โครงการบรกิ ารวชิ าการการพัฒนา Academic service project of รปู แบบการสนบั สนุนการใหน้ มบตุ รและ development of breastfeed- การบีบเก็บน้ำ� นมในทณั ฑสถาน ing support and milk stor- เขตภาคเหนอื ตอนล่าง age at one prison in lower norther area ประทมุ า ฤทธโิ์ พธิ์ พรรณทิพา บัวคล้าย คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พษิ ณุโลก บทน�ำ: จากแนวคิดโครงการก�ำลงั ใจซงึ่ เป็นพน้ื ฐาน The Bangkok rules เพื่อชว่ ยเหลอื และพฒั นา คุณภาพชีวิตแก่ผู้ต้องขังหญิงระหว่างต้องโทษจ�ำคุกและเตรียมตัวก่อนปล่อยซึ่งครอบคลุมการส่งเสริม พฒั นาการเดก็ ตดิ ผตู้ อ้ งขงั ใหม้ พี ฒั นาการทดี่ สี มวยั และหญงิ ตง้ั ครรภแ์ ละหลงั คลอด และสามารถดแู ลตนเอง และบตุ รภายหลงั คลอดไดอ้ ยา่ งเหมาะสม การสง่ เสรมิ การเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมแ่ ละบบี เกบ็ นำ้� นมในทณั ฑสถาน จงึ เปน็ ประดน็ ท่คี วรให้ความสำ� คัญ วตั ถปุ ระสงค:์ โครงการบรกิ ารวชิ าการนที้ ม่ี วี ตั ถปุ ระสงคใ์ นการพฒั นารปู แบบการสนบั สนนุ การใหน้ ม บตุ รและการบบี เกบ็ นำ�้ นมในทณั ฑสถานเขตภาคเหนอื ตอนลา่ ง วธิ กี าร: การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ไดแ้ ก่ Plan Do Check Act นำ� มาประยุกตเ์ พื่อพฒั นารปู แบบการสนับสนนุ การเล้ยี งลกู ด้วยนมแม่ในทณั ฑสถานในเขต ภาคเหนือตอนล่าง ระยะเวลา 6 เดือน จ�ำนวนผตู้ ้องขงั หลงั คลอดและเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ 16 คน เก็บ รวบรวมข้อมลู โดยสมั ภาษณ์ก่งึ โครงสร้างและการสังเกตแบบไมม่ สี ว่ นรว่ มจากผเู้ กี่ยวขอ้ ง ผลการด�ำเนินงาน: ผลการดำ� เนนิ การโครงการมี 6 ขั้นตอน ไดแ้ ก่ 1) การสะทอ้ นคดิ ความสำ� คญั ของนมแมแ่ ก่ผู้บรหิ ารหนว่ ยงาน 2) บรู ญาการสนู่ โยบายของสถาบัน 3) ตอบสนองความต้องการพ้นื ฐาน งานนมแม่ 4) วางจดุ มุ่งหมายร่วมกนั ของผู้ร่วมไดผ้ ลประโยชน์ 5) เสรมิ พลงั อำ� นาจมารดาในการให้นม บุตรและกระบวนการบบี เกบ็ น�้ำนมและการสง่ ตอ่ และ 6) พัฒนาแมน่ มพี่เล้ียงแก่ผ้เู ริ่มใหม่ สรุป: โครงการดังกล่าวส่งผลให้หญิงผู้ต้องขังมีการบีบเก็บน�้ำนมเพื่อทารกกรณีมารดาต้องออกนอก ทณั ทสถาน และเตรยี มพรอ้ มสง่ ตอ่ แกท่ ารกเมอ่ื ตอ้ งสง่ ออก สำ� หรบั ความยงั่ ยนื ตอ้ งไดร้ บั การประเมนิ ผลตอ่ ไปต่อไป และแนวทางการพัฒนาเป็นแหล่งทรัพยากรธนาคารน�้ำนมในพ้ืนท่ีเป็นแนวคิดหนึ่งที่ควรควร พจิ ารณาเช่นกัน 150
ผลของรูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูก Effects of breastfeeding ดว้ ยนมแมต่ อ่ อตั ราการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ support model on breast- ภายในหกเดือนหลังคลอดของสตรีท่ี feeding rates within six ทำ�งานนอกบ้าน months among women em- ployed outside the home สสุ ณั หา ยมิ้ แย้ม1 พกิ ุล ทรพั ย์พนั แสน2 1คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม,่ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ บุคลากรสุขภาพโดยเฉพาะพยาบาลเป็นผู้มีบทบาทส�ำคัญในการช่วยเหลือและสนับสนุนการเล้ียงลูก ด้วยนมแม่ เพื่อช่วยเพมิ่ อัตราการเลี้ยงลกู ดว้ ยนมแม่อยา่ งเดยี วในหกเดือนแรก การวจิ ยั เชิงกง่ึ ทดลองครง้ั นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบผลของรูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของพยาบาลต่อการให้นม มารดาแก่บุตรอย่างเดียวในหกเดือนแรก โดยรูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในมารดาท่ีกลับ ไปทำ� งานหลังคลอดนเ้ี นน้ การสนับสนุนอย่างต่อเน่ือง ตั้งแตร่ ะยะพักฟืน้ ในโรงพยาบาลหลังคลอดและกลบั ไปอยทู่ บี่ า้ น การชว่ ยในการวางแผนและการทบทวนแผนการปฏบิ ตั เิ มอ่ื กลบั ไปทำ� งานหลงั คลอด การตดิ ตาม และการชว่ ยเหลอื เพมิ่ เตมิ เมอื่ กลบั ไปทำ� งาน รวมทง้ั การประเมนิ ผลการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งเดยี วในหก เดือนหลังคลอด กลุ่มตัวอย่างเป็นมารดาที่กลับไปท�ำงานนอกบ้านที่มาคลอดในโรงพยาบาลมหาราชนคร เชยี งใหมแ่ ละโรงพยาบาลลำ� พนู ในระยะกอ่ นและหลงั ใชร้ ปู แบบการสนบั สนนุ การเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ จำ� นวน กลุม่ ละ 35 คนเทา่ กัน วเิ คราะห์ข้อมลู เชิงปริมาณโดยการแจกแจงความถ่ี ร้อยละ และไควสแคว์ ผลการวิจัยพบว่า ลักษณะท่ัวไปของมารดาท้ังสองกลุ่มด้วยว่าไม่มีความแตกต่างกัน มารดาที่ได้รับ การสนบั สนนุ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งตอ่ เนอื่ งจากพยาบาลมอี ตั ราการใหน้ มแมอ่ ยา่ งเดยี วแกบ่ ตุ รในหก เดอื นแรกหลงั คลอดสงู กวา่ มารดาหลงั คลอดทท่ี ำ� งานนอกบา้ นทไี่ ดร้ บั การดแู ลตามปกตอิ ยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทาง สถิติท่ีระดับ 0.001 จากการศึกษาน้ีสรุปได้ว่ารูปแบบการสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของพยาบาล ส�ำหรับมารดาที่ท�ำงานนอกบ้านมีผลต่อการเพิ่มอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวในหกเดือน หลงั คลอด การประชุมวิชาการนมแมแ่ ห่งชาติ คร้ังที่ 6 151
ผลของโปรแกรมสง่ เสรมิ สมรรถนะ The effects of promoting แหง่ ตนในการเลี้ยงลูกดว้ ยนมแม่ breast feeding self-efficacy ต่อปริมาณนำ้� นมแมท่ ีพ่ อเพียงและ program on sufficient of พฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ขิ องมารดา breast milk supply and main- เพอ่ื การคงอยขู่ องนมแม่ส�ำหรับทารก tenance of lactation behav- หลงั ได้รบั การผา่ ตดั ชอ่ งท้อง ior in mothers of newborn after explore laparotomy นพรัตน์ ละครเขต1 วีณา จรี ะแพทย2์ สถาบันสุขภาพเด็กแหง่ ชาตมิ หาราชนิ ี1, คณะพยาบาลศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย2 บทน�ำ: น�้ำนมแม่เป็นสารอาหารทีด่ ที ีส่ ุดส�ำหรบั ทารก จากสถติ เิ ดอื น ม.ิ ย.56 ถงึ ส.ค. 56 ของ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พบว่ามารดาหลังคลอดที่มีทารกหลังได้รับการผ่าตัดช่องท้องไม่มี นำ�้ นมแมเ่ พอื่ นำ� มาใชเ้ ลยี้ งทารกหลงั จากแพทยส์ งั่ ให้ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 71.45, 66.67และ 70.00 ตามลำ� ดบั และพบว่าสาเหตุส�ำคัญท่ีท�ำให้ทารกเจ็บป่วยในโรงพยาบาลเปลี่ยนจากการให้นมแม่เป็นนมผสมคือทารก ต้องงดนมตามแผนการรักษาท�ำให้มารดาไม่ม่ันใจในการกระตุ้นเต้านมโดยการบีบเก็บน�้ำนมอย่างต่อเน่ือง จนกระทงั่ มารดาไมส่ ามารถผลติ นำ้� นมจากเตา้ นมไดท้ ำ� ใหท้ ารกขาดโอกาสไดร้ บั นมแมแ่ ละสง่ ผลใหก้ ารเลย้ี ง ลูกด้วยนมแม่ไม่เป็นไปตามครรลองของธรรมชาติ วตั ถปุ ระสงค:์ เพอ่ื เปรยี บเทยี บพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั เิ พอื่ การคงอยขู่ องนมแม่ และเปรยี บเทยี บจำ� นวน มารดาที่มีปริมาณของน�้ำนมแม่ที่พอเพียงส�ำหรับทารกหลังได้รับการผ่าตัดช่องท้องระหว่างมารดากลุ่ม ทดลองกบั กลุ่มควบคุม วธิ ีด�ำเนินการ: วิจยั กึง่ ทดลองแบบสองกลุ่มวดั หลงั การทดลอง กลุ่มตวั อย่างคือ มารดาหลงั คลอด ทพ่ี กั ฟน้ื อยทู่ หี่ อผปู้ ว่ ยหลงั คลอดและมที ารกรบั การผา่ ตดั ชอ่ งทอ้ งเขา้ รบั การรกั ษาในหอผปู้ ว่ ยทารกแรกเกดิ จำ� นวน 44 ราย แบ่งเปน็ 2 กลมุ่ เท่าๆกนั เครือ่ งมือทใี่ ชเ้ กบ็ รวบรวมขอ้ มูลคอื แบบวัดพฤติกรรมการปฏิบัติ เพ่ือการคงอยู่ของนมแม่ และแบบบันทึกปริมาณน้�ำนมแม่ โดยวัดจากปริมาณน�้ำนมแม่ท่ีมารดาบีบให้มี น�้ำนมแม่จัดเก็บเพื่อให้พอเพียงต่อความต้องการของทารกใน 1 วัน โดยมีปริมาณของน้�ำนมแม่มากกว่า หรอื เทา่ กบั ปรมิ าณนำ้� นมตามแผนการรกั ษามหี นว่ ยเปน็ มลิ ลลิ ติ ร วเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยสถติ ทิ ดสอบคา่ ที และ สถติ ทิ ดสอบคา่ ซี ผลการศึกษา: ค่าเฉลี่ยของพฤติกรรมการปฏิบัติเพื่อการคงอยู่ของนมแม่ กลุ่มควบคุม และกลุ่ม ทดลองเทา่ กบั 41.09 และ87.50 ทดสอบสถติ ิทีพบว่ากลมุ่ ทดลองสงู กวา่ กลมุ่ ควบคมุ อย่างมีนยั สำ� คัญ ทางสถิติ ที่ระดับ.05 และจ�ำนวนมารดาท่ีมีปริมาณน้�ำนมแม่ที่พอเพียงส�ำหรับทารกหลังได้รับการผ่าตัด ช่องทอ้ ง กลมุ่ ควบคมุ มีจ�ำนวน 19 ราย คดิ เปน็ ร้อยละ 86.36 กลุ่มทดลอง มีจ�ำนวน 22 ราย คดิ เป็น รอ้ ยละ 100 เปรยี บเทยี บดว้ ยสถติ ซิ พี บวา่ จำ� นวนมารดากลมุ่ ทดลองมมี ากกวา่ กลมุ่ ควบคมุ อยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถิตทิ ่ีระดับ .05 สรุปผล: มารดาที่มีทารกผ่าตัดช่องกลุ่มทดลองมีพฤติกรรมการปฏิบัติเพื่อการคงอยู่ของนมแม่สูง สามารถคงปรมิ าณของน�ำ้ นมแมใ่ หม้ คี วามพอเพยี งส�ำหรบั ทารกเม่ือแพทย์ส่ังใหน้ มตามแผนการรักษาได้ 152
ผลการเสรมิ สร้างพลงั อำ�นาจ The Effect of Empowerment ต่อการเลย้ี งลกู ด้วยนมแม่ for Breastfeeding in Moth- ในมารดาคลอดกอ่ นกำ�หนด er’s Preterm Labor จนั ทรสั ม์ สมศร1ี สวุ รรณศรี กตะศิลา2 พยาบาลวิชาชีพชำ� นาญการ โรงพยาบาลศรีสะเกษ บทน�ำ: การคลอดก่อนก�ำหนด เปน็ สาเหตุส�ำคัญของการเลี้ยงลูกดว้ ยนมแม่ไม่ส�ำเร็จ เน่อื งจากทารก ไม่ แข็งแรง เกิดภาวะเจ็บป่วยต้องแยกกับมารดาเป็นเวลานาน ท�ำให้การเร่ิมดูดนมแม่ช้า และมารดามี ความวติ กกังวลสูง วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาผลของการเสริมสร้างพลังอ�ำนาจ ต่อความสามารถและระยะเวลาในการ เล้ียงลกู ด้วยนมแมข่ องมารดาคลอดก่อนก�ำหนด วิธีการศึกษา: กลุ่มตัวอย่างคือ มารดาคลอดก่อนก�ำหนดที่ได้รับการดูแลในโรงพยาบาลศรีสะเกษ เดอื นตลุ าคม 2559 ถึงสิงหาคม 2560 เลอื กกลุ่มตวั อย่างแบบเฉพาะเจาะจง ไดก้ ลุ่มทดลองและกลมุ่ ควบคุมกลมุ่ ละ 37 คน กลุม่ ทดลองได้รับการเสริมสร้างพลงั อำ� นาจตามกรอบแนวคิดของกบิ สนั 5 คร้งั ในสปั ดาหท์ ่ี 1,2,3,4และ 5 หลังคลอด รวบรวมขอ้ มลู โดยใชแ้ บบประเมินการเลย้ี งลูกดว้ ยนมแม่ ตรวจ สอบความถูกต้องและความตรงของเนอ้ื หาโดยผูเ้ ช่ยี วชาญ ทดสอบความเชอื่ มัน่ โดยค�ำนวณจากสตู รของค รอนบาซ ไดค้ ่า 0.88 วเิ คราะหข์ ้อมลู ดว้ ยสถติ ริ อ้ ยละ, คา่ เฉล่ีย, สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test พทิ ักษ์สทิ ธกิ ลุม่ ตวั อยา่ งโดยผ่านคณะกรรมการจรยิ ธรรมการวิจัยในมนุษย์ ผลการศึกษา: พบวา่ 1. คา่ เฉลยี่ คะแนนความสามารถในการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมข่ องกลมุ่ ทดลอง (= 8.86, S.D = .80) และ กลุ่มควบคมุ ( = 8.62, S.D = 75) ไมแ่ ตกต่างกัน (p> .00) 2. ระยะเวลาในการเลี้ยงลูกด้วยนมแมข่ องกลุ่มทดลองเฉลยี่ 4.89 เดือน (= 4.89, S.D = 1.24) ส่วนกลมุ่ ควบคมุ เฉล่ีย 1.91 เดือน ( =1.91, S.D = .82) แตกต่างกนั อย่างมนี ัยส�ำคญั (p< .00) บทสรุป: การเสริมสร้างพลังอ�ำนาจ ช่วยให้มารดาคลอดก่อนก�ำหนดเล้ียงลูกด้วยนมแม่ได้นานขึ้น จึงควรน�ำมาใช้กับมารดาคลอดก่อนก�ำหนดทุกราย เพ่ือช่วยให้สามารถเล้ียงลูกด้วยนมแม่ได้ส�ำเร็จตาม เปา้ หมาย การประชุมวชิ าการนมแมแ่ หง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 6 153
การจดั รปู แบบการดูแลมารดาทีม่ ี ปญั หาการเลี้ยงลูกด้วยนมแมท่ ซี่ ับซ้อน ตามกรอบแนวคิด Iceberg model ลมัย แสงเพง็ จตพุ ร เพ่มิ พรสกุล โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ท่มี า วเิ คราะหผ์ ลการด�ำเนนิ งานของคลนิ ิกนมแม่ ปี 2558 พบวา่ รอ้ ยละ 64 ของแม่ที่มีปญั หานม แมซ่ บั ซอ้ นเชน่ หวั นมบอดบุม๋ ลกู สับสนหัวนม หรอื ลกู เป็นทารกเกิดก่อนกำ� หนด และตอ้ งฝึกการให้นมแม่ ทคี่ ลนิ กิ นมแมร่ ะยะยาว ปรบั ลดเปา้ หมายจากการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ เปน็ การบบี นมหรอื ปม้ั นมใสข่ วดใหล้ กู สง่ ผลตอ่ ความส�ำเร็จของการเลย้ี งลูกดว้ ยนมแม่ วตั ถปุ ระสงค์ เพมิ่ อตั ราการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมโ่ ดยการใหล้ กู ดดู นมแมจ่ ากเตา้ ในกลมุ่ ทมี่ ปี ญั หานมแม่ ซบั ซ้อน วิธดี �ำเนนิ การ ศกึ ษาแนวคดิ การพัฒนาสมรรถนะโดยใช้ Iceberg model และสรา้ งแนวปฏิบัตติ าม กรอบแนวคดิ ของ Iceberg model ประกอบดว้ ย 1)การใชส้ นุ ทรยี สนทนา เพอ่ื คน้ หาการรบั รู้ (perception) และความคาดหวัง (Expectation) ในการเลย้ี งลกู ด้วยนมแมข่ องมารดาแต่ละราย 2)การใหข้ ้อมลู ทีต่ อบ สนองเชงิ บวกตอ่ การรบั รแู้ ละความคาดหวงั 3) การสรา้ งชอ่ งทางการเขา้ ถงึ บรกิ ารคลนิ กิ นมแมท่ เ่ี หมาะสม และตรงตามความตอ้ งการของมารดาแต่ละราย ผลการการศกึ ษา 1)จำ� นวนผรู้ บั บรกิ ารทใ่ี ชแ้ นวทางปฏบิ ตั ทิ ง้ั หมด 18 ราย เลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมโ่ ดย ให้ จากเต้า 6 เดอื น 14 ราย คิดเป็นร้อยละ 77.78 2)การรับรู้นมแม่มภี มู ิค้มุ กันโรค ลดการเจบ็ ปว่ ย รอ้ ยละ 100 ดา้ นการเสริมสรา้ งสตปิ ญั ญาร้อยละ 55.56 3)ความคาดหวังเกย่ี วกบั บตุ รร้อยละ 88.89 เรียนเกง่ ฉลาด 4)การรบั บริการร้อยละ 83.33 มาคลนิ กิ นมแม่ทกุ คร้งั รอ้ ยละ 100 ใชบ้ รกิ ารทางไลน์ และทางโทรศพั ท์ร่วมด้วย สรุป แนวปฏิบตั ติ ามแนวคิด Iceberg model เพ่ิมสมรรถนะการเล้ียงลกู ด้วยนมแม่กลุ่มทมี่ ีปัญหา นมแม่ซับซอ้ น 154
การประชมุ วชิ าการนมแม่แหง่ ชาติ คร้งั ท่ี 6 155
ก�ำ หนดการ ประเภท poster การนำ�เสนอผลงานวจิ ยั และนวัตกรรม Code/ ชือ่ ผนู้ �ำ เสนอ ชอ่ื เรือ่ ง ประเภท เวลาบรรยาย ผลงาน P-001 เยาวเรศ กิตติธเนศวร ผลของการฟงั เพลงตอ่ การหลง่ั นำ้� นมในชว่ งทนั ทหี ลงั คลอด โครงการ โรงพยาบาลอ่างทอง ในมารดาทค่ี ลอดครบกำ� หนด การศกึ ษาเปรยี บเทยี บแบบสมุ่ Effect of music on immediately postpartum lactation by term mothers after giving birth: a randomized controlled trial P-002 เยาวเรศ กติ ติธเนศวร การพัฒนาระบบการวินจิ ฉัยและรกั ษาภาวะพงั ผดื ใต้ล้นิ โครงการ โรงพยาบาลอ่างทอง Development of tongue tie care team P-003 สวุ ดิ า โชตสิ วุ รรณ นวตั กรรมสื่อการสอน เตา้ นมแม่มหศั จรรย์ นวตั กรรม โรงพยาบาล Innovation good teaching breast milk ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ P-004 อาภาณี แยม้ อมิ่ นวัตกรรม สเกลนมแม่ นวตั กรรม โรงพยาบาลมหาราช Maternal milk scale innovation นครศรธี รรมราช P-005 อตพิ ร ศิวชิ ยั ผลของโปรแกรมการพยาบาลเพ่ือเสริมสร้างพลังอ�ำนาจ วิจัย โรงพยาบาล ตอ่ การปรบั ตวั ในการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมข่ องมารดาทม่ี ที ารก พระนครศรอี ยุธยา คลอดกอ่ นก�ำหนด The effect of Nursing Empowerment Program on Adaptation in Breastfeeding for Mother with Preterm Infants P-006 พชั รพร แกว้ วิมล ผลของโปรแกรมสร้างเสริมสมรรถนะการเลย้ี งลูกด้วยนม วิจัย คณะพยาบาลศาสตร์ แมก่ บั การมสี ว่ นรว่ มของครอบครวั ตอ่ ระยะเวลาการเลยี้ งลกู มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดว้ ยนมแมแ่ ละการเปลย่ี นแปลงนำ�้ หนกั ตวั ของทารกเกดิ กอ่ น ก�ำหนด Effect of program enhancing Self-efficacy in breast- feeding with family’s participation on duration of breastfeeding and weight gain in preterm infant P-007 รติกาล เลศิ ศิริ ตู้นมพอเพียง ฝากไดไ้ มจ่ �ำกดั โครงการ โรงพยาบาลแปลงยาว Sufficient milk storage is unlimited P-008 ประทุมา ฤทธ์ิโพธิ์ การพฒั นารปู แบบการสนบั สนนุ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมใ่ น วจิ ัย คณะพยาบาลศาสตร์ สถานประกอบการผ่านกระบวนการเสริมสรา้ งพลังอำ� นาจ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร woMrkopdleacledseuvseinlogpemmepnotwoefrmberenatsptfreoecdesinsg support in P-009 วริญญา คงพิจติ ร ผลการใชส้ อื่ 3 มติ คิ ดั กรองเตา้ นมดว้ ยตนเองของหญงิ ตง้ั ครรภ์ นวัตกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ The Results of 3D Media on Self Breast Screening of Pregnant Women P-010 ประทมุ า ฤทธโ์ิ พธ์ิ ประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของหญิงผู้ต้องขัง วิจัย คณะพยาบาลศาสตร์ ณ ทณั ฑสถานหญิงแห่งหน่ึงในเขตภาคเหนอื ตอนลา่ ง มหาวทิ ยาลยั นเรศวร Lived experience of breastfeeding among incarcerated women at one prison in lower norther area 156
บทคดั ยอ่ ผลงานวิจยั และนวตั กรรม การน�ำเสนอผลงานประเภทโปสเตอร์ การประชุมวชิ าการนมแมแ่ ห่งชาติ คร้ังท่ี 6 157
ผลของการฟังเพลงตอ่ การหลง่ั นำ้ �นม Effect of music on ในช่วงทันทหี ลงั คลอด ในมารดา immediately postpartum ท่ีคลอดครบกำ�หนด การศกึ ษา lactation by term mothers เปรียบเทียบแบบส่มุ after giving birth: a randomized controlled trial) Yaowaret Kittithanesuan1 Jaranit Kaewkungwal3 Yong Poovorawan4 Supawadee Chiarakul2 1 Department of Obstetrics and Gynecology, Ang Thong Provincial Hospital, Ang Thong, 14000, Thailand 2 Department of Medicine, Prasat Neurological Institute, Bangkok, 10400, Thailand. 3 Center of Excellence for Biomedical and Public Health Informatics, Faculty of Tropical Medicine, Bangkok, 10400, Thailand. 4 Center of Excellence in Clinical Virology, Faculty of Medicine, Chulalongkorn Univer sity and Hospital, Bangkok, 10330, Thailand. Introduction: The benefits and importance of maternal breastfeeding have been emphasized worldwide. Early mother–infant contact and newborn suckling within the first hour after birth positively influences lactation and therefore results in more successful breastfeeding. Maternal anxiety and stress are considered factors that inhibit lactation and happiness, whereas relaxation with the newborn and emotional connection can promote lactation. Objective: The study aimed to determine the effect of music on the lactation of mothers immediately after giving birth Material and Method: A randomized, controlled trial was performed. The intervention group consisted of 152 mothers who listened to music after giving vaginal birth. The control group consisted of 152 mothers who received routine, immediate postpartum care in the delivery room. Results: Upon evaluation of the milk volume from each participant before and after suckling, the intervention group showed a statistically significant association with increased lactation after suckling (p <0.05). Adjusting for lactation time, maternal age and birth history, the odds ratio was 2.36 (95% CI: 1.54–3.63) for the intervention group, which suggests that music triggers increased lactation (p <0.001). Conclusion: Breastfeeding mothers who listened to music immediately postpartum showed significantly increased lactation after suckling compared to the control group. 158
การพฒั นาระบบการวินจิ ฉัย Development of และรักษาภาวะพังผืดใตล้ ้นิ tongue tie care team เยาวเรศ กติ ตธิ เนศวร วันเพ็ญ กวยาวงศ์ คลินกิ นมแม่ โรงพยาบาลอา่ งทอง บทน�ำ : Tongue tie หรอื ภาวะพงั ผดื ใตล้ น้ิ เปน็ ภาวะทเี่ ปน็ แตก่ ำ� เนดิ และถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม มคี วาม สัมพันธ์กบั การเพ่มิ อบุ ัตกิ ารณข์ องการเลยี้ งลูกด้วยนมแม่ที่มปี ญั หา วตั ถปุ ระสงค์ : เพือ่ พัฒนาระบบการวินิจฉยั และรักษาภาวะพงั ผดื ใตล้ ้นิ ที่มีประสทิ ธภิ าพ วิธีการพัฒนา 1. สูติแพทย์ กมุ ารแพทย์ พยาบาลคลนิ ิกนมแม่ เจา้ หน้าท่ีห้องคลอด หอผู้ปว่ ยหลงั คลอด NICU ศึกษา ดงู านจากคลนิ ิกพงั ผืดใตล้ ิน้ โรงพยาบาลศิริราช แลว้ น�ำมาฝึกอบรมวธิ กี ารประเมินภาวะพังผดื ใต้ล้นิ ใหแ้ ก่เจา้ หนา้ ทีห่ ้องคลอดและเจ้าหนา้ ท่ีหอผู้ปว่ ยหลงั คลอดทุกราย 2. เจ้าหน้าที่ห้องคลอดประเมินภาวะพังผืดใต้ลิ้นก่อนย้ายทารกแรกคลอดทุกราย และบันทึกลงในแบบ ประเมินภาวะพงั ผดื ใต้ลนิ้ และการใหน้ มมารดา และสง่ ต่อขอ้ มลู ให้กบั หอผู้ปว่ ยหลงั คลอด 3. เจ้าหน้าที่หอผู้ป่วยหลังคลอดท�ำการประเมินภาวะพังผืดใต้ล้ินซ้�ำ และประเมินลักษณะหัวนมมารดา หลังทารกดูดนม และบนั ทึกลงในแบบประเมนิ ภาวะพังผืดใต้ล้ินและการใหน้ มมารดา 4. เมอ่ื พบทารกที่มภี าวะพงั ผืดใต้ล้นิ ให้การช่วยเหลือ โดยแก้ไขหัวนม ช่วยเหลอื ให้มารดามีท่าอุ้มท่ีถกู ตอ้ ง ให้ทารกอมหัวนมไดถ้ ูกต้อง หากยงั มปี ัญหาดูดนมแมไ่ ด้ไมม่ ีประสิทธิภาพจากการประเมนิ โดยใช้ Siriraj Tongue Tie Score ซง่ึ ทารกท่ีมี STT score ตำ่� กว่า 8 ควรได้รบั การรักษาด้วยการผ่าตัด ส่วนผ้ทู ่ีมีคะแนน มากกว่าหรือเท่ากับ 8 ควรรักษาแบบประคับประคองก่อน จึงเสนอทางเลือกโดยการผ่าตัดขลิบพังผืดใต้ลิ้น (frenulotomy) 5. สูตแิ พทย์เปน็ ผทู้ ำ� ผา่ ตัด frenulotomy 6. สังเกตอาการและให้การดูแลหลังผ่าตัดโดยเจ้าหน้าทห่ี อผปู้ ว่ ยรว่ มกบั มารดา 7. ตรวจตดิ ตามดลู กั ษณะแผลผา่ ตดั ภาวะแทรกซอ้ นหลงั ผา่ ตดั ประสทิ ธภิ าพในการดดู นมของทารก โดย คลนิ ิกนมแม่ หลังผา่ ตดั 1 สปั ดาห์ ผลการด�ำเนนิ งาน: ตง้ั แตเ่ รมิ่ ดำ� เนนิ การ เดอื นเมษายน พ.ศ. 2556 ถงึ ปจั จบุ นั มที ารกคลอดในโรงพยาบาล อา่ งทอง 5640 ราย ไดร้ ับการประเมนิ ภาวะพังผดื ใตล้ น้ิ 5293 ราย คดิ เป็น รอ้ ยละ 93.85 พบทารกมีภาวะ พังผืดใต้ลิ้น รอ้ ยละ 46.16 ของทารกทไี่ ด้รบั การประเมิน จ�ำแนกเป็นความรนุ แรงของภาวะพงั ผดื ใตล้ ้ินระดับ เลก็ นอ้ ย รอ้ ยละ 40.92 ,ระดบั ปานกลาง รอ้ ยละ 50.50 และระดบั มาก รอ้ ยละ 9.42 และพบทารกทมี่ ภี าวะ พังผดื ใตล้ ้ิน มี STT score <8 รอ้ ยละ 50.31 ของทารกมีภาวะพังผืดใตล้ น้ิ ทำ� ผา่ ตัด frenulotomy โดย สูตแิ พทยไ์ ปแลว้ ท้งั สิน้ 1076 ราย อัตราความพึงพอใจของมารดาหลังทำ� ผา่ ตัด มคี ะแนนเฉลยี่ 4.75 จาก คะแนนเต็ม 5 คะแนน ร้อยละความพึงพอใจเฉลี่ย 94.98 มีอัตราเล้ียงลูกด้วยนมแม่ในทารกท่ีท�ำผ่าตัด frenulotomy เฉล่ยี รอ้ ยละ 98.52 และ 70.94 เม่ือตดิ ตามหลังคลอด 7 วนั และ 6 เดอื น ตามลำ� ดบั สรปุ ผล : การพฒั นาระบบการวนิ จิ ฉยั และรกั ษาภาวะพงั ผดื ใตล้ น้ิ สามารถทำ� ไดไ้ มย่ าก การผา่ ตดั frenu- lotomy สามารถทำ� ไดโ้ ดยแพทยท์ ผี่ า่ นการฝกึ ฝน โดยใช้เวลาศึกษาและฝกึ ฝนไมม่ ากนัก โรงพยาบาลอา่ งทอง มีการดำ� เนนิ งานท่ีแตกตา่ งจากสถาบันอ่ืนคอื ผู้ทำ� การผา่ ตดั เป็นสูตแิ พทย์ ซึ่งมขี อ้ ดีคือ ไดม้ กี ารตรวจประเมนิ ปญั หาการใหน้ มมารดากอ่ นผา่ ตดั อยา่ งละเอยี ด และสามารถตรวจตดิ ตามหลงั ผา่ ตดั ไดอ้ ยา่ งใกลช้ ดิ การประเมนิ และดแู ลอยา่ งเปน็ ระบบครบวงจรตงั้ แตแ่ รกคลอดจนถงึ การตดิ ตามหลงั คลอดโดยคลนิ กิ นมแม่ ทำ� ใหเ้ พมิ่ ความ สำ� เร็จในการสง่ เสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไดเ้ ป็นอยา่ งดี การประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติ คร้ังที่ 6 159
นวตั กรรมสอื่ การสอน Innovation เตา้ นมแมม่ หศั จรรย์ good teaching breast milk สวุ ดิ า โชติสวุ รรณ โรงพยาบาลชมุ พรเขตรอุดมศกั ด์ิ โรงพยาบาลชมุ พรเขตรอดุ มศกั ด์ิ ไดม้ กี ารดำ� เนนิ งานเปน็ โรงพยาบาลมาตรฐานงานอนามยั แมแ่ ละเดก็ โดยส่งเสรมิ การเล้ียงลกู ด้วยนมแม่มาตง้ั แต่ ปี พ.ศ. 2547 ดว้ ยบริบทของโรงพยาบาลซึง่ เปน็ ทั้งหน่วย ท่ี ให้บริการทางด้านสุขภาพ เป็นศูนย์แพทยศาตรศึกษาช้ันคลินิก และเป็นแหล่งเรียนรู้ส�ำหรับนักศึกษา พยาบาลหลายสถาบนั คลินิกนมแม่เปน็ อีกหนว่ ยงานหนึ่งท่ใี หบ้ รกิ ารในด้านการศึกษาเรยี นร้ขู องนักศึกษา แพทย์ นกั ศกึ ษาพยาบาล รวมไปถงึ บุคลากรของโรงพยาบาล และยงั มีการสอนครอบคลุมไปถงึ ชมุ ชนเป็น แหลง่ เรยี นรูใ้ หก้ บั อ.ส.ม. และประชาชนท่วั ไปท่ีสนใจหรอื แม้กระทง่ั ตัวของหญิงหลงั คลอดทม่ี ีปัญหาเรื่อง การเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ โดยมเี ปา้ หมาย คอื เพอื่ ใหบ้ คุ ลากรมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเรอื่ งการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ สามารถดแู ลและเผยแพรค่ วามรเู้ รอ่ื งการเลีย้ งลูกดว้ ยนมแมไ่ ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง หญงิ หลงั คลอดสามารถให้นม ลกู ครบ 6 เดอื น จากบริบทการเป็นศนู ยก์ ลางการเรยี นรู้ดงั กลา่ วท�ำให้งานคลินกิ นมแม่ โรงพยาบาลชมุ พร เขตรอดุ มศักดิ์ ได้พัฒนาระบบการสอนและสาธติ วิธีการบีบน�้ำนม ซ่ึงในชว่ งแรกได้สอนโดยการบบี นมจริง ของมารดา ซึ่งไม่สะดวกหลายประการ เช่น ทำ� ใหเ้ จ็บจากการท่ีบบี ไม่ถกู ต้อง เปน็ การ Exposed คนไข้ ตอ่ มาได้ปรับปรงุ เป็นเต้านมถุงนอ่ งธรรมดา ซ่งึ ใช้ไดผ้ ลแต่ขาดความรู้สึกเสมือนจริง เนือ่ งจากไม่สามารถรบั รู้ ได้ถึงความถูกต้องเมื่อบีบได้ถูกต�ำแหน่ง จึงได้ปรับปรุงและพัฒนาเป็นลักษณะเต้านมปลอมให้เหมือนจริง มากขึ้นโดยสามารถบีบน้�ำนมออกมาได้จริงเม่ือบีบในต�ำแหน่งที่ถูกต้อง เพ่ือใช้ประกอบการสอนและสาธิต วธิ บี บี นำ้� นมกบั บคุ ลากรดงั กลา่ วขา้ งตน้ อกี ทงั้ ยงั เปน็ การชว่ ยใหห้ ญงิ หลงั คลอดทต่ี อ้ งกลบั ไปทำ� งานสามารถ เรยี นรกู้ ารบบี และเกบ็ นำ้� นมไวใ้ หล้ กู เพอื่ ใหล้ กู ไดร้ บั นมแมใ่ หน้ านทส่ี ดุ เทา่ ทจี่ ะทำ� ได้ ทงั้ ยงั เปน็ การลดปญั หา คัดตึงเต้านม ปวดเต้านม ในหญิงหลังคลอดซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการให้นมลูกอย่างหน่ึง จากการพัฒนา นวัตกรรมดงั กล่าว ได้เกบ็ ข้อมูลความพึงพอใจในการใชส้ ือ่ การสอนและการบบี นมในตำ� แหนง่ ทีถ่ กู ต้อง เตา้ นมแมม่ หศั จรรย์ พบวา่ ผใู้ ชน้ วตั กรรมรอ้ ยละ 86 มคี วามพงึ พอใจในระดบั มากทสี่ ดุ และรอ้ ยละ14 มคี วาม พงึ พอใจในระดบั มาก และผใู้ ชน้ วตั กรรมทกุ ราย สามารถบบี นมไดถ้ กู ตอ้ ง นอกจากนที้ างโรงพยาบาลชมุ พร เขตรอดุ มศกั ด์ิ ไดว้ างแผน ในการเผยแพรน่ วตั กรรมเตา้ นมปลอมใหแ้ กโ่ รงพยาบาลชมุ ชนในเขตจงั หวดั ชมุ พร ด้วย และสามารถประหยัดงบประมาณในการจดั ซอ้ื เต้านมปลอมเพ่อื การสาธติ ได้ 160
นวตั กรรม Maternal milk scale สเกลนมแม่ innovation ลมัย แสงพง็ อาภานี แย้มอม่ิ จรยิ า ขนุ อินทร์ โรงพยาบาลมหาราชนครศรธี รรมราช ทมี่ า มารดาระยะหลังคลอด 2-3 วนั แรก นมไหลนอ้ ย จึงกังวลว่านมไม่พอ เจา้ หนา้ ท่ีขาดเครอ่ื งมอื สรา้ งความเขา้ ใจ จงึ แกป้ ญั หาดว้ ยการใหน้ มเสรมิ ซงึ่ อาจเกนิ ความจำ� เปน็ และสง่ ผลตอ่ ความสำ� เรจ็ ของการ เลยี้ งลกู ดว้ ยนมแม่ วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื สรา้ งเครอ่ื งมอื สอื่ สารปรมิ าณนำ้� นมทท่ี ารกไดร้ บั จากการดดู นมแม่ แกม่ ารดาและญาติ วธิ ีด�ำเนนิ การ 1)ใช้แนวคดิ จากปริมาตรของเหลว 15 หยด เท่ากบั 1 ซซี ีและการดดู นมตามปกติ ของทารกคอื 6-7ครง้ั ใน 10 วินาที โดยทดลองบีบนมแมท่ ที่ ารกปว่ ยจำ� นวน 30 ราย เร่ิมดว้ ยบีบนม 15 ครัง้ ใน 20 วินาที แบง่ บีบเปน็ 3 ชดุ ชุดละ 5 คร้ัง และหาความสัมพนั ธ์ระหว่างลักษณะการไหลของน�้ำนม จากการบบี นมครง้ั แรก กบั ปรมิ าณนำ�้ นมทบี่ บี ไดใ้ น 10 นาที 2) สรา้ งสเกลนมแม่ เปน็ ตารางแสดงลกั ษณะ การไหลจากการบบี นม ปรมิ าณนำ�้ นมทที่ ารกไดร้ บั จากการดดู นมแมอ่ ยา่ งนอ้ ย 10 นาที และปรมิ าณนำ�้ นม ท่ีทารกต้องการต่อม้ือ 3)ใช้นวัตกรรมอธิบายแม่และญาติถึงปริมาณน้�ำนมที่ทารกได้รับจากการดูดนมแม่ แต่ละมอ้ื ผลการศกึ ษา ประเมินผลจากการใช้นวัตกรรมแก่มารดาจำ� นวน 414 ราย ระหวา่ ง เดอื นเมษายน 2560-เดอื น พฤษภาคม 2560 พบว่ามารดาและญาตริ ้อยละ 92.27 เช่อื ว่าลกู ไดร้ บั นมพอไม่ขอนมเสริม เพมิ่ สว่ นมารดาทนี่ มไมพ่ อและตอ้ งใหน้ มเสรมิ ในชว่ งแรก เมอ่ื งดการเสรมิ นมมคี วามพงึ พอใจรอ้ ยละ 93.75 และอตั ราทารกไดร้ บั นมพอร้อยละ100 สรุป ประโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากการใชน้ วตั กรรมสเกลนมแมค่ อื มารดาและญาติพงึ พอใจตอ่ การพิจารณา วา่ นมแม่เพียงพอ ลดการเสรมิ นมโดยไม่จำ� เป็น เพ่ิมอตั ราการเลยี้ งลูกดว้ ยนมแม่อยา่ งเดียวกอ่ นจ�ำหน่าย การประชุมวชิ าการนมแม่แหง่ ชาติ ครัง้ ท่ี 6 161
ผลของโปรแกรมการพยาบาล The effect of Nursing เพอ่ื เสรมิ สรา้ งพลงั อำ� นาจตอ่ การปรบั ตวั Empowerment Program ในการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมข่ องมารดา on Adaptation in Breast- ทม่ี ที ารกคลอดกอ่ นกำ� หนด feeding for Mother with Preterm Infants อตพิ ร ศิวิชัย หอผปู้ ่วยหนกั เด็ก โรงพยาบาลพระนครศรอี ยธุ ยา ทารกคลอดกอ่ นกำ� หนดเปน็ ทารกแรกเกดิ ทมี่ ภี าวะเสย่ี งสงู และเปน็ สาเหตสุ ำ� คญั ทท่ี ำ� ใหอ้ ตั ราปว่ ยและอตั รา ตายของทารกแรกเกดิ สงู สารอาหารในนำ้� นมแมเ่ หมาะสมตอ่ สรรี วทิ ยาและความตอ้ งการ ชว่ ยปอ้ งกนั และลด ปญั หาดงั กลา่ ว ทำ� ใหก้ ารรกั ษาพยาบาลทารกคลอดกอ่ นกำ� หนดมปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขน้ึ มโี อกาสรอดชวี ติ เพมิ่ ขนึ้ และทำ� ใหท้ ารกคลอดกอ่ นกำ� หนดเหลา่ นม้ี พี ฒั นาการและการเจรญิ เตบิ โตในระยะยาวทง้ั ทางรา่ งกาย จติ ใจ และ ทางสมอง ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การสง่ เสรมิ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมใ่ นทารกคลอดกอ่ นกำ� หนดยงั ไมป่ ระสบความ สำ� เรจ็ เนอ่ื งจากปญั หาและอปุ สรรคทงั้ ดา้ นมารดาและทารกทำ� ใหม้ ารดาขาดพลงั อำ� นาจซงึ่ สง่ ผลกระทบตอ่ ดา้ น จติ ใจ คดิ วา่ ตนเองไมม่ คี วามสามารถเพยี งพอในการทจี่ ะใหน้ มแมแ่ กท่ ารกหากมกี ารนำ� การเสรมิ สรา้ งพลงั อำ� นาจ มาใชใ้ นการพยาบาลมารดาทม่ี ที ารกคลอดกอ่ นกำ� หนดทต่ี อ้ งเผชญิ ปญั หานานาประการจะชว่ ยใหม้ ารดามพี ลงั อำ� นาจในการปรบั ตวั และเกดิ ความสามารถทจี่ ะเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมไ่ ดส้ ำ� เรจ็ การวจิ ยั ครงั้ นเ้ี ปน็ การวจิ ยั กงึ่ ทดลอง (quasi-experimental research) มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ศกึ ษาผลของ โปรแกรมการพยาบาลเพ่ือเสริมสร้างพลังอ�ำนาจต่อการปรับตัวในการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ของมารดาที่มีทารก คลอดกอ่ นกำ� หนด กลมุ่ ตวั อยา่ งเปน็ มารดาทค่ี ลอดทารกกอ่ นกำ� หนดอายคุ รรภน์ อ้ ยกวา่ 37 สปั ดาห์ และทารก ไดร้ บั การรกั ษาในหอผปู้ ว่ ยหนกั เดก็ โรงพยาบาลพระนครศรอี ยธุ ยา จำ� นวน 40 คน การเลอื กกลมุ่ ตวั อยา่ งเปน็ แบบเฉพาะเจาะจง แบง่ เปน็ กลมุ่ ควบคมุ 20 คน กลมุ่ ทดลอง 20 คน โปรแกรมการพยาบาลเพอื่ เสริมสร้าง พลังอ�ำนาจต่อการปรับตัวในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดาท่ีมีทารกคลอดก่อนก�ำหนด ผู้วิจัยได้ด�ำเนิน กิจกรรม 6 ข้นั ตอนคือ 1) การสร้างสัมพนั ธภาพและความร่วมมือ 2 ) การคน้ หาสภาพการณ์จริงของมารดา 3) การสร้างพลังในการแกป้ ญั หา 4) การเสริมแหล่งพลงั อำ� นาจ 5) การเสรมิ สร้างพลงั อำ� นาจดว้ ยตนเอง 6 ) การสร้างความม่ันใจและคงไว้ซึ่งความสามารถ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย แบบสอบถามการปรับตัวในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และแบบประเมินแหล่งพลังอ�ำนาจของมารดาที่มีทารก คลอดก่อนก�ำหนด ซึ่งได้ผ่านการทดสอบความตรงตามเน้ือหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จ�ำนวน 5 ท่าน และน�ำไป ทดสอบความเท่ยี ง-กบั มารดาทีม่ ลี ักษณะใกล้เคยี งกบั กลุม่ ตัวอย่าง จ�ำนวน 20 คนได้คา่ สัมประสิทธิ์แอลฟ่า ของครอนบาค เทา่ กบั 0.81 และ 0.76 ตามล�ำดับ วเิ คราะห์ข้อมลู โดยใช้สถิติเปรียบเทยี บหาค่าที (Inde- pendent t-test) กำ� หนดความเชอ่ื มนั่ ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั 0.01 การดำ� เนนิ การวจิ ยั เรมิ่ หลงั จากผา่ นการพจิ ารณา จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และกลุ่มตัวอย่างเซ็นใบยินยอมการเข้าร่วมใน การวิจยั ผลการวจิ ยั พบวา่ คะแนนการปรบั ตวั ในการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมข่ องมารดาทมี่ ที ารกคลอดกอ่ นกำ� หนดของ กลุ่มท่ีได้รับโปรแกรมการพยาบาลเพ่ือเสริมสร้างพลังอ�ำนาจกับกลุ่มที่ได้รับตามมาตรฐานปกติเท่ากับ 4.49 และ 2.79 ตามล�ำดับ แสดงให้เห็นว่าคะแนนการปรับตัวในการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ของมารดาท่ีมีทารกเกิด คลอดก่อนก�ำหนดและได้รับโปรแกรมการพยาบาลเพ่ือเสริมสร้างพลังอ�ำนาจสูงกว่าคะแนนการปรับตัวของ มารดาที่มีทารกคลอดก่อนก�ำหนดท่ีได้รับการพยาบาลตามมาตรฐานปกติอย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิติท่ีระดับต่�ำ กว่า 0.01 จึงควรส่งเสริมการน�ำโปรแกรมการพยาบาลเพื่อเสริมสร้างพลังอ�ำนาจต่อการปรับตัวในการเลี้ยง ลูกด้วยนมแม่ของมารดาท่ีมีทารกคลอดก่อนก�ำหนดไปประยุกต์ในทางปฏิบัติการพยาบาล เพื่อส่งเสริมความ ส�ำเรจ็ ของการเลีย้ งลูกดว้ ยนมแมใ่ นทารกคลอดกอ่ นก�ำหนด 162
ผลของโปรแกรมสรา้ งเสรมิ สมรรถนะการเลย้ี ง Effect of program enhanc- ลกู ดว้ ยนมแมก่ บั การมสี ว่ นรว่ มของครอบครวั ing Self-efficacy in breast- ตอ่ ระยะเวลาการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมแ่ ละการเปลย่ี น feeding with family’s par- แปลงนำ้� หนกั ตวั ของทารกเกดิ กอ่ นกำ� หนด ticipation on duration of breastfeeding and weight gain in preterm infant พชั รพร แก้ววมิ ล ผู้ช่วยศาสตราจารย์, คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ บทน�ำ การแยกทารกจากมารดาหลังคลอดเป็นอุปสรรคส�ำคัญต่อการกระตุ้นนมแม่และบ่ันทอน สมั พนั ธภาพในครอบครวั มารดามกั วติ กกงั วลตอ่ ภาวะเจบ็ ปว่ ยของบตุ ร ขาดความมนั่ ใจทารกจงึ ไดร้ บั นมแม่ ในระยะสน้ั วตั ถปุ ระสงค์ เพอ่ื ศกึ ษาผลของโปรแกรมสรา้ งเสรมิ สมรรถนะการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมก่ บั การมสี ว่ นรว่ ม ของครอบครวั ตอ่ ระยะเวลาการใหน้ มแมแ่ ละนำ�้ หนกั ตวั ทารก วธิ กี ารศกึ ษา: กลมุ่ ตวั อยา่ งเปน็ มารดาและทารกเกดิ กอ่ นกำ� หนด ไดจ้ ากการสมุ่ อยา่ งงา่ ย แบง่ เปน็ กลมุ่ ทดลอง 30 คนและควบคมุ 30 คน กลมุ่ ทดลองจะไดด้ สู อ่ื วดิ ทิ ศั นเ์ กย่ี วกบั ทารกเกดิ กอ่ นกำ� หนดและวางแผน การดแู ลทารกรว่ มกนั ครอบครวั จะไดร้ บั ความรเู้ รอ่ื งนมแมต่ ง้ั แตร่ ะยะที่ 1 (วนั ที่ 1-5) เรม่ิ ฝกึ บบี เกบ็ นำ้� นม ระยะที่ 2 (วนั ท่ี 6-14) ครอบครวั ชว่ ยเหลอื ประคบั ประคองใหบ้ บี เกบ็ นำ้� นมอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ระยะที่ 3 (วนั ที่ 15-60) ทารกฝกึ ดดู นมจากเตา้ และประเมนิ ความพรอ้ มกอ่ นกลบั บา้ น มารดาจะบนั ทกึ ขอ้ มลู ทง้ั หมดในแบบ บนั ทกึ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมช่ ดุ ที่ 1-3 และผวู้ จิ ยั บนั ทกึ นำ้� หนกั ตวั ของทารกลงบนกราฟ ผลการศกึ ษา: ทารกกลมุ่ ทดลองมนี ำ�้ หนกั ตวั เฉลย่ี เพมิ่ ขน้ึ (2,929.23 ±403.63 กรมั ) สงู กวา่ กลมุ่ ควบคมุ (2,615 ±360.22 กรมั ) อยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถติ ิ (p<0.01) และมารดากลมุ่ ทดลองสามารถเลย้ี ง ลกู ดว้ ยนมแม่ (เฉลย่ี 62.67 ±13.11วนั ) นานกวา่ กลมุ่ ควบคมุ (46.93 ±9.40วนั ) อยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทาง สถติ ิ (p <0.001) สรปุ ผล: การสรา้ งเสรมิ สมรรถนะการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมร่ ว่ มกบั การมสี ว่ นรว่ มของครอบครวั ในการดแู ล ทารกจะชว่ ยใหเ้ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมไ่ ดอ้ ยา่ งตอ่ เนอื่ งและทารกมกี ารเตบิ โตเพม่ิ ขน้ึ จากการไดร้ บั นมแม่ การประชุมวชิ าการนมแมแ่ ห่งชาติ คร้ังที่ 6 163
ตูน้ มพอเพียง Sufficient milk storage ฝากได้ไม่จำ�กดั is unlimited รติกาล เลศิ ศริ 1ิ อนงค์ แหลมเขาทอง2 ดาวรงุ่ บัวผัน3 โรงพยาบาลแปลงยาว บทน�ำ : นมแม่เป็นสดุ ยอดอาหารสำ� หรบั ลกู เพ่อื เปน็ การสง่ เสรมิ และสนบั สนุนการเลียงลกู ด้วยนม แม่ ในกลมุ่ ท่แี ม่ท�ำงานนอกบ้านและมกี ำ� ลังทรัพย์น้อย จงึ ได้จัดบริการรับฝากนมแมข่ ้ึน/ วตั ถุประสงค์ : เพอื่ ส่งเสรมิ การเลี้ยงลูกดว้ ยนมแม่ในมารดาทีท่ ำ� งานนอกบา้ น วิธีการด�ำเนินงาน : ป2ี 552 พบปญั หาแมห่ ลังคลอดทท่ี ำ� งานนอกบา้ นทีต่ อ้ งการเลี้ยงลกู ด้วยนม แม่ไม่สามารถเลี้ยงได้ส�ำเร็จเนื่องจากไม่มีตู้แช่นม/จัดหาตู้แช่นมโดยความร่วมมือกับชุมชนองค์กรท้องถ่ิน โดยรว่ มกันบรจิ าคตู้แช่นมจ�ำนวน1ตู้ ประชาสมั พนั ธ์ให้ผูร้ ับบริการในชุมชนและในสถานประกอบการ เปดิ บรกิ ารรบั ฝาก-เบิก จ่ายนมไดต้ ลอด 24 ชว่ั โมง มีการพฒั นาบคุ ลากรโดยสง่ ฝึกอบรมทีโ่ รงพยาบาลศริ ิราช ป2ี 554พบปญั หาตแู้ ชน่ มไมเ่ พยี งพอในการใหบ้ รกิ ารชมุ ชนจงึ ไดบ้ รจิ าคตแู้ ชเ่ พมิ่ อกี จำ� นวน1ตแู้ ละป2ี 555มี ผู้บริจาคเพ่ิมอีก1 ตู้ และส่งเจ้าหน้าท่ีไปฟื้นฟูหลักสูตรการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ที่สถาบันเด็กแห่งชาติมหา ราชินีปี2559พบปัญหานมแม่มีภาวะล้นStockจากมารดาบางรายมีน้�ำนมมาฝากมากแต่มีการเบิกกลับไป นอ้ ย จงึ ปรบั ใหม้ สี มดุ คฝู่ ากประจำ� ตวั ผรู้ บั บรกิ ารเพอื่ ใหม้ ารดาทราบปรมิ าณนมในStock ของตนเองและให้ มีเชือกสีประจ�ำตวั ผู้รับบรกิ ารเพ่อื สะดวกในการคน้ หามีการตรวจเชค็ สต๊อกนมทุกเดือน ผลการศึกษา (สาระส�ำคญั ที่ได้จากการศกึ ษา/วจิ ยั /การคิดค้น) ตารางแสดงข้อมลู ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 ปี 2555 ปี 2556 ปี 2557 ปี 2558 ปี 2559 ปี 2560 ยอดการรบั ฝากนมแม่ (ราย) 8 12 10 11 6 13 18 18 4 อตั ราสำ�เรจ็ การเลีย้ งลูกด้วย 5/63 10/83 10/100 8/72 6/100 12/92 18/100 18/100 4/100 นมแม่ท่ที ำ�งานนอกบา้ น/ นำ�นมมาฝากที่โรงพยาบาล แปลงยาว(ราย/รอ้ ยละ ตารางที1่ : ขอ้ มูลจากทะเบยี นการรับฝาก-ถอน นมแม่โรงพยาบาลแปลงยาว สรปุ ผล : ผลลัพธค์ วามส�ำเร็จของมารดาท่ีฝากนมในโรงพยาบาลแปลงยาวในระยะ 3ปหี ลังสูงรอ้ ย ละ100เนอ่ื งจากมแี บบอยา่ งความสำ� เรจ็ และความตงั้ ใจจรงิ ของครอบครวั เจา้ หนา้ ทน่ี มแมท่ ใี่ หก้ ารสนบั สนนุ บริการรับฝากนมแม่เกิดขึ้นโดยความร่วมมือของผู้น�ำชุมชน องค์กรท้องถ่ินและโรงพยาบาลแปลงยาวท่ี ตอ้ งการชว่ ยแมห่ ลงั คลอดในชมุ ชนทท่ี ำ� งานนอกบา้ นสามารถเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมส่ ำ� เรจ็ และมที ส่ี ำ� รองในการ จัดเก็บน�้ำนมเพ่ิมข้ึน โดยการน�ำน้�ำนมแม่ที่บีบหรือปั๊มเก็บได้มาฝากในตู้แช่นมท่ีมีอุณหภูมิ -20 องศา เซลเซยี ส ซงึ่ ช่วยให้คงสภาพคุณประโยชน์ของน้�ำนมได้นาน 6 – 12 เดือน สถานทตี่ ้งั ของตแู้ ช่น�้ำนมอยูท่ ่ี งานหลงั คลอดโรงพยาบาลแปลงยาวโดยมเี จา้ หนา้ ทพ่ี รอ้ มใหบ้ รกิ ารไดต้ ลอด24ชวั่ โมงและมที ะเบยี นการรบั ฝาก-ถอนน�้ำนมร่วมกับสมุดคู่ฝากมีการลงชื่อยืนยันโดยเจ้าหน้าท่ีและผู้มาฝาก-ถอนนม/ถุงแช่ท่ีใส่ถุงเก็บ นำ้� นมมสี ปี ระจำ� ตัวมารดาและมีหมายเลขลำ� ดับทปี่ ระจ�ำถงุ และมกี ารตรวจเชค็ สรปุ ผลทกุ เดอื น 164
การพัฒนารปู แบบการสนับสนนุ Model development of การเลย้ี งลกู ด้วยนมแมใ่ นสถาน breastfeeding support in ประกอบการผ่านกระบวนการ workplaces using empower- เสริมสรา้ งพลังอำ�นาจ ment process ประทุมา ฤทธ์ิโพธ1์ิ พรรณทิพา บัวคลา้ ย1 ศริ กิ นก กลน่ั ขจร1 ปริญญาพร จนั ทรศ์ ร2ี 1คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร จ.พิษณโุ ลก, 2โรงเรียนบา้ นคลองน�้ำไหลใต้ จ. กำ� แพงเพชร บทน�ำ: ลูกจ้างสตรีท่ีกลับมาท�ำงานท�ำงานเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไม่ส�ำเร็จตามนโยบายที่ต้ังไว้ ดังน้ัน นายจา้ งควรตระหนักและให้ความสำ� คัญการเลีย้ งลูกด้วยนมแม่แก่ลูกจา้ งอยา่ งต่อเน่ือง วัตถุประสงค์: พัฒนารูปแบบการสนับสนุนการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ในสถานประกอบการผ่าน กระบวนการเสรมิ สรา้ งพลังอำ� นาจตามแนวคิด Conger & Kanungo (1988) เขตภาคเหนือตอนล่าง วธิ ี การ: การวิจยั เชิงปฏบิ ตั ิการ มี 2 ระยะ ได้แก่ 1) สอบถามออนไลน์การสนับสนุนการเล้ียงลูกดว้ ยนมแม่ ผา่ นจากผูร้ ับผดิ ชอบเกี่ยวกบั สวสั ดิการลกู จ้าง จ�ำนวน 100 แหง่ และ 2) พฒั นารูปแบบการสนบั สนุน การเล้ยี งลกู ด้วยนมแม่ จำ� นวน 2 แห่ง จากผรู้ ับผิดชอบและเจา้ หน้าท่ีที่เกย่ี วข้อง และประเมนิ ผลรูปแบบ จากลกู จ้างหลงั คลอด จากการสัมภาษณ์ สนทนากลุม่ และการสงั เกต ผลการศกึ ษา: การใหค้ วามสำ� คญั การสนบั สนนุ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมแ่ กล่ กู จา้ งอยใู่ นระดบั ปานกลาง คา่ เฉล่ีย 3.57-5.82 มเี พยี งรอ้ ยละ 40 ท่จี ดั กการสนบั สนุนแตไ่ ม่เป็นไปตามมาตรฐานทีค่ วรด�ำเนินการ การเสริมสร้างพลังอ�ำนาจ มี 6 กระบวนการ ได้แก่ 1) จุดประกายความรับผดิ ชอบต่อสงั คม 2) สะท้อน จดุ ออ่ นการสนบั สนนุ การเล้ยี งลกู ด้วยนมแม่ 3) บูรณาการนโยบายการเล้ียงลกู ดว้ ยนมแมเ่ ป็นสว่ นหน่งึ ใน แผนงานสนบั สนนุ สวสั ดกิ ารของบคุ ลากร 4) สนบั สนนุ ขอ้ มลู และแนวทางดำ� เนนิ การสนบั สนนุ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมใ่ นสถานประกอบการ 5) เสรมิ พลังบทบาทการเล้ียงลูกด้วยนมแมเ่ ป็นส่วนหนึ่งของหนา้ ท่ขี อง ลกู จา้ ง 6) ตดิ ตามและสนบั สนนุ การเปน็ ตน้ แบบสถานประกอบการทป่ี ระสบความสำ� เรจ็ ในการเลยี้ งลกู ดว้ ย นมแม่ สรปุ : การสนบั สนนุ จากสถานประกอบการเปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทที่ ำ� ใหล้ กู จา้ งหลงั คลอดทกี่ ลบั มาทำ� งาน เกดิ การการรับรวู้ า่ ตนเองมีสมรรถนะในการเลี้ยงลกู ด้วยนมแม่ไดต้ ่อเน่อื งส�ำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ การประชมุ วชิ าการนมแม่แหง่ ชาติ ครง้ั ที่ 6 165
ผลการใช้สือ่ 3 มติ ิ คดั กรองเตา้ นม THE RESULTS OF 3D MEDIA ด้วยตนเองของหญิงตั้งครรภ์ ON SELF BREAST SCREEN- ING OF PREGNANT WOMEN วรญิ ญา คงพิจิตร1 ละมุล คงเพชร2 โรงพยาบาลหาดใหญ่ บทน�ำ การคดั กรองเตา้ นมเปน็ ปจั จยั หนงึ่ สคู่ วามสำ� เรจ็ ในการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ ปญั หาทพ่ี บในแผนก ฝากครรภ์โรงพยาบาลหาดใหญ่พบว่าหญิงตั้งครรภ์ท่ีมาฝากครรภ์คร้ังแรกได้รับการคัดกรองเต้านมคิดเป็น รอ้ ยละ 87.71และไดร้ บั การคดั กรองซำ�้ เมือ่ อายคุ รรภ์ 32 สัปดาหเ์ พยี งรอ้ ยละ 7.58 กลุ่มหญิงตงั้ ครรภ์ ทไี่ มไ่ ด้รับการคดั กรองเตา้ นมในระยะตั้งครรภเ์ ม่ือตรวจหลงั คลอดพบว่าเต้านมผิดปกติรอ้ ยละ 17.65 และ ยงั พบอกี วา่ มารดาหลงั คลอดกลมุ่ นไี้ มส่ ามารถเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งเดยี วถงึ รอ้ ยละ 32.92 (เวชระเบยี น คลนิ กิ นมแมโ่ รงพยาบาลหาดใหญ)่ ผวู้ จิ ยั จงึ คดิ ทำ� วจิ ยั เรอื่ งผลการใชส้ อื่ 3มติ คิ ดั กรองเตา้ นมดว้ ยตนเองของ หญงิ ตงั้ ครรภข์ ึ้น วัตถปุ ระสงค์ เพอ่ื ศึกษาผลการใชส้ ื่อ 3 มติ ิ ในการคัดกรองเต้านมดว้ ยตนเองของหญิงต้งั ครรภ์ วธิ ีการศึกษา การวจิ ยั กึ่งทดลองศกึ ษาในหญิงตั้งครรภร์ ายใหม่ ครรภ์แรกจำ� นวน 139 ราย แบบ กลุม่ เดียวเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลโดยใช้เคร่อื งมือ 3 สว่ นคอื 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป 2) แบบบนั ทกึ การ คดั กรองเตา้ นมดว้ ยตนเองกอ่ นและหลังใชส้ ือ่ 3 มติ ิ และ 3)แบบสอบถามความพงึ พอใจ ตรวจความตรง ของเครื่องมือ โดยผู้เช่ียวชาญ3ท่านและทดสอบความเที่ยงโดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์อัลฟ่าครอนบาค ได้ค่า ความเทยี่ ง 0.74 วิเคราะห์ขอ้ มูลโดยหาคา่ ความถี่ รอ้ ยละ คะแนนเฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน สถิติ pair t-test ผลการศกึ ษา พบว่าคะแนนรอ้ ยละความถูกต้องในการคดั กรองเตา้ นมดว้ ยตนเองก่อนใช้สอ่ื คิดเปน็ ร้อยละ 50.5 หลังใชส้ ือ่ คดิ เป็นรอ้ ยละ 98.4 และเมือ่ เปรียบเทยี บคะแนนเฉลย่ี กอ่ นและหลังใช้สื่อพบวา่ คะแนนเฉล่ยี กอ่ นใช้สื่อ (=2.53, SD=1.26) และหลงั ใช้สอ่ื (=4.92, SD=.27) ซง่ึ มีความแตกตา่ งอยา่ ง มีนยั สำ� คัญ (p<0.001) และเม่ือสอบถามความพึงพอใจตอ่ การใช้ส่ือพบว่าอยู่ในระดับมากท่สี ุด (=4.83, SD=0.37) สรุป ส่ือ 3 มิติสามารถน�ำมาใช้ในการคัดกรองเต้านมด้วยตนเองของหญิงตั้งครรภ์ได้ผลถึงร้อยละ 98.4 และการท่หี ญิงตง้ั ครรภ์สามารถตรวจคัดกรองเต้านมด้วยตนเอง ทำ� ใหห้ ญิงตงั้ ครรภ์ทราบว่าเต้านม ตนเองปกตหิ รอื ผดิ ปกติ สรา้ งความมน่ั ใจในการเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื เลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมไ่ ดถ้ กู ตอ้ ง อยา่ งไร ก็ตามการคัดกรองเตา้ นมหญงิ ตัง้ ครรภ์ เจา้ หน้าท่ใี นแผนกฝากครรภค์ วรน�ำส่ือ 3 มิติมาใชร้ ว่ มกับการสอน หญิงต้ังครรภ์เพื่อให้ตรวจเต้านมด้วยตนเองต้ังแต่ระยะฝากครรภ์ครั้งแรกและมีการตรวจซ�้ำเมื่ออายุครรภ์ 32 สัปดาห์ข้ึนไป พร้อมแนะนำ� วธิ ีการตรวจดว้ ยตนเองท่ถี ูกตอ้ ง ตลอดจนวธิ ีการดแู ลเต้านมและการแกไ้ ข ในกรณีพบปญั หาผดิ ปกติ ซ่งึ น�ำไปสคู่ วามสำ� เรจ็ ของการเล้ยี งลกู ด้วยนมแม่ต่อไป 166
ประสบการณก์ ารเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ Lived experience of breast- ของหญงิ ผตู้ อ้ งขงั ณ ทณั ฑสถานหญงิ feeding among incarcerat- แหง่ หนงึ่ ในเขตภาคเหนอื ตอนลา่ ง ed women at one prison in lower norther area ประทุมา ฤทธโ์ิ พธ์ิ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร จ.พษิ ณโุ ลก บทน�ำ: นมแมเ่ ปน็ อาหารทสี่ ำ� คญั ทสี่ ดุ สำ� หรบั เดก็ ทารก ดงั นนั้ การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ผตู้ อ้ งขงั และเดก็ ตดิ ผตู้ อ้ งขงั จงึ ควรใหค้ วามสำ� คญั โดยเฉพาะในสงิ่ แวดลอ้ มทจ่ี ำ� กดั และกฎระเบยี บทเี่ ครง่ ครดั เชน่ ทณั ฑสถาน วตั ถปุ ระสงค:์ เพ่ือบรรยาย และอธิบายประสบการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของหญิงผู้ต้องขัง ณ ทณั ฑสถานหญงิ แหง่ หนงึ่ ในเขตภาคเหนอื ตอนลา่ ง วธิ กี าร: กระบวนการวจิ ยั เชงิ คณุ ภาพโดยการสมั ภาษณเ์ ชงิ ลกึ การดำ� เนนิ กระบวนการกลมุ่ และการ สงั เกตแบบไมม่ สี ว่ นรว่ มผตู้ อ้ งขงั ทค่ี ลอดลกู และมหี รอื เคยมเี ดก็ ตดิ ผตู้ อ้ งขงั ไมเ่ กนิ 1 ปี จำ� นวน 16 ราย ณ ทณั ฑสถานหญงิ แหง่ หนงึ่ ในเขตภาคเหนอื ตอนลา่ ง ผลการศกึ ษา: การวเิ คราะหเ์ ชงิ เนอ้ื หา พบวา่ ภายหลงั ขาดอสิ รภาพและเขา้ มาสทู่ ที่ ณั ฑสถานพรอ้ ม การตง้ั ครรภ์ ประสบการณท์ เี่ ผชญิ มี 4 ระยะ คอื 1) ความรสู้ กึ ไมแ่ นใ่ จตอ่ บทบาทมารดา 2) ภาวะอารมณ์ สองฝกั สองฝา่ ยทเี่ ลยี้ งลกู ในทณั ฑสถาน 3) เผชญิ สถานการณป์ ญั หาและทกุ ขใ์ จในชวี ติ และ 4) เฝา้ รอคอย อสิ รเสรแี ละเตรยี มความพรอ้ มในการแสดงบทบาทมารดาทด่ี ี สำ� หรบั ขนั้ ตอนความคดิ ในการเลย้ี งลกู ดว้ ยนม แมใ่ นทณั ฑสถาน มี 4 ขน้ึ ตอน คอื 1) การเตรยี มพรอ้ มเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมห่ รอื ไมเ่ ลยี้ งในทณั ฑสถาน 2) หนง่ึ ปกี บั บทบาทหญงิ ทเ่ี ลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมใ่ นทณั ฑสถาน 3) พรากจากบตุ รอนั เปน็ ทร่ี กั หลงั กฎอนญุ าตเลย้ี งลกู ใน ทณั ฑสถานหนงึ่ ปี และ 4) ยอมรบั กฎแหง่ การพลดั พราก สรปุ : ทณั สถานและเรอื นจำ� ควรมแี นวทางพฒั นาการ สนบั สนนุ การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งแรงกลา้ ในขอ้ จำ� กดั ของสถานทแ่ี ละกฎระเบยี บ ซง่ึ เปน็ กลวธิ หี นง่ึ ทเ่ี สรมิ พลงั อำ� นาจในการแสดงบทบาทมารดาและการคงไวค้ ณุ คา่ ของผตู้ อ้ งขงั เพอ่ื เปน็ การเตรยี มพรอ้ มคนคณุ ภาพ ออกสสู่ งั คมตอ่ ไป การประชุมวชิ าการนมแมแ่ หง่ ชาติ ครง้ั ท่ี 6 167
ภาคผนวก 168
โครงการ การประชมุ วิชาการนมแม่ ปี ๒๕๖๐ แห่งชาติ คร้งั ที่ ๖ ๑. ความเปน็ มา หลกั การและเหตุผล นมแม่เป็นอาหารทดี่ ที สี่ ดุ สำ� หรบั ทารก เปน็ สารอาหารธรรมชาติ ท่มี ีสารอาหารครบถ้วนและเสริมภมู ิ ต้านทานท่จี ำ� เปน็ ต่อรา่ งกาย มกี รดไขมันที่ช่วยพัฒนาสมองเดก็ สารในระบบภมู ิค้มุ กัน ช่วยลดความเสย่ี ง จากการติดเชื้อทัว่ ไป เชน่ ปอดบวม ทอ้ งเสีย ฯลฯ หรือ แม้แตก่ ลมุ่ โรคเร้ือรงั ในอนาคต เช่น เบาหวาน มะเร็งเม็ดเลือดขาวในเดก็ เป็นตน้ รวมถงึ เกดิ ผลดีต่อสขุ ภาพของแม่ ไดแ้ ก่ ขบวนการเล้ียงดทู ่แี มแ่ ละลูก ต้องอยู่ด้วยกัน ใกล้ชิดกัน เป็นโอกาสการสร้างความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก และการมีโอกาสชี้น�ำ สอนลูก ใหม้ ีการพฒั นาการทด่ี ี เป็นตน้ ทุนสขุ ภาพท้งั ด้านรา่ งกาย IQ และ EQ ปจั จุบัน นโยบายรฐั บาลที่จะก้าวสยู่ ุค ๔.๐ จำ� เป็นต้องมกี ารเตรียมประชาชนทมี่ ีทักษะในการคดิ และ ตดั สนิ ใจอยา่ งเปน็ ระบบ จากการศกึ ษาของนกั วทิ ยาศาสตรน์ านาชาตหิ ลากหลายสาขา ทง้ั ทางดา้ นประสาท จติ วทิ ยาและด้านการศึกษา พบว่า การพฒั นาใหเ้ ด็กมี Executive Function (EF) เป็นพื้นฐานสำ� คญั สู่ การพฒั นาประชากรไทยใหม้ คี ุณภาพ ซึง่ เดมิ เคยเชือ่ ม่ันว่าเพราะมี EQ และ IQ ดี แตเ่ ดก็ ทีม่ ี EF ดีจะมี ความสามารถในการบรหิ ารจดั การชีวิต คือ คดิ เปน็ ท�ำเปน็ เรยี นร้เู ป็น แกป้ ัญหาเป็น อยกู่ ับคนอืน่ เป็น และหาความสขุ เป็น มีความสามารถคิดอย่างมีเหตุมีผล ยับยั้งช่งั ใจได้ วางแผนทำ� งานเปน็ ซ่ึง EF เป็น ศักยภาพทม่ี นุษยท์ กุ คนมมี าแต่ก�ำเนดิ แต่ต้องได้รับการดแู ลฝกึ ฝนตงั้ แต่วยั ทารก จนกลายเป็นทกั ษะของ สมองในเด็กโต และเป็นบคุ ลิกภาพแหง่ ความส�ำเร็จไปตลอดชีวิต การเลี้ยงลกู ดว้ ยนมแม่ เปน็ ตน้ ทุนของการเลีย้ งดูทารกทีจ่ ะท�ำให้ได้รับโอกาสการพฒั นา EF ทีด่ ี เรมิ่ ต้นจากคุณค่าของอาหารในนมแม่ต่อการพัฒนาในเนื้อสมอง โดยปัจจัยวิธีเลี้ยงดูของแม่ จะช่วยเสริมให้ พฒั นาด้าน EF ไปอย่างถกู ทาง ดังน้ัน การสง่ เสรมิ การเลีย้ งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ย่างเหมาะสม ควบคูก่ ับเทคนคิ การคดิ อยา่ งถกู ต้อง จึงเป็นเรื่องทีช่ ว่ ยเสริมนโยบายการสร้างบุคลากรคณุ ภาพใหก้ บั ประเทศ สถานการณ์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในประเทศไทย จากรายงานการส�ำรวจสถานะสุขภาพเด็กไทย (Multiple Indicator Cluster Surveys: MICS) ในปี พ.ศ.๒๕๕๕ โดยสำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ ด้วยการ สนับสนุนขององค์การ UNICEF แสดงจากกราฟแบบแผนการกินนมแม่ของทารกตามช่วงอายุ ของ ประเทศไทย ๒๕๕๕ พบวา่ อัตราการเลยี้ งลูกด้วยนมแมอ่ ยา่ งเดียวในช่วงอายุ ๐-๑, ๓, และ ๖ เดอื นอยู่ ท่ีร้อยละ ๓๐, ๑๕ และ ๑๒.๓ ตามลำ� ดับเปรยี บเทียบกบั ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ในช่วงอายุเดยี วกนั อยู่ท่ีรอ้ ยละ ๑๑.๖, ๗.๖ และ ๕.๔ ซึ่งเปน็ การเปลี่ยนแปลงท่ดี ขี ึ้นในระดับหน่งึ ภาพรวมของทารกที่ได้รบั นมแม่ ในช่วง อายุ ๖-๗ เดอื นแรกยังอยใู่ นระดับทดี่ ี คือร้อยละ ๕๕ แตย่ ังไมบ่ รรลเุ ปา้ หมายอัตราการเล้ยี งลกู ด้วยนมแม่ อยา่ งเดยี วในทารกอายุน้อยกว่า ๖ เดือนของกรมอนามัย ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ ๕๐และ องค์การอนามยั โลกก�ำหนดไวท้ ี่ร้อยละ ๓๕ การส่งเสริมการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ให้ส�ำเร็จและบรรลุเป้าหมาย เพ่ือให้อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพ่ิมขนึ้ ในทศิ ทางทีต่ ่อเน่ือง คอื การเสริมสร้างทัศนคตแิ ละคา่ นิยมของการเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่อยา่ งเดียว ๖ เดอื น และเล้ยี งควบค่อู าหารทเี่ หมาะสมตามวยั อย่างตอ่ เน่ืองจนอายไุ ด้มากกวา่ ๒ ปี ใหก้ ับแม่ พอ่ และ ญาติท่ีช่วยเหลือในการเล้ียงดูเด็ก การส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมีการพัฒนาศักยภาพ เพ่ิมพูนความรู้ ศกึ ษาวจิ ยั แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ และนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการใหบ้ รกิ ารทเี่ หมาะสมกบั บรบิ ทและพนื้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ มีการกระตุ้นให้ชุมชน และสังคมเห็นความส�ำคัญ และมีส่วนร่วมในการสร้างส่ิงแวดล้อมให้เอ้ือต่อการส่ง เสริมการเล้ียงลกู ดว้ ยนมแม่ ดงั นนั้ การจดั ประชมุ วชิ าการเพอื่ ใหท้ กุ ภาคสว่ นไดม้ สี ว่ นรว่ ม จะชว่ ยสนบั สนนุ ใหก้ ารสง่ เสรมิ การเลยี้ ง ลูกดว้ ยนมแมส่ �ำเรจ็ ตามเปา้ หมายได้ การประชมุ วชิ าการนมแม่แห่งชาติ คร้ังที่ 6 169
การประชมุ วชิ าการครงั้ นี้ เปน็ ครง้ั ที่ ๖ กำ� หนดหวั ขอ้ หลกั ของการประชมุ วา่ “รวมพลงั สรา้ งสงั คม นมแม่ ใหย้ ง่ั ยนื ” หรอื “Sustaining Breastfeeding Together” โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ รว่ มประชมุ ไดเ้ พม่ิ พนู ความรแู้ ละทกั ษะการเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแม่ ใหท้ นั สมยั ทนั กบั การเปลย่ี นแปลง ไดแ้ ลก เปลยี่ นเรยี นรู้ ประสบการณ์ ทส่ี ามารถนำ� ไปปฏบิ ตั ิ ในการแนะนำ� และแกไ้ ขปญั หา เพอ่ื ใหแ้ มเ่ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมไ่ ดส้ ำ� เรจ็ เสรมิ สรา้ งพลงั ใน การทำ� งานรว่ มกนั ของเครอื ขา่ ยวชิ าชพี ทงั้ ภาครฐั และเอกชน และสง่ เสรมิ วทิ ยากรรนุ่ ใหมใ่ นการเขา้ มามสี ว่ น รว่ ม เพอ่ื การขบั เคลอื่ นนมแมส่ สู่ งั คมไทยอยา่ งยง่ั ยนื รปู แบบการประชมุ ประกอบดว้ ยการบรรยายวชิ าการ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การระดมสมอง โดยผทู้ รง คณุ วฒุ แิ ละวทิ ยากรผเู้ ชย่ี วชาญจากหลากหลายสถาบนั การนำ� เสนอผลงานวจิ ยั นวตั กรรม และผลงานทเี่ ปน็ เลศิ ของผปู้ ฏบิ ตั แิ ละผใู้ หบ้ รกิ ารทกุ ภาคสว่ น การจดั กลมุ่ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ กลมุ่ สนบั สนนุ นมแม่ โดยเฉพาะ ในชมุ ชน ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั จากการประชมุ ครง้ั นี้ คอื ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ ทกุ ระดบั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ สามารถ ปกปอ้ ง สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ชว่ ยเหลอื แมใ่ หไ้ ดเ้ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งเดยี ว ๖ เดอื น และ เลยี้ งควบคอู่ าหาร ทเี่ หมาะสมตามวยั อยา่ งตอ่ เนอ่ื งจนอายไุ ดม้ ากกวา่ ๒ ปี ๒. วตั ถุประสงคท์ วั่ ไป เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุม ได้เพิ่มพูนความรู้และทักษะการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ให้ทันสมัย ทันกับการ เปลยี่ นแปลง ทสี่ ามารถนำ� ไปปฏบิ ตั ิ ในการแนะนำ� และแกไ้ ขปญั หา เพอ่ื ใหแ้ มเ่ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมแมไ่ ดส้ ำ� เรจ็ เสรมิ สรา้ ง พลงั ในการทำ� งานรว่ มกนั ของเครอื ขา่ ยวชิ าชพี ทงั้ ภาครฐั และเอกชน และสง่ เสรมิ วทิ ยากรรนุ่ ใหมใ่ นการเขา้ มา มสี ว่ นรว่ ม เพอื่ การขบั เคลอื่ นนมแมส่ สู่ งั คมไทยอยา่ งยงั่ ยนื ๓. วัตถปุ ระสงค์เฉพาะ ๑) เพอ่ื เพมิ่ พนู ศกั ยภาพบคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ ใหต้ ระหนกั ถงึ ความสำ� คญั ของการใหท้ ารก ไดร้ บั นมแมห่ ยดแรกใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ ภายใน ๑ ชวั่ โมงแรกเกดิ สง่ เสรมิ ใหแ้ มเ่ ลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมอ่ ยา่ งเดยี ว ๖ เดอื น และเล้ียงลกู ด้วยนมแมต่ อ่ เน่อื งควบคู่กับอาหารตามวยั จนถึง ๒ ปี ๒) เพอื่ จดั เวทแี ลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ขอ้ มลู วชิ าการทท่ี นั สมยั ในการ ปกปอ้ ง สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การเลย้ี งลกู ดว้ ยนมแม่ และสรา้ งเครือขา่ ยนกั วชิ าการนมแมใ่ นประเทศไทย ๓) สรา้ งความตระหนกั และ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพของบทบญั ญตั ขิ องกฎหมาย ทเี่ กย่ี วขอ้ ง ควบคไู่ ปกบั การด�ำเนินงานก�ำกบั ตดิ ตามอยา่ งเปน็ รูปธรรม ๔) เพอ่ื เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้ จากผลการศกึ ษาวจิ ยั นวตั กรรม ใหมๆ่ และผลงานดเี ดน่ ของการบรหิ าร จดั การและการดำ� เนนิ งาน ของหนว่ ยบรกิ ารทงั้ ภาครฐั และเอกชน และสถานประกอบกจิ การ ในการปกปอ้ ง ส่งเสรมิ และสนับสนนุ การเลย้ี งลูกดว้ ยนมแม่ ๕) เพ่ือส่งเสริมภาคีเครือข่ายการปกป้อง ส่งเสริมและสนับสนุนการเล้ียงลูกด้วยนมแม่ในทุกระดับ ทงั้ ระดบั โรงพยาบาลในภาครฐั และเอกชน สถานประกอบกจิ การ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นทอ้ งถนิ่ จนถงึ ในระดบั ชมุ ชน รว่ มงาน และเป็นหนุ้ สว่ น กับกลมุ่ เปา้ หมายเฉพาะ เช่น สหภาพแรงงาน องค์กรสทิ ธิของแรงงาน กลุ่มสตรแี ละกลมุ่ เยาวชน เพอื่ ปกป้องสิทธิการเล้ียงลูกดว้ ยนมแมข่ องสตรีในทท่ี �ำงาน ๔ กลุ่มเป้าหมายและพ้นื ท่ดี ำ� เนนิ การ ผูเ้ ข้าประชมุ ๕๐๐ คน ประกอบดว้ ย ๑. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสขุ จากหน่วยบริการทวั่ ประเทศท้งั ภาครัฐและ ภาคเอกชน จำ� นวน ๓๕๐ คน ๒. บุคลากรหน่วยงาน/องคก์ รทีส่ นับสนุนการเล้ยี งลกู ด้วยนมแม่ ทัง้ ในภาครฐั เอกชน และ สถานประกอบกจิ การ รวมท้งั กลุ่มสนับสนุนนมแมใ่ นชุมชนและสงั คม จำ� นวน ๕๐ คน ๔. ผูน้ ำ� เสนอผลงานวิชาการจากทุกหน่วยงาน ๒๐ คน ๕. ท่ีปรกึ ษา วทิ ยากร คณะกรรมการ ๕๐ คน ๖. ผดู้ ำ� เนินการจัดประชมุ ๓๐ คน 170
๔. หน่วยงานหลกั และ ผูร้ บั ผดิ ชอบโครงการ ๑. มูลนธิ ิศนู ย์นมแมแ่ ห่งประเทศไทย (ศาสตราจารยค์ ลินกิ พญ.ศิราภรณ์ สวัสดวิ ร เลขาธกิ ารมลู นิธิ ศนู ยน์ มแม่ฯ) ๒. ส�ำนกั ส่งเสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามยั (ผอู้ �ำนวยการส�ำนักส่งเสริมสขุ ภาพ) ๕. แผนการด�ำเนินงาน ๕.๑ ขน้ั เตรียมการ ๑. จดั ตง้ั คณะกรรมการประชมุ วชิ าการนมแมแ่ หง่ ชาติ และคณะกรรมการดำ� เนนิ งานฝา่ ยตา่ งๆ ประกอบดว้ ย ๑.๑ คณะทีป่ รึกษา ๑.๒ คณะกรรมการด�ำเนนิ งานจดั ประชุม มี ๗ คณะ ดงั นี้ • กรรมการอ�ำนวยการ • กรรมการด้านวชิ าการ • กรรมการดา้ นพิจารณางานวจิ ยั และนวัตกรรม • กรรมการดา้ นสรปุ การประชุมและประเมนิ ผล • กรรมการดา้ นประชาสัมพันธ์ • กรรมการดา้ นพธิ ีการ • กรรมการดา้ นตอ้ นรบั ลงทะเบยี น สถานที่ การเงนิ โสตทศั นปู กรณ์ อาหาร ยานพาหนะ และปฐมพยาบาล ๒. ประชุมคณะกรรมการดำ� เนินงาน แต่ละคณะ ดงั นี้ ๒.๑ ประชมุ คณะกรรมการอำ� นวยการ การประชมุ วชิ าการนมแมแ่ หง่ ชาตฯิ เพอ่ื วางแผน และ ก�ำหนดประเดน็ เนอ้ื หาของการประชุม วางแนวทาง วิธีการจัดการประชุม และ ตดิ ตาม ความก้าวหนา้ (๒ คร้งั ) ๒.๒ ประชมุ คณะกรรมการดา้ นวชิ าการ เพอ่ื จดั ทำ� โครงการ กำ� หนดการประชมุ แผนการดำ� เนนิ งาน ชดุ นิทรรศการ ขอ้ มูลวิชาการการประชมุ และแผนการประเมินผล (๖ คร้งั ) ๒.๓ ประชมุ คณะกรรมการฝา่ ยพจิ ารณางานวจิ ยั และนวตั กรรม เพอื่ จดั ทำ� หลกั เกณฑก์ ารคดั เลอื ก ก�ำหนดวนั ในการรับงานวจิ ยั พจิ ารณาเนอื้ หาวิชาการ คัดเลือก ตัดสนิ งานวิจยั และ นวตั กรรม ทง้ั Oral และ Poster เพอ่ื ใหม้ านำ� เสนอในการประชมุ และจดั เตรยี มเนอื้ หา เพอื่ เปน็ เอกสาร ประกอบการประชมุ (๖ ครง้ั ) ๒.๔ ประชุมคณะกรรมการด้านสรุปการประชุมและประเมินผล เพ่ือจัดท�ำแบบสอบถาม ประเมนิ ผลการประชมุ มอบหมายหนา้ ทผี่ บู้ นั ทกึ การประชมุ สรปุ ประเดน็ สำ� คญั (minute note) รายวันและโดยรวม จัดท�ำรายงานประเมินผลหลังการประชุม และจัดท�ำเป็น เอกสารรายงาน (๒ ครง้ั ) ๒.๕ ประชุมคณะกรรมการด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันวางแผน ประชาสัมพันธ์ ก่อน- ระหว่าง-หลัง การจัดประชมุ เนน้ ช่องทาง Social Media ขา่ วสารการประชุม เชิญชวน เข้าร่วมประชุม ประชาสัมพันธ์ส่งผลงานวิจัยเข้าประกวด ประสานส่ือมวลชนเตรียม แถลงขา่ ว ประสานงานในการถ่ายวดี ีทศั น์ ภาพนง่ิ และโทรทัศน์วงจรปดิ ประสานและ ก�ำกบั ดูแลดา้ นโสตทัศนูปกรณ์ (๔ ครั้ง) ๒.๖ ประชมุ คณะกรรมการดา้ นพธิ กี าร เพอื่ ประสานงานการเตรยี มกำ� หนดการดา้ นพธิ เี ปดิ -ปดิ วางแผนการเตรยี มเชิญบคุ คลสำ� คญั เพอื่ ดำ� เนินการตามพิธกี าร ดำ� เนินรายการตลอด การประชุมให้เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย บรหิ ารเวลาการประชุมตามกำ� หนดการ และ สร้างบรรยากาศให้เกดิ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (๓ คร้งั ) การประชุมวิชาการนมแมแ่ หง่ ชาติ ครั้งท่ี 6 171
๒.๗ ประชุมคณะกรรมการ ต้อนรบั ลงทะเบยี น สถานที่ โสตทศั นูปกรณ์ งบประมาณ การ เบกิ -จา่ ยอาหาร ยานพาหนะ และปฐมพยาบาล เพอื่ ประสานจดั ทำ� รายชอ่ื ผลู้ งทะเบยี น วางแผนการต้อนรับลงทะเบียนผู้เข้าร่วมประชุม มอบหมายผู้รับผิดชอบ ประสานกับ กรรมการดา้ นอน่ื ๆ เรอื่ งสถานท่ี อาหาร ผงั การจดั นทิ รรศการ การถา่ ยภาพนง่ิ โทรทศั น์ วงจรปดิ การบันทึกเทป (๓ คร้งั ) ๓. จดั ทำ� หนังสือเชิญและประสาน ประธานเปิดการประชมุ ผทู้ รงคุณวุฒิ วิทยากร นักวิชาการ จากหนว่ ยงานต่างๆ เพ่อื บรรยาย อภิปราย นำ� เสนอผลงานวิจัย นวัตกรรมฯ ๔. ประชาสัมพันธ์โครงการ พร้อมส่งข้อมูลข่าวสารการจัดประชุม ให้หน่วยงานต่างๆ จัดท�ำ หนังสือเชิญชวนเข้าร่วมประชุม ประชาสัมพันธ์ทางส่ือต่างๆ แจกจ่ายเอกสาร สื่อสารทาง อนิ เทอรเ์ นต็ ฯ ๕. ผลติ ชดุ ส่อื เอกสาร และสง่ิ สนับสนุนในการประชุม ๕.๑ โปสเตอร์ประชาสัมพนั ธ์ ๒,๐๐๐ แผน่ ๕.๒ กระเปา๋ เอกสารประชมุ วชิ าการ ๕๐๐ ใบ ๕.๓ ผลติ หนงั สือประชุมวิชาการนมแม่แหง่ ชาติ จ�ำนวน ๖๐๐ เล่ม ๖. ขน้ั ดำ� เนนิ การ ๖.๑ ด�ำเนนิ การประชมุ ตามกำ� หนดการประชมุ ระยะเวลา ๓ วัน ๖.๒ ประเมินผลการจัดประชุม ๗. ภายหลงั การประชุม ๗.๑ สังเคราะห์ความรู้ และเผยแพร่ความรทู้ ่ีเปน็ ประโยชน์ส�ำหรับประชาชน ทางสอื่ ส่ิงพมิ พ์ ตา่ งๆ ทางอินเทอรเ์ นต็ เว็บไซต์ และ โซเชยี ล มีเดยี ๗.๒ สรุปผลการประชมุ จัดทำ� รายงานเสนอหน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ ง ๗.๘ ระยะเวลาด�ำเนินการ มกราคม ๒๕๖๐ – ธันวาคม ๒๕๖๐ ๗.๙ งบประมาณ งบประมาณจาก สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสร้างเสริมสุขภาพแห่งชาติ จ�ำนวน ๑,๗๔๐,๐๐๐ บาท (หน่ึงลา้ นเจ็ดแสนสี่หม่ืนบาทถว้ น ) เปน็ ค่าใช้จา่ ยดังน้ี ๑. คา่ อาหารกลางวนั ค่าอาหารว่าง และเครอื่ งดมื่ ของผูน้ �ำเสนอผลงานวิชาการ ๒. คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดินทาง คา่ ท่ีพัก คา่ อาหารกลางวัน ค่าอาหารเย็น คา่ อาหารว่าง และเครื่องดืม่ ของวิทยากร คณะกรรมการ และคณะทำ� งาน ๓. คา่ ใชจ้ ่ายในการประชุมเตรยี มการ ประชมุ คณะกรรมการดา้ นตา่ งๆ ๔. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ประกอบด้วย การจัดท�ำส่ือ สิ่งสนับสนุนในการประชุม การจัด นทิ รรศการ การประชาสมั พนั ธ์ การประเมนิ ผลการประชมุ การสงั เคราะหอ์ งคค์ วามรู้ เผยแพร่แกบ่ ุคลากรสาธารณสุข และประชาชนผา่ นเวบ็ ไซต์ และค่าบรหิ ารจัดการ ๗.๑๐ การประเมนิ ผล ๑. ประเมนิ ผลการประชมุ รายวนั โดยใชแ้ บบสอบถาม ความรทู้ ไ่ี ดร้ บั ตลอดจนขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ ของแตล่ ะชว่ งเวลานำ� เสนอ เพอ่ื นำ� ไปใชใ้ นการจดั การประชมุ ครงั้ ต่อไป ๒. ประเมนิ ความพงึ พอใจ โดยใชแ้ บบสอบถามความพงึ พอใจ และขอ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะ ท่ีมตี ่อการจดั ประชุมในภาพรวม ๗.๑๑ ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ ๑. มีเวทีวิชาการด้านการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพ่ือการพัฒนาศักยภาพ บคุ ลากรทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ และบคุ ลากรดา้ นอนื่ ๆ ทท่ี ำ� งานดา้ นสง่ เสรมิ การเลย้ี งลกู ด้วยนมแมอ่ ย่างต่อเนอื่ ง 172
๒. มกี ารขยายผล สร้างภาคีเครือขา่ ย แนวรว่ ม ในการปกปอ้ ง ส่งเสรมิ และสนับสนุน การเลยี้ งลกู ดว้ ยนมแมเ่ พม่ิ ขน้ึ ในหนว่ ยงานทง้ั ภาครฐั เอกชน สถานประกอบกจิ การ ชุมชน ๓. อัตราการเลีย้ งลกู ดว้ ยนมแมเ่ พิม่ ข้ึน และต่อเน่ือง ลงนาม............................................................ผเู้ สนอโครงการ (ศาสตราจารย์คลนิ กิ พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร) เลขาธิการมูลนธิ ิศนู ยน์ มแม่แหง่ ประเทศไทย ลงนาม...................................................................ผ้อู นมุ ตั ิโครงการ (พญ. ศิรพิ ร กญั ชนะ) ประธานมูลนธิ ิศนู ย์นมแมแ่ หง่ ประเทศไทย การประชุมวชิ าการนมแม่แหง่ ชาติ คร้งั ท่ี 6 173
คำ�สัง่ มลู นธิ ิศนู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย ที่ ๔ / ๒๕๖๐ เรือ่ ง แตง่ ตงั้ คณะกรรมการ “การประชุมวชิ าการนมแม่แหง่ ชาติครัง้ ที่ ๖” ด้วยมูลนธิ ิศูนยน์ มแมแ่ ห่งประเทศไทย ร่วมกบั กรมอนามยั ด�ำเนินการจัดประชมุ วชิ าการนมแมแ่ หง่ ชาติ ครง้ั ที่ ๖ ในระหวา่ งวนั ที่ ๘ – ๑๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๐ ณ โรงแรมมณเฑยี ร รเิ วอรไ์ ซด์ กรงุ เทพมหานคร ดงั นน้ั เพอื่ ใหก้ ารดำ� เนนิ งานเปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย จงึ ขอแตง่ ตงั้ คณะกรรมการในการจดั ประชมุ วชิ าการ ในครงั้ นี้ โดยมีรายนาม และ บทบาทหน้าที่ ดงั น้ี ๑. ท่ีปรกึ ษา ๑. รศ.พญ.คุณหญงิ สา่ หรี จติ ตนิ ันทน์ ท่ปี รึกษามูลนธิ ิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย ๒. ศ.คลนิ ิกเกียรติคุณ นพ.วรี ะพงษ์ ฉตั รานนท์ ที่ปรกึ ษามลู นธิ ศิ ูนย์นมแมแ่ หง่ ประเทศไทย ๓. ศ.คลินิกเกียรตคิ ุณ นพ.สุวชยั อินทรประเสริฐ ท่ปี รกึ ษามูลนิธิศูนยน์ มแม่แหง่ ประเทศไทย ๔. ผศ.พญ. สุอารยี ์ อน้ ตระการ ทปี่ รกึ ษามูลนิธศิ นู ย์นมแมแ่ หง่ ประเทศไทย ๕. นางสาวนงนชุ บุณยเกยี รติ ท่ปี รกึ ษามลู นธิ ิศูนยน์ มแมแ่ ห่งประเทศไทย ๖. อธิบดกี รมอนามยั ๗. อธิบดีกรมการแพทย์ ๘. อธบิ ดกี รมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน ๙. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ภเิ ศก ลุมพกิ านนท ์ ราชวทิ ยาลัยสูตินรีแพทยแ์ ห่งประเทศไทย ๑๐. ศ.นพ.พิภพ จิรภิญโญ ราชวทิ ยาลยั กุมารแพทย์แหง่ ประเทศไทย ๑๑. รศ.ดร.ทศั นา บญุ ทอง สภาการพยาบาล ๑๒. ศ.เกียรตคิ ุณ พญ. จฬุ าภรณ์ รุ่งพสิ ทุ ธพิ งษ์ สมาคมโภชนาการแหง่ ประเทศไทย ใน พระราชูปถมั ภ์สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ ๑๓. นพ.ลอื ชา วนรัตน์ อดตี ประธานมลู นธิ ศิ นู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย ๑๔. นพ.ศริ ิวฒั น์ ทิพยธ์ ราดล อดตี ประธานมลู นธิ ศิ นู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย ๒. คณะกรรมการอ�ำนวยการจัดประชมุ วชิ าการนมแม่แห่งชาติ ๑. พญ. ศิริพร กญั ชนะ มลู นิธศิ นู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย ประธาน ๒. นพ. ธงชยั เลศิ วไิ ลรตั นพงศ์ กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ประธานรว่ ม ๓. รศ.พญ. อรวรรณ ครี วี ฒั น์ คณะแพทยศ์ าสตรศ์ ริ ริ าชพยาบาล ประธานด้านวิชาการ ๔. พอ.พญ.ปริศนา พานิชกุล โรงพยาบาลพระมงกุฎเกลา้ เลขานกุ ารดา้ นวิชาการ ๕. ผศ. ดร.ธญั ลกั ษณ์ บรรลขิ ิตกลุ ศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ทางการแพทยด์ า้ นโรคหลอด เลือดสมองแบบครบวงจร แห่งโรงพยาบาล จฬุ าลงกรณ์ ประธานด้านพิธกี าร 174
๖. พญ.ศศินชุ รจุ นเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เลขานกุ ารด้านพิธกี าร ๗. รศ.พญ.อุมาพร สุทัศนว์ รวุฒิ คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี ประธานด้านพิจารณางานวิจยั ฯ ๘. รศ.ดร.พญ.นลินี จงวิริยะพนั ธุ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี เลขานกุ ารดา้ นพิจารณางาน วิจยั ฯ ๙. รศ.พญ.กสุ ุมา ชูศลิ ป์ คณะแพทยศาสตร์มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ประธานด้านสรปุ การประชุมและประเมนิ ผล ๑๐. รศ.นพ.ภาวนิ พัวพรพงษ์ มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ องครักษ ์ เลขานุการสรปุ การประชุมและประเมินผล ๑๑. นางฉวีวรรณ ตน้ พุดซา ส�ำนักส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย เลขานกุ ารดา้ นลงทะเบยี น ตอ้ นรบั สถานที่ โสตฯ ๑๒. นางมนี ะ สพสมยั มูลนิธิศูนยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย เลขานกุ ารด้านประชาสัมพันธ์ ๑๓. พญ.ยพุ ยง แหง่ เชาวนชิ มลู นธิ ศิ นู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย กรรมการกลาง ๑๔. พญ.กรรณกิ าร์ บางสายนอ้ ย มลู นธิ ศิ นู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย กรรมการกลาง ๑๕. ผศ.พญ.อรพร ด�ำรงวงศ์ศริ ิ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี กรรมการกลาง ๑๖. ผศ.ดร.จรยิ า วิทยะศภุ ร โรงเรียนพยาบาลรามาธบิ ดี กรรมการกลาง ๑๗. ผศ.ดร.สนุ ทราวดี เธียรพเิ ชษฐ สภาการพยาบาล กรรมการกลาง ๑๘. รศ.กรรณกิ าร์ วิจิตรสุคนธ์ คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยมหดิ ล กรรมการกลาง ๑๙. นางจนิ ตนา พฒั นพงศธ์ ร สำ� นกั สง่ เสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามยั กรรมการกลาง ๒๐. นางวพิ ารตั น์ ทองรอง กองสวสั ดิการแรงงาน กรมสวสั ดกิ าร และคุ้มครองแรงงาน กรรมการกลาง ๒๑. ศ.คลินิก พญ.ศริ าภรณ์ สวสั ดิวร มูลนิธิศนู ยน์ มแมแ่ ห่งประเทศไทย กรรมการและเลขานุการ และประธานด้าน ประชาสมั พนั ธ์ ๒๒. นางนรีลักษณ์ กลุ ฤกษ ์ ศนู ยน์ มแม่แห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ และประธาน ดา้ นสถานท่ี โสตฯ ๒๓. นางเปรมจติ ต์ เกาะประเสรฐิ ศนู ยน์ มแมแ่ ห่งประเทศไทย ผูช้ ่วยเลขานุการและ ผปู้ ระสานงาน การประชุมวิชาการนมแมแ่ ห่งชาติ ครั้งท่ี 6 175
๓.คณะกรรมการด�ำเนินงานจดั ประชุม คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ๓.๑ ด้านวชิ าการ ประธาน โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกลา้ ๑. รศ.พญ.อรวรรณ ครี วี ัฒน์ กรรมการ มูลนธิ ศิ นู ยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย ๒. พลโท นพ.ศภุ วิทย์ มตุ ตามระ กรรมการ มูลนิธิศนู ย์นมแมแ่ หง่ ประเทศไทย ๓. ศ.คลินกิ พญ.ศิราภรณ์ สวัสดวิ ร กรรมการ คณะแพทยศ์ าสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ๔. พญ.ยุพยง แหง่ เชาวนิช กรรมการ มูลนธิ ิศนู ย์นมแมแ่ ห่งประเทศไทย ๕. รศ.พญ.กสุ มุ า ชูศลิ ป์ กรรมการ โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ๖. พญ.กรรณกิ าร์ บางสายน้อย กรรมการ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ด ี ๗. ผศ. ดร.จรยิ า วิทยะศุภร กรรมการ สถาบันสขุ ภาพเดก็ แหง่ ชาติมหาราชนิ ี ๘. ผศ.พญ.อรพร ดำ� รงวงศศ์ ิริ กรรมการ สำ� นกั สง่ เสรมิ สุขภาพ กรมอนามัย ๙. พญ.รัชดา เกษมทรัพย์ กรรมการ สภาการพยาบาล ๑๐. พญ.ชมพนู ุท โตโพธิไ์ ทย กรรมการ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล ๑๑. ผศ.ดร.สุนทราวดี เธียรพิเชษฐ กรรมการ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล ๑๒. รศ.กรรณกิ าร์ วจิ ิตรสุคนธ์ กรรมการ คณะแพทย์ศาสตร์ศิรริ าชพยาบาล ๑๓. ผศ. พรนภา ต้งั สุขสันต์ กรรมการ สถาบนั สขุ ภาพเดก็ แหง่ ชาตมิ หาราชนิ ี ๑๔. ผศ.ดร.พญ.ภัทรวลัย ตลงึ จิตร กรรมการ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย ๑๕. นางสาวศิริลกั ษณ์ ถาวรวัฒนะ ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ องครกั ษ์ กรรมการและเลขานุการ ๑ ๑๖. รศ.นพ.ภาวนิ พวั พรพงษ ์ ศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ทางการแพทยด์ า้ นโรคหลอด เลอื ดสมองแบบครบวงจร แหง่ โรงพยาบาล จฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย ๑๗. ดร. .ธัญลกั ษณ์ บรรลขิ ิตกลุ กรรมการและเลขานกุ าร ๒ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรรมการและเลขานุการ ๓ ๑๘. พ.อ.หญิง ผศ.พญ.ปรศิ นา พานิชกลุ 176
๑๙. นางนรีลกั ษณ์ กุลฤกษ ์ มลู นิธศิ ูนย์นมแมแ่ ห่งประเทศไทย ผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร ๒๐. นางสาวอารวี รรณ ทับทอง มูลนิธิศนู ยน์ มแม่แหง่ ประเทศไทย ผชู้ ่วยเลขาฯและประสาน หน้าทร่ี บั ผดิ ชอบ ๑) ร่างก�ำหนดการประชุม เสนอทป่ี ระชุมคณะกรรมการ ๒) จัดเตรียมเอกสารประกอบการประชมุ ๓) จัดทำ� ชุดนิทรรศการ ข้อมูลวิชาการ การประชมุ ๔) ประสาน วิทยากร และประธานการประชุม (ประวตั วิ ิทยากร และเอกสารประกอบการบรรยาย) ๕) จดั ท�ำคำ� กล่าวเปิด กลา่ วรายงาน ๖) เรอ่ื งอืน่ ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง ๓.๒ ดา้ นพิจารณางานวจิ ยั และนวัตกรรม คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ด ี ประธาน ๑. รศ.พญ.อมุ าพร สุทศั น์วรวฒุ ิ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กรรมการ ๒. รศ.พญ.กสุ ุมา ชูศลิ ป ์ โรงเรียนพยาบาลรามาธิบด ี กรรมการ ๓. ผศ.ดร.จรยิ า วิทยะศุภร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรรมการ ๔. ผศ.พญ.อรพร ดำ� รงวงศศ์ ิริ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรรมการ ๕. นางสาวสุธิดา ชาติวุฒินันท ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล กรรมการ ๖. ผศ.ดร.พรรณรัตน์ แสงเพมิ่ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล กรรมการ ๗. ผศ.ดร.สดุ าภรณ์ พยัคฆเรือง มูลนธิ ศิ นู ย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย กรรมการ ๘. พญ.นพิ รรณพร วรมงคล มลู นธิ ิศูนยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย กรรมการ ๙. ผศ.ดร.อไุ รพร จิตตแ์ จง้ คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั กรรมการ ๑๐. รศ.ดร.พญ.ศริ นิ ชุ ชมโท คณะแพทยศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรรมการ ๑๑. พญ. อรภา สุธโี รจน์ตระกูล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบนั สุขภาพเดก็ แหง่ ชาติมหาราชิน ี ๑๒. ดร.เบญจมาส ทศั นะสภุ าพ กรรมการ คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี กรรมการและเลขานกุ าร ๑๓. รศ.ดร.พญ.นลินี จงวิรยิ ะพนั ธ์ุ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบด ี กรรมการและผู้ชว่ ยเลขาฯ ๑๔. นางสาวพรรณเพ็ญ พูนลาภเดชา การประชุมวิชาการนมแมแ่ หง่ ชาติ ครงั้ ที่ 6 177
๑๕. นางสาวภูริศา เวชรักษ์ คณะแพทยศาสตรโ์ รงพยาบาลรามาธิบดี กรรมการและผ้ชู ่วยเลขาฯ ๑๖. นางสาว อารวี รรณ ทบั ทอง มูลนธิ ิศูนยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย ผชู้ ว่ ยเลขาฯและประสาน หน้าทร่ี ับผดิ ชอบ ๑) จัดท�ำหลักเกณฑ์ การคัดเลอื ก งานวิจัยและนวตั กรรม ๒) ก�ำหนด วันเวลา ในการรับงานวจิ ยั ๓) คดั เลอื ก ผลงานวิจยั เพอื่ น�ำเสนอ ทัง้ poster และ Oral ๔) ด�ำเนินการประกวดงานวจิ ัยและนวัตกรรม ๕) ประสานงานกับคณะท�ำงานชุดอืน่ ๆ ๓.๓ ดา้ นสรปุ การประชมุ และประเมินผล คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ประธาน ๑. รศ. พญ. กุสมุ า ชูศิลป์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กรรมการ ๒. นพ.คมกฤช เอี่ยมจิรกลุ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ด ี กรรมการ ๓. พญ. ฉตั ร์ฉาย เปรมพนั ธ์พงษ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล กรรมการ ๔. ผศ.ดร.พรรณรตั น์ แสงเพ่มิ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล กรรมการ ๕. ผศ. ฉนั ทิกา จนั ทรเ์ ปยี ศนู ย์เทคโนโลยีอเี ลคโทรนกิ ส์และ คอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ๖. ดร.พิมพ์วดี เชาวลิต อาหวาด กรรมการ ศูนยเ์ ทคโนโลยีอีเลคโทรนิกสแ์ ละ คอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ (NECTEC) ๗. นางสาว หฤทัย ศรีสุวงศ์ กรรมการ คณะแพทยศาสตร์ มศว. องครักษ์ กรรมการ ๘. นางสาวนงเยาว์ ใบยา คณะแพทยศาสตร์ มศว. องครกั ษ์ กรรมการ ๙. นางสาวสุขวดี เกษสวุ รรณ คณะแพทยศาสตร์ มศว. องครกั ษ์ กรรมการ ๑๐. นางศณิ ฐั ชานนั ท์ วงษ์อนิ ทร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว. องครักษ์ กรรมการและเลขานุการ ๑๑. รศ.นพ.ภาวิน พัวพรพงษ ์ ส�ำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณสุข ระหว่างประเทศ (IHPP) ๑๒. นางสาว นศิ าชล เศรษฐไกรกลุ กรรมการและ ผชู้ ่วยเลขานกุ าร มูลนิธิศูนยน์ มแม่แห่งประเทศไทย ผู้ช่วยเลขานกุ ารและผปู้ ระสานงาน ๑๓. นางสาวอัญชรี พรหมสกุล 178
หนา้ ทร่ี ับผิดชอบ ๑) จัดท�ำแบบสอบถามกอ่ น-หลังการประชมุ ๒) บันทึกการประชมุ สรุปประเดน็ สำ� คญั (minute note) รายวนั และโดยรวม ๓) จดั ท�ำรายงานประเมนิ ผลหลังการประชุมและจดั ท�ำเปน็ เอกสารรายงาน ๓.๔ ด้านพิธกี าร ศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ทางการแพทย์ดา้ นโรค ๑. ผศ.ดร. ธญั ลกั ษณ์ บรรลิขิตกุล หลอดเลอื ดสมองแบบครบวงจร แหง่ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ประธาน ๒. พญ.ชมพูนทุ โตโพธไ์ิ ทย ส�ำนกั สง่ เสริมสขุ ภาพ กรมอนามยั กรรมการ ๓. นางสาวฉวีวรรณ ต้นพดุ ซา สำ� นกั ส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามยั กรรมการ ๔. นพ.คมกฤช เอี่ยมจิรกุล คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ด ี กรรมการ ๕. ผศ.ดร.สดุ ประนอม สมันตเวคนิ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสุนนั ทา กรรมการ ๖. นางมนี ะ สพสมยั มูลนธิ ศิ ูนยน์ มแม่แห่งประเทศไทย กรรมการ ๗. พญ.ศศินุช รุจนเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ กรรมการและเลขานกุ าร ๘. นางสาวอญั ชรี พรหมสกุล มลู นธิ ศิ นู ย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย ผู้ช่วยเลขานกุ ารและ ผปู้ ระสานงาน ๙. นางสาวลนิ ดา เชื้อสมนั มูลนธิ ิศูนย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย ผชู้ ่วยเลขานุการและ ผูป้ ระสานงาน หน้าทีร่ ับผดิ ชอบ กอ่ นการประชมุ ๑) ประสานงานการจัดเตรยี มก�ำหนดการการประชมุ วชิ าการ ฯ ๒) เชิญบุคคลส�ำคัญเพือ่ ด�ำเนินการดา้ นพิธกี ารตามทวี่ างแผน ๓) ประสานงานกับฝ่ายอื่นๆท่ีเกย่ี วข้องเพ่อื วางแผนงานดา้ นพธิ กี าร ๔) งานอ่นื ๆ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย วันประชมุ ๑) ดูแลตลอดการประชมุ วชิ าการ ฯ ใหเ้ ป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย ๒) เปน็ ผดู้ �ำเนินรายการตลอดการประชุมให้เปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ยบรหิ ารเวลา การประชมุ ตามกำ� หนดการ และสรา้ งบรรยากาศการประชุมใหเ้ กิดการแลกเปลย่ี นเรียนรู้ ๓) ประสานงานกบั ฝา่ ยอนื่ ๆท่เี กี่ยวข้อง หลงั การประชมุ ๑) สรปุ ผลการดำ� เนนิ การของคณะกรรมการฝ่าย เพ่ือสรปุ โครงการต่อไป การประชุมวชิ าการนมแมแ่ ห่งชาติ ครง้ั ท่ี 6 179
๓.๕ ดา้ นประชาสัมพันธ์ มูลนิธิศูนยน์ มแม่แห่งประเทศไทย ๑. ศ.คลนิ ิก พญ.ศิราภรณ์ สวสั ดิวร ประธาน ๒. พญ.ศิริพัฒนา ศริ ธิ นารัตนกลุ โรงพยาบาลเซน็ ส์หลุยส ์ กรรมการ ๓. นายสง่า ดามาพงษ ์ มลู นิธิศูนยน์ มแมแ่ ห่งประเทศไทย กรรมการ ๕. พญ.กรรณกิ าร์ บางสายนอ้ ย มลู นิธิศูนยน์ มแมแ่ หง่ ประเทศไทย กรรมการ ๖. พญ.สุธรี า เออ้ื ไพโรจนก์ ิจ โรงพยาบาล BNH กรรมการ ๗. พญ.สดุ า เยน็ บ�ำรุง โรงพยาบาลมงกุฎวฒั นะ กรรมการ ๘. ดร.สรุ ภี รณ์ สุวรรณโอสถ มหาวิทยาลัยนเรศวร กรรมการ ๙. นางสาวฉววี รรณ ตน้ พุดซา ส�ำนกั สง่ เสริมสขุ ภาพ กรมอนามัย กรรมการ ๑๐. นางสาววลิ าสินี บุญมาสงู ทรง มลู นิธศิ นู ยน์ มแม่แหง่ ประเทศไทย กรรมการ ๑๑. นางสาววรรณภา ฤทธริ กั ษา สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ กรรมการ ๑๒. นางมัทนี หงสธ์ นนันท์ มลู นิธศิ ูนย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย กรรมการ ๑๓. นางมีนะ สพสมยั มลู นธิ ิศูนย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย กรรมการและเลขานุการ ๑๔. นางสาวอญั ชรี พรหมสกุล มูลนิธศิ นู ย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ ารและ ผู้ประสานงาน หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ ๑) ประชาสมั พนั ธ์ กอ่ นการจดั งาน ระหวา่ ง และหลงั การประชมุ และเนน้ ชอ่ งทาง social media ดว้ ย ๒) ประชาสัมพันธ์การส่งผลงานวิจัยเข้าประกวด ๓) ประสานงานกบั สื่อมวลชน / เตรียม การแถลงขา่ ว (ถ้ามี) ๔) ประสานงาน ในการถา่ ยวีดที ัศน์ ภาพนิ่ง และโทรทศั นว์ งจรปดิ ๕) ประสานและกำ� กับ ดแู ลดา้ นโสตทัศนปู กรณ์ ๖) ประสานงานกบั คณะทำ� งานดา้ นอ่ืนๆ เพือ่ ใหง้ านดำ� เนนิ การไปด้วยความเรียบร้อย ๓.๖ ดา้ นตอ้ นรบั ลงทะเบยี น สถานที่ การเงิน โสต อาหาร ยานพาหนะ และปฐมพยาบาล ๑. นางนรีลกั ษณ์ กลุ ฤกษ์ มูลนิธิศนู ย์นมแม่แหง่ ประเทศไทย ประธาน ๒. นางนงลกั ษณ์ รงุ่ ทรัพยส์ นิ ส�ำนกั ส่งเสรมิ สุขภาพ กรมอนามยั กรรมการ 180
๓. นางประภาภรณ์ จงั พานิช ส�ำนกั สง่ เสรมิ สุขภาพ กรมอนามยั กรรมการ ๔. นางกันยารตั น์ กาสลัก ส�ำนกั ส่งเสรมิ สุขภาพ กรมอนามัย กรรมการ ๕. น.ส.ภารินี หงส์สุวรรณ สำ� นกั สง่ เสริมสุขภาพ กรมอนามัย กรรมการ ๖. นางชนัญชิดา สมสุข ส�ำนกั สง่ เสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามยั กรรมการ ๗. นายพทิ ักษ์ เชดิ บรู ณกิจ กองสวสั ดกิ ารแรงงาน กรมสวสั ดิการและคมุ้ ครองแรงงาน กรรมการ ๘. นายโกวทิ เปง็ วงศ์ สำ� นักสง่ เสริมสุขภาพ กรมอนามยั กรรมการ ๙. นางสาวแทนเพชร ไพรสงบ ส�ำนักสง่ เสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามัย กรรมการ ๑๐. นางสาวธัญญารตั น์ เจนพทิ กั ษส์ มบัต ิ สำ� นักส่งเสรมิ สขุ ภาพ กรมอนามยั กรรมการ ๑๑. นางสาวฉววี รรณ ต้นพุดซา สำ� นักสง่ เสริมสุขภาพ กรมอนามยั กรรมการและเลขานกุ าร ๑๒. นางเปรมจติ เกาะประเสริฐ มูลนิธิศูนยน์ มแม่แหง่ ประเทศไทย ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร ๑๓. นางสาวอารวี รรณ ทับทอง มลู นิธศิ ูนย์นมแมแ่ ห่งประเทศไทย ผชู้ ว่ ยเลขานุการและ ผปู้ ระสานงาน หนา้ ทร่ี ับผิดชอบ ๑) ประสาน จดั ท�ำรายช่ือผลู้ งทะเบยี น ต้อนรับลงทะเบยี น ผเู้ ข้าร่วมประชุม ๒) ประสานงาน ควบคุม ก�ำกบั การลงทะเบยี น และการจัดเอกสารสำ� หรบั การประชุม ๓) อำ� นวยความสะดวกให้แก่ผูเ้ ข้ารว่ มประชมุ และแขกผ้มู ีเกยี รติ ๔) อ�ำนวยความสะดวกแกป่ ระธาน และผบู้ ริหารในดา้ นพิธกี ารตา่ งๆ ๕) บรหิ ารจดั การ และดำ� เนนิ การด้านงบประมาณในการจดั ประชุมฯ ทุกประเภท ๖) ประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ยในการประชมุ ทง้ั หมด เพ่ือยืมเงนิ ทดรองจ่าย ๗) ดำ� เนนิ การเบกิ -จ่ายเงินทกุ ชนิด และจดั ทำ� เอกสารรายงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ๘) ประสานฝา่ ยวชิ าการเร่อื งแผนผงั การจดั ทำ� นิทรรศการ ๙) ประสานและจัดเตรียม หนว่ ยปฐมพยาบาล หอ้ งให้นมแม่ ๑๐) ประสาน และก�ำกับ ดูแลดา้ นสถานท่ี เวที ๑๑) ประสานงาน ในการถา่ ย ภาพน่งิ และโทรทศั นว์ งจรปดิ ๑๒) ประสานและก�ำกบั ดูแลด้านโสตทัศนปู กรณ์ ประสานงานกับคณะท�ำงานด้านอ่นื ๆ เพือ่ ใหง้ าน ด�ำเนนิ การไปด้วยความเรยี บรอ้ ย การประชมุ วชิ าการนมแม่แหง่ ชาติ คร้งั ท่ี 6 181
โดยให้คณะกรรมการชุดน้ี ด�ำเนินการจัดประชุมวิชาการนมแม่แห่งชาติครั้งท่ี ๖ ระหว่าง วันที่ ๘ – ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ท้งั น้ตี ัง้ แตบ่ ัดนเ้ี ป็นตน้ ไป ส่งั ณ วนั ที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐ (แพทยห์ ญิงศริ พิ ร กญั ชนะ) ประธานมูลนธิ ศิ ูนยน์ มแม่แห่งประเทศไทย 182
รายนามวิทยากร ปี 2560 และผ้อู ภิปราย 1. นพ.กฤช ลีท่ องอนิ ทป่ี รกึ ษา สำ� นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ 2. รศ.พญ.กุสุมา ชูศลิ ป ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ 3. ผศ.ดร.จริยา วิทยะศภุ ร ผู้แทนนายกสภาการพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวิทยาลัยมหดิ ล 4. พญ.จริ าภรณ์ อรณุ ากูร คณุ หมอโอ๋ เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน 5. พว.ชญาดา สามารถ โรงพยาบาลศิริราช 6. คณุ ชอ่ ผกา วริ ิยานนท ์ นักสือ่ สารมวลชน 7. คณุ ฐิตาภา บุญศิร ิ คุณแมอ่ าสา 8. ดร.ณัฐวีณ์ บนุ นาค คุณแมอ่ าสา 9. นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผ้ตู รวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ เขตสขุ ภาพท่ี 1 10. นพ.บญุ ฤทธ์ิ สุขรตั น์ ส�ำนกั อนามัยการเจริญพันธ์ุ กรมอนามัย 11. พ.อ.หญิง ผศ.พญ.ปรศิ นา พานชิ กลุ วทิ ยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกลา้ 12. รศ.ดร.พญ.ศิรินุช ชมโท ราชวิทยาลยั กมุ ารแพทยแ์ หง่ ประเทศไทย 13. คณุ พยพั แจง้ สวสั ด ิ์ บริษัทไทยซมั มทิ ฮารเ์ นส จ�ำกดั 14. ผศ.ดร.พรนภา ต้งั สขุ สันต ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั หดิ ล 15. อาจารยพ์ รพไิ ล เลิศวชิ า นกั วิชาการอิสระ 16. คณุ พีณภัทร์ รจุ เิ กยี รติขจร คุณแมอ่ าสา 17. ผศ.ดร.ภัทรวลัย ตลงึ จิตร คณะแพทยศ์ าสตรศ์ ริ ิราชพยาบาล 18. รศ.นพ.ภาวนิ พัวพรพงษ ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ องครกั ษ์ 19. ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลยั สตู นิ รแี พทย์แหง่ ประเทศไทย 20. คุณมโนชญ์ แสงแก้ว กรมสวสั ดกิ ารและคมุ้ ครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน 21. ผศ.นพ.มงคล เลาหเพญ็ ชาติ คณะแพทย์ศาสตร์ ศริ ิราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 22. ผศ.พญ.มริ า โครานา สถาบันสขุ ภาพเด็กแห่งชาตมิ หาราชินี 23. พญ.ริชาพรรณ ชูแกล้ว โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรรี าชา 24. พว.วาสนา งามการ โรงพยาบาลพระปกเกลา้ จันทบุรี 25. ศ.คลินกิ พญ. ศริ าภรณ์ สวัสดวิ ร มลู นิธิศูนย์นมแมแ่ ห่งประเทศไทย 26. พว.ศิริลักษณ์ ถาวรวฒั นะ คลนิ ิกนแม่ สถาบนั สุขภาพเดก็ แห่งชาติมหาราชิน ี 27. รศ.นพ.สมศักดิ์ สุทัศน์วรวุฒิ นายกสมาคมอนามัยเจรญิ พันธ์ุ 28. พญ.สธุ รี า เอือ้ ไพโรจน์กิจ โรงพยาบาล BNH 29. ศ.ดร.สุสัณหา ย้ิมแยม้ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ 30. พว.หทยั ทพิ ย์ โสมด�ำ คลินกิ นมแม่ สถาบันสขุ ภาพเดก็ แห่งชาตมิ หาราชนิ ี 31. ผศ.พญ.อรพร ด�ำรงวงศ์ศริ ิ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ดี มหาวทิ ยาลยั มหิดล 32. รศ.พญ.อมุ าพร สุทัศน์วรวฒุ ิ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 33. Ms.Phan Hong Linh องคก์ ร Alive & Thrive การประชมุ วชิ าการนมแมแ่ ห่งชาติ ครั้งท่ี 6 183
วทิ ยากรรับเชญิ ปี 2560 อาจารยพ์ รพไิ ล เลิศวชิ า พญ. จิราภรณ์ อรณุ ากรู ผู้เชีย่ วชาญด้านการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาสมอง (BBL) คณุ หมอโอ๋ เจา้ ของเพจ “เลย้ี งลกู นอกบา้ น” รางวลั เมธวี จิ ัยอาวุโส สกว. ผู้เขียนหนังสือ “เลยี้ งบวก ลกู บวก” และมีประสบการณ์ตรงในการนำ� เรือ่ งนมแม่ กบั Executive Function สกู่ ารปฏิบัติในชุมชน คณุ ชอ่ ผกา วิรยิ านนท์ คุณพยัพ แจ้งสวัสด์ิ ชอ่ ผกา วริ ยิ านนท์ นักส่ือสารมวลชน ผู้เชย่ี วชาญ ผู้ชว่ ยผ้จู ดั การท่ัวไปส�ำนักพัฒนาองค์กร ดา้ นยทุ ธศาสตรก์ ารสอื่ สารสาธารณะ บริษัท ไทยซมั มทิ ฮารเ์ นส จำ� กัด (มหาชน) Ms.Phan Hong Linh องคก์ ร Alive and Thrive อัพเดทแคมเปญ No water project จากประเทศเวียดนาม ประสบความสำ� เร็จในการเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมเชิงสังคมสู่การ เพิม่ อตั ราการเล้ยี งลูกด้วยนมแม่ 184
แผนผังห้องประชุม โรงแรมมณเฑยี ร ริเวอร์ไซด์ กรงุ เทพมหานคร การประชมุ วิชาการนมแม่แห่งชาติ ครั้งที่ 6 185
186
การประชมุ วชิ าการนมแม่แหง่ ชาติ คร้งั ท่ี 6 187
188
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190