Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผู้เฒ่าเล่าไว้

Description: ผู้เฒ่าเล่าไว้

Search

Read the Text Version

ÇÃó¡ÃÃÁàÂÒǪ¹¾¹×Œ ºŒÒ¹ ÀÒ¤à˹×Í ¼àŒÙ ²Ò‹ àÅÒ‹ äÇŒ เภรา่ือพงปมราะลกาอบคำธจนันชทยั รมณวี รรณ

ว ร ร ณ ก ร ร ม เ ย า ว ช น พ้ื น บ้ า น ภ า ค เ ห นื อ ผู้เฒ่าเล่าไว้ เรอ่ื ง มาลา คำจนั ทร์ ภาพ ธนชัย มณีวรรณ์

ผูเ้ ฒา่ เล่าไว ้ เลขมาตรฐานสากลประจำหนงั สือ 978-974-287-727-9 ผูเ้ ชยี่ วชาญท่ปี รึกษาคณะบรรณาธิการ รศ.ทรงศักดิ์ ปรางค์วฒั นากลุ นายเจริญ มาลาโรจน ์ คณะบรรณาธกิ ารอำนวยการ นางทัศนัย วงศ์พเิ ศษกลุ นางสาวเฉียดฉัตรโฉม ปรพิ นธ์พจนพิสุทธ์ ิ นายวัฒนชัย วนิ จิ จะกูล นางสาวนนั ธนา เจรญิ ภักดี คณะบรรณาธกิ ารดำเนนิ งาน รศ.สุกญั ญา สจุ ฉายา ผศ.ดร.ชลภสั ส์ วงษ์ประเสรฐิ นายเรอื งศักด ิ์ ป่ินประทีป นายณฐั พร ศรีมุกด์ เรอ่ื ง มาลา คำจันทร ์ ภาพ ธนชัย มณวี รรณ์ พิสจู น์อกั ษร นันทธ์ นัตถ์ จิตประภสั สร, อารีณะ วรี ะวฒั น์ พมิ พค์ รั้งที่ 1 พฤศจกิ ายน 2551 จำนวนพิมพ์ 3,000 เลม่ ราคา 160 บาท เจา้ ของโครงการและดำเนนิ การจัดพมิ พ ์ สำนักงานอทุ ยานการเรียนรู้ สำนกั งานบริหารและพัฒนาองคค์ วามรู้ (องค์การมหาชน) สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี สว่ นบริการ อาคารเซ็นทรัลเวลิ ด์ ชัน้ 8 Dazzle Zone โทรศพั ท์ 0-2257-4300 โทรสาร ตอ่ 125 สว่ นสำนกั งาน 999/9 อาคารสำนกั งานเซน็ ทรัลเวลิ ด์ ช้นั 17 ถนนพระราม 1 โทรศพั ท์ 0-2264-5963-65 โทรสาร 0-2264-5966 www.tkpark.or.th ดำเนินการจัดทำต้นฉบับ มูลนธิ ิหนงั สอื เพ่อื เด็ก โทรศพั ท์ 0-2805-0202 โทรสาร 0-2805-1308 www.thaibby.in.th ออกแบบรูปเลม่ จัดพมิ พ์ และจดั จำหนา่ ย บรษิ ัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกดั โทรศัพท์ 0-2575-2828 โทรสาร 0-2575-2558 www.planforkids.com เหมาะสำหรบั เด็กอายุ 9 ปีขึน้ ไป

คำนำ ในการจัดต้ังอุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคต้นแบบแต่ละภาคนั้น สำนักงาน อุทยานการเรียนรู้ (TK park) ได้มีการเตรียมการคู่ขนานกันไปทั้งด้านกายภาพ และเนื้อหาสาระ กล่าวคือในระหว่างท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินกำลังปรับปรุง หรือก่อสร้างอาคารสถานที่สำหรับห้องสมุดมีชีวิตในรูปแบบอุทยานการเรียนรู้ สำนกั งานอทุ ยานการเรยี นรกู้ ป็ ระชมุ หารอื กบั บคุ ลากรในทอ้ งถน่ิ และรว่ มกนั คดั เลอื ก หนังสือ ดนตรี และกจิ กรรมต่างๆ ไปพร้อมกัน เพือ่ เตรยี มการดา้ นหนังสอื และสอื่ ตา่ งๆ ซ่งึ ถือเสมอื นเป็นจิตวิญญาณของหอ้ งสมุด โครงการนิทานพ้ืนบ้านเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการทางด้านเนื้อหาสาระ ด้วยเล็งเห็นว่าเรื่องเล่าในแต่ละชุมชนมีทั้งสาระ ความสนุกสนาน และจินตนาการ สืบทอดกันมาจากภูมิปัญญาท้องถ่ินอันล้ำลึก มีความหมายต่อการเชื่อมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และการดำรงอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ และมนุษย์กับ ธรรมชาติ แม้จะเป็นเรอ่ื งเล่าเฉพาะกลุม่ ชนในพ้ืนที่ แตส่ าระท่ีแฝงอยู่ในเนอื้ หาเรอ่ื ง ราวของนิทานนั้นคือคติสอนใจ ซ่ึงเป็นความรู้สากลท่ีสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ทกุ หนแห่ง สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ จึงมอบให้มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กเป็นผู้ดำเนิน การประสานงานกับปราชญ์ชาวบ้าน นักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมกันคัดเลือก นิทานเรื่องเล่าพื้นบ้านที่มีคุณค่า มีอิทธิพลต่อความคิดและจินตนาการของเยาวชน ในทางสร้างสรรค์ นำมาเรียบเรียงและจัดทำภาพวาดประกอบข้ึนใหม่ เพื่อจัดพิมพ์ เป็นหนังสือท่ีมุ่งเสริมสร้างจินตนาการให้อ่านง่ายและเพลิดเพลิน โดยหวังว่าจะเป็น ส่ือจูงใจใหเ้ ดก็ และเยาวชนท่ัวไปสนใจและรกั การอ่านมากยิ่งขึ้น ท้ังยังสามารถนำไป ประกอบการเล่านิทานในครอบครัว โรงเรียนและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เป็นการ สืบทอดภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ใหค้ งอยสู่ บื ไป หวังเปน็ อยา่ งยงิ่ ว่า นอกเหนอื จากบทบาทในฐานะผจู้ ดุ ประกายแนวคดิ ห้อง สมุดมีชีวิตในประเทศไทย ให้เป็นพ้ืนที่แสวงหาความรู้ในบรรยากาศการเรียนรู้อย่าง สร้างสรรค์และทันสมัยแล้ว สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ยังจะได้ทำหน้าที่ปลูกฝัง และส่งเสริมนิสัยรักการอ่านแก่เด็กและเยาวชน บนพื้นฐานของความเคารพและ ภาคภูมิใจในภมู ิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น เสรมิ สร้างการยอมรบั ความแตกตา่ งหลาก หลายและใชส้ ตปิ ญั ญาแกไ้ ขปญั หา อันจะนำไปส่สู ังคมสนั ตสิ มานฉันทใ์ นท่สี ุด สำนักงานอุทยานการเรียนร ู้

สารบญั หนง่ึ หา้ เครือเขาหลง 7 ปู่แสะ ยา่ แสะ 75 สอง หก คนดีผกี ลวั 25 กองไฟในคนื หนาว 97 สาม เจด็ ขารุทกะ 39 ขุนหลวงวิรังคะ 111 ส่ี แปด นางในตำนาน 53 เจ้าหลวงคำแดง 121

ผ้เู ฒ่าเลา่ ไว้

ผูเ้ ฒา่ เลา่ ไว้ เกรด็ ความรู้ ในวรรณกรรมเยาวชนภาคเหนือ จะใช้ตัวเลขข้ึนต้นแต่ละบทเป็น ตวั เลขในภาษาล้านนา เรยี กวา่ เลขโหรา ภาษาล้านนา หรอื คำเมอื ง เป็นภาษาประจำราชอาณาจักรล้านนาท่ีสันนิษฐานว่าเกิดข้ึนมา นานนับพันปี ใช้กันในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เรียกว่า “ดินแดนล้านนา” หมายถึง 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน และแม่ฮ่องสอน ตวั เลขในภาษาล้านนามี 2 แบบ คอื เลขในธรรม หรือเลขในธัมม ์ ใชใ้ นการเขยี นเร่ืองราวเกีย่ วกบั ภาษา และวรรณกรรมทางศาสนา มักเขียน บนใบลาน อีกแบบหน่ึงคือ เลขโหรา ใช้เขียนบอกจำนวนท่ัวไปและการ คำนวณโหราศาสตร ์ เลขโหรา เลขในธรรม เทียบตวั เลขไทย ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๐

ผู้เฒา่ เล่าไว้  หนึง่ เครือเขาหลง

ผเู้ ฒา่ เลา่ ไว้

ผเู้ ฒา่ เล่าไว้  เครือเขาหลง ผเู้ ฒ่าเลา่ ไวว้ า่ สมัยก่อน ป่าดิบดงดำกว้างใหญ่ไพศาล มากมีด้วยสิงสาราสัตว์ และผีป่าผีดงนานา ในป่ามีเครือเขาหรือเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง คนเฒ่า แต่ก่อนเรยี กวา่ เครอื เขาหลง เครอื เขาหลง หากใครข้ามแล้วจะหลง หลงไปไหน หลงไปในป่า ป่าท่ดี ิบอย่างยง่ิ ลกึ ลับอยา่ งย่ิง ดุร้ายอยา่ งยิง่ บางคนก็หลงจนตาย กลับออกมาไม่ได้อีกเลย บางคนเจ็บป่วย ทุกข์ทรมาน บางคนล้มหายตายจาก กว่าจะมีคนไปพบก็เหลือแต่โครง กระดกู แตบ่ างคนกก็ ลับออกมาได้ เพอ้ ไข้ เพ้อคล่งั บอกเล่าเรอ่ื งราว พิลึกพิลั่นที่คนฟังคลางแคลงใจว่าจริงหรือเท็จ เขาประสบพบเห็นมา จริงๆ ตามท่เี ลา่ หรือเขาเพอ้ คลง่ั สร้างเรื่องขึน้ เอง เครือเขาหลงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านป่าสมัยก่อนหวาดกลัวกันมาก ตาว่าอย่างนั้น มันไม่มีรูปร่างตัวตนที่ชัดเจน ไม่ใช่ชนิดหรือพันธุ์ที่พอ พบเห็นกร็ ไู้ ดเ้ ลยว่าอันน้ลี ่ะ เครือเขาหลง

10 ผ้เู ฒ่าเล่าไว้ เพราะมันไมม่ รี ูปรา่ งตัวตนทชี่ ัดเจนน่เี อง จึงระวังยากมาก มีเรื่องเล่ามากหลายเกี่ยวกับเครือเขาหลง เช่นเรื่องหนึ่งเล่าว่า นานมาแล้ว ราวแปดสิบปยี อ้ นไปจากปัจจบุ ัน มีหมู่บา้ นแหง่ หนง่ึ สมมุติ วา่ ชอ่ื ดงเยน็ อยใู่ กลก้ บั ดอยหัวง้ม อำเภอปา่ แดด จงั หวัดเชยี งราย มีชายหนุ่มลูกบ้านดงเย็นคู่หนึ่งเป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งชื่อไอ้แก้ว อกี คนชอ่ื ไอค้ ำ อย่มู าวนั หนึง่ ท้ังคู่กช็ วนกนั เข้าป่าลา่ เนื้อไปตามประสา ชาวปา่ ชาวดง ไอค้ ำนำหนา้ ไอแ้ กว้ ตามหลงั ไปตามทางนอ้ ยในปา่ ทแ่ี สน จะคนุ้ เคย ทกุ อย่างดูเหมือนเดมิ หมด นัน่ ต้นจกิ นีต่ ้นไคร้ นน่ั ไมห้ มากนะ ที่เขาว่าเป็นยาแก้สารพัดโรค หน่อนางหางไม้หน้าตาก็เหมือนเดิม วอกค่างนางลิงก็ยังติงไต่ต้นไม้เหมือนเมื่อวันก่อนๆ หาดห้วยเหวผา ตาน้ำบ่อน้ำอยู่ทางใดหนไหนก็ยังไม่ย้ายทิศย้ายทาง ซ้ายมือเป็นทิศใต้ ขวามือเปน็ ทิศเหนอื กย็ ังเป็นปรกติ แตม่ สี ง่ิ หนง่ึ ทเ่ี ปลย่ี นแปลงไป ทง้ั คไู่ มร่ ไู้ มเ่ หน็ หรอื ไมท่ นั ตระหนกั ทางนอ้ ยทอดหายดลู กึ ลบั แกมนา่ กลวั แตท่ ง้ั คไู่ มก่ ลวั เพราะคนุ้ เคย มาก ยงั มีสิง่ หน่ึงทอดเลอ้ื ยผ่านทางเล็ก ไม่ใช่งหู ากแต่เปน็ เถาวลั ย์เล็กๆ ขนาดเท่าเชอื กสายอู่ ไอ้คำผเู้ ดนิ นำหน้ากา้ วขา้ มไป ทนั ใดรา่ งของเขาก็หายวบั ไปตอ่ หน้าต่อตาของไอแ้ ก้ว ไอ้แกว้ รู้ได้ในทนั ทนี ้ันวา่ เพือ่ นเขาพลาดทา่ เสียแลว้ ท่เี พ่อื นเดินข้ามไม่ใช่เถาวัลยธ์ รรมดา หากแตเ่ ป็นเครอื เขาหลง ไอแ้ ก้วหนั หลงั กลับทันที ไม่ใช่ทอดทิ้งเพื่อน แต่สำนึกรู้ได้ในทันทีนั้นเลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ใหญ่โตเกนิ กำลังสตปิ ญั ญาและความสามารถของเขาในช่วงเวลาน้ัน ไอแ้ กว้ รบี กลบั บา้ นบอกกลา่ วเรอ่ื งราวทต่ี นพบเหน็ ตอ่ แกบ่ า้ นหรอื

ผ้เู ฒ่าเล่าไว้ 11 ผใู้ หญ่บา้ น แกบ่ า้ นตเี กราะประชมุ ทนั ที ไอแ้ ก้วแจ้งเรอ่ื งราวต่อที่ประชุม อกี คร้ัง แกบ่ ้านถามความเห็นลกู บ้าน มมี ติออกมาวา่ ต้องรีบตาม หาไม่ ไอ้คำอาจถงึ ตาย “ใครจะไปกับกบู า้ ง” แก่บ้านถาม “ขา้ ไป” “ข้าอีกคน” “ขา้ อีกคน” มีหนุ่มลูกบ้านอาสาติดตามสามคน รวมไอ้แก้วด้วยเป็นสี่ รวม พอ่ หนานผู้ฉมังขลังเรอ่ื งคาถาอาคมเปน็ หา้ รวมแกบ่ า้ นอกี คนก็เป็นหก แก่บ้านนดั แนะทง้ั หลายวา่ ให้กลับเรอื นกนิ ข้าว จดั เตรียมข้าวของเครอื่ ง ใช้จำเปน็ ทั้งหลาย พอบ่ายก็เขา้ ดงทนั ที “มงึ แน่ใจนะว่ามันขา้ มเครือเขาเสน้ น้อยเข้าไปจริงๆ” “ขา้ สาบานได้ แก่บ้าน” “ไมใ่ ชม่ ึงเอาปืนสอ่ งกลางหลังมนั แล้วลากเอาศพไปโยนลงเหว” “พุทโธ่ แก่บ้าน ข้าทำอยา่ งนน้ั ขา้ ก็ไม่ใชค่ นแล้ว” แก่บ้านพรานแกร่ง ผู้เจนจัดทั้งช่องทางการดำรงชีพและการ ปกครองไพร่ฟ้าหน้าเหลืองทั้งหลายเดินนำหน้า มีพ่อหนานผู้เคร่งครัด และเคร่งขรึมเดินถัดมา คนหนุ่มวัยแกร่งกล้าอีกสี่ห้าคนตามหลัง ไอ้แก้วอยใู่ นกลุ่มนี้ ไอ้แก้วกับไอ้คำเป็นเพื่อนกันตลอดมา หนุ่มทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะ ถกเถียงหรือขัดแย้งกัน รักใคร่กลมเกลียวกันดี ไปไหนไปด้วยกัน เทย่ี วดว้ ยกนั กนิ ดว้ ยกนั เมาดว้ ยกนั เขา้ ปา่ เขา้ หว้ ยดว้ ยกนั มาโดยตลอด จงึ เปน็ ไปไมไ่ ดท้ ไ่ี อแ้ กว้ จะเอาปนื สอ่ งหลงั เพอ่ื นแลว้ ลากศพไปทง้ิ ลงเหวอ ยา่ งทแ่ี กบ่ ้านพดู

12 ผเู้ ฒ่าเล่าไว้ คนทั้งหมดติดตามไปโดยเร่งรีบ บ้างมีปืน บ้างมีหน้าไม้ บ้างมี หอกดาบ แลว้ แต่จะถนัด ส่วนมากจะมีปนื แตเ่ ปน็ ปืนแก๊ปโบรำ่ โบราณ ไมใ่ ชป่ นื ผลติ จากเมอื งนอกของฝรง่ั องั กฤษทไ่ี หน แตเ่ ปน็ ฝมี อื ชา่ งพน้ื เมอื ง ชาวลำปางนเ่ี อง เมอื งลำปางสมยั นน้ั มชี อ่ื เรอ่ื งการทำปนื ทางการบา้ นเมอื ง เรียกวา่ ปืนเถอื่ น คือปนื ท่ีไม่ถูกตอ้ งตามกฎหมาย แตช่ าวปา่ ชาวดงไม่มี ใครสนใจ ขอแต่เป็นปืนทีย่ ิงได้ ราคาไมแ่ พง เขาก็พอใจแล้ว ชายตา่ งวยั หกคนเดนิ ตามทางนอ้ ยทท่ี อดหายดายเดยี วกลางปา่ ลกึ สมยั น้นั ป่าดงพงทบึ ยังหนาแน่น ยงั ไมถ่ ูกถากถางเหมอื นพระเณรโกน ผมอยา่ งสมยั น้ี กระนน้ั แมจ้ ะเกดิ กบั ปา่ กบั ดง คนุ้ เคยกบั พฤกษพ์ งดงกวา้ ง มาช่วั ชีวติ แตบ่ า่ ยวันน้นั ทกุ คนต่างพรงึ พรน่ั หวนั่ ไหว เหมือนว่าปา่ กวา้ ง มันกว้างขึน้ เหมือนว่าป่าทึบมันทึบหนกั เหมือนว่าไม้ใหญ่ต่างใหญ่โต ลุกยืนข่มหัว เหมือนเห็นตัวที่ไม่เคยเห็นแอบบังลับลี้อยู่ตามพุ่มพง ดงทึบทุกคนเร่งรีบ แต่หลายคนกระสับกระส่าย บางคนอ้างนั่นอ้างนี่ คดิ จะกลบั “กวู า่ ไหวเ้ จา้ ทก่ี นั กอ่ นเทอะ” พอ่ หนานพดู “ละออ่ น สเู ขานง่ั ลง” ตะวันบ่าย แสงแดดลอดลงรำไร ปา่ ใหญ่ไพรกวา้ งกลนื แสงทำให ้ ไม่ร้อน หลังคาใบไม้ซับซ้อนกรองแสงให้อ่อนลง เงียบเชียบ เงียบงัน สงบสงัดจนได้ยินเสียงนกจกไม้เอาปากเจาะไม้ดังอยู่จกๆ พ่อหนานผู้ เคร่งขรึม และเคร่งครัดต่อข้อยึดถือปฏิบัติเกี่ยวกับคาถาอาคมเอา ขา้ วตอกดอกไมแ้ ละเหลา้ ยาปลาปง้ิ ออกมาจากยา่ ม จดุ เทยี น จดุ ธปู เทเหลา้ ใสก่ ระทงใบไม้ เอาข้าวปลาใส่กระทงใบไม้แลว้ นั่งยองๆ พนมมือ “สาธ.ุ ..โอกาสะ” พอ่ หนานกลา่ วรำ่ เปน็ คำบวงรวงขอขมาคารวะเจา้ ทเ่ี จา้ แดน เจา้ ปา่ เจา้ เขา เจ้าเถอื่ นถำ้ คูหาและผปี ่าผดี งรอ่ นเรไ่ ปไหนไมไ่ ด้ทง้ั หลาย ทุกคน

ผ้เู ฒา่ เล่าไว้ 13 นงั่ ยองๆ ยอมือสิบน้ิว ไมพ่ ูดไมค่ ยุ กัน ต้งั ใจขอขมาคารวะเทวดาอารกั ษ ์ ทง้ั หลายเปน็ พเิ ศษ อยา่ ใหเ้ หตกุ ารณท์ ไ่ี อค้ ำประสบมาบงั เกดิ กบั ตน “เอาละ่ ไมม่ อี ะไรแล้ว” ธปู หมดดอก พอ่ หนานสะบดั ผา้ ขาวมา้ พาดบา่ แลว้ ลกุ ขน้ึ แกบ่ า้ น ยิงปืนขึ้นนัดหนึ่ง ไม่ใช่ยิงข่มขู่ แต่เป็นการยิงบูชาเจ้าป่าเจ้าเขาตาม จารีตประเพณีที่พวกเขาเคารพนับถือ คนกล้าทั้งหลายหยิบหอกดาบ หยิบปนื ผาหน้าไม้อาวุธคู่มอื ปา่ เหมอื นจะเปิด แสงแดดจดั จา้ ไมใ้ หญ่ บงั ตาเหมอื นขยบั ออกห่าง เกดิ เปน็ ชอ่ งวา่ งมากขึ้นกวา่ เดิม “ตรงไหน ไอ้แก้ว ที่มึงเห็นไอ้คำหายวับกบั ตา” “เลยไมซ้ ้อใหญ่คหู่ น่ึงไปทางเหนอื มันข้ึนคกู่ นั ซ้ายต้นขวาตน้ ” “มึงนำทาง” ไอ้แก้วอิดเอื้อน มันคงหวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อเหตุการณ์ที่ไอ้คำ สูญสลายกลายเป็นอากาศไปต่อหน้าตอ่ ตา แก่บา้ นตบบ่ามัน พ่อหนาน ก็ลูบหลังเหมือนปลอบโยนแกมให้กำลังใจ ไอ้แก้วขยับย่าม ในย่ามม ี มีดด้ามงาที่สืบกันมาแต่ตาแต่ทวด ลดปืนจากไหล่ลงมาถือแล้วเดิน นำหน้า แก่บ้านตามไปติดๆ พ่อหนานตามมาห่างๆ รั้งท้ายคือลูก บ้านท้งั สาม สลัวมัวมดื แดดลดลงฮวบฮาบเหมอื นเมฆมดื เข้าบงั แดด ซอ้ ๆ แซๆ้ แกกากเู่ กรน่ิ เหมอื นผสี างสง่ ขา่ วบอกกลา่ วแกก่ นั ลมไม่ พดั ยอดไมต้ ง้ั นง่ิ เลยไมซ้ อ้ คอู่ อกไป ไอแ้ กว้ หยดุ เทา้ แลว้ เอามอื ชอ้ี อกไป “ตรงน้นั แกบ่ ้าน ไอค้ ำเดินข้ามเครือเขาหลงแลว้ หายไป” “มไี หน เครือเขาหลง กไู มเ่ หน็ ม”ีิ “ตะเช้ามนั มีอยู่ เส้นเท่าเชือกอู่ มันทอดข้ามทาง พอไอ้คำก้าว ข้ามกห็ ายไปเลย”

14 ผู้เฒ่าเล่าไว้ “กจู ะเข้าไปด”ู “ระวังนะ แกบ่ ้าน “พอ่ หนานกล่าวตงิ “เอาอันนีไ้ ปดว้ ย” “อะไร” “เขีย้ วเสือไฟ ขม่ ขดึ ขวงอาเพศอาถรรพณ์ใดๆ ทงั้ หมด” แก่บ้านหรือผู้นำหมู่บ้านรับเอาเขี้ยวเล็กๆ ดูบอบบางไม่น่าไว ้ วางใจอะไรมาถือ ขยบั จะก้าว แต่ไอแ้ กว้ กลับฉดุ ชายเสื้อไว้ “เด๋ยี วก่อน แก่บ้าน” “อะไรอกี วะ ไอ้นิี่ “แกบ่ า้ นอย่าเข้าไป ขา้ ดกี ว่า” “ทำไมวะ” “เกิดแก่บ้านหายไปอีกคน จะยุ่งไปใหญ่” ไอ้แก้วเอามืออีกข้าง ล้วงย่าม สมั ผัสพบมีดดา้ มงาก็คอ่ ยอุ่นใจ “แตห่ ากขา้ หาย ไมเ่ ป็นไร” “ใจมึงถงึ กูยอมรบั ” แก่บ้านปลดมอื มนั ออกจากชายเสือ้ “แต ่ กไู มเ่ ปน็ ไร รบั รอง” หวั หนา้ ของคนทง้ั หมบู่ า้ นขยบั เทา้ หลายคนขยบั ตาม แดดสวา่ งขน้ึ มองเห็นเถาวัลยเ์ ส้นนอ้ ยทอดขวางทาง โคนอย่ฝู ง่ั ซ้าย ปลายอยู่ฝ่ังขวา สักห้าหกก้าวจะถึง พรานแกร่งแห่งบ้านดงเย็นก็ยกมือขึ้นเป็นเชิงสั่งให้ ทกุ คนหยดุ “กูจะก้าวข้าม” หันมาพูดกับหนุ่มลูกบ้านทั้งหลาย “หากกูข้าม แล้วหายไป พวกมงึ กลับเลย อย่าให้ใครมาตามอกี นี่เป็นคำสัง่ ของกู” เถาวัลย์เส้นน้อยคล้ายโตขึ้นอีก ดูเขียวเข้มขึ้น คลับคล้าย เคลื่อนไหว แก่บ้านสั่งแล้วก็หันหลังกลับ สูดลมหายใจลึกๆ หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว...ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ป่าใหญ่ไพรดำคล้าย จดจ้อง มองดู ผีร้ายพรายแรงทั้งหลายคล้ายสนใจใคร่รู้ สี่ก้าว ห้าก้าว...

ผู้เฒ่าเล่าไว้ 15 ไม่มีอะไรเกิดข้ึน นกจกไมย้ งั เอาปากเจาะไมส้ อดไซห้ าหนอนดงั อยจู่ กๆ ลกู บ้านดงเย็น ทง้ั หลายทำคอยืดคอยาวแต่ไม่กลา้ ก้าวตาม ห้าก้าว หกกา้ ว เทา้ แกบ่ ้านกำลงั จะก้าวขา้ ม ทนั ใดนน้ั เอง... “เครอื เขาหลงอะไรนม่ี จี ริงหรอื ตา” “หนวู า่ จริงไหม” “ถา้ มจี ริง เด๋ยี วนค้ี งสูญพนั ธไ์ุ ปแลว้ มั้ง ขนาดดอยเปน็ ลกู ๆ เขา ยังถางจนเกลย้ี งเลยตา” “ก็คงจะจริงอยา่ งหนูว่า ป่าหมด ทกุ อย่างหมดสน้ิ สิงสาราสัตว์ ใดๆ ไม่เหลือ ผีสางนางไม้ สิ่งลึกลับ ปรากฏการณ์ที่คนอธิบายไม่ได้ ไมเ่ หลอื เหลอื แต่ป่าคอนกรตี กับเสอื กรงุ เต็มกรงุ ” “เร่อื งเครอื เขาหลงทต่ี าเลา่ นี่ ตาเอามาจากไหน” “ตาเอามาจากหลายที่หลายแห่ง จากเรื่องที่ผู้เฒ่าเล่าไว้บ้าง จากเอกสารโบราณบ้าง ยังมีเครือเขาอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่าเครือละอ้าง หนูเคยได้ยินไหม” “เครอื ละอา้ ง ไม่เคยไดย้ นิ ” “เครือละอ้างกเ็ ป็นเครอื เขาลึกลับ ลึกลับพอๆ กบั เครือเขาหลง ลึกลับดำมืด พิลึกพิลั่นยิ่งกว่าเครือเขาหลงด้วยซ้ำ ครูบาขาวปีท่าน เขียนบันทึกไว้ในหนังสือชื่อปฐมมูลกัมมักฐานของท่านท่านว่า อยา่ งน้ี... ...เครือเขาละอา้ งนน้ั มนั มีตามในป่าดงหงใหญ่ มนั เลือนเครอื ไป ตามปลายไมใ้ หญ่ ตามดงใหญ่ เครือใดจกั เปน็ งนู ้ัน เถงิ ฤดใู บไมห้ ลน่ ใบ

16 ผ้เู ฒา่ เล่าไว้ มันหย่อนปลายเครือลงประมาณ ๑ ศอก ถ้าเถิงฤดูใบไม้ป่ง มันก็ป่ง เป็นเครอื ลงเป็นปล้อง ยาวประมาณ ๑ ศอกลำดับไป เถงิ เจด็ ปี มนั กป็ ง่ ลงไป แลปแี ลปล้อง ถ้าเถงิ เจ็ดปี มันไดเ้ จด็ ปลอ้ ง ถ้าไดเ้ จด็ ปล้องแลว้ ปล้องถ้วนเจ็ดนั้นก็ปุดตกเหนือหน้าแผ่นดิน ถ้าเราไปได้ปล้องตกดิน ในระหว่าง ๒ วนั ๓ วนั ๔ วนั นน้ั ชาตดิ ีแล ถ้ามกี บั ตัวเรางูกบ็ ่ฉก ถ้างูฉกผู้อื่นนั้น ฝนใส่หายทันที ถ้าล้ำเจ็ดวันไปแล้วเอาบ่ได้แล้ว เป็น งูจองละอ้างไปเลย นานๆ ไปก็ใหญ่เท่างูจองหลวงนั้นแล้ว ต่อไปนี้ อภิชัยขาวปีบ่กล่าวแล้วเพราะวิธีเดียวกันกับงูจองหลวงนั้นบ่แปลกไหน แปลกแต่งูจองหลวงเกิดด้วยฝักไข่ งูจองละอ้างเกิดด้วยเครือเขาละอ้าง เทา่ นั้น นอกนัน้ บแ่ ปลกไหน แบบงจู องละอา้ งจบนี.่ ..หนฟู งั รเู้ ร่ืองไหม” “ภาษาเกา่ จงั ตา รู้บ้างไมร่ ูบ้ า้ ง” “ครูบาขาวปีท่านเป็นคนรุ่นเก่า เก่าแก่ดั้งเดิมกว่าตามาก ท่าน เป็นชาวบา้ นแมเ่ ทย อำเภอลี้ จังหวดั ลำพนู เกิดเมอื่ ปี พ.ศ.๒๔๓๒ โนน่ ท่านมรณภาพเม่ือปี พ.ศ.๒๕๒๐...” “กอ่ นหนเู กิดต้งั สิบหา้ ปแี น่ะ ตา” “ข้อสำคัญ จนป่านนี้ศพของท่านยังไม่เน่า แห้งกรังไปเฉยๆ เหมือนท่อนไม”้ “ท่านมฤี ทธิ์หรอื ตา” “คนเขาวา่ อยา่ งนน้ั แตก่ ารทศ่ี พไมเ่ นา่ แหง้ กรงั ไปเฉยๆ มนั อธบิ าย ได้หลายอย่าง มาว่าถึงเรื่องเครือละอ้างกันต่อ ครูบาขาวปีท่านว่า มตี ามปา่ ดิบดงดำ เลือ้ ยไปตามยอดไม้ เครอื ใดทจี่ ะกลายเป็นงูนัน้ ถึง ช่วงที่ใบไม้หล่น เครือละอ้างจะหย่อนปลายเถาลงสักศอก ถึงช่วงที่ ใบไม้ผลิ มันก็แตกปล้องหย่อนลงมาอีกปล้อง เป็นอยู่อย่างนี้ราว

ผูเ้ ฒ่าเลา่ ไว้ 17 เจ็ดปี ถึงปีที่เจ็ด ก็มีเจ็ดปล้อง ปล้องที่เจ็ดจะหลุดตกลงดิน หากเรา บังเอิญไปพบในช่วงสามสี่วันนั้นจะกลายเป็นยาวิเศษ แก้พิษงูได้ ทุกชนิด แต่หากเลยเจ็ดวันไปแล้ว ปล้องที่หลุดตกจะกลายเป็นงู ชื่อว่างูจองละอ้าง ใหญ่โตไม่ยิ่งหย่อนกว่างูจองหลวง แล้วหนูรู้จักไหม งจู องหลวงอะไรนิี่ “เลา่ ต่อเหอะตา” “งจู องละอา้ งกบั งจู องหลวงมพี ษิ รา้ ยรนุ แรงไมแ่ ตกตา่ งกนั ตา่ งกนั แต่งูจองหลวงเกิดจากไข่ที่แม่งูไข่ไว้ แต่งูจองละอ้างเกิดจากเครือละอ้าง ทีเ่ ปน็ เครอื เขาลึกลับ เหมอื นเครอื เขาหลง” “แล้วแก่บ้านจะเปน็ อย่างไรละ่ ตา” “แก่บา้ นไหนล่ะ” “ก็แก่บ้านหมบู่ า้ นดงเย็น อำเภอปา่ แดด จงั หวดั เชียงรายท่ีกำลงั จะก้าวขา้ มเครือเขาหลง” “ออ๋ ....นึกวา่ ถามถงึ แก่บ้านหมู่บ้านเรา มันเปน็ อบต.ไปแลว้ ” อยู่มาถึงวันนั้น แก่บ้านดงเย็นอายุสามสิบแปด กำลังกล้า กำลังแกร่งเต็มที่ ผ่านพบเภทภัยผีสางมาพอสมควร แต่ถึงอย่างไร ขณะจะก้าวขา้ มเถาวัลยเ์ ส้นน้อยกย็ ังไมว่ ายจะพรน่ั พรงึ เท้าข้างหนึ่งกำลังจะก้าวข้ามอยู่แล้ว ทว่าทันใดนั้นเสียงปืนลั่น เปร้ยี งแกบ่ า้ นชกั เท้ากลับทันที “ใครทำปืนลั่นวะ” “ข้าเอง แก่บา้ น” ไอห้ นมุ่ คนหนง่ึ หนา้ ออ่ นๆ ของมนั กลายเปน็ หนา้ แหยๆ เหมอื น จะรอ้ งไห้

18 ผเู้ ฒ่าเล่าไว้ “กลบั กลับทนั ที กลับเดีย๋ วนี้ ขืนตามเขา้ ไป อันตราย” ไม่มีใครค้าน คำสั่งแก่บ้านแม้ไม่ใช่วาจาสิทธิ์แต่ทุกคนก็เชื่อฟัง และปฏิบัติตาม ทุกคนหันหลังกลับ ทุกคนต่างเป็นคนกล้า แต่ทุกคน ต่างก็มีความกลัว กลัวอำนาจลึกลับดำมืดบางอย่างที่พวกเขาอธิบาย ไมไ่ ด้ ทีค่ รอบคลุมปา่ ใหญไ่ พศาล ทค่ี รอบงำความคิดจิตใจของพวกเขา พวกเขาเชื่อว่าเจ้าที่เจ้าแดน เจ้าป่าเจ้าเขาท่านไม่ประสงค์จะให ้ พวกเขาตดิ ตามไอค้ ำเขา้ ไป ความคิดแบบนี้เหมือนคนขี้ขลาด แต่เราคงไม่อาจเอาความคิด จิตใจของคนยุคเราไปตัดสินคนรุ่นแปดสิบปีก่อนหน้าโน้นกาลเวลาที่ แตกต่างกัน สิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน การศึกษาเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ลว้ นมีผลตอ่ ความคดิ จติ ใจท้งั สิน้ พวกเขาไมใ่ ชค่ นขข้ี ลาดตาขาว แตเ่ ขามคี วามเชอ่ื ชดุ หนง่ึ ซง่ึ เราไมม่ ี นัน่ คอื ความเชอ่ื เร่อื งลางบอกเหตุ ลางทีม่ าบอกเหตวุ า่ ไม่สมควร จะกา้ วขา้ มเครอื เขาหลงคอื เสยี งปนื ทด่ี งั ขน้ึ หากเปน็ เรา เราอาจคดิ วา่ เปน็ เรื่องบังเอิญ แต่เราไม่ใช่เขา เขาไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่เป็น สิง่ ท่ีเจา้ ท่เี จ้าแดนท่านดลใจใหไ้ อห้ น่มุ อ่อนทำปนื ลัน่ ทกุ คนเดนิ กลับ แก่บ้านอยหู่ ลังรัง้ ท้ายที่สดุ ก้าวเดนิ ช้าๆ ขบคดิ เครง่ เครยี ด ขา้ งหนา้ แกมคี นนำหนา้ อยสู่ ค่ี นคอื พอ่ หนานกบั หนมุ่ ลกู บา้ น ทัง้ สาม มาด้วยกนั หกคนแทๆ้ แกเองร้ังทา้ ยสดุ คนนำหน้าควรมีห้าคน แตไ่ ฉนถงึ เหลอื แคส่ คี่ น แก่บา้ นเฉลียวใจอะไรบางอย่าง หนั หลงั กลบั ไปแล้วใจหายวาบ ไอ้แก้ว...ไอ้คนที่กลับไปส่งข่าวเรื่องเครือเขาหลง ไอ้คนที่นำทาง มาเพ่ือตามหาไอค้ ำ มนั กำลงั กา้ วข้ามเครือเขาหลงเข้าไป

ผเู้ ฒ่าเลา่ ไว้ 19 “ไอ้แก้ว อย่านะมึง” เสยี งรอ้ งหา้ มของแกบ่ า้ นเอด็ องึ ทกุ คนหนั หลงั กลบั ทกุ คนเหน็ กบั ตา ไอ้แก้วหายวับไปตอ่ หนา้ ตอ่ ตา “ไอ้แก้วขา้ มเครอื เขาหลงเข้าไปทำไมล่ะตา” “มันตามไปชว่ ยไอ้คำเพอื่ นมนั ” “ทำไมไม่ตามแตแ่ รก” “แต่แรกมันไมม่ น่ั ใจ” “ทำไมตอนแรกไม่มนั่ ใจ” “เพราะมันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมา มันจึงไม่ได้เอามีดด้ามงาของทวดมันติดตัวไปด้วย เมื่อกลับมาแจ้งเรื่อง ต่อแก่บ้าน มันกลับบ้านไปเอามีดด้ามงา มีดด้ามงาคือสุดยอดเครื่อง รางของขลังทม่ี นั มีอยู่ มนั รักเพ่อื น มันหว่ งเพอื่ น เม่อื แกบ่ ้านส่งั ใหท้ ุก คนเลิกตามเพราะมีลางบอกเหตุ มันเองก็ไม่อยากขัดคำสั่งของแก่บ้าน แต่ดว้ ยความรักที่มนั มตี ่อเพ่ือน ทำใหม้ ันกลา้ ขดั คำสั่งของแก่บ้าน น้ำใจ ไอแ้ ก้วชา่ งนา่ สรรเสรญิ นัก” “แลว้ มันตามไปพบไอค้ ำไหม ตา” “ตาจะเลา่ ให้ฟงั ” กว่าจะกลับถึงหมู่บ้านก็เย็นย่ำแล้ว พ่อไอ้แก้ว แม่ไอ้คำรีบมา สบื ข่าวเอาความ ตงั้ แต่แก่บ้านนงั่ บา้ นก้นไม่ทันอนุ่ ดว้ ยซ้ำ แกบอกกล่าว เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น ไม่มีใครคาดโทษ ไม่มีใครตำหนิประณาม ไม่ใช่เพราะกลัวเกรงอำนาจอาชญาแก่บ้าน แต่เป็นเพราะต่างยอมรับ ในการตดั สนิ ใจของแกวา่ ถกู ตอ้ งเหมาะสมแล้ว

20 ผเู้ ฒา่ เลา่ ไว้ เปน็ ใคร ก็ไมม่ ใี ครกลา้ ตดิ ตามเขา้ ไป คนคับคัง่ เต็มบา้ นจนชานเรอื นแทบไม่มที ่ีจะอยู่ ครบู าขนึ้ มาทาง บนั ไดหน้า ชาวบ้านไหวส้ า วนั ทากราบนบ แก่บา้ นนมิ นตค์ รบู านงั่ ต่ัง แทนตน ตนลดลงนั่งพื้นชานระดับเดียวกับลูกบ้านทั้งหลาย ครูบารับรู้ เรื่องราวแต่เบื้องต้น พอมารู้ว่าไอ้แก้วกล้าก้าวข้ามเครือเขาหลงเข้าไป อกี คนทา่ นก็ทอดถอนใจ “ไอ้สองคนนี้เป็นเสี่ยวฮักเสี่ยวแพงกันเกิดมาค้ำบุญกัน วันหนึ่ง มนั จะพากันกลบั มา เชอื่ ครบู าเทอะ” “มันสองคนเป็นเสี่ยวฮักเสี่ยวแพงกัน แต่ข้าเองเป็นพี่ไอ้คำมัน” หนานอิ่น พี่ชายของไอ้คำยกมือไหว้ครูบา “เสียดายข้าไม่ทันรู้เรื่อง ไปชว่ ยเสย่ี วบา้ นใตต้ ามควายเสยี กอ่ น ไวพ้ รงุ่ นเ้ี ถอะ ขา้ จะตามหานอ้ งขา้ กับเสยี่ วมนั เอง แกบ่ ้าน”

ผู้เฒ่าเลา่ ไว้ 21 “มึงจะตามอย่างใด” ครบู าถาม “ขา้ จะข้ามเครือเขาหลงเขา้ ไป” “วนั พรุง่ น้ีมึงไป ไมม่ ีเครือเขาหลงใหม้ ึงข้ามอีกแลว้ ” “ทำไม ครูบา” “เครอื เขาหลงไมเ่ คยอยขู่ า้ มวนั งอกออกมาวนั เดยี วกห็ าย จะงอก ออกมาอีกเมื่อไรไม่รู้ จะงอกที่ใด ตางไหน ไม่มีใครรู้ มีแต่คนที่บาป เคราะหพ์ าเปน็ เทา่ นน้ั ถงึ จะประสบพบมนั รอ้ ยคนขา้ มไปแลว้ เกา้ สบิ คน ตาย สิบคนอาจรอดคืนมาแต่กลายเป็นผีบา้ ผีวอ้ ละเมอเพอ้ คลัง่ จบั แกน่ จบั สารอันใดไม่ได้ แต่ไอแ้ ก้วไอ้คำเขาเปน็ เสย่ี วฮักเสยี่ วแพงกัน น้ำใจเขา ถกั เกลียวเหนยี วแนน่ เขาจะช่วยเหลือเก้ือกลู กัน จะอยรู่ อดปลอดภัย” “แล้วเมอื่ ไรลกู ข้าจะกลบั มา ครบู า” “อันน้คี รูบากบ็ ่รู้แลว้ ” แม้ครูบาเจ้าวัด ผู้เป็นทเี่ คารพนบั ถือของคนทง้ั หมู่บา้ นจะกล่าว ถอ้ ยคำรบั รองหนกั แนน่ ถงึ ขนาดนน้ั แตพ่ อ่ แมข่ องไอแ้ กว้ ไอค้ ำกย็ งั อดทจ่ี ะ หว่ งไมไ่ ด้ จติ ใจของคนเปน็ พอ่ เปน็ แม่ มแี ตพ่ อ่ แมเ่ ทา่ นน้ั ทร่ี ู้ คนไมม่ ลี กู จะ ไม่มีวันรู้สึก ไม่มีวันเข้าใจลึกซึ้ง ความรักของพ่อแม่เป็นเรื่องของความ รสู้ กึ อยเู่ หนอื เหตผุ ล อยเู่ หนอื ความคดิ แมล้ กู จะเปน็ โจรหา้ รอ้ ย หกรอ้ ย หรือโจรเจ็ดร้อย แปดร้อยก็ตาม คนอาจเกลียดทั้งเมือง แต่พ่อแม ่ ก็ยงั รักลกู ความรกั ของพอ่ แม่ กว้างกว่าฟ้า หนกั กว่าแผน่ ดนิ คืนนั้นสี่เฒ่าสองเรือนนอนไม่หลับ หลับตาลงครั้งใดก็เหมือนจะ เหน็ ลูกถกู ผสี างนางร้าย รุกรมุ คมุ เหง เหมือนเหน็ ลกู ไปตกบว่ งงูเหลือม ถกู งเู หลอื มรดั รา่ งจนกระดกู หกั กรอบหกั แกรบ เหมอื นจะเหน็ หมาปา่ หมา

22 ผู้เฒ่าเลา่ ไว้ ในนับรอ้ ยไล่อ้อม ล้อมแวดจะกดั กินลกู บางทผี ลอ็ ยหลับลงไปแลว้ แต ่ กลบั พรวดพราดสะด้งุ ตืน่ ดว้ ยไดย้ นิ เสียงแวว่ วา่ ลกู ขอความชว่ ยเหลอื คืนหนึ่งผ่านไป สองคืนผ่านไป พอจะทำใจยอมรับได้แต่มันก ็ ไม่สนิทใจนัก ยังหลับนอน ไม่อิ่มไม่เต็ม ยังสะดุ้งฟุ้งเฟือนฝันร้าย อยู่มาคืนหนึ่ง นางกองคำแม่ของไอ้แก้วก็ฝันหาลูก ฝันว่า ไอ้แก้วมี แต่บาดแผลเต็มตัวมาร้องเรียกหา เรียกว่าแม่เอ๋ยแม่ เปิดประตูแก่ข้า ขา้ กลับเรือนมาแลว้ นางตน่ื กลางฝนั ตนื่ มาร้องไห้ ผวั นางตน่ื ตาม ตเี หลก็ ไฟเชยี ะๆ เขา้ จอ่ โคม ถามวา่ สรู อ้ งไหท้ ำไม “ขา้ ฝันหาลกู ” “หลับนอนเถอะ หยุดไห้เทอะ รุ่งเช้านึ่งข้าวเป่าไฟ สูไปทาน ขันข้าวหาลูกเสีย” “สวู า่ ไอแ้ ก้วลกู เราตายไปแล้วหรือ” “ข้าก็หวังว่ามันยังไม่ตาย แต่ทานไปเทอะ บุญศีลบุญธรรม บุญพระเจ้าพระธรรมหอ่ หุ้มคมุ้ ครอง วันหนึ่งมันจะกลับมา” “กลบั มาเทอะลกู เอ๋ย ถงึ จะเป็นผบี า้ ผวี ้อ พูดจาเลอะเทอะไม่เปน็ คำคน แตล่ ูกก็ยงั เปน็ ลูก เป็นแกว้ ตาแก่นใจของแม่” “แม.่ ..เปดิ ประต”ู มีเสียงแทรกซ้อน นางกองคำไม่แน่ใจ นางเงี่ยหูหา เงียบหาย ยิ่งเงีย่ หาก็ยิง่ เงยี บหาย “สไู ด้ยินอย่างข้าไหม” นางถามผวั “ข้าไดย้ นิ เสยี งลูก” “ขา้ ไม่แน่ใจ” “แม.่ ..ข้ากลบั มาแล้ว เปิดประตแู ก่ขา้ แม่เอย๋ ” “ลกู ขา้ แมน่ แลว้ ลูกข้าใชแ่ น่ สูเปดิ ประตู ข้าจะไปหาลกู ข้า”

ผู้เฒ่าเล่าไว้ 23 “ระวังเนอ้ สเู อย๋ จะเป็นผปี า่ ปลอมมา” นางไม่ฟังเสียง นางไม่ฟังอันใดแล้ว นางลุกแล่นไปถอดดาล ขดั ประตู ดกึ ดำ่ คำ่ คนื ผหี ลบั คนนอน ดาวคอ่ นไก่ขนั ไปทัว่ หมบู่ ้าน นาง ส่องไฟหาลกู เรียกวา่ ลูกเอ๋ยแก้วกลางอกแม่เอย ลกู อยู่ไหน ลูกมาหา แมแ่ ล้ว ไยไมอ่ อกมา “ขน้ึ เรือนเทอะส”ู ผัวนางลบู ผมลูบเผา้ ลบู หลงั ลบู ไหล่ปลอบโยน “หูสแู ว่ว ไม่แวว่ แต่สู หูข้าก็แว่วว่าไอ้แกว้ มาเรียกหาแม”่ “พอ่ แม่...ข้ามาแลว้ ” ร่างหนึ่งคืบคลานเข้ามา ถลอกปอกเปิก เนื้อหนังเหวอะหวะ เหงอื่ ไหลไคลยอ้ ย เลอื ดโทรมไปทัง้ ตัว สองผวั เมียแล่นไปหาลูก อมุ้ หอบ กับอก เหมือนกลวั แกว้ กลางอกจะตกจากมอื “แก้วเอ๋ย ไอ้แกว้ ลกู แม่” “ข้ากลบั มาแล้ว เสี่ยวขา้ กก็ ลบั มาแลว้ พอ่ กบั แม่ เอาข้าขนึ้ เรอื น ข้ากลวั ” สองผัวเมียหลั่งน้ำไห้รักลูก สงสารและเวทนาอาดูร ก้อนขม มันทั่งขึ้นคอจนคอขมสองผัวเมียช่วยกันประคองลูกขึ้นเรือน ผัวเอา ผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าตาเนื้อตัวลูก เมียเอาข้าวปั้นกล้วยหน่วยมารับ ขวัญลูก ไอ้แก้วเล่าว่าติดตามเสี่ยวไปถึงสามปี ผ่านหนาวผ่านร้อน ผ่านทุกข์ทรมาน ร้อยแปด ไอ้คำถูกล่ามโซ่ติดหลักตากแดด ตากฝน ผอมผ่ายน่ายเนื้อจนเนื้อไม่มีจะติดร่าง ด้วยอานุภาพมีด ด้ามงาของผีปู่ผีทวดอันศักดิ์สิทธิ์ ไอ้แก้วแก้ไขเอาเพื่อนออกมาได้ ทั้งสองกระเซอะกระเซิงหนี ชาวผีแมนอันอยู่เมืองนั้นไล่ฆ่าไล่ฟัน แตก่ ห็ ลดุ รอดออกมาได้

24 ผ้เู ฒ่าเลา่ ไว้ “ท้งั คู่ข้ามเครอื เขาหลงออกมาใชไ่ หมตา” “เร่ืองเลา่ ไม่ได้เล่าไว”้ “แลว้ ไงอกี ตา” “ไอแ้ กว้ ไอค้ ำรกั ษาตวั อยอู่ กี รว่ มปถี งึ จะคนื เปน็ ผเู้ ปน็ คนเหมอื นเกา่ ผูเ้ ฒ่าเลา่ ไว้ตาเลา่ สบื มา เขาวา่ นบั แต่กลับคืนมา ทง้ั คู่ก็พูดจาเลอะเลอื น ละเมอเพ้อพกถงึ นางแกว้ งามชา้ ง กับนางผมหอม ไอแ้ ก้วไอค้ ำยนื ยันว่า ผา่ นวนั คนื รอ้ นหนาวถงึ สามปี แตค่ นทบ่ี า้ นดงลกึ วา่ กนิ เวลาเพยี งสามวนั เท่านั้นเอง เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อแปดสิบปีผ่านมาแล้ว ตายังไม่เกิดเลย เป็นเรื่องราวสืบมาของเสี่ยวฮักเสี่ยวแพงสองคนกับเครือเขาหลง หนรู ไู้ หม เร่อื งเครอื เขาหลงน่ี ครูบาขาวปที ่านสอนไว้วา่ อย่างไร” ตาไม่บอก หนจู ะรไู้ ดไ้ ง ตานี่ิ “ทา่ นว่า... ...หลงปา่ เมอ่ื วนั เมอ่ื คนื แกง้ า่ ยเพราะมที างวนั ตกวนั ออก ทางใต ้ ทางเหนอื ทางลมุ่ ทางบน ระวงั ทจ่ี กั หลงอกหลงใจแกไ้ ขยาก เพราะบม่ ี ทางวนั ตกวนั ออก ทางเหนอื ทางใต้ ทางลมุ่ ทางบน ถา้ ไดห้ ลงอกหลงใจ ไปแล้วจักหลงจนตาย...

ผเู้ ฒ่าเลา่ ไว้ 25 สอง คนดผี ีกลวั

26 ผู้เฒา่ เล่าไว้

ผูเ้ ฒ่าเลา่ ไว้ 27 คนดีผีกลวั ผีเสื้อเมืองตาเหลืองเหมือนหมากส้าน ผีเสื้อบ้านช่างทักกินหมู กเ็ กิดในชมพทู วีปน้ีแล ผีปกกะโหล้งโพงดง ผีโพงลงท่า ผีฟ้าผ่านอนสะแคง ก็เกิดใน ชมพูทวปี นี้แล ผีหมากกวักหมากแกว ผีแปแหวแลผีด้ง ผีกะหล้งหมากพร้าว ก็เกดิ ในชมพูทวีปนแ้ี ล ผภี ม ผพี ราย ผซี ะวายลอ่ งทา่ ผฟี า้ ผา่ ตกชอง กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผตี ายโหงตายหา่ บม่ คี า่ มสี นิ มกั ทกั กนิ ชน้ิ ไก่ กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผคี วายผชี า้ ง ผกี ระด้างเจนิ เขิน อยูบ่ ่เมินก็ออกกเ็ กิดในชมพทู วีป น้ีแล ผศี ีลแปดศลี เกา้ ผปี เู่ ฒ่าหลงทางกเ็ กิดในชมพทู วปี น้แี ล

๒๘ ผ้เู ฒ่าเลา่ ไว้ ค่ำคืนมืดแล้ว ดาวดอกแก้วเรียงดวงสลอน กินข้าวอิ่มแล้ว ตาออกมานั่งรบั ลมทชี่ านเรือน มุกรินไดย้ นิ เสียงตาอ่านท่องงมุ ๆ งำๆ ก็ทักขึ้น “ตาบน่ อะไร” “ไมไ่ ดบ้ น่ แตต่ าอา่ นเร่อื งสารพดั ผีทคี่ รบู าขาวปีทา่ นบนั ทกึ ไว้” มกุ รนิ นั่งลง วัยสบิ หกสบิ เจด็ กำลงั สนใจเรอื่ งราวรอบตวั เด็กสาว ย่ืนมอื ขาวนวลมาบีบๆ นวดๆ เอาใจตา ชะโงกหนา้ มองดูสมดุ โบราณ ท่เี รยี กว่า “ปบ๊ั ” หรอื พบั ท่บี ันทึกไว้ด้วยอกั ษรโบราณเรียกวา่ ตัวเมือง “ตาอา่ นไดจ้ ริงๆ หรือน่ะ” “อ้าว” ตาหัวเราะ “อ่านไม่ได้ แล้วมันจะออกมาเป็นเรื่อง เป็นราวหรือ” “หนนู ึกว่าตาวา่ ไปอยา่ งนน้ั เอง” “อี่หนอ้ ย...” ตาลูบหวั หลานสาวดว้ ยเอ็นดูรักใคร่ “อนั นเี้ รยี กว่า ตัวเมอื ง ตวั อกั ษรของหมเู่ ฮาคนเมอื ง เรอื่ งราวข่าวสารสงู ค่ากวา่ เงนิ ทอง บนั ทกึ ไว้ในนที่ งั้ นั้น ใครอา่ นตวั เมอื งได้ จะมีโอกาสไดร้ ับร้เู รอื่ งราวทไ่ี มม่ ี บนั ทึกไว้ในอกั ษรไทย อย่างเรอ่ื งสารพดั ผี รบั รองไม่มีในหนงั สอื ไทย” “หนไู ดย้ นิ แตค่ ำวา่ ชมพๆู ชมพทู วปี คอื อะไรคะ ตา” ตาบอกว่าเบาๆ หน่อย ขยำแรงๆ อย่างนั้นระวังเนื้อแขนของ ตาจะเละ แล้วอธิบายว่าในความคิดของคนโบราณ ท่านแบ่งทวีปใน โลกนี้ออกเป็นสี่ทวีป ได้แก่ชมพูทวีปอยู่ทางทิศใต้ อุตรกุรุทวีปอยู่ทาง ทิศเหนือ บุพวิเทหทวีปอยู่ทางตะวันออก อมรโคยานทวีปอยู่ทาง ตะวนั ตก ทง้ั หมดทง้ั มวลนม้ี เี ขาพระสเุ มรเุ ปน็ แกนกลาง หรอื เปน็ ศนู ยก์ ลาง ของจกั รวาล ทวีปที่เราอาศัยอยูน่ ้ี คนโบราณทา่ นเรยี กว่าชมพูทวปี สว่ นทวปี

ผเู้ ฒา่ เล่าไว้ 29 อืน่ ๆ กเ็ ปน็ ทอี่ ยู่อาศยั ของคนกลมุ่ อ่ืน ในชมพทู วีปน้ีนอกจากจะเป็นที่ อยู่ของคน ยังเปน็ ทีอ่ ยู่ของสารพดั ผอี ีกด้วย “ทำไมผีเสือ้ เมอื งถึงตาเหลอื งเหมอื นหมากส้านละ่ ตา” “หมากส้านลูกมันโต โตกว่ากำปั้นของหนูเสียอีก ผีเสื้อเมือง ตามันเหลือง พวกตาเหลืองอย่างคนเป็นดีซ่านนี่คนโบราณท่านมองว่า ไม่ใช่สีตาของคนปรกติ แต่เป็นสีตาของผี ดังนั้นคนโบราณแต่ก่อน หากใครเป็นโรคดีซ่านแล้วตาเหลือง ท่านจะคิดว่ามีผีเข้ามาสิงในตัว จะต้องทำพิธีขับไล่ผีสางปัดรังควานแก่คนผู้นั้น แต่ท่านไม่ได้คิดว่า ผีเสื้อเมืองมาสิงหรอกนะ ที่จริงผีเสื้อเมืองเป็นผีที่ดี ไม่ทำร้ายใคร แตค่ รบู าขาวปที า่ นเปน็ พระ ทศั นะของทา่ นคอ่ นขา้ งตอ่ ตา้ นพวกเคารพผี ท่านเลยพูดว่าผีเสื้อเมืองตาเหลืองเหมือนหมากส้าน ผีเสื้อบ้านชอบ ทักกนิ ไกก่ ินหมูว่ากนั ตามความเปน็ จรงิ ผเี สอ้ื บ้านกเ็ ป็นผีที่ดเี หมือนกนั ผีเสื้อเมืองมีหน้าที่รักษาบ้านเมือง ผีเสื้อบ้านมีหน้าที่รักษาหมู่บ้าน จัดว่าเป็นผีดีมีบุญคุณต่อคน แต่ก็อาจมีบ้างที่มีผีเสื้อบ้านแหกคอก ทำรา้ ยคนใหป้ ่วยไขแ้ ล้วต้องบนด้วยไก่ดว้ ยหมู ทา่ นจงึ คอ่ นแคะวา่ ผเี ส้ือ บ้านชอบทกั กินไกก่ นิ หม”ู “ตาอ่านอีกทีซิ หนูอยากฟงั ” ฟ้าร้อง แว่วๆ คล้ายฝนจะตก กลิ่นดอกส้มโอหอมเย็นสดชื่น พอคำ่ ลง หย่อมยา่ นบา้ นเรือนละแวกน้กี เ็ รมิ่ เงียบกนั แล้ว เป็นบา้ นนอก ชนบท ไม่ใช่ในเมืองมีคนพลุกพล่าน ไฟฟ้ามีแล้ว โทรทัศน์มีแทบทุก หลงั คาเรอื น แตเ่ วลาเปดิ ทกุ คนจะเปดิ ไมด่ งั เปดิ พอไดย้ นิ ในบา้ นเทา่ นน้ั ไมเ่ ปิดขา้ มบ้านขา้ มเรอื นเพราะเกรงใจคนอื่น ตาอ่านเรื่องสารพัดผีที่เป็นทัศนะส่วนตัวของครูบาขาวปีอีกครั้ง คราวน้ีหลานสาวไม่ฟังเฉยๆ แต่ลกุ ไปเอาสมดุ บนั ทึกมาจด เธอเองชอบ

30 ผูเ้ ฒ่าเลา่ ไว้ ฟังเรื่องราวเก่าแก่จากตา ตาเป็นคนรู้มาก รู้ทั้งเรื่องราวสมัยใหม่และ เรือ่ งราวด้งั เดมิ ตาเป็นครูมาก่อน รับราชการเป็นครูประชาบาลเกือบสี่สิบป ี ปจั จบุ ันตาอายไุ ด้หกสิบเจด็ ปแี ล้ว พ้นมาจากหน้าท่ีการงาน ตากค็ ้นคว้า จรงิ จงั เรื่องเอกสารโบราณทตี่ าสะสมไว้มากมาย ตาอ่านช้าๆ ไม่ได้อ่านใส่ทำนอง อ่านด้วยเสียงธรรมดาแต่เป็น สำนวนและสำเนียงพ้นื บา้ นแตต่ น้ อกี ครั้ง ผีเสื้อเมืองตาเหลืองเหมือนหมากส้าน ผีเสื้อบ้านช่างทักกินหมู ก็เกิดในชมพูทวีปนีแ้ ล ผีปกกะโหล้งโพงดง ผีโพงลงท่า ผีฟ้าผ่านอนสะแคง ก็เกิดใน ชมพทู วปี น้แี ล ผีหมากกวักหมากแกว ผีแปแหวแลผีด้ง ผีกะหล้งหมากพร้าว กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแี้ ล ผภี ม ผพี ราย ผซี ะวายลอ่ งทา่ ผฟี า้ ผา่ ตกชองกเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผตี ายโหงตายหา่ บม่ คี า่ มสี นิ มกั ทกั กนิ ชน้ิ ไก่ กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผคี วายผชี า้ ง ผกี ระดา้ งเจนิ เขนิ อยบู่ เ่ มนิ กอ็ อก กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผศี ีลแปดศลี เก้า ผปี ่เู ฒา่ หลงทางกเ็ กิดในชมพทู วีปน้ีแล ผีมกั กินมักทาน เถยี งกันดังเต็มวนั ผีมักทักผดิ คน ก็เกดิ ในก็เกดิ ในชมพทู วปี นีแ้ ล ผีปู่ผยี า่ ผมี กั วา่ บา่ วสาว กเ็ กดิ ในชมพทู วปี น้ีแล ผเี สือ้ วดั เสื้อบา้ น ผีข้ีหย้านกเ็ กิดในชมพทู วีปนแ้ี ล ผพี ่อผีแม่ ผีบร่ ูแ้ ว่ทางเทยี ว ก็เกิดในชมพทู วีปนแ้ี ล ผกี ะยักษ์ ผมี กั ลกั เขา้ คน ก็เกดิ ในชมพทู วปี นี้แล

ผูเ้ ฒ่าเลา่ ไว้ ๓๑ ผที งุ่ ผนี า ผปี ทู่ าขี้อู้ ก็เกดิ ในชมพูทวปี นแ้ี ล ผีอี่ค้อยตามอย ผีดงผีดอยแวดบ้อง ช่างล่องคองขี่ม้า ก็เกิดใน ชมพูทวปี น้แี ล ผหี มาผีแมว ผตี าแหลวแวดบา้ น ก็เกดิ ในชมพูทวีปนแี้ ล ผมี ่านผีเงยี้ ว ผีปา่ เฮย่ี วช่างหลอก ก็เกิดในชมพทู วปี นี้แล ผเี กนผีห่า ผชี ่างว่ากินควาย กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผีบุญผบี าป ผมี จิ ฉาทิฐิ ก็เกิดในชมพูทวปี นแ้ี ล ผเี ผตเปตวสิ ยั ผอี สรุ กาย กเ็ กดิ ในชมพทู วีปนแ้ี ล ผรี กั ษาขมุ เงนิ ขมุ คำ ผใี จดำเหมอื นหมน่ิ หมอ้ กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นแ้ี ล ผแี ม่นางถ้ำแลผสี องนางรกั ษาต้นไม้ กเ็ กิดในชมพทู วีปน้ีแล ผกี ะหลก ผเี สอ้ื บกเสอ้ื นำ้ เสื้อห้วย กเ็ กดิ ในชมพูทวปี น้แี ล ผีขายาวขา่ งหยา่ ง ผโี ปง่ ค่างดงดอย ก็เกดิ ในชมพูทวปี น้ีแล ผตี องเหลอื งอยดู่ งเนอ่ื งปา่ ไม้ เสาะหากนิ แตเ่ นอ้ื มาเปน็ อาหาร กเ็ กดิ ในชมพทู วปี นี้แล ผซี ะแค่ทา่ วแลว้ ลกุ บไ่ ด้ ถะแหลด็ หาเคา้ ไม้ มแี ข้งป้องเดยี วกเ็ กิด ในชมพูทวีปนีแ้ ล ผปี ู่แสะย่าแสะ ผลี ัวะผยี าง ก็เกดิ ในชมพทู วีปน้ีแล ผีเสี้ยงเหมี้ยง กินจนหมดเสี้ยงมาค่ำพญาเจ้าเมือง ก็เกิดใน ชมพูทวีปน้ีแล ผีปเู่ จ็ดยา่ เจ็ด กำคอเถาะเก็ดค่ำลวั ะ กเ็ กิดในชมพทู วีปนี้แล ผกี ะทำ้ ปลา เป็นพาลาคำ่ ตุ๊ ก็เกิดในชมพทู วีปน้แี ล ผมี ดผีหมอ ผีโหราลงเม่ือกเ็ กิดในชมพูทวีปนี้แล1 1เร่ืองผที ้งั หลายเหลา่ นี้ ใจเย็นๆ จะค่อยไขความคล่คี ลายในตอนหลัง

32 ผ้เู ฒ่าเลา่ ไว้ “ทำไมมากมายนกั นะตา” “อันนี้แหละหลาน คนโบราณถึงว่าทุกหย่อมหญ้าต้นไม้มีผี หลานคิดดู ตั้งแต่เริ่มมีคนมาจนถึงบัดนี้ มีคนเกิดมาแล้วสักกี่พันล้าน ก่หี มน่ื ลา้ นไม่รู้ เกดิ แลว้ ตายเกดิ แล้วตาย ตายทบั ตายถมกัน หากเอาคน ตายมานอนเรยี งกันไว้ ตาว่าแผน่ ดนิ ในโลกไมพ่ อรองรับหลงั ผที กุ ตัวดว้ ย ซำ้ คนโบราณถึงบอกวา่ หลับตาเอาเข็มท่มิ ดินลงไปเถอะ ไม่วา่ ตรงไหน แทงถกู ผีท้ังน้นั หนเู องละ่ ลูก กลวั ผไี หม” มกุ รนิ อำ้ อง้ึ จะวา่ ไมก่ ลวั กเ็ หมอื นโกหก จะรบั ตรงๆ กอ็ าย ตาเหน็ อาการอ้ำองึ้ ของหลานก็หวั เราะเบาๆ เอามอื มาลบู หัวเธอ “ตาสอนคาถาใหเ้ อาไหม” “คาถากนั ผีหรือ” “คาถาผกี ลวั ” “ว่าอย่างไร คาถาผีกลวั ของตา หนูจะเอาไปสอนเพ่ือนตอ่ ” “คนดผี กี ลัว ทำแตส่ งิ่ ที่ดี ผีจะกลัวเรา” ฟ้าแลบแวบๆ อยู่ในหลืบเมฆลมนิ่งแต่กลิ่นดอกส้มโอหอมแรง ชานเรือนยื่นออกมาจาก ตัวบ้าน เป็นชานโล่งไม่มีหลังคาแบบที่ เรียกว่าชานฝน บนพน้ื ใกล้กับราวชาน มกี ระถางดอกไม้ สองสามชนดิ ตาเป็นคนปลูก ยายเป็นคนรดนำ้ หลานสาวเปน็ คนเด็ดดม “ผีของตาที่เรียกว่า ผีหมากกวักหมากแกว ผีแปแหวแลผีด้ง ผกี ะหลง้ หมากพร้าวคืออะไรคะ ตา” “เป็นผีประเภทให้คำทำนายทายทัก ผีหมากกวักบางทีก็เรียกว่า ผีอี่กวัก หมากกวักหรืออี่กวักคือเครื่องมือในการปั่นด้ายน่ะลูก สาน เป็นลูกกลมทรงกระบอก มีตารอบตัว เอาเสียบกับคันหมุน มือหนึ่ง ปั่นด้ายให้เป็นเส้น อีกมือก็หมุนหมากกวักพันด้าย คนแต่ก่อนเชื่อว่า

ผูเ้ ฒา่ เล่าไว้ 33 หมากกวักมีผีรักษา คนเลยเชิญผีอี่กวัก...คนละอย่างกับนางกวักนะลูก ...เชิญผอี ก่ี วักมาลงเพือ่ ใหค้ ำทำนายทายทกั เปน็ การบำบัดเยียวยาทาง ใจอย่างหน่งึ ” “ส่วนหมากแกว ตาไม่แน่ใจ ออกเสียงว่าหมากแกว๋นะลูก ไม่ใช่หมากแก๋ว อาจเป็นคำสร้อยหรือคำต่อท้ายของหมากกวักก็ได้ ส่วนผีแปแหวออกเสียงว่าแป๋แว๋นะ ไม่ใช่แป๋แหว ผีแปแหวผีกระด้ง ผีกะหล้งหมากพร้าวหรือผกี ะลามะพร้าว ต่างเป็นผที ใี่ ชป้ ระโยชนใ์ นการ ทำนายทายทักทั้งนั้น คนโบราณท่านฉลาด ท่านสร้างผีขึ้นมา ท่าน ใช้ประโยชน์จากผีได้มากมาย ผีไม่ได้มีแต่ด้านร้าย ด้านดีของผีก็มี ไมว่ า่ อะไรก็ตามนะลูก มนั มีสองด้านเสมอ หนตู อ้ งมองทะลทุ ั้งสองดา้ น อยา่ เหน็ ดา้ นใดด้านหนง่ึ แตเ่ พยี งอย่างเดียว”

34 ผู้เฒ่าเล่าไว้ “ผีศลี แปดศีลเกา้ ผตี าเฒ่าหลงทางละ่ ตา หนูไม่เข้าใจ” เสียงคางคกร้องโขกๆ มาจากกลางทุ่ง บ้านเราอยู่ติดทุ่ง เป็น เรือนไม้ใต้ถุนสูงแบบที่เรียกว่าเรือนชั้นครึ่ง กล่าวคือครึ่งหนึ่งของใต้ ถุนถูกดัดแปลงให้เป็นห้องกินข้าวและห้องพักผ่อนของคนในครอบครัว ตอนนี้แม่กับยายคงดูละครทีวีด้วยกันอยู่ตรงนั้น ส่วนพ่อยังไม่กลับมา จากนอกบา้ น มกุ รินเองไม่ชอบดลู ะครทีวเี รื่องราวซำ้ ๆ ซากๆ จงึ มกั ไม่ คอ่ ยร่วมวงกบั แมแ่ ละยาย แต่ชอบมาขลุกกับตา ตามเี รอ่ื งราวน่ารู้กว่า ละครนำ้ เน่ามากมาย ตาปดิ “ปบ๊ั ” หรอื พบั หรอื สมดุ โบราณแบบพบั ทบกลบั ไปกลบั มา เล่มนั้นลง ตาอธิบายว่า ผีศีลแปดศีลเก้า ผีปู่เฒ่าหลงทางไม่ใช่ผีตาม ความหมายทั่วไป แต่หมายถึงคนยึดมั่นในศีลมากเกินไป ถือศีลเพื่อ จะอวดคนอื่น คนทั่วไปถือศีลห้าก็นับว่าดีแล้ว แต่บางคนถือเคร่งไป ถึงศลี แปด บางคนหนักกวา่ น้นั แกถอื ศีลแปดเหรอ แตช่ น้ั ถือศีลเก้านะ แท้ที่จริงศีลเก้าไม่มีอยู่จริงในข้อบัญญัติทางศาสนา อ้างขึ้นมาเพื่อจะ อวดโอห่ รอื ข่มคนอ่นื เทา่ นนั้ ผีศีลแปดศีลเก้า จงึ กลายเปน็ ผีตาเฒ่าหลง ทางคอื ปฏิบตั ิไมถ่ ูก ผีสารพัดผีมีเรื่องราวน่ารู้น่าศึกษาอีกมากมาย แต่หากเอามา เล่าโดยละเอียดทุกผีก็คงเลี่ยน มุกรินคิดว่าค่อยๆไขไปน่าจะดีกว่า แต่คงไขไดไ้ ม่หมดหรอก ตาเองยังยอมรบั เลยว่ารจู้ กั ไม่หมดทุกผี เสียงฟ้าร้องครางครืนอยู่ไกลๆ ใกล้ฤดูฝนเข้ามาแล้ว ฝนหัวป ี คงตกทบ่ี า้ นอน่ื อกี ไมก่ ว่ี นั กค็ งมาตกทบ่ี า้ นเรา ตาเอาพบั หรอื สมดุ บนั ทกึ โบราณเลม่ นน้ั วางไวใ้ กลต้ วั แลว้ นอนควำ่ กบั ชาน ใหห้ ลานสาวนวดบน้ั เอว ให้ พอตรงไหนถกู ใจ ตาก็จะพดู ว่าเออ...น่ะ เออ...น่ะ แลว้ ตาก็เอาพบั เล่มเดิมมาเปิดอีก อ่านออกเสียง ไม่อ่านในใจ ตาว่าคนโบราณอ่าน

ผเู้ ฒา่ เล่าไว้ 35 ออกเสียง ไม่อ่านในใจ ตาถูกฝึกจากทวดมาอย่างนี้จึงติดเป็นนิสัย อ่านในใจตาว่าเห็นแก่ตัวคือรู้คนเดียว แต่อ่านออกเสียงถือว่าเป็นบุญ เพราะได้ทำทานความรู้ใหแ้ กค่ นทีอ่ ่านหนงั สอื ไม่ออกอกี ด้วย ตาอา่ นเรอื่ งมูลผ ี หรือกำเนิดแห่งผที ้ังหลายดงั ต่อไปน้ี ยังมีพญาตนหนึ่งชื่อว่าพญาพรหมทัต ตั้งหื้อเสนาซ้ายอยู่เฝ้า เมือง พาเอาเสนาขวาเข้าไปเรียนถอดจิตกับเจ้าฤาษี พอเรียนจบแล้ว ก็ลองดูทิพมนต์เจ้าฤาษี พญาก็หื้อเสนาถอดจิตใส่กวางตายตัวหนึ่ง กวางตายตัวนั้นก็คืนมา เสนาก็ตาย พอเสนาตายไปน้อยหนึ่งแล้ว พญาก็ถอดเอาจิตเสนามาใส่เสนาตามเดิม เสนาก็คืนมากวางตัวนั้น กต็ ายไป ต่อมา ยังมีนกแขกเต้าตัวหนึ่งตกจากต้นไม้ลงมา เสนาก็หื้อ พญาถอดจิตใส่นกแขกเต้าตัวนั้น นกแขกเต้าตัวนั้นก็คืนมา เสนาก็ ถอดจิตตนใส่ร่างพญา แล้วก็เข้ามาเถิงเมือง แล้วก็ขึ้นไปสู่ปราสาท ขน้ึ ไปสปู่ ราสาทแลว้ แตเ่ ขา้ ไปในหอ้ งทน่ี อนบถ่ กู ทำอนั ใดกบ็ ถ่ กู ตามเดมิ นางผู้เป็นเมยี หนั อศั จรรย์ฉันนแี้ ล้ว กค็ ึดใจว่าเป็นผัวกูแท้ หน้าตารปู รา่ ง กเ็ ปน็ ผวั กแู ท้ ปากจากเ็ สยี งปากผวั กูแท้ แต่เขา้ หอ้ งที่นอนบถ่ ูก ทำอนั ใด ก็บ่ถูกตามเดมิ เถงิ วนั รุง่ เช้า จิตพญาที่เขา้ อย่กู ับนกแขกเต้า ก็พาเอานกแขกเตา้ กลับมาเมอื ง ก็มาจับยอดปราสาท ก็มาปากต้านเจรจาตา่ งๆ ตามเดมิ ทุกอัน นางผู้เปน็ เมยี ก็มีความสงสยั ก็ไปปรึกษาหารือกบั เสนาซา้ ย เสนาซ้ายรวู้ า่ นกแขกเตา้ มาปากตา้ นเจรจาอยู่ยอดปราสาท เสนา ซ้ายก็เข้าใจว่าจิตพญาอยู่กับนกแขกเต้า เสนาซ้ายก็ร้องเอานายช่างมา แปลงกรงอันหนึ่งด้วยทองคำ แล้วเรียกเอานกแขกเต้าลงมาเข้าอยู่ใน

36 ผ้เู ฒ่าเล่าไว้ กรง แล้วกถ็ ามนกแขกเต้า นกแขกเตา้ ก็บอกว่าจติ พญามาอยกู่ ับตวั ข้าน้ี จติ เสนาอยอู่ ยูก่ ับตวั พญา เสนาซ้ายรู้คำนกแขกเต้าบอกฉันนี้แล้ว เสนาซ้ายก็เข้าไปไหว้สา พญาว่าไปเรียนถอดจิตนั้นใช้ด้วยอย่างใด พญาก็ตอบว่าถ้ากวางตาย อยู่ที่นั่น เราถอดจิตใส่กวาง กวางก็คืนมาได้ เสนาก็ใช้คนไปเอากวาง ตายมาไวท้ ่นี ั้น พญากถ็ อดจติ ใส่กวางตาย กวางตายกค็ นื มา นกแขกเตา้ ก็ถอดจิตใส่ร่างพญา นกแขกเต้าก็ตายเลย จิตพญาก็เข้าอยู่ตัวพญา ตามเดิม จิตเสนาที่เข้ากวางตายนั้น จักเข้าพญาตามเดิมก็เข้าบ่ได้ เพราะจิตเดิมของพญาเข้าเสียก่อนแล้ว ก็เลยกลับไปหาเสนาที่เก่า เมื่อกลับมาหาเสนาเก่า เสนาเก่าก็เน่าไปเสียแล้ว ก็ลวดจ๋วงๆ จว้าๆ(ก็เลยเคว้งคว้าง) หาที่เข้าบ่ได้ ก็ลวดกลายเป็นผีนานาต่างๆ แพรพ่ รอก(ขยาย) ออกหลวงหลายจนบดั นี้แล มุกรินฟังเพลิน เธอเอาศอกกดคลึงบั้นเอวตาโดยออมแรงไว้ ไม่โถมแรงลงทั้งตัว ความรู้จากวิชาการสมัยใหม่ที่ได้รับจากโรงเรียน สอนให้เธอรู้ว่า ตรงตำแหน่งเอวทั้งสองข้างเป็นที่อยู่ของไตที่ซ่อนอยู ่ ขา้ งใน ไตของผสู้ งู อายทุ ำงานหนกั มานานจงึ ออ่ นแอ ไมค่ วรออกแรงกดทบั เพราะเท่ากบั เป็นการซ้ำเตมิ ไต เธอจงึ ไม่ออกแรงมากมายอะไรนกั “มีเร่อื งอะไรอกี ไหมตา” “เรอ่ื งผหี ลอก” “อ่านเลยตา อ่านเลย หนชู อบ” ถ้าเราเดินทางเมื่อคืนนั้น ถ้าเราหันเป็นตัวอยู่ทางหน้าก็ดี ได้ยินเสียงก็ดี อย่าหก(เผ่น) กลับคืนหลัง หื้อหกผดไปทางหน้า

ผู้เฒ่าเล่าไว้ 37 (ให้กระโจนพรวดไปขา้ งหน้า) จงึ พลนั พน้ ทเี่ ราหนั นัน้ บ่ใชต่ ัวผี เงามันบ่ดาย มันบ่เยียะสัง เราหกผ่านเงามันนั้นบ่รู้จักถูก เหมือนเราหกผ่านควันไฟ ที่เราหันนั้นบ่ใช่ตัวผี ตัวผีมันอยู่ทางหลังเรา เราไปตกกลาง เคิ่งมัน(เราอยู่ตรงกลางระหว่างผีกับเงา) ถ้าเราหกคืนหลังนั้นตัวผี จักหกไปก่อนเรา เงาที่เราหันนั้นจักติดตามตัวเรา ผีจักไล่ทวยหลังเรา เราจักหกบ่พ้น ถา้ เราหกไปโดนใสค่ นกด็ ี โดนใสง่ วั ใสค่ วายใสบ่ า้ นกด็ จี งึ จกั พลนั พน้ ถ้าบ่ไปโดนใส่สัง(หากไม่โดนอะไรเลย) ตายเป็นตายบ่พ้น ตัวผีก็จัก หกเรา เรากห็ กตัวผี เงาผีก็จกั ไลเ่ รา เราก็จักไลต่ ัวผเี ท่ากัน ดว้ ยแท้ เราเดนิ ไปเมอ่ื คนื ผกี เ็ ดนิ มาเมอ่ื คนื เหมอื นกนั ผกี ก็ ลวั คน คนกก็ ลวั ผเี ทา่ กนั ถา้ เราโดดไปทางหนา้ เรา ผกี โ็ ดดไปทางหนา้ ผเี ทา่ กนั จงึ พลนั พน้ ธรรมดาคนเรา ตวั มไี หนเงามหี น้ั (ตวั อยทู่ ไ่ี หน เงากอ็ ยตู่ รงนน้ั ) ธรรมดาผี ตัวมีที่หนึ่ง เงามีที่หนึ่ง เปรียบเหมือนแสงพระอาทิตย์ต้อง น้ำฮ่องหล่อ(ร่องระบายน้ำที่พื้นดินตรงกับชายคา) เงาขึ้นไปต้องพื้น ชายคา(เงาขนึ้ ไปปรากฏทีช่ ายคา) อย่างเดยี วกนั คนโบราณแต่กอ่ นวา่ เราไล่ผี บ่ใชผ่ ีไล่เรา เราไล่ผี แตเ่ ราบ่หันผ ี ถ้าเราเดินทางไปเมื่อคืน ได้ยินเสียงผีไห้ทางหน้าเรา ตัวผีอยู่ ทางหลังเรา ถ้าเราหกไปทางผีไห้นั้นพลันพ้น ด้วยแท้ผีก็กลัวเรา เราก็กลัวผีเท่ากัน ถ้าเราหกไปทางหน้าเรา ผีก็หกไปทางหน้าผีเท่ากัน จงึ จกั พลนั พน้ ถา้ เราหกพกิ คนื (กลบั คนื ) หลงั นน้ั ตวั ผกี จ็ กั หกไปกอ่ นเรา เราก็จกั หกทวยตัวผี เสียงไหก้ จ็ ักหกทวยเรา นานพ้น

38 ผู้เฒ่าเล่าไว้ ราวสามทุ่มแล้วตอนนั้น อากาศอบอ้าวเมื่อหัวค่ำผ่อนคลายลง พอ่ กลบั มาแล้ว เสียงลากประตเู หลก็ ปดิ ดังโกรงๆ อยทู่ างหนา้ บา้ น บา้ น เราปลูกลึกเข้ามาจากซอยราวสามสิบเมตร บางทีก็ได้ยินเสียงรถของ พ่อบางทีก็ไม่ได้ยิน พ่อเป็นคนอีกแบบ หลายอย่างแตกต่างไปจากตา พ่อเป็นคนสมัยใหม่ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เป็นพนักงาน ธนาคารอยู่ท่ีตลาดอำเภอ พ่ออา่ นเอกสารโบราณไม่ได้ แตพ่ อ่ ก็ไมเ่ คย ขัดข้อง ไม่เคยคัดค้านหรือเห็นต่างเห็นแย้งอะไรเลย หากลูกสาวคน เดียวของพ่อจะสืบต่อวชิ าการอ่านเอกสารโบราณจากตา ตาหาวหวอดๆ ตาเป็นคนแก่จึงมักง่วงเมื่อหัวค่ำ ตาลุกไปแล้ว จะหอบพับเล่มนั้นติดมือไปด้วยแต่มุกรินขอยืมดูก่อน เด็กสาวเข้าห้อง สว่ นตัว วางพับไวท้ ีห่ วั เตียงกอ่ นลงไปลา้ งหน้าแปรงฟนั แล้วแวะห้องพัก ผ่อนนิดหน่อย ไหว้ยายไหว้พ่อแล้วไหว้แม่ บอกกล่าวร่ำลาว่าหนูนอน กอ่ นนะ คางคกยังร้องโขกๆ คงคิดถึงน้ำเต็มแก่กระมังจึงร้องขอฝน กลิ่นดอกส้มโอหอมแล้วหายเป็นพักๆ เข้าห้องนอน เปิดพับของตา ยังอา่ นไม่ออก แต่วนั หนง่ึ เธอจะตอ้ งอ่านใหไ้ ด้ ปิดไฟ นอนลืมตาในความมืดนิดหน่อยแล้วค่อยปิดตา ถามใจ ตนวา่ กลวั ผีไหม ตอบได้ว่ากลัวเหมือนกัน แตไ่ ม่มากนัก “คนดีผกี ลวั ทำแต่สงิ่ ทีด่ ี ผจี ะกลัวเรา” คำพดู ของตายงั ดังอยใู่ นหู ดงั อยูใ่ นหัว และดังอยู่ในใจ

ผูเ้ ฒ่าเล่าไว้ 39 สาม ขารุทกะ

40 ผู้เฒา่ เล่าไว้

ผูเ้ ฒา่ เลา่ ไว้ 41 ขารุทกะ ฝนตกซกึ ๆ ตกหนกั ตกหนาเหมอื นฟา้ รว่ั ตกเลยวนั เลยคนื กำหนด จุดแบ่งระหว่างตอนเย็นกับหัวค่ำไม่ได้ แล้วก็เลยกลายเป็นมืดดำค่ำคืน ไปอยา่ งนัน้ ฝนตกหนักตกหนามาสองสามวันแล้ว ตกเหมือนน้ำจะท่วมโลก นำ้ ในลำเหมอื งเออ่ นองขน้ึ มาเรอ่ื ยๆ วนั แรกแคป่ รม่ิ ฝง่ั วนั ทส่ี องเจง่ิ นอง ถึงขอบหมู่บ้าน มุกรินตามยายไปเก็บผักหนอกที่ชายทุ่ง ใจหายวาบ เพราะมแี ต่นำ้ ขาวปลาบแผก่ วา้ งกลบทุ่งกลบนาไปท้ังหมด หาขอบหาริม ไม่เจอ พอวันทสี่ าม พวกเพื่อนท่ีโรงเรยี นก็มกี ารส่งข่าวบอกกลา่ วแก่กนั ทางมือถือและโทรศัพท์บ้านว่าโรงเรียนหยุด ใครไม่แน่ใจ ให้สอบถาม ทางไปทค่ี อลล์เซน็ เตอร์ของโรงเรียน เดก็ สาวเลยรสู้ กึ เซง็ จบั เจา่ อยกู่ บั บา้ น มองฟา้ มองฝนกไ็ มม่ ที ที า่ วา่ จะหยดุ งา่ ยๆ มองไม ่ เห็นดวงตะวันเลย ไปหลบเร้นเย็นใจอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ปล่อยให้เมฆหม่น มัวเทาเหมอื นขีเ้ ถ้าเป็นเจ้าฟา้ มองหาสีคราม หรอื สีนำ้ เงินสดใสอันเป็น สีทแี่ ทจ้ รงิ ของฟา้ ไม่พบ

42 ผู้เฒ่าเล่าไว้ “นำ้ จะขนึ้ ถงึ บา้ นเราไหมตา” “ไม่ถึง ถา้ นำ้ ขึ้นถงึ บ้านเรา ชาวริมปงิ ตายหมด” ชาวรมิ ปงิ หมายถงึ พน่ี อ้ งชาวบา้ นทอ่ี ยตู่ ดิ ตลง่ิ แมน่ ำ้ ปงิ ตาวา่ ตง้ั แต่ ตาเกิดมาเป็นตัวเป็นตน น้ำไม่เคยท่วมมาถึงหมู่บ้านของเรา แต่ว่าปีนี้ ไมแ่ น่ ชายขอบของหมบู่ า้ นทางดา้ นทอ่ี ยตู่ ดิ ทงุ่ นาหายไปเกอื บสองวาแลว้ หากตกติดต่อกันคืนนี้อีกทั้งคืน ตื่นเช้ามา มุกรินเปิดหน้าต่างออกไป อาจใจหายวาบ หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเหมือนนางแม่หม้ายที่ดอน แมห่ ม้าย เมือ่ ร่วมสองพนั ปกี อ่ นโนน้ หญิงหม้ายเมื่อสองพันปีก่อนมีนิวาสถานอยู่ที่ดอนแม่หม้าย นอกหม่บู า้ นนีเ่ อง เร่ืองราวเล่าสบื ต่อกันมา ผเู้ ฒ่าเลา่ วา่ ราวสองพนั ปกี ่อน หมบู่ า้ น ที่เราอยู่กับนาทุ่งกว้างและหนองน้ำกลางนาซึ่งชื่อว่าหนองสะเลียมเป็น แผน่ ดนิ เดยี วกนั ดอนแมห่ มา้ ยทก่ี ลายเปน็ เกาะอยกู่ ลางหนองนำ้ กย็ งั อยู่ บนบก ผู้แก่ผู้เฒ่าเล่าสืบกันมาว่าอยู่มาวันหนึ่ง เป็นเวลาหัวรุ่งยามเช้า ที่ฝนตกหนักทั้งคืน นางผลักปล่องลมหรือหน้าต่างออกไปก็ใจหายวาบ เพราะหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านจมหายไปหมด มีแต่น้ำเจิ่งนองขาวปลาบสุด ลกู หลู กู ตาทว่ั ทง้ั เมอื งเหลอื อยแู่ ตก่ ระทอ่ มของนางหลงั เดยี ว คนรนุ่ ตอ่ มา จึงเรียกบริเวณที่นางอยู่อาศัยว่าดอนแม่หม้าย เรียกสืบกันมาจน กระทงั่ ทุกวนั น้ี “ทำไมจงึ เหลอื แต่กระท่อมของนางหลังเดียวละ่ ตา” “เพราะนางเปน็ แมห่ มา้ ย” “นำ้ ไมท่ ว่ มบ้านแม่หม้ายหรือตา” “ไม่ใช่อยา่ งนน้ั แตเ่ พราะนางเปน็ แมห่ มา้ ยอยตู่ ัวคนเดยี ว นางไ ม่ได้ไปรว่ มลากเหย่ยี นเผอื กกบั พ่นี อ้ งชาวบา้ นเขา เขารังเกียจจงึ ไมย่ อม

ผู้เฒา่ เล่าไว้ 43 แบง่ เนอ้ื เหยย่ี นเผอื กใหน้ างกนิ เมอ่ื นางไมไ่ ดก้ นิ เหยย่ี นเผอื กตวั เทา่ ลำตาล ตวั นน้ั จงึ เหลอื แตบ่ า้ นของนางทไ่ี มถ่ ลม่ ลงจนกลายเปน็ หนองเวง้ิ วา้ งกวา้ ง ใหญ่สดุ สายตา” “เหยย่ี นเผือกตวั น้นั เป็นเหยี่ยนวเิ ศษหรอื ตา” “จะวา่ อยา่ งนน้ั กไ็ ด้ เหยย่ี นกค็ อื ปลาไหล ธรรมดาปลาไหลจะไมเ่ ปน็ สัตวเ์ ผอื ก อย่างงัวเผอื ก ควายเผอื กหรือหมูเผอื ก แท้ทีจ่ ริงเหยี่ยนเผือก ตัวนั้นเป็นเทวดาแต่งแปลงมาลองใจคน ทดลองดูว่าคนยังอยู่ในจารีต ลรู่ อยหรอื ไม่ ทา่ นจงึ เนรมติ เหยย่ี นตวั เทา่ ตน้ ตาลอยใู่ นแมน่ ำ้ ปงิ ธรรมดา เหยย่ี นใหญเ่ ทา่ ตน้ ตาลกเ็ ปน็ เรอ่ื งผดิ ปรกตอิ ยแู่ ลว้ ทห่ี นกั ไปกวา่ นน้ั ผวิ ยงั เผอื กเหมอื นหอยสงั ข์ แตค่ นยคุ นน้ั เขาละจารตี ประเพณี ไมอ่ ยใู่ นลใู่ นรอย ที่บรรพบุรุษสั่งสอนกันมา เขาจึงฆ่าเหยี่ยนเผือกตัวเท่าต้นตาลแล้วชัก ลากกันมาจนแผ่นดินเป็นร่อง ที่ตรงนั้นเดี๋ยวนี้เป็นหมู่บ้านชื่อว่าบ้าน ร่องนำ้ แลว้ เขาก็เอาเหย่ยี นเผอื กมาตดั แบ่งปนั กัน...” “เดย๋ี วกอ่ นตา จารตี ลรู่ อยของคนยคุ นน้ั ไมก่ นิ เหยย่ี นเผอื กใชไ่ หม” “ใชแ่ ล้ว ไมเ่ พียงแตเ่ หย่ียนเผอื กหรอื สัตว์เผือกอน่ื ๆ สตั วใ์ ดตัวโต ใหญผ่ ดิ ปรกตเิ ขากไ็ มก่ นิ แตค่ นยคุ นน้ั ฝา่ ฝนื รตี รอย เขาเอาเนอ้ื เหยย่ี นเผอื ก มาแกงกนิ กลน่ิ แกงหอมฟงุ้ ไปทว่ั หมบู่ า้ น ยงั มชี ายหนมุ่ คนหนง่ึ ลกุ แตไ่ หน ไมร่ ู้ มาถงึ เรอื นแมห่ มา้ ย ถามแมห่ มา้ ยวา่ เขาแกงอะไร หอมฟงุ้ ไปหมด แม่หมา้ ยวา่ เขาแกงเหยีย่ นเผือก หนมุ่ กถ็ ามวา่ แลว้ ป้าไมแ่ กงกับเขาหรือ แม่หม้ายว่าปา้ เปน็ แมห่ ม้าย ไม่ได้ไปล่าปลากบั เขา เขารงั เกยี จจงึ ไมแ่ บ่ง เนอ้ื เหยย่ี นเผอื กใหป้ า้ หนมุ่ คนนน้ั กว็ า่ ดแี ลว้ คนื นใ้ี หป้ า้ อยแู่ ตใ่ นกระทอ่ ม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขนึ้ ก็ตาม อยา่ แลน่ ลงเรอื นเดด็ ขาด แลว้ หน่มุ คนนน้ั ก็ ลงจากเรอื นแม่หมา้ ยหายไป” “ตกกลางคืน ฟ้าก็ร้อง แผ่นดินก็คราง ฝนตกหนักตกหนา

44 ผเู้ ฒ่าเลา่ ไว้ ตกเหมือนฟ้ารั่ว ฝนตกหนักหน่วงรุนแรงเหมือนจะถล่มหมู่บ้านอยู ่ ทั้งคืนแม่หม้ายก็กลัว นางคิดจะลงเรือนหนีไปอยู่ที่อื่น แต่หนุ่มลึกลับ คนนั้นกำชับไว้หนักแน่นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าแล่นลงเรือน เด็ดขาด นางก็อุตส่าห์ข่มใจไว้ พอรุ่งเช้านางเปิดปล่องลมชะโงกหน้า ออกไปดู นางก็พบว่าหมู่บ้านถล่มทลายกลายเป็นหนองน้ำกว้างใหญ ่ ไปเสียแล้ว อันนี้แหละ คนโบราณท่านจึงห้ามว่าสัตว์เผือก สัตว์ใหญ ่ ผดิ ปรกติไม่ควรกนิ เพราะอาจเปน็ เทวดาแต่งแปลงมาลองใจคน” ฝนยังตกหนักตกแรง ตกจนน้ำเหมือนนองในหลุมผี พวกผีไม่ม ี ที่นอนจึงร้องไห้ขอเข้าซุกหัวในเรือนคน ตาว่าในคืนฝนร้าย คือฝนตก รุนแรงอย่างนี้ คนโบราณจะไม่ยอมเปิดประตูเรือนรับคนแปลกหน้า ขึ้นเรือนเด็ดขาด ไม่ว่าเขาจะพร่ำวอนอ้อนขออย่างไรก็อย่าใจอ่อน เพราะอาจไม่ใช่คน แต่อาจเป็นผีชั่วผีเลว ผีชั่วร้ายเรี่ยรายทั้งหลาย แปลงตัวมา หากเราเปิดรับผีนอกบ้าน ผีในบ้านซึ่งก็คือผีเรือนและ ผีปู่ย่าบรรพบุรุษของเราจะไม่พอใจ ท่านอาจผละจากเราไป ไม่ปกปัก รักษาเรา “มีอยู่เรือ่ งหนึ่ง ตาไดย้ ินได้ฟงั มาแตเ่ มือ่ เป็นเดก็ ” ฝนยงั ตกแรงทข่ี า้ งนอก ชานฝนวันน้ีมแี ต่ฝน ไมอ่ าจออกไปนั่งด ู นั่งชมหนหาวดาวเดือนอย่างทีต่ าชอบ มองออกไปยังเหน็ ดอกเก็ดถวาย ดอกมะลิและดอกแก้วที่ตาเอาใส่กระถางตั้งไว้ริมราวชาน ดูดั่งดอกไม้ก ็ เปียกโชกจนหนาวสั่น ดอกไม้เหล่านี้ตาปลูกไว้ให้ยายเก็บดอกบูชาพระ ในยามค่ำคนื ยายชอบไหวพ้ ระก่อนนอน ครงั้ หน่ึงนานมาแล้ว แต่เมื่อ มุกรินยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ยายลงเรือนไปเก็บดอกไม้ในสวนแล้ว โดนตะขาบกัดเท้า แต่นั้นมา ตาจึงยกดอกไม้ใส่กระถางมาตั้งปลาย

ผูเ้ ฒา่ เลา่ ไว้ 45 ชานใหย้ าย ยายชอบดอกไม้พื้นเมืองกลิ่นหอมเย็นเหล่านี้ มุกรินเองก็ชอบ แต่ชอบเกบ็ ไปวางไวใ้ กล้หมอนกอ่ นนอน “มอี ยูค่ ืนหน่ึง ฝนตกหนักอยา่ งน.ี้ ..” ตาเล่าตอ่ เร่อื งเล่าของตามวี า่ มอี ยคู่ รอบครัวหนึง่ ปลกู เรือนอย ู่ ยงั ทส่ี ดุ ของหมบู่ า้ น ฝนตกถห่ี นาเหมอื นฟา้ แตก เสยี งฝนกระหนำ่ หลงั คา ใบตองดังทึบๆ แต่เสียงฝนกลับไม่อาจจะกลบเสียงหนึ่งซึ่งดังอยู่แว่วๆ ดังๆ หายๆ แผ่วโผยโอยโอดเหมือนหญิงทอ้ งแก่จะคลอดลกู “เสยี งอะไรหรอื ส”ู แม่เฒา่ ในเรื่องถามผัว “เสียงอะไรอย่าฟังมนั ิ พอ่ เฒ่าในเร่ืองตอบเมีย แต่แม่เฒ่าไม่อาจทำใจให้หนักแน่นได้อย่างผัว เสียงนั้นรบกวน แกเหลอื เกนิ ชวนใหน้ กึ ไปถงึ ความเจบ็ ปวดปรม่ิ วา่ จะขาดใจของหญงิ ทอ้ ง แก่เม่ือลูกจะคลอด นางใจออ่ น นางสงสารหญิงนอกบา้ นท่ยี ังไม่เห็นตวั แต่นางเชื่อว่าใช่แน่ เสียงอย่างนี้เป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากเสียงครวญ ครางของคนจะคลอดลกู นางฉวยโคมจะเปดิ ประตู แตผ่ วั นางยน่ื ดาบพรอ้ มฝกั ขวางหนา้ นางไว้ “เปดิ ไมไ่ ด้ โบราณหา้ มไวเ้ ดด็ ขาด คนื ฝนรา้ ย จะรบั คนอน่ื ขน้ึ เรอื น ไมไ่ ด”้ “อาจไม่ใช่คนอื่น อาจเป็นอีมอยเมียไอ้แฝงขี้เหล้า มันท้องแก่ ผัวมันใจร้าย อาจทุบตขี ับไลอ่ มี อย ขา้ จะรับมันขนึ้ เรือน” “คงไมบ่ งั เอญิ ประจวบเหมาะถงึ ขนาดน้นั หรอกสู เรือนไอแ้ ฝงอย ู่ ทางกลางบ้าน เรือนเราอยู่ท้ายสุดหมู่บ้าน ผ่านมากี่เรือนไม่รู้ กว่าจะ ถึงเรือนเรา” “บา้ นนีม้ แี ตค่ นใจดำ เหมอื นสู”

46 ผเู้ ฒ่าเล่าไว้ “สเู อง ไมใ่ ช่คนบ้านน้หี รือ” “ไม่รู้ ข้าทนไม่ได้ เผื่อมันมาตายหน้าบ้าน บาปจะขบหัวข้าไป ชวั่ ชวี ติ ” นางไมเ่ ชอ่ื ฟงั ผวั นางถกู อำนาจของความรสู้ กึ เวทนาสงสารควบคมุ ไว้ นางเปิดประตู ผัวนางถือดาบขนาบอยู่ข้างหลัง นางวางโคมไว้ใกล้ ฝาเรือนแลว้ ชะโงกหนา้ ถามลงไป “ใครน่ะ” “ข้าเอง” “ข้าเองนะ่ ใคร อีมอยหรือ”

ผเู้ ฒ่าเล่าไว้ 47 “ไมใ่ ช่ ขา้ ชอ่ื อเี ออ้ื ย เปน็ คนบา้ นอน่ื ขา้ หลงทางมา ฟา้ ฝนตกหนกั ข้าเจ็บทอ้ งใกลค้ ลอด ขอขา้ ไดข้ นึ้ เรอื นคลอดลูกเถอะป้า นึกว่าทำบุญ” ลมพดั แรง ลมหอบเอาเมด็ ฝนมาตอ้ งรา่ ง หนาวเหนบ็ และเจบ็ ปวด เหมือนโดนทรายซัด ไฟโดนลมกระโชกแรงก็ดับลง ทั่วทั้งหมู่บ้านมืด เงยี บและเหนบ็ หนาวอยใู่ ตฝ้ นทง่ี า้ งฟา้ ตก มองไมเ่ หน็ อะไรเลย แตพ่ อฟา้ แลบวาบก็สว่างจ้าพอมองเหน็ แต่พอฟา้ ดบั ทกุ อย่างกด็ ับลง “ขา้ จะลงไปชว่ ยมนั ” “เดยี๋ วกอ่ น” พ่อเฒา่ รั้งแขนเมียถอยหลงั แลว้ ผลักกระไดเรือนลงดิน เหย้าเรือนสมัยก่อน เป็นเรือนไม้ไผ่แทบทั่วถ้วน มีไม่กี่หลัง ที่เป็นเรือนไม้จริง เรือนไม้ไผ่มักใช้บันไดแบบที่ชักขึ้นเก็บไว้บนชานได ้ ยามกลางคืนไมต่ อ้ งกงั วลว่าสัตวร์ า้ ยหรือคนร้ายจะแอบข้นึ เรอื น พอ่ เฒา่ ทอดกระไดลงไป เอาทางปลายลงดนิ เอาทางโคนพาดชาน “อีเอื้อย” พ่อเฒ่าเรียกร่างที่ดำตะคุ่มพอมองเห็น “มึงมีแรงขึ้น เรอื นหรอื ไม”่ “มอี ยู่ พ่อเฒ่า” “ข้ึนมา อีเออ้ื ย” แม่เฒ่ากระวีกระวาดต่อโคมไฟแล้วหาบ๊อกไฟหรือกระบังป้องกัน ลมมาสวมโคม เบนไฟส่องไปทก่ี ระได อเี ออื้ ยคอ่ ยๆ ลากตวั คืบคลาน เข้าหาบันไดเปน็ ทน่ี า่ เวทนาสงสารยิ่งนกั รำ่ ๆ แม่เฒ่าจะลงเรอื นไปช่วย ประคองมันอยู่แล้ว แต่ผัวของนางหนักแน่นกว่า พ่อเฒ่าคว้าแขนเมีย แล้วบบี หนกั เป็นเชงิ ห้ามปรามเด็ดขาด “ขึน้ มาอีเออ้ื ย” “ขา้ ขนึ้ ไมไ่ ด้”

48 ผู้เฒา่ เล่าไว้ “หากเปน็ คน มึงต้องขน้ึ ได้” “สเู อาบนั ไดมีดทอดให้ข้า ข้าขึ้นไมไ่ ด้ แต่อย่านึกวา่ ขา้ จะทำอะไร สไู ม่ได้” อีเอื้อยทีค่ ลานงุม่ ง่ามแทบบันไดเงยหนา้ ขน้ึ ทนั ใดทั้งพอ่ เฒา่ และ แมเ่ ฒ่าตา่ งสะดงุ้ ตกใจ หน้าอเี ออื้ ยไมใ่ ชห่ นา้ คน แตเ่ ปน็ หนา้ ผี หน้ามนั ขาวซีด เบ้าตาลกึ ดำ ปากมีเข้ยี วงอกอยา่ งเข้ยี วงู นางผีร้ายปลดผ้าโพกลงมา นางซัดผ้าขึ้นเรือน ผ้ากลายเป็นงู ตวั รา้ ย พอ่ เฒา่ ถลนั ออกไป ดาบถอดปราดแลว้ ฟนั กลางตวั งู งรู า้ ยหายวบั กลายเป็นผ้าขรี้ ว้ิ เกา่ ๆ ขาดกลางตกอย่ทู ่ีชานเรือน “ทำไมบนั ไดบ้านกลายเป็นบนั ไดมีดล่ะตา” “เพราะพ่อเฒ่ากลับดา้ น เอาปลายลงดิน เอาโคนพาดชาน” “ผขี ึน้ ไมไ่ ด้ใช่ไหม” “ใช่แล้ว” “น่าเบอ่ื นะตา” มองออกไปอกี “ตกเอ๊า ตกเอา” “หนงู ว่ งละยงั หอื ...ลูก” “ยังคะ่ ตา ยังหัวคำ่ อย่เู ลย ตาเมอื่ ยไหม หนูนวดใหน้ ะ” “ตาไม่เมื่อย ไม่ค่อยได้ออกบ่าออกแรงอะไรหมู่นี้ ถ้ายังไม่ง่วง หนไู ปเอาสมดุ ปากกามา ตาจะสอนตัวเมอื งให้” “ไว้พรุง่ นเ้ี หอะ” เหมอื นนึกอะไรได้ มกุ รนิ ถามขึ้น “คนเมืองบา้ นเรามีตำนานน้ำทว่ มโลกบา้ งไหมตา” “มีเหมือนกัน...ไม่ใช่น้ำท่วมโลกเสียทีเดียว แต่เป็นน้ำล้างโลก มากกวา่ ช่อื วา่ นำ้ ขารุทกะ” “ขารุทกะ ชื่อเรยี กยากจังนะตา”

ผู้เฒ่าเล่าไว้ 49 “แต่ตาว่าเพราะดี โบราณ ลึกลับ แปลตรงๆ ว่าอะไรตาไม่รู ้ แต่พอรู้จากบางส่วนของศัพท์ คงมาจากคำว่าขาระ กับอุทกะรวมกัน อทุ กะกค็ ืออุทก แปลวา่ นำ้ แต่ขาระแปลวา่ อะไรตายังคน้ ไม่พบ” ตาลกุ ไปทโ่ี ตะ๊ ทำงานสว่ นตวั ของตา อยตู่ รงหนา้ ตา่ ง อยแู่ ทบปลาย สุดของโถงหนา้ เรือนของเราเปน็ เรือนไม้โบราณ มสี องจวั่ เรยี กว่าเรอื น สองหลังร่วมพื้น พื้นที่ที่อยู่ใต้จั่วหน้าเรียกว่า เรือนหน้า พื้นที่ที่อยู่ใต ้ จั่วหลังเรียกว่าเรือนหลัง พ่อกับแม่กับมุกรินเองครอบครองเรือนหลัง สว่ นตากบั ยายครอบครองเรือนหนา้ ตาเปิดไฟโป๊ะบนโต๊ะ ค้นหาอะไรกุกๆ กักๆ แล้วกลับมาที่โถง หลังตามเดิม เอากระดาษปึกหนึ่ง เย็บมุมด้วยลวดเย็บกระดาษยื่น ใหเ้ ธอ “หนเู อาไปอา่ นเองนะลกู ตาถอดออกเปน็ อกั ษรไทยแลว้ จากเรอ่ื ง อรณุ วดสี ตู ร จะให้ดี หนูควรอ่านจากตัวเมืองด้วยตัวเอง จะได้อารมณ ์ และรสชาตดิ ีกว่าที่ตาถอดเยอะ” ตาเขา้ หอ้ งสว่ นตวั มกุ รนิ ถอื กระดาษปกึ นน้ั กลบั เขา้ หอ้ งตวั เองบา้ ง ฝนซาลง อึง่ อา่ งคางคกหยดุ รอ้ งมาหลายคืน มนั คงกระอกั กระอว่ นใจกบั นำ้ และฝนอันมากเกินไปกระมงั เปดิ ไฟทโ่ี ปะ๊ หวั เตยี ง กม้ กราบกบั หมอน รำลกึ ถงึ คณุ พระรตั นตรยั คณุ พอ่ แม่ ครบู าอาจารยแ์ ละคณุ ของผปี ยู่ า่ บรรพบรุ ษุ ตามทย่ี ายพรำ่ สอน เมอ่ื ยงั เลก็ กวา่ น้ี ไมม่ หี อ้ งนอนสว่ นตวั มกุ รนิ นอนกบั ยาย ยายเองมเี รอ่ื ง เล่าและตำนานนิทานต่างๆ มากมาย เหมือนเร่ืองของตาบา้ ง แตกตา่ ง กันบ้าง ยายไม่ได้เป็นข้าราชครูอย่างตา เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ส่วนแมเ่ ปน็ ครูประชาบาลเจรญิ รอยตามแบบตา เธอเอง จะเป็นอะไรดหี นอ