96 2.8 การเก็บรักษาน้านมแม่ที่บีบออกมาแล้ว ควรเก็บน้ำนมในปริมำณท่ีลูกดื่มหมดพอดี และ ควรปิดภำชนะให้มิดชดิ เขียนวันที่และเวลำท่เี กบ็ ไว้ โดยจัดเรียงตำมลำดับก่อน – หลัง 2.8.1 อายุของน้านมแมท่ เ่ี กบ็ ไว้ให้ลูกดม่ื 1) อณุ หภูมหิ อ้ ง เก็บได้นำน 1 ชวั่ โมง 2) ต้เู ยน็ ชอ่ งธรรมดำ เก็บได้นำน 48 ช่ัวโมงใตช้ อ่ งแชแ่ ขง็ 3) ตูเ้ ยน็ ช่องแชแ่ ข็งแบบประตเู ดยี วจะเกบ็ ไดน้ ำน 2 สัปดำห์ 4) ตูเ้ ย็นช่องแช่แขง็ แบบ 2 ประตจู ะเกบ็ ไดน้ ำน 3 เดือน 2.8.2 การนานา้ นมทเ่ี ก็บไวม้ าใหล้ ูกดืม่ 1) ถ้ำเปน็ นำ้ นมแมท่ เ่ี กบ็ ในตเู้ ยน็ ช่องธรรมดำอันดับแรกให้นำมำวำงข้ำงนอกให้หำยเย็น ก่อนหรอื จะนำไปแช่ในนำ้ อ่นุ ก็ได้ 2) นำ้ นมแชแ่ ข็งให้ย้ำยลงมำวำงในตูเ้ ยน็ ชอ่ งธรรมดำก่อน 1 คนื เพือ่ ใหล้ ะลำย 3) ในกรณีที่เดินทำงใหแ้ ช่ในกระติกน้ำแขง็ ใหม้ นี ้ำแขง็ เพยี งพอกบั กำรทำควำมเย็น 4) ห้ำมแช่น้ำนมในนำ้ ร้อนหรืออุ่นด้วยเตำไมโครเวฟ เพรำะจะทำให้ภูมิต้ำนทำน ในนำ้ นมแม่สูญเสยี ไป 3. แนวทางในการรบั ประทานของแมใ่ หน้ มลกู มีดังน้ี 3.1 ปริมำณและคุณค่ำอำหำรสำคญั มำก แม่ควรรบั ประทำนอำหำรให้หลำกหลำย ครบ 5 หมู่ 3.2 ควรบริโภคอำหำรมำกกว่ำปกติ เพื่อช่วยเสริมสร้ำงน้ำนมโดยเฉพำะกลุ่มโปรตีน เช่น ควรดื่ม นมเพม่ิ 1 - 2 แกว้ ต่อวนั สลับกบั ปลำเล็กปลำนอ้ ย 3.3 เลือกรับประทำนอำหำรกลุ่มผัก ผลไม้สด ไม่ต่ำกว่ำ 1 มื้อ ช่วยให้มีวิตำมินและเส้นใย อำหำรท่ีดี 3.4 ดม่ื นำ้ ให้ได้อย่ำงนอ้ ย 7 - 8 แกว้ ตอ่ วนั เพ่อื ช่วยเพิ่มนำ้ นมมำกขึ้น 4. วธิ ปี ฏิบัตติ ัวสาหรับแม่ในระยะหลงั คลอดเพ่อื สุขภาพท่ดี ี 4.1 การรับประทานอาหาร ในระยะให้นมลูก แม่ต้องกำรอำหำรเพ่ิมมำกข้ึนกว่ำระยะก่อนต้ังครรภ์ เพรำะต้องใช้อำหำรเพื่อสร้ำงน้ำนมให้ลูก ควรกินอำหำรที่มีพลังงำนเพิ่มขึ้นอีกประมำณ 500 กิโลแคลลอร่ี และมีโปรตีนเพ่ิมขึ้นประมำณวันละ 25 กรัม อำหำรท่ีมีคุณค่ำสูงจะช่วยให้มีน้ำนมอย่ำงเพียงพอ ช่วยบำรุง ซ่อมแซมและฟ้ืนตัวของคุณแม่ได้เร็วยิ่งข้ึน ในทำงตรงข้ำมถ้ำได้รับอำหำรไม่เพียงพอร่ำงกำยจะทรุดโทรม ภมู ติ ำ้ นทำนตำ่ อำจเกิดโรคแทรกซ้อนได้ 4.2 การพักผอ่ นนอนหลบั ควรพักผอ่ นและนอนหลับให้เต็มที่ในระยะ 1 – 2 วันแรกภำยหลังคลอด อยำ่ งนอ้ ยวนั ละ 6 – 8 ช่วั โมง และหำเวลำพักผ่อนในขณะทีล่ ูกหลับ 4.3 การทางาน สำมำรถทำงำนเบำ ๆ ได้ตำมปกติ เช่น กวำดบ้ำน หุงข้ำว ทำกับข้ำว แต่ไม่ควร ยกของหนัก หรือขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ เพรำะอำจทำให้แผลฝีเย็บแยกและมีผลต่อกำรยืดและคลำยกล้ำมเนื้อ มดลูก ทำใหเ้ กดิ กระบังลมหย่อนได้
97 4.4 การทาความสะอาดรา่ งกาย 4.4.1 ควรอำบนำ้ อยำ่ งนอ้ ยวนั ละ 2 ครัง้ เพรำะแม่จะมกี ลิน่ ตัวจำกหลำย ๆ แหลง่ ผสมผสำนกัน ทั้งกล่ินน้ำนมแม่ กลิ่นตัว กล่ินน้ำคำวปลำ กำรอำบน้ำจะช่วยบรรเทำกล่ินรบกวนเหล่ำน้ีได้ โดยใช้ขันตักอำบ หรือน้ำฝักบัวโดยไม่ควรลงแช่ในอ่ำงน้ำ สระน้ำ หรือแม่นำ้ ลำคลอง เพรำะเช้ือโรคอำจเข้ำสู่โพรงมดลูกได้ เนื่องจำกปำกมดลกู ยงั ปดิ ไมส่ นทิ 4.4.2 ทำควำมสะอำดบริเวณแผลฝีเย็บ ให้สะอำดจำกบริเวณด้ำนหน้ำไปด้ำนหลัง (ทวำรหนัก) โดยกำรใช้นำ้ สะอำด หรือสบู่ และหมน่ั เปลีย่ นผ้ำอนำมยั บอ่ ย ๆ 4.4.3 แปรงฟันให้สะอำดอย่ำงน้อยวันละ 2 คร้ัง และแปรงล้ินทุกคร้ังหลังกำรแปรงฟัน โดยเลือกใช้ยำสีฟันผสมฟลูออไรด์ ควรบ้วนปำกหลังกำรกินอำหำรทุกมื้อ เพรำะส่วนใหญ่แม่หลังคลอด อำจพบว่ำกลิ่นปำกแรงขึ้น และที่สำคัญในแม่ที่ไม่ได้รับกำรตรวจฟันในระยะตั้งครรภ์ควรไปพบทันตแพทย์ ประมำณ 2 เดือนหลังคลอด หรือพร้อมกบั วันท่นี ดั มำตรวจหลังคลอด 5. การออกกาลงั กายหลงั คลอด หลังคลอดปกติ ประมำณ 6 - 8 ช่ัวโมง แม่ควรได้รับกำรกระตุ้นให้ร่ำงกำยมีกำรเคล่ือนไหว เร็วที่สุด หลังจำกได้รับกำรพักผ่อนจำกกำรผ่ำนระยะคลอดมำแล้ว และไม่มีภำวะแทรกซ้อนใด ๆ ก็เริ่ม ออกกำลังกำยได้ทันที ท้ังน้ีเนื่องจำกอวัยวะส่วนต่ำง ๆ ของร่ำงกำยที่มีกำรเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ระยะต้ังครรภ์ จะได้กลับคืนสสู่ ภำพเดิมในระยะเวลำอนั ส้ัน 5.1 ประโยชนข์ องการออกกาลงั กายหลังคลอด 5.1.1 ช่วยให้รำ่ งกำยกลบั คืนสภำพปกติด้วยควำมรวดเร็ว 5.1.2 เป็นกำรกระตุ้นกำรทำงำนของต่อมน้ำนม เป็นกำรส่งเสริมให้ร่ำงกำยผลิตน้ำนม ออกมำเพียงพอสำหรับใชเ้ ล้ียงทำรก 5.1.3 ชว่ ยบรรเทำควำมเมื่อยล้ำ และทำให้สดชนื่ แจม่ ใส เอน็ และขอ้ ตำ่ ง ๆ แขง็ แรง 5.1.4 ช่วยใหน้ อนหลบั ได้ง่ำยกว่ำปกติ ทำใหร้ ่ำงกำยได้พกั ผ่อนมำกขึ้น 5.1.5 ทำให้มีสุขภำพสมบูรณ์แข็งแรงทั้งด้ำนร่ำงกำยและจิตใจ เป็นกำรเตรียมพร้อมสำหรับ แมท่ ่ีดี 5.1.6 ชว่ ยให้นำ้ คำวปลำออกไดด้ ีย่ิงขนึ้ 5.1.7 สลำยไขมนั สว่ นเกิน กล้ำมเน้อื แข็งแรง มรี ปู ร่ำงสดั ส่วนกระชับ 5.2 ขัน้ ตอนการออกกาลังกายหลงั คลอด กำรปฏิบตั ิในกำรออกกำลงั กำยหลังคลอด มีท้ังหมด 5 ท่ำ ซ่ึงแบ่งตำมระยะเวลำหลังคลอด โดยเริ่มจำกท่ำงำ่ ย ๆ และเบำ ๆ ในวันแรกหลงั คลอด หลังจำกนั้นเพ่ิมขั้นเร่ือย ๆ ตำมควำมสำมำรถและควำมพร้อม ของร่ำงกำย ฝกึ ทำทีละข้ำงเป็นจังหวะปฏิบัติต่อเนื่อง 10 – 15 คร้ัง และถ้ำฝึกทำแล้วมีอำกำรบำดเจ็บรุนแรง ของกล้ำมเน้ือควรหยุดกำรออกกำลังกำย
98 5.2.1 ทา่ บรหิ ารกลา้ มเนื้อข้างลาตวั วิธีบริหาร ยืนตรงแยกเท้ำหนึ่งช่วงไหล ใช้มือข้ำงหนึ่งแตะที่ศีรษะ อีกข้ำงหนึ่ง ปล่อยข้ำงลำตวั พรอ้ มแล้วเอียงลำตวั ไปด้ำนขำ้ ง จนร้สู กึ ตงึ แลว้ ยกลำตัวตรงจดุ เดมิ 5.2.2 ทา่ บรหิ ารกล้ามเน้ือเอว วิธีบริหาร ยืนตรงเท้ำชิด ประสำนมือพร้อมแล้วบิดลำตัวไปด้ำนข้ำงจนรู้สึกตึง แล้วกลบั มำจุดเริม่ ตน้ 5.2.3 ทา่ บรหิ ารกลา้ มเนื้อต้นขา วิธีบริหาร ยืนตรงก้ำวเท้ำไปด้ำนหน้ำ 1 ก้ำว ใช้มือเท้ำเอวทั้งสองข้ำง (ถ้ำทรงตัวไม่ได้ ใหห้ ำทจ่ี บั ) พร้อมแล้วยกเท้ำที่กำ้ วไปด้ำนหนำ้ ข้ึนมำจนตงึ หรอื ขนำนพื้น แลว้ ลดกลบั 5.2.4 ทา่ บรหิ ารกลา้ มเนอ้ื ต้นขา สะโพก วธิ บี รหิ าร ยืนตรงให้ปลำยเท้ำชิด ส้นเท้ำแยก หัวเข่ำชิด ต้นขำชิดติดกัน มือเท้ำเอว พร้อมแลว้ ยอ่ ตวั ลงเหมอื นจะนั่งเกำ้ อี้ หวั เข่ำไม่เลยปลำยเท้ำ จนรู้สกึ ตงึ แลว้ ยืดขึ้นมำจดุ เรม่ิ ต้น 5.2.5 ทา่ บรหิ ารกลา้ มเน้ือหน้าอก วิธีบริหาร ยืนแยกเท้ำหนึ่งช่วงไหล มือประกบชิดกัน ต้นแขนแนบชิดลำตัว ดันกล้ำมเน้อื อก พร้อมแลว้ ยกแขนข้นึ ด้ำนบนจนแขนตึงแลว้ หมุนแขนเป็นวงกลม กำรออกกำลังกำยควรทำอย่ำงค่อยเป็นค่อยไป จำกท่ำง่ำย ๆ และเบำ ๆ ในวันแรก หลังคลอด หลังจำกนั้นเพิ่มควำมแข็งแรงเรื่อย ๆ ตำมควำมสำมำรถและควำมพร้อมของร่ำงกำย แต่ต้อง ไม่หักโหมจนทำให้เกิดโทษแก่ร่ำงกำย กำรออกกำลังกำยจำเป็นต้องทำอย่ำงสม่ำเสมอจึงจะได้รับประโยชน์ ของกำรออกกำลังกำย และแม่หลังคลอดควรประเมินสภำพควำมพร้อมของร่ำงกำยอยู่เสมอ เพื่อช่วยลด อันตรำยหรืออุบัติเหตุท่ีอำจเกิดจำกกำรออกกำลังกำยท่ีมำกเกินไป ทั้งนี้ กำรออกกำลังกำยรูปแบบอื่น ๆ ควรไดร้ บั กำรตรวจหลงั คลอดเพ่อื ประเมนิ ควำมพร้อมของรำ่ งกำยก่อนออกกำลงั กำย 6. การดแู ลทารกหลงั คลอด 6.1 ประโยชนข์ องการนวดทารก กำรนวดทำรกมีประโยชน์มำกมำย เป็นกำรนวดส่งเสริมพัฒนำกำรในหลำย ๆ ด้ำน กำรนวดเด็ก กเ็ หมอื นนวดผ้ใู หญช่ ว่ ยให้ผ่อนคลำย เด็กสุขภำพดีส่งผลให้พัฒนำกำรหลำย ๆ ด้ำนดีตำมไปด้วย ทำงด้ำนร่ำงกำย ช่วยทำให้ผ่อนคลำยกล้ำมเน้ือส่งผลให้กำรไหลเวียนของเลือดมำเลี้ยงกล้ำมเนื้อได้ดีขึ้น ส่วนทำงด้ำนจิตใจ พ่อแม่ก็ได้ถ่ำยทอดควำมรักควำมอบอุ่นให้กับลูกน้อย จำกกำรที่ผู้นวดพูดคุยกับเขำอยู่ตลอดช่วงของกำรนวด หรือเปิดเพลงคลอไปด้วยจะช่วยส่งเสริมพัฒนำกำรด้ำนกำรมองเห็น พัฒนำกำรด้ำนกำรได้ยิน รวมทั้งเป็น กำรกระตุ้นประสำทสัมผัสด้ำนอื่น ๆ ด้วย ขณะนวดผู้นวดมีโอกำสท่ีจะย่ืนหน้ำเข้ำหำทำรกอยู่บ่อย ๆ ทำให้ เขำเรียนรู้อวัยวะต่ำง ๆ บนใบหน้ำของผู้นวด พ่อ แม่ หรือผู้เล้ียงต้องเลือกเวลำท่ีเหมำะสมในกำรนวด คือ เวลำท่ีทำรกไม่โยเย ก่อนมื้อนม หรือหลังอำบนำ้ และผู้นวดต้องไม่เครียดกำรนวดจึงจะดำเนินไปได้ด้วยดี ผล ของกำรวิจัย พบว่ำ กำรนวดทำรกมีประโยชนด์ งั ตอ่ ไปนี้ 6.1.1 กำรเจริญเตบิ โตของเซลล์ประสำทและใยประสำทของเซลลส์ มองเป็นไปอยำ่ งสมบูรณ์
99 6.1.2 ลดกำรเจ็บปวดโดยกำรยับยงั้ กำรนำสัญญำณควำมเจ็บปวดไปสู่สมอง 6.1.3 ช่วยกระตุ้นกำรทำงำนของระบบกำรย่อยอำหำรและลำไส้ กำรขับถ่ำย เพรำะทำรก ไดเ้ คลอื่ นไหวอยูต่ ลอดเวลำ เป็นกำรกระต้นุ ใหล้ ำไส้ได้เคลือ่ นไหวตำมไปดว้ ย หำกลำไสเ้ คลื่อนไหวดีกำรขับถ่ำย คลอ่ งตวั ทอ้ งไม่ผูกด้วย กำรดดู ซึมอำหำรดีขน้ึ มีผลทำให้น้ำหนกั ตัวเพิ่มข้ึนเร็ว 6.1.4 กระตนุ้ กำรไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง นำอำหำรไปเล้ียงเนื้อเยื่อ และขับถ่ำย ของเสยี ออก รวมทั้งลดอำกำรบวม 6.1.5 ช่วยให้กล้ำมเนื้อผ่อนคลำย ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงทั่วร่ำงกำยทำให้ทำรกหลับได้นำน มำกกว่ำปกติ ลดกำรใช้พลงั งำน มีผลทำให้น้ำหนักตวั มำกขึ้น กล้ำมเน้ือแข็งแรง ส่งเสริมให้มีพัฒนำกำรด้ำนกำร เคลอื่ นไหวตำมวัย 6.1.6 ชว่ ยกระตุน้ ระบบภูมิต้ำนทำนโรคของร่ำงกำยทำใหโ้ อกำสเจ็บปว่ ยลดน้อยลง 6.1.7 ชว่ ยกระตนุ้ ฮอร์โมนในกำรเจรญิ เตบิ โต ทำให้นำ้ หนกั ตัวมำกขนึ้ 6.1.8 ทำให้ทำรกนอนหลับไดด้ ขี ึ้นและมีรปู แบบกำรนอนคงท่ี 6.1.9 เปน็ กำรสรำ้ งสมั พันธภำพที่ดี ส่งเสรมิ ควำมรักควำมผูกพนั ระหว่ำงพ่อ – แม่ - ลูก 6.1.10 ชว่ ยไลล่ มในชอ่ งท้องลดอำกำรท้องอืด ส่งเสริมกำรย่อย ในเด็กโคลิคแนะนำให้นวด เพ่อื บำบดั อำกำรโคลคิ ได้ 6.1.11 เปน็ กำรช่วยให้ได้สังเกตเห็นถึงอำกำรผิดปกติต่ำง ๆ ของทำรก เช่น ผิวหนัง ผดผื่น ตำมบรเิ วณอ่ืนๆ 6.2 สงิ่ ทต่ี ้องรู้ก่อนการนวดทารก 6.2.1 ขณะนวดควรพดู คยุ กับทำรก รอ้ งเพลง หรอื เปิดเพลงเบำ ๆ 6.2.2 ไมน่ วดบริเวณท่ีเป็นจุดบอบบำงของทำรก 6.2.3 สังเกตปฏิกิริยำทำรกท่ีมีต่อกำรนวด และคอยสังเกตว่ำทำรกชอบให้นวดบริเวณใด เปน็ พิเศษหรอื ไม่ หำกไมช่ อบมกี ำรรอ้ งไห้ หรอื แสดงอำกำรไม่พอใจอื่น ๆ ให้หยุด 6.2.4 ช่วงเวลำทเ่ี หมำะสม หลงั อำบน้ำ หรอื เวลำท่ีอำรมณ์ดีทั้ง 2 ฝ่ำย ช่วงเวลำที่หงุดหงิด ไมค่ วรนวดทำรก เพรำะเดก็ จะสัมผสั ไดถ้ งึ ควำมเครียดของผนู้ วด ณ เวลำน้ัน ๆ หรือผู้นวดอำจเผลอลงน้ำหนัก แรงไปในกำรนวด 6.2.5 เวลำในกำรนวด 30 – 40 นำที 6.2.6 อำยุทเ่ี หมำะสม สำมำรถนวดได้ต้งั แต่แรกเกดิ 6.3 ขอ้ ควรระวังในการนวด 6.3.1 ไม่นวดทำรกทีม่ ีภำวะตวั เย็น 6.3.2 ไมน่ วดบรเิ วณกระดกู หัก 6.3.3 นวดหลงั กำรฉีดวัคซีน 24 - 48 ชว่ั โมง 6.3.4 ไม่นวดทำรกเจ็บป่วย มีไข้ เกิน 37.80 องศำเซลเซยี ส 6.3.5 ไม่นวดทำรกท่ผี ิวหนังมีผ่นื ติดเช้อื
100 6.4 อุปกรณใ์ นการนวดทารก 6.4.1 ผ้ำรองที่น่มุ ๆ สำหรับวำงทำรก 6.4.2 แป้ง หรอื ออยล์ 6.5 ขน้ั ตอนการนวดทารก 6.5.1 ลำ้ งมือและแขนให้สะอำด 6.5.2 ถอดเครื่องประดับออกให้หมดก่อน เช่น แหวน กำไล นำฬิกำ สร้อยข้อมือ เข็มกลัด เป็นตน้ 6.5.3 ตัดเล็บให้สั้นและสะอำด 6.5.4 ถอดเส้ือผ้ำทำรกออก วำงทำรกบนเบำะสำหรับนวด หำกอำกำศหนำวหรือหำกมือ ผนู้ วดเย็นควรวอร์มมือด้วยกำรนำมือมำถูกันไปมำเพื่อให้มืออุ่นค่อยทำกำรนวด เพรำะหำกมือผู้นวดเย็นทำรก จะรอ้ งและตกใจได้ 6.5.5 เทแปง้ ชนดิ ไรส้ ำรทัลคมั (Talcum) ลงในมือผู้นวดเล็กน้อยเพ่ือระวังกำรฟุ้งกระจำย เข้ำจมูกทำรก แลว้ ทำบริเวณท่ีต้องกำรนวดเพอ่ื ใหน้ วดไดง้ ่ำยลนื่ มอื หำกไม่ใช้แป้งให้ใช้ออยล์สำหรับเด็กเทลงบน ผำ่ มอื ผนู้ วดแลว้ คอ่ ย ๆ ทำบริเวณท่ตี อ้ งกำรนวด 6.6 ตวั อยา่ งการนวดทารก 6.6.1 การนวดบริเวณใบหน้า กำรนวดทำรกบริเวณใบหน้ำ จุดเน้นบริเวณใบหน้ำและ หนำ้ ผำก ประโยชน์ของท่ำน้ีช่วยกระตุ้นกำรไหลเวยี นเลอื ดบรเิ วณหนำ้ ผำก ปลำยเส้นประสำทลดดวำมตึงเครียด ส่วนบรเิ วณปำก ชว่ ยกระตนุ้ กำรกนิ กำรดดู กลืนของทำรกและยงั ชว่ ยบรรเทำควำมเจ็บปวดในช่วงที่ฟันของทำรก กำลังเร่ิมขน้ึ ด้วย 1) เริ่มต้นด้วย วำงมือท้ัง 2 ข้ำงบริเวณหน้ำผำกคล้ำย ๆ กับท่ีคำดผม แล้วลำกลง ระหว่ำงหน้ำผำกทัง้ 2 ขำ้ งเบำ ๆ 5 คร้งั 2) ใช้ปลำยน้ิวหัวแม่มือทั้งสองข้ำงวำงตรงกลำงเหนือริมฝีปำกบน แล้วลำกออกมำ เป็นเสน้ ตรงจนสุดขอบปำกทำรก วนซ้ำ 5 ครัง้ 3) ตอ่ ดว้ ยนวดบรเิ วณริมฝีปำกลำ่ งในแบบเดยี วกนั อกี 5 ครงั้ กำรนวดบรเิ วณใบหนำ้ ทำรก ทม่ี ำภำพ : http://www.mamaexpert.com/posts/content-848
101 6.6.2 การนวดหน้าอก ช่วยเสริมจังหวะกำรทำงำนของปอดและหัวใจของทำรกให้ดีขึ้น ชว่ ยให้ทำรกหำยใจได้อย่ำงปลอดโปรง่ 1) ใช้ฝ่ำมือทั้งสองข้ำงลูบไล้จำกบริเวณกลำงหน้ำอก แยกมือออกจำกกัน ไปทำง ด้ำนขำ้ งของลำตวั ตำมแนวซ่ีโครง โค้งลงมำชนกนั ทกี่ ลำงทอ้ งน้อย โดยใหแ้ นวกำรนวด เหมือนกำรวำดรูปหัวใจ ตงั้ แตต่ น้ จนจบ 2) ทำเหมือนเดมิ 5 คร้ัง กำรนวดหน้ำอกทำรก ที่มำภำพ : http://www.mamaexpert.com/posts/content-848 6.6.3 การนวดแขน 1) จับข้อมือทำรกยกข้ึนเหนือศีรษะ นวดบริเวณใต้รักแร้ ซ่ึงเป็นนวดต่อมน้ำเหลือง ใต้รกั แร้ (ทำเหมอื นกันทัง้ สองขำ้ ง) 2) นวดแขนทำรกทีละข้ำง โดยจับแขนทำรกแล้วยกขึ้น แล้วใช้มืออีกข้ำง จับรอบแขน นวดคลึงเป็นหว่ งวงกลม จำกตน้ แขนค่อย ๆ เคลอื่ นไปสู่ขอ้ มือ แลว้ เคลอื่ นลงไปต้นแขน ขน้ึ - ลง (ทำ 5 คร้ัง) 3) ต่อจำกน้ัน ใชห้ ัวแมม่ ือกดฝ่ำมอื เบำ ๆ (ทำเหมอื นกันทงั้ สองขำ้ ง) กำรนวดแขนทำรก ที่มำภำพ : http://www.mamaexpert.com/posts/content-848
102 6.6.4 การนวดกระตุ้นระบบทางเดินอาหาร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภำพในกำรทำงำน ของกล้ำมเนื้อในระบบทำงเดินอำหำร 1) ใช้ผ่ำมือลูบเป็นเส้นตรง จำกใต้รำวนมด้ำนซ้ำย ถึงบริเวณท้องน้อยเป็นรูปตัวไอ (ทำ 5 ครั้ง) 2) ใช้ผ่ำมือลูบเป็นรูปตัวแอลกลับหัว บริเวณท้อง โดยเร่ิมจำกซ้ำยไปทำงขวำของผู้นวด (ทำ 5 คร้ัง) 3) ใชผ้ ่ำมือลูบเปน็ รูปตวั ยูควำ่ โดยเร่มิ จำกซ้ำยไปขวำของผูน้ วด (ทำ 5 ครั้ง) 4) วำงฝ่ำมือทั้งสองตั้งฉำก โดยเร่ิมจำกใต้รำวนม เคล่ือนมือลงด้ำนล่ำง ถึงบริเวณ ท้องน้อย ทีละข้ำง ทำเป็นจังหวะ เมื่อมือข้ำงหนึ่งเคล่ือนลงจนสุดก็เริ่มอีกข้ำงหน่ึงเคลื่อนลงล่ำง ทำสลับกัน (ทำ 5 ครงั้ โดยนับจำกมือหนงึ่ มอื ใดเป็นหลัก) กำรนวดกระตนุ้ ระบบทำงเดินอำหำร ท่ีมำภำพ : http://www.mamaexpert.com/posts/content-848 6.6.5 การนวดขา และเท้า ท่ำจะคล้ำยกับท่ำนวดแขนและมือ เนื่องจำกเท้ำและข้อเท้ำ ของทำรกมีควำมสำคัญเพรำะเป็นส่วนที่ใช้รองรับน้ำหนักตัวเมื่อหัดยืนและเดิน กำรนวดเท้ำจะเป็นกำร เตรียมพร้อมให้ทำรกในกำรหัดยืน เป็นกำรผ่อนคลำยกล้ำมเนื้อขำและเท้ำทง้ั สองข้ำง 1) นวดขำทำรกทีละข้ำง โดยจับขำยกข้ึนแล้วใช้มืออีกข้ำงจับรอบขำนวดคลึงเป็นห่วง วงกลม เรม่ิ จำกต้นขำ ค่อย ๆ เคลอื่ นไปสปู่ ลำยเทำ้ แล้วเคลื่อนลง (ทำข้ำงละ 5 ครั้ง) ต่อจำกน้ันใช้หัวแม่มือกด ฝ่ำเท้ำทำรกเบำ ๆ 2) ใช้ฝ่ำมือท้ังสองข้ำงคลึงขำทำรกไปมำสองมือสวนทำงกัน โดยเร่ิมจำกหัวเข่ำไป ขอ้ เทำ้ แลว้ คลึงลง (ทำข้ำงละ 5 ครัง้ )
103 กำรนวดขำทำรก ทมี่ ำภำพ : http://www.mamaexpert.com/posts/content-848 6.6.6 การนวดหลัง เด็ก ๆ ค่อนข้ำงชอบท่ำนวดหลัง เพรำะเป็นท่ำท่ีผ่อนคลำยมำก ทำให้ผ่อนคลำยกล้ำมเนื้อบริเวณหลัง ช่วยให้ทำรกมีพัฒนำกำรด้ำนกำรพลิกหงำยทำสะดวกรวดเร็วขึ้น แบง่ ออกเปน็ 2 ทำ่ หลัก คือ ท่ำเดินหนำ้ ถอยหลัง และทำ่ นวดก้นหอย หรือทำ่ ขนนก 1) ท่ำเดินหน้ำและถอยหลัง จับทำรกนอนคว่ำ ใช้ฝ่ำมือท้ังสองข้ำงลูบตำมขวำง ไปตำมแผน่ หลงั ของทำรก โดยทำสลับมือซ้ำย - ขวำ พร้อม ๆ กัน มือขวำลูบเข้ำ มือซ้ำยลูบออกเคลื่อนข้ึน - ลง สลับกัน โดยลูบจำกช่วงบนลงไปจนถงึ ก้นกบ 2) ทำ่ นวดกน้ หอย ให้ลงน้ำหนักปลำยน้ิวมือตำมแนวกระดูกสันหลัง ให้ลูบธรรมดำ จำกบนลงล่ำงตำมแนวกระดูกสันหลัง ใช้ฝ่ำมือเริ่มลูบจำกบริเวณท้ำยทอยลงมำที่สะโพกแล้วเริ่มใหม่อีก ทบี่ ริเวณทำ้ ยทอย
104 ท่ำนวดหลังทำรก ทมี่ ำภำพ : http://allmomsclub.blogspot.com/2016/05/blog-post_3.html 7. การอาบนา้ ลกู ข้ันตอนการอาบนา้ ลกู 7.1 ล้ำงมอื ใหส้ ะอำด เตรียมอุปกรณ์อำบน้ำ เชด็ ตำ เชด็ สะดือลูกให้พรอ้ ม 7.2 ผสมนำ้ อนุ่ ครึ่งกะละมัง ใช้ข้อศอกหรอื หลงั มือจมุ่ น้ำ เพ่ือทดสอบควำมอุ่นของนำ้ ใหพ้ อดี 7.3 ถอดเส้ือผำ้ ในรำยที่เปอ้ื นอจุ จำระตอ้ งทำสะอำดก่อนนำทำรกอำบน้ำ 7.4 ห่อตวั ทำรกดว้ ยผ้ำขนหนูใหก้ ระชบั แบบมัมม่ี 7.5 ประคองศีรษะทำรกให้อยู่ในอุ้งฝ่ำมือ ใช้แขนและศอกหนีบลำตัวไว้ข้ำงเอว ใช้มือพับใบหู ท้งั สองข้ำง เพอ่ื ป้องกันนำ้ เข้ำหู 7.6 ใช้น้ำลูบหน้ำทำรกให้สะอำด จำกนั้นลูบศีรษะให้ทั่วใช้สบู่ / ยำสระผมนวดผมเบำ ๆ ล้ำงออก ด้วยน้ำสะอำด 7.7 คลี่ผ้ำขนหนูท่ีใช้ห่อตัวทำรกแล้วเช็ดผมให้แห้ง อย่ำปล่อยให้แห้งเองเพรำะจะทำให้ทำรก เปน็ หวดั ได้ 7.8 ทำควำมสะอำดกะละมัง แล้วเปล่ียนน้ำใหม่ ช้อนตัวทำรกให้ศีรษะพำดบนข้อมือ โดยใช้มือ จบั ท่หี ัวไหล่ ใช้มืออกี ขำ้ งชอ้ นกน้ และจบั ไว้ทีต่ ้นขำ 7.9 ลูบตัวทำรกด้วยน้ำ ใช้สบู่ลูบตัวทำรกให้ทั่ว ล้ำงออกด้วยน้ำสะอำดทีละส่วน ตั้งแต่แขน ทลี ะข้ำง ซอกคอ ลำตวั จนถึงขำทั้งสองขำ้ ง 7.10 ใช้อีกข้ำงจับท่ีหัวไหล่ โดยอุ้มคว่ำให้อกพำดท่ีแขนเพ่ือล้ำงด้ำนหลัง ลูบสบู่ให้ทั่วหลัง ก้น และขำ แลว้ ลำ้ งออกด้วยน้ำสะอำด 7.11 อมุ้ ทำรกขึ้นจำกกะละมังวำงบนผ้ำขนหนูผืนใหม่ แล้วซับตัวให้แห้ง โดยเฉพำะซอกคอและ ขอ้ พบั ตำ่ ง ๆ หอ่ ตัวทำรกให้อบอุ่น
105 8. การวางแผนครอบครัวของแม่หลังคลอด 8.1 การวางแผนครอบครัว คือ กำรท่ีคู่สมรสวำงแผนไว้ว่ำจะมีบุตรกี่คน จะมีเมื่อไร มีระยะ ถ่ีห่ำงเท่ำไร โดยให้บุตรที่เกิดมำมีสุขภำพสมบูรณ์แข็งแรง คู่สมรสมีควำมสำมำรถที่จะเลี้ยงดู ให้ควำมรัก และควำมเอำใจใส่อย่ำงท่ัวถึง ให้มีกำรศึกษำที่เหมำะสมที่จะมีอำชีพและเติบโตเป็นพลเมืองท่ีดีของประเทศ ต่อไป 8.2 การคุมกาเนดิ ภำยหลงั คลอด ควรเวน้ กำรมีบตุ รอยำ่ งน้อย 2 ปี เพื่อมีเวลำดูแลบุตรอย่ำงมี คุณภำพ รวมทั้งให้ร่ำงกำยและอวัยวะภำยในมีช่วงเวลำในกำรฟ้ืนฟูอย่ำงสมบูรณ์เต็มท่ี โดยเฉพำะอย่ำงย่ิง ในชว่ ง 4 – 6 สัปดำห์หลังคลอด ควรมีกำรคุมกำเนิดอย่ำงเหมำะสม ซ่ึงมีหลำยวิธีท้ังแบบชั่วครำวและก่ึงถำวร ให้เลอื กสำหรับผชู้ ำยและผ้หู ญงิ 8.2.1 วิธีคุมกำเนิดสำหรับผู้ชำย ได้แก่ ถุงยำงอนำมัย ควรใช้อย่ำงถูกวิธีทุกครั้ง นับเป็น วิธีกำรคุมกำเนิดแบบชั่วครำวที่ใช้ง่ำย สะดวก สำมำรถป้องกันกำรตั้งครรภ์และโรคติดต่อทำงเพศสัมพันธ์ เอชไอวี และเอดส์ได้ 8.2.2 วิธีคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิง ได้แก่ กำรใช้ยำเม็ดคุมกำเนิด วิธีน้ีผู้ท่ีให้บุตรกินนมแม่ ควรปรึกษำแพทย์ หรือเจ้ำหน้ำที่สำธำรณสุข เพรำะยำคุมกำเนิดบำงชนิดอำจทำให้มีน้ำนมน้อยลง กำรกินยำ คุมกำเนิดเม่ือต้องกำรให้ได้ผลต้องกินเป็นประจำและตรงเวลำ แต่สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกในกำรใช้ยำคุมกำเนิด แบบกิน กำรฉดี ยำคมุ กำเนิดก็นับว่ำมีควำมสะดวกเพรำะฉีดเพียงครั้งเดียวสำมำรถคุมได้ถึง 3 เดือน และไม่ต้อง เปน็ หว่ งว่ำจะลมื กินยำ สำหรับผู้ท่ีต้องกำรคุมกำเนิดแบบชั่วครำว แต่มีระยะเวลำนำน (วิธีคุมกำเนิดแบบก่ึงถำวร) ไดแ้ ก่ 1) หว่ งอนำมัย สำมำรถป้องกนั กำรตั้งครรภ์ไดน้ ำน 3 – 5 ปี 2) ยำฝังคุมกำเนดิ มี 2 ชนิด คือ ชนิด 1 หลอด คุมกำเนิดได้นำน 3 ปี และ ชนิด 2 หลอด คมุ กำเนดิ ได้นำน 5 ปี
106 การดแู ลสุขภาวะและสุขอนามยั สําหรับผูสูงอายุ เรอื่ งที่ 1 การเปลี่ยนแปลงในวยั ผสู งู อายุ 1. ความหมายและความสําคญั ของผูส ูงอายุ ผูสงู อายุ หมายถงึ บคุ คลทั้งเพศชายและเพศหญิงทมี่ อี ายตุ ง้ั แต 60 ปขึ้นไปท่ีมีชีวิตอยูในชวงวัย แหงการเปลี่ยนแปลง ดานรางกาย จิตใจ และหนาท่ีการงานทางสังคม องคการสหประชาชาติ (สมศักดิ์ ศรีสันติสุข, 2550) ซ่ึงไดจัดประชุม สมัชชาโลกเก่ียวกับผูสูงอายุเมื่อปพ.ศ. 2525 ณ กรุงเวียนนา ประเทศ ออสเตรีย ไดใ หค วามหมายของคาํ วา “ผสู ูงอายุ” คือ บคุ คลทงั้ เพศชายและเพศหญิงท่มี อี ายุต้ังแต 60 ปข้ึนไป มคี วามเส่ือมถอยตามสภาพ เชื่องชา เปน ผูส มควรใหการอุปการะ เปนผทู ่ีมโี รคควรไดรับความชวยเหลือ องคการสหประชาชาติ ใหนยิ ามวาประเทศใดมีประชากรอายุ 60 ป ข้ึนไปเปนสัดสวน รอยละ 10 หรืออายุ 65 ปข นึ้ ไป เกนิ รอ ยละ 7 ของจํานวนประชากรท้ังหมดของประเทศ ถือวาประเทศน้ันไดกาวสูสังคม ผูสูงอายแุ ละจะเปนสังคมผสู ูงอายโุ ดยสมบูรณ 2. การเปล่ียนแปลงที่เกดิ ขน้ึ ในผูส งู อายุ ความชราน้ันเกดิ จากการเปลี่ยนแปลงของเซลลตาง ๆ ในรางกายท่ีเกิดข้ึนตามวัยเปนธรรมชาติ ของมนษุ ยนับตงั้ แตเ ร่ิมอยูในครรภ คลอดออกมาเปนทารก วยั เดก็ จนถึง วยั ผใู หญ ในชวงระยะเวลาตาง ๆ นี้ เซลลใ นรางกายจะเปล่ยี นแปลงไปในรูปแบบของการเสรมิ สรา ง ทําใหม ีการเจรญิ เตบิ โต แตเ มอื่ พน วยั ผใู หญแ ลว เซลลจะมีการเส่ือมสลายมากกวาการเสริมสราง ทําใหสมรรถภาพและประสิทธิภาพการทํางานของอวัยวะ ตา ง ๆ ลดลง การเปลี่ยนแปลงดงั กลาวจะแตกตางกันในแตล ะบคุ คล จะมกี ารเปลี่ยนแปลงในดานตาง ๆ ดงั นี้ 2.1 การเปลี่ยนแปลงดานรางกาย ผมและขน รว ง และเปลย่ี นเปนสีขาว หรอื หงอก อาจทําใหผมบาง หัวลา น ขนตามรา งกาย หลดุ งา ยท่เี ห็นชัดคือ ขนรักแร ท้ังนี้ เน่อื งมาจากรขู ุมขนทํางานนอย
107 ผิวหนัง บาง แหง เห่ียว ยน มีอาการคนั มีจาํ้ เลอื ด เซลลสรางสีผวิ ทาํ งานลดลง สีผวิ จางลง แตอ าจมีจดุ ดา งขาว สดี ํา หรือสีน้าํ ตาลมากข้ึน เกิดการตกกระ ตอมเหงอ่ื ลดนอ ยลง การขับเหง่ือนอยลง ทําใหทนตอการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิของ อากาศไมไ ดด ี เกิดความรสู กึ หนาว รอ น ไมค งท่ี ตา สายตาจะเปล่ียนเปนสายตายาว เลนสหรือกระจกตาขนุ เกิดตอกระจก กลามเน้ือตาเส่ือม การปรับสายตาชา ความไวในการมองภาพลดลง ทําใหปวดเวียนศีรษะไดงาย มีน้ําตาลดลง ทําใหตาแหง ระคายเคอื ง ตอ เยอ่ื บตุ าไดงาย หู ประสาทรบั เสียงเส่อื มทําใหเ กดิ อาการหูตงึ แตไดยนิ เสียงต่ํา ๆ ไดช ัดกวาเสียงพดู ธรรมดา หรอื ในระดบั เสยี งสูง จมกู ประสาทรับกลน่ิ บกพรอ งไป ทําใหก ารรบั รูกลน่ิ ลดลง ลิน้ รับรรู สนอ ยลง รับรสหวานสญู เสยี กอนรบั รสอืน่ ๆ ฟน ผุ หกั แตกงาย เคลือบฟนบางลง เหงอื กหมุ คอฟนรน ลงไป ตอ มน้าํ ลาย ขบั นํ้าลายออกนอ ย ทาํ ใหป ากแหง การเคล่ือนไหวของกระเพาะอาหาร นํ้ายอย กรดเกลือในกระเพาะอาหารลดนอยลง อาหารอยูในกระเพาะอาหารนานข้นึ ทาํ ใหท อ งอืดงา ย เบือ่ อาหารดวยภาวะขาดอาหาร และโลหิตจางได ตับและตับออ น หนา ท่กี ารทํางานเส่อื มไป อาจเกดิ โรคเบาหวาน การเคล่ือนไหวของลําไสเล็กและลําไสใหญ ลดลง ทําใหการขับถายอุจจาระไมปกติ ทอ งผกู เสมอ ประกอบกับไมคอ ยไดออกกาํ ลังกาย กระดกู และเลบ็ ปรมิ าณแคลเซียมลดนอ ยลง ทําใหกระดูกบาง เปราะ พรุน หักงาย มีอาการ เจ็บปวดกระดูกบอ ย ขอ เสอื่ ม นา้ํ ไขขอ ลดลง เกิดเจ็บปวด ขอยึดตดิ เคล่อื นไหวลาํ บาก กลา มเนื้อ เหย่ี ว เลก็ และออนกําลังลง ทําใหเวลาทํางานออกแรงมากไมได เพลีย ลาเร็ว และทรงตัวไมดี ปอด ความยืดหยนุ ของเน้ือปอดลดลงเปน เหตใุ หการขยายและยบุ ตวั ไมดี ทําใหเ หน่ือยงา ย หัวใจ แรงในการบีบตัวนอยลงทําใหการหดตวั ลดลงปรมิ าณเลือดออกจากหวั ใจลดลง และ กลา มเน้อื หวั ใจไวตอสิ่งเราลดลง หลอดเลอื ด ผนังของหลอดเลอื ดมลี ักษณะหนาและแขง็ ขึ้นเพราะมไี ขมนั มาเกาะเปน สาเหตุ ของโรคความดันโลหิตสูง
108 การขบั ถา ยปสสาวะ ไต มีหนา ทเี่ สื่อมไป ขับของเสียไดนอยลง แตขับน้าํ ออกมามากจึงถา ย ปส สาวะมากและบอ ยขนึ้ ในเวลากลางคืน กระเพาะปสสาวะ กลามเนือ้ หรู ดู ทีค่ วบคมุ การถายปสสาวะหยอน ทําใหกลั้นปสสาวะได ไมดี ในผสู งู อายชุ ายตอมลกู หมากจะโตข้นึ ทําใหปสสาวะลําบาก ตอ งถา ยบอ ยคร้งั ระบบประสาทและสมอง เส่อื มไปตามธรรมชาติ ทําใหค วามรสู ึกชา ความจําถดถอย ความจํา เรอื่ งราวในอดีตดี ความจาํ ปจจุบันไมดี การเคลอื่ นไหวชา ตอ มไรท อ ผลิตฮอรโ มนตา ง ๆ ลดลง จงึ ทาํ ใหห นา ทีข่ องฮอรโมนเหลานน้ั ลดลงไปดวย ตอ มเพศ ทํางานลดลง ทําใหส มรรถภาพทางเพศลดลง 2.2 การเปลีย่ นแปลงทางจติ ใจ ลักษณะการเปล่ียนแปลงทพ่ี บในผสู ูงอายุสว นใหญ ไดแ ก การรับรู ผูสูงอายุมักยึดติดกับความคิดและเหตุผลของตัวเองจะเรียนรูสิ่งใหม ๆ ไดยาก เพราะมคี วามไมม ัน่ ใจในการปรับตวั การแสดงออกทางอารมณ ลักษณะของความทอแท ใจนอย หงุดหงิดงาย โกรธงายและ ซึมเศรา ความสนใจส่ิงแวดลอ มนอ ยลง ผสู งู อายจุ ะสนใจเฉพาะเรอ่ื งที่เกี่ยวของกับตนเองมากกวา เรือ่ งของผอู ่ืน การสรา งวิถีชีวติ ของตนเอง เพือ่ ไมใ หเปนภาระกับผูอนื่ พงึ่ ตนเองไดใ นระดับหน่ึง ยอมรับสภาพของการเขา สวู ัยสูงอายุ จะใชเ วลาสวนใหญในการศึกษาปฏิบัติตามคําสอน ในศาสนา บางคนอยากอยรู ว มกบั ลกู หลาน บางคนชอบอยคู นเดียว ฯลฯ 2.3 การเปล่ยี นแปลงทางสงั คม 2.3.1 ภาระหนา ท่ีและบทบาททางสังคมจะลดนอยลง ทําใหผ สู งู อายหุ า งไปจากสงั คม 2.3.2 คนสว นใหญม ักมองวาผูส งู อายุมีสมรรถภาพและความสามารถนอ ยลง จึงไมใหความสําคัญ หรอื ไมใ หความรบั ผดิ ชอบ 2.3.3 จากบทบาทท่ีเคยเปน ผนู ําครอบครวั จะกลายเปน ผูอ าศยั หรือผตู ามในครอบครัว (คมู ือการสง เสริมสุขภาพผสู งู อาย.ุ กรมอนามัย, 2547)
109 เรื่องท่ี 2 สขุ ภาพอนามัย และการสง เสริมสขุ ภาพอนามยั สาํ หรับผสู งู อายุ 1. สุขภาพอนามยั หมายถึง การมีสุขภาพกาย สุขภาพจติ ท่ีดี เปน สง่ิ ท่ที กุ คนตางก็พึงปรารถนาทจ่ี ะมี คําวา “สขุ ภาพ” มีความหมาย 3 ประการ คือ 1) ความปลอดภัย (Safe) 2) ความไมมีโรค (Sound) 3) ความปลอดภยั และไมม โี รค (Whole) (ณฐั ฐนิ ันท แสนจนั ทร , 2556) องคกรอนามัยโลกไดใหคํานิยามคําวา สุขภาพ ในความหมายกวางข้ึนวา สุขภาพ หมายถึง สขุ ภาวะที่สมบูรณท ัง้ ทางกาย ทางจติ และทางสงั คม ตาม พระราชบัญญัติสุขภาพแหงชาติ 2550 ใหความหมายของคําวา สุขภาพ ภาวะของมนุษย ท่สี มบูรณทัง้ ทางกาย ทางจติ ทางปญ ญา และทางสงั คม เชือ่ มโยงกนั เปนองคร วมอยา งสมดุล ดังน้ัน “สุขภาพ” จึงหมายถึง \"การมีรางกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไขเจ็บในทุกสวนของ รา งกาย มสี ขุ ภาพจิตดี และสามารถปรับตัวใหอ ยูร ว มกับผูอื่นในสังคมไดอยางปกติสุข ผูมีสุขภาพดีถือวาเปน กาํ ไรของชีวิต เพราะทําใหผูเปนเจาของชีวติ ดํารงชีวติ อยอู ยา งเปน สขุ ได\" นัน่ เอง 1.1 ความสําคัญของการดแู ลสขุ ภาพอนามยั ของผสู งู อายุ การที่เราอยูในสังคมอยางมีความสุขน้ัน ตองมีสุขภาพท่ีสมบูรณแข็งแรง เชน การมี สมรรถภาพทีด่ ี อวยั วะตาง ๆ สามารถทํางานไดตามปกติ มีบุคลิกภาพที่ดี มองโลกในแงดี มีความสัมพันธที่ดี กบั ผอู นื่ มีญาตพิ ี่นอ งทรี่ กั ใครป รองดอง การดูแลสุขภาพจึงมีความสําคญั เพราะการสรางเสริมสุขภาพเพื่อให ผูส งู อายุมีความสมบูรณท ้ังดานรางกาย และจิตใจ ซ่ึงเปน เร่อื งท่ที ุกคนตองทําดวยตนเอง 1.2 วิธีการดูแลสขุ ภาพอนามยั ดว ยตนเองของผสู งู อายุ 1.2.1 ผม 1) ควรไวผ มขาว ตัดผมใหส ้นั เพื่อจะไดทําความสะอาดงาย 2) ถา ตอ งการยอมหรือดัดผม ควรเลือกยายอ ม หรอื ยาดดั ที่มีสวนผสมไมทําใหแ พง าย 1.2.2 เล็บ ในผสู ูงอายุ เล็บจะแข็งและหนาขึ้น มุมท่ีโคนเล็บกวางขึ้น ทําใหเล็บบนกับเน้ือเกิด การอักเสบเปน หนอง นอกจากนสี้ ีของเล็บยงั เปลีย่ นเปนสีเหลืองมากขน้ึ จึงตอ งระวงั ดงั น้ี 1) อยา ปลอ ยใหเ ล็บยาว ควรตัดท้ังเล็บมือและเล็บเทาใหสั้นอยูเสมอ ดวยกรรไกร ตัดเลบ็ และตะไบเลบ็ สวนท่แี หลมคมใหเ รียบไมสะดดุ มอื 2) ถาเลบ็ หนาจะตัดยาก แกไดโดยการแชมือและเทาในน้ํา ใหเล็บออนนุมเสียกอน จะทําใหต ดั งายขนึ้
110 3) ถาตดั เลบ็ ติดขอบเนอ้ื มากเกินไป จะทําใหเจ็บบริเวณปลายน้ิว ปองกัน โดยการ ตดั เล็บใหเ กนิ เนือ้ ออกมาเลก็ นอยจะชวยได 1.2.3 ปากและฟน การทาํ ความสะอาดฟนและชอ งปาก มีดังนี้ 1) การเลือกใชแปรงสีฟน ควรเลือกใชแปรงท่ีมีดามจับไดถนัดมือยาวพอเหมาะ สวนตัวแปรงไมเล็กหรือใหญเกินไปเม่ือเทียบกับขนาดชองปาก มีขนแปรงที่น่ิม ปลายมน และควรเปล่ียน แปรงสีฟน เม่ือขนแปรงบาน หรือมีอายุการใชงาน 2 - 3 เดือน กรณีผูสูงอายุท่ีมีปญหากลามเนื้อมือ หรือไม สามารถควบคุมการใชม ือในการแปรงฟน แบบธรรมดาไดดี อาจแกไขไดโดยเลือกใชแปรงสีฟนไฟฟาเพ่ือผอนแรง หรือปรบั ปรงุ ขนาดของดามแปรงสีฟน ท่วั ไป ใหจ บั ไดเหมาะมือ เชน ปรบั ปรุงสวนของดามแปรง ใหเหมาะกับ การกํา โดยใชยางทีเ่ ปนมอื จับของจกั รยานสวมทบั ดา มแปรงสฟี น ยดึ ดว ยกาวหรือดินน้ํามัน หรืออาจเพ่ิมสายรัด ยึดแปรงไวกบั มือ โดยใชวัสดุน้าํ หนกั เบา ไมดดู ซบั นํา้ เชน หลอดพลาสติก หรือสายนํ้าเกลือ ผูกติดกับดามแปรง โดยปลายหนง่ึ ผกู ไวท างดานขนแปรง และอกี ปลายผูกท่ีปลายดามแปรง 2) วิธีแปรงฟน ควรแปรงฟนอยางนอยวันละ 2 ครั้ง เชาและกอนนอน รวมกับ การใชยาสีฟนชนิดครีมทผี่ สมฟลอู อไรด นานประมาณ 2 นาที โดยแปรงใหท ่ัวถงึ ทกุ ซ่ี ทกุ ดาน โดยเฉพาะ คอฟน และซอกฟน หลงั แปรงฟนแลว อาจจะแปรงทําความสะอาดลิ้นเบา ๆ และเลือกใชอุปกรณเสริมอ่ืน ๆ ท่ีเหมาะสม รว มดว ย เชน ไมจ ิ้มฟน ไหมขดั ฟน แปรงซอกฟน แปรงกระจกุ เดยี ว เปน ตน (2.1) ไหมขดั ฟน ลกั ษณะ เปนเสน แบน มีทั้งขนาดเล็กและใหญใหเลือกใชตาม ขนาด ความกวางของซอกฟน ใชชว ยทาํ ความสะอาดซอกฟน โดยใชควบคูกับการแปรงฟน อยางนอย วันละ 1 ครงั้ การใช จะดงึ ไหมขดั ฟน ออกมายาวประมาณ 12 น้วิ ใชน วิ้ กลาง พันแตล ะปลายไว ใชนิ้วหัวแมมือ และ นิ้วช้จี บั เสน ไหม ตามรปู นาํ ไหมขดั ฟน คอย ๆ ผานลงในซอกฟน พยายามอยา ใหบาดเหงือก กวาดถูไหมขัดฟน ข้ึนลงในแนวด่ิงเพื่อขจัดเอาคราบจุลินทรียออก ถารูสึกไหมขัดฟนติดใหปลอยปลาย ขางหน่ึงแลวคอย ๆ ดงึ ออกดา นขา ง
111 (2.2) แปรงซอกฟน ใชท าํ ความสะอาดซอกฟน ทเ่ี ปนชอ ง หรือฟนหา ง ไดดี การใช เลอื กขนาดแปรงใหส ว นที่เปน ขนแปรงมขี นาดใหญก วา ซอกฟน ท่ีจะทาํ ความสะอาดเล็กนอ ย จุมน้าํ ใหขนแปรง ออ นนุม สอดเบา ๆ เขาไประหวา งซอกฟน ในทศิ ที่เอียงไปทางปลายฟน ขยบั เขา ออกแนวนอน (2.3) แปรงกระจุกเดียว ลักษณะคลายแปรงสีฟนปกติ แตมีขนแปรงเพียงกระจุก เดียว ใชท าํ ความสะอาดในจุดลกึ ๆ หรือแคบ เชน ดา นหลังฟนกรามซี่ สุดทา ยท่ีแปรงสีฟน ปกติแปรงไดไ มถ งึ ไมถนดั หรอื ใชแปรง วนรอบฟนซ่ีท่ีเหลอื เดย่ี ว ๆ ไมม ีฟนขางเคยี ง (2.4) ไมจ ้ิมฟน ใชช ว ยทาํ ความสะอาด ขจดั คราบจุลนิ ทรยี ทอี่ ยูระหวางซอกฟน และชว ยเขีย่ เศษอาหารออก แตม กั ใชไดถ นัดในฟน หนา ที่มีเหงอื กรน มีชองเห็นชัด หรือชองระหวางแยกรากฟน ไมจ้ิมฟนควรมีลกั ษณะดา มตรง แบน เรียว บาง ไมมเี สย้ี น ใชโดยสอดเขา ไปในซอกฟน ระวังอยาใหเ ปน อนั ตราย ตอ เหงอื ก กรณใี ชทาํ ความสะอาดคอฟน ถา เปน ไมจ ม้ิ ฟน ปลายแหลมควรกัดปลายใหแ ตกเปน พกู อ น แลว คอ ย ๆ ใชครดู ไปตามคอฟน ขอบเหงือกไมจ้ิมฟนใชงายกวาไหมขัดฟน แตมีขอจํากัดมากกวา ตรงท่ีใชไดเฉพาะผูที่มี ชอ งวางระหวา งซ่ีฟน ไมส ามารถใชข ัดทําความสะอาดตรงมมุ โคงของฟน และซอกฟนปกติ เพราะโอบรอบฟน ไมได (คณะทนั ตแพทยศ าสตร, 2562)
112 1.2.4 ผวิ หนัง 1) รักษาความสะอาดผิวหนังดวยการอาบน้ําตามความเหมาะสม ถาอากาศหนาว และแหง ไมควรอาบนา้ํ บอย หลกี เล่ยี งการอาบน้ํารอ น และการใชสบเู พราะจะทําใหผิวหนังแหงแตก และเกิด ตมุ คนั ขึ้นได หากตอ งใชสบคู วรใชทผ่ี สมนา้ํ มนั เพื่อความชุมช่นื แกผิวหนัง 2) ถาผิวหนังแหงควรทาดวยนํ้ามัน ครีมบํารุงผิว หรือวาสลีน วันละ 2 – 3 คร้ัง เพ่อื รกั ษาความชุมชื่นของผิวหนัง 3) พยายามอยา โดนแดดจดั ๆ ถา จาํ เปนตอ งออกแดดจัดนาน ๆ ตอ งทาครมี กันแดด 4) ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเปนระยะ ถาสีผิวเขมขึ้น บวม มีเลือดออกผดิ ปกติ เปน สะเก็ด มเี ม็ดแข็ง ๆ ผิวไมเรียบ ลักษณะของผิวเปล่ียนไปจากเดิม ควรรีบพบแพทย เพอื่ ตรวจหาความผดิ ปกติ 1.2.5 เทา 1) ลางเทาทําความสะอาดทุกวัน ไมควรใชน้ําอุนจัดหรือแชเทาในน้ํานานเกิน 10 นาที ใชส บูออ นท่ีมี moisturizer แลวเช็ดดว ยผา ขนหนใู หแ หง โดยเฉพาะระหวางน้ิวเทา อาจใชครีมโลช่ัน ทาหลังจากเช็ดแหง แลว แตต องระวงั ไมใชครีมที่ซอกนิ้ว เพราะจะอับชืน้ งา ย 2) ตรวจเทาและน้ิวเทาทุกวัน สังเกตความผิดปกติ รอยกดแดง หรือรอยถลอก ใชก ระจกตรวจใหท ่ัวทกุ ดาน หรอื ใหผดู ูแลตรวจให 3) ตดั และตะไบเลบ็ ใหเ ปนแนวตรงดวยความระมัดระวัง อยาตัดเปนรูปโคงเขามุม ถา ไมถ นัด ใหผ ูดแู ลทําให ไมต ดั ตาปลาหรอื สวนหนงั ดวยตนเอง 4) ไมส วมอะไรทร่ี ัดสวนขาหรอื ตนขาแนน เชน ถุงนอ ง หรือถุงเทารดั เพาะจะทําให เทา บวมงาย 5) ไมค วรเดนิ เทา เปลา สาํ รวจเอาเศษผงออกจากรองเทา กอ นสวมใสทุกคร้ัง 6) บริหารเทาเปนประจําโดยกระดกขอเทาขึ้น - ลง 10 คร้ัง แลวหมุนขอเทาเปน วงกลม 5 คร้ัง x 2 รอบตอวัน กรณปี วดเทาใหแชน ํ้าอนุ ประมาณ 10 นาที แลว นวดฝา เทาเบา ๆ ก็จะทเุ ลาได 7) เดนิ ออกกําลงั กายสมา่ํ เสมอ บรเิ วณทเี่ ดนิ ควรเปน พ้ืนเรยี บ ไมข รุขระหรอื ลาดเอยี ง (สาํ นักงานกองทุนสนบั สนนุ การสรางเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.), 2553) 1.2.6 อวยั วะสบื พันธุ และทวารหนกั 1) ควรทาํ ความสะอาดอวยั วะเพศทุกวันเชา เย็น ดวยน้ําและสบู ซับใหแหงดวยผา หรือกระดาษออนเพียงเบา ๆ การถูแรง ๆ อาจทาํ ใหเกดิ ปรแิ ตกเปน แผลได
113 2) ควรพิถีพิถันในการทําความสะอาดตามรอยยนรอยจีบตาง ๆ ของอวัยวะเพศ โดยเฉพาะบรเิ วณคริสตอริส แคมเลก็ และปากชอ งคลอด 3) หลังการขับปสสาวะและอุจจาระ ควรทําความสะอาดชําระเช็ดจากขางหนาไป ขา งหลังและลางดวยนํา้ โดยวธิ ีเดยี วกนั 4) ไมควรใชกางเกงในทรี่ ัดแนน หรืออับเหงอ่ื และไมควรใชก างเกงในกบั คนอืน่ 5) การลางชองคลอด เพ่ือรักษาความสะอาดภายในเปนความคิดที่ผิด เพราะเปน การทําลายเช้ือแบคทีเรียท่ีไมเปนอันตรายตอรางกาย ทําใหเช้ือแบคทีเรียหรือเช้ือราชนิดที่เปนอันตรายตอ รางกายเกิดข้ึนแทนและบางครงั้ อาจมีอาการแพยาที่ใชดว ย (ฆโนทัย พรมหงษ ชนฏั ตา สระภู ลักษณาวดี เรอื งรมั ย และสลาวรี ศรจี ันทะ, 2557) 2. การสงเสรมิ สขุ ภาพอนามัยสาํ หรับผูสงู อายุ ประชากรวัยผูสูงอายุไทยจํานวนเพ่ิมมากข้ึนในป พ.ศ. 2556 มีประมาณ 9,517,000 คน ผลจากความเสอ่ื มของรา งกายทําใหเ กิดโรคเร้อื รงั ตา ง ๆ การสรางเสริมสขุ ภาพของผูสูงอายุ จึงมีความจําเปน อยา งย่ิง ซ่ึงในท่ีนี้จะกลาวถงึ การสรางเสรมิ สุขภาพของผสู ูงอายุ โดยมรี ายละเอยี ด ดังน้ี 2.1 โภชนาการสาํ หรับผสู งู อายุ 2.1.1 ความหมาย และความสาํ คญั ของโภชนาการผูสูงอายุ โภชนาการ หมายถงึ อาหารท่เี ขา สรู า งกายคนแลว รางกายนําไปใชประโยชนในดาน การเจริญเติบโต การคํ้าจนุ และการซอ มแซมสว นตาง ๆ ของรา งกาย โภชนาการ มีความหมายตางจากอาหาร เพราะอาหารที่กินกันอยูทุกวันน้ี มีหลากหลายชนดิ อาหารหลายชนดิ กินแลวรสู กึ อม่ิ แตไ มม ปี ระโยชน หรอื กอ โทษตอ รา งกาย เมื่อเขาสูวัยสูงอายุ จะเกิดความเปล่ียนแปลงในรางกายไปในทางเส่ือม ไดแก การเปล่ียนแปลงของสว นประกอบของรางกาย การทํางานของอวัยวะตาง ๆ ในรางกายเส่ือมลง สมรรถนะ ทางการเสอื่ มลง รวมท้งั การทํางานของสมองลดลง ผูสงู อายุ เปนบุคคลทต่ี องกินอาหารใหไดส ัดสว น และเพียงพอกับความตองการของ รางกาย เชนเดียวกับวัยอ่ืน ๆ คือ มีความตองการพลังงานและสารอาหารชนิดอื่น ๆ คือ มีความตองการ พลงั งานและสารอาหารชนิดอื่น ๆ เหมอื นบุคคลทวั่ ไป 2.1.2 อาหาร และโภชนาการสาํ หรับผสู งู อายุ ผูสูงอายุมีความตองการปริมาณอาหารลดลงจากวัยหนุมสาว แตจําเปนตองไดรับ สารอาหารอยางเพียงพอ เพื่อซอมแซมสวนทีส่ ึกหรอ และสรา งความตานทานโรค อาหารมคี วามสําคญั ตอการ
114 ดําเนินชีวิตของแตละคน ผูทมี่ ภี าวะทางโภชนาการดมี ีสุขภาพแข็งแรง มกี ารดําเนินชวี ติ ท่ดี ี ไมเ ครยี ดจนเกินไป การเปลี่ยนแปลงตาง ๆ ภายในรางกายจะเปนไปอยางชา ๆ ทําใหไมคอยแก ในทางตรงกันขามผูที่มีภาวะ โภชนาการไมดี เจบ็ ปว ยด่มื สุรา มนี ้าํ หนกั มากหรือนอ ยเกินไป รางกายจะเส่ือมโทรมเร็วทําใหแกเ ร็ว สําหรับปญหาเรื่องอาหารการกิน หรือโภชนาการในวัยนี้ มีขอคิดอยูวาขอให รับประทานอาหารใหครบหมู และควบคุมปริมาณโดยดูจากการควบคุมนํ้าหนักตัวไมใหมากข้ึน และในกรณี นํ้าหนักเกินอยแู ลว ควรจะลดนา้ํ หนักใหล งมาตามท่ีควรเปน ดว ย เพราะโครงสรางมกี ารเส่อื มตามวยั ถายังตอ ง แบกนํ้าหนักมาก ๆ จะเปน ปญ หาได ผูสูงอายุมักมีการขาดสารอาหารไดงาย เนื่องจากการเขาสูวัยผูสูงอายุ จะมีการ เปลย่ี นแปลงทางสภาวะรา งกาย สงั คม และเศรษฐกจิ อันอาจนาํ ไปสูภาวะทุพโภชนาการได เชน ผูสูงอายุท่ีมี โรคประจาํ ตวั อาจจะเปนอุปสรรคในการไปหาซือ้ อาหารขางนอก หรือแมแตการประกอบอาหารดวยตนเอง การทีต่ อ งอยูบานคนเดียว ขาดการติดตอกับสังคมภายนอก ก็ปลอยปละละเลยในเร่ืองอาหารการกิน จนถึง ปญ หาที่ตอ งใชจา ยเงนิ อยา งระมดั ระวัง เพราะรายไดล ดลงหรือไมมีรายไดเ น่อื งจากตองออกจากงานประจําที่ เคยทําอยู ผูส ูงอายุบางรายดื่มเครือ่ งดมื่ ประเภทแอลกอฮอล เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม หรือปญหา ทางจติ ใจ เมอ่ื ผูสงู อายุดมื่ สรุ ามาก ทําใหร า งกายหันมาใชพลงั งานจากแอลกอฮอล เกิดมีอาการเบ่ืออาหาร และ ขาดสารอาหารท่ีจําเปน เชน วิตามนิ บหี นง่ึ กรดโฟลคิ เปน ตน นอกจากโรคประจาํ ตวั เร้อื รังทีม่ กั พบในผสู งู อายุ ยงั ทาํ ใหเ กิดอาการเบ่อื อาหาร หรือทําใหร า งกายตองการสารอาหารมากกวาปกติ ผูสูงอายุจึงเปนกลุมท่ีมีการ ขาดอาหารไดงา ยกวา กลมุ ประชากรอ่นื ๆ วิธีสังเกตวาผูสูงอายุกําลังขาดสารอาหาร คือ โดยท่ัวไปผูสูงอายุมักจะผอมลง แกมตอบ กลา มเน้ือขมับท้ังสองขางเล็กลง ตาลึกลง กลามเน้ือแขนขาก็อาจจะเล็กลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ทําใหดู เสมอื นวา ผูสงู อายุอาจมกี ารขาดโภชนาการท่ีดี ยิ่งบางรายมีนาํ้ หนักลดลงจะยงิ่ กังวลมาก โดยธรรมชาติเมือ่ เขา สวู ยั ชรา ผูส ูงอายุอาจมนี ํ้าหนกั ลดลงไดบา งแตไ มค วรเกนิ รอยละ 5 ของน้ําหนักตวั เดิมในเวลา 6 เดือน ซ่ึงเกิด จากการลดลงของเนื้อเยื่อพวกกลามเนื้อ กระดูก ปริมาณน้ําในรางกายและอ่ืน ๆ แตถาน้ําหนักลดมากเกิน รอยละ 5 จากนํ้าหนักเดิม เชน น้ําหนักตัวเดิม 60 กิโลกรัม แตลดลงเหนือ 56 กิโลกรัม ภายในเวลา 6 เดือน มักจะมสี าเหตุทีเ่ ปนความผิดปกติท่คี วรปรึกษาแพทย 2.1.3 อาหารทเี่ หมาะสมกับผสู ูงอายุ อาหารหลกั 5 หมู สาํ หรบั ผสู งู อายุ มดี งั น้ี หมทู ี่ 1 โปรตีน เชน นม ไข เน้ือสัตวตาง ๆ ถ่วั เมล็ดแหง และงา เปน ตน หมทู ่ี 2 คารโบไฮเดรต เชน ขา ว แปง เผอื ก มนั นํา้ ตาล เปน ตน หมทู ี่ 3 ผกั ตาง ๆ
115 หมทู ี่ 4 ผลไมต า ง ๆ หมทู ี่ 5 ไขมนั และนา้ํ มนั จากพชื และสัตว ในวันหนึง่ ๆ ผสู ูงอายุ ควรเลอื กรับประทานอาหารใหครบทัง้ 5 หมู ในปรมิ าณที่พอเหมาะ และแตละหมูควรเลือกรับประทานใหหลากหลาย เพ่ือใหไดสารอาหารตาง ๆ ครบตามความตองการของ รางกาย โปรตนี ควรรับประทานไขวันละ 1 ฟอง หรืออยางนอยสัปดาหละ 3 ฟอง ในกรณีท่ีผูสูงอายุ มปี ญหาไขมนั ในเลอื ดสงู ควรเลือกทานเฉพาะไขขาวเทา นั้น และด่มื นมอยางนอ ยวนั ละ 1 แกว และสาํ หรบั ผสู งู อายุ ทดี่ มื่ นมวัวแลวทอ งเสยี อาจเปลย่ี นเปนนมถ่ัวเหลอื ง สาํ หรับโปรตนี จากเนื้อสัตวค วรลดนอ ยลง เพราะสว นใหญ จะตดิ มนั มากับเน้ือสตั วด ว ย อาหารจําพวกเนือ้ สตั วต า ง ๆ นม ไข และถว่ั เมล็ดแหง จะใหส ารอาหารท่เี รียกวา “โปรตีน” ผูสงู อายุจําเปนตองไดรับโปรตีนใหเพียงพอ เพื่อชวยซอมแซมสวนท่ีสึกหรอของรางกาย ในวันหน่ึงผูสูงอายุ ควรไดร บั โปรตีน 1 กรัมตอนํา้ หนกั ตวั 1 กโิ ลกรัม เนอื้ ปลาเปน อาหารโปรตนี ทผ่ี สู งู อายุควรเลือกรับประทาน เน่ืองจากเปนแหลงโปรตีนที่ดี ยอ ยงา ย ไขมนั ต่ํา ควรเลอื กกางออกใหหมด เนอื้ ปลายังมีกรดไขมันชนิดโอเมกา 3 ท่ีสามารถปองกันหลอดเลือด แขง็ และโรคหัวใจได รวมทง้ั ยังมีแรธาตุที่ผูสูงอายุตองการอีกดวย หากผูสูงอายุตองการรับประทานเน้ือสัตว ชนิดอนื่ ควรสบั ใหละเอียดหรือตม ใหเ ปอ ยเพอ่ื สะดวกตอการเคย้ี ว สาํ หรบั เน้ือไกควรลอกหนังออก เนื่องจาก หนังไกจ ะมีไขมนั มากเกินไป พืชจําพวกถั่วชนิดตาง ๆ เปนอาหารประเภทโปรตีน ชวยซอมแซม และสรางเน้ือเย่ือที่ สําคัญตอการดํารงชีวิตอยู ซ่ึงผูสูงอายุแมจะไมเจริญเติบโตอีกแตรางกายก็ตองมีการสรางเนื้อเยื่อใหม เพื่อทดแทนของเดิมท่ีสูญสลายไปตลอดเวลา ผูสูงอายุตองการสารอาหารกลุมน้ีมากกวาในวัยหนุมสาว เมือ่ เทยี บกบั น้ําหนักตวั ถ่ัวชนิดตาง ๆ เชน ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เปนแหลงอาหารโปรตีนราคาไมแพง ทีใ่ หค ุณคา ไมแพเ นอื้ สัตว ทั้งยังมีกากเสน ใยทําใหล ําไสบ บี ตัวดี ปอ งกนั เรือ่ งทองผกู ได คารโบไฮเดรต ผสู ูงอายคุ วรรับประทานขา วใหล ดนอยลง รับประทานในปริมาณท่ีพอเหมาะ เชน ขาวมื้อละ 1 จาน หรือ ปริมาณ 2 ทัพพี ไมควรรับประทานนํ้าตาลในปริมาณท่ีมาก หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัดและ ของหวานทกุ ชนิด อาหารจําพวก ขาว แปง น้าํ ตาล เผือก มนั ใหสารอาหารท่เี รยี กวา “คารโบไฮเดรต” ซ่ึงให พลังงานตอรางกาย หากรับประทานมากเกินไปจะสะสมเปนไขมัน ควรเลือกรับประทานในรูปของธัญพืช ไดแก ขาวจาว ขาวเหนียว ขาวสาลี ขาวโพด หรืออาหารแปง เชน ขนมปง บะหมี่ กวยเต๋ียว เปนตน อาหาร
116 เหลา นีจ้ ะมีกากใยอาหารอยูด ว ยซ่ึงมปี ระโยชนต อ ผสู งู อายุ หากผูส ูงอายุตองการรับประทานขาวกลองก็ควรหุง ใหน่มิ ขาวกลอ งนอกจากจะใหพลังงานแลว ยังชวยปอ งกันโรคเหน็บชาไดอีกดวย อาหารประเภทแปง หรือคารโบไฮเดรต เชน ขาว กวยเต๋ียว เผือก มันสําปะหลัง เปนตน ผสู ูงอายคุ วรรับประทานลดลง เนื่องจากความสามารถในการใชก ลามเนื้อลดลง ควรรับประทานอาหารกลุมน้ี แตพออมิ่ ไมม ากจนเกนิ ไป เพราะสว นทีเ่ กินจะถูกเปลย่ี นไปเปนไขมนั สะสมตามท่ีตาง ๆ อันจะเปนผลเสียตอ ระบบไหลเวียนโลหิต ทําใหนํา้ หนักตวั เพ่มิ มผี ลตอ ขอเขา ทําใหเส่อื มเรว็ ขึ้น และปวดเขาเวลาเดนิ ในภายหลงั ผกั และผลไม ผกั ตาง ๆ ไดแ ก ผกั ใบเขยี ว เชน ผักบุง ผักกาดขาว ผกั คะนา ผกั กวางตุง ฯลฯ ผักประเภทผล เชน แตงกวา มะระ ฟกทอง แครอท ฯลฯ เปนอาหารที่อุดมดวยสารอาหารประเภทวิตามิน และเกลือแร ผูสูงอายุสามารถกินไดไมจํากัดแตควรกินหลาย ๆ ชนิดสลับกันควรกินผักนึ่งหรือตมสุก ไมควรกินผักดิบ เพราะยอ ยยากทําใหท อ งอืดได ซึ่งปจ จบุ นั พบวาผักพื้นบา นของไทยหลายชนิด มคี ุณสมบัตเิ ปนพชื สมุนไพร ผลไมตาง ๆ ผสู งู อายุเลอื กกนิ ไดท กุ ชนิด และควรกนิ ทกุ วนั อาหารในหมูนจ้ี ะใหส ารอาหาร โดยเฉพาะ “วติ ามิน” ซ่ึงมปี ระโยชนตอรางกาย ทําใหรางกายทํางานไดตามปกติ ผลไมที่ควรเลือกควรมีเนื้อนุม เคีย้ วงา ย ไดแก มะละกอ กลวยสุก สมเขียวหวาน เปนตน ผูท่ีเปนโรคเบาหวาน และผูท่ีอวนมาก ไมควรกิน ผลไมที่มีรสหวานจดั เชน ทเุ รยี น ลาํ ไย ขนุน นอ ยหนา ไขมัน ควรใชนํา้ มนั ถั่วเหลือง นา้ํ มันดอกทานตะวัน หรือน้าํ มันขาวโพด ในการปรุงอาหาร เพราะ เปนนํ้ามันพืชท่ีมีกรดไลโนเลอิก ซึ่งเปนกรดไขมันท่ีจําเปนตอรางกาย สามารถควบคุมระดับไขมันในเลือด เทากบั เปน การชวยลดภาวะหลอดเลือดแข็ง และโรคหัวใจขาดเลอื ด ไขมันจากสัตว และพืช อาหารหมูน้ีใหพลังงานแกรางกายหากกินมากจะทําใหอวน และ ไขมนั อุดตันในเสนเลอื ดได หลกี เลีย่ งน้ํามันพืชท่ีใชป ระกอบอาหารกะทซิ ่ึงเปนนา้ํ มันจากมะพราว หลกี เล่ยี งไขมนั จากสัตว เชน หนงั ไก หนังหมู ไขแดง อาหารกลุมนีจ้ ะใหไขมนั สงู มาก ซึ่งถา รบั ประทานมากเกินไปจะเปน ผลเสียตอรางกายอยา งมาก ทาํ ใหหลอดเลือดแข็ง และเลือดไหลเวียนไปหลอเลี้ยง อวยั วะท่ีสําคัญลดลง เชน สมอง และหัวใจ เกลือแร เปนสารอาหารอกี ชนดิ หน่ึงทพ่ี บวามกี ารขาดในผูส งู อายุ เกลอื แรท ี่ควรใหความสนใจ ไดแก แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก จากขอกําหนดสารอาหารสําหรับผูสูงอายุ กําหนดใหผูสูงอายุ ควรไดรับ แคลเซียม และฟอสฟอรัสประมาณ 800 มิลลิกรัม/วัน แตมีการศึกษาวาควรไดรับสูงกวานี้ คือประมาณ
117 1,000 - 1,500 มิลลิกรมั /วัน โดยเฉพาะผูห ญิงท่ีอยูในวัยหมดประจาํ เดือน เพราะมกี ารดูดซมึ แคลเซยี มนอ ยลง จึงทําใหเกิดมีปญหาของกระดกู เน่ืองจากไดร ับแคลเซยี มไมเ พยี งพอ และทําใหกระดกู เปราะ พรุนและไมแข็งแรง จงึ พบวาเมื่อประสบอุบัติเหตุ หรือหกลมเพียงเล็กนอย ผูสูงอายุจะมีอาการของกระดูกหักไดงาย เหล็กเปน เกลือแรอีกชนิดหนึ่งท่ีพบวามีการขาดในผูสูงอายุ และทําใหเกิดโรคโลหิตจาง ซ่ึงทําใหผูสูงอายุเหนื่อยงาย ความตา นทานโรคนอ ยลง เจบ็ ปวยไดงา ย ทาํ ใหร า งกายออนแอลง เกลอื แรมใี นอาหารทกุ ชนดิ ท้งั เนอ้ื สตั ว นม ไข ผัก ผลไม และธญั พืช แตใ นปริมาณมากนอ ยแตกตางกนั วติ ามนิ วิตามิน มีหลายชนดิ แตทผี่ ูสงู อายสุ วนใหญอาจจะขาดไดบอย เชน วติ ามินบีหน่ึง วิตามินอี วติ ามนิ ดี และกรดโฟลคิ ถาผูสูงอายทุ านน้นั อยแู ตในบา น วติ ามินเปนสารอาหารอกี ชนิดหนึง่ ทจ่ี าํ เปนสําหรับรา งกาย เพ่ือชวยในการเผาผลาญอาหาร ทีบ่ รโิ ภคใหเ ปน พลังงาน และสามารถนาํ ไปใชใ นรางกาย ทาํ ใหรางกายสามารถทาํ งานไดตามปกติ เพิม่ ภมู ติ า นทาน โรคและสรางสารเคมีท่ีจําเปนสําหรับรางกาย วิตามินมีหลายชนิด มีหนาที่แตกตางกันออกไป ซ่ึงรางกาย ตองการในปรมิ าณท่ีไมเทา กัน นํ้าดืม่ ผูสงู อายคุ วรรับประทานนาํ้ ประมาณ 1 ลติ ร ตลอดท้งั วนั แตทัง้ นีค้ วรจะปรับเองได ตามแต ความตองการของรา งกาย โดยใหด ูวา ปสสาวะมีสเี หลอื งออ น ๆ เกือบขาว แสดงวาน้าํ ในรางกายเพียงพอแลว น้ําเปนเครอื่ งด่ืมทไี่ มใ หพ ลังงาน แตม ีความจําเปนแกรา งกายในการนาํ พาสารอาหารตา ง ๆ ไปยงั อวยั วะภายใน รางกาย และทําใหผิวพรรณสดใสและเกิดความสดช่ืน นํ้าที่ด่ืมควรเปนนํ้าสะอาดบริสุทธ์ิ ไตของผูสูงอายุ มีประสิทธิภาพนอยลงในการขับถายของเสีย การดื่มนํ้ามาก ๆ ชวยใหมีนํ้าผานไปท่ีไตมากพอที่จะชวยไต ขับถา ยของเสยี ไดงายขน้ึ ผูส งู อายจุ งึ ควรด่ืมนํา้ สะอาดอยางนอ ยวันละ 6 - 8 แกว (ศนู ยว จิ ัยสุขภาพกรงุ เทพ, 2557) 2.1.4 การจัดอาหารที่เหมาะสมกับผูส งู อายุ หลกั การอาหารสําหรับผูสูงอายุ นอกจากครบทั้ง 5 หมูแลว ยังตองคํานึงถึงสภาพ รางกายทีม่ กี ารเปลยี่ นแปลงไปดว ย 1) อาหารจําพวกเนื้อสัตว โดยเฉพาะเนื้อสัตว โดยเฉพาะเน้ือหมู และเนื้อวัว ควรทําเปนช้ินเล็ก ๆ หรือตมใหเปอยสะดวกตอการเค้ียวไดงาย และเคร่ืองในสัตวไมควรรับประทานบอย เนอ่ื งจากเครอ่ื งในมีคอลเลสเตอรอลสูง และมีกรดยูรกิ สูง อาจทําใหเ กิดภาวะไขมันในเลือดสูง และภาวะกรดยูริก ในเลอื ดสงู ได หรอื โรคเกา ท 2) การเล่ียงอาหารท่ีมีไขมันมาก ๆ เชน เน้ือสัตวติดมัน หมูสามช้ัน อาหารทอด ในน้าํ มันมาก ๆ จะทําใหมีอาการทอ งอืดและนา้ํ หนกั เพิ่ม
118 3) ปริมาณอาหารของแตละม้ือควรลดลงแตกินใหบอยข้ึน เพื่อชวยใหการยอย อาหารสะดวกอาจจดั เปน 4 – 5 มอ้ื ตอวัน 4) การเตรียมอาหาร ควรเตรียมอาหารใหมรี สชาตเิ ขม ขน หรือจัดกวาปกติเล็กนอย แตไ มควรเผด็ จดั เนอ่ื งจากการรบั รูอาหารหรือรสชาติของผูสูงอายลุ ดลง 5) อาหารม้ือสําคัญ ควรเปนมื้อเชา และม้ือกลางวัน สวนม้ือเย็นไมควรเปน มือ้ หลัก อาหารในม้ือเชา และมื้อกลางวัน ควรเปนอาหารท่ีมโี ปรตนี สูงและมผี กั ผลไมอยูดวย 6) ควรรีบประทานอาหารขณะทยี่ งั รอ น เพราะการรับประทานซุปหรือแกงจืดรอน 1 ถว ย กอนอาหารทกุ มอ้ื จะชวยกระตุนนํ้ายอยอาหาร ทาํ ใหรบั ประทานอาหารไดมากขึน้ และการยอ ยอาหาร ดีขึ้น 7) ผูสงู อายทุ ี่ไมเ ปนโรคหวั ใจอาจดมื่ ชา กาแฟ หรอื เคร่อื งด่ืมผสมไดบาง เพราะจะชวย กระตุนอวัยวะตาง ๆ ใหทํางานดีข้ึน กอนนอนควรดื่มเครื่องดื่มรอน ๆ 1 แกว เชน นมอุน เพ่ือชวยใหนอน หลับสนทิ 2.1.5 อาหารท่เี ส่ียงตอ การเกิดโรคบางชนดิ ในผสู ูงอายุ 1) อาหารประเภทไขมัน ผสู งู อายุควรหลีกเล่ียงอาหารประเภทไขมันแตก็มีประโยชนตอรางกาย เพราะ นอกจากจะใหพ ลังงานแลว ไขมันยังชวยในการดูดซึมวิตามินบางอยางใหซึมเขาสูรางกายไดดีอีกดวย ดังน้ัน ควรจัดใหผ ูสงู อายไุ ดทานไขมนั บา งในบางมือ้ ของวัน 2) อาหารรสเปร้ยี ว และหมกั ดอง โดยสภาพปกติ กระเพาะอาหารของมนุษยเรามีความเปนกรดสูงมากอยูแลว ดังน้ัน หากเรากินรสเปร้ียวมากเกินไป จะย่ิงเปนการเพ่ิมความเปนกรดในกระเพาะอาหารใหสูงขึ้น ทําใหเสี่ยง ตอการเกดิ โรคกระเพาะอาหาร ลาํ ไสแ ปรปรวน และภาวะกรดไหลยอ นมากยิง่ ข้นึ ของหมักดองมักจะมากับอาการปวดทองหรือทองเสียอาจเกิดข้ึนกับผูสูงอายุ ไดงายเชนกัน เพราะผูสูงอายุบางทานจะมีการขับถายไดงาย เชน เม่ือทานอาหารอะไรที่มีความเปรี้ยว จนเกนิ ไปก็อาจทาํ ใหม ีอาการปวดทอ งได เปน ตน 3) อาหารรสจัด (3.1) อาหารรสเค็มจัด สวนมากจะอยูในรูปของเกลือ และอาหารปรุงแตงตาง ๆ อยา งกะป นํา้ ปลา ซีอิ๊ว ซอส ซึ่งเรียกกันวาโซเดียม โดยไตมีหนาท่ีขับโซเดียมออกจากรางกายทางปสสาวะ และปรับโซเดียมใหสมดุล โดยรางกายคนเราตองการโซเดียมแควันละ 1 ชอนชาเทาน้ัน หากมีโซเดียม
119 ในรางกายมากเกินไปจะทําใหไตทํางานหนัก ไมสามารถขับโซเดียมออกไดหมด จนทําให เกิดอาการบวมน้ํา เทาบวม ขาบวม และนานวันเขาก็จะเสีย่ งเปนโรคความดนั โลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ อัมพาตและโรคไต (3.2) อาหารท่ีมีรสหวานจัด หมายถึง อาหารที่มีการใสน้ําตาลในปริมาณมาก ซง่ึ น้าํ ตาลเปน แหลง ใหพลังงานทีช่ วยในกระบวนการเผาผลาญ หรือขับของเสียใหกับรางกาย ซ่ึงในแตละวัน เราไมค วรบรโิ ภคนาํ้ ตาลเกินวนั ละ 6 ชอนชา หากบรโิ ภคในปริมาณทม่ี าก รางกายจะเก็บและเปล่ียนเปนไขมนั สว นเกนิ ไปสะสมในรา งกาย นานวันจะสง ผลตอการเกดิ โรคได เชน โรคอวน เบาหวาน โรคหวั ใจ ไขมนั พอกตับ มะเรง็ เปนตน (3.3) อาหารรสเผ็ดจดั สวนใหญเ กดิ จากการกินพรกิ ท่ีมสี ารแคปไซซนิ (Capsaicin) เขา ไป ซ่ึงความเผ็ดจะสง ผลตอความระคายเคืองของเนื้อเย่ือ ถากินเผ็ดมาก ๆ จะทําใหรูสึกถึงความรอน ตั้งแต ภายในปากลงไปถึงกระเพาะอาหารชองทองดา นลา ง กระทัง่ ตอนขบั ถายออกมา 4) เครอื่ งดืม่ แอลกอฮอล เคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล มีโทษตอรางกายมากมาย อาจทําใหเสนเลือดในสมองแตก เกดิ อาการสมองมนึ งง ตอบสนองตอสงิ่ ตาง ๆ ไดชา ลง คิดอะไรไมคอยออก และอาจเกิดอบุ ตั ิเหตุได 3. การออกกําลงั กายทเ่ี หมาะสมในผูสงู อายุ 3.1 ความสาํ คญั และประโยชนของการออกกําลังกายในผูสงู อายุ การออกกาํ ลงั กายในผูส งู อายุ มีความสาํ คญั อยางมาก เพราะจะเปนการชว ยลดโรคทเ่ี กดิ จาก ความชรา ชะลอความเส่ือมของรางกาย ทําใหหัวใจ หลอดเลือด และปอดแข็งแรง รวมถึงชวยใหการทรงตัวดีขึ้น ทําใหการเดิน การเคล่ือนไหวตาง ๆ คลองแคลว ไมหกลม ทําใหกระดูกแข็งแรง ชะลอโรคกระดูกพรุน การออกกําลังกายแตละชนิดมีประโยชนตอสุขภาพแตกตางกัน ผูสูงอายุที่ไมเคยออกกําลังกายและ มีโรคประจําตวั ควรปรกึ ษาแพทยท่ดี แู ลกอนเร่ิมออกกําลังกาย การเคลื่อนไหวฝกออกกําลังกายดวยปริมาณ ที่เหมาะสมและเพียงพอยอ มกอเกิดประโยชนตอ การพฒั นาสมรรถภาพทางรางกายใหดีขึ้น แตถามากเกินไป กเ็ กดิ โทษได ฉะนัน้ การกําหนดปริมาณความหนกั หรอื ขนาดของงานในการเคล่ือนไหวออกกําลังกาย ในแตละ ครง้ั จึงเปน ส่งิ ทสี่ าํ คัญ เพอ่ื กอใหเกดิ ประโยชนส งู สุดแกรา งกาย ควรออกกําลังกายสัปดาหละ 3 - 5 วัน วันละ 30 นาทีจะทาํ ใหส ุขภาพดีทัง้ สขุ ภาพกายและสุขภาพใจสง ผลใหมีพลังในการปฏิบัติงานตอไปอกี นาน 3.2 ขั้นตอนปฏบิ ัติของการออกกาํ ลังกาย การออกกําลงั กายประกอบไปดว ย 4 ข้นั ตอน คือ ชว งอบอนุ รา งกายโดยการยดื เสน แลวจึง เริ่มออกกาํ ลงั กายกลา มเนือ้ มัดใหญ ตามดว ยชวงฝกจรงิ และชว งผอ นคลาย (อภชิ าติ อศั วมงคลกุล, 2553)
120 3.2.1 การอบอนุ รางกาย (warm – up) มีจดุ มงุ หมายเพ่ือปรับรา งกายใหพรอม กอ นที่จะ ออกกําลังกายจริง ๆ โดยจะมีผลทําใหมีการเพิ่มอุณหภูมิของกลามเน้ือ ทําใหมีการเพ่ิมความเร็วของการ ชักนํากระแสประสาท ลดการยึดตึงของกลามเน้ือเปนผลใหการหดตัวของกลามเนื้อมีประสิทธิภาพดีย่ิงข้ึน เพิ่มออกซิเจนไปยังกลามเน้ือ โดยมีการขยายตัวของเสนเลือดฝอยและเพิ่มความสามารถการจับออกซิเจน ไดมากข้ึน ชวยปรับความไวของศูนยการหายใจตอการกระตุนและชวยเพิ่มจํานวนเลือดที่ไหลกลับหัวใจ ลดความเสี่ยงตอการเกิดการบาดเจ็บขณะออกกําลังกาย ลดและปองกันการเตนผิดปกติของหัวใจ และลดการ ขาดเลือดของหัวใจ การอบอุนรางกายควรจะทําแบบคอยเปนคอยไปใหเกิดการเพ่ิมอุณหภูมิรางกายและ กลามเนื้อ โดยไมมีการออนลาหรือเสียพลังงานมากเกินไป มักจะใชเวลาประมาณ 5 - 10 นาที โดยมีการ เคลือ่ นไหวของรางกายทุกสว น เชน การทาํ ทา กายบริหาร หรือ การเดิน การวิ่งแบบชา ๆ 3.2.2 การยืดเหยยี ดกลามเนือ้ (stretching) เปน การเตรียมสภาพการทาํ งานของกระดูก ขอ ตอเอ็น พังผดื และกลามเนื้อ ดวยการเพ่ิมมุมการเคล่ือนไหวของบริเวณขอตอ เปนการเพิ่มขีดความสามารถ ทางดานความเร็วและความคลองแคลววองไว รวมท้ังเปนคุณสมบัติสําคัญท่ีจําเปนสําหรับการเลนกีฬาและ การออกกาํ ลงั กายทกุ ประเภท ยงิ่ กวา นัน้ การฝกการยดื เหยียดกลามเนื้อยังชวยปองกันการบาดเจ็บ หลักการ ฝกยืดเหยียดกลามเน้ือควรทําหลงั จากท่ไี ดมีการอบอุนรางกายพรอมแลว หรือเมอ่ื อุณหภูมิกลามเน้ือไดรับการ ปรบั ใหส งู ขึ้น ทั้งนี้ เนอ่ื งจากเอน็ และกลามเนือ้ ที่ไดร ับการอบอุนพรอมแลว จะมคี วามยดื หยนุ ตัวดีกวาเม่อื ตอน ท่ยี ังไมไ ดรบั การอบอนุ นอกจากน้กี ารฝกการยดื เหยยี ดกลา มเน้ือควรกระทําซ้ําอกี คร้ังในข้ันตอนหลงั จากเสรจ็ ส้ินการออกกําลงั กาย วธิ ีการยืดเหยียดกลามเนอ้ื เร่ิมจากทําการยดื คา งไวใ นจังหวะสุดทายของการเคล่ือนไหว จากนนั้ ทาํ การยดื จนกระทงั่ ถงึ จุดทรี่ ูส ึกวามีอาการปวดตงึ กลา มเนอ้ื เกดิ ข้นึ ณ จุดน้ใี หควบคมุ ทา การเคลือ่ นไหว หยุดน่ิงคา งไวประมาณ 10 - 30 วินาที 3.2.3 การออกกาํ ลังกาย (exercise) การออกกําลังกายแบบไมใชออกซิเจน (anaerobic exercise) เปนการออกกําลังกาย ชวงสั้น ๆ สลับกบั การพกั ใชระบบพลังงานท่ีมีสํารองในกลามเน้ืออยูแลว การออกกําลังกายในชวงน้ีใชเวลา 0 - 30 วินาที ตวั อยางเชน ยกน้ําหนกั กอลฟ วง่ิ ระยะส้นั และกรีฑาประเภทลาน เปน ตน การออกกําลงั กายแบบใชอ อกซิเจน (aerobic exercise) เปนการออกกําลังกาย ในเวลาทยี่ าวนานขน้ึ มีความตอ เน่อื ง สม่าํ เสมอ ไมหยดุ พัก ทําใหการใชระบบพลังงานสํารองในกลามเน้ือไม เพียงพอรางกายจึงตองหายใจเอาออกซิเจนไปเผาผลาญในขบวนการสรางพลังงาน ยกตัวอยาง เชน ว่ิงระยะไกล วายน้าํ ปน จักรยาน เดินเรว็ เทนนิส แบดมนิ ตัน เปนตน 3.2.4 การคลายอุน รางกายรวมกับการยืดเหยียดกลามเน้ือ (cool down) คือ การเปด โอกาสใหร า งกายคอย ๆ ปรบั ตัวกลับคนื สสู ภาวะปกติอยางตอเนอื่ งทลี ะนอ ย ซง่ึ เปน การลดความหนักจากการ
121 ออกกาํ ลังกาย ทําใหรางกายฟนตัวจากอาการเหน็ดเหนื่อยไดรวดเร็วยิ่งข้ึน และชวยผอนคลายความเครียด พรอมทั้งอาการปวดเม่ือยท่ีเกิดขึ้นกับกลามเน้ือ การหยุดออกกําลังกายอยางทันทีโดยไมเปดโอกาสให กลามเนื้อและระบบไหลเวยี นเลือดคอ ย ๆ ปรับตัวคืนสูสภาวะปกติทีละนอยจะเปนสาเหตุใหเลือดท่ีเคยไหล ผา นหัวใจครง้ั ละจาํ นวนมาก ๆ ขณะออกกาํ ลังกายอยา งหนักกลับลดปริมาณลงอยางรวดเร็วทําใหการระบาย ของกรดแลคติกท่ีเกิดขึ้นในระหวางออกกําลังกายชาลง เม่ือระบบไหลเวียนเลือดและกลามเน้ือลดปริมาณ การทาํ งานลงอยา งรวดเรว็ ทําใหกรดแลคตกิ คางอยูตามกลามเน้อื จงึ เปนสาเหตุใหเ กดิ อาการลา หรอื ปวดเมื่อย หรือตะคริว 3.3 รูปแบบการออกกําลงั กายสาํ หรับผูสูงอายุ กจิ กรรมหรอื รูปแบบการออกกําลงั กายสําหรับผูสงู อายุ มี 4 แบบ 3.3.1 กิจกรรมเพอ่ื เพ่มิ ความอดทน หรือการออกกําลังเพ่ิมความอดทน ซ่ึงจะกระตุนการเตน ของหวั ใจ การหายใจ และระบบไหลเวยี นของเลือดใหดีข้ึน ซึ่งจะเปนการปองกันโรคตาง ๆ บางโรคได หรือ อาจทาํ ใหควบคุมโรคไดง ายขน้ึ ออกกําลงั กายท่ีเหมาะสมสาํ หรับผสู ูงอายกุ ค็ ือการออกกําลังกายแบบแอโรบิค นน่ั เอง ซ่ึงการออกกําลงั กายแบบแอโรบิค ไดแก การเดินเร็ว การวิ่งเหยาะ ๆ การวายน้ํา และการข่ีจักรยาน อยกู บั ท่ี เปนตน 3.3.2 ออกกาํ ลงั กายเพอ่ื เพมิ่ พลงั กลามเนื้อ ซงึ่ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานทํากิจกรรม ตาง ๆ ไดดีข้ึน โดยเฉพาะในผูสูงอายุที่สูญเสียกลามเน้ือไปบางแลว (กลามเน้ือลีบ) จะกลับมีความสามารถ ทาํ อะไรตออะไรไดมากข้ึนกวา เดิม เชน ลกุ จากเกาอ้งี ายขึ้น มน่ั คงขึ้น หรือสามารถข้ึนบันไดไดอยางปลอดภัย การออกกําลังกายเพื่อเพิ่มพลังกลามเนื้อสวนใหญจะเปนการยกนํ้าหนัก หรือดัน หรือผลักของหนัก และให คอ ย ๆ เพ่ิมนํ้าหนกั ทีละนอย โดยใชถ งุ น้ําหนกั พันทีข่ อมือหรอื ขอเทา หรือใชย างยืดหรอื สปรงิ แทนนํา้ หนักได 3.3.3 ออกกําลังกายเพื่อการทรงตัว เพ่ือใหไมหกลมงาย ซ่ึงเปนสาเหตุสําคัญที่จะทําให ผูสงู อายบุ าดเจ็บถึงข้นั พิการและเสียชวี ิตได โดยวิธกี ารบริหารในทา ตา ง ๆ ทุกสดั สวนของรา งกาย 3.3.4 ออกกาํ ลงั กายเพือ่ ยืดเสน ยดื สาย ทาํ ใหแ ขนขาเคลือ่ นไหวไดคลอ งขึน้ การทํากจิ กรรม ตา ง ๆ ก็จะสะดวกขน้ึ ตามกาํ ลังกาย ตวั อยา ง รูปแบบการออกกาํ ลังกายเพอ่ื สขุ ภาพสาํ หรับผูสงู อายุ 1) การเดิน หรือวิ่งชา ๆ (เหยาะ) นิยมกันท่ัว ๆ ไป เพราะคาใชจายนอย เดินคนเดียว ก็ได เดินเปน กลุมคณะก็ดี เดินตางจากวิง่ ท่วี า ขณะเดนิ จะมีเทาขา งหนึ่งเหยียบติดพ้ืนดินอยูตลอดเวลา แตว่ิง นั้น จะมีชวงหนึ่งท่ีเทาทั้ง 2 ขางไมเหยียบติดดิน ดังนั้น การเดินจึงลงนํ้าหนักท่ีเทา เทานํ้าหนักของผูเดิน แตการว่งิ นาํ้ หนกั ท่ลี งท่ีเทา จะมากข้นึ กวา เดมิ ผสู ูงอายุที่ขอเทาหรือขอเขาไมดี จึงไมควรว่ิง ถาขอเทา ขอเขา ไมดีมาก ๆ การเดินมากจะเจ็บที่ขอ ควรเปล่ียนเปนการออกกําลังกายชนิดอ่ืน เชน เดินในนํ้า หรือวายน้ํา
122 ถาผูสูงอายุสถานภาพรางกายดี และเลือกการเดินเปนการออกกําลังกาย ก็ควรเริ่มดวยการเดินชา ๆ กอน ประมาณ 5 นาที แลวคอ ยเพมิ่ ความเรว็ ขนึ้ ถา หดั ออกกาํ ลังกายใหม ๆ กอ็ ยา เพิง่ เดนิ ไกลนกั แตเ ม่ือฝกจนเกิด ความอดทนแลว จงึ คอ ยเพ่ิมเวลาและความเรว็ ขน้ึ ตามหลกั ความหนักทเ่ี หมาะสม การเดิน หรือวง่ิ อาจเลือกเดิน หรือว่ิงตามสนาม สวนสาธารณะ หรือเดินบนสายพาน ในท่ีจํากัดกไ็ ด ที่สาํ คัญคอื ควรเลือกใชร องเทาทเ่ี หมาะสมและคณุ ภาพดี เน่ืองจากการเดินหรือการวิ่งอยางเดียว อาจไมไดออกกําลังกายครบทุกสวนของรางกาย จึงควรมีการออกกําลังโดยการบริหารทาตาง ๆ เพ่ิมเติม จะทําใหร า งกายไดประโยชนม ากยงิ่ ขนึ้ 2) การออกกําลังกายโดยวิธีกายบริหาร การออกกําลังกายโดยทากายบริหารทาตาง ๆ นับวาเปนวิธีการที่ดีอยางย่ิง กายบริหารมีหลายทาเพ่ือกอใหเกิดการออกกําลังกายทุกสัดสวนของรางกาย เปน การฝก ใหเกิดความอดทน แข็งแรง การทรงตวั การยึดหยุนของขอ ตอตา ง ๆ ไดด ี 3) การออกกําลังกายโดยวิธีวายนํ้า - เดินในนํ้า การวายนํ้า เปนการออกกําลังกายท่ีดี อยา งหนึ่ง ท่กี ลามเนื้อทุกสวนไดมีการเคล่ือนไหวออกกําลังกาย เปนการฝกความอดทน ความออนตัว และ ความคลองแคลววองไว เหมาะสาํ หรบั ผทู ข่ี อ เขา เสอื่ ม น้ําหนักไมไดลงเขาทําใหเขาไมมีการเจ็บปวด การเดิน ในน้ํา ก็เหมาะสําหรับคนขอเขาเส่ือม เพราะน้ําจะชวยพยุงนํ้าหนักทําใหแรงกดลงบนเขาลดลง แตเพ่ิมแรง ตานในการเดิน ทําใหก ลามเน้ือไดออกแรงมากข้ึน จดุ ออ นของการวายนํ้า ก็คือ หาสระวายน้ําไดยาก สําหรับ คนทข่ี อ เขา ไมเสื่อม การออกกําลงั กายวา ยน้ําอยางเดียว รางกายไมไดรับนํ้าหนักเลย ทําใหโครงกระดูกไมได รับนา้ํ หนัก ไมไ ดผลดีในการเพมิ่ พนู มวลกระดูก ดังนน้ั ผูออกกาํ ลังกายวายนํ้าแลว ควรเพิ่มการออกกําลังกาย ดวยการเดนิ หรอื ยกนํา้ หนักดว ย จนทาํ ใหไ ดผ ลในทางสขุ ภาพดีย่ิงข้ึน 4) การออกกําลังกายโดยวิธีขี่จักรยาน ถาขี่จักรยานเคลื่อนที่ไปตามที่ตาง ๆ เปนการ ออกกําลังกายท่ดี ีมากเพราะเกิดประโยชนทั้งความอดทน การทรงตัว และความคลองแคลววองไว มีความสุขใจ แตมีจุดออน ที่ตองมีเพ่ือนเปนหมูคณะ จึงจะสนุก และปจจุบันหาสถานท่ีข่ีจักรยานเคลื่อนท่ีปลอดภัย ลาํ บากมาก บนถนนรถยนตม ากโอกาสเกดิ อบุ ัตเิ หตสุ ูง ในสวนสาธารณะในกรุงเทพฯ สว นใหญก ็หา มขจ่ี กั รยาน ดังนั้น ปจจุบนั จงึ นยิ มขี่จกั รยานอยูกับท่ี ในท่ีสวนตัวและมจี ักรยานที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ มีอุปกรณวัดตาง ๆ มากมาย ยง่ิ มีอปุ กรณม ากราคากส็ ูงขึน้ การขจ่ี กั รยานอยกู บั ท่ี มีจุดออ นทีข่ าดการฝกการทรงตัว และขาดการ ฝก ความคลอ งแคลว วองไว และกลา มเนื้อทอี่ อกกําลังกาย จะเปนเฉพาะท่ีขาเปนสวนใหญ สวนคอ สวนแขน สวนเอว เกือบไมไดออกกําลังกายเลย ดังนั้น หลังการออกกําลังกายโดยวิธีข่ีจักรยานอยูกับท่ีแลว ควรมี กายบริหารสว นชว งทอ งหนา อก แขน คอดวยจะสมบรู ณย ง่ิ ขน้ึ 5) การออกกําลังกายโดยวิธีฝกโยคะ การออกกําลังกายแบบโยคะสําหรับผูสูงอายุ นายแพทยอเนก ยุวจิตติ ผูสนใจและเช่ียวชาญในเรื่องน้ี กลาววา “โยคะ เปนวิชาวิทยาศาสตรแขนงหน่ึง
123 มีวัตถปุ ระสงค ทีจ่ ะทําใหผ ปู ฏิบตั ิมีสุขภาพดี ท้งั รางกาย และจิตใจ ทําใหดํารงชีวิตอยูดวยความสุข โยคะที่ใช ฝก ออกกําลังกาย เปน โยคะเบื้องตน บริหารทา มอื เปลา ทีม่ ีการหายใจเขา - ออก ควบคูไปดวยทาตาง ๆ ท่ีใช ฝกมีหลายทา ” เน่ืองจากผเู ชยี่ วชาญสว นใหญเห็นวา การฝก โยคะเปนเรอ่ื งละเอียดออน ผฝู ก จําเปนจะตอง ฝกกับผมู ีความรคู วามชํานาญจริง ๆ จงึ จะไมเกิดอันตราย ดงั นน้ั จงึ ไมแนะนาํ ใหทําการฝก ดวยตนเอง 6) การออกกําลังกายในสวนสุขภาพ ปจจบุ ันนใี้ นสวนสาธารณะใหญ ๆ หลายแหลง มีการจัด แบงเปนสัดสวนข้ึน เรียกวา สวนสุขภาพ หรือบางแหงก็สรางสวนสุขภาพข้ึนเปนเอกเทศ เพื่อใหประชาชน เขา ไปออกกําลังกาย ในสวนสขุ ภาพเชนน้ี จะจัดใหมีฐานฝก เปน จุด ๆ เพื่อใหผูออกกาํ ลังกาย ไดฝกออกกําลังกาย ใหไดผลในเร่ืองความอดทน ความแข็งแรง ความยืดหยุน การทรงตัว ความคลองแคลววองไว ฯลฯ นับวา เหมาะสมสาํ หรับผูสงู อายุ จดุ ออนอยูท ว่ี า การจัดทาํ สวนสุขภาพเชน น้ี ยังมีนอ ยไมแพรห ลาย 3.4 ขอ แนะนาํ การออกกําลงั กายโดยทั่วไป 1) ควรออกกําลังกายทีใ่ ชก ลา มเน้ือมดั ใหญ เชน แขน ขา ลําตวั เปนตน 2) ควรออกกําลังกายอยา งนอยสัปดาหล ะ 3 - 5 วัน 3) ควรออกกําลงั กายอยา งนอ ยคร้ังละ 20 - 60 นาที 4) ควรออกกาํ ลังกายท่ีมีการพัฒนาความเหน่ือยเพิ่มขึ้นเทาท่ีรางกายจะรับได และหยุดพัก เปน ชว งสั้น ๆ เพ่ือไมใ หเ กิดอาการวงิ เวยี นหรือหยุดพักขณะท่ีเปลย่ี นทา หยุดพกั เมอ่ื รูส กึ เหนอื่ ย 5) กอนออกกาํ ลังกายทุกครัง้ ควรอบอนุ รา งกายและผอนคลายรางกายดวยการเดินหรือทําทา กายบริหารอยา งนอยครัง้ ละ 5 - 10 นาที เพือ่ ปอ งกนั การบาดเจบ็ นอกจากการออกกาํ ลงั กายดงั กลา ว ผูสงู อายุอาจออกกาํ ลังกายดว ยการเลนกีฬาชนิดตาง ๆ กฬี าที่เหมาะสําหรบั ผสู งู อายุมหี ลายชนิด เชน เปตอง ไดประโยชนจากการออกกําลงั กาย ฝกสมาธิ แอโรบิกดานซ ไดประโยชนจ ากการกระตนุ การทาํ งานของหวั ใจ และปอด แบดมินตัน เทนนสิ กอลฟ เปนตน หลักสําคัญของ การออกกาํ ลังกาย คอื ตองกระทําสม่ําเสมอ เพอื่ ใหส ขุ ภาพดขี นึ้ ไมใ ชเพียงคร้งั สองคร้ัง หรือวันสองวันตองทราบ ขีดจํากัดของตนเอง รางกายเปนเครื่องวัดท่ีดีถารูสึกเหน่ือย เม่ือย หรือปวดตามกลามเนื้อตาง ๆ ควรหยุด หากไมแ นใจควรปรกึ ษาแพทย พยาบาล นกั กายภาพบาํ บัด หรือผูม คี วามรู
124 4. การสง เสรมิ และการดแู ลสุขภาพจติ ของผูสูงอายุ 4.1 ความหมายของสขุ ภาพจิต หมายถงึ ภาวะจิตใจทเ่ี ปน สขุ สามารถปรับตัวแกปญหา สรางสรรคทํางานได มีความรูสึก ท่ีดีตอตนเองและผูอ่ืน มีความม่ันคงทางจิตใจ มีวุฒิภาวะทางอารมณ อยูในสังคม และสิ่งแวดลอมที่ เปลีย่ นแปลงได สขุ ภาพจิตทีด่ ี องคการอนามัยโลก ไดใหความหมายของสุขภาพจิตท่ีดี ดังน้ี “ภาพจิตใจ ท่ีเปนสุข สามารถมีสัมพันธภาพและรักษาสัมพันธภาพกับผูอื่นไวไดอยางราบรื่น สามารถทําตนใหเปน ประโยชนไดภ ายใตภ าวะสิง่ แวดลอมทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงท้งั ทางสงั คม และลกั ษณะความเปน อยูในการดาํ รงชพี วางตัวไดอยางเหมาะสม และปราศจากอาการปวยของโรคทางจิตใจและรา งกาย” สุขภาพจิตไมดี คนสุขภาพจิตไมดี เมื่อเผชิญปญหาในชีวิต จะเกิดอาการตาง ๆ ทางจิตใจ อารมณ แสดงพฤติกรรมบางอยาง หรือปฏิกิริยาตอบสนองทางรางกายซึ่งแสดงภาวะไมสมดุล บางคนอาจมีอาการแสดงออกมาเล็กนอย เรียกวาปญหาสุขภาพจิต หรือมีมากจนเปนกลุมอาการท่ีเรียกวา โรคทางจิตเวช 4.2 ความสาํ คญั ของการพฒั นาสขุ ภาพจติ ของผูส ูงอายุ ผูสงู อายุเปนวัยทม่ี กี ารเปล่ียนแปลงท้ังทางรางกายและจิตใจ ผูดูแลควรจะใสใจและหม่ัน สังเกตความเปลยี่ นแปลง เพือ่ ดูแลใหผ ูสงู อายุมีสขุ ภาพจติ ที่ดีอยูเสมอ ผูมีสุขภาพจิตดีจะสามารถจัดระเบียบ ชีวติ ไดอยา งเหมาะสมกบั ตัวเองและสังคมทั่วไป ทาํ ใหเกิดความพอใจในชีวิต สามารถแกปญหาเฉพาะหนาได รจู กั ยอมรบั ความจรงิ ของชวี ิต รูจกั ควบคมุ อารมณตวั เอง ปรับตัวใหเขา กับสงั คมและสงิ่ แวดลอมไดเปนอยางดี จึงมีโอกาสประสบความสําเร็จในชีวิตไดเปนอยางมาก ผูสูงอายุ มีธรรมชาติที่สําคัญเกี่ยวกับอารมณจิตใจ แบบใดข้ึนอยูกับชวงวัยท่ีผานมามีบุคลิกภาพเปนแบบใด ซึ่งเปนลักษณะเฉพาะตน ความเปล่ียนแปลงทาง อารมณและจิตใจเกิดควบคูกับความเปล่ียนแปลงทางกาย ซึ่งความเปลี่ยนแปลงของผูสูงอายุท่ีเปนไป ในลักษณะนี้ ทําใหผ ูสูงอายุมองวาตนเองไรคา ตองพ่ึงพาผูอื่น เมื่อประกอบกับการสูญเสียอํานาจ ตําแหนง หนา ท่ีการงานในสงั คมแลว ผสู ูงอายุยิ่งมีความกงั วลใจและกระทบกระเทือนใจไดงาย ๆ อารมณของผูสูงอายุ ก็เหมือนกบั อารมณของคนในวัยอ่ืน ๆ แตบ างอารมณท ่อี าจเกดิ ข้นึ มากในชวงวยั สงู อายุ ดงั นี้ 1) อารมณเหงาและอารมณวาเหว เน่ืองจากผูสูงอายุมีเวลาวางจากอาชีพและภารกิจ ตา ง ๆ จากประสบการณพลดั พรากจากไปของผูท่ีใกลชิดและเปนที่รัก นอกจากนี้สภาวะทางกายท่ีเสื่อมถอยลง จะทําใหเกิดสายตาพลามัว หูตึง ผมหงอก ทําใหการทํากิจกรรมมีขอจํากัด อารมณเหงาในวัยสูงอายุมักจะมี อารมณอ่ืน ๆ รวมดวย และกอใหเ กิดผลกระทบทางใจหลายประการ เชน ซึมเศรา เบ่ืออาหาร เกิดโรคภัยไขเจ็บ หลง ๆ ลืม ๆ นอนไมหลับ เจ็บปว ยตามมา
125 2) การยอ นคิดถงึ ความหลงั ในอดตี มหี ลายรูปแบบ เชน นั่งคิดคนเดยี วเงียบ ๆ บอกเลาให ผูอ่ืนรับฟง เขียนดวยตัวหนังสือ เดินทางไปในสถานที่คุนเคย ฯลฯ สาเหตุของการยอนคิดถึงความหลังน้ัน เปนการยอ นอดตี เพ่อื ดูวา ชีวิตทผ่ี านมาสมหวงั หรอื ไม หากพงึ พอใจกับอดตี กจ็ ะยอมรับในสิ่งท่ีเปน แตถายอน ไปแลว รูสึกไมพอใจ ผูส งู อายกุ ็จะรสู ึกคับแคนใจ ท้ังนี้หากผูสูงอายุไดยอนคิดถึงอดีตดวยความพอใจและเพ่ือ ปรบั ตนจะทําใหผูสูงอายุตระหนักถึงความไมเที่ยงของชีวิต จะเปนผูสูงอายุท่ีปรับตัวไดอยางมีประสิทธิภาพ และมคี วามสุขในวยั สงู อายุ 3) อารมณเศราจากการพลัดพราก เปนการเศราจากการสูญเสียคนอันเปนท่ีรัก โดยจะมี ความคิดและอารมณทางดานลบตาง ๆ เชน วาเหว เล่ือนลอย หลง ๆ ลืม ๆ หรือมีความเจ็บปวดทางกาย หากผทู ี่จากไปมีความผกู พนั กบั ผูสูงอายุในทางความคดิ อารมณ จติ ใจอยางมาก อาจทําใหผูสูงอายุเกิดอาการ ตรอมใจและอาจทาํ ใหผ สู งู อายเุ สยี ชวี ติ ตามไปในเวลาไมชาซ่ึงเปนเร่ืองที่อาจเกิดขึ้นได หากผูสูงอายุสามารถ ทําใจยอมรับการจากไปและสามารถพูดถึงคนท่ีจากไปโดยไมขมข่ืนอาลัยอาวรณ หากมีอาการอื่นรวม กลายเปน โรคซึมเศรา ไมส นใจตนเอง อาจตองปรึกษาแพทย 4) วิตกกังวล กลัววาจะตองพ่ึงลูกหลาน ขาดความเช่ือม่ัน นอนไมหลับ กลัวถูกทอดท้ิง กลัวภัยทางสังคม กลัวไมไดรับการเอาใจใสดูแลจากลูกหลาน ผูสูงอายุมีความกลัวไปตาง ๆ นานา ทําให ผูสงู อายเุ กิดความวติ กกังวล และมอี าการออนเพลยี ไมมแี รง เปน ลมงา ย หายใจไมอ อก เบือ่ อาหาร เปนตน 5) โกรธ เม่ือมีความเห็นขัดแยง ลูกหลานไมยอมรบั ฟง ความคดิ เห็น 6) กลวั ถูกทอดท้ิง เพราะชว ยตัวเองไดน อยลง 7) ข้ีใจนอ ย เพราะคิดวา ตนเองไรค า ลกู หลานไมส นใจ 8) หงุดหงิด เพราะทําอะไรดวยตนเองไดนอยลง ใครทําก็ไมถูกใจ จึงกลายเปนคนจูจี้ ขบ้ี น แสนงอน จะเปนอารมณหรอื พฤติกรรม ที่เปลยี่ นแปลงไปในวัยสงู อายุ 4.3 สาเหตขุ องปญหาสุขภาพจิตของผูสูงอายุ 1) การสูญเสีย เชน สูญเสียคนใกลชิดในครอบครัว คูชีวิต ทําใหอารมณของผูสูงอายุ หวั่นไหวไปดว ย รสู ึกเศรา และเกิดความรสู กึ กลัววา ตนเองจะเสียชีวติ เปน ตน 2) ออกจากหนา ท่ีการงาน ทําใหรูสึกวาตนเองไมไดรับการยกยองเหมือนเดิม กังวลเร่ือง คาใชจาย การเงิน รูสึกไมเชื่อม่ันในตัวเอง คิดวาตนเองไรคุณคา ตองพ่ึงลูกหลาน กลัวถูกทอดท้ิง กลัวขาด ความสามารถ ไมมีคุณคา กลัววาจะไมไดรับความรัก ความดูแลจากลูกหลาน ทําใหนอนไมหลับ ออนเพลีย ไมม ีแรง เปนลมงา ย หายใจไมอ อก เบอ่ื อาหาร เปนตน 3) ความจําลดนอยลง ผูสูงอายุจะจําเร่ืองใหม ๆ ไดไมคอยดี เทาเรื่องเกา ๆ ในอดีต ตอ งถามซํ้า ๆ ทาํ ใหรูสึกไมดีกบั ตนเอง
126 4) เก็บตัว ไมชอบเขา สงั คม เพราะคดิ วา ตัวเองแกแ ลว (วราคณา สทิ ธิกนั , 2559) 4.4 วิธกี ารพัฒนาสขุ ภาพจิตของผสู ูงอายุ 4.4.1 การทาํ จิตใจใหเ ปน สุข ผสู ูงอายทุ ่ีมีปญหาเรือ่ งสขุ ภาพจิตอาจนาํ ไปสกู ารเปนโรคซึมเศรา นอนไมหลับ หรือ สมองเส่ือมได จึงตองเรียนรูธรรมชาติการเปล่ียนแปลงของผูสูงอายุและการปรับตัวในการอยูรวมกับผูอื่น ซ่งึ จะสงผลดกี อ ใหเกดิ ความสบายใจ ผอ นคลายและมคี วามสขุ หนทางสูการเปนผูสูงอายทุ ีม่ ีความสุข สามารถ ปฏิบัติได ดงั น้ี 1) ผูส งู อายคุ วรโอนออ นผอนตามความเห็นลกู หลานและคิดเร่ืองตา ง ๆ ดว ยความ ยดื หยุน 2) ทําใจวา การเกดิ แก เจ็บ ตาย เปน เร่อื งธรรมดา 3) มองชีวิตตนเองในทางทดี่ ีและภาคภมู ใิ จเปนทพ่ี ่ึงพิงแกลกู หลาน 4) เมอ่ื มีความกงั วลตองพูดคยุ กบั คนใกลช ิดเพ่ือระบายความรูสึก 5) พยายามหากิจกรรมและงานอดเิ รกทที่ ําแลวรูส ึกเพลิดเพลนิ และมคี ณุ คาทางจิตใจ เชน ปลูกตนไม เลีย้ งสัตว ทาํ อาหาร ออกกาํ ลังกาย ตลอดจนเดินทางทอ งเที่ยว เปนตน 6) พบปะสงั สรรคกับผอู ่ืน เพื่อพูดคุยหรือปรับทุกข 7) ยึดศาสนาเปน ท่พี งึ่ ทางใจ เชน สวดมนต เขาวัด ทําบุญ ฝก สมาธิ เปน ตน 8) หม่ันทาํ จิตใจใหเบกิ บานอยูเสมอ ไมเครยี ดหรือหงดุ หงิด 4.4.2 การยอมรบั บทบาทและสถานะภาพทเ่ี ปลีย่ นแปลงเมอ่ื มอี ายุมากขึ้น ผูสงู อายุควรไดมกี ารปรับตัว ยอมรับกับการเปล่ยี นแปลงทเี่ กิดขึน้ ดงั น้ี 1) เปดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงทเ่ี กิดขนึ้ ท้ังของตนเองและสงิ่ ใหม ๆ ในสังคม โดยเรมิ่ จากการปรับใจ 2) เปดรบั และยอมรบั ความคิดเหน็ ของลกู หลานและคนอ่ืนใหมากขึ้น 3) ไมเ กบ็ ตวั หรือแยกตัว พยายามรวมกิจกรรมกับครอบครวั ตามศกั ยภาพของผูส ูงอายุ 4) คดิ ยดื หยุนในเร่ืองตาง ๆ วาทาํ อยางไรจึงจะอยูร วมกบั ครอบครวั และคนอ่ืนใหได อยางดที ่สี ุดเทา ท่ที าํ ได และขดั แยง กนั นอยทสี่ ุด 5) ยอมรบั ความชว ยเหลือและการดแู ลของลกู หลานเมื่อถงึ เวลาจาํ เปน 6) ทําจติ ใจใหเบกิ บานอยูเสมอ ไมใหตนเองเกิดความเครยี ด หงุดหงิด รูจ ักผอนคลาย
127 4.4.3 การฝกจติ /สมาธิบาํ บดั เปนอีกหนง่ึ การรักษาที่ในปจ จุบันเปน เทรนดที่กําลังมาแรงและเปนท่ีนิยมกันในหมู คนทํางานไปจนถึงผูสูงอายุ สมาธิบําบัดจะยึดหลักการงาย ๆ จากคํากลาวท่ีวา “จิตใจที่ดีและใสสะอาด ยอมตามมาดวยรางกายที่แข็งแรง” โดยพ้ืนฐานแลวจะเปนการน่ังสมาธิเพื่อใหจิตใจปลอดโปรง โดยยึด หลักการฝก จิตใจตามแบบพุทธศาสนา ผสมผสานกับแนวคิดปจจุบันเพ่ือใหเกิดการบําบัดและรักษาเยียวยา สภาพทางจิตใจข้ึนน่ันเอง แนน อนวา การทาํ สมาธิบําบัดสามารถทาํ ไดท กุ คนไมวาจะเปนผูปวยทางจิตเวชหรือ แมแ ตคนปกติทัว่ ไป การทําสมาธิบาํ บดั ไมแตกตางจากการนงั่ สมาธิปกติของชาวพุทธเลย วิธีการหลัก ๆ กค็ อื ปลอยวางจากความคดิ และทาํ ใหสมองปลอดโปรง โดยการน่ังหลับตาและกําหนดลมหายใจเขาออกให เปน จังหวะสมํา่ เสมอ โดยจุดสาํ คญั ในการนง่ั สมาธเิ พือ่ ใหไดป ระสทิ ธิภาพสงู สุดกค็ ือ 1) สดู ลมหายใจเขา ลึก ๆ และปลอยออกมาจนสดุ อยางสมา่ํ เสมอ 2) นงั่ สมาธิในสถานท่ีทีม่ อี ากาศถายเทไดส ะดวกและเปนพน้ื ที่ทีม่ คี วามสงบเงียบ 3) ทาํ จิตใจใหปลอดโปรงและปลอ ยวางจากความคิดทง้ั หมด 4) ทาํ อยา งสมํ่าเสมอทุกวันอยา งนอ ยวนั ละ 30 นาที ตอครงั้ ซงึ่ จดุ นผี้ ูป ฏิบัติอาจจะ ทาํ ก่ีครงั้ ตอวันก็ไดต ามความสะดวกและเวลาวางที่มี 4.5 การสาธิตการพัฒนาสขุ ภาพจิตสาํ หรบั ผูสงู อายุ ผูสงู อายเุ ปนวยั ทมี่ กี ารเปลยี่ นแปลงทั้งทางรา งกายและจติ ใจ ผดู ูแลควรจะใสใ จ และหมน่ั สงั เกต ความเปลีย่ นแปลงเพื่อดแู ลใหผ ูสูงอายุมีสุขภาพจิตท่ีดีอยูเสมอ ผูมีสุขภาพจิตดีจะสามารถจัดระเบียบชีวิตได เหมาะสมกับตัวเองและสังคมทั่วไป ทําใหเกิดความพอใจในชีวิต สามารถแกปญหาเฉพาะหนาได รูจักยอมรับ ความจริงของชวี ิต รูจ ักควบคมุ อารมณตัวเอง ปรับตัวใหเขา กับสงั คมและส่ิงแวดลอมไดเปนอยางดีจึงมีโอกาส ประสบความสําเร็จในชีวติ ไดเปนอยา งมาก วธิ ีการดูแลสุขภาพจิต สามารถทําได ดังนี้ 1) ขยับแขน - ขา การออกกําลังกาย ท้ังเดิน เตนรํา นอกจากเปนการรักษาสุขภาพ ทางกายแลว ยังชวยใหสารเอ็นดอรฟน (Endorphin) ออกมาทําใหเรารูสึกมีความสุขมากข้ึน ลดความเครียด ลดความวิตกกังวลได 2) การพบปะครอบครัว หาเวลาวางทํากิจกรรมรวมกัน เชน รับประทานอาหาร พรอมหนา กัน ทําบญุ ปลกู ตน ไม เปนตน
128 3) ในบางครั้งปญหาในผูสูงอายุที่เกิดข้ึนไมสามารถผานไปได ผูสูงอายุยังตองการ ที่พงึ พิง เพอื่ นทรี่ ใู จ หรอื บุคคลท่สี ามารถระบายความรสู กึ ได การพูดคุยกับเพ่ือนทางโทรศัพท ทําใหผูสูงอายุ ผอนคลายได เพราะเมอ่ื มคี นรบั ฟงและใหคาํ ปรึกษาจะทําใหผูสูงอายรุ สู กึ ไดว า ไมไดแ บกรบั ปญ หาไวเ พียงผูเดีย 4) หาสัตวเลย้ี งเปนเพื่อน ลองหาสัตวเลี้ยงมาเปนเพื่อนเลน เพราะการใหเวลาแก สัตวเ ล้ยี งตวั โปรด คยุ เลน หยอกลอ จะชว ยใหจ ิตใจทฟี่ งุ ซานสงบลงได 5) สรา งอารมณขัน คนที่หัวเราะงายจะมีสุขภาพจิตท่ีดี เนื่องจากการหัวเราะจะชวย ลดความดนั โลหติ และระดับฮอรโ มนทีแ่ สดงความเหน่อื ยลาในกระแสเลือด และชวยเสรมิ สรางสารแอนติบอดี ทส่ี รา งภูมิคุมกันใหรา งกายอีกดว ย 6) งานอดิเรก การทํางานอดเิ รกทชี่ ื่นชอบ เชน ปลกู ตน ไม เลี้ยงสัตว เลนดนตรี เพื่อ ทําใหใ จเพลดิ เพลิน เปนตน 7) การพักผอนอารมณ ควรพักผอนทั้งรางกายและจิตใจ ไมเครงเครียดหรือวิตก กังวลจนเกนิ เหตุ 8) ใสใจเร่อื งอาหารที่ดีมปี ระโยชน 9) ศาสนา การสวดมนต ทําบุญเปนท่ีพ่ึงที่ดีของผูสูงอายุ จะชวยบรรเทาทุกข ใหความหวงั และความสุขแกผ ูสูงอายุ 5. โรค และอาการผดิ ปกตทิ เ่ี ปนปญหาตอ สุขภาพของผสู งู อายุ และวธิ กี ารปอ งกันรักษา โรคที่พบบอยในผูสูงอายุสวนหน่ึงมาจากการเจ็บปวยสะสมต้ังแตวัยหนุมสาวหรือวัยทํางาน แตไ มไ ดรบั การรักษาหรอื การดูแลอยางตอ เนือ่ ง ทาํ ใหเ กิดอาการรนุ แรงในวัยสงู อายุ หลายโรคเกิดจากพฤติกรรม ทไี่ มเ หมาะสม ทั้งการบรโิ ภคอาหาร ดืม่ เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอล สบู บุหรี่ ขาดการออกกําลงั กาย และขาดการควบคุม อารมณทด่ี ี โรคทพี่ บบอ ยในผสู งู อายุ ไดแก โรคความดนั โลหติ สงู โรคเบาหวาน โรคตา การทรงตัว และปญหา การไดย นิ (สวนอนามัยผูสูงอายุ สาํ นกั สงเสริมสขุ ภาพ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ , มปป.) 5.1 โรคความดนั โลหติ สงู 5.1.1 ความหมายของโรคความดันโลหติ สงู ความดันโลหติ เปนแรงดนั เลือดทเ่ี กดิ จากหัวใจสูบฉดี เลือดไปเลี้ยงท่วั รา งกาย ซงึ่ วดั ได 2 คา คอื ความดันโลหติ คา บน คอื แรงดันโลหติ ขณะทหี่ วั ใจบบี ตัวและความดนั โลหติ คาลา ง คือ แรงดันโลหิตขณะที่ หัวใจคลายตัว ในคนปกติความดันโลหิต ไมควรเกิน 130/85 มิลลิเมตรปรอท (จากการประชุมรวมของ องคก ารอนามัยโลก และ International Society of Hypertension ป 1999) สวนความรนุ แรงของความดนั
129 โลหติ ท่สี งู นนั้ ใหพิจารณาจากคา ความดนั ตวั บนและความดันตวั ลางท้ังสองคา โดยถือระดับความดันโลหิตท่ีสูง กวา เปน เกณฑ เชน ความดนั โลหิต 150/110 มิลลเิ มตรปรอทความดันตัวบน 150 มิลลิเมตรปรอท จะอยูใน ระดบั ออน แตค วามดันตวั ลา ง 110 มิลลิเมตรปรอท จะอยูในระดับรุนแรง ดังนนั้ ผปู ว ยรายน้ีกต็ องจัดอยูใ นกลุม ความดันโลหติ สูงระดบั รนุ แรง เปน ตน 5.1.2 สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง มากกวารอ ยละ 90 ของผูป ว ยความดันโลหิตสงู จะตรวจไมพ บสาเหตุ เชอื่ วาเกิดจาก 2 ปจ จัยใหญ คอื 1) กรรมพันธุ ซ่งึ เปนปจจยั ทีแ่ กไ ขไมได จากหลักฐานทางระบาดวิทยา พบวาผูที่มี บิดาหรือมารดาเปนความดนั โลหิตสูง มโี อกาสเปนความดนั โลหติ สงู ไดม ากกวาผูท่บี ิดามารดาไมเ ปน ยิง่ กวา นน้ั ผทู ี่มีท้ังบดิ าและมารดาเปน ความดนั โลหิตสูง จะมีความเสย่ี งท่ีจะเปน มากท่ีสุด ผสู งู อายกุ ม็ ีโอกาสเปนความดัน โลหติ สูง เม่ืออายุมากขึ้น ๆ 2) ส่ิงแวดลอม ซึ่งเปนปจจัยท่ีแกไขได เชน ภาวะอวน เบาหวาน การรับประทาน อาหารรสเคม็ การดืม่ สรุ า และการสูบบุหร่ี ภาวะเครยี ด เปนตน สว นความดันโลหติ สูงทีม่ ีสาเหตพุ บไดนอ ยกวา รอ ยละ 10 ผูปวยในกลมุ นแ้ี มจ ะพบเปนจาํ นวนนอ ยแตกม็ คี วามสําคญั เพราะบางโรคอาจรักษาใหหายขาดได สาเหตุทพี่ บบอย คอื (2.1) โรคไต (2.2) หลอดเลอื ดแดงท่ีไปเลยี้ งไตตีบ (2.3) ยาบางชนดิ เชน ยาคุมกาํ เนดิ (2.4) หลอดเลอื ดแดงใหญท ีอ่ อกจากหวั ใจตบี (2.5) เนอ้ื งอกของตอ มหมวกไต 5.1.3 อาการของโรคความดนั โลหติ สูง 1) ความดนั โลหิตสูงระดับออ น หรอื ปานกลาง มักจะไมมอี าการอะไร แตม ีการทําลาย อวัยวะตาง ๆ ไปทีละนอยอยางชา ๆ จนผูปวยเกิดผลแทรกซอนในที่สุด เชน หัวใจลมเหลว หัวใจขาดเลือด ไตเสื่อมสมรรถภาพหรอื อมั พาต อัมพฤกษ ความดนั โลหติ สงู จึงมกั ไดร ับการขนานนามวา “ฆาตกรเงียบ” 2) ความดนั โลหิตสูงอยา งรุนแรง ผูปวยอาจเกิดอาการเหลาน้ีขึ้นได เชน เลือดกําเดา ออก ตามองไมเหน็ ขางหน่งึ ชวั่ คราว เหนือ่ ยงาย เจ็บหนาอก เวียนศีรษะ ปวดศีรษะตุบ ๆ เปนตน แตอาการ เหลานี้ไมจ ําเพาะ เพราะอาจเกดิ จากสาเหตุอื่นก็ได เชน ไข เครียด ไมเกรน เปนตน ดังนน้ั เม่ือเกิดอาการผิดปกติ จงึ ความปรกึ ษาแพทย เพราะถาพบความดนั โลหติ สงู มากจะไดร ักษาไดถูกตอง และทันทวงที ซ่ึงเมื่อความดัน โลหิตลดลงมาเปน ปกติ อาการดังกลาวก็จะหายไป
130 3) ผลแทรกซอนของโรคความดันโลหิตสูง ภาวะความดันโลหิตสูงที่เปนอยูนาน และไมไดรับการรักษา จะทําใหเกิดการทําลายของอวัยวะสําคัญตาง ๆ ในรางกายได เชน หัวใจ สมอง ไต หลอดเลือด และตา เปนตน เพราะความดันโลหิตที่สูงท่ีเปนอยูนานจะทําใหผนังหลอดเลือดแดงหนาตัวขึ้น และรูเลก็ ลง ทําใหเลือดท่ีไปเลยี้ งอวัยวะตา ง ๆ ลดลง สง ผลใหอ วยั วะเหลา นที้ าํ งานไดไ มเ ปนปกติ และหากทําลาย รุนแรงมากพอ อาจทําใหถึงแกกรรมได ระยะเวลาที่เปนความดันโลหิตสูง จนเกิดผลรายดังกลาว จะข้ึนอยูกับ ระดับความดันโลหิต เชน ระดับออน และปานกลาง จะใชเวลานานมากกวา 10 ป ระดับรุนแรงจะใชเวลา สั้นกวา นี้ ผลแทรกซอนของโรคความดนั โลหติ สงู มีดังนี้ (3.1) หัวใจ ความดันโลหิตสูง จะมีผลตอหัวใจ 2 ทาง คือ ทําใหหัวใจโต และ หลอดเลือดหัวใจหนาตัว และแข็งตัวขึ้น ทําใหเกิดการเจ็บหนาอกจากหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจลมเหลว ทาํ ใหม ีอาการเหนอื่ ยหอบ นอนราบไมได หรือหัวใจเตน ผิดปกติ ทาํ ใหม อี าการใจสัน่ (3.2) สมอง ความดันโลหิตสูง เปนสาเหตุของอัมพาต อัมพฤกษ ท่ีพบบอย ซึ่งมกั จะเกดิ จากหลอดเลอื ดเล็ก ๆ อุดตนั โดยเกล็ดเลือด ซ่ึงพบบอย หรือ เกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก ทาํ ใหเลอื ดออกในสมอง (3.3) ไต เปนอวัยวะท่ีมีหลอดเลือดมากท่ีสุดในรางกาย ทําหนาท่ีกรองของเสีย ออกจากเลอื ด ความดันโลหติ สงู ก็มีผลตอหลอดเลอื ดทไี่ ตเชน เดียวกับหลอดเลือดหัวใจ ทําใหเลือดไปเล้ียงไต ไมพ อ มีผลใหไตเสือ่ มสมรรถภาพ จนถึงข้ันไตวายเรื้อรัง ผูปวยจะมีอาการเร่ิมแรกของภาวะไตวายเร้ือรัง คือ ปสสาวะบอยตอนกลางคืน ขาบวมตอนสาย หากเปนมากจะมีอาการออนเพลีย ไมคอยมีแรงจากภาวะซีด ซงึ่ มกั พบในผปู วยไตวายเรอ้ื รัง และคลน่ื ไส อาเจียน ซมึ ลง ในผูป ว ยไตวายระยะสุดทาย (3.4) ตา ความดันโลหิตสูงจะมีผลตอหลอดเลือดที่ตา เชน เลือดออกท่ีจอตา หลอดเลือดเล็ก ๆ ทจ่ี อตาอดุ ตัน หรือ ทาํ ใหจอตาหลดุ ลอกออกได ผปู ว ยอาจไมม อี าการใด ๆ หรอื ตามัว จนถึง ตาบอดได เบาหวาน ซึ่งมกั พบรวมกบั ความดนั โลหติ สงู จะทาํ ใหเกิดผลแทรกซอนทางตาไดเร็ว (3.5) หลอดเลอื ด ความดนั โลหิตสูง จะทาํ ใหเกิดการเปลีย่ นแปลงของหลอดเลอื ด ทว่ั รา งกาย ทําใหห ลอดเลอื ดตบี แคบ หรอื โปง พอง มผี ลทําใหเลือดไปเลี้ยงบริเวณแขนขา และอวัยวะภายใน ลดลง ผูปว ยเดินไมไดไ กลเพราะปวดขาจากการขาดเลอื ด ตอ งนั่งพกั จึงจะหาย และเดนิ ตอได 5.1.4 การรักษาโรคความดันโลหติ สงู การรกั ษาผปู ว ยความดนั โลหิตสงู ประกอบดว ย 1) การรักษาโดยไมใชยา นั่นคือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวิถีการดําเนินชีวิต เพ่ือลดปจ จัยเสีย่ งตอ การเกิดโรคหวั ใจ และหลอดเลอื ด
131 2) การรักษาดว ยยา ซงึ่ มหี ลายกลุม แพทยส ามารถเลอื กใชใ หเ หมาะสมกับผปู วยแต ละราย 5.2 เบาหวาน 5.2.1 ความหมายของโรคเบาหวาน เบาหวานเกดิ จากรางกายขาดฮอรโ มนอนิ ซูลิน ทําใหเผาผลาญนํ้าตาลในเลือดไมได ระดบั นํา้ ตาลในเลอื ดสงู ข้นึ และขับออกทางปส สาวะ เม่ือระดับนํ้าตาลในเลือดสูงนาน ๆ จะทําใหหลอดเลือด เสื่อมและเสียหาย 5.2.2 อาการ ปสสาวะบอย ดื่มน้ํามาก กินเกง หิวบอย น้ําหนักลด รวมท้ังมีอาการจากรางกาย ขาดนาํ้ เชน ออนเพลีย วงิ เวียน มนึ งง ตามัว คอแหง และสมรรถภาพทางเพศเส่ือม เปนตน 5.2.3 ขอ แนะนํา 1) ตองรักษาตอเนื่องยาวนานหรือตลอดชีวิตการรักษาอยางจริงจังจึงจะมีชีวิต ปกติได ถารักษาไมจ ริงจงั จะอันตรายจากภาวะแทรกซอนไดมาก 2) ผูปวยที่กินยาหรือฉีดยารักษาเบาหวานอยู อาจเกิดภาวะน้ําตาลในเลือดต่ํา มีอาการใจหวิว ใจสั่น หนามืด ตาลาย เหงื่อออก ตัวเย็นเหมือนขณะหิวขาว ถานํ้าตาลในเลือดตํ่ามาก ๆ อาจเปนลมหมดสติ หรือชกั ไดผ ปู ว ยควรระวงั ดอู าการดงั กลาว และพกพาน้ําตาลหรือของหวานติดตัวประจํา ถา เร่มิ มอี าการดังกลา ว ใหผ ปู ว ยรบี กนิ น้าํ ตาลหรือของหวาน 3) อยาซ้อื ยาชดุ กินเอง 4) แนะนาํ ใหผูทีม่ ีอายมุ ากกวา 40 ป และมีญาติพ่ีนองเปนเบาหวาน หรือ คนอวน ควรตรวจและปรกึ ษาแพทย เปน ระยะ หากพบเปน เบาหวาน ในระยะเรมิ่ แรกจะไดรกั ษาอยางถูกวิธี 5.2.4 การปฏิบัตติ วั ของผูปวยเบาหวาน 1) ควรพบแพทยและตรวจปสสาวะ และตรวจเลอื ดตามทแ่ี พทยน ดั 2) กินยาลดนาํ้ ตาล หรือฉดี อินซลู ิน และปฏิบตั ิตัวตามคาํ แนะนาํ แพทย 3) ควรควบคุมอาหารการกินอยางเครงครัด เชน กินอาหารใหพอดี ไมกินจุบจิบ งดเวนอาหารหวาน ๆ อาหารประเภทแปง และไขมนั โดยเฉพาะไขมันจากกะทิ เปนตน 4) การออกกาํ ลงั กายสมาํ่ เสมอ อยางนอยสัปดาหล ะ 3 คร้งั 5) การพักผอนใหเพยี งพอ ทาํ จติ ใจใหร าเริง ไมเ ครยี ด ไมวิตกกงั วล 6) งดสูบบหุ รีแ่ ละเคร่อื งดื่มแอลกอฮอลท ุกชนดิ
132 7) หม่ันดแู ลรกั ษาความสะอาดเทา ไมสวมรองเทาท่ีคับเกินไป ถามีแผลที่เทาตองรีบ รักษาทนั ที 8) มลี ูกอมหรือนํ้าตาลติดตวั ไวเ สมอ 9) ควรมีบัตรประจาํ ตวั ผปู วยติดตวั เสมอ 5.3 โรคตา ในขณะทีค่ นเรามีอายุมากขึน้ กลามเนอ้ื ทท่ี าํ หนา ท่ยี ดื หดเลนสลูกตา จะออนกําลังลงทําให ลาํ บากในการเพงดสู ง่ิ ของ โดยเฉพาะอยา งยงิ่ วัตถุเล็ก ๆ โดยปกติในวัยผูสูงอายุสายตาจะยาวออก และคนที่มี ประวตั ิสายตาสน้ั เวลามองส่ิงของใกล ๆ กลับตองถอดแวนตาออก เมื่อสูงอายุ ความเปล่ียนแปลงเชนน้ีเปน ธรรมดาของรางกาย ซงึ่ มีอาการมากนอ ยแตกตางกันไปในแตล ะคน วิธีปองกันไมใ หสายตาเสือ่ มเร็ว 1) ไมอยูในทีม่ แี สงสวา งมาก เชน ถาแสงแดดจาควรใสแ วนกันแสง เปน ตน 2) รบั ประทานอาหารตามหลักโภชนาการ การขาดวติ ามนิ เอ ขาดโปรตนี ทาํ ใหส ายตา เส่ือมเร็วข้นึ 3) ระวงั อยา ใหแสงแดด หรือแสงเชื่อมโลหะเขา ตาตองใชแ วนกันแสง 4) การดทู ีวี ตองนัง่ ระยะหาง 5 เทา ของขนาดจอโทรทัศน จึงจะไมเ กิดอันตราย เพราะ ภาพจะตกทีจ่ ะรับภาพพอดโี ดยไมตอ งเพง 5) ผูสูงอายุควรใชแวนตาชวยสําหรับอานหนังสือระยะใกล มิฉะน้ันจะมีอาการปวดตา และปวดศรี ษะเพราะเพง สายตามาก 5.3.1 โรคตาทีพ่ บบอ ยในผูสงู อายุ มีดังน้ี 1) โรคตอกระจก โรคตาท่ีเปนกันมากท่ีสุดในผูสูงอายุคือ ตอกระจก เม่ืออายุมากขึ้น แกวตาจะเปลีย่ นจากสใี ส ๆ เปน สนี ํ้าตาล หรือสีขาวขุนข้ึนเร่ือย ๆ ทําใหแสงผานเขาไปในตาไมไดมีผลทําให ตามัวลง ๆ อาการ (1) ตาจะมัวลงเร่อื ย ๆ โดยในระยะแรก ๆ นน้ั ตาจะมัวเฉพาะเวลาออกแดด พอเขา ทีส่ ลัว ๆ จะมองเห็นไดด กี วา พอเปนมากขนึ้ ก็จะมัวทั้งในท่ีสวางท่ีสลัว จนในท่ีสุดจะมองเห็นแคแสงไฟ และ สามารถบอกไดใ นทศิ ทางของแสงท่ีสองเขาตาเทานน้ั (2) เมื่อตอแกมากขึ้น รูมานตาซ่ึงเดิมมีสีดําสนิทจะคอย ๆ เปลี่ยนเปนสีขาวขุน หรือสีนํา้ ตาลขุน
133 สาเหตุ (1) โดยทั่วไปเปนการเปลี่ยนแปลงตามอายทุ เี่ พิม่ ข้ึน (2) เกิดจากพษิ ของยาบางสวน เชน การใชยาพวกสเตยี รอยดนาน ๆ ยาฆา ปลวก บางชนิด เปนตน (3) การขาดสารบางชนิด เชน แคลเซยี ม (4) โรคบางโรคทาํ ใหเกิดตอ กระจกเรว็ ขนึ้ เชน เบาหวาน ฯลฯ (5) อบุ ัตเิ หตุ มกี ารกระแทก หรอื มีบาดแผลทะลทุ ่ีกระจกตาดาํ (6) เปน แตกาํ เนิด อาจเกดิ จากกรรมพนั ธุ หรือเกดิ ในเดก็ ท่ีมารดาเปนหัดเยอรมนั ระหวา งต้ังครรภ 3 เดอื นแรก การรกั ษา โรคตอ กระจกนี้สามารถรกั ษาไดโ ดยการลอกตอกระจก ซึ่งทําใหเฉพาะในโรงพยาบาล เทา นัน้ เมอื่ ลอกตอ กระจกออกแลว การใสแวน ผูป ว ยจะกลับเห็นชัดได โดยใชยาฉีดเฉพาะท่ีไมตองดมยาสลบ ทาํ เสรจ็ แลว ตอ งนอนรกั ษาอยูใ นโรงพยาบาลระยะหน่งึ ขอควรปฏิบัติ ถา คิดวา เปนตอกระจกในระยะแรก ควรไดรับการตรวจจากแพทย เพ่ือใหแนใจวา สายตาท่มี วั ลงน้นั เปนเพราะตอ กระจกจรงิ ไมใ ชเกดิ จากโรคอ่ืน เชน ตอ หนิ เรอื้ รงั หรือโรคของจอประสาทตา ถาพบวาตอ กระจกอยใู นระยะท่ีสกุ แลว คอื รูมา นตามีสขี ุนขาว หรอื สนี ้ําตาลเขมแลวควรไปพบแพทย เพื่อรับ การลอกตอกระจกออกกอ นท่ีจะมโี รคแทรกซอ น ขอ เสยี ถา ปลอ ยไวจนสุกเกนิ ไป (1) ทาํ ใหเกดิ ตอหนิ ซึง่ มีอาการปวดตาและทาํ ใหตาบอดสนทิ ไดโ ดยไมม ที างแกไข (2) ทาํ ใหเ ปนโรคมา นตาอักเสบแทรกขึ้นมาได (3) ทําใหการผาตัดลอกตอออกยากข้ึน มโี อกาสเกิดโรคแทรกซอนหลงั ผาตัดไดม ากขึ้น 2) โรคตอ หนิ คอื โรคที่เกดิ จากภาวะความดนั ในลกู ตาสงู กวา ปกติ ภายในลูกตาของ คนเรา จะมีการผลติ หรือสรางนํ้าใสชนดิ หน่ึง ออกมาอยูในชอ งหลงั มานตา แลว ไหลผานรูมานตาออกมาอยูใน ชองหนา มา นตาตอ จากนนั้ น้าํ ในนีก้ จ็ ะไหลผา นรตู ะแกรงเล็ก ๆ เขาสูเสนเลือดดําของลูกตา จึงทําใหความดัน ลูกตาคงที่อยูตลอดเวลา ถามีอะไรขัดขวางทางเดินของนํ้าในลูกตา จะเกิดการค่ังของน้ําภายในลูกตาทําให ความดันภายในลูกตาสูง เรียกวา ตอ หิน ตอหิน มี 2 ชนดิ (2.1) ตอหินแบบเฉียบพลัน เกิดจากการไหลเวียนของนํ้าใสในลูกตาไมสะดวก เกดิ ขึ้นอยา งรวดเร็ว ทําใหมอี าการตาแดง รูมานตาขยาย ปวดตามาก คลื่นไส อาจมีอาการอาเจียนรวมดวย
134 จะเหน็ สรี ุงรอบดวงไฟสายตาจะมัวลงอยา งรวดเรว็ ถาไมไ ดรกั ษาอยา งถูกตอ งและทนั ทว งที จะทาํ ใหตาบอดได ภายใน 2-3 วนั (2.2) ตอหินชนิดเร้ือรัง เกิดจากความเสื่อมของทางไหลผานของน้ําใสภายใน ลูกตาตอหินชนิดน้ีไมม ีอาการเจ็บปวด เกดิ ข้ึนชา ๆ โดยไมรูตัว สายตาจะคอ ย ๆ มวั ลง จากขอบเขตของการมอง การปองกัน ผูท่ีมีอายุเกิน 40 ปข้ึนไป ควรไดรับการตรวจตาจากจักษุแพทย เพ่ือใหแนใจวา ความดันภายในลูกตาอยูในระดับปกติอยางนอยปละหนึ่งคร้ัง นอกจากน้ันควรถนอมดวงตาใหดีที่สุด หลีกเล่ียงการกระทบกระเทือนตาง ๆ เมื่อมีอาการผิดปกติของตาควรพบจักษุแพทยโดยเร็วท่ีสุด ไมควร หยอดตาดวยยาสเตยี รอยดโ ดยแพทยมิไดสงั่ เพราะยาประเภทนท้ี าํ ใหความดนั ภายในลกู ตาสงู กวาปกติ การรักษา ตอหินเปนโรคที่รายแรงทําใหตาบอดไดในเวลาอันรวดเร็ว จึงควรพบจักษุแพทย เพอื่ ทาํ การรักษาโดยเรว็ ทส่ี ุด ถาเปน มากจนประสาทตาเสียไปแลว สายตาจะไมกลับคืนมา นอกจากการรักษา เบาหวานใหห ายแลว (ในรายทีเ่ ปน เบาหวานรวมดว ย) จกั ษแุ พทยจะรกั ษาดวยแสงเลเซอร เพ่ือชวยปองกัน ไมใ หโรคลุกลามมากขนึ้ และเพ่ือความแนน อนและปลอดภยั ของดวงตาควรปรึกษาจักษุแพทย เมื่อมีอาการ เหลา นี้ (1) เหน็ อะไรลอยไปลอยมาในลกู ตา เกิดจากความเส่ือมของนํา้ วุนในลกู ตา (2) เหน็ แสงแวบ ๆ ในลกู ตา แสดงวา มีอะไรไปกระตุน ประสาทจอรับภาพ ทาํ ใหเ กิด แสงสวา งเปนการเตือนวาประสาทตาหลดุ (3) การท่ีมีนํ้าตาไหลเปนประจํา เกิดจากมีการระคายเคืองของเน้ือเย่ือหุมตา ความดันลกู ตาสูงจากการเส่อื มของเยื่อหมุ ตา และการอุดตันของทอ ทางเดนิ น้าํ ในตา (4) ตามัว อาจจะเกดิ จากโรคเบาหวานซ่งึ เปนสาเหตุหนึ่งทที่ ําใหต าบอด โรคเบาหวาน ถา เกิดระยะเวลายงิ่ นาน ย่งิ ทาํ ใหจ อรับภาพถูกทําลายมาก จนในที่สดุ ตาจะบอดสนทิ 3) โรคสายตายาวในผูสูงอายุ มักเกิดหลังอายุ 40 ป เกิดจากเลนสตาท่ีแข็งข้ึน สูญเสียความสามารถในการปรับการมองใกล และไกลดงั น้ันผูปวยมักตองถือหนังสือไกลขึ้นจึงจะอานไดชัด โดยอาการจะเกิดขน้ึ กับทุกคน ทัง้ สายตาสน้ั ยาว และปกติ โดยพบวา ผูท ีม่ ีสายตายาวอาจเกิดอาการเร็วกวา ปกติ วิธรี กั ษา ปรึกษาจักษแุ พทยเพื่อตัดแวน ตาสาํ หรบั อา นหนงั สือ 4) โรคตาแหง มกั เกิดในผูหญงิ มากกวาผชู าย เร่ิมเม่ือวัยกลางคน สัมพันธกับภาวะ เปลือกตาอกั เสบ และโรคทางกายบางชนิด เกิดจากการผลติ นํา้ ตาท่ีนอยลง ผูปวยจะมีอาการเคืองเหมือนมี ฝุนผงในตา มักเปนมากขึ้นในผูหญิงมากกวาผูชาย เร่ิมเมื่อวัยกลางคน หรือหองแอร อาจมีขี้ตาเหนียว
135 การมองเหน็ ไมชดั ตอ งกระพริบตาบอย ๆ ในผูปวยบางคนอาจเคืองตาแลวมีน้ําตาไหลมากข้ึนได เมื่อมีอาการ ควรพบจกั ษแุ พทย การรักษา ในระยะเริ่มแรกใชน้ําตาเทียม เมื่ออาการเปนมากขึ้นควรปรึกษาจักษุแพทย การดแู ลตวั เอง หลีกเลีย่ งการถกู ลม ฝนุ ถาอยใู นหอ งแอรหรืออากาศแหงอาจหาแกวใสน ํา้ อุนวางไว เพื่อใหมี ความชื้นในอากาศ รกั ษาโรคเปลือก ตาอักเสบ และโรคทางกายอ่ืน ๆ 5) โรคจดุ รับภาพเส่ือมในผูส ูงอายุ เกดิ จากการทาํ ลายบรเิ วณจดุ ศนู ยกลางของการรับภาพ และสี โดยไมทราบสาเหตุ การเสื่อมทแี่ นนอน ปจ จัยเสี่ยงทสี่ ําคญั คอื (5.1) ผูสงู อายุ พบวาอัตราการเกิดโรคในคนอายุ 75 ป มีถึง 30% เมื่อเทียบกับ 2% ในคนอายุ 50 ป (5.2) การสูบบหุ รี่ (5.3) การสัมผัสแสงอาทิตยแ ละแสง UV ปริมาณมาก (5.4) ความดันโลหิตสงู ไขมนั ในเลอื ดสูง โรคหลอดเลอื ดหัวใจ อาการของโรค ไดแ ก ภาพมัว บิดเบีย้ ว สีจางลง มปี ญ หาในการอา น หรือจาํ หนาคน เห็นจุดดาํ อยกู ลางภาพ การรักษาโรค ไมม ีการรกั ษาทีห่ ายขาด แตการรักษาจะชว ยชะลอการเกิดโรคที่มากข้ึน ในระยะแรกอาจใหว ติ ามินแตก ารดาํ เนินโรคกอ็ าจเปนมากขึ้นได โดยในระยะหลัง อาจรวมกับการรักษาดวย เลเซอร หรือฉดี ยาเขา ในลูกตา การปฏบิ ัตติ วั เพอื่ ปองกนั โรคตาในผสู งู อายุ (1) ผูสงู อายุจงึ ควรตรวจตาเปน ประจําทุกป และเม่ือมกี ารมองเหน็ ภาพทเี่ ปลย่ี นแปลงไป ดงั กลาว ควรรีบมาพบจกั ษุแพทย (2) หยุดสูบบหุ รี่ (3) สวมแวนตากนั แดด (4) รกั ษาโรคความดนั โลหติ สูง ไขมันในเลือด (5) รบั ประทานผกั ผลไม อาหารครบ 5 หมู 5.4 ปญ หาการทรงตวั และการหกลม ในผูส ูงอายุ ปญ หาการทรงตวั หรือหกลม ในผสู งู อายุ อาจเกิดไดจากหลายปจ จัย เชน ขอเสื่อม กลามเน้ือลีบ และออ นแรง โรคทางสมอง ความดนั โลหติ ตกเมอ่ื ลกุ ข้นึ ยืนจากทา น่งั หรือนอน หัวใจเตนผิดจังหวะ ยาตาง ๆ ที่มี ผลตอ ความดนั โลหติ หรือทาํ ใหงวง สภาพแวดลอ มที่มีแสงสวา งไมเ พยี งพอ พื้นทีล่ าดเอยี งหรอื ล่นื เปยก เปน ตน
136 ปญหาการทรงตัวและการหกลม เปนปญหาที่สําคัญมากสําหรับผูสูงอายุ เน่ืองจากมี กระดูกบางพรนุ อยูแลว เมื่อหกลม กอ็ าจทําใหกระดูกหกั ไดง า ยและอาจเกิดปญ หาแทรกซอนท่ีตามมาจากการ ผา ตดั และนอนโรงพยาบาลนาน การปองกันและการดแู ล (1) หลีกเลีย่ งยาทท่ี ําใหงว งซึมหรอื ความดนั โลหิตตก (2) ออกกาํ ลงั กายเปนประจาํ โดยเนนความแขง็ แรงของกลา มเน้อื และการทรงตัว (3) ปรบั สิ่งแวดลอม เชน เพ่ิมไฟสวา ง พ้ืนกันลืน่ มรี าวจบั ตรวจมวลกระดกู เพ่อื ประเมินหา โรคกระดกู พรนุ และรบั การรักษาตามความเหมาะสม 6. หลกั การใชย าในผูส ูงอายุ 6.1 การใชย าอยา งปลอดภัยในผสู ูงอายุ ผูสูงอายุมกั มีปญหาสขุ ภาพหลายดาน ทาํ ใหไ ดร ับยาหลายรายการ ดงั น้ัน จงึ อาจมีความเสยี่ ง ทจี่ ะไดร บั ยาเกนิ ความจําเปน เกดิ ผลขา งเคยี งหรืออันตรายจากยา รวมไปถงึ อันตรกริ ิยาระหวางยา (ยาตกี นั ) ได (โรงพยาบาลบํารุงราษฎร, 2561) ผูสูงอายุมีสภาพรางกายที่เส่ือมไปตามวัย ท้ังการเคล่ือนไหว สายตา และความจํา ดังนั้น จึงควรมผี ดู แู ลคอยจดั ยาใหเ พอื่ ใหม ัน่ ใจวาผสู ูงอายุสามารถใชยาไดอ ยางถกู ตอง โดยสง่ิ ทส่ี ําคัญในการเริ่มใชยา คอื การอา นฉลากยาใหถ ถ่ี วน เพ่ือใหส ามารถใชย าไดอ ยางถูกคน ถูกโรค ถกู ขนาด ถูกวธิ ี และถูกเวลา 6.2 การรับประทานยากอน - หลังอาหาร ยากอ นอาหารควรรับประทานกอนอาหารอยางนอย 30 นาที สวนยาหลังอาหารสามารถ รับประทานหลงั อาหารไดท ันทีโดยไมแตกตา งจากการรับประทานหลังอาหาร 15 นาที 6.3 วิธีปฏิบตั ิเมื่อผสู ูงอายลุ มื รับประทานยา โดยท่ัวไปหากลืมรับประทานยาจําเปนตองปรึกษาแพทยหรือเภสัชกรกอนวาตองปฏิบัติ ตัวอยา งไร เน่ืองจากยาบางชนดิ ใหร บั ประทานทันทที ่ีนึกได ยาบางชนิดอาจตอ งรอรับประทานมอื้ ถัดไป 6.4 ยาทผี่ สู ูงอายุควรระมดั ระวงั การใชเปนพเิ ศษ ยากลุมทผี่ สู ูงอายคุ วรระมดั ระวงั เปนพิเศษ ไดแก ยานอนหลับ ยาคลายเครียด ยาแกแพ และ ยาแกปวด ซ่ึงอาจกอใหเกิดอาการขางเคียง เชน เวียนศีรษะ งวงซึม สับสน และเพิ่มความเสี่ยงตอการหกลม ไดงายข้ึน นอกจากน้ี ยากลุมตานการอักเสบท่ีไมใชสเตียรอยด (NSAIDs) อาจทําใหผูสูงอายุเสี่ยงตอการเกิด ความดันโลหิตสูงข้ึนหรือไตวายได ดังน้ัน จึงควรเพ่ิมความระมัดระวังในการใชยากลุมน้ีในผูสูงอายุท่ีมีประวัติ
137 ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคไต อยางไรก็ดีผูสูงอายุไมควรซ้ือยารับประทานเองและควรใชยาภายใต การดแู ลของแพทยเทา น้ัน 6.5 ขอ ควรระมัดระวังในการรับประทานวิตามนิ สมนุ ไพร หรืออาหารเสรมิ ในผสู ูงอายุ การรบั ประทานวติ ามนิ สมนุ ไพร หรอื อาหารเสริมควรตองพิจารณาใหเหมาะสมกบั โรคหรือ ภาวะที่เปน สมุนไพรหรืออาหารเสริมบางชนิดไมควรใชในผูปวยโรคไต เพราะอาจทําใหแรธาตุในรางกาย ผิดปกติหรือการทํางานของไตแยลงได การเลือกใชจึงควรมีขอมูลทางวิชาการที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพและ ความปลอดภัย รวมถึงแจงใหแพทยหรือเภสัชกรทราบกอนการเริ่มใชสมุนไพรหรืออาหารเสริมตาง ๆ เพ่ือ หลีกเล่ยี งอนั ตรายท่จี ะเกดิ ตามมาโดยเฉพาะปญหายาตกี ัน 6.6 ขอควรปฏิบตั ิทสี่ าํ คัญเกย่ี วกบั การใชยาในผสู งู อายุ 1) นาํ รายการยาหรอื ยาที่รบั ประทานทกุ ชนิดมาทุกครั้งที่พบแพทย เพ่ือใหแพทยทบทวน ความเหมาะสมของการใชยา 2) ควรสอบถามถงึ อาการขางเคยี งในการใชย าและขอ ควรระวังทุกครง้ั เมื่อเริม่ ยาใหม เรือ่ งท่ี 3 ท่อี ยูอาศยั ท่ีเหมาะสมสําหรบั ผสู ูงอายุ 1. หลักการจดั ท่อี ยูอาศยั ท่เี หมาะสมสาํ หรบั ผสู ูงอายุ การจัดสภาพแวดลอมที่เหมาะสมสําหรับผูสูงอายุมีจุดประสงคเพ่ือใหผูดูแลสามารถจัด สภาพแวดลอมภายในบานใหเหมาะสมสําหรับผูสูงอายุเปนผลใหผูสูงอายุสามารถดําเนินชีวิตในบั้นปลาย อยา งมีความสขุ และปลอดภัยจากสภาพอันตรายที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุตาง ๆ ซึ่งเปนสาเหตุหนึ่งของการ บาดเจ็บทุพพลภาพและเสียชวี ิตในผสู ูงอายุ อบุ ัติเหตทุ ีพ่ บบอย ไดแก การหกลม ตกเตยี ง ตกบนั ได นํ้ารอนลวก ซง่ึ อุบตั ิเหตเุ หลานีเ้ กดิ จากสภาพแวดลอมท่ีไมปลอดภัย วางส่ิงของกีดขวางทางเดิน ดังน้ัน การจัดสภาพแวดลอม ภายในบา นเรือนควรคํานึงพยาธสิ ภาพทเ่ี ปลย่ี นแปลงทางกายภาพดานตา ง ๆ ของผูสูงอายุเปนหลกั ไดแ ก 1.1 ดา นการมองเห็น ผสู ูงอายสุ ายตาจะเส่อื มสมรรถภาพในการปรับระยะภาพทําใหส ายตายาว สายตาฝาฟาง การดําเนินการจดั สภาพแวดลอ มทีเ่ หมาะสม คอื ตองชวยในการมองเห็น 1.2 ดานการไดยิน ผูสูงอายุอาจสูญเสียการไดยิน เชน หูตึง หรือไดยินไมชัดเจนการจัด สภาพแวดลอมทเี่ หมาะสม คอื กําจัดเสยี งรบกวนตา ง ๆ ใหล ดลงมากทส่ี ดุ เทา ทจี่ ะทาํ ได 1.3 ดานการทรงตัว ผูสูงอายุกลามเน้ือจะเสื่อมสมรรถภาพ กระดูกและขอตอตาง ๆ จะเปราะ และหักงายการทรงตัวไมดี การจัดสภาพแวดลอมทีเ่ หมาะสม คือ ทีพ่ กั ควรจดั ใหอยูช้ันลาง เตียงนอนควรเตี้ย พื้นหองนอน พืน้ หอ งน้ําตองไมขัดมนั ใหล ืน่ หอ งน้ํามรี าวขางฝาสําหรับเกาะ เคร่ืองใชตาง ๆ จัดเก็บใหเปนที่
138 เพื่อไมใหส ะดดุ หกลม เปน ตน การจัดสภาพแวดลอ มที่เหมาะสมสาํ หรับผูสูงอายุ จึงเปนเร่ืองที่มีความสําคัญ และจําเปนอยางยิ่ง สําหรับผูสูงอายุเพราะถาสภาพแวดลอมเหมาะสมกับผูสูงอายุท่ีมีขอจํากัดแตละคน ตอบสนองความตองการของผูสูงอายุก็จะลดปญหาตาง ๆ รวมท้ัง สงเสริมใหผูสูงอายุเกิดความม่ันใจในการ เคล่ือนไหว ลดความพกิ ารอันเปนผลจากการขาดการเคลื่อนไหวหรืออุบัติเหตุและลดภาระของผูดูแลอีกดวย การจัดสภาพแวดลอมประกอบดวยสิ่งแวดลอมภายในบาน และนอกบานในที่น้ีจะขอกลาวเฉพาะการจัด สภาพแวดลอ มภายในบาน (สํานกั อนามยั ส่ิงแวดลอม กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข, 2558) ดังนี้ 2. การจัดสภาพแวดลอมในหองนํา้ หองน้ําเปนหองท่ีพบวาผูสูงอายุอาจจะประสบอุบัติเหตุไดงาย หองน้ําที่เหมาะสมสําหรับ ผูสงู อายุ ควรจัดดังนี้ 2.1 ไมควรอยูหางจากหองนอนผูสูงอายุเกิน 9 ฟุต เพราะผูสูงอายุที่มีอายุมาก มักจะมีปญหา การกลั้นปส สาวะไมอยู อาจไมสะดวกสาํ หรับการเดนิ ไปหองนํา้ แตถ าอยูไกลอาจแกปญหา โดยการใชกระโถน หรอื หมอนอนไวในหอ งนอน 2.2 ภายในหองนาํ้ ตอ งมีราวยึดเกาะ เพอ่ื ปองกันการหกลม หรือมีราวยึดเกาะตลอดทางเดินไป หอ งน้าํ 2.3 พืน้ หอ งนา้ํ ควรปูดวยวัสดุเน้ือหยาบ หรือแผน ยางกนั ลืน่ ไมมีตะไครนํ้า หรือเปยกชื้น ดังน้ัน ถาเปนไปไดควรแยกหองอาบน้ําออกจากหองสวม เนื่องจากผูสูงอายุไมมีความจําเปนตองอาบนํ้าบอย เพราะผิวหนงั แหงแตมักจะปสสาวะบอ ยเพราะกระเพาะปสสาวะมีความจุลดลง ถาอยูรวมกันพ้ืนหองน้ําท่ีเปยก จากการอาบนาํ้ จะทาํ ใหหกลมไดงาย และพ้ืนหองน้ําควรลดระดับต่ํากวาหองอื่น ๆ 3 – 5 ซ.ม. เพ่ือปองกัน น้าํ ไหลออกจากหองน้ําสหู อ งอน่ื โดยเฉพาะกรณที กี่ ารระบายน้ําเสียไมดี 2.4 อุปกรณภ ายในหอ งน้ํา 2.4.1 ควรมีเกาอี้สําหรับน่ังอาบน้ําโดยเฉพาะผูสูงอายุที่มีอาการเหนื่อยงาย แตตองเปน เกาอที้ ่ตี ิดอยูกบั ทีเ่ พื่อปอ งกันการลนื่ ไถล 2.4.2 ถาเปนไปไดควรผูกสบูติดกับเชือก หรือมีซองผาตาขายนิ่ม ๆ หุม เพราะขอน้ิวมือ ผสู งู อายอุ าจจะแขง็ ทําใหกํามือไดนอยเม่ือผูสูงอายุฟอกสบูอาจหลุดจากมือ และตองกมเก็บมีโอกาสล่ืนลม ไดง าย 2.4.3 ควรใชฝกบัวอาบนํ้าเพ่ือแทนการตักอาบดวยขัน เพื่อลดการใชแรงในผูสูงอายุท่ี เหน่ือยงาย แตถาไมมคี วรใชขันท่ีมีนา้ํ หนักเบา ขนาดเล็ก
139 2.4.4 โถสว มควรเปนโถนัง่ ราบจะดกี วานั่งยอง เพราะผูสูงอายุมักจะมีอาการปวดขอหรือ ขอ แขง็ น่งั ยองลําบาก แตอ าจใช Commode แทนได 2.4.5 ควรมกี ระดง่ิ หรอื โทรศพั ทภายในหอ งนํา้ เพือ่ ขอความชว ยเหลอื เมือ่ เกดิ ภาวะฉกุ เฉนิ และไมควรใสก ลอนประตู 2.4.6 ควรมแี สงสวา งเพยี งพอเพอ่ื มองเหน็ สง่ิ ของภายในหองไดงาย 2.4.7 การใหสีของฝาผนัง และพื้นหองควรเปนสีตัดกัน ตลอดจนเครื่องสุขภัณฑ อื่น ๆ เชน โถสว ม อางลางหนา ควรมสี แี ตกตา งจากพน้ื หอง เปนตน 3. การจดั สภาพแวดลอมในหองนอน หองนอนเปน หอ งที่ผสู งู อายุใชมากหอ งหนึง่ โดยเฉพาะถาเปน ผูสงู อายุท่เี จบ็ ปว ยก็มกั จะใชห อ งนี้ เกือบตลอดเวลาหอ งนอนผูสงู อายคุ วรอยชู ้ันลา ง ภายในควรจดั สภาพแวดลอม ดงั น้ี 3.1 เตยี งนอน ควรจัดใหวางในตาํ แหนงทไ่ี ปถึงไดงา ยและควรจัดใหหัวเตียงอยูทางดานหนาตาง โดยเฉพาะ ถาหอ งนั้นมีแสงสวางจาเขาทางหัวเตียง ความสูงของเตียงอยูในระดับท่ีผูสูงอายุนั่งแลวสามารถ วางเทา ไดถึงพน้ื ในระดับตั้งฉากกับพื้น ท่ีนอนไมควรนุมหรือแข็งเกินไปเพราะจะทําใหปวดหลังไดและมีโตะ ขางหวั เตยี งสําหรับวางสง่ิ ของทจ่ี ําเปน ในตาํ แหนง ท่ีมือเอื้อมถึงไดง าย 3.2 แสงสวางภายในหองนอนมีเพียงพอ สวิตชไฟเปนสีสะทอนแสงเพื่อความสะดวกในการ มองเห็นตอนกลางคืน และอยูในตําแหนงท่ีไมสูงหรือตํ่าจนเกินไปที่จะเอ้ือมมือเปดได อาจมีไฟฉายขนาดที่ พอเหมาะไวประจํา หลีกเลี่ยงการใชต ะเกียงหรือเทยี นไข หรือสบู บุหรเี่ วลานอนอาจเกดิ อคั คภี ยั ไดงาย 3.3 เกา อนี้ ่ังสําหรบั ผสู ูงอายตุ อ งมพี นกั พงิ มที วี่ างแขน ความสูงพอเหมาะโดยเมอื่ นง่ั แลว สามารถ วางเทาถงึ พื้นหัวเขาตัง้ ฉากกบั พื้น ตาํ แหนงของการวางเกาอี้สําหรับผูมาเย่ียม กรณีผูสูงอายุเจ็บปวยหรืออยู โรงพยาบาล ควรวางดานเดียวกนั หลีกเล่ยี งการลอมผูส ูงอายเุ ปนวงกลมเพอ่ื ปองกนั การวิงเวียนจากการทีต่ อง หันศีรษะไปคยุ กบั ผูมาเย่ยี ม และบันไดควรมขี นาดความกวา ง ยาว ใหเ หมาะสมกับขนาดลําตวั ของผสู ูงอายุ 3.4 ตูเสื้อผาไมควรสูงจนตองปน ถาจําเปนตองปนเอาส่ิงของควรใชเกาอี้ตอขาท่ีม่ันคง ไมมี ลอ เลือ่ นและ การวางสิ่งของถา ของหนกั ควรอยูช ั้นลา งสุด หรอื ตูไ มควรตํ่าเกินไปจนตองกม ตวั ไปหยิบ 3.5 หอ งนอนไมควรมโี ทรทศั น เพราะจะรบกวนการนอนหลบั พกั ผอ นของผสู งู อายุ 3.6 ถามีแสงสวา งจาสองเขา ในหองควรใชผ ามานบงั แสง หรือมานชนดิ ปรบั แสงได ซึ่งจะปองกัน อาการปวดแสบตาได 3.7 ประตูหรอื หนาตา งทีเ่ ปน กระจกใส ควรติดเคร่ืองหมาย เพ่ือเปนสัญลักษณใหทราบวาเปน กระจกปองกนั การเดินชน
140 3.8 ฝาผนังอาจติดรูปภาพที่มีความหมายสําหรับผูสูงอายุ เพื่อการระลึกถึงความหลังปองกัน ภาวะซมึ เศราได 3.9 ส่งิ ของทไี่ มจ าํ เปนไมค วรนาํ มาวางในหองนอน เพราะนอกจากจะทําใหเปนแหลงสะสมของ ฝุนละอองแลว ยังอาจทําใหผูสูงอายุเดินชนได แตถาวางโตะ เกาอ้ีในหองก็ควรหลีกเลี่ยงชนิดท่ีมีลอเลื่อน ถาจะใหด ีของท่ีอยใู นหองควรแขง็ แรง มน่ั คงตอการยดึ เกาะของผูสงู อายุ 4. การจดั สภาพแวดลอม บริเวณบนั ได บนั ไดเปนบริเวณทีผ่ ูส ูงอายอุ าจเกิดอุบัตเิ หตุไดง าย ซ่ึงถาไมจําเปน ผูสูงอายทุ กี่ ารทรงตัวไมดีหรือ เปนโรคหัวใจ โรคปอดท่ีมีปญหาความทนในการทํากิจกรรมลดลงก็ไมควรข้ึนลงบันได ลักษณะบันไดท่ี เหมาะสม มดี ังน้ี 4.1 ราวบันไดควรมีรูปรา งทรงกลม 2 ขาง เพ่ือความสะดวกในการยึดเกาะมีแถบสีหรือสัญลักษณ ท่ีบอกตาํ แหนงบนสดุ หรือลา งสุด และราวบนั ไดควรยาวกวาตัวบันไดเล็กนอย เพ่ือปองกันการพลัดตกหกลม กรณที กี่ า วผิด 4.2 ความสูงของบนั ไดแตละข้ันไมควรเกิน 6 นิ้ว เน่ืองจากเมื่ออายุเพ่ิมขึ้นจะเดินหลังคอมเขา และสะโพกมักงอเล็กนอย เวลากาวเดินฝาเทาจะระไปกับพ้ืน กาวขาไดส้ัน เรียกการเดินของผูสูงอายุวา Senile gait ถาบนั ไดแตละข้ันสูงจะขนึ้ บนั ไดลาํ บาก 4.3 ขอบบันไดแตละขั้นควรติดวัสดุกันล่ืน และมีแถบสีท่ีแตกตางจากข้ันอื่นเพื่อบอกตําแหนง ของขน้ั แรก และขนั้ สุดทาย ตลอดจนสีของบันไดกบั พ้นื หองไมควรเปนสเี ดยี วกนั 4.4 แสงสวางบริเวณบันไดตองเพียงพอ มีสวิตซไฟทั้งช้ันบนและช้ันลาง ตามข้ันบันไดจะตอง ไมม ีแสง 4.5 ไมว างส่ิงของใด ๆ ตามขั้นบนั ไดโดยเฉพาะบนั ไดข้นั บนสดุ หรือลา งสดุ เชน รองเทา พรมเชด็ เทา เปน ตน 4.6 ผูสูงอายุไมควรถือส่ิงของท้ัง 2 มือเวลาข้ึน - ลงบันได อยางนอยควรเหลือมือไวอีกขาง เพ่อื จบั ราวบันได 5. การจัดสภาพแวดลอ มบรเิ วณพน้ื หอง พ้ืนหองไมควรขัดจนเปนมัน เพราะอาจเกิดแสงสะทอนขัดขวางการเดินของผูสูงอายุหรือ ลงนาํ้ มันจนลืน่ ควรเก็บสายไฟใหเ รียบรอ ยปองกนั การสะดดุ ลม ปล๊กั ไฟไมค วรอยูตาํ่ ปอ งกนั การเดินชน สีของ
141 ฝาผนังควรเปน สีออ น และตางจากสีของพ้นื หอง และไมควรมีธรณีประตู แตถาแกไขไมไดควรทําสีท่ีแตกตาง จากพื้นหอ ง 6. การจัดสภาพแวดลอ มอปุ กรณเ คร่ืองใช อปุ กรณเ ครอื่ งใช ควรจัดวางใหเ ปนระเบียบเปนท่ี เปนทาง ไมกีดขวางทางเดนิ และไมควรเปลย่ี น ท่ีเก็บหรือวางของบอย เพราะผูสูงอายุจะไมสะดวกในการหยิบใชสิ่งของและอาจหลงลืม อุปกรณเครื่องใช ควรคํานงึ ถึงสเี นอื่ งจากสายตาของผูสงู อายุมกั จะมองเหน็ สีสวางไดด กี วาสีทบึ ดงั นน้ั ผสู งู อายุจะมองเห็นสีเหลือง สสี ม และสีแดง ไดด ีกวาสีเขียว สีมวง สีน้าํ เงนิ นอกจากน้ันน้าํ หนักของสิง่ ของก็ควรจะมีนํ้าหนักเบา เพ่ือความ สะดวกและปลอดภัยในการหยิบจับ การจัดอปุ กรณ เครือ่ งใชส าํ หรบั ผสู งู อายุ มีดังน้ี 6.1 เสื้อผา ไมควรคับหรือหลวมเกินไป โดยเฉพาะถาสวมเส้ือผารุมราม มีเชือกผูกอาจเกิดการ เกาะเกย่ี วสิง่ ของหรอื สะดดุ ลมไดงาย ความหนาของเสอื้ ผา ควรเหมาะกับภูมิอากาศเนื่องจากในวัยสูงอายุการ ระบายความรอ นไมด แี ละเส้อื ผาไมค วรหนักเกินไปจะทาํ ใหผูส ูงอายตุ องรับนา้ํ หนักเสอ้ื ผา มากอาจหอบเหน่ือย ไดง าย 6.2 รองเทาทเี่ หมาะสม คือ รองเทาหมุ สน ไมคับเกินไปอาจทําใหเจ็บเทา เกดิ บาดแผลหรือเปน หูดตาปลาได ในขณะเดียวกันตองไมหลวมเกินไปเพราะทําใหการเดินไมสะดวกหกลมไดงาย รองเทาที่ เหมาะสมควรมีลักษณะดังนี้ ความยาวมีชองวางระหวางปลายน้ิวเทาน้ิวท่ียาวท่ีสุดถึงหัวรองเทา 1.25 ซ.ม. ความกวา งน้วิ เทาวางไดไมซ อ นกัน ความลึกรองเทาดานบนตอ งไมกดหลงั เทา หรือน้ิวเทา เครอ่ื งผูกรัดอาจเปน เชือกหวั เขม็ ขัดจะเหมาะสมกวาชนิดติดซิป เพราะแบบซปิ เทา ไมสามารถ ขยายตวั ได สน รองเทา ไมค วรสงู เกนิ 3.75 ซ.ม. พ้ืนรองเทาควรเปนพื้นยางไมล่ืน วัสดุที่ทําควรเปนหนังสัตวดีที่สุด เพราะมีความยืดหยุนดีกวา พลาสตกิ ซ่งึ จะเหมาะสําหรบั ผสู ูงอายทุ กี่ ลนั้ ปส สาวะไมอยู 6.3 แกวนา้ํ ถวยชาม ควรเปน ชนดิ ทมี่ หี ูจับ นาํ้ หนักเบาเลือกสีท่ผี สู งู อายุมองเห็นไดงาย แกวนม หรือแกว น้าํ ด่ืมไมควรจะเปนสีใสเพราะมองยากหรือแกวนมที่ดีควรใชสีตัดกับสีของนม เชน นมสีขาวควรใส ในแกวสีเขม จะทําใหผ ูสูงอายุทราบวานมอยูในระดบั ใดของแกว เปน ตน 6.4 ผาปโู ตะ ควรเปนสตี า งจากแกว นํ้าหรอื จานชาม เพราะถา เปน สเี ดียวกนั หมดผสู งู อายุจะแยก สไี มอ อกวาบนโตะมีของวางอยู 6.5 ไมเทา ควรมยี างกันลื่นบริเวณปลายไม ความยาวอยใู นระดบั ท่มี ือหอ ยลงในทา สบายงอศอก เล็กนอ ยฝามอื วางบนหวั ไมเทา พอดี 6.6 โทรศัพท ควรวางไวในตําแหนงที่สามารถเอื้อมมือถึง กรณีหกลมลงกับพื้นจะไดขอความ ชวยเหลอื ไดท นั ทีและถา หกลมอยาเพิ่งลุกขึ้นใหนอนนิ่ง ๆ ไวกอนสํารวจดูวามีอะไรหักบางหรือไม อาจใชวิธี
142 ตรวจสอบ จากความเจ็บปวดก็ได ถา แนใจวาไมมีอะไรหักจึงลุกขึ้น ถาสงสัยควรรองขอความชวยเหลือ หรือ ขยับตัวไปยังทีว่ างโทรศัพทเ พอื่ ขอความชวยเหลือ 6.7 แวนตา ควรวางไวใกลที่นั่งหรือท่ีนอนประจําของผูสูงอายุ เพื่อหยิบใชไดสะดวก ควรมี นา้ํ หนกั เบาและใชเ ลนสพลาสติก เพ่ือปอ งกันการแตก ควรพาผสู งู อายุไปตรวจวดั สายตาอยางนอยปละ 1 - 2 คร้ัง สําหรับผูท่ีไมเปนโรคตาหรือตามแพทยนัด และเปล่ียนแวนตาใหเหมาะสมกับสายตาของผูสูงอายุ สําหรับผูสูงอายุที่เปนโรคตา อาจตองปรึกษาจักษุแพทย เพ่ือจัดหาแวนตาที่เหมาะสมสําหรับผูสูงอายุสวม ภายในบานหรือนอกบา นตอไป 7. การจัดสภาพแวดลอมบรเิ วณทางเดิน 7.1 ควรตดิ ไฟฟาใหสวาง มีราวกลมจบั ตลอดทางเดนิ ไมม ีส่ิงกดี ขวางใด ๆ 7.2 ไมว างพรมเชด็ เทา สายไฟ สายโทรศัพทเกะกะ รวมท้ังไมวางสิ่งของใด ๆ ที่พื้น เพราะจะ ทําใหส ะดดุ และหกลม ขอ ควรคํานึงที่สําคัญอื่น ๆ 1) เฟอรนิเจอรใ นบา นตอ งม่นั คงแขง็ แรง ผสู งู อายจุ ะไดไมเสยี การทรงตวั เวลาจบั เพ่ือพยุงตวั 2) ตรวจตราเครื่องใชไฟฟาและแกสใหอยูในสภาพดี ถาชํารุดใหซอมแซมหรือเปลี่ยนใหม ถอดปลั๊ก เครือ่ งใชไ ฟฟา หรอื ปดแกสหลังใชงานแลวทกุ คร้ัง 3) หากผสู ูงอายมุ ปี ญ หาในการทรงตวั ควรใชไ มเ ทาชว ยเดิน 4) ควรมีโทรศัพทและเขียนหมายเลขโทรศัพทขอความชวยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไวให ผูส ูงอายุ ตดิ ตอ โดยใชตัวหนงั สอื ขนาดใหญ ชดั เจน ใชส ตี ัดกับสีพ้ืนกระดาษ วางในตําแหนงท่ีอานไดงายหรือ ใกลท ่ีวางโทรศพั ท 5) กอนนอน ควรตรวจตราปดประตูหนาตางถอดปลั๊กไฟ ปดเตาแกสใหเรียบรอย เพ่ือความ ปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ยส นิ การจัดสภาพแวดลอมสาํ หรบั ผูสงู อายเุ ปน เรอื่ งทลี่ ะเอียดออ น กลาวคือ การเปลี่ยนส่ิงแวดลอม บอ ย ๆ อาจทําใหเกดิ ผลเสียไดมากกวาผลดี โดยเฉพาะกับผสู งู อายสุ มองเส่ือมอาจกอใหเกิดการสับสนไดงาย ดงั น้ัน ผูดูแลควรเปนคนชางสังเกตและเมื่อจะเปล่ียนที่วางส่ิงของทุกครั้งควรไดบอกกลาวใหผูสูงอายุไดรับ ทราบดว ย การจดั สภาพแวดลอ มควรมกี ารวางแผนการตง้ั แตเน่นิ ๆ เพอื่ การวางแผนโครงสรางของที่อยูอาศัย ใหพรอมที่จะรองรับความสูงอายุในอนาคต จึงจะไดสภาพแวดลอมที่เหมาะสมสําหรับผูสูงอายุ ซ่ึงมีสวน เอ้ืออาํ นวยความสะดวกตอ การดํารงชีวติ และการปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจําวนั ของผูสูงอายุ อันจะสงผลใหผูสูงอายุ ดาํ รงชวี ิตอยูใ นสังคมไดอ ยางมีความสุข
143 เรือ่ งที่ 4 กฎหมายทค่ี วรรแู ละสิทธสิ ําหรบั ผูสงู อายุ 1. สิทธิ และสวสั ดิการสําหรบั ผสู งู อายุ พระราชบัญญัตผิ ูสูงอายุ พ.ศ. 2546 (ฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2553) มีเจตนารมณเ พ่อื สงเสริม สนับสนุน ใหผสู ูงอายไุ ดร ับสทิ ธิ โดยไดกาํ หนดไวอยางชัดเจนในมาตรา 11 13 และ 17 ท้งั นี้ หนว ยงานท่ีเกีย่ วของ ทง้ั ภาครัฐ ภาคเอกชน รฐั วิสาหกิจ และทอ งถน่ิ ตา ง ๆ มหี นาทีจ่ ัดบรกิ ารใหผสู ูงอายุไดรับการคุมครองสิทธิตามกฎหมาย ฉบับน้ี (สํานกั สง เสริมและพิทักษผ ูสงู อายุ (สทส.) สํานักงานสงเสรมิ สวัสดภิ าพและพิทกั ษเดก็ เยาวชน ผดู อยโอกาส และผสู งู อายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนุษย (พม.), มปป.) 1.1 ดา นการแพทยแ ละสาธารณสุข ผูสูงอายุไดร ับการจดั ชองทางพิเศษเฉพาะ เพื่อใหผ ูสงู อายไุ ดร ับการบริการทีส่ ะดวกรวดเร็ว ขอทราบขอ มูลเพ่ิมเตมิ ไดท่ี : กรมการแพทย กระทรวงสาธารณสขุ โทรศัพท 0 2590 6000 www.dms.moph.go.th สํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โทรศัพท 0 2224 0717 www.mod.go.th โรงพยาบาลตาํ รวจ โทรศัพท 0 2207 6000 www.policehospital.org สาํ นกั พฒั นาสงั คม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท 0 2245 5165-6 , 0 2247 9450 www.bankok.go.th โรงพยาบาลการไฟฟา นครหลวง โทรศัพท 0 2242 5119 www.mea.or.th โรงพยาบาลบรุ ฉัตรไชยากร โทรศพั ท 0 2251 2042 , 0 2245 2480 www.dms.moph.go.th
144 โรงพยาบาลโรงงานยาสูบ โทรศัพท 0 2656 4500 1.2 ดานการศึกษา การศาสนา และขอ มลู ขา วสาร ผสู งู อายุไดร ับจัดศูนยการเรยี นในชมุ ชน และใหมหี ลกั สตู รการศกึ ษาเกย่ี วกับผูสูงอายุ ตั้งแต การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ถึงขนั้ อดุ มศึกษาอยางตอเน่ืองทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย และมีรายการ ตาง ๆ เพอ่ื ผูสูงอายุ ขอทราบขอ มูลเพิม่ เตมิ ไดที่ : สํานักงาน กศน. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โทรศัพท 0 2281 7217 Call center 1660 www.nfe.go.th กรมศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม โทรศพั ท 0 2209 3699 www.dra.go.th กรมการแพทย กระทรวงสาธารณสุข โทรศัพท 0 2590 6000 www.dms.moph.go.th สาํ นักสง เสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการมสี วนรวม กระทรวงมหาดไทย โทรศพั ท 0 2241 9000 ตอ 4131 - 4135 www.moi.go.th สํานักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท 0 2245 5165-6 www.bankok.go.th สาํ นักงานพระพทุ ธศาสนาแหงชาติ โทรศัพท 0 2441 7999 www.onab.go.th กรมกิจการผสู งู อายุ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย โทรศัพท 0 2642 4339 www.dop.go.th
145 1.3 ดานการประกอบอาชพี ฝก อาชพี ท่ีเหมาะสม ผสู งู อายไุ ดร ับการใหขอ มลู คาํ ปรึกษา ขาวสารตลาดแรงงาน การจัดหางาน รับสมัครงาน บริการขอมูลทางอาชีพ ตําแหนงวางงาน การอบรมและฝกอาชีพ โดยมีศูนยกลางทางอาชีพและตําแหนงงาน สําหรบั ผูสงู อายเุ ปนการเฉพาะท่ีสํานักงานจัดหางานทุกแหง ขอทราบขอมลู เพ่มิ เตมิ ไดท่ี : สํานักเศรษฐกจิ การแรงงาน กระทรวงแรงงาน โทรศัพท 0 2232 1328 www.mol.go.th สาํ นักงาน กศน. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร โทรศัพท 0 2281 7217 Call center 1660 www.nfe.go.th สาํ นักสงเสรมิ การพฒั นาเศรษฐกิจ สังคม และการมสี วนรวม กระทรวงมหาดไทย โทรศัพท 0 2241 9000 ตอ 4131 - 4135 www.moi.go.th สํานกั พฒั นาสังคม กรุงเทพมหานคร โทรศพั ท 0 2245 5165-6 , 0 2247 9455 www.bankok.go.th 1.4 ดานการพัฒนาตนเอง การมีสวนรวมในกิจกรรมทางสังคม การรวมกลุมในลักษณะ เครอื ขาย/ชมุ ชน ผูสูงอายุไดรับการสงเสริมและสนับสนุนกลุมหรือชมรมผูสูงอายุใหมีสวนรวมในกิจกรรม ทางสังคมภายในชุมชน และ/หรือระหวา งชมุ ชน และสงเสริมการใชศกั ยภาพผสู ูงอายุ โดยเพ่ิมการจัดกิจกรรม ทางกีฬา นนั ทนาการ และการถายทอดภมู ิปญ ญา ขอทราบขอ มลู เพม่ิ เตมิ ไดท ่ี : สํานกั สง เสริมการพฒั นาเศรษฐกจิ สงั คม และการมีสว นรวม กระทรวงมหาดไทย โทรศัพท 0 2241 9000 ตอ 4131 - 4135 www.moi.go.th กรมกจิ การผสู งู อายุ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย โทรศพั ท 0 2642 4339 www.dop.go.th
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255