1 แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ นิกร ไชยบุตร ตาแหนง่ ครู โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จงั หวดั เชียงใหม่ สังกดั สานักบรหิ ารงานการศึกษาพิเศษ สานกั งานการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
2 วช-ร 01 บันทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ ที่ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 วันที่ ๙ ตลุ าคม 256๓ เรือ่ ง การเสนอแผนการจดั การเรยี นรู้เพอ่ื ขออนุญาตใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรียน ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ข้าพเจ้า นายนกิ ร ไชยบุตร ตาแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ไดจ้ ัดทา แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาสังคมศึกษา รหัสวิชา ส 3๒0๒ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๕ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา 256๓ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 – 4 จานวน 1 แผน จานวน 40 ช่วั โมง รายละเอยี ดดงั แนบมาพร้อมน้ี จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบและพิจารณา ลงชื่อ............................................................ครูผู้สอน (นายนกิ ร ไชยบตุ ร) ๙/ต.ค./256๓ ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุ่ม/ตัวแทนกลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 1. ส่วนประกอบของเอกสาร ที่ รายการ มี ไมม่ ี หมายเหตุ 1 คาอธิบายรายวิชา 2 ตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ (ตารางวิเคราะห์ KPA) 3 โครงการสอน/สาระการเรยี นรู้/จานวน ชม. 4 การออกแบบกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 5 แผนการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 6 รายละเอียดแผนการวดั และประเมินการเรียนรู้ 2. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ ที่ ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรับปรงุ 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ ที่ ( ) ทเ่ี น้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญมาใชใ้ นการจัดกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม ( ) ทยี่ ังไมเ่ น้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป 4. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ ที่ ( ) นาไปใช้จรงิ ( ) ควรปรบั ปรุงกอ่ นนาไปใช้ 5. ขอ้ เสนอแนะ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................ ............................................................. ลงช่ือ ………………………………………………………… ( ……………………………………………………. ) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้/ผแู้ ทน
3 ความเห็นของรองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ/หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ 1. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี ( ) ดมี าก ( ) ดี ( ) พอใช้ ( ) ควรปรบั ปรุง 2. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ ( ) ทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญมาใชใ้ นการจดั กิจกรรมได้อยา่ งเหมาะสม ( ) ทย่ี งั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป 3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ ท่ี ( ) นาไปใชจ้ ริง ( ) ควรปรบั ปรุงก่อนนาไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ……………………………………………………………. ( นายวิเศษ ฟองตา ) ตาแหน่ง รองผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นของผู้บรหิ ารสถานศึกษา ( ) อนญุ าตใหใ้ ช้ นาแผนการจดั การเรียนรู้นี้ ไปใชจ้ ดั กิจกรรมการเรียนรู้ได้ ( ) ไม่อนญุ าต เพราะ.................................................................................................................................................... ลงชื่อ ……………………………………………………………. (นายอดิศร แดงเรอื น) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31
๑ คาอธบิ ายรายวิชา กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหัสวิชา ส 32103 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรยี นท่ี 2 อธิบายความสาคัญของพระพุทธศาสนากับการศึกษา การเมือง สันติภาพ ศกึ ษาประวตั ิพระพุทธเจ้า ในฐานะเป็นมนุษย์ที่ฝึกตนได้อย่างสูงสุด (การตรัสรู้) การก่อตั้งพระศาสนาวิธีการสอนและการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาพุทธจริยา พระรตั นตรัย อรยิ สัจ 4 และมงคล 38 ประการ ศึกษาพุทธศาสนสุภาษิต ประวัติพทุ ธสาวก พุทธสาวิกา และศาสนิกชนตัวอย่างและผลท่ีจะเกิดทาความดี ความช่ัว ตามหลกั ธรรมและ จริยธรรม หลกั โยนิโสมนสิการโดยการกาหนดเป้าหมายบทบาทการดาเนินชวี ิตเพ่ืออยรู่ ่วมกนั อย่างสนั ตสิ ุขและ อยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์ นาหลักการเจริญปัญญาสติปัฏฐานหรือตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือไป ปฏบิ ตั ิ ปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ดี ีของครอบครัว สังคม ศึกษาโครงสรา้ งทางสงั คม การจัดระเบียบทางสังคม สถาบันทางสงั คม การขัดเกลาทางสงั คม การเปลยี่ นแปลงทางสังคม การแก้ปัญหาและแนวทางการพัฒนาทาง สังคม ศึกษาการกาหนดค่าจา้ งกฎหมายท่เี กย่ี วข้องกับการจา้ งแรงงาน การค้าและการลงทนุ ระหว่างประเทศ มีความรู้ความเขา้ ใจบทบาทขององค์กรระหว่างประเทศในเวทีโลกเรยี นรสู้ ถานการณ์และวกิ ฤตการณ์ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม ของประเทศไทยและโลก โดยใชก้ ระบวนการวิเคราะห์ สงั เคราะห์ คิดหาเหตุและผล แล้วทาการสารวจตรวจสอบขอ้ มลู เพื่อให้ เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาเสนอสอ่ื สารส่ิงที่เรียนรู้ มาปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน พร้อมทั้งเห็นคุณค่าของการปฏิบัติตนเพ่ือให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เกิดความรักและหวงแหน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเป็นบุคคลแห่งการเรยี นรทู้ มี่ คี ณุ ภาพ รหสั ตัวชี้วัด ส1.1ม.4/2, ส1.1ม.4/12, ส1.1ม.4/13, ส1.1ม.4/14, ส1.1ม.4/16, ส1.1 ม.4/20,ส1.2ม.4/1,ส1.2ม.4/4,ส 3.1 ม4/1,ส 3.2 ม4/2,ส 5.2ม4/1 รวม 11 ตัวชีว้ ัด
ผังมโนทัศน์ วชิ าสังคมศึกษา (พน้ื ฐาน) ๒ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยท่ี 3 หนว่ ยท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ / ๒๕๖๓ พระรัตนตรัย จานวน ๔๐ ชั่วโมง หน้าทีพ่ ลเมือง 2 ๑๐ ชว่ั โมง ๑๐ ชัว่ โมง หนว่ ยท่ี 4 หน่วยที่ ๔ เศรษฐศาสตร์ ๒ ภูมิศาสตร์ ๒ ๑๐ ช่ัวโมง ๑๐ ช่ัวโมง
3 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ พระรัตนตรัย เรอื่ ง พระวตั พิ ทุ ธสาวกสาวิกา ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เวลาเรียน ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ผู้สอน นายนิกร ไชยบุตร โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. สาระสาคญั การศึกษาประวตั ิพทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา ชาดก และศาสนิกชนตวั อย่าง ยอ่ มทาให้ได้ข้อคิด เพอ่ื นาไปฝึกฝน พฒั นาตนเอง พ่งึ พาตนเอง และเป็นแบบอยา่ งในการดาเนินชวี ติ ๒. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัดชนั้ ป/ี ผลการเรยี นรู/้ เปา้ หมายการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวตั ิ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนาท่ี ตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกตอ้ ง ยึดม่ันและปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ือการอยู่รวมกันอย่าง สันตสิ ุข ตัวชี้วัดช้นั ปี/ผลการเรยี นรู้ ส 1.1 ม.5/14 วิเคราะห์ข้อคิดและแบบอย่างการดาเนินชีวิตจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเลา่ และศาสนกิ ชนตัวอยา่ งตามทีก่ าหนด ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge นกั เรียนสามารถอธบิ ายข้อคิดทไี่ ด้รับจากประวัตพิ ทุ ธสาวก สาวกิ า และศาสนิกชนตัวอย่างได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process ๑. นักเรียนมีทักษะกระบวนคิด - คิดวิเคราะห์ ๒. นกั เรยี นมีทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ : Attitude นักเรียนมีความสนใจใฝ่เรียนรู้ และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน ๔.๑ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ๕. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรับผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่ ๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน ๖.๑ ชนิ้ งาน ๑) ใบกิจกรรมที่ ๑.๑ เรอื่ ง ประวตั ิพทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา และศาสนิกชนตวั อยา่ ง
4 ๖.๒ ภาระงาน ๑) นกั เรียนทากจิ กรรมกลมุ่ ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ ๑ เร่อื ง พระพทุ ธศาสนาเน้นการพัฒนา ศรทั ธาและปัญญาท่ถี กู ตอ้ ง นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่ือง พระรัตนตรัย จานวน ๑๐ ข้อ ๑๐ คะแนน ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียน พร้อมท้ังแจ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ให้นกั เรียนทราบ จากน้ันครู ครูถามนักเรียนวา่ พทุ ธสาวก พทุ ธสาวกิ า ที่นกั เรยี นร้จู กั มใี ครบ้าง เพอื่ เช่อื มโยงเข้าสเู่ นอื้ หา ข้นั สอน ๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม ออกเป็น ๔ กลุ่ม ตามความสมัครใจ โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกัน แสวงหาความรู้ เรอ่ื ง ประวตั ิพุทธสาวก พุทธสาวิกา และศาสนิกชนตวั อยา่ ง จากหนังสือเรยี น หนังสือ คน้ ควา้ เพ่มิ เติม หอ้ งสมดุ ๓. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมารับใบงานที่ ๑.๑ เรือ่ ง ประวัติพทุ ธสาวก พุทธสาวิกา และศาสนิกชนตัวอย่าง โดยแบง่ หน้าทกี่ ันปฏิบตั ิ ดังนี้ - สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นคาถาม และแยกแยะส่ิงท่ีเปน็ ประเดน็ สาคญั ของคาถาม - สมาชิกคนท่ี 2 วิเคราะห์หาแนวทางตอบคาถาม อธิบายให้ได้มาซึ่งแนวคาตอบหรือ อธบิ ายให้ไดม้ าซง่ึ คาตอบ - สมาชกิ คนท่ี 3 รวบรวมข้อมูลและเขียนคาตอบ - สมาชิกคนท่ี 4 สรุปขนั้ ตอนทัง้ หมด ตรวจคาตอบ สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันตอบคาถามตามที่กาหนดไว้จนเสร็จเรียบร้อย โดยมีการ ช่วยเหลือกันและมกี ารอธบิ ายให้กนั ฟังจนเขา้ ใจ จนสมาชกิ ทุกคนสามารถตอบคาถามไดค้ รบทุกข้อ ๔. ครูเฉลยคาตอบในใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง ประวัติพุทธสาวก พุทธสาวิกา และศาสนิกชน ตัวอย่าง โดยสมาชิกแตล่ ะกลุ่มตรวจคาตอบของกลมุ่ ตนเอง ขัน้ สรปุ ๖. ครแู ละนักเรียนช่วยกันสรุปคุณธรรมสาคัญของพุทธสาวก พุทธสาวิกา (พระอนุรทุ ธเถระ พระองคุลิมาลเถระ พระธมั มทนิ นาเถรี จิตตคหบด)ี และแนวทางนาไปประยกุ ตป์ ฏบิ ัติ ๘. สอ่ื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ ๘.๑ สอื่ การเรียนการสอน ๑) หนังสอื เรยี น พระพุทธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สอื คน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ๘.๒ แหลง่ เรียนรู้ ๑) หอ้ งสมุด
5 ๙. การวดั ผลและประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์ ประเมนิ ตามสภาพจริง ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วย แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการ การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรยี นรู้ท่ี 1 ตรวจใบงานท่ี ๑.๑ ใบงานท่ี ๑.๑ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความสามารถในการคิด แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ วิเคราะห์ นักเรียน สังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความใฝเ่ รยี นรู้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์
6 ๑๑. บันทึกหลังการจดั การเรียนรู้ ๑๑.๑) ผลท่ีเกิดขน้ึ กับนักเรยี น ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ดา้ นความรู้ จานวนนักเรยี นที่ผ่านเกณฑ์......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ด้านทักษะกระบวนการ จานวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนกั เรยี นทไี่ มผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... ดา้ นคณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ จานวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนักเรียนท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ................... ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น จานวนนักเรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรียนทไ่ี มผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นร้อยละ................... ๑๑.๒) ปญั หาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๑.๓) แนวทางการแกป้ ญั หา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่อื )……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบตุ ร) ตาแหน่ง ครู วนั ที่........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
7 ๑๒. ความเหน็ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระ/สายชั้น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายศรีมลู สมบุตร) หัวหน้ากล่มุ สาระสังคมศึกษาฯ วนั ท่ี........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๓. ความเห็นของฝ่ายวชิ าการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วันท่.ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๔. ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายอดิศร แดงเรอื น) ผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ วันท่ี........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
8 ใบงานท่ี เร่อื ง ประวตั พิ ุทธสาวก พุทธสาวิกา และศาสนิกชนตัวอย่าง ๑.๑ คาชแี้ จง ให้นักเรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. เพราะเหตุใด เจา้ ชายอนรุ ทุ ธะจงึ ตัดสินใจบวช ............................................................................................................................. ...................................... ...................................................................................................................................................... ............. ๒. เพราะเหตุใด พระอนรุ ุทธะสามารถปฏบิ ัติมหาปริสวิตกขอ้ ท่ี 8 ได้ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๓. เพราะเหตใุ ด พระอนรุ ุทธะจงึ มคี วามเชยี่ วชาญเร่ือง ทิพพจักขุ ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................................................ ....... ๔. พระอนุรทุ ธะมสี ว่ นสาคัญในการทาปฐมสงั คายนาอย่างไร ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๕. คุณธรรมทีค่ วรถอื เปน็ แบบอยา่ งของพระอนุรทุ ธะ คืออะไร ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................... ๖. เพราะเหตใุ ด องคุลิมาลจึงเปน็ ทีร่ กั ของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๗. เพราะเหตใุ ด องคุลมิ าลจงึ ฆ่าคนแลว้ เอาน้วิ มือมาร้อยเป็นพวงแขวนคอไว้ ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................... ............... ๘. พระพุทธองค์ตรัสตอบองคุลิมาลว่า “เราหยุดแล้ว แต่เธอยงั ไม่หยดุ ” หมายความว่าอย่างไร ............................................................................................................................................................ ....... ........................................................................................................................... ........................................ ๙. เพราะเหตใุ ด ประชาชนจงึ ไม่ใส่บาตรและทาร้ายพระองคลุ มิ าลในระยะแรกของการบวช ............................................................................................................................. ...................................... .............................................................................................................................................. ..................... ๑๐. พระองคุลิมาลได้รบั การสรรเสริญวา่ ตน้ คดปลายตรง หมายความวา่ อยา่ งไร ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๑๑. คุณธรรมอันเปน็ แบบอย่างของพระองคุลมิ าล ได้แกอ่ ะไรบ้าง
9 ............................................................................................................................. ...................................... ................................................................................................................................................................ ... ๑๒. พระธัมมทินนาเถรมี วี ธิ กี ารปฏิบตั ิอย่างไร จึงสามารถบรรลุเปน็ พระอรหันต์ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๑๓. พระภิกษุณีธัมมทินนาเถรีได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในด้านใด ยกตัวอย่าง ประกอบ ............................................................................................................................. ...................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๑๔. พระภกิ ษณุ ีธัมมทินนาเถรมี คี ุณธรรมอันเป็นแบบอยา่ ง อยา่ งไรบา้ ง .................................................................................................................................................... ............... ................................................................................................................... ................................................ ๑๕. จิตตคหบดมี กี ารกระทาอย่างไรทีแ่ สดงว่าเปน็ ผู้มีใจบญุ ............................................................................................................................. ...................................... .................................................................................................................................................................. . ๑๖. เพราะเหตุใด จติ ตคหบดีจึงไดร้ บั การยกย่องเปน็ เอตทคั คะเปน็ เลิศกวา่ ผอู้ ่ืนในทางธรรมกถกึ ................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๑๗. คณุ ธรรมทีค่ วรถือเปน็ แบบอยา่ งของจติ ตคหบดี คอื อะไร ............................................................................................................................. ...................................... ...................................................................................................................................................................
เฉลย10 ใบงานที่ เรอ่ื ง ประวตั ิพทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า และศาสนิกชนตวั อยา่ ง ๑.๑ คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. เพราะเหตุใด เจ้าชายอนรุ ุทธะจึงตดั สนิ ใจบวช ..เ.พ...ร.า..ะ..ไ..ด..้ข..อ้...ค..ดิ ..จ..า..ก..พ...ร..ะ..เ.ช..ษ...ฐ..า...จ..งึ ..น..า..ม..า..เ.ป...ร..ีย..บ..เ..ท..ีย..บ...ร..ะ..ห..ว..า่..ง..ช..ีว..ิต..ก..า..ร..ค..ร..อ...ง.เ..ร.อื...น..ซ..ง่ึ..ม..กี...จิ ..ท..ี่ต...อ้ ..ง..ท..า..ม..า..ก..ก..ว..า่..ก..า..ร.... ..บ..ว..ช............................................................................................................. ................................................ ๒. เพราะเหตใุ ด พระอนุรทุ ธะสามารถปฏบิ ัตมิ หาปริสวติ กขอ้ ที่ 8 ได้ ..ไ.ด..ร้..บั...ค..า..แ..น...ะ..น..า..จ..า..ก..พ...ร..ะ..พ..ทุ...ธ..อ..ง..ค..์จ..งึ..เ.ข..า้..ใ..จ............................................................... ...................................... .......................................................................................................................................................... ......... ๓. เพราะเหตุใด พระอนรุ ทุ ธะจงึ มคี วามเชี่ยวชาญเรอ่ื ง ทพิ พจักขุ .เ.พ...ร..า.ะ...ท..่า..น..ช...อ..บ..เ.จ...ร.ญิ....อ..า..โ.ล..ก..ก...ส..ิณ....เ..พ..ง่..แ..ส..ง..ส..ว..่า..ง.เ..ป..็น...ป..ร..ะ..จ..า.............................................................................. ............................................................................................................................. ...................................... ๔. พระอนุรทุ ธะมีสว่ นสาคญั ในการทาปฐมสงั คายนาอยา่ งไร .ไ.ด..้เ.ข...้า.ร..่ว..ม...เ.ป..็น...พ..ร..ะ..ส...ัง.ค...ตี ..ิก..า..จ..า..ร..ย..อ์..ง..ค..ห์...น..่ึง....................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ๕. คณุ ธรรมทคี่ วรถือเป็นแบบอยา่ งของพระอนุรทุ ธะ คอื อะไร ................................................................................................................................................................... .๑...)...ม...ีค..ว..า..ม..พ...า..ก..เ.พ...ีย..ร..........๒..)....เ.ป..็น...ผ..ู้ส..า..ร..ว..ม..ร..ะ..ว..ัง..ย..่ิง.........๓..)....เ.ป...็น..ห...ล..กั ..แ..ห...ง่ .พ...ร..ะ..ธ..ร..ร..ม..ว..นิ ..ัย................................... ๖. เพราะเหตุใด องคุลมิ าลจงึ เปน็ ท่ีรกั ของอาจารย์ทิศาปาโมกข์ .เ.พ..ร..า..ะ..เ.ป...น็ ..ผ..ู้ท...่ีต..งั้..ใ.จ..เ..ร..ยี ..น...ว..่า..น...อ..น..ส...อ..น..ง..่า..ย...ป...ร..ะ..พ..ฤ...ต..ิด..เี.ร..ีย..น...เ.ก..ง่.......................................................................... ................................................................................................................................................................... ๗. เพราะเหตุใด องคุลมิ าลจงึ ฆา่ คนแล้วเอานว้ิ มอื มารอ้ ยเปน็ พวงแขวนคอไว้ .เ.พ...ร..า..ะ..เ.ช..ื่อ..ฟ...งั ..อ..า..จ..า..ร..ย..ท์ ..ไี่..ม..่ห..ว..ัง..ด..ี..เ.น..ือ่...ง.จ..า..ก..อ...า.จ...า.ร..ย..์.ถ..ูก..ย..ยุ..ง..จ..า..ก..ศ...ษิ ..ย..อ์..่ืน...ท..่อี...จิ ..ฉ..า..อ..ง..ค..ุล..ิ.ม..า..ล.................................... ............................................................................................................................. ...................................... ๘. พระพทุ ธองค์ตรสั ตอบองคุลิมาลว่า “เราหยดุ แลว้ แตเ่ ธอยังไมห่ ยดุ ” หมายความวา่ อย่างไร .พ...ร.ะ...พ..ทุ...ธ..เ.จ..้า..ห..ย..ุด...ท..า..บ..า..ป....แ..ต...อ่ ..ง..ค..ุล..มิ..า..ล..ย...งั .ไ..ม..ห่...ย..ุด............................................................................................ ..................................................................................................................................... .............................. ๙. เพราะเหตุใด ประชาชนจึงไมใ่ สบ่ าตรและทาร้ายพระองคลุ มิ าลในระยะแรกของการบวช เ..พ..ร..า..ะ..ป..ร..ะ..ช...า.ช...น..เ.ก..ล...ีย..ด..แ..ล..ะ...ไ.ม..่ช...อ..บ..พ...ฤ..ต..ิก...ร.ร..ม...อ..ัน..โ..ห..ด...ร.้า..ย...ข..อ..ง..พ..ร..ะ..อ...ง.ค...ลุ ..ิม..า..ล...เ..ม..อ่ื..ค...ร.งั้..ย..ัง..ไ..ม..บ่ ..ว..ช....แ..ล..ะ..ฆ..า่..ค..น.......... เ..ป..น็..จ...า.น...ว..น..ม...า.ก...เ.พ...่อื ..เ.อ..า..น..วิ้.............................................................................................................................. ๑๐. พระองคุลิมาลได้รับการสรรเสริญว่า ต้นคดปลายตรง หมายความวา่ อยา่ งไร ป...ร..ะ..พ..ฤ..ต...ติ ..น..พ...ล..า..ด..พ...ล..ง้ั..ไ.ป...ใ.น...ร..ะ..ย..ะ..ต..น้....แ..ต..ต่...่อ..ม..า..ก..ล...บั ..ต..ัว..เ.ป...็น..พ...ร..ะ..ส..า..ว..ก..ท...ด่ี ..ี......................................................... .................................................................................................................................................... ...............
11 ๑๑. คุณธรรมอันเป็นแบบอย่างของพระองคุลมิ าล ได้แกอ่ ะไรบา้ ง ..๑...)...ม...ีข..ัน..ต...ธิ ..ร..ร.ม...อ..ย..า่..ง..ย..ง่ิ......๒..)....ม..สี..มั...ม..า..ค..า..ร..ว..ะ..อ..ย..า่..ง..ย..ิง่ ....๓...)...เ..ป..็น...บ..คุ..ค...ล..ป..ร..ะ..เ..ภ..ท...ต..้น..ค...ด..ป..ล...า.ย...ต..ร..ง....................... ..๔...)...เ..ป..็น...ผ..มู้ ..ีเ.ม...ต..ต..า..ก..ร..ณุ...า..ม..า..ก......................................................................................................................... ๑๒. พระธมั มทินนาเถรีมีวธิ ีการปฏิบตั ิอย่างไร จึงสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ ..พ...ร..ะ..ภ..กิ...ษ..ุณ...ธี..มั...ม..ท..นิ...น..า..ไ..ด..้ต..ิด..ต...า..ม..พ...ว.ก...ภ..กิ..ษ...ุณ...ไี..ป..ย..ัง..ช..น...บ..ท...ต..า่ ..ง.ๆ....บ...า.เ..พ..็ญ...เ.พ...ีย..ร..ท...า.ง..จ..ิต...จ.น...บ..ร..ร..ล..ุเ.ป...็น..พ...ร..ะ..อ..ร..ห..ัน...ต..์... ................................................................................................................................................ ................... ๑๓. พระภิกษุณีธัมมทินนาเถรีได้รับการยกย่องจากพระพุทธองค์ว่าเป็นเอตทัคคะในด้านใด ยกตัวอย่าง ประกอบ .ด..้า..น...แ..ส..ด..ง..ธ..ร..ร..ม...(.เ..ป..็น..พ...ร..ะ..ธ..ร..ร..ม..ก..ถ...กึ ..)..ต..วั..อ...ย..่า..ง..เ.ช..น่ ....ก..า..ร..ต..อ..บ...ป..ญั...ห...า.ธ..ร..ร..ม..ข...อ..ง..ว..สิ ..า..ข..ะ..เ.ศ..ร..ษ...ฐ..ีไ.ด...้อ.ย...า่ .ง..ถ..ูก...ต..อ้..ง.......... .ช..ดั..เ..จ..น.......................................................................................................................................................... ๑๔. พระภิกษณุ ีธมั ทมุกทเินรอื่นงาทเถุกรปมี รีคะุณเดธ็นรรมอันเปน็ แบบอย่าง อยา่ งไรบ้าง ..๑..)....ม..ปี..ัญ....ญ...า.แ...ล..ะ..ใ.ช..้ป...ัญ...ญ...า..แ..ก..้ป...ญั ...ห..า..ช..วี..ิต........๒...)...ใ..ฝ..ค่..ว..า..ม..ร..แู้..ล...ะ..ค..ว..า..ม..ก..า้..ว..ห...น..้า..ใ.น...ค..ว..า..ม..ด..ีท...กุ ..เ.ร..อ่ื..ง..ท..ุก...ป..ร..ะ..เ.ด...น็ ....... ......................................................................................................................................................... .......... ๑...๒๑อ......๕...ย))......เ.ู่ ...ปนถ...จ...็น...วมิิต......าปนต...ย...ร...คต...ทะ...ห์ท...าจ...บ่า...นา...น...ด...อ...มมี...ย...หีก...า่......าาง...นรป......ก...าร......รมะ...ะ...ณะ......ทไ...ีต...ปา...ม...อฉ......โยนั...ห...า่...ภ...ฬง...ัต...ไา...ร...ตร...ท...าต......หแ่ีดิ......สาต......รด...อ่ ...ทง...ก...วี่ค...นั...า่..ฤ....จเ...หป...า...า..น็น....ส...ผว...น...นมู้......์เ..ใีม.ป...จ...าน็...บ...ก...ป..ญุ....ร......ะ......จ........า.........แ.......ล......ะ......ส......ร......า้......ง.....ท.......พี่.........า......น......ัก........ช......่อื..........อ......มั.......พ........า......ฏ.......ก........า....ร......า.....ม............ใ...ห.........้ท......า่......น............ ๑๖. เพราะเหตใุ ด จติ ตคหบดจี ึงได้รับการยกยอ่ งเปน็ เอตทัคคะเปน็ เลิศกว่าผ้อู ื่นในทางธรรมกถึก .เ.พ...ร..า.ะ...ท..า่ ..น..ม...ีป..ฏ...ิภ..า..ณ...เ.ฉ..ีย...บ..แ..ห...ล..ม..แ...ล..ะ..ม..ีค..ว..า..ม...ส..า..ม..า..ร..ถ..ใ.น...ก..า..ร..แ..ส..ด..ง..ธ..ร..ร..ม..ม...า.ก................ ...................................... ................................................................................................................................. .................................. ๑๗. คณุ ธรรมทคี่ วรถอื เป็นแบบอยา่ งของจิตตคหบดี คอื อะไร .๑..)....เ.ป...น็ ..ค..น...ใ.จ..บ...ุญ...ส..ุน...ท..า..น........๒..)....เ.ค..า..ร..พ...พ..ร..ะ..ส...ง.ฆ...์ม..า..ก.......๓...)....เ.ป..น็...ค..น...เ.ก..่ง..แ..ล..ะ..ค..น...ด..ี........................................... ............................................................................................................................. ......................................
12 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ เรอ่ื ง หลกั ธรรม กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๑ พระรัตนตรัย หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เวลาเรยี น ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ เวลา ๒ ชวั่ โมง ผู้สอน นายนิกร ไชยบตุ ร โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ๑. สาระสาคญั หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในกรอบอริยสจั 4 เป็นหลักสาคัญท่ีผูป้ ฏิบัตติ ามย่อมดาเนนิ ชีวติ ไป ในทางทถี่ กู ต้อง ส่งผลต่อการอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ และการอยู่รว่ มกนั เป็นชาตอิ ย่างสมานฉันท์ รวมไปถงึ ค่านิยมและจริยธรรมที่มีอทิ ธิพลต่อความเจริญหรือความเสื่อมของสงั คม ๒. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวช้วี ดั ช้นั ปี/ผลการเรียนร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รู้และเขา้ ใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนับถือ และศาสนาอ่นื มีศรัทธาที่ถกู ตอ้ ง ยดึ มนั่ และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่อื การอยรู่ วมกันอยา่ งสนั ติสขุ ตวั ชว้ี ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นรู้ ส1.1 ม.5/1๓ วิเคราะหห์ ลกั ธรรมในกรอบอรยิ สจั 4 หรอื หลักคาสอนของศาสนาท่ีตนนบั ถอื ๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge อธิบายความหมาย และวเิ คราะหห์ ลกั ธรรมอริยสัจ ๔ ได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process มที กั ษะกระบวนการทางานกลุ่ม ๓.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ : Attitude นักเรียนมีความมุ่งม่ันในการทางาน และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนกั เรียน ๔.๑ ความสามารถในการแก้ปัญหา ๕. คณุ ลกั ษณะของวชิ า - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุ่ม ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชิ้นงาน ๑) ใบงานท่ี ๑.๒ เรื่อง อริยสจั ๔
13 ๖.๒ ภาระงาน ๑) นกั เรยี นทากจิ กรรมกลมุ่ ๒) นกั เรียนนาเสนอ ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าสูบ่ ทเรยี น ๑. ครูนาข่าวเกี่ยวกับบุคคลท่ีประสบปัญหาชีวิต แล้วไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ หรือแก้ไขปัญหาไม่ ถกู ตอ้ งมาเลา่ ให้นักเรยี นดู จากนั้นให้นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ ว่าในข่าวปัญหาหรือทุกข์คืออะไร สาเหตุของ ปญั หา คืออะไร ความต้องการหมดปัญหา คืออะไร และวธิ ีการแก้ไขปัญหาท่ีถกู วิธี คอื อะไร เพื่อเช่ือมโยงเขา้ สู่ เนอ้ื หา ขัน้ สอน ๒. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๕ คน ตามความสมัครใจ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั แสวงหาความรู้ เรอื่ ง อรยิ สจั 4 จากหนงั สอื เรยี น หนงั สือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด ๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันตอบคาถามในใบกิจกรรมท่ี ๑.๑ เรื่อง หลักธรรม จากน้ันส่งตัวแทน ออกมานาเสนอใบกจิ กรรมหนา้ ชั้นเรยี น โดยกลุ่มท่อี อกมานาเสนอจะมาจากการส่มุ ของครู ๔. เม่ือกล่มุ ทน่ี าเสนอจบการนาเสนอให้กลมุ่ ท่เี หลอื ถามกล่มุ ท่ีนาเสนอกลุม่ ละ ๑ คาถาม ขนั้ สรปุ ๕. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปเร่ืองหลักธรรมและครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามในประเด็นที่ นักเรยี นสงสัยหรอื ไม่เข้าใจ ๘. สอ่ื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สอ่ื การเรยี นการสอน ๑) หนงั สอื เรียน พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนังสอื ค้นควา้ เพ่มิ เตมิ ๘.๒ แหล่งเรียนรู้ ๑) หอ้ งสมดุ ๙. การวัดผลและประเมนิ ผล วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบกจิ กรรมที่ ๑.๑ ใบกจิ กรรมท่ี ๑.๑ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความสามารถในการ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แกป้ ัญหา นกั เรียน สังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมุ่งม่ันในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์
14 ๑๑. บันทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ๑๑.๑) ผลท่เี กดิ ขน้ึ กับนักเรยี น ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ดา้ นความรู้ จานวนนักเรียนทผ่ี ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... จานวนนกั เรียนท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ด้านทกั ษะกระบวนการ จานวนนักเรยี นทผี่ ่านเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ จานวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนักเรียนทีไ่ ม่ผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จานวนนกั เรียนทผ่ี ่านเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรียนท่ไี ม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ๑๑.๒) ปญั หาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๑๑.๓) แนวทางการแกป้ ัญหา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชือ่ )……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบตุ ร) ตาแหนง่ ครู วันท่.ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓
15 ๑๒. ความเห็นของหัวหน้ากลมุ่ สาระ/สายช้นั .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชอื่ )……………………………….…………… (นายศรมี ูล สมบุตร) หัวหนา้ กลมุ่ สาระสงั คมศึกษาฯ วนั ท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๓. ความเหน็ ของฝา่ ยวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายวเิ ศษ ฟองตา) รองผอู้ านวยการกลุม่ บริหารงานวชิ าการ วนั ท่.ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๔. ความเหน็ ของผอู้ านวยการโรงเรยี น .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงช่อื )……………………………….…………… (นายอดิศร แดงเรอื น) ผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ วนั ที.่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓
16 ใบกจิ กรรมท่ี ๑.๑ เรอ่ื ง หลักธรรม ๑. นักเรียนคิดว่าปัญหาอาชญากรรมในสังคมปัจจุบันนั้นมีสาเหตุสาคัญในประเด็นใดและควรแก้ปัญหาโดย วิธใี ด ๒. นักเรยี นคิดว่า ควรจะใช้วิธกี ารใดท่จี ะทาใหส้ มาชกิ ในสังคมอยรู่ ่วมกันอย่างสงบสขุ ๓. คากล่าวท่ีว่า “ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดน้ัน เน่ืองจากขาดหลักธรรมยึดเหนี่ยวจิตใจ” มีเหตุผลอะไร สนับสนนุ ๔. นักเรียนเคยมีปัญหาชีวิตในเร่ืองใดบ้าง และสามารถแก้ไขปัญหาโดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา อย่างไรบา้ ง
17 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ พระรัตนตรัย เร่อื ง การเจรญิ ปญั ญาตามหลักโยนิโสมนสกิ าร ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ เวลาเรยี น ๒ ช่ัวโมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ผสู้ อน นายนิกร ไชยบตุ ร โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. สาระสาคญั โยนโิ สมนสกิ ารเปน็ การใช้ความคดิ ที่ถกู วิธโี ดยแยบคาย มองส่งิ ทั้งหลายด้วยความคดิ พิจารณา สืบค้นถึงต้นเค้า สืบสาวหาสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ แยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญ ญาที่คิดเป็น ระเบยี บ ตามสภาวะและความสมั พันธ์แหง่ เหตปุ จั จัย ๒. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั ช้ันปี/ผลการเรียนรู้/เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ี ตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดมั่นและปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ือการอยู่รวมกันอย่าง สันตสิ ุข ตัวชว้ี ัดชั้นป/ี ผลการเรียนรู้ ส 1.1 ม.5/1๙ เห็นคุณค่า เชื่อมั่นและมุ่งม่ันพัฒนาชีวิตด้วยการพัฒนาจิตและพัฒนาการ เรยี นรดู้ ว้ ยวธิ ีคดิ แบบโยนิโสมนสกิ าร หรอื การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาท่ีตนนับถือ ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge อธบิ ายการพฒั นาจติ และการเรยี นรดู้ ว้ ยวธิ คี ดิ แบบโยนิโสมนสิการ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process นักเรยี นมที กั ษะกระบวนการกลุ่ม ๓.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ : Attitude นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ และมีทัศนคติท่ีดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนกั เรยี น ๔.๑ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ๕. คุณลักษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่ ๖. ชิน้ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชนิ้ งาน ๑) ใบกจิ กรรมท่ี ๑.๒ เรือ่ ง การเจริญปญั ญาตามหลกั โยนิโสมนสิการ
18 ๖.๒ ภาระงาน ๑) นกั เรยี นทากจิ กรรมกลมุ่ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเข้าส่บู ทเรยี น ๑. นักเรียนร่วมกันอ่านพระวจนะเก่ียวกับโยนิโสมนสิการของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้ว รว่ มกนั สนทนา โดยตอบคาถาม เพอ่ื เชือ่ มโยงเขา้ สูเ่ นอ้ื หา ขัน้ สอน ๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ กลุ่ม ตามความสมัครใจ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกัน แสวงหาความรู้ เร่ือง วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติม ห้องสมุด ตามหัวข้อ ดงั น้ี กลุ่มที่ 1 วธิ ีคิดแบบสืบสาวเหตุปจั จัย กลุม่ ที่ 2 วิธคี ดิ แบบแยกแยะสว่ นประกอบ กลุ่มท่ี 3 วิธีคดิ แบบสามญั ลักษณะ กลุ่มท่ี 4 วิธคี ิดแบบอริยสจั กลมุ่ ท่ี 5 วิธีคิดแบบอรรถสัมพันธ์ จากนน้ั แตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอข้อมูลท่สี ืบคน้ ใหเ้ พอ่ื นฟัง เพอ่ื แลกเปล่ียนเรียนรูก้ นั หน้าชัน้ เรียน ๓. นกั เรียนทุกกลุ่มรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับวิธีคดิ แบบโยนโิ สมนสิการ แล้วสรุปเป็น ความคดิ รวบยอด โดยตอบคาถามในใบกจิ กรรมที่ ๑.๒ เรื่อง การเจรญิ ปญั ญาตามหลกั โยนโิ สมนสกิ าร ขน้ั สรปุ ๔. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปเรื่องการเจริญปัญญาตามหลักโยนิโสมนสิการและครูเปิด โอกาสให้นักเรียนซกั ถามในประเด็นทน่ี กั เรยี นสงสัยหรือไมเ่ ข้าใจ ๘. สือ่ การเรียนการสอน / แหล่งเรยี นรู้ ๘.๑ ส่ือการเรียนการสอน ๑) หนังสอื เรียน พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สือคน้ คว้าเพิ่มเตมิ ๘.๒ แหล่งเรียนรู้ ๑) ห้องสมุด ๙. การวดั ผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจใบกิจกรรมท่ี ๑.๒ ใบกิจกรรมที่ ๑.๒ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความสามารถในการใช้ แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ทกั ษะชวี ติ นักเรยี น สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์
19 ๑๑. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ๑๑.๑) ผลทเ่ี กดิ ขึ้นกับนกั เรยี น ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ดา้ นความรู้ จานวนนกั เรยี นทผี่ ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จานวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนักเรียนท่ีไม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ................... ด้านคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ จานวนนกั เรยี นท่ผี า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ................... ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน จานวนนกั เรยี นทผี่ ่านเกณฑ์......................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... จานวนนักเรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ๑๑.๒) ปัญหาและอุปสรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๑.๓) แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่อื )……………………………….…………… (นายนกิ ร ไชยบุตร) ตาแหน่ง ครู วันท่ี........เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓
20 ๑๒. ความเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระ/สายชนั้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นายศรีมลู สมบุตร) หัวหนา้ กลุ่มสาระสงั คมศึกษาฯ วนั ที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๓. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นายวิเศษ ฟองตา) รองผ้อู านวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ วนั ที.่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๔. ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชือ่ )……………………………….…………… (นายอดิศร แดงเรอื น) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ วนั ท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
21 ใบกจิ กรรมที่ ๑.๒ เรือ่ ง การเจริญปัญญาตามหลักโยนิโสมนสกิ าร ๑. วธิ ีคิดในลกั ษณะใดทต่ี รงกบั ความหมายของวธิ ีคิดแบบสืบสาวเหตุปจั จัย ๒. วิธีคิดแบบสามญั ลักษณะ มีวธิ ีหลักการคดิ อย่างไร ๓. การกาหนดรทู้ ุกข์ สอบสวนเหตแุ ห่งทุกข์ เหน็ ทางท่จี ะดับทกุ ขแ์ ละปฏิบัติตามแนวทางแหง่ มรรคมอี งค์ 8 เปน็ วิธกี ารคดิ แบบโยนโิ สมนสิการแบบวธิ ใี ด ๔. วธิ คี ิดโดยการเลง็ เป้าหมายแลว้ ดาเนินไปสเู่ ป้าหมายนนั้ จนประสบความสาเร็จเป็นวธิ คี ิดแบบโยนิโสมนสิการ ในลกั ษณะใด ๕. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะห์สถานการณ์ทกี่ าหนดให้ แล้วพจิ ารณาวา่ สถานการณด์ ังกล่าวสอดคลอ้ งกับวธิ คี ิด แบบใด - เอกภพอยากเป็นตวั แทนนักกฬี าฟุตบอลของโรงเรยี นจึงพยายามฝกึ ซอ้ มฟุตบอลทกุ วันจนสามารถสอบ คดั เลอื กไดเ้ ป็นตวั แทนนักกฬี าฟตุ บอลของโรงเรยี นไดส้ าเร็จ - มยุรีรสู้ กึ เป็นทกุ ข์ เพราะถูกครตู าหนเิ ร่ืองมาโรงเรยี นสายทุกวนั มยรุ ีจึงคดิ หาทางแกไ้ ขปัญหาโดย พจิ ารณาถึงปัญหา สาเหตุทีท่ าให้ตนเองเป็นทกุ ข์ และหาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง - ปรานสี อบเข้าเรียนตอ่ ในมหาวทิ ยาลยั ทต่ี นเองใฝ่ฝันไม่ได้ เพราะไมต่ งั้ ใจอ่านหนงั สือสอบ - มาลีเข้าใจชวี ิตวา่ คนเราทกุ คนเกดิ มาลว้ นตอ้ งตายไมม่ ีใครหลกี หนีพ้นได้ - นริ าวลั ย์ไปตลาดเพ่อื ซื้อเน้ือไกม่ าทาอาหารเยน็ ขณะเดนิ เลอื กเน้ือไก่ นิราวลั ยพ์ บวา่ รา้ นแรกราคาถูก เนือ้ ไกม่ ีชิน้ ใหญ่ แต่สีไมค่ ่อยสด เมอ่ื เดนิ ไปร้านทีส่ องราคาแพงกวา่ เนื้อไกม่ ขี นาดเลก็ กวา่ แต่ดสู ดกวา่ รา้ นแรก นิราวลั ยพ์ ิจารณาองค์ประกอบแล้วจึงเลือกซ้ือเนอื้ ไกจ่ ากร้านที่สองเพื่อความปลอดภยั
22 แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ พระรัตนตรยั เรอื่ ง วธิ คี ิดแบบโยนิโสมนสกิ าร ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ เวลาเรียน ๒ ช่วั โมง/สปั ดาห์ หน่วยกิต ๑ (นน./นก.) ผสู้ อน นายนกิ ร ไชยบุตร โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชั่วโมง ๑. สาระสาคัญ โยนิโสมนสิการเป็นวิธีคิดโดยอุบายแยบคาย เพื่อพัฒนาจิตและการเรียนร้ขู องตนเองให้รู้เท่า ทันตามสภาพความเป็นจริงท่ีถูกต้อง ด้วยปัญญาท่ีคิดเป็นระเบียบสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่ง เหตปุ จั จัย ๒. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัดช้ันป/ี ผลการเรียนรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รู้และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ี ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาท่ีถูกตอ้ ง ยึดม่ันและปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ือการอยู่รวมกันอย่าง สันติสขุ ตัวช้ีวัดช้ันปี/ผลการเรยี นรู้ ส 1.1 ม.5/1๙ เห็นคุณค่า เช่ือมั่นและมุ่งมั่นพัฒนาชีวิตด้วยการพัฒนาจิตและพัฒนาการ เรยี นรู้ดว้ ยวิธคี ิดแบบโยนโิ สมนสกิ าร หรือการพฒั นาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนับถือ ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge อธบิ ายวธิ คี ดิ แบบโยนโิ สมนสกิ ารด้วยวธิ คี ิดแบบต่างๆ ได้ ๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ : Process - นักเรียนมที กั ษะกระบวนการกลุ่ม - นักเรียนมที ักษะกระบวนการคดิ วิเคราะห์ ๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ : Attitude นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ และมีทัศนคติที่ดีต่อการศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ วฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน ๔.๑ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ ๕. คณุ ลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกล่มุ
23 ๖. ชิ้นงาน/ภาระงาน ๖.๑ ชนิ้ งาน ๑) แผนภาพความคดิ ๖.๒ ภาระงาน ๑) นักเรียนทากิจกรรมกลมุ่ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรียน ๑. ครูทบทวนเนื้อหาจากคาบที่แล้ว พร้อมกับร่วมกันสนทนา โดยตอบคาถาม เพื่อเช่ือมโยง เขา้ สู่เนอื้ หา ข้นั สอน ๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน ตามความสมัครใจ ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาวิธีคิด แบบโยนโิ สมนสิการจากหนังสือเรียน หนังสือเพม่ิ เติม ๓. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั สรปุ เนื้อหาทีศ่ ึกษาเปน็ ความคิดรวบยอดแลว้ ตอบคาถาม ดงั น้ี - วธิ ีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออกมีหลักการคิดและประโยชน์อย่างไร - วธิ ีคดิ แบบคุณคา่ แท้-คุณคา่ เทียมมหี ลักการคดิ และประโยชนอ์ ย่างไร - วธิ คี ดิ แบบอุบายปลุกเรา้ คณุ ธรรมมหี ลักการคดิ และประโยชน์อย่างไร - วิธีคดิ แบบเปน็ อยู่ในขณะปัจจบุ นั มหี ลกั การคดิ และประโยชนอ์ ยา่ งไร - วธิ ีคิดแบบวิภชั ชวาทมีหลักการคดิ และประโยชนอ์ ยา่ งไร ๔. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์ภาพที่กาหนดให้ แล้วตอบคาถามเก่ียวกับวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออก และวิธีคิดแบบคณุ ค่าแท้-คณุ คา่ เทียม ลงในแผนภาพความคิด แล้วสรปุ เปน็ ความคิดรวบ ยอด ขนั้ สรปุ ๕. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปเร่ืองวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ และครูเปิดโอกาสให้นกั เรียน ซกั ถามในประเดน็ ท่นี กั เรยี นสงสยั หรอื ไม่เขา้ ใจ ๘. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สือ่ การเรยี นการสอน ๑) หนงั สอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สอื ค้นควา้ เพม่ิ เติม ๙. การวัดผลและประเมนิ ผล เครอื่ งมือ เกณฑ์ วธิ ีการ แผนภาพความคิด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแผนภาพความคิด สังเกตความสามารถในการคิด แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ วิเคราะห์ นักเรยี น สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สังเกตความใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึง ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์
24 ๑๑. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ ๑๑.๑) ผลท่ีเกดิ ข้นึ กบั นกั เรยี น ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕ ด้านความรู้ จานวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนักเรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จานวนนกั เรยี นทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... จานวนนักเรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... ด้านคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ จานวนนักเรยี นท่ผี า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนกั เรียนทไี่ ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ดา้ นสมรรถนะผูเ้ รยี น จานวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................... ๑๑.๒) ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๑.๓) แนวทางการแกป้ ัญหา ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชอื่ )……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบุตร) ตาแหนง่ ครู วันที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
25 ๑๒. ความเหน็ ของหัวหน้ากล่มุ สาระ/สายชนั้ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงช่ือ)……………………………….…………… (นายศรีมลู สมบุตร) หัวหนา้ กลุ่มสาระสงั คมศึกษาฯ วนั ที.่ .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๓. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นายวิเศษ ฟองตา) รองผ้อู านวยการกลมุ่ บริหารงานวิชาการ วนั ที.่ .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๔. ความเห็นของผ้อู านวยการโรงเรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ (ลงชือ่ )……………………………….…………… (นายอดิศร แดงเรอื น) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ วนั ท.่ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
26 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๕ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ พระรัตนตรัย เรอื่ ง สัมมนาพระพทุ ธศาสนาภาค เรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒ เวลาเรียน ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ หน่วยกิต ๑ (นน./นก.) ผสู้ อน นายนกิ ร ไชยบุตร โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. สาระสาคญั การสัมมนาในพระพุทธศาสนา เป็นการประชุมแลกเปลีย่ นความรู้ ความคิดเห็น และให้ข้อเสนอแนะ ของกลุ่มบุคคลในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง โดยใช้หลักการหรือกระบวนการทางพระพุทธศาสนา เพ่ือนาไปสู่การ แกป้ ัญหา ๒. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั ชัน้ ป/ี ผลการเรยี นรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธารงรกั ษาพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ี ตนนบั ถอื ตัวชีว้ ัดชนั้ ป/ี ผลการเรียนรู้ ส 1.๒ ม.5/๕ สัมมนาและเสนอแนะแนวทางในการธารงรักษาศาสนาที่ตนนับถือ อันส่งผลถึงการ พฒั นาตน พัฒนาชาติและโลก ๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge อธิบายความหมาย ประโยชน์ องค์ประกอบของการสัมมนาได้ ๓.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ : Process - นกั เรียนมีทักษะกระบวนการกลมุ่ - นักเรยี นมที ักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ : Attitude นักเรยี นมคี วามใฝ่เรยี นรู้ และมที ศั นคติท่ีดีตอ่ การศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนักเรียน ๔.๑ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ๕. คุณลักษณะของวชิ า - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลุม่ ๖. ช้ินงาน/ภาระงาน ๖.๑ ภาระงาน ๑) นกั เรียนทากิจกรรมกลุ่ม
27 ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน ๑. ครูทบทวนเนื้อหาจากคาบที่แล้ว พร้อมกับร่วมกันสนทนา โดยตอบคาถาม เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่ เน้ือหา ขน้ั สอน ๒. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน ตามความสมัครใจ จากนั้นร่วมกันศึกษาและรวบรวมข้อมูล เก่ียวกบั เร่ือง การสัมมนา จากหนังสือเรียน หนงั สือเพิ่มเติม จากน้ันนาขอ้ มูลความรู้ที่ได้มาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ กนั ในช้นั เรยี น ๓. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ประกอบและกระบวนการจัดสัมมนาแลว้ สรปุ เป็น ความคดิ รวบยอด โดยตอบคาถาม ดังนี้ - การจดั สมั มนาควรมอี งค์ประกอบทสี่ าคัญอะไรบา้ ง - การจดั สมั มนาควรมกี ระบวนการจัดการอยา่ งไร - ประโยชน์ของการสัมมนามีอะไรบ้าง - ถ้านักเรยี นมโี อกาสเป็นผู้จัดประชมุ สมั มนา นักเรียนจะจัดในหัวขอ้ อะไร เพราะเหตใุ ด ขน้ั สรปุ ๔. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปเร่ืองสัมมนาพระพุทธศาสนาและครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามใน ประเดน็ ที่นกั เรยี นสงสยั หรือไม่เข้าใจ ๘. สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ ๘.๑ สอ่ื การเรยี นการสอน ๑) หนังสือเรยี น พระพุทธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สือคน้ คว้าเพมิ่ เติม ๙. การวัดผลและประเมินผล เครื่องมือ เกณฑ์ วิธกี าร แบบประเมนิ สมรรถนะสาคัญของ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความสามารถในการคิด นกั เรยี น วเิ คราะห์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความใฝ่เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์
28 ๑๑. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ๑๑.๑) ผลท่ีเกิดข้นึ กบั นักเรยี น ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ด้านความรู้ จานวนนักเรียนทีผ่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... จานวนนักเรียนทไ่ี ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จานวนนักเรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... จานวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... ดา้ นคุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ จานวนนักเรียนท่ีผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ................... จานวนนักเรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... ดา้ นสมรรถนะผ้เู รียน จานวนนักเรยี นท่ผี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ................... จานวนนกั เรยี นที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ๑๑.๒) ปัญหาและอปุ สรรค .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๑๑.๓) แนวทางการแกป้ ญั หา .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ)……………………………….…………… (นายนิกร ไชยบุตร) ตาแหน่ง ครู วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓
29 ๑๒. ความเห็นของหัวหนา้ กล่มุ สาระ/สายช้ัน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชือ่ )……………………………….…………… (นายศรมี ลู สมบตุ ร) หัวหน้ากลุ่มสาระสังคมศกึ ษาฯ วันท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๓. ความเหน็ ของฝ่ายวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงช่อื )……………………………….…………… (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อานวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ วนั ท่.ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๔. ความเห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายอดิศร แดงเรอื น) ผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ วันท่.ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
30 ภาคผนวก
31 แบบประเมนิ ใบงาน/ใบกจิ กรรม ชอ่ื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาช้ีแจง การบันทกึ ใหก้ าเครื่องหมาย ลงในช่องท่ตี รงกับพฤตกิ รรมทีเ่ กิดข้ึนจริง ลาดั พฤตกิ รรม ระดับคะแนน บท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง (4) (3) (2) (1) 1 ความถูกต้องของเนอ้ื หา และความครบถว้ นของเนอื้ หา 2 ความรบั ผิดชอบ สง่ งานตรงเวลา 3 ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของงาน 4 ตรงตามจุดประสงค์ที่กาหนด รวม ข้อเสนอแนะ ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ ) ( ครผู สู้ อน / วัน เดอื น ปี ทปี่ ระเมนิ /
32 แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ช่อื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชี้แจง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทีเ่ กิดขึ้นจริง ลาดับ รายการประเมิน คณุ ภาพการปฏบิ ัติ ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ (3) (3) (2) (1) 1 สนใจการเรียนรู้ ขยัน ซ่ือสัตย์ มวี นิ ยั ในชน้ั เรยี น และมี น้าใจตอ่ ผอู้ นื่ 2 ทกั ษะการคดิ และทกั ษะการทางานอย่างเชี่ยวชาญ 3 รบั ผดิ ชอบตอ่ การทางาน มีสว่ นรว่ มในการตอบคาถาม และรับฟังความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื 4 ทางานดว้ ยความเพียรพยายาม และมีความถูกต้องของ งาน รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ผู้ประเมิน ) ( ครผู ู้สอน / วัน เดือน ปี ทป่ี ระเมิน /
33 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เพอื่ การประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ด้านใฝ่เรยี นรู้ ชื่อ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย ลงในชอ่ งทตี่ รงกับพฤติกรรมท่ีเกิดขึ้นจรงิ ลาดับท่ี พฤตกิ รรม ดีมาก ระดับคะแนน (4) ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (3) (2) (1) 1 ตง้ั ใจเรียน 2 เอาใจใสใ่ นการเรยี น และมคี วามเพยี รพยายามในการ เรียน ศึกษาค้นควา้ หาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สิ่งพมิ พ์ 3 สอื่ เทคโนโลยตี า่ งๆ แหลง่ การเรยี นรูท้ ้ังภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลอื กใช้สือ่ ได้อย่างเหมาะสม 4 บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบบางสงิ่ ทเี่ รยี นรู้ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ 5 แลกเปลยี่ นความรู้ ด้วยวิธกี ารต่างๆ และนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวัน รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครูผสู้ อน / วนั เดือน ปี ที่ประเมิน /
34 แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน เพ่อื การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ด้านมงุ่ มั่นในการทางาน ช่อื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาช้แี จง การบนั ทกึ ให้กาเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับพฤตกิ รรมทีเ่ กิดขน้ึ จรงิ ลาดับท่ี พฤติกรรม ดีมาก ระดบั คะแนน (4) ดี พอใช้ ปรับปรุง 1 มีความรับผดิ ชอบในหนา้ ทก่ี ารงาน (3) (2) (1) 2 ต้ังใจและเอาใจใส่ตอ่ การปฏบิ ัติหน้าท่ีทไี่ ด้รับมอบหมาย 3 ทางานด้วยความเพียรพยายาม 4 อดทนเพ่ือให้งานสาเร็จตามเป้าหมาย 5 ปรบั ปรุงและพัฒนาการทางานใหด้ ีข้ึนดว้ ยตนเอง รวม ข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้ประเมิน ) ( ครผู ูส้ อน / วัน เดือน ปี ทปี่ ระเมิน /
35 แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน เพื่อการประเมินสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนดา้ นความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต ชอ่ื ............................................................................................. ชั้น..............................เลขท่ี............................... คาชีแ้ จง การบันทกึ ให้กาเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกับพฤติกรรมที่เกิดขึน้ จริง ลาดับ พฤติกรรม ระดับคะแนน ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง (4) (3) (2) (1) 1 เรียนรู้ด้วยตนเองไดเ้ หมาะสมตามวยั 2 สามารถทางานกล่มุ รว่ มกับผู้อ่ืนได้ 3 นาความรูท้ ่ไี ดไ้ ปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั 4 จัดการปัญหาและความขัดแยง้ ไดเ้ หมาะสม 5 หลีกเล่ยี งพฤตกิ รรมไม่พงึ ประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อ ตนเอง รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ผู้ประเมิน ) ( ครูผู้สอน / วัน เดอื น ปี ท่ีประเมนิ /
36 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เพื่อการประเมนิ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นด้านความสามารถในการคิด ช่ือ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาชแี้ จง การบนั ทกึ ให้กาเคร่ืองหมาย ลงในช่องทตี่ รงกับพฤติกรรมท่เี กิดขน้ึ จริง ลาดบั พฤติกรรม ระดบั คะแนน ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ (4) (3) (2) (1) 1 มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ 2 มคี วามสามารถในการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ 3 สามารถคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ 4 มคี วามสามารถในการคดิ อย่างมรี ะบบ 5 ตดั สินใจแกป้ ัญหาเกย่ี วกับตนเองได้ รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ผู้ประเมิน ) ( ครูผสู้ อน / วัน เดอื น ปี ที่ประเมนิ /
37 แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น เพ่อื การประเมินสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนด้านความสามารถในการแก้ปญั หา ช่ือ............................................................................................. ชั้น..............................เลขที่............................... คาช้แี จง การบนั ทึกให้กาเครือ่ งหมาย ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤตกิ รรมทเ่ี กิดขึ้นจรงิ ลาดบั พฤตกิ รรม ระดบั คะแนน ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง (4) (3) (2) (1) 1 แก้ปัญหาโดยใชเ้ หตุผล 2 แสวงหาความรมู้ าใชใ้ นการแกป้ ัญหา 3 ตดั สนิ ใจโดยคานึงถงึ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู นื่ 4 มคี วามคดิ หลากหลายและคิดยืดหยุ่น 5 เปดิ ใจรับความคิดใหม่ รวม ขอ้ เสนอแนะ ลงชอื่ ผู้ประเมิน ) ( ครผู ู้สอน / วนั เดอื น ปี ท่ีประเมนิ /
38 แบบทดสอบก่อนเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ พระรัตนตรัย จานวน ๑๐ ข้อ คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นเลอื กคาตอบที่ถกู ตอ้ งทีส่ ุดเพยี งคาตอบเดียว ๑. วธิ คี ิดแบบสามญั ลักษณะตามหลักโยนิโสมนสกิ ารตรง ๖. หลักธรรมนิยามในข้อใดผดิ จากความเป็นจริง ก. อุตุนิยาม : กฎธรรมชาติเกีย่ วกบั สภาพภูมอิ ากาศ กับความหมายในขอ้ ใด ข. พชี นยิ าม : กฎธรรมชาตเิ ก่ยี วกับการสบื พนั ธ์ุ ก. การคดิ โดยการคน้ หาว่าส่งิ ต่าง ๆ เกิดขึน้ มาจาก ค. จิตนยิ าม : กฎธรรมชาตเิ กี่ยวกบั ดา้ นจิตวิทยา สาเหตุใด ง. กรรมนิยาม : กฎธรรมชาติท่ีเก่ียวกับพฤตกิ รรมของมนุษย์ หรอื กฎแหง่ กรรม ข. การคิดโดยการกาหนดรู้ต้นเหตุแหง่ ปัญญารวู้ ธิ ีแก้ ๗. กระบวนการจัดสัมมนาขัน้ ตอนใดอยใู่ นขนั้ เตรียมการ และแกป้ ัญหาได้สาเร็จ ก. การนาเสนอประเดน็ ปัญหา ข. การดาเนนิ การสมั มนา ค. วธิ คี ิดท่ีรูเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลงของสิง่ ตา่ ง ๆ ว่ามี ค. การกาหนดตวั วทิ ยากร การเกิดขึน้ และดับเป็นธรรมดา ง. การหาสาเหตุปัญหา ๘. องค์ประกอบใดทเ่ี ปน็ หัวใจสาคัญในการจดั สมั มนา ง. วิธีคิดโดยการกาหนดเป้าหมายและมีวิธีไปสู่ ก. ผู้จดั การสัมมนา ข. ผู้เขา้ ร่วมสัมมนา ความสาเร็จตามเปา้ หมายท่ีได้วางไว้ ค. วทิ ยากร ง. เนอื้ หาเรอ่ื งราวท่จี ะจดั สัมมนา ๒. วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในขณะปัจจุบันจะต้องมีหลักธรรม ๙.หลกั ธรรมใดเป็นการดาเนินไปสู่การดับทุกข์ได้ตามความหมาย ของอรยิ สจั 4 ใดกากบั ใจหรือความรู้สึก ก. สตสิ ัมปชญั ญะ ข. พรหมวิหารธรรม ค. เบญจศลี -เบญจธรรม ง. อรยิ สัจ ๔ ๓. พระองคลุ ิมาลเถระเป็นผูม้ คี ณุ ธรรมสาคัญในข้อใด ก. มปี ฏภิ าณเปน็ เลิศในการแก้ปญั หา ข. มีความสารวมระวังย่งิ ก. มรรคมอี งค์ 8 ข. โลกธรรม 8 ค. มขี นั ตธิ รรมอยา่ งย่งิ ค. ขนั ธ์ 5 ง. วติ ก 3 ง. มคี วามพากเพยี รยง่ิ ๑๐. ข้อใดเปน็ วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ ก. วิธีคิดแบบเช่ือมโยงหลักการและความมุ่งหมายว่าทาไป ๔. โลกธรรม ๘ เปน็ ธรรมะเตือนใจในเรอื่ งใด เพอ่ื อะไร ก. ความสาเร็จในสิ่งท่ตี นปรารถนา ข. การวิเคราะห์ข้อเท็จจริงอย่างลึกซ้ึงว่าดีหรือไม่ดีและมี ประโยชน์หรือไม่ ข. เตอื นสติไมใ่ ห้ประมาท ค. การคิดดี คิดสร้างสรรค์ส่งเสริมสัมมาทิฏฐิตามแนวทาง ค. ความสขุ ท่แี ทจ้ รงิ มรรคมีองค์ ๘ ง. ความพอดี ง. การคิดถึงส่ิงทเ่ี ปน็ อยู่ในปจั จุบัน ไมค่ ดิ ถึงอดตี และอนาคต ๕. การคิดเพือ่ พัฒนาจิตของตนใหล้ ะอกศุ ลกรรม สง่ เสริม คณุ ธรรมดีงามให้เจริญในจิตใจของตนเองเป็นวิธีคิดแบบ ใดตามหลกั ของโยนิโสมนสกิ าร ก. วิธีคิดแบบอรรถธรรมสมั พันธ์ ข. วิธคี ิดแบบคณุ -โทษ และทางออก ค. วธิ ีคดิ แบบคุณค่าแท้-คณุ ค่าเทยี ม ง. วธิ คี ดิ แบบอุบายปลกุ เรา้ คุณธรรม
39 แบบทดสอบหลงั เรยี น กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ พระรัตนตรัย จานวน ๑๐ ข้อ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบท่ีถกู ต้องที่สุดเพยี งคาตอบเดยี ว ๑. วิธคี ิดแบบสามัญลักษณะตามหลกั โยนิโสมนสกิ ารตรง ๖. หลกั ธรรมนิยามในข้อใดผดิ จากความเป็นจรงิ กบั ความหมายในข้อใด ก. อุตนุ ยิ าม : กฎธรรมชาตเิ กี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ก. การคดิ โดยการค้นหาว่าส่งิ ตา่ ง ๆ เกดิ ขน้ึ มาจาก ข. พีชนิยาม : กฎธรรมชาตเิ ก่ยี วกับการสบื พนั ธุ์ สาเหตุใด ค. จติ นิยาม : กฎธรรมชาติเกยี่ วกับดา้ นจติ วิทยา ข. การคิดโดยการกาหนดรู้ต้นเหตแุ หง่ ปญั ญารวู้ ธิ แี ก้ ง. กรรมนิยาม : กฎธรรมชาตทิ ่ีเก่ียวกับพฤติกรรมของมนุษย์ และแก้ปัญหาไดส้ าเรจ็ หรือกฎแห่งกรรม ค. วิธีคิดทร่ี ู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของสิง่ ตา่ ง ๆ ว่ามี ๗. กระบวนการจัดสมั มนาข้นั ตอนใดอยูใ่ นขนั้ เตรยี มการ การเกิดข้นึ และดับเปน็ ธรรมดา ก. การนาเสนอประเด็นปัญหา ง. วิธีคิดโดยการกาหนดเป้าหมายและมีวิธีไปสู่ ข. การดาเนินการสัมมนา ความสาเร็จตามเปา้ หมายทไี่ ด้วางไว้ ค. การกาหนดตวั วิทยากร ๒. วิธีคิดแบบเป็นอยู่ในขณะปัจจุบันจะต้องมีหลักธรรม ง. การหาสาเหตุปัญหา ใดกากับใจหรอื ความรู้สกึ ๘. องคป์ ระกอบใดทเี่ ป็นหวั ใจสาคัญในการจัดสมั มนา ก. สติสมั ปชญั ญะ ข. พรหมวิหารธรรม ก. ผู้จัดการสัมมนา ข. ผูเ้ ข้ารว่ มสมั มนา ค. เบญจศีล-เบญจธรรม ง. อริยสัจ ๔ ค. วทิ ยากร ง. เนอื้ หาเรือ่ งราวที่จะจัดสัมมนา ๓. พระองคลุ ิมาลเถระเปน็ ผู้มีคุณธรรมสาคัญในขอ้ ใด ๙.หลักธรรมใดเป็นการดาเนินไปสู่การดับทุกข์ได้ตามความหมาย ก. มีปฏภิ าณเป็นเลศิ ในการแกป้ ญั หา ของอริยสจั 4 ข. มีความสารวมระวงั ยิง่ ก. มรรคมอี งค์ 8 ข. โลกธรรม 8 ค. มีขันตธิ รรมอย่างย่งิ ค. ขนั ธ์ 5 ง. วิตก 3 ง. มคี วามพากเพียรยิง่ ๑๐. ข้อใดเปน็ วิธีคิดแบบอรรถธรรมสมั พันธ์ ก. วิธีคิดแบบเช่ือมโยงหลักการและความมุ่งหมายว่าทาไป ๔. โลกธรรม ๘ เป็นธรรมะเตอื นใจในเรอ่ื งใด เพอ่ื อะไร ก. ความสาเร็จในสงิ่ ทต่ี นปรารถนา ข. การวิเคราะห์ข้อเท็จจริงอย่างลึกซ้ึงว่าดีหรือไม่ดีและมี ประโยชน์หรอื ไม่ ข. เตอื นสตไิ มใ่ หป้ ระมาท ค. การคิดดี คิดสร้างสรรค์ส่งเสริมสัมมาทิฏฐิตามแนวทาง ค. ความสขุ ทแี่ ท้จริง มรรคมอี งค์ ๘ ง. การคดิ ถงึ ส่ิงทีเ่ ปน็ อยใู่ นปจั จบุ ัน ไมค่ ดิ ถงึ อดตี และอนาคต ง. ความพอดี ๕. การคิดเพื่อพัฒนาจติ ของตนใหล้ ะอกุศลกรรม ส่งเสริม คุณธรรมดีงามให้เจริญในจิตใจของตนเองเป็นวธิ ีคิดแบบ ใดตามหลกั ของโยนโิ สมนสกิ าร ก. วธิ คี ิดแบบอรรถธรรมสมั พนั ธ์ ข. วิธีคดิ แบบคณุ -โทษ และทางออก ค. วิธคี ิดแบบคณุ ค่าแท้-คุณค่าเทียม ง. วธิ คี ิดแบบอุบายปลุกเรา้ คณุ ธรรม
40 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๒ วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล เร่อื ง ความสาคัญวัฒนธรรมไทย ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓ เวลาเรยี น ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ หนว่ ยกิต ๑ (นน./นก.) ผสู้ อน นายนกิ ร ไชยบตุ ร โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. สาระสาคัญ วัฒนธรรมไทยเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นชาตไิ ทย เป็นผลรวมมาจากความคิด ความรู้ และ สติปัญญาของคนในสังคมไทยท่ีได้มีการสืบทอดต่อกันมา และมีการพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไป ตามยคุ สมัย ๒. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัดชั้นป/ี ผลการเรียนรู/้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๒.๑ เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มคี ่านิยมที่ดงี ามและธารงรักษา ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอยา่ งสนั ติสุข ตัวชว้ี ัดชั้นปี/ผลการเรยี นรู้ ส ๒.1 ม.5/๕ วิเคราะห์ความจาเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงเปล่ียนแปลงและอนุรักษ์ วฒั นธรรมไทยและเลือกรบั วฒั นธรรมสากล ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ดา้ นความรู้ : Knowledge นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายและความสาคัญของวัฒนธรรมไทยได้ ๓.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ : Process นักเรยี นมีทกั ษะกระบวนการกลุ่ม ๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ : Attitude นกั เรยี นมคี วามรักความเป็นไทย และมที ัศนคติที่ดีตอ่ การศึกษารายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น ๔.๑ ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
41 ๕. คุณลกั ษณะของวิชา - กระบวนการกลมุ่ - ความรบั ผิดชอบ - ความรอบคอบ ๖. ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ชิน้ งาน ๑) ใบงานท่ี ๒.๑ เรอื่ ง วฒั นธรรมไทย ๖.๒ ภาระงาน ๑) นกั เรยี นทากจิ กรรมกลุ่ม ๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรื่อง วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล จานวน ๑๐ ข้อ ๑๐ คะแนน ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ๑. ครูกล่าวทักทายนักเรียน พร้อมท้ังแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ จากน้ันครูครูถาม นักเรยี นวา่ นกั เรียนคิดวา่ หากประเทศไทยขาดวัฒนธรรม การดาเนินชวี ิตจะเป็นอยา่ งไร เพื่อเชอื่ มโยงเข้าสเู่ น้ือหา ข้นั สอน ๒ . นั ก เรียน แบ่ งก ลุ่ม ออก เป็ น ๔ ก ลุ่ม ตามค วามส มัคร ใจ แล้วให้ นั ก เรียน แต่ละ ก ลุ่ ม สารวจรอบ ๆ บรเิ วณโรงเรียน แล้วร่วมกนั สนทนา โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี - นักเรยี นเห็นส่งิ ใดทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ความเป็นไทยในโรงเรียนบ้าง - สิง่ ท่นี กั เรียนพบเห็นเรยี กวา่ อะไร - วัฒนธรรมหมายถงึ อะไร - นกั เรยี นร้จู ักวัฒนธรรมไทยอะไรบ้าง - เหตุใดเราจึงต้องมวี ฒั นธรรม ๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันแสวงหาความรู้ เร่อื ง ความหมายและความสาคัญของวัฒนธรรมไทย จาก หนงั สอื เรยี น หนังสอื ค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมดุ ๔. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมารบั ใบงานท่ี ๒.๑ เร่ือง วัฒนธรรมไทย ขั้นสรุป ๕. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปความหมายวัฒนธรรมไทย พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามใน ประเด็นท่ีนักเรียนสงสยั หรือไมเ่ ข้าใจ ๘. ส่อื การเรยี นการสอน / แหล่งเรยี นรู้ ๘.๑ ส่ือการเรยี นการสอน ๑) หนงั สอื เรียน พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนงั สอื คน้ คว้าเพม่ิ เติม ๘.๒ แหล่งเรียนรู้ ๑) ห้องสมุด
42 ๙. การวัดผลและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการ ประเมนิ ตามสภาพจริง สังเกตความสามารถในการใช้ เรยี นรู้ที่ ๒ ทักษะชีวติ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ แบบประเมนิ สมรรถนะสาคญั ของ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ นกั เรียน สังเกตรักความเปน็ ไทย แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคุณลักษณะอันพึง ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์
43 ๑๑. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ๑๑.๑) ผลทเ่ี กิดขึ้นกับนักเรยี น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ด้านความรู้ จานวนนกั เรยี นท่ผี ่านเกณฑ์......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรยี นท่ีไม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นร้อยละ................... ด้านทักษะกระบวนการ จานวนนกั เรียนท่ผี า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... จานวนนกั เรยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................... ด้านคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ จานวนนักเรียนท่ีผ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................... จานวนนักเรยี นทีไ่ ม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................... ดา้ นสมรรถนะผู้เรยี น จานวนนกั เรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... จานวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................... ๑๑.๒) ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ๑๑.๓) แนวทางการแกป้ ัญหา .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... (ลงชอื่ )……………………………….…………… (นายนกิ ร ไชยบุตร) ตาแหนง่ ครู วันท่.ี .......เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
44 ๑๒. ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มสาระ/สายช้ัน .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายศรีมูล สมบุตร) หวั หน้ากลุ่มสาระสงั คมศกึ ษาฯ วนั ท.่ี .......เดอื น....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๓. ความเห็นของฝา่ ยวิชาการ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... (ลงช่อื )……………………………….…………… (นายวิเศษ ฟองตา) รองผู้อานวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ วนั ท่ี........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓ ๑๔. ความเห็นของผอู้ านวยการโรงเรียน .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... (ลงชอ่ื )……………………………….…………… (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ วันที่........เดือน....................พ.ศ. ๒๕๖๓
45 ใบงานที่ ๒.๑ เรอ่ื ง วัฒนธรรมไทย นักเรียนวาดภาพท่ีสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมไทย พร้อมทั้งตั้งช่ือภาพและอธิบายความสาคัญของ วัฒนธรรมในภาพ ชอื่ ภาพ....................................................................................................................................................................... ความสาคัญ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ช่ือ.................................................................................................เลขที่..............ชั้นม.๕/..........
46 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ วัฒนธรรมไทยและวฒั นธรรมสากล เรื่อง การปรบั ปรุงเปลีย่ นแปลง ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ เวลาเรยี น ๒ ช่ัวโมง/สัปดาห์ หน่วยกิต ๑ (นน./นก.) ผู้สอน นายนิกร ไชยบุตร โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เวลา ๒ ชัว่ โมง ๑. สาระสาคญั ยุคสมัยท่ีเปลี่ยนไปทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม ดังนั้น การปรับปรุง เปลย่ี นแปลงวัฒนธรรมจึงเป็นสิ่งสาคญั เพราะวัฒนธรรมทไ่ี ม่ก่อให้เกิดประโยชน์ตอ่ ประเทศ ย่อมจะ เปน็ อุปสรรคต่อการสรา้ งความเจริญก้าวหนา้ ของประเทศได้ ๒. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั ชั้นป/ี ผลการเรียนร/ู้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มคี า่ นิยมท่ีดีงามและธารงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ติสุข ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี/ผลการเรียนรู้ ส ๒.1 ม.5/๕ วิเคราะห์ความจาเป็นท่ีจะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและอนุรักษ์ วฒั นธรรมไทยและเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล ๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ : Knowledge อธิบายความจาเปน็ ทต่ี ้องปรับปรงุ เปลย่ี นแปลงวัฒนธรรมไทยได้ ๓.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ : Process นักเรยี นมีทักษะกระบวนการกลมุ่ ๓.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude นกั เรียนมีความรักความเป็นไทย และมีทัศนคติท่ีดีต่อการศึกษารายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๔. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น ๔.๑ ความสามารถในการสอ่ื สาร
47 ๕. คณุ ลักษณะของวิชา - ความรบั ผดิ ชอบ - ความรอบคอบ - กระบวนการกลมุ่ ๖. ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๖.๑ ช้ินงาน ๑) แผนผังความคดิ ๒) ใบงานท่ี ๒.๒ เรื่อง เรียนรูว้ ฒั นธรรม ๖.๒ ภาระงาน ๑) นกั เรียนทากิจกรรมกลมุ่ ๒) นกั เรียนนาเสนอ ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ๑. ครูทบทวนความรจู้ ากคาบท่แี ลว้ จากนน้ั ครูให้นักเรียนสังเกตภาพเกีย่ วกับวัฒนธรรมไทย ในอดีตและปัจจบุ นั แลว้ รว่ มกนั สนทนา โดยใชค้ าถาม เพื่อเชือ่ มโยงเขา้ สเู่ นอ้ื หา ขั้นสอน ๒. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๔ กลุ่มตามความสมัครใจ จากน้ันศึกษาและรวบรวมข้อมูล เกี่ยวกับเร่ืองการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทย จากหนังสือเรียนหนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติม ห้องสมุด ๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มยกตวั อยา่ งวัฒนธรรมไทยท่ีควรปรับปรุงเปล่ียนแปลง พรอ้ มวิเคราะห์ ผลที่เกิดข้ึนว่าถ้าปฏิบัติจะเกิดผลอยา่ งไร ถ้าไม่ปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร แลว้ สรุปความรูเ้ ป็นแผนภาพ ความคิดลงในกระดาษบรฟุ๊ ท่คี รแู จกให้ ๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ๕. นกั เรียนสง่ ตวั แทนออกมารับใบงานที่ ๒.๒ เรื่อง เรยี นรูว้ ัฒนธรรม ขัน้ สรุป ๖. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุป เร่ืองการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง พร้อมกับเปิดโอกาสให้ นกั เรยี นซักถามในประเดน็ ทนี่ กั เรยี นสงสัยหรือไม่เข้าใจ ๘. สอื่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ ๘.๑ ส่อื การเรียนการสอน ๑) หนงั สอื เรยี น พระพทุ ธศาสนา ม.๕ ๒) หนังสือคน้ ควา้ เพิ่มเติม ๘.๒ แหลง่ เรียนรู้ ๑) หอ้ งสมดุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
