๑ แผนการจดั การเรยี นรมู้ ุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี วิชาปีพ่ าทย์ 5 รหสั วิชา 20303-2005 หลักสตู รนาฏดุรยิ างคศิลป์ ระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ า ศลิ ปกรรม ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 จดั ทำโดย ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธ์ิ วิทยาลัยนาฏศลิ ปนครศรีธรรมราช สถาบนั บัณฑิตพฒั นศิลป์ กระทรวงวฒั นธรรม
๒ หลกั สูตรสถานศกึ ษา วิสัยทัศน์ มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นทุกคนใหเ้ ป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลท้ังทางด้านร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจติ สำนกึ ใน ความเปน็ พลเมืองไทยและเป็นพลเมืองโลก ยึดมน่ั การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีประมหากษตั ริย์ ทรงเป็นประมขุ มีความรแู้ ละทกั ษะพน้ื ฐาน รวมทั้งเจตคติทีจ่ ำเปน็ ต่อการศึกษา การประกอบอาชีพและ การศึกษาตลอดชวี ติ โดยมุ่งเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั บนพน้ื ฐานความเชอื่ ว่า ทุกคนสามารถเรียนรแู้ ละพัฒนา ตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น หลักสตู รพน้ื ฐานวิทยาลัยนาฏศิลป์ (ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน) มุ่งพัฒนาผ้เู รียนให้ มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ซงึ่ การพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนร้ทู ี่กำหนดนน้ั จะชว่ ยให้ ผเู้ รียนเกิดสมรรถนะสำคัญ ๕ ประการ ดงั นี้ ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร เปน็ ความสามารถรบั และสง่ สาร มวี ัฒนธรรมในการใชภ้ าษาถ่ายทอด ความคดิ ความรู้ ความเข้าใจ ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเอง เพื่อแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ข่าวสาร และประสบการณ์ อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทง้ั การเจรจาต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหาความ ขดั แย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับขอ้ มูลข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผล และความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใช้ วธิ กี ารสอ่ื สารทม่ี ีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคดิ อย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมจี ารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพื่อนำไปสกู่ ารสรา้ งองค์ความรู้ และสารสนเทศ เพอื่ การตดั สินใจเกย่ี วกบั ตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ญั หาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้ อยา่ งถูกต้องเหมาะสมบนพืน้ ฐานชองหลกั เหตผุ ล คุณธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธแ์ ละการ เปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คมแสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรมู้ าใช้ในการปกป้องแก้ไขปญั หา และมีการตดั สินใจที่มีประสิทธภิ าพ โดยคำนงึ ถึงผลกระทบที่เกดิ ขน้ึ ตอ่ ตนเอง สงั คม และสิง่ แวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ เป็นความสามารถในการนำกระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นการ ดำเนนิ ชีวิตประจำวัน การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อย่างตอ่ เนื่อง การทำงาน และการอยูร่ ว่ มกนั ในสังคม ดว้ ยการสรา้ งความสัมพนั ธ์อนั ดรี ะหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขดั แย้งตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การปรบั ตัวให้ทันกับการเปลีย่ นแปลงทางสังคมและสภาพแวดล้อม และการรูจ้ ักหลีกเลีย่ งพฤติกรรมไม่พึง
๓ ประสงค์ทีส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เปน็ ความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีดา้ นตา่ งๆ มี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเพอ่ื พฒั นาตนเองและสงั คมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงานการ แก้ปัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกต้องเหมาะสมและมีคุณธรรม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสตู รพน้ื ฐานวิทยาลยั นาฏศิลป์ (ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน) มงุ่ พฒั นาผูเ้ รียนให้ มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยูร่ ่วมกับผู้อื่นในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมือง ไทยและพลเมืองโลกดังนี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ซื่อสตั ย์สุจริต ๓. มีวนิ ัย ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยอู่ ย่างพอเพียง ๖. มุ่งม่ันในการทำงาน ๗. รกั ความเป็นไทย ๘. มีจติ ใจสาธารณะ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ ๑ ประวัติศาสตรแ์ ละวฒั นธรรมของดนตรีไทย มาตรฐาน ๑.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม เห็น คุณค่า ของ ดนตรที ่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน และภูมปิ ญั ญาไทย มาตรฐาน ๑.๒ เขา้ ใจประวตั ทิ ม่ี าและประเภทของเครื่องดนตรีไทยและการบำรงุ รักษา เครอื่ งดนตรีในวงป่พี าทย์ มาตรฐาน ๑.๓ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ ต่อดนตรีไทยอย่าง
๔ อิสระ ชนื่ ชม สาระที่ ๒ การฝึกปฏบิ ัตเิ ครือ่ งดนตรีตามประเภทของเพลง มาตรฐาน ๒.๑ เขา้ ใจหลักและวธิ กี ารบรรเลงตามประเภทของเครื่องดนตรี มาตรฐาน ๒.๒ เขา้ ใจและมีทกั ษะในการฝึกปฏิบัติเคร่อื งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภท ต่าง ๆ ตระหนกั และเห็นคุณค่า นำมาประยุกต์ใชไ้ ด้อย่าง เหมาะสม สาระท่ี ๓ การบรรเลงดนตรีไทย มาตรฐาน ๓.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์ เหน็ คณุ คา่ ของดนตรีไทย ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีไทย อย่างอิสระ ช่นื ชม และประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน มาตรฐาน ๓.๒ อนุรกั ษ์ สบื ทอด เผยแพร่ ดนตรีไทยทเี่ ป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรม ของชาติ เห็นคุณค่า ช่ืนชม ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น และภมู ิปัญญาไทย สาระ/มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด(ผลการเรียน)/สาระการเรยี นรู้ กลุ่มวิชาชีพเฉพาะป่ีพาทย์ ระดบั ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพปที ี่ ๓ สาระท่ี ๒ การฝึกปฏิบตั เิ ครื่องดนตรีตามประเภทของเพลง มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรสู้ ถานศึกษา ภาคเรยี นท่ี มาตรฐาน ๒.๑ ๑. อธบิ ายหลักและวิธีการ หลักและวธิ ีการฝึกหดั - ๑ บรรเลงดนตรีไทย การน่งั เขา้ ใจหลักและวิธีการ บรรเลงตามประเภท ๒. ปฏิบัติตามหลกั และวิธกี าร - การจับไมต้ ี ของเครอ่ื งดนตรี บรรเลงดนตรีไทย - การวางมือ - การตี - จงั หวะ - บคุ ลกิ ภาพ การฝกึ หัดเบอ้ื งต้นระนาด เอก ระนาดทมุ้ ฆ้องวงเล็ก ฉ่ิง
มาตรฐาน ๒.๒ ๑. บอกประวตั ิเพลงในบทเรยี น ประวตั ิท่ีมาของเพลงใน ๕ ๒.อธิบายศัพท์สงั คตี เพลงใน บทเรียนและความหมายของ เข้าใจและมที ักษะใน บทเรียน ศัพท์สังคีต ๑ การฝกึ ปฏบิ ตั เิ คร่ือง ๓. ปฏบิ ัตเิ พลงประเภทตา่ งๆ ดนตรี การบรรเลง ๔. นำความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปใช้ใน ฝกึ ปฏบิ ตั ิเพลงประเภท เพลงประเภทต่าง ๆ โอกาสตา่ งๆได้ ตา่ งๆ ตระหนัก และเห็น ๑.เพลงเถา คณุ ค่า นำมาประยุกต์ -เพลงแขกมอญ เถา ใชไ้ ดอ้ ย่าง เหมาะสม -เพลงโสมส่องแสง เถา ๒. เพลงสามชั้น -เพลงแขกลพบุรี สามช้ัน -เพลงเทพบรรทม สามชนั้ ๓.เพลงเรือ่ ง -เพลงช้าเร่อื งพระรามเดนิ ดง ๔.เพลงหนา้ พาทย์ -เพลงโลม-ตระนอน -เพลงคุกพาทย์ ๕.เพลงโหมโรง -เพลงโหมโรงกราวนอก ๖.เพลงระบำ -เพลงระบำชมุ นุมเผา่ ไทย -เพลงระบำมฤคระเรงิ -เพลงระบำสุโขทยั ๗.เพลงเด่ยี ว -เพลงเดี่ยวพญาโศก
๖ สาระท่ี ๓ การบรรเลงดนตรีไทย มาตรฐาน ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรสู้ ถานศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี มาตรฐาน ๓.๑ ๑. แสดงความคดิ เห็นต่อดนตรี รปู แบบการบรรเลงดนตรี ๑ ไทยท่ใี ช้ในโอกาสต่างๆ เข้าใจดนตรีไทยอยา่ ง ไทยอย่างสร้างสรรค์ อิสระ สร้างสรรค์ วเิ คราะห์ ชื่นชม วพิ ากษ์ วิจารณ์ เหน็ ๒. วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ คณุ คา่ ของดนตรไี ทย ดนตรีไทยในเชิงสร้างสรรค์ ถา่ ยทอดความรสู้ ึก อย่างอิสระ ช่ืนชม และ ประยกุ ต์ใชใ้ น ชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ๓.๒ ๑. นำเสนอผลงานการบรรเลง การบรรเลงเพลงรวมวง อนรุ ักษ์ สบื ทอด เพลงในหลกั สูตร เพลงในหลกั สตู ร เผยแพร่ ดนตรีไทยที่ เป็นมรดกทาง ศิลปวฒั นธรรม ของชาติ เห็นคุณคา่ ช่นื ชม ภมู ิปญั ญา ท้องถนิ่ และภมู ิปญั ญา ไทย
๗ กลุม่ วิชาชพี เฉพาะ ปีพ่ าทย์ ระดับระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ สาระท่ี ๒ การฝกึ ปฏบิ ัติตามประเภทของเพลง มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทกั ษะในการฝึกปฏิบตั เิ ครื่องดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนกั และ เห็นคณุ ค่า นำมาประยุกต์ใชไ้ ดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรูส้ ถานศึกษา บอกประวตั ิเพลงในบทเรียนอธบิ ายศัพทส์ งั คีต ประวัติท่มี าของเพลงในบทเรียนและความหมาย เพลงในบทเรียนปฏบิ ตั ิเพลงประเภทต่างๆและ นำความร้ทู ่ีไดร้ บั ไปใชใ้ นโอกาสต่างๆได้ ของศัพทส์ งั คีต ฝึกปฏิบัติเพลงประเภทต่างๆ ๑.เพลงเถา -เพลงแขกมอญ เถา -เพลงโสมสอ่ งแสง เถา ๒. เพลงสามช้ัน -เพลงแขกลพบุรี สามชั้น -เพลงเทพบรรทม สามช้ัน ๓.เพลงเรือ่ ง -เพลงช้าเรอ่ื งพระรามเดินดง ๔.เพลงหนา้ พาทย์ -เพลงโลม-ตระนอน
๘ -เพลงคกุ พาทย์ ๕.เพลงโหมโรง -เพลงโหมโรงกราวนอก ๖.เพลงระบำ -เพลงระบำชมุ นุมเผ่าไทย -เพลงระบำมฤคระเริง -เพลงระบำสุโขทยั ๗.เพลงเด่ียว -เพลงเด่ียวพญาโศก สาระที่ ๓ การบรรเลงดนตรีไทย มาตรฐาน ๓.๑ เข้าใจดนตรีไทยอยา่ งสรา้ งสรรค์ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ เหน็ คุณคา่ ของดนตรีไทย ถา่ ยทอดความรสู้ กึ อยา่ งอสิ ระ ช่ืนชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวัน ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้สถานศกึ ษา แสดงความคิดเห็นต่อดนตรีไทยอย่างสร้างสรรค์ รูปแบบการบรรเลงดนตรีไทยทีใ่ ช้ในโอกาสตา่ งๆ อสิ ระ ช่ืนชมวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณด์ นตรไี ทย ในเชงิ สรา้ งสรรค์ มาตรฐาน ๓.๒ อนุรักษ์ สบื ทอด เผยแพร่ ดนตรีไทยท่ีเปน็ มรดกทางศลิ ปวัฒนธรรม ของชาติ เห็นคุณค่า ช่ืนชม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น และภูมปิ ญั ญาไทย ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นร้สู ถานศึกษา
๙ นำเสนอผลงานการบรรเลงเพลงในหลักสูตร การบรรเลงเพลงรวมวงเพลงในหลกั สูตร คำอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓ - ๒๐๐๕ ชื่อรายวชิ า ปพี่ าทย์ ๕ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ปี่พาทย์ ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพปที ี่ ๓ เวลา ๒๔๐ ชว่ั โมง จำนวน ๖ หน่วยกิต ………………………………………………………………….. - ความรู้เกี่ยวกับประวัติที่มา ความหมายของเพลง ศัพท์สังคีต กระบวนการทางดนตรีไทย ปฏิบัติ เคร่ืองดนตรีในวงปี่พาทย์ การบรรเลงรวมวงและการบำรงุ รักษาเครอ่ื งดนตรใี นวงปีพ่ าทย์ - ระนาดเอก ระนาดท้มุ ฆ้องวงใหญ่ ฆอ้ งวงเลก็ เพลงแขกมอญ เถา เพลงโสมส่องแสง เถา เพลงแขก ลพบุรี สามชั้น เพลงเทพบรรทม สามช้ัน เพลงชา้ เรื่องพระรามเดินดง เพลงโลม-ตระนอน เพลงคุกพาทย์ เพลง โหมโรงกราวนอก เพลงระบำชุมนุมเผา่ ไทย เพลงระบำมฤคระเริง เพลงระบำสโุ ขทยั เพลงเด่ียว (เพลงนกขมิ้น สามชน้ั หรือเพลงพญาโศก สามชั้น หรือเพลงสารถี สามชั้น หรอื เพลงแขกมอญ สามชัน้ หรอื เพลงเชดิ นอก) เพือ่ ให้ผูเ้ รียนสามารถนำความรู้ ทกั ษะ กระบวนการทางดนตรีไทย ไปใช้ไดอ้ ย่างถูกต้อง มีเจตคติ ที่ดีต่อดนตรีไทย พัฒนาความคิดอย่างสร้างสรรค์ ใฝ่เรียนใฝ่รู้ มีความรับผิดชอบ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี
๑๐ ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ชื่นชม เห็นคุณค่าของศิลปวฒั นธรรมไทย และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ไดอ้ ย่างเหมาะสม ตัวช้วี ดั ๒.๑ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ๒.๒ ม.๑/๑ ม.๑/๒ ม.๑/๓ ม./๔ ๓.๑ ม.๑/๑ ๓.๒ ม.๑/๑ รวม ๘ ผลการเรียนรู้ ตารางวิเคราะหห์ ลกั สูตร เวลา นำ้ หนัก กลมุ่ วิชาชีพเฉพาะ ปพ่ี าทย์ ระดบั ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ปีท่ี ๓ คะแนน ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๔๐ ชั่วโมง จำนวน ๖ หน่วยกิต ท่ี ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ
๑ เพลงแขกมอญ เถา ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงแขกมอญ เถา ๑๑ ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ประวัติของเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง ๒๔ ๑๐ -ศพั ทส์ ังคตี -โอกาสท่ีใช้ -ฝกึ ปฏิบัติทำนองเพลง ๒ เพลงโสมสอ่ งแสง ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงโสมสอ่ งแสง เถา ๒๔ ๑๐ เถา ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ประวตั ิของเพลง ๑๒ ๑๐ ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง -ศพั ท์สงั คีต ๓ เพลงแขกลพบรุ ี สาม ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ -โอกาสที่ใช้ ชั้น ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ฝึกปฏบิ ตั ทิ ำนองเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ เพลงแขกลพบรุ ี สามชนั้ -ประวัติของเพลง -ความหมายของเพลง -ศัพทส์ ังคตี -โอกาสที่ใช้ -ฝึกปฏิบตั ทิ ำนองเพลง ๔ เพลงเทพบรรทม ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงเทพบรรทม สามช้นั - ๑๒ ๑๐ สามชั้น ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ ประวตั ิของเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง -ศัพทส์ ังคตี -โอกาสทีใ่ ช้ -ฝึกปฏบิ ัตทิ ำนองเพลง
๑๒ ๕ เพลงชา้ เร่ืองพระราม ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงช้าเรอ่ื งพระรามเดินดง ๔๘ ๑๐ เดินดง ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ประวัติของเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง -ศัพท์สงั คีต -โอกาสที่ใช้ -ฝึกปฏบิ ตั ทิ ำนองเพลง ๖ เพลงโลม-ตระนอน ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงโลม-ตระนอน ๒๔ ๑๐ เพลงคุกพาทย์ ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงคุกพาทย์ ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ประวัติของเพลง -ความหมายของเพลง -ศพั ทส์ ังคตี -โอกาสท่ใี ช้ -ฝกึ ปฏิบตั ิทำนองเพลง ๗ เพลงโหมโรงกราว ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงโหมโรงกราวนอก ๓๖ ๑๐ นอก ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ประวตั ขิ องเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง -ศพั ท์สงั คีต -โอกาสที่ใช้ -ฝกึ ปฏิบตั ิทำนองเพลง ๘ เพลงระบำชมุ นุมเผ่า ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงระบำชมุ นุมเผา่ ไทย ๑๒ ๕ ไทย ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ประวตั ิของเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง -ศัพทส์ งั คีต -โอกาสที่ใช้ -ฝกึ ปฏบิ ัตทิ ำนองเพลง
๙ เพลงระบำมฤคระเรงิ ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ เพลงระบำมฤคระเรงิ ๑๓ ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ประวตั ขิ องเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ -ความหมายของเพลง ๑๒ ๕ -ศัพทส์ ังคตี ๑๐ เพลงระบำสโุ ขทัย ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ -โอกาสทใี่ ช้ ๑๒ ๕ ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ฝกึ ปฏิบตั ทิ ำนองเพลง ม.๑/๓ ม.๑/๔ เพลงระบำสุโขทยั ๒๔ ๑๕ -ประวตั ขิ องเพลง ๑๑ เพลงเดยี่ วพญาโศก ๒.๑ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ความหมายของเพลง ๒๔๐ ๑๐๐ ๒.๒ม.๑/๑ ม.๑/๒ -ศัพท์สงั คีต ม.๑/๓ ม.๑/๔ -โอกาสทใ่ี ช้ -ฝกึ ปฏิบัตทิ ำนองเพลง เพลงเดีย่ วพญาโศก -ประวัตขิ องเพลง -ความหมายของเพลง -ศัพท์สังคตี -โอกาสท่ใี ช้ -ฝกึ ปฏบิ ตั ิทำนองเพลง รวม ตารางกำหนดการจัดการเรยี นรู้
๑๔ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิชาชีพเฉพาะปี่พาทย์ รายวิชาปี่พาทย์ ๕ รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพปีที่ ๓ เวลา ๒๔๐ คาบ ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ แผนท่ี หนว่ ย/เรอื่ ง ม/ตช. จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ เวลา หนว่ ยเพลงเถา ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นกั เรียนสามารถ ๑.เพลงแขกมอญ เถา , เรอ่ื งเพลงแขกมอญ ม.๑/๒ อธิบายประวัติความ เพลงโสมสอ่ งแสง เถา เถา ๒.๒ม.๑/๑ เปน็ มาของเพลงแขก -ประวัติของเพลง เพลงโสมส่องแสง ม.๑/๒ มอญ เถา ,เพลงโสมส่อง -ความหมายของเพลง เถา ม.๑/๓ แสง เถาได้ -ศพั ท์สังคตี ๑ ๓.๑ ๒.นักเรยี นสามารถ -โอกาสทใี่ ช้ ๔๘ ม.๑/๑ ปฏบิ ตั ิเพลงแขกมอญ -ฝึกปฏบิ ัตทิ ำนองเพลง ๓.๒ เถา ,เพลงโสมส่องแสง ม.๑/๒ เถาได้ ๓.นกั เรยี นมคี วามต้ังใจ ในการฟังเพ่ือนอธบิ าย หนว่ ยเพลงสามชน้ั ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรยี นสามารถ ๑.เพลงแขกลพบรุ ี สามช้นั เร่ืองเพลงแขกลพบุรี ม.๑/๒ อธบิ ายประวตั คิ วาม -ประวัติของเพลง สามชน้ั ๒.๒ม.๑/๑ เป็นมาของเพลงแขก -ความหมายของเพลง ม.๑/๒ ลพบุรี สามช้ัน ได้ -ศพั ทส์ งั คีต ม.๑/๓ ๒.นกั เรยี นสามารถ -โอกาสท่ีใช้ ๑๒ ๓.๑ ปฏิบัติเพลงแขกลพบรุ ี -ฝกึ ปฏบิ ัตทิ ำนองเพลง ม.๑/๑ สามชน้ั ได้ ๓.๒ ๓.นักเรียนมคี วามตัง้ ใจ ๒ ม.๑/๒ ในการฟังเพ่ือนอธบิ าย หน่วยเพลงสามชัน้ ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นกั เรียนสามารถ ๑., เพลงเทพบรรทม สาม เรือ่ งเพลงเทพ ม.๑/๒ อธบิ ายประวตั คิ วาม ชน้ั บรรทม สามชัน้ ๒.๒ม.๑/๑ เปน็ มาของ, เพลงเทพ -ประวตั ขิ องเพลง ม.๑/๒ บรรทม สามชน้ั ได้ -ความหมายของเพลง ม.๑/๓ ๒.นักเรียนสามารถ -ศพั ท์สังคีต ๑๒ ๓.๑ ปฏิบตั ิ, เพลงเทพบรรทม -โอกาสที่ใช้ ม.๑/๑ สามชั้น ได้ -ฝกึ ปฏิบัติทำนองเพลง ๓.๒ ๓.นกั เรยี นมีความตั้งใจ ม.๑/๒ ในการฟังเพ่ือนอธิบาย
๑๕ หน่วยเพลงเรอ่ื ง ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรยี นสามารถ ๑.เพลงชา้ เรอื่ งพระราม เร่ืองเพลงชา้ เรื่อง ม.๑/๒ อธบิ ายประวตั ิความ เดินดง พระรามเดนิ ดง ๒.๒ม.๑/๑ เปน็ มาของเพลงช้าเรื่อง -ประวัติของเพลง ม.๑/๒ พระรามเดินดง ได้ -ความหมายของเพลง ๓ ม.๑/๓ ๒.นักเรยี นสามารถ -ศพั ทส์ งั คตี ๔๘ ๓.๑ ปฏบิ ัติเพลงชา้ เรอ่ื ง -โอกาสทใี่ ช้ ม.๑/๑ พระรามเดนิ ดง เถาได้ -ฝึกปฏบิ ัตทิ ำนองเพลง ๓.๒ ๓.นกั เรียนมีความต้งั ใจ ม.๑/๒ ในการฟังเพื่อนอธบิ าย หน่วยเพลงหน้า ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นกั เรียนสามารถ ๑.เพลงโลม-ตระนอน พาทย์ ม.๑/๒ อธิบายประวตั ิความ เพลงคุกพาทย์ เร่ืองเพลงโลม-ตระ ๒.๒ม.๑/๑ เปน็ มาของเพลงโลม- -ประวัติของเพลง นอน ม.๑/๒ ตระนอน ,เพลงคุกพาทย์ -ความหมายของเพลง เพลงคุกพาทย์ ม.๑/๓ ได้ -ศัพทส์ งั คตี ๓.๑ม.๑/๑ ๒.นกั เรยี นสามารถ -โอกาสที่ใช้ ๔ ๓.๒ ปฏบิ ัติเพลงโลม-ตระ -ฝกึ ปฏบิ ัติทำนองเพลง ๒๔ ม.๑/๒ นอน ,เพลงคุกพาทย์ได้ ๓.นกั เรยี นมีความต้งั ใจ ในการฟังเพื่อนอธิบาย หนว่ ยเพลงโหมโรง ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรียนสามารถ ๑.เพลงโหมโรงกราวนอก เรอื่ งเพลงโหมโรง ม.๑/๒ อธิบายประวตั คิ วาม -ประวัติของเพลง กราวนอก ๒.๒ม.๑/๑ เป็นมาของเพลงโหมโรง -ความหมายของเพลง ม.๑/๒ กราวนอก ได้ -ศพั ทส์ งั คีต ๕ ม.๑/๓ ๒.นักเรียนสามารถ -โอกาสทใ่ี ช้ ๓๖ ๓.๑ม.๑/๑ ปฏิบัติเพลงโหมโรงกราว -ฝกึ ปฏบิ ัติทำนองเพลง ๓.๒ นอก ได้ ม.๑/๒ ๓.นกั เรยี นมคี วามตัง้ ใจ ในการฟังเพื่อนอธิบาย
๑๖ หนว่ ยเพลงระบำ ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรยี นสามารถ ๑.เพลงระบำชุมนมุ เผา่ ๑๒ เร่ืองเพลงระบำ ม.๑/๒ อธบิ ายประวตั ิความ ไทย ชุมนมุ เผา่ ไทย ๒.๒ม.๑/๑ เป็นมาของเพลงระบำ -ประวัตขิ องเพลง ม.๑/๒ ชุมนุมเผา่ ไทย ได้ -ความหมายของเพลง ม.๑/๓ ๒.นักเรยี นสามารถ -ศัพท์สงั คีต ๓.๑ม.๑/๑ ปฏิบัติเพลงระบำชมุ นุม -โอกาสทใี่ ช้ ๓.๒ เผ่าไทย ได้ -ฝึกปฏิบตั ทิ ำนองเพลง ม.๑/๒ ๓.นกั เรียนมีความตั้งใจ ในการฟังเพื่อนอธิบาย หนว่ ยเพลงระบำ ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรียนสามารถ ๑.เพลงระบำมฤคระเรงิ เร่อื งเพลงระบำมฤค ม.๑/๒ อธบิ ายประวัตคิ วาม -ประวัติของเพลง ระเรงิ ๒.๒ม.๑/๑ เป็นมาของเพลงระบำ -ความหมายของเพลง ๖ ม.๑/๒ มฤคระเรงิ ได้ -ศพั ทส์ งั คีต ม.๑/๓ ๒.นกั เรียนสามารถ -โอกาสทใ่ี ช้ ๓.๑ม.๑/๑ ปฏิบตั ิเพลงระบำมฤค -ฝึกปฏิบัตทิ ำนองเพลง ๑๒ ๓.๒ ระเริง ได้ ม.๑/๒ ๓.นกั เรียนมคี วามตงั้ ใจ ในการฟังเพื่อนอธิบาย หน่วยเพลงระบำ ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรยี นสามารถ ๑.เพลงระบำสโุ ขทัย ๑๒ เรื่องเพลงระบำ ม.๑/๒ อธบิ ายประวตั คิ วาม -ประวตั ิของเพลง สโุ ขทยั ๒.๒ม.๑/๑ เป็นมาของเพลงระบำ -ความหมายของเพลง ม.๑/๒ สโุ ขทัยได้ -ศพั ท์สงั คตี ม.๑/๓ -โอกาสท่ใี ช้ ๓.๑ม.๑/๑ -ฝึกปฏิบัตทิ ำนองเพลง
๑๗ ๓.๒ ๒.นกั เรยี นสามารถ ม.๑/๒ ปฏบิ ัติเพลงระบำสโุ ขทัย ได้ ๓.นกั เรยี นมคี วามตั้งใจ ในการฟังเพื่อนอธิบาย หน่วยเพลงเดี่ยว ๒.๑ม.๑/๑ ๑.นักเรยี นสามารถ ๑.๑.เพลงเดย่ี วพญาโศก เรอื่ งเพลงเด่ยี วพญา ม.๑/๒ อธบิ ายประวัติความ -ประวัติของเพลง โศก ๒.๒ม.๑/๑ เปน็ มาของเพลงเดย่ี ว -ความหมายของเพลง ม.๑/๒ พญาโศก ได้ -ศพั ทส์ ังคีต ๗ ม.๑/๓ ๒.นักเรยี นสามารถ -โอกาสท่ีใช้ ๒๔ ๓.๑ม.๑/๑ ปฏิบัติเพลงเดีย่ วพญา -ฝกึ ปฏบิ ตั ิทำนองเพลง ๓.๒ โศก ได้ ม.๑/๒ ๓.นักเรียนมคี วามต้ังใจ ในการฟังเพื่อนอธิบาย แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาชพี เฉพาะป่พี าทย์ รายวิชาป่ีพาทย์ ๕ รหสั วชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ เพลงเถา เวลา ๒๔ คาบ เรอ่ื งเพลงแขกมอญ เถา เวลา ๒๔ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทกั ษะในการฝกึ ปฏิบัตเิ ครือ่ งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ นำมาประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสม ตัวชว้ี ดั บอกประวตั เิ พลงในบทเรียนอธิบายศัพทส์ งั คีตเพลงในบทเรียนปฏบิ ัตเิ พลงประเภทต่างๆและ นำความรทู้ ่ไี ด้รบั ไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคญั เพลงเถา คือ เพลงที่มอี ตั ราจังหวะลดหลัน่ กนั ไปต้ังแต่อตั ราจงั หวะ 3 ช้นั 2 ชั้น และชัน้ เดียวนำมา
๑๘ รวบรวมบรรเลงตดิ ตอ่ กนั เพลงท้ังหมดนรี้ วมเรียกว่าเพลงเถา นายชอ้ ย สนุ ทรวาทิน แต่งเปน็ เพลงเถาเม่ือตน้ สมยั รชั กาลท่ี 5โดยแตง่ จากเพลงเขมรโพธสิ ตั ว์ 2 ชัน้ ทำนองเกา่ ที่ใชป้ ระกอบการแสดงละคร ทำนองทางรอ้ ง พระยาเสนาะดุรยิ างค์ ( แชม่ สนุ ทรวาทนิ ) เป็นผู้แต่ง ต่อมาในพ.ศ 2474 สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้า บริพัตรสขุ ุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพนิ ิต ทรงพระนิพนธเ์ พลงนใี้ ห้เป็นทางทบ่ี รรเลงด้วยแตรวง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑.นักเรียนสามารถอธิบายประวตั ิเพลงแขกมอญ เถาได้ ๒.นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิเพลงแขกมอญ เถาได้ ๓.นักเรยี นมีความต้งั ใจในการปฏบิ ัตเิ พลง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ๑.ความสามารถในการจดจำประวัติเพลงแขกมอญ เถา ๒.ความสามารถปฏบิ ตั ิเพลงแขกมอญ เถา สาระการเรียนรู้ ๑.ประวัติเพลงแขกมอญ เถา ๒.ปฏิบัติเพลงแขกมอญ เถา กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเข้าส่บู ทเรียน ๑.โดยครถู ามนกั เรียนวา่ เพลงใดบา้ งท่ีเปน็ ประเภทเพลงเถา ให้นักเรยี นตอบ ๒.ครอู ธบิ ายจดุ ประสงค์การเรยี นรแู้ ละวิธกี ารวดั ผลประเมนิ ผลพร้อมท้ังบอกเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ นกั เรยี นทราบ ข้ันกจิ กรรม ๑.ครแู จกใบความรเู้ รื่องประวตั เิ พลงพร้อมทง้ั สาธติ เพลงแขกมอญ เถา ให้นกั เรยี นฟัง ๑ เที่ยว ๒.ครูต่อเพลงโดยสาธิตให้นักเรียนปฏิบัตติ ามทีละวรรค ๓.เม่ือได้๒ – ๓ วรรคก็ใหท้ บทวนใหม่ตงั้ แต่ตน้ เพื่อใหเ้ กิดความชำนาญ ๔.หลงั จากน้นั ก็ตอ่ เพลงในวรรคตอ่ ไปทำอย่างนจ้ี นจบเพลงแขกมอญ เถา ขนั้ สรปุ ๑.ใหน้ กั เรียนจบั คทู่ บทวนต้งั แต่ตน้ จนจบเพื่อตรวจสอบความถกู ต้อง ๒.ครูคอยสังเกตและแนะนำ แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การอภิปราย การแสดงความคดิ เห็น การถามและการตอบขอ้ สงสยั การนาเสนอ งานตา่ งๆ การบนั ทึกองคค์ วามรูแ้ ละกระบวนทา่ รา วิเคราะห์ วจิ ารณ์ วิพากษ์อยา่ งมีหลกั การและ สรา้ งสรรค์
๑๙ สงั คมศกึ ษาฯ การปฏิบตั ิกจิ กรรมเป็นกลมุ่ การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นาทกั ษะการฟัง การรอ้ ง และการเคล่ือนไหวรา่ งกายขณะปฏิบตั ิทา่ รา คณิตศาสตร์ การนบั จงั หวะในการปฏบิ ตั ทิ ่ารา การจาแนกหรือเปรยี บเทยี บตา่ งๆ วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตการสาธติ ทา่ ราจากครู หรือจากนวตั กรรมต่างๆ ศลิ ปะ การวาดภาพบนั ทกึ ทา่ รา สอื่ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ ๑.ใบความรเู้ รอ่ื งประวัติเพลงแขกมอญ เถา ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทุม้ ๔.ฆ้องวงใหญ่ ชิน้ งาน/ภาระงาน ๑. ให้นกั เรียนทบทวนนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ ช่ัวโมง การวดั และประเมินผล ๑.วธิ กี ารวัดผล ๑.๑สงั เกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครอ่ื งมอื การวัดผล ๒.๑แบบสังเกตเรอื่ งเพลงแขกมอญ เถา ๓.เกณฑก์ ารประเมินผล ๓.๑นักเรียนปฏิบัตเิ พลงโหมโรงแขกมอญ ผิดไดไ้ มเ่ กิน ๕ ครงั้ บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ .................................
๒๐ ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปัญหา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓.................................................................................... ......................................................................... ๔............................................................................................................................ ................................. ๕................................................................................................................................................. ............ ลงชื่อ ผู้บนั ทึก (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสทิ ธ์ิ) ใบความรู้ เพลงแขกมอญ เถา เพลงแขกมอญ เถา เพลงเถา ย่อมเป็นที่เข้าใจกันอยู่โดยทั่วไปแล้วว่า ได้แก่เพลง ๆ เดียวกัน มีอัตรา ลดหลนั่ ตามลำดับ นำมาบรรเลงตดิ ต่อกัน ประดุจภาชนะที่เปน็ ชนดิ เดยี วกัน มขี นาดใหญ่ กลาง และเลก็ นำมา ผูกมัดติดกันดังที่เรียกว่าเถานั้น เพลงแขกมอญนี้ ๒ ชั้น เป็นเพลงเก่า พระประดิษฐ์ไพเราะ ( มี ดุริยางกูร )
๒๑ แต่งขึ้นเป็น ๓ ชั้น และ นายมนตรี ตราโมท ได้ตัดแต่งลงเปน็ ชั้นเดยี วให้ครบเถาเมื่อราว พ.ศ. ๒๔๗๖ บทร้อง เพลงแขกมอญ เถา เน้ือที่ ๑ ๓ ชั้น คราน้นั จงึ โฉมเจ้าวนั ทอง หลับตอ้ งมนต์มนึ ยังมืดหน้า สะดุง้ ตน่ื ฟน้ื ตวั ไมล่ ืมตา ผวากอดขนุ แผนนิ่งไมต่ ิงตัว ขวัญหายกายส่นั ระรวั รกิ ปลุกหยิกคดิ วา่ ขุนชา้ งผัว ๒ ชนั้ เลา่ ความฝันมาประหมา่ กลวั วา่ ทนู หัวสมุ ไฟไวใ้ นมุ้ง เปลวปลาบวาบพล่งุ ข้นึ ปลายจาก ไหมม้ ากหลายตับยับยงุ่ ตอ้ งตวั ผัวไหม้ท้ังไส้พุง น้องสะดงุ้ โดดกลงิ้ อยู่กลางแปลง ช้ันเดียว เรอื งเรงิ เพลิงผลาญม่านหมอนฟูก ถูกนอ้ งพุพองเปน็ หลายแหง่ ไมม่ ีใครช่วยดบั วบั วาบแรง นอ้ งนนี้ กึ แสยงสยดใจ ขอเชิญช่วยทำนายใหน้ ้องที เช่นนน้ี อ้ งหาเคยจะฝันไม่ (เสภาเรอื่ งขุนช้างขุนแผน ตอนที่ ๑๗ ขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างได้นางแกว้ กริ ิยา และเข้าห้องนางวนั ทอง)
๒๒ แบบสังเกตเรอื่ งเพลงแขกมอญ เถา ชอ่ื /กลุ่ม ถามตอบ - ความถูกตอ้ งของเพลง รวม(๑๐) บคุ ลิกภาพ(๒) (๘) เกณฑ์การพิจารณาเปรยี บเทียบระดบั คะแนนของนักเรียน ผลการประเมนิ ได้ 0 - ๕ คะแนน = ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ผลการประเมนิ ได้ ๖ - ๑๐ คะแนน = ผ่านเกณฑ์ ลงชือ่ ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………. (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) วนั ท่.ี ......เดือน..............พ.ศ.........................
๒๓ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพปีที่ ๓ เลข ชอื่ – นามสกุล ม่งุ มัน่ ในการ ใฝ่เรียนรู้ รักความเปน็ ไทย รวม ท่ี ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ เกณฑ์การพิจารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนักเรียน ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดมี าก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดี
๕ – ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๒๔ ๑ – ๔ คะแนน ระดบั ควรปรบั ปรุง ลงชื่อ…………………………………………….ผูส้ อน (ผูช้ ่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์) วนั ท่ี.......เดอื น..............พ.ศ. .................. เกณฑป์ ระเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รายการประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน มงุ่ ม่นั ในการ ทำงาน ๔๓๒๑ ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรยี นมีความ นกั เรียนมีความ นกั เรียนมคี วาม นกั เรียนไม่มคี วาม มุ่งมั่นตั้งใจในการ มงุ่ มน่ั ตง้ั ใจในการ ม่งุ มั่นต้ังใจในการ ม่งุ มน่ั ตงั้ ใจในการ เรียนและ เรยี นและ เรียนและ เรียนและไม่ รบั ผิดชอบตอ่ รบั ผิดชอบตอ่ รับผดิ ชอบตอ่ รับผดิ ชอบต่อ หนา้ ทีท่ ไ่ี ดร้ บั หนา้ ท่ีทไี่ ดร้ ับ หนา้ ทที่ ่ไี ดร้ ับ หนา้ ที่ท่ีไดร้ บั มอบหมาย ด้วย มอบหมาย เพอื่ ให้ มอบหมายเปน็ มอบหมายทกุ ครัง้ ความเพียร งานสำเร็จตาม บางครงั้ พยายาม อดทน เปา้ หมาย เพื่อใหง้ านสำเร็จ ตามเป้าหมาย นักเรียนมกี าร นกั เรยี นมกี าร นกั เรยี นมีการ นกั เรยี นไม่ซกั ถาม ซกั ถามในเรือ่ งท่ี ซกั ถามในเรื่องท่ี ซกั ถามในเรื่องที่ ในเรอ่ื งท่ีตนไม่ ตนไมเ่ ข้าใจทุก ตนไมเ่ ข้าใจ ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ เขา้ ใจและไม่กลา้ เรอ่ื งและมีความ บางครัง้ และ บางครงั้ และไม่ค่อย แสดงออก กลา้ แสดงออก ค่อนข้างมีความ กล้าแสดงออก อยา่ งมั่นใจ กลา้ แสดงออก นกั เรยี นแต่งกาย นกั เรยี นแต่งกาย นกั เรียนแต่งกายไม่ นักเรยี นแต่งกายไม่ เรียบร้อย มี เรยี บร้อย มี ค่อยเรยี บร้อย มี เรียบร้อย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้
๒๕ รกั ความเป็นไทย แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สื่อสารไม่เหมาะสม ส่อื สารได้อย่าง สื่อสารได้อยา่ ง สื่อสารได้อยา่ ง ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม บอ่ ยครงั้ เป็นบางครง้ั แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิชาชีพเฉพาะปี่พาทย์ รายวชิ าปีพ่ าทย์ ๕ รหัสวิชา ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ เพลงเถา เวลา ๒๔ คาบ เรอื่ งเพลงโสมสอ่ งแสง เถา เวลา ๒๔ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทกั ษะในการฝึกปฏิบัติเคร่อื งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทตา่ ง ๆ ตระหนกั และเห็นคุณค่า นำมาประยุกต์ใช้ได้อยา่ ง เหมาะสม ตวั ชี้วัด บอกประวัตเิ พลงในบทเรยี นอธิบายศัพท์สังคีตเพลงในบทเรียนปฏบิ ตั เิ พลงประเภทต่างๆและ นำความรูท้ ่ีไดร้ ับไปใช้ในโอกาสต่างๆได้ สาระสำคญั เพลงเถา คือ เพลงท่มี ีอัตราจังหวะลดหลัน่ กันไปตง้ั แตอ่ ตั ราจงั หวะ 3 ชัน้ 2 ชัน้ และชั้นเดยี วนำมา รวบรวมบรรเลงตดิ ต่อกันเพลงทง้ั หมดน้รี วมเรยี กว่าเพลงเถา นายชอ้ ย สนุ ทรวาทนิ แตง่ เปน็ เพลงเถาเมื่อตน้ สมัยรชั กาลท่ี 5โดยแต่งจากเพลงเขมรโพธิสัตว์ 2 ชน้ั ทำนองเก่าท่ใี ช้ประกอบการแสดงละคร ทำนองทางร้อง
๒๖ พระยาเสนาะดุรยิ างค์ ( แชม่ สุนทรวาทนิ ) เป็นผแู้ ตง่ ต่อมาในพ.ศ 2474 สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจา้ ฟา้ บรพิ ัตรสขุ มุ พนั ธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพนิ ติ ทรงพระนิพนธ์เพลงนี้ใหเ้ ป็นทางทีบ่ รรเลงด้วยแตรวง จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑.นักเรยี นสามารถอธิบายประวตั ิเพลงโสมสอ่ งแสง เถา ได้ ๒.นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิเพลงโสมสอ่ งแสง เถา ได้ ๓.นักเรียนมีความต้ังใจในการปฏบิ ตั ิเพลง สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ๑.ความสามารถในการจดจำประวตั ิเพลงโสมส่องแสง เถา ๒.ความสามารถปฏิบตั ิเพลงโสมสอ่ งแสง เถา สาระการเรียนรู้ ๑.ประวัติเพลงโสมส่องแสง เถา ๒.ปฏิบัติเพลงโสมสอ่ งแสง เถา กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันนำเขา้ ส่บู ทเรยี น ๑.โดยครถู ามนกั เรยี นวา่ เพลงใดบา้ งที่เปน็ ประเภทเพลงเถา ใหน้ กั เรียนตอบ ๒.ครอู ธิบายจุดประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ละวิธกี ารวัดผลประเมนิ ผลพร้อมทั้งบอกเกณฑ์การประเมินให้ นกั เรียนทราบ ข้ันกจิ กรรม ๑.ครแู จกใบความร้เู รื่องประวัตเิ พลงพร้อมทั้งสาธติ เพลงโสมส่องแสง เถา ให้นกั เรยี นฟัง ๑ เทย่ี ว ๒.ครตู ่อเพลงโดยสาธติ ใหน้ ักเรยี นปฏิบัติตามทลี ะวรรค ๓.เมื่อได๒้ – ๓ วรรคก็ใหท้ บทวนใหมต่ ้งั แตต่ ้นเพ่ือใหเ้ กิดความชำนาญ ๔.หลงั จากน้นั ก็ต่อเพลงในวรรคต่อไปทำอยา่ งนีจ้ นจบเพลงโสมสอ่ งแสง เถา ขนั้ สรปุ ๑.ใหน้ กั เรียนจบั ค่ทู บทวนต้ังแต่ตน้ จนจบเพ่ือตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครูคอยสงั เกตและแนะนำ แนวทางบูรณาการ ภาษาไทย การอา่ น การเขียน การอภิปราย การแสดงความคดิ เห็น การถามและการตอบข้อสงสยั การนำเสนองาน ต่างๆ การบันทึกองค์ความรู้และกระบวนท่ารำ วเิ คราะห์ วิจารณ์ วพิ ากษ์อยา่ งมหี ลักการและสรา้ งสรรค์ สงั คมศึกษาฯ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเป็นกลมุ่ การสรา้ งมนษุ ยสมั พนั ธ์ สขุ ศึกษาฯ การพฒั นาทกั ษะการฟงั การร้อง และการเคล่อื นไหวรา่ งกายขณะปฏิบตั ิทา่ รำ
๒๗ คณิตศาสตร์ การนับจงั หวะในการปฏิบตั ิท่ารำ การจำแนกหรือเปรยี บเทยี บต่างๆ วทิ ยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ทา่ รำจากครู หรือจากนวตั กรรมต่างๆ ศิลปะ การวาดภาพบนั ทกึ ท่ารำ สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรยี นรู้ ๑.ใบความรูเ้ รอื่ งประวตั ิเพลงโสมส่องแสง เถา ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทุม้ ๔.ฆ้องวงใหญ่ ช้นิ งาน/ภาระงาน ๑. ใหน้ ักเรยี นทบทวนนอกเวลาสัปดาห์ละ ๓ ชัว่ โมง การวดั และประเมนิ ผล ๑.วธิ ีการวัดผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เคร่ืองมือการวัดผล ๒.๑แบบสงั เกตเร่อื งเพลงโสมส่องแสง เถา ๓.เกณฑ์การประเมนิ ผล ๓.๑นักเรยี นปฏิบตั ิเพลงโสมส่องแสง เถา ผิดไดไ้ มเ่ กนิ ๕ ครั้ง บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕.............................................................................................................................................................
๒๘ ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓...................................................................................... ....................................................................... ๔............................................................................................................................ ................................. ๕................................................................................................................................................... .......... แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑.................................................................................................. ........................................................... ๒............................................................................................................................ ................................. ๓............................................................................................................................................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................ ................................. ลงชือ่ ผ้บู ันทึก (ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) ใบความรู้ เพลงโสมส่องแสง เถา เพลงโสมส่องแสง เถา ในสมยั ปลายรัชกาลท่ี 5 ท่ีเจ้านายตา่ งมวี งป่ีพาทย์ และคิดประกวดประขันอยู่ หลายพระองค์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหมนื่ พชิ ัยมหินทรโรดม ก็ทรงเอาพระทยั ใส่ และมีวงปพี่ าทย์ของ
๒๙ พระองค์ ซ่ึงอยู่ในเกณฑด์ วี งหนงึ่ เหมอื นกัน พระองคโ์ ปรดทำนองของเพลงลาวดำเนนิ ทรายซึง่ พระยาประสาน ดรุ ยิ ศพั ท์ (แปลก ประสานศัพท์) ได้แต่งทำนองดนตรขี ้นึ ตามทำนองรอ้ งสักวา่ มาก เม่ือคราวทีเ่ สดจ็ ตรวจ ราชการโดยหนทางเกวียน จงึ ได้ทรงแตง่ เพลงทำนองลาวข้ึนเพลงหนึง่ ให้เข้าคู่กับเพลงลาวดำเนินทราบ มีบท ร้องขน้ึ ต้นว่า \"โอ้ละหนอ ดวงเดือนเอย\" และประทานช่ือวา่ \"ลาวดำเนนิ เกวยี น\" เปน็ ท่นี ิยมของบรรดา ศิลปนิ นำมาขับร้องและบรรเลงกันอย่างแพร่หลาย ทำใหช้ ่อื เพลงเปลย่ี นไปตามบทร้องว่า \"ลาวดวง เดือน\" นายมนตรี ตราโมท ได้นำเพลงลาวดวงเดือน (หรอื ลาวดำเนินเกวียน) นีม้ าแต่งขน้ึ เป็น 3 ชน้ั และ ตัดแต่งลงเป็นชัน้ เดียว พรอ้ มท้งั แต่งบทร้องขึ้นใหมใ่ หค้ รบทั้งเถา เมื่อ พ.ศ.2474 และต้ังช่ือใหม่ แปลงจากช่ือเดิมวา่ \"เพลงโสมสอ่ ง แสง\"
๓๐ แบบสงั เกตเร่ืองเพลงโสมสอ่ งแสง เถา ชือ่ /กลุ่ม ถามตอบ - ความถกู ต้องของเพลง รวม(๑๐) บคุ ลิกภาพ(๒) (๘) เกณฑก์ ารพิจารณาเปรียบเทียบระดับคะแนนของนักเรียน ผลการประเมนิ ได้ 0 - ๕ คะแนน = ไมผ่ ่านเกณฑ์ ผลการประเมนิ ได้ ๖ - ๑๐ คะแนน = ผา่ นเกณฑ์ ลงชอื่ ผ้ปู ระเมิน……………………………………………. (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) วนั ท่ี.......เดือน..............พ.ศ.........................
๓๑ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพปีที่ ๓ เลข ช่ือ – นามสกลุ มุ่งม่นั ในการ ใฝ่เรยี นรู้ รกั ความเปน็ ไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ ๓ ๔ เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรียบเทียบระดับคะแนนของนกั เรยี น ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดับ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดบั ควรปรบั ปรุง
๓๒ ลงชือ่ …………………………………………….ผูส้ อน (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธ์ิ) วนั ที่.......เดือน..............พ.ศ. .................. เกณฑป์ ระเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน มุง่ ม่ันในการ ทำงาน ๔๓๒๑ ใฝเ่ รยี นรู้ นกั เรยี นมคี วาม นกั เรียนมีความ นกั เรียนมคี วาม นกั เรยี นไม่มีความ รักความเป็นไทย มงุ่ มน่ั ตงั้ ใจในการ มุ่งมั่นต้งั ใจในการ ม่งุ มนั่ ตง้ั ใจในการ มงุ่ ม่ันต้งั ใจในการ เรียนและ เรียนและ เรยี นและ เรยี นและไม่ รบั ผดิ ชอบต่อ รับผิดชอบต่อ รับผิดชอบตอ่ รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ที่ได้รับ หน้าท่ที ไี่ ดร้ บั หน้าทที่ ไี่ ด้รับ หนา้ ท่ีทีไ่ ดร้ ับ มอบหมาย ด้วย มอบหมาย เพ่อื ให้ มอบหมายเปน็ มอบหมายทุกครง้ั ความเพียร งานสำเรจ็ ตาม บางครง้ั พยายาม อดทน เปา้ หมาย เพือ่ ให้งานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย นักเรียนมีการ นกั เรียนมีการ นกั เรยี นมีการ นักเรยี นไม่ซกั ถาม ซกั ถามในเรอ่ื งที่ ซักถามในเร่ืองที่ ซกั ถามในเรอ่ื งที่ ในเรือ่ งที่ตนไม่ ตนไมเ่ ข้าใจทุก ตนไม่เข้าใจ ตนไม่เข้าใจเปน็ เข้าใจและไม่กลา้ เร่อื งและมคี วาม บางครง้ั และ บางครงั้ และไม่ค่อย แสดงออก กล้าแสดงออก ค่อนข้างมคี วาม กล้าแสดงออก อย่างมน่ั ใจ กลา้ แสดงออก นกั เรยี นแตง่ กาย นักเรยี นแต่งกาย นกั เรียนแตง่ กายไม่ นกั เรยี นแตง่ กายไม่ เรยี บร้อย มี เรยี บร้อย มี ค่อยเรียบร้อย มี เรียบรอ้ ย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สอ่ื สารไมเ่ หมาะสม
๓๓ สือ่ สารได้อยา่ ง สอ่ื สารได้อยา่ ง สอ่ื สารได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสม บอ่ ยครัง้ เปน็ บางคร้ัง แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิชาชีพเฉพาะปีพ่ าทย์ รายวชิ าปพี่ าทย์ ๕ รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพปที ี่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ เพลงสามชน้ั เวลา ๖๐ คาบ เร่ืองเพลงแขกลพบุรี สามชั้น เวลา ๖๐ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทักษะในการฝึกปฏิบัติเครอ่ื งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทต่าง ๆ ตระหนกั และเหน็ คณุ ค่า นำมาประยุกตใ์ ช้ได้อยา่ ง เหมาะสม ตัวชีว้ ดั บอกประวตั ิเพลงในบทเรยี นอธบิ ายศพั ท์สงั คตี เพลงในบทเรียนปฏบิ ัติเพลงประเภทต่างๆและ นำความรทู้ ีไ่ ด้รับไปใช้ในโอกาสต่างๆได้ สาระสำคญั เพลงสามชัน้ หมายถึง เพลงที่มีจังหวะช้า ต้องใชเ้ วลาบรรเลงและขบั รอ้ งนานกวา่ เพลงในอตั ราอื่นๆ ถา้ จะสังเกตเสยี งฉิ่งชว่ งระหว่างเสยี งฉ่งิ และฉาบห่างกันมากทำนองร้องจะมีการรอ้ งเอ้ือนยาวๆ เพลงสามชนั้ ใช้ ขับรอ้ งและบรรเลงในโอกาสทั่วไป
๓๔ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นักเรยี นสามารถอธบิ ายประวัติเพลงแขกลพบรุ ี สามชั้นได้ ๒. นักเรียนสามารถปฏบิ ัติเพลงแขกลพบุรี สามช้ันได้ ๓.นกั เรียนมีความตัง้ ใจในการปฏิบัตเิ พลง สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน ๑.ความสามารถในการจดจำประวตั ิเพลงแขกลพบุรี สามชัน้ ได้ ๒.ความสามารถปฏบิ ัติเพลงแขกลพบุรี สามชน้ั สาระการเรยี นรู้ ๑.ประวัติเพลงแขกลพบรุ ี สามช้นั ๒.เพลงแขกลพบรุ ี สามช้ัน กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สู่บทเรยี น ๑.โดยทบทวนเพลงโสมสอ่ งแสง เถา ๒.ครูอธบิ ายจุดประสงค์การเรียนรแู้ ละวธิ ีการวัดผลประเมินผลพร้อมทั้งบอกเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ นักเรยี นทราบ ขัน้ กจิ กรรม ๑.ครทู บทวนประวตั เิ พลงพร้อมทั้งสาธิตเพลงแขกลพบุรี สามช้นั ใหน้ ักเรยี นฟงั ๑ เท่ียว ๒.ครตู ่อเพลงโดยสาธติ ให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ามทลี ะวรรค ๓.เมอื่ ได้๒ – ๓ วรรคก็ให้ทบทวนใหมต่ ้งั แตต่ ้นเพื่อให้เกิดความชำนาญ ๔.หลังจากนนั้ กต็ ่อเพลงในวรรคต่อไปทำอย่างนี้จนจบเพลงเพลงแขกลพบุรี สามชนั้ ขน้ั สรปุ ๑.ใหน้ ักเรียนจับคทู่ บทวนต้งั แตต่ ้นจนจบเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครูคอยสังเกตและแนะนำ แนวทางบูรณาการ การอา่ น การเขียน การอภปิ ราย การแสดงความคดิ เห็น การถามและการตอบขอ้ สงสัย การนำเสนองาน ภาษาไทย ตา่ งๆ การบนั ทึกองค์ความรูแ้ ละกระบวนทา่ รำ วเิ คราะห์ วิจารณ์ วพิ ากษ์อยา่ งมหี ลกั การและสร้างสรรค์ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเปน็ กลุ่ม การสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์ สังคมศึกษาฯ การพฒั นาทักษะการฟงั การรอ้ ง และการเคลอื่ นไหวร่างกายขณะปฏิบัติทา่ รำ สขุ ศกึ ษาฯ การนับจงั หวะในการปฏิบตั ิทา่ รำ การจำแนกหรอื เปรยี บเทยี บต่างๆ คณติ ศาสตร์ การสงั เกตการสาธิตท่ารำจากครู หรอื จากนวัตกรรมต่างๆ วิทยาศาสตร์
๓๕ ศลิ ปะ การวาดภาพบันทึกท่ารำ สื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรยี นรู้ ๑.ใบความรเู้ รอ่ื งประวตั ิเพลงแขกลพบรุ ี สามชั้น ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทมุ้ ๔.ฆอ้ งวงใหญ่ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. ให้นักเรยี นทบทวนนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ ช่วั โมง การวัดและประเมินผล ๑.วธิ ีการวัดผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครื่องมอื การวดั ผล ๒.๑แบบสังเกตเร่ืองเพลงแขกลพบรุ ี สามชัน้ ๓.เกณฑ์การประเมินผล ๓.๑นกั เรยี นปฏิบตั ิเพลงแขกลพบุรี สามช้ัน ผดิ ไดไ้ ม่เกิน ๕ ครง้ั บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ ผลการจัดการเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ .................................
๓๖ ปัญหา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓............................................................................................................................................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................... .............. ลงช่ือ ผบู้ นั ทึก (ผู้ช่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสทิ ธิ์) ใบความรู้ เพลงแขกลพบรุ ี สามชั้น เพลงแขกลพบรุ ี 2 ชั้น ของเก่า มกั ใช้รอ้ งอยใู่ นการแสดงโขนและละครมที ำนองและความหมายไปในทาง เศร้า ๆ อาลัยลาและภูมิประเทศที่วิเวกวังเวงใน แต่เมื่อครูช้อย สุนทรวาทิน ประดิษฐ์ขึ้นเป็น 3 ชั้น ทำนอง ดนตรีก็พลิกแพลงไปตามวิชาการที่นิยมกันในทางดุริยางคศิลป ความหมายเดิมจึงลึกลับไป และในตอนท้าย
๓๗ ของเพลงยังแถมเพลงโสนน้อยติดต่อไว้อีกเพลงหน่งึ ต่อมานายมนตรี ตราโมท ไดต้ ดั ลงเปน็ 2 ชน้ั และช้ัน เดยี ว แบบสงั เกตเรื่องเพลงแขกลพบุรี สามช้ัน ช่อื /กลุ่ม ถามตอบ - ความถูกต้องของเพลง รวม(๑๐) บคุ ลกิ ภาพ(๒) (๘) เกณฑก์ ารพิจารณาเปรียบเทียบระดับคะแนนของนกั เรยี น ผลการประเมนิ ได้ 0 - ๑๒ คะแนน = ไม่ผ่านเกณฑ์ ผลการประเมินได้ ๑๓ - ๒๕ คะแนน = ผา่ นเกณฑ์ ลงชื่อผ้ปู ระเมิน……………………………………………. (ผชู้ ่วยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์) วนั ที่.......เดอื น..............พ.ศ.........................
๓๘ แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพปีที่ ๓ เลข ชื่อ – นามสกุล ม่งุ มั่นในการ ใฝเ่ รยี นรู้ รักความเป็นไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑ ๒ เกณฑก์ ารพจิ ารณาเปรียบเทียบระดบั คะแนนของนักเรียน ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดบั ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดับ ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดับ พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดบั ควรปรบั ปรงุ ลงชอ่ื …………………………………………….ผสู้ อน (ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธ์ิ) วันที.่ ......เดอื น..............พ.ศ. ..................
๓๙ เกณฑ์ประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน มุ่งมัน่ ในการ ทำงาน ๔๓๒๑ ใฝ่เรียนรู้ นกั เรยี นมคี วาม นกั เรียนมีความ นักเรยี นมีความ นักเรียนไม่มีความ รกั ความเปน็ ไทย มุง่ มั่นตง้ั ใจในการ มุ่งมัน่ ตง้ั ใจในการ มงุ่ มนั่ ตง้ั ใจในการ ม่งุ มนั่ ตงั้ ใจในการ เรียนและ เรียนและ เรียนและ เรยี นและไม่ รบั ผดิ ชอบต่อ รบั ผิดชอบตอ่ รับผิดชอบต่อ รบั ผดิ ชอบต่อ หนา้ ท่ที ี่ไดร้ ับ หนา้ ทท่ี ่ไี ด้รับ หน้าท่ีที่ได้รับ หนา้ ที่ทไ่ี ด้รับ มอบหมาย ด้วย มอบหมาย เพื่อให้ มอบหมายเปน็ มอบหมายทุกคร้งั ความเพยี ร งานสำเร็จตาม บางครง้ั พยายาม อดทน เปา้ หมาย เพื่อใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย นักเรยี นมกี าร นกั เรยี นมกี าร นักเรียนมกี าร นกั เรียนไม่ซักถาม ซกั ถามในเร่ืองที่ ซักถามในเรอ่ื งที่ ซกั ถามในเร่อื งท่ี ในเร่ืองท่ีตนไม่ ตนไมเ่ ข้าใจทุก ตนไมเ่ ข้าใจ ตนไมเ่ ข้าใจเปน็ เขา้ ใจและไม่กลา้ เรือ่ งและมีความ บางครงั้ และ บางคร้ังและไม่ค่อย แสดงออก กล้าแสดงออก ค่อนข้างมีความ กลา้ แสดงออก อยา่ งม่ันใจ กลา้ แสดงออก นักเรียนแต่งกาย นกั เรียนแตง่ กาย นกั เรยี นแต่งกายไม่ นกั เรียนแตง่ กายไม่ เรียบร้อย มี เรยี บรอ้ ย มี ค่อยเรียบร้อย มี เรยี บรอ้ ย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สือ่ สารไมเ่ หมาะสม ส่อื สารได้อยา่ ง ส่ือสารได้อย่าง สือ่ สารได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม บ่อยคร้ัง เปน็ บางครั้ง
๔๐ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิชาชพี เฉพาะป่พี าทย์ รายวชิ าปพี่ าทย์ ๕ รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชีพปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เพลงสามชน้ั เวลา ๑๕ คาบ เร่ืองเพลงเทพบรรทม สามชั้น เวลา ๑๕ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ๒.๒เขา้ ใจและมีทกั ษะในการฝกึ ปฏิบัติเครือ่ งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทต่าง ๆ ตระหนัก และเหน็ คณุ คา่ นำมาประยุกต์ใช้ได้อย่าง เหมาะสม ตัวชวี้ ดั บอกประวัตเิ พลงในบทเรยี นอธบิ ายศพั ทส์ งั คีตเพลงในบทเรียนปฏิบตั ิเพลงประเภทต่างๆและ นำความรู้ทไ่ี ด้รบั ไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคญั เพลงสามชน้ั หมายถงึ เพลงทม่ี ีจงั หวะช้า ต้องใช้เวลาบรรเลงและขบั ร้องนานกว่าเพลงในอตั ราอนื่ ๆ ถ้าจะสังเกตเสยี งฉิ่ง ชว่ งระหวา่ งเสยี งฉ่งิ และฉาบหา่ งกันมาก ทำนองร้องจะมีการรอ้ งเออื้ นยาวๆ เพลงสามช้ันใช้ขบั ร้องและบรรเลงในโอกาสทั่วไป จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑.นกั เรยี นสามารถอธิบายประวัติเพลงเทพบรรทม สามชนั้ ได้ ๒.นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิเพลงเทพบรรทม สามช้ันได้ ๓.นกั เรยี นมีความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั ิเพลงเทพบรรทม สามช้ัน
๔๑ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ๑.ความสามารถในการจดจำประวตั ิเพลงเทพบรรทม สามชนั้ ๒.ความสามารถปฏิบตั ิเพลงเทพบรรทม สามช้นั สาระการเรยี นรู้ ๑.ประวัติเพลงเทพบรรทม สามชน้ั ๒.เพลงเทพบรรทม สามชัน้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น ๑.โดยทบทวนเพลงแขกมอญ เถา ,เพลงโสมสอ่ งแสง เถา เพลงแขกลพบรุ ี สามชั้น ๒.ครูอธิบายจุดประสงคก์ ารเรยี นร้แู ละวธิ ีการวดั ผลประเมินผลพร้อมทั้งบอกเกณฑก์ ารประเมินให้ นกั เรยี นทราบ ขั้นกจิ กรรม ๑.ครทู บทวนประวัตเิ พลงพร้อมทัง้ สาธิตเพลงเทพบรรทม สามชน้ั ใหน้ กั เรยี นฟัง ๑ เท่ียว ๒.ครตู ่อเพลงโดยสาธติ ให้นักเรียนปฏิบตั ิตามทลี ะวรรค ๓.เมื่อได้๒ – ๓ วรรคกใ็ หท้ บทวนใหมต่ ั้งแตต่ ้นเพ่ือใหเ้ กิดความชำนาญ ๔.หลงั จากน้ันกต็ ่อเพลงในวรรคตอ่ ไปทำอยา่ งนีจ้ นจบเพลงเทพบรรทม สามชั้น ขนั้ สรุป ๑.ให้นกั เรยี นจบั คูท่ บทวนตงั้ แตต่ ้นจนจบเพ่ือตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครคู อยสงั เกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ ภาษาไทย การอ่าน การเขียน การอภิปราย การแสดงความคิดเห็น การถามและการตอบขอ้ สงสยั การนำเสนองาน ตา่ งๆ การบันทึกองคค์ วามร้แู ละกระบวนท่ารำ วิเคราะห์ วิจารณ์ วิพากษ์อย่างมีหลกั การและสรา้ งสรรค์ สงั คมศึกษาฯ การปฏบิ ัติกจิ กรรมเปน็ กลุ่ม การสร้างมนษุ ยสมั พนั ธ์ สุขศึกษาฯ การพฒั นาทักษะการฟัง การร้อง และการเคลือ่ นไหวรา่ งกายขณะปฏิบัตทิ า่ รำ คณิตศาสตร์ การนับจังหวะในการปฏิบตั ิท่ารำ การจำแนกหรอื เปรยี บเทยี บต่างๆ วิทยาศาสตร์ การสังเกตการสาธติ ทา่ รำจากครู หรอื จากนวัตกรรมตา่ งๆ ศิลปะ การวาดภาพบันทกึ ท่ารำ สอ่ื อุปกรณ์ และแหล่งเรยี นรู้ ๑.ใบความรเู้ รอื่ งประวตั ิเพลงเทพบรรทม สามช้ัน
๔๒ ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทุ้ม ๔.ฆอ้ งวงใหญ่ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ๑. ให้นักเรียนทบทวนนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ ช่ัวโมง การวัดและประเมินผล ๑.วธิ กี ารวดั ผล ๑.๑สงั เกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครอื่ งมอื การวัดผล ๒.๑แบบสังเกตเร่ืองเพลงเทพบรรทม สามช้นั ๓.เกณฑก์ ารประเมินผล ๓.๑นกั เรยี นปฏบิ ัติเพลงเทพบรรทม สามชั้น ผดิ ได้ไมเ่ กิน ๕ ครั้ง บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรียนรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ .................................
๔๓ ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................................. แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ลงชื่อ ผบู้ ันทึก (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธิ์) ใบความรู้ เพลงเทพบรรทม สามช้ัน ราวปลายรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระจองเกล้าเจ้าอยูห่ วั จา่ เผ่น ผยองย่งิ (จา่ โคม) นักร้องสกั วาที่มชี ื่อเสียงผู้ หน่ึง ไดแ้ ตง่ เพลงร้องสักวาขนึ้ เพลงหนึ่งทั้งทำนองและบทร้อง ใหช้ ือ่ วา่ เพลงสักวาเทพบรรทม เปน็ เพลง 2 ทอ่ น ท่อนที่ 1 น้ันแต่งขึน้ จากเพลงเสภานอก 2ช้ัน สว่ นท่อนที่ 2 แตง่ จากเพลงเสภากลาง 2 ชัน้ ของเก่า แต่การแต่ง นี้ไมไ่ ดแ้ ต่ขยายข้ึนเปน็ 3 ชน้ั โดยตรง แตไ่ ดต้ ดั ทอนและเพ่ิมเติมเปลย่ี นแปลงแกไ้ ขจนบางประโยคหา่ งไกลจาก เน้ือเพลงเดิม ท่อนท่ี 1 มี 8จังหวะ ท่อนท่ี 2มี 6จังหวะ ต้ังช่อื ว่า สักวาเทพบรรทมคงจะตัง้ ขน้ึ ตามบทร้องซึ่งมี ความหมายเช่นน้นั เพลงน้ีไดร้ ับความนิยมแพร่หลายในวงสักวาเป็นอนั มาก นักร้องก็นยิ มนำมารอ้ งส่งดนตรี ตอ่ มาครทู ัต นักร้องและครปู ระจำวงป่พี าทย์ของสมเดจ็ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ชว่ งบุนนาค) ได้แต่งทาง ดนตรีขึน้ เพ่ือใช้บรรเลงรับเมื่อนำเพลงสกั วาเทพบรรทมของจา่ โคมมารอ้ งสง่ เพลงน้ที างร้องของเดิมไดด้ ดั แปลง มากมายอยู่แลว้ ทางดนตรีท่ีแต่งเติมข้ึนได้แต่งปรบั ปรุงขยายออกไปอีก บางท่อนร้องกับรบั กม็ ีจงั หวะไม่เท่ากนั
๔๔ คือ ร้องท่อนที่ 1มี 8 จงั หวะ ดนตรรี บั มี 7 จังหวะ ร้องท่อนที่ 2 มี 6 จงั หวะแตด่ นตรีมี 9 จังหวะ เมื่อนำเพลงนี้ มาใช้นอกวงสักวาจงึ เรยี กว่าเพลงเทพบรรทม แบบสงั เกตเร่อื งเพลงเทพบรรทม สามช้ัน ชือ่ /กลุ่ม ถามตอบ - ความถูกต้องของเพลง รวม(๑๐) บคุ ลกิ ภาพ(๒) (๘) เกณฑ์การพจิ ารณาเปรยี บเทียบระดับคะแนนของนักเรยี น ผลการประเมนิ ได้ 0 - ๕ คะแนน = ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ผลการประเมินได้ ๖ - ๑๐ คะแนน = ผ่านเกณฑ์ ลงช่ือผปู้ ระเมนิ ……………………………………………. (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธ์ิ) วันท.ี่ ......เดอื น..............พ.ศ......................... แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพปีท่ี ๓ เลข ชือ่ – นามสกุล มุ่งมั่นในการ ใฝ่เรยี นรู้ รักความเป็นไทย รวม ที่ ทำงาน ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑๐ ๑
๔๕ ๒ ๓ ๔ เกณฑก์ ารพิจารณาเปรยี บเทียบระดับคะแนนของนกั เรียน ๑๑ - ๑๒คะแนน ระดับ ดีมาก ๘ – ๑๐ คะแนน ระดบั ดี ๕ – ๗ คะแนน ระดบั พอใช้ ๑ – ๔ คะแนน ระดับ ควรปรับปรุง ลงชื่อ…………………………………………….ผู้สอน (ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ชยพร ไชยสิทธ์ิ) วนั ท.่ี ......เดือน..............พ.ศ. .................. เกณฑ์ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
๔๖ รายการประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน มงุ่ มน่ั ในการ ทำงาน ๔ ๓๒ ๑ นกั เรียนมีความ นักเรียนไม่มคี วาม ใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ ม่ันตั้งใจในการ นักเรียนมีความ นกั เรียนมคี วาม มุ่งมน่ั ตัง้ ใจในการ เรยี นและ เรียนและไม่ รักความเปน็ ไทย รับผดิ ชอบตอ่ มุง่ ม่ันตัง้ ใจในการ มุง่ มัน่ ตงั้ ใจในการ รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทีท่ ี่ไดร้ ับ หนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ดว้ ย เรยี นและ เรยี นและ มอบหมายทกุ คร้งั ความเพยี ร พยายาม อดทน รับผิดชอบตอ่ รับผิดชอบต่อ เพื่อใหง้ านสำเรจ็ ตามเป้าหมาย หน้าท่ที ไ่ี ดร้ ับ หน้าท่ที ีไ่ ดร้ บั นกั เรยี นมกี าร ซกั ถามในเร่อื งท่ี มอบหมาย เพื่อให้ มอบหมายเป็น ตนไม่เข้าใจทุก เรือ่ งและมีความ งานสำเร็จตาม บางครัง้ กลา้ แสดงออก อยา่ งม่นั ใจ เป้าหมาย นักเรียนแต่งกาย เรยี บร้อย มี นกั เรียนมกี าร นกั เรยี นมีการ นักเรยี นไม่ซกั ถาม มารยาทงดงาม ซกั ถามในเร่ืองท่ี ซกั ถามในเรือ่ งที่ ในเร่อื งท่ีตนไม่ แบบไทย และใช้ ตนไมเ่ ข้าใจ ตนไม่เข้าใจเปน็ เขา้ ใจและไม่กลา้ ภาษาไทยในการ บางคร้ังและ บางครงั้ และไม่ค่อย แสดงออก สอ่ื สารได้อยา่ ง ค่อนข้างมคี วาม กล้าแสดงออก ถูกต้องเหมาะสม กล้าแสดงออก นกั เรยี นแตง่ กาย นักเรียนแตง่ กายไม่ นักเรยี นแต่งกายไม่ เรียบรอ้ ย มี ค่อยเรยี บร้อย มี เรยี บร้อย ไม่มี มารยาทงดงาม มารยาทงดงาม มารยาท และใช้ แบบไทย และใช้ แบบไทย และใช้ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ ภาษาไทยในการ สื่อสารไมเ่ หมาะสม สอื่ สารได้อยา่ ง สอื่ สารได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม บ่อยคร้ัง เปน็ บางครง้ั
๔๗ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๕ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิชาชีพเฉพาะปี่พาทย์ รายวชิ าปีพ่ าทย์ ๕ รหัสวชิ า ๒๐๓๐๓-๒๐๐๕ ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๓ เพลงเร่ือง เวลา ๕๑ คาบ เร่อื งเพลงชา้ เรอ่ื งพระรามเดนิ ดง เวลา ๕๑ คาบ ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ๒.๒เข้าใจและมีทักษะในการฝกึ ปฏิบัติเครอ่ื งดนตรี การบรรเลงเพลงประเภทต่าง ๆ ตระหนกั และเห็นคณุ ค่า นำมาประยุกต์ใชไ้ ด้อยา่ ง เหมาะสม ตวั ชวี้ ดั บอกประวัติเพลงในบทเรียนอธิบายศพั ทส์ ังคีตเพลงในบทเรียนปฏบิ ตั เิ พลงประเภทต่างๆและ นำความรู้ทไ่ี ดร้ บั ไปใช้ในโอกาสตา่ งๆได้ สาระสำคญั เพลงเรื่อง คอื เพลงทโี่ บราณาจารย์ประดษิ ฐ์ขนึ้ โดยนำเอาเพลงท่มี ีลักษณะใกลเ้ คียงกนั หลายๆ เพลง มาบรรเลงตดิ ต่อกนั เป็นชุด เป็นเร่ือง เพ่ือความสะดวกในการใช้บรรเลงในโอกาสต่างๆ กัน เช่น เพลงเร่อื ง นางหงส์ สำหรับใช้บรรเลงประกอบพิธีศพ เพลงเรอ่ื งฉิง่ พระฉนั สำหรบั ใชบ้ รรเลงประกอบพระฉันภตั ตาหาร และเพลงเรื่องสร้อยสน สำหรบั ใช้บรรเลงในโอกาสทว่ั ๆ ไป นอกจากนนั้ ยังเปน็ การรวบรวมเพลงที่มีลักษณะ คลา้ ยๆ กนั มาไวด้ ้วยกนั เพ่ือความสะดวกในการจดจำ ทีน่ ่าสังเกตคือ มกั จะนิยมบรรเลงเพลงเรอ่ื ง โดยการ บรรเลงเฉพาะดนตรี ไม่มีร้อง การบรรเลงเพลงเร่อื ง โดยท่ัวไปประกอบดว้ ยเพลงช้า เพลงสองไม้ เพลงเรว็ และจบลงด้วยเพลงลา เช่น เพลงเร่อื งสร้อยสน ประกอบด้วยเพลงสรอ้ ยสน เพลงพวงร้อย แลว้ ออกท้ายดว้ ยเพลงสองไม้ และเพลงเร็ว จบ ด้วยเพลงลา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑.นกั เรียนสามารถอธิบายประวตั ิเพลงชา้ เรอ่ื งพระรามเดนิ ดง ได้ ๒.นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิเพลงชา้ เรือ่ งพระรามเดนิ ดง ได้ ๓.นักเรยี นมตี ้ังใจในการปฏิบตั ิเพลงชา้ เร่ืองพระรามเดนิ ดง
๔๘ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ๑.ความสามารถในการจดจำประวัติเพลงชา้ เร่ืองพระรามเดนิ ดง ๒.ความสามารถปฏิบัติเพลงช้าเร่อื งพระรามเดินดง สาระการเรียนรู้ ๑.ประวตั ิเพลงชา้ เรอื่ งพระรามเดนิ ดง ๒.เพลงชา้ เร่ืองพระรามเดนิ ดง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น ๑.โดยทบทวนเพลงเพทบรรทม ชน้ั ๒.ครอู ธบิ ายจดุ ประสงค์การเรียนรแู้ ละวธิ ีการวัดผลประเมนิ ผลพร้อมทงั้ บอกเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ นักเรียนทราบ ขน้ั กิจกรรม ๑.ครูทบทวนประวัตเิ พลงพร้อมทง้ั สาธิตเพลงชา้ เรื่องพระรามเดนิ ดง ใหน้ กั เรียนฟัง ๑ เที่ยว ๒.ครตู อ่ เพลงโดยสาธิตให้นกั เรยี นปฏิบตั ิตามทีละวรรค ๓.เม่ือได๒้ – ๓ วรรคกใ็ หท้ บทวนใหม่ต้งั แต่ต้นเพ่ือให้เกิดความชำนาญ ๔.หลังจากนั้นก็ต่อเพลงในวรรคตอ่ ไปทำอย่างน้ีจนจบเพลงช้าเรือ่ งพระรามเดินดง ข้นั สรปุ ๑.ใหน้ กั เรยี นจบั คทู่ บทวนตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ๒.ครคู อยสงั เกตและแนะนำ แนวทางบรู ณาการ การอา่ น การเขยี น การอภปิ ราย การแสดงความคิดเหน็ การถามและการตอบขอ้ สงสยั การนำเสนองาน ภาษาไทย ตา่ งๆ การบนั ทึกองคค์ วามรู้และกระบวนทา่ รำ วิเคราะห์ วิจารณ์ วิพากษ์อย่างมีหลักการและสรา้ งสรรค์ การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเป็นกล่มุ การสร้างมนุษยสมั พันธ์ สังคมศึกษาฯ การพฒั นาทักษะการฟัง การรอ้ ง และการเคล่ือนไหวรา่ งกายขณะปฏบิ ตั ิท่ารำ สขุ ศึกษาฯ การนับจงั หวะในการปฏบิ ัติท่ารำ การจำแนกหรือเปรยี บเทยี บตา่ งๆ คณิตศาสตร์ การสังเกตการสาธิตท่ารำจากครู หรือจากนวตั กรรมต่างๆ วิทยาศาสตร์ การวาดภาพบันทกึ ท่ารำ ศิลปะ สอ่ื อุปกรณ์ และแหล่งเรยี นรู้ ๑.ใบความรู้เรือ่ งประวัติเพลงช้าเรื่องพระรามเดินดง
๔๙ ๒.ระนาดเอก ๓.ระนาดทุม้ ๔.ฆ้องวงใหญ่ ชิ้นงาน/ภาระงาน ๑. ให้นักเรยี นทบทวนนอกเวลาสัปดาหล์ ะ ๓ ชวั่ โมง การวัดและประเมนิ ผล ๑.วธิ กี ารวัดผล ๑.๑สังเกตการบรรเลง การตอบคำถาม ๒.เครอื่ งมอื การวดั ผล ๒.๑แบบสังเกตเร่ืองเพลงชา้ เรือ่ งพระรามเดินดง ๓.เกณฑก์ ารประเมินผล ๓.๑นกั เรียนปฏิบตั ิเพลงช้าเรอื่ งพระรามเดนิ ดง ผดิ ได้ไม่เกิน ๕ ครงั้ บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลการจดั การเรยี นรู้ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................... .............................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................................................ . ๕............................................................................................................................ ................................. ปญั หา/อุปสรรค ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................................................. ๓............................................................................................................................ ................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕.............................................................................................................................................................
๕๐ แนวทางไข/ข้อเสนอแนะ ๑............................................................................................................................ ................................. ๒............................................................................................................................ ................................. ๓............................................................................................................................................................. ๔............................................................................................................................ ................................. ๕............................................................................................................................................... .............. ลงชอื่ ผู้บันทกึ (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยช์ ยพร ไชยสิทธิ์) ใบความรู้ เพลงช้าเรือ่ งพระรามเดินดง เปน็ เพลงเรื่องประเภทเพลงชา้ ประกอบดว้ ย เพลงพระรามเดินดง ออกเพลงสองไม้ เพลงเร็ว-ลา 1. เพลงทำนองเกา่ สมยั อยธุ ยา เป็นเพลงอันดับที่ 7 ในเพลงตับเรื่องนางกราย 2. เพลงเรือ่ งพระรามเดินดง ประกอบดว้ ยเพลงปรบไก่ สองไม้ เพลงเรว็ -ลา แต่ไม่ทราบวา่ ชื่อเพลง อะไรบ้างดงั น้ันถ้าเปน็ เพลงสองไมจ้ ะเรียกว่า สองไมพ้ ระรามเดนิ ดงเปน็ ต้น แบบสังเกตเรื่อง เพลงพระรามเดนิ ดง ชื่อ/กลุ่ม ถามตอบ - ความถูกตอ้ งของเพลง รวม(๑๐) บคุ ลกิ ภาพ(๒) (๑๐)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123