มาเริ่มดูเวทนา ๙๕ สนามวงกวา้ งอะไร... เข้าใจยัง ? อนั น้ีกำลงั ออกจากโรงยิมนะ ! แล้วไปสภู่ าคสนามจรงิ ๆ ... คอื สติกำกับรกั ษาใจ เอาไปแข่ง … แขง่ อะไร ? เพือ่ กระทบสมั ผัสกับสังคมรอบขา้ งเราจรงิ ๆ อ่อน รอ้ น เยน็ และแข็ง พอใจ ไมพ่ อใจ กระทบเรา.. เราจะได้ อยูก่ บั เขาได้ ! สอนให้เธอไปอย่กู บั โลก.. เท่านั้นเอง …. ไปเถอะ ไป ! ห้องน้ำห้องท่า... หาของกนิ ไป ! เดิน เปลี่ยนอิรยิ าบถ ไป ! แต่ถา้ ยังไมอ่ ยากไปก็แลว้ แต่ ตามอำเภอใจ … ใหอ้ อกไดแ้ ตไ่ มอ่ อก ! ให้ออกจากอะไรได้ ? แล้วไมใ่ หอ้ อก จากอะไร ? สตกิ ำกับรักษาใจ รู้เทา่ ทันส่ิงตา่ งๆ ทกี่ ระทบ กบั เรา ! ดว้ ยเมตตา ... ดว้ ยสงเคราะห์ … คำสอนของ พระพทุ ธเจ้า พระองคป์ ระทานไว้เพื่อให้เธออยบู่ นโลกได้ อย่างสบายไงเล่า… … ได้ขยบั ไหมเม่ือก้ี เม่ือก้ี (ไม่ขยับขาเลย) ไม่ขยับขา.. ไม่ขยับขานน่ั แหละหมายจะเอา ! อย่างอืน่ ก็เอาบ้าง โอ๊ว .. เก่งตวั๊ ะ ..ขยบั แต่ตวั .. โอ้ ! ไม่เปน็ ไร ไมว่ ่า..อนโุ ลมๆ.... ขาไมข่ ยับ กโ็ อเค ! ....ทำไมเขาถงึ ไม่อยากให้ขยับขา.... เพราะอะไร ? วัตถุประสงค์เขา ?? .. ตอบแทนไดเ้ พราะ เขาตอ้ งการให้เธอปวด...
๙๖ บอกยาก สอนยาก อันนน้ั ...ทกุ ข์ ! พระพทุ ธเจา้ สอน ... อริยสัจ ๔ ทกุ ข์-สมุทัย-นิโรธ-มรรค ... ทกุ ขเ์ ปน็ ส่ิงควรรู้ กำลงั จะให้ เธอรู้ ...เห็น รู้ ประจักษ์วา่ มันมีจรงิ ! ...แต่ไมจ่ รงิ ! จริงสำหรับผู้โง่ ! แต่..ของประเดีย๋ วประด๋าว ของหาแก่นไมไ่ ด้.. สำหรบั อริยธรรมเขา ! สำหรบั ธรรม ! สมทุ ัยต่างหาก ...เหตุให้ เกิดทุกข์ ! เปน็ สง่ิ ท่เี ธอต้องเอามนั ทง้ิ ...ต้องละ ตอ้ งไถ่ ต้องถอน คือ ความโง่ ! เมอ่ื ไหร่พวกเราจะเข้าใจหนอ ? สอนกนั อย่างน้.ี . นา่ จะเข้าใจ...
มาเริ่มดูเวทนา ๙๗ ... ทางโลกลว้ นลมื ตาย พอตายก็พากนั หลง ทางธรรมรู้ตาย เห็นตาย พจิ ารณาซง่ึ ความตาย พอตายเลยไมห่ ลง ทางโลกล้วนเหน็ ทัง้ ท่ีเปน็ สุขและเปน็ ทกุ ข์ ทางธรรมฯ เหน็ แตท่ ุกข์และทุกขก์ ับทง้ั ทกุ ข์โดยส่วนเดยี ว ทางธรรมมคี วามพอมีจบมียุติ โลกสงสารไม่มีความพอ ไมม่ ีบทยุติ ... (ทม่ี า : หนังสอื “ปฏิรูปมนุษย์ ดอกชงโคปา่ บานแลว้ ที่ถ้ำโพธิญาณ” ประพันธ์โดยพระหลวงพอ่ สุธรี ์ ชาคโร; หนา้ ๒๗)
บอกยาก สอนยาก ไก่ป่าขันตัวเดียว เทศน์อบรมชว่ งเยน็ วนั เข้าพรรษา วนั เสารท์ ่ี ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ณ ศาลาวิชยั :เกรยี งไกร วดั ปา่ เหลา่ กกห่งุ
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๙๙ จติ เมื่อสงบตั้งมั่นเปน็ หนึ่ง มหัศจรรย์ … มที ง้ั ปตี ิ และแฝงความร่าเริงเบกิ บาน...! พุทธศาสนาเปน็ ศาสตร์ วา่ ด้วยความรา่ เรงิ เบกิ บาน... เม่อื ถึงตกผลึกแลว้ อย่าว่าแต่แค่น้นั เลย จ๊ิบจ๊อยเกินไป… แมท้ กุ ขก์ ็ สะบ้ันคาหวั ใจ ! แตย่ ัง... ทุกข์ยงั ปรากฏอยู่กบั สตั วผ์ ู้โง่ ผหู้ ลง … แต่กับผฉู้ ลาด ผู้มีสตปิ ัญญา แทงตลอดถงึ กนั ทกุ ข์ ก็สกั แต่วา่ ทุกข…์ ! ทกุ ข์ยงั ปรากฏอย่กู บั … หน้าตาอยา่ งพวกเธอ ผู้โง่ ผู้หลง…! เขาถึงบอกโลกฤๅฉลาด ?! สมมตุ ิบญั ญตั แิ ทนค่า มคี า่ อะไร ? ม…ี ! แต่ตอ้ งมีหลกั มีเกณฑ์ ต้องเอามาต้งั อยู่ บนฐานท่ีควรต้ัง ไม่อย่างนั้น ครรลองการดำรงชวี ิตไปบน เสน้ ทางของความอยู่ในโลกของมนุษย์ ของสงั คมพวกเธอ มนั ก็ง่อนแงน่ ไม้หลักปักขี้เลน….!
๑๐๐ บอกยาก สอนยาก เราเป็นงมู ีพษิ …! คำวา่ มพี ษิ ไม่ใช่เธอฉลาด… ไอพ้ ษิ นี่ เพราะตำแหนง่ หน้าทกี่ ารงาน เขา้ ใจยงั ? จงึ ควรใชใ้ ห้มนั เกดิ ประโยชน์ต่อตน…. ยงั ไม่พอ ให้มนั เกดิ ประโยชนแ์ ก่สงั คม ตามเปน็ จรงิ ท่ีควรเปน็ โลกมีแตค่ วามจอมปลอม หลอกลอ่ มแี ตม่ ายา… โลกมีแตม่ ายา แลว้ ก็ประเดย๋ี วประด๋าว ตำแหนง่ หนา้ ที่ การงานทางโลก ประเด๋ยี วประดา๋ ว… แตม่ ันจะดีก็ตอ่ เมือ่ คนนน้ั ร้จู ักโอกาสอันควร นำตำแหน่งหน้าท่ีการงานนัน้ มาสงเคราะหต์ น-ครอบครวั -วงศ์ตระกลู เมือ่ เจริญเป็น ปึกแผน่ แล้ว ก็นำอาชพี หน้าทก่ี ารงาน ทมี่ ันมโี อกาส อยใู่ นระหว่าง ขับเคล่อื นสังคมใหเ้ กดิ ประโยชน์ ตามความเป็นจริงทีต่ อ้ งเปน็ …. ไม่ใชต่ ามอำเภอใจกิเลส…! ...พระอรหันต์ในพุทธศาสนา ทา่ นชำระสะบัน้ หมด อคติ ๔ -- ลำเอียงเพราะรัก ลำเอยี งเพราะชงั ลำเอยี ง เพราะกลวั ลำเอียงเพราะหลง เพราะโง่ … ไอ้หลง กโ็ ง่ -- ๔ อย่างน้ี สะบ้ัน…!
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๐๑ เพราะฉะนน้ั เวลาพระอรหันต์เอาพรหมวิหาร ๔ ของชน้ั พรหมมาใช้… ใช้คนละอย่างกับพรหม บอก “พรหม เราจะเอาของเธอมาใชบ้ า้ ง แตเ่ ราเปน็ พระอรหนั ต์ เราจะใช้คนละอย่างกบั เธอ… เมตตา เราสะบ้ันจากอคติ ๔ อุเบกขา เราสะบนั้ ... กรณุ า มุทติ า สะบั้นจากอคติ ๔ ….” บรสิ ุทธ์ไิ หม…? ตงฉนิ ไหม…? น่ดี ี ฉนั ผ่อนให้พวกเธอจน…. ฉันวา่ มัน… จนฉนั คง ผอ่ นเกินกวา่ น้ี คงไมไ่ หว !! แต่เกินกว่าน้ไี ดไ้ หม ? กย็ งั ไม่ตกกรอบ…. แต่ว่าอย่าเลย... ส่งิ ที่มีประโยชน์เยอะแยะ ในพุทธศาสนา มี…! พระพุทธศาสนาเป็นตลาดสินค้า เป็นคลัง อดุ มสมบูรณ์ดว้ ยสรรพสนิ คา้ นานาชนดิ นานาแบรนด์ เลือกซอื้ ได้สารพัด…. เธอจะเอาวา่ ดว้ ยยาสฟี ัน ยาสฟี ันมี ต้งั หลายเกรด... แปรงสีฟนั ก็หลายเกรด … นยี่ ังไมพ่ ูดถงึ นะ ! เขาเปรียบเทียบว่า อุปมาอุปไมย เหมอื นจะไปอยู่ ภูมภิ พไหน ? นรก เปรต อสรู กาย สัตวเ์ ดรจั ฉาน มนษุ ย์…? มนษุ ย์ก็มตี ัง้ หลายเกรด… กรรมจำแนกเกรด !
๑๐๒ บอกยาก สอนยาก พระพทุ ธเจ้าพยายามลา้ งวรรณะ ท่ีมาดว้ ยความ ยดึ ถอื …. บอกอยา่ ยดึ ! แตแ่ ท้จรงิ กรรมจำแนก… เปน็ ไปเอง แต่ไม่ตอ้ งเอ่ยนามเรียกว่า วรรณะน้ัน-วรรณะนี้ เพราะมันจะกลายเป็นตกผลกึ กอ่ ให้เกดิ การทะเลาะวิวาท ในสังคม บาดหมางขนึ้ มา… เปน็ อเนกปริยาย ภพชาติมีจริง แก-่ เจ็บ-และตาย จอ่ ขนหลงั โลมชาติ ลุก กราว ! กราว ! กลบั ละเลยตอ่ เกดิ -แก่-เจ็บ-ตาย ของตน …เปน็ สัจธรรม เป็นจริงทีต่ อ้ งยอมรับอยา่ งกระดกิ ไมไ่ ด้ แมจ้ ะดันทุรังโต้แยง้ ... ความตาย เทีย่ ง-ไม่เท่ียง ? ช้าหรอื เร็ว เปน็ ไปดังปรารถนาไหม ? ความตายนี่ ช้าหรือเรว็ เปน็ ไปดงั ปรารถนาเราไหม ? กำหนด ใหเ้ ป็นไปดั่งใจเรา เอาได้ไหม ? แมแ้ ต่เจบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย วา่ ดว้ ยโรคประเภทต่างๆ เรากำหนดลงไปได้ไหมวา่ อย่าเพงิ่ เกิดกับเรา เมือ่ อายุเรายังไมถ่ งึ ฆาต ? ไมใ่ ช่ฐานะ !! แค่นี้ เธอก็แพค้ วามเป็นจรงิ คอื สัจธรรม ตำแหน่งหนา้ ที่จงึ โมฆะทันที หากเธอไม่เหน็ ตวั น…ี้ ! เพราะเธอยังไมร่ เู้ ลยว่า วนิ าทไี หนจะมีปญั หา… สังคม
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๐๓ เดือดรอ้ น โลกเราเดอื ดรอ้ นตลอดเวลา โลกไมเ่ คย ไม่เดอื ดรอ้ นเลย ! หวงั ดี…! กฉ็ ันเปน็ คนเกมาก่อน…. ฉนั บอก ฉันไมไ่ ดป้ ดิ บงั เลย ! กเ็ ดีย๋ วน้ี ทำไมฉนั ดี ? แลว้ ทำไมฉนั จึงเคย่ี วเขญ็ เธอ ? เพราะฉนั อยากใหเ้ ธอมาขนกอบโกย สรรพสินคา้ แลว้ กเ็ ลือกชนดิ …. อยา่ เพงิ่ เอาไป... เพราะมัน มีแบรนดอ์ นิ เตอรอ์ ยู่... เลือก ! อย่าม่ัว ! เรามหี มู ีตา มสี ติปญั ญา… เหมอื นคบมิตร เราเลือกมติ ร เขา้ ใจยัง ? อันไหนไม่ชอบธรรม เราจะเอาไปทำไม ? วนั น้ีถาม… ตอบมาก็ถกู ใจมาก แตจ่ ะขยายความ ตอ่ นดิ หน่ึงว่า เศรษฐกจิ พอเพยี งคอื อะไร ? คอื หลัก ความคดิ หรอื หลกั ของความทที่ ำให้เราเป็นผู้รู้จกั คิด ! โอเค ! แล้วเม่อื คดิ ได้ ก็ตั้งประเดน็ ขนึ้ มาวา่ …. คดิ ได้ว่า ดเี ป็นอย่างไร ? ดอี ยา่ งนี้ เป็นอยา่ งน้ี ! ช่วั เป็นอย่างไร ? อ้าว ! ละไวค้ วามช่วั - ช่อื ว่าช่วั ! ….ดี ! การกระทำกจิ น้ดี ี ทำมาค้าขายอย่างน้ีดี อาชีพการงานอย่างนี้ดี สร้างวินยั ในตนเองอยา่ งน้ีดี
๑๐๔ บอกยาก สอนยาก เรากส็ รา้ งประเดน็ ข้ึนมา ภาษาทางธรรมสงเคราะห์ เขา้ ใน ดำรชิ อบ ตามเสน้ ทางของความคิดริเรม่ิ ทีช่ อบ เพราะละฝา่ ยชัว่ ….. ก็คิดใคร่ครวญจำแนกแจกแจง โดย เชิงตรรกวิทยา หาเหตุหาผล -- ช่ัวให้แตโ่ ทษ ติดลบ ไมม่ ีประมาณ มากหรือนอ้ ย…. อย่ากระนน้ั เลย เราจะละ ชว่ั ท้งั ปวง…! ทนี ี้ ความดำรกิ ็สานตอ่ … เม่อื ละชั่วแล้ว ก็ทำ คุณงามความดี … สติปัญญาวางปูพ้ืนมาแล้ว ความดีมี อะไรบ้าง ? เบ้ืองต้น บญุ กิรยิ าวตั ถุ ๑๐ จำแนกออกไป เปน็ อเนกปรยิ าย เบสิก (basic) งา่ ยๆ สัมมาคารวะ ออ่ นน้อมถ่อมตน รูเ้ ขาร้เู รา ฟังธรรมตามกาล สนทนาธรรม ตามกาล…. เปน็ ความงดงาม ฉันรักแตค่ นอ่อนน้อม ร้กู าลเทศะ รับสื่อความรสู้ กึ ในจติ -- ไมว่ ่าหญงิ หรอื ชาย แก่ เดก็ หรอื ชรา… สือ่ ความรู้สึก ทำไมไอน้ ี่มนั ... จิตใจมันออ่ นปวกเปียกกบั ศีลกับธรรมแท้ ! ทำไมมันแสวงหาแต่ส่ิงมงคลใสต่ ัวมนั เองวะ ! เรากร็ ัก ! รักในเส้นทางการทำความดี ! ไม่ใช่รักเหมอื น คนในโลกรัก มนั รัก…. เอาศลี ธรรมจรรยาบรรณเป็นตัวตั้ง !!
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๐๕ พอคดิ ได้ ดำรติ ง้ั ประเด็นไวแ้ ล้ว ก็ลงมือกระทำว่า ด้วยคณุ งามความดี หลกั ธรรมคำสอนวา่ ด้วยเพือ่ จะให้ เราเป็นคนดี เพอื่ เกดิ เป็นบญุ กุศล… จะเรียกวา่ บญุ กโ็ อเค ! จะเรยี กวา่ ดี กไ็ ด้ ! เรียกว่า บญุ ญาบารมี ก็เชิญเรียกตามสบาย ! ไมต่ ิดลบภาษาไทยก็สอบผ่านหมด เพราะเราเป็นคนไทย ไม่คา้ นกบั สมมตุ …ิ . เรากล็ งมอื ประพฤติปฏิบัติ ! มันก็มาเข้า… สงเคราะหเ์ ขา้ ในเชิง คำสอนพระพทุ ธเจา้ ปริยัตกิ ารเรยี นรู้ คอื การคิด … เรยี นรูด้ ้วยตวั เองไดไ้ หม ? ได้ ! ภาวนามยปญั ญา เปน็ ปญั ญาทีเ่ กิดจากการรแู้ จง้ เห็นจรงิ ในตวั เอง ที่ย่งิ ใหญก่ วา่ สตุ มยปญั ญา--จากการไดย้ ิน ได้ฟังไดอ้ ่านไดเ้ ขยี น …ย่งิ ใหญ่กว่าจนิ ตมยปญั ญา--จนิ ตนาการ สรา้ งภาพวิมานในอากาศ บอกฉันใหญอ่ ยา่ งนนั้ อย่างนี้ ! เขา้ ใจยัง ! แถมด้วยความเกยี จคร้าน กิเลสหนาปัญญาหยาบ-- น่ี อบายมุข หนทางแห่งความเส่ือม ไม่มปี ระโยชน์ ! แตถ่ า้ ภาวนามยปญั ญา... เปน็ ผลจากการหล่อหลอม คิดพิจารณา ใคร่ครวญ อย่างเป็นเหตเุ ปน็ ผล … น่ี เข้าหลักไหม…?
๑๐๖ บอกยาก สอนยาก เศรษฐกิจพอเพยี ง จงึ สงเคราะหเ์ ข้าในฝา่ ยปัญญา-- ในฝา่ ยความคดิ ! แลว้ เศรษฐกิจพอเพยี งก็สงเคราะห์เขา้ ในฝ่ายดำร…ิ . เม่ือเห็นทางเปน็ ไปอย่างเกดิ ประโยชน์แก่ ตนแลว้ มีแตบ่ วกกบั บวก แลว้ ทวไี มม่ ีประมาณ… โอย๊ ! ย่ิงคดิ ไป… แค่น้ีกเ็ ยอะแยะไปหมด…. ด้วยอานสิ งส์ ผลบญุ ทเ่ี กดิ แกเ่ รา คา่ ของความนิยม เครดติ ต่างๆ จะ หลง่ั ไหลมาสู่เรา…. อย่ากระนั้นเลย เราพึงดำรใิ ครค่ รวญ ว่า จะเอาประเดน็ ไหนมาทำกอ่ น ? …. กไ็ ลไ่ ปใน รายละเอยี ด ปัญญากับดำริ กลมกลนื กันแลว้ -- เพราะมัน ตวั เดียวกนั ทำงานอยใู่ นตัว แต่คนละหนา้ ท่ี -- อยูใ่ นตัว สติปญั ญา หมายถงึ ตวั สติปัญญาแหละ จำแนกอยู่ใน ตวั เองวา่ อยา่ กระน้ันเลย มอี ะไรทีเ่ รง่ ดว่ นก่อน เพ่ือเอาบญุ กุศล หรือคณุ งามความดี มารองรบั เครดิตเรา….! เบื้องตน้ สุรายาเมา รบี ละ ! โกหกตอแหลปลนิ้ ปลอก ฉอ้ ราษฏรบ์ ังหลวง ละ ! แล้วหนั กลบั มาซอ่ื สัตย์สจุ รติ ใส่ใจจรงิ จังต่อหนา้ ที่ ! วนิ าทีนน้ั เครดติ ก็เริม่ ไตร่ ะดบั ... ประจักษใ์ จตัวเองเบ้ืองต้น คาใจ... โอ้ ! นม่ี ัน เราเริม่
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๐๗ ลงมอื แลว้ …! ในทางพระพุทธศาสนา เปน็ คำสอนเรียกว่า ปฏบิ ตั …ิ คดิ ใครค่ รวญเป็นปรยิ ตั ิ การเรียนรู้... เพราะฉะนั้น เรียนรไู้ ม่ใช่อยู่แต่ในหอ้ ง -- บนกระดานดำ… เหมอื นเธอจะเอาใครมาขบั เคลอ่ื นงานพอเพยี ง หรือมาเป็นหัวหนา้ แผนก หวั หนา้ กรม หัวหน้ากอง ถา้ เขารู้ศาสตร์วชิ านน้ั ๆ แล้ว แต่รไู้ ม่จริง… ยังไมพ่ อ ! ศาสตรว์ ิชาท่เี ขารู้จรงิ -- กแ็ ล้วแต่ จรงิ มากหรอื นอ้ ย – หากไม่หยัง่ ลงในคุณธรรมของเขา… เหน็ โตง้ ๆ ว่าย่อมมี อดุ มการณ์ไมไ่ ด้….! สติปัญญา... ยน่ มา ความคดิ เศรษฐกจิ พอเพียง คือ สอนใหเ้ รารู้จกั คิด แลว้ กต็ งั้ ประเด็น หรือดำรคิ ดิ ค้น ใครค่ รวญว่า… เม่ือได้ความคดิ รเิ รม่ิ เหน็ แนวทางแล้ว… กค็ ิดวา่ เราจะทำอะไร…? ตัวน้ี ก็ยน่ ไปใส่ดำร…ิ แต่ ทัง้ หมด สติปญั ญาฉลาดปราดเปร่ือง คดิ ได้ดไี ดช้ อบได้งาม ขนาดไหนกแ็ ล้วแต่ ถ้าขาดฐานท่ีตัง้ ของปญั ญา -- ปญั ญาในทางพทุ ธศาสนา -- เรยี กวา่ ขาดพละกำลัง !! อปุ มาอุปไมย เหมือนมดี คม ๆ มีคมท้ังสองด้าน ปานกรชิ สะบดั ทางไหนกย็ อ่ มเกดิ ประโยชน์ หากสะบัด
๑๐๘ บอกยาก สอนยาก ผิดจงั หวะกเ็ ปน็ อนั ตรายตอ่ เรา -- อปุ มาอุปไมย สติปญั ญา หมายถึงคมมีดนะ ! แตถ่ า้ บุคคลน้ัน… พระพุทธเจ้าบอกว่า เธอ บุรษุ ผู้น้ี พงึ นำกริชอันคมกรบิ ท่เี ราพงึ มอบให้เธอ แลว้ ไปถากถาง ป่าตรงน้ี ๑ แปลง - ๑ งาน - หรอื ว่า ๑ ไร่ ทีเ่ ราให้แก่เธอ ใหส้ ำเร็จประโยชนใ์ นการปลูกขา้ วโพด… ถ้าบคุ คลคนๆ นนั้ เปน็ โปลโิ อแขนลีบ ... สติปัญญา ก็ไม่ครบเครอื่ ง.… โอเค ละไว้… แมจ้ ะมสี ติปัญญาสมบูรณ์ แบบ -- สติปัญญา หมายถึง คมมีดนะ ! ตอนนนี้ ะ อย่าสบั สน -- แต่บคุ คลผู้เป็นโปลิโอ ขาดความทีม่ ีพละกำลงั ในการจะหยบิ ศาสตราวธุ หยบิ ความคมของมดี ไปใช้ให้ สำเรจ็ ประโยชนใ์ นการปลกู ขา้ วโพด แขนก็ลบี … เข้าใจยงั ? คนไม่สมประกอบ แขนลบี พละกำลังในตัวเองกไ็ มม่ ี… ความคมของมีดโมฆะไหม ? เด๋ยี วก็วาง เดี๋ยวกห็ ยิบมา…. กไ็ ม่ไปไหน เพราะขาดฐานกำลงั … กำลงั จะพดู เรอ่ื ง สมาธิ ยงั ไม่พอ ยังไมพ่ ูดถึงเกียจครา้ นการทำงาน ออ่ นลา้ ไมอ่ ดทน ไมพ่ ากเพียร … พากเพยี รอยา่ งเดยี วใชก้ บั โลก ไม่ได…้ . เอามาใชก้ บั ธรรม ยง่ิ ไม่ยอมรับ ! วริ ยิ ะนี่ ใชค้ ่กู บั
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๐๙ ความบากบนั่ - อตุ สาหะ … อุตสาหะกับวิรยิ ะ คนละอยา่ ง … เพราะฉะนั้น พระพุทธเจา้ จงึ บอก เราจะควบเรยี กไปหมด ท้งั กลุ่ม เรียก วริ ิยะ … พระองคย์ น่ มา ทวี ๓ ... สามคูณ ในฝ่ายวริ ยิ ะ -- ระดบั ธรรมดา ระดบั กลาง ระดับอุกฤษฏ์ … แบบมา เราจะยอมตาย ! ทะเลมหาสมทุ รไมเ่ หน็ ฝ่งั ใยเธอจะพึงว่าย ? บอก มหี รือเรา ผู้เลอเลิศสัง่ สมบ่มมาขนาดนี้ -- เรา เครอื่ งหมาย เราคอื พระโพธิสตั ว์ นะ ! -- เราจะนง่ิ ดดู าย ปล่อยให้ ตวั เองรว่ งลงสกู่ น้ มหาสมุทร โดยไมม่ ีปฏิกริ ยิ าตอบโต้เลย หรอื ?! บอก ฝง่ั ทะเล อยู่แคร่ มิ ฝปี ากมาหาจมกู …! นฉ่ี ันขยายความ ในความรสู้ ึกของพระโพธสิ ัตว์ พระองค์เห็นแค่จมกู มาหาปาก ! พวกเธอเห็นพระนพิ พาน มรรคผล-โสดา-สก-อนาคา … พวกเธอบอกวา่ ไกลร้อยลี้ เปน็ สิ่งเกิดขน้ึ ไดย้ าก ! ยากในโลก สำหรับผู้โง่ผูห้ ลง แตฉ่ นั เหน็ อย่รู มิ ฝปี ากมาหาจมูก ลดั นิว้ มือเดียว…! ดแี ขง้ เรามี เราจะรั้งรอทำไม ? ถงึ บอก ! ทำ กรรมฐาน อานสิ งส์จิตรวมตัวลงเป็นหนึง่ ประเดย๋ี วประด๋าว … พระพทุ ธเจ้าบอก บุญกศุ ลท่จี ะทวแี กเ่ รา ประมาณไม่ได้
๑๑๐ บอกยาก สอนยาก วา่ จะเทา่ ไร ?! มิใยจะพดู ถงึ บคุ คลผ้จู ิตตั้งมนั่ เปน็ หนึ่ง จะเอาเทา่ ไรกไ็ ด้ นานเท่าไรก็ได้ … ละไว้ พระอรหนั ต์ ท้งั หลายทงั้ ปวง จติ ตัง้ มน่ั เป็นหน่งึ เปน็ อมตะ ! เพราะฉะนน้ั เธอจะมายวั่ โทสะ ย่วั กเิ ลสฉนั เธอด่าแขง่ กับฉนั …. เธอแพ้ฉนั เพราะฉันจติ ไมห่ ว่ันไหว ตอ่ เธอ แล้วจิตไม่สะดงุ้ ไมม่ เี ครือ่ งหมาย…! ฉนั เรียงคำ ด่าได้อย่างไพเราะเลย พ่บั ๆๆๆๆ แสบสรรพนั เรือง โดย ไม่ตอ้ งหยดุ คดิ …! แตท่ ำท่าแอค็ ช่ัน ! บอก แอ็คชน่ั ใสบ่ ทบู๊ ! ปากน้ี ดา่ แพร่บๆๆๆๆๆ... สมยั กอ่ น เวลาโมโหใคร อยู๊ .. อู๊ย.. ส่ันไปหมดเลย… ทุกวันน้ี พอโมโหปุ๊บ ทำท่าสั่นแอ็คช่ันยังไง… ไอ้จิตน้ีกไ็ ม่ไป-- เปน็ เอกภาพ มีความเป็นหนึ่ง เปน็ ผลจากการฝึกจิต แท้จรงิ อบรมได้ลา้ นเปอร์เซ็นต์ของล้านเปอรเ์ ซ็นต์…! จงึ เคี่ยวเข็ญพวกเรา ถ้าไม่เช่นนั้น เธอคนื กลบั ไปสู่โลก… อดุ มการณข์ องเยาวชน เคานตด์ าวน์ (count down) ไดเ้ ลย -- เกา้ แปด เจด็ หก … ล้มแน่ ! ทำไมถึงบอกวา่ มสี ิทธล์ิ ม้ ได้ ? เรว็ หรอื ช้า… ไมต่ ้องนบั วันคอยเลย ยงั ไมต่ ายจากกนั
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๑๑ นายตำรวจ นายทหาร ฝึกออกมาจากสามพราน จาก จปร. สุดยอดออกมา เขีย้ วลากดินวา่ ดว้ ยอดุ มการณ์ ยังไมก่ ่รี าตรเี ลย…! อย่าไปถาม อยา่ ไปถาม… ครู the teacher จบวทิ ยาลัยครู ไมม่ ีอุดมการณ์ เพราะถ้าตัว อาจารย์สอนก็ไมม่ ีอดุ มการณ์ จะสามารถสอนคนให้มี อดุ มการณ์ได้ไหม ? อมิ พอสซิเบลิ โน เปน็ ไปไมไ่ ด้ ! เหมอื นฉัน จะสามารถสอนใหเ้ ธอมสี มาธิ เปน็ โสดา-สก-อนาคา-เปน็ อรหนั ต์ … ฉันยอ่ มทำไมไ่ ด้ ถา้ ฉันไมเ่ ปน็ จริง…! ฉันจะต้องรวู้ ิธกี ารเพอื่ ให้เธอเปน็ เธอถึงจะเข้าใจมนั ได้ ! พระพุทธเจ้าถึงบอกสอนตนให้ดี ก่อน -- อบรมตนแลว้ ๆ เลา่ ๆ จนสำเรจ็ ประโยชน์ อุทาน สันทิฏฐโิ ก ประจักษใ์ จแล้ว -- จึงทอ่ งเทย่ี วไปเพื่อยงั ประโยชน์แกค่ นอ่นื ! นี่คือสาวกแห่งเรา ตถาคต ! ถา้ งั้นเราไม่ปล่อย…! แต่แท้จริง ในวงการนี้ทีม่ ีอรยิ มรรคผลเกดิ ข้ึน ถา้ ครูบาอาจารยเ์ ตง็ หนึ่ง อยู่ตรงน…ี้ ไกป่ ่าขันตวั เดียว ! จะอ้าปากนี่ กก็ ลัวถกู ดา่ … อย่างวดั หลวงตา (องคพ์ ระ หลวงตามหาบัวฯ วดั ป่าบ้านตาด) หลวงตาอ้าปากขัน
๑๑๒ บอกยาก สอนยาก เอ้กอ้ีเอก้ เอก้ อยูต่ ัวเดียว-องคเ์ ดยี ว… ถ้าเปรียบไก่ ก็ตวั เดียว… องค์อื่น … ไมใ่ ช่ไมม่ พี ระอรหันต์ ! มี แตต่ ้องปิดปากเงียบ…! เพราะธรรมอันเดยี วกนั ไม่มเี คร่อื งโตแ้ ยง้ ! องคพ์ ระหลวงตาเทศน์ ก็คอื จบเลย ! ต่ำกว่าพระอรหันต์ ก็ไมม่ ีสิทธโ์ิ ต้แย้งอยูแ่ ลว้ มแี ตต่ อ้ งเงยี่ หูลง… ทางพุทธ ศาสนาเรยี ก เง่ียโสตลง สดับตรับฟงั สติปญั ญาใคร่ครวญ จำแนกแจกแจงไปด้วย ตงั้ ไวด้ ว้ ยความเชอื่ ถือและศรัทธา ! ถ้าตง้ั ไวด้ ว้ ยประเด็นของเรานี่ … จะศรัทธาไหม ? จะเช่ือถอื ไหม ? ไม่เช่ือใช่ไหม…! แล้วถา้ ต้ังไว้ด้วย ประเด็นของเรา มีแงม่ ุมของเราเป็นตวั ต้ังไวน้ ี่ เราจะเกดิ ความเข้าใจในเนือ้ ธรรมที่ท่านอธบิ ายไหม ? จะเข้าใจไหม ? ไม่เขา้ ใจ…! เพราะเธอมีประเด็นของเธอไว้วา่ มนั ตอ้ งเป็น อย่างนี้ และควรจะเป็นอยา่ งน้ี…! พอฉันอธิบาย นอกจากทิศทางทเี่ ธอตั้งประเดน็ เอาไว้ เธอไมย่ อมรบั แนน่ อน… เข้าใจยัง ?! คนในโลกหน้าตาอย่างพวกเธอนี่ … เขาเรยี กวา่ มี อสั มมิ านะ ๙ -- สำคญั ตนว่า ตนสูงกวา่ เขา ตนเสมอเขา ตนตำ่ กว่าเขา … ตนสงู กวา่ เขา สำคัญตนวา่ ตนสงู กว่าเขา
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๑๓ สำคัญตนวา่ เสมอเขา และสำคัญตนว่าตนต่ำกวา่ เขา -- ตนเสมอกบั เขา ตนเสมอกบั เขาสำคญั ตนวา่ ตนสงู กว่าเขา ตนเสมอกับเขาสำคญั ตนว่าเสมอกับเขา ตนเสมอกบั เขา สำคัญว่าตนวา่ ตนต่ำกว่าเขา -- ละไว้อกี มาท่ตี ่ำ ตนต่ำกวา่ เขา สำคัญตนวา่ ตนสงู กวา่ เขา ตนต่ำกว่าเขาสำคัญตนวา่ ตน เสมอกบั เขา ตนต่ำกวา่ เขาสำคัญว่าตัวตนเปน็ คนตำ่ กวา่ เขา … ๓ คูณ ๓ เปน็ ๙ … มานะ ๙ ถูกสะบ้ันหนั่ ไม่เหลอื เผา ประชมุ เพลิง ในจิตของพระอรหนั ต…์ ! ถงึ บอก ท่สี ุดเลย..! ทสี่ ุดแหง่ ที่สดุ …! เอาคำอะไรมาใชแ้ ทนค่าไมไ่ ดเ้ ลย เพราะ ธรรมไมม่ ีอกั ขระพยัญชนะ ! ทำไมเขาจึงบอกเธอ “อย่าทำเปน็ รู้ อยา่ แบกวิชา อะไร เก่งกาจมา !” เพราะมนั พดู มา .. สมมตุ นิ ี่ กก็ ลายเป็น ตื้นเขนิ สำหรบั พระอริยเจา้ ทเี่ ป็นผูร้ ูแ้ จง้ โลก … เหมือน จะถูกตอ้ ง ท่านกส็ มยอม … “อย่างนี้ โอเคอยู่ ! ไม่นอกลู่ นอกทางแหง่ ศีลแห่งธรรมเกนิ ขอบเขต” ก็ผอ่ นปรน แค่น้นั เอง… จริงตามเป็นจรงิ
๑๑๔ บอกยาก สอนยาก … อยา่ วา่ แตเ่ ราเลย พระราชามหากษตั รยิ ์ มี พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั เป็นตน้ กห็ มัน่ เข้าไป ปรึกษาปราชญ์บณั ฑิต พระอรหันตใ์ นพทุ ธศาสนาเรา เปน็ ประจำมา เป็นภาพทง่ี ดงาม เราเหน็ มาตัง้ แต่เราสมัย นุ่งกางเกงขาส้ันไปโรงเรยี น แลว้ เตบิ ใหญ่มา แล้วกเ็ ตบิ ใหญ่ มาเร่อื ย เตบิ ใหญ่มาเรือ่ ย… เรากเ็ ห็นท่านมาประจำ สมัยยคุ หลวงปขู่ าว หลวงปชู่ อบ หลวงปฝู่ ้นั หลวงปแู่ หวน … สนทนาธรรมกันเปน็ ประจำ กบั หลวงตา (วัดป่าบ้านตาด) วิ่งไปวิง่ มา … หลวงตาจนบน่ เราเปน็ พอ่ ของคนทง้ั ประเทศ วงิ่ มาหาเราดกึ ด่นื ไมด่ ีนะ ! เกดิ เราเปน็ อะไรไป เมอื งไทยจะอยยู่ ังไง ? … ไล่กลับ ! แลว้ ไมเ่ อาเคร่ือง … เอาอะไรมานะ ! ขบั รถมา มากบั คนสนิท คนสองคน… หลวงตาไมช่ อบ ! ไลก่ ลับ ! …ไปสกลนคร ไปประทับตรงน้ัน ใช่ไหม… วงิ่ มา… หลวงตาไลก่ ลับ ! ความหวังดีนะ แลว้ กไ็ ม่ชอบดว้ ย ! บอก “เธอทำอย่างนี้ อนั ตรายต่อชาติ ตอ่ บ้านเมอื ง !”
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๑๕ ….หันกลบั มาชมกระทรวงศกึ ษาฯ วา่ … ละไวใ้ นอดตี ทลี่ ่วงมาแลว้ … เดี๋ยวนี้เขากำลงั มุ่งม่ันกนั อยู่ ขวนขวายท่ีจะ ขบั เคล่อื นเศรษฐกิจพอเพยี ง แลว้ สังคมเรา มนั มแี ต่ แตกห่วย - ห่วยแตก -- เขากป็ ลกุ ผฟี น้ื ขึ้นมา กำลังลา้ ง ข้ตี มออก ! คณะกว๊ นเขา มารวมหัวกนั อย่างเอาจรงิ เอาจัง อย่างเขม้ ขน้ จนด่า เฮย้ ! พวกเธอทำงานแลกตาย พวกเธอคดิ วา่ กำลงั ทำอะไร … เดย๋ี วนี้ เธอแคเ่ อาพวกเขาข้นึ มาจากตม ลา้ งนะเฮ้ย ! สถานศกึ ษาพอเพียง … เธอเอาเขามาล้าง ล้างข้ตี ม ! แลว้ ก็ ตัดเล็บมือเลบ็ เท้า ! อุปมาอปุ ไมยให้ฟงั … สระผมดว้ ย ผมสระแล้ว เสรจ็ แล้ว ยาวกไ็ ปตดั ออก เรยี บร้อยแลว้ กม็ องดกู ารแตง่ กาย… อยู่ประมาณแค่นั้นเอง หลกั ปรัชญาฯ ตัวน้ี เอาไปป้อนใหก้ ับสังคม … แล้ว รอดวู า่ เม่อื ไหร่สงั คมเอาหลกั ปรชั ญาฯ น้ี ไปขบั เคลื่อน… เอาไปใช้แล้วกถ็ อยหมด…! เพราะในหลวง ทา่ นอยาก ประทานไว้ใหแ้ กส่ ังคม … เขากำลงั จะทำถูกแล้ว กม็ อบไว้ ให้เปน็ หน้าทก่ี ระทรวงฯ เพราะพวกเขามีหน้าทเี่ กี่ยวกับ เร่ืองพวกน้ี กเ็ ขามีหนา้ ที่ ถูกต้องแลว้ !
๑๑๖ บอกยาก สอนยาก จรงิ ๆ แลว้ …. เขากไ็ มไ่ ปแทรกแซงการดำเนนิ ชวี ิต ของสงั คมดว้ ยหลักปรัชญาฯ ตัวน…ี้ แต่เขากลบั คอย ประคบั ประคอง ครูส่วนน้ี สังคมสว่ นนู้น คณาจารยส์ ว่ น นนู้ ว่าเปน็ อย่างไรกันบ้าง ? … เขาก็คอยประคับประคอง กำกับให้อยใู่ นหลกั ในเกณฑ์ ในกรอบ ทงั้ ๆ ท่เี ขามีหนา้ ที่ โดยตรง พวกเราท้ังหลายทง้ั ปวง .. ละไว้ .. ท่ไี มไ่ ดอ้ ยูใ่ น กระทรวง มหี น้าทจี่ ะอมุ้ ชเู ขา ด้วยบอกดว้ ยสอน แลว้ เรา ก็ถอยออกมา หากเขาพอจะยนื ด้วยตัวเองได้ แล้วกค็ อยดู เขากอ่ น… ถา้ เพลีย่ งพล้ำจะลม้ เราก็เข้าไปอมุ้ บอก “ตรงนมี้ ันจะลม้ อยา่ เดนิ ไมด่ นี ะ ตรงนใี้ หต้ งั้ สติ แลว้ ระวงั แล้วกา้ วขา้ มไป ตรงนีม้ นั ตม มกี ้อนหิน มหี นามดว้ ย….” เป็นคร้ังๆ คราวๆ ไป หลังจากใหเ้ ขายืนล้างหนา้ ลา้ งตา ชะล้างตัวแลว้ แตง่ ตัวให้เขาเรียบร้อยแลว้ กม็ อบหมายภารกิจว่า อยา่ งนัน้ อย่างนี้ แลว้ ก็แนะนำการเดนิ และวธิ เี ดนิ การพดู และวิธพี ดู การคิดและวิธีคิด สารพดั ใช่ไหม… มนั คลา้ ยๆ อย่างนน้ั อุปมาอปุ ไมย … กเ็ ราจับคนข้ึนมาจากข้ีตม คือ สถานศกึ ษาพอเพยี ง
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๑๗ ฉันก็ยงั ดใี จว่า เออ ! พวกเราอุตสา่ หจ์ ับมือจบั ไม้กนั เร่ยี วแรงเหน็ดเหนื่อย อ่อนลา้ ! โอเคอยู่ ! คนเราทำกิจเหล่าน้ี ก็ต้องดเุ ดอื ดเลอื ดพลา่ น ตอ้ งยอมเปน็ ยอมตายบ้าง ! ผูบ้ รหิ ารตวั จริงต้องลงตดิ พน้ื ดินนะ ติดดนิ นะ … ผูบ้ ริหารตวั จรงิ - พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ท่านลง ไปทั่ว ลงไปหมด ลงไปติดดินเลยนะ…! เธออยา่ ปฏเิ สธ... หลวงพอ่ พดู ทัง้ หมด หวังดีตอ่ ชาติบา้ นเมือง ! แตพ่ อไม่ไดด้ ง่ั ใจ กโ็ มโห ! พอโมโห ก็บอก ปิดประตูวัดสิ… ใครเปิด ฉนั จะฆ่าเธอ ! วันสุดท้ายกอ่ นเธอจะออกไป กไ็ ปดู กไ็ ด้ กอ่ นจะออกไป … ออกประตูหน้า ก็ไปจอดรถ ใหค้ นขับรถเปดิ จอด ตรงหลักประตหู น้า ดา้ นขวา ขาออกไป…. ฉันจะเขียน เปดิ แล้วปิด กำหนดเวลา อกี -- ดีไมด่ ี มอี ยแู่ ต่จะเขยี นด้วยลายมอื ตัวเอง -- ลายมอื ตวั เอง เอาสวยก็ได้ ขี้เหร่กไ็ ด้ เขยี นเก่งกวา่ พวกเธอจบครู อกี -- ฉันจะเขยี นว่า วดั นไี้ ม่ยินดตี ้อนรบั ใครหรอก ละไว้ แตผ่ มู้ ุ่งมาตอ่ ศลี ต่อธรรม เทา่ นัน้ ! ตกลงจะใหฉ้ นั เขียน ขนาดนน้ั เหรอ…!
๑๑๘ บอกยาก สอนยาก แล้วเดย๋ี วน้ี กระทรวงไหนไมร่ …ู้ เข้าใจหนา้ ทต่ี วั เอง ผิด ไม่มอี ุดมการณ์ ไมร่ ู้ศลี รธู้ รรม … ยังไมร่ ้เู รอ่ื งอะไร ยังไมพ่ อ เขา้ ใจหนา้ ทตี่ วั เองผิดว่าตวั เองมีหนา้ ทอ่ี ะไร ? กลบั ตีกรอบตัวเอง จนมามหี นา้ ท่คี วบคุมพระ ! บอก ฟงั ผดิ หรอื ฟังถกู กรุณาพดู ใหมส่ …ิ ? บอก ละไว…้ ฉันบวช ๓ วันเปน็ โสดาบนั เธอจะเอา อะไรมาคุมฉนั …! ฉนั สมั มาทฐิ ิ เถรหน้าตรงกบั ความดีงาม ตายกไ็ มต่ กตำ่ -อยไู่ มเ่ สยี หาย โชคด…ี ! แตเ่ ธอมสี ิทธิ์ ทกุ เส้ียววนิ าที ขนาดเธออยู่ตรงนี้ จติ เธอกเ็ ศร้าหมอง แววตาเธอก็ริบหรีล่ ง ด้วยความโง่เขลาเบาปญั ญา… หน้าทขี่ องราชการเหล่าน้ี มีหน้าทส่ี ่งเสริมสนับสนุน อำนวยความสะดวก ให้พระภกิ ษสุ ามเณรเหล่าน้ี อยใู่ นบวร พระพุทธศาสนา มุง่ ต่อการปฏิบัติเพ่อื มรรคผล … อันนี้ไม่ ! สร้างระบบข้ึนมา … โห ! พดั ยศพดั ..อะไร ! ในพระสตู ร มกี ี่เลม่ เอามาเขกหวั ไดเ้ ลย มาฟนั คอขาด ไมม่ ี ! คำวา่ เจา้ อาวาสยังไม่มเี ลย ! แต่โอเค สมยอมกบั โลกปจั จุบนั ได้ว่าเป็นระบบการบรหิ ารจดั การ … แต่ไม่นะ ! นี่เขาเรียกว่า บัญญตั ิส่ิงท่ีพระพทุ ธเจา้ ไม่บญั ญัติ ! เปน็ คำหา้ มนะ
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๑๙ ผดิ พระวนิ ยั นะ จรงิ ๆ…. อยา่ บญั ญตั ิธรรมวนิ ัยเกินทเี่ รา บญั ญตั ิด้วยดี อยา่ บัญญตั เิ กิน สว่ นไหนทเี่ ราไม่บญั ญัติ อยา่ บัญญัติ ภาษาง่ายๆ ถ้าพระพทุ ธเจา้ … ฉนั พดู แทนเบอ้ื ง พระยุคลบาท … บอก พวกเธอ พวกโง่กิเลสหนาปัญญา หยาบ เราบรมศาสดาเอกของโลกหนึ่งไมม่ สี อง ครูของ มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เทวดา อนิ ทร์ และพรหมทงั้ หลาย เพราะฉะน้นั เราบญั ญตั แิ ลว้ หนงึ่ ไมม่ สี อง คอื ถูกอยา่ งเดยี ว ไมม่ ีโอกาสทีจ่ ะโตแ้ ยง้ … ฉะนั้น พวกเธออย่าแปลกใจวา่ ศาสนาทำไมถงึ เปน็ อยา่ งน้ี ... ฉนั เป็นพระ ฉันยังเกลยี ด พระ เบอื่ พระ…! ถงึ บอกว่า เอ๊ ! ทำอยา่ งไรฉนั ถึงจะมตี งั คบ์ ้าง ฉันจะสรา้ งห้องนำ้ ตามปม๊ั น้ำมัน … จะไปขออนญุ าต ถ้าเกิดเขานับถอื … ตรงน้ี ตามปมั๊ ขอท่ปี ระมาณสกั กว้างวาคร่งึ กับยาววาหน่ึง ทำหอ้ งนำ้ ไว้สำหรบั พระภิกษุ ไดไ้ หม ? แดกดันเฉยๆ ไมไ่ ด้สนใจหรอก ! ….จะอ้ันเย่ียว ถ้าจะเยี่ยวจรงิ ๆ เย่ียวคาสบงจีวร ! ไมง่ ึดมนั หรอก…!
๑๒๐ บอกยาก สอนยาก พอเราลงจากรถไปแต่ละคร้ัง …. เหน็ แววตา เหยียดหยาม...! พวกเราอยา่ ให้เหน็ นะ สังคมอยู่ตรงน้ี อย่าใหเ้ ห็น …! เธออย่าลมื นะว่า แววตาของเธอ สายตาส่ือ ความหมายเหยยี ดหยามปรามาส มองขา้ มศีรษะ ความไม่มสี มั มาคารวะ ความไม่รู้เขารเู้ รา… มาเลย สปั ปุรสิ ธรรม มาทั้งดุ้นเลย … อย่าดถู กู ภกิ ษหุ นมุ่ น้อย ผู้บวชใหม่ ! เพราะเธอยังไมร่ ูว้ ่าเขาเป็นใคร มาจากไหน ในอดตี ชาติสัง่ สมบ่มมาขนาดไหน…!? ยกตวั อยา่ ง ยน่ มา ... อยา่ งฉัน บวช ๓ วนั เปน็ พระโสดาบนั … เดนิ ตะเกต้ ะกังไป รองเท้าไม่ไดใ้ ส่ บาตร – สะพายถงุ บาตรอย่างเดียว กลดก็เกา่ ๆ ! เธอประเมนิ ฉนั เธอกำลังแตะตอ้ งตำหนิทว้ งติงพระอรยิ เจ้า เบ้อื งตน้ ในพระพทุ ธศาสนา เต็มภูมิ … โทษภัยกเ็ กดิ ขึ้น…! เพราะฉะน้ัน คนในโลกวบิ ตั ิ เพล่ียงพล้ำ หาเหตไุ มเ่ จอ เมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) โดยรวม กำลังเกิดข้นึ เด๋ียวนี…้ .
ไก่ป่าขันตัวเดียว ๑๒๑ ... พอกค็ อื พอ สิ่งใดอนั จำเปน็ อันต้องแสวงหา เพ่อื ตัวเราเอง เพอื่ บตุ รหลาน บุคคลในครอบครวั เรา ก็ใหม้ ันพอดิบพอดี พอครบสมบรู ณ์ พอสมควร แก่การ แก่เหตแุ กผ่ ล แล้วก็อยา่ พึงดน้ิ รนทะยานมนั สืบไป เพราะมนั จะเป็นทุกข์ เน่ืองจากการแสวงหานนั้ อกี ก็ร้รู ูอ้ ยู่วา่ ทางโลกหาขอ้ ยตุ ิไม่ได้ ไมป่ รากฏ ... (ทม่ี า : หนงั สอื “ปฏริ ปู มนุษย์ ดอกชงโคปา่ บานแล้วท่ีถ้ำโพธิญาณ” ประพันธ์โดยพระหลวงพอ่ สุธรี ์ ชาคโร; หน้า ๒๘)
บอกยาก สอนยาก พูดจริง ของจริง เทศน์อบรมข้อปฏิบตั ิ วนั เข้าพรรษา วนั เสาร์ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒ ๕๕๔ ณ ศาลาวชิ ัย:เกรียงไกร วดั ป่าเหลา่ กกห่งุ
พูดจริง ของจริง ๑๒๓ เอา้ ! หามมุ นง่ั กัน รบี นง่ั เท้าขวาทับเท้าซ้าย เร่ิมเลย คนอนื่ เขาเริม่ แลว้ สมาธิบัลลังก์ ลองทำสิ เปน็ ไหม ? เทา้ ขวาทบั เทา้ ซา้ ย มอื ขวาทับมือซ้าย … แลว้ ฉนั กจ็ ะบรรเลงเพลงดา่ บ้าง กระทบบ้าง แดกดันบา้ ง .... ! ไปเรือ่ ย ๆ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทบั มือซา้ ย … ตอกยำ้ ให้อกี ! ใครไดฟ้ งั แล้วเมอื่ วานกด็ ี ตอกยำ้ อกี ที ! อันไหน ยังไมเ่ ขา้ ใจ กจ็ ะได้เข้าใจ คนยังไม่เข้าใจ ก็จะได้ฟังใหม่ เท้าขวาทับเท้าซ้าย มอื ขวาทับมอื ซา้ ย ... ในเชิงลักษณะ การนั่งนีเ่ ขาเรียก “บลั ลังก์” ปิดเปลือกตาลงเบาๆ ต้ังกายตรง ดำรงสติเฉพาะ หน้า ไม่เชิดหนา้ เก็บปลายคางลงนดิ หนง่ึ เพื่อรอรบั สมาธิ .... ต้งั จิต ตัง้ กาย ให้รอรบั ความเป็นอย่ขู องจิต เกดิ ไม่เกิด เราไม่สนใจ เรามคี วามพากเพียรซะอยา่ ง…!
๑๒๔ บอกยาก สอนยาก อย่าเกร็งตัว... ! ฟังต่อไป ... อย่าเกรง็ ความรสู้ กึ อยา่ เกรง็ ลม...! เมอ่ื วานอะไรที่บกพรอ่ ง ยังไมไ่ ดเ้ ตมิ เต็ม ก็ฟงั ... อันไหนท่ยี ังไมไ่ ดเ้ ติมเตม็ รู้แจง้ หมด ! แต่บางที มันเรว็ มาก เลยยังไมไ่ ด้เตมิ เตม็ ให้ ... อยา่ เกรง็ ลม ลมหายใจยาว กใ็ หย้ าวเป็นปกติ แตใ่ ห้มสี ติกำกบั รกั ษา รู้ตามเป็นจริงว่าลมยาว ..... ให้ดู อานาปานสติ หมายถึง ให้เห็นลมเข้า-ลมออก กำลัง ใหเ้ จริญกรรมฐานวา่ ด้วยอานาปานสติ .... เป็นกรรมฐาน กองใหญ่ กองมหัศจรรย์ ... ฤทธ์เิ ดช คุณวเิ ศษ ความรแู้ จง้ เห็นจรงิ เพ่อื นำตวั เองไปอยกู่ บั โลกกบั สงสาร แบบสบาย ราบร่ืนท่ีสุด หมดจากปัญหาสว่ นมาก เหลอื แตเ่ พยี งเล็กน้อย … อนั น้เี ปน็ ทีจ่ ะใหเ้ ธอเปน็ …! กายตั้งตรง ดำรงสตเิ ฉพาะหนา้ เก็บปลายคาง เล็กน้อย อยา่ เกร็ง…! ศีรษะยันปลายเท้า ไม่มีจุดเกร็ง ภาวะจิตไมเ่ กร็ง ปลอ่ ยสบายๆ เอามาตัง้ ไวอ้ ยใู่ นทา่ มกลาง ตรงล้ินปี่ … เจาะมาเลยตรงลนิ้ ปี่ ใต้รอ่ งนิดหนึ่ง อย่าเหนือร่อง ใตร้ อ่ ง ตรงอกลิ้นปี่ …. อย่ปู ระมาณน้ัน ไมใ่ ห้ขน้ึ มา แต่จะตำ่ กว่ากันเล็กน้อย กไ็ ด้ …. อยูป่ ระมาณน้นั อยกู่ ำ้ กึ่งตรงนั้น ตรงลิ้นป่ี
พูดจริง ของจริง ๑๒๕ อย่าเกรง็ ….! จติ ไปต้ังไว้ ! เพียรตงั้ ! มีสต…ิ .! สติ เขาแปลว่าระลกึ ได้ .... ความระลึกได้นี้ ตามกำกับรักษาใจทต่ี งั้ อยตู่ รงนน้ั ต่อไปจะเรยี กวา่ ใจ หรือธาตรุ ู้ กแ็ ล้วแตจ่ ะเรียก หรอื จะเรยี กใจ เรียกจิต .... กพ็ งึ ให้เข้าใจด้วยกันอย่างนีน้ ะ สตคิ อื ความระลึกได้ กำกบั ใจไว้อยหู่ ว่างกลางลิน้ ป่ี คือหน้าอก ไม่ตามลมเข้าไป และไม่ตามลมออกมา ลมออก ... ขาออกเพ่ือคืนไปสู่ปลายจมูก เราก็ ไม่สนใจตามลม แต่เราระลึกร้สู มั ผสั จำได้แม่นยำวา่ ขาออกสมั ผัสแตะต้องแล้ว ทหี่ ว่างกลางหนา้ อกลิน้ ป่ี คือใจ ท่ีตั้งของเรา มสี ติกำกบั รักษาใจแนว่ แน่อยู่ ณ จดุ ๆ เดียว ลมเข้าลมออก ไมต่ ามลม ไมเ่ กร็งลม และกไ็ ม่แตง่ ลม ลมยาวก็จะไมแ่ ต่งให้มันส้นั ลมสัน้ จะไมแ่ ต่งใหม้ นั ยาว ลมทั้งยาวทงั้ ส้ันจะไมแ่ ตง่ ให้มันปานกลาง ลมหยาบจะไม่ แตง่ ใหล้ มละเอียด ลมละเอียดจะไมแ่ ต่งใหล้ มหยาบ แต่จะมหี น้าที่ตามกำกับใจอยู…่ .!
๑๒๖ บอกยาก สอนยาก สติกำกบั ใจ พอสตติ ัง้ ปัญญามันมา … จะเรยี ก ปัญญา หรือสมั ปชัญญะ ตัวเดยี วกัน .... สติตัง้ สัมปชัญญะ ปัญญา - ความรูจ้ รงิ รู้ชดั รูส้ กึ ตัว - จะทำหน้าทท่ี ันที สตแิ ปลว่าความระลกึ ได้ สัมปชญั ญะหรอื ปัญญา แปลว่ารสู้ ึกตวั ร้จู ริง รูช้ ัด รอบรู้ เท่าทนั ... ก็วา่ ไป … จะทำ หน้าทีข่ น้ึ มาทันที พอสติตง้ั ปบ๊ั ! ทนี ี้ เรามีหน้าท่ีต้ังใจ เพยี รจะต้ัง…! สติต้งั แลว้ ! กำกบั รักษาใจ ทำแล้ว ! ณ จุดหวา่ งกลางล้นิ ป่ี คือหนา้ อก ทำแลว้ …! ลมเขา้ สมั ผสั แตะต้องที่ใจ เห็นแล้ว…! ลมออก สมั ผสั แตะตอ้ งทใ่ี จ เหน็ แลว้ …! ไมต่ ามลมเขา้ และไม่ตาม ลมออก … มิใยจะเสยี เวลาจะอยู่แคน่ ้ี แก-่ เจบ็ -ตาย ก็จอ่ เรามาแล้ว ... เราจะเอาตรงน้ีให้ได…้ ! แนว่ แน่อย่ใู นการคิดใคร่ครวญ คดิ ดำริ … สงเคราะห์ ปรัชญาพอเพยี ง เอามาใชต้ รงนี้ … แนว่ แน่ ใส่ใจ คดิ ดำริ แลว้ วา่ ส่งิ นีจ้ ะทำให้เกิดกับเรา คือทส่ี ดุ จติ ตั้งม่ันเป็นสมาธิ เปน็ ของเลอเลศิ !
พูดจริง ของจริง ๑๒๗ เม่อื คดิ ใครค่ รวญ เหน็ เหตุเหน็ ผลแล้ว ดำรแิ ลว้ ลงมือกระทำ.... คอื ต้งั จิต ! ต้ังไว้แลว้ อยทู่ ่ามกลางล้ินปี่ ตง้ั สติ ตงั้ แล้ว... พอตงั้ สติปบั๊ ... สัมปชัญญะ ความร้จู รงิ รูช้ ดั รสู้ กึ ตวั รอบรู้ รูเ้ ทา่ ทัน ปรากฏแล้ว เหน็ แล้ว ! เห็นแลว้ .... ลมเขา้ ไม่ตามลม ลมออกไม่ตามลม กำลังทำแลว้ …! สัมผสั แตะต้อง ณ จุดๆ เดียว คือหวา่ งกลางจดุ ผรู้ ู้ ฐานทีต่ งั้ ไว้หวา่ งกลางหนา้ อก โดยมสี ติ เป็นธรรมอนั เปน็ เคร่ืองรักษาใจกำกบั อยู…่ ! พอพูดถึงสติ - ตอ่ ไปใหพ้ ึงเข้าใจว่า ไมไ่ ดป้ ฏเิ สธ สัมปชญั ญะ หรือปญั ญา -- พอเวลากลา่ วถงึ สตติ ัวเดยี ว กพ็ งึ รู้เถอะว่า รวมถึงสมั ปชญั ญะ และหรอื ปัญญาด้วย...! เพราะฉะนน้ั ตอ่ ไปจะพูดสติ-สัมปชัญญะ ก็พงึ เขา้ ใจว่า มนั คอื สต-ิ ปัญญา .... จะพูดว่าสติ-ปญั ญา กใ็ ห้พึงเข้าใจวา่ มนั คือสติ-สัมปชญั ญะ .... จะพดู วา่ สติ กใ็ ห้พึงรู้วา่ หมาย รวมถึง เป็นผมู้ ีสต-ิ ปญั ญา หรือมสี ต-ิ สัมปชญั ญะ ในคราว เดยี วกนั ตอ่ ไป .... จำไปจนถึงวันตาย
๑๒๘ บอกยาก สอนยาก ลมเขา้ สมั ผสั แลว้ ลมออกสัมผัสแลว้ ไมแ่ ตง่ ลม ไมป่ รุงแต่งให้ตามความพอใจกิเลสตัวเองว่า เราจะแต่งให้ มันพอดิบพอดกี บั ความท่ีเราจะเอาและสบาย ... ไม่เอา ! เรากำลังจะเข้าไปเหน็ รู้ รคู้ วามจริงใหไ้ ด้วา่ ทำไม ลมส้นั ? สั้นแลว้ หยาบอีก ประกอบด้วยกเิ ลส ความขัดเคอื ง ความระคายเคือง อะไรต่างๆ ..... ออกก็สน้ั อกี อดึ อัด ระคายเคืองตัวเอง...! ความระคายเคือง อึดอัดเหล่าน้ี ... เทย่ี งหรือไมเ่ ท่ยี ง ? เอา้ ! มนั ไม่เทยี่ งยงั ไง ? ก็มนั เกดิ อย่เู ดย๋ี วนี้...! แต่หวั ยนั ตีนผเู้ สวยความอดึ อัดตัวน้ี เทยี่ งหรือ ไมเ่ ที่ยง ? ไมเ่ กินรอ้ ยปีตายเปน็ ไหม....? ก็เรมิ่ เห็นแล้ว เอา้ ! มันตายเปน็ น่ี ! .... เมื่อคนตายแลว้ อารมณ์เหล่านี้ มันเสวยกับคนตายไหม ? คนตายเปน็ ผดู้ ิ้นทรุ นทรุ ายกับ ความอดึ อดั ไหม ? ... ไม่ ! เปลา่ ! เพราะคนตายเวลา เผายังไม่ดน้ิ ไม่ร้อง...! ทำไมไม่ดน้ิ ไม่ร้อง ?! ….. ก็จะเร่ิม เหน็ จิตตา่ งหาก-กายตา่ งหาก
พูดจริง ของจริง ๑๒๙ จิตกล็ อ่ งลอยไปสภู่ พส่ชู าติ ตามกรรมดกี รรมช่วั ทตี่ นทำเอาไว้ -- ถ้าชัว่ มาก กล็ งนรก เปรต อสรู กาย สตั ว์เดรัจฉาน จำแนกไม่ไหว ….. ขี้เกยี จจำแนกดว้ ย…! ถา้ ทำดีก็จะขยับขึ้นมา …. ถ้าดนี ้อยหนอ่ ย ถ้ามีฐานะ พอจะเปน็ คน ก็เป็นคนโปลิโอ หูหนาตาเล่อ หรือพิกล พิการ งอ่ ยเปล้ยี เสยี ขา จิตวปิ ลาสมาแต่กำเนิด หรอื ไตเ่ ตา้ มากส็ ารพัด …. กรรมจำแนกแลว้ ไปเกิดในตระกลู อุดม สมบูรณ์ คหบดผี ้มู ่ังค่ัง - ไม่มั่งคั่ง กิเลสหนา ปญั ญาหยาบ คุ้ยเขยี่ ถังขยะ …. กรรมจำแนกหม่สู ตั ว์ ดแี ละชั่ว จำแนก ไมม่ ปี ระมาณ … อนั นีไ้ ตเติล้ (title) ไว้ ละไว้ .... จะหมายมาเอาสมาธิ … ลมหยาบ ลมละเอียด ไมส่ นใจ...! ไมแ่ ตง่ ลม ไมก่ ำหนดลม อยา่ งนัน้ อย่างนี้ .... แตต่ ามระลึกได้ รอดูอยวู่ า่ ... ลมเขา้ สัมผัสแตะตอ้ ง คำบรกิ รรมเปน็ เหยอ่ื ล่อปลา ..... เอาเบด็ เปล่าๆ ... ตอกย้ำอกี ที .... เบ็ดเปลา่ ๆ ไปตกปลา ปลาไม่กนิ หรือกิน กก็ ินยาก โดยเฉลีย่ แลว้ คอื ไมก่ นิ ...! เพราะว่าเป็นเบด็ เปล่าๆ มีแตเ่ หล็ก .... แตถ่ ้าเอาเหยื่อไปล่อเกาะเกยี่ วกับ ตวั เบด็ ... มีไสเ้ ดือน มีอะไรตอ่ อะไร ตวั หนอน หรอื
๑๓๐ บอกยาก สอนยาก ดอกไม้บางชนิด .... ปลาผู้คนุ้ เคย และชอบอาหารชนิดน้นั ก็ทะยานเข้ามากิน .... พรานปลาหรือผแู้ สวงหาปลากพ็ งึ ได้ สำเรจ็ ประโยชน์ เหตุเพราะเบ็ดนั้นมีเหยือ่ ล่อ เกยี่ วเหย่อื ไว้หลอกล่อปลา ปลาในท่นี หี้ มายถึงใจ...! เหยื่อในท่นี ี้คือ คำบริกรรม...! สายเบด็ ในท่ีน้ี รวมถงึ คนั เบ็ด หมายถึง สติและปญั ญา ... หลอ่ หลอมอารมณ์อบรมจติ เพ่ือให้สงบ รวมตวั ลงเป็นหนง่ึ เป็นสมาธิ ละไว้เร่อื งเบ็ด ยน่ กลับมาทใ่ี จ และสติกำกบั รกั ษาใจ ตรงนี้ .... ระลกึ รู้ ณ จดุ ๆ เดยี ว ... สัมผัสแตะต้อง ลมเขา้ ลมออก รู้อยู่ เข้ากร็ ู้ - ออกก็รู้... หยาบละเอยี ด รเู้ ท่าทัน นีก่ ำลังจะฝกึ ใหเ้ ปน็ ผู้รู้ - ผู้เหน็ - ผเู้ ข้าใจ เท่าทนั มนั ว่า ธาตุ ๔ ขนั ธ์ ๕ เรากย็ งั แปรปรวนขนาดน.้ี ..! นับประสา อะไร สังคมรอบข้างเรา อารมณต์ า่ งๆ โลภ - โกรธ - หลง อิจฉา - ริษยา บานตะเกียง จำแนกไมไ่ หวหรอก .... ตายทง้ิ เปล่าๆ ... รวมย่น ซตพ.๑ ในวงเลบ็ ปกี กา คอื ทกุ ข.์ ..! ๑ ซตพ. = ซ่ึงต้องพสิ จู น์
พูดจริง ของจริง ๑๓๑ ความพอใจ-ไมพ่ อใจ เปน็ ทุกข์...! แม้แต่ความพอใจ ยนิ ดี ก็แปบ๊ เดียว ... ลาภ-ยศ-สรรเสริญ ก็แปบ๊ เดยี ว ... ไม่เกินกาลหนง่ึ เวลาหน่ึง กฉ็ บิ หายไปส้นิ ....! ลาภ-ยศ- สรรเสริญ เงินและทอง ไมต่ ั้งอยนู่ านหรอก ถ้าขาดบุญ-กศุ ล คมุ้ ครองอภบิ าลรักษา .... ไมม่ ีบญุ เปน็ ฐานทตี่ ัง้ ลาภ-ยศ- สรรเสรญิ เงนิ ทอง กไ็ มม่ ีจุดตั้ง ไม่มที ี่ตง้ั เลย เพราะฉะน้นั รวยร้อยลา้ นพนั ล้าน ไมไ่ ดเ้ ป็นเครอ่ื ง การนั ตีเลยว่า you จะไปรอด….! ยงิ่ มาจากความชวั่ รา้ ย เลวทรามละ่ ... ขำกลิ้งเลย !! มองไม่เห็นเลยวา่ มีทางท่ี you จะเอาตัวรอด...! แมน้ you รอดด้วยแกง๊ ก๊วนแลว้ you ลากถลู ู่ถกู งั ไป .... สักวนั หนงึ่ ตายเมือ่ ไหร่ you ก็ลง นรก...! ยังไมต่ ายเม่อื ไหร่ นรกคาใจ you อยู่ ...! สันทฏิ ฐิโก ปจั จตั ตงั ... ความลับไมม่ ีในโลก คาใจอยู่...! ตนเองปฏเิ สธคนในสังคมก็แล้วแต่ .... แต่ตัวเองคาใจตวั เอง อยู่ ! ไม่แปลก ! ปฏเิ สธได้ปฏเิ สธไป ! .... เราเปน็ ผรู้ ู้ ผู้เข้าใจ เรากอ็ มย้มิ ขำกล้ิง ใหม้ ีสติ ! อยา่ นง่ั โยกโงกงว่ ง … เมื่อโยกโงกงว่ ง ปรบั ตวั เองข้ึนมา น่งั ต้ังสติ อยา่ ใหโ้ งกง่วง .... ถา้ มสี ติ
๑๓๒ บอกยาก สอนยาก ทุกๆ อยา่ งมันจะจบหมด ไม่โงกงว่ ง …. มือขวาทบั มือซ้าย ในลกั ษณะทะมัดทะแมง ถา้ ไมง่ นั้ เธอจะง่วง สติมนั จะออ่ น นีแ่ หละ ! กำลงั จะเอาเยาวชนมาหล่อหลอมให้เปน็ คนดขี องสังคมในวนั ข้างหน้า เป็นตวั ตง้ั ... เป็นตน้ แบบ …! เจตนาของฉันเปน็ อยา่ งน้นั ไม่ไดค้ ิดจะงัดง้างกา้ วลว่ ง โครงสร้างอะไรของพวกเธอหรอก...! แตแ่ หม ... ก็เราเป็นหนงึ่ ในสงั คมการอยรู่ ่วมกันน่ี ! ..... ก็เพราะฉนั เห็นคา่ เห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกัน ในสังคม ... พบเห็นกันอยู่ รู้จกั กนั แลว้ ฉันก็เลย … แหม ! เอาอย่างนด้ี ไี หม…? เอาอยา่ งนน้ั ดไี หม…? แคน่ ้นั แหละ ! แต่ยังไม่แค่นัน้ … พอพวกเธอจะเอาตามอำเภอใจ … ก็ … เฮ้ย ! มันอะไรนักหนา…! กจ็ ะฆา่ เอา … ก็เป็นไปด้วย ความหวงั ดีหรอก ! ฉนั ถงึ กำลงั สอนสงั คมรอบข้าง ให้เปน็ ผู้เห็นค่า เห็นความสำคัญของการอยู่รว่ มกนั ในสงั คม .… ถา้ ปฏิเสธ ตัวน้ี ... ผลตามมาบานตะเกียงเรยี งเบอร์ …. จะจำแนกไหว หรือ….?! ความเหลวแหลกแตกแยกทม่ี ันจะตามเรามา .... แลว้ เราจะไหวได้ยงั ไง ?!
พูดจริง ของจริง ๑๓๓ เอาต่อเรื่องกรรมฐาน .... คำบริกรรม พุทเข้า โธออก อย่างอืน่ กไ็ มเ่ กย่ี ง…! แตอ่ ยา่ ว่าเลย... เรียกหา พระพทุ ธเจา้ ดีกวา่ … พุทธะ พทุ โธ เป็นสมญานามของ เบ้อื งพระยุคลบาท เราถวายพระพทุ ธเจ้า ..... พระพทุ ธเจ้า ... เราละคำยาวๆ ของเบ้อื งพระยุคลบาทไว้ … พอบรกิ รรมคำว่า พทุ ลมหายใจเข้า .... บรกิ รรมคำวา่ โธ ลมหายใจออก …. ต้งั สติ ! หนๆู ... อย่าโงกงว่ ง อย่าโงกง่วง … สมาธิ เปน็ เครอ่ื งพาให้เราตนื่ นะ...! เมื่อจติ สงบ ทำใหเ้ ราตืน่ ตา ตื่นใจ ปตี ิ อ่มิ เอบิ อิ่มซา่ น … ท่ีออ่ นล้าอดิ โรยมาทง้ั วนั ท้งั คนื เหมอื นไมไ่ ด้นอนเลย กลบั เหมอื นไดน้ อนมาแล้ว เปน็ วนั … อนั นเ้ี ปน็ เรือ่ งปกต.ิ ..! สมาธเิ ปน็ ความสงบ สบายเป็นความต้งั มัน่ อยา่ งสงบสบายอยา่ งรม่ เย็นในหวั ใจ เปน็ ความสดชื่น เป็นความตนื่ ตาตน่ื ใจ … เรากำลงั ปฏบิ ัติ ไปสู่เพื่อความเปน็ ผรู้ ผู้ ูต้ ื่น … น่ี จุดทเี่ ราจะเอา….! ไม่แต่งลม บรกิ รรม พุทเข้า โธออก … ตามลมวา่ ลมเขา้ บริกรรม พุท - ลมออกบริกรรม โธ …
๑๓๔ บอกยาก สอนยาก ไมใ่ ช้ปากบริกรรม ใชค้ วามรูส้ กึ หมายถงึ สติสัมปชญั ญะ กำกบั ใจอยู่นน้ั ทำหน้าท่ใี นคราวเดียวกนั .... ระลึกไดถ้ งึ ลมหายใจเขา้ สัมผสั กบั เรา .... ระลึกได้ถึงลมหายใจออก สมั ผัสกบั เรา สตปิ ญั ญา -- เวทนา สญั ญา สังขาร วิญญาณ .... เวทนา หมายถึง ธรรมอันเปน็ เครอื่ งเสวยอารมณ์ สัญญา หมายถึง ความจำได้หมายรู้ สังขาร หมายถงึ ความปรงุ แตง่ ของจิต ของมนษุ ยชาตทิ ัง้ หลาย ย่นไว้ ละพวกสัตว์ เดรัจฉานท้งั ปวง วิญญาณ แปลว่า ธรรมอันเปน็ เครอ่ื ง รับรู้ -- ในนามขนั ธ์ ๔ อยา่ งน้ี เวทนา สัญญา สงั ขาร วญิ ญาณ ทำหนา้ ทีค่ นละหนา้ ที่ เวทนา ทำหน้าทเี่ สวยอารมณ์ สัญญา ทำหน้าท่ี จำหมาย – จดจำ – จำหมาย สังขาร ทำหนา้ ทปี่ รงุ แตง่ อยา่ งเดยี ว ไมก่ ้าวลว่ งไปสู่กระทรวง ทบวง กรมอนื่ แลว้ ก็ วญิ ญาณ ทำหน้าที่รบั ร้อู ย่างเดยี ว ป้อนอะไรมา - เกิด ปรากฏอยู่ รับรูอ้ ยา่ งเดยี ว ไมส่ นใจจะจำแนกแจกแจง ตัวผู้จำแนกแจกแจง สตปิ ัญญา ...ฝา่ ยสตปิ ัญญา คือ ตวั นอกกรอบออกมาจากฝา่ ยนามขนั ธ์ เปน็ ธรรม
พูดจริง ของจริง ๑๓๕ อันเดียวกับจติ เกดิ อยู่กบั จิต แตจ่ ติ ต่างหาก สตปิ ัญญา ต่างหาก ... เปน็ ธรรมกลมุ่ รว่ ม ... ทางพระอภิธรรม เขาเรยี กวา่ เจตสกิ -- ธรรมที่เกิดรว่ มอย่กู บั จติ ยน่ มาจริงๆ ก็ชวั รๆ์ นามขันธ์ ๔ -- เวทนา สัญญา สังขาร วญิ ญาณ – หัวเรอื ใหญ่ท่ีเปน็ ตัวเจา้ กี้เจา้ การ พาให้ กิเลสหนาปัญญาหยาบเกิดข้ึนกบั หมู่สัตว์โลก … ทอ่ งเที่ยว ในวัฏฏะ กองทกุ ขเ์ กดิ ข้ึน กเ็ พราะวา่ ความโง่มืดบอด จากไอ้เจา้ หัวเรอื ใหญ่ คือ สติปญั ญา -- ก็เปน็ ธรรมทเ่ี กิด ร่วมกบั จติ แตแ่ ยกกลุ่มออกมา ไมเ่ ปน็ ธรรมฝา่ ยนามขันธ์ ทงั้ ๔ เพราะจะเอามนั ออกมาเป็นหวั เรือใหญ่ เพ่ือมา ถูกชำระสะสางดว้ ยอาศัยโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ย่นลงมาท่ี มรรคมีองค์ ๘ ขยายออกไป ๘ ข้อ .... ยน่ มาเรียกวา่ มรรคมอี งค์ ๘ .... ยน่ เข้าไปอกี ก็คอื สมั มา มรรคอันชอบธรรม หรอื องค์แหง่ อริยมรรค ทางสายเอก สายเดียว นำมาชำระปฏริ ูปแกไ้ ขพฤติกรรมของสติปญั ญา ท้ัง ๘ ขอ้ มีหนา้ ทเ่ี ขา้ มาแก้ไขพฤติกรรมของสตปิ ญั ญา .... ให้มคี วามเห็นตรง เหน็ ชอบ เห็นค่าของการกระทำคณุ งาม ความดแี ล้วก็ดำริ -- หาภารกจิ การงานในฟากฝ่ายดีข้ึนมา
๑๓๖ บอกยาก สอนยาก กระทำ ... กระทำแล้ว กระทำดว้ ยความชอบธรรม ด้วยความชอบ .... พดู ชอบ - กระทำชอบ - การงานชอบ - เพยี รชอบ - สติชอบ - สมาธชิ อบ หยั่งลงในตรงน้ี .... หยงั่ ลงในจิตตวั น้ี หย่งั ลงใน สตปิ ัญญา กำกบั รกั ษาใจตรงนี้ ...! เอามรรคมีองค์ ๘ มาชำระสะสางปฏิรปู แก้ไขไอต้ ัวสติปัญญาโลกๆ ทีไ่ หล ตามอำเภอใจกเิ ลส ที่พวกเธอไม่มที างหามนั เจอ ... แต่ กลับเขา้ ใจวา่ มันคือเรา - เราคือมัน … ใครเปน็ ผูเ้ ขา้ ใจ...? ก็ไอ้ปัญญาผู้โง่ - ผ้มู ืดบอด - ผ้หู ลง....! เพราะฉะนั้น พระพทุ ธเจ้าจงึ ตรัสกระบวนการ ปฏจิ สมปุ บาท มอี ยา่ งหนึง่ จงึ มอี ยา่ งหนงึ่ .... ฝา่ ยวฏั ฏะ ฝา่ ยทกุ ข์ มีอวชิ ชาต่างหาก สังขาร วญิ ญาณ นาม รูป อายตนะ สัมผสั แตะต้อง ตัณหา เสวยเวทนา เร่ารอ้ นมาก จนเกดิ ทะยานอยาก … ตัณหา ๓ เตม็ หวั ใจ อปุ าทาน ภพ ชาติ ชรา พริ ้ีพไิ รโศกอาดูรรำพัน … กองทกุ ขจ์ ึงเกิดขึ้นแกห่ มูส่ ัตว์ เพราะเหตุอวิชชา คือความโง่เขลาเบาปญั ญา …. แปลมาอยา่ งนี้ แมจ้ ะ ไมเ่ รียกอวชิ ชา ตอ่ ไปเรยี กวา่ โงเ่ ขลาเบาปญั ญา กพ็ ึงรู้
พูดจริง ของจริง ๑๓๗ ด้วยว่า เขาคอื อวิชชา…! อวชิ ชากม็ ีหลายสเตป (step) … โง่แบบรบั ไม่ได้เลยก็มี จำแนกออกไปวา่ ด้วยความโง่ จำแนกออกไปให้เห็นสเตปของบวั ๔ เหล่า ....หนๆู …. นัง่ กายต้ังตรง ตง้ั สติ อยา่ โงก อย่าชะโงก…! เพราะนิวรณ์ธรรมจะเข้ามาหาเธอ …. นิวรณ์ธรรมทง้ั ๕ นี่ เปน็ ส่ิงขวางกน้ั คณุ งามความดี เวลาระหว่างเธอปฏิบัติ กรรมฐาน เพ่ือทำทางไปสู่คณุ งามความดี อปุ มาอปุ ไมยเหมือน เธอกำลังเอามดี อนั คมกริบ ถางปา่ …. กำลังเร่ิมถางแล้ว …. อุปสรรค ภยันตรายย่อม เกิดแกเ่ รา สง่ิ ทข่ี ดั ขวางดว้ ยการจับมีด การมีกำลงั วังชา ความอดทน … เอาล่ะ ! สรุปรวมตรงนี้ว่า ถ้าเราพร้อม ลงมือทำแล้ว … ไหนจะตอ ไหนจะหนาม ไหนจะงูเงย้ี ว เขีย้ วขอ ไหนจะมด จะแมง กัดขากระโดดโลดเต้น …! กว่าท่เี ราจะไดพ้ น้ื ทีเ่ ปน็ ไร่ เพื่อปลกู ขา้ วโพดสกั แปลง ก็ไม่ใช่เรือ่ งนัง่ ผวิ ปากแล้วรอ … อนั เดยี วกัน นิวรณ์ธรรมทง้ั ๕ มี หลงใหลไปในกามคุณท้งั ๕ รปู – รส – กลน่ิ – เสียง – โผฏฐัพพะ สัมผสั แตะตอ้ ง ตลอดจน ถนี มธิ ทะ ความง่วงเหงา เบอื่ หนา่ ย พยาบาท
๑๓๘ บอกยาก สอนยาก ความโกรธ ระคายเคอื ง อนั นมี้ าแนน่ อน หากเธอไมม่ ีสติ ฟงุ้ ปรุงแตง่ อทุ ธจั จกุกกจุ จะ ฟุ้งปรุงแต่ง หาแง่หามุมหาที่ จบไมไ่ ด้ วจิ กิ ิจฉา ความลงั เลสงสยั คลาดเคลือ่ นประดงั เขา้ มาเลย …. ทุกกลุ่มเหล่านี้ เขาเรยี กส่ิงขวางกั้นคุณงาม ความดี พระพุทธเจา้ ตรัสวา่ นิวรณธ์ รรม อยา่ โงก อย่าโงก นั่งกระชับตัวเองข้นึ … ตั้งสติ…! ถา้ มนั โงก มนั งว่ งมาก เหน็ วา่ ตัวเองปรอื ... นิวรณ์มนั รุมเร้า แนน่ อน… นี่ มนั ขวางกั้นแนน่ อน…! วันนี้ ก็ขออนุญาตได้ ไม่เปน็ ไร ไม่ตอ้ งขออนุญาต ไม่ต้องพดู … นักกรรมฐาน คนอืน่ เขาจะระคายเคือง …. เราก็ลกุ ขนึ้ เบาๆ แล้วก็คุกเข่า กราบเบญจางคประดษิ ฐ์ กราบพระพทุ ธเจ้า แลว้ กราบ หลวงพอ่ - หลวงปู่ แล้วก็ลงไปเดนิ จงกรม ลา้ งหน้าก่อน ล้างหนา้ เดินจงกรม …. วธิ ีการแกน้ วิ รณธ์ รรม หรือไมก่ ็ …. ระหว่างนง่ั กรรมฐาน ให้ระลึกสร้างนมิ ติ หมายวา่ ฤดูกาลนี้ กาลน้ี เปน็ เวลากลางวนั สว่างไสวอยู่ ด้วยแสงตะวันอนั เจิดจรัส เร่ารอ้ นอีกต่างหาก แสงตะวนั น้ี วนั นแ้ี ผ่จา้ มาก … เขาเรียกว่ายังโลกใหส้ ว่าง ด้วยสร้างนมิ ติ หมายข้ึนมา อาจแก้ความงว่ งเหงาหาวนอน หรอื ถีนมิธทะนไ้ี ด้…! กล็ องทำดู
พูดจริง ของจริง ๑๓๙ ถา้ ยังแก้ไมไ่ ด้ กต็ ้องลกุ ออกไปล้างหน้า เดนิ จงกรม …. ล้างหน้า เดนิ จงกรม และหรอื ตั้งจติ ไว้ด้วยศรัทธา ยกจิตขน้ึ …. ระลึกถงึ พทุ ธ - ธรรม - และสงฆ์ … ขอให้ ความงว่ งเหงาหาวนอนของขา้ พระพทุ ธเจ้าน้ัน จงพ่ายแพ้ และปราศนาการหายไป ขอขา้ พระพุทธเจา้ จงมสี ตติ ้ังม่ัน ! เรากต็ อ้ งเปน็ ผู้ยกจติ เรา ขวนขวายในการจะยก จติ เรา ยกสติเรา ตง้ั สตเิ รา …. ทำแทนกันไม่ได…้ ถ้าหลวงพ่อ - หลวงปู่ ทำแทนเธอได้ ถ้าฉนั ทำแทนเธอได้ เราทำแทน กันได้ … ทำหมด…! มพี ระพุทธเจ้าเปน็ เบอื้ งต้น พระองค์ ทำแทนพวกเราทงั้ หมด เพราะพระองคเ์ มตตาพวกเรามาก ! … ฉันไมไ่ ด้เมตตาพวกเรา ฉันอุเบกขาตัง้ ฉันทำหนา้ ที่ ตามความเปน็ สมณะสารูป ความเป็นสาวกในศาสนาของ พระผมู้ ีพระภาคเจ้าเท่าน้นั …! ธรรมชาติของความเป็นผใู้ ห้ …. เบ้ืองตน้ ใหค้ ำสอน เบือ้ งกลางก็ใหค้ ำสอน เบอื้ งปลายกใ็ หค้ ำสอน เพราะ คำสอนมีประโยชน์ คุณประโยชน์เปน็ อเนกปรยิ าย จึงให้คำสอนเปน็ หลกั --- ลาภ ยศ สรรเสริญ เงิน ทอง อดเิ รกลาภ เคร่อื งอยู่เครอื่ งกิน เครื่องอปุ โภคบริโภค ทง้ั ๔ อย่าง ตามมาภายหลงั … แตก่ ไ็ ม่ไดป้ ฏิเสธ … จำไว้นะ
๑๔๐ บอกยาก สอนยาก ไม่มสี งฆ์สาวกท่านใด ผู้เลอเลศิ ผูเ้ ปน็ ปราชญบ์ ัณฑิต ผหู้ ลดุ พ้นไปแลว้ นี่ ตระหนีเ่ หนยี วคับแคบเลย…! เขาชำระมาหมดแลว้ … จะหาความเลอเลศิ วิเศษ เกนิ ท่านเหลา่ นี้ หาไมเ่ หน็ หรอก…! อฐั ธิ าตุกระดูกจงึ เปน็ แกว้ เปน็ พลอย … เปน็ เรอ่ื งปกติ เปน็ เรอื่ งปกติ …! ขนาดฟนั ฉัน … หน้าตาฉันเหมอื นยกั ษ์ เหมือนมาร เหมือน นกั เลง เหมือนจะฆา่ จะแกง … ของฉนั ยังเปน็ ยงั เปลีย่ น...! จะนบั ประสาอะไรพ่อแม่ครูอาจารย์ ตงั้ แตค่ รง้ั พุทธกาล โบราณกาลมา ไม่มเี กีย่ งงอน พดู หรือไมพ่ ดู … เป็นล้าน เปอรเ์ ซน็ ต์….! สนั ทิฏฐิโก ปัจจัตตัง อกาลิโก ! ย่นมาทส่ี มาธิ … เมอื่ ก้ี พูดเรือ่ งนวิ รณธ์ รรมไปแลว้ เพ่ือแกต้ ่างของบางคน บางท่าน ทเ่ี ลน่ มาก สนุกสนาน เพลดิ เพลนิ กบั วิชาการทางโลกๆ จนบางคร้ังเกินลิมติ (limit) ไป … อย่าลืมว่าเล่นทางโลกมนั เหนื่อยนะ … แต่ถา้ เล่นกับสมาธิ … ทำสมาธิ แลว้ กลับตรงกนั ข้าม ฉันนะ ทำสมาธิ …. ฉนั อดนอน ๗ วัน … เอ๊ ! จติ เราตัง้ มนั่ ใชไ้ ด้ แตว่ า่ ปญั ญาร้สู ึกต้อื ๆ… ทำไมมนั ถึงตอ้ื ? …. อดข้าว ๗ วนั ปญั ญาตอ้ื - มอี ยใู่ นภายใน แตค่ วามท่จี ะ
พูดจริง ของจริง ๑๔๑ ยกหวั ข้อธรรมขนึ้ มา …. มันตอ้ื …! แตจ่ ติ ต้ังม่ันดว้ ยดี หล่อหลอมจิตลงไดด้ ้วยงา่ ย … สมาธติ ้งั ดว้ ยงา่ ย ! เราก็จะเร่มิ จำแนกเห็นว่า … ออ๋ ! ความทเ่ี ราทกุ ข์ ทรมานด้วย อดข้าวเกนิ ขอบเขต อดนอนเกนิ ขอบเขต มนั ทำใหส้ ติปญั ญาเราต้ือ…! แต่ในจติ หมนุ ตว้ิ ด้วย สติปญั ญา … ก็เป็นอยู่ … แตจ่ ิตตงั้ มั่นดว้ ยง่าย…! กเ็ หน็ ชดั ตวั น้ี … ก็เหน็ ชดั ประพฤติปฏบิ ัตมิ า แลกเป็นแลกตายบน ข้อปฏิบัตนิ ้ี อดหลับอดนอน แตไ่ มเ่ คยออ่ นเปลีย้ เพลยี แรง … กำลังจะพูดถึงตรงประเดน็ นี้ คนทางโลก … ถงึ เวลากนิ ขา้ ว ๓ ม้ือ ไปเทยี่ วเฮฮา เกลือ่ นเกรอ่ เลอะเทอะ กบั ไอซีที เลน่ เว็บ เล่นอะไรสารพดั เลน่ เกม … อะไร …! พอมันออกมา มนั เปลย้ี เลย ! นอนหลบั ไมไ่ ดส้ ติ หลบั ใหลไมไ่ ดส้ ติ ความจำความหมายต่างๆ ลมื เลอื นไปหมด …. อรี งุ ตุงนงั ! สงั ขารก็ปรุงแต่งสารพดั … พอตื่นขึน้ มา แมย้ ังไม่ตื่นเลย นอนก็หลับฝนั เพอ้ พกไปท่ัว ละเมอเพ้อพกไปท่วั จินตนาการในความฝนั สารพดั เรื่อง …. หาเหตุหาแก่นสารสาระไม่ได้
๑๔๒ บอกยาก สอนยาก เขาเรยี ก ปล่อยใหต้ ัวเองไหลไปกับกติกา หรอื สมมุติ ทางโลก … จนหาจดุ ฐานท่ตี ัง้ ของจิตไมเ่ จอ … ฐานที่ตง้ั ของ สตปิ ัญญา …. เมือ่ พูดเรอ่ื งจิตปุ๊บ ก็หมายถึงสติปญั ญา เป็น ธรรมทเ่ี กิดร่วมอย่กู บั จิต แต่ไม่ใชจ่ ติ เป็นธรรมเกดิ รว่ มกนั แตฉ่ นั ทำสมาธิ ๗ วัน อดนอน ๗ วนั อดขา้ วอกี ๗ วัน … เออ ! ปญั ญาต้ือ แตว่ ง่ิ อย่ใู นภายในกลมกลนื กบั จติ …. แตค่ วามทเ่ี ราจะยกหวั ขอ้ ธรรม … มนั ตือ้ …! แตจ่ ิต กลมกลนื ไดง้ า่ ย ... อยภู่ เู ขา-ถำ้ ทีแ่ มฮ่ ่องสอนองคเ์ ดยี ว ๗ วนั ๑๔ วนั … พอออกมา เอ๊ะ ! เราเพลยี ไหม ? … กลับ ไมอ่ ยากนอน ปตี ิเต็มตื้นในหวั ใจว่า ชาตนิ ี้เราบุญวาสนามาก เรา หลังจากเกกมะเหรกเกเร ตดั สินใจมาบวชแลว้ … บวช แบบไมเ่ ชิงจะเอาตลอดชีวติ เราจะบวชสักนดิ สักหน่อยนา่ … มนั รู้สึกเซ็ง เซง็ การงานเหลือเกิน….! ก็บวช บาทสุดทา้ ย พอมาได้จงั หวะ ลอยตัวเข้ามาแลว้ … มันก็เลย … ถงึ วันน้ี เราปตี ชิ น่ื ชม …. เพราะมีพระพุทธเจา้ จึงมีสิ่งน้ที ี่กำลังเกดิ ขึ้นกบั เรา...! ความปตี ิอิ่มซา่ น ขนโลมชาติตัง้ … เราอดนอน ออ่ นลา้ อิดโรยอ่อนลา้ ๗ วัน อย่างนอ้ ย ๗ วัน เรายงั ไมเ่ หน็ เปน็ อะไร … กลายเป็นฐาน
พูดจริง ของจริง ๑๔๓ ทต่ี งั้ ของจติ เปน็ หน่งึ มเี อกภาพ ! … ตัวนี้ มนั เป็นพละกำลงั อยใู่ นกล่มุ ของอนิ ทรยี ์ ๕ - พละ ๕ อินทรยี ์ คอื สมาธิ ! อนิ ทรยี ์นี้มีกำลัง อย่ใู นพละ ๕ …. จิตมีพละกำลงั ! ทงั้ ๆ ที่รา่ งกายอดขา้ ว ๗ วัน อดนอน ๗ วัน …. เอ๊ ! ทำไมเราไม่อ่อนล้า …. ตอ่ เม่อื วนั ท้ังวนั เกือบบา่ ยๆ คลอ้ ย … บอก เชิงเรม่ิ ง่วงแล้วเวย้ ! เพลีย ! เปน็ ปกติ อัตภาพของรปู มีประชมุ กนั ดว้ ย ดิน-น้ำ-ลม และ ไฟ … ปฏิเสธอาหารการกิน-ปฏเิ สธการพกั ผ่อนไมไ่ ด้ ! แตส่ ติปญั ญา…แท้จรงิ ไม่ได้พกั ผ่อนนะ! เปน็ ผตู้ น่ื ! พระพุทธเจ้า … นามของเบื้องพระยุคลบาทมวี า่ พทุ ธะ ! พระอรหนั ต์ทง้ั หลายทั้งปวง จติ กพ็ ทุ ธะตามรอยฝ่า พระบาท… จิตนน้ั เปน็ ผู้ตน่ื อยู่ ! รอู้ ยู่ ! เข้าใจอยู่ ! ไม่ต้องขยายความวา่ เบกิ บาน … เบิกมนั เบกิ อยูแ่ ล้ว คนรแู้ จง้ เห็นจรงิ มนั ไมเ่ บิกไดอ้ ย่างไร ? มนั ไมม่ ืดมน- อนธการ ! มนั เข้าใจตลอดทะลปุ รโุ ปรง่ มนั ไมม่ ีอะไรปดิ บงั อำพรางได้ … กระจ่างแจ้งไปหมด มนั ไมม่ นึ ไม่งง มนั ก็อยู่ อยา่ งสบายส…ิ ! มองไปทางไหนก็ไม่มีอะไรปดิ บัง มองทะลุ โลก สามโลกธาตุ … สมญานามภาษาไทยบอก ผ้รู ้แู จ้งโลก-
๑๔๔ บอกยาก สอนยาก ทะลโุ ลก ในฝา่ ยสัจธรรมคโู่ ลก ความจรงิ คู่โลกวา่ เที่ยง หรือไม่เทยี่ ง -- ทะลหุ มด ! ทำไมมนั จะไมส่ ดชื่นละ่ …! อ๋อ ! เราเพิง่ เขา้ ใจ … ตรวจสอบบ่อยมาจนถงึ ปัจจบุ นั นี้ เขา้ ใจหมด … ถึงบอกกิจกรรมการงานทางโลก มนั ก่อให้เกิดความอ่อนล้า เพราะฉะนัน้ ทางโลกบรโิ ภค อาหาร ๓ ครัง้ … ยังไมพ่ อ ! กว๋ ยเตีย๋ วรอบดึก ขา้ วต้ม รอบดึก กว่าจะออกจากภัตตาคาร ใช้เวลาไปตั้งมาก ส้ินเปลอื งไปต้งั เยอะ ….. พระภิกษุในบวรพทุ ธศาสนา มอื อาชพี ฉมังเวทย์ … ย่นมาที่ฉัน …. ขยายไปพ่อแม่ครอู าจารยท์ ่มี ขี ้อปฏิบตั ิ อัฐิธาตุเปน็ แก้ว … ฉันแกะรอยตามไป สดๆ ร้อนๆ นนู่ … ควนั ฉุย …. ปรากฏในตวั เราเอง…! น่งั เป็นวันเปน็ คืน ออกมากไ็ มอ่ ยากนอน … ตอ่ เมื่อบา่ ยคลอ้ ย แดดจ้าเมื่อไหร่ …. เออ ! เร่ิมอยากนอนเหมือนกนั เว้ย ! …. จะนอนกต็ ้ัง กำหนดว่า เราจะตน่ื เม่อื ครบ ๑ ช่วั โมง หรอื ๔๐ นาทแี ล้ว ดดี ตัวปั๊บ ! … เออ ! มหัศจรรย์ ! นาฬกิ าบนโลก มันแค่ ของไมม่ คี ่าในธรรมน่หี วา่ …..
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202