Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารอ้างอิงเกณฑ์ 9

เอกสารอ้างอิงเกณฑ์ 9

Published by ครูนิด คิดเลข, 2020-12-24 00:38:45

Description: เอกสารอ้างอิงเกณฑ์ 9

Search

Read the Text Version

โรงเรยี นอนบุ าลชุมชนหนองบวั แดง วชิ า สงั คมศึกษา รหัสวชิ า ส 15101 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 ผจู้ ัดทา นายวชั รพล แสงสรุ ะ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นอนุบาลชุมชนหนองบวั แดง สานกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชัยภมู ิ เขต 1 กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรื่อง สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ และหนา้ ทีข่ องพลเมือง จำนวน 1 ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 1 พลเมืองดีของสังคม จำนวน 4 ช่วั โมง รำยวิชำ ส 15101 สังคมศกึ ษำ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผสู้ อน นำยวชั รพล แสงสุระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขำ้ ใจและปฏิบัตติ นตำมหน้ำทข่ี องกำรเปน็ พลเมืองดี มคี ่ำนยิ มท่ดี ีงำม และธำรงรกั ษำ ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอย่ำงสนั ติสุข ตวั ช้ีวัด ส 2.1 ป.5/1 ยกตัวอยำ่ งและปฏบิ ัติตนตำมสถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรีภำพและ หน้ำที่ในฐำนะพลเมืองดี จุดประสงค์การเรยี นร้สู ตู่ ัวชวี้ ัด 1. อธบิ ำย สถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพ และหน้ำทีข่ องพลเมือง (K) 2. จำแนกกำรปฏิบัติตนตำมสถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรีภำพ และหน้ำทีพ่ ลเมือง (P) 3. เห็นควำมสำคัญในกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นสมำชกิ ทด่ี ขี องกำรเป็นพลเมอื ง (A) สาระสาคัญ สมำชกิ ของพลเมืองจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ นตำมสถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรภี ำพ และหน้ำทเ่ี พอ่ื ให้สงั คม สงบสขุ สาระการเรียนรู้ กำรปฏบิ ัติตนตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพ และหน้ำที่พลเมอื ง คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มวี นิ ยั ตัวชว้ี ดั ที่ 3.1 ปฏบิ ัตติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียน และสังคม สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ิต ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ ช้นิ งำนท่ี 1 เรื่อง สถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรีภำพ และหน้ำท่ีของพลเมือง

คาถามท้าทาย นักเรียนจะปฏบิ ตั ติ นเป็นคนดีในฐำนะสมำชิกของสังคมและพลเมอื งของชำติอย่ำงไร การบรู ณาการ - กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใชส้ ่อื อนิ เตอร์เนต็ สืบค้น, - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ; กำรเขียนแผนภมู ิควำมคิด (Mind mapping) - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคิดเห็น, กำรสมั มนำ - โรงเรยี นสุจริต ; ปลูกฝงั คำ่ นิยมควำมซือ่ สัตย์สจุ ริต - โรงเรียนสขี ำว ; ปลกู ฝงั คำ่ นยิ มใหผ้ ู้เรยี นหำ่ งไกลอบำยมุขทุกชนดิ - โรงเรียนคุณธรรม ; ปลกู ฝงั คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมให้เกดิ กบั ผู้เรียน การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ; 1. ครเู ล่ำเรือ่ ง วมิ ลคนดี ใหน้ กั เรยี นฟัง จำกนนั้ ครใู ห้นักเรียนร่วมกันศึกษำ เรือ่ ง สถำนภำพ และ บทบำทของพลเมือง วมิ ลคนดี วมิ ลเป็นเด็กนกั เรียนช้ันประถมศึกษำปีที่ 5 ทกุ ๆ เชำ้ ก่อนไปโรงเรยี นวิมลจะชว่ ยแม่ทำขนมและนำ ขนมไปสง่ ตำมร้ำนต่ำง ๆ แล้วจึงจะอำบน้ำไปโรงเรียน หลังจำกเลกิ เรียนวมิ ลกจ็ ะรบี กลับบำ้ นมำชว่ ยงำนบำ้ น และเล้ียงน้องแทนแม่ท่ีตอ้ งออกไปขำยผกั แม่มกั จะบอกวิมลเสมอว่ำใหว้ ิมล เป็นเด็กดี และตั้งใจเรียน หนงั สือ ถึงแมว้ ่ำครอบครัวจะลำบำกแต่เรำตอ้ งอดทนเพือ่ อนำคตข้ำงหน้ำ วมิ ลเช่อื ฟังและปฏบิ ัติตำมคำสั่ง สอนของแม่ตลอดมำ จบแล้วครูและนักเรียนร่วมกันสนทนำเก่ียวกบั เร่อื งของวิมล โดยครใู ช้คำถำม ดงั น้ี วิมลมีสถำน ภำพอย่ำงไรบ้ำ ง (ตัวอย่าง คาตอบ ท่ีบ้านวิมลมีสถานภาพเป็นลูก ท่โี รงเรียนวมิ ลมสี ถานภาพเป็นนักเรยี น) วมิ ลแสดงบทบำทของตนเองอย่ำงไรบ้ำง (ตวั อย่างคาตอบ ที่บ้านวมิ ลจะช่วยแม่ทางาน เชอ่ื และปฏบิ ัตติ ามคาสอนของแม่ ทโ่ี รงเรยี นวมิ ลแสดงบทบาทตนเองโดยการตัง้ ใจเรยี น) จำกน้ันครูอธบิ ำยสรุปเพ่ิมเตมิ ว่ำ สถานภาพแบง่ เป็น 2 ประเภท คอื 1 สถำนภำพทไ่ี ด้มำแตก่ ำเนดิ 2 สถำนภำพทีไ่ ด้มำภำยหลงั เชน่ เชน่ เพศ เชอ้ื ชำติ กำรศกึ ษำ อำชีพ กำรสมรส

ดังนัน้ บทบำทของแต่ละบุคคลก็จะแสดงไปตำมสถำนภำพที่ตนเองมี เช่น ครกู ็มีบทบำทในหน้ำทข่ี อง ควำมเป็นครูสอนคอื สอนหนังสือให้ควำมรู้แก่ศษิ ย์ พออยูท่ ่ีบ้ำนครูกจ็ ะมีสถำนภำพเป็นพ่อเปน็ แม่ของลูก และสถำนภำพกำรเป็นสำมีภรรยำกัน นอกจำกน้ันครแู ละนกั เรียนยงั มสี ถำนภำพกำรเป็นพลเมอื งของชำติอีก ด้วย 2. ครแู บ่งนกั เรยี นออกเป็น 3 กลมุ่ ดงั นี้ กลมุ่ ท่ี 1 ศกึ ษำเร่ืองสิทธิของกำรเป็นพลเมอื ง กล่มุ ท่ี 2 ศกึ ษำเรอ่ื งเสรีภำพของกำรเปน็ พลเมือง กลุม่ ท่ี 3 ศึกษำเรอื่ งหนำ้ ท่ขี องกำรเป็นพลเมือง โดยใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สรุปเปน็ บนั ทกึ เพ่ือนำเสนอหนำ้ ชน้ั เรยี น จบกำรนำเสนอ ครูใช้คำถำมให้นกั เรียน รว่ มกนั แสดงควำมคิดเหน็ ดงั น้ี สิทธิโดยชอบน้นั เป็นอยำ่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ สิทธทิ ี่ได้รับตามกฎหมาย) สิทธิที่นักเรียนได้รับตำมกฎหมำยมีอะไรบ้ำง (ตัวอย่างคาตอบ สิทธิความเป็นบุคคลที่ กฎหมายรบั รอง สทิ ธิการได้รบั การศึกษา สิทธไิ ด้รบั การค้มุ ครองตามกฎหมายเทา่ เทียมกัน เป็นตน้ ) เสรภี ำพท่ีถูกต้องควรมลี ักษณะอยำ่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ เสรีภาพทอี่ ยู่ภายใต้กฎหมาย โดยไม่ขดั ตอ่ ศีลธรรม และไมล่ ะเมดิ เสรภี าพของบุคคลอื่น) หน้ำท่ีของกำรเป็นพลเมือง นักเรยี นจะต้องปฏิบัติตนอย่ำงไรบ้ำง (ตัวอย่างคาตอบ ปฏิบัติ ตนตามกฎหมาย เชน่ เคารพกฎหมายจราจร และกฎหมายทัว่ ไป) 3. ครูนำบัตรคำเก่ยี วกบั สถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรีภำพ หน้ำที่ จำกนั้นให้นักเรียนร่วมกนั นำ บัตรคำมำตดิ ใหต้ รงกบั ควำมหมำยทแี่ ผนภำพบนกระดำน ตัวอย่างบัตรคา/ตัวอย่างแผนภาพ ลูก ไดร้ ับควำมเสมอภำคตำมกฎหมำย เชอื่ และปฏบิ ัติตำมคำสัง่ สอนของพ่อแม่ ดูแลรกั ษำเมือ่ พ่อแม่เจบ็ ป่วย มีส่วนรว่ มในกำรแสดงควำมคิดเห็น

บทบำท สถานภาพ สิทธิ เสรภี ำพ หน้ำที่ 4. ใหน้ ักเรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ควำมรู้ ดังน้ี สถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรภี ำพ และหน้ำทขี่ องพลเมอื งเปน็ ระเบยี บทำงสังคมท่ี สมำชิกทุกคนจะต้องปฏบิ ัติตนเพอ่ื ควำมสงบสุขเรยี บรอ้ ยในกำรอำศยั อยูร่ ่วมกัน ในฐำนะกำรเป็นพลเมอื งของ ชำติ 5. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ำถำมทำ้ ทำย ดังน้ี นักเรียนจะปฏบิ ตั ติ นเปน็ คนดีในฐำนะสมำชิกของสังคมและพลเมอื งของชำติอยำ่ งไร 6. ให้นักเรียนทำชิ้นงำนท่ี 1 เรอ่ื ง สถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรภี ำพ และหน้ำทข่ี องพลเมอื ง การจัดบรรยากาศเชงิ บวก กำรเลำ่ เรอ่ื งประกอบกำรสอน กำรแบ่งกลมุ่ นำเสนอ และกำรจดั บัตรคำลงในแผนภำพ ส่อื การเรยี นรู้ 1. เรอื่ งเลำ่ วิมลคนดี 2. บัตรคำ สถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรภี ำพ และหนำ้ ท่ี 3. ชิน้ งำนท่ี 11 เร่ือง สถำนภำพ บทบำท สิทธิ เสรภี ำพ และหนำ้ ที่ของพลเมือง การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมินผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในกำรเข้ำร่วมกจิ กรรม 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชนิ้ งำนท่ี 1 2. เครือ่ งมอื 2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกิจกรรม

2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 กำรประเมินพฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรม ผำ่ นตัง้ แต่ 2 รำยกำร ถือวำ่ ผ่าน ผำ่ น 1 รำยกำร ถอื วำ่ ไมผ่ ่าน 3.2 กำรประเมินพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมำก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดบั ควรปรับปรงุ การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) กำรประเมินชน้ิ งำนท่ี 1 ให้ผ้สู อนพจิ ำรณำจำกเกณฑก์ ำรประเมนิ ผลตำมสภำพจริง (Rubrics) เรือ่ ง สถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพ และหน้ำทีข่ องพลเมอื ง เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 32 เขียนอธบิ ำยหรือ เขยี นอธบิ ำยหรือ เขียนอธบิ ำยหรอื สรุป เขยี นอธบิ ำยหรือ เขียนอธบิ ำยหรือ สรุป สถำนภำพ สรปุ สถำนภำพ สถำนภำพ บทบำท สรปุ สถำนภำพ สรปุ สถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ บทบำท สิทธเิ สรีภำพ สทิ ธเิ สรีภำพ และ บทบำท สิทธิ บทบำท สทิ ธิเสรีภำพ เสรีภำพ และ และหนำ้ ทีข่ องตนเอง หน้ำทีข่ องตนเองใน เสรีภำพ และหนำ้ ที่ และหน้ำทขี่ องตนเอง หน้ำทข่ี องตนเองใน ในฐำนะนกั เรียน ฐำนะนกั เรยี นได้ มี ของตนเองในฐำนะ ในฐำนะนักเรียนได้ ฐำนะนกั เรียน ไดส้ มั พันธ์กนั มกี ำร กำร จำแนกข้อมูล นักเรยี นไดส้ อดคล้อง แต่ยังไมส่ อดคลอ้ งกับ เช่อื มโยงให้เหน็ ภำพ หรอื อธบิ ำยให้เหน็ ถึง กบั ขอ้ มูล มีกำรเขยี น ข้อมลู เขยี นตำม โดยรวม ควำมสมั พันธก์ ับ ขยำยควำม ข้อมลู ที่อ่ำนไม่มกี ำร แสดงใหเ้ หน็ ถึง ตนเองอยำ่ งเปน็ เหตุ ยกตวั อยำ่ งเพ่มิ เตมิ ให้ อธบิ ำยเพ่มิ เตมิ ควำมสัมพันธ์ เปน็ ผล เข้ำใจง่ำย กับตนเองและผู้อ่ืน

บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวัชรพล แสงสุระ) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่ือ (นำยขนั ทอง เด่นพันธ์) ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นอนุบำลชุมชนหนองบวั แดง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง หนา้ ท่ีของพลเมอื งของพลเมอื งดี จำนวน 1 ชว่ั โมง ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 5 หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ 1 พลเมอื งดีของสงั คม จำนวน 4 ชั่วโมง รำยวชิ ำ ส 15101 สงั คมศกึ ษำ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ผูส้ อน นำยวชั รพล แสงสรุ ะ มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 เขำ้ ใจและปฏิบัติตนตำมหนำ้ ที่ของกำรเป็นพลเมืองดี มีค่ำนิยมที่ดงี ำม และธำรงรักษำประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวติ อยู่ร่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่ำงสันตสิ ุข ตัวชวี้ ัด ส 2.1 ป.5/1 ยกตัวอยำ่ งและปฏิบตั ิตนตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธเิ สรภี ำพและหนำ้ ท่ีในฐำนะ พลเมืองดี จดุ ประสงคก์ ารเรียนรสู้ ูต่ วั ชี้วัด 1. นำเสนอหน้ำที่ของพลเมอื งดี (K) 2. จำแนกหน้ำที่ของพลเมืองดี (P) 3. เหน็ คณุ ค่ำของกำรปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดีของสังคม (A) สาระสาคญั กำรอยู่ร่วมกนั ในสังคม สมำชิกทุกคนควรปฏบิ ัติตำมกฎ ระเบยี บของสังคม โดยยึดหลกั คณุ ธรรม เพือ่ ใหเ้ กดิ ควำมสงบสุขขึ้นในสงั คม สาระการเรยี นรู้ หนำ้ ที่ของพลเมอื งท่ดี ีของสังคม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มวี นิ ยั ตวั ช้วี ดั ท่ี 3.1 ปฏบิ ัตติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครวั โรงเรยี น และสังคม สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวติ ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) ชนิ้ งำนที่ 2 เรือ่ ง หนำ้ ท่ีของพลเมืองดี

คาถามทา้ ทาย หน้ำที่ของพลเมืองดมี ลี กั ษณะอย่ำงไร การบรู ณาการ - กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ; กำรใช้สอ่ื อนิ เตอร์เนต็ สืบคน้ , - กล่มุ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ; กำรเขียนแผนภูมิควำมคิด (Mind mapping) - กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย ; กำรอภปิ รำย, กำรแสดงควำมคิดเห็น, กำรสมั มนำ - โรงเรยี นสุจริต ; ปลูกฝังคำ่ นยิ มควำมซอื่ สัตยส์ จุ ริต - โรงเรียนสีขำว ; ปลกู ฝงั คำ่ นยิ มให้ผ้เู รียนหำ่ งไกลอบำยมขุ ทกุ ชนดิ - โรงเรยี นคณุ ธรรม ; ปลกู ฝงั คุณธรรมและจรยิ ธรรมใหเ้ กดิ กับผู้เรียน การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครสู ำรวจกำรปฏิบัติตนของนกั เรียน โดยเขียนแบบสำรวจบนกระดำน แลว้ บนั ทกึ ผลกำรสำรวจ เปน็ จำนวนของนกั เรียน จำกน้นั ใหน้ กั เรียนร่วมกันสนทนำ โดยครใู ชค้ ำถำม ดังน้ี การปฏิบตั ิตนตามหน้าทีข่ องพลเมืองดี ผลการปฏบิ ตั ิ เปน็ ประจา บางคร้ัง ไมเ่ คย 1. แสดงควำมจงรกั ภักดตี ่อสถำบนั พระมหำกษัตริย์ 2. เคำรพเช่อื ฟงั พอ่ แม่ ครอู ำจำรย์ 3. ปฏิบตั ติ ำมกฎจรำจร 4. รว่ มปลกู ต้นไมใ้ นชุมชน 5. สนับสนนุ สนิ คำ้ จำกภมู ิปัญญำทอ้ งถิน่ ถำ้ ทุกคนปฏิบัติตนตำมแบบสำรวจทุกข้อจะเกิดผลอย่ำงไร (ตัวอย่างคาตอบ สังคมเกิด ความสงบสุข เกดิ ความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย) ถ้ำทุกคนไม่ปฏิบตั ติ นตำมแบบสำรวจ จะเกิดผลอยำ่ งไร (ตวั อย่างคาตอบ สังคมเกิดความ สบั สนวนุ่ วาย) 2. ครูอ่ำนสถำนกำรณ์ใหน้ ักเรียนฟัง จำกนั้นให้นกั เรียนร่วมกันสนทนำว่ำสถำนกำรณด์ ังกล่ำว สอดคลอ้ งกบั หลักธรรมใด สถำนกำรณ์ท่ี 1 ธีรพงษ์คิดค้นวธิ ีกำรกำจัดศัตรูพชื โดยกำรใชส้ มุนไพรแทนกำรใช้สำรเคมี สถำนกำรณ์ที่ 2 ขนิษฐำแสดงควำมเคำรพครูโดยกำรไหวด้ ้วยควำมนอบนอ้ มอยเู่ สมอ

สถำนกำรณ์ที่ 3 ปกรณ์ร่วมมือทำงำนกลุ่มกบั เพ่อื น ๆ โดยควำมเต็มใจ เพอ่ื ใหเ้ กิดประโยชน์แก่ ส่วนรวม 3. ครูและนกั เรียนร่วมกันสนทนำโดยครใู ช้คำถำม และสรุปกำรแสดงควำมคิดเหน็ ของนักเรียนเป็น แผนภำพลงบนกระดำน ดงั นี้ หนำ้ ท่ขี องพลเมอื งดีจะต้องปฏบิ ัติตนอยำ่ งไรบ้ำง ตวั อย่างแผนภาพ กำรสรปุ คำตอบของนักเรียน แสดงบทบาทของตนเองตามสถานภาพอย่างเหมาะสม ปฏิบัตติ นตำมสทิ ธทิ ำงกฎหมำย รู้จกั สถานภาพตนเอง หนา้ ท่ขี องพลเมอื งดี แสดงออกอยำ่ งสร้ำงสรรคโ์ ดยไม่ละเมิดผู้อน่ื รหู้ น้ำทค่ี วำมเปน็ พลเมืองของชำติ 4. ใหน้ ักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ควำมรู้ ดังนี้ หนำ้ ทขี่ องพลเมืองดี สมำชกิ ทกุ คนควรปฏบิ ตั ติ นตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพ และหน้ำที่ตำมระเบยี บทำงสังคม และกฎหมำย เพื่อใหเ้ กิดควำมสงบสขุ ขนึ้ ในสังคม 5. ให้นักเรียนรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ำถำมท้ำทำย ดงั นี้ หน้ำทข่ี องพลเมืองดีมีลกั ษณะอยำ่ งไร 6. ให้นักเรยี นทำชิน้ งำนที่ 2 เรือ่ ง หน้ำทขี่ องพลเมอื งดี การจัดบรรยากาศเชิงบวก กำรสำรวจกำรปฏบิ ตั ติ นของนักเรียน และสรุปควำมรเู้ รอื่ งหน้ำทขี่ องพลเมืองดี เปน็ แผนภำพ สอื่ การเรียนรู้ 1. แบบสำรวจ กำรปฏบิ ตั ติ นตำมหนำ้ ทขี่ องพลเมอื งดี

2. ช้นิ งำนท่ี 2 เร่อื ง หนำ้ ทข่ี องพลเมอื งดี การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 1.2 ตรวจชน้ิ งำนท่ี 2 2. เคร่อื งมือ แบบสังเกตพฤติกรรมกำรเข้ำรว่ มกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม ผำ่ นตง้ั แต่ 2 รำยกำร ถอื ว่ำ ผ่าน ผำ่ น 1 รำยกำร ถอื วำ่ ไม่ผ่าน การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) กำรประเมนิ ช้ินงำนท่ี 2 ใหผ้ ู้สอนพจิ ำรณำจำกเกณฑ์กำรประเมนิ ผลตำมสภำพจริง (Rubrics) เรื่อง หนำ้ ท่ขี องพลเมอื งดี เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 เขยี นอธบิ ำยหรือ เขียนอธบิ ำยหรอื สรปุ เขียนอธิบำยหรอื สรปุ เขียนอธิบำยหรือสรปุ เขยี นอธิบำยหรือสรปุ สรุปกำรทำหนำ้ ท่ี กำรทำหนำ้ ท่ขี อง กำรทำหน้ำท่ขี อง กำรทำหน้ำทีข่ อง กำรทำหนำ้ ท่ีของ ของพลเมอื งดี พลเมอื งดี พลเมอื งดไี ด้ พลเมอื งดี พลเมืองดไี ด้ ไดส้ ัมพันธ์กัน มีกำรจำแนกตำม ได้สอดคลอ้ งกับขอ้ มลู แตย่ งั ไม่สอดคล้องกบั มีกำรเชื่อมโยงให้เหน็ ขอ้ มลู อธบิ ำยแสดง มกี ำรเขียนขยำย ขอ้ มูล เขียนตำม เป็นภำพโดยรวม ใหเ้ ห็นถึงควำม ควำม และ ขอ้ มูลทอี่ ่ำน ไม่มีกำร แสดงให้เหน็ ถงึ สมั พนั ธก์ บั ตนเอง ยกตัวอยำ่ งเพ่มิ เตมิ ให้ อธบิ ำยเพ่ิมเติม ควำมสัมพนั ธก์ ับ อย่ำงเปน็ เหตุเป็นผล เขำ้ ใจง่ำย ตนเองและผู้อ่นื

บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวัชรพล แสงสุระ) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่ือ (นำยขนั ทอง เด่นพันธ์) ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นอนุบำลชุมชนหนองบัวแดง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง คณุ ลกั ษณะของพลเมอื งดี จำนวน 1 ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 1 พลเมอื งดขี องสังคม จำนวน 4 ชั่วโมง รำยวิชำ ส 15101 สงั คมศึกษำ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ผู้สอน นำยวัชรพล แสงสุระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เข้ำใจและปฏิบัติตนตำมหน้ำท่ีของกำรเปน็ พลเมืองดี มีค่ำนิยมที่ดีงำม และธำรงรักษำ ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยรู่ ่วมกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่ำงสันติสขุ ตัวชี้วดั ส 2.1 ป.5/1 ยกตวั อยำ่ งและปฏิบัติตนตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรภี ำพและหนำ้ ทใ่ี นฐำนะ พลเมืองดี จุดประสงค์การเรียนรู้ส่ตู วั ชวี้ ัด 1. ยกตัวอยำ่ งคณุ ลกั ษณะของพลเมืองดี (K) 2. จำแนกถึงคุณลกั ษณะของพลเมืองดี (P) 3. ชืน่ ชมกำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดขี องตนเองและบคุ คลอ่นื (A) สาระสาคัญ คุณลกั ษณะของพลเมืองดี สมำชกิ ทกุ คนควรปฏบิ ัตติ ำมกฎระเบียบของสังคมโดยยดึ หลักคุณธรรม เพื่อใหเ้ กดิ ควำมสงบสขุ ขน้ึ ในสังคม สาระการเรียนรู้ คุณลกั ษณะหรอื สมบัตขิ องพลเมืองดี คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ชีว้ ดั ที่ 3.1 ปฏิบัตติ ำมข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครวั โรงเรียน และสังคม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ิต ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

แผนภำพ คุณลกั ษณะของพลเมืองดี คาถามทา้ ทาย นกั เรยี นมคี ุณลักษณะของควำมเปน็ พลเมอื งดีหรือไม่ การบรู ณาการ - กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใชส้ ื่ออินเตอร์เนต็ สบื คน้ , - กลุ่มสำระกำรเรียนร้ศู ิลปะ ; กำรเขียนแผนภูมิควำมคดิ (Mind mapping) - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสัมมนำ - โรงเรยี นสุจรติ ; ปลกู ฝงั ค่ำนยิ มควำมซอ่ื สตั ยส์ ุจริต - โรงเรยี นสีขำว ; ปลูกฝังคำ่ นิยมให้ผู้เรยี นหำ่ งไกลอบำยมุขทุกชนิด - โรงเรยี นคุณธรรม ; ปลกู ฝังคุณธรรมและจรยิ ธรรมใหเ้ กิดกับผู้เรียน การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูเลอื กผูแ้ ทนนักเรยี นออกมำเล่ำประสบกำรณ์ กำรปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดหี น้ำชน้ั เรียนจำกน้ันให้ นักเรียนรว่ มสนทนำ โดยครูใชค้ ำถำม ดงั นี้ นักเรียนเคยปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดอี ย่ำงไร (ตัวอย่างคาตอบ ชว่ ยพาคนแก่ข้ามถนน) กำรปฏบิ ตั ดิ งั กลำ่ วก่อใหเ้ กิดประโยชนอ์ ย่ำงไร (ตวั อย่างคาตอบ ป้องกนั การเกิดอุบัตเิ หต)ุ 2. ครนู ำเร่ืองตัวอย่ำงของเยำวชนคนดีมำให้นกั เรียนฟัง โดยคดั ผู้แทนนักเรยี นออกมำอ่ำนหน้ำชั้น เรยี นใหเ้ พ่อื นฟงั ขา่ ว เยาวชนรุน่ ใหมใ่ ส่ใจคณุ ธรรม ผ้สู อ่ื ขำ่ วเยำวชนไดส้ ัมภำษณ์ นอ้ งภทั รำภรณ์ หรือน้องหมวิ นอ้ งหมวิ บอกกบั เรำว่ำกำรทำควำมดนี ัน้ ตอ้ งเรมิ่ ท่ตี วั เรำ จำกน้นั จึงขยำยสคู่ รอบครัว ชุมชน และประเทศชำติในท่สี ดุ “จะมีคตปิ ระจำใจคอื ทำงำน เรียนหนังสือ ช่วยเหลอื คนอน่ื และเนื่องจำกพ่อกับแมไ่ มม่ เี งินนอ้ งห มวิ จึงต้องประหยัด สว่ นกำรเรียนก็จะศึกษำเอำเองมำกกว่ำ เพรำะพอ่ กับแม่ไม่มเี งินค่ำเรียนพเิ ศษ ” เธอ กล่ำว นอกจำกกำรเรียนในหอ้ งแลว้ น้องหมวิ ยงั ได้เขำ้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรียน เชน่ โครงกำรสมัชชำเด็ก เพ่ือแก้ปญั หำเด็กไม่เรียนหนังสือ นอกจำกน้ัน กม็ ีออกคำ่ ยจติ อำสำ คำ่ ยปอ้ งกนั ยำเสพติดร่วมกบั โครงกำรทู บนี ัมเบอรว์ นั โครงกำรวถิ พี ทุ ธ และทำโครงกำรกำรแยกขยะ เปน็ ต้น นอ้ งหมิว กล่ำวทิ้งท้ำย

จำกนัน้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ช้คำถำม ดังนี้ กำรปฏิบัติตนของเยำวชนในขำ่ ว เขำได้กระทำควำมดอี ย่ำงไรบ้ำง (ตัวอยา่ งคาตอบ เขาได้ ทาความดีด้วยการรับผิดชอบการศึกษาเล่าเรียนของตนเอง ทาประโยชน์ต่อส่วนรวม มีความกตัญญู กตเวทีต่อชมุ ชนและส่ิงแวดลอ้ ม ทีส่ าคญั ปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอย่างทีด่ ขี องสงั คม) นักเรียนมีควำมรู้สึกอย่ำงไร ต่อกำรทำควำมดขี องเยำวชนดังกลำ่ ว (ตวั อย่างคาตอบ รู้สกึ ประทบั ใจในความดีของเยาวชนคนน้)ี นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะของพลเมอื งดดี งั ตวั อย่ำงเยำวชนในขำ่ วหรือไม่ (ตวั อยา่ งคาตอบ มี คอื มคี วามกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ชว่ ยทางานบา้ น และเชือ่ ฟงั คาสั่งสอนของพ่อแม่) 3. ครูและนักเรยี นรว่ มกันจำแนกคณุ ลักษณะของพลเมืองดี เป็นแผนภำพลงบนกระดำน ดังนี้ ตวั อย่างแผนภาพ รบั ผิดชอบในหนำ้ ที่ เชิดชูสถำบัน ชำติ ศำสนำ พระมหำกษัตรยิ ์ คุณลักษณะ กตญั ญตู อ่ บดิ ำมำรดำ ผู้มพี ระคุณ ของพลเมืองดี มีควำมซื่อสตั ย์ ขยนั อดทน มีควำมเสยี สละทำประโยชนเ์ พอื่ สว่ นรวม เคำรพและปฏิบัตติ นตำมกติกำ กฎหมำยบำ้ นเมอื ง 4. ให้นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปควำมรู้ ดงั นี้ คณุ ลกั ษณะของพลเมอื งดี จะต้องปฏิบัตติ นอยำ่ งเหมำะสมโดยยดึ หลักคุณธรรม และ ปฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่ำงของสมำชกิ อื่น ๆ ในสังคม 5. ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ำถำมท้ำทำย ดังนี้ นกั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะของควำมเปน็ พลเมืองดหี รอื ไม่ การจัดบรรยากาศเชงิ บวก ครูนำเรื่องตัวอย่ำงกำรทำควำมดีมำอำ่ นใหน้ ักเรียนฟงั และร่วมกันจำแนกถึงคุณลกั ษณะของพลเมือง ดีเป็นแผนภำพ สอ่ื การเรยี นรู้ สถำนกำรณข์ ำ่ ว เยำวชนรนุ่ ใหม่ใสใ่ จคุณธรรม การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

1. วิธกี ารวัดและประเมินผล สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 2. เครอื่ งมือ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑ์การประเมนิ กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรม ผำ่ นต้ังแต่ 2 รำยกำร ถือว่ำ ผ่าน ผำ่ น 1 รำยกำร ถอื ว่ำ ไมผ่ ่าน บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรียนการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่ือ (นำยวัชรพล แสงสรุ ะ) ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย

ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงชอ่ื (นำยขันทอง เดน่ พนั ธ์) ตำแหน่ง ผู้อำนวยกำรโรงเรียนอนบุ ำลชุมชนหนองบวั แดง

แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 4 เรือ่ ง กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะควำมรู้ ท้ำยหน่วยกำรเรียนรู้ จำนวน 1 ช่วั โมง ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 5 หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 1 พลเมืองดีของสังคม จำนวน 4 ช่วั โมง รำยวชิ ำ ส 15101 สงั คมศึกษำ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผสู้ อน นำยวัชรพล แสงสรุ ะ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เข้ำใจและปฏิบตั ิตนตำมหน้ำท่ีของกำรเปน็ พลเมืองดี มคี ่ำนิยมที่ดีงำม และธำรงรักษำ ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวติ อยู่รว่ มกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่ำงสันติสขุ ตวั ชว้ี ดั ส 2.1 ป.5/1 ยกตัวอยำ่ งและปฏบิ ัตติ นตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพและหนำ้ ท่ีในฐำนะ พลเมืองดี จุดประสงคก์ ารเรียนรูส้ ตู่ ัวชี้วัด 1. อธิบำยและสรุปควำมรู้เร่ืองพลเมอื งดีลงในแบบกจิ กรรม (K) 2. จำแนกและสรปุ ควำมร้เู ร่ืองพลเมอื งดีลงในแบบกิจกรรม (P) 3. เห็นควำมสำคญั ในกำรพัฒนำทกั ษะกำรเรยี นรูแ้ ละกำรทำกจิ กรรมระหว่ำงเรยี น (A) สาระสาคญั กำรเขำ้ ใจและปฏิบตั ติ นตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพ และหน้ำทใี่ นฐำนะพลเมืองดเี ป็น หน้ำทข่ี องพลเมอื งทุกคน สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมกำรเปน็ พลเมืองดขี องสงั คม คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวินยั ตัวช้วี ดั ที่ 3.1 ปฏิบัตติ ำมข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว โรงเรียน และสังคม สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้)

แบบกจิ กรรมเสริมทักษะควำมรูท้ ้ำยหนว่ ยกำรเรยี นรู้ คาถามท้าทาย ปจั จุบนั นักเรียนมสี ทิ ธติ ำมกฎหมำยอยำ่ งไรบ้ำง การบรู ณาการ - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใช้ส่ืออนิ เตอร์เน็ตสืบคน้ , - กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ; กำรเขียนแผนภมู ิควำมคดิ (Mind mapping) - กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสัมมนำ - โรงเรยี นสุจริต ; ปลูกฝงั คำ่ นิยมควำมซ่ือสตั ย์สุจรติ - โรงเรียนสขี ำว ; ปลกู ฝงั ค่ำนยิ มใหผ้ เู้ รยี นห่ำงไกลอบำยมขุ ทกุ ชนดิ - โรงเรียนคณุ ธรรม ; ปลกู ฝงั คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมให้เกิดกบั ผู้เรยี น การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูนำแบบกิจกรรมหรือแบบฝึกหัด เพ่ือนำมำทดสอบและทบทวนควำมรู้ (แบบกิจกรรมหรือ แบบฝกึ หัดข้นึ อย่กู บั ดุลยพนิ จิ ของครู) ใหน้ กั เรยี นไดพ้ ัฒนำทกั ษะและเสริมควำมรู้ ดงั นี้ ตวั อย่างกจิ กรรม ใหน้ ักเรียนอธบิ ำยควำมหมำยของคำศพั ท์ที่กำหนดใหล้ งในแผนภำพ ดังตอ่ ไปนี้

2. ครูตรวจและเฉลยแบบกิจกรรม และอธบิ ำยสรุปควำมรู้เพมิ่ เตมิ 3. ให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-Test) เพื่อประเมินผลกำรเรียนรู้ ในหนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี 1 4. ให้นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ควำมรู้ ดังน้ี กำรเขำ้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตำมสถำนภำพ บทบำท สทิ ธิ เสรีภำพและหนำ้ ทีใ่ นฐำนะ พลเมืองดีเป็นหนำ้ ทขี่ องพลเมืองทุกคน 5. ให้นกั เรียนรว่ มกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถำมทำ้ ทำย ดังน้ี ปจั จุบันนักเรยี นมีสทิ ธติ ำมกฎหมำยอยำ่ งไรบ้ำง การจดั บรรยากาศเชิงบวก กำรทำแบบกิจกรรมหรอื แบบฝึกหดั มำเสรมิ ทกั ษะควำมรู้ให้แก่นักเรยี นในระหว่ำงกำรจดั กจิ กรรมกำร เรยี นกำรสอน สือ่ การเรยี นรู้ แบบกิจกรรมเสรมิ ทกั ษะควำมรู้ทำ้ ยหนว่ ยกำรเรยี นรู้ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม 2. เครือ่ งมือ แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมิน กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม ผ่ำนตัง้ แต่ 2 รำยกำร ถือว่ำ ผ่าน ผ่ำน 1 รำยกำร ถอื วำ่ ไม่ผา่ น

บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวัชรพล แสงสุระ) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่ือ (นำยขนั ทอง เด่นพันธ์) ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นอนุบำลชุมชนหนองบวั แดง

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรอ่ื ง สทิ ธิเดก็ จำนวน 1 ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 5 หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ 2 สทิ ธิเด็ก จำนวน 3 ชวั่ โมง รำยวชิ ำ ส 15101 สงั คมศกึ ษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผ้สู อน นำยวัชรพล แสงสุระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เข้ำใจและปฏบิ ตั ิตนตำมหน้ำท่ีของกำรเป็นพลเมืองดี มคี ่ำนยิ มทดี่ ีงำม และธำรงรกั ษำ ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวติ อยูร่ ว่ มกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่ำงสนั ติสุข ตวั ชว้ี ดั ส 2.1 ป.5/2 เสนอวธิ กี ำรปกป้องค้มุ ครองตนเองหรอื ผอู้ ่นื จำกกำรละเมิดสิทธเิ ด็ก จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ส่ตู วั ช้ีวัด 1. อธบิ ำยถงึ สิทธิเด็ก (K) 2. จำแนกสทิ ธเิ ด็กท่ไี ด้รบั ควำมค้มุ ครองตำมกฎหมำย (P) 3. สนใจศกึ ษำเร่ืองสิทธเิ ดก็ เพ่อื ปอ้ งกันตนเองและผู้อืน่ (A) สาระสาคญั สิทธิเด็ก เปน็ สิทธิ เสรีภำพ และควำมเสมอภำคของเดก็ ท่ีไดร้ บั กำรคุ้มครองตำมกฎหมำยซงึ่ บญั ญัติ ในรฐั ธรรมนูญเพอ่ื เปน็ กำรค้มุ ครอง ปอ้ งกันและเสรมิ สทิ ธิเดก็ สาระการเรยี นรู้ สิทธพิ ้นื ฐำนของเดก็ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มวี ินัย ตัวช้วี ดั ที่ 3.1 ปฏิบตั ิตำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครวั โรงเรียน และสงั คม สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้ แผนภำพ สิทธเิ ด็ก

คาถามทา้ ทาย นักเรยี นจะใช้สิทธเิ ด็กตำมกฎหมำยให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองอย่ำงไร การบูรณาการ - กลมุ่ สำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชพี และเทคโนโลยี ; กำรใชส้ ่อื อินเตอร์เนต็ สบื คน้ , - กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ; กำรเขยี นแผนภูมิควำมคิด (Mind mapping) - กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคดิ เห็น, กำรสมั มนำ - โรงเรยี นสจุ รติ - โรงเรียนสีขำว - โรงเรียนคุณธรรม การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ให้นกั เรยี นร่วมกันสนทนำเกี่ยวกบั กำรได้รับสิทธิในด้ำนต่ำง ๆ จำกครอบครัว โดยครูเขียน คำตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภำพลงบนกระดำน ตัวอย่างแผนภาพ กำรสนบั สนนุ กำรศึกษำ ได้รบั กำรอบรมสงั่ สอนจำกครอบครวั อำหำรบริโภค ท่ีอยู่อำศัย สิทธทิ ี่นักเรยี นไดร้ บั จากครอบครวั ได้รับกำรดแู ลเล้ยี งดูใหม้ ีชวี ิตรอด 2. ครอู ธบิ ำยใหน้ ักเรียนฟังว่ำ “สทิ ธิเด็ก คอื สิทธิ เสรภี ำพ และควำมเสมอภำคทีเ่ ด็กพึงจะไดร้ ับ กำรคุ้มครองตำมที่กำหนด เพื่อปอ้ งกนั กำรละเมิดสิทธเิ ด็ก คำว่ำ เดก็ หมำยถงึ มนุษยท์ ุกคนทม่ี ีอำยตุ ่ำกว่ำ 18 ปี กฎหมำยเกีย่ วกบั สทิ ธิเดก็ เป็นกฎหมำยท่ใี ชร้ ะหวำ่ งประเทศเปน็ หลักสำกลที่ปฏบิ ตั ิเหมอื นกันทัว่ โลก” 3. ครทู ำบัตรคำสทิ ธิเด็ก จำกนัน้ ให้นักเรียนแบง่ กลุ่มออกเปน็ 4 กลมุ่ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มส่งผูแ้ ทน ออกมำเลือกบัตรคำกล่มุ ละ 1 ใบ และรว่ มกันอภปิ รำยว่ำสิทธิดังกล่ำวมีควำมสำคัญอย่ำงไร จำกนน้ั แตล่ ะกลุ่มสง่ ผ้แู ทนมำนำเสนอหนำ้ ชั้นเรียน

สิทธิท่จี ะมชี วี ิต สิทธิท่จี ะไดร้ ับกำรปกป้อง สิทธทิ ่จี ะไดร้ ับกำรพัฒนำ สทิ ธิทจี่ ะมีสว่ นร่วม จบกำรนำเสนอของกลุ่มนกั เรียนครใู ช้คำถำมใหน้ กั เรยี นรว่ มกันแสดงควำมคดิ เห็น ดังนี้ นักเรยี นได้รบั สิทธทิ จี่ ะมีชีวิตอย่ำงไร (ตวั อย่างคาตอบ ได้รับการรกั ษาพยาบาลเมอ่ื เจบ็ ปว่ ย) นักเรยี นไดร้ บั สทิ ธิทจี่ ะไดร้ บั กำรปกป้องอยำ่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ไดร้ บั การดแู ลปกป้อง ไม่ใหไ้ ด้รบั อนั ตราย) นักเรยี นไดร้ ับสทิ ธทิ จ่ี ะไดร้ ับกำรพฒั นำอย่ำงไร (ตวั อย่างคาตอบ ได้รับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน 12 ป)ี นกั เรยี นได้รับสทิ ธทิ ี่จะมสี ่วนร่วมอย่ำงไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ได้แลกเปลย่ี นความคิดเหน็ กับ ผอู้ ื่น) 4. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรปุ สิทธิเด็กท่ไี ดร้ ับกำรคุ้มครองตำมกฎหมำยเป็นแผนภำพลงบนกระดำน ตวั อยา่ งแผนภาพ สิทธิทจ่ี ะมีชีวิต สทิ ธิเด็ก สิทธทิ จ่ี ะไดร้ บั กำรปกป้อง กำรใชเ้ ด็กทำสิ่งต่ำง ๆ ตอ้ งคำนงึ ถึงประโยชน์ของเด็ก สทิ ธิกำรไมถ่ ูกทำรำ้ ยจนถงึ แกช่ วี ิต ได้รบั กำรรกั ษำพยำบำลเม่ือเจบ็ ปว่ ย เดก็ พกิ ำรจะได้รบั กำรดแู ลเปน็ พิเศษ สิทธกิ ำรดำรงชีวติ ดำ้ นปจั จยั 4 อยำ่ งเพยี งพอ เมือ่ เดก็ ทำผดิ จะได้รับกำรคมุ้ ครองท่ีเป็นธรรม สิทธทิ ่จี ะไดร้ ับกำรพฒั นา สทิ ธิที่จะมสี ว่ นร่วม ได้รับกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน 12 ปี เด็กมสี ิทธพิ บปะแลกเปลี่ยนควำมคิดเห็นกัน เดก็ มีสิทธเิ ขำ้ ร่วมกับชุมชนรักษำสิ่งแวดล้อม รฐั สง่ เสริมใหเ้ ดก็ ได้รับข้อมลู ที่เป็นประโยชน์ เด็กมสี ทิ ธใิ นกำรอนรุ ักษป์ ระเพณีและวัฒนธรรม เด็กมีสทิ ธิในกำรได้รับกำรพัฒนำร่ำงกำยและจิตใจ 5. ให้นกั เรียนและครูรว่ มสรปุ ควำมรู้ ดังน้ี สิทธิ เสรีภำพ และควำมเสมอภำคของเด็กยอ่ มได้รับกำรคุ้มครองตำมกฎหมำย 6. ให้นักเรยี นร่วมกนั แสดงควำมคิดเหน็ โดยครใู ช้คำถำมทำ้ ทำย ดังน้ี นักเรยี นจะใชส้ ทิ ธเิ ด็กตำมกฎหมำยใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อตนเองอยำ่ งไร

การจัดบรรยากาศเชงิ บวก แบง่ กลุ่มนกั เรยี นออกนำเสนอเรอ่ื งสทิ ธเิ ด็ก และสรุปควำมรู้เป็นแผนภำพ สอื่ การเรยี นรู้ บัตรคำ สทิ ธิเด็ก การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมอื 2.1 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 กำรประเมนิ พฤติกรรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรม ผ่ำนตั้งแต่ 2 รำยกำร ถอื วำ่ ผ่าน ผำ่ น 1 รำยกำร ถือว่ำ ไมผ่ า่ น 3.2 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกิจกรรมกลมุ่ คะแนน 9-10 ระดบั ดมี ำก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง กิจกรรมเสนอแนะ วำดภำพระบำยสีเก่ยี วกบั สทิ ธิทีน่ ักเรยี นได้รบั มำ 1 ภำพ พรอ้ มเขียนบรรยำยใตภ้ ำพ และออกมำนำเสนอหน้ำช้นั เรยี น

บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวัชรพล แสงสรุ ะ) ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่ือ (นำยขนั ทอง เดน่ พันธ์) ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียนอนบุ ำลชุมชนหนองบวั แดง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6 เร่ือง กำรละเมิดสิทธิเด็กและกำรปกปอ้ งคุ้มครองเด็กในสังคมไทย จำนวน 1 ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ 5 หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี 2 สทิ ธเิ ดก็ จำนวน 3 ชั่วโมง รำยวชิ ำ ส 15101 สงั คมศกึ ษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ผ้สู อน นำยวชั รพล แสงสุระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรียนรู้ ส 2.1 เขำ้ ใจและปฏบิ ัติตนตำมหน้ำท่ีของกำรเป็นพลเมืองดี มคี ่ำนิยมท่ีดีงำม และธำรงรกั ษำ ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดำรงชีวิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอยำ่ งสนั ติสขุ ตวั ช้วี ัด ส 2.1 ป.5/2 เสนอวิธกี ำรปกป้องค้มุ ครองตนเองหรอื ผูอ้ ืน่ จำกกำรละเมิดสิทธเิ ด็ก จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ วั ชีว้ ัด 1. ยกตัวอย่ำงกำรละเมดิ สิทธเิ ดก็ และนำเสนอแนวทำงปกป้องค้มุ ครองเด็ก (K) 2. จำแนกกำรละเมดิ สทิ ธเิ ดก็ และหำแนวทำงปกป้องคุ้มครองเดก็ (P) 3. สนใจศกึ ษำแนวทำงปกปอ้ งคุ้มครองเด็กที่ถูกละเมิดสิทธิ (A) สาระสาคัญ กำรละเมดิ สิทธิเด็กเป็นกำรทำผิดกฎหมำย เดก็ ทถ่ี ูกละเมิดสิทธิต้องไดร้ ับควำมคุ้มครองตำมสิทธิข้ัน พ้นื ฐำนตำมกฎหมำย สาระการเรียนรู้ กำรปกปอ้ งคมุ้ ครองสิทธเิ ดก็ ในสงั คมไทย คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวนิ ยั ตวั ช้วี ัดท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ิตำมข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชีวิต ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความร)ู้ ช้ินงำนท่ี 3 เรื่อง สิทธเิ ดก็ และกำรปกปอ้ งค้มุ ครองสทิ ธิเดก็ ในสงั คมไทย

คาถามท้าทาย นกั เรียนมีแนวทำงปอ้ งกันตนเองไมใ่ ห้ถกู ละเมิดสิทธเิ ดก็ ได้อย่ำงไร การบูรณาการ - กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใช้ส่ืออนิ เตอรเ์ นต็ สบื ค้น, - กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้ศิลปะ ; กำรเขียนแผนภูมิควำมคิด (Mind mapping) - กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ; กำรอภปิ รำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสมั มนำ - โรงเรยี นสุจริต ; ปลกู ฝงั ค่ำนิยมควำมซื่อสัตย์สจุ รติ - โรงเรยี นสีขำว ; ปลูกฝังคำ่ นิยมใหผ้ ูเ้ รียนห่ำงไกลอบำยมขุ ทกุ ชนดิ - โรงเรียนคุณธรรม ; ปลกู ฝังคุณธรรมและจรยิ ธรรมใหเ้ กิดกับผู้เรียน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครอู ่ำนสถำนกำรณ์เกยี่ วกบั กำรละเมิดสทิ ธเิ ดก็ ใหน้ ักเรียนฟัง และใหน้ ักเรียนรว่ มกนั แสดงควำม คดิ เหน็ โดยครใู ช้คำถำม ดงั นี้ ตำรวจไดน้ ำกำลงั เข้ำตรวจค้นบำ้ นหลังหนงึ่ ซึ่งได้รับแจ้งวำ่ มีกำรนำเด็กมำเปน็ แรงงำนเพื่อผลิตตกุ๊ ตำ โดยบังคับให้เดก็ ผลิตตกุ๊ ตำใหไ้ ด้อย่ำงนอ้ ยคนละ 20 ตัวตอ่ วัน เด็กท่ีไม่สำมำรถผลิตตุ๊กตำได้ตำมเป้ำจะถกู ทำ รำ้ ยรำ่ งกำยดว้ ยกำรทุบตี และไมใ่ ห้รบั ประทำนอำหำร หลังจำกตรวจคน้ บ้ำน ตำรวจไดพ้ บเดก็ จำนวน 5 คน ซ่งึ มรี ำ่ งกำยซูบผอม และมีร่องรอยของกำรถกู ทำรำ้ ยรำ่ งกำย ตำรวจได้จับกมุ ตัวเจ้ำของบำ้ น ซ่ึงให้กำรวำ่ ได้ ชักชวนเด็กเรร่ อ่ นใหม้ ำทำงำน ซ่งึ บอกเด็กว่ำเป็นงำนท่มี ีรำยได้ดี หลงั จำกนั้นจงึ กกั ขงั เด็กทม่ี ำทำงำนไวแ้ ละ คิดวำ่ คงจะไม่มีใครสนใจจะตำมหำเด็กเรร่ ่อนท่หี ำยตวั ไป หลงั จำกน้นั ตำรวจได้นำตัวเด็กสง่ มลู นิธคิ มุ้ ครองเด็ก เพอ่ื ดำเนนิ กำรช่วยเหลอื ขน้ั ตอ่ ไป เดก็ ในสถำนกำรณถ์ กู ละเมดิ สทิ ธใิ นดำ้ นใดบ้ำง อยำ่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ สิทธทิ ่ีจะมีชวี ิต เพราะถกู ทาร้ายร่างกาย) เดก็ ที่ถกู ละเมิดสิทธิได้รบั กำรช่วยเหลืออย่ำงไร (ได้รบั การดูแลจากมูลนธิ ิค้มุ ครองเด็ก) นกั เรียนจะมแี นวทำงในกำรช่วยเหลือเดก็ ที่ถกู ละเมิดในสถำนกำรณด์ งั กลำ่ ว อย่ำงไร (ตวั อยา่ งคาตอบ แจ้งหน่วยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งใหเ้ ขา้ มาช่วยเหลือเด็กที่ถูกละเมดิ สิทธิ) นักเรยี นจะมีแนวทำงปอ้ งกนั ตนเองไม่ใหถ้ ูกละเมดิ สทิ ธเิ หมือนในสถำนกำรณ์ดังกล่ำวอยำ่ งไร (ตวั อยา่ งคาตอบ ไม่พดู คุยกบั คนแปลกหน้าและแจ้งผู้ใหญ่ให้ทราบเร่ืองเม่อื เห็นเหตุการณ์ผิดปกติ)

2. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม แสดงบทบำทสมมุติเกีย่ วกับสทิ ธิเด็ก และออกมำนำเสนอ หน้ำช้ันเรยี น กลุ่มท่ี 1 สทิ ธทิ ีจ่ ะมชี ีวติ กลุม่ ที่ 2 สิทธิท่จี ะไดร้ ับกำรปกป้อง กลุม่ ท่ี 3 สิทธิทจ่ี ะไดร้ ับกำรพัฒนำ กลุ่มที่ 4 สทิ ธิทจ่ี ะมีสว่ นรว่ ม 3. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ประโยชน์ของกำรได้รบั สทิ ธิเดก็ โดยครใู ช้คำถำม ดงั นี้ สิทธเิ ด็กมีประโยชนอ์ ย่ำงไร (ตัวอยา่ งคาตอบ เดก็ ได้รับความคมุ้ ครองอย่างเป็นธรรม ปอ้ งกนั การละเมดิ สทิ ธิเด็ก) 4. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั นำเสนอแนวทำงปกปอ้ งคุม้ ครองเด็กที่ถกู ละเมิดสิทธิ โดยสรปุ เปน็ แผนภำพ ดังน้ี ตวั อยา่ งแผนภาพ ผู้ปกครองตอ้ งไม่ทอดท้ิงเดก็ ไว้กับผู้อน่ื ผู้ปกครองต้องใหก้ ำรอปุ กำระเลี้ยงดูทด่ี ี แนวทาง รฐั จะตอ้ งสง่ เสริมและป้องกนั เดก็ ที่ถูกละเมิด ปกปอ้ งค้มุ ครอง ทกุ คนจะต้องช่วยเหลือกันดแู ลเด็ก เดก็ ถูกละเมิดสทิ ธิ แนะนำให้เดก็ รู้จกั วธิ ปี ้องกันตนเอง 5. ใหน้ ักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปควำมรู้ ดงั นี้ กำรละเมดิ สทิ ธเิ ด็กเป็นกำรกระทำที่ผิดกฎหมำย เดก็ ย่อมได้รบั ควำมคุม้ ครองตำม กฎหมำย เม่อื ถกู ละเมดิ สิทธขิ นั้ พ้นื ฐำน 4 ประกำร 6. ใหน้ กั เรียนร่วมกันแสดงควำมคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถำมทำ้ ทำย ดงั นี้ นักเรยี นมีแนวทำงป้องกนั ตนเองไม่ใหถ้ กู ละเมิดสิทธเิ ด็กได้อย่ำงไร 7. ใหน้ ักเรียนทำชิน้ งำนที่ 19 เรื่อง สิทธเิ ด็กและกำรปกป้องคุม้ ครองสิทธิเด็กในสังคมไทย การจัดบรรยากาศเชิงบวก

กำรเลำ่ สถำนกำรณ์ข่ำวกำรละเมิดสิทธิเด็ก กำรแบ่งกลุ่มแสดงบทบำทสมมุติ และสรุปควำมรู้ แนวทำงปกป้องเด็กจำกกำรถูกละเมดิ สิทธเิ ป็นแผนภำพ สื่อการเรียนรู้ 1. สถำนกำรณ์ข่ำวกำรละเมิดสทิ ธิเด็ก 2. ชน้ิ งำนที่ 19 เร่อื ง สทิ ธเิ ด็กและกำรปกป้องค้มุ ครองสิทธิเด็กในสังคมไทย การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วิธกี ารวัดและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชนิ้ งำนท่ี 3 2. เครอื่ งมอื 2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกิจกรรม ผ่ำนตัง้ แต่ 2 รำยกำร ถือวำ่ ผ่าน ผ่ำน 1 รำยกำร ถือว่ำ ไมผ่ ่าน 3.2 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดับ ดีมำก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรับปรุง

การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) กำรประเมนิ ชนิ้ งำนที่ 3 ใหผ้ ู้สอนพิจำรณำจำกเกณฑก์ ำรประเมินผลตำมสภำพจรงิ (Rubrics) เร่อื ง สทิ ธิเดก็ และกำรปกปอ้ งคมุ้ ครองสทิ ธิเด็กในสังคมไทย เกณฑก์ ารประเมนิ 4 ระดับคะแนน 1 32 อธบิ ำยหรือนำเสนอ อธบิ ำยหรอื นำเสนอ อธิบำยหรือนำเสนอ อธิบำยหรือนำเสนอ อธิบำยหรือนำเสนอ ข่ำวเก่ียวกบั กำร ขำ่ วเก่ียวกบั กำร ข่ำวเก่ียวกบั กำร ข่ำวเกยี่ วกับกำร ขำ่ วเกย่ี วกบั กำร ละเมดิ สิทธิเด็ก ละเมดิ สทิ ธิเด็ก ละเมิดสทิ ธเิ ด็กได้ ละเมดิ สิทธิเด็ก ละเมิดสทิ ธิเดก็ ได้ แต่ ไดส้ ัมพันธ์กัน มกี ำร มีกำรจำแนกขอ้ มูล ไดส้ อดคลอ้ งกบั ข้อมลู ยงั ไมส่ อดคล้องกบั เชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ เปน็ นำเสนอให้เห็นถงึ มกี ำรนำเสนอให้ ขอ้ มูล นำเสนอตำม ภำพโดยรวม ควำมสมั พนั ธ์ เข้ำใจงำ่ ย ข้อมูลทอ่ี ำ่ น แสดงใหเ้ หน็ ถึง กบั ตนเองอย่ำง ไม่มีกำรอธิบำย ควำมสมั พนั ธ์ เปน็ เหตุเปน็ ผล เพ่มิ เติม กบั ตนเองและผ้อู ่ืน

บนั ทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวัชรพล แสงสุระ) ตำแหน่ง ครูผ้ชู ว่ ย ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่ือ (นำยขนั ทอง เด่นพันธ์) ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี นอนุบำลชุมชนหนองบวั แดง

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 7 เรอ่ื ง กิจกรรมเสรมิ ทกั ษะควำมรู้ท้ำยหน่วยกำรเรยี นรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 5 หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ 2 สทิ ธเิ ด็ก จำนวน 3 ชวั่ โมง รำยวิชำ ส 15101 สงั คมศกึ ษำ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวัฒนธรรม ผู้สอน นำยวัชรพล แสงสุระ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.1 เขำ้ ใจและปฏิบัตติ นตำมหน้ำทีข่ องกำรเป็นพลเมอื งดี มคี ำ่ นิยมทด่ี งี ำม และธำรงรกั ษำประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยู่ร่วมกันในสังคมไทยและสังคมโลกอย่ำงสันติสุข ตัวช้วี ดั ส 2.1 ป.5/2 เสนอวธิ ีกำรปกปอ้ งคุ้มครองตนเองหรือผูอ้ ืน่ จำกกำรละเมดิ สิทธเิ ด็ก จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ูต่ ัวชี้วัด 1. อธิบำยและสรุปควำมรเู้ ร่อื งสิทธิเด็กลงในแบบกจิ กรรม (K) 2. จำแนกและสรุปควำมรูเ้ ร่อื งสทิ ธเิ ดก็ ลงในแบบกจิ กรรม (P) 3. เหน็ ควำมสำคัญในกำรพัฒนำทกั ษะควำมรู้ในกำรทำกจิ กรรมระหว่ำงเรียน (A) สาระสาคญั สทิ ธเิ ด็ก เป็นสิทธิ เสรีภำพ และควำมเสมอภำคของเด็กที่ไดร้ ับกำรคุ้มครองตำมกฎหมำยสิทธิ มนษุ ยชน สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมเสรมิ ควำมรู้เกย่ี วกับสิทธเิ ดก็ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีวินยั ตัวช้ีวดั ท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครัว โรงเรยี นและ สังคม สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชีวิต ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้

แบบกิจกรรมเสริมทักษะควำมรู้ท้ำยหน่วยกำรเรยี นรู้ คาถามท้าทาย สิทธิเด็กข้อใดทีน่ ักเรียนควรใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์มำกที่สดุ ในขณะทเ่ี ปน็ นักเรยี น การบรู ณาการ - กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใชส้ ่ืออินเตอร์เน็ตสบื ค้น, - กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ; กำรเขยี นแผนภูมคิ วำมคดิ (Mind mapping) - กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ; กำรอภิปรำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสมั มนำ - โรงเรียนสุจรติ ; ปลกู ฝงั คำ่ นยิ มควำมซ่อื สตั ยส์ จุ รติ - โรงเรียนสขี ำว ; ปลูกฝงั ค่ำนิยมให้ผ้เู รียนห่ำงไกลอบำยมุขทกุ ชนิด - โรงเรียนคุณธรรม ; ปลูกฝังคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมใหเ้ กดิ กบั ผู้เรยี น การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูนำแบบกิจกรรมหรือแบบฝึกหัด เพอ่ื ใช้พฒั นำทักษะและทบทวนควำมรูข้ องนักเรียน เมื่อจบกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนในหนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ 2 (แบบกิจกรรมใหข้ ึน้ อยู่กับดุลยพินจิ ของคร)ู ดังน้ี ตวั อย่างกิจกรรม ใหน้ กั เรียนอธบิ ำยและสรปุ ควำมรู้เกีย่ วกบั สทิ ธพิ นื้ ฐำนของเด็ก 4 ประกำร ดังต่อไปนี้ ลงในแผนภำพ สิทธิขน้ั พน้ื ฐำนของเด็ก สทิ ธทิ ่ีจะมีชีวิต ควำมหมำย______________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ สทิ ธทิ ีจ่ ะไดร้ ับกำรปกปอ้ ง ควำมหมำย_______________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________

สิทธิท่ีจะไดร้ บั กำรพัฒนำ ควำมหมำย_______________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ สิทธิทจ่ี ะมสี ่วนรว่ ม ควำมหมำย_______________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ ________________________________________________________________________ 2. ครตู รวจและเฉลยแบบกจิ กรรมพรอ้ มอธบิ ำยสรปุ เป็นควำมร้เู พมิ่ เตมิ 3. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-Test) เพื่อประเมินผลกำรเรียนรทู้ ้ำยหน่วย กำรเรียนรูท้ ี่ 2 4. ให้นักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ ควำมรู้ ดงั นี้ สิทธเิ ด็กประกอบไปด้วยสทิ ธิทจ่ี ะมชี วี ิต สิทธทิ จ่ี ะได้รับกำรปกป้อง สิทธิทจี่ ะได้รบั กำร พฒั นำ และสิทธทิ จ่ี ะมีส่วนร่วม 5. ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำถำมท้ำทำย ดงั นี้ สทิ ธเิ ดก็ ขอ้ ใดทน่ี ักเรียนควรใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์มำกทีส่ ุดในขณะทเ่ี ป็นนกั เรียน การจดั บรรยากาศเชิงบวก กำรนำแบบกจิ กรรมมำเพือ่ ทดสอบและเสริมทกั ษะควำมรู้ของนักเรียนในกำรจัดกจิ กรรม กำรเรยี นกำรสอน สือ่ การเรยี นรู้ แบบกจิ กรรมเสริมทักษะควำมรทู้ ้ำยหน่วยกำรเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล

สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม 2. เครอ่ื งมือ แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ กำรประเมินพฤติกรรมกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรม ผ่ำนตงั้ แต่ 2 รำยกำร ถอื ว่ำ ผา่ น ผำ่ น 1 รำยกำร ถือวำ่ ไม่ผ่าน บันทึกหลงั การสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงชอื่ (นำยวัชรพล แสงสรุ ะ) ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….……………………………………………

………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่อื (นำยขันทอง เดน่ พนั ธ์) ตำแหน่ง ผู้อำนวยกำรโรงเรยี นอนบุ ำลชมุ ชนหนองบัวแดง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 8 เรือ่ ง องคก์ ำรบริหำรส่วนจังหวดั และองคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นตำบล จำนวน 1 ชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 5 หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี 3 กำรปกครองส่วน จำนวน 5 ชว่ั โมง ท้องถน่ิ ของไทย รำยวชิ ำ ส 15101 สังคมศกึ ษำ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สังคมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผ้สู อน นำยวัชรพล แสงสรุ ะ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ดั มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.2 เขำ้ ใจระบบกำรเมอื งกำรปกครองในสังคมปัจจบุ นั ยึดม่ัน ศรทั ธำและธำรงรกั ษำไว้ซึ่งกำร ปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมพี ระมหำกษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ตัวชว้ี ดั ส 2.2 ป.5/1 อธิบำยโครงสรำ้ ง อำนำจ หนำ้ ทแ่ี ละควำมสำคญั ของกำรปกครอง ส่วนทอ้ งถนิ่ จดุ ประสงค์การเรยี นร้สู ตู่ ัวชีว้ ัด 1. อธิบำย โครงสร้ำง อำนำจ และควำมสำคญั ของกำรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ (K) 2. จำแนกบทบำทหนำ้ ท่ี และกำรเข้ำดำรงตำแหนง่ ของผูบ้ รหิ ำรท้องถ่นิ (P) 3. สนใจศกึ ษำเรยี นรกู้ ำรปกครองสว่ นท้องถิ่นภำยในท้องถิน่ ของตนเอง (A) สาระสาคญั

องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัด และองค์กำรบริหำรส่วนตำบล เปน็ กำรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับ จงั หวัด และระดับตำบล โดยผ่ำนกระบวนกำรเลอื กต้ังตำมระบอบประชำธิปไตยจำกประชำชนในระดั บ จงั หวดั และระดับตำบล สาระการเรียนรู้ 1. องคก์ ำรบริหำรส่วนจงั หวัด 2. องค์กำรบริหำรสว่ นตำบล คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มวี ินัย ตัวช้ีวัดท่ี 3.1 ปฏบิ ตั ิตำมข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ิต ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู)้ แผนภำพ องคก์ ำรบริหำรสว่ นจังหวัดและองค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบล คาถามท้าทาย นกั เรยี นสำมำรถมสี ่วนร่วมในกำรพฒั นำทอ้ งถิ่นของตนเองอยำ่ งไร การบูรณาการ - กลุม่ สำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใช้ส่อื อินเตอรเ์ นต็ สบื ค้น, - กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ; กำรเขยี นแผนภูมิควำมคดิ (Mind mapping) - กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ; กำรอภปิ รำย, กำรแสดงควำมคดิ เห็น, กำรสมั มนำ - โรงเรียนสจุ ริต - โรงเรยี นสขี ำว - โรงเรยี นคุณธรรม การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครูทำบตั รคำรปู แบบกำรบริหำรรำชกำรสว่ นทอ้ งถ่ิน ท้ัง 5 รปู แบบ จำกน้นั ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่ม ออกเปน็ 5 กลุม่ ศึกษำและออกมำอธิบำยลักษณะของกำรบริหำรรำชกำรส่วนท้องถ่ินในรปู แบบดังกล่ำว หนำ้ ช้ันเรียน กรุงเทพมหานคร เมอื งพทั ยา เทศบาล องค์การบริหารส่วนจงั หวดั องค์การบรหิ ารส่วนตาบล

2. ครใู ห้นักเรียนกลมุ่ ท่ี 1 ออกมำอธิบำยถงึ ลกั ษณะขององคก์ ำรบริหำรส่วนจังหวัด จบกำรนำเสนอครูเขยี น สรุปเป็นโครงสร้ำงขององค์กำรบริหำรส่วนจังหวดั ลงบนกระดำน จำกนั้นใชค้ ำถำมให้นักเรยี นรว่ มกันแสดง ควำมคดิ เหน็ ดงั นี้ ตวั อยา่ งโครงสรา้ งแผนภาพ องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดมีควำมสำคัญต่อกำรบริหำรพัฒนำท้องถิ่นอยำ่ งไร (ตัวอย่าง คาตอบ เปน็ องค์กรท่ีมาจากการเลอื กตงั้ ของประชาชนภายในจังหวัดซง่ึ สามารถแก้ไขปัญหา และบรหิ าร พฒั นาจังหวดั ใหเ้ จริญตามความต้องการของประชาชนในทอ้ งถิ่นได)้ กำรมอี งคก์ ำรบรหิ ำรส่วนจังหวัดมีผลดีอย่ำงไร (ตัวอย่างคาตอบ เปน็ การกระจายอานาจ ให้ประชาชนในทอ้ งถ่นิ สามารถเลือกผูน้ าเข้ามาแก้ไขปัญหาและพฒั นาพ้ืนที่ของตนเอง ตามการปกครอง ระบบประชาธิปไตย) 3. ครูใหน้ กั เรยี นกลุ่มที่ 2 ออกมำอธิบำยถึงลกั ษณะขององค์กำรบริหำรส่วนตำบล จบกำรนำเสนอ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันเขียนสรุปเป็นโครงสรำ้ งองคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบลลงบนกระดำน จำกน้นั ใชค้ ำถำมให้ นักเรียนรว่ มกันแสดงควำมคิดเหน็ ดงั นี้ ตวั อยา่ งโครงสร้างแผนภาพ

องคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลมีควำมสำคญั ตอ่ กำรปกครองในระดับตำบลอย่ำงไร (ตัวอย่าง คาตอบ เป็นองค์กรท่ีมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในระดับตาบลเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับ ประชาชนในตาบลของตนเอง) กำรมอี งค์กรปกครองในระดับตำบลมผี ลดีอย่ำงไร (ตัวอยา่ งคาตอบ เป็นการกระจายอานาจ ให้ประชาชนในระดับตาบลสามารถกาหนดทิศทางในการแก้ไขปญั หาและบริหารพัฒนาท้องถนิ่ ของตนเอง ไดต้ ามความตอ้ งการ) 4. ให้นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปควำมรู้ ดังนี้ องค์กำรบรหิ ำรส่วนจงั หวดั และองคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบล เปน็ องค์กรปกครองส่วน ท้องถนิ่ ทม่ี ีอำนำจในกำรบริหำรพัฒนำ และแกไ้ ขปญั หำในท้องถ่ินตนเองตำมอำนำจหน้ำทที่ ไ่ี ด้รบั มอบหมำย จำกประชำชนในทอ้ งถิน่ 5. ใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใชค้ ำถำมท้ำทำย ดงั น้ี นกั เรยี นสำมำรถมีส่วนร่วมในกำรพัฒนำทอ้ งถน่ิ ของตนเองอยำ่ งไร การจัดบรรยากาศเชิงบวก กำรแบ่งกลุม่ ออกมำนำเสนอเกีย่ วกบั องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ หน้ำช้ันเรยี น และสรปุ เปน็ โครงสรำ้ งแผนภำพ สื่อการเรียนรู้ บตั รคำ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินของไทย การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในกำรเข้ำร่วมกิจกรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่

3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 กำรประเมนิ พฤติกรรมกำรเขำ้ รว่ มกิจกรรม ผำ่ นตั้งแต่ 2 รำยกำร ถอื ว่ำ ผ่าน ผ่ำน 1 รำยกำร ถือวำ่ ไม่ผ่าน 3.2 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเข้ำร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมำก คะแนน 7-8 ระดบั ดี คะแนน 5-6 ระดับ พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรงุ กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ให้นักเรียนร่วมกันบอกลักษณะของผู้นำในอุดมคติของนักเรียนที่ทำหน้ำทใี่ นกำรบริหำรท้องถ่ิน ของนักเรียน โดยให้นักเรียนออกมำเขียนเป็นแผนภำพควำมคดิ บนกระดำน 2. วำดภำพท่ีแสดงถึงกำรมสี ่วนร่วมในกิจกรรมทำงกำรเมือง กำรปกครองตำมกระบวนกำร ประชำธปิ ไตยพรอ้ มทั้งระบำยสใี ห้สวยงำม บนั ทึกหลงั การสอน 1. ผลการจัดการเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….……………

……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่อื (นำยวัชรพล แสงสรุ ะ) ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงช่ือ (นำยขนั ทอง เด่นพนั ธ์) ตำแหนง่ ผู้อำนวยกำรโรงเรียนอนบุ ำลชุมชนหนองบัวแดง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 9 เรอ่ื ง เทศบำล กรุงเทพมหำนครและเมืองพทั ยำ จำนวน 1 ช่ัวโมง ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 5 หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ 3 กำรปกครองสว่ น จำนวน 5 ชัว่ โมง ท้องถนิ่ ของไทย รำยวชิ ำ ส 15101 สงั คมศึกษำ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ สังคมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผ้สู อน นำยวชั รพล แสงสุระ มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ดั มาตรฐานการเรียนรู้

ส 2.2 เข้ำใจระบบกำรเมอื งกำรปกครองในสงั คมปจั จบุ ัน ยดึ มั่น ศรทั ธำและธำรงรักษำไวซ้ ึ่งกำร ปกครองระบอบประชำธปิ ไตยอันมพี ระมหำกษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข ตวั ชี้วัด ส 2.2 ป.5/1 อธิบำยโครงสรำ้ ง อำนำจ หนำ้ ทแี่ ละควำมสำคญั ของกำรปกครอง สว่ นท้องถิ่น จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ ตู่ วั ชี้วัด 1. อธิบำย โครงสร้ำง อำนำจ และควำมสำคัญของเทศบำล กรุงเทพมหำนคร และเมืองพทั ยำ (K) 2. จำแนก บทบำท หนำ้ ท่ขี องเทศบำล กรงุ เทพมหำนคร และเมืองพทั ยำ (P) 3. สนใจศึกษำเรยี นรกู้ ำรปกครองสว่ นท้องถนิ่ ภำยในท้องถนิ่ ของตนเอง (A) สาระสาคญั เทศบำลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในเขตท่ปี ระกำศเป็นเขตเทศบำล กรุงเทพมหำนคร และ เมืองพทั ยำเปน็ กำรปกครองพเิ ศษในระบอบประชำธปิ ไตยของไทย สาระการเรยี นรู้ กำรปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบำล กรุงเทพมหำนคร และเมืองพัทยำ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ มีวนิ ยั ตัวชีว้ ัดท่ี 3.1 ปฏิบตั ติ ำมขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั โรงเรียน และสังคม สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวติ ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ ชิ้นงำนที่ 4 เร่อื ง กำรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ของไทย คาถามท้าทาย กำรมีองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ มีผลดีตอ่ ท้องถ่ินของไทยอย่ำงไรบ้ำง การบรู ณาการ - กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี ; กำรใช้สือ่ อินเตอร์เน็ตสืบค้น, - กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ; กำรเขยี นแผนภูมคิ วำมคดิ (Mind mapping) - กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ; กำรอภปิ รำย, กำรแสดงควำมคิดเหน็ , กำรสมั มนำ - โรงเรียนสุจรติ ; ปลูกฝังค่ำนิยมควำมซอื่ สตั ย์สจุ รติ - โรงเรยี นสีขำว ; ปลูกฝังค่ำนิยมใหผ้ เู้ รียนห่ำงไกลอบำยมขุ ทกุ ชนิด

- โรงเรยี นคุณธรรม ; ปลูกฝงั คุณธรรมและจรยิ ธรรมใหเ้ กดิ กบั ผู้เรียน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ต่อจำกชัว่ โมงทีแ่ ลว้ 1. ครใู ห้นกั เรยี นกล่มุ ท่ี 3 ออกมำอธบิ ำยนำเสนอผลกำรศึกษำถึงลกั ษณะของ องค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิน่ รปู แบบเทศบำลหน้ำชั้นเรยี น จบกำรนำเสนอร่วมกนั สรุปโครงสร้ำงของเทศบำลลงบน กระดำน จำกน้นั ใช้คำถำมใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงควำมคิดเห็น ดงั นี้ ตวั อยา่ งแผนภาพโครงสร้าง บำ้ นของนักเรยี นอยใู่ นเขตเทศบำลอะไร (ตวั อย่างคาตอบ เทศบาลเมอื ง) เทศบำลมคี วำมสำคัญต่อกำรพัฒนำทอ้ งถน่ิ อย่ำงไร (ตวั อย่างคาตอบ เป็นองคก์ ร-ปกครอง สว่ นท้องถิ่นที่ดูแลและแก้ไขปัญหาภายในเขตเทศบาล อานวยความสะดวก และพัฒนาบริหารจัดการใน เขตพน้ื ท่ใี นเขตเทศบาลให้ไดร้ ับความเจริญ)

2. ครใู ห้นักเรยี นกลุ่มท่ี 4 ออกนำเสนอองคก์ รปกครองพเิ ศษกรงุ เทพมหำนคร จบกำรนำเสนอครู และนักเรียนร่วมกันสรุปโครงสร้ำงของกรุงเทพมหำนครเปน็ แผนภำพลงบนกระดำน จำกน้ันครใู ช้คำถำมให้ นกั เรียนร่วมกันแสดงควำมคิดเห็นดังน้ี ตัวอยา่ งแผนภาพโครงสร้าง ผ้วู า่ ราชการกรงุ เทพมหานคร สภากรุงเทพมหานคร มาจากการเลือกตงั ้ ของประชาชน มปี ระธานสภา 1 คน ชาวกรุงเทพมหานครโดยตรง รองประธานสภาไมเ่ กิน2 คน มาจากการเลอื กตงั ้ ของประชาชน มอี านาจในการบริหารกรงุ เทพมหานคร เรียกวา่ สมาชกิ สภากรุงเทพมหานคร ตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน ปัจจบุ นั มี 57 คน จากสัดสว่ นประชาชน50 เขต มวี าระการดารงตาแหนง่ คราวละ 4 ปี สมาชกิ สภาเขต (มาจากการเลอื กตงั ้ ) เขตแตล่ ะเขตมสี มาชกิ อย่างน้อย เขตละ 7 คน มปี ระธานสภาเขต 1 คน และรองประธาน1 คน มีอานาจในการควบคมุ ตรวจสอบการบริหารงาน ของฝ่ ายบริหาร และออกกฎหมายเก่ียวกับ ข้อบญั ญัติของกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหำนครมีอำนำจในกำรปกครองตนเองอยำ่ งไร (ตัวอย่างคาตอบ ประชาชนในเขต กรุงเทพมหานครสามารถเลือกผู้วา่ มาบรหิ ารจัดการแก้ปัญหาของกรงุ เทพมหานครด้วยตัวเอง ) รปู แบบกำรปกครองแบบกรุงเทพมหำนครมผี ลดตี ่อท้องถิ่นอย่ำงไร (ตัวอยา่ งคาตอบ ทาให้ กรงุ เทพฯ ได้รบั การดูแลและพัฒนาเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว) 3. ครูใหน้ ักเรียนกลมุ่ ท่ี 5 ออกนำเสนอผลกำรศึกษำองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นเมืองพทั ยำ จบ กำรนำเสนอ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปโครงสร้ำงเมืองพัทยำเป็นแผนภำพลงบนกระดำน จำกน้ันครูใช้ คำถำมเพอื่ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงควำมเห็น ดังนี้

ตัวอย่างแผนภาพโครงสร้าง นายกเมืองพทั ยา สภาเมืองพัทยา จานวนสมาชกิ 24 คน มีอานาจหน้าที่บริหารรับผดิ ชอบกิจการของเมอื งพทั ยา มีอานาจหน้าท่ีออกกฎหมายข้อบญั ญัติ มาจากการเลือกตงั ้ จากประชาชนในเขตเมอื งพทั ยา ของเมอื งพทั ยา และควบคมุ ตรวจสอบ ดารงตาแหนง่ คราวละ 4 ปี การทางานฝ่ ายบริหาร มีประธานสภา 1 คน รองประธานสภา 2 คน (สมาชกิ คัดเลือกกันเอง) เมืองพทั ยำอยใู่ นเขตจังหวดั อะไร (จังหวดั ชลบรุ ี) เมืองพัทยำเป็นเขตกำรปกครองพิเศษอย่ำงไร (ตัวอย่างคาตอบ เมืองพัทยาบริหาร ปกครองตนเอง โดยการเลือกตั้งจากเสียงของประชาชนในเขตเมืองพทั ยาเพอ่ื เลอื กผู้บริหารมาทาหนา้ ที่ ดแู ลและแก้ไขปญั หาตา่ ง ๆ ของเมอื งพัทยาดว้ ยตัวเอง) เหตุใดเมอื งพัทยำจึงได้รับพิจำรณำใหเ้ ป็นเขตปกครองพิเศษจำกรัฐบำล (ตัวอย่างคาตอบ เป็ น เ มื อง ท่ อ ง เ ที่ย ว มี ผู้ คน อ ยู่ อ าศั ย แ ล ะ เข้ า ไ ป ท่ อง เ ท่ี ย วใ น เ มื อ ง พั ท ย า จ าน ว น ม า ก จึงจาเป็นต้องให้คนในพน้ื ที่ดูแลแก้ไขปญั หาและบริหารจดั การเองเพื่อความคลอ่ งตัว โดยการเห็นชอบ จากประชาชนในเขตพนื้ ท)ี่ 4. ใหน้ ักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปควำมรู้ ดงั นี้ เทศบำลเป็นองคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ ในเขตทีป่ ระกำศเปน็ เทศบำล สว่ นกรุงเทพมหำนครและเมืองพทั ยำเปน็ กำรปกครองพเิ ศษของไทยที่ผบู้ ริหำรและสมำชกิ มำ จำกกำรเลอื กตง้ั ของประชำชนในพ้ืนท่โี ดยตรงตำมระบอบประชำธปิ ไตย 5. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันแสดงควำมคิดเห็นโดยครใู ชค้ ำถำมท้ำทำย ดงั นี้ กำรมอี งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมผี ลดตี อ่ ทอ้ งถ่ินของไทยอย่ำงไรบ้ำง 6. ให้นกั เรยี นทำช้ินงำนที่ 4 เรอื่ ง กำรปกครองสว่ นท้องถิน่ ของไทย การจัดบรรยากาศเชิงบวก กำรจดั แบ่งกลุ่มนำเสนอผลกำรศึกษำหน้ำช้ันเรียน และสรุปควำมรู้โครงสรำ้ งกำรปกครองทอ้ งถ่ิน ของไทยเป็นแผนภำพ

ส่ือการเรยี นรู้ ชนิ้ งำนท่ี 4 เร่ือง กำรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ของไทย การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในกำรเขำ้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 1.3 ตรวจชิน้ งำนท่ี 4 เรอื่ ง กำรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ ของไทย 2. เครอื่ งมือ 2.1 แบบสังเกตพฤติกรรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรม 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรเข้ำรว่ มกจิ กรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 กำรประเมนิ พฤตกิ รรมกำรเขำ้ ร่วมกจิ กรรม ผ่ำนตง้ั แต่ 2 รำยกำร ถือว่ำ ผ่าน ผำ่ น 1 รำยกำร ถือวำ่ ไม่ผ่าน 3.2 กำรประเมินพฤติกรรมกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม คะแนน 9-10 ระดบั ดีมำก คะแนน 7-8 ระดับ ดี คะแนน 5-6 ระดบั พอใช้ คะแนน 0-4 ระดับ ควรปรบั ปรุง การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) กำรประเมนิ ชิน้ งำนท่ี 4 ใหผ้ ู้สอนพิจำรณำจำกเกณฑ์กำรประเมินผลตำมสภำพจรงิ (Rubrics) เรอื่ ง กำรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นของไทย เกณฑก์ ารประเมิน 4 ระดับคะแนน 1 32 ค้นควำ้ และเขียน คน้ คว้ำและเขยี น ค้นคว้ำและเขียน คน้ ควำ้ และเขียน ค้นคว้ำและเขยี น อธบิ ำยหรือสรปุ อธบิ ำยหรอื สรุปกำร อธบิ ำยหรือสรุปกำร อธบิ ำยหรอื สรปุ กำร อธิบำยหรือสรปุ กำร กำรปกครอง ปกครอง ปกครอง ปกครองสว่ นท้องถนิ่ ปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ส่วนท้องถนิ่ ส่วนทอ้ งถนิ่ ส่วนทอ้ งถิน่ ของตนเอง ของตนเองได้ ของตนเอง ของตนเอง ของตนเองได้ มีกำร ได้สอดคล้องกับขอ้ มูล แตย่ ังไมส่ อดคล้องกับ ไดส้ มั พันธเ์ ชอ่ื มโยง จำแนกขอ้ มลู เขียน มีกำรเขียนขยำย ข้อมลู เขยี นตำม

กนั อธบิ ำยใหเ้ ห็น อธิบำยแสดงให้เห็น ควำมยกตัวอยำ่ ง ขอ้ มลู ที่อำ่ น ไม่มีกำร ภำพโดยรวม แสดง ถงึ ควำมสัมพันธก์ บั เพิ่มเตมิ ใหเ้ ขำ้ ใจงำ่ ย อธิบำยเพิ่มเตมิ ใหเ้ ห็นถึงควำม ตนเองอยำ่ งเปน็ เหตุ สัมพันธ์กบั ตนเอง เปน็ ผล และผ้อู ่ืน บันทึกหลังการสอน 1. ผลการจดั การเรยี นการสอน ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… 3. แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ลงช่ือ (นำยวชั รพล แสงสรุ ะ) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย ความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ……………………………………………….…………………………………………………………….…………………………………………… ………………………………………………………………………………………….………………………………………………….…………… ลงชือ่

(นำยขนั ทอง เด่นพนั ธ์) ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนอนุบำลชมุ ชนหนองบวั แดง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 เร่ือง อำนำจหน้ำท่ี และควำมสำคัญของกำรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ จำนวน 1 ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5 หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ 3 กำรปกครองส่วน จำนวน 5 ชวั่ โมง ทอ้ งถ่ินของไทย รำยวิชำ ส 15101 สงั คมศึกษำ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ สงั คมศึกษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม ผูส้ อน นำยวัชรพล แสงสรุ ะ มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรยี นรู้ ส 2.2 เข้ำใจระบบกำรเมอื งกำรปกครองในสังคมปจั จบุ ัน ยึดม่ัน ศรัทธำและธำรงรักษำไวซ้ ่ึงกำร ปกครองระบอบประชำธปิ ไตยอนั มีพระมหำกษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตวั ชว้ี ัด ส 2.2 ป.5/2 ระบุบทบำท หนำ้ ท่ี และวธิ กี ำรเข้ำดำรงตำแหน่งของผ้บู รหิ ำรท้องถ่นิ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้สู่ตวั ชี้วัด 1. อธิบำย อำนำจหน้ำท่ี และควำมสำคญั ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น (K) 2. เขียนแผนภำพเค้ำโครงอำนำจหน้ำท่แี ละควำมสำคัญขององค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ (P) 3. สนใจศกึ ษำกำรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ภำยในทอ้ งถ่ินของตนเอง (A) สาระสาคัญ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมีอำนำจหนำ้ ทด่ี ูแลอำนวยควำมสะดวกสนับสนนุ สง่ เสริมประชำชนใน ท้องถ่ินให้ได้รับควำมสะดวกสบำย เป็นกำรแบ่งเบำภำระ และควำมรับผดิ ชอบของรฐั บำล สำมำรถแก้ไข ปัญหำต่ำง ๆ ของประชำชน และสรำ้ งควำมเจรญิ ให้แกท่ ้องถนิ่ ไดเ้ ป็นอยำ่ งดี สาระการเรียนรู้ อำนำจหนำ้ ท่ีขององค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook