Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรต้านทุจริต ป.2

หลักสูตรต้านทุจริต ป.2

Published by Yutthakan Chiatrakun, 2023-07-07 14:14:01

Description: หลักสูตรต้านทุจริต ป.2

Search

Read the Text Version

-4- โครงสรา้ งรายวิชา ระดบั ประถมศึกษาช้ันปีท่ี 2 ลาดับ หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง รวมชั่วโมง 16 1. การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ - การคิดแยกแยะ 10 4 สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม - ประโยชน์สว่ นตนและประโยชน์ 10 สว่ นรวม 40 - ระบบคดิ ฐาน 2 - ระบบคดิ ฐาน 10 2. ความละอายและความไม่ทนตอ่ การ - การทาการบ้าน ทุจรติ - การทาเวร - การสอบ - กิจกรรมนักเรยี น 3. STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการ - ความพอเพยี ง ทุจริต - ความโปร่งใส - ต้านทุจรติ - ความเอ้ืออาทร 4. พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม - เรือ่ งการเคารพสิทธิหนา้ ท่ีตอ่ ตนเอง และผอู้ ืน่ - การเคารพสิทธิหน้าทีต่ ่อชุมชนและ สงั คม - ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย - ความรับผิดชอบ (ต่อห้องเรยี น) - คุณลักษณะของพลเมืองทด่ี ี - หนา้ ที่ของพลเมืองทด่ี ี รวม

-2- หนว่ ยที่ 1 การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตน และผลประโยชนส์ ่วนรวม

-3- แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 ช่ือหนว่ ย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง การคิดแยกแยะ (ของใชใ้ นโรงเรยี น) เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกีย่ วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 1.๒ สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของของใช้ส่วนตนภายในโรงเรียนได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของของใชส้ ่วนรวมภายในโรงเรยี นได้ ๒.๓ นกั เรียนสามารถแยกแยะของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวมทใี่ ช้ในโรงเรยี นได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ของใชส้ ว่ นตนภายในโรงเรียน หมายถึง สิ่งของท่ีใช้เฉพาะบุคคลท่ีอยู่ในบริเวณโรงเรียน เช่น แก้ว น้า จานข้าว ชอ้ น ของใช้สว่ นรวมภายในโรงเรียน หมายถงึ สิ่งของท่ีใชร้ ว่ มกนั ภายในโรงเรยี น เช่น โต๊ะอาหารเครื่อง เลน่ สนาม อุปกรณ์กีฬา ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กิด) ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร (อ่าน ฟัง พดู เขยี น) ๒) ความสามารถในการคิด (วิเคราะห์ สรุป) ๓.๓ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1) ซอื่ สัตยส์ ุจริต ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ 1) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. นักเรียนชมวีดีทัศน์นิทานเร่ือง “ของเล่นของใช้” แล้วให้นักเรียนฝึกตั้งคาถาม คนละ ๑ คาถาม ๒. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เพื่อหาคาตอบจากนทิ านโดยมีครูคอยใหค้ าปรึกษา ๓. ครูอธิบายความหมายของของใช้ส่วนตนและของใช้สว่ นรวมภายในโรงเรยี น 4. นักเรียนอ่านออกเสียงจากใบความรู้เก่ียวกับของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมโดยครูอ่านให้ นักเรียนฟงั นกั เรียนอ่านตามทีละประโยค 5. นักเรียนยกตัวอย่างของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมที่ใช้ภายในโรงเรียน โดยเล่าสู่กันฟัง เก่ยี วกับของใชท้ ่ีพบเหน็ ในชีวติ ประจาวนั 6. นักเรียนแยกแยะของใช้ส่วนตนและส่วนรวมท่ีใช้ภายในโรงเรียน โดยการทาใบกิจกรรมที่ ๑ ระบายสภี าพของใชท้ เ่ี ปน็ ของใช้ส่วนตนด้วยสแี ดง และระบายสีภาพของใช้ทเ่ี ปน็ ของใชส้ ่วนรวมดว้ ยสีเขยี ว 7. ครใู ห้ความรู้เกย่ี วกบั ของใช้สว่ นตนและของใช้ส่วนรวมเพ่ือเปน็ การเพ่ิมพนู ความร้อู ีกคร้งั

-4- 2) ช่ัวโมงที่ ๒ 1. นักเรยี นออกมานาเสนอผลการทาใบกจิ กรรมที่ ๑ หนา้ ช้ันเรียน 2. จัดทาข้อตกลงการใช้ของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมภายในโรงเรียนพร้อมปฏิบัติตาม ข้อตกลง เช่น ไม่หยิบของใช้ภายในโรงเรียนมาใช้เพ่ือประโยชน์ส่วนตน เมื่อใช้ของใช้น้ันแล้วควรเก็บไว้ท่ีเดิม เป็นต้น ๔.๒ สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหล่งเรยี นรู้ 1) นทิ านเรอ่ื ง ของเล่นของใช้ 2) ใบความร้เู รอ่ื ง ของใชส้ ่วนตัวและของใช้สว่ นรวมภายในโรงเรยี น 3) ใบกิจกรรมท่ี ๑ 4) ข้อตกลง ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน 1) ตรวจใบงาน 2) สงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ๕.๒ เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการประเมนิ 1) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน นักเรยี นผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน ๖. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ........................................ครผู สู้ อน (..................................................)

7. ภาคผนวก -5- ใบความรู้ เรือ่ งของใชส้ ่วนตัวและของใชส้ ่วนตัว ของใช้ส่วนตวั หมายถงึ สง่ิ ของใด ที่สามารถนามาเพือ่ ใช้สร้างประโยชน์ ในชวี ติ ประจาวนั ของใช้ส่วนรวม หมายถงึ ของใชส้ ่วนตวั มมี ากมายหลายชนดิ เชน่ แปรงสีฟนั ยาสีฟนั แก้วนา้ กางเกง ฯลฯ ของใชส้ ว่ นรวมมมี ากมายหลายชนดิ เชน่ ช้ันวางรองเทา้ พดั ลมในห้องเรียน ไมก้ วาด ไมถ้ ูพ้ืน

-6- ใบงานที่ 1 เร่อื ง ของใชส้ ่วนตัวและสว่ นรวม คาชี้แจง้ ใหน้ ักเรยี นระบายสภี าพของใชท้ ีเ่ ปน็ ของสว่ นตวั ดว้ ยสแี ดงและระบายสภี าพของท่ใี ช้สว่ นรวม

-7- แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เลขท่ี ชอ่ื - สกุล คะแนนทไี่ ด้ สรุปผล (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น สรุป ลงชือ่ …………………….…………………ผตู้ รวจ (……………………………………….) เกณฑก์ ารประเมนิ - นักเรียนไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป ถอื วา่ ผา่ น (ได้คะแนน 8 คะแนนขึน้ ไป)

-8- แบบสงั เกตการปฏิบัตติ นตามข้อตกลงในห้องเรียน ชอ่ื -สกุล......................................................................ช้ัน...................ภาคเรยี นที.่ ..........ปกี ารศึ กษา................... คาชแี้ จง : ให้กาเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ่ งวา่ งที่ตรงกับพฤตกิ รรมทีเ่ กิดขึ้นจริง ระดบั การปฏบิ ตั ิ (คะแนน) ท่ี ข้อตกลง ปฏบิ ตั ิ ไม่ปฏิบัติ ๑ (๕ คะแนน) (๐ คะแนน) ๒ รวมคะแนน ลงชือ่ .........................................ผูต้ รวจ (.............................................) เกณฑก์ ารประเมนิ ช่องคะแนน ผลการประเมนิ ๖-๑๐ คะแนน ผา่ น ๐-๕ คะแนน ไมผ่ ่าน

-9- แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจ้ง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน คุณลกั ษณะอันพึง รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ด้าน 321 ซอ่ื สัตย์ สุจรติ 1. ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้อง และเป็นจริง 2. ปฏิบัตใิ นสง่ิ ท่ีถูกตอ้ ง ลงชื่อ............................................ผ้ปู ระเมิน (.............................................) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางคร้ัง

- 10 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 ชือ่ หน่วย การคดิ แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ เร่ือง การคิดแยกแยะ (สถานท่ีในชุมชน) เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๒.๒ สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของสถานที่ส่วนตนในชุมชนได้ ๒.๒ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของสถานที่ส่วนรวมในชมุ ชนได้ ๒.๓ นักเรียนสามารถแยกแยะสถานทส่ี ่วนตนและสถานทส่ี ว่ นรวมในชุมชนได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ สถานที่ส่วนตนในชุมชน หมายถึง สถานท่ีท่ีใช้เฉพาะบุคคลที่อยู่ในชุมชน เช่น บ้าน สวนผลไม้ สวนยาง สถานทส่ี ่วนรวมในชมุ ชน หมายถงึ สถานที่ที่ใช้ร่วมกันท่ีอยู่ในชุมชน เช่น สวนสาธารณะ สนาม กฬี า สนามเด็กเล่น ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่เี กิด) ๑) ความสามารถในการสอื่ สาร (อ่าน ฟงั พดู เขียน) ๒) ความสามารถในการคดิ (วเิ คราะห์ จัดกลมุ่ สรุป) ๓.๓ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1) ซ่ือสัตยส์ จุ รติ 2) มวี นิ ัย ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ 1) ชั่วโมงท่ี ๑ ๑. ครูต้ังคาถามให้นักเรียนทายปริศนาคาทายเกี่ยวกับสถานท่ีส่วนตนและสถานที่ส่วนรวม ภายในชุมชน ดงั น้ี 1.1 อะไรเอ่ย มปี ระตูหนา้ ตา่ ง ใช้พักอาศยั มีไว้เพอ่ื หลบแดดหลบฝน 1.2 อะไรเอย่ มีลานกวา้ ง มีชงิ ชา้ มเี ครอ่ื งเลน่ เดก็ ชอบไป 2. ครูนาภาพทเ่ี ปน็ สถานทส่ี ว่ นตนและสถานทสี่ ่วนรวมภายในชุมชนมาให้นกั เรียนดู จากน้ันครู ต้งั ประเดน็ คาถาม เชน่ 2.๑ นักเรียนทราบหรือไมว่ า่ สถานทนี่ เ้ี รียกวา่ อะไร 2.๒ นักเรยี นเคยไปสถานที่แห่งนี้หรือไม่ 2.๓ นกั เรยี นคดิ วา่ สถานทเ่ี หลา่ น้ีมไี ว้เพ่ืออะไร 3. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕-๖ คน

- 11 - 4. ครูให้นักเรียนค้นหาสถานท่ีส่วนตนและส่วนรวมภายในชุมชนโดยให้นักเรียนค้นคว้าข้อมูล จากอินเทอรเ์ น็ตในหอ้ งคอมพวิ เตอร์ของโรงเรยี น แลว้ ครชู ่วยพมิ พ์ภาพออกมา 5. ครใู หน้ กั เรียนแยกแยะภาพท่ีเป็นสถานที่ส่วนตนและส่วนรวมภายในชุมชน ตัดภาพแล้วติด ลงในกระดาษ ทาเปน็ หนังสือเล่มเล็กและตกแต่งให้สวยงาม 6. ให้สมาชกิ ในกล่มุ รว่ มกันสรปุ ความหมายของสถานทีส่ ว่ นตนและสถานท่สี ว่ นรวมในชุมชน 7. ครูให้ความรเู้ กี่ยวกับสถานที่ส่วนตนและสถานทส่ี ่วนรวมในชุมชนเพ่ือเพิ่มพูนความรู้อีกคร้ัง หนึง่ 2) ช่วั โมงที่ ๒ 1. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนักเรียนออกมานาเสนอผลการทาหนังสือเล่มเล็ก เรื่องสถานที่ส่วน ตนและสถานทีส่ ่วนรวมในชมุ ชน 2. นกั เรียนนาผลงานไปวางบนชัน้ ในห้องสมุดโรงเรยี น เพื่อเปน็ การเผยแพร่และแนะนาสถานที่ ส่วนตนและสถานที่ส่วนรวมในชุมชนใหท้ ุกคนรจู้ ัก ๔.๒ ส่อื การเรียนรู้/แหลง่ เรียนรู้ 1) ภาพสถานท่ีสว่ นตนและสว่ นรวมในชุมชน 2) คอมพวิ เตอร์ 3) ภาพสถานทต่ี ่าง จากอนิ เทอร์เน็ต 4) กระดาษ 5) สไี ม้ ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน 1) การตรวจผลงานการทาหนังสือเลม่ เล็ก 2) การประเมนิ การทางานกล่มุ ๕.๒ เครือ่ งมือทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ 1) ใบใหค้ ะแนนการตรวจผลงานการทาหนังสอื เลม่ เล็ก 2) แบบประเมนิ การทางานกลมุ่ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน ๖. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ........................................ครผู ู้สอน (............................................)

- 12 - 7. ภาคผนวก ปริศนาคาทายเกีย่ วกบั สถานที่ อะไรเอ่ย? มีประตูหนา้ ตา่ ง ใชพ้ ักอาศัย มไี วเ้ พ่ือหลบแดดหลบฝน แหล่งท่มี า https://www.google.co.th/search?q=ภาพ

- 13 - ภาพบา้ น อะไรเอย่ ? มลี านกว้าง มชี ิงช้า มเี คร่อื งเลน่ เด็ก ชอบเล่น แหล่งท่มี า https://www.google.co.th/search?rlz=1C1CHBF_thTH735TH735&tbm=isch&sa=1&ei=q64dWvil GIfavATe6YiQDA&q=ภาพสนามเด็กเล่น&oq=ภาพสนามเด็กเลน่ &gs_l=psy-ab.3...316070.332

- 14 - ภาพสวนสาธารณะ ภาพชายหาด

- 15 - ภาพห้องพักรสี อรท์

- 16 - แบบตรวจให้คะแนนหนงั สือเลม่ เล็ก รายการประเมิน รวมคะแนน ท่ี ชือ่ - สกุล เนือ้ หาสาระ ภาพประกอบ ความคดิ รูปเล่ม (10 คะแนน) (3) (3) สรา้ งสรรค์ สวยงาม (2) (2) เกณฑ์การตัดสิน - นกั เรียนได้ 8 คะแนนข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น

- 17 - แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม เรอื่ ง ................................................................................. รายการประเมนิ ที่ ชื่อกล่มุ ความ การแสดง ความตง้ั ใจ การรับฟงั การรว่ ม รวมคะแนน ร่วมมอื ความ ผู้อน่ื ปรับปรุง คดิ เหน็ ผลงาน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑๐ คะแนน ลงชอ่ื .........................................ผตู้ รวจ ( ........................................... ) เกณฑก์ ารประเมิน นกั เรียนไดค้ ะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ถอื วา่ ผ่าน

- 18 - แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาช้ีแจ้ง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะอนั พึง รายการประเมนิ ระดับคะแนน ประสงค์ด้าน 321 ซื่อสัตย์ สุจริต 1. ใหข้ ้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2. ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ท่ีถูกต้อง มวี ินยั 1. ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคับของ ครอบครัว มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ ง ใน ชีวิตประจาวัน ลงช่ือ............................................ผ้ปู ระเมิน (.............................................) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครั้ง

- 19 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 1 ช่อื หน่วย การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอื่ ง การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและสว่ นรวม เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม 1.๒ สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์ส่วนตนได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๒.๓ นกั เรียนสามารถแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ผลประโยชน์สว่ นตน หมายถงึ การคานงึ ถึงตัวเอง ความต้องการสว่ นบุคคล ผลประโยชนส์ ว่ นรวม หมายถึง การคานึงถงึ บคุ คลอน่ื มากกวา่ ตนเอง ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะท่ีเกิด) ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร (ฟงั พดู เขียน) ๒) ความสามารถในการคดิ (วิเคราะห์ สรุป) ๓.๓ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1) รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2) ซื่อสตั ยส์ จุ ริต ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรียนรู้ 1) ช่ัวโมงท่ี ๑ ๑. ครูเล่าข่าวหรือกิจกรรมท่ีมีการช่วยเหลือกันในชุมชน เช่น ช่วยกันขุดลอกคูคลองให้สะอาด การปลูกตน้ ไมใ้ นที่สาธารณะ แล้วตัง้ คาถามใหน้ กั เรยี นตอบ 1.1 เม่อื นกั เรียนได้รบั ร้ขู ่าวเหลา่ นี้แลว้ นักเรยี นรู้สกึ อย่างไร 1.2 เม่ือนักเรียนมีโอกาสไดช้ ่วยเหลือผอู้ นื่ นักเรียนทาสิง่ นน้ั หรือไม่ อยา่ งไร 2. ครูกระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนมีสว่ นรว่ มในการตอบคาถามเพื่อนาเข้าสบู่ ทเรียน 3. ครูให้นักเรียนอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์เก่ียวกับการมีส่วนร่วมในการทา คุณประโยชน์กับกิจกรรมของชุมชนท่ีนักเรียนอาศัยอยู่ แล้วให้เพื่อน แสดงความคิดเห็นว่า การกระทา ดังกลา่ วมปี ระโยชนต์ ่อตัวนกั เรยี นและชมุ ชนหรือไม่ อย่างไร 4. ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๕-๖ คน 5. ใหน้ กั เรียนศกึ ษาเกีย่ วกับผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวมจากใบความรู้

- 20 - 6. ครใู ห้นกั เรียนแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมโดยให้นักเรียนหาภาพ กิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวมมากลุ่มละ ๓-๕ ภาพ แล้วร่วมกันสนทนาและสรุปผล ดังนี้ 6.1 จากภาพเป็นการทากจิ กรรมทีเ่ ป็นผลประโยชน์สว่ นตน 6.2 จากภาพเปน็ การทากิจกรรมที่เป็นผลประโยชนส์ ่วนรวม 6.3 นกั เรียนคดิ ว่ากิจกรรมเหล่านี้มีความสาคญั อยา่ งไร 6.4 ถา้ ทกุ คนคานึงถงึ ผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชนส์ ่วนตนในการ ทาส่งิ ต่างๆ นักเรยี นคดิ ว่าจะเกิดผลดีอย่างไรบา้ ง 7. ให้สมาชิกในกล่มุ ท่รี ่วมกันสรปุ เกีย่ วกับประโยชน์สว่ นตนและประโยชน์สว่ นรวม 8. ครูให้ความรู้เก่ียวกับผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมเพื่อเป็นการเพิ่มพูน ความรอู้ กี ครั้งหน่ึง 2) ชว่ั โมงที่ ๒ 1. ให้ตัวแทนนกั เรยี นออกมานาเสนอผลงานผงั ความคิดหนา้ ชน้ั เรยี น 2. นาผลงานผังความคิดติดบอร์ดประชาสัมพันธ์เพ่ือเผยแพร่ให้เพ่ือนนักเรียนชั้นเรียนอ่ืนๆ ได้ ศึกษาตอ่ ไป ๔.๒ สื่อการเรยี นร/ู้ แหล่งเรียนรู้ 1) ใบความรู้ เร่อื งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม 2) ภาพกิจกรรมผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 3) กระดาษ flip chart 4) สี กระดาษ กาว ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ 1) การตรวจผลงานการทาผงั ความคดิ เรอ่ื ง ผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม 2) การประเมนิ การนาเสนอผลงาน 3) การประเมินการทางานกลมุ่ ๕.๒ เครือ่ งมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน 1) แบบประเมินผลงานการทาผังความคดิ เรอ่ื งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม 2) แบบประเมนิ การทางานกลุ่ม ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ถอื ว่า ผ่าน ๖. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ................................................................... .......................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื ........................................ครูผูส้ อน (..................................................)

- 21 - 7. ภาคผนวก ใบความรู้ เรอ่ื งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ผลประโยชน์ส่วนตน หมายถึง การคานงึ ถงึ ตวั เอง ความตอ้ งการส่วนบุคคล ผลประโยชน์ส่วนรวม หมายถงึ การคานึงถึงบคุ คลอื่นมากกว่าตนเอง การกระทาเพ่อื ประโยชนส์ ว่ นตน เช่น การจอดรถบนทางเทา้ การขายของบนทางเท้า การทิง้ ขยะโดยไมแ่ ยกขยะ การปลูกพืชในทส่ี าธารณะ การกระทาเพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวม เช่น การปลกู ต้นไมใ้ นสวนสาธารณะ ชว่ ยเก็บขยะท่พี บเห็นในบรเิ วณโรงเรยี น การดูแลรกั ษาศาสนสถานในชมุ ชน

- 22 - ภาพการทาประโยชนต์ ่อสว่ นรวม

- 23 - ภาพการทาประโยชนต์ ่อสว่ นรวม

- 24 - ภาพการทาประโยชนต์ ่อสว่ นตน

- 25 - แบบตรวจสอบให้คะแนนใบงาน เรือ่ ง ผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม เลขท่ี ช่ือ – สกลุ คะแนนท่ีได้ สรปุ ผล ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรปุ เกณฑก์ ารประเมิน - นกั เรยี นได้คะแนนรอ้ ยละ 8 ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

- 26 - แบบประเมินการทางานกลุ่ม เรอื่ ง ................................................................................. รายการประเมนิ ที่ ชื่อกล่มุ ความ การแสดง ความต้งั ใจ การรบั ฟงั การร่วม รวมคะแนน รว่ มมือ ความ ผอู้ ื่น ปรับปรงุ คดิ เหน็ ผลงาน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๒ คะแนน ๑๐ คะแนน ลงชอื่ .........................................ผตู้ รวจ (...............................................) เกณฑก์ ารประเมิน นกั เรียนไดค้ ะแนนรอ้ ยละ ๘๐ ถอื วา่ ผา่ น

- 27 - แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คาชี้แจ้ง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน คุณลกั ษณะอันพึง รายการประเมิน ระดบั คะแนน ประสงค์ด้าน 321 รักชาติ ศาสน์ 1. ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ กษตั ริย์ 2. เขา้ รว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็น ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ ประโยชน์ต่อโรงเรียน 3. เขา้ ร่วมทางศาสนาทีต่ นนับถอื ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา 4. เขา้ รว่ มกจิ กรรมที่เกยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามท่ี โรงเรียนจัดข้นึ 1. ใหข้ อ้ มูลท่ีถูกต้อง และเป็นจริง 2. ปฏบิ ัตใิ นสง่ิ ท่ถี ูกต้อง ลงชอ่ื ............................................ผ้ปู ระเมิน (.............................................) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั บิ างครง้ั

- 28 - แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 ชอ่ื หน่วย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๔ เร่ือง ประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตน กับผลประโยชนส์ ่วนรวม 1.2 สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถบอกความหมายของประโยชนส์ ่วนตน กับผลประโยชน์ส่วนรวม 2.2 นักเรียนสามารถสามารถแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ๓. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ ของใช้ส่วนบุคคล หมายถึง ส่ิงของทีมีลักษณะท่ีเห็นชัดเจนว่าเป็นของใช้เฉพาะของบุคคลผู้นั้นโดย แทจ้ ริง เช่น ดนิ สอ สมุด กระเปา๋ รองเท้า ของใช้สว่ นรวม หมายถึง ส่ิงของทีมีลักษณะที่เห็นชัดเจนว่าเป็นส่ิงของหรือที่ ส่วนรวม ได้ใช้ ประโยชนร์ ว่ มกัน เชน่ พัดลม โต๊ะ เกา้ อี้ ไม้กวาด การแยกแยะระหวา่ งของใชส้ ่วนตนและสว่ นรวม หมายถงึ ความสามารถในการแยกสิ่งของทีมีลักษณะ ท่ีเห็นชัดเจนว่าเป็นของใช้เฉพาะของตัวเองและส่ิงของทีมีลักษณะที่เห็นชัดเจนว่าเป็นสิ่งของที่ส่วนรวมใช้ ประโยชนร์ ่วมกนั ออกให้เห็นชดั เจน เช่น แยกแยะของใช้สว่ นบคุ คล ของใช้สวนรวม ให้เห็นเป็นประเด็น ไป 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) 1) ความสามารถในการสอื่ สาร (อา่ น ฟงั พูด เขียน) 2) ความสามารถในการคดิ (วเิ คราะห์ จัดกล่มุ สรุป) 3) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 3.3 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ / คา่ นิยม 1) มุ่งม่ันในการทางาน ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ 4.1 ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ 1) ชวั่ โมงที่ 1 ๑. ครูให้นักเรยี นดภู าพ 8 ภาพ เช่น ดนิ สอ สมุด กระเปา๋ รองเท้า พัดลม โต๊ะ เก้าอ้ี ไมก้ วาด 2. ครตู ้งั คาถามว่า 2.1 ดินสอ สมุด กระเปา๋ รองเท้า เปน็ ของใชป้ ระเภทใด 2.2 พดั ลม โต๊ะ เก้าอี้ ไมก้ วาดเป็นของใชป้ ระเภทใด 3. ครู สรุปว่า ดินสอ สมุด กระเป๋า รองเท้า เป็นของใช้ส่วนตน และพัดลม โต๊ะ เก้าอ้ี ไม้กวาด เป็นของส่วนรวม

- 29 - 4. ครใู หด้ บู ัตรภาพของใชส้ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 5. ครแู จกใบงานที่ 1 เรอ่ื งของใช้สว่ นตนและสว่ นรวม ตามคาส่ัง 2) ช่ัวโมงที่ ๒ 1. ให้แตล่ ะกลุม่ นาเสนอผลงานพร้อมอภิปรายหน้าชั้นเรยี นพรอ้ มแยกแยะของใช้ส่วนตนและของ ใช้สว่ นรวม 2. ครนู านกั เรยี นอภปิ รายเกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม 3. ครูสะท้อนความคิดจากนาเสนอของนักเรียนว่าการกระทาใดท่ีเราควรประพฤติปฏิบัติตาม การกระทาใดไมส่ มควรปฏบิ ตั ิ 4. นักเรียนร่วมกันคิดและเขียนข้อตกลงเรื่องการใช้สิ่งของร่วมกันในห้อง ติดป้ายตามจุดท่ีเป็น ของใช้สว่ นรวมในห้องเรยี น 4.2 ส่ือการเรยี นรู้ / แหลง่ การเรยี นรู้ 1) รูปภาพ ของใช้สว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม 2) ใบงานที่ 1 เรือ่ งของใช้ส่วนตนและส่วนรวม ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน 1) ตรวจผลงาน 2) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ๕.๒ เครือ่ งมือที่ใช้ในการประเมนิ 1) แบบตรวจผลงาน 2) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถือวา่ ผ่าน 6. บนั ทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ........................................ครูผู้สอน (.............................................)

7. ภาคผนวก - 30 - บตั รภาพ

- 31 - ใบงานท่ี ๑ คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนแยกแยะส่ิงของทีเ่ ป็นของใช้ส่วนตนและสว่ นรวมดงั ตอ่ ไปน้ี ไมก้ วาด กระเปา๋ โตะ๊ พัดลม ถงุ เท้า รองเทา้ เกา้ อ้ี สมดุ ดนิ สอ แปลงลบกระดาน ของใช้ส่วนรวม ของใช้สว่ นบคุ คล ๑………………………………………………………………………….. ๑………………………………………………………………………….. ๒..................................................................................... ๒..................................................................................... ๓..................................................................................... ๓..................................................................................... ๔………………………………………………………………………….. ๔………………………………………………………………………….. ๕………………………………………………………………………….. ๕…………………………………………………………………………..

- 32 - แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ คะแนนที่ได้ สรปุ ผล 1 (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรุป เกณฑก์ ารประเมิน - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป ถือว่า ผ่าน (ตอบถูก 8 ข้อ)

- 33 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน ชือ่ นักเรยี น.......................................................................... ช้ัน..............ภาคเรียนที่...........ปีการศึกษา.............. คาชแี้ จง การบันทึกให้กาเครื่องหมาย  ลงในช่องท่ีตรงกบั พฤติกรรมท่ีเกิดข้นึ จริง ท่ี พฤติกรรม ระดบั การปฏิบตั ิ ไมท่ าเลย/ ไมช่ ดั เจน ๑ มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าทก่ี ารงาน เปน็ ประจา บางคร้ัง น้อยครงั้ ๒ ตัง้ ใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบัตหิ น้าทท่ี ีไ่ ด้รับมอบหมาย (๓) (๒) (๑) (๐) ๓ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายาม ๔ รู้จกั แกป้ ัญหาในการทางานเมื่อมีอปุ สรรค ๕ อดทนเพื่อให้งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ๖ ปรับปรงุ และพัฒนาการทางานให้ดขี ึ้นดว้ ยตนเอง รวมคะแนน/ระดบั คุณภาพ ผู้ประเมนิ  ครู  พ่อแม่/ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพื่อน ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน (.................................................) เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การตดั สิน ดีเยย่ี ม ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ดี ใดข้อหน่ึงตา่ กวา่ ๒ คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหน่งึ ต่ากว่า ๐ คะแนน ปรับปรงุ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหน่ึงต่ากวา่ ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

- 34 - แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงใน ชอ่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน 321 อันพงึ ประสงค์ดา้ น มุ่งมน่ั ในการ 1. มคี วามต้งั ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ด้รับ ทางาน มอบหมาย 2. มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพื่อให้งาน สาเรจ็ ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (.....................................................) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ิชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัตบิ างครง้ั

- 35 - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 1 ช่ือหน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง ระบบคิดฐาน 2 (แยกแยะพฤติกรรมตัวอย่าง) เวลา 2 ชว่ั โมง 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ผลประโยชน์ส่วนรวม 1.2 สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชนส์ ่วนรวมได้ 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรียนสามารถแยกแยะพฤติกรรมตัวอย่างท่เี ป็นระบบคดิ ฐาน ๒ ได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 ความรู้ “ระบบคิดฐาน ๒ (Digital)” คือ เป็นระบบคิดท่ีสามารถแยกเร่ืองประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวมออกจากกันได้อย่างชัดเจน ไม่นามารวมกัน ส่ิงไหนถูกส่ิงไหนผิด ส่ิงไหนทาได้สิ่งไหนทาไม่ได้ ผลประโยชน์ส่วนรวมยอ่ มสาคญั กว่าผลประโยชน์ส่วนตน ควรยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเปน็ หลกั 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กิด) 1) ความสามารถในการสอ่ื สาร (อ่าน ฟัง พูด เขยี น) 2) ความสามารถในการคิด ( จัดกล่มุ สรุป ) 3.3 คณุ ลักษณะทพี่ งึ ประสงค์ / คา่ นิยม 1) มุ่งมัน่ ในการทางาน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขั้นตอนการเรยี นรู้ 1) ชวั่ โมงที่ 1 1. ครนู าปา้ ยข้อความพฤติกรรมตัวอย่าง เร่ืองระบบคิดฐาน ๒ ติดบนกระดาน 2. ให้นักเรียนอ่านข้อความพฤติกรรมตัวอย่าง เรื่องระบบคิดฐาน ๒ และอธิบายพฤติกรรม ดงั กลา่ วแต่ละข้อเพ่ิมเตมิ จากนน้ั ครใู ชค้ าถามตอ่ นกั เรียนดังต่อไปน้ี 2.1 เหตุการณ์ดงั กล่าวเป็นเหตุการณท์ ่ีดีหรือไม่ 2.2 พฤติกรรมดังกลา่ วนกั เรียนเคยปฏบิ ตั ิหรอื ข้อใดบ้าง 2.3 ถา้ มคี นเอาเปรยี บนักเรียน นกั เรียนจะรู้สึกอย่างไร 3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ละ 3-4 คน ร่วมกันแยกตัวอย่าง พร้อมท้ังใช้ใบงาน เรื่อง แยกแยะ พฤติกรรมตวั อย่างที่เปน็ ระบบคิดฐาน ๒ 2) ช่วั โมงที่ 2 1. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอผลงานแยกแยะพฤติกรรมตัวอย่างที่เป็นระบบคิดฐาน 2 อภปิ รายรว่ มกันและสรุปหน้าช้นั เรยี น 2. ครูนานกั เรียนรว่ มกันสรปุ ความรู้ตวั อยา่ งของระบบคดิ ฐาน ๒ จากการนาเสนอ

- 36 - 3. ครูสะท้อนความคิดจากการนาเสนอของนักเรียนว่าการกระทาใดที่เราควรปฏิบัติ และการ กระทาใดทีไ่ ม่ควรปฏิบตั ิ 4. ให้นักเรียนนาป้ายข้อความท่ีครูเตรียมไว้ ของตัวอย่างพฤติกรรมของระบบคิดฐาน ๒ มา ออกแบบทาปา้ ยรณรงค์ในกระดาษบรฟู๊ ๔.๒ สือ่ การเรยี นรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ ๑) กระดาษบรูฟ๊ ๒) ใบงานท่ี 1 เร่อื งการแยกแยะพฤติกรรมระบบคดิ ฐาน ๒ ๓) กระดาษส/ี ปากกาเมจกิ /สีไม้/กาว 4) ปา้ ยนิเทศ 5) ปา้ ยข้อความ ตวั อย่างพฤติกรรมของระบบคิดฐาน ๒ 5. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.1 วธิ ีการประเมนิ 1) ตรวจใบงาน 2) สังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น 5.2 เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในการประเมิน 1) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน 2) แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น 5.3 เกณฑก์ ารตดั สนิ นักเรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน 6. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ …………............................................................................................................................... ................................... ............................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................. ................................................ ลงชอ่ื ................................................ ครูผูส้ อน (.................................................)

- 37 - 7. ภาคผนวก ใบงานที่ 1 เรอื่ งการแยกแยะพฤตกิ รรม ระบบคิดฐาน ๒ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นอ่านและเลือกขอ้ ความตอ่ ไปนี้ แลว้ เลือกใส่ในชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง ( 10 คะแนน ) ตัวอย่างของระบบคิดฐาน ๒ เชน่ - ใช้จักรยานของตวั เองไปซ้ือขนมทสี่ หกรณโ์ รงเรยี น - ใช้โทรศพั ท์สาธารณะโทรหาแมใ่ ห้มารับทโี่ รงเรียน - ไม่ใช้รถโรงเรยี นไปซื้อของท่ีตลาด - เอาหนังสือกลับมาอ่านท่ีบา้ นโดยขออนญุ าตก่อน - ไมใ่ ชโ้ ทรศพั ทโ์ รงเรียนโทรธรุ ะสว่ นตวั - เขา้ แถวรอรบั อาหารกลางวนั - ไมน่ าโทรศพั ท์มาชารต์ ที่ทางาน - ไม่นาไม้กวาดของโรงเรยี นไปใช้ทบี่ ้าน ตัวอยา่ งพฤติกรรมของระบบคิดฐาน ๒ ไมใ่ ชพ่ ฤตกิ รรมของระบบคดิ ฐาน ๒ ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. ………………………………………………………….. คะแนน ..….....… ชื่อ.....………………………………….……………………..……………..……ช้ัน…………....เลขท…ี่ ……….. เกณฑก์ ารประเมนิ - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่าน (ตอบถูก 8 ข้อ)

- 38 - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ช่อื นกั เรียน......................................................................... ช้นั ..............ภาคเรยี นที่...........ปกี ารศึกษา.............. คาชแี้ จง การบนั ทึกให้กาเคร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับพฤตกิ รรมท่ีเกดิ ขึ้นจรงิ ท่ี พฤติกรรม เปน็ ประจา ระดบั การปฏิบตั ิ ไมท่ าเลย/ (๓) ไมช่ ัดเจน ๑ มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าทีก่ ารงาน บางครง้ั นอ้ ยคร้งั ๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ท่ไี ด้รบั มอบหมาย (๒) (๑) (๐) ๓ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายาม ๔ ร้จู ักแกป้ ัญหาในการทางานเมอ่ื มีอปุ สรรค ๕ อดทนเพ่ือใหง้ านสาเร็จตามเปา้ หมาย ๖ ปรับปรงุ และพฒั นาการทางานให้ดขี นึ้ ด้วยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคณุ ภาพ ผปู้ ระเมิน  ครู  พ่อแม/่ ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพ่อื น เกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ระดบั คณุ ภาพ (.................................................) ดเี ยีย่ ม ดี เกณฑก์ ารตดั สนิ พอใช้ ปรับปรุง ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดขอ้ หน่ึงต่ากวา่ ๒ คะแนน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหน่งึ ต่ากวา่ ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดขอ้ หนงึ่ ต่ากวา่ ๐ คะแนน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

- 39 - แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เลขท่ี ช่ือ – สกุล คะแนนท่ีได้ สรปุ ผล ไม่ผ่าน (10 คะแนน) ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรุป เกณฑ์การประเมิน - นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 80 ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ น (ตอบถกู 8 ขอ้ )

- 40 - แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คาช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงใน ช่องที่ตรงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ดา้ น 321 มงุ่ ม่ันในการทางาน 1. มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 2. มีความอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งาน สาเรจ็ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ พฤติกรรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและสมา่ เสมอ (.....................................................) พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้งั พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางคร้ัง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 41 - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 1 ชอ่ื หน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 เร่อื ง ระบบคดิ ฐาน 2 (การนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ) เวลา 2 ช่ัวโมง 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั แยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตน กบั ส่วนรวม 2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถนาระบบคิดฐาน ๒ ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ในโรงเรยี นได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ตวั อยา่ งเหตุการณ์ท่เี กิดขึน้ ในชวี ิตประจาวนั ของระบบคดิ ฐาน ๒ เช่น 1) ไมใ่ ชร้ ถโรงเรียนไปซ้ือของทต่ี ลาด 2) ไม่ใชโ้ ทรศพั ท์โรงเรียนโทรธรุ ะส่วนตวั 3) ไม่นาโทรศัพท์มาชาร์ตท่ีทางาน 4) ไมน่ าไมก้ วาดของโรงเรยี นไปใชท้ ี่บ้าน 5) ไมท่ ้ิงขยะลงในถังขยะ 6) ไม่หยิบของเลน่ ในหอ้ งเรยี นกลบั ไปเล่นทบ่ี า้ นโดยไม่ได้รบั อนญุ าตจากครู 7) ไมน่ าสงิ่ ของเพือ่ นมาเป็นของตนเอง 8) เล่นของเลน่ แล้วไมต่ อ้ งเก็บเขา้ ที่ 9) ชอบทาของใช้ส่วนรวมพงั เสียหาย 10) ชอบขีดเขียนตามฝาผนังในหอ้ งเรยี น 11) เขา้ ห้องน้าเสร็จแลว้ ไมร่ าดน้าทกุ ครงั้ 12) แทรกแถวเพอื่ รบั อาหารหรือนม 13) ถอดรองเท้าแลว้ ไม่เรยี งรองเทา้ ให้เปน็ ระเบยี บ 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) 1) ความสามารถในการสอ่ื สาร (อา่ น ฟงั พูด เขยี น) 2) ความสามารถในการคิด (จัดกลุ่ม สรุป) 3) ความสามรถในการใช้ทักษะชวี ิต 3.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นยิ ม 1) ม่งุ มนั่ ในการทางาน 4. กิจกรรมการเรียนรู้ 4.1 ขนั้ ตอนการเรียนรู้ 1) ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูนาเสนอวดี โี อ เรอื่ ง หยิบ โดยครเู นน้ ย้านักเรยี นใหต้ ้ังใจดคู ลปิ นั้น 2. ครูอธิบายเน้ือเรื่องในคลิปดังกลา่ วเพอ่ื ความเข้าใจของนักเรยี นย่งิ ข้ึน

- 42 - 3. ครูใช้คาถามนกั เรียนดังต่อไปน้ี 3.1 เรอ่ื งท่ีนักเรียนดูเกิดข้ึนท่ไี หน และมีตัวละครใดบ้าง 3.2 นกั เรียนชอบตัวละครตวั ไหน เพราะอะไร 3.3 นักเรยี นอยากเปน็ เหมือนตัวละคร (นักเรียนในคลปิ ) น้ันไหม เพราะอะไร 4. ครูให้นักเรียนนงั่ เป็นกลมุ่ ละ 3-4 คน พร้อมแจกใบความรู้ เรื่องตวั อย่างระบบคิดฐาน ๒ให้ ร่วมกันคิด ตวั อย่างพฤติกรรมท่ีบ่งชขี้ องระบบคดิ ฐาน ๒ จากเรอ่ื งของตัวเองหรือคนใกล้ตัว ตามความ เข้าใจของนกั เรยี น 5 เหตกุ ารณ์ และครูเขยี นตัวอย่างดงั กล่าวบนกระดาน 5. ครแู จกแบบสารวจท่ี 1 เรอ่ื ง ระบบคดิ ฐาน ๒ และใหค้ รูอ่านและอธบิ าย แบบสารวจดงั กลา่ วทลี ะขอ้ 2) ช่ัวโมงท่ี 2 1. แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนนาเสนอผลงาน อภิปรายรว่ มกันและสรปุ หน้าชนั้ เรียน 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปตัวอย่างของระบบคิดฐาน ๒จากการนาเสนอ ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ ควรปฏบิ ตั ิ และมผี ลกระทบกับคนรอบข้างอย่างไรบ้าง 3. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สนทนาและหาสถานการณ์ ตัวอย่างใกล้ตัว ของระบบคิดฐาน ๒ ว่าการ กระทาใดทเ่ี ราควรปฏิบัติ และการกระทาใดท่ีไมค่ วรปฏิบตั ิ 4. หลงั จากการเรยี นการสอนให้นักเรียนเขียน ส่ิงท่ีจะปฏิบัติลงในใบงานท่ี 1 เร่ืองระบบคิดฐาน๒ หลังจากการเรียนการสอน คนละ 3 ขอ้ แล้วตดิ ท่ปี ้ายนเิ ทศหนา้ หอ้ งเรียน ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้/ แหล่งการเรียนรู้ ๑) แบบสารวจ 1 เรอ่ื ง ระบบคิดฐาน ๒ 2) วดี ีโอ เรือ่ ง หยบิ 3) ปา้ ยนิเทศ 4) ใบความรู้ เร่อื งตัวอย่างระบบคิดฐาน ๒ 5) ใบงานที่1 เร่ืองระบบคดิ ฐาน ๒ 5. การประเมนิ การเรยี นรู้ 5.1 วิธีการประเมิน 1) ตรวจใบงาน 2) การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น 5.2 เครื่องมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมิน 1) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน 2) แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรียน 5.3 เกณฑ์การตดั สิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่าน 6. บนั ทกึ หลงั สอน …………............................................................................................................................... ................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ลงช่ือ ................................................ ครผู ู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 43 - ใบความรู้ เร่อื งตวั อยา่ งระบบคดิ ฐาน2 นกั เรยี นอย่าทานะครบั เพราะไมน่ ่ารักเลย

- 44 - แบบสารวจท่ี 1 เรื่อง ระบบคิดฐาน ๒ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนขดี ( / ) แบบสารวจดังตอ่ ไปน้ี ในข้อท่ีนักเรยี นเคยพบเจอหรือเคยมีประสบการณ์มาแลว้ ขอ้ ท่ี รายการพฤติกรรม การปฏบิ ัติ เคย ไมเ่ คย 1 นาไมก้ วาดของโรงเรยี นไปใช้ทบี่ ้าน 2 หยิบของเล่นในห้องเรียนกลบั ไปเลน่ ทบ่ี ้านโดยไม่ไดร้ บั อนญุ าตจากครู 3 นาสง่ิ ของเพ่อื นมาเปน็ ของตนเอง 4 ชอบทาลายของใชส้ ่วนรวมใหพ้ ังเสียหาย 5 ชอบขีดเขยี นตามฝาผนังในหอ้ งเรียน 6 นาเกา้ อ้ขี องโรงเรยี นไปใชใ้ นงานแต่งของญาติ 7 ไม่ชารต์ โทรศัพทส์ ่วนตวั มาชาร์ตแบตทโ่ี รงเรยี น 8 ไม่เอากรรไกรของโรงเรยี นให้แมย่ มื 9 แทรกแซงแถวเพอื่ รอรบั อาหาร 10 นารถโรงเรียนไปตลาดเพอื่ ซ้ือของให้ตวั เอง รวมคะแนน สรปุ ชอ่ื .....………………………………….…………………กลุ่มท…ี่ ……..……ชัน้ …………....เลขท…่ี ………..

- 45 - ใบงานที่ 1 เร่อื งระบบคดิ ฐาน ๒ คาช้แี จง ให้นักเรียนเขียนตัวอย่างของระบบคิดฐาน ๒ จานวน 5 ข้อ ท่ีนักเรียนจะปฏิบัติ หลังจากท่ีได้เรียน จบบทเรยี น (10 คะแนน) ตอ่ ไปน้ี หนูจะ ตอ่ ไปน้ี หนจู ะ ตอ่ ไปนี้ หนูจะ ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ....................... ....................... ....................... ต่อไปนี้ หนจู ะ ต่อไปน้ี หนูจะ ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ............................................... ....................... ....................... คะแนน ..….....… ชอ่ื .....………………………………….……………………..……………..……ชั้น…………....เลขท…่ี ……….. เกณฑก์ ารประเมนิ - นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ 80 ข้นึ ไป ถอื ว่า ผ่าน (ตอบถูก 4 ขอ้ ละ 2 คะแนน)

- 46 - แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น ช่ือนัก เรียน......................................................................... ชน้ั ..............ภาคเรยี นที่...........ปกี ารศึกษา............. คาชี้แจง การบันทกึ ให้กาเคร่ืองหมาย  ลงในชอ่ งท่ีตรงกับพฤติกรรมทเี่ กิดข้นึ จรงิ ที่ พฤติกรรม ระดับการปฏิบัติ ๑ มคี วามรบั ผิดชอบในหนา้ ทก่ี ารงาน เป็น บางคร้งั น้อยคร้ัง ไมท่ าเลย/ ๒ ตง้ั ใจและเอาใจใสต่ ่อการปฏิบัติหน้าท่ที ่ไี ด้รับมอบหมาย ประจา (๒) (๑) ไม่ชดั เจน ๓ ทางานด้วยความเพยี รพยายาม (๓) (๐) ๔ รู้จักแก้ปญั หาในการทางานเมือ่ มีอปุ สรรค ๕ อดทนเพอ่ื ให้งานสาเรจ็ ตามเปา้ หมาย ๖ ปรับปรุงและพัฒนาการทางานใหด้ ขี ึ้นด้วยตนเอง รวมคะแนน/ระดบั คณุ ภาพ ผ้ปู ระเมิน  ครู  พอ่ แม่/ผู้ปกครอง  ตนเอง  เพ่อื น ลงชอื่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน (.................................................) เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การตดั สิน ดเี ยย่ี ม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ดี ใดข้อหนึ่งตา่ กวา่ ๒ คะแนน พอใช้ ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหนึ่งต่ากวา่ ๐ คะแนน ปรับปรงุ ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดขอ้ หน่งึ ตา่ กวา่ ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

- 47 - แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เลขท่ี ชอ่ื – สกลุ คะแนนท่ีได้ สรุปผล 1 (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรุป เกณฑก์ ารประเมิน - นักเรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป ถอื วา่ ผ่าน (ตอบถูก 4 ข้อ ละ 2 คะแนน)

- 48 - แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาช้แี จง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงใน ชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 321 อันพึงประสงค์ดา้ น มุ่งมั่นในการ 1. มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รับ ทางาน มอบหมาย 2. มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพ่ือให้งาน สาเรจ็ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชดั เจนและสม่าเสมอ (.....................................................) พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบ่อยครง้ั พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตบิ างครั้ง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน

- 49 - แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี 1 ชอ่ื หนว่ ย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง ระบบคดิ ฐาน ๑๐ (แยกแยะพฤติกรรมตวั อยา่ ง) เวลา 2 ชวั่ โมง 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั แยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตน กับส่วนรวม 1.2 สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์สว่ นตนกบั สว่ นรวมได้ 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 นกั เรยี นสามารถแยกแยะพฤตกิ รรมตัวอย่างท่ีเปน็ ระบบคิดฐาน ๑๐ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 ความรู้ ตัวอย่างของระบบคิดฐาน ๑๐ เช่น ใช้รถโรงเรียนไปซ้ือของที่ตลาด , ให้เพื่อนทาการบ้านให้โดยมี ขนมเป็นขอ้ แลกเปลย่ี น , ใชโ้ ทรศพั ทโ์ รงเรียนโทรธรุ ะสว่ นตัว , มาโรงเรียนสายเพื่อหลีกเลี่ยงการทาเวร , นา โทรศัพทม์ าชารต์ ทท่ี างาน , เอาหนงั สอื กลบั มาอา่ นท่ีบ้านโดยไม่ขออนุญาตก่อน ,นาไม้กวาดของโรงเรียนไปใช้ ที่บ้าน หรือเขา้ แทรกแถวรอรบั อาหารกลางวนั 3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ (สมรรถนะทเี่ กดิ ) 1) ความสามารถในการสื่อสาร (อ่าน ฟัง พูด เขยี น) 2) ความสามารถในการคิด (จัดกลุ่ม สรปุ ) 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ / คา่ นิยม 1) มงุ่ มั่นในการทางาน 4. กิจกรรมการเรยี นรู้ 4.1 ขั้นตอนการเรยี นรู้ 1) ชว่ั โมงท่ี 1 1. ครเู ขยี นพฤติกรรมตัวอยา่ ง เรือ่ งระบบคดิ ฐาน ๑๐ บนกระดาน 2. ครูอ่านตัวอย่าง เรื่องระบบคิดฐาน ๑๐ บนกระดาน และอธิบายพฤติกรรมดังกล่าวแต่ละข้อ ให้นักเรียนเข้าใจ จากน้ันครใู ช้คาถามตอ่ นักเรยี นดังตอ่ ไปน้ี 2.2 เหตุการณด์ งั กล่าวเป็นเหตกุ ารณท์ ีด่ หี รือไม่ 2.3 พฤตกิ รรมดังกลา่ วนักเรียนเคยปฏบิ ตั หิ รอื ไม่ข้อใดบา้ ง 2.4 ถา้ มคี นเอาเปรยี บนกั เรียน นักเรยี นจะรสู้ ึกอยา่ งไร 3. ครูให้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม ละ 3-4 คน ร่วมกันแยกตัวอย่าง พร้อมทั้งใช้ใบงาน เร่ือง แยกแยะพฤตกิ รรมตวั อย่าง ทีเ่ ป็นระบบคิดฐาน ๑๐ 2) ชว่ั โมงท่ี 2 1. แตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนนาเสนอผลงาน อภปิ รายรว่ มกนั และสรุปหน้าชนั้ เรียน 2. ครูนานกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรตู้ วั อยา่ งของระบบคดิ ฐาน ๑๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook