Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปีที่11 book 2560 UtSE

ปีที่11 book 2560 UtSE

Published by W ChanesKo, 2022-07-15 21:15:58

Description: ปีที่11 book 2560-Book-UtSE-2559-2560-05 (ปี2560)

Search

Read the Text Version

- 151 - แลว้ แต ่ ตรงนส้ี าำ นกั พทุ ธนา่ จะทาำ ได ้ อนั นไ้ี มใ่ ช่ คาำ ถาม แตว่ า่ เปน็ ขอ้ เสนอแนะเทา่ นน้ั เอง ขอ อนโุ มทนา ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ผมเหน็ ปญั หาตรงกนั กบั ทา่ นน ่ี ทา่ น อยากได ้ ๑ ป ี หรอื วา่ ๒ ป ี ด ี ทา่ นเสนอแนะ ได ้ บางทรี ะเบยี บมนั อยทู่ พ่ี วกเรา ฝากกนั แกไ้ ข ไดค้ รบั พระมหาภาสกร ปโิ ยภาโส คื อ อ ย า ก จ ะ ไ ด้ เ ท่ า กั บ อ า ยุ หนงั สอื เดนิ ทางเลย เพราะวา่ มากก็ ลบั มาทเ่ี ดมิ ถา้ จะไปวดั อน่ื ควรขออนมุ ตั ใิ หม ่ แตว่ า่ ถา้ จะไปวดั อน่ื ควร ขออนมุ ตั ใิ หม ่ แตว่ า่ ถา้ มาปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ทว่ี ดั เดมิ เนอ่ื งจากมเี งอ่ื นไขทางวซี า่ วซี า่ เขาใหแ้ คน่ น้ั เวลาจะมา ใหก้ ม็ าวดั เดมิ แลว้ กท็ างสาำ นกั พทุ ธฯ สามารถใชม้ ตเิ ดมิ ออกหนงั สอื นาำ วซี า่ เพอ่ื ทจ่ี ะมาวดั เดมิ ไดเ้ ลย โดยไม่ ตอ้ งไปขอเรอ่ื งใหม ่ ถา้ ทา่ นรปู นน้ั จะยา้ ยไปปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ทอ่ี น่ื อนั นเ้ี ปน็ เรอ่ื งสมควรทจ่ี ะตอ้ งขออนมุ ตั ใิ หม่ ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ทา่ นอาจารยเ์ จา้ คณุ ครบั มขี อ้ แนะนาำ ไหมครบั เสนอใหท้ างพวกผม ใชม้ ตเิ ดมิ ถา้ ทา่ นยงั อยทู่ ว่ี ดั เดมิ ทา่ น คดิ วา่ ไมม่ ผี ลกระทบเรอ่ื งใด ใชไ่ หมครบั ? พระเทพกติ ตโิ มลี ในเรอ่ื งน ้ี เปน็ สง่ิ ทด่ี แี ลว้ ถา้ ไมย่ า้ ยนะ ถา้ ยา้ ยกค็ วรทจ่ี ะแจง้ ไป แจง้ ไปทางมหาเถรสมาคม มอี นั หนง่ึ อาจารย ์ ถา้ พดู เรอ่ื งนก้ี อ็ ยากจะเรยี นใหท้ ราบ มพี ระรปู หนง่ึ มาจาำ พรรษาทซ่ี รู คิ โดยเหน็ วา่ จบ การอบรมพระธรรมทตู แลว้ ได ้ Passport ราชการ ไมร่ อู้ อกมาไดย้ งั ไง แลว้ มาจาำ พรรษา เหน็ วา่ มโี ยมนมิ นตม์ า แตว่ า่ ถามวา่ เปน็ สมาชกิ ของ ส.ธ.ย.หรอื ยงั เขาบอกวา่ ยงั ไมไ่ ดเ้ ปน็ แตอ่ ยากจะมารว่ มประชมุ อาตมากเ็ ลยปฏเิ สธ ไปวา่ ผทู้ ม่ี าทง้ั หมดนเ้ี ราเปน็ สมาชกิ ส.ธ.ย. ทง้ั นน้ั เขากเ็ ลยอา้ งถงึ ทา่ นอาจารยอ์ มร วา่ ไมไ่ ดเ้ ปน็ สมาชกิ ส.ธ.ย. เรากเ็ ลยบอกทา่ นเปน็ สมาชกิ ส.ธ.ย. ทนี เ้ี หตกุ ารณ ์ เหตผุ ลกค็ อื วา่ มาจาำ พรรษาอยทู่ ซ่ี รู คิ พวกเราไมร่ เู้ รอ่ื ง มเี หตกุ ารณเ์ กดิ ขน้ึ กอ่ นหนา้ น ้ี ถา้ พดู ถงึ ทา่ นอาจารยว์ เิ ลศิ หลายคนคงจะรจู้ กั นก่ี เ็ ขา้ สวสิ ไมไ่ ดแ้ ลว้ เพราะวา่ ไปๆ มาๆ อย ู่ ๒ – ๓ เทย่ี ว ไมม่ หี ลกั มแี หลง่ จะเอายงั ไงกนั แน ่ ทน่ี ก้ี ไ็ ปขอทางสถานทตู ใหส้ ถานทตู ชว่ ย เหลอื เกย่ี วกบั การจดั ตง้ั วดั ทน่ี ่ี แตบ่ งั เอญิ วา่ ทา่ นทตู เฉลมิ พล ทา่ นกลบั ไปแลว้ ตอนนท้ี า่ นเกษยี ณไปแลว้ ทา่ นก็ เลยบอกวา่ เรอ่ื งนไ้ี ดเ้ รยี นปรกึ ษาทา่ นเจา้ คณุ เทพกติ ตโิ มลหี รอื เปลา่ เพราะทา่ นเปน็ ประธานปกครองทเ่ี ขตน ้ี ทา่ น องคน์ ก้ี ไ็ มย่ อมตดิ ตอ่ มา ตกลงไมท่ ราบวา่ โดนแบลค๊ ลสิ ของรฐั บาลนไ้ี ดอ้ ยา่ งไร กป็ รากฏวา่ เขา้ ประเทศนไ้ี มไ่ ด้ คอื เดย๋ี วนม้ี นั กลายเปน็ เวา่ พวกทไ่ี ดพ้ าสปอรต์ ราชการมาน ่ี มกั จะมาขอจาำ พรรษาอยทู่ น่ี น่ั ทน่ี ่ี อนั นเ้ี ปน็ จดุ หนง่ึ น่ี พอดไี ดเ้ รยี นทา่ นเจา้ คณุ โสภณวชริ าภรณใ์ หไ้ ดท้ ราบแลว้ ถา้ หากไมม่ ตี น้ สงั กดั ทางนน้ี มิ นตม์ า สมมตนิ ะ คอื ไมม่ ี ประธานสหภาพพระธรรมทตู เซน็ รบั รองอยา่ งนจ้ี ะมาไดไ้ หมในอนาคต คอื ถา้ เขาขอมาไมถ่ กู ตอ้ ง อนั นค้ี อื ตวั ปญั หาท่ี เรายงั ไมม่ กี ฎระเบยี บในการกอ่ ตง้ั พทุ ธสมาคมหรอื ไมก่ ็ ไมม่ กี ฎระเบยี บทช่ี ดั เจนใหพ้ วกเราถอื ปฏบิ ตั ิ ในจดุ นท้ี า่ น ผอ.ดกู ฎระเบยี บทอ่ี าตมาตง้ั ขน้ึ มา จรงิ ๆ เคยเขยี นตง้ั แตส่ มยั ทา่ นทเ่ี ปน็ ลกู ศษิ ยว์ ดั มหาธาตุ ทเ่ี ปน็ อธบิ ดกี รมการศาสนา ตง้ั แตป่ ี ๔๐ กวา่ ทา่ นถามวา่ จะมกี ารรบั รองสถานภาพวดั ในตา่ งประเทศไดอ้ ยา่ งไร ทนี ก้ี เ็ ขยี นใหท้ า่ นไดท้ ราบวา่ ตอ้ งมกี ารตรวจสอบทกุ อยา่ งกอ่ นวา่ มคี ณุ สมบตั พิ รอ้ มหรอื เปลา่ อะไรทาำ นองน ้ี คอื ให้

- 152 - ทา่ น ผอ.พจิ ารณาในกฎระเบยี บทอ่ี าตมาเขยี นขน้ึ มา อยากจะใหเ้ ปน็ การกฎระเบยี บของการกอ่ ตง้ั พทุ ธสมาคมใน ตา่ งประเทศ มนั ควรจะตอ้ งมกี ฎระเบยี บในการกอ่ ตง้ั แลว้ เดย๋ี วถา้ หากวา่ ไมม่ นี ่ี จะเปน็ พทุ ธสมาคมเกดิ ขน้ึ เหมอื น ดอกเหด็ แลว้ มนั จะมปี ญั หาเรอ่ื งการดแู ลวดั ตา่ งๆ ถา้ มกี ฎระเบยี บถกู ตอ้ ง ใหม้ หี ลกั การวธิ กี าร มนั นา่ จะเปน็ ประโยชน ์ ใหท้ า่ นไปพจิ ารณา คอื ทง้ั หมดน ้ี ไมใ่ หพ้ วกเราเปน็ ผตู้ ดั สนิ ทอ่ี ยทู่ น่ี ้ี ใหเ้ ปน็ มหาเถรสมาคมมมี ตอิ อกมา ใหส้ าำ นกั พทุ ธเปน็ ผตู้ ดั สนิ ใครกต็ ามในอนาคต คนเรานจ่ี ะกอ่ ตง้ั พทุ ธสมาคมน ้ี อยากจะใหเ้ ขาไปตดิ ตอ่ ทส่ี าำ นกั งาน พระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาต ิ กฎระเบยี บมอี ยา่ งน ้ี อยา่ ใหพ้ วกเราเปน็ ฝา่ ยพดู เดย๋ี วเขาจะหาวา่ พวกเรากดี กนั อจิ ฉาตา รอ้ น ถา้ ใหพ้ วกเราเปน็ ผตู้ ดั สนิ ทน่ี ่ี เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ถา้ ไมเ่ หมาะสมน ่ี เรากร็ บั ไมไ่ ด ้ เมอ่ื รบั ไมไ่ ด ้ กจ็ ะหาวา่ เราอจิ ฉา ทางทด่ี กี ใ็ หท้ างนนู้ เพราะฉะนน้ั ทท่ี า่ นพดู เมอ่ื กใ้ี หเ้ ปน็ ทตู ทางศาสนา เพอ่ื ทจ่ี ะตรวจอะไรตอ่ มอิ ะไรสมควร มากๆเลย ถา้ เผอ่ื มมี า นอ่ี าตมาขอเสนอเรอ่ื งน้ี ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ เปน็ ขอ้ เสนอกบั ทา่ นอาจารยเ์ จา้ คณุ เทพฯ กบั เรอ่ื งทอ่ี าจารยเ์ สนอนน้ั เปน็ คนละประเดน็ พระมหาภาสกร ปโิ ยภาโส คอื ประเดน็ มนั เกย่ี วขอ้ งกนั ของอาตมาประเดน็ ชดั ๆ เลย คอื มต ิ มส. น ่ี ควรกาำ หนดอายใุ หช้ ดั เจนไหม ? เพราะในตวั มตเิ องกไ็ มไ่ ดก้ าำ หนดวา่ อนมุ ตั ใิ หม้ าปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ กป่ี ี เปน็ ความเขา้ ใจของเจา้ หนา้ ท ่ี ทก่ี รมการกงสลุ บางคนกบ็ อกวา่ ๓ เดอื น บางคนกบ็ อกวา่ ๖ เดอื น บางคนกว็ า่ ๑ ป ี บางคนกว็ า่ ๒ ป ี บางคนกว็ า่ ๓ ปี ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ขอ้ เสนอของอาจารยก์ ค็ อื ถา้ ไมไ่ ดย้ า้ ยวดั กใ็ หใ้ ชม้ ตเิ ดมิ แลว้ ใหท้ างเราออกหนงั สอื นาำ วซี า่ ให ้ โดยไมต่ อ้ ง รอมตใิ หม ่ เปน็ เรอ่ื งเจตนาดี พระมหาภาสกร ปโิ ยภาโส โดยมเี งอ่ื นไข มหี นงั สอื รบั รองจากเจา้ อาวาสเดมิ ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ผอู้ าำ นวยการกองเผยแผ ่ ไมม่ อี ะไรขดั ขอ้ ง เดย๋ี วกร็ บี ทาำ บนั ทกึ แลว้ กเ็ อาตามทท่ี า่ นวา่ แตเ่ งอ่ื นไขม ี คอื วา่ มหี นงั สอื จากเจา้ อาวาส มเี งอ่ื นไข ๕ ป ี รบั ทจ่ี ะไปปฏบิ ตั ิ สาำ หรบั ประเดน็ ท ่ี ๒ ทว่ี า่ มคี ณะทาำ งาน มผี ทู้ จ่ี ะทาำ การกลน่ั กรองใหก้ บั คณะกรรมการ มส. ไหม ผมขอ อนญุ าตกราบนมสั การทา่ นวา่ มคี รบั เขาเรยี กวา่ คณะเลขานกุ ารผปู้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทส่ี มเดจ็ พระสงั ฆราชอย ู่ ๕ รปู โดยมพี ระเดชพระคณุ ทา่ นเจา้ คณุ พระพรหมโมล ี เปน็ ประธาน แลว้ มที า่ นอธกิ ารเปน็ รองประธาน แลว้ มกี รรมการ กบั ทา่ นอกี ๓ ทา่ น ทง้ั ๕ คลา้ ยๆ กบั วา่ เปน็ ผกู้ ลน่ั กรองงาน ผทู้ จ่ี ะเสนองาน หรอื วา่ ผทู้ จ่ี ะทาำ ความเขา้ ใจ คลา้ ยๆ กบั วา่ เปน็ วปิ ทจ่ี ะเขา้ ไป มส. เรอ่ื งหลายๆ เรอ่ื ง เรอ่ื งทกุ เรอ่ื ง บางทขี ยบั ไมไ่ ดเ้ พราะวา่ ชดุ นท้ี า่ นไปดแู ลว้ วา่ มผี ลกระทบ มผี ลเสยี มากกวา่ ทา่ นกจ็ ะไมใ่ หน้ าำ เขา้ มส. หรอื ในเรอ่ื งไหนทน่ี า่ จะเปน็ ประโยชน ์ ทา่ นกจ็ ะไปอธบิ าย ไป นาำ เสนอทป่ี ระชมุ ให ้ มคี รบั มคี ณะทาำ งาน โดยมที า่ นเจา้ คณุ พระพรหมโมล ี และทา่ นอธกิ ารพระพรหมบณั ฑติ ครบั พระมหาภาสกร ปโิ ยภาโส จรงิ ๆ มนั มหี ลายเรอ่ื ง ถา้ จะใหด้ ี อาตมาวา่ ๕ รปู นไ้ี มพ่ อ อยา่ งเชน่ เรามตี วั แทน หรอื วา่ มผี เู้ ชย่ี วชาญ ฝา่ ยกฎหมาย ทค่ี อยใหค้ าำ แนะนาำ มหาเถรสมาคมไหม ? ถา้ เรามแี ตล่ ะฝา่ ยๆ มฝี า่ ยน ้ี มฝี า่ ยน ้ี กค็ อื มที ป่ี รกึ ษา เหมอื นอยา่ งแตล่ ะทม่ี ฝี า่ ยกฎหมาย ถา้ มนั เปน็ อยา่ งน ้ี ทา่ นควรจะออกไปในลกั ษณะอยา่ งน ้ี หรอื แมแ้ ตต่ วั แทน ฝา่ ยประชาสมั พนั ธส์ อ่ื สาร ในการทจ่ี ะสอ่ื สาร สมมต ิ เรามโี ฆษกมหาเถรสมาคม กอ่ นทโ่ี ฆษกมหาเถรสมาคมจะพดู อะไรยงั ไงออกไป ควรทจ่ี ะมอี ะไรชว่ ยทา่ น บางทสี ง่ิ ทท่ี า่ นพดู อยบู่ นพน้ื ฐานความเขา้ ใจของทา่ นเอก อยา่ งเชน่

- 153 - กรณวี า่ อะไรทม่ี ภี าพตดั ตอ่ ภาพทพ่ี ระเสกโทรศพั ท ์ ทา่ นบอกวา่ อาจจะภาพเปน็ ตดั ตอ่ นน่ั คอื ความคดิ ของทา่ น ถา้ เรามเี จา้ หนา้ ทท่ี ม่ี คี วามเชย่ี วชาญ ถา้ ยนื ยนั วา่ ภาพไมไ่ ดต้ ดั ตอ่ หรอื มวี ธิ อี น่ื ใด ทจ่ี ะพดู ไมใ่ หม้ นั เสยี อนั นค้ี อื ขอ้ แนะนาำ เทา่ นน้ั เอง ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ขอบพระคณุ ครบั และยงั มอี กี คณะ อยา่ งทผ่ี มไดก้ ราบนมสั การทา่ นวา่ มหาเถรสมาคมไดต้ ง้ั คณะทาำ งาน ครอบคลมุ ทง้ั ๖ ดา้ น บวกอกี ๑ กค็ อื เรอ่ื งพทุ ธมณฑลเปน็ ศนู ยก์ ลางพทุ ธโลก เรอ่ื งการปกครอง กม็ สี มเดจ็ วดั ไตรมติ ร เรอ่ื งศาสนศกึ ษา กม็ ที า่ นเจา้ คณุ พระพรหมโมล ี เรอ่ื งการศกึ ษาสงเคราะห ์ กจ็ ะมที า่ นอธกิ าร มจร. เรอ่ื งการเผยแผ ่ กจ็ ะมเี จา้ ประคณุ สมเดจ็ วดั พชิ ยญาตกิ าราม เรอ่ื งสาธารณสงเคราะห ์ กจ็ ะม ี วดั ยานนาวา สาธารณปู การ กจ็ ะมวี ดั ราชบพติ ร ทง้ั ๖ รปู ๖ ทา่ น กจ็ ะมคี ณะทาำ งานยอ่ ยของทา่ นกอ่ นทจ่ี ะนาำ เรอ่ื งเขา้ สมู่ หา เถรสมาคม ทง้ั ๖ ทา่ นนก่ี จ็ ะกลน่ั กรองดแู ลให้ ในสว่ นของทมี โฆษกในสว่ นของมหาเถรสมาคม โดยมพี ระเดชพระคณุ ทา่ นเจา้ คณุ พระพรหมเมธเี ปน็ หวั คณะทาำ งาน แลว้ กเ็ ปน็ ผแู้ ถลงทง้ั หมด ทา่ นกจ็ ะมที มี งานของทา่ น ทา่ นสมหมายคงทราบด ี เพราะวา่ จะรว่ มทาำ ขา่ วกบั เราตลอด แลว้ กย็ งั มใี นทมี โฆษกของสาำ นกั พทุ ธ กจ็ ะม ี ๓ ทา่ น กจ็ ะมที างทา่ น ดร.สมชาย ทา่ นอาจารย์ ประดบั แลว้ กม็ คี ณุ สมบตั ิ มอี ยคู่ รบั ทา่ นครบั แตว่ า่ อาจจะยงั ไมค่ รอบคลมุ ยงั ไงตอ้ งกราบขอบคณุ ในคาำ แนะนาำ เนอ่ื งจากเวลาเลยเพลมาพอสมควรแลว้ ทา่ นพธิ กี รครบั ขออนญุ าตกราบนมสั การ เดย๋ี วมอี ะไรทา่ นเขยี นเปน็ คาำ แนะนาำ มปี ระโยชน์ พระเทพโพธวิ เิ ทศ ขอ้ เสนอของทา่ นมหาภาสกร นา่ ฟงั แตว่ า่ จะสอดคลอ้ งกบั ทห่ี ลวงพอ่ พระเทพกติ ตโิ มล ี ทท่ี า่ นอยากจะใหม้ ี การจดั พระธรรมทตู ไปประชมุ ผอ. ทา่ นกร็ บั กอ็ นโุ มทนาแลว้ วา่ จะพยายาม เมอ่ื ตอนทป่ี ระชมุ เทา่ นน้ั แหละ พวกเรา กเ็ ตรยี มขอ้ เสนอไป อยากจะให ้ มส. ทาำ อะไร อยากจะเปน็ อะไร ใหท้ าำ อะไร แนะนาำ บา้ นเมอื ง ในตอนนน้ั สามารถ จะชแ้ี จง้ เตรยี มขอ้ มลู ไปใหเ้ หน็ วา่ พวกเรากเ็ ปน็ กาำ ลงั แตเ่ รยี นฝากนดิ เดยี ว กค็ อื เรอ่ื งของสาำ นกั งานประธานกาำ กบั พระธรรมทตู ไปตา่ งประเทศ เกย่ี วกบั พาส ปอรต์ ขา้ ราชการทท่ี างสาำ นกั งานพทุ ธ ออกตามขอ้ ฝกึ อบรมของมหาจฬุ าลงกรณฯ ของประธานสาำ นกั งานกาำ กบั ดแู ล เมอ่ื ออกหนงั สอื ใหไ้ ปแลว้ ไปทห่ี นง่ึ แลว้ ไปทาำ งานทห่ี นง่ึ หรอื ไมท่ าำ งานทใี ดเลย แตไ่ ปใชพ้ าสปอรต์ ในการทอ่ งเทย่ี ว หรอื จารกิ ไปอยา่ งทเ่ี มอ่ื กน้ี ป้ี รากฏขน้ึ หรอื ไดพ้ าสปอรต์ จากทห่ี นง่ึ แลว้ ไปอยอู่ กี วดั หนง่ึ กรณอี ยา่ งน ้ี หากเกดิ ขอ้ ขดั เคอื งของเจา้ ของท ่ี จากผใู้ ชพ้ าสปอรต์ นไ้ี ปในทน่ี น้ั ๆ ของทา่ น ในนามของสาำ นกั งานกาำ กบั ดแู ลพระธรรมทตู ไปตา่ งประเทศ ขอใหม้ หี นงั สอื มหี นงั สอื ไปถงึ ประธาน จะกอ่ ความราำ คาญจากทา่ นผนู้ น้ั หรอื ไมต่ รงประเดน็ ให้ แจง้ ไป ทางทา่ นประธานกส็ ามารถทจ่ี ะนาำ เรอ่ื งเสนอทา่ นผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาต ิ ถอนพาส ปอรต์ ได ้ อนั นม้ี ขี อ้ ตกลง ทางทา่ นเจา้ คณุ พระโสภณกจ็ ะทราบด ี เมอ่ื วานนไ้ี ดย้ าำ้ แลว้ วา่ สง่ิ ทส่ี าำ นกั งานจะชว่ ย เราไดน้ ่ี เปน็ ทป่ี รกึ ษาเรา ๓ แหง่ สาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาต ิ มหาจฬุ าลงกรณฯ สาำ นกั งานกาำ กบั ดแู ล พระธรรมทตู ไปตา่ งประเทศ ๓ ประเดน็ นแ่ี หละครบั อยา่ งผมไปอยอู่ นิ เดยี มพี าสปอรต์ นาำ้ เงนิ เยอะแยะ แตเ่ ราก็ ถอื วา่ ไปทาำ บญุ แตบ่ างทบี างครง้ั ไมไ่ ดท้ าำ บญุ หรอื เกนิ กวา่ นน้ั เรากแ็ จง้ ไปทางสาำ นกั งาน สาำ นกั งานกส็ ามารถถอน ไปแลว้ ๒ ใบครบั ผอู้ าำ นวยการสาำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ครบั เปน็ คาำ แนะนาำ และเปน็ ขอ้ เสนอแนะทผ่ี มจะนาำ ไปปฏบิ ตั ิ ขอบคณุ ครบั

- 154 - การประชมุ สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป (ส.ธ.ย.) สมัยสามญั ประจำาปี ครง้ั ท่ี ๑๐/๒๕๕๙ ณ วดั ศรนี ครนิ ทรวราราม สวติ เซอรแ์ ลนด์ วนั ท่ี ๒๑ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๓.๓๗ น. จาบกญั สชหีรภายาพนพามรผะธเู้ ขรร้ามรับทกตู าไทรถยวในายทมวปีุทยติ ุโารป ในคราวประชุมสหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวีปยุโรป สมยั สามญั ประจำาปคี รง้ั ที่ ๑๐/๒๕๕๙ ผู้ไดร้ ับพระราชทานสมณศักด์ิ ๑. พระวมิ ลศาสนวเิ ทศ (สาำ รวจ กมโล) วดั ไทยนอรเ์ วย ์ นอร์เวย์ ๒. พระโพธคิ ณุ วเิ ทศ (พยอม สุทสสฺ โน ป.ธ.๗) วัดพทุ ธวิหาร กรุงเบอร์ลนิ เยอรมนี ๓. พระครไู พโรจนภ์ าวนาวิเทศ (ชชั วาล ปญญฺ าธโร) วดั พทุ ธบูชา ฝร่งั เศส ๔. พระครูเมธชี ยาภิวัฒน์ (ไพทูล อตฺถวำโส ป.ธ.๖) วัดศรีนครนิ ทรวราราม สวิตเซอรแ์ ลนด์ ๕. พระครูศรธี ีรวิเทศ วัดพระธรรมกายปารสี ฝรัง่ เศส ๖. พระครภู าวนาจนิ ดาภรณ ์ (เดนมาร์ก) วดั พระธรรมกายเด็นมารก์ พระอุปัชฌาย์ ๗. พระครสู ิรพิ ทุ ธิวงศ์วิเทศ วดั พุทธาราม เบลเยยี ม ๘. พระครูภาวนาพทุ ธิวิเทศ (ชเนศร์ ชตุ นิ ธฺ โร) วัดพุทธปยิ วราราม เยอรมนี ๙. พระครภู าวนาพทุ ธธิ รรม วดั ธรรมกายบูโรส สวีเดน ๑๐. พระครูปลัดภาวนาวฒั น ์ วดั ธรรมกายคอร์ซวั ร ์ เดนมารก์ พระฐานานุกรม ๑๑. พระครูวจิ ติ รสรคุณ (บุญมา ปุญฺญานนฺโท ป.ธ.๖) วัดพุทธวหิ าร กรงุ เบอรล์ ิน เยอรมนี ๑๒. พระครวู นิ ยั ธรชนนิ ทร ์ เตชวนฺโต วดั ไทยสามัคคีวราราม ทิโรล ออสเตรีย ๑๓. พระครูธรรมธรกิตติเดช กติ ฺติเตโช วัดสนั ตวิ ราราม อ๊อฟฟงิ เงิน่ เยอรมนี ๑๔. พระปลดั เรวัต โชติวโร วัดสันติวราราม อ๊อฟฟิงเงิ่น เยอรมนี ได้รบั รางวัล ผนู้ าำ พทุ ธโลก ๑๕. พระมหาจำาเรญิ เขมวีโร วดั พุทธวิหารอัมสเตอรด์ ัม เนเธอร์แลนด์

- 155 - การประชมุ สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป (ส.ธ.ย.) สมยั สามัญประจำาปี คร้ังท่ี ๑๐/๒๕๕๙ ณ วดั ศรนี ครนิ ทรวราราม สวติ เซอรแ์ ลนด์ วนั ท่ี ๒๑ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๓.๓๗ น. เร่ือง “ปณธิ านการเผปยาแฐผก่พถารพะพเิ ศทุ ษธศาสนาในทวปี ยโุ รป” โดย พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี ป.ธ.๙, ราชบัณฑติ ) เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ที่ปรกึ ษาสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวปี ยุโรป ภาคบรรยายสด ขอโอกาส พระเดชพระคณุ ทา่ นเจ้าคณุ พระเทพพุทธมิ งคล ประธานคณะกรรมการบรหิ ารสหภาพ พระธรรมทูตไทยในทวปี ยโุ รป ท่านเจ้าคณุ พระเทพกติ ตโิ มล ี รองประธานคณะกรรมการบริหารสหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวีปยโุ รป และก็เจ้าอาวาสวัดศรีนครนิ ทรวราราม ซงึ่ เปน็ เจ้าของสถานท ่ี ทา่ นพระเถรานุเถระ ท่านผเู้ ขา้ รว่ มการประชมุ ทกุ ๆ รูป ขอเจริญพรญาติโยม สาธชุ นทม่ี าจากวัด จากที่ตา่ งๆ ทกุ ทา่ น ในโอกาสนี ้ กต็ ้องขออนโุ มทนา ต่อสหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวีปยุโรป ทไี่ ด้นิมนตก์ ระผมให้มา ปาฐกถาพิเศษในการประชมุ สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยโุ รปีน ้ี ท่ีวดั ศรนี ครินทรวรารามแหง่ นี ้ แลว้ ก็ กาำ หนดเร่ืองวา่ ปณิธานการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ซ่งึ กถ็ อื ว่ามเี ร่ืองใหญเ่ ป็นเรอ่ื งประเดน็ สำาคญั เพราะเป็น เร่อื งใหญ่ เป็นประเดน็ สาำ คัญ ก็เลยต้องรับนิมนต์ ทีร่ บั นมิ นต์นก้ี ด็ ้วยเหตุหลายประการ ประการตน้ ก็คอื ต้องการทจี่ ะมาแสดงความคดิ ความเหน็ หรือวา่ ไดม้ าพบกบั เพอ่ื นพระธรรมทตู ในต่างประเทศ ในโอกาสนี ้ แต่ ที่สาำ คญั อกี ข้อหน่งึ ก็คือ มกี ารประชมุ กันท่วี ดั ศรนี ครนิ ทรวรารามแห่งนี ้ ซึ่งมคี วามค้นุ เคยเกี่ยวข้องกับทา่ นเจ้า คุณพระเทพกิตติโมลีมาต้งั แต่ต้น ต้งั แตว่ ัดศรนี ครินทรวรารามยังไมม่ ี ตรงนย้ี ังไม่มี มอี ยทู่ ซ่ี ูริคในตัวเมอื ง อยู่ ตรงไหนกไ็ ม่รู ้ ตอนน้นั ทา่ นมาอยทู่ ี่ได้ปี ๒ ป ี ไดม้ าเยยี่ มเยียนทา่ น มารูจ้ กั ทา่ นเปน็ คร้ังแรก ทมี่ าประเทศสวิต เซอร์แลนด์ ตอนนนั้ บินจากมอ๊ สโค ไปรสั เซีย ไปซบี ีเรยี แล้วกไ็ ปมองโกเลยี มา กบ็ นิ เด่ียวมาทซ่ี รู ิคนี้ แลว้ ก็มา ขอนอนพักกับทา่ นเจา้ คณุ ตอนนัน้ กเ็ ปน็ ดร. พระมหาทองสรู ย์ ไม่รู้จกั ท่านหรอก แต่วา่ โยมพามาฝากให้นอน ด้วย กน็ อนด้วยกับทา่ น ก็คุยกัน กเ็ ป็นทช่ี อบพอกันมาตง้ั แต่บัดนนั้ จนถงึ บัดน้ ี เมือ่ มกี ารสรา้ งทว่ี ัดนี้ขึน้ กม็ า ท่นี ่หี ลายครงั้ หลายหน มากินมานอนอยนู่ ่แี หละ แตต่ อนหลงั นกี่ ข็ าดหายไปบา้ ง ๓-๔ ปี อะไรอย่างน้เี ปน็ ตน้ เพราะวา่ ไมค่ ่อยมเี วลานกั ถกู อัธยาศยั เพราะวา่ ท่านเปน็ พระท่มี ีความร ู้ มีความสามารถ เป็นพระทำางาน สำาคัญกค็ ือ เปน็ พระนักทาำ งาน และทาำ งานดว้ ยสมอง ทาำ งานด้วยความคิด ความคดิ เหน็ ค่อนข้างจะตรงกนั คือตรงไปตรงมา จรงิ ใจ ซือ่ สัตย์ แล้วก็มุ่งไปท่ีความเจริญพระพทุ ธศาสนาเป็นเบ้ืองแรก เปน็ เบื้องตน้ อันนีเ้ ป็นหลักสาำ คัญ เพราะฉะนน้ั ทา่ นจงึ

- 156 - ไดส้ ร้างวัดสรา้ งวา เจรญิ รงุ่ เรืองก้าวหนา้ เปน็ รูปแบบ เป็นตวั อยา่ งแก่ทา่ นทั้งหลายทอ่ี ยใู่ นสหภาพพระธรรม ทูตไทยในทวีปยโุ รปแหง่ นี้ และในขณะเดียวกนั กม็ ีพระธรรมทตู ไทย โดยเฉพาะประธานพระธรรมทตู ไทยในทวปี อเมรกิ า หลวงพอ่ ท่านกไ็ ดม้ ารว่ มประชมุ ในครงั้ นีด้ ว้ ย เรือ่ งทท่ี า่ นกาำ หนดให้พูด ก็คอื เรื่องปณิธานการเผยแผ่พระพุทธศาสนานนั้ พอมเี วลา ๒ – ๓ วัน กอ่ นทจี่ ะมา ก็คดิ วา่ มนั น่าจะมีเอกสาร เพราะฉะน้นั ก็เลยเขียนบทความพเิ ศษ เรื่องปณธิ านการเผยแผพ่ ระพทุ ธ ศาสนา แลว้ กน็ ำาเอาไฟลม์ าให้แกเ่ จ้าหน้า เจ้าหนา้ ที่ก็เกง่ มากนะ เอามาใหเ้ มอ่ื วานตอนเยน็ ตอนเขา้ มาเหน็ เป็นรปู เลม่ เก่งมาก กข็ ออนุโมทนาขอบคุณทางฝ่ายกองเลขาดว้ ย กส็ วยงามแหละ เพราะวา่ มตี น้ ฉบบั ไม่ ต้องเรยี งพมิ พ์ใหม ่ ถ้าเรียงพมิ พ์ผิด ก็เปน็ เรอ่ื งของอาตมาเอง พิมพผ์ ิดมาตง้ั แต่กรงุ เทพ พอพิมพ์เสร็จแลว้ ก็ เตรยี มตวั น่ังเครอ่ื งบินมาเลย เมื่อวานน้ี เพราะวา่ มีเวลาไมม่ ากนกั ออกจากน่ีไป ก็จะต้องไปท่ีมวิ นิค ไปท่กี รงุ ปราก เพราะวา่ ไปซื้อวดั ไวท้ ีก่ รุง ปรากอยู ่ ก็ยังไม่ได้พูดไดค้ ยุ อะไรกันมาก ทา่ นทงั้ หลาย เรือ่ ง ปณิธานการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนานนั้ ก็เรม่ิ ตน้ จากพระพุทธพจน ์ ซงึ่ เปน็ พระพทุ ธดาำ รสั ของพระพทุ ธเจ้า อนั นถี้ อื ว่าเป็นหลักสาำ คญั มากของพระธรรมทูต ก็คอื พระพุทธดาำ รัสทว่ี า่ พระพุทธดำารัส จรถ ภกิ ขฺ เว จาริกำ พหุชนหติ าย พหชุ นสุขาย โลกานุกมฺปาย อตถฺ าย หติ าย สขุ าย เทวมนสุ สฺ านำ ฯ ความจรงิ เขาเขียนยาวกวา่ นี ้ แต่ตดั ออก เพราะว่า มนั มีประเด็นที่จะตอ้ งอธิบาย สาำ หรับในการพูดในวัน นก้ี ็แคน่ น้ั ประเดน็ ต่อไปยงั มีอกี เยอะ แตก่ เ็ ปน็ ประเดน็ เกี่ยวกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนา แต่ประเดน็ เรื่อง เกีย่ วกับปณิธาน กเ็ ก่ียวข้องกับพระพุทธดาำ รสั น้ี จรถ ภกิ ฺขเว จารกิ ำ พหุชนหิตาย พหชุ นสุขาย โลกานกุ มปฺ าย พระพทุ ธเจ้าตรัสวา่ ดูก่อนภกิ ษทุ ้งั หลาย พวกเธอจงเทย่ี วจาริกไปเพ่ือเก้ือกลู เพ่อื ความสุข แกช่ นเป็น อนั มาก และก็ เพื่ออนุเคราะหช์ าวโลก อตฺถาย หิตาย สขุ าย เทวมนุสฺสานำ เพ่ือประโยชน์ เพอ่ื เกอ้ื กูล เพ่อื ความสุข แกเ่ ทวดาและมนษุ ย์ท้งั หลาย อนั น้ีถอื วา่ เปน็ พระพทุ ธดำารัส ทเี่ ป็นปฐมบทหรอื เปน็ ปฐมนิเทศ และเป็นปฐมนิเทศ คาำ ว่า พระพทุ ธดาำ รสั กร็ กู้ ันว่าเปน็ ดาำ รัสท่ีพระพุทธเจา้ ตรัสไว้ ท่พี ระพุทธเจา้ ตรสั ไว้เปน็ หลกั ปฐมนเิ ทศ เป็นการแสดงเบอื้ งต้น ก่อนทจ่ี ะสง่ สาวกไปประกาศพระศาสนาเป็นหลกั แล้วก็จัดเป็นปฐมบท คือ เป็นแนวทาง เบือ้ งต้นครง้ั แรกท่ีพระพุทธเจา้ ทรงนำาแนะใหพ้ ระได้นำาเอาไป แล้วก็ต้องตระหนัก ประพฤตปิ ฏิบตั ติ ามหลกั น ้ี น่ี คือความสำาคัญของพระพทุ ธพจนบ์ ทน้ี การทีจ่ ะไปเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาจะทไ่ี หนในโลก ต้ังแตย่ ุคของพระพทุ ธเจา้ เปน็ ตน้ มา พระพุทธเจา้ ตรสั วา่ จรถ ภิกฺขเว จารกิ ำ อนั น้ีถอื วา่ เป็นหลกั พระธรรมทูตก็ด ี พระปรยิ ตั เิ ทศ เป็นพระนิเทศ หรอื วา่ เป็น พระธรรม เป็นพระนักเทศน์ เป็นพระอะไรกแ็ ล้วแต ่ เกี่ยวกบั การเผยแผ่พระพุทธศาสนานัน้ ต้อง จรถ จารกิ ำ ท้งั หมด จงึ จะไดร้ ับความสำาเร็จ นัน่ หมายความว่า เท่ยี วจาริกไป ไมใ่ ช่อยู่กับที่ อยกู่ ับทไี่ ดไ้ หม ? ได ้ สาำ เรจ็ ไหม ? สาำ เรจ็ แต่กว้างไหม ไมก่ ว้างเท่าไหร่ แตป่ จั จุบนั นคี้ อ่ ยยังชวั่ หนอ่ ย กค็ ือว่ามสี ่ือ ในการที่จะให้ธรรมะท่ี เผยแผ่ออกไป กวา้ งไกลมาขน้ึ อยูก่ ับทกี่ พ็ อได้ แตว่ า่ แทท้ ีจ่ รงิ แลว้ ต้องเปน็ จาริก ำ ต้องจารกิ ไป พระพทุ ธเจ้า เอง ทรงประพฤติปฏบิ ัติอนั น้ดี ว้ ยพระองคเ์ อง ที่พระองค์ได้เผยแผ่พระพุทธศาสนา วางรากฐานพระพทุ ธศาสนา

- 157 - ได้กว้างไกลมาก ชว่ งระยะเวลา ๔๕ ปีนี ่ พระพทุ ธ ศาสนาเป็นหลกั ปึกแผ่นมาในชมภทู วปี ได้พทุ ธบรษิ ทั ๔ คอื ภิกษุ ภกิ ษุณ ี อุบาสก อบุ าสิก เตม็ พน้ื ท ่ี ใน ชมภทู วปี ใน ๑๖ แควน้ องั คะ มคธะ กาส ี โกส ละ วัชช ี มัลละ เจต ี วงั สะ อะไรตา่ งๆ อันนี้พระ รกู้ ัน ญาติโยมท้ังหลายทีเ่ รียนพทุ ธประวัตมิ ากพ็ อร ู้ เพราะฉะน้นั ก็จะไมพ่ ูดยา้ำ อะไรมาก แต่กท็ ี่พูดเนน้ ก็ เพ่ือให้เราท่านทั้งหลายได้รู้ว่าในฐานะท่ีเป็นพระธรรม ทตู เรยี กกันวา่ เป็นพระนกั เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา พระพทุ ธเจา้ ทรงมีพระพทุ ธปณธิ าน คาำ วา่ พุทธปณธิ าน ปณิธาน แปลวา่ อะไร ปณธิ าน แปลวา่ ความปรารถนา แปลวา่ ความต้ังใจ แปลได ้ ๒ อย่างนะ บาล ี แปลได้ ๒ อย่าง ความปรารถนา กไ็ ด้ แปลวา่ ความตง้ั ใจ ก็ได ้ เช่นเราปรารถนาอะไร ต้องการอะไร เราก็ตั้งปณิธาน เพ่อื จะใหไ้ ดส้ าำ เรจ็ สมประสงค์ อีกอนั หนึ่ง กค็ อื ความต้งั ใจ หมายความวา่ เราตัง้ ใจจะทำาอะไร ตง้ั ใจจะเปน็ อะไร ก็มคี วามกระเสือก กระสน ดิ้นรน ขวนขวาย พากเพยี ร พยายามทำา ไปจนกว่าจะสำาเร็จสมความมต้งั ใจ นน้ั เรยี กกันวา่ ปณิธาน ถ้าพูดถงึ เร่ืองการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาก็มเี หมือนกนั พระพุทธเจ้า ก็ทรงมคี วามปรารถนา และก็ทรง มคี วามตัง้ ใจ เรียกกนั วา่ เปน็ พทุ ธปณธิ านในการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ตอ้ งย้อนหลังว่าพระพุทธเจ้าออกบวชเพราะอะไร การออกบวชของพระพุทธเจ้านัน้ มงุ่ ไปทต่ี อ้ งการที่ จะรือ้ หรือขนสัตว์โลกให้พ้นจากความทุกข ์ ทุกขเ์ กดิ จากความเกิด แก่ เจ็บ ตาย พระพทุ ธเจ้าทรงเหน็ เทวทตู คอื คนแก ่ คนเจบ็ คนตาย และ เหน็ สมณะ ทรงคิดวา่ อือ่ ไอน่ ม้ี ันทุกข ์ นม่ี นั ลำาบาก เราเองก็เหมอื นกัน กจ็ ะตอ้ ง เกิด แก ่ เจ็บ แลว้ กต็ าย เรากจ็ ะตอ้ งแก ่ เจบ็ และตายเหมือนกนั ทรมาน เป็นทกุ ข ์ ลำาบาก ทรงเห็น สมณะ นักบวช บรรพชิตเขา้ ก ็ ออ่ื ไอน่ ี่แหละ เป็นทางแหง่ การพ้นทุกข์ได้กระมัง ? เพราะ ฉะน้นั พระพทุ ธเจา้ จึงทรงเห็น โดยยกตวั เองเป็นตวั อยา่ งวา่ แมเ้ ราก็จะตอ้ งเปน็ อย่างงเ้ี หมือนกนั เพราะ ฉะนน้ั ขอให้พ้นจากทกุ ขเ์ ถดิ จะพ้นไดย้ ังไง พ้นแก ่ พน้ เจบ็ พ้นตาย พน้ ได้ยงั ไง ก็เลยเสด็จออกบวช การ ออกบวชกค็ ือเพราะเหน็ ธรรมทูตท ี่ ๔ กค็ อื สมณะ ซ่ึงแปลวา่ นกั บวช ผ้สู งบ กเ็ สดจ็ ออกบวช ทรงด้ินรน ขวนขวาย ไม่ตอ้ งพูดละ ใช้เวลา ๖ ป ี บำาเพ็ญเพยี รทกุ เรื่อง ทกุ อยา่ ง ทุกประการ ถ้าหากวา่ เราเรียนศกึ ษามา แลว้ ร ู้ ถ้าอยใู่ นอนิ เดียยิ่งรู้มากขึ้น เพราะวา่ อะไร เพราะวา่ ไดม้ สี ถานที ่ ที่เจ้าชายสิทธตั ถะ หรอื พระพุทธเจ้า เสดจ็ ไปทน่ี ัน่ ท่นี ี่ จึงได้ตรสั รูเ้ ป็นพระพทุ ธเจ้า แล้วกท็ รงเทศนาสง่ั สอนกัณฑ์แรก คร้ังแรกแก่ปัญจวัคคีย ์ ตอ่ มากพ็ บพระยสะ เพื่อนพระยสะ พบพวก ภทั ทวัคคยี ์ พวกนกั บวช ๓๐ รปู อะไรต่างๆ จนกระท่ังโปรดชฏิลได้ ๑,๐๐๐ คน ไปทีเ่ มืองราชคฤห ์ แล้วก็ ทรงสง่ พระสาวกชุดนเ้ี ปน็ ชดุ ใหญ่ ไปประกาศพระศาสนา เรียกกนั ว่า เป็นพระธรรมทูต แทท้ ่จี รงิ ตอนทม่ี พี ระสาวกแค ่ ๖๐ องคน์ ี่ พระพทุ ธเจ้ากส็ ่งไปรนุ่ หนึ่งแล้ว แต่ว่า ถอื ว่ายังไมเ่ ปน็ ทางการ ตอนทเ่ี ปน็ ทางการก็คือ ทรงส่งไป โดยเฉพาะพระชฏลิ ๑,๐๐๐ องค ์ พระพุทธเจ้าทรงประกาศหลัก อุดมการณ์ หลักวธิ ีการ หลักอะไรตอ่ มิอะไร พระพุทธเจา้ ของเราได้ตรัสร้แู ลว้ กจ็ าริกไปแนะนำา ไปส่งั สอน รอ้ื ขนสัตว์โลก โปรดเวไนยสตั ว์ ตอนที่ สง่ ชฏลิ ไป แลว้ ก็กลุม่ พระสารีบุตรไป ๑,๒๕๐ องคไ์ ป ในวันมาฆบชู าทเี่ ราฟงั กันมานน้ั แหละ นน่ั แหละถือวา่ เปน็ พระธรรมทตู กล่มุ แรก ครัง้ แรกทพี่ ระพทุ ธเจา้ ทรงวางหลกั อดุ มการณ์ หลกั การ แล้วก็หวั ขอ้ ธรรมสาำ หรับไป

- 158 - เผยแผ่พระพุทธศาสนา ท่ีเราเรียกกนั ว่า “โอวาทปาฏโิ มกข”์ นน่ั แหละเป็นการรือ้ ขนสตั ว์ใหพ้ ้นจากโลก ถ้า ประพฤติปฏบิ ัติตามได้ นน่ั เป็น พระพทุ ธปณธิ าน พระพทุ ธปณิธานของพระพทุ ธเจ้าเป็นดังนี ้ เพราะฉะน้นั เราทา่ นท้ังหลายท่เี ปน็ นกั เผยแผ ่ นกั เผยแผ่ ทีม่ าในต่างประเทศเราเรยี กกันวา่ พระธรรมทตู ตา่ งประเทศ ก็จาำ เปน็ จะต้องยึดหลกั พระพทุ ธปณธิ านอันน้ใี หม้ น่ั คง ครบั ตอ้ งใช้คาำ วา่ “ใหม้ นั่ คง” ไม่อยา่ งนั้นจะไปเรียกว่าเป็นพระธรรมทตู ไม่ได้ จะเรยี กกันว่าเปน็ พระนกั เผยแผ่ไมไ่ ด้ นะครับ ตอ้ งบอกอย่างนน้ั เลย เพราะพระธรรมทตู ในสมยั กอ่ นน้นั ไมใ่ ช่เป็นพระธรรมดา เป็นพระอรหันตท์ ้งั หมด เพราะฉะนั้น ในตอนหลงั นี้ พระพทุ ธเจ้า ท่านทง้ั หลายเรยี นพทุ ธประวัตมิ า กเ็ รียนมาตาำ ราเดียวกับผม ท่านก็เรยี น ผมกเ็ รยี น ตำาราเดียวกัน แต่วา่ จะได้คิดหรือไม่ได้คิดอะไรก็แล้วแตน่ ะครบั ลองคิดดกู ็แลว้ กนั วา่ พระพุทธเจ้าคร้งั แรกเลย ปณิธานของพระพทุ ธเจา้ กค็ ือ ต้องการรอ้ื ขนสัตวใ์ หพ้ ้นทุกข์ นน่ั กค็ อื ให้เป็นพระ อรหันตท์ ั้งหมด การทจี่ ะพ้นจากทกุ ข์ได้กต็ อ้ งเป็นพระอรยิ บคุ คลระดับอรหนั ต ์ ตดั ความยึดมนั่ ถือมน่ั ท้ังหลายทั้ง ปวง ธรรมะท่ีพระพทุ ธเจา้ สอนครัง้ แรก จงึ เปน็ ธรรมะเพอื่ บรรลพุ ระอรยิ บคุ คล บรรลคุ วามเป็นพระอริยบคุ คล ระดับพระอรหันตท์ ัง้ สิ้น นะครับ ดไู ด้เลยครบั โปรดใครกเ็ ปน็ พระอรหันต์ พระอรหนั ต์ พระอรหนั ตห์ มด ตอ่ มา พระพุทธเจ้าทรงผ่อนธรรมะของพระองค์ลงมา ทรงผอ่ นธรรมของพระองค์ลงมา เพราะว่า ประชาชนท่ัวไป ทไ่ี ม่ไดเ้ ปน็ พระอริยบคุ คลกม็ ีอยู่ ทย่ี ังอยากจะครองบา้ นครองเรอื นก็ยงั มีอยู่ ยังมคี รอบครัวก็ ยังมีอย ู่ ยงั บวชไมไ่ ดก้ ม็ ีอยู่ มีเปน็ จาำ นวนมากนะ เพราะฉะนน้ั พระพทุ ธเจ้าก็ผ่อนธรรมของพระองคล์ งมา การ เทศนส์ อนของพระองค์นน่ั ก็ผ่อนธรรมะลงมาวา่ เออ่ ถ้าตอ้ งการไปพระนิพพาน เรยี กกันว่าไปสวรรค์สมบัต ิ ก็ ประพฤติปฏบิ ตั อิ ยา่ งนี้ ตอนแรกกอ็ ยู่ข้างบน ตงึ อยูข่ ้างบน ต่อมากค็ ่อยๆ ผ่อน เอาล่ะยงั ไมเ่ ป็นพระอรหนั ตก์ ็ ไม่เป็นไร เปน็ พระโสดาบันก็ได ้ เพราะฉะนน้ั อย่างนางวิสาขาก็ด ี อนาถปิณฑกิ เศรษฐกี ด็ ีใช่ไหม ? เหลา่ น้ีเปน็ โสดาบนั ไมเ่ ปน็ พระอนาคม ี สกทาคาม ี ไมไ่ ด้เปน็ เพราะฉะนนั้ เมอ่ื ผ่อนลงมา เอ้า ไม่ได้เปน็ อรยิ บุคคลระดับโสดาบันก็ไม่เป็นไร ให้อยูใ่ นหลัก ทาน ศีล ภาวนา ทาน ศลี ภาวนา พระพุทธเจา้ บอก เออ่ ใหท้ านกแ็ ลว้ กันนะ รกั ษาศลี กนั ก็แลว้ กัน ภาวนาเจรญิ ภาวนา ภาวนามี ๒ อย่าง คือ สมถภาวนา กบั วปิ ัสสนาภาวนา ถ้าหากว่าเจรญิ สมถภาวนา จติ หยดุ จิตนิ่ง จิตสงบ เอา้ ไม่ได้บรรลุมรรค ผล นพิ พาน อะไรก็ได้ฌาน กไ็ ม่เปน็ ไร เอากันแค่นน้ั กถ็ อื วา่ ใหท้ าน รักษา ศลี เจริญภาวนา ระดับสมถภาวนา ได้มนุษยส์ มบัต ิ ได้สวรรคส์ มบตั ิ แตไ่ ม่ถงึ นิพพานสมบัติ ออ่ื จะไปนพิ พานสมบัตไิ ด ้ ต้องวปิ สั สนาภาวนา อยา่ งเดียว จิตหลดุ จิตพ้น ถา้ จิตไมห่ ลุด ไม่พน้ ยังไง ยังไง อาตมา ๙ ประโยค มนั ก็ไม่หลดุ ไม่พ้น ไปพระนิพพานไม่ได้หรอก นะฮะ เพราะวา่ มันตอ้ งปฏบิ ัตใิ นระดับ จิตหลุดพ้น กค็ ือระดับวิปัสสนาภาวนา พระพุทธเจ้าทรงสอนระดบั สมถภาวนา สมถภาวนา ก่อนทจี่ ะไดต้ รสั รู้ เปน็ พระพทุ ธเจ้า พระพุทธเจา้ กไ็ ด้ฌาน ๘ มาแล้ว จากอาฬารดาบส กับท่าน อุทกดาบส ถงึ เนวสญั ญานา สญั ญายตนะ ซง่ึ เปน็ อรูปฌานท่ี ๔ ทรงชำานาญมาแล้ว อนั น้ีไมต่ อ้ งพดู ละ น่นั ก็คอื ธรรมะทพ่ี ระพทุ ธเจ้าทรงสอนในภายหลังนี่ก็คอื ทรงสอนชาวบ้าน กท็ รงสอนชาวบ้าน ทาน ศีล ภาวนา อันน้หี ลักนะครบั ตอ่ มากค็ อื ถา้ สอนพระ พระพทุ ธเจา้ สอนพระ ไมไ่ ดส้ อนเร่ืองทาน ศีล ภาวนา แตส่ อนเรอ่ื งไตรสิกขา ศีล สมาธ ิ ปัญญา คนละเรอื่ ง คนละอย่าง ส่วนใหญบ่ างทีพระเราน่นี ะ ก็เปะปะกันหมดเลยไม่รอู้ ะไรสอนชาว บา้ นกไ็ ตรสกิ ขา ไตรสกิ ขา ไตรสกิ ขาพระพุทธเจา้ เน้นไปพระ ชาวบ้านพระพทุ ธเจ้าเนน้ ไปท ี่ ทาน ศลี ภาวนา บญุ กิรยิ า ๓ อย่าง น่คี ือหลัก คอื หลกั พระพุทธศาสนา เมือ่ สกั ครู่นี ้ เมื่อตอนฉันเพล ก็คุยกับท่านเจา้ คุณพระเทพกติ ตโิ มลวี า่ เวลานพ้ี ระเราทงั้ ในประเทศไทย

- 159 - กด็ ี หรอื ว่าในตา่ งประเทศกด็ ี น่าจะเนน้ แลว้ แยกใหเ้ ปน็ แยกให้ถูก วิปัสสนาภาวนา แคไ่ หนเปน็ วปิ ัสสนา ภาวนา นง่ั หลับตาทำาสมาธิก็บอกปฏิบตั วิ ปิ ัสสนา ไม่ใชห่ รอกคนละเรือ่ งอนั นัน้ มันสมถภาวนา ไมใ่ ชว่ ปิ สั สนา ภาวนา เพราะฉะนน้ั ทกุ วันนคี้ นกเ็ ลยเข้าใจวา่ วิปัสสนามแี คน่ เี้ องเหรอ และอีกอยา่ งหนงึ่ กค็ อื เราสอนเร่ืองไตรสกิ ขา ศีล สมาธ ิ ปญั ญา ในระดบั ล่าง ในระดบั ตำา่ บอกว่า นเ่ี รากาำ ลงั ปฏิบัตไิ ตรสิกขา ปฏบิ ัติไตรสกิ ขากนั ฝรัง่ เคยถามอาตมาบอกว่า เอ๊ะ พระพทุ ธเจา้ รู้แคน่ เ้ี องเหรอ เปน็ พระพทุ ธเจ้า ร้แู ค่ไตรสิกขา นั่งหลบั ตาก็เป็นสมาธิแลว้ รู้เรื่องนนู้ น ้ี เรยี นมากอะไรมากกเ็ ป็นปัญญาแลว้ พระพุทธเจ้ารู้แค่น้ีเองหรอื ? ไตรสกิ ขาของพระพุทธเจ้าเลยตกต่าำ เลยครบั ไมม่ ีใครไดบ้ รรลเุ ลย เพราะว่าไม่รู้จรงิ อันนีอ้ ันตรายมาก เพราะฉะน้ันจำาเป็นท่จี ะต้องรู้ เข้าใจว่า บญุ กริ ิยาคืออะไร สาำ หรับใคร ไตรสิกขา คืออะไร สาำ หรับใคร นะครบั ไตรสกิ ขา พระพุทธเจา้ สอนพระ ไม่ไดส้ อนชาวบ้าน บอกไดเ้ ลย ไปดไู ดเ้ ลย ในพระไตรปฎิ ก ต้องละ ทรัพย์สินสมบัต ิ ออกบวช ถอื เพศออกบวช แล้วปฏบิ ัติตามหลักศีล มีอะไรบา้ ง จุลศีล มัชฌมิ ศีล มหาศีล น่ัน แหละ จนถึงมหาศลี แลว้ กถ็ ือว่าศีลบรสิ ทุ ธ ์ ตอ่ ไปก็ทาำ สมาธใิ หไ้ ด้ฌาน ได้ฌานแล้วจงึ ได้สมาธ ิ จากฌานแลว้ จงึ ยกข้ึนสู่ญาณ ญาณน่ันแหละเป็นเริ่มตน้ วิปสั สนา เร่มิ ตน้ กค็ อื ปุพเพนวิ าสานสุ ตญิ าณ ระลึกชาตไิ ด้ สูงสุด ก็คอื อาสวกั ขยญาณ กำาจดั กิเลสได ้ อนั นเ้ี ปน็ เรอ่ื งของ ญาณ เปน็ เรื่อง ของ ศลี สมาธิ ปญั ญา ในพระพุทธ ศาสนา ท่ีพระพุทธเจา้ ทรงสอน ถ้าหากวา่ เราจะสอนโดยการประยุกต์ไม่วา่ กนั แตก่ ต็ ้องบอกวา่ นีเ่ ปน็ ไตรสกิ ขา ระดบั ตา่ำ ได้ ไม่ใช่ของแท ้ ไม่ใชข่ องดั้งเดมิ ไม่ใชข่ องที่พระพทุ ธเจ้าทรงแสดงตัง้ แต่แรก มนั จะไดร้ ู้ไงว่า เออน่ี ระดับล่าง เป็นระดบั โลกยิ ะ ยงั ไมพ่ ้นขดี ครับ คนพน้ ขดี ครับ เหนือขีดนัน้ เรียกวา่ “โลกตุ ระ” ใต้ขีดเราเรยี ก “โลกิยะ” เหนือขีด โลกตุ ระ งา่ ยๆ เรยี นงา่ ยๆ เข้าใจง่ายๆ แตท่ าำ ยาก บรรลยุ าก อนั นั้นอีกเร่ืองหนึง่ ครบั เพราะฉะนน้ั เรอื่ งการเผยแผ่พระพุทธศาสนาน ี่ ท่พี ระพุทธเจา้ ทรงมีพระพทุ ธปณธิ าน พุทธปณธิ าน ของพระพุทธเจ้ากค็ อื ต้องการยกสัตวใ์ ห้ถึงไดร้ บั นิพพานสมบัต ิ แต่ต่อมาทรงแสดงธรรมให้ไดส้ วรรค์สมบตั กิ ็ได ้ มนษุ ย์สมบัตกิ ไ็ ด ้ การไดม้ นษุ ย์สมบัติ ก็คือ มีทาน ให้ทานกัน อะไรกัน บริจาคกันอะไรกนั แล้วก็ศลี รักษาใหไ้ ด ้ อยา่ ง น้อยเอา้ กม็ ศี ีล ๕ ศลี ๕ กไ็ มใ่ ช่ศลี ของพระพุทธเจา้ ไมใ่ ชศ่ ลี ของพระพทุ ธศาสนา บอกได้เลยนะ แตว่ ่าเรา มักจะไมร่ ู้ คอื ชาวโลก จรงิ ๆ นะ ศีล ๕ มนั มมี าก่อนพระพทุ ธเจ้า พระพทุ ธเจา้ ตอนเป็นพระโพธิสตั ว์ก็รักษาศลี พวกน้อี ย่แู ล้ว ศีลบารม ี กค็ ือ ศลี พวกนีแ้ หละ อาจจะมากกวา่ ศีล ๕ ด้วยซำา้ ไป หรอื อาจจะตา่ำ กวา่ ศลี ๕ ด้วย ซาำ้ ก็แล้วแต ่ แตเ่ ป็นศีล ศีลกค็ อื การประพฤติปฏิบัตเิ ปน็ ปกติ ไมก่ ่อความเดอื ดรอ้ นใหแ้ กใ่ คร ประพฤตติ าม ธรรม ประพฤตติ ามหลักธรรม กค็ อื มีเมตตา กรุณา เมือ่ มีเมตตา กรณุ า มนั กไ็ มฆ่ ่ากัน หรือประกอบอาชีพโดย สุจรติ เปน็ สมั มาชีพ คนมปี ระกอบอาชพี มฐี านะมันก็ไมล่ กั ไม่ขโมย หรือคนทม่ี ีกามสงั วร สาำ รวมในกาม ไม่มักมากในกามคุณในคูค่ รองของคนอื่น คนมนั กร็ กั ษาศีลข้อกาเมได ้ คนที่รักษาสจั จะ พดู จริง ทำาจรงิ มนั ก็ไม่ โกหก คนท่มี ีสติ ไมป่ ระมาท มันกไ็ มไ่ ปกนิ เหลา้ เมายา กแ็ คน่ ้นั แหละ ใช่ไหมละ? เบญจศลี ตอนหลัง เรากาำ หนดวา่ เบญจศีล-เบญจธรรม เบญจศีลคืออะไร เบญจธรรม เบญจธรรม เปน็ ตวั ค้ำาจนุ ให้เกดิ เบญจศีล ถ้าไมม่ เี บญจธรรมรกั ษาเบญจศีลไมไ่ ด้ บอกไดเ้ ลย เพราะฉะนัน้ เวลาที่เราพดู กนั ถงึ เรอ่ื งรกั ษาศีล ๕ อะไร ๕ ผมก็หัวเราะอื่อ อ่ือ กแ็ ค่น้ัน เพราะว่าผมไม่ไดเ้ ก่ยี วข้องอะไร แตผ่ มเขียน หนังสอื ไว้เล่มหนงึ่ รักษาศลี ๕ ศีล ๕ รักษาโลก เขาไปพมิ พ์แจกกันกแ็ ล้วแต่ ไม่พมิ พก์ ไ็ มว่ า่ กค็ อื ให้ร้จู ัก ศลี ๕ ว่า ว่าศลี ๕ มันคอื อะไร เรารณรงค์ให้รักษาศีล ๕ แตเ่ ราไมร่ ้จู ักศีล ๕ แลว้ จะไปรักษาไดย้ งั ไง จะ รกั ษาไดถ้ ูกต้องได้ยังไง เทา่ น้นั แหละครับ เอาเวลาน้อย ก็พดู ต่อ

- 160 - ทีนี ้ พระพทุ ธปณิธานเรื่องชว่ ย ชาวโลกนี่ เพ่ืออะไรครับ เพือ่ อัตถะ หิตะ แลว้ ก ็ สุขะ อตถฺ าย หติ าย สุขาย เทวมนุสฺสานำ กค็ ือ เพือ่ ประโยชน์ เพ่ือ เก้ือกลู เพ่ือความสุข แกเ่ ทวดาและ มนุษย์ทั้งหลาย ตรงนี้เป็นหลัก ในฐานะ ท่ีเป็นนักเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ทา่ นทง้ั หลาย ตอ้ งเอาตวั นี้เป็นหลกั กอ่ น อยา่ ง ทา่ นทง้ั หลาย มาตา่ งประเทศกด็ ี หรืออะไร กด็ ี ตงั้ เป้าหรือยัง สาำ คัญตรงนน้ี ะครับ เม่ือเชา้ นีท้ ่ีท่านถามทา่ นพนม ศรศลิ ป์ (สอ ระ สิน) สอ ระ สิน ไมใ่ ช่ สอน สิน เขาอา่ น สอ ระ สิน ถามทา่ นพนม ศรศิลป ์ เรื่องนน้ั เร่ืองนี ้ ผม กค็ ยุ กับท่านเจ้าคุณเทพกติ ติโมลี อ่ือ ปญั หามนั เยอะ แตจ่ รงิ ๆ แกไ้ มย่ ากหรอก คยุ กบั หลวงพ่ออเมรกิ า กบ็ อกวา่ คยุ กนั มาก่อนแลว้ เรือ่ งน้ีคยุ เคยพดู กันมาเป็น ๑๐ ป ี ๒๐ ปีแล้วครับ แตว่ ่า เขาไมค่ อ่ ยรับร ู้ ทุกอยา่ งมนั อยทู่ ่ี นโยบาย อย่างเดียวครับ เราขาดนโยบายการต่างประการ คนทจ่ี ะกำาหนดนโยบายไดก้ ค็ อื มหาเถรสมาคม ทุกวนั น ้ี มหาเถรสมาคมยังไมม่ นี โยบายเก่ยี วกบั พระธรรมทตู ต่างประเทศโดยชัดเจน เทา่ นัน้ แหละ ปญั หามนั เกดิ ข้ึนมากมายกา่ ยกองร้อยแปดพนั เกา้ ท่พี วกท่านผจญกนั นั้น เพราะไม่มนี โยบาย ถ้ามีนโย บายแล้วมันจบครบั ไมม่ ีปัญหาอะไร ทุกอย่างมันอยทู่ ี ่ นโยบาย ถ้ามนั มีนโยบายชัดเจนเกยี่ วกับการตา่ งประเทศ นโยบายมีไหม เขาก็บอกว่ามี มีแลว้ มีกฎมรี ะเบยี บ มแี มก่ งมีกอง มจี รงิ ครบั แต่ว่านโยบายมหี รือยงั นโยบาย กับ แนวคิด ไม่เหมือนกันนะครับ พดู อย่างทีว่ ่านี่ พอเสรจ็ เรียบร้อย เรอ่ื งไอ่โน่น ไอ่น ่ี เร่ือง พาสปอรต์ เร่อื งวีซา่ เร่อื งอะไรต่างๆ น ่ี แกไ้ ม่ได ้ ก็เพราะมันไมม่ ีนโยบายเทา่ นน้ั แหละ ถา้ มนี โยบายเสียแล้ว มนั ก็เดินตามนโยบาย เพราะมนั ไมม่ ีนโนบาย พวกท่านทง้ั หลายน้เี กง่ มาก ตอ้ งบอก ออ้ื หือ สดุ ยอด เปน็ พระ นักเผยแผ่ เป็นพระธรรมทตู ท่ีเกง่ มาก กค็ อื มาลยุ กันได้น่ีไม่ใช่ธรรมดานะครับ เพราะฉะน้ัน แต่มาลุยมาเองก็ มีฐานเปน็ ของตัวเอง ก็คอื วดั ใครวดั มนั มีฐานอยูท่ ี่กรุงเทพ มาจากไหน มาจากนู่น มาจากนี่อะไรตา่ งๆ มาส รา้ งกนั มาอะไรกนั รุน่ เก่า รุน่ แก ่ มาจากวัดมหาธาต ุ น่นู ไปสรา้ งทไ่ี หน เร่มิ ต้นวดั พทุ ธประทีป ท่ีลอนดอน ไปท่ี อเมรกิ า ไปท่ีวัดไทยแอลเอ แล้วก็ไปที่พุทธคยา น่ันนะแหละ รุน่ แรก พอร่นุ ต่อมากว็ ัดสระเกศ ไปวางนู่น วางน่ ี เอา้ ต่อมาวัดมหาธาตุกส็ ืบตอ่ หลวงพ่อพระธรรมโกศาจาร ย์ หลวงพอ่ ชอบ ใช่ไหมครับ ผมเปน็ คนทชี่ อบลุยครบั ลุยไปดูตรงนนู้ ตรงน ้ี ตอ่ มากว็ ัดธรรมกาย เม่อื กอ่ นผม ไม่ลุยครบั ตอนหลงั ผมลุยเอง เออ่ ผมเหน็ สถานการณ์ในประเทศมนั ชกั ยุง่ แฮะ เอา้ เราไปบา้ ง ผมก็เลยมาวางไว้ เยอรมนั ครับ แล้วกไ็ ปทป่ี ราก ทีเ่ ช็ค ๔ จุด ผมบอกพอแลว้ อายมุ ากแล้ว ลุยไมไ่ หว แตว่ า่ ทีจ่ ะพดู น้กี เ็ พ่ือนโย บาย เพื่อใหก้ ารคณะสงฆ ์ เพ่ือให้พวกท่านทงั้ หลายได้สืบสานต่อ กค็ อื เพ่ือประโยชน ์ นะครับ ท่านทัง้ หลายตอ้ งมีเป้าหมาย เวลาทาำ งาน ต้องอัตถะ หติ ะ สุขะ เพ่อื ประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้ง หลาย บางทเี รากไ็ มไ่ ด้คำานึงถงึ เทวดานะครับ เมื่อวานน้ีวัดศรีนครินทรวรารามนึกถงึ เทวดา เอารปู หลวง พอ่ หลวงปู ่ เอารูปรัชกาลที ่ ๕ น่ันเทวดานะครับ ตายไปแลว้ เปน็ เทวดา มรณภาพแลว้ เป็นเทวดา เอาเหอะ เราว่าเป็นเทวดา เป็นทิพย์ ปกปกั รักษาคุม้ ครองเรา เป็นเทวดาใกลต้ ัวเรา ป่ยู ่าตายายเรา เป็นเทวดาใกลต้ ัวเรา เพราะฉะนนั้ เราทำาบญุ อทุ ศิ ไปให้แก่เทวดา กค็ อื ทาำ บุญอทุ ศิ ให้แก่ปยู่ า่ ตายาย ให้แก่บรรพบุรษุ ใหแ้ กผ่ ู้มพี ระคณุ

- 161 - ต่อพระพทุ ธศาสนา ถ้าท่านยังไม่ได้บรรลุมรรค ผล นพิ พาน อะไรท่านก็เปน็ เทวดา และรวมถึงเทวดาที่ตกระกำา ลาำ บากอะไรตา่ งๆ ขอส่วนบญุ อะไรตา่ ง หรอื ว่าเทวดาทีม่ เี มตตาธรรมคอยปกปกั รักษาแผ่นดนิ เช่น จาตมุ มหา ราชกิ าเทวา ตรงนี ้ เราอุทิศไปให้แกเ่ ทวดา นน่ั แหละครับ อัตถายะ เพ่ือประโยชน ์ แก่เทวะและมนษุ ย์ เขาบอกเฮย้ เทวดาไมม่ ี ถ้าเทวดาไมม่ ีนะท่านทง้ั หลาย เวลาพิมพพ์ ระไตรปิฎกนะตัด ฉีกคำาวา่ เทวะ ออกซะครบั บอกวา่ ไมม่ ีจริงๆ กป็ ฏิเสธเลยว่าพระพทุ ธเจา้ ตรสั ผดิ เทวะไมม่ ี ไมม่ ใี ส่ไวท้ ำาไมเล่า ใช่ไหมเล่า ? ทีเ่ ราใสไ่ ว ้ เพราะเราช่อื วา่ ม ี มีครบั มนษุ ยท์ ว่ั ไป เอ้า เพื่อประโยชน์ อตั ถะ หติ ะ สุขะ เขาม ี ๒ สำานวน สมัยโบราณ คาำ วา่ อตั ถะ หติ ะ สุขะ น่ ี อตั ถายะ หติ ายะ สขุ ายะ มงุ่ พระนพิ พานอย่างเดียวเลยครับ มุง่ พระ นพิ พาน ตามพทุ ธปณิธานเบ้อื งต้น แต่ต่อมาน ่ี เราก็ตอ้ งมงุ่ ตอ่ มาว่า เออ่ เพื่อสวรรค์ เพือ่ มนษุ ย์สมบัต ิ กค็ ือ ทุกวันนี้เรามาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนากัน เพื่อสงเคราะห์เทวดาและมนุษยแ์ ละท้ังหลาย ใหเ้ ทวดาทง้ั หลาย ได้มี อตั ถะ ให้มีหติ ะ ให้มีสขุ ะ อตั ถะ กค็ ือ สงเคราะห์ดว้ ยประโยชน์เลยครบั อัตถะ แปลวา่ ประโยชน ์ ให้ปัจจัย ๔ เล้ียงข้าว เลย้ี ง นา้ำ กนั ไอน่ นู่ ไอน่ ี่ อะไรต่างๆ น่ีครบั น่เี ขาเรยี กอัตถะ ใหป้ ระโยชน์ ขาดแคลนปจั จยั ขาดเส้ือผา ขาดท่อี ยู่ อาศัย ไม่มที ี่อาศัยมา มาวดั อะไรตา่ งๆ เราสงเคราะห ์ อนเุ คราะหช์ าวบา้ น วัดจงึ เปน็ โรงพยาบาล พ่งึ ได้ ต้งั แต่เกิดจนตาย ตายแลว้ เอาศพมาวัด เผา สวดให้ เผาให้ น่นั แหละ เขาเรยี ก อตั ถะ ให้ประโยชนโ์ ดยตรง ส่วน หิตะ แปลว่า เกอ้ื กลู ไอน่ ้โี ดยอ้อม ไม่ใช่ประโยชนโ์ ดยตรง เชน่ การแนะนำาสงั่ สอนใหเ้ กิดปญั ญา ให้เกิดความร ู้ นะฮะ มอี ะไร มคี วามทอ้ แท ้ ไมอ่ ยากทำางาน หรือว่าเป็นคนเกยี จครา้ น คอื พูดง่ายไมอ่ ยากจะอยู่ ในโลกแล้วละ หรอื วา่ อยใู่ นโลกกอ็ ยอู่ ยา่ งสบายๆ เกียจครา้ นอะไรต่าง ๆ อย่างน้ีเขาเรียกเกอ้ื กลู เขาขาดเหลือ อะไร เราเสรมิ โดยเฉพาะอยา่ งทเี่ ราเทศน์สอนชาวบา้ นนะครบั แนะนาำ ชาวบา้ น บอกชาวบ้านเขา อะไรเขา อนั น้ันเป็นหิตะครบั เกอื้ กลู เก้ือกูลแกช่ าวบ้าน จรงิ ๆ แลว้ ชาวบา้ นเขาก็มีอยูแ่ ลว้ ครับ แต่เราไปเพมิ่ พนู ใหเ้ ขา เสรมิ ใหเ้ ขา เขามคี วามรธู้ รรมะอยู่บ้าง พอ่ แม่เขากส็ ่งั สอน ปู่ยาตายายเขาก็สง่ี สอนมาบา้ งแลว้ เอ้าเรากไ็ ป เสรมิ ให้เขา นเี่ ขาเรียกวา่ หติ ะ สว่ น สุขะ ใหค้ วามสขุ ก็คอื ให้เขาสบายกาย สบายใจ ครับ สบายกาย สบายใจ เวลาเขาเศร้าโศก เสยี ใจ ไปปลอบใจเขา ไปบอกเขา ไอน่ นั่ ละนะเป็นเรือ่ งธรรมดา ความตายเปน็ อยา่ งนั้น อยา่ งง ้ี อย่างง ้ี ใหเ้ ขา สบายใจได้ และใหเ้ กิดความสุข หรือวา่ ในเรือ่ งอ่นื ให้เขาเกดิ ความสบายใจ อย่างมาวัดอย่างง ี้ ตอนรับเขาด้วย นำ้าทา่ อะไรตา่ งๆ ให้เขาก็สบายใจ หายหิว สบายกาย หายหิว หิวน้าำ มา เออ่ ปวดปสั สาวะ ปวดอะไรต่างๆ เอ้ า มีห้องนำ้าให ้ อะไรให้ ไอน่ ี้ก็สขุ ท้งั นัน่ แหละ เพราะฉะนนั้ การที่พระเราออกมาเผยแผค่ รบั มงุ่ อยา่ งน้แี หละครบั มุ่งอตั ถะ มงุ่ หิตะ แลว้ กม็ งุ่ สขุ ะ เอา นีเ้ ป็นตวั ตัง้ อยา่ งอ่ืนเปน็ ตวั รองหมด ของพระพทุ ธเจ้า ต้องเอา ๓ ตวั นีเ้ ป็นตัวต้ัง เป้าหมาย ความจริงผมกเ็ ขียนไว้ในน้พี อสมควรแล้วแหละ ทีน ้ี คุณสมบตั ิของพระนกั เผยแผ ่ เราเรยี นกันมาอะไรกนั มา นกั ธรรม เป็นพระธรรมทูต เป็นอะไรกา่ ย กอง ไมพ่ อละครบั ทว่ี า่ น ้ี ผมกบ็ อกไปแล้ว บอกว่า มันตอ้ งมีนโยบาย จรงิ ๆ เรอ่ื งแกไ้ ขพาสปอร์ต ไม่ใชเ่ รอื่ ง ยากเร่ืองเย็นอะไรหรอกครับ แกง้ า่ ย พูดก็ง่าย ทาำ กง็ ่าย แตว่ า่ ต้องมีวิธีวา่ ทำาอยา่ งไรมนั ถงึ จะได้ ยกตัวอย่างเช่น พาสปอร์ตราชการ ไม่ตอ้ งทาำ วซี ่าอะไรมนั ง่าย พระบวชใหมย่ งั มี โอ้โห เจ้าคณะจงั หวดั ยังไมม่ เี ลยครับ ขอยงั ไมไ่ ด ้ เขาบอกวา่ ยงั ไมม่ สี ิทธ์ ิ แลว้ ทพี ระบวชใหม่มันได้ได้ยังไง เอาส ิ ไปอบรมพระธรรม ทตู ๓ เดือน พออบรมเสรจ็ ได้พาสปอร์ตราชการ ผมบอกนี่แหละมันผดิ เพราะฉะนั้น เธอไดพ้ าสปอรต์ แล้ว เธอกเ็ คว้งคว้างใช่ไหมละ ไปนนู่ ไปน่ ี มาขออาศยั ทว่ี ัดนกี้ ็ไมย่ อม เออ่ ถกู ต้อง ยอมไมไ่ ด้ ไม่ได้รบั ลงรบั รอง

- 162 - อะไรต่าง แต่มีพาสปอรต์ อยา่ งนีเ้ ป็นต้นครบั คอื ทกุ วนั นีม้ ันค่อยตรงเทา่ นั้น ไม่อยากพูดมาก พูดมากไปพวก ก็เกลียดมากกวา่ น้ ี มันไมต่ รง เท่าน้นั แหละ คอื เราตอ้ งมีคณุ สมบตั ิ จรงิ ๆ แล้วหลกั คุณสมบตั ิ พระพุทธเจ้าสอนไว้แลว้ ครบั ในมงคลสูตร เราสวด กันตลอดมา สวดเปน็ สวดได้ โยมก็สวดได ้ นะครับ มงคลสตู ร อเสวนา จ พาลาน ำ ปณฑฺ ิตานญฺจ เสวนา มันมอี ยหู่ มวดหนึง่ ครบั สำาหรับทำางานเลยเฉพาะเลย ท่านทัง้ หลายจะเปน็ นักเผยแผ่ จะเปน็ นกั ปกครอง จะเป็น พอ่ คา้ เป็นอะไรกแ็ ลว้ แตเ่ ถอะ ให้อย่ใู นหมวดนี้ เจริญได้ท้ังนั้นแหละครับ เป็นสริ มิ งคล คำาว่า มงคล มงคล แปลวา่ เหตใุ หเ้ กิดความเจรญิ สิ่งท่ีทาำ ให้เกดิ ความเจรญิ สิ่งท่ีทำาใหม้ คี วามเจริญ ความก้าวหน้า มงคลนนี่ ะ เพราะฉะนน้ั ใครมีสมณศักด์ิ เปน็ มงคล มงคล ก็เอา ทำาให้ชาวบา้ นเจรญิ เจริญ มงคลสูตร นะครบั มีอยู่ ๔ คำา บาทคาถาหนง่ึ พาหุสจจฺ ญฺจ สิปปฺ ญจฺ วินโย จ สุสกิ ขฺ โิ ต สุภา สิตา จ ยา วาจา เอตมฺมงคฺ ลมตุ ตฺ มำ เทา่ นีแ้ หละ ปฏบิ ตั ิให้มันไดเ้ ถอะ เป็นพระธรรมทตู เปน็ พระนกั เผยแผ ่ เปน็ นักปกครอง เปน็ ผู้นำาประเทศ เปน็ ผู้นำาโลกขนาดไหน เจริญหมด รบั รองได้เลย พระพุทธเจ้าตรสั ไมผ่ ิดหรอก ครับ แตไ่ ปสวรรค ์ นิพพานไมไ่ ดน้ ะ ไมเ่ ก่ียวครับ ถา้ ไปสวรรค ์ นพิ พาน ต้อง วรรคสดุ ท้าย เขม ำ วิรช ำ จิตตฺ ำ ไปนูน้ แหละ น่ันแหละถงึ พระนิพพาน แต่ ระดบั พาหุสจจฺ ญจฺ สิปปฺ ญฺจ มอี ยู่ ๔ หวั ขอ้ ธรรมะครบั ฝากสัน้ ๆ เราแปลอย่างหน่งึ นะครบั แต่ขยายความ อีกอย่างหน่งึ ต้องตคี วาม ไมใ่ ชส่ ักแต่ว่าตรงนนั้ เพราะเราสวดกนั แปลวา่ พาหุสจฺจญฺจ แปลว่า ได้ยนิ ได้ฟงั มาก เรยี นมาก รูม้ าก ก ็ ตามศพั ทม์ ันมีแคน่ ้ัน แตใ่ นความหมาย มันหมายถึงอะไร ครับ เรียนร้ ู แคเ่ รยี นรอู้ ย่าง เดียวนะท่านนะ เอาเหอะ เรยี นมากรมู้ ากก็ถูกแล้วละ เป็น พาหสุ จั จะ ภาษาไทยเราใช้คาำ ว่า พหสู ูต พาหุ สัจจัญญจะ หรือ พหูสูต เรยี นมาก รู้มาก แตว่ ่า เราคิดแค่นี้ไมพ่ อหรอกครบั ย่ิงเปน็ พระธรรมทตู เป็นพระ นักเผยแผ่หรอื ญาตโิ ยมทั้งหลายนี่เหมือนกัน คนฉลาดเขารู้ เพราะเรื่องทีจ่ ะตอ้ งรนู้ ่ี หรอื เร่ืองทไ่ี ม่ควรร้กู ็มีอยู่ เร่ืองทุกเรือ่ งไม่ใช่เรอ่ื งควรรู้ ทกุ วนั น้ีนะ ทงั้ โยม ท้ังพระ เด็กไทย เดก็ อะไรเน๊ยี ะ มนั บา้ หมดท้ังประเทศแล้ว ครับตอนนี้ เอาจรงิ ๆ อาตมาบอกวา่ จรงิ ๆ เลยแหละ หาเงินหาทองเพอ่ื การพวกนี้แหละ เพื่อร ู้ แล้วถามว่ารู้ ทำาไม รไู้ ปเพื่ออะไร ตอบไม่ไดเ้ ลย น่ีไง เสยี เงนิ ไปทำาไม ? ทุกวันน ้ี อะไรไอตาม โปเกมอ่ น อะไรตา่ งๆ เนย๊ี อาตมาตอ้ งบอกเฮย้ มนั บา้ ขนาดนี้เชียวเหรอ โลกทกุ วนั น ี้ เสยี เงินเสยี ทองกัน เอาสิ โทรศัพท์มอื ถอื อาตมาไป มายโุ รป ไปอเมริกาไปไหน ไม่เหน็ เดก็ ฝร่ัง เขาบ้ามอื ถือ ไอ่เด็ก เด็กประถมมันถอื มอื ถือกันทกุ คน พ่อแม่กเ็ สยี เงินให้ลูก ทุกวนั น ้ี มือถอื ไมต่ อ้ งซ้อื มนั จา่ ยฟร ี แต่วา่ มงึ ต้องจา่ ยคา่ โทรนะ นั่นแหละ ทา่ นทั้งหลาย คนฉลาด มนั มี เพราะฉะน้นั เรือ่ ง เอา เอา ไมต่ ้องเสียเวลามาก เรื่องมีอยู่ ๔ เรื่อง ๑. เรื่องที่ตอ้ งรู้ ๒. เร่อื งท่คี วรรู้ ๓. เรอ่ื งรู้ก็ได้ ไมร่ กู้ ็ได้ ๔. เร่ืองท่ีไม่ต้องรู้ ไมจ่ ำาเปน็ ต้องรู้ มีอยู่ ๔ เรื่องในโลกน้ี เรื่องท่ตี ้องรู้ คอื เรอื่ งยังไง แล้วแต่ใคร ถา้ เป็นพระเปน็ เณร ปกติธรรมดาเรื่องทตี่ ้องร ู้ กค็ ือ เรอื่ ง ระเบียบ เรือ่ งวินัยของพระ เรอ่ื งกราบ เรื่องไหว ้ เรื่องการนุ่ง การห่ม เร่อื งกจิ วตั ร เรอ่ื งอะไรตา่ งๆ ปฏิบัติธรรม เร่อื งสวดมนต ์ นีต่ อ้ งรู้ ไมร่ ไู้ ม่ได ้ ไมร่ ู้เสยี หาย เอาสิ ถ้าเป็นคฤหสั ถ์ เรื่องพวกนี้ ไม่ใชเ่ ปน็ เรอ่ื งตอ้ งร ู้ ไม่ใชเ่ รือ่ ง ตอ้ งร ู้ ถา้ เร่อื งต้องรูช้ าวบา้ น ชาวบ้านทำาหนา้ ทอ่ี ะไร ทาำ หน้าทเี่ ปน็ ชาวนา ตอ้ งรู้เรื่องนา ตอ้ งรู้เร่ืองการทาำ นา รเู้ รอื่ งดิน รเู้ รื่องปุย๋ รู้เรอื่ งน้ำา รูเ้ รื่องอากาศ ร้เู ร่ืองราคาข้าว ไปขายที่ไหน พนั ธข์ า้ วเป็นยังไง อนั น้นั กต็ ้อง ร้ ู ถ้าทำาสวน ทาำ สวนอะไร ใช่ไหม? เป็นพอ่ ค้า เป็นข้าราชการ คอื เร่ืองท่เี กีย่ วกับชีวิตประจำาวนั ของตน ต้องร ู้ ไมร่ ูไ้ ม่ไมไ่ ด ้ ถา้ หากว่า เรอื่ งท่ีต้องรู ้ แต่ไม่ร ู้ น่ีแหละมนั แยต่ รงน้ี ทา่ นทั้งหลาย ท่านเปน็ พระธรรมทตู ตอ้ งรู้ เรือ่ งพระธรรมทูต ทา่ นเป็นพระนกั เผยแผ ่ ต้องรูเ้ รือ่ งการเผยแผ ่ ทา่ นเป็นเจา้ อาวาส ทา่ นเปน็ หวั หนา้ วัด ท่าน

- 163 - ปกครองสงฆ์ ต้องรเู้ รอ่ื งพวกน ้ี ถา้ ไม่รู้ไมไ่ ด้ เป็นเรอื่ งตอ้ งรู้ ไม่ใชว่ ่า โอย้ ..เรือ่ งนต้ี อ้ งร ู้ ไอโ่ นน้ ตอ้ งร ู้ ไอน่ ้ตี ้องรู้ รทู้ กุ อย่าง บ้าเลยครับ ตายเปลา่ เลย เชอ่ื เหอะ ตายเปล่าครบั ไมไ่ ดป้ ระโยชนอ์ ะไรครบั ผมไมย่ อม อนั ใดทไ่ี ม่ ควรรูก้ ็ไม่ตอ้ งรู้ เรื่องที่ ๒ เรอ่ื งทค่ี วรร ู้ กค็ อื รู้แลว้ ด ี ไม่รู ้ ไม่ใช่ไม่ด ี ไมร่ ไู้ ม่เสยี หาย แต่ถ้ารู้แล้วด ี นเ่ี รยี กวา่ เรือ่ ง ควรร ู้ อันนแ้ี ล้วแตจ่ ะตัดสิน มีเวลาไหมท่ีจะต้องร ู้ ถา้ มเี วลาก็ควรรู้ รแู้ ล้วไดป้ ระโยชน์ อยา่ งธรรมะคาำ สอนของ พระพทุ ธเจ้าเปน็ เรือ่ งทีค่ วรรเู้ ปน็ หลัก เปน็ หลกั นะ ธรรมของพระพุทธเจา้ ทา่ นท้งั หลาย ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ไม่ร้ไู ม่ เสยี หาย แต่ถ้ารแู้ ล้วด ี ธรรมะของพระพทุ ธเจ้า ไมใ่ ช่เปน็ เร่ืองต้องร้ ู บอกได้เลยนะ ไม่ใช่เปน็ เรอ่ื งต้องรู้ เอาสิ ขนาดนัน้ เชยี วเหรอ บอก ใช่ ฝร่งั เอ่ย พวกอย่ทู วปี อัฟฟรกิ าเอย พวกศาสนาอน่ื เขารูเ้ รือ่ งพระพทุ ธเจ้าหรือ เปลา่ ไม่ร ู้ เขาเจริญได้ไหม ? ได้ เจรญิ กวา่ คนไทยก็ม ี ใชไ่ หม ? แย่กวา่ คนไทยก็มี แตถ่ า้ เขาร้ ู เขาฉลาด รู้เร่อื งพุทธศาสนาดว้ ย นัน่ แหละเป็นกาำ ไรของเขา เชน่ เดียวกันเร่อื งศาสนาอ่นื ธรรมะในศาสนาอ่ืนกเ็ ปน็ เร่ือง ควรร้ ู ถ้าเรารูแ้ ล้วด ี รูแ้ ล้วได้ประโยชน์ แต่ไมร่ ู้เสยี หายไหม ? ไมไ่ ดเ้ สียหายอะไรครับ อนั น้เี ขาเรยี กควรรู้ ถ้ารู้ แลว้ ดี ไมร่ กู้ ไ็ มเ่ ปน็ นเี่ ขาเรยี กว่า เร่อื งควรรู้ เร่ืองท่ี ๓ เรือ่ งที่รกู้ ็ได้ไม่รกู้ ็ได้ น่เี บามาก ไมเ่ ปน็ ไรหรอก เขารูก้ ันทวั่ ไป แตว่ า่ เราไม่ร้กู ็ไม่เป็นไรนคี่ รบั เม่อื คนื น ้ี ใครไม่ดูฟุตบอลบลาซลิ กับเยอรมนั เตะกนั กไ็ มเ่ ป็นไรน่คี รบั รูก้ ็ได ้ ไม่รู้ก็ได ้ ถ้าอยากรูก้ ็ถามพวก เฮย้ ใครชนะวะ กแ็ คน่ น้ั ใช่ไหม ? ไมต่ อ้ งไปถา่ งตาด ู ไอ่เพราะถา่ งตา ตอนนี้ก็เลยตืน่ มาประชุมไม่ได ้ ก็เพราะไอ่ ถา่ งตาดูนีแ่ หละ ใช่ไหมเล่า อนั นีก้ ค็ อื มันไม่ใช่เรอ่ื งตอ้ งรู ้ มันเรอ่ื งที่รกู้ ็ได ้ แต่ไปขวนขวายเพื่อร ู้ กเ็ สยี เวลา เสีย สุขภาพ บางทเี สยี เงนิ อกี ตา่ งหาก แลว้ ก็เรื่องสดุ ท้าย ก็คอื เรอ่ื งท่จี าำ เป็นตอ้ งรู้ เร่อื งของคนอื่น ใครจะเปน็ ยงั ไง มนั ไม่ใช่เร่ืองของเราไม่ ตอ้ งไปเก่ียวข้อง ไมใ่ ชถ่ า่ งตาดู โอโ้ ห เชา้ ขึ้นมาก็อา่ นหนงั สอื พิมพ์ อ่านหนงั สอื พมิ พ ์ มันเกดิ อะไรขนึ้ ไม่ร้ไู มไ่ ด้ท่าน ไม่รเู้ สยี หาย อาตมาก็บอกว่า อาตมาไม่เคยอา่ นหนงั สอื พมิ พ์มาเป็นปๆี ไมเ่ หน็ มันเสยี หายตรงไหนละโยมเอ๋ย เอ้อ เอ้อ โยมโงเ่ สยี บา้ งสิ ไมต่ อ้ งเสียเวลา นีแ่ หละทา่ นท้ังหลาย เรื่องไมจ่ ำาเป็นต้องร้ ู แตถ่ า้ จาำ เป็นต้องรู้ ไม่รู้กเ็ สยี หาย สรปุ แลว้ กค็ อื ว่า เรือ่ งบางอยา่ งต้องรู้ เร่ืองบางอยา่ งควรรู้ เรื่องบางอย่างร้กู ็ได้ไม่รูก้ ไ็ ด้ เร่อื งบางอยา่ ง ไมจ่ าำ เปน็ ต้องรู้ เพราะฉะน้นั ในการเป็นพาหุสัจจะนีท่ ่านท้ังหลาย อันดบั ๑ เลย กค็ อื เรือ่ งต้องรู้ เราเป็นอะไร อยา่ งไรตอ้ งร้รู ายละเอยี ด เรอ่ื งท ี่ ๒ ควรร ู้ เทา่ น้ัน เรื่องท ่ี ๓ และท่ี ๔ รูก้ ็ไดไ้ ม่รู้กไ็ ด้ แล้วก็เร่ืองที่ ๔ ไม่ จำาเป็นต้องรู้เลกิ เลย ใชไ่ หมครบั นแ่ี หละ พาหสุ ัจจะ ท่าน ใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์เถอะ การใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์ เขาเรียกวา่ ศิลปะ ศลิ ปะในภาษาไทย เราบอกว่า การวาด การเขยี น อะไร ต่างๆ หมายถึงศิลปะ เป็นหัตถกรรม จริงๆ แล้ว หตั ถกรรมหมายทาำ ดว้ ยมือ สง่ิ ท่ไี ม่ไดท้ ำาดว้ ยมอื ก็เปน็ ศลิ ปะ เหมือนกนั ครับ คนทแ่ี ขนขาด มันทาำ อยา่ งอ่นื ไดไ้ หม ? เขยี นภาพมนั ก็ได้ มนั ใชป้ ากจับปากกา จบั อะไรก็ได้ แหละ เขียนไดเ้ หมือนกันแหละ ชา้ งมนั ยังทำาได้เลยครับ ใช่ไหมครบั อนั นี้เปน็ ศิลปะ ศลิ ปะก็คอื การถ่ายทอด ครบั ในความหมาย ศิลปะ หมายถึงการถา่ ยทอด ถา่ ยทอดอะไรครบั ถ่ายทอดความรู้ เรามคี วามรทู้ ่ีตอ้ งร ู้ เรา ก็ถา่ ยทอดท่ีเรารู้มา เรามีความรใู้ นเร่ืองทคี่ วรร ู้ ก็ถา่ ยทอดไป เชน่ เราเทศน์ เราสอน เราบอก หรือท่สี ดุ เรา ทำางานอยา่ งน้ ี เขาเรยี กวา่ ถ่ายทอด เปน็ ศลิ ปะครับ ต้ังโต๊ะ ตั้งเกา้ อ้ี ตงั้ อะไรต่างๆ ดูสวยดูงาม หยิบก็ง่าย หายก็รู้ ดกู ็งามตาน ่ี เป็นเร่อื งของศลิ ปะครบั ทาำ หนงั สอื ทำาอะไรน่ีเปน็ เร่อื งของการถ่ายทอดความร ู้ ถ่ายทอด ทางมอื ถา่ ยทอดทางเท้า ถ่ายทอดทางตา ถ่ายทอดทางกริ ิยาอาการ นิง่ เฉยๆ ก็เปน็ ศลิ ปะครบั นง่ิ เฉยๆ เป็นศิลปะยงั ไง เออ่ หาเงนิ ไดน้ ะครบั นง่ิ เฉยๆ เน๊ียะ พวกนางแบบไงครับ ทใี่ หเ้ ขาวาดภาพ เฉยเลยครบั ได้

- 164 - ตงั ส์ เอาสิ มันเป็นศลิ ปะ เพราะฉะนั้น เร่อื งศิลปะ หมายถงึ การถา่ ยทอด เราต้องฉลาดในการถา่ ยทอด เปน็ พระนักเผยแผ่ ตอ้ งฉลาดในการถ่ายทอด ยง่ิ ถา่ ยทอดดีเทา่ ไหร ่ เปน็ เท่าไหร่ สวยเทา่ ไหร ่ ยิง่ ได้กาำ ไรมากเทา่ นั้น ได้ผลมากเทา่ น้นั ชาวบา้ นญาตโิ ยมท้งั มศี ลิ ปะมากเท่าไหร่ ย่งิ รวยเท่าน้ัน ครบั การถา่ ยทอดนนั้ มาจากความรู้ มีหวั เอาละเป็นพหสุ จั จะ มหี วั ในการถา่ ยทอด มคี วามสามารถ ในการถา่ ยทอด เรียนรู้ในการถ่ายทอดเป็น ทำากับข้าวเปน็ เมอ่ื กลางวันยังบอกท่านเจา้ คณุ เทพกิตตโิ มล ี บอก ว่า ขนมชิ้นอรอ่ ย น่ชี กั สงสัยมาจากประเทศ ทา่ นบอกว่าทำาท่นี เ่ี อง บอก เฮ้ย ถ้าทาำ ทีน่ ่ีเองใช้ไดเ้ ลยละเน่ยี ฝีมอื นแ่ี หละศลิ ปะ ถ่ายทอดได้ ถ่ายทอดได้แลว้ รวย ทาำ กจิ อะไรก็สาำ เร็จ อนั ท่ี ๓ วินโย จ สุสิกฺขโิ ต วินัยทศ่ี กึ ษาดแี ล้ว คำาว่า วนิ ยั วนิ ัยเรามักจะ แหม๋พูดถงึ ศลี พูดถงึ ระเบยี บ กฏ เกณฑอ์ ะไรต่างๆ เปน็ เรอ่ื งใหญ่ อนั น้ันมันก็เป็นส่วนหน่งึ นะครับ เปน็ วินัย แตจ่ รงิ ๆ แลว้ วนิ ยั มนั แปลว่า ระเบียบ การถา่ ยทอดเป็น ศลิ ปะ ถา่ ยทอดอะไร ? ถ่ายทอดความรู ้ ความรู้เปน็ พาหสุ จั จะ เมือ่ มีพาหุสจั จะ แลว้ กถ็ า่ ยทอด เป็น ศลิ ปะ การถา่ ยทอดต้องเป็นระเบยี บครบั เอ่อ อันนีส้ าำ คัญนะ บางคนเรียนเก่งๆ ครบั ๙ ประโยค ลูกศษิ ย์ผมกม็ ี ตวั ผมก็ม ี แตบ่ างทีถา่ ยทอดไมเ่ ป็น ไม่มีระเบยี บ เขียนหนงั สือยงั ไม่เปน็ เลยครับ อย่า งงผี้ มถึงบอกเอ่อ เพราะผมมรี ะเบียบครับ ผมพมิ พ์คอมพวิ เตอรไ์ ด้ มนั กเ็ ลยเร็ว แตว่ า่ ทำาอย่างอ่นื ไมไ่ ด้ ทำาเป็น เลม่ อยา่ งน้ีไมเ่ ปน็ ครบั พอพมิ พ์ได ้ เอา้ ไมเ่ ปน็ ไร แทนพมิ พด์ กี ็ยังดี ยงั มีระเบียบนิดหน่อย แค่นิดหน่อย มนั ก็ ยังเปน็ เล่มได้นะท่าน อาศยั คนทีม่ ีศิลปะ เขาทำาให้ ใชไ่ หมครับ พาหุสัจจะเป็นเร่ืองของเรา ใชไ่ หมครบั เรา กม็ ีศิลปะในการจัดหนา้ หนังสือ วรรค ตอนอะไรต่าง ๆ เรามรี ะเบียบ ในการทจี่ ะจัดวา่ เออ่ มนั ควรจะเปน็ ยังไง เพราะฉะน้ัน ท่านท้ังหลาย เวลาถ่ายทอดนมี่ นั ต้องเป็นระเบยี บ ผมยังนึกเลยวา่ การประชุมพระ ธรรมทูตมีหนึ่งมีหนเดียวก็นา่ เสยี ดาย ทกุ อย่างเรากต็ อ้ งมีระเบียบ การเขยี นหนังสอื กต็ อ้ งมรี ะเบยี บ การสอบมี ระเบียบ ทกุ อย่างตอ้ งมีระเบียบหมดครบั ระเบยี บกค็ ือ กฎ เกณฑ์ กตกิ า อะไรมนั มีท้ังนนั้ แหละ ทำาตามกฎ ทาำ ตามกตกิ าเถอะ หลวงพ่อที่อเมรกิ า ทา่ นเลา่ ใหฟ้ ังวา่ อะไร พระไปสร้างวดั ไมท่ ำาตามกติกาฮะ ทำาเสรจ็ แลว้ มรี วั้ มีอะไร ถกู สงั่ รอ้ื หมด หมดเปน็ แสนเหรียญเลย กเ็ พราะไมม่ รี ะเบยี บไงครบั ในยโุ รป ต้องขอตามระเบียบ หมดทกุ อยา่ ง อะไรก็ตาม ที่วัดน้ี ท่านเจ้าคุณท่านกข็ อ ขอ ขอ ตอนทีจ่ ะสรา้ งโบสถ ์ อาตมามาก็ยงั เห็นเลย ตั้ง เหล็กสงู จะทาำ โบสถส์ ูงแค่น้ีตอ้ งตัง้ เหล็กเป็นรอ้ ยๆ ตน้ เลยนะ สงู ขึน้ ไป วา่ จะสร้างทรงอย่างน้ี สงู ขนาดน ี้ ต้อง ถามชาวบา้ นวา่ เขายนิ ยอมหรือเปล่า น่ีคอื ระเบียบ พอ ๓ เดอื น มัง้ หรือ ๖ เดือน ชาวบ้านไมค่ ดั ค้านกร็ อื้ เอา โครงเหล็กนัน้ ออก แล้วกเ็ ริ่มลงมือมสี ตางค์ ต้องสร้างให้เสรจ็ ภายในกี่เดอื น กปี่ ี ต้องเสรจ็ ภายในกาำ หนดนนั้ นแ่ี หละท่านทั้งหลาย คอื ระเบียบ น่คี อื วินยั ทำางานเหมอื นกนั มาอยู่ประเทศนี้ เรื่องวซี า่ เรือ่ งอะไรตา่ งๆ มันเรอื่ งระเบียบทัง้ นน้ั เพราะเราไม่มีระเบียบครบั เอาจรงิ ๆ เพราะเรามันไม่มรี ะเบยี บ มากนั แบบท่ีเรียกกนั ว่า ตา่ งคนตา่ งมา ต่างคนตา่ งมา มนั กม็ าแบบไมม่ รี ะเบียบ ไม่มีกฎมีกติกาอะไร โยมนมิ นตม์ า มาเพื่ออะไร ยงั ไมร่ ู้ เหมือนกนั ขอให้ได้ไปก็แลว้ กนั สวิส แค่น้แี หละครบั เปา้ หมายยังไม่มีเลย วตั ถุประสงค์ยังไมม่ ีเลย คอื ไม่มรี ะเบยี บ อยูใ่ นตวั วุ่นวายครบั ทาำ อะไรไมส่ าำ เรจ็ หรอกครบั เพราะฉะน้นั พระพทุ ธเจ้าจึงสอนว่า วนิ โย จ สุสกิ ฺขิโต สุสิกฺขิ โต กค็ ือ ศกึ ษา ศึกษาใหด้ ี เรียนรใู้ หด้ ี เขา้ ใจใหด้ ี เรอื่ งระเบยี บ เรอื่ งกตกิ า เรือ่ งกฎอะไรตา่ งๆ ไปอยทู่ ไ่ี หนกต็ าม อันสดุ ท้าย สุภาสติ า จ ยา วาจา เราพูดกันถึงเร่อื งวาจา บาลกี ็ วาจา เวลาจะเทศน์ จะสอน จะเขียนหนังสอื ใช่ไหม ? จะพดู อะไรตา่ ง ๆ ให้เปน็ วาจาสุภาษติ เปน็ มงคล ถกู ต้องครับ แต่วา่ อยา่ ลืมนะ ครับ วาจาเปน็ เพียงส่วนหนง่ึ ในการสอ่ื สารทกุ วนั น้ ี เม่อื กอ่ นนมี้ นั มวี าจาอย่างเดียว พระพุทธเจ้าไมม่ ีเครอ่ื ง ขยาย พระพทุ ธเจา้ ไม่มเี ครื่องมือสอ่ื สาร ไม่มวี ิทยุ ไม่มอี ะไรทั้งสิ้น หนงั สือหนงั หาก็ไม่มี พระพุทธเจา้ ตอ้ งเสดจ็ ไปสอนเอง ใช่ไหมละ ? กใ็ ชว้ าจา แตท่ กุ วนั น้ี คาำ วา่ สภุ าตา จ วาจา วาจาสุภาษติ กค็ อื ส่ือ ครับ มุ่ง

- 165 - ถึงสือว่า การทจี่ ะถา่ ยทอดความรู ้ ใหเ้ ป็น ระเบียบนั้นตอ้ งอาศยั ส่ือ ส่ือม ี วาจา เปน็ ท่ ี ๑ ก่อน เอาละ พดู เช่น เทศน์ สอน ปาฐกถา บรรยาย อย่างผมพูดน้ ี ใชว้ าจา พิมพ์ดีด ครบั ก็ เป็นการสือ่ โทรศพั ท ์ ก็เป็นส่อื ทีว ี หรอื อะไรก็แลว้ แต่ เทคโนโลยีสมัยใหม ่ ทั้งหลาย ทั้งปวง พูดกนั ในเฟสบคุ๊ พวกไลน ์ พวก อะไรตา่ งๆ น ี้ มนั เปน็ การสือ่ หมด นะ ครับ พิมพ์หนงั สอื ออกมาเป็นอะไรต่อมิ อะไร เปน็ การสอ่ื หมด นั่นแหละครับ แต่วา่ ส่อื อย่างน้นั ตอ้ งฉลาดในการส่ือ ข้อเดยี ว ฉลาดในการสอื่ ทาำ เปน็ ไม่พอครบั ทาำ เปน็ อยา่ งเดยี วไม่พอ หมายความว่า ทาำ ได้ กดไอ่นนั้ กดไอ่น้ีได้ รู้ แตว่ า่ ระเบยี บในการส่อื พระเราในท ี่ เรากไ็ มไ่ ดด้ ถู ูกนะ ผมกส็ อน หนงั สือมาเยอะ ลูกศษิ ยล์ กู หา ๙ ประโยคท้งั น้นั แหละครบั ผมกบ็ อกวา่ พวกเรานะเรียนหนังสอื ไปแล้ว รู้อยา่ ง เดียวไม่พอ ตอ้ งส่อื เป็นดว้ ย ตอ้ งถ่ายทอดเป็น ต้องมศี ลิ ปะ ต้องมีระเบยี บ ใช้สื่อใหเ้ ป็น วรรคตอนตอ้ งเปน็ พระ เราพิมพห์ นงั สอื ออกมา วรรคตอนมันอา่ นไม่ได้ มนั ดูไมไ่ ด้ หนังสอื หน้าหน่งึ ๒ หนา้ ยงั ไม่มเี ว้นบรรทัดเลย ยงั ไมม่ ีย่อหนา้ ไม่มีอะไรเลย ไมน่ า่ อา่ นเลยครับ หนงั สือปจั จบุ นั นี้ นี่ก็คือ ไม่มวี าจา สุภาสิตา มันไม่ใช่สภุ าษิต มนั ไมน่ า่ อ่าน มนั ไมน่ ่าดูนะครบั ตัวหนงั สอื เล็กเกนิ ไปกไ็ มด่ ี ใหญเ่ กนิ ไปกไ็ ม่ด ี ต้องดวู ่าหนงั สอื ประเภทน ี้ สำาคญั ไหม ? ศักดส์ิ ิทธไ์ิ หม ? ตอ้ งใช้อักษรประเภทไหน บางที โอโห เล่นตวั อกั ษรสวย ตวั เองชอบ แตค่ นอ่านเขาไมช่ อบ ผิดครบั ไม่ใชเ่ อา ตวั เองเป็นตวั ตั้ง ต้องเอาคนอ่ืนเป็นตัวตง้ั เอาคนอา่ นเปน็ ตัวตั้ง เอาคนดูเปน็ ตวั ตัง้ อย่างขนมนี ่ ตัวเองไมเ่ คย กนิ เลย เพราะอะไร มันไดเ้ รอ่ื งได้ราว แต่คนอ่นื เขาชอบ เพราะฉะน้ัน ทาำ ให้คนอื่น นะครับ ทำาใหค้ นอืน่ ดู ทาำ ให้ คนอน่ื อา่ น เทศนใ์ หค้ นอืน่ ดู เทศน์ใหค้ นอืน่ อา่ น ตอ้ งใหเ้ ขาเข้าใจ นน่ั เปน็ การสือ่ ครบั คณุ สมบัติ ๔ ประการนแี้ หละพอแล้ว แคน่ นั่ แหละ ความร้มู ี ฉลาด ร้เู รือ่ งทีต่ อ้ งรูก้ บั เรื่องทคี่ วรรู้ ๒ เร่อื ง แลว้ กถ็ า่ ยทอดเป็น ถา่ ยทอดให้ได้ แล้วกถ็ ่ายทอดอยา่ งมรี ะเบยี บ ใช้สื่อได้ถูกต้อง ได้ดี เกง่ เลยละครบั ทา่ นทั้งหลาย ยดึ ตรงนแ้ี หละ เปน็ พระธรรมทูต เป็นพระนกั เผยแผ ่ ตัง้ ใจอยา่ งนี้กแ็ ล้ว ปณธิ านอย่างน้ี ตอนท้ายนะครับ ผมฝากเรื่องหนึง่ แต่มันก็เกย่ี วข้องกับปณธิ าน ก็คอื ว่า จะสาำ เร็จหรือไม่สาำ เรจ็ นะทา่ น ทงั้ หลาย มนั กอ็ ยู่ทก่ี ารบรหิ าร บริหาร ปจั จุบนั นี ้ เราชอบพูดว่า บริหารจดั การ บริหารด้วย จัดการด้วย บริหารก็คือ การนาำ ไปรอบ คอื นำาพาให้งานมนั สาำ เรจ็ เดนิ หน้าไปได ้ เขาเรียก บริหารครบั จะทำาเองก็ตาม ไม่ ทำากต็ าม ไดแ้ ต่คดิ อะไรก็แลว้ แต ่ บริหารในหอ้ งแอร ์ ในห้องเย็น บริหารบนเครื่องบิน บรหิ ารในถา้ำ ในป่าอะไรก็ แลว้ แต ่ เป็นการบริหารท้ังหมดครบั แต่วา่ มนั คู่กบั จัดการ เขาจงึ บอกว่า บรหิ ารจัดการ นะครับ มนั อยู่ทก่ี ารบริหาร และ การจัดการ เรามีหนา้ ทใ่ี นการเผยแผ ่ ต้องบรหิ ารเปน็ จัดการเป็น บรหิ าร อะไรครับ ผมบอกวา่ สำาคัญมอี ยู่ ๔ เรื่อง บริหารงาน บรหิ ารเงิน บริหารคน บริหารของ งาน เงิน คน ของ งานกค็ ืองานพระธรรมทตู งานเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ต้องบริหารเป็น ตอ้ งจัดการเป็น ตอ้ งฉลาดรู้ ฉลาดทำา คิดงานออก บอกงานเป็น เขญ็ งานได้ แกไ้ ขงานถกู อะไร โหเยอะแยะ ถา้ คนม ี ปณธิ าน นะทา่ น นะ ทาำ ได ้ ถ้าไม่มีปณิธานตรงนน้ั จบครับ ทาำ ไม่ไดห้ รอกครับ อหิ ลอกขลอกแขลก ๆ เอย้ มีปัญหานดิ หนอ่ ย

- 166 - เอาไงกันวะ หมดท่าเลยครับ เพราะฉะนน้ั ต้องฉลาดในการบรหิ ารงาน ต้องรูว้ า่ งานของตัวเองคอื งานอะไร ตัวเองนมี้ งี านอะไร จะตอ้ งทำาอะไร ทำาเวลาไหน ทาำ อย่างไร ครับ ทาำ ดว้ ยคำาพูด ทำาดว้ ยเอกสาร ทาำ ด้วยการ สอ่ื สาร จะต้องใช้อะไรตอ่ มิอะไร ใชเ้ งินเท่าไหร่ ใชเ้ วลาเทา่ ไหร่ ฤดไู หนอย่างไร โอโ้ ห เร่อื งการบรหิ ารงาน งาน กม็ งี านปกครอง งานศกึ ษา งานเผยแผ่ งานสาธารณปู การ งานสาธารณสงเคราะห ์ แล้วกง็ านศกึ ษาสงเคราะห ์ งานคณะสงฆม์ ี ๖ งาน เมื่อกอ่ นม ี ๔ เดีย๋ วนม้ี ี ๖ กไ็ ม่ว่ากนั ครบั แตว่ ่าท่านทง้ั หลายน่ ี มนั มไี ม่ครบหรอกครบั บางทีก็ไมใ่ ชเ่ จ้าอาวาส เจา้ อาวาสมอบหมายให้ทาำ อะไร ก็ทำาไป อยา่ งนี ้ ทำาให้ด ี ทำาให้ถูกต้อง ทำาด้วยคุณสมบัต ิ พาหุสจั จะ สิปปัญจะ วินโย จ แล้วก็ สุภาสติ า วาจา กท็ าำ ได ้ สำาเร็จเลยครับ สวยงามดว้ ย ออกมาด ี นะครบั คนทจ่ี ะทำางานได้สำาเร็จ บรหิ ารไดส้ าำ เรจ็ จะตอ้ งมลี ักษณะนิสยั อยา่ งหนึ่งเลยครับ กค็ ือ มีความรบั ผดิ ชอบ ถ้าไม่รบั ผิดชอบ จบครบั ถา้ ไม่รับผิดชอบ คนไมร่ ับผิดมเี ยอะมาก พระก็มเี ยอะมาก บอกไดเ้ ลยนะ ครับ น่าเบ่อื เลยแหละ ส่ังแล้ว ครบั ครับ ครับ ได้ แต่ไม่ทำาหรอก ให้อีกคร้ังหนึ่ง พอตะติ ไม่มหี รอกครบั ผม ไมม่ ีตตยิ ัมป ี แคท่ ุติยัมปิพอ ใหแ้ ก้มอื อีกครงั้ หนงึ่ ถ้าไมไ่ ด้ผล ไม่ใช้อีกเลยตลอดชีวิต มันเสยี เวลา มันเสยี เวลา ใช้คนอืน่ ได้ นอกจากหาคนไม่ได้ก็ อื๋อ ตะตยิ มั ป ิ เอาให้มนั ได้สักครงึ่ หนงึ่ กย็ งั ดวี ะ มนั หาคนไมไ่ ด ้ ถ้า หาได้แลว้ กเ็ รยี บร้อย ถา้ เป็นระบบราชการเรียบรอ้ ย เปลยี่ นงานเลยครบั เปลี่ยนไปทาำ อยา่ งอ่ืน น่นั กค็ อื เร่อื ง การบรหิ าร ที ่ ๑ นะครับ บรหิ ารจดั การงาน ตอ้ งรู้ อนั ท ี่ ๒ บริหารเงิน บริหารเงิน โอโหน่ี เงินใหญ่มา แต่จริงๆ มันใหญจ่ ริงไหม ? ใหญใ่ นการใช ้ ไมใ่ ช่ ใหญใ่ นการหา เงินในพระพุทธศาสนามมี ากทส่ี ดุ ในโลก บอกไดเ้ ลย เงนิ ในพุทธศาสนามีมากทส่ี ดุ ในโลก ครบั ทำาวา่ เงินในพระพุทธศาสนาคือเงนิ ยังไง กค็ ือเงนิ ท่เี ขาจะบรจิ าค ถอื วา่ เปน็ การบริจาคตามหลักพระพุทธศาสนา ผมไม่ร้จู ักคนคนหนึ่งเท่านนั้ แหละครบั ถ้ารูจ้ กั กอ็ ยากจะไปคุยกับเขาเหมอื นกัน นายบิลล ์ เกตต์ ไอห่ มอน้ี มนั เป็นเศรษฐ ี มหาเศรษฐีของโลก อันดบั หนึง่ ของโลก มนั บรจิ าคปีละเปน็ เกอื บๆ แสนล้าน เอ่อ ไปใหแ้ ถวอัฟริกา ประเทศยากจน หรือไม่งนั้ กใ็ หเ้ ป็นอะไรตอ่ มิอะไร ในอเมริกามีเยอะแยะ สร้างมหาวทิ ยาลยั ท่ซี านฟรานครบั สรา้ งทัง้ มหาวิทยาลัย คือ คนท่บี รจิ าคมเี ยอะครับ ในประเทศไทยนมี่ มี าก มากจรงิ ๆ แตว่ า่ เราไม่ร ู้ อ่า... เขาไม่ บอกเรา วดั ๓๐,๐๐๐ – ๔๐,๐๐๐ วดั อยูไ่ ด้ทุกวันนก้ี ็เพราะเงนิ บรจิ าคท้ังนัน้ แต่ทกุ วันนี้เขาบอกว่า เอ้ย ถา้ บริจาคแล้ว เจ้าอาวาสรับของโจรนะ เข้าไปโน้น จะไม่ให้รบั บรจิ าค เอาส ิ เอ่อ แล้วก็เสรจ็ แล้ว เอาเงินไป บริจาควดั มากหน่อย โดนสอบแล้ว เอ่อ เอาเงนิ มาจากไหน ไออ่ ยา่ งนแ้ี หละ ไมต่ ้องกลวั หรอกท่าน อย่างวัดศรี นครนิ ทรวรารามน่ี เปน็ ๑,๐๐๐ ลา้ นบาทแลว้ ไมเ่ หน็ มีใครมาสอบสกั คน ใชไ่ หมครับ น่กี ็คอื คนบรจิ าค เก่ง นะ ญาตโิ ยมสวสิ นี่ไมใ่ ชธ่ รรมดาหรอก เห็นๆ อย่างงแี้ หละ แต่ก็สรา้ งโบสถ์ได ้ สวยดว้ ย น่ีคือการบริหารเงนิ ครับ การบรหิ ารเงนิ เร่ิมตั้งตน้ หลักฐาน ไดม้ าอยา่ งไร ใชจ้ า่ ยไปเทา่ ไหร่ มีคณะกรรมการ ใหม้ ีความซ่ือสัตย์ เรอ่ื งเงนิ ผมถือคติอย่างงีค้ รับ ไมร่ ้ไู ปอา่ นจากหนังสือที่ไหนมา เขาบอก ถ้ายังเงินไมเ่ ปน็ เศษกระดาษ อย่า บงั อาจเกบ็ เงนิ นะ ไมร่ ู้ ใครเกบ็ เงนิ ใครใช้เงนิ นะ พระเรานน้ี ะ ถ้ายังไม่เหน็ เป็นเศษกระดาษเหมือนอย่าง นี้ อย่าไปบังอาจเกบ็ เงนิ เดยี๋ วตาโตครบั พอตาโตเมอ่ื ไหร ่ ฆ่าตวั ตายทนั ทีครับ ไมต่ ายทง้ั ผา้ เหลอื ง กส็ กึ ไปตาย บอกได้เลย ใช่หรอื ไม ่ เอ้อ... ผา่ นมาเยอะแล้ว เพราะเหน็ เงนิ ตาโตครับ ไม่เหน็ เป็นเศษกระดาษ เพราะฉะนนั้ ตอ้ งเหน็ เงินเป็นเศษกระดาษ บอกวา่ ไม่ตอ้ งจับเงนิ หรอก จับ อาตมาจับ ใครมาบรจิ าคจบั เลย เพราะเห็น เป็นเศษกระดาษ จบั ได ้ ไมเ่ ป็นอาบตั เิ หรอ ? บอกอาบตั ิข้อไหน ต้องถามเขาอาบตั ิขอ้ ไหน อาบัติขอ้ จบั เงิน เงนิ อะไร ? เอ่อ รูปิยะ ไอเ่ หรียญเงนิ น่ันนะ เหรยี ญทอง ไอ่ทีเ่ ปน็ ทองคาำ แทๆ้ เงนิ แท้ๆ เอ่อ อย่างง้ันอีก เรื่องหนง่ึ ไอ่น่มี ันกระดาษนี่ พม่ากระโท ประกาศตมู ปฏวิ ัตติ ูม เงินพมา่ หมดราคาทันท ี เอาไปแลกอะไรกไ็ ม่

- 167 - ได ้ เปน็ กระดาษทันทเี ลยครบั เงนิ ยูโรกเ็ หมอื นกัน เงินด๊อยมาร์คกเ็ คยมาแล้วนี่ ใชไ่ หม ? ยกเลิกมาแลว้ ใช่ ไหมอะ ท่ียังแข็งแรงอยกู่ ็เงนิ ฟรังส์น่แี หละ แข็งตลอด เงนิ ปอนด์กล็ ดแลว้ ใชห่ รือเปลา่ กน็ ไี่ ง นีก่ ็คอื เรอ่ื งเงนิ เรื่องการบริหารเงิน ต้องฉลาดในการบริหาร ครับ ครับ ขอ้ สำาคญั นะ ขอฝากไวเ้ ลยนะครับ ท่านทัง้ หลายท่มี าอยูต่ า่ งประเทศน้นี ะ วตั ถุประสงคข์ องการ ทาำ บุญ อนั นีส้ าำ คัญมากนะครับ ชาวบา้ นเขาทำาบุญนโี่ อโหยกสดุ หัวสดุ เกลา้ เลยนะท่าน เขาได้มาดว้ ยความ ยากลำาบากนะครบั เขามวี ัตถปุ ระสงค ์ เขามเี ป้าหมาย เพราะฉะนัน้ เวลารบั บรจิ าคมาแลว้ ให้มนั เปน็ ไปตาม วัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายของเขา เขาบริจาคมาเพอื่ สร้างตอ้ งสรา้ ง สรา้ งเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้วมนั เหลอื เออ คอ่ ยมาปรกึ ษากนั วา่ จะเอาไปทาำ อะไรตอ่ มีหลายวัดครับ ฆ่าตัวตาย เห็นเงิน สรา้ งโบสถ์เงนิ ด ี เงินโยมเขา มาทำาสร้างโบสถ ์ เงินเขา้ มา พอเงนิ เยอะเข้า สร้างไป แบ่งไปสร้างกุฏิ สรา้ งกฏุ ิยงั ไม่เสรจ็ โบสถก์ ย็ ังไมเ่ สรจ็ ต้องสร้างกุฏ ิ ก็เอาเงินโบสถ์ไปสร้างกฏุ ิ ไอน่ ่แี หละครบั เขาเรียกว่าผิดเปา้ วตั ถปุ ระสงค์ ไม่รู้นะ บาปกรรม ขนาดไหน ตกนรกขมุ ไหนผมไมร่ ู้ เพราะวา่ ผมไมเ่ คยตก แต่วา่ ถือว่าผิดวัตถุประสงค ์ ถ้าเป็นคนยมื ได้ครบั ยืม ไปกอ่ น ยืมไปใช้ บนั ทึกไวเ้ ลยว่า ยืมไปใช้สรา้ งกุฏกิ อ่ นเทา่ นน้ั เทา่ น ี้ แล้วกร็ ีบหาเอามาสร้างโบสถต่อ เอามาใช้ คนื เอามาสร้างโบสถ์ใหเ้ สร็จ สังเกตญาตโิ ยมท้ังหลายในประเทศไทย บางทมี นั ยงั ไม่เสร็จ มันทาำ ไมยงั ไม่เสรจ็ ไอน่ นู่ ก็ขึน้ ไอ่น่กี ็ขนึ้ ไมเ่ สรจ็ ซักอยา่ งเดียว กเ็ พราะวา่ โยกยา้ ยเงินไปเรอื่ ย เขาเรยี กว่าไมบ่ รสิ ทุ ธ์ใิ จเร่ืองเงนิ ใช้ จา่ ยผดิ วัตถุประสงคเ์ ป้าหมาย ครับ ไมค่ วรเลย ไมค่ วรเลย น่กี ารบริหารจัดการ การเงนิ ตอ่ ไป บรหิ ารจดั การคนครบั โอโห เรื่องคนน่ีเรือ่ งใหญม่ าก ใหเ้ สริมคน สรา้ งคน มนั ตอ้ งสร้างคนกอ่ น สร้างคน กค็ อื สร้างวิชาความรู้ สร้างใหเ้ ขาเปน็ งานอะไรตา่ งๆ กค็ อื สร้างคน สร้างคนแลว้ ใชค้ น สรา้ งเสร็จแล้ว พอเขามฝี ีมือ เรากต็ อ้ งใช้เขา เขาเปน็ แลว้ เราตอ้ งสร้างก่อน พฒั นาก่อน ใหเ้ ขามีอะไร ใหเ้ ขาเป็นอะไร พอเขา เปน็ แล้ว เขามีวิชาไอน่ ั่นไอ่น่ี เราก็ใช ้ ใชต้ รงกับทีเ่ ขาเป็นครับ ถา้ ใชต้ รงกบั ทเ่ี ขาเปน็ เขาชอบทำางานดมี าก ครับ สำาเร็จครับ จากใช้คนแลว้ กต็ ้องยกยอ่ งคนครบั ตอ้ งยกยอ่ ง น่นั หมายความวา่ เอ่อ ใหเ้ ขาไอโ่ นน้ ใหเ้ อา เปน็ ไอ่นี่ เชดิ ชูญาติโยม บอกญาติโยมว่า เออ่ พระองค์นัน่ เกง่ นะ องคน์ ้เี กง่ นะ เหมอื นให้สมณศักดอ์ิ ะไรอยา่ งง ้ี เปน็ การยกยอ่ งเขา แล้วก็ปอ้ งกนั คนครบั ไอ้นีส้ ำาคัญอกี เหมอื นกัน บางทีมันทาำ งานไอค่ นทาำ งานมนั พลาดได้ ป้องกันไม่ให้เขาเสยี หาย ญาตโิ ยมมาด่า ไม่เปน็ ไรหรอกโยม อนั นี้บอกญาตโิ ยมก่อนเลยนะ ถ้าเจ้าอาวาสพูด อยา่ งนนั้ ก็ถอื วา่ ทา่ นป้องกนั ลกู นอ้ งของทา่ นนะ โยมอยา่ ไปดา่ พระเลย โทษอาตมาเหอะ อาตมาสอนเขาไม่ดเี อง อย่าไปโทษเขา นปี่ อ้ งกันลกู น้องนะครบั ชาวบ้านก็ไม่กล้าด่าเจ้าอาวาสหรอกครบั กม็ ีพระลูกวัดเท่านั้นที่ดา่ เจา้ อาวาส แนน่ อนครบั เจา้ อาวาสมไี วใ้ หล้ ูกวัดดา่ ครับ แนน่ อนครับ เพราะด่าคนอ่ืนไมไ่ ดค้ รบั ถ้าด่าคนอนื่ นีโ่ ดนตบปากครับ ดา่ เจา้ อาวาสไมเ่ ปน็ ไร เจา้ อาวาสไม่เถยี งไม่วา่ อะไรหรอก แต่มนั กอ็ าศยั เจ้าอาวาสอย่ตู ลอด เวลานัน่ แหละ อนั น้ีเปน็ เร่อื งปกติธรรมดา เพราะฉะน้ัน ผ้บู ริหารเรือ่ งคนเกง่ ต้องปอ้ งกนั คนดว้ ย น่สี ำาคญั เดีย๋ วลืม ทา่ นท้งั หลาย พระนกั เผยแผ ่ มันต้องพฒั นาตัวเองครบั พัฒนาคน กค็ ือพฒั นาตัวเอง อยา่ ไปพัฒนาคนอนื่ ก่อน ต้องพฒั นาตัวเองก่อน การพัฒนาท่สี าำ เรจ็ กค็ อื การพัฒนาตนเปน็ อนั ดับแรก การ พัฒนาตน ก็คือ พฒั นาจติ เป็นอนั ดับแรก ต้องพฒั นาจิต ให้มีความเสียสละ มีความจรงิ ใจ เราเปน็ พระธรรม ทตู เปน็ พระนกั เผยแผ ่ เดนิ ทางมาแลว้ พัฒนาความคิดของเรากอ่ น ว่า อื่อ เราจะตอ้ งตงั้ ใจทาำ งาน เราจะมี ปณิธานในการเผยแผแ่ บบพระพุทธเจา้ เราต้องเปน็ อย่างงน้ั อย่างงน้ั อย่างงนั้ ถ้ามคี วามต้งั ใจเป็นเบื้องต้น อยา่ งนี ้ พฒั นาจติ ตัวเองได ้ ท่านท้งั หลาย ชอ่ื วา่ พัฒนาตนในอันดบั ตน้ ต่อไป พฒั นาตนเพื่อประพฤติปฏบิ ัติตามในกรอบ ในหมู่ ในคณะ ครบั ผมมาตา่ งประเทศบอ่ ย พาทัวร์ มากเ็ คย พาพระมา พาโยมมาเยอะๆ กเ็ คย บางทเี ราก็ต้องจู้จ้ ี ครบั ผมเป็นคนจจู้ ้ี จุกจิก พอสมควรแหละ แล้ว

- 168 - ก็ถา้ หากวา่ ไม่ชอบก็ด่าตรงๆ เลย โกรธก็โกรธไมว่ า่ กัน ใครโกรธกแ็ สดงว่าไม่ทนต่อการให้โอวาท อโนวาทกั ขโม ไมท่ นต่อโอวาท พอไมท่ นตอ่ โอวาทเจรญิ เติบโตไม่ได ้ ไอค่ นทีม่ นั ดไี ด ้ เจริญได ้ เป็นใหญเ่ ปน็ โตได้ เพราะมนั อดทน ตอ่ โอวาทคาำ เตือน คาำ สอน คำาด่าของครบู าอาจารย์มา พ่อแมด่ ่ามา ป่ยู ่าตายายด่ามา ครบู าอาจารยด์ า่ มา มัน ทนได ้ มันน่งิ ได้ แล้วกเ็ สร็จแลว้ มนั ทาำ ตาม มนั เจรญิ ได ้ ไอค้ นท่ที นไมไ่ ด้ กูไม่อยแู่ ลว้ สึก ไปเลี้ยงววั เลี้ยงควาย เลยครับ ยากท้ังชาติเลย พวกไมม่ ีโอวาทักขโม ทนต่อโอวาทคำาเตอื นได้ เพราะฉะน้ัน ท่านท้ังหลายต้องทน ตอ่ โอวาทได้ เตือนตนเอง บอกตนเอง เม่อื เช้ามอี ยู่ ๒ – ๓ เร่อื ง ที่นึกข้นึ ได ้ กค็ อื เวลาฉันขา้ ว ในห้องอาหาร พระต่างคนตา่ งตัก ตกั แล้ว ก ็ เนอ่ื งจากท่ฉี นั มนั เยอะ โต๊ะมันตั้ง ๔๐-๕๐ โตะ๊ พระทา่ นก็ไปนงั่ ตรงโน้น ตรงนี ้ ตรงน้ี เต็มหมดเลย นง่ั องค์ เดยี วกม็ ี ๒ องค์กม็ ี ๓ องคก์ ็มี มนั ไมส่ วยงามอะไรเลยละครับ อันน้ี ไม่รู้นะ ผมคดิ เองว่า เอ่อ พระเราน่ ี เรามาตา่ งประเทศ เรามาเพ่อื เผยแผศ่ าสนา เพื่อตอ้ งการใหค้ นไทยทีน่ ่ี ได้มีมโี อกาสไดท้ ำาบุญ ตอ้ งการใหค้ นชาว ต่างประเทศ ในประเทศนี้เขาศรทั ธาเล่อื มใส แล้วเขาเข้าวดั ให้เขามองเหน็ วา่ พระเราน่ี สาำ คญั ศักด์สิ ทิ ธ์ ิ หรือ เป็นบคุ คลทีน่ ่าเกรงขาม รวมหมู่ รวมคณะ แตว่ า่ เราแยกกันหมด เราแตกกันหมด พอมาเห็นเข้าไม่เกดิ ศรทั ธา เลยครบั บางทีบางโตะ๊ ก็ถา่ ยรูป บางทีก ็ ขออภยั นะ อย่าหากว่าพูดมากเลยครบั มนั เรือ่ งจริง เรอื่ งถ่ายรปู ผมก็ถา่ ย ผมก็เป็นนักถา่ ยรูปตัวยงเมือ่ ก่อนน้ ี แต่มนั โตแล้ว มนั ไมค่ อ่ ยถา่ ยแล้ว แต่ว่าต้องรจู้ ักนะครับ วธิ กี าร นะทำาอย่างไง ขนาดไหน อยูท่ ่ีไหน อย่างฉนั ขา้ วนค่ี รบั ถา้ เราฉันกันเปน็ หม ู่ เปน็ คณะ อย่างนีก้ ลางวนั ใช่ไหม ? ญาติโยมกม็ าดู น่าเกรงขาม ไปนง่ั ตามโรงแรมอะไรต่างๆ น่ี โตะ๊ มนั มีเยอะ ไปนั่งรวมกัน ผมอสุ า่ ห์ลงเป็นคน แรกเลยนะครับ ไปนง่ั หัวโตะ๊ เอะ๊ ไมม่ ใี ครมาเข้ามานง่ั ใกล้ผมเลย กลัวหมด เอ้อ ผมฉนั เสร็จผมก็ออก แตก่ ็ดู คอื มนั ไม่มีพลงั นะครบั ทา่ น ไม่มีพลงั ความศกั ดิ์สิทธ์ิไม่มี เพราะฉะน้นั ต่อไปนะ ไปฉันในงานมกี ารอะไรต่างๆ ฉนั รวมกันดที สี่ ุดแล้วครบั แลว้ แต่หัวหน้านะ หรอื ใครก็ตาม ใครไปน่ังตรงนนู้ กอ่ น ก็ไปน่งั รวมๆ กัน อยู่ใน หมู่เดียวกัน อะไรกันอย่างงี้ เวลาจะเสรฟิ กด็ ี จะคุยก็คยุ กันเบาๆ อะไรอย่างง ้ี ชาวบ้านญาตโิ ยมมาเห็นเขา้ บอก ไอก่ ลุม่ นมี้ นั ใคร เขาสนใจแล้ว เปน็ พระ เปน็ อะไร เออ่ พระเป็นยงั ไง เขาก็ถาม อนั นีเ้ รอื่ งหนง่ึ ครับ เรอ่ื ง กิริยา เรือ่ งมารยาท ในการขบการฉัน การฉันรวมกันเป็นหมูอ่ ะไรอย่างนี้ แลว้ เรอื่ งเวลา เร่อื งเวลานี่ พระเรานีแ่ ย่มาก ขออภยั นะพดู แรง เพราะพดู มาบ่อย ไมค่ ่อยตรงเวลา โอ้โห เรอื่ งไม่ตรงเวลาน ่ี ต้องไปขนึ้ รถไฟท่โี คเปนเฮเก้น รถไฟไม่มคี นขบั ตอ้ งไปยนื ตรงทเี่ ขาใหย้ นื แลว้ ก็ตรงเวลา เป๊ะ รถไฟมนั ไป เปะ๊ รถไฟมันมา ประตูเปิดตอ้ งขน้ึ มวั โอเ้ อว้ ิหารราย จบครบั เอ้าจริงๆ เรือ่ งเวลาน ี่ พระพุทธเจา้ น่ี เปน็ ท่ี ๑ นะครบั ขโณ โว มา อุปจั จคา ขณะเวลาอยา่ ใหล้ ว่ งเลยไปโดยปราศจากประโยชน์ครบั ทาำ อะไรก็ตาม ตรงเวลา ถา้ เป็นหวั หนา้ ต้องไปทหี ลงั ถา้ เป็นลูกนอ้ งตอ้ งไปกอ่ นเวลา ใครไปถงึ ทหี ลงั ประธาน ให้รแู้ ล้วเป็น คนไม่ตรงเวลา แต่ว่าตอ้ งเปน็ ประธานทตี่ รงเวลากอ่ นนะ ถา้ ประธานไปกอ่ นครง่ึ ชั่วโมงนี่ก็ตายแล้วครบั ไปนง่ั คอยเจ่าอยู่คนเดยี วน่นั แหละ ใชไ่ หมครับ เวลา อยา่ งเชน่ ทำาวตั รสวดมนต ์ เหลอื อกี ๓ นาทนี ้ ี ประธานเขาก็จะไป ถึงเวลาปง้ ๘ นาฬิกาครงึ่ ยกตัวอย่างเลยนะ จดุ ธูปเทียนไดเ้ ลยครับ ไมใ่ ช่ ๘ นาฬิกาครงึ่ องค์นน้ั ยงั ไม่มา คนนยี้ งั ไม่มา มาไมม่ าองคเ์ ดียวกจ็ ุดไปเลยครบั ถงึ เวลา ไดเ้ วลา แตค่ นทีไ่ ปทีหลังยังไม่รสู้ กึ ตวั เลยนะวา่ ตวั เอง ผดิ นะครบั เออ้ ไม่ใช่ครบั ไมใ่ ชเ่ ลยละ คนไทยนผี่ ดิ เวลาเกง่ มาก สมเดจ็ วดั ปากนา้ำ นีบ่ อกเลยครบั ถ้าท่านข้นึ ไปนง่ั รถ บอกพระยังไมพ่ ร้อมครับ ใคร ท่านถามเลยใคร องคน์ ้นั ครับ ต่อไปไม่ต้องนิมนต์อีกนะ จบ องคน์ น้ั ไม่ ตอ้ งนมิ นตอ์ กี เพราะว่าพระวัดปากนา้ำ เยอะ ไมต่ อ้ งง้อ พอไมต่ รงเวลาแลว้ ก็จบแล้ว ใช ่ ผมเคยอยู่วดั ปากน้ำา มาก่อน ไอเ่ รือ่ งพวกเวลาน่ีไมไ่ ด ้ เรือ่ งตรงเวลานะครับ ย่งิ มาประชุมอะไรกันอยา่ งง้ีนะ ก็ขอ ขอนบ่ี รหิ ารคน บริหารงาน ก็คอื การดแู ลข้าวของ สิง่ ของต่าง ๆ เกบ็ กง็ ่าย หายกร็ ู ้ ดกู ง็ ามตา ในวัด กุฏิที่รกทสี่ ุดก็

- 169 - คอื เจ้าอาวาส หอ้ งที่รกท่ีสุดกค็ อื หอ้ งเจา้ อาวาส หอ้ งผมกร็ กครับ ทกุ อย่าง ใครกจ็ ดั ไม่ได้ครับ เออ มันยุ่งหมด ใครไปขอจัด ไมไ่ ด้ ไมต่ ้องมาแตะ เช็ดถูได้ แตห่ ้ามแตะของ ห้ามแตะหนังสอื ไมง่ ้นั พอมันหายไป หากันนีโ่ อโหย เสียงานเสียการเลยละ เพราะฉะนัน้ ใหร้ กหอ้ งเดียว ก็คอื ห้องเจา้ อาวาส กฏุ ิเจ้าอาวาส ถา้ เปน็ หอ้ งรบั แขกก็ ตอ้ งสะอาดอย ู่ อนั นีแ่ น่นอนครบั แขกไปใครมา เขากจ็ ะไดด้ ู เจ้าอาวาส สะอาด สะอ้าน ใช้ได้ แต่วา่ บรเิ วณ วดั บรเิ วณอะไรต่างๆ นตี่ อ้ งสะอาด ครับ นา่ ด ู ข้าวของวางเป็นท ่ี อนั ไหนควรวาง บางท ี วัดผมก็มีบางทกี ็ ต้องวา่ กันเรือ่ ย ไมก่ งไม้กวาดอะไรตา่ งๆ นี่ กวาดเสร็จอะไรแล้ว ไปพงิ ไว้ตรงประตูครบั ทางเขา้ ทางออก ดสู ิ ต้ัง เอาสกปรกข้นึ ข้างบนเลย อย่างนี้เปน็ ต้น ก็คอื เก็บไม่ถูกตอ้ งครบั เยอะครับ เอาละ ไปอ่านหนังสือกันเองละกนั ขอฝากไวแ้ ค่นี ้ ทาำ ไปทาำ มา ผมกไ็ มร่ ู้เวลาเหมือนกนั ชักจะเกนิ เวลา ว่าจะพูดสัก ๔๐ นาที นี่ปาไปเป็นช่วั โมง ก็ขออนโุ มทนานะครับ ขอฝากไว้กแ็ ล้วกัน อันน้เี พื่อพระพทุ ธศาสนา ใหม้ ปี ณิธานในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ในทวีปยโุ รปน้ ี โชคดีนะครับทผี่ มกลา้ พดู แรง เพราะว่าผมมีรูปแบบใหท้ ่านท้ังหลายไดเ้ หน็ เน๊ียะ วัดศรีนครินทรวรารามน่ลี ะครับ โอเคละครับ มาตา่ งประเทศ รูปแบบกเ็ อาประเทศไทยมา กฏุ ิก็พอสมควร ไอท้ ่ี มันอะไรเยอะแยะ รกรุงรัง เกะกะเดินกย็ าก เพราะมนั มีงาน ท่ไี หนถา้ มงี านมนั เป็นอยา่ งงท้ี ้ังนั้นแหละ ลองไมม่ ี งานแล้วท่านมาสิ สบาย สบายนะ ทีน่ สี่ วยงาม ถ่ายรงถา่ ยรปู นั่งสมาธ ิ เรยี นกมั มัฏฐาน ห้องน้ีเรียนไดต้ ลอด ครับ ไอ้ทฉ่ี นั ขา้ วกต็ รงนูน เรยี นภาษากนั อะไรกนั พวกชาวต่างประเทศมาเรียน โอ้ยนา่ ปล้ืมใจ น่าช่นื ใจ กเ็ คย มาดู เคยมาดูเขาเรยี น อนั น้ีมนั มรี ปู แบบครบั จะไปสร้างในอเมรกิ ากไ็ ด้ครบั สร้างในยโุ รปกไ็ ด้ ในประเทศใดก็ได ้ เบื้องต้นเรามาเช่าบ้านก่อน แลว้ กซ็ ื้อ คอ่ ยๆ ขยายไปครบั ค่อยๆ ขยายไป กวา่ ท่ีกว่าจะโตไดข้ นาดน้ีกต็ งั้ ๒๐ กว่า มันไมใ่ ช่ ๓ ป ี ๕ ปีเสร็จหละครับ สร้างวดั น ้ี กรุงเทพวดั เปน็ ๑๐๐ ปี วดั ผม ๒๙๐ ป ี ต้ังแตส่ มยั รัชกาลท ี่ ๓ มมี าต้ังแตส่ มยั อยธุ ยา มนั ยงั ไมเ่ สร็จเลยครับ ผมกท็ าำ เรอ่ื ยก็ยงั ไม่เสร็จ มนั เสร็จไมไ่ ด้หรอกครับ วัด ต่อเตมิ ตรงโนน้ กวา่ อนั น้ีจะเสร็จ ไอ ่ ไอห่ วั แถวไปซกี แล้ว ตอ้ งไปซอ่ มหวั แถว พอซ่อมหวั แถวเสร็จ เอา้ หางแถวไปเสียอกี ต้องไปซ่อมอีกแลว้ อะไรอย่างน ้ี มันหมุน แตว่ า่ ทำาให้มนั ด ี ทาำ ด้วยความตง้ั อกต้งั ใจ เพราะวา่ ท่านทง้ั หลายน่มี าดว้ ยความเสียสละจรงิ ๆ ดว้ ยความยากลำาบากจริงๆ ไมม่ ีนโยบายอะไรเป็นแก่นเป็นสาร เป็น สาระอะไรเลย นะครบั ท่ีพงทีพ่ ่ึงอะไรกไ็ ม่คอ่ ยม ี ขอฝากอย่างเดียวว่า อยา่ ไปหวังงบประมาณอะไรมนั ครบั เท่าน้ัน แหละ อัตตา หิ อตั ตโน นาโถ สร้างฐานะ สร้างคุณธรรมใหด้ ๆี ครบั พาหสุ ัจจญั จะ ให้ดีๆ สิปปัญจะ ให้ ดๆี วินโย ให้ดๆี สภุ าสิตา วาจา ใหด้ ี เด๋ียวเงินทองมาเองแหละครับ ทรพั ยส์ มบัติในพระพทุ ธศาสนามีมาก ญาติโยมท้ังหลายที่มที รพั ยอ์ ยากจะบริจาคทรพั ย์ มนี อ้ ยกพ็ ยายามเกบ็ ครบั ปะโถแล้วก็มาทาำ บญุ ศรทั ธาครับ ไอค่ นท่ีมมี ากเขาก็ศรทั ธาทำามาก ไอ่คนท่ีมมี ากยงั ไมม่ ีศรทั ธา ถ้าเขาถกู ใจเมือ่ ไหร่นะครบั ถกู ใจเมื่อไหรเ่ ขาให้ เลยครบั เป็น ๑๐๐ ลา้ น ๑,๐๐๐ ลา้ น เขากใ็ ห้ได้ครบั ปัทโท่ อนาถปิณฑิกเศรษฐีมหาเศรษฐ ี เพียงฟงั เพอื่ นบอกว่า เออ่ ทาำ อาหารเล้ียงใครนี ่ จะเล้ียงพระพุทธเจา้ พูดใหม่สิ พระพุทธเจ้า ฮ ึ พระพทุ ธเจา้ เหรอ ? พาไปเฝ้าหน่อยได้ไหม ? ได้ พรงุ่ นไ้ี ป เออ่ เท่านนั้ แหละเขาศรทั ธา กราบเรยี นพระพทุ ธเจ้าวา่ โอกาสหนา้ นมิ นต์ ไปเมอื งสาวัตถบี ้างไดไ้ หม ? พระพทุ ธเจ้ารับนมิ นต ์ โอโห ้ ดีใจเลยครบั สร้างวัดสาวตั ถี ก็วัดสาวตั ถมี ันก็ยังอยู่ ทุกวนั น ี้ น่ันกค็ อื คนท่ยี งั ไม่มีศรทั ธา พอมีศรัทธาในปฏปิ ทา ในอะไรต่อมอิ ะไร ครับ เขาทำาบญุ ครบั ไมต่ อ้ งเปน็ หว่ งละครบั เรอ่ื งเงนิ อยา่ ไปหวงั พ่ึงคนอ่นื มาก หวังพ่งึ ตัวเองกแ็ ลว้ กนั ก็ขอโอกาส ขอบพระคณุ ไว้ นะครบั แลว้ กข็ อให้ทุกๆ ท่านเจรญิ งอกงามไพบูลยใ์ นบวรพระศาสนา ขององคส์ มเด็จพระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าใหย้ ่งิ ๆ ข้นึ ไป ปรารถนาส่ิงใด ต้องการส่ิงใด ให้สาำ เร็จสมความปรารถนา ญาตโิ ยมท้ังหลายก็ขอใหเ้ จริญร่งุ เรอื งก้าวหนา้ ในหน้าท่กี ารงาน ครอบครัว ให้อย่เู ย็นเปน็ สุข ไมอ่ ยู่รอ้ นนอนทุกข ์ ดว้ ยกันทกุ ๆ ทา่ น เทอญ

- 170 - เอกสารประกอบการบรรยาย เรือ่ ง ปณธิ านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในยโุ รป พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี ป.ธ.๙, ราชบณั ฑิต) --------------------------------------------------------------- พระพุทธดาำ รสั จรถ ภกิ ฺขเว จาริกำ พหุชนหิตาย พหชุ นสขุ าย โลกานุกมปฺ าย อตฺถาย หติ าย สุขาย เทวมนสุ สฺ านำ ฯ ดูกอ่ นภิกษุท้งั หลาย พวกเธอจงเท่ยี วจารกิ ไปเพื่อเกือ้ กูลแก่ชนหมมู่ าก เพอื่ ความสขุ แก่ชนหม่มู าก เพ่ืออนเุ คราะห์ชาวโลก เพ่อื ประโยชน์ เพื่อ เกื้อกลู เพื่อความสขุ แกเ่ ทวดาและมนษุ ย์ทงั้ หลาย ฯ ปฐมบทพทุ ธปณธิ าน ข้อความข้างต้นนี้ย่อมเป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นพระพุทธดำารัสท่ีพระพุทธเจ้าตรัสแก่พระสงฆ์สาวกตอนท่ี สง่ พระสงฆส์ าวกไปประกาศพระศาสนา จดั เปน็ ปฐมดาำ รัส คอื ข้อความทต่ี รสั เกี่ยวกับการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา เป็นหลักการครัง้ แรก จดั เปน็ ปฐมนเิ ทศ คือการแนะนำาชีแ้ นวเพื่อการ ศึกษาและการทาำ งานเบือ้ งตน้ และจดั เปน็ ปฐมบท คือ บทเร่ิมตน้ ทพี่ ระสงฆส์ าวกผไู้ ปประกาศพระพทุ ธศาสนาในท่ีต่างๆ จะได้ยึดถือเปน็ หลกั ปฏิบตั ติ าม เพ่อื ให้เกดิ คณุ ภาพตามพระพทุ ธประสงค์ คลา้ ยกับเป็นกรอบสำาหรบั จาำ กดั ขอบเขตของการทำางาน จะได้ไม่ออก นอกลู่นอกทางไปจนเสยี ประโยชนแ์ ละเสีย เวลาไปโดยใช่เหตุ พระพทุ ธดาำ รัสขา้ งตน้ ทรงระบุเปา้ หมายหรอื วัตถปุ ระสงค์ของการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาไวช้ ดั เจน โดย ทรงแสดงไว ้ ๓ ประการ คือ ๑. พหชุ นหิตาย เพื่อเก้ือกลู แกช่ นหม่มู าก ๒. พหชุ นสขุ าย เพอื่ ความสุขแก่ชนหมูม่ าก ๓. โลกานกุ มปฺ าย เพ่ืออนุเคราะหช์ าวโลก เมื่อเปน็ ไปครบถ้วนตามวัตถปุ ระสงคแ์ ล้วย่อมเกิดประโยชน ์ เกดิ อานิสงส์ เปน็ ผลแกเ่ ทวดาและมนุษย์ทงั้ หลาย คอื เป็น อตฺถาย เป็น หิตาย และเป็น สขุ าย เรียกตามภาษาไทยวา่ เปน็ อัตถะ หติ ะ สขุ ะ อนั ขอ้ ความว่า อตถฺ าย หิตาย สขุ าย เป็นไฉน ในอรรถกถามัชฌิมนกิ ายชอ่ื ปปัญจสทู น ี ได้แสดงไวว้ ่า อตฺถาย หมายถึง พระนพิ พานซึ่งเปน็ ปรมตั ถะ หติ าย หมายถึง มรรคทที่ าำ ใหบ้ รรลถุ งึ พระนพิ พาน สขุ าย หมายถึง สขุ ในผลสมาบัต ิ ซึง่ ไม่มีสุขท่ยี ิ่งไปกวา่ น้ี คำาอธบิ ายของศัพทว์ า่ อัตถะ หิตะ และ สุขะ ในอรรถกถาน้ี ทา่ นมุ่งเน้นไปทพ่ี ระนิพพานโดยตรง และ อธิบายว่า คาำ ว่า เทวดาและมนษุ ย์ทั้งหลาย ม่งุ เฉพาะเวไนยสตั วท์ เี่ ปน็ ภัพพบุคคลเทา่ นั้น บคุ คลอืน่ ท่ีมใิ ชภ่ พั พบคุ คลไม่อาจบรรลุถงึ พระนพิ พานได้ เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วย่อมมองเหน็ ไดว้ า่ เริม่ แรกพระพุทธองค์ทรงมีเปา้ หมายในการประกาศพระศาสนาอยู่ ท ่ี เพ่อื ให้ชาวโลกพ้นจากทุกข์ทัง้ มวล ตามเป้าหมายที่เสดจ็ ออกผนวช คอื หลังจากท่ไี ด้ทรงเหน็ เทวทตู ๔ คือคน แก ่ คนเจบ็ คนตาย และสมณะ ซ่งึ ตคี วามไดว้ ่าทรงเหน็ ความเป็นจรงิ ของชีวิตของทุกคน ไม่เวน้ แมแ้ ต่พระองค์ เอง คอื ทรงเห็นวา่ มนษุ ยท์ เี่ กดิ มานั้นเตม็ ไปด้วยความทุกข ์ ทกุ ข์เพราะแก ่ ทุกข์เพราะเจบ็ ทุกข์เพราะตาย เมือ่

- 171 - ทรงเหน็ อย่างนี้จึงทรงดาำ ริวา่ เมอื่ มแี ก่ มีเจบ็ มตี าย กต็ อ้ งมีไมแ่ ก่ ไมเ่ จ็บ ไมต่ าย ซง่ึ สรุปวา่ เมื่อมีทุกข์กต็ ้อง มีสขุ ทแ่ี ทจ้ ริง เหมอื นเมอ่ื มีมดื กม็ ีสวา่ งแก้ เมื่อมดี าำ กม็ ีขาวแก้ เปน็ คูก่ ันทกุ อย่างดงั น้ี จึงตัดสนิ พระทัยเสด็จ ออกผนวชเพอ่ื แสวงหาทางทจ่ี ะได้บรรลุถงึ ความพน้ ทุกข์ ไดพ้ บความสุขท่แี ท้จรงิ เมอ่ื ได้ตรสั รแู้ ล้ว จึงทรงมุ่งใหช้ าวโลกพ้นจากความทกุ ขเ์ ป็นหลกั พระอรรถกถาจารยจ์ ึงตีความคำาว่า อัตถะ หติ ะ และ สขุ ะ ในความหมายอยา่ งสงู สดุ คือหมายถึงพระนิพพานเลยทีเดียว อาจกล่าวได้ว่า ในเบ้อื งต้นพระพทุ ธองคท์ รงมเี ป้าหมายเพื่อใหช้ าวโลกไดร้ บั ผลคอื นพิ พานสมบตั ิเปน็ สาำ คญั ข้อธรรมทท่ี รงแสดงจงึ ทรงเน้นใหเ้ กิดปัญญา เหน็ แจ้งชัดในเรือ่ งของชีวติ ทาำ ใหเ้ กิดนิพพทิ าเบอ่ื หน่าย คลายความยินดีในสังขารร่างกาย ถอนความยึดมัน่ ถอื มนั่ ในตัวตนลง และหลดุ พน้ จากกเิ ลสไดใ้ นที่สุด ดว้ ยเหตุนี้พระอรรถกถาจารย์จึงอธิบายความคาำ ว่า อัตถะ หิตะ สขุ ะ ว่าหมายถึงพระนิพพานโดยตรง ต่อมา พระพทุ ธองคท์ รงผ่อนเกณฑว์ ตั ถุประสงคอ์ ย่างสูงคอื นิพพานสมบัตโิ ดยตรง ลงมาเปน็ อย่าง กลางคือสวรรคส์ มบัติและอย่างตำา่ คอื มนษุ ยส์ มบัตติ ามวาสนาบารมขี องชาวโลก จึงทรงแสดงธรรมอนั เปน็ ข้อ ปฏบิ ตั เิ พอ่ื ให้ได้นิพพานสมบตั ิบ้าง ไดส้ วรรค์สมบตั ิบ้าง ได้มนุษยส์ มบตั บิ า้ ง แลว้ แตว่ ่าผู้ใดตอ้ งการสมบตั ิแบบ ไหน ดังน้ันขอ้ ธรรมทที่ รงแสดงจึงมหี ลากหลายรปู แบบ เมือ่ เปน็ ดังน้ ี จงึ พอสรุปไดว้ ่า คำาวา่ อัตถะ หิตะ และ สขุ ะ นั้นมคี วามหมายทผี่ อ่ นลงมาจากนิพพาน สมบัติ เปน็ อยา่ งอ่ืนอีกได้อกี คอื อตั ถะ หมายถงึ ประโยชน์คอื สิง่ ท่เี ป็นผลดีหรือเป็นคุณโดยตรง เช่น ปจั จัย ๔ ไดแ้ ก่ อาหาร เคร่ือง นงุ่ ห่ม ท่อี ยูอ่ าศัย ยารกั ษาโรค หรือหมายถงึ การช่วยทาำ งาน การอปุ ถัมภ์ การเล้ยี งดู การอาำ นวยความ สะดวก เป็นตน้ ดังน้นั เม่อื พูดถึงบำาเพญ็ ประโยชน์ระดบั อัตถะกห็ มายถงึ การกระทำาอย่างเช่น ใหอ้ าหาร ใหย้ า รกั ษาโรค การชว่ ยเหลือทำากจิ ตา่ งๆ การเลย้ี งด ู เปน็ ต้น จัดเป็นอัตถะทง้ั ส้นิ หิตะ หมายถึง การเกอื้ กลู การช่วยเหลือโดยอ้อม เช่น เตือนสติเตือนใจใหร้ ะลึกรูเ้ มอ่ื เขาทำาผดิ พลาด จะไดก้ ลบั ตวั หรือเลิกละไม่ทาำ ตอ่ ไป หรอื การใหก้ ำาลงั ใจ เมอื่ เขาเกิดทอ้ แทผ้ ดิ หวงั ไม่มจี ิตใจทีจ่ ะทาำ กจิ ทำาหน้าที่ อะไร หรือใหค้ าำ แนะนาำ แนะแนวทางดาำ เนินชีวติ หรือส่งั สอนให้มีความร ู้ ให้มปี ญั ญา ใหท้ ำางานเป็น เป็นต้น อยา่ งนจ้ี ัดเป็นหติ ะ สุขะ หมายถึง ใหส้ ง่ิ ทอี่ ำานวยความสขุ โดยตรง เช่น ทำาใหเ้ กิดความสบายใจ คลายทกุ ขก์ ังวล คลาย ทกุ ขใ์ ห้ ทำาให้เกิดกาำ ลังใจ ตอ่ สู ้ ไม่ทอ้ แท ้ มีจิตใจม่ันคง อย่างนี้จดั เปน็ สขุ ะ การทำาให้เกดิ อตั ถะ หติ ะ สขุ ะ น้กี ็เปน็ สว่ นหนึ่งของการช่วยเหลือชาวโลก แมพ้ ระสงฆ์ก็สามารถทาำ ได ้ เมือ่ ทาำ แล้วก็จกั ทาำ ให้ชาวโลกเกิดความร้สู กึ วา่ พระสงฆ์เป็นมติ ร มไี มตร ี ช่วยเหลอื เก้อื กลู ไม่ทอดทิง้ สมควรแก่ การใหค้ วามเคารพนับถือ กราบไหว้ และสมควรแก่การจะได้รับความอปุ ถมั ภ์บำารุง พระพุทธดาำ รัสข้างต้น ทรงแสดงแกพ่ ระสงฆส์ าวกเพื่อให้ไปชว่ ยเหลอื ชาวโลก เพ่ือให้ชาวโลกได้รบั อัตถะ หิตะ สขุ ะ ท้ังท่ีเปน็ นิพพานสมบตั ิ สวรรค์สมบัติ และ มนษุ ย์สมบัติ ซึง่ ลว้ นเปน็ พหชุ นหิตาย เก้ือกูลแก่ พหชู น เปน็ พหชุ นสุขาย เปน็ ความสุขแก่พหชู น และเป็น โลกานกุ มฺปาย อนเุ คราะหช์ าวโลก อยา่ งแท้จริง กล่าวไดว้ า่ พระพทุ ธดำารสั นีแ้ สดงถงึ พุทธปณิธานในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาโดยตรง ปณธิ านการเผยแผ่ คืออย่างไร ปณิธาน เขยี นอกี อยา่ งหนึ่งวา่ ประณธิ าน มคี วามหมายท่ีใช้กันอยูท่ งั้ ในแวดวงของพระสงฆแ์ ละของ ชาวบ้าน ๒ ประการ คือ ตงั้ ความปรารถนา กบั ต้ังใจ

- 172 - ตัง้ ความปรารถนา หมายถึง ตงั้ วัตถปุ ระสงค,์ ตั้งความมุ่งหมาย, กำาหนดจดุ มุ่งหมาย เช่น ต้องการ ได้อะไรอย่างไร กต็ ัง้ เป้าหมายวัตถปุ ระสงคไ์ ว้ กาำ หนดกรอบผลสาำ เร็จไว ้ ต้ังใจ หมายถึง เอาใจจดจ่ออยกู่ ับเรอื่ งน้นั , มใี จแน่วแน่อยกู่ ับเรอ่ื งนั้น ไม่วอกแวกซัดส่าย ไม่โลเล เหลาะแหละ เช่น ต้ังใจทาำ งาน กห็ มายถงึ เอาใจจดจ่ออย่กู ับงาน แนว่ แน่อยกู่ ับงาน ต้ังใจอ่านหนงั สอื ก็หมาย ถึงเอาใจจดอยู่กบั หนังสอื แนว่ แน่อยูก่ บั หนังสอื ในสองประเดน็ นม้ี ีความเก่ียวขอ้ งกนั โดยนยั คือเม่ือต้ังความปรารถนาว่าจะทำาส่งิ น้ ี เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลอย่างนี้ แล้วกต็ ้ังใจทำา เอาใจจดจ่ออยกู่ บั สง่ิ ท่ที าำ นัน้ จนกว่าจะสำาเรจ็ ตามทีป่ รารถนา นี้เปน็ เรอ่ื งของปณธิ าน การเผยแผ่ หมายถงึ การขยายออกไป, การทาำ ให้แพร่หลายขยายตวั ออกไป ใชใ้ นการเผยแผ่พระพทุ ธ ศาสนา คาำ น้มี ีคาำ ใกล้เคยี งอกี คาำ หนง่ึ คือ เผยแพร่ ซึ่งหมายถงึ การโฆษณาให้แพรห่ ลาย แตใ่ นพระพุทธศาสนา มไิ ด้ใช้วา่ เผยแพรพ่ ระพุทธศาสนา ใช้แตค่ าำ วา่ เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา เปน็ หลกั เมือ่ เปน็ ดงั น้ี คาำ วา่ ปณิธานการเผยแผ่ จงึ หมายถึง การตั้งความปรารถนาวา่ จะทาำ ให้พระพทุ ธศาสนา แพร่หลายขยายตวั ออกไป แลว้ ตัง้ ใจทำาโดยเอาใจจดจ่อ มใี จแน่วแนอ่ ยกู่ ับการเผยแผน่ ั้น การท่จี ะมัน่ อยใู่ น ปณธิ านเช่นนไ้ี ด้จาำ ต้องมีความเสียสละอย่างสูง จิตใจตอ้ งหนักแนน่ มนั่ คง แน่วแน่นิ่งอยกู่ ับงานเผยแผ่ หาไม่แลว้ ก็อาจดาำ รงสภาวะอยู่ไดไ้ ม่นาน หรือเลิกละความต้ังใจ ปล่อยวาง ท้อแท ้ ไมเ่ ตม็ ท่ีเกีย่ วกับการเผยแผ่ ปณธิ านการเผยแผ่นี้ จำาตอ้ งทาำ ใหเ้ กิดขึน้ ปลูกฝังใหแ้ น่วแน่ เป็นตราประทบั อยกู่ ับใจ ไปไหนไปด้วย กัน ไม่ทิง้ ขว้างเหลาะแหละ แมจ้ ะยากลาำ บากอย่างไรกจ็ ะไมท่ ้อแท้ มีแตจ่ ะอดทน ต่อสู้จนสนิ้ ลมหายใจ พระสงฆส์ าวกของพระพทุ ธองค์ตงั้ แตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ ัน ถอื ว่าเป็นพุทธทายาทเปน็ ธรรมทายาทผู้ สืบสานพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะพระสงฆ์ผทู้ ำาหนา้ ทเ่ี ป็นพระนกั เผยแผ่ เปน็ พระธรรมทตู หรอื เป็นพระธรรม จาริก ซ่งึ มหี น้าท่เี พอ่ื การนโี้ ดยตรง จำาต้องมปี ณธิ านการเผยแผ ่ มีความต้งั ใจปรารถนาเพอ่ื สรา้ งสรรค์อัตถะ หติ ะ สขุ ะ แก่ชาวโลก เฉกเชน่ พระพทุ ธองค์ผูท้ รงมีพระปณธิ าน ทรงปฏิบัตติ ามพระปณิธาน และทรงวางแบบ ปฏิบตั ิไว้ การมีปณิธานและปฏิบัตติ ามปณธิ านในเรอ่ื งการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาน้ันสามารถดำาเนนิ รอยตาม แบบปฏิบตั ขิ องพระพุทธองคไ์ ด้เปน็ อยา่ งดี แมจ้ ะเพ่มิ เติมรายละเอียดบา้ ง เพ่ือให้เหมาะสมกบั สถานทแี่ ละ กาลเวลา กส็ ามารถทำาไดห้ ากไมท่ ำาใหร้ ูปแบบทท่ี รงวางไวว้ ิปรติ คลาดเคล่อื นหรอื เปลยี่ นรูปไป ท้ังนี้ก็อยูท่ ่ี ความจริงใจ ความเสียสละ และความม่นั อยใู่ นปณิธานการเผยแผ่ของพระสงฆผ์ ทู้ าำ หนา้ ที่เผยแผ่พระพทุ ธศาสนา ในอดีต พระมหาเถระเชน่ พระโสณะและพระอตุ ตระ ท่ถี ูกกำาหนดให้เป็นพระธรรมทตู นำาคณะไปยังดนิ แดนสวุ รรณภูม ิ ก็มปี ณธิ านการเผยแผแ่ น่วแน่ ยอมเสยี สละถิน่ ทอี่ ย่ ู เสียสละความสขุ สบายทีเ่ คยม ี ไปยงั ดิน แดนทอ่ี ยหู่ า่ งไกล มีสภาพเปน็ อยา่ งไรก็ไมร่ ู้ ผูค้ นกไ็ ม่รู้จกั จะอ่มิ หรืออดอยา่ งไรกเ็ สี่ยงไป เรยี กว่ายอมไปตายเอา ดาบหน้าทำานองน้ัน เมื่อไปถึงสุวรรณภูมิแล้ว คงตอ้ งบุกบ่ัน พากเพียร อดทนอยา่ งมหาศาล ใจต้องม่นั ไมห่ วน่ั ไหว ทาำ ความปรารถนาใหส้ ำาเรจ็ แลว้ ตอ่ มากส็ ามารถวางรากฐานพระ พทุ ธศาสนาในสวุ รรณภูมไิ ดส้ ำาเรจ็ และ ย่งั ยนื มาตราบเท่าทกุ วนั น้ ี นี่แหละสมกบั ทีก่ ลา่ วกันไวว้ า่ “ทุกส่งิ สมหวังไดด้ ้วยต้ังใจ” องค์ประกอบของนักเผยแผ่ นกั เผยแผแ่ มจ้ ะมปี ณธิ านแนว่ แน่อย่างไร ก็จาำ ต้องมอี งค์ประกอบหลักเป็นตวั ช่วย หาไม่แล้วก็อาจลม้ เหลวได ้ ทำางานไม่สำาเรจ็ ได้ องค์ประกอบทีส่ าำ คัญมีหลายประการ แต่ในทนี่ ข้ี อเสนอองค ์ ประกอบหลักอนั เปน็ คณุ สมบตั ิของนกั เผยแผ่เบ้ืองต้น นัน่ กค็ ือข้อธรรมในมงคลสูตรชดุ หนึ่งซง่ึ มีอย ู่ ๔ ประการ ตามพระบาลีทีว่ ่า

- 173 - พาหสุ จฺจญฺจ สิปฺปญฺจ วนิ โย จ สุสกิ ขฺ ิโต สภุ าสิตา จ ยา วาจา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมำ ฯ พาหุสจั จะ ๑ ศิลปะ ๑ วินัยท่ศี กึ ษาดแี ลว้ ๑ วาจาสภุ าษิต ๑ สปี่ ระการนเ้ี ปน็ มงคลอยา่ งสงู สุด ฯ พระบาลีบทนไี้ ด้รูแ้ ละไดส้ วดกันอยทู่ ว่ั ไป และมกั จะมองวา่ ไม่เหน็ มีอะไร เปน็ เรื่องปกตธิ รรมดาท่วั ไป ซ่ึง หากมองว่าเปน็ ปกตกิ เ็ ปน็ ปกตอิ ยา่ งท่ีมอง และหากไมว่ ิเคราะหห์ รอื วิจารณ์อะไร ก็จะมองไมเ่ ห็นอะไรนอกเหนือ จากคาำ แปล แตใ่ นท่ีนต้ี อ้ งการใหม้ องอย่างวิเคราะหค์ ือมองอยา่ งละเอียดถถี่ ว้ น และใหเ้ ห็นสภาพข้อเท็จจริงของ ถอ้ ยคำาที่ทรงแสดง ความจรงิ พระบาลีข้างตน้ ท่านอธิบายไว้คอ่ นข้างละเอียดในหนงั สือมงคลทีปน ี ซึ่งท่านพระสริ มิ ั งคลาจารย ์ แห่งลา้ นนา นพิ นธ์ไว้ แตก่ ย็ งั มขี อ้ ท่ีสามารถอธิบายหรอื ตคี วามเพม่ิ เตมิ ไดอ้ กี หรือมขี ้อที่ สามารถประยุกตเ์ ขา้ ไปในประเดน็ ได้อีก ซ่ึงทำาใหเ้ นือ้ ความกวา้ งขวาง เปน็ ทางนำาไปปฏิบัติเพมิ่ เติมไดอ้ ย่างดี องค์ประกอบประการแรก พาหุสัจจะ พาหุสจั จะ นั้นแปลกนั ว่า ความเปน็ ผู้ได้ยนิ ไดฟ้ ังมาก คือไดเ้ รยี นร้มู ามาก ทา่ นธิบายวา่ หมายถงึ ความฉลาดในเรื่องนั้นๆ ซึ่งเกิดจากการเรียนหรอื การฟงั พระพทุ ธพจน์หรอื ศลิ ปะภายนอก ยกเว้นความฉลาดใน หัตถกรรมซ่ึงเป็นเรอ่ื งของศิลปะ ทา่ นใหค้ วามหมายไว้แค่น้ี หากวิเคราะห์ใหด้ ี พาหสุ จั จะ คาำ นีม้ ีความหมายไปถงึ ความฉลาดรวู้ ชิ าการตา่ งๆทุกแขนง ทุกเรือ่ ง โดยรอู้ ยา่ งละเอียด ลกึ ซึ้ง เขา้ ถึงแกน่ แท้ ความฉลาดรูอ้ ย่างนเ้ี กดิ จากการ รับร ู้ จากแหล่งความรู้ต่างๆ อยา่ ง ที่โบราณกล่าวไว้ว่า “เรยี นจากคร ู ดจู ากตาำ รบั สดับปาฐะ” ไม่ว่าจะรับร้จู ากการเรยี นในหอ้ งเรยี น การฟัง การ พูดคยุ การทรงจำา หรอื จากประสบการณ์ จากการทาำ งาน เปน็ ต้น ซงึ่ ทำาใหเ้ กดิ ความรทู้ ง้ั ส้นิ เร่อื งท่ีรับรมู้ าจากการเรยี นจากครเู ปน็ ตน้ นั้น ปัจจบุ ันเรยี กว่าวชิ า ซ่ึงมีหลายแขนงหลายหมวด เชน่ หมวดภาษา หมวดวิทยาศาสตร์ หมวดวทิ ยาศาสตร์ หมวดสังคมศกึ ษา หมวดศิลปะ เป็นตน้ เนือ่ งจากวิชาการตา่ งๆมีมาก เม่อื รับร้แู ลว้ กเ็ กิดความรู้ มีความร้แู ลว้ นาำ ไปใช้ นาำ ไปประกอบอาชีพ นาำ ไปเป็นเครื่องมอื ชว่ ยเหลือในการทาำ งานได ้ แตค่ นเราไมอ่ าจจะเรยี นและรบั รู้ไดท้ กุ เรื่องทกุ วิชา จาำ เป็นตอ้ งเลือก เฟ้นวา่ ควรเรียนรเู้ ร่ืองอะไร ควรมีความรดู้ ้านไหน ทา่ นผ้รู แู้ ต่โบราณได้แนะนำาใหค้ ดั สรรโดยพจิ ารณาวา่ เรอ่ื งใด จาำ เป็นหรอื ไม่จำาเป็นทจี่ ะเรียนรู้ตามลำาดับ ดงั น้ี ๑. เรอื่ งท่ตี ้องรู้ คือ เร่ืองหรอื วิชาทจ่ี าำ เปน็ ตอ่ การดาำ รงชีวิต เช่นเรอื่ งสุขภาพ เร่อื งอาหาร เร่อื ง อากาศ เร่ืองเก่ียวกบั การดำารงชวี ิตอย ู่ เร่ืองคุณธรรมที่ควรประพฤติปฏิบัตเิ พือ่ อยู่ร่วมกันอยา่ งสงบสุข เร่อื งท่ี เก่ยี วข้องและจำาเป็นต่อการปฏิบตั ิงาน เป็นตน้ อันนี้เป็นเร่ืองที่ตอ้ งรู ้ ตอ้ งเรยี นรู ้ หากไม่รู้หรือไมเ่ รียนร้กู ็จะทำาให้ เกดิ ความดอ้ ย กา้ วหนา้ ไมท่ นั คนอน่ื และไม่อาจดาำ รงชีวิตอยา่ งเป็นสุขไดด้ เี ทา่ ทีค่ วร ซึ่งถือว่าจาำ เปน็ มาก ขาดไม่ ได้ ๒. เรือ่ งทคี่ วรรู้ คือ เร่ืองทีไ่ ม่จาำ เปน็ นกั แตก่ ็ควรรเู้ ข้าไว้เพื่อจะไดป้ ฏิบตั ไิ ดถ้ กู ตอ้ งหากต้องการ จัด เป็นความรเู้ สริม เมือ่ ปฏิบตั ติ ามได้กจ็ ะไดพ้ นู เพ่ิมความเจริญความก้าวหนา้ แก่ตน แตห่ ากไมร่ ้หู รือ ไมป่ ฏบิ ตั ิตาม ก็จะไมไ่ ด้รบั ผลอะไรตอบแทน เชน่ การปฏบิ ัติธรรม การงานเสริมทท่ี ำาได้เมื่อมีเวลาวา่ ง เป็นตน้ เร่ืองเหล่านีค้ วร ร ู้ แตถ่ า้ ไม่รู้กไ็ มเ่ สียหาย ไมม่ โี ทษอะไร เป็นแตไ่ ม่ได้ประโยชน์อะไรเท่านั้น ๓. เรอื่ งที่รู้กไ็ ด้ ไม่รกู้ ไ็ ด ้ คอื เรือ่ งทไ่ี ม่มคี วามจำาเปน็ อะไร รไู้ ปก็เท่านน้ั ไมไ่ ด้ประโยชน์อะไรตอบแทน

- 174 - แม้ไม่รู้ก็ไมเ่ สยี หายอะไร แตถ่ ้ารู้ก็สกั แตว่ า่ ร้ ู เข้าทาำ นอง “รไู้ ว้ใชว่ า่ ใสบ่ ่าแบกหาม” ไมไ่ ดป้ ระโยชน์อะไรเหมอื นกนั เร่ืองทาำ นองนีม้ ีมาก ไม่จาำ เปน็ ต้องขวนขวายดิ้นรนเพ่ือร ู้ ถ้าดน้ิ รนขวนขวายเพื่อร้ทู ้ังท่ไี มม่ ีประโยชนอ์ ะไร กไ็ ด้ ประโยชนส์ กั แต่ว่าไดร้ ูเ้ ทา่ นน้ั แต่ทาำ ให้เสยี เวลา ทาำ ให้เสียเงนิ ทอง ทาำ ให้เสยี สขุ ภาพจิตเสยี อารมณโ์ ดยใชเ่ หตเุ สีย ด้วยซา้ำ ไป ๔. เรอ่ื งท่ไี มจ่ ำาตอ้ งรู้ คอื เร่อื งที่ไกลตัว รไู้ ปก็ไม่มปี ระโยชนใ์ ดๆแก่ตวั ทง้ั สิน้ แมจ้ ะเปน็ เรือ่ งใหญ่ เป็นเรอ่ื งสำาคัญ แตก่ ็ใหญแ่ ละสาำ คัญสาำ หรบั คนอน่ื ไม่เก่ียวข้องกบั ตวั ไมว่ ่าทางตรงหรือทางอ้อม จดั เปน็ เร่ือง ทไ่ี มจ่ าำ ต้องร ู้ หลบไดเ้ ป็นหลบ หา่ งได้เป็นหา่ ง ทาำ เป็นหหู นวกตาบอดเสีย แมไ้ ม่ได้อะไรแต่กไ็ ม่เสยี หายอะไร คนฉลาดยอ่ มสามารถแยกแยะเรอื่ งต่างๆได้ ยอ่ มสามารถบรหิ ารเวลา บริหารสขุ ภาพ บรหิ ารเงิน บริหารสมองของตวั เอง ให้ได้ประโยชน์จากการรับรเู้ รือ่ งต่างๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถา้ เปน็ เรอ่ื งท่ีตอ้ งรู้ ก็ ขวนขวายดิน้ รนรู้ใหม้ าก ใหก้ ระจา่ ง ถา้ เปน็ เรื่องควรร ู้ ก็คดั สรรว่าเรือ่ งใดบา้ งทค่ี วรรู้ ถา้ เปน็ เรื่องรู้ก็ไดไ้ มร่ ู้ก็ได้ ก็จดั เวลาหรือใช้เวลาวา่ งซึง่ มไี มม่ ากนกั รบั รู้บา้ ง ถา้ เป็นเรื่องไม่จาำ ต้องรู้ กท็ ง้ิ ไปเลย ไมส่ นใจ ไมใ่ สใ่ จที่จะรบั รูแ้ ต่ ประการใด เพราะแยกแยะและปฏบิ ัตไิ ดด้ งั นจี้ ึงทำาใหผ้ ูน้ ้ันเปน็ คนฉลาด ได้รบั ความสาำ เร็จในชวี ติ มชี อ่ื เสียงเปน็ ท่ี ยอมรับกนั ในวงสังคม พาหสุ ัจจะ ความฉลาดรูว้ ชิ าการตา่ งๆ โดยเฉพาะในเร่อื งทีต่ อ้ งร้แู ละเรอ่ื งที่ควรรเู้ ปน็ อยา่ งดียอ่ มนาำ ใหเ้ กดิ มงคล คือนำาความเจรญิ มาให้แกผ่ ู้ฉลาดรู้นน้ั นาำ ใหม้ ีช่อื เสยี ง มเี กียรต ิ มยี ศตาำ แหน่ง มที รพั ย์สนิ เงินทอง นาำ ความสขุ กายสบายใจมาให้ ตลอดถงึ นำาความสาำ เรจ็ แหง่ การงานทที่ าำ มาให้ ซง่ึ เรยี กวา่ นำามงคลมาให้ หากไป ฉลาดรู้ในเรื่องทีร่ กู้ ไ็ ด้ไม่รกู้ ไ็ ด ้ หรอื ไปฉลาดรู้ในเรอ่ื งท่ไี มจ่ าำ ตอ้ งร ู้ หาให้เกิดมงคลหรือความเจรญิ อะไรที่เป็นแกน่ เป็นสาระแก่ตนไม่ มแี ตจ่ ะนาำ พาให้เสยี เสียด้วยซ้ำาไป พาหุสัจจะ จัดเป็นองคข์ องนักเผยแผป่ ระการต้น นกั เผยแผท่ ่ีมคี ณุ ภาพจาำ ตอ้ งมภี ูมปิ ัญญา มีความ ฉลาดรู้ เป็นผู้รทู้ ล่ี ึกซงึ้ โดยเฉพาะมคี วามฉลาดร้ใู นเรอ่ื งทีต่ อ้ งรแู้ ละเรอ่ื งที่ควรรู้ คอื มีความร้ใู นเร่ืองพระพุทธ ศาสนา เร่อื งหลักและวิธีการเผยแผ่ เรือ่ งของวิชาการต่างๆทส่ี าำ คัญเก่ียวขอ้ งกับการเผยแผ่ เร่ืองภาษาทีจ่ ะ ถ่ายทอดไปสู่ผ้ฟู ัง เรื่องที่เกี่ยวกบั ถน่ิ หรือประเทศท่ตี นไปเผยแผ่ ตลอดถึงผ้คู นและวัฒนธรรมในถิน่ นนั้ เปน็ อย่างดี หากขาดความรเู้ รอื่ งเหลา่ น ี้ การเผยแผย่ อ่ มมีอปุ สรรคแนน่ อน โบราณจึงแนะนาำ วา่ “รู้เขา รเู้ รา ชนะแนน่ อน” องคป์ ระกอบประการที่สอง ศลิ ปะ ศลิ ปะ น้นั ทา่ นอธบิ ายวา่ หมายถงึ ความเป็นผฉู้ ลาดในหตั ถกรรม คอื มคี วามสามารถในการใชม้ ือทาำ ส่งิ ตา่ งๆได้อยา่ งดี สามารถประดษิ ฐท์ ำาส่งิ ของเครื่องใช ้ เคร่ืองมือ และสงิ่ อน่ื ๆท่ีจะอำานวยความสะดวกใหใ้ นชีวติ ประจาำ วนั ตลอดจนถึงสามารถทาำ มาหากนิ ด้วยการทาำ อาชีพต่างๆได้เปน็ อยา่ งดี ศลิ ปะเช่นนก้ี จ็ ัดว่าเปน็ มงคล นาำ ความเจริญมาให้เช่นกัน ในความหมายทก่ี ว้างกวา่ นั้น ศลิ ปะ หมายถึง การถา่ ยทอดพาหุสจั จะหรอื วชิ าความรู้ท่ีรบั รู้มาให้ ปรากฏเปน็ รูปธรรม ให้เหน็ ไดส้ มั ผัสไดอ้ ย่างถกู ต้อง สวยงาม นาำ ให้เกิดอารมณ์รว่ มท่ปี ระทบั ใจ เปน็ ทีย่ อมรับ กนั ในวงกวา้ ง การถา่ ยทอดอนั เปน็ ศิลปะน้นั สามารถประกอบเปน็ อาชพี ได ้ ไม่ว่าจะถา่ ยทอดด้วยมอื เช่น ช่างเขียน ช่างไม้ ชา่ งแกะสลัก ตลอดถึงชกมวย ถ่ายทอดด้วยกาย เช่น นักกีฬา คนงานยกแบกหาม ตลอดถึง ถา่ ยทอด ด้วยปาก เชน่ นกั ร้อง นักพูด เป็นตน้ การถ่ายทอดเช่นนี้นำารายไดเ้ ปน็ กอบเป็นกำามาให้ ยิ่งสามารถถา่ ยทอด ไดย้ ากเทา่ ไร ถ่ายทอดไดด้ ีเทา่ ไร กย็ ่งิ ทาำ ให้รายได้มีมากข้นึ เท่าน้ัน

- 175 - ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนานนั้ จำาตอ้ งอาศัยศิลปะในการถา่ ยทอดข้อธรรม สามารถตคี วามและ ขยายความขอ้ ธรรมไดก้ ว้างขวาง สามารถถา่ ยทอดข้อธรรมไปสู่ผ้ฟู ังให้รบั รู้ ให้เข้าใจ ให้เขา้ ถงึ ได้อย่างถูก ตอ้ ง ชัดเจน ไม่คลุมเครือ นำาใหเ้ กดิ ศรทั ธาและปญั ญาแก่ผฟู้ งั ไดอ้ ย่างดี หากขาดศิลปะในการถา่ ยทอดเสยี แล้ว การเผยแผย่ อ่ มสะดดุ ไมเ่ ดนิ หนา้ ไปถงึ ไหน ทาำ ใหก้ ารเผยแผไ่ ม่ ก้าวหน้าเทา่ ทคี่ วร ท้งั ทใ่ี ชเ้ วลามามากแล้ว ทัง้ นเี้ พราะขาดศิลปะในการถ่ายทอดนน่ั เอง องคป์ ระกอบประการที่สาม วนิ ัยทศ่ี ึกษาดแี ล้ว วินัยที่ศกึ ษาดแี ลว้ ทา่ นอธบิ ายวา่ หมายถงึ การป้องกัน, การห้ามกาย วาจา ใจ จากอาบัติ จากโทษ ผดิ ศลี หรอื จากอกุศลกรรมบถ อันเปน็ การมิใหป้ ระพฤติไมส่ มควรออกมาทางกายและวาจา การอธบิ ายนี้ เป็นการอธบิ ายทีม่ ุ่งไปทพ่ี ระสงฆ์เป็นหลัก แต่แทท้ จ่ี รงิ แลว้ คำาว่า วินยั นมี้ คี วามหมายหลายอยา่ ง คอื หมายถงึ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ขอ้ ปฏิบตั ิ ตลอดถงึ ศีล ได้แกข่ อ้ สำาหรบั กำากบั ความประพฤตใิ ห้เปน็ แบบแผนเป็นอันหน่งึ อันเดยี วกัน ระเบยี บปฏิบัติหรอื แบบแผนอันใดท่กี าำ หนดกนั ขนึ้ มาเป็นกติกาเปน็ ขอ้ บังคับสาำ หรบั ปฏบิ ตั ิร่วมกนั หากได้ปฏบิ ัติไปตามระเบียบอันนั้น เหมอื นกันแลว้ ยอ่ มกอ่ ให้เกดิ ความสงบ ความเรียบร้อย ความสวย งามได้ ระเบยี บหรือแบบแผน อันน้ันแหละ จดั วา่ เป็นวินยั ดังนน้ั ท่านจึงกลา่ วว่า แม้ศลี ก็จัดเปน็ วนิ ยั เพราะเปน็ ระเบียบปฏิบตั ิ เปน็ แบบแผนสำาหรบั กาำ กับความ ประพฤติใหเ้ ป็นอนั หนึง่ อนั เดียวกัน ผู้ตงั้ มัน่ อยู่ในศลี มีศลี สมบรู ณ ์ รักษาปฏิบตั ิตามหลกั ศลี เคร่งครัด จดั ว่าเป็น ผมู้ ีศลี าจารวัตรงดงาม เมื่ออยรู่ ่วมกัน เมอ่ื ทำางานร่วมกัน และทำากจิ อะไรร่วมกนั กจ็ ะเกิดความสงบสวยงาม น่า ศรัทธาเลือ่ มใส น่าเคารพนับถอื องคป์ ระกอบของนักเผยแผ่ประการน้ีก็สำาคญั อีกข้อหนงึ่ เป็นหลกั ประกนั การประพฤตปิ ฏิบตั ิใหอ้ ยูใ่ น ร่องในรอยท่งี ดงาม ให้ยอมรับและปฏบิ ตั ไิ ปตามขอ้ บัญญตั ิทกี่ ำาหนดมาแต่อดตี หรือทกี่ าำ หนดเปน็ ระเบียบปฏิบัติ ในปจั จุบนั อย่างปกติ เม่ือยอมรบั ปฏบิ ตั ิตามกันได้ ชื่อวา่ ศกึ ษาดแี ล้ว คือมีความรสู้ ึกยอมรับด้วยศรทั ธา ปฏิบตั ิ ตามด้วยความเต็มใจ ไม่ขัดขนื หรอื ตะแบงไปทางโน้นทางนี ้ หากไมย่ อมรับหรือไม่ยอมปฏบิ ตั ติ ามก็จะขดั ขืน ดิน้ รน หาทางประพฤตนิ อกลู่นอกทางไปเรือ่ ย หากไมม่ ีคนเหน็ หรอื อยใู่ นท่ามกลางคนไม่รูก้ ถ็ อื เปน็ อสิ ระกระทำา การละเมดิ ข้อบัญญตั ิ ข้อระเบียบปฏบิ ตั ิสากล ส่งผลใหเ้ กดิ ความเข้าใจผิดแก่คนไมร่ ู้ เมอ่ื เขารู้เขา้ ในภายหลังก็จะ เส่อื มศรัทธาทนั ท ี หรือสง่ ผลในรูปแบบต่างๆทม่ี กั จะไมด่ ีนักไปถงึ หมคู่ ณะดว้ ย สรปุ ไดว้ ่า คำาวา่ วนิ ยั หมายถึงระเบียบปฏบิ ตั ติ ่างๆทกี่ ำาหนดไว้แต่อดตี และท่ีกำาหนดข้นึ ใหมซ่ ึ่งถอื ปฏบิ ัติ กนั เปน็ ประจาำ คำาวา่ ทศี่ กึ ษาดแี ลว้ ก็คอื การเรยี นรู ้ ยอมรบั แล้วปฏิบัตติ ามระเบียบปฏิบัตนิ ั้นๆอย่างเครง่ ครัด อยา่ งมีสติ ระลึกรดู้ ้วยใจว่าจาำ ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามเพื่อความบริสทุ ธ์ิเปน็ ส่วนตัว และเพ่ือความงดงามในส่วนหมู่คณะ ไม่หาทางหรือหาเหตหุ ลบเล่ียงเพอื่ ละเมิดอนั จะเกิดผลเสยี ในภายหลังท้งั แก่ตนและหมู่คณะ เม่อื ปฏิบตั ิตามได้ก็ จะส่งผลให้เกิดมงคล คอื ทาำ ใหเ้ กดิ ความงดงามในหม่คู ณะ นำาใหห้ มูค่ ณะเปน็ ทีย่ อมรับและศรัทธา ดำาเนนิ กจิ การ อันใด ก็จะไดร้ บั ความรว่ มมอื ได้รับความช่วยเหลืออย่างเตม็ ทจ่ี ากผู้ทีศ่ รัทธา องคป์ ระกอบทสี่ ่ี วาจาสุภาษิต วาจาสุภาษติ นนั้ ทา่ นอธิบายว่าหมายถงึ วาจาท่ีกล่าวดแี ลว้ คอื เป็นวาจาทไ่ี ม่เป็นวจีทุจริต ไม่โกหก ไมห่ ยาบ ไม่สอ่ เสียด และไมเ่ พอ้ เจ้อ พระพุทธองค์ทรงแสดงลักษณะวาจาสภุ าษติ ไว้วา่ ประกอบ ดว้ ยองค ์ ๔

- 176 - ประการ ดงั ปรากฏอยู่ในสภุ าสิตสตู ร สงั ยุตตนกิ าย ซ่งึ ทรงแสดงแกภ่ กิ ษุทงั้ หลายท่ีเมอื ง สาวตั ถีไวว้ ่า “ดกู ่อนภิกษทุ งั้ หลาย วาจาท่ีประกอบด้วยองคป์ ระกอบ ๔ ประการ เป็นวาจาสุภาษิต ไม่เปน็ วาจาทพุ ภาษิต เป็นวาจาไม่มีโทษ ทัง้ วิญญชู นทั้งหลายไมต่ าำ หนิ องคป์ ระกอบ ๔ ประการนนั้ มอี ะไรบา้ ง ดูกอ่ นภกิ ษุท้งั หลาย ภิกษุในธรรมวินยั น้ี ๑. ย่อมกล่าววาจาทเ่ี ปน็ สภุ าษิตเทา่ นัน้ ไม่กลา่ ววาจาที่เป็นทพุ ภาษิต ๒. ยอ่ มกล่าวแตว่ าจาเปน็ ธรรมเท่านั้น ไม่กล่าววาจาทไ่ี ม่เปน็ ธรรม ๓. ย่อมกล่าวแต่วาจาอันเป็นทรี่ กั เท่านัน้ ไมก่ ลา่ ววาจาอันไม่เปน็ ท่ีรัก ๔. ยอ่ มกลา่ วแต่วาจาจรงิ เท่าน้นั ไมก่ ล่าววาจาเท็จ ....” และตรัสสรปุ ไว้วา่ “สตั บรุ ษุ ทัง้ หลายกลา่ ววาจาสุภาษิตวา่ เปน็ สุดยอด บคุ คลพงึ กลา่ ววาจาที่ เป็นธรรม ไมพ่ ึงกล่าววาจาทีไ่ มเ่ ปน็ ธรรม นเ้ี ปน็ ข้อทีส่ อง พงึ กล่าววาจาอนั เปน็ ทร่ี ัก ไมพ่ ึงกล่าววาจาอนั ไม่เป็นท่รี ัก น้เี ป็นขอ้ ท่สี าม พึงกล่าววาจาจรงิ ไมพ่ ึงกล่าววาจาเท็จ น้ีเป็นข้อท่สี ี่” วาจาที่จดั เปน็ สุภาษติ ตามพระพทุ ธดาำ รสั นีป้ ระกอบดว้ ยองค ์ ๔ คอื เปน็ คำาทเ่ี ป็นสุภาษิต คือเปน็ คำาท่ี ดีจริง ถกู ต้องจริง ๑ เปน็ คาำ ทเี่ ป็นธรรม คอื ตรงตามเปน็ จรงิ พสิ ูจนไ์ ดจ้ ริง มีหลกั ฐานอ้างองิ ได้จรงิ ๑ เป็น คำาที่เปน็ ทร่ี กั คอื มคี วามไพเราะ นมิ่ นวล ไมห่ ยาบโลน ไมไ่ ร้สาระแก่นสาร ฟงั แลว้ ชืน่ ใจชน่ื หู และได้ประโยชน์ จรงิ ๑ เปน็ คำาจริง ไมห่ ลอกลวง ไมท่ ำาให้หลงผิด ไม่ทาำ ใหเ้ ชอ่ื ถืองมงายไร้ประโยชน์ ๑ คำาทม่ี ลี กั ษณะอย่าง นยี้ อ่ มไมเ่ ปน็ วาจาทพุ ภาษติ ย่อมเปน็ วาจาไมม่ โี ทษ ท้งั วญิ ญูชนท้งั หลายไมต่ ำาหน ิ ควรพูดควรเจรจา นำาใหเ้ กดิ มงคลแก่คนพูดแนแ่ ท้ ในสมยั กอ่ นการส่ือความในใจหรอื ความตอ้ งการของตนให้คนอืน่ ร้ ู ให้คนอื่นปฏิบตั ิ หรือให้งดเวน้ สง่ิ ทไี่ ม่ เหมาะไม่ควร เช่นแนะนำาส่งั สอน ตาำ หนิติตงิ ลว้ นส่ือกันด้วยคำาพดู เปน็ หลกั ไมม่ สี ่ืออืน่ อย่างสมัยปจั จบุ ัน ไมม่ ี หนังสอื พิมพ์ ไมม่ ีเคร่อื งพมิ พ์ ไม่มีโทรศพั ท์ ไมม่ สี ือ่ เทคโนโลยีสมัยใหม ่ ดังน้นั จึงใหค้ วามหมายคำาว่าวาจาวา่ หมายถงึ คำาพดู เทา่ น้ัน แตส่ มยั ใหมม่ สี ่ือต่างๆทีส่ ามารถใช้สอ่ื ใหร้ ใู้ หเ้ ขา้ ใจกันได ้ ดงั นั้น คาำ วา่ วาจาจงึ ตอ้ งใหค้ วาม หมายไปถงึ สือ่ ไปถงึ สิ่งทสี่ ่งข่าวหรือข้อความให้รใู้ หเ้ ขา้ ใจกันไดใ้ นสมยั ปจั จุบันเขา้ ไปดว้ ย การสือ่ ดว้ ยเครอื่ งมอื สมัยใหม ่ ไม่วา่ จะโทรศพั ท ์ ส่งจดหมาย หนงั สือพมิ พ ์ หนงั สืออ่าน ตลอดถึงเครือ่ งมอื ส่งสารส่งข่าวชนดิ ตา่ งๆ ล้วนนบั เป็น ส่วนหนง่ึ ของวาจาเป็นตัวแทนของวาจาทง้ั ส้ิน หากเปน็ การสือ่ ทถี่ กู ต้องงดงาม ได้ลกั ษณะองค ์ ๔ ประการขา้ ง ตน้ ก็จัดเป็นสุภาสิตาวาจาได้ทงั้ สิน้ สภุ าสติ าวาจา น้ีท่านจดั เป็นมงคล คอื นาำ ความเจริญมาใหอ้ ีกประการหน่ึง และจัดเป็นองค ์ ประกอบ ของนักเผยแผท่ ีส่ าำ คัญอีกประการหนึง่ ด้วย เพราะการเผยแผห่ ากส่ือสารได้ถูกตอ้ ง เหมาะสม ไพเราะ น่าฟงั ดึงดดู ใจ และทนั สมยั ทนั เหตุการณ์ ก็ย่อมทาำ ให้การเผยแผเ่ ปน็ ทีย่ อมรับ เป็นทตี่ ดิ ตาม เมื่อยอมรับตดิ ตามแล้วก็ ส่งผลให้เกิดการปฏิบตั ติ ามมา จงึ ถอื วา่ การเผยแผ่ได้บรรลุถงึ เป้าหมาย องค์ประกอบกับการเผยแผ่ ในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา พระนกั เผยแผท่ ุกประเภท ทัง้ ทเ่ี ปน็ พระธรรมทตู พระธรรมจาริก พระนัก

- 177 - เทศน์ หรือพระภาวนาจารย์ จำาต้องอาศยั องคป์ ระกอบท้งั ส่ีประการข้างต้นเป็นหลกั ยดึ โดยนำามาประยกุ ต์ใชใ้ ห้ ตรงกับหนา้ ทข่ี องตน การเผยแผ่พระพุทธศาสนาจะไดส้ มบรู ณ ์ มีศักด์ศิ รี ได้รบั การยอมรบั และมปี ระสทิ ธภิ าพ บรรลถุ ึงความสำาเรจ็ ตามปณิธาน มิเช่นนัน้ การเผยแผจ่ ะดูไมม่ ่นั คง ไม่มคี วามขลังและศักด์สิ ทิ ธิ ์ ไม่เปน็ ท่ยี อมรบั ของผ้คู นในถ่นิ นนั้ ๆ พระนักเผยแผเ่ องกจ็ ะดดู อ้ ยศกั ดศิ์ ร ี ไม่นา่ เชอื่ ถือ ไม่น่ายอมรบั ทำาใหเ้ กดิ ภาวะพะอดื พะอม กลืนไมเ่ ข้าคายไมอ่ อก จะเดินหน้ากไ็ ปไม่ถึงไหน จะเลิกกเ็ สยี ดาย เพราะลงทนุ ลงแรงมามากแล้ว จำาทนต้องทาำ ไปตามมีตามเกิด ดังนัน้ จำาตอ้ งทาำ ความเขา้ ใจเรื่ององคป์ ระกอบเหลา่ น้แี ละนาำ ไปใชใ้ หส้ มั ฤทธิ์ผล อันดบั ตน้ จำาตอ้ งมีพาหสุ จั จะ คือมคี วามรู้ในเร่ืองทตี่ ้องรู้และเร่ืองทค่ี วรร้ ู เช่น พระพทุ ธศาสนาในแงม่ มุ ตา่ งๆ พระธรรมในประเด็นต่างๆ วธิ ีการเผยแผ่ที่ถูกตอ้ ง มีประสิทธภิ าพ มีผลสมั ฤทธิท์ พ่ี ึงประสงค์ ภาษาทีใ่ ช้ ในการเผยแผเ่ พ่อื สอื่ กบั ผคู้ นในถิ่นนนั้ ๆได้อย่างลงตัวไมต่ ดิ ขัด วัฒนธรรมของท้องที่ท่ีไปอยู่เผยแผ ่ เปน็ ตน้ เมอื่ รชู้ ดั เจนเป็นพาหุสัจจะแล้ว กต็ อ้ งอาศัยศลิ ปะในการเผยแผ่เข้ามาเปน็ ตัวชว่ ย คอื ต้องสามารถถา่ ยทอดขอ้ ธรรม ตา่ งๆไดช้ ดั เจน สอ่ื กับผ้คู นในถน่ิ นนั้ ๆไดอ้ ยา่ งเขา้ ใจตรงกัน ทำาให้รตู้ าม เขา้ ใจตาม ปฏบิ ตั ติ าม และเข้าถึงหลกั ของพระพทุ ธศาสนาไดถ้ กู ตอ้ งตามตอ้ งการ ในการน้ี จำาตอ้ งอาศยั วนิ ัยคือระเบียบปฏิบัติอย่างสมบรู ณค์ รบถว้ น ทงั้ วินยั ของพระนกั เผยแผเ่ อง คอื ตอ้ งประพฤติปฏิบตั ติ วั ใหน้ ง่ิ ให้สงบ งดงาม เชน่ นุง่ ห่มเรยี บร้อย พูดจาเรียบรอ้ ย กิรยิ ามารยาทเรียบร้อยงดงาม เป็นรูปแบบใหน้ ่าทาำ ตามอยา่ ง และวนิ ยั ในการเผยแผห่ ลกั ธรรม คือตอ้ งสอนธรรม แนะนำาธรรม เทศนาธรรม อยา่ งมีหลัก ถูกหลัก ชัดเจน เขา้ ใจงา่ ย ปฏิบัติอยา่ งน้ีเรียกวา่ เผยแผอ่ ย่างมีวนิ ัย นอกจากน้ัน การสอื่ ความหมาย ความเขา้ ใจ และเนอ้ื หาขอ้ ธรรมน้นั นอกจากใช้คาำ พูดแลว้ จำาตอ้ ง สามารถใช้สอ่ื แบบอื่นได้อกี ตามความเหมาะสม สอื่ อันใดอย่างใดมีประสิทธิภาพ เป็นท่ยี อมรบั และเปน็ เคร่อื งมือ ที่สามารถสื่อไดใ้ นทกุ ท่ีทกุ เวลาถ้าตอ้ งการ กน็ าำ สอื่ เชน่ นน้ั มาเปน็ องค์ประกอบ ใช้เป็น สอ่ื เป็น กจ็ ะทำาใหเ้ ผยแผ่ ได้เร็วขึ้น สะดวกข้ึน การทำาเชน่ นี้ถือว่าใชอ้ งคป์ ระกอบครบถ้วนลงตวั ต่อเน่อื ง มปี ระสิทธิภาพ และจะมีประสิทธผิ ลตามมา อยา่ งน่าพอใจ การเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหากขาดองค์ประกอบเหล่านแ้ี มเ้ พยี งอยา่ งเดยี วย่อมติดขดั ไมท่ ัน การณ์ กระท่อนกระแทน่ ไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพสมบูรณ์ หรอื อาจถงึ ภาวะลม้ เหลวก็ได้ อยา่ งเช่น นัก เผยแผ่ไมม่ ีความรเู้ พยี งพอ ความรูใ้ นบางเรือ่ งยังไม่มี หรอื มีแตเ่ ป็นความรใู้ นเร่อื งประเภทรู้ก็ไดไ้ มร่ ู้ กไ็ ด้ หรอื เปน็ ความรใู้ นเรือ่ งประเภทไมจ่ ำาตอ้ งรู้ สว่ นเร่อื งท่ตี อ้ งรูห้ รือเรืองท่ีควรรกู้ ลบั ไมร่ หู้ รือรู้ไม่พอไม่ ละเอียด อย่างน้เี รยี กวา่ ขาดพาหสุ ัจจะ แมจ้ ะมีศลิ ปะ มีความฉลาดมที กั ษะในการถา่ ยทอด มีเครือ่ งมอื มี อปุ กรณพ์ ร้อม ก็ไม่อาจทำาใหเ้ กิดความเปลยี่ นแปลงในจิตใจของชาวโลก ทำาใหเ้ กดิ ศรทั ธาข้นึ มาได้ หรอื อย่างมีพาหสุ ัจจะพรอ้ ม มคี วามรู้ดี มีปญั ญา มีความฉลาดในเรือ่ งพระพุทธศาสนาเปน็ อย่างดี แต่ขาดศลิ ปะในการถ่ายทอด ไมอ่ าจถ่ายทอดความรขู้ องตนให้เป็นทเี่ ขา้ ใจในหม่ผู คู้ นได้ ความรทู้ ่ีมีอย่ใู นกลาย เป็นหมนั ไป ทาำ นองเดยี วกัน มีความรพู้ ร้อม มีศลิ ปะพรอ้ ม แต่ขาดระเบยี บปฏบิ ตั ิ ไม่มวี นิ ัยในการถา่ ยทอด ไม่มีวินยั ในตัวเอง ประพฤติตัวไมเ่ รียบรอ้ ย ไม่น่าศรทั ธาไม่นา่ นับถอื การเผยแผ่ก็ไปไดไ้ ม่ถงึ ไหน หรอื ถ้าทกุ อยา่ งดหี มด แต่ภาษาทีใ่ ชไ้ ม่พรอ้ ม ตลอดถึงสือ่ ตา่ งๆทถ่ี า่ ยทอดไม่สมบรู ณ ์ ขาดความไพเราะ ไมน่ ่าอ่าน ไมน่ า่ ด ู กท็ าำ ให้เบื่อหน่ายไดเ้ หมอื นกัน

- 178 - ดังนน้ั จาำ ตอ้ งมีองคป์ ระกอบทั้งสีน่ ้ีให้สมบูรณ ์ คอื มีพาหุสัจจะ มคี วามรดู้ ี มีศิลปะ มีความฉลาดในการ ถ่ายทอดความรู้ด ี มีวินัย มรี ะเบยี บปฏบิ ตั ิคงเส้นคงวา ถูกตอ้ งงดงาม และ มสี ภุ าสติ าวาจา มีการสือ่ ความที่ดี ด้วยเครอื่ งมือและอปุ กรณท์ ดี่ ี ครบท้งั สีน่ กี้ ารเผยแผ่กจ็ ะสำาเร็จผลตามปณิธานปรารถนา ทลี่ ้มเหลว ทีไ่ มเ่ ปน็ ไปตามต้องการ หรอื ทีก่ ระทอ่ นกระแทน่ กันอยู่ หากพจิ ารณาและวเิ คราะห์ให้ถกู ตอ้ งตรงไป ตรงมา ยอ่ มรู้ไดว้ า่ มาจากการมีหรือขาดองคป์ ระกอบนอ้ี ยา่ งใดอย่างหนง่ึ หรอื หลายอยา่ งรวมกัน แต่หากไมย่ อม มอง ไม่ยอมวเิ คราะห์กไ็ มอ่ าจมองเห็นได้ หรอื หากเหน็ แก่ตัว ไม่ยอมรบั ข้อเท็จจรงิ ไม่ยอมฟัง ไมย่ อมรบั รูร้ บั เห็นใดๆทั้งสิน้ ก็จะมองเห็นไปอีกอย่างหน่งึ ซงึ่ ไม่อาจทาำ ให้การเผยแผ่สมั ฤทธิ์ผลตามปณิธานปรารถนาได้ หาก เปน็ นักเผยแผ่กเ็ ปน็ นักเผยแผท่ ี่ดไี มไ่ ด ้ หากเป็นพระธรรมทูตกเ็ ป็นพระธรรมทูตท่ีสมควรแก่ภาวะของตนไม่ได้เช่น กนั สาำ เรจ็ หรือลม้ เหลวอยทู่ ี่การบริหาร ปณิธานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไม่วา่ จะในยุโรปหรอื ทไี่ หนในโลก ไมว่ ่าในอดตี หรือในปจั จุบัน ลว้ น มที ั้งความสาำ เร็จในระดับหนงึ่ และความล้มเหลวในระดบั หน่ึง ท้ังไมอ่ าจระบไุ ด้ว่าสำาเรจ็ สมปณธิ านครบถ้วน สมบรู ณ์แล้ว หรือระบุว่าล้มเหลวส้นิ เชิง ทงั้ นเ้ี พราะมีท้งั สองอย่างปะปนกันไป ปณิธานความตั้งใจปรารถนาที่จะเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาน้นั นอกจากต้องประกอบด้วยองค ์ ประกอบ ต่างๆ ข้างต้นแลว้ ยังมขี ้อปลีกย่อยสำาคัญอีก ข้อนัน้ คอื เรือ่ ง “การบรหิ าร” การบริหาร ท่านใหค้ วามหมายไวว้ ่าหมายถงึ การปกครอง, การดำาเนินการ, การจดั การ, การแก้ไข พูดรวมๆกค็ ือ การดำาเนินกจิ การต่างๆให้เปน็ ไปโดยเรียบร้อย ไมม่ ปี ัญหา ไมม่ ีข้อติดขดั เมอื่ มปี ญั หาอปุ สรรคก็ สามารถปัดเป่าหรือแก้ไขจนลุล่วงไปได้ดว้ ยดี เป็นเหตใุ หก้ จิ การน้ันสำาเรจ็ และอาำ นวยประโยชน์ใหไ้ ดส้ มหวงั การเผยแผ่พระพุทธศาสนากอ็ ยใู่ นขอบข่ายน้ี จะสาำ เร็จสมหวงั หรอื ลม้ เหลวถอยหลงั ก็อย่ทู กี่ าร บรหิ าร และการบริหารนัน้ ก็อยู่ท่ีตัวผบู้ ริหารวา่ มีปรชี าสามารถ มคี วามรู้ มปี ระสบการณ์ มีความจริงใจ มี ความเสยี สละทมุ่ เทเพียงไรแคไ่ หน หากผู้บริหารทกุ ระดับตา่ งเป็นผู้มปี รีชาสามารถเป็นตน้ ก็จะนำาพาใหก้ าร เผยแผ่พระพุทธศาสนาก้าวหนา้ ไปได้เร่ือยๆ หากขาดปรีชาสามารถเปน็ ตน้ นี้ กจ็ ะนำาพาใหถ้ ดถอยลงเร่ือยๆ อนั เรอื่ งท่ีควรบรหิ ารควรจดั การท่ีสาำ คญั นน้ั ทา่ นแนะนำาให้พจิ ารณา ใหเ้ ข้มงวดกวดขัน และใส่ใจดูแล เป็นพเิ ศษ ซงึ่ จะเปน็ เหตุนำาไปสู่ความสำาเรจ็ เรอื่ งทีค่ วรบริหารนนั้ แบง่ เป็น ๔ เรื่องหลัก คอื ๑. การบรหิ ารงาน หมายถึง การบรหิ ารจัดการเร่อื งงาน งานในท่นี กี้ ค็ ือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ผูบ้ รหิ ารและผ้เู กี่ยวขอ้ งทุกฝ่ายจำาตอ้ งร ู้ เข้าใจ และมองเห็นตรงกัน ในเร่ืองการเผยแผ่ว่าจะทำาอยา่ งไร ทาำ แค่ ไหน มีขอบเขตแค่ไหน ใครเปน็ คนทำา ต้องใช้อะไรบา้ ง ใช้ทุนเทา่ ไร จากไหน เป็นต้น ทุกอยา่ งทกุ เรอื่ งเกย่ี วกับ งานเผยแผจ่ าำ ตอ้ งประชมุ ปรกึ ษาหารอื กันเปน็ เรอ่ื งใหญ่ หาไม่แล้วกจ็ ะต่างคนตา่ งทาำ ต่างคนตา่ งบรหิ าร ไมเ่ ป็น เอกภาพ ไมล่ งรอยกัน เข้ากันไมไ่ ด ้ ขัดแยง้ กนั ราำ่ ไป ทาำ ใหข้ าดกำาลัง ไม่มีพลังขับเคลอ่ื นทด่ี ี การบรหิ ารงานเผยแผน่ ั้นมีมากเรอ่ื ง แต่ยอ่ มรู้กันได้หากมีการประชมุ กนั สมั มนากนั แลก เปล่ยี นเรียน ร้กู นั เคารพยอมรบั ในความคดิ เหน็ ของกันและกัน ยอมรับกติกาที่กาำ หนดกนั ข้ึนไว้เปน็ แบบสำาหรบั ปฏบิ ตั ิ อยา่ งนี้ กจ็ ะทาำ ใหง้ านเผยแผร่ าบร่นื หากมีปญั หาเกดิ ข้ึนกน็ าำ เข้าท่ีประชมุ ปรกึ ษา หารอื กันหาทางแก้ไข ก็จะผา่ นปัญหา ไปได้ ในเร่ืองน ี้ หากไดน้ าำ หลักคาำ สอนของพระพุทธเจา้ มาปฏิบัตยิ ่อมเป็นประโยชนแ์ ท ้ คอื หลัก

- 179 - อปรหิ านิยธรรม - ธรรมซงึ่ เปน็ ไปเพื่อความไม่เสือ่ ม ซง่ึ ระบไุ วช้ ดั เจน เชน่ หมัน่ ประชุมกนั เนอื งนติ ย์ ประชมุ กันบอ่ ยๆ เมื่อประชุมกพ็ รอ้ มเพรียงกันประชมุ เมอื่ เลิกประชมุ กพ็ รอ้ มเพรยี งกนั เลิก คืออยูจ่ นกว่าจะเลกิ ประชุม มใิ ชม่ าประชมุ กันพอเป็นพิธ ี เมื่อต้องการกลับกก็ ลับทงั้ ทย่ี งั ไม่จบการประชมุ หรอื เม่ือต้องการปรึกษาหารือกไ็ ม่ อยใู่ นทีป่ ระชุม หรืออยใู่ นท่ีน้นั แตไ่ มแ่ สดงความคิดเห็นอะไรในท่ปี ระชุม แตเ่ ม่ือเลกิ ประชุมแลว้ กลับแสดงวาทะ ความคดิ เหน็ วเิ ศษต่างๆ ซึ่งไม่เป็นประโยชนอ์ ันใดต่อหม่คู ณะเลย อยา่ งน้ีแหละทพ่ี ระพุทธเจ้าทรงมองเห็น จงึ ตรัสหลักวา่ ตอ้ งประชุมกนั ประจาำ ตอ้ งพร้อมเพรียงกนั ประชมุ ต้องพร้อมเพรยี งกันเลิก และแสดงความคิดเห็น ในทป่ี ระชมุ ๒. การบรหิ ารเงนิ หมายถึง การจัดการดูแลการเงิน ทรัพย์สิน สิง่ ของของวัดของพระศาสนา ให้ถูก ตอ้ งตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค โดยเฉพาะเรอ่ื งเงนิ ซ่ึงทำาใหเ้ กิดความผิดพลาดบกพรอ่ งได้งา่ ย ทำาให้เกดิ ความ เสียหายได้ง่าย ทำาใหเ้ สยี ผู้เสยี คนไดง้ ่าย หากใช้โดยไมร่ อบคอบ ไม่พิถีพิถนั ใช้ไปตามใจชอบ ผิดเจตนารมณข์ อง ผบู้ ริจาค เร่อื งเงนิ เป็นเรื่องละเอยี ดอ่อน จาำ ต้องมีสติ มีความอดทนอดกลั้น ไม่หลงลืม ไมต่ าโต ไม่ใจงา่ ย ไม่ วางใจง่าย แมก้ ระท่งั ตนเอง หาไมแ่ ล้วก็อาจเผลอไผลฆ่าตัวตายได้ ในการบรหิ ารเงนิ นนั้ นยิ มมีกรรมการคอยดแู ล ตรวจนับ ใชจ้ า่ ยอะไรอย่างไรกล็ งบญั ชรี ายละเอียดไว ้ ประกาศใหร้ ับรกู้ ันโดยทั่วไป เรอื่ งรายรับรายจา่ ยอนั เปน็ ผลรวมทัง้ หมดก็จาำ ตอ้ งประกาศใหท้ ราบกนั เปน็ ระยะๆ เปน็ การแสดงถงึ ความบรสิ ุทธิ ์ เม่อื ทาำ ไดอ้ ย่างนกี้ ็จะทำาใหเ้ กดิ ศรทั ธาแก่ผู้บริจาค ผทู้ ี่ยังแคลงใจอย่กู ห็ มดความ แคลงใจและนำาเงนิ มาบรจิ าคเมือ่ เหน็ วา่ บริสุทธ ์ิ ๓. การบรหิ ารคน หมายถงึ การสรา้ ง การฝึกฝน การใช้ การยกย่อง การดูแล การปกป้อง การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาจำาตอ้ งใช้คนมากทัง้ บรรพชิตและคฤหสั ถ ์ แตใ่ ช่ว่าจะสามารถใช้คนไดท้ ุกคน ไป จาำ ตอ้ งอาศยั ผู้ร ู้ ผู้บริหาร หรือผู้ที่สามารถฝกึ ฝนเขาใหเ้ ป็นงาน ใหร้ ้งู าน ใหท้ าำ งานอยา่ งน้นั อยา่ งนเี้ ปน็ เม่ือ เขาเปน็ แล้วตอ้ งใชเ้ ขาใหต้ รงกับความชาำ นาญหรอื ความชอบของเขา ถ้าใช้ไม่ตรง ผดิ ฝาผดิ ตัวไปกท็ ำาให้งานไม่ เดินหน้าไปได้หรือทาำ ให้งานเสยี เม่อื ใชแ้ ล้ว หากเขาทาำ ดที าำ สาำ เรจ็ กจ็ าำ ตอ้ งยกยอ่ งเขา ให้เกยี รติเขาในทางใดทาง หนึ่ง เชน่ ใหเ้ ปน็ หวั หนา้ รบั ผิดชอบเรอื่ งนน้ั เรอ่ื งนี้เป็นตน้ ในขณะ เดียวกนั ก็จาำ ต้องดแู ลใหเ้ ขาไดร้ บั ความสะดวก สบายในการทาำ งาน ได้ความสบายใจในการทำางาน เป็นต้น เม่อื มเี รือ่ งมีเหตเุ กิดขึ้นกอ็ อกหนา้ ปอ้ งกันเขามใิ ห้ ต้องไดร้ บั โทษ ยกเวน้ โทษผดิ ทางพระวินยั รา้ ยแรงหรอื ผดิ กฎหมายบา้ นเมอื งท่ไี มอ่ าจปอ้ งกันได้ กจ็ าำ ต้องปลอ่ ยไป ตามโทษ แตก่ ็มีนา้ำ ใจช่วยเหลือเก้อื กูลเขาตามสมควร ไม่ใช่ทอดทงิ้ ไปเลย เมื่อสามารถบริหารคนได้ดี ก็จะมคี นมาช่วย มีแขนมขี าให้ทำางานไดค้ ล่อง หากบรหิ ารคนไม่ดหี รอื ไม่ ไดบ้ รหิ ารคนกจ็ ะขาดคนมาชว่ ย ขาดแขนขา ทำาใหข้ าดความคลอ่ งตัว ๔. การบรหิ ารของ หมายถึง การดแู ล การจัดการสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ อปุ กรณ์ ตลอดถงึ สงิ่ ของทเี่ ขา ถวายทีเ่ ขามอบให้ โดยจัดตัง้ จดั เกบ็ จัดนาำ ออกแสดง ให้เหมาะใหค้ วร ใหเ้ ข้าตำาราที่วา่ “หยิบกง็ ่าย หายก็รู้ ดู กง็ ามตา” การดูแลสง่ิ ของเครอ่ื งใชใ้ นวดั อนั เป็นศูนย์รวมแห่งการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนานั้น เปน็ เรอื่ งใหญ่เรอื่ ง ยากพอสมควร หากบรหิ ารไมด่ ไี มถ่ กู ตอ้ ง กจ็ ะดูเกะกะรงุ รงั ทำาใหด้ รู ก สับสนปนเป เวลาต้องการใช้ก็ค้นหา กระจุยกระจาย ดไู ม่เปน็ ทเี่ ปน็ ทาง ท้ังไมส่ วยงาม ไมเ่ หมาะสมดว้ ย เชน่ โต๊ะหมบู่ ูชาอันเปน็ ที่ต้งั พระพทุ ธรูปและ เครือ่ งสักการะ หากไม่ดแู ลจัดการ กจ็ ะดรู กรงุ รังด้วยเคร่ืองตงั้ จนเต็มโต๊ะไปหมด ไม่ร้อู ะไรเป็นอะไรกต็ ้ังก็วาง เกะกะไป จะกราบจะไหวก้ ต็ อ้ งทำาใจ อะไรทำานองนี้ ทาำ ให้มองได้วา่ ขาดการบริหารท่ดี ใี นเร่ืองนี้

- 180 - หากบรหิ ารจัดการเรยี บรอ้ ย วางเปน็ ที่ เกบ็ เป็นที่ สมควรแก่ท่ที ่ีควรวางควรเกบ็ นอกจากจะทาำ ให้ เกิดความสวยงามแล้ว ยังกอ่ ให้เกิดศรทั ธาอีกดว้ ย คนท่ีเขาศรทั ธากอ็ ยากจัดหาส่งิ ของมาถวาย เพราะรวู้ า่ เม่ือ ถวายแลว้ จะถกู จัดถูกวางอยา่ งเหมาะสมสวยงาม ใชป้ ระโยชนไ์ ดเ้ ตม็ ท่ ี คณุ ของการบริหารของเปน็ ย่อมมีอยา่ งนี้ การบริหารจดั การใน ๔ ประการ ทัง้ บรหิ ารงาน บริหารเงิน บรหิ ารคน และบริหารของน ี้ เปน็ เคร่ือง บ่งบอกถึงความสำาเร็จหรอื ความล้มเหลวของการเผยแผ่พระ พุทธศาสนาอย่างหน่งึ เปน็ เคร่อื งบง่ บอกถึง คณุ ลกั ษณะและนิสัยใจคอของนกั เผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาอย่างหนง่ึ ไมว่ ่าจะเป็นหัวหน้าหรอื เปน็ ผรู้ ว่ มคณะ ย่อม ถูกมองได้ว่าบริหารเป็นหรอื ไมเ่ ปน็ ดงั น้ันการมีจิตใจงดงาม มนี ิสยั ใจคอทล่ี ะเอยี ดอ่อน มีความรกั สวยรักงาม มี ความผูกพัน มีความเสยี สละในการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาอยใู่ นตวั กจ็ ะบรหิ ารจดั การเรอ่ื งเหล่าน้ีได้โดยไมย่ าก หากไมม่ กี ็ทาำ ใหม้ องออกว่าเปน็ คนมีลกั ษณะมนี สิ ัยใจคออยา่ งไร บทสรุปทา้ ยเรอ่ื ง การเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาถอื ว่าเป็นกิจสำาคัญท่ีสุด เป็นไปเพอ่ื ความอย่รู อดและความมนั่ คงของ พระพทุ ธศาสนาโดยตรง เรอ่ื งอ่นื ๆ เชน่ เรื่องการปกครอง เรื่องการศึกษา เรื่องการกอ่ สรา้ งหรอื การดแู ลศาสน สถานตา่ งๆ ล้วนเป็นองค์ประกอบของการเผยแผ่เป็นอุปการะแก่การเผยแผเ่ ท่านัน้ คอื แมม้ กี ารปกครองด ี พระ สงฆ์อยูก่ ันอยา่ งสงบสุข พระสงฆม์ คี วามรูด้ ี มกี ารศึกษาทันสมยั ก้าวหน้า มีวัดและศาสนสถานท่ีสวยงาม มี พร้อมมูลทง้ั หมด แต่พระสงฆม์ ไิ ดท้ ำาหน้าทเี่ ผยแผ่ มไิ ด้ถ่ายทอดความรทู้ างธรรมแกช่ าวโลก มไิ ด้สงเคราะห์ชาว โลกให้ได้อตั ถะ หิตะ และสุขะ อย่างท่คี วรจะเป็น พระพทุ ธศาสนาย่อมดาำ รงอยูอ่ ย่างมน่ั คงไมไ่ ด ้ อย่างอื่นมี แต่การเผยแผ่ไมม่ ี ชาวโลกย่อมหา่ งเหินพระศาสนา และทอดทิ้งหรอื ทำาลายพระศาสนาไปในทสี่ ดุ ตวั อย่างมีใหเ้ รยี นรู้กนั อยู่ เชน่ กรณเี มอื ง นาลนั ทาเป็นตน้ แต่แม้อย่างอ่ืนจะบกพร่องอ่อนด้อยไปบา้ ง หากการเผยแผย่ งั เข้มแข็ง มคี วามกา้ ว หนา้ ทนั คน ทนั โลกอยู่ พระพทุ ธศาสนากย็ อ่ มดาำ รงอยไู่ ด้ พระพทุ ธองคท์ รงตระหนกั ในเรอื่ งน ้ี ทรงมพี ระพทุ ธปณธิ านทีจ่ ะนาำ ชาวโลกให้พน้ จากทุกข์ ใหไ้ ด้รบั สุข กันถ้วนหน้า จงึ ทรงวางแนวปฏบิ ตั ิเพ่ือการเผยแผ่ไวอ้ ยา่ งละเอียด และทรงปฏิบตั ิตามแนวนั้นด้วยพระองค์เอง พระสงฆ์สาวกทง้ั หลายก็เขา้ ใจและมีปณธิ านในการเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาเฉกเช่นกนั ได้ดาำ เนนิ ตามพระพุทธ ปณธิ านนั้นรกั ษาสืบสานพระพุทธศาสนาสบื ต่อกันมา ไดแ้ สดงถงึ ความตง้ั ใจปรารถนา ความเสียสละ ความ ม่นั คงแหง่ จิตใจ ให้ปรากฏชัดเจน พระสงฆใ์ นประเทศนน้ั ประเทศนร้ี ุน่ แลว้ รนุ่ เล่าได้สืบสานพระพุทธศาสนากนั มา ด้วยความยากลำาบาก แต่กไ็ ด้รับความสาำ เรจ็ มาตามลำาดบั ๆ ทย่ี อ่ หย่อนออ่ นดอ้ ยลงกท็ ำาใหพ้ ระพุทธศาสนามีอนั เปน็ ไป เช่นที่ประเทศอินเดียเองและท่ปี ระเทศอินโดนีเซยี ในอดีตเป็นตวั อยา่ ง ในซีกโลกตะวนั ตกทง้ั ทวปี ยุโรปและทวีปอเมรกิ า พระพุทธศาสนาเรม่ิ ขยายวงออกมาและเจรญิ กา้ วหน้า ข้นึ เรื่อยๆ เป็นเรอ่ื งน่ายินดนี า่ อนโุ มทนา แต่จะต้องไม่ลืมพระพทุ ธปณิธาน ไมล่ มื รปู แบบที่ทรงวางไว้ จะตอ้ ง ยดึ ถอื อย่างเคร่งครดั ปฏิบัตใิ ห้เปน็ รูปธรรมอย่างมศี ักดิศ์ รี มเี กียรต ิ มีศกั ยภาพพอท่ีจะเป็นที่ยอมรบั ของโลก ตะวันตกได ้ มเิ ชน่ นัน้ ก็จะดอู อ่ นดอ้ ย ไม่มศี กั ดิ์ศรี ไมม่ ีคุณค่าอะไรท่พี อจะยกยอ่ งเชดิ ช ู พอที่จะใหค้ วามสนใจ เคารพนบั ถอื การดาำ เนนิ ตามพระพุทธปณิธาน ปฏบิ ตั ิให้เปน็ รปู ธรรมลงตวั เปน็ แบบเดยี วกัน ไม่ลักลัน่ กัน ย่อมมีแต่ความเจรญิ ไมม่ ีความเสื่อม. ------------------------- ๑๙ ส.ค. ๒๕๕๙

- 181 - การประชุม สหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวปี ยุโรป (ส.ธ.ย.) สมัยสามญั ประจาำ ปี ครงั้ ที่ ๑๐/๒๕๕๙ ณ วดั ศรนี ครนิ ทรวราราม สวติ เซอรแ์ ลนด์ วนั ท่ี ๒๑ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๗ น. บรรยายพิเศษ เร่ือง “Buddhis in my life” โดย คุณปีเตอร์ แอรน์ ส์ อดีตประธานสมาคมวัดไทย ขอกราบนมสั การ พระกติ ติโสภณวเิ ทศ พระเทพโพธิวเิ ทศ หลวงพ่อพระเทพกิตติโมล ี พระทกุ รูปทม่ี า ร่วมประชมุ ในวันน้ ี ท่ีผมเคารพอยา่ งสงู สวัสดคี รบั สมาชกิ วดั ของวัดไทย เพือ่ นทจ่ี ากทวั่ ยุโรป เพื่อรว่ มในประชมุ วันนด้ี ว้ ย ที่ผมชอบมากทส่ี ุด ท่ีหลวงพอ่ พระมหาโพธิวงศาจารย์เทศนต์ ะกีค้ อื เกี่ยวกบั ตรงเวลา ต้ังแต่ผมมา ร่วมกับวัดนี้ ผมยังไมเ่ จอเลยครบั เหมือนวันนด้ี ้วย แต่ไมเ่ ป็นไร อกี อยา่ งหนึง่ ทผี่ มเรยี นมากทส่ี ดุ ที่ผมไมม่ ี แตก่ อ่ นตัง้ แต่วันแรกทผ่ี มมาวัดดว้ ย คอื ต้องมคี วามอดทน อนั นผ้ี มเรยี นจากหลวงพอ่ มาก ท่ีผมอยากจะพูดตรงนี้ คอื เรอื่ งศาสนาพทุ ธน้นั มาในทางชีวิตของผมอยา่ งไร ตอนแรกกอ็ ยากจะบอกขอโทษนะครบั บางครงั้ สมองมนั รู้ตอ้ งใช้เสียงอย่างไรกบั คำาน ้ี แต่บางครัง้ ลน้ิ มนั ออกผดิ ถา้ ผมไม่ถูกต้องในภาษาไทยนะ ขออภัยนะครบั เพราะวา่ ผมไม่ไดพ้ ูดต้งั แตน่ านแลว้ แต่ยังไม่ลืมทกุ ๆ อยา่ ง ผมโชว์รูปชวี ติ ของผม ทผ่ี มอยากจะอธบิ ายมันมาอย่างไร แต่รูปน้ีทมี่ ตี รงน้ีนะ ผมเจอในหนังสอื พิมพ ์ ผมตอ้ งไปฝ่ังนเี้ พือ่ อธิบาย อันนีใ้ นสวิตเซอร์แลนด์เราต้องเสยี ภาษที ุกปี และตอนทเี่ ราต้องเสยี ภาษ ี เราตอ้ งรายงาน รายงานชอื่ เรา ท่ีเราพกั อยู่ เราพักอยู่กค่ี น มีลูกกี่คน พูดภาษาอะไรได ้ และกม็ ีศาสนาอะไรด้วย แตต่ ้องใชข้ ีดในนนั้ แต่มัน เฉพาะ คริสต์ มุสลมิ แลว้ ก ็ ต่างๆ คือศาสนาอ่ืนรวมหมดเลย ถ้าดใู นน ี้ อันนี้ป ี ๗๐ ผมเกิดในป ี ๖๐ ศาสนาพุทธ คือ ขดี นีน้ ะ มันมี คดิ วา่ ไม ่ ๑ % ในสวิตเซอร์ แลนด์ คงจะ ๐๐.๐๑ หรอื ๐๐.๐๒ ของคนทัง้ หมดทม่ี ีศาสนา ถงึ ตอนนี ้ อันนคี้ อื ในนีเ้ ป็นศาสนาตา่ งๆ อันนี้คอื ศาสนาพุทธก็รวมในนี้ดว้ ย มันคงจะไมม่ ากกวา่ ๐.๐๔ % จาก ๑๐๐ % นะครับ ก็ยงั น้อยมาก คอื คนส่วนมากยังไมร่ ู้จักมากเกย่ี วกบั ศาสนาพทุ ธ คือ ถา้ เขารู้ เขารู้จักดาไล ลามะ ถ้าดูในน้ ี ถึงตอนนป้ี ี ๒๐๑๐ ท่ีเขาทอันนี้ คือ อิสลามกใ็ หญ่โต อันน ี้ คือ ศาสนาคริสต ์ พเิ ศษนะ ครับ อันน ี้ คอื เอวังเกลิค นะครบั คอื โปรแตสแตนท ์ คาลอลคิ คืออนั น้มี ากทีส่ ุดในสวติ เซอร์แลนด์ ผมอธิบายเพราะอะไร ผมเกิด ๑๙๖๐ ใน ๒๙ ธันวาคม ในโฮคด๊อทจังหวัดลเู ซอร ์ แม่ต้องรบี

- 182 - นั่งรถแทกซ่ีไปทโี่ รงพยาบาล และกห็ มิ ะลงมากๆ นำา้ แขง็ กม็ ใี นถนน พอ่ อธิบายใหผ้ มมันเป็นเรือ่ งอันตรายดว้ ย แต่โชคดี ผมเกิดมาเปน็ ลกู คนแรกจากพ่อแมข่ องผม มีน้องตาม เปน็ น้องชาย ตาม ๒ ปีกว่า และก็น้องสาวอีก ๗ ป ี อายุน้อยกว่าผม ๗ ป ี ถา้ ทา่ นดูชดุ ทเี่ ราใส ่ ผมเครยี ดมากท่ีสดุ เพราะมันไม่ใช่แฟชน่ั ในชว่ งนน้ั แต่แมต่ ดั เสอ้ื เสือ้ อะไรเขากท็ ำาหมด ผมอยากจะ ไดก้ างเกงยีน แม่ตดั ให้ แต่เขาตดั อย่างในโยคสไตลใ์ ชไ้ ม่ได้เลย แต่ผมร ู้ พ่อแม่รกั เรามากๆ แตท่ ่สี วิตเซอรแ์ ลนด์ ชว่ งนนั้ ก็เป็นอยา่ งนี้ ลกู เกิดในครอบครัว กม็ นั แน่นอนมนั จะตามศาสนาของพ่อของแม ่ และผมทำาเหมือนกนั ผมเปน็ ลูกซนนดิ หน่อย แต่วา่ เรือ่ งนี้ผมตามแนน่ อนนะครับ ก็ อันนเ้ี ป็นรูปจากครอบครวั เรา ผมเปน็ คนสุดทา้ ยฝง่ั ซ้ายนะครับ เป็นพิธีสาำ คญั ทส่ี ุดหลังจากพิธเี กิด นะครับ เป็นพิธรี ับขนมในโบสถศาสนาแคทอลิคนะครับ และทีหลังมันมีงานใหญ ่ ผมยังจำาได้ สงิ่ ทผ่ี มชอบมาก ทส่ี ดุ ในชว่ งนั้น ก็เปน็ ผมได้นาฬิกาเรือนแรกจากพอ่ บุญธรรมในพิธนี ้นั และอย่างอ่นื ผมคดิ วา่ ผมยังไม่เขา้ ใจ มนั เป็นเรือ่ งอะไรท่เี ราทำานะครับ กค็ ือ ผมมหี ลายอย่างทีเ่ ปน็ เรอื่ งทสี่ นกุ นะครับ ในชีวติ ของผม คดิ ว่าเป็นเรอื่ งระเริงอะไรก็ผ่านดีนะครับ ผมชอบหัวเราะบอ่ ย ในครอบครวั ก็เรามีทห่ี วั เราะบอ่ ย มีสนุกสนาน แตก่ ็เรื่องเศรา้ ก็มี เศร้าแบบทอ่ี ะไรอยาก จะได้ไมม่ านะครบั หรอื มีคนเสียชีวติ ในครอบครัว มีหลายท่เี ขาทาำ ให้เปน็ เร่อื งเศรา้ นะครับ ก็มเี รื่องท่สี ุดยอด นะครับ อย่างท่ีผมบอก ท่ีไดน้ าฬิกานะครับ แล้วก็เร่อื ง ร้องไหม้ ีด้วย โอเค ผมตกลง ผมเป็นผชู้ าย แต่ก่อนผมเคยรอ้ งไหแ้ ลว้ นะครบั แตส่ ว่ นมาเป็นเรอ่ื งไมเ่ ขา้ ใจ ไม่รู้มนั มาจากอะไร ทาำ ไมผมตอ้ งตอ้ งเจอ ทำาไมเป็นอย่าง ทำาไมผมไม่ร้นู ะ ครบั คดิ ว่าอนั น้ีเป็นเรอื่ งมากที่สดุ ในชีวติ ของผม หลงั จากผมอายุประมาณ ๑๕ ปคี รง่ึ พ่อแมต่ ัดสนิ ใจก่อน อันนผี้ มได้ยนิ ทหี ลงั นะครับ ให้ผมตอ้ งเรียน เป็นพระศาสนาครสิ ต์นะครบั แต่ผมตดั สนิ ใจแล้ว ที่ผมไม่อยากจะไปเข้าโบสถแ์ ล้ว สดุ ทา้ ยผมหาทางออกทผี่ ม บอกพ่อแมว่ า่ ผมจะเรียนอาชพี รกั ษาปา่ รกั ษาป่าในสวิตเซอรแ์ ลนด์ เป็นอาชพี ทมี่ ตี ้ังแตน่ านแล้ว คอื เปน็ คนดูแล ในปา่ ต้องเรยี น ๓ ปี คือต้องเรียนต้นไม ้ มนั ชอ่ื อะไร ดอกไมช้ ่อื อะไร เห็ดชอ่ื อะไร อะไรก็ตอ้ งรจู้ กั หมดเลย สรา้ งถนน ตดั ต้นไม้ ช่วยรกั ษาธรรมชาต ิ ชว่ ยสตั วท์ อ่ี ยใู่ นป่า ผมชอบมากกว่า ท่ีผมชอบเรอ่ื งศาสนานะครับ ผมคดิ วา่ โชคดเี พราะผมใชเ้ วลาเห็นชวี ิตอยา่ งอ่นื ก่อน และชว่ งนั้นเรียนจบแล้ว หลังจาก ๓ ป ี ผมก็ อายุ ๑๘ ปี อนั นที้ ่านคงจะรู้นะ อนั น่ีเปน็ เร่ืองทีนเอจ ทีนเอจทมี่ คี วามคดิ แปลก ท่ีต้องสู้กบั พอ่ แม ่ ถา้ ผมคิด ในอดีตนะ ผมยงั ตอ้ งโทษพอ่ แม่นะครับ เพราะวา่ เขาต้องอดทนมากๆ กับผม เพราะวา่ ผมอยากจะทาำ เยอะแยะนะ ครับ แต่วา่ ผมตัดสินใจว่า ผมจะไม่ทำางานตอ่ ในป่า ผมอยากจะทาำ อยา่ งอ่ืน เสรจ็ แลว้ ผมตดั สนิ วา่ จะไปเรียน โรงพยาบาลประสาท คือเป็นโรงพยาบาลทดี่ ูแลคนเป็นโรคจติ นะครับ เปน็ คล้ายๆ เปน็ นางพยาบาล บุรษุ พยาบาล อนั นี้ก็ใชเ้ วลาอีก ๓ ปี แล้วก็ผม ยงั จำาได้วนั แรกทผี่ มอยใู่ นน้ัน แล้วมัน โอ.้ .. ผมไมเ่ คยรู้เรื่อง และกค็ นบ้าๆ บอๆ เตม็ ท่ ี แต่ว่าไมร่ ้จู ะทำาไง ก็ต้องตดั สนิ ใจแลว้ ก็ต้องเรยี น ก็ เก่ยี วกบั ความร้ ู ความเรียน ผมกช็ อบอาชีพนนั้ นะครบั ผมก็เรยี นจบ แล้วกถ็ ึงตรงน ้ี ผมก็ทำางานในอาชีพนัน้ คือ ต้ังแตป่ ระมาณ ๒๕ ปีแลว้ ผมดแู ลคนท่อี าย ุ ๑๘ – ๒๔ เป็นเด็กผชู้ าย เดก็ ผูห้ ญิง ที่เป็นโรคจติ มีปัญหา ในทางชีวิตของเขา เรยี นอาชพี ไม่ได ้ ลาโรงเรยี น ติดยาเสพตดิ ปัญหาทกุ อย่างทม่ี ีกบั เด็กวัยรนุ่ กับเด็กคนโต ด้วย กบั ผู้ใหญบ่ างคร้ังด้วย แลว้ กร็ ูปน้ี เปน็ เรือ่ งทีผ่ มทำาไว้แบบความรู้สึกทด่ี ี เพราะว่า วนั หนง่ึ ผมตัดสินวา่ ผมชอบเมอื งไทย คือ ว่า ครั้งแรกผมไปที่เมืองไทย อายุ ๒๒ ปี มันเหมอื นกบั บา้ น เพราะว่า อะไรก็ดีหมดเลยนะครบั และพดู จรงิ ๆ

- 183 - นะ ถงึ วันนีย้ งั ไม่มอี ะไรเกดิ ข้ึนทไ่ี มด่ ีกบั ผมในเมืองไทย ไมม่ ีขโมย ไมม่ โี ดนอะไรทไี่ มด่ ี ผมกค็ ดิ ว่า เอ ้ สำาหรับคน ทีเ่ ป็นโรคจติ มันกน็ า่ จะพาไปทนี่ น้ั เพราะวา่ ผมกเ็ ห็นคนไทยใจดกี ับทกุ คน กับผม ก็ตอ้ งเปน็ กบั ทกุ คนด้วยครับ แล้วก ็ แต่คนน ี้ คนทเี่ ป็นจติ น้ี เขาข้กี ลัว เขาตอ้ งกนิ ยาทกุ วนั บางครัง้ ตอ้ งฉดี เขาอยากจะไป แต่ เขากลวั และเขาตอ้ งมีผูพ้ าไป เสรจ็ แลว้ ผมมีเพอ่ื นที่สนิทมากถงึ ตอนนีน้ ะครบั เราตดั สินใจวา่ เราจะเปดิ ออ๊ ฟฟิส และกพ็ าคนท่ีเป็นโรคจิตไปเทีย่ วเมืองไทย และเราถกู ต้องนะครับ เขาชอบมาก แต่เราปวดหัวมากๆ เพราะว่า เขาชอบมากๆ เพราะอะไร มนั ถกู ตอ้ ง คนไทยรบั เขาไมค่ ดิ อะไรเก่ยี วกบั คนน้ี โอเคบางคร้ังกม็ นั ก็ เป็นเพราะว่าเขาเข้าใจภาษาไมไ่ ด้ ใชไ่ หม ? แตเ่ ขาก็คงจะคดิ ว่าแปลกๆ แตเ่ ขาก็ไม่รู้ โอเคฝร่ังทุกคนคงจะเปน็ อยา่ งน ้ี ใชไ่ หม ? แตเ่ ขาดแู ลใหด้ ี นะครับ ไมม่ ีใครพดู ดังกับเขา หรอื ไมม่ ีใครทโี่ กงเขา นะครบั กอ่ นผมคิดวา่ โอ ถา้ เขาไปเทีย่ ว สมมตุ วิ า่ ถา้ เราอยู่ในเชยี งใหม่ ในโรงแรม ถ้าเขาไปเที่ยวคนเดียว ตอนกลางคืน เขานง่ั รถตกุ๊ ๆ คงจะแค ่ ๒๐ บาท แต่เขาต้องเสยี ๑,๐๐๐ ใช่ไหม ? แตไ่ มเ่ กดิ ขึ้นนะครบั ผมไม่รเู้ พราะอะไร ผมคดิ ว่า คนเหน็ วา่ คนน่าสงสาร มันทาำ ให้ทกุ คนดีใจ และทุกปีเรามีคนมากกว่าอยากจะมา แต่ผมก็มงี านของผมที่ดแู ลเดก็ คอื วา่ ปลี ะ ๑ ครั้ง ผมได้ ผมทาำ ได้ ผมบอกเพราะอะไร ที่ผมไปเมืองไทยนะ มันเร่มิ ทีผ่ มเหน็ เกย่ี วกบั ชวี ิตของคนไทย และกเ็ ห็นเกย่ี วกับ ศาสนาพทุ ธ ที่เจอกับศาสนาพทุ ธดว้ ย แตป่ ัญหาปี ๘๒ มคี นไทยพดู ภาษาไทยนอ้ ย เราไปกนิ ในรา้ นอาหารใช่ ไหม ? เขามาถาม ใชไ่ หม ? _!”?? เวลาน้นั มนั เสยี งกบั ผมแบบนใี้ ช่ไหม ? เขาพดู ภาษาอะไรไม่เขา้ ใจ แลว้ ก็เราบอก เมนู อนั นี้เรานะครับ โอเค เขามากบั เมน ู เปน็ ภาษาหมดเลยใชไ่ หม ? โอเคเรามีใบเมนู เราก ็ โอเค เราร ู้ ไม่ใช่อยา่ งเดียว ตอ้ ง ๔-๕ อย่าง โอเค เราทำาอย่างนี้ อย่างนี้ มันเปน็ เพราะว่า ตอนที่เขามาให้อาหาร ใช่ไหม ? มันเปน็ ไก่หมดเลย ไมม่ ผี กั ไม่มีขา้ ว ไม่มีอะไร เพราะว่าเราส่งั แตไ่ ก ่ ตง้ั แตค่ รัง้ แรก ผมร ู้ อยากจะ เรียนภาษาไทย เพราะว่ากญุ แจของคนตา่ งประเทศ หรอื ไปอย่ตู ่างประเทศ กญุ แจเปดิ คน คือวา่ เปน็ ภาษา เป็น เพราะวา่ บางครง้ั ผมคดิ วา่ เสยี ดายท่ีพระทีน่ ่ีเรียนภาษาเยอรมนั ยากนะครับ แตม่ นั ยากจริงๆ นะครบั แต่ต้งั แต่ผมเรียน ภาษาไทย แล้วกไ็ ปทเี่ มืองไทย ผมเจอกบั คนเยอะอยคู่ รับ ไปไหนกค็ นแปลกใจ คนก็ ชอบ และมีอะไรที่เจอท่วั ไปในเมืองไทยก็คือวัดนะครบั ผมชอบไปดูวดั กเ็ จอกับพระหลายที ่ และถามตอนแรก ทา่ นเปน็ พระ ทา่ นทาำ อะไร แล้วมันกไ็ ปตอ่ ต่อ แต่มนั ก็จบ มนั ไม่ใชเ่ ป็นคำาสอน เปน็ นา่ สนใจ วนั หน่ึงผมก็เจอภรรยาเก่าของผมนะครับ คือ เราแต่งงาน แลว้ ก็เรามลี กู ๒ คนดว้ ย ที่ผมบอกภรรยา เก่า เพราะว่าตอนนเี้ ราไมไ่ ด้อย่ดู ้วยกนั แล้ว เราเลิกกันตง้ั แต่ประมาณ ๑๔-๑๕ ปีแลว้ เพราะว่าหาทางด้วยกนั ไม่ได้ เขาใหไ้ ปตอ่ พ่อแม่เป็นอาจารย์ครูสอน ผมในชีวติ ของผมตง้ั แตเ่ กดิ จนถงึ อายทุ ีนเอจ เพราะวา่ ทีนเอจแล้ว ไมอ่ ยากจะฟังพ่อแมแ่ ลว้ ฟังคน อน่ื มันง่ายกวา่ ตอนน้กี ย็ ังฟัง เรม่ิ ฟงั เขาอีก แมเ่ สยี แล้วประมาณ ๗ – ๘ ปี เขาเสียแล้ว แตพ่ อ่ ตอน นีอ้ าย ุ ๘๓ ป ี ก ็ ผมชอบคุยกับ พ่อ แต่ในบางเร่ือง บางเร่อื งดกี ว่า ผมไม่บอกพอ่ นะครบั แต่ทำามรี ปู น้ ี

- 184 - ขอให้มีรูปทีหลัง ทุกคนมีพอ่ ๑ คน มีแม่ ๑ คน แต่ผม กต็ ้งั แตผ่ มเรียนภาษาไทย ตงั้ แตผ่ มมาวดั ผมเหน็ คนบอก หลวงพ่อ ผมคิดว่า หลวงพอ่ คือ พอ่ ใหญก่ วา่ หรอื เป็นพระสงู กว่าพอ่ แต่พูดถงึ พระเทพกติ ตโิ มล ี ท่านเปน็ พอ่ ท ่ี ๒ ใหผ้ ม เพราะวา่ เปน็ อาจารย์ที่สอนผมในเวลาชีวติ ของผม หลงั จากท่ีผมลาออกจากพ่อแม่ที่บา้ นนะ ครับ ถูกต้องไหม ? กค็ ือ ผมแตง่ งาน แล้วก็มภี รรยาคนไทย เขาก็มาวัด กำาลงั เริ่มสรา้ งวดั ทว่ี ดั ศรีนครินทรวราราม คือ มแี ปลนแล้ว แต่ก็มเี ฉพาะกาำ แพง และกม็ ีศาลา แตศ่ าลาเปน็ คอนเทนเนอรน์ ะครบั และผมเจอหลวงพอ่ ขุดดิน ผมช่วยเหมอื นกนั ใสร่ องเท้าพลาสติก เพราะว่าเป็นโคลน ฝนตก กค็ ดิ ว่าจะเปน็ วัดยงั ไงได ้ เพราะว่ามแี ตด่ นิ และก็กำาแพง และกศ็ าลาก็ยังไม่มี แต่กม็ าท่ีวดั เรอ่ื ยๆ แลว้ กเ็ จอกับคนเยอะแยะ ทไ่ี ม่เคยเจอแต่ก่อน เพราะแต่ ก่อนผมไม่ได้อยูใ่ นกลุ่มของคนไทย แต่มาทว่ี ดั ก็ต้องเจอแนน่ อน เพราะวา่ ๙๙ % ตรงชว่ งนนั้ เปน็ คนไทย ผู้ หญงิ คนไทยทมี่ าทวี่ ัด เริม่ มโี รงเรียนพุทธศาสนา เริ่มมีการสอนภาษาเยอรมัน มีหลายอยา่ งครบั หลวงพ่อมแี ปลนเยอะแยะ แลว้ ก็หลวงพ่อเก่งในเรื่องขอรอ้ งคนช่วยทา่ นนะครับ ผมกเ็ ข้าในกรปุ๊ น้นั แต่ก่อนทผี่ มเปน็ ประธาน เปน็ คณุ จุฑามาศ แล้ววันหน่ึงหลวงพอ่ บอกขอรอ้ ง ขอร้อง คุณจฑุ ามาศดว้ ย แล้วก็ถามผมวา่ อยากจะเปน็ ประธาน ของสมาคมวัดไทยไหม ? เอ่อ ผมคดิ ไมอ่ อก เพราะวา่ ผม จริงๆ ผมไม่รเู้ ท่าไหร่ มนั เปน็ อะไร มันมคี วามหมาย อะไร แตป่ ระธาน โอเค ด ี แตส่ มมตินะ มนั มบี นั ทึกทบ่ี อกงานทกุ อยา่ งประธานต้อง ผมคิดว่าว่าตัดสนิ ใจ “ไม”่ หลวงพ่อกเ็ กง่ หลวงพอ่ ทาำ ได้ใหผ้ มพดู ไดค้ รบั ก็ ตอ้ งบอกอยา่ งนนี้ ะ ชว่ งนนั้ ผมกม็ ีหวั หน้าที่ทาำ งานของผมเปน็ หมอใหญ ่ เป็นหมอจรงิ ๆ หมอ จิตแพทย์ แล้วเราเจอกันทกุ อาทิตย์นะครับ ไม่ใช่ทุกอาทติ ย์ อาทติ ยล์ ะ ๑ คร้ัง เพอื่ พดู ถึงปญั หาทีเ่ รามกี ับคน ป่วย เพอื่ อะไรท่ีตอ้ งแก ้ เพอื่ ยาท่ตี อ้ งใหใ้ หมอ่ ะไรแบบน ้ี และวนั หนึ่งนะที่ผมไปวัด หลวงพ่อรู้ทผ่ี มเปน็ คนอันนสี้ ิ่ง ไม่ดีของผมนะ ทผี่ มชอบพูดดังเวลาผมโกรธ และทา่ นคิดวา่ ดีทสี่ ดุ ให้มาวัด ใหม้ าอยู่ทว่ี ัดสัก ๒ อาทติ ย ์ ๓ อาทติ ย ์ แลว้ ก็พูดในทที่ ำางานกบั หวั หน้า พดู ถึงวา่ เอ ้ ผมมีโอกาสไปที่วดั นะ และหวั หนา้ ของผมเป็นผู้หญิงนะ เป็น หมอจติ แพทยน์ ัน้ เขาบอกวา่ เขาเป็นคนท่เี ดินทางบ่อย ท่ีเคยไปทวั่ โลก เขาบอกโอ๊ะ เป็นวัดศาสนาพทุ ธ ตอ้ ง ไปแน่นอน เพราะว่าทีน่ น่ั จะเรียนทกุ สิ่งทกุ อยา่ ง เกี่ยวกบั ชวี ิต เพราะว่ามันเป็นศาสนาทีส่ อนตรงเลย ทีใ่ หก้ าร ชว่ ยเหลอื ในชวี ติ มันดสี าำ หรบั ผม เพราะวา่ ไม่ต้องเอาเวลาพักรอ้ น ไมต่ ้องเอาเวลาของครอบครวั เพราะวา่ เขา ใหฟ้ รี จากบริษัท เขาจ่ายสตางค์ด้วย โอเค ผมมาอยูว่ ัด ๒ อาทิตย์ ผมยังจำาไดท้ ผี่ ม ทกุ คนื หลังจากที่ทาำ วตั ร เยน็ เสร็จแล้ว ผมกย็ งั มีงานทำากบั พระบางรปู เสรจ็ แลว้ ตอนทอ่ี ยากจะไปนอน ตอน ๑๑ โมง ตอนเทย่ี งคนื หลวงพ่อเรยี ก ขอรอ้ งใหส้ อนเกีย่ วกบั ศาสนา บางครั้งถึงตี ๒ ต ี ๓ ผม คดิ ตลอดเวลาว่า ทาำ ไมหลวงพ่อทาำ ได้ นะ ถึงตี ๒ ตี ๓ บางครงั้ ผมยังร ู้ ยงั เขียนหนังสอื ในหอ้ งของท่าน แต่ว่าตน่ื ๖ โมงเช้า หรือกอ่ น ๖ โมงเช้า แต่ มันก็เป็นน่าสนใจ ตะกจี้ ำาไดไ้ หม ? สมายลท่ี ี่ผม

- 185 - โชว์เกี่ยวกับอันน ้ี มนั อธิบายเยอะแยะใหผ้ ม และผมชอบเพราะอะไร ผมชอบเพราะวา่ อันนย้ี งั ไม่ได้บอก อาย ุ ๒๐ ปผี มลาจากศาสนาครสิ ต์ ทำาใหพ้ ่อแมเ่ จ็บมากๆ เพราะวา่ เขาคดิ วา่ ถ้าผมลาจากศาสนา จากศาสนา คาทอลิคของเขา ลกู จะหาย คอื เขาไมเ่ ขา้ ใจ แต่ว่า ผมมีปญั หาอยา่ งหนึง่ ศาสนาคริสต์ หรือ ศาสนาคาทอ ลิค มันบอกใหผ้ มวา่ ต้องนบั ถอื (ศรัทธา,เช่ือ) นบั ถือ(ศรทั ธา,เชอ่ื ) ผมทำายาก เพราะว่า นับถอื (ศรทั ธา,เช่อื ) มี คนเยอะที่นบั ถือ(ศรทั ธา,เชอื่ ) ผมคิดวา่ ผิดหมดเลย คนฆ่าคนอื่นนบั ถอื (ศรัทธา,หรือเชอ่ื )ทจ่ี ะดสี าำ หรับเขา หรือ ทมี่ นั จะช่วยในเรื่องน้นั คนทเ่ี ปดิ สงคราม เขานบั ถอื (ศรัทธา,เชอ่ื )ท่จี ะดที ี่เขาต้องทาำ สงครามนนั้ แตน่ บั ถอื (ศรัทธา,เชือ่ ) ผมอยากจะร ู้ อยากจะรู้จริงๆ และก็ไม่ใช ่ คงจะ perhap และผมอยากจะใช ่ หรอื ไมใ่ ช ่ และ คาำ ถามน ้ี หลวงพ่ออธบิ ายใหผ้ ม จนถงึ ทุกคร้งั ถา้ ผมไม่รู้จะทาำ ยงั ไง ตอนนี ้ ถา้ ผมตอ้ งตดั สินใจ ผมไมอ่ ยาก จะเชื่ออย่างนน้ั จะด ี หรืออย่างน้นั จะดีกวา่ เพราะว่าผมอยากจะร ู้ และทีหลังครงั้ มนั ผิดดว้ ย แตอ่ นั น้เี ปน็ เรอ่ื ง สำาคญั ทส่ี ดุ ผมอยากจะเจออะไรทใี่ หค้ วามแน่ และความถกู ต้อง หรอื ไม่ถกู ต้อง หรอื ไมอ่ ยู่ตรงกลาง หรือบาง คร้งั อย่างนี้ อย่างนั้น แลว้ ก็ไมต่ ้องนับถือ(ศรทั ธา,เชือ่ ) หลวงพ่อเคยบอกให้ผมวา่ แตผ่ มจาำ ไม่ไดท้ ีห่ ลวงพ่อ ท่พี ระพุทธเจ้าเคยบอกวา่ ตอ้ งตรวจทกุ ส่ิงทุกอย่าง สิ่งท่ผี มบอกคอื พระพทุ ธเจ้า สิง่ ที่ผมบอกด้วย ไม่ร ู้ พระพทุ ธเจา้ เคยเทศน์อยา่ งนไี้ หม? ทรอส เอวีร่ตี งิ้ โอโซล เดอะติ้ง ไอ โทล ย ู โอเค ผมชอบมากๆ เพราะวา่ ผมอ่านไม่มากจากพระพุทธเจ้า พระพทุ ธเจ้าหรอื ผมอา่ น หนงั สือของพระไมเ่ ยอะ ท่ีผมอา่ น ผมคดิ ได้ มันถูกตอ้ งหรอื ไม่ถูกต้อง แตท่ ุกครง้ั ผมหา มนั ถูกต้อง ผมตรวจ ไดเ้ อง ผมไมต่ อ้ งนับถอื (ศรัทธา,เชื่อ) ผมตรวจได้เอง ไมร่ ทู้ ่านเข้าใจไหม ? มันพูดยากเป็นภาษาไทย แต่มันทำาใหผ้ มรวมในพุทธศาสนามากกวา่ แตผ่ มก็คดิ ว่า ใครไม่มีอาจารยม์ ันอยาก แลว้ กผ็ มคิดว่า เปน็ ทีแ่ นน่ อนศาสนาพทุ ธเรียนยาก ถา้ ไม่มอี าจารย์สอน เพราะว่ามนั มหี นงั สือเยอะแยะ ผมเจอคนเยอะแยะท่ี บอกศาสนาพทุ ธ แล้วเริม่ พดู ถงึ ทเี่ ขาทำาอะไร เปน็ อะไร โอเคมนั มีศาสนาพทุ ธ เป็นหลายชนดิ ดว้ ย ผมรู ้ แต่มนั กม็ ีคนฝรัง่ นะ ที่เคยไปอินเดยี เคยไปเมืองไทย แล้วกก็ ลบั มา แลว้ ก็เขยี นหนงั สือ แล้วก็สอนผิดเยอะแยะ เท่าท่ี ผมเหน็ ได้ คนท่ีสอนถกู ต้องก็มีนะครบั ผมรู ้ แตผ่ มคิดวา่ เร่อื งสำาคัญทสี่ ดุ คอื มอี าจารย์สอน และอาจารย์ท่ผี ม เจอ ก็คือหลวงพ่อของเราสอนเก่งมากๆ แตต่ อ้ งทนด้วย (พระเทพกติ ติโมลี แทรก) สอนเขาให้เชอ่ื ตัวเอง น่นั แหละ ถ้าเชือ่ ตัวเองแล้วก็ สามารถท่ีจะสอนคนอน่ื ได ้ ตอ้ งมคี วามเชอ่ื เขา้ ใจ แล้วปฏิบัติดว้ ยตวั เอง (ตอ่ ) คอื ทผี่ มเรียนด้วย และผมชอบด้วย คอื พิธพี ทุ ธศาสนา เพราะวา่ ในโรมนั คาทอลิค บางครง้ั มัน ยาว คือ พระเทศนเ์ ป็น ๒ ชวั่ โมง ๓ ชว่ั โมงก็ม ี หรอื ผมไมค่ ่อยเขา้ ใจพิธีท่ีเขาทาำ แตพ่ ธิ ีท่ีผมเจอแล้วกเ็ ขา้ ใจ ได้นะครับ ผมคิดว่า โอเค มปี ระโยชน ์ นีเ่ ป็นรปู จากพธิ ี เผาศพจากแม่บญุ ธรรมของลูกสาวผม เขาอยทู่ ่ีวัด และผมยงั จำาได้มพี ิธนี ัน้ บาง คนที่ไม่เคยเจอ เขาแปลกใจท่คี นดู กระดูกยังอย่ทู น่ี ี่ คนฝรัง่ แปลกใจท่ ี คนท่เี สียชวี ิตแลว้ ก็ยังอย่ใู นโกฏ ิ แล้วกไ็ ม่ ไดป้ ดิ ต้องดดู ้วย ต้องเห็นดว้ ย เพราะว่าคนทตี่ ายไปแล้ว ในนน้ี ะ ภายใน ๒-๓ ชั่วโมง ไมอ่ ยากจะเห็นแลว้ ไมอ่ ยากจะเจอแล้ว แตท่ ีเ่ มอื งไทย ผมเห็นว่า บางครงั้ ๑ อาทติ ย ์ หรอื พาไปรอบบ้าน ผมคิดวา่ นเี่ ปน็ เรอื่ ง ธรรมดา ถ้าคนไมก่ ลวั การตาย โอเคตอ้ งเป็นอยา่ งนัน้ เพอื่ เราไดเ้ วลา ลาก่อน เพอื่ มีเวลา เพอ่ื มีเวลา ความ เสียใจหายไปนดิ หนึ่งนะครบั และกเ็ พือ่ เข้าใจท่ีเราตอ้ งตายทุกคน คนไม่เช่ือนะ บางครั้งถ้าผมพูดคยุ กบั เพือ่ น ทส่ี นิทมากๆ เราพดู ถึงการตายพอ่ ตอนนเ้ี ราแกแ่ ล้ว เร่ิมแก่กวา่ ทุกวนั ถ้าผมบอกวา่ เอ ้ ผม บางครั้งผม คิดทกุ วนั นะ ในเร่อื งน ้ี ขับรถ คิดวา่ โอ ้ โชคดี ต้องระวงั ทีไ่ มต่ าย ใครจะร ู้ มีคนอน่ื ทไี่ ม่ระวงั แล้วชนผม ตาย

- 186 - เพราะว่าผมคดิ อยา่ งน้ ี ผมตอ้ งคดิ อยา่ งน ี้ ผมตอ้ งคดิ ถงึ เรือ่ งตาย แตไ่ ม่ใชเ่ พือ่ เสยี ใจ เพื่อเตรียมไว้ เพ่อื ไมต่ อ้ ง กลวั เพื่อสบายใจ คือ ไม่สบายใจแนน่ อนถ้าผมต้องตาย อนั นผี้ มคดิ นะ และก็ตอนน้ีด้วย ยังนะ แตผ่ มไม่รู ้ ผม จะกลบั จากน้ ี แลว้ มนั อาจจะเกดิ ข้ึน ใครจะไปร ู้ แต่ถา้ ผมพูดกบั เพอ่ื น นะ บางคนเขาบอกจบ จบ จบ บ้า อยา่ พดู อยา่ งนน้ั เรามชี ีวติ อย ู่ แต่ถา้ ผมบอก เอ้อ คุณจะตายดว้ ย เขาบอก ไม่ใชต่ อนนี ้ ถ้าผมบอกว่า เพราะว่า ผมเคยทาำ คนทจี่ ะตายอกี ไม่นาน คือคนท่อี ยู่ในโรงพยาบาล เป็นโรคมะเร็ง เปน็ โรคจติ แกแ่ ลว้ ส่วนมากผมเหน็ ว่า ถา้ คนใกลจ้ ะตาย เขาร้อง เขารอ้ ง รอ้ งทีเ่ ขาผิด เขาอยากจะพูดคนอ่ืน ถ้าเขายังเคลยี ร์สมอง หรอื เขา อยากจะขอโทษกับสิง่ ที่เขาทาำ ไมด่ ี ผมคิดว่าผมไมอ่ ยากจะทาำ คอื ไมอ่ ยากจะขอโทษ ตอนช่วงนนั้ ผมขอโทษ ในเร่ืองทีเ่ กิดขึ้น ถา้ ได้บางครง้ั กไ็ ม่ยาก ขอโทษมนั ไม่ยาก แตว่ า่ ผมคดิ วา่ ศาสนาพทุ ธสอนตรงไปเลย เหมือน ไม่งา่ ยทตี่ ้องรับจะตาย เพราะไมม่ ใี ครอยากจะตายใช่ไหมครับ หรอื ไม่มีใครชอบ ได้ยินวา่ ทุกคนมปี ญั หา ที่ งานของผมนะ ผมชอบเปน็ คาำ นบี้ อ่ ย หลวงพ่อบอกแน่นอน Everybody has problem and who has no problem can ran away from his sadow i like ผมชอบมากๆ ถา้ บางคร้ังอธิบายและพดู คาำ นี้ในภาษา เยอรมนั คนกบ็ อกอะไรหนจี ากแชโดว ์ ดูสิ น่แี ชโดว ์ พยายาม พยายาม อันน้ีก็คือ ดไู ด้ ตรวจได้ทนั ทเี ลย บางคร้งั มีคนพยายามนะ แต่มันไมไ่ ด้ คือ คาำ สอนท่ตี รง ท่ีใหก้ ารอธิบาย ไม่ใช่หลายทาง ทางเดยี ว ตรงไปเลย (พระเทพกติ ตโิ มล ี แทรก) ใหฟ้ ังหน่อย บอกไวอ้ ยา่ งน ้ี ชีวติ คือปญั หา ปญั หาน่นั แหละคอื ชีวิต เข้าใจ ไหม ? ให้โยมเข้าใจ The Buddha got enlightenment of the Four Noble Truths : Suffering, the cause of Suffering, the Cessation of Suffering and the Way Leading to the Cessation of Suffering. We may say in the simple way that The Buddha got enlightenment about the correct process of solving problems in human lives. That is meant that a human life is full of sufferings or problems either more or less, starting from one’s birth until one’s death. We may also say in the common sense that life is problem or problem is life. Life and problems are coming together; the same as our bodies and the shadows. Wherever we are going here and there, shadows will be always going with us, if we(you) can run away from our(your) shadows then we(you) also can run away from our(your) problems. Therefore, problem and life cannot be separated, they come together. You see that.? คืออยา่ งนี้ เข้าใจไหม ? คือปญั หากบั ชวี ติ มาด้วยกัน ถ้าใครก็ตามว่ิงหนีปัญหาได้ กแ็ สดงว่า วิง่ หนคี วามตายได ้ ใช่ไหมครับ ความตายกับชีวติ มนั มาด้วยกนั ปญั หากับชวี ติ กเ็ หมอื นกนั มาด้วยกนั ใช่ไหม น่ีคอื จดุ น้ที ี่เขาฟังเปน็ ประจำา (ต่อ) คือคนท่นี ี่ ส่วนมากเขา้ คิดว่า กรรม มันเป็นสิ่งทีเ่ กิดขึ้นกบั เรา แต่เราทาำ อะไรไมไ่ ด ้ นะครบั แต่ เทา่ ท่ีผมเรยี น หรอื เทา่ ท่ผี มได้ประสบการณ์ คือ กรรม ก็คอื ทกุ สิ่งทีอ่ ยา่ งทเ่ี รา เป็น Action แลว้ ก็ม ี Re- action คอื อะไรทีผ่ มทำามนั ก็กลับมาเท่าท่ีผมทาำ ดี หรอื ไมด่ ี บางคนไมช่ อบเรอื่ งน้ีดว้ ย เพราะว่า ถงึ ตอนนี้เขา ยังคิดว่า ความสุข หรือ กรรม มนั ก็เปน็ สิง่ ทมี่ าจากเทวดา มาจาก God มาจากทเ่ี ขาสวดมนตเ์ ก่ง แตผ่ ม เชือ่ ๑๐๐% นะครับ อะไรทผ่ี มทำา มันต้องกลบั มา ก็สิ่งเรื่องแบบน้ี ทำาใหผ้ มคดิ ว่า เจริญ เจริญในบางครั้ง จนทผ่ี มคดิ ว่า เสยี ดายทีผ่ มไม่เกดิ มากับ ความร้ทู ม่ี ีตอนน ี้ ชวี ิตมันคงจะผา่ นไปงา่ ยกวา่ ที่ผมเจอ แล้วกไ็ ม่ใชผ่ มอย่างเดยี ว คนหลายคนดว้ ยนะครบั สดุ ยอดท่ีผมช่วยสมาคมวัดไทยนี้นะครบั ทผ่ี มรับเสาเสมาธรรมจักรที่เมืองไทย แต่ปัญหา คอื ว่า อันน้ี สดุ ยอด แตป่ ระมาณ ๒ เดอื นท่หี ลัง สดุ ยอดคอื หลังคาของเต้นทท์ ่ีวัด และผมตกจาก โชคดผี มไม่ตาย แตท่ ี่หลัง มีปญั หามากเกีย่ วกบั เท้า อันนก้ี ็ผมจาำ ไว้แล้วก็รู้ตอนนีน้ ะ สุดยอด กับ ตำา่ ทีส่ ดุ กอ็ ยใู่ กล้กนั

- 187 - ก็ วันนนั้ บางคนทเ่ี ปน็ สมาชิก ของวดั ก็คงจะจำาได้ทเ่ี ราไปลาหลวงพอ่ ที่ สนามบนิ นะครบั ในน้ ี แตอ่ ันนคี้ ือนิสยั คน ไทย ทุกคนยงิ่ แต่ทีหลังมีนา้ำ ตาไหลเยอะ แตม่ คี นเสียใจมากๆ เพราะวา่ ชว่ งนน้ั ยงั ไม่มใี ครรูท้ ห่ี ลวงพ่อจะไปอย ู่ ตัดสินใจ ไปอยวู่ ัดเบญจมบพติ ร ทเี่ มอื งไทย บาง คนเปน็ ห่วงว่า หลวงพ่อคงจะไมก่ ลับ แล้ว และอนั นีผ้ มบอก เพราะวา่ เรามี พยานเยอะแยะในศาลาน ้ี ถ้าหลวงพ่อมีความคิดทีอ่ ยากจะกลบั ไปอย่เู มอื งไทยอีก กม็ คี นมากทจ่ี ะเสยี ใจนะครับ เพราะวา่ ท่านเปน็ หลวงพอ่ จรงิ หลวงพ่อจริง คือ หูเปดิ ตลอด คือ ใครมปี ญั หาก็ติดตอ่ หลวงพอ่ ได้ บางคร้ัง ผมรตู้ อนท่ีอย่วู ัดนะครบั บางครั้งเท่ยี งคืน ยังมคี นโทร ปัญหากค็ งจะเลก็ ไมน่ ้อย แตส่ าำ หรบั คนน้ันใหญก่ ็โทรหา หลวงพ่อ ตาของหลวงพอ่ ดูชดั มาก หลวงพ่อเปน็ องคท์ ี่เห็นงาน สร้างงาน และก็ดูแลงานแบบดที สี่ ุดนะครบั บางคนต้องเหนือ่ ยแน่นอน แต่ก็มตี ้องมผี นู้ าำ แบบน้นั แลว้ ก็หลวงพ่อมีคำาสอนทท่ี ุกคนเขา้ ใจ บางคนมีความรู้สงู ก็หลวงพ่อสอนได ้ บางคนตอ้ งอธิบายงา่ ยๆ หลวงพ่อรบั ได ้ ทำาได ้ ผมชอบมากๆ นะครับ และผมร้สู ำาหรับหลวงพ่อ สำาหรบั คนท่ีน่ี คนสมาชิกของวดั น้ ี คน ทม่ี าเยีย่ มวัดน ้ี หลวงพอ่ เป็นหลวงพอ่ เหมือนเปน็ พ่อของผม นะครบั อนั นพี้ ูดยาก แตห่ วังว่าท่านเขา้ ใจนะครับ ก ็ ลาภรรยาเกา่ ของผมด้วย อยากให้เหน็ ลกู ของผม ๒ คน ลีซา่ กบั ทมิ ลีซ่าเปน็ คนโต อายุ ๒๕- ๒๖ ปี ทมิ ๒๓ ไม่ไดเ้ จอกับทิมตอนน้ ี ๑๕ เดอื นแลว้ เพราะวา่ เขาไปเดนิ ทางรอบโลก กท็ ผี่ มภูมิใจ คอื วา่ ทกุ ส่ิงทกุ อยา่ งท่ผี มทำาในชีวิต หรอื ต้งั แต่มคี รอบครวั ผมพยายามทาำ ดีทีส่ ุด มันมีหลายอย่างท่ีผมทาำ ผดิ มาก ท่ี ผมทาำ ไมเ่ ทา่ ทีผ่ มอยากจะทาำ หรอื ทต่ี อ้ งทำา แตท่ ีผ่ มภูมใิ จ คือว่า ลูกสมบรู ณ ์ และภรรยาเกา่ ของผมกต็ อนนม้ี ี ชีวติ ท่ดี ี ในเมอื งไทยนะครบั ก็ อยากใหค้ นไทย เพราะว่า เราฝรงั่ เราเปน็ ฝรั่ง ชอบว่า โอเ้ มอื งไทย มีพี่น้องเยอะแยะ ครอบครัว ยงั สำาคญั นะครบั รูปน้ีนะมนั เป็นงานวันเกดิ อายุ ๘๐ ปีของพ่อ และเราเชิญ ลูกนอ้ งจากพอ่ กบั แม่ดว้ ย กค็ นมาก อันนี้ผมคดิ ว่าสำาคัญดว้ ยทเี่ ราดแู ลกนั ไมใ่ ช่ในสมาคมวัดไทย และกไ็ ม่มเี วลาท่บี ้าน คือ ท่บี า้ น กอ่ น แล้วก็ที่สมาคมวัดไทยหรอื ทีว่ ัดด้วย และครอบครัวผมกเ็ รยี งต่อจากทนี่ ่ีด้วย สำาคญั มากสำาหรบั เรานะครบั ตอนนีส้ ดุ ท้าย ยงั ไมส่ ุดท้าย เป็นเพราะวา่ วัดเจรญิ ได ้ วัดใหญ่โต เพราะว่ามีคนเยอะแยะทช่ี ว่ ยกนั ทใ่ี ห้ ความอดทน ที่ใหค้ วามเสียเวลา ทีใ่ ห้โอกาสออกความคดิ ของเขา และผมรู้ มนั ไมจ่ บนะครบั คนวัยรนุ่ โอเคทำา หายากนิดหน่อย แต่มนั ก็มนี ะ ผมเหน็ ข้างนอกมีเยอะแยะ ปีหน้าเขาคงจะเขา้ ข้างในนะครบั และสุดทา้ ยน ี้ บางคนเขาถามว่า ทำาไมปเี ตอรไ์ ม่ค่อยมาวดั อันนีค้ ือเหตุผล ไมใ่ ชเ่ พราะว่าเขา ไมใ่ ห้ แตผ่ มตดั สนิ ใจวา่ ผมมีแฟนใหม่ คอื ว่า ๑๐ ปีแล้ว ทีเ่ รารู้จักกนั ตอนนเ้ี ราพักอยดู่ ้วยกัน ตอนนีเ้ รา สร้างชีวติ ด้วย และกบั ความรูท้ ผ่ี มมีตอนนี้และความคิดทีม่ ีตอนนีน้ ะ ผมหวังวา่ เราจะอยดู่ ว้ ยกันถึงตายนะครบั อย่างนัน้ ผมขอบคุณทุกคนนะ แต่อยา่ งมากทีส่ ุด ผมขอบคณุ หลวงพอ่ ท่ีให้ความอดทน และความรู้ กบั เรา กบั ผม กับทุกคนทีไ่ ปหาทม่ี าหา และขอใหท้ ุกคนเจอโชคดใี นชวี ติ ของเขา แต่อย่าลืมนะ ต้องสร้างเอง คอื ว่ามนั ไมม่ าหาเรา เราต้องหามัน ขอบคุณมากครับ

- 188 - การประชมุ สหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยโุ รป (ส.ธ.ย.) สมัยสามัญประจาำ ปี ครั้งท่ี ๑๐/๒๕๕๙ ณ วดั ศรนี ครนิ ทรวราราม สวติ เซอรแ์ ลนด์ วนั ท่ี ๒๑ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๑๖.๓๕ น. ผู้แทนองค์กรพระธรรมทตู จากประเทศไทย และจากทวปี ต่างๆ พบปะแลก เปลย่ี นประสบการณ์ (๑) มหาวทิ ยาลัย มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั โดย พระโสภณวชริ าภรณ์ รองอธกิ ารบดี ฝ่ายตา่ งประเทศ ขอถวายความเคารพ ต่อองคส์ มเดจ็ พระสัมมาสัมพุทธเจา้ พระเดชพระคณุ หลวงพ่อพระมหาเถรทุกๆ รปู พระธรรมทตู และญาตโิ ยมทกุ ๆ คน และก ็ คงใชภ้ าษาเดียวคงพอเข้าใจได้ กใ็ นโอกาสทไี่ ดม้ ารว่ มประชมุ มาปฏบิ ตั ิหนา้ ทแี่ ทนอธิการบด ี กเ็ ป็นระเบยี บปกติของมหาวิทยาลัย ก็ คือ ในฐานะเปน็ องค์กรผลิตพระธรรมทูตให้คณะสงฆเ์ ลอื กมาใช ้ เม่อื เวลามีการประชุมคณะสงฆใ์ นองคก์ ร ของประเทศนน้ั ๆ กจ็ ะนิมนต์ผู้แทนองคก์ รท่ีเปน็ หน่วยผลิตมาร่วมประชุมด้วย ในฐานะองคก์ รร่วมมอื กค็ ือ คอรเ์ ปอเรช่ัน ออกาไนซ์เซชน่ั หรือ องค์กรทม่ี าร่วมกัน ม ี เอม็ โอ ยู ทกุ วนั นเี้ ราเรียก เราอ่านวา่ เมา MOU ภาษาอีสานเรยี กวา่ โสเรก่ นั ทุกเร่ือง ใหร้ ู้กันทุกเร่ืองนะ คณุ โยมนะ หรอื ว่าคาำ โบราณ กม็ กี ารโสกนั ขบวนการโสกนั หรอื ดสิ คสั ช่ันอนิ ดีฟ เสรจ็ แล้ว ความหมายที่อยากจะแนะนำาในวาระน้ ี กจ็ ะเปน็ เรอื่ งของการ งานเก่ยี วกบั มหาวิทยาลัย ท่ี เก่ียวข้องกับงานพระธรรมทูต ซ่ึงมหาวิทยาลยั ไดร้ ว่ มงานพระธรรมทูตตง้ั แต ่ ๒๕๐๙ ก่อนหน้านนั้ กเ็ จ้า ประคุณสมเดจ็ องค์แรกทเี่ ปน็ ผ้รู ว่ มสถาปนามหาวทิ ยาลัย ร่วมกันทำางานเพอ่ื การเผยแผน่ ี้ ทีน้มี หาวิทยาลัย คืออะไร สาำ หรบั ญาติโยมอาจจะ ถา้ ยังร้ไู ม่มากกไ็ มเ่ ป็นไรใหศ้ ึกษาต่อจากท่านพระธรรมทูตนะ ก็คือ เปน็ University ของคณะสงฆ ์ ซงึ่ ในโลกมีเพยี ง ๒ มหาวิทยาลัย ที่เป็นมหาวทิ ยาลัยสงฆข์ องรัฐบาล ส่วนของทอ่ี ่ืนน่ีเป็นมหาวทิ ยาลยั เอกชน โดยคณะสงฆต์ งั้ ขน้ึ มา เชน่ ของญปี่ ุ่นมตี ้ัง ๔๐ กวา่ มหาวทิ ยาลยั แต่ตง้ั เป็นมหาวิทยาลยั เอกชนขององคก์ รศาสนา และก็ของเกาหลเี ปน็ ตน้ มี ๘ มหาวทิ ยาลยั ก็เป็นมหาวิทยาลยั ขององคก์ รศาสนา แตเ่ ปน็ ไปรเวทยูนิเวอรซ์ ิต ี และกม็ ี บุดดสิ สตาทดีเ้ ปน็ ดพิ าสเมน้ ทห์ นึ่ง ของมหาวิทยาลัยนน้ั ๆ ส่วนของประเทศไทย เนื่องจากอยใู่ นพระบรมราชูปถัมภ์ หรอื ในพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวฯ กับ รัฐบาล กับญาตโิ ยมชาวไทยเป็นผู้อุปถัมภ ์ รัฐบาลกอ็ นเุ คราะห์ใหเ้ ป็นมหาวทิ ยาลยั ตั้งแต่ลน้ เกล้ารชั กาลท ่ี ๕ ท่านทรงสถาปนาขน้ึ ตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๔๓๐ เปน็ ตน้ มา

- 189 - ในปจั จบุ นั กม็ ีพระสงฆ์ สามเณร รวมถึงคฤหัสถ์ท่ีเปน็ นิสิตอยใู่ นมหาวทิ ยาลัย ผู้ท่ีเรยี นในมหาวิทยาลัย น่มี ี เรยี นปรญิ ญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก กจ็ บจากมหาวิทยาลัยเหลา่ น ี้ ก็ไป ถา้ เปน็ โยมกไ็ ปบรรจเุ ปน็ ข้าราชการไดต้ ามปกติ เป็นวฒุ ิทถ่ี อื วา่ เป็นพระเจา้ อยหู่ วั ฯ พระราชทาน เพราะว่าของปรญิ ญาทกุ ปริญญา ถอื ว่า พระเจา้ อย่หู วั พระราชทานฯ เหมือนกบั เปรยี ญธรรม ๙ ประโยค พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวฯ ทรง ต้งั ทรงสถาปนา ก็แบบเดียวกนั มีนสิ ิตในปจั จบุ ัน ปนี ี้ ปีการศึกษา ๒๕๕๙ น้ี มีจาำ นวน ๒๓,๗๐๐ รปู ทัว่ ประเทศ ทั่วโลก มีอยู่ ในองคก์ รประเทศอ่ืน ๕ ประเทศดว้ ยกนั เชน่ ประเทศศรลี ังกา ประเทศเกาหลใี ต ้ ประเทศสิงคโปร ์ เป็นตน้ แต่การเรียนเรยี นพระพทุ ธศาสนาเป็นหลกั มคี ณะ ๔ คณะดแู ล มีบัณฑติ วิทยาลยั ๑ บณั ฑติ ดแู ล แล้วกป็ ัจจบุ ันมเี รียนภาษาที่เรยี น ทัง้ ภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาองั กฤษ ภาษาจีน ภาษาญีป่ นุ่ ภาษาเกาหล ี เรียนในหลกั สตู รเหลา่ น้ี รวมถึงหลกั สตู รทค่ี ลา้ ยๆ กบั โยมปเี ตอร์พูดเมอื่ ก้นี ะครับ พระเดชพระคณุ ฯ ก็คอื หลักสูตร เราเรยี กว่า สาำ หรับปรญิ ญาตร ี เราเรยี กวา่ พทุ ธจติ วิทยา หรือ บดุ๊ ดิสไซโคโลจ่ี เราเรียนวิชากมั มัฏ ฐาน วิชาแกป้ ญั หาทางจิตของแตล่ ะท่าน ถ้าเป็นปรญิ ญาโท เราเรยี กวา่ ไลฟ์ แอน เดท หรอื ชีวิตและความ ตาย อนั นจี้ ะน่ากลวั หน่อย แตถ่ ้าเปน็ ปรญิ ญาเอก เราเรียกว่า บ๊ดุ ดิสไซโคโลจ่ี เหมอื นกัน ปจั จุบนั บุ๊ดดิสไซโค โลจ ี่ เปิดระดบั ปริญญาเอก เปน็ รุน่ ที ่ ๔ ผูท้ ีม่ าเรยี นส่วนมากก็จะเป็นคณุ หมอ หรอื พยาบาล มีคณุ ครูบา้ งท่เี ป็น ผู้บริหาร เพราะอะไร เพราะมาเรียนเขาจะมปี ัญหาเหมอื นโยมปีเตอร์พูดเมอื่ กนี้ ะ ถ้าจะตอ้ งไปดคู นป่วยในโรง พยาบาลก็จะดแู ลยังไง เพราะฉะน้ัน พระสงฆ์ท่เี รยี นอยู่ในมหาจฬุ าฯ ด้านจติ วทิ ยากจ็ ะไปดคู นเหล่าน้ี รวม ถึงกรณซี นึ าม ิ เม่อื วนั ท ่ี ๒๖ ธนั วาคม ๒๕๔๗ เกิดซึนามิ คณะมหาจฬุ าฯ ๖๗ รปู ท่เี รยี นจิตวิทยา ใน ระดบั ปริญญาตร ี ไปดแู ลอยูใ่ นพืน้ ท่ ี ไปเป็นเพ่อื นกบั ศพ กบั ชาวบ้าน อย ู่ ๒ เดือนดว้ ยกัน พวกเรากห็ าคน อุปถัมภไ์ ป รวมถึงกรณีของน้ำาท่วมเมือ่ ๒๕๕๔ ก ็ คณะจิตวทิ ยาของพวกเราน่ีแหละ ดูแลคนทม่ี า คนท่ีได้ รับผลกระทบ ท่สี มเดจ็ พระเทพฯ ใหม้ หาอยทู่ มี่ หาจฬุ าฯ ๑,๐๐๐ กวา่ คน มี ผู้สูงอายุ ๘๖ คน ผ้สู งู อายุ หมายถึงอายเุ กิน ๗๐ ป ี กท็ าำ วตั รสวดมนตเ์ หมือนกัน พอถึงเวลานาำ้ ลง ปิดโครงการเม่ือวันท ่ี ๑๐ ธนั วาคม ๒๕๕๔ ผ้สู งู อายุเหลา่ น้ีไมอ่ ยากกลับ อยากอย่ตู ่อ ตอบเขาว่า อยไู่ มไ่ ด้ เพราะเป็นมหาวิทยาลัย น้ำามนั ทำา บ๊กิ คลนี น่ิง เมอื่ วนั ที่ ๒๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ ก็ปิดโครงการวนั ท่ี ๑๐ ธนั วาคม ๒๕๕๔ เปน็ ต้น นอกนั้นก็เปน็ คณะอ่ืนๆ ท่ดี แู ลอยู่ ในจาำ นวนน้ีมพี ระสงฆ ์ ๙๐ % กค็ ือเป็นพระภิกษุ เปน็ สามเณร ๙๐ % ที่เหลือท่ีเปน็ ปริญญาโท ปรญิ ญาเอก กม็ คี ฤหสั ถ์อย่ดู ้วย ปีน ี้ ๒๕๕๙ มีพธิ ปี ระสาทปรญิ ญาเมอ่ื วนั ที่ ๑๔-๑๕ พฤษภาคม ท่ผี ่านมา มผี ู้จบปรญิ ญาตรี โท เอก จำานวน ๕,๒๐๐ รูป คน ทนี่ ้ี ทา่ นที่จบเหลา่ นี้ กม็ ีทย่ี ังเก่ยี วกบั มหาจฬุ าฯ กค็ ือ ท่านครบู าอาจารย์ อย่างเชน่ ทา่ นเจ้าคณุ หลวง พ่อของพวกเรา ท่านเจ้าคุณเทพกติ ตโิ มล ี ก็เป็นอดตี อาจารย์ ปจั จบุ นั กเ็ ปน็ ทีป่ รกึ ษาฝา่ ยตา่ งประเทศ ทา่ น เจ้าคณุ ใหญ ่ เจา้ คุณใหญเ่ จ้าคณุ พระเทพพุทธวิ ิเทศ ประธานสหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวีปยโุ รป กเ็ ปน็ อดีต ผบู้ ริหารของมหาจฬุ า ฯ แล้วทา่ นกไ็ ปอยู่ต่างประเทศ ต่อจากน้นั กเ็ ปน็ ทปี่ รกึ ษาของมหาจฬุ า ท่านเจา้ คุณ พระกติ ตโิ สภณวิเทศ โอชเี นีย กเ็ ปน็ ท่ปี รกึ ษารูปสดุ ทา้ ย ทพี่ ่งึ ตง้ั อธกิ ารบดีเพ่ิงต้ังเมือ่ เดือน กรกฎาคมท่ีผ่าน มา เปน็ ท่ีปรึกษาฝ่ายตา่ งประเทศ เนน้ งานพระธรรมทตู เป็นตน้ ทนี ี ้ ส่วนทีเ่ กยี่ วกบั พระธรรมทูตทอ่ี บรม ในชว่ งน้ี เม่ือก้ีไดย้ ินมีทา่ นหนงึ่ ท่พี ธิ กี รพดู ถงึ ครูบาอาจารย์ ของเราท่ีมีบทบาทสำาคัญ ซึ่งเปน็ ครบู าอาจารย์ในรุ่นตน้ ใกล้ๆ กับทท่ี า่ นเจ้าคณุ อาจารย์เจ้าคณุ เทพฯ อย่นู ่ี ก็

- 190 - มที า่ นเจา้ คณุ พระสธุ วี รญาณ ที่เคยมาประชุมทน่ี ่แี ลว้ พรอ้ มกบั ท่านเจา้ คณุ ศรีปริยัตโิ มลี เจ้าคุณราชปัญญา เมธ ี ซ่งึ เปน็ ยุคต้นในการอบรมพระธรรมทูต จากที่เมอ่ื เชา้ ทา่ นผูอ้ ำานวยการสำานักงานพระพทุ ธฯ ก็พูดถงึ จากที่พระไทยมาอยูต่ ่างประเทศ ตาม คำาอาราธนาของญาติโยม ตอ้ งถือวา่ ตามคำาอาราธนาของญาติโยม เพราะในสัตตาหะกรณีย มกี าำ หนด ดว้ ยว่าไปตามอาราธนา ตอ้ งจะบอกว่า มาไม่ถกู ระบบก็ไม่ใช่ กไ็ มใ่ ช่ กถ็ ือว่าถูกเพราะเปน็ ไปตามพระธรรม วินยั พระธรรมวนิ ยั ให้ลาได้ ลาพรรษาได้ ต้องนิมนต์ ถ้าไมน่ มิ นตม์ าเองไม่ได ้ ถ้ามาเองก็ขาดพรรษา เป็นต้น เพราะฉะนนั้ พระไทยก็มาตามโยมนมิ นต ์ เม่อื มีโยมนมิ นต์ก็มาฉลองศรัทธา พระสงั ฆาธิการรปู ใดมปี ระกาศห้ามโยมเขา้ วดั ผิดจริยาพระสงั ฆาธกิ าร ปลดจากตาำ แหนง่ ได้เลย หมายถึงคณะสงฆ์ ปลด ตำาแหน่ง เพราะฉะน้นั พระปิดประตหู ้ามโยมเขา้ ไมไ่ ด้ แต่ตอ้ งมีขอ้ ตกลงกนั เปน็ จรยิ าพระสังฆาธิการ เพราะฉะน้นั พระธรรมทูตทม่ี า ก็มาตามโยมนิมนต์ แต่ประเด็นก็คอื ว่า เวลามากเข้า มากเข้า จะทำา ยงั ไงถงึ จะมีระบบ ระเบยี บ หรอื มียนู ิน ้ี มีชอ่ งทางที่ดูแลความปลอดภัยได้ ทาำ ไมพระไทยจะมีรูปแบบทใ่ี กล้กันได้ ไม่มากนักก็ตามแต่ใหพ้ อไปได ้ ทา่ นก็เลยเสนอเรอื่ งการอบรม เกดิ ขึน้ เมือ่ ๒๕๐๙ กเ็ อาทัง้ ๒ ส่วนมาอบรม ร่วมกนั คอื ธรรมยุติ กบั มหานิกาย ทุกทา่ นคงพอ ถา้ เป็นคนไทยคงพอมองเหน็ สำาหรบั ชาวต่างประเทศ ยัง ไม่ตอ้ งศกึ ษามาก ค่อยศกึ ษาทีหลัง ทา่ นกอ็ บรม ๒ ฝ่าย อย่ทู ีว่ ดั บวร ใช้เวลา ๑ ป ี แล้วกอ็ บรมรุ่นแรกใน ๒๕๐๙ มีอดตี เจา้ ประคณุ สมเดจ็ พระญาณสังวร สมเดจ็ พระสังฆราชองคท์ ี่ส้นิ เป็นประธานอบรม แตก่ ็ไดร้ ุ่นเดียว เพราะวา่ ทง้ั ธรรมยตุ ิ มหานิกายนี่มาเรยี นดว้ ยกันน ่ี มนั มปี ระเดน็ ท่ีมนั ตา่ งกันอย่ ู ทาำ ใหอ้ ยู่ร่วมกันไม่ได ้ ก็ยุบไป คณะสงฆ์กม็ าร้อื ฟืน้ ขึ้นเม่อื ๒๕๓๘ โดยท่ีปรารภว่า ทางสหรัฐอเมรกิ าเปน็ ตน้ เรอื่ ง สำาหรับการปรารภวา่ นา่ จะมีการเตรยี มความ พร้อมในบางเรือ่ งสาำ หรบั ผู้ท่จี ะเดินทางไปเปน็ พระธรรมทตู สายตา่ งประเทศ ในยุคนน้ั สหรฐั อเมรกิ าก็มีประเด็น คลา้ ยๆ กบั ที่สหภาพยุโรปปรารภนะครบั ซ่งึ ผมเปน็ เลขานุการในร่างหลักสูตรในสมัยนน้ั ผมเป็นดูแลเร่ือง เลขานุการเรอ่ื งกองงานวิชาการเม่อื ๒๕๓๕ เปน็ ตน้ มา ๒๕๓๖ ก็เร่ิมรา่ ง ๒๕๓๗ กจ็ บ ๒๕๓๘ ก็อบรมเปน็ รนุ่ แรก ปนี ีเ้ ปน็ รนุ่ ท ่ี ๒๒ แต่ปัญหากค็ ือ ว่า ถ้าอบรมอย่างน้ี มันจะไมพ่ อ กเ็ ลยต้องตั้งเปน็ วิทยาลยั พระธรรมทตู ขึ้นมา จากผลของการสมั มนาสมัย ท่านเจ้าคณุ พระศรีปรยิ ตั เิ มธ ี ท่านเจา้ คุณสมชยั เมือ่ วนั ท ่ี ๑๙ มีนาคม ๒๕๔๘ ทแ่ี คมปส์ น เห็นวา่ ควร ต้งั สถาบันพระธรรมทูตข้ึนมา เพ่อื เป็นการพัฒนาพระธรรมทูตทม่ี ศี ักยภาพมากข้ึน แตก่ ็ทำาไมไ่ ด ้ แตม่ ยี คุ หนึง่ ที่ ทา่ นเจา้ คณุ สธุ ฯี มาเปน็ รองอธกิ ารบดี ทา่ นกเ็ สนอตั้งเปน็ หลักสตู ร ท่านอาจารย์พระครโู ฆษติ ฯ เป็นผอู้ ำานวย การกองวิเทศสัมพันธ์ กท็ าำ หลกั สตู รไป เข้าภาควชิ า ซ่งึ พวกเราฝา่ ยอธกิ ารบด ี ฝา่ ยผมกค็ ้าน ตอนน้ันผมเปน็ ผ้อู ำานวย การสถาบันวิจยั พุทธศาสตร์ กค็ ้านวา่ ถ้าทำาอย่างนัน้ เราจะไมไ่ ด้พระธรรมทตู ที่ทเ่ี ราต้องการ เพราะการฝึกแบบคณะ วชิ าเปน็ บรรยาย อาจารย์มาบรรยาย แล้วกลบั แตก่ ารอบรมพระธรรมทูต ๓ เดอื นท่เี ราอบรมอยูน่ ่คี อื อย ู่ ๒๔ ช่ัวโมง ผู้ดูแลตอ้ งดูแล ๒๔ ชว่ั โมง ก็เหมือน

- 191 - กบั มาฝึกอย่กู บั ท่ี ถึงจะเพาะบ่ม ผทู้ เ่ี ปน็ พระธรรมทูตได ้ กเ็ ลยมายุคที่ผมมาดแู ลโดยตรง ผมกเ็ ลยเสนอตง้ั วิทยาลยั พระธรรมทูตเลย อธกิ ารบดีก็อนมุ ัติ รัฐบาลก็สนับสนุนประมาณให้ จากนัน้ มาเราก็มงี บประมาณ สนบั สนนุ การอบรมทกุ วนั น ี้ เราใชง้ บประมาณ ๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท/ปี รฐั บาล/สาำ นกั พทุ ธฯ ให้มา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท สหรฐั อเมรกิ าให้มา ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตงั้ แต่ ๒๕๔๒ ถงึ ปัจจบุ ัน ยัง ๑๐๐,๐๐๐ บาทอยูน่ ะอาจารย ์ อนิ เดีย-เนปาล ให้ ๙๐๐,๐๐๐ บาท กรมการศาสนาให้ ๑๕๐,๐๐๐ บาท ลงทะเบียนกป็ ระมาณ เฉล่ยี แล้วแตป่ ่ตี า่ งกันไป ประมาณ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ท่เี หลือใครเป็นประธานคนนั้นหา เพราะฉะน้ัน ผมกต็ ้องหา เอง ท่ีเหลือหาเจา้ ภาพอะไรก็ว่าไป กอ็ บรม ๓ เดือน ก็จบ ปกตินะ ท่านเหล่าน้ีกอ็ บรมทห่ี ลักๆ กค็ อื เรือ่ ง เนน้ ความมศี รทั ธา ความมศี รัทธา คอื ศรทั ธา อะไร ศรทั ธาต่อการเปน็ พระธรรมทูต แตเ่ นื่องจากเป็นระยะเพียง ๓ เดอื น ใหน้ กึ ว่าอบรมระยะสนั้ เปน็ เติมความพร้อม หาชอ่ งทาง มีเพ่อื นพอท่ีจะติดตอ่ กนั ได้บา้ ง อนั ท่ี ๒ ก็ให้ทา่ นมีศรัทธา กเ็ ลยให้ไป อินเดีย วันนนั้ บอกให้ฟังละ ให้ทา่ นไปอนิ เดยี เพื่อทจ่ี ะเรียนจากตน้ อนิ เดีย ซ่ึงท่านเจ้าคณุ เทพโพธิวิเทศ ไป อนิ เดยี ท่านกร็ ับดแู ลทา่ นเจา้ คณุ กติ ตโิ สภณวิเทศ ท่านเป็นวิทยากรใหท้ ุกปี พากนั ไปใหท้ ่านได้ใกล้ ได้ สมั ผัสกับความเปน็ พระที่มาจากพระพทุ ธเจ้า ไปตน้ โพธิ์ ไปสงั เวฯ หลายท่านก็นำ้าหูนำ้าตา เกดิ ปตี ิขึ้น มา มศี รทั ธาเพ่ือมาอุทศิ ตน ซง่ึ แต่ละท่าน ถา้ ฟังจากทพี่ ดู เมอ่ื เชา้ ก็บอกว่าท่ีอบรมทไี่ ปอินเดียไม่ได้อะไรสกั อยา่ ง ไม่ตรงตามความต้องการของผูใ้ ช้ เพราะฉะนน้ั ก็ตอ้ งถามอีก ผใู้ ชต้ อ้ งการอะไรประมาณไหนก็ว่าไป สว่ นประเด็นภาษา อนั นีเ้ ปน็ ประเดน็ ที่เราเห็นว่า ตัง้ แตแ่ รก ภาษามันเรียนอยา่ งนไี้ มไ่ ด ้ ผมยกตัวอย่าง เราเรยี นบาลี ๘ ป ี พดู บาลีไดค้ ร้ัง สนทนากับใครได้ เขยี นหนังสือบาลกี ีเ่ ลม่ อนั น้ผี ม ตงั้ ๘ ป ี ทีนี้ภาษา องั กฤษไม่ถึง ๓ เดือน จะใหม้ นั พดู มาอธิบายเหมือนโยมเม่ือกีน้ ีเ้ ป็นไปไม่ได้ อาจารยเ์ จา้ คณุ พดู ภาษาองั กฤษ ได ้ เพราะเรียนจบปริญญาเอก แลว้ มาอยู่ทีส่ วิสกปี่ ี แล้วถงึ วนั นีท้ า่ นพดู อย่างทว่ี ่าน้ีได ้ ทา่ นมหาภาสกร มา อย่อู งั กฤษ ๙ ปี พดู ทวี่ า่ อาจารย์สมศักด์มิ าอยู่กี่ป ี อบรมพระธรรมทตู ๓ เดอื น อาจารยจ์ ะใหพ้ ดู เหมือนกนั แลคเชอไดย้ ังไง ถา้ เกดิ จากทอ้ งพอ่ ท้องแม่ได้เลยนก่ี ็ ภาษาไทยเมื่อกท้ี า่ นเจ้าคณุ มหาโพธิ์ก็บอกวา่ เขียนภาษา ไทยยงั ไมม่ ีวรรคตอน ใชไ่ หม ? อ่านยังผดิ ถูกอย ู่ ประมาณนี้ เพราะฉะนั้น ประเดน็ ภาษานี่ ผมวา่ มหาจฬุ า รู้เร่ืองน้ีครับ จากความตอ้ งการของผู้ใช้พระธรรมทูตนแี่ หละ อยา่ งท่ีผมยกตวั อยา่ งเมื่อวาน พระธรรมทตู พอ ถามความต้องการ ถามไหม ? ถาม ยงั ไงก็ถาม ทุกป ี สัมมนาทุกปี ปลี ะ ๓ ครงั้ ๔ คร้ัง ก่อนอบรม ท่าน พระครูสวเี ดน็ จะไปอยเู่ รอ่ื ย ไปรว่ มใหค้ วามเหน็ อาจารยก์ จ็ ะไปอยู่เร่อื ย เช่นนะครบั บางทา่ นบอกวา่ เอาพระกมั มัฏฐานอย่างเดียวได้ไหม ? สอนกัมมฏั ฐานอยา่ งเดียว กรณี พระธรรมทตู นะครบั ผมก็บอกว่า ปฏบิ ตั กิ มั มัฏฐาน ถา้ ปฏบิ ัติเดือน ๒ เดือน มันยังไมพ่ อหรอก แต่ใหม้ ี ศรัทธาก็พอ ไมผ่ ิดกตกิ าก็พอ ซง่ึ เป็นทีน่ า่ ดีใจ นะคณุ โยมทุกทา่ น ผู้ท่เี ขา้ อบรมนะ ทา่ นปฏิบัติตามระเบยี บ อย่างดีเลยนะ ไปเข้าอบรมเราห้ามลา หา้ มขาด ขาดช่วงใด ชว่ งหนง่ึ ลาไปไดเ้ ฉพาะกรณีของอุปัชฌายะ มรณภาพ ไปรว่ มรดนำา้ ศพ หรอื ไปรว่ มเผาได้เพยี งครงั้ เดยี ว โยมพ่อโยมแมเ่ สียชวี ิต ไปรว่ มได ้ เสรจ็ เผา กลับ แค่นนั้ นอกน้นั ไปไมไ่ ด ้ ตอ้ งอย่ใู นเขตกำาหนด จะไปโรงพยาบาลตอ้ งมีเจ้าหน้าทีพ่ าไปเท่าน้นั แล้วถา้ จะ นอนโรงพยาบาล ตอ้ งมใี บรบั รองแพทยม์ าเทา่ นน้ั อันนีค้ อื ความเข้มของการอบรม ๓ เดือน แต่ไม่พอครบั จากท่านทเ่ี ข้าอบรมทกุ ท่าน ทา่ นทุ่มเทมาก การอยู่ดว้ ยกันอย่างน ี้ ทาำ ใหก้ ารมาอยใู่ นตา่ งประเทศ เวลาท่านคณุ กัน มนั คุยกันง่าย มกี ลมุ่ ของทา่ นเอง ข้อมลู ข่าวสารไปหากนั แต่สง่ิ ท่เี ราเน้น ประเดน็ ท่ ี ๓ คอื เนน้ ปฏบิ ตั ิตามเจ้าอาวาสท่ีอยู่ที่น่ ี เจ้าอาวาสทีอ่ ยูป่ ระเทศไหน ทา่ น

- 192 - ไปวัดไหนก็แลว้ แต่ ต้องเปลย่ี นตามเจา้ อาวาส ห้ามฉกี เด็ดขาด เพราะถ้าฉกี เปน็ ความผิดทางนี้ แตแ่ จ้งมหา จฬุ าไลอ่ อกไม่ได ้ เพราะมนั จบไปแล้ว ประเดน็ ท่ ี ๔ ท่ที ่านยกตัวอยา่ งหนังสือเดินทาง หนังสอื เดินทางมีกฎอบรมอยา่ งนี้ เวลาอบรมจบ มหาจุฬาให้ปรญิ ญา เพราะมหาจฬุ าฯ เป็นปรญิ ญา การรับเขา้ ทำางานเป็นเร่ืองเจ้าอาวาสฝงั่ น ี้ การคอนแทรก ระหวา่ งกนั น ่ี วัดฝง่ั น้ ี ทำาหนงั สือนมิ นต์ไปทเี่ จ้าอาวาสฝัง่ ประเทศไทย ฝั่งประเทศไทย ทา่ นพระธรรมทตู เอา หนงั สือประกอบกนั ๓ อย่าง หนงั สอื นิมนตจ์ ากนี ้ หนังสือเจ้าอาวาสฝงั่ ประเทศไทย อนมุ ัติวา่ ใหไ้ ปได ้ แล้วกใ็ บ วุฒบิ ัตร ประกอบกนั ไปส่งสาำ นักกาำ กบั ดูแลพระธรรมทตู สายตา่ งประเทศ ท่านกจ็ ะประมวลวา่ ควรไหม ? แล้ว เสนอมหาเถรสมาคม แล้วได้หนงั สือเดนิ ทางราชการ ประเดน็ อยู่ทห่ี นังสือนมิ นตน์ ้ันมาจากวัดยังไง ซ่งึ ตอนนี้ มหาจุฬาฯ กจ็ ะไมเ่ ขา้ ไปตรวจสอบละ ก็จะมาเกยี่ วกับการประชมุ แบบน ี้ ซ่ึงเปน็ ขอ้ ดที ป่ี ีนี้มหี ลายประเด็นท่ียก ขึ้นมาพูด ผมก็เลยบอกว่า เราเตรยี มหลักสตู ร ๕ ปี ทแี่ จกแบบสอบถามอยู่ เราทาำ เรอื่ งนีม้ าต้งั แต ่ ๒๕๕๖ แตย่ งั ไม่จบนะ เพราะว่าต้องไปคุยกบั กระทรวงตา่ งประเทศ กระทรวงศกึ ษา ว่า ถา้ สง่ พระมาอยู่อยา่ งน้แี ลว้ มนั เป็นนอกท่ีตง้ั ไหม ? ถ้าเปน็ นอกทีต่ ง้ั เขาก็ยุบอีก เขาไมร่ บั รองอกี การศึกษาทีเ่ ปน็ ออนไลน ์ ในประเทศไทยเขา ไม่รับนะ ปัจจบุ ันนี้ กระทรวงศกึ ษาเขาไมใ่ หท้ ำานะครับ เราก็เลยใช้วิธีอยา่ งนี้ครบั ขอศนู ย์ฝกึ นะท่านอาจารย ์ ศนู ย์ฝกึ ที่ประเทศ สมมติวัดศรนี ครินทร ์ คุณสมบัติตอ้ งมี คือมพี ระทูตทม่ี ีคณุ วฒุ ิปริญญาเอกข้นึ ไป เพราะ ว่าจะทาำ หลักสตู ร ๕ ป ี ให้ทา่ นจบปรญิ ญาเอก ไมต่ ้องไปเรียนอีกแลว้ เสร็จแล้วทา่ นเปน็ อยา่ งท่ีความ สามารถ ความภาษาเหมือนท่านภาสกร เหมอื นทา่ นเจ้าคุณ เหมือนทา่ นเจา้ คณุ พยอม เหมอื นทา่ นสม ศักดิ ์ สามารถสอนอยา่ งทว่ี า่ น้ีกไ็ ด ้ อธบิ ายธรรมะ เหมอื นท่านเจ้าคุณเทพฯ อธิบายใหก้ ับชาวท้องถิน่ ได ้ เพราะยุคปัจจุบันนี้ ตอ้ งสอนท้ังคนไทย สอนทง้ั คนท้องถ่ิน เราไม่เรยี กชาวตา่ งประเทศนะ เราเรียกคน ทอ้ งถิน่ ด้วยภาษาของคนนน้ั เอง ถงึ จะมีสภาวะ ซึ่งบางที ที่คณุ วิทยากรพดู เมื่อกนี้ ี้ คณุ โยมเห็นภาษา จะสงสัย ใช่ไหมครบั วา่ เอะ๊ พดู ถกู พดู กลับไป พดู กลับมา สมมติถ้าเราพูดภาษาอังกฤษกลับไป กลบั ไป คนภาษาอังกฤษกจ็ ะสงสยั ว่าเราพดู ถกู หรอื เปลา่ ใชไ่ หม?ฮะ มันกแ็ บบเดียวกัน เหมอื นขบั รถไป ใชไ่ หม ? เวลาพดู ภาษาองั กฤษ ดว้ ย เวลารถสวนมา กบ็ อก สวนก็คือ การ์เดน รถกค็ อื คาร ์ คาร์กาเดน ความหมาย มนั กค็ นละอนั ใช่ไหม ? ทนี ภี้ าษาอังกฤษกจ็ ับแบบนั้นไมไ่ ด ้ อย่างนเี้ ป็นต้น ทนี ี้มหาวิทยาลยั ทาำ ไง กรณมี หาจฬุ าฯ ปจั จบุ นั ที่ยกตัวอย่างทา่ นเจ้าคณุ สุธีมา ตอนนี้ท่านไมส่ บาย ตอนน้ีออกจากโรงพยาบาลแลว้ พระธรรมทูตที่ค้นุ เคยกจ็ ะรูจ้ กั ทา่ นดี ท่านเปน็ อาจารยข์ องพวกเรา ซึง่ ก็ได้ ดูแลท่านพอควร มหาวิทยาลยั กถ็ วายปัจจัยทา่ นทุกวนั น้ีเดอื นละ ๕๐,๐๐๐ บาท เพือ่ เปน็ ค่าฟอกไตใน ๑ เดอื น สปั ดาห์ละ ๓ คร้งั มหาวิทยาลยั ถวาย กรณีของการเขา้ โรงพยาบาลพิเศษ มหาวทิ ยาลัยก็ชวนกันเปน็ เจา้ ภาพ อนั นเี้ ป็นเรือ่ งปกตขิ องผูท้ ีม่ ีคุณูปการกับมหาวทิ ยาลัย ประเดน็ ที่ ๓ ปจั จุบนั มหาวทิ ยาลยั กำาลังทำาคมั ภรี ์ เพราะมหาวทิ ยาลัยตอ้ งมีคมั ภรี ์สาำ หรบั อ่าน ก็ คือ มพี ระไตรปฎิ ก มอี รรถกถาแล้ว ใช่ไหมครบั ตั้งแต่อาจารยพ์ ร ต้งั แต่หลวงพ่อเกา่ แล้วก็ปัจจบุ ันท่าน หลวงพ่อทอง หลวงพ่อพระธรรมมังคลาจารย ์ ท่านมาอปุ ถัมภ์การผลิตตาำ ราภาษาบาลีเปน็ ภาษาล้านนา ซง่ึ มันจะขยายไปถงึ ๑๒ ปนั นา ตอนน้ที ่านหลวงพ่อทองท่านประกาศ เรือ่ งน้ ี ท่านจะอุปถมั ภท์ ุกรายการ แลว้ ทางมหาวิทยาลัย อธกิ ารบดีกร็ ับแล้ว ทา่ นเจ้าคุณศรีศลิ ปาจารย์ กจ็ ะเอาเรอื่ งนี้ไปทำาต่อ ซึ่งเราจะ ทำาคัมภีรท์ ุกอยา่ งเพ่อื ให้ตรวจสอบ เหมือนทีโ่ ยมปีเตอรพ์ ดู ถงึ เม่อื ก ี้ เวลาสอนผดิ ถูก ตรวจในคัมภรี ไ์ ด้ ตรวจ จากการปฏิบัตไิ ดว้ ่าถกู ผดิ นะครับ เพราะฉะนั้น ตอ้ งมตี วั ชีว้ ัด มีแหลง่ ชวี้ ดั มีหลักฐาน อันนี้เร่อื งหนึ่ง

- 193 - อกี เรอ่ื งหนงึ่ นะครับ หลายท่านพูดถึงประเด็นของไอท ี ทา่ นเจ้าคุณพระเทพสวุ รรณโมลี ทา่ นรองเจ้า คณะกรงุ เทพมหานคร ท่านเป็นอดตี เจา้ หน้าที่สาำ นกั ทะเบียนของมหาจุฬา สมัยน้ันทา่ นทำาคอมพิวเตอรย์ คุ ตน้ ในสำานักทะเบียนนะครบั ตอนนีท้ า่ นออกไปเปน็ พระธรรมทตู แตก่ ลบั มาเปน็ รองคณะกรงุ เทพมหานคร ตอนน้ี มหาจฬุ าก็จะทำาขอ้ มูลเหลา่ น้ีในไอที โดยทฝี่ ่ายวิทยาลยั พระธรรมทตู มหาจุฬาฯ ทาำ แอ๊บ แอฟฟรเิ คชั่นของ มหาจฬุ าฯ ถา้ ทา่ นใดจะสมัครเปน็ สมาชิก ทา่ นพระมหาสุเทพ อยนู่ ี่ ตอนนีส้ มคั รได้เลย ทำาแอ๊ฟ มีแอป๊ ข้อมลู มหาจฬุ า ตอ้ งการรเู้ ร่อื งใด ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ภาษาจนี ๓ ภาษา โดยการอปุ ถัมภ์ของบริษัท จากประเทศจีน ให้เราขึ้นขอ้ มลู เฉยๆ ส่วนระบบใหเ้ ขาดูแลให้ เซฟิ เวอร์ตอนน้กี าำ ลงั ขอจากบริษทั ทร ู ตอนน้ี เขาดูแลเซฟิ เวอรใ์ หน้ ะครบั อันนี้เปน็ ตน้ อีกเร่ืองหน่ึง กรณขี องการปฏบิ ตั ธิ รรม มหาจฬุ ามีหลักสูตรวิปสั สนากมั มฏั ฐาน เรยี นปรญิ ญาโท ปฏิบัติ กมั มฏั ฐาน เรยี นปริญญาเอก ปฏบิ ตั ิกัมมฏั ฐาน ตามนโยบายของหลวงพ่อสมเดจ็ พระพทุ ธชนิ วงศ์ เพ่อื ท่ีจะ ให้ผู้เรียนมหาจฬุ า จบไปสามารถปฏบิ ตั ิกมั มัฏฐานได ้ ไปเรยี นตอ่ ได้ โดยใหป้ ฏิบตั ิกัมมัฏฐาน ๗ เดือน ไปเขา้ กัมมฏั ฐานอยทู่ ่ีพม่าบา้ ง อยู่ที่ทา่ มะโอบ้าง แล้วแตก่ รณี แตว่ า่ ตอ้ งผา่ นสภาวะ ถ้าจะเรียนตอ่ ก็เขา้ กัมมฏั ฐาน อกี ๑ ปี ปจั จบุ นั ทา่ นเจา้ คุณรองเจา้ คณะ กทม. ยังมาทาำ โครงการเพ่อื ปรบั พนื้ ฐานของผมู้ าเผยแผพ่ ระพุทธ ศาสนาดว้ ย อนั นีท้ างมหาจุฬากท็ ำาเรื่องนอ้ี ยู่ ในเรื่องกมั มฏั ฐานเพอ่ื เป็น อนิ เตอรเ์ นช่นั นอล เมดเิ ทชั่นเซ็นเตอร์ แลว้ เรอื่ งต่อมา เรอื่ งก่อนสดุ ท้าย ผมขอความกรณุ าท่ปี ระชุมว่า ในกรณีของวทิ ยาลัยพระ ธรรมทตู ตัวชว้ี ดั ของพระธรรมทตู อยา่ งนอ้ ยๆ ตอนน้มี ี ๔ ตัวใหญ่ อันท่ ี ๑ คอื กมั มัฏฐาน ผู้ท่จี บ เปน็ พระธรรมทตู ต้องมกี ัมมัฏฐาน หรอื ศรัทธากมั มัฏฐานอย่างลึกซงึ้ อนั ท่ี ๒ ภาษา ต้องไดภ้ าษาถิน่ ของประเทศท่ีจะไปปฏบิ ตั ิ อนั ท ี่ ๓ ความรเู้ รือ่ งพระพทุ ธศาสนาตามคัมภีร์ทม่ี ี ท่ีเถรวาทเราใชน้ ะครบั อนั ท ี่ ๔ ก็คอื ความรูเ้ ร่ืองพระพุทธศาสนาและศาสนาต่างๆ กบั ความเป็นสังฆแบบไทย เชน่ เราตอ้ งปฏบิ ตั ิ ตามนโยบายของเจา้ อาวาสเปน็ ต้น เปน็ เรือ่ งระบบการปกครอง การบรหิ ารจดั การ ตอ้ งรูเ้ รอื่ งพวกน้ี ส่วน ประเด็นท ี่ ๕ เป็นประเดน็ ตนเอง ตอ้ งมีศรทั ธาอุทศิ ตนเพอื่ การปฏบิ ัตพิ ระธรรมทูต ขบวนการเพ่ือใหไ้ ดพ้ ระ ธรรมทูตท่มี คี ณุ สมบัต ิ ๕ อยา่ งน ี้ เราจะฝกึ ภายใน ๕ ปี ประมาณ ๕ ปตี ามหลักสตู ร เพราะฉะน้ัน ก็ ขอความอนุเคราะห ์ สหภาพพระธรรมทูตในทวปี ยโุ รป ซึง่ สหราชอาณาจกั รไดข้ อเมื่อครัง้ ก่อน ให้ขอให้ รับเป็นศูนย์ฝกึ เหมอื นเดมิ เป้าหมายการเปิดรับนิสิตชดุ แรกน้ ี เปน็ นิสิตปรญิ ญาโท เอก ลงทะเบียนครั้ง เดียว ลงโท-เอก ในปี ๖๐ กค็ ือ ปีหน้า ปลายปี อาจจะกอ่ นเลอื กต้ังหรือหลังเลอื กตัง้ ก็แลว้ ต่อ ก็ประมาณ นน้ั แตท่ ่ตี ้องขอกค็ ือ พอลงทะเบยี นป๊บั พระธรรมทตู รปู นนั้ ตอ้ งมาอย่ทู ี่ประเทศที่ทา่ นเลอื ก เพอื่ เรยี นภาษา ทีนีจ้ ะขอจากทา่ นอาจารย์คือ ถ้าทา่ นอาจารยพ์ ระธรรมทูตระยะยาวแบบน้ัน อาจารยร์ ีบแสวงหา ท่ี จบปรญิ ญาตรีนะครับ ส่วนท่ไี ม่จบปริญญาตรี อาจารย์เอาไปฝกึ ๓ เดอื นกอ่ น เพ่ือคลอลิไฟลบ์ างเรอื่ งแล้ว ค่อยมาเข้า เพ่อื เทยี บปริญญาตรี เหมือน ปบส. หนึ่งป ี คอ่ ยมาเข้าเรียนปรญิ ญาตรีเสรจ็ แลว้ ค่อยเข้าโท ตามหลัง เข้าไปเรยี นระยะ ๓ เดือนกอ่ น แตร่ ะยะจบคลอลิไฟลปรญิ ญาตรีเพื่อเรยี น ๕ ปี เป็นปรญิ ญา โท เอก อาจารย์ก็ขอใหร้ ีบหา อาจารยหาไดเ้ หมอื นเมื่อกี้ เหมือนที่ว่าขอใหค้ ยุ กบั วัดทจี่ ะมาหน่อย ถ้า วัดบอกวา่ จะเอารปู นมี้ าเป็นพระธรรมทูต จะให้พวกผมฝกึ ให้ ก็เอาไปเขา้ หลกั สูตรน ี้ เสรจ็ แล้วก ็ ทา่ นกม็ า ฝึกอยู่น้ ี ฝึกภาษา ๑ ป ี จนคลอลไิ ฟลภาษาเสร็จ กลับไปเข้ากัมมฏั ฐาน แตร่ ูปแบบที่พวกเรากาำ หนด เสรจ็ แลว้ พอกัมมัฏฐานผ่านกม็ าเรียนวชิ าทวั่ ไป ซึง่ ทา่ นเจ้าคุณพระราชสิทธมิ นุ ี อย่ทู ี่นี่ ทางมหาวทิ ยาลัยก็ ให้ทา่ นเปน็ ผู้ดแู ลมาตรฐานกมั มฏั ฐาน้ ี ซึ่งเจา้ ประคุณสมเด็จพระพุทธชนิ วงศ์ ก็ใช้ท่านเจา้ คณุ พระราช สิทธมิ ุน ี ในฐานะเจ้าคณะเขต ในฐานะของวัดมหาธาตุด้วย แตท่ า่ นเป็นผอู้ าำ นวยการสถาบนั ของมหาจุฬา

- 194 - อีก แล้วกม็ หาจุฬาก็ส่งท่านมาทีน่ ี่ สง่ ทา่ นมาสอนกัมมฏั ฐานอยทู่ วี่ ัดศรนี ครินทรวราราม อันนี้เร่ืองหน่ึง อกี เร่ืองหนงึ่ กค็ ือ พอทา่ นเรยี นกมั มัฏฐานจบแลว้ นะครบั ต้องมาฝกึ ปฏิบตั ิเปน็ พระธรรมทูตอย่างนอ้ ย ๑ ปี เหมอื นที่ทา่ นเจา้ คณุ พระมหาโพธิพ์ ูดเมอื่ เชา้ น้ ี เหมอื นกนั แปะ๊ ซึง่ เรอื่ งน้ี ผมกค็ ยุ กับผู้ทเ่ี ป็นผอู้ าำ นวยการ สำานกั ฝึกของวาติกันเหมอื นกัน ซึ่งคนทพ่ี ูดได้ ๑๒ ภาษา พดู ภาษาไทยได้ด้วย ไปประชมุ รว่ มกันทกุ ปีท่ี คาซัส สถาน ทีอ่ ตั ตน่า ทกุ ปีก็จะไปประชุมร่วมกันปลี ะ ๒ ครงั้ เร่ืองการเผยแผ่ ซึง่ ผมกไ็ ปฝึกเร่ืองน ี้ เรอื่ งเจา้ คณุ พรหมคณุ าภรณ์ อยู่ที่มหาจุฬาอาศรม เมือ่ ๒๕๓๐ ๒๕๓๑ ๒๕๓๒ ผมก็คุยกับผอู้ าำ นวยการของ วทิ ยาลยั ของแสงธรรมอยู่ท่มี วกเหล็ก เขามีวิทยาลัยฝึกอยูท่ ่นี ่ัน แสงธรรมเรยี นอยนู่ ่ี แตว่ า่ วทิ ยาลัยเขาอยู่ท่ี มวกเหล็ก เปน็ ตน้ เพราะฉะน้นั นกี่ รณีพระธรรมทตู ก็ขอความร่วมมือกรณนี ้ี ทจ่ี ะคุยความร่วมมอื กนั ประเดน็ ต่อมา เร่ือง งานนานาชาติ ปนี ี้ มหาวิทยาลัยไดจ้ ัดวสิ าขบูชาโลก ที่วา่ จะใหเ้ วทกี บั พระธรรม ทตู ทว่ี ัดศรีนครินทรวรารามน ี้ เคยไปจัดนทิ รรศการในงานวสิ าขบูชาโลก ๒-๓ ป ี ท่านอาจารยเ์ จา้ คุณไดร้ บั นิมนตท์ ุกปี ในแง่ของสหภาพยโุ รป ไปจัดนิทรรศการ แต่ทอ่ี ยากมากกวา่ น้ัน ก็คอื ท่ยี ังไมไ่ ดท้ าำ ไดท้ าำ อยู่บา้ ง แลว้ ก็คอื ปริญญากติ ตมิ ศกั ดิ์ ในนามของสหภาพฯ ยงั ไม่มี แตว่ ่าหลวงพอ่ ที่เป็นประธาน รองประธาน ได้ ถวายหมดแล้ว ท่านอื่นค่อยตามมา สว่ นญาตโิ ยม ก็จะมีเรอื่ งเขม็ เกียรติคุณ ซึ่งอนั น้ถี ้าสหภาพฯ จะเร็วก็ รบี เสนอผา่ นฝ่ายตา่ งประเทศ เพราะฉะนั้น ฝ่ายต่างประเทศมหาจฬุ าฯ ก็เหมอื นกระทรวงตา่ งประเทศ ของ ประเทศไทย ก็มี ฝา่ ยตา่ งประเทศชว่ ยดูแลเรื่องนีน้ ะครับ เพราะฉะน้ัน ในขณะท่ีเดยี วกนั ทเ่ี จอ คณุ โยมเม่ือกที้ ่ี พดู ถึงเรื่องจิตวิทยา หรือ บดุ๊ ดิสไซโคโลจี เรากจ็ ะได้สืบ ผมกจ็ ะไปเสนอเร่อื งต่อคณะมนุษยศาสตร์ รวมถงึ คณุ โยมคริสเตียนดว้ ยนะ ไปพูดใหฟ้ ังดว้ ยภาษาอังกฤษน่นั แหละ เพราะว่าทีม่ หาวิทยาลัย เขาบรรยายภาษาองั กฤษ อยแู่ ลว้ รวมถึงวทิ ยาลยั นานาชาติ เรามวี ทิ ยาลัยนานาชาติ ปัจจบุ ันมีนิสติ ตา่ งประเทศ ๑,๗๐๐ รูป ทเ่ี ปน็ ชาวต่างประเทศ เรยี นอยู่มหาจฬุ า เรากจ็ ะประชมุ กนั ทุกปี วนั ท ี่ ๑๗-๑๘ กันยายน นีจ้ ะจัดประชมุ นิสติ ท้งั ๑,๗๐๐ รปู ท่มี หาจฬุ า เพราะฉะนัน้ ในแง่มหาจุฬา ก็เปน็ หนว่ ยผลติ ส่วนผลติ เสรจ็ แล้ว ไปถงึ จะใช้ได้เลยหรือไม ่ มันกเ็ ปน็ สถาบันการศกึ ษา กเ็ หมอื นเราผลติ ประโยค ๙ มาน่นั แหละ สอนบาลีได้เลยไดไ้ หม ? กต็ อ้ งไปเรยี นวชิ าสอน ก่อนอะไรเปน็ ต้น แต่กรณีน ้ี กรณีของพระธรรมทตู วทิ ยาลัยพระธรรมทูต ผมตอ้ งการใหฝ้ ึกกมั มฏั ฐาน เสรจ็ แล้วเรยี นวิชาครมู าดว้ ย ใหผ้ ่านวิชาครู กอ็ าจจะเปน็ ข้อเฉพาะของพระธรรมทูต ในยคุ ทีต่ อ้ งมาทาำ งานรว่ มกัน แต่ก็ขอความอนุเคราะห ์ ทา่ นพระธรรมทูตทุกรูป ทม่ี ีความเสียสละอยู่แล้ว ทวี่ ่า เราทาำ งานร่วมกนั ถ้า มปี ระเด็นกใ็ หศ้ กึ ษาให้มาก ซงึ่ ปจั จบุ ันเป็นโอกาสที่ด ี ทีผ่ ู้เป็นพระมหาเถระแตล่ ะท่านมาทำางานพระธรรมทตู สาย ตา่ งประเทศ เป็นผู้สนับสนนุ งานพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ทา่ นเจ้าคณุ หลวงพอ่ มหาโพธิ์ เม่ือก่อนเป็น กรรมการมหาเถรสมาคมท่ีมีบทบาทสำาคญั มาก ทางการศกึ ษา และการปกครอง และก็งานวิชาการ จนถึงเป็น ราชบัณฑติ แลว้ กไ็ มพ่ อ ช่วงทท่ี ่านไมไ่ ด้รับตาำ แหนง่ นี่ มหาจฬุ ากย็ งั ตง้ั ทา่ นเปน็ กรรมการสภามหาวิทยาลัย เป็นผอู้ นมุ ตั จิ บมหาจุฬา ใครจะเรียนจบต้องผา่ นสภาทุกรูป ทุกท่าน ท่านเป็นผอู้ นุมัตจิ บด้วย เปน็ กรรมการ สภามหาวทิ ยาลยั แลว้ ไม่พอ ชว่ งท่ีเราเหน็ บทบาทท่านเป็นงานวิชาการมาก เรากใ็ หท้ า่ น ขอท่านว่า ลาออก ก่อน แลว้ กด็ ำาเนินการตั้ง เสนอทา่ น ใหม้ ีการตรวจผลงานเป็นศาสตราจารยพ์ เิ ศษ ของมหาจุฬา หลวงพ่อมหา โพธฯ์ิ เป็นศาสตราจารยพ์ ิเศษของมหาจุฬา ต่อจากท่าน ม ี ๓ รปู นะ ท่านเจ้าคณุ พระพรหมคณุ าภรณ ์ หลวง พอ่ สมเด็จพระพุทธชนิ วงศ์ หลวงพอ่ มหาโพธ์ิฯ เปน็ การโปรดเกลา้ ฯ เหมอื นราชบัณฑิตเหมอื นกนั ผา่ น สกอ. ออกไป นะครับ เป็นตน้ แลว้ ท่านอนื่ คือ ยงั ไง พระมหาเถระ อย่างท่านหลวงพอ่ มหาโพธ ิ์ เล่นคอมพวิ เตอรต์ ัง้ แตส่ มยั เปน็

- 195 - พระมหา สมัยกอ่ นไฮเทคโนโลย ่ี นะหลวง พ่อน่ ี คนทั่วไปก็จะไมร่ ้ ู เพราะว่าพดู มาก ไม่ได ้ ถอื วา่ เป็นเรอื่ งภายใน แต่อ่ืนๆ ก็ เชน่ เดียวกัน ก็เป็นแบบเดยี วกนั ท่านถึง มาทาำ งานทเี่ ป็น อนิ เตอร์เนช่นั แนลหรอื นานาชาติได ้ ท่านหลวงพ่อสมเด็จพระพทุ ธ ชนิ วงศ ์ ไปต่างประเทศแบบจะทุกสัปดาห์ ทกุ เดือน สง่ พระไปสอนไปทาำ ท่นี ั่นทนี่ ่ี เพราะฉะนน้ั พระมหาเถระในยุคปัจจุบนั สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศ ของพระไทย สนับสนนุ อนโุ มทนากบั การ ปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา ของโยมคนไทย ว่าโยมไม่วา้ เหวแ่ ล้วนะ มาอยูต่ ่างประเทศ เห็นพระเข้ามาหา มา ถามหลวงพ่อหนอ่ ย อยู่โซนท ่ี ๑ ที ่ ๒ ก็หา อยากจะไดพ้ ระมาทำาไงดี ท่านอาจารย ์ ทา่ นหลวงพ่อ ว่าไป ถาม ทา่ น ทา่ นจะแนะนำาไปได้ ทางฝา่ ยเราก็จะได้บอกวา่ ถา้ ไปถามมหาจฬุ า เอาโยมทำาหนังสือมา พอทาำ หนังสอื มาแล้ว เรากจ็ ะปรึกษามาทางโซน พวกผมทำาอย่างน้ ี ถ้าทีไ่ หนบอกวา่ ขอพระไทย ผมจะรบั จดหมายแลว้ ไป ปรึกษาโซน ปรึกษาโซนเสรจ็ โซนน้บี อกตรงนั้น ตรงนม้ี ี ก็สง่ ไปทสี่ าำ นักกาำ กบั ก็แนะว่าไดข้ อ้ มูลพวกนีใ้ หแ้ ลว้ ก็ไปดำาเนนิ การตอ่ แตเ่ วลาสง่ พระมาไปขอให้วัดใหด้ ว้ ย อยา่ งน้ีเปน็ ตน้ ไปขอวดั หมายถึงช่วยคุย ชว่ ยปรึกษา ไม่ใชท่ าำ หนา้ ทอี่ บรมเฉยๆ แต่เวลามปี ระเด็น ทางเขา้ ประคอง เรากเ็ ข้าประคองไปด้วย เพราะฉะนัน้ ในแงข่ องมหาจฬุ า วนั น้ ี ทางฝ่ายท่านผชู้ ่วยอธกิ ารบด ี ดร.พรรษา กไ็ ดม้ าช่วยเตรยี มงาน ในสถานทด่ี ว้ ยนะครบั เพราะฉะน้ัน ยงั ไมพ่ อ ถา้ หากทาำ มากกวา่ น ี้ เราก็จะมเี รอื่ งอีกหลายเรอ่ื งชว่ ยกนั ช่วยกนั ทำา สำานักพุทธฯ ก็เป็นหนว่ ยสนบั สนุนท่ีเปน็ ช่องทางของบประมาณของรัฐ ทเี่ ป็นงบประมาณของรฐั พวกผม ก็ตอ้ งไปชว่ ยคยุ เหมอื นกันกับสาำ นักงบประมาณ เพราะว่าเวลาไปชี้แจงในกรรมาธกิ าร ของมหาจฬุ าก็จะไมเ่ ถียง ไม่มาก แต่ถา้ ขา้ ราชการผูท้ ชี่ แี้ จง้ เขาจะชี้แลว้ ช้อี กี ช้ีหน้าทางนี้กห็ งอยบ้างอะไรบา้ ง บางทีก็ตอ้ งพระบา้ งไป ชว่ ยพดู ทา่ นพระมหาสุเทพ ไปชีแ้ จงประจาำ ปัจจบุ นั ก็เป็นผู้ตรวจ มหาสุเทพฯ เปน็ ผู้ตรวจสอบงบประมาณวา่ จ่ายถกู ไมถ่ กู ๑,๙๐๐ กวา่ ล้าน ตอ้ งตรวจทุกปี ตอนน้อี ยู่ในช่วงตรวจ เม่อื ก่อนเปน็ ผไู้ ปช้ีแจงกบั สตง. ตอน นีเ้ ปน็ ตรวจสอบละ อย่างนเี้ ปน็ ต้นนะ เพราะฉะนนั้ พวกผมก็ตอ้ งรายงานทกุ ปี เพราะฉะนน้ั ทพ่ี ูดถงึ เงนิ วดั อันตรายท่ีผมจะบอกกบั พวกเราคอื ท่เี ราพดู ถึงเงิน อาจารยต์ ้องการรบั เงนิ คูก่ ับการตรวจสอบ เวลาเราขอ ตอ่ ไปเขาจะขอตรวจสอบ สมุ่ ตรวจสอบ ซึง่ อาจารย์กต็ อ้ งบอกว่า เรามนี ะ เราอยากจะได้เงนิ แต่เราไม่ตอ้ งลืมนะ ครบั ว่า เราจะตอ้ งรับการตรวจสอบจาก สตง. อาจารย์นึกออกนะ ใบเสร็จทกุ ใบตอ้ งเกบ็ เหมอื นท่ี สมาคมเรา ต้องถูกตรวจสอบจาก สตง.เหมอื นกนั เพราะฉะนั้น เม่ืออาจารยร์ ับเงนิ เขา เขาตอ้ งขอตรวจสอบ ถ้าผิด เขาก็ จดั การ ไม่มีเร่อื งแปลก เพราะฉะนน้ั เรากต็ อ้ งทาำ ระบบใหม้ ันควบคกู่ นั ไป เพราะฉะนั้น ก็ขออนโุ มทนากับทุกทา่ นว่า ท่ีไดเ้ ปิดโอกาสใหพ้ ระธรรมทตู มาทำางาน อนโุ มทนากบั ญาติโยมทุกท่าน แล้วก็ขอบคณุ เจ้าของพ้นื ทที่ ุกๆ ท่านที่เปดิ โอกาสให้พระไทยมาอยูใ่ นถิน่ นี ้ คู่กัน เทยี บกนั ผม อยากใหแ้ ตล่ ะท่านคู่กันกับประเทศไทยดว้ ย ประเทศไทยน้ ี อิสลามเขาใช้กฎหมายกบั ประเทศทุกประเด็น เพราะ ฉะนั้นอาจารย ์ ดาำ เนนิ การโดยขบวนการทางการเมอื งไม่ได้ ตอ้ งขบวนทางกฎหมายเท่านั้น ถงึ จะอยู่ได้ เพราะ ฉะนน้ั อันนค้ี อื ประเด็นที่เราทราบอยแู่ ล้ว ทีท่ า่ นผู้อาำ นวยการสาำ นกั พุทธฯ บอกวา่ ผมไม่ช่วยเลย ตัง้ แต่วันท ี่

- 196 - ๑๙ กนั ยายน ๒๕๔๙ ถงึ ปัจจบุ ัน พวกผมอย่ ู บิไฮนเ์ ดอะซนี ทั้งนน้ั ไม่ออกขา่ วทั้งน้ัน โดยประการทัง้ ปวง ไม่ออกขา่ ว แตต่ อ้ งทาำ ไงจะชนะได้ ในปัจจบุ นั ใหญม่ าก แต่เรากต็ อ้ งเบอ้ื งหลัง บางเร่ืองเราตอ้ งบอกถูกบอกผิด ได ้ เพราะฉะนัน้ นค่ี อื บทบาทมหาวิทยาลัย กบั คณะสงฆ์ในปัจจบุ นั ทม่ี ีอยคู่ รับ ขอบพระคุณมากครับ (๒) สมัชชาสงฆไ์ ทยในสหรัฐอเมรกิ า โดย พระเทพพทุ ธวิ เิ ทศ เจา้ อาวาสวัดพุทธาวาส ประธานสมัชาสงฆไ์ ทยในสหรัฐอเมรกิ า ขอกราบคารวะท่านมหาเถระ พระอนเุ ถระ แล้วก็สมาชกิ ของ สหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวีปยุโรป แลว้ กญ็ าตทิ ุกท่านทกุ คน วันน้ีเราได้มาฟังความรหู้ ลายอยา่ ง เมื่อวานน้กี ไ็ ดฟ้ งั มาแลว้ วนั น้ีก็ได้ฟังมาแลว้ แตว่ า่ กอ็ าจจะยังมีข้อ บางข้อ ที่จะตอ้ งอยากทราบ และอยากฟงั ตอ่ ไป เม่อื วานน้ีเราพูดเรอื่ งปัญหาวา่ ปัญหามีอะไรบ้างท่เี ราจะตอ้ งมา แก้ไข และมาศึกษาปัญหา ก็อย่างท่ีเจ้าคุณพระเทพโพธิวิเทศ จากประเทศอินเดยี ทา่ นก็บอกว่า เราน่ที กุ คน ทุกที ่ ทุกองคก์ ร มปี ญั หา แต่เราก็ตอ้ งสูก้ ับปญั หา โดยไม่หนีจากปญั หา แลว้ เราก็จะแกป้ ญั หานนั้ ได ้ อนั น้นั คอื ท่สี ำาคัญ วันน้มี ีหลายอยา่ งท่เี ราไดฟ้ ังมา โดยเฉพาะอย่างย่ิง คณุ อดตี ประธานสมาคมวัดไทย คณุ ปีเตอร์ ทา่ น กไ็ ด้มาแสดงความร้สู กึ ไดม้ ารว่ มกับวัดศรนี ครนิ ทรวราราม ได้มาชว่ ยหลายอย่าง ฟังแลว้ กน็ า่ ชน่ื ใจ ฟงั ภาษา บางภาษาก็ อย่างท่เี ราได้ฟงั กนั มา ฝรงั่ พูดภาษาไทย ไทยพูดภาษาฝรงั่ มนั ก็มบี างประโยค บางคำา สบั สนกัน แตว่ า่ คนฟงั ก็ทาำ ความเข้าใจได ้ อันน้ีเป็นสงิ่ ท่ีเขา้ ใจกัน อาตมาได้ยินมาตัง้ นานแล้ว คาำ ๆ หนงึ่ ท่ีเราพูดตดิ ปากกนั มาจนถงึ ปจั จบุ ันน ้ี คือ เราเรียกชาวยุโรป ชาวอเมรกิ าน่ ี เขาเรยี ก ฝรง่ั ใชไ่ หม ? อยากจะถามว่า ทำาไมเรยี ก ฝรั่ง อันน้ีคือ เป็นข้อสงสยั อเมรกิ นั ก็เรียก ฝรง่ั เยอรมันก็เรยี ก ฝรงั่ ชาวสวสิ ก็เรยี กฝรัง่ หรือชาวองั กฤษ ก็เรยี ก ฝรง่ั ระหว่างชาติท้งั หลายเหลา่ นี ้ ตา่ ง กนั หรือเหมอื นกัน อนั น้ีถามเฉยๆ ไม่ตอ้ งการคาำ ตอบ แต่อาตมามาคิดเอาเอง คดิ เอาเองนะ จะผิดหรอื ถูกไม่ร ู้ มีตั้งแต่สมัยสงครามโลก มฝี รั่ง กต็ อ้ งขอโทษท่ตี ้องยกตัวอยา่ ง ถา้ ใครเปน็ ฝร่ัง ฝรั่งหมายถึงวา่ แฟรน้ ฝร่ังเศส เข้าไปประเทศไทย และเข้าไปประเทศลาวดว้ ย อนั นั้นเปน็ ชาติฝร่งั เศส ไมใ่ ชอ่ เมริกา ไม่ใชอ่ งั กฤษ เราก็ไดค้ าำ นนั้ มาเรยี กคนชาวตะวนั ตก ชาวอเมริกาวา่ ฝรั่ง อาศัยรปู รา่ งเป็นตัวกำาหนด อย่างอนื่ ไมเ่ กีย่ วนะ อยา่ งน้ีเป็นตน้ เราก็เรยี ว่า คนทีเ่ ปน็ ชาวสวสิ ชาวยุโรป หรอื ชาวอังกฤษทั้งหลาย หรือชาวอเมรกิ ัน ก็เรียกฝรัง่ ท้ังหมดเพราะตัว เหมือนกันเท่านัน้ เอง เมือ่ ตะก้ีเราได้ฟงั จากเจ้าคณุ ท่เี ปน็ ทแี่ ทน จากมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ทท่ี ่านไดใ้ ห้ เราทงั้ หลายไดฟ้ งั ถงึ ขอ้ มูลทัง้ หลาย ท่เี รามาปฏบิ ตั ศิ าสนกิจ แลว้ ก็ปญั หาทัง้ หลาย สง่ิ ที่เราตอ้ งการทัง้ หลาย มันกไ็ มใ่ ช่เรอ่ื งเลก็ มันเปน็ เรอื่ งใหญ่ ตอ้ งยอ้ นอดตี นิดหนอ่ ย แต่กอ่ นเราเคยมีโรงเรยี นพระธรรมทูต เรียกว่า โรงเรยี น ตอนนั้นผมอยชู่ ้ันเข้าบาลีอบรมก็มีต้ังอยทู่ ีว่ ดั บวร เรียกวา่ โรงเรยี นอบรมพระธรรมทตู รสู้ กึ อยไู่ ดไ้ มก่ ี่ ปี กล็ ้มไป ยบุ ไป เพราะรวมกันกับมหามกฏุ มหาจฬุ า เดนิ ไปไมน่ านเทา่ ไหร่ก็ยบุ ไป อนั นีเ้ ปน็ ส่ิงท่ีอดีต ถา้ จะพดู ถงึ อดีตตอนนั้นผมเอกก็ดี เจา้ คณุ เทพพทุ ธมิ งคล หลวงพอ่ สวสั ด ์ิ ท่ีอย่ทู ่นี ่ ี ที่ไดร้ ว่ มกับมหา จฬุ าดว้ ยกนั คณะพระธรรมทูตทงั้ หลาย ทอี่ ยู่ท่นี ี่กด็ ี ท่ีอเมริกาก็ดี ทีเ่ ปน็ เจ้าหน้าท่มี หาจุฬา ได้มาเปน็ พระธรรม ทตู กอ่ นอบรม เดี๋ยวน้ีอบรมพระธรรมทตู รนุ่ ที่ ๒๒ เด๋ยี วน้เี จ้าคุณวัดพทุ ธาราม เนเธอรแ์ ลนด ์ หรอื เราเรยี กวัน ว่า ฮอลแลนด ์ นี่ถา้ คนไม่มากไ็ ม่รู้จักว่า ๒ ชอื่ มนั ประเทศเดียวกันหรือคนละประเทศ มายโุ รปครงั้ แรกจาก

- 197 - อเมริกามาลงสนามบนิ ทเ่ี นเธอรแ์ ลนด์ ประเทศฮอลแลนด์ เอ๊ะมันอันเดียวกนั หรอื เปลา่ มนั ผิดทหี่ รอื เปล่า กเ็ ลย เกิดสงสยั มาทนี่ ี่แหละ เท่ยี วนนั้ จะมางานวางศิลาฤกษ์ของโบสถว์ ัดพระศรนี ครินทรวราราม โดยมีสมเดจ็ พุฒา จารย์ (เกีย่ ว อุปเสโน) ทย่ี ้อนไปเมอื่ ตะก้นี ี ่ ก็ต้องขอโทษเวลามนั อาจจะเกนิ ไปอยา่ งท่ีท่านเลขาทวี่ า่ เมอ่ื ตะกเ้ี พราะว่ามันหลาย อยา่ งทีอ่ ยากจะเล่าใหฟ้ ัง เจ้าคุณวัดพทุ ธาราม ทีเ่ นเธอร์แลนด์ กเ็ ปน็ พระเถระทอ่ี าวโุ สสงู สดุ จบมหาจุฬาฯ ก่อนผม แตท่ ำางาน รว่ มกันมา แลว้ ก็มาอยู่ต่างประเทศ ผม เจา้ คณุ สวสั ดิ์ อตถฺ โชโต หรือ เจ้าคุณพระเทพพุทธิมงคล วัดสระเกศ แล้วก็มีเจ้าคณุ อกี รูปหนึ่งคือ พระเทพกติ ตโิ สภณ (สมบูรณ ์ สมฺปุณโฺ ณ) วัดเบญจมบพติ ร วัดเดียวกนั กบั เจา้ คุณพระเทพกิตตโิ มลี อันน้ันจะวา่ เปน็ ร่นุ บกุ เบิกก็ไมใ่ ช่นะครับ แตว่ ่ารุ่นเก่าของมหาจุฬาฯ เพอ่ื สนองงานของ คณะสงฆ ์ แล้วกไ็ ม่เชงิ มาสนองงานคณะสงฆ์นะครบั เพราะมาตะกอ่ นน้ัน ทกุ คนก็รู้ว่า อยา่ งท่อี าจจะได้ฟงั จาก เจ้าคุณพระมหาโพธวิ งศาจารย์วา่ พระธรรมทูตมาครัง้ แรก ไมใ่ ช่ของมหาเถรสมาคม เปน็ ความตอ้ งการของโยม ทีม่ าประกอบอาชพี ในประเทศต่างๆ แลว้ กพ็ ระกม็ าเยยี่ ม พอมาแล้วก็อยากจะใหพ้ ระท่านอยปู่ ระจาำ เมืองนนั้ ๆ วดั นนั้ ๆ แลว้ ก็อาราธนาท่านไว ้ แล้วก็ช่วยกนั สร้างวดั ใหพ้ ระอย ู่ กเ็ รียกว่าเป็นวัดในตา่ งประเทศแรกๆ เปน็ อย่างนนั้ ไมว่ า่ ท่ไี หนกเ็ หมอื นกัน เปน็ ความปรารถนาของญาติโยม อยากจะเหน็ วดั เห็นพระเมืองท่ตี นเอง อยู่ ประเทศอเมรกิ าก่อนทมี่ าน ี่ มวี ดั อยู ่ ๑๒-๑๓ วัด เดยี๋ วนี้รวมทง้ั หมดกม็ ี ๑๑๐ วดั ของกลมุ่ ของสมชั ชาสงฆ์ไทยในสหรฐั อเมริกา มีพระธรรมทูตเกิน ๕๐๐ รปู เฉพาะฝา่ ยมหานกิ าย ฝ่ายธรรมยุติ กม็ ปี ระมาณเกือบ ๖๐ – ๗๐ วดั พระธรรมทูตไมท่ ราบจาำ นวนแน่นอน เพราะว่าคนละฝ่ายกนั ตอน นี้พอมาถึงเรอ่ื งพระธรรมทตู ท่ีมาปฏบิ ตั งิ าน คร้ังหลังๆ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ กลุม่ เปน็ กอ้ นขึ้น มหาเถรสมาคมท่าน กร็ ับวา่ พระธรรมทตู ในตา่ งประเทศก็มคี วามสาำ คัญต่อคณะสงฆ์ หลงั จากนน้ั ทป่ี ระเทศ สหรฐั อเมริกากต็ งั้ กล่มุ ขึน้ มา เรียกวา่ สมชั ชาสงฆไ์ ทย โดยมีเจ้าคุณพรหมคุณาภรณป์ ัจจบุ นั น้ี เปน็ หวั ใจสำาคัญในการเขียน ระเบยี บ คือเปน็ ห่วงวา่ ท่านก็เป็นหว่ ง เร่อื งทว่ี า่ พระธรรมทตู กับคณะสงฆไ์ ทย ถ้าทา่ นจะเหน็ วตั ถุประสงค์ ของสมัชชาสงฆไ์ ทย จะไม่เก่ยี วกบั การปกครอง เพราะวา่ ถ้าหากว่าเขียนออกไปในทางปกครอง ทางมหา เถรสมาคมจะบอกว่า พระธรรมทูตไปต่างประเทศจะแยกคณะสงฆ์ออกมา เพราะฉะนนั้ ในวัตถุประสงค์ จึงไม่มเี กย่ี วกบั การปกครอง มีแตก่ ารอาำ นวยความสะดวกตอ่ พระเถระทมี่ า อะไรเกยี่ วกบั ต่างประเทศ ก็ ว่ากันไป เพราะฉะนนั้ นโยบายของสมัชชาสงฆไ์ ทย ตามใบลอว์กจ็ ะเป็นอย่างนั้น ทีนห้ี ลงั ๆ ต่อมา เมื่อวานน ้ี ก็ได้ฟงั เจา้ คณุ พระมหาโพธิวงศาจารย์ บอกวา่ ตะก่อนทา่ นเป็นมหาเถรสมาคม ขอโทษที่ ตอ้ งยกอดีตขน้ึ มา ตอนน้ีท่านกไ็ ดเ้ ปน็ พระเถระ ได้เป็นรองสมเดจ็ แล้วกเ็ ปน็ ผูม้ ีความรคู้ วามสามารถ ในด้าน เรยี นภาษาบาลีกเ็ ต็มท ี่ เป็นราชบัณฑิต มคี วามรู้ ความสามารถท่ดี ี ท่านกบ็ อกว่า สมยั ท่ีท่านได้เขา้ มา ก็ทา่ น ก็บอกว่า การทพี่ ระสงฆม์ าปฏิบัติศาสนกิจต่างประเทศ มันไม่ใช่นโยบายของมหาเถรสมาคม มนั เปน็ อย่างนี้ อาตมาพูดเม่อื ตะกนี้ ี่ โยมมีความประสงคอ์ ยากให้วดั เกดิ ขึ้น อาราธนาพระสงฆ์มาอยู่ ก็เกิดมาจนถงึ ปัจจบุ นั น ี้ แตว่ ่าทกุ วันน้ ี ทางมหาเถรสมาคม กย็ งั เขา้ มาให้อปุ ถัมภ์ โดยมสี ำานักงานพระพุทธศาสนาเปน็ ผแู้ ทน ของคณะสงฆ์ ก็ถือวา่ เราไดร้ ับความจะวา่ เอ็นดหู รอื อะไรกแ็ ลว้ แต่ ทีเ่ ราได้ทราบทุกวันน ี้ อย่างปีนี้ กจ็ ะถอื วา่ วดั ศรนี ครินทรวราราม ทางสำานักงานพระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาติ ก็คงโดยการงบประมาณใหม้ า ๕๐๐,๐๐๐ บาท ไมใ่ ช่ ๕๐๐,๐๐๐ ฟรังสวสิ อยา่ งการประชมุ ทีอ่ เมรกิ า ท่วี ัดนวมนิ ทรราชูทสิ กค็ งจะเปิดเงนิ กไ็ ดว้ า่ จะมากกวา่ น ้ี เขาให้มา ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท อนั น้ันมันเพราะว่า มีกจิ กรรมหลายอย่างดว้ ย ทีก่ จิ กรรมหลายก็เพราะวา่ มี

- 198 - การเฉลิมฉลองวดั สาำ คัญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ฯ และสมเดจ็ พระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถดว้ ย ก็ คงจะเป็นเพราะเหตุน้นั จงึ ได้การอปุ ถมั ภ์นีค่ รึง่ หนงึ่ คือ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เอาละ นัน่ เปน็ เร่อื งปลีกย่อย เพราะฉะนัน้ กลับมาถึงเรอื่ งการอบรมพระธรรมทตู ซงึ่ เจา้ คณุ โสภณวชิราภรณ์ ได้ยกขึ้นมาว่า การ อบรมพระธรรมทูต เราทำาอยา่ งไรถงึ จะไดพ้ ระธรรมทูตทเ่ี ป็นทพี่ อใจของวดั ทง้ั หลายท่ีอยู่ต่างประเทศ และพระ ธรรมทตู เหล่านน้ั จะเกิดขน้ึ มาไดอ้ ย่างไร เทา่ ที่ฟังท่านเจ้าคุณไดพ้ ดู มาตะกนี้ ้กี ค็ ือ มี ๒ อยา่ งทีพ่ อจะเอา มาเป็นประเด็นได้ อยา่ งท่ ี ๑ คือวา่ พระธรรมทตู ทีเ่ ราต้องการ คอื เปน็ พระธรรมทตู อย่างไร ๒. อะไร ทพี่ ระธรรมทูตตอ้ งการ วา่ พระธรรมทูตทเ่ี ราตอ้ งการน ี้ ก็อย่างท่ที า่ นเจ้าคุณ ทา่ นได้ช้แี จงไปวา่ กม็ หี นว่ ย งานอย่างเช่นวา่ สมเด็จพระพทุ ธชนิ วงศ ์ วัดพชิ ยญาตกิ าราม กต็ ้องการจะให้พระเถระที่นีเ่ ข้าใจหลักใน การปฏบิ ตั วิ ปิ ัสสนากมั มัฏฐานนน่ั อย่างหนงึ่ ผู้เป็นพระธรรมทตู ปฏบิ ตั อิ ยตู่ ามวัดตา่ งๆ ต้องมีความเข้าใจ เรอ่ื งภาษาของถ่ินนนั้ ๆ ทเ่ี ราจะต้องไปปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ มนั จงึ จะเกดิ ผลด ี อันนค้ี ือความตอ้ งการของวัด ทนี ้ีจะเดินไปอย่างไงนั้น เจ้าคุณผรู้ บั ภาระในการอบรมพระธรรมทูตท่านก็ไดอ้ ธบิ ายให้เราพอสมควร แล้ว มกี ารเขา้ กมั มัฏฐานอะไรต่ออะไรต่าง ๆ ไปศกึ ษาท่ีแดนพุทธภมู บิ า้ ง อะไรจะได้เข้าใจ อนั นัน้ คอื เรอื่ ง ของการอบรม เพ่ือให้เกิดพระธรรมทูตทว่ี ดั ท้งั หลายตอ้ งการ ตอนน้ ี หนั มาถงึ พระธรรมทูตละน ่ี ท่ีมาปฏบิ ัติศาสนกิจ หรือ ผู้ทีเ่ ข้าอบรม พระธรรมทตู ตอ้ งการอะไร ละครบั มาถงึ พวกเรานะ พระธรรมทูตตอ้ งการอะไร ต้องการเหมอื นท่ฝี ่ายอบรมได้ตั้งเป้าหมายไวห้ รอื เปลา่ อันนต้ี อ้ งศึกษาดูละครับ คอื อยา่ งงี้ละครับ ผมในฐานะทเ่ี ปน็ ประธานฝา่ ยสมัชชาสงฆไ์ ทยในสหรัฐอเมรกิ า กจ็ ะ เจอปญั หาเหลา่ นีห้ ลายอย่าง วา่ พระธรรมทูตตอ้ งการอะไรนี ่ มนั เป็นเรื่องทีท่ ำาใหอ้ งคก์ รน่เี กิดปญั หาครบั ๑ เมอ่ื ตะกี้น ี้ เก่ยี วขอ้ งกับทา่ นนิดหนอ่ ยวา่ ตอ้ งการให้วัดแตล่ ะวัด เปน็ ศูนยฝ์ กึ อบรมพระธรรมทตู ในต่างประเทศใช่ ไหมครบั ตอนน้ไี มท่ ราบวา่ โครงการทีท่ า่ นคดิ เวลาจะมาอยปู่ หี นึง่ ๒ ป ี ๓ ปี ก็ไมร่ ู ้ มันกต็ อ้ งมาเกียวกบั การ ขอวีซา่ มาละครับ ถา้ ทา่ นจะใหพ้ ระมาอยู่ ๑ ปี พระธรรมทูตท่อี บรมน่ีจะขอวซี ่าได ้ ๑ ป ี หรือเปล่า อนั น้กี ต็ ้อง ไปศึกษา คือปญั หาทีว่ า่ มาน่คี รับ ว่า สมมตวิ ่าเราจะมาเอาวดั ศรีนครินทรวรารามเป็นศนู ยพ์ ระธรรมทูตตา่ งประเทศ ไม่ทราบวา่ ทาง สวติ เซอร์แลนดน์ ี่ เวลาพระขออนญุ าตมา ไมร่ ้วู า่ ให้วซี า่ ยงั ไงไม่ร ู้ อนั นเ้ี ปน็ เร่อื งระหว่างมหาจุฬาฯ กบั สถานทตู ประเทศน้นั ๆ จะตอ้ งไปคุยกัน ฉันต้องการพระรูปนี้ไปอบรม แล้วจะให้วีซา่ ยงั ไงเนี๊ย อันน้ีเป็นเรื่อง ของราชการแต่ละประเทศ สมมตวิ า่ จะไปประเทศอเมริกา อยากจะให้องค์นี้ไป ปี ๑ หรือ ๒ ป ี บางทีไป ขอวซี า่ มันให้ ๖ เดือน เพราะเบอ้ื งแรกวซี า่ จรงิ ๆ ถ้าอนุญาตไปมันจะให้ ๖ เดอื น ยกเว้น พระธรรมทูตท่ี เข้าไปปฏบิ ัตศิ าสนากจิ โดยผ่านวซี ่าอีกชนดิ หนงึ่ เขาเรียกว่า ทางโน้นนะครบั ไม่รทู้ างนเี้ ขาเรียกวีซ่า เรียก วา่ R1 เพราะ R1 เขาจะให้อย ู่ ๓ ป ี อนั นนั้ ก็ค่อยยังชว่ั หน่อย แต่วา่ พระธรรมทตู ของเราเปน็ พระธรรม ทูตจะได้ทุกรปู หรอื เปล่า ไม่มใี ครรบั รองไดค้ รับ อันน้กี ็ต้องมหาจฬุ าฯ ตอ้ งประสานกบั กงสุลของประเทศ น้นั ๆ วา่ จะไดต้ ามทีเ่ ราตอ้ งการ อันน้คี อื ปัญหา ที่ผมอยากจะเรยี นถวายฝ่ายอบรมพระธรรมทูตเพ่ือไป ศึกษา แต่ถ้าได้มาทุกรปู กด็ คี รบั จะไดเ้ ปน็ ศนู ย์ฝกึ ในตา่ งประเทศทีเ่ กิดเป็นไปตามที่เราต้องการ อันนคี้ อื ตอนนี้ ข้อท่ีผมลงสดุ ท้าย เมอื่ ตะกี้นีว่ ่า พระธรรมทูตต้องการอะไรน่ี สาำ คัญ ประเทศท่ผี มสัมผัสอยูค่ ือ อเมรกิ า จะเป็น R1 หรอื ประเภทช่วั คราว ๖ เดอื นอะไรก็แลว้ แตเ่ ถอะ มันจะมปี ัญหาอันหนง่ึ เรากไ็ มว่ ่าทกุ คนก็มคี วามต้องการ เรียกว่า มีความอยาก พอไปปบ๊ั ก็อยูย่ งั ไม่ข้ามปี อยากจะอยยู่ าวหนอ่ ย ก็ใหว้ ัดนั้นๆ ขอ ให้อยู่ถาวรใหห้ น่อยส ิ อย่างน้ีเป็นต้น กเ็ กดิ ปัญหา ทางวดั นน้ั ๆ บางวดั ก็บอกวา่ ต้องอยู่ ๓ ปเี สยี กอ่ นสิ ถงึ จะทำาใหอ้ ยู่ถาวรได้ แต่วีซ่ามันไมถ่ งึ ๓ ป ี มันกห็ มดก่อนพอดีครบั เอ้า เกิดปัญหาอีก เพราะฉะน้นั อนั น้ตี อ้ งเขา้

- 199 - ใจหลายๆ อยา่ ง แลว้ เราก็จะได้แกป้ ัญหาร่วมกันครบั ส่งิ ทธี่ รรมทตู ตอ้ งการน ่ี จะทาำ ให้ไดแ้ คไ่ หน พระธรรมทูตผอู้ บรมแลว้ กต็ อ้ งทำาใจเหมอื นกันนะครับ วา่ บาง รูปก็สามารถทจ่ี ะไดอ้ ย่างทเ่ี ราตอ้ งการ บางรปู ก็ไมไ่ ดท้ ี่เราต้องการ บางวดั กใ็ ห้ บางวดั ก็ไมใ่ ห ้ แตล่ ะเจ้าอาวาส ข้นึ กับเจา้ อาวาส อนั นี้คอื สิง่ ท่เี รามาคยุ กัน เขาบอกว่าหมดเวลาแลว้ เพราะฉะน้นั ก็ส่ิงทเ่ี ราจะต้องคาำ นงึ คอื ๑ พระธรรมทตู ท่ีเราตอ้ งการคืออย่างไร ๒. ตอ้ งรปู้ ญั หาวา่ พระธรรมทตู ตอ้ งการอะไร แล้วก็ปัญหา ๒ อย่างนี ้ แลว้ ก็จะได้สิ่งท่เี ราตอ้ งการ เพราะฉะน้ัน ขอบคณุ ครับ ขอ อนโุ มทนาครบั (๓) องคก์ รพระธรรมทตู ไทยในสหราชอาณาจกั ร และไอรแ์ ลนด์ โดย พระมหาภาสกร ปิโยภาโส ป.ธ.๙ วัดพุทธปทปี ลอนดอน ในฐานะผู้แทนองคก์ ร กราบคารวะพระเถระทุกรูป กค็ งไมเ่ อ่ยชื่อนะครับ แคเ่ อย่ ช่อื ให้ครบทกุ รูป กใ็ ชเ้ วลาไปเยอะเหมือนกัน เจรญิ พรญาติโยม ปกติอาตมาเป็นคนพูดนานได ้ พดู สนั้ ไมค่ อ่ ยเปน็ แตใ่ นเมอื่ ท่านอาจารย์เลขาใหเ้ วลา ๑๐ นาท ี อาตมากพ็ ูดใหเ้ ร็วภายใน ๑๐ นาที จบภายในก่อน ๑๐ นาทกี ย็ ังได้ ก่อนอ่ืนก็ตอ้ งขอแสดงความอนโุ มทนาท่ ี สหภาพพระธรรมทตู ไทยในทวีปยุโรป ได้จดั การประชมุ คร้ังน้ี ข้นึ มา และก็เปน็ การประชมุ ที่ตวั ผมอาตมภาพเอง ไดม้ ีโอกาสมารว่ มประชมุ เปน็ ครัง้ แรก ครงั้ กอ่ นๆ ท่เี ขาจัด ประชมุ ก็มีท่านอาจารยเ์ จา้ คุณพระปญั ญาพทุ ธิวิเทศ พระครูภาวนาวธิ าน ทา่ นอ่ืนมา ในเมือ่ ๒ ทา่ นมา ท่ี วัดกม็ งี าน ก็เลยถ้างนั้ ก็ไม่ต้องมา นี่คือเหตผุ ล แตป่ ีนพี้ ระเดชพระคณุ หลวงพ่อ พระราชภาวนาวิมล ซ่งึ เป็น ประธานองค์กร ซงึ่ เปน็ ประธานองค์กร ไดม้ อบหมายใหผ้ ม ให้อาตมาไดม้ าแสดงทัศนแทนท่าน อยากจะขอพูด ไมก่ ีป่ ระเด็น เพราะว่าถา้ จะพดู ยาวมันกจ็ ะไปกินเวลาคนอนื่ อยากจะพดู ให้ฟังวา่ ทอี่ ังกฤษ ท่ีสหราชอาณาจักร สกอ๊ ตแลนด ์ เวลล์ ไอแลนด์เหนอื ไอแลนด์ใต้ ตอนนรี้ วมไอแลนดใ์ ต้ไปได้เข้าไปดว้ ย เพราะวา่ เรามีวัดทน่ี ั่น ก็เลยเปน็ ชื่อว่า องคก์ รพระธรรมทูตในสหราช อาณาจักรและไอแลนด ์ ไม่ไดบ้ อกวา่ ไอแลนดเ์ หนือเหมือนเมอ่ื ก่อน การเกดิ ขึ้นของวัดไทยในอังกฤษ หลาย ทา่ นกค็ งจะทราบประวตั ิ เกดิ จากการทโ่ี ยมเชญิ เหมือนกนั มีฝรง่ั ไปเรยี นกมั มัฏฐานแล้วก็อยากจะนิมนต์อาจารย์ มาสอนกัมมฏั ฐานที่องั กฤษ หลงั จากนัน้ โยมคนไทยกเ็ อ่อ ดีเหมอื นกนั อยากจะมวี ัดเปน็ หลักเป็นฐาน จึง เปน็ ท่ีมาของการสร้างวัดไทยแห่งแรกในประเทศตะวันตก แลว้ มพี ธิ ีเปดิ อยา่ งเปน็ ทางการก็คอื วันท ี่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๐๙ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ฯ และสมเดจ็ พระนางเจ้าเสดจ็ มาเปดิ นั่นคอื ๕๐ ปีท่ีแลว้ จวบ จนถงึ ปัจจุบัน จริงๆ พ่ึงต้ังอย่างเป็นทางการ เม่อื เดือนมกราคม ๒๕๔๙ ก็อายุกพ็ อๆ กนั กับ ส.ธ.ย. แตล่ ักษณะการบริหารในองคก์ รจะแตกต่างกนั เพราะว่า องค์กรพระธรรมทตู ไทยในสหราชอาณาจักรฯ เรามี วตั ถุประสงค์คอื ตัง้ ข้ึนมาเพอื่ ทจ่ี ะมาดูแล ผมเหน็ ด้วยอย่างยงิ่ กับพระเดชพระคุณพระเทพพุทธวิ ิเทศ คือ ตั้งข้นึ มาเพอื่ จะมาดูแล มาสนับสนนุ มาส่งเสริม ไม่ใชต่ งั้ มาเพือ่ ทจี่ ะมาด ู มาควบคมุ คนนะ เพราะฉะนัน้ พอมีองคก์ รอย่างน้ี ลกั ษณะอย่างนี้ข้ึนมา วธิ ีของเรากค็ ือว่า เอาละ เรามคี ณะกรรมการ บริหาร ๑๗ ทา่ น กจ็ ะมกี ารพบปะพดู คยุ กนั อย่ปู ระจำาว่า เออ่ มีเรื่องอะไรบ้าง อะไรตา่ งๆ น ี้ อยา่ งกรณีระเบยี บ บางข้อ ซง่ึ เมอ่ื ก่อนตอนร่าง มันไม่สอดคล้องกับความเป็นจรงิ ผมยกตัวอยา่ งสกั ๒ ขอ้ กไ็ ด ้ ขอ้ แรก ก็คอื เรอื่ งการพิจารณาอนุมตั พิ ระธรรมทตู ของแต่ละวดั ในระเบยี บกำาหนดวา่ จะตอ้ งใหค้ ณะกรรมบริหารมานั่งประชุม

- 200 - แลว้ กม็ าคดั เลอื กกนั แต ่ ตงั้ แตร่ ะเบียบ จนถึงปจั จบุ นั ยงั ไมส่ ามารถทาำ ได ้ เพราะ ฉะนนั ทาำ ยังไง ถ้าเจา้ อาวาสเขารับรองมา ถ้าสงสยั ถ้าเลขาธกิ ารสงสัย ถ้ากองเลขา สงสัย ให้โทรสอบถามเจา้ อาวาส องคน์ ี้ มายังไง ท่านมนั่ ใจเขานะว่าเขาจะมาจรงิ ไม่ใช่ว่าแค่ใช้ช่ือเพื่อจะขอหนังสือเดินทาง ถ้าเจ้าอาวาสรบั รอง เอ่อ ทา่ นยนื ยันมา ก็ จบ เพราะวา่ ถ้าจะใหค้ ณะกรรมการมานง่ั คุยกนั ก็เป็นเร่ืองทจี่ ะต้องใชเ้ วลาแลว้ กไ็ ม่ ได้อนมุ ตั ิซักที แลว้ อกี ข้อหน่ึงก็คือ เรื่องการขอสมณศกั ด์ ิ ในระเบยี บกาำ หนดว่าจะต้องผา่ นสถานทตู อย่างล่าสุดน่ี หลวงพ่อก็ถามวา่ สถานทูตทราบหรือยงั ถา้ ไปสถานทูต สถานทูตสง่ ไปเรอื่ งทสี่ ำานกั พุทธ สาำ นักพุทธสง่ เร่ือง ไปที่สาำ นักงานกำากับ เอกสารเขาหายใชเ้ วลา ๓ เดือน กวา่ จะถึงสำานักงานกาำ กบั สาำ นกั งานกำากบั กเ็ ลยบอก ว่า ไม่ต้องไปส่งสถานทตู ส่งตรงไปที่เข้าจบเลยทเี ดยี ว อนั น้กี ค็ อื เป็นลักษณะของกฎระเบยี บบางขอ้ ที่ไมค่ ่อยสอดคลอ้ งกับเหตกุ ารณป์ ัจจบุ นั สง่ิ ทผ่ี มอยากจะมาพดู ใหท้ ่านทง้ั หลายได้รับทราบ กค็ อื ว่า ปจั จบุ ัน จากประสบการณ์ของเอง เรามี โอกาสในการทจ่ี ะทาำ งานเผยแผเ่ ชงิ รุก ทผี่ ่านมา เราไมไ่ ดท้ าำ งานเผยแผ่เชงิ รุก เพราะว่ามันมอี ะไรหลายๆ อย่าง ท่เี ราไม่ได ้ หรอื วา่ ท่ีเรากลัวไปเอง แม้แต่ฝรง่ั กย็ งั กลัวนะครับ อยา่ งเรานะ สมมุตนิ ะเม่ือก่อนทีผ่ มมาอยู่องั กฤษ ใหม่ๆ ดว้ ยความที่เราเรยี นภาษาอังกฤษมาแบบสุภาพ จะถามทางเขาตอ้ ง เอ็กคว้ิ ม ี แลว้ ไมพ่ ดู อะไรต่อ ฝร่ัง โนอย่างเดยี ว เพราะอะไร เพราะเห็นจวี รน่แี หละ ทนี ี้ผมกก็ ลับไปถามอาจารย ์ บอกวา่ อาจารย ์ เวรีรลู .... คอื คนท่ีหยาบมาก ขนาดวา่ เราไปถาม เอ็กควิ มี ฮาวแคน ไอเกท็ ทู เราไมไ่ ดม้ คี ำาต่อไป อาจารย์ก็บอกวา่ เพราะ ว่า เพราะจวี รของทา่ นนีแ่ หละ เพราะฉะนนั้ ตอ่ ไปเวลาท่านถามคนทีน่ ่ ี ใหท้ า่ นถามไปเลย ใหท้ า่ นพดู ไปเลย หลงั จาก เอก๊ คิวมไี มต่ ้องหยุด เอ๊กคิว้ มี ฮาวแคนไอเก็ททเู ดอะบัสสเตท เขากต็ อบ เขาก็ยินดีตอบ คอื ถา้ เราสามารถเปล่ยี นมาเป็นการทาำ งานเผยแผเ่ ชงิ รกุ ผมคิดวา่ เราจะมีคนมาสนใจมากขน้ึ ไปตอ้ ง ไปพดู ถงึ เรอ่ื งการสอนศาสนา พูดว่าเราสอนใหเ้ ขาฝกึ สติ อยา่ งเดก็ ตอนน้ีเดก็ สนใจมาก แม้แต่ในรัฐสภาของ องั กฤษ แม้แตใ่ นท่ีโรงเรยี นของประเทศอังกฤษ เขากใ็ ห้เดก็ ฝึกสมาธ ิ อย่างเวลาผมไปบรรยายทโี่ รงเรยี น เด็ก ชอบมาก ฝึกสมาธ ิ มนั วิธฝี กึ หลายอย่าง กค็ อื ไมใ่ ชว่ ่าบงั คับใหเ้ ขานัง่ หลบั ตาอยา่ งเดียว ถ้าเราสามารถเปลี่ยน การทำางานเป็นการเผยแผ่เชิงรกุ โดยท่ไี ม่ไดเ้ นน้ ว่าจะเอาเขามานบั ถอื ศาสนาเรา ตรงน้ ี ผมคิดวา่ โอกาสท่ีคน อย่างคณุ คริสเตียน คุณปีเตอร์ เอาคนพวกน้ีเขา้ มาเยอะๆ แลว้ เขาจะได้มาเปน็ กำาลังของเรา เทา่ ท่ีผ่านมาถ้า เราดนู ะครับ เถรวาทไทย เถรวาทศรีลงั กา มหายาน มหายานเขาไปไกลกวา่ เราเยอะ เพราะวา่ เขาทอ้ งถิน่ มา ทาำ งาน ผมก็ดูนะเอ๊ะ ธเิ บต มหายาน คนชอบ คอื ทีช่ อบนี้ เพราะว่า รปู แบบเขาไม่เนน้ พธิ มี ากอยา่ งเกนิ ไป แล้ว ทกุ ๆ ครั้ง เขากจ็ ะมคี นคอยให้คาำ แนะนำาเพมิ่ เตมิ อยา่ งเราทาำ พิธ ี เรากท็ าำ ของเราไป ไมม่ กี ารอธบิ ายเปน็ ภาษา อังกฤษเลย แล้วฝรง่ั กจ็ ะพดู ตลอดวา่ เน๊ยี ะ พวกคณุ ร้แู ตพ่ วกคณุ แต่พวกเรานไี่ มร่ ู้เร่อื งอะไรเลยเลย อนั นก้ี ็ อยากจะเน้นยา้ำ อกี ครงั้ หนง่ึ ทีน ี้ อยากจะพูดถงึ ว่า ท่ีประเทศอังกฤษนะครบั ปจั จบุ ัน การไปทาำ หน้าที่เป็นพระธรรมทตู ของพระ จะ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook