Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (AN APPLICATION FOR LEARNING SUPPORT OF HEARING IMPAIRMENT CHILDREN)

แอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (AN APPLICATION FOR LEARNING SUPPORT OF HEARING IMPAIRMENT CHILDREN)

Published by smilesmilekoy, 2022-03-01 14:59:52

Description: เล่ม.แอปภาษามือ-Update7.1

Search

Read the Text Version

แอปพลิเคชนั สนับสนุนการเรียนร้สู าหรบั เด็กที่มคี วามบกพรอ่ งทางการได้ยิน An application for learning support of hearing impairment children วีรวุฒิ ใจวังดี Weerawut Jaiwangdee อภิสรา คาฟู Apisara Kumfu การศึกษาคน้ ควา้ ด้วยตัวเองเสนอเป็นสว่ นหนึง่ ของการศึกษา หลักสตู รปรญิ ญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ 2561 ลิขสิทธิ์เปน็ ของมหาวิทยาลัยพะเยา

คายืนยนั การละเมิดทรพั ยส์ ินทางปญั ญา ข้าพเจ้าขอรบั รองโครงงานของข้าพเจ้า ดังน้ี 1. เปน็ การจัดทาขึ้นใหม่และเปน็ การสร้างสรรค์ด้วยตนเอง 2. มิได้เกิดจากการคัดลอกโดยวิธีการใด ๆ หรือมิได้ลอกเลียนในส่วนสาระสาคญั จากผลงานอันมี ลิขสิทธิ์ของผ้อู ืน่ โดยไม่ได้รับอนุญาต 3. มิได้ทาซ้าปรับปรุง แก้ไข เพิ่มเติม หรือจาลองในส่วนอันเป็นสาระสาคัญจากผลงานอันมี ลิขสิทธิ์ ของผ้อู ืน่ โดยไม่ได้รบั อนุญาต 4. มิได้ละเมิดลิขสิทธิ์ในเครื่องมือต่าง ๆ ที่นามาใช้สร้างผลงาน หรือที่นามาเป็นส่วนประกอบของ ผลงาน …………………………………………… วีรวุฒิ ใจวงั ดี ……………………………………………. อภิสรา คาฟู

คณะกรรมการสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้พิจารณาโครงงานเรื่อง “แอปพลิเคชัน สนับสนนุ การเรียนรู้สาหรบั เด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน (An application for learning support of hearing impairment children)” ฉบับน้ีแล้ว เห็นสมควรรับเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษา ตามหลักสูตร ปริญญา การศึกษา วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยพะเยา .............................................. (อาจารย์ ดร.สุขชาตรี ประสมสขุ ) อาจารย์ที่ปรกึ ษา ประธานกรรมการการสอบ .................................................. (อาจารย์ เสถยี ร หันตา) กรรมการ .................................................. (อาจารย์ รัตน์ธศกั ดิ์ เพง็ ชะตา) กรรมการ ................................................... (อาจารย์ ดร.สขุ ชาตรี ประสมสุข) หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ธันวาคม 2561

กิตติกรรมประกาศ การจัดทาโครงงานคร้ังน้ีสาเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั้น ผู้พัฒนาต้องขอกราบขอบพระคุณอาจารย์ที่ ปรึกษา อาจารย์ ดร.สุขชาตรี ประสมสุข และอาจารย์ ดร.ปานจิตร์ หลงประดิษฐ์ ที่ให้คาปรึกษา แนะ แนวความคิด รวมถึงดาเนินการช่วยเหลือชี้แนวทางในการทาวิจยั การพฒั นาแอปพลิเคชันสนับสนนุ การ เรียนรู้สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ตลอดจนตรวจแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ด้วยความ เอาใจใส่เป็นอย่างยิ่ง จนทาให้การศึกษาในรายวิชาวิธีวิจัยและโครงงานสาเร็จสมบูรณ์ได้ คณะผู้ศึกษา ขอกราบขอบพระคณุ เปน็ อย่างสงู ขอกราบขอบพระคุณ พ่อแม่ที่ได้คอยช่วยเหลือเป็นกาลังใจในการศึกษางานวิจัยในคร้ังน้ี ขอขอบพระคุณผู้บริหาร บุคลากรสานักวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตลอดจน บรรณารักษ์ห้องสมุดมหาวิทยาลัยพะเยา ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ อานวยความสะดวกและให้ความ ร่วมมือเปน็ อย่างยิง่ และสุดท้ายน้ี ขอขอบพระคุณศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดพะเยา ผู้อานวยการศูนย์ การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดพะเยา และอาจารย์ อมรรัตน์ ยาวิราช ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามือ ที่ เอื้อเฟื้อข้อมูล ให้คาแนะนา ซึ่งอานวยความสะดวกแก่ผู้พัฒนาระบบในการเอาข้อมูลต่าง ๆ มาพัฒนา แอปพลิเคชัน รวมไปถึงนักเรียนและบุคลากรศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจาจังหวัดพะเยา ที่ให้ความ ร่วมมือเป็นอย่างดี หากมีข้อผิดพลาดหรือ ข้อบกพร่องประการใดผู้พัฒนาต้องขออภัยเป็นอย่างสูง ไว้ ณ ทีน่ ี้ด้วย วีรวุฒิ ใจวงั ดี อภิสรา คาฟู

ชื่อเรื่อง แอปพลิเคชนั สนบั สนนุ การเรียนรู้สาหรบั เด็กทมี่ ีความบกพร่อง ผูศ้ ึกษาค้นควา้ ทางการได้ยนิ ทีป่ รึกษา รายงานการศึกษา วีรวุฒิ ใจวงั ดี อภิสรา คาฟู คาสาคญั อาจารย์ ดร.สุขชาตรี ประสมสขุ , อาจารย์ ดร.ปานจติ ร์ หลงประดิษฐ์ รายวิชา 222421 โครงงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ Information Technology Project การวจิ ัยเชิงคณุ ภาพ (Qualitative Research) วท.บ. (เทคโนโลยีสารสนเทศ) สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั พะเยา 2561 การได้ยิน ความพิการ สื่อการสอน บทคัดยอ่ โครงงานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันในรูปแบบสื่อการสอนภาษามือสาหรับ ช่วยเหลือเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินให้กับเด็กในระดับเตรียมควา มพร้อมก่อนเข้าศึกษาใน โรงเรียน ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั พะเยา ช่วงอายุ 3-7 ปี ซึ่งได้จาแนกกลุ่มผ้ใู ช้ออกเป็น 3 ประเภทคือ 1) ครู 2) ผ้ปู กครอง และ 3) เด็ก การทางานระบบแบ่งออกเปน็ 2 ส่วนคือ 1) ส่วนของผ้ดู ูแล ระบบ ที่สามารถปรับปรุงแอปพลิเคชันให้ใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ 2) ส่วนของผู้ใช้ มีการทางานที่ประกอบด้วยเน้ือหาคาศัพท์ภาษามือพร้อมคาอธิบายสาหรับครู และผู้ปกครองรวม 9 หมวดหมู่ ที่มีคาศัพท์มากกว่า 100 คา มีภาพประกอบการสอนแบบวีดีทัศน์ รวมถึงแบบทดสอบและส่วนแสดงข้อมูลทางสถิติ ผู้ใช้ (จานวนผู้ใช้ เพศ และช่วงอายุ) กับสถิติ แบบทดสอบ ระบบน้ีพัฒนาด้วยโปรแกรม Sublime Text2, Thunkable และ CloudStitch ใช้เป็น ฐานข้อมูลด้วยเทคโนโลยีแบบคลาวด์ ซึ่งผลการประเมินประสิทธิภาพการใช้งานและการยอมรับ ที่มี การประเมินไว้ 3 ด้านคือ การวิเคราะห์และออกแบบ การทางาน และการใช้ประโยชน์กับผลกระทบ มี ค่าเฉลีย่ รวมอยู่ทีร่ ะดบั ดี ( x̅ = 4.35, S.D. = 0.60)

Title An application for learning support of hearing impairment children Author Weerawut Jaiwangdee and Apisara Kumfu Advisor Dr.Sukchatri Prasomsuk and Dr.Panchit Longpradit Academic Paper 222421 Information Technology Project, B.Sc. Information Technology, University of Phayao, 2018. Keywords hearing, disability, teaching media Abstract This project aims to develop an application in a sign instructional media form for pre-school children (3-7 years old) with hearing impairment at the Special Education Center in Phayao province. There are 3 types of users: 1) Teachers 2) Parents 3) Children. The system is divided into two parts of tasks: 1) the administrator part that can be updated on all tasks to operate with Android mobile phone, and 2) the user part contains contents, vocabulary, and explanations for users including 9 categories the total more than 100 vocabularies with illustrated video tutorials by teachers, and testing system with statistic for user's usage (number of user, sex and age ranges) with quiz statistic. This system developed with Sublime Text2, Thunkable, and CloudStitch as a cloud database technology. The system performance is evaluated in 3 aspects: system analysis and design, functional, and a user's benefit with effects. The mean scores result is a good level (x̅ = 4.35, S.D. = 0.60)

สารบัญ บทที่ หนา้ 1 บทนา................................................................................................................... 1 ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา.................................................... 1 วตั ถปุ ระสงค์ของการวิจัย.......................................................................... 2 ขอบเขตของการวิจัย................................................................................. 2 วิธีดาเนนิ การพฒั นา................................................................................. 3 ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รบั จากการวิจยั ..................................................... 4 5 2 เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กี่ยวขอ้ ง......................................................................... 5 เด็กทมี่ ีความบกพร่องทางการไดย้ ิน.......................................................... 9 เทคโนโลยีสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยนิ ............................... 12 เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก.............................................................. การพัฒนาแอปพลิเคชนั และการประเมินการยอมรับของแอปพลิเคชนั การ 13 พัฒนาระบบ............................................................................................. 14 การประเมินการยอมรับ............................................................................ 16 งานวิจยั ทีเ่ กี่ยวข้อง................................................................................... แนวคิดการพัฒนาแอปพลิเคชันสนบั สนุนการเรียนร้สู าหรบั เดก็ ทีม่ ีความบก 21 พร่องทางการได้ยิน................................................................................... 22 22 3 วิธีดาเนินงานวิจยั ................................................................................................ 22 การเริม่ ตน้ และการวางแผน....................................................................... การวิเคราะหร์ ะบบ....................................................................................

สารบัญ (ตอ่ ) บทที่ หนา้ - แผนภาพบริบท...................................................................................... 24 - แผนภาพการไหลของข้อมลู (Data Flow Diagram)................................. 25 การออกแบบระบบ................................................................................... 46 - ER diagram........................................................................................... 46 - การออกแบบพจนานุกรมข้อมลู (Data Dictionary).................................. 47 - การออกแบบหน้าจอ (Screen Design).................................................... 53 4 ผลการพัฒนา...................................................................................................... 58 ผลการออกแบบเน้ือหาทีน่ าเสนอในแอปพลิเคชัน ...................................... 58 ผลการออกแบบออกแบบตวั แบบเชงิ แนวคิด.............................................. 58 ผลการพฒั นาแอปพลิเคชนั ....................................................................... 59 ผลการประเมนิ การยอมรับระบบโดยผ้เู ชีย่ วชาญ....................................... 62 5 สรปุ ผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ............................................................ 66 สรปุ ผลและอธิปรายผล............................................................................. 66 อธิปรายผล............................................................................................... 67 ข้อเสนอแนะ............................................................................................. 67 เอกสารอา้ งอิง................................................................................................................. 68 ภาคผนวก........................................................................................................................ 69 ภาคผนวก ก แบบสอบถามการประเมินการยอมรับโดยผ้เู ชี่ยวชาญและผ้ใู ช้............ 70 ภาคผนวก ข การติดต้งั Sublime Text 2................................................................ 73 ภาคผนวก ค ค่มู ือการใช้งานแอปพลิเคชนั ............................................................. 78 ภาคผนวก ง ภาพลงพื้นที่ ณ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั พะเยา.................. 87

สารบญั (ต่อ) บทที่ หน้า ภาคผนวก จ การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครั้งที่ ๖ ภายใต้หัวข้อ “นวตั กรรมและ 88 เทคโนโลยีเพอื่ คณุ ภาพชีวิตและสังคมทยี่ งั่ ยืน” (Innovation and Technology for 89 Quality of Life and Sustainable Society) ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วทิ ยาเขต 100 เฉลิมพระเกยี รติ จงั หวดั สกลนคร......................................................................... 104 ภาคผนวก ฉ บทความ.......................................................................................... 105 ภาคผนวก ช ค่มู ือการใช้ Thunkable...................................................................... 107 ภาคผนวก ซ โปสเตอร์ แอปพลิเคชนั สนบั สนนุ การเรียนร้สู าหรบั เดก็ ทีม่ ีความ บกพร่องทางการไดย้ ิน.......................................................................................... ประวตั ิผ้วู ิจัย......................................................................................................... ภาคผนวก ฌ ใบประกาศนยี บตั ร ในการประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครั้งที่ ๖ ภายใต้หัวข้อ “นวตั กรรมและเทคโนโลยเี พื่อคณุ ภาพชีวิตและสงั คมที่ยัง่ ยนื ”..........

สารบญั ตาราง ตาราง หนา้ 1 ตารางกาหนดเวลาดาเนินการตลอดโครงงาน.............………………………………...... 4 2 ตารางการเปรียบเทียบผลการวิจยั ที่เกี่ยวข้องกบั การพัฒนาแอปพลิเคชนั …..... 19 3 ตารางสญั ลกั ษณ์ทีน่ ามาใช้เขียนแผนภาพการไหลของข้อมูล……………………….... 23 4 ตารางกระบวนการทางานแอปพลิเคชนั ของ DFD Level 1…………………………...... 25 5 รายละเอียดกระบวนการที่ 1 การเรียกดู สถิติการทดสอบ………………………........ 28 6 รายละเอียดกระบวนการที่ 2 การกรอกข้อมลู เข้าใช้งาน…………………………......... 28 7 รายละเอียดกระบวนการที่ 3 การเข้าส่กู ระบวนการเรียนร…ู้ …........................ 29 8 รายละเอียดกระบวนการที่ 4 การเข้าส่กู ระบวนการทดสอบ…………................. 29 9 รายละเอียดกระบวนการที่ 5 การเข้าใช้งานของผ้ดู แู ล…………………………........... 30 10 รายละเอียดกระบวนการที่ 6 การจัดการเนื้อหา…………………………………………….. 30 11 รายละเอียดกระบวนการที่ 7 การจดั การข้อมลู สถิติ การทดสอบ……………...... 31 12 รายละเอียดกระบวนการที่ 1 การเรียกดูสถิติการทดสอบ……………………………... 33 13 รายละเอียดกระบวนการที่ 2 การกรอกข้อมลู เข้าใช้งาน………………………………… 35 14 รายละเอียดกระบวนการที่ 3.1 การเข้าส่กู ระบวนการเรียนรู้…………………......... 37 15 รายละเอียดกระบวนการที่ 3.2 เลือกหมวดหมู่การเรียนรู้………………………………. 37 16 รายละเอียดกระบวนการที่ 4.1 การเข้าส่กู ระบวนการทดสอบ………………………… 39 17 รายละเอียดกระบวนการที่ 4.2 เลือกหมวดหมู่การทดสอบ……………………………. 39 18 รายละเอียดกระบวนการที่ 5.1 การเข้าใช้งานของผ้ดู ูแล…………………………........ 41 19 รายละเอียดกระบวนการที่ 5.2 ตรวจสอบสิทธิ์…………………………..................... 41 20 รายละเอียดกระบวนการที่ 6.1 การจดั การเน้ือหา…………………………................. 43 21 รายละเอียดกระบวนการที่ 6.2 เพิ่ม ลบ แก้ไข ข้อมลู …………………………............ 43 22 รายละเอียดกระบวนการที่ 7.1 การจดั การข้อมลู สถิติ การทดสอบ…………...... 45

สารบญั ตาราง (ต่อ) ตาราง หนา้ 23 รายละเอียดกระบวนการที่ 7.2 การเรียกดูข้อมูล สถิติ การทดสอบ………........ 45 24 ตารางรายชื่อแฟ้มข้อมลู …………………………………………………………………………………… 47 25 ตารางรายละเอียดของผ้ดู แู ล…………………………………………………………………………… 48 26 ตารางรายละเอียดของการจัดการเน้อื หา………………………………………………………… 48 27 ตารางรายละเอียดของผ้ใู ช้งาน………………………………………………………………………… 49 28 ตารางรายละเอียดของข้อมลู ตวั เลข……………………………………………………………….. 49 29 ตารางรายละเอียดของข้อมูล พยัญชนะภาษาไทย…………………………………………… 49 30 ตารางรายละเอียดของข้อมูล สัตว์………………………………………............................ 50 31 ตารางรายละเอียดของข้อมลู เครื่องดืม่ .......................................................... 50 32 ตารางรายละเอียดของข้อมูล กริยา................................................................ 51 33 ตารางรายละเอียดของข้อมลู ผลไม้................................................................ 51 34 ตารางรายละเอียดของข้อมูล วนั .................................................................... 51 35 ตารางรายละเอียดของข้อมลู เดือน................................................................ 52 36 ตารางรายละเอียดของข้อมลู สี...................................................................... 52 37 ตารางรายละเอียดของข้อมลู สถิติ................................................................. 52 38 ตารางผลการประเมินการยอมรับแอปพลิเคชันสนับสนนุ การ พัฒนาการเรียนร้สู าหรบั เดก็ ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน.......................... 63

สารบญั ภาพ หน้า ภาพ 1 ภาพ วงจรการพฒั นารูปแบบน้าตก (Waterfall Model).................................... 14 2 ภาพ แนวความคิดในการพัฒนาแอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็ก ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน..................................................................... 21 3 ภาพ แผนภาพบริบท (Context Diagram) ของแอปพลิเคชนั .............................. 24 4 ภาพ แผนภาพการไหลของข้อมูลระดับที่ 1 (Data Flow Level 1 )...................... 27 5 ภาพ DFD Level 1 ของกระบวนการที่ 1 การเรียกดสู ถิติการทดสอบ............... 32 6 ภาพ DFD Level 1 ของกระบวนการที่ 2 การกรอกข้อมลู ผ้ใู ช้งาน..................... 34 7 ภาพ DFD Level 2 ของกระบวนการที่ 3 การเข้าส่กู ระบวนการเรียนร้.ู ............ 36 8 ภาพ DFD Level 2 ของกระบวนการที่ 4 การเข้าส่กู ระบวนการทดสอบ........... 38 9 ภาพ DFD Level 2 ของกระบวนการที่ 5 การเข้าใช้งานของผ้ดู ูแล.................... 40 10 ภาพ DFD Level 2 ของกระบวนการที่ 6 การจดั การเนื้อหา.............................. 42 11 ภาพ DFD Level 2 ของกระบวนการที่ 7 การจัดการข้อมลู สถิติ การทดสอบ.. 44 12 ภาพ แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล ( Entity Relationship Diagram)....................................................................................................... 46 13 ภาพ หน้าหลกั ในการเข้าส่แู อปพลิเคชัน.......................................................... 53 14 ภาพ หน้าจอแสดงข้อความแสดงการเปน็ เจ้าของ............................................ 54 15 ภาพ หน้าแสดงข้อมูลสถิติผ้เู ข้าใช้งาน............................................................ 54 16 ภาพ หน้าจอกรอกข้อมลู เพื่อเข้าส่แู อปพลิเคชนั .............................................. 55 17 ภาพ หน้าจอแสดงหมดหมู่การเรียนรู้............................................................. 55 18 ภาพ หน้าจอแสดงกระบวนการเรียนรู้............................................................ 56 19 ภาพ หน้าจอแสดงหมวดหม่กู ารทดสอบ......................................................... 56 20 ภาพ หน้าจอแสดงกระบวนการทดสอบ.......................................................... 57 21 ภาพ ตัวแบบเชิงแนวคิดของแอปพลิเคชนั ....................................................... 59 22 ภาพ ส่วนหน้าหลักในการเข้าแอปพลิเคชนั ..................................................... 60 23 ภาพ ส่วนการเรียนร้เู นื้อหาต่าง ๆ.................................................................. 60

สารบญั ภาพ (ต่อ) ภาพ หนา้ 24 ภาพ ส่วนการทาแบบทดสอบและการแสดงผลการทาแบบทดสอบ................. 61 25 ภาพ ภาพแสดงการใช้งานของผู้ดูแลระบบผ่านหน้าเว็บและการจัดการข้อมูล สถิติผ้เู ข้าใช้งาน............................................................................................. 61 26 ภาพ แสดงผ้ดู ูแลจดั การข้อมลู สถิติผ้เู กีย่ วกบั แบบทดสอบ.............................. 62

1 บทที่ 1 บทนา ความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา ประชากรวัยเด็กมีทั้งเด็กที่เกิดมาปกติและเด็กพิเศษ เด็กพิเศษ หมายถึงเด็กที่ต้องการความ ช่วยเหลือดูแลเป็นพิเศษซึ่งวิธีการดูแลเด็กแต่ละกลุ่มก็มีความแตกต่างกัน เด็กพิเศษมีการเรียนรู้ที่ แตกต่างจากเด็กปกติซึ่งจาเป็นต้องใช้วิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างจากเด็กปกติ ในประเทศไทยมีศูนย์ การศึกษาพิเศษกระจายอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ท่ัวประเทศ เพื่อดูแลเด็กพิเศษให้สามารถช่วยเหลือตนเอง และใช้ชีวิตประจาวันได้ด้วยตนเองก่อนที่จะถูกส่งต่อไปยังระบบการศึกษาที่เป็นระดับช้ันมาตรฐาน อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีและสื่อการเรียนรู้สาหรับเด็กพิเศษยังมีจานวนจากัด และเมื่อเด็กอยู่นอก ห้องเรียน หรืออยู่ที่บ้านผู้ปกครองก็ไม่สามารถสื่อสารกับเด็กได้ เพราะผู้ปกครองไม่ได้รับการเรียนรู้ แบบเดียวกบั เดก็ ในปจั จุบันจึงได้มีการนาเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหาดงั กล่าว เด็กพิเศษทมี่ คี วามบกพร่องทางการได้ยนิ (Sensory Impairments) หมายถงึ ผ้ทู ีส่ ญู เสียการได้ยิน มีการได้ยนิ น้อยกว่าปกตติ งั้ แต่ใน ระดับเล็กน้อยจนถงึ ระดบั มากทีส่ ดุ คือไม่ได้ยินเสียงเลย เดก็ ทีส่ ูญเสีย การได้ยินมีอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกคือการสญู เสียการได้ยนิ ในระดบั 26 เดซิเบลขนึ้ ไป ซึง่ การ สูญเสียระดบั น้ีสามารถช่วยให้ได้ยินได้โดยเครือ่ งช่วยฟัง ส่วนเดก็ อีกประเภทคือ เดก็ ที่สูญเสียการไดย้ ิน ระดบั 90 เดซิเบลขึ้นไป ไม่สามารถใช้เครือ่ งช่วยฟงั ได้ จาเปน็ ต้องมีภาษาที่ใช้ในการเรียนร้สู ื่อสาร นนั้ คือ ภาษามอื ซึง่ ปัจจบุ นั มีแอปพลิเคชนั ที่ช่วยในการสื่อสารหรอื ให้การเรียนร้มู ีไม่มากนัก แต่ละแอป พลิเคชันมีจดุ เด่นจุดด้อยที่แตกต่างกนั ไป อย่างไรกต็ ามแอปพลิเคชนั ใหม่จะมีความง่ายในการทาความ เข้าใจสาหรบั ผ้ปู กครอง บคุ ลากรทมี่ ีอายุหรือบคุ คลที่มีความล้าสมัยทางเทคโนโลยี ด้วยเหตนุ ี้ผ้ปู กครองบุคลากรหรืออาจารย์ผ้สู อนสามารถสอนหรือให้ความรู้พนื้ ฐานสาหรบั เด็ก ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยินได้เพือ่ ทาให้เดก็ มีความร้พู ้นื ฐานที่ถกู ต้องและมีความพร้อมในการถกู ส่งต่อไปยงั ระบบการศกึ ษาทีเ่ ปน็ ระดับช้นั มาตรฐาน ดังน้ันผู้พัฒนาจึงมุ่งหวังที่จะพัฒนาแอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็กที่มีความ บกพร่องทางการได้ยิน จะสามารถใช้งานมีการเข้าถึงและเข้าใจง่ายสาหรับอาจารย์ผู้สอนเด็กที่มีความ บกพร่องทางการได้ยิน ผู้ปกครองเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และเด็กที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยิน โดยแอปพลิเคชันน้ีจะใช้วีดีโอเป็นสื่อสนับสนุนการเรียนรู้และมีการแบ่งหมวดหมู่ของคา

2 ต่าง ๆ ที่สาคัญเบ้ืองต้นเอาไว้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และนอกจากวีดีโอภาษามือที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นมา สาหรับงานวิจัยน้ีแล้วยังให้ความรู้คาเหมือน คาภาษาอังกฤษ และแบบทดสอบภาษามือเพื่อให้เกิดการ เรียนร้ทู ีถ่ ูกต้องและสามารถนาแบบทดสอบภาษามือไปใช้ประโยชน์ในด้านอืน่ ๆต่อไปได้ วัตถุประสงคข์ องการวิจัย 1. เพื่อออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็กที่มีความบกพร่อทาง การได้ยิน 2. เพือ่ ประเมินการยอมรับของอาจารย์ผู้สอนและผ้ปู กครองของเดก็ พิเศษที่มีต่อแอปพลิเคชนั ขอบเขตของการวิจัย ขอบเขตดา้ นเนื้อหา แอปพลิเคชนั น้ีจะนาเสนอเน้อื หาเกยี่ วกบั คาศพั ท์ภาษามือเบ้อื งต้น โดยแบ่งเป็น 9 หมวดหมู่ ได้แก่ 1) ผลไม้ 2) สัตว์ 3 วนั 4) เดือน 5) สี 6) เครือ่ งดื่ม 7) คากริยา 8) ตวั เลข 9) ก-ฮ ขอบเขตด้านฟังก์ชันการทางานของระบบ - เรยี นร้ผู ่านเน้ือหา - นาสนอวีดีโอ - เรยี นรู้ภาษามือ - แบบทดสอบภาษามือ - แสดงข้อมลู สถิติ ขอบเขตดา้ นฮารด์ แวร์ - ระบบปฏบิ ัติการ Windows 7 ขนึ้ ไป - โทรศพั ท์มอื ถือหรือแทบ็ เลต็ (Smart Phone or Tablet) - ระบบปฏบิ ัติการแอนดรอยด์ (Android OS) ขอบเขตดา้ นซอฟต์แวร์ - Thunkable - Adobe Photoshop CS6 - Google space sheet - PhotoScape

3 ขอบเขตดา้ นประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง ประชากร คือ ผู้ปกรองของเด็กที่ความบกพร่องทางการได้ยิน อาจารย์ผู้สอนเด็กที่ ความบกพร่องทางการได้ยิน และเดก็ ที่ความบกพร่องทางการได้ยินที่เริ่มเข้าเรียนในระดับเตรียมความ พร้อม 2561 ของจังหวัดพะเยา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ผู้ปกรองของเดก็ ที่ความบกพร่องทางการได้ยิน อาจารย์ผู้สอน เด็กที่ความบกพร่องทางการได้ยิน เด็กที่ความบกพร่องทางการได้ยิน จากศูนย์การศึกษาพิเศษประจา จังหวัดพะเยา ประจาปี 2561 และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ จานวนกลุ่มละ 5 คน ที่ได้ จากการส่มุ ตวั อย่างด้วยวิธีบงั เอิญ (Convenience Sampling) วิธีดาเนินการพฒั นา การพัฒนาแอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน (Sensory Impairments) บนมือถือระบบปฏิบตั ิการแอนดรอยด์ ผ้พู ัฒนาดาเนินงานโดยประยกุ ต์ 1. การเริม่ ต้นและวางแผนโครงการ 2. การวิเคราะห์ระบบ 3. การออกแบบระบบ 4. การดาเนินการระบบ 5. สรปุ ผลและจดั ทารายงาน

4 ตาราง 1 ระยะเวลาการดาเนินการ (Gantt Chart) ระยะเวลาการดาเนนิ งาน มกราคม – ธนั วาคม 2561 ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะไดร้ ับจากการวิจัย 1. ทาให้ได้แอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ผ่าน การยอมรับจากผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน อาจารย์ผู้สอนเด็กที่มีความ บกพร่องทางการได้ยิน และเดก็ ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน 2. ผ้ปู กครองหรือคนรอบข้างเด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน สามารถสื่อสารกบั เดก็ โดยใช้ ภาษามือได้อย่างถูกต้อง 3. ช่วยให้ผู้ปกครองประหยดั ค่าใช้จ่ายในการเรียนพิเศษภาษามือ 4. ผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสามารถฝึกสอนเด็กได้โดยตนเองโดยใช้ แอปพลิเคชันในการช่วยในการสอน 5. เพื่อจะช่วยให้เด็กพิเศษมีความร้พู ้นื ฐานเกีย่ วกับภาษามือที่ถูกต้อง 6. สามารถนา Lab แนวทางน้ไี ปพัฒนากับเด็กพิเศษกล่มุ อืน่ ๆ ได้

5 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ ง ในการวิจัยเรื่องแอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ผู้พัฒนาได้รวบรวมแนวคิดทฤษฎีและหลักการต่าง ๆ จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องดังต่อไปน้ี 1. เดก็ ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน 2. เทคโนโลยีสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน 3. เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก 4. การพฒั นาแอปพลิเคชันและการประเมินการยอมรับของแอปพลิเคชนั 5. งานวิจัยทีเ่ กีย่ วข้อง 6. แนวคิดการพัฒนาแอปพลิเคชันสนับสนนุ การเรียนร้สู าหรับเดก็ ที่มีความบกพร่องทางการได้ ยิน เด็กที่มีความบกพรอ่ งทางการได้ยิน คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ (2528, หน้า 10) ได้ให้ความหมายไว้ว่าเด็กที่มีความ บกพร่องทางการได้ยิน (Hearing Impaired Children) หมายถึง เด็กที่บกพร่องหรือสูญเสียการได้ยิน เปน็ เหตใุ ห้การรับฟงั เสียงต่าง ๆ ไม่ชัดเจนมี 2 ประเภท คือ เดก็ หตู ึง (Hard of Hearing) และเด็กหูหนวก (Deaf) เด็กหูตึง (Hard of Hearing) หมายถึง ผู้ที่สูญเสียการได้ยินจนไม่สามารถเข้าใจคาพูดและการ สนทนาซึ่งจาแนกตามเกณฑ์การพิจารณาอตั ราความพิการของหขู องสมาคมโสต ศอ นาสก แพทย์แห่ง ประเทศไทย โดยใช้ค่าเฉลี่ยการได้ยินทีค่ วามถี่ 500 1,000 และ 2,000 Hz ในหูข้างทีด่ ีกว่า db.ISO มี 4 ระดับ - หตู ึง ระดบั ที่ 1 ระหว่าง 25 - 40 db. - หูตึง ระดบั ที่ 2 ระหว่าง 41 - 55 db. - หูตึง ระดบั ที่ 3 ระหว่าง 56 - 70 db - หูตึง ระดับที่ 4 ระหว่าง 71 – 90 db. เดก็ หูหนวก (Deaf) หมายถึง วิธีการสอน เด็กที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถเข้าใจ หรือใช้ภาษาพูดได้ หากไม่ได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษ

6 และถ้าจัดระดับการได้ยินที่ 500 – 2,000 Hz จะมีการตอบสนองของหูข้างที่ดีกว่าตอ่ เสียงบริสทุ ธิ์ต้งั แต่ 91 db. ขึ้นไป ชูชีพ อ่อนโคกสูง (2527, หน้า 69) ได้ให้ความหมายว่า เด็กที่มีปัญหาในการได้ยิน หมายถึง เด็กที่ขาดความสามารถในการได้ยินตั้งแต่น้อยสุดถึงมากที่สุด คือ ตั้งแต่หูตึง (Hard of Hearing) ถึงหู หนวก (Deaf) 1. หูตึง หมายถึง การสูญเสียความสามารถในการได้ยิน แต่ไม่ถึงกับสูญเสียท้ังหมด หากใช้ เครื่องช่วยฟังแล้วสามารถได้ยินเสียงได้อย่างถูกต้อง หูตึงแยกเป็น 4 ระดบั คือ 1.1 หตู ึงอย่างอ่อน (Mild) สามารถได้ยินเสียงที่มีความดัง ต้งั แต่ 26 – 54 เดซิเบล 1.2 หตู ึงอย่างกลาง (Moderate) สามารถได้ยินเสียงที่มีความดังต้ังแต่ 55 – 69 เดซิเบล 1.3 หูตึงอย่างหนกั (Severe) สามารถได้ยินเสียงที่มีความดงั ต้ังแต่ 70 - 89เดซิเบล 1.4 หตู ึงอย่างหนักที่สุด (Profound) สามารถได้ยินเสียงที่มีความดงั ตั้งแต่ 90 เดซิเบล ขึ้นไป 2. หูหนวก (Deaf) หมายถึง ไม่สามารถได้ยินเสียงได้เลย ถึงแม้จะใช้เครื่องช่วยฟัง แล้วกต็ าม หู หนวกแยกเป็น 2 ประเภท คือ 2.1 หูหนวกต้ังแต่เกิดหรือต้งั แต่ก่อนระยะมีพฒั นาการทางภาษาหรือการพดู 2.2 หหู นวกหลังเกิดหรือหลงั มีพัฒนาการทางภาษาหรือการพดู เบญจา ชลธาร์นนท์ (2538, หน้า 67) แบ่งเด็กทีม่ ีความบกพร่องทางได้ยิน ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. เดก็ หูหนวก คือ เด็กที่สูญเสียการได้ยินมาก สามารถเรียนรู้ได้โดยใช้ภาษามือ และระบบรวม 2. เด็กหูตึง คือ เด็กที่ยังมีการได้ยินเหลืออยู่ แต่ต้องใช้เครือ่ งช่วยฟัง สามารถเรียนรู้ได้ โดยใช้ การสอนพูดและระบบรวม จากความหมาย ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินที่กล่าวมาข้างต้น สรปุ ได้ว่า เดก็ ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน หมายถึง เดก็ ที่สูญเสียการได้ยินตั้งแต่ 26 เดซิเบลขึ้นไป จนถึง 90 เดซิเบล เรียกว่า เดก็ หูตึง สามารถใช้เครือ่ งช่วยฟงั ฝึกฟงั ฝกึ พดู ได้ สาหรบั เดก็ ที่สญู เสีย การ ได้ยินตั้งแต่ 90 เดซิเบลขึ้นไป ส่วนใหญ่จะใช้ภาษามือในการสื่อสาร เรียกว่า เด็กหูหนวก มีพัฒนาการ ทางด้านร่างกายปกติ แต่การประสานสัมพันธ์ของการเคลือ่ นไหวํต่ากว่าปกติ มีปัญหา ทางด้านการพูด หรือการใช้ภาษาทาให้การติดต่อสัมพันธ์กับบุคคลภายนอก หรือทักษะทางสังคม พัฒนาล่าช้ากว่าปกติ แต่สามารถเรียนร้แู ละรบั รู้ได้มีสติปัญญาปกติ

7 ประเภทเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน กฎกระทรวงฉบับที่ 2 (2537) กล่าวไว้ ในข้อ 3 ว่าคน พิการทางการได้ยินหรือการสื่อความหมาย ได้แก่ (ก) คนที่ได้ยินเสียงที่ความถี่ 500 เฮิรตซ์ หรือ 2000 เฮิรตซ์ ในหูข้างที่ดีกว่าในความดังเฉลี่ย ต่อไปนี้ 1. สาหรับเด็กอายุไม่เกิน 7 ปี เกิน 40 เดซิเบล ขึ้นไปจนไม่ได้ยินเสียง 2. สาหรับคนท่ัวไปเกิน 55 เดซิเบลขึ้นไป จนไม่ได้ยินเสียงหรือ (ข) คนที่มีความผิดปกติหรือคนที่มีความบกพร่องในการเข้าใจการใช้ภาษาพูด จนไม่สามารถ สื่อความหมายกบั คนอื่นได้ ผดุง อารยะวิญญ (2533, หน้า 13 -15) ได้จาแนกถึงลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยิน ดังนี้ 1. การพูดจะมีปัญหา เด็กอาจพูดไม่ได้ไม่ชัด ซึ่งขึ้นอยู่กับระดับการสูญเสียการได้ยิน ของเด็ก นอกจากนี้ขึ้นอย่กู ับอายขุ องเด็กเมือ่ สญู เสียการได้ยินและโอกาสที่ได้รับการสอนพูด 2. เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน มีปัญหาเกี่ยวกับภาษา เช่น ความรู้เกี่ยวกับ คาศัพท์วงจากดั เรียงคาเปน็ ประโยคที่ผิดหลักภาษา เปน็ ต้น 3. ความสามารถทางสติปัญญา ผู้ที่ไม่คุ้นกับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน อาจคิดว่าเด็กประเภทน้ีมีสติปัญญาต่า ความจริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้นจากรายงานการวิจัยเป็นจานวน มากกล่าวว่า ระดับสติปัญญาของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมีความหลากหลายคล้าย เด็ก ปกติ 4. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินค่อนข้างํต่า กว่า เดก็ ปกติ ทั้งน้ีเพราะเด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยินมกั มีปัญหาเกี่ยวกบั ภาษา ทาให้เป็นอปุ สรรค 5. เดก็ ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินอาจมีปญั หาการปรับตวั ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ มา จากการสื่อสารกบั ผู้อื่น หากสามารถสื่อสารได้ดีปัญหาทางอารมณ์อาจลดลงสามารถ ทาให้ปรับตัวได้ แสงจันทร์ คาเมือง (ม.ป.ป, หน้า 11) ได้สรุปพฤติกรรมโดยทั่วไปของเด็กที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยินไว้ดงั นี้

8 1. การใช้ภาษามักใช้ค่อนข้างน้อยหรือใช้ภาษาไม่ถูกต้องตามไวยากรณ์ มีความจากัด ในการใช้คาศพั ท์ 2. ชอบจ้องหน้าผ้พู ูด 3. ตาไวต่อการเคลือ่ นไหวของสิง่ ต่าง ๆ รอบตัวมกั หันไปมองบ่อย ๆ 4. มีความร้สู ึกไวต่อการส่ันสะเทือน 5. พดู ไม่ชดั เสียงพดู ปกติ 6. ไม่พดู หรือเล่นเสียงกับตัวเองขณะพูด 7. อาจพบการใช้เสียง เอ้อ อ้า เรียกความสนใจจากผ้อู ื่น 8. ชอบทาภาษามือ 9. แสดงอาการตอบสนองต่อเสียงที่ดังในระดับที่เราพอได้ยินค่อนข้างสม่าเสมอบางที แสดงอาการหวาด 10. ชอบให้ผ้ใู หญ่แสดงความรกั โดยการกอด อ้มุ ลบู ศรีษะ เปน็ ต้น 11. ค่อนข้างซน ชอบหยิบจบั ของมาพิจารณา 12. ชอบเล่นของเล่นต่าง ๆ มากกว่าเล่นกบั เพือ่ นทีห่ ูปกติ 13. ชอบเล่นกับเพือ่ นด้วยวิธีการสมั ผสั กันบ่อยคร้ัง เช่น ตีหลงั ตบศรีษะ ดึงแขน สุชา จันทร์หอม (2525, หน้า 53-54) ได้สรุปพฤติกรรมของเดก็ ที่มีความบกพร่อง ทางการได้ ยินไว้ดงั น้ี 1. มีการพูดการฟังไม่ชัดเจน ชอบยกมือป้องหู จ้องหน้าคู่สนทนาตลอดเวลา เข้าใกล้ คู่ สนทนามากกว่าปกติ มีการเคลื่อนไหวเรว็ อย่ไู ม่สุข ซนมากกว่าเดก็ ปกติ 2. มักจะหลีกเลี่ยงสนทนากับคนท่ัวไป ชอบถามํซ้าและบ่อย ๆ เสียงพูดเพี้ยนแปร่ง ลีลาการพดู และจงั หวะการพูดไม่เปน็ ไปตามธรรมชาติ 3. มกั เข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ คลาดเคลือ่ นไปจากความเปน็ จริงเสมอเพราะฟงั ไม่ชัด และ ไม่เข้าใจคาพดู ใช้ภาษาส้ันมาก ชอบใช้ภาษามือแทนภาษาพดู

9 4. มักชอบระแวงสงสัย อารมณ์ร้าย โกรธง่าย ฉุนเฉียว บางที่ไม่มีเหตุผล ปรับตัว เข้า กบั ผู้อื่นค่อนข้างยาก จากที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่าเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินจะมีพฤติกรรม หลากหลายแตกต่างกนั ไปทั้งนขี้ ึ้นอย่กู บั สภาพแวดล้อม บคุ คลรอบข้างและสภาพการสญู เสีย การได้ยิน ซึ่งคนปกติโดยทว่ั ไปจะใช้ประสาทหใู นการรบั สาร(ฟัง)เป็นสาคัญ แต่สาหรบั นักเรียน ที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยิน เมื่อสูญเสียการได้ยินแล้ว ทาให้เด็กประสบปัญหาต่าง ๆ เช่น การสื่อสาร การเข้าใจ ภาษาทาให้มีพฤติกรรมที่แตกต่างจากเดก็ ปกติ เทคโนโลยีสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินจะมี ปัญหาในด้านการฟังเสียงต้ังแต่ระดับได้ ยินเสียงแต่ไม่ชัดเจน จนถึงระดับไม่ได้ยินเสียงเลย ดังนั้นจึงมี ความจาเป็นที่จะต้องประดิษฐ์ อุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ที่จะมาช่วยให้เด็กกลุ่มน้ีสามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพในการฟังให้ ได้มากขึ้น พวงแก้ว กิจธรรม (2547) ให้ความหมายว่า “เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก” หมายถึง หลายสิ่งหลายอย่าง ได้แก่ ชิ้นส่วนของอุปกรณ์ หรือผลิตภณั ฑ์ ซึ่งมีวางจาหน่ายทั่วไป หรือได้ดดั แปลง หรือผลิตเฉพาะบคุ คลเพื่อนามาใช้ในการดารงชีวิตอย่างอิสระ สามารถพัฒนาศกั ยภาพของผ้พู ิการที่ใช้ อปุ กรณ์น้นั ๆ เบญจา ชลธาร์นนท์ (2546) ให้ความหมายว่า “เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก หมายถึง เทคโนโลยีที่คนพิการใช้ ซึ่งได้มีการพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้คน พิการ สามารถดารงชีวิตอิสระ (Independent living) ปฏิบัติงานและผลิตงานออกมาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ มากขึ้น ดารณี ศกั ดิศ์ ิริผล (2548 : 24) ได้กล่าวถึง เทคโนโลยีของเด็กทีม่ ีความบกพร่อง ทางการได้ยิน ไว้ดังน้ี 1.เทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิต เทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิต มีดังน้ี 1.1 เครื่องช่วยฟัง (hearing aid) เป็นเครือ่ งขยายเสียงที่จะทาให้เด็กที่มี ความบกพร่องทางการ ได้ยินสามารถได้ยินเสียงมากข้นึ ซึง่ เครือ่ งช่วยฟังแบ่งได้เปน็ 4 ประเภท

10 1.1.1 ประเภทพกติดตัว มีลักษณะเป็นกล่องเล็ก ๆ ภาครับเสียงและ ภาคขยายเสียง รวมอยู่ภายในกล่อง ส่วนลาโพงแยกอยู่ต่างหาก มีสายต่อระหว่างกล่องไปยงั ลาโพง เหมาะสาหรับเด็ก เวลาใช้มกั ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ส่วนลาโพงจะใส่เข้าไปในช่องหู 1.1.2 ประเภททัดหู มีลักษณะยาว เรียว โค้ง ใช้ทัดหลงั ใบหูและมีท่อต่อ เข้าไปในช่องหู ภาครับเสียง ภาคขยาย และลาโพง รวมอยู่ด้วยกันภายในตัวเครือ่ ง มีท่อ พลาสติกํน้าเสียงที่ขยายแล้ว ส่งต่อเข้าไปในหู เข้าไปในช่องหู ภาครับเสียง ภาคขยาย และลาโพง รวมอยู่ด้วยกันภายในตัวเครื่อง มี ท่อ พลาสติกนาเสียงที่ขยายแล้วส่งต่อเข้าไปในหู 1.1.3 ประเภทแว่นตา มีลักษณะเป็นแว่นตาเหมือนแว่นตาทั่วไป แต่ที่ แตกต่าง คือ ก้าน แว่นตาหนา และมีขนาดใหญ่กว่าแว่นตาท่ัวไป เพราะภายในก้านแว่นตาเปน็ เครื่องช่วยฟัง ภาครับเสียง ภาคขยาย และลาโพงฝังอยู่ในก้านแว่นตามีท่อพลาสติกนาเสียงเข้า ช่องหู เครื่องช่วยฟังแบบน้ี เหมาะ สาหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และมี ความบกพร่องทางสายตาด้วย เช่น สายตาส้ัน สายตา ยาว เปน็ ต้น 1.1.4 ประเภทใส่ในช่องหู เปน็ เครื่องช่วยฟงั ที่มีขนาดเล็ก พอทีจ่ ะสอดเข้า ไปในช่องหูได้ โดยภาครับเสียง ภาคขยาย และลาโพงอยู่รวมกัน มีท่อพลาสติกต่อจากลาโพง เพื่อนาเสียงเข้าหู เนื่องจากมีขนาดเลก็ จึงไม่เปน็ ทีส่ งั เกตของคนทวั่ ไป 1.2 ประสาทหูเทียม (cochlear implant) คือ เครื่องไฟฟ้าซึ่งช่วยการได้ยินและ ทาให้ ความสามารถในการสนทนาโต้ตอบดีขึ้น ใช้กับบุคคลที่หูหนวกสนิทจากประสาทหู พิการ โดยส่วนหนึ่ง ผ่าตัดฝังวางไว้บริเวณบนกระดูกหลังใบหู มีผิวหนังปกคลุมสนิทมอง ไม่เห็น ส่วนน้ีเรียกว่า ส่วนที่อยู่ ภายในร่างกาย อีกส่วนหนึ่งจะอยู่ภายนอกร่างกาย มีรูปร่าง คล้ายกับเครื่องช่วยฟังมีท้ังแบบกระเป๋ามี สายมองเหน็ ได้ชัดเจน และแบบคล้ายเครือ่ งช่วยฟงั ประเภททดั หู ABHLA 2. เทคโนโลยีเสริมการฟัง เทคโนโลยีเสริมการฟัง สาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน มีดงั นี้ 2.1 เครื่องขยายเสียงระบบ FM (FM System) เป็นระบบหนึ่งที่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพในการ สื่อสาร ซึง่ ระบบ FM น้ีจะมี 2 ส่วน ส่วนหนึ่งจะเปน็ ไมโครโฟนสาหรับ ผ้พู ูด และ FM ทีเ่ ปน็ ตัวรบั สาหรบั ผู้ฟังซึ่งจะเชื่อมต่อกับเครื่องช่วยฟัง เป็นระบบที่มีประโยชน์ ต่อผู้พูดและผู้ฟังมีความยืดหยุ่นและอิสระ ในการเคลื่อนไหว โดยผู้ฟัง ไม่ต้องเห็นหน้าผู้พูด ก็สามารถจะเข้าใจจากเสียงที่ได้ยินได้ ระบบ FM น้ี สามารถใช้ได้ท้งั ทีบ่ ้าน ทีท่ างาน และ กิจกรรมอื่น ๆ

11 2.2 ระบบสนามแม่เหล็ก (Loop System) ระบบน้ีเป็นระบบที่ช่วยให้เด็ก สามารถรับฟังเสียง จากผู้พูดได้ชัดเจน โดยปราศจากเสียงรบกวนได้โดยปรับสวิตซ์ไปที่ตัว “” ระบบน้ีประกอบด้วย ไมโครโฟน เครื่องขยายเสียง และสาย induction loop ซึ่งจะติดตั้งไว้ รอบ ๆ ผนังห้อง เมื่อพูด เสียงจะ ผ่านเข้าสู่ระบบแม่เหล็ก ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นคลื่นไฟฟ้าและส่ง ต่อไปยังเครื่องช่วยฟังของเด็กที่ใส่ เครื่องช่วยฟงั ซึ่งจะต้องปรับสวิตซ์ไปที่ตวั “” 2.3 เทคโนโลยีเสริมการฟังร่วมกับ FM (Telecom) เป็นระบบที่ช่วยในการ ติดต่อสื่อสารทาง โทรศัพท์ระหว่างเด็กกับบุคคลอื่น ๆ โดยระบบน้ีจะเชื่อมต่อระหว่าง โทรศัพท์กับโทรทัศน์ เมื่อมี โทรศัพท์เข้ามาเสียงจากโทรทัศน์จะเบาลงโดยอัตโนมัติ และเมื่อ เด็กไปรับโทรศัพท์ โทรทัศน์ก็จะดับ ทันที และเมื่อเด็กพูดเสร็จแล้ววางโทรศัพท์ลงโทรทัศน์ จะเปิดอีกครั้งโดยอัตโนมัติ ระบบน้ีใช้กับเด็กที่ โตพอสมควรและผ้ใู หญ่ 3. เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้เรื่องระดับเสียงเพื่อช่วยในการเรียนรู้ของเด็กที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยิน มีหลายชนิดดังน้ี 3.1 โทนบาร์ (Tone bar) โทนบาร์ เป็นเครื่องดนตรีชนิดหนึ่งที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น ในประเทศ ตะวันตก มีเสียงคล้ายระนาดของไทย แต่ไม่ได้ติดกันเหมือนลูกระนาด เครื่องดนตรี ชนิดน้ีจะมีเป็นชุด โดยชุดหนึ่งมีหลายลูก (ประมาณ 27 ลูก) 1 ลูก มีเสียง เสียงเกิดจากการตี หรือเคาะไม้เน้ือแข็ง ซึ่งมี ลักษณะคล้ายลูกระนาด ไม้นี้จะวางอยู่บนกล่องซึ่งทาด้วยวัตถุ สงั เคราะห์ภายในกล่อง เวลาตีด้วยไม้ที่ จะเกิดเสียงก้องกังวาน โทนบาร์ มีหลายชิ้นหลายเสียง ผู้ที่นามาใช้ในการสอนเสียงวรรณยุกต์ จะต้อง เลือกให้เหมาะสมในการสอน ผู้สอนจะเคาะที่ Tone bar แล้วออกเสียงวรรณยุกต์ให้เด็กฟังแล้วให้เด็ก ออกเสียงโดยทาหลาย ๆ ครั้งจนเดก็ ออก เสียงได้คล่อง 3.2 เครื่องฝึกการออกเสียงนาสิก (Nasal Indicator) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการ ฝึกออกเสียง นาสิก ซึ่งได้แก่ มนง เมื่อเด็กสามารถเปล่งเสียงให้ขึ้นจมกู ได้เข็มบนหน้าปัดของ เครื่องจะกระดิก พร้อม กับมีไฟสว่างขึ้นที่ปุ่มใกล้กับหน้าปัด ถ้าเปล่งเสียงแล้ว เสียงไม่ขึ้นจมูก ก็จะไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ปรากฏ บนเครื่อง 3.3 เครื่องฝึกการออกเสียงเสียดแทรก (s - Indicator) มีลักษณะเช่นเดียวกับ เครื่อง Nasal Indicator แต่เขม็ จะกระดิกก็ตอ่ เมือ่ นกั เรียนออกเสียง ซส ศ ษ ได้ถูกต้องเท่าน้นั ถ้าออกเสียงดังกล่าวไม่ ถูกต้องเขม็ ก็จะไม่กระดิก และไม่มีสัญญาณไฟปรากฏขึ้นที่ปุ่มสญั ญาณ ไฟ 3.4 เครื่องฝกึ ระดับเสียง (Pitch Indicator) เป็นเครือ่ งทีเ่ หมาะในการฝึกระดบั เสียง บนเครือ่ งจะ มีจอคล้ายจอโทรทัศน์ เวลาพูดเข้าเครื่องเสียงพูดจะปรากฏบนจอ ทาให้ทราบ ว่าเสียงพูดอยู่ในระดับ

12 ใด นอกจากใช้ฝึกระดับเสียงแล้ว ยังใช้ฝึกช่วงส้ัน – ยาวของเสียง การ เน้นเสียงหนัก เบา และฝึกพูด เปน็ คา ๆ ได้ด้วย เทคโนโลยีสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของ เด็กน้ัน นัก การศึกษาพิเศษของไทยได้ทาการผลิตและทดลองใช้ในการเรียนการสอนซึ่งได้ผลดี และได้รวบรวมไว้ เป็นงานวิจัยทางการศึกษาพิเศษ อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้แก่ ชุดการสอนเทป โทรทัศน์ ระนาด ประยุกต์ อุปกรณ์ชล 1 อุปกรณ์ฝึกพูด กนก 1 บทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอน ตัวอักษรวิ่งไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ สื่อคอมพิวเตอร์แนะนาอาชีพ เป็นต้น เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ดารณี ศักดิ์ศิริผล (2548 : 26) ยังมีการกล่าวถึงเทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก ดังน้ี ตาม พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ให้คาจากัดความ “เทคโนโลยีสิ่งอานวย ความสะดวก” (Assistive Technology) ไว้ว่า เป็นเครือ่ งมือ อุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือบริการที่ ใช้สาหรับคนพิการ โดยเฉพาะ หรือที่มีการดัดแปลงหรือปรับใช้ให้ตรงกับ ความต้องการจาเป็นพิเศษ ของคนพิการแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่ม รักษา คงไว้ หรือพัฒนาความสามารถและ ศักยภาพที่จะเข้าถึง ข้อมลู ข่าวสาร การสื่อสาร รวมถึงกิจกรรมอื่นใดในชีวิตประจาวันเพื่อการดารงชีวิต อิสระ” ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (2547) ให้ความหมายว่า “เทคโนโลยี สิ่งอานวยความสะดวก” เป็นวิทยาการที่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้พ้นจากอปุ สรรค ที่ทาให้คน พิการมีสมรรถนะที่ด้อยกว่าคนปกติ ท้ังในด้านการดาเนินชีวิตประจาวัน การศึกษา และ การประกอบ อาชีพวิทยาการของ เทคโนโลยีด้านน้ี จึงต้องคานึงถึงสภาพความพิการ อันได้แก่ ความพิการ ทางกาย ทางการเห็น ทางการได้ยิน ทางสติปัญญา และทางการเรียนรู้ในการสร้างสิ่งอานวยความสะดวกให้ ตรงกับความต้องการเฉพาะของผู้พิการแต่ละประเภท การพัฒนาสิ่งอานวยความสะดวก จาเป็นต้อง อาศัยความร่วมมือ ของผู้ที่เกี่ยวข้องหลายสาขา นอกจากความรู้เทคโนโลยีแกนหลักแล้วยัง ต้องใช้ ความรู้ทางด้านการแพทย์ การบาบัด การศึกษาพิเศษ วิศวกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพ (rehabilitation engineering) รวมทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ต้องคานึงถึงส่วนติดต่อใช้งาน (user interface) กับผู้ พิการซึง่ มีความต้องการพิเศษ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ (2550) ให้ความหมายว่า “เทคโนโลยีสิ่ง อานวยความสะดวก” หมายถึง เครื่องมืออุปกรณ์ที่ช่วยสนับสนุนทางกายภาพสาหรับ คนพิการที่จะ เข้าถึงข้อมูล สารสนเทศและการสื่อสารของคนพิการได้ คกุ และฮสั ซี่ (Cook, A. & Hussy, S., 2002) ให้

13 ความหมายว่า “เทคโนโลยีสิ่งอานวย ความสะดวก” หมายถึง เครื่องมือ บริการ เทคนิควิธีการ และ การฝึกหัดอย่างกว้างๆ เพือ่ ทีจ่ ะนามาคิด ประยกุ ต์ใช้ให้ตรงกบั ปัญหาที่คนพิการประสบอย่ใู นขณะนั้น Robin Brewer ได้กล่าวถึง เทคโนโลยีสิ่งอานวยวามสะดวก ว่า เทคโนโลยีสิ่งอานวย ความ สะดวก คือ อุปกรณ์ หรือ software หรือสิ่งที่ช่วยสนับสนุนนักศึกษาพิการในการเรียนรู้ เพื่อช่วย ให้ นกั ศึกษาได้เข้าถึงการเรียนการสอนหรือข้อมลู ข่าวสาร ตัวอย่างเช่น - Scribe คือ ผู้ช่วยจดสาหรับนักศึกษาพิการที่ไม่สามารถเขียนได้ ซึ่งจะเขียนคาตอบทุกอย่าง ที่นักศึกษาบอกลงในข้อสอบ จะแตกต่างจาก Note taker ซึ่งจะจดบรรยายและสรุปเน้ือหาการเรียนใน ห้องเรียน - Screenreader โปรแกรมอ่านจอภาพสาหรับคนพิการทางการเห็น เพื่อช่วยให้นักศึกษา สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ได้ด้วยตนเอง - Switches ปุ่มต่างๆ ที่ใช้สาหรับบันทึกข้อมูลอิเลคทรอนิกส์ เช่น สวิตช์สาหรับเก้าอี้รถเข็น เพื่อเดินทางสะดวก สวิตช์สาหรับการสื่อสาร หรือสวิตช์ที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆการ คารงชีวิตอิสระ เช่น ใช้เปิด-ปิดไฟ - Talking calculators เครือ่ งคิดเลขพดู ได้ สาหรบั คนพิการทางการเห็น หรือ ผ้ทู ีม่ ีปัญหา การพฒั นาแอปพลิเคชนั และการประเมินการยอมรับของแอปพลิเคชันการพัฒนาระบบ การพัฒนาระบบสารสนเทศเป็นการสร้างระบบงานใหม่หรือปรับเปลี่ยนระบบงานเดิมที่มีอยู่ แล้วให้สามารถทางานเพื่อแก้ปญั หาการดาเนินงานทางธุรกิจได้ตามความต้องการของผู้ใช้งานโดยอาจ นาคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการนาข้อมูลเข้าสู่ระบบเพื่อประมวลผลเรียบเรียง เปลี่ยนแปลงและจดั ทา ให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ มีองค์ประกอบดังนี้ (http://www.macare.net/analysis/index.php?id=-7) 1. การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ (System Initiation and Planning) เป็นข้ันตอน รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อค้นหา สร้างแนวทางเลือกและเลือกทางเลือกที่ดีที่สุด ทางเลือกน้ันจะต้อง คานึงถึงความเป็นไปได้ จึงนาแนวทางทีเ่ ลือกมาวางแผนโครงการ 2. การวิเคราะห์ระบบ (System Analysis) เป็นข้ันตอนวิเคราะห์กระบวนการแก้ปัญหา และการวางแผนสาหรับการออกแบบและพฒั นา 3. การออกแบบระบบ (System Design) มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบระบบให้เข้ากับ ความต้องการของระบบใหม่ตามที่ได้มีการวิเคราะห์ไว้แล้ว โดยนักวิเคราะห์ระบบจะต้องออกแบบส่วน นาเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบ ผลลัพธ์ที่ได้จากระบบ ฐานข้อมูล โปรแกรม ระบบปฏิบัติการ กระบวนการ

14 ทางาน เครือข่าย และออกแบบวิธีการที่จะทาให้ผู้ใช้ม่ันใจได้ว่า ระบบมีความถูกต้อง เชื่อถือได้ และ ปลอดภัย 4. การดาเนินการระบบ (System Implementation) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างระบบและ ติดต้งั ระบบ ซึ่งจะครอบคลุมกิจกรรมต่าง ๆ 5. การบารุงรักษาระบบ (System Maintenance) เป็นข้ันตอนการดูแลระบบ เพื่อให้ ระบบมีประสิทธิภาพในการทางาน (http://www.macare.net/analysis/index.php?id=-7) ภาพ 1 วงจรการพัฒนารปู แบบน้าตก (Waterfall Model) ปรบั ปรงุ จาก ณฏั ฐพนั ธ์ เขจรนนั ทน์ (2551) และพรรณี สวนเพลง (2552) การประเมินการยอมรับ (Acceptance Test) (โอภาส เอี่ยมสิริวงศ์, 2549 : 323) คือ การตรวจสอบความคิดเห็นในข้ันตอนสุดท้ายผู้ใช้ที่มี ระบบ ซึ่งผู้ใช้จะเป็นผู้ยืนยันถึงความสมบูรณ์ของระบบว่าระบบสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ ใช้ได้อย่างถกู ต้อง ครบถ้วน เปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ และเป็นทีพ่ ึงพอใจหรือไม่ การทดสอบการยอมรับ ของผู้ใช้ จะประกอบไปด้วยวิธีการ 2 ข้ันตอน ได้แก่ 1) การทดสอบแบบอัลฟา (Alpha Testing) เป็นการ สร้างสถานการณ์จาลองโดยมีสภาพแวดล้อมเสมือนจริงมีการจาลองผู้ใช้จาลองข้อมูลเพื่อป้อนเข้าสู่ ระบบเพื่อประมวลผล โดยจะมีการทดสอบซ้าหลาย ๆ คร้งั เพือ่ ค้นหาข้อผิดพลาด และ 2) การทดสอบ เบต้า (Beta Testing) เป็นการทอสอบใช้งานจริง โดยข้อมูลจริง และให้ผู้ใช้งานจริงเป็นผู้ทดสอบ เพื่อ ยืนยันความพึงพอใจของผู้ใช้งานในข้ันตอนสุดท้าย การสร้างแบบสอบถามการยอมรับจากผู้ใช้ อาศัย

15 แนวคิดของการสร้างแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นเครือ่ งมือที่ใช้วัดความรู้สึกนึกคิด ของบุคคล โดยที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นมาตราวัดของลิเคิร์ท ซึ่งกาหนดค่าระดับความเห็นต่าง ๆ เป็น 5 ระดับดงั น้ี มากที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด โดยกาหนดค่าเป็นเชิงบวก (Positive) เป็นตัวเลข 5,4,3,2,1 ตามลาดบั ประเดน็ ทีใ่ ช้ในการประเมินการยอมรบั (Acceptance Criteria) จารึก ชูกิตติกุล (2547 : 6 - 7) ได้กล่าวถึงการตรวจสอบคุณภาพของ ลักษณะเฉพาะ เทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ไว้ว่าการทดสอบคุณภาพส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User interface) จะมี ประเด็นการทดสอบเชิงคุณภาพ (Mynatt.1990 : 97) 1. ความง่ายทีจ่ ะเรียนรู้ เทคโนโลยีทีด่ ีหรือซอฟต์แวร์ที่ดีไม่ควรจะต้องเสียเวลา เรียนรู้ มากแต่ควรจะสามารถทาความค้นุ เคยกับการใช้ได้อย่างรวดเรว็ 2. ความเร็วในการทางานไม่เสียเวลารอคอยโดยไม่จาเป็นสามารถทางานตาม มาตรฐานทีก่ าหนด 3. ความถี่ที่ผู้ใช้จะทาผิดพลาดเทคโนโลยีที่ดีต้องขจัดโอกาสที่จะทาให้ผู้ใช้ทาผิดพลาด ในขณะใช้งานเทคโนโลยีน้นั 4. ความพึงพอใจของผ้ใู ช้เทคโนโลยีออกแบบดีผู้ใช้จะมีเจตคติพึงพอใจในระดบั สงู 5. ความทรงจาของความรู้เทคโนโลยีน้ันมีวิธีใช้ที่ไม่สลบั ซบั ซ้อน หยุดใช้ไปนานก็ยังจา ได้ สุรสีห์ น้อยมหาไวย และ ปานจิตร์ หลงประดิษฐ์ (2559) ทาวิจัยเรื่องแอพพลิเคชันรับรู้และ แสดงตาแหน่งสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบุรีตามการจาแนกกลุ่มของผู้ใช้ด้วยกเู กิ้ลแมพเอพีไอบนมือ ถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยผลการวิจัยพบว่าแอพพลิเคชันสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานแอพพลิเค ชนั ลดระยะเวลาในการค้นหาสถานที่ตา่ ง ๆ ด้วยการแนะนาตาแหน่งของสถานทีต่ ่าง ๆ ตามการจาแนก กลุ่มผู้ใช้ของผู้ใช้งานแต่ละคน และมีการรวบรวมข้อมูลรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายใน จังหวัดเพชรบุรีไว้ในที่เดียวกันทาให้ง่ายต่อการค้นหา และผลการประเมินการยอมรับแอพพลิกับ นักท่องเที่ยวจานวน 30 คน ที่ได้จาการเลือกสุ่มแบบบังเอิญ (Accidental Sampling) โดยมีประเด็นการ ยอมรับ แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านฟังก์ชันการทางานของแอพพลิเคชัน 2) ด้านประสิทธิภาพการ ทางาน 3) ด้านความง่ายในการใช้งาน และ 4) ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล พบว่า การ ประเมินการยอมรับของผู้ใช้งานแอพพลิเคชัน โดยรวมค่าเฉลี่ยรวมท้ังหมดอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ =4.69, SD. = 0.407) และเมื่อพิจารณารายด้านสามารถสรปุ ผลได้ดงั น้ี คือ ด้านฟังก์ชนั ค่าเฉลีย่ อย่ใู น ระดับมากที่สุด (x̅ =4.64, SD. = 0.482) ด้านประสิทธิภาพการทางาน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x̅ =4.39, SD. = 0.535) ด้านความง่ายต่อการใช้งาน ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ =4.78, SD. =

16 0.416) และด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (x̅ =4.96, SD. = 0.197) งานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง ญาดา อรรถอนันต์ นิธิดา บุรณจันทร์ และสุวรรณา สมบุญสุโข (2560) ได้ทาการวิจัยเรื่อง แอปพลิเคชันส่งเสริมการเรียนรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษ สาหรับเด็กบกพร่องทางการได้ยิน มีเน้ือหาที่จะ นาเสนอในแอปพลิเคชันส่งเสริมการเรียนรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยมีเน้ือหาแบ่งเป็น 6 หมวด คือ หมวดครอบครัว (Family) หมวดผลไม้ (Fruits) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม (Foods and Drinks)หมวด เสื้อผ้า (Clothes) หมวดในห้อง (In Room) หมวดในเมือง (In Town) หลักการการพัฒนาสื่อการเรียน การสอนสาหรับคนหูหนวก หลักการของ Mobile Application ผลการวิจัยกล่าวว่า การประเมินความ พึงพอใจของแอปพลิเคชันส่งเสริมการเรียนรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษ สาหรับเด็กบกพร่องทางการได้ยิน โดยกลุ่มตัวอย่าง จานวน 12 คน พบว่า มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.83 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก โดยมีผล รายละเอียดของการประเมินดงั ตอ่ ไปนี้ เน้ือหาเข้าใจง่าย มีค่าเฉลี่ยเท่ากบั 5.00 ซึง่ อยู่ในเกณฑ์ดีมาก สี ที่ใช้มีความสวยงาม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.92 ซึง่ อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ขนาดตัวอกั ษร มีความเหมาะสม อ่าน ง่าย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.92 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ภาพประกอบภายในแอปพลิเคชันมีความสวยงาม มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก วิดีโอแสดงท่าทางภาษามือมีความชัดเจน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แอปพลิเคชันใช้ง่าย ไม่ยุ่งยาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.33 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แอปพลิเคชันสามารถช่วยให้การเรียน การสอนมีความสนุกสนาน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 ซึ่งอยู่ใน เกณฑ์ดีมาก หลังจากใช้แอปพลิเคชันแล้วมีความเข้าใจในเน้ือหามากยิ่งขึ้นค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.92 ซึ่งอยู่ ในเกณฑ์ดีมาก ชาลิชา ประชุมวรรณ และสุวิช สิระโคตร (2557) ได้พัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ส่งเสริมการอ่าน ภาษาไทยสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งในเกมส่งเสริมการอ่านสาหรับเด็กที่มีความ บกพร่องทางการเรียนรู้ แต่ละเรื่อง จะแบ่งออกเป็น 3 ด่านย่อย ๆ ผ่าน กระบวนการพัฒนาสื่อตาม แนวคิดการของ ADDIE MODEL อภิปรายผลได้ดังน้ี การศึกษาประสิทธิภาพของเกมคอมพิวเตอร์ ส่งเสริมการอ่านสาหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่า เกมคอมพิวเตอร์ส่งเสริมการอ่าน ภาษาไทยที่ผ้ศู ึกษาได้พฒั นาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากบั 84.58/83.07 ผ้เู รียนได้ค่าเฉลี่ยจากการเรยี น ด้วยเกมคอมพิวเตอร์ในแต่ละด่าน (E1) คิดเป็นร้อยละ 84.58 และได้ค่าเฉลี่ยจากการทาแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (E2)คิดเป็นร้อยละ 83.07 เนื่องมาจากเกมคอมพิวเตอร์ส่งเสริม การอ่านที่ผู้ศึกษาได้ดาเนินการพัฒนาขึ้นอย่างมีระบบ มีการออกแบบเป็นไปตามข้ันตอนและตามหลัก ทฤษฎี หลงั จากการเรียนรดู้ ้วยเกมคอมพิวเตอร์ส่งเสริมการอ่าน พบว่า ความพึงพอใจของเดก็ ที่มีความ บกพร่องทางการเรียนรู้ ภายหลงั จากการเรียนร้ดู ้วยเกมคอมพิวเตอร์ส่งเสริมการอ่าน โดยภาพรวมอยู่ ในระดับพึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.65 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า อยู่ในระดับพึงพอใจมาก

17 ที่สุด จานวน 8 ข้อ คือ ข้อ 5นักเรียนมีความพอใจกับภาพประกอบในเกมคอมพิวเตอร์ทีม่ ีสีสันสวยงาม มีค่าเฉลี่ย 4.85 รองลง มา ข้อ 3 นักเรียนเล่นเกมน้ีแล้วได้ทั้งความรู้สนุกสนานเพลิดเพลิน และไม่น่า เบื่อ 4.81 ศิฬาณี นุชิตประสิทธิ์ชัย พฤฒิพงศ์ พัวศิริ และพยุง มีสัจ (2548) ได้พัฒนาสื่อการเรียนการ สอนสาหรบั ผู้บกพร่องทางการได้ยินเรือ่ งระบบนิเวศ ในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนได้มีเน้ือหารือ่ ง ร ะ บ บ นิ เ ว ศ ร ะ ดั บ มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ต อ น ต้ น ต า ม ห ลั ก สู ต ร ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พื้ น ฐ า น ก ร ม วิ ช า ก า ร กระทรวงศึกษาธิการในการพฒั นาได้เลือกใช้โปรแกรมที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของการใช้งาน สาหรับหน้าจอท่ัวไปเช่นหน้าจอเมนูหลักหน้าจอแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนหน้าจอโครงสร้างระบบ นิเวศได้เลือกใช้โปรแกรม Macromedia Flash MX และสาหรับหน้าจอที่ต้องมีการ import file VDO ภาษามือได้เลือกใช้โปรแกรม Macromedia Flash MX 2004 เรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นวิธีการ ดาเนินการวิจัยเริ่มจากการสารวจหาความต้องการสื่อการออกแบบสื่อการพัฒนาสื่อในรูปแบบ ซอฟต์แวร์มัลติมีเดียการทดสอบการทางานและการประเมินประสิทธิภาพสื่อโดยผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศและด้านการศึกษาพิเศษสาหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินใช้แบบสอบถามประเมิน ความพึงพอใจระดับคะแนนเต็ม10 ผลการวิจัยพบว่าค่าเฉลี่ยของการประเมินในด้านต่างๆมีดังน้ีด้าน เน้ือหาได้ค่าเฉลี่ย 8.03 (SD = 0.59)ด้านตัวอักษรและสีได้ค่าเฉลี่ย 9.03 (SD = 0.41) ด้านการ ออกแบบหน้าจอได้ค่าเฉลี่ย 8.31 (SD = 0.76) ด้านแบบฝึกหัดได้ค่าเฉลีย่ 8.10 (SD = 0.25) ด้านการ นาเสนอได้ค่าเฉลี่ย 8.29 (SD = 0.16) ค่าเฉลี่ยรวม 8.35 (SD = 0.43)ซึ่งสามารถสรุปได้ว่าสื่อที่ พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพในระดบั ดีขึ้นไปในทุกด้านที่ประเมินสามารถนาไปใช้ในการเรียนการสอนให้กับ ผ้บู กพร่องทางการได้ยินได้ อรทัย สุทธิจักษ์ และกชพรรณ ยังมี (2558) ได้ทาการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเกม 2 มิติ สาหรับ ฝึกทักษะการแยกสี ขนาด และรูปทรงเรขาคณิตของเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาระดับกลาง โดยมีวิธีการดาเนินงานวิจยั 1. ในการวิจัยครั้งน้ีได้เลือกกลุ่มตัวอย่างประชากรเป็นแบบเจาะจง (Purposive Sampling) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังน้ีเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาระดับปานกลาง กรณีศึกษาโรงเรียนกาฬสินธุ์ปญั ญานุกลู จังหวัดกาฬสินธ์ุ จานวน 10 คน เปน็ ชาย 5 คน หญิง 5 คน ที่ ไม่มีความพิการซ้าซ้อน 2. นาเกม 2 มิติ ที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นให้ผู้เชี่ยวชาญ 7 ท่านประเมินองค์ประกอบ การออกแบบและคณุ ภาพเกม

18 3. เตรียมสถานที่ อุปกรณ์ แบบสังเกต และเกม 2 มิติ ที่พัฒนาขึ้น นาไปทดสอบกับ กล่มุ ตวั อย่าง 4. ผู้วิจัยแนะนาให้ครูผู้ดูและเด็กทราบถึงวัตถุประสงค์ของการวิจัยและวิธีการในการ ทาแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ และ แบบทดสอบทีเ่ ดก็ มีต่อเกม 2 มิติ ทีพ่ ัฒนาขึ้น 5. ทดสอบทักษะในการแยกสี ขนาด และรูปทรงเรขาคณิตก่อนใช้เกม 2 มิติ ที่ผู้วิจัย พฒั นาขึ้น 6. ทาการทดลองใช้เกม 2 มิติ ทีพ่ ฒั นาขึ้นและสงั เกตพฤติกรรม 7. ทดสอบทักษะในการแยกสี ขนาด และรูปทรงเรขาคณิตหลังจากใช้เกม 2 มิติ ที่ ผ้วู ิจยั พัฒนา 8. เก็บรวบรวมผลการประเมินทักษะการแยกสี ขนาด และรูปทรงเรขาคณิตของเด็กที่ มีความบกพร่องทางสติปัญญาระดบั กลาง หลงั และก่อนการใช้เกม 2 มิติ ที่ผ้วู ิจัยพฒั นาขึ้น 9. วิเคราะห์ข้อมลู สรุปผลและอภิปรายผล ผลการวิจัยกล่าวว่า ค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการเรียนร้เู ดก็ ที่มีความบกพร่องทางสติปญั ญา ระดบั ปานกลาง ระหว่างใช้เกม 2 มิติ เรียนร้ทู กั ษะการแยกสี ขนาดและรปู ทรงเรขาคณิต โดยรวมท้ัง 3 ด้าน พบว่าพฤติกรรมการเรียนรจู้ ะลดลงเมือ่ เกมมีความยากมากขึ้นตามลาดบั ซึง่ เดก็ ต้องอาศัยการฝกึ เล่นบ่อยครั้ง จึงทาให้มีทักษะดีในการแยกสี ขนาดและรูปทรงเรขาคณิตได้ถูกต้องแม่นยายิ่งขึ้น นอกจากน้ีเด็กในกลุ่มดาวน์ซินโรมที่มีกล้ามเน้ือมัดเล็กไม่แข็งแรงจะควบคุมเมาส์ลาบากในการลาก รูปภาพในเกม หลายคร้ังกว่าจะวางภาพถูกตาแหน่งได้ต้องใช้เวลานาน เมาส์ที่นามาใช้ในการเล่นเกม ไม่ควรมีมากกว่าปุ่มเดียวซึ่งไม่เหมาะสมสาหรบั เด็กทีม่ ีความบกพร่องทางสติปัญญาและมีทักษะการใช้ เมาส์น้อย สอดคล้องกบั Pueschel (2001) ที่ว่าเดก็ กลุ่มน้ีจะมีลกั ษณะมือเลก็ และน้ิวส้นั กว่าปกติทาให้มี ความยากลาบากในการกาและถือวัตถุ จากผลการวิจยั ที่เกีย่ วข้อง สามารถสรุปได้ดังตาราง 2

19 ตาราง 2 การเปรียบเทียบผลการวิจยั ที่เกี่ยวขอ้ งกับการพัฒนาแอปพลิเคชนั ชื่อระบบ ประเด็นการเปรียบเทียบ เนือ้ หาทีน่ าเสนอ ฟังก์ชัน สถาปัตยกรรม ชว่ งอายุผ้ใู ช้ ระบบ/ (ปี) เทคโนโลยีทีใ่ ช้ แอปพลิเคชันสง่ เสริม - คาศัพท์ -มีฟงั ก์ชันในการสอนภาษา -Game app 13-15 การเรยี นรคู้ าศัพท์ ภาษาองั กฤษ คา มือ ภาษาอังกฤษ สาหรบั แปลภาษาไทย เด็กบกพรอ่ งทางการ - วีดีทัศน์แสดง ได้ยนิ (ญาดา อรรถ ทา่ ทางภาษามือ อนันต์ นธิ ดิ า บุรณ จันทร์ และสวุ รรณา สมบุญสุโข 2560) เกมคอมพิวเตอร์ -เนือ้ หาวิชาภาษาไทย - ตอบสนองต่อกจิ กรรมต่าง -Game ไม่กาหนด ส่งเสริมการอา่ น เรือ่ งคาควบกล้าชนั้ ๆ ท่ปี รากฏบนหน้า สาหรับเด็กทม่ี ีความ ประถมศึกษาปีที่ 5 จอคอมพิวเตอร์โดยผ่านทาง บกพร่องทางการ เมาส์ เรียนรู้ (ชาลิชา ประ ชมุ วรร และสุวิช สริ ะ โคตร 2557) สื่อการเรยี นการ - ระบบนิเวศระดบั - มีฟังก์ชนั ในการสอนภาษา - E learning 7-12 สอนสาหรบั ผู้บกพรอ่ ง มธั ยมศกึ ษาตอนต้น มือ ทางการได้ยนิ เรื่อง - แบบฝึกหดั ระบบนเิ วศ (ศิฬาณี นุชติ ประสิทธ์ิ ชยั พฤฒิพงศ์ พัวศิริ และพยุง มีสัจ 2548)

20 ตาราง 2 (ต่อ) ชือ่ ระบบ ประเดน็ การเปรียบเทียบ การพฒั นาเกม 2 เนือ้ หาทีน่ าเสนอ ฟงั ก์ชนั สถาปัตยกรรม ชว่ งอายุผู้ใช้ มิติ สาหรบั ฝึกทักษะ (ป)ี การแยกสี ขนาด และ - หมวดสีมีสีแดง สี ระบบ / รปู ทรงเรขาคณิตของ เหลือง สี เขียว สีขาว ไม่กาหนด เดก็ ที่มคี วามบกพรอ่ ง และสีดา เทคโนโลยีทีใ่ ช้ ทางสติปัญญา - หมวดขนาดมีขนาด ระดบั กลาง เล็ก กลาง และใหญ - ตอบสนองต่อกจิ กรรมต่างๆ - Game (อรทัย สุทธจิ ักษ์ และ - หมวดรปู ทรง กชพรรณ ยังมี 2558) เรขาคณิต : ทรงกลม ท่ปี รากฏบนหน้า ทรงสามเหลีย่ ม และ ทรงสี่เหลี่ยม จอคอมพิวเตอร์โดยผ่านทาง เมาส์ แอปพลิเคชันสนบั สนนุ - ตวั เลข - ฟังก์ชันในการสอนภาษามือ - Client/Server มีผู้ใช2้ กลุ่ม การเรยี นรสู้ าหรับเดก็ - พยญั ชนะไทย ก-ฮ - ฟังก์ชนั การทาแบบทดสอบ - File server ท่มี ีความบกพร่อง - เครื่องดื่ม - วีดีโอและรูปภาพ - Database 1. เด็กพิเศษ ทางการได้ยนิ - คากริยา - แสดงข้อมลู สถติ ิผลรวม server ทางการได้ยนิ - สัตว์ แบบทดสอบ ชนั้ เตรียมความ - ผลไม้ พรอ้ ม (3-7) - วัน - เดือน 2. ผู้ปกครอง - สี และอาจารย์ ผู้สอน

21 แนวคิดการพัฒนาแอปพลิเคชนั สนบั สนนุ การเรียนรสู้ าหรบั เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่กล่าวข้างต้น สามารถสรุปแนวคิดการพัฒนาแอปพลิเค ชนั ได้ดังภาพ ภาพ 2 แนวความคิดในการพฒั นาแอปพลิเคชันสนบั สนนุ การเรียนรู้สาหรบั เดก็ ที่มีความ บกพรอ่ งทางการไดย้ ิน

22 บทที่ 3 วิธีดาเนินงานวิจยั การพัฒนาแอปพลิเคชนั ได้ดาเนินการตามกระบวนการพัฒนาระบบ โดยทาการอัพโหลดข้อมลู ฝากไว้บนคลาว์เปน็ หลกั ซึ่งระบบพฒั นาโดยใช้โปรแกรม Thunkable แอปพลิเคชนั นี้ ผ้ใู ช้งานสามารถใช้ งานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ อีกทั้งผู้ดูแลสามารถใช้งานและเรียกดูข้อมูลของผู้ใช้ผ่านหน้าเว็บ เพจ การดาเนินงานน้ีมีขอบเขตคือผู้ปกรองของเด็กพิเศษและเด็กพิเศษที่มีปัญหาด้านการได้ยินที่เริ่ม เข้าเรียนในระดับเตรียมความพร้อม ในปีการศึกษา 2561 ของจังหวัดพะเยา โดยในบทน้ีจะขอกล่าวถึง การเริม่ ต้นและการวางแผน การวิเคราะห์ระบบ และการออกแบบระบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้ การเริม่ ต้นและการวางแผน ผ้พู ฒั นาได้เริม่ ต้นและวางแผนในการพัฒนาแอปพลิเคชนั โดยได้ไปศึกษาวรรณกรรมที่เกีย่ วข้อง กับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินทาให้พบว่าแอปพลิเคชันทีช่ ่วยสนับสนุนเด็กพร่องทางการได้ยิน ยังมีอยู่จากัดและแอปพลิเคชันที่มีส่วนใหญ่เป็นของต่างประเทศไม่มีแอปพลิ เคชันที่เป็นเวอร์ชัน ภาษาไทยไม่มีการจัดหมวดหมู่ทีช่ ัดเจนทาให้ยากต่อการใช้งาน การวิเคราะหร์ ะบบ จากการไปสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการทาให้พบว่าความต้องการจากอาจารย์ผู้สอนเด็กที่ บกพร่องทางการได้ยินคือต้องการสื่อที่ช่วยสอนภาษามือเบ้ืองต้น โดยมีเน้ือหาครอบคลุม ดังน้ี ตัวเลข ก-ฮ เครื่องดื่ม คากริยา สัตว์ ผลไม้ วัน เดือน สี ซึ่งผู้พัฒนาได้นาผลที่ได้จากการสัมภาษณ์อย่างไม่ เป็นทางการมาวิเคราะห์และออกแบบระบบ โดยใช้เครือ่ งมือในการวิเคราะห์ระบบเชิงโครงสร้าง ได้แก่ แผนภาพการไหลของข้อมลู เพือ่ แสดงข้นั ตอนการทางานแสดงทิศทางของการเชือ่ มต่อและการไหลของ ข้อมูลในระบบงาน เริ่มต้นที่การวาดแผนผังบริบท (Context Diagram) แสดงการไหลของข้อมูลใน ภาพรวมของระบบ และใช้แผนภาพการไหลของข้อมูล (Data Flow Diagram) ในระดับต่าง ๆ ต้ังแต่ ระดับ 0 เป็นต้นไป เพื่อแสดงการไหลของข้อมูลในระบบระหว่างกระบวนการต่าง ๆ สัญลักษณ์และ เครื่องหมายที่ใช้ในการเขียนแผนภาพการไหลของข้อมลู แสดงได้ดังตาราง 3

23 ตาราง 3 สญั ลักษณ์ทีน่ ามาใช้เขียนแผนภาพการไหลของขอ้ มลู (ทีม่ า : www.macare.net ) สญั ลกั ษณ์ ความหมาย การประมวลผล (Process) สัญลักษณ์น้ีใช้แทนการ ประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงข้อมูล 1 เข้าจากรปู แบบหนึ่งเปน็ อีกรปู แบบหนึ่ง XXXX 1 หมายถึง ลาดับกระบวนการ ))) XXXX หมายถึง ชือ่ กระบวนการ การเก็บข้อมูล (Data Store) เพื่อใช้แทนแฟ้มข้อมูลที่ใช้ จัดเก็บข้อมูลเพื่อให้สามารถนาข้อมูลนั้นมาใช้ได้อีกเมื่อ XXXX ต้องการซึ่งในระบบน้ีจะหมายถึงข้อมูลที่เป็นไฟล์ มิใช่ ฐานข้อมลู XXXX หมายถึง ชื่อการเกบ็ ข้อมลู XXXX เอนทิต้ีนอกระบบ (External Entity) หมายถึง คน แผนก ภายในองค์กร แผนกภายนอกองค์กร หรือระบบ สารสนเทศอื่นที่ส่งข้อมูลหรือรับข้อมูลซึ่งไม่ได้อยู่ภายใน ระบบสารสนเทศน้ัน XXXX หมายถึง ชือ่ เอนทิตี้นอกระบบ การไหลของข้อมลู (Data Flow) เพื่อแสดงเส้นทางใน XXXX การไหลของข้อมูลจากส่วนหนึ่งไปยังอีกส่วนของระบบ XXXX สารสนเทศ XXXX หมายถึง ชือ่ การไหลของข้อมูล

24 1. แผนภาพบริบท ใช้แสดงภาพรวมกระบวนการทางานของระบบ ซึ่งจะแสดงถึงการติดต่อสื่อสารกัน ระหว่างเอนทิต้กี ับระบบ และระหว่างเอนทิตี้กบั เอนทิต้ี ว่ามีความเกีย่ วข้องกนั อย่างไร และใช้ข้อมูลไหน ในการติดต่อสือ่ สาร ถือเปน็ แผนภาพการไหลของระดับ 0 จากการวิเคราะห์แอปพลิเคชันสามารถนาเสนอด้วยแผนผังบริบทของแอ ปพลิเคชัน โดยแอปพลิเคชันประกอบด้วยเอนทิต้ี ผู้ใช้ เอนทิต้ี ผู้ดูแลระบบ โดยแต่ละเอนทิต้ีน้ันจะมีความสมั พันธ์ กับแอปพลิเคชนั ดังน้ี ผู้ใช้งาน : เข้าใช้งานระบบโดยพิสูจน์สิทธิ์การใช้งานจากข้อมูล ชื่อ ช่วงอายุ และเพศ เพื่อเข้าใช้งาน กระบวนการเรียนร้ทู ้ังหมดภายในแอปพลิเคชันทีจ่ ัดเตรียมไว้ ผ้ดู ูแลระบบ : สามารถดูข้อมลู ผ้ใู ช้งาน จดั การเน้อื หา ได้แก่ เพิ่ม ลบ แก้ไข และจดั การ เน้ือหาหน้าแรก และหน้าติดต่อเรา

ผู้ใชง้ าน ข้อมลู ผู้ใช้งาน ผลการเข้าใช้งาน ข้อมูลสถิติผเู้ ข้าใชง้ าน 0 ผลข้อมลู สถิตผิ ู้เข้าใชง้ าน การเข้าสู่กระบวนการเรยี นรู้ แอพปลิเคชนั การพัฒนาก ผลกระบวนการเรียนรู้ สาหรบั เด็กท บกพร่องทาง การเข้าสู่กระบวนการทดสอบ ผลกระบวนการทดสอบ ภาพ 3 แผนภาพบริบท (Co

24 นสนับสนุน ข้อมูลสถิติ ผู้ดแู ลระบบ การเรยี นรู้ ข้อมูลผู้ดแู ลระบบ ทม่ี ีความ ข้อมลู ผู้ใช้งาน งการได้ยิน การเพิม่ ลบ แก้ไข เนือ้ หา ผลการ เพิม่ ลบ แกไ้ ข เนื้อหา ontext Diagram) ของแอปพลิเคชัน

25 2. แผนภาพการไหลของข้อมูล (Data Flow Diagram) ใช้แสดงกระบวนการทางานของระบบโดยละเอียด และแสดงการไหลของข้อมลู ภายในระบบ อีกทั้ง แสดงถึงกระบวนการต่าง ๆ ทเี่ กิดขึ้นภายในระบบ 2.1 แผนภาพการไหลของข้อมลู ระดับที่ 1 (Data Flow Diagram Level 1: DFD Level 1) สามารถแบ่งกระบวนการทางานของระบบได้ท้งั หมด 6 กระบวนการ ดงั แสดงในตาราง ดังนี้ ตาราง 4 กระบวนการทางานแอปพลิเคชัน ของ DFD Level 1 กระบวนการที่ ชือ่ กระบวนการ 1 การเรียกดสู ถิติการทดสอบ 2 การกรอกข้อมูลเข้าใช้งาน 3 การเข้าส่กู ระบวนการเรียนรู้ 4 การเข้าส่กู ระบวนการทดสอบ 5 การเข้าใช้งานของผ้ดู แู ล 6 การจัดการเน้ือหา 7 การจัดการข้อมูล สถิติการทดสอบ โดยรายละเอียดของกระบวนการทีเ่ กิดขึ้นในแอปพลิเคชัน สามารถอธิบายได้ดงั นี้ กระบวนการที่ 1 กระบวนการเรียกดสู ถิติการทดสอบ กระบวนการที่ 2 กระบวนการกรอกข้อมลู เพื่อเข้าใช้งาน เปน็ กระบวนการทใี่ ห้ผ้ใู ช้งานแอป พลิเคชัน เพื่อรับสิทธใิ์ นการเข้าถึงข้อมูล โดยกรอกข้อมูลส่วนตวั ได้แก่ ชือ่ อายุ และเพศ เพื่อเปน็ ข้อมลู เข้าใช้งาน และสถิติการใชง้ านต่อไป กระบวนการที่ 3 กระบวนการเข้าส่กู ารเรียนรู้ เป็นกระบวนการต่อจากระบวนการกรอก ข้อมูลเพือ่ ใช้งาน และแอปพลิเคชนั จะนาเสนอเน้ือหาตามที่ผู้ดแู ลระบบจัดเตรียมไว้ กระบวนการที่ 4 กระบวนการเข้าส่กู ารทดสอบ เป็นกระบวนการต่อจากระบวนการเข้าสู่ กระบวนการเรียนรู้ เป็นกระบวนการทดสอบผ้เู ข้าใช้งานตามเน้อื หาทีผ่ ้ดู แู ลระบบจดั เตรยี มไว้ กระบวนการที่ 5 กระบวนการเข้าใช้งานของผ้ดู ูแลผ่านเวบ็ ไซต์ กระบวนการที่ 6 กระบวนการจัดการเนื้อหา โดยทีผ่ ู้ดูแลจะจดั การเรือ่ งการเพมิ่ ลบแก้ไข เกี่ยวกบั เนื้อหาท้ังหมดได้ ผ่านเว็บไซต์

26 กระบวนการที่ 7 กระบวนการจดั การข้อมลู สถิติการทดสอบ โดยผู้ดแู ลสามารถเรียกดูข้อมลู ของผ้ใู ช้งานได้ ผ่านเวบ็ ไซต์

ผล ผู้ใชง้ าน ผู้ใชเ้ ข้าใชง้ าน ข้อมลู สถิติ การ ทดสอบ 1. การเรยี กดู 2. การกรอก 3. การเข้าสู่ สถิตกิ าร ข้อมลู เข้าใชง้ าน กระบวนการ ทดสอบ เรียนรู้ ผลการเพิ่มลบ แก้ไข เนื้อหา เพ แฟ้มข้อมลู ผู้ดแู ล 6. การจดั การ แ เนือ้ หา เน เลือกจัดการข้อมลู เนือ้ หา ตรวจสอบ ผู้ดูแล ผลการเลือกจดั การ ข้อมลู เนื้อหา ผู้ดูแลระบบเข้าใชง้ าน ผู้ดแู ล 5. การเข้าใช้ เลือกจดั การข้อมลู สถติ ิ การ ผลของการเข้าใชง้ าน งานของ ทดสอบ ผู้ดูแล ผลการเลือกจดั การข้อมลู สถติ ิ การทดสอบ ภาพ 4 แผนภาพการไหลของข้อม

27 ข้อมูลผู้เข้าใชง้ าน แฟ้มข้อมูลผู้เข้าใชง้ าน หมวดหม่กู ารทดสอบ 4. การเข้าสู่ ผลหมวดหม่กู ารทดสอบ กระบวนการ แฟม้ ข้อมูล ตัวเลข ทดสอบ แฟ้มข้อมลู สตั ว์ ผลหมวดหมกู่ ารเรยี นรู้ ข้อมลู สถิติ หมวดหม่กู ารเรียนรู้ แฟ้มข้อมูล ก-ฮ การ ทดสอบ แฟ้มข้อมลู เครื่องดื่ม พิ่มลบ แฟ้มข้อมลู กรยิ า แก้ไข นือ้ หา แฟ้มข้อมูล ผลไม้ 7. การ แฟ้มข้อมลู วนั แฟ้มข้อมูล จัดการ แฟ้มข้อมลู เดือน สถิติ ข้อมลู สถิติ แฟ้มข้อมลู สี ข้อมลู ผล สถิติ ข้อมลู สถิติ มูลระดบั ที่ 1 (Data Flow Level 1 )

28 จาก Data Flow Diagram Level 1 อธิบายกระบวนการของแอปพลิเคชัน ได้ดงั ต่อไปนี้ ตาราง 5 รายละเอียดกระบวนการที่ 1 การเรียกดู สถิติการทดสอบ Process Description System : แอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนรู้สาหรับเด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 1 Process Name : การเรียกดู สถิติการทดสอบ Input Data Flow : ข้อมูลสถิติการทดสอบ Output Data Flow : - Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลผ้เู ข้าใช้งาน Description : ผ้ใู ช้งานสามารถเรียกดู สถิติ การทดสอบของแอปพลิเคชนั ได้ ตาราง 6 รายละเอียดกระบวนการที่ 2 การกรอกข้อมูลเข้าใช้งาน Process Description System : แอปพลิเคชันสนบั สนุนการเรียนร้สู าหรบั เดก็ ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 2 Process Name : การกรอกข้อมลู เข้าใช้งาน Input Data Flow : ผ้ใู ช้เข้าใช้งาน Output Data Flow : ข้อมูลผ้เู ข้าใช้งาน Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลผ้เู ข้าใช้งาน Description : ผ้ใู ช้งานเข้าส่รู ะบบการกรอกข้อมูลเพื่อเข้าส่แู อปพลิเคชนั

29 ตาราง 7 รายละเอียดกระบวนการที่ 3 การเข้าส่กู ระบวนการเรียนรู้ Process Description System : แอปพลิเคชันสนับสนุนการเรียนร้สู าหรบั เดก็ ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 3 Process Name : การเข้าส่กู ระบวนการเรียนรู้ Input Data Flow : ผลหมดวหมู่การเรียนรู้ Output Data Flow : การใช้งานหมวดหมู่การเรียนรู้ Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลตัวเลข แฟ้มข้อมูลสัตว์ แฟ้มข้อมูลก-ฮ แฟ้มข้อมูลกิริยา แฟ้มข้อมูล ผลไม้ แฟ้มข้อมลู วนั แฟ้มข้อมูลเดือน แฟ้มข้อมลู สี แฟ้มข้อมูลเครือ่ งดื่ม Description : ผ้ใู ช้งานสามารถเลือกหมวดหม่กู ารเรียนร้ทู ีก่ าหนดให้ ตาราง 8 รายละเอียดกระบวนการที่ 4 การเขา้ สู่กระบวนการทดสอบ Process Description System : แอปพลิเคชนั สนับสนนุ การเรียนร้สู าหรับเด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 4 Process Name : การเข้าส่กู ระบวนการทดสอบ Input Data Flow : ผลหมดวหมู่การทดสอบ Output Data Flow : การใช้งานหมวดหมู่การทดสอบ Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลสัตว์ แฟ้มข้อมูลกิริยา แฟ้มข้อมูลผลไม้ แฟ้มข้อมูลวัน แฟ้มข้อมูลเดือน แฟ้มข้อมูลสี แฟ้มข้อมลู เครือ่ งดืม่ Description : ผ้ใู ช้งานสามารถเลือกหมวดหม่กู ารทดสอบที่กาหนดให้

30 ตาราง 9 รายละเอียดกระบวนการที่ 5 การเข้าใช้งานของผดู้ แู ล Process Description System : แอปพลิเคชันสนบั สนนุ การเรียนร้สู าหรับเดก็ ทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 5 Process Name : การเข้าใช้งานของผ้ดู ูแล Input Data Flow : ผ้ดู แู ลระบบเข้าใช้งาน ผลการเลือกจดั การข้อมูลเน้ือหา ผลการเลือกจดั การข้อมูล สถิติ การทดสอบ Output Data Flow : เลือกจัดการข้อมูลเน้ือหา เลือกจัดการข้อมูลสถิติ การทดสอบ ผลของการเข้า ใช้งาน Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลผ้ดู ูแล Description : ผ้ดู แู ลเข้าส่รู ะบบผ่านเว็บไซต์ ตาราง 10 รายละเอียดกระบวนการที่ 6 การจัดการเนื้อหา Process Description System : แอปพลิเคชนั สนบั สนนุ การเรียนร้สู าหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 6 Process Name : การจัดการเน้ือหา Input Data Flow : ผลการเพิ่ม ลบ แก้ไข เน้ือหา Output Data Flow : เพิม่ ลบ แก้ไข เน้ือหา Data Stored Used : - Description : ผ้ดู แู ลสามารถเพิม่ ลบ แก้ไข เน้ือหาได้ ผ่านเว็บไซต์

31 ตาราง 11 รายละเอียดกระบวนการที่ 7 การจัดการข้อมูล สถิติ การทดสอบ Process Description System : แอปพลิเคชันสนบั สนนุ การเรียนร้สู าหรับเด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 7 Process Name : การจดั การข้อมลู สถิติ การทดสอบ Input Data Flow : ผลข้อมลู สถิติ Output Data Flow : ข้อมลู สถิติ Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลสถิติ Description : ผ้ดู ูแลเรียกดขู ้อมลู สถิติ ผ่านเว็บไซต์ แผนภาพการไหลของข้อมลู ระดับที่ 2 (Data Flow Diagram Level 2: DFD Level 2) จากแผนภาพ การไหลของข้อมูลระดับที่ 1 ผู้พัฒนานามาออกแบบแผนภาพการไหลของข้อมูลระดับที่ 2 ซึ่งเป็นการ อธิบายกระบวนการย่อยสาหรบั กระบวนการกรอกข้อมูลผ้ใู ช้งาน และกระบวนการเลือกหมวดหมู่ ดังนี้

1. เรีย สถิตกิ ทดสอ ข้อมูลสถิติการทดสอบ แฟ้มข้อ ภาพ 5 DFD Level 1 ของกระบวนก

32 ยกดู การ อบ ผลข้อมูลสถติ ิการทดสอบ อมลู สถติ ิ การที่ 1 การเรียกดูสถิติการทดสอบ

33 ตาราง 12 รายละเอียดกระบวนการที่ 1 การเรียกดสู ถิติการทดสอบ Process Description System : แอปพลิเคชันสนบั สนนุ การเรียนร้สู าหรบั เด็กทีม่ ีความบกพร่องทางการได้ยิน DFD Number : 1 Process Name : เรียกดู สถิติการทดสอบ Input Data Flow : ผลข้อมูลสถิติการทดสอบ Output Data Flow : ข้อมูลสถิติการทดสอบ Data Stored Used : แฟ้มข้อมูลสถิติ Description : ผ้ใู ช้งานสามารถเรียกดู สถิติ การทดสอบของแอปพลิเคชันได้