พระมหาพิชัยมงกฎุ พระมหาพิชัยมงกุฎ รวมพระจอนสูง ๖๖ เซนติเมตร หนัก ๗.๓ กิโลกรัม พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชโปรดใหส้ รา้ งขน้ึ ทำ� ดว้ ยทองลงยาประดบั เพชร คร้ันถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯให้ซื้อเพชรเม็ดใหญ่ จากเมอื งกลั กตั ตา ประเทศอนิ เดยี พระราชทานนามวา่ “พระมหาวเิ ชยี รมณ”ี แลว้ ทรงพระกรณุ า โปรดเกล้าฯ ใหป้ ระดบั ไวบ้ นยอดพระมหาพชิ ัยมงกฎุ แทนยอดพุม่ ขา้ วบิณฑ์ ในสมยั โบราณถอื วา่ มงกฎุ มีค่าสำ� คญั เท่ากบั ราชกกุธภัณฑอ์ ่นื ๆ และพระมหา เศวตฉัตรเป็นสิ่งท่ีส�ำคัญสูงสุด เม่ือพระมหากษัตริย์ทรงรับมงกุฎมาแล้วก็เพียงทรงวางไว้ข้าง พระองค์ แตต่ อ่ มาเมอื่ ประเทศไทยตดิ ตอ่ กบั ประเทศในทวปี ยโุ รปมากขนึ้ จงึ นยิ มตามราชสำ� นกั ยุโรปที่ถือว่า ภาวะแห่งความเป็นพระมหากษัตริย์อยู่ท่ีเวลาได้สวมมงกุฎ ในพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเชิญทูตานุทูตในประเทศไทยร่วมใน พระราชพธิ แี ละทรงรบั พระมหาพชิ ยั มงกฎุ มาทรงสวม แตน่ นั้ มากถ็ อื วา่ พระมหาพชิ ยั มงกฎุ เปน็ สิ่งส�ำคัญในบรรดาเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระมหากษัตริย์จะทรงสวมพระมหาพิชัยมงกุฎ ในพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก 147 พระราชพิธบี รมราชาภิเษก
พระแสงขรรค์ชยั ศรี เปน็ พระแสงทีเ่ จ้าพระยาอภัยภเู บศร์ (แบน) ใหข้ ้าราชการจากเมืองพระตะบอง น�ำมาทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๗ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท�ำด้ามและฝักข้ึนด้วยทองลงยาประดับมณีใช้เป็น เครอ่ื งราชกกุธภณั ฑ์ในการพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก เม่อื พ.ศ. ๒๓๒๘ พระแสงขรรค์ชัยศรีนี้ เฉพาะส่วนท่ีเป็นองค์พระขรรค์ยาว ๖๔.๕ เซนติเมตร ประกอบดา้ มแล้วยาว ๘๙.๘ เซนตเิ มตร หนัก ๑.๓ กโิ ลกรมั สวมฝกั แล้วยาว ๑๐๑ เซนตเิ มตร หนัก ๑.๙ กิโลกรมั 148 พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
ธารพระกร ของเดมิ สรา้ งขน้ึ มาแตค่ รง้ั รชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ทำ� ดว้ ย ไม้ชัยพฤกษ์ปดิ ทอง หวั และส้นเปน็ เหลก็ คร�่ำลายทอง ทส่ี ุดสน้ เป็นซอ่ มสามง่าม เรียกธารพระกร ของเดิม นั้นวา่ ธารพระกรชยั พฤกษ์ ครนั้ ถงึ รัชกาลท่ี ๔ ทรงสร้างธารพระกรข้นึ ใหมอ่ งคห์ นง่ึ ดว้ ยทองคำ� ภายในมี พระแสงเสนา่ ยอดมรี ูปเทวดา จงึ เรยี กวา่ ธารพระกรเทวรปู มลี กั ษณะเป็นพระแสงดาบมากกวา่ เป็นธาร พระกรจงึ ทรงใช้แทนธารพระกรชยั พฤกษ์ ครนั้ ถงึ รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ �ำธารพระกร ชัยพฤกษอ์ อกใชอ้ กี ยกเลิกธารพระกรเทวรปู เพราะทรงพอพระราชหฤทัยในของเก่า ๆ จงึ คงใชธ้ ารพระกร ชยั พฤกษใ์ นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในรชั กาลต่อมา 149 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วาลวชิ นี (พัดและแส้) สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ลักษณะเป็น พัดใบตาล ท่ีใบตาลปิดทองท้ัง ๒ ด้าน ขอบขลิบทองค�ำ ด้ามท�ำด้วยทองลงยา เรียกว่า พัชนีฝักมะขาม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชด�ำริว่า ตามพระบาลีท่ีเรียกว่า “วาลวิชนี” ไม่ควรจะเป็นพัดใบตาล ควรจะเป็นเคร่ืองโบกปัดที่ท�ำด้วยขนจามรี เพราะวาลแปลว่า ขนโคชนิดหนึ่ง ตรงกับท่ีไทยเรียกจามรี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างแส้ขนจามรีข้ึนเป็นเครื่องราชกกุธภัณฑ์ ภายหลังใช้ขนหางช้างเผือก เรียกว่า พระแส้หางช้างเผือก แต่ก็ไม่อาจท่ีจะเลิกใช้พัดใบตาลของเดิมได้ จึงโปรดใหใ้ ช้พดั ตาลและพระแส้จามรคี วบคู่กัน โดยเรียกว่า “วาลวชิ น”ี 150 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
ฉลองพระบาทเชงิ งอน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างข้ึน เป็นเคร่ืองราชกกุธภัณฑ์ตามแบบอินเดียโบราณ ท�ำด้วยทองค�ำลงยาราชาวดีฝังเพชร ในการพระราชพิธี บรมราชาภเิ ษก ประธานพระครพู ราหมณเ์ ปน็ ผู้สวมถวาย 151 พระราชพิธบี รมราชาภิเษก
พระราชลญั จกรประจ�ำแผ่นดิน พระราชลัญจกรประจ�ำแผ่นดิน หรือ พระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล เป็นเครื่องมงคลท่ี แสดงถึงพระราชอิสริยยศ และพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ ใช้เป็นดวงตราประทับก�ำกับ พระปรมาภิไธย และเอกสารราชการแผ่นดิน ได้แก่ รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชก�ำหนด พระราชกฤษฎีกา และเอกสารส�ำคัญสว่ นพระองคท์ ่ีเกี่ยวกับราชการแผ่นดิน ทอ่ี อกในพระปรมาภิไธย เปน็ ต้น พระราชลัญจกรประจ�ำแผ่นดินจะเชิญข้ึนทูลเกล้าฯ ถวายในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมกับเคร่ืองมงคล อืน่ ๆ (พระสุพรรณบฏั เครือ่ งราชกกธุ ภัณฑ์) พระราชลญั จกรประจำ� แผน่ ดนิ เรม่ิ สรา้ งขน้ึ ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั เมือ่ มีการผลดั เปลยี่ นแผน่ ดิน ต่อมา พุทธศักราช ๒๕๓๘ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชานญุ าตใหส้ ำ� นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรสี รา้ งพระราชลญั จกรพระครฑุ พา่ หด์ ว้ ยทองคำ� ขึ้นอีกองค์หนึ่ง เพิ่มจากองค์เดิมซ่ึงสร้างด้วยงาต้ังแต่พุทธศักราช ๒๔๙๓ ซ่ึงมีสภาพช�ำรุดเนื่องจากใช้มานาน กว่า ๔๕ ปี 152 พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
ด้านหน้า ด้านข้าง องคพ์ ระราชลัญจกร พระราชลญั จกรพระครฑุ พ่าห์ประจำ�แผน่ ดนิ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจา้ อยหู่ ัว ทีข่ อบรอบพระราชลญั จกรจารึกพระปรมาภไิ ธย “พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกลา้ เจา้ อย่หู วั ” เป็นตรางา มลี ักษณะกลม ขนาดเส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง ๘.๑ เซนตเิ มตร สงู ๑๒.๗ เซนตเิ มตร 153 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
ด้านหน้า ด้านขา้ ง องค์พระราชลัญจกร พระราชลญั จกรพระครฑุ พา่ ห์ประจำ�แผ่นดนิ รัชกาลท่ี ๙ ทขี่ อบรอบพระราชลญั จกรจารึกพระปรมาภิไธย “พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธิราช” เปน็ ตรางา มลี กั ษณะกลม ขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลาง ๘.๔ เซนติเมตร สงู ๑๓.๔ เซนติเมตร 154 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
ด้านหนา้ ด้านขา้ ง องคพ์ ระราชลญั จกร พระราชลญั จกรพระครุฑพ่าหท์ องคำ�ประจำ�รชั กาล ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งดว้ ยทองคำ�ทั้งองค์ มรี ปู ลกั ษณะเช่นเดยี วกนั กับพระราชลัญจกรพระครฑุ พา่ ห์ประจำ�รชั กาลตรางา ด้านบนองค์พระราชพระราชลัญจกรตดิ ตราสญั ลกั ษณพ์ ระราชพธิ ีกาญจนาภิเษก 155 พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
พระสพุ รรณบฏั หมายถึง แผ่นทองค�ำจารึกพระปรมาภิไธย ลักษณะสี่เหล่ียมผืนผ้า หนา ๐.๑ เซนติเมตร ขนาดความกว้างและความยาวข้ึนอยูก่ ับอักษรหรอื ขอ้ ความทจ่ี ะจารึก 156 พระราชพิธบี รมราชาภิเษก
พระทีน่ ่งั พุดตานกาญจนสงิ หาสน์ เป็นพระราชบัลลังก์ทองขนาดย่อม ท�ำด้วยไม้แกะสลักปิดทอง มีรูปครุฑและเทพนม แกะสลักประดับเรียงราย โดยรอบฐานทั้ง ๒ ชั้น เมื่อมีพระราชพิธีจะเชิญมาทอดบนพระราชบัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตรอีกชั้นหนึ่ง เรยี กว่า “พระทนี่ ่งั พุดตานกาญจนสิงหาสน์” พระมหากษตั รยิ จ์ ะเสดจ็ ข้ึนประทบั บนพระราชบลั ลังก์นี้ในพระราชพธิ สี �ำคญั เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเพื่อรับการถวายพระพรชัยมงคล เมื่อใช้เป็นพระราชยาน เรียกว่า “พระราชยานพดุ ตานทอง” ใช้ในการเสด็จพระราชดำ� เนนิ โดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค 157 พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
พระท่นี ่งั ภัทรบฐิ ลักษณะคล้ายเก้าอี้ มีกงท้าวแขนด้านหลังพนักพิง แต่เดิมรัชกาลท่ี ๑ – รชั กาลท่ี ๗ ปกั สปั ตปฎลเศวตฉตั รกางกนั้ ครนั้ ในการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ไดแ้ กไ้ ขเปลยี่ นเปน็ กางกนั้ นพปฎลมหาเศวตฉตั ร ฉตั ร ๙ ชนั้ ทพี่ น้ื พระทนี่ ง่ั ภทั รบฐิ บแุ ผน่ ทองแดงกาไหลท่ อง ลายกระหนกกลางเปน็ รปู ราชสหี ์ ทข่ี อบและสว่ นทเี่ ปน็ ขาเปน็ ลายถมทอง มฐี านเขยี ง ไมส้ ลกั ปดิ ทอง ประดบั กระจกรองรบั พรอ้ มกบั ตง้ั โตะ๊ เคยี งสลกั ปดิ ทองประดบั กระจก ขาเปน็ รปู พญานาคราช ๒ ขา้ ง สำ� หรบั ทอดเครอื่ งราชกกธุ ภณั ฑแ์ ละเครอ่ื งราชปู โภค ประดิษฐาน ณ พระที่น่งั ไพศาลทกั ษณิ ด้านมขุ ตะวันตก ในพระบรมมหาราชวัง เป็น พระที่น่ังส�ำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จข้ึนประทับเพื่อทรงรับเคร่ืองราชกกุธภัณฑ์ เคร่อื งขัตติยราชวราภรณแ์ ละเครอื่ งราชูปโภคในพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก 158 พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก
พระท่นี ง่ั อัฐทศิ อทุ ุมพรราชอาสน์ เป็นพระแท่น หรือพระท่ีน่ัง หรือพระราชอาสน์ท�ำจากไม้อุทุมพร หรือ “มะเดื่อ” ทรงแปดเหล่ียมจึงเรียกว่า “พระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์” สลักปิดทองประดับกระจก กางก้ันด้วยพระบวรเศวตฉัตร หรือสัปตปฎล เศวตฉัตร หรือฉัตรขาว ๗ ชั้น ประดิษฐาน ณ พระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ด้านมุข ตะวันออก ในพระบรมมหาราชวัง ส�ำหรับพระมหากษัตริย์ เสด็จข้ึนประทับรับน้�ำ สรงพระมรุ ธาภเิ ษกในพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก 159 พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก
๏ หอศาสตราคม ๏ พระท่ีนั่งราชฤดี ๏ หอพระสุลาลยั พิมาน ๏ หอนอ้ ย ๏ พระทน่ี งั่ อมรินทร ๏ พเพ๏ทรรพะะสปทถน่ีรัศา่งั นวข์พวิลาาส วินจิ ฉยั ฯ พระแ ่ทนเ๏ศวต ัฉตร ๏ พระที่ ่ันงไพศาล ัทกษิณ ๏ พระอทง่นี คง่ั ต์ จะกั วรนั พอรอรกดพิ ิมาน พระท่ี ั่นงบุษบกมาลาฯ ๏ ท้องพระโรงหลัง ๏ พระท่นี งั่ ๏ ทอ้ งพระโรง ๏ พระท่ีนอ่ังงจคกัก์ รลพางรรดพิ มิ าน ดสุ ิดาภริ มย์ หน้า ๏พเพทรรพะะอทปาน่ีรสัศ่ังนว์ซพ์ ้าิไยล ๏ หอนอ้ ย พระ ่ที ่นังส๏นาม ัจนทร์ ๏ พระทองนี่ ค่ังต์จักะวรนัพตรรกดิพิมาน ๏ หอพระธาตุ มณเฑียร ๏ ประตสู นามราชกิจ 160 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
หมพู่ ระมหามณเฑียร หมายถึงกลุ่มเรือนหลวง หลังคาทรงจั่ว มีช่อฟ้า หน้าบัน ปลูกเชื่อมต่อกัน ในสมัยต่อมารูปแบบหลังคาของ พระมหามณเฑยี รเปลยี่ นแปลงไปตามพระราชนยิ ม เชน่ ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั หมพู่ ระมหามณเฑยี รตงั้ อยทู่ างดา้ นทศิ ตะวนั ออกของพระราชฐานชน้ั กลาง ณ ตำ� แหนง่ เดมิ ของพระราชมณเฑยี ร ชว่ั คราว ซง่ึ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชโปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขน้ึ เมอ่ื ครงั้ ปราบดาภเิ ษกเปน็ ปฐมกษตั รยิ แ์ หง่ พระบรมราชจกั รวี งศ์ เมอื่ พ.ศ. ๒๓๒๕ พระมหามณเฑยี รน้ี สรา้ งเมอ่ื พ.ศ. ๒๓๒๘ หลงั จากพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราชทรงประกอบ พระราชพธิ ปี ราบดาภเิ ษก โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งขนึ้ ณ ตำ� แหนง่ เดมิ ของพระราชมณเฑยี รชว่ั คราว ประกอบดว้ ยพระทนี่ งั่ ๓ องค์ พระปรศั วซ์ า้ ย พระปรศั วข์ วา และหอ ๒ หอ คอื หอพระเจา้ และหอพระธาตมุ ณเฑยี ร เดมิ พระทน่ี ง่ั ทง้ั ๓ องคม์ นี ามรวมกนั วา่ พระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมาน ต่อมารัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามแยกเป็นองค์ๆ ได้แก่ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่น่ังไพศาลทักษิณ และพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน และรัชกาลที่ ๖ พระราชทานนามพระปรัศว์ขวา และ พระปรัศว์ซ้ายว่า “พระที่น่ังเทพสถานพิลาส” และ “พระที่น่ังเทพอาสน์พิไล” ส่วนหอพระเจ้า ภายหลังเปล่ียนช่ือเป็น หอพระสลุ าลยั พมิ าน ในอดตี หมพู่ ระมหามณเฑยี รนี้ มคี วามสำ� คญั ยงิ่ เพราะเปน็ พระวมิ านทบ่ี รรทมของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เปน็ ทเี่ สดจ็ ออกขนุ นางเพอ่ื การบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และเปน็ มณฑลพธิ ปี ระกอบพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกและเฉลมิ พระราช มณเฑยี รตง้ั แตส่ มยั รชั กาลที่ ๒ จนถงึ รชั กาลท่ี ๙ 161 พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
พระแทน่ บรรทม 162 พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
พระท่ีนง่ั จกั รพรรดิพิมาน พระท่ีน่ังประธานในหมู่พระมหามณเฑียร เป็นพระวิมานท่ีบรรทมของพระมหากษัตริย์ และเป็นมณฑล พระราชพิธเี ฉลมิ พระราชมณเฑยี รในพระราชพธิ ีพระบรมราชาภเิ ษก พระท่ีนง่ั จกั รพรรดพิ ิมานมลี กั ษณะสีเ่ หล่ยี มผืนผ้า ยกพื้นสูง มีเฉลียงรอบและมเี สานางเรียง (นางจรัล) รับชายคา โดยรอบท้งั ๔ ด้าน ปัจจบุ นั เป็นท่ีประดษิ ฐานเครอื่ งราชกกธุ ภัณฑ์ และพระแสงสำ� คญั 163 พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก
พระทีน่ งั่ ไพศาลทักษิณ ประดษิ ฐาน พระสยามเทวาธิราช พรอ้ มเครือ่ งบชู าแบบจีน 164 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระทีน่ ง่ั ไพศาลทักษณิ ต้ังอยู่กลางระหว่างท้องพระโรงหน้าของพระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมานกับพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย มีลักษณะเป็น พระทน่ี ง่ั โถงยาว ยกพืน้ สงู ทอดยาวไปตามทิศตะวันออก – ตะวันตก ผนังทศิ ตะวนั ออกของพระที่น่งั มพี ระทวารสำ� หรบั เสดจ็ พระราชด�ำเนินไปยังหอพระสลุ าลยั พิมาน หน้าพระทวาร ประดิษฐานพระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ ภายใต้สัปตปฎลเศวตฉัตร ส่วนผนังด้านทิศตะวันตกมีพระทวารส�ำหรับเสด็จ พระราชด�ำเนินไปยงั หอพระธาตุมณเฑยี ร หน้าพระทวารประดิษฐานพระท่ีน่งั ภทั รบฐิ ภายใตน้ พปฎลมหาเศวตฉตั ร ผนงั ด้านทศิ เหนือของพระท่ีนงั่ เปน็ ผนังทึบและมชี ่องพระทวาร ๑๑ บาน สว่ นกลางของผนังด้านนเี้ ปน็ พระวมิ าน ท่ีประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช ด้านหลังพระวิมานเป็นพระทวารเทวราชมเหศวร ซ่ึงเป็นทางเสด็จพระราชด�ำเนินของ พระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ เม่ือเสด็จออกพระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัย ผนังด้านทิศใต้ ช่วงกลางเป็นอัฒจันทร์ลดพื้นลงไปยัง ท้องพระโรงหนา้ ของพระท่ีนั่งจักรพรรดิพมิ าน 165 พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
ภายในท้องพระโรงพระทน่ี ่งั อมรินทรวนิ ิจฉยั ฯ 166 พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
พระที่น่ังอมรินทรวนิ จิ ฉัยมไหสูรยพิมาน ต้ังอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ เป็นท้องพระโรงส�ำคัญที่พระมหากษัตริย์แห่งพระบรม ราชจักรีวงศ์ทรงใช้เป็นท่ีประกอบพระราชกรณียกิจส�ำคัญของบ้านเมือง เช่น เสด็จออกขุนนาง ท่ีเสด็จออกมหาสมาคม ในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก พระราชพธิ เี ฉลมิ พระชนมพรรษา ตลอดจนเสดจ็ ออกรบั ทตู ตา่ งประเทศทเี่ ขา้ มาเจรญิ พระราชไมตรี ในสมยั ต้นรัตนโกสนิ ทร์ พระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัยเป็นท้องพระโรงโถง ยกพื้นสูง มีมุขสองข้างทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก มีฝา โดยรอบ ท่ีปลายสุดของท้องพระโรงเป็นท่ีประดิษฐานพระท่ีนั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานต่อจากอัฒจันทร์พระทวาร เทวราชมเหศวร ซง่ึ เปน็ ทางเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ สพู่ ระทนี่ ง่ั บษุ บกมาลาองคน์ ้ี โดยเฉพาะจากพระทน่ี ง่ั ไพศาลทกั ษณิ และดา้ นหนา้ พระท่นี ง่ั บษุ บกมาลามหาจกั รพรรดิพิมานเปน็ ทป่ี ระดษิ ฐานพระท่นี ่งั พดุ ตานกาญจนสิงหาสนภ์ ายใต้นพปฎลมหาเศวตฉตั ร 167 พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก
168 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
พระทีน่ งั่ ดสุ ิตมหาปราสาท ต้ังอยู่ในเขตพระราชฐานช้ันกลางทางฝั่งตะวันตก ในพระบรมมหาราชวัง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราชโปรดใหส้ รา้ งขน้ึ เพอื่ ใชเ้ ปน็ ทเ่ี สดจ็ ออกวา่ ราชการ ตอ่ มาเมอ่ื พระบรมวงศฝ์ า่ ยในชน้ั สงู สนิ้ พระชนมจ์ งึ ทรงพระกรณุ า โปรดเกล้าฯ ให้น�ำพระศพมาตั้งประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อบ�ำเพ็ญพระราชกุศล คร้ันเมื่อพระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคต ได้เชิญพระบรมศพมาประดิษฐานบนพระมหาปราสาทแห่งน้ี ภายหลังจึงเป็น ธรรมเนียมในการประดิษฐานพระบรมศพพระมหากษัตริย์รัชกาลต่อมา รวมท้ังพระอัครมเหสี และพระศพพระบรมวงศ์ชั้นสูง บางพระองค์ด้วย พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นพระท่ีน่ังก่ออิฐถือปูน ยกพ้ืนสูงรูปจัตุรมุข หลังคาทรงปราสาท มีมุขลด ๔ ชั้น ทง้ั ๔ ดา้ น ยกเวน้ ดา้ นหนา้ มมี ขุ เดจ็ เปน็ มขุ ลดอกี ชน้ั รวมดา้ นหนา้ เปน็ ๕ ชนั้ มขุ เดจ็ ดา้ นหนา้ พระทน่ี ง่ั ดสุ ติ มหาปราสาทเปน็ มขุ โถง มพี ระทนี่ ัง่ บษุ บกมาลาตง้ั อย่กู ลางมขุ เปน็ ท่ีสำ� หรบั เสด็จออกมหาสมาคม หรือเสดจ็ ออกให้ประชาชนเฝา้ ทลู ละอองธุลพี ระบาท มขุ ด้านทิศใต้ของพระที่นัง่ ดุสิตมหาปราสาท มีมขุ กระสนั เชื่อมตอ่ กับพระท่ีนง่ั พิมานรตั ยา สว่ นมขุ ดา้ นทิศตะวัน ออกมีทางเดินเชื่อมกับพระท่ีนั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท และมุขทางด้านทิศตะวันตกมีทางเดินเช่ือมกับศาลาเปล้ืองเคร่ือง มีอัฒจันทร์ทางข้ึนพระท่ีนั่งสองข้างมุขเด็จ และทางขึ้นด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกด้านละ ๑ แห่ง ซ่ึงสร้างเพ่ิมเติม ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั 169 พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
170 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต้งั อยทู่ างดา้ นตะวนั ออกเฉียงเหนอื ภายในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบแผนการสร้าง พระบรมมหาราชวังแต่คร้ังโบราณ มีเฉพาะเขตพุทธาวาส เป็นสถานท่ีประกอบพระราชพิธีส�ำคัญของ บ้านเมอื ง เป็นสถานทีป่ ระดษิ ฐาน พระพทุ ธมหามณรี ัตนปฏมิ ากร หรอื พระแกว้ มรกต เรียกโดยทวั่ ไป ว่า วัดพระแก้ว สร้างข้ึนพร้อมพระบรมมหาราชวังใน พ.ศ. ๒๓๒๖ มีก�ำแพงแก้วล้อมรอบ ภายในพ้ืนท่ี ของพระอารามประกอบด้วย ศาสนสถาน และศาสนวัตถุส�ำคัญ เช่น พระอุโบสถ หอพระราชพงศานุสร หอพระราชกรมานุสร หอพระมณเฑียรธรรม ปราสาทพระเทพบดิ ร พระศรรี ตั นเจดีย์ เปน็ ตน้ 171 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระมหาเจดียสถาน สถานท่ีตัง้ พธิ ีเสกทำ� น้ำ� พระพุทธมนต์ ๗ แหง่ ๑. พระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตักน้�ำจากแมน่ �ำ้ ปา่ สกั ณ ต�ำบลท่าราบ รวมทั้งใช้น้ำ� สรง รอยพระพุทธบาทดว้ ย ๒. พระวิหารพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก น้�ำตกจากทะเล แก้ว สระแก้ว และนำ�้ จากสระสองห้อง ๓. วดั พระมหาธาตุ เมืองสวรรคโลก ตักน�ำ้ จาก ตระพังทอง ตระพงั เงนิ ตระพงั ช้างเผือก ตระพงั โพยสี โซกชมพู่ น�้ำบ่อแก้วนำ้� บ่อทอง แขวงเมืองสวรรคโลก ๔. พระปฐมเจดยี ์ จงั หวดั นครปฐม ตักน�ำ้ ในแม่นำ้� นครชยั ศรี ตำ� บลบางแก้ว น้�ำกลางหาว บนองคพ์ ระปฐมเจดีย์ นำ้� สระพระปฐมเจดยี ์ น้�ำสระน้�ำจันทร์ ๕. วัดพระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช น้�ำที่บ่อวัดหน้าพระลาน บ่อวัดเสมาไชย บ่อวัดเสมาเมือง บอ่ วดั ประตูขาว หว้ ยเขามหาชยั และบ่อปากนาคราช ๖. วัดพระธาตุหริภญุ ไชย จังหวดั ลำ� พนู ตกั นำ�้ ท่ี บ่อทิพย์ เมืองนครล�ำพูน ๗. พระธาตพุ นม เมืองนครพนม ในมณฑลอุดร อันเปน็ มหาเจดยี สถาน อยใู่ นประเทศที่ตั้ง โบราณราชธานโี คตรบรู ณ์หลวง พระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบรุ ี 172 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
พระวหิ ารพระพทุ ธชนิ ราช วัดพระศรีรตั นมหาธาตุ จงั หวัดพษิ ณโุ ลก วดั พระมหาธาตุ เมอื งสวรรคโลก จงั หวดั สโุ ขทยั 173 พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก
พระปฐมเจดยี ์ จงั หวดั นครปฐม วัดพระมหาธาตุ จังหวดั นครศรธี รรมราช 174 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
วดั พระธาตหุ รภิ ญุ ไชย จงั หวัดลำ�พนู พระธาตุพนม เมอื งนครพนม 175 พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
พิธีเสกน้ำ� ๑๐ มณฑลในสมัยรัชกาลท่ี ๗ ๑. มณฑลนครสวรรค์ ทำ� พธิ เี สกนำ้� ณ วดั พระบรมธาตุ เมอื งชยั นาท วดั กลาง เมืองนครราชสมี า ๒. มณฑลเพชรบูรณ์ ท�ำพิธีเสกน้�ำ ณ วัดมหาธาตุ เมอื งเพชรบูรณ์ ๓. มณฑลนครราชสมี า ทำ� พธิ เี สกนำ้� ณ วดั กลาง เมอื งนครราชสมี า ตักน้ำ� จากสระแก้ว สระขวัญธารปราสาท สระปักธงชยั ๔. มณฑลอีสาน ท�ำพิธีเสกน�้ำ ณ วัดสีทอง เมืองอุบลราชธานี ตกั นำ�้ จากทา่ หอชยั นำ�้ กดุ ศรมี งั คละ นำ้� กดุ พระฤๅชยั ๕. มณฑลปราจีนบุรี ท�ำพิธีเสกน้�ำ ณ วัดโสธร เมืองฉะเชิงเทรา ตกั นำ้� จากสระมหาชัย สระหนิ ดาษ ๖. มณฑลจนั ทบรุ ี ทำ� พิธเี สกนำ�้ ณ วดั พลับ เมืองจนั ทบุรี ตกั นำ้� จาก สระแกว้ และธารนารายณ์ ๗. มณฑลปัตตานี ท�ำพิธีเสกน�้ำ ณ วัดตานีนรสโมสร เมืองตานี ตักน�ำ้ จากสระวงั พลายบวั นำ�้ บอ่ ทอง น�ำ้ บอ่ ไชย น้�ำบอ่ ฤๅษี นำ�้ สระแกว้ ๘. มณฑลภูเก็ต ท�ำพิธีเสกน�้ำ ณ วัดพระทอง เมืองถลาง ตักน้ำ� จากเขาโตะ๊ แซะ และน้ำ� จากเขาต้นไทร ๙. มณฑลชุมพร ท�ำพิธีเสกน้�ำ ณ วัดพระมหาธาตุ เมืองไชยา ตักน�ำ้ จากแหลง่ น้�ำสำ� คญั ที่อ�ำเภอตา่ งๆ ๑๐. มณฑลราชบรุ ี ท�ำพธิ เี สกน�้ำ ณ วัดพระมหาธาตุ เมอื งเพชรบรุ ี 176 พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
วดั มหาธาตุ เมอื งเพชรบรู ณ์ วัดพระบรมธาตุ เมอื งชยั นาท 177 พระราชพิธบี รมราชาภิเษก
วัดสีทอง เมอื งอบุ ลราชธานี วดั พลับ เมอื งจันทบรุ ี 178 พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วดั พระมหาธาตุ เมืองไชยา วัดพระมหาธาตุ เมอื งเพชรบรุ ี 179 พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษก
พระสยามเทวาธริ าช ห่นุ พระบรมรปู รัชกาลท่ี ๑ เทวสถานพระอิศวร ในพระทน่ี ง่ั ไพศาลทักษิณ ปชู นียสถานและส่งิ ส�ำคัญ ๑๓ แห่ง ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร มกี ารจัดเครือ่ งบชู าปูชนียสถานและสิ่งส�ำคญั ๑๓ แหง่ ในพระนคร ไดแ้ ก่ ๑. พระสยามเทวาธิราช ๗. พระหลกั เมอื ง ในพระที่นัง่ ไพศาลทกั ษณิ ๘. พระเส้ือเมือง ๒. หนุ่ พระบรมรปู รัชกาลที่ ๑ ๙. พระกาฬชัยศรี ๓. เทวสถานพระอิศวร ๑๐. พระเพลิง ๔. เทวสถานพระนารายณ์ ๑๑. พระเจตคุปต์ ๕. เทวสถานพระคเณศ ๑๒. เทวรูป ณ หอแกว้ พระภูมิ ๖. เทวรูป ณ หอเชือก ๑๓. เทวรปู ณ ตึกดิน 180 พระราชพธิ บี รมราชาภิเษก
เทวสถานพระนารายณ์ เทวสถานพระคเณศ เทวรปู ณ หอเชอื ก พระหลักเมือง พระเสือ้ เมอื ง พระกาฬชยั ศรี 181 พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
บรรณานุกรม กำ� หนดการพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช สยามนิ ทราธริ าช และพระราชพธิ เี ฉลมิ พระราชมณเฑยี ร พ.ศ. ๒๔๙๓. ราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๖๗ ตอนที่ ๒๗ (๙ พฤษภาคม ๒๔๙๓). คำ� ให้การชาวกรุงเกา่ . กรุงเทพฯ : สำ� นักพิมพ์คลังวทิ ยา. ๒๕๑๕. จดหมายเหตุพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๖๖. (ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หอพระสมุดพระนครรวบรวม พิมพ์พระราชทานในงารเฉลมิ พระชนมพ์ รรษา ปกี ญุ พ.ศ. ๒๔๖๖). ประชุมจารกึ ภาคท่ี ๘ จารึกสโุ ขทยั . กรุงเทพฯ : กรมศลิ ปากร. ๒๕๔๘. (คณะกรรมการอ�ำนวยการจัดงานเฉลมิ พระเกยี รติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจัดพิมพ์เป็นท่ีระลึกในโอกาสที่วันพระราชสมภพครบ ๒๐๐ ปี วันท่ี ๑๘ ตลุ าคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๗). ณัฏฐภัทร จันทวิช. พระราชพิธีบรมราชาภิเษก. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๓๐. (กรมศิลปากรจัดพิมพ์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เนื่องในมหาวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐). ด�ำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. พระราชพงศาวดารรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒. พิมพ์คร้ังที่ ๙. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๖. ด�ำรงราชานุภาพ, สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยา. พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสนิ ทร์ รชั กาลท่ี ๕. พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๕. กรงุ เทพฯ : สำ� นกั วรรณกรรมและประวตั ศิ าสตร์ กรมศลิ ปากร, ๒๕๕๖. (จดั พมิ พเ์ พอื่ เทดิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพ เนือ่ งในโอกาส ๑๕๐ ปีวนั ประสตู ิและครบ ๕๐ ปี บคุ คลสำ� คญั ของโลก ๒๑ มิถนุ ายน ๒๕๕๕). นภาพร เลา้ สินวฒั นา. การเสด็จขน้ึ ครองราชย์ พระราชพิธี คติ ความหมาย และสญั ลกั ษณแ์ หง่ “สมมติเทวราช”. พิมพ์ ครงั้ ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ : อมรินทรพ์ ร้นิ ติ้งแอนด์พับลิชชง่ิ จ�ำกดั (มหาชน), ๒๕๔๙. นรศิ รานวุ ดั ตวิ งศ์, สมเด็จเจา้ ฟา้ กรมพระยา. สาสน์ สมเด็จ. กรงุ เทพฯ: องคก์ ารค้าครุ สุ ภา, ๒๕๑๓. ประกาศอกั ษรกจิ (เสงย่ี ม รามนนั ทน)์ , พระยา. จดหมายเหตบุ รมราชาภเิ ษกพระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั . สมเดจ็ พระนางเจา้ รำ� ไพพรรณฯี โปรดเกลา้ ฯ ใหพ้ มิ พเ์ ปน็ ทร่ี ะลกึ ในการเชญิ พระบรมอฐั เิ สดจ็ คนื เขา้ สพู่ ระนคร พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๒. พระนคร : โรงพิมพไ์ ทยเขษม. ๒๔๙๒. พระราชพงศาวกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ ๑ เจา้ พระยาทพิ ากรวงศ์ (ขำ� บนุ นาค) เรยี บเรยี ง สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงตรวจช�ำระและทรงพระนิพนธ์ค�ำอธิบาย. พิมพ์คร้ังที่ ๗. กรุงเทพฯ : กองวรรณคดีและประวัตศิ าสตร์ กรมศลิ ปากร, ๒๕๔๕. 182 พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
พระราชพธิ รี าชาภเิ ษกสมรส พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก และพระราชพธิ เี ฉลมิ พระราชมณเทยี รพระบาทสมเดจ็ พระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช สยามินทราธริ าช พ.ศ. ๒๔๙๓ และเรอ่ื ง บรมราชาภิเษก พระนิพนธ์ของ พระวรวงศเ์ ธอ กรมหมน่ื พทิ ยลาภพฤฒยิ ากร พระนคร: โรงพมิ พก์ รมสรรพสามติ , ๒๕๑๔. (สำ� นกั งานทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั รยิ พ์ มิ พเ์ ปน็ อนสุ รณใ์ นงานพระราชทานเพลงิ ศพพลตรี หมอ่ มทววี งศถ์ วลั ยศกั ด์ิ (หมอ่ มราชวงศ์ เฉลิมลาภ ทวีวงศ)์ ป.จ. , ม.ป.ช. , ม.ว.ม. ณ เมรุหนา้ พลบั พลาอสิ ริยาภรณ์ วดั เทพศิรินทราวาส วันองั คารที่ ๒๓ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๑๔). พระราชวัง, ส�ำนัก. พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๒๔๙๓. กรุงเทพฯ : บริษัท อมรินทร์ พร้ินติ้ง กรุ๊พ จ�ำกัด, ๒๕๓๓. (ส�ำนัก พระราชวังรวบรวมและจัดพิมพ์สนองพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๓). พิทยลาภพฤฒิยากร, พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหม่ืน. เร่ืองบรมราชาภิเษก. พระนคร : ๒๕๐๙. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้าประสบประสงค์ ชุมพล ท.จ., ต.ช. ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันจันทร์ท่ี ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๙). มหาดไทย, กระทรวง. ประวัติน้�ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธ์ิ ที่ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา ๕ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง, ๒๕๓๐. (กระทรวงมหาดไทยจดั พมิ พเ์ นอื่ งในวโรกาสรฐั พธิ เี สกทำ� นำ้� พระพทุ ธมนตศ์ กั ดสิ์ ทิ ธเิ์ พอื่ ทลู เกลา้ ฯ ถวายสรงอภเิ ษก ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ณ พระวหิ ารหลวงวัดสทุ ศั นเทพวราราม กรุงเทพมหานคร วนั พธุ ที่ ๒ ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๓๐). รายการละเอียดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร และเสด็จเลียบพระนครในพระบาทสมเด็จฯ พระปกเกล้าเจา้ อยูห่ ัว พุทธศักราช ๒๔๖๘. พระนคร: กรมศิลปากร, ๒๔๙๖. (สมเด็จพระนางเจา้ รำ� ไพพรรณี พระบรมราชินใี นรัชกาลท่ี ๗ โปรดใหพ้ มิ พ์ในงานพระศพพระวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้ามนัศสวาสดิ์ วนั ที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๖). ศิลปากร, กรม. ส�ำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ประมวลภาพประวัติศาสตร์ไทย พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมัย รัตนโกสนิ ทร์. กรงุ เทพฯ : บริษัท รงุ่ ศิลป์การพิมพ์ ( ๑๙๗๗) จำ� กัด, ๒๕๕๐. แสงสูรย์ ลดาวัลย์, ม.ร.ว.. พระราชพิธีบรมราชภิเษกสมัยกรุงรัตน์โกสินทร์. กรุงเทพฯ : ส�ำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี. ๒๔๒๗. (คณะอนุกรรมการจัดทำ� เอกสารภาษาไทยในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ส�ำนักเลขาธิการนายก รัฐมนตรี จัดพิมพ์เผยแพร่พทุ ธศักราช ๒๕๒๖). 183 พระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก กระทรวงวฒั นธรรม จดั พิมพ์ พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ พิมพ์ครั้งท่ี ๑ จำ� นวน ๑,๐๐๐ เล่ม ISBN : 978-616-543-457-7 ทป่ี รึกษา รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงวฒั นธรรม นายวีระ โรจน์พจนรตั น์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายกฤษศญพงษ์ ศริ ิ คณะท�ำงานและบรรณาธกิ าร นางสายไหม จบกลศึก นางสาวเพลินพศิ กำ� ราญ นางสาวพมิ พ์พรรณ ไพบูลย์หวังเจรญิ นางจุฑาทิพย์ โคตรประทุม นางเบญจมาส แพทอง นางสาวอรสรา สายบัว นายบณั ฑติ ลว่ิ ชยั ชาญ นางสาววัชนี พุ่มโมรี วา่ ท่ีร้อยตรีธรรมนญู กล่นิ คุม้ ออกแบบและจดั พิมพ์ บรษิ ัท รงุ่ ศิลป์การพิมพ์ (1977) จำ� กัด เลขท่ี ๕๕๕ หมู่ ๑๒ ถนนพุทธมณฑลสาย ๕ ต�ำบลไรข่ งิ อำ� เภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม โทรศัพท์ ๐ ๒๑๑๘ ๓๕๕๕ www.rungsilp.com
กระทรวงวัฒนธรรม เลขท่ี ๑๐ ถนนเทยี มร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๑๐ www.m - culture.go.th
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192