อาจารยผ์ ูส้ อนศุภณฐั ศรีหงษ์
ความหมายของเพศวิถีศึกษา องคก์ ารการศึกษาวิทยาศาสตร์และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติหรื อยูเนสโก (UNESCO) ไดใ้ หค้ าจากดั ความของเพศวิถีศึกษาวา่ หมายถึง “การเรียนการ สอนเก่ียวกบั เร่ืองเพศ และความสมั พนั ธท์ ่ีเหมาะสมกบั วยั ของผูเ้ รียนและบริบททาง วฒั นธรรมโดยการใหค้ วามรูท้ ่ีถูกตอ้ งชดั เจน Sexuality Education ปจั จุบนั ประเทศตา่ งๆ ในโลก ตา่ งยอมรับวา่ การใหค้ วามรูใ้ นเร่ื องเพศอยา่ ง เหมาะสมกบั วยั ของเด็กและเยาวชน จะทาใหเ้ ด็กและเยาวชนสามารถเขา้ ใจ ตนเองและผูอ้ ่ืน และไมแ่ สดงพฤติกรรมทางเพศท่ีไมล่ ะเมิดผูอ้ ่ืน
ยูเนสโก ระบุวา่ เด็กและเยาวชนจาเป็นและมีสิทธิท่ีจะไดร้ ับการเรียนรูเ้ ร่ืองเพศวิถี ศึกษาใหเ้ หมาะสมกบั กลุม่ อายุตา่ งๆ 4 กลุม่ คือ
ปัจจยั น้ีมีมาตงั้ แตก่ าเนิด เป็นเร่ื องท่ีเก่ียวขอ้ งกบั โครโมโซม ฮอร์โมน และปัจจยั ทางชีววิทยาดา้ นอ่ืนๆ ในสว่ นของโครโมโซมเพศในชายและหญิงมีความแตกต่าง กนั เพศชายจะมีโครโมโซมเอกซแ์ ละโครโมโซมวายอยา่ งละหน่ึ งตวั (XY) ขณะท่ีเพศหญิงจะมีโครโมโซมเป็นเอกซส์ องตวั (XX) โครโมโซมเพศท่ีแตกตา่ ง กนั น้ีข้ึนอยูก่ บั รูปแบบของโครโมโซมท่ีทารกไดร้ ับตง้ั แตข่ นั้ การปฏิสนธิระหวา่ ง เซลลส์ ืบพนั ธุจ์ ากตวั อสุจิกบั ไขน่ ่ันเอง เป็นปัจจยั ท่ีมีความสลบั ซบั ซอ้ นมากท่ีสุด เพราะเป็นเร่ื องของจิตใจของตวั บุคคลน้ันๆ โดยเก่ียวขอ้ งกบั การแปรเปล่ียนขอ้ มูล ประสบการณ์ดา้ นตา่ งๆท่ี ผา่ นเขา้ มาในชีวิตของบุคคลน้ันและอาจสง่ ผลใหบ้ ุคคลนั้นเกิดความผิดปกติ ในการรับรูท้ างเพศ
เป็นปัจจยั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ผูท้ ่ีอยูแ่ วดลอ้ มตวั เด็กขณะท่ียังเล็กอยู่ ไมว่ า่ จะเป็นพอ่ แม่ หรือคนใกลช้ ิด คนเหลา่ น้ีเป็นผูก้ าหนดเด็กแตล่ ะคนท่ีเกิดมาวา่ เป็นเพศชายหรือเพศ หญิง ส่ิงท่ีสาคญั ท่ีทาใหเ้ ด็กเกิดการรบั รูว้ า่ ตนเองเป็นเพศใดน้ันมีพ้ืนฐานมาจากการอบรม เล้ียงดูของพอ่ แมแ่ ละผูอ้ ยูแ่ วดลอ้ มเด็กมากกวา่ ลกั ษณะทางเพศของร่างกายซ่ึง กาหนดโดยโครโมโซมเสียอกี ซ่ึงจดั อยูใ่ นพวกรักเพศเดียวกนั ซ่ึงมีทง้ั ชายและหญิง กรณีเป็นชายก็จะชอบ แตง่ ตวั เป็นหญิง บางครงั้ อาจคิดวา่ ตนเองเป็นผูห้ ญิง กรณีเป็นหญิงก็จะแตง่ กายเป็นชายและคิดวา่ ตนเป็นผูช้ าย
เพศไดม้ ีบทบาทสาคญั มาพรอ้ มๆกบั ประวตั ิการเกิดของมนุษยชาติ ตลอดเวลาท่ีโลก วิวฒั นาการมาตามลาดบั น้ันเป็นท่ียอมรบั กนั วา่ เร่ืองเพศเป็นเร่ื องท่ีสาคญั ย่ิงตอ่ ชีวิต และความเป็นอยูข่ องมนุษย์ Dr. Will Durantซ่ึงเป็นนักเขียนและนกั ปรชั ญาชาวอเมริกนั ไดก้ ลา่ ววา่ “รองจากความหิวเร่ืองเพศเป็นสญั ชาตญาณท่ีรุนแรงท่ีสุดและเป็นปัญหาใหญโ่ ต ท่ีสุดดว้ ย” ซิกมนั ด์ ฟรอยด์ (Sigmund Freud) จิตแพทยช์ าวออสเตรีย ผูใ้ หก้ าเนิด วิชาจิตวิเคราะหศ์ าสตร์ เช่ือวา่ เร่ืองเพศเป็นเร่ืองท่ีสาคญั ท่ีสุดในชีวิตของมนุษย์
จะเห็นไดว้ ่าลักษณะความเป็ นเพศของ มนุษยไ์ ดแ้ ทรกเขา้ มาในบทบาทตา่ งๆอย่าง แนบสนิท ทงั้ ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญา ท่ีทง้ั ชายและหญิงได้ แสดงออก
พฒั นาการทางเพศเมื่อเขา้ ส่วู ยั ร่นุ วยั รุ่นเป็ นวยั ท่ีความเป็ นเด็กกาลงั จะส้ินสุดลง และจะเร่ิ มมีการเปล่ียนแปลง ทางดา้ นร่างกายอยา่ งเห็นไดช้ ดั เป็นวยั ท่ีเตรียมตวั ท่ีจะเป็นผูใ้ หญต่ อ่ ไป
การยา่ งเขา้ สูว่ ยั รุ่นนั้นจะแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะคน บางคนอาจจะชา้ หรือเร็วกวา่ อายุ ท่ีประมาณไวทง้ั น้ีข้ึนอยูก่ บั เช้ือชาติ อาหารการกิน สุขภาพ กรรมพนั ธุ์ ส่ิงแวดลอ้ ม และการอบรมเล้ียงดู เด็กทางแถบยุโรป อเมริกา จะเขา้ สูว่ ยั รุ่นเร็วกวา่ เด็กไทย เด็กท่ีกินอาหารดีทงั้ ดา้ น ปริมาณและคุณคา่ ทางอาหารจะเขา้ สูว่ ยั รุ่นเร็วกวา่ เด็กท่ีอดอยากอาหาร การกินไม่ ดี เด็กท่ีสุขภาพแข็งแรงจะเขา้ สูว่ ยั รุ่นเร็วกวา่ เด็กท่ีมีสุขภาพออ่ นแอ เป็นตน้
ในระยะท่ีเด็กหญิงและเด็กชายยา่ งเขา้ สูว่ ยั รุ่นน้ี จะมีการเปล่ียนแปลงทางดา้ น ร่างกายอยา่ งเห็นไดช้ ดั หลายประการ กลา่ วคือ เด็กหญิง จะเร่ิมมีหนา้ อกโตข้ึน หรือท่ีเรียกวา่ เร่ิมมีหนา้ อก เร่ิมมีประจาเดือนหรือ ระดู อวยั วะเพศจะโตข้ึน เร่ิมมีขนท่ีบริเวณอวยั วะเพศและท่ีรกั แร้ จะมีสิวข้ึนตาม ใบหนา้ ร่างกายเจริญเติบโตข้ึนอยา่ งรวดเร็ว เม่ือหญิงอายุจาก 15 ปีข้ึนไป จนถึง ส้ินสุดระยะวยั รุ่นเม่ืออายุประมาณ 20 ปี
ผูช้ าย อายุจาก 16 ปีข้ึนไป จนถึงส้ินสุดระยะวยั รุ่น เม่ืออายุประมาณ 21 ปี ระยะ ดงั กลา่ วน้ีหนวดเคราจะเร่ิมหยาบและแข็งข้ึนขนรักแร้ เร่ิมมีขนท่ีหนา้ แขง้ รอบๆ หวั นมจะแข็งเป็นไตหรือเป็นกอ้ นเล็กๆ ถา้ ถูกสมั ผสั จะรูส้ ึกเจ็บซ่ึงเรียกวา่ “นมข้ึน พาน” หรือ “นมตง้ั พาน” เสียงจะเปล่ียนคือจะแหบหา้ วข้ึน ซ่ึงเรียกวา่ “เสียง แตกหนุ่ม” จะมีสิวข้ึนตามใบหนา้ ร่างกายเจริญเติบโตอยา่ งรวดเร็ว
สาหรับเด็กชาย จะมีการหลง่ั น้าอสุจิครัง้ แรก อาจจะโดยการฝนั เก่ียวกบั การมีเพศสมั พนั ธแ์ ลว้ มี การหลง่ั น้าอสุจิออกมาในขณะหลบั ซ่ึงเรียกวา่ “การฝนั เปียก” (Wet Dream) หรือ อาจจะโดยการใชม้ ือกระทากบั องคชาตของตนเอง จนมีการหลง่ั น้าอสุจิซ่ึงเรียกวา่ “การชว่ ย ตนเอง” หรือ “การสาเร็จความใคร่ดว้ ยตนเอง”(Masturbation)
เม่ือเขา้ สูว่ ยั รุ่น วยั รุ่นจะมีความรูส้ ึกแปลกๆ อยา่ งท่ีไมเ่ คยเป็นมากอ่ น ทงั้ น้ี เน่ืองจากกาเปล่ียนแปลงเก่ียวกบั ฮอรโ์ มนตา่ งๆ ในร่างกายไปกระตุน้ ทาใหเ้ กิดการ เปล่ียนแปลงทางดา้ นจิตใจและอารมณ์ ในระยะความเป็นวยั รุ่นน้ี เด็กหญิงจะรกั สวยรกั งามมากข้ึน ชอบแตง่ ตวั มากข้ึน ข้ี อาย มีอารมณอ์ อ่ นไหวงา่ ย และประหมา่ เม่ืออยูท่ า่ มกลางเพศตรงขา้ ม สาหรับเด็กชายจะมีความกลา้ หาญ ชอบการตอ่ สู้ ผจญภยั บางคนบา้ บ่ิน มุทะลุ คึกคะนอง ในวยั น้ีเด็กชายจะสนใจเพศตรงขา้ ม มีความตอ้ งการทางเพศ
การเปล่ียนแปลงทางสงั คมบางประการท่ีเห็นไดช้ ดั ในชว่ งวยั รุ่นมีหลาย ประการ ไดแ้ ก่ วฒุ ิภาวะทางเพศ และอิทธิพลของฮอรโ์ มนวุฒิภาวะทางเพศในเพศชาย หมายถึง การมีการหลง่ั น้าอสุจิเป็นครง้ั แรกสว่ นในเพศหญิง หมายถึง การมีประจาเดือนครงั้ แรก ซ่ึงส่ิงเหลา่ น้ีจะเกิดกบั ทุกคนตามธรรมชาติไมใ่ ชส่ ่ิงแปลกประหลาดหรือ ส่ิงท่ีน่าอบั อาย
เซลลส์ ืบพนั ธุเ์ พศชายหรือตวั อสุจิ (Sperm) จะถูกสรา้ งข้ึนในทอ่ ผลิตอสุจิ (Seminiferous Tubules) ของลูกอณั ฑะ รู ปร่างลักษณะคลา้ ยๆ ลูกกบแรกเกิด หรื อ ลูกออ๊ ด ประกอบดว้ ยสว่ นหวั ท่ีมีขนาดโต แลว้ เล็ก ลงมาเป็นสว่ นหางท่ียาวเรียว และสว่ นหางน้ีจะใช้ ในการแหวกวา่ ยไปมา มีขนาดลาตวั ยาวประมาณ 0.05
เม่ือเพศหญิงยา่ งเขา้ สูว่ ยั รุ่น ไมเ่ พียงแตว่ า่ จะมีลกั ษณะของความเป็นหญิงดว้ ยการ มีเตา้ นมเจริญเติบโต และมีลกั ษณะเปล่ียนแปลงอ่ืนๆ เกิดข้ึนเทา่ น้ัน แตย่ งั จะตอ้ ง มีประจาเดือนหรือระดูเป็นครัง้ คราว ซ่ึงเป็นธรรมชาติของหญิงทุกคน ในคนปกติจะ เกิดข้ึนทุกๆ 28 วนั ตอ่ หน่ึงครง้ั ของรอบเดือนเป็นประจา
ระยะทาลาย (Destructive Phase) เป็นระยะท่ีมีเลือดออกมาก และเลือด ท่ ีออกมาก็เน่ ื องจากมีการทาลายของเย่ ือบุภายในผนังมดลูกจานวนเลือดระดูท่ ีไหลออกมา มีจานวนไมแ่ น่นอน ระยะทาลายน้ีเร่ิมแรกมกั จะมีอาการทง้ั ร่างกายและจิตใจ เชน่ ถา่ ย ปัสสาวะบอ่ ย มีสิวข้ึนบนใบหนา้ เตา้ นมโตและแข็ง มีอาการปวดศีรษะ เพลีย หงุดหงิด เป็นตน้ ซ่ึงเน่ืองจากการเปล่ียนแปลงของฮอรโ์ มนในร่างกายน่ันเอง ระยะฟอลลิคลู า (Follicular Phase) จะเป็นระยะท่ีทาใหไ้ ขส่ ุก เน่ื องจาก ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหนา้ หลง่ั ฮอร์โมนชนิดหน่ึงออกมาแลว้ ผา่ นสูก่ ระแสเลือด แลว้ นาไปยงั รังไข่ จะทาใหไ้ ขซ่ ่ึงอยูภ่ ายในรงั ไขเ่ จริญเติบโตและสุก ระยะน้ีจะใชเ้ วลาประมาณ 9 วนั และเม่ือรวมกบั ระยะท่ีมีเลือดระดูไหลออกมาในระยะทาลายก็จะกินเวลาประมาณ 12-16 วนั ระยะลเู ทียล (Luteal Phase) เป็นระยะท่ีไขส่ ุกเต็มท่ีและจะหลุดออกจากรงั ไข่ ซ่ึงรังไขจ่ ะสรา้ งฮอร์โมนชนิดหน่ึงท่ีกระตุน้ ใหผ้ นังมดลูกหนาและมีเลือดมาเล้ียงมาก ข้ึน เพ่ือรอรับไขท่ ่ีจะถูกผสมพนั ธุ์ แตถ่ า้ ไขไ่ มไ่ ดร้ บั การผสมพนั ธุ์ ฮอรโ์ มนน้ีจะลดลงทนั ที ซ่ึงเป็นการเร่ิมตน้ “ระยะทาลาย” และมีเลือดระดูไหลออกมาใหมอ่ กี ครัง้
การเจริญเติบโตและพฒั นาการทางเพศ จาเป็นท่ีจะตอ้ งอาศยั ฮอรโ์ มนตา่ งๆ ในร่างกาย ชว่ ยกระตุน้ และควบคุมการเจริญเติบโต และพฒั นาการทางเพศใหเ้ ป็นไปไดอ้ ยา่ งปกติ ฮอร์โมนตา่ งๆ เหลา่ น้ี จะผา่ นเขา้ สูก่ ระแสเลือดโดยตรงเลยทีเดียว ซ่ึงจะตา่ งจากตอ่ มมีทอ่ เชน่ ตอ่ มเหง่ือ ตอ่ มน้าลายตอ่ มน้าตา ท่ีมีทอ่ นาสารท่ีสรา้ งข้ึนไป ตามทอ่ ของมนั เอง ตอ่ มไรท้ อ่ ท่ีทาหนา้ ท่ีสาคญั ในการควบคุมการ เจริญเติบโตและพฒั นาการทางเพศมีดงั น้ี
ตอ่ มใตส้ มอง (Pituitary Gland) เป็นตอ่ มไรท้ อ่ ท่ีสาคญั กวา่ ตอ่ มไรท้ อ่ อ่ืนๆ เพราะฮอรโ์ มนท่ีสรา้ งข้ึนจากตอ่ มน้ีจะทาหนา้ ท่ี ควบคุมการสรา้ งฮอรโ์ มนของตอ่ มไรท้ อ่ อ่ืนๆ Gต่อlaมnใตdส้ )มอจงะสผ่วลนิตหฮนอรา้ โ์ ม(AนอnอกtมeาrหiลoายrตวัPดiว้ tยกuนั itแaตฮ่rอyรโ์ มนท่ี เก่ียวขอ้ งกบั การเจริญเติบโตและพฒั นาการทางเพศ Growth Hormone เป็นฮอรโ์ มนท่ีชว่ ยควบคุมการ เจริญเติบโตของร่างกาย ถา้ ขาดฮอรโ์ มนน้ีจะทาใหแ้ คระแกร็นไมโ่ ต ตามวยั Follicle Stimulation Hormone เป็น ฮอรโ์ มนเพศสาหรบั ผูห้ ญิง จะชว่ ยกระตุน้ รงั ไขเ่ พ่ือเร่งใหไ้ ขส่ ุก แต่ สาหรบั ผูช้ ายจะชว่ ยกระตุน้ หลอดเล็กๆ ในลูกอณั ฑะใหผ้ ลิตตวั อสุจิ Luteinizing Hormone เป็นฮอรโ์ มนเพศสาหรับ ผูห้ ญิง จะทาหนา้ ท่ีควบคุมรงั ไขใ่ นการผลิตและการปลอ่ ยฮอรโ์ มน เพศของผูห้ ญิง แตส่ าหรบั ผูช้ ายจะทาหนา้ ท่ีควบคุมลูกอณั ฑะ ใน การผลิตและการปลอ่ ยฮอรโ์ มนเพศชาย Prolactin เป็นฮอรโ์ มนเพศท่ีทาหนา้ ท่ีรักษาระดบั การขบั ETestsrtoogsteenroแลnะePrขoองgลeูกอsณัteฑะroนอnกeจาขกอน้งียรงัังคไวขบ่ กคบุมั การ เจริญเติบโตของตอ่ มน้านมในเพศหญิงอีกดว้ ย
ตอ่ มใตส้ มองสว่ นหลงั (Posterior Pituitary Gland) จะผลิตฮอรโ์ มนท่ีสาคญั 2 ตวั คือ Oxytocin จะทาหนา้ ท่ีกระตุน้ มดลูกใหบ้ ีบตวั ขณะ คลอดบุตร Vasopressin จะทาหนา้ ท่ีควบคุมการใชน้ ้าในร่างกาย และการขบั ปัสสาวะ ตอ่ มเพศ (Gonad) และตอ่ มเพศในผูห้ ญิงคือรงั ไข่ ตอ่ ม เพศในผูช้ ายคือลูกอณั ฑะ ซ่ึงจะผลิตฮอรโ์ มนดงั น้ี รงั ไข่ (Ovary) จะผลิตฮอรโ์ มน Estrogen ฮอรโ์ มนน้ีจะทาหนา้ ท่ีกระตุน้ และควบคุมลกั ษณะตา่ งๆ อนั เป็นลกั ษณะเฉพาะของความเป็นหญิง หนา้ อกและเตา้ นม ขยาย ใบหนา้ และแกม้ เปลง่ ปลง่ั สะโพกใหญข่ ้ึน มีรูปร่าง ทรวดทรงเป็นหญิง มีการตกไข่ และมีประจาเดือน ตลอดจนมี การพฒั นาการดา้ นจิตใจท่ีเป็นหญิง เม่ือไขห่ ลุดออกจากรงั ไข่ แลว้ รังไขก่ ็จะผลิตฮอรโ์ มนออกมาอีกชนิดหน่ึง คือ Progesterone ซ่ึงทาหนา้ ท่ีกระตุน้ ผนงั มดลูกให้ เตรียมรอรับไข่ ซ่ึงถา้ ไขผ่ สมกบั ตวั อสุจิแลว้ จะมาฝงั ตวั ท่ีผนัง มดลูกเพ่ือการเจริญเติบโตตอ่ ไป
ลูกอณั ฑะ (Testis) จะผลิตฮอรโ์ มน Testosterone ฮอร์โมนน้ีจะทา หนา้ ท่ีกระตุน้ และควบคุมลกั ษณะตา่ งๆ อนั เป็นลกั ษณะเฉพาะของความเป็นชาย ไดแ้ ก่ มีหนวด เครา ขนข้ึนท่ีหนา้ อก รักแร้ หนา้ แขง้ เสียงจะเปล่ียนไป ระยะแรกๆ จะแหบ หรือเสียงแตก แตต่ อ่ มาเสียงจะหา้ วข้ึน ไหลก่ วา้ ง สะโพกแคบ มีกรามใหญ่ กลา้ มเน้ือแข็งแรง อวยั วะเพศขยายขนาด และมีขนข้ึน มีรูปร่างทรวดทรงเป็นชาย มี การหลง่ั น้าอสุจิ ตลอดจนการพฒั นาจิตใจ ท่ีเป็นชาย และความตอ้ งการทางเพศ
ตอ่ มหมวกไต (Adrenal Gland) เป็นตอ่ มท่ี มีลกั ษณะคลา้ ยหมวกครอบอยูบ่ นปลายทางสว่ นบน ของไตทง้ั 2 ขา้ ง มีหนา้ ท่ีสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญิงและ ชาย แตม่ ีจานวนไมม่ ากนกั จะเด่นในฮอรโ์ มนเพศ ชายมากกว่า ซ่ึงชว่ ยควบคุมความรูส้ ึกทางเพศของเพศ ชาย ถา้ ต่อมน้ีมีความผิดปกติ จะทาใหเ้ ด็กชายมี การพฒั นาการทางเพศเร็วข้ึน และเด็กหญิงจะมี ลกั ษณะพฒั นาการทางเพศ ค่อนขา้ งไปทางเพศ ชาย ตอ่ มไทรอยด์ (Thyroid Gland) มีอยู่ 2 กลีบ ขา้ งๆ สว่ นบนของหลอดลมตรงลาคอท่ีบริเวณ ลูกกระเดือก สาหรับเพศหญิงในระยะเร่ิมเขา้ สูว่ ยั สาว ระหวา่ งท่ีมีประจาเดือน และระยะตง้ั ครรภ์ ตอ่ มน้ีจะ ขยายตวั เล็กนอ้ ย ซ่ึงไมถ่ ือวา่ เป็นการผิดปกติ แตถ่ า้ ตอ่ มน้ีทางานผิดปกติ คือ ผลิตฮอรโ์ มนไดน้ อ้ ยกว่า ที่ร่างกายตอ้ งการเพราะขาดธาตไุ อโอดีน ตอ่ มน้ีก็ จะขยายใหญข่ ้ึน กลายเป็นโรคคอหอยพอก ตอ่ มน้ีจะ สรา้ งฮอร์โมน Thyroxin ซ่ึงทาหนา้ ท่ีควบคุมการ ใชพ้ ลงั งานและการเผาผลาญอาหาร ถา้ ตอ่ มน้ีทางาน ผิดปกติ จะทาใหร้ ่างกายแคระแกร็น สติปัญญาตา่
อวยั วะสืบพนั ธุข์ องเพศหญิงจะมีลกั ษณะและสว่ นประกอบท่ีสลบั ซบั ซอ้ นมากกวา่ อวยั วะสืบพนั ธุข์ องเพศชาย มีความเก่ียวขอ้ งกบั ระบบการขบั ถา่ ยปัสสาวะนอ้ ยมาก แตจ่ ะมีความเก่ียวขอ้ งกบั การสืบพนั ธุม์ ากอวยั วะสืบพนั ธุข์ องเพศหญิงจะประกอบดว้ ย 2 สว่ นใหญๆ่ ดว้ ยกนั คือ อวยั วะสืบพนั ธุภ์ ายในและอวยั วะสืบพนั ธุภ์ ายนอก ซ่ึงจะไดก้ ลา่ วตอ่ ไป
1. รงั ไข่ (Ovary)รงั ไขจ่ ะมี 2 ดา้ น อยูป่ ลายสุดของปีกมดลูก ลกั ษณะเป็นรูปไขแ่ บนๆสีขาวคลา้ ยเมล็ดมะมว่ งหิมพานต์ จะสรา้ งฮอรโ์ มนเพศหญิงและผลิตไข่ (Ovum) ในหญิงตงั้ แตว่ ยั เด็ก แตเ่ ป็นไขท่ ่ีไมเ่ จริญเติบโต ซ่ึงอาจมีจานวนเป็นพนั ๆ ใบ แตเ่ ม่ือเขา้ สู่วยั รุ่นเป็นสาวแลว้ ไขจ่ ะเจริญเติบโตเต็มท่ีพรอ้ มท่ีจะมีบุตรไดแ้ ลว้ ไขจ่ ะออกมาตามทอ่ รังไขเ่ พียงเดือนละ 1 ใบเทา่ นั้น 2. ทอ่ รังไขห่ รื อปีกมดลูก (Fallopian Tube or Uterine Tube)ทอ่ รงั ไขห่ รือปีกมดลูก เป็นทอ่ เล็กๆ ท่ีตอ่ จากมดลูกเช่ือมกบั รังไข่ มีความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร จะมีอยู่ 2 ดา้ น คือ ดา้ นซา้ ยและดา้ นขวา 3. ชอ่ งคลอด (Vagina)ชอ่ งคลอดอยูร่ ะหวา่ งทอ่ ปัสสาวะกบั ทวารหนัก เป็นสว่ นท่ีตอ่ มาจากปากมดลูกมาเปิดออกภายนอก ชอ่ งคลอดลึกประมาณ 7-10 เซนติเมตร ประกอบดว้ ยกลา้ มเน้ือเรียบ สว่ นในสุดเป็นสว่ นท่ีหุม้ อยูร่ อบปากมดลูก ภายในบุดว้ ยเย่ือบางๆลกั ษณะเป็นรอยยน่ สามารถหดและขยายตวั ไดม้ ากเวลาคลอด 4. มดลูก (Uterus)มดลูกรูปร่างคลา้ ยผลชมพู่ ตง้ั อยูใ่ นอุง้ เชิงกราน ระหวา่ งกระเพาะปัสสาวะกบัทวารหนักผนังมดลูกประกอบดว้ ยกลา้ มเน้ือท่ีหนาและแข็งแรงมาก ภายในเป็นโพรงแคบๆ ผนงั มดลูกจะมี 3 ชน้ั คือชนั้ นอกจะเป็นเย่ือบางๆ คลุมมดลูกอยู่ ชนั้กลางประกอบดว้ ยกลา้ มเน้ือเรียบเรียงกนั อยา่ งสลบั ซบั ซอ้ นเพ่ือเป็นประโยชน์ในการบีบตวั ของมดลูก และชนั้ ในสุดจะเป็นเย่ือบุภายในมดลูก
หวั หน่าว (Mons Pubis) เป็นเนินอยูต่ อนบน ประกอบดว้ ยกลา้ มเน้ือ ประสานกนั หลวมๆ กบั ไขมนั และพงั ผืด เม่ือเขา้ สูว่ ยั รุ่นจะมีขนข้ึนปกคลุม แคมใหญ่ (Labia Majora) เป็นแผน่ กลา้ มเน้ือมีลกั ษณะเป็นกลีบขา้ งละกลีบ สว่ นบนติดกบั หวั หน่าว และแยกออกจากกนั ไปทางดา้ นลา่ งบรรจบกนั ท่ีฝีเย็บ ซ่ึงอยู่ เหนื อทวารหนัก แคมเล็ก (Labia Minora) เป็นกลีบเน้ือเล็กๆ ขา้ งละกลีบ ปลายบนบรรจบกนั ท่ีคลิตอริส อยูถ่ ดั แคมใหญเ่ ขา้ ไป มีลกั ษณะออ่ นนุ่ม ตอนบนมีสีแดงเร่ือๆ ทาหนา้ ท่ี ปกป้องคลิตอริส ปากชอ่ งปัสสาวะ และปากชอ่ งคลอด ไมใ่ หม้ ีการติดเช้ือจากภายนอก เขา้ สูภ่ ายในชอ่ งคลอด คลิตอริส (Clitoris) เป็นปุ่มหรือกอ้ นเน้ือเล็กๆ อยูส่ ว่ นบนของแคมเล็ก ประกอบดว้ ยเสน้ เลือดฝอยและปลายประสาท มีความไวมากตอ่ การสมั ผสั และจะทาให้ เกิดความรูส้ ึกทางเพศไดง้ า่ ย เชน่ เดียวกบั สว่ นปลายของตวั ลึงคใ์ นเพศชาย ปากชอ่ งปัสสาวะ (Urithra Opening) เป็นชอ่ งทางเปิดของทางออกของ ปัสสาวะ อยูร่ ะหวา่ งคลิตอริสกบั ปากชอ่ งคลอด ปากชอ่ งคลอด (Vulva) เป็นทางเปิดของชอ่ งคลอด เป็นอวยั วะท่ีสาคญั ในการมี เพศสมั พนั ธ์ และเป็นทางคลอดของทารก อยูใ่ ตป้ ากชอ่ งปัสสาวะ เย่ือพรหมจารี (Hymen) เป็นเย่ือบางๆ อยูร่ อบปากชอ่ งคลอด ตรงกลางมีชอ่ ง เล็กๆ ใหเ้ ลือดประจาเดือนไหลออกมาได้ เย่ือน้ีจะฉีกขาดเม่ือไดร้ ับการกระทบกระเทือน เชน่ ข่ีจกั รยาน เลน่ กีฬา การมีเพศสมั พนั ธค์ ร้ังแรก เป็นตน้ ตอ่ มบารโ์ ทลิน (Bartholin Gland) เป็นตอ่ มเล็กๆ อยูร่ ะหวา่ งแคมเล็กและ แคมใหญ่ ขา้ งละตอ่ ม ทาหนา้ ท่ีขบั เมือกออกสูช่ อ่ งคลอด ทาใหช้ อ่ งคลอดมีน้าหลอ่ ล่ืน
ประกอบดว้ ยอวยั วะทงั้ ภายนอกและภายในร่างกาย ระบบอวยั วะสืบพนั ธุข์ องเพศ ชาย มีความเก่ียวขอ้ งกบั ระบบการขบั ถา่ ยปัสสาวะและการขบั ถา่ ยน้าอสุจิ เพราะ การขบั น้าอสุจิก็ออกมาทางทอ่ ปัสสาวะเชน่ เดียวกบั ปัสสาวะ อวยั วะสืบพนั ธุข์ อง เพศชายประกอบดว้ ยลึงคห์ รือองคชาต ลูกอณั ฑะ ซ่ึงจะอยูภ่ ายนอกร่างกาย แตท่ อ่ นาตวั อสุจิ ถุงน้าอสุจิ ตอ่ มลูกหมาก และทอ่ ปัสสาวะจะอยูภ่ ายในร่างกาย
ลึงคห์ รือองคชาต (Penis)ลึงคห์ รือองคชาตเป็นอวยั วะสาคญั อยา่ งหน่ึงท่ีแสดงความเป็นเพศชายอยา่ งชดั เจน ตวั ลึงคจ์ ะหอ้ ยลงมาอยูข่ า้ งหนา้ ลูกอณั ฑะ ประกอบดว้ ยเน้ือเย่ือ มีลกั ษณะคลา้ ยฟองน้า สามารถยืดหดได้ เม่ือเกิดความรูส้ ึกทางเพศตวั ลึงคจ์ ะแข็งตวั และขยายขนาดข้ึน เม่ือความรูส้ ึกทางเพศหมดไป ก็จะออ่ นตวั สูส่ ภาพปกติลูกอณั ฑะ (Testis) เป็นตอ่ มเพศของชาย มีรูปร่างคลา้ ยไขไ่ กฟ่ องเล็กๆ จะถูกหุม้ ดว้ ยถุงอณั ฑะ (Scrotum) ซ่ึงจะมีลกั ษณะเป็นหนงั ยน่ ๆ ชว่ ยป้องกนั อนั ตรายแกล่ ูกอณั ฑะและจะมี กลา้ มเน้ือบางๆ แบง่ ถุงอณั ฑะออกเป็น 2 หอ้ ง กน้ั ลูกอณั ฑะทงั้ 2 ลูกไว้ ถุงอณั ฑะจะหอ้ ยติดอยูก่ บั กลา้ มเน้ือชนิดหน่ึง จะหดตวั เม่ืออากาศหนาว และจะหยอ่ นตวั สูส่ ภาพปกติเม่ ื อหายหนาว
ทอ่ นาตวั อสุจิ (Vas Deferens)เป็นหลอดเล็กๆ 2 หลอด ตอ่ จากลูกอณั ฑะ จะเป็นทางผา่ นของตวั อสุจิ หลอดน้ีจะผา่ นเขา้ สูช่ อ่ งทอ้ งแลว้ ผา่ นเขา้ ถุงน้าอสุจิ ผา่ นตอ่ มลูกหมากออกไปตอ่ กบั ทอ่ ปัสสาวะ ถุงน้าอสุจิ (Seminal Vesicles)เป็นถุง 2 ถุง อยูร่ ะหวา่ งกระเพาะปสั สาวะกบั ลาไสใ้ หญ่ ทาหนา้ ท่ีสรา้ งน้าอสุจิหรือน้ากาม (Semen) สาหรบั เป็นอาหารใหแ้ กต่ วั อสุจิท่ีจะผา่ นเขา้ มาในถุงน้าอสุจิ น้าอสุจิจะมีลกั ษณะเป็นเมือกสีขาวขุน่ ขน้ ประกอบดว้ ยน้าตาลและโปรตีนเป็นสว่ นใหญ่ ตอ่ มลูกหมาก (Prostate Gland)เป็นตอ่ มท่ีอยูร่ อบๆ หลอดฉีดน้าอสุจิและทอ่ ปัสสาวะสว่ นตน้อยูด่ า้ นลา่ งของกระเพาะปสั สาวะ ขนาดของตอ่ มน้ีโตเทา่ลูกหมากเล็กๆ จึงเรียกวา่ ตอ่ มลูกหมาก ทอ่ ปสั สาวะ (Urethra)เป็นทอ่ ตอ่ มาจากกระเพาะปสั สาวะ ผา่ นตอ่ มลูกหมากรวมกบัหลอดนาตวั อสุจิท่ีตอ่ มลูกหมาก แลว้ จะผา่ นมาในตวั ลึงคจ์ นถึงสว่ นปลายสุดของลึงค์ ทอ่ ปสั สาวะจะเป็นทางผา่ นของน้าปัสสาวะ และตวั อสุจิท่ีมากบั น้าอสุจิ
สุขอนามยั ของอวยั วะสืบพนั ธุ์ เพศชายและหญิง 1. อาบน้าอยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2 ครงั้ ในการอาบน้าควรใชส้ บูฟ่ อกอวยั วะเพศใหส้ ะอาด 2. หลงั จากอาบน้าชาระลา้ งร่างกายเสร็จแลว้ ควรเช็ดอวยั วะเพศใหแ้ หง้ 3. สวมกางเกงชน้ั ใน เส้ือยกทรงท่ีสะอาด อยา่ ใหเ้ ปียกช้ืน และไมค่ วรสวมกางเกงชนั้ ในและเส้ือยกทรงท่ีคบั หรือ รดั จนเกินไป 4. ระวงั อยา่ ใหอ้ วยั วะเพศถูกกระทบกระแทกแรงๆ เพราะจะทาใหช้ า้ และอกั เสบได้ 5. ไมค่ ลุกคลีหรือใชเ้ ส้ือผา้ ผา้ เช็ดตวั ร่วมกบั ผูท้ ่ีเป็นกามโรค หรือสงสยั วา่ จะเป็นกามโรคเพราะอาจทาใหต้ ิดโรค ได ้ 6. ใชส้ ว้ ม หอ้ งน้าท่ีถูกสุขลกั ษณะ และเม่ือถา่ ยปัสสาวะหรืออุจจาระเสร็จแลว้ ควรทาความสะอาดอวยั วะเพศ และทวารหนัก โดยใชน้ ้าหรือกระดาษชาระท่ีสะอาด 7. ไมส่ าสอ่ นทางเพศ เพราะนอกจากจะผิดขนบธรรมเนียมประเพณีอนั ดีงามแลว้ ยงั อาจติดเช้ือกามโรคและโรค เอดสไ์ ด้ 8. หากสงสยั วา่ เป็นกามโรคหรือมีความผิดปกติเกิดข้ึนกบั อวยั วะเพศ ควรรีบปรึกษาแพทย์ ไมค่ วรไปซ้ือยามา รักษาเอง 9. ไมค่ วรเช่ือคาชกั ชวนเก่ียวกบั การใชย้ า หรือใชว้ ตั ถุอ่ืนใดเพ่ือหวงั ผลกระตุน้ ทางเพศ เพ่ือบารุงอวยั วะใหเ้ ปลง่ ปลง่ั หรือเพ่ือความสมบูรณท์ างเพศ เพราะอาจไดร้ ับอนั ตรายได้
อารมณท์ างเพศ เป็นความรูส้ ึกอยา่ งหน่ึงเก่ียวกบั เร่ืองเพศอนั เน่ื องมาจากการเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกาย และจิตใจของ วยั รุ่นอนั จะนาไปสูค่ วามตอ้ งการทางเพศของบุคคลได้ เร่ืองน้ี เป็ นเร่ื องธรรมชาติของมนุษย์ แตม่ นุษยเ์ ป็นสตั วป์ ระเสริฐมี สมองมากกวา่ สัตวอ์ ่ืน จึงสมควรท่ีจะรูจ้ กั ยบั ยง้ั ช่งั ใจ เม่ือมี ความตอ้ งการทางเพศ หรือปฏิบตั ิอยา่ งเหมาะสมกบั สถานภาพ ของตนเอง
เม่ืออยูใ่ นชว่ งวยั เด็กอายุ 6-8 ปี เด็กชายและเด็กหญิงมกั ชอบเลน่ ดว้ ยกนั อยา่ ง สนุกสนานโดยไมค่ านึงถึงเพศของตนเอง อายุ 9-10 ปี เด็กชายและเด็กหญิงมกั ชอบเลน่ กบั เพ่ือนๆ เพศเดียวกนั มากกวา่ เลน่ กบั เพ่ือนๆ เพศตรงขา้ ม อายุ 11-12 ปี เด็กชายและเด็กหญิงก็เร่ิมมาเลน่ ดว้ ยกนั อกี บางคนอาจเร่ิมสนใจเพศ ตรงขา้ มแลว้ และจะสง่ ผลใหม้ ีความรูส้ ึกทางเพศหรืออารมณท์ างเพศบา้ ง วยั รุ่นความรูส้ ึกทางเพศหรืออารมณท์ างเพศจะมีมากข้ึน จึงมีความตอ้ งการทางเพศมาก ข้ึน และจะบอ่ ยครง้ั ข้ึน บางคนอาจคบกบั เพศตรงขา้ มแบบคูร่ กั บางคนอาจมี ความสมั พนั ธเ์ กินเลยจนถึงขนั้ มีเพศสมั พนั ธก์ นั
มนุษยม์ กั เห็นวา่ เร่ื องเพศเป็นธรรมชาติท่ีสวยงาม หวามหอม สดใส น่าช่ื นชมและน่า ล้ิมลอง นับวา่ เป็นความชาญฉลาดของธรรมชาติท่ีจะทาใหม้ นุษยด์ ารงเผ่าพนั ธุอ์ ยูไ่ ด้ โดยไมส่ ูญหายหรือสูญพนั ธุไ์ ปจากโลกน้ี สาหรับวยั รุ่นน้ันอารมณ์ทางเพศหรื อความรู้สึกทางเพศน้ีจะเป็ นส่ิ งแปลกใหมแ่ ละ น่าสนใจ จึงเป็นเคร่ืองเรา้ ท่ีทรงพลงั ท่ีทาใหว้ ยั รุ่นบางคนแสดงความสนใจและความพึง พอใจกบั เพศตรงขา้ มดว้ ยคาพูด กิริยาทา่ ทางและถา้ ทงั้ สองคนมีความสนใจตรงกนั ก็จะ คบหากนั เป็นคูร่ กั กนั ตอ่ ไป
1. เกิดจากระดบั ของฮอร์โมนในร่างกายเม่ือเขา้ สูว่ ยั รุ่นจะเกิดการเปล่ียนแปลงทางร่างกายหลายอยา่ ง การเปล่ียนแปลงอยา่ งหน่ึงท่ีสาคญั เก่ียวกบั เร่ืองการเกิดอารมณท์ างเพศก็คือ จะมีการสร้างและหลง่ั ฮอรโ์ มนเพศออกมามากข้ึ น ในเพศชายจะมี การหล่ังฮอร์โมน เทสโทสเตอโรน(Testosterone) สว่ นในเพศหญิงจะมีการหล่งั ฮอร์โมนเอสโทรเจน(Estrogen) กบั โปรเจสเตอโรน (Progesterone) ซ่ึงฮอร์โมนเพศน้ีจะทาใหเ้ กิดลกั ษณะตา่ งๆ ท่ีแสดงถึงความเป็ นชายและความเป็ นหญิงออกมาอยา่ งชดั เจน
1. การเห็นภาพ 2. การไดก้ ล่ินกล่ินหอมบางชนิดสามารถกระตุน้ ใหเ้ กิดอารมณท์ างเพศ 3. การอา่ นหรือฟงั การไดอ้ า่ นหรือฟงั เร่ืองท่ียว่ั ยุอารมณท์ างเพศอาจทาใหเ้ กิดจินตนาการ 4. การสมั ผสั เพศตรงขา้ ม การไดถ้ ูกเน้ือตอ้ งตวั เพศตรงขา้ มโดยเฉพาะคนท่ีเรารัก 5. การคิดและจินตนาการเม่ือสมองวา่ งอาจคิดและจินตนาการในเร่ืองท่ียว่ั ยุอารมณ์ 6. ฝนั เปียกในขณะนอนหลบั ถา้ ฝนั เก่ียวกบั เร่ืองท่ียว่ั ยุอารมณท์ างเพศ 7. การสมั ผสั ตนเองถา้ ไดม้ ีการสมั ผสั จุดท่ีไวตอ่ ความรูส้ ึกทางเพศ 8. การเห็นสดั สว่ นร่างกายของเพศตรงขา้ ม การแตง่ กายท่ีไมร่ ัดกุมเปิดบางสว่ นใหเ้ น้ือหนงั รดั รูป จนเห็นสดั สว่ นชดั เจน
ถึงแมว้ า่ อารมณ์ทางเพศเป็ นเพียงอารมณ์ชนิดหน่ึง ซ่ึงเม่ือเกิดข้ึนแลว้ ก็หายไปได้ แตถ่ า้ หากไมร่ ูจ้ กั จดั การกบั อารมณ์ทางเพศแลว้ ก็อาจทาใหเ้ กิดการกระทาท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง อาจกอ่ ใหเ้ กดความ เสียหาย เดือดรอ้ นแกต่ นเองและผูอ้ ่ืนซ่ึงการจดั การกบั อารมณ์ทางเพศอาจแบง่ ตามความรุนแรไดเ้ ป็น 3 ระดบั ดงั น้ี 1. อาจทาได้ 2 วิธี คือ- การควบคุมจิตใจตนเอง พยายามขม่ ใจตนเอง มิใหเ้ กิดอารมณท์ างเพศได้ .หรือถา้ เกิดอารมณท์ างเพศก็ให้พยายามขม่ ใจไวไ้ มใ่ หเ้ กิดอารมณท์ างเพศ .เพ่ือใหอ้ ารมณท์ างเพศคอ่ ยๆ ลดลงจนสูส่ ภาพอารมณท์ ่ีปกติ- การหลีกเล่ียงจากส่ิงเรา้ ดงั ท่ีไดท้ ราบมาแลว้ วา่ ส่ิงเรา้ ภายนอกท่ียว่ั ยุอารมณ์ทางเพศ หรือยว่ั กิเลสยอ่ มทาใหเ้ กิดอารมณท์ างเพศได้ ดงั น้ันการตดั ไฟเสียแตต่ น้ ลม คือ หลีกเล่ียงจากส่ิงเรา้ เหลา่ นั้นเสียก็จะชว่ ยใหไ้ ม่เกิดอารมณท์ างเพศได้ เชน่ ไมด่ ูส่ือลามกตา่ งๆไมเ่ ท่ียวกลางคืน 2. ถา้ เกิดอารมณ์ทางเพศจนไมอ่ าจควบคุมไดค้ วรใชว้ ิธีการเบ่ียงเบน เปล่ียนใหไ้ ปสนใจในส่ิ งอ่ืนแทนท่ี จะหมกมุ่นอยูก่ บั อารมณ์ทางเพศ เชน่ ไปออกกาลงั กาย ประกอบกิจกรรมนันทนาการต่างๆ ให้ สนุกสนาน เพลิดเพลิน ไปทางานตา่ งๆ เพ่ือใหจ้ ิตใจมุง่ ท่ีงานไปพูดคุยสนทนากบั คนอ่ืน 3. ถา้ เกิดอารมณท์ างเพศระดบั มากจนเบ่ียงเบนอารมณไ์ มไ่ ด้ หรือสถานการณน์ ้ันอาจทาใหไ้ มม่ ีโอกาส เบ่ียงเบนอารมณ์ทางเพศก็อาจปลดปล่อย หรื อระบายอารมณ์ทางเพศดว้ ยวิธีการท่ีเหมาะสมกับ สถานภาพของวยั รุ่น
1. ตง้ั จุดมุง่ หมายในชีวิตและพยายามทาใหไ้ ด้ 2. ตอ้ งทาหนา้ ท่ีของตนเองใหส้ มบูรณ์ 3. ตอ้ งทาความเขา้ ใจถึงการเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกายและจิตใจของวยั รุ่น 4. อยา่ กงั วลใจกบั เร่ืองการเปล่ียนแปลงของตนเอง 5. ควรมีสุขปฏิบตั ิท่ีดีเก่ียวกบั อวยั วะเพศ 6. การคบเพ่ือนตา่ งเพศตอ้ งอยูภ่ ายในขอบเขตท่ีเหมาะสม 7. ควรเขา้ ร่วมกิจกรรมนันทนาการ 8. รักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตใหส้ มบูรณอ์ ยูเ่ สมอ 9. ควรหางานอดิเรกทาบา้ ง 10. เม่ือมีปญั หาเก่ียวกบั เร่ืองเพศควรปรึกษาหารือผูใ้ หญ่ 11. ไมห่ มกมุน่ กบั เร่ืองเพศจนเกินไป 12. ตอ้ งรูจ้ กั ยบั ยง้ั ชง่ั ใจในเร่ืองเพศ 13. ผูห้ ญิงควรแตง่ กายท่ีรัดกุม 14. หลีกเล่ียงสถานการณท์ ่ีเส่ียงตอ่ การมีเพศสมั พนั ธ์
การท่ีชายหญิงมีปฏิกิริยาตอ่ กนั หรื อมาร่วมกนั ทากิจกรรมใดๆ ก็ตาม ซ่ึง ความสมั พนั ธน์ ้ีอาจเร่ิมตน้ จากการพบปะ ติดตอ่ พูดคุยกนั อย่างธรรมดาจน กระทงั้ มีความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งลึกซ้ึงถึงขน้ั มีเพศสมั พนั ธก์ ็ได้ ความสมั พนั ธ์ ทางเพศของวยั รุ่นโดยทว่ั ไปจะเร่ิมจากความพึงพอใจกนั ระหวา่ งเพศตรงขา้ ม
1. เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการทางดา้ นจิตวิทยา กลา่ วคือ การมีความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง เพศจะชว่ ยใหบ้ งั เกิดความพึงพอใจเพราะชดเชยในส่ิงท่ีตนขาด 2. เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการทางดา้ นชีวภาพ กลา่ วคือความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเพศจะ เป็นจุดเร่ิมตน้ ของการนาไปสูก่ ารขยายพนั ธุเ์ พ่ือรักษาเผา่ พนั ธุข์ องตนไว้ 3. เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการทางดา้ นสงั คม กลา่ วคือ มนุษยเ์ ป็นสตั วส์ งั คมดงั นั้น มนุษยจ์ ึงตอ้ งปฏิบตั ิตามบรรทดั ฐานท่ีสงั คมกาหนดไวจ้ ึงจะสามารถดาเนินชีวิตอยูใ่ น สงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุขความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเพศเป็นเง่ือนไขอยา่ งหน่ึงท่ีถูกาหนดโดย สงั คม
การแสดงความรักของวยั รุ่น มีอยูห่ ลายลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปตามบุคคลและสงั คม บางครั้งพฤติกรรมท่ีปรากฏก็ออกนอกขอบเขตท่ีกาหนดไว้ และกอ่ ใหเ้ กิดปัญหา ตอ่ เน่ืองตามมา พฤติกรรมโดยทว่ั ๆไป การใหข้ องขวญั หรือของท่ีระลึก แสดงความผูกพนั ทางใจ การแสดงออกในเชิงสรา้ งสรรค์ การแสดงความสนิทสนม ความอิจฉาริษยา เม่ือเห็นคนท่ีมีความสามารถเหนือกวา่ หรือมีส่ิงของตา่ งๆ มากกวา่ ซ่ึงเป็นท่ีสนใจของคนท่ีเขารกั มากกวา่ ตวั เขา การกอดจูบหรือพลอดรกั กนั การมีเพศสมั พนั ธก์ อ่ นแตง่ งาน
การวางตวั และการปรับตวั ตอ่ เพศตรงขา้ มของวยั รุ่น เป็นส่ิงจาเป็นและสาคญั มากท่ีชาย หญิงไมค่ วรมองขา้ ม โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงสาหรับวยั รุ่นท่ีเป็นผูห้ ญิงดว้ ยแลว้ เร่ืองเหลา่ น้ี น่าจะกลา่ วไดว้ า่ เป็นส่ิงท่ีสาคญั ท่ีสุด ไดแ้ ก่ 1.การปรบั ตวั ทางดา้ นร่างกาย ถึงแมว้ า่ วยั รุ่นจะเจริญเติบโตทางดา้ นร่างกายจนมีความ พรอ้ มท่ีจะมีเพศสมั พนั ธไ์ ดก้ ็ตาม แตโ่ ดยวุฒิภาวะทางสงั คมนัน้ จดั วา่ ยงั ไมพ่ รอ้ มท่ีจะอยู่ กินดว้ ยกนั แบบสามีภรรยา เพราะจะตอ้ งมีความพรอ้ มหลายๆดา้ น เชน่ เศรษฐกิจ อารมณท์ ่ีมน่ั คง อาชีพท่ีสามารถเล้ียงชีพได้ วยั รุ่นจึงตอ้ งรูจ้ กั ควบคุม ระบายปลดปลอ่ ย อารมณแ์ ละความตอ้ งการทางเพศออกไปอยา่ งเหมาะสม 2. การปรบั ตวั ทางดา้ นจิตใจ พฒั นาการทางดา้ นร่างกายสง่ ผลใหจ้ ิตใจของวยั รุ่นมีการ เปล่ียนแปลงไปดว้ ย คือ มีความคิดและความตอ้ งการในเร่ืองเพศ ซ่ึงถือวา่ เป็นเร่ือง ธรรมชาติ แตค่ วรจะมีการควบคุมจิตใจ โดยการมีสติไตร่ตรองและใชเ้ หตุผลวา่ การจะ แสดงออกตามท่ีจิตใจตอ้ งการนั้นมีความเหมาะสม ถูกตอ้ งตามขนบธรรมเนียมประเพณี ท่ ีดีงามของไทยหรื อไม่
1. มีความรบั ผิดชอบผูท้ ่ีมีความรับผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ีของตนเองอยู่ เสมอนั้นจะชว่ ยใหส้ ามารถปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ผูอ้ ่ืนในสงั คมไดด้ ี2. รจู้ กั ปรบั ปรุงบคุ ลิกภาพบุคคลท่ีมีบุคลิกภาพดียอ่ มสามารถปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ผูอ้ ่ืนไดง้ า่ ย เราจึงควรปรับปรุงบุคลิกภาพของเราใหเ้ ป็นท่ีนิยม ชมชอบของผูอ้ ่ืน3. ยอมรบั ความแตกต่างระหว่างบคุ คลการยอมรับความจริงในเร่ือง ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล จะชว่ ยเป็นแนวทางท่ีสาคญั ในการปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ผูอ้ ่ืนไดง้ า่ ยข้ึน โดยทว่ั ไปคนเรามกั มีความแตกตา่ งกนั ทง้ั ร่างกาย จิตใจ อารมณ์
บทบาททางเพศผชู้ าย เป็นผูน้ าในทุกสถานการณโ์ ดยแสดงออกทาง • รูส้ ึกภาคภูมิใจในตวั เองไดด้ ว้ ยความสามารถใน พฤติกรรมกา้ วรา้ ว การประกอบกิจกรรมตา่ งๆ ไมใ่ ชเ่ พราะเป็นเพศ ชีวิตสมบูรณไ์ ดด้ ว้ ยความสาเร็จของตนเอง ควบคุมอารมณต์ ลอดเวลาเพ่ือแสดงถึงความ ชาย • เขม้ แข็ง • เห็นความสาคญั ของเพศตรงขา้ มมากข้ึน เป็นเพศท่ีเหนือกวา่ ดงั นน้ั ตอ้ งใหผ้ ูห้ ญิงเป็น มีอิสระท่ีจะเลือกกระทากิจกรรมตา่ งๆ ท่ีสนใจ ฝ่ายรอคอย โดยไมจ่ ากดั วา่ ส่ิงท่ีกระทาน้นั เป็นบทบาทของเพศ ในฐานะเป็นผูห้ ารายไดจ้ ึงมีอานาจในการ หญิงหรื อเพศชาย ตดั สินใจเร่ืองท่ีสาคญั ในครอบครัว • ร่วมงานกบั ผูห้ ญิงไดแ้ ละไมร่ ูส้ ึกอึดอดั ใจเม่ือมี บทบาทในครอบครวั คือการเป็นแบบอยา่ งท่ีดี ••หวั ชหใว่หนยส้า้เหมงาาลนชือเิกรปทับ็นุกผผิคดูห้ นชญอในิงบคในรองาบนคบรวัา้ มนีสแว่ลนะรเล่ว้ียมงในดูบกุตารร สาหรับบุตรชาย เลือกทางานท่ีเส่ียงอนั ตราย ตอ้ งใชค้ วาม •ตดั สภินาคใจภทูม่ีสิใจาใคนญั ความสาเร็จของสมาชิกใน รอบคอบ รวมทง้ั งานท่ีมีเกียรติ ครอบครวั แมว้ า่ ความสาเร็จน้นั มีมากกวา่ ท่ีตนเอง รบั ผิดชอบตอ่ การหารายไดข้ องครอบครัว ยกฐานะทางสงั คมดว้ ยความสาเร็จของ •ปรไะมสค่ บิดวา่ การเป็นผูช้ ายตอ้ งแสดงความกลา้ หาญ ตนเอง •แลไะมเรส่ ูส่้ียึกงภกยรั ะเสดมากออายหรืออึดอดั ท่ีจะทางานท่ีเคย เช่ือวา่ เป็นงานของผูห้ ญิง
บทบาททางเพศผหู้ ญิง เป็นผูใ้ หบ้ ริการในทุกสถานการณแ์ ละปฏิบตั ิ • รูร้ ะดบั ศกั ยภาพท่ีแทจ้ ริงของตนเองในการประกอบ ตามความประสงคข์ องผูช้ าย กิจกรรมตา่ งๆ • ใหค้ วามสาคญั แกต่ นมากข้ึน ความพึงพอใจในชีวิตจะเกิดจากความสาเร็จ • มีอิสระท่ีจะเลือกกระทากิจกรรมตา่ งๆ ท่ีสนใจโดยไม่ ของสมาชิกผูช้ ายในครอบครวั จากดั วา่ ส่ิงท่ีกระทาน้นั เป็นบทบาทของเพศหญิงหรือเพศ ชาย แสดงอารมณค์ วามรูส้ ึกท่ีกอ่ ใหเ้ กิดความ • แสวงหาโอกาสในการกา้ วหนา้ ทางการงานในตาแหน่ง อบอุน่ และเป็นการสรา้ งสมั พนั ธภาพท่ีดีทง้ั ใน ผูบ้ ริหาร ครอบครวั และนอกบา้ น • ออกไปทางานนอกบา้ นและแสวงหาโอกาสท่ีเทา่ เทียม กนั กบั ผูช้ ายในการปฏิบตั ิท่ีเสมอภาค รวมทง้ั การรับคา่ จา้ ง เสียสละเพ่ือผูอ้ ่ืนกอ่ นเสมอ ท่ีเทา่ เทียมกบั ผูช้ ายในงานชนิดเดียวกนั ใหผ้ ูช้ ายเป็นคนตดั สินใจในเร่ืองสาคญั เสมอ • สามารถตดั สินใจเลือกดาเนินชีวิตของตนเอง บทบาทท่ีสาคญั ท่ีสุดคือการดูแลครอบครวั • ไมร่ ูส้ ึกวา่ ตนเองขาดความเป็นผูห้ ญิงหากประสบ ทางานนอกบา้ นในกรณีท่ีจาเป็นเทา่ นั้นและ ความสาเร็จในหนา้ ท่ีการงานสูงกวา่ • ไมร่ ูส้ ึกวา่ การเป็นผูห้ ญิงเป็นอปุ สรรคตอ่ การทางานใน เลือกงานท่ีคิดวา่ เหมาะสมกบั ผูห้ ญิงเป็นงาน สายงานท่ีเคยเป็นงานของผูช้ ายมากอ่ น ท่ีไมย่ ุง่ ยาก แมว้ า่ จะไดร้ บั คา่ แรงต่าหรือไมม่ ี • ไมร่ ูส้ ึกวา่ ตนเองผิดท่ีเลือกประกอบอาชีพหรือทางานท่ี เกียรติ พอใจมากกวา่ การทางานบา้ น ยกภาระรับผิดชอบการหารายไดใ้ หก้ บั ผูช้ าย
การวางตวั ตอ่ เพศตรงขา้ ม หมายถึง การท่ีชายและหญิงประพฤติหรือปฏิบัติตอ่ กนั เพ่ือสรา้ งสมั พนั ธภาพระหวา่ งกนั ในสถานภาพตา่ งๆ กนั เชน่ ฐานะเพ่ือ ฐานะคน รัก หรือฐานะคูค่ รองภายใตส้ ภาพแวดลอ้ มตลอดจนขนบธรรมเนียมและวฒั นธรรม เพศหญิง เพศชาย- เป็ นค่สู นทนาที่ดี - เป็ นค่สู นทนาท่ีดี- เป็ นผูม้ ีกิริยามารยาทดี - การแสดงกิริยาอาการต่างๆตอ้ งสุภาพเรียบรอ้ ย- ตรงต่อเวลา - รกั ษาเวลานดั หมาย- ใหเ้ กียรติซึ่งกนั และกนั ไม่ควรตามใจผูช้ ายให้ - ใหเ้ กียรติยกย่อง ไม่ดหู ม่ินเหยียดหยามซ่ึงกนัล่วงเกินใหเ้ สียหายเป็ นที่ครหานินทา และกนั- แต่งกายใหส้ ุภาพ สะอาด เรียบรอ้ ย รดั กมุ - ควรแต่งกายใหส้ ุภาพ สะอาดเรียบรอ้ ยไม่- ไม่ควรอยู่ตามลาพงั กบั ฝ่ ายชายสองต่อสองใน ฟ่ มุ เฟื อย และไม่นาสมยั จนเกินไปไม่ควรแต่งกายที่ลบั ตามสบายเกินไป- ควรมีน้าใจเอ้ือเฟ้ื อเผ่ือแผ่รจู้ กั แสดงความ - การใหค้ วามสนิทสนมควรอย่ใู นขอบเขตขอบคุณ - แสดงความห่วงใยในเร่ืองความปลอดภยั ต่างๆ
1. ใหเ้ กียรติซ่ึงกนั และกนั2. ใหค้ วามเคารพเช่ือฟงั ญาติผูใ้ หญข่ องทงั้ สองฝ่าย3. ไมใ่ หค้ วามสนิทสนมกนั เกินขอบเขตของประเพณี4. ชายหญิงควรหลีกเล่ียงการอยูด่ ว้ ยกนั ตามลาพงั5. ไมด่ ่ืมสุราหรือเสพของมึนเมาเพราะจะทาใหค้ วบคุมตนเองไมไ่ ด้
การมีเพศสัมพนั ธ์ท่ีรับผิดชอบและปลอดภัยน้ัน ทั้งชายและหญิงจะตอ้ งมีความ รับผิดชอบตอ่ ปัญหาท่ีอาจจะเกิดข้ึนไดก้ บั การมีเพศสมั พนั ธใ์ นคร้ังนั้น ปัญหาท่ีอาจ เกิดข้ึน ไดแ้ ก่ การตง้ั ครรภท์ ่ีไมพ่ ึงประสงค์ และอาจนาไปสู่การทาแทง้ ในเวลาตอ่ มา หรือเกิดปญั หาลูกไมม่ ีพอ่ หรือตอ้ งเป็นภาระกบั ผูใ้ หญ่ ซ่ึงเป็นปัญหาสงั คมท่ีพบเห็นกนั อยูเ่ สมอในดา้ นความปลอดภยั น้ันจะตอ้ งปลอดภยั จาก การตง้ั ครรภท์ ่ีไมพ่ ึงประสงค์ และปลอดภยั จากโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์และโรคเอดส์ ซ่ึงปัจจุบนั พบวา่ อายุของผูป้ ่วยดว้ ยโรคติดตอ่ ทาง เพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดสล์ ดลง น่ัน คือวยั รุ่นเร่ิมติดเช้ือ HIV กนั มากข้ึน
1. การใชถ้ ุงยางอนามยั เป็ นวิธีท่ีดีที่สุด เพราะป้องกนั ไดท้ ง้ั การตง้ั ครรภท์ ่ีไมพ่ ึง ประสงค์ โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธแ์ ละโรคเอดส์ สาหรับผูห้ ญิงท่ีคิดวา่ มีโอกาสท่ี จะมีเพศสมั พนั ธก์ บั คูร่ ัก เพ่ือน หรือก๊ิกก็ควรพกถุงยางอนามยั ติดตวั เชน่ กนั 2. การนับระยะปลอดภยั วิธีน้ีป้ องกนั ไดเ้ ฉพาะการตง้ั ครรภ์เทา่ น้ัน ซ่ึงก็มี โอกาสผิดพลาดสูง การนับวนั นั้นใหน้ ับกอ่ นวนั ท่ีประจาเดือนมาวนั แรก 7 วนั และ หลงั วนั ท่ีประจาเดือนมาวนั แรก 7 วนั วิธีน้ีใชไ้ ดก้ บั ผูห้ ญิงท่ีมีรอบเดือนมาปกติสม่า เสมอเทา่ นน้ั คือ 28 วนัเชน่7654321 12345671 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 ประจาเดือนมาวนั แรก
3. การหลง่ั อสุจิภายนอก วิธีน้ีป้องกนั ไดเ้ ฉพาะการตง้ั ครรภเ์ ทา่ น้ัน ซ่ึงก็มีโอกาสผิดพลาดสูง เพราะขณะมีเพศสมั พนั ธน์ ั้นน้าอสุจิ ของฝ่ายชายอาจไหลออกมาบา้ ง แมแ้ ตเ่ พียงเล็กนอ้ ยก็มีจานวนตวั อสุจิออกมามากมายแลว้ เพราะ การหลง่ั น้าอสุจิของผูช้ ายออกมาแตล่ ะครง้ั จะมีตวั อสุจิออกมาประมาณ 200 ลา้ นตวั 4. การรับประทานยาเม็ดคุมกาเนิด วิธีน้ีป้องกนั ไดเ้ ฉพาะการตง้ั ครรภเ์ ทา่ น้ัน จะมี 2 แบบ คือ แบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด ตอ้ งกินทุก วนั 5. การรับประทานยาคุมกาเนิดฉุกเฉิน รับประทานเม็ดแรกหลงั ร่วมเพศไมเ่ กิน 72 ชว่ั โมง แตถ่ า้ ย่ิงรับประทานเร็วเทา่ ไรย่ิงดี และรับประทาน เม็ดท่ี 2 หลงั จากรับประทานเม็ดแรกไปแลว้ 12 ชว่ั โมง ไมค่ วรรับประทานยาน้ีเกิน 4 เม็ดตอ่ เดือน เพราะอาจส่งผลเสียตอ่ สุขภาพผูห้ ญิงในระยะยาวได้ เน่ื องจากยาน้ีมีปริมาณฮอร์โมนท่ีสูงมาก ยาน้ี สามารถป้องกนั การตงั้ ครรภไ์ ด้ 85% แตไ่ มค่ วรใชบ้ อ่ ย ควรใชใ้ นกรณีฉุกเฉินเทา่ น้ัน
1. การมีเพศสมั พนั ธเ์ หมือนกบั การลา้ งมือจากกอ๊ กน้า ความคิดน้ีเป็นสาเหตุหน่ึงท่ี ทาใหผ้ ูห้ ญิงไมร่ ักนวลสงวนตวั และมีเพศสมั พนั ธท์ ่ีงา่ ยจนเกินไป 2. การมีเพศสมั พนั ธก์ บั ผูช้ ายไดห้ ลายคนถือวา่ เกง่ เคยมีขา่ ววา่ มีนักเรียนหญิง กลุม่ หน่ึงพยายามไปมีเพศสมั พนั ธก์ บั ผูช้ ายแลว้ ขอเส้ือท่ีเรียนพลศึกษา 1 ตวั แลว้ มี การสะสมเส้ือดงั กลา่ ว นามาอวดกนั 3. การท่ีผูห้ ญิงสมยั น้ีพกถุงยางอนามยั ไมใ่ ชส่ ่ิงท่ีผิดหรือน่ารังเกียจ เคยมีการสอน ใหล้ ูกผูห้ ญิงพกถุงยางอนามยั เผ่ือวา่ ฝ่ายชายไมไ่ ดพ้ กมา 4. การมีเพศสมั พนั ธก์ บั คูร่ ักเป็นการผูกมดั ฝ่ายชายใหร้ ักเธอคนเดียวมีผูห้ ญิงหลาย คนคิดเชน่ น้ีจึงยอมตกเป็นของเขางา่ ยๆ หรือพยายามหยิบย่ืนความสาวใหเ้ ขา 5. ผูช้ ายหลายคนรับไดเ้ ม่ือรูว้ า่ แฟนของตนเองเคยมีเพศสมั พนั ธก์ บั คนอ่ืนมากอ่ น จึงทาใหผ้ ูช้ ายไมร่ ังเกียจหญิงท่ีเคยผา่ นการมีเพศสมั พนั ธม์ าแลว้ ซ่ึงอาจนาไปสูก่ าร ติดเช้ือ HIV ได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142