มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด ส ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ส ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕ ส ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ส ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ ส ๕.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวม ๘ มาตรฐาน ๓๐ ตัวชว้ี ัด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านติม (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน ส ๑๕๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ฯ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษา วเิ คราะหอ์ ธบิ ายความสาคญั ศาสนาที่ตนนบั ถอื ในฐานะทเี่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม และหลักใน การพฒั นาชาติไทยประวัตศิ าสดาทีต่ นนบั ถือ การประพฤตติ นตามแบบอยา่ งการดาเนนิ ชวี ิต ประวัติสาวก ชาดก/ ศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง การพัฒนาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือการปฏิบัติตนตามหลักธรรม การพัฒนา ตนเองและส่งิ แวดล้อม ศาสนพธิ ี พธิ กี รรมทางศาสนา มารยาทของศาสนิกชน และวันสาคัญทางศาสนา รวมทั้ง ศาสนาตา่ งๆ ในประเทศสมาชิกอาเซียน ศึกษา วิเคราะห์ ระบุ อธิบาย ยกตัวอยา่ งการปฏบิ ัตติ นตามสถานภาพ บทบาท สิทธิเสรีภาพ และ หน้าทีใ่ นฐานะพลเมืองดี การปกปอ้ งคมุ้ ครองตนเองและผ้อู ่ืน การละเมิดสิทธิเด็กเห็นคุณค่าวัฒนธรรมไทยท่ีมีผล ตอ่ การดาเนนิ ชีวติ ในสังคมไทย การมสี ว่ นรว่ มในการอนุรกั ษ์และเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนประเพณี แตง่ งาน เข้าสุหนัต การตายงานบวช งานศพ การข้ึนบา้ นใหม่ ฯ โครงสร้าง อานาจ หนา้ ที่และความสาคัญของ การปกครองส่วนท้องถิน่ บทบาทหนา้ ที่ ประโยชน์ที่ชมุ ชนจะไดร้ บั จากองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ศึกษา อธิบายจาแนก ปัจจยั การผลติ สินคา้ และบรกิ ารการประยุกตใ์ ชแ้ นวคิดของปรัชญาของเศร ษฐกิจ พอเพียงในการทากิจกรรม ต่าง ๆ ในครอบครวั โรงเรยี นและชมุ ชน หลักการสาคัญและประโยชน์ของสหกรณ์ บทบาทหนา้ ที่ของธนาคาร ผลดแี ละผลเสยี ของการกยู้ ืมเงินทงั้ นอกระบบและในระบบสนิ ค้าโอทอป สืบคน้ และอธบิ ายขอ้ มลู ลกั ษณะทางกายภาพของภาคใต้ ด้วยแผนที่และรูปถ่าย อธิบายลั กษณะทาง กายภาพที่ส่งผลต่อแหลง่ ทรพั ยากรและสถานทีส่ าคญั ในภาคใต้ วิเคราะห์ สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพท่ีมีอิทธิพลต่อ ลกั ษณะการต้ังถ่นิ ฐานและการย้ายถ่นิ ของประชากรในภาคใต้ วเิ คราะห์อทิ ธพิ ลของส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติท่ี ก่อให้เกิดวถิ ีการดาเนนิ ชวี ติ ในภาคใต้ นาเสนอตัวอย่างทส่ี ะทอ้ นใหเ้ ห็นผลจากการรักษาและทาลายส่ิงแวดล้อม และเสนอแนวทางในการจัดการส่งิ แวดล้อมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความรูเ้ ก่ยี วกบั ประเทศสมาชิกอาเซียน ในเร่อื ง ด้านภมู ิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ การคา้ วัฒนธรรม และการปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศสมาชิก อาเซยี น โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ กระบวนกลุ่ม กระบวนสืบค้น กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนการประชาธิปไตยเพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการสอ่ื สาร และเห็นคุณค่าของการนา ความรูไ้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดาเนินชวี ติ ประจาวัน มคี วามสอื่ สตั ยส์ ุจริตรกั ความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั ส ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗ ส ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ ส ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป. ๕/๔ ส ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ ส ๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ ส ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ ส ๕.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ ส ๕.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๘ ตวั ชีว้ ัด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านติม (พันธ์พทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ส ๑๖๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ฯ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลา ๘๐ ช่วั โมง คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษา วเิ คราะห์ความสาคัญของศาสนาท่ีตนนับถือประวัติศาสดาที่ตนนับถือการประพฤติตนตาม แบบอยา่ งการดาเนินชีวิตและขอ้ คดิ จากประวตั ิสาวก ชาดก/เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง หลักธรรม ของ ศาสนาที่ตนนับถือ การทาความดีของบคุ คลในประเทศตามหลกั ศาสนา บคุ คลสาคัญในจังหวัดยะลา การพัฒนา จิตตามแนวทาง ของศาสนาที่ตนนับถอื การปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ การแก้ปัญหา อบายมขุ และสง่ิ เสพติดหลกั ธรรมสาคัญของศาสนาอืน่ ๆ ลักษณะสาคัญของศาสนพิธี พิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ และการปฏิบัตติ นได้อยา่ งเหมาะสมในศาสนสถาน และการปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสมมารยาทของความเป็น ศาสนกิ ชนท่ีดี ประโยชนข์ องการเขา้ รว่ มใน ศาสนพธิ ี พิธกี รรม กิจกรรมในวนั สาคญั ทางศาสนาการปฏิบัติตนเมื่อ ไปสถานทีต่ า่ ง ๆ รวมท้ังศาสนาตา่ งๆ ในประเทศสมาชิกอาเซยี น ศึกษา วิเคราะห์ อภิปราย อธบิ าย เปรยี บเทียบ การปฏบิ ตั ิตามกฎหมายที่เก่ียวข้องกับชีวิตประจาวัน ของครอบครัวและชุมชนการเปลี่ยนแปลงวฒั นธรรมตามกาลเวลาและธารงรักษาวัฒนธรรมอันดีงามมารยาทไทย ความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างกลมุ่ คนในสงั คมไทยข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน บทบาท หน้าท่ขี ององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและรัฐบาลการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ การส่งเสริม ประชาธิปไตยในทอ้ งถ่ินและประเทศบทบาท และความสาคัญของการเลือกต้ังตามระบอบประชาธิปไตยร่วม กิจกรรมกบั องค์กร ชุมชน กิจกรรมจติ อาสา รณรงค์ ร่วมกับเทศบาล อบต . หรือองค์กรต่าง ๆ ในชุมชน การเลอื กตัง้ ศกึ ษา ยกตวั อย่าง อธบิ าย บทบาทของผผู้ ลติ ท่มี คี วามรับผิดชอบบทบาทของผู้บริโภควิธีและประโยชน์ ของการใชท้ รพั ยากรอย่างยง่ั ยืน ความสัมพันธร์ ะหว่างผู้ผลิต ผู้บริโภค ธนาคาร และรัฐบาลการรวมกลุ่มทาง เศรษฐกจิ ภายในท้องถ่ินกลุม่ แมบ่ า้ นกลมุ่ เกษตรกรในชุมชน สืบค้นและอธิบายข้อมูลลักษณะทางกายภาพของ ประเทศไทย ดว้ ยแผนที่และรูปถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทยี ม อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทาง กายภาพกับภยั พบิ ัติในประเทศไทยเพอ่ื เตรยี มพร้อมรับมอื ภยั พิบตั พิ นื้ ท่จี ะเกิดอทุ ุกภยั ดินถล่มการอ นุรักษ์ แม่น้า ลาคลอง ปา่ ไม้ ฯ วิเคราะห์ปฏสิ ัมพันธร์ ะหวา่ งส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกับลักษณะกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมใน ประเทศไทย วเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงทางกายภาพของประเทศไทยในอดีตกับปัจจุบันและผลที่เกิดข้ึนจากการ เปล่ยี นแปลงนัน้ นาเสนอตวั อยา่ งสะท้อนให้เหน็ ผลจากการรกั ษาและทาลายสิ่งแวดลอ้ มและเสนอแนวทางในการ จัดการอย่างยั่งยืนของประเทศไทยมีความรู้เกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียน ในเรื่อง ด้านภูมิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ การค้า วัฒนธรรม และการปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองทด่ี ขี องประเทศสมาชกิ อาเซียน โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ กระบวนกลุ่ม กระบวนสืบค้น กระบวนการทางจริยธรร ม กระบวนการประชาธปิ ไตยเพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการสือ่ สาร และเห็นคุณค่าของการนา ความร้ไู ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั มีความสอ่ื สตั ย์สุจริตรกั ความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านตมิ (พนั ธพ์ ิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ส ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙ ส ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ ส ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ ส ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ ส ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ ส ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ ส ๕.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ ส ๕.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ รวม ๘ มาตรฐาน ๓๑ ตวั ชวี้ ัด หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา อธบิ าย ระบุเก่ียวกบั วนั เดือน ปี และการนับช่วงเวลาตามปฏิทนิ ท่ีใช้ในชวี ติ ประจาวนั เรียงลาดับ เหตุการณใ์ นชวี ิตประจาวนั ตามวนั เวลาท่ีเกิดขึ้น ประวตั ิความเป็นมาของตนเองและครอบครัวโดยสอบถาม ผเู้ กี่ยวข้อง การเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อม ส่ิงของ เครอ่ื งใช้ การดาเนินชีวิตของตนเองกับสมัยของพ่อแม่ ปยู่ ่า ตายาย และเหตุการณท์ ี่เกดิ ขน้ึ ในอดตี ทม่ี ีผลกระทบตอ่ ตนเองในปัจจุบัน ความสาคัญของสัญลักษณ์ของ สมาคมอาเซียนและของชาตไิ ทย การปฏิบัตติ นไดถ้ กู ต้อง เกย่ี วกับสถานท่ีสาคญั ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมในชุมชน สง่ิ ทต่ี นรัก และภาคภมู ใิ จในท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนกลุ่ม กระบวนสืบค้น กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมิศาสตร์ กระบวนการทางประชาธิปไตย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการส่อื สาร และเห็นคณุ ค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดาเนิน ชวี ิตประจาวนั มีความสือ่ สัตยส์ ุจรติ รกั ความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั ส ๔.๑ ป ๑/๑ , ป ๑/๒ , ป ๑/๓ ส ๔.๒ ป ๑/๑ , ป ๑/๒ ส ๔.๓ ป ๑/๑ , ป ๑/๒ , ป ๑/๓ รวม ๓ มาตรฐาน ๘ ตัวชว้ี ดั หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านตมิ (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ กล่มุ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา อธิบาย ยกตวั อยา่ ง ระบุเวลาทแ่ี สดงเหตุการณใ์ นอดีต ปัจจบุ ัน และอนาคต เห็นคุณค่าของเวลา ที่สมั พันธ์กนั ระหวา่ งอดตี ปัจจบุ นั และอนาคตนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ลาดับเหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นในครอบครัว หรอื ในชวี ิตของตนเองโดยใช้หลกั ฐานทเี่ กี่ยวข้อง เขา้ ใจลกั ษณะข้อมูลของโรงเรียนตนเอง รวบรวมข้อมูลท่ี เกี่ยวขอ้ งกับตนเอง ครอบครวั และโรงเรียนได้ สืบค้นถึงการเปลย่ี นแปลงในวถิ ีชีวติ ประจาวันของคนในชุมชน ของตนจากอดตี ถึงปจั จุบนั เกยี่ วกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลง ที่มีต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชน บุคคลที่ทา ประโยชนต์ อ่ ท้องถ่นิ หรือประเทศชาติ วฒั นธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทยท่ีภาคภูมิใจและควรอนุรักษ์ไว้ รวมถงึ ศึกษา รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับเอกลกั ษณ์ สังคม วฒั นธรรมของประเทศอาเซียน โดยใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนกล่มุ กระบวนสืบค้น กระบวน การทางประวตั ศิ าสตร์ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ กระบวนการทางประชาธปิ ไตย เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอื่ สาร และเหน็ คณุ คา่ ของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการดาเนนิ ชีวิตประจาวัน มีความสื่อสตั ย์สจุ รติ รักความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด ส ๔.๑ ป ๒/๑ , ป ๒/๒ ส ๔.๒ ป ๒/๑ , ป ๒/๒ ส ๔.๓ ป ๒/๑ , ป ๒/๒ รวม ๓ มาตรฐาน ๖ ตวั ช้ีวดั หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นตมิ (พันธ์พทิ ยาคม) (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา อธบิ าย ระบุ เปรียบเทียบศกั ราชท่ีสาคัญตามปฏทิ นิ ท่ใี ช้ในชีวิตประจาวันแสดงลาดับเหตุการณ์ สาคัญของโรงเรียนและชุมชนโดยใช้หลักฐานและแหล่งข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ประวัติโรงเรียนบ้านติม (พนั ธ์พิทยาคม) ประวัติเมอื งขขุ นั ธ์ ประวัติเมืองศรสี ะเกษ โบราณสถานที่สาคัญ เช่น วัดบ้านติม วัดเขียน วดั เจ๊ก เปน็ ต้น ปัจจยั ท่ีมีอทิ ธิพลต่อการตง้ั ถ่ินฐานและพัฒนาการของชุมชน ลักษณะสาคัญของขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชน ตนเองกบั ชุมชนอ่นื ๆ พระนามและพระราชกรณยี กิจของพระมหากษัตริย์ไทย ท่ีเป็นผู้สถาปนาอาณาจักรไทย พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ ในรชั กาลปัจจุบัน และ บรรพบรุ ษุ ไทยที่มีสว่ นปกป้องประเทศชาติรวมถึงประวตั ิผู้นาของประเทศสมาชกิ อาเซยี น โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนกลุ่ม กระบวนสืบค้น กระบวนการทางประวตั ศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการทางประชาธิปไตย เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอื่ สาร และเหน็ คุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั มีความส่อื สัตยส์ จุ รติ รกั ความเป็นไทยและมีจติ สาธารณะ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ระดบั ชน้ั /ตัวชี้วดั ส ๔.๑ ป ๓/๑, ป ๓/๒, ป ๓/๓ ส ๔.๒ ป ๓/๑, ป ๓/๒ ส ๔.๓ ป ๓/๑, ป ๓/๒, ป ๓/๓ รวม ๓ มาตรฐาน ๘ ตวั ชว้ี ัด หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๔๑๐๒ ประวัติศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษา วเิ คราะห์ ยกตวั อยา่ ง อธิบาย แยกแยะ การนบั ช่วง เวลา เปน็ ทศวรรษ ศตวรรษ และสหัสวรรษ ยุคสมยั ในการศกึ ษาประวัติของมนุษยชาตหิ ลกั ฐานท่ใี ช้ในการศึกษาความเป็นมาของท้องถ่ิน การตั้งหลักแหล่ง ได้แก่ ประวัติเมืองขุขันธ์ ประวัติเมืองศรีสะเกษ และพัฒนาการของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุค ประวตั ิศาสตร์ หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ทพ่ี บในท้องถิน่ โบราณทีส่ าคัญในท้องถิ่น เชน่ วัดบ้านติม วัดเขียน วดั เจ๊ก ทีแ่ สดงพฒั นาการของชมุ ชนและของมนษุ ยชาติ ประวัติการปกครองหัวเมืองทางตะวันออก อาณาจักร ทารวดแี ละอาณาจักรสโุ ขทัย ประวตั แิ ละผลงานของบคุ คลสาคญั สมัยสุโขทัยและบุคคลสาคัญของท้องถิ่น เช่น พระยาไกรภักดศี รนี ครลาดวน (ตากะจะ) ภูมิปญั ญาไทยทส่ี าคัญและภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ินทนี่ า่ ภาคภูมิใจ และควรค่า แกก่ ารอนุรกั ษ์เชน่ การทาเกวยี นน้อยบา้ นใจดี ครุน้อยบา้ นสะอาง ตีมดี ตีดาบบา้ นตะเคยี นช่างเหล็ก เปน็ ต้น โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนกล่มุ กระบวนสืบค้น กระบวนการ ทางประวัตศิ าสตร์ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ กระบวนการทางประชาธิปไตย เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการสื่อสาร และเห็นคณุ ค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั มีความสือ่ สัตยส์ จุ ริตรกั ความเป็นไทยและมีจติ สาธารณะ มาตรฐานการเรียนรู้/ระดับช้นั /ตัวชี้วัด ส ๔.๑ ป ๔/๑, ป ๔/๒, ป ๔/๓ ส ๔.๒ ป ๔/๑, ป ๔/๒ ส ๔.๓ ป ๔/๑, ป ๔/๒, ป ๔/๓ รวม ๓ มาตรฐาน ๘ ตัวช้ีวัด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
ส ๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษา สบื คน้ รวบรวม อภปิ ราย อธบิ าย ความเป็นมาของท้องถิ่นโดยใช้หลกั ฐานทห่ี ลากหลาย ข้อมูล จากแหล่งต่าง ๆ เชน่ วดั บา้ นติม วัดเขยี น วัดเจ๊ก ตอบคาถามทางประวัติศาสตร์ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเร่ืองราว ในทอ้ งถิน่ อทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดียและจนี ทมี่ ตี อ่ ไทย และเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้ วัฒนธรรมต่างชาติที่มีต่อ สงั คมไทยปจั จุบนั อาณาจกั รอยุธยาและธนบรุ ี ทางด้านเศรษฐกจิ และการปกครอง ประวตั แิ ละผลงานของบุคคล สาคัญสมัยอยธุ ยาและธนบุรแี ละของทอ้ งถิน่ เชน่ พระยาไกรภักดศี รีนครลาดวน (ตากะจะ) และเจ้าเมืองขุขันธ์ ในอดตี ทนี่ ่าภาคภูมใิ จการอนุรักษภ์ ูมิปัญญาไทย สมัยอยุธยาและธนบุรีและ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน เช่น การทา เกวียนนอ้ ยบ้านใจดี ครุนอ้ ยบ้านสะอาง ตมี ดี ตดี าบบา้ นตะเคียนชา่ งเหลก็ เป็นตน้ โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ กระบวนการทา งจริยธรรม กระบวนกลุ่ม กระบวนสืบค้น กระบวนการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางประชาธิปไตย เพือ่ ใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการสอ่ื สาร และเหน็ คณุ ค่าของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ในการดาเนินชีวติ ประจาวนั มีความสือ่ สัตยส์ ุจรติ รกั ความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ มาตรฐานการเรียนร/ู้ ระดบั ชัน้ /ตวั ช้ีวดั ส ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ส ๔.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ส ๔.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป ๕/๓, ป.๕/๔ รวม ๓ มาตรฐาน ๙ ตวั ช้ีวดั หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษา อธิบาย ยกตัวอย่าง ความสาคัญของวิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเร่ืองราวทาง ประวัติศาสตรเ์ หตูการณ์สาคญั ในอดีตสภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบัน ความสัมพันธข์ องกลุ่มอาเซียน พฒั นาการของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจัยที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทาง เศรษฐกิจและการปกครองของไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรผ์ ลงานของบคุ คลสาคญั ด้านต่างๆ สมัยรัตนโกสินทร์และของ ทอ้ งถ่นิ ประวตั ิพระยาไกรภกั ดศี รีนครลาดวน (ตากะจะ) และเจา้ เมืองขุขนั ธ์ในอดีต ภูมิปัญญาไทยที่สาคัญสมัย รัตนโกสนิ ทร์และของท้องถ่นิ การทาเกวียนน้อยบา้ นใจดี ครนุ ้อยบ้านสะอาง ตีมีดตีดาบบ้านตะเคียนช่างเหล็ก ท่ีนา่ ภาคภมู ิใจ และควรค่าแก่การอนุรักษไ์ ว้ โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนกลุ่ม กระบวนสืบค้น กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์ กระบวนการทางภมู ิศาสตร์ กระบวนการทางประชาธปิ ไตย เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความสามารถในการส่อื สาร และเห็นคณุ คา่ ของการนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชนใ์ นการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวัน มคี วามสอื่ สัตย์สจุ รติ รกั ความเป็นไทยและมีจติ สาธารณะ มาตรฐานการเรียนรู/้ ระดับชน้ั /ตัวช้วี ัด ส ๔.๑ ป ๖/๑, ป ๖/๒ ส ๔.๒ ป ๖/๑, ป ๖/๒ ส ๔.๓ ป ๖/๑, ป ๖/๒, ป ๖/๓, ป ๖/๔ รวม ๓ มาตรฐาน ๘ ตัวช้วี ดั หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นติม (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
คาอธบิ ายรายวิชา กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษา และพลศึกษา หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านติม (พนั ธพ์ ิทยาคม) (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓)
พ ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาฯ คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวชิ า รู้เข้าใจธรรมชาติการเจรญิ เติบโต การพฒั นาการของมนษุ ย์ อธิบายหน้าท่ีของอวยั วะภายนอกดูแลรักษา เห็นคุณค่าความรักความผกู พนั ชืน่ ชอบภมู ใิ จในตนเอง ท้ังสมาชิกในครอบครวั รู้เข้าใจความแตกต่างระหว่างเพศ หญิง-ชาย มีทกั ษะในการดาเนินชีวติ การเคลอ่ื นไหวทางกายสอดคล้องกับอุปกรณ์ประกอบกิจกรรม การเล่น เกมกฬี า มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กตกิ า มนี า้ ใจ จติ วญิ ญาณ เสริมสรา้ งสุขภาพ สมรรถภาพ มีความสามารถปฏิบัติ ตามสุขบัญญัติ ปฏิบัติตนตามคาแนะนา การเจ็บป่วยของตนเอง หลีกเล่ียงพฤติกรรมปัจจัยเส่ียง ต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา สารเสพติด ความรนุ แรง การพูด ทา่ ทาง ขอความช่วยเหลอื การเกิดเหตุร้าย ที่จะเกิดข้ึน ทั้ง ทบ่ี า้ นท่ีโรงเรียน มคี วามสามารถในการป้องกันดูแล รักษา การตัดสินใจ และการแก้ปัญหาง่ายๆ ของตนเอง และ ครอบครัว มคี วามนยิ มท่ีดี มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีจิตสานึก ต่อการดาเนินชีวิตตามธรรมชาติสอดคล้องกับ ชีวติ ประจาวัน รู้เข้าใจเหน็ คุณค่าของการเล่นเกมกจิ กรรมกฬี าพื้นบ้าน นันทนาการ การทอ่ งเที่ยว อาหารพนื้ บ้าน ปฏิบัติ ตนเก่ยี วกับการเจ็บป่วยโรคในหม่บู า้ นนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้ หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กบั ชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด พ ๑.๑ ป๑/๑ , ป๑/๒ พ ๒.๑ ป๑/๑ , ป๑/๒ , ป๑/๓ พ ๓.๑ ป๑/๑ , ป๑/๒ พ ๓.๒ ป๑/๑ , ป๑/๒ พ ๔.๑ ป๑/๑ , ป๑/๒ , ป๑/๓ พ ๕.๑ ป๑/๑ , ป๑/๒ , ป๑/๓ รวม ๖ มาตรฐาน ๑๕ ตวั ช้ีวัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
พ ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาฯ คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวชิ า รู้เขา้ ใจธรรมชาติการเจรญิ เตบิ โต เหน็ คุณคา่ ของตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา มีทักษะในการดาเนินชีวิต การเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเล่มเกมกฬี าไทยสากล มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณ การสร้างสุขภาพ สมรรถภาพ การปอ้ งกนั โรค หลกี เลีย่ งสารเสพตดิ การใช้ยา การเกิดอบุ ัติเหตุ ความรุนแรง มีความปลอดภัยใน ชวี ติ ดแู ลรักษาอวัยวะภายใน รหู้ น้าที่บทบาทของตนเอง สมาชิกในครอบครวั เพื่อน เข้าใจความแตกต่างเพศหญิง เพศชาย มคี วามภูมิใจในเพศตนท้งั หญงิ ชาย การเลน่ เกม กีฬา การเคล่ือนไหวรา่ งกายอาศัยอุปกรณ์ได้ด้วยตนเอง กลมุ่ อย่างสนุกสนาน ตามกฎ กตกิ า มีวินยั ในการเลือกอาหารท่ีมีประโยชน์ การมีสุขภาพดี การดูแลการเกิด อบุ ตั ิเหตุ การเจ็บปว่ ย บาดเจบ็ การใชย้ า เลย่ี งสารเสพตดิ ความรนุ แรง ปฏิบัตติ นตามสญั ลักษณ์ พฤติกรรมเส่ียง ไดอ้ ย่างปลอดภยั รู้เข้าใจหน้าที่ การดแู ล เสรมิ คุณคา่ ตนเอง สังคม ครอบครัว เพ่ือน การมีพฤติกรรมก่อให้เกิดความมี สขุ ภาพกาย การอยรู่ ่วมกัน การเสริมสรา้ งสขุ ภาพดี กา รดูแล เกิดการเจ็บป่วย อุบัติเหตุเบื้องต้น มีค่านิยมมี คุณธรรม ในการดาเนนิ ชีวิต สอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติ ชว่ ยใหม้ ีความปลอดภยั ในชีวิต รู้เขา้ ใจเหน็ คุณคา่ ของการเล่นเกมกิจกรรมกฬี าพนื้ บ้าน นันทนาการ มกี ฎระเบียบกติกา มีความรู้ ความ เข้าใจการท่องเท่ียว อาหารพนื้ บา้ น ปฏิบตั ติ นเก่ียวกับการเจ็บป่วยโรคในหมู่บ้านรู้จักชื่อและอาการของโรค นาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน สามารถนาความรู้ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์โดยใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ สามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กับชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั พ ๑.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓ พ ๒.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔ พ ๓.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒ พ ๓.๒ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒ พ ๔.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕ พ ๕.๑ ป. ๒/๑, ป. ๒/๒, ป. ๒/๓, ป. ๒/๔, ป. ๒/๕ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๑ ตวั ชี้วัด หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาฯ คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา เวลา ๔๐ ช่วั โมง คาอธบิ ายรายวชิ า เข้าใจลกั ษณะการเจรญิ เติบโต ความแตกตา่ ง สัมพันธ์ ภาพในครอบครัว กลุ่มเพื่อน สร้างสัมพันธภาพ หลีกเล่ียงพฤติกรรมนาไปส่า การล่วงละเมดิ ทางเพศ มีการควบคมุ การเคล่ือนไหวของร่างกาย ทาอยู่กับท่ี และ รอบทศิ ทาง การใชอ้ ปุ กรณใ์ นการออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี า ปฏิบัตติ นอย่างสม่าเสมอ มีวินัย มีความถนั ด ร้จู ักจุดเดน่ จุดดอ้ ยของตนเอง รู้เขา้ ใจการละเลน่ กีฬาพ้ืนเมอื ง อธบิ ายการป้องกันการแพร่กระจายของโรค การ เลอื กอาหารตามสัดส่วนรู้วธิ ีปอ้ งกนั โรค เขา้ ใจวธิ ีการแปรงฟนั ไดอ้ ยา่ งถูกวิธี มีความปลอดภัยในชีวิต ท้ังการขอ ความช่วยเหลอื จากบคุ คล เมื่อเกดิ เหตรุ า้ ย อบุ ตั เิ หตุ ท้งั การใชย้ า เว้นสารเสพตดิ ลดความรุนแรง ท้ังที่บ้านและท่ี โรงเรียน ปฏบิ ัติตนในการรเู้ ข้าใจอธิบาย การเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ ความแตกต่างท้ังร่างกาย อารมณ์ให้ เหมาะสมกับวัย การตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหางา่ ยๆ จากใกลต้ ัว บ้าน โรงเรยี น มเี จตคติที่ดี มีคุณธรรม จิตสานึก ความ รับผิดชอบต่อตนเอง และผู้อนื่ รเู้ ข้าใจวิธีการกิจกรรมการเล่นกีฬาพื้นบา้ น นนั ทนาการ การท่องเที่ยว อาหารพื้นบ้าน รู้วิธีรักษาการ เจบ็ ป่วยของโรคในตาบล ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บ กติกาของการเล่นเกมนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน สามารถนา ความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงและสามาร ถนาไปประยุกต์ใช้กับ ชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด พ ๑.๑ ป. ๓/๑, ป.๓/๒, ป. ๓/๓ พ ๒.๑ ป. ๓/๑, ป. ๓/๒, ป. ๓/๓ พ ๓.๑ ป. ๓/๑, ป. ๓/๒ พ ๓.๒ ป. ๓/๑, ป. ๓/๒ พ ๔.๑ ป. ๓/๑, ป. ๓/๒, ป. ๓/๓, ป. ๓/๔, ป. ๓/๕ พ ๕.๑ ป. ๓/๑, ป. ๓/๒, ป. ๓/๓ รวม ๖ มาตรฐาน ๑๘ ตัวชว้ี ัด หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พนั ธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓)
พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาฯ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวชิ า รเู้ ข้าใจหนา้ ท่ีของอวัยวะต่างๆ เหน็ ความสาคัญของการทางานของอวัยวะ สามารถป้องกันดูแลอวัยวะ การเจริญเตบิ โต การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจอารมณ์ สังคม และสตปิ ัญญา รู้วิธีการแก้ไขปัญหาและ การปอ้ งกนั ปญั หาท่เี กดิ ขนึ้ เข้าในบทบาทหน้าท่ีของตนเองต่อครอบครัว เหน็ คณุ ค่าและความสาคัญของเพศชาย เพศหญิง สามารถควบคมุ ตนเองและขณะปฏบิ ัติการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การกฬี า เล่มเกม มีส่วนร่วมใน กจิ กรรมกฬี ากบั ชุมชน ปฏบิ ัตติ ามกฎกตกิ า ร้แู ละเขา้ ใจการมีสขุ ภาพท่ีดี การปอ้ งกันโรค การเลอื กบริโภคอาหาร อารมณแ์ ละความเครียด รู้จกั การใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ร้แู ละเข้าใจในเร่ืองการเสริมสร้างสมรรถภาพทาง กายเพื่อสขุ ภาพ การปอ้ งกนั หลีกเล่ยี งปจั จัยเสี่ยงท่เี กิดจากอบุ ัตเิ หตุ ส่ิงเสพติด การปฐมพยาบาล จัดหมวดหมู่ อวัยวะของร่างกายปฏิบตั ิกจิ กรรมการเลน่ เกม กีฬาพ้นื บ้าน ฝกึ ทดสอบกิจกรรมยดื หยุ่นพื้นฐาน หลีกเลี่ยงปัจจัย เสยี่ งตอ่ สุขภาพ อุบัตภิ ยั รปู้ ฏบิ ัตติ นการเลน่ เกมกีฬาพน้ื บ้านในระดับอาเภอ การทาอาหารพื้นบ้าน รู้วิธีรักษาและปฏิบัติตน การ เจบ็ ปว่ ยตามคาแนะนา เลือกแหล่งบรกิ ารสขุ ภาพทเ่ี หมาะสม มีความรูใ้ นการบริโภคอาหาร เลอื กซ้ือ เลือกบริโภค ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันได้ สามารถนาความรูไ้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กับชีวติ ประจาวนั ได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด พ ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ พ ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ พ ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒ ป.๔/๓, ป.๔/๔ พ ๓.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒ พ ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ พ ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓ รวม ๖ มาตรฐาน ๑๙ ตวั ช้วี ัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
พ ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา ร้เู ข้าใจในการทางานของอวยั วะต่างๆ สุขอนามัยทางเพศ การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สตปิ ญั ญา รแู้ ละเขา้ ใจเห็นคณุ ค่าของชีวติ ครอบครัว มที ักษะในการดาเนินชีวิต หลักการเคลื่อนไหว การ ออกกาลังกาย เกมกฬี าไทยและกฬี าสากล ร้แู ละเข้าใจกลวิธกี ารรุกและการป้องกันการส่งเสริมสุขภาพของตน การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยจากปจั จัยเส่ยี งตอ่ สุขภาพต่างๆ ศึกษาค้นคว้าการทางานของ ระบบอวัยวะสุขภาพทางเพศ การเปล่ียนแปลงทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สตปิ ญั ญา หลักของการเคล่ือนไหว การกีฬา การมีสขุ ภาพดี การบรโิ ภคอาหารเพ่ือสุขภาพ การปฏิบัตคิ วบคุมจนเองในการเคล่ือนไหว การเข้าร่ว ม กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม ออกกาลังกาย การเการพกฎ กตกิ า ความมีนา้ ใจเปน็ นักกีฬา การอภปิ รายและการ รายงานผลการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมวดั ประเมินผลโดยการสังเกตพฤตกิ รรมทดสอบความรู้ ทดสอบการเลน่ กฬี า เข้าใจกฎ กติกา กฬี าพื้นบ้านในระดับจงั หวัดเห็นประโยชน์ของการเล่นเกม รู้อนุรั กษ์การทาอาหาร พื้นบ้านปอ้ งกนั การเจ็บปว่ ย เลือกแหล่งบรกิ ารสุขภาพ เลือกกจิ กรรมทัศนศกึ ษาการพกั ผ่อนเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการ ปฏิบัตติ นใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน สามารถนาความรู้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์โดยใช้ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชีวิตประจาวันไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วดั พ ๑.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒ พ ๒.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓ พ ๓.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖ พ ๓.๒ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔ พ ๔.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕ พ ๕.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๕ ตัวชวี้ ดั หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
พ ๑๖๑๐๑ สขุ ศกึ ษาฯ คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา เวลา ๘๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวิชา รเู้ ขา้ ใจในการทางานของอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกาย สุขอนามยั ทางเพศ การพฒั นาการ ของวัยแรกรุ่น การ เปลี่ยนแปลงทางด้านรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สตปิ ัญญา และจติ วญิ ญาณในวัยแรกรุ่น ชีวิตครอบครัว หลักการ เคลอ่ื นไหว การออกกาลงั กาย เกมกีฬาไทย กีฬาสากล กลวิธีการรุก การป้องกัน และเสริมสร้างสุขภาพที่ดี สมรรถภาพ การป้องกันการเกิดโรค การปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ เมอื่ เกิดอุบัติเหตศุ ึกษาค้นคว้าการทางานของระบบ อวัยวะ การเปลยี่ นแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สติปัญญา จิตวิญญาณในวัยแรกรุ่นหลักของการ เคล่อื นไหว ความมีสุขภาพดี ปฏิบตั ิการเคลื่อนไหว ความมสี ขุ ภาพดี การปฏบิ ตั ิการเคล่ือนไหวอยู่กับท่ี เคลื่อนที่ การบงั คบั สงิ่ ของ การเขา้ รว่ มเล่นกจิ กรรมทางกาย เกมกีฬา การเการพกฎกติกา ท่ายืดหยุ่นพื้นฐาน ปฏิบัติท่า ทดสอบสมรรถภาพทางกาย อภิปรายรายงานผล การฝึกปฏิบัตกิ ิจกรรมสงั เกตพฤติการณ์และความสนใจในการ ฝึก ปฏิบตั กิ จิ กรรม ทดสอบความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับระบบการทางานของอวยั วะ การพัฒนาการของวัยรุ่น การ เปลย่ี นแปลงทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคมวัยรนุ่ ชีวิตครอบครวั สังเกตการเคลอื่ นไหวการออกกาลังกาย การเลน่ กีฬา เข้าใจการเลน่ เกมกีฬาพื้นบ้าน กฎกตกิ าระดบั จงั หวัด รูป้ ระโยชนข์ องการเล่น ปฏิบัติตนในการ อนุรักษ์ อาหารพน้ื บ้าน วธิ กี ารทา ปฏบิ ตั ติ นป้องกนั การเจ็บปว่ ย การรักษา การแนะนา การปอ้ งกันโรค เลือกแหลง่ บริการ สุขภาพในท้องถิน่ ได้อย่างเหมาะสม เลอื กปฏิบตั ิกิจกรรมในการบริโภคอาหาร สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด ประโยชนโ์ ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั พ ๑.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒ พ ๒.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒ พ ๓.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป.๖/๔, ป. ๖/๕ พ ๓.๒ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔, ป. ๖/๕, ป. ๖/๖ พ ๔.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป.๖/๔ พ ๕.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๒ ตัวช้วี ดั หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นตมิ (พนั ธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านติม (พนั ธ์พิทยาคม) (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ศ ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า อภปิ รายเกีย่ วกับรปู รา่ ง ลกั ษณะ และขนาดของสิง่ ต่าง ๆ รอบตัวในธรรมชาติและส่ิงท่ีมนุษย์ สรา้ งข้ึน บอกความรู้สึกท่ีมตี อ่ ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั มที กั ษะพื้นฐานในการใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างงาน ทัศนศิลป์ สรา้ งงานทัศนศลิ ป์โดยการทดลองใช้สีดว้ ยเทคนิคงา่ ย ๆ วาดภาพระบายสีภาพธรรมชาติตามความรู้สึก ของตนเอง และระบุงานทัศนศิลปใ์ นชวี ิตประจาวนั ได้ เรียนรู้วา่ สงิ่ ต่าง ๆ สามารถกอ่ กาเนิดเสยี งที่แตกตา่ งกนั บอกลกั ษณะของเสียงดัง-เบา และความช้า- เรว็ ของจังหวะ ทอ่ งบทกลอน รอ้ งเพลงงา่ ย ๆ มีส่วนรว่ มในกิจกรรมดนตรอี ย่างสนกุ สนาน บอกความเกี่ยวข้องของ เพลงทีใ่ ช้ในชีวติ ประจาวัน เลา่ ถงึ เพลงในท้องถ่นิ ระบสุ ิ่งที่ชืน่ ชอบในดนตรที อ้ งถน่ิ ศกึ ษาเลยี นแบบการเคลอื่ นไหว แสดงทา่ ทางงา่ ย ๆ เพ่ือสอ่ื ความหมายแทนคาพูด บอกสิ่งที่ตนเองชอบ จากการดหู รอื รว่ มการแสดง ระบุและเล่นการละเลน่ ของเด็กไทย บอกสง่ิ ท่ตี นเองชอบในการแสดงนาฏศลิ ป์ มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั ศ ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ศ ๑.๒ ป.๑/๑ ศ ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕ ศ ๒.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ ศ ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ศ ๓.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒ รวม ๖ มาตรฐาน ๑๘ ตัวชีว้ ัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวิชา บรรยายรปู ร่าง รูปทรงท่ีพบในธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ระบุทัศนธาตทุ ่ีอย่ใู นสิ่งแวดลอ้ มและงานทัศนศลิ ป์ โดยเน้นเร่อื งเสน้ สี รูปร่าง และรูปทรง สรา้ งงานทัศนศิลป์ต่าง ๆ โดยใช้ทัศนธาตุท่ีเน้นเส้น รูปร่าง มีทักษะ พื้นฐานในการใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ สรา้ งงานทัศนศลิ ป์ ๓ มติ ิ สร้างภาพปะติดโดยการตัดหรอื ฉีกกระดาษ วาดภาพเพ่ือ ถ่ายทอดเร่ืองราวเกีย่ วกบั ครอบครัวของตนเองและเพอ่ื นบ้าน เลือกงานทัศนศิลป์ และบรรยายถึงส่ิงท่ีมองเห็น รวมถงึ เนอื้ หาเรอ่ื งราว สร้างสรรค์งานทศั นศิลปเ์ ป็นรูปแบบงานโครงสร้างเคล่ือนไหว บอกความสาคัญของงาน ทัศนศิลป์ทพี่ บเห็นในชีวติ ประจาวัน อภิปรายเกย่ี วกับงานทศั นศลิ ป์ประเภทตา่ ง ๆ ในท้องถ่ิน โดยเน้นถึงวิธีการ สรา้ งงาน และวัสดุ อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ จาแนกแหลง่ กาเนดิ ของเสยี งทไี่ ด้ยิน จาแนกคุณสมบัติของเสียงสูง-ต่า ดัง-เบา ยาว-ส้ัน ของดนตรี เคาะจงั หวะหรอื เคลื่อนไหวร่างกายใหส้ อดคล้องกับเนื้อหาของเพลง รอ้ งเพลงง่าย ๆ ทเี่ หมาะสมกบั วัย บอกความหมาย และความสาคญั ของเพลงทีไ่ ด้ยนิ บอกความสัมพันธ์ของเสียงร้อง เสียงเคร่อื งดนตรีในเพลงท้องถิ่น โดยใช้คาง่าย ๆ แสดงและเข้ารว่ มกิจกรรมทางดนตรีในทอ้ งถน่ิ เคลื่อนไหวขณะอยูก่ บั ทแ่ี ละเคลื่อนที่ แสดงการเคล่ือนไหวที่สะท้อนอารมณ์ของตนเองอย่างอิสระ แสดงท่าทางเพ่อื สอ่ื ความหมายแทนคาพดู แสดงท่าทางประกอบจังหวะอยา่ งสรา้ งสรรค์ มีมารยาทในการชมการ แสดง ระบแุ ละเลน่ การละเล่นพ้นื บา้ น เชื่อมโยงสงิ่ ท่ีพบเหน็ ในการละเลน่ พน้ื บา้ นกับสิ่งท่ีพบเห็นในการดารงชวี ิตของ คนไทย ระบุส่ิงที่ช่ืนชอบและภาคภูมใิ จในการละเล่นพน้ื บ้าน มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ศ ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ศ ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ศ ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ศ ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ ศ ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ศ ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๕ ตวั ชวี้ ัด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธิบายรายวิชา บรรยายรปู ร่าง รูปทรงในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และงานทศั นศิลป์ ระบุวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้สร้าง ผลงานเม่ือชมงานทัศนศิลป์ จาแนกทัศนธาตุของสิง่ ต่าง ๆ ในธรรมชาติ สง่ิ แวดลอ้ มและงานทศั นศิลป์ โดยเนน้ เรื่อง เสน้ สี รูปร่าง รปู ทรง และพ้ืนผวิ วาดภาพระบายสสี ง่ิ ของรอบตวั มที ักษะพ้นื ฐานในการใชว้ สั ดุ อุปกรณส์ รา้ งสรรค์ งานป้นั วาดภาพ ถา่ ยทอดความคดิ ความรสู้ ึกจากเหตกุ ารณช์ ีวิตจริง โดยใชเ้ สน้ รปู รา่ งรูปทรง สี และพื้นผวิ บรรยาย เหตผุ ลและวธิ กี ารในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ โดยเน้นถึงเทคนิคและวัสดุ อุปกรณ์ ระบุส่ิงท่ีช่ืนชมและส่ิงที่ควร ปรบั ปรุงในงานทศั นศิลป์ของตนเอง ระบุและจัดกลุ่มของภาพตามทศั นธาตุ ทเ่ี น้นในงานทัศนศิลป์น้ัน ๆ บรรยาย ลกั ษณะรปู ร่าง รปู ทรง ในงานการออกแบบสิง่ ตา่ ง ๆ ที่มีในบา้ นและโรงเรยี น เลา่ ถงึ ทม่ี าของงานทัศนศิลป์ในท้องถ่นิ อธบิ ายเกี่ยวกบั วสั ดุ อปุ กรณ์ และวธิ กี ารสร้างงานทัศนศิลปใ์ นท้องถน่ิ ระบุรูปร่าง ลักษณะของเคร่อื งดนตรที เ่ี ห็นและไดย้ นิ ในชีวิตประจาวนั ใช้รูปภาพหรือสัญลักษณแ์ ทนเสียง และจังหวะเคาะ บอกบทบาทหน้าท่ีของเพลงทไ่ี ดย้ นิ ขบั ร้องและบรรเลงดนตรีงา่ ย ๆ เคลือ่ นไหวท่าทางสอดคล้อง กบั อารมณ์ของเพลงทีฟ่ ัง แสดงความคิดเห็นเกย่ี วกบั เสียงดนตรี เสียงขับร้องของตนเองและผู้อื่น นาดนตรีไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั หรือโอกาสตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมาะสม ระบุลกั ษณะเด่นและเอกลักษณ์ของดนตรีในท้องถ่ิน ระบุ ความสาคญั และประโยชน์ของดนตรีต่อการดาเนินชีวิตของคนในท้องถิ่น สร้างสรรค์การเคลือ่ นไหวในรปู แบบตา่ ง ๆ ในสถานการณ์สนั้ ๆ การแสดงทา่ ทางประกอบเพลง ตามรปู แบบนาฏศิลป์ การเปรยี บเทียบถงึ บทบาทหนา้ ที่ของผู้แสดงและผู้ชม มีส่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงที่เหมาะสมกับวัย บอก ประโยชน์ของการแสดงนาฏศลิ ป์ในชวี ิตประจาวัน เล่าการแสดงนาฏศิลป์ท่ีเคยเห็นในท้องถ่ิน ระบุสิ่งที่เป็น ลกั ษณะเดน่ และเอกลกั ษณข์ องการแสดงนาฏศลิ ป์ อธบิ ายความสาคญั ของการแสดงนาฏศิลป์ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ศ ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒,ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐ ศ ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ศ ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗ ศ ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒ ศ ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕ ศ ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๙ ตวั ช้ีวดั หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตมิ (พนั ธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน ศ ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวชิ า เปรยี บเทยี บรูปลกั ษณะของรูปร่าง รูปทรงในธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และงานทัศนศิลป์ อภิปราย เกีย่ วกับอทิ ธิพลของสีวรรณะอุ่นและสวี รรณะเยน็ ท่ีมีต่ออารมณ์ของมนุษย์ จาแนกทัศนธาตุของส่ิงต่าง ๆ ใน ธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม และงานทัศนศลิ ป์ โดยเน้นเร่อื งเส้น สี รูปรา่ ง รปู ทรง พื้นผิว และพน้ื ทีว่ า่ ง มีทกั ษะพืน้ ฐานใน การใช้วัสดุ อุปกรณ์สร้างสรรคง์ านพมิ พภ์ าพและงานวาดภาพระบายสี บรรยายลกั ษณะของภาพโดยเน้นเรื่องการ จัดระยะ ความลกึ น้าหนกั และแสงเงาในภาพ วาดภาพระบายสี โดยใช้สีวรรณะอุ่นและสีวรรณะเย็น ถ่ายทอด ความรู้สกึ และจนิ ตนาการ เปรียบเทียบความคดิ ความรสู้ ึกที่ถา่ ยทอดผ่านงานทศั นศิลป์ของตนเองและบุคคลอื่น เลอื กใช้วรรณะสเี พือ่ ถา่ ยทอดอารมณ์ ความรูส้ ึกในการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ ระบแุ ละอภปิ รายเก่ียวกบั งานทัศนศลิ ป์ใน เหตุการณ์และงานเฉลิมฉลองของวฒั นธรรมในท้องถ่นิ บรรยายเกี่ยวกับงานทัศนศลิ ป์ทมี่ าจากวัฒนธรรมตา่ ง ๆ บอกประโยคเพลงอยา่ งงา่ ย จาแนกประเภทของเครื่องดนตรที ่ีใชใ้ นเพลงท่ฟี งั ระบุทิศทางการเคลื่อนท่ี ขน้ึ -ลงงา่ ย ๆ ของทานอง รปู แบบจังหวะ และความเร็วของจังหวะในเพลงที่ฟัง อ่าน เขียนโน้ตดนตรีไทยและ สากล รอ้ งเพลงโดยใชช้ ว่ งเสียงทเ่ี หมาะสมกับตนเอง ใชแ้ ละเกบ็ เครือ่ งดนตรอี ยา่ งถกู ต้องและปลอดภัยดนตรี ระบุ วา่ ดนตรีสามารถใชใ้ นการสือ่ เรื่องราว บอกแหล่งทีม่ าและความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตไทย ที่สะท้อนในดนตรีและ เพลงท้องถ่ิน ระบุความสาคญั ในการอนุรักษส์ ง่ เสริมวัฒนธรรมทางดนตรี ระบุทกั ษะพื้นฐานทางนาฏศิลปแ์ ละการละครท่ใี ช้ส่ือความหมายและอารมณ์ ใช้ภาษาท่าและนาฏย ศพั ท์หรอื ศพั ทท์ างการละครง่าย ๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราว แสดงการเคล่ือนไหวในจังหวะต่าง ๆ ตามความคิด ของตน แสดงนาฏศิลป์เป็นคแู่ ละหมู่ เล่าสงิ่ ทชี่ ื่นชอบในการแสดง โดยเน้นจุดสาคัญของเร่ืองและลักษณะเด่นของ ตัวละคร อธบิ ายประวตั คิ วามเปน็ มาของนาฏศิลป์ หรือชดุ การแสดงอย่างงา่ ย ๆ เปรยี บเทียบการแสดงนาฏศลิ ป์กับ การแสดงท่ีมาจากวัฒนธรรมอนื่ อธบิ ายความสาคัญของการแสดงความเคารพในการเรียนและการแสดงนาฏศิลป์ ระบุเหตผุ ลท่ีควรรกั ษาและสบื ทอดการแสดงนาฏศิลป์ มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ศ ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗ , ป.๔/๘ , ป.๔/๙ ศ ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ศ ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗ ศ ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ศ ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ ศ ๓.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๙ ตวั ช้ีวดั หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ กลุ่มสาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา บรรยายเกี่ยวกบั จังหวะ ตาแหน่งของส่ิงต่าง ๆ ท่ีปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ เปรยี บเทยี บความแตกต่างระหวา่ งงานทศั นศิลป์ ทสี่ ร้างสรรค์ดว้ ยวสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีการท่ตี ่างกัน วาดภาพโดย ใชเ้ ทคนิคของแสงเงา นา้ หนกั และวรรณะสี สรา้ งสรรคง์ านปน้ั จากดินนา้ มันหรือดนิ เหนียว โดยเน้นการ ถ่ายทอด จนิ ตนาการ สร้างสรรคง์ านพมิ พภ์ าพ โดยเนน้ การจัดวางตาแหน่งของส่ิงต่าง ๆ ในภาพ ระบุปัญหาในการจัด องคป์ ระกอบศิลป์ และการสือ่ ความหมายในงานทศั นศิลปข์ องตนเอง และบอกวธิ กี ารปรับปรุงงานให้ดขี น้ึ บรรยาย ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศลิ ปท์ ่มี ีผลต่อชวี ติ ของคนในสงั คม ระบุและบรรยายเกย่ี วกับลักษณะรูปแบบของ งานทศั นศิลปใ์ นแหล่งเรยี นรู้หรือนิทรรศการศลิ ปะ อภปิ รายเก่ียวกับงานทัศนศิลป์ท่ีสะท้อนวัฒนธรรมและภูมิ ปญั ญาในทอ้ งถน่ิ ระบอุ งค์ประกอบดนตรีในเพลงท่ีใช้ในการสื่ออารมณ์ จาแนกลักษณะของเสียงขับร้องและเคร่ือง ดนตรีทอี่ ยู่ในวงดนตรปี ระเภทต่าง ๆ อา่ น เขยี นโนต้ ดนตรีไทยและสากล ๕ ระดับเสียง ใช้เครื่องดนตรีบรรเลง จงั หวะและทานอง รอ้ งเพลงไทยหรือเพลงสากล หรือเพลงไทยสากลที่เหมาะสมกับวัย ด้นสดง่าย ๆ โดยใช้ ประโยคเพลงแบบถาม-ตอบ ใชด้ นตรรี ว่ มกับกิจกรรมในการแสดงออกตามจินตนาการ อธิบายความสัมพันธ์ ระหว่างดนตรกี ับประเพณีในวฒั นธรรมต่าง ๆ อธบิ ายคุณค่าของดนตรีทีม่ าจากวัฒนธรรมท่ตี ่างกนั บรรยายองคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ แสดงทา่ ทางประกอบเพลงหรือเรอื่ งราวตามความคิดของตน แสดงนาฏศิลป์ โดยเน้นการใชภ้ าษาท่าและนาฏยศพั ท์ในการส่ือความหมายและการแสดงออก มีส่วนร่วมในกลุ่มกับการเขียน เค้าโครงเรอ่ื งหรือบทละครส้นั ๆ เปรยี บเทียบการแสดงนาฏศลิ ป์ชดุ ตา่ ง ๆ บอกประโยชน์ทีไ่ ด้รบั จากการชมการแสดง เปรียบเทยี บการแสดงประเภทตา่ ง ๆ ของไทยในแต่ละท้องถิ่น ระบุหรือแสดงนาฏศิลป์ นาฏศิลป์พื้นบ้านที่ สะท้อนถงึ วัฒนธรรมและประเพณี มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ศ ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗ ศ ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ ศ ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗ ศ ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ ศ ๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ ศ ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๖ ตวั ช้ีวัด หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตมิ (พนั ธพ์ ิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ กลุม่ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง คาอธิบายรายวิชา ระบุสีคู่ตรงข้าม และอภิปรายเก่ยี วกบั การใช้สีคู่ตรงข้ามในการถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ อธิบาย หลักการจัดขนาด สัดส่วน ความสมดลุ ในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ สร้างงานทัศนศลิ ป์จากรปู แบบ ๒ มิติ เป็น ๓ มิติ โดยใช้หลกั การของแสงเงาและนา้ หนกั สร้างสรรค์งานป้ันโดยใช้หลักการเพิ่มและลด สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ โดยใชห้ ลักการของรปู และพนื้ ทว่ี ่าง สร้างสรรคง์ านทัศนศิลปโ์ ดยใช้สีคูต่ รงข้าม หลักการจัดขนาด สัดส่วน และ ความสมดุล สรา้ งงานทัศนศลิ ป์เปน็ แผนภาพ แผนผัง และภาพประกอบ เพ่ือถ่ายทอดความคิดหรือเร่ืองราว เกยี่ วกบั เหตุการณ์ต่าง ๆ บรรยายบทบาทของงานทัศนศิลป์ที่สะท้อนชีวิตและสังคม อภิปรายเกี่ยวกับอิทธิพล ของความเช่อื ความศรทั ธาในศาสนาท่มี ีผลตอ่ งานทศั นศิลปใ์ นทอ้ งถิ่น ระบุและบรรยายอิทธิพลทางวัฒนธรรม ในทอ้ งถิ่นท่มี ีผลต่อการสรา้ งงานทศั นศิลปข์ องบคุ คล บรรยายเพลงทฟี่ งั โดยอาศยั องค์ประกอบดนตรีและศัพท์สังคีต จาแนกประเภทและบทบาทหน้าที่ เครือ่ งดนตรีไทยและเครื่องดนตรที มี่ าจากวัฒนธรรมต่าง ๆ อ่าน เขียนโน้ตไทยและโน้ตสากลทานองง่าย ๆ ใช้เครอ่ื งดนตรบี รรเลงประกอบการร้องเพลง ดน้ สด ท่มี ีจงั หวะและทานองง่าย ๆ บรรยายความรสู้ ึกที่มีต่อดนตรี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทานอง จังหวะ การประสานเสยี ง และคุณภาพเสียงของเพลงที่ฟัง อธิบายเรื่องราว ของดนตรีไทยในประวตั ศิ าสตร์ จาแนกดนตรีที่มาจากยคุ สมัยท่ตี ่างกัน อภิปรายอิทธิพลของวัฒนธรรมต่อดนตรี ในทอ้ งถิ่น สรา้ งสรรค์การเคลื่อนไหวและการแสดง โดยเน้นการถ่ายทอดลีลาหรืออารมณ์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย หรืออปุ กรณ์ประกอบการแสดงอย่างง่าย ๆ แสดงนาฏศิลป์และการละครอย่างง่าย ๆ บรรยายความรู้สึกของ ตนเองที่มีต่องานนาฏศิลป์และการละครอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นในการชมการแสดง อธิบาย ความสมั พันธ์ระหวา่ งนาฏศิลปแ์ ละการละครกับสง่ิ ทีป่ ระสบในชีวิตประจาวัน อธิบายส่ิงท่ีมีความสาคัญต่อการ แสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละคร ระบุประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการแสดงหรอื การชมการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละคร มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั ศ ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗ ศ ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ศ ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖ ศ ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ รวม ๖ มาตรฐาน ๒๗ ตวั ช้วี ัด หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นติม (พันธ์พทิ ยาคม) (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓)
คาอธิบายรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านติม (พนั ธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชพี คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวชิ า อธบิ ายวธิ กี ารแต่งกายการจัดเกบ็ สิง่ ของเครอื่ งใช้บนโตะ๊ ตู้ ชน้ั การหยิบจบั และใช้ของใช้ ส่วนตัว การแต่งกายดว้ ยตนเอง การใช้อปุ กรณ์ในการประกอบอาหาร การใชอ้ ุปกรณ์ในการดแู ล รกั ษาพชื การใช้อปุ กรณ์วดั ระยะและตดั กระดาษ การพบั กระดาษเป็นของเล่น บอกข้อมลู ทีส่ นใจและ แหล่งข้อมูลใกล้ตัว ฝึกปฏิบัตใิ ชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นการประกอบอาหาร ใชอ้ ปุ กรณใ์ นการดูแลรกั ษาพชื ใชอ้ ปุ กรณ์วดั ระยะและ ตัดกระดาษ พบั กระดาษเปน็ ของเลน่ โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ขัน้ ตอน การจัดการกระบวนการ แก้ปัญหา การทางานรว่ มกนั การแสวงหาความรู้ มีความร้คู วามเขา้ ใจในการทางานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเอง และ รจู้ ักสร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นเกดิ เจตคตทิ ด่ี ีต่อการทางาน มคี วามกระตือรือร้นและตรงเวลาในการทางาน ตลอดจนนา ความรู้ไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ง ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตวั ช้วี ัด หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชพี คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา อธบิ ายบทบาทและหน้าทีข่ องสมาชิกในบา้ น อธบิ ายวธิ กี ารและประโยชน์ของการกวาดบ้าน การล้าง จาน การจดั วางเสือ้ ผา้ การเก็บเสอื้ ผา้ การเก็บรองเทา้ การช่วยครอบครัวเตรียม และประกอบอาหาร การเพาะเมล็ด การดแู ลแปลงเพาะกล้า การทาของเลน่ และประดษิ ฐข์ องใชส้ ว่ นตัว ฝึกปฏบิ ตั ิกวาดบ้าน ลา้ งจาน จดั วางเสื้อผ้า เกบ็ เสอ้ื ผ้า เก็บรองเท้า ช่วยครอบครัวเตรียมและประกอบ อาหาร เพาะเมล็ด ดแู ลแปลงเพาะกล้า ทาของเล่นและประดิษฐ์ของใช้ส่วนตัวโดยใช้ทักษะกระบวนการทางาน อย่างเปน็ ข้นั ตอน การจัดการกระบวนการแกป้ ญั หา การทางานร่วมกัน การแสวงหาความรู้ ให้มีความรู้ความเข้าใจ ในการทางานเพอ่ื ช่วยเหลอื ตนเองและครอบครวั เลือกใช้วัสดุอุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือในการทางานอย่างเหมาะสม กบั งาน ตลอดจนรู้จักสรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดเจตคติท่ดี ตี อ่ การทางาน มีความประหยัดและปลอดภัยในการทางาน ตลอดจนนา ความรู้ไปใช้ในชวี ิตประจาวัน มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ง ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตวั ชี้วัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านติม (พนั ธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชีพ คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี เวลา ๔๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวชิ า อธิบายวิธีการและประโยชน์ของการจัดเตรียมอปุ กรณ์การเรียน การทาความสะอาดกระเป๋านักเรียน การทาความสะอาดรองเท้า การปัด กวาด เช็ด ถู บ้านเรือน การกรอกน้า ใส่ขวด การทาความสะอาด หอ้ งเรยี น การเลือกใชเ้ ส้อื ผา้ การซ่อมแซมเสอื้ ผ้าด้วยการเนา การประกอบอาหาร การเก็บรกั ษาอาหาร การปลกู ผักสวนครวั ในภาชนะ การบารุงรกั ษาของเลน่ และซ่อมแซมของใช้ส่วนตัว การประดิษฐ์ของใช้ใน โอกาสตา่ ง ๆ โดยใช้วัสดใุ นท้องถิน่ การเลือกใช้สง่ิ ของเครอื่ งใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ การจัดการ สงิ่ ของเครอ่ื งใชด้ ้วยการนากลบั มาใชซ้ า้ การคน้ หาขอ้ มลู อยา่ งมขี ้นั ตอนและนาเสนอข้อมูลลักษณะต่าง ๆ รวมทั้ง บอกวิธีดูแลรกั ษาอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศ ฝกึ ปฏบิ ัตทิ าความสะอาดกระเปา๋ นกั เรยี น ทาความสะอาดรองเทา้ ปดั กวาด เช็ด ถู บ้านเรือน กรอกน้า ใสข่ วด ทาความสะอาดห้องเรียน เลือกใช้เส้อื ผ้า ซ่อมแซมเสื้อผ้าด้วยการเนา ประกอบอาหาร เก็บรักษา อาหาร ปลูกผกั สวนครัวในภาชนะ บารงุ รกั ษาของเลน่ และซ่อมแซมของใช้ส่วนตัว ประดิษฐ์ของใช้ในโอกาส ตา่ ง ๆ โดยใช้วัสดุในท้องถ่ิน เลือกใชส้ ง่ิ ของเครอ่ื งใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ จัดการสิ่งของเครื่องใช้ ด้วยการนากลบั มาใชซ้ ้า เพอื่ ให้ผู้เรยี นเกิดเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การทางาน มีความสะอาด รอบคอบ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในการ ทางาน ตลอดจนนาความรไู้ ปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั ง ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓ รวม ๑ มาตรฐาน ๓ ตัวชี้วัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านตมิ (พนั ธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ กล่มุ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี เวลา ๘๐ ช่ัวโมง คาอธบิ ายรายวิชา อธบิ ายเหตผุ ลในการดูแลรกั ษาของใช้สว่ นตวั การจัดโตะ๊ เขียนหนงั สอื การจัดกระเป๋านกั เรียน การจัดตู้ เสอ้ื ผา้ การขจดั รอยเปื้อนบนเส้ือผ้า การซ่อมแซมเส้ือผ้าด้วยการด้น การประกอบอาหารและเคร่ืองด่ืม การซอ่ มแซมอปุ กรณ์ เครอ่ื งมือและเครอ่ื งใช้ การประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่งจากใบตองและกระดาษ การจัด เกบ็ เอกสารส่วนตวั การปลูกไมด้ อกไมป้ ระดบั อธิบายความหมายและความสาคัญของอาชีพ ฝึกปฏบิ ตั ดิ แู ลรกั ษาของใชส้ ว่ นตวั จัดโต๊ะเขยี นหนังสอื จัดกระเป๋านกั เรยี น จดั ตู้เสอ้ื ผ้า ขจัดรอยเปื้อน บนเส้อื ผ้า ซ่อมแซมเส้อื ผ้าด้วยการด้น ประกอบอาหารและเคร่ืองด่มื ซ่อมแซมอปุ กรณ์ เคร่ืองมือและเครื่องใช้ ประดษิ ฐ์ของใช้ ของตกแต่งจากใบตองและกระดาษ จัดเก็บเอกสารส่วนตัว ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ โดยใช้ ทักษะกระบวนการทางานอยา่ งเปน็ ขั้นตอน การจดั การกระบวนการแก้ปัญหา การทางานร่วมกัน และการ แสวงหาความรู้ มีความรคู้ วามเข้าใจในการทางาน และรจู้ ักสร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนเกิดเจตคตทิ ่ดี ตี ่อการทางาน มมี ารยาท ขยัน อดทน รับผิดชอบ และซ่ือสัตย์ในการ ทางาน รู้จักใชพ้ ลงั งานและทรัพยากรในการทางานอย่างประหยัดและคุ้มค่า ตลอดจนนาความรู้ไปใช้ใน ชวี ิตประจาวันได้ มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั ง ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ ง ๔.๑ ป๔/๑ รวม ๒ มาตรฐาน ๕ ตวั ชีว้ ัด หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตมิ (พนั ธพ์ ิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๕ กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา อธบิ ายเหตุผลในการจดั ห้องครวั การจดั ตู้อาหาร การจดั โต๊ะอาหาร การจดั ตู้เยน็ การทาความสะอาด หอ้ งน้าและห้องสว้ ม การซกั เสอื้ ผ้า การตากเสอ้ื ผา้ การเก็บเสือ้ ผา้ การพับเสื้อผา้ การรดี เส้ือผ้า การซ่อมแซม เสอื้ ผ้าดว้ ยการสอย การเย็บเคร่ืองเกาะเกีย่ ว การเลือกซ้ืออาหาร และเคร่อื งดื่ม การปลกู พชื ในแปลง การซอ่ มแซมอุปกรณข์ องใชใ้ นบา้ น การทาบัญชคี รวั เรอื น การจดั เก็บเอกสารสาคญั การดูแลรักษาและใช้สมบัติ สว่ นตัว สมาชิกในครอบครัวและสว่ นรวม การประดิษฐข์ องใช้ ของตกแตง่ จากวสั ดุเหลอื ใช้ทม่ี อี ยใู่ นท้องถ่ิน ฝกึ ปฏิบัติจดั ห้องครวั จดั ตอู้ าหาร จดั โต๊ะอาหาร จัดตู้เย็น ทาความสะอาดห้องน้า และห้องส้วม ซักเส้ือผา้ ตากเสอ้ื ผ้า เก็บเสื้อผา้ พับเสือ้ ผา้ รดี เสอื้ ผา้ ซอ่ มแซมเสื้อผ้าด้วยการสอย เย็บเครื่องเกาะเกี่ยว เลอื กซือ้ อาหารและเครอ่ื งด่ืม ปลูกพืชในแปลง ซ่อมแซมอุปกร ณ์ของใช้ในบ้าน ทาบัญชีครัวเรือน จัดเก็บ เอกสารสาคญั ดแู ลรกั ษาและใช้สมบัติสว่ นตวั สมาชกิ ในครอบครวั และส่วนรวม ประดษิ ฐข์ องใช้ ของตกแต่ง จากวัสดเุ หลือใชท้ ม่ี อี ยใู่ นท้องถิ่น สารวจขอ้ มูลเกี่ยวกับอาชีพต่าง ๆ ในชมุ ชน และระบุความแตกต่างของอาชีพ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางานอย่างเป็นขน้ั ตอน การจดั การกระบวนการแก้ปญั หาการทางานร่วมกัน การแสวงหาความรู้ เพ่อื ใหม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจในการทางาน และร้จู กั สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เกิดเจตคติที่ดีต่อการ ทางาน มมี ารยาทในการทางานกับสมาชกิ ในครอบครัว มคี วามประณีตในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้ พลังงานและทรัพยากรในการทางานอยา่ งประหยัดและคุ้มคา่ ตลอดจนนาความรูไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั ง ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ง ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒ รวม ๒ มาตรฐาน ๖ ตวั ชี้วดั หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นติม (พันธพ์ ิทยาคม) (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี คาอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี เวลา ๘๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวิชา อภิปรายแนวทางในการดูแลรกั ษาสมบตั ิภายในบา้ น การซอ่ มแซมเส้ือผ้าด้วยการปะ และการชุน การจัดอาหารให้สมาชิกในครอบครัว การเตรียมประกอบอาหารและเครอ่ื งดม่ื ให้สมาชิกในครอบครัว การเลี้ยง ปลาสวยงาม การติดตั้ง ประกอบของใชใ้ นบ้าน การสร้างของใช้ของตกแต่งให้สมาชกิ ในครอบครัวหรือเพ่ือนใน โอกาสตา่ ง ๆ โดยใช้แผนทีค่ วามคิดและทักษะการสร้างชนิ้ งาน การวางแผนในการเลือกอาชีพ การระบุความรู้ ความสามารถ และคุณธรรมท่สี มั พนั ธ์กบั อาชีพทีส่ นใจ ฝกึ ปฏิบัติดแู ลรักษาสมบัติภายในบา้ น ซ่อมแซมเสอ้ื ผา้ ดว้ ยการปะและการชุน จดั อาหาร ให้สมาชิกใน ครอบครัว เตรียมประกอบอาหารและเคร่อื งดม่ื ใหส้ มาชิกในครอบครวั เลีย้ งปลาสวยงาม ติดต้ัง ประกอบของ ใช้ในบา้ น สร้างของใช้ ของตกแต่งใหส้ มาชิกในครอบครัวหรือเพอ่ื น ในโอกาสต่าง ๆ โดยใชแ้ ผนท่ีความคิด และ ทักษะการสรา้ งช้นิ งาน โดยใช้ทกั ษะกระบวนการทางานอย่างเป็นขั้นตอนการจัดการ กระบวนการแก้ปัญหา การทางานร่วมกันและการแสวงหาความรู้ วางแผนในการเลือกอาชพี ระบคุ วามรูค้ วามสามารถ และคณุ ธรรม ทีส่ ัมพันธก์ ับอาชพี ทีส่ นใจ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเกิดเจตคติท่ดี ตี ่อการทางาน มีมารยาทในการทางานกับครอบครวั และผู้อื่น มีคุณธรรมใน การประกอบอาชพี ตลอดจนนาความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด ง ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ง ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒ รวม ๒ มาตรฐาน ๕ ตวั ชีว้ ัด หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตมิ (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
คาอธบิ ายรายวชิ า กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง คาอธิบายรายวิชา ปฏบิ ัติตาม คาสั่งง่ายๆ ทฟ่ี งั ตัวอักษรและเสียง และสะกดคางา่ ย ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน ภาพตรง ตามความหมายของคาและกลุ่มคาทฟ่ี ัง เรอื่ งใกลต้ วั คาสนั้ ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคลตามแบบที่ฟัง คาส่งั ง่าย ๆ ตามแบบทฟ่ี งั ความตอ้ งการง่ายๆของตนเองตามแบบท่ีฟัง การขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกับ ตนเองตามแบบท่ีฟัง ข้อมูลงา่ ยๆ เก่ียวกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว ตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ชื่อและคาศัพท์ เก่ียวกับเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย การระบุ ตวั อกั ษรและเสียงอกั ษรของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย คาศัพท์ท่ีเก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการ เรียนรอู้ ่นื การฟัง/พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆท่เี กิดขึ้นในหอ้ งเรียน การใช้ภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพื่อรวบรวม คาศัพทท์ ี่เก่ียวขอ้ งใกลต้ วั โดยการปฏิบัติตาม ระบุ อา่ นออกเสยี ง เลือกภาพ ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก พูดขอ ให้ข้อมูล ทาท่าประกอบ เขา้ รว่ ม ฟงั /พดู เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนมีความรูค้ วามเข้าใจและนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน เกิด สมรรถนะตามความต้องการของหลักสตู ร มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงคข์ น้ึ ในตัวของผ้เู รียน และสามารถอยู่ร่วมกับ ผูอ้ ืน่ ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ สามารถนาความร้ไู ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนาไปประยุกต์ใช้กับชวี ิตประจาวนั ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ต ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ต ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ต ๑.๓ ป.๑/๑ ต ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ต ๒.๒ ป.๑/๑ ต ๓.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๒ ป.๑/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๑๖ ตวั ชี้วัด หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธพ์ ิทยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ เวลา ๑๖๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ปฏิบตั ติ ามคาส่งั งา่ ยๆ และคาขอรอ้ งง่ายๆ ท่ีฟัง ระบุตวั อกั ษรและเสยี ง อา่ นออกเสียงคา สะกดคา และ อ่านประโยคงา่ ยๆ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาและกลุ่มคาที่ฟัง ตอบคาถาม จากการฟังประโยค บทสนทนาหรือนิทานง่าย ๆ ท่ีมีภาพประกอบ พูดโต้ตอบด้วยคาส้ันๆ ง่าย ๆในการส่ือสาร ระหวา่ งบคุ คลตามแบบทฟ่ี งั ใช้คาสัง่ และคาขอร้องงา่ ย ๆ ตามแบบทฟ่ี งั บอกความตอ้ งการง่ายๆของตนเองตาม แบบที่ฟัง พูดขอและใหข้ อ้ มลู ง่ายๆ เกยี่ วกบั ตนเองตามแบบท่ีฟัง พูดให้ข้อมูล เกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล้ตัว พดู และทาท่าทางประกอบตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่ือและคาศัพท์เก่ียวกับเทศกาลสาคัญของ เจา้ ของภาษา การเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่เี หมาะสมกับวยั ระบุตัวอักษรและเสียงอักษรของ ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)และภาษาไทย บอกคาศัพท์ที่เก่ียวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน ฟัง/พูดใน สถานการณง์ า่ ยๆทีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรยี น ใช้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพื่อรวบรวมคาศัพท์ท่เี กย่ี วข้องใกลต้ วั โดยการระบุ อ่านออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทาท่าทาง เข้าร่วม ฟัง เพื่อให้ ผูเ้ รียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจและนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสูตร มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้ึนในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข สามารถนาความรไู้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กับ ชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชี้วดั ต ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ต ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ต ๑.๓ ป.๒/๑ ต ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒, ป.๒/๓ ต ๒.๒ ป.๒/๑ ต ๓.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๒ ป.๒/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๑๖ ตัวช้ีวัด หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา ปฏิบตั ิตามคาสงั่ และคาขอรอ้ งท่ฟี งั หรืออ่าน คา สะกดคา อ่านกลุ่มคาประโยค และบทพูดเข้าจังหวะ (chant)ง่าย ๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน ภาพหรอื สญั ลักษณ์ตรงตามความหมายของคากลุ่มคาและประโยคที่ฟัง จากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรอื นิทานง่ายๆ คาสัน้ ๆ ง่าย ๆในการสือ่ สารระหว่างบุคคลตามแบบท่ี ฟัง คาส่งั และคาขอรอ้ งง่าย ๆ ตามแบบท่ีฟัง ความตอ้ งการงา่ ยๆของตนเองตามแบบทฟี่ ัง ขอและให้ข้อมูลง่ายๆ เกี่ยวกบั ตนเองและเพอื่ นตามแบบท่ีฟัง ความร้สู ึกของตนเองเกีย่ วกบั สงิ่ ตา่ งๆ ใกล้ตวั หรอื กิจกรรมต่างๆ ตามแบบ ทฟี่ ัง ให้ขอ้ มูลง่ายๆ เกีย่ วกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั คาตามประเภทของ บุคคล สัตว์ และสิ่งของตามท่ีฟังหรือ อ่าน มารยาทสังคม/วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ชอ่ื และคาศัพทง์ า่ ยๆเกย่ี วกับเทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลองและ ชีวิตความเปน็ อย่ขู องเจา้ ของภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมทเ่ี หมาะสมกับวยั ความแตกต่างของเสียง ตวั อกั ษร คา กลมุ่ คา และประโยคงา่ ยๆ ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย คาศพั ท์ท่ีเ กี่ยวข้อง กบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน สถานการณ์ง่ายๆที่เกิดขึ้นในห้องเรียน ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) เพือ่ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกีย่ วข้องใกล้ตัว โดยการอา่ นออกเสียง สะกดคา ฟัง พดู เลือก/ระบุ ตอบคาถาม พดู โตต้ อบ ใช้ บอก จัดหมวดหมู่ ทาทา่ ประกอบ เข้าร่วมกิจกรรม เพอ่ื ให้มีความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาความรู้ไปปฏิบัติให้เกิด ประโยชน์ต่อตนเองและสงั คม มคี ุณธรรม จริยธรรม สามารถนาความรู้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญา ของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั ต ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ต ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ ต ๑.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ ต ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ต ๒.๒ ป.๓/๑ ต ๓.๑ ป.๓/๑ ต ๔.๑ ป.๓/๑ ต ๔.๒ ป.๓/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๑๘ ตัวช้ีวดั หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบา้ นตมิ (พันธ์พทิ ยาคม) (ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ช่วั โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ปฏิบัตติ ามคาส่ัง คาขอรอ้ ง และคาแนะนา (instructions)งา่ ย ๆที่ฟังหรอื อ่าน อ่านออกเสียงคา สะกด คา อ่านกล่มุ คา ประโยค ขอ้ ความงา่ ยๆ และบทพดู เข้าจงั หวะ ถกู ต้องตามหลักการอ่าน เลือก/ระบุภาพหรือ สัญลักษณ์ หรือเครือ่ งหมายตรงตามความหมายของประโยคและขอ้ ความส้ันๆทีฟ่ งั หรืออ่าน ตอบคาถามจากการ ฟังหรอื อ่านประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านง่ายๆ พดู /เขียนโต้ตอบในการส่ือสารระหว่างบุคคล ใช้คาสั่ง คา ขอร้อง และคาขออนุญาตง่าย ๆ พูด/เขียนแสดงความต้องการของตนเองตามและขอความช่วยเหลือใน สถานการณ์งา่ ยๆ พดู /เขียนเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูล เกีย่ วกบั ตนเองเพ่ือน และครอบครัว พูดแสดงความรู้สึกของ ตนเองเกีย่ วกบั เรื่องต่างๆ ใกลต้ ัว หรือกจิ กรรมต่างๆ ตามแบบทฟ่ี งั พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เก่ียวกับตนเองและ เรื่องใกลต้ ัว พูด/วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆใกล้ตัวที่ฟังหรืออ่าน พูดแสดงความคิดเห็นง่ายๆ เก่ยี วกับตนเองและเรื่องใกลต้ ัว พูดและทาทา่ ประกอบอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/วัฒนธ รรมของเจ้าของ ภาษา ตอบคาถามเกี่ยวกับเทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลองและชีวิตความเปน็ อยงู่ ่ายๆของเจ้าของภาษา การเข้า ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย บอกความแตกต่างของเสียงตัว อักษร คา กลุ่มคา ประโยค และขอ้ ความ ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจา้ ของภาษากับของไทย คน้ ควา้ รวบรวม คาศัพท์ที่เก่ียวข้อง กบั กลุ่มสาระการเรยี นร้อู ่ืน และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ฟัง/พดู ในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียนและ สถานศกึ ษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสืบค้นและรวบรวมข้อมลู ต่างๆ โดยการฟัง พดู อ่าน เขียน ระบุ อา่ นออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทาท่าทาง เข้า รว่ ม เพอ่ื ให้ผู้เรียนมคี วามร้คู วามเข้าใจและนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการ ของหลกั สูตร มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ ึน้ ในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมี ความสุข สามารถนาความรไู้ ปใช้ให้เกิดประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไป ประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด ต ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ ต ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ , ป๔/๕ ต ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ต ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ต ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๒ ป.๔/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวช้ีวดั หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นบา้ นตมิ (พนั ธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ เวลา ๘๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ปฏิบัตติ ามคาสงั่ คาขอรอ้ ง และคาแนะนา ที่ฟงั หรืออ่าน อ่านออกเสียง ประโยค ข้อความ และบท กลอนสั้นๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่าน ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรอื เครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค และขอ้ ความสน้ั ๆทีฟ่ ังหรอื อ่าน บอกใจความสาคัญและตอบคาถามจากการฟังหรืออ่านบทสนทนา และนิทาน งา่ ยๆหรือเรอ่ื งสน้ั ๆ พดู /เขยี นโตต้ อบในการส่อื สารระหว่างบุคคล ใช้คาส่ัง คาขอร้อง คาขออนุญาตและให้ คาแนะนางา่ ย ๆ พูด/เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเองตาม ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความ ช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองเพ่ือน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตัว พดู แสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกยี่ วกบั เร่อื งต่างๆ ใกล้ตวั หรอื กจิ กรรมต่างๆพรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลส้ันๆประกอบ พูด/ เขยี นให้ข้อมูลง่ายๆ เกีย่ วกับตนเองและเร่อื งใกลต้ วั เขยี นภาพ แผนผัง และแผนภูมิแสดงข้อมูลต่างๆตามท่ีฟัง หรอื อา่ น พดู แสดงความคดิ เห็น เก่ียวกบั เรอ่ื งต่างๆใกล้ตวั ใชถ้ ้อยคา นา้ เสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพตาม มารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคาถาม/บอกความสาคญั ของเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลองและ ชีวิตความเป็นอยงู่ า่ ยๆของเจา้ ของภาษา การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความ เหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ กา รใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลาดับคา (order)ตามโครงสรา้ งของประโยคของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย บอกความเหมือน/ความ แตกตา่ งระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นคว้ารวบรวม คาศัพท์ท่ี เกย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน ฟัง พูด และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ ต่างๆท่ีเกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูล ตา่ งๆ โดยการฟงั พูด อา่ น เขยี น ระบุ อ่านออกเสียง เลือก ตอบคาถาม พูดโตต้ อบ ใช้ บอก ทาท่าทาง เข้า ร่วม เพือ่ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจและนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวัน เกดิ สมรรถนะตามความต้องการของ หลักสูตร มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ขนึ้ ในตัวของผู้เรยี น และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข สามารถนาความร้ไู ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์โดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กับ ชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๒ ป.๕/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตวั ชีว้ ดั หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านติม (พนั ธ์พิทยาคม) (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ เวลา ๘๐ ชว่ั โมง คาอธบิ ายรายวิชา ปฏิบัตติ ามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนา ที่ฟังและอา่ น อา่ นออกเสียง ข้อความ นิทาน และบทกลอน สนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ น เลอื ก/ระบุประโยค หรอื ขอ้ ความส้ันๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย ท่ีอา่ น บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังหรืออ่าน บทสนทนา หรือนิทานง่ายๆและเรื่องเล่า พูด/เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล ใชค้ าส่ัง คาขอรอ้ ง และคาขออนุญาตและให้คาแนะนา พูด/เขียน แสดงความตอ้ งการ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ง่ายๆ พูด/เขียน เพื่อขอและให้ขอ้ มูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตัว พูด/เขียนแสดงความรู้สึกของตนเอง เก่ียวกับเรอ่ื งต่างๆ ใกล้ตัว หรือกิจกรรมต่างๆ พร้อมท้ังให้เหตผุ ลสน้ั ๆประกอบ พูด/เขียนใหข้ ้อมูล เกี่ยวกับตนเอง เพื่อน และส่ิงแวดล้อมใกลต้ ัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภมู แิ สดงขอ้ มลู ตา่ งๆตามท่ีฟังหรืออ่าน พูดเขียนแสดง ความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ใกลต้ ัว ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางอยา่ งสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาท สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ใหข้ ้อมูลเก่ียวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง/ชีวิตความเป็นอยู่ของ เจ้าของภาษา การเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การใชเ้ คร่อื งหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสร้าง ประโยค ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย เปรียบเทยี บความเหมอื น/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาลงาน ฉลอง และประเพณขี องเจ้าของภาษากบั ของไทย คน้ คว้ารวบรวม คาศพั ท์ท่เี ก่ยี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์ตา่ งๆท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน และสถานศึกษา ใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสบื ค้นและรวบรวมข้อมลู ตา่ งๆ โดยการฟัง พูด อ่าน เขยี น ระบุ อา่ นออกเสียง เลอื ก ตอบคาถาม พูดโตต้ อบ เข้าร่วม เปรียบเทียบ คน้ ควา้ ใช้ บอก เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจและนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวนั เกิดสมรรถนะตามความ ต้องการของหลักสูตร มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ขึน้ ในตัวของผู้เรียน และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้ อย่างมคี วามสุข สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ นาไปประยุกตใ์ ช้กับชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ต ๓.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๒ ป.๖/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตวั ช้วี ัด หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
อ ๑๑๒๐๑ ภาษาอังกฤษพาเพลนิ คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวิชา อ่านและเขียนตวั อักษรภาษาองั กฤษ เข้าใจและใช้ประโยคคาสงั่ ทใี่ ช้ในห้องเรียน การอ่านออกเสียงคา กลุ่มคา ประโยค ข้อความ บทอ่าน บทสนทนา การพูดให้ขอ้ มูลเก่ยี วกับตนเองและเร่ืองใกลต้ วั การขอบคุณ ขอโทษ และการใช้ภาษาท่าทาง การใช้ภาษาในการฟัง พูด ในสถานการณ์ทีเ่ กดิ ข้นึ ในห้องเรยี นโดยใช้กระบวนการเรียนรู้ เพอ่ื การส่ือสาร ฝกึ การใช้ภาษา เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ เขา้ ใจวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา มที ักษะทางภาษา เห็นประโยชน์ ในการเรียนรภู้ าษาองั กฤษ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อ่านและเขยี นตัวอกั ษรภาษาองั กฤษ ออกเสยี งคาศัพท์ได้ถกู ต้อง ๒. ใช้คาทักทาย ขอบคุณ ขอโทษ รวมถงึ คาสั่งงา่ ย ๆ เป็นภาษาอังกฤษได้ถกู ต้อง ๓. ใชภ้ าษาอังกฤษส่ือสารและให้ข้อมูลเก่ยี วกบั เรอ่ื งใกล้ตัวได้อยา่ งเหมาะสม ๔. ใช้ภาษาสื่อสารได้ตามวยั อย่างม่ันใจ และกล้าแสดงออก ๕. ใชภ้ าษาไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา รวมทัง้ หมด ๕ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
อ ๑๒๒๐๑ ภาษาองั กฤษพาเพลนิ คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา เขา้ ใจและใช้ประโยคคาส่งั ง่าย ๆ ในห้องเรียน คาขอร้อง อา่ นและเขียนตัวอกั ษรภาษาอังกฤษ คาศัพท์สน้ั ๆ งา่ ย ๆ เข้าใจความหมายคา กล่มุ คา และประโยคสั้น ๆ ท่ีมีความหมายสัมพนั ธ์กบั สิ่งตา่ ง ๆ ใกล้ตัว เข้าใจบทอ่าน บทสนทนาง่าย ๆ และนิทานทม่ี ีภาพประกอบ ให้ข้อมูลและความต้องการเก่ียวกับตนเองส้ัน ๆ เช่น การพูด แนะนาตนเอง ขอบคุณ ขอโทษ เรียนรู้คาศัพท์เก่ียวกับเทศกาล ขนบธรรมเนียม ประเพณี เทศกาล งานฉลอง โดยใช้ กระบวนการเรียนรเู้ พื่อการสื่อสาร ฝึกการใช้ภาษาเพือ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เห็นประโยชน์ ในการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษ และนาไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ ๑. อา่ นและเขยี นตวั อักษรภาษาอังกฤษ และคาศัพทง์ ่าย ๆ ได้ถกู ตอ้ ง ๒. ใชภ้ าษาอังกฤษในการแนะนาตนเอง ขอบคณุ ขอโทษ ขอและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง และเรอ่ื งใกลต้ วั ไดอ้ ย่างเหมาะสม ๓. บอกความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคส้นั ๆ ไดถ้ กู ต้อง ๔. ตอบคาถามจากการฟังหรืออา่ นเรอ่ื งงา่ ย ๆ หรือนิทานทีม่ ภี าพประกอบไดถ้ ูกต้อง ๕. ใช้ภาษาอังกฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พันธ์พิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
อ ๑๓๒๐๑ ภาษาองั กฤษพาเพลิน คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง คาอธิบายรายวชิ า อ่านออกเสียงคาและประโยคงา่ ย ๆ ทเ่ี ก่ยี วกับเร่ืองใกลต้ วั บอกความหมายของคา ตอบคาถามจากการฟงั หรืออา่ นได้ สามารถใช้ภาษาองั กฤษในการส่อื สารระหว่างบคุ คลได้เหมาะสมตามวยั ใช้ภาษาในการพูดและทาท่า ประกอบตามมารยาทสงั คม วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ใช้บทสนทนา การทักทายได้ถูกตอ้ งตามเวลาและถูกกาลเทศะ แนะนาตนเองได้ ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง บอกลกั ษณะของบุคคลรอบตัว พูดประโยคบอกความชอบและไม่ชอบ บอกความตอ้ งการของตนเองเก่ยี วกับเรื่องกฬี า งานอดิเรก บอกสถานที่ตา่ ง ๆ รอบตัว และตาแหน่งของสถานท่ี ตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการเรยี นรเู้ พ่อื การส่ือสาร ฝึกการใช้ภาษาเพื่อให้มีความรู้ เข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา มีทกั ษะทางภาษา เห็นประโยชน์ในการเรยี นรู้ภาษาองั กฤษ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม ผลการเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาและประโยคง่าย ๆ ทเี่ กย่ี วกับเรือ่ งใกล้ตวั ๒. บอกความหมายของคาและตอบคาถามจากการฟงั หรืออา่ นได้ ๓. ใช้ภาษาองั กฤษในการส่อื สาร สนทนา ทักทายและแนะนาตนเอง และใช้ภาษาทา่ ทางประกอบการพูด ได้เหมาะสม ๔. ใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับตนเอง และอธบิ ายเกีย่ วกบั ส่งิ ตา่ ง ๆ ใกล้ตัว โดยใชภ้ าษาอังกฤษอย่างงา่ ยได้ ๕. ใชภ้ าษาอังกฤษไดต้ ามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านติม (พนั ธพ์ ิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
ว ๑๔๒๐๑ วิทยาการคานวณ คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาการเรียนรูแ้ บบนักวทิ ยาศาสตร์ การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการแก้ปัญหา การออกแบบและเขียน โปรแกรมอยา่ งงา่ ย การตรวจหาข้อผิดพลาดในโปรแกรม การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตและการใช้คา ค้น การประเมินความนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล การรวบรวม นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ ใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ ต้ังคาถาม คาดคะเนคาตอบหรือสร้างสมมตฐิ าน วางแผนและสารวจตรวจสอบ โดยใชเ้ ครื่องมืออปุ กรณแ์ ละเทคโนโลยสี ารสนเทศทเ่ี หมาะสม ประเมินความนา่ เชื่อถือ ของข้อมูล รวมรวมข้อมูล ประมวลผลอย่างง่าย วิเคราะหข์ อ้ มูล วิเคราะหผ์ ลและสร้างทางเลือก นาเสนอข้อมูล ลงความคิดเห็นและสรุปผล การสารวจตรวจสอบ เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ มที กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และมีทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษท่ี ๒๑ ในดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถ ทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่น ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแก้ปญั หา และอธิบายการทางานหรือคาดการผลลัพธ์จากปัญหา อย่างงา่ ย ออกแบบและเขยี นโปรแกรม ตรวจหาขอ้ ผิดพลาดจากโปรแกรมของตนเองและผอู้ ืน่ ตระหนักถึงคณุ ค่าของความรู้ทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และใช้ความรแู้ ละกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน การดารงชีวิต สามารถสื่อสารอย่างมีมารยาทและรกู้ าลเทศะ รู้จักการปกป้องข้อมูลส่วนตัว มีจิตวิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกปญั หาการอธบิ ายการทางาน การคาดการณผลลัพธจ์ ากปญั หาอยา่ งง่าย 2. ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาด และแกไข 3. ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู และประเมินความน่าเชือ่ ถือของขอ้ มูล 4. รวบรวม ประเมนิ นาเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ทีห่ ลากหลาย เพอ่ื แกปญั หา ในชีวติ ประจาวนั 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าในสิทธิและหนา้ ที่ของตน เคารพในสทิ ธขิ องผอู้ ่ืน แจง้ ผเู้ กี่ยวข้องเมอื่ พบข้อมลู หรอื บุคคลทไ่ี มเหมาะสม รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ว ๑๕๒๐๑ วทิ ยาการคานวณ คาอธบิ ายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๕ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาการเรียนรู้แบบนักวทิ ยาศาสตร์ การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การเขียนรหัสลาลองเพ่ือ แสดงวธิ แี ก้ปญั หา การออกแบบ และการเขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขและการทางานแบบวนซา้ การใช้ซอฟต์แวร์ ประมวลผลขอ้ มลู การติดต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ การใชอ้ ินเทอร์เนต็ คน้ หาขอ้ มลู และการประเมนิ ความนา่ เช่อื ถือของข้อมูล อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ใช้การสืบเสาะหาความรู้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู จดั กระทาและสื่อความหมายข้อมูล สร้างแบบจาลอง และอธบิ ายผลการสารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ขน้ั พื้นฐานและทกั ษะการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารเบ้ืองต้น สามารถสื่อสารส่ิงทเี่ รยี นรู้ มีความคดิ สร้างสรรค์ สามารถทางานรว่ มกบั ผอู้ นื่ แสดงวิธีแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิง ตรรกะ ใช้รหสั ลาลองแสดงวิธีการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นข้นั ตอน ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขและการ ทางานแบบวนซ้า ตรวจหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม ใชซ้ อฟต์แวรช์ ว่ ยในการแก้ปัญหา ใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อ สื่อสารและคน้ หาข้อมลู แยกแยะข้อเท็จจริงกบั ขอ้ คิดเห็น ประเมินความน่าเชอื่ ถือ ของข้อมูล ตระหนักถึงคุณค่า ของความร้ทู างวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และใชค้ วามรู้และกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัยและมีมารยาท มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแกปญั หาการอธบิ ายการทางาน การคาดการณผลลพั ธจ์ ากปัญหาอย่างง่าย 2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรอื สอ่ื และตรวจหาข้อผิดพลาด และแกไข 3. ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู และประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของขอ้ มูล 4. รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ทห่ี ลากหลาย เพ่อื แกปัญหา ในชีวติ ประจาวัน 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธิของผูอ้ ่นื แจ้งผเู้ ก่ียวขอ้ งเมือ่ พบขอ้ มูลหรือบคุ คลทไ่ี มเหมาะสม รวมท้ังหมด ๕ ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
ว ๑๖๒๐๑ วทิ ยาการคานวณ คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาการเรยี นรแู้ บบนักวทิ ยาศาสตร์ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการ แกป้ ญั หา การออกแบบ การเขยี นโปรแกรมและการตรวจหาข้อผดิ พลาด การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตอย่าง มปี ระสทิ ธิภาพ การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการทางานรว่ มกนั ใชก้ ารสืบเสาะหาความรู้ สงั เกต รวบรวมขอ้ มูล จดั กระทาและส่ือความหมายข้อมูล สร้างแบบจา ลอง และอธิบายผลการสารวจตรวจสอบ เพ่อื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ข้ัน พน้ื ฐานและทกั ษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น สามารถสื่อสารสิง่ ท่ีเรยี นรู้ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ สามารถทางานร่วมกับผู้อื่น อธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยใชเ้ หตุผลเชงิ ตรรกะ เขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ยเพ่ือแก้ปัญหาและตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ค้นหา ข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ นต็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทางานร่วมกนั ตระหนักถึงคณุ คา่ ของความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโ นโลยี และใช้ความรู้และกระบวนการ ทาง วทิ ยาศาสตร์ในการดารงชวี ิต ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศรว่ มกันอยา่ งปลอดภัย เข้าใจสิทธแิ ละหน้าท่ีของตน เคารพ ในสิทธิของผอู้ ่ืน มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกปญั หาการอธิบายการทางาน การคาดการณผลลพั ธจ์ ากปัญหาอย่างงา่ ย 2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาด และแกไข 3. ใช้อนิ เทอร์เน็ตคน้ หาความรู และประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมูล 4. รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ทห่ี ลากหลาย เพือ่ แกปญั หา ในชวี ิตประจาวัน 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย เขา้ ใจสิทธแิ ละหน้าท่ีของตน เคารพในสทิ ธขิ องผู้อื่น แจง้ ผเู้ ก่ยี วข้องเมอ่ื พบข้อมลู บุคคลท่ีไมเหมาะสม รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบ้านติม (พันธ์พิทยาคม) (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๑๒๐๑ ต่อต้านทุจรติ ศกึ ษา คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชัว่ โมง คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ ระบบคดิ ฐาน ๒ ระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทาการบ้าน การทาเวร การสอบ กจิ กรรมนักเรียน STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทจุ ริต ความเอื้ออาทร รู้หน้าทีข่ องพลเมืองและรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ความหมายบทบาทและสิทธิ การเคารพสิทธิหนา้ ท่ีต่อตนเองและผู้อ่ืน ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย ความรบั ผดิ ชอบ (ตอ่ ตนเองกับต่อผู้อืน่ ) ความเป็นพลเมืองในการต่อต้านการทุจริต โดยใชก้ ระบวนการคดิ วเิ คราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัติจริง การทาโครงงานกระบวนการเรยี นรู้ ๕ ขนั้ ตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสืบสอบ การแก้ปัญหา ทกั ษะการอ่านและการเขียน เพ่ือให้มีความตระหนักและ เหน็ ความสาคญั ของการต่อต้านและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม 2. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับ STRONG/จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทจุ รติ 4. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผลู้ ะอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏบิ ัติตนเป็นผ้ทู ่ี STRONG/จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจรติ 8. ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ทีพ่ ลเมืองและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสาคัญของการต่อต้านและป้องกนั การทจุ รติ รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรียนรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นตมิ (พันธพ์ ิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ส ๑๒๒๐๑ ต่อตา้ นทจุ ริตศึกษา คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม การคดิ แยกแยะ ประโยชน์ สว่ นตนและประโยชน์ส่วนรวม ระบบคดิ ฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต การทาการบ้าน การทาเวร การสอบ กิจกรรมนกั เรียน STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต ความพอเพียง ความโปร่งใส ต้านทุจริต ความเออื้ อาทร รูห้ น้าที่ของพลเมืองและรับผิดชอบต่อสังคม เร่ืองการเคารพสิทธิหน้าท่ี ตอ่ ตนเองและผอู้ ่นื การเคารพสทิ ธิหนา้ ท่ตี ่อชุมชนและสังคม ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ตอ่ หอ้ งเรียน) คณุ ลักษณะของพลเมอื งทด่ี ี หน้าทขี่ องพลเมืองที่ดีในการตอ่ ต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ัติจริง การทาโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การ อภปิ ราย การสบื สอบ การแกป้ ัญหา ทกั ษะการอ่านและการเขยี น เพ่ือให้มคี วามตระหนกั และเห็นความสาคัญของการ ต่อต้านและการปอ้ งกนั การทจุ ริต ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับ STRONG/จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทุจริต 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบตอ่ สังคม 5. สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กับผลประโยชน์ส่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ัตติ นเป็นผ้ลู ะอายและไม่ทนต่อการทจุ ริตทกุ รูปแบบ 7. ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ที่ STRONG/จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทุจรติ 8. ปฏิบัติตนตามหนา้ ทีพ่ ลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม 9. ตระหนักและเหน็ ความสาคญั ของการตอ่ ต้านและป้องกันการทุจริต รวมท้ังหมด ๙ ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านติม (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๓๒๐๑ ตอ่ ต้านทจุ รติ ศกึ ษา คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เตมิ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาเก่ยี วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ ระบบคดิ ฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม การขัดกันระหว่างประโยชน์ ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต การทาการบ้าน การทาเวร การสอบ การแต่งกาย กิจกรรมสง่ เสริมความถนดั และความสนใจ STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต ความพอเพียง ความโปร่งใส ตา้ นทจุ ริต ความเออ้ื อาทร พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสังคม เรื่องการเคารพสิทธิหน้าท่ีต่อ ตนเองและผอู้ ื่นที่มีต่อชมุ ชน เร่ืองการเคารพสิทธิหน้าที่ต่อตนเองและผู้อื่นที่มีต่อประเทศชาติ ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ต่อโรงเรยี น) ความเป็นพลเมืองในการต่อตา้ นการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏิบัติจริง การทาโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสบื สอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพ่อื ให้มีความตระหนักและเห็นความสาคัญของ การต่อต้านและการปอ้ งกัน การทจุ รติ ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ ริต 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับ STRONG/จิตพอเพียงตอ่ ตา้ นการทุจรติ 4. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับพลเมอื งและมีความรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผลู้ ะอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทกุ รูปแบบ 7. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ที่ STRONG/จิตพอเพยี งตอ่ ตา้ นการทจุ รติ 8. ปฏิบัตติ นตามหน้าท่พี ลเมืองและมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเห็นความสาคัญของการตอ่ ตา้ นและปอ้ งกนั การทุจรติ รวมทัง้ หมด ๙ ผลการเรียนรู้ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พนั ธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๓)
ส ๑๔๒๐๑ ตอ่ ตา้ นทจุ ริตศกึ ษา คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชั่วโมง คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาเกยี่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์สว่ นรวม การคิดแยกแยะ ระบบ คิดฐาน ๒ ระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหว่างจริยธรรมและการทุจริต ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ ส่วนรวม ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต การทาการบา้ น การทาเวร การสอบ การแต่งกาย กิจกรรม นกั เรียน (ภายในโรงเรียน) การเข้าแถว STRONG/จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทุจรติ การดารงชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง ความโปรง่ ใส ความตน่ื รู้/ความรู้ ตา้ นทุจรติ มงุ่ ไปขา้ งหน้า ความเอ้ืออาทร พลเมืองกับความ รับผดิ ชอบต่อสังคม เร่อื งการเคารพสทิ ธิหน้าท่ีตอ่ ตนเองและผู้อืน่ ที่มตี อ่ ครอบครวั ระเบียบ กฎ กตกิ า กฎหมาย ความ รบั ผิดชอบ (ต่อชุมชน) ความเปน็ พลเมืองในการต่อต้านการทุจริตโดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ัติจรงิ การทาโครงงานกระบวนการเรยี นรู้ ๕ ข้ันตอน (๕ STEPs) การอภิปราย การสืบสอบ การแกป้ ัญหา ทักษะการอา่ นและการเขียน เพ่ือให้มีความตระหนกั และเห็นความสาคัญของการต่อต้านและการ ป้องกันการทจุ ริต ผลการเรียนรู้ ๑. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับ STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ 4. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับพลเมืองและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้ 6. ปฏิบัติตนเปน็ ผ้ลู ะอายและไมท่ นต่อการทุจริตทุกรูปแบบ 7. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผทู้ ี่ STRONG/จิตพอเพยี งต่อตา้ นการทุจริต 8. ปฏิบตั ติ นตามหน้าท่ีพลเมืองและมคี วามรับผิดชอบต่อสังคม 9. ตระหนักและเห็นความสาคญั ของการตอ่ ตา้ นและปอ้ งกันการทจุ ริต รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านติม (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
ส ๑๕๒๐๑ ต่อตา้ นทุจรติ ศึกษา คาอธิบายรายวชิ าเพิม่ เตมิ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลา ๔๐ ชวั่ โมง คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาเกี่ยวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคดิ ฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหวา่ งจรยิ ธรรมและการทจุ ริต ประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ สว่ นรวม การขดั กันระหว่างประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ผลประโยชน์ทับซ้อน ความละอายและ ความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ การทาการบ้าน การทาเวร การสอบ การแต่งกาย กิจกรรมนักเรียน (ในห้องเรียน โรงเรยี น ชุมชน) การเขา้ แถว STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ ริต ความพอเพียง ความโปร่งใส ความต่ืนรู้/ ความรู้ ตา้ นทจุ ริต มุ่งไปข้างหนา้ ความเออื้ อาทร พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม เรื่องการเคารพสิทธิหน้าที่ ตอ่ ตนเองและผูอ้ นื่ ระเบยี บ กฎ กติกา กฎหมาย ความรับผิดชอบ (ตอ่ สงั คม) ความเป็นพลเมอื งในการต่อต้านการ ทุจรติ โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝึกปฏบิ ัติจรงิ การทาโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขน้ั ตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสบื สอบ การแก้ปัญหา ทักษะการอ่านและการเขียน เพ่ือให้มีความ ตระหนกั และเห็นความสาคัญของการตอ่ ต้านและการป้องกันการทุจรติ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั STRONG/จติ พอเพยี งตอ่ ต้านการทุจริต 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ที่ STRONG/จติ พอเพียงตอ่ ต้านการทจุ รติ 8. ปฏิบตั ิตนตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมีความรับผดิ ชอบต่อสังคม 9. ตระหนกั และเหน็ ความสาคญั ของการตอ่ ตา้ นและปอ้ งกันการทุจรติ รวมทง้ั หมด ๙ ผลการเรยี นรู้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พันธพ์ ทิ ยาคม) (ฉบบั ปรบั ปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๓)
ส ๑๖๒๐๑ ต่อตา้ นทุจริตศกึ ษา คาอธิบายรายวิชาเพมิ่ เตมิ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เวลา ๔๐ ชว่ั โมง คาอธิบายรายวิชา ศึกษาเก่ยี วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม การคิดแยกแยะ ระบบคิดฐาน ๒ ระบบคิดฐาน ๑๐ ความแตกต่างระหวา่ งจริยธรรมและการทุจริต ประโยชนส์ ่วนตนและประโยชน์ ส่วนรวม การขัดกนั ระหวา่ งประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ผลประโยชน์ทบั ซ้อน รปู แบบของผลประโยชน์ ทบั ซ้อน ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ การทาการบ้าน การทาเวร การสอบ การแต่งกาย กิจกรรม นกั เรยี น (ในห้องเรียน โรงเรียน ชุมชน สังคม) การเข้าแถว STRONG/จิตพอเพียงต่อต้านการทุจริต การ สร้างจติ สานึกความพอเพียงตอ่ ตา้ นการทจุ รติ ความโปร่งใส ความต่ืนรู้/ความรู้ ต้านทุจริต มุ่งไปข้างหน้า ความ เอ้อื อาทร พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม เรอื่ งการเคารพสทิ ธหิ นา้ ท่ีต่อตนเองและผู้อ่ืน ท่ีมีต่อประเทศชาติ ระเบยี บ กฎ กตกิ า กฎหมาย ความรับผดิ ชอบ (ตอ่ ประเทศชาติ) ความเป็นพลเมืองในการต่อตา้ นการทุจริตโดยใช้ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ จาแนก แยกแยะ การฝกึ ปฏบิ ัติจรงิ การทาโครงงานกระบวนการเรียนรู้ ๕ ขั้นตอน (๕ STEPs) การอภปิ ราย การสบื สอบ การแกป้ ัญหา ทกั ษะการอา่ นและการเขียน เพื่อให้มีความตระหนักและเห็น ความสาคญั ของการตอ่ ตา้ นและการปอ้ งกนั การทุจรติ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชนส์ ว่ นรวม 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ 3. มีความรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั STRONG/จติ พอเพียงต่อตา้ นการทจุ รติ 4. มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับพลเมอื งและมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม 5. สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 6. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้ลู ะอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทกุ รปู แบบ 7. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผทู้ ่ี STRONG/จิตพอเพยี งต่อต้านการทจุ รติ 8. ปฏิบัติตนตามหนา้ ทพี่ ลเมืองและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสังคม 9. ตระหนกั และเห็นความสาคัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกันการทุจริต รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรยี นรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นบ้านตมิ (พนั ธ์พิทยาคม) (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143