๕๑ ผนวก ข ตารางเปรียบเทียบการปรับปรงุ หลักสูตร ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ กบั หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๕๒ ตารางเปรยี บเทยี บการปรับปรงุ หลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาการบริหารการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐ กับ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ เหตุผล ชือ่ หลักสูตรไทย/อังกฤษ ชื่อหลกั สตู รไทย/อังกฤษ -หลกั สูตรพุทธศาสตร หลักสตู รพทุ ธศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพุทธบริหารการศกึ ษา หลกั สตู รครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศกึ ษา มหาบณั ฑติ เป็นครุศาสตร Master of Education Program in Buddhist Educational Administration Master of Education Program in Buddhist Educational Administration มหาบัณฑิต ตามประกาศ ชื่อปริญญาไทย/อังกฤษ พุทธศาสตรมหาบณั ฑติ (พุทธบริหารการศกึ ษา) มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลง พธ.ม. (พทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา) กรณราชวทิ ยาลัย เร่อื ง ชื่อยอ่ ไทย/อังกฤษ พธ.ม. (พทุ ธบรหิ ารการศึกษา) ปรญิ ญาในสาขาวิชาและ M.A. (Buddhist Educational Administration) อกั ษรย่อสาหรับ สาขาวชิ า (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๖๑ ข้อ ๑ (ข) ชอ่ื ปรญิ ญาไทย/องั กฤษ ปรับชอื่ ย่อไทย/อังกฤษ ครุศาสตรมหาบัณฑติ (พุทธบรหิ ารการศกึ ษา) พธ.ม.(พทุ ธบริหาร Master of Education (Buddhist Educational Administration) การศกึ ษา) เปน็ ค.ม.(พทุ ธบริหาร ชอื่ ย่อไทย/องั กฤษ การศึกษา) ตามประกาศ ค.ม. (พุทธบรหิ ารการศกึ ษา) มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลง M.Ed. (Buddhist Educational Administration) กรณราชวิทยาลัย เร่อื ง หลักสูตรครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศึกษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๓ - คงเดมิ ระบบ และรูปแบบการจัดการศกึ ษา -คงเดมิ เหตุผล ปรญิ ญาในสาขาวชิ าและ จัดการศกึ ษาแบบหนว่ ยกิตทวิภาคต่อปกี ารศกึ ษา จานวน ๔๒ หนว่ ยกติ อักษรย่อสาหรับสาขาวชิ า (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๖๑ สอนเป็นภาษาไทย รับนิสติ ไทยและนิสิตตา่ งประเทศที่สามารถใช้ภาษาไทยได้ ข้อ ๑ (ข) แต่ละภาคการศึกษาต้องมีเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๕ สัปดาห์ อาจจัด -ปรับเพิ่มตาแหน่งทาง วชิ าการอาจารย์ การศึกษาภาคฤดูร้อนได้อีก ๑ ภาค ที่มีเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๖ สัปดาห์ ต้อง ผูร้ บั ผดิ ชอบหลักสูตร ศกึ ษาอยา่ งน้อย ๔ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๑๐ ภาคการศึกษา อาจารย์ผูร้ บั ผิดชอบหลักสตู รและอาจารย์ประจาหลักสตู ร ๙.๑ อาจารย์ประจาหลักสูตร ที่ ชอื่ –ฉายา/สกุล เลข ตาแหน่ง คุณวุฒิ/สาขาวชิ า ประจาตวั ประชาชน ทางวิชาการ ๑ ดร.เกษม แสงนนท์* อาจารย์ พธ.ด. (พุทธบริหารการศกึ ษา) ๓ ๔๓๐๕ ๐๐๔๒๓ xx x วท.ม. (เทคโนโลยีสารสนเทศ) พธ.บ. (การบรหิ ารรฐั กจิ ) ๒ พระครกู ิตติญาณวสิ ฐิ , ดร.* อาจารย์ พธ.ด. (พทุ ธบรหิ ารการศึกษา) ๕ ๒๑๐๑ ๐๐๐๓๔ xx x ร.ม. (รฐั ศาสตร)์ พธ.บ. (พระพุทธศาสนา) ๓ พระครโู อภาสนนทกติ ต์ิ, ดร. อาจารย์ พธ.ด. (พุทธบริหารการศึกษา) ๕ ๖๒๐๖ ๙๐๐๐๙ xx x พธ.ม. (การบริหารการศึกษา) พธ.บ. (การจดั การเชงิ พุทธ) หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าพุทธบริหารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสตู รปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๔ เหตผุ ล ๔ รศ.ดร.สมศกั ดิ์ บุญปู่ รองศาสตรา Ph.D. (Pol.Sci) ๓ ๖๖๐๑ ๐๐๕๑๘ xx x จารย์ M.A.(Political Science) พธ.บ. (มานษุ ยสงเคราะห์ศาสตร์) ๕ รศ.ดร.สทุ ธิพงษ์ ศรีวิชัย รองศาสตรา ๔ ๑๐๒๒ ๐๐๐๒๑ xx x จารย์ Ph.D. (Ed.Admin) M.Ed. (Ed. Admin) ๖ รศ.ดร.อนิ ถา ศริ ิวรรณ รองศาสตรา พธ.บ. (บริหารการศกึ ษา) ๓ ๕๐๑๒ ๐๐๓๓๗ xx x จารย์ รอง Ph.D. (Ed.Admin) ๗ รศ.ดร.สิน งามประโคน M.Ed. (Ed. Admin) ๓ ๓๑๐๘ ๐๐๒๒๖ xx x ศาสตราจารย์ พธ.บ. (สงั คมศกึ ษา) ผู้ช่วย ๘ พระครูสงั ฆรกั ษ์จักรกฤษณ์ Ph.D. (Ed.Admin) ภรู ิปญโฺ ญ, ผศ.ดร. ศาสตราจารย์ M.Ed. (Ed. Admin) ๕ ๔๘๐๕ ๐๐๐๑๙ xx x อาจารย์ พธ.บ. (บรหิ ารการศึกษา) ๙ พระครูสถิตบญุ วฒั น์, ดร. อาจารย์ พธ.ด. (พุทธบริหารการศึกษา) ๓ ๑๐๑๒ ๐๓๔๗๐ xx x พธ.ม. (การบรหิ ารการศกึ ษา) อาจารย์ พธ.บ. (ศาสนา) ๑๐ พระครสู าทรปริยัติคณุ , ดร. ๕ ๖๒๐๖ ๙๐๐๐๙ xx x อาจารย์ พธ.ด. (พุทธบรหิ ารการศกึ ษา) พธ.ม. (การบริหารการศึกษา) ๑๑ พระครูภัทรธรรมคณุ , ดร. พธ.บ. (พระพทุ ธศาสนา) ๓ ๑๘๐๔ ๐๐๐๕๙ xx x พธ.ด. (พทุ ธบรหิ ารการศึกษา) ๑๒ พระครวู ริ ุฬห์สุตคณุ , ดร. พธ.ม. (การบริหารการศกึ ษา) ๓ ๓๐๒๑ ๐๐๓๓๖ xx x พธ.บ. (พระพุทธศาสนา) พธ.ด. (พุทธบรหิ ารการศกึ ษา) พธ.ม. (การบริหารการศกึ ษา) พธ.บ. (พระพทุ ธศาสนา) พธ.ด. (พทุ ธบรหิ ารการศึกษา) พธ.ม. (การบรหิ ารการศกึ ษา) พธ.บ. (พระพุทธศาสนา) หลักสตู รครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๕ - คงเดิม เหตุผล ๑๓ ดร.บญุ เชิด ชานศิ าสตร์ อาจารย์ ปร.ด. (การบรหิ ารการศกึ ษา) - คงเดมิ ๓ ๗๖๐๖ ๐๐๓๖๗ xx x ค.ม. (ปฐมวยั ) กศ.บ. (สุขศึกษา) * ดร.มลวิ ัลย์ โยธารักษ์ อาจารย์ ศษ.ด. (การบรหิ ารการศกึ ษา) ศษ.ม. (จิตวทิ ยาการศึกษา) ๕ ๓ ๘๐๐๗ ๐๐๒๙๗ xx x กศบ. (การประถมศกึ ษา) *ลาดบั ท่ี ๑-๓ เปน็ อาจารยผ์ ูร้ บั ผดิ ชอบหลักสตู ร โครงสร้างหลกั สตู ร และแผนจัดการศึกษา จดั การศกึ ษาแผน ก แบบ ก ๒ ตามมาตรฐานบณั ฑติ ศึกษา พ.ศ.๒๕๕๘ ดงั นี้ ท่ี โครงสรา้ งหลกั สตู ร แผน ก ๒ *รวม ๑ หมวดวิชาบังคับ การฝกึ -นับหนว่ ยกติ ๙ ปฏบิ ตั ิกา -ไม่นบั หนว่ ยกิต (๓) รบริหาร ๒ หมวดวิชาเอก* ๒๑ การศกึ ษ ๓ หมวดวิชาเลือก (๓) า ตาม ๔ วิทยานพิ นธ์ /สารนิพนธ์ ๑๒ เกณฑ์ครุ ุ รวมหนว่ ยกติ ๔๒ สภา (....) หมายถงึ ไม่นบั หน่วยกติ รายวชิ าในหลกั สตู ร ๑ หมวดวชิ าบงั คับ ๑.๑ วิชาบังคับ นบั หน่วยกิต จานวน ๙ หนว่ ยกิต ๒๑๐ ๑๐๑ สมั มนากิจกรรมการเรียนรเู้ ชงิ พทุ ธบรูณาการ Seminar on Buddhist Integration Active Learning ศึกษาหลักการศึกษาในพระพุทธศาสนา พระไตรปฎิ กและเอกสารวิชาการ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สตู รปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๖ ทางพระพุทธศาสนา ระบบการศกึ ษาของคณะสงฆ์ไทย บทบาทคณะสงฆ์ เหตผุ ล กบั การศึกษา การบรู ณาการพทุ ธธรรมกบั กจิ กรรมเสรมิ หลกั สูตร กจิ กรรม พัฒนาศักยภาพและทักษะผ้เู รยี นให้คดิ เป็น ทาเป็น แก้ปญั หาเป็น กิจกรรม สง่ เสรมิ วินยั คณุ ธรรมและจริยธรรม การบริหารจัดการให้เกดิ การ ชว่ ยเหลือดแู ลผเู้ รยี น ๒๑๐ ๑๐๒ วิธกี ารวิจยั ทางพทุ ธบริหารการศึกษา Buddhist Educational Administration Research Methodology ศึกษาหลักการแสวงหาความรู้และสรา้ งองค์ความรู้ใหม่ดว้ ยวธิ กี ารวิจยั พุทธวิธกี ารวิจัย จรรยาบรรณนักวิจยั ประเภทของการวิจยั การวิจัยทาง การศึกษา กระบวนการและข้ันตอนการวิจยั การเขยี นโครงรา่ งวจิ ัย เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ ก่ยี วข้อง เคร่อื งมือการวจิ ยั ประชากรและกลุ่ม ตัวอย่าง วิธดี าเนินการวิจยั สถติ ิเพ่ือการวิจยั โปรแกรมประยกุ ตเ์ พื่อการ วิเคราะห์ข้อมลู โปรแกรมประยกุ ตเ์ พือ่ การเขียนรายงานการวจิ ัย โปรแกรม ประยุกต์เพอื่ การนาเสนอผลการวจิ ัยในเวทีตา่ งๆ ๒๑๐ ๑๐๓ นวตั กรรมและเทคโนโลยกี ารบริหารโรงเรยี นวถิ พี ทุ ธ Innovation and Technology for Buddhist School Administration ศกึ ษาพน้ื ฐานนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงเรยี นวถิ พี ุทธกบั สถานศกึ ษาตา่ งๆ นวัตกรรมและเทคโนโลยเี พื่อการเผยแผ่ธรรมะ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๗ นวัตกรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การบรหิ ารสถานศึกษา นวัตกรรมและ - คงเดมิ เหตผุ ล เทคโนโลยีเพอ่ื การศึกษาในยุคไทยแลนด์ ๔.๐ คอมพิวเตอรก์ บั การพฒั นา สอ่ื การศึกษา คอมพวิ เตอร์กับการคิดเชงิ ระบบและความคิดสร้างสรรค์ - คงเดิม คอมพิวเตอร์กับพฒั นาโมเดลการบรหิ ารการศึกษา ๑.๒ วิชาบงั คับ ไม่นับหน่วยกติ จานวน ๑ รายวชิ า (๓ หน่วยกติ ) ๒๑๐ ๑๐๔ กรรมฐาน Meditation ศกึ ษาความเป็นมาของการบริหารจิตและการเจรญิ สติ การกาเนิดและ องค์ประกอบของชวี ิตมนุษย์ ท่ีสุดสองอย่างและทางสายกลาง ธุระ ๒ กรรมฐานหรอื ภาวนา ๒ ประโยชนข์ องกรรมฐาน อปุ สรรคของกรรมฐาน การ ปฏิบตั ติ ามหลกั สติปฏั ฐาน สานักกรรมฐานสายต่างๆ กรรมฐานใน ชวี ติ ประจาวัน แนวโน้มการปฏบิ ัตกิ รรมฐานในสังคมโลก หลักพุทธธรรมเพ่ือ การศึกษาและพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต (๒) หมวดวชิ าเอก จานวน ๒๑ หนว่ ยกิต ๒๑๐ ๒๐๑ การพฒั นาวิชาชีพทางการศึกษา Professional Development in Education ศกึ ษาจติ วญิ ญาณและอุดมการณ์ของนักบรหิ าร การพฒั นาวชิ าชพี เชิงพุทธ ความเปน็ ผู้บรหิ ารมืออาชีพ สถาบันหรือองค์กรทางวิชาชพี มาตรฐาน วิชาชพี ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา กระบวนการผลติ ครูและผ้บู ริหารมืออาชีพ การจดั การความรเู้ กี่ยวกับการบริหาร การวิจัยเพื่อการพัฒนาวิชาชีพ หลักสูตรครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศึกษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๘ เหตผุ ล ๒๑๐ ๒๐๒ ภาวะผนู้ าทางการศกึ ษา Educational Leadership ศกึ ษาการพัฒนาภาวะผู้นา ภาวะผู้นาเชิงพทุ ธ พฤติกรรมและบทบาทผู้นา กับสงั คมท่ีเปล่ียนแปลง การปฏสิ มั พันธ์และการพฒั นาเพ่ือนรว่ มงาน การ บรหิ ารงานระบบเครอื ข่าย การบรหิ ารความเสี่ยงและความขดั แยง้ การ สร้างความสมั พนั ธ์กับชมุ ชนและทอ้ งถิ่น การระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษา การนิเทศการศึกษาเพ่ือพฒั นาครู ๒๑๐ ๒๐๓ นโยบายและหลักการบรหิ ารการศกึ ษา Policy and Principle of Educational Administration ศกึ ษาหลักการ กระบวนการ และหน้าทใี่ นการบรหิ าร การบริหาร การศกึ ษาเชงิ พุทธ นโยบายและการวางแผนเพ่ิมประสิทธภิ าพการศกึ ษา การบรหิ ารองค์กรและหนว่ ยงานทางการศกึ ษา การบรหิ ารงานวิชาการสู่ ความเป็นเลศิ การบรหิ ารงานบคุ คล การบรหิ ารงานธรุ การ การเงิน พัสดุ และอาคารสถานที่ การบริหารแหลง่ เรยี นรแู้ ละสิ่งแวดล้อมทางการ ศกึ ษา กฎหมายเกี่ยวกบั การศึกษาและผูบ้ ริหารการศกึ ษา นวตั กรรมและ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการบรหิ ารการศกึ ษา ๒๑๐ ๒๐๔ การพฒั นาหลักสตู รและส่งเสรมิ คุณภาพการศกึ ษา Curriculum Development and Educational Quality Promoting ศกึ ษาหลักปรชั ญาการศกึ ษา ปรชั ญาการศึกษาเชงิ พุทธ หลักสตู รและการ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๕๙ จัดการเรียนการสอนเชงิ พทุ ธ หลกั สูตรการศกึ ษาไทยและนานาชาติ การ เหตุผล พฒั นาหลักสูตรและหลักสตู รสถานศกึ ษา การจดั การเรียนรแู้ ละเทคนิคการ สอน การพฒั นาแหล่งเรียนร้แู ละสิ่งแวดลอ้ มเพื่อสง่ เสริมการเรียนรู้ การ พัฒนาศักยภาพผเู้ รยี น การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ การประเมินผล หลักสูตร การวจิ ยั เพอ่ื พฒั นาคุณภาพการศึกษา ๒๑๐ ๒๐๕ การประกันคณุ ภาพการศึกษา Quality Assurance in Education ศกึ ษาหลักการและกระบวนการประกันคณุ ภาพการศึกษา การประกัน คุณภาพภายในและภายนอก การกาหนดตวั บง่ ช้ีตา่ งๆ การกากบั ตดิ ตาม การประกันคณุ ภาพการศึกษา การตรวจประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา การ นาผลการประเมนิ ไปใชเ้ พ่ือพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา บูรณาการพุทธธรรม กบั การประกันคุณภาพการศึกษา ๒๑๐ ๒๐๖ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชีพ Morality and Professional Ethics ศึกษาหลักธรรมาภิบาลและความซื่อสตั ยส์ ุจริต หลักพทุ ธธรรมาภบิ าล หลักคุณธรรมจริยธรรมของผู้บริหารสถานศกึ ษา การพฒั นาคุณธรรมและ จริยธรรม กฏหมายเกยี่ วกับจรรยาบรรณวิชาชีพ เกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพ ผู้บรหิ ารสถานศึกษา จรรยาบรรณวิชาชีพทีค่ ุรสุ ภากาหนด หลกั สูตรครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาพทุ ธบรหิ ารการศึกษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖๐ ๒๑๐ ๒๐๗ การฝกึ ปฏิบตั กิ ารวิชาชีพบริหารการศกึ ษา - คงเดิม เหตผุ ล Training Experience in Educational Administration ศกึ ษาและฝึกปฏิบัตเิ กย่ี วกบั การพัฒนาวชิ าชพี ทางการศึกษา ความเปน็ ผนู้ าทางวชิ าการ การนิเทศก์ หรอื แนะแนว การบรหิ ารสถานศึกษา หลักสตู ร การเรียนการสอน การวัดและประเมนิ ผลการ เรยี นรู้ กจิ การและกจิ กรรมนกั เรยี น คณุ ธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชพี การประกัน คณุ ภาพการศกึ ษา ภายใต้การแนะนาของผบู้ รหิ ารที่เป็นพ่ีเล้ยี ง และอาจารยน์ ิเทศก์ การบรู ณาการ พทุ ธธรรมกับการบรหิ ารสถานศึกษา ๓. หมวดวิชาเลือก กาหนดให้เรยี นโดยไมน่ ับหน่วยกิต ไม่นอ้ ยกว่า ๑ รายวชิ า (๓ หน่วยกิต) ๒๑๐ ๓๐๑ ภาษาองั กฤษสาหรับการบริหารการศกึ ษา English for Educational Administration ศึกษาหลักภาษาอังกฤษ ทักษะการฟงั ทักษะการพดู ทักษะการอ่าน ทักษะการเขยี น ทกั ษะการติดตอ่ สอื่ สารในสถานการณต์ ่างๆ ภาษาอังกฤษ เชงิ วชิ าการ ภาษาอังกฤษกบั การบริหารการศึกษา พ้นื ฐานพุทธธรรมกับ ภาษาองั กฤษ กบั ภาษาองั กฤษกับการเรียนรู้พระพุทธศาสนา ๒๑๐ ๓๐๒ พนื้ ฐานภาษาบาลี Basic Pali Language ศึกษาความเป็นมาและความสาคัญของภาษาบาลี ภาษาบาลีหรือสนั สกฤต ในภาษาไทย พระปรยิ ัติธรรมแผนกบาลีของคณะสงฆ์ หลักบาลีไวยากรณ์ การอา่ น การพดู การเขียน และการแปลภาษาบาลี การแปลบทสวดมนต์ ต่างๆ การประยุกตใ์ ช้ภาษาบาลใี นชีวติ ประจาวัน หลักสตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลกั สูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖๑ เหตผุ ล ๒๑๐ ๓๐๓ การบรหิ ารสถานศกึ ษาสคู่ วามเป็นเลศิ School Administration For Excellence ๓ (๓-๐-๖) ศกึ ษาหลักการบรหิ ารการศึกษา พทุ ธวธิ บี รหิ ารการศึกษา โรงเรยี นวิถพี ุทธ ชนั้ นา นโยบายและแผนการจัดการศึกษา ตวั ชวี ัดการพฒั นาสู่ความเปน็ เลิศ การบริหารองคก์ รทางการศึกษาของไทย การจัดระบบบรหิ ารงาน ภายในสถานศึกษา นวตั กรรมและเทคโนโลยีการบรหิ ารการศกึ ษายุคใหม่ การต้ังเป้าหมายและการดาเนินงานตามแผน การตดิ ตามประเมนิ ผลการ ดาเนนิ งาน การประกนั คุณภาพการศึกษา ๒๑๐ ๓๐๔ การวจิ ัยแบบผสานวิธี Mixed Methodology Research ศึกษาแนวคิดทฤษฎีการวจิ ยั แบบผสานวธิ ี พุทธวิธกี ารวิจัย กรอบความคิด พ้ืนฐานของการวิจยั แบบผสานวธิ ี การกาหนดปญั หาการวจิ ยั การออกแบบ การวจิ ยั การเกบ็ รวบรวมข้อมูล การแปลผลขอ้ มลู ข้อจากัดของการวิจยั แบบผสานวธิ ี การวิจยั เชงิ ประวัติศาสตร์ การวิจยั และพัฒนา การสนทนา กลุ่ม การปฏบิ ัตกิ ารแบบมสี ่วนรว่ ม การเขียนและวางแผนการวจิ ยั แบบ ผสานวิธี การฝกึ ปฏิบัติภาคสนาม เทคนคิ การวิจยั ใหม่ ๆ ฝึกปฏบิ ตั ดิ ้านการ วจิ ัยแบบผสานวิธี หลักสตู รครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสูตรปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖๒ ๒๑๐ ๓๐๕ การบริหารสูค่ วามเป็นโรงเรยี นวิถีพทุ ธ เหตผุ ล Buddhist School Administration ๓(๓-๐-๖) ศึกษาปรชั ญาและหลกั การบริหารโรงเรยี นวิถพี ทุ ธ การบริหารงานบคุ คล งานวิชาการ การเงนิ และพัสดุอาคารสถานที่ กจิ การและกจิ กรรมนกั เรียน การสรา้ งความสัมพันธ์ระหวา่ งโรงเรียนกับวัดและชมุ ชน วเิ คราะหต์ วั ชวี้ ดั การดาเนินงานโรงเรยี นวิถีพุทธ ปัจจัยและกระบวนการพัฒนาสู่เปา้ หมาย ปญั หาอุปสรรคและผลกระทบ การติดตามและประเมินผล บรู ณาการพทุ ธ ธรรมกบั การบรหิ ารโรงเรยี น ๒๑๐ ๓๐๖ การศึกษาอสิ ระทางพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา Independent Studies in Buddhist Educational Administration ๓ (๓- ๐-๖) ศึกษาเขยี นโครงการวจิ ยั หรือโครงการสัมมนา โดยศึกษาเกยี่ วกบั การบริหาร การศึกษาตามประเด็นที่เกีย่ วข้องเร่ืองใดเรอ่ื งหน่ึงหรือหลายเรื่อง ดงั นี้ หลกั พุทธ บรหิ ารการศึกษา การวิจัยและการพัฒนาวิชาชีพ นโยบายหรอื แผนการศึกษา ภาวะ ผู้นา ทักษะการบรหิ าร การนเิ ทศกห์ รอื แนะแนว การบรหิ ารวิชาการ พฒั นาหลกั สตู ร การจัดการเรยี นการสอน การบรหิ ารองคก์ ร/สถานศกึ ษา บรหิ ารงานบคุ คล งบประมาณ ธรุ การ และพสั ดุ เทคนิคการสอน ส่ือการสอนและนวตั กรรมทาง การศกึ ษา กิจกรรมนักเรยี น และการวัดประเมินผลการเรยี นรู้ ทรพั ยากรสนับสนุน การศึกษาและความสมั พนั ธ์กับชุมชน คณุ ธรรมจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณวชิ าชพี การประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา หลักสูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลกั สตู รปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖๓ ๔. วทิ ยานิพนธ์ หรอื สารนิพนธ/์ การศกึ ษาอิสระ - คงเดมิ เหตผุ ล ๒๑๐ ๔๐๑ วิทยานพิ นธ์ ๑๒ หน่วยกิต Thesis มเี งื่อนไข ดังนี้ ๑. นิสิตต้องศกึ ษารายวิชามาแล้วไมน่ อ้ ยกวา่ ๑ ภาคการศึกษาปกติ และ มีหน่วยกิตสะสมในรายวิชาไม่น้อยกว่า ๖ หนว่ ยกติ จึงจะเสนอหัวขอ้ และโครง ร่างวทิ ยานพิ นธ์ เพือ่ ขออนมุ ัติลงทะเบยี นทาวทิ ยานพิ นธ์ได้ ๒. แผน ก แบบ ก ๒ ศึกษารายวชิ าครบถว้ นตามท่ีกาหนดในหลกั สูตร โดยจะตอ้ งไดร้ ะดับคะแนนเฉลีย่ ไม่ต่ากว่า ๓.๐๐ จากระบบ ๔ ระดับคะแนน หรอื เทยี บเท่า และมีเวลาทาวทิ ยานพิ นธไ์ ม่น้อยกวา่ ๓ เดือน นับจากวัน ลงทะเบียนทาวทิ ยานพิ นธ์ จึงมีสิทธิ์ขอสอบวทิ ยานิพนธ์ และผ่านการสอบ ปากเปลา่ ขน้ั สุดท้ายโดยคณะกรรมการทส่ี ถาบันอุดมศึกษานั้นแตง่ ตง้ั และต้อง เปน็ ระบบเปดิ ให้ผู้สนใจเข้ารับฟงั ได้ ๓. ผลงานวิทยานพิ นธห์ รอื ส่วนหนงึ่ ของวทิ ยานพิ นธต์ ้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตพี มิ พ์ในวารสารระดบั ชาติหรือระดับ นานาชาติท่ีมคี ุณภาพตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา เร่ือง หลกั เกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวชิ าการสาหรบั การเผยแพรผ่ ลงานทาง วชิ าการ หรอื นาเสนอต่อทีป่ ระชมุ วิชาการโดยบทความท่นี าเสนอฉบับสมบูรณ์ (Full Paper) ไดร้ ับการตีพมิ พ์ในรายงานสืบเน่อื งจากการประชุมวิชาการ (Proceedings) ดังกลา่ ว (ราชกิจจานเุ บกษา, เลม่ ๑๓๒ ตอนพิเศษ ๒๙๕ ง,หนา้ หลกั สูตรครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
ฉบบั ปี พ.ศ. ๒๕๖๐ หลักสูตรปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖๔ - คงเดมิ เหตผุ ล ๒๓, ขอ้ ๑๔.๒.๒, ๑๓ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘) ๔. การดาเนนิ การเกีย่ วกับวิทยานพิ นธ์ ให้เปน็ ไปตามระเบียบบณั ฑิต วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ด้วยวธิ ีปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับ วิทยานิพนธ์ ๖. กจิ กรรมและเง่อื นไขอน่ื ๑) ปฏบิ ัติกรรมฐาน ๓๐ วนั ๒) สัมมนาวชิ าการและศึกษาดูงานในประเทศและต่างประเทศ ๓) การรายงานผลการวจิ ัยในเวทสี าธารณะ (Proceedings) หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพุทธบริหารการศกึ ษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๖๕ ภาคผนวก ค ข้อบังคบั ระเบียบ ประกาศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๖๖ ขอ้ บังคับมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ดว้ ยการศึกษาระดบั บัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๑ *************** เพอื่ ใหก้ ารบริหารงานในบณั ฑิตวิทยาลัยบรรลุวตั ถุประสงค์ของมหาวทิ ยาลยั จึงเห็นสมควรออกข้อ บังคบั มหาวิทยาลยั ว่าดว้ ยการศึกษาระดบั บัณฑติ ศึกษา อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แหง่ พระราชบญั ญตั มิ หาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ สภามหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ในคราวประชมุ คร้ังท่ี ๙/๒๕๔๑ เมอื่ วนั ที่ ๒๔ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๑ จงึ มมี ตใิ หอ้ อกขอ้ บงั คับไว้ ดังต่อไปน้ี หมวดที่ ๑ บทท่ัวไป ขอ้ ๑ ขอ้ บังคับนเี้ รยี กว่า “ขอ้ บังคับมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการ ศกึ ษาระดบั บณั ฑติ ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑” ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบงั คบั นตี้ ัง้ แตว่ ันถัดจากวนั ประกาศเปน็ ต้นไป ข้อ ๓ บรรดาข้อบงั คับ ระเบยี บ ประกาศ คาสง่ั หรอื มติอน่ื ใดซึ่งขดั หรอื แย้งกบั ขอ้ บังคับนี้ ใหใ้ ชข้ ้อบงั คบั น้ี แทน ขอ้ ๔ ในข้อบังคับนี้ “นสิ ติ ” ผทู้ ี่ได้ขนึ้ ทะเบยี นเป็นนสิ ติ บณั ฑิตวิทยาลัยเรยี บร้อยแล้ว ขอ้ ๕ ใหอ้ ธกิ ารบดรี ักษาการใหเ้ ป็นไปตามข้อบังคบั นี้ ข้อ ๖ คุณสมบัติของผู้สมัครเข้าศึกษาระดับมหาบัณฑิต ๖.๑ ผู้สมัครเขา้ เปน็ นิสิตต้องเป็นผู้สาเรจ็ การศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรีหรอื เทยี บเทา่ จากมหา วทิ ยาลัย หรอื สถาบนั การศกึ ษาทส่ี ภามหาวทิ ยาลัยรบั รอง และต้องมีคณุ สมบตั ิอ่ืนตามทีม่ หา วิทยาลยั กาหนด ๖.๒ ต้องได้คา่ ระดบั เฉล่ียสะสมในระดบั ปรญิ ญาตรี ไม่ต่ากว่า ๒.๕๐ จากระบบ ๔ แตม้ ยกเวน้ ผูม้ ี ประสบการณ์การทางานตดิ ต่อกนั เปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่า ๒ ปีนับตั้งแต่สาเร็จการศกึ ษา และผู้จบเปรียญธรรมเก้า ประโยค และ ๖.๓ ไมเ่ คยถกู ลงโทษให้พ้นสภาพการเป็นนสิ ิตบณั ฑติ วทิ ยาลยั ข้อ ๗ บณั ฑติ วิทยาลยั จะดาเนินการเกยี่ วกบั การรับสมัครนิสิตใหม่ โดยพจิ ารณาแตง่ ต้ังคณะ กรรมการสอบ คดั เลือกผู้สมัครเข้าศกึ ษาในระดบั บัณฑติ ศึกษาในแตล่ ะปีการศกึ ษา ๗.๑ ผ้สู มคั รเขา้ เป็นนสิ ิตต้องเปน็ ผู้สาเรจ็ การศึกษาขน้ั ปริญญาโทหรือเทียบเท่า จากมหา วิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาทส่ี ภามหาวทิ ยาลยั รบั รอง และต้องมีคณุ สมบตั ิอ่ืนตามท่ีมหา วทิ ยาลยั กาหนด หลกั สูตรครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๖๗ ๗.๒ ต้องได้คา่ ระดับเฉลยี่ สะสมในระดบั ปรญิ ญาโทไมต่ ่ากว่า ๓.๕๐ จากระบบ ๔ แต้ม ยกเว้นผ้มู ี ประสบการณ์การทางานตดิ ต่อกนั เป็นเวลาไมน่ ้อยกว่า ๓ ปีนับตงั้ แตส้ าเรจ็ การศึกษาหรือมผี ลงานทางวิชา การที่ คณะกรรมการบัณฑติ วทิ ยาลัยเห็นชอบ ๗.๓ ไมเ่ คยถกู ลงโทษให้พน้ จากการเปน็ นสิ ติ บัณฑติ วิทยาลัย ข้อ ๘ บัณฑิตวิทยาลัยจะดาเนินการเก่ียวกับการรบั สมัครนสิ ิตใหม่ โดยพิจารณาแตง่ ตั้งคณะ กรรมการสอบ คัดเลอื กผ้สู มัครเข้าศกึ ษาในระดับบัณฑติ ศึกษาในแตล่ ะปีการศกึ ษา หมวดที่ ๒ การจัดและวธิ ีการศกึ ษา ข้อ ๙ ระบบการศกึ ษา บณั ฑิตวทิ ยาลัย จัดการศึกษาเปน็ ระบบหนว่ ยกติ ทวิภาค โดยแบ่งเวลาการศึกษาในแต่ละปีการศึกษาออกเปน็ ๒ ภาคการศกึ ษาปกติ แต่ละภาคการศึกษามีเวลาศึกษาไม่น้อยกวา่ ๑๖ สปั ดาห์ บณั ฑิตวิทยาลัยอาจจดั การศึกษาภาคฤดูร้อนได้อีก ๑ ภาคมีเวลาศกึ ษาไม่น้อยกว่า ๖ สัปดาห์ และจะกาหนด ระเบยี บวา่ ด้วยการศึกษาภาคฤดรู อ้ นท่ีไม่ขดั กบั ขอ้ บังคับนี้โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการประจาบณั ฑิต วิทยาลัย ข้อ ๑๐ หลักสตู ร ๑๐.๑ หลักสตู รปริญญาพุทธศาสตรมหาบณั ฑติ ใหศ้ ึกษางานรายวิชาไม่น้อยกวา่ ๓๖ หนว่ ยกิต และ วทิ ยานพิ นธ์ ๑๒ หนว่ ยกติ จาแนกประเภทดังน้ี วชิ าบงั คับ ๑๒ หน่วยกิต วิชาเอก ๑๘ หน่วยกติ วชิ าเลือก ไมน่ ้อยกวา่ ๑๖ หนว่ ยกติ วทิ ยานพิ นธ์ ๑๒ หนว่ ยกติ รวมท้ังสิ้น ๔๘ หน่วยกติ ๑๐.๒ หลกั สตู รปริญญาพทุ ธศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิต ใหศ้ กึ ษางานรายวิชาไม่นอ้ ยกวา่ ๒๔ หนว่ ยกติ และ วิทยานิพนธ์ ๓๖ หน่วยกิต จาแนกประเภทดงั นี้ วชิ าบังคบั ๙ หน่วยกติ วิชาเอก ๙ หนว่ ยกิต วชิ าเลอื ก ไมน่ ้อยกวา่ ๖ หน่วยกิต วทิ ยานพิ นธ์ ๓๖ หน่วยกิต รวมทั้งส้ิน ๖๐ หนว่ ยกติ ขอ้ ๑๑ ระยะเวลาการศึกษาตามหลักสตู รระดับบัณฑิตศึกษามีดังนี้ ๑๑.๑ หลกั สตู รปริญญาพทุ ธศาสตรมหาบัณฑติ ให้มีระยะเวลาศกึ ษาไมน่ ้อยกวา่ ๔ ภาคการศึกษาปกติ และไมเ่ กนิ ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ หลักสตู รครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพุทธบริหารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๖๘ ๑๑.๒ หลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต ให้มรี ะยะเวลาศกึ ษาไมน่ ้อยกวา่ ๖ ภาคการศึกษา ปกติ และไม่เกนิ ๑๐ ภาคการศกึ ษาปกติ ในกรณที น่ี สิ ิตไม่สามารถจบการศกึ ษาไดใ้ นระยะเวลา ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ ตามข้อ ๑๑.๑ และขอ้ ๑๑.๒ คณะกรรมการประจาบณั ฑิตวิทยาลัยอาจอนุมตั ใิ หต้ ่ออายสุ ภาพนสิ ิตได้อกี แตท่ ้งั น้ตี อ้ งไม่เกิน ๒ ภาค การศกึ ษาปกติ ๑๑.๓ การนบั เวลาในข้อ ๑๑.๑ ให้นบั รวมเวลาทีน่ ิสิตได้รบั อนุมตั ิใหล้ าพกั การศึกษาด้วย ยกเวน้ นสิ ติ ท่ี ได้รบั อนุมัตใิ หล้ าพักการศกึ ษาตามข้อ ๑๓.๑.๑ ๑๑.๔ รายวิชาที่กาหนดใหน้ ิสิตฟงั การบรรยายสปั ดาห์ละ ๑ ชั่วโมงและศกึ ษานอกเวลาอีกไมน่ ้อยกว่า สัปดาหล์ ะ ๓ ชั่วโมงตลอดภาคการศึกษา ให้มคี ่าเท่ากับ ๑ หน่วยกิต ๑๑.๕ รายวิชาท่นี สิ ิตใชเ้ วลาปฎิบัติการ อภิปรายหรือสัมมนาสัปดาหล์ ะ ๒ ถงึ ๓ ช่ัวโมง และเมื่อรวม เวลาการศกึ ษานอกเวลาแล้ว นสิ ิตใชเ้ วลาไมน่ อ้ ยกว่าสปั ดาห์ละ ๓ ชว่ั โมง ตลอดภาคการศึกษา ใหม้ ีคา่ เทา่ กบั ๑ หน่วยกติ ขอ้ ๑๒ การเปล่ยี นสาขาวชิ าจะกระทาได้กต็ ่อเม่ือได้รบั ความเหน็ ชอบจากอาจารย์ท่ีปรกึ ษาทวั่ ไป และคณบดี บณั ฑิตวิทยาลยั บัณฑิตวิทยาลยั อาจอนุมัตใิ ห้นสิ ติ ทขี่ อเปล่ยี นสาขาวชิ าโอนหน่วยกิตของรายวชิ าในระดบั บัณฑติ ศึกษาทไี่ ด้ ศึกษาไว้แล้วไมเ่ กิน ๕ ปไี ด้ตามที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่เกิน ๙ หน่วยกติ โดยไม่ใหน้ าไปคานวนคา่ ระดับเฉลีย่ สะสม และรายวชิ าน้นั ต้องไดผ้ ลการศึกษาไมต่ ่ากว่า B หรอื S ขอ้ ๑๓ การลาพักรอ้ นและการกลบั เขา้ ศึกษาใหม่ ๑๓.๑ นสิ ิตมเี หตจุ าเปน็ อาจลาพกั การศึกษาภาคใดภาคหนึ่ง เมื่อได้ศกึ ษาในบัณฑติ วิทยาลัยไม่น้อย กว่า ๑ ภาคการศกึ ษาปกติ โดยความเห็นชอบของอาจารยท์ ี่ปรกึ ษาทวั่ ไป นสิ ติ ต้องยนื่ คาร้องต่อคณบดีบัณฑติ วทิ ยาลัยภายใน ๓๐ วันนบั จากวนั เปิดภาคการ ศึกษาใหม่ หากพ้น จากกาหนดการลาพักการศกึ ษาดงั กล่าว นสิ ิตอาจขอลาพักการศึกษาเปน็ กรณีพเิ ศษในกรณีใดกรณีหนงึ่ ดงั ต่อไปน้ี ๑๓.๑.๑ ถูกเกณฑห์ รือระดมเขา้ รับราชการทหารกองประจาการ ๑๓.๑.๒ มคี วามจาเป็นต้องเดนิ ทางไปตา่ งประเทศ ๑๓.๑.๓ เจ็บป่วยต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานตามคาสง่ั แพทย์ โดยมีใบรบั รองแพทย์มาแสดงตอ่ บณั ฑิตวิทยาลัย ๑๓.๑.๔ มีเหตุจาเป็นสดุ วิสยั อ่นื ท่สี าคัญ ในกรณีทีน่ สิ ิตไดร้ บั อนุมัติให้ลาพักการศึกษา ใหน้ ับระยะเวลาท่ีลาพกั การศกึ ษารวมอยู่ในระยะ เวลาศึกษา ดว้ ย ยกเวน้ นสิ ิตทไี่ ด้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษาตามข้อ ๑๓.๑.๑ นสิ ติ ที่ไดร้ บั อนุมตั ใิ ห้ลาพักการศึกษา ต้องชาระค่าธรรมเนียมเพ่ือรกั ษาสภาพการเปน็ นิสิตทุกภาคการศกึ ษา ยกเวน้ นสิ ิตที่ได้รบั อนุมัติใหล้ าพักการศึกษาหลงั จากท่ีได้ลงทะเบยี นรายวชิ าแล้ว ในกรณนี ใ้ี ห้นิสิต W ได้ในทุก รายวชิ าท่ไี ด้ลงทะเบียนไว้ในภาคการศึกษาท่ีได้รับอนุมัติให้ลาพกั การศกึ ษา ข้อ ๑๔ การพน้ สภาพการเป็นนิสิต นิสติ พน้ สภาพการเป็นนิสติ ในกรณใี ดกรณีหนง่ึ ดังตอ่ ไปน้ี ๑๔.๑ สอบได้ค่าระดบั เฉลี่ยประจาภาคการศึกษาท่ี ๑ ต่ากว่า ๒.๕๐ หลักสตู รครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๖๙ ๑๔.๒ สอบได้คา่ ระดบั เฉล่ยี สะสมตา่ กวา่ ๓.๐๐ ๑๔.๓ ไมส่ ามารถสาเรจ็ การศึกษาตามหลักสตู รภายในกาหนดเวลาตามข้อ ๑๑.๑ หรอื ขอ้ ๑๑.๒ แล้วแต่กรณี ๑๔.๔ มหาวิทยาลยั ลงโทษให้พ้นสภาพการเป็นนิสิตตามข้อ ๓๒.๕ ๑๔.๕ ไมป่ ฏิบัตติ ามเงอ่ื นไขการลาพักตามข้อ ๑๓ หรอื ไมล่ งทะเบียนรายวิชาในภาคการ ศึกษาปกติ ตามข้อ ๑๗.๕ ๑๔.๖ ได้รับอนุมัติใหล้ าออกจากการเป็นนิสติ ขอ้ ๑๕ นิสติ ท่ีพน้ สภาพตามข้อ ๑๔.๕ และ ๑๔.๖ อาจขอกลบั เข้าเปน็ นสิ ิตใหม่ได้ภายในกาหนดระยะเวลา ๒ ปี นับจากวนั ที่นสิ ติ พ้นสภาพการเป็นนสิ ิต และถ้าคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยโดยคา แนะนาของคณะกรรมการ ประจาบัณฑิตวิทยาลัย เห็นสมควรอนมุ ตั โิ ดยใหค้ ดิ ระยะเวลาท่ีพ้นสภาพการเปน็ นิสิตนั้นรวมอยใู่ นระยะเวลา การศึกษาทัง้ หมด ในกรณเี ชน่ น้นี ิสิตต้องเสียคา่ ธรรมเนียมต่างๆ เหมอื นกับผู้ลาพักการศกึ ษาทั่วไป หมวดที่ ๓ การข้ึนทะเบยี นเปน็ นิสิตและการลงทะเบียนรายวชิ า ข้อ ๑๖ การขึน้ ทะเบยี นเปน็ นิสิต ๑๖.๑ ผขู้ ึ้นทะเบียนเป็นนิสติ ต้องนาหลกั ฐานที่บัณฑิตวิทยาลยั กาหนดมายื่นต่อกองทะเบยี นและวดั ผล ดว้ ยตนเองตามวนั เวลา และสถานที่ท่ีกาหนด พร้อมท้ังชาระค่าธรรมเนยี มต่างๆ ตามท่มี หาวิทยาลัยกาหนด สาหรบั ภาคการศึกษาแรกท่เี ข้าศกึ ษาในบัณฑิตวทิ ยาลยั นิสิตตอ้ งลงทะเบียนรายวชิ าที่ต้องศึกษาในภาคนนั้ ท้งั หมด พร้อมกบั การขึ้นทะเบียนเปน็ นิสติ ดว้ ย ๑๖.๒ ผไู้ ม่สามารถมาย่ืนคาร้องขอข้ึนทะเบียนเปน็ นสิ ติ ตามวนั ที่กาหนด ตอ้ งแจ้งเหตุ ขัดข้องให้กอง ทะเบียนและวดั ผลทราบ เปน็ ลายลักษณ์อักษรภายใน ๗ วันหลงั จากวนั ทีก่ าหนดไว้ มิฉะนั้นจะถอื ว่าสละสทิ ธิ์ ในกรณที ี่ไดแ้ จง้ ใหก้ องทะเบียนและวดั ผลทราบตามความความในวรรคแรกแล้ว ต้องมาข้ึนทะเบยี น เป็นนสิ ติ ด้วยตนเอง ยกเวน้ กรณีทีม่ หาวิทยาลัยพิจารณาเห็นว่ามเี หตุจาเป็นอยา่ งยิ่ง จงึ อนุญาตให้มอบหมายผ้แู ทน มาขน้ึ ทะเบียนแทนได้ ทัง้ น้ีต้องทาให้เรยี บรอ้ ยภายใน ๗ วนั นบั จากวันเปดิ ภาคการศึกษา ๑๖.๓ ผ้ทู ไ่ี ดร้ บั อนุมตั ิใหเ้ ข้าศึกษาในสาขาวชิ าใด ต้องขน้ึ ทะเบยี นเปน็ นิสิตของบัณฑิตวิทยาลยั ใน สาขาวิชานั้น และจะศึกษาเกินกวา่ ๑ สาขาวชิ าในขณะเดียวกันไม่ได้ ขอ้ ๑๗ การลงทะเบยี นรายวิชา ๑๗.๑ นสิ ิตต้องลงทะเบียนรายวชิ าทุกภาคการศกึ ษา ตามกาหนดเวลาในปฏทิ นิ การ ศึกษา โดยความ เห็นชอบจากอาจารยท์ ่ีปรกึ ษาท่ัวไป ๑๗.๒ นิสิตทีไ่ มม่ าลงทะเบยี นรายวชิ าภายใน ๑๔ วันแรกของภาคการศึกษาปกตนิ บั จากวันเปิดภาค การศกึ ษา ไมม่ สี ิทธิลงทะเบยี นในภาคการศึกษานัน้ เวน้ แต่จะไดร้ ับอนุมัติจากคณบดีบณั ฑิตวทิ ยาลยั ๑๗.๓ จานวนหน่วยกิตทก่ี าหนดให้นิสติ ลงทะเบยี นแตล่ ะภาคการศึกษา ต้องไม่น้อยกวา่ ๖ หนว่ ยกิต และไม่เกิน ๑๕ หน่วยกติ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๐ ๑๗.๔ นสิ ติ ท่ลี งทะเบยี นลา่ ช้ากวา่ ท่ีกาหนด ต้องชาระคา่ ธรรมเนียมการศกึ ษาตามทีม่ หาวทิ ยาลัย กาหนด ๑๗.๕ นสิ ติ ท่ไี มล่ งทะเบยี นรายวชิ าในภาคการศึกษาใดตอ้ งลาพักการศกึ ษา ตามเงื่อนไขท่ีระบไุ ว้ในข้อ ๑๓ หากไมป่ ฏบิ ัตติ ามต้องพ้นสภาพการเป็นนสิ ิต ๑๗.๖ นิสติ ท่ไี ด้ศึกษารายวิชาครบตามหลกั สูตรแลว้ แตย่ งั ไม่สาเร็จการศึกษาต้องลง ทะเบียนรักษา สภาพการเป็นนสิ ิตทุกภาคการศึกษา ขอ้ ๑๘ อาจารยท์ ีป่ รึกษาทัว่ ไป นิสิตตอ้ งมีอาจารย์ทปี่ รึกษาทั่วไปหนึ่งทา่ นเปน็ ผู้แนะนาและช่วยวางแผนการศึกษาโดยคณบดบี ัณฑติ วิทยาลัย เป็นผแู้ ต่งตั้งจากอาจารย์ทม่ี ชี ื่อในทาเนยี บอาจารย์บัณฑิตวิทยาลยั ขอ้ ๑๙ การถอน เพ่มิ และเปล่ยี นรายวิชา ๑๙.๑ การถอนรายวชิ าจะกระทาไดภ้ ายใต้เงื่อนไข และมีผลสบื เนื่องดังต่อไปน้ี ๑๙.๑.๑ ในกรณีทข่ี อถอนภายใน ๑๔ วนั แรกของภาคการศึกษาปกตโิ ดยได้รบั ความเหน็ ชอบจาก อาจารย์ทีป่ รึกษาทว่ั ไป รายวิชาทีถ่ อนนั้นจะไม่ปรากฎในระเบยี น ๑๙.๑.๒ ในกรณีท่ีขอถอนหลังจาก ๑๔ วันของภาคการศึกษาปกติแต่ไม่เกิน ๓๐ วันแรกของภาค การศึกษาปกติ โดยไดร้ บั ความเห็นชอบจากอาจารยท์ ี่ปรึกษาท่ัวไป นิสติ จะไดร้ ับ w ในรายวชิ าทถ่ี อน ๑๙.๑.๓ ถา้ นสิ ิตขอถอนรายวชิ าใด เมือ่ พน้ กาหนดตามข้อ ๑๙.๑.๒ นิสติ จะได้ F ในรายวิชานั้น เว้น แต่กรณีทมี่ เี หตุผลพเิ ศษซึ่งคณะกรรมการประจาบัณฑติ วิทยาลัยเหน็ สมควรอนุมัตใิ หถ้ อนได้ ในกรณเี ช่นน้นี ิสติ จะได้ w ในรายวิชานน้ั ๑๙.๒ การเพมิ่ หรือเปลีย่ นรายวชิ า ให้กระทาไดภ้ ายใน ๑๔ วนั แรกของภาคการศึกษาปกติโดยไดร้ บั ความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรกึ ษาทัว่ ไป และหากพน้ กาหนดน้ีตอ้ งไปรับอนุมัตจิ ากคณบดบี ณั ฑิตวิทยาลยั ทัง้ นี้ นสิ ติ ผูน้ ้นั จะตอ้ งมีเวลาศึกษาต่อไปไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาการศกึ ษาทั้งหมดในภาคการศึกษาน้ัน หมวดที่ ๔ การวดั ผลและประเมินผลการศึกษา ขอ้ ๒๐ การวดั ผลการศึกษา ๒๐.๑ ให้มีการวัดผลการศกึ ษาทุกรายวชิ าท่นี ิสิตลงทะเบยี นในแต่ละภาคการศึกษา โดยอาจทาการ วดั ผลระหวา่ งภาคด้วยวธิ กี ารทดสอบ การเขยี นรายงานการมอบหมายงานใหท้ าหรอื วิธีอน่ื ใดท่ีเหมาะสมกับรายวิชา น้ัน เม่ือสิน้ ภาคการศกึ ษา ใหม้ กี ารสอบไล่สาหรับแตล่ ะรายวิชาท่ีศกึ ษาในภาคการศกึ ษานนั้ หรือจะใช้ วิธกี ารวัดผลอย่างอ่นื ทีเ่ หมาะสมกับลักษณะของวิชาน้ัน ๆ กไ็ ด้ บัณฑิตวทิ ยาลยั อาจกาหนดระเบยี บที่ไมข่ ัดกับข้อบงั คบั น้ี เพอื่ ใชใ้ นการวดั ผลตามความเหมาะสมของ แต่ละสาขาวิชาหรือรายวชิ าก็ได้ หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๑ ๒๐.๒ เมื่อสิ้นภาคการศกึ ษาแต่ละภาค นิสติ จะมีสิทธเิ ข้าสอบไล่หรือไดร้ ับการวดั ผลในรายวชิ าใดก็ ต่อเม่ือมีเวลาศึกษาในรายวิชานัน้ มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาการศึกษาท้ังหมด ในภาคการศึกษานน้ั และ/หรอื มผี ลการทดสอบระหว่างภาคการศึกษาหรืองานท่ีไดร้ บั มอบหมายเป็นทพี่ อใจของอาจารยป์ ระจาวิชา ขอ้ ๒๑ การประเมนิ ผลการศึกษา ๒๑.๑ ระบบการประเมนิ ผลการศึกษารายวชิ าของบณั ฑิตวิทยาลยั ใช้เพยี ง ๖ ระดับ มผี ลการศึกษา ระดับและคา่ ระดับดงั น้ี ผลการศึกษา ระดับ ค่าระดบั ดเี ยี่ยม (Excellent) A ๔.๐ ดีมาก (Very good) B+ ๓.๕ ดี (Good) B ๓.๐ ค่อนข้างดี (Very Fair) C+ ๒.๕ พอใช้ (Fair) C ๒.๐ ตก (Failed) F๐ ๒๑.๒ ในรายวชิ าใดทห่ี ลกั สูตรกาหนดให้เปน็ รายวิชาท่ไี มน่ บั หน่วยกิต ให้แสดงผลการ ศกึ ษาใน รายวิชาน้ันดว้ ยสัญลักษณ์ดงั น้ี สญั ลกั ษณ์ ผลการศึกษา S (Satisfactory) เป็นท่พี อใจ U (Unsatisfactory) ไมเ่ ป็นท่ีพอใจ ๒๑.๓ ในรายวชิ าใดยงั ไม่ไดท้ าการวัดผลหรือไม่มีการวดั ผล ให้รายงานการศกึ ษารายวชิ านั้นดว้ ย สญั ลักษณ์อยา่ งใดอย่างหน่ึง ดังตอ่ ไปน้ี สญั ลกั ษณ์ สภาพการศกึ ษา I (Incomplete) ไม่สมบรู ณ์ SP (Satisfactory Progress) ก้าวหน้าเปน็ ท่ีนา่ พอใจ UP (Unsatisfactory Progress) ไมก่ ้าวหน้าเป็นที่นา่ พอใจ W (Withdrawn) ถอนรายช่อื วิชาที่ศึกษา Au (Audit) ศกึ ษาโดยไม่นับหนว่ ยกิต ๒๑.๔ การประเมนิ ผลวทิ ยานพิ นธ์ ๒๑.๔.๑ ใหใ้ ช้ IP (In Progress) สาหรับวทิ ยานิพนธท์ ีอ่ ยู่ระหว่างการเรยี บเรยี ง ๒๑.๔.๒ การประเมนิ ผลวิทยานิพนธ์ทเ่ี รยี บเรยี งเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ให้กาหนดเป็น ๔ ระดบั ดงั นี้ ผลการศึกษา ระดบั ดเี ยยี่ ม (Excellent) A ดี (Good) B+ ผ่าน (Passed) B ตก (Failed) F ๒๑.๕ การให้ F ใหก้ ระทาในกรณีใดกรณีหน่ึงดังตอ่ ไปนี้ หลักสูตรครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๒ ๒๑.๕.๑ นิสิตขอถอนรายวชิ า เมื่อพน้ กาหนดตามข้อ ๑๙.๑.๓ ๒๑.๕.๒ นิสติ เขา้ สอบและสอบตกตามข้อ ๒๐.๑ ๒๑.๕.๓ นสิ ิตไม่มีสิทธเิ ข้าสอบตามข้อ ๒๐.๒ ๒๑.๕.๔ นสิ ิตไม่แก้คา่ I ตามขอ้ ๒๑.๖.๒ วรรคสุดท้าย ๒๑.๕.๕ นสิ ติ ทาผดิ ระเบียบการสอบไล่และได้รบั การตัดสินให้สอบตก ๒๑.๖ การให้ I จะกระทาได้ในกรณใี ดกรณหี น่ึงดังตอ่ ไปนี้ ๒๑.๖.๑ นิสิตมีเวลาเรียนในรายวิชาไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ แต่มิไดส้ อบเพราะปว่ ยหรอื เหตุ สดุ วสิ ัย และได้รับอนมุ ัตจิ ากคณบดีบณั ฑิตวทิ ยาลัย ๒๑.๖.๒ อาจารยป์ ระจาวิชาและคณบดีบณั ฑิตวิทยาลัย เห็นสมควรให้รอผลการศึกษาเพราะ นสิ ติ ยงั ปฏบิ ัติงาน ซึ่งเปน็ ส่วนประกอบการศึกษารายวชิ าน้ันยงั ไม่สมบูรณ์ การแก้ค่า I นิสิตจะต้องสอบและ/หรือปฏบิ ัตงิ านท่ีไดร้ บั มอบหมายจากอาจารยป์ ระจาวิชาใหค้ รบถ้วน เพ่อื ให้อาจารยป์ ระจาวชิ าวดั ผล และสง่ ผลการศกึ ษาของนิสิตผู้นน้ั แกบ่ ณั ฑิตวทิ ยาลยั ภายในภาคการศึกษาถดั ไป ๒๑.๗ การให้ S จะกระทาไดใ้ นกรณีใดกรณหี น่งึ ดังต่อไปน้ี ๒๑.๗.๑ รายวิชาซึง่ มผี ลการศึกษาเปน็ ท่พี อใจ และหลักสูตรกาหนดให้วดั ผลการศึกษาโดยไม่มี ค่าระดับ ๒๑.๗.๒ รายวิชาซง่ึ นิสติ ได้ลงทะเบียนศึกษาในระดบั บัณฑิตวิทยาลัย และได้รับอนมุ ตั ิใหโ้ อน หน่วยกิตตามข้อ ๑๒ ๒๑.๘ การให้ U จะกระทาได้เฉพาะในรายวชิ าทห่ี ลักสตู รกาหนดวา่ ใหว้ ัดผลโดยไม่มีค่าระดับและมผี ล การศึกษาไมเ่ ป็นที่พอใจ ๒๑.๙ การให้ IP จะกระทาเพื่อแสดงฐานะของวิทยานิพนธท์ อี่ ยใู่ นระหว่างการเรยี บเรียงเมื่อสน้ิ ภาค การศกึ ษาปกติทุกภาค นับแต่ภาคทีน่ สิ ติ ลงทะเบยี นเพื่อทาวทิ ยานิพนธ์ ๒๑.๑๐ การให้ W จะกระทาได้เฉพาะในกรณที ี่ไดร้ ะบไุ วใ้ นขอ้ ๑๓ ขอ้ ๑๙.๑.๒ และข้อ ๑๙.๑.๓ ๒๑.๑๑ การให้ Au ในรายวิชาใดจะกระทาได้ในกรณที ีน่ สิ ติ ไดร้ ับอนุมตั ใิ ห้ลงทะเบียนเรยี นเป็นพเิ ศษ โดยไมน่ บั หนว่ ยกิต ๒๑.๑๒ การให้ SP จะให้เฉพาะกรณีทีเ่ ป็นรายวิชาตอ่ เนื่องกับรายวิชาในภาคการ ศึกษาถัดไป และผล การศึกษาเม่ือสน้ิ ภาคการศกึ ษากา้ วหน้าเป็นท่นี ่าพอใจ แต่ยังมไิ ด้วัดผล การวัดผลใหก้ ระทาเมื่อนสิ ติ ไดศ้ ึกษารายวชิ าต่อเนื่องในภาคการศึกษาถดั ไปตามหลกั สตู รแล้ว แต่ถ้า นสิ ิตไม่ศึกษารายวิชาต่อเนอ่ื งในภาคการศึกษาถดั ไปดว้ ยเหตุใดก็ตามให้ทาการวัดผล รายวิชาที่ได้ SP เปน็ ระดบั และใช้ผลนัน้ แทน ๒๑.๑๓ การให้ UP จะให้เฉพาะกรณีที่เป็นรายวชิ าตอ่ เนือ่ งกบั รายวิชาในภาคการ ศึกษาถัดไป และ ผลการศกึ ษาไม่กา้ วหนา้ เป็นที่นา่ พอใจแตย่ งั มิไดว้ ัดผล การวดั ผลใหก้ ระทาเมื่อนิสติ ได้ศกึ ษารายวิชาตอ่ เน่ืองในภาคการศึกษาถัดไป ตามหลัก สตู รแล้ว แตถ่ ้า นิสิตไมศ่ ึกษารายวิชาต่อเนอ่ื งในภาคการศึกษาถัดไปด้วยเหตใุ ดก็ตาม ใหท้ าการวัดผลรายวิชาท่ีได้ UP นั้นเปน็ ระดบั และใชผ้ ลนนั้ แทน ข้อ ๒๒ การนบั หน่วยกติ และการลงทะเบียนรายวิชาซ้า หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๓ ๒๒.๑ การนับหนว่ ยให้ครบหลกั สตู ร ใหน้ ับหนว่ ยกิตเฉพาะรายวชิ าที่นสิ ติ สอบได้ระดับ A, B, C หรือ S เทา่ นั้น เวน้ แต่รายวิชาทีห่ ลักสตู รกาหนดไว้เป็นวชิ าบังคับหรอื วิชาเอก ซ่ึงนิสติ ต้องได้ไมต่ ่ากวา่ B หรอื S ๒๒.๒ นสิ ติ ทีไ่ ด้ต่ากวา่ B หรอื ได้ U ในรายวิชาบังคับหรอื วิชาเอกต้องลงทะเบยี นศึกษารายวิชานน้ั อีก และสอบให้ไดร้ ะดบั ไม่ตา่ กวา่ B หรอื S แล้วแตก่ รณี ๒๒.๓ ในกรณีทีน่ ิสิตไดต้ า่ กวา่ B หรือได้ U ในวชิ าเลือก นสิ ิตมีสทิ ธลิ งทะเบียนรายวิชาเดิมหรืออาจ ลงทะเบยี นรายวชิ าอ่นื ในกลุม่ เดยี วกันได้ ๒๒.๔ ในกรณที ี่นิสติ ลงทะเบยี นรายวชิ าซา้ หรือแทนตามท่ีหลกั สตู รกาหนด การนับหนว่ ยกิตตามข้อ ๒๒.๑ นบั จานวนหนว่ ยกติ ได้เพียงครงั้ เดยี ว ขอ้ ๒๓ ใหม้ ีการประเมินผลการศึกษาเมอ่ื สิ้นภาคการศกึ ษาปกตทิ ุกภาค โดยคานวณหาค่าระดบั เฉลย่ี ประจา ภาคของรายวิชาทนี่ สิ ิตไดล้ งทะเบียนไวใ้ นภาคการศึกษานั้น และคานวณหาคา่ เฉล่ยี สะสมสาหรบั รายวชิ าทง้ั หมดทุก ภาคการศึกษา ตง้ั แตเ่ ร่มิ เข้าศึกษาจนถึงภาคการศึกษาปัจจุบนั ข้อ ๒๔ การคิดค่าระดับเฉลี่ยประจาภาค ให้คานวณโดยคณู คา่ ระดับของแต่ละรายวชิ าดว้ ยหนว่ ยกิตของ รายวชิ าน้นั แลว้ รวมผลคณู ของแต่ละรายวชิ าเขา้ ด้วยกัน และหารผลรวมนนั้ ดว้ ยจานวนหนว่ ยกิตทง้ั หมดที่ ลงทะเบยี นไว้ในภาคการศึกษาน้ัน โดยคิดทศนิยมสองตาแหนง่ ไมป่ ดั เศษ ขอ้ ๒๕ รายวิชาใดทม่ี รี ายงานผลการศึกษาเปน็ สญั ลักษณ์ I S U W และ Au ไมใ่ หน้ ารายวิชานน้ั มา คานวณหาคา่ ระดับเฉลี่ยตามขอ้ ๒๔ หมวดที่ ๕ การทาวทิ ยานิพนธ์ ข้อ ๒๖ ใหบ้ ณั ฑติ วิทยาลยั วางระเบียบวา่ ดว้ ยการทาวิทยานพิ นธ์และการสอบวิทยานิพนธ์ ข้อ ๒๗ การเสนอโครงรา่ งวทิ ยานพิ นธแ์ ละลงทะเบยี นทาวิทยานิพนธ์ มีหลักปฏิบัติดงั น้ี ๒๗.๑ ระดับปริญญาพุทธศาสตรมหาบณั ฑิต นิสติ ท่ีศึกษารายวชิ ามาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ภาคการศึกษา ปกติ และมีหน่วยกิตสะสมไมน่ ้อยกวา่ ๑๖ หนว่ ยกติ จึงจะมสี ิทธเ์ิ สนอโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์ เพ่อื ขออนมุ ัติ ลงทะเบียนทาวิทยานพิ นธ์ ๒๗.๒ ระดับปริญญาพุทธศาสตรดุษฎบี ัณฑิต นิสิตที่ศึกษารายวิชามาแลว้ ไมน้ ้อยกวา่ ๒ ภาค การศึกษาปกติ และมหี น่วยกิตสะสมไม่นอ้ ยกว่า ๑๒ หน่วยกิต จึงจะมีสิทธเิ์ สนอโครงรา่ งวทิ ยานิพนธ์ เพื่อขออนมุ ัติ ลงทะเบียนทาวิทยานิพนธ์ ๒๗.๓ นสิ ติ สามารถลงทะเบยี นวิทยานพิ นธไ์ ดห้ ลงั จากได้รับอนมุ ัติหัวขอ้ และโครงรา่ งวิทยานิพนธ์แลว้ ข้อ ๒๘ รูปแบบของวทิ ยานพิ นธใ์ หเ้ ป็นไปตามที่บัณฑิตวิทยาลยั กาหนด ขอ้ ๒๙ วิทยานพิ นธ์ซง่ึ ผา่ นการประเมินผลแล้ว ให้นบั เปน็ ส่วนหนง่ึ ของการศึกษา เพื่อรับปรญิ ญาพุทธศาสตร มหาบณั ฑติ หรือปรญิ ญาพุทธศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ การนาวิทยานิพนธ์ออกโฆษณาเผยแพร่ ต้องไดร้ บั อนมุ ัตจิ ากบณั ฑิตวิทยาลยั ก่อน หมวดที่ ๖ หลักสตู รครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๔ การสาเรจ็ การศกึ ษา ข้อ ๓๐ คณุ สมบตั ขิ องผู้สาเรจ็ การศึกษา ๓๐.๑ มเี วลาศึกษาไม่น้อยกว่าหรือไม่เกนิ กวา่ ที่กาหนดไว้ใน ขอ้ ๑๑.๑ และข้อ ๑๑.๒ ๓๐.๒ ไดศ้ ึกษารายวิชาต่างๆ ครบถ้วน และถกู ต้องตามเง่อื นไขที่กาหนดไวใ้ นหลกั สตู ร ๓๐.๓ ไดห้ นว่ ยกติ สะสมไม่น้อยกวา่ ทก่ี าหนดไวใ้ นหลักสตู ร ๓๐.๔ ได้ค่าระดับเฉลย่ี สะสมไมต่ า่ กวา่ ๓.๐๐ จากระบบ ๔ แต้ม ๓๐.๕ ได้ระดบั ไมต่ ่ากวา่ B ในรายวิชาบงั คบั และรายวิชาเอกทกุ วิชาและไดร้ ะดับ S ในกรณีที่ หลักสตู รกาหนดใหว้ ดั ผลเป็น S เปน็ U ๓๐.๖ สอบผา่ นการประเมนิ ผลวทิ ยานพิ นธ์ และส่งวิทยานิพนธฉ์ บบั สมบูรณ์ตามท่ีมหาวทิ ยาลัย กาหนด ข้อ ๓๑ คุณสมบัติของผู้มีสิทธริ บั ปรญิ ญา ๓๑.๑ มีคณุ สมบัติตามขอ้ ๓๐ ๓๑.๒ ไม่ติดคา้ งคา่ ธรรมเนยี มใดๆ ๓๑.๓ ไม่อย่รู ะหว่างการถกู ลงโทษใดๆ หมวดที่ ๗ ความประพฤตแิ ละวินัยนสิ ิต ขอ้ ๓๒ ในกรณีทน่ี ิสติ กระทาผิดเก่ยี วกบั การสอบ ต้องไดร้ ับโทษสถานใดสถานหนงึ่ ตามสมควรแกค่ วามผิด ดังน้ี ๓๒.๑ ภาคทัณฑ์ ๓๒.๒ ใหส้ อบตกรายวชิ าใดวิชาหนงึ่ หรือหลายรายวิชา ๓๒.๓ ใหส้ อบตกหมดทุกรายวชิ าในภาคการศึกษาน้นั ๓๒.๔ ใหพ้ ักการศึกษาต้ังแต่ ๑ ภาคการศกึ ษา ถงึ ๓ ภาคการศึกษาแล้วแตก่ รณี ๓๒.๕ ใหพ้ น้ สภาพการเป็นนิสติ ข้อ ๓๓ นสิ ติ ตอ้ งมีความประพฤตเิ รียบรอ้ ยดีงาม ในกรณีท่นี สิ ติ กระทาผิดข้อบังคบั ระเบยี บ คาสัง่ หรือ ประกาศของบณั ฑิตวิทยาลยั หรือมหาวทิ ยาลยั และได้รบั โทษนอกจากทีร่ ะบุไว้แล้วใน ข้อ ๓๒ นิสติ ตอ้ งได้รบั โทษ สถานใดสถานหนึ่งตามสมควรแกค่ วามผิดดงั นี้ ๓๓.๑ ชดใชค้ ่าเสยี หาย ๓๓.๒ ระงบั การให้ปรญิ ญามีกาหนดไมเ่ กิน ๓ ปกี ารศกึ ษา ๓๓.๓ ระงับการออกใบแสดงผลการศกึ ษามกี าหนดไมเ่ กนิ ๓ ปีการศึกษา ขอ้ ๓๔ ให้คณะกรรมการประจาบณั ฑิตวทิ ยาลัย เป็นผู้พจิ ารณาลงโทษนิสิตที่มีความประพฤติเสยี หายหรือ กระทาผิดตา่ ง ๆ ตามเกณฑท์ ี่ระบไุ ว้ในข้อ ๓๒ และข้อ ๓๓ ตามสมควรแก่กรณี เฉพาะกรณีทน่ี สิ ติ กระทาผดิ ระเบียบการสอบทุกประเภทของบัณฑติ วิทยาลัยใหค้ ณะกรรมการประจาบณั ฑิต วทิ ยาลัยรว่ มกบั กรรมการควบคมุ การสอบ เป็นผพู้ จิ ารณาลงโทษตามสมควรแก่กรณตี ามเกณฑ์ที่ระบไุ วใ้ นขอ้ ๓๒ หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๕ บทเฉพาะกาล ข้อ ๓๕ ใหใ้ ชข้ อ้ บังคับนกี้ บั นสิ ติ ระดับบัณฑติ ศึกษา ดังต่อไปนี้ ๓๕.๑ นสิ ติ ท่เี ขา้ ศึกษาตามหลักสตู รปรญิ ญามหาบัณฑิต ก่อนปีการศึกษา ๒๕๔๒ ยังคงปฏิบตั ิตาม ข้อบงั คบั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัยในพระบรมราชูปถมั ภ์ วา่ ดว้ ยการศึกษาระดบั ปรญิ ญาโท พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๐ ๓๕.๒ นิสติ ท่ีเขา้ ศึกษาตามหลกั สตู รระดับบัณฑติ ศึกษา ตง้ั แต่ปีการศึกษา ๒๕๔๒ เปน็ ต้นไป ให้ ปฏบิ ัตติ ามข้อบังคับน้ี ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๔ กนั ยายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๑ พระสุเมธาธบิ ดี (พระสุเมธาธิบด)ี นายกสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพทุ ธบรหิ ารการศึกษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๖ ข้อบังคบั มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศกึ ษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๒) แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ พ.ศ.๒๕๔๘ *************** อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบญั ญัตมิ หาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั พ.ศ. ๒๕๔๐ และมตสิ ภามหาวิทยาลยั ในคราวประชุมคร้ังท่ี ๔/๒๕๔๘ เม่อื วันพฤหัสบดีท่ี ๒๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๘ จงึ มี มตใิ ห้แก้ไขเพ่ิมเตมิ ข้อบงั คับมหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วา่ ดว้ ยการศกึ ษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๑ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ขอ้ บังคับนี้เรยี กว่า “ขอ้ บงั คบั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วา่ ดว้ ยการศกึ ษาระดบั บณั ฑิตศึกษา พทุ ธศักราช ๒๕๔๑ แกไ้ ขเพ่ิมเติม พุทธศักราช ๒๕๔๘” ข้อ ๒ ใหย้ กเลิกข้อความในข้อ ๑๐.๑ และให้ใช้ข้อความต่อไปน้ีแทน “ขอ้ ๑๐.๑ หลกั สูตรปริญญาพทุ ธศาสตรมหาบณั ฑิต ใหศ้ กึ ษารายวิชาไม่น้อยกว่า ๒๖ หนว่ ยกิต และ วทิ ยานิพนธ์ ๑๒ หน่วยกติ จาแนกประเภทดังนี้ วิชาบงั คับ ไม่น้อยกว่า ๘ หน่วยกิต วิชาเอก ไมน่ ้อยกวา่ ๑๒ หน่วยกิต วชิ าเลอื ก ไมน่ อ้ ยกว่า ๖ หน่วยกติ วทิ ยานพิ นธ์ ๑๒ หน่วยกิต รวมทง้ั สน้ิ ไมน่ ้อยกวา่ ๓๘ หน่วยกิต ประกาศ ณ วนั ท่ี ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๔๘ พระราชรัตนโมลี (พระราชรัตนโมลี) อปุ นายกสภามหาวิทยาลัย ทาหน้าทแ่ี ทน นายกสภามหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๗ ขอ้ บังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศกึ ษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๓) แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ.๒๕๔๙ ------------------------- เพอ่ื ใหก้ ารบริหารจดั การเกี่ยวกับการศึกษาระดบั บัณฑติ ศึกษา ของมหาวิทยาลยั ดาเนินไปด้วยความเรียบรอ้ ย มีประสิทธภิ าพ และบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ตามนโยบายของมหาวิทยาลยั อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบญั ญัตมิ หาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั พ.ศ. ๒๕๔๐ และมตสิ ภามหาวทิ ยาลัย ในคราวประชมุ ครั้งที่ ๕/๒๕๔๙ เมอ่ื วนั ศุกร์ท่ี ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๙ จงึ ให้ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ข้อบังคับมหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ว่าดว้ ยการศกึ ษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ ดงั ตอ่ ไปน้ี ข้อ ๑ คุณสมบตั ิของผูเ้ ข้าศึกษาระดบั ประกาศนยี บัตรบัณฑิตและมหาบณั ฑิต ๖.๑ ผูส้ มคั รเขา้ ศึกษาระดับประกาศนยี บตั รบณั ฑติ ๖.๑.๑ ต้องเป็นผสู้ าเรจ็ การศึกษาระดับปรญิ ญาตรหี รอื เทียบเท่าจากมหาวิทยาลัยหรือ สถาบันการศึกษาท่ีสภามหาวทิ ยาลัยรบั รอง และ ๖.๑.๒ ไม่เคยถูกลงโทษให้พ้นสภาพการเป็นนิสติ บณั ฑิตวิทยาลยั ๖.๒ ผ้สู มคั รเขา้ ศึกษาระดับมหาบัณฑติ ๖.๒.๑ ตอ้ งเป็นผู้สาเร็จการศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรหี รือเทียบเท่าจากมหาวทิ ยาลัยหรือ สถาบันการศึกษาท่ีสภามหาวิทยาลัยรับรอง ๖.๒.๒ ต้องไดร้ ับค่าระดบั เฉลย่ี สะสมในระดับปริญญาตรีไมต่ า่ กว่า ๒.๕๐ จากระบบ ๔ แต้ม ยกเว้นผมู้ ปี ระสบการณ์การทางานติดตอ่ กนั เปน็ เวลาไม่น้อยกว่า ๒ ปี นับแต่สาเร็จการศึกษาและผูจ้ บเปรยี ญธรรม เก้าประโยค และ ๖.๒.๓ ไม่เคยถูกลงโทษให้พน้ สภาพการเป็นนิสติ บณั ฑติ วิทยาลยั ข้อ ๗ ผู้สมคั รเข้าศกึ ษาระดับดุษฎีบัณฑิต ๗.๑ ระดับดุษฎีบณั ฑติ แบบ ๑.๑ และแบบ ๒.๑ ๗.๑.๑ ตอ้ งเป็นผู้สาเร็จการศกึ ษาระดับปริญญาโทหรอื เทียบเท่าจากมหาวิทยาลยั หรือ สถาบันการศึกษาทส่ี ภามหาวทิ ยาลัยรบั รอง ๗.๑.๒ ตอ้ งได้ค่าระดับเฉล่ียสะสมในระดบั ปริญญาโทไม่ต่ากวา่ ๓.๕๐ ระบบ ๔ แตม้ ยกเวน้ ผมู้ ี ประสบการณ์การทางานตดิ ต่อกันเปน็ เวลาไมน่ อ้ ยกวา่ ๒ ปี นับแตว่ นั สาเร็จการศกึ ษาหรือมีผลงานทางวิชาการท่ี คณะกรรมการประจาบัณฑิตวทิ ยาลยั เห็นชอบ และ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศึกษา (หลกั สูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๘ ๗.๑.๓ ไม่เคยถกู ลงโทษใหพ้ น้ สภาพการเปน็ นสิ ติ บัณฑิตวทิ ยาลยั ๗.๒ ระดับดุษฎบี ณั ฑติ แบบ ๑.๒ และแบบ ๒.๒ ๗.๒.๑ ต้องเปน็ ผสู้ าเร็จการศึกษาระดบั ปริญญาตรีหรือเทยี บเทา่ จากมหาวิทยาลยั หรอื สถาบนั การศึกษาทสี่ ภามหาวทิ ยาลัยรบั รองหรือเปรียญธรรมเกา้ ประโยค ซ่ึงบัณฑติ วทิ ยาลยั อนมุ ัติใหเ้ ข้าศึกษาเปน็ กรณีพิเศษ ๗.๒.๒ ตอ้ งได้คา่ ระดบั เฉลี่ยสะสมในระดบั ปรญิ ญาตรีไมต่ ่ากวา่ ๓.๒๕ จากระบบ ๔ แต้ม ยกเว้น ผ้มู ีประสบการณ์การทางานติดต่อกนั เปน็ เวลาไมน่ ้อยกวา่ ๒ ปี นับแตส่ าเรจ็ การศกึ ษาและผู้จบเปรยี ญธรรมเก้า ประโยค ๗.๒.๓ ไม่เคยถกู ลงโทษใหพ้ ้นสภาพการเป็นนิสิตบัณฑิตวิทยาลัย ข้อ ๓ ใหย้ กเลิกข้อความในข้อ ๙ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย ว่าดว้ ยการศึกษา ระดับบัณฑติ ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ และใหใ้ ช้ขอ้ ความต่อไปนี้แทน ข้อ ๙ การศึกษาในบณั ฑติ วทิ ยาลัยใช้ระบบทวภิ าคหรือไตรภาค ตามที่กาหนดไว้ในหลกั สูตรแต่ละสาขาวชิ า ระบบทวิภาค ๑ ปี การศึกษาแบง่ ออกเปน็ ๒ ภาคการศึกษาปกติ ๑ ภาคการศึกษาปกติ มรี ะยะเวลา ศึกษาไมน่ ้อยกว่า ๑๕ สัปดาห์ และอาจจดั การศึกษาภาคฤดรู อ้ นได้อีก ๑ ภาค มีระยะเวลาศกึ ษาไมน่ อ้ ยกว่า ๖ สัปดาห์ และจะกาหนดระเบียบวา่ ดว้ ยการศึกษาภาคฤดูรอ้ น ท่ีไม่ขัดกบั ข้อบังคบั นโ้ี ดยความเห็นชอบของ คณะกรรมการประจาบัณฑิตวิทยาลยั ก็ได้ ระบบไตรภาค ๑ ปี การศกึ ษาแบ่งออกเปน็ ๓ ภาคการศึกษาปกติ ๑ ภาคการศกึ ษาปกติ มรี ะยะเวลา ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๒ สปั ดาห์ ขอ้ ๔ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๑๐ แห่งข้อบังคับมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ดว้ ยการศกึ ษา ระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ.๒๕๔๘ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๑๐ หลกั สตู ร ๑๐.๑ หลกั สูตรประกาศนียบัตรบัณฑติ ๑๐.๒ หลักสตู รระดบั มหาบัณฑิต แผน ก แบบ ก (๑) และ แผน ก (๒) ๑๐.๓ หลักสตู รระดับมหาบณั ฑิต แผน ข ๑๐.๔ หลักสตู รระดบั ดษุ ฎบี ัณฑติ แบบ ๑ และแบบ ๒ โครงสรา้ งของแต่ละหลกั สูตร การศึกษารายวชิ าและการทาวิทยานิพนธต์ ามจานวนหนว่ ยกิต ให้ เป็นไปตามประกาศของมหาวทิ ยาลยั ข้อ ๕ ระยะเวลาการศึกษาตามหลกั สตู ร ๑๑.๑ หลักสูตรประกาศนียบัตร ใหม้ รี ะยะเวลาศึกษาไมน่ ้อยกวา่ ๒ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๔ ภาคการศึกษาปกติ ในระบบทวิภาคหรือให้มีระยะเวลาไมน่ ้อยกวา่ ๓ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกนิ ๖ ภาค การศึกษาปกติในระบบไตรภาค ๑๑.๒ หลกั สูตรระดับมหาบัณฑติ ให้มรี ะยะเวลาศึกษาไม่นอ้ ยกวา่ ๔ ภาคการศกึ ษาปกติ และไมเ่ กนิ ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ ในระบบทวภิ าคหรอื ให้มรี ะยะเวลาไมน่ ้อยกวา่ ๔ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๑๕ ภาค การศึกษาปกตใิ นระบบไตรภาค หลกั สูตรครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพุทธบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๗๙ ๑๑.๓ หลกั สตู รระดับดษุ ฎบี ัณฑิต แบบ ๑.๑ และ ๒.๑ ให้มรี ะยะเวลาศึกษามนี ้อยกวา่ ๖ ภาค การศกึ ษาปกติ และไมเ่ กนิ ๑๐ ภาคการศึกษาปกติ ในระบบทวภิ าคหรือใหม้ ีระยะเวลาไมน่ ้อยกว่า ๖ ภาคการศกึ ษา ปกติ และไม่เกนิ ๑๕ ภาคการศกึ ษาปกตใิ นระบบไตรภาค ๑๑.๔ หลักสตู รระดับดษุ ฎีบณั ฑติ แบบ ๑.๒ และ ๒.๒ ใหม้ ีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกวา่ ๘ ภาค การศึกษาปกติ และไม่เกิน ๑๔ ภาคการศึกษาปกติ ในระบบทวิภาคหรอื ให้มรี ะยะเวลาไม่นอ้ ยกว่า ๘ ภาคการศึกษา ปกติ และไม่เกนิ ๒๑ ภาคการศึกษาปกติในระบบไตรภาค ในกรณีท่นี สิ ติ ไม่สามารถสาเร็จการศึกษาในระยะเวลาตามท่ีกาหนด คณะกรรมการประจาบณั ฑิตวทิ ยาลัย อาจอนมุ ัติใหต้ ่ออายสุ ภาพนิสิตได้อีก แตท่ ั้งนี้ต้องไม่เกิน ๒ ภาคการศึกษาปกติ ๑๑.๕ การนับเวลาในข้อ ๑๑ ใหน้ ับรวมเวลาท่นี ิสติ ไดร้ ับอนุมัติให้ลาพกั การศึกษาดว้ ยยกเว้นนิสิตที่ ไดร้ บั อนุมัตใิ ห้ลาพักการศกึ ษาตามข้อ ๑๓.๑.๑ ขอ้ ๖ ให้ยกเลกิ ข้อความในขอ้ ๒๑.๑ แห่งข้อบังคับมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วา่ ดว้ ย การศกึ ษาระดบั บณั ฑติ ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ และให้ใชข้ ้อความต่อไปนี้แทน ขอ้ ๒๑.๑ ระบบการประเมินผลการศึกษารายวชิ าแบง่ เป็น ๗ ระดบั และค่าระดบั ดงั นี้ ระดับ A A- B+ B C+ C F ค่าระดบั ๔.๐๐ ๓.๖๗ ๓.๓๓ ๓.๐๐ ๒.๕๐ ๒.๐๐ ๐ ขอ้ ๗ ใหย้ กเลิกข้อความในข้อ ๒๗ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ว่าดว้ ยการศึกษา ระดบั บณั ฑติ ศึกษา พุทธศกั ราช ๒๕๔๑ และใหข้ ้อความต่อไปนีแ้ ทน ข้อ ๗ การเสนอโครงรา่ งวิทยานิพนธ์และลงทะเบียนทาวทิ ยานิพนธ์ มหี ลกั ปฏิบัตดิ ังนี้ ๒๗.๑ นสิ ติ หลกั สตู รระดับมหาบัณฑิต ท่ศี ึกษารายวิชามาแลว้ ไม่น้อยกวา่ ๑ ภาค ๒๗.๒ นิสติ หลักสูตรระดับดษุ ฎีบัณฑิต แบบ ๑ มีสทิ ธเ์ิ สนอโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์ เพ่อื ขออนุมตั ิ ลงทะเบียนทาวิทยานิพนธ์ หลงั จากขน้ึ ทะเบยี นเปน็ นิสิตแล้ว ๒๗.๓ นสิ ติ หลักสตู รระดบั ดษุ ฎบี ณั ฑิต แบบ ๒ ที่ศกึ ษารายวชิ ามาแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑ ภาคการศกึ ษา ปกติ และมีหนว่ ยกติ สะสมไม่นอ้ ยกว่า ๖ หน่วยกิต มสี ิทธิ์เสนอโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์ เพื่อขออนุมตั ิลงทะเบยี นทา วทิ ยานพิ นธ์ ๒๗.๔ นิสิตสามารถลงทะเบยี นวทิ ยานิพนธ์ได้ หลงั จากไดร้ บั อนุมัติหวั ข้อและโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์ แล้ว ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ กนั ยายน พทุ ธศักราช ๒๕๔๙ พระธรรมสธุ ี (พระธรรมสุธี) นายกสภามหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพุทธบริหารการศึกษา (หลกั สูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๐ ข้อบังคับมหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ดว้ ยการศกึ ษาระดบั บณั ฑิตศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๑ (ฉบบั ท่ี ๔) แก้ไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. ๒๕๕๓ *************** เพ่อื ใหก้ ารบริหารจัดการเกีย่ วกบั การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ของมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดาเนนิ ไปดว้ ยความเรียบร้อย มปี ระสิทธภิ าพ และบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัตมิ หาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และมตสิ ภามหาวิทยาลยั ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ เมอ่ื วนั พฤหัสบดีที่ ๑๘ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๓ จงึ แกไ้ ขเพิ่มเติมข้อบังคบั มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั ว่าด้วยการศกึ ษาระดบั บัณฑติ ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ ดงั ตอ่ ไปน้ี ขอ้ ๑ ขอ้ บังคบั นี้ เรียกว่า “ข้อบังคับมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าดว้ ยการศกึ ษาระดบั บณั ฑติ ศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๑ (ฉบับท่ี ๔) แก้ไขเพิม่ เติม พทุ ธศักราช ๒๕๕๓” ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบงั คับน้ีกบั นสิ ิตทร่ี ับเข้าศึกษา ตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๕๓ เปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ข้อความในข้อ ๓๐ แหง่ ขอ้ บังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ดว้ ย การศกึ ษาระดบั บัณฑิตศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๑ และให้ใช้ข้อความต่อไปน้ีแทน “ข้อ ๓๐ คุณสมบตั ขิ องผูส้ าเร็จการศกึ ษา ๓๐.๑ มีเวลาศกึ ษาไมน่ ้อยกว่าและไม่เกนิ กว่าที่กาหนดไวใ้ นข้อ ๑๑ ๓๐.๒ ไดศ้ ึกษารายวชิ าตา่ งๆ ครบถ้วนและถกู ต้องตามเงื่อนไขทีก่ าหนดไว้ในหลักสูตร ๓๐.๓ ไดห้ นว่ ยกิตสะสมไม่น้อยกวา่ ทกี่ าหนดไว้ในหลกั สูตร ๓๐.๔ ไดค้ า่ ระดับเฉล่ยี สะสมไม่ตา่ กวา่ ๓.๐๐ จากระบบ ๔ แตม้ ๓๐.๕ ไดร้ ะดบั ไม่ต่ากว่า B ในรายวชิ าบงั คบั และรายวิชาเอกทุกรายวชิ าและไดร้ ะดบั S ในกรณที ี่ หลกั สตู รกาหนดให้วดั ผลเปน็ S หรือ U ๓๐.๖ สอบผ่านการประเมินผลวิทยานิพนธ์และส่งวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ตามที่มหา วิทยาลัย กาหนด ๓๐.๗ วทิ ยานิพนธใ์ นหลักสตู รพุทธศาสตรมหาบณั ฑิต จะต้องไดร้ ับการตีพมิ พห์ รืออย่างนอ้ ย ดาเนนิ การให้ท้ังหมด หรือส่วนหน่ึงของวทิ ยานิพนธ์ได้รบั การยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสาร หรอื ส่ิงพิมพ์ทางวิชาการ หรอื เสนอต่อทปี่ ระชมุ วิชาการท่มี ีรายงานการประชุม (proceeding) หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๑ ๓๐.๘ วิทยานิพนธ์ในหลักสตู รพุทธศาสตรดษุ ฎีบณั ฑิต จะต้องไดร้ ับการตพี ิมพ์ หรืออย่างนอ้ ย ดาเนนิ การให้ท้ังหมดหรือสว่ นหนึ่งของวทิ ยานิพนธ์ได้รับการยอมรบั ใหต้ ีพมิ พใ์ นวารสารหรือสิ่งพมิ พ์ทางวชิ าการที่มี กรรมการภายนอกรว่ มกล่นั กรองก่อนการตีพิมพ์ (Peer-review) และเป็นทยี่ อมรับ” ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๖ มนี าคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ พระธรรมสธุ ี (พระธรรมสธุ ี) นายกสภามหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๒ ขอ้ บังคบั มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ (ฉบบั ท่ี ๕) แกไ้ ขเพิม่ เตมิ พ.ศ. ๒๕๕๓ *************** โดยที่เป็นการสมควรปรับปรงุ บางส่วนของข้อบังคับมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ว่าด้วย การศกึ ษาระดบั บณั ฑติ ศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๔) แกไ้ ขเพมิ่ เตมิ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ใหม้ คี วาม เหมาะสมมากยง่ิ ขึน้ อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบัญญัติมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และมตสิ ภามหาวิทยาลยั ในคราวประชมุ คร้งั ที่ ๔/๒๕๕๓ เม่ือวันพฤหัสบดี ท่ี ๑๗ มิถุนายน จึงออก ขอ้ บงั คับไว้ ดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ ข้อบังคบั นี้เรียกว่า “ขอ้ บงั คบั มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ว่าดว้ ยการศึกษาระดับ บณั ฑติ ศึกษา พทุ ธศักราช ๒๕๔๑ (ฉบบั ท่ี ๕) แก้ไขเพ่ิมเติม พุทธศักราช ๒๕๕๓” ข้อ ๒ ให้ใช้ข้อบงั คับนก้ี ับนิสิตเข้าศึกษา ตั้งแตป่ กี ารศกึ ษา ๒๕๕๓ เป็นตน้ ไป ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๒ แห่งขอ้ บังคบั มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย ว่าดว้ ยการศึกษา ระดบั บัณฑติ ศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๑ (ฉบับที่ ๔) แกไ้ ขเพ่ิมเติม พทุ ธศักราช ๒๕๕๓และใหใ้ ช้ข้อความต่อไปนี้ แทน “ข้อ ๒ ใหใ้ ชข้ ้อบังคับน้ีกับนสิ ิตทร่ี บั เขา้ ศึกษา ต้ังแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๙ เปน็ ตน้ ไป” ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๕ กรกฎาคม พทุ ธศักราช ๒๕๕๓ พระธรรมสธุ ี (พระธรรมสธุ )ี นายกสภามหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๓ ข้อบังคับมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วย การศึกษาระดับบณั ฑิตศกึ ษา พุทธศกั ราช ๒๕๔๑ (ฉบบั ท่ี ๖) แก้ไขเพ่มิ เตมิ พ.ศ. ๒๕๕๘ ----------------------- เพ่ือให้การบริหารจัดการเกี่ยวกับการศึกษาระดบั บัณฑติ ศึกษา ของมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดาเนินไปด้วยความเรียบรอ้ ย มปี ระสิทธิภาพ และบรรลวุ ตั ถุประสงค์ตามนโยบายของมหาวทิ ยาลัย อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แห่งพระราชบญั ญตั ิมหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๐ และมติสภามหาวทิ ยาลยั ในคราวประชุมครั้งที่ ๘/๒๕๕๘ วนั พฤหัสบดีท่ี ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๘ จึง แก้ไขเพ่ิมเติมขอ้ บังคบั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ ดังต่อไปนี้ ขอ้ ๑ ข้อบังคับน้ีเรียกว่า “ข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศึกษาระดับ บณั ฑติ ศึกษา พุทธศกั ราช ๒๕๔๑ (ฉบบั ที่ ๖) แกไ้ ขเพิม่ เตมิ พ.ศ. ๒๕๕๘” ข้อ ๒ ใหใ้ ชข้ ้อบงั คับน้ีตัง้ แต่วนั ถดั จากวนั ประกาศเปน็ ต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อความใน ข้อ ๑๑ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วย การศกึ ษาระดับบณั ฑิตศกึ ษา พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๑ และใหใ้ ชข้ อ้ ความต่อไปนแ้ี ทน “ข้อ ๑๑ ระยะเวลาการศึกษาตามหลกั สตู รระดบั บัณฑิตศึกษา มดี ังน้ี ข้อ ๑๑.๑ หลกั สตู รประกาศนยี บัตรบัณฑติ ใหม้ ีระยะวเลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๒ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกนิ ๔ ภาคการศกึ ษาปกติ ในระบบทวิภาคหรือให้มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๓ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๖ ภาคการศกึ ษาปกติในระบบไตรภาค ข้อ ๑๑.๒ หลักสตู รระดบั มหาบัณฑิต ให้มีระยะวเลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๔ ภาคการศึกษาปกติ และ ไม่เกิน ๑๐ ภาคการศึกษาปกติในระบบทวิภาค หรือให้มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๖ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๑๕ ภาคการศกึ ษาปกตใิ นระบบไตรภาค ข้อ ๑๑.๓ หลกั สูตรระดบั ดุษฎบี ัณฑิต ผูส้ าเร็จการศกึ ษาดับปริญญาตรีแล้วเข้าศึกษาต่อระดับดุษฏี บณั ฑติ ให้มีระยะวเลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๔ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๑๖ ภาคการศึกษาปกติในระบบทวิภาค หรือใหม้ ีระยะเวลาไม่นอ้ ยกวา่ ๖ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกนิ ๒๔ ภาคการศึกษาปกตใิ นระบบไตรภาค ผู้สาเร็จการศึกษาดับปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อระดับดุษฏีบัณฑิต ให้มีระยะวเลาศึกษาไม่น้อย กว่า ๔ ภาคการศึกษาปกติ และไม่เกิน ๑๒ ภาคการศึกษาปกติในระบบทวิภาค หรือให้มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๖ ภาคการศกึ ษาปกติ และไมเ่ กิน ๑๘ ภาคการศกึ ษาปกตใิ นระบบไตรภาค ขอ้ ๑๑.๔ การนับเวลาในข้อ ๑๑ ให้นับรวมเวลาท่ีนิสิตได้รับอนุมัติให้ลาพักการศึกษาด้วย ยกเว้น นสิ ิตท่ไี ดร้ ับอนุมตั ิให้ลาพักการศกึ ษาตามข้อ ๑๓.๑.๑” หลักสตู รครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศึกษา (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๔ ข้อ ๔ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๒๙ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วย การศกึ ษาระดับบณั ฑิตศึกษา พุทธศักราช ๒๕๔๑ และให้ใชข้ ้อความตอ่ ไปนแี้ ทน “ข้อ ๒๙ วทิ ยานิพนธซ์ ่งึ สอบผา่ นการประเมินผลแลว้ ให้นับเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเพ่ือรับปริญญา ระดับมหาบณั ฑติ หรือปรญิ ญาระดับดษุ ฎบี ณั ฑติ การนาวิทยานิพนธ์ตามวรรคหน่ึงออกเผยแพรโ่ ฆษณาต้องได้รบั อนุมัติจากบัณฑิตวทิ ยาลยั ก่อน ข้อ ๕ ยกเลิกข้อความในข้อ ๒๙ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วย การศึกษาระดบั บัณฑติ ศกึ ษา พทุ ธศักราช ๒๕๔๑ (ฉบับท่ี ๔) แก้ไขเพ่ิมเติม พ.ศ. ๒๕๕๓ และให้ใช้ข้อความต่อไปน้ี แทน “ข้อ ๓๐ คุณสมบัตขิ องผู้สาเรจ็ การศึกษา ๓๐.๑ มเี วลาศกึ ษาไม่น้อยกวา่ และไมเ่ กนิ กว่าทีก่ าหนดไวใ้ นข้อ ๑๑ ๓๐.๒ ไดศ้ กึ ษารายวชิ าตา่ งๆ ครบถ้วนและถกู ตอ้ งตามเงื่อนไขทกี่ าหนดไว้ในหลักสูตร ๓๐.๓ ได้หน่วยกิตสะสมไม่นอ้ ยกวา่ ทกี่ าหนดไวใ้ นหลักสตู ร ๓๐.๔ ไดค้ า่ เฉล่ียสะสมไม่ตา่ กว่า ๓.๐๐ จากระดบั ๔ แตม้ ๓๐.๕ ได้ระดับไม่ต่ากว่า B ในวิชาบังคับและรายวิชาเอกทุกรายวิชา และได้ระดับ S ในกรณีท่ี หลกั สตู รกาหนดให้วดั ผลเปน็ S หรือ U ๓๐.๖ นิสิตหลักสูตรระดับมหาบัณฑิต แผน ก สอบผ่านการประเมินผลวิทยานิพนธ์ และส่ง วิทยานิพนธฉ์ บับสมบูรณ์ ตามทีม่ หาวิทยาลยั กาหนด ๓๐.๗ นิสิตหลักสูตรระดับมหาบัณฑิต แผน ข สอบผ่านการประมวลความรู้ สอบผ่านการ ประเมินผลสารนิพนธ์ และสง่ สารนิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ ตามทม่ี หาวทิ ยาลยั กาหนด ๓๐.๘ วิทยานพิ นธ์ในหลักสตู รระดบั มหาบัณฑิต จะต้องได้รับการตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดาเนินการ ให้ทงั้ หมด หอื สว่ นหน่งึ ของวิทยานิพนธไ์ ดร้ บั การยอมรับให้ตพี มิ พ์ในวารสารหรือส่ิงพิมพ์ทางวิชาการ หรือเสนอต่อที่ ประชุมวชิ าการทมี่ รี ายงานการประชุม (Proceeding) ๓๐.๙ วิทยานิพนธ์ในหลกั สูตรระดับดุษฎีบัณฑิต จะตอ้ งได้รบั การตีพิมพ์ หรืออย่างน้อยดาเนินการ ให้ทั้งหมด หรือส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งพิมพ์ทางวิชาการท่ีมีกรรมการ ภายนอกรว่ มกล่นั กรองกอ่ นการตพี ิมพ์ (Peer review) และเป็นท่ียอมรับ” ข้อ ๖ ให้ยกเลิกข้อความในข้อ ๓๒ แห่งข้อบังคับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วย การศึกษาระดบั บัณฑิตศึกษา พุทธศกั ราช ๒๕๔๑ และใหใ้ ชข้ อ้ ความตอ่ ไปน้แี ทน “ข้อ ๓๒ ให้กรณีท่นี สิ ิตกระทาผิดเกี่ยวกับการสอบหรือความผิดอ่ืนๆ ต้องได้รับโทษสถานใดสถานหน่ึง ตามสมควรแกค่ วามผิด ดงั น้ี ๓๒.๑ ภาคทัณฑ์ ๓๒.๒ ให้สอบตกรายวชิ าใดวิชาหนึ่ง หรอื หลายวชิ า ๓๒.๓ ใหส้ อบตกหมดทุกรายวฃิ าในภาคการศึกษานัน้ ๓๒.๔ ให้พักการศึกษาต้งั แต่ ๑ ภาคการศึกษา ถงึ ๓ ภาคกาศกึ ษาแล้วแตก่ รณี ๓๒.๕ ให้พน้ สภาพการเปน็ นสิ ติ ” หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๕ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ พระธรรมสธุ ี (พระธรรมสธุ ี) นายกสภามหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพุทธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๖ ขอ้ บังคบั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าดว้ ยคณะกรรมการประจาบัณฑิตวิทยาลัยและคณะกรรมการประจาคณะ พ.ศ.๒๕๔๑ *************** เพือ่ อนวุ ตั ให้เป็นไปตามความในมาตรา ๓๕ แหง่ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.๒๕๔๐ จึงเหน็ สมควรออกข้อบังคับมหาวิทยาลัยวา่ ด้วยคณะกรรมการประจาบณั ฑิตวิทยาลยั และ คณะกรรมการประจาคณะ อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แหง่ พระราชบญั ญตั ิมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั พ.ศ. ๒๕๔๐ สภามหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในคราวประชมุ ครง้ั ที่ ๘ /๒๕๔๑ เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑ จึงมีมติให้ออกบังคบั ไวด้ ังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ข้อบงั คับนเี้ รยี กวา่ “ข้อบังคบั มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ด้วยคณะกรรมการประจา บัณฑิตวิทยาลัยและคณะกรรมการประจาคณะ พ.ศ.๒๕๔๑” ข้อ ๒ ใหใ้ ชข้ อ้ บังคบั นี้ตั้งแตว่ ันถัดจากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป ข้อ ๓ บรรดากฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ขอ้ กาหนด คาสง่ั หรือประกาศอน่ื ใดซึ่งขัดหรือแย้งกับข้อบงั คบั น้ี ใหใ้ ช้ ขอ้ บงั คับนแ้ี ทน ขอ้ ๔ ใหม้ คี ณะกรรมการประจาบัณฑติ วทิ ยาลัย ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการ ไดแ้ ก่ คณบดี (๒) รองประธานกรรมการ ได้แก่ รองคณบดีซึง่ เปน็ พระภิกษุ (๓) กรรมการผูเ้ ป็นคณาจารย์ประจาบัณฑิตวิทยาลัยจานวนสี่รูป หรือผู้ทอี่ ธิการบดีแตง่ ตัง้ โดย คาแนะนาของคณบดี (๔) กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ จิ านวนไม่เกนิ หา้ รปู หรือคนท่อี ธกิ ารบดีแต่งตั้ง โดยคา แนะนาของคณบดี (๕) กรรมการและเลขานุการ ได้แก่ เลขานุการบัณฑิตวทิ ยาลยั ข้อ ๕ ใหม้ คี ณะกรรมการประจาคณะ ประกอบด้วย (๑) ประธานกรรมการ ไดแ้ ก่ คณบดี (๒) รองประธานกรรมการ ไดแ้ ก่ รองคณบดซี ึ่งเป็นพระภิกษุ (๓) กรรมการโดยตาแหนง่ ไดแ้ ก่ หัวหน้าภาควชิ า (๔) กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ จิ านวนไมเ่ กินห้ารูปหรือคนทีอ่ ธกิ ารบดีแตง่ ตัง้ โดยคา แนะนาของคณบดี (๕) กรรมการและเลขานุการ ได้แก่ เลขานุการประจาคณะ ข้อ ๖ คณะกรรมการประจาบัณฑติ วิทยาลยั และคณะกรรมการประจาคณะ มีวาระการดารงตาแหนง่ เทา่ กบั วาระการดารงตาแหนง่ ของคณะบดี หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศึกษา (หลกั สตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๗ ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๔ และขอ้ ๕ พ้นจากตาแหน่งก่อนวาระและไดม้ ีการแต่งตั้งผู้ดารงตาแหน่งแทน แลว้ ใหผ้ ทู้ ไ่ี ด้รบั แต่งตง้ั อย่ใู นตาแหน่งเพยี งเท่าวาระทีเ่ หลือของผ้ซู ่ึงตนแทนในกรณที กี่ รรมการพน้ จากตาแหน่งตาม วาระแตย่ งั มิได้แต่งตง้ั กรรมการขน้ึ ใหม่ ใหก้ รรมการซึ่งพ้นจากตาแหนง่ ปฏบิ ตั ิหนา้ ทต่ี อ่ ไปจนกว่าจะได้แต่งต้ัง กรรมการข้นึ ใหม่ ท้ังนตี้ ้องไม่เกนิ หกสิบวัน ขอ้ ๗ คณะกรรมการประจาบัณฑิตวทิ ยาลยั และคณะกรรมการประจาคณะ มีอานาจและหนา้ ที่ ดังนี้ (๑) วางนโยบายและแผนงานให้สอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัย (๒) พจิ ารณาหลกั สตู รเพื่อนาเสนอตอ่ สภาวิชาการ (๓) พิจารณาวางระเบยี บ ข้อบงั คบั ทเี่ กีย่ วกับการบริหารและการดาเนนิ งาน เพื่อเสนอต่อสภา วชิ าการ (๔) ให้คาปรึกษาและเสนอความเหน็ แก่คณบดี (๕) ปฏิบัตหิ น้าท่ีอ่ืน ๆ ตามทส่ี ภาวชิ าการหรืออธิการบดีมอบหมาย ขอ้ ๘ ใหม้ ีการประชุมคณะกรรมการประจาบัณฑติ วทิ ยาลัย และคณะกรรมการประจาคณะอยา่ งน้อยปลี ะส่ี ครงั้ วธิ ีการประชุมให้นาข้อบังคบั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ว่าดว้ ยการประชมุ สภามหาวิทยาลยั มาใชบ้ งั คับโดยอนโุ ลม ขอ้ ๙ ให้อธิการดีรักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามข้อบังคับน้ี ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ พระสเุ มธาธบิ ดี (พระสเุ มธาธิบดี) นายกสภามหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลักสูตรปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๘ ระเบยี บบัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วา่ ด้วยวธิ ีปฏบิ ัตเิ กี่ยวกับวทิ ยานพิ นธ์ พ.ศ.๒๕๕๐ *************** อนุวัตให้เป็นไปตามความในข้อ ๒๖ แหง่ ข้อบังคบั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ด้วย การศกึ ษาระดบั บัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ จึงเหน็ สมควรออกระเบียบบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณ ราชวิทยาลยั ว่าดว้ ยวธิ ปี ฏิบัตเิ กี่ยวกบั วทิ ยานิพนธข์ องบัณฑิตวิทยาลัย อาศยั อานาจตามความในข้อ ๒๖ แห่งข้อบังคบั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยการศกึ ษา ระดบั บณั ฑติ ศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ คณะกรรมการประจาบัณฑิตวทิ ยาลยั ในคราวประชมุ คร้งั ที่ ๓/๒๕๕๐ เม่อื วนั ที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๐ จึงมีมติให้วางระเบียบไว้ดังต่อไปน้ี หมวดท่ี ๑ บทท่ัวไป ขอ้ ๑ ระเบียบน้เี รยี กว่า “ระเบยี บบณั ฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วา่ ดว้ ยวิธี ปฏิบัตเิ ก่ียวกับวทิ ยานิพนธ์ พ.ศ.๒๕๕๐” ขอ้ ๒ บรรดา กฎ ระเบยี บ ขอ้ บังคับ คาสงั่ หรือประกาศอื่นใดซึ่งขัดหรอื แย้งกบั ระเบียบน้ี ให้ใชร้ ะเบยี บนี้ แทน ข้อ ๓ ใหย้ กเลิก (๑) ระเบียบบณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วา่ ดว้ ยวธิ ีปฏิบัตเิ กี่ยวกบั วทิ ยานพิ นธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ (๒) ระเบยี บบัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั ว่าด้วยวธิ ีปฏิบตั ิเกี่ยวกบั วทิ ยานพิ นธ์ พ.ศ.๒๕๔๒ แก้ไขเพมิ่ เติม พ.ศ.๒๕๔๖ (๓) ประกาศบัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย เร่ือง กาหนดสว่ นประกอบ เพ่ิมเติมของโครงร่างวิทยานิพนธ์ พ.ศ. ๒๕๔๔ (๔) ประกาศบัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั เรอื่ ง การรายงาน ความกา้ วหนา้ วิทยานิพนธ์ พ.ศ.๒๕๕๐ ขอ้ ๕ ให้ใช้ระเบียบน้ตี ั้งแตว่ นั ถัดจากประกาศ เปน็ ต้นไป ข้อ ๖ ใหค้ ณบดบี ัณฑิตวทิ ยาลยั รักษาการให้เปน็ ไปตามระเบียบนี้ หลักสตู รครุศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชาพุทธบริหารการศกึ ษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๘๙ หมวดที่ ๒ การอนุมตั ิหัวข้อและโครงรา่ งวิทยานิพนธแ์ ละการลงทะเบยี น ขอ้ ๖ การอนุมัติหัวข้อและโครงร่างวทิ ยานพิ นธ์ ๖.๑ ให้นสิ ติ จดั ทาหัวขอ้ และโครงร่างวทิ ยานพิ นธ์ โดยความเห็นชอบของผู้ทจ่ี ะได้รับแตง่ ตัง้ เป็น ประธานหรือกรรมการควบคุมวทิ ยานพิ นธ์ และเสนอตอ่ บัณฑติ วิทยาลัย เพื่อตรวจรูปแบบก่อน เม่ือผ่านการตรวจ รปู แบบและแกไ้ ขแลว้ จึงเสนอขอสอบอนุมัตหิ ัวข้อและโครงรา่ งวทิ ยานิพนธ์ ตามขัน้ ตอน ๖.๒ โครงรา่ งวิทยานิพนธ์ มสี ่วนประกอบดงั น้ี (๑) หัวขอ้ วทิ ยานิพนธท์ งั้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ (๒) รายชือ่ คณะกรรมการควบคุมวทิ ยานิพนธ์ (๓) ความเป็นมาและความสาคัญของปญั หา (๔) วตั ถุประสงค์ของการวิจัย (๕) ทบทวนเอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง (๖) วธิ ดี าเนินการวจิ ัย (๗) ประโยชนท์ ี่คาดวา่ จะได้รับจากการวจิ ัย (๘) โครงสรา้ งของรายงานวิทยานิพนธ์ (สารบัญชัว่ คราว) (๙) บรรณานุกรมและเชงิ อรรถ (๑๐) ประวัตผิ ู้วจิ ัย สว่ นประกอบอ่นื ๆ นอกจากนี้ ให้เป็นไปตามคู่มอื การทาวิทยานิพนธ์ และข้อกาหนดอ่ืนๆ ของบัณฑิต วิทยาลยั ๖.๓ การเสนอขออนุมตั สิ อบหัวขอ้ และโครงร่างวิทยานิพนธ์ ใหน้ ิสติ ย่นื แบบคารอ้ ง บฑ ๘ พรอ้ มด้วย หวั ขอ้ และโครงร่างวทิ ยานพิ นธ์ จาวน ๖ ฉบบั ในจานวนน้ตี ้องมีลายเซ็นรับรองของผูส้ มควรเป็นกรรมการควบคุม วทิ ยานิพนธ์ทุกคน บนปกของโครงรา่ งฯ จานวน ๑ ฉบบั ตอ่ บณั ฑติ วิทยาลัย ๖.๔ นสิ ติ ทีป่ ระสงค์จะเสนอหวั ข้อและโครงรา่ งวทิ ยานิพนธเ์ ชงิ ปรมิ าณ ที่มเี คร่อื งมือวจิ ัยหรอื แบบสอบถามชัว่ คราว ต้องส่งใหค้ ณะกรรมการตรวจสอบ ในวันพจิ ารณาหัวขอ้ และโครงร่างวทิ ยานิพนธ์ ๖.๕ คณบดีบณั ฑิตวทิ ยาลยั แต่งต้ังคณะกรรมการพจิ ารณาหัวขอ้ และโครงรา่ งวทิ ยา นิพนธ์ ในแตล่ ะปี การศึกษา คณะกรรมการที่ได้รับแตง่ ต้ังจะเปน็ ผู้พจิ ารณาหัวขอ้ และโครงร่างวิทยานพิ นธ์ท่นี ิสิตเสนอ และในการ ประชุมพจิ ารณาสอบแตล่ ะครั้ง นสิ ิตตอ้ งเขา้ นาเสนอและชแ้ี จงเกี่ยวกับหวั ข้อและโครงรา่ งวิทยานพิ นธด์ ว้ ย ๖.๖ เม่อื นสิ ิตแก้ไขหวั ข้อและโครงรา่ งวิทยานพิ นธ์ตามมติคณะกรรมการแล้วใหย้ ่นื แบบคารอ้ ง บฑ ๘.๑ พรอ้ มดว้ ยหัวข้อและโครงรา่ งวทิ ยานิพนธ์ จานวน ๔ ชดุ ต่อบัณฑิตวิทยาลัย ใหป้ ระธานคณะกรรมการ พิจารณาหวั ข้อและโครงร่างวิทยานพิ นธ์ เสนอผลการพิจารณาหัวข้อและโครงร่างวิทยานพิ นธ์ของนิสติ ทีผ่ า่ นความ เห็นชอบแล้วพร้อมรายช่อื ผ้สู มควรเป็นคณะกรรมการควบคมุ วทิ ยานิพนธ์ในหวั ข้อนัน้ ต่อคณบดบี ัณฑิตวิทยาลัยเพ่ือ พจิ ารณาอนุมัติ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาพทุ ธบรหิ ารการศกึ ษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๐ ๖.๗ เมอ่ื คณบดีบณั ฑติ วทิ ยาลัยอนุมตั หิ วั ขอ้ และโครงรา่ งวทิ ยานิพนธแ์ ละเมื่อบณั ฑติ วิทยาลัย ประกาศรายชือ่ นสิ ติ และหวั ข้อวิทยานิพนธ์พร้อมทั้งรายช่อื คณะกรรมการควบคุมวทิ ยานิพนธท์ ีไ่ ดร้ ับอนุมตั ิแล้ว นสิ ิต จงึ จะมสี ทิ ธิลงทะเบียนวทิ ยานิพนธ์ ขอ้ ๗ การลงทะเบียนวทิ ยานิพนธ์ ๗.๑ นิสิตระดับปรญิ ญาโทท่ีมสี ทิ ธิลงทะเบียนวิทยานิพนธ์ ตอ้ งศกึ ษารายวชิ าในหลัก สูตรของบณั ฑติ วิทยาลยั มาแล้วไมน่ ้อยกว่า ๑ ภาคการศกึ ษาปกติ และมหี นว่ ยกติ สะสมไม่น้อยกว่า ๙ หนว่ ยกติ ๗.๒ นิสติ ระดบั ปรญิ ญาเอก แบบ ๑ ทมี่ ีสทิ ธิลงทะเบียนวทิ ยานิพนธ์ ภายหลังจากขนึ้ ทะเบียนเป็นนิสติ แล้ว นสิ ิตระดบั ปรญิ ญาเอก แบบ ๒ ที่มสี ิทธิลงทะเบียนวทิ ยานพิ นธ์ ตอ้ งศึกษารายวิชาในหลกั สตู รของบัณฑติ วทิ ยาลยั มาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ ๑ ภาคการศกึ ษาปกติ และมีหน่วยกิตสะสมไมน่ ้อยกวา่ ๖ หน่วยกิต ๗.๓ ใหน้ ิสิตลงทะเบียนวิทยานิพนธภ์ ายใน ๓๐ วัน นบั จากวนั ทบ่ี ัณฑิตวทิ ยาลัยประกาศอนุมตั ิหัวข้อ วทิ ยานพิ นธ์ โดยกรอกแบบการลงทะเบียนวทิ ยานิพนธ์ บฑ ๙ แลว้ ยนื่ ต่อบณั ฑติ วิทยาลัยพร้อมท้ังชาระเงนิ คา่ ลงทะเบยี นในส่วนงานตามที่มหาวิทยาลยั กาหนด หากไมส่ ามารถชาระค่าลงทะเบียนวทิ ยานิพนธ์ ภายใน ระยะเวลาท่ีกาหนด ต้องยนื่ คาร้องขอชาระค่าลงทะเบียนล่าช้าต่อบัณฑติ วทิ ยาลยั ทั้งนี้ ต้องไม่เกนิ ๓๐ วนั ทาการ หากเกนิ ต้องชาระเปน็ คา่ ปรบั ในอัตราการลง ทะเบยี นลา่ ช้า จานวน ๕๐ บาท ต่อ ๑ วนั ทาการ ขอ้ ๘ การเปลย่ี นแปลงเกี่ยวกับโครงรา่ งวทิ ยานิพนธ์ ๘.๑ การขอเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับวทิ ยานพิ นธ์ท่ีไม่ใช่สาระสาคญั ให้นิสิตยื่นแบบคาร้อง บฑ ๘ พร้อมท้งั ชแ้ี จงเหตุผลท่ีขอเปลีย่ นแปลงต่อคณบดีบัณฑิตวิทยาลัยเพ่ือขออนุมัตโิ ดยผา่ นคณะกรรมการควบคุม วิทยานิพนธ์ เม่ือไดร้ บั การอนมุ ัติให้เปลี่ยนแปลงใหน้ าสง่ หัวขอ้ และโครงร่างที่เปลย่ี นแปลงใหม่ต่อบัณฑติ วทิ ยาลัย จานวน ๔ ชุด ๘.๒ หากการเปลย่ี นแปลงหัวข้อหรอื โครงรา่ งวิทยานิพนธ์ที่เปน็ สาระสาคัญ นิสติ ต้องปฏิบัติ เช่นเดยี วกับการยื่นขออนุมตั ิหวั ข้อและโครงร่างวทิ ยานพิ นธ์ใหม่ โดยไมต่ ้องลงทะเบียนวิทยา นพิ นธ์ซา้ อีก ยกเว้น หากการเปลย่ี นแปลงเป็นความประสงคส์ ว่ นตวั ของนิสิต เมือ่ คณะกรรมการพิจารณาแล้ว พบว่าไม่มีเหตุผลความ จาเป็นเพยี งพอ นสิ ติ ต้องชาระค่าลงทะเบียนวทิ ยานิพนธซ์ ้าอกี ๘.๓ ให้นสิ ติ ตดิ ตามผลการขออนมุ ัตกิ ารเปล่ียนแปลงเก่ียวกบั วทิ ยานพิ นธ์ หลังจากท่ีไดย้ นื่ คาร้องและ ไดเ้ ข้าช้ีแจงแล้ว หมวดท่ี ๓ คณะกรรมการควบคมุ วทิ ยานิพนธ์ ขอ้ ๙ คณะกรรมการควบคุมวทิ ยานิพนธ์ ๙.๑ คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธต์ ้องมที ้ังบรรพชติ และคฤหสั ถ์ จานวนไม่นอ้ ยกว่า ๒ รูปคน แต่ ไม่เกนิ ๓ รปู /คน ทั้งน้จี ะต้องมีอาจารยป์ ระจามหาวิทยาลัยอย่างน้อย ๑ รูป/คน ๙.๒ คณะกรรมการผู้ควบคุมวทิ ยานิพนธข์ องนสิ ติ ระดับปริญญาโท ตอ้ งมีคุณสมบตั ิได้รับปริญญาชน้ั ใด ชั้นหนง่ึ ในสาขาวิชาท่นี สิ ติ ทาวิทยานพิ นธห์ รือสาขาวิชาที่เก่ียวข้อง หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๑ คณะกรรมการผู้มคี ุณสมบตั ิไดร้ ับปรญิ ญาต่ากว่าระดับปริญญาเอก ต้องมตี าแหน่งทางวิชาการไม่ต่ากว่า ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์หรอื เป็นผ้เู ชีย่ วชาญ ๙.๓ คณะกรรมการผคู้ วบคมุ วิทยานพิ นธข์ องนสิ ติ ระดบั ปริญญาเอก ต้องมคี ณุ สมบัติไดร้ บั ปรญิ ญาชน้ั ใดช้ันหนึ่งในสาขาวิชาทีน่ สิ ิตทาวิทยานพิ นธ์หรือสาขาวิชาทเ่ี กี่ยวข้อง คณะกรรมการผู้มีคุณสมบัตไิ ด้รับปรญิ ญาตา่ กว่าระดับปริญญาเอก ต้องมตี าแหนง่ ทางวิชาการไม่ตา่ กวา่ รองศาสตราจารยห์ รือเปน็ ผ้เู ชย่ี วชาญ ๙.๔ คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธม์ ีหนา้ ทด่ี ังต่อไปน้ี (๑) ใหค้ าปรกึ ษาแนะนาเกี่ยวกับวิธีทาวิทยานิพนธ์ รวมทัง้ ตัดสินแกไ้ ขปญั หาที่เกิดข้นึ ขณะทา วิทยานพิ นธ์ (๒) ให้คาปรึกษาแนะนาเก่ยี วกับการเขยี นวิทยานพิ นธ์ (๓) พิจารณาให้ความเหน็ ชอบในการขอสอบวทิ ยานิพนธ์ของนิสติ ข้อ ๑๐ การเขียนวิทยานิพนธ์ ใหน้ สิ ิตเรียบเรยี งวิทยานิพนธ์โดยให้มรี ูปแบบและขนาดวทิ ยานพิ นธ์ ตามคมู่ ือการทาวทิ ยานพิ นธ์ของ บัณฑติ วิทยาลัย หมวดท่ี ๔ การรายงานความกา้ วหนา้ วิทยานิพนธ์ ข้อ ๑๑ การรายงานความกา้ วหนา้ วทิ ยานพิ นธ์ ๑๑.๑ นิสติ ระดับปริญญาโททกุ สาขา ผไู้ ดร้ บั ผลการศึกษาต้ังแต่ ๙ หนว่ ยกติ ขึน้ ไป และยงั ไมไ่ ด้ย่ืน เสนอหัวข้อและโครงร่างวิทยานิพนธ์ ตอ้ งมารายงานความก้าวหนา้ ในการจัดทาหวั ข้อและโครงร่างวิทยานิพนธ์ตอ่ บณั ฑิตวทิ ยาลัยและอาจารย์ผู้ติดตามความก้าวหน้าวิทยานิพนธท์ ุก ๑ เดือน ๑๑.๒ นิสติ ระดบั ปริญญาเอก แบบ ๒.๑ (หลกั สตู รภาษาไทย) ผูไ้ ดร้ บั ผลการศกึ ษาตัง้ แต่ ๖ หน่วยกิ ตข้ึนไป และยังไม่ได้ย่นื เสนอขอสอบหวั ข้อและโครงร่างวทิ ยานพิ นธ์ตอ้ งมารายงานความ ก้าวหน้าในการจดั ทาหวั ข้อ และโครงร่างวทิ ยานิพนธ์ ตอ่ บณั ฑติ วทิ ยาลยั และอาจารย์ผตู้ ิดตามความ กา้ วหนา้ วทิ ยานิพนธ์ ทุก ๑ เดอื น ๑๑.๓ นิสิตระดับปริญญาเอก แบบ ๑.๑ (หลักสูตรภาษาองั กฤษ) ผูผ้ ่านรายวชิ าที่กาหนดใหศ้ ึกษา เพ่ิมเติมครบ ๓ รายวิชาแลว้ และยังไมไ่ ดย้ ืน่ เสนอขอสอบหวั ข้อและโครงร่างวทิ ยา นิพนธ์ตอ้ งมารายงาน ความก้าวหนา้ ในการจัดทาหัวขอ้ และโครงรา่ งวิทยานิพนธ์ ตอ่ บัณฑติ วิทยาลยั และอาจารยผ์ ูต้ ิดตามความกา้ วหน้า วทิ ยานพิ นธ์ ทกุ ๑ เดอื น ๑๑.๔ นิสิตผู้ลงทะเบยี นทาวิทยานิพนธ์แล้ว ตอ้ งมารายงานความกา้ วหนา้ ในการทาวิทยานิพนธต์ ่อ บณั ฑิตวิทยาลยั และอาจารย์ผ้ตู ดิ ตามความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ ทกุ ๓ เดือน หลกั สูตรครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๒ หมวดท่ี ๕ การสอบวิทยานิพนธ์ ข้อ ๑๒ การขอสอบวทิ ยานิพนธ์ ๑๒.๑ นิสิตระดับปริญญาโท มสี ิทธิขอสอบวทิ ยานิพนธ์ได้เมือ่ (๑) ใช้เวลาทาวิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า ๓ เดือน นับตั้งแต่วนั ทไ่ี ด้รับอนุมัติหัวข้อและโครงร่าง วทิ ยานพิ นธ์ และลงทะเบียนวิทยานพิ นธ์ (๒) สอบผา่ นรายวชิ าต่างๆ ครบถว้ นตามเงื่อนไขทีก่ าหนดไว้ในหลกั สตู ร และได้คา่ ระดับเฉลย่ี สะสมในรายวิชาตลอดหลกั สูตรไม่ต่ากว่า ๓.๐๐ (๓) เขยี นวทิ ยานพิ นธเ์ สร็จสมบูรณ์ ตามคาแนะนาของคณะกรรมการควบคุมวทิ ยานพิ นธ์ และ ไดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการดังกลา่ วให้ทาการขอสอบได้ ๑๒.๒ นิสิตระดับปริญญาเอก มสี ิทธขิ อสอบวิทยานพิ นธไ์ ด้เมื่อ (๑) ใช้เวลาทาวทิ ยานพิ นธไ์ มน่ ้อยกว่า ๘ เดือน นบั ตัง้ แต่วันทีไ่ ดร้ ับอนุมตั ิหัวข้อและโครงรา่ ง วทิ ยานพิ นธ์ และลงทะเบียนวทิ ยานพิ นธ์ (๒) สอบผา่ นรายวิชาตา่ งๆ ครบถ้วนตามเง่ือนไขท่ีกาหนดไวใ้ นหลกั สตู รและได้รับค่าระดบั เฉลย่ี สะสมในรายวิชาตลอดหลักสูตรไมต่ า่ กวา่ ๓.๐๐ (๓) สอบผา่ นการสอบวัดคณุ สมบัติในรายวิชาตามทีบ่ ัณฑิตวทิ ยาลัยกาหนด (๔) เขียนวิทยานิพนธส์ าเรจ็ สมบูรณ์ ตามคาแนะนาของคณะกรรมการควบคมุ วทิ ยานิพนธ์ และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการดังกลา่ วใหท้ าการขอสอบได้ ๑๒.๓ ใหน้ ิสติ ยน่ื คาร้องขอตรวจรปู แบบวทิ ยานพิ นธ์ พรอ้ มท้ังแนบวทิ ยานิพนธ์ ๑ ฉบับ ตอ่ บัณฑิต วทิ ยาลยั กอ่ นวนั สอบวิทยานิพนธไ์ มน่ ้อยกวา่ ๓๐ วนั ๑๒.๔ ใหน้ สิ ิตรับผลการตรวจรูปแบบวิทยานพิ นธจ์ ากบัณฑิตวทิ ยาลยั หลังจากยื่นคาร้องแลว้ ๑๐ วัน ทาการ ๑๒.๕ ให้นิสิตย่ืนแบบคาร้องขอสอบวิทยานพิ นธ์ บฑ.๘ ตอ่ บัณฑติ วิทยาลยั ผา่ นประธาน คณะกรรมการควบคุมวทิ ยานิพนธ์ พร้อมกับเสนอวทิ ยานิพนธ์ทเ่ี รยี บเรยี งเสรจ็ แล้ว รวมท้ังบทคัดยอ่ ภาษาไทยและ ภาษาอังกฤษ อย่างละ ๖ ชุด ๑๒.๖ ใหบ้ ณั ฑติ วิทยาลัยส่งวิทยานิพนธแ์ ละบทคัดย่อ ถงึ คณะกรรมการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ก่อนวนั สอบไม่น้อยกวา่ ๒ สัปดาห์ ขอ้ ๑๓ คณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานิพนธ์ ๑๓.๑ คณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานพิ นธ์ มจี านวนไม่นอ้ ยกว่า ๓ ท่าน แต่ไมเ่ กิน ๕ ทา่ น ประกอบด้วย (๑) ประธาน ได้แก่ คณบดีหรือผูท้ ค่ี ณบดีมอบหมาย (๒) คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ (๓) กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ จิ ากภายนอกมหาวทิ ยาลัย จานวนไมเ่ กิน ๓ ทา่ น หลักสูตรครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบรหิ ารการศึกษา (หลักสตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๓ ๑๓.๒ เมอ่ื บณั ฑติ วิทยาลัยตดิ ต่อเชิญผู้ที่สมควร ไดร้ ับแต่งต้งั เปน็ กรรมการตรวจสอบวิทยานพิ นธไ์ ด้ แล้ว ใหเ้ สนอรายนามกรรมการตรวจสอบวทิ ยานิพนธ์ตอ่ คณะกรรมการประจาบณั ฑิตวิทยาลยั เพื่อพจิ ารณาแตง่ ต้ัง ๑๓.๓ เม่อื ประธานคณะกรรมการประจาบัณฑติ วทิ ยาลัย ลงนามแต่งตงั้ คณะกรรม-การตรวจสอบ วทิ ยานิพนธแ์ ล้ว ใหบ้ ณั ฑิตวิทยาลยั ประกาศกาหนดวนั เวลาและสถานที่สอบใหท้ ราบโดยทั่วกัน และมีหนังสือเชญิ ถงึ กรรมการตรวจสอบวทิ ยานิพนธ์กอ่ นวนั สอบ ไม่น้อยกว่า ๑๐ วนั รายนามคณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานิพนธ์ให้ ถอื เปน็ ความลับสาหรบั ผ้สู อบ ๑๓.๔ ในกรณที ่ีกรรมการตรวจสอบวิทยานพิ นธ์ ไมส่ ามารถมาตรวจสอบวิทยานิพนธไ์ ด้ ให้แจ้งต่อ บณั ฑิตวิทยาลัยโดยผา่ นประธานคณะกรรมการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ พร้อมท้ังแจ้งผลการตรวจสอบวิทยานพิ นธ์ ดว้ ย หมวดที่ ๖ การประเมินผลวิทยานิพนธ์ ข้อ ๑๔ การประเมินผลวิทยานพิ นธ์ ๑๔.๑ ในการสอบวิทยานิพนธ์ นสิ ิตตอ้ งตอบข้อซกั ถามต่างๆ เก่ยี วกับวิทยานิพนธห์ รือเรื่องที่เก่ียวขอ้ ง หลังจากสอบแลว้ ให้คณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานิพนธ์ประชมุ พจิ ารณาประเมินผลในขณะประเมินผลให้นสิ ติ ออก จากห้องสอบ ๑๔.๒ ให้มกี ารจดบนั ทกึ รายละเอยี ดเกี่ยวกบั การประเมนิ ผลวิทยานพิ นธท์ ุกครั้ง ๑๔.๓ หากคณะกรรมการตรวจสอบวิทยานพิ นธม์ มี ติให้แก้ไขวิทยานพิ นธ์ ไมว่ า่ กรณีใดๆ นิสิตต้อง แก้ไขวิทยานพิ นธใ์ ห้ถกู ต้องตามมติและคาแนะนานน้ั ก่อนที่จะนาวิทยานพิ นธฉ์ บบั ท่ีแก้ไขแลว้ สง่ บัณฑิตวทิ ยาลยั กรณที ีน่ ิสิตไม่สามารถส่งวิทยานิพนธไ์ ด้ทนั เวลา ตามท่ีคณะกรรมการกาหนด จะตอ้ งดาเนนิ การยน่ื ขอขยายเวลาการ ส่งวิทยานิพนธต์ อ่ บัณฑิตวิทยาลยั โดยผ่านความเหน็ ชอบของประธานคณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานพิ นธ์ ทง้ั น้ี การขยายเวลาต้องอยู่ภายใต้ในระยะเวลา ๖ เดือน นบั แต่วนั สอบ หากเกนิ จากกาหนดนี้ ให้ถอื ว่าสอบไม่ผ่าน และ จะต้องดาเนนิ การขอสอบใหม่ กรณีทย่ี ังคงสถานภาพนิสิตอยู่เทา่ น้นั ๑๔.๔ ให้คณะกรรมการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ทาการประเมินผลวิทยานิพนธ์ โดยกาหนดเป็น ๔ ระดับ ดงั น้ี ผลการศกึ ษา ระดับ ดีเย่ียม (Excellence) A ดี (Good) B+ ผ่าน (Passed) B ตก (Failed) F ส่วนวทิ ยานิพนธท์ ี่อยู่ในระหว่างการเรยี บเรียง ใหแ้ สดงสถานะด้วยสัญลักษณ์ IP (In progress) ๑๔.๕ การลงนามของกรรมการตรวจสอบวทิ ยานพิ นธใ์ นหนา้ อนมุ ัตวิ ทิ ยานิพนธ์ อาจกระทาไดเ้ ม่ือ เห็นสมควร แต่ประธานคณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานิพนธจ์ ะลงนามได้ตอ่ เมอื่ วทิ ยา นพิ นธน์ ัน้ ได้รับการแก้ไขทั้ง รูปแบบ และเน้ือหาเรยี บร้อยแล้วเทา่ นั้น จากนน้ั คณะบดีบัณฑติ วทิ ยาลยั จึงลงนามอนุมัติ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๔ ๑๔.๖ ให้ประธานคณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานพิ นธ์ เสนอผลการประเมนิ ต่อคณบดีบณั ฑิต วทิ ยาลัย หากมีมติไมเ่ ป็นเอกฉนั ท์ใหร้ วบรวมใบประเมนิ ผลของกรรมการทุกท่าน เพื่อส่งใหค้ ณะกรรมการประจา บัณฑิตวทิ ยาลยั พิจารณาช้ีขาดเม่ือทราบผลการประเมิน และนสิ ติ สง่ วทิ ยา นพิ นธฉ์ บับทแ่ี ก้ไขเรียบร้อยแล้วบัณฑิต วิทยาลัยจะประกาศผลใหท้ ราบโดยทัว่ กัน ข้อ ๑๕ การส่งวิทยานพิ นธ์ฉบับสมบูรณ์ ๑๕.๑ เมื่อนิสิตแก้ไขเน้ือหาและรูปแบบ ตามมตคิ ณะกรรมการตรวจสอบวทิ ยานพิ นธ์แลว้ ให้นิสติ สง่ วิทยานิพนธ์ฉบบั ที่แก้ไขท่ีมลี ายมอื ชือ่ คณะกรรมการตรวจสอบวิทยานิพนธ์ครบถ้วนทุกคน จานวน ๗ เลม่ โดยเยบ็ เล่มและเข้าปกแข็งเรียบร้อย ตามรปู แบบที่บัณฑิตวทิ ยาลัยกาหนดพร้อมดว้ ย บทคดั ย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อีกอยา่ งละ ๒ ชุด และแผน่ ซีดบี นั ทึกไฟล์หวั ข้อวิทยานิพนธฉ์ บับสมบูรณท์ ง้ั ท่เี ป็นแบบไฟล์ Microsoft Word และ ไฟล์ Adobe PDF จานวนไฟลล์ ะ ๑ แผ่น ตอ่ บัณฑิตวทิ ยาลยั วนั ทีน่ ิสติ ส่งวิทยานิพนธฉ์ บับสมบูรณถ์ ือว่าเป็นวันท่ี นิสติ สาเร็จการศกึ ษา ๑๕.๒ ในกรณที ่ีนสิ ติ ประสงคจ์ ะเผยแพร่วิทยานิพนธ์หรอื มอบให้แก่หนว่ ยงานใด ตามขอ้ ผูกพนั หรือ อ่นื ๆ หลงั จากท่ีไดร้ บั อนุมัตวิ ิทยานพิ นธ์ ให้นสิ ติ ย่นื คาร้องพร้อมดว้ ยวิทยานิพนธต์ ามจานวนทตี่ ้องการเสนอต่อ คณบดบี ณั ฑิตวทิ ยาลยั เพื่อพิจารณาลงนามในหนา้ อนมุ ัติ ทงั้ นใ้ี หแ้ นบวิทยานิพนธ์ ฉบับซึ่งคณบดบี ัณฑิตวิทยาลยั ลง นามไว้แล้ว ๑ เล่ม พร้อมทั้งแผน่ บนั ทึกข้อมลู วทิ ยานิพนธฉ์ บบั สมบรู ณ์จานวน ๑ ชดุ ๑๕.๓ วิทยานพิ นธแ์ ละบทคัดย่อทง้ั ฉบบั ภาษาไทย และภาษาอังกฤษของนสิ ิตที่สาเรจ็ การศึกษาให้ เปน็ ลิขสทิ ธขิ์ องบัณฑติ วิทยาลยั กอ่ นนาไปพิมพ์เผยแร่ต้องไดร้ ับอนุมัติจากคณบดีบัณฑติ วิทยาลัย บทเฉพาะกาล ข้อ ๑๖ นสิ ิตทไ่ี ดร้ บั อนมุ ตั ิหัวข้อและโครงการวทิ ยานิพนธ์ และลงทะเบียนไว้แลว้ ก่อนทจี่ ะประกาศใช้ ระเบยี บน้ี ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบียบบณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ว่าดว้ ยวิธี ปฏิบัติเก่ยี วกบั วทิ ยานพิ นธ์ พทุ ธศักราช ๒๕๔๒ และระเบียบบณั ฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราช วทิ ยาลยั วา่ ดว้ ยวิธปี ฏิบตั วิ ิทยานิพนธ์ แกไ้ ขเพม่ิ เติม พทุ ธศักราช ๒๕๔๖ ข้อ ๑๗ นิสิตทไี่ ด้รบั อนุมตั ิหัวข้อและโครงร่างวทิ ยานิพนธ์ และลงทะเบียนภายหลงั ที่ประกาศ ใชร้ ะเบยี บน้ี แล้ว ให้ปฏิบตั ติ ามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ พระศรีสทิ ธิมุนี (พระศรสี ิทธิมุน)ี คณบดบี ณั ฑิตวิทยาลัย ประธานคณะกรรมการประจาบัณฑิตวทิ ยาลยั หลักสูตรครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๕ ระเบยี บบณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วา่ ดว้ ยการศกึ ษาภาคฤดูรอ้ น พ.ศ. ๒๕๕๒ *************** เพอ่ื ให้การจัดการศึกษาในภาคการศึกษาฤดรู อ้ นในระดับบัณฑิตศึกษา เป็นไปดว้ ยความเรียบ ร้อย มี ประสิทธภิ าพ บรรลตุ ามวตั ถุประสงคแ์ ละนโยบาลของมหาวทิ ยาลยั และเพ่ืออนุมัติให้เป็นไปตามความในข้อ ๙ แหง่ ขอ้ บงั คบั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วา่ ด้วยการศกึ ษาระดับบณั ฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๑ โดยอาศัยมตทิ ี่ ประชุมคณะกรรมการประจาบัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยัมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ในคราวประชมุ ครง้ั ท่ี ๔/ ๒๕๔๒ เมื่อวันท่ี ๓๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๒ บณั ฑิตวทิ ยาลยั จึงวางระเบยี บไวด้ งั ต่อไปนน้ี ขอ้ ๑ ระเบียบน้เี รยี กว่าระเบยี บบัณฑิตวทิ ยาลยั วา่ ด้วยการศึกษาภาคฤดรู ้อน พ.ศ. ๒๕๔๒” ขอ้ ๒ ให้ใช้ระเบยี บนต้ี ง้ั แตว่ ัถัดจากวันประกาศเปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๓ ภาคการศึกษาฤดูรอ้ น ตอ้ งมีเวลาการศึกษาไม่น้อยกวา่ ๖ สัปดาห์ และมจี านวนชวั่ โมงการศกึ ษาในแต่ ละรายวชิ าเทา่ กบั การศกึ ษาภาคปกติ ขอ้ ๔ จานวนหน่วยกิตทีก่ าหนดใหน้ ิสติ ลงทะเบียนในภาคการศึกษาฤดูร้อน ไม่น้อยกวา่ ๓ หน่วยกติ และไม่ เกิน ๖ หนว่ ยกติ โดยความเห็นชอบของอาจารย์ที่ปรกึ ษาทั่วไป นิสิตที่ประสงคจ์ ะลงทะเบียนน้อยกวา่ หรือมากกกวา่ ที่กาหนดไวใ้ นข้อ ๔ ให้ยื่นคารอ้ งต่อคณบดีบัณฑติ วิทยาลัย เพอ่ื ขออนุมตั เิ ป็นกรณพี ิเศษ ข้อ ๕ อัตราคา่ ธรรมเนียมการศึกษาในภาคการศึกษาฤดรู ้อน ให้เป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยกาหนด ข้อ ๖ ให้ใช้ระเบยี บนสี้ าหรับนิสิตท่ีเขา้ ศกึ ษาต้ังแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๒ ขอ้ ๗ ใหค้ ณบดบี ัณฑติ วทิ ยาลยั รักษาการใหเ้ ป็นไปตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วนั ที่ ๑ ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๔๒ พระมหาสมจนิ ต์ สมฺมาปญฺโญ (พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญโฺ ญ) คณบดีบัณฑติ วทิ ยาลยั ประธานคณะกรรมการประจาบณั ฑิตวทิ ยาลัย หลกั สตู รครศุ าสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๖ ระเบียบบัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย ว่าด้วยการฝกึ ภาคปฏิบตั ิวปิ ัสสนากรรมฐาน พ.ศ. ๒๕๔๗ *************** เพื่อใหก้ ารศึกษาวชิ ากรรมฐานของนสิ ิตบัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั เปน็ ไป ดว้ ยความเรียบรอ้ ย บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ตามนโยบายของมหาวทิ ยาลยั โดยอาศัยมติท่ปี ระชุมคณะกรรมการประจาบัณฑิตวิทยาลยั ในคราวประชมุ คร้ังที่ ๒/๒๕๔๗ เมื่อวันท่ี ๑๖ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๔๗ บณั ฑติ วทิ ยาลยั จึงวางระเบยี บไว้ดงั ต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนเี้ รียกวา่ “ระเบียบบัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วา่ ด้วยการฝกึ ภาคปฏิบตั ิวิปสั สนากรรมฐาน พ.ศ.๒๕๔๗” ข้อ ๒ ใหใ้ ชร้ ะเบียบนีต้ งั้ แตว่ ันถดั จากวันประกาศเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้คณะกรรมการประจาบัณฑิตวทิ ยาลยั มอี านาจหน้าท่ีเกี่ยวกับการฝกึ ปฏบิ ตั วิ ปิ ัสสนากรรมฐาน ดังน้ี (๑) วางนโยบาย กาหนดหลกั เกณฑ์ วิธีปฏบิ ตั เิ ก่ียวกบั วธิ กี ารฝึกภาคปฏิบัตวิ ิปสั สนากรรมฐานการ วดั ผลและติดตามผลลพั ธข์ องการฝึกภาคปฏิบัติวปิ สั สนากรรมฐาน (๒) กาหนดวัน เวลาและสถานที่ สาหรบั การฝกึ ภาคปฏิบัตวิ ิปัสสนากรรมฐาน (๓) รายงานผลการฝึกภาคปฏิบัติวิปสั สนากรรมฐานตอ่ มหาวิทยาลัย ข้อ ๔ ใหน้ สิ ิตบัณฑิตวิทยาลยั ฝึกภาคปฏิบัตวิ ิปสั สนากรรมฐาน ในวนั เวลา และสถานที่ตามที่คณะกรรมการ ประจาบณั ฑิตวิทยาลยั กาหนด ดังนี้ (๑) นสิ ติ ระดบั ประกาศนียบัตรบัณฑิตต้องฝกึ ภาคปฏิบตั ิวปิ ัสสนากรรมฐานไม่นอ้ ยกว่า ๑๕ วัน (๒) นิสิตระดับมหาบัณฑิตต้องฝึกภาคปฏิบัตวิ ิปสั สนากรรมฐานไมน่ ้อยกวา่ ๓๐ วนั (๓) นสิ ติ ระดับดษุ ฎีบัณฑติ ต้องฝึกภาคปฏิบัตวิ ปิ สั สนากรรมฐานไมน่ อ้ ยกวา่ ๔๕ วัน โดยให้ใช้กบั นิสติ ท่ีเข้าศึกษาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๓ เปน็ ต้นไป ขอ้ ๕ ใหค้ ณบดบี ัณฑิตวทิ ยาลยั รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี ประกาศ ณ วันที่ ๒๕ สิงหาคม พทุ ธศักราช ๒๕๔๗ พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญฺโญ (พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญโฺ ญ) คณบดบี ัณฑิตวทิ ยาลยั ประธานคณะกรรมการประจาบณั ฑติ วทิ ยาลยั หลักสตู รครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพุทธบริหารการศกึ ษา (หลักสตู รปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๗ ประกาศมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เรอ่ื ง เกณฑ์มาตรฐานหลกั สูตรระดบั บัณฑติ ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๘ *************** โดยทเี่ ห็นเปน็ การสมควรปรบั ปรุงเกณฑ์มาตรฐานหลักสตู รพุทธศาสตรมหาบณั ฑิต และหลกั สูตรพทุ ธศาสตร ดุษฎบี ณั ฑิต ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ.๒๕๔๘ ของกระทรวงศึกษาธิการ เพ่ือ ประโยชน์ในการกาหนดมาตรฐานการศึกษาระดบั บณั ฑิต ศกึ ษา ใหด้ าเนนิ ไปดว้ ยความเรียบร้อย มปี ระสทิ ธิภาพ และบรรลวุ ตั ถุประสงคต์ ามนโยบายของมหาวิทยาลยั อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๑๙ (๒) แหง่ พระราชบญั ญตั ิมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั พ.ศ. ๒๕๔๐ และมติสภามหาวทิ ยาลัย ในคราวประชุมครั้งที่ ๖/๒๕๔๘ เมื่อวนั ที่ ๓๑ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๔๘ จงึ ออก ประกาศมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย เร่ือง เกณฑ์มาตรฐานหลกั สตู รระดับบัณฑิตศกึ ษา พ.ศ.๒๕๔๘ ไวด้ งั ตอ่ ไปนี้ ๑. ระดับประกาศนียบัตรบณั ฑิต มีจานวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกว่า ๒๔ หนว่ ยกิต ๒. ระดับปริญญาโท มีจานวนหนว่ ยกติ รวมตลอดหลกั สูตรไม่น้อยกวา่ ๓๘ หนว่ ยกิต โดยแบ่งการศึกษา เปน็ ๒ แผน ดงั น้ี ๑) แผน ก เปน็ การศึกษาทีเ่ นน้ การวจิ ยั โดยมกี ารทาวิทยานิพนธ์ ดงั น้ี แบบ ก (๑) ทาเฉพาะวทิ ยานิพนธซ์ ่งึ มีค่าเทยี บได้ ๓๘ หนว่ ยกติ และบณั ฑติ วิทยาลยั อาจจดั ให้ศกึ ษา รายวชิ าเพ่ิมเติม โดยไมต่ ้องนับหนว่ ยกติ เพื่อคุณภาพการศึกษาของผศู้ ึกษา แบบ ก (๒) ศึกษารายวิชาไม่น้อยกวา่ ๒๖ หน่วยกิต และทาวิทยานพิ นธ์ซึ่งมีค่าเทยี บได้ ๑๒ หนว่ ย กิต จาแนกประเภทดงั นี้ วชิ าบงั คบั ไม่น้อยกวา่ ๘ หนว่ ยกติ วิชาเอก ไม่น้อยกว่า ๑๒ หน่วยกิต วชิ าเลือก ไม่น้อยกว่า ๖ หนว่ ยกติ วิทยานิพนธ์ ๑๒ หนว่ ยกติ รวมทง้ั ส้นิ ไมน่ อ้ ยกว่า ๓๘ หน่วยกิต ๒) แผน ข ศึกษารายวชิ าไมน่ อ้ ยกว่า ๓๒ หน่วยกิต และทาการศึกษาอสิ ระซ่งึ มีคา่ เทยี บได้ ๖ หนว่ ยกติ จาแนกประเภท ดังน้ี วิชาบงั คบั ไม่นอ้ ยกว่า ๘ หนว่ ยกิต วิชาเอก ไม่น้อยกว่า ๑๒ หนว่ ยกติ วิชาเลอื ก ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๒ หนว่ ยกิต การศกึ ษาอสิ ระ ๖ หน่วยกิต รวมทง้ั สน้ิ ไม่น้อยกวา่ ๓๘ หน่วยกติ หลักสูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศกึ ษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๘ ๓. ระดบั ปริญญาเอก แบ่งการศึกษาเป็น ๒ แบบ ดงั นี้ ๑) แบบ ๑ ผเู้ ขา้ ศึกษาต้องทาวิทยานพิ นธ์ ซง่ึ มีคา่ เทียบได้ ๕๔ หนว่ ยกติ แบง่ การศึกษาเป็น ๒ แบบ โดยบัณฑติ วทิ ยาลัยอาจจัดให้ศึกษารายวชิ าเพมิ่ เติมโดยไมต่ ้องนับหน่วยกติ เพือ่ คณุ ภาพการศกึ ษาของผูศ้ ึกษา (๑) แบบ ๑.๑ ผเู้ ข้าศกึ ษาทสี่ าเรจ็ ปรญิ ญาโทต้องทาวทิ ยานิพนธซ์ ่งึ มคี ่าเทยี บได้ ๕๔หนว่ ยกิต (๒) แบบ ๑.๒ ผเู้ ขา้ ศกึ ษาทส่ี าเร็จปรญิ ญาตรีหรอื เปรยี ญธรรม ๙ ประโยค ซง่ึ บัณฑติ วิทยาลัยอนมุ ัติ ให้เขา้ ศึกษาเป็นกรณีพิเศษ ต้องทาวิทยานิพนธซ์ งึ่ มีค่าเทยี บได้ ๗๘ หน่วยกติ ๒) แบบ ๒ แบง่ การศึกษาเป็น ๒ แบบ ดังนี้ (๑) แบบ ๒.๑ ผู้เข้าศึกษาท่ีสาเร็จปรญิ ญาโท ต้องศกึ ษารายวชิ าไมน่ อ้ ยกว่า ๑๙ หน่วยกิต และทา วทิ ยานพิ นธ์ ซ่ึงมคี ่าเทียบได้ ๓๖ หนว่ ยกติ จาแนกประเภทดงั น้ี วิชาบงั คบั ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกติ วชิ าเอก ไม่น้อยกวา่ ๖ หนว่ ยกติ วิชาเลอื ก ไมน่ ้อยกวา่ ๖ หนว่ ยกิต วิทยานพิ นธ์ ๓๖ หน่วยกิต รวมทั้งสนิ้ ไม่นอ้ ยกว่า ๕๔ หนว่ ยกิต (๒) แบบ ๒.๒ ผเู้ ขา้ ศึกษาทส่ี าเรจ็ ปริญญาตรี หรอื เปรียญธรรม ๙ ประโยค ซ่งึ บัณฑิตวิทยาลยั อนมุ ตั ิ ให้เขา้ ศึกษาเป็นกรณีพเิ ศษ ต้องศึกษารายวชิ าไม่น้อยกวา่ ๓๐ หนว่ ยกิต และทาวทิ ยา นิพนธ์ซง่ึ มีคา่ เทยี บได้ ๔๘ หน่วยกิต จาแนกประเภทดังน้ี วิชาบงั คับ ไม่นอ้ ยกวา่ ๙ หน่วยกติ วชิ าเอก ไมน่ ้อยกว่า ๑๒ หน่วยกติ วิชาเลือก ไม่นอ้ ยกวา่ ๙ หนว่ ยกติ วิทยานพิ นธ์ ๔๘ หนว่ ยกิต รวมทง้ั สน้ิ ไมน่ ้อยกว่า ๗๘ หนว่ ยกติ ทัง้ น้ี ต้งั แตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๔๙ เป็นต้นไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๘ กนั ยายน พุทธศกั ราช ๒๕๔๘ พระราชรัตนโมลี (พระราชรัตนโมล)ี อุปนายกสภามหาวิทยาลยั ทาหนา้ ทแ่ี ทน นายกสภามหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย หลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าพทุ ธบริหารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๙๙ ประกาศบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย เรื่อง การสอบวัดความรภู้ าษาองั กฤษสาหรับนสิ ติ หลักสูตรดษุ ฎีบณั ฑิต แผน ๒ พ.ศ. ๒๕๔๙ *************** เพื่อใหก้ ารสอบวดั ความรูภ้ าษาอังกฤษของนิสิตหลักสตู รพุทธศาสตรดุษฎีบณั ฑติ แผน ๒ ดาเนนิ ไปดว้ ยความ เรยี บรอ้ ย มีประสิทธภิ าพ บรรลตุ ามวัตถุประสงค์และนโยบายของมหาวิทยาลยั อาศยั มตทิ ่ีประชุมคณะกรรมการประจาบัณฑิตวิทยาลยั ในคราวประชุมครง้ั ที่ ๒/๒๕๔๙ เมื่อวนั องั คารท่ี ๒๐ มิถนุ ายน พ.ศ.๒๕๔๙ จงึ ให้ยกเลกิ ประกาศบัณฑิตวทิ ยาลัย เรื่องการการสอบวัดความรภู้ าษาองั กฤษสาหรบั นิสิต หลักสตู รพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต พ.ศ.๒๕๔๖ และใหใ้ ชป้ ระกาศดงั ต่อไปน้ี ขอ้ ๑ การสมคั รสอบ ๑.๑ นสิ ิตย่นื แบบคาร้องสมัครขอสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษตามเวลาทีบ่ ณั ฑิตวทิ ยาลยั กาหนด ๑.๒ ในกรณีทน่ี สิ ิตสอบไมผ่ า่ น มีสิทธิยื่นแบบคาร้องสมัครขอสอบตามเวลาท่ีบัณฑิตวทิ ยาลัยกาหนด ๑.๓ อตั ราค่าธรรมเนยี มการสอบวดั ความรภู้ าษาอังกฤษให้เป็นไปตามทบี่ ณั ฑิตวทิ ยาลัยกาหนด ขอ้ ๒ บณั ฑิตวทิ ยาลยั ดาเนนิ การสอบวดั ความรภู้ าษาอังกฤษ ตามหลักสตู รพทุ ธศาสตรดษุ ฎีบัณฑิต โดย แต่งตง้ั คณะกรรมการ จานวนไมน่ ้อยกว่า ๓ ทา่ น แต่ไม่เกิน ๕ ทา่ น ท้ังนี้ จะต้องมีอาจารยป์ ระจามหาวทิ ยาลยั ๑ ทา่ น เพื่อดาเนนิ การและควบคุมการสอบใหไ้ ด้มาตรฐาน ข้อ ๓ การสอบวัดความรู้ภาษาองั กฤษ เพ่อื ทดสอบทกั ษะ ๔ ดา้ น คอื ๓.๑ ทกั ษะด้านการฟงั (Listening) ๒๐๐ คะแนน ๓.๒ ทักษะดา้ นการพูด (Speaking) ๒๐๐ คะแนน ๓.๒ ทกั ษะด้านการเขยี น (Writing)) ๒๐๐ คะแนน ๓.๔ ทกั ษะดา้ นการอา่ น (Reading) ๒๐๐ คะแนน รวมคะแนนเต็ม ๘๐๐ คะแนน ขอ้ ๔ การประเมนิ ผล ๔.๑ การประเมินผลการสอบวดั ความรู้ภาษาอังกฤษ กาหนดเปน็ ๒ ระดบั ดังน้ี ผา่ น (Passed) ๔๘๐ คะแนน ตก (Failed) ตา่ กว่า ๔๘๐ คะแนน ๔.๒ ใหป้ ระธานคณะกรรมการสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษ เสนอผลการประเมนิ ต่อบัณฑิตวทิ ยาลัย เพอ่ื แจ้งผลให้แกน่ ิสิตผ้เู ข้าสอบไดท้ ราบ หลกั สตู รครุศาสตรมหาบัณฑติ สาขาวิชาพุทธบริหารการศกึ ษา (หลกั สตู รปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
๑๐๐ ข้อ ๕ นสิ ิตผูท้ ไี่ ดร้ ับผลการสอบภาษาองั กฤษดังตอ่ ไปน้ี ไดร้ ับการยกเว้น ไมต่ ้องสอบวดั ความรู้ภาษาองั กฤษ ๕.๑ นสิ ติ ผู้สอบวัดความรภู้ าษาอังกฤษ (TU-GET) ของสถาบันภาษามหาวทิ ยาลัยธรรมศษสตร์ ได้ คะแนน ๖๐๐ คะแนนขึ้นไป (คะแนนเตม็ ๑,๐๐๐ คะแนน) ๕.๒ นสิ ิตผสู้ อบวดั ความรภู้ าษาอังกฤษ (CU-TEP) ของศนู ยท์ ดสอบทางวิชาการจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั ได้คะแนน ๗๐ ขึน้ ไป (คะแนนเตม็ ๑๒๐ คะแนน) ๕.๓ นิสติ ผสู้ อบวดั ความรภู้ าษาอังกฤษ (TOEFL) ของสถาบันการศกึ ษานานาชาติ (IIE) ได้คะแนน การสอบแบบ Paper-Based ๔๕๐ คะแนนขนึ้ ไป (คะแนนเต็ม ๗๐๐ คะแนน) หรอื ไดค้ ะแนนการ สอบแบบ Computer-Based ๑๘๐ คะแนนข้ึนไป (คะแนนเต็ม ๓๐๐ คะแนน) ๕.๔ นสิ ติ ผู้สอบวดั ผลความรูภ้ าษาอังกฤษ (IELTS) ของบรติ ิช เคาซลิ ประเทศไทย ได้คะแนน ๕.๐๐ คะแนนขึน้ ไป ๖ คะแนนเต็ม ๙.๐๐ คะแนน) ท้ังนี้ หลักฐานแสดงผลการสอบตามข้อ ๕.๑ ถงึ ๕.๔ ท่นี ามายืน่ ตอ่ บัณฑิตวิทยาลยั ตอ้ งอยู่ภายในระยะเวลา ไมเ่ กนิ ๒ ปี นับจากวนั ประกาศผลการสอบของสถาบันดงั กล่าว ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๗ มิถุนายน พุทธศกั ราช ๒๕๔๙ พระมหาสมจนิ ต์ สมมฺ าปญฺโญ (พระมหาสมจนิ ต์ สมฺมาปญฺโญ) คณบดีบณั ฑิตวทิ ยาลัย หลกั สตู รครุศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชาพุทธบรหิ ารการศึกษา (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๒)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146