แผนการจัดการเรยี นรู้ รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ รายวิชาประวตั ิศาสตร์ ๓ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ผสู้ อน นายพินจิ ศรีสภุ าพ กลุม่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนหนองม่วงวทิ ยา สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาลพบรุ ี สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
บันทกึ ขอ้ ความ โรงเรียนหนองม่วงวทิ ยา อาเภอหนองมว่ ง จังหวัดลพบุรี ท่ี ……………………………. วนั ที่ ๒๙ เดอื น เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เรอื่ ง ขออนุมตั แิ ผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาประวตั ศิ าสตร์ ๓ รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ เรยี น ผู้อานวยการโรงเรียนหนองมว่ งวิทยา ตามที่ข้าพเจ้านายนายพินิจ ศรีสุภาพ ตาแหน่ง พนักงานราชการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานสอนในรายวิชาประวัติศาสตร์ ๓ รหสั วชิ า ส๒๒๑๐๒ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ข้าพเจ้าจึงได้วิเคราะห์ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ คาอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชา เพื่อจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้รายหน่วยการเรียนรู้และรายคาบ ซึ่งสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนหนองม่วงวิทยา พุทธศักราช ๒๕๖๑ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และไดน้ าไปใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียนให้บรรลุเปา้ หมายของหลักสูตรฯ ตอ่ ไป จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ (นายพนิ ิจ ศรีสภุ าพ) ตาแหนง่ พนกั งานราชการ ความคิดเห็นหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษาฯ ความคดิ เห็นหวั หน้ากล่มุ บรหิ ารวชิ าการ ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... ...................................................................................... (นางสาวมุทิตา ย่องไทยสง) (นางหนงึ่ ฤทยั โพตนุ่ ) ความคิดเหน็ ผู้อานวยการโรงเรยี น ...................................................................................... ...................................................................................... (นางชูศรี คากนั )
สารบญั หนา้ เร่อื ง/หวั ขอ้ ๑. แบบวิเคราะห์ตวั ชว้ี ัด ๒. คาอธบิ ายรายวชิ า ๓. โครงสรา้ งรายวชิ า ๔. แผนการจัดการเรยี นรู้รายหน่วยการเรียนรู้ ๕. แผนการจัดการเรียนรู้รายคาบ ๖. เอกสารประกอบการเรยี นการรู้ ๗. สอื่ /นวัตกรรม ๘. แบบประเมนิ
แบบวิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด รหสั วชิ าส๒๒๐๑๒ รายวิชาประวตั ศิ าสตร.์ กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลาเรียน ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต มาตรฐานการเรยี นรู้ ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร ผู้เรียนทาอะไรได้ สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ และตวั ชี้วัด อันพงึ ประสงค์ - วธิ ีการประเมนิ - ศึกษาและอภิปราย - ความสามารถในการ สาระท่ี ๔ ความนา่ เช่ือถือของ ความรู้เรื่อง วธิ ีการทาง สื่อสาร ๑. มวี นิ ยั ประวตั ิศาสตร์ หลักฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ และ - ความสามารถในการ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ มาตรฐาน ส ๔.๑ ประวัติศาสตรใ์ น สรุปความรู้ทไ่ี ดล้ งใน คดิ ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน เข้าใจความหมาย ลกั ษณะต่างๆ แบบบนั ทึกการอ่าน - ความสามารถในการ ๔. รกั ความเป็นไทย ความสาคัญของเวลา - ระบุหลักฐานทาง ใชท้ ักษะชีวิต และยุคสมยั ทาง - ตัวอย่างการ ประวัติศาสตร์แตล่ ะ ๑. มีวนิ ัย ประวัติศาสตร์ วิเคราะห์ข้อมลู จาก ประเภทได้ - ความสามารถในการ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ สามารถใชว้ ธิ กี ารทาง เอกสารต่างๆ ในสมัย - ศึกษาความรูเ้ ร่อื ง สือ่ สาร ๓. มงุ่ มน่ั ในการทางาน ประวตั ศิ าสตร์มา อยุธยาและธนบุรี การวิเคราะห์และ - ความสามารถในการ ๔. รกั ความเปน็ ไทย วิเคราะห์เหตกุ ารณ์ - ความสาคญั ของ สงั เคราะหข์ ้อมูล คดิ ตา่ งๆ การวิเคราะห์ขอ้ มลู - วเิ คราะหแ์ ละ - ความสามารถในการ อยา่ งเปน็ ระบบ ทางประวัติศาสตร์ สงั เคราะหห์ ลักฐานทาง ใชท้ ักษะชวี ิต ส ๔.๑ ม.๒/๑ ประวัติศาสตร์ประเภท ประเมินความ วรรณคดี น่าเชื่อถอื ของ หลกั ฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ ในลกั ษณะต่างๆ ส ๔.๑ ม.๒/๒ วิเคราะหค์ วาม แตกต่างระหวา่ ง ความจริงกับ ขอ้ เท็จจรงิ ของ เหตกุ ารณ์ทาง ประวัตศิ าสตร์
มาตรฐานการเรียนรู้ ผู้เรยี นรอู้ ะไร ผู้เรยี นทาอะไรได้ สมรรถนะสาคัญ คุณลักษณะ และตัวช้ีวัด อนั พึงประสงค์ ส ๔.๑ ม.๒/๓ - ตัวอย่างการตีความ - อธบิ ายหลกั การและ - ความสามารถในการ ๑. มีวนิ ัย เหน็ ความสาคญั ของ ข้อมลู จากหลกั ฐานท่ี ความสาคัญของการ ส่ือสาร ๒. ใฝ่เรยี นรู้ การตีความหลักฐาน แสดงเหตกุ ารณ์ ตคี วามหลกั ฐานทาง - ความสามารถในการ ๓. มุ่งมัน่ ในการทางาน ทางประวตั ิศาสตรท์ ี่ สาคัญในสมยั อยธุ ยา ประวตั ศิ าสตร์ คิด ๔. รักความเป็นไทย น่าเชอื่ ถอื และธนบรุ ี - ความสามารถในการ - ความสาคญั ของ ใชท้ ักษะชีวติ การตีความทาง ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพัฒนาการของ มนุษยชาตจิ ากอดตี จนถึงปัจจุบัน ใน ดา้ นความสัมพนั ธ์ และการเปล่ียนแปลง ของเหตุการณ์อยา่ ง ต่อเนอ่ื ง ตระหนักถึง ความสาคัญและ สามารถ วเิ คราะห์ ผลกระทบทเ่ี กิดข้ึน ส ๔.๒ ม.๒/๑ - ที่ตั้งและสภาพทาง - อธบิ ายทีต่ ง้ั และ - ความสามารถในการ ๑. มวี ินยั สอ่ื สาร ๒. ใฝ่เรยี นรู้ อธิบายพฒั นาการ ภมู ิศาสตรข์ อง สภาพทางภูมศิ าสตร์ - ความสามารถในการ ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน คิด ทางสงั คม เศรษฐกจิ ภมู ภิ าคตา่ งๆ ในทวปี ของภูมภิ าคตา่ งๆ - ความสามารถในการ ใช้ทักษะชีวติ และการเมืองของ เอเชยี ในภูมภิ าคเอเชยี ภมู ภิ าคเอเชีย - พัฒนาการทาง - แผ่นพับ “Asia การเมืองการ Foucs”บอก ปกครอง เศรษฐกจิ พัฒนาการทาง และสังคมของ การเมืองการปกครอง ภมู ภิ าคเอเชยี เศรษฐกิจ และสังคม ของภูมิภาคเอเชีย
มาตรฐานการเรยี นรู้ ผเู้ รียนรู้อะไร ผเู้ รยี นทาอะไรได้ สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ และตวั ชี้วดั อันพึงประสงค์ - ความสามารถในการ ๑. มีวนิ ยั ส ๔.๒ม.๒/๒ - ท่ตี ้งั และ - ศึกษาและอธิบายท่ตี ัง้ ส่ือสาร ๒. ใฝ่เรียนรู้ - ความสามารถในการ ๓. มงุ่ มนั่ ในการทางาน ระบคุ วามสาคัญของ ความสาคัญของ และความสาคญั ของ คิด - ความสามารถในการ แหลง่ อารยธรรม แหลง่ อารยธรรม อารยธรรมจีน อารย แกป้ ญั หา โบราณในภมู ภิ าค ตะวนั ออกและแหลง่ ธรรมอนิ เดีย อารย เอเชยี มรดกโลกในประเทศ ธรรมเมโสโปเตเมยี ต่างๆ ในภูมิภาค อารยธรรมอสิ ลาม เอเชยี - ศึกษาความสาคัญ ของแหล่งมรดกโลกใน ทวปี เอเชยี หมายเหตุ ทาใหค้ รบทกุ มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชว้ี ดั
คาอธิบายรายวชิ า รหสั วิชา ส๒๒๑๐๒ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต ศึกษาความน่าเชื่อถือของหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่าง ๆ วิเคราะห์ความ แตกตา่ งระหวา่ งความจริงกับข้อเทจ็ จริงของเหตกุ ารณ์ทางประวัตศิ าสตร์ และเห็นความสาคัญของการตีความ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีน่าเชื่อถือ อธิบายพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาค เอเชยี ระบคุ วามสาคญั ของแหลง่ อารยธรรมโบราณในภมู ภิ าคเอเชีย โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมลู กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแกป้ ญั หา กระบวนการกลมุ่ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสานึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม เพอ่ื การพฒั นาทยี่ ัง่ ยนื ตัวชีว้ ัด ส ๔.๑ ม.๒/๑-๓ ส ๔.๒ ม.๒/๑-๒ รวม ๕ ตวั ชวี้ ดั
โครงสร้างรายวชิ า รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ รายวิชา ประวัติศาสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ ลาดับท่ี ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ๑ (ช่วั โมง) คะแนน ๒ เรียนร้/ู ตัวชีว้ ดั ๕ ๑๕ ๓ ความสาคญั ของหลักฐาน ส ๔.๑ หลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ี ๖ ๑๕ ทางประวัติศาสตร์ ม.๒/๑ ผ่านการวิเคราะห์ด้วยวิธีการ ๑ ๒๐ ม.๒/๒ ทางประวัติศาสตร์ จะทาให้ผล ๗ ๒๐ ม.๒/๒ การศึกษามีความถูกต้อง และ ๑ ๗๐ ๒๐ ๓๐ น่าเช่ือถือ ๑๐๐ ทต่ี ั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่มี ส ๔.๒ ที ่ตั ้ง แ ล ะ ส ภ า พ ภ ูม ิศ า ส ต ร ์ท่ี ผลต่อการพัฒนาของทวีป ม.๒/๑ หลากหลายของทวีปเอเชีย มี เอเชีย อิทธิพลต่อพัฒนาการทางสังคม เ ศ ร ษ ฐ ก ิจ แ ล ะ ก า ร เ ม ือ ง ต ล อ ด จ น พ ัฒ น า ก า ร ท า ง ป ร ะ ว ัต ิศ า ส ต ร ์ข อ ง ภ ูม ิภ า ค ต่างๆ ในทวีปเอเชีย สอบกลางภาค แหล่งอารยธรรมในทวีป ส ๔.๒ แหล่งอารยธรรมตะวันออกและ เอเชยี ม.๒/๒ มรดกโลกของประเทศต่างๆใน ภู มิ ภ า ค เ อ เ ชี ย ล้ ว น มี ความสาคัญทางประวัติศาสตร์ แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองเม่ือ ค รั้ ง อ ดี ต ซ่ึ ง มี อิ ท ธิ พ ล ต่ อ ภมู ภิ าคเอเชยี ในปัจจุบนั ประเมนิ ผลระหว่างภาคเรียน สอบปลายภาค รวมตลอดทั้งภาคเรียน
มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส๒๒๑๐๒ รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลาเรียน ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรู้ สาระท่ี ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความสาคัญ ของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ สามารถใช้ วิธกี ารทางประวัติศาสตรม์ าวิเคราะห์เหตุการณต์ า่ งๆ อย่างเป็นระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เข้าใจพัฒนาการของมนุษยชาติ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด้านความสัมพันธ์และ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ วิเคราะห์ ผลกระทบทีเ่ กดิ ขนึ้ (รหัสตัวชีว้ ัด) ✤ วิธีการประเมินความน่าเช่ือถือของหลักฐานทาง ส ๔.๑ ม.๒/๑ ประเมินความนา่ เชือ่ ถือของหลกั ฐาน ประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ อย่างง่ายๆ เช่น ทางประวตั ศิ าสตรใ์ นลกั ษณะต่างๆ การศึกษาภูมิหลังของผู้ทาหรือผู้เกี่ยวข้อง สาเหตุ ช่วงระยะเว ลา รูปลักษณ์ของหลักฐ านทาง ประวตั ิศาสตร์ เป็นต้น (รหัสตัวชวี้ ัด) ✤ ตัวอย่างการประเมินความน่าเช่ือถือของ ส ๔.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะห์ความแตกตา่ งระหว่าง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยที่อยู่ในท้องถ่ินของ ความจริงกับข้อเท็จจรงิ ของเหตุการณ์ ตนเองหรือหลักฐานสมัยอยุธยา (เช่ือมโยงกับ มฐ. ทางประวตั ิศาสตร์ ส ๔.๓) ✤ ตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ในสมัยอยุธยาและธนบุรี (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส ๔.๓) เช่น ขอ้ ความบางตอนในพระราชพงศาวดารอยุธยา จดหมายเหตุชาวตา่ งชาติ ✤ การแยกแยะระหว่างข้อมูลกับความคิดเห็น รวมทั้งความจริงกับข้อเท็จจริง จากหลักฐานทาง ประวัตศิ าสตร์
(รหัสตวั ชว้ี ดั ) ✤ ตัวอย่างการตีความข้อมูลจากหลักฐานท่ีแสดง ส ๔.๑ ม.๒/๓ เห็นความสาคัญของการตีความ เหตกุ ารณ์สาคัญในสมัยอยุธยาและธนบรุ ี หลกั ฐานทางประวัตศิ าสตรท์ นี่ า่ เชอื่ ถือ ✤ ความสาคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลและการ ตีความทางประวัตศิ าสตร์ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ส๒๒๑๐๒ รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลาเรยี น ๒๐ ช่วั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้ สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร์ (รหัสตวั ชว้ี ดั ) ✤ ที่ต้ังและสภาพทางภูมิศาสตร์ของภูมิภาคต่างๆ ส ๔.๒ ม.๒/๑ อธบิ ายพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจ ในทวีปเอเชีย (ยกเว้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) ท่ีมี และการเมืองของภมู ิภาคเอเชยี ผลตอ่ พัฒนาการโดยสงั เขป ✤ พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคเอเชีย (ยกเว้นเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้) (รหัสตัวชว้ี ัด) ✤ ที่ต้ังและความสาคัญของแหล่งอารยธรรม ส ๔.๒ ม.๒/๒ ระบุความสาคัญของแหล่ง อารย- ตะวันออกและแหล่งมรดกโลกในประเทศต่างๆ ใน ธรรมโบราณในภูมิภาคเอเชยี ภูมภิ าคเอเชีย ✤ อิทธิพลของอารยธรรมโบราณที่มีต่อภูมิภาค เอเชียในปัจจุบนั
แบบวิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด และสาระการเรยี นรู้ รหสั วิชา ส๒๒๑๐๒ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ๓ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลาเรียน ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกิต มาตรฐานการเรียนรู้ ผูเ้ รียนรู้อะไร ผเู้ รียนทาอะไรได้ สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ และตัวช้ีวดั อนั พึงประสงค์ - มีวนิ ัย ส ๔.๑ ม.๒/๑ - การเลือกและการ ๑ . ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม - ความสามารถในการ - ใฝเ่ รียนรู้ - มงุ่ ม่ันในการทางาน ประเมินหลักฐานทาง น่าเช่ือถือของหลักฐาน ส่ือสาร - รักความเปน็ ไทย ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ท่ี ทางประวตั ศิ าสตร์อย่าง - ความสามารถในการคดิ - มีวินัย - ใฝเ่ รียนรู้ น่าเชื่อถือทาให้ได้ข้อ งา่ ย - ความสามารถในการ - มงุ่ มัน่ ในการทางาน - รักความเปน็ ไทย ค้ น พ บ ท า ง ๒. ยกตัวอย่างหลักฐาน แก้ปัญหา - มีวินัย ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ท่ี ทางประวัติศาสตร์ที่มี - ความสามารถในการใช้ - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งม่นั ในการทางาน ชัดเจน ความน่าเช่ือถือ ทักษะชวี ิต - รกั ความเปน็ ไทย - ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ส ๔.๑ ม.๒/๒ - การเลือกและการ - ส า ม า ร ถ แ ย ก - ความสามารถในการ ปร ะ เมิ น ห ลัก ฐ า น ข้อเท็จจริงกับความจริง สื่อสาร ทางประวัติศาสตร์ โดยใช้วิธีการหลักฐาน - ความสามารถในการคิด ท่ีน่ า เช่ื อ ถือ ท าใ ห้ ทางประวตั ศิ าสตร์ - ความสามารถในการ ไ ด้ ข้ อ ค้ น พ บ ท า ง แกป้ ัญหา ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ที่ - ความสามารถในการใช้ ชัดเจน ทกั ษะชีวิต - ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ส ๔.๑ ม.๒/๒ - การเลือกและการ - วิเคราะห์ข้อมูลและ - ความสามารถในการ ประเมินหลักฐานทาง ตีความหลักฐานทาง สื่อสาร ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ท่ี ประวัติศาสตร์ - ความสามารถในการคดิ น่าเชื่อถือทาให้ได้ข้อ - ความสามารถในการ ค้ น พ บ ท า ง แก้ปัญหา ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ท่ี - ความสามารถในการใช้ ชัดเจน ทกั ษะชีวิต - ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
แบบวิเคราะหม์ าตรฐานการเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด และสาระการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ส๒๒๑๐๒ รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ ๓ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลาเรียน ๒๐ ชว่ั โมง จานวน ๐.๕ หนว่ ยกติ มาตรฐานการเรยี นรู้ ผเู้ รียนรอู้ ะไร ผเู้ รยี นทาอะไรได้ สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ และตวั ช้ีวดั อนั พึงประสงค์ - มีวนิ ยั ส ๔.๒ ม.๒/๑ ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ๑. อธิบายปัจจัยทาง - ความสามารถในการ - ใฝเ่ รียนรู้ - มงุ่ ม่ันในการทางาน และพัฒนาการทาง ภูมิศาสตร์ของภูมิภาค สื่อสาร - รกั ความเป็นไทย ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ใ น ต่างๆ ในทวีปเอเชีย - ความสามารถในการคิด - มีวนิ ัย - ใฝเ่ รียนรู้ ภูมภิ าคเอเชีย ย ก เ ว้ น เ อ เ ชี ย - ความสามารถในการ - มุ่งมน่ั ในการทางาน - รกั ความเปน็ ไทย ตะวนั ออกเฉยี งใต้ แกป้ ญั หา ๒.อธิบายพัฒนาการ - ความสามารถในการใช้ ท า ง ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ ทกั ษะชีวติ สั ง ค ม เ ศ ร ษ ฐ กิ จ - ความสามารถในการใช้ การเมืองของภูมิภาค เทคโนโลยี เอเชีย ยกเว้นเอเชีย ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ส ๔.๒ ม.๒/๒ แหล่งอารยธรรมและ - บอกแหล่งอารยธรรม - ความสามารถในการ มรดกโลกในภูมิภาค ตะวันออก แหล่งมรดก สอ่ื สาร เอเชยี โลกของประเทศใน - ความสามารถในการคดิ ภูมภิ าคเอเชีย - ความสามารถในการ แก้ปัญหา - ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวิต - ความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ หนว่ ยการเรียนรเู้ รื่อง ความสาคญั ของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ เวลา ๕ คาบ รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ๓ รหัสวชิ า ส๒๒๑๐๒ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๒ จานวนแผนการจดั การเรียนรรู้ ายคาบในหนว่ ยการเรียนร้นู ้ี ๕ แผน
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เร่อื ง ความสาคัญของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ รายวชิ า ประวัติศาสตร์ ๓รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ เวลาเรียน ๕ ชว่ั โมง ๑. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ ตวั ชี้วัด ม.๒/๑ ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ในลกั ษณะตา่ งๆ ม.๒/๒ วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทาง ประวตั ิศาสตร์ ม.๒/๓ เหน็ ความสาคญั ของการตคี วามหลักฐานทางประวตั ิศาสตรท์ นี่ ่าเชอื่ ถือ ๒. จดุ ประสงค์ ๑. อธิบายวิธีการทางประวัตศิ าสตรแ์ ต่ละขนั้ ตอนได้ ๒. ระบหุ ลกั ฐานทางประวัติศาสตรแ์ ตล่ ะประเภทได้ ๓. จาแนกความแตกต่างระหว่างความจรงิ กบั ขอ้ เท็จจรงิ ของหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรไ์ ทยได้ ๔. อธบิ ายความสาคญั ของการตคี วามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ ๕. บอกความสาคัญของการวิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์ข้อมลู ทางประวตั ิศาสตร์ได้ ๓. สาระสาคญั หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ผ่านการวิเคราะห์ด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์ จะทาให้ผล การศึกษามีความถูกต้อง และน่าเช่ือถือ ๔. สาระการเรียนรู้ ๔.๑ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๑) วิธีการประเมินความนา่ เช่ือถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ อย่างง่ายๆ เช่น การศึกษาภูมิหลังของผู้ทาหรือผู้เกี่ยวข้อง สาเหตุ ช่วงระยะเวลา รูปลักษณ์ของหลักฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ เป็นต้น ๒) ตัวอย่างการประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยท่ีอยู่ในท้องถ่ินของ ตนเองหรอื หลักฐานสมัยอยธุ ยา (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส ๔.๓) ๓) ตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ในสมัยอยุธยาและธนบุรี (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส ๔.๓) เช่น ข้อความบางตอนในพระราชพงศาวดารอยุธยา จดหมายเหตชุ าวต่างชาติ ๔) การแยกแยะระหว่างข้อมูลกับความคิดเห็น รวมทั้งความจริงกับข้อเท็จจริง จากหลักฐานทาง ประวตั ศิ าสตร์ ๕) ตวั อย่างการตคี วามข้อมูลจากหลกั ฐานท่ีแสดงเหตกุ ารณส์ าคญั ในสมยั อยุธยาและธนบุรี ๖) ความสาคัญของการวิเคราะหข์ อ้ มูลและการตคี วามทางประวตั ศิ าสตร์
๔.๒ สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น - ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ๑. มวี นิ ัย : สามารถทากิจกรรมท่กี าหนดใหค้ รบถว้ นได้ตรงเวลา ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ : สามารถค้นควา้ ข้อมลู เพ่มิ เติมจากแหลง่ เรียนรู้อ่นื ๆ ได้ ๓. มุ่งมัน่ ในการทางาน : มคี วามมุง่ มน่ั ในการปฏบิ ัติกิจกรรมท่ีกาหนดได้ ๔. รกั ความเป็นไทย : ภาคภูมิใจในความเสียสละของบรรพบุรุษชาติไทย คณุ ลักษณะผูเ้ รียน ตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ☑ ลา้ หน้าทางความคิด : ปฏบิ ตั ิตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ ☑ ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ : ปา้ ยนิเทศ เร่ือง ความสาคัญของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ☑ รว่ มกันรับผิดชอบตอ่ สงั คมโลก : สามารถนาความรเู้ กี่ยวกบั สภาพแวดล้อมไปใช้ปรับตวั ในการ ดาเนนิ ชีวติ ในสงั คมได้ อตั ลักษณโ์ รงเรียน : ไหวอ้ ่อนนอ้ ม เก็บออมเปน็ นจิ บูรณาการกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั ความพอประมาณ หลักความมีเหตผุ ล หลกั การมีภูมิคุ้มกัน นักเรียนสามารถใช้เวลาว่างใน นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นกั เรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ระหว่างเรียนให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติต่อต่อผู้อื่น ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ และคุ้มคา่ เหมาะสม สามารถอยู่รว่ มกับผูอ้ นื่ ได้ดี เงื่อนไขความรู้ เงือ่ นไขคุณธรรม อ ธิ บ า ย ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ห ลั ก ฐ า น ท า ง ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ประวัติศาสตร์ได้ ซื่อสัตย์ มีวนิ ัย มงุ่ มนั่ ในการทางาน บูรณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรู้เร่ือง ความสาคัญของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เผยแพร่ใหก้ บั สมาชกิ ประชาคมอาเซียนได้ คา่ นิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ : ภาคภมู ิใจในความเสียสละของบรรพบุรุษชาตไิ ทย มีศีลธรรม รักษาความสตั ย์ : ยดึ กฎหมายในการดาเนินชวี ติ ไมท่ าใหผ้ อู้ ืน่ เดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มสี ตริ ตู้ วั รู้คิด รู้ทา : ไม่ละเมิดสิทธขิ องบคุ คลอ่นื รู้จกั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : ดาเนนิ ชวี ติ อยู่บนพ้นื ฐานความพอเพยี ง
๖. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๖.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๑) ทักษะการรวบรวมข้อมลู ๓) ทกั ษะการสรปุ ลงความเห็น ๒) ทกั ษะการวเิ คราะห์ ๔) ทักษะการสรา้ งความรู้ ๖.๓ ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ ๗. ชน้ิ งาน/ภาระงาน ปา้ ยนิเทศ เรอื่ ง ความสาคญั ของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ๘. การวัดและการประเมินผล ๘.๑ การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรือ่ ง ความสาคัญของหลักฐานทาง ประวตั ิศาสตร์ ๘.๒ การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๑) ตรวจใบงานที่ ๑.๑ เรื่อง การประเมนิ คุณค่าของหลกั ฐาน ๒) ตรวจใบงานที่ ๑.๒ เรอ่ื ง การตคี วามทางประวัตศิ าสตร์ ๓) ตรวจใบงานที่ ๑.๓ เร่ือง การวิเคราะหแ์ ละสังเคราะหข์ ้อมูล ๔) ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น ๕) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน ๖) สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ๗) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ๘) สงั เกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๘.๓ การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื ง ความสาคัญของหลกั ฐานทาง ประวัตศิ าสตร์ ๘.๔ การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจปา้ ยนิเทศ เรื่อง ความสาคญั ของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์
การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แบบประเมนิ ปา้ ยนิเทศ เรื่อง ความสาคญั ของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ รายการประเมิน ดมี าก (๔) คาอธบิ ายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรงุ (๑) ดี (๓) พอใช้ (๒) ๑. การวิเคราะห์ วิเคราะหว์ ธิ ีการทาง วิเคราะห์วิธีการทาง วเิ คราะห์วธิ กี ารทาง วิเคราะหว์ ธิ ีการทาง วิธกี ารทาง ประวัติศาสตรแ์ ต่ละ ประวัติศาสตรแ์ ตล่ ะ ประวตั ศิ าสตรแ์ ตล่ ะ ประวัตศิ าสตรแ์ ตล่ ะ ประวตั ิศาสตร์ ขั้นตอนไดถ้ ูกต้อง ขน้ั ตอนได้ถูกต้อง ขัน้ ตอนไดถ้ ูกต้อง ขนั้ ตอนได้ถูกตอ้ ง ทั้งหมด และมเี หตผุ ล เปน็ ส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน เป็นส่วนนอ้ ย ๒. การจาแนก จาแนกหลกั ฐานทาง จาแนกหลกั ฐานทาง จาแนกหลักฐานทาง จาแนกหลักฐานทาง หลักฐานทาง ประวัตศิ าสตร์แต่ละ ประวัตศิ าสตรแ์ ตล่ ะ ประวัติศาสตรแ์ ต่ละ ประวตั ศิ าสตร์แตล่ ะ ประวตั ศิ าสตร์ ประเภทได้ถกู ต้อง ประเภทได้ถกู ต้อง ประเภทได้ถกู ต้อง ประเภทได้ถูกต้อง แตล่ ะประเภท ทั้งหมด มีการ เปน็ ส่วนใหญ่ มกี าร เป็นบางสว่ น มีการ เป็นส่วนน้อย ไมม่ ีการ ยกตัวอย่างประกอบ ยกตวั อย่างประกอบ ยกตัวอยา่ งประกอบ ยกตัวอยา่ งประกอบ อธิบายชดั เจน และอธิบายไม่ชดั เจน ๓. การอธบิ ายความ อธิบายความแตกตา่ ง อธบิ ายความแตกตา่ ง อธบิ ายความแตกตา่ ง อธบิ ายความแตกต่าง แตกต่างระหวา่ ง ระหวา่ งขอ้ มูลกบั ระหวา่ งขอ้ มลู กับ ระหวา่ งข้อมูลกบั ระหว่างข้อมลู กบั ขอ้ มูลกับความ ความคดิ เห็น และ ความคิดเห็น และ ความคดิ เห็น และ ความคิดเหน็ และ คิดเห็น และความ ความจริงกบั ความจรงิ กบั ความจริงกบั ความจรงิ กับ จริงกบั ข้อเทจ็ จริง ขอ้ เท็จจริงได้ถูกต้อง ข้อเท็จจริงไดถ้ ูกต้อง ข้อเท็จจรงิ ไดถ้ ูกต้อง ขอ้ เท็จจริงได้ถูกต้อง สมเหตุสมผล สมเหตุสมผลเป็น เป็นบางสว่ น แต่ไม่ เปน็ สว่ นนอ้ ย และไม่ บางสว่ น สมเหตสุ มผล ชัดเจน ๔.การยกตัวอย่าง ยกตัวอย่างการ ยกตัวอย่างการ ยกตวั อย่างการ ยกตัวอย่างการ การวเิ คราะหแ์ ละ วิเคราะหแ์ ละตคี วาม วเิ คราะหแ์ ละตคี วาม วเิ คราะหแ์ ละตคี วาม วเิ คราะห์และตีความ ตีความหลกั ฐาน หลักฐานทาง หลักฐานทาง หลักฐานทาง หลักฐานทาง ทาง ประวตั ศิ าสตร์ได้ ประวตั ศิ าสตรไ์ ด้ ประวตั ิศาสตร์ได้ ประวัติศาสตรไ์ ด้ ประวตั ศิ าสตร์ ถูกต้องท้ังหมด ถูกต้องเป็นส่วนใหญ่ ถูกต้องเปน็ บางส่วน ถูกต้องเปน็ ส่วนนอ้ ย เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ๑๔ - ๑๖ ๑๑ - ๑๓ ๘ - ๑๐ ตา่ กว่า ๘ ระดบั คุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ แผนที่/เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ วิธีการสอน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ จุดประสงค์ วิ ธี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม วิธสี อนโดยการ เร่อื ง วธิ ีการทาง ๑ . อ ธิ บ า ย วิ ธี ก า ร ท า ง น่าเช่ือถือของหลักฐานทาง จัดการเรยี นรู้แบบ ประวตั ิศาสตร์ ประวัติศาสตร์แต่ละข้ันตอน ประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ รว่ มมอื : เทคนิคการ เวลา ๑ คาบ อย่างง่ายๆ เช่น การศึกษาภูมิ ได้ หลังของผู้ทาหรือผู้เกี่ยวข้อง แบ่งปันความสาเรจ็ สาเหตุ ช่วงระยะเวลา รปู ลกั ษณ์ ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นตน้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ จุดประสงค์ วิ ธี ก า ร ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม วธิ สี อนโดยใช้ เรื่อง หลักฐานทาง บทเรยี นสาเร็จรูป ประวัตศิ าสตร์ ๒ ) ร ะ บุ ห ลั ก ฐ า น ท า ง น่าเชื่อถือของหลักฐานทาง เวลา ๖ คาบ ป ร ะ วั ติ ศ า ส ต ร์ แ ต่ ล ะ ประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ อย่างง่ายๆ เช่น การศึกษาภูมิ ประเภทได้ หลังของผู้ทาหรือผู้เก่ียวข้อง สาเหตุ ชว่ งระยะเวลา รปู ลักษณ์ ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ จดุ ประสงค์ ๑) ตัวอย่างการประเมินความ วธิ ีสอนแบบ เรื่อง การประเมินคุณค่า ๓) จาแนกความแตกต่าง น่าเชื่อถือของหลักฐานทาง สบื เสาะหาความรู้ ร ะ ห ว่ า ง ค ว า ม จ ริ ง กั บ ประวัติศ าสตร์ไทยที่อยู่ใน (Inquiry Method : ของหลักฐาน ท้องถ่ินของตนเองหรือหลักฐาน สมยั อยธุ ยา (เชือ่ มโยงกับ มฐ. เวลา ๑ คาบ ข้อเท็จจริงของหลักฐานทาง ส ๔.๓) ๕E) ประวัตศิ าสตร์ไทยได้ ๒) การแยกแยะระหว่างข้อมูล กับความคิดเห็น รวมท้ังความ จริงกับข้อเท็จจริง จากหลักฐาน ทางประวัตศิ าสตร์ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๔ จดุ ประสงค์ ๑) ตัวอย่างการตีความ วิธสี อนแบบ เร่ือง การตคี วามหลกั ฐาน ๔) อธิบายความสาคัญของ ข้อมูลจากหลักฐานที่แสดง ธรรมสากจั ฉา เวลา ๑ คาบ การตีความหลักฐานทาง เหตุการณ์สาคัญในสมัย ประวัตศิ าสตร์ได้ อยธุ ยาและธนบุรี ๒) ความสาคัญของการ ตคี วามทางประวตั ศิ าสตร์
แผนที/่ เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ วิธกี ารสอน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๕ จดุ ประสงค์ ๑) ตวั อย่างการวิเคราะหข์ ้อมลู จาก วิธสี อนโดยเน้น เร่ือง การวิเคราะห์และ ๕) บอกความสาคัญของการ เอกสารต่างๆ ในสมัยอยุธยาและ กระบวนการ : ธนบุรี (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส ๔.๓) สงั เคราะหข์ อ้ มูล วเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์ เช่น ข้อความบางตอนในพระราช กระบวนการคิดอย่าง เวลา ๑ คาบ ขอ้ มูลทางประวตั ิศาสตร์ได้ พงศาวดารอยุธยา จดหมายเหตุ มีวิจารณญาณ ชาวต่างชาติ ๒) ความสาคัญของการวิเคราะห์ ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ๑๐. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ ๑๐.๑ สื่อการเรยี นรู้ ๑) หนังสือเรยี น ประวัตศิ าสตร์ ม.๒ ๒) ใบความรู้ เรือ่ ง การประเมินคุณค่าของหลกั ฐาน ๓) ใบความรู้ เรื่อง แนวคดิ เกี่ยวกับการตีความทางประวัตศิ าสตร์ ๔) เอกสารประกอบการสอน ๕) บตั รภาพ ๖) บัตรคา ๗) ใบงานท่ี ๑.๑ เรอ่ื ง การประเมนิ คุณค่าของหลักฐาน ๘) ใบงานที่ ๑.๒ เร่อื ง การตีความทางประวัติศาสตร์ ๙) ใบงานที่ ๑.๓ เรอื่ ง การวิเคราะห์และสังเคราะหข์ ้อมลู ๑๐.๒ แหล่งการเรียนรู้ -
แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง ความสาคญั ของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องทส่ี ดุ เพียงข้อเดียว ๑. ข้อใดเปน็ ขนั้ ตอนแรกของวธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ ๖. เรอ่ื งราวที่ปรากฏในพงศาวดารจะเป็นเรอื่ งราว ก. การรวบรวมหลกั ฐาน เกี่ยวกบั อะไรเปน็ สว่ นใหญ่ ข. การกาหนดหัวเรื่องทจี่ ะศกึ ษา ก. สงครามกับเพ่ือนบ้าน ค. การประเมินคณุ คา่ ของหลักฐาน ข. ความเปน็ อยู่ของไพร่ฟา้ ง. การเรยี บเรยี งหรอื การนาเสนอ ค. การเผยแผพ่ ระพุทธศาสนา ๒. เพราะเหตุใด จึงต้องมีการประเมนิ คุณคา่ หลักฐานทาง ง. พระราชกรณยี กจิ ของกษตั ริย์ ประวัตศิ าสตร์ ๗. เร่ืองราวของมะกะโทท่เี ข้ามารับราชการในสมยั ก. หลกั ฐานอาจเก่าหรือใหม่ พระร่วง จัดเปน็ หลักฐานประเภทใด ข. หลักฐานอาจจรงิ หรือเทจ็ ก. พงศาวดาร ค. หลักฐานอาจมีหรือไม่มี ข. บนั ทกึ ชาวต่างชาติ ง. หลักฐานอาจมากหรือน้อย ค. หลกั ฐานโบราณคดี ๓. ถา้ มนี ักท่องเท่ียวชาวต่างชาตเิ ดินทางเข้ามาประเทศไทย ง. ตานานหรอื นทิ านพ้นื บ้าน แล้วเขียนหนังสือบรรยายว่าประเทศไทยล้าหลัง ด้อย ๘. ลักษณะนิสยั ใด ทีม่ ีความจาเป็นน้อยสาหรับ พัฒนา เพราะยังมีการกินอาหารด้วยมือหรือไม่สวม นักประวัติศาสตร์ เส้ือผ้า นักเรียนคิดว่า ข้อความนี้จะใช้เป็นหลักฐานทาง ก. ชอบสงั เกต ข. ชอบค้นหา ประวตั ศิ าสตรใ์ นอนาคตได้หรอื ไม่ ค. ชอบจดบนั ทกึ ง. ชอบวาดภาพ ก. ไมไ่ ด้ เพราะเป็นหลักฐานเท็จ ๙. เรอ่ื งราวในประวตั ิศาสตร์ทเี่ กิดขน้ึ มาแลว้ จะมคี วาม ข. ไม่ได้ เพราะผูเ้ ขียนไมใ่ ชค่ นไทย นา่ เชื่อถอื หากเป็นกรณีใด ค. ได้ เพราะเปน็ หลักฐานชน้ั ตน้ ก. ผ้เู ขยี นเป็นราชนกิ ลู ง. ได้ แตต่ ้องมีการตคี วามหลักฐาน ข. มีหลักฐานอา้ งองิ สนับสนุน ๔. บันทึกเหตุการณข์ อง วนั วลติ ชาวตา่ งชาติท่เี ดนิ ทาง ค. มกี ารเรยี บเรยี งอยา่ งสละสลวย เขา้ มาในสมยั อยธุ ยา เปน็ หลักฐานประเภทใด ง. ผู้เขยี นเป็นบุคคลท่ีมีความรู้ ความสามารถ ก. หลกั ฐานชั้นตน้ -เปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร ๑๐. บดิ าแห่งประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย คือใคร ข. หลกั ฐานช้ันรอง-เปน็ ลายลักษณ์อักษร ก. ศาสตราจารยข์ จร สุขพานิช ค. หลักฐานชัน้ ต้น-ไมเ่ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษร ข. สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ ง. หลกั ฐานชัน้ รอง-ไมเ่ ปน็ ลายลักษณ์อกั ษร ค. พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หัว ๕. หลกั ฐานท่ีเดน่ มากในเร่ืองของรายละเอียดและความ ง. พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ กรมหมืน่ นราธิปพงศ์ ถกู ต้องของเวลา คือหลักฐานใด ประพนั ธ์ ก. จารกึ ข. ตานาน เฉลยแบบทดสอบ ค. จดหมายเหตุ ง. พงศาวดาร ๑. ข ๒. ข ๓. ง ๔. ก ๕. ค ๖. ง ๗. ก ๘. ง ๙. ข ๑๐. ข
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑ เวลา ๑ คาบ เรือ่ ง วิธกี ารทางประวตั ิศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ๓ รหสั วิชา ส๒๒๑๐๒ ๑. สาระ/มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ ตวั ช้วี ดั ม.๒/๑ ประเมินความนา่ เชอื่ ถือของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ในลักษณะตา่ งๆ ๒. จดุ ประสงค์ ๑. อธิบายวธิ ีการทางประวัติศาสตรแ์ ต่ละขนั้ ตอนได้ ๓. สาระสาคญั ประวัตศิ าสตร์ เปน็ เร่ืองท่ีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ดังนน้ั ผูเ้ รียนรู้ประวัติศาสตรต์ ้องอาศัยวธิ ีการทาง ประวัติศาสตร์มาอธบิ ายเหตกุ ารณ์ทางประวตั ศิ าสตรอ์ ย่างรอบคอบ มเี หตผุ ล ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - วิธีการประเมินความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่างๆ อย่างง่ายๆ เช่น การศึกษาภูมิหลังของผู้ทาหรือผู้เกี่ยวข้อง สาเหตุ ช่วงระยะเวลา รูปลักษณ์ของหลักฐาน ทางประวตั ศิ าสตร์ เป็นตน้ ๔.๒ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น - ๕. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑. มวี นิ ัย : สามารถทากิจกรรมทีก่ าหนดใหค้ รบถ้วนไดต้ รงเวลา ๒. ใฝ่เรียนรู้ : สามารถค้นควา้ ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ จากแหลง่ เรียนรอู้ น่ื ๆ ได้ ๓. มุ่งมนั่ ในการทางาน : มคี วามม่งุ มัน่ ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทก่ี าหนดได้ ๔. รักความเปน็ ไทย : ภาคภูมใิ จในความเสยี สละของบรรพบรุ ษุ ชาติไทย คุณลกั ษณะผเู้ รยี น ตามหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล ☑ ลา้ หน้าทางความคิด : ปฏบิ ัติตนตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียงได้ ☑ ผลิตงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ : ทาปา้ ยนเิ ทศ เร่ือง ความสาคัญของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ ☑ รว่ มกนั รบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมโลก : สามารถนาความร้เู ก่ียวกบั กฎหมายไปปฏิบัติได้ถูกต้อง อัตลักษณ์โรงเรียน : ไหว้อ่อนน้อม เกบ็ ออมเป็นนิจ
บรู ณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักความพอประมาณ หลักความมีเหตุผล หลกั การมภี มู ิคุ้มกัน นักเรียนสามารถใช้เวลาว่างใน นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นักเรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ระหว่างเรียนให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติต่อต่อผู้อ่ืน ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ และคมุ้ ค่า เหมาะสม สามารถอยรู่ ว่ มกับผูอ้ ื่นไดด้ ี เง่ือนไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม อธิบายวิธีการทางประวัติศาสตร์แต่ละข้ันตอน ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ได้ ซ่ือสัตย์ มวี ินยั มงุ่ มนั่ ในการทางาน บรู ณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรูเ้ ร่ือง วธิ กี ารทางประวตั ิศาสตร์ เผยแพร่ใหก้ บั สมาชิก ประชาคมอาเซียนได้ ค่านิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ : ภาคภมู ใิ จในความเสยี สละของบรรพบุรุษชาตไิ ทย มศี ลี ธรรม รักษาความสตั ย์ : ยดึ กฎหมายในการดาเนินชีวิต ไมท่ าให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มีสตริ ู้ตวั รู้คิด ร้ทู า : ไมล่ ะเมดิ สิทธิของบคุ คลอ่ืน รูจ้ ักดารงตนอยโู่ ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง : ดาเนนิ ชีวิตอยบู่ นพ้นื ฐานความพอเพียง ๖. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๖.๑ ความสามารถในการส่ือสาร : การนาเสนอชน้ิ งาน ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๑) ทักษะการรวบรวมข้อมูล ๓) ทักษะการสรุปลงความเหน็ ๒) ทกั ษะการวเิ คราะห์ ๔) ทักษะการสรา้ งความรู้ ๖.๓ ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต : กระบวนการทางานกล่มุ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรู้แบบร่วมมอื : เทคนคิ การแบ่งปัน คาบท่ี ๑ ๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๑ ๒. ครสู มุ่ เรยี กนักเรยี นมาจบั บัตรคากรณีตัวอยา่ งขั้นตอนทางประวัตศิ าสตร์ แลว้ อ่านให้เพือ่ นฟัง ๓. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เป็นวิธีการทางประวัติศาสตร์ขั้นตอนใด และวิธีการ ทางประวตั ิศาสตรใ์ นแต่ละขั้นตอนเป็นอยา่ งไร
๔. ครแู บ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ ๔-๕ คน แล้วให้แตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั ศึกษาความรเู้ ร่ือง วิธีการทาง ประวตั ิศาสตร์ และสรปุ ความรู้ท่ีได้ลงในแบบบันทึกการอา่ น ๕. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภปิ รายความร้ทู ไ่ี ด้จากการศึกษาจนทกุ คนมคี วามเข้าใจชัดเจนตรงกัน หลงั จากนน้ั ครูแจกแบบทดสอบใหน้ กั เรียนแตล่ ะคน พรอ้ มทง้ั กาหนดเวลา ในการทาไมเ่ กนิ ๑๐ นาที ๖. ครูเฉลยคาตอบ และให้นักเรียนนาคะแนนของสมาชิกทุกคนมารวมกันเป็นคะแนนของกลุ่ม จากน้ันครูประกาศชมเชยกลุ่มที่มีคะแนนสูงสุด เพื่อเสริมกาลังใจ และร่วมกับนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง วิธีการทางประวตั ศิ าสตร์ ๘. การวัดและการประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจแบบบันทึกการอา่ น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๑ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ ๒ สงั เกตความมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการ รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ ทางาน และรักความเปน็ ไทย แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. สือ่ /แหล่งเรยี นรู้ ๙.๑ ส่ือการเรยี นรู้ ๑) หนงั สือเรียน ประวตั ศิ าสตร์ ม.๒ ๒) บตั รคา ๓) แบบทดสอบ เร่ือง วิธีการทางประวัตศิ าสตร์ ๙.๒ แหลง่ การเรยี นรู้ - (นายพนิ จิ ศรสี ุภาพ) ผู้เขียนแผนการจดั การเรียนรู้
๑๐. ความคิดเห็นผู้ตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ๑. ทกุ องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนร้สู อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้วี ัด เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิม่ เติม............................................................................................... ๒. กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดับขน้ั ตอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพม่ิ เติม............................................................................................... ๓. สือ่ และอุปกรณ์สอดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพ่ิมเติม............................................................................................... ๔. เวลาที่ใชใ้ นการสอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิ่มเติม............................................................................................... ๕. การวัดและประเมินผล เหมาะสม ควรแก้ไข/เพม่ิ เตมิ ............................................................................................... (นางสาวมทุ ติ า ย่องไทยสง) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑. บันทึกผลการเรยี นรู้ ๑๑.๑ นกั เรยี นที่ผ่านตวั ชี้วัด จานวน.............................คน คดิ เป็นร้อยละ........................ ๑๑.๒ นกั เรียนทไี่ มผ่ ่านตัวช้ีวัด จานวน.............................คน คดิ เป็นร้อยละ........................ ๑๑.๒.๑ เดก็ ชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ๑๑.๒.๒ เด็กชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒. ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพนิ ิจ ศรสี ุภาพ) ผจู้ ัดการเรยี นรู้ ๑๓. ความเห็นของผู้นเิ ทศการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวมุทิตา ย่องไทยสง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ เวลา ๑ คาบ เรือ่ ง หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ รายวชิ า ประวตั ิศาสตร์ ๓ รหัสวชิ า ส๒๒๑๐๒ ๑. สาระ/มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ ตวั ชีว้ ดั ม.๒/๑ ประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ในลกั ษณะต่างๆ ๒. จุดประสงค์ ๒) ระบุหลกั ฐานทางประวัติศาสตรแ์ ต่ละประเภทได้ ๓. สาระสาคญั หลักฐานทางประวัติศาสตร์มีความสาคัญในข้ันตอนของวิธีการทางประวัติศาสตร์เพราะจะทาให้ได้ งานเขยี นทางประวัติศาสตร์ทีน่ า่ เชื่อถอื และเป็นประโยชนท์ างวิชาการตอ่ ไป ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ สาระการเรียนรู้แกนกลาง - วธิ ีการประเมินความน่าเช่ือถอื ของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรใ์ นลักษณะต่างๆ อย่างง่ายๆ เช่น การศึกษาภูมิหลังของผู้ทาหรือผู้เก่ียวข้อง สาเหตุ ช่วงระยะเวลา รูปลักษณ์ของหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ เป็นตน้ ๔.๒ สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ - ๕. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มวี ินัย : สามารถทากจิ กรรมที่กาหนดใหค้ รบถว้ นได้ตรงเวลา ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ : สามารถค้นคว้าข้อมลู เพ่มิ เติมจากแหลง่ เรียนรู้อื่นๆ ได้ ๓. ม่งุ มั่นในการทางาน : มคี วามมุ่งม่ันในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมท่ีกาหนดได้ ๔. รักความเปน็ ไทย : ภาคภูมิใจในความเสียสละของบรรพบุรุษชาติไทย คณุ ลักษณะผู้เรียน ตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ☑ ล้าหนา้ ทางความคิด : ปฏิบัตติ นตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งได้ ☑ ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ : ทาป้ายนิเทศ เร่ือง ความสาคญั ของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ☑ รว่ มกันรับผิดชอบตอ่ สงั คมโลก : การนาความรู้ไปปรับใชใ้ นสงั คม อตั ลักษณ์โรงเรียน : ไหว้ออ่ นน้อม เก็บออมเปน็ นจิ
บูรณาการกบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลักความพอประมาณ หลักความมเี หตผุ ล หลกั การมีภมู คิ ุ้มกนั นักเรียนสามารถใช้เวลาว่างใน นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นกั เรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ระหว่างเรียนให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติต่อต่อผู้อ่ืน ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ และคุ้มคา่ เหมาะสม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนไดด้ ี เง่อื นไขความรู้ เง่ือนไขคุณธรรม ระบุหลักฐานทางประวัติศาสตร์แต่ละประเภท ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ได้ ซื่อสตั ย์ มีวินัย มุ่งมน่ั ในการทางาน บูรณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรู้เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ เผยแพร่ให้กับ สมาชกิ ประชาคมอาเซยี นได้ ค่านยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ : ภาคภมู ใิ จในความเสียสละของบรรพบุรุษชาติไทย มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ : ยดึ กฎหมายในการดาเนินชีวติ ไมท่ าใหผ้ ู้อื่นเดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มสี ติรตู้ วั รคู้ ดิ รู้ทา : ไม่ละเมิดสทิ ธิของบคุ คลอน่ื รู้จกั ดารงตนอยโู่ ดยใช้หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง : ดาเนินชวี ติ อยู่บนพื้นฐานความพอเพียง ๖. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการสอ่ื สาร : การนาเสนอช้ินงาน ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๑) ทักษะการรวบรวมข้อมูล ๓) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น ๒) ทักษะการวเิ คราะห์ ๔) ทักษะการสรา้ งความรู้ ๖.๓ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ : กระบวนการทางานกลมุ่ ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ สี อนโดยใช้ บทเรียนสาเรจ็ รูป คาบที่ ๒ ๑. ครูแจกบัตรภาพหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้นักเรียน กลุ่มละ ๕ ใบ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ปรึกษาหารือและจาแนกประเภทของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ออกเป็นกลุ่มให้ถูกต้องและใช้เวลาน้อยที่สุด โดยจาแนกตามหัวขอ้ ต่อไปนี้
✤ หลกั ฐานทเ่ี ป็นลายลกั ษณ์อักษร ✤ หลกั ฐานทไ่ี มเ่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษร ๒. ครูแจกบทเรียนสาเร็จรูปให้นักเรียน คนละ ๑ ชุด แล้วอธิบายให้นักเรียนเข้าใจวิธีการเรียนด้วย บทเรียนสาเรจ็ รูปโดยใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิตามคาสัง่ ในบทเรยี นสาเร็จรปู อย่างเครง่ ครดั ๓. ครใู ห้นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนบทเรียนสาเร็จรูป เร่อื ง หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ ๔. นักเรียนแต่ละคนศึกษาความรู้ และตอบคาถามในบทเรียนสาเร็จรูป โดยครูกาหนดเวลาใน การศึกษาประมาณ ๓๐ นาที หรือตามความเหมาะสม ๕. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ือง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลังจากน้ันให้นักเรียนทา แบบทดสอบหลังเรียนบทเรียนสาเร็จรูป เรื่อง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ แล้วครูประเมินผลการเรียนขอ ง นักเรยี นแต่ละคนโดยการตรวจคาตอบในบทเรยี นสาเรจ็ รูป ๘. การวัดและการประเมนิ ผล วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ ๒ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม รายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทางาน และรักความเป็นไทย แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม ระดับคุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. สือ่ /แหล่งเรียนรู้ ๙.๑ สอื่ การเรยี นรู้ ๑) หนังสอื เรียน ประวตั ศิ าสตร์ ม.๒ ๒) บทเรยี นสาเรจ็ รปู เร่ือง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ๓) แบบทดสอบ เรื่อง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ๔) บัตรภาพ ๙.๒ แหล่งการเรยี นรู้ - (นายพนิ ิจ ศรสี ภุ าพ) ผ้เู ขียนแผนการจัดการเรียนรู้
๑๐. ความคิดเห็นผู้ตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ๑. ทกุ องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนร้สู อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้วี ัด เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิม่ เติม............................................................................................... ๒. กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดับขน้ั ตอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพม่ิ เติม............................................................................................... ๓. สือ่ และอุปกรณ์สอดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพ่ิมเติม............................................................................................... ๔. เวลาที่ใชใ้ นการสอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิ่มเติม............................................................................................... ๕. การวัดและประเมินผล เหมาะสม ควรแก้ไข/เพม่ิ เตมิ ............................................................................................... (นางสาวมทุ ติ า ยอ่ งไทยสง) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑. บนั ทึกผลการเรยี นรู้ ๑๑.๑ นกั เรียนที่ผา่ นตัวช้ีวดั จานวน.............................คน คดิ เป็นร้อยละ........................ ๑๑.๒ นักเรียนทไี่ ม่ผ่านตัวชี้วดั จานวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ........................ ๑๑.๒.๑ เด็กชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ๑๑.๒.๒ เด็กชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒. ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพนิ ิจ ศรสี ุภาพ) ผูจ้ ัดการเรียนรู้ ๑๓. ความเห็นของผู้นิเทศการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวมทุ ติ า ยอ่ งไทยสง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓ เวลา ๑ คาบ เรือ่ ง การประเมินคุณคา่ ของหลักฐาน ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ รายวชิ า ประวตั ศิ าสตร์ ๓ รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ ๑. สาระ/มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ัด สาระที่ ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ ตวั ช้ีวัด ม.๒/๑ ประเมินความน่าเช่ือถอื ของหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ในลักษณะต่างๆ ๒. จดุ ประสงค์ ๓) จาแนกความแตกตา่ งระหว่างความจรงิ กบั ขอ้ เท็จจริงของหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ไทยได้ ๓. สาระสาคญั หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ มคี วามสาคญั ในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ เปน็ การแสวงหาความจรงิ จาก หลักฐานประวัติศาสตร์ ดังน้ันการประเมินคุณค่าของหลักฐานประวัติศาสตร์ว่าจะมีค่ามากน้อยเพียงใดจะทา ใหห้ ลกั ฐานนนั้ เกดิ ความนา่ เชอื่ ถอื มากขน้ึ ๔. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ สาระการเรียนร้แู กนกลาง ๑) ตัวอย่างการประเมินความน่าเช่ือถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทยที่อยู่ในท้องถ่ินของ ตนเองหรอื หลักฐานสมัยอยธุ ยา (เชอื่ มโยงกบั มฐ. ส ๔.๓) ๒) การแยกแยะระหวา่ งข้อมลู กับความคดิ เหน็ รวมท้งั ความจริงกับข้อเท็จจรงิ จากหลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ ๓.๒ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - ๕. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มวี ินัย : สามารถทากจิ กรรมที่กาหนดให้ครบถ้วนได้ตรงเวลา ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ : สามารถค้นคว้าข้อมูลเพมิ่ เติมจากแหลง่ เรียนรู้อน่ื ๆ ได้ ๓. มุ่งมนั่ ในการทางาน : มีความมุง่ มั่นในการปฏิบตั ิกิจกรรมที่กาหนดได้ ๔. รกั ความเป็นไทย : ภาคภมู ใิ จในความเสียสละของบรรพบุรุษชาติไทย คณุ ลักษณะผเู้ รยี น ตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ☑ ลา้ หนา้ ทางความคดิ : มีความอ่อนน้อมถ่อมตน และมีสมั มาคารวะ ☑ ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ : ทาปา้ ยนเิ ทศ เรอ่ื ง ความสาคญั ของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ☑ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก : นาองค์ความรไู้ ปใชพ้ ัฒนาตนเองและอยู่ในสงั คมได้ อัตลกั ษณ์โรงเรยี น : ไหวอ้ ่อนน้อม เกบ็ ออมเป็นนิจ
บูรณาการกับปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั ความพอประมาณ หลกั ความมเี หตผุ ล หลกั การมีภูมิคุ้มกัน นักเรียนสามารถใช้เวลาว่างใน นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นักเรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ระหว่างเรียนให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติต่อต่อผู้อ่ืน ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ และคมุ้ ค่า เหมาะสม สามารถอยูร่ ่วมกบั ผูอ้ ่ืนได้ดี เงอื่ นไขความรู้ เง่อื นไขคุณธรรม จาแนกความแตกต่างระหว่างความจริงกับ ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ข้อเท็จจริงของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ไทย ซ่ือสตั ย์ มวี นิ ัย มุ่งมนั่ ในการทางาน ได้ บูรณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรเู้ รื่อง การประเมินคุณคา่ ของหลักฐาน เผยแพร่ใหก้ ับ สมาชกิ ประชาคมอาเซียนได้ คา่ นยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ : ภาคภมู ิใจในความเสียสละของบรรพบรุ ุษชาติไทย มีศีลธรรม รกั ษาความสัตย์ : ยดึ กฎหมายในการดาเนินชีวติ ไมท่ าใหผ้ ู้อนื่ เดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มีสติรตู้ ัว รคู้ ิด ร้ทู า : ไม่ละเมิดสิทธิของบคุ คลอื่น รจู้ ักดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : ดาเนินชวี ติ อยู่บนพืน้ ฐานความพอเพยี ง ๖. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๖.๑ ความสามารถในการส่ือสาร : การนาเสนอชนิ้ งาน ๖.๒ ความสามารถในการคิด ๑) ทักษะการรวบรวมข้อมูล ๓) ทักษะการสรุปลงความเห็น ๒) ทกั ษะการวิเคราะห์ ๔) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ ๖.๓ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ : กระบวนการทางานกล่มุ ๗. กิจกรรมการเรยี นรู้ คาบท่ี ๓ วิธีการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ : Inquiry Method : ๕E ๑. ครูแจกบัตรภาพให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพว่า ภาพดังกล่าวเป็น ของจริงหรอื ของเลียนแบบ พรอ้ มอธบิ ายเหตผุ ล
๒. ครูอ่านโฆษณาการปลอมแปลงวุฒิการศึกษาให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียนช่วยกันแสดงความ คดิ เห็นเกีย่ วกบั ข้อมูลดังกล่าววา่ เชอื่ ถอื ไดห้ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ๓. ครูแจกใบความรู้ เร่ือง การประเมินคุณค่าของหลักฐาน ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจาก แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑) ๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่อง การประเมินคุณค่าของหลักฐาน จากหนังสือเรียน และใบความรู้ แล้วบนั ทึกความร้ทู ไี่ ดล้ งในแบบบันทกึ การอา่ น ๕. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบงานท่ี ๑.๑ เร่ือง การประเมินคุณค่าของหลักฐาน เม่ือทาเสร็จ แล้วครูและนักเรียนช่วยกันตรวจสอบและเฉลยความถูกต้อง หากมีข้อบกพร่องให้ช่วยกันเติมเต็มคาตอบให้ สมบูรณ์ ๘. การวดั และการประเมินผล วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ ๑.๑ ตรวจแบบบนั ทึกการอ่าน ใบงานที่ ๑.๑ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบบันทึกการอ่าน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม สังเกตความมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มั่นในการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดบั คุณภาพ ๒ ทางาน และรักความเปน็ ไทย รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ๙. สอื่ /แหล่งเรียนรู้ ๙.๑ ส่ือการเรยี นรู้ ๑) หนังสือเรยี น ประวตั ิศาสตร์ ม.๒ ๒) ใบความรู้ เรอ่ื ง การประเมินคุณคา่ ของหลักฐาน ๓) ตวั อย่างการโฆษณาปลอมแปลงวุฒิการศึกษา ๔) บตั รภาพ ๕) ใบงานท่ี ๑.๑ เรอ่ื ง การประเมนิ คณุ คา่ ของหลักฐาน ๙.๒ แหลง่ การเรียนรู้ - (นายพินิจ ศรีสภุ าพ) ผเู้ ขยี นแผนการจัดการเรียนรู้
๑๐. ความคิดเห็นผู้ตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ๑. ทกุ องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนร้สู อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้ีวดั เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิม่ เติม............................................................................................... ๒. กิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นไปตามลาดับขน้ั ตอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพม่ิ เติม............................................................................................... ๓. สือ่ และอุปกรณ์สอดคลอ้ งกับกิจกรรมการเรยี นการสอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพ่ิมเติม............................................................................................... ๔. เวลาที่ใชใ้ นการสอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิ่มเติม............................................................................................... ๕. การวัดและประเมินผล เหมาะสม ควรแก้ไข/เพม่ิ เตมิ ............................................................................................... (นางสาวมุทิตา ยอ่ งไทยสง) หัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
๑๑. บันทึกผลการเรยี นรู้ ๑๑.๑ นกั เรยี นที่ผ่านตัวชวี้ ดั จานวน.............................คน คิดเปน็ ร้อยละ........................ ๑๑.๒ นกั เรียนทไี่ มผ่ ่านตัวชี้วัด จานวน.............................คน คิดเป็นรอ้ ยละ........................ ๑๑.๒.๑ เดก็ ชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ๑๑.๒.๒ เด็กชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒. ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพนิ ิจ ศรสี ุภาพ) ผู้จัดการเรยี นรู้ ๑๓. ความเห็นของผู้นเิ ทศการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวมุทิตา ยอ่ งไทยสง) หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๔ เวลา ๑ คาบ เรือ่ ง การตีความหลักฐาน ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๒ รายวิชา ประวตั ิศาสตร์ ๓ รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ ๑. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด สาระที่ ๔ ประวัติศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ ตัวช้ีวดั ม.๒/๓ เหน็ ความสาคญั ของการตีความหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ท่นี ่าเช่ือถอื ๒. จุดประสงค์ ๔) อธบิ ายความสาคัญของการตคี วามหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ได้ ๓. สาระสาคญั การตีความทางประวัติศาสตร์ เป็นขั้นตอนในการแปลความ เรียบเรียง และอธิบายความเก่ียวกับ ความหมาย ที่แท้จริงของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ เพ่ือให้เปน็ ทเี่ ขา้ ใจตรงกนั ๔. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง ๑) ตวั อย่างการตีความข้อมูลจากหลกั ฐานที่แสดงเหตุการณส์ าคญั ในสมัยอยธุ ยาและธนบรุ ี ๒) ความสาคัญของการตีความทางประวัติศาสตร์ ๓.๒ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ - ๕. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มวี ินยั : สามารถทากิจกรรมท่ีกาหนดให้ครบถ้วนได้ตรงเวลา ๒. ใฝ่เรียนรู้ : สามารถคน้ คว้าข้อมูลเพิม่ เติมจากแหล่งเรียนรู้อืน่ ๆ ได้ ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน : มคี วามมุ่งม่ันในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมทก่ี าหนดได้ ๔. รักความเปน็ ไทย : ภาคภูมิใจในความเสยี สละของบรรพบุรุษชาตไิ ทย คุณลกั ษณะผเู้ รียน ตามหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล ☑ ลา้ หน้าทางความคิด : รู้จกั แกไ้ ขปัญหาท่ีพบในระหวา่ งเรยี นได้ ☑ ผลติ งานอย่างสรา้ งสรรค์ : ทาปา้ ยนเิ ทศ เรื่อง ความสาคัญของหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ ☑ รว่ มกันรับผดิ ชอบตอ่ สงั คมโลก : สามารถนาความรเู้ รื่องปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ไดด้ ี อัตลกั ษณโ์ รงเรียน : ไหวอ้ อ่ นนอ้ ม เก็บออมเปน็ นิจ
บูรณาการกบั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หลกั ความพอประมาณ หลกั ความมเี หตุผล หลักการมภี มู ิคุ้มกนั นักเรียนสามารถใช้เวลาว่างใน นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นักเรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ระหว่างเรียนให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติต่อต่อผู้อื่น ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ และคุ้มค่า เหมาะสม สามารถอย่รู ่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ดี เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม อธบิ ายความสาคญั ของการตีความหลักฐานทาง ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ประวตั ิศาสตรไ์ ด้ ซ่อื สัตย์ มีวินัย มุ่งมน่ั ในการทางาน บูรณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรู้เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติของไทย เผยแพร่ให้กับ สมาชิกประชาคมอาเซยี นได้ คา่ นยิ มหลักของคนไทย ๑๒ ประการ มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ : ภาคภมู ใิ จในความเสียสละของบรรพบรุ ุษชาติไทย มีศลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์ : ยดึ กฎหมายในการดาเนินชวี ิต ไมท่ าให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มีสติรู้ตวั รคู้ ิด รู้ทา : ไม่ละเมดิ สิทธขิ องบคุ คลอ่นื รูจ้ ักดารงตนอย่โู ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง : ดาเนนิ ชีวติ อยู่บนพืน้ ฐานความพอเพยี ง ๖. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๔.๑ ความสามารถในการสือ่ สาร : การนาเสนอช้ินงาน ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๑) ทักษะการรวบรวมข้อมูล ๓) ทักษะการสรปุ ลงความเหน็ ๒) ทักษะการวเิ คราะห์ ๔) ทกั ษะการสรา้ งความรู้ ๔.๓ ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต : กระบวนการทางานกลมุ่ ๗. กิจกรรมการเรียนรู้ คาบท่ี ๔ วธิ ีสอนแบบ ธรรมสากัจฉา ๑. ครูให้นักเรียนช่วยกันอธิบายว่า การตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ควรมีหลักการอย่างไร ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง และอธิบายใหน้ ักเรียนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจน ๒. ครแู จกใบความรู้ เรื่อง แนวคิดเกี่ยวกบั การตคี วามทางประวตั ิศาสตร์ ให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกัน ศึกษา
๓. ครูแจกบัตรคา ซ่ึงเป็นข้อความบางตอนของหลักฐานทางประวัติศาสตร์เพ่ือให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑) ร่วมกันทดลองตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยศึกษาค้นคว้า จาก หนงั สอื เรียน และใบความรู้ ๔. สมาชกิ แต่ละคนในกลมุ่ นาความรู้ท่ไี ด้จากการศึกษามาผลัดกนั อธิบายแลกเปลี่ยนความรูก้ ันภายใน กลมุ่ จนสมาชกิ ทกุ คนมีความเขา้ ใจชัดเจน ๕. ครูแจกใบงานท่ี ๑.๒ เรื่อง การตีความทางประวัติศาสตร์ ให้สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มช่วยกันทา ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงานในใบงานท่ี ๑.๒ หน้าชั้นเรียน ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะ ๖. ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปความสาคญั ของการตีความทางประวตั ิศาสตร์ ๘. การวดั และการประเมินผล วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี ๑.๒ ประเมินการนาเสนอผลงาน ใบงานท่ี ๑.๒ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินการนาเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ สังเกตความมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางาน ระดับคุณภาพ ๒ ทางาน และรักความเปน็ ไทย รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ ๙. ส่อื /แหลง่ เรยี นรู้ ๙.๑ สือ่ การเรยี นรู้ ๑) หนังสือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ม.๒ ๒) ใบความรู้ เรือ่ ง แนวคิดเกยี่ วกับการตีความทางประวัติศาสตร์ ๓) นิทานเรอ่ื ง กระต่ายต่ืนตมู ๔) บตั รคา ๕) ใบงานที่ ๑.๒ เร่ือง การตีความทางประวัติศาสตร์ ๙.๒ แหล่งการเรยี นรู้ - (นายพนิ ิจ ศรีสภุ าพ) ผเู้ ขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้
๑๐. ความคิดเห็นผตู้ รวจแผนการจัดการเรยี นรู้ ๑. ทกุ องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนร้สู อดคล้องกบั มาตรฐานและตัวช้ีวดั เหมาะสม ควรแก้ไข/เพ่ิมเตมิ ............................................................................................... ๒. กิจกรรมการเรยี นการสอนเปน็ ไปตามลาดับข้ันตอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิม่ เตมิ ............................................................................................... ๓. สือ่ และอปุ กรณส์ อดคลอ้ งกับกจิ กรรมการเรียนการสอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพม่ิ เติม............................................................................................... ๔. เวลาท่ีใช้ในการสอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพ่ิมเติม............................................................................................... ๕. การวัดและประเมนิ ผล เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิ่มเติม............................................................................................... (นางสาวมุทิตา ย่องไทยสง) หัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑. บันทึกผลการเรยี นรู้ ๑๑.๑ นกั เรยี นที่ผา่ นตวั ชี้วัด จานวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ........................ ๑๑.๒ นกั เรียนทไี่ ม่ผ่านตวั ช้ีวดั จานวน.............................คน คิดเป็นร้อยละ........................ ๑๑.๒.๑ เดก็ ชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ๑๑.๒.๒ เด็กชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒. ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพนิ จิ ศรสี ุภาพ) ผูจ้ ัดการเรียนรู้ ๑๓. ความเหน็ ของผู้นเิ ทศการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวมทุ ติ า ยอ่ งไทยสง) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๕ เวลา ๑ คาบ เร่อื ง การวเิ คราะห์และสังเคราะหข์ อ้ มูล ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ ๓ รหัสวิชา ส๒๒๑๐๒ ๑. สาระ/มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด สาระที่ ๔ ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ ตัวช้ีวัด ม.๒/๒ วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความจริงกับข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทาง ประวตั ิศาสตร์ ๒. จุดประสงค์ ๕) บอกความสาคญั ของการวิเคราะหแ์ ละสังเคราะห์ข้อมลู ทางประวัตศิ าสตร์ได้ ๓. สาระสาคัญ การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล มีความสาคัญต่อการค้นหาความจริงประวัตศิ าสตร์ และอานวย ความสะดวกในการนาเสนอขอ้ มูล ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๑) ตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ในสมัยอยุธยาและธนบุรี (เชื่อมโยงกับ มฐ. ส ๔.๓) เชน่ ขอ้ ความบางตอนในพระราชพงศาวดารอยุธยา จดหมายเหตชุ าวตา่ งชาติ ๒) ความสาคญั ของการวิเคราะห์ข้อมลู ทางประวัตศิ าสตร์ ๔.๒ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน - ๕. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวนิ ัย : สามารถทากิจกรรมท่ีกาหนดใหค้ รบถว้ นได้ตรงเวลา ๒. ใฝ่เรียนรู้ : สามารถค้นควา้ ข้อมลู เพมิ่ เติมจากแหล่งเรียนรู้อ่ืนๆ ได้ ๓. มุ่งม่นั ในการทางาน : มคี วามมงุ่ มน่ั ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมที่กาหนดได้ ๔. รกั ความเป็นไทย : ภาคภูมใิ จในความเสียสละของบรรพบรุ ุษชาตไิ ทย คณุ ลกั ษณะผเู้ รียน ตามหลักสูตรโรงเรยี นมาตรฐานสากล ☑ ล้าหนา้ ทางความคดิ : รจู้ กั แกไ้ ขปัญหาทพี่ บในระหวา่ งเรยี นได้ ☑ ผลิตงานอย่างสรา้ งสรรค์ : ทาป้ายนเิ ทศ เร่ือง ความสาคัญของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ ☑ รว่ มกนั รับผิดชอบต่อสังคมโลก : สามารถนาความรู้เร่ืองปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใชไ้ ดด้ ี อตั ลักษณ์โรงเรยี น : ไหว้ออ่ นน้อม เกบ็ ออมเปน็ นจิ
บรู ณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลกั ความพอประมาณ หลักความมเี หตผุ ล หลักการมภี ูมิคุ้มกนั นักเรียนสามารถใช้เวลาว่างใน นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นักเรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ระหว่างเรียนให้เกิดประโยชน์ ปฏิบัติต่อต่อผู้อ่ืน ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ และคมุ้ ค่า เหมาะสม สามารถอยรู่ ว่ มกับผู้อื่นได้ดี เงอ่ื นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม บอกความสาคัญของการวิเคราะห์และ ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ สังเคราะห์ขอ้ มลู ทางประวตั ิศาสตร์ได้ ซ่ือสตั ย์ มีวินยั มุ่งมนั่ ในการทางาน บูรณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรู้เรื่อง ทรัพยากรธรรมชาติของไทย เผยแพร่ให้กับ สมาชิกประชาคมอาเซียนได้ คา่ นยิ มหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ : ภาคภูมิใจในความเสยี สละของบรรพบุรุษชาติไทย มศี ีลธรรม รกั ษาความสตั ย์ : ยึดกฎหมายในการดาเนินชีวิต ไมท่ าให้ผู้อ่ืนเดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มสี ติรู้ตัว ร้คู ดิ ร้ทู า : ไม่ละเมิดสทิ ธิของบคุ คลอ่นื รูจ้ กั ดารงตนอย่โู ดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง : ดาเนินชวี ิตอยู่บนพ้ืนฐานความพอเพยี ง ๖. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๔.๑ ความสามารถในการสอื่ สาร : การนาเสนอช้ินงาน ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๑) ทกั ษะการรวบรวมข้อมูล ๓) ทักษะการสรุปลงความเหน็ ๒) ทักษะการวิเคราะห์ ๔) ทักษะการสร้างความรู้ ๔.๓ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ : กระบวนการทางานกลุ่ม ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้ คาบที่ ๕ วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ ๑. ครูให้นักเรียนอ่านลิลิตตะเลงพ่าย ตอน ทัพหน้าไทยปะทะ หงสาวดี แล้วแปลสรุปเป็นใจความ สาคัญสั้นๆ จากนนั้ วิเคราะห์และสังเคราะห์ให้นกั เรยี นฟังว่ามีสาระสาคัญ คือ กล่าวถึงประเพณีการรบในสมัย กรงุ ศรอี ยธุ ยา ซง่ึ ขณะนัน้ อยู่ในรัชสมยั สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๒. ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาความรู้เรอ่ื ง การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล จากหนังสือเรียน แล้วบันทึก ลงในแบบบนั ทึกการอา่ น ๓. ครูขออาสาสมัครเพ่ือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการวิเคราะห์และสังเคราะห์หลักฐานทาง ประวัติศาสตร์ประเภทวรรณคดี ว่ามีข้อควรระวังอย่างไร โดยให้นักเรียนแยกแยะส่วนท่ีเป็นความจริง ข้อเท็จจริง และความคิดเห็นของผู้บันทึก รวมทั้งวิเคราะห์สาเหตุของเหตุการณ์และผลที่เกิดข้ึนหลังจาก เหตกุ ารณ์นน้ั ๔. ครูแจกใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลทางประวัตศิ าสตร์ ใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มศึกษา และเช่ือมโยงความเข้าใจของตนเองกับความรู้ใหม่ และแจกใบงานท่ี ๑.๓ เรื่อง การวิเคราะห์และสังเคราะห์ ข้อมูล ให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่ม (กล่มุ เดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑) ช่วยกันทา โดยศึกษาข้อมูลตัวอย่างจาก หนังสอื เรยี น ๕. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มผลัดกันนาเสนอใบงานท่ี ๑.๓ หน้าช้ันเรียน แล้วให้สมาชิกกลุ่มอื่น ช่วยกันวิจารณ์ผลงาน ของเพื่อน โดยจาแนกข้อดี ข้อด้อย พร้อมยกเหตุผลและข้อเสนอแนะประกอบการ วจิ ารณ์ ๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความสาคัญของการวิเคราะห์และสงั เคราะหข์ ้อมลู ทางประวัติศาสตร์ โดยใหน้ ักเรียนบนั ทึกขอ้ มูลลงในสมดุ และทาแบบทดสอบหลงั เรยี น ๘. การวัดและการประเมินผล วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ ๑.๓ ใบงานท่ี ๑.๓ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประเมินการนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์ และรักความเป็นไทย ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ ร้อยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์ ตรวจปา้ ยนเิ ทศ เร่อื ง ความสาคัญของหลกั ฐานทาง แบบประเมินปา้ ยนเิ ทศ เรือ่ ง ความสาคญั ของ ระดับคณุ ภาพ ๒ ผา่ นเกณฑ์ ประวัตศิ าสตร์ หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์
๙. สือ่ /แหลง่ เรียนรู้ ๙.๑ สอ่ื การเรยี นรู้ ๑) หนังสือเรียน ประวตั ศิ าสตร์ ม.๒ ๒) ใบความรู้ เร่ือง แนวคิดเกีย่ วกับการตีความทางประวตั ิศาสตร์ ๓) นิทานเรื่อง กระตา่ ยตนื่ ตมู ๔) บัตรคา ๕) ใบงานที่ ๑.๒ เรื่อง การตีความทางประวตั ศิ าสตร์ ๙.๒ แหลง่ การเรยี นรู้ - (นายพนิ ิจ ศรสี ภุ าพ) ผู้เขียนแผนการจดั การเรยี นรู้ ๑๐. ความคิดเหน็ ผตู้ รวจแผนการจัดการเรียนรู้ ๑. ทกุ องค์ประกอบของแผนการจัดการเรยี นรสู้ อดคลอ้ งกับมาตรฐานและตัวช้วี ดั เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพม่ิ เติม............................................................................................... ๒. กิจกรรมการเรยี นการสอนเปน็ ไปตามลาดับขน้ั ตอน เหมาะสม ควรแก้ไข/เพิ่มเติม............................................................................................... ๓. สือ่ และอปุ กรณ์สอดคลอ้ งกบั กจิ กรรมการเรียนการสอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพิ่มเติม............................................................................................... ๔. เวลาท่ใี ช้ในการสอน เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพิม่ เติม............................................................................................... ๕. การวดั และประเมนิ ผล เหมาะสม ควรแกไ้ ข/เพมิ่ เตมิ ............................................................................................... (นางสาวมุทติ า ย่องไทยสง) หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม
๑๑. บันทึกผลการเรยี นรู้ ๑๑.๑ นกั เรยี นที่ผ่านตัวชวี้ ดั จานวน.............................คน คิดเปน็ ร้อยละ........................ ๑๑.๒ นกั เรียนทไี่ มผ่ ่านตัวชว้ี ัด จานวน.............................คน คิดเป็นรอ้ ยละ........................ ๑๑.๒.๑ เดก็ ชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ๑๑.๒.๒ เด็กชาย/เด็กหญิง......................................................สาเหต.ุ ..................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๑๒. ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพนิ จิ ศรสี ุภาพ) ผูจ้ ัดการเรียนรู้ ๑๓. ความเห็นของผู้นเิ ทศการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวมทุ ิตา ย่องไทยสง) หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
แบบสรุปการบูรณากา หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง ความส คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ค่านยิ ม ๑๒ ประการ ๑. ใฝเ่ รียนรู้ ๑. มีความรักชาติ ศาสนา นักเรียนศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพ่ิมเติม หลัง พระมหากษัตริย์ จบการเรียนการสอน ภาคภูมใิ จในความเสียสละของบรรพบรุ ุษ ๒. มีวนิ ัย ชาติไทย นักเรียนปฏิบัติตามกฎระเบียบของ ๒. มศี ีลธรรม รกั ษาความสตั ย์ หอ้ งเรียน ยดึ กฎหมายในการดาเนินชวี ิต ไม่ทาให้ผ ๓. ม่งุ มั่นในการทางาน เดือดรอ้ น นักเรียนทางานที่ได้รับมอบหมายและส่ง ๓. มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมายผู้น ตามเวลาทีก่ าหนด รูจ้ ักการเคารพผใู้ หญ่ ๔. รกั ความเป็นไทย รจู้ ักออ่ นนอ้ มถอ่ มตน มสี ัมมาคารวะ นกั เรียนมีความภาคภมู ิใจในความเสียสละ ๔. มสี ตริ ู้ตัว รูค้ ดิ รู้ทา ของบรรพบรุ ุษไทย ดาเนินชีวิตของตัวเองและไม่ละเมิดส ของบุคคลอนื่ ๕. รูจ้ ักดารงตนอยู่โดยใชห้ ลักปรัชญา เศรษฐกจิ พอเพียง ดาเนินชีวติ อยู่บนพ้นื ฐานความพอเพยี ง (นางสาวมุทิตา ยอ่ งไทยสง) หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (นางชูศ ผู้อานวยการโรงเ
ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ สาคญั ของหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐกจิ พอเพียง โรงเรยี นวิถพี ุทธช้นั นา ๑. พอประมาณ ๑. นกั เรยี นน่งั สมาธิกอ่ นเรยี น นักเรียน รู้จักแบ่งเวลาในการเรียน ได้อย่าง ๒. ให้ผู้เรียนรู้จักประหยัด อดออม ษ ค้มุ คา่ และเหมาะสม แ ล ะ ร่ ว ม กั น รั ก ษ า ส า ธ า ร ณ ส ม บั ติ ๒. หลกั มเี หตุผล สว่ นรวมร่วมกนั นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และปฏิบัติต่อต่อ ๓. ใหผ้ ู้เรยี นมีนิสยั ใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน ผู้อื่น ผู้อืน่ ได้อย่างเหมาะสม ๓. หลักความมีภูมคิ ุ้มกัน น้อย ผู้ เ รี ย น ส า ม า ร ถ น า ค ว า ม รู้ ไ ป ใ ช้ ไ ด้ ใ น ชีวิตประจาวัน ได้อย่างถูกต้องและสามารถ อยู่ร่วมกบั ผู้อืน่ ได้ดี เง่อื นไขความรู้ อ ธิ บ า ย ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ห ลั ก ฐ า น ท า ง สิทธิ ประวตั ิศาสตร์ได้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ซอื่ สตั ย์ มีวนิ ัย มั่งมนั ในการทางาน (นางหนึ่งฤทัย โพตุ่น) หวั หนา้ กลมุ่ บริหารวชิ าการ ศรี คากัน) เรยี นหนองม่วงวิทยา
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ หนว่ ยการเรยี นรู้เรือ่ ง ที่ต้ังและสภาพภูมิศาสตรท์ ม่ี ผี ลต่อพัฒนาการ ของทวปี เอเชยี เวลา ๖ คาบ รายวชิ า ประวัติศาสตร์ ๓ รหสั วิชา ส๒๒๑๐๒ จานวน ๐.๕ หน่วยกิต กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ จานวนแผนการจดั การเรียนรู้รายคาบในหนว่ ยการเรยี นรนู้ ี้ ๕ แผน
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ เรือ่ ง ทีต่ ั้งและสภาพภมู ศิ าสตรท์ มี่ ีผลตอ่ พัฒนาการของทวีปเอเชยี รายวิชา ประวัติศาสตร์ ๓ รหสั วิชา ส๒๒๑๐๒ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลาเรียน ๖ ชัว่ โมง ๑. สาระ/มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชวี้ ัด สาระที่ ๔ ประวตั ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๒ ตัวช้วี ัด ม.๒/๑ อธิบายพฒั นาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคเอเชีย ๒. จดุ ประสงค์ ๑. อธบิ ายที่ตงั้ และสภาพทางภมู ิศาสตร์ของภมู ภิ าคตา่ งๆ ในทวีปเอเชียตะวนั ออกได้ ๒. สรุปพฒั นาการทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสงั คมของภมู ิภาคเอเชียตะวันออกได้ ๓. อธบิ ายทตี่ ั้งและสภาพทางภมู ศิ าสตร์ของภมู ภิ าคต่างๆ ในทวีปเอเชยี ใตไ้ ด้ ๔. สรุปพัฒนาการทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกจิ และสังคมของภมู ิภาคเอเชียใตไ้ ด้ ๕. อธบิ ายท่ตี ัง้ และสภาพทางภมู ิศาสตร์ของภูมภิ าคต่างๆ ในทวปี เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ได้ ๖. สรปุ พัฒนาการทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสงั คมของภมู ภิ าคเอเชียตะวันตกเฉยี ง ใตไ้ ด้ ๗. อธบิ ายทีต่ ้งั และสภาพทางภูมศิ าสตร์ของภูมภิ าคตา่ งๆ ในทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ได้ ๘. สรปุ พัฒนาการทางการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสงั คมของภูมิภาคเอเชยี ตะวันตกเฉยี ง ใตไ้ ด้ ๓. สาระสาคญั ที่ตั้งและสภาพภูมิศาสตร์ที่หลากหลายของทวีปเอเชีย มีอิทธิพลต่อพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ตลอดจนพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของภูมิภาคต่างๆ ในทวีปเอเชีย ๔. สาระการเรยี นรู้ ๔.๑ สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๑) ทต่ี งั้ และสภาพทางภูมิศาสตร์ของภมู ิภาคตา่ งๆ ในทวปี เอเชีย (ยกเว้นเอเชียตะวันออก เฉยี งใต)้ ทมี่ ีผลต่อพฒั นาการโดยสังเขป ๒) พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภูมภิ าคเอเชยี (ยกเวน้ เอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้) ๔.๒ สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่
๕. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ๑. มีวินัย : สามารถทากิจกรรมทีก่ าหนดใหค้ รบถ้วนได้ตรงเวลา ๒. ใฝ่เรียนรู้ : สามารถค้นควา้ ข้อมลู เพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้อนื่ ๆ ได้ ๓. มุ่งม่นั ในการทางาน : มีความมุ่งม่นั ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมทก่ี าหนดได้ คุณลักษณะผูเ้ รียน ตามหลักสูตรโรงเรียนมาตรฐานสากล ☑ ลา้ หน้าทางความคดิ : ปฏิบตั ิตนตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียงได้ ☑ ผลติ งานอยา่ งสร้างสรรค์ : นักเรียนทาแผน่ พบั “Asia Foucs” ☑ รว่ มกันรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมโลก : สามารถนาความรูเ้ ก่ียวกบั สภาพแวดลอ้ มไปใช้ปรับตัวในการ ดาเนินชวี ิตในสังคมได้ อัตลักษณ์โรงเรียน : ไหวอ้ ่อนน้อม เก็บออมเปน็ นิจ บรู ณาการกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักความพอประมาณ หลักความมีเหตุผล หลกั การมีภมู ิคุ้มกนั นักเรียนสามารถปรับตัวและ นักเรียนเลือกปฏิบัติตน และ นกั เรียนสามารถปฏิบัติตนตาม ดารงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อม ปฏิบัติต่อต่อผู้อ่ืน ได้อย่าง กฎระเบียบของโรงเรียนและ ทแี่ ตกต่างไดอ้ ยา่ งสมดุล เหมาะสม สามารถอยรู่ ่วมกับผอู้ ื่นได้ดี เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม นักเรียนสามารถวิเคราะห์ท่ีต้ังและสภาพ ผู้เรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง มีความ ภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาของทวีปเอเชีย ซื่อสตั ย์ มีวนิ ยั มงุ่ มนั่ ในการทางาน ในดา้ นตา่ งๆ บูรณาการประชาคมอาเซียน : สามารถนาความรู้เรื่อง ภูมิศาสตร์ประเทศไทย เผยแพร่ให้กับสมาชิก ประชาคมอาเซียนได้ ค่านิยมหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ : ภาคภมู ใิ จในความเสียสละของบรรพบุรุษชาติไทย มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ : ยึดกฎหมายในการดาเนินชีวติ ไม่ทาให้ผ้อู ืน่ เดือดร้อน มีระเบียบ วินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ : รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมา คารวะ มีสติร้ตู ัว รู้คิด ร้ทู า : ไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอ่นื รู้จกั ดารงตนอยูโ่ ดยใชห้ ลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง : ดาเนินชวี ิตอยบู่ นพนื้ ฐานความพอเพียง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124