กยี่ วกับการใช้เหตุผล - อภิปราย คณะ ๑ -การใชเ้ หตผุ ลเชิงคณติ ศาสตร์ ๓ - บรรยาย รศ.ดร.โสวิทย์ -การใช้เหตผุ ลทางตรรกศาสตร์ - ซกั ถาม บารงุ ภกั ด์ิ -การใชเ้ หตุผลแบบนิรนยั (Deductive) -การใขเ้ หตผุ ลแบบอุปนยั (Inductive) - ค้นควา้ ด้วยตนเอง - พระครูศรี การใช้เหตผุ ลของพระพุทธเจ้า - อภปิ ราย ปญั ญาวิกรม, ผศ.ดร. ๒ -การใช้เหตุผลแบบสืบคน้ ต้นตอปัญหา ๓ - บรรยาย - ซักถาม -การใช้เหตผุ ลความเชอื่ ของกาลามสตู ร -การใชเ้ หตผุ ลตามหลกั วิทยาศาสตร์ - ค้นคว้าดว้ ยตนเอง การใช้เหตุผลในพระไตรปิฎก - อภิปราย ๓ -การใช้เหตผุ ลตามพระธรรมวนิ ยั ๓ - บรรยาย กรณียกตัวอย่างเพ่ือวิเคราะหฯ์ - ซกั ถาม - ค้นควา้ ด้วยตนเอง การใชเ้ หตุผลในพระไตรปิฎก - อภิปราย -ใช้เหตุผลตามพระสตุ ตนั ตปฎิ ก ๔ กรณียกตัวอยา่ งเพอ่ื วเิ คราะหฯ์ ๓ - บรรยาย - ซกั ถาม - คน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง การใช้เหตผุ ลทางตะวันตก อภปิ ราย -การใช้เหตุผลของ Socrates and ๕ Plato และเหตุผลของ Aristotle ๓ - บรรยาย - ซักถาม - ค้นคว้าด้วยตนเอง การใช้เหตผุ ลตะวันตกสมัยใหม่ - อภิปราย - พระครศู รี ๖ -การใช้เหตผุ ลของ Thomas ๓ - บรรยาย ปญั ญาวิกรม, - การใชเ้ หตผุ ลของ Samuelson - ซักถาม ผศ.ดร. - ค้นคว้าด้วยตนเอง

๙ สัปดาห์ที่ หวั ข้อ/รายละเอยี ด จานวน กจิ กรรมการเรียนการสอนสอ่ื ท่ี ผูส้ อน ชัว่ โมง การใช้เหตุผลทางตะวันออก - อภปิ ราย - บรรยาย -การใช้เหตุผลของขงจื้อ ๓ - ซกั ถาม ๗ - การใชเ้ หตผุ ลของลัทธิเตา๋ - ค้นคว้าดว้ ยตนเอง ๘ สอบกลางภาค ๓ นิสิตเข้าสอบกลางภาค - รศ.ดร.ทวศี กั ด์ิ ทองทิพย์, การใชเ้ หตผุ ลพทุ ธศาสนามหายาน - พระครศู รี -การใช้เหตุผลของมหายานในจนี ปัญญาวกิ รม,ผศ. -การใช้เหตผุ ลของมหายานในญี่ปนุ่ - ดร. ดร.ภัฎช ๙ -การใชเ้ หตุผลของมหายานในไทย วชั ร์ สขุ เสน การใช้เหตุผลพุทธศาสนาวัชรยาน - อภิปราย รศ.ดร.ทวีศักด์ิ -การใชเ้ หตผุ ลของวชั รยานในทเิ บส - บรรยาย ทองทพิ ย์ และ -การใชเ้ หตุผลของวชั รยานในไทย ๓ - ซักถาม - ค้นควา้ ด้วยตนเอง คณะ ๑๐ - อภิปราย - บรรยาย ๓ - ซกั ถาม - คน้ ควา้ ด้วยตนเอง การใช้เหตผุ ลพุทธศาสนาเถรวาท - อภิปราย -การใช้เหตผุ ลของมหานิกายในไทย - บรรยาย ๑๑- -กรณีการใช้เหตุผลจาเป็นของไท ๓ - ซักถาม - คน้ คว้าดว้ ยตนเอง การใชเ้ หตผุ ลพุทธศาสนาเถรวาท - อภิปราย ๑๒ -การใชเ้ หตุผลของธรรมยุตกิ นิกาย - บรรยาย พม.สมบูรณ์ ในกรณกี ารใชเ้ หตุผลจาเปน็ ของไทย ๓ - ซักถาม วฑุ ฺฒิกโร,รศ.ดร. - ค้นควา้ ดว้ ยตนเอง

๑๐ สัปดาห์ หวั ข้อ/รายละเอยี ด จานวน กจิ กรรมการเรยี นการสอน ผสู้ อน ท่ี ชว่ั โมง และสือ่ รศ.ดร.ทวศี ักดิ์ การนาเสนอของนสิ ติ -กรณีศึกษา - อภปิ ราย ทองทพิ ย์ และ ๑๓ การใช้เหตผุ ลในพระไตรปฎิ ก - บรรยาย คณะ ๓ - ซักถาม - รศ.ดร.ทวีศักดิ์ การสรุปเน้ือหาสาระสาคญั เพอื่ - คน้ ควา้ ด้วยตนเอง ทองทิพย์, เตรยี มสอย (ปลายภาคเรยี น) - อภิปราย - พระครศู รี ๑๔ - บรรยาย ปัญญาวกิ รม,ผศ. ๓ - ซกั ถาม - ดร. ดร.ภัฎช ๑๕ สอบปลายภาค - ค้นคว้าดว้ ยตนเอง วัชร์ สุขเสน รวม ๓ นิสิตเข้าสอบปลายภาค ๔๕ ๕.๒ แผนการประเมนิ ผล ท่ี การพัฒนาการเรยี นรู้ของ วิธกี ารประเมนิ สัปดาห์ที่ สัดส่วนของการ นิสิต ประเมนิ ประเมนิ เปน็ ผูม้ นี า้ ใจเสียสละ มจี ิต ๑ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม อาสาอทุ ิศตนเพือ่ ตลอดภาค ๒๐ % พระพุทธศาสนาและสังคม การศึกษา ๒ ด้านความรู้ มโี ลกทรรศน์กว้างไกลและ ตลอดภาค ๓๐ % รู้เท่าทนั ความเปลีย่ นแปลง การศึกษา ๓๐ % ทางสังคม ามารถออกแบบและ ๓ ดา้ นทกั ษะทางปญั ญา ดาเนนิ การวิจัยในประเดน็ ตลอดภาค สาคญั ทางพระพุทธศาสนา การศึกษา ด้านทกั ษะความสัมพันธ์ มคี วามสามารถในการแสดง ตลอดภาค การศึกษา ๔ ระหว่างบคุ คลและความ ความเหน็ ทางวชิ าการด้าน ๑๐ % รับผิดชอบ พระพทุ ธศาสนา

๑๑ ที่ การพัฒนาการเรียนรขู้ อง วิธีการประเมนิ สปั ดาห์ที่ สัดสว่ นของการ นิสิต ประเมนิ ประเมิน สามารถคัดกรองขอ้ มลู และใช้ หลักตรรกะทางคณติ ศาสตร์ ด้านทกั ษะการวเิ คราะห์ และสถิติ ในการศกึ ษาค้นคว้า ตลอดภาค การศกึ ษา ๕ การส่อื สาร และเทคโนโลยี ปญั หา สรปุ ปญั หาและ ๒๐ % สารสนเทศ เสนอแนะแกไ้ ขปญั หาในด้าน ต่างๆ ด้วยหลกั การทาง พระพทุ ธศาสนา รวม ๑๐๐ % หมวดท่ี ๖ ทรัพยากรประกอบการเรียนการสอน เอกสารและตาราหลกั อภินนั ท์ จนั ตะน.ี (2564). เอกสารฯ “พระพทุ ธศาสนากับศาสตรแ์ หง่ การใชเ้ หตผุ ล”. วิทยาลัยสงฆ์หนองคาย วทิ ยาเขตหนองคาย มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย (มจร.) ๑. ข้อมูลปฐมภูมิ คัมภรี ์พระไตรปิฎก มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . พระไตรปฎิ กภาษาบาลี. ฉบับมหาจฬุ า เตปิฏก ๒๕๐๐.กรุงเทพฯ: โรงพิมพร์ ุง่ เรอื งธรรม, ๒๕๐๖. ๒. พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั .กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์มหาจฬุ าลงกรณราช วิทยาลัย,๒๕๓๙. ๓. ธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุตโฺ ต),พระ. พทุ ธธรรม ฉบับปรับปรุงและขยายความ. พมิ พ์ครง้ั ที่ ๘. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย. ๒๕๔๒. ๔. ปรชั ญา. กรุงเทพฯ: ส านกั พิมพ์ศยาม, ๒๕๓๗. สทิ ิธ์ บตุ รอนิ ทร์, ผศ.ดร. ตรรกศาสตร์ วิชาการใช้เหตุผล. กรุงเทพฯ: มหามกฏุ ราชวิทยาลยั , ๒๕๒๒. ๕. เสถยี ร โพธนิ ันทะ. ประวัตศิ าสตร์พระพุทธศาสนา. พมิ พ์ครั้งที่ ๓, กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ ๑๘๔ มหามกุฏราช วิทยาลัย, ๒๕๔๓. เอม็ .เจ.ฮาร์มอน. ความคิดทางการเมอื งจากเปลโตถงึ ปจั จบุ ัน. แปลโดย เสนห่ ์ จามรกิ , พิมพค์ ร้ังที่ ๒, กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๑๕. ๖. งานวิจยั และวทิ ยานิพนธ์ กันต์ วฑมฺ นว โส (มโนวฒั นนั ท์), พระมหา. “การศึกษาเปรยี บเทียบแนวความคิด เรื่องเกณฑ์ตดั สนิ ทางจริยธรรมในจริยศาสตร์ของคา้ นท์กับในพุทธจริยศาสตร์ตามทรรศนะของพระ เทพเวที (ประยทุ ธ์ ปยตุ ฺ โต)”วทิ ยานพิ นธป์ ริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาปรชั ญา บณั ฑิต วทิ ยาลัย มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ,๒๕๓๕. ๗. ปรีชา ช้างขวญั ยนื . “การศึกษาจริยศาสตรส์ งั คมในพทุ ธศาสนาในเชิงวิจารณ์”. วทิ ยานพิ นธ์ ปรญิ ญา อกั ษรศาสตรมหาบณั ฑติ , แผนกวชิ าปรชั ญา บณั ฑิตวิทยาลัย จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย. ๒๕๒๐. ๘. ไพรัชน์ เขียนวงศ.์ “พุทธจรยิ ศาสตร์เถรวาทเป็นอตั นยิ มหรือไม”่ . วิทยานพิ นธป์ รญิ ญาอกั ษร ศาสตรมหา บัณฑติ , บัณฑติ วิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ๒๕๓๙.

๑๒ Govinda, Lama Anagarika. The Psychological Attitude of Early Buddhist Philosophy. London: Rider & Company, 1969. Jayasuriya, W. F.Dr.The Psychology and philosophy of Buddhism. Kuala Lumpur: Buddhist Missionsry Society, 1976. Jayatilleke, K.N. Ethics in Buddhist Perspective. Ceylon: Buddhist Publication, 1970. Buddhism: The Religion of Analysis. London: George Allen & Unwin, 1969. Kalupahana, David, J. A History of Buddhist Philosophy. Hawaii: University of Hawaii Press, 1992. Medis, N.K.G. The Question of King Milinda an Abridgement of the Milindapanha. : Buddhist Publication Society, 2001. Stcherbatsky, F.Th. Buddhist Logic.Vol 1-2. Delhi: Low Price Publication, 1999 เอกสารและข้อมูลแนะนา ม.มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย : WWW.mcu.ac.th , WWW.polmcu.com การคน้ คว้าวทิ ยานพิ นธ์ (Thesis) : WWW.ThaiLIS สภาพฒั นาเศรษฐกิจ (สศช) : WW.nesdb.go.th หมวดท่ี ๗ การประเมนิ และปรับปรงุ การดาเนนิ การของรายวชิ า ๑. กลยทุ ธก์ ารประเมินประสทิ ธผิ ลของรายวชิ าโดยนสิ ติ ใหน้ สิ ิตประเมนิ ประสิทธิผลของรายวชิ า ได้แก่ วธิ ีการสอน การจดั กิจกรรมหลักสูตในรายวชิ า สิ่ง สนบั สนนุ การเรยี นการสอน ซ่งึ มผี ลกระทบตอ่ การเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้ทีไ่ ด้รบั พรอ้ มข้อเสนอแนะเพ่อื นาไปใช้ในการปรับปรุงการจัดการเรยี นการสอนคราวต่อไป ๒. กลยุทธ์การประเมนิ การสอน ประเมนิ โดยสาขาวชิ าหรอื หลักสูตรแตง่ ต้ังคณะกรรมการประเมนิ หรอื จากการสงั เกตการสอนโดย อาจารย์ในสาขาวิชาหรือหลกั สูตร ๓. การปรับปรงุ การสอน สาขาวชิ ากาหนดให้อาจารย์ผสู้ อนทบทวนและปรบั ปรงุ กลยุทธ์และวธิ ีการสอนจากผลการ ประเมินประสิทธภิ าพของรายวชิ า แลว้ จดั ทารายงานเมอ่ื สอนจบภาคเรยี นใน มคอ. ๕ นอกจากน้ียังไดม้ กี าร กาหนดใหอ้ าจารยผ์ ู้สอนเข้ารับการฝึกอบรมกลยุทธ์การสอนหรอื การวิจัยเพื่อพฒั นาการเรยี นการสอน มกี าร ประชุมอาจารย์ในหลกั สูตรเพื่อหารอื ปัญหาการเรียนรู้ของนิสติ และร่วมกันหาแนวทางแกไ้ ข ๔. การทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธิ์ของนสิ ติ ในรายวิชา สาขาวิชาหรอื หลักสูตรมีคณะกรรมการประเมนิ ขอ้ สอบและความเหมาะสมของการให้คะแนน ๕. การดาเนินการทบทวนและการวางแผนปรับปรงุ ประสิทธผิ ลของรายวชิ า สาขาวชิ าหรือหลักสตู รมรี ะบบการทบทวนประสทิ ธิผลของรายวิชา โดยพจิ ารณาจากผลการประเมิน การสอนโดยนสิ ิต ผลการประเมินโดยคณะกรรมการประเมนิ ของสาขาวชิ า การรายงานรายวชิ าโดยอาจารย์ ผสู้ อนตามที่ปรากฏใน มคอ.๕ หลังการทบทวนประสทิ ธผิ ลของรายวชิ า อาจารย์ผ้สู อนรบั ผิดชอบในการ ทบทวนเนอ้ื หาที่สอนและกลยทุ ธ์การสอนท่ีใช้ และนาเสนอแนวทางในการปรบั ปรุงและพัฒนาในรายงาน รายวชิ า มคอ.๕ เสนอตอ่ ท่ีประชมุ อาจารยป์ ระจาหลกั สตู รพิจารณาให้ความคิดเหน็ และสรุปวางแผนพัฒนา ปรบั ปรุง และได้รายงานให้สาขาวิชาหรอื หลักสตู ร/วิทยาลัยสงฆ์ รับทราบ *************************

๑ มคอ.๕ รายละเอยี ดของรายวชิ า รายวชิ า : ๘๐๑ ๓๐๙ พระพุทธศาสนากับศาสตรแ์ หง่ การใช้เหตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ชื่อสถาบันอุดมศกึ ษา : มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ คณะ / ภาควิชา : สาขาวชิ าพระพุทธศาสนา หมวดที่ ๑ ขอ้ มลู โดยท่ัวไป ๑. รหสั และช่อื รายวิชา : ๘๐๑ ๓๐๙ พระพทุ ธศาสนากับศาสตร์แหง่ การใชเ้ หตุผล (Buddhism and Reasoning Sciences) ๓ (๓-๐-๖) ๒. รายวชิ าทต่ี ้องเรียนกอ่ นรายวิชานี้ (ไมม่ )ี ๓. อาจารย์ผ้รู บั ผิดชอบ อาจารยผ์ ู้สอนและกลมุ่ เรยี น (Section) : อาจารย์ผ้รู บั ผดิ ชอบและผู้สอน คอื รศ.ดร. ทวีศกั ดิ์ ทองทพิ ย์ , พระครูศรปี ัญญาวิกรม,ผศ.ดร., ดร.ภชั วชั ร์ สเุ สน และคณะ /กลุ่มผูเ้ รยี น คอื นิสิตชน้ั ปีที่ ๑ ๔. ภาคการศึกษา/ปีการศึกษาท่ีเปิดสอนรายวชิ า : ภาคการศกึ ษาที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ๕. สถานทเ่ี รยี น : สาขาวชิ าพระพทุ ธศาสนา มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ หมวดที่ ๒ การจัดการเรียนการสอนทเ่ี ปรียบเทยี บกบั แผนการสอน ๑. รายงานช่วั โมงการสอนจริงเทยี บกับแผนการสอน จานวน ชั่วโมง จานวน ระบสุ าเหตทุ ีก่ ารสอนจรงิ ตา่ ง หัวขอ้ แผนการสอน ช่วั โมง ที่ได้ จากแผนการสอนหากมีความ สอนจรงิ แตกต่างเกนิ ๒๕% ๑. - แนะนาวิธีเรียน (มคอ. ๓) -ความร้เู กย่ี วกบั การใช้เหตผุ ล -การใชเ้ หตุผลคอื อะไร ๓๓ - - มีความเปน็ มาอย่างไร -การใช้เหตผุ ลแบ่งได้อยา่ งไร - รปู แบบการใชเ้ หตผุ ลทส่ี มเหตุสมผล ๒. -การใช้เหตุผลทางตรรกศาสตร์ ๓๓ - - การใชเ้ หตผุ ลแบบนิรนัย - การใชเ้ หตุผลแบบอุปนัย

๒ หัวข้อ จานวน ชั่วโมง จานวน ระบสุ าเหตทุ ีก่ ารสอนจริงต่าง แผนการสอน ชัว่ โมง ทไ่ี ด้ จากแผนการสอนหากมคี วาม ๓.- บรรยายพเิ ศษ เร่อื ง “วิธคี ดิ และการใช้ สอนจรงิ ๓ แตกตา่ งเกิน ๒๕% เหตผุ ลในพระพุทธศาสนาและเหตผุ ลแบบ ๓ - ๓ ตะวันตก ๓ ๓ - ๓ - -การใชเ้ หตุผลแบบสบื คน้ ต้นตอปญั หา ๓ -การใชเ้ หตผุ ลความเชอื่ ของกาลามสูตร ๓ - การใชเ้ หตุผลตามหลกั วทิ ยาศาสตร์ - การคิดเชิงวเิ คราะห์ - การคดิ เชิงสงั เคราะห์ - การคิดเชิงกลยทุ ธ์ - การคิดแบบสรา้ งสรรค์ ๔. การใช้เหตุผลท่ปี รากฏในคัมภีร์พระพทุ ธศาสนาเถร วาท - นิสิตสบื ค้นและนาเสนอตัวอยา่ ง การใช้ เหตผุ ลจากพระวินยั ปิฎก เรือ่ ง “การระงบั อธิกรณใ์ นพระวนิ ัยปิฎก”หลกั อธิกรณ์กลวิธรี ะงบั ความ ขัดแยง้ ในหมูส่ งฆ์” - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใช้เหตุผล - การใชเ้ หตผุ ล - วเิ คราะห/์ สรปุ - เขียนบทความวชิ าการ ๑ เร่อื ง ๕. - บรรยายพเิ ศษ เร่ือง “วิธีคิดและการใชเ้ หตุผลที่ ปรากฏในคมั ภรี พ์ ระพุทธศาสนา นกิ ายสรวาสติวาท” ๖. การใชเ้ หตุผลท่ปี รากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถร วาท - นิสติ สืบคน้ และนาเสนอตวั อย่าง การใช้ เหตผุ ลจากพระ สุตตันตปิฎก เร่ือง “ภราปวาสูตร” คาสอนในพระพทุ ธศาสนาบง่ บอกพฤติกรรมความเส่อื ม ของบคุ คล” - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใช้เหตผุ ล - การใช้เหตผุ ล - วิเคราะห์/สรุป - เขียนบทความวิชาการ ๑ เรอ่ื ง

๓ หวั ขอ้ จานวน ชั่วโมง จานวน ระบุสาเหตุที่การสอนจริงต่าง แผนการสอน ชัว่ โมง ที่ได้ จากแผนการสอนหากมคี วาม ๗. สอบกลางภาค สอนจรงิ ๘. บรรยายพิเศษ เรื่อง “วิธคี ิดและการใช้ ๓ แตกตา่ งเกิน ๒๕% ๓ ๓ - เหตุผลทีป่ รากฏในคัมภีรพ์ ระพทุ ธศาสนา ๓ - มหายาน นิกายมาธยมกิ ะ” ๓ ๙. -การใชเ้ หตุผลท่ปี รากฏในคมั ภรี ์ ๓ - พระพุทธศาสนาเถรวาท ๓ ๓ - - นสิ ิตสืบคน้ และนาเสนอตัวอย่าง ๓ การใช้เหตุผลจากพระ ๓ - สุตตนั ตปิฎก เร่อื ง “ศีล ๕ กบั การ พฒั นาสู่ความหลุดพัน (ศีลในพรหมชาลสูตรกับ การพฒั นาชีวติ สู่ความหลุดพ้น) - ประเดน็ ในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใช้เหตุผล - การใชเ้ หตุผล - วเิ คราะห์/สรปุ - เขยี นบทความวิชาการ ๑ เรือ่ ง ๑๐. -การใชเ้ หตผุ ลทีป่ รากฎในคัมภรี ์ พระพุทธศาสนาเถรวาท - นิสติ สืบคน้ และนาเสนอตัวอย่าง การใชเ้ หตผุ ลจากพระอภิธรรม ปิฎก เรื่อง ................................. - ประเดน็ ในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนอื้ หาโดยย่อ - ตัวอยา่ งของการใชเ้ หตผุ ล - การใชเ้ หตผุ ล - วิเคราะห/์ สรปุ - เขียนบทความวิชาการ ๑ เรือ่ ง ๑๑. -บรรยายพิเศษเรอ่ื ง “วิธีคดิ และการใช้ เหตุผลท่ปี รากฏในคมั ภรี พ์ ระพุทธศาสนา มหายานนิกายโยคาจาร

๔ หวั ข้อ จานวน ชั่วโมง จานวน ระบุสาเหตทุ กี่ ารสอนจรงิ ต่าง แผนการสอน ช่วั โมง ที่ได้ จากแผนการสอนหากมีความ ๑๒. -การใชเ้ หตุผลท่ปี รากฏในคัมภีร์ สอนจริง พระพุทธศาสนาเถรวาท ๓ แตกตา่ งเกิน ๒๕% ๓ - นิสิตสืบคน้ และนาเสนอตัวอย่าง ๓ - การใชเ้ หตผุ ลจากคัมภีร์มลิ นิ ทปญั หา ๓ เรื่อง “วิเคราะห์การใช้เหตุผลจากคมั ภรี ์มลิ ินท ๓ ปญั หา” ๓ - ประเดน็ ในการนาเสนอ - ความเป็นมา - เนื้อหาโดยยอ่ - ตวั อย่างของการใช้เหตุผล - การใช้เหตผุ ล - วิเคราะห/์ สรุป - เขยี นบทความวชิ าการ ๑ เร่ือง ๑๓. -การใชเ้ หตผุ ลที่ปรากฏในคมั ภรี ์ พระพุทธศาสนาเถรวาท - นิสติ สืบค้นและนาเสนอตวั อยา่ งการ ใชเ้ หตผุ ลจากคมั ภีร์อรรถกถาธรรมบท เรื่อง “การใชเ้ หตผุ ลจากคัมภรี ์อรรถ กถาธรรมบทวิเคราะหจ์ ากเรื่องของมัฏฐกุณฑลี”. - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเปน็ มา - เนื้อหาโดยย่อ - ตัวอย่างของการใชเ้ หตุผล - การใช้เหตผุ ล - วิเคราะห/์ สรุป - เขยี นบทความวชิ าการ ๑ เรื่อง ๑๔.การใช้เหตุผลที่ปรากฏในคัมภีร์ พระพทุ ธศาสนาเถรวาท - นสิ ิตสืบคน้ และนาเสนอตวั อย่างการใช้เหตุผล จากคมั ภีร์วิสุทธมิ รรค เร่อื ง การใชเ้ หตุผลในศลี นเิ ทศแห่งคัมภีรว์ ิสุทธมิ รรค” “ปาริสุทธิศลี ๔ หลกั การปฏิบตั ิเพอ่ื ความหมด - ประเด็นในการนาเสนอ - ความเปน็ มา - เนอ้ื หาโดยย่อ - ตัวอย่างของการใชเ้ หตผุ ล - แบบการใช้เหตผุ ล - วเิ คราะห/์ สรุป - เขยี นบทความวิชาการ ๑ เรอ่ื ง

๕ จานวน ชัว่ โมง จานวน ระบุสาเหตุทก่ี ารสอนจริงตา่ ง แผนการสอน หัวข้อ ชั่วโมง ท่ีได้ จากแผนการสอนหากมคี วาม ๓ ๑๕.- บรรยายพเิ ศษ เรื่อง“ตรรกวิทยาใน ๓ สอนจริง แตกต่างเกนิ ๒๕% วรรณกรรมพระพทุ ธศาสนา” ๓ ๑๖. สอบปลายภาค รวม ๓ - ๔๘ ๑. หวั ขอ้ ท่สี อนไมค่ รอบคลมุ ตามแผน นยั สาคญั ของหัวขอ้ ทีส่ อนไม่ แนวทางชดเชย หวั ขอ้ ทสี่ อนไมค่ รอบคลุมตามแผน(ถา้ ม)ี ครอบคลุมตามแผน ไมม่ ี ไมม่ ี ไมม่ ี ๓. ประสิทธิผลของวธิ กี ารสอนทท่ี าใหเ้ กดิ ผลการเรยี นรู้ตามท่ีระบใุ นรายละเอยี ดของรายวชิ า ประสิทธิผล ปัญหาของการใช้วธิ กี าร ผลการเรียนรู้ วิธีสอนทร่ี ะบุในรายละเอียดรายวิชา มี ไม่มี สอน(ถา้ ม)ี พรอ้ ม ข้อเสนอแนะในการแกไ้ ข ๑. จัดกิจกรรมเชงิ วิชาการและ ภาคปฏิบัติท่ี ส่งเสริมการเรยี นรู้ ด้าน ๑. ด้านคณุ ธรรม คณุ ธรรม จริยธรรม ใหเ้ ปน็ ผู้มีน้าใจ / เสียสละ อุทิศตนเพื่อระพุทธศาสนาและ จริยธรรม(Moral สังคม ๒. การจดั กจิ กรรมในรายวิชาท่เี น้นการ and Ethics) ปลูกฝงั ใหน้ สิ ิตมีเป็นผูม้ ีน้าใจเสียสละ มี จติ อาสาอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา และสังคม

๖ ประสทิ ธิผล ปญั หาของการใช้วธิ ีการ ผลการเรียนรู้ วธิ สี อนทีร่ ะบุในรายละเอยี ดรายวิชา มี ไมม่ ี สอน(ถ้ามี) พรอ้ ม ขอ้ เสนอแนะในการแก้ไข ๒. ดา้ นความ้รู้ จัดให้มีการศึกษาค้นคว้าเน้นความรู้ให้ / (Knowledge) นิสิตมีโลกทรรศน์กว้างไกลและรู้เท่าทัน / / ความเปลี่ยนแปลงทางสงั คม / ๓. ทกั ษะทาง เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง และการ ปัญญา(Cognitive ปฏิบัติงานจริง มารถออกแบบและ ดาเนินการวิจัยในประเด็นสาคัญทาง Skills) พระพุทธศาสนา ๔. ทกั ษะ ฝึกฝนภาวะความเป็นผ้นู าผตู้ าม การ ความสมั พันธ์ แสดงออกถงึ ภาวะความเป็นผู้นาและผู้ ระหว่างบคุ คลและ ตามท่ดี ี การ ความรับผดิ ชอบ มีมนษุ ยสมั พนั ธท์ ่ีดีกับผูร้ ่วมงานและการ (Interpersonal รั บ ฟั ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ผู้ อ่ื น ใ น ก า ร Skill and ปฏิบัตงิ านเปน็ ทีมและการทางานวิจัย Responsibilies) ๕. ทกั ษะการ วิเคราะหเ์ ชิง ตวั เลข การสือ่ สาร จัดการเรียนการสอน เพ่ือให้นิสิต และการใช้ ส า ม า ร ถ คั ด ก ร อ ง ข้ อ มู ล แ ล ะ ใ ช้ ห ลั ก เทคโนโลยี ตรรกะทางคณิตศาสตร์และสถิติ ใน สารสนเทศ การศึกษาค้นคว้าปัญหา สรุปปัญหาและ (Numerical เสนอแนะแก้ไขปัญหาในด้านต่างๆ ด้วย Analysis, หลักการทางพระพทุ ธศาสนา Communication and Information Technology Skills) ๔. ขอ้ เสนอการดาเนนิ การเพ่ือปรับปรงุ วธิ สี อน การเรยี นวชิ าพระพุทธศาสนากับการใชเ้ หตผุ ล มวี ตั ถปุ ระสงค์เพอื่ ให้ผ้ศู กึ ษาในรายวิชาน้ี เพื่อให้ผู้ศึกษาใน รายวิชานี้ มีความรู้ ความเข้าใจและทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่อง วิธีคิดและวิธีการใช้เหตุผลในพระพุทธศาสนา โดยเปรียบเทียบกับวิธีคิดและการใช้เหตุผลแบบต่างๆ ของตะวันตก เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิง สังเคราะห์ การคิดเชิงกลยุทธ์ การคิดแบบสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผลทางตรรกแบบนิรนัยและอุปนัย เน้น ศกึ ษาวิธคี ดิ และการใช้เหตุผลท่ปี รากฏในคมั ภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาทและมหายาน ผลการดาเนินการที่ผ่าน มาไดพ้ บว่า ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านความรู้ และด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ นสิ ติ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดไม่ค่อยจะมีปญั หาการเรียนการสอนในรายวิชาน้ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook