Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล

คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล

Description: คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล

Search

Read the Text Version

11. ตำ� แหนง่ การเตะโทษ เมอื่ มกี ารกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม ครงั้ ท่ี 6 แบบท่ี 1 (Positioning – Free Kick Beginning with the Sixth Accumulated foul Mandatory) ต�ำแหนง่ ของผตู้ ัดสนิ อย่ใู นตำ� แหน่งบนเส้นกับต�ำแหนง่ ของลูกบอล มีระยะหา่ ง 5 เมตร ถ้าเป็นไปได้ ตรวจสอบต�ำแหน่งของลูกบอลและผู้เล่นที่ท�ำการเตะ สังเกตว่าผู้เล่นล่วงละเมิด ในขณะทีท่ �ำการเตะเร่ิมขนึ้ ผู้ตดั สนิ จะยังไมใ่ หส้ ญั ญาณการเตะ จนกว่าจะตรวจสอบต�ำแหน่งของ ผู้เล่นท้ังหมดว่าถูกต้องและการช่วยเหลือโดยผู้ตัดสินคนอ่ืน ผู้ตัดสินคนอ่ืนต้องอยู่ในต�ำแหน่ง เสน้ เขตโทษทตี่ ัดกบั เส้นประตแู ละสงั เกตดวู า่ ลูกบอลเปน็ ประตหู รอื ไม่ R R 12. ตำ� แหนง่ การเตะโทษ เมอื่ มกี ารกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม ครง้ั ท่ี 6 แบบท่ี 2 (Position – Free Kick Beginning With the Sixth Accumulated Foul Mandatory) R R 144 คมู่ อื ผฝู้ ึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate

13. ตำ� แหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 1 14. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเลน่ (Kick in) แบบ 2 15. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 3 คู่มอื ผู้ฝึกสอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 145

16. ต�ำแหน่งการเตะเข้าเล่น (Kick in) แบบ 4 17. ตำ� แหนง่ การเตะเข้าเลน่ (Kick in) แบบ 5 ในระหวา่ งการเตะเขา้ เลน่ ใกลช้ ดิ กบั เขตมมุ ของทมี ฝา่ ยรกุ ผตู้ ดั สนิ ทอี่ ยใู่ กลก้ บั ตำ� แหนง่ ที่มีการเตะมีระยะห่าง 5 เมตร ตรวจสอบต�ำแหน่งของการเตะเข้าเล่น ข้ันตอนและผู้เล่นฝ่ายรับ ตอ้ งอยหู่ า่ งจากลกู บอลหรอื เสน้ ขา้ งระยะ 5 เมตร ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งอยขู่ า้ งตำ� แหนง่ ของการเตะเขา้ เลน่ ตำ� แหนง่ ผตู้ ดั สนิ อยดู่ า้ นหลงั เขตมมุ บนเสน้ กบั เสน้ ประตู จากตำ� แหนง่ ทมี่ องเหน็ ลกู บอลและพฤตกิ รรม ของผเู้ ลน่ ทง้ั หมด 146 คูม่ ือผู้ฝึกสอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

18. ต�ำแหน่งการเตะลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะของการแข่งขันหรือทีมเจ้าบ้าน หรือทีมเยือน (Positioning – Kick from the Penalty Mark to Determine the Winner of Match or Home – and Away) ต�ำแหน่งผู้ตัดสินต้องอยู่บนเส้นประตูห่างจากเสาประตู 2 เมตร ผู้ตัดสินจะท�ำหน้าที่ ตรวจสอบว่าลูกบอลเขา้ ประตูหรือไมถ่ ึงแม้ว่าผรู้ ักษาประตูจะออกจากเสน้ ประตูก่อน เม่ือลูกบอลเป็นประตูอย่างชัดเจน ผู้ตัดสินต้องมองผู้ตัดสินที่ 2 เพื่อตรวจสอบว่าไม่มี การกระทำ� ผดิ กติกา ผู้ตัดสินท่ี 2 ตอ้ งอยูบ่ รเิ วณเส้นเขตโทษห่างจากจุดโทษ 3 เมตร เพอื่ ตรวจสอบตำ� แหน่ง ของลูกบอล และต�ำแหน่งทถ่ี กู ต้องของผู้รักษาประตูของผู้เตะ ผตู้ ดั สนิ ที่ 3 ต้องอยู่ทวี่ งกลมกลางสนาม เพ่อื ควบคมุ ผูเ้ ล่นทั้งสองทีม ตำ� แหนง่ ผรู้ กั ษาเวลา ตอ้ งอยทู่ โี่ ตะ๊ ผรู้ กั ษาเวลาและตรวจสอบผเู้ ลน่ ทงั้ หมดทท่ี ำ� การเตะโทษ และเจา้ หน้าที่ทมี ต้องมีพฤติกรรมที่เหมาะสม ผู้ตดั สนิ ท�ำการบนั ทกึ การเตะจากจดุ โทษและหมายเลขของผู้เลน่ Timekeeper KTGeiocaakmilnkegeper Referee Kicker DPleasyigenrsated 3rd Referee 2nd Referee GDTeoeafaemlknedeinpger การใชน้ กหวดี (Use of Whistle) การใช้นกหวีด ในการออกคำ� สงั่ เพื่อ 1. การเตะเรมิ่ เล่น 1.1 เร่มิ การเลน่ (ในครึ่งเวลาแรกครงึ่ เวลาหลงั ชว่ งพักครึ่งเวลาแรกและคร่งึ เวลาหลงั ชว่ งของการตอ่ เวลาพเิ ศษ ถา้ จำ� เปน็ ) 1.2 เริม่ เล่นใหมภ่ ายหลังจากมกี ารท�ำประตู คู่มือผูฝ้ ึกสอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 147

2. หยดุ การเลน่ 2.1 การเตะโทษหรอื การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ 2.2 ถ้ามีการหยุดการแข่งขันชั่วคราวหรือยกเลิกการแข่งขันหรือการยืนยันจาก ผรู้ ักษาเวลา เกี่ยวกบั การควบคมุ เสยี งสัญญาณในขณะท่หี มดเวลาของการเลน่ 3. การเริ่มเล่นใหม่ 3.1 การเตะโทษ เมื่อมีการรอ้ งขอไปอย่ใู นระยะทเี่ หมาะสม 3.2 การเตะจากจดุ โทษที่ 2 3.3 การเตะโทษไมม่ กี ารตงั้ ก�ำแพงของการกระทำ� ผดิ กติการวมคร้งั ท่ี 6 3.4 การเตะโทษ ณ จดุ โทษ 4. การเรม่ิ เล่นใหม่ภายหลงั หยุดการเล่น 4.1 เพือ่ คาดโทษหรือไล่ออกส�ำหรบั การกระทำ� ผดิ 4.2 การบาดเจบ็ ผู้เล่นคนเดยี วหรือหลายคน การใช้นกหวดี ท่ีไมค่ วรกระท�ำ 1. หยุดการเลน่ เพอื่ 1.1 การเล่นลูกบอลส�ำหรับผู้รักษาประตู การเตะจากมุมหรือการเตะเข้าเล่น (ในการสง่ั ถ้าสถานการณ์ไม่ชดั เจน) 1.2 การเปน็ ประตู (ในการส่งั ถา้ ลกู บอลเปน็ ประตอู ย่างไม่ชดั เจน) 2. การเร่มิ เล่นใหมจ่ าก 2.1 การเตะโทษ ถา้ ไมถ่ อยไปอยใู่ นระยะ 5 เมตร หรอื ระยะทร่ี อ้ งขอหรอื ทมี กระทำ� ผดิ ผเู้ ตะทไี่ มไ่ ดก้ ระทำ� ผดิ กตกิ ารวมครงั้ ที่ 6 หรอื สำ� หรบั การเลน่ ลกู บอลของผรู้ กั ษาประตหู รอื การเตะจากมุม หรือการเตะเขา้ เล่น นกหวีดอาจจะไมจ่ �ำเป็นตอ้ งใช้ เพ่อื • การเร่ิมเลน่ ใหม่สำ� หรบั การปลอ่ ยลูกบอล • การใช้นกหวีดบ่อยๆ จะมีผลกระทบน้อย เม่ือมีการกระท�ำผิดต่อไปนี้เกิดขึ้น เมื่อทีมก�ำลังเตะโทษ การเตะเข้าเล่นหรือการเตะจากมุม เม่ือถูกร้องขอให้อยู่ในระยะที่ก�ำหนด หรอื ตำ� แหนง่ ทถี่ กู ตอ้ งของผเู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ ม ในระหวา่ งการเลน่ ลกู บอลจากผรู้ กั ษาประตู ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งแจง้ ให้ผู้เล่นท่ีไม่เล่นหรือเริ่มเล่นใหม่ภายหลังสัญญาณนกหวีด ถ้าในกรณีนี้ผู้เล่นซ่ึงเร่ิมเล่นใหม่ กอ่ นการให้สญั ญาณนกหวีดของผูต้ ดั สินจะถูกลงโทษฐานชะลอการเร่มิ เลน่ ใหม่ 148 คมู่ อื ผฝู้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

ถ้าในระหว่างการเร่ิมเล่น ผู้ตัดสินให้สัญญาณนกหวีดที่เกิดจากการกระท�ำผิด ผู้ตัดสิน ต้องหยุดการแข่งขัน ถ้าพิจารณาการกระท�ำผิดเป็นการเข้าไปเก่ียวข้องกับการเล่น ถ้าผู้ตัดสิน หยุดการแข่งขัน ต้องมีการเร่ิมเล่นใหม่ ด้วยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซึ่งได้หยุดการเล่นลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีน้ีผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จดุ ทใ่ี กลท้ สี่ ดุ ทต่ี ำ� แหนง่ ของลกู บอลไดห้ ยดุ ลง ในขณะทหี่ ยดุ การเลน่ ถา้ การใหเ้ สยี งสญั ญาณนกหวดี ท่ไี มเ่ ปน็ การรบกวนการเล่น ผ้ตู ัดสนิ ใหส้ ัญญาณการเล่นตอ่ ไป ภาษากาย (Body Language) ภาษากายเป็นเครื่องมอื อย่างหน่งึ ของผตู้ ัดสนิ ใช้เพ่ือ 1. ชว่ ยควบคมุ การแขง่ ขันได้ 2. แสดงบทบาทหน้าทแ่ี ละการควบคุมตนเอง ภาษากายไมไ่ ดห้ มายรวมถงึ การอธิบายการตดั สินใจ กตกิ าข้อ 6 ผชู้ ่วยผ้ตู ัดสนิ (The Assistant Referee) 1. หน้าทแ่ี ละความรับผดิ ชอบ 2. ต�ำแหน่งของผู้ช่วยผตู้ ดั สนิ และระบบทีม 2.1 การเตะเรม่ิ เล่น 2.2 ตำ� แหนง่ ทัว่ ไปในระหว่างการแขง่ ขนั 2.3 การเปล่ียนตัว 2.4 การเตะจากจุดโทษ 3. สญั ญาณของผชู้ ว่ ยผูต้ ดั สิน 4. สญั ญาณเก่ยี วกับการควบคุมเสียง 5. อปุ กรณจ์ ับเวลา (นาฬกิ าเทีย่ งตรง) หน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบ (Duties and Responsibility) ผู้ตัดสินท่ี 3 และผู้รักษาเวลา จะช่วยเหลือผู้ตัดสินในการควบคุมการแข่งขันให้เป็นไป ตามข้อตกลงของกติกาการแข่งขันกีฬาฟุตซอล นอกจากนี้ยังช่วยเหลือผู้ตัดสินในเร่ืองอ่ืนๆ รวมทั้ง การดำ� เนนิ การแขง่ ขนั ทอี่ ยภู่ ายใต้ การรอ้ งขอความชว่ ยเหลอื ของผตู้ ดั สนิ โดยปกตริ วมถงึ สถานการณ์ เชน่ 1. ตรวจสอบสนามแขง่ ขัน ลูกฟตุ ซอลท่ีใช้ และอุปกรณ์ของผูเ้ ล่นเป็นไปตามมาตรฐาน คมู่ ือผู้ฝกึ สอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate 149

2. ผู้ตัดสินถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ หรือตัดสินใจเกี่ยวกับการห้ามเลือดเมื่อมีเลือด ออกจากการบาดเจบ็ 3. ให้ความสนใจเก่ียวกบั ขั้นตอนการเปลีย่ นตวั 4. รักษาเวลาและบันทึกเวลา การนบั ประตู การกระท�ำผิดกติการวมและการประพฤติผดิ ตำ� แหนง่ ของผู้ช่วยผูต้ ัดสนิ และระบบทีม (Positioning of the Assistant Referee and Teamwork) 1. การเริม่ เล่น (Kick Off) ผตู้ ดั สนิ ท่ี 3 อยใู่ นตำ� แหนง่ เดยี วกนั กบั โตะ๊ ผรู้ กั ษาเวลา ตรวจสอบผเู้ ลน่ สำ� รอง เจา้ หนา้ ทที่ มี และบุคคลอ่ืนๆ ให้อยู่ในต�ำแหน่งท่ีถูกต้อง ต�ำแหน่งของผู้รักษาเวลาอยู่ท่ีโต๊ะ ผู้รักษาเวลาและ ตรวจสอบการเร่มิ เลน่ ใหถ้ ูกตอ้ ง 2. ตำ� แหนง่ ทว่ั ๆไปในระหวา่ งการแขง่ ขนั (General Positioning During the Match) ผู้ตัดสินท่ี 3 ตรวจสอบผ้เู ลน่ สำ� รอง เจา้ หนา้ ทท่ี ีม และบคุ คลอืน่ ๆ ใหอ้ ยใู่ นตำ� แหน่งที่ ถูกต้อง ผู้ตดั สนิ ท่ี 3 อาจจะเคล่ือนทไี่ ปตามเสน้ ขา้ งถ้าจ�ำเปน็ แต่ต้องไมเ่ ข้าไปในสนามแขง่ ขัน ต�ำแหน่งของผู้รักษาเวลาอยู่ที่โต๊ะ ผู้รักษาเวลาตรวจสอบเครื่องจับเวลาและนาฬิกา จับเวลาในการหยุดการเลน่ และเริม่ การแขง่ ขัน เปน็ ไปตามข้อตกลงซ่ึงนำ� ไปสกู่ ารแข่งขนั ท่ดี �ำเนินไป ด้วยความเรียบร้อย 3. การเปลย่ี นตวั (Substitutions) ผ้ตู ัดสนิ ที่ 3 ตรวจสอบอปุ กรณ์ของผู้เล่นสำ� รอง และการเปลยี่ นตัวให้ถกู ตอ้ ง รวมทั้ง อาจจะเคลอ่ื นท่ไี ปตามเสน้ ขา้ งถา้ จำ� เปน็ แต่ต้องไปไมเ่ ข้าไปในสนามแขง่ ขัน 4. การเตะจากจุดโทษ (Kick From the Penalty Mark) ผู้ตัดสินที่ 3 ต้องอยู่ในต�ำแหน่งครึ่งหน่ึงของสนามแข่งขัน ท่ีซึ่งไม่ได้มีการเตะโทษ รวมทง้ั ผเู้ ลน่ คนอนื่ จากตำ� แหนง่ นี้ ผตู้ ดั สนิ ที่ 3 ตอ้ งสงั เกตดา้ นพฤตกิ รรมของผเู้ ลน่ และตอ้ งตรวจสอบวา่ ไมม่ ีผู้เลน่ ทไี่ มไ่ ดท้ �ำการเตะจากจุดโทษ ก่อนที่ผูเ้ ล่นคนอนื่ จะทำ� การเตะ ต�ำแหน่งของผรู้ ักษาเวลาอยูท่ ่ีโต๊ะผู้รักษาเวลา และบันทกึ การท�ำประตูทัง้ หมด สัญญาณของผชู้ ว่ ยผ้ตู ดั สิน (Assistance Referee Signals mandatory) ผู้ช่วยผู้ตัดสินต้องให้สัญญาณการกระท�ำผิดกติการวมของทีมและการขอเวลานอก โดยการใช้สัญญาณมือชไ้ี ปทท่ี ่นี ัง่ ของทมี ท่มี ีการกระท�ำผดิ กติกา รวมท้ังการขอเวลานอก 150 คูม่ ือผฝู้ ึกสอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

สญั ญาณท่ีเกย่ี วกบั การควบคมุ เสียง (Acoustic Signal) สญั ญาณเกยี่ วกบั การควบคมุ เสยี งเปน็ สญั ญาณทส่ี ำ� คญั อยา่ งหนง่ึ ในการแขง่ ขนั ใชเ้ มอื่ จำ� เปน็ ในการสั่งเมื่อผูต้ ัดสินไดพ้ ิจารณาแลว้ สถานการณเ์ มอ่ื ส่งั ให้ใชเ้ สียงสัญญาณ 1. หมดเวลาการแข่งขนั ในแต่ละครึง่ เวลา 2. การขอเวลานอก สัญญาณเสียงเมื่อมีการรอ้ งขอการขอเวลานอก 3. การเตือนหมดเวลาการขอเวลานอก 4. การเตือนการกระทำ� ผิดกตกิ ารวมครงั้ ท่ี 5 ใหก้ ับทีม 5. การเตอื นแจง้ พฤตกิ รรมท่ีไมเ่ หมาะสมของผเู้ ล่นสำ� รอง หรือเจ้าหนา้ ท่ที มี 6. การเตอื นแจง้ การเปลี่ยนตวั ท่ีไมถ่ กู ต้อง 7. การเตือนการลงโทษทางระเบยี บวินัยและการกระท�ำผิดที่ผิดพลาดโดยผตู้ ดั สนิ 8. การเตือนบคุ คลภายนอกเขา้ ไปเกยี่ วขอ้ ง ถา้ ในระหวา่ งการแขง่ ขนั ผรู้ กั ษาเวลาใหเ้ สยี งดว้ ยสญั ญาณเสยี ง เพราะการกระทำ� ผดิ ผตู้ ดั สนิ ไดห้ ยดุ การแขง่ ขนั ถา้ พจิ ารณาวา่ การกระทำ� น้ี เปน็ การรบกวนการเลน่ ถา้ ผตู้ ดั สนิ หยดุ การแขง่ ขนั ตอ้ งมกี ารเรม่ิ เลน่ ดว้ ยการปลอ่ ยลกู บอล จากตำ� แหนง่ ทซี่ ง่ึ ลกู บอลไดห้ ยดุ ลง ยกเวน้ การเลน่ ไดห้ ยดุ ลง ในพ้ืนที่ภายในเขตโทษ ซึ่งในกรณีน้ี ผู้ตัดสินคนหน่ึงคนใดจะปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดที่ใกล้ที่สุดที่ลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง ถ้าเสียงสัญญาณไม่รบกวนการเล่น ผตู้ ดั สนิ ให้สญั ญาณการเลน่ ดำ� เนินตอ่ ไป ถา้ ทมี นน้ั มกี ารกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม 4 ครงั้ และผตู้ ดั สนิ ตดั สนิ ใจใหม้ กี ารประยกุ ตก์ ารใหเ้ ปน็ ลูกได้เปรียบการเล่น ผู้ตัดสินท่ี 3 ให้สัญญาณ การกระท�ำผิดกติการวมครั้งท่ี 5 ท่ีต�ำแหน่งโต๊ะ ผรู้ กั ษาเวลา อยา่ งไรกต็ ามถา้ ทมี มกี ารกระทำ� ผดิ ขนึ้ ใหมก่ อ่ นลกู บอลอยนู่ อกการเลน่ ผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ ตอ้ งใหส้ ญั ญาณเสยี ง ยกเวน้ แตท่ มี ฝา่ ยตรงขา้ มไดก้ ระทำ� ผดิ อยา่ งหนง่ึ อยา่ งใด ซง่ึ มโี อกาสในการทำ� ประตู อยา่ งชัดเจน เครือ่ งจับเวลา (นาฬิกาเทีย่ งตรง) (Chronometer) ถา้ นาฬกิ าจบั เวลาไมท่ ำ� งาน ผชู้ ว่ ยผตู้ ดั สนิ ตอ้ งแจง้ ผตู้ ดั สนิ ตามความเปน็ จรงิ ผรู้ กั ษาเวลา ต้องให้เวลาการแข่งขันด�ำเนินไปอย่างต่อเน่ืองโดยใช้การจับเวลาด้วยมือ ในสถานการณ์เช่นนี้ให้เชิญ เจา้ หนา้ ทแี่ ตล่ ะทมี มารบั ทราบตามลำ� ดบั เพอ่ื แจง้ ใหท้ ราบเวลาของการแขง่ ขนั ทแ่ี ทจ้ รงิ ถ้าหลังจากการหยุดการเล่นในการแข่งขัน ผู้รักษาเวลาลืมจับเวลาแข่งขัน ผู้ตัดสินสั่งให้ เรม่ิ จบั เวลาแต่ไม่จำ� เปน็ ตอ้ งนับเวลาเพมิ่ คมู่ อื ผฝู้ กึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate 151

ภายหลังจากการเรมิ่ เลน่ นาฬกิ าจับเวลาทำ� หน้าที่ ดงั น้ี 1. การเตะเริม่ เลน่ ภายหลังจากลูกบอลถูกเตะไปข้างหน้าในแดนคตู่ อ่ สู้ การด�ำเนนิ การ เปน็ ไปตามขอ้ ตกลง 2. การเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตู ภายหลังจากผู้รักษาประตูปล่อยลูกบอลจากมือ และลกู บอลไดอ้ อกจากพนื้ ทเ่ี ขตโทษ การดำ� เนนิ การเปน็ ไปตามขอ้ ตกลง 3. การเตะจากมมุ ภายหลงั ลกู บอลถกู เตะและเคลอื่ นที่ การดำ� เนนิ การเปน็ ไปตามขอ้ ตกลง 4. การเตะเขา้ เลน่ ภายหลงั ลกู บอลเขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั หลงั จากถกู เตะ การดำ� เนนิ การ เป็นไปตามขอ้ ตกลง 5. การเตะโทษโดยตรงภายนอกพ้ืนท่ีเขตโทษหลังจากลูกบอลได้ถูกเตะ การด�ำเนินการ เป็นไปตามข้อตกลง 6. การเตะโทษโดยอ้อมภายนอกพ้ืนที่เขตโทษของทีม หรือน�ำมาเตะโดยทีมฝ่ายรุก บนเสน้ เขตโทษ ภายหลังลูกบอลถูกเตะ การด�ำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง 7. โทษโดยตรงหรือโทษโดยอ้อมภายในพื้นที่เขตโทษไปยังทีมฝ่ายรับภายหลังลูกบอล ถกู เตะและออกจากพนื้ ท่ีเขตโทษ การดำ� เนินการเปน็ ไปตามข้อตกลง 8. การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ภายหลังลูกบอลถูกเตะตรงไปข้างหน้า การด�ำเนินการ เป็นไปตามขอ้ ตกลง 9. การเตะโทษโดยตรงภายหลังการกระท�ำผิดกติการวมครั้งที่ 5 หลังจากลูกบอล ถกู เตะโดยเจตนาทำ� ประตโู ดยตรง การดำ� เนินการเปน็ ไปตามขอ้ ตกลง 10. การปล่อยลูกบอลภายหลังลูกบอลถูกปล่อยจากมือของผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใด และสมั ผสั พ้ืนสนาม การด�ำเนินการเป็นไปตามขอ้ ตกลง กติกาขอ้ 7 ระยะเวลาของการแขง่ ขนั (The Duration of the match) การพักครง่ึ เวลา (Half Time Interval) ผู้ตัดสินอนุญาตให้มีการพักครึ่งเวลาระหว่างการแบ่งคร่ึงเวลา ถ้าผู้เล่นคนหนึ่งในทีมร้องขอ ยกเวน้ แตห่ ัวหน้าทมี ทงั้ 2 ทมี ไม่สงสัยเกย่ี วกบั การพักครึ่งเวลา การต่อเวลาพิเศษ (Extra Time) ถา้ มกี ารตอ่ เวลาพเิ ศษในการเลน่ ไมม่ กี ารพกั ครง่ึ เวลาระหวา่ ง 2 ชว่ งเวลาของการตอ่ เวลาพเิ ศษ ทมี เปลยี่ นทน่ี ง่ั สำ� รองของสนามแขง่ ขนั รวมทง้ั เจา้ หนา้ ทที่ มี กเ็ ปลย่ี นพน้ื ทขี่ องเขตเทคนคิ 152 ค่มู ือผูฝ้ ึกสอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

กตกิ าขอ้ 8 การเรม่ิ การแขง่ ขนั และการเรมิ่ เลน่ ใหม่ (The start and Restart of Play) การเตะเร่มิ เลน่ (Kick off) ผู้ตัดสินไม่ต้องรอการร้องขอหรือการยืนยันของผู้รักษาประตูหรือผู้เล่นคนอ่ืน ก่อนสั่งให้ เตะเรมิ่ เลน่ การปลอ่ ยลูกบอล (Dropped Rall) 1. ผู้เล่นคนอ่ืนอาจจะแสดงขอ้ คิดเห็นเกย่ี วกับลกู บอล (รวมถึงผู้รักษาประต)ู 2. จ�ำนวนผู้เลน่ ต่ำ� สดุ หรือสงู สุด ส�ำหรับการแข่งนัน้ ในการปล่อยลูกบอล 3. ผ้ตู ัดสินไม่สามารถตัดสนิ วา่ ใครจะทำ� การแยง่ บอลจากการปลอ่ ยลูกบอล 4. ไม่มีการร้องขอเกี่ยวกับระยะห่างของผู้เล่น ยกเว้นคู่ต่อสู้ไม่สามารถท�ำการบล็อค และไม่สามารถท�ำการปลอ่ ยลูกบอลได้ 5. ไมม่ ีความจ�ำเปน็ สำ� หรบั ทีมในการเขา้ แย่งจากการปลอ่ ยบอล 6. ถา้ การกระทำ� ผดิ เกดิ ขน้ึ โดยผเู้ ลน่ กอ่ นทลี่ กู บอลอยใู่ นการเลน่ แตภ่ ายหลงั จากผตู้ ดั สนิ คนหนึ่งคนใดปล่อยลูกบอลจากมือของเขา ผู้ตัดสินท�ำการปล่อยลูกบอลใหม่ภายหลังการกระท�ำ ผิดระเบยี บวนิ ัย กตกิ าข้อ 9 ลูกบอลอยู่ในการเล่นและนอกการเลน่ (The Ball in and Out of Play) ลูกบอลถกู ผตู้ ดั สินทอี่ ยใู่ นสนามแขง่ ขนั (The Ball Inside the Pitch Touches One of the Referees) ถ้าลูกบอลถูกผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดท่ีอยู่ในสนามแข่งขัน ในขณะท่ีลูกบอลอยู่ในการเล่น ลกู บอลได้ถกู สมั ผัสผู้ตัดสนิ คนหนึง่ คนใดในสนามแข่งขัน การเล่นจะดำ� เนนิ ตอ่ ไปเพราะว่าผ้ตู ัดสิน เปน็ ส่วนหน่ึงของการแข่งขัน ในขณะท่ีลูกบอลอยู่ในการเล่นลูกบอลได้สัมผัสผู้ช่วยผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใดในสนามแข่งขัน ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งหยดุ การเลน่ และเรม่ิ เลน่ ใหมด่ ว้ ยการปลอ่ ยลกู บอลจากตำ� แหนง่ ทล่ี กู บอลอยู่ ในขณะที่ การเลน่ ไดห้ ยุดลง ยกเวน้ การเลน่ ถกู หยดุ ลงภายในเขตโทษ ในกรณีน้ี ผ้ตู ัดสนิ จะท�ำการปล่อยลกู บอล บนเสน้ เขตโทษ ณ จดุ ทใ่ี กล้ทส่ี ดุ ทีล่ กู บอลอยใู่ นขณะที่การเล่นไดห้ ยดุ ลง คู่มือผูฝ้ ึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 153

กตกิ าข้อ 10 การนบั ประตู (The Method of Scoring) ลกู บอลเปน็ ประตใู นขณะทบี่ คุ คลภายนอก เขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั (Goal Scored While a Person not Participating in the Match is On the Pitch) ภายหลังการท�ำประตู ผู้ตัดสินเข้าใจว่า ก่อนการเร่ิมเล่นใหม่ บุคคลอื่นเข้าไปในสนาม ในขณะเดยี วกนั มกี ารทำ� ประตู 1. ตอ้ งไมอ่ นญุ าตใหเ้ ป็นประตู ถา้ 1.1 บคุ คลอน่ื ทอี่ ยดู่ า้ นนอก หรอื เจา้ หนา้ ทขี่ องทมี หนง่ึ ทมี ใด เขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งกบั การเลน่ 1.2 บุคคลอื่นท่ีเป็นผู้เล่น ผู้เล่นส�ำรอง ผู้เล่นที่ถูกไล่ออกหรือเจ้าหน้าที่ของทีม เขา้ มาท�ำประตู 2. อนญุ าตใหเ้ ป็นประตู ถา้ 2.1 บุคคลอืน่ ท่ีอยู่ภายนอกและไม่ได้เก่ยี วข้องกบั การเล่น 2.2 บุคคลอื่นท่ีเป็นผู้เล่น ผู้เล่นส�ำรอง ผู้เล่นที่ถูกไล่ออกหรือเจ้าหน้าที่ทีม ท่อี นุญาตใหเ้ ป็นประตู ไมเ่ ป็นประตู (No goal) ถ้าผู้ตัดสินคนหน่ึงคนใดให้สัญญาณการเป็นประตู ก่อนที่ลูกบอลผ่านเส้นประตูและ ในทนั ทีทนั ใด การเขา้ ใจผดิ ให้เร่มิ เลน่ ใหม่ดว้ ยการปลอ่ ยลกู บอลบนเส้นเขตโทษ ณ จดุ ที่ใกลท้ ่ีสุด ทล่ี ูกบอลในขณะท่กี ารเลน่ ได้หยุดลง กตกิ าข้อ 11 การล้�ำหนา้ (Off Side) ไมม่ กี ารล้ำ� หน้าในกีฬาฟตุ ซอล กติกาขอ้ 12 การเล่นทีผ่ ดิ ติกาและการประพฤตผิ ิด (Fouls and Misconduct) พืน้ ฐานท่เี รียกว่าการกระทำ� ผดิ (Basic requirement fora foul) เงอื่ นไขตอ่ ไปน้ี ตอ้ งพจิ ารณาว่าเป็นการกระท�ำผิด 1. ถ้าการกระท�ำผดิ โดยผูเ้ ลน่ หรือผู้เลน่ ส�ำรองกระทำ� ผดิ ข้นั ตอนการเปลี่ยนตวั 2. ตอ้ งเกิดขึ้นในสนาม 3. ต้องเกิดขึน้ ในขณะทล่ี ูกบอลอยู่ในการเล่น 154 คมู่ ือผู้ฝึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate

ถ้าผู้ตัดสินหยุดการเล่นในขณะท่ีการกระท�ำผิดอยู่ภายนอกสนาม (ในขณะท่ีลูกบอล อยู่ในการเล่น) และไม่ใช่การกระท�ำผิดโดยผู้เล่นที่ออกนอกสนามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน ต้องเร่ิมเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ลูกบอลได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลง ภายในเขตโทษ ในกรณีนี้ ผู้ตัดสินคนหน่ึงคนใดต้องปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดท่ีใกล้ท่ีสุด ท่ีลูกบอลอยูใ่ นขณะทก่ี ารเลน่ ได้หยุดลง ไมถ่ อื วา่ เป็นการกระท�ำผดิ เมื่อผู้เลน่ 2 คน หรือมากกว่าเข้าแยง่ ลกู บอลกบั ฝ่ายตรงขา้ ม ในเวลาเดยี วกับฝ่ายตรงกนั ขา้ ม ถ้าการเข้าแย่งบอลเป็นไปอยา่ งถูกต้อง การขาดความระมัดระวงั ไม่ไตร่ตรองยง้ั คดิ ใช้ความรนุ แรงเกนิ กวา่ เหตุ (Careless, reckless, Using Exessive Force) การขาดความระมัดระวัง หมายถึง ผู้เล่นขาดความใส่ใจหรือความสนใจ ในขณะท่ีท�ำการ เข้าแย่งลูกบอลหรือการกระทำ� ที่ปราศจากการระมัดระวัง ถ้าผู้ตัดสนิ พจิ ารณาวา่ การขาดความระมดั ระวังจะไม่ถกู ลงโทษทางระเบียบวินยั ไม่ไตร่ตรองย้ังคิด หมายถึง ถ้าผู้เล่นกระท�ำผิดโดยเจตนาท�ำให้เกิดอันตรายหรือเกิดผล ท่ตี ามมากบั ฝา่ ยตรงข้าม ผู้เล่นเลน่ โดยไม่ไตร่ตรองย้ังคดิ ต้องถกู คาดโทษ การใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ หมายถึง ถ้าผู้เล่นอยู่ในระยะไกลกว่าท่ีจะแย่งลูกบอล ท�ำให้เกิดอันตราย ความรุนแรง ของการบาดเจ็บของผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นที่ใช้ความรุนแรง เกินกว่าเหตุต้องถกู ไลอ่ อก การชนฝ่ายตรงข้าม (Charging an Opponent) การกระทำ� ของการชนทไ่ี มใ่ ชก่ ารชนโดยชอบ โดยการใชร้ า่ งกาย การเลน่ ลกู บอลตอ้ งไมใ่ ช่ แขนหรือข้อศอก การกระทำ� ผิดโดยการชนฝา่ ยตรงข้าม 1. ขาดความระมดั ระวงั 2. ไม่ไตร่ตรองยงั้ คิด 3. ใชค้ วามรนุ แรงเกนิ กวา่ เหตุ คูม่ ือผูฝ้ ึกสอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate 155

การดึงฝา่ ยตรงข้าม (Hold an Opponent) การดงึ คู่ตอ่ ส้รู วมถึงการกระท�ำ การขดั ขวางการเคลื่อนทโี่ ดยการใช้มือ แขนหรอื สว่ นอนื่ ของร่างกาย ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งดำ� เนนิ การอยา่ งรวดเรว็ และเดด็ ขาด ถา้ มกี ารกระทำ� ผดิ เกดิ ขน้ึ ภายในเขตโทษ ในขณะท่เี ตะจากมุม เตะเข้าเล่น หรือการเตะโทษทีเ่ กดิ ขึน้ สถานการณท์ ผี่ ูต้ ัดสนิ ต้องกระท�ำอยา่ งเด็ดขาด 1. เตือนผู้เลน่ คนหนึ่งคนใดทีท่ ำ� การดึง ก่อนลกู บอลอย่ใู นการเล่น 2. คาดโทษผู้เล่นทท่ี �ำการดงึ อยา่ งต่อเนื่อง กอ่ นลูกบอลอยใู่ นการเล่น 3. ให้เตะโทษโดยอ้อม หรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษและคาดโทษผู้เล่น ถ้าเกิดขึ้น ในขณะทีล่ ูกบอลอยู่ในการเลน่ ถา้ ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรบั ทำ� การดงึ ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรกุ ภายนอกเขตโทษและดงึ ตอ่ เนอ่ื งไปถงึ ภายในเขตโทษ ผ้ตู ัดสนิ ให้เป็นการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ การลงโทษระเบียบวนิ ัย (Disciplinary Sanctions) 1. คาดโทษ ฐานประพฤตติ นอยา่ งไมม่ นี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า ตอ้ งตดั สนิ วา่ เมอ่ื ผเู้ ลน่ ดงึ คตู่ อ่ สู้ เพอื่ ปอ้ งกนั การครอบครองของลกู บอล หรอื การกระทำ� ทเี่ กดิ ขนึ้ อยใู่ นตำ� แหนง่ ทไ่ี ดเ้ ปรยี บการเลน่ 2. ผ้เู ลน่ ทีถ่ กู ไลอ่ อก ถา้ ป้องกนั โอกาสในการท�ำประตูอยา่ งชัดเจนโดยการดงึ ค่ตู ่อสู้ 3. ถา้ การดงึ คตู่ อ่ สูใ้ นสถานการณ์อนื่ ต้องไม่ถูกลงโทษทางระเบียบวินัย การเร่ิมเลน่ ใหม่ (Restart of Plays) การเตะโทษโดยตรงจากตำ� แหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดข้ึน (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของ การเตะโทษ) หรอื การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ ถ้ากระท�ำผิดเกดิ ข้นึ ภายในเขตโทษ การเล่นลูกบอลด้วยมือ (Handling the Ball) การกระท�ำผิดโดยการเจตนาใช้มือเล่นลูกบอล ถ้าผู้เล่นกระท�ำการสัมผัสลูกบอลด้วยมือ หรือแขน ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งพิจารณาการกระทำ� ตอ่ ไปนี้ 1. การเคล่อื นท่ีของแขนไปยังลกู บอล (ไม่ใช่ลกู บอลตรงไปยงั มอื ) 2. ระยะหา่ งระหวา่ งคูต่ ่อสู้กบั ลูกบอล (ไมใ่ ช่ลูกบอลถูกอยา่ งฉบั พลนั ) 156 คู่มอื ผู้ฝกึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

3. ต�ำแหน่งของมอื ไมจ่ �ำเปน็ ว่าต้องหมายถึง มีการลงโทษกระท�ำผดิ (แขนทย่ี กขึน้ ออกจาก ร่างกายอาจจะไม่เจตนาก็ได)้ 4. การสมั ผสั ลกู บอลดว้ ยอปุ กรณท์ อี่ ยกู่ บั แขน (เสอื้ ผา้ สนบั แขง้ เปน็ ตน้ ) ถอื วา่ เปน็ การเลน่ ลกู บอล ด้วยมือโดยเจตนา 5. การตีลูกบอลหรอื การขวา้ ง (รองเท้า สนับแข้ง เปน็ ต้น) ถือว่าเป็นการเลน่ ลูกบอลด้วยมือ โดยเจตนา การลงโทษทางระเบียบวนิ ัย (Disciplinary Sanctions) สถานการณ์ในขณะท่ีคาดโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน้�ำใจเป็นนักกีฬา เป็นการกระท�ำ ในขณะท่ผี ู้เลน่ เลน่ ลูกบอลด้วยมอื โดยเจตนา เมือ่ ผู้เล่น 1. เจตนาและใชม้ ืออยา่ งชัดเจน ในการป้องกนั โอกาสในการท�ำประตูของคตู่ ่อสู้ 2. พยายามท�ำประตโู ดยเจตนาใชม้ อื เล่นลกู บอล 3. การหลอกลอ่ เพอื่ เลน่ ลกู บอลดว้ ยสว่ นใดสว่ นหนงึ่ ของรา่ งกาย เมอื่ กระทำ� การดว้ ยมอื เพือ่ หลอกผ้ตู ัดสิน 4. พยายามท่ีจะท�ำประตูหรือปฏิเสธโอกาสในการท�ำประตูด้วยมือ เมื่อผู้รักษาประตู อยูภ่ ายนอกเขตโทษ และไมส่ ามารถกระทำ� ได้ ผู้เล่นจะถูกไล่ออก อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้เล่นป้องกันประตูหรือโอกาสในการท�ำประตู โดยเจตนาใชม้ อื เลน่ ลกู บอล การลงโทษไมเ่ ปน็ ผลมาจากการกระทำ� ผดิ ของผเู้ ลน่ ทเี่ จตนาเลน่ ลกู บอลดว้ ยมอื แต่ไม่ได้รบั การยอมรบั และไม่ยุตธิ รรมในการปอ้ งกนั โอกาสในการเป็นประตู การเริ่มเล่นใหม่ (Restart of play) การเตะโทษโดยตรงจากต�ำแหน่งที่การกระทำ� ผดิ เกดิ ขึ้น (กตกิ าข้อ 13 ตำ� แหน่งของการ เตะโทษ) หรือการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ภายนอกพน้ื ทเ่ี ขตโทษ ผรู้ กั ษาประตไู มส่ ามารถใชม้ อื เลน่ ลกู บอลไดเ้ ชน่ เดยี วกบั ผเู้ ลน่ คนอนื่ ภายในเขตโทษของเขาเอง ผู้รักษาประตไู มถ่ ือวา่ เปน็ การกระทำ� ผิดด้วยมอื ท่ที ำ� ให้เกดิ โทษโดยตรง ถงึ อยา่ งไรก็ตาม ความผิดอืน่ ๆ อาจจะมกี ารเกดิ ขึน้ ได้หลากหลายจากการเตะโทษโดยอ้อม การกระท�ำผดิ โดยผู้รกั ษาประตู (Offence committed by goalkeepers) ผรู้ กั ษาประตูจะถกู พจิ ารณาในการครอบครองลกู บอล คู่มอื ผ้ฝู กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 157

1. ในขณะทลี่ กู บอลอยรู่ ะหวา่ งมอื ของเขา หรอื ระหวา่ งมอื และพน้ื ทอี่ น่ื ๆ (พนื้ สนามหรอื สว่ นของรา่ งกาย) 2. ในขณะที่ถือลกู บอลอยู่ในแขนของตนเอง 3. ในขณะทีท่ ุม่ ลูกบอลลงสู่พื้นหรือโยนขนึ้ ไปในอากาศ ในขณะทผ่ี รู้ กั ษาประตไู ดค้ รอบครองลกู บอลดว้ ยมอื ของเขา ผเู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ มไมส่ ามารถ เข้าไปแย่งชงิ ลกู บอลได้ การครอบครองลูกบอลรวมถงึ ผูร้ ักษาประตูควบคุมลกู บอล ไมอ่ นญุ าตใหผ้ รู้ กั ษาประตสู มั ผสั ลกู บอลภายในพน้ื ทขี่ องตนเองของสนามแขง่ ขนั ในสถานการณ์ ตอ่ ไปน้ี ถ้าการครอบครองลูกบอลในพ้ืนท่ขี องตนเองของสนามแขง่ ขัน เกินกว่า 4 วินาที 1. ดว้ ยเทา้ ภายในเขตโทษของตนเอง 2. ดว้ ยเทา้ ในพนื้ ท่ีของตนเองของสนามแขง่ ขัน 3. ดว้ ยมอื ภายในเขตโทษของตนเอง และดว้ ยเทา้ ภายในพนื้ ทข่ี องตนเองของสนามแขง่ ขนั ในกรณที กี่ ลา่ วมาทงั้ หมด ผตู้ ดั สนิ ทอ่ี ยใู่ กลผ้ รู้ กั ษาประตู ตอ้ งแสดงสญั ญาณการนบั 4 วนิ าที 1. ถา้ หลงั จากไดเ้ ลน่ ลกู บอล เขาไดส้ มั ผสั ลกู บอลอกี ครงั้ หนง่ึ ภายในพนื้ ทข่ี องตนเองของ สนามแขง่ ขัน ภายหลังจากผู้เล่นฝา่ ยเดียวกนั สง่ ลูกบอลคนื มาให้โดยไมไ่ ด้ถูกสมั ผสั คู่ตอ่ สู้ • ผรู้ กั ษาประตจู ะถกู พจิ ารณาวา่ ครอบครองลกู บอล โดยการสมั ผสั ดว้ ยสง่ิ ใดสงิ่ หนงึ่ ของร่างกาย ยกเว้นลกู บอลกระดอนกลับถูกผู้รักษาประตโู ดยบังเอิญ • ถ้าผู้รักษาประตูสัมผัสลูกบอลด้วยมือของเขาภายในเขตโทษของตนเอง ภายหลัง จากเขาไดร้ ับลกู บอลโดยตรงจากการเตะถา้ เล่นโดยผเู้ ล่นทีมเดียวกัน 2. ถ้าผู้รกั ษาประตสู ัมผัสลกู บอลดว้ ยมือของตนภายในเขตโทษของตนเอง หลังจากได้รับ ลูกบอลโดยตรงจากการเตะเข้าเล่นโดยผเู้ ลน่ ทมี เดยี วกนั ได้ การเรม่ิ เล่น (Restart of play) การเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซ่ึงการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ตามกติข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) การกระทำ� ผดิ อนื่ ๆ ของผรู้ กั ษาประตู (Offence committed against goalkeeper) 1. การกระทำ� ผดิ ในการปอ้ งกนั ผรู้ กั ษาประตปู ลอ่ ยลกู บอลจากมอื ในขณะทก่ี ารทมุ่ บอลลงพื้น 2. การเล่นลูกบอล หรือพยายามกระท�ำต่อเน่ืองในขณะที่ผู้รักษาประตู ถือลูกบอล ดว้ ยฝ่ามือของเขา 158 คู่มอื ผูฝ้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

3. ผเู้ ลน่ ตอ้ งถกู ลงโทษสำ� หรบั การเลน่ ในพฤตกิ รรมทเ่ี ปน็ อนั ตราย ถา้ เขาเตะหรอื พยายาม เตะลกู บอล ในขณะท่ผี รู้ กั ษาประตกู ำ� ลังปลอ่ ยลูกบอล 4. ถ้ากระท�ำผิดกีดขวางการเคลื่อนท่ีของผู้รักษาประตู โดยการขัดขวางที่ไม่ถูกต้อง เชน่ การเตะจากมุม 5. ผูเ้ ล่นฝา่ ยรกุ ใชร้ ่างกายชนผรู้ กั ษาประตูภายในเขตโทษของผรู้ กั ษาประตู ไม่ไดร้ วมถึง การละเมิดหรือการกระท�ำผิดอื่นๆ เช่น ผู้เล่นฝ่ายรุกกระโดดเข้าใส่ ชนหรือผลักผู้รักษาประตู ในลกั ษณะขาดความระมัดระวัง หรอื ขาดการไตรต่ รองย้ังคดิ หรอื การใช้ความรุนแรงเกนิ กวา่ เหตุ การเร่มิ เล่นใหม่ (Restart of play) ให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งท่ีซึ่งมีการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ตามกติกา ข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ยกเว้น ถ้าผู้เล่นฝ่ายรุกกระโดดชนหรือผลักผู้รักษาประตูในลักษณะ ขาดความระมัดระวังหรือการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในกรณีน้ีผู้ตัดสินไม่พิจารณาเป็นการลงโทษ ทางระเบียบวินัย เขาต้องเร่ิมเล่นใหม่ด้วยการเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่กระท�ำผิดเกิดข้ึน (กตกิ าข้อ 13 ตำ� แหน่งของการเตะโทษ) การเลน่ ในลกั ษณะทเี่ ปน็ อนั ตราย (Playing in a dangerous manner) การกระทำ� อื่นๆ ที่เลน่ ในลกั ษณะทเ่ี ปน็ อันตราย หมายถงึ ในขณะท่ีกำ� ลังจะเล่นลูกบอล การกระท�ำที่ท�ำให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามหรือตนเองเกิดการบาดเจ็บ การกระท�ำผิดใกล้ๆ กับคู่ต่อสู้ และปอ้ งกันคู่ต่อสจู้ ากการเล่นลูกบอล ทำ� ให้กลวั เกิดการบาดเจ็บกับตนเองและผู้เล่นอ่ืน การเตะแบบกรรไกรหรอื จกั รยานอากาศ อนญุ าตตามเงอ่ื นไขขน้ึ อยกู่ บั การพจิ ารณาของผตู้ ดั สนิ ซึง่ ไมเ่ ปน็ อันตรายตอ่ ฝา่ ยตรงข้าม การเลน่ ในลกั ษณะทเ่ี ปน็ อนั ตราย รวมถงึ การไมป่ ะทะชนดว้ ยรา่ งกายระหวา่ งผเู้ ลน่ ถา้ การชน ด้วยร่างกายเป็นการกระท�ำผิดสมควรได้รับการลงโทษเป็นโทษโดยตรง หรือเตะโทษ ณ จดุ เตะ โทษ ในกรณขี องการชนดว้ ยรา่ งกาย ผตู้ ดั สนิ ควรจะพจิ ารณาอยา่ งระมดั ระวงั มคี วามเปน็ ไปไดน้ อ้ ยท่ีสุด ในการกระท�ำผิดโดยการประพฤติผดิ การลงโทษทางระเบยี บวินยั (Disciplinary Sanctions) 1. ถา้ ผู้เลน่ เลน่ ในลักษณะทเี่ ป็นอันตรายโดยธรรมชาติ การพจิ ารณาของผ้ตู ดั สินไมค่ วร จะลงโทษทางระเบยี บวนิ ยั ถ้าการกระท�ำท�ำด้วยความเสีย่ งของการบาดเจบ็ ทีช่ ัดเจน ผูต้ ัดสินควร จะคาดโทษผเู้ ลน่ นนั้ คู่มอื ผู้ฝกึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 159

2. ถ้าผู้เล่นป้องกันโอกาสการท�ำประตู โดยเล่นในลักษณะที่เป็นอันตราย ผู้ตัดสินควร จะไล่ผู้เล่นออก การเร่ิมเล่นใหม่ (Restart of play) ให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งท่ีซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของ การเตะโทษ) ถ้ามีความต่อเน่ือง ความแตกต่างของการกระท�ำผิด การกระท�ำผิดสมควรลงโทษโดย โทษโดยตรงหรือการเตะโทษหรือผู้ตัดสินพิจารณา ตามข้อคิดเห็นในการขาดความระมัดระวัง ไม่ไตร่ตรองย้ังติด หรือใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ แตกต่างจากกระท�ำผิดอ่ืนๆ สมควรลงโทษ โดยโทษโดยตรง หรือการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ การขดั ขวางการเคลอ่ื นทไ่ี ปขา้ งหนา้ ของคตู่ อ่ สู้ (Impeding the Progress of an Opponent) การขดั ขวางการเคลอ่ื นทไี่ ปขา้ งหนา้ ของคตู่ อ่ สู้ หมายถงึ การกดี ขวาง ขดั ขวางการเคลอ่ื นท่ี ไปข้างหน้าของคู่ต่อสู้ท�ำให้ช้าลง การเปลี่ยนทิศทางโดยคู่ต่อสู้ในขณะท่ีลูกบอลไม่ได้อยู่ในระยะ ท่ีจะเล่นของผเู้ ลน่ อนื่ ๆ ผู้เล่นท้ังหมดอยู่ในต�ำแหน่งท่ีถูกต้องในสนามแข่งขันทิศทางของผู้ต่อสู้ต้องไม่เคล่ือนท่ี ตรงไปในทศิ ทางเดยี วกนั กบั คตู่ อ่ สู้ อนุญาตให้มีการป้องกันลูกบอล ผู้เล่นในพ้ืนที่ของเขาเอง ระหว่างคู่ต่อสู้กับลูกบอล ส�ำหรบั เหตุผลทางเทคนคิ ไมพ่ ิจารณาเปน็ การกระท�ำผดิ ถา้ อยใู่ นระยะห่างทใี่ กล้เคียงกนั กับการเขา้ แย่งลูกบอลและผู้เล่นไม่ไดด้ ึงฝ่ายตรงขา้ มด้วยแขนหรือสว่ นอ่นื ของรา่ งกาย การชะลอการเร่ิมเล่นใหมท่ ีต่ ้องถูกใบเหลือง – ใบแดง (Delaying the Restart of Play to Issue a Card) ผตู้ ดั สนิ พจิ ารณาในการคาดโทษ หรอื ไลอ่ อกผเู้ ลน่ หรอื การเปลย่ี นตวั การเลน่ จะไมเ่ รมิ่ เลน่ จนกว่าจะด�ำเนนิ การลงโทษ คาดโทษฐานประพฤตติ นอยา่ งไมม่ นี ำ้� ใจเปน็ นกั กฬี า (Caution for Unsporting Behavior) สถานการณ์ที่แตกต่างกันในขณะที่ผู้เล่นต้องถูกคาดโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มีน�้ำใจ เป็นนกั กีฬา ถา้ ผูเ้ ล่น 160 คูม่ ือผู้ฝกึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate

1. กระทำ� ผดิ ในลกั ษณะไมไ่ ตรต่ รองยงั้ คดิ อยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดใน 7 ขอ้ เปน็ การกระทำ� ผดิ รวมทั้งโทษโดยตรง 2. การกระท�ำผิดสำ� หรบั เทคนิค เปา้ หมายของกระบวนการรบกวน การชนฝ่ายรุก 3. การดงึ คตู่ อ่ สู้ สำ� หรบั เทคนคิ เปา้ หมายของการดงึ คตู่ อ่ สอู้ อกจากลกู บอลหรอื ขดั ขวาง ค่ตู อ่ สใู้ นการที่จะไดร้ ับลกู บอล 4. ใช้มือจับลูกบอลเพื่อป้องกันคู่ต่อสู่ท่ีจะครอบครองลูกบอลหรือน�ำไปสู่ผู้เล่นฝ่ายรุก (นอกเหนอื จากผู้รกั ษาประตภู ายในเขตโทษ) 5. ใชม้ อื จบั ลกู บอลโดยพยายามปดั ลกู บอลเขา้ ประตู (โดยไมค่ ำ� นงึ วา่ จะเปน็ ประตหู รอื ไม)่ 6. ใช้มอื จับลูกบอลเพือ่ หลอกลอ่ การเลน่ กบั สว่ นอน่ื ของร่างกายเพ่ือหลอกลอ่ ผตู้ ัดสนิ 7. พยายามปอ้ งกนั ประตหู รอื ปฏเิ สธโอกาสในการทำ� ประตดู ว้ ยมอื ในขณะทผี่ รู้ กั ษาประตู ไมไ่ ดอ้ ยู่ในเขตโทษของเขาและไมเ่ ป็นประตู 8. พยายามหลอกล่อผู้ตัดสินโดยการแกล้งบาดเจ็บหรือการเสแสร้งท�ำเหมือนถูกกระท�ำผิด (การหลอกล่อ) 9. เปลีย่ นหน้าทีก่ ับผรู้ กั ษาประตู ในระหวา่ งการเลน่ โดยไม่ได้รบั อนุญาตจากผูต้ ัดสนิ 10. ลกั ษณะพฤตกิ รรมทีไ่ มเ่ คารพในกฎกติกา 11. หลงั จากไดร้ บั อนญุ าตจากผตู้ ดั สนิ ใหอ้ อกนอกสนามแขง่ ขนั แลว้ ผเู้ ลน่ เลน่ บอลขณะที่ ก�ำลังเดินออกนอกสนามแขง่ ขัน 12. ใช้คำ� พูดรบกวนทำ� ใหค้ ู่ตอ่ สู้รำ� คาญในระหว่างการเล่นหรอื เร่มิ เลน่ ใหม่ 13. ท�ำลายเครอ่ื งหมายเสน้ สนามแข่งขนั 14. เจตนาใชเ้ ลห่ เ์ หลย่ี ม ในขณะทลี่ กู บอลอยใู่ นเกมการเลน่ สง่ ลกู บอลคนื ผรู้ กั ษาประตู ดว้ ยศรี ษะ ไหล่ เขา่ และอนื่ ๆ ในกตกิ าขอ้ 12 โดยไมถ่ อื วา่ ผรู้ กั ษาประตจู ะจบั ลกู บอลดว้ ยมอื หรอื ไม่ การกระทำ� ทถ่ี อื วา่ เปน็ การกระทำ� ผดิ โดยผเู้ ลน่ ในการทพ่ี ยายามจะใชเ้ ลห่ เ์ หลยี่ ม หลกี เลย่ี งกระทำ� ผดิ โดยไมค่ ำ� นงึ ความมนี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า (ตามกตกิ าขอ้ 12 และเรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยการเตะโทษโดยออ้ ม) การแสดงความดใี จเมอ่ื ได้ประตู (Celebration of a Goal) ในขณะทอี่ นญุ าตใหผ้ เู้ ลน่ ไดแ้ สดงความดใี จภายหลงั ไดป้ ระตู ตอ้ งไมแ่ สดงออกมากเกนิ ไป แม้วา่ มีการอนุญาตใหผ้ ูเ้ ลน่ กระทำ� สง่ิ ตา่ งๆ ท่เี ขาแสดงความดใี จ การแสดงความดีใจน้ัน ต้องไม่เกนิ กว่าเหตุ และไมเ่ ป็นการถ่วงเวลาและผตู้ ดั สินถูกแนะนำ� ให้ทำ� การแทรกแซงในแต่ละกรณี ผเู้ ลน่ ตอ้ งถกู คาดโทษถา้ 1. ผตู้ ดั สนิ พจิ ารณาวา่ กระทำ� กรยิ าทา่ ทางไมเ่ หมาะสมซง่ึ เปน็ การยแุ หย่ เยย้ หยนั หรอื ยว่ั โทสะ 2. ปีนขนึ้ ไปบนรัว้ รอบๆ สนามเพือ่ แสดงความดใี จในการท�ำประตู คมู่ อื ผฝู้ กึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 161

3. ถอดเสอ้ื ออกจากศีรษะ หรือคลุมศีรษะด้วยเสือ้ ยกเว้นผู้เล่นยังมีเสอ้ื ทีเ่ หมือนกนั สวมอยู่ 4. คลุมศรี ษะหรือหน้าด้วยหนา้ กากหรือส่งิ อื่นทม่ี ลี ักษณะคลา้ ยหน้ากาก การออกจากสนามแขง่ ขนั เพอ่ื แสดงความดใี จเมอ่ื มกี ารทำ� ประตู ไมไ่ ดเ้ ปน็ ความผดิ แตส่ งิ่ สำ� คญั ที่ผเู้ ล่นต้องทำ� คือเข้ามาในสนามใหเ้ รว็ ท่สี ุดเทา่ ท่ีเปน็ ไปได้ การคดั คา้ นดว้ ยคำ� พดู หรอื การกระทำ� (Showing Dissent by Word or Action) ผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองท่ีมีความผิด โดยการแสดงการคัดค้าน (ด้วยวาจาหรือท่าทาง) ต่อการตดั สนิ ใจของผตู้ ัดสนิ หรือผชู้ ว่ ยผูต้ ดั สนิ ตอ้ งถกู คาดโทษ หวั หนา้ ทีมไม่มีสทิ ธิพเิ ศษหรอื ฐานะพิเศษภายใตก้ ติกาการแขง่ ขนั กีฬาฟุตซอลแตเ่ ขามีหนา้ ท่ี ต้องดแู ลพฤติกรรมของผู้เล่นในทีม ผู้เล่นคนหนงึ่ คนใดหรือผเู้ ล่นสำ� รองที่ท�ำรา้ ยเจ้าหน้าท่จี ัดการแขง่ ขนั หรอื แสดงความไม่พอใจ หยาบคาย ลามก อนาจารดว้ ยค�ำพูด ตอ้ งถกู ไล่ออก การชะลอการเริม่ เล่นใหม่ (Delaying the Restart of Play) ผู้ตดั สินต้องคาดโทษผเู้ ล่นทท่ี ำ� การชะลอการเรม่ิ เล่นใหมโ่ ดยใชก้ ลยุทธ์ตา่ งๆ เช่น 1. การเตะโทษจากตำ� แหน่งทผ่ี ิดโดยเจตนา เพื่อใหผ้ ู้ตดั สินส่ังให้ทำ� การเตะใหม่ 2. เตะลูกบอลทง้ิ หรอื ถอื ลูกบอลไวก้ ับตนเองภายหลังจากผตู้ ัดสินสง่ั ให้หยุดการเล่น 3. ภายหลังจากมกี ารปฐมพยาบาล พยายามออกจากสนามอยา่ งชา้ ๆ 4. เจตนายแุ หย่ เผชิญหนา้ โดยเจตนาสมั ผสั ลกู บอล ภายหลังผ้ตู ดั สินสงั่ หยดุ การเลน่ การแกล้งหลอก (Simulation) ผู้เล่นคนหนึ่งคนใดพยายามแกล้งหลอกผู้ตัดสินโดยการแกล้งบาดเจ็บหรือแกล้งท�ำ เหมือนว่าถูกกระท�ำผิด เป็นความผิดแกล้งหลอกและจะถูกลงโทษฐานประพฤติตนอย่างไม่มี น�้ำใจเป็นนักกีฬา ถ้าการแข่งขันได้หยุดลงเพราะเหตุการณ์ละเมิดนี้ การเร่ิมเล่นใหม่โดยให้ ฝา่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษโดยออ้ ม จากตำ� แหนง่ ที่ซงึ่ การกระท�ำผดิ เกดิ ขึน้ (กติกา ขอ้ 13 ตำ� แหน่ง ของการเตะโทษ) การกระทำ� ผิดบ่อยๆ (Persistent Infringement) ผตู้ ดั สนิ ควรเตรยี มพรอ้ มตลอดเวลา ตอ่ ผเู้ ลน่ ทมี่ กี ารกระทำ� ผดิ กตกิ าการแขง่ ขนั กฬี าฟตุ ซอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสว่ นทต่ี ้องระมัดระวงั ถา้ ผู้เล่นกระทำ� ผิดมคี วามผิดและทแี่ ตกต่างกนั หลายๆ ครง้ั ตอ้ งถกู คาดโทษฐานกระท�ำผดิ กตกิ าการแข่งขนั บ่อยๆ 162 คู่มือผูฝ้ กึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate

การกระท�ำผิดไม่มีการเจาะจงจ�ำนวนครั้งของการกระท�ำผิด ซ่ึงประกอบด้วยความบ่อย ของการกระท�ำผิด โดยความเป็นจริง เหตุการณ์ของการตัดสินและพิจารณาจากส่ิงแวดล้อม และข้อบงั คบั ของการบริหารจัดการแข่งขนั การกระทำ� ผดิ กติกาอย่างรา้ ยแรง (Serious foul Play) ผู้เล่นจะท�ำความผิดฐานกระท�ำผิดกติกาอย่างร้ายแรง ถ้าเขาใช้ก�ำลังแรงเกินกว่าเหตุ หรือโหดร้ายต่อคู่ต่อสขู้ ณะแย่งชงิ ลูกบอลในขณะลูกบอลอย่ใู นการเลน่ การกระท�ำผิดท่ีท�ำให้เกิดอันตรายไม่มีความปลอดภัยต่อคู่ต่อสู้ต้องถูกลงโทษฐาน กระทำ� ผดิ กติกาอยา่ งร้ายแรง ผเู้ ลน่ ทพ่ี งุ่ ใสค่ ตู่ อ่ สอู้ ยา่ งรวดเรว็ เพอ่ื แยง่ ชงิ ลกู บอลทงั้ จากดา้ นหนา้ ดา้ นขา้ งหรอื ดา้ นหลงั โดยใช้ขาเดียวหรือสองขาด้วยการใช้ก�ำลังแรงเกินกว่าเหตุ ท�ำให้เกิดอันตราย ไม่มีความปลอดภัย ต่อคตู่ ่อสู่ ถือว่าเปน็ ความผดิ ฐานกระทำ� ผิดกตกิ าอยา่ งร้ายแรง การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นไม่ควรถูกประยุกต์ในสถานการณ์ท่ีเป็นการกระทำ� ผิดกติกา อย่างร้ายแรง ยกเว้นตอ่ มาภายหลังมโี อกาสท่จี ะเปน็ ประตู ผตู้ ัดสนิ ไล่ออกผเู้ ล่นที่กระทำ� ผดิ กตกิ า อยา่ งร้ายแรง ในขณะทลี่ ูกบอลอยู่นอกการเล่น ผเู้ ลน่ ทกี่ ระทำ� ผดิ กตกิ าอยา่ งรา้ ยแรงควรถกู ไลอ่ อกและเรมิ่ เลน่ ใหมโ่ ดยการเตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งทีซ่ งึ่ มกี ารกระท�ำผิดเกดิ ขึ้น (ตามกตกิ าข้อ 13 ตำ� แหนง่ ของการเตะโทษ) หรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (ถา้ การกระท�ำผดิ เกดิ ขนึ้ ภายในเขตโทษของผ้กู ระท�ำผิด) การประพฤติผดิ อย่างร้ายแรง (Violent conduct) ผเู้ ลน่ จะกระทำ� ความผดิ ฐานประพฤตผิ ดิ อยา่ งรา้ ยแรง ถา้ การใชก้ ำ� ลงั เกนิ กวา่ เหตหุ รอื โหดรา้ ย ต่อคตู่ อ่ สูใ้ นขณะท่ไี มไ่ ด้ต่อสู้แย่งชงิ ลกู บอล ผู้เล่นจะถูกพิจารณาฐานประพฤติผิดอย่างร้ายแรงเช่นกัน ถ้าการกระท�ำผิดต่อเพ่ือนร่วมทีม ผูช้ ม ผ้ตู ัดสนิ ผู้ช่วยผ้ตู ัดสนิ หรือบุคคลอน่ื ๆ การประพฤตผิ ิดอย่างรา้ ยแรงสามารถเกิดขนึ้ ไดท้ ัง้ ในและนอกสนามแข่งขัน ไมว่ า่ จะเป็น ในขณะทีล่ ูกบอลอย่ใู นการเล่นหรือนอกการเล่น การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น ไม่ควรถูกประยุกต์ในสถานการณ์ที่เป็นการกระท�ำผิด ฐานประพฤตผิ ดิ อยา่ งรา้ ยแรง ยกเวน้ ตอ่ มาภายหลงั มโี อกาสทจ่ี ะเปน็ ประตู ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งไลผ่ เู้ ลน่ ทกี่ ระทำ� ผดิ ฐานประพฤติผดิ อย่างร้ายแรงออก ในขณะทล่ี กู บอลอยนู่ อกการเลน่ คู่มอื ผ้ฝู ึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 163

ผตู้ ดั สนิ เตอื นการกระทำ� ผดิ ฐานประพฤตผิ ดิ อยา่ งรา้ ยแรงทเ่ี กดิ ขนึ้ บอ่ ยๆ ซงึ่ จะเปน็ การนำ� ไปสู่ การเผชญิ หนา้ กนั ดงั นน้ั ตอ้ งพยายามเบยี่ งเบนพฤตกิ รรมอยา่ งเขม้ งวด ผเู้ ลน่ หรอื ผเู้ ลน่ สำ� รองผซู้ ง่ึ กระทำ� ผดิ ฐานประพฤตผิ ิดอยา่ งร้ายแรงตอ้ งถูกไล่ออก การเริ่มเลน่ (Restart of Play) 1. ถา้ ลกู บอลอยู่นอกการเลน่ การเร่มิ เลน่ ใหม่ข้นึ อยู่กับการตัดสินทีเ่ กิดขนึ้ กอ่ นหนา้ นี้ 2. ถา้ ลูกบอลอยู่ในการเล่นและมีการกระท�ำผดิ เกดิ ขนึ้ ภายนอกสนามแขง่ ขนั 2.1 ถ้าผู้เล่นอยู่นอกสนามแข่งขัน ภายหลังจากท่ีออกจากสนามแข่งขันตามกติกา การแข่งขันกีฬาฟุตซอล และมีการละเมิดการกระท�ำผิด การเริ่มเล่นใหม่ด้วยการปล่อยลูกบอล จากต�ำแหน่งของลูกบอลในขณะท่ีการเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณที ผ่ี ตู้ ดั สนิ คนหนงึ่ คนใดจะปลอ่ ยลกู บอลบนเสน้ เขตโทษ ณ จดุ ทใี่ กลท้ สี่ ดุ ทลี่ กู บอลอยใู่ นขณะ ที่การเล่นไดห้ ยุดลง 2.2 ถ้าผู้เล่นออกจากสนามแข่งขัน เพราะการกระท�ำผิด การเริ่มเล่นใหม่โดย การใหเ้ ตะโทษโดยออ้ มจากตำ� แหนง่ ทล่ี กู บอลอยใู่ นขณะทก่ี ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง (ตามกตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหนง่ ของการเตะโทษ) 3. ถ้าลกู บอลอยู่ในการเล่นและผู้เล่นได้กระท�ำผิดภายในสนามแข่งขนั 3.1 ชนคู่ต่อสู้ การเลน่ เรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยการเตะโทษโดยตรงจากตำ� แหนง่ ทซี่ ง่ึ การกระทำ� ผดิ เกดิ ขน้ึ (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ)หรือเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (ถ้าอยู่ภายในเขตโทษ ของผู้กระทำ� ผดิ ) 3.2 ชนผเู้ ล่นฝ่ายเดียวกนั การเลน่ เรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยการเตะโทษโดยออ้ มจากตำ� แหนง่ ทซ่ี ง่ึ การกระทำ� ผดิ เกดิ ขน้ึ (กติกาข้อ 13 ต�ำแหนง่ ของการเตะโทษ) 3.3 ชนผ้เู ล่นส�ำรอง การเริ่มเล่นใหม่โดยการให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งท่ี ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง ซ่ึงกระท�ำผิดฐานประพฤติผิด (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) เท่ากับการกระท�ำผิดกติกาของผู้เล่นส�ำรองที่เป็นการกระท�ำผิดกติกาของ ผเู้ ลน่ สำ� รองทเี่ ป็นการกระทำ� ผดิ ในครัง้ แรก 3.4 ชนผตู้ ดั สนิ การเริ่มเล่นใหม่โดยการเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (กตกิ าข้อ 13 ต�ำแหนง่ ของการเตะโทษ) 164 คู่มือผฝู้ กึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

3.5 ชนบคุ คลอน่ื ๆ การเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งท่ีซ่ึงลูกบอลอยู่ในขณะท่ี การเลน่ ไดห้ ยดุ ลง ยกเวน้ การเลน่ ไดห้ ยดุ ลงภายในเขตโทษ ในกรณนี ผ้ี ตู้ ดั สนิ คนหนง่ึ คนใดจะปลอ่ ย ลกู บอลบนเส้นเขตโทษ ณ จุดท่ใี กลท้ ส่ี ดุ ท่ลี ูกบอลอยู่ในขณะการเล่นไดห้ ยุดลง 4. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและผู้เล่นส�ำรองหรือเจ้าหน้าท่ีทีมกระท�ำความผิดภายนอก สนามแข่งขนั 4.1 การชนบคุ คลอื่นๆ การเล่นเร่ิมเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่ การเลน่ ไดห้ ยดุ ลง ยกเวน้ การเลน่ ไดห้ ยดุ ลงภายในเขตโทษ ผตู้ ดั สนิ คนหนงึ่ คนใดทำ� การปลอ่ ยลกู บอล บนเสน้ เขตโทษ ณ จุดท่ีใกล้ทส่ี ุดทลี่ กู บอลอยใู่ นได้หยดุ ลงขณะทก่ี ารเล่นได้หยุดลง การกระทำ� ผดิ โดยการขวา้ งปาวตั ถสุ งิ่ ของ (Offence Where an Object is Thrown) ถ้าในขณะทล่ี ูกบอลอยใู่ นการเล่น ผเู้ ล่นหรอื ผเู้ ล่นส�ำรองขวา้ งปาวัตถสุ ิง่ ของหรอื ลูกบอล ไปยงั คตู่ อ่ สหู้ รอื บคุ คลอนื่ ดว้ ยความรนุ แรงเกนิ กวา่ เหตุ ผตู้ ดั สนิ สงั่ หยดุ การเลน่ ไมส่ ามารถประยกุ ต์ ใหเ้ ปน็ ลกู ไดเ้ ปรยี บการเลน่ แตอ่ นญุ าตถา้ มกี ารทำ� ประตไู ดอ้ ยา่ งชดั เจนและไลอ่ อกผเู้ ลน่ และผเู้ ลน่ สำ� รอง สำ� หรบั การกระท�ำผดิ ฐานประพฤติผิดอยา่ งร้ายแรง การเริ่มเลน่ ใหม่ (Restart of Play) 1. ถา้ ผู้เลน่ ยืนอยู่ภายในเขตโทษของตนเอง ขว้างปาวตั ถสุ งิ่ ของหรอื ลกู บอลไปยังคู่ต่อสู้ ซึ่งยืนอยู่ภายนอกเขตโทษ ผู้ตัดสินจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งที่ซึ่งวัตถุ ขวา้ งปามาหรือถกู คู่ต่อสู้ (ตามกตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหน่งเตะโทษ) 2. ถา้ ผเู้ ลน่ ยนื อยภู่ ายนอกเขตโทษของตนเอง ขวา้ งปาวตั ถสุ งิ่ ของหรอื ลกู บอลไปยงั บคุ คลอน่ื ท่ียนื อย่ภู ายนอกสนามแขง่ ขนั ผูต้ ดั สินจะให้ฝา่ ยตรงข้ามไดเ้ ตะโทษ ณ จุดเตะโทษ 3. ถ้าผู้เล่นยืนอยู่ภายในสนามแข่งขันขว้างปาวัตถุสิ่งของหรือลูกบอลไปยังบุคคลอ่ืนๆ ท่ียืนอยู่ภายนอกสนาม ผู้ตัดสินจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งท่ีซ่ึงลูกบอล อยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ผู้ตัดสินไล่ผู้เล่นออกจาก สนามแข่งขัน โดยไม่จ�ำเปน็ ตอ้ งบอกเหตผุ ล เพราะไมอ่ ยภู่ ายใตก้ ตกิ าการแขง่ ขนั กีฬาฟุตซอล 4. ถ้าผู้เล่นยืนอยู่ภายนอกสนามแข่งขัน ขว้างปาวัตถุส่ิงของหรือลูกบอลไปยังคู่ต่อสู้ ที่ยืนอยู่ในสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งท่ีซึ่งขว้างปา หรอื มีการขวา้ งปาคตู่ ่อส้โู ดยให้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (ถา้ อยภู่ ายในเขตโทษของผูเ้ ลน่ ฝ่ายรับ) คมู่ อื ผฝู้ ึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate 165

5. ถ้าผู้เล่นส�ำรองยืนอยู่ภายนอกสนามแข่งขันขว้างปาวัตถุส่ิงของหรือลูกบอลไปยัง คู่ต่อสู้ที่ยืนอยู่ในสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม จากต�ำแหน่งที่ซ่ึงลูกบอล อยใู่ นขณะทีก่ ารเล่นได้หยดุ ลง (ตามกตกิ าขอ้ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ผเู้ ลน่ สำ� รองทเี่ ข้ามา ในสนามแขง่ ขันโดยไม่ได้รบั อนญุ าตจากผูต้ ดั สนิ และไม่ได้ปฏิบัติตามข้นั ตอนการเปลีย่ นตวั 6. ผู้เล่นส�ำรองยืนอยู่ในสนามแข่งขัน เนื่องจากทีมมีจ�ำนวนผู้เล่นเพิ่มขว้างปาวัตถุสิ่งของ หรือลูกบอลไปยังบุคคลอื่นที่อยู่ภายในสนามหรือภายนอกสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินให้ฝ่ายตรงข้าม ให้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งท่ีซ่ึงลูกบอลอยู่ในขณะท่ีการเล่นได้หยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหน่ง ของการเตะโทษ) ผ้เู ล่นส�ำรองที่เขา้ มาในสนามแขง่ ขัน โดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาตจากผ้ตู ดั สิน 7. ถ้าผู้เล่นส�ำรองกระท�ำผิดกติกาการเปล่ียนตัวขว้างปาวัตถุ ส่ิงของหรือลูกบอล ไปยงั บคุ คลอ่นื ๆ ทีย่ ืนอยู่ภายในหรือภายนอกสนามแข่งขนั ถ้าตอ้ งลงโทษเช่นเดียวกบั ผู้เลน่ 8. ถ้าเจ้าหน้าท่ียืนอยู่ภายในหรือภายนอกสนามแข่งขันขว้างปาวัตถุหรือสิ่งของ หรือลูกบอลไปยังบุคคลอ่ืนๆ ที่ยืนอยู่ภายในหรือภายนอกสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินเร่ิมเล่นใหม่ โดยการปล่อยลูกบอลจากต�ำแหน่งที่ซ่ึงลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่น ได้หยุดลงในพ้ืนท่ีเขตโทษ ซึ่งในกรณีผู้ตัดสินคนหน่ึงคนใดจะท�ำการปล่อยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จดุ ทใี่ กลท้ ีส่ ดุ ท่ีลูกบอลอยใู่ นขณะที่การเลน่ ได้หยุดลง การกระทำ� ผดิ ขวา้ งปาวตั ถสุ ง่ิ ของไปยงั ลกู บอล (Offences Where on Object is Thrown at the Ball) ถ้าผู้เลน่ คนอ่ืนฝา่ ยตรงขา้ มของผรู้ กั ษาประตู ขวา้ งปาวัตถุสิง่ ของไปยงั ลกู บอล 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และน�ำวัตถุไปตีที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และคาดโทษผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน้�ำใจเป็นนักกีฬาหรือไล่ออก ถ้ามีการกระท�ำ การปอ้ งกนั ประตหู รอื มโี อกาสในการทำ� ประตอู ยา่ งชดั เจน การเรมิ่ เลน่ ใหมโ่ ดยใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษ โดยตรงจากตำ� แหนง่ ทซี่ ง่ึ ลกู บอลอยใู่ นขณะทก่ี ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง (กตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหนง่ ของการเตะ โทษหรือเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ ถ้าลูกบอลอยภู่ ายในเขตโทษของทมี ฝ่ายรับ) 2. ถา้ ลกู บอลอยใู่ นการเลน่ และวตั ถสุ ง่ิ ของไมไ่ ดพ้ งุ่ ไปยงั ลกู บอล ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งหยดุ การเลน่ ถ้าไม่สามารถประยุกต์การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและคาดโทษผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรม อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเร่ิมเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ ซงึ่ ลูกบอลอยู่ ในขณะทกี่ ารเลน่ ได้หยุดลง (กติกาขอ้ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 166 ค่มู อื ผ้ฝู ึกสอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

ถ้าผ้รู กั ษาประตคู นหนึง่ คนใดขวา้ งปาวตั ถสุ ่งิ ของไปยงั ลูกบอล 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุพุ่งไปยังลูกบอล ภายในเขตโทษของผู้รักษาประตู ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งหยดุ การเลน่ และคาดโทษผเู้ ลน่ ทแี่ สดงพฤตกิ รรมอยา่ งไมม่ นี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า การเรมิ่ เลน่ ใหม่ โดยให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่งลูกบอลอยู่ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กติกาขอ้ 13 ตำ� แหน่งของการเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของได้พุ่งไปยังลูกบอล ภายนอกเขตโทษของ ผู้รักษาประตู ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่นและคาดโทษผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจ เปน็ นกั กฬี า หรอื ไลอ่ อกถา้ ปอ้ งกนั การเปน็ ประตหู รอื โอกาสในการทำ� ประตอู ยา่ งชดั เจน การเรมิ่ เลน่ ใหม่ โดยฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรงจากตำ� แหน่งท่ซี ่งึ ลูกบอลอยูใ่ นขณะที่การเล่นไดห้ ยดุ ลง 3. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุไม่ได้ส่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์การให้เป็นการเล่นได้เปรียบ และคาดโทษโดยผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรม อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งที่ซึ่ง ลูกบอลอยใู่ นขณะท่ีการเล่นไดห้ ยดุ ลง (กตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหนง่ การเตะโทษ) ถ้าผู้เล่นรวมทั้งผู้รักษาประตูท้ังสองคนขว้างปาสิ่งของไปยังลูกบอล ด้วยสว่ นของร่างกายนอกเหนอื จากแขน 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และคาดโทษ ผเู้ ลน่ ทแ่ี สดงพฤตกิ รรมอยา่ งไมม่ นี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า การเรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยใหฝ้ า่ ยตรงขา้ ม เตะโทษโดยออ้ มจากตำ� แหน่งท่ีซงึ่ ลกู บอลอยู่ ในขณะท่กี ารเล่นไดห้ ยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหนง่ การเตะโทษ) 2. ถา้ ลกู บอลอยใู่ นการเลน่ และวตั ถสุ ง่ิ ของไมไ่ ดพ้ งุ่ ไปยงั ลกู บอล ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งหยดุ การเลน่ ถ้าไม่สามารถประยุกต์การให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและคาดโทษผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรม อย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามแตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่ง ท่ีลกู บอลอยใู่ นขณะท่ีการเล่นได้หยุดลง (กติกาขอ้ 13 ตำ� แหน่งของการเตะโทษ) ถ้าผู้เล่นส�ำรองกระท�ำผิดขั้นตอนการเปล่ียนตัว แต่ไม่เป็นสาเหตุให้ทีมเพิ่ม จำ� นวนผูเ้ ลน่ ขว้างปาวัตถไุ ปยงั ลกู บอล 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุส่ิงของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และไลอ่ อก เพมิ่ การคาดโทษจำ� นวน 2 ครงั้ คาดโทษครงั้ ที่ 1 การเขา้ มาในสนามแขง่ ขนั โดยไมป่ ฏบิ ตั ิ ตามข้ันตอนการเปลี่ยนตัว และคาดโทษคร้ังท่ี 2 การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน้�ำใจเป็นนักกีฬา คมู่ อื ผู้ฝึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate 167

หรือไล่ออกโดยตรง ถ้าการกระท�ำผิดแสดงถึงการป้องกันการเป็นประตูหรือโอกาสในการท�ำประตู อยา่ งชัดเจน การเรม่ิ เลน่ ใหม่โดยให้ฝา่ ยตรงขา้ มเตะโทษโดยตรงจากตำ� แหนง่ ทีล่ กู บอลอยใู่ นขณะที่ การเลน่ ไดห้ ยดุ ลง (กตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหนง่ ของการเตะโทษ) หรอื เตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ ถ้าลกู บอลอยู่ ภายในเขตโทษของฝ่ายตวั สำ� รองทก่ี ระท�ำผดิ 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุส่ิงของไม่ได้พุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น และไล่ออก เพ่ิมการคาดโทษ จ�ำนวน 2 ครั้ง การคาดโทษคร้งั ที่ 1 การเขา้ ไปในสนามแขง่ ขัน โดยไม่ปฏิบัตติ ามขั้นตอนการเปลยี่ นตวั และคาดโทษ คร้ังที่ 2 การแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งไมม่ นี ำ�้ ใจเปน็ นักกีฬา การเร่มิ เล่นใหมโ่ ดยให้ฝ่ายตรงขา้ มเตะโทษ โดยออ้ ม จากตำ� แหนง่ ทล่ี กู บอลอยใู่ นขณะทกี่ ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง (กตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหนง่ ของการเตะโทษ) ถา้ ผเู้ ลน่ สำ� รองกระทำ� ผดิ ขนั้ ตอนการเปลย่ี นตวั แตไ่ มเ่ ปน็ เหตใุ หท้ มี เพม่ิ จำ� นวน ผเู้ ลน่ ขวา้ งวตั ถสุ ง่ิ ของไปทล่ี กู บอลดว้ ยสว่ นของรา่ งกายทนี่ อกเหนอื จากการใชแ้ ขน 1. ถ้าบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุส่ิงของพุ่งไปท่ีลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และไลอ่ อกสำ� หรบั การคาดโทษ 2 ครง้ั การคาดโทษครงั้ ท่ี 2 ทเี่ ขา้ มาในสนามแขง่ ขนั โดยไมป่ ฏบิ ตั ติ าม ขั้นตอนการเปล่ียนตัว และการคาดโทษคร้ังท่ี 2 การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน้�ำใจเปน็ นกั กฬี า หรอื โอกาสในการทำ� ประตอู ยา่ งชดั เจน การเรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษโดยอ้อมจาก ตำ� แหนง่ ที่ซึ่งลกู บอลอยู่ ในขณะที่การเล่นได้หยุดลง (กตกิ าขอ้ 13 ต�ำแหนง่ ของการเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุส่ิงของพุ่งไปท่ีลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถา้ ไมส่ ามารถประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ลกู ไดเ้ ปรยี บการเลน่ และไลอ่ อกสำ� หรบั การคาดโทษ 2 ครง้ั การคาดโทษ ครั้งที่ 1 การเข้ามาในสนามแข่งขันโดยไม่ปฏิบัติตามข้ันตอนการเปล่ียนตัว และการคาดโทษคร้ังท่ี 2 การแสดงพฤติกรรมอยา่ งไมม่ ีนำ้� ใจเป็นนักกฬี า การเริม่ เล่นใหม่โดยใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษโดยอ้อม จากต�ำแหน่งทลี่ ูกบอลอยใู่ นขณะท่ีการเลน่ ได้หยดุ ลง (กติกาข้อ 13 ตำ� แหนง่ ของการเตะโทษ) ถา้ ผเู้ ลน่ สำ� รองโยนวตั ถสุ ง่ิ ของไปทล่ี กู บอล ซงึ่ เปน็ เหตใุ หท้ มี เลน่ ดว้ ยผเู้ ลน่ ทมี เพม่ิ 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่น และวัตถุส่ิงของพุ่งไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และไล่ออก ส�ำหรับการคาดโทษ 2 ครั้ง ส�ำหรับการแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน้�ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครง้ั ท่ี 1 การเขา้ มาในสนามแขง่ ขนั โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตจากผตู้ ดั สนิ และการคาดโทษครงั้ ที่ 2 การโยนวตั ถสุ งิ่ ของหรอื ไลอ่ อกโดยตรง ถา้ การกระทำ� แสดงถงึ การปอ้ งกนั การเปน็ ประตู หรอื โอกาส ในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อมจากต�ำแหน่งท่ีซึ่ง ลูกบอลอยู่ในขณะท่ีการเลน่ ได้หยุดลง (กตกิ าขอ้ 13 ตำ� แหน่งของการเตะโทษ) 168 ค่มู ือผฝู้ ึกสอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

2. ถา้ ลกู บอลอยใู่ นการเลน่ และวตั ถขุ องนน้ั ไมไ่ ดพ้ งุ่ ไปทลี่ กู บอล ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งหยดุ การเลน่ ถ้าไมส่ ามารถประยุกตใ์ ห้เป็นลกู ได้เปรยี บการเลน่ และไล่ออก ส�ำหรบั การคาดโทษ 2 ครง้ั สำ� หรับ การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครั้งที่ 1 ส�ำหรับการเข้าสนามโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน และคาดโทษคร้ังท่ี 2 ส�ำหรับการโยนวัตถุส่ิงของ การเร่ิมเล่นใหม่ โดยใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มเตะโทษโดยออ้ มจากตำ� แหนง่ ทล่ี กู บอลอยใู่ นขณะทกี่ ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง (กตกิ าขอ้ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) ถา้ ผเู้ ลน่ สำ� รองโยนวตั ถสุ งิ่ ของไปทล่ี กู บอลดว้ ยสว่ นของรา่ งกายทน่ี อกเหนอื จากแขนใช้มอื เป็นเหตุให้ทีมมจี �ำนวนผู้เล่นเพมิ่ 1. ถ้าบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และไลอ่ อก สำ� หรบั การคาดโทษ 2 ครง้ั สำ� หรบั การแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งไมม่ นี ำ้� ใจเปน็ นกั กฬี า การคาด โทษครงั้ ท่ี 1 สำ� หรบั การเขา้ สนามแขง่ ขนั โดยไดร้ บั อนญุ าตจากผตู้ ดั สนิ การคาดโทษครงั้ ท่ี 2 สำ� หรบั การโยนวัตถุสิ่งของ หรือการไล่ออกโดยตรง ถ้าการกระท�ำผิดแสดงออกถึงพฤติกรรมการป้องกัน ประตูหรือโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจน การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ฝ่ายตรงข้ามเตะโทษโดยอ้อม ณ จุดที่ลกู บอลอยู่ในขณะทก่ี ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง (กติกาขอ้ 13 ตำ� แหนง่ การเตะโทษ) 2. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของไม่พุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น ถ้าไม่สามารถประยุกต์ไห้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและไล่ออกส�ำหรับการคาดโทษ 2 คร้ัง ส�ำหรับ การแสดงพฤติกรรมอย่างไม่มีน้�ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษคร้ังที่ 1 การเข้ามาในสนามแข่งขัน โดยไม่ได้รับอนุญาตและการคาดโทษคร้ังท่ี 2 ส�ำหรับการโยนวัตถุสิ่งของ การเริ่มเล่นใหม่โดยให้ ฝา่ ยตรงขา้ มไดเ้ ตะโทษโดยออ้ ม ณ จุดท่ลี ูกบอลอยูใ่ นขณะทกี่ ารเล่นไดห้ ยุดลง (กติกาข้อ 13 ต�ำแหนง่ ของการเตะโทษ) ถ้าเจา้ หนา้ ที่ทมี โยนวตั ถุสง่ิ ของที่ลกู บอลดว้ ยสว่ นของรา่ งกาย 1. ถ้าลูกบอลอยู่ในการเล่นและวัตถุสิ่งของพุ่งไปยังลูกบอล ผู้ตัดสินต้องหยุดการเล่น และให้ออกจากบริเวณเขตเทคนิค การเริ่มเล่นใหม่โดยการปล่อยลูกบอล ณ จุดท่ีลูกบอลอยู่ใน ขณะท่ีการเล่นได้หยุดลง ยกเว้นการเล่นได้หยุดลงภายในเขตโทษ ในกรณีน้ี ผู้ตัดสินคนหนึ่งคน ใดจะทำ� การปลอ่ ยลกู บอลบนเสน้ เขตโทษ ณ จดุ ทใ่ี กลท้ ส่ี ดุ ทลี่ กู บอลอยใู่ นขณะทกี่ ารเลน่ ไดห้ ยดุ ลง 2. ถา้ ลกู บอลอยใู่ นการเลน่ และวตั ถสุ งิ่ ของไมไ่ ดพ้ งุ่ ไปทลี่ กู บอล ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งหยดุ การเลน่ ถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่นและให้ออกจากบริเวณเขตเทคนิค การเริ่มเล่นใหม่ โดยการปลอ่ ยลูกบอลบนเส้นเขตโทษ ณ จดุ ท่ีใกล้ที่สุดทีล่ ูกบอลอยู่ ในขณะทีก่ ารเล่นได้หยุดลง คู่มอื ผ้ฝู กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 169

ถา้ ลกู บอลอยนู่ อกการเลน่ และผเู้ ลน่ โยนวตั ถสุ งิ่ ของไปยงั ลกู บอล ผตู้ ดั สนิ คาดโทษ สำ� หรบั การแสดงพฤตกิ รรมทไ่ี มม่ นี ำ�้ ใจเปน็ นกั กฬี า การเรมิ่ เลน่ ใหมเ่ ปน็ ไปตามขอ้ ตกลงของกตกิ าการแขง่ ขนั กฬี าฟตุ ซอล ถา้ ลกู บอลอยนู่ อกการเลน่ และผเู้ ลน่ สำ� รองโยนวตั ถสุ งิ่ ของไปยงั ลกู บอล ไมว่ า่ จะเปน็ สาเหตุ ใหท้ มี เพมิ่ จำ� นวนผเู้ ลน่ หรอื ไมก่ ต็ าม ผตู้ ดั สนิ ไลอ่ อกสำ� หรบั การคาดโทษ 2 ครง้ั สำ� หรบั การแสดงพฤตกิ รรม ที่ไม่มีน�้ำใจเป็นนักกีฬา การคาดโทษครั้งท่ี 1 การเข้ามาในสนามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน และการคาดโทษครัง้ ท่ี 2 สำ� หรับการโยนวตั ถสุ ง่ิ ของ ถ้าลูกบอลอยู่นอกการเล่นและเจ้าหน้าที่ทีมโยนวัตถุสิ่งของไปที่ลูกบอล ผู้ตัดสินต้องให้ออก จากบรเิ วณเขตเทคนิค มีการกระท�ำผิดเก่ียวกับการไล่ออก 2 อย่าง คือ การป้องกันการเป็นประตูและโอกาส ในการทำ� ประตอู ย่างชดั เจน ซง่ึ ไม่จำ� เปน็ วา่ การกระทำ� ผดิ จะเกิดขน้ึ ภายในเขตโทษ ถา้ ผตู้ ดั สนิ สามารถประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ลกู ไดเ้ ปรยี บ ระหวา่ งโอกาสในการทำ� ประตอู ยา่ งชดั เจน และการท�ำประตูโดยตรง ถึงแม้ว่า คู่ต่อสู้ปัดลูกบอลด้วยมือโดยเจตนา ผู้เล่นไม่สามารถให้เป็น การไล่ออก แต่สามารถใหเ้ ปน็ การคาดโทษได้ ถา้ ผตู้ ดั สนิ สามารถประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ลกู ไดเ้ ปรยี บ ระหวา่ งโอกาสในการทำ� ประตอู ยา่ งชดั เจน และการท�ำประตโู ดยตรง ถึงแม้วา่ ค่ตู อ่ สู้กระท�ำผิดกติกา ผู้เลน่ ไมถ่ ูกไลอ่ อกส�ำหรับการกระท�ำผิด แตย่ งั คงถกู คาดโทษหรอื ไลอ่ อกถา้ การกระทำ� ไดร้ บั การยนื ยนั (มหี ลกั ฐานการคาดโทษหรอื ไลอ่ อก) ผู้ตัดสินควรพิจารณาสถานการณ์ต่อไปนี้ เม่ือมีการตัดสินระหว่างการไล่ออกส�ำหรับ การปอ้ งกนั การเป็นประตูหรือโอกาสในการทำ� ประตูอยา่ งชัดเจน 1. ระยะหา่ งระหวา่ งการกระทำ� ผดิ กบั ประตู 2. ความเปน็ ไปไดข้ องการรบั ลกู บอล 3. ทิศทางการเลน่ 4. ตำ� แหนง่ และจ�ำนวนของผู้เลน่ ฝ่ายรบั 5. การกระท�ำผิดซ่ึงการป้องกันโอกาสในการท�ำประตูอย่างชัดเจนของคู่ต่อสู้ อาจจะเป็น การกระทำ� ผิดท่ีทำ� ใหม้ ีการเตะโทษโดยตรงหรอื การเตะโทษโดยออ้ ม 6. ถ้าการกระทำ� ผิดกติกาโดยผู้เล่นสำ� รองตอ้ งถูกไล่ออกเสมอ ถา้ ผเู้ ลน่ พยายามปอ้ งกนั ประตโู ดยการใชม้ อื สมั ผสั บอลโดยเจตนา ภายหลงั จากการเรม่ิ เลน่ ซึ่งไม่มีการได้ประตู โดยตรงอย่างแน่นอน ผู้เล่นไม่ถูกไล่ออกแต่ถูกคาดโทษ ส�ำหรับการแสดง พฤติกรรมท่ไี มม่ นี ำ้� ใจเปน็ นักกฬี า จะถกู ลงโทษโดยให้ฝ่ายตรงข้ามไดเ้ ตะโทษโดยตรงหรือเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ 170 คมู่ ือผู้ฝึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate

ถ้าผู้เล่นส�ำรองเข้าไปในสนามแข่งขันโดยมีจุดมุ่งหมายของการป้องกันการเป็นประตู หรอื โอกาสในการท�ำประตู เขาตอ้ งถูกไลอ่ อก กติกาข้อ 13 การเตะโทษ (Free Kick) ขั้นตอน 1. ลูกบอลอยู่ในการเล่นเม่อื ถูกเตะและเคลอื่ นที่ออกไป 2. การเตะโทษสามารถเตะลกู บอลดว้ ยเทา้ หรอื ทัง้ สองเทา้ 3. การแกลง้ หลอกทจี่ ะเตะโทษ เพอ่ื ทำ� ใหค้ ตู่ อ่ สสู้ บั สน เปน็ การอนญุ าตใหท้ ำ� ได้ ถา้ ผตู้ ดั สนิ พิจารณาว่าการแกลง้ หลอกเปน็ การกระทำ� ทไี่ มม่ ีน้ำ� ใจเปน็ นกั กีฬา ผเู้ ล่นต้องถูกคาดโทษ 4. ถ้าผู้เล่นในขณะท่ีท�ำการเตะโทษอย่างถูกต้อง เตะลูกบอลอย่างตั้งใจไปยังคู่ต่อสู้ เพ่ือท่ีจะเล่นลูกบอลอีกคร้ัง แต่เป็นลักษณะที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ไตร่ตรองย้ังคิด การไมใ่ ชค้ วามรนุ แรงเกนิ กว่าเหตุ ผูต้ ดั สินตอ้ งให้การเล่นดำ� เนินต่อไป 5. การเตะโทษโดยอ้อม ต้องเตะใหม่ ถ้าผู้ตัดสินไม่ได้ยกแขนแสดงการเตะโทษโดยอ้อม และลกู บอลถกู เตะเขา้ ประตโู ดยตรง เรม่ิ การเตะโทษโดยออ้ มทไี่ มถ่ กู ตอ้ งโดยเกดิ จากความผดิ พลาด ของผตู้ ดั สิน 6. ถ้าส่วนของการเล่นยังเคล่ือนย้ายผู้รักษาประตูอยู่ภายนอกประตูหรือผู้เล่นคนอ่ืนๆ หยดุ ลงนอกสนามแขง่ ขนั ผเู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ มอาจจะทำ� การเตะโทษโดยตรงอยา่ งรวดเรว็ ภายใตเ้ งอื่ นไข ทไ่ี ม่มีการกระท�ำผดิ กตกิ ารวม 6 คร้ัง 7. ถ้าลูกบอลแตกภายหลังจากชนกับเสาประตูหรือคานประตูและไม่ได้เข้าไปในประตู ผตู้ ดั สนิ ไมใ่ หท้ ำ� การเตะโทษใหม่ ใหห้ ยดุ การเลน่ และเรม่ิ เลน่ ใหม่ โดยการปลอ่ ยลกู บอลจากตำ� แหนง่ ทซ่ี ึ่งลกู บอลไดแ้ ตกในขณะการเลน่ (กติกาข้อ 8 การปล่อยลกู บอล) 8. ถ้าผ้เู ล่นทีท่ ำ� การเตะโทษโดยตรง มีการกระท�ำผดิ กติการวม 6 ครั้ง การเตะลูกบอล ไปขา้ งหนา้ เพอื่ ใหเ้ พอื่ นรว่ มทมี สามารถพงุ่ ไปทปี่ ระตู ผตู้ ดั สนิ หยดุ การเลน่ ถา้ ไมส่ ามารถประยกุ ต์ ใหเ้ ปน็ ลกู ไดเ้ ปรยี บ การเรมิ่ เลน่ ใหมโ่ ดยการเตะโทษโดยออ้ ม จากทซี่ งึ่ ผเู้ ตะในทมี เดยี วกนั ทสี่ มั ผสั ลูกบอล (กติกาขอ้ 13 ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) 9. ถ้าผู้ตัดสินสั่งให้เตะโทษเพื่อท�ำการเตะโทษใหม่ สามารถกระท�ำการเตะโดยผู้เล่นคนอื่น และไมม่ ีการเตะโดยผู้เลน่ ท่ีเป็นคนเตะเรม่ิ ตน้ 10. ถา้ ผเู้ ลน่ เตะโทษโดยตรงหรอื โทษโดยออ้ ม กอ่ นผตู้ ดั สนิ ใหส้ ญั ญาณการเตะและก่อน การกระท�ำผิดกติการวมของทีมเป็นครั้งท่ี 6 ภายใต้เงื่อนไขของทีมที่ท�ำการเตะต้องให้คู่ต่อสู้ อยู่ห่างจากระยะที่ร้องขอ ผู้ตัดสินหยุดการเล่นถ้าไม่สามารถประยุกต์ให้เป็นลูกได้เปรียบการเล่น ส่ังให้กระท�ำการเตะโทษ และคาดโทษผูเ้ ลน่ คู่มอื ผฝู้ กึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 171

11. ถ้าผู้เล่นท�ำการเตะโทษโดยตรงก่อนที่ผู้ตัดสินให้สัญญาณส�ำหรับการกระท�ำดังนี้ เรม่ิ ดว้ ยการกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม 6 ครงั้ ของทมี ผตู้ ดั สนิ สงั่ ใหเ้ ตะโทษเพอ่ื เปน็ การลงโทษ และคาดโทษ ผเู้ ล่นนั้น 12. ถ้าช่องของการต่อเวลาพิเศษออกไป ให้มีการเตะโทษเพ่ือเป็นการลงโทษ เร่ิมด้วย การกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม 6 ครงั้ และลกู บอลชนกบั เสาประตู ดา้ นใดดา้ นหนง่ึ หรอื คานประตผู รู้ กั ษาประตู ก่อนขา้ มเส้นประตูระหว่างเสาประตู และคานประตผู ู้ตัดสินใหเ้ ปน็ ประตู 13. ถ้าช่วงของการต่อเวลาพิเศษออกไป ให้มีการเตะโทษเพื่อเป็นการลงโทษ เร่ิมด้วย การกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม 6 ครงั้ ผตู้ ดั สนิ อนญุ าตผรู้ กั ษาประตฝู า่ ยรบั เขา้ ไปแทนท่ี โดยผเู้ ลน่ นอกสนาม หรือตัวสำ� รองท่ีเหมาะสม รวมทั้งปฏบิ ัติตามข้นั ตอนการเปลย่ี นตัว ระยะห่าง 5 เมตร (Distance) ถ้าผู้เล่นตัดสินใจ ที่จะท�ำการเตะโทษอย่างรวดเร็วและคู่ต่อสู้อยู่ห่างจากจุดท่ีลูกบอล อยูร่ ะยะ 5 เมตร ผ้ตู ัดสนิ ต้องให้การเลน่ ด�ำเนนิ ต่อไป ถา้ ผเู้ ลน่ ตดั สนิ ใจทจี่ ะทำ� การเตะโทษอยา่ งรวดเรว็ และคตู่ อ่ สซู้ ง่ึ อยใู่ กลก้ บั ลกู บอลอยา่ งชดั เจน เพอื่ ปอ้ งกนั การเตะโทษ ผตู้ ดั สินตอ้ งคาดโทษคตู่ ่อสู้ส�ำหรับการชะลอการเรม่ิ เล่นใหม่ ถ้าขณะท่ีการเตะโทษโดยผู้เล่นฝ่ายรุก จากภายในเขตโทษของตนเอง คู่ต่อสู้ยังสามารถ อยู่ภายในเขตโทษ เพราะว่าผู้เล่นฝ่ายรุกตัดสินใจที่จะท�ำการเตะโทษอย่างรวดเร็วและคู่ต่อสู้ ไม่มีเวลาออกนอกเขตโทษ ผู้ตัดสินต้องให้การเล่นได้ด�ำเนินต่อไป ถ้าลูกบอลออกนอกเขตโทษ โดยปราศจากการสมั ผัสผูเ้ ล่นคนอน่ื ๆ การกระทำ� ผดิ กตกิ ารวม 6 ครง้ั ภายหลงั เสยี งสญั ญาณนกหวดี และกอ่ นลกู บอลอยใู่ นการเลน่ ล ำ � ด บั ท ี่ การกระทำ�ผิด ผลของการเตะ ไมเ่ ปน็ ประตู เปน็ ประตู โทษโดยอ้อม 1 ผเู้ ลน่ ฝา่ ยรกุ เตะใหม ่ โทษโดยออ้ ม โทษโดยออ้ ม 2 ผู้เตะเจตนาไม่ทำ�ประต ู - เตะใหม่ เตะใหม่ 3 เตะโดยไม่ระบุผ้เู ลน่ โทษโดยอ้อม 4 ผู้เลน่ ฝ่ายรับ เป็นประตู 5 ทงั้ สองทมี เตะใหม ่ 172 คูม่ อื ผฝู้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

กติกาขอ้ 14 การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ (The Penalty Kick) ขั้นตอนการด�ำเนินการ 1. การแกล้งว่ิงทำ� การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ เพื่อสร้างความสับสนใหก้ บั ค่ตู อ่ สู้ สามารถ กระท�ำได้ อย่างไรก็ตามการแกล้งหลอกเตะบอล 1 คร้ัง ผู้เล่นได้แกล้งเตะเสร็จถูกพิจารณาเป็น การกระทำ� ผดิ กตกิ าขอ้ 14 เพราะเปน็ การประพฤตติ นอยา่ งไมม่ นี ำ้� ใจเปน็ นกั กฬี า ซงึ่ ผเู้ ลน่ ตอ้ งถกู คาดโทษ 2. การแกล้งวิ่งท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ เพื่อสร้างความสับสนให้กับคู่ต่อสู้ สามารถกระท�ำได้ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาของผู้ตัดสิน การแกล้งหลอกเป็นการประพฤติตน อย่างไมม่ นี �้ำใจเปน็ นกั กีฬา ผู้เลน่ ตอ้ งถกู คาดโทษ 3. ถ้าลูกบอลแตกภายหลังชนเสาประตูข้างหน่ึงข้างใดหรือคานประตูและเข้าประตู ผ้ตู ดั สนิ ให้เปน็ ประตู 4. ถา้ ลกู บอลแตก ภายหลงั การชนขา้ งหนง่ึ ขา้ งใดหรอื คานประตแู ละไมเ่ ขา้ ประตู ผตู้ ดั สนิ ไมใ่ หเ้ ตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ แตใ่ หห้ ยดุ การเลน่ การเรม่ิ เลน่ ใหมโ่ ดยการปลอ่ ยลกู บอลบนเสน้ เขตโทษ ณ จดุ ทใ่ี กลท้ ีส่ ุดท่ลี กู บอลแตก 5. ถ้าผู้เล่นกระท�ำการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ได้เตะลูกบอลให้ผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน เพ่ือยงิ ประตู ผู้ตัดสินให้เปน็ ประตู ถา้ ขนั้ ตอนการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษเป็นไปตามเง่อื นไขท่รี ะบุ ในกตกิ าข้อ 14 6. ถา้ ผู้ตัดสินสง่ั ให้มีการเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษอกี ครั้ง การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษใหม่ สามารถกระทำ� ไดโ้ ดยผูเ้ ล่นคนอ่ืน และไม่มีการกระทำ� การเตะโดยผเู้ ลน่ ผ้ซู ง่ึ ไดเ้ ตะเร่ิมเลน่ 7. ถา้ ผูเ้ ตะกระทำ� การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ ก่อนท่ีผู้ตัดสินใหส้ ัญญาณ ผูต้ ัดสินส่ังให้ เตะโทษ ณ จดุ เตะใหม่ และคาดโทษ 8. ถา้ ชว่ งเวลาของการตอ่ เวลาพเิ ศษ อนญุ าตใหม้ กี ารเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษและลกู บอล ชนกบั เสาประตดู า้ นหนง่ึ ดา้ นใดหรอื คานประตู หรอื ผรู้ กั ษาประตกู อ่ นขา้ มเสน้ ประตู ระหวา่ งเสาประตู และคานประตู ผ้ตู ัดสินใหเ้ ป็นประตู 9. ถ้าช่วงเวลาของการต่อเวลาพิเศษ อนุญาตให้มีการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ ผู้ตัดสิน ได้อนุญาตให้ผู้รักษาประตูฝ่ายรับเข้าไปท�ำหน้าท่ีแทน โดยผู้เล่นท่ีอยู่ข้างนอกสนามหรือผู้เล่นส�ำรอง ซ่งึ ไดป้ ฏบิ ัติตามขน้ั ตอนการเปล่ยี นตัว การเตรยี มส�ำหรบั การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ (Preparing for the Penalty Kick) ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งยนื ยนั ตามความตอ้ งการตอ่ ไปน้ี กอ่ นมกี ารกระทำ� การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ 1. ระบผุ ู้เลน่ ท่ที �ำการเตะ 2. ลูกบอลอยใู่ นตำ� แหนง่ จุดเตะโทษ คมู่ ือผ้ฝู ึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate 173

3. ผู้รกั ษาประตูอยทู่ ี่เส้นประตู ระหว่างเสาประตูและต่อหน้าผ้ทู �ำการเตะ 4. ผู้เล่นทมี เดียวกนั กบั ผเู้ ตะอย่ทู ่ี 4.1 ภายนอกเขตโทษ 4.2 ห่างจากลกู บอลระยะ 5 เมตร 4.3 อยดู่ ้านหลงั ลกู บอล การกระทำ� ผดิ กตกิ า ภายหลงั เสยี งนกหวดี และกอ่ นลกู บอลอยใู่ นการเลน่ (Infringement – after the Whist Before the Ball is in Play) ล ำ � ด ับ ท ่ี การกระทำ�ผดิ ผลของการเตะ ไม่เป็นประตู เป็นประต ู เตะโทษโดยออ้ ม 1 การชนผู้เลน่ กระทำ�การเตะโทษใหม่ เตะโทษโดยอ้อม เตะโทษโดยอ้อม 2 ผูเ้ ตะเตะลกู บอลกลับหลงั เตะโทษโดยออ้ ม กระทำ�การเตะโทษใหม่ กระทำ�การเตะโทษใหม่ 3 เตะโดยไมร่ ะบผุ เู้ ลน่ ใหช้ ดั เจน เตะโทษโดยออ้ ม 4 ผู้เล่นเปน็ ฝา่ ยรับ เปน็ ประต ู 5 ผเู้ ลน่ ทัง้ 2 ฝา่ ย กระทำ�การเตะโทษใหม ่ ถ้าผู้เล่นฝ่ายรุกหรือผู้เล่นฝ่ายรับกระท�ำผิดกติกาต่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก่อนลูกบอล อยู่ในการเล่น แต่ภายหลังผู้ตัดสินคนหนึ่งคนใด อนุญาตให้ท�ำการเตะ ถ้าได้ประตูให้นับเป็นประตู และมีการกระท�ำผิดกติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับให้นับเป็นประตู ถ้าการกระท�ำผิดโดยผู้เล่นฝ่ายรุก ส่ังให้เตะโทษ ณ จดุ เตะโทษใหม่ ถา้ ไมเ่ ปน็ ประตู และมกี ารกระทำ� ผดิ โดยผเู้ ลน่ ฝา่ ยรบั ใหท้ ำ� การเตะโทษ ณ จุดเตะโทษใหม่ ถ้ามีการกระท�ำผิดกติกาโดยทีมของผู้เตะ ให้สามารถลงโทษฝ่ายน้ันด้วย การเตะโทษโดยตรง จากต�ำแหน่งที่ซ่ึงมีการกระท�ำผิดเกิดขึ้น (ต�ำแหน่งของการเตะโทษ) นอกจากนี้ ผ้ตู ัดสินพิจารณาใหเ้ ป็นการกระท�ำผดิ ระเบยี บวินยั 174 คมู่ ือผฝู้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

กตกิ าขอ้ 15 การเตะเข้าเลน่ (Kick in) ขน้ั ตอนการกระท�ำผิดกตกิ า (Procedures Infringements) ผตู้ ดั สนิ อาจเตอื นผเู้ ลน่ ฝา่ ยตรงขา้ มทอี่ ยใู่ กลล้ กู บอลกวา่ ระยะ 5 เมตร จากการเตะเขา้ เลน่ ซงึ่ เปน็ ความจำ� เปน็ ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งเตอื นผเู้ ลน่ คนอน่ื กอ่ นการเตะเขา้ เลน่ และคาดโทษผเู้ ลน่ ถา้ ภายหลงั ไม่ถอยห่างไปอยู่ในระยะทีร่ อ้ งขอ การเริ่มเลน่ โดยการเตะเขา้ เล่นและการนับ 4 วินาที ขณะท�ำการเตะเข้าเล่น ผู้เล่นเจตนาเตะบอลไปยังคู่ต่อสู้ เม่ือมีการเริ่มเล่นใหม่แต่ไม่มี ลักษณะของการขาดความระมัดระวัง หรือขาดการพิจารณาไตร่ตรองยั้งคิดหรือไม่มีความรุนแรง เกินกวา่ เหตุ ผู้ตดั สินต้องอนญุ าตใหก้ ารเลน่ ดำ� เนินตอ่ ไป ถ้าลูกบอลเข้าประตูฝ่ายตรงข้ามโดยตรงจากการเตะเข้าเล่น ผู้ตัดสินต้องให้เล่นลูก จากผู้รักษาประตูผู้เตะ ถ้าลูกบอลเข้าประตูของผู้เตะเองโดยตรงจากการเตะเข้าเล่น ผู้ตัดสิน ต้องใหเ้ ป็นการเตะจากมุม ถา้ ลกู บอลไมเ่ ขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั ฝา่ ยทกี่ ระทำ� ผดิ ทำ� การเตะเขา้ เลน่ อกี ครง้ั จากตำ� แหนง่ เดมิ ภายใตเ้ งอื่ นไขการเตะเขา้ เลน่ อกี ครงั้ และเปน็ ไปตามขอ้ ตกลงด้วยขนั้ ตอนทถี่ กู ต้อง แตย่ งั คงนบั 4 วนิ าที ต่อเน่ืองจากการหยุดเล่นของฝ่ายท่ีท�ำการเตะเข้าเล่น เมื่อท�ำการเตะเข้าเล่นใหม่ ถ้าไม่มีการกระท�ำ ทเ่ี ป็นตามขอ้ ตกลง โดยข้ันตอนทีถ่ ูกตอ้ ง ผูเ้ ล่นฝา่ ยตรงข้ามต้องท�ำการเตะ ถา้ ผรู้ กั ษาประตูเคลอ่ื นทีข่ ณะทำ� การเตะ ผ้เู ล่นคนหนึ่งคนใดหยุดการเลน่ ภายนอกสนาม ฝา่ ยตรงข้ามอาจจะท�ำการเตะเข้าเลน่ อย่างรวดเรว็ ถา้ การเตะเขา้ เลน่ กระทำ� ไมถ่ กู ตอ้ ง ผตู้ ดั สนิ ไมส่ ามารถประยกุ ตใ์ หเ้ ปน็ ลกู ไดเ้ ปรยี บการเลน่ นอกจากลกู บอลไปยงั คู่ต่อสู้ แตอ่ าจจะใหฝ้ ่ายตรงขา้ มทำ� การเตะเขา้ เล่นใหม่ กติกาข้อ 16 การเตะลกู บอลจากผ้รู ักษาประตู (The Goal Clearance) ข้ันตอนการกระท�ำผดิ กติกา (Procedures Infringements) ถ้าผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม เข้าไปในเขตโทษ ก่อนท่ีลูกบอลอยู่ในการเล่นและมีการกระท�ำผิด กติกาโดยผู้เล่นฝ่ายรับ เป็นประตูท่ีชัดเจนจากการเตะเข้าเล่นและผู้เล่นฝ่ายรับอาจจะถูกลงโทษ หรอื ถูกไลอ่ อกขึน้ อย่กู บั การกระทำ� ผิด เมื่อมกี ารเล่นลกู บอลจากผู้รกั ษาประตู การเตะใหมโ่ ดยผรู้ ักษาประตู ถา้ ผเู้ ลน่ ฝ่ายตรงขา้ ม อยใู่ นเขตโทษ เพราะวา่ ผรู้ กั ษาประตตู ดั สนิ ใจเตะอยา่ งรวดเรว็ และฝา่ ยตรงขา้ มไมม่ เี วลาออกนอกเขตโทษ ผู้ตัดสินต้องให้การเล่นด�ำเนินต่อไป ถ้าลูกบอลออกจากเขตโทษโดยตรง ไม่ได้สัมผัสกับ ผเู้ ลน่ คนอื่นๆ ค่มู ือผฝู้ ึกสอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate 175

ในขณะทม่ี ีการนบั การเล่นลูกบอลจากผู้รกั ษาประตู ถา้ ผู้รักษาประตูเจตนาโยนลกู บอล ไปยงั ฝา่ ยตรงขา้ มทอ่ี ยนู่ อกเขตโทษ แตไ่ มม่ ลี กั ษณะทขี่ าดความระมดั ระวงั หรอื ขาดการไตรต่ รองยง้ั คดิ หรือไม่ใช้ความรนุ แรงเกนิ กวา่ เหตุ ผู้ตดั สนิ ให้เลน่ ตอ่ ไป เม่ือมีการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตู ถ้าผู้รักษาประตูไม่ปล่อยลูกบอลภายในเขตโทษ ของตนเอง ผตู้ ดั สนิ สง่ั ใหเ้ ปน็ ประตทู ช่ี ดั เจน ในการเตะเขา้ เลน่ ใหม่ ถงึ แมว้ า่ การนบั 4 วนิ าที ยงั คง ต่อเน่อื งไปจากทซี่ งึ่ การหยุดไปครั้งหนึ่งของผู้รักษาประตูเพอ่ื ทำ� การเตะอกี ครัง้ กอ่ นทีผ่ ู้ตดั สนิ เร่ิมนบั 4 วินาที ไมม่ คี วามจำ� เป็นทีผ่ ้รู กั ษาประตจู ะถือลูกบอลอยใู่ นมอื ถา้ ผรู้ กั ษาประตู กำ� ลงั เคลอื่ นทใี่ นการเลน่ ภายนอกประตขู องตนหรอื ผเู้ ลน่ คนอนื่ ภายนอก สนามแขง่ ขนั ผรู้ กั ษาประตฝู า่ ยตรงขา้ ม อาจจะทำ� เลน่ ลกู บอลจากผรู้ กั ษาประตอู ยา่ งรวดเรว็ ถ้าผู้รักษาประตูกระท�ำการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูและลูกบอลข้ามไปยัง เส้นประตู โดยไม่ได้ออกนอกเขตโทษในคร้ังแรก ผู้ตัดสินส่ังให้เล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตูใหม่ แตย่ งั นับเปน็ 4 วินาที ต่อเนือ่ งจากท่ซี ่งึ ผรู้ กั ษาประตูไดห้ ยดุ กอ่ นการกระท�ำการเลน่ อกี คร้งั ในขณะท่ีท�ำการเล่นลูกบอลจากผู้รักษาประตู ถ้าลูกบอลชนผู้รักษาประตูคนหน่ึงคนใด ภายในเขตโทษ โดยไม่ได้ออกภายเขตโทษในคร้ังแรกและกลับเข้าไปในสนามแข่งขันอีก ผู้ตดั สนิ ไมต่ อ้ งปฏบิ ัตอิ ะไร ข้ันตอนการกระท�ำผิดกตกิ า (Procedures Infringements) ผู้ตัดสินต้องเตือนผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ให้อยู่ห่างจากส่วนโค้งของมุมอย่างน้อย 5 เมตร จนกว่าลูกบอลจะอยู่ในการเล่น เป็นสิ่งที่เป็นผู้ตัดสินจะต้องเตือนผู้เล่นเกี่ยวกับระยะ 5 เมตร ทีม่ ีการเตะจากมุม และคาดโทษภายหลังทเี่ ขาไมถ่ อยไปอยู่ในระยะทถี่ ูกตอ้ ง ในขณะที่มีการเตะจากมุมท่ีถูกต้อง ผู้เล่นเจตนาเตะบอลใส่คู่ต่อสู้เพ่ือจะเล่นลูกบอลน้ันอีก แต่ไม่มีลักษณะขาดความระมัดระวัง หรือขาดการไตร่ตรองยั้งคิดหรือไม่เป็นการกระท�ำท่ีรุนแรง เกนิ กวา่ เหตุ ผตู้ ัดสนิ ต้องใหก้ ารเล่นดำ� เนินตอ่ ไป ลกู บอลต้องอย่ใู นต�ำแหนง่ ภายในสว่ นโคง้ ของมมุ และอย่ใู นการเลน่ ในขณะท่กี ารเตะลูกบอล ไม่จ�ำเปน็ ตอ้ งออกจากส่วนโคง้ ของมมุ เมื่อเข้าสู่การเลน่ ถ้าผู้รักษาประตูก�ำลังเคลื่อนท่ีไปในการเล่นหยุดภายนอกเขตประตูของเขาหรือผู้เล่น คนอนื่ ๆ หยดุ ภายนอกสนามแขง่ ขนั ผูเ้ ลน่ อาจจะท�ำการเตะจากมมุ อยา่ งรวดเรว็ 176 คู่มอื ผูฝ้ กึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

กตกิ าขอ้ 17 การเตะจากมุม (The Corner Kick) การต่อเวลาพเิ ศษ (Extra Time) ขั้นตอน (Procedure) 1. ช่วงของการต่อเวลาพิเศษ อาจจะไมเ่ ปน็ สว่ นหน่ึงของการแขง่ ขนั (อาจจะไม่มกี ็ได้) 2. ถา้ ผู้เล่นหรือผู้เล่นส�ำรองอาจจะถกู คาดโทษหรอื ไลอ่ อก ในชว่ งการตอ่ เวลาพเิ ศษ 3. การกระทำ� ผดิ กตกิ ารวมในชว่ งของตอ่ เวลาพเิ ศษ จะนบั จากครง่ึ เวลาหลงั ของการแขง่ ขนั 4. ในช่วงของการต่อเวลาพิเศษ ไม่มีการขอเวลาภายนอก ยกเว้นไม่มีการขอเวลา ในชว่ งคร่งึ เวลา การเตะจากจดุ โทษ (Kick From the Penalty Mark) ขั้นตอน (Procedure) 1. การเตะจากจดุ โทษ อาจจะไม่เป็นส่วนหน่งึ ของการแขง่ ขนั 2. พื้นท่ีเขตโทษ ซ่ึงเตะจากจุดโทษท่ีท�ำการเตะอาจจะถูกเปลี่ยน ถ้าประตูหรือพ้ืนผิว ไม่เหมาะสมหรอื ด้วยเหตุผลของความปลอดภยั 3. ผู้เล่นที่จะท�ำเตะจากจุดโทษ เพียงครั้งเดียว เป็นข้ันตอนท่ีไม่มีการเตะตามรอบแรก ของการเตะ 4. แตล่ ะทมี มหี นา้ ทค่ี ดั เลอื กผเู้ ลน่ ทที่ ำ� การเตะจากจดุ โทษ จากจดุ ของผเู้ ลน่ และผเู้ ลน่ สำ� รอง และเป็นไปตามลำ� ดบั ผู้ท่ีจะกระท�ำการเตะตอ้ งแจง้ ผูต้ ัดสินท่ี 3 ก่อนการเตะ 5. ข้อยกเวน้ กรณพี เิ ศษสำ� หรับผ้รู กั ษาประตู เตะได้ 1 ครง้ั จากจุดเตะโทษท่ีมีการเริม่ เตะ ผ้เู ลน่ ท่บี าดเจบ็ อาจไม่ถกู เปลย่ี นดว้ ยผเู้ ล่นคนอนื่ ทไ่ี ม่เหมาะสม (ขน้ึ อยู่กับความเหมาะสม) 6. ถ้าผู้รักษาประตูถูกไล่ออกระหว่างการเตะจากจุดโทษ เขาอาจจะถูกเปลี่ยนตัว โดยผู้เล่นคนอื่นที่มีความเหมาะสม แต่ไม่ถูกเปล่ียนโดยผู้รักษาประตูคนอื่น ถ้าเขาถูกให้ออกจาก การเตะจุดโทษ 7. ผ้เู ล่นหรอื ผ้เู ลน่ ส�ำรองอาจจะถกู คาดโทษหรือไล่ออกระหว่างการเตะจากจุดโทษ 8. ผู้ตัดสินต้องไม่ปล่อยให้ล�ำดับการเตะจากจุดโทษ ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกลดจ�ำนวน ผเู้ ลน่ ลงน้อยกวา่ 3 คนระหว่างการเตะจากจดุ เตะโทษ 9. ถา้ ผเู้ ลน่ ไดร้ บั บาดเจบ็ หรอื ถกู ไลอ่ อกระหวา่ งการทำ� การเตะจากจดุ โทษและผเู้ ลน่ ทมี หนง่ึ มีจ�ำนวนนอ้ ยกว่าอยู่ 1 คน ตอ้ งลดจำ� นวนผเู้ ล่น ในการเตะอีกทมี หน่งึ 10. จ�ำนวนของผู้เล่นแตล่ ะทีมตอ้ งเท่ากัน แต่ละทมี จึงจะเริม่ ใหม้ กี ารเตะจากจุดโทษ 11. ถา้ ลกู บอลชนเสาประตขู า้ งหนงึ่ ขา้ งใด หรอื คานประตหู รอื ผรู้ กั ษาประตกู อ่ นขา้ มเสน้ ประตู ท่อี ยูร่ ะหวา่ งเสาประตแู ละคานประตผู ู้ตดั สินให้นบั เปน็ ประตู คู่มอื ผูฝ้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 177

12. ถา้ ลกู บอลแตกหรอื ชำ� รดุ หลงั จากชนเสาประตขู า้ งหนง่ึ ขา้ งใดหรอื คานประตแู ละเขา้ ไป ในประตู ผตู้ ดั สนิ ให้นับเปน็ ประตู 13. ถา้ ลกู บอลแตกหรอื ชำ� รดุ หลงั จากชนเสาประตขู า้ งหนงึ่ ขา้ งใดหรอื คานประตแู ละไมเ่ ขา้ ไป ในประตู ผตู้ ดั สนิ ไมส่ ง่ั ใหม้ กี ารเตะจากจดุ โทษใหม่ เพราะการเตะโทษไดท้ ำ� การเตะไปแลว้ 14. ถา้ ระเบยี บการแขง่ ขนั ใหม้ กี ารเตะจากจดุ โทษ เพอ่ื พจิ ารณาหาผชู้ นะของการแขง่ ขนั หรือกฎของทีมเหย้าหรือทีมเยือนและทีมปฏิเสธที่กระท�ำเช่นนั้นผู้ตัดสินเขียนรายงานเหตุการณ์ ต่อผ้มู อี ำ� นาจหน้าที่ (ผู้ท่ีรับมอบหมายแตง่ ต้งั ) 15. ถ้าก่อนการเร่ิมเตะจากจุดโทษ ผู้เล่น 1 คนหรือมากกว่า ออกจากสนามแข่งขัน หรือปฏิเสธการเตะโทษจากจุดโทษ เพียงคร้ังเดียวท่ีมีการเตะแล้วและไม่ได้รับบาดเจ็บผู้ตัดสินลงโทษ การกระท�ำการเตะจากจุดโทษและแจง้ ใหผ้ ู้ท่ีมีอำ� นาจหน้าท่ี (ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมายแต่งตั้ง) 16. ระหว่างกระท�ำการเตะจากจุดโทษ ผู้ตัดสินไม่ควรอนุญาตให้มีกล้องหรือสิ่งอ่ืนๆ อย่บู นสนามแข่งขนั 178 คมู่ อื ผ้ฝู กึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

ก ารฝึกสอนเทคนิค และยทุ ธวิธกี ารเลน่ กีฬาฟตุ ซอล เทคนคิ การเลน่ กฬี าฟตุ ซอล หมายถงึ ความสามารถของบคุ คลในการใชส้ ว่ นตา่ งๆ ของ รา่ งกายจัดการหรือบังคับควบคุมลูกบอลได้อย่างถูกต้องเหมาะสมตามที่ต้องการไม่ว่าจะอยู่กับที่ หรอื ในขณะท่เี คลอื่ นที่ ซ่งึ มีองค์ประกอบการฝกึ สอนดงั น้ี 1. การเลย้ี งลกู บอล หมายถึง การน�ำพาหรือการท่ีผู้เล่นเคลื่อนที่ไปพร้อมกับลูกบอล โดยใช้ส่วนหน่ึงส่วนใด ของเท้าสัมผัสส่วนหน่ึงส่วนใดของลูกบอลให้เคลื่อนท่ีไปบนพื้นของสนาม จะช้าหรือเร็วข้ึนอยู่กับ จดุ มุ่งหมายและต�ำแหน่งของคู่ต่อสใู้ นสถานการณ์ต่างๆ ความสำ� คญั ของการเลีย้ งลูกบอล การเลี้ยงลูกบอลเป็นเทคนิควิธีการเล่น การสัมผัสบังคับลูกบอลขณะเดียวกันก็ต้องใช้ ทกั ษะการเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นทขี่ องรา่ งกายมาผสมผสานเปน็ ลลี าของผเู้ ลน่ ทแ่ี สดงออกเหมอื นเปน็ ศลิ ปะ โดยมจี ุดมงุ่ หมายของการเล้ียง คือ 1. การเลี้ยงเพือ่ การครอบครองลกู บอล 2. การเลยี้ งเพื่อหลบหรือหลอกล่อคูต่ ่อสู้ 3. การเลย้ี งเพือ่ ไปสูพ่ ้ืนท่ีว่าง การจะใชว้ ธิ ไี หนนนั้ ขน้ึ อยกู่ บั เหตแุ ละผลทจี่ ะทำ� ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงคเ์ ฉพาะอยา่ ง ถา้ ผเู้ ลน่ มีความช�ำนาญในการเล้ียงลูกบอล รู้และเข้าใจในเหตุและผลของการเล้ียงลูกบอลแต่ละอย่างแล้ว กจ็ ะใชว้ ธิ กี ารไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งทำ� ใหไ้ ดเ้ ปรยี บในการเลน่ และทส่ี ำ� คญั ผเู้ ลน่ ควรทจ่ี ะฝกึ ใหท้ ำ� ไดด้ ที งั้ สองเทา้ ปจั จัยพน้ื ฐานในการเล้ยี งลูกบอล - ตอ้ งมีเทคนิคในการสัมผสั ลูกบอลทด่ี ี - มที ักษะเกย่ี วกบั การเคลอ่ื นท่ีท่ีถูกต้อง - มกี ารประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระบบประสาทกบั ระบบกลา้ มเน้อื ที่ดี - มคี วามว่องไว รวดเรว็ ในการเคล่อื นท่ี - มคี วามรู้และเข้าใจในยุทธวธิ กี ารเลน่ เฉพาะบุคคล ค่มู ือผูฝ้ กึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate 179

ชนิดของการเลีย้ งลกู บอล - การเลี้ยงหรอื การพาลูกบอลด้วยฝ่าเท้า - การเลีย้ งลกู บอลดว้ ยหลงั เทา้ - การเลย้ี งหรือพาลกู บอลดว้ ยข้างเท้าด้านนอก - การเลี้ยงหรือพาลกู บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน การเลย้ี งลกู บอล 2. การสง่ ลูกบอล หมายถึง การใช้ส่วนหน่ึงส่วนใดของเท้าไปกระทบกับลูกบอล โดยมีการส่งแรง จากสะโพกเพ่ือให้ลูกบอลเคล่ือนท่ีไปเป้าหมายในทิศทางที่ต้องการ ด้วยการสัมผัสถูกท่ีส่วนต่างๆ ของลกู บอล ความสำ� คัญของการสง่ ลูกบอล การส่งเป็นเทคนิคการจัดการกับลูกบอล เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายท่ีต้องการอย่างรวดเร็ว กีฬาฟุตซอลเป็นกีฬาท่ีใช้เท้าเพื่อการเล่น ดังน้ัน จึงควรฝึกการใช้เท้าส่งลูกบอลให้ได้ในทุกส่วน ของทั้งสองเทา้ ชนดิ ของการสง่ ลูกบอลด้วยเทา้ - การสง่ ดว้ ยฝา่ เท้า - การส่งดว้ ยหัวรองเทา้ - การส่งด้วยหลงั เท้า - การสง่ ด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นใน - การส่งด้วยข้างเท้าด้านนอก - การส่งดว้ ยสน้ เทา้ 180 คูม่ ือผู้ฝกึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate

การส่งลกู บอล ปัจจยั ทเ่ี กี่ยวข้องกับการส่งลูกบอล - เทา้ หลักในการยืน - เท้าทใี่ ชส้ ง่ ลูกบอล (ลักษณะทจ่ี ะกระทบลกู บอล) - การเหวี่ยงและการสง่ แรง จดุ ส�ำคัญในการส่งลกู บอล - ความแน่นอน แมน่ ย�ำ - การใหน้ ้�ำหนักหรือใช้แรงกระทบส่งผ่านลกู บอล - การสมั ผสั หรอื กระแทกลกู บอล (จุดกระทบขน้ึ อยกู่ บั เปา้ หมาย) - การทรงตวั การเหวีย่ งขาเพื่อสง่ แรง - การมองเห็นเป้าหมายและเน้นมองทลี่ ูกบอลขณะที่ส่ง - ใช้ไดท้ ้งั สองเทา้ 3. การรบั ลกู บอล หมายถงึ การทผี่ เู้ ลน่ ใชส้ ว่ นหนง่ึ สว่ นใดของรา่ งกายสมั ผสั ลกู บอลเพอ่ื ทจี่ ะใหล้ กู บอลหยดุ หรือควบคุมเพื่อท่ีจะเล่นต่อเน่ือง ยกเว้นการใช้มือและแขนส�ำหรับผู้เล่น (ผู้รักษาประตูใช้มือ และแขนได้) คู่มอื ผู้ฝึกสอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate 181

ความสำ� คัญของการรบั ลกู บอล การรบั ลกู บอล เปน็ วธิ กี ารหนง่ึ ซง่ึ ถา้ ผเู้ ลน่ ปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งดจี ะสง่ ผลตอ่ การเลน่ ใหไ้ ดเ้ ปรยี บ เหนือคู่ต่อสู้ จากการส่งต่อให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูหรือเล้ียงลูกบอลในลักษณะต่างๆ ด้วยตัวเอง การรบั ลูกบอลจะไมใ่ ชแ้ รงเข้าปะทะลกู บอล - กอ่ นจะรับตอ้ งมองเหน็ ตำ� แหนง่ รอบๆ ตวั - ส่วนที่จะใช้รบั ลกู บอลต้องเป็นแนวเดยี วกับลูกบอล - ไม่ใช้แรงปะทะผ่านสว่ นที่จะรบั ลูกบอล (ปฏิบัตติ รงข้ามกับการสง่ ) - ลกู บอลตอ้ งอยู่ด้านหนา้ ภายใตก้ ารครอบครองทีจ่ ะเล่นตอ่ ได้ - ก่อนจะรับลูกบอลควรเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ีหลอกล่อหรือเพ่ือตรวจสอบต�ำแหน่ง ของคูต่ ่อสู้กอ่ นทุกครง้ั ชนดิ ของการรบั ลกู บอล 1. การรับลูกบอลทกี่ ลิง้ เรียดมากับพน้ื ดว้ ย - ฝา่ เทา้ - ขา้ งเท้าดา้ นใน - ข้างเท้าด้านนอก - หลงั เท้า การรบั ลกู บอลทเ่ี รยี ดมากับพื้น 182 ค่มู อื ผู้ฝกึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

2. การรับลูกบอลท่ีลอยมาในอากาศ (Volley) ดว้ ย - หลงั เท้า - หน้าอก - หน้าขา - ข้างเท้าดา้ นใน - ข้างเท้าดา้ นนอก - ศีรษะ การรับลูกบอลทลี่ อยมากลางอากาศ 3. การรบั ลกู บอลท่ีกระดอนจากพืน้ ดว้ ย (Half-Volley) - ฝา่ เทา้ - ข้างเทา้ ดา้ นใน - ข้างเทา้ ด้านนอก - หนา้ แขง้ - หนา้ ทอ้ ง 4. การโหม่งลูกบอล การรับลูกบอลทกี่ ระดอนพืน้ หมายถึง การใช้ศีรษะบริเวณหน้าผาก ซ่ึงเป็นส่วนท่ีแข็งท่ีสุดสัมผัสหรือปะทะลูกบอล เพอื่ การสง่ การทำ� ประตหู รอื เพอื่ การปอ้ งกนั โดยใชแ้ รงจากรา่ งกายผา่ นสว่ นของหนา้ ผากเขา้ ปะทะ แตล่ ะส่วนของลูกบอลเพ่ือให้ลูกบอลพ่งุ ไปในระดบั และทศิ ทางที่ต้องการ คู่มอื ผฝู้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 183

ความส�ำคัญของการโหม่งลกู บอล เป็นเทคนิคแบบหนึ่งท่ีผู้เล่นจะใช้เพ่ือความได้เปรียบขณะที่ลูกบอลลอยอยู่ในอากาศ และเปน็ ผลมาจากขอ้ กตกิ าการเลน่ ซงึ่ มขี อ้ กำ� หนดในการยกเทา้ สงู ในการเลน่ ใชเ้ พอื่ การสง่ การปอ้ งกนั และหรอื การทำ� ประตู ถงึ แมว้ า่ ในการเลน่ กฬี าฟตุ ซอลจะใชน้ อ้ ยมากแตก่ ต็ อ้ งฝกึ ผเู้ ลน่ ใหม้ คี วามชำ� นาญ ในเทคนคิ การโหม่งลูกบอล เพ่อื ความได้เปรยี บในทุกสถานการณก์ ารเลน่ - ตาต้องมองทล่ี กู บอลขณะท่จี ะโหมง่ - เอนตัวส่วนบนไปด้านหลังเพื่อเพิ่มแรงและจังหวะ - ส่วนของลำ� คอตอ้ งแขง็ แรงขณะทีโ่ หมง่ - ดีดตัวกลบั มาใช้หน้าผากปะทะท่ีลกู บอล - จดุ สมั ผสั อยตู่ รงกลางลกู บอลเพือ่ ส่งผ่านแรง หรอื - เหนือเส้นสมมตุ กิ ลางลกู เฉยี งลงพน้ื เพือ่ การทำ� ประตู หรอื - ปะทะส่วนใตล้ กู บอลเพ่อื ใหล้ อยโด่งเพือ่ ป้องกัน ชนดิ ของการโหม่งลูกบอล การโหม่งลูกบอล - การโหม่งเพ่อื ปอ้ งกัน - การโหมง่ เพื่อการส่ง - การโหมง่ เพอื่ การทำ� ประตู 5. การยิงประตู หมายถงึ การส่งลกู บอลเข้าสู่ประตคู ู่แข่งขนั หรือฝา่ ยตรงข้ามดว้ ยสว่ นตา่ งๆ ของร่างกาย ตามขอ้ ก�ำหนดของกฎกติกาการเล่น ความสำ� คญั ของการยงิ ประตู ผลของการยิงประตูน�ำไปสู่ชัยชนะของทีม การยิงประตูสามารถกระท�ำได้ท้ังลูกบอล ที่มาเรียดกับพื้นหรือลูกบอลท่ีวางน่ิงกับพ้ืน ลูกบอลท่ีลอยมาระดับล�ำตัวหรือกระดอนจากพื้น และลูกบอลท่ีลอยสูงกว่าล�ำตัว การจะใช้ส่วนใดส่วนหน่ึงของร่างกายเพื่อการท�ำประตูข้ึนอยู่กับ สถานการณ์ จังหวะและโอกาสที่เป็นปัจจัยสนับสนุน ผู้ฝึกสอนต้องจัดการฝึกให้ผู้เล่นปฏิบัติ จนเกิดเป็นปฏกิ ริ ยิ าทฉ่ี บั พลนั มีความแม่นยำ� และเต็มไปดว้ ยพลงั ในการยิงประตู 184 คู่มอื ผฝู้ ึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate

ชนิดของการยิงประตู ใช้ส่วนต่างๆ ของร่างกายเช่นเดียวกับการส่งและรับลูกบอล โดยข้ึนอยู่กับสถานการณ์ จังหวะ และโอกาสวา่ จะใชส้ ว่ นใดในการยงิ ประตูจงึ จะดที ่สี ุดในขณะนน้ั ส่วนส�ำคัญของการยงิ ประตู - ความแมน่ ย�ำ - ความเร็วและความแรง - ตามองเหน็ เป้าหมายและมองเน้นที่ลูกบอล ขณะที่ยิงประตู - ยิงประตูได้ทกุ จงั หวะและโอกาสที่มี - ความเปน็ อตั โนมตั หิ รือสัญชาตญาณในสถานการณ์ การยงิ ประตู 6. การฝึกเปน็ ผู้รักษาประตู เปน็ ตำ� แหนง่ พเิ ศษเพราะสามารถใชไ้ ดท้ กุ สว่ นของรา่ งกายทง้ั แขนและมอื ตลอดจนการลม้ หรอื พงุ่ ตวั เพอ่ื การปอ้ งกนั หรอื หยดุ ลกู บอลไมใ่ หเ้ ขา้ ประตู ซงึ่ นอกจากตอ้ งฝกึ เปน็ ผรู้ กั ษาประตแู ลว้ ยงั ตอ้ งฝกึ พเิ ศษเพิม่ เติมอีกคอื เทคนคิ และยทุ ธวธิ กี ารเล่นเช่นเดยี วกับผเู้ ลน่ ในสนามอีกดว้ ย สว่ นสำ� คญั ของการเปน็ ผู้รักษาประตู ตอ้ งใชไ้ ดท้ กุ สว่ นของรา่ งกาย เพอื่ หยดุ และปอ้ งกนั ลกู บอลไมใ่ หผ้ า่ นเขา้ ประตใู นสถานการณ์ ท่ีป้องกันและจ่ายลูกบอลและหรือการใช้เทคนิคของผู้เล่นเพื่อส่งลูกบอลพาลูกบอลไปยิงประตู ในสถานการณท์ ่ีทมี เป็นฝา่ ยรุก สิ่งที่เกีย่ วข้อง - การรบั ลกู บอล - การควา้ ลูกบอล - การปัดลกู บอล - การพงุ่ ตวั เพอ่ื ป้องกัน - การเปิดหรอื จา่ ยลูกบอล การฝึกผู้รักษาประตู คู่มอื ผฝู้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate 185

คุณลกั ษณะของผรู้ ักษาประตู เน่ืองจากเป็นต�ำแหน่งพิเศษที่บางสถานการณ์ต้องเส่ียงกับการบาดเจ็บ ในการฝึกซ้อม จงึ ตอ้ งทมุ่ เทและเสยี สละ เพราะนอกจากการฝกึ เปน็ ผรู้ กั ษาประตแู ลว้ ยงั ตอ้ งฝกึ เปน็ ผเู้ ลน่ ตอ้ งเรยี นรู้ เทคนคิ และยทุ ธวิธขี องผเู้ ล่นอกี ดว้ ย คุณลักษณะสำ� คัญคือ - ตอ้ งมีความกล้าหาญ - ต้องมีการตดั สินใจทด่ี ี - ต้องรวู้ ิธสี ือ่ สารและสื่อสารไดเ้ ป็นอยา่ งดี - มจี ิตใจและสมาธมิ น่ั คง - มกี ารคาดคะเนหรือการคิดลว่ งหนา้ เป็น - ตอ้ งรูแ้ บบแผนและวธิ ีการเล่น เพ่ือเล่นและ หรอื เพื่อจัดการแต่ละสถานการณ์ การฝกึ สอนยุทธวธิ กี ารเล่นกีฬาฟตุ ซอล การปอ้ งกันของผูร้ กั ษาประตู ยทุ ธวธิ ีการเลน่ กีฬาฟุตซอล หมายถึง วิธีการเล่นท่ีเกิดจากความคิดท่ีจะเล่นให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ในแต่ละสถานการณ์ โดยใชไ้ หวพรบิ สตปิ ญั ญาเปน็ ตวั กำ� หนดวธิ กี ารและใชเ้ ทคนคิ ทกั ษะของผเู้ ลน่ เปน็ เครอ่ื งมอื ขบั เคลอื่ นดว้ ย สมรรถภาพทางกายของผเู้ ลน่ ขอบขา่ ยของยุทธวธิ กี ารเล่น - ยุทธวธิ กี ารรุก - ยุทธวิธีการป้องกนั จุดสำ� คญั 1. ยทุ ธวิธเี ฉพาะบคุ คล เมื่อเปน็ ฝ่ายรกุ - ต้องเป็นฝา่ ยครอบครองลูกบอล - ใช้การเล้ียงหรอื พาลกู บอลสู่ประตูฝ่ายตรงข้าม - สรา้ งโอกาสและจงั หวะในการเลน่ ดว้ ยการหลอกคู่ตอ่ สู้ - ใช้หลกั การเลน่ ในสว่ นกว้างและส่วนลกึ ในการรกุ - ท�ำให้บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์โดยจบการรุกด้วยการยงิ ประตู 186 คู่มือผูฝ้ กึ สอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate

สะบัดลกู บอลข้ามหวั หมุน 360 องศา Pull Spin ยกลูกบอล ยทุ ธวิธกี ารเล่นเฉพาะบคุ คล (รุก) เม่ือใดก็ตามที่เป็นฝ่ายครอบครองลูกบอลต้องเล่นเพื่อการรุกทันที ซึ่งจะเก่ียวข้องกับ ยุทธวิธีการคิดและตัดสินใจปฏิบัติทันที โดยเป็นหน้าที่ของผู้ฝึกสอนที่ต้องให้หรือสร้างยุทธวิธี ในการคิดให้กับผู้เล่นไว้เบื้องต้น คือสิ่งแรกต้องคิดถึงส่วนลึกก่อนและเล่นให้เร็ว จะด้วย การยิงประตูทันทีถ้าโอกาสและจังหวะอ�ำนวยหรือใช้วิธีการเลี้ยง หรือพาลูกบอลรุกเจาะเข้าไป ท�ำประตู ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคิด การตัดสินใจ โดยเกิดมาจากเหตุและผลท่ีเป็น ข้อมูล ซึ่งได้รับจากการฝึกซ้�ำแล้วซ้�ำอีก เม่ือไม่มีโอกาสและจังหวะถ้าคู่ต่อสู้เข้าแย่งลูกบอลใช้วิธี การกำ� บงั ลกู บอล เพอื่ สรา้ งโอกาสใหมใ่ นกรณที ค่ี ตู่ อ่ สอู้ ยใู่ กล้ แตถ่ า้ คตู่ อ่ สอู้ ยหู่ า่ งมรี ะยะพนื้ ทมี่ ากพอ ต้องใช้วิธีการหลอกล่อ โดยการใช้เทคนิคแบบต่างๆหรือใช้อุบายด้วยการสร้างพื้นท่ีเพื่อการเล่น ทง้ั น้ีขึ้นอยกู่ บั ต�ำแหนง่ ของคู่ต่อสู้ การกำ�บงั ลูกบอล 187 คู่มือผ้ฝู กึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate

2. ยทุ ธวิธีเฉพาะบุคคล เมอื่ เป็นฝา่ ยป้องกนั - เมื่อเปน็ ฝา่ ยป้องกนั ตอ้ งอยหู่ ลงั แนวลูกบอล - ตอ้ งอยรู่ ะหวา่ งคู่ตอ่ สกู้ ับประตูทมี ตนเอง - พยายามแยง่ ลกู บอลกลบั คืนมา - ยับยัง้ ขดั ขวางการรุกของคตู่ อ่ สู้ - ทำ� ให้บรรลุวัตถุประสงคอ์ ย่าให้คตู่ ่อสมู้ ีโอกาสยงิ ประตู - ตอ้ งมคี วามม่นั ใจ อดทน รอจังหวะ และโอกาส - ไม่เลน่ ผดิ กติกา ยุทธวธิ ีการป้องกัน เม่ือใดก็ตามที่คู่ต่อสู้ครอบครองลูกบอล การป้องกันจะเริ่มขึ้น ยุทธวิธีการคิด หรือ กระบวนการทางความคิดท่ีจะเล่นเพ่ือการป้องกันต้องเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติทันที ส่ิงแรกคือ ตอ้ งกลบั มาหลงั แนวลกู บอลใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ ใหค้ ตู่ อ่ สอู้ ยดู่ า้ นหนา้ ขดั ขวางการรกุ มาขา้ งหนา้ ดว้ ยการขวาง การรกุ ต�ำแหนง่ ทขี่ ัดขวางต้องเปน็ แนวเดยี วกบั คตู่ อ่ สทู้ ่คี รองลกู บอลซึ่งอยดู่ า้ นหนา้ โดยด้านหลงั เปน็ ประตทู ่ปี อ้ งกัน (Inner line) สร้างโอกาสโดยการท�ำทา่ จะเขา้ แยง่ เพอ่ื กดดันคตู่ ่อสู้ รอโอกาส และจังหวะที่ลูกบอลห่างเท้าคู่ต่อสู้หรือคู่ต่อสู้เสียการควบคุมจึงเข้าแย่ง ใช้หัวรองเท้าให้เกิด ประโยชนใ์ หม้ ากในการปอ้ งกนั ดว้ ยการ “จมิ้ ทลี่ กู บอล” บอ่ ยๆ พยายามใหค้ ตู่ อ่ สพู้ าลกู บอลไปเลน่ ท่ี เสน้ ข้างเพ่อื เป็นการจำ� กัดพนื้ ทีก่ ารเลน่ ใช้ข้อกติกาการเลน่ มาชว่ ย 188 คู่มือผฝู้ กึ สอนกีฬาฟุตซอล T-Certificate

ไม่ว่าในขณะน้ันจะด�ำเนินยุทธวิธีการเล่นแบบใดอยู่ก็ตามสิ่งที่เป็นกุญแจส�ำคัญ ของการเดินยุทธวิธีก็คือ ความอดทนในสถานการณ์นั้นๆ ถ้าการหลอกล่อครั้งแรกไม่ได้ผล ยังต้องท�ำซ�้ำอีก จะแบบเดิมหรือเปลี่ยนแบบก็แล้วแต่เพราะมีผลทางด้านจิตวิทยาต่อคู่ต่อสู้ และต้องรักษาการครอบครองลูกบอลไว้ให้ได้ถ้าเป็นฝ่ายป้องกันความไม่อดทนกับสถานการณ์ จะก่อให้เกิดการกระท�ำผิดกติกาข้ึนซึ่งเป็นผลเสียจะเกิดตามมา คือ การถูกคาดโทษด้วยใบเหลือง หรือการลงโทษด้วยใบแดงจากผู้ตัดสินการเสียฟาล์วในระยะต่างๆ เป็นการให้โอกาสคู่ต่อสู้ใน การทำ� ประตูอีกด้วย คมู่ อื ผู้ฝกึ สอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate 189

ร ะบบและรูปแบบ การเลน่ กฬี าฟุตซอล ระบบการเลน่ เปน็ แคก่ รอบทก่ี ำ� หนดบทบาทหนา้ ทขี่ องผเู้ ลน่ แตล่ ะคน ซงึ่ มคี วามสามารถ ที่แตกต่างกันเพื่อให้การปฏิบัติบรรลุวัตถุประสงค์ บทบาทหน้าท่ีจะไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว ส�ำหรับผู้เล่น เป็นแต่เพียงแนวทางปฏิบัติของผู้เล่นแต่ละคนที่จะปฏิบัติในระหว่างเกมเท่าน้ัน เพราะโดยความเป็นจริงของกีฬาฟุตซอล ผู้เล่นจะมีการเคลื่อนที่เพื่อเปลี่ยนต�ำแหน่งการเล่น เกือบตลอดเวลา ดงั นน้ั ผูเ้ ลน่ จงึ ควรเรยี นรู้เกีย่ วกับระบบการเล่นทุกระบบและรปู แบบการป้องกัน ในภาพรวมของทุกแบบเป็นฐานขอ้ มลู เพอ่ื การฝึกกอ่ น ระบบการเลน่ (System) ระบบการเล่นกฬี าฟุตซอล • ระบบการเล่นแบบ 2-2 (Square) • ระบบการเลน่ แบบ 1-3 • ระบบการเลน่ แบบ 2-1-1 (L) • ระบบการเล่นแบบ 3-1 • ระบบการเล่นแบบ 1-2-1 (Diamond) • ระบบการเลน่ แบบ 4-0 190 คมู่ ือผูฝ้ ึกสอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate

1. ระบบการเลน่ แบบ 2-2 (Square) ระบบการเลน่ แบบ 2-2 (Square) เป็นระบบท่ีบันทึกไว้ว่าเป็นระบบแรกที่ใช้เล่นกัน เป็นระบบที่แบ่งต�ำแหน่งหน้าที่ชัดเจน ในการเลน่ คอื มผี เู้ ลน่ 2 คน ทำ� หนา้ ทรี่ กุ อยใู่ นแดนหนา้ เปน็ หลกั และผเู้ ลน่ อกี 2 คน ทำ� หนา้ ทป่ี อ้ งกนั อยู่ในแดนตนเองเป็นวิธีการเล่นที่ผู้เล่นไม่ค่อยช่วยเหลือกันมากนักในระหว่างรุก กับการป้องกัน ผเู้ ล่นท่เี ล่นระบบน้ตี อ้ งมีความสามารถในการเล่นในสถานการณ์ 1 ตอ่ 1 เป็นอยา่ งดี เพราะโดยวิธี ของระบบนผ้ี ู้เล่นจะตอ้ งเจอกบั สถานการณก์ ารเล่น 1 ต่อ 1 ตลอดเวลา 2. ระบบการเลน่ แบบ 1-3 ระบบการเล่นแบบ 1-3 191 คมู่ ือผ้ฝู กึ สอนกฬี าฟตุ ซอล T-Certificate

เป็นระบบการเล่นที่มีผู้เล่นท�ำหน้าท่ีป้องกัน 1 คน อยู่ในแดนตัวเองและมีผู้เล่น ท�ำหน้าท่ีรุกเป็นหลักอยู่แดนหน้า 3 คน เป็นวิธีการเล่นมีลักษณะที่ทีมฝ่ายตามหรือต้องการ ชัยชนะเพราะเน้นการรุกมากกว่า ผู้เล่นแดนหลังจะท�ำหน้าท่ีสนับสนุนโดยใช้การส่งลูกบอล ให้ผู้เล่นแดนหน้าและผู้เล่นแดนหน้าจะใช้ยุทธวิธีการเล่นด้วยความสัมพันธ์ท่ีดีของกลุ่ม ใชก้ ารเลน่ “ชิง่ ” ลกู บอลเขา้ ทำ� ประตู 3. ระบบการเลน่ แบบ 2-1-1 (L) ระบบการเล่นแบบ 2-1-1 (L) เปน็ ผลมาจากระบบการเลน่ แบบ 3-1 ซง่ึ ใชผ้ เู้ ลน่ หนง่ึ คนเลน่ อยรู่ ะหวา่ งผเู้ ลน่ ปอ้ งกนั 2 คน แดนหลังกับผู้เล่นท่ีท�ำหน้าท่ีรุกอยู่แดนหน้า 1 คน เป็นตัวเชื่อมระหว่างหลังกับหน้า เมื่อทีม เป็นฝ่ายรุก จะสนับสนุนผู้เล่นรุกท่ีเรียกว่า “ตัวเป้า” และเมื่อเป็นฝ่ายป้องกันจะท�ำหน้าท่ีหยุด การรุกเร็ว ของคตู่ อ่ สกู้ อ่ นทจ่ี ะถงึ ผเู้ ลน่ ทท่ี ำ� หนา้ ทปี่ อ้ งกนั บางครง้ั เรยี กวธิ กี ารเลน่ แบบนว้ี า่ ระบบตวั แอล (L) 192 คมู่ ือผู้ฝกึ สอนกีฬาฟตุ ซอล T-Certificate

4. ระบบการเล่นแบบ 3-1 ระบบการเล่นแบบ 3-1 ระบบนี้ก�ำหนดต�ำแหน่งหน้าที่ให้ผู้เล่นเล่นอยู่ในแดนหลัง 3 คน มีผู้เล่นรุกท�ำหน้าท่ี “ตัวเป้า” รุกร้อยเปอร์เซ็นต์ 1 คน ในแดนหน้า และจะท�ำหน้าท่ีเปิดพื้นท่ีว่างด้านใดด้านหน่ึง โดยการเคล่ือนที่ไปสู่ด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้พื้นที่ด้านตรงข้ามว่างและเพื่อให้ผู้เล่นจากด้านหลัง รกุ สทู่ วี่ า่ งมาแทนทเ่ี ปน็ การเลน่ ทต่ี อ้ งใชค้ วามสมั พนั ธท์ ดี่ ขี องผเู้ ลน่ และความแมน่ ยำ� ในจงั หวะการเลน่ 5. ระบบการเลน่ แบบ 1-2-1 (Diamond) ระบบการเลน่ แบบ 1-2-1 (Diamond) 193 คู่มอื ผู้ฝึกสอนกฬี าฟุตซอล T-Certificate