Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา

หลักสูตรกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา

Published by rbanditaektrakul, 2022-01-30 15:04:17

Description: หลักสูตรกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา

Search

Read the Text Version

1

ก คำนำ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ได้จัดทาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ฉบับน้ี ซึ้งเป็นเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นบ้านเชียงดาว พุทธศกั ราช 2564 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา ข้ันพื้นฐานพุทธศกั ราช 2551 เพ่ือเป็นเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น และกระบวนการจัดการเรยี นรู้เพ่ือเป็นกรอบ และทิศทางในการจดั การเรียนการสอน ใหต้ รงตามมาตรฐานตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ ของกลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศึกษา และพลศกึ ษา โดยพิจารณาตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน 2551 หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนบ้านเชยี งดาว พุทธศกั ราช 2564 ซึ่งมอี งคป์ ระกอบดังน้ี - วสิ ัยทศั น์ หลักการ จุดหมาย - สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน - คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ - สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ - คุณภาพผเู้ รียน - ตวั ช้วี ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง - รายวิชาทีเ่ ปิด - คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน - คาอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ - โครงสร้างรายวิชาพ้นื ฐาน - โครงสร้างรายวชิ าเพ่มิ เติม - สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ - การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา คณะผ้จู ัดทาขอขอบคณุ ผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาและจัดทาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา ฉบับนี้ จนสาเรจ็ ลลุ ่วงเป็นอย่างดี และหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ ว่าจะเกิดประโยชน์ต่อการจดั การเรยี นรใู้ ห้กบั ผเู้ รยี นตอ่ ไป กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา คณะผู้จัดทา

ข สำรบญั หน้ำ คำนำ ก สำรบญั .....................................................................................................................................................ข วิสยั ทัศน์ ............................................................................................................................................................. 1 หลักกำร ............................................................................................................................. .............. จดุ ม่งุ หมำย สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ทำไมต้องเรยี นสขุ ศึกษำและพลศึกษำ เรียนรอู้ ะไรในสขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู คุณภำพผูเ้ รยี น ตัวชีว้ ัดและสำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง รำยวิชำทเ่ี ปดิ สอน คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำนและโครงสรำ้ งรำยวิชำพ้นื ฐำน คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเตมิ และโครงสร้ำงรำยวิชำเพิม่ เตมิ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ภำคผนวก สาระการเรียนรู้ ความสัมพันธ์ของการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน อภธิ านศัพท์ คณะผจู้ ัดทา

1 วิสัยทศั น์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา จัดการศึกษาโดยเน้นการมีส่วนร่วม เพื่อมุ่งเน้น ให้ผู้เรียน มีภาวะของมนษุ ย์ที่สมบูรณ์ท้ังด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญา รวมทั้งสมรรถภาพ ทางกาย เพ่ือสุขภาพและกีฬา มีเจตคติ และค่านิยมที่เหมาะสมต่อการเข้าร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา มี นา้ ใจนกั กฬี า หลกั การ หลักสตู รโรงเรียนบ้านเชยี งดาว ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2564 ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 มีหลักการทส่ี าคัญตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน ดงั นี้ 1. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพื่อความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น เปา้ หมายสาหรบั พัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคณุ ธรรมบนพืน้ ฐานของความเป็นไทย ควบคูก่ บั ความเปน็ สากล 2. เป็นหลักสูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี คณุ ภาพ 3. เป็นหลักสูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาให้ สอดคลอ้ งกับสภาพและความต้องการของท้องถ่ิน 4. เป็นหลักสูตรการศกึ ษาทม่ี ีโครงสร้างยืดหยนุ่ ทง้ั ด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้ 5. เปน็ หลกั สูตรการศกึ ษาที่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคัญ 6. เป็นหลักสูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย ครอบคลุมทุก กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทยี บโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์ จุดม่งุ หมาย หลักสูตรโรงเรยี นบา้ นเชียงดาว ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 มงุ่ พัฒนาผเู้ รยี นให้เป็นคนดี มีปญั ญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชพี จงึ กาหนดเปน็ จุดหมายเพื่อใหเ้ กดิ กบั ผูเ้ รยี น เมือ่ จบการศกึ ษาตามหลกั สตู ร ดงั นี้ 1. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทีพ่ งึ ประสงค์ เหน็ คุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบตั ิตนตาม หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือ ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. มีความรู้ ความสามารถในการส่อื สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี และมีทักษะชีวิต 3. มีสุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ทด่ี ี มีสุขนสิ ยั และรักการออกกาลังกาย 4. มีความรกั ชาติ มจี ิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถชี ีวิตและการปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ 5. มจี ติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย การอนุรักษแ์ ละพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม มจี ิต สาธารณะทมี่ ่งุ ทาประโยชนแ์ ละสร้างสิ่งท่ีดงี ามในสังคม และอยู่ร่วมกนั ในสงั คมอย่างมคี วามสขุ

2 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น การพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรโรงเรียนบ้านเชียงดาว ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 25 64 ตาม หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ม่งุ เนน้ พฒั นาผูเ้ รียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานที่ กาหนด ซึง่ จะชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นเกิดสมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ดังนี้ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น หลักสูตรโรงเรียนบ้านเชยี งดาว ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา ขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ม่งุ ใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลด ปญั หาความขัดแยง้ ต่าง ๆ การเลือกรับหรอื ไม่รับขอ้ มูลข่าวสารด้วยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการ เลอื กใช้วธิ กี ารส่อื สาร ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบที่มีต่อตนเองและสงั คม 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด เป็นความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิด อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพ่ือนาไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรหู้ รือสารสนเทศ เพอื่ การตดั สินใจเกีย่ วกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ย่างเหมาะสม 3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เข้าใจความสมั พันธแ์ ละการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปญั หา และมีการตดั สินใจท่ีมปี ระสิทธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทเี่ กิดขึน้ ต่อตนเอง สังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ดาเนินชวี ิตประจาวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเนื่อง การทางาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง ประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ น่ื 5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยดี ้านตา่ ง ๆ และ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การส่ือสาร การทางาน การแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ ถกู ต้อง เหมาะสม และมีคณุ ธรรม

3 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ หลักสูตรโรงเรยี นบ้านเชยี งดาว ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2564 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษา ข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เพือ่ ให้สามารถอยู่รว่ มกับผู้อื่น ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข ในฐานะเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ดังน้ี 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  แสดงความเคารพเมอื่ ได้ยนิ เสียงเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญ พระบารมี  ปฏบิ ตั ติ นอยูใ่ นกรอบของประเพณีวฒั นธรรมไทย  ปฏิบัติตนเปน็ พทุ ธศาสนิกชน ตามหลกั พทุ ธศาสนา 2. มีความซือ่ สตั ยส์ ุจริต  ไมล่ ักขโมย  ไม่พูดเทจ็  ทางานดว้ ยตนเอง 3. ใฝเ่ รยี นรู้  แสวงหาความรไู้ ด้ดว้ ยตนเองอยา่ งสมา่ เสมอ  ศึกษาค้นควา้ ตดิ ตามอ่านส่งิ ที่เปน็ ประโยชนอ์ ยเู่ สมอ  รจู้ ักใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 4. ประหยัดอดออม  มีการออมทรัพย์  ใช้สง่ิ ของอย่างประหยดั (ทัง้ ของตนเองและส่วนรวม) 5. รกั ความเป็นไทย  พดู จาสภุ าพ ไพเราะ  มสี ัมมาคารวะตอ่ ผู้ใหญ่  แต่งการตามประเพณี  เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางวัฒนธรรม ศลิ ปะ ประเพณีไทย 6. มวี ินัย  ตรงเวลา  แต่งกายถกู ระเบียบ  เดินแถวเป็นระเบียบตามขอ้ ตกลง  ใช้เวลาวา่ งให้เกดิ ประโยชน์

4 7. อยู่อย่างพอเพียง  ปฏิบตั ติ ามกระแสพระราชดารสั  มีเหตุผล  พอประมาณ  มีคุณธรรม 8. มุ่งม่นั ในการทางาน  มกี ารวางแผนการทางาน  รับผิดชอบงานตามที่ได้รบั มอบหมาย  ทางานใหส้ าเรจ็ และมีคุณภาพ 9. มีจติ สาธารณะ  การเปดิ ใจกวา้ งพร้อมรบั ฟงั ทุกความคดิ เห็น  คิดถึงสว่ นรวมกอ่ นคิดถงึ ตนเอง  ทางานเพื่อส่วนรวมดว้ ยความเตม็ ใจ

5 ทำไมตอ้ งเรียนสขุ ศึกษำและพลศึกษำ สขุ ภาพ หรือ สุขภาวะ หมายถึง ภาวะของมนุษยท์ ่ีสมบรู ณ์ทง้ั ทางกาย ทางจิต ทางสังคม และ ทางปัญญาหรือจติ วญิ ญาณ สุขภาพหรอื สุขภาวะจึงเปน็ เรอื่ งสาคัญ เพราะเกี่ยวโยงกบั ทกุ มิตขิ องชวี ิต ซ่งึ ทุก คนควรจะได้เรียนรู้เรื่องสุขภาพ เพ่ือจะได้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง มีเจตคติ คุณธรรมและค่านิยมที่ เหมาะสม รวมทงั้ มีทักษะปฏิบัตดิ า้ นสุขภาพจนเป็นกิจนิสัย อนั จะสง่ ผลใหส้ งั คมโดยรวมมีคุณภาพ เรียนรู้อะไรในสุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นการศึกษาด้านสุขภาพท่ีมีเป้าหมาย เพื่อการดารงสุขภาพ การสร้างเสริม สขุ ภาพและการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ของบคุ คล ครอบครัว และชุมชนให้ย่งั ยืน สุขศกึ ษำ มงุ่ เน้นให้ผ้เู รียนพัฒนาพฤตกิ รรมดา้ นความรู้ เจตคติ คุณธรรม คา่ นยิ ม และ การปฏิบัติ เกย่ี วกับสุขภาพควบค่ไู ปดว้ ยกัน พลศึกษำ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนใช้กิจกรรมการเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกมและกีฬา เป็นเครื่องมือในการพัฒนาโดยรวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมท้ังสมรรถภาพ เพอื่ สุขภาพและกีฬา สาระที่ เป็นกรอบเนื้ อหาหรื อขอบข่ายองค์ ความรู้ ของกลุ่ มสาระการเรี ยนรู้สุ ข ศึ กษาและพลศึ กษ า ประกอบดว้ ย  กำรเจริญเติบโตและพัฒนำกำรของมนุษย์ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติของการ เจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการทางาน ของระบบตา่ งๆของรา่ งกาย รวมถงึ วิธีปฏบิ ตั ิตนเพ่ือให้เจรญิ เติบโตและมีพัฒนาการทสี่ มวัย  ชีวติ และครอบครัว ผู้เรยี นจะไดเ้ รียนรเู้ รื่องคุณค่าของตนเองและครอบครวั การปรบั ตวั ต่อการ เปล่ียนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ความรู้สกึ ทางเพศ การสร้างและรกั ษาสมั พันธภาพกับผู้อน่ื สุขปฏิบัติ ทางเพศ และทกั ษะในการดาเนนิ ชวี ติ  กำรเคล่อื นไหว กำรออกกำลังกำย กำรเลน่ เกม กีฬำไทย และกีฬำสำกล ผ้เู รียนได้เรียนรู้เร่ือง การเคลื่อนไหวในรูปแบบต่าง ๆ การเข้าร่วมกิจกรรมทางกายและกีฬา ทั้งประเภทบุคคล และประเภททีม อย่างหลากหลายทั้งไทยและสากล การปฏิบัติตามกฎ กติกา ระเบียบ และข้อตกลงในการเข้าร่วมกิจกรรม ทางกาย และกฬี า และความมีน้าใจนกั กีฬา  กำรสร้ำงเสริมสุขภำพ สมรรถภำพ และกำรป้องกันโรค ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักและ วิธีการเลือกบริโภคอาหาร ผลิตภัณฑ์และบริการสขุ ภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ และการ ปอ้ งกันโรคท้ังโรคตดิ ต่อและโรคไมต่ ดิ ต่อ

6  ควำมปลอดภยั ในชีวิต ผู้เรยี นจะได้เรียนร้เู ร่อื งการป้องกันตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ทั้ง ความเส่ยี งตอ่ สุขภาพ อุบัติเหตุ ความรุนแรง อันตรายจากการใช้ยาและสารเสพตดิ รวมถงึ แนวทางในการ สร้างเสรมิ ความปลอดภยั ในชวี ิต สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ สำระที่ 1 กำรเจรญิ เติบโตและพฒั นำกำรของมนุษย์ มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์ สำระท่ี 2 ชวี ิตและครอบครวั มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมีทกั ษะในการดาเนินชีวติ สำระที่ 3 กำรเคลื่อนไหว กำรออกกำลังกำย กำรเล่นเกม กฬี ำไทย และกีฬำสำกล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทักษะในการเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกฬี า ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ มี วินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมใน สุนทรียภาพของการกฬี า สำระที่ 4 กำรสรำ้ งเสริมสขุ ภำพ สมรรถภำพและกำรป้องกันโรค มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสรมิ สุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกันโรคและ การสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพอื่ สขุ ภาพ สำระท่ี 5 ควำมปลอดภยั ในชวี ิต มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลีกเล่ียงปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพ ติด และความรนุ แรง คณุ ภำพผ้เู รียน จบชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ 3  มีความรู้ และเข้าใจในเรื่องการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ปัจจัยที่มีผลต่อ การ เจริญเติบโตและพฒั นาการ วิธกี ารสรา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครวั และกลุม่ เพ่อื น  มีสุขนิสัยท่ีดีในเร่ืองการกิน การพักผ่อนนอนหลับ การรักษาความสะอาดอวัยวะทุกส่วนของ ร่างกาย การเลน่ และการออกกาลงั กาย  ป้องกันตนเองจากพฤติกรรมที่อาจนาไปสู่การใช้สารเสพติด การล่วงละเมิดทางเพศและรู้จัก ปฏเิ สธในเรื่องทไี่ ม่เหมาะสม

7  ควบคุมการเคล่ือนไหวของตนเองได้ตามพฒั นาการในแตล่ ะชว่ งอายุ มที กั ษะ การเคล่ือนไหวข้ัน พ้ืนฐานและมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ และเกม ได้ อยา่ งสนุกสนาน และปลอดภยั  มีทักษะในการเลือกบริโภคอาหาร ของเล่น ของใช้ ที่มผี ลดีต่อสุขภาพ หลกี เล่ียงและป้องกัน ตนเองจากอบุ ตั ิเหตไุ ด้  ปฏบิ ตั ติ นได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมเมอ่ื มีปัญหาทางอารมณ์ และปัญหาสุขภาพ  ปฏิบัตติ นตามกฎ ระเบียบข้อตกลง คาแนะนา และขั้นตอนต่างๆ และให้ความร่วมมือกับผอู้ ื่น ดว้ ยความเตม็ ใจจนงานประสบความสาเรจ็  ปฏบิ ัติตามสิทธขิ องตนเองและเคารพสิทธิของผูอ้ ่ืนในการเลน่ เปน็ กลมุ่ จบช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 6  เข้าใจความสัมพนั ธ์เชื่อมโยงในการทางานของระบบตา่ ง ๆ ของร่างกาย และร้จู ักดูแลอวัยวะที่ สาคญั ของระบบนน้ั ๆ  เขา้ ใจธรรมชาตกิ ารเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม แรงขับทางเพศของชาย หญงิ เม่ือยา่ งเข้าสูว่ ัยแรกรุ่นและวยั รุ่น สามารถปรับตวั และจัดการได้อยา่ งเหมาะสม  เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ ของการมชี วี ติ และครอบครวั ที่อบอุ่น และเป็นสุข  ภมู ใิ จและเห็นคุณค่าในเพศของตน ปฏิบัติสขุ อนามยั ทางเพศไดถ้ กู ต้องเหมาะสม  ป้องกันและหลีกเล่ียงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อุบัติเหตุ ความ รนุ แรง สารเสพตดิ และการลว่ งละเมดิ ทางเพศ  มีทกั ษะการเคลอื่ นไหวพนื้ ฐานและการควบคุมตนเองในการเคล่อื นไหวแบบผสมผสาน  รู้หลักการเคล่ือนไหวและสามารถเลือกเข้าร่วมกจิ กรรมทางกาย เกม การละเล่นพ้ืนเมอื ง กีฬา ไทย กีฬาสากลไดอ้ ย่างปลอดภัยและสนกุ สนาน มีน้าใจนักกีฬา โดยปฏิบตั ิตามกฎ กติกา สทิ ธิ และหน้าที่ ของตนเอง จนงานสาเร็จลุล่วง  วางแผนและปฏิบัติกิจกรรมทางกาย กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพได้ตาม ความเหมาะสมและความตอ้ งการเป็นประจา  จดั การกบั อารมณ์ ความเครยี ด และปญั หาสขุ ภาพได้อยา่ งเหมาะสม  มีทักษะในการแสวงหาความรู้ ข้อมลู ขา่ วสารเพอ่ื ใชส้ รา้ งเสริมสขุ ภาพ

8 จบชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3  เข้าใจและเห็นความสาคัญของปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการท่ีมีต่อ สขุ ภาพและชวี ิตในชว่ งวยั ตา่ ง ๆ  เขา้ ใจ ยอมรบั และสามารถปรบั ตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ ความร้สู ึก ทางเพศ ความเสมอภาคทางเพศ สรา้ งและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อน่ื และตัดสินใจแก้ปญั หาชวี ติ ด้วยวิธีการ ทเ่ี หมาะสม  เลือกกินอาหารที่เหมาะสม ไดส้ ัดส่วน สง่ ผลดตี อ่ การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการตามวยั  มีทักษะในการประเมินอิทธิพลของเพศ เพ่ือน ครอบครัว ชุมชนและวัฒนธรรมที่มีต่อเจตคติ คา่ นยิ มเกีย่ วกับสขุ ภาพและชีวิต และสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม  ปอ้ งกนั และหลีกเลยี่ งปจั จยั เสี่ยง พฤตกิ รรมเสยี่ งต่อสขุ ภาพและการเกดิ โรค อบุ ัตเิ หตุ การใชย้ า สารเสพตดิ และความรนุ แรง ร้จู กั สร้างเสรมิ ความปลอดภัยใหแ้ ก่ตนเอง ครอบครวั และชุมชน  เข้าร่วมกิจกรรมทางกาย กิจกรรมกีฬา กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพ ทางกายเพ่ือสุขภาพ โดยนาหลักการของทักษะกลไกมาใช้ได้อย่างปลอดภัย สนุกสนาน และปฏิบัติเป็น ประจาสม่าเสมอตามความถนัดและความสนใจ  แสดงความตระหนักในความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกันโรค การดารง สุขภาพ การจัดการกับอารมณ์และความเครียด การออกกาลังกายและการเลน่ กีฬากับการมวี ถิ ชี ีวติ ทม่ี สี ุขภาพ ดี  สานกึ ในคุณค่า ศกั ยภาพและความเปน็ ตวั ของตวั เอง  ปฏิบัติตามกฎ กติกา หน้าท่ีความรับผิดชอบ เคารพสิทธิของตนเองและผอู้ ่ืน ใหค้ วามร่วมมือ ในการแข่งขันกีฬาและการทางานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ ด้วยความมุ่งมั่นและมีน้าใจนักกีฬา จนประสบ ความสาเร็จตามเปา้ หมายด้วยความช่นื ชม และสนุกสนาน

9 ตวั ชี้วดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระที่ 1 การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์ ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 1. อธิบายลกั ษณะและหนา้ ท่ี ของ  ลกั ษณะและหนา้ ท่ขี องอวยั วะภายนอกท่มี ี อวยั วะภายนอก การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการไปตามวยั - ตา หู คอ จมกู ผม มือ เทา้ เลบ็ ผิวหนงั ฯลฯ - อวยั วะในชอ่ งปาก (ปาก ลนิ้ ฟัน เหงือก) 2.อธิบายวธิ ีดแู ลรกั ษาอวยั วะ  การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายนอก ภายนอก - ตา หู คอ จมกู ปาก ลนิ้ ฟัน ผม มือ เทา้ เลบ็ ผวิ หนงั ฯลฯ - อวยั วะในชอ่ งปาก (ปาก ลนิ้ ฟัน เหงือก) ป. 2 1. อธิบายลกั ษณะ และหนา้ ท่ขี อง  ลกั ษณะ และหนา้ ท่ขี องอวยั วะภายในท่มี ี อวยั วะภายใน การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการไปตามวยั (สมอง หวั ใจ ตบั ไต ปอด กระเพาะอาหาร ลาไส้ ฯลฯ) 2. อธิบายวิธีดแู ลรกั ษาอวยั วะภายใน  การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายใน - การระมดั ระวงั การกระแทก - การออกกาลงั กาย - การกินอาหาร 3. อธิบายธรรมชาติของชีวิตมนษุ ย์  ธรรมชาติของชวี ติ มนษุ ยต์ งั้ แตเ่ กิดจนตาย ป.3 1. อธิบายลกั ษณะและการ  ลกั ษณะการเจรญิ เตบิ โตของรา่ งกายมนษุ ย์ เจรญิ เติบโตของรา่ งกายมนษุ ย์ ท่มี ีความแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะบคุ คล - ลกั ษณะรูปรา่ ง - นา้ หนกั - สว่ นสงู

10 ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2. เปรยี บเทยี บการเจรญิ เตบิ โตของ  เกณฑม์ าตรฐานการเจรญิ เตบิ โต ของ ตนเองกบั เกณฑม์ าตรฐาน เด็กไทย 3. ระบปุ ัจจยั ท่มี ีผลตอ่ การ  ปัจจยั ท่มี ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต เจรญิ เติบโต - อาหาร - การออกกาลงั กาย - การพกั ผอ่ น ป. 4 1.อธิบายการเจรญิ เตบิ โตและ  การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของ พฒั นาการของรา่ งกายและจิตใจ รา่ งกายและจิตใจ ตามวยั (ในชว่ งอายุ 9 – 12 ตามวยั ปี) 2.อธิบายความสาคญั ของกลา้ มเนือ้  ความสาคญั ของกลา้ มเนอื้ กระดกู และขอ้ กระดกู และขอ้ ท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ การ ท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ การเจรญิ เติบโตและ เจรญิ เติบโตและพฒั นาการ พฒั นาการ 3.อธิบายวธิ ีดแู ลกลา้ มเนอื้ กระดกู  วธิ ีดแู ลรกั ษากลา้ มเนอื้ กระดกู และขอ้ ให้ และขอ้ ใหท้ างานอยา่ งมี ทางานอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธิภาพ ป. 5 1. อธิบายความสาคญั ของระบบยอ่ ย  ความสาคญั ของระบบยอ่ ยอาหารและ อาหาร และระบบขบั ถ่ายท่มี ีผลตอ่ ระบบขบั ถ่ายท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ การ สขุ ภาพ การเจรญิ เตบิ โต และ เจรญิ เติบโต และพฒั นาการ พฒั นาการ 2. อธิบายวิธีดแู ลระบบยอ่ ยอาหาร  วิธีดแู ลรกั ษาระบบยอ่ ยอาหารและระบบ และระบบขบั ถา่ ยใหท้ างานตามปกติ ขบั ถ่ายใหท้ างานตามปกติ ป.6 1. อธิบายความสาคญั ของระบบ  ความสาคญั ของระบบสบื พนั ธุ์ ระบบ สบื พนั ธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิตและ ไหลเวียนโลหิต และระบบหายใจท่มี ีผลตอ่ ระบบหายใจ ท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ การ สขุ ภาพ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการ เจรญิ เติบโตและพฒั นาการ 2. อธิบายวิธีการดแู ลรกั ษาระบบ  วธิ ีดแู ลรกั ษาระบบสบื พนั ธุ์ ระบบ สบื พนั ธุ์ ระบบไหลเวียนโลหิต และ ไหลเวยี นโลหิต และระบบหายใจใหท้ างาน ระบบหายใจใหท้ างานตามปกติ ตามปกติ

11 ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม.1 1. อธิบายความสาคญั ของระบบ  ความสาคญั ของระบบประสาท และ ประสาท และระบบตอ่ มไรท้ อ่ ท่มี ีผล ระบบตอ่ มไรท้ อ่ ท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ การ ตอ่ สขุ ภาพ การเจรญิ เติบโต และ เจรญิ เติบโต และพฒั นาการของวยั รุน่ พฒั นาการของวยั รุน่ 2. อธิบายวิธีดแู ลรกั ษาระบบประสาท  วธิ ีดแู ลรกั ษาระบบประสาท และระบบ และระบบตอ่ มไรท้ อ่ ใหท้ างาน ตอ่ มไรท้ อ่ ใหท้ างานตามปกติ ตามปกติ 3. วิเคราะหภ์ าวะการเจรญิ เติบโตทาง  การวิเคราะหภ์ าวะการเจรญิ เติบโต รา่ งกายของตนเองกบั เกณฑ์ ตามเกณฑม์ าตรฐานและปัจจยั ท่เี ก่ียวขอ้ ง มาตรฐาน 4. แสวงหาแนวทางในการพฒั นา  แนวทางในการพฒั นาตนเองให้ ตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวยั เจรญิ เตบิ โตสมวยั ม. 2 1. อธิบายการเปล่ยี นแปลงดา้ น  การเปลย่ี นแปลงดา้ นรา่ งกาย จิตใจ รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญาในวยั รุน่ สตปิ ัญญาในวยั รุน่ 2. ระบปุ ัจจยั ท่มี ีผลกระทบตอ่ การ  ปัจจยั ท่มี ีผลกระทบตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและ เจรญิ เตบิ โต และพฒั นาการดา้ น พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และ และสติปัญญา สตปิ ัญญา ในวยั รุน่ - พนั ธุกรรม - สง่ิ แวดลอ้ ม - การอบรมเลยี้ งดู ม. 3 1. เปรยี บเทยี บการเปลย่ี นแปลง  การเปลย่ี นแปลง ดา้ นรา่ งกาย จิตใจ ทางดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาในแตล่ ะวยั สงั คม และสติปัญญา แตล่ ะช่วง ของชีวิต - วยั ทารก - วยั ก่อนเรยี น - วยั เรยี น - วยั รุน่

12 ชั้น ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2. วเิ คราะหอ์ ิทธิพลและความ - วยั ผใู้ หญ่ คาดหวงั ของสงั คมตอ่ การ - วยั สงู อายุ เปลย่ี นแปลงของวยั รุน่  อิทธิพลและความคาดหวงั ของสงั คมท่มี ีตอ่ การเปลย่ี นแปลงของวยั รุน่ 3. วิเคราะห์ สอ่ื โฆษณา ท่มี อี ิทธิพล  ส่อื โฆษณา ท่มี ีอิทธิพลตอ่ การ ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการ เจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของวยั รุน่ ของวยั รุน่ - โทรทศั น์ - วทิ ยุ - ส่อื สง่ิ พิมพ์ - อินเทอรเ์ นต็ สาระท่ี 2 ชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมีทกั ษะในการดาเนนิ ชีวิต ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 1 1. ระบุสมาชิกในครอบครวั และความ  สมาชิกในครอบครวั รกั ความผกู พนั ของสมาชิกท่มี ีตอ่ กนั  ความรกั ความผกู พนั ของสมาชิกใน ครอบครวั 2. บอกส่งิ ท่ชี ่ืนชอบ และภาคภมู ิใจใน  สง่ิ ท่ชี ่ืนชอบและความภาคภมู ิใจ ตนเอง ในตนเอง (จดุ เด่น จุดดอ้ ยของตนเอง) 3. บอกลกั ษณะความแตกตา่ ง  ลกั ษณะความแตกตา่ งของเพศชาย เพศ ระหวา่ งเพศชาย และเพศหญิง หญิง - รา่ งกาย - อารมณ์ - ลกั ษณะนสิ ยั

13 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 2 1. ระบุบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเอง  บทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในครอบครวั และสมาชิกในครอบครวั - ตนเอง - พอ่ แม่ - พ่นี อ้ ง - ญาติ 2. บอกความสาคญั ของเพอ่ื น  ความสาคญั ของเพ่อื น (เช่น พดู คยุ ปรกึ ษา เลน่ ฯลฯ) 3. ระบพุ ฤตกิ รรมท่เี หมาะสมกบั  พฤตกิ รรมท่เี หมาะสมกบั เพศ เพศ - ความเป็นสภุ าพบุรุษ - ความเป็นสภุ าพสตรี 4. อธิบายความภาคภมู ิใจในความ  ความภาคภมู ิใจในเพศหญิง หรอื เพศชาย เป็นเพศหญิง หรอื เพศชาย ป. 3 1. อธิบายความสาคญั และความ  ความสาคญั ของครอบครวั ความแตกตา่ ง แตกตา่ งของครอบครวั ท่มี ีตอ่ ตนเอง ของแตล่ ะครอบครวั - เศรษฐกิจ - สงั คม - การศกึ ษา 2. อธิบายวิธีสรา้ งสมั พนั ธภาพใน  วธิ ีการสรา้ งสมั พนั ธภาพในครอบครวั และ ครอบครวั และกลมุ่ เพ่อื น กลมุ่ เพ่อื น 3. บอกวธิ ีหลกี เลย่ี งพฤตกิ รรมท่ี  พฤตกิ รรมท่นี าไปสกู่ ารลว่ งละเมิดทางเพศ นาไปสกู่ ารลว่ งละเมิดทางเพศ (การแตง่ กาย การเท่ยี วกลางคืน การคบ เพ่อื น การเสพสารเสพตดิ ฯลฯ)  วธิ ีหลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมท่ีนาไปสกู่ ารลว่ ง

14 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ละเมิดทางเพศ (ทกั ษะปฏิเสธและอ่ืน ๆ ) ป. 4 1. อธิบายคณุ ลกั ษณะของความ  คณุ ลกั ษณะของความเป็นเพ่อื นและ เป็นเพ่อื นและสมาชิกท่ดี ีของ สมาชิกท่ดี ีของครอบครวั ครอบครวั 2. แสดงพฤติกรรมท่ีเหมาะสมกบั  พฤติกรรมท่เี หมาะสมกบั เพศของตนตาม เพศของตนตามวฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมไทย 3. ยกตวั อยา่ งวธิ ีการปฏิเสธการ  วธิ ีการปฏิเสธการกระทาท่เี ป็นอนั ตรายและ กระทาท่เี ป็นอนั ตรายและไม่ ไมเ่ หมาะสมในเร่อื งเพศ เหมาะสมในเร่อื งเพศ ป. 5 1. อธิบายการเปลย่ี นแปลงทางเพศ  การเปลย่ี นแปลงทางเพศ การดแู ลตนเอง และปฏบิ ตั ิตนไดเ้ หมาะสม  การวางตวั ท่เี หมาะสมกบั เพศตาม วฒั นธรรมไทย 2. อธิบายความสาคญั ของการมี  ลกั ษณะของครอบครวั ท่อี บอนุ่ ตาม ครอบครวั ท่อี บอุ่นตามวฒั นธรรมไทย วฒั นธรรมไทย (ครอบครวั ขยาย การนบั ถือ ญาติ) 3. ระบพุ ฤตกิ รรมท่พี งึ ประสงค์ และ  พฤติกรรมท่พี งึ ประสงคแ์ ละไมพ่ งึ ประสงค์ ไมพ่ งึ ประสงคใ์ นการแกไ้ ขปัญหา ในการแกไ้ ขปัญหาความขดั แยง้ ในครอบครวั ความขดั แยง้ ในครอบครวั และกลมุ่ เพ่อื น ป. 6 1. อธิบายความสาคญั ของการ  ความสาคญั ของการสรา้ งและรกั ษา สรา้ งและรกั ษาสมั พนั ธภาพกบั ผอู้ ่ืน สมั พนั ธภาพกบั ผอู้ ่ืน  ปัจจยั ท่ชี ว่ ยใหก้ ารทางานกลมุ่ ประสบ ความสาเรจ็ - ความสามารถสว่ นบุคคล - บทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชิกในกลมุ่

15 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - การยอมรบั ความคดิ เหน็ และความ แตกตา่ งระหวา่ งบุคคล - ความรบั ผิดชอบ 2. วเิ คราะหพ์ ฤติกรรมเส่ยี งท่อี าจ  พฤติกรรมเสย่ี งท่นี าไปสกู่ ารมีเพศสมั พนั ธ์ นาไปสกู่ ารมีเพศสมั พนั ธ์ การติดเชือ้ การติดเชือ้ เอดส์ และการตงั้ ครรภก์ อ่ นวยั เอดส์ และการตงั้ ครรภก์ ่อนวยั อนั อนั ควร ควร ม. 1 1. อธิบายวิธีการปรบั ตวั ตอ่ การ  การเปล่ยี นแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ เปลย่ี นแปลงทางรา่ งกายจิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ - ลกั ษณะการเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย อยา่ งเหมาะสม จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ - การยอมรบั และการปรบั ตวั ตอ่ การ เปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และ พฒั นาการทางเพศ - การเบ่ยี งเบนทางเพศ 2. แสดงทกั ษะการปฏิเสธเพ่อื  ทกั ษะปฏเิ สธเพ่อื ปอ้ งกนั การถกู ลว่ งละเมิด ปอ้ งกนั ตนเองจากการถกู ลว่ งละเมิด ทางเพศ ทางเพศ ม. 2 1. วิเคราะหป์ ัจจยั ท่มี ีอิทธิพลตอ่  ปัจจยั ท่มี ีอิทธิพลตอ่ เจตคตใิ นเรอ่ื งเพศ เจตคตใิ นเรอ่ื งเพศ - ครอบครวั - วฒั นธรรม - เพ่อื น - ส่อื 2. วิเคราะหป์ ัญหาและผลกระทบท่ี  ปัญหาและผลกระทบท่เี กิดจากการมี เกิดจากการมีเพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรยี น เพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรยี น 3. อธิบายวธิ ีปอ้ งกนั ตนเองและ  โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ หลกี เลย่ี งจากโรคติดตอ่ ทาง

16 ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง เพศสมั พนั ธ์ เอดส์ และการตงั้ ครรภ์  โรคเอดส์ โดยไม่พงึ ประสงค์  การตงั้ ครรภโ์ ดยไม่พงึ ประสงค์ 4. อธิบายความสาคญั ของความ  ความสาคญั ของความเสมอภาคทางเพศ เสมอภาคทางเพศ และวางตวั ได้  การวางตวั ตอ่ เพศตรงขา้ ม อยา่ งเหมาะสม  ปัญหาทางเพศ  แนวทางการแกไ้ ขปัญหาทางเพศ ม.3 1. อธิบายอนามยั แมแ่ ละเดก็  องคป์ ระกอบของอนามยั เจรญิ พนั ธุ์ การวางแผนครอบครวั และวิธีการ - อนามยั แมแ่ ละเด็ก ปฏิบตั ิตนท่เี หมาะสม - การวางแผนครอบครวั 2. วิเคราะหป์ ัจจยั ท่มี ีผลกระทบตอ่  ปัจจยั ท่มี ีผลกระทบตอ่ การตงั้ ครรภ์ การตงั้ ครรภ์ - แอลกอฮอล์ - สารเสพติด - บหุ ร่ี - สภาพแวดลอ้ ม - การตดิ เชือ้ - โรคท่เี กิดจากภาวะการตงั้ ครรภ์ 3. วิเคราะหส์ าเหตุ และเสนอ  สาเหตคุ วามขดั แยง้ ในครอบครวั แนวทางปอ้ งกนั แกไ้ ขความขดั แยง้ ใน  แนวทางปอ้ งกนั แกไ้ ขความขดั แยง้ ใน ครอบครวั ครอบครวั

17 สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ 3.1 เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และกีฬา ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 1. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายขณะอยกู่ บั ท่ี  ธรรมชาติของการเคล่อื นไหวรา่ งกายใน เคล่อื นท่แี ละใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ ชีวติ ประจาวนั - แบบอยกู่ บั ท่ี เชน่ น่งั ยนื กม้ เงย เอียง ซา้ ย ขวา เคล่อื นไหวขอ้ มือ ขอ้ เทา้ แขน ขา - แบบเคลอ่ื นท่ี เชน่ เดนิ ว่งิ กระโดด กลงิ้ ตวั - แบบใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ เช่น จบั โยน เตะ เคาะ 2. เลน่ เกมเบด็ เตลด็ และเขา้ รว่ ม  กจิ กรรมทางกายท่ใี ชใ้ นการเคล่อื นไหวตาม กิจกรรมทางกายท่ใี ชก้ ารเคล่อื นไหว ธรรมชาติ ตามธรรมชาติ - การเลน่ เกมเบ็ดเตลด็ ป. 2 1. ควบคมุ การเคล่อื นไหวรา่ งกาย  ลกั ษณะและวธิ ีการของการเคลอ่ื นไหว ขณะอยกู่ บั ท่ี เคล่อื นท่ี และใช้ รา่ งกาย แบบอยกู่ บั ท่ี เชน่ กระโดด บิดตวั อุปกรณป์ ระกอบ ดงึ ผลกั แบบเคลอ่ื นท่ี เช่น กระโดดเขยง่ กา้ วชิดกา้ ว ว่งิ ตามทิศทางท่กี าหนด และ แบบใชอ้ ปุ กรณป์ ระกอบ เชน่ คบี ขวา้ ง ตี 2. เลม่ เกมเบด็ เตล็ดและเขา้ รว่ ม  การเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด และเขา้ รว่ มกิจกรรม กิจกรรมทางกายท่วี ิธีเลน่ อาศยั การ ทางกายท่วี ิธีเลน่ อาศยั การเคล่อื นไหวเบอื้ งตน้ เคลอ่ื นไหวเบอื้ งตน้ ทงั้ แบบอยกู่ บั ท่ี ทงั้ แบบอยกู่ บั ท่ี เคล่อื นท่ี และใชอ้ ุปกรณ์ เคล่อื นท่แี ละใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ ประกอบ ป. 3 1. ควบคมุ การเคล่อื นไหวรา่ งกาย  การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายแบบอยกู่ บั ท่ี ขณะอยกู่ บั ท่ี เคล่อื นท่แี ละใชอ้ ุปกรณ์ เชน่ ยอ่ ยืด เขยง่ พบั ตวั เคลอ่ื นไหวลาตวั ประกอบอยา่ งมีทิศทาง การเคล่อื นไหวแบบเคล่อื นท่ี เช่น เดนิ ตอ่ เทา้ เดินถอย-หลงั กระโจน และแบบใชอ้ ปุ กรณ์ ประกอบโดยมีการบงั คบั ทศิ ทาง เช่น ดีด

18 ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2. เคลอ่ื นไหวรา่ งกายท่ใี ชท้ กั ษะ ขวา้ ง โยน และรบั การเคล่อื นไหวแบบบงั คบั ทิศทาง ในการเลน่ เกมเบ็ดเตลด็  วธิ ีการควบคมุ การเคล่อื นไหวรา่ งกาย แบบตา่ งๆ อยา่ งมีทิศทาง  กจิ กรรมทางกายท่ใี ชท้ กั ษะการ เคลอ่ื นไหวแบบบงั คบั ทศิ ทาง ในการเลน่ เกม เบด็ เตลด็ ป. 4 1. ควบคมุ ตนเองเม่ือใชท้ กั ษะ  การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายแบบผสมผสานทงั้ การเคลอ่ื นไหวในลกั ษณะผสมผสาน แบบอยกู่ บั ท่ี เชน่ กระโดดหมนุ ตวั กระโดด- ไดท้ งั้ แบบอยกู่ บั ท่ี เคล่อื นท่ี และใช้ เหยียดตวั แบบเคล่อื นท่ี เชน่ ซกิ แซ็ก ว่งิ อุปกรณป์ ระกอบ เปลย่ี นทศิ ทาง ควบมา้ และแบบใชอ้ ปุ กรณ์ ประกอบ เช่น บอล เชือก 2. ฝึกกายบรหิ ารทา่ มือเปลา่  กายบรหิ ารทา่ มือเปลา่ ประกอบจงั หวะ ประกอบจงั หวะ 3. เลน่ เกมเลยี นแบบและกิจกรรม  เกมเลยี นแบบและกิจกรรมแบบผลดั แบบผลดั 4. เลน่ กีฬาพืน้ ฐานไดอ้ ยา่ งนอ้ ย  กีฬาพนื้ ฐาน เชน่ แชรบ์ อล แฮนดบ์ อล หว่ งขา้ มตาขา่ ย 1 ชนดิ ป. 5 1. จดั รูปแบบการเคลอ่ื นไหว  การจดั รูปแบบการเคล่อื นไหวรา่ งกาย แบบ แบบผสมผสาน และควบคมุ ตนเอง ผสมผสาน และการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทางกายทงั้ เม่ือใชท้ กั ษะการเคล่อื นไหว แบบอยกู่ บั ท่ี เคล่อื นท่ี และใชอ้ ุปกรณป์ ระกอบ ตามแบบท่กี าหนด ตามแบบท่กี าหนด เชน่ การฝึกกายบรหิ าร ยืดหยนุ่ ขนั้ พืน้ ฐาน เป็นตน้ 2. เลม่ เกมนาไปสกู่ ีฬาท่เี ลอื กและ  เกมนาไปสกู่ ีฬาและกิจกรรมแบบผลดั ท่มี ี กิจกรรมการเคล่อื นไหวแบบผลดั การตี เข่ยี รบั – สง่ ส่งิ ของ ขวา้ ง และว่งิ 3. ควบคมุ การเคลอ่ื นไหวในเรอ่ื ง  การเคลอ่ื นไหวในเร่อื งการรบั แรง การใชแ้ รง

19 ช้ัน ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง การรบั แรง การใชแ้ รงและความสมดลุ และความสมดลุ 4. แสดงทกั ษะกลไกในการปฏบิ ตั ิ  ทกั ษะกลไกท่สี ง่ ผลตอ่ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม กิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬา ทางกายและเลน่ กีฬา 5. เลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากล  การเลน่ กีฬาไทย เชน่ ตะกรอ้ วง ว่งิ ชกั ธง ประเภทบคุ คลและประเภททมี ได้ และกีฬาสากล เช่น กรฑี าประเภทลู่ แบดมินตนั อยา่ งละ 1 ชนดิ เปตอง ฟุตบอล เทเบิลเทนนิส วา่ ยนา้ 6. อธิบายหลกั การ และเขา้ รว่ ม  หลกั การและกิจกรรมนนั ทนาการ กิจกรรมนนั ทนาการ อยา่ งนอ้ ย 1 กิจกรรม ป. 6 1. แสดงทกั ษะการเคลอ่ื นไหว  การเคล่อื นไหวรว่ มกบั ผอู้ ่ืนแบบผลดั ใน รว่ มกบั ผอู้ ่ืนในลกั ษณะแบบผลดั และ ลกั ษณะผสมผสาน ในการรว่ มกิจกรรมทางกาย แบบผสมผสานไดต้ ามลาดบั ทงั้ แบบ เช่น กิจกรรมแบบผลดั กายบรหิ ารประกอบ อยกู่ บั ท่ี เคลอ่ื นท่ี และใชอ้ ปุ กรณ์ เพลง ยดื หยนุ่ ขนั้ พนื้ ฐานท่ีใชท้ า่ ตอ่ เน่อื ง และ ประกอบ และการเคลอ่ื นไหว การตอ่ ตวั ทา่ งา่ ย ๆ ประกอบเพลง 2. จาแนกหลกั การเคลอ่ื นไหวในเรอ่ื ง  การเคล่อื นไหวในเร่อื งการรบั แรง การใชแ้ รง การรบั แรง การใชแ้ รง และความสมดลุ และความสมดลุ กบั การพัฒนาทกั ษะการเคลอ่ื นไหว ในการเคล่อื นไหวรา่ งกายในการเลน่ ในการเลน่ เกมและกีฬา เกม เลน่ กีฬา และนาผลมาปรบั ปรุง เพ่มิ พนู วธิ ีปฏิบตั ขิ องตนและผูู ูอ้ ่ืน 3. เลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลประเภท  การเลน่ กีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคล บคุ คลและประเภททมี ไดอ้ ยา่ งละ 1 และประเภททมี เชน่ กรฑี าประเภทลู่ และลาน ชนดิ เปตอง วา่ ยนา้ เทเบิลเทนนสิ วอลเลยบ์ อล ฟุตบอล ตะกรอ้ วง 4. ใชท้ กั ษะกลไก เพ่อื ปรบั ปรุง  การใชข้ อ้ มลู ดา้ นทกั ษะกลไกเพ่อื ปรบั ปรุง เพ่มิ พนู ความสามารถของตนและผอู้ ่ืน และเพ่มิ พนู ความสามารถในการปฏิบตั กิ ิจกรรม

20 ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ในการเลน่ กีฬา ทางกายและเลน่ กีฬา 5. รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย  การนาความรูแ้ ละหลกั การของกิจกรรม 1 กิจกรรม แลว้ นาความรูแ้ ละ นนั ทนาการไปใชเ้ ป็นฐานการศกึ ษาหาความรู้ หลกั การท่ไี ดไ้ ปใชเ้ ป็นฐานการศกึ ษา หาความรูเ้ ร่อื งอ่ืน ๆ ม. 1 1. เพ่มิ พนู ความสามารถของตน  หลกั การเพ่มิ พนู ความสามารถในการ ตามหลกั การเคล่อื นไหวท่ีใชท้ กั ษะ เคลอ่ื นไหวท่ใี ชท้ กั ษะกลไกและทกั ษะพืน้ ฐานท่ี กลไกและทกั ษะพนื้ ฐานท่นี าไปสกู่ าร นาไปสกู่ ารพฒั นาทกั ษะการเลน่ กีฬา พฒั นาทกั ษะการเลน่ กีฬา 2. เลน่ กีฬาไทยและกีฬาสากล  การเลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากลท่ีเลอื ก เช่น ประเภทบคุ คลและทีมโดยใชท้ กั ษะ กรฑี าประเภทลแู่ ละลาน บาสเกตบอล กระบ่ี พนื้ ฐานตามชนดิ กีฬา อยา่ งละ 1 เทเบิลเทนนิส เทนนิส วา่ ยนา้ ชนิด 3. รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ ง  การนาความรูแ้ ละหลกั การของกิจกรรม นอ้ ย 1 กิจกรรมและนาหลกั ความรูท้ ่ี นนั ทนาการไปใชเ้ ช่ือมโยงสมั พนั ธก์ บั วชิ าอ่ืน ไดไ้ ปเช่ือมโยงสมั พนั ธก์ บั วชิ าอ่ืน ม. 2 1. นาผลการปฏิบตั ติ นเก่ียวกบั  การนาผลการปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั ทกั ษะกลไก ทกั ษะกลไกและทกั ษะการเคล่อื นไหว และทกั ษะการเคลอ่ื นไหวในการเลน่ กีฬาจาก ในการเลน่ กีฬาจากแหลง่ ขอ้ มลู ท่ี แหลง่ ขอ้ มลู ท่หี ลากหลายมาสรุปเป็นวิธีท่ี หลากหลายมาสรุปเป็นวธิ ีท่เี หมาะสม เหมาะสมในบรบิ ทของตนเองในการเลน่ กีฬา ในบรบิ ทของตนเอง 2. เลน่ กีฬาไทยและกีฬาสากล  การเลน่ กีฬาไทย กีฬาสากลตามชนดิ กีฬาท่ี ทงั้ ประเภทบุคคลและทมี ไดอ้ ยา่ งละ เลอื ก เชน่ กรฑี าประเภทลแู่ ละลาน บาสเกตบอล 1 ชนดิ กระบ่ี เทนนสิ ตระกรอ้ ลอดบว่ ง ฟุตซอล วา่ ยนา้ เทควนั โด

21 ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3. เปรยี บเทยี บประสทิ ธิภาพของ  ประสทิ ธิภาพของรูปแบบการเคล่อื นไหวท่ี รูปแบบการเคลอ่ื นไหวท่สี ง่ ผลตอ่ การ สง่ ผลตอ่ การเลน่ กีฬาและกิจกรรมใน เลน่ กีฬาและกิจกรรมใน ชีวติ ประจาวนั ชีวติ ประจาวนั 4. รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ ง  การนาประสบการณจ์ ากการรว่ มกิจกรรม นอ้ ย 1 กิจกรรม และนาความรูแ้ ละ นนั ทนาการไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั หลกั การท่ไี ดไ้ ปปรบั ใชใ้ น ชีวิตประจาวนั อยา่ งเป็นระบบ ม. 3 1. เลน่ กีฬาไทยและกีฬาสากล  เทคนคิ และวิธีการเลน่ กีฬาไทยและกีฬา ไดอ้ ยา่ งละ 1 ชนดิ โดยใชเ้ ทคนคิ สากลท่ีเลอื ก เช่น กรฑี าประเภทลแู่ ละลาน ท่เี หมาะสมกบั ตนเองและทมี วอลเลยบ์ อล บาสเกตบอล ดาบสองมือ เทนนิส ตะกรอ้ ขา้ มตาขา่ ย ฟตุ บอล 2. นาหลกั การ ความรูแ้ ละทกั ษะ  การนาหลกั การ ความรู้ ทกั ษะในการ ในการเคล่อื นไหว กิจกรรมทางกาย เคลอ่ื นไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม การ การเลน่ กม และการเลน่ กีฬาไปใช้ เลน่ กีฬาไปใชเ้ ป็นระบบสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพอยา่ ง สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพอยา่ งตอ่ เน่อื ง ตอ่ เน่อื ง เป็นระบบ 3. รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการอยา่ ง  การจดั กิจกรรมนนั ทนาการแกผ่ อู้ ่ืน นอ้ ย 1 กิจกรรมและนาหลกั ความรู้ วธิ ีการไปขยายผลการเรยี นรูใ้ หก้ บั ผอู้ ่ืน

22 สาระท่ี 3 การเคล่ือนไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ 3.2 รกั การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเลน่ กีฬา ปฏิบตั ิเป็นประจาอยา่ งสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนา้ ใจนกั กีฬา มีจิตวญิ ญาณในการแขง่ ขนั และช่ืนชม ในสนุ ทรยี ภาพของการกีฬา ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 1. ออกกาลงั กาย และเลน่ เกม  การออกกาลงั กาย และการเลน่ เกม ตามคาแนะนา อยา่ งสนกุ สนาน เบด็ เตลด็ 2. ปฏิบตั ติ นตามกฎ กติกา  กฎ กติกา ขอ้ ตกลงในการเลน่ เกม ขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมตาม เบ็ดเตลด็ คาแนะนา ป.2 1. ออกกาลงั กาย และเลน่ เกม ได้  การออกกาลงั กาย และเลน่ เกมเบ็ดเตล็ด ดว้ ยตนเองอยา่ งสนกุ สนาน  ประโยชนข์ องการออกกาลงั กายและการ เลน่ เกม 2. ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ าและ  กฎ กติกา ขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเป็น ขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเป็นกลมุ่ กลมุ่ ป. 3 1. เลอื กออกกาลงั กาย การละเลน่  แนวทางการเลอื กออกกาลงั กาย พนื้ เมือง และเลน่ เกม ท่ี การละเลน่ พนื้ เมืองและเลน่ เกมท่เี หมาะสมกบั เหมาะสมกบั จดุ เดน่ จดุ ดอ้ ย และ จุดเดน่ จดุ ดอ้ ยและขอ้ จากดั ของแตล่ ะ ขอ้ จากดั ของตนเอง บคุ คล 2. ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ าและ  การออกกาลงั กาย เกม และการละเลน่ ขอ้ ตกลงของการออกกาลงั กาย การ พนื้ เมือง เลน่ เกม การละเลน่ พนื้ เมืองไดด้ ว้ ย ตนเอง  กฎ กตกิ าและขอ้ ตกลงในการออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการละเลน่ พนื้ เมือง

23 ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 4 1. ออกกาลงั กาย เลน่ เกม และ  การออกกาลงั กาย เลน่ เกม ตาม กีฬาท่ตี นเองชอบและมีความสามารถ ความชอบของตนเองและเลน่ กีฬาพืน้ ฐาน ในการวเิ คราะหผ์ ลพฒั นาการของ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน ตนเองตามตวั อยา่ งและแบบปฏบิ ตั ิ  การวเิ คราะหผ์ ลพฒั นาการของตนเองใน ของผอู้ ่ืน การออกกาลงั กาย เลน่ เกมและเลน่ กีฬา ตาม ตวั อยา่ งและแบบปฏิบตั ิของผอู้ ่ืน  คณุ คา่ ของการออกกาลงั กาย เลน่ เกม และเลน่ กีฬา ท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ 2. ปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ าการเลน่ - การปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา การเลน่ กีฬา กีฬาพืน้ ฐาน ตามชนดิ กีฬาท่เี ลน่ พนื้ ฐาน ตามชนิดกีฬาท่เี ลน่ ป. 5 1. ออกกาลงั กายอยา่ งมีรูปแบบ  หลกั การและรูปแบบการออกกาลงั กาย เลน่ เกมท่ใี ชท้ กั ษะการคิดและ ตดั สนิ ใจ  การออกกาลงั กาย และการเลน่ เกม เชน่ เกมเบด็ เตลด็ เกมเลยี นแบบ เกมนา และ การละเลน่ พนื้ เมือง 2. เลน่ กีฬาท่ตี นเองชอบอยา่ ง  การเลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากลประเภท สม่าเสมอ โดยสรา้ งทางเลอื กในวิธี บุคคลและทีมท่ีเหมาะสมกบั วยั อยา่ ง ปฏิบตั ขิ องตนเองอยา่ งหลากหลาย สม่าเสมอ และมีนา้ ใจนกั กีฬา  การสรา้ งทางเลอื กในวธิ ีปฏิบตั ใิ นการเลน่ กีฬาอยา่ งหลากหลาย และมีนา้ ใจนกั กีฬา 3. ปฏบิ ตั ิตามกฎกตกิ า การเลน่  กฎ กติกาในการเลน่ เกม กีฬาไทยและ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล ตาม กีฬาสากลตามชนิดกีฬาท่เี ลน่ ชนิดกีฬาท่เี ลน่  วธิ ีการรุกและวิธีปอ้ งกนั ในการเลน่ กีฬา ไทยและกีฬาสากลท่เี ลน่

24 ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง 4. ปฏิบตั ติ นตามสทิ ธิของตนเอง  สทิ ธิของตนเองและผอู้ ่ืนในการเลน่ เกม ไมล่ ะเมิดสทิ ธิผอู้ ่ืนและยอมรบั ใน และกีฬา ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลในการ เลน่ เกม และกีฬาไทย กีฬาสากล  ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคลในการเลน่ เกม และกีฬา ป. 6 1. อธิบายประโยชนแ์ ละหลกั การ  ประโยชนแ์ ละหลกั การออกกาลงั กายเพ่อื ออกกาลงั กายเพ่อื สขุ ภาพ สขุ ภาพ สมรรถภาพทางกายและการสรา้ ง สมรรถภาพทางกายและการสรา้ ง เสรมิ บคุ ลกิ ภาพ เสรมิ บคุ ลกิ ภาพ 2. เลน่ เกมท่ใี ชท้ กั ษะการวางแผน  การเลน่ เกมท่ใี ชท้ กั ษะการวางแผน และสามารถเพ่มิ พนู ทกั ษะการออก  การเพ่มิ พนู ทกั ษะการออกกาลงั กายและ กาลงั กายและเคลอ่ื นไหวอยา่ งเป็น การเคลอ่ื นไหวอยา่ งเป็นระบบ ระบบ 3. เลน่ กีฬาท่ตี นเองช่ืนชอบและ  การเลน่ กีฬาประเภทบุคคลและประเภท สามารถประเมินทกั ษะการเลน่ ของ ทมี ท่ชี ่ืนชอบ ตนเป็นประจา  การประเมินทกั ษะการเลน่ กีฬาของตน 4. ปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ า ตามชนดิ  กฎ กตกิ าในการเลน่ กีฬาไทย กีฬาสากล กีฬาท่เี ลน่ โดยคานงึ ถงึ ความ ตามชนิดกีฬาท่เี ลน่ ปลอดภยั ของตนเองและผอู้ ่ืน 5. จาแนกกลวิธีการรุก การปอ้ งกนั  กลวธิ ีการรุก การปอ้ งกนั ในการเลน่ กีฬา และนาไปใชใ้ นการเลน่ กีฬา 6. เลน่ เกมและกีฬา ดว้ ยความ  การสรา้ งความสามคั คีและความมีนา้ ใจ สามคั คีและมีนา้ ใจนกั กีฬา นกั กีฬาในการเลน่ เกมและกีฬา ม. 1 1. อธิบายความสาคญั ของการออก  ความสาคญั ของการออกกาลงั กายและ กาลงั กายและเลน่ กีฬา จนเป็นวถิ ี เลน่ กีฬา จนเป็นวิถีชีวติ ท่มี ีสขุ ภาพดี ชีวิตท่มี ีสขุ ภาพดี

25 ช้ัน ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง  การออกกาลงั กาย เชน่ กายบรหิ าร 2. ออกกาลงั กายและเลอื กเขา้ รว่ ม แบบตา่ งๆ เตน้ แอโรบกิ โยคะ รามวยจีน เลน่ กีฬาตามความถนดั ความสนใจ  การเลน่ กีฬาไทย และกีฬาสากล อยา่ งเต็มความสามารถ พรอ้ มทงั้ มี ทงั้ ประเภทบคุ คลและทีม การประเมินการเลน่ ของตนและผอู้ ่ืน  การประเมินการเลน่ กีฬาของตนเองและ ผอู้ ่ืน 3. ปฏิบตั ติ ามกฎ กติกา และ  กฎ กติกา การเลน่ เกมและการแขง่ ขนั ขอ้ ตกลงตามชนดิ กีฬาท่เี ลอื กเลน่ กีฬาท่เี ลอื กเลน่ 4. วางแผนการรุกและการปอ้ งกนั  รูปแบบ วิธีการรุกและปอ้ งกนั ในการเลน่ ในการเลน่ กีฬาท่ีเลอื กและนาไปใชใ้ น กีฬาท่เี ลอื ก การเลน่ อยา่ งเป็นระบบ 5. รว่ มมือในการเลน่ กีฬา และการ  การเลน่ การแขง่ ขนั กีฬา และการทางาน ทางานเป็นทีมอยา่ งสนกุ สนาน เป็นทมี 6. วิเคราะหเ์ ปรยี บเทยี บและ  การยอมรบั ความสามารถและความ ยอมรบั ความแตกตา่ งระหวา่ งวธิ ีการ แตกตา่ งระหวา่ งบุคคลในการเลน่ กีฬา เลน่ กีฬาของตนเองกบั ผอู้ ่ืน ม. 2 1. อธิบายสาเหตกุ ารเปล่ยี นแปลง  สาเหตกุ ารเปลย่ี นแปลงทางดา้ นรา่ งกาย ทางกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา จากการ และสตปิ ัญญา ท่เี กิดจากการ ออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาอยา่ ง ออกกาลงั กาย และเลน่ กีฬาเป็น สม่าเสมอ จนเป็นวถิ ีชีวิต ประจาจนเป็นวิถีชีวิต  การสรา้ งวถิ ีชีวติ ท่มี ีสขุ ภาพดี โดยการ ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาเป็นประจา 2. เลอื กเขา้ รว่ มกิจกรรม  การออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาไทย การออกกาลงั กาย เลน่ กีฬาตาม

26 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ความถนดั และความสนใจพรอ้ มทงั้ กีฬาสากลทงั้ ประเภทบุคคลและประเภททีม วิเคราะหค์ วามแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล  การวิเคราะหค์ วามแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง เพ่อื เป็นแนวทางในการพฒั นาการรว่ ม กิจกรรมการออกกาลงั กายและเลน่ กีฬา 3. มีวนิ ยั ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า  วินยั ในการฝึก และการเลน่ กีฬา ตามกฎ และขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาท่เี ลอื ก กติกาและขอ้ ตกลง 4. วางแผนการรุกและการปอ้ งกนั  รูปแบบ กลวิธีการรุก การปอ้ งกนั ในการ ในการเลน่ กีฬาท่ีเลอื กและนาไปใช้ ใน เลน่ กีฬาเป็นทีม การเลน่ อยา่ งเหมาะสมกบั ทมี  ประโยชนข์ องการเลน่ และการทางาน เป็นทมี  หลกั การใหค้ วามรว่ มมือในการเลน่ การแขง่ ขนั กีฬาและการทางานเป็นทีม 5. นาผลการปฏบิ ตั ใิ นการเลน่ กีฬา  การพฒั นาวธิ ีเลน่ กีฬาท่เี หมาะสมกบั มาสรุปเป็นวิธีท่เี หมาะสมกบั ตนเอง ตนเอง ดว้ ยความมงุ่ ม่นั - การเลอื กวิธีเลน่ - การแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ ง - การเพ่มิ ทกั ษะ  การสรา้ งแรงจูงใจและการสรา้ งความ ม่งุ ม่นั ในการเลน่ และแขง่ ขนั กีฬา ม. 3 1. มีมารยาทในการเลน่ และดกู ีฬา  มารยาทในการเลน่ และการดกู ีฬาดว้ ย ดว้ ยความมีนา้ ใจนกั กีฬา ความมีนา้ ใจนกั กีฬา 2. ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาอยา่ ง  การออกาลงั กายและการเลน่ กีฬาประเภท

27 ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง สม่าเสมอและนาแนวคิดหลกั การจาก บุคคล และประเภททมี การเลน่ ไปพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของตน  การนาประสบการณ์ แนวคิดจากการ ดว้ ยความภาคภมู ิใจ ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น การพฒั นาคุณภาพชีวติ 3. ปฏบิ ตั ติ นตามกฎ กตกิ า และ  กฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาท่ี ขอ้ ตกลงในการเลน่ ตามชนดิ กีฬาท่ี เลอื กเลน่ เลอื กและนาแนวคดิ ท่ไี ดไ้ ปพฒั นา คณุ ภาพชีวิต ของตนในสงั คม  การประยกุ ตป์ ระสบการณก์ ารปฏบิ ตั ติ าม กฎ กตกิ า ขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาไปใช้ พฒั นาคณุ ภาพชีวิตของตนในสงั คม 4. จาแนกกลวธิ ีการรุก การปอ้ งกนั  วธิ ีการประยกุ ตใ์ ชก้ ลวธิ ีการรุกและการ และใชใ้ นการเลน่ กีฬาท่ีเลอื กและ ปอ้ งกนั ในการเลน่ กีฬาไดต้ ามสถานการณข์ อง ตดั สนิ ใจเลอื กวิธีท่เี หมาะสมกบั ทีมไป การเลน่ ใชไ้ ดต้ ามสถานการณข์ องการเลน่ 5. เสนอผลการพฒั นาสขุ ภาพของ  การพฒั นาสขุ ภาพตนเองท่เี กิดจากการ ตนเองท่เี กิดจากการออกกาลงั กาย ออกกาลงั กายและการเลน่ กีฬาเป็นประจา และการเลน่ กีฬาเป็นประจา

28 สาระที่ 4 การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค มาตรฐาน พ 4.1 เหน็ คณุ คา่ และมีทกั ษะในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ การดารงสขุ ภาพ การปอ้ งกนั โรค และ การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่อื สขุ ภาพ ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 1. ปฏิบตั ติ นตามหลกั สขุ บญั ญตั ิ  การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั สขุ บญั ญตั ิแหง่ ชาติ แหง่ ชาติตามคาแนะนา 2. บอกอาการเจ็บป่วยท่เี กิดขนึ้ กบั  ลกั ษณะอาการเจ็บป่วยท่เี กิดขนึ้ กบั ตนเอง ตนเอง - ปวดศรี ษะ - ตวั รอ้ น - มีนา้ มกู - ปวดทอ้ ง - ผ่นื คนั (หนงั ศีรษะ ผวิ หนงั ) - ฟกชา้ ฯลฯ 3. ปฏิบตั ิตนตามคาแนะนาเม่ือมี  วิธีปฏบิ ตั ิตนเม่ือมอี าการเจบ็ ป่วยท่เี กิด อาการเจ็บป่ วย ขนึ้ กบั ตนเอง ป. 2 1. บอกลกั ษณะของการมีสขุ ภาพดี  ลกั ษณะของการมีสขุ ภาพดี - รา่ งกายแข็งแรง - จิตใจ รา่ เรงิ แจม่ ใส - มีความสขุ - มีความปลอดภยั 2. เลอื กกินอาหารท่มี ีประโยชน์  อาหารท่มี ีประโยชนแ์ ละไมม่ ีประโยชน์ 3. ระบุของใชแ้ ละของเลน่ ท่มี ี  ของใชแ้ ละของเลน่ ท่มี ีผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ

29 ช้ัน ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ 4. อธิบายอาการและวธิ ีปอ้ งกนั การ  อาการและวิธีปอ้ งกนั การเจบ็ ป่วย เจ็บป่วย การบาดเจบ็ ท่อี าจเกิดขนึ้ - ตาแดง ทอ้ งเสยี ฯลฯ  อาการและวิธีปอ้ งกนั การบาดเจ็บ - ถกู ของมีคม แมลงสตั วก์ ดั ตอ่ ย หกลม้ ฯลฯ 5. ปฏิบตั ติ ามคาแนะนาเม่ือมี  วิธีปฏิบตั ติ นเม่ือเจ็บป่วยและบาดเจ็บ อาการเจ็บป่ วยและบาดเจ็บ ป. 3 1. อธิบายการตดิ ตอ่ และวิธีการ  การตดิ ตอ่ และวธิ ีการปอ้ งกนั การ ปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายของโรค แพรก่ ระจายของโรค 2. จาแนกอาหารหลกั 5 หมู่  อาหารหลกั 5 หมู่ 3. เลอื กกินอาหารท่หี ลากหลาย  การเลอื กกินอาหารท่เี หมาะสม ครบ 5 หมู่ ในสดั สว่ นท่เี หมาะสม - ความหลากหลายของชนดิ อาหารในแตล่ ะ หมู่ - สดั สว่ นและปรมิ าณของอาหาร (ตามธง โภชนาการ) 4. แสดงการแปรงฟันใหส้ ะอาด  การแปรงฟันใหส้ ะอาดอยา่ งถกู วิธี อยา่ งถกู วิธี (ครอบคลมุ บรเิ วณขอบเหงือกและคอฟัน) 5. สรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย  การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพทางกายเพ่อื ไดต้ ามคาแนะนา สขุ ภาพ - วธิ ีการทดสอบสมรรถภาพทางกาย

30 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - วิธีการสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่อื สขุ ภาพ โดยการออกกาลงั กาย การพกั ผอ่ น และ กิจกรรมนนั ทนาการ ป. 4 1. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง  ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสง่ิ แวดลอ้ มกบั สง่ิ แวดลอ้ มกบั สขุ ภาพ สขุ ภาพ  การจดั ส่งิ แวดลอ้ มท่ถี กู สขุ ลกั ษณะและ เอือ้ ตอ่ สขุ ภาพ 2. อธิบายสภาวะอารมณ์  สภาวะอารมณแ์ ละความรูส้ กึ เชน่ โกรธ ความรูส้ กึ ท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ หงดุ หงิด เครยี ด เกลยี ด เสยี ใจ เศรา้ ใจ วิตกกงั วล กลวั กา้ วรา้ ว อิจฉา รษิ ยา เบ่ือ หนา่ ย ทอ้ แท้ ดใี จ ชอบใจ รกั ช่ืนชม สนกุ สขุ สบาย  ผลท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ ทางบวก : สดช่ืน ยมิ้ แยม้ แจ่มใส รา่ เรงิ ฯลฯ ทางลบ : ปวดศีรษะ ปวดทอ้ ง เบ่อื อาหาร ออ่ นเพลยี ฯลฯ 3. วิเคราะหข์ อ้ มลู บนฉลากอาหาร  การวิเคราะหข์ อ้ มลู บนฉลากอาหารและ และผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพเพ่อื การเลอื ก ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพ บรโิ ภค 4. ทดสอบและปรบั ปรุงสมรรถภาพ  การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทางกายตามผลการตรวจสอบ  การปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกายตามผล สมรรถภาพทางกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย

31 ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 5 1. แสดงพฤตกิ รรมท่ีเห็น  ความสาคญั ของการปฏิบตั ติ นตามสขุ ความสาคญั ของการปฏิบตั ิตนตาม บญั ญตั ิแหง่ ชาติ สขุ บญั ญตั แิ หง่ ชาติ 2. คน้ หาขอ้ มลู ขา่ วสารเพ่อื ใชส้ รา้ ง  แหลง่ และวิธีคน้ หาขอ้ มลู ขา่ วสารทาง เสรมิ สขุ ภาพ สขุ ภาพ  การใชข้ อ้ มลู ขา่ วสารในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ 3. วเิ คราะหส์ อ่ื โฆษณาในการ  การตดั สนิ ใจเลอื กซอื้ อาหารและผลติ ภณั ฑ์ ตดั สนิ ใจเลอื กซอื้ อาหาร และ สขุ ภาพ (อาหาร เคร่อื งสาอาง ผลติ ภณั ฑด์ แู ล ผลติ ภณั ฑส์ ขุ ภาพอยา่ งมีเหตผุ ล สขุ ภาพในช่องปาก ฯลฯ) 4. ปฏิบตั ติ นในการปอ้ งกนั โรคท่พี บ การปฏิบตั ิตนในการปอ้ งกนั โรคท่พี บบอ่ ยใน บอ่ ยในชีวิตประจาวนั ชีวติ ประจาวนั - ไขห้ วดั - ไขเ้ ลอื ดออก - โรคผิวหนงั - ฟันผแุ ละโรคปริทนั ต์ ฯลฯ 5. ทดสอบและปรบั ปรุงสมรรถภาพ  การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ทางกายตามผลการทดสอบ  การปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกายตามผล สมรรถภาพทางกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย ป. 6 1. แสดงพฤตกิ รรมในการปอ้ งกนั  ความสาคญั ของสง่ิ แวดลอ้ มท่มี ีผลตอ่ และแกไ้ ขปัญหาสง่ิ แวดลอ้ มท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ สขุ ภาพ  ปัญหาของส่งิ แวดลอ้ มท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ

32 ช้ัน ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง  การปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหาส่งิ แวดลอ้ มท่มี ี ผลตอ่ สขุ ภาพ 2. วเิ คราะหผ์ ลกระทบท่เี กิดจาก  โรคตดิ ตอ่ สาคญั ท่รี ะบาดในปัจจบุ นั การระบาดของโรคและเสนอแนว  ผลกระทบท่เี กิดจากการระบาดของโรค ทางการปอ้ งกนั โรคตดิ ตอ่ สาคญั ท่พี บ  การปอ้ งกนั การระบาดของโรค ในประเทศไทย 3. แสดงพฤติกรรมท่บี ง่ บอกถงึ  พฤติกรรมท่แี สดงออกถงึ ความรบั ผิดชอบ ความรบั ผิดชอบตอ่ สขุ ภาพของสว่ นรวม ตอ่ สขุ ภาพของสว่ นรวม 4. สรา้ งเสรมิ และปรบั ปรุง  วธิ ีทดสอบสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกายเพ่อื สขุ ภาพอยา่ ง  การสรา้ งเสรมิ และปรบั ปรุงสมรรถภาพทาง ตอ่ เน่อื ง กายตามผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ม. 1 1. เลอื กกินอาหารท่เี หมาะสมกบั  หลกั การเลอื กอาหารท่เี หมาะสมกบั วยั วยั 2. วิเคราะหป์ ัญหาท่เี กิดจากการ  ปัญหาท่เี กิดจากภาวะโภชนาการ ภาวะโภชนาการท่มี ีผลกระทบตอ่ - ภาวะการขาดสารอาหาร สขุ ภาพ - ภาวะโภชนาการเกิน 3. ควบคมุ นา้ หนกั ของตนเองใหอ้ ยู่  เกณฑม์ าตรฐานการเจรญิ เตบิ โตของ ในเกณฑม์ าตรฐาน เดก็ ไทย  วธิ ีการควบคมุ นา้ หนกั ของตนเองใหอ้ ยใู่ น เกณฑม์ าตรฐาน 4. การสรา้ งเสรมิ และปรบั ปรุง  วิธีทดสอบสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพทางกายตามผลการ ทดสอบ  วธิ ีสรา้ งเสรมิ และปรบั ปรุงสมรรถภาพ ทางกายตามผลการทดสอบ

33 ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ม. 2 1. เลอื กใชบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพอยา่ ง  การเลอื กใชบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพ มีเหตผุ ล 2. วเิ คราะหผ์ ลของการใช้  ผลกระทบของเทคโนโลยี ท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ เทคโนโลยีท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ 3. วเิ คราะหค์ วามเจรญิ กา้ วหนา้  ความเจรญิ กา้ วหนา้ ทางการแพทยท์ ่มี ีผล ทางการแพทยท์ ่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพ ตอ่ สขุ ภาพ 4. วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธข์ องภาวะ  ความสมดลุ ระหวา่ งสขุ ภาพกายและ สมดลุ ระหวา่ งสขุ ภาพกายและ สขุ ภาพจิต สขุ ภาพจิต 5. อธิบายลกั ษณะอาการเบอื้ งตน้  ความสมดลุ ระหวา่ งสขุ ภาพกายและ ของผมู้ ีปัญหาสขุ ภาพจิต สขุ ภาพจิต 6. เสนอแนะวธิ ีปฏิบตั ิตนเพ่อื  วธิ ีปฏบิ ตั ติ นเพ่อื จดั การกบั อารมณแ์ ละ จดั การกบั อารมณแ์ ละความเครยี ด ความเครยี ด 7. พฒั นาสมรรถภาพทางกาย  เกณฑส์ มรรถภาพทางกาย ตนเองใหเ้ ป็นไปตามเกณฑท์ ่กี าหนด  การพฒั นาสมรรถภาพทางกาย ม. 3 1. กาหนดรายการอาหารท่ี  การกาหนดรายการอาหารท่เี หมาะสมกบั เหมาะสมกบั วยั ตา่ ง ๆ โดยคานงึ ถงึ วยั ตา่ ง ๆ ความประหยดั และคณุ คา่ ทาง  วยั ทารก วยั เด็ก (วยั กอ่ นเรยี น วยั เรยี น) โภชนาการ วยั รุน่ วยั ผใู้ หญ่ วยั สงู อายุ โดยคานงึ ถงึ ความประหยดั และคณุ คา่ ทางโภชนาการ 2. เสนอแนวทางปอ้ งกนั โรคท่ีเป็น  โรคท่เี ป็นสาเหตสุ าคญั ของการเจ็บป่วย สาเหตสุ าคญั ของการเจ็บป่วยและ และการตายของคนไทย การตายของคนไทย โรคติดตอ่ เช่น

34 ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง - โรคท่เี กิดจากการมีเพศสมั พนั ธ์ - โรคเอดส์ - โรคไขห้ วดั นก ฯลฯ โรคไม่ติดตอ่ เช่น - โรคหวั ใจ - โรคความดนั โลหิตสงู - เบาหวาน - มะเรง็ ฯลฯ 3. รวบรวมขอ้ มลู และเสนอแนวทาง  ปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน แกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพในชุมชน  แนวทางแกไ้ ขปัญหาสขุ ภาพในชุมชน 4. วางแผนและจดั เวลาในการออก  การวางแผนและจดั เวลาในการ กาลงั กาย การพกั ผอ่ นและการสรา้ ง ออกกาลงั กาย การพกั ผอ่ น และการสรา้ ง เสรมิ สมรรถภาพทางกาย เสรมิ สมรรถภาพทางกาย 5. ทดสอบสมรรถภาพทางกาย  การทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบตา่ ง ๆ และพฒั นาไดต้ ามความแตกตา่ งระหวา่ ง และการพฒั นาสมรรถภาพเพ่อื สขุ ภาพ บุคคล

35 สาระที่ 5 ความปลอดภยั ในชีวติ มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลกี เล่ยี งปัจจยั เสย่ี ง พฤติกรรมเสย่ี งตอ่ สขุ ภาพ อุบตั เิ หตุ การใชย้ า สารเสพ ตดิ และความรุนแรง ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 1 1. ระบุส่งิ ท่ที าใหเ้ กิดอนั ตราย  ส่งิ ท่ที าใหเ้ กิดอนั ตรายภายในบา้ นและ ท่บี า้ น โรงเรยี น และการปอ้ งกนั โรงเรยี น  การปอ้ งกนั อนั ตรายภายในบา้ นและโรงเรยี น 2. บอกสาเหตแุ ละการปอ้ งกนั  อนั ตรายจากการเลน่ อนั ตรายท่เี กิดจากการเลน่ - สาเหตทุ ่ที าใหเ้ กิดอนั ตรายจากการเลน่ - การปอ้ งกนั อนั ตรายจากการเลน่ 3. แสดงคาพดู หรอื ทา่ ทางขอความ  การขอความชว่ ยเหลอื เม่ือเกิดเหตรุ า้ ยท่บี า้ น ช่วยเหลอื จากผอู้ ่ืนเม่ือเกิดเหตรุ า้ ยท่ี และโรงเรยี น บา้ นและโรงเรยี น - บุคคลท่คี วรขอความช่วยเหลอื - คาพดู และทา่ ทางการขอความช่วยเหลอื ป. 2 1. ปฏิบตั ติ นในการปอ้ งกนั อุบตั เิ หตุ  อบุ ตั ิเหตทุ างนา้ และทางบก ท่อี าจเกิดขนึ้ ทางนา้ และทางบก - สาเหตขุ องอุบตั ิเหตทุ างนา้ และทางบก - วิธีการปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตทุ างนา้ และทางบก 2. บอกช่อื ยาสามญั ประจาบา้ น  ยาสามญั ประจาบา้ น และใชย้ าตามคาแนะนา - ช่ือยาสามญั ประจาบา้ น - การใชย้ าตามความจาเป็นและลกั ษณะอาการ

36 ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3. ระบุโทษของสารเสพตดิ สาร  สารเสพตดิ และสารอนั ตรายใกลต้ วั อนั ตรายใกลต้ วั และวิธีการปอ้ งกนั - โทษของสารเสพติด และสารอนั ตรายใกลต้ วั - วธิ ีปอ้ งกนั 4. ปฏบิ ตั ิตนตามสญั ลกั ษณแ์ ละ  สญั ลกั ษณแ์ ละปา้ ยเตอื นของสง่ิ ของหรอื ปา้ ยเตอื นของสง่ิ ของหรอื สถานท่ที ่ี สถานท่ที ่เี ป็นอนั ตราย เป็นอนั ตราย - ความหมายของสญั ลกั ษณแ์ ละปา้ ยเตอื น 5. อธิบายสาเหตุ อนั ตราย วธิ ี  อคั คีภยั ปอ้ งกนั อคั คภี ยั และแสดงการหนีไฟ - สาเหตขุ องการเกิดอคั คภี ยั - อนั ตรายซง่ึ ไดร้ บั จากการเกิดอคั คภี ยั - การปอ้ งกันอคั คภี ยั และการหนไี ฟ ป. 3 1. ปฏิบตั ิตนเพ่อื ความปลอดภยั  วธิ ีปฏิบตั ติ นเพ่อื ความปลอดภยั จากอุบตั เิ หตุ จากอุบตั ิเหตใุ นบา้ น โรงเรยี น และ ในบา้ น โรงเรยี นและการเดนิ ทาง การเดินทาง 2. แสดงวิธีขอความชว่ ยเหลอื จาก  การขอความช่วยเหลอื จากบคุ คลและแหลง่ บคุ คลและแหลง่ ตา่ ง ๆ เม่ือเกิด ตา่ งๆ เม่ือเกิดเหตรุ า้ ยหรอื อุบตั ิเหตุ เหตรุ า้ ย หรอื อบุ ตั เิ หตุ 3. แสดงวธิ ีปฐมพยาบาล เม่อื  การบาดเจ็บจากการเลน่ บาดเจ็บจากการเลน่ - ลกั ษณะของการบาดเจ็บ - วิธีปฐมพยาบาล (บาดเจ็บ หา้ มเลอื ด ฯลฯ) ป. 4 1. อธิบายความสาคญั ของการใช้  ความสาคญั ของการใชย้ า ยาและใชย้ าอยา่ งถกู วธิ ี  หลกั การใชย้ า 2. แสดงวิธีปฐมพยาบาลเม่อื ไดร้ บั  วธิ ีปฐมพยาบาล อนั ตรายจากการใชย้ าผิด สารเคมี

37 ช้ัน ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง แมลงสตั วก์ ดั ตอ่ ย และการบาดเจ็บ - การใชย้ าผิด จากการเลน่ กีฬา - สารเคมี - แมลงสตั วก์ ดั ตอ่ ย - การบาดเจ็บจากการเลน่ กีฬา 3. วเิ คราะหผ์ ลเสยี ของการสบู บหุ ร่ี  ผลเสยี ของการสบู บุหร่ี การด่มื สรุ า และการ และการด่มื สรุ า ท่มี ีตอ่ สขุ ภาพและ ปอ้ งกนั การปอ้ งกนั ป. 5 1. วิเคราะหป์ ัจจยั ท่มี ีอิทธิพลตอ่  ปัจจยั ท่มี ีอิทธิพลตอ่ การใชส้ ารเสพตดิ (สรุ า การใชส้ ารเสพติด บหุ ร่ี ยาบา้ สารระเหย ฯลฯ) - ครอบครวั สงั คม เพ่อื น - คา่ นิยม ความเช่ือ - ปัญหาสขุ ภาพ - สอ่ื ฯลฯ 2. วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการใช้  ผลกระทบของการใชย้ า และสารเสพตดิ ท่มี ีต่อ ยา และสารเสพติด ท่มี ีผลตอ่ รา่ งกาย รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญา จิตใจ อารมณ์ สงั คม และสติปัญญา 3. ปฏิบตั ิตนเพ่อื ความปลอดภยั  การปฏบิ ตั ิตนเพ่อื ความปลอดภยั จาก จากการใชย้ าและหลกี เล่ยี งสารเสพ การใชย้ า ติด  การหลกี เล่ยี งสารเสพติด 4. วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของส่อื ท่มี ีตอ่  อิทธิพลของส่อื ท่มี ีตอ่ พฤตกิ รรม สขุ ภาพ พฤตกิ รรมสขุ ภาพ (อินเทอรเ์ นต็ เกม ฯลฯ) 5. ปฏบิ ตั ติ นเพ่อื ปอ้ งกนั อนั ตราย  การปฏิบตั ิเพ่อื ปอ้ งกนั อนั ตรายจากการเลน่ จากการเลน่ กีฬา กีฬา

38 ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป. 6 1. วิเคราะหผ์ ลกระทบจากความ  ภยั ธรรมชาติ รุนแรงของภยั ธรรมชาตทิ ่มี ีตอ่ รา่ งกาย - ลกั ษณะของภยั ธรรมชาติ จิตใจ และสงั คม - ผลกระทบจากความรุนแรงของภยั ธรรมชาติท่มี ี ตอ่ รา่ งกาย จิตใจ และสงั คม 2. ระบวุ ธิ ีปฏิบตั ิตน เพ่อื ความ  การปฏิบตั ติ นเพ่อื ความปลอดภยั จากภยั ปลอดภยั จากธรรมชาติ ธรรมชาติ 3. วเิ คราะหส์ าเหตขุ องการติดสารเสพ  สาเหตขุ องการตดิ สารเสพติด ติด และชกั ชวนใหผ้ อู้ ่ืนหลกี เล่ยี งสารเสพ  ทกั ษะการสอ่ื สารใหผ้ อู้ ่ืนหลกี เล่ยี งสารเสพติด ติด ม. 1 1. แสดงวิธีปฐมพยาบาลและ  การปฐมพยาบาลและเคล่อื นยา้ ยผปู้ ่วยอยา่ ง เคลอ่ื นยา้ ยผปู้ ่วยอยา่ งปลอดภยั ปลอดภยั - เป็นลม - บาดแผล - ไฟไหม้ - กระดกู หกั - นา้ รอ้ นลวก ฯลฯ 2. อธิบายลกั ษณะอาการของผตู้ ิด  ลกั ษณะของผตู้ ดิ สารเสพตดิ สารเสพติดและการปอ้ งกนั การติด  อาการของผตู้ ดิ สารเสพตดิ สารเสพติด  การปอ้ งกนั การตดิ สารเสพตดิ 3. อธิบายความสมั พนั ธข์ องการใช้  ความสมั พนั ธข์ องการใชส้ ารเสพตดิ กบั การเกิด สารเสพติดกบั การเกิดโรคและ โรค และอบุ ตั เิ หตุ อบุ ตั ิเหตุ 4. แสดงวธิ ีการชกั ชวนผอู้ ่ืนใหล้ ด  ทกั ษะท่ใี ชใ้ นการชกั ชวนผอู้ ่ืนใหล้ ด ละ เลกิ ละ เลกิ สารเสพติด โดยใชท้ กั ษะ สารเสพติด ตา่ ง ๆ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์

39 ชั้น ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง - ทกั ษะการสอ่ื สาร - ทกั ษะการตดั สนิ ใจ - ทกั ษะการแกป้ ัญหา ฯลฯ ม. 2 1. ระบวุ ธิ ีการ ปัจจยั และแหลง่ ท่ี  วิธีการ ปัจจยั และแหลง่ ท่ชี ว่ ยเหลอื ฟื้นฟู ช่วยเหลอื ฟื้นฟผู ตู้ ดิ สารเสพติด ผตู้ ดิ สารเสพติด 2. อธิบายวธิ ีการหลกี เล่ยี ง  การหลกี เลย่ี งพฤติกรรมเสย่ี งและ พฤตกิ รรมเส่ยี งและสถานการณเ์ สย่ี ง สถานการณเ์ สย่ี ง - การม่วั สมุ - การทะเลาะวิวาท - การเขา้ ไปในแหลง่ อบายมขุ - การแขง่ จกั รยานยนตบ์ นทอ้ งถนน ฯลฯ 3. ใชท้ กั ษะชีวิตในการปอ้ งกนั  ทกั ษะชีวิตในการปอ้ งกนั ตนเอง (ทกั ษะปฏเิ สธ ตนเองและหลกี เล่ยี งสถานการณค์ บั ทกั ษะการตอ่ รอง ฯลฯ) และหลกี เลย่ี ง ขนั ท่อี าจนาไปสอู่ นั ตราย สถานการณค์ บั ขนั ท่อี าจนาไปสอู่ นั ตราย ม. 3 1. วเิ คราะหป์ ัจจยั เสย่ี ง และ  ปัจจยั เส่ยี ง และพฤติกรรมเส่ยี งตอ่ สขุ ภาพ พฤติกรรมเสย่ี งท่มี ีผลตอ่ สขุ ภาพและ  แนวทางการปอ้ งกนั ความเส่ยี งตอ่ สขุ ภาพ แนวทางปอ้ งกนั 2. หลกี เลย่ี งการใชค้ วามรุนแรง  ปัญหาและผลกระทบจากการใชค้ วามรุนแรง และชกั ชวนเพ่อื นใหห้ ลกี เล่ยี งการใช้  วธิ ีหลกี เลย่ี งการใชค้ วามรุนแรง ความรุนแรงในการแกป้ ัญหา

40 ช้ัน ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3. วิเคราะหอ์ ิทธิพลของสอ่ื ตอ่  อิทธิพลของส่อื ตอ่ พฤตกิ รรมสขุ ภาพและ พฤติกรรมสขุ ภาพและความรุนแรง ความรุนแรง (คลปิ วิดีโอ การทะเลาะววิ าท อินเทอรเ์ น็ต เกม ฯลฯ) 4. วิเคราะหค์ วามสมั พนั ธข์ องการ  ความสมั พนั ธข์ องการด่มื เครอ่ื งด่มื ท่มี ี ด่มื เครอ่ื งด่มื ท่มี ีแอลกอฮอลต์ อ่ แอลกอฮอลต์ อ่ สขุ ภาพและการเกิดอบุ ตั ิเหตุ สขุ ภาพและการเกิดอบุ ตั ิเหตุ  วธิ ีการชว่ ยฟื้นคนื ชีพ 5. แสดงวธิ ีการช่วยฟื้นคืนชีพอยา่ ง ถกู วิธี

41 รำยวชิ ำท่ีเปดิ สอน รายวชิ าพนื้ ฐานและเพ่ิมเตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา รำยวิชำสขุ ศึกษำและพลศึกษำระดับประถมศึกษำ ป.1-ป.6 ระดับชน้ั รหสั ช่อื รำยวิชำ เวลำเรียนรำยปี ชัน้ ป. 1 พ11101 สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ (80/ป)ี ชั้น ป. 2 พ12101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 2 ชั่วโมง/สปั ดาห์ (80/ปี) ช้นั ป. 3 พ13101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ (80/ป)ี ชน้ั ป. 4 พ14101 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (80/ป)ี ช้นั ป. 5 พ15101 สขุ ศึกษาและพลศึกษา 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ (80/ปี) ชั้น ป. 6 พ16101 สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 2 ช่วั โมง/สัปดาห์ (80/ปี) รำยวิชำสุขศกึ ษำและพลศกึ ษำพ้นื ฐำน ระดบั มัธยมศึกษำ ม.1-ม.3 ระดับชนั้ รหสั ช่อื รำยวิชำ เวลำเรียนรำยภำค ช้นั ม. 1 ชน้ั ม. 2 พ21101 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 2 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (1 หน่วยกิต) ชั้น ม. 3 พ21102 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 2 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ (1 หนว่ ยกติ ) พ22101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 2 ชว่ั โมง/สัปดาห์ (1 หนว่ ยกิต) พ22102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 2 ชัว่ โมง/สัปดาห์ (1 หนว่ ยกิต) พ23101 สุขศึกษาและพลศกึ ษา 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ (1 หนว่ ยกติ ) พ23102 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ (1 หน่วยกิต) รำยวิชำเพ่มิ เตมิ ช้ันประถมศึกษำปที ี่ 3 ระดบั ชัน้ รหสั ชอื่ รำยวชิ ำ เวลำเรยี นรำยภำค ชน้ั ป. 1 พ11201 ว่ายน้า 1 ช่วั โมง/สัปดาห์ (40/ป)ี ช้นั ป. 2 พ12201 วา่ ยนา้ 1 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ (40/ป)ี ชั้น ป. 3 พ13201 วา่ ยน้า 1 ชว่ั โมง/สัปดาห์ (40/ป)ี

42 พ11101 สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ คำอธิบำยรำยวชิ ำ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูส้ ขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 40 ชวั่ โมง ศึกษาการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของมนษุ ย์ ลักษณะและหนา้ ทีข่ องอวัยวะภายนอก วิธีดแู ลรักษา อวยั วะภายนอก เข้าใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที กั ษะในการดาเนนิ ชีวติ ระบสุ มาชิก ในครอบครัว อธิบายถึงความรักความผูกพันของสมาชิกที่มีต่อกัน บอกสิง่ ท่ีช่ืนชอบ และภาคภูมิใจในตนเอง บอกลักษณะความแตกต่างระหว่างเพศชายและเพศหญิง การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกัน โรค เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกันโรค และการสร้างเสริม สมรรถภาพเพื่อสุขภาพ ปฏิบัติตนตามหลกั สุขบัญญัติแห่งชาตติ ามคาแนะนา บอกอาการเจ็บป่วยท่ีเกดิ ขึน้ กับ ตนเอง ปฏิบตั ิตนตามคาแนะนาเม่อื มีอาการเจ็บปว่ ย อธิบายถึงวิธีป้องกนั และหลีกเล่ียงปจั จยั เสี่ยง พฤตกิ รรม เส่ียงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติดและความรุนแรง โดยระบุสิ่งท่ีทาให้เกิดอันตรายที่บ้าน โรงเรียน และการป้องกัน บอกสาเหตุและการป้องกันอันตรายที่เกิดจากการเล่น แสดงคาพูดหรอื ท่าทางขอ ความช่วยเหลอื จากผูอ้ ืน่ เม่ือเกดิ เหตุร้ายท่ีบา้ นและโรงเรียน โดยฝึกควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับท่ี เคล่ือนท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ เล่มเกม เบด็ เตลด็ และเขา้ รว่ มกิจกรรมทางกายท่ีวิธีเล่น อาศัยการเคล่ือนไหวเบ้อื งต้น ทัง้ แบบอยู่กับท่ี เคล่ือนที่และใช้ อุปกรณ์ประกอบ การจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ที่ใกล้ตัวผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า ฝึกทักษะ โดย การปฏิบัติจริงเพื่อพัฒนาทักษะและกระบวนการและนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะและ กระบวนการทไี่ ด้ไปใชใ้ นการเรยี นรู้สิง่ ตา่ ง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพ่อื ให้เห็นคณุ ค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อรักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็น ประจาอยา่ งสมา่ เสมอ มีวนิ ัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกฬี า มจี ิตวิญญาณในการแขง่ ขัน และชื่นชมใน สุนทรียภาพของการกีฬา ออกกาลังกาย และเล่นเกม โดยปฏิบัติตามกฎ กติกาและขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมเป็น กลุ่มได้อย่างสนุกสนานสามารถทางานได้อย่างเป็นระบบ มีระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี วจิ ารณญาณ มคี วามคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรคแ์ ละมีความเชื่อมน่ั ในตนเอง รหัสตัวช้วี ดั พ1.1 ป.1/1, ป.1/2 พ2.1 ป.1/1, ป.1/2 , ป.1/3 พ3.1 ป.1/1, ป.1/12 พ3.2 ป.1/1, ป.1/2 พ4.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 พ5.1 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3 รวม 15 ตัวช้ีวดั

43 คำอธบิ ำยรำยวิชำ พ 12101 สขุ ศึกษำและพลศึกษำ กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ ุขศกึ ษำและพลศึกษำ ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 2 เวลำ 80 ชวั่ โมง ศกึ ษาธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ อธิบายลักษณะ และหน้าท่ีของอวัยวะ ภายใน อธิบายวิธีดูแลรักษาอวัยวะภายใน อธิบายธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดาเนินชีวิต ระบุบทบาทหน้าที่ของตนเองและสมาชิกในครอบครัว บอกความสาคัญของเพื่อน ระบุพฤติกรรมท่ีเหมาะสมกับเพศ อธิบายความภาคภูมิใจในความเป็นเพศหญิง หรือเพศชาย เหน็ คุณค่าและมที ักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสขุ ภาพ การป้องกันโรคและการสร้าง เสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ บอกลักษณะของการมีสุขภาพดี เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ระบุของใช้และ ของเล่นท่ีมีผลเสียต่อสุขภาพ อธิบายอาการและวิธีปอ้ งกันการเจ็บปว่ ย การบาดเจ็บท่ีอาจเกิดข้นึ ปฏบิ ัติตาม คาแนะนาเมื่อมีอาการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรุนแรง ปฏิบัติตนในการป้องกันอุบัติเหตุท่ีอาจเกิดขึ้นทางน้า และ ทางบก บอกชื่อยาสามัญประจาบ้านและใช้ยาตามคาแนะนา ระบุโทษของสารเสพติด สารอนั ตรายใกลต้ ัวและ วิธีการป้องกัน ปฏิบัติตนตามสัญลักษณ์และป้ายเตือนของส่ิงของหรือสถานที่ท่ีเป็นอันตราย อธิบายสาเหตุ อันตราย วธิ ีปอ้ งกันอัคคภี ยั และแสดงการหนไี ฟ ฝกึ ควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับท่ี เคลื่อนท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ เล่มเกมเบ็ดเตล็ด และเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางกายท่ีวิธีเล่น อาศัยการเคล่ือนไหวเบื้องต้น ท้ังแบบอยู่กับที่ เคล่ือนท่ีและใช้อุปกรณ์ ประกอบ รกั การออกกาลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอย่างสม่าเสมอ มีวินัย เคารพ สิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมในสนุ ทรียภาพของการกีฬา ออกกาลัง กาย และเลน่ เกม โดยปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ าและข้อตกลงในการเลน่ เกมเป็นกลมุ่ ได้อยา่ งสนุกสนาน รหัสตัวช้ีวดั พ 1.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 พ 3.1 ป.2/1, ป.2/2 พ 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4 พ 3.2 ป.2/1 ,ป.2/2 พ 4.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5 พ 5.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3, ป.2/4, ป.2/5 รวม 21 ตัวชวี้ ดั

44 คำอธบิ ำยรำยวิชำ พ 13101 สุขศึกษำและพลศึกษำ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สุขศกึ ษำและพลศึกษำ ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 3 เวลำ 40 ชวั่ โมง/ปี ศึกษา อธิบาย เปรียบเทียบ ระบุ ลักษณะและการเจริญเติบโตของร่างกาย การเจริญเติบโตของ ตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน ปัจจัยทีม่ ีผลต่อการเจริญเติบโต ความสาคญั และความแตกต่างของครอบครัว วิธี สร้างสัมพันธภาพในครอบครัวและกลุ่มเพ่ือน วิธีหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่นาไปสู่การถูกล่วงละเมิดทางเพศ ทักษะควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกายขณะอยู่กับที่ เคล่ือนท่ีและใช้อุปกรณ์ประกอบอย่างมีทิศทางและแบบ บังคับทิศทางในการเล่นเกมเบ็ดเตล็ด เลือกออกกาลังกายการละเล่นพื้นเมือง เล่นเกม และปฏิบัติตามกฎ กติกาและข้อตกลงได้เหมาะสมกับตนเอง อธิบายการติดต่อและวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของโรค อาหารหลัก 5 หมู่ เลือกกินอาหารท่ีหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนท่ีเหมาะสม การแปรงฟันให้สะอาด อย่างถูกวิธี สร้างเสริมสมรรถภาพทางกายได้ตามคาแนะนา ปฏิบัติตนเพื่อความปลอดภัย จากอุบัติเหตุใน บ้าน โรงเรยี น และการเดินทาง แสดงวธิ ขี อความชว่ ยเหลือจากบุคคลและแหลง่ ตา่ งๆ เม่ือเกดิ เหตุรา้ ย หรือ อุบัติเหตุ แสดงวิธีการปฐมพยาบาล เมอื่ บาดเจ็บจากการเลน่ เหน็ คุณคา่ ของตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา มีทักษะในการดาเนินชวี ิต รกั การออกกาลังกาย การ เล่นเกม การเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเปน็ ประจาอยา่ งสม่าเสมอ มีวินยั เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจเปน็ นักกฬี า มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และช่ืนชมในสุนทรยี ภาพของการกีฬา เห็นคุณค่าในการสร้างเสริมสุขภาพและ การดารงสุขภาพอยา่ งยัง่ ยืน การละเล่นในทอ้ งถิน่ และกฬี าพนื้ บา้ น รหัสตัวชีว้ ดั พ 1.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 พ 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 พ 3.1 ป.3/1 ป.3/2 พ 3.2 ป.3/1 ป.3/2 พ 4.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ป.3/5 พ 5.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 รวมทัง้ หมด 18 ตวั ช้ีวดั

45 คำอธิบำยรำยวิชำ พ14101 สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 4 เวลำ 80 ชั่วโมง ศึกษา วิเคราะห์ เก่ียวกบั การเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของรา่ งกายและจิตใจ ตามวัย (ในช่วงอายุ 9 – 12 ปี) ความสาคัญของกล้ามเน้ือ กระดูกและข้อ ท่ีมีผลต่อสขุ ภาพ การเจริญเติบโตและพัฒนาการ วิธี ดูแลรักษากล้ามเน้ือ กระดูกและข้อให้ทางานอย่างมีประสิทธิภาพ คุณลักษณะของความเป็นเพื่อนและ สมาชิกท่ีดีของครอบครัว พฤตกิ รรมที่เหมาะสมกบั เพศของตนตามวัฒนธรรมไทย วิธีการปฏเิ สธการกระทาท่ี เป็นอนั ตรายและไม่เหมาะสมในเร่ืองเพศ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งส่งิ แวดล้อมกับสขุ ภาพ อธิบายสภาวะอารมณ์ ความรสู้ ึกที่มผี ลต่อสขุ ภาพ อธบิ ายความสาคญั ของการใชย้ าและใช้ยาอย่างถูกวธิ ี การปฐมพยาบาลเม่ือได้รับ อนั ตรายจากการใช้ยาผดิ สารเคมี แมลงสตั ว์กัดต่อย และการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา การควบคุมตนเอง เม่ือใช้ทักษะการเคล่ือนไหวในลักษณะผสมผสานได้ท้ังแบบอยู่กับที่ เคล่ือนที่และใช้อุปกรณ์ประกอบ เรียนรู้ การกายบริหารท่ามือเปล่าประกอบจงั หวะ การเล่นเกมเลยี นแบบและกิจกรรมแบบผลัด รู้กฎ กตกิ า วิธีการ เล่นกีฬาพื้นฐานได้อย่างน้อย 1 ชนิด (ในภาคเรียนที่1 กีฬาว่ายน้าและภาคเรียนท่ี 2 กีฬาแชร์บอล) การ ทดสอบและปรับปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลการตรวจสอบสมรรถภาพทางกาย การออกกาลังกาย เล่น เกม และกีฬาที่ตนเองชอบและเรียนรู้ในการวิเคราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตามตัวอย่างและแบบปฏิบัติ ของผอู้ นื่ ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ าการเล่นกฬี าพืน้ ฐาน ตามชนิดกฬี าทเ่ี ล่น โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลบนฉลากอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ สืบเสาะหาความรู้ การ สารวจตรวจสอบ การสืบค้นขอ้ มูล บันทึก จัดกลุ่มข้อมลู อภิปราย อธิบาย สังเกต และฝกึ ทักษะปฏิบัติแสดง วิธีปฐมพยาบาลเมื่อได้รับอันตราย การควบคุมการเคล่ือนไหวร่างกาย แบบผสมผสาน ทั้งแบบอยู่กับที่ เคลื่อนท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ กายบริหารท่ามือเปล่าประกอบจังหวะ การเล่นเกม การเล่นกิจกรรม แบบผลัด ฝกึ ทกั ษะการเลน่ กีฬาแชรบ์ อลและวา่ ยน้า การพัฒนาตนเองโดยใช้กระบวนการเรยี นตามหลักการ ของพลศึกษา เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการดาเนินชีวิตเป็นผู้มีสุขบัญญัติที่ดี มีจิตสานึกในการดูแล และรับผิดชอบต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม เป็นแบบอย่างท่ีดีด้าน สขุ ภาพ จดั การกับความขดั แย้ง ความเครยี ด และปัญหาทางอารมณ์ มีการแสวงหา เลอื กใช้ข้อมลู ข่าวสารด้าน สขุ ภาพ นาความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวัน มีคุณธรรมจริยธรรม มคี วามรู้ ความเข้าใจ ความหมาย ความสาคัญ และเห็นคุณค่า องค์ประกอบของสมรรถภาพทางกายเพ่ือสุขภาพ มีทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายขั้นพ้ืนฐาน เห็นคุณค่าของตนเองและผอู้ ่ืน รว่ มกิจกรรมทางกายอย่างสม่าเสมอ มีสมรรถภาพทางกายเพ่ือสขุ ภาพ รักการ ออกกาลังกาย และสามารถเลน่ กีฬา(ว่ายน้าและแชร์บอล) ตามกฎ กติกา อย่างมีระเบียบ วนิ ัย มีน้าใจนกั กฬี า เป็นผู้นาและ ผู้ตามท่ีดี มีความม่ันใจ เคารพสิทธิของตนเองและผู้อ่ืน รับผิดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

46 สนุกสนาน เพลิดเพลิน ช่ืนชมผลงานของผู้อ่ืน ให้ความร่วมมือ เสียสละและคานึงถึงส่วนรวม และแก้ไข ข้อบกพรอ่ งของตนเองไดต้ ามคาแนะนาได้ ตัวช้วี ัด พ 1.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 พ 2.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 พ 3.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 พ 3.2 ป.4/1 ป.4/2 พ 4.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 ป.4/4 พ 5.1 ป.4/1 ป.4/2 ป.4/3 รวม 19 ตัวชี้วัด

พ 15101 สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ 47 ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 5 คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ เวลำ 80 ชั่วโมง/ปี ศึกษา ความสาคัญและวิธีดูแลรักษา ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายให้ทางานตามปกติซึ่งส่งผล ต่อสุขภาพ การเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการ การเปลยี่ นแปลงทางเพศ และปฏบิ ัตติ นได้เหมาะสม ลกั ษณะ ของครอบครวั ทีอ่ บอุน่ ตามวัฒนธรรมไทย พฤตกิ รรมทพี่ งึ ประสงค์ และไม่พึงประสงคใ์ นการแก้ไขปัญหาความ ขดั แย้งในครอบครัวและกล่มุ เพื่อน ความสาคญั ของการปฏิบัติตนตามสุขบญั ญัตแิ ห่งชาติ ค้นหาขอ้ มลู ขา่ วสาร เพ่ือใช้สร้างเสริมสุขภาพ การตัดสินใจเลือกซ้ืออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปฏิบัติตนในการป้องกันโรค ปัจจัย และผลกระทบท่ีมีอิทธิพลต่อการใช้สารเสพติด ท่ีมีต่อร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ความปลอดภัยจากการใช้ยาและหลีกเล่ียงสารเสพติด อิทธิพลของส่ือที่มีต่อพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกัน อันตรายจากการเลน่ กีฬา วธิ ีการจดั รูปแบบการเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบผสมผสานแบบและปฏิบัตกิ ิจกรรม ทางกายท้งั แบบอยู่กบั ที่ เคล่ือนท่ี และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบตามแบบทก่ี าหนด วิธกี ารเล่นเกมนาไปสกู่ ีฬาและ กจิ กรรมแบบผลัด การเคลอ่ื นไหวในเรื่องการรับแรง การใช้แรง และความสมดุลทักษะกลไกลทส่ี ่งผลต่อการ ปฏิบัติกิจกรรมทางกายและเล่นกีฬาการเล่นกีฬาไทย หลักการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการหลักการและ รปู แบบการออกกาลงั กายการออกกาลังกายและการเล่นเกม การละเล่นพื้นเมอื ง วิธีการเล่นกฬี าไทยและกฬี า สากล ประเภทบุคคลและประเภททีมที่เหมาะสมกับวัยอย่างสม่าเสมอการสร้างทางเลือกในวิธีปฏิบัติในการ เล่นกฬี าอยา่ งหลากหลาย ร้กู ฎกตกิ าในการเลน่ เกมกีฬาไทยและกีฬาสากลตามชนิดกีฬาที่เล่นวิธีการรกุ และ วธิ ีการป้องกันในการเล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลท่ีเล่นสิทธิของตนเองและผู้อ่ืนในการเล่นเกมและกีฬาความ แตกต่างระหวา่ งบคุ คลในการเลน่ เกมและกฬี า โดยใช้กระบวนการการสบื คน้ การอภิปราย การปฏิบัติ การบอก ระบุ แสดง เพื่อเกิดความรู้ ความ เข้าใจนาไปสู่การปฏิบัติการสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสม เกิดความตระหนักและเห็น คุณค่าในการดูแลเพ่ือพัฒนาตนเองและผู้อื่น มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ การ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งปกตสิ ุข ตวั ชวี้ ดั มำตรฐำน พ 1.1 พ 1.1 ป.5/1 พ 1.1 ป.5/2 มำตรฐำน พ 2.1 พ 2.1 ป.5/1 พ 2.1 ป.5/2 พ 2.1 ป.5/3 มำตรฐำน พ 3.1 พ 3.1 ป.5/1 พ 3.1 ป.5/2 พ 3.1 ป.5/3 พ 3.1 ป.5/4 พ 3.1 ป.5/5 พ 3.1 ป.5/6 มำตรฐำน พ 3.2 พ 3.2 ป.5/1 พ 3.2 ป.5/2 พ 3.2 ป.5/3 พ 3.2 ป.5/4 มำตรฐำน พ 4.1 พ 4.1 ป.5/1 พ 4.1 ป.5/2 พ 4.1 ป.5/3 พ 4.1 ป.5/4 พ 4.1 ป.5/5 มำตรฐำน พ 5.1 พ 5.1 ป.5/1 พ 5.1 ป.5/2 พ 5.1 ป.5/3 พ 5.1 ป.5/4 พ 5.1 ป.5/5 รวม 25 ตัวชี้วดั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook