Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สื่องานวิจัย

สื่องานวิจัย

Published by werakit9999, 2018-06-08 09:20:56

Description: เพื่อศึกษา ๘ มิย ๒๕๖๑

Search

Read the Text Version

288 การประชุมทางวชิ าการของครุ ุสภา ประจําปี 2557 “การวิจยั เพอื่ เพมิ่ คุณภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ”ผลงานวจิ ัย การสรา้ งทักษะการปอ้ งกันยาเสพตดิ โดยใช้บทเรียน D.A.R.E. (Drug Abuse Resistance Education) ของนักเรยี นโรงเรยี นบ้านนายผล (แมน้ สุวรรณอปุ ถมั ภ์)ผู้วิจยั พันตํารวจโทดิฐภัทร บวรชยัปีทวี่ ิจัย 2557 บทคัดย่อ งานวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) หาประสิทธิภาพของบทเรียน D.A.R.E. (Drug Abuse Resistance Education)สําหรับนักเรียนโรงเรียนบ้านนายผล (แม้นสุวรรณอุปถัมภ์) และ 2) ศึกษาพฤติกรรมการใช้ทักษะการป้องกันยาเสพติดของนักเรียนที่ผ่านการเรียนบทเรียน D.A.R.E. กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5โรงเรียนบ้านนายผล (แม้นสุวรรณอุปถัมภ์) จํานวน 84 คน ครู จํานวน 2 คน ผู้บริหาร จํานวน 1 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บทเรียน D.A.R.E. สมุดวางแผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนแบบสอบถามความพงึ พอใจของนักเรียน และแบบสัมภาษณ์ครู สถติ ิที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละคา่ เฉลีย่ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน และการวเิ คราะห์เนอ้ื หา ผลการวิจยั พบว่า 1. ประสิทธิภาพของบทเรียน D.A.R.E. เท่ากับ 83.37/89.61 สูงกว่าเกณฑ์ที่กําหนด 80/80 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนบทเรียน D.A.R.E. อยู่ในระดับมาก ครูและผู้บริหารมีความคิดเห็นว่าเนื้อหามีความเหมาะสม กิจกรรมการเรียนการสอนมีความเหมาะสมทําให้นักเรียนมีส่วนร่วม สื่อการสอนน่าสนใจและครตู าํ รวจ D.A.R.E. มคี วามสามารถถ่ายทอดความรู้ไดด้ ี 2. การใช้ทักษะการป้องกันยาเสพติดของนักเรียนอยู่ในระดับดี โดยพฤติกรรมการแสดงออกอย่างมั่นใจอยู่ในระดบั ดี ขณะทกี่ ารควบคุมตนเองอยูใ่ นระดบั ต้องปรับปรงุ

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพ่ิมคณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 289ผลงานวจิ ัย ผลการพัฒนาสอื่ การเรียนร้ชู ดุ ลูกเต๋า Multiple Music วิชาคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน (ค23102) เรอ่ื ง ความน่าจะเปน็ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3ผู้วจิ ัย นายแสงจนั ทร์ เพรดิ พราวปีที่วิจัย 2555 บทคดั ย่อ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาส่ือการเรียนรู้ชุดลูกเต๋า Multiple Music เร่ือง ความน่าจะเป็นระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) หาดัชนีประสิทธิผลของสื่อการเรียนรู้ชุดลูกเต๋า Multiple Music 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของนกั เรียนทเ่ี รยี นโดยใชส้ ่อื ชดุ ลูกเต๋ากบั นักเรยี นทเ่ี รยี นปกติ และ 4) ศกึ ษาความพงึ พอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการเรียนโดยใช้สื่อชุดลูกเต๋า Multiple Music กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3โรงเรียนจุมจังพลังราษฎร์ อําเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธ์ุ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จํานวน 62 คนได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ สื่อชุดลูกเต๋า Multiple Music แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้สื่อชุดลูกเต๋า Multiple Music วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน (ค23102) เรื่อง ความน่าจะเป็นระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนโดยใช้สื่อชุดลูกเต๋า Multiple Music สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยสว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน และการทดสอบคา่ ที ผลการวจิ ยั พบว่า 1. ชดุ ลกู เตา๋ Multiple Music ทีพ่ ฒั นาข้ึนเป็นชุดลูกเตา๋ ที่ทาํ ด้วยฟวิ เจอรบ์ อรด์ มวี งจร IC Multiple Musicอย่ภู ายใน ชุดลูกเต๋ามี 4 ลูก ประกอบด้วยลูกเต๋าใหญ่ท่ีมีเสียงเพลง 1 ลูก และลูกเต๋าเล็ก 3 ลูก ใช้ประกอบการทดลองในการจัดการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ชุดลูกเต๋า Multiple Music เรื่อง ความน่าจะเป็น ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3มีประสิทธภิ าพเทา่ กบั 82.62/81.35 2. ดัชนปี ระสิทธิผลชองส่ือการเรียนรชู้ ดุ ลูกเต๋า Multiple Music เรื่อง ความนา่ จะเป็น ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 เท่ากับ .6263 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ส่ือชุดลูกเต๋า Multiple Music สูงกว่านักเรียนที่เรียนปกติอย่างมีนยั สําคัญทางสถติ ิท่ี .05 4. นกั เรียนมคี วามพงึ พอใจตอ่ การเรียนโดยใชช้ ดุ ลกู เต๋า Multiple Music โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมากทสี่ ดุ

290 การประชุมทางวชิ าการของคุรสุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ยั เพือ่ เพมิ่ คณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวิชาชพี ”ผลงานวิจยั ผลการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ รอ่ื งสารรอบตัว ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 ด้วยวิธีการเรยี นรแู้ บบ 4 MATผ้วู ิจยั นางรัตนา หิรัญโรจน์ปีทีว่ จิ ัย 2555 บทคัดย่อ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยการเรียนรู้แบบ 4 MAT และ 2) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MATกลุ่มเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโพรงมะเด่ือวิทยาคม อําเภอเมืองนครปฐมจังหวัดนครปฐม ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2556 จํานวน 33 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT เร่ือง สารรอบตัว จํานวน 5 แผน ใช้เวลา 14 ชั่วโมง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบ 4 MAT การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ คา่ เฉล่ีย สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจยั พบว่า 1. นักเรียนที่เรียนรู้แบบ 4 MAT มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดบั .05 2. นักเรียนมีความคดิ เห็นตอ่ การจัดการเรยี นรแู้ บบ 4 MAT อยใู่ นระดับมากทีส่ ดุ

การประชุมทางวิชาการของคุรสุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ัยเพ่อื เพ่มิ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 291ผลงานวิจัย การพฒั นาทักษะกระบวนการแก้ปญั หา วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ทีไ่ ดร้ บั การจัดการเรียนรู้ดว้ ยกระบวนการแกป้ ญั หาเทคนคิ 3P1Mผู้วจิ ัย นางสาวนารี โอภาโสปีท่ีวจิ ัย 2556 บทคัดยอ่ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการแก้ปัญหาของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้กระบวนการแกป้ ญั หาเทคนิค 3P1M และ 2) เปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรยี นกอ่ นและหลงั เรียนโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเทคนิค 3P1M กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2โรงเรียนวิเชียรมาตุ 2 อําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง ปีการศึกษา 2556 จํานวน 25 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจดั การเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการแกป้ ัญหาเทคนคิ 3P1M วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีจํานวน 7 แผน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้มี 4 ข้ัน ได้แก่ การเตรียมพร้อม (Preparation) การเสนอความรู้ใหม่(Presentation of New Knowledge) กระบวนการแก้ปัญหา (Problem Solving Process) การวัดและประเมินผล(Measurement and Evaluation) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีและ 3) แบบวดั ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา การวิเคราะหข์ อ้ มลู ใช้คา่ เฉลี่ย และสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน ผลการวจิ ัยพบวา่ 1. นักเรียนท่ีเรียนโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเทคนิค 3P1M มีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาหลังเรียนสงู กวา่ ก่อนเรียน 2. นักเรียนท่ีเรียนโดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเทคนิค 3P1M มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่ากอ่ นเรยี น

292 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ ุสภา ประจําปี 2557 “การวจิ ัยเพอ่ื เพิม่ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชีพ”ผลงานวิจยั การจดั การเรยี นการสอนโดยเน้นกระบวนการเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองเพ่ือพฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น ในรายวชิ าภาษาองั กฤษเพือ่ งานบญั ชี สาํ หรบั นกั ศึกษาระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชนั้ ปีท่ี 3ผู้วจิ ัย สาขางานการบัญชี วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาบริหารธรุ กิจวทิ ยาสงขลาปที ่วี ิจยั นางนพรัตน์ สุวรรณโณ 2556 บทคัดยอ่ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษาที่เรียนโดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง Vocabularies and Technical Term in Accounting (Accounting Cycle) และ2) ศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี 3 สาขางานการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศกึ ษาบริหารธุรกจิ วทิ ยาสงขลา อําเภอเมือง จงั หวัดสงขลา ปีการศึกษา 2556 จํานวน 29 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษเพ่ืองานบัญชีเรื่อง Vocabularies and Technical Term in Accounting (Accounting Cycle) ที่ใช้กระบวนการสอนโดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง 2) คําส่ัง ชิ้นงานภาษาอังกฤษเพื่องานบัญชี 3) แบบทดสอบคําศัพท์ทางการบัญชี4) แบบทดสอบรายหน่วย 5) แบบประเมินชิ้นงาน และ 6) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการจดั การเรยี นการสอน การวเิ คราะห์ข้อมลู ใช้ร้อยละ และคา่ เฉลีย่ ผลการวิจยั พบว่า 1. นักศึกษามีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนคําศัพท์หลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 62.06 มีพัฒนาการที่ดีกว่าก่อนเรียน ร้อยละ 68.97 และมผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรียนรายหน่วยและการประเมนิ ช้นิ งาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 93.11 2. นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ในระดับมากที่สดุ

การประชมุ ทางวิชาการของคุรสุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจัยเพอ่ื เพิ่มคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 293ผลงานวิจยั การพฒั นาชดุ กิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบปฏิบตั กิ ารคณติ ศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอด เรอ่ื ง ตรรกศาสตร์เบอื้ งตน้ ของนกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4ผู้วจิ ยั นายประดิษฐ์ รังสรรค์ปีท่วี ิจัย 2555 บทคัดย่อ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิบัติการคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอด เรือ่ ง ตรรกศาสตร์เบื้องต้น ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิบัติการคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอดกับเกณฑ์ และ3) เปรียบเทียบความคงทนในการเรียนรู้หลังการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิบัติการคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอดกับการวัดซ้าํ จากการวดั คร้ังแรก กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกําแพงวิทยาอําเภอละงู จังหวัดสตูล ปีการศึกษา 2555 จํานวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิบัติการคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอด เร่ือง ตรรกศาสตร์เบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จํานวน 8 ชุด ชุดละ 2 ชั่วโมง รวม 16 ชั่วโมง 2) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏิบัติการคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอด เร่ือง ตรรกศาสตร์เบ้ืองต้นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 จํานวน 8 แผน รวม 16 ชั่วโมง และ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวชิ าคณติ ศาสตร์ สถิตทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู ไดแ้ ก่ ร้อยละ ค่าเฉล่ยี สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน และการทดสอบคา่ ที ผลการวจิ ัยพบวา่ 1. ชุดกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบปฏิบัตกิ ารคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอด เรื่อง ตรรกศาสตร์เบื้องต้นมี 8 ชุด แต่ละชุดประกอบด้วย คําแนะนําชุดกิจกรรม ส่วนประกอบของชุดกิจกรรม คําชี้แจง ระยะเวลา ส่ือการเรียนรู้ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสําคัญ/สาระการเรียนรู้ ภาพประกอบคําถาม บัตรคําถาม ใบกิจกรรมแบบฝึกหัด แบบทดสอบย่อย และเกณฑ์การประเมินผล ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาข้ึนเป็นชุดกิจกรรมท่ีให้นักเรียนศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองโดยมีครูคอยให้คําแนะนํา ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปฏบิ ัตกิ ารคณิตศาสตร์ในการสร้างความคิดรวบยอดมปี ระสิทธิภาพเท่ากับ 83.93/75.90 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กาํ หนด 75/75 2. นักเรียนมีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนหลงั เรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 60 อย่างมนี ยั สําคัญทางสถติ ทิ ่รี ะดับ .05 3. นกั เรียนมคี วามคงทนในการเรียนรูห้ ลังเรยี นไมแ่ ตกตา่ งกับการวัดซ้าํ หลงั จากการวดั ครั้งแรก

294 การประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพอื่ เพิ่มคุณภาพการศึกษาและการพัฒนาวิชาชพี ”ผลงานวิจัย ผลการจัดการเรียนรูล้ ูกเสอื - เนตรนารี สามญั เรอ่ื ง การพง่ึ ตนเอง ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ตามรปู แบบการเรียนแบบรว่ มมอืผู้วิจยั นางสวุ มิ ล ทองอนิ ทร์ปที ่ีวิจยั 2557 บทคดั ย่อ การวิจัยนีม้ ีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของการจัดการเรียนรู้ลูกเสือ-เนตรนารี สามัญ ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ เรื่อง การพึ่งตนเอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) หาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ลูกเสือ - เนตรนารี สามัญ และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนลูกเสือ -เนตรนารี สามัญ โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนบ้านหนองหาน (วันครู 2502) อําเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ปีการศึกษา 2556จํานวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ลูกเสือ - เนตรนารีสามัญ ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือ เรื่อง การพ่ึงตนเอง ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น สถติ ิที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู ได้แก่ ร้อยละ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1. การจัดการเรียนรู้ลูกเสือ - เนตรนารี สามัญ ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือมีประสิทธิภาพเท่ากับ86.89/82.00 2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ลูกเสือ - เนตรนารี สามัญ ตามรูปแบบการเรียนแบบร่วมมือเทา่ กับ 0.5437 3. ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนของนกั เรยี นหลังเรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั .01

การประชุมทางวชิ าการของครุ ุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ัยเพอื่ เพิม่ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี ” 295ผลงานวิจัย การศึกษาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นวทิ ยาศาสตร์ และแรงจูงใจในการเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ของนักเรียน ปวช. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ที่ไดร้ ับการจัดการเรียนร้แู บบสรรค์สรา้ งความรู้ผูว้ ิจัย และการจดั การเรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ปที ่ีวจิ ัย นางนงค์นุช เวชประสิทธ์ิ 2556 บทคดั ยอ่ ในการทํางานวิจัย เรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิทยาศาสตร์ และแรงจูงใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน ปวช. 1 สาขาคอมพิวเตอร์ ท่ีได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสรรค์สร้างความรู้ และการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ มีความมุ่งหมายเพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิทยาศาสตร์ และแรงจูงใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้น ปวช.1 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสรรค์สร้างความรู้และการจัดการเรียนรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนช้ันปวช. 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ภาคเรียนท่ี 1ปีการศึกษา 2556 จํานวน 80 คน โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) ห้องเรียนละ 40 คนแล้วสุ่มอย่างง่ายอีกครั้งหนึ่ง โดยวิธีการจับสลากเป็นกลุ่มทดลองได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสรรค์สร้างความรู้และกลุ่มควบคุมได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ และแบบสอบถามวัดแรงจูงใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ แบบแผนการทดลองแบบ Randomized Control Group Pretest - Posttest Design การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีทางสถิติ t - testแบบ Independent Sample ในรูป Difference Score ผลการวิจยั พบวา่ 1. นักเรยี นท่ีไดร้ ับการจดั การเรยี นร้แู บบสรรคส์ ร้างความรู้กับนักเรียนท่ีได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ มผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิทยาศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นักเรียนท่ีได้รับการจัดการเรียนรแู้ บบสรรค์สรา้ งความรูก้ บั นักเรียนที่ไดร้ ับการจัดการเรียนรู้ 2. แบบสืบเสาะหาความรู้ มีแรงจูงใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติทร่ี ะดบั .05

296 การประชุมทางวิชาการของครุ ุสภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพือ่ เพ่มิ คุณภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวิชาชีพ”ผลงานวิจยั การพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนและความคดิ สร้างสรรคท์ างวทิ ยาศาสตร์ เร่อื ง ชีวติ กับสิ่งแวดลอ้ ม กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ สาํ หรบั นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3ผวู้ จิ ัย โรงเรียนบา้ นหนองกงุ วิทยาคาร โดยใช้ปญั หาเปน็ ฐานปที ่วี ิจัย นางพรรณิภา เห็มสมคั ร 2556 บทคัดย่อ การวิจยั นี้มวี ตั ถุประสงคเ์ พื่อ 1) หาประสทิ ธภิ าพของการจดั การเรียนร้โู ดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง ชีวิตกับส่ิงแวดล้อม สําหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 2) หาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานเรื่อง ชีวิตกับส่ิงแวดล้อม สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านหนองกุงวิทยาคาร อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ภาคเรียนที่ 1ปีการศกึ ษา 2556 จํานวน 19 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน เรื่อง ชีวิตกบั สิง่ แวดลอ้ ม กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จํานวน 15 แผน2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และ 3) แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ไดแ้ ก่ ร้อยละ คา่ เฉลีย่ และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวจิ ยั พบว่า 1. การจดั กจิ กรรมการเรียนรโู้ ดยใช้ปญั หาเป็นฐาน เร่ือง ชีวิตกับส่ิงแวดล้อม สําหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 มีประสิทธภิ าพ 82.67/80.28 2. ดชั นีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เร่ือง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สําหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เทา่ กบั 0.6428 3. ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนและการคดิ สร้างสรรคข์ องนักเรยี นหลังเรยี นสูงกว่ากอ่ นเรียน

การประชมุ ทางวิชาการของคุรุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจัยเพอ่ื เพม่ิ คณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 297ผลงานวจิ ัย ผลการจัดการเรียนรโู้ ดยใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะ เรื่อง จาํ นวนเชิงซ้อน ของนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 โรงเรียนหวั หินผู้วจิ ัย นายธนติ พงษร์ อดปที ว่ี ิจยั 2557 บทคดั ยอ่ การวจิ ยั น้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ 2) ศึกษาทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ของนักเรียนท่ีเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ และ3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 5 โรงเรียนหัวหิน อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2556จาํ นวน 65 คน เครือ่ งมอื ท่ีใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะ เร่ือง จํานวนเชิงซ้อน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 2) แบบฝึกทักษะ เร่ือง จํานวนเชิงซ้อน จํานวน 7 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบประเมินทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที ผลการวจิ ัยพบว่า 1. นักเรียนท่ีเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนยั สําคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั .05 2. นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์โดยรวมอยู่ในระดับดี มีทักษะด้านการส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์และการนําเสนอ สูงสุด รองลงมาได้แก่ ทักษะความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ การเช่ือมโยงความร้ทู างคณติ ศาสตร์ ความสามารถในการแกป้ ัญหา และทักษะการใหเ้ หตผุ ล ตามลําดับ 3. นักเรียนมีความพงึ พอใจตอ่ การเรยี นโดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะอยู่ในระดับมาก

298 การประชุมทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวิจัยเพอื่ เพ่มิ คุณภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชีพ”ผลงานวจิ ยั ผลการออกกําลังกายโดยใช้แนวการฝกึ แบบพลัยโอเมตรกิ และการฝกึ ทกั ษะพืน้ ฐานกีฬา ที่มีตอ่ ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่ และกลา้ มเน้อื เลก็ และการประสานสมั พันธ์ระหว่างมือกับตาผวู้ ิจยั ของเดก็ ปฐมวยั ช้นั อนุบาลปีที่ 2/2 โรงเรยี นบา้ นโปะหมอ (พรหมเทพราษฎร์บาํ รุง)ปที ่ีวิจัย อาํ เภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นางปริศนา รัตนะ 2555 บทคดั ยอ่ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) ศึกษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่ และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเล็กและการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาของเด็กปฐมวัย และ 2) เปรียบเทียบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่และความแข็งแรงของกล้ามเน้ือเล็กและการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา ก่อนและหลังการออกกําลังกายโดยใช้แนวการฝึกแบบพลัยโอเมตริก และการฝึกทักษะพ้ืนฐานกีฬา กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปฐมวัยช้ันอนุบาลปีที่ 2/2โรงเรียนบ้านโปะหมอ (พรหมเทพราษฎร์บํารุง) อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555จํานวน 29 คน ได้มาโดยการเลอื กแบบเจาะจง เคร่อื งมอื ในการเก็บข้อมูลประกอบด้วย แบบบันทึกผลการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่ และแบบบันทึกผลการทดสอบความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเล็กและการประสานสมั พนั ธ์ระหว่างมือกับตา สถติ ิที่ใช้ ได้แก่ คา่ เฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบคา่ แบบที ผลการวจิ ัยพบว่า 1. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่ของเด็กปฐมวัยโดยภาพรวมก่อนและหลังการออกกําลังกายมีค่าเฉล่ียเท่ากบั 1.17 (สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐานเทา่ กับ .29) และ 2.76 (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากบั .36) ตามลาํ ดบั 2. ความแข็งแรงของกลา้ มเนอ้ื เล็กและการประสานสมั พันธ์ระหว่างมือกับตาของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการออกกําลังกายมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.71 (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .34) และ 2.74 (ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากบั .44) ตามลําดับ 3. ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อใหญ่ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการออกกําลังกายแตกต่างกันอย่างมีนยั สาํ คัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ .01 4. ความแข็งแรงของกล้ามเน้ือเล็กและการประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาของเด็กปฐมวัยแตกต่างกันอย่างมนี ัยสาํ คัญทางสถติ ทิ ่ีระดบั .01

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจัยเพื่อเพมิ่ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี ” 299ผลงานวจิ ยั การสรา้ งและใช้รปู แบบการขับเคลอื่ นการจัดการเรยี นรู้ IDEA D5 NAREE’S MODEL เพื่อพฒั นา ความสามารถของผูเ้ รยี นดา้ นภาษาอังกฤษ ความรอบรสู้ อู่ าเซยี นและทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21ผู้วิจัย นางนารี คูหาเรอื งรองปีทว่ี ิจัย 2556 บทคดั ย่อ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและศึกษาผลการใช้รูปแบบการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ IDEAD5 NAREE’S MODEL เพื่อพัฒนาความสามารถของผู้เรียนด้านภาษาอังกฤษ ความรอบรู้สู่อาเซียนและทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 และ 2) พัฒนาความสามารถของผู้เรียนด้านภาษาอังกฤษ ความรอบรู้สู่อาเซียนและทักษะในศตวรรษที่ 21 ผวู้ ิจยั ไดพ้ ัฒนารูปแบบการขบั เคลือ่ นการจัดการเรียนรู้ แล้วนําไปใช้กับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์ อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จํานวน 50 คน และสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบ ฯ ของผู้ปกครองนักเรียน จํานวน 375 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จํานวน 15 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จํานวน 14 คน เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย1) แบบสอบถามความคิดเห็นเก่ียวกับความเหมาะสมของรูปแบบ ฯ 2) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบ ฯ3) แบบสํารวจข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ของนักเรียน4) แบบทดสอบความรอบรสู้ ่อู าเซียน และ 5)แบบสังเกตทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 ผลการวิจัยพบวา่ 1. รปู แบบการขบั เคลอ่ื นการจดั การเรยี นรู้ IDEA D5 NAREE’ S MODEL มี 5 องค์ประกอบ ไดแ้ ก่ 1) Desireผู้เรียนที่ปรารถนา 2) Design ระบบมีสไตล์ 3) Driven ผู้นําขับเคลื่อน 4) Delight ลูกค้าพอใจ และ 5) Diffuseเครือขา่ ยกว้างขวาง 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานเห็นว่ารูปแบบ ฯ โดยรวมมคี วามเหมาะสมระดบั มาก 3. ผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ (O - Net) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)ปีการศึกษา 2555 พัฒนาข้ึนจากปีการศึกษา 2554 เท่ากับ +10.45 และปีการศึกษา 2555 มีผู้เรียนได้รับรางวัลเหรียญทองระดับนานาชาติ จํานวน 1 รางวัล ระดับประเทศ 3 รางวัล รวมทั้งส้ิน 4 รางวัล และนักเรียนสอบO - Net ได้ 100 คะแนน จาํ นวน 3 คน 4. ผู้เรียน ผู้ปกครอง ครูและบุคลากรทางการศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐานมีความพึงพอใจตอ่ รปู แบบ ฯ โดยรวมระดบั มากทีส่ ุด 5. ผเู้ รียนมคี วามรอบรูส้ ู่อาเซยี นและทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยรวมระดับมาก

300 การประชมุ ทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ัยเพอ่ื เพม่ิ คณุ ภาพการศึกษาและการพัฒนาวิชาชพี ”ผลงานวิจยั ผลการจัดการเรียนรโู้ ดยใชส้ ื่อคอมพวิ เตอร์โปรแกรม GSP กับวธิ สี อนแบบปกติ ทีม่ ผี ลต่อผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนและความพงึ พอใจวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค 32101ผวู้ ิจัย เรอื่ ง อัตราส่วนตรีโกณมิติ สาํ หรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5ปีทีว่ ิจยั นางสาวสดุ าวัลย์ โสตะจินดา 2556 บทคัดยอ่ การวจิ ยั น้มี วี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของสื่อคอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP เรื่อง อัตราส่วนตรโี กณมิติ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนโดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP และวิธีสอนแบบปกติ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ส่ือคอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม เขตราษฎรบ์ รู ณะ กรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จํานวน 87 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม กลุ่มทดลองจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP จํานวน 43 คน และกลุ่มควบคุมสอนแบบปกติ จํานวน 44 คน ใชเ้ วลาในการจดั การเรยี นรู้ กลุ่มละ 22 ชัว่ โมง โดยใช้เน้ือหาเดียวกัน เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน ค 32101 เร่ือง อัตราส่วนตรีโกณมิติ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้สอ่ื คอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP สถติ ทิ ี่ใช้วเิ คราะหข์ ้อมลู ไดแ้ ก่ การวเิ คราะห์ความแปรปรวนรว่ ม ผลการวจิ ยั พบว่า 1. สื่อคอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ มีประสิทธิภาพ 82.43/83.26 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ทก่ี ําหนด 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนท่ีเรียนโดยใช้ส่ือคอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP แตกต่างกับวิธีสอนแบบปกติอยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถิติทร่ี ะดับ .05 3. นักเรียนมีความพงึ พอใจต่อการจดั การเรียนรู้โดยใชส้ ่อื คอมพิวเตอร์โปรแกรม GSP โดยรวมอย่ใู นระดบั มาก

การประชุมทางวิชาการของครุ ุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพอื่ เพ่มิ คณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวิชาชพี ” 301ผลงานวิจัย การพัฒนาหลกั สตู รสาระเพ่ิมเตมิ เร่อื ง หลกั การผลติ ข้าวอนิ ทรีย์ สาํ หรบั นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4ผวู้ จิ ัย นายเดช ยะมงคลปีที่วจิ ัย 2556 บทคดั ยอ่ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพหลักสูตรสาระเพ่ิมเติม เรื่อง หลักการผลิตขา้ วอินทรีย์ สําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 2) เปรียบเทียบคะแนนการเรียนรู้ และคะแนนทักษะการปฏิบัติงานกับเกณฑ์ 3) เปรยี บเทยี บคะแนนก่อนและหลังเรียนตามหลักสูตร 4) ศึกษาความคิดเห็นของชาวนาตัวอย่างท่ีมีต่อหลักสูตร และ 5) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนตามหลักสูตร ผู้วิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ และมหาวิทยาลยั แมโ่ จ้ ไดร้ ่วมจัดทําหลักสูตร แล้วนําไปทดลองใช้กับนักเรียนในภาคเรียนที่ 1และ 2 ปีการศึกษา 2555 จากนนั้ จึงนําหลกั สูตรไปใชจ้ รงิ กับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนนวมินทราชูทิศภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2556 จาํ นวน 42 คน เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ไดแ้ ก่ แบบทดสอบ แบบประเมนิทักษะการปฏิบัติงานของนักเรียน แบบสอบถามความคิดเห็นของชาวนาตัวอย่าง และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนทีม่ ตี อ่ หลกั สตู ร การวิเคราะห์ข้อมลู ใชค้ า่ เฉล่ีย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน และการทดสอบคา่ ที ผลการวจิ ัยพบว่า 1. หลักสูตรสาระเพ่ิมเติม เรื่องหลักการผลิตข้าวอินทรีย์ ประกอบด้วย จุดมุ่งหมาย โครงสร้างหลักสูตรสาระการเรียนรู้ เวลาเรียน แนวการจัดกิจกรรม สื่อและแหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล หน่วยการเรียนรู้ในหลักสูตรมี 3 หน่วย ได้แก่ 1) รู้จักข้าวอินทรีย์ 2) ปลูกและดูแลดี 3) ผลผลิตมีคุณภาพ ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าโดยภาพรวม หลักสูตรมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และหน่วยการเรียนรู้มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.28/81.98ซึง่ เป็นไปตามเกณฑ์ท่กี ําหนด 80/80 2. นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และคะแนนเฉลย่ี ทกั ษะการปฏิบัติงานสงู กวา่ เกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมนี ัยสําคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดับ .05 3. นกั เรียนมีคะแนนเฉลยี่ หลังเรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอย่างมีนัยสําคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ .05 4. ชาวนามีความเห็นว่าโดยภาพรวมหลักสูตรมีคุณภาพในระดับดีมาก และได้ให้ข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมเกีย่ วกับพนั ธข์ุ า้ วท่แี นะนําใหป้ ลูก คือ พนั ธ์ุหอมนิล และควรปรับปรงุ โครงสร้างของดินโดยใช้ปุ๋ยหมักจากใบไม้แห้งในโรงเรยี นให้มากข้ึน 5. นกั เรียนมคี วามพงึ พอใจตอ่ การเรยี นตามหลกั สตู รในระดบั มากท่ีสดุ

302 การประชมุ ทางวชิ าการของคุรสุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพือ่ เพ่ิมคณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวิชาชีพ”ผลงานวิจัย การศกึ ษาผลสมั ฤทธใิ์ นการอา่ นจับใจความภาษาอังกฤษโดยวธิ ีการสอนแบบ SQ4R ของนกั ศึกษา ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้นั สงู สาขาภาษาต่างประเทศ วทิ ยาลยั เทคโนโลยพี าณิชยการลานนาผวู้ จิ ัย นายศกั ดิช์ ยั แก้วกริ ิยาปที ีว่ ิจยั 2556 บทคดั ยอ่ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักศึกษาก่อนและหลังเรียนโดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ4R กลุ่มเป้าหมายท่ีใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ช้ันปีที่ 1 วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการลานนา อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ภาคเรียนท่ี 1ปีการศึกษา 2556 จาํ นวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นวิธีการสอนแบบ SQ4R จํานวน 5 แผน แต่ละแผนใช้เวลา 2 คาบ คาบละ 55 นาที วิธีการสอนมี 6 ขั้น ได้แก่ อ่านอย่างคร่าว ๆ(Survey) ตั้งคําถาม (Question) อ่านเพ่ือจับใจความ (Read) จดบันทึก(Record) เขียนสรุปใจความ ถ้าไม่เข้าใจให้อ่านซ้ํา (Recite) วิจารณ์ (Reflect) และ 2) แบบทดสอบการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลีย่ และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่านักศึกษามีความสามารถในการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยผา่ นเกณฑ์ทต่ี ั้งไว้

การประชุมทางวชิ าการของคุรุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจัยเพื่อเพิม่ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 303ผลงานวิจยั ผลของการจัดการเรยี นรแู้ บบโครงงานทเ่ี ช่ือมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งทีม่ ีตอ่ ผลสมั ฤทธ์ิ ทางเรยี น ความสามารถในการทําโครงงานและเจตคติต่อการเรียน วิชาโครงงานอาชีพ ง 23102ผู้วิจยั ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนโยธนิ บาํ รงุปีที่วจิ ัย นางวรรณกิ าร์ วงศม์ ยุรา 2556 บทคัดย่อ การวิจัยน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยจัดการเรียนรู้แบบโครงงานที่เช่ือมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยจดั การเรยี นร้แู บบโครงงานท่เี ช่ือมโยงปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งกบั เกณฑ์ 3) ศึกษาความสามารถในการทําโครงงานของนักเรียน 4) ศึกษาเจตคติของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานที่เชื่อมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กล่มุ เปา้ หมายท่ใี ช้ในการวจิ ัยเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรียนโยธินบํารุง อําเภอเมืองจงั หวดั นครศรธี รรมราช ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2556 จํานวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบกลุ่ม เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานที่เชื่อมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงวิชาโครงงานอาชีพ ง 23102 จํานวน 8 แผน 36 คาบ 2) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาโครงงานอาชีพ3) แบบวัดความสามารถในการทําโครงงาน และ 4) แบบวัดเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานท่ีเช่ือมโยงปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง การวิเคราะห์ขอ้ มลู ใช้คา่ เฉลย่ี สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวจิ ัยพบว่า 1. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยจัดการเรียนรู้แบบโครงงานที่เชื่อมโยงปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอย่างมีนยั สาํ คัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .01 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนโดยจัดการเรียนรู้แบบโครงงานท่ีเช่ือมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสงู กวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ 70 อย่างมนี ัยสาํ คัญทางสถิติทรี่ ะดบั .01 3. นักเรียนมีความสามารถในการทําโครงงานที่เชื่อมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอยู่ในระดับมากเม่อื พจิ ารณาเปน็ รายดา้ นพบว่า ดา้ นการลงมือปฏิบัติโครงงานและการเขียนรายงานอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านการเขยี นเคา้ โครงของโครงงาน การคิดและการเลือกหวั เรื่อง การศึกษาเอกสารท่ีเก่ียวข้องและการจัดแสดงผลงานอยใู่ นระดบั มาก ตามลาํ ดับ 4. นักเรียนมีเจตคติต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานที่เช่ือมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยภาพรวมระดับมากที่สดุ

304 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชมุ ทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ยั เพอ่ื เพม่ิ คณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 305 ภาคผนวก

306 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชุมทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ัยเพื่อเพ่มิ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี ” 307 โครงการประชมุ ทางวิชาการของคุรุสภา ประจําปี 2557หลักการและเหตุผล การวิจัยนอกจากจะเป็นฐานในการพัฒนางานของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาตามที่บัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ มาตรา 30 แล้ว ยังถือเป็นนวัตกรรมสําคัญที่สร้างความก้าวหน้าทางวิชาการและพัฒนาทุนทางปัญญาของมนุษย์ ทําให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ผลผลิตและสิ่งประดิษฐ์คิดค้นใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์อันจะนําไปสู่การสร้างสังคมฐานความรู้ซึ่งเป็นการพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพและชว่ ยผลกั ดันให้เกิดการพฒั นาที่ยั่งยืนของประเทศในท่ีสุด ฐานความรู้จากการวิจัยจะส่งผลถึงการพัฒนาผู้เรียนและพฒั นาวิชาชีพซึง่ เป็นเปา้ หมายสงู สุดของการปฏิรปู การศกึ ษา คุรุสภาตระหนักถึงความสําคัญของการส่งเสริม สนับสนุน ให้มีการผลิตและการใช้ผลงานวิจัยท่ีมีคุณภาพนับเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาวิชาชีพครูให้มีความเข้มแข็งจนเป็นที่ยอมรับ และศรัทธาแก่ผู้ร่วมวิชาชีพบุคคลทั่วไป และสังคม การจัดให้มีการประชุมวิชาการของคุรุสภา เพื่อเป็นเวทีทางวิชาการระดับประเทศให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา นักวิชาการ นักวิจัย คณาจารย์ นิสิต และผู้สนใจทั่วไปได้มีโอกาสนําเสนอและเผยแพรผ่ ลงานวิจยั ท่ี มคี ณุ ภาพ มีคณุ ค่าทางวิชา การและมีประโยชน์ต่อการพัฒนาผู้เรียนและพัฒนาวิชาชีพครูพรอ้ มทง้ั ใหม้ กี ารแลกเปลยี่ นเรียนรู้ประสบการณ์การวิจัย การนําผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนการต่อยอดงานวิจัยที่เช่อื มโยงสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษาอยา่ งแทจ้ ริง ผลการศึกษาของ Mckinsey & Company (สกศ. 2555: 18) เสนอว่าการพัฒนาครูโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานด้วยการสง่ เสริมและสนับสนุนการทําวจิ ัยหรอื การทดลองที่เป็นระบบ จะส่งผลต่อการพัฒนาของครูได้จนถึงข้ันดีเลิศ(Excellent) ซง่ึ สอดคล้องกบั สรปุ ผลการประชมุ ทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจําปี 2556 ท่ีพบว่า การส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ผลิตงานวิจัยได้มีโอกาสพบปะ แลกเปล่ียนเรียนรู้กระบวนทัศน์ด้านการวิจัยกับผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญอย่างใกลช้ ิด และสรา้ งความกระจ่างด้านการวจิ ยั ได้ตรงตามความต้องการอย่างแท้จริง การได้รับคําแนะนําอย่างใกล้ชิดทีต่ รงตามสภาพปัญหาวจิ ยั และความตอ้ งการของผู้ผลิตงานวจิ ัย ยอ่ มนําไปส่กู ารพัฒนา ปรับปรุง พัฒนาการสร้างงานวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน การบริหารสถานศึกษา และการจัดการศึกษาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล อกี ท้งั เป็นกลไกในการสรา้ งเครอื ข่ายการวิจยั ของ “ประชาคมนักวิจัยเพื่อการพัฒนาวิชาชีพครู”อย่างเปน็ ระบบและต่อเน่ือง เพ่ือให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุม การจัดประชุมทางวิชาการของคุรุสภา จึงควรไดด้ าํ เนนิ การอย่างต่อเน่ืองวัตถุประสงค์ 1. เพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่มีคุณค่าทางวิชาการ และมีคุณภาพสาํ หรบั การพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวิชาชพี 2. เพ่ือเป็นเวทีทางวิชาการสําหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสร้าง การใช้ และการเผยแพร่ผลงานวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่มีคุณค่าทางวิชาการ มีคุณภาพ เป็นแบบอย่างในการปรับประยุกต์ใช้หรอื ตอ่ ยอดเพอื่ การพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี 3. เพือ่ ยกยอ่ งผปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศกึ ษาทไี่ ดร้ บั การคดั เลอื กใหไ้ ด้รับรางวัลผลงานวจิ ัย 4. เพอื่ ส่งเสรมิ ใหผ้ ปู้ ระกอบวชิ าชีพทางการศึกษาได้นาํ เสนอผลงานวจิ ยั ในเวทีทางวิชาการในระดับอาเซยี น

308 การประชุมทางวิชาการของครุ ุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ยั เพื่อเพ่ิมคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี ” เป้าหมาย 1. เชิงปรมิ าณ 1.1 จํานวนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาส่งผลงานวิจัยเข้าร่วมการคัดสรรเพ่ือนําเสนอในการประชุม ทางวชิ าการของครุ ุสภา ไม่น้อยกวา่ 300 เรอ่ื ง 1.2 จํานวนผสู้ นใจเข้ารว่ มประชุมทางวชิ าการของครุ สุ ภา ไม่นอ้ ยกว่า 1,500 คน 1.3 หนังสือประชุมทางวิชาการของคุรุสภา ประจําปี 2557 ที่รวบรวมบทความทางวิชาการ สรุปย่อ ผลงานวิจัย และสรุปบทคัดยอ่ ผลงานวจิ ัย ท่ีได้รบั การคัดสรรจากครุ สุ ภา า จํานวน 1,500 เลม่ 2. เชงิ คณุ ภาพ ร้อยละ 80 ของผเู้ ข้าร่วมประชุมพึงพอใจตอ่ การได้เขา้ ร่วมประชุมทางวิชาการของครุ ุสภา สถานทีด่ าํ เนินการ สํานักงานเลขาธกิ ารคุรุสภา การติดตามประเมนิ ผล 1. การเขา้ ร่วมประชมุ วิชาการของผปู้ ระกอบวชิ าชพี ทางการศกึ ษาและผู้สนใจทว่ั ไป 2. การรายงานผลการดําเนินงานตามไตรมาส ผลทค่ี าดวา่ จะได้รบั คุรุสภาเป็นองค์กรวิชาชีพครูที่มีเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และการบริหารสถานศึกษา รวมท้ังมีเวทีประชุมทางวิชาการเพื่อนําเสนอผลงานวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา เพื่อการพัฒนานวตั กรรมทเ่ี หมาะสมกับการเปน็ ครูมอื อาชพี

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพอ่ื เพ่ิมคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 309

310 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพอ่ื เพ่ิมคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 311

312 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพอ่ื เพ่ิมคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 313

314 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพอ่ื เพ่ิมคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 315

316 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชมุ ทางวิชาการของคุรสุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพือ่ เพิ่มคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 317 ทําเนียบนักวจิ ัย

318 การประชมุ ทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพิ่มคณุ ภาพการศกึ ษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”

การประชมุ ทางวชิ าการของครุ ุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจยั เพ่อื เพม่ิ คณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี ” 319 ทะเบียนรายชือ่ ผู้ไดร้ บั รางวัลผลงานวจิ ยั ของคุรุสภา ประจําปี 2557 “ผลงานวจิ ยั ระดบั ภูมิภาค”ลาํ ดบั ที่ ชอ่ื - สกลุ สถานทต่ี ดิ ตอ่1 นางสมสวย พรมหนู โรงเรยี นเทศบาล 2 วัดเสนหา (สมัครพลผดงุ ) เลขที่ 588/1 ถนนทางรถไฟตะวนั ตก2 นายชลิต ลว้ นศิริ ตําบลพระปฐมเจดยี ์ อาํ เภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม 730003 นายอภิชาติ เนนิ พรหม วทิ ยาลัยเทคนคิ สมุทรสาคร4 นายอํานาจ ทองแสน เลขท่ี 297 ถนนเศรษฐกิจ 15 นางเบ็ญจพร ภริ มย์ ตาํ บลมหาชัย อําเภอเมืองสมุทรสาคร6 นายธีรพงษ์ แสงสทิ ธ์ิ จังหวดั สมุทรสาคร 740007 นางสาวนันทนา จันทรฝ์ ั้น8 นางไพรประนอม ประดับเพชร วิทยาลยั เทคนคิ ชุมพร9 นางสาววัชราภรณ์ เพง็ สุข เลขที่ 138 หมู่ 8 ถนนอาภากร ตําบลนาชะอัง อาํ เภอเมอื งชุมพร จังหวดั ชมุ พร 86000 วทิ ยาลัยเทคนคิ อดุ รธานี เลขท่ี 3 ถนนวฒั นานวุ งศ์ ตาํ บลหมากแขง้ อาํ เภอเมอื งอุดรธานี จังหวดั อุดรธานี 41000 โรงเรยี นพยุห์วิทยา เลขที่ 56 หมู่ 8 ตาํ บลพยุห์ อําเภอพยหุ ์ จงั หวัดศรสี ะเกษ 33230 โรงเรียนหนองนาคําวทิ ยาคม เลขท่ี 129 หมู่ 1 ตําบลบา้ นโคก อําเภอหนองนาคาํ จังหวัดขอนแก่น 40150 สํานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาเชียงราย เขต 4 เลขท่ี 17 หมู่ 20 ตาํ บลเวียง อําเภอเทงิ จังหวดั เชยี งราย 57160 โรงเรยี นบ้านนาแก ตําบลนาหนองทุ่ม อาํ เภอแกง้ ครอ้ จงั หวดั ชยั ภูมิ 36150 โรงเรยี นอนุบาลสุพรรณบรุ ี เลขที่ 15 ถนนมาลัยแมน ตําบลทา่ พเ่ี ลีย้ ง อําเภอเมืองสพุ รรณบุรี จงั หวดั สุพรรณบรุ ี 72000

320 การประชุมทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวิจัยเพ่อื เพมิ่ คุณภาพการศึกษาและการพัฒนาวชิ าชพี ”ลําดบั ท่ี ช่อื - สกลุ สถานทตี่ ิดต่อ10 นายทวีศิลป์ ซอ่ื สัตย์ โรงเรยี นวัดประทมุ ทายการาม หมู่ 1 ตาํ บลสชิ ล อําเภอสชิ ล11 นายวรวฒั น์ บญุ ดี จงั หวดั นครศรธี รรมราช 8012012 นางสาวสนุ นั ท์ พทุ ธภูมิ วทิ ยาลยั เทคนคิ ยโสธร ตาํ บลสําราญ อําเภอเมืองยโสธร13 นายศุภกร การสมบัติ จังหวดั ยโสธร 3500014 นายสุลายมาน บากา โรงเรยี นพลูตาหลวงวทิ ยา เลขท่ี 120 หมู่ 4 ตาํ บลพลตู าหลวง15 นางสาวมณรี ตั น์ รัตนวิชยั อาํ เภอสตั หบี จงั หวดั ชลบรุ ี 2018016 นางพจนี ศิรวิ รรณ โรงเรียนอยธุ ยาวิทยาลยั ตาํ บลประตชู ัย อําเภอพระนครศรอี ยุธยา17 นางฐปะนยี ์ บรุ าไกร จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา 1311018 นางสาวสวุ ิชา กฎุ ศี รี โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดปตั ตานี เลขที่ 2 ถนนสะบารงั ตําบลสะบารงั19 นางสาวจนั ทนา อินทจกั ร์ อาํ เภอเมอื งปัตตานี จงั หวดั ปัตตานี 9400020 นางอภญิ ญา การกิ าญจน์ โรงเรยี นวัดสลุด เลขที่ 2 หมู่ 10 ตาํ บลบางแก้ว21 นางสุดาจติ ป้านภูมิ อาํ เภอบางพลี จงั หวัดสมุทรปราการ 10540 โรงเรียนบา้ นเสาเลา้ ผักชศี รสี วสั ด์ิ เลขที่ 168 หมู่ 5 ตาํ บลโพธ์ศิ รีสําราญ อําเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี 41240 โรงเรยี นบา้ นหนองสนม หมู่ 12 ตําบลบัวงาม อาํ เภอเดชอดุ ม จังหวดั อบุ ลราชธานี 34160 โรงเรียนปลวกแดงพิทยาคม เลขที่ 500 หมู่ 1 ตําบลปลวกแดง อําเภอปลวกแดง จงั หวดั ระยอง 21140 โรงเรยี นสนั ทรายวิทยาคม เลขที่ 207 หมู่ 10 ตําบลหนองหาร อาํ เภอสันทราย จังหวดั เชียงใหม่ 50290 โรงเรยี นเมอื งนครศรธี รรมราช เลขท่ี 120 ตําบลนาทราย อาํ เภอเมืองนครศรธี รรมราช จังหวัดนครศรธี รรมราช 80280 โรงเรยี นบา้ นมะอึ หมู่ 8 ตําบลมะอึ อําเภอธวัชบรุ ี จังหวดั ร้อยเอ็ด 45170

การประชมุ ทางวิชาการของครุ ุสภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ัยเพ่ือเพ่ิมคณุ ภาพการศึกษาและการพฒั นาวิชาชพี ” 321ลําดบั ท่ี ชื่อ - สกุล สถานทตี่ ิดต่อ22 นายอนพุ งษ์ ชมุ แวงวาปี โรงเรยี นนาวงั ศึกษาวชิ เลขท่ี 55 หมู่ 13 ตําบลนาเหลา่23 นางรชั กร ประสีระเตสงั อาํ เภอนาวัง จงั หวัดหนองบัวลําภู 3917024 นางสาวกนกพร สขุ สาย โรงเรียนธารทองพิทยาคม เลขท่ี 704 หมู่ 1 ถนนศกั ดม์ิ โน25 นายวิชยั กงพลนันท์ ตาํ บลลําปลายมาศ อาํ เภอลาํ ปลายมาศ จังหวัดบรุ รี ัมย์ 3113026 นางจุไรรัตน์ เดชภิรัตนมงคล27 นางมณีรัตน์ คงใจดี โรงเรียนเบญ็ จะมะมหาราช28 นายจาํ ลอง อบอ่นุ เลขที่ 600 ถนนสรรพสทิ ธิ์29 นายมานิต ศริ เิ พิ่มพลู ตาํ บลในเมอื ง อําเภอเมืองอุบลราชธานี30 นางสาวทัศนยี ์ ธารานาถ จงั หวัดอุบลราชธานี 3400031 นางรัชนู บวั พันธ์ วิทยาลัยเทคนคิ เชียงราย เลขท่ี 1046 ถนนสนามบิน ตาํ บลเวยี ง อาํ เภอเมืองเชียงราย จังหวดั เชยี งราย 57000 วทิ ยาลยั เทคนคิ ตาก เลขท่ี 195 หมู่ 3 ถนนเจดยี ย์ ุทธหตั ถี ตาํ บลป่ามะมว่ ง อําเภอเมอื งตาก จงั หวัดตาก 63000 โรงเรยี นบ้านโคกกลาง หมู่ 1 ตําบลโคกกลาง อาํ เภอพนมดงรัก จังหวัดสรุ ินทร์ 32140 โรงเรียนตาจงพทิ ยาสรรค์ เลขที่ 111 หมู่ 12 ตาํ บลตาจง อําเภอละหานทราย จังหวัดบรุ ีรมั ย์ 31170 วทิ ยาลัยเทคโนโลยวี ิศกรรมบรหิ ารธรุ กิจ เลขที่ 89 หมู่ 8 ถนนเศรษฐกิจ ตาํ บลหนองรี อําเภอเมืองชลบุรี จังหวดั ชลบรุ ี 20000 โรงเรยี นทุ่งเสลย่ี มชนูปถัมภ์ เลขที่ 219 หมู่ 1 ตําบลทุ่งเสลี่ยม อาํ เภอทงุ่ เสลี่ยม จังหวัดสโุ ขทัย 64150 โรงเรยี นเมืองราดวิทยาคม เลขที่ 237 หมู่ 4 ตําบลนาซํา อาํ เภอหล่มเกา่ จงั หวัดเพชรบูรณ์ 67120

322 การประชมุ ทางวชิ าการของคุรสุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ัยเพือ่ เพ่ิมคณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวิชาชีพ”ลําดับท่ี ชอ่ื - สกุล สถานทต่ี ดิ ตอ่32 นายไพรตั น์ ลมิ้ ปองทรัพย์ วิทยาลัยเทคโนโลยตี ้งั ตรงจิตรพณชิ ยการ เลขท่ี 2 ถนนมหาราช33 นายวิธิวัติ รกั ษาภกั ดี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร34 นางธัญพร พมุ่ พวง กรงุ เทพมหานคร 1020035 นางรตั นพร สอนสมนกึ โรงเรียนทา่ ตูมประชาเสรมิ วิทย์ ตาํ บลท่าตูม อําเภอท่าตมู36 นายรณชิต นราพันธ์ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ 32120 วทิ ยาลัยเทคนคิ ลพบุรี37 นายวิวัฒน์ เพชรศรี เลขท่ี 323 ตาํ บลทะเลชบุ ศร อําเภอเมืองลพบุรี จงั หวดั ลพบุรี 1500038 นายพรศกั ด์ิ ฉุยจอหอ โรงเรยี นศรบี ญุ เรืองวทิ ยาคาร เลขที่ 84 หมู่ 2 ตําบลขมิน้39 นายธรี ะเดช จริ าธนทัต อําเภอเมืองสกลนคร จงั หวดั สกลนคร 4722040 นางนรนิ ทร ชมชนื่ โรงเรยี นวดั ดงมลู เหลก็ เลขท่ี 69/2 ซอยอสิ ระภาพ 3941 นางสิริมณฑน์ กัลยาณรักษ์ ถนนอสิ ระภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร 10700 โรงเรยี นสฤษดเิ ดช เลขท่ี 2/4 ถนนเทศบาล 1 ตาํ บลวัดใหม่ อําเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจนั ทบรุ ี 22000 โรงเรียนสุรนารวี ทิ ยา 2 เลขที่ 118 ถนนเลยี บคลองชลประทาน ตําบลหนองกระทมุ่ อาํ เภอเมืองนครราชสมี า จังหวดั นครราชสมี า 30000 โรงเรยี นอดุ รธรรมานสุ รณ์ เลขที่ 430 หมู่ 14 ตําบลบา้ นตาด อําเภอเมืองอุดรธานี จงั หวัดอุดรธานี 41000 สํานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 36 เลขที่ 1115/23 ถนนไกรสรสิทธิ์ ตําบลเวียง อําเภอเมืองเชยี งราย จงั หวดั เชยี งราย 57000 โรงเรยี นเทศบาลท่าอิฐ เลขที่ 8 ถนนจิตรเพลนิ ตาํ บลท่าอิฐ อาํ เภอเมอื งอุตรดติ ถ์ จงั หวัดอุตรดิตถ์ 53000

การประชมุ ทางวิชาการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557 “การวจิ ยั เพื่อเพ่มิ คณุ ภาพการศกึ ษาและการพฒั นาวชิ าชพี ” 323ลาํ ดับที่ ชอ่ื - สกลุ สถานทต่ี ดิ ตอ่42 นายรณชัย บุญลือ โรงเรียนบางขุนเทยี นศึกษา เลขที่ 53 ซอย 69 แยก 3 ถนนพระรามที่ 243 พนั ตํารวจโทดิฐภทั ร บวรชยั แขวงแสมดํา เขตบางขุนเทียน44 นายแสงจันทร์ เพรดิ พราว กรุงเทพมหานคร 10150 โรงเรียนนายร้อยตาํ รวจ45 นางรัตนา หริ ญั โรจน์ เลขท่ี 90 หมู่ 7 ตาํ บลสามพราน อาํ เภอสามพราน จังหวดั นครปฐม 7311046 นางสาวนารี โอภาโส โรงเรียนจุมจงั พลังราษฎร์47 นางนพรตั น์ สุวรรณโณ หมู่ 1 ตาํ บลจมุ จัง อาํ เภอกฉุ ินารายณ์ จงั หวัดกาฬสินธุ์ 4611048 นายประดษิ ฐ์ รงั สรรค์ โรงเรียนวัดหว้ ยจรเข้วทิ ยาคม เลขท่ี 445/5 ตําบลพระปฐมเจดยี ์49 นางสุวมิ ล ทองอินทร์ อําเภอเมอื งนครปฐม จังหวัดนครปฐม 7300050 นางนงค์นุช เวชประสทิ ธ์ิ51 นางพรรณภิ า เหม็ สมัคร โรงเรยี นวิเชียรมาตุ 2 เลขที่ 259 หมู่ 4 ตาํ บลโพรงจระเข้ อําเภอย่านตาขาว จังหวดั ตรัง 92140 วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาบรหิ ารธุรกิจวิทยาสงขลา ตาํ บลบอ่ ยาง อาํ เภอเมอื งสงขลา จงั หวัดสงขลา 90000 โรงเรียนกาํ แพงวิทยา เลขท่ี 145 หมู่ 1 ถนนละงู - ทุ่งหว้า ตําบลกาํ แพง อําเภอละงู จงั หวดั สตลู 91110 โรงเรยี นบ้านหนองหาน (วันครู 2502) เลขท่ี 220 หมู่ 10 ถนนนติ โย ตาํ บลหนองหาน อําเภอหนองหาน จังหวัดอดุ รธานี 41130 วทิ ยาลัยเทคโนโลยชี ลบุรี เลขท่ี 80/90 หมู่ 3 ถนนสขุ มุ วิท ตาํ บลเสม็ด อาํ เภอเมืองชลบุรี จงั หวัดชลบรุ ี 20000 โรงเรียนหนองกุงวิทยาคาร หมู่ 2 ตําบลศลิ า อําเภอเมอื งขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000

324 การประชุมทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจําปี 2557 “การวจิ ยั เพ่อื เพมิ่ คณุ ภาพการศึกษาและการพัฒนาวิชาชีพ”ลาํ ดบั ท่ี ชือ่ - สกลุ สถานทตี่ ดิ ตอ่52 นายธนติ พงษ์รอด โรงเรยี นหวั หนิ เลขที่ 184 ตําบลหวั หนิ อาํ เภอหวั หนิ53 นางปรศิ นา รตั นะ จังหวัดประจวบครี ขี นั ธ์ 7711054 นางนารี คหู าเรืองรอง โรงเรียนบา้ นโปะหมอ (พรหมเทพราษฎรบ์ ํารุง) เลขท่ี 1 ตาํ บลบา้ นพรุ อําเภอหาดใหญ่55 นางสาวสุดาวัลย์ โสตะจินดา จงั หวัดสงขลา 9025056 นายเดช ยะมงคล โรงเรียนประถมศกึ ษาธรรมศาสตร์ เลขท่ี 111 หมู่ 18 ตาํ บลคลองหนงึ่57 นายศักดชิ์ ัย แกว้ กริ ยิ า อาํ เภอคลองหลวง จังหวดั ปทุมธานี 1212058 นางวรรณิการ์ วงศม์ ยรุ า โรงเรยี นบางปะกอกวทิ ยาคม เลขท่ี 51 ซอยสุขสวัสด์ิ ถนนสุขสวัสด์ิ แขวงบางปะกอก เขตราษฎรบ์ รู ณะ กรงุ เทพมหานคร 10140 โรงเรียนนวมนิ ทราชูทศิ พายัพ เลขท่ี 186 หมู่ 8 ถนนโชตนา ตาํ บลดอนแก้ว อาํ เภอแมร่ มิ จังหวดั เชียงใหม่ 50180 วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการลานนา เลขท่ี 98/12 หมู่ 2 ถนนโพธาราม ตําบลชา้ งเผือก อําเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300 โรงเรียนโยธนิ บาํ รงุ เลขที่ 283 หมู่ 1 ตาํ บลปากพนู อาํ เภอเมอื งนครศรีธรรมราช จังหวดั นครศรีธรรมราช 80000

คณะผจู้ ัดทําที่ปรกึ ษาศาสตราจารยก์ ิตตคิ ณุ ดร.ไพฑูรย์ สินลารตั น์ ประธานกรรมการคุรสุ ภาดร.อาํ นาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรสุ ภานายสมพงษ์ ปานเกลา้ รองเลขาธิการครุ สุ ภาบรรณาธกิ ารและอํานวยการผลิตดร.วิลาวลั ย์ มาคมุ้ ผูอ้ าํ นวยการสาํ นักพฒั นาและสง่ เสรมิ วิชาชีพศิลปกรรมกลมุ่ พัฒนาการประกอบวิชาชีพ สาํ นกั พฒั นาและส่งเสรมิ วชิ าชีพผจู้ ดั ทําดร.วลิ าวลั ย์ มาคมุ้ ผู้อาํ นวยการสาํ นกั พฒั นาและสง่ เสริมวชิ าชีพนางสาววภิ า ลคั นาพรวิสฐิ ผ้อู าํ นวยการกลุ่มพัฒนาการประกอบวิชาชีพนายปรีชาพล พรมนสั นกั วิชาการนางณฐั ตยิ า มโี ชคชยั ประเสรฐิ นักวชิ าการนางสาวพัชรนิ ทร์ ตังควเิ วชกลุ นักวชิ าการนางสาวทิพวรรณ สิกบตุ ร นักวิชาการนางสาวกมลชนก อดุ ยะเข่ือน เจา้ หนา้ ทบี่ รหิ ารทั่วไปปฏบิ ัติการนางสาววรินทร์กุล ชัยหิรญั พจน์ เจ้าหน้าท่ีบรหิ ารทวั่ ไปเจ้าของและผผู้ ลิตสาํ นักงานเลขาธกิ ารคุรุสภาสํานักพฒั นาและสง่ เสรมิ วิชาชีพกลุ่มพัฒนาการประกอบวชิ าชีพขอขอบคณุคณะกรรมการครุ ุสภาคณะกรรมการมาตรฐานวชิ าชีพคณะอนกุ รรมการพัฒนาผ้ปู ระกอบวิชาชพี ทางการศึกษาในประจําการคณะอนุกรรมการพัฒนาวชิ าชีพทางการศึกษาคณะอนกุ รรมการบรหิ ารโครงการประชมุ ทางวิชาการของคุรุสภา ประจาํ ปี 2557คณะอนุกรรมการบริหารโครงการ หนึ่งโรงเรียน หนึง่ นวตั กรรมประจาํ ปี 2557คณะกรรมการคดั สรรผลงานวิจัยเพ่อื นําเสนอในการประชุมทางวชิ าการของครุ สุ ภา ประจาํ ปี 2557คณะกรรมการพจิ ารณาคดั สรรบทความทางวิชาการและพจิ ารณาผลงานวจิ ัยเพอ่ื จดั ทําหนังสอื ประชมุ ทางวชิ าการของครุ ุสภา ประจําปี 2557พนักงานเจา้ หนา้ ทีส่ ํานกั งานเลขาธิการคุรสุ ภา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook