Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 4 ของไหล

หน่วยที่ 4 ของไหล

Published by khaimook spp, 2022-08-02 17:43:06

Description: หน่วยที่ 4 ของไหล

Search

Read the Text Version

สาระสาคญั ความดนั ของของไหลจะขึ้นอยู่กับความลึกและความดนั อากาศ หากเพ่มิ ความดนั ให้ของไหล ความดัน ที่พื้นผิวจะต้องถูกส่งไปยังทุกจุดในของเหลว โดยหลักการนี้ได้ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ แบลส์ ปาสกาล (Blaise Pascal) ซึ่งกฎพาสคัล (Pascal’s law) กล่าวว่า “ถ้าเพิ่มความดันให้กับของไหลที่ บรรจุในภาชะปิด ณ จุดใดๆ ความดันนั้นจะส่งกระจายกันตอ่ ไป ทาให้ทุกๆ ส่วนของของไหลได้รับความดันท่ี เพม่ิ ขึ้นเท่ากันหมด” กฎพาสคัลสามารถนามาประยุกต์สร้างเครื่องมือผ่อนแรงที่เรียกว่า ไฮดรอลิก (Hydraulic) หรือ อัดไฮดรอลิก (Hydraulic press) โดยวธิ ีการทางานของเครอ่ื งมือนี้มอี ย่วู า่ “เมื่อออกแรงกระทาที่ด้านหน่ึงของ ของไหล (แรงพยายาม) จะสามารถยกสิ่งของหรือวตั ถอุ กี ดา้ นหนง่ึ ของของไหลได้ (แรงต้าน)” จากกฎของพาสคัลสามารถอธิบายหลักการทางานของเคร่ืองอัดไฮดรอลิกได้ โดยเมอ่ื ออกแรงที่ลูกสูบ เลก็ จะทาให้เกดิ แรงดนั ทล่ี ูกสบู ใหญด่ ้วย สามารถคานวณได้จากสมการ ดังตอ่ ไปนี้ เมือ่ W คือ แรงทก่ี ระทาตอ่ ลกู สูบใหญ่ F คอื แรงท่ีกระทาตอ่ ลูกสบู เลก็ R คือ รัศมีของลกู สบู ใหญ่ r คือ รศั มีของลูกสูบเลก็ A คือ พื้นที่หน้าตดั ของลกู สูบใหญ่ a คอื พ้ืนทห่ี น้าตดั ของลกู สูบเลก็ พาสคัล นักคณิตศาสตร์กล่าวไว้ว่า เมื่อความดัน ณ ตาแหน่งใดๆ ให้กับของที่อยู่นิ่งในภาชนะปิด ความดนั จะเพ่ิมขน้ึ และถ่ายทอดไปทุกๆ จดุ ในของเหลว สามารถหาการได้เปรยี บเชิงกลได้จาก

สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ สังเคราะห์ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (จิตวทิ ยาศาสตร)์ ความใฝ่เรียนรู้และมีความอยากรู้อยากเห็น นักเรียนแสดงออกถึงความตั้งใจความต้องการที่จะรู้และ เสาะแสวงหาความรู้เกย่ี วกับสง่ิ ตา่ งๆ ทีสนใจหรอื ต้องการค้นพบส่ิงใหม่ แสดงออกได้โดยการถามคาถาม หรอื มี ความสงสัยในสิ่งที่สนใจอยากรู้ มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่สนใจ เพียร พยายามในการเรียนและการทากิจกรรมต่างๆ แสวงหาความรูจ้ ากแหลง่ เรียนร้ตู ่างๆ อย่เู สมอ โดยการเลือกใช้ สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ใบงานท่ี 4.6 คานวณปริมาณทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับกฎของพาสคัล กิจกรรมการเรียนรู้ วธิ ีสอนใช้รูปแบบวงจรการเรยี นรู้ 5 ขั้นตอน (5E Learning Cycle model) ขน้ั ท่ี 1 ข้ันสร้างความสนใจ ( 5 นาที ) 1. ครทู บทวนบทเรยี นทผ่ี ่านมา เร่อื ง กฎของพาสคัล เพอ่ื เช่อื มโยงความร้ใู นบทเรยี นใหม่ต่อไป 2. ครูต้ังคาถามเพือ่ นาเข้าสกู่ ารทากิจกรรม เร่อื ง คานวณปริมาณทีเ่ กยี่ วขอ้ งกบั กฎของพาสคัล ดงั นี้ - นกั เรยี นสามารถคานวณการออกแรงของเครื่องอัดไฮดรอลิกได้อย่างไร (แนวคาตอบ ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบที่ ถูกต้อง) ขน้ั ที่ 2 ข้ันสารวจและคน้ หา ( 25 นาที ) 3. ครูชี้แจงจุดประสงค์และวิธีการปฏิบัติกิจกรรมให้นักเรียนทราบ ตามรายละเอียดในใบงานที่ 4.6 คานวณปริมาณท่ีเก่ยี วข้องกบั กฎของพาสคัล 4. ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนออกมารบั ใบงาน และศึกษารายละเอียดกอ่ นปฏิบัติกิจกรรม 5. นักเรียนลงมือปฏิบตั ิกจิ กรรม และรายงานผล

ข้ันที่ 3 ขั้นสร้างคาอธิบายและลงข้อสรุป ( 20 นาที ) 6. ครูสุ่มนักเรียนออกมานาเสนอผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมหนา้ ชั้น 7. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ เรื่อง การคานวณปริมาณที่เกี่ยวข้องกับ กฎของพาสคัล ดังน้ี ความดันของของไหลจะขึ้นอยู่กับความลึกและความดันอากาศ หากเพิ่มความดันให้ของไหล ความดันท่ี พื้นผิวจะต้องถูกส่งไปยงั ทุกจุดในของเหลว โดยหลักการนี้ได้ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตรช์ าวฝรัง่ เศส ชื่อ แบลส์ ปาสกาล (Blaise Pascal) ซึ่งกฎพาสคัล (Pascal’s law) กล่าวว่า “ถ้าเพิ่มความดันให้กับของไหลที่บรรจุใน ภาชะปิด ณ จุดใดๆ ความดันนั้นจะส่งกระจายกันต่อไป ทาให้ทุกๆ ส่วนของของไหลได้รับความดันที่เพิ่มข้ึน เท่ากันหมด” กฎพาสคัลสามารถนามาประยุกตส์ ร้างเครื่องมือผ่อนแรงที่เรียกว่า ไฮดรอลิก (Hydraulic) หรือ อัดไฮดรอลิก (Hydraulic press) โดยวิธีการทางานของเคร่ืองมือน้มี ีอยู่ว่า “เมอื่ ออกแรงกระทาทด่ี ้านหน่ึงของ ของไหล (แรงพยายาม) จะสามารถยกสิ่งของหรือวัตถุอีกด้านหนึ่งของของไหลได้ (แรงต้าน)” ความสัมพันธ์ ������ = ������ จากกฎของพาสคัลสามารถอธิบายหลักการทางานของเครื่องอัดไฮดรอลิกได้ โดยเมื่อออกแรงที่ลูกสูบ ������ ������ ������ ������ เล็กจะทาให้เกิดแรงดนั ทีล่ ูกสบู ใหญ่ดว้ ย สามารถคานวณได้จากสมการ คอื Pลูกสบู ใหญ่ = Pลูกสูบเลก็ จะได้ ������ = ������ หรอื ������ = ������ = ( ������ )2 ������ ������ ������ ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ ( 5 นาที ) 8. ครูให้นักเรียนฝึกทาโจทย์การคานวณเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มทักษะการคานวณให้กับนักเรียนเพื่อความ แมน่ ยาในการทาแบบฝกึ หัดและทาข้อสอบต่อไป ขน้ั ท่ี 5 ประเมินผล ( 5 นาที ) 9. ครสู ังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรียนในขณะท่ีใหน้ ักเรยี นปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและการนาเสนอผล การปฏบิ ัติกจิ กรรม วัสด/ุ อุปกรณ์ สอื่ และแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นฟิสกิ ส์ ม.6 เล่ม 1 สงั กัด อจท. 2. หนงั สือเรียนฟิสิกส์ ม.6 เลม่ 5 สงั กัด สสวท. 3. หนังสอื สรปุ ฟสิ ิกส์ มธั ยมปลาย สังกัด Dream&Passion 4. PowerPoint เร่อื ง ของไหล 5. ห้องเรียน 6. ห้องสมดุ 7. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 8. ใบงานที่ 4.6 การคานวณปรมิ าณที่เกีย่ วขอ้ งกบั กฎของพาสคัล

การวดั ผลและประเมินผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนอธิบายความหมาย ตรวจใบงาน ใบงานที่ 4.6 การคานวณ ได้ระดับคุณภาพดี ของตัวแปรในสมการความ ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับกฎ จงึ ผา่ นเกณฑ์ สัมพันธ์ของกฎของพาสคัลได้ ของพาสคลั (K) 2.นักเรียนค านวณหาค่า สังเกตและประเมินการ แบบประเมินการปฏิบัติ ได้ระดับคุณภาพดี สมการความสัมพันธ์ของกฎ ปฏบิ ัติกจิ กรรม กจิ กรรมการคานวณ จึงผ่านเกณฑ์ ของพาสคลั ได้ (P) 3. มีความอยากรู้อยากเห็น สังเกตและประเมินการ แบบประเมินการมีความ ได้ระดับคุณภาพดี (A) มีความอยากรู้อยาก อยากรอู้ ยากเหน็ จึงผ่านเกณฑ์ เหน็ 4. คุณลักษณะด้านความใฝ่ สังเกตพฤตกิ รรม แ บ บ ป ร ะ เ ม ิ น ค ุ ณ - ได้ระดับคุณภาพดี เรยี นรู้ ลักษณะอันพึงประสงค์ จึงผ่านเกณฑ์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ................................................................ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา (…………………….………….……….………………………….) ........./........................./.........

การประเมินดา้ นความรู้ (K) เกณฑก์ ารให้คะแนนใบงาน ประเด็นการประเมนิ คะแนน 4 321 ความสัมพันธ์ ������ = ������ จากกฎของพาส ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผ ล งานมี ค ว า ม ������ ������ กับประเด็นการ กับประเด็นการ กับประเด็นการ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ คัลสามารถอธิบายหลักการทางานของ เครื่องอัดไฮดรอลิกได้ โดยเมื่อออกแรง ประเมิน เนื้อหา ประเมนิ ส่วนใหญ่ ประเมิน เนื้อหา ป ร ะ เ ด ็ น ก า ร ทล่ี กู สบู เลก็ จะทาให้เกิดแรงดันที่ลูกสูบ สาระของผลงาน เนื้อหาสาระของ สาระของผลงาน ประเมินเนื้อหา ใหญ่ด้วย สามารถค านวณได้จาก ถกู ต้องครบถว้ น ผลงานถูกต้องแต่ ถูกต้องเป็นบาง สาระแค่บางส่วน สมการ คือ Pลูกสูบใหญ่ = Pลูกสูบเล็ก จะได้ ������ = ������ หรอื ������ = ������ = ( ������ )2 ยังมีข้อบกพร่อง ป ร ะ เ ด ็ น แ ต่ และมีข้อบกพร่อง ������ ������ ������ ������ ������ เล็กนอ้ ย ม ี ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง มาก บางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดีมาก 4 อยูใ่ นระดบั ดี 3 อยใู่ นระดบั พอใช้ 2 อยู่ในระดบั ปรับปรุง 1 อยู่ในระดับ

การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) เกณฑ์การประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการคานวณ ประเด็นการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1.การว ิเคราะห์โ จทย์ บอกส่งิ ท่ีโจทยใ์ ห้มา และ บอกสงิ่ ท่โี จทยใ์ ห้มา และ บอกสิ่งท่ีโจทยใ์ หม้ า และ ปญั หา สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ อย่างถูก และเขียน และเขียนสมการการ และเขียนสมการการ สมการการคานวณของ โจทย์ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ค านวณของโจทย์ได้ คานวณของโจทยไ์ ด้ อยา่ งถูกต้อง 2.เลือกสูตรที่เหมาะสม เลือกสูตรการคานวณที่ เลือกสูตรการคานวณที่ เลือกสูตรการคานวณท่ี และสมั พันธก์ ับโจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ ต้องการให้หาได้อย่าง ต้องการให้หาได้อย่าง ต้องการให้หาได้ แต่ไม่ ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ถกู ต้อง สามารถหาค าตอบที่ ถกู ตอ้ งได้ 3.การแทนค่าและแสดงวิธี การแทนค่าของตัวแปร การแทนค่าของตัวแปร การแทนค่าของตัวแปร หาคาตอบ ในโจทย์ได้อย่างถูกต้อง ในโจทย์ได้อย่างถูกต้อง ในโจทย์ได้ และแสดง แสดงวิธีการคานวณเป็น แสดงวิธีการคานวณเป็น วิธกี ารคานวณได้ ลาดบั ขั้นตอนชดั เจนและ ล าดับขั้นตอนและได้ ได้ค าตอบที่ถูกต้องมี คาตอบทถ่ี กู ต้อง ความแมน่ ยา 4.ตรวจสอบค าตอบของ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ โจทย์ และระบุหน่วยได้ คาตอบของโจทยไ์ ด้อย่าง คาตอบของโจทยไ์ ด้ และ คาตอบของโจทย์ได้บ้าง ชดั เจน ถูกต้อง และระบุหน่วย ระบหุ นว่ ยไดช้ ัดเจน เล็กน้อย และระบุหน่วย ได้ชัดเจน ได้ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 9 – 12 อย่ใู นระดับ ดมี าก 5 – 8 อยูใ่ นระดบั ดี 1 – 4 อยใู่ นระดับ พอใช้

การประเมินดา้ นเจตคติ (A) เกณฑ์การประเมนิ การมีความอยากรู้อยากเหน็ ประเด็นการประเมิน 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะ พยายามหาความรู้ใหม่ๆ มีการแสวงหาความรู้บ้าง ไม่มีการแสวงหาความรู้ เสาะแสวงหาความรู้ใน อยู่เสมอ ซึ่งไม่สามารถ นาความรู้ที่มีอยู่เดิมมา ใดๆ ใช้เพียงความรู้เดิม ส ถ า น ก า ร ณ ์ ใ ห ม่ ๆ อธิบายได้ด้วยความรู้ที่มี อธิบายเล็กน้อย จึงทาให้ ที่มีอยเู่ ทา่ นั้น ไมเ่ กดิ การ ต ร ะ ห น ั ก ถ ึ ง ค ว า ม อยู่เดิม เพื่อให้เกิดการ เกดิ การเรยี นร้ไู ด้น้อย ซ่ึง เรียนรู้เท่าที่ควร และไม่ สาคัญของการแสวงหา เรียนรู้ และใช้ความรู้ที่ อ า จ ป ร ั บ ใ ช ้ ไ ด ้ กั บ สามารถแก้ไขต่างๆ ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม และช่าง ได้ในการแก้ปัญหา หรือ ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ า ว ั น แ ค่ ไม่ใหค้ วามสาคญั กับการ ซัก ช่างถาม ช่างอ่าน ใช้กับชีวิตประจาวันได้ บางส่วน ให้ความสาคัญ เรียนรู้เท่าที่ควร และไม่ เพื่อให้ได้ค าตอบเป็น ให้ความสาคัญกับการ กับการเรียนรู้บ้าง แต่ไม่ มีการสังเกต หรือเกิด ความรู้ที่สมบูรณ์แบบ เรียนรู้ เป็นผู้กระตือ- มีความกระตือรือร้นใน ความสงสยั เท่าท่คี วร ย่ิงขน้ึ รือร้นในการเรียนหรือ การเรียนหรือแสวงหา แสวงหาความรอู้ ยู่เสมอ ความรู้ และรู้จักถามเมื่อ และช่างสงสัย สังเกต มีข้อสงสัยจากการได้ รู้จักถามเมื่อมีข้อสงสัย สังเกตบ้าง ท าให้ ได้ ท าให้ได้ค าตอบที่เป็น ค าตอบที่เป็นความรู้ ความรู้ที่สมบูรณ์แบบ เพ่มิ เตมิ จากความรเู้ ดิม ยิ่งข้นึ เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยูใ่ นระดับ พอใช้ 1 อยูใ่ นระดับ

การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคด์ า้ นใฝเ่ รียนรู้ ตัวชี้วัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ชวี้ ัด พฤติกรรมบ่งชี้ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน 4.1.1 ตัง้ ใจเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ 4.2.1 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เทคโนโลยีต่างๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสิ่งที่เรียนรู้ สรุป ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนาไปใช้ เปน็ องค์ความรู้ ในชีวติ ประจาวันได้ 4.2.3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผู้สอน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี 32 1 ตามข้อ 4.1 – 4.2 เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก บอ่ ยครัง้ เปน็ บางครงั้ โรงเรยี นเป็นประจา

ระดบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดเี ย่ยี ม 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยู่ในระดบั ผ่าน 1 อยูใ่ นระดับ ไมผ่ า่ น 0 อยู่ในระดับ หมายเหตุ นักเรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์

การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรมการคานวณ รายช่ือสมาชกิ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชแี้ จง: ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน 3 21 1.การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา 2.เลือกสตู รที่เหมาะสมและสัมพนั ธ์กับ โจทย์ 3.การแทนค่าและแสดงวธิ ีหาคาตอบ 4.ตรวจสอบคาตอบของโจทย์ และระบุ หนว่ ยได้ชัดเจน รวมคะแนน ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน ดมี าก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ดมี าก 9 – 12 อย่ใู นระดบั ดี 5 – 8 อย่ใู นระดับ พอใช้ 1 – 4 อยู่ในระดบั

การประเมินดา้ นเจตคติ (A) แบบประเมินการมีความอยากร้อู ยากเหน็ รายช่ือสมาชิก…………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชีแ้ จง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะเสาะ แสวงหาความรู้ในสถาน การณ์ใหม่ๆ ตระหนักถึง ความสาคัญของการแสวงหา ข้อมูลเพิ่มเติม และช่างซัก ช่างถาม ช่างอ่าน เพื่อให้ได้ คาตอบเป็นความรู้ที่สมบูรณ์ แบบย่งิ ขึ้น รวมคะแนน ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อย่ใู นระดบั พอใช้ 1 อยู่ในระดบั

การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ใฝ่เรียนรู้) นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 คาชแ้ี จง: ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอื่ – นามสกลุ คะแนน 1 ท่ี 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ดเี ยย่ี ม 3 อยู่ในระดับ ดี 2 อยใู่ นระดับ ผ่าน 1 อยใู่ นระดบั ไมผ่ า่ น 0 อยูใ่ นระดบั หมายเหตุ นกั เรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์

บนั ทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ผลการจัดกจิ กรรม ตารางท่ี 1 ผลการประเมินด้านความรู้ (K) ลาดบั ที่ ระดบั ช้นั จานวน ดมี าก (4) สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรยี น รวม ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางท่ี 2 ผลการประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (P) ลาดับท่ี ระดบั ช้ัน จานวน สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรียน ดมี าก (9 – 12) ดี (5 – 8) พอใช้ (1 – 4) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 รวม 3 ม.6/4 4 ม.6/5

บนั ทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผลการจดั กจิ กรรม ตารางท่ี 3 ผลการประเมนิ ดา้ นเจตคติ (A) ลาดบั ที่ ระดับชนั้ จานวน ดีมาก (3) สรุปผลการประเมนิ พอใช้ (1) รวม นกั เรยี น รวม ดี (2) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางที่ 4 ผลการประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ลาดับที่ ระดับชน้ั จานวน ดมี าก (3) สรุปผลการประเมิน ไม่ผา่ น (0) รวม นักเรียน รวม ดี (2) ผา่ น (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5

บนั ทกึ หลังการสอน ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 ผลการสอน ด้านความร.ู้ ................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ด้านทกั ษะ.................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ดา้ นเจตคต.ิ .................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ด้านสมรรถนะ.................................................................................................................. ................................... ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค.์ ........................................................................................................................... ปัญหา/อปุ สรรค................................................................................................................ .................................. ........................................................................................................................................ .................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ไข................................................................................................................... ............................. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ หมายเหตุ..................................................................................................................... ........................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... ลงชื่อ..........................................................ผสู้ อน (.............................................................) ........./........................./.........

ใบงานที่ 4.6 การคานวณปริมาณท่ีเกยี่ วขอ้ งกับกฎของพาสคลั จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นอธิบายความหมายของตัวแปรในสมการความสัมพันธข์ องกฎของพาสคัลได้ (K) 2. นกั เรียนคานวณหาคา่ สมการความสมั พนั ธข์ องกฎของพาสคัลได้ (P) 3. มีความใฝเ่ รียนรู้และอยากรอู้ ยากเห็น (A) คาช้ีแจง : ให้นักเรยี นคานวณปริมาณที่เกีย่ วขอ้ งกบั กฎของพาสคัลจากโจทย์ทกี่ าหนดใหต้ ่อไปนใี้ ห้ถกู ต้อง 1. เครื่องอัดไฮดรอลิกเครื่องหนึ่ง มีพื้นที่หน้าตัดลูกสูบใหญ่เป็น 10 เท่าของลูกสูบเล็ก ถ้าออกแรงกดที่ ลกู สบู เล็ก 50 นวิ ตนั น้าหนักทค่ี วรยกไดเ้ ป็นเท่าใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. เครื่องอัดไฮดรอลิกเครื่องหนึ่งมีขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางของกระบอกสูบใหญ่ต่อกระบอกสูบเล็ก เปน็ 5 : 1 จะสามารถใชย้ กวตั ถทุ น่ี า้ หนกั เป็นกีเ่ ทา่ ของแรงที่ใช้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. เครื่องอัดไฮดรอลิกเครื่องหนึ่งมีการได้เปรียบเชิงกล 4 เท่า ถ้ารัศมีของลูกสูบเล็กเท่ากับ 10 เซนติเมตร รัศมขี องลกู สูบใหญจ่ ะมีค่าเท่าใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ถ้าออกแรง 100 นิวตัน ทล่ี ูกสูบเล็ก ลกู สูบใหญจ่ ะยกนา้ หนักได้กีน่ วิ ตนั เมือ่ กาหนดให้ลูกสูบใหญ่ของ เครือ่ งไฮดรอลิกมีรศั มีเปน็ 8 เทา่ ของลกู สบู เลก็ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. เครือ่ งอัดไฮดรอลิกเคร่ืองหน่ึง ลกู สบู เล็กมีรศั มี 5 เซนติเมตร และลกู สูบใหญม่ ีรศั มี 50 เซนติเมตร ถ้า ต้องการยกวตั ถุหนกั 2,000 นวิ ตัน ตอ้ งออกแรงท่ีลูกสบู เล็กเทา่ ใด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 32 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว30205 รายวชิ า ฟิสกิ ส์ 5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ของไหล เร่ือง แรงพยงุ และหลักอาร์คิมีดีส วนั ท…่ี …….เดอื น……………พ.ศ……………… เวลา……………………น. จานวน 2 ช่วั โมง ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ผู้สอน นางสาวไขม่ ุก สุพร สาระฟสิ ิกส์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุและมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติละสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติ และพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรง นวิ เคลียร์ ปฏกิ ริ ิยานิวเคลียร์ พลังงานนวิ เคลยี ร์ ฟสิ ิกส์อนภุ าค รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ทดลอง อธบิ าย และคานวณขนาดแรงพยุงจากของไหลได้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอธบิ ายเรอ่ื งแรงพยุงและหลกั อาคีมิดสิ ได้ (K) 2. นักเรียนสบื คน้ เกีย่ วกับแรงพยุงและหลักอาคีมิดิสได้ (P) 3. มีความใฝ่เรียนรู้และทางานร่วมกบั ผู้อื่นไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ (A) สาระการเรยี นรู้ วัตถุที่อยู่ในของไหลทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนจะถูกแรงพยุงจากของไหลกระทา โดยขนาดแรงพยุง เท่ากับขนาดน้าหนกั ของของไหลท่ีถูกวัตถุแทนท่ีตามหลักของอาร์คมิ ีดีส ซึ่งใช้อธิบายการลอยการจมของวตั ถุ ต่างๆ ในของไหล ขนาดแรงพยงุ จากของไหลคานวณได้จากสมการ ������������ = ������������������ สาระสาคญั แรงพยุง (Buoyant) คือ แรงลัพธ์ที่ของเหลวกระทาต่อวัตถุที่จมอยู่ในของเหลว ดังสมการ FB = pเหลว Vจมg

หลักอาร์คิมีดิส (Archimedes’principle) มีหลักว่า “วัตถุที่จมในของเหลวหมดทั้งก้อน หรือจมแต่ เพียงบางส่วนจะถูกแรงพยุงกระทาและแรงพยุงจะเท่ากับน้าหนักของของเหลวที่ถูกวัตถุนั้นแทนท่ี ” หลัก อาร์คมิ ิดิส สามารถเขยี นไดด้ งั น้ี ในกรณที ่ีวตั ถุจม ขนาดแรงพยงุ = ขนาดนา้ หนักของของเหลวท่ีมปี ริมาตรเทา่ กบั วตั ถุ ในกรณที่วัตถุลอย ขนาดแรงพยุง = ขนาดน้าหนักของของเหลวที่มีปริมาตรเท่ากับวัตถุส่วนที่จมใน ของเหลว สมรรถนะสาคญั ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทักษะการคดิ สงั เคราะห์ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (จติ วิทยาศาสตร)์ ความใฝ่เรียนรู้และทางานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ นักเรียนแสดงออกถึงความตั้งใจความ เพียรพยายามในการเรียนและการทากิจกรรมต่างๆ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ อยู่เสมอ โดยการ เลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ และมีการใช้ทักษะทางสังคม การมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบุคคลอื่น การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น การขอความช่วยเหลือและความ รว่ มมอื จากผู้อน่ื เพอื่ ความรว่ มมือในการทางานกลมุ่ ชิน้ งาน/ภาระงาน ใบงานท่ี 4.7 แรงพยงุ และหลักอารค์ มิ ดี สี กจิ กรรมการเรียนรู้ วิธสี อนใช้รูปแบบวงจรการเรียนรู้ 5 ข้นั ตอน (5E Learning Cycle model) ขัน้ ท่ี 1 ขน้ั สร้างความสนใจ ( 15 นาที ) 1. ครูทบทวนบทเรยี นที่ผ่านมา เรื่อง คานวณปรมิ าณที่เกย่ี วข้องกบั กฎของพาสคัล เพ่ือเชอ่ื มโยงความรู้ ในบทเรียนใหม่ต่อไป 2. ครูสาธิตหรอื แสดงภาพการจมการลอยของวัตถุต่างๆ เชน่ โฟม แทง่ ไม้ หรอื การจมการลอยของวัตถุ ชนิดเดียวกันในของเหลวชนิดต่าง ๆ หรือการจมการลอยของวัตถุชนิดต่าง ๆ ในของเหลวชนิดเดียวกัน หรือ

การลอยของวัตถุในอากาศ เช่น การลอยของบอลลูน ลูกโป่ง โคมลอย ให้นักเรียนสังเกตการจมการลอยของ วัตถุ 3. ครตู ง้ั คาถามให้นักเรียนได้ร่วมกันคดิ ว่า เพราะเหตุใด วตั ถุจึงสามารถลอยนา้ ได้ และการจมการลอย ของวัตถใุ นของเหลวขึน้ อย่สู ิ่งใด 4. ครูให้นักเรียนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจมการลอยของวัตถุ ซึ่งนักเรียนจะได้คาตอบที่ ถกู ต้องจากการเรียนตอ่ ไป ขนั้ ที่ 2 ข้ันสารวจและคน้ หา ( 45 นาที ) 5. ใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4 - 5 คน และให้ตัวแทนกลุ่มมารับใบงาน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษากิจกรรมจากใบงานที่ 4.7 แรงพยุงและหลักอารค์ มิ ีดสี 7. ครูชแี้ จงจุดประสงคแ์ ละวธิ ีการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมให้นกั เรยี นทราบ 8. นกั เรยี นลงมอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม และรายงานผล ขัน้ ที่ 3 ขั้นสร้างคาอธิบายและลงขอ้ สรปุ ( 35 นาที ) 9. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหนา้ ช้ัน 10. ครูให้นกั เรียนร่วมกันอภิปรายเพอื่ นาไปสกู่ ารสรปุ โดยใช้คาถามตอ่ ไปนี้ - แรงพยงุ หรอื แรงลอย คืออะไร จงอธบิ าย (แนวคาตอบ แรงลัพธ์ที่เกิดจากผลรวมของแรงที่ของเหลวกระทาต่อวัตถุส่วนที่จมอยู่ใน ของเหลวนั้น ซึ่งจะมีขนาดของแรงลพั ธ์เท่ากับน้าหนักของของเหลวท่ีมีปริมาตรเทา่ กับวัตถุส่วนที่จม ถ้าพบวา่ วตั ถุน้นั อย่นู ่ิงในนา้ แรงลพั ธ์ท่ีกระทาตอ่ วัตถจุ ะมคี ่าเท่ากบั ศูนย์) - กฎขอ้ ใดของที่นวิ ตันที่มีส่วนเก่ยี วข้องกับแรงพยงุ จงอธิบาย (แนวคาตอบ กฎการเคลื่อนทขี่ ้อ 1 ของนวิ ตัน อธิบายไดด้ งั น้ี แรงพยงุ = น้าหนักของวัตถุที่ช่ัง ในอากาศ - น้าหนกั วตั ถุที่ชั่งในของเหลว) - เม่ือช่ังน้าหนกั วตั ถุในของเหลวกับในอากาศแตกต่างกนั อย่างไร (แนวคาตอบ เมื่อเราชั่งน้าหนักของวัตถุในของเหลวจะน้อยกว่าเมื่อชั่งในอากาศ เนื่องจาก ของแข็งเมื่ออยู่ในของเหลวจะเกิดแรงดันจากของเหลวกระทากับวัตถุส่วนที่จม ซึ่งก็คือ แรงพยุง โดย อารค์ มิ ีดสี ) 11. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายเกี่ยวกับ เรอ่ื ง แรงพยงุ และหลักอาร์คิมดี ีส ดงั น้ี แรงลัพธท์ ี่เกิดจาก ผลรวมของแรงท่ีของเหลวกระทาต่อวัตถุส่วนที่จมอยู่ในของเหลวน้นั ซงึ่ จะมีขนาดของแรงลัพธ์เท่ากับน้าหนัก ของของเหลวที่มีปริมาตรเท่ากับวัตถุส่วนที่จม ถ้าพบว่าวัตถุนั้นอยู่นิ่งในน้า แรงลัพธ์ที่กระทาต่อวัตถุจะมีค่า เท่ากับศูนย์ ตามกฎการเคลื่อนที่ข้อ 1 ของนิวตัน ที่อธิบายไว้ว่า แรงพยุง = น้าหนักของวัตถุท่ีชั่งในอากาศ – น้าหนักวัตถุท่ีช่ังในของเหลว เมื่อเราชั่งน้าหนักของวัตถุในของเหลวจะน้อยกว่าเมื่อชั่งในอากาศ เนื่องจาก

ของแข็งเมอ่ื อยู่ในของเหลวจะเกดิ แรงดนั จากของเหลวกระทากับวตั ถสุ ว่ นทจี่ ม ซงึ่ ก็คือ แรงพยงุ โดยอารค์ ิมีดีส (Archimedes) นกั ปราชญ์ชาวกรีกได้ศึกษาเกยี่ วกับขนาดของแรงที่เกิดข้ึนในของเหลวท่ีกระทาตอ่ วัตถุที่จมอยู่ ในของเหลว และสรปุ เป็นหลกั การเกี่ยวกับแรงพยงุ ไวว้ า่ ขนาดของแรงพยุง = ขนาดน้าหนกั ของของเหลวที่ถูก วัตถุแทนที่ ซึ่งหลักอาร์คิมีดีสมีหลักว่า วัตถุที่จมในของเหลวหมดทั้งก้อน หรือจมแต่เพียงบางส่วนจะถูกแรง พยุงกระทาและแรงพยุงจะเท่ากับน้าหนักของของเหลวที่ถูกวัตถุนั้นแทนท่ี” หลักอาร์คิมิดิส สามารถเขียนได้ ดังนี้ ในกรณีที่วตั ถุจม ขนาดแรงพยุง = ขนาดน้าหนักของของเหลวที่มีปริมาตรเท่ากับวัตถุ และในกรณที่วตั ถุ ลอย ขนาดแรงพยงุ = ขนาดนา้ หนักของของเหลวทม่ี ปี รมิ าตรเทา่ กับวตั ถุส่วนท่จี มในของเหลว ขั้นท่ี 4 ขั้นขยายความรู้ ( 15 นาที ) 12. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับแรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีสที่นักเรียนสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจาวัน เชน่ บอลลูน โคมลอย เรือดานา้ ทุน่ ลอยน้า เป็นต้น ขนั้ ที่ 5 ประเมินผล ( 10 นาที ) ครูสังเกตและประเมินพฤติกรรมของนักเรียนในขณะทใ่ี ห้นักเรยี นปฏบิ ัตกิ จิ กรรมและการนาเสนอผลการปฏิบัติ กิจกรรม วัสดุ/อุปกรณ์ ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นฟสิ ิกส์ ม.6 เล่ม 1 สงั กดั อจท. 2. หนงั สอื เรียนฟสิ ิกส์ ม.6 เลม่ 5 สงั กัด สสวท. 3. หนงั สอื เสริมการเรียนฟิสิกส์ ม.4 – 6 เลม่ 5 สงั กดั The Book. 4. PowerPoint เรื่อง ของไหล 5. ห้องเรยี น 6. ห้องสมุด 7. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ 8. ใบงานท่ี 4.7 แรงพยุงและหลักอาร์คิมีดสี

การวดั ผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีวดั เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน 1.นักเรียนอธิบายเรื่องแรง ตรวจใบงาน ใบงานที่ 4.7 แรงพยุงและ ได้ระดับคุณภาพดี พยงุ และหลักอาคมี ดิ สิ ได้ (K) หลักอาร์คมิ ดี สี จงึ ผ่านเกณฑ์ 2.นักเรียนสืบค้นเกี่ยวกับแรง สังเกตและประเมินการ แบบประเมินการปฏิบัติ ได้ระดับคุณภาพดี พยุงและหลักอาคมี ิดิสได้ (P) ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม กิจกรรมการสบื คน้ จึงผ่านเกณฑ์ 3. ทางานร่วมกับผูอ้ ื่นได้อยา่ ง สังเกตและประเมินการ แบบประเมินการมีความ ได้ระดับคุณภาพดี สรา้ งสรรค์ (A) ทางานร่วมกับผู้อื่นได้ อยากรู้อยากเหน็ จงึ ผา่ นเกณฑ์ อย่างสร้างสรรค์ (A) 4. คุณลักษณะด้านความใฝ่ สังเกตพฤติกรรม แ บ บ ป ร ะ เ ม ิ น ค ุ ณ - ได้ระดับคุณภาพดี เรียนรู้ ลักษณะอันพึงประสงค์ จึงผ่านเกณฑ์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ................................................................ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา (…………………….………….……….………………………….) ........./........................./.........

การประเมินด้านความรู้ (K) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนใบงาน ประเด็นการประเมนิ คะแนน 4 321 แรงลัพธ์ที่เกิดจากผลรวมของแรงท่ี ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานมี ค ว า ม ของเหลวกระทาต่อวัตถสุ ่วนที่จมอยูใ่ น กับประเด็นการ กับประเด็นการ กับประเด็นการ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ ของเหลวนนั้ ซ่งึ จะมขี นาดของแรงลัพธ์ ประเมิน เนื้อหา ประเมินสว่ นใหญ่ ประเมิน เนื้อหา ป ร ะ เ ด ็ น ก า ร เท่ากับน ้าหนักของของเหลวที่มี ปริมาตรเท่ากับวัตถุส่วนที่จม ถ้าพบว่า สาระของผลงาน เนื้อหาสาระของ สาระของผลงาน ประเมินเนื้อหา วัตถุนั้นอยู่นิ่งในน้า แรงลัพธ์ที่กระทา ถูกตอ้ งครบถว้ น ผลงานถูกต้องแต่ ถูกต้องเป็นบาง สาระแค่บางส่วน ยังมีข้อบกพร่อง ป ร ะ เ ด ็ น แ ต่ และมีข้อบกพร่อง ต่อวัตถุจะมีค่าเท่ากับศูนย์ ตามกฎการ เคลื่อนที่ข้อ 1 ของนิวตัน ที่อธิบายไว้ เลก็ นอ้ ย ม ี ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง มาก ว่า แรงพยุง = น้าหนักของวัตถุท่ีชั่งใน บางส่วน อากาศ – น้าหนักวัตถุที่ชั่งในของเหลว เมื่อเราชั่งน้าหนักของวัตถุในของเหลว จะน้อยกว่าเมื่อชั่งในอากาศ เนื่องจาก ของแข็งเมื่ออยู่ในของเหลวจะเกิด แร งด ั น จ ากของเ ห ล วกร ะท ากั บวัตถุ ส่วนที่จม ซึ่งก็คือ แรงพยุง โดยอาร์คิมี ดีส ได้ศึกษาเกี่ยวกับขนาดของแรงที่ เกิดขึ้นในของเหลวที่กระทาต่อวัตถุท่ี จมอยู่ในของเหลว และสรุปเป็น หลักการเกี่ยวกับแรงพยุงไว้ว่า ขนาด ของแรงพยุง = ขนาดน้าหนักของ ของเหลวที่ถกู วัตถแุ ทนที่ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ดมี าก 4 อย่ใู นระดบั ดี 3 อยใู่ นระดบั พอใช้ 2 อยู่ในระดบั ปรบั ปรุง 1 อยู่ในระดบั

การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (P) เกณฑ์การประเมนิ การปฏบิ ัติกจิ กรรมการสบื ค้น ประเดน็ การประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1.การวางแผน การแบ่ง วางแผนงานล่วงหน้า ไม่มีการวางแผนงาน ไม่มีการวางแผนงาน หนา้ ท่ีกันทางาน และแบ่งหน้าที่งานให้ ลว่ งหนา้ แต่สามารถแบ่ง ล่วงหนา้ แตส่ ามารถแบ่ง ชัดเจนเพื่อให้การสืบค้น หน้าที่งานได้เพื่อให้การ หน้าที่งานได้เพื่อให้การ ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง และครอบคลุม สืบค้นได้ข้อมูลที่ ถูกต้อง สืบค้นได้ข้อมูลที่ ถูกต้อง ประเด็นสาคญั และตรงประเด็นมาก บางส่วน และตรง ท่ีสุด ประเด็นบา้ งเล็กนอ้ ย 2.ส ื บ ค ้ น จ า ก แ ห ล ่ ง ท่ี ใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือ ใช้แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือ ใช้แหล่งข้อมูลที่ไม่ เหมาะสม และหลากหลาย ได้ มีความถูกต้อง และ ไ ด ้ เ ป ็ น ส ่ ว น ใ ห ญ ่ มี น่าเชื่อถือ แต่เนื้อหายังมี ได้ข้อมูลที่น่าสนใจใน ความถูกต้องบ้าง และ ความถูกต้องเล็กน้อย หลากหลายมมุ มอง ข้อมูลมีความน่าสนใจ แ ล ะ ข ้ อ ม ู ล ม ี ค ว า ม เลก็ นอ้ ย น่าสนใจแตเ่ ปน็ ส่วนน้อย 3.การรวบรวมข้อมูล การ รวมรวบข้อมูล วิเคราะห์ รวมรวบข้อมูล วิเคราะห์ รวมรวบข้อมูล วิเคราะห์ วิเคราะห์ และสรุป และสรุปได้ถูกต้อง และ และสรุปได้ถูกต้องเป็น แ ล ะ ส ร ุ ป ไ ด ้ ถ ู ก ต ้ อ ง สอดคล้องกับประเด็น ส่วนใหญ่ และสอดคล้อง เล็กน้อย และสอดคล้อง สาคัญ กบั ประเด็นสาคญั กับประเด็นสาคัญบ้าง บางส่วน 4.งานสาเร็จทันเวลาและมี งานส าเร็จลุล่วงได้ใน งานส าเร็จได้ มีความ งานส าเร็จได้แต่ไม่ คุณภาพ เว ลาที่ก าหนด และ ล่าช้าเล็กน้อย แต่ยังมี ทันเวลาที่ก าหนด มี ถูกต้อง ครอบคลุม และ ความถูกต้อง ครอบคลุม ความถูกต้อง ครอบคลุม สอดคล้องกับประเด็น แ ล ะ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ สอดคล้องกับประเด็น ส า ค ั ญ ท า ใ ห ้ ง า น มี ประเด็นสาคัญถือว่างาน สาคัญบ้างเล็กน้อย และ คณุ ภาพ มีคณุ ภาพ มขี ้อบกพรอ่ งบางส่วน

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ดีมาก 9 – 12 อยู่ในระดับ ดี 5 – 8 อยู่ในระดบั พอใช้ 1 – 4 อยใู่ นระดบั

การประเมินดา้ นเจตคติ (A) เกณฑ์การประเมนิ การทางานรว่ มกับผู้อน่ื อยา่ งสร้างสรรค์ ประเดน็ การประเมิน 3 คะแนน 1 2 1. การมสี ว่ นรว่ ม สมาชิกกลุ่มทุกคนมีส่วน สมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่มี สมาชิกกลุ่มให้ความ ร่วมในการปฏิบัติงาน ส่วนร่วมในการปฏิบัติ ร่วมมอื ในการปฏิบัติงาน กลมุ่ งานกล่มุ กล่มุ เปน็ สว่ นนอ้ ย 2. การว างแผนในกา ร มีการวางแผนและแบ่ง มีการวางแผนในการ ไม่มีการวางแผนในการ ทางาน หน้าที่ในการทางานของ ทางาน แต่ไม่มีการแบ่ง ทางาน และสมาชิกทุก สมาชกิ ครบทุกคน หน้าท่ีให้สมาชิกทกุ คน คนมีหน้าที่ในการท า งานทีไ่ ม่ชัดเจน 3. ร่วมคิดแก้ไขปัญหาใน มีการระดมความคิดใน มีการระดมความคิดแต่ ไม่มีการระดมความคิด ระหวา่ งการทางานกลมุ่ การแก้ไขปัญหาและรับ รับฟังความคิดเห็นไม่ สมาชิกแก้ไขปัญหาเป็น ฟังความคิดเห็นของทุก ครบทุกคน หรือบางคน สว่ นนอ้ ย คน ไมอ่ อกความคิดเหน็ เกณฑ์การให้คะแนน ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ดมี าก 7 - 9 อยใู่ นระดบั ดี 4 - 6 อย่ใู นระดับ พอใช้ 1 - 3 อยู่ในระดับ

การประเมนิ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ดา้ นใฝ่เรียนรู้ ตัวชี้วัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตัวชวี้ ัด พฤตกิ รรมบ่งชี้ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน และ 4.1.1 ตั้งใจเรยี น เข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1.2 เอาใจใสแ่ ละมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรูต้ า่ งๆ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ 4.2.1 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการ เทคโนโลยีต่างๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และ เลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ เลอื กใช้ส่ือไดอ้ ยา่ งเหมาะสม วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยน 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสิ่งท่ีเรียนรู้ สรุปเป็นองค์ เรียนรู้ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้ ความรู้ 4.2.3 แลกเปล่ียนเรยี นร้ดู ้วยวิธกี ารต่างๆ และนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เกณฑ์การให้คะแนน (ใช้ขอ้ มูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผูส้ อน) พฤตกิ รรมบ่งชี้ 321 ตามข้อ 4.1 – 4.2 เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เอาใจใส่ในการเรียน และมี เรียน เอาใจใส่ในการเรียน เรียน เอาใจใส่ในการเรียน ส่วนร่วมในการเรียนรู้ และ และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ และเข้าร่วมกิจกรรมการ และเข้าร่วมกิจกรรมการ ต่างๆ ท้งั ภายในและภายนอก เรียนรูต้ ่างๆ บ่อยคร้ัง เรียนรูต้ า่ งๆ เปน็ บางครัง้ โรงเรยี นเปน็ ประจา ระดับเกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 3 อยู่ในระดบั ดเี ยยี่ ม 2 อยูใ่ นระดับ ดี 1 อยู่ในระดับ ผ่าน 0 อยใู่ นระดบั ไม่ผ่าน หมายเหตุ นกั เรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผา่ นเกณฑ์

การประเมินด้านทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ (P) แบบประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ กรรมการสบื ค้น รายช่อื สมาชิก…………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชี้แจง: ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ ระดบั คะแนน 3 21 1.การวางแผน การแบ่งหน้าที่กัน ทางาน 2.สืบค้นจากแหล่งที่เหมาะสม และ หลากหลาย 3.การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ และสรุป 4.งานสาเร็จทนั เวลาและมคี ณุ ภาพ รวมคะแนน ผลการประเมินอยูใ่ นระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดีมาก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถงึ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ดีมาก 9 – 12 อยใู่ นระดบั ดี 5 – 8 อยู่ในระดบั พอใช้ 1 – 4 อยู่ในระดับ

การประเมินดา้ นเจตคติ (A) แบบประเมินการทางานรว่ มกบั ผอู้ ่นื อยา่ งสร้างสรรค์ กล่มุ ท…่ี ………. รายชือ่ สมาชิก…………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ประเดน็ การประเมนิ ระดับคะแนน 3 21 1. การมีสว่ นรว่ ม 2. การวางแผนในการทางาน 3. ร่วมคิดแก้ไขปัญหาในระหวา่ งการทางานกลุ่ม รวมคะแนน ผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดมี าก 3 หมายถงึ ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 1 หมายถงึ เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ดีมาก 7 - 9 อยูใ่ นระดับ ดี 4 - 6 อยใู่ นระดับ พอใช้ 1 - 3 อยใู่ นระดับ

การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ใฝ่เรียนรู้) นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 คาชแ้ี จง: ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอื่ - นามสกลุ คะแนน 1 ท่ี 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ดเี ยย่ี ม 3 อยู่ในระดับ ดี 2 อยใู่ นระดับ ผ่าน 1 อยใู่ นระดบั ไมผ่ า่ น 0 อยูใ่ นระดบั หมายเหตุ นกั เรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์

บนั ทกึ หลังการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผลการจัดกิจกรรม ตารางที่ 1 ผลการประเมินด้านความรู้ (K) ลาดับที่ ระดบั ช้นั จานวน ดีมาก (4) สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรยี น รวม ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางที่ 2 ผลการประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) ลาดับท่ี ระดบั ช้ัน จานวน สรปุ ผลการประเมนิ รวม นกั เรียน ดีมาก (9 – 12) ดี (5 – 8) พอใช้ (1 – 4) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 รวม 3 ม.6/4 4 ม.6/5

บันทึกหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ผลการจดั กิจกรรม ตารางที่ 3 ผลการประเมินด้านเจตคติ (A) ลาดบั ที่ ระดับชั้น จานวน สรปุ ผลการประเมิน รวม นักเรียน ดมี าก (7 - 9) ดี (4 - 6) พอใช้ (1 - 3) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 รวม 3 ม.6/4 4 ม.6/5 ตารางที่ 4 ผลการประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ลาดบั ที่ ระดับชั้น จานวน ดีมาก (3) สรปุ ผลการประเมนิ ไมผ่ า่ น (0) รวม นักเรียน รวม ดี (2) ผ่าน (1) 1 ม.6/1 2 ม.6/3 3 ม.6/4 4 ม.6/5

บนั ทกึ หลังการสอน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ผลการสอน ดา้ นความร้.ู ................................................................................................................. ....................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ดา้ นทักษะ....................................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ดา้ นเจตคติ....................................................................................................................... .................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ดา้ นสมรรถนะ...................................................................................................................... ............................... ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์......................................................................... ................................................... ปญั หา/อปุ สรรค................................................................................................................ .................................. ............................................................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ แนวทางการแกไ้ ข.................................................................................................................................. .............. ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................................ หมายเหตุ..................................................................................................................... ........................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………....................... ลงชอ่ื ..........................................................ผู้สอน (.............................................................) ........./........................./.........

ใบงานที่ 4.7 แรงพยุงและหลกั อาร์คมิ ดี สี จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นอธบิ ายเรอ่ื งแรงพยงุ และหลกั อาคมี ดิ ิสได้ (K) 2. นกั เรยี นสืบค้นเกีย่ วกบั แรงพยุงและหลักอาคมี ิดสิ ได้ (P) 3. มีความใฝเ่ รียนรู้และทางานรว่ มกบั ผู้อนื่ ได้อย่างสรา้ งสรรค์ (A) คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นสืบค้นเกี่ยวกบั แรงพยุงและหลักอาร์คมิ ีดีส โดยใหต้ อบคาถามตามประเด็นคาถาม ตอ่ ไปนี้ให้ถกู ตอ้ ง 1. แรงพยุงหรือแรงลอย คืออะไร จงอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. กฎขอ้ ใดของทน่ี ิวตันที่มีส่วนเก่ียวข้องกับแรงพยุง จงอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. หลักอาร์คิมดิ สิ มหี ลักการว่าอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ปัจจัยท่เี ก่ียวกับแรงพยงุ มีอะไรบา้ ง จงอธิบาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. สมการที่ใชค้ านวณเกี่ยวกบั หลักอาร์คิมดิ สิ คืออะไร จงอธบิ าย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 33 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว30205 รายวิชา ฟสิ ิกส์ 5 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ของไหล เรอ่ื ง คานวณปรมิ าณทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั แรงพยุงและหลกั ของอาร์คิมีดีส วนั ท…่ี …….เดือน……………พ.ศ……………… เวลา……………………น. จานวน 1 ช่ัวโมง ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ผสู้ อน นางสาวไข่มกุ สพุ ร สาระฟสิ กิ ส์ 4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปลี่ยนอุณหภูมิและสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ วัสดุและมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ความตึงผิวและแรงหนืดของ ของเหลว ของไหลอุดมคติละสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของแก๊สอุดมคติ และพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรง นวิ เคลียร์ ปฏกิ ริ ิยานิวเคลยี ร์ พลงั งานนิวเคลียร์ ฟสิ กิ ส์อนภุ าค รวมทงั้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ผลการเรยี นรู้ ทดลอง อธิบาย และคานวณขนาดแรงพยุงจากของไหลได้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. นกั เรยี นอธบิ ายความหมายของตัวแปรในสมการความสัมพนั ธข์ องแรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ได้ (K) 2. นกั เรยี นคานวณหาคา่ สมการความสมั พนั ธข์ องของแรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีสได้ (P) 3. มคี วามใฝ่เรยี นรแู้ ละอยากรู้อยากเหน็ (A) สาระการเรียนรู้ วัตถุที่อยู่ในของไหลทั้งหมดหรือเพียงบางส่วนจะถูกแรงพยุงจากของไหลกระทา โดยขนาดแรงพยุง เท่ากับขนาดน้าหนกั ของของไหลที่ถูกวตั ถุแทนที่ตามหลักของอาร์คิมีดีส ซึ่งใช้อธิบายการลอยการจมของวตั ถุ ตา่ งๆ ในของไหล ขนาดแรงพยงุ จากของไหลคานวณไดจ้ ากสมการ ������������ = ������������������ สาระสาคญั แรงพยุง (Buoyant) คือ แรงลัพธ์ที่ของเหลวกระทาต่อวัตถุที่จมอยู่ในของเหลว ดังสมการ FB = pเหลว Vจมg

หลักอาร์คิมีดิส (Archimedes’principle) มีหลักว่า “วัตถุที่จมในของเหลวหมดทั้งก้อน หรือจมแต่ เพียงบางส่วนจะถูกแรงพยุงกระทาและแรงพยุงจะเท่ากับน้าหนักของของเหลวที่ถูกวัตถุนั้นแทนที่ ” หลัก อาร์คมิ ิดสิ สามารถเขียนไดด้ งั น้ี ในกรณที ่วี ตั ถจุ ม ขนาดแรงพยงุ = ขนาดน้าหนกั ของของเหลวทมี่ ปี ริมาตรเท่ากบั วัตถุ ในกรณที่วัตถุลอย ขนาดแรงพยุง = ขนาดน้าหนักของของเหลวที่มีปริมาตรเท่ากับวัตถุส่วนที่จมใน ของเหลว สมรรถนะสาคัญ ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ สงั เคราะห์ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (จิตวิทยาศาสตร์) ความใฝ่เรียนรู้และมีความอยากรู้อยากเห็น นักเรียนแสดงออกถึงความตั้งใจความต้องการที่จะรู้และ เสาะแสวงหาความรู้เกี่ยวกบั สงิ่ ต่างๆ ทีสนใจหรือตอ้ งการค้นพบสงิ่ ใหม่ แสดงออกได้โดยการถามคาถาม หรอื มี ความสงสัยในสิ่งที่สนใจอยากรู้ มีความกระตือรือร้นในการเสาะแสวงหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่สนใจ เพียร พยายามในการเรียนและการทากิจกรรมต่างๆ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ อยูเ่ สมอ โดยการเลือกใช้ สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ายทอด เผยแพร่ และ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้ ช้นิ งาน/ภาระงาน ใบงานที่ 4.8 คานวณปริมาณท่ีเก่ียวข้องกับแรงพยุงและหลักของอาร์คมิ ีดีส กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ ีสอนใช้รูปแบบวงจรการเรยี นรู้ 5 ขนั้ ตอน (5E Learning Cycle model) ขัน้ ท่ี 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ ( 5 นาที ) 1. ครูทบทวนบทเรียนที่ผา่ นมา เรื่อง แรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส เพื่อเชื่อมโยงความรู้ในบทเรยี น ใหมต่ ่อไป 2. ครูตั้งคาถามเพื่อนาเข้าสู่การทากิจกรรม เรื่อง คานวณปริมาณที่เกี่ยวข้องกับแรงพยุงและหลักของ อารค์ ิมดี ีส ดังน้ี

- นกั เรียนสามารถคานวณแรงพยุงที่ได้จากของเหลวไดอ้ ย่างไร (แนวคาตอบ ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ โดยไม่คาดหวังคาตอบที่ ถูกต้อง) ขนั้ ท่ี 2 ขน้ั สารวจและคน้ หา ( 25 นาที ) 3. ครูชี้แจงจุดประสงค์และวิธีการปฏิบัติกิจกรรมให้นักเรียนทราบ ตามรายละเอียดในใบงานที่ 4.8 คานวณปริมาณที่เก่ียวข้องกับแรงพยงุ และหลักของอารค์ มิ ดี สี 4. ให้นกั เรียนแตล่ ะคนออกมารับใบงาน และศึกษารายละเอียดกอ่ นปฏิบัตกิ ิจกรรม 5. นักเรยี นลงมอื ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม และรายงานผล ขั้นที่ 3 ขน้ั สรา้ งคาอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ ( 20 นาที ) 6. ครสู มุ่ นกั เรยี นออกมานาเสนอผลการปฏบิ ัติกิจกรรมหน้าช้นั ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับ เรื่อง คานวณปริมาณที่เกี่ยวข้องกับแรงพยุงและหลักของอาร์คิมีดีส ดังน้ี แรงพยุง (Buoyant) คือ แรงลัพธ์ที่ของเหลวกระท าต่อวัตถุที่จมอยู่ในของเหลว ดังสมการ FB = pเหลว Vจมg หลกั อาร์คมิ ีดิส (Archimedes’principle) มีหลกั ว่า “วัตถุท่จี มในของเหลวหมดท้ังก้อน หรือ จมแต่เพยี งบางสว่ นจะถกู แรงพยุงกระทาและแรงพยงุ จะเท่ากบั น้าหนักของของเหลวท่ีถูกวตั ถนุ นั้ แทนท่ี” หลัก อาร์คิมิดิส สามารถเขียนได้ดังนี้ ในกรณีที่วัตถุจม ขนาดแรงพยุง = ขนาดน้าหนักของของเหลวที่มีปริมาตร เท่ากบั วัตถุ ในกรณทว่ี ัตถุลอย ขนาดแรงพยุง = ขนาดนา้ หนกั ของของเหลวท่ีมปี ริมาตรเทา่ กบั วตั ถุส่วนที่จมใน ของเหลว ขัน้ ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ ( 5 นาที ) 7. ครูให้นักเรียนฝึกทาโจทย์การคานวณเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มทักษะการคานวณให้กับนักเรียนเพื่อความ แมน่ ยาในการทาแบบฝึกหดั และทาขอ้ สอบต่อไป ขั้นที่ 5 ประเมนิ ผล ( 5 นาที ) 8. ครูสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมของนักเรยี นในขณะที่ให้นักเรยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมและการนาเสนอผล การปฏบิ ัติกิจกรรม

วัสดุ/อุปกรณ์ สอื่ และแหลง่ เรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนฟสิ ิกส์ ม.6 เลม่ 1 สังกัด อจท. 2. หนังสือเรียนฟสิ ิกส์ ม.6 เลม่ 5 สังกัด สสวท. 3. หนงั สอื เสริมการเรียนฟิสิกส์ ม.4 – 6 เล่ม 5 สังกัด The Book. 4. PowerPoint เรอ่ื ง ของไหล 5. ห้องเรยี น 6. หอ้ งสมดุ 7. แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ 8. ใบงานท่ี 4.8 คานวณปรมิ าณทเ่ี ก่ยี วข้องกบั แรงพยุงและหลักของอาร์คมิ ดี ีส การวัดผลและประเมนิ ผล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ วี ดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1.นักเรียนอธิบายความหมาย ตรวจใบงาน ใบงานที่ 4.8 ค านวณ ได้ระดับคุณภาพดี ของตัวแปรในสมการความ ปริมาณที่เกี่ยวข้องกับแรง จงึ ผ่านเกณฑ์ สัมพันธ์ของแรงพยุงและหลัก พยุงและหลักของอาร์คิมี ของอารค์ ิมีดีสได้ (K) ดสี 2.นักเรียนค านวณหาค่า สงั เกตและประเมินการ แบบประเมินการปฏิบัติ ได้ระดับคุณภาพดี สมการความสัมพันธ์ของของ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม กิจกรรมการคานวณ จงึ ผ่านเกณฑ์ แรงพยุงและหลักของอาร์คิมี ดสี ได้ (P) 3. มีความอยากรู้อยากเห็น สงั เกตและประเมินการ แบบประเมินการมีความ ได้ระดับคุณภาพดี (A) มีความอยากรู้อยาก อยากรู้อยากเหน็ จึงผา่ นเกณฑ์ เหน็ 4. คุณลักษณะด้านความใฝ่ สังเกตพฤตกิ รรม แ บ บ ป ร ะ เ ม ิ น ค ุ ณ - ได้ระดับคุณภาพดี เรียนรู้ ลักษณะอันพึงประสงค์ จึงผา่ นเกณฑ์ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้

ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ................................................................ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา (…………………….………….……….………………………….) ........./........................./.........

การประเมนิ ดา้ นความรู้ (K) เกณฑ์การใหค้ ะแนนใบงาน ประเดน็ การประเมนิ คะแนน 4 321 แรงลัพธ์ที่ของเหลวกระทาต่อวัตถุที่จม ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคล้อง ผลงานมี ค ว า ม อ ย ู ่ ใ น ข อ ง เ ห ล ว ด ั ง ส ม ก า ร กับประเด็นการ กับประเด็นการ กับประเด็นการ ส อ ด ค ล ้ อ ง กั บ FB = pเหลว Vจมg ห ล ั ก อ า ร ์ ค ิ ม ี ดิ ส ประเมิน เนื้อหา ประเมินสว่ นใหญ่ ประเมิน เนื้อหา ป ร ะ เ ด ็ น ก า ร (Archimedes’principle) มีหลักว่า “วัตถุที่จมในของเหลวหมดทั้งก้อน สาระของผลงาน เนื้อหาสาระของ สาระของผลงาน ประเมินเนื้อหา หรือจมแต่เพียงบางส่วนจะถูกแรงพยุง ถกู ต้องครบถว้ น ผลงานถูกต้องแต่ ถูกต้องเป็นบาง สาระแค่บางส่วน ยังมีข้อบกพร่อง ป ร ะ เ ด ็ น แ ต่ และมีข้อบกพร่อง กระทาและแรงพยุงจะเท่ากับน้าหนัก ของของเหลวทถ่ี ูกวตั ถุน้ันแทนที่” หลกั เล็กน้อย ม ี ข ้ อ บ ก พ ร ่ อ ง มาก อาร์คิมิดิส สามารถเขียนได้ดังนี้ ใน บางส่วน กรณีที่วัตถุจม ขนาดแรงพยุง = ขนาด น้าหนักของของเหลวที่มีปริมาตร เท่ากับวัตถุ ในกรณที่วัตถุลอย ขนาด แรงพยุง = ขนาดน้าหนักของของเหลว ที่มีปริมาตรเท่ากับวัตถุส่วนที่จมใน ของเหลว เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ดีมาก 4 อยู่ในระดับ ดี 3 อยู่ในระดบั พอใช้ 2 อยู่ในระดับ ปรบั ปรุง 1 อยู่ในระดบั

การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) เกณฑ์การประเมินการปฏบิ ตั ิกิจกรรมการคานวณ ประเด็นการประเมนิ 3 ระดับคะแนน 1 2 1.การว ิเคราะห์โ จทย์ บอกส่งิ ท่ีโจทยใ์ ห้มา และ บอกสงิ่ ท่โี จทยใ์ ห้มา และ บอกสิ่งท่ีโจทยใ์ หม้ า และ ปญั หา สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ สิ่งที่โจทย์ต้องการได้ อย่างถูก และเขียน และเขียนสมการการ และเขียนสมการการ สมการการคานวณของ โจทย์ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ค านวณของโจทย์ได้ คานวณของโจทยไ์ ด้ อยา่ งถูกต้อง 2.เลือกสูตรที่เหมาะสม เลือกสูตรการคานวณที่ เลือกสูตรการคานวณที่ เลือกสูตรการคานวณท่ี และสมั พันธก์ ับโจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ สัมพันธ์กับสิ่งที่โจทย์ ต้องการให้หาได้อย่าง ต้องการให้หาได้อย่าง ต้องการให้หาได้ แต่ไม่ ถกู ตอ้ งและเหมาะสม ถกู ต้อง สามารถหาค าตอบที่ ถกู ตอ้ งได้ 3.การแทนค่าและแสดงวิธี การแทนค่าของตัวแปร การแทนค่าของตัวแปร การแทนค่าของตัวแปร หาคาตอบ ในโจทย์ได้อย่างถูกต้อง ในโจทย์ได้อย่างถูกต้อง ในโจทย์ได้ และแสดง แสดงวิธีการคานวณเป็น แสดงวิธีการคานวณเป็น วิธกี ารคานวณได้ ลาดบั ขั้นตอนชดั เจนและ ล าดับขั้นตอนและได้ ได้ค าตอบที่ถูกต้องมี คาตอบทถ่ี กู ต้อง ความแมน่ ยา 4.ตรวจสอบค าตอบของ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ ส า ม า ร ถ ต ร ว จ ส อ บ โจทย์ และระบุหน่วยได้ คาตอบของโจทยไ์ ด้อย่าง คาตอบของโจทยไ์ ด้ และ คาตอบของโจทย์ได้บ้าง ชดั เจน ถูกต้อง และระบุหน่วย ระบหุ นว่ ยไดช้ ัดเจน เล็กน้อย และระบุหน่วย ได้ชัดเจน ได้ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ 9 – 12 อย่ใู นระดับ ดีมาก 5 – 8 อยูใ่ นระดบั ดี 1 – 4 อยใู่ นระดับ พอใช้

การประเมินดา้ นเจตคติ (A) เกณฑ์การประเมนิ การมีความอยากรู้อยากเหน็ ประเด็นการประเมิน 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะ พยายามหาความรู้ใหม่ๆ มีการแสวงหาความรู้บ้าง ไม่มีการแสวงหาความรู้ เสาะแสวงหาความรู้ใน อยู่เสมอ ซึ่งไม่สามารถ นาความรู้ที่มีอยู่เดิมมา ใดๆ ใช้เพียงความรู้เดิม ส ถ า น ก า ร ณ ์ ใ ห ม่ ๆ อธิบายได้ด้วยความรู้ที่มี อธิบายเล็กน้อย จึงทาให้ ที่มีอยเู่ ทา่ นั้น ไมเ่ กดิ การ ต ร ะ ห น ั ก ถ ึ ง ค ว า ม อยู่เดิม เพื่อให้เกิดการ เกดิ การเรยี นร้ไู ด้น้อย ซ่ึง เรียนรู้เท่าที่ควร และไม่ สาคัญของการแสวงหา เรียนรู้ และใช้ความรู้ที่ อ า จ ป ร ั บ ใ ช ้ ไ ด ้ กั บ สามารถแก้ไขต่างๆ ได้ ข้อมูลเพิ่มเติม และช่าง ได้ในการแก้ปัญหา หรือ ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ า ว ั น แ ค่ ไม่ใหค้ วามสาคญั กับการ ซัก ช่างถาม ช่างอ่าน ใช้กับชีวิตประจาวันได้ บางส่วน ให้ความสาคัญ เรียนรู้เท่าที่ควร และไม่ เพื่อให้ได้ค าตอบเป็น ให้ความสาคัญกับการ กับการเรียนรู้บ้าง แต่ไม่ มีการสังเกต หรือเกิด ความรู้ที่สมบูรณ์แบบ เรียนรู้ เป็นผู้กระตือ- มีความกระตือรือร้นใน ความสงสยั เท่าท่คี วร ย่ิงขน้ึ รือร้นในการเรียนหรือ การเรียนหรือแสวงหา แสวงหาความรอู้ ยู่เสมอ ความรู้ และรู้จักถามเมื่อ และช่างสงสัย สังเกต มีข้อสงสัยจากการได้ รู้จักถามเมื่อมีข้อสงสัย สังเกตบ้าง ท าให้ ได้ ท าให้ได้ค าตอบที่เป็น ค าตอบที่เป็นความรู้ ความรู้ที่สมบูรณ์แบบ เพ่มิ เตมิ จากความรเู้ ดิม ยิ่งข้นึ เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยูใ่ นระดับ พอใช้ 1 อยูใ่ นระดับ

การประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคด์ า้ นใฝเ่ รียนรู้ ตัวชี้วัดและพฤติกรรมบ่งช้ี ตวั ชวี้ ัด พฤติกรรมบ่งชี้ 4.1 ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียน 4.1.1 ตัง้ ใจเรยี น และเขา้ รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1.2 เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรยี นรูต้ ่างๆ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ 4.2.1 ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เทคโนโลยีต่างๆ แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้สื่ออย่างเหมาะสม และเลอื กใชส้ อ่ื ได้อย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเป็นองค์ 4.2.2 บันทึกความรู้ วิเคราะห์ ตรวจสอบจากสิ่งที่เรียนรู้ สรุป ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และนาไปใช้ เปน็ องค์ความรู้ ในชีวติ ประจาวันได้ 4.2.3 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยวิธีการต่างๆ และนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน (ใช้ข้อมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผู้สอน) พฤตกิ รรมบ่งช้ี 32 1 ตามข้อ 4.1 – 4.2 เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน เอาใจใส่ในการ เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน เรียน และมีส่วนร่วมใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ กิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก บอ่ ยครัง้ เปน็ บางครงั้ โรงเรยี นเป็นประจา

ระดบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดเี ย่ยี ม 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อยู่ในระดบั ผ่าน 1 อยูใ่ นระดับ ไมผ่ า่ น 0 อยู่ในระดับ หมายเหตุ นักเรยี นสามารถทางานได้ 2 คะแนนขึ้นไปจงึ จะผ่านเกณฑ์

การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ (P) แบบประเมนิ การปฏิบตั ิกิจกรรมการคานวณ รายช่ือสมาชกิ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชแี้ จง: ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี น แล้วขดี ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน 3 21 1.การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา 2.เลือกสตู รที่เหมาะสมและสัมพนั ธ์กับ โจทย์ 3.การแทนค่าและแสดงวธิ ีหาคาตอบ 4.ตรวจสอบคาตอบของโจทย์ และระบุ หนว่ ยได้ชัดเจน รวมคะแนน ผลการประเมนิ อย่ใู นระดบั เกณฑก์ ารให้คะแนน ดมี าก 3 หมายถึง ดี 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ดมี าก 9 – 12 อย่ใู นระดบั ดี 5 – 8 อย่ใู นระดับ พอใช้ 1 – 4 อยู่ในระดบั

การประเมินดา้ นเจตคติ (A) แบบประเมินการมีความอยากร้อู ยากเหน็ รายช่ือสมาชิก…………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………….………………………………………………………………………………………………………………………… คาชีแ้ จง: ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน ประเด็นการประเมนิ 3 คะแนน 1 2 มีความพยายามที่จะเสาะ แสวงหาความรู้ในสถาน การณ์ใหม่ๆ ตระหนักถึง ความสาคัญของการแสวงหา ข้อมูลเพิ่มเติม และช่างซัก ช่างถาม ช่างอ่าน เพื่อให้ได้ คาตอบเป็นความรู้ที่สมบูรณ์ แบบย่งิ ขึ้น รวมคะแนน ผลการประเมนิ อยู่ในระดับ เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ดมี าก 3 อยใู่ นระดับ ดี 2 อย่ใู นระดบั พอใช้ 1 อยู่ในระดบั

การประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ใฝ่เรียนรู้) นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6/1 คาชแ้ี จง: ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชอื่ – นามสกลุ คะแนน 1 ท่ี 32 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook