“...การพัฒนาเยาวชนทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นเร่ืองสำคัญ ต้องพยายามให้ทั่วถึงและถูกวิธี โดยให้ความสำคัญกับแก่นความรู้ ทางวิทยาศาสตร์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และต้อง ปลูกฝังตั้งแต่เด็ก ๆ จะได้มีความรู้สึกดีต่อวิชา มีความรู้และความ ตระหนักท่ีจะเป็นพ้ืนฐานต่อไป สร้างอุปนิสัยใฝ่ศึกษาตลอดชีวิต หาข้อมูลและความรู้ เพื่อมาต่อยอดความรู้ท่ีมีอยู่เดิมคือว่าต้องถาม ตลอดเวลาวา่ ส่ิงนนั้ ส่งิ นี้คอื อะไร ต้องช่างสังเกต มองเห็นว่าส่งิ ตา่ ง ๆ แตกต่างกันอย่างไร และเป็นเพราะอะไร ถ้าเป็นเรื่องไม่ดีจะแก้ไขได้ อยา่ งไรหรอื ไม่สามารถแกป้ ญั หาตา่ ง ๆ...” (ปาฐกถาพิเศษ เร่ือง เยาวชนไทยกับวิทยาศาสตร์ ในงานเสวนาวิชาการ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ณ ศาลาดุสดิ าลัย สวนจิตรลดา วันที่ ๒๑ กนั ยายน ๒๕๕๕) พระการณุ ยอ์ ุ่นเกล้าชาวสยาม
“...มีอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่หน่วยงานคือ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลมาออกแบบงานท่ีสามารถช่วยให้ผู้ท่ีแขนขา ออ่ นแรง แตย่ งั มบี างสว่ นทเ่ี หลอื กพ็ ฒั นาใหส้ ว่ นทเ่ี หลอื นม้ี าทำงานได้ แล้วก็ช่วยเหลือตนเองได้ มีโครงการร่วมมือกับวิทยาลัยเทคนิคที่จะ ออกแบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ีจะทำให้นักเรียนผู้นี้ศึกษาเล่าเรียนได้ เขา้ ชน้ั เรยี นเดยี วกบั เพอื่ น ๆ ได้ มชี วี ติ ทช่ี ว่ ยเหลอื ตนเองไดพ้ อสมควร ทีบ่ ้าน...” (ปาฐกถาพิเศษ เร่ือง เยาวชนไทยกับวิทยาศาสตร์ ในงานเสวนาวิชาการ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เน่ืองในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ณ ศาลาดสุ ิดาลยั สวนจติ รลดา วนั ที่ ๒๑ กนั ยายน ๒๕๕๕) พระการุณย์อุ่นเกลา้ ชาวสยาม
“...การศึกษาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดท่ีจะค้ำจุนประเทศ พฒั นาอยา่ งยงั่ ยืนได้ ตอ้ งมีการศึกษาด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ทกุ ระดบั ตั้งแต่ชนั้ อนุบาลจนถึงระดบั อดุ มศกึ ษา จะตอ้ งฝกึ นกั เรยี น ให้มีทักษะทั้งในการปฏิบัติ และมีพลังความคิดให้มีระบบแบบ วิทยาศาสตร์ และต้องมีจินตนาการ ซึ่งจะนำให้เกิดความสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เพื่อให้การศึกษาประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย จะต้องอาศัยวัตถุเครื่องใช้ต่าง ๆ ในทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ หนังสือ วารสาร วิชาการ ส่ิงพิมพ์อื่น ๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ท่ี เกยี่ วขอ้ ง ฯลฯ สำหรบั ผพู้ กิ าร วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยยี ง่ิ มบี ทบาท สำคัญทีจ่ ะชว่ ยให้เขาประสบความสำเร็จ...” (ปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษ เรื่อง Science Technology and Development ณ เมืองโยโกฮามา ประเทศญ่ีปนุ่ วันท่ี ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๔๙ ทรงเรยี บเรยี ง เป็นภาษาไทย ใน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกบั การพัฒนา ๒๕๕๐ หน้า ๖) พระการุณย์อุ่นเกลา้ ชาวสยาม
๑๐. ทรงสนับสนนุ การเกษตร การพัฒนาด้านการเกษตรให้ย่ังยืนน้ัน สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมุ่งเน้นให้พสกนิกรเข้าใจ แนวทางการดำรงชีวิตในวิถีทางการเกษตรตามความเหมาะสมกับ สภาพแวดล้อมในท้องถ่ินของตนเอง ทรงส่งเสริมให้ถ่ายทอด องคค์ วามรดู้ า้ นการเกษตรตง้ั แตย่ งั เยาวว์ ยั โดยใหม้ นี สิ ยั รกั การเกษตร เล็งเห็นคุณค่าการเกษตร ทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างท่ีดีด้านการเกษตร อกี ด้วย ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี “...ข้าพเจ้าชอบวิชาเกษตรว่ามีประโยชน์กับนักเรียนมากใน หลาย ๆ ระดบั เพราะแม้แต่เดก็ ในวยั เดก็ เล็กหรอื เดก็ วัยประถมศกึ ษา ถงึ จะอยโู่ รงเรยี นในเมอื งซงึ่ เดก็ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นครอบครวั เกษตรกรกท็ ำได้ งานเกษตรนี้เห็นชัด ๆ เลยว่า ช่วยให้เด็กได้ออกกำลังกาย ขุดดิน พรวนดิน ได้เคลื่อนไหว แล้วก็อยู่กับธรรมชาติ ได้ดูการเจริญเติบโต ของพืช ส่วนมากเด็กก็จะต่ืนเต้นมาก ถ้าปลูกอะไรในกระถาง แลว้ ดกู ารเจรญิ เติบโต ไดร้ ้จู ักกบั สง่ิ ทส่ี ร้างสรรคอ์ ยูก่ ับธรรมชาต.ิ ..” (รัตนพินจิ นิทิศการศกึ ษา ๒๕๔๒ หน้า ๑๔) พระการณุ ย์อนุ่ เกล้าชาวสยาม
“...การคน้ พบความรใู้ หม่ ๆ ทเ่ี กยี่ วเนอ่ื งดว้ ยวชิ าพนั ธศุ าสตร์ เชน่ แผนท่ที างพนั ธุกรรม ภาพถา่ ยยีน การตกแตง่ พันธกุ รรม เปน็ ตน้ นำไปสู่การวิจัย การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ อันมีผลกระทบต่อ การดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก จำเป็นที่เราจะต้องติดตาม ข้อมูลความรู้ด้านพันธุศาสตร์ให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เพ่ือจะได้ พิจารณาถงึ คุณและโทษของสง่ิ ท่คี น้ พบว่ามีมากน้อยเพยี งไร สิง่ ใดจะ นำไปใช้ให้เกิดผลดีแก่สังคมและประเทศชาติได้ อีกท้ังควรจะต้อง เร่งพัฒนาการศึกษาวิชาพันธุศาสตร์ในประเทศไทยอย่างจริงจัง เพราะสาขาวิชานี้นับวันจะมีบทบาทมากขึ้นในโลกปัจจุบัน และ จะทวีความสำคญั สบื เนอื่ งต่อไปถึงโลกในอนาคต...” (พระราชดำรัสเปิดการประชุมทางวิชาการพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย ครง้ั ท่ี ๑๓ วนั ที่ ๔ มถิ นุ ายน ๒๕๔๖ ณ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร ใน เทพรตั นเมธี ๒๕๔๙ หน้า ๔๑๔) พระการณุ ย์อนุ่ เกล้าชาวสยาม
“...ในการพัฒนาในชนบท สง่ิ ทส่ี ำคัญทส่ี ุดคือเมลด็ พนั ธทุ์ ีม่ ี คณุ ภาพ งานทท่ี ำอยกู่ พ็ ยายามทำเมลด็ พนั ธพุ์ ชื ผกั โดยการตงั้ โครงการ ท่เี รียกวา่ “บา้ นนีม้ ีรกั ปลกู ผักกินเอง” ใหช้ าวบา้ นผลิตเมล็ดพันธ์ผุ กั และปลูกเองจะกินอะไรก็ปลูกเอง เม่ือต้นเดือนนี้ไปเย่ียมชาวบ้าน ชาวบา้ นกเ็ ลา่ ใหฟ้ งั วา่ แตก่ อ่ นนท้ี างกระทรวงสาธารณสขุ มาตรวจเลอื ด เห็นว่าเลือดเขามีสารพิษสารเคมีหลายอย่าง ตัวเขาเองก็รู้สึกเพลีย ไม่ค่อยสบาย แต่ตั้งแต่เร่ิมมาปลูกผักกินเอง ไม่ใช้สารเคมีท่ีจะมี สารตกคา้ งเปน็ อนั ตราย กร็ สู้ กึ สบายขนึ้ ตรวจเลอื ดกไ็ มม่ สี ารพษิ หรอื มีแต่ก็น้อยลง เขาจะปลูกส่วนหนึ่ง กินส่วนหน่ึงเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อ ส่วนหน่ึงก็ขาย ผักก็ขายบ้าง ถ้าเกินแล้วก็ขายเมล็ดพันธ์ุให้แก่ศูนย์ ซ่ึงจะเอามาเผยแพร่ แล้วให้คนอื่นไปอีก อย่างในช่วงท่ีเกิดน้ำท่วม เราก็ใช้เมล็ดพันธ์ุผักที่ชาวบ้านผลิต แล้วก็นำไปช่วยคนอ่ืนที่ถูก น้ำทว่ ม หลงั จากนำ้ ทว่ มก็จะได้ปลกู ผกั ได้ทันที เราเรยี กโครงการน้ีว่า “เพอื่ นชว่ ยเพอ่ื น”และเมอื่ บอกชาวบา้ นวา่ ไดน้ ำเมลด็ พนั ธผุ์ กั ทเ่ี ขาผลติ ไปช่วยเพ่ือน ๆ ในภาคกลางท่ีประสบภัย เขารู้สึกภูมิใจมากที่ได้ ทำประโยชน์ให้กับเพ่ือนชาวไทยด้วยกัน ทีน้ีก็มีเมล็ดพันธุ์ผัก พระการุณย์อุ่นเกล้าชาวสยาม
เมล็ดพันธุ์พืชไร่ทำอีกทีหน่ึง เมล็ดพันธ์ุข้าวก็พยายามทำ ขณะนี้ สามารถประกวดประขนั กนั เมลด็ พนั ธข์ุ า้ วบา้ นไหนทมี่ เี มลด็ พนั ธข์ุ า้ ว เสียปนอยู่น้อยที่สุด ก็ประกวดประขันกัน ชาวบ้านก็ภูมิใจที่ได้ เครอื่ งหมาย จีเอพี (GAP : Good Agriculture Practices) จากกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ แสดงวา่ เปน็ พชื ทมี่ คี ณุ สมบตั ดิ ีเรากม็ คี วามรว่ มมอื กับสาธารณรัฐประชาชนจีน จากการประชมุ คราวทแี่ ล้วเรอื่ งหม่บู า้ น ไร้มลพิษ ฝ่ายจีนก็ทำของเขาที่ยูนนานและฝ่ายไทยเราก็มีโครงการ อยูท่ ีร่ าชบุรี...” (ปาฐกถา เรือ่ ง “เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของเด็กดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : สรา้ งรากฐานของการพฒั นาชนบทอยา่ งยง่ั ยนื ” ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานสัมมนาโครงการความสัมพันธ์ไทย – จีน ครง้ั ที่ ๑๐ ประจำปี ๒๕๕๖ วนั ท่ี ๒๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๖ ณ ธนาคารกสกิ รไทย สำนักงานใหญ่ กรงุ เทพฯ) พระการณุ ย์อนุ่ เกลา้ ชาวสยาม
“...นักเรียนในโครงการส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรหรือบุตร เกษตรกร ย่อมมคี วามรคู้ วามสามารถในการเกษตรมากกวา่ เรา เราจะ ไปสอนเขาได้ยังไง ในขณะน้ัน ก็แก้ไปว่า นักเรียนเขามีความรู้จริง เราก็สามารถนำเอาความรู้นั้น ให้เวลานักเรียน ให้อุปกรณ์เพ่ิมเติม ก็จะเพิ่มความชำนาญ ในขณะเดียวกันเร่ืองการเกษตรนั้น มีความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ วิชาการแขนงใหม่ ๆ ท่ีเพิ่มขึ้นมาเสมอ หรือ เรื่องบางเรื่องท่ีในท้องถ่ินนั้นยังไม่ได้เอาใจใส่นัก เราก็สามารถ เพ่มิ พูนความรูใ้ นสว่ นนน้ั ได.้ ..” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะผู้ปฏิบัติงานตามโครงการพระราชดำริ ใน โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา กรุงเทพฯ วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๓๗ ใน ประมวลพระราชดำรัส สมเด็จพระเทพ รัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ๒๕๔๘ หนา้ ๕๐-๕๑) พระการณุ ยอ์ นุ่ เกลา้ ชาวสยาม
“...อนั ทจ่ี รงิ แลว้ การปฏบิ ตั งิ านทางการเกษตรนน้ั มปี ระโยชน์ หลาย ๆ แง่ ในการศึกษาต่อจะเป็นพ้ืนฐานของวิชาต่าง ๆ ได้อีก หลายวิชา และทั้งยังเป็นส่วนที่ได้ออกกำลังกาย ได้บริหารร่างกาย เป็นส่วนท่ที ำใหส้ ขุ ภาพดี แล้วก็ทำให้จติ ใจปลอดโปรง่ อีกดว้ ย...” (พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ ใน โรงเรยี นตำรวจตระเวนชายแดน ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา กรงุ เทพฯ วันท่ี ๒๕ เมษายน ๒๕๓๘ ใน ประมวลพระราชดำรัส สมเด็จพระเทพ รัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ๒๕๔๘ หน้า ๔๕) พระการณุ ย์อ่นุ เกลา้ ชาวสยาม
“...ส่ิงบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แสดงให้เห็นภูมิปัญญาของชุมชน ทส่ี ามารถคน้ พบวา่ สภาพทางภมู ศิ าสตรแ์ ถบชมุ ชนของตนเหมาะกบั การเพาะปลูกพืชผลหรือผลิตสิ่งของเคร่ืองใช้ชนิดใด และสามารถ ผลติ พชื ผลหรือสิง่ ของเครอ่ื งใชเ้ หล่านน้ั ไดด้ ี มีคุณภาพ จนกลายเปน็ ของเฉพาะชมุ ชนสามารถนำออกขายเปน็ สนิ คา้ ทำรายไดใ้ หแ้ กส่ มาชกิ ในชุมชนเป็นอย่างดี แม้ท้องถ่ินอื่นจะพยายามผลิตบ้าง แต่คุณภาพก็ ไม่ดีเท่าเพราะสภาพทางภูมิศาสตร์แตกต่างกัน สินค้าเหล่านี้ถือได้ว่า เปน็ สญั ลกั ษณป์ ระจำถน่ิ อยา่ งหนงึ่ ทบี่ ง่ บอกถงึ ลกั ษณะทางภมู ศิ าสตร์ วถิ ชี วี ติ และความเปน็ อยขู่ องคนในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ การทกี่ ระทรวงพาณชิ ย์ มนี โยบายเผยแพรแ่ ละคมุ้ ครองสนิ คา้ ประเภทนี้ เปน็ ทางหนง่ึ ทจี่ ะชว่ ย สมาชิกในท้องถ่ินน้ัน ๆ และเท่ากับเป็นการคุ้มครองทรัพย์สินทาง ปัญญา มิให้ผู้ใดแอบอ้างหรือเลยี นแบบจนก่อใหเ้ กิดผลเสียได.้ ..” (การสัมมนา เรือ่ ง ส่ิงบง่ ชที้ างภูมศิ าสตร์ : ดนิ แดนแหง่ การสบื สานวัฒนธรรม ประเพณีและโอกาสทางการค้า ณ ห้องควีนส์ปาร์ค ๑ โรงแรมอิมพีเรียล ควนี ส์ปาร์ค กรงุ เทพฯ วนั ที่ ๒๘ มถิ ุนายน ๒๕๔๙) พระการุณยอ์ ุ่นเกลา้ ชาวสยาม
“...การเพาะเลี้ยงเน้ือเย้ืออย่างง่าย ไม่ต้องใช้เคร่ืองมือที่มี ราคาแพง ในช่วงแรกนี้ครูนักเรียนยังไม่ได้ชำนาญ พืชท่ีเล้ียงในขวด จงึ ตดิ เชอ้ื ราเสยี เปน็ สว่ นมากแตก่ ไ็ มเ่ ปน็ ไร งานนช้ี ว่ ยใหเ้ กดิ การเรยี นรวู้ า่ มีวิธีขยายพันธุ์พืชหลายวิธี เมื่อไม่ประสบความสำเร็จต้องหาเหตุผล วา่ เปน็ เพราะอะไรแกป้ ญั หาอยา่ งไรเชอื้ ราทเี่ ขา้ ไปอยใู่ นขวด มลี กั ษณะ แตกตา่ งกนั หรอื ไม่ อยา่ งไร อาจเปน็ การศกึ ษาเรอื่ งเชอ้ื ราอกี อยา่ งหนงึ่ ทักษะด้านนี้ช่วยงานเพาะเห็ดได้ดีข้ึน ต่อไปจะให้โรงเรียนท่ีร่วม กิจกรรมนี้เปรียบเทียบประสบการณ์กัน เด็กโรงเรียนมัธยมสามารถ ผลติ กลา้ ไมส้ ำหรบั ใชใ้ นหมบู่ า้ นดว้ ยการเพาะเนอื้ เยอื่ (วธิ กี ารซบั ซอ้ น กวา่ ท่ีสอนเดก็ ประถม)...” (พระราชนพิ นธ์ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เก่ยี วกับ โรงเรยี นตำรวจตระเวนชายแดน ๒๕๕๑ หน้า ๒๕) พระการุณยอ์ ่นุ เกล้าชาวสยาม
๑๑. ทรงอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯสยามบรมราชกมุ ารีทรงเหน็ ถงึ ความจำเป็นอย่างย่ิงและมีพระราชปณิธานที่จะเร่งอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้คืนกลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว ซ่ึงเป็น พระราชดำริให้เด็กและเยาวชนเรียนรู้เร่ืองทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดล้อม ด้วยทรงเล็งเห็นว่าเด็กและเยาวชนจะเป็นแรงผลักดัน สำคัญในอนาคตให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่การรักษาและใช้ ทรัพยากรของชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ทำลายส่ิงแวดล้อม โดยจัดการเรียนการสอนด้านสงิ่ แวดล้อมศึกษาในโรงเรียน เริ่มตั้งแต่ การทำหลกั สตู รการฝกึ อบรมครผู สู้ อนการจดั หาสอื่ การเรยี นการสอน และการรณรงค์เผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่ประชาชนให้ตระหนักและ มีจิตสำนึกร่วมกันและช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สง่ิ แวดลอ้ มในถิ่นของตนเอง ดังตวั อยา่ งต่อไปน้ี พระการณุ ยอ์ นุ่ เกล้าชาวสยาม
“...การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ พืชพรรณน้ัน ควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม ความน่า สนใจ และเกดิ ความปตี ิทจี่ ะทำการศกึ ษาและอนรุ ักษ์พืชพรรณต่อไป การใชว้ ธิ กี ารสอนการอบรมทใี่ หเ้ กดิ ความรสู้ กึ กลวั วา่ หากไมอ่ นรุ กั ษ์ แลว้ จะเกิดผลเสีย เกดิ อนั ตรายแกต่ นเอง จะทำใหเ้ ด็กเกิดความเครียด ซง่ึ จะเป็นผลเสยี แก่ประเทศในระยะยาว...” (สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ๒๕๔๓ หน้า ๒๑) พระการณุ ยอ์ ุ่นเกลา้ ชาวสยาม
“...เรื่องป่าไม้ท่ีเราจะพูดกันเป็นเรื่องที่สำคัญ ทุกคน ในโลกก็ว่าอย่างนั้น หลายท่ีป่าไม้เหมือนกับซุปเปอร์มาร์เก็ต ของชาวบ้าน เวลาจะเอาอะไร ก็ไปเอาในป่าน้ันแหละ มีปัจจัยส่ี ทเี่ รารจู้ กั กนั นน่ั แหละ อาหาร เครอื่ งนงุ่ หม่ ทอี่ ยอู่ าศยั และยารกั ษาโรค ก็หาได้จากป่าท้ังนั้น ตอนนั้นไปทำโครงการเกี่ยวกับเรื่องการปราบ มาลาเรียท่ีเขมร ก็จะต้องเชิญชาวบ้านมาพบกัน แต่ว่าจะเชิญน่ี ก็ต้องเอาข้าวห่อแจกเขา เพราะเขามาประชุมกับเรา เขาไม่มีเวลาไป “ซุปเปอร์มาร์เก็ต” เขาจะต้องไปหาทุกส่ิงทุกอย่างแถวที่ไปทำงาน การเกษตรก็ยังทำกันน้อย ส่วนมากก็หยิบเก็บจากป่าทั้งนั้น ป่าที่ อุดมสมบูรณ์ยังช่วยป้องกันน้ำท่วม ดินถล่ม ซ่ึงเคยเกิดที่น่านใน สเกลที่ใหญ่มาก และชว่ ยปอ้ งกันความแห้งแลง้ ด้วย...” (ปาฐกถา ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เรอื่ ง การสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รกั ษป์ ่าน่าน” วันจนั ทรท์ ี่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ ศนู ยก์ ารเรียนรู้และบริการ วิชาการเครือข่ายแห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมอื งน่าน จังหวัดนา่ น) พระการุณยอ์ ุ่นเกลา้ ชาวสยาม
“...ปา่ ทเ่ี ปน็ สอื่ การสอนในหลาย ๆ เรอื่ งน้ี คอื ปา่ ทเ่ี ราเรยี กวา่ “ปา่ ชมุ ชน” ปา่ ชมุ ชนนไ้ี ดเ้ รม่ิ ดำเนนิ การมาตงั้ แตป่ ี๒๕๓๐ทที่ ำจรงิ จงั โดยใชป้ า่ ชมุ ชนทม่ี อี ยแู่ ลว้ ในชมุ ชน หรอื ชมุ ชนไหนไมม่ ี ทางโรงเรยี น ก็ประสานกับชุมชนขอกันพ้ืนท่ีป่าเพ่ือทำเป็นป่าชุมชน และร่วมกัน ดแู ลรกั ษา ครกู จ็ ะมกี จิ กรรมพานกั เรยี นไปศกึ ษาธรรมชาตวิ ทิ ยาในปา่ ว่ามีอะไรบ้าง มีพืช มีสัตว์ มีหินและดินเป็นอย่างไร มีความสัมพันธ์ อย่างไร ในดา้ นความสัมพันธ์ทางนเิ วศวทิ ยา เปน็ ส่งิ ที่สำคญั เพราะว่า ทุกสิ่งทุกอย่างอาศัยและพ่ึงพากัน ป่ามีนกมีสัตว์เป็นผู้ช่วยผสมพันธ์ุ พืชในป่า และหากมปี ่า สตั วก์ อ็ าศยั ได้ จะอธบิ ายทุกข้นั ตอนในระบบ นิเวศว่า อะไรสืบเนื่องกับอะไร บางพ้ืนท่ีก็ร่วมกับชุมชนปลูกต้นไม้ ในเขตทกี่ นั ไวเ้ ปน็ ปา่ ชมุ ชน จากการดำเนนิ งานพบวา่ หลายพน้ื ทไ่ี ดผ้ ล ดีมาก และผู้นำชุมชนซ่ึงเป็นกรรมการการศึกษาของโรงเรียน ก็เป็น ผู้นำในการรกั ษาป่าชุมชน...” (ปาฐกถาในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารีเรอ่ื งการสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รกั ษป์ า่ นา่ น” วนั จันทร์ท่ี ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ ศนู ยก์ ารเรียนรูแ้ ละบรกิ าร วชิ าการเครือขา่ ยแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมอื งนา่ น จงั หวัดน่าน) พระการณุ ย์อุ่นเกล้าชาวสยาม
“...ในปี ๒๕๕๔ ไดเ้ รมิ่ ดำเนนิ การรว่ มมอื กบั กรมปา่ ไมศ้ กึ ษา พ้ืนท่ปี ลูกปา่ ท่ถี ูกทำลายไป ท้งั พน้ื ทภ่ี เู ขา พื้นทปี่ ่าพรใุ นภาคใต้ พื้นที่ อ่นื ๆ ที่ประสบภยั ธรรมชาติ น้ำทว่ ม ดนิ ถล่มตา่ ง ๆ สรา้ งบา้ นไปกย็ ัง ถล่มเพ่ิมข้ึนไปอีก อย่างพื้นดินแถวนี้เอง เพ่ิงเกิดดินถล่มไปก็ย้าย บ้านชาวบ้านไป ไอท้ ีย่ า้ ยไปใหม่กด็ ูหน้าตานา่ กลัวมากเหมือนจะถลม่ ตอนน้ียังไม่ถล่ม แต่ว่าเมื่อไหร่จะถล่มก็ไม่ทราบ จึงได้ทำหลักสูตร การทดลองสำหรบั ชั้น ป. ๕ เป็นหลักสูตร ๔๐ ชัว่ โมง เด็กนักเรียน บางทกี ไ็ มใ่ ชแ่ ค่ ป. ๕ อยา่ งเดยี ว บางทกี ร็ วม ๆ กนั หลายชนั้ โดยเฉพาะ อยา่ งยงิ่ ในโรงเรยี น กศน. ทค่ี รู กศน. รบั การฝกึ อบรมมาใหส้ อน ใหใ้ ช้ ส่ือการสอนท่ีมีในพ้ืนท่ี ก็ทำโมเดลท่ีแสดงให้เห็นว่า ดินถล่ม ป่าไม้ หมดไป จะเกดิ อะไรขนึ้ ขอ้ เสยี ขอ้ ทเี่ ปน็ ปญั หา จะเปน็ อยา่ งไร กใ็ หเ้ ขา ไปสังเกตอีกในพื้นที่จริง คุณครูจัดการได้ดี ทำให้เห็นความสำคัญ ของปา่ ...” (ปาฐกถา ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เรอื่ ง การสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รกั ษ์ป่านา่ น” วนั จันทรท์ ี่ ๑๐ มนี าคม ๒๕๕๗ ณ ศูนย์การเรียนรูแ้ ละบริการ วชิ าการเครือขา่ ยแหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ตำบลผาสงิ ห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวดั น่าน) พระการุณย์อนุ่ เกลา้ ชาวสยาม
“...โครงการท่ีทำมานานแล้วเช่นกัน คือ สวนพฤกษศาสตร์ โรงเรียน ตอนน้ันตอนที่ได้ไปบรรยายท่ีสวนคิว ประเทศอังกฤษ อาจารย์ท่ีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ท่านบอกว่า หัวข้อที่พูดน้ีน่าจะ เป็นพวกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพราะว่าเป็นเร่ืองท่ีคิดค้นและ ดำเนินการกันมาเองในประเทศไทย โดยท่ีไมใ่ ช่วา่ ไปเลยี นแบบโมเดล จากตา่ งประเทศ ก็เปน็ งานหน่ึงของการอนุรักษพ์ นั ธุกรรมพืช โดยให้ เยาวชนไดใ้ กลช้ ดิ กบั พชื พรรณไม้ เหน็ คณุ คา่ ประโยชน์ ความสวยงาม อนั กอ่ ใหเ้ กดิ ความคดิ ทจี่ ะอนรุ กั ษพ์ ชื พรรณตอ่ ไปเดก็ ทงั้ ในตา่ งจงั หวดั และท่ีกรุงเทพฯ ระดับตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาวิทยาลัยมาศึกษาเรื่อง พชื ยงิ่ เรยี นสงู เทา่ ใดกอ็ าจจะทำไดล้ กึ เชน่ มกี ารนำไปศกึ ษาในหอ้ งแลบ็ เยาวชนนำพรรณไม้มาปลูก แล้วสังเกตการณ์ในโรงเรียน โยงกับวิชา ต่าง ๆ... ท้ังวิชาทางศิลปะ วิชาทางภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามาเลเซีย ภาษาเขมร มีดนตรีนาฏศิลป์ ศึกษาทั้งด้าน ชีวภาพและกายภาพของการเจริญเตบิ โตของพชื ได้ใช้ทุกวิชา รวมทง้ั ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ เพอ่ื ทำใหเ้ หน็ คณุ คา่ ของพรรณไม.้ ..” (ปาฐกถา ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เรอ่ื ง การสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รกั ษป์ า่ นา่ น” วันจนั ทรท์ ี่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ ศนู ย์การเรยี นรู้และบรกิ าร วิชาการเครอื ข่ายแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมอื งนา่ น จงั หวดั นา่ น) พระการุณย์อ่นุ เกลา้ ชาวสยาม
“...การฟ้ืนฟูป่าก็เป็นเร่ืองเร่งด่วนในชุมชน มีหลายตัวอย่าง ...เรอ่ื งทพี่ ระเจา้ อยหู่ วั มพี ระราชกระแสซำ้ ๆอยอู่ ยา่ งนน้ั ในหลายพนื้ ท่ี หลายแหง่ วา่ ป่า ๓ อย่าง มปี า่ ไมใ้ ช้สอย เป็นไม้ไผโ่ ตเร็ว หรือสะเดา ไมผ้ ล ผักกนิ ใบ ผักกนิ หัวชนดิ ต่าง ๆ น่กี เ็ ป็นอาหาร เป็นแหล่งรายได้ เอาไปขายได้แมแ้ ตต่ น้ ทเี่ ขาทำปา่ ไมก้ นั สมยั กอ่ นคอื ปลกู สกั เขาตดั ปบั๊ ก็ต้องปลูก มีวงรอบการตัด มีการปลูกทดแทน อย่างที่ ๔ คือเป็น อุปกรณ์ช่วยอนุรักษ์ดินและน้ำ ส่ิงนี้จะช่วยสร้างสมดุลของระบบ นเิ วศ ปอ้ งกนั ผวิ ดนิ ใหช้ มุ่ ชนื้ ดดู ซบั นำ้ ฝน คอ่ ย ๆ ปลดปลอ่ ยความชน้ื สสู่ วนเกษตรกรรมและเปน็ การอนรุ กั ษด์ นิ และนำ้ ทดี่ ที สี่ ดุ คอื พชื พนั ธ์ุ ธรรมชาติในทอ้ งถ่ินน้ันเอง...” (ปาฐกถา ในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เรอ่ื ง การสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รักษป์ า่ นา่ น” วนั จนั ทร์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ ศูนย์การเรยี นรู้และบรกิ าร วชิ าการเครือขา่ ยแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย ตำบลผาสงิ ห์ อำเภอเมอื งนา่ น จงั หวัดน่าน) พระการณุ ยอ์ นุ่ เกล้าชาวสยาม
“...ในพื้นที่อ่ืนก็มีเร่ืองของการฟ้ืนฟูป่าชายเลน เช่น พื้นที่ พระราชนเิ วศนม์ ฤคทายวนั จงั หวดั เพชรบรุ ี บรเิ วณคลองบางตรานอ้ ย และคลองบางตราใหญ่ ซ่ึงเป็นต้นน้ำไหลมาจากเขาเสวยกะปิ เขาน้อย เขาทอง เขาบ่อขิง ก่อนจะไหลลงสู่อ่าวไทยในบริเวณพื้นที่ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ซ่ึงก็อยู่ในเขตความรับผิดชอบของ ตชด. มีการพัฒนาด้านต่าง ๆ ในพ้ืนท่ีต้นน้ำ ส่งผลให้ป่าชายเลน ในบริเวณน้ันเสื่อมโทรมน้อยลง ป่าชายเลนน้ีทำมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ปลูกเพิ่มขึ้น... บริเวณใกล้เคียงก็มีโครงการอ่ืน เช่น โครงการแหลมผักเบ้ีย ท่ีเป็นโครงการตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศึกษาพืชท่ีจะกำจัดน้ำเสียได้ ตอนน้ี กลายเป็นแหล่งดูนกที่ค่อนข้างจะใหญ่สำคัญเป็นแหล่งท่องเท่ียว เหมือนกนั และมปี า่ ชายเลนในจังหวัดสมทุ รสงคราม ศึกษาบนพ้ืนที่ งอกชายเลน ที่ตรงสมุทรสงครามนี้ยังสงวนอยู่ คือ จะมีคนมาสร้าง สะพานแบบน้ีก็ไม่ให้เขาสร้าง ใครอยากจะมาก็ให้ถีบกระดานเลน ไปเอง เดินเลนแหยะ ๆ สนกุ ดี เพือ่ ไม่ใหต้ อ้ งมาตัดไม้ และพนื้ ท่จี ะได้ เปน็ ธรรมชาติมากขึน้ ทำมาตัง้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ เกดิ ความสมบูรณ์ ทางธรรมชาติท่ีคนไม่ต้องอพยพไปทำงานที่อื่น ค่อนข้างประสบ ความสำเร็จ... เดย๋ี วน้มี ีก้งุ หอย ปู ปลา มากมาย...” (ปาฐกถา ใน สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี เรอื่ ง การสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รักษ์ปา่ นา่ น” วันจันทรท์ ่ี ๑๐ มนี าคม ๒๕๕๗ ณ ศูนยก์ ารเรยี นรูแ้ ละบริการ วิชาการเครอื ขา่ ยแหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ตำบลผาสงิ ห์ อำเภอเมอื งน่าน จังหวัดนา่ น) พระการณุ ยอ์ ุ่นเกลา้ ชาวสยาม
“...ป่าพรุในภาคใต้เป็นเรื่องค่อนข้างพิเศษ คือ เป็นป่าพรุ ที่ใหญ่ท่ีสุด เรียกว่า พรุโต๊ะแดง เป็นที่ท่ีหลายจุดยังไม่มีใครเข้าไปถึง ก็พยายามศึกษา นอกจากเร่ืองพืช สัตว์ ซึ่งจะเจอ New record, New species คือ พืชพันธุ์ใหม่หรือพันธุ์ท่ีแถวนั้นไม่เคยเจอมาก่อน อีกหลายพันธุ์ ทยอยเจอ ท้ังพืช ท้ังสัตว์ จะมีของแปลก ๆ เข้าไป สดุ ทา้ ยเราไดศ้ กึ ษาเรอ่ื งจลุ นิ ทรยี ใ์ นปา่ พรุ ทำไมในปา่ พรนุ ้ี ดนิ คอ่ นขา้ ง จะเปรี้ยว pH 3 หรือไม่ถึง แต่ทำไมพืชไม้ใหญ่ขึ้นได้ แล้วก็ศึกษา จุลินทรีย์จากตรงน้ันเผ่ือจะเอาไปเป็นประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้อีก ก็มีแนวโน้มที่ค่อนข้างดี... การดูแลป่าพรุนั้น เจ้าหน้าท่ีได้อบรมทั้ง เยาวชนและผู้สูงอายุ ก็พยายามเน้นเยาวชน แต่คนอื่นก็สนใจด้วย มาเปน็ กลมุ่ ดว้ ย เรยี กวา่ “เยาวชนเพอื่ นชาวพร”ุ โดยเปน็ มคั คเุ ทศกก์ ไ็ ด้ และดูแลเมื่อมีเหตุร้ายต่าง ๆ ในพรุ และได้ออกวิทยุท้องถ่ินเพื่อ ให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปด้วย เยาวชนเหล่าน้ีล้วนแต่รักและ หวงแหนป่าพรุว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของพวกเขา เขาจะแต่งกลอนเร่ือง ป่าพรุ เขาจะเขียนภาพป่าพรุ เวลาไปเย่ียมเขา เขาก็จะนำเสนอให้ฟัง ด้วยความภมู ิใจ...” (ปาฐกถาในสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯสยามบรมราชกมุ ารี เรอื่ ง การสรา้ ง สำนึกในเด็กและเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ใน การประชุมสัมมนา “รกั ษ์ปา่ น่าน” วนั จนั ทร์ท่ี ๑๐ มนี าคม ๒๕๕๗ ณ ศูนย์การเรยี นรแู้ ละบริการ วิชาการเครอื ขา่ ยแหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ตำบลผาสงิ ห์ อำเภอเมอื งน่าน จงั หวัดน่าน) พระการุณยอ์ ุ่นเกล้าชาวสยาม
คำศพั ท์ ๑. กฎหมายตราสามดวง ประมวลกฎหมายโบราณของไทย ซ่ึงพระบาทสมเด็จ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชไดโ้ ปรดเกลา้ ฯใหช้ ำระและปรบั ปรงุ แก้ไขตัวบทกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้กันมาต้ังแต่สมัยอยุธยาจนถึง ต้นรัตนโกสินทร์ เม่ือทำเสร็จแล้วได้ประทับดวงตราพระราชสีห์ พระคชสหี ์ และบวั แกว้ ไวเ้ ปน็ สำคญั จงึ เรยี กวา่ กฎหมายตราสามดวง (พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๔) ๒. กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (Science Process) วิธีการทำงาน การทดลอง หรือการแก้ไขปัญหา ท่ีอาศัย ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ๑๓ ประเภท ดังน้ี การสังเกต การวัด การจำแนกประเภท การหาความสมั พนั ธข์ องมิติ การคำนวณ การจัดการข้อมูล การลงความเห็น การพยากรณ์ การต้ังสมมุติฐาน การกำหนดนิยามเชิงปฏิบัติการ การควบคุมตัวแปร การทดลอง การตคี วามลงข้อสรปุ ๓. กรุงรัตนโกสนิ ทร์ นามสว่ นหนง่ึ ของกรงุ เทพมหานคร ทม่ี ชี อ่ื เตม็ วา่ กรงุ เทพมหานคร อมรรตั นโกสนิ ทร์ มหนิ ทรายธุ ยามหาดลิ กภพ นพรตั นราชธานบี รู รี มย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต สักกะทัตติยวิษณุ กรรมประสิทธิ์ (พจนานกุ รม ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๙๘๘) พระการุณยอ์ ุ่นเกล้าชาวสยาม
๔. กลั ยาณมติ ร มติ รดี (ป.,ส.) ชื่อเพลงไทยประเภทโหมโรงเสภา อตั รา ๓ ช้นั แต่งข้ึนจาก เพลงหน้าพาทย์ชื่อชำนาญ (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๑๐๘) ๕. การศกึ ษาตลอดชีวติ /การเรยี นร้ตู ลอดชีวติ (Lifelong Learning) การเปล่ียนแปลงในการตอบสนองหรือพฤติกรรมซ่ึงเกิดขึ้น ท้ังหมดหรือบางส่วนจากประสบการณ์ ท้ังโดยต้ังใจและไม่ตั้งใจ จากเกดิ จนตายการเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ เปน็ พฤตกิ รรมของผเู้ รยี นอาจเปน็ ฝา่ ยจดั กระบวนการเพอ่ื ใหเ้ กดิ การเรยี นรแู้ กต่ นเองได้ เชน่ การวางแผน การเรยี นเอง ใชส้ อื่ ตา่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง วเิ คราะห์ และสรปุ ผลดว้ ยตนเอง หรือผู้เรียนอาจได้รับประสบการณ์จากผู้อ่ืนจัดให้ ทั้งโดยต้ังใจหรือ ไมไ่ ดต้ ง้ั ใจ (ดร.ศรสี ว่าง เลยี้ ววารณิ ) ๖. การศึกษาเพ่ือทกุ คน (Education for All) การจัดการศึกษาเพ่ือสนองความต้องการเรียนรู้และสิทธิ ขั้นพ้ืนฐานของประชาชนทั้งมวล ตามปฏิญญาโลกว่าด้วยการศึกษา เพื่อปวงชน ท่รี ะบวุ า่ “ทกุ คนมสี ทิ ธิในการศึกษา” ทุกประเทศจงึ ต้อง จัดโอกาสให้ประชาชนได้รับการศึกษาอย่างท่ัวถึงเท่าเทียมกัน สร้างบรรยากาศและระดมความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อพัฒนา การเรยี นรขู้ ยายขอบขา่ ยและแนวทางการจดั การศกึ ษาตลอดชวี ติ ดว้ ย กระบวนการท่ีหลากหลาย มีการจัดการด้านการบริหารทรัพยากร พระการณุ ย์อุ่นเกลา้ ชาวสยาม
อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงการพัฒนาคุณภาพของบุคคล และสงั คม (พจนานุกรม ศัพทศ์ กึ ษาศาสตร์ น. ๑๘๕-๑๘๖) ๗. โครงงานวิทยาศาสตร์ (Science Project) กิจกรรมในกระบวนการเรียนการสอนที่ดำเนินการ โดยให้ นกั เรียนใช้ความรู้ และทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์แกป้ ัญหา หรือสร้างสรรค์ผลงานท่ีตนสนใจ อาจเป็นงานวิจัย งานประดิษฐ์ หรือนวัตกรรม อาจทำงานเป็นทีม และเม่ือจบโครงการแล้วมักต้อง เขียนรายงาน และนำเสนอที่มาของโครงงาน วัตถปุ ระสงค์ วิธี ผลท่ี ได้รับ ข้อสรปุ และการอภปิ รายผล ๘. คอพอก ช่ือโรคต่อมไทรอยด์โต ส่วนใหญ่เกิดจากการขาดธาตุไอโอดีน คอหอยพอก ก็ว่า (อ. goitre, struma, thyrocele) (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๒๔๕) ๙. คา่ นยิ ม (Values) ลักษณะที่บุคคลหรือสังคมยึดถือเป็นเกณฑ์ แรงจูงใจใน การคิดตัดสินใจ และกำหนดมาตรฐานพฤติกรรมของตนเองหรือ สังคม ค่านิยมอาจดีหรือไม่ดีก็ได้ ข้ึนอยู่กับส่ิงท่ีใช้เป็นเกณฑ์ตัดสิน (พจนานกุ รม ศพั ทศ์ ึกษาศาสตร,์ น. ๕๖๖) ๑๐. คุณธรรม สภาพคุณงามความดี (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๒๖๓) พระการุณยอ์ นุ่ เกลา้ ชาวสยาม
๑๑. จริยธรรม ธรรมท่ีเป็นข้อประพฤติปฏิบัติ ศีลธรรม กฎศีลธรรม (พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๓๐๓) ๑๒. ธาตุเหล็ก ธาตุลำดบั ที่ ๒๖ สัญลักษณ์ Fe เปน็ โลหะลักษณะเป็นของแขง็ สีขาวเป็นเงาคล้ายเงิน หลอมละลายที่ ๑๕๓๖ องศา ใช้ประโยชน์ ไดม้ ากมาย เชน่ ทำเหลก็ หลอ่ เหลก็ พดื เหลก็ กลา้ (อ. iron) ว. แขง็ แกรง่ เช่น บุรษุ เหล็ก (พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๑๓๔๘) ๑๓. นวัตกรรม (Innovation) สง่ิ ทท่ี ำขนึ้ ใหมห่ รอื พฒั นาขน้ึ ซง่ึ อาจอยใู่ นรปู แบบของความคดิ วธิ กี าร การกระทำ หรือสิ่งประดษิ ฐ์ตา่ ง ๆ โดยสิง่ นั้นอาจเป็นส่ิงใหม่ ท้ังหมดหรือใหม่เพียงบางส่วนและอาจใหม่ในบริบทใดบริบทหน่ึง หรือในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยท่ัวไปนวัตกรรมเป็นส่ิงใหม่ที่กำลัง อยู่ในกระบวนการพิสูจน์ ทดสอบ หรือได้รับการยอมรับนำไปใช้ บ้างแลว้ แต่ยังไม่แพร่หลายหรือเปน็ สว่ นหนง่ึ ของระบบปกติ ๑๔. บ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย (Little Scientists’ House) สถานศึกษาที่ใช้ชุดกิจกรรมการทดลองเกี่ยวกับธรรมชาติ รอบตวั และชวี ติ ประจำวนั สำหรบั เดก็ วยั ๓-๖ปีออกแบบเพอื่ ฝกึ ทกั ษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สร้างทัศนคติท่ีดีต่อวิทยาศาสตร์ ฝกึ การคดิ วเิ คราะห์การทำงานเปน็ ทมี และการสอ่ื สาร เปน็ โครงการตาม พระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระการณุ ย์อุ่นเกลา้ ชาวสยาม
ท่ที รงนำมาจากมลู นธิ ิ Haus der Kleinen Forscher ประเทศเยอรมนี ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๕๓ พระราชทานแก่โรงเรียนอนุบาล ศูนย์เด็กเล็ก และศนู ยเ์ รียนรูช้ ุมชน ท่วั ประเทศ ๑๕. บรู ณะ ซ่อมแซม ทำใหก้ ลบั คนื ดีเหมือนเดิม เช่น บูรณะวดั มักใชเ้ ข้าคู่ กบั ปฏสิ งั ขรณ์ เปน็ บรู ณปฏสิ งั ขรณ์ (ส.ปรู ณ ; ป.ปณุ ณฺ ) (พจนานกุ รม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๖๘๑) ๑๖. ปุถชุ น คนท่ียังมีกิเลสหนา, สามัญชน, ผู้ที่มิได้เป็นพระอริยบุคคล (ป.ปุถุชชน; ปฤถคฺชน) (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๖, น. ๗๔๘) ๑๗. พฤติกรรมวทิ ยาศาสตร์ (Scienti.c Behavior) การแสดงออกด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ มีทัศนคติทาง วิทยาศาสตร์ มีเหตุผล ไม่งมงาย รบั ฟังความคิดเห็นผูอ้ ืน่ แก้ไขปัญหา และใฝ่ร้ใู ฝห่ าข้อเทจ็ จรงิ ๑๘. พระราชบญั ญตั ิประถมศึกษา/ พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษา (Education Act) กฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาครอบคลมุ หลกั การ และความมงุ่ หมาย ของการจดั การศกึ ษาสทิ ธิ และหนา้ ทที่ างการศกึ ษาระบบและแนวทาง การจดั การศกึ ษาการบรหิ าร และการจดั การกระบวนการเรยี นการสอน บุคลากร และทรัพยากร เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษา มาตรฐาน และ พระการณุ ย์อนุ่ เกลา้ ชาวสยาม
การประกันคุณภาพทางการศึกษา (พจนานุกรม ศัพท์ศึกษาศาสตร์, น. ๑๖๘) ๑๙. ฟอกเลอื ด/ฟอกโลหิต อาการที่แก๊สออกซิเจนซึ่งหายใจเข้าไปแล้วเปลี่ยนเลือดดำเป็น เลอื ดแดง(พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถานพ.ศ.๒๕๕๔,น.๘๕๖) ๒๐. โภชนาการ วิทยาศาสตร์ประยุกต์แขนงหน่ึง ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง อาหารกับกระบวนการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับสุขภาพและการเจริญ เติบโตของส่ิงมีชีวิต (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๘๗๔) ๒๑. มหาวิทยาลยั เด็ก (Children University) กิจกรรมที่มหาวิทยาลัยจัดให้แก่เด็ก เช่น การฟังการบรรยาย และการซกั ถามคณาจารย์ การลงมือทำการทดลองที่น่าสนใจ ใหเ้ ด็ก มีโอกาสสัมผัสกับบรรยากาศมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ แก่เด็ก มหาวิทยาลัยทูว์บิงเง่นแห่งเยอรมนีเป็นแห่งแรกที่ริเริ่ม โครงการ มหาวิทยาลยั ไทยหลายแห่งกม็ โี ครงการนี้ เช่น จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยี พระจอมเกลา้ ธนบุรี เป็นต้น ๒๒. มนษุ ยชาติ จำพวกคน, หมู่มนุษย์ (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๘๗๙) พระการุณยอ์ ุน่ เกลา้ ชาวสยาม
๒๓. มนุษยธรรม ธรรมของคน, ธรรมท่ีมนษุ ย์พึงมตี ่อกนั มเี มตตากรณุ า เป็นตน้ (พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๘๗๙) ๒๔. สหวิทยาการ (Interdisciplinary) ความร้ทู มี่ ีการบูรณาการของศาสตร์หลายสาขา ๒๕. เสมอภาค มีสว่ นเทา่ กัน เทา่ เทยี มกัน เช่น ในปจั จุบันบรุ ษุ และสตรีมสี ิทธิ เสมอภาคกัน (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๑๒๕๕) ๒๖. เสรภี าพ ความสามารถทจี่ ะกระทำการใด ๆ ไดต้ ามทตี่ นปรารถนาโดยไมม่ ี อปุ สรรคขดั ขวาง เชน่ เสรภี าพในการพดู เสรภี าพในการนบั ถอื ศาสนา ความมสี ทิ ธทิ จ่ี ะทำ จะพดู ไดโ้ ดยไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ น่ื (พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๑๒๕๖) ๒๗. สงั คมและเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge-Based Society and Economy) สภาพทคี่ นในสงั คมอาศัยความรู้ และขอ้ มูลเป็นพืน้ ฐานในการ ดำเนินกิจการหรือการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มีการศึกษาค้นคว้า และ การวิจัย เพ่ือการวางแผน การดำเนินการ การตรวจติดตาม และ การปรับปรุง สังคม และเศรษฐกิจแบบนี้จึงพัฒนาอย่างเป็นระบบ มรี ะเบียบแบบแผน และมีความยัง่ ยนื พระการณุ ย์อนุ่ เกลา้ ชาวสยาม
๒๘. ไอซที ี (ICT, Information and Communication Technology) เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (ไอซที )ี : การสอ่ื สารทาง เทคโนโลยีที่ประกอบด้วยระบบการจัดการ จัดเก็บ และประมวลผล ขอ้ มลู ระบบสอื่ สารโทรคมนาคม และอปุ กรณส์ นบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ าน ท่สี ามารถจัดเก็บประมวลผล แจกจ่ายขอ้ มลู สารสนเทศผา่ นเครอื ขา่ ย โทรคมนาคมไปยงั ผตู้ อ้ งการใชท้ อ่ี ยตู่ า่ งกนั ไดอ้ ยา่ งสะดวก และรวดเรว็ มาก (พจนานกุ รม ศัพท์ศึกษาศาสตร์, น. ๒๘๓) ๒๙. ไอโอดนี ธาตุลำดบั ท่ี ๕๓ สัญลักษณ์ I เปน็ อโลหะลกั ษณะเปน็ ของแขง็ สเี ทาดำ เปน็ เงาวาว หลอมละลายท่ี ๑๑๔ องศา เมอื่ ระเหดิ เปน็ ไอสมี ว่ ง เป็นธาตุสำคัญมากสำหรับต่อมไทรอยด์ หากขาดธาตุน้ีจะทำให้ เป็นโรคคอพอก (อ. iodine) (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔, น. ๑๔๔๓) พระการณุ ย์อุ่นเกล้าชาวสยาม
บรรณานุกรม กระทรวงการตา่ งประเทศ. ทางสายไมตรี = Friendship route: ประมวล เอกสารจดหมายเหตุการณ์การเสด็จฯ เยือนต่างประเทศของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ. ๒๕๑๖-๒๕๓๔. กรงุ เทพฯ: กระทรวงการตา่ งประเทศ, ๒๕๓๗. กลมุ่ งานสง่ เสรมิ สทิ ธมิ นษุ ยชนสำนกั สง่ เสรมิ และประสานงานเครอื ขา่ ย. สิทธิมนุษยชนศึกษาบทความสำหรับครูผู้ให้การศึกษาและ อบรมสิทธิมนุษยชน : สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน แห่งชาติ, ๒๕๕๖. คณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาต.ิ สำนกั งาน. วศิ ษิ ฏศลิ ปนิ . กรงุ เทพฯ: อมรินทร์ พร้ินต้ิง กรพุ๊ , ๒๕๔๙. คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. สำนักงาน. เทพรัตนเมธี. กรุงเทพฯ: สำนกั งานคณะกรรมการวิจัย แห่งชาติ, ๒๕๔๙. เทพรตั นราชสดุ าฯสยามบรมราชกมุ าร,ี สมเดจ็ พระ.“คำนำ.”ทวั รน์ อ้ งโจ.้ กรงุ เทพฯ: มูลนิธสิ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, ๒๕๒๙. ____. “คำนิยม.” สะพาน : รวมบทความทางประวตั ศิ าสตร์, กรุงเทพฯ: แผนกประวตั ศิ าสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๒๑. ____. คำบรรยายพิเศษเนื่องในการสัมมนาทางวิชาการ “มนุษยธรรม และสงคราม:นานาทศั นะในโอกาสครบรอบ๕๐ปีอนสุ ญั ญาเจนวี า ค.ศ. ๑๙๔๙.” ณ อาคารวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ๓๐ สงิ หาคม ๒๕๔๒. พระการณุ ยอ์ นุ่ เกล้าชาวสยาม
____. ทศั นะจากอนิ เดยี . กรงุ เทพฯ: มลู นธิ สิ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า, ๒๕๓๑. ____. ไทยเท่ียวพม่า. กรุงเทพฯ: มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา, ๒๕๒๙. ____. ประมวลพระราชดำรสั สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรม ราชกมุ าร.ี กรุงเทพฯ: ศนู ย์นานาชาติสิรนิ ธร เพือ่ การวิจัย พฒั นา และการถา่ ยทอดเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร,์ ๒๕๔๘. ____. มณพี ลอยรอ้ ยแสง.พมิ พค์ รง้ั ท่ี๒.กรงุ เทพฯ: อกั ษรศาสตรบณั ฑติ รุ่นท่ี ๔๑ แห่งจฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย, ๒๕๓๔. ____. ทรงบรรยายพิเศษ เร่ือง “การกระจายอาหารและโภชนาการสู่ ชนบท.” ณ สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ๑๑ ธนั วาคม๒๕๓๐.ในพระราชดำรสั สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี ด้านอาหารและโภชนาการ. กรุงเทพฯ: สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร,ี ๒๕๓๘. ____. พระราชดำรัส ในการประชุมสมัชชาการศึกษานานาชาติแห่ง ประเทศไทย ครงั้ ที่ ๒ เนือ่ งในโอกาสวนั ครูโลก เร่อื ง “การศกึ ษา และฝกึ อบรมเพอ่ื ตามทนั โลกทเี่ ปลย่ี นแปลง” ณ ศนู ยแ์ สดงสนิ คา้ และการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๙. ____. พระราชดำรสั ในการประชมุ ใหญส่ ามญั ประจำปีครง้ั ท่ี๑/๒๕๕๓ ณ ห้องประชุมสำนักงานมูลนิธิโรคไตแห่งประเทศไทย โรงพยาบาลสงฆ์ เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ๒๙ มนี าคม ๒๕๕๓. พระการณุ ย์อนุ่ เกลา้ ชาวสยาม
____. พระราชดำรัส ทรงปาฐกถาเร่ือง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของผดู้ อ้ ยโอกาสในสงั คม ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในงาน สัมมนา “๑๒ ปี รัตนราชสุดา สารสนเทศ : ประสบการณ์จาก โครงการเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพ รตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนช่นั หลกั ส่ี กรุงเทพฯ ๒๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๑. ____. พระราชดำรัส ทรงปาฐกถาเรื่อง การสร้างสำนึกในเด็กและ เยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในการประชุมสัมมนา “รกั ป่าน่าน” ณ ศูนยก์ ารเรียนรู้และบริการวชิ าการเครือขา่ ยแหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดนา่ น ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗. ____. พระราชดำรัสทรงบรรยายเรื่อง “คุณภาพชีวิตเด็กไทยกับ ไอโอดนี .” ในการสมั มนาระดบั ชาติ เรอื่ ง การควบคมุ โรคขาดสาร ไอโอดีนในประเทศไทย ๓ มีนาคม ๒๕๓๕ ณ โรงแรมเชียงใหม่ พลาซ่า จังหวัดเชียงใหม่ วารสารสุโขทัยธรรมาธิราช. ๕, ๓ (กันยายน – ธันวาคม ๒๕๓๕) : ๓. ____. พระราชดำรัส ใน “พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาประเพณีโรงเรียน ทหาร-ตำรวจ” ครงั้ ที่ ๔๙ ประจำปี ๒๕๕๔ ณ สนามกฬี าโรงเรยี น นายรอ้ ยพระจลุ จอมเกลา้ จงั หวดั นครนายก ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔. ____. พระราชดำรสั ในโอกาสทรงรบั รางวลั “มิตรนานาชาตสิ บิ อนั ดบั แรกของสาธารณรัฐประชาชนจีน” ณ มหาศาลาประชาชน กรงุ ปักก่ิง สาธารณรฐั ประชาชนจีน ๘ ธนั วาคม ๒๕๕๒. พระการณุ ย์อนุ่ เกลา้ ชาวสยาม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208