ในวัดแห่งหนึง่ มีพระภิกษสุ งฆแ์ ตกแยกไมท่ า สงั ฆกรรมร่วมกนั ใชเ้ รียกเหตุการณน์ ี้ตามขอ้ ใด 1. อรหนั ตฆาต 2. โลหิตุปบาท 3. อัญญสัตกทุ เทส 4. สังฆเภท
คนในปัจจุบันมีความเชือ่ ว่าทาดีไดด้ ีมีที่ไหน ทาชว่ั ได้ ดีมีถมไป ท่านจะแนะนาใหเ้ ขาละธรรมข้อใด 1. กามราคานสุ ยั 2. มานานสุ ัย 3. ภวราคานสุ ยั 4. ทิฏฐานุสัย
คนในปัจจุบันมีความเชือ่ ว่าทาดีไดด้ ีมีที่ไหน ทาชว่ั ได้ ดีมีถมไป ท่านจะแนะนาใหเ้ ขาละธรรมข้อใด 1. กามราคานสุ ยั 2. มานานสุ ัย 3. ภวราคานสุ ยั 4. ทิฏฐานุสัย
มารในขอ้ ใดนามนษุ ย์ไปสู่ชาติ ชรา 1. ขนั ธมาร 2. กิเลสมาร 3. เทวปุตตมาร 4. อภิสงั ขารมาร
มารในขอ้ ใดนามนษุ ย์ไปสู่ชาติ ชรา 1. ขนั ธมาร 2. กิเลสมาร 3. เทวปุตตมาร 4. อภิสงั ขารมาร
คนที่มีความระมัดระวงั ไมห่ ลงไปตามกระแส กาม คุณ 5 อันไดแ้ ก่ รปู เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ อารมณท์ ี่เกิดกับใจ ได้ชือ่ ว่า มีธรรมขอ้ ใด 1. สีลสังวร 2. สตสิ งั วร 3. ญาณสังวร 4. ขนั ตสิ ังวร
คนที่มีความระมัดระวงั ไมห่ ลงไปตามกระแส กาม คุณ 5 อันไดแ้ ก่ รปู เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ อารมณท์ ี่เกิดกับใจ ได้ชือ่ ว่า มีธรรมขอ้ ใด 1. สีลสังวร 2. สตสิ งั วร 3. ญาณสังวร 4. ขนั ตสิ ังวร
สถานการณ์ : ในการปฏิบตั ิธรรมกรรมฐาน ณ วดั ปาุ แห่งหนึง่ พระ อาจารยไ์ ด้สอนเกีย่ วกบั ลักษณะกิเลสที่นอนเนื่องในจิตสันดาน โดยเฉพาะความกาหนดั ในกามที่เกิดขึน้ แล้ว อาจเป็นเหตุใหท้ าชวั่ ได้ ไม่ ว่าบคุ คลนั้นจะอยู่ในเพศภาวะหรือฐานะใด ก็มีโอกาสที่จะประพฤติ อกุศลกรรมบทกาเมสมุ ิจจารได้ จากข้อความขา้ งต้น ตรงกับกิเลสในข้อใด 1. มานะ 2. อวิชชา 3. วิจิกิจฉา 4. กามราคะ
สถานการณ์ : ในการปฏิบตั ิธรรมกรรมฐาน ณ วดั ปาุ แห่งหนึง่ พระ อาจารยไ์ ด้สอนเกีย่ วกบั ลักษณะกิเลสที่นอนเนื่องในจิตสันดาน โดยเฉพาะความกาหนดั ในกามที่เกิดขึน้ แล้ว อาจเป็นเหตุใหท้ าชวั่ ได้ ไม่ ว่าบคุ คลนั้นจะอยู่ในเพศภาวะหรือฐานะใด ก็มีโอกาสที่จะประพฤติ อกุศลกรรมบทกาเมสมุ ิจจารได้ จากข้อความขา้ งต้น ตรงกับกิเลสในข้อใด 1. มานะ 2. อวิชชา 3. วิจิกิจฉา 4. กามราคะ
พทุ ธคณุ ข้อว่า เป็นผู้รู้แจ้งซึง่ โลก ตรงกบั ข้อความใด 1. อรห 2. พทุ ฺโธ 3. โลกวิทู 4. สคุ โต
พทุ ธคณุ ขอ้ ว่า เปน็ ผ้รู ู้แจ้งซึง่ โลก ตรงกบั ข้อความใด 1. อรห 2. พทุ ฺโธ 3. โลกวิทู 4. สคุ โต
พระเวสสนั ดรซึง่ เปน็ พระชาตสิ ดุ ทา้ ยกอ่ นทีจ่ ะ มาตรัสร้เู ป็นพระพทุ ธเจ้าพระนามว่า โคดม ได้บาเพ็ญบารมี อะไร 1. ปญั ญาบารมี 2. เมตตาบารมี 3. ทานบารมี 4. ศีลบารมี
พระเวสสนั ดรซึ่งเป็นพระชาตสิ ุดท้ายก่อนทีจ่ ะ มาตรสั รเู้ ปน็ พระพุทธเจ้าพระนามวา่ โคดม ได้บาเพญ็ บารมี อะไร 1. ปญั ญาบารมี 2. เมตตาบารมี 3. ทานบารมี 4. ศีลบารมี
ทฤษฎีสมั พันธภาพ ความเกย่ี วเนื่อง ระหว่างสิ่งหนึ่งกบั อกี สิ่งหนึ่ง ตรงตามขอ้ ใด 1 .อิทธิบาท 2. อัปปมาทะ 3. อริยทรพั ย์ 4. ปฏิจจสมปุ บาท
ทฤษฎีสมั พันธภาพ ความเกย่ี วเนื่อง ระหว่างสิ่งหนึ่งกบั อกี สิ่งหนึ่ง ตรงตามขอ้ ใด 1 .อิทธิบาท 2. อัปปมาทะ 3. อริยทรพั ย์ 4. ปฏิจจสมปุ บาท
กรรมทีบ่ คุ คลทาแล้ว มีผลทาใหเ้ กิดในสคุ ติ ภพและทุคติภพ มีชื่อเรียกอย่างไร 1. ชนกกรรม 2. อโหสิกรรม 3. อปุ ฆาตกรรม 4. ทิฏฐิธรรมเวทนียกรรม
กรรมที่บคุ คลทาแล้ว มีผลทาให้เกิดในสคุ ติภพ และทคุ ติภพ มีชือ่ เรียกอย่างไร 1. ชนกกรรม 2. อโหสิกรรม 3. อุปฆาตกรรม 4. ทิฏฐธิ รรมเวทนียกรรม
พระองคลุ ีมาลไดฆ้ า่ คนเพอื่ เอานิ้วมอื สดุ ท้าย หันกลบั มาอุปสมบทจนไดบ้ รรลุพระอรหันต์ กรรมที่ท่านไดร้ ับ คือ กรรมชนิดใด 1. ชนกกรรม 2. อปุ ปีฬกกรรม 3. ครุกรรม 4. อโหสิกรรม
พระองคลุ ีมาลไดฆ้ า่ คนเพอื่ เอานิ้วมือสดุ ท้าย หันกลับมาอปุ สมบทจนได้บรรลพุ ระอรหันต์ กรรมทีท่ ่านได้รับ คือ กรรมชนิดใด 1. ชนกกรรม 2. อุปปีฬกกรรม 3. ครกุ รรม 4. อโหสิกรรม
การไมเ่ อนหลงั นอนโดยใช้ชีวิตประจาวันเพียง 3 อิริยาบถ คือ นัง่ ยืน เดิน เท่านนั้ จะต้องสมาทานธุดงค์ข้อใด 1. โสสานิกังคะ 2. ยถาสันถติกังคะ 3. เนสชั ชิกงั คะ 4. อัพโภกาสิกงั คะ
การไม่เอนหลงั นอนโดยใชช้ ีวิตประจาวันเพียง 3 อิริยาบถ คือ นง่ั ยนื เดิน เท่านั้นจะต้อง สมาทานธุดงค์ขอ้ ใด 1. โสสานิกงั คะ 2. ยถาสันถติกงั คะ 3. เนสชั ชิกังคะ 4. อพั โภกาสิกังคะ
ถ้ามีพระภิกษมุ าขอคาปรึกษาในการอย่ทู ี่ ปุาช้าเปน็ วตั ร ทา่ นจะให้ใช้ธุดงค์ตามข้อใด 1. รกุ ขมูลิกะ 2. อารญั ญิกงั คะ 3. โสสานิกังคะ 4. เอกาสนิกังคะ
ถ้ามีพระภิกษุมาขอคาปรึกษาในการอยู่ที่ ปุาช้าเปน็ วตั ร ท่านจะใหใ้ ชธ้ ุดงค์ตามข้อใด 1. รุกขมลู ิกะ 2. อารัญญิกังคะ 3. โสสานิกังคะ 4. เอกาสนิกังคะ
บคุ คลในข้อใดที่ไดน้ าความรู้คู่คุณธรรมไปใช้ 1. สมศรี ตงั้ ใจเรียนและขยันอ่านหนงั สอื 2. สมศักดิ์ สมาทานศีลทกุ วันไม่เวน้ 3. สมชาย ขยันเรียนและชว่ ยพ่อแมท่ างาน 4. สมพงษ์ เดินเที่ยวหา้ งสรรพสินคา้
บคุ คลในขอ้ ใดที่ได้นาความร้คู ู่คณุ ธรรมไปใช้ 1. สมศรี ต้งั ใจเรียนและขยันอา่ นหนงั สือ 2. สมศักดิ์ สมาทานศีลทุกวนั ไม่เวน้ 3. สมชาย ขยนั เรียนและชว่ ยพอ่ แมท่ างาน 4. สมพงษ์ เดินเที่ยวหา้ งสรรพสนิ คา้
“แผนกนกั ธรรมชั้นเอก” คนทีม่ ีจิตฟูงุ ซ่านซดั ส่าย ควรใช้ หลักธรรมใดมาปฏิบตั ิ 1. หลักสัทธา 2. หลกั ปสาท 3. หลักกรรม 4. หลักกมั มัฎฐาน
คนที่มีจิตฟงูุ ซา่ นซดั ส่าย ควรใชห้ ลกั ธรรมใดมาปฏิบัติ 1. หลกั สัทธา 2. หลักปสาท 3. หลกั กรรม 4. หลักกมั มฎั ฐาน
ผทู้ ี่ยงั ติดอยู่ในกิเลสกาม คือ รปู เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อนั เป็นของนา่ ชอบใจ จดั เปน็ บ่วงแหง่ มาร มีวิธีการใดหลดุ พ้นบ่วงแหง่ มาร 1. ขยนั ฝึกจิตทุกเวลาสถานที่ 2. เขา้ วัดฟงั ธรรมเจริญภาวนา 3. ชวนภรรยาและลูกไปสวดมนตใ์ หท้ าน 4. สารวมระวังตา หู จมกู ลิน้ กาย ใจ เจริญสมถวิปสั สนา
ผทู้ ีย่ งั ติดอยูใ่ นกิเลสกาม คือ รปู เสียงกลิน่ รส โผฏฐพั พะ อันเปน็ ของนา่ ชอบใจ จดั เปน็ บว่ งแหง่ มาร มีวิธีการใด หลดุ พ้นบว่ งแหง่ มาร 1. ขยันฝึกจิตทกุ เวลาสถานที่ 2. เข้าวดั ฟงั ธรรมเจริญภาวนา 3. ชวนภรรยาและลกู ไปสวดมนต์ให้ทาน 4. สารวมระวังตา หู จมกู ลิน้ กาย ใจ เจริญ สมถวิปัสสนา
สถานการณ์ : ณ สานักปฏิบตั ิธรรมแหง่ หนึ่ง พระวิปัสสนาจารยก์ าลงั แนะนาขอ้ ปฏิบัติแก่ผู้ปฏิบตั ิธรรม โดยเนน้ ไปทีก่ ารกินอาหารที่ พอเหมาะ เพื่อให้รา่ งกายเคลื่อนไหวไดอ้ ยา่ งสะดวก และเปน็ การร้จู กั คณุ คา่ ของอาหาร ธรรมะข้อใด มีความหมายตรงกับข้อความข้างตน้ 1. อินทรียสังวร 2. สีลสัมปทา 3. โภชเนมตั ตญั ญุตา 4. ชาคริยานโุ ยค
สถานการณ์ : ณ สานักปฏิบตั ิธรรมแหง่ หนึ่ง พระวิปัสสนาจารยก์ าลงั แนะนาขอ้ ปฏิบัติแก่ผู้ปฏิบตั ิธรรม โดยเนน้ ไปทีก่ ารกินอาหารที่ พอเหมาะ เพื่อให้รา่ งกายเคลื่อนไหวไดอ้ ยา่ งสะดวก และเปน็ การร้จู กั คณุ คา่ ของอาหาร ธรรมะข้อใด มีความหมายตรงกับข้อความข้างตน้ 1. อินทรียสังวร 2. สีลสัมปทา 3. โภชเนมตั ตญั ญุตา 4. ชาคริยานโุ ยค
ในขณะที่ทาสมาธิ เกิดอารมณ์ฟงูุ ซา่ นไปในเรื่องความรกั ฉันชู้สาว หรือกามารมณค์ วรจะใช้หลกั ธรรมใดเป็นคปู่ รบั 1. หลักพิจารณากายเปน็ ของสกปรก 2. หลกั ความเมตตาสงสาร 3. หลัก ทาน ศีล ภาวนา 4. หลกั การเจริญสติปฏั ฐาน
ในขณะที่ทาสมาธิ เกิดอารมณ์ฟงูุ ซา่ นไปในเรื่องความรกั ฉันชู้สาว หรือกามารมณค์ วรจะใช้หลกั ธรรมใดเป็นคปู่ รบั 1. หลักพิจารณากายเปน็ ของสกปรก 2. หลกั ความเมตตาสงสาร 3. หลัก ทาน ศีล ภาวนา 4. หลกั การเจริญสติปฏั ฐาน
เมื่อผูป้ ฏิบัติธรรมเกิดความท้อแท้ หดหู่ ต้องแก้ดว้ ยธรรมในขอ้ ใด 1. กายคตาสติ 2. พทุ ธานสุ สติ 3. เจริญเมตตา 4. บาเพญ็ กสิณ
เมื่อผูป้ ฏิบัติธรรมเกิดความท้อแท้ หดหู่ ต้องแก้ดว้ ยธรรมในขอ้ ใด 1. กายคตาสติ 2. พทุ ธานสุ สติ 3. เจริญเมตตา 4. บาเพญ็ กสิณ
“การขจัดความมืด คือ โมหะ อนั ปิดบงั ปัญญาไวไ้ มใ่ หเ้ ห็น ตามความเป็นจริงของสงั ขารวา่ เป็นของไม่เที่ยง เป็น ทุกข์ เปน็ อนตั ตา” ข้อความข้างตน้ ตรงกบั ข้อใด 1. เหตุ 2. ผล 3. กิจ 4. ลกั ษณะ
“การขจัดความมืด คือ โมหะ อนั ปิดบงั ปัญญาไวไ้ มใ่ หเ้ ห็น ตามความเป็นจริงของสงั ขารวา่ เป็นของไม่เที่ยง เป็น ทุกข์ เปน็ อนตั ตา” ข้อความข้างตน้ ตรงกบั ข้อใด 1. เหตุ 2. ผล 3. กิจ 4. ลกั ษณะ
ขอ้ ใดคือการนาหลักวิปัสสนามาใช้ 1. พิจารณาอสภุ ะกัมมฏั ฐาน 2. พิจารณานามรปู ใหเ้ หน็ แจ้ง 3. เจริญภาวนาบริกรรมว่า “พทุ โธ” 4. เข้ากัมมฏั ฐานเช้าเย็น
ขอ้ ใดคือการนาหลักวิปัสสนามาใช้ 1. พิจารณาอสภุ ะกัมมฏั ฐาน 2. พิจารณานามรปู ใหเ้ หน็ แจ้ง 3. เจริญภาวนาบริกรรมว่า “พทุ โธ” 4. เข้ากัมมฏั ฐานเช้าเย็น
การพิจารณาเห็นชดั แจ้งในอารมณ์ กาหนดในธาตุสี่ ขันธห์ า้ อยา่ งรูช้ ัดแจ้งในจิตของนกั ปฏิบัติธรรมทีน่ าไปปฏิบัติ ตรงกบั ข้อใด 1. สมถกมั มฏั ฐานกรรมฐานทาใจให้สงบ 2. การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน 3. การเลา่ เรียนแลว้ นาไปปฏิบัติ 4. การเพ่งในวตั ถเุ ป็นอารมณ์
การพิจารณาเหน็ ชัดแจ้งในอารมณ์ กาหนดในธาตสุ ี่ ขันธ์หา้ อยา่ งร้ชู ัดแจ้งในจิตของนกั ปฏิบตั ิธรรมที่นาไปปฏิบัติ ตรงกับข้อใด 1. สมถกัมมฏั ฐานกรรมฐานทาใจใหส้ งบ 2. การเจริญวิปสั สนากรรมฐาน 3. การเล่าเรียนแลว้ นาไปปฏิบตั ิ 4. การเพง่ ในวตั ถเุ ปน็ อารมณ์
ปจั จบุ ันมีผหู้ ญิงและผู้ชายมีความเหน็ วา่ สงั ขารหรือ รา่ งกายสามารถทาให้สวยอย่เู สมอได้ดว้ ยการ ศัลยกรรม ทา่ นจะเรียกคนประเภทนี้ตามขอ้ ใด 1. พวกฝืนธรรมชาติ 2. พวกโรคจติ 3. พวกวิปลั ลาส 4. พวกวิปริต
ปจั จบุ ันมีผหู้ ญิงและผู้ชายมีความเหน็ ว่าสงั ขารหรือ รา่ งกายสามารถทาใหส้ วยอยู่เสมอได้ด้วยการ ศัลยกรรม ท่านจะเรียกคนประเภทนีต้ ามข้อใด 1. พวกฝืนธรรมชาติ 2. พวกโรคจติ 3. พวกวิปัลลาส 4. พวกวิปริต
เมือ่ ผปู้ ฏิบัติเกิดทิฏฐวิ ิปลั ลาสเหน็ ในสิง่ ที่ ไมง่ ามวา่ งามตอ้ งแกด้ ้วยสัญญาขอ้ ใด 1. อนิจจสญั ญา 2. ทุกขสัญญา 3. อนัตตสญั ญา 4. อสุภสญั ญา
เมือ่ ผ้ปู ฏิบตั ิเกิดทิฏฐวิ ิปลั ลาสเห็นในสิ่ง ทีไ่ ม่งามว่างามตอ้ งแกด้ ้วยสัญญาข้อใด 1. อนจิ จสญั ญา 2. ทุกขสัญญา 3. อนัตตสัญญา 4. อสภุ สญั ญา
“วิปัลลาส” จาแนกโดยอานาจจิตและเจตสิกที่วิปริตไป มี ๓ อย่าง ๑. สัญญาวิปัลลาส วิปัลลาสด้วยอานาจสาคัญผิด ๒. จิตตวิปลั ลาส วิปลั ลาสดว้ ยอานาจคิดผิด ๓. ทิฏฐิวิปลั ลาส วิปลั ลาสด้วยอานาจเหน็ ผิด
“วิปลั ลาส” เมือ่ จาแนกโดยวัตถอุ นั เปน็ ทีต่ ้งั แหง่ ความสาคญั ผิด มี ๔ อยา่ ง ๑. ความสาคญั คิดเห็นผิดในสิง่ (สงั ขาร) ที่ไมเ่ ที่ยงวา่ เทีย่ ง ๒. ความสาคัญคิดเหน็ ผิดในสิ่งที่เปน็ ทกุ ข์วา่ เป็นสขุ ๓. ความสาคญั คิดเหน็ ผิดในสิง่ ทีไ่ มใ่ ช่ตวั ตนว่าเป็นตัวตน ๔. ความสาคญั คิดเห็นผิดในสิ่งทีไ่ มง่ ามว่างาม
ธรรมท่เี ป็นเครอ่ื งถอนวิปัลลาส ทา่ นแสดงไว้ ๔ คือ ๑. อนิจจสญั ญา ความกาหนดหมายว่า เปน็ ของไม่เที่ยงเปน็ เครื่องถอนวิปลั ลาส ข้อที่ ๑ ๒. ทกุ ขสญั ญา ความกาหนดหมายว่า เป็นทกุ ข์เปน็ เครื่องถอนวิปลั ลาส ข้อที่ ๒ ๓. อนตั ตสญั ญา ความกาหนดหมายว่า เป็นของไม่ใช่ตัวตนเปน็ เครือ่ งถอนวิปัลลาส ข้อที่ ๓ ๔. อสุภสญั ญา ความกาหนดหมายว่า เป็นของไม่งามเปน็ เครื่องถอนวิปลั ลาส ข้อที่ ๔
ผู้ใดถอื เป็ นผู้ปฏบิ ตั ติ ามหลักสตปิ ัฏฐาน 1. ภกิ ษุ ก เจริญภาวนาว่า “สัมมา อะระหงั ” 2. ภกิ ษุ ข กาหนดรู้ทุกอริ ิยาบถ 3. ภกิ ษุ ค เจริญสมาธทิ กุ วนั 4. ภกิ ษุ ง ถอื ธุดงค์อยู่โคนต้นไม้
ผู้ใดถอื เป็ นผู้ปฏบิ ตั ติ ามหลักสตปิ ัฏฐาน 1. ภกิ ษุ ก เจริญภาวนาว่า “สัมมา อะระหงั ” 2. ภกิ ษุ ข กาหนดรู้ทุกอริ ิยาบถ 3. ภกิ ษุ ค เจริญสมาธทิ กุ วนั 4. ภกิ ษุ ง ถอื ธุดงค์อยู่โคนต้นไม้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204