Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฉลยหนังสือเรียน วิชาภาษีเงินได้นิติบุคคลกับการบัญชี

เฉลยหนังสือเรียน วิชาภาษีเงินได้นิติบุคคลกับการบัญชี

Published by skcmth2014, 2019-06-08 22:24:13

Description: เฉลยหนังสือเรียน วิชาภาษีเงินได้นิติบุคคลกับการบัญชี

Search

Read the Text Version

หนงั สอื เล่มนีเ้ รยี บเรียงตามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชา รหัสวชิ า และคำ�อธิบายรายวชิ า หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศักราช 2556 2201-2006 ของสำ�นกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ การบัญชี ประเภทวิชา พาณชิ ยกรรม สาขาวิชา 15 กลมุ่ ทักษะวิชาชพี เฉพาะ ประกาศล�ำ ดับที่ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คล กับการบัญชี ไดผ้ า่ นการตรวจประเมินคุณภาพจากส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ประจำ�ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ครงั้ ที่ 1 ผู้แตง่ อนงคน์ ุช ปอเจริญ

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)รหัสวิชา 2201-2006 ชอื่ วิชา ภาษเี งินได้นิติบคุ คลกบั การบัญชี ตรงตามจดุ ประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และค�ำ อธบิ ายรายวชิ า หลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พทุ ธศักราช 2556 สำ�นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ผูแ้ ต่ง อนงคน์ ชุ ปอเจริญ บรรณาธกิ าร อมรรตั น์ กรธี าธร ผู้ตรวจ วภิ า ปติ ยิ านวุ ัฒน์ ปีทพี่ ิมพ ์ 2559 พิมพ์ครง้ั ที ่ 1 จำ�นวนที่พมิ พ์ 3,000 เลม่ ราคา 167 บาท ISBN 978-616-05-2358-0 จัดพมิ พแ์ ละจดั จ�ำ หน่ายโดย สำ�นกั พิมพ์ บริษทั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จ�ำ กัด 701 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ติ กรุงเทพฯ 10300 โทร. 0-2243-8000 (อัตโนมตั ิ 15 สาย), 0-2243-1805 แฟกซ:์ ทุกหมายเลข, แฟกซ์อัตโนมัติ: 0-2241-4131, 0-2243-7666 website: www.iadth.com สงวนลิขสิทธ์ิ สำ�นักพมิ พ์ บรษิ ทั พฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จำ�กดั

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)ค�ำ นำ� หนงั สอื เรยี นวชิ า ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลกบั การบญั ชี รหสั วชิ า 2201-2006 จดั ท�ำ ขน้ึ ตามหลกั สตู ร- ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 ของสำ�นักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวง- ศึกษาธิการ เพ่ือตอบสนองวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ในการผลิตกำ�ลังคนระดับฝีมือท่ีมีสมรรถนะ วิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถนำ�ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ ตรงตามความตอ้ งการของตลาดแรงงานในลกั ษณะผปู้ ฏบิ ตั หิ รอื ผปู้ ระกอบอาชพี อสิ ระได้ ทงั้ นเ้ี นอ้ื หา และกิจกรรมต่างๆ ล้วนมุ่งสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดการเรียนการสอนที่เน้นการปฏิบัติจริง ให้ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการและมีทักษะทางด้านวิชาชีพ สามารถปฏิบัติงานในบริบทต่างๆ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวมถงึ การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรแู้ ละทกั ษะไปสบู่ รบิ ทใหม่ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองและผู้อ่ืน มีเจตคตแิ ละกจิ นสิ ยั ทเ่ี หมาะสมในการเปน็ สมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)  หนังสือเรยี นวิชา ภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลกบั การบญั ชี รหสั วิชา 2201-2006 เล่มนี้ได้จดั ทำ�ขน้ึ โดยผ่านการวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหาให้ตรงตามจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำ�อธิบายรายวิชาท่ีกำ�หนดไว้ในหลักสูตร แต่ละหน่วยการเรียนรู้ มีเนื้อหาสาระ กิจกรรม ตรวจสอบความเข้าใจ ใบชว่ ยสอนและกิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ เพือ่ สรา้ งกระบวนการเรยี นรู้และ ฝกึ ทักษะท่ีเหมาะสม โดยม่งุ หวังใหผ้ ู้เรียนได้ศกึ ษาและเกดิ การเรยี นร้สู ูงสุด สำ�นักพิมพ์ บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) จ�ำ กดั หวงั เป็นอย่างย่งิ ว่าหนงั สอื เรียนเลม่ น้ี จะช่วยให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในเน้ือหาสาระของวิชา สามารถพัฒนากระบวนการเรียนรู้ และความคิด รวมทั้งสามารถนำ�ความรู้และสมรรถนะท่ีเกิดขึ้นไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วันได้ สมดังเจตนารมณข์ องหลกั สตู ร และการปฏริ ูปการศึกษาอย่างครบถว้ นทกุ ประการ ส�ำ นกั พมิ พ์ บรษิ ัทพฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จ�ำ กดั

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)ค�ำ อธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า 2201-2006 ชื่อวิชา ภาษีเงินได้นิตบิ คุ คลกับการบัญชี 3-0-3 วิชาบงั คับก่อน: 2200-1003 การบัญชเี บอื้ งตน้ 2 จดุ ประสงคร์ ายวชิ า เพื่อให้ 1. มคี วามเข้าใจหลกั การและกระบวนการปฏบิ ัตงิ านบญั ชีทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับภาษีเงนิ ได้นติ ิบคุ คล 2. มีทักษะปฏิบัติงานบัญชีเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลตามหลักการบัญชีท่ีได้รับรองทั่วไปและ ทกี่ ฎหมายก�ำ หนด 3. มีกจิ นสิ ัย มรี ะเบยี บ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่อื สัตย์ มวี นิ ัยตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อวชิ าชีพ บัญชี สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับหลกั การภาษเี งินไดน้ ิตบิ ุคคล 2. บันทึกบญั ชีและค�ำ นวณภาษีเงินได้นิติบคุ คลตามประมวลรษั ฎากร คำ�อธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล การคำ�นวณกำ�ไรสุทธิเพ่ือ เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล การบันทึกบัญชี วิธีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลคร่ึงรอบ และส้ินรอบระยะเวลาบญั ชี ศกึ ษาและปฏบิ ตั ิเกีย่ วกบั ผ้มู ีหนา้ ทีห่ กั ภาษี ณ ทจี่ ่าย การคำ�นวณ การบนั ทึกบญั ชี การจดั ทำ� หนังสอื รับรองการหกั ภาษี ณ ท่ีจา่ ย และวธิ ีการน�ำ สง่ ภาษหี กั ณ ท่จี ่าย ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับผู้มีหน้าท่ีเสียภาษีมูลค่าเพ่ิม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ ผู้ได้รับการยกเวน้ ภาษี การค�ำ นวณภาษี การบันทึกบญั ชี วิธีการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพิม่ และภาษีธรุ กจิ เฉพาะ

ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้อง ของเนื้อหากบั จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม รหัสวิชา 2201-2006 ชอ่ื วิชา ภาษเี งนิ ได้นิติบคุ คลกบั การบญั ชี 3-0-3 ความำจ�สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ความเข้าใจ จุดประสงค์ สมรรถนะจุดประสงค์เชงิ พฤติกรรม การประ ุยกต์ใช้ช่อื หนว่ ยรายวิชา รายวิชาพทุ ธพิ ิสยั (70) การวิเคราะ ์ห การประเมิน12312 ความคิดส ้รางสรรค์ ิจตพิ ัสย (20)1. ภาษเี งินได้นติ บิ ุคคล ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 4 1.5 15.5 1 ัทกษะพิ ัสย (20) รวม ลำ� ัดบความ ำส� ัคญ 2. อัตราภาษีและการคำ�นวณภาษี ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 2 1.5 13.5 2 3. ภาษเี งนิ ได้นิตบิ คุ คลหัก ณ ทจี่ ่าย ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 4 1.5 15.5 1 4. ภาษมี ลู คา่ เพ่ิม ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 2 1.5 13.5 2 5. การบันทกึ บญั ชเี ก่ยี วกับ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 2 1.5 13.5 2 ภาษมี ูลคา่ เพมิ่ 6. ภาษีธรุ กิจเฉพาะ ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 4 1.5 15.5 1 7. อากรแสตมป ์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 2 2 2 2 2 - 2 1 13 3 รวม 14 14 14 14 14 - 20 10 100 ล�ำ ดับความสำ�คัญ 2 2 2 2 2 - 1 3 หมายเหตุ ความจำ� (Remembering), ความเข้าใจ (Understanding), การประยกุ ตใ์ ช้ (Applying), การวิเคราะห์ (Analysis), การประเมิน (Evaluating), ความคดิ สร้างสรรค์ (Creating) (ท่ีมา: Bloom’s Revised Taxonomy)

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)สารบญั หน้า หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ภาษเี งินได้นิติบคุ คล 9 1. ผูม้ หี น้าที่เสียภาษเี งนิ ได้นติ บิ ุคคล 11 2. นติ บิ คุ คลทีไ่ มต่ ้องเสยี ภาษีเงินได้นิตบิ ุคคล 12 3. ฐานภาษีของภาษีเงนิ ได้นิติบุคคล 13 4 ภาษีเงินได้นติ ิบุคคลค�ำ นวณจากกำ�ไรสทุ ธิ 13 5. ภาษีเงินได้นติ บิ ุคคลคำ�นวณจากยอดรายได้ก่อนหกั รายจ่าย 28 6. ภาษีเงนิ ได้นิติบุคคลส�ำ หรบั เงนิ ไดท้ ี่จ่ายจากหรอื ในประเทศไทย 30 7. ภาษีเงินได้นติ บิ คุ คลสำ�หรบั การจำ�หน่ายก�ำ ไรไปนอกประเทศ 31 8. สถานท่ยี ่นื แบบแสดงรายการภาษี 32 กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 34 กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ 35 แบบทดสอบ 37 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 อตั ราภาษีและการค�ำ นวณภาษ ี 41 1. อัตราภาษีและการคำ�นวณภาษี 43 2. การคำ�นวณเงนิ ไดน้ ติ ิบุคคลจากกำ�ไรสทุ ธิ 44 กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 80 กิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรู้ 81 แบบทดสอบ 82 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 ภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบุคคลหัก ณ ท่ีจา่ ย 86 1. ผู้มีภาษเี งินไดห้ กั ณ ท่ีจ่าย 88 2. ฐานภาษีและอตั ราภาษี 88 3. การจัดท�ำ เอกสารเกยี่ วกับภาษีเงนิ ไดห้ ัก ณ ทจ่ี ่าย 97 4. การบนั ทกึ รายการและการคำ�นวณภาษเี งนิ ได้นติ ิบุคคลหัก ณ ทจ่ี ่าย ตามหลักเกณฑ์และอัตราภาษที กี่ ฎหมายกำ�หนด 104

กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) หน้า กิจกรรมส่งเสรมิ การเรยี นรู้ แบบทดสอบ 109 110 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ 111 1. ความหมายของภาษีมูลค่าเพ่ิม 2. ผ้มู ีหนา้ ที่เสียภาษีมลู ค่าเพิ่ม 120 3. ผูป้ ระกอบการทไี่ ม่ตอ้ งจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพม่ิ 122 4. ผปู้ ระกอบการทไี่ ด้รับการยกเวน้ ภาษีมลู คา่ เพ่มิ ตามกฎหมาย 122 5. ภาษซี ้อื และภาษขี าย 123 6. ฐานภาษีและอตั ราภาษมี ูลคา่ เพ่ิม 123 กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 125 กิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ 126 แบบทดสอบ 144 145 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 การบันทกึ บญั ชีเกย่ี วกบั ภาษีมูลคา่ เพ่มิ 147 1. ใบก�ำ กับภาษี 2. การคำ�นวณภาษีมลู คา่ เพม่ิ 150 3. การบันทกึ บญั ชีเกี่ยวกบั ภาษีมลู คา่ เพิ่มในสมดุ รายวันทวั่ ไป 152 4. รายงานภาษีซื้อและรายงานภาษขี าย 167 5. รายงานสนิ คา้ และวตั ถดุ ิบ 168 กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจ 171 กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ 173 แบบทดสอบ 176 177 178

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 ภาษีธุรกจิ เฉพาะ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)หน้า 1. ผู้มีหนา้ ทเ่ี สียภาษีธุรกจิ เฉพาะ 2. กิจการท่ตี ้องเสียภาษธี ุรกิจเฉพาะ 182 3. กิจการท่ไี ดร้ ับการยกเวน้ ไม่ตอ้ งเสียภาษธี รุ กจิ เฉพาะ 184 4 ฐานภาษแี ละอัตราภาษ ี 184 5. ผู้ประกอบกิจการทีต่ อ้ งเสยี ภาษีธรุ กิจเฉพาะ 186 6. การค�ำ นวณและการบัญชีภาษีธรุ กิจเฉพาะ 189 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 191 กิจกรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ 207 แบบทดสอบ 209 211 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 อากรแสตมป ์ 212 1. ตราสารทต่ี อ้ งเสยี อากรแสตมป์ 2. ผมู้ หี น้าท่ีเสียอากรแสตมป์ 215 3. การเสียอากรแสตมป์สำ�หรับการทำ�ตราสาร 217 4. การยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกา และการลดอากรแสตมป์ 217 5. ความรับผดิ กรณไี มป่ ดิ แสตมป์บรบิ รู ณแ์ ละการไมอ่ อกใบรับ 217 6. ขอ้ เสยี ของตราสารทม่ี ไิ ด้ปดิ แสตมป์บริบรู ณ ์    219 7. การขอคนื เงนิ อากร 221 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ 223 กจิ กรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ 223 แบบทดสอบ 234 บรรณานกุ รม 235 236 238

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 ภาษีเงินไดน้ ติ ิบคุ คล สาระสำ�คญั ภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นภาษีอากรประเภทหน่ึงท่ีบัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร จัดเก็บ จากเงนิ ได้ของบริษัทหรอื ห้างหนุ้ สว่ นนติ บิ คุ คล สาระการเรยี นรู้ 1. ผมู้ หี น้าทเ่ี สยี ภาษเี งินได้นติ ิบคุ คล 2. นติ ิบุคคลท่ีไม่ต้องเสียภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบุคคล 3. ฐานภาษขี องภาษเี งนิ ได้นติ ิบุคคล 4 ภาษเี งินได้นิติบุคคลคำ�นวณจากก�ำ ไรสทุ ธิ 5. ภาษีเงินได้นติ ิบคุ คลคำ�นวณจากยอดรายได้กอ่ นหักรายจา่ ย 6. ภาษเี งินไดน้ ิติบุคคลสำ�หรับเงินได้ที่จา่ ยจากหรอื ในประเทศไทย 7. ภาษีเงินได้นติ ิบุคคลสำ�หรับการจำ�หน่ายก�ำ ไรไปนอกประเทศ 8. สถานที่ยน่ื แบบแสดงรายการภาษี

สมรรถนะประจำ�หน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับภาษเี งินได้นติ ิบุคคล 2. ประยุกต์ความรเู้ ก่ยี วกบั ภาษีเงนิ ได้นิติบคุ คลในชีวิตประจ�ำ วนั และการประกอบอาชีพ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายผมู้ ีหน้าทเี่ สียภาษเี งนิ ได้นติ ิบคุ คลได้ 2. อธิบายนิตบิ ุคคลทไ่ี ม่ตอ้ งเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิติบุคคลได ้ 3. อธบิ ายฐานภาษขี องภาษเี งนิ ได้นติ บิ ุคคลได ้ 4. อธิบายภาษีเงนิ ได้นติ บิ คุ คลคำ�นวณจากก�ำ ไรสทุ ธิได้ 5. อธิบายภาษเี งินได้นติ ิบุคคลคำ�นวณจากยอดรายได้ก่อนหักรายจ่ายได ้ 6. อธบิ ายภาษเี งินได้นิติบคุ คลสำ�หรบั เงินไดท้ ่จี ่ายจากหรือในประเทศไทยได ้ 7. อธบิ ายสถานท่ีย่ืนแบบแสดงรายการภาษีได้ 8. มีเจตคตทิ ่ีดใี นการเรยี น เร่อื ง ภาษเี งนิ ได้นิติบุคคล และรักษ์คา่ นยิ มหลกั 12 ประการของไทย สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ผงั สาระการเรียนรู้ ผมู้ หี น้าท่เี สยี ภาษเี งินได้นติ ิบคุ คล นิติบุคคลท่ีไม่ตอ้ งเสียภาษีเงินไดน้ ิตบิ คุ คล ภาษีเงนิ ได้ ฐานภาษีของภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล นติ บิ ุคคล ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคลค�ำ นวณจากกำ�ไรสุทธิ ภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลค�ำ นวณจากยอดรายไดก้ อ่ นหกั รายจ่าย ภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลส�ำ หรบั เงนิ ไดท้ ีจ่ ่ายจากหรือในประเทศไทย ภาษีเงินได้นิติบคุ คลส�ำ หรบั การจำ�หนว่ ยกำ�ไรไปนอกประเทศ สถานท่ยี ืน่ แบบแสดงรายการภาษี

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)34 ภาษีเงินได้นติ ิบุคคลกับการบญั ชี เฉลยอยู่ในภาคผนวกหน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ ค�ำช้ีแจง กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเปน็ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ เฉพาะดา้ นความรู้-ความจ�ำ เพื่อใชใ้ นการตรวจสอบความเข้าใจตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จงตอบคำ�ถามต่อไปน้ี 1. จงอธิบายผู้มหี น้าท่เี สยี ภาษเี งินไดน้ ติ ิบุคคล โดยสังเขป (จ.1) 2. จงอธิบายนิติบคุ คลที่ไม่ต้องเสียภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคล โดยสังเขป (จ.2) 3. จงอธบิ ายฐานภาษีของภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคล โดยสงั เขป (จ.3) 4 จงอธบิ ายภาษเี งนิ ไดน้ ิติบคุ คลคำ�นวณจากก�ำ ไรสทุ ธิ โดยสังเขป (จ.4) 5. จงอธิบายภาษเี งินได้นิติบคุ คลคำ�นวณจากยอดรายได้ก่อนหักรายจ่าย โดยสงั เขป (จ.5) 6. จงอธบิ ายภาษีเงินไดน้ ติ ิบคุ คลสำ�หรับเงินได้ท่ีจ่ายจากหรือในประเทศไทย โดยสงั เขป (จ.6) 7. จงอธิบายสถานทีย่ ่นื แบบแสดงรายการภาษี โดยสังเขป (จ.7) จ. หมายถึง ตรงตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ข้อท่ี ...

กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมท่ีผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตามความ ภาษีเงินได้นิตบิ คุ คล 35 เหมาะสม โดยผสู้ อนใหค้ ะแนนการทำ�กจิ กรรมตามเกณฑข์ องใบสรปุ ผลการทำ�กจิ กรรมและสามารถนำ�ผลการท�ำ กจิ กรรมไปเทยี บกบั การให้คะแนนกบั ตารางวเิ คราะหค์ วามสอดคล้องของเนือ้ หากบั จุดประสงค์รายวชิ าสมรรถนะรายวชิ า และจุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมได้ กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ ค�ำชแี้ จง กิจกรรมส่งเสรมิ การเรียนรปู้ ระกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝึกทักษะทุกด้านตาม จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรมเพ่ือใหเ้ กิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบตั กิ ิจกรรม ทั้งในและนอกสถานท่ตี ามความเหมาะสมของผูเ้ รียนและส่งิ แวดล้อมของสถานศึกษา สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) 1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยให้สมาชิกของแต่ละกลุ่มหาแบบแสดงรายการ เสียภาษีเงินได้ นิติบุคคล เพอ่ื ร่วมกนั อภิปรายในช้นั เรยี น พร้อมแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นระหว่างกลมุ่ 2. เขียนแผนผงั ความคิด เรือ่ ง ภาษเี งนิ ได้นติ ิบคุ คล 3. ประเมนิ ผลงานของผ้เู รียนตามเกณฑท์ ี่กำ�หนด พรอ้ มแจง้ ผลคะแนนเพอ่ื ให้ผ้เู รียนปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน 10–9 ดีมาก 4 คะแนน 8–7 ด ี 3 คะแนน 6-5 ปานกลาง 2 คะแนน 4–0 ปรับปรงุ 1 ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 43 21 1 เนื้อหาถกู ตอ้ งและทันสมยั 2 ความชดั เจนในการนำ�เสนอ 3 มีความพรอ้ มในกลุ่ม 4 มีความสามคั คีในกลุ่ม 5 มหี ลักฐาน/เอกสารประกอบการนำ�เสนอ สรุปในการน�ำ เสนอ จดุ เดน่ จุดดอ้ ย ข้อเสนอแนะ ผู้ประเมนิ

36 ภาษเี งนิ ได้นติ ิบคุ คลกบั การบญั ชี สรุปผลการทำ� กจิ กรรม ค�ำชีแ้ จง ใหป้ ระเมนิ ผลการท�ำกิจกรรม โดยเขยี นเครื่องหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจรงิ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมนิ ความร ู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติงานทีไ่ ดร้ บั การมมี นุษยสมั พนั ธ์ใน ท�ำ เครื่องหมาย ✓ การนำ�ไปใช้ การวเิ คราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏบิ ัติกจิ กรรม ในแตล่ ะตอน 3 ขอ้ การสงั เคราะห์ ที่ก�ำ หนด ความมีวนิ ัย ตรงต่อเวลา คอื ผา่ นการประเมนิ การประเมินค่า การปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความ ความซื่อสตั ย์สุจรติ การศึกษาค้นควา้ ละเอียด รอบคอบ ปลอดภัย ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K) เรยี บรอ้ ย สวยงาม ประพฤตติ นดว้ ยความ ผ่าน ไมผ่ า่ น การแสวงหาแหลง่ ขอ้ มลู ความสมบูรณข์ องงาน ถูกต้องตามศีลธรรม 2. ทกั ษะ (P) และการรวบรวมขอ้ มูล การปฏิบตั ิงานท่ีทำ�ใหเ้ กดิ อนั ดีงาม ผ่าน ไม่ผา่ น การแสดงความคิดเหน็ เจตคตทิ ดี่ ใี นการปฏิบัติ 3. คุณลักษณะ (A) อย่างมีเหตผุ ล หรอื แสดง สมรรถนะแกผ่ เู้ รยี น ขั้นตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคดิ กจิ กรรม ผา่ น ไมผ่ ่าน ทำ�กิจกรรม สรา้ งสรรค์ การออกแบบ ความพอเพียงและความ การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ ความร้ใู หม ่ การตดั สนิ ใจในการแก้ปญั หา หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการท�ำกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู ้ ตามบรบิ ทต่างๆ หรือไม่ โดยแบง่ เปน็ เป็น 3 ดา้ น คอื ความรู้หรือพทุ ธพิ ิสยั = Knowledge (K) ทกั ษะหรือทกั ษะพิสัย = Practice (P) คุณลักษณะหรอื จติ พิสัย = Attitude (A)

ผู้สอนใหผ้ ้เู รียนทำ�แบบทดสอบ จากนน้ั ให้ผู้เรยี นแลกกัน ภาษีเงินได้นิตบิ ุคคล 37 ตรวจคำ�ตอบ โดยผูส้ อนเป็นผเู้ ฉลย แบบทดสอบ จงทำ�เคร่อื งหมาย กากบาท ลงบนขอ้ ที่ตอบทถ่ี ูกตอ้ งทส่ี ดุ เพยี งหนึ่งขอ้ 1. ผูท้ มี่ ีหนา้ ท่เี สียภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล ได้แก่ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) 1. มหาวิทยาลัยของรัฐบาล 2. หอการคา้ จังหวัด 3. พรรคการเมอื งทุกพรรค 4. กิจการรว่ มค้า 5. ทั้งขอ้ 2 และข้อ 3 1. 4. ตามประมวลรัษฎากรกิจการร่วมค้า 2. ส�ำ หรบั ธุรกิจที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 52 เปน็ ธุรกจิ ประเภทใด ถือเปน็ ผู้มหี น้าท่เี สียภาษเี งินไดน้ ิติบคุ คล 1. ภาษีเงนิ ไดจ้ ากกำ�ไรสุทธิ 2. 2. ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลคำ�นวณ 2. ภาษเิ งินได้นติ บิ ุคคลจากยอดรายไดก้ อ่ นหกั รายจา่ ย จากยอดรายไดก้ อ่ นหกั รายจา่ ย 3. ภาษีเงินไดน้ ติ บิ คุ คลสำ�หรบั เงนิ ไดท้ จ่ี า่ ยจากหรอื ในประเทศไทย แบบแสดงรายการที่ใช้ย่ืน คือ 4. ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลสำ�หรับการจ�ำ หนา่ ยก�ำ ไรไปนอกประเทศ ภ.ง.ด.52 (ย่ืนรอบระยะเวลา บัญชีละ 1 ครัง้ ) 5. ทัง้ ขอ้ 1 และข้อ 2 3. บรษิ ทั เมตตา จ�ำ กดั ไดท้ �ำ การสรา้ งถนนเขา้ หมบู่ า้ นเนนิ สงู โดยใชเ้ งนิ ของบรษิ ทั และไดโ้ อนกรรมสทิ ธิ ให้แก่ส่วนราชการ โดยไม่มีคา่ ตอบแทนนั้น จดั เปน็ รายจ่ายใด 1. จดั เปน็ รายจา่ ยเพอ่ื การกีฬา 3. 2. การก่อสร้างถนนและได้โอนกรรมสิทธ์ิให้แก่ส่วน 2. จดั เปน็ รายจา่ ยเพื่อการสาธารณประโยชน ์ ราชการและองค์การของรัฐบาลโดยไม่มีค่าตอบแทน ทั้งน้ี เฉพาะส่วนราชการหรือองค์การของรัฐบาล 3. จดั เปน็ รายจา่ ยเพอ่ื การศกึ ษา ผู้รับโอนได้ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในถนนดังกล่าว 4. จดั เป็นรายจ่ายเพือ่ การกศุ ล จดั เป็นรายจ่าย เพือ่ การสาธารณประโยชน์ 5. ทง้ั ขอ้ 2 และขอ้ 3 4. การยนื่ แบบ ภ.ง.ด. 55 ใชส้ ำ�หรบั ธุรกจิ ประเภทใด 4. 2. ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลคำ�นวณ 1. ภภภาาาษษษเีีเเี งงงนินินิ ไไไดดดน้จ้น้ าตติิ กิบิบกคุุคำ�คคไรลลสจสุทาำ�ธกหิ ยร ับอ ดเงรนิ าไยดไท้ดจ่ี้ก่า่อยนจหากกั หรารยือจในา่ ยป ร ะเทศไทย รจมส ารีมายากยาจคไย่าดยมอ้ แทดบป่ีปบรรแะราเสะยภดกไทงอดรมา้บกูลย่กนกอิจิาธนริแกทหลาใี่ั กชะร ้ 2. 3. 4. ภาษีเงินไดน้ ิตบิ คุ คลสำ�หรับการจ�ำ หนา่ ยก�ำ ไรไปนอกประเทศ ยนื่ คอื ภ.ง.ด.55(ยน่ื รอบระยะ 5. ทั้งข้อ 3 และข้อ 4 เวลาบญั ชลี ะ 1 คร้ัง) 5. บรษิ ทั นนั ยาง จำ�กัด จัดกิจกรรมทำ�บญุ ประจ�ำ ปีของบรษิ ัทและแจกทุนการศกึ ษาให้กบั ผู้เรยี นระดับ อาชีวศกึ ษา จ�ำ นวน 10 ทนุ ๆ ละ 10,000 บาท จดั เป็นรายจา่ ย ใด 1. จดั เป็นรายจ่ายเพอ่ื การกีฬา 2. จดั เปน็ รายจ่ายเพ่อื การสาธารณประโยชน ์ 3. จัดเปน็ รายจา่ ยเพอื่ การศึกษา 4. จัดเปน็ รายจา่ ยเพอ่ื การกศุ ล 5. ทง้ั ขอ้ 1 และขอ้ 3 5. 3. การใหท้ ุนการศกึ ษาแกน่ กั เรยี น นสิ ติ นักศกึ ษา เปน็ การท่ัวไป เป็นรายจ่ายเพอ่ื การศึกษา

38 ภาษเี งินได้นิติบคุ คลกบั การบัญชี 6. บรษิ ัท เสียงทอง จำ�กัด ท�ำ ธรุ กจิ ผลติ แผ่นซดี ี และเทปเพลง เพ่อื การจำ�หนา่ ยในประเทศไทย ไดจ้ า่ ย เงินสดให้บริษัท กิมจองกุ๊ก จำ�กัด ประเทศเกาหลีใต้ จำ�นวน 20 ล้านบาท เพ่ือเป็นค่าลิขสิทธ์ิเพลง ซ่งึ จัดเปน็ การเสียภาษปี ระเภทใด 6. 3. ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำ�หรับเงินได้ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย ผู้มีหน้า 1. ภาษีเงนิ ไดจ้ ากกำ�ไรสทุ ธ ิ ท่ีเสียภาษี ได้แก่ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีตั้งข้ึนตามกฎหมายของ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ท่ี มิ ไ ด้ ป ร ะ ก อ บ 2. ภาษิเงนิ ได้นติ บิ คุ คลจากยอดรายไดก้ อ่ นหักรายจ่าย กิจการในประเทศไทย และได้รับ 3. ภาษเี งินได้นิตบิ ุคคลสำ�หรบั เงนิ ไดท้ จ่ี ่ายจากหรอื ในประเทศไทย เงินได้พงึ ประเมิน ตามมาตรา 40 4. ภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลสำ�หรับการจ�ำ หนา่ ยก�ำ ไรไปนอกประเทศ (2) (3) (4) (5) หรอื (6) ทจี่ า่ ยจาก 5. ท้ังขอ้ 1 และขอ้ 2 หรือในประเทศไทย 7. บริษทั เชดิ ชยั จำ�กดั ด�ำ เนนิ ธรุ กจิ เก่ยี วกับการขนส่งคนโดยสาร ดงั นั้นต้องเสยี ภาษีเงนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล ประเภทใด 7. 2. ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลคำ�นวณจากยอดราย 1. ภาษเี งนิ ได้จากกำ�ไรสุทธ ิ ได้ก่อนหักรายจา่ ย ผูม้ ีหนา้ ท่ีเสยี ภาษี ไดแ้ ก่ 2. ภาษเิ งนิ ไดน้ ติ ิบุคคลจากยอดรายไดก้ อ่ นหักรายจา่ ย กิจการขนส่งระหว่างประเทศ ของบริษัท 3. ภาษีเงินได้นติ ิบุคคลสำ�หรบั เงนิ ได้ทจ่ี ่ายจากหรือในประเทศไทย ห รือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่าง ประเทศ และมลู นธิ ิหรอื สมาคม 4. ภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบุคคลสำ�หรบั การจ�ำ หนา่ ยก�ำ ไรไปนอกประเทศ ทปี่ ระกอบกิจการแล้วมรี ายได้ 5. ทง้ั ข้อ 1 และข้อ 3 8. การยน่ื แบบแสดงรายการเสียภาษีของแบบ ภ.ง.ด. 55 ตอ้ งย่ืนแบบภายในระยะเวลา เท่าใด 1. ภายใน 7 วนั 8. 3. มูลนธิ แิ ละสมาคมทปี่ ระกอบกจิ การมรี าย 2. ภายใน 120 วนั ได้ต้องย่ืนแบบ ภ.ง.ด. 55 และชำ�ระภาษี 3. ภายใน 150 วัน ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบ 4. ภายใน 2 เดือน ระยะเวลาบัญชี 5. ภายใน 1 ปี 9. การย่นื แบบแสดงรายการเสียภาษีของแบบ ภ.ง.ด. 54 ตอ้ งยนื่ แบบภายในระยะเวลาเทา่ ใด 1. ภายใน 7 วัน 2. ภายใน 120 วนั 3. ภายใน 150 วัน 4. ภายใน 2 เดอื น 5. ภายใน 3 เดอื น 10. ตามประกาศกระทรวงการคลัง ก�ำ หนดใหก้ จิ การวิเทศธนกิจ ต้องเสียภาษใี นอตั ราใด 1. รอ้ ยละ 30 2. รอ้ ยละ 25 9. 1. ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหักภาษี ณ ท่ีจ่าย และยื่นแบบแสดงรายการ 3. ร้อยละ 20 4. ร้อยละ 10 ภาษีของแบบ ภ.ง.ด.54 และ นำ�ส่งภาษีภายใน 7 วัน นับแต่ 5. รอ้ ยละ 5 10. 4.คา่ ธรรมเนยี มคาํ้ ประกนั เงนิ กยู้ มื ในทางปฏบิ ตั ิ วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้ พึงประเมนิ ถือเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) ซ่ึง ต้องให้ค�ำ นวณหักภาษี ในอัตราร้อยละ 10

ภาษเี งินไดน้ ิติบุคคล 39 แบบประเมนิ ตนเอง ค�ำชีแ้ จง ตอนท่ี 1 ให้ผเู้ รยี นประเมนิ ผลการเรียนรู้ โดยเขียนเครื่องหมาย ✓ลงในช่องระดับคะแนน และเติมขอ้ มลู ตามความเปน็ จรงิ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากท่ีสดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรับปรุง ตอนที่ 2 ใหผ้ ูเ้ รียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง และเขยี นเคร่อื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งสรุปผล ตอนท่ี 1 (ผลการเรียนรู้) 5 4 3 2 1 ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ) รายการ แบบทดสอบ 1. ผเู้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเนอ้ื หา คะแนน 2. ผเู้ รียนได้ท�ำกิจกรรมทส่ี อดคล้องกับเนอ้ื หาและจุดประสงค ์ (ข้อละ 1 คะแนน) การเรียนรู้ สรปุ ผล 3. ผเู้ รยี นไดเ้ รียนและท�ำกิจกรรมทีส่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ เกิดการคน้ พบความรู้ 9-10 (ดมี าก) 7-8 (ดี) 4. ผู้เรยี นสามารถประยุกตค์ วามรู้เพอี่ื ใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจ�ำวนั ได้ 5-6 (พอใช)้ ตาํ่ กวา่ 5 5. ผู้เรยี นได้เรียนร้อู ะไรจากการเรียน (ควรปรบั ปรงุ ) 6. ผเู้ รยี นตอ้ งการท�ำส่งิ ใดเพือ่ พฒั นาตนเอง 7. ความสามารถท่ีถอื ว่าผ่านเกณฑ์ประเมนิ ของผเู้ รียน คอื

สถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) บันทึก

1สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 อัตราภาษแี ละการค�ำ นวณภาษี สาระสำ�คญั อัตราภาษี ไดแ้ ก่ 1. ภาษีจากกำ�ไรสทุ ธขิ องบริษัทหรอื ห้างหุ้นสว่ นนิติบุคคลร้อยละ 30 2. ภาษจี ากก�ำ ไรสทุ ธเิ ฉพาะกรณที ไ่ี ดจ้ ากการประกอบกจิ การวเิ ทศธนกจิ ตามประกาศกระทรวง การคลัง เรื่องการประกอบกิจการวิเทศธนกิจของธนาคารพาณิชย์ ลงวันท่ี16 กันยายน 2535 ร้อยละ 10 การคำ�นวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำ�ไรสุทธิ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าท่ี เสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คลจากกำ�ไรสทุ ธแิ ละตอ้ งค�ำ นวณภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล และยน่ื แบบแสดงรายการ และช�ำ ระภาษีปีละ 2 คร้ัง เมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี การคำ�นวณกำ�ไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลให้ ค�ำ นวณก�ำ ไรสทุ ธติ ามเงอื่ นไขทบ่ี ญั ญตั ไิ วใ้ นประมวลรษั ฎากร โดยน�ำ ก�ำ ไรสทุ ธดิ งั กลา่ วคณู ดว้ ยอตั รา ภาษเี งินได้นิติบคุ คล จะไดภ้ าษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลทตี่ อ้ งชำ�ระ ถ้าคำ�นวณกำ�ไรสทุ ธิออกมาแลว้ ปรากฏวา่ ไม่มกี ำ�ไรสทุ ธิ หรอื ขาดทนุ สุทธิ บริษัทไมต่ อ้ งเสียภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คล ถ้าการจดั ท�ำ บญั ชีของบรษิ ัท ไดจ้ ัดท�ำ ข้นึ ตามหลกั บัญชโี ดยไม่ได้ปฎบิ ตั ิตาม

สาระการเรยี นรู้ 1. อัตราภาษแี ละการคำ�นวณภาษี 2. การค�ำ นวณเงนิ ได้นติ ิบคุ คลจากกำ�ไรสุทธิ สมรรถนะประจำ�หนว่ ย 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั อัตราภาษีและการค�ำ นวณภาษี 2. ประยกุ ตค์ วามรเู้ กย่ี วกบั อัตราภาษแี ละการค�ำ นวณภาษีในชีวติ ประจ�ำ วัน และการประกอบอาชพี จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายอัตราภาษแี ละการคำ�นวณภาษีได้ 2. อธิบายการคำ�นวณเงนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลจากก�ำ ไรสุทธไิ ด้ 3. มเี จตคตทิ ีด่ ใี นการเรยี น เรื่อง อตั ราภาษแี ละการค�ำ นวณภาษี และรักษ์ค่านิยมหลกั 12 ประการของไทย ผังสาระการเรยี นรู้ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) อตั ราภาษแี ละ อัตราภาษีและการค�ำ นวณภาษี การคำ�นวณ การคำ�นวณเงินไดน้ ิตบิ คุ คลจากก�ำ ไรสทุ ธิ ภาษี

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)80 ภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลกบั การบญั ชี เฉลยอย่ใู นภาคผนวกหนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ค�ำชีแ้ จง กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเป็นกิจกรรมฝึกทักษะ เฉพาะด้านความร-ู้ ความจ�ำ เพือ่ ใชใ้ นการตรวจสอบความเข้าใจตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จงตอบค�ำ ถามต่อไปน้ี 1. จงอธิบายอตั ราภาษี โดยสงั เขป (จ.1) 2. จงอธบิ ายการค�ำ นวณภาษี โดยสงั เขป (จ.1) 3. จงอธิบายการคำ�นวณเงนิ ไดน้ ิตบิ คุ คลจากกำ�ไรสุทธิ โดยสังเขป (จ.2) 4 จงอธิบายการกรอกแบบและย่ืนแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำ�ไรสุทธิ โดยสังเขป (จ.2) 5. การเรียนเร่อื งการอตั ราภาษแี ละการคำ�นวณภาษมี ปี ระโยชน์ตอ่ ผเู้ รียนอย่างไร (จ.1, จ.2) จ. หมายถงึ ตรงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ขอ้ ท่ี ...

กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมที่ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตามความ อัตราภาษแี ละการค�ำ นวณภาษี 81 เหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการท�ำ กิจกรรมตามเกณฑ์ของใบสรุปผลการท�ำ กิจกรรมและสามารถน�ำ ผลการทำ� กิจกรรมไปเทยี บกบั การใหค้ ะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคลอ้ งของเน้อื หากับจุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมได้ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ค�ำชแ้ี จง กจิ กรรมส่งเสริมการเรยี นรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายทฝี่ กึ ทกั ษะทุกด้านตาม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมเพ่อื ให้เกดิ สมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏิบัตกิ ิจกรรม ท้งั ในและนอกสถานทต่ี ามความเหมาะสมของผเู้ รียนและสิง่ แวดลอ้ มของสถานศกึ ษา 1. ให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยสมาชิกของแต่ละกลุ่มคิดโจทย์เพื่อการกรอกแบบ แสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล ภ.ง.ด.51 และ ภ.ง.ด.50 พร้อมนำ�เสนอผลงานหน้าช้ันเรียน ของแตล่ ะกลมุ่ เพื่อการแลกเปล่ยี นความคิดเห็นของแตล่ ะกลุ่ม 2. ให้ผู้เรียนจับคู่กับเพ่ือนร่วมช้ันเรียน ค้นหาประโยชน์ของอัตราภาษีและการคำ�นวณภาษีต่อองค์กร ธรุ กิจและประเทศชาติ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) สรปุ ผลการทำ� กิจกรรม ค�ำช้แี จง ให้ประเมินผลการท�ำกิจกรรม โดยเขียนเคร่อื งหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเปน็ จรงิ ความรู้ (K) ทักษะ (P) คณุ ลกั ษณะ (A) เกณฑ์การประเมนิ ความร ู้ ความเข้าใจ การปฏิบัติงานท่ีไดร้ ับ การมีมนษุ ยสมั พนั ธใ์ น ท�ำ เคร่ืองหมาย ✓ การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสรจ็ ตามเวลา การปฏิบตั ิกิจกรรม ในแต่ละตอน 3 ข้อ การสงั เคราะห์ ทก่ี �ำ หนด ความมวี ินยั ตรงตอ่ เวลา คอื ผ่านการประเมนิ การประเมินคา่ การปฏิบัติงานดว้ ยความ ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต การศกึ ษาคน้ ควา้ ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภัย ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K) เรยี บรอ้ ย สวยงาม ประพฤติตนด้วยความ ผา่ น ไมผ่ า่ น การแสวงหาแหล่งขอ้ มูล ความสมบูรณข์ องงาน ถูกตอ้ งตามศีลธรรม 2. ทักษะ (P) และการรวบรวมขอ้ มลู การปฏิบตั งิ านทท่ี ำ�ใหเ้ กิด อันดงี าม ผา่ น ไม่ผา่ น การแสดงความคิดเห็น เจตคติทดี่ ีในการปฏบิ ตั ิ 3. คุณลกั ษณะ (A) อย่างมเี หตผุ ล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ ู้เรยี น ขั้นตอนและกระบวนการ ทักษะการวางแผน การคิด กิจกรรม ผา่ น ไมผ่ ่าน ทำ�กิจกรรม สรา้ งสรรค์ การออกแบบ ความพอเพียงและความ การหาประสบการณ์ การผลิต พอประมาณ ความรู้ใหม ่ การตัดสินใจในการแกป้ ัญหา หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการท�ำกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู ้ ตามบรบิ ทต่างๆ หรอื ไม่ โดยแบง่ เปน็ เป็น 3 ดา้ น คอื ความรูห้ รอื พทุ ธพิ สิ ยั = Knowledge (K) ทกั ษะหรอื ทกั ษะพสิ ัย = Practice (P) คณุ ลักษณะหรือจิตพสิ ยั = Attitude (A)

82 ภาษีเงนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลกับการบัญชี ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบจากนั้นให้ผู้เรียน แลกกนั ตรวจคำ�ตอบ โดยผูส้ อนเป็นผเู้ ฉลย เฉลยอยูใ่ นภาคผนวกหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 แบบทดสอบ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)1. บริษัท วิเชียร จำ�กัด ได้ประมาณการกำ�ไรสุทธิประจำ�ปี 2555 จำ�นวน 1,600,000 บาท บริษัทต้อง ชำ�ระภาษเี งินได้นติ ิบคุ คลสำ�หรับคร่งึ รอบระยะเวลาบญั ชตี ามประมวลรษั ฎากร ใหท้ ำ� 1. การคำ�นวณภาษีเงินไดน้ ิตบิ คุ คลครึง่ รอบระยะเวลาบัญชีแรกเทา่ ใด 2. บันทกึ รายการบญั ชใี นสมุดรายวนั ทั่วไป 2. จากโจทยข์ ้อที่ 1 บรษิ ัท วเิ ชยี ร จำ�กัด ดำ�เนนิ กจิ การครบรอบระยะเวลาบญั ชใี นปี 2555 ผลการดำ�เนนิ งานมกี ำ�ไรสทุ ธิ จำ�นวน 1,800,000 บาท ใหท้ �ำ 1. การคำ�นวณภาษีเงินไดน้ ติ ิบุคคลประจำ�ปี 2555 จำ�นวนเทา่ ใด 2. บันทึกรายการบัญชใี นสมุดรายวันท่วั ไป 3. บริษัท ยิ่งรวย จำ�กัด ดำ�เนินกิจการขายรถยนต์ ตั้งข้ึนตามกฎหมายไทยไม่ได้จดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มชนิดเต็มรูปแบบ ในรอบระยะเวลา บญั ชใี นปี 2555 มผี ลการด�ำ เนนิ งานก�ำ ไรสทุ ธิ จ�ำ นวน 4,450,000 บาท จากการตรวจสอบบญั ชปี รากฏ ว่ามีรายการบญั ชีทไี่ มเ่ ข้าหลกั เกณฑต์ ามประมวลรษั ฎากร ดังน้ี 3.1 การบริจาคเงินสนับสนุนโรงเรยี นวัดนวลจนั ทน์ จำ�นวน 50,000 บาท ได้บนั ทึกเปน็ รายจ่าย ทัง้ หมด 3.2 บริษัทได้ขายอาคารพาณิชย 3 ช้นั จำ�นวน 2 คูหา ราคาขาย 3,100,000 บาท ราคาประเมิน ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโดยเจ้าหน้าท่ี ราคา 3,000,000 บาท ได้บันทึกเป็นรายได้ โดยใช้ ราคาขาย 3.3 จา่ ยคา่ ท�ำ ขวญั ใหก้ บั ทายาทของพนกั งานจำ�นวน 40,000 บาท บนั ทกึ เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ จำ�นวน 3.4 ไดร้ บั เงนิ ปนั ผลจากบรษิ ทั มานะชยั จ�ำ กดั เปน็ บรษิ ทั ทไี่ มไ่ ดจ้ ดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ย์ จำ�นวน 30,000​ บาท บนั ทกึ ไวเ้ ป็นรายได้ทงั้ หมด 3.5 ไดร้ บั เงนิ ปนั ผลจากบรษิ ทั รกั การบนิ จ�ำ กดั จ�ำ นวน 40,000 บาท บนั ทกึ ไวเ้ ปน็ รายไดท้ งั้ หมด ใหท้ �ำ 1. การคำ�นวณกำ�ไรสุทธเิ พื่อการเสีย ภาษีเงินได้นิตบิ ุคคลประจำ�ปี 2555 2. บนั ทกึ รายการบัญชีในสมดุ รายวันทว่ั ไป 4. บรษิ ทั ทานตะวนั จำ�กัด ด�ำ เนนิ กจิ การในปี 2555 มกี �ำ ไรสุทธิ จำ�นวน 7,800,000 บาท ซึ่งกจิ การม ี ยอดขายก่อนหกั ค่าใชจ้ า่ ย จ�ำ นวน 27,800,000 บาท รายจา่ ยตลอดปีภาษี จำ�นวน 17,950,000 บาท กิจการมีผลขาดทนุ ตดิ ต่อกนั เป็นเวลา 3 ปี จำ�นวน 2,050,000 บาท นอกจากนมี้ ีภาษีเงนิ ไดห้ กั ณ ทจ่ี ่าย จ�ำ นวน 600,000 บาท ใหท้ ำ� 1. การคำ�นวณกำ�ไรสทุ ธิเพื่อการเสียภาษเี งินได้นติ บิ คุ คลประจำ�ปี 2555 2. บันทึกรายการบัญชใี นสมดุ รายวนั ทั่วไป

อตั ราภาษีและการค�ำ นวณภาษี 83 5. บรษิ ทั กระชบั มติ ร จ�ำ กดั เปน็ บรษิ ทั ทจี่ ดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพมิ่ แตไ่ มจ่ ดทะเบยี นกบั ตลาดหลกั ทรพั ย ์ แห่งประเทศไทย ดำ�เนนิ กจิ การในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2555 งบกำ�ไรขาดทุน รายได้:- ขายสนิ ค้า 4,280,000 สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) เงินปันผลและสว่ นแบ่งกำ�ไรขาดทนุ 1,050,000 ดอกเบยี้ รับ 200,000 รวม 5,530,000 รายจ่าย:- ต้นทนุ ขาย 1,050,000 ค่าซ่อมแซมอาคาร 135,000 คา่ เบีย้ ประกันภัย 300,000 คา่ โฆษณา 170,000 คา่ เชา่ รถยนต์ 200,000 ค่ารับรอง 155,000 ค่าเส่ือมราคา–เคร่อื งจกั ร 120,000 เงินเดอื น 500,000 ค่าการกุศลเพ่ือการศกึ ษา 50,000 ภาษีมูลค่าเพม่ิ 180,000 2,860,000 กำ�ไรสุทธ ิ 2,670,000 จากการตรวจสอบเอกสารและการลงบญั ชีพบข้อผดิ พลาดดังตอ่ ไปนี้ 1. คา่ ซ่อมแซมอาคารในปี 2555 มจี ำ�นวน 120,000 บาท 2. ค่าเช่ารถยนต์เป็นของปี 2556 จำ�นวน 20,000 บาท 3. เงนิ ปันผลและสว่ นแบง่ กำ�ไรขาดทนุ ท่ีไดร้ ับจาก 3.1 เงินปันผลจากบริษัท นันทนา จำ�กัด เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย จำ�นวน 350,000 บาท 3.2 เงนิ ปันผลบรษิ ัท ซเี อ็มบี จำ�กัด จ�ำ นวน 130,000 บาท 3.3 ส่วนแบ่งกำ�ไรขาดทุนจากบริษทั ในเครอื จ�ำ นวน 570,000 บาท 4. ค่าการกศุ ลเพ่อื การศึกษาไดบ้ นั ทึกเป็นคา่ ใชจ้ ่ายท้งั หมด 5. บรษิ ทั มผี ลขาดทนุ สทุ ธิยอ้ นหลัง 3 ปี รวมทง้ั สิ้นจำ�นวน 1,730,000 บาท ใหท้ �ำ 1. คำ�นวณกำ�ไรสทุ ธิเพื่อเสยี ภาษเี งินไดน้ ติ บิ คุ คลของปี 2555 2. ค�ำ นวณภาษีเงนิ ไดน้ ิติบคุ คลของปี 2555 3. บนั ทึกรายการเก่ียวกบั ภาษเี งินไดน้ ิตบิ คุ คลในสมุดรายวนั ทวั่ ไป

84 ภาษีเงนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลกบั การบัญชี แบบประเมนิ ตนเอง ค�ำชี้แจง ตอนท่ี 1 ให้ผู้เรียนประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขียนเคร่อื งหมาย ✓ลงในชอ่ งระดบั คะแนน และเตมิ ข้อมูลตามความเปน็ จริง สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากที่สดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรับปรงุ ตอนที่ 2 ให้ผู้เรยี นน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเติมลงในช่องวา่ ง และเขยี นเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องสรปุ ผล ตอนท่ี 1 (ผลการเรียนรู้) ตอนท่ี 2 (แบบทดสอบ) รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ 1. ผเู้ รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจในเนื้อหา คะแนน 2. ผเู้ รยี นไดท้ �ำกิจกรรมทีส่ อดคล้องกบั เนื้อหาและจดุ ประสงค ์ (ข้อละ 2 คะแนน) การเรยี นรู้ สรุปผล 9-10 (ดีมาก) 3. ผเู้ รียนไดเ้ รยี นและท�ำกจิ กรรมทสี่ ่งเสรมิ กระบวนการคดิ 7-8 (ดี) เกดิ การคน้ พบความรู้ 5-6 (พอใช้) ตา่ํ กว่า 5 4. ผู้เรยี นสามารถประยุกตค์ วามรูเ้ พ่ีือใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจ�ำวนั ได้ 5. ผเู้ รียนได้เรยี นรู้อะไรจากการเรยี น (ควรปรบั ปรุง) 6. ผู้เรยี นตอ้ งการท�ำส่ิงใดเพ่ือพัฒนาตนเอง 7. ความสามารถทีถ่ อื ว่าผา่ นเกณฑป์ ระเมินของผเู้ รยี น คือ

สถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) บันทึก

1สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ภาษเี งินได้นิติบคุ คลหกั ณ ท่ีจา่ ย สาระสำ�คญั ภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจี่ า่ ย คอื ตามประมวลรษั ฏากรบญั ญตั ใิ หผ้ จู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ บางประเภท หักภาษีเงินได้ไว้ทุกครั้งที่จ่ายได้พึงประเมิน ถือเป็นวิธีการเสียภาษีอย่างหน่ึงช่วยการชำ�ระภาษี ใหก้ ับผรู้ ับเงินได้ และเปน็ การเพิ่มรายไดใ้ หก้ ับรฐั บาลทนั ท่ที ี่ชำ�ระเงิน สาระการเรยี นรู้ 1. ผู้มภี าษเี งนิ ได้หัก ณ ทีจ่ ่าย 2. ฐานภาษแี ละอัตราภาษี 3. การจัดท�ำ เอกสารเกย่ี วกบั ภาษีเงนิ ไดห้ ัก ณ ที่จ่าย 4. การบันทึกรายการและการคำ�นวณภาษเี งินไดน้ ติ บิ คุ คลหกั ณ ทจ่ี ่าย ตามหลักเกณฑ์และ อตั ราภาษีทก่ี ฎหมายก�ำ หนด

สมรรถนะประจำ�หน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลหัก ณ ทจี่ า่ ย 2. ประยกุ ต์ความรู้เกีย่ วกบั ภาษเี งินไดน้ ิติบคุ คลหกั ณ ทจี่ ่าย ในชีวติ ประจ�ำ วัน และการประกอบอาชพี สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายผ้มู ีภาษีเงินได้หัก ณ ทจ่ี ่ายได้ 2. อธิบายฐานภาษแี ละอตั ราภาษไี ด้ 3. จดั ท�ำ เอกสารเก่ยี วกบั ภาษีเงนิ ได้หกั ณ ทจี่ า่ ยได ้ 4. บนั ทกึ รายการและค�ำ นวณภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล หกั ณ ทจี่ า่ ยตามหลกั เกณฑแ์ ละอตั ราภาษี ท่กี ฎหมายก�ำ หนดได ้ 5. มเี จตคตทิ ด่ี ีในการเรียน เร่อื ง ภาษเี งนิ ได้นติ ิบุคคลหกั ณ ท่จี า่ ย และรกั ษค์ ่านิยมหลัก 12 ประการของไทย ผงั สาระการเรยี นรู้ ภาษเี งนิ ได้ ผูม้ ีภาษเี งินได้หัก ณ ทจ่ี ่าย นิตบิ ุคคล ฐานภาษแี ละอตั ราภาษ ี หัก ณ ท่ีจ่าย การจัดท�ำ เอกสารเก่ียวกับภาษเี งินไดห้ ัก ณ ทีจ่ า่ ย การบันทึกรายการและการค�ำ นวณภาษีเงินได้ นติ ิบคุ คลหัก ณ ทจ่ี า่ ย ตามหลักเกณฑ์และอัตรา ภาษีที่กฎหมายก�ำ หนด

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ภาษเี งินไดน้ ติ บิ ุคคลหกั ณ ท่จี ่าย 109 เฉลยอย่ใู นภาคผนวกหน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ ค�ำชี้แจง กจิ กรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเปน็ กิจกรรมฝึกทกั ษะ เฉพาะด้านความรู้-ความจ�ำ เพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ จงตอบค�ำ ถามตอ่ ไปนี้ 1. จงอธิบายผมู้ หี น้าทห่ี ักภาษเี งนิ ไดห้ ัก ณ ทจ่ี ่าย โดยสงั เขป (จ.1) 2. จงอธบิ ายฐานภาษีและอัตราภาษี โดยสงั เขป (จ.2) 3. จงอธบิ ายการจดั ท�ำ เอกสารเกย่ี วกับภาษเี งนิ ได้หกั ณ ท่จี า่ ย โดยสังเขป (จ.3) 4 จงอธิบายการนำ�สง่ ภาษีเงินได้หกั ณ ทจ่ี ่าย โดยสงั เขป (จ.3) 5. จงอธิบายการค�ำ นวณภาษเี งินได้นิติบุคคลหัก ณ ที่จา่ ย โดยสังเขป (จ.4) จ. หมายถึง ตรงตามจุดประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ข้อท่ี ...

110 ภาษีเงินไดน้ ิติบคุ คลกบั การบัญชี กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมที่ผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือเลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตาม ความเหมาะสมโดยผสู้ อนใหค้ ะแนนการท�ำ กจิ กรรมตามเกณฑข์ องใบสรปุ ผลการท�ำ กจิ กรรมและสามารถน�ำ ผลการท�ำ กจิ กรรมไปเทยี บกับการให้คะแนนกบั ตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหากบั จุดประสงคร์ ายวิชาสมรรถนะรายวิชา และจดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมได้ กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ค�ำช้ีแจง กิจกรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ประกอบด้วยกิจกรรมหลากหลายท่ีฝกึ ทักษะทกุ ดา้ นตาม จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมเพอ่ื ให้เกิดสมรรถนะในการเรยี นรู้ สามารถปฏิบัติกจิ กรรม ทงั้ ในและนอกสถานที่ตามความเหมาะสมของผู้เรยี นและส่ิงแวดลอ้ มของสถานศกึ ษา 1. ใหผ้ เู้ รยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน โดยใหส้ มาชกิ แตล่ ะกลมุ่ วเิ คราะหค์ วามแตกตา่ งของการคำ�นวณ ภาษีเงินได้หัก ณ ท่ีจ่าย กรณีท่ีมีภาษีมูลค่าเพ่ิมกับกรณีที่ไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมยกตัวอย่างให้ ชดั เจน 2. เขียนผังความคิดจากการเรียน เร่ือง ภาษีเงินได้นติ ิบุคคลหกั ณ ทีจ่ ่าย พร้อมระบปุ ระโยชนท์ ไี่ ด้รบั จากการเรียน สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) สรปุ ผลการทำ� กจิ กรรม ค�ำชแ้ี จง ให้ประเมนิ ผลการท�ำกจิ กรรม โดยเขียนเคร่อื งหมาย ✓ลงในช่อง ตามความเป็นจริง ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลักษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัตงิ านทไ่ี ดร้ ับ การมีมนษุ ยสมั พันธใ์ น ท�ำ เครอ่ื งหมาย ✓ การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏิบตั กิ จิ กรรม ในแต่ละตอน 3 ข้อ การสังเคราะห์ ทีก่ �ำ หนด ความมวี นิ ัย ตรงตอ่ เวลา คอื ผา่ นการประเมนิ การประเมนิ คา่ การปฏิบตั ิงานดว้ ยความ ความซือ่ สตั ย์สุจริต การศกึ ษาคน้ ควา้ ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภยั ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K) เรยี บร้อย สวยงาม ประพฤตติ นด้วยความ ผ่าน ไมผ่ ่าน การแสวงหาแหล่งข้อมลู ความสมบูรณข์ องงาน ถูกตอ้ งตามศีลธรรม 2. ทกั ษะ (P) และการรวบรวมข้อมลู การปฏิบตั งิ านท่ที ำ�ให้เกดิ อนั ดีงาม ผ่าน ไม่ผ่าน การแสดงความคดิ เห็น เจตคติท่ีดใี นการปฏบิ ัติ 3. คุณลักษณะ (A) อย่างมเี หตผุ ล หรือแสดง สมรรถนะแกผ่ ้เู รยี น ข้นั ตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคดิ กิจกรรม ผ่าน ไม่ผ่าน ทำ�กิจกรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพยี งและความ การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ ความรู้ใหม ่ การตดั สนิ ใจในการแก้ปัญหา หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการท�ำกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู ้ ตามบริบทตา่ งๆ หรอื ไม่ โดยแบ่งเปน็ เปน็ 3 ด้าน คอื ความรู้หรือพุทธิพิสยั = Knowledge (K) ทกั ษะหรือทกั ษะพสิ ยั = Practice (P) คณุ ลกั ษณะหรือจติ พสิ ัย = Attitude (A)

ผู้สอนให้ผู้เรียนทำ�แบบทดสอบ จากนั้นให้ผู้เรียน ภาษเี งนิ ไดน้ ิตบิ ุคคลหัก ณ ทีจ่ ่าย 111 แลกกนั ตรวจค�ำ ตอบ โดยผู้สอนเปน็ ผู้เฉลย เฉลยอย่ใู นภาคผนวกหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 แบบทดสอบ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)1. บรษิ ทั สมิตร์ จำ�กดั จดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ได้จา่ ยค่าใช้จ่ายตา่ ง ๆ ในเดือน มีนาคม 25xx ดงั น้ี มี.ค. 5 จ่ายค่าก่อสร้างสระว่ายนํ้า ให้บริษัท วอร์เตอร์ จำ�กัด เป็นเงินสด จำ�นวน 100,000 บาท 12 จ่ายเงินรางวลั ที่ 2 ให้กับนางสาวปทมุ วด ี เป็นเงนิ สด มลู คา่ 5,000 บาท หัก ภาษเี งินได้ หัก ณ ทจี่ า่ ย 5% 15 จา่ ยเงนิ เดือนพนกั งานจำ�นวน 30,000 บาท หกั ภาษีเงินไดห้ ัก ณ ที่จ่าย 100 บาท 27 จา่ ยค่าโฆษณาให้หนังสือพิมพ์ คมชัดเจน เป็นเงนิ สด 40,000 บาท หกั ภาษเี งินได้ หัก ณ ท่ีจา่ ย 2% 31 จ่ายเงินเดือนพนกั งานจำ�นวน 30,000 บาท หักภาษเี งนิ ไดห้ กั ณ ทจี่ ่าย 100 บาท ใหท้ �ำ บนั ทกึ รายการลงในบญั ชพี เิ ศษแสดงการหกั ภาษเี งนิ ได้ หกั ณ ทจี่ า่ ยและการน�ำ สง่ กรมสรรพากร 2. เม่ือวนั ท ่ี 1 กันยายน 25xx บรษิ ัท ฟา้ ใส จ�ำ กัด ได้จา่ ยค่าจา้ งในการตดิ ตงั้ แผงโฟโตโวลเทอกิ ให้กับ บริษัท แม่รักลูก จำ�กัด ในราคา 300,000 บาทพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มและท้ังสองบริษัทจดทะเบียน ภาษีมลู คา่ เพมิ่ ไดห้ ักภาษเี งนิ ได้หัก ณ ท่จี ่าย 3% ให้ท�ำ 1. คำ�นวณภาษเี งนิ ได้หัก ณ ทจ่ี า่ ย 2. บนั ทึกรายการในสมดุ รายวันท่วั ไปของบรษิ ทั ฟา้ ใส จำ�กดั 3. บันทึกรายการในสมดุ รายวนั ท่ัวไปของบริษัท แมร่ ักลูก จ�ำ กดั 3. เม่ือวันท่ี 30 มิถุนายน 25xx บริษัท ศรีไทย จำ�กัด ได้รับดอกเบ้ียจากธนาคารธนชาติ จำ�นวน 20,000 บาท ถูกหกั ภาษเี งินไดห้ ัก ณ ท่จี ่าย ในอัตรา 1% ให้ท�ำ บันทึกรายการในสมดุ รายวันท่ัวไป 4. บรษิ ัท สามคั คี จำ�กัด เมอื่ วนั ที่ 1 มิถุนายน 25xx ไดซ้ อ้ื ทดี่ ินเพ่อื เตรยี มขยายกิจการจำ�นวน 50 ไร ่ จากบริษัท แสนสำ�ราญ จำ�กัด ซ่ึงมีราคาตลาด 24,000,000 บาท และราคาตามบัญชี จำ�นวน 20,000,000 บาท ให้ท�ำ 1. ค�ำ นวณภาษีเงนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลหัก ณ ทีจ่ ่าย จำ�นวนเทา่ ใด 2. บันทึกรายการในสมดุ รายวนั ทัว่ ไป 5. บริษัท รวงข้าวไทย จำ�กัด จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย ทำ�ธุรกิจการค้าข้าวสารไทย บรษิ ทั เดน็ โซ จ�ำ กดั จดทะเบยี นตามกฎหมายประเทศญป่ี นุ่ ไดน้ �ำ สนิ คา้ ของบรษิ ทั รวงขา้ วไทย จ�ำ กดั ไปจำ�หน่ายได้รบั ค่านายหนา้ จำ�นวน 10,000,000 บาท ดงั นั้น บริษัท เดน็ โซ จำ�กดั จะต้องเสยี ภาษีเงิน ได้นติ ิบุคคล จำ�นวนเท่าใด ให้ท�ำ 1. ค�ำ นวณภาษเี งินไดน้ ติ ิบคุ คลหัก ณ ท่จี ่ายจำ�นวนเท่าใด 2. บันทึกรายการในสมดุ รายวันทั่วไป

112 ภาษเี งินไดน้ ิตบิ คุ คลกบั การบญั ชี Clear Data สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)

ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลหกั ณ ที่จา่ ย 113 สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)

114 ภาษีเงินได้นติ บิ ุคคลกบั การบญั ชี ·∫∫¬Ëπ◊ √“¬°“√¿“…’‡ßπ‘ ‰¥Àâ —° ≥ ∑®Ë’ à“¬ ล้างข้อมูล μ“¡¡“μ√“ 3 ‡μ√  ·≈–¡“μ√“ 69 ∑«‘ ¿.ß.¥.53 ·≈–°“√‡ ’¬¿“…’μ“¡¡“μ√“ 65 ®—μ«“ ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ π” àß¿“…’μ“¡ ‡≈¢ª√–®”μ«— º‡âŸ  ¬’ ¿“…’Õ“°√(13À≈°— )* ------ ------------------------ ------ ------ (1) ¡“μ√“ 3 ‡μ√  ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ (¢ÕߺŸâ¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬) ------ (2) ¡“μ√“ 65 ®—μ«“ ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ (3) ¡“μ√“ 69 ∑«‘ ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)™Ë◊Õº¡âŸ ’Àπâ“∑’ÀË —°¿“…’ ≥ ∑’®Ë à“¬ (Àπ«à ¬ß“π) :  “¢“∑Ë’ ------ ------ ------ ------ .......................................................................................................................................................................................................................................... ∑’ÕË ¬àŸ Õ“§“√ ÀâÕ߇≈¢∑ ™—Èπ∑’Ë À¡Ÿà∫â“π: ......................................................... ’Ë....................... ............ .................................................... ‡≈¢∑Ë’ À¡∑àŸ Ë’ μ√Õ°/´Õ¬................................................................. .................................................................................................................... ∂ππ μ”∫≈/·¢«ß................................................................................................................................................................................................ ¬◊Ëπª°μ‘ ¬◊Ëπ‡æ‘¡Ë ‡μ‘¡§√—Èß∑’Ë ........... Õ”‡¿Õ/‡¢μ ®ß— À«—¥............................................................................................ ................................................................................................ ------------ √À— ‰ª√…≥’¬å ------------ ‚∑√»æ— ∑å : ............................................................................................................................. ‡¥Õ◊ π∑®Ë’ à“¬‡ßπ‘ ‰¥æâ ß÷ ª√–‡¡π‘ („Àâ∑”‡§√◊ËÕßÀ¡“¬ ç✓é ≈ß„π ç é Àπâ“™◊ËÕ‡¥◊Õπ) æ.». .............. (1) ¡°√“§¡ (4) ‡¡…“¬π (7) °√°Æ“§¡ (10) μÿ≈“§¡ (2) °ÿ¡¿“æ—π∏å (5) 情¿“§¡ (8)  ‘ßÀ“§¡ (11) 惻®‘°“¬π (3) ¡’π“§¡ (6) ¡‘∂ÿπ“¬π (9) °—𬓬π (12) ∏—𫓧¡  ”À√—∫∫—π∑÷°¢âÕ¡Ÿ≈®“°√–∫∫ TCL ¡’√“¬≈–‡Õ’¬¥°“√À—°‡ªìπ√“¬ºâŸ¡’‡ß‘π‰¥â ª√“°Øμ“¡ „∫·π∫ ¿.ß.¥.53 ∑’Ë·π∫¡“æ√âÕ¡π’È : ®”π«π √“¬.................................... √“¬°“√∑’Ë·π∫Õ¬à“ß„¥Õ¬à“ßÀπ÷Ëß ¥—ßπ’È ®”π«π ·ºàπ................................... À√Õ◊  ÕË◊ ∫—π∑÷°„π√–∫∫§Õ¡æ‘«‡μÕ√å ∑’Ë·π∫¡“æ√âÕ¡π’È : ®”π«π √“¬.................................... ®”π«π ·ºàπ................................... (μ“¡Àπ—ß ◊Õ· ¥ß§«“¡ª√– ß§åœ ∑–‡∫’¬π√—∫‡≈¢∑’Ë......................................................................................)  √ªÿ √“¬°“√¿“…∑’ Ë’π” ßà ®”π«π‡ß‘π . 1. √«¡¬Õ¥‡ß‘π‰¥â∑—Èß ‘Èπ . . . . . . . . . . . . . 2. √«¡¬Õ¥¿“…’∑’Ëπ” àß∑—Èß ‘Èπ . . . . . . . . . . . . 3. ‡ß‘π‡æ‘Ë¡ (∂â“¡’) . . . . . . . . . . . . . . . 4. √«¡¬Õ¥¿“…’∑’Ëπ” àß∑—Èß ‘Èπ ·≈–‡ß‘π‡æ‘Ë¡ (2. + 3.) . . . . . . ¢â“懮ⓢÕ√—∫√Õß«à“ √“¬°“√∑’Ë·®â߉«â¢â“ßμâππ’È ‡ªìπ√“¬°“√∑’Ë∂Ÿ°μâÕß·≈–§√∫∂â«π∑ÿ°ª√–°“√ ≈ß™ËÕ◊ ºŸâ®à“¬‡ß‘π........................................................................................................................ ( )..................................................................................................................... μ”·Àπàß....................................................................................................................................... ª√–∑—∫μ√“ π‘μ‘∫ÿ§§≈ (∂â“¡’) ¬◊Ëπ«—π∑’Ë ‡¥◊Õπ æ.»................. ....................................................... ..................................... (°àÕπ°√Õ°√“¬°“√ ¥Ÿ§”™’È·®ß¥â“πÀ≈—ß) À¡“¬‡Àμÿ ‡≈¢ª√–®”μ«— ºŸâ‡ ¬’ ¿“…Õ’ “°√ (13À≈°— )* À¡“¬∂÷ß 1. °√≥∫’ §ÿ §≈∏√√¡¥“ „À„â ™â‡≈¢ª√–®”μ«— ª√–™“™π∑Ë°’ √¡°“√ª°§√ÕßÕÕ°„Àâ 2. °√≥’π‘μ‘∫ÿ§§≈ „À„â ™‡â ≈¢∑–‡∫¬’ ππμ‘ ‘∫ÿ§§≈∑°Ë’ √¡æ≤— π“∏ÿ√°‘®°“√§â“ÕÕ°„Àâ 3. °√≥’Õ◊πË ÊπÕ°‡Àπ◊Õ®“° 1.·≈–2.„Àâ„™â‡≈¢ª√–®”μ«— ºâ‡Ÿ  ’¬¿“…Õ’ “°√ (13À≈°— )∑°Ë’ √¡ √√æ“°√ÕÕ°„Àâ  Õ∫∂“¡¢âÕ¡Ÿ≈‡æ¡‘Ë ‡μ‘¡‰¥â∑»’Ë πŸ ¬å∫√‘°“√¢Õâ ¡Ÿ≈ √√æ“°√ ‚∑√. 1161

ภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบุคคลหัก ณ ทีจ่ า่ ย 115 §”™È·’ ®ß 1. ºâ¡Ÿ ’Àπ“â ∑Ë’À—°¿“…’‡ßπ‘ ‰¥â ≥ ∑’®Ë “à ¬ ·≈–«∏‘ §’ ”π«≥ ∑Ë’Õ¬àŸ„π∫—ߧ—∫μâÕß∂Ÿ°À—°¿“…’‰«â ≥ ∑’Ë®à“¬μ“¡°ÆÀ¡“¬«à“¥â«¬¿“…’‡ß‘π‰¥âªî‚μ√‡≈’¬¡ ‡©æ“– 1.1 √—∞∫“≈ Õߧ尓√¢Õß√—∞∫“≈ ‡∑»∫“≈ À√◊ÕÕߧ尓√∫√À‘ “√√“™°“√ à«π∑âÕß∂πË‘ ÕË◊π √ “૧π“∑®’ˇÀ”À≈◊Õπ®à““¬°μ∂Η«Ÿ°‡ßÀ‘π—°À¿“√◊Õ…μ’‰«√â “≥ “∑√·’Ë® à“¬¥μß“ ¡‘∑°∏Æ‘„Àπ¡À“π¬’È∑¥’Ë∫—ß°√‘…≈à“—∑«À√º◊Õ≈Àμâ“à“ßß√À–ÿâπÀ «à«à“πß√π“‘집∫“‰ÿ§∂§à∂Õ≈πÀ°√◊—∫Õ ∑’Ë®à“¬‡ß‘π‰¥âæ÷ߪ√–‡¡‘πμ“¡¡“μ√“ 40 ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ „Àⷰຟâ√—∫´÷Ë߇ªìπ∫√‘…—∑À√◊ÕÀâ“ß π‘μ‘∫ÿ§§≈Õ◊Ëπ‡ªìπºŸâÕÕ° ·≈–®”Àπà“¬§√—Èß·√°„π√“§“μË”°«à“√“§“‰∂à∂Õπ „Àâ·°ºà Ÿâ√∫— ´÷Ë߇ªìπ Àÿâπ à«ππ‘μ‘∫ÿ§§≈§√—ÈßÀπ÷Ëß Ê μÈ—ß·μà 500 ∫“∑ ¢Èπ÷ ‰ª „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 1.0 (1) ∫√…‘ ∑— À√Õ◊ À“â ßÀπÿâ  «à ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑ª’Ë √–°Õ∫°®‘ °“√„πª√–‡∑»‰∑¬ (‰¡√à «¡∂ß÷ ∏𓧓√ Àπâ“∑’ˇ ’¬¿À“…¡“’‡ß¬‘π‡À‰¥μâπÿ ‘μ„‘∫Àÿ§âէߧ≈å°„™“â√·¢∫Õ∫ß√¿—∞.∫ß“.¥≈.∑5’Ë¡3’À¬π◊Ëπâ“√∑“’ˇ¬ °’¬“¿√“æ…√’‡âÕß¡‘𰉥—∫â·™∑”π√–º¿Ÿâ¢““…¬’ ‰¥‘π₧¥â“¬œÕπ´ÿ‚≈÷Ëß¡¡’ æ“≥™‘ ¬å ·≈–∫√…‘ ∑— œ ∏√ÿ °®‘ ‡ßπ‘ ∑πÿ ∏√ÿ °®‘ À≈°— ∑√æ— ¬å ·≈–∏√ÿ °®‘ ‡§√¥μ‘ øÕß´‡‘ Õ√)å „À§â ”π«≥À°— ‰«„â πÕμ— √“ √Õâ ¬≈– 1.0 (2) ¡≈Ÿ π∏‘ À‘ √Õ◊  ¡“§¡∑ªË’ √–°Õ∫°®‘ °“√´ßË÷ ¡√’ “¬‰¥â (‰¡√à «¡∂ß÷ ¡≈Ÿ π∏‘ À‘ √Õ◊  ¡“§¡∑√Ë’ ∞— ¡πμ√’ ª√–°“»°”Àπ¥œ) „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 10.0 สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)∑—Èßπ’È μ“¡«‘∏’°“√ Õ—μ√“ ·≈–ª√–‡¿∑ ‘π§â“∑’Ë°”Àπ¥„π°Æ°√–∑√«ß 1.2 ∫√…‘ ∑— À√Õ◊ À“â ßÀπÿâ  «à ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈ À√Õ◊ πμ‘ ∫‘ §ÿ §≈ÕπË◊ ´÷ßË ‡ªìπº®Ÿâ “à ¬‡ßπ‘ ‰¥æâ ß÷ ª√–‡¡π‘ ¥—ßμàÕ‰ªπ’È 1.6 ∫√‘…—∑À√◊ÕÀâ“ßÀâÿπ à«ππ‘μ‘∫ÿ§§≈∑’Ëμ—Èߢ÷Èπμ“¡°ÆÀ¡“¬‰∑¬ °Õß∑ÿπ√«¡  ∂“∫—π (1) ‡ß‘π‰¥âæß÷ ª√–‡¡‘πμ“¡¡“μ√“40 (2) ·≈– (3) ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ „Àâ·°ºà √Ÿâ ∫— ´÷Ë߇ªìπ (°) ∫√‘…—∑À√◊ÕÀ“â ßÀâÿπ à«ππ‘μ‘∫ÿ§§≈∑’˪√–°Õ∫°‘®°“√„πª√–‡∑»‰∑¬ „À⧔π«≥ °“√‡ßπ‘ ∑¡’Ë °’ ÆÀ¡“¬‚¥¬‡©æ“–¢Õߪ√–‡∑»‰∑¬®¥— μß—È ¢π÷È  ”À√∫— „À°â ¬Ÿâ ¡◊ ‡ßπ‘ ‡æÕ◊Ë  ßà ‡ √¡‘ ‡°…μ√°√√¡ À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 3.0 °æ”“‰≥√À‘™¬√◊Õ°ª√√√¡–‚À¬√™◊ÕπÕåÕÿμ◊Ëπ „“¥Àμ°“√√¡¡¡(“‰μ¡√à√«“¡4∂ß÷0°‘®(4°“)√(√¢à«¡)§·â“À) àß´ª÷Ë߇√ª–ìπ¡º«â®Ÿ≈à“√¬—…‡ßÆ‘π“ª°íπ√º„≈ÀÀâ·√°◊Õºà ‡√Ÿâß∫—‘π´ ÷Ëßેπª·ìπ∫∫àß√¢‘…Õ—∑ß À√◊ÕÀâ“ßÀÿâπ à«ππ‘μ‘∫ÿ§§≈∑’Ëμ—Èߢ÷Èπμ“¡°ÆÀ¡“¬¢Õßμà“ߪ√–‡∑»ª√–°Õ∫°‘®°“√„πª√–‡∑»‰∑¬ (¢) ¡Ÿ≈π‘∏‘À√◊Õ ¡“§¡ (‰¡à√«¡∂÷ß¡Ÿ≈π‘∏‘À√◊Õ ¡“§¡∑’Ë√—∞¡πμ√’ª√–°“»°”Àπ¥μ“¡ À√◊Õ∫√‘…∑— À√◊ÕÀâ“ßÀÿâπ à«ππμ‘ ‘∫ÿ§§≈∑Ë’μ—ÈߢÈ÷πμ“¡°ÆÀ¡“¬‰∑¬(‰¡√à «¡∂ß÷ ∫√…‘ —∑®¥∑–‡∫’¬π·≈–∫√‘…∑— ¡“μ√“ 47 (7) (¢) ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√) „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 10.0 (2) §à“‡™à“ À√◊Õª√–‚¬™πåÕ¬à“ßÕ◊Ëπ∑’ˉ¥â‡π◊ËÕß®“°°“√„À⇙à“∑√—æ¬å ‘πμ“¡¡“μ√“ ®”°—¥´÷Ëß∂◊ÕÀÿâπ„π∫√‘…—∑®”°—¥ºâŸ®à“¬‡ß‘πªíπº≈‰¡àπâÕ¬°«à“√âÕ¬≈– 25 ¢ÕßÀÿâπ∑—ÈßÀ¡¥∑’Ë¡’ ‘∑∏‘ÕÕ°‡ ’¬ß„π∫√‘…—∑ ®”°—¥ºŸâ®à“¬‡ß‘πªíπº≈·≈–∫√‘…—∑®”°—¥ºâŸ®à“¬‡ß‘πªíπº≈‰¡à‰¥â∂◊ÕÀÿâπ„π∫√‘…—∑®”°—¥ºŸâ√—∫‡ß‘πªíπº≈‰¡à«à“‚¥¬∑“ßμ√ß 40 (5) (°) ·Àßà ª√–¡«≈√…— Æ“°√ (‰¡√à «¡∂ß÷ §“à ·Àßà Õ“§“√À√Õ◊ ‚√߇√Õ◊ π∑‰’Ë ¥√â ∫— °√√¡ ∑‘ ∏·‘Ï ≈–‡ßπ‘ §“à ‡™“à μ“¡ À√◊Õ‚¥¬∑“ßÕâÕ¡) „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 10.0  —≠≠“„À⇙à“∑√—æ¬å ‘π·∫∫≈’ ´‘Ëß) „Àⷰຟâ√—∫´÷Ë߇ªìπ (°) ∫√…‘ —∑À√◊ÕÀâ“ßÀÿâπ «à ππμ‘ ‘∫ÿ§§≈∑’˪√–°Õ∫°‘®°“√„πª√–‡∑»‰∑¬ „À⧔π«≥ §‡ß≥π‘ –‰¥∫πâ1§ÿ .쑧7≈‘∫∑ÿ§∫¡Ë’§§ÿ „‘≈§™≈πà μ‘ ∫∫‘ √§ÿ…‘ §∑— ≈´ÀßË÷ √‡◊ÕªÀπì “â ºß®ŸâÀ“à ÿπâ ¬ ‡ß«à π‘ π‰π¥‘μæâ ∫‘ß÷ ªÿ§√§–≈‡¡Àπ‘ √¥◊Õß—πμ‘μÕà ∫‘ ‰§ÿª§π≈È’„ÕÀ◊πË·â °Ààºâ“√⟠ß∫— À´âÿπß÷Ë  ¡à«À’ ππ “â “∑¡‡’Ë  —≠¬’ ¿À“√…◊Õ’ À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 5.0 °√≥’®à“¬§à“‡™à“‡√◊Õμ“¡°ÆÀ¡“¬«à“¥â«¬°“√ à߇ √‘¡æ“≥‘™¬åπ“«’∑’Ë„™â„π°“√ μ„À‡ªπ“—°ìπ°¡‰°“«°√“â„Æ√ªπ∂À√Õ“–¡—μ«°“√√((21«„¬“)π)¥√¢‡ª§ÕâßÕ°√à“‘π¬“ß–®√≈쉇“⥷∑–à“ߢâæ»ß∑5ßà‰ª÷ß”.∑¢ª0√¢¬π—–√Õ‡–„°ß∑À‡“¡»â§√„π‘ ª™À”μ√πß‘â·“–‚°«¡™°≥ວ¡ÕŸâ√À“∫À—∫μ—°°√®√Õ◊‰‘®â““«°°ßâ„“4´“π√√0÷ËßÕÕ„‡ª—μππ◊Ë(8√ìπ„ª)“¥∫√√·Õ–√âÕÀ𗇑…∑¬àß¡—∑≈ª»≈’ À–‰√°—∑–√5…¡◊Õ¬.≥À«0≈‚â“¥–√ß∑¬—…À¡”Æÿâπ‘‰π“ ¥Õ°â¡à«ß√π’ ‡‡¥”π©π¬’ ‘μæ—°«‘∫“°ß–ÿ§“π— ∑𧄇’Ë ≈ªÀ“´ì§πâ¢÷Ëß”√“μμπ“—Èßß—Èß«¢«Õ≥÷Èπ—≈¬àŸ ¢π àß ‘π§â“√–À«à“ߪ√–‡∑» „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 1.0 À—°‰«â„πÕ—μ(√3“)√Õâ ‡(¢ß¬π‘)≈‰–¡¥≈Ÿ 1®â π0“∏‘.°0À‘ «√™‘ Õ◊ “ ™¡æ’ “Õ§ ‘¡√(‰–¡μ√à «“¡¡∂¡ß÷ “¡μ≈Ÿ √π“∏‘ À‘ 4√0Õ◊  (¡6“)§·¡À∑ßà √’Ë ª∞— √¡–π¡μ«√ª’≈√√–…— °Æ“»“°°”√À„πÀ¥·â œ°)ຄÀ√⟠§â∫— ”´πßË÷ ‡«ª≥πì (°) º¡Ÿâ À’ π“â ∑‡Ë’  ¬’ ¿“…‡’ ßπ‘ ‰¥πâ μ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑ªË’ √–°Õ∫°®‘ °“√„πª√–‡∑»‰∑¬„À§â ”π«≥ À—°‰«â„πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 3.0 ‰μ¡“à∂¡÷ß —≠11,.08≠0“0°√““∫√¬®“À∑à“π¬÷Ë߇ßÊ‘π‰μ¥ßÈ—âæ·÷ßμªà √1–,0‡¡0‘π0∑∫’Ëμ“âÕ∑ßÀ¢—°÷πÈ¿‰“ª…’ ≥ ∑’Ë®à“¬ μ“¡ 1.2 ∂÷ß 1.7 μâÕß¡’®”π«π (¢) ¡Ÿ≈π‘∏‘À√◊Õ ¡“§¡ (‰¡à√«¡∂÷ß¡Ÿ≈π‘∏‘À√◊Õ ¡“§¡∑’Ë√—∞¡πμ√’ª√–°“»°”Àπ¥œ) „Àâ ·¡â°“√®à“¬π—Èπ®–‰¥â·∫àß®à“¬§√—ÈßÀπ÷Ëß Ê §”π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 10.0 (4) §à“®“â ß∑”¢Õß „Àⷰຟâ√∫— ´÷Ë߇ªìπ (°) ∫√…‘ ∑— À√◊ÕÀâ“ßÀÿâπ à«ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑’Ëμ—Èߢ÷Èπμ“¡°ÆÀ¡“¬‰∑¬ (‰¡√à «¡∂ß÷ ¡Ÿ≈π‘∏‘À√◊Õ À¡“¬‡Àμÿ °√≥¬’ πË◊ ‡æ¡Ë‘ ‡μ¡‘ „À°â √Õ°‡©æ“–√“¬°“√·≈–®”π«π‡ßπ‘ ∑·Ë’  ¥ß‰«¢â “¥·≈–À√Õ◊ · ¥ß  ¡“§¡) „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 3.0 ‰«â‡°‘π‰ª‡∑à“π—Èπ (¢) ∫√…‘ ∑— À√Õ◊ À“â ßÀπÿâ  «à ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑μ’Ë ß—È ¢π÷È μ“¡°ÆÀ¡“¬¢Õßμ“à ߪ√–‡∑»ª√–°Õ∫ °‘®°“√„πª√–‡∑»‰∑¬ ‚¥¬¡’ ”π—°ß“π “¢“μ—ÈßÕ¬Ÿà‡ªìπ°“√∂“«√„πª√–‡∑»‰∑¬ „À⧔π«≥À—°‰«â 2.  ∂“π∑ˬ’ πË◊ ·∫∫ ·≈–°”À𥇫≈“„π°“√π”‡ßπ‘ ¿“…’ àß „πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 3.0 (5) §“à ‚¶…≥“ „À·â °ºà √Ÿâ ∫— ∑¡’Ë À’ π“â ∑‡’Ë  ¬’ ¿“…‡’ ßπ‘ ‰¥πâ μ‘ ∫‘ §ÿ §≈„À⧔π«≥À°— ‰«â„πÕμ— √“ „ÀâºâŸ¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬ ¬◊Ëπ·∫∫ ¿.ß.¥.53 · ¥ß√“¬°“√À—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬ æ√âÕ¡ √Õâ ¬≈– 2.0 °—∫π”‡ß‘π¿“…’ àßμàÕ‡®â“æπ—°ß“π ¿“¬„π 7 «—ππ—∫·μà«—π È‘π‡¥◊Õπ¢Õ߇¥◊Õπ∑Ë’®à“¬‡ß‘π ‰¡à«à“ (6) ‡ßπ‘ ‰¥æâ ÷ߪ√–‡¡π‘  ”À√—∫°“√´◊ÈÕ ‘π§â“ª√–‡¿∑¬“ß·ºπà ¡π—  ”ª–À≈ß— ªÕ ¢â“« ®–À—°¿“…’‰«â·≈â«À√◊Õ‰¡à ≥  ∂“π∑’Ë¥—ßμàÕ‰ªπ’È ¢â“«‚æ¥ ÕâÕ¬ ‡¡≈¥Á °“·ø º≈ª“≈å¡πÈ”¡π— ‡©æ“–°√≥’ºŸâ´◊ÈÕ‡ªìπºŸâ àßÕÕ°À√◊պ⟺≈‘μ „Àâ·°ºà âŸ√—∫´÷Ëß ‡ªìπ∫√…‘ —∑À√Õ◊ Àâ“ßÀâÿπ «à ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈ „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 0.75 2.1  ”π°— ß“π √√æ“°√æπ◊È ∑ Ë’ “¢“ ( ”π°— ß“π √√æ“°√‡¢μ/Õ”‡¿Õ/°ßË‘ Õ”‡¿Õ‡¥¡‘ ) „π∑Õâ ß∑∑’Ë ’Ë °√≥’ºâŸ´◊ÈÕ‡ªìπºŸâ‰¡à¡’Àπâ“∑’ˇ ’¬¿“…’‡ß‘π‰¥âμ“¡ª√–¡«≈√—…Æ“°√ (‰¡à√«¡∂÷ß°≈ÿà¡ ‡°…μ√°√μ“¡°ÆÀ¡“¬«“à ¥«â ¬ À°√≥)å À“°¡°’ “√®“à ¬‡ßπ‘ ‰¥μâ “¡∑’°Ë ≈“à «¢“â ßμπâ „À·â °ºà √⟠∫— ´ß÷Ë ‡ªπì ∫√…‘ ∑— ºâŸ¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬¡’ ”π—°ß“πμ—ÈßÕ¬Ÿà´÷Ë߉¥â¡’°“√®à“¬‡ß‘π À√◊ÕÀ“â ßÀâπÿ  «à ππμ‘ ‘∫§ÿ §≈ „À⧔π«≥À—°¿“…’‰«â„πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 0.75 ¥â«¬‡™àπ‡¥’¬«°—π (7) ‡ßπ‘ ‰¥æâ ß÷ ª√–‡¡‘πμ“¡¡“μ√“ 40 (8) ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√ ‡©æ“–∑Ë’‡ªìπ°“√ 2.2 ∏𓧓√æ“≥‘™¬å‰∑¬ ¥—ßπ’È ®“à ¬‡ßπ‘ ‰¥®â “°°“√„À∫â √°‘ “√ πÕ°‡ÀπÕ◊ ®“° (4) (5) (9) ·≈– (10)(‰¡√à «¡∂ß÷ °“√®“à ¬§“à ∫√°‘ “√¢Õß‚√ß·√¡ À√Õ◊ ¿μ— 쓧“√ §“à ‡∫¬È’ ª√–°π— ™«’ μ‘ ) „À·â °ºà √Ÿâ ∫— ´ß÷Ë ‡ªπì ∫√…‘ ∑— À√Õ◊ À“â ßÀπâÿ  «à ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑ªË’ √–°Õ∫°®‘ °“√ (1) „π°√ÿ߇∑æ¡À“π§√ „Àâ¬◊Ëπ ≥ ∏𓧓√æ“≥‘™¬å‰∑¬ À√◊Õ “¢“∑’Ëμ—ÈßÕ¬àŸ„π°√ÿ߇∑æ „πª√–‡∑»‰∑¬ (‰¡√à «¡∂ß÷ ¡≈Ÿ π‘∏‘À√◊Õ ¡“§¡) „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 3.0 ¡À“π§√ (8) √“ß«—≈  «à π≈¥ À√Õ◊ ª√–‚¬™πå„¥ Ê ‡π◊ËÕß®“°°“√ à߇ √‘¡°“√¢“¬ „Àâ·°ºà Ÿ√â —∫ ´ß÷Ë ‡ªπì ∫√…‘ ∑— À√Õ◊ À“â ßÀπâÿ  «à ππμ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑ªË’ √–°Õ∫°®‘ °“√„πª√–‡∑»‰∑¬ (‰¡√à «¡∂ß÷ ¡≈Ÿ π∏‘ À‘ √Õ◊  ¡“§¡ (2) „π®—ßÀ«—¥ÕË◊π „Àâ¬◊Ëπ ≥  ”π—°ß“π “¢“∑ÿ° “¢“¢Õß∏𓧓√æ“≥‘™¬å‰∑¬∑’Ëμ—ÈßÕ¬àŸ „π®—ßÀ«—¥π—Èπ Ê ‚¥¬ºŸâ¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬®–μâÕ߬◊Ëπ·∫∫œ ·≈–π” àß¿“…’ºà“π∏𓧓√„π ‡¢μÕ”‡¿ÕÀ√◊Õ°‘ËßÕ”‡¿Õ∑âÕß∑’Ë∑’˺Ÿâ¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬‰¥â¡’°“√®à“¬‡ß‘π °“√™”√–¿“…’∑’Ë∏𓧓√®–μâÕߪؑ∫—μ‘μ“¡À≈°— ‡°≥±å¥—ßπ’È „™â·∫∫ ¿.ß.¥.53 ∑’Ëæ‘¡æå™◊ËÕ ∑’ËÕ¬àŸ ·≈–‡≈¢ª√–®”μ—«ºâŸ‡ ’¬¿“…’Õ“°√(13À≈—°)*¢Õß À√◊պ⟉¥â√—∫‡ß‘π‰¥â∑’ˇªìπºŸâ´◊ÈÕ ‘π§â“À√◊ÕºâŸ√—∫∫√‘°“√‚¥¬¡‘‰¥â¡’«—μ∂ÿª√– ß§å∑’Ë®–𔉪¢“¬μàÕ ´÷Ë߉¥â·°à ºŸâ∫√‘‚¿§ ºâŸ¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬∑’Ë°√¡ √√æ“°√®—¥∑”¢÷Èπ·≈–®—¥ àß„Àâ À√◊ÕºŸâª√–°Õ∫°“√∑’Ëπ” ‘π§â“À√◊Õ∫√‘°“√‰ª„™â„π°“√ª√–°Õ∫°‘®°“√¢Õßμπ‡Õß‚¥¬μ√ß) „À⧔π«≥À—°‰«â ¬◊Ëπ·∫∫œ ·≈–π” àß¿“…¿’ “¬„π°”À𥇫≈“¥—ß°≈à“«¢â“ßμâπ „πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 3.0 π” àß¿“…∑’ —Èß®”π«π∑’ËμâÕßπ” àß (9) §à“‡∫È’¬ª√–°—π«‘π“»¿—¬ „Àâ·°àºâŸ√—∫´÷Ë߇ªìπ∫√‘…—∑À√◊ÕÀâ“ßÀâÿπ à«ππ‘μ‘∫ÿ§§≈∑’Ë 3. §«“¡√∫— º¥‘ ¢ÕߺŸâ¡À’ πâ“∑ÀË’ °— ¿“…‡’ ßπ‘ ‰¥â ≥ ∑’Ë®à“¬ ª√–°Õ∫°‘®°“√ª√–°—π«‘π“»¿—¬μ“¡°ÆÀ¡“¬«à“¥â«¬°“√ª√–°—π«‘π“»¿—¬„πª√–‡∑»‰∑¬ „Àâ §”π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√âÕ¬≈– 1.0 3.1 ∂â“ºâŸ®à“¬‡ß‘π´÷Ëß¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬ ¡‘‰¥âÀ—°·≈–π”‡ß‘π àßÀ√◊Õ‰¥âÀ—°·≈–π”‡ß‘π (10) §à“¢π àß (‰¡à√«¡∂÷ß°“√®à“¬§à“‚¥¬ “√ ”À√—∫°“√¢π àß “∏“√≥–) „Àⷰຟâ√—∫´÷Ë߇ªìπ ∫√‘…—∑À√◊ÕÀâ“ßÀÿâπ à«ππ‘μ‘∫ÿ§§≈∑’˪√–°Õ∫°‘®°“√„πª√–‡∑»‰∑¬ (‰¡à√«¡∂÷ß¡Ÿ≈π‘∏‘À√◊Õ ¡“§¡)  àß·≈â«·μà‰¡à§√∫®”π«π∑’Ë∂Ÿ°μâÕß ºâŸ®à“¬‡ß‘πμâÕß√—∫º‘¥√à«¡°—∫ºŸâ¡’‡ß‘π‰¥â„π°“√‡ ’¬¿“…’∑’ËμâÕß „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 1.0 ™”√–μ“¡®”π«π‡ß‘π¿“…’∑’Ë¡‘‰¥âÀ—°·≈–π” àßÀ√◊Õμ“¡®”π«π‡ß‘π∑’Ë¢“¥‰ª ·≈â«·μà°√≥’ À≈—°∑1√.—æ3¬∏å ·π≈“–§∏“ÿ√√°æ‘®“‡≥§√‘™¥¬‘μå ·ø≈Õ–∫ß´√‘…‘‡Õ—∑√μå ´“÷Ëß¡‡ª°ìπƺÀ®Ÿâ¡“à “¬¬‡«ß‘πà“¥‰¥â«â欰÷ߪ“√√ª–‡√¡–‘π°μÕ“∫¡∏¡ÿ√“°μ‘®√‡“ß‘π4∑0ÿπ(4∏)ÿ√°(°‘®) ·Ààߪ√–¡«≈(1√)—…∫Æ√“…‘ °∑— √À„√ÀÕ◊ â·À°“â ºàßÀŸâ√∫— πÿâ ´ ÷Ëß«à ‡πªπìπμ‘ ∫‘ §ÿ §≈∑ªË’ √–°Õ∫°®‘ °“√„πª√–‡∑»‰∑¬ (‰¡√à «¡∂ß÷ ∏𓧓√ „π°√≥’∑’ËºâŸ®à“¬‡ß‘π‰¥âÀ—°¿“…’‰«â·≈â« „ÀâºâŸ¡’‡ß‘π‰¥â´÷ËßμâÕ߇ ’¬¿“…’æâ𧫓¡√—∫º‘¥∑’Ë®– æ“≥‘™¬å ·≈–∫√‘…∑— œ ∏ÿ√°‘®‡ß‘π∑πÿ ∏√ÿ °®‘ À≈°— ∑√æ— ¬å ·≈–∏ÿ√°®‘ ‡§√¥‘μøÕß´‡‘ Õ√å) „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“ μâÕß™”√–‡ß‘π¿“…’‡∑à“®”π«π∑’˺Ÿâ®à“¬‡ß‘π‰¥âÀ—°‰«â ·≈–„ÀâºâŸ®à“¬‡ß‘π√—∫º‘¥™”√–‡ß‘π¿“…’®”π«π ª√âÕ√–¬°≈“–»°1”.0À(π2¥)œ¡) ≈Ÿ „πÀâ§∏‘ À‘”π√Õ◊« ≥¡À“—°§‰¡«∑â„πª’Ë Õ√–—μ°√Õ“∫√Õâ°¬®‘ ≈°–“√1´0ß÷Ë .¡0√’ “¬‰¥â (‰¡√à «¡∂ß÷ ¡≈Ÿ π∏‘ À‘ √Õ◊  ¡“§¡∑√’Ë ∞— ¡πμ√’ π—Èπ·μàΩÉ“¬‡¥’¬« (¡“μ√“ 54 ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√) ∑®’Ë “à ¬μ1“¡.41.3∫)√´…‘ ß÷Ë ‡—∑ªÀπì √º◊ծ⟠À“à ¬â“‡ßßÀπ‘ ‰πÿâ ¥ æâ à«ß÷ πª√π–쑇¡‘∫π‘ ÿ§μ§“≈¡¡À“√μ◊Õ√“π‘μ4∫‘0§ÿ (4§)≈Õ(°π◊Ë )·(À‰¡ßà à√ª«√¡–∂¡ß÷ «º≈Ÿâ¡√’À…—πâ“Æ∑“À’Ë °—°√¿‡©“…æ’“≥– ∑’ˇªìπ¥Õ°‡∫’Ȭæ—π∏∫—μ√ ¥Õ°‡∫’ȬÀÿâπ°âŸ „Àⷰຟâ√—∫´÷Ë߇ªìπ∏𓧓√æ“≥‘™¬å À√◊Õ∫√‘…—∑œ ∏ÿ√°‘® 3.2 ∂“â º®Ÿâ “à ¬‡ßπ‘ ´ßàË÷ ¡À’ π“â ∑ÀË’ °— ¿“…’ ≥ ∑®Ë’ “à ¬‰¡πà ”‡ßπ‘ ¿“…∑’ μË’ π¡’Àπ“â ∑ÀË’ °— π” ßà ¿“¬„π ‡ßπ‘ ∑ÿπ ∏√ÿ °®‘ À≈°— ∑√—æ¬å ·≈–∏ÿ√°‘®‡§√¥μ‘ øÕß´‡‘ Õ√å „À⧔π«≥À—°‰«â„πÕ—μ√“√Õâ ¬≈– 1.0 1.5 ∫√‘…—∑À√◊ÕÀâ“ßÀπâÿ  à«ππ‘μ‘∫§ÿ §≈ À√◊Õπ‘μ∫‘ §ÿ §≈ÕË◊π ((‰°¡)√à «¡·∂Àß÷ àߺªŸâ¡√’À–π¡â“«∑≈À’Ë √—°—…¿“Æ…“’°≥√ °”À𥇫≈“μ“¡ 2. ®–μâÕß√—∫º‘¥‡ ’¬‡ß‘π‡æ‘Ë¡Õ’°√Õâ ¬≈– 1.5 μàÕ‡¥◊Õπ À√◊Õ‡»…¢Õ߇¥◊Õπ¢Õ߇ߑπ 1.3) ´÷Ë߇ªìπºâŸ®à“¬‡ß‘π‰¥âæ÷ߪ√–‡¡‘πμ“¡¡“μ√“ 40 (4) ¿“…’∑’ËμâÕßπ” àß ∑—Èßπ’È „À⧔π«≥‡ß‘π‡æ‘Ë¡‡ªìπ√“¬‡¥◊Õπ (‡»…¢Õ߇¥◊Õπ„Àâπ—∫‡ªìπ 1 ‡¥◊Õπ) π—∫·μà«—π ∑’Ë®à“¬μ“¡ æâπ°”À𥇫≈“¬◊Ëπ·∫∫œ ®π∂÷ß«—π¬◊Ëπ·∫∫œ ·≈–π” àß¿“…’ (¡“μ√“ 27 ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√) ºâŸ®à“¬‡ß‘π´÷Ëß¡’Àπâ“∑’ËÀ—°¿“…’ ≥ ∑’Ë®à“¬ À“°‰¡à¬◊Ëπ·∫∫œ π’È¿“¬„π°”À𥇫≈“ μ“¡ 2. ‡«âπ·μà®–· ¥ß«à“‰¥â¡’‡Àμÿ ÿ¥«‘ —¬ μâÕß√–«“ß‚∑…ª√—∫‰¡à‡°‘π 2,000 ∫“∑ (¡“μ√“ 35 ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√) 3.3 º„Ÿâ ¥‡®μπ“≈–‡≈¬‰¡à¬πàË◊ √“¬°“√∑μË’ Õâ ߬πË◊ ‡æÕ◊Ë À≈°’ ‡≈¬’Ë ßÀ√Õ◊ 欓¬“¡À≈°’ ‡≈¬’Ë ß°“√‡ ¬’ ¿“…’Õ“°√ μâÕß√–«“ß‚∑…ª√∫— ‰¡à‡°π‘ 5,000 ∫“∑ À√◊Õ®”§ÿ°‰¡‡à °‘π 6 ‡¥Õ◊ π À√◊Õ∑—Èߪ√—∫∑ß—È ®” (¡“μ√“ 37 ∑«‘ ·Ààߪ√–¡«≈√—…Æ“°√) ‡©æ“–∑’ˇªìπ¥Õ°‡∫È’¬æ—π∏∫μ— √ ¥Õ°‡∫¬È’ Àâÿπ°Ÿâ ¥Õ°‡∫Ȭ’ μ—Ϋ‡ß‘π ¥Õ°‡∫’¬È ‡ßπ‘ °â¬Ÿ ◊¡ ¥Õ°‡∫¬È’ ‡ßπ‘ °Ÿâ¬◊¡ æ‘¡æ凡ËÕ◊ °.æ 2555

116 ภาษีเงนิ ไดน้ ิตบิ ุคคลกบั การบัญชี แบบยน่ื รายการนำสง่ ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล และการจำหนา่ ยกำไร ภ.ง.ด.54ล้างข้อมูล 1 2-3 ตามมาตรา 70 และตามมาตรา 70 ทวิ แหง่ ประมวลรัษฎากร 4-5 บคุ คล หา้ งหนุ้ สว่ น บรษิ ทั สมาคมหรอื คณะบคุ คล การนำสง่ ภาษี 20 ภาษีหักจากเงนิ ไดท้ ีจ่ ่าย ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร 21 6 เลขประจำตวั ผเู้ สยี ภาษอี ากรสถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) (1) ชอ่ื ผนู้ ำสง่ ภาษี สาขาท่ี (2) ภาษีจากการจำหน่ายเงินกำไรหรือท่ถี อื ไดว้ ่าเป็นเงนิ กำไร 22 7-9 ........................(.ร..ะ..บ..ุใ..ห...้ช..ัด..เ.จ...น..ว..่า..เ.ป...็น....น..า..ย....น..า..ง....น..า..ง..ส..า..ว...ย...ศ...ห...า้..ง..ห..ุ้น...ส..่ว..น....บ...ร..ิษ..ัท....ส...ม..า..ค..ม...ห..ร..ือ...ค..ณ...ะ...บ..ุค...ล..ล..)................. ตามมาตรา 70 ทวิ แห่งประมวลรษั ฎากร 10-12 ทต่ี ง้ั สำนกั งาน : อาคาร.......................................................................หอ้ งเลขท.่ี.........................ชน้ั ท.่ี .......... 23 13-16 หมบู่ า้ น..............................................เลขท.่ี ........................หมทู่ .่ี ........ตรอก/ซอย........................................... 17-18 ถนน.............................................................................ตำบล/แขวง....................................................................... (1) ยน่ื ปกต ิ (2) ยน่ื เพิ่มเติมครัง้ ที่ ....... 19 อำเภอ/เขต......................................................................จงั หวดั ............................................................................ 24-25 20-21 รหสั ไปรษณยี ์ การจา่ ยเงนิ ไดต้ โาทมรมศาพั ตทร.์า.....7...0.....แ...ห....ง่...ป...ร...ะ...ม....ว...ล...ร...ษั....ฎ....า..ก....ร................................... ชอ่ื ผรู้ บั เงนิ ได.้ ...................................................................................................................................................... 26 สำนกั งานตง้ั อยู่ เลขท.่ี ............................................ถนน...................................................................................... เ ม1อื .ง .ป....ร...ะ...เ..ภ...ท....เ..ง...นิ ...ไ...ด....ท้...จ่.ี ...า่ ..ย.....(.ท...ำ...เ.ค...ร..อ่ื..ง...ห...ม..า...ย.ป“ระเท”ศล.ง..ใ..น...ช...อ่ ..ง....“...........”....ต...า..ม...ป...ร..ะ..เ..ภ...ท...เ.ง..นิ...ไ..ด..ท.้ ..จ่ี...า่ ..ย...)... สำหรบั บนั ทกึ ขอ้ มลู จากระบบ TCL 31 (1) คา่ ธรรมเนียม คา่ นายหน้า หรอื อ่นื ๆ ตามมาตรา 40 (2) (5) ดอกเบย้ี ตามมาตรา 40 (4) (ก) ทจ่ี า่ ยใหแ้ กธ่ นาคาร (8) เงนิ ได้อ่ืนๆ ตามมาตรา 40 (4) (ระบ)ุ ................................ (2) คา่ สิทธิในงานวรรณกรรม ศิลป และวิทยาศาสตร์ ตามมาตรา 40 (3) กจิ การประกนั ภัย หรือกจิ การอืน่ ทำนองเดยี วกนั (9) คา่ เชา่ เรอื เดนิ ทะเลฯ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสง่ เสรมิ พาณชิ ยน์ าวี (3) ค่าสิทธิในสทิ ธบิ ัตร สูตรหรือกรรมวธิ ี ตามมาตรา 40 (3) (10) คา่ เชา่ หรอื เงินหรอื ประโยชน์อยา่ งอน่ื ตามมาตรา 40 (5) (4) ค่าสิทธอิ น่ื ๆ ตามมาตรา 40 (3) (6) ดอกเบีย้ อืน่ ๆ ตามมาตรา 40 (4) (ก) (11) เงินได้จากวชิ าชพี อสิ ระ ตามมาตรา 40 (6) (ระบุ)................... 2. การคำนวณภาษี (7) เงินปนั ผล ตามมาตรา 40 (4) (ข) (1) เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทจ่ี า่ ย . . . . . . . . จำนวนเงนิ 333432 ........... .. (2) เงนิ ภาษที น่ี ำสง่ ในอตั รารอ้ ยละ .......... . . . . ........... .. 35 (3) เงนิ เพม่ิ (ถา้ ม)ี . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . (4) รวมเปน็ เงนิ ทง้ั สน้ิ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 36 ผจู้ า่ ยเงนิ ได้ หกั นำส่ง ออกภาษใี ห้ 37 3. วนั เดอื นปีทจ่ี ่ายเงินได้ซ่ึงต้องหักภาษีจากเงนิ ได้ทจี่ ่ายตามมาตรา 70 วันท่ี เดือน พ.ศ. 38 เลขทเ่ี อกสารแลกเปลยี่ นเงินตรา...................................................................................................... การจำหนา่ ยเงนิ กำไรตามมาตรา 70 ทวิ แหง่ ประมวลรษั ฎากร 39 40 ชอ่ื สำนกั งานใหญท่ ไ่ี ดร้ บั การจำหนา่ ยเงนิ กำไร........................................................................................................................................................................................................................ สำนกั งานตง้ั อยู่ เลขท.ี่ .........................................ถนน............................................................เมอื ง...............................................................ประเทศ.......................................................................... 41-44 1. การคำนวณภาษี (1) เงินกำไรหรือท่ีถอื ไดว้ า่ เปน็ เงนิ กำไรท่จี ำหน่าย . . . . . . . . . . . . . . . จำนวนเงนิ 45 (2) เงนิ ภาษที ต่ี อ้ งเสยี และนำสง่ . . . . . . . . . . . . . . . . . . 46 (3) เงนิ เพม่ิ (ถา้ ม)ี . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 47 (4) รวมเปน็ เงนิ ทง้ั สน้ิ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 48 2. วนั เดือนปที จ่ี า่ ยเงินไดซ้ ึง่ ตอ้ งหักภาษจี ากเงินไดท้ ่จี ่ายตามมาตรา 70 ทวิ วันท่ี เดอื น พ.ศ. 49 เลขทเ่ี อกสารแลกเปลย่ี นเงนิ ตรา..................................................................................................... 50 51 คำรบั รองของผจู้ า่ ยเงนิ ได้ หรอื กรรมการหรอื ผเู้ ปน็ หนุ้ สว่ นหรอื ผจู้ ดั การของบรษิ ทั หรอื หา้ งหนุ้ สว่ นนติ บิ คุ คลทจ่ี า่ ยเงนิ ไดห้ รอื จำหนา่ ยเงนิ กำไร ข้าพเจา้ ขอรับรองว่ารายการทแี่ จ้งไวข้ า้ งตน้ นี้ถกู ตอ้ งตรงตามความจริงทกุ ประการ ลงชื่อ......................................................................................................... ประทบั ตรา ลงชือ่ ......................................................................................................... นิติบุคคล (........................................................................................................) (ถา้ มี) (........................................................................................................) ตำแหนง่ ................................................................................................... ตำแหนง่ ................................................................................................... เดือน พ.ศ. ย่ืนวนั ที่ หมายเหตุ แบบ ภ.ง.ด.54 ให้แยกยน่ื เป็นแตล่ ะรายผรู้ ับ หรือแตล่ ะรายประเภทเงินไดพ้ งึ ประเมินทจี่ า่ ย แล้วแต่กรณี (ก่อนกรอกรายการ ดูคำอธบิ ายดา้ นหลัง)

ภาษีเงนิ ไดน้ ติ ิบุคคลหัก ณ ทจี่ า่ ย 117 คำชแ้ี จง การจา่ ยเงนิ ไดต้ ามมาตรา 70 แหง่ ประมวลรษั ฎากรสถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) (4) ผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนพันธบัตรหรือหุ้นกู้ของ 1. ผมู้ หี นา้ ทห่ี กั และนำสง่ ภาษี รัฐบาล องคก์ ารของรฐั บาล หรอื สถาบันการเงินท่ีมกี ฎหมายโดยเฉพาะ ของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม ผ้มู หี นา้ ท่ีหกั ภาษีจากเงินไดท้ ีจ่ า่ ย ได้แก่ บุคคล ห้างหนุ้ ส่วน พาณิชยกรรม หรอื อตุ สาหกรรม บรษิ ทั สมาคม หรอื คณะบคุ คล ผจู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรอื (6) แหง่ ประมวลรษั ฎากร ให้แกบ่ รษิ ัทหรอื ห้างหนุ้ ส่วน การจำหนา่ ยเงนิ กำไรตามมาตรา 70 ทวิ แหง่ ประมวลรษั ฎากร นิติบุคคลทีต่ ัง้ ขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และมไิ ด้ประกอบกจิ การ 1. ผมู้ หี นา้ ทเ่ี สยี ภาษี ในประเทศไทย ทง้ั น้ี ไมว่ า่ จะเปน็ การจา่ ยจากหรอื ในประเทศไทย ผมู้ หี นา้ ท่เี สยี ภาษี คือ บรษิ ัท หรือหา้ งหุ้นสว่ นนิติบคุ คลที่ 2. ประเภทเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ทต่ี อ้ งถกู หกั ภาษจี ากเงนิ ไดท้ จ่ี า่ ย จำหน่ายเงินกำไรหรือเงินประเภทอื่นใดที่กันไว้จากกำไรหรือที่ถือได้ว่า เงินไดพ้ งึ ประเมินตามมาตรา 40 (2) ได้แก่ คา่ ธรรมเนยี ม เปน็ เงินกำไรออกไปจากประเทศไทย 2. การคำนวณภาษี คา่ นายหนา้ คา่ สว่ นลด ฯลฯ มาตรา 40 (3) ได้แก่ ค่าแหง่ กูด๊ วลิ ล์ ค่าแหง่ ลขิ สทิ ธ์ิ หรอื สทิ ธิอย่างอนื่ ฯลฯ มาตรา 40 (4) ได้แก่ เงินไดท้ ีเ่ ปน็ ดอกเบย้ี ใหค้ ำนวณภาษใี นอัตราร้อยละ 10 ของจำนวนเงินที่จำหนา่ ย พันธบตั ร หุ้นกู้ ต๋ัวเงนิ เงินกู้ยืม เงินปนั ผล ฯลฯ มาตรา 40 (5) ไดแ้ ก่ เงิน ออกไปจากประเทศไทย หรือประโยชนอ์ ยา่ งอืน่ ทีไ่ ด้เนอื่ งจากให้เชา่ ทรัพย์สนิ ฯลฯ มาตรา 40 (6) หมายเหตุ คำวา่ “จำหนา่ ยเงนิ กำไร” ใหห้ มายความรวมถงึ ได้แก่ เงินได้จากวิชาชพี อิสระ คือ วชิ ากฎหมาย การประกอบโรคศิลป วิศวกรรม สถาปตั ย์กรรม การบญั ชี ประณีตศิลปกรรม (1) การจำหนา่ ยเงินกำไร หรือเงินประเภทอืน่ ใดท่ีกนั ไวจ้ ากกำไร หรือถอื ไดว้ า่ เป็นเงนิ กำไร จากบญั ชกี ำไรขาดทนุ หรือบัญชีอืน่ ใดไปชำระ 3. การคำนวณภาษี หนี้หรือหักกลบลบหนี้-หรือไปตั้งเป็นยอดเจ้าหนี้ในบัญชีของบุคคลใดๆ 3.1 เงนิ ไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ในต่างประเทศ หรอื เวน้ แตท่ ร่ี ะบใุ น 3.2 ใหค้ ำนวณภาษใี นอัตรารอ้ ยละ 15 (2) ในกรณีที่มิได้ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าวใน0(1)0แต่ได้มีการ 3.2 เงนิ ไดพ้ งึ ประเมินตามมาตรา 40 (4) (ข) ใหค้ ำนวณภาษี ขออนุญาตซื้อและโอนเงินตราต่างประเทศซึ่งเป็นเงินกำไร0หรือเงิน ในอตั ราร้อยละ 10 ประเภทอื่นใดที่กันไว้จากกำไร0หรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกำไรออกไป ต่างประเทศ หรือ กรณจี า่ ยเงนิ ใหแ้ กบ่ รษิ ทั ฯของประเทศทม่ี อี นสุ ญั ญาหรอื ความ ตกลงวา่ ดว้ ยการเวน้ การเกบ็ ภาษซี อ้ นกบั ประเทศไทย ใหค้ ำนวณภาษตี าม (3) การปฏิบัติอย่างอ่ืนซ่งึ ก่อใหเ้ กิดผลตาม (1) หรอื (2) ทร่ี ะบใุ นอนสุ ญั ญาฯ หรอื ความตกลงฯ นน้ั ๆ กำหนดเวลา สถานทย่ี น่ื แบบ และนำสง่ เงนิ ภาษี กรณผี จู้ า่ ยเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ เปน็ ผอู้ อกคา่ ภาษใี ห้ จะตอ้ งนำภาษี ให้ผู้มีหน้าที่หักภาษีจากเงินได้ที่จ่าย-หรือผู้มีหน้าที่เสียภาษีจาก เงนิ ไดท้ อ่ี อกใหม้ ารวมเปน็ เงนิ ไดใ้ นการคำนวณภาษหี กั จากเงนิ ไดท้ จ่ี า่ ย การจำหน่ายเงินกำไร-ยื่นแบบ-ภ.ง.ด.54-พร้อมกับนำเงินภาษีส่งต่อ เจ้าพนักงานภายใน-7-วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินหรือ กรณีจ่ายเงินได้พึงประเมินดังต่อไปนี้0ไม่ต้องหักภาษีจาก จำหนา่ ยเงนิ กำไร ณ สำนกั งานสรรพากรพน้ื ทส่ี าขา-ในท้องท่ที ี่ผมู้ ีหนา้ ที่ เงนิ ไดท้ จ่ี า่ ย หักภาษไี ด้มกี ารจ่ายเงนิ หรือในทอ้ งทท่ี ี่ผูเ้ สียภาษีมสี ำนักงานใหญต่ ้ังอยู่ (1) ดอกเบี้ยของรัฐบาล0หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมาย หมายเหตุ กรณียื่นเพม่ิ เตมิ ใหแ้ สดงเฉพาะรายการและจำนวนเงิน โดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้น0สำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริม ทยี่ ื่นแบบฯ และนำสง่ ภาษีไว้ไม่ครบถว้ น เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรืออุตสาหกรรม (2) ดอกเบย้ี พนั ธบตั รหรอื ดอกเบย้ี หนุ้ กขู้ ององคก์ ารของรฐั บาล (3) ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายพันธบัตร หรือหุ้นกู้ที่ออกและจำหน่ายครั้งแรกในราคาต่ำกว่าราคาไถ่ถอน เฉพาะพันธบตั รหรือห้นุ กู้ของรัฐบาล องคก์ ารของรัฐบาล หรอื สถาบัน การเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้น-สำหรับให้กู้ยืม เงนิ เพือ่ ส่งเสรมิ เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรอื อตุ สาหกรรม สอบถามขอ้ มูลเพม่ิ เติมไดท้ ี่ศูนยบ์ ริการข้อมลู สรรพากร โทร. 1161 พมิ พ์ ธ.ค. 2557

118 ภาษีเงนิ ได้นิตบิ ุคคลกบั การบญั ชี แบบประเมนิ ตนเอง ค�ำชแี้ จง ตอนที่ 1 ให้ผู้เรียนประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขยี นเคร่อื งหมาย ✓ลงในช่องระดับคะแนน และเตมิ ขอ้ มลู ตามความเปน็ จรงิ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ระดับคะแนนตอนท่ี 1 5 : มากที่สดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรบั ปรุง ตอนที่ 2 ใหผ้ ู้เรียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในช่องวา่ ง และเขยี นเครอื่ งหมาย ✓ ลงในช่องสรปุ ผล ตอนท่ี 1 (ผลการเรียนร้)ู ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ) รายการ 5 4 3 2 1 แบบทดสอบ 1. ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเขา้ ใจในเน้ือหา คะแนน 2. ผเู้ รียนได้ท�ำกจิ กรรมที่สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาและจดุ ประสงค ์ (ข้อละ 2 คะแนน) การเรียนรู้ สรปุ ผล 9-10 (ดีมาก) 3. ผูเ้ รียนได้เรยี นและท�ำกจิ กรรมทส่ี ่งเสริมกระบวนการคดิ 7-8 (ดี) เกดิ การค้นพบความรู้ 5-6 (พอใช้) ตํ่ากวา่ 5 4. ผเู้ รยี นสามารถประยกุ ตค์ วามรเู้ พีื่อใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจ�ำวนั ได้ 5. ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรู้อะไรจากการเรียน (ควรปรับปรุง) 6. ผ้เู รยี นตอ้ งการท�ำสง่ิ ใดเพื่อพฒั นาตนเอง 7. ความสามารถที่ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ของผเู้ รียน คอื

สถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) บันทึก

1สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 ภาษีมูลคา่ เพ่มิ สาระสำ�คัญ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax) หรอื เรียกยอ่ วา่ VAT คือ ภาษที ร่ี ัฐบาลเรยี กเก็บจากมูลคา่ ส่วนที่เพิ่มข้ึนในแต่ละขั้นตอนการผลิตสินค้าหรือบริการ และการจำ�หน่ายสินค้าหรือบริการ ชนดิ ตา่ งๆ โดยผปู้ ระกอบการเปน็ ผมู้ หี นา้ ทเ่ี กบ็ จากลกู คา้  แลว้ น�ำ ภาษมี ลู คา่ เพม่ิ ไปช�ำ ระใหแ้ กร่ ฐั บาล  สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของภาษีมูลค่าเพม่ิ 2. ผมู้ ีหน้าท่เี สียภาษมี ูลคา่ เพ่ิม 3. ผ้ปู ระกอบการทไ่ี ม่ตอ้ งจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิ่ม 4. ผปู้ ระกอบการทีไ่ ด้รับการยกเวน้ ภาษมี ูลค่าเพิม่ ตามกฎหมาย 5. ภาษีซ้อื และภาษขี าย 6. ฐานภาษีและอัตราภาษมี ลู ค่าเพม่ิ

สมรรถนะประจำ�หนว่ ย 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับภาษมี ูลค่าเพ่ิม 2. ประยุกต์ความรู้เกย่ี วกับภาษีมูลค่าเพ่ิมในชีวติ ประจำ�วันและการประกอบอาชีพ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมายของภาษีมลู คา่ เพม่ิ ได้ 2. อธบิ ายผู้มีหนา้ ทเ่ี สียภาษีมูลคา่ เพม่ิ ได้ 3. อธบิ ายผปู้ ระกอบการที่ไม่ตอ้ งจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพม่ิ ได้ 4. อธบิ ายผูป้ ระกอบการทีไ่ ดร้ ับการยกเว้นภาษมี ลู ค่าเพ่มิ ตามกฎหมายได้ 5. อธิบายภาษซี ื้อและภาษขี ายได้ 6. อธิบายฐานภาษีและอตั ราภาษีมลู ค่าเพิ่มได้ 7. มีเจตคติท่ดี ใี นการเรียน เรื่อง ภาษมี ูลค่าเพม่ิ และรักษ์คา่ นิยมหลกั 12 ประการของไทย ผงั สาระการเรยี นรู้ ความหมายของภาษมี ลู คา่ เพิ่ม ผมู้ ีหนา้ ที่เสยี ภาษีมลู ค่าเพิม่ ภาษี ผูป้ ระกอบการท่ไี ม่ต้องจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพ่ิม มูลค่าเพ่ิม ผู้ประกอบการท่ีได้รบั การยกเวน้ ภาษมี ูลค่าเพ่ิมตามกฎหมาย ภาษซี ้ือและภาษีขาย ฐานภาษีและอัตราภาษีมูลค่าเพ่ิม

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)144 ภาษีเงินไดน้ ติ ิบคุ คลกับการบญั ชี เฉลยอย่ใู นภาคผนวกหน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ ค�ำช้แี จง กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจเป็นกิจกรรมฝึกทกั ษะ เฉพาะด้านความรู้-ความจ�ำ เพ่ือใชใ้ นการตรวจสอบความเข้าใจตามจุดประสงค์การเรียนรู้ จงตอบคำ�ถามตอ่ ไปน้ี 1. จงอธิบายความหมายของภาษีมูลคา่ เพม่ิ (จ.1) 2. จงอธบิ ายผูม้ หี นา้ ท่เี สียภาษีมลู ค่าเพม่ิ โดยสังเขป (จ.2) 3. จงอธิบายผปู้ ระกอบการท่ีไม่ตอ้ งจดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพม่ิ โดยสงั เขป (จ.3) 4 จงอธิบายผู้ประกอบการทีไ่ ด้รบั การยกเวน้ ภาษมี ูลคา่ เพิ่มตามกฎหมาย โดยสงั เขป (จ.4) 5. จงอธบิ ายภาษซี อ้ื และภาษขี าย โดยสังเขป (จ.5) 6. จงอธิบายฐานภาษีและอัตราภาษมี ลู คา่ เพิ่ม โดยสังเขป (จ.6) จ. หมายถงึ ตรงตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ขอ้ ที่ ...

เฉลยอยใู่ นภาคผนวกหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 ภาษีมูลค่าเพิม่ 145 กจิ กรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ค�ำช้แี จง กจิ กรรมสง่ เสรมิ การเรียนรู้ประกอบดว้ ยกิจกรรมหลากหลายท่ฝี กึ ทกั ษะทุกด้านตาม จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมเพ่ือใหเ้ กิดสมรรถนะในการเรียนรู้ สามารถปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ทง้ั ในและนอกสถานทต่ี ามความเหมาะสมของผู้เรียนและสิ่งแวดลอ้ มของสถานศกึ ษา สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) 1. ใหผ้ ู้เรียนแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 4-5 คน โดยใหผ้ ู้เรยี นคิดวเิ คราะห์กรณศี กึ ษาดังตอ่ ไปนี้ ส่วนราชการแห่งหน่ึงทำ�สัญญาจัดซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์จากบริษัทในต่างประเทศ โดยบริษัทใน ต่างประเทศเสนอราคาค่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยค่าลิขสิทธิ์ ท่ีบริษัทในต่างประเทศ ยงั คงเปน็ เจา้ ของกรรมสทิ ธใิ์ นลขิ สทิ ธิ์ คา่ ตดิ ตงั้ คา่ บ�ำ รงุ รกั ษา คา่ ฝกึ อบรม คา่ ใหค้ �ำ ปรกึ ษา คา่ เดนิ ทาง และค่าทพี่ กั ของพนกั งาน กรณดี งั กล่าว ส่วนราชการแห่งนี้ควรปฏบิ ัติอย่างไร 2. ใหผ้ ูเ้ รยี นทำ�แผนผังความคิด เร่ือง ภาษีมลู คา่ เพิม่ พร้อมอธบิ ายประโยชนท์ ไี่ ด้รับจากการเรียน 3. ใหผ้ เู้ รียนจบั คูก่ ับเพือ่ นร่วมช้นั เรยี นรว่ มกันหาคำ�ตอบของคำ�ถามตอ่ ไปน้ ี 1. ภาษมี ูลค่าเพม่ิ คืออะไร 2. ผู้มีหนา้ ท่เี สียภาษมี ลู ค่าเพ่มิ คือ ใคร 3. การประกอบกิจการทีไ่ ดร้ บั การยกเวน้ ภาษีมูลคา่ เพม่ิ ประเภทใด 4. การค�ำ นวณภาษีมูลคา่ เพม่ิ สำ�หรบั กิจการขายสนิ ค้าโดยทวั่ ไปใชฐ้ านภาษีใด 5. ภาษีมูลค่าเพ่มิ มกี อี่ ัตรา จงอธบิ ายให้ชัดเจน กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นกิจกรรมท่ีผู้สอนให้ผู้เรียนปฏิบัติทุกข้อหรือ เลือกปฏิบัติเป็นบางข้อตามความเหมาะสม โดยผู้สอนให้คะแนนการทำ�กิจกรรม ตามเกณฑ์ของใบสรุปผลการทำ�กิจกรรมและสามารถนำ�ผลการทำ�กิจกรรม ไปเทียบกับการให้คะแนนกับตารางวิเคราะห์ความสอดคล้องของเนื้อหากับ จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชา และจุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรมได้

146 ภาษีเงินไดน้ ิตบิ ุคคลกบั การบัญชี สรุปผลการท�ำกจิ กรรม ค�ำชีแ้ จง ให้ประเมินผลการท�ำกจิ กรรม โดยเขยี นเครือ่ งหมาย ✓ลงในชอ่ ง ตามความเปน็ จรงิ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ความรู้ (K) ทกั ษะ (P) คุณลักษณะ (A) เกณฑก์ ารประเมนิ ความรู้ ความเข้าใจ การปฏิบัตงิ านทไ่ี ดร้ บั การมมี นษุ ยสมั พันธใ์ น ท�ำ เครอ่ื งหมาย ✓ การนำ�ไปใช้ การวิเคราะห์ มอบหมายเสร็จตามเวลา การปฏิบตั ิกิจกรรม ในแตล่ ะตอน 3 ข้อ การสงั เคราะห์ ทก่ี �ำ หนด ความมวี นิ ยั ตรงต่อเวลา คือ ผ่านการประเมิน การประเมนิ คา่ การปฏบิ ัตงิ านด้วยความ ความซ่อื สัตยส์ ุจรติ การศกึ ษาคน้ ควา้ ละเอยี ด รอบคอบ ปลอดภยั ในการท�ำ งาน 1. ความรู้ (K) เรียบร้อย สวยงาม ประพฤติตนด้วยความ ผ่าน ไมผ่ า่ น การแสวงหาแหล่งขอ้ มูล ความสมบูรณข์ องงาน ถูกตอ้ งตามศลี ธรรม 2. ทกั ษะ (P) และการรวบรวมขอ้ มลู การปฏิบัตงิ านทท่ี ำ�ใหเ้ กดิ อนั ดีงาม ผ่าน ไม่ผ่าน การแสดงความคิดเห็น เจตคติทีด่ ีในการปฏิบตั ิ 3. คุณลักษณะ (A) อย่างมีเหตผุ ล หรอื แสดง สมรรถนะแก่ผู้เรียน ขนั้ ตอนและกระบวนการ ทกั ษะการวางแผน การคดิ กจิ กรรม ผา่ น ไมผ่ ่าน ทำ�กจิ กรรม สร้างสรรค์ การออกแบบ ความพอเพยี งและความ การหาประสบการณ์ การผลติ พอประมาณ ความรูใ้ หม่ การตัดสินใจในการแกป้ ัญหา หมายเหตุ เกณฑ์การประเมินผลการท�ำกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพ่ือประเมินว่าผู้เรียนเกิดสมรรถนะจากการเรียนรู ้ ตามบรบิ ทตา่ งๆ หรอื ไม่ โดยแบ่งเปน็ เป็น 3 ดา้ น คือ ความรู้หรือพทุ ธพิ ิสัย = Knowledge (K) ทักษะหรอื ทักษะพิสัย = Practice (P) คุณลักษณะหรือจติ พสิ ัย = Attitude (A)

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ 147 แบบทดสอบ จงท�ำ เคร่ืองหมาย กากบาท ลงบนขอ้ ทตี่ อบท่ถี กู ต้องท่สี ดุ เพยี งหนงึ่ ขอ้ 1. ข้อใด คอื ผูท้ ี่มีหนา้ ทเี่ สียภาษมี ลู คา่ เพม่ิ 1. ผู้ซอ้ื สินคา้ และผู้ขายสินค้า 2. ผ้ปู ระกอบการและผู้น�ำ เขา้ 3. ผู้ประกอบการ ผ้นู �ำ เขา้ ผูท้ ่กี ฎหมายกำ�หนดให้มหี น้าท่ีเสียภาษีมูลค่าเพมิ่ เป็นกรณีพเิ ศษ 4. ผู้ขายสินคา้ ผ้นู �ำ เขา้ และผ้ปู ระกอบการ 5. ผ้ขู ายสนิ คา้ และผปู้ ระกอบการ 2. กิจการทีต่ ้องเสยี ภาษมี ลู คา่ เพ่มิ คือข้อใด 1. นายชดิ เปน็ เกษตรกรขายข้าวโพด 2. รา้ นชวนอา่ นจ�ำ หนา่ ยหนงั สือพิมพ์และนิตยสาร 3. หา้ งสรรพสินคา้ Big - C 4. ร้านค้าขายปุ๋ยชีวภาพและอาหารสตั ว์ 5. ถูกเฉพาะข้อ 1 และ 4 3. กรณีท่ผี ู้ขายสินค้าไมอ่ อกไปก�ำ กับภาษีหรือใบเสรจ็ รับเงนิ ใหก้ ับผซู้ ื้อสนิ คา้ ผู้ซอ้ื สินคา้ ควรปฏบิ ัตอิ ย่างไร 1. ร้องเรียนท่ี ส.ค.ม. เพือ่ ใหอ้ อกใบแทนให้ 2. ตามมาตรา 105 ผ้ขู ายต้องออกเอกสารให้ 3. ตามมาตรา 40 ผขู้ ายตอ้ งออกเอกสารให้ 1 ชุด 4. ตามาตรา 50 ทวิ ผูข้ ายต้องปฏบิ ัตติ ามทนั ที 5. ตามมาตรา 40 สัตต ผ้ขู ายไมจ่ ำ�เป็นต้องออกเอกสารให้ 4. บริษัท ยืนยง จำ�กัด ได้ทำ�สัญญาว่าจ้างบริษัทต่างประเทศให้ดำ�เนินการ ให้คำ�ปรึกษาและแนะนำ�ด้าน การบรหิ าร การวางแผน ซง่ึ การใหบ้ รกิ ารทงั้ หมดไดก้ ระท�ำ ในตา่ งประเทศโดยจดั สง่ ขอ้ มลู ผา่ นทางไปรษณยี ์ อิเล็กทรอนิกสใ์ ห้กบั บรษิ ัท ยืนยง จ�ำ กัด กรณดี งั กลา่ วข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง 1. บ.ยืนยง ตอ้ งยน่ื แบบน�ำ ส่งภาษีมลู คา่ เพ่มิ (ภพ. 36) 2. บ. ยนื ยง ต้องยื่นแบบน�ำ สง่ ภาษมี ลู ค่าเพม่ิ (ภพ. 30) 3. บ. ยืนยง ตอ้ งย่ืนแบบนำ�สง่ ภาษีเงินได้หัก ณ ทจ่ี ่าย (ภ.พ. 02) 4. บ. ยนื ยง ไม่ต้องยนื่ แบบแสดง ตามมาตรา 50 ทวิ 5. บ. ยนื ยง ไมต่ ้องยื่นแบบแสดง ตามมาตรา 40 5. บริษัท รุ่งทรัพย์ จำ�กัด ทำ�ธุรกิจขายสินค้าได้ทำ�สัญญาว่าจ้างบริษัทในต่างประเทศให้เป็นนายหน้าติดต่อ หาลูกค้าในต่างประเทศ ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง 1. บ. ร่งุ ทรพั ย์ ต้องย่ืนแบบน�ำ ส่งภาษีมูลคา่ เพมิ่ (ภพ.36) 2. บ. รุ่งทรพั ย์ ตอ้ งยนื่ แบบน�ำ สง่ ภาษีมลู ค่าเพิ่ม (ภพ.30) 3. บ. รุ่งทรัพย์ ต้องยื่นแบบน�ำ สง่ ภาษีเงินได้หกั ณ ท่ีจ่าย 4. บ. รุ่งทรพั ย์ ไมต่ ้องยนื่ แบบน�ำ ส่งภาษมี ูลคา่ เพ่ิม (ภพ. 36) 5. บ. รุ่งทรพั ย์ ต้องย่นื แบบน�ำ สง่ ภาษีมลู ค่าเพม่ิ ตามมาตรา 40

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.)148 ภาษีเงินไดน้ ติ บิ ุคคลกบั การบัญชี 6. ผ้ปู ระกอบกิจการท่ีใชอ้ ตั ราภาษมี ูลคา่ เพ่มิ 0% คอื 1. ผู้ประกอบการท่ีอยู่นอกราชอาณาจักร ซ่ึงได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าในประเทศไทย เปน็ การชว่ั คราว 2. ผู้ประกอบการท่ีอยู่นอกราชอาณาจักร ซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าในประเทศไทย ไดจ้ ดทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพ่มิ เป็นการชว่ั คราว 3. ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นได้โอนกรรมสิทธส์ิ นิ คา้ ทไี่ มม่ รี ปู รา่ งให้กับผ้ปู ระกอบการในต่างประเทศ 4. ผู้ประกอบการท่มี รี ายรบั ไมเ่ กิน 1.8 ล้านบาท 5. ผปู้ ระกอบการทม่ี รี ายรบั มากกวา่ 3 ล้านบาทขึ้นไป 7. ผ้ปู ระกอบกิจการประเภทใดทไี่ ม่ตอ้ งจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิม 1. ผู้ประกอบการท่ีอยู่นอกราชอาณาจักร ซึ่ได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าในประเทศไทยเป็นการ ชัว่ คราว 2. ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร ซึ่งได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าในประเทศไทยเป็นการ ชั่วคราว 3. ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นไดโ้ อนกรรมสทิ ธ์ิสนิ คา้ ทไ่ี มม่ ีรปู ร่างใหก้ บั ผ้ปู ระกอบการในต่างประเทศ 4. ผู้ประกอบการทีม่ รี ายรับไม่เกนิ 1.8 ลา้ นบาท 5. ผูป้ ระกอบการท่มี ีรายรับมากกว่า 3 ล้านบาทข้ึนไป 8. การคำ�นวณภาษีมลู ค่าเพม่ิ ค�ำ นวณตามข้อใด 1. ผลรวมภาษีขาย หัก ผลรวมภาษซี ือ้ 2. ผลรวมภาษีขาย บวก ผลรวมภาษซี อื้ 3. ผลรวมภาษีขาย หกั ผลรวมซ้ือหักผลรวมภาษอี ากร 4. ผลรวมขายเปน็ เงนิ สด หัก ผลรวมซอื้ สิรคา้ เปน็ เงินสด 5. ผลรวมรายได้ หกั ผลรวมภาษขี าย 9. ขอ้ ใดคือ ฐานภาษสี �ำ หรบั กจิ การนำ�เขา้ สินค้าทกุ ประเภท 1. ราคา C.I.F. + อากรขาเขา้ + คา่ ขนส่ง 2. ราคา C.I.F. + อากรขาเข้า + ประกันภัย 3. ราคา C.I.F + อากรขาเข้า + ภาษสี รรพสามิต 4. ราคา C.I.F. + อากรขาเข้า + คา่ ธรรมเนียม 5. ราคา C.I.F. + อาการขาเขา้ + ภาษสี รรพสามติ 10. ภาษีมูลคา่ เพ่ิม เรียกยอ่ ๆ คอื ขอ้ ใด 1. Tax - value 2. VAT 3. Value 4. Added Tax 5. Tax

ภาษีมูลคา่ เพม่ิ 149 แบบประเมนิ ตนเอง ค�ำชแี้ จง ตอนท่ี 1 ให้ผู้เรยี นประเมนิ ผลการเรยี นรู้ โดยเขียนเคร่อื งหมาย ✓ลงในชอ่ งระดบั คะแนน และเติมข้อมลู ตามความเปน็ จรงิ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) ระดบั คะแนนตอนที่ 1 5 : มากทส่ี ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : น้อย 1 : ควรปรับปรงุ ตอนที่ 2 ใหผ้ ู้เรียนน�ำคะแนนจากแบบทดสอบมาเตมิ ลงในชอ่ งว่าง และเขยี นเครื่องหมาย ✓ ลงในชอ่ งสรปุ ผล ตอนท่ี 1 (ผลการเรยี นร)ู้ 5 4 3 2 1 ตอนที่ 2 (แบบทดสอบ) รายการ แบบทดสอบ 1. ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเน้ือหา คะแนน 2. ผู้เรยี นได้ท�ำกิจกรรมที่สอดคล้องกับเนอื้ หาและจุดประสงค์ (ข้อละ 1 คะแนน) การเรียนรู้ สรปุ ผล 3. ผู้เรียนไดเ้ รยี นและท�ำกจิ กรรมทส่ี ่งเสริมกระบวนการคดิ เกิดการคน้ พบความรู้ 9-10 (ดมี าก) 7-8 (ด)ี 4. ผู้เรยี นสามารถประยกุ ต์ความรเู้ พอืี่ ใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ติ ประจ�ำวันได้ 5-6 (พอใช้) ตํ่ากวา่ 5 5. ผเู้ รยี นไดเ้ รียนรอู้ ะไรจากการเรียน (ควรปรับปรุง) 6. ผเู้ รียนตอ้ งการท�ำสงิ่ ใดเพอื่ พฒั นาตนเอง 7. ความสามารถทถ่ี อื ว่าผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ของผเู้ รยี น คอื

สถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) บันทึก

1สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การบันทกึ บญั ชีเก่ียวกับ ภาษีมลู คา่ เพม่ิ สาระสำ�คัญ ใบก�ำ กบั ภาษี คอื เอกสารหลักฐานสำ�คัญ ซงึ่ ผ้ปู ระกอบการจดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพิม่ จะต้อง จดั ท�ำ และออกใหก้ บั ผซู้ อ้ื สนิ คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารทกุ ครง้ั ทม่ี กี ารขายสนิ คา้ หรอื ใหบ้ รกิ าร เพอ่ื แสดงมลู คา่ ของสินค้าหรือบริการ และจำ�นวนภาษีมูลค่าเพิ่มท่ีผู้ประกอบการจดทะเบียนเรียกเก็บหรือพึงเรียก เก็บจากผซู้ ือ้ สนิ คา้ หรือรบั บรกิ ารในแตล่ ะครั้ง ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม มีหนา้ ท่ีจะต้องคำ�นวณภาษีมูลคา่ เพ่ิม เพื่อชำ�ระ ภาษตี ่อกรมสรรพากรเป็นรายเดือน ซ่ึงตอ้ งย่ืนชำ�ระภายในวนั ท่ี 15 ของเดอื นถดั ไปใช้แบบ ภ.พ. 30 สาระการเรยี นรู้ 1. ใบก�ำ กบั ภาษี 2. การค�ำ นวณภาษีมลู คา่ เพิ่ม 3. การบนั ทกึ บัญชีเก่ียวกับภาษมี ูลค่าเพ่มิ ในสมุดรายวนั ทั่วไป 4. รายงานภาษีซ้ือ 5. รายงานภาษขี าย 6. รายงานสนิ ค้าและวัตถุดิบ

สมรรถนะประจำ�หน่วย 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับการบันทึกบัญชเี กี่ยวกับภาษมี ลู คา่ เพมิ่ 2. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรเู้ กย่ี วกับการบันทกึ บัญชีเกี่ยวกบั ภาษีมลู คา่ เพ่ิมในชวี ติ ประจ�ำ วัน และการประกอบอาชีพ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายใบก�ำ กับภาษีได้ 2. ค�ำ นวณภาษมี ูลค่าเพมิ่ ได้ 3. บนั ทึกบัญชเี ก่ียวกบั ภาษีมลู คา่ เพิ่มในสมุดรายวนั ทั่วไปได้ 4. อธิบายรายงานภาษีซ้ือและรายงานภาษขี ายได้ 5. อธิบายรายงานสินค้าและวัตถุดิบได้ 6. มเี จตคติท่ีดีในการเรียน เรื่อง การบันทึกบัญชเี ก่ยี วกับภาษมี ลู คา่ เพมิ่ และรักษค์ า่ นยิ มหลกั ของไทย 12 ประการ ผงั สาระการเรยี นรู้ สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) การบนั ทกึ บัญชี ใบกำ�กับภาษ ี เกยี่ วกบั ภาษี การคำ�นวณภาษีมูลคา่ เพม่ิ มูลค่าเพ่มิ การบันทกึ บญั ชเี กีย่ วกับภาษมี ูลคา่ เพ่ิม ในสมดุ รายวนั ทั่วไป รายงานภาษีซ้อื รายงานภาษขี าย รายงานสินค้าและวัตถดุ บิ

สถา ับน ัพฒนา ุคณภาพวิชาการ (พว.) การบนั ทึกบญั ชีเกยี่ วกบั ภาษีมลู ค่าเพิ่ม 177 เฉลยอยูใ่ นภาคผนวกหน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 5 กจิ กรรมตรวจสอบความเข้าใจ ค�ำช้ีแจง กิจกรรมตรวจสอบความเขา้ ใจเปน็ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะเฉพาะ ดา้ นความร-ู้ ความจ�ำ เพอ่ื ใช้ในการตรวจสอบความเขา้ ใจตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จงตอบคำ�ถามตอ่ ไปน้ี 1. จงอธิบายใบก�ำ กับภาษี โดยสงั เขป (จ.1) 2. จงอธบิ ายการคำ�นวณภาษมี ูลค่าเพมิ่ โดยสงั เขป (จ.2) 3. จงอธบิ ายการบันทกึ บัญชเี กย่ี วกบั ภาษีมลู คา่ เพ่มิ ในสมุดรายวันท่วั ไป โดยสงั เขป (จ.3) 4 จงอธิบายรายงานภาษซี อ้ื และรายงานภาษขี าย โดยสังเขป (จ.4) 5. จงอธิบายรายงานสินค้าและวัตถดุ บิ โดยสังเขป (จ.5) จ. หมายถงึ ตรงตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 ข้อท่ี ...