Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การออกแบบการจัดการเรียนรู้

การออกแบบการจัดการเรียนรู้

Published by KruYuyah MIN, 2020-12-22 01:57:42

Description: การออกแบบการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

88 แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ ๕ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๔ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๒ เร่อื ง มำตรำตัวสะกด...มีทง้ั หมด ๘ มำตรำ เวลำ ๔ ช่วั โมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑ เรือ่ ง ลักษณะของคาในมาตรา กง กม เกย เกอว เวลำ ๑ ชัว่ โมง วนั ที เดือน พ.ศ ภำคเรยี นที่ ๑ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ ตัวช้ีวดั ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคาและบอกความหมายของคาในบรบิ ทตา่ ง ๆ สำระสำคัญ มาตรา กง กม เกย เกอว ลว้ นเป็นมาตราตวั สะกดที่มตี ัวสะกดตวั เดียว จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. อธบิ ายลักษณะของคาในมาตรา กง กม เกย เกอว (K) ๒. จาแนกคาในมาตรา กง กม เกย เกอว (P) ๓. เห็นความสาคญั ของการจาแนกคาในมาตรา กง กม เกย เกอว เพือ่ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน (A) สำระกำรเรียนรู้ ลกั ษณะของคาในมาตรา กง กม เกย เกอว กระบวนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ขนั้ นำ ๑.ใหน้ ักเรยี นไดแ้ สดงความคดิ เห็นรว่ มกนั โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดังนี้ ๏ นกั เรยี นทราบได้อย่างไรวา่ คาใดอยูใ่ นมาตราตวั สะกดใด ข้นั กจิ กรรม ๒. ใหน้ กั เรียนอ่านบทร้อยกรอง “อานภุ าพเสียงป่ีของพระอภัยมณี” สงั เกตคาที่ครกู าหนด จากนัน้ ช่วยกัน จาแนกสว่ นประกอบของคา เพื่อสงั เกตเสยี งตัวสะกด แลว้ สรปุ ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการสงั เกต อำนุภำพเสยี งปขี่ องพระอภยั มณี วิเวกหวดี กรีดเสยี งสาเนียงสน่ัน คนขยัน้ ยนื ขึงตะลงึ หลง ให้หวิววาบซาบทรวงตา่ งงว่ งงง ลมื ณรงคร์ บสู้เงีย่ หูฟัง พระโหยหวนครวญเพลงวังเวงจิต ใหค้ นคิดถงึ ถ่ินถวลิ หวงั ว่าจากเรือนเหมือนนกมาจากรงั อยู่ขา้ งหลังกอ้ จะแลชะแง้คอย จาก นิทานคากลอนเรื่อง พระอภยั มณี ของสุนทร ภู่ ๓.ให้นกั เรียนทายคาจากปรศิ นาคาทาย ดงั น้ี ๑) ขา้ ว...อะไร พน่ี ้องชาวไทยภาคเหนอื และภาคอีสานต่างสุขสาราญเพราะรบั ประทานขา้ วชนดิ นี้ (ขำ้ วเหนียว)

89 ๒) กลม...อะไรท่ใี ช้กับรสหรือเสียง ความหมายบอกเพียง “ทีเ่ ขา้ กันพอดี” ไม่มีรสใดมากไป (กลมกล่อม) ๓) ฉนั เปน็ อย่างไร ฉันไม่อ่อนแอ ออกกาลงั ดแี ท้ รา่ งกายฉนั จึง... (แขง็ แรง) จากนัน้ ครใู ช้คาถาม ดงั นี้ ๔) คาเฉลยทงั้ ๓ คานี้ “ข้าวเหนยี ว” “กลมกล่อม” “แขง็ แรง” มีลักษณะอยา่ งไร หรือมีข้อสงั เกต อะไรบ้าง (แตล่ ะคามี ๒ พยางค์ มีตวั สะกดทงั้ พยางคห์ น้าและหลังเหมอื นกนั ทุกคา) ๕) แต่ละคามี ว ม ง เป็นตวั สะกดตามลาดับ เปน็ คาที่มีตวั สะกดมาตราใด นอกจาก ว ม ง มี ตัวอื่นสะกดแลว้ ออกเสยี งเหมือนเดิมไดห้ รอื ไม่ ถือว่ามตี วั สะกดก่ตี วั (คาที่มี ว ม ง สะกด เรยี กวา่ คาในมาตรา เกอว มาตรา กม มาตรา กง ตามลาดบั และมตี ัวสะกดตวั เดียวเท่านนั้ เชน่ เดยี วกันทั้ง ๓ มาตรา) ๔.ให้นักเรยี นคดิ ตอ่ ไปและบอกว่า นอกจาก มาตรา กง กม และมาตรา เกอว ดงั กล่าวแลว้ มมี าตราใดอีก บา้ งท่มี ตี วั สะกดตวั เดยี ว (มาตรา เกย หรือคาที่มี ย สะกด) ให้นกั เรียนคิดและอาสาสมัครออกมาเขยี นคาใน มาตรา เกย บนกระดาน เชน่ คุย ขยาย เหน่ือย เสวย โปรย ให้ทกุ คนร่วมกันพิจารณาความถูกต้องของคาที่ เพอ่ื นเขียน ชว่ ยกนั บอกความหมายของคาบางคา และเลอื กแตง่ ประโยค เช่น ๏ นอ้ งวิ่งเลน่ จนเหนอ่ื ย ฉันยืนนานจนเม่อื ยขา ๕.ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เลือกคาทก่ี าหนดใหเ้ ขยี นใตภ้ าพให้สมั พนั ธก์ ัน เช่น (ภาพ - คา) ยิม้ แย้ม ท้องทุง่ รวงข้าว อยุ้ อ้าย มอมแมม ข่าวคราว ทอ่ งเท่ียว กางเกง ออ้ ย เหย่ี ว วิง่ แขง่ เฉยเมย กวยเตี๋ยว ๖.ใหน้ ักเรียนแบ่งเป็น ๒ กลุ่ม จากน้นั ใหต้ ัวแทนกล่มุ กลุ่มละ ๓ คน ออกมาชว่ ยกนั เขียนคาในมาตรา กง กม เกย เกอว ตามที่กาหนดบนกระดาน ให้มคี าแต่ละมาตรามจี านวนใกล้เคยี งกันในเวลา ๒ นาที ตัวอย่าง (กง.).................. ................... (กม) (กง).................. ................... (กม) ................... ................... ................... ................... ...............(.เ.ก..อว) .................(.เ.กอว) (เกย..)................. ................... (เกย................... ................... ................... ) ................... จากน้นั ใหน้ กั เรียนทกุ คนรว่ มกันพิจารณาความถกู ต้องของคาในมาตราต่าง ๆ ในแต่ละกลุ่ม กลุม่ ใดมีคาที่ถกู ต้องในแตล่ ะมาตราจานวนมากกว่าก็เปน็ กลมุ่ ชนะ ๗.ใหน้ ักเรยี นเขยี นคาท่ีมคี วามหมายตรงขา้ มกบั คาท่ีครูพูด ซึ่งจะเป็นคาในมาตราทง้ั ๔ (มาตรา กง กม เกย เกอว) จากน้ันให้จัดประเภทโดยเขียนรวมคาใหม่ในแต่ละมาตรา ตวั อย่าง ครพู ูดวา่ เหมน็ (นกั เรยี นเขยี นคาตรงขา้ มกัน คอื หอม) อ้วน ขี้เหร่ หนา มาก เตย้ี ยากจน มดื แคบ สน้ั ลาบาก หวาน หน้า ดี เป็นต้น จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นอาสาสมัคร ๓ - ๔ คน ออกมาทีละคน นาเสนอผลงาน ทกุ คนร่วมกนั พิจารณาแก้ไข ผลงานใหถ้ กู ต้อง แล้วรวบรวมส่งให้ครูตรวจสอบอกี ครัง้

90 ขัน้ สรุป ๘. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ ความรูเ้ ร่อื ง มาตรา กง กม เกย เกอว เป็นแผนภาพความคิด ดังนี้ มาตรา กง คือ มาตราตวั สะกด มาตรา เกอว คอื คาทม่ี ี ง สะกด ทมี่ ีตวั สะกด คาที่มี ว สะกด มาตรา กม คือ ตวั เดียว มาตรา เกย คือ คาทมี่ ี ม สะกด คาที่มี ย สะกด ๙.ให้นกั เรียนทบทวนความรู้โดยจาแนกบัตรคาเปน็ กลุ่มทีม่ ตี ัวสะกดเหมือนกัน โดยครูเตรยี มบัตรคา ดงั น้ี ตรอมตรม เกย่ี วขา้ ว กุ้ง ปยุ ฝ้าย กล้วย ชมรม ดาว รวงผ้งึ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ ๑. บทร้อยกรอง “อานุภาพเสยี งป่ีของพระอภยั มณี” ๒. ปริศนาคาทาย ๓. บัตรคา ๔. กระดาษ A ๔ ๕. ภาพ กระบวนกำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ ๒. เคร่ืองมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผา่ นตั้งแต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผ่ำน ผ่าน ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผ่ำน ๒) การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๙ – ๑๐ ระดับ ดมี าก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดบั พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรับปรงุ

91 ข้อเสนอแนะ/ควำมคิดเห็นของผูบ้ รหิ ำร .................................................................................................................................................... ............................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................. (ลงช่ือ)..........................................ผบู้ ริหาร (นายมะนาเซร์ มาแล) ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นย่ีงอ วนั ที่ ……… เดือน………………..พ.ศ………….

92 บนั ทึกผลหลงั กำรจดั กำรเรียนรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ..................................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................ ................................................. .................................................................................. ............................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ....................... ๒. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................. ๓. แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... .......................................................................................... (ลงช่อื )...........................................ครูผสู้ อน (นางสาวยลู ยี ะห์ แม้เร๊าะ) ครูชานาญการโรงเรยี นบ้านยีง่ อ วนั ท…ี่ ………. เดอื น……………. พ.ศ. …………..

93 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๖ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๔ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ เร่ืองมำตรำตัวสะกด...มีท้ังหมด ๘ มำตรำ เวลำ ๔ ชัว่ โมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๒ เรื่อง ลกั ษณะของคาในมาตรา กก กด กน กบ เวลำ ๑ ช่ัวโมง วันที เดือน พ.ศ ภำคเรยี นท่ี ๑ ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖๓ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ ตัวชว้ี ัด ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทตา่ ง ๆ สำระสำคัญ มาตรา กก กด กน กบ ลว้ นเป็นมาตราตวั สะกดท่ีมีตัวสะกดหลายตวั จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. อธบิ ายลักษณะของคาในมาตรา กก กด กน กบ (K) ๒. จาแนกคามาตรา กก กด กน กบ (P) ๓. กระตอื รือร้นในการรว่ มกจิ กรรม (A) สำระกำรเรยี นรู้ ลักษณะของคาในมาตรา กก กด กน กบ กระบวนกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ ขน้ั นำ ๑.ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คาถามท้าทาย ดังน้ี ๏ ช่อื - นามสกุลของนักเรยี นมีคามาตราใดบ้าง ขน้ั กิจกรรม ๒.ใหน้ ักเรยี นออกมาเขยี นช่อื ตนเองบนกระดาน (ที่ไม่ใช่คาท่ีเปน็ มาตรา กง กม เกย เกอว) อาจจะได้ช่อื ตา่ ง ๆ เชน่ ธเนศ สุวรรณ สามารถ ประสพ สภุ าพ พิทักษ์ วนั เพญ็ พิภพ โชค บาตร นชุ นาฏ ประมุข วิ รัตน์ สกล ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั จัดแยกช่อื บนกระดานเป็นประเภทตามมาตราตวั สะกด ๔ มาตรา คอื มาตรา กก กด กน กบ ๓. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันทบทวนความรเู้ รื่อง มาตรา กก กด กน กบ วา่ แต่ละมาตรามตี ัวสะกดใดบา้ ง มาตราใดมีสมาชิกมากที่สุด (มาตรา กด) ๏ มาตรา กก คือ คาท่ีสะกดด้วย ก ข ค ฆ เชน่ .............................. ๏ มาตรา กด คอื คาท่สี ะกดด้วย ด และพยัญชนะอ่นื ๆ ท่ีออกเสยี งเหมือน ด สะกด เช่น ราช แก๊ส กจิ อนาถ บทบาท อูฐ พัฒนา ครุฑ ทศิ เศษ ทาส ๏ มาตรา กน คือ คาท่สี ะกดด้วย น ณ ญ ร ล ฬ เชน่ .......................... ๏ มาตรา กบ คอื คาท่ีสะกดด้วย บ ป พ ฟ ภ เชน่ ................................ ครใู ชภ้ าพประกอบการอธิบายใหค้ วามรูบ้ างคา เช่น บาตร บิณฑบาต อฐิ อูฐ ใหน้ กั เรยี นช่วยคดิ และ เขียนบางคาเพม่ิ เติมบนกระดาน ๔.ใหน้ ักเรียนเลือกคาที่กาหนดไปเติมใต้ภาพตา่ ง ๆ ทคี่ รตู ดิ บนกระดาน

94 เช่น (ภาพ - คา) ๐ ลาธาร ๐ ตารวจ ๐ วาฬ ๐ ยีราฟ ๐ กระดาษ ๐ เมฆ ๐ สุนขั ๐ ใสบ่ าตร ๐ ธูป ๐ ครุฑ ใหน้ ักเรียนร่วมกันพจิ ารณาความถกู ต้อง แลว้ ชว่ ยกนั บอกว่าภาพใดมีตวั สะกดในมาตราใดบา้ ง พร้อมทง้ั ช่วยกันบอก และคน้ หาความหมายจากพจนานุกรมของบางคา ครูช่วยแนะนาใหค้ วามร้เู พิม่ เตมิ ให้นักเรียนหรือ อาสาสมัคร ๓ - ๔ คน ใชค้ าบางคาแตง่ ประโยคปากเปลา่ คนละ ๑ ประโยค ๕. ครแู จกกระดาษให้นกั เรียนเขียนคาทคี่ รูเขยี นบนกระดาน โดยเติมคาในชอ่ งว่างใหเ้ ปน็ คาในมาตรา ตา่ ง ๆ ใหถ้ ูกต้อง เชน่ ๏ มาตรา กก ประ (มุข, โยค, จักษ)์ กระ (ติก, บอก) ความ (รกั , สุข, ทกุ ข)์ (เลข) เก้า ๏ มาตรา กด ประ (เทศ, สิทธิ์) วัน (พุธ, อาทติ ย์) อา (ทติ ย์) ซอื่ (สตั ย์) ๏ มาตรา กน อา (หาร, จารย์, คาร) ลา (ธาร, เค็ญ) วัน (จันทร์, เพญ็ , อังคาร) น้า (ตาล, หวาน, มนต)์ ๏ มาตรา กบ อา (ชีพ, ภพั ) ประ (ดบั , กอบ, ทบั ) สขุ (ภาพ) ระ (บบ, เบียบ) เคา (รพ) (หมายเหตุ บางคาอาจมีหลายคาให้เลือกเติมได้ เช่น มาตรา กด - ประดิษฐ์, ประสาท, วนั พฤหสั บดี, อาฆาต, อาพาธ) ให้ทุกคนร่วมกันเฉลยโดยนักเรียนตรวจเอง หรือแลกกับเพื่อนข้าง ๆ แล้วแต่จะตกลงกัน ซักถามส่ิงที่ สงสัยให้เข้าใจยิ่งขึ้น (แก้ไขคาผิดคาละ ๓ ครั้ง หรือเขียนคาที่ถูกต้องไว้ข้าง ๆ) เลือกคาในมาตราต่าง ๆ น้ี แต่ง ประโยค ๓ - ๕ คา วาดภาพประกอบ แล้วรวบรวมผลงานส่งใหค้ รตู รวจสอบอีกครั้ง ขนั้ สรปุ ๖. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปความรูเ้ ร่อื ง มาตรา กก กด กน กบ เป็นแผนภาพ ดังนี้ มาตรา กก คอื คาท่ี มาตราตัวสะกด มาตรา กน คือ คาที่ สะกดดว้ ย ก ข ค ฆ ทมี่ ตี ัวสะกด สะกดดว้ ย น ณ ญ ร ล ฬ หลายตวั มาตรา กด คือ คาท่ี มาตรา กบ คือ คาที่ สะกดดว้ ย ด จ ช ซ ฎ ฏ สะกดด้วย บ ป พ ฟ ภ ฐฑฒตถทธศษส ๗. ให้นกั เรยี นทบทวนความรู้โดยให้นักเรียนจัดกลุม่ บัตรคาที่มีมาตราตัวสะกดเดียวกัน โดยครูเตรยี มบตั ร คา ดังนี้ หมากรุก ลา อฐั ชลธาร ภ กราฟ ปรอท กญุ ชร นาค

95 สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ๑. บตั รคา ๒. กระดาษ A๔ ๓. ภาพ ๔. แถบประโยค กระบวนกำรวดั ผลประเมนิ ผล ๑. วิธีกำรวดั และประเมินผล สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๒. เคร่ืองมือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๓. เกณฑ์กำรประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผา่ นตงั้ แต่ ๒ รายการ ถือวา่ ผำ่ น ผา่ น ๑ รายการ ถอื วา่ ไม่ผำ่ น ข้อเสนอแนะ/ควำมคิดเหน็ ของผบู้ รหิ ำร ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. (ลงชือ่ )..........................................ผ้บู รหิ าร (นายมะนาเซร์ มาแล) ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นย่งี อ วันที่ ……… เดอื น………………..พ.ศ………….

96 บนั ทกึ ผลหลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้ ๑. ผลการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ....................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ........................................................ ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................... .............................. ..................................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................ ................................................. .................................................................................. ............................................................................................... ๒. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................................................................................................... ........ ........................................................................................................................... ...................................................... ................................................................................................................................................................................ ๓.แนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ...................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)...........................................ครูผูส้ อน (นางสาวยูลียะห์ แมเ้ รา๊ ะ) ครชู านาญการโรงเรยี นบา้ นยีง่ อ วนั ท…่ี ………. เดือน………………. พ.ศ…………

97 แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ี่ ๗ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื งมำตรำตัวสะกด...มีท้ังหมด ๘ มำตรำ เวลำ ๔ ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ี่ ๓ เร่ือง ความหมายของคาท่ีมีตวั สะกดในมาตราต่างๆ เวลำ ๑ ชวั่ โมง วนั ที เดือน พ.ศ ภำคเรยี นที่ ๑ ปกี ำรศกึ ษำ ๒๕๖๓ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวชว้ี ดั ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคาและบอกความหมายของคาในบรบิ ทต่าง ๆ สำระสำคญั การร้คู วามหมายของคาทาให้เลือกใช้คาได้ถูกต้อง ซงึ่ เปน็ ประโยชนใ์ นการสอื่ สารทง้ั การพดู การเขียน และเป็นเครื่องมือในการศึกษาหาความรู้ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของคาต่าง ๆ ได้ (K) ๒. เขียนคาในมาตราตวั สะกดทกุ มาตราได้ (P) ๓. เหน็ คุณค่าของการรู้ความหมายของคา เพื่อนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั (A) สำระกำรเรียนรู้ ความหมายของคาในมาตราตัวสะกดต่าง ๆ ความหมายของคา กระบวนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ ขั้นนำ ๑. ให้นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คาถามทา้ ทาย ดังน้ี ๏ การรู้ความหมายของคาต่าง ๆ มีประโยชน์อยา่ งไร ขนั้ กจิ กรรม ๒.ใหน้ กั เรียนทายคาจากปริศนาคาทาย ดงั นี้ ๑) ปรา............อะไร หมายถึง สาแดงออกมาให้เห็น (ปรำกฏ) ๒) ปรา............อะไร หมายถงึ กาแพง สาหรบั ป้องกันการรุกราน (ปรำกำร) ๓) ปรา...........อะไร คือชื่อทศิ ตะวนั ออก (ปรำจนี ) ๔) ปรา (อา่ นวา่ ปะ - รา)............อะไร ไม่ชนะหรือความพา่ ยแพ้ (ปรำชัย) ๓.ให้นักเรยี นรว่ มกนั เปดิ พจนานุกรมหาความหมายของคาทค่ี รกู าหนดให้ ดังน้ี อัฐ ลาภ นาค กญุ ชร ชลธาร รัญจวน พิศวาส ลองกอง ๔.ใหน้ กั เรยี น ๒ คน ออกมาผลัดกันบอกคาให้เพื่อนเขียนบนกระดาน (เป็นคา ๒ พยางค์ ที่มตี ัวสะกดไม่ ตรงตามมาตรา เช่น ประพฤติ บงั เอิญ โชคลาภ) คนละ ๑ คา ทลี ะคู่ ประมาณ ๓ - ๔ คู่ จากน้ันให้ทุกคน รว่ มกันพจิ ารณาคาที่เขยี นถูกต้องหรือไม่ คาทผ่ี ดิ ควรแกไ้ ขเป็นอะไร ใหน้ ักเรยี นออกมาเลือกคาวเิ คราะหว์ า่ มี ตัวสะกดในมาตราใดบา้ ง เชน่

98 ๏ ปฏบิ ัติ มีมาตรา ก กา มาตรา กด ๏ สาคญั มีมาตรา ก กา มาตรา กน ๏ โชคลาภ มมี าตรา กก มาตรา กบ ๏ พรรคพวก มีมาตรา กก มาตรา กก ๕.ให้นกั เรยี นช่วยกนั หาคาทม่ี ตี ัวสะกดตามทีก่ าหนด เช่น ๏ มาตรา ก กา มาตรา กด เช่น อากาศ ประดิษฐ์ พิบัติ วกิ ฤติ ๏ มาตรา กด มาตรา กบ เช่น จุดธปู วาดรูป ๖. ใหน้ ักเรยี นบอกความหมายของคาหรือเปดิ พจนานกุ รมหาความหมายของคาให้อาสาสมคั รออกมาอา่ น ความหมายที่ค้นพบ ๗. ใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ ๒ เร่ือง การเขียนคาตามคาบอก และอธิบายความหมายของคา ดงั นี้ คาท่ี ๑ บริการ คาท่ี ๒ ประมาท คาท่ี ๓ อัจฉรยิ ะ คาท่ี ๔ กระฉับกระเฉง คาที่ ๕ ทะนถุ นอม จากนัน้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ข้ันสรุป ๘. ครแู ละนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั นี้ ๏ การรู้ความหมายของคาทาใหเ้ ลอื กใชค้ าได้ถูกต้อง ซ่งึ เปน็ ประโยชน์ในการสื่อสารทัง้ การพดู การเขียน และเป็นเครื่องมือในการศึกษาหาความรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ ๑. ปริศนาคาทาย ๒. ภาพ บัตรคา แถบประโยค ๓. ใบงาน กระบวนกำรวดั ผลประเมินผล ๑. วธิ ีกำรวดั และประเมินผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ๒) ตรวจใบงานท่ี ๒ ๒. เครื่องมือ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม ๓. เกณฑก์ ำรประเมิน การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ ๒ รายการ ถือว่า ผ่ำน ผ่าน ๑ รายการ ถอื วา่ ไมผ่ ำ่ น ขอ้ เสนอแนะ/ควำมคิดเห็นของผบู้ รหิ ำร ................................................................................................................................................................ ................. ................................................................................................................................................................................. (ลงชือ่ )..........................................ผู้บริหาร (นายมะนาเซร์ มาแล) ผูอ้ านวยการโรงเรียนบา้ นย่ีงอ วันท่ี ……… เดือน………………..พ.ศ………….

99 บนั ทึกผลหลังกำรจัดกำรเรยี นรู้ ๑. ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... .................................................................................................................................................................... ............. ...................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................. ................................ ................................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. ............................ ..................................................................................................................................................... ............................ ....................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................... ๒. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... .............................................................................................................................................................. ................... ....................... ๓.แนวทางแก้ไข ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ......................................................................................... (ลงช่ือ)...........................................ครผู ้สู อน (นางสาวยูลยี ะห์ แม้เร๊าะ) ครชู านาญการโรงเรียนบา้ นยง่ี อ วนั ท่ี…………. เดือน………………พ.ศ.…………...

100 แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๘ กล่มุ สำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๒ เรื่องมำตรำตัวสะกด...มีทัง้ หมด ๘ มำตรำ เวลำ ๔ ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ี่ ๔ เรอ่ื ง มาตราตัวสะกด จดจาไดห้ มด ใช้ได้ถูกต้อง เวลำ ๑ ชัว่ โมง วันที เดือน พ.ศ ภำคเรียนที่ ๑ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ ตวั ช้วี ัด ท ๔.๑ ป. ๔/๑ สะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทตา่ ง ๆ สำระสำคญั การอ่านและเขียนคาถูกต้อง รวมท้ังร้คู วามหมายของคา มีคุณค่าต่อการติดตอ่ สื่อสาร และการศึกษาหา ความรู้ ทงั้ ยังเป็นการอนุรกั ษม์ รดกทางภาษาของไทยไวใ้ หย้ ่ังยืน จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๑. บอกความหมายของคาต่าง ๆ ได้ (K) ๒. เขยี นคาในมาตราตวั สะกดต่าง ๆ ได้ถูกต้อง (P) ๓. เห็นคุณค่าของการอ่านเขียน รู้ความหมายของคา (A) สำระกำรเรยี นรู้ ความหมายของคาในมาตราตัวสะกดตา่ ง ๆ กระบวนกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ขัน้ นำ ๑.ใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็ รว่ มกนั โดยครใู ชค้ าถามท้าทาย ดังน้ี ๏ มีชือ่ จงั หวัดใดบา้ งท่ีมคี ามาตรา ก กา และมาตรา กง ข้ันกิจกรรม ๒.ให้นกั เรยี นชว่ ยกันคิดคามาตอ่ คาหน้าหรือพยางคห์ นา้ ให้เป็นคาในมาตราตา่ ง ๆ เช่น อา - อาศัย อาลยั / อาคม อาศรม อารมณ์ / อาณตั ิ อากาศ อาทิตย์ อาบัติ อาพาธ อาฆาต อาเพศ / อาจิณ อาสญั อาคาร อาการ อากร อาจารย์ อาหาร / อาชพี อาภพั ๓. ใหน้ ักเรียนหาความหมายของคาท่ีสนใจคนละ ๒ - ๓ คา หรอื ใชบ้ างคาแต่งประโยค ๔.ให้นกั เรยี นแขง่ ขันกนั เขียนคาท่คี รูอา่ นทลี ะคาบนกระดาน เช่น กด - เกน (กฎเกณฑ์) ปรฺ ะ - พรฺ ึด (ประพฤติ) ทรฺ ิด - สะ - ดี , บุก - คะ - ลกิ , สะ - กน - นะ - คอน, สา - ร๕า.นใ,หบ้ทกุ ุก-คนคนร่ว, มเทกบนั พ-จิ พาะรณ- าบคุดว,า.คมวถาูกมต้อ- งโขลอบง,.คปารทะเ่ี พ- ื่อมนกุ เขยี น ชว่ ยกันแก้ไขใหถ้ ูกต้อง จากนั้น บอกความหมายของคาท่ีทราบ และช่วยกันคน้ หาความหมายของคาบางคาจากพจนานุกรม

101 ๖.ให้นกั เรยี นแบ่งเป็น ๘ กลุ่ม จากน้ันใหค้ รูทาตารางบนกระดานเปน็ ๘ ชอ่ ง ดังน้ี กง กม เกย เกอว กก กด กน กบ จากนนั้ ให้ตวั แทนกลมุ่ ๑ คน มาจบั ฉลากวา่ จะได้มาตราใด จากนัน้ ให้ครูนาหนงั สือพิมพ์ใหก้ ลุ่มละ ๑ ฉบับ หาคาท่ีอยใู่ นมาตราทจ่ี ับฉลาก แลว้ เขียนบนกระดานให้ไดม้ ากท่ีสดุ แลว้ ให้ทุกคนร่วมกันพจิ ารณาความ ถกู ต้อง ขั้นสรปุ ๗. ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี ๏ การอา่ นและเขียนคาถกู ต้อง รวมทั้งรู้ความหมายของคา มีคุณค่าตอ่ การตดิ ตอ่ สอื่ สาร และการศึกษา หาความรู้ ทง้ั ยงั เป็นการอนุรักษม์ รดกทางภาษาของไทยไว้ใหย้ ่ังยนื ๘. ใหน้ ักเรยี นเขยี นแผนภาพความคดิ สรุปความร้เู รอื่ ง มาตราตัวสะกด ตวั อยา่ งแผนภาพ มาตรา กง มาตรา กม มี ง เปน็ ตัวสะกด มี ม เป็นตวั สะกด มาตรา กบ มี บ ป พ ฟ ภ เปน็ ตวั สะกด มาตรา กน มี น ณ ญ มาตราตวั สะกด มาตรา เกย ร ล ฬ เป็นตวั สะกด ๘ มาตรา มี ย เปน็ ตวั สะกด มาตรา กด มี ด จ ช ซ มาตรา กก มี ก ข ค ฆ มาตรา เกอว มี ว ฎฏฐฑฒตถทธ เปน็ ตวั สะกด เป็นตวั สะกด ศ ษ ส เปน็ ตัวสะกด สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้ ๑. บัตรคา ๒. กระดาษ A๔ ๓. ภาพ ๔. หนังสือพิมพ์ ๕. ฉลาก ๖. แถบประโยค

102 กระบวนกำรวัดผลประเมนิ ผล ๑. วิธีกำรวัดและประเมินผล ๑) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ๒. เครอ่ื งมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ๓. เกณฑ์กำรประเมนิ ๑) การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผา่ นตงั้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผ่ำน ผา่ น ๑ รายการ ถอื ว่า ไม่ผำ่ น ๒) การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คะแนน ๙ – ๑๐ ระดบั ดีมาก คะแนน ๗ – ๘ ระดบั ดี คะแนน ๕ – ๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐ – ๔ ระดบั ควรปรับปรงุ ขอ้ เสนอแนะ/ควำมคิดเห็นของผู้บรหิ ำร ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ........................................................................................................................... ...................................................... ................................................................................................................................................................................. (ลงชือ่ )..........................................ผู้บรหิ าร (นายมะนาเซร์ มาแล) ผู้อานวยการโรงเรยี นบา้ นยง่ี อ วันที่ ……… เดือน………………..พ.ศ………….

103 บันทกึ ผลหลงั กำรจดั กำรเรยี นรู้ ๑. ผลการจดั การเรียนรู้ ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................................................. .................... ............................................................................................................... .................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... .......................................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................ ..................................................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ๒. ปัญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................. .................................................... ............................................................................................................................................................... .................. ................................................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. .................................................... ๓.แนวทางแก้ไข .............................................................................................................................. ................................................... ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................... (ลงชอื่ )...........................................ครูผู้สอน (นางสาวยลู ยี ะห์ แม้เรา๊ ะ) ครูชานาญการโรงเรยี นบา้ นย่ีงอ วันท่ี…………. เดอื น……………. พ.ศ. …………...

104 บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ (หลงั หน่วยการเรียนรู้) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ........ รายวิชา................................................... ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ .......... 1.ผลการจัดการเรียนรู้ตามแบบประเมนิ จานวนนกั เรียน............คน ดา้ นความรู้ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน...........คน คดิ เป็น.......% ไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ......... คดิ เป็น........% ดา้ นทักษะกระบวนการ ผ่านเกณฑ์การประเมิน...........คน คดิ เปน็ .......% ไม่ผ่านเกณฑป์ ระเมิน ......... คิดเป็น........% ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน...........คน คดิ เป็น.......% ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน ......... คดิ เป็น........% (คิดเปน็ เปอรเ์ ซ็นตใ์ หบ้ นั ทึกตามจดุ ประสงคแ์ ละขอ้ ค้นพบ) 2. ปัญหาและอุปสรรค (ปัญหาทพ่ี บระหวา่ งการเรียนการสอน ท้ังภาพรวมและรายบคุ คล) ............................................................................................................................. .................................................... 3. ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไขในคร้ังตอ่ ไป ............................................................................................................................. .................................................... ................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ..................................................................... (..................................................................) ตาแหนง่ ............................................................... วนั ที.่ ........เดือน....................................พ.ศ. ................... 4.ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................. ............................... .................................................................................................... ............................................................................. ลงชื่อ..................................................................... (..................................................................) ตาแหนง่ ............................................................... วนั ท.่ี ........เดอื น....................................พ.ศ. ................... 5.ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................. ลงชื่อ..................................................................... (..................................................................) ตาแหน่ง............................................................... วนั ที.่ ........เดือน....................................พ.ศ. ...................

105 ขอ้ แนะนาในการเขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ องค์ประกอบของแผนการจดั การเรยี นรู้ ขอ้ แนะนาการเขียน 1.หัวแผน เขียนให้ชัดเจน กะทัดรัด เหมาะสมครอบคลุมเน้ือหาสาระการเรียนรู้และ เวลาท่กี าหนด 2.มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั หลักสตู รกาหนดใหส้ ่งิ ท่ตี ้องการเกิดข้ึนกับผู้เรียน ให้ครอบคลุมเมื่อจบหลกั สตู ร ผู้เรยี นจะเรยี นรู้อะไร และจะปฏบิ ัตอิ ะไรไดผ้ า่ นการเรียนรูจ้ ากสาระการเรยี นรู้ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กาหนดส่ิงที่ต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน โดยให้ครอบคลุมหัวข้อเร่ือง เน้น พฤติกรรมและจิตพสิ ัย โดยเขียนเปน็ ข้อ ๆ เรียงตามลาดับ 2. สาระสาคัญ เขียนให้กะทัดรัด เป็นหัวข้อย่อยหรือความเรียงก็ได้ แต่ต้องสอดคล้องกับช่ือ หน่วย หัวข้อเรื่อง เน้นให้รู้ว่าจะต้องเรียนรู้เก่ียวกับอะไรและเร่ืองนั้นสาคัญ อย่างไร 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กาหนดส่ิงท่ีต้องการให้เกิดข้ึนกับผู้เรียน โดยให้ครอบคลุมหัวข้อเร่ือง เน้น พฤติกรรม พุทธพิสัย ทักษะพิสัย และจิตพิสัย โดยเขียนเป็นข้อ ๆ เรียง ตามลาดบั 4. สาระการเรียนรู้ กาหนดให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ เวลา ระดับความรู้ของผู้เรียน จึง เรียงลาดับอย่างเหมาะสมจากง่ายไปหายาก โดยเขียนเน้นเฉพาะประเด็นท่ี สาคัญ (รายละเอยี ดอยใู่ นใบความรู้) 5.ภาระงาน ชิ้นงานท่ีทาให้ทราบว่าผู้เรียนได้ความรู้ มีทักษะสอดคล้องกับจุดประสงค์ ตัวช้ีวดั ตามแผนการจดั การเรยี นรู้ 6.การบูรณาการ ส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความรู้ ทักษะและวัดและประเมินผลควบคู่กับการจัดกิจกรรม ตามจุดประสงค์ 7.กิจกรรมการเรยี นรู้ ระบุกิจกรรมที่เลือกตามบทบาทของผู้สอนและผู้เรียน โดยเขียนให้ชัดเจนใน แต่ละขั้นตอนของกระบวนการจัดการเรียนรู้ และเหมาะสมกับเวลา หากมี หลายกิจกรรมต้องเป็นกิจกรรมต่อเนื่องตามลาดับท่ีต้องการให้เกิดการเรียนรู้ ตามจุดประสงค์การเรยี นรูท้ ก่ี าหนดไว้ 8. สอื่ การเรียนรู้ กาหนดให้สอดคล้องกับจุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ และ เวลา โดยทวั่ ไปจะแบ่งเปน็ ส่ือสง่ิ พมิ พ์ (เอกสาร ตารา ใบช่วยสอน) และส่ือโสต ทัศน์ 9. การวัดประเมินผล ต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์และกิจกรรม โดยท่ัวไปแบ่งเป็นการประเมิน ภาคทฤษฎี (ประเมินด้านพุทธพิสัยและจิตพิสัย) และการประเมินภาคปฏิบัติ (ประเมินด้านทักษะพิสัย) รวมทั้งต้องกาหนดเคร่ืองมือที่ใช้วัดและเกณฑ์การ ประเมินให้ชดั เจน 10. กจิ กรรมเสนอแนะ กาหนดให้สอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์ โดยอาจเป็นกจิ กรรมท่ีทานอก เวลาเพื่อเสริมความรคู้ วามเข้าใจ ทักษะและประสบการณ์ หรอื สงิ่ ทต่ี อ้ งเตรียม ลว่ งหนา้ 11. บนั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ระบุถึงข้อดี ข้อดอ้ ย ปญั หาอุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ และแนวทางแกไ้ ข

106 คากริยาเชงิ พฤตกิ รรมตามตวั ชว้ี ัดทง้ั 3 ด้าน ผลการเรยี นรู้ คาแสดงกริยาเชิงพฤติกรรม 1. ด้านพุทธิพสิ ยั (K) บอก เล่า อธบิ าย บรรยาย ระบุ ยกตวั อยา่ ง ฯลฯ 2. ดา้ นทกั ษะพิสัย (P) จาแนก จัดกลมุ่ เปรยี บเทียบ นาไปใช้ ประยุกต์ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ 2.1 กระบวนการคดิ ประเมิน ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหา คิดเป็นระบบ ฯลฯ ทางานเปน็ กลุ่ม ทางานเปน็ ทีม แสดงบทบาทหัวหน้า บทบาทเลขานกุ าร 2.2 กระบวนการกลุ่ม บทบาทสมาชกิ ฯลฯ ทดลอง ทากจิ กรรม ประดิษฐ์ สร้าง ออกแบบ คานวณ ผลิต พัฒนา ใช้ 2.3 การปฏิบตั ิ อุปกรณ์ ใชเ้ คร่ืองมอื ใช้วัสดุ ฯลฯ ฟัง พูด อ่าน เขยี น ดู ฯลฯ 2.4 กระบวนการนสอื่ สาร ทางานร่วมกับผู้อื่น มปี ฏิสมั พันธ์กบั ผอู้ นื่ โต้แยง้ อยา่ งมเี หตุผล ลดความ 2.5 กระบวนการสังคม ขัดแยง้ ขจดั ความขดั แยง้ ยอมรบั ฟัง ฯลฯ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 8 ข้อ ตระหนัก ใฝ่รู้ รบั ผดิ ชอบ ตรงเวลา รัก 3. ด้านจติ พิสยั (A) การอ่าน มุ่งม่ัน จิตอาสา คากริยาแสดงพฤตกิ รรมในจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ด้านพทุ ธิพสิ ัย(K)เพ่ือจัดทาแผนฯ ความรู้ ความเข้าใจ การนาไปใช้ การวเิ คราะห์ การสังเคราะห์ การประเมนิ คา่ (knowledge) (Comprehension) (application) (anylysis) (synthetic) (evaluation) บอก รวบรวม อธบิ าย ประยกุ ต์ จาแนกแยกแยะ เขยี นบรรยาย วิพากษ์ วิจารณ์ เลา่ ประมวล ช้ี เปรียบเทียบ ขยาย ปรับปรุง หาข้ออา้ งองิ หา อธิบาย เลา่ บอก ตัดสิน จัดลาดบั ระบุ ความ แสดง แกป้ ัญหา เหตผุ ล หา เรยี บเรียง สรา้ ง จดั ประเมนิ ค่า ให้ความหมาย ความเหน็ เลอื ก จัด ทา หลกั ฐาน ประดิษฐ์ แตง่ ตีคา่ สรปุ จาแนก ตีความหมาย ปฏิบัติ แสดง ตรวจสอบ หา ดัดแปลง ปรับแก้ ทา เปรียบเทียบ ใหค้ านิยม ท่อง คาดการณ์ สาธติ ผลติ ข้อสรุป จดั กลุ่ม ใหม่ ออกแบบ จดั อนั ดบั เลือก คาดคะเน สรปุ ย่อ หาหลักการ ปฏบิ ัติ คดิ ริเริ่ม กาหนดเกณฑ์ ทานาย บอก ระบุ ชี้ ตั้งสมมตฐิ าน ต้ัง ตดั สินใจ ใจความสาคญั กะ จุดม่งุ หมาย ทานาย แสดงความ ประมาณ แจกแจงรายละเอยี ด คดิ เหน็ ทานายจัดหมวดหมู่ ใหเ้ หตผุ ล แกป้ ญั หา บอกหลักฐาน

107 แบบประเมินผลงานของนกั เรยี น การปฏบิ ัติงาน เรอื่ ง ………………………………………..สาระท่ี….แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี….. ช้นั ....................... วนั ท่ี……เดอื น……..……….พ.ศ………. โรงเรียน.......................... ช่ือสมาชกิ .......................................................................................................................................................... ............ คาชี้แจง ใหใ้ ส่ / ลงในช่องประเมนิ ให้ตรงกับสภาพจรงิ ระดบั การปฏิบตั ิ หมายเหตุ รายการประเมนิ ไมท่ ุกคร้งั = 1 ทุกคร้ัง = 2 1. ความถูกตอ้ งสมบูรณข์ องเนื้อหาสาระ ………… …………. 2. ผลงานสามารถทาใหผ้ ู้อ่ืนเข้าใจการทางาน ………… ………… 3. การรว่ มมอื กันทางานดี ………… ……….. 4. ความสะอาด เรยี บร้อย สวยงามของผลงาน ………… ………. 5. การมแี หล่งข้อมูลในการค้นควา้ การทางาน ……….. ………… รวมคะแนน ……….คะแนน ลงชือ่ ………………………………….ผปู้ ระเมิน เกณฑ์การผ่าน 8- 10 ดีมาก 5 – 7 พอใช้ 1 – 4 ปรับปรุง (ตอ้ งไดค้ ะแนนไม่ต่ากวา่ 5 คะแนน) ผลการประเมนิ ( ) ผ่าน ( ) ไมผ่ า่ น ขอ้ เสนอแนะ..........................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook