แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าพระพทุ ธศาสนา ระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 ครกู ลั ยากร เชวงสขุ กล่มุ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน สำนกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหสั วิชา ส33101 ภาคเรยี นที่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 พระพทุ ธ เวลาเรยี น 3 ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 พทุ ธประวัติด้านการธำรงรกั ษาพระพุทธศาสนา เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางสาวกลั ยากร เชวงสุข 1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การศึกษาเล่าเรียนหลักธรรมจนเข้าใจและปฏิบัติธรรมได้ตามหลักคำสอน เป็นแนวทางในการธำรงรักษา พระพุทธศาสนาใหม้ ัน่ คงและยั่งยนื 2. ตัวชวี้ ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตัวชว้ี ดั ส 1.1ม.4-6/3 วเิ คราะห์พทุ ธประวัตดิ ้านการบรหิ ารและการธำรงรักษาศาสนา หรอื วเิ คราะห์ ประวัติศาสดาที่ตนนบั ถือตามทีก่ ำหนด 2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายแนวทางการธำรงรกั ษาพระพุทธศาสนา (K) 2. วเิ คราะหแ์ นวทางการปฏิบัตเิ พื่อธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนา (P) 3. เห็นคณุ ค่าและความสำคญั ในการปฏิบตั ิตนเพ่ือธำรงรักษาพระพุทธศาสนา (A) 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้ • แนวทางการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา 3.2 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3.3 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. ภาระงาน : ชิน้ งาน - ช้ินงาน เร่ือง พทุ ธประวตั ิด้านการบริหารและการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา 5. แนวทางการวัดผลประเมินผล • การประเมินการเรยี นรู้ 1. ประเมินความรู้ เร่ือง พุทธประวัติดา้ นการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ ชิ้นงาน เร่ือง พทุ ธประวัตดิ า้ นการบริหารและการธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนา (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมนิ
• แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics) • แบบประเมนิ ช้ินงาน เรอ่ื ง พทุ ธประวตั ิดา้ นการบรหิ ารและการธำรงรกั ษาพระพุทธศาสนา รายการการ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ประเมนิ อธบิ ายสรปุ พทุ ธ 32 อธบิ ายสรุปพุทธ การอธบิ ายสรุป ประวัติด้านการ ประวตั ิด้านการ พุทธประวัติ บรหิ ารและการธำรง อธิบายสรุปพุทธ อธบิ ายสรุปพุทธ บรหิ ารและการธำรง ดา้ นการบรหิ าร รักษพระพทุ ธศาสนา ประวัติด้านการ ประวตั ิดา้ นการ รักษพระพุทธศาสนา และการธำรงรักษา และเสนอแนวทาง บริหารและการธำรง บริหารและการธำรง และเสนอแนวทาง พระพุทธศาสนา การดำรงรกั ษา รกั ษพระพทุ ธศาสนา รกั ษพระพทุ ธศาสนา การดำรงรกั ษา และเสนอแนวทาง พระพุทธศาสนา และเสนอแนวทาง และเสนอแนวทาง พระพุทธศาสนาได้ การดำรงรกั ษา ได้สมั พันธ์เชื่อมโยง การดำรงรักษา การดำรงรักษา แตย่ ังไม่สอดคล้องกับ พระพุทธศาสนา ให้เหน็ ภาพโดยรวม พระพุทธศาสนาได้ พระพุทธศาสนา ขอ้ มลู และสรุป แสดงถึงความสัมพันธ์ มีการจำแนกข้อมลู ได้สอดคล้องกับ เนอื้ หาไม่ชดั เจน กับตนเองและผู้อนื่ แสดงให้เหน็ ถึง ขอ้ มลู มีการเขียน อยา่ งเป็นเหตุเปน็ ผล ความสมั พันธก์ ับ อธิบายสรปุ ใหอ้ ่าน ตนเองอย่างเป็นเหตุ เข้าใจงา่ ย เป็นผล 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ • นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ข้นั สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรียนร่วมกันบอกกิจกรรมที่ตนเองเคยมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามาคนละ 1 กิจกรรม พร้อมบอกความรู้สกึ ท่เี กดิ ขนึ้ หลังการปฏิบตั ิ 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับเรื่อง พุทธประวัติด้านการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา จากหนงั สือเรียนหรอื แหล่งการเรยี นรอู้ ื่น ๆ เพม่ิ เตมิ ข้ันคิดวเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 3. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพุทธประวัติด้านการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา แลว้ สรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยตอบคำถาม ดังน้ี • พระพุทธเจ้าทรงวางแนวทางการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาไวอ้ ย่างไรบ้าง โดยบันทึก คำตอบของนกั เรยี นเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดงั ตวั อยา่ ง
กำชบั ให้พระสงฆ์ศกึ ษาธรรม แนวทางการธำรงรักษา มอบหมายให้พุทธศาสนกิ ชนมี ดว้ ยความเคารพ พระพทุ ธศาสนา ส่วนรว่ มรับผดิ ชอบในการเป็น ของพระพทุ ธเจา้ เจ้าของพระพุทธศาสนา มอบหมายใหพ้ ุทธศาสนิกชน อยา่ งเสมอภาคกัน ยดึ พระธรรมวินยั เป็นศาสดา แทนพระองค์ แนะนำให้พระสงฆ์และ พทุ ธบริษทั รว่ มกันทำสงั คายนา ทรงบญั ญัติพระธรรมวินยั ทรงเลือกพระเถระทจ่ี ะเป็น จำนวนมาก ผมู้ ีบทบาทในการทำสังคายนา สบื ต่อมาในภายหลัง • การปฏิบตั ขิ องพระพุทธเจา้ ก่อให้เกดิ ผลอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ทำให้มผี ู้สบื ทอดและเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาจำนวนมาก ทำให้พระพุทธศาสนา มนั่ คงสืบมาจนถงึ ปจั จุบนั ) • พระพุทธศาสนาจะยั่งยนื ได้ พุทธบรษิ ทั 4 จะต้องปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร นักเรียนร่วมกันบนั ทึก คำตอบลงในแผนภาพความคิดบนกระดาน ดังตวั อย่าง ใช้หลักธรรมในการดำเนนิ ชวี ิต ช่วยเผยแผห่ ลักธรรมคำสอน แนวทางการธำรงรักษา พระพทุ ธศาสนา ของพทุ ธบริษัท 4 เคารพบูชาพระรัตนตรัย ช่วยทำนบุ ำรุงพระพุทธศาสนา 5. นักเรียนรว่ มกนั เสนอแนวทางการธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนาของตนเอง พรอ้ มวิเคราะห์ผล ท่ีเกดิ ขนึ้ จากการปฏบิ ตั แิ ละไมป่ ฏิบตั ิลงในแผนภาพความคิด แล้วสรปุ เปน็ ความคดิ รวบยอด ดงั ตวั อย่าง ถา้ ปฏบิ ัติ ผลทเี่ กดิ ขึน้ แนวทางการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา พระพทุ ธศาสนาเจริญรุ่งเรอื ง คงอยสู่ ืบไป เขา้ รว่ มกจิ กรรมและพิธีกรรมทเ่ี กยี่ วเนอ่ื ง กบั วันสำคญั ทางพระพุทธศาสนา ผลทเี่ กิดขนึ้ ถ้าไม่ปฏิบตั ิ พระพทุ ธศาสนาเสื่อมสลายไป หรอื มผี นู้ บั ถือน้อยลง
6. นกั เรยี นคดิ ประเมนิ เพอื่ เพิ่มคณุ คา่ แลว้ สรุปเปน็ ความคิดรวบยอด โดยตอบคำถาม ดงั น้ี • นกั เรยี นจะเชญิ ชวนใหท้ กุ คนมสี ว่ นร่วมในการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาให้คงอยูต่ ่อไป ได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ แนะนำใหส้ มาชิกในครอบครวั และชุมชนใช้หลกั ธรรมในการดำเนนิ ชวี ิต และเข้ารว่ มกิจกรรมและพิธกี รรมทางพระพุทธศาสนา) ข้ันปฏิบัตแิ ละสรุปความรู้หลงั การปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. นักเรียนสรุปแนวทางการบริหารและการธำรงรักษาพระพุทธศาสนาตามหลักของพระพุทธเจ้าและเสนอ แนวทางการธำรงรักษาของพระพุทธศาสนาลงในชิ้นงานที่ 3 เร่ือง พุทธประวัติด้านการบริหารและการธำรงรักษา พระพทุ ธศาสนา 8. นกั เรยี นตรวจสอบความถกู ต้องเรียบร้อยของผลงาน หากพบขอ้ ผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขน้ึ 9. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ สิง่ ทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดังนี้ การศึกษาเลา่ เรียนหลักธรรมจนเข้าใจและปฏบิ ตั ิธรรมไดต้ ามหลักคำสอน เป็นแนวทางในการธำรงรักษา พระพทุ ธศาสนาให้มั่นคงและยั่งยืน ข้ันสื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill) 10. นกั เรียนออกมานำเสนอแนวทางการบริหารและการธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนาตามหลกั ของ พระพทุ ธเจา้ และเสนอแนวทางการธำรงรกั ษาพระพุทธศาสนาใหเ้ พ่ือนฟงั หน้าช้ันเรยี น 11.นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปเก่ียวกบั วิธกี ารทำงานใหเ้ ห็นการคดิ เชงิ ระบบและวธิ ีการทำงานทีม่ ีแบบแผน ขน้ั ประเมินเพอื่ เพิ่มคณุ คา่ บริการสังคมและจติ สาธารณะ (Self-Regulating) 12. นักเรยี นร่วมกันรณรงค์ให้พุทธศาสนกิ ชนช่วยกนั ธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนาให้คงอยู่สืบไป 13. นักเรยี นประเมนิ ตนเองหลังการเรียน ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี • สิ่งท่ีนกั เรยี นไดเ้ รยี นรใู้ นวันนีค้ ืออะไร • นักเรียนมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรียนร้มู ากน้อยเพยี งใด • นกั เรยี นพงึ พอใจกับการเรยี นรู้ในวนั น้ีหรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ทไี่ ด้นี้ไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไปไดอ้ ย่างไร จากนัน้ แลกเปล่ยี นตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทุกขัน้ ตอนว่าจะเพ่ิมคณุ คา่ ไปสสู่ ังคมเกิดประโยชน์ ต่อสงั คมให้มากขน้ึ กวา่ เดิมในขนั้ ตอนใดบา้ ง สำหรบั การทำงานในครงั้ ต่อไป 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน พระพุทธศาสนา ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 7.2 แหล่งเรียนรู้ 1. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น
แบบบันทึกหลังการสอน หน่วยการเรยี นรูท้ .ี่ .........เรื่อง .......................................................................................................................... แผนการเรียนรูท้ ่ี...........เร่อื ง……………………………………………………..………………..จำนวน..………………….ชัว่ โมง ผลการใชแ้ ผนการเรียนรูแ้ ละแนวทางพัฒนา 1. ระยะเวลาท่ีใช้ ใชเ้ มอื่ ……………………………………………………………………………………………………………..…….. ผลการใช้ พอเพียงตามแผน ไมเ่ พียงพอและไมต่ รงตามแผนเพราะ…………………………… ควรแก้ไขปรบั ปรงุ คือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 2. ผลการเรียนรู้ ควรแกไ้ ขปรบั ปรุงคือ…………………………………………………………………………………… 3. สาระการเรยี นรู้ สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกับผลการเรยี นรู้ ควรแก้ไขปรบั ปรุงคือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 4. กระบวนการเรียนรู้ เปน็ ไปตามกระบวนการ ไมเ่ ปน็ ไปตามกระบวนการ ควรแกไ้ ขปรบั ปรุงคือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 5. สือ่ การเรียนรู้ เป็นไปตามกระบวนการ ไมเ่ ป็นไปตามกระบวนการ 6. เคร่ืองมือวดั ผลประเมินผล สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรูท้ คี่ าดหวัง ไม่สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวัง ควรแก้ไขปรบั ปรงุ คือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… บันทกึ ผลการเรียนร้ตู ามแผนการเรยี นรเู้ พ่ือจัดทำวจิ ยั ในชั้นเรยี นหรอื แก้ปญั หาด้านอื่นๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงช่อื )……………………………………………...….ผใู้ ช้แผนการเรียนรู้ (นางสาวกลั ยากร เชวงสขุ ) ตำแหนง่ ครู คศ.1 ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลุม่ งานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการสถานศึกษา ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ลงชื่อ................................................. ลงช่ือ................................................. (นางกนกลักษณ์ แปงมลู ) (นายศฤงคาร ใจปันทา) ครู ชำนาญการพิเศษ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 21
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ 43 2 1 1. รักชาติ 1.1 ยืนตรงเมอื่ ได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัตติ นตามสทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของนกั เรยี น 1.3 ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกับสมาชิกในช้ันเรียน 2. ซอื่ สัตย์ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทสี่ รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน สุจริต และชมุ ชน 1.5เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา 3. มีวนิ ยั 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี กี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามทโี่ รงเรยี นและชุมชน รบั ผดิ ชอบ จดั ขน้ึ 4. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 ให้ข้อมลู ท่ีถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ัติในส่ิงทถี่ กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่ีจะทำความผิด ทำตามสัญญาที่ตน 5. อยู่อยา่ ง ใหไ้ ว้กบั เพอื่ น พอ่ แม่หรือผู้ปกครอง และครู พอเพยี ง 2.3 ปฏบิ ัติต่อผู้อ่ืนดว้ ยความซอื่ ตรง 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว และโรงเรียน มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เชน่ สง่ิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และ เก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของส่วนรวมอย่างประหยดั คุ้มค่า และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ืน่ และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดือดร้อน พร้อมให้อภยั เมอื่ ผู้อนื่ กระทำ ผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใชช้ ีวติ ประจำวันบนพน้ื ฐานของความรู้ ขอ้ มูล ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปล่ียนแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรบั ตวั อยู่ร่วมกับผู้อนื่ ได้อยา่ งมีความสุข
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ 4321 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 6. มงุ่ มนั่ ในการ 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเร็จ ทำงาน 7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 7. รกั ความเปน็ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน ไทย 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคิด ช่วยทำ และแบง่ ปนั ส่ิงของใหผ้ ู้อืน่ 8.3 รจู้ ักดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสิ่งแวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8. มจี ติ สาธารณะ 8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี น ลงช่ือ ....................................................ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยครั้ง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกวา่ 54 ปรับปรุง
แผนการจดั การเรียนรู้ รหสั วชิ า ส33101 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 3 ช่ัวโมง สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม เวลาเรียน 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 พระพุทธ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 พระพุทธศาสนาเป็นศาสตรแ์ หง่ การศึกษา ครูผสู้ อน นางสาวกัลยากร เชวงสุข 1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษามุ่งการฝึกอบรมตนให้พัฒนางอกงามด้านกาย ศีล และจิตใจ ซึ่งมีกระบวนการพัฒนาตนอย่างเป็นระบบ 2. ตัวชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ชีว้ ัด ส 1.1ม.4-6/9 วิเคราะห์พระพุทธศาสนาว่าเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ซึ่งเน้นความสัมพันธ์ของเหตุ ปจั จัยกบั วธิ ีการแก้ปัญหาหรือแนวคดิ ของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามท่ีกำหนด 2.2 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความหมายของการศกึ ษาในฐานะเปน็ ศาสตร์แห่งการศกึ ษาได้ 2. วิเคราะห์การพัฒนาตนตามกระบวนการศึกษาได้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้ • พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แหง่ การศกึ ษา 3.2 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการวิเคราะห์ 2) ทักษะการเรยี งลำดบั 3) ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ 4) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น 2.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 3.3 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน 4. ภาระงาน : ชน้ิ งาน - แบบฝกึ หดั ในใบงาน
5. แนวทางการวัดผลประเมินผล วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ (ประเมินตามสภาพจริง) ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานที่ 2.2 ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.3 ใบงานท่ี 2.3 ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 2.4 ใบงานท่ี 2.4 ตรวจแบบบันทึกการอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม สงั เกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบธรรมสากัจฉา • นักเรียนสวดมนตบ์ ชู าพระรัตนตรัย และทำสมาธกิ ่อนเรยี น ขน้ั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน ครนู ำข่าวบคุ คลในอาชีพต่างๆ ทม่ี กี ารพฒั นาตนในดา้ นกาย ศลี และจิตใจ ตามหลกั พระพุทธศาสนา มาให้นักเรียนวิเคราะห์การกระทำทีส่ อดคล้องกบั การพฒั นาตน จากน้นั ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ นักเรียนมีการกระทำที่แสดงว่า ได้พัฒนาตนอย่างไรบ้าง จงยกตัวอย่าง (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน) ขัน้ สอน ขัน้ ท่ี 1 แสวงหาความรู้ นักเรียน แบ่ งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความ สมัครใจ ให้ แต่ละกลุ่มช่วยกัน แสวงห าความรู้ เรื่อง พระพุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศึกษา ในหัวข้อ การพัฒนาตนให้งอกงาม 4 ด้าน บุรพภาคของการศึกษา และกระบวนการศึกษา โดยศึกษาความรู้ จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพ่ิมเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ แล้วบันทึกความรทู้ ไ่ี ด้จากการศึกษาลงในแบบบันทึกการอ่าน นกั เรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ การพฒั นาตนให้เจริญงอกงามน้นั จะตอ้ งพัฒนาในดา้ นใด (พฒั นากาย ศลี จิตใจ และปญั ญา) ขน้ั ที่ 2 ค้นพบความรู้/สนทนาแลกเปลย่ี นความรู้ 1. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มจบั คู่กันเปน็ 3 คู่ ให้แต่ละคู่ช่วยกันทำใบงาน ดงั น้ี - คู่ท่ี 1 ทำใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง การพัฒนาตนใหง้ อกงาม - คู่ที่ 2 ทำใบงานท่ี 2.2 เรื่อง บรุ พภาคแห่งการศึกษา - คู่ที่ 3 ทำใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง กระบวนการศกึ ษา 2. นักเรียนแตล่ ะคผู่ ลัดกันอธิบายแลกเปลีย่ นความรตู้ ามหัวขอ้ ทไ่ี ดร้ ับ และจากผลงานในใบงานทคี่ ขู่ องตน รบั ผดิ ชอบ จากนั้นครูและนักเรียนชว่ ยกนั เฉลยคำตอบในใบงานท่ี 2.1 - 2.3 3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด
นักเรียนคิดวา่ การพัฒนาคนให้เจรญิ งอกงามนัน้ จะต้องเริ่มตน้ พฒั นาดา้ นใดเป็นเบื้องตน้ จงอธิบายเหตผุ ล (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยูใ่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน ขน้ั ที่ 3 วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ค่าความรู้ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำใบงานท่ี 2.4 เรื่อง การพัฒนาตนของเกียรติ 2. ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานท่ีหนา้ ช้นั เรยี น กลุ่มละ 1 ขอ้ และให้กลุม่ อน่ื ทมี่ ีผลงาน แตกต่างกนั ออกไปไดน้ ำเสนอเพม่ิ เติม โดยครูเปน็ ผ้ตู รวจสอบความถูกต้อง 3. นักเรยี นตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด • องคป์ ระกอบสำคัญในการสนับสนุนการพฒั นาตน ไดแ้ กอ่ ะไร (องคป์ ระกอบภายใน คือ คิดเป็น คดิ ถกู มเี หตุผล และองค์ประกอบภายนอก คอื การรบั การถ่ายทอดจาก สภาพแวดลอ้ มทางสังคมที่ดี) ขนั้ ท่ี 4 พสิ จู น์ความรู้หรือปฏิบตั ิ 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการปฏิบัติตนในการทำกิจกรรมที่สอดคล้องกับการพัฒนาตนให้ งอกงาม ตามองคป์ ระกอบทเี่ รยี กว่า “บุรพภาคแห่งการศึกษา” และกระบวนการศกึ ษา 2. นักเรียนแต่ละคนปฏิบัติตนตามแผนที่กำหนดและบันทึกผลการปฏิบัติต่อครูผู้สอน หรือผลัดกันนำเสนอ ผลการปฏิบตั ิทหี่ น้าช้นั เรียน ตามความเหมาะสม 3. นักเรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความคิด การดำเนินการในการพัฒนาตนของนักเรยี นสง่ ผลดตี อ่ ตนเอง และสังคมอย่างไรบ้างจงยกตัวอย่างประกอบ (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ย่ใู นดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน) ข้นั สรุป ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ความหมายของการศกึ ษาในฐานะของพระพุทธศาสนา บุรพภาคของการศึกษา และกระบวนการศึกษา 7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน พระพุทธศาสนา ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 2. หนงั สอื คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ - สุชีพ ปญุ ญานุภาพ. (2551). คุณลักษณะพิเศษแห่งพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร : มลู นธิ ิมหามกุฏราชวิทยาลัย. 3. ตวั อยา่ งขา่ วเก่ยี วกบั บุคคลในอาชีพตา่ งๆ ทีม่ ีการพฒั นาในด้านกาย จิต ศีล ตามหลักของ พระพุทธศาสนา 4. ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง การพฒั นาตนใหง้ อกงาม 5. ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง บุรพภาคแหง่ การศึกษา 6. ใบงานท่ี 2.3 เรอ่ื ง กระบวนการศึกษา 7. ใบงานที่ 2.4 เรอ่ื ง การพฒั นาตนของเกียรติ 7.2 แหล่งเรยี นรู้ 1. ห้องสมดุ โรงเรยี น 2. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.pitsaporn.ob.tc/p3.html - http://www.oknation.net/blog/Atata/2011/06/07/entry-1
ตวั อยา่ งขา่ ว เกย่ี วกับบุคคลในอาชีพตา่ งๆ ท่มี กี ารพฒั นาในด้านกาย จิต ศลี ตามหลักของพระพุทธศาสนา นักธรุ กจิ เพชรพนั ลา้ น “ชูชัย ชยั ฤทธิเลิศ” มุ่งหน้าหาธรรม ลด ละ กิเลส เม่ือไม่นานมาน้ีเจ้าแม่วงการเพชร เจ้าของแบรนด์ “เซ็นต์ โทรเพต์ ไดมอนด์” และดีไซเนอร์คนเก่งอย่าง อ้อย-อัจฉราวดี วงศ์สกล ได้โบกมือลาธุรกิจค้าเพชร เพ่ือหันหน้าสู่ธรรมะแบบเต็มตัว หลายคนท่ียังห่างไกลจากธรรมะอาจสงสัยว่า การศึกษา ธรรมะแท้จรงิ แล้วสามารถเปลี่ยนแปลงชวี ติ ไดข้ นาดนเี้ ชยี วหรือ วนั นี้ WhO? มีข้อมูลมาสนับสนนุ ในกรณธี รรมะเปลยี่ นชีวิตได้จริง เม่อื ชชู ัย ชัยฤทธเิ ลศิ กรรมการผ้จู ดั การบริษัท เจม พีส บาย ชูชัย จำกัด นักธุรกิจเพชรพันล้าน ได้เดินหน้าสู่พระธรรมด้วยการปฏิบัติธรรมอย่างมุ่งม่ันกับ หลวงพ่อพิชัย สุธมฺมสุชาโต ศูนย์ปฏิบัติธรรม เมืองอริยะ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยถามว่าอะไรเป็นแรงบันดาลใจ ทำให้เขาต้องเดินหน้าปฏิบัติ ธรรมอยา่ งจริงจงั เชน่ นี้ เพอ่ื หาคำตอบเรา จึงได้ติดตามคณุ ชชู ยั ไปปฏิบัตธิ รรมที่เมืองอรยิ ะเป็นครั้งทสี่ อง หนงั สือธรรมะคอื จดุ เรมิ่ ตน้ สงิ่ ท่ีได้เห็นแทบไม่น่าเชื่อ เจ้าของร้านเพชรพันล้านจะมาน่ังปฏิบัติธรรม สนทนาธรรม ได้ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ แล้วก่อน รับประทานอาหารเช้า ยังได้เห็นคุณชูชัยและญาติธรรม กล่าวขอบคุณอาหารว่า “อาหารท่ีกินไม่ได้ ต้องการนำมาบำรุงบำเรอ ให้สวยงาม แต่เป็นการเอื้อให้ร่างกายเราอย่ไู ด้ อย่าไปยึดติดกับสิ่งต่างๆ เหล่าน้ี” พอรับประทานอาหารเสร็จยังได้เห็นเขาเดินไป ลา้ งจานด้วยตนเอง เสร็จภาระกิจในช่วงเช้า คุณชูชัย มีสีหน้าท่ีเอิบอิ่มไปด้วยบุญ ได้เดินมาทักทายอย่างเป็นกันเอง พร้อมเล่าถึงท่ีมาของ การปฏิบัตธิ รรมใหฟ้ ังว่า จุดเรม่ิ ต้นเลยเป็นคนชอบอา่ นหนังสอื ธรรมะ เชน่ ธรรมะให้สติ ให้มคี วามสุข รวมทง้ั หนังสอื แนวปรัชญา ชวี ิต “อย่อู ย่างสงา่ \" ของ ศ.ดร.นพ.วทิ ยา นาควัชระ เพราะทำธรุ กิจไม่มีท่ีปรกึ ษา หนังสอื เหล่าน้เี หมือนเปน็ เพื่อนแล้วสอนให้เป็น คนอดทนหลายปีที่ผ่านมาได้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อจรัญ เจ้าอาวาสวดั อัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี แต่ได้อะไรไม่ มากกระทั่งปีท่ีผ่านมาทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน จนมีน้องชื่อแหม่มเป็นเซลล์ท่ีติดต่อกันเป็นประจำ ชวนให้ไปปฏิบัติ ธรรมกับหลวงพ่อพิชัย หลายคร้ังที่เจอแหม่มก็จะพูดเชิงบ่นว่า อยากจะพาไปปฏิบัติธรรมเหลือเกิน และทนคำรบเร้าไม่ไหวเลย รับปากไปว่า ขอจดั งานเพชรใหญใ่ นชวี ติ ใหเ้ สรจ็ เสยี กอ่ นแล้วจะไป (เขาทำน้ำเสียงดอู ่อนล้าเต็มท)ี น่งั สมาธใิ หส้ ติ เบา สบาย คร้ังแรกที่ตัดสินใจไปปฏิบัติธรรม เขากลัวจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 วัน แต่น้องแหม่มต่อรองอยู่วันเดียวก็ได้ แต่ขอให้ลองสนทนา ธรรมกบั หลวงพ่อพิชัยสัก 4 ชั่วโมง อาจได้ขอ้ คดิ ดีๆ จากน้ันไดเ้ รมิ่ ปฏิบตั ิธรรมวันแรกนอนไม่ค่อยหลับ เพราะมคี วามกังวลต้องตื่น ตีห้าครึ่ง แต่ที่แปลกอดนอนตลอดคืนกลับไม่รู้สึกอ่อนเพลีย และมีความรู้สึกจิตใจเบา สบาย รู้ทันทีว่าชีวิตที่อยู่ต่อไปจะต้องทำ อยา่ งไร และท่ีนจี่ ะไมเ่ ดนิ จงกรม แตส่ อนใหน้ งั่ สมาธเิ พอ่ื ให้มีสติ ต่อมาเขาได้มีโอกาสสนทนาธรรม และได้ถามหลวงพ่อถึงปัญหาคาใจวา่ ทำไมศูนย์ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ถึงมที ่ีพักอย่างดีมีทั้ง แอร์ เครอื่ งทำน้ำอุ่น ทกุ อย่างกระจา่ งเมื่อหลวงพอ่ อธิบายให้ฟงั ว่า “เพราะมนุษย์มนั ยังติดยึดกเิ ลสกนั เยอะ ยังติดสขุ อยู่ ถา้ มาแล้ว เห็นความลำบากกันกจ็ ะไมอ่ ยากมา” พอคุณชูชัยได้คำตอบจากหลวงพอ่ แล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่า นีค่ งเป็นกุศโลบายเพอื่ ให้คนอยาก เดินทางมาปฏิบตั ิธรรมนน่ั เอง
ตวั อยา่ งข่าว เก่ียวกับบคุ คลในอาชีพตา่ งๆ ทม่ี กี ารพัฒนาในดา้ นกาย จิต ศีล ตามหลกั ของพระพทุ ธศาสนา กรรม !...ลิขติ ชวี ิต ระหว่างท่ีคุณชูชัยสนทนาธรรม ยังได้มีคำถามหลวงพ่ออีกว่า คนเราทำบุญได้บุญจริงหรือไม่ คำตอบที่ได้ เขาถึงความกระจ่างและเข้าใจ โดยหลวงพ่อบอกว่าได้บุญจริงแท้แน่นอน เราอยากรู้ว่าชาติน้ีท่ีเราเกิดมา บางคน แขนด้วน ตาบอด ยากจนแสนเข็ญ ท่านบอกว่าอยากรู้ก็ให้พึงสังวรระลึกเอาเลยว่า “เพราะชาติท่ีแล้วทำอะไรไว้ บา้ ง ชาตนิ ้ีควรจะต้องรู้ว่าอะไรทตี่ ้องทำ แต่ถา้ ชาตินไ้ี มส่ ร้างบุญเพิ่ม จะเห็นว่าบางคนอยู่ดๆี กลบั ไม่มีแผ่นดินอยู่ก็ มี” (เขาย้มิ แล้วบอกว่าหลวงพอ่ พดู ให้ฟงั แบบน้ีจริงๆ) หลวงพ่อยังให้ข้อคิดอีกว่า ลาภยศสรรเสริญได้มาจากจิตที่บริสุทธ์ิ ต่างยังแสวงหา และต่างยังยึดติด “เราก็ตกใจเลยถามหลวงพ่อว่า กำลังเปิดร้านให้ครบ 10 สาขา ตรงน้ีผิดไหม หลวงพ่อบอกว่า จริงๆ เป็นไปได้ อยากให้ละวาง แต่ถา้ มีเจตนาบริสุทธิ์ ส่ิงท่ีทำต้องยกเหนือใจแล้วต้องมีสติ ไม่หว่ันไหวกับจิตที่สำเรจ็ หรือไม่สำเร็จ แต่ต้องมีเจตนาบริสุทธิ์ว่าส่ิงท่ีทำไม่ได้ทำเพ่ือตนเอง แต่ถ้าทำไปเพื่อทานภาวนา ก็จะได้บุญกุศลแถมได้ อานิสงส์ ในการภาวนานี้ดีถ้านำเงินน้ันมาต่อยอดบุญด้วยการทำทานทำกุศล แต่จิตต้องพึงมีสติปัญญารักษาใจ ตลอดเวลา” นี่เป็นการปฏิบัติธรรมที่ทำให้เขาเข้าใจชีวิตมากข้ึน และการน่ังสมาธิได้กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ไปแล้ว โดยคุณชูชัยบอกว่า “ชีวิตในวันน้ีต้องนั่งสมาธิประมาณ 15 นาที หรือ 20 นาที ต่อวันเพื่อตัดกิเลส แล้วการนั่งสมาธมิ หี ลายแบบ โดยหลวงพ่อท่านจะสอนใหเ้ พ่งไปท่ีลมหายใจ เพ่งไปท่ีรูป เพ่งไปท่ศี ีล ทีส่ ำคัญใจ เราอย่าวอกแวก ถ้าเราน่ังได้ก็จะทำให้เรามีสติ ตราบใดท่ีเรามีสติก็จะทำให้เราเริ่มรู้ว่า อะไรถูกต้อง อะไรผิด อะไรปล่อยวาง อะไรละได้ อะไรละไมไ่ ด้” “บาปกรรม” ลบล้างไมไ่ ด้ ไม่โทษใคร ไม่โกรธใคร ให้อภัย น่ีคืออภัยทาน ที่เป็นบุญสูงสุด คุณชูชัย บอกว่า “ถ้าคนเราคิดได้แบบน้ี ก็จะไม่เกลียด ไม่โกรธ ทำให้เข้าใจชีวิต เพราะหลวงพ่อยังสอนว่า จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็น เราเด่นเกิน ถ้าคิดว่าจะเด่นก็ต้องยอมรับตรงจุดนั้นให้ได้ ที่สำคัญต้องรู้จักการให้อภัย ความกังวลอยู่ท่ีไหน ความทุกข์อยู่ที่นั่น แค่คิด 10 นาทีว่ามีใครมาว่า เราก็ทุกข์ไป 10 นาที ย่ิงคิดนาน 10 ชั่วโมง เราก็ทุกข์ไปถึง 10 ชั่วโมงเหมือนกัน มีเพ่ือนบางคนยืมเงินไปเป็นล้านบาทไม่ยอมให้ ถ้าเป็นสมัยก่อนจะไม่ยอม แต่วันนี้ธรรมะ สอนให้เราเป็นผู้ให้ ไม่คดิ พยาบาท คิดเพียงว่าเงินท่ีเพ่ือนไม่ให้ ชาติท่ีแล้วเราอาจไปยืมแล้วไม่คนื เขา เราคิดเท่าน้ี ก็ทำให้เราสบายใจ ทุกวันยังต้องแผ่เมตตาให้กับสัตว์โลก ให้เทวดาฟ้าดินท่ีปกป้องตัวเรา ให้คุณบิดามารดาที่ดูแล เรา ให้ครูบาอาจารย์ท่ีสั่งสอนเรา ให้เพ่ือนฝูง ให้สัตว์เลี้ยง และให้ญาติพี่น้อง ไม่ลืมที่จะต้องให้เจ้ากรรมนายเวร ต้ังแต่อดีตชาติถึงปัจจุบัน ท้ังที่ระลึกได้และระลึกไม่ได้ ถ้ามีอะไรที่เบียดเบียนกันก็ขอให้อโหสิ แล้วยังต้องแผ่ให้ เทพพราหมณ์ 16 ชั้นฟ้า 16 ช้ันดิน เราก็จะเกิดความสุข และหลวงพ่อยังบอกว่าบาปที่ทุกคนทำมา ไม่มีทาง ล้างออกได้ นอกจากบุญเท่านั้น” นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของ “ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ” ท่ีใช้ธรรมะหยุดความอยาก แปรเปลีย่ นเป็นผู้ให้ เพยี งเท่านีใ้ จก็เป็นสขุ ทีม่ า : http://www.oknation.net/blog/sutku/2008/10/28/entry-1 สืบคน้ เมอื่ วันที่ 5 ตุลาคม 2554
ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง การพัฒนาตนใหง้ อกงาม คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเขียนผงั มโนทัศน์ แสดงการพัฒนาตนหรือการฝึกอบรมตนให้งอกงามตามหลักพระพุทธศาสนา ควบคุมกาย ควบคมุ พัฒนากาย วาจา พฒั นาศีล การพฒั นาตน ด้านความ หรอื การฝกึ อบรมตน ดงี าม ใหง้ อกงาม พฒั นา ปัญญา พัฒนาจิตใจ ดา้ นความสุข ดา้ นความ แข็งแกรง่
ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง การพฒั นาตนให้งอกงาม เฉลย คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนเขยี นผงั มโนทศั น์ แสดงการพัฒนาตนหรอื การฝึกอบรมตนใหง้ อกงามตามหลักพระพุทธศาสนา (ตัวอย่าง) (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)
ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง บรุ พภาคแหง่ การศกึ ษา คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นผังมโนทศั น์ อธิบายบุรพภาคแห่งการศกึ ษาหรือองคป์ ระกอบที่สนับสนุนการพฒั นาตน บรุ พภาคแหง่ การศึกษา (องค์ประกอบสนบั สนนุ การพฒั นาตน) องค์ประกอบภายนอก องคป์ ระกอบภายใน ทีส่ นับสนุนการพัฒนาตนเอง ที่สนบั สนุนการพัฒนาตนเอง
ใบงานที่ 2.2 เรื่อง บุรพภาคห่งการศึกษา เฉลย คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนผงั มโนทศั น์ อธบิ ายบุรพภาคแหง่ การศกึ ษาหรอื องค์ประกอบที่สนับสนุนการพฒั นาตน (ว ่ ) บุรพภาคแหง่ การศกึ ษา (องค์ประกอบสนบั สนนุ การพฒั นาตน) องคป์ ระกอบภายนอก องค์ประกอบภายใน ทีส่ นับสนนุ การพฒั นาตนเอง ทสี่ นับสนนุ การพฒั นาตนเอง ได้รับการถา่ ยทอด รู้จักคิด รจู้ กั ใชเ้ หตผุ ล สัง่ สอน อบรม ใชค้ วามคิดอย่างถูกวิธี คิดเป็น พอ่ แม่ ครู เพอื่ น ส่อื มวลชน วฒั นธรรม โยนิโสมนสิการ อาจารย์ ที่ดีงาม ทำให้เกิดผล คือ ไดร้ ับขา่ วสารความรูท้ ่ีถูกต้อง ให้ทัศนคตทิ ด่ี งี าม สภาพแวดล้อมทางสงั คมทด่ี ี “ปรโตโฆสะ” (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน)
ใบงานที่ 2.3 เร่อื ง กระบวนการศกึ ษา คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเขยี นผงั มโนทศั น์ แสดงกระบวนการศึกษาตามข้นั ตอนไตรสิกขาตามหวั ข้อท่ีกำหนด การฝกึ ฝนอบรม ดา้ นความประพฤติ กระบวนการศึกษาตาม การฝึกฝนอบรม ขนั้ ตอนไตรสิกขา ดา้ นจิตใจ การฝึกฝนอบรม ดา้ นปญั ญา
ใบงานท่ี 2.3 เร่ือง กระบวนการศึกษา เฉลย คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นเขียนผงั มโนทัศน์ แสดงกระบวนการศึกษาตามขน้ั ตอนไตรสิกขาตามหัวข้อที่กำหนด ละเว้นการลักทรพั ย์ ละเวน้ ประพฤตผิ ดิ ในกาม ละเวน้ การพดู เท็จ พดู ส่อเสยี ด ละเวน้ การฆา่ สตั ว์ พูดคำหยาบ พดู เพ้อเจ้อ การฝกึ ฝนอบรม ดา้ นความประพฤติ ไมเ่ บยี ดเบียนตนเองและผู้อน่ื กระบวนการศึกษาตาม จิตเปน็ สมาธิ จติ ใจดงี าม ขน้ั ตอนไตรสกิ ขา จติ ใจเข้มแขง็ การฝกึ ฝนอบรม ด้านจิตใจ ว่องไว ปลอดโปร่ง และเปน็ สุข เกดิ ความรูค้ วามเข้าใจตาม การฝึกฝนอบรม มีจิตใจผ่องใส ความเป็นจริง ด้านปัญญา ทำจิตใจให้บริสทุ ธิ์ ความเป็นไปตามเหตปุ ัจจยั ที่ รู้เทา่ ทนั โลกและชีวิต (ว ่ ) นำมาใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหา (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ใบงานท่ี 2.4 เรอ่ื ง การพฒั นาตนของเกยี รติ เกยี รติเป็นพุทธบุตรอาสาของวดั ปัญญานันทาราม ทุกวนั อาทติ ยเ์ ขาจะไปวดั ช่วยบรกิ ารและแนะนาขอ้ มูล ต่างๆ ให้แก่ผู้ท่ีมาวัดครงั้ แรกท่ีไม่รู้วิธีการปฏิบัติตนในการร่วมกิจกรรมในงานทาบุญ ฟังธรรมท่ีลานหินโค้ง เกยี รติ จะแสดงความมนี ้าใจช่วยเหลอื ทุกคนทเ่ี ขาช่วยได้ ถงึ แม้ว่าบางครงั้ จะเหน่ือย แต่เขากม็ คี วามเขม้ แขง็ อดทน พฤตกิ รรมของเกยี รตเิ ป็นแบบอย่างทด่ี แี ก่ชาวพุทธทวั่ ไป การไปวดั อย่างสม่าเสมอทุกวนั อาทติ ยน์ นั้ นอกจากเกยี รติ จะได้ช่วยกิจกรรมของวดั แล้ว เขายังได้สนทนาธรรมกับผู้รู้ทัง้ หลาย และได้ฟังธรรม ซ่ึงทาให้ได้ข้อคิดสาคัญ เกยี รตจิ ะรูจ้ กั คดิ อย่างมเี หตุผล เม่อื มีปัญหาใดๆ เกิดขน้ึ เขาก็สามารถตดั สนิ ใจได้อย่างถูกต้อง มเี พ่อื นหลายคนได้ ถามเขาว่า ทาไมเขาจึงสามารถฝึกฝนควบคุมตนเองทงั้ ด้านกาย วาจา และใจ ได้อย่างมนั่ คง เกียรติก็จะแนะนา ขนั้ ตอนของการปฏบิ ตั ขิ องไตรสกิ ขา เพอ่ื จะไดเ้ ป็นประโยชน์แก่เพอ่ื นบา้ ง คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอา่ นกรณีศกึ ษา แล้วตอบคำถาม คำถาม 1. เกยี รตไิ ด้พัฒนาตนให้เจริญงอกงามตามหลกั ของพระพุทธศาสนาอย่างไร 2. องคป์ ระกอบสำคัญท่ที ำให้เกยี รติสามารถพัฒนาตนไดด้ ี คอื อะไร 3. เกยี รติได้ฝกึ ตนเองตามกระบวนการศึกษาอยา่ งไร
ใบงานท่ี 2.4 เรื่อง การพฒั นาตนของเกียรติ เฉลย เกยี รตเิ ป็นพุทธบุตรอาสาของวดั ปัญญานนั ทาราม ทุกวนั อาทติ ยเ์ ขาจะไปวดั ชว่ ยบรกิ ารและแนะนาขอ้ มลู ต่างๆ ใหแ้ กผ่ ทู้ ม่ี าวดั ครงั้ แรกทไ่ี ม่รวู้ ธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นในการร่วมกจิ กรรมในงานทาบุญ ฟังธรรมท่ีลานหนิ โคง้ เกยี รติ จะแสดงความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื ทุกคนทเ่ี ขาชว่ ยได้ ถงึ แมว้ ่าบางครงั้ จะเหน่ือย แต่เขากม็ คี วามเขม้ แขง็ อดทน พฤตกิ รรมของเกยี รตเิ ป็นแบบอยา่ งทด่ี แี ก่ชาวพุทธทวั่ ไป การไปวดั อย่างสม่าเสมอทกุ วนั อาทติ ยน์ นั้ นอกจากเกยี รติ จะไดช้ ว่ ยกจิ กรรมของวดั แลว้ เขายงั ไดส้ นทนาธรรมกบั ผรู้ ทู้ งั้ หลาย และไดฟ้ ังธรรม ซง่ึ ทาใหไ้ ดข้ อ้ คดิ สาคญั เกยี รติ จะรจู้ กั คดิ อย่างมเี หตผุ ล เม่อื มปี ัญหาใดๆ เกดิ ขน้ึ เขาก็สามารถตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง มเี พอ่ื นหลายคนไดถ้ ามเขาว่า ทาไมเขาจงึ สามารถฝึกฝนควบคุมตนเองทงั้ ดา้ นกาย วาจา และใจ ไดอ้ ย่างมนั่ คง เกยี รตกิ จ็ ะแนะนาขนั้ ตอนของการ ปฏบิ ตัคขิ อชง้แไตรสกิ ใหขาน้ กัเพเรอ่ื ยี จนะอไดา่ นเ้ ปก็นรปณรศี ะกึโยษชานแ์แลกว้ ่เตพออ่ื บนคบาา้ ถงาม คำถาม 1. เกยี รตไิ ดพ้ ฒั นาตนใหเ้ จรญิ งอกงามตามหลกั ของพระพุทธศาสนาอย่างไร ฒ ฤ ึ ฒ 2. องคป์ ระกอบสาคญั ทท่ี าใหเ้ กยี รตสิ ามารถพฒั นาตนไดด้ ี คอื อะไร 1) 2) 3. เกยี รตไิ ดฝ้ ึกตนเองตามกระบวนการศกึ ษาอย่างไร ฏ 1) ฝึ ฝ ฤ 2) ฝึ ฝ 3) ฝึ ฝ
แบบบันทกึ การอ่าน ช่ือหนงั สือ ช่ือผแู้ ตง่ สำนักพมิ พ์ จำนวนหนา้ สถานท่ีพมิ พ์ ปที ่พี ิมพ์ เวลา ราคา บาท อ่านวนั ที่ เดอื น พ.ศ. 1. สาระสำคัญของเรื่อง 2. วเิ คราะห์ข้อคดิ /ประโยชนท์ ไี่ ด้จากเร่อื งท่อี ่าน 3. สิ่งท่สี ามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงช่ือ นักเรยี น ลงชื่อ ผู้ปกครอง () ( ) ลงช่ือ ครูผู้สอน ( ) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีความสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเพยี งเล็กนอ้ ย ให้ 2 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพรอ่ งมาก
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 2 ความถกู ต้องของเน้ือหา 3 ภาษาที่ใช้เขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ไ่ี ด้จากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องมาก เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กว่า 10 ปรับปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ ลงในช่องทต่ี รง กับระดับคะแนน ลำดบั ช่อื -สกุล การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม ท่ี ของผูร้ ับ ความคดิ เหน็ ฟงั คนอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับ สว่ นรว่ มใน 20 การ มอบหมาย การปรับปรงุ คะแนน ประเมนิ ผลงานกล่มุ 43214321432143214321 ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครัง้ เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 ต่ำกว่า 10 พอใช้ ปรับปรุง
แบบบันทึกหลงั การสอน หน่วยการเรียนร้ทู ี่..........เรื่อง .......................................................................................................................... แผนการเรียนรู้ที่...........เร่อื ง……………………………………………………..………………..จำนวน..………………….ชัว่ โมง ผลการใชแ้ ผนการเรียนรู้และแนวทางพัฒนา 1. ระยะเวลาที่ใช้ ใชเ้ ม่อื ……………………………………………………………………………………………………………..…….. ผลการใช้ พอเพียงตามแผน ไมเ่ พียงพอและไม่ตรงตามแผนเพราะ…………………………… ควรแก้ไขปรับปรงุ คือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 2. ผลการเรียนรู้ ควรแกไ้ ขปรบั ปรุงคือ…………………………………………………………………………………… 3. สาระการเรยี นรู้ สอดคล้องกบั ผลการเรียนรู้ ไมส่ อดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรู้ ควรแก้ไขปรับปรงุ คือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 4. กระบวนการเรยี นรู้ เปน็ ไปตามกระบวนการ ไม่เปน็ ไปตามกระบวนการ ควรแก้ไขปรับปรุงคือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 5. สือ่ การเรียนรู้ เปน็ ไปตามกระบวนการ ไม่เป็นไปตามกระบวนการ 6. เคร่ืองมือวัดผลประเมินผล สอดคลอ้ งกับมาตรฐานตัวชี้วัด/ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวัง ไมส่ อดคล้องกบั มาตรฐานตัวช้วี ดั /ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั ควรแกไ้ ขปรับปรุงคือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… บันทกึ ผลการเรียนรตู้ ามแผนการเรียนรูเ้ พื่อจัดทำวจิ ยั ในช้ันเรยี นหรือแกป้ ัญหาด้านอ่ืนๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………………………...….ผ้ใู ชแ้ ผนการเรียนรู้ (นางสาวกลั ยากร เชวงสขุ ) ตำแหนง่ ครู คศ.1 ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลมุ่ งานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการสถานศึกษา ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ลงชื่อ................................................. ลงชอ่ื ................................................. (นางกนกลักษณ์ แปงมูล) (นายศฤงคาร ใจปนั ทา) ครู ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 21
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงค์ 43 2 1 1. รักชาติ 1.1 ยนื ตรงเมื่อได้ยนิ เพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธบิ ายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.2 ปฏิบัติตนตามสิทธแิ ละหนา้ ที่ของนกั เรียน 1.3 ใหค้ วามรว่ มมือ ร่วมใจ ในการทำงานกบั สมาชิกในชั้นเรียน 2. ซอื่ สัตย์ 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียน สุจริต และชมุ ชน 1.5เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา 3. มีวนิ ยั 1.6 เข้าร่วมกิจกรรมทเ่ี กยี่ วกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามทโี่ รงเรยี นและชุมชน รบั ผดิ ชอบ จดั ขน้ึ 4. ใฝ่เรียนรู้ 2.1 ใหข้ ้อมูลที่ถกู ต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบตั ใิ นส่งิ ที่ถกู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ที่จะทำความผิด ทำตามสัญญาที่ตน 5. อยู่อย่าง ใหไ้ ว้กบั เพอ่ื น พ่อแมห่ รือผู้ปกครอง และครู พอเพยี ง 2.3 ปฏิบตั ิต่อผ้อู น่ื ดว้ ยความซอื่ ตรง 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คบั ของครอบครัว และโรงเรียน มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจำวัน 4.1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เชน่ ส่งิ ของ เครอื่ งใช้ ฯลฯ อย่างประหยัด คุ้มคา่ และ เก็บรักษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใช้ทรัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มคา่ และเก็บรักษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสินใจดว้ ยความรอบคอบ มีเหตุผล 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ นื่ เดอื ดร้อน พร้อมให้อภยั เมอื่ ผู้อนื่ กระทำ ผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใชช้ วี ติ ประจำวันบนพืน้ ฐานของความรู้ ขอ้ มูล ข่าวสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปล่ียนแปลงทางสังคม และสภาพแวดล้อม ยอมรับ และปรบั ตวั อยู่ร่วมกับผูอ้ ่ืนได้อยา่ งมีความสุข
คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ 4321 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย 6. มงุ่ มนั่ ในการ 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่ือใหง้ านสำเรจ็ ทำงาน 7.1 มจี ิตสำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย 7. รกั ความเป็น 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน ไทย 8.2 อาสาทำงาน ช่วยคดิ ชว่ ยทำ และแบ่งปนั ส่ิงของให้ผู้อื่น 8.3 ร้จู กั ดูแล รักษาทรัพย์สมบัติและส่ิงแวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรยี น ชมุ ชน 8. มจี ติ สาธารณะ 8.4 เขา้ รว่ มกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรียน ลงชือ่ ....................................................ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ต่ำกวา่ 54 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหัสวิชา ส33101 ภาคเรียนท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 พระพทุ ธ เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 พระพุทธศาสนาเนน้ ความสัมพนั ธ์ของเหตุปัจจัยและวธิ ีการแกป้ ัญหาเวลาเรยี น 1 ชม. ครผู ้สู อน นางสาวกัลยากร เชวงสุข 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด พระพุทธศาสนาเนน้ ความสมั พันธ์ของเหตปุ ัจจัยกบั วิธกี ารแก้ปญั หา เพ่อื การพัฒนาตนได้ถูกตอ้ ง 2. ตัวช้วี ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ชี้วดั ส 1.1ม.4-6/9 วเิ คราะห์พทุ ธประวัตดิ ้านการบริหารและการธำรงรกั ษาศาสนา หรอื วเิ คราะห์ ประวัตศิ าสดาท่ตี นนับถือตามท่ีกำหนด 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. วเิ คราะห์พระพทุ ธศาสนาทเ่ี น้นความสัมพนั ธข์ องเหตุปจั จัยและวธิ ีการแกป้ ัญหา 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้ • พระพุทธศาสนาเน้นความสัมพนั ธ์ของเหตุปจั จัยกับวิธกี ารแก้ปัญหา 3.2 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 2) ทกั ษะการเรียงลำดบั 3) ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้ 4) ทกั ษะการสรุปลงความเห็น 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 3.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 4. ภาระงาน : ช้ินงาน - แบบฝึกหัดในใบงาน 5. แนวทางการวัดผลประเมินผล วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 3.1 ใบงานท่ี 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.2 ใบงานที่ 3.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบนั ทึกการอ่าน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ มุ่งมนั่ ในการทำงาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) • นกั เรยี นสวดมนตบ์ ชู าพระรตั นตรัย และทำสมาธกิ ่อนเรียน ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1. ครูนำข่าวเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ท่ีมีการแก้ปัญหาท้ังที่ถูกวิธีและไม่ถูกวิธี มาเล่าให้นักเรียนฟัง แล้วให้นักเรียน ชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นว่าข่าวใดมีการแก้ปญั หาที่ถูกตอ้ ง พร้อมอธบิ ายเหตผุ ลประกอบ 2. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด นักเรียนเคยเห็นเหตุการณ์ใดที่มีการแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง เหมาะสมบ้าง จงอธบิ ายแสดงเหตผุ ล (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยให้อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผูส้ อน) ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา นักเรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เก่ียวกับพระพุทธศาสนา เน้นความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยและวิธีการแก้ปัญหา จากหนังสือเรียน หนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม และแหล่งข้อมูล สารสนเทศ แลว้ บนั ทึกความรู้ที่ได้ลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน จากนั้นนักเรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด ทำไมฤดูร้อนจึงมีไฟป่าเกิดข้ึน (เพราะอากาศร้อน แห้งแล้ง ต้นไม้แห้ง เม่ือมีลมพัดแรงจึงทำให้ต้นไม้เกิด การเสียดสีกันลกุ ไหมจ้ นเกิดเปน็ ไฟปา่ ) ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้ 1. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนำความรทู้ ่ีไดศ้ กึ ษามาผลัดกันอธบิ ายประเดน็ สำคัญ 2. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มช่วยกันทำใบงานที่ 3.1 เรื่อง ความสัมพันธข์ องเหตุปัจจัย จากน้ันครูและนักเรียนช่วยกันเฉลย คำตอบในใบงานท่ี 3.1 3. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ถ้านักเรียนขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน นักเรียนคิดว่าจะ เกดิ ผลอยา่ งไรบา้ ง (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครูผู้สอน) ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันหาข่าว หรือข้อมูลของบุคคลท่ีมีการกระทำที่แสดงว่า ปฏิบัติตน ต าม ห ลั ก ของพ ร ะพุ ท ธ ศาส น าที่ เน้ น คว าม สั ม พั น ธ์ ของเห ตุ ปั จ จั ย แล ะใช้ วิ ธี แก้ปั ญ ห าต าม แน ว พ ร ะพุ ท ธศ าส น า แล้วนำมาวิเคราะห์และตอบคำถามตามที่กำหนดให้ในใบงานท่ี 3.2 เร่ือง ช่วยกันวิเคราะห์ (กิจกรรมนอกห้องเรียน) จากน้ันให้นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิดถ้านักเรียนเห็นคนข้างบ้านก่อไฟเผาขยะ ควันไฟลอยปกคลุมทั้ง หมู่บา้ น นกั เรียนควรปฏบิ ัติตนอย่างไร(พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผูส้ อน) ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล 1. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ผลงานในใบงานท่ี 3.2 ต่อครูผ้สู อน 2. ครคู ดั เลอื กผลงานที่มีคุณภาพตามเกณฑท์ ี่กำหนดนำไปจดั ป้ายนเิ ทศแสดงผลงานของนกั เรยี นทห่ี น้าชั้นเรียน 3. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุ้นความคิด การทค่ี นเราเขา้ ใจเหตปุ จั จยั ของสง่ิ ทงั้ หลายตามความเป็นจริง มีผลดีอย่างไร (เปน็ คนมเี หตุผล ใจกว้าง ไม่ยึดมั่นถอื มน่ั และแก้ปญั หาได้)
7. สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน พระพทุ ธศาสนา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 2. หนงั สือคน้ คว้าเพ่ิมเตมิ - สุชีพ ปญุ ญานภุ าพ. (2551). คุณลกั ษณะพิเศษแหง่ พระพุทธศาสนา. กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธิมหามกุฏราชวทิ ยาลยั . 3. ตวั อยา่ งข่าวเกย่ี วกับปญั หาต่างๆ ทมี่ กี ารแกป้ ญั หาทีถ่ ูกวิธแี ละไม่ถกู วิธี 4. ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ความสัมพันธข์ องเหตุปัจจยั 5. ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง ชว่ ยกนั วเิ คราะห์พระพุทธศาสนา 7.2 แหล่งเรยี นรู้ 1. หอ้ งสมุดโรงเรียน 2. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ - http://www.phrabuddhasasana.com/ans/index.php?option=com... - http://www.oknation.net/blog/print.php?id=434141
ตัวอย่างข่าว เกี่ยวกบั ปญั หาต่างๆ ทม่ี กี ารแกป้ ญั หาที่ถกู วิธีและไมถ่ ูกวธิ ี สนึ ามถิ ล่มญป่ี ุ่น 10 เมตร หลังแผน่ ดินไหว 8.9 รกิ เตอร์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 มีนาคม สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานว่า เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวคร้ังใหญ่ข้ึนทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น สร้างความเสียหายครอบคลุมพ้ืนที่วงกว้างโดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเม่ือเวลา 14.46 น. ตามเวลาท้องถิ่น แผ่นดินไหวความรุนแรงถึง 8.9 ริกเตอร์ ได้สรา้ งความเสียหายให้กับอาคารบ้านเรือนก่อนที่จะเกิดสึนามิลูกใหญ่สูง กว่า 6 เมตร ข้ึนในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา กวาดเอารถยนตแ์ ละบ้านเรือนหลายหลังกลืนหายลงทะเลพร้อมกับเกลียวคล่ืน ตามด้วยอาฟ เตอร์ช็อก ความรุนแรง 7.4 ริกเตอรอ์ ีกครั้ง และล่าสุดคล่ืนสึนามิสูงกว่า 10 เมตร ระดับน้ำทะเลยกตัวสูงข้ึนขนาด ช้ัน 2 ของอาคาร หลงั จากเกิดสนึ ามคิ ร้ังใหญป่ ระมาณ 30 นาทตี อ่ มา สรา้ งความเสยี หายมหาศาล ส่วนรายงานผเู้ สียชวี ิตคาดวา่ จะเพิม่ ขึ้นเรอื่ ยๆ เพราะ ยังมีผู้สูญหายจำนวนมาก สำหรับแผ่นดินไหวครั้งน้ี มีศูนย์กลางห่างจากชายฝ่ังของเกาะฮอนชู 150 กิโลเมตร ไปทางตะวันออกของ เกาะญี่ปุ่น และเกิดความเสียหายอย่างหนักท่ีเมืองมิยากิ มีไฟไหม้อาคาร และตึกหลายแห่ง โตเกยี วทาวเวอรส์ ูง 333 เมตร เอียงอยา่ ง เห็ น ได้ ชั ด ร วม ทั้ งส่ งผ ล ก ร ะ ท บ ต่ อ ก าร เดิ น ร ถ ไฟ ใต้ ดิ น ข ณ ะ ที่ ท างก า รได้ มี ก า รส่ั งปิ ด ส น า ม บิ น น า ริต ะ แ ล้ ว ขณะทใ่ี นเมืองชบิ ะ ล่าสดุ มีรายงานว่า โรงกลนั่ น้ำมันในเมอื งชิบะเกดิ ระเบิดขน้ึ แล้ว หลังเกดิ เหตแุ ผ่นดินไหว 8.9 รกิ เตอร์ โดยทางการ ตอ้ งประกาศภาวะฉกุ เฉนิ ทางนิวเคลียร์ แตย่ นื ยันวา่ ยงั ไม่พบการร่วั ไหลของกมั มนั ตภาพรงั สใี นโรงไฟฟ้านวิ เคลียร์ หรือพื้นท่ีใกลเ้ คยี ง จึงไม่ได้ส่งั การอะไรเป็นพิเศษ ขณะเดียวกนั มรี ายงานดว้ ยว่า รถไฟขบวนหนึง่ หายไปและขาดการติดตอ่ บรเิ วณจดุ ทเี่ กิดสึนามิ ซ่งึ ยัง ไม่ทราบจำนวนผู้โดยสารบนรถไฟขบวนดงั กล่าว ด้านนายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ออกแถลงการณ์ยืนยนั ถึงผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ในครั้งนี้ว่า ยังไม่อาจ ประเมิน หรอื ยืนยนั ความเสยี หายจากเหตดุ ังกล่าวได้อยา่ งชัดเจน แต่ความเสยี หายรุนแรงมากสุดในประวตั ศิ าสตร์ของญปี่ ่นุ พร้อมกัน นี้ รัฐบาลญี่ปุ่น ยังได้ยืนยันถึงความกังวลของประชาชน และนานาชาติ หลังจากเกิดเพลิงไหม้ ท่ีคลังน้ำมันใกล้ๆ กรุงโตเกียวว่า ไมม่ ีสารกัมมันตภาพรงั สรี วั่ ไหล และกำลงั จะสง่ ทหารเข้าพ้นื ท่ีใหค้ วามชว่ ยเหลือประชาชน รวมถงึ เตือนระวงั อาฟเตอรช์ ็อกท่จี ะตามมา อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการเตือนประชาชนชายฝ่ังในเกาะกวม, ฟิลิปปินส์, เกาะมาร์แชล, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, นาอูรู, ไมโครนีเชีย, ฮาวาย, ไต้หวัน, รัสเซีย, เกาะมาเรียน่า ให้เฝ้าระวังคลื่นสึนามิด้วย เช่นเดียวกับที่ ชายฝั่งฮาวาย ออสเตรเลีย รวมถึงอเมริกาใต้ และชายฝ่ังตะวันตกของสหรัฐฯ เตรียมพร้อมรับคล่ืนท่ีจะไปถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า คล่ืนสึนามิลูกแรกได้พัดถึงหมู่เกาะคูริล ทางตอนใต้ของประเทศรัสเซียแล้ว ทำให้รัสเซียต้องเร่งอพยพประชาชนกว่า 1 หม่ืนคน ออกจากพื้นที่เสย่ี งภัย สว่ นฟลิ ิปปนิ ส์ เจอสนึ ามิขนาดยอ่ ม 4 ลูก ภายใน 1 ชั่วโมง แต่ไม่มีรายงานความเสยี หาย ทางฝั่งประเทศไทย นอ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผอ.ศูนยเ์ ตือนภัย ใหส้ ัมภาษณ์ทางเนชั่นทวี ีวา่ แผ่นดินไหวคร้ังนเี้ กิดห่างชายฝ่ัง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5,560 กิโลเมตร และประเทศไทยต้องเฝ้าระวัง ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสาร อย่าตื่นตระหนก ส่วนนายธานี ทองภักดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า มีคนไทยในอยู่ในเมืองมิยากิ พื้นที่เกิดแผ่นดินไหวราว 300 คน และมีคนไทยในญี่ปนุ่ ราว50,000คน ท้ังนห้ี ากญาติต้องการขอความชว่ ยเหลอื สามารถสอบถามท่กี รมกงสุล หมายเลข 02-575-1046-9 นอกเวลาราชการ 02-643-5000 หรือ เบอร์สถานทูตญี่ปุ่นในโตเกียว (81-3) 3441-1386 และ สถานทูตญ่ีปุ่นในโอซากา (81-6) 6262-9226 ขณะท่ีนายบุรนิ ทร์ เวชบันเทิง ผู้อำนวยการส่วนเฝ้าระวังและติดตามแผ่นดนิ ไหวและสึนามิ ว่าจากการประเมินเบื้องต้น คาดวา่ ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบดา้ น จ.นราธวิ าส ในเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันพรุ่งน้ี (12 มนี าคม) น่นั เอง แต่ความรุนแรง ไม่เทียบเท่าญ่ีปุ่น ที่มีความสูงคล่ืนประมาณกว่า 7 เมตร ส่วนชายฝ่ังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก็อาจได้ รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิ เช่นกัน ท่มี า : http://www.tamsabye.com/index.php?name=news&file=readnews&id=129 สืบคน้ เม่ือวนั ท่ี 5 ตุลาคม 2554
ตวั อยา่ งข่าว เกยี่ วกับปัญหาตา่ งๆ ท่ีมีการแกป้ ัญหาท่ีถกู วธิ ีและไม่ถูกวธิ ี ดารา ศลิ ปนิ นกั ร้อง นักแสดงไทย ร่วมใจระดมทนุ ช่วยเหลอื คนญ่ปี ุน่ ประสบภัยพิบตั ิ Mthainews : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศญ่ีปุ่นที่ ลานหน้าห้างสยามพารากอน ซึ่งนำโดย วู้ดด้ี วุฒิธร มิลินทจินดา กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ ระดมคนในวงการ บันเทิงไทยร่วมกันจัดทำ Nippon 2011 ออกขายในราคา 300 บาท จำกัดซื้อได้คนละไม่เกิน 5 ตัว เพ่ือสมทบทุน ผา่ นทางกระทรวงการต่างประเทศทั้งนี้ เสื้อดังกล่าวมีจำนวน 3,000 ตัวเท่านั้น โดยมีประชาชนคนไทยและชาวญ่ีปุ่น ให้ความสนใจเป็นจำนวนมากจนแถวเขา้ คิวยาวเหยียด บางรายมารอตั้งแต่เช้า ซึง่ มีการเปิดขายเส้ือในเวลา 12.00 น. และขายหมดภายในเวลา 30 นาที ต่อมาเหล่าคนในวงการบันเทิงก็ไดช้ ่วยกันถือกล่องรับบริจาคออกระดมทนุ ช่วยเหลอื ชาวญี่ปุ่นทั้งทางรถไฟฟ้า BTS และรถไฟฟ้า MRT ขณะเดียวกัน ผู้ค้าหลายรายได้นำสินค้ามาขายเพื่อนำรายได้สมทบทุนในคร้ังนี้ด้วย อาทิ หมูทอดเจ๊จง คริสป้ีครีม หนังสือเซ็นได อย่างไรก็ตาม งาน Nippon 2011 ยังคงมีคนในวงการบันเทิงผลัดเปล่ียน หมนุ เวียนกันมาขายสินคา้ ตลอดท้งั วนั ซึง่ ในช่วงเยน็ จะมีศลิ ปนิ จากหลายค่ายมาเปดิ มินคิ อนเสริ ์ตอีกดว้ ย ทมี่ า : http://news.mthai.com/headline-news/106868.html สบื คน้ เมื่อวันท่ี 5 ตุลาคม 2554
ตวั อย่างข่าว เกีย่ วกบั ปญั หาต่างๆ ทม่ี กี ารแก้ปัญหาท่ถี ูกวธิ แี ละไมถ่ ูกวธิ ี ม.4 ซดยาพษิ ฆา่ ตัวประชดความจน สลดนักเรียน ม.4 โรงเรียนดังเมืองกาญจน์คิดสั้น ซดยาพิษประชดชะตาชีวิต เหตุพ่อป่วยเป็นอัมพาตนอนพะงาบ แม่ต้องหาเงนิ ลำพัง เหนื่อยสายตัวแทบขาด คิดมากจนเครียด เรียนไม่ทันเพื่อน เลือกทางผิดซดยาพิษหนีปัญหา ท้ิงจดหมายลาตาย ขอโทษแม่ อ้างสงสารไม่อยากเห็นแม่เหนื่อย อยากหยุดเรียนออกมาช่วยทำงาน ดา้ นแม่หนุ่มน้อยใจสลาย น้ำตาไหลนองแทบขาดใจ เผยเหนอื่ ยแค่ไหนกย็ อมทำเพ่อื ลูก วอนให้เปน็ กรณตี วั อยา่ ง จร้ี ัฐชว่ ยเหลือคนจน หนุ่ม ม.4 คิดส้ันซดยาพิษประชดโชคชะตาดับอนาถครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.30 น. วันท่ี 20 พ.ค. พ.ต.ท.ถวิล ระเบียบ แหวน สวส.สภ.สำรอง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนกินยาตาย ที่บ้านเลขที่ 27/1 หมู่ 8 ตำบล พงั ตรุ จงึ รีบไปสอบสวนพรอ้ มด้วยแพทย์เวร รพ.ท่าม่วง ท่เี กิดเหตุ ภายในห้องนอนพบรา่ งของผูเ้ สียชีวติ ทราบชอ่ื คอื นายณัฐวุฒิ หรือ ป๋อง ฉุยเนย อายุ 16 ปี นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนแห่งหน่ึงในจังหวัดกาญจนบุรี นอนหงายสวมกางเกงช้ันในสีน้ำตาล เพียงตัวเดียวสภาพศพน้ำลายฟูมปาก ที่ข้างตัวของผู้ตายพบขวดยาฆ่าหญ้าในนาข้าว ย่ีห้อสตินเล่อร์ 1 ขวดซ่ึงมีน้ำยาเหลือเพียงครึ่ง ขวดวางอยู่ และท่ีหัวเตียงนอนพบจดหมายลาตายท้ิงไว้ 1 ฉบับตรวจสอบภายในห้องนอนและตามร่างกายของผู้ตายไม่พบร่องรอย บาดแผลการถูกทำร้าย และภายในห้องนอนไม่พบร่องรอยการถูกรื้อค้น จึงมอบศพนำส่ง รพ.ท่าม่วง ทำการชันสูตร พลิกศพ จากน้ันเจ้าหน้าทไี่ ดต้ รวจสอบเนื้อความในจดหมายลาตาย ที่นายณฐั วฒุ ิเขยี นถึงแม่ พบว่าเป็นการกล่าวตัดพอ้ ในโชคชะตา และขอโทษแม่ ระบุว่าสาเหตุที่ต้องทำอย่างนี้ เพราะหลังจากที่ตัวเองสอบเข้าโรงเรียนใหม่ เรียนไปก็ไม่รู้เร่ืองจนเกิดอาการเครียดไม่ สามารถเรียนทันเพ่อื นได้ เนื่องจากสงสารเห็นพ่อซึ่งล้มป่วยเป็นอมั พาตนอนอยู่กับบ้านมานานถงึ 4 ปี ขณะท่ีแม่ต้องทำงานอย่างหนัก เพอื่ สง่ เสยี ให้ตวั เองเรียนตอ่ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ด้านนางล้วน ฉุยเนย อายุ 47 ปี แม่ของผู้ตายร่ำไห้ปิ่มขาดใจ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้าท่ีนายณัฐวุฒิ บุตรชายจะกินยา ตาย 2 วัน ลูกชายมาบ่นให้ฟังว่าเบื่อหน่ายที่เรียนไม่ทันเพื่อน ไม่อยากเรียนแล้วอยากออกมาช่วยงานแม่ เพราะเห็นแม่เหนื่อยมาก ทำงานคนเดียวหาเลี้ยงครอบครัวรวมทั้งต้องดูแลนายสุชิน ฉุยเนย อายุ 51 ปี บิดาที่นอนป่วยเป็นอัมพาต แถม ต้องหาเงินส่งเสียให้ ตัวเองเรียนอีก ซึ่งตนได้ให้กำลังใจลูก บอกว่าไม่เป็นไร หากเรียนไม่ไหวจริง ๆ กใ็ หห้ ยุดพักไปปีหนงึ่ ก็ได้ ส่วนเรือ่ งการเล่าเรียนไมต่ ้อง เป็นหว่ งเพราะตนเองยอมเหนด็ เหนื่อยเพราะอยากเห็นลกู มีอนาคต ไม่คาดคิดวา่ ลกู ชายจะมาคดิ สนั้ ก่อเหตดุ ังกลา่ ว \"เช้าวันน้ี ป้าไปปลุกให้ลูกชายตื่นนอนเพื่ออาบน้ำไปโรงเรียน เคาะเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงขานรับจึงได้เปิดประตูเข้าไปและ พบวา่ ลูกชายกนิ ยาตายเสยี แลว้ สว่ นสาเหตุทล่ี ูกกินยาตายในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากอาการเครียดและคดิ มาก ท่ีมา : http://hilight.kapook.com/view/24165 สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 5 ตุลาคม 2554
ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ความสมั พันธ์ของเหตปุ ัจจัย คำช้ีแจง ให้นักเรยี นอ่านกรณีศึกษา แลว้ ตอบคำถาม กรณีศึกษาที่ 1 ชัชเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ชัชต้ังใจว่าเม่ือเรียนจบแล้วจะออกไปหางานทำ ชัชอยากมีรายได้เป็นของตนเอง แตแ่ ม่ของชัชต้องการใหช้ ัชเรยี นต่อในระดบั อดุ มศึกษา เพื่อใหจ้ บระดับปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ ซ่งึ จะทำให้มีความรู้พ้นื ฐานดี พอสำหรับการประกอบอาชีพให้ก้าวหน้าม่ันคง แต่ถ้ามีความรู้เพียงจบมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ย่อมมีความรู้น้อย การไปทำงานก็ ได้รับค่าตอบแทนต่ำ ชัชบอกกับแม่ว่า ชัชเกรงว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้ และถ้าจะเรียนต่อก็อยากเรียนใน สาขานิติศาสตร์บณั ฑิต เพราะเขาตอ้ งการมีความรู้เก่ียวกับกฎหมายซ่งึ จะเปน็ ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ แมบ่ อกกับชัช วา่ ให้สอบเข้ามหาวทิ ยาลัยของรัฐไปกอ่ น ถา้ สอบไม่ได้ แมจ่ ะส่งใหเ้ รียนในมหาวิทยาลยั เอกชน เพราะพ่อแม่มีรายได้เพียงพอ ตอ่ การสง่ ชัชเข้าเรยี นในมหาวิทยาลยั เอกชนได้ ในที่สุด ชชั กต็ ดั สนิ ใจสอบเขา้ เรยี นต่อในระดบั อดุ มศกึ ษา คำถาม 1. การกระทำของชัชสอดคล้องกับหลักของพระพทุ ธศาสนาในเร่ืองความสมั พนั ธข์ องเหตปุ จั จยั อย่างไร 2. การกระทำของชชั แสดงถึงคุณลกั ษณะท่ีดีของชชั อยา่ งไร จงอธบิ ายเหตผุ ล 3. ชชั สามารถแก้ปญั หาของตนเองในเร่ืองใดได้อย่างถูกวิธี
กรณีศึกษาท่ี 2 หมู่บ้านรักถิ่นเป็นหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่าง เป็นแหล่งท่องเท่ียวท่ีคนไทยและชาวต่างชาติชอบไปเที่ยวตลาดน้ำวัน อาทิตย์ เพ่ือซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิตจากสวนผลไม้และมีสิ่งของเคร่ืองใช้ประเภทเคร่ืองจักสานจำนวนมากทำรายได้ให้แก่ ชาวบ้าน นอกจากน้ันยังมีชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงทำอาหารประเภทต่างๆ มาขายให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ดอกแก้วก็ เป็นคนหนึ่งที่ทำขนมตาลไปขายในตลาดน้ำวันอาทิตย์ ขนมตาลของดอกแก้วขายดีมากและไม่พอขาย ดังน้ันดอกแก้วจึงข้ึน ราคาขนมตาลจากถุงละ 20 บาท เป็น 30 บาท ทำใหเ้ ธอไดก้ ำไรมากข้ึน วันอาทิตย์ต่อมาดอกแก้วขายขนมตาลไม่หมด เหลือเป็นจำนวนมาก เธอจึงเก็บใส่ตู้เย็นไว้ แล้วนำไปขายให้แก่ ชาวบา้ นในหมู่บ้านของเธอจนหมด ตอ่ มาดอกแก้วเอาขนมตาลไปขายท่ีตลาดน้ำเช่นเคย แตน่ ักท่องเท่ียวกไ็ ม่ค่อยซื้อขนมตาลของดอกแก้ว วนั รงุ่ ขน้ึ เธอ ก็เอาไปขายในหมบู่ า้ นอกี แตก่ ็ไม่มีใครซื้อขนมตาลของเธอ ดอกแก้วต้องขาดทุนในการขายขนมดอกแก้วกลุ้มใจมาก คำถาม ดอกแก้วควรใช้วิธกี ารแกป้ ัญหาตามหลกั พุทธศาสนาอย่างไร
ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ความสัมพนั ธข์ องเหตปุ ัจจยั เฉลย คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอ่านกรณีศึกษา แล้วตอบคำถาม กรณีศกึ ษาที่ 1 ชัชเรียนอยู่ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ชัชต้ังใจว่าเมื่อเรียนจบแล้วจะออกไปหางานทำ ชัชอยากมีรายได้เป็นของตนเอง แตแ่ มข่ องชัชต้องการให้ชัชเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา เพื่อใหจ้ บระดับปริญญาตรเี ป็นอย่างต่ำ ซ่ึงจะทำให้มีความรู้พ้นื ฐานดี พอสำหรับการประกอบอาชีพให้ก้าวหน้ามั่นคง แต่ถ้ามีความรู้เพียงจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ย่อมมีความรู้น้อย การไปทำงานก็ ได้รับค่าตอบแทนต่ำ ชัชบอกกับแม่ว่า ชัชเกรงว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไม่ได้ และถ้าจะเรียนต่อก็อยากเรียนใน สาขานิติศาสตรบ์ ัณฑิต เพราะเขาต้องการมีความรูเ้ ก่ียวกบั กฎหมายซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ แม่บอกกับชัช วา่ ให้สอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐไปก่อน ถ้าสอบไม่ได้ แม่จะสง่ ให้เรียนในมหาวิทยาลัยเอกชน เพราะพ่อแม่มีรายได้เพียงพอ ตอ่ การส่งชชั เข้าเรียนในมหาวทิ ยาลัยเอกชนได้ ในที่สุด ชชั กต็ ดั สนิ ใจสอบเขา้ เรยี นต่อในระดบั อุดมศกึ ษา คำถาม 1. การกระทำของชชั สอดคล้องกบั หลักของพระพุทธศาสนาในเร่ืองความสัมพันธข์ องเหตปุ จั จัยอยา่ งไร ชชั เปน็ คนใชเ้ หตุผลในการตดั สนิ ใจ เมอื่ แมอ่ ธบิ ายเหตุผลท่ีแม่ตอ้ งการให้ชชั เรยี นต่อระดบั อุดมศึกษา ซงึ่ มคี วามแตกต่างกบั ความตั้งใจของชัชในตอนแรก เมื่อเหตุผลของแม่ถูกต้องเหมาะสมกว่าชชั ชชั กต็ ดั สนิ ใจ ทำตามความคดิ ของแม่ 2. การกระทำของชัชแสดงถงึ คณุ ลักษณะท่ีดขี องชชั อย่างไร จงอธบิ ายเหตุผล เป็นคนใจกวา้ ง ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผ้อู ื่นท่ีมเี หตุผลทด่ี กี วา่ ของตน เปน็ คนไมย่ ึดมน่ั ถือมน่ั เมื่อมคี วาม คดิ เห็นแตกตา่ งกนั ก็ไม่ยึดถือความคดิ เหน็ ของตนเปน็ ส่วนใหญ่ 3. ชัชสามารถแก้ปญั หาของตนเองในเร่ืองใดได้อย่างถูกวธิ ี ชชั สามารถแกป้ ญั หาเร่ือง การวางแผนอาชพี ของตนในอนาคตได้อย่างเหมาะสม ถูกวิธี โดยตัดสนิ ใจเรียนต่อ แทนท่ีจะหางานทำ
กรณศี ึกษาที่ 2 หมู่บ้านรักถิ่นเป็นหมู่บ้านพัฒนาตัวอย่าง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยและชาวต่างชาติชอบไปเที่ยวตลาดน้ำวัน อาทิตย์ เพื่อซื้อสินค้าที่เป็นผลผลิตจากสวนผลไม้และมีส่ิงของเคร่ืองใช้ประเภทเครื่องจักสานจำนวนมากทำรายได้ให้แก่ ชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงทำอาหารประเภทต่างๆ มาขายให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย ดอกแก้วก็ เป็นคนหนึ่งที่ทำขนมตาลไปขายในตลาดน้ำวันอาทิตย์ ขนมตาลของดอกแก้วขายดีมากและไม่พอขาย ดังนั้นดอกแก้วจึงข้ึน ราคาขนมตาลจากถงุ ละ 20 บาท เปน็ 30 บาท ทำให้เธอไดก้ ำไรมากขน้ึ วันอาทิตย์ต่อมาดอกแก้วขายขนมตาลไม่หมด เหลือเป็นจำนวนมาก เธอจึงเก็บใส่ตู้เย็นไว้ แล้วนำไปขายให้แก่ ชาวบา้ นในหมู่บ้านของเธอจนหมด ตอ่ มาดอกแก้วเอาขนมตาลไปขายท่ีตลาดน้ำเช่นเคย แต่นักทอ่ งเท่ยี วก็ไม่ค่อยซอื้ ขนมตาลของดอกแก้ว วันรงุ่ ขึ้นเธอ ก็เอาไปขายในหมบู่ ้านอกี แต่ก็ไม่มีใครซื้อขนมตาลของเธอ ดอกแก้วตอ้ งขาดทนุ ในการขายขนมดอกแก้วกลุ้มใจมาก คำถาม ดอกแกว้ ควรใช้วิธีการแก้ปัญหาตามหลักพุทธศาสนาอย่างไร 1. ต้องใชป้ ัญญา 1) ต้องรวู้ ่าปญั หาคืออะไร เช่น ปัญหา คือ ขายขนมตาลไม่ได้ ตอ้ งขาดทนุ 2) เขา้ ใจสาเหตุว่า เกิดจากอะไร เม่ือสืบสาวไปแล้วจะรวู้ า่ สาเหตุเกิดจากขายขนมตาลราคาแพง 3) เขา้ ใจเป้าหมายว่า ปัญหาการขายขนมตาลขาดทุนนั้น แก้ไขได้ 4) เข้าใจขนั้ ตอนของการแก้ปญั หา คือ ต้องเขยี นปา้ ยติดราคาขนมใหน้ ักท่องเท่ยี วรู้ และจงู ใจให้มาซ้ือและ ใหน้ กั ท่องเทย่ี วชิมขนมตาลวา่ รสอร่อย และไมน่ ำของเหลือมาขายต่อในวันร่งุ ข้นึ เพราะรสของขนมจะไม่อรอ่ ย ทำ ให้ผู้ซื้อไมป่ ระทบั ใจ 2. กรรม (การลงมอื กระทำ) ดอกแก้วต้องลงมือทำตามข้นั ตอนท่ีไดว้ างแผนไว้ 3. วริ ิยะ (ความเพียร) ดอกแก้วต้องมีจิตใจเข้มแขง็ มีความอดทน ถ้าการทำขนมตาลขายในวันแรกยังขายไม่ หมด กต็ อ้ งพยายามหาวธิ ีจงู ใจผซู้ ้อื เพิ่มขน้ึ เช่น มีการแถมขนมแก่ผ้ซู ้ือ หรอื พูดจาเชิญชวนให้ผู้ซ้อื เหน็ ว่า ขนมตาล ของดอกแก้วมีคณุ ภาพดี สะอาด ถูกสขุ อนามัย ดอกแกว้ ต้องใชค้ วามพยายามหลายๆ ครั้ง จนกว่าจะประสบ ผลสำเร็จ
ใบงานท่ี 3.2 เรื่อง ชว่ ยกันวิเคราะห์ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนนำข่าว/ขอ้ มลู ของบคุ คลท่ีแสดงว่ามีการกระทำทสี่ อดคลอ้ งกบั หลกั ของพระพุทธศาสนา ทีเ่ นน้ ความสมั พนั ธข์ องเหตุปจั จัย และใชว้ ิธกี ารแก้ปัญหาตามแนวพุทธศาสนาแลว้ นำมาวเิ คราะห์ และตอบคำถามที่กำหนด ขา่ ว/ขอ้ มลู ที่ 1 เรอื่ ง.......................................................... (สาระสำคัญ) ท่ีมา............................................................ คำถาม 1. บุคคลใดมีการกระทำท่สี อดคล้องกันกับความสมั พนั ธ์ของเหตปุ ัจจยั ยกตัวอย่างการกระทำ 2. การปฏบิ ัตขิ องบุคคลดังกล่าว มผี ลสำคัญอย่างไร จงยกตัวอยา่ ง 3. นกั เรียนคิดว่า จะนำแบบอยา่ งการกระทำไปประยุกต์ปฏิบตั ิไดอ้ ย่างไรบ้าง และผลท่ีคาดวา่ จะได้รบั เป็นอยา่ งไร
ข่าว/ขอ้ มูลท่ี 2 เรอ่ื ง.......................................................... (สาระสำคัญ) ทม่ี า............................................................ คำถาม 1. บุคคลใดทใี่ ช้วิธีการแก้ปัญหาตามแนวพระพุทธศาสนา 2. บคุ คลในข้อ 1 ปฏิบัตติ นตามองค์ประกอบของการแก้ปัญหาอย่างไร จงยกตวั อยา่ ง 3. บุคคลในข้อ 1 ไดร้ บั ผลจากการแกป้ ัญหาอย่างไร จงยกตัวอยา่ ง
ใบงานท่ี 3.2 เร่ือง ชว่ ยกนั วเิ คราะห์ เฉลย คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นนำขา่ ว/ข้อมลู ของบคุ คลท่แี สดงวา่ มีการกระทำทส่ี อดคลอ้ งกับหลกั ของพระพุทธศาสนา ที่เนน้ ความสมั พนั ธ์ของเหตุปจั จยั และใชว้ ธิ ีการแก้ปญั หาตามแนวพุทธศาสนาแล้วนำมาวิเคราะห์ และตอบคำถามท่ีกำหนด ข่าว/ขอ้ มลู ที่ 1 เร่อื ง.......................................................... (สาระสำคญั ) ทมี่ า............................................................ คำถาม 1. บคุ คลใดมีการกระทำท่ีสอดคล้องกนั กบั ความสมั พนั ธ์ของเหตปุ จั จัย ยกตวั อยา่ งการกระทำ 2. การปฏิบตั ขิ องบุคคลดังกล่าว มีผลสำคญั อย่างไร จงยกตัวอย่าง 3. นกั เรียนคดิ วา่ จะนำแบบอย่างการกระทำไปประยุกต์ปฏิบตั ิไดอ้ ย่างไรบา้ ง และผลท่ีคาดวา่ จะได้รบั เปน็ อยา่ งไร
ข่าว/ข้อมูลท่ี 2 เรอ่ื ง.......................................................... (สาระสำคัญ) ทม่ี า............................................................ คำถาม 1. บุคคลใดทใี่ ช้วิธีการแกป้ ญั หาตามแนวพระพุทธศาสนา 2. บคุ คลในข้อ 1 ปฏิบตั ิตนตามองค์ประกอบของการแกป้ ัญหาอย่างไร จงยกตัวอย่าง 3. บุคคลในข้อ 1 ไดร้ ับผลจากการแกป้ ญั หาอย่างไร จงยกตัวอย่าง (พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน)
แบบบันทกึ การอ่าน ช่ือหนงั สอื ช่ือผู้แตง่ สำนักพมิ พ์ จำนวนหนา้ สถานท่ีพมิ พ์ ปที ่พี ิมพ์ เวลา ราคา บาท อ่านวนั ที่ เดือน พ.ศ. 1. สาระสำคัญของเรื่อง 2. วเิ คราะห์ข้อคดิ /ประโยชนท์ ไี่ ด้จากเร่อื งท่อี ่าน 3. สิ่งท่สี ามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั 4. ข้อเสนอแนะของครู ลงช่ือ นักเรยี น ลงชื่อ ผู้ปกครอง () ( ) ลงช่ือ ครูผู้สอน ( ) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน ผลงานมีความสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานมีข้อบกพรอ่ งเพยี งเล็กนอ้ ย ให้ 2 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานมขี อ้ บกพรอ่ งมาก
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน คำช้แี จง : ให้ ผ้สู อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในชอ่ ง ท่ตี รงกบั ระดบั คะแนน ลำดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 4321 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 2 ความถกู ตอ้ งของเนอื้ หา 3 ภาษาที่ใชเ้ ขา้ ใจง่าย 4 ประโยชนท์ ี่ได้จากการนำเสนอ 5 วิธกี ารนำเสนอผลงาน รวม ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมีขอ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งมาก เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 พอใช้ ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รง กับระดับคะแนน ลำดบั ช่อื -สกุล การแสดง การยอมรับ การทำงาน ความมีน้ำใจ การมี รวม ท่ี ของผูร้ ับ ความคดิ เหน็ ฟงั คนอืน่ ตามท่ไี ดร้ ับ สว่ นรว่ มใน 20 การ มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน ประเมนิ ผลงานกล่มุ 43214321432143214321 ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมิน ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 18 - 20 ดีมาก 14 - 17 ดี 10 - 13 ต่ำกว่า 10 พอใช้ ปรับปรุง
แบบบันทกึ หลงั การสอน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี..........เรื่อง .......................................................................................................................... แผนการเรียนร้ทู ่ี...........เรื่อง……………………………………………………..………………..จำนวน..………………….ชว่ั โมง ผลการใช้แผนการเรยี นรู้และแนวทางพัฒนา 1. ระยะเวลาท่ีใช้ ใชเ้ มื่อ……………………………………………………………………………………………………………..…….. ผลการใช้ พอเพียงตามแผน ไม่เพียงพอและไม่ตรงตามแผนเพราะ…………………………… ควรแกไ้ ขปรบั ปรุงคือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 2. ผลการเรียนรู้ ควรแก้ไขปรบั ปรุงคือ…………………………………………………………………………………… 3. สาระการเรยี นรู้ สอดคล้องกบั ผลการเรียนรู้ ไม่สอดคล้องกับผลการเรยี นรู้ ควรแกไ้ ขปรับปรงุ คือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 4. กระบวนการเรยี นรู้ เป็นไปตามกระบวนการ ไม่เป็นไปตามกระบวนการ ควรแก้ไขปรับปรงุ คือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… 5. สือ่ การเรียนรู้ เปน็ ไปตามกระบวนการ ไมเ่ ปน็ ไปตามกระบวนการ 6. เคร่ืองมือวดั ผลประเมินผล สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานตัวชวี้ ดั /ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวงั ไมส่ อดคล้องกบั มาตรฐานตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั ควรแกไ้ ขปรับปรุงคือ…………………………………………………………..…………………………………………………………… บันทกึ ผลการเรียนรตู้ ามแผนการเรียนรูเ้ พ่ือจดั ทำวิจัยในชั้นเรียนหรอื แก้ปัญหาด้านอนื่ ๆ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงช่ือ)……………………………………………...….ผูใ้ ชแ้ ผนการเรียนรู้ (นางสาวกัลยากร เชวงสขุ ) ตำแหน่ง ครู คศ.1 ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการกลมุ่ งานวิชาการ ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการสถานศึกษา ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ........................................................................................ ลงชื่อ................................................. ลงชอ่ื ................................................. (นางกนกลักษณ์ แปงมูล) (นายศฤงคาร ใจปนั ทา) ครู ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 21
แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 คำช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ดนยั เป็นชาวพุทธทช่ี อบเรียนรู้ในเร่อื งสิง่ ตา่ งๆ 6. การกระทำใดนำไปสูค่ วามสขุ ทแี่ ท้จรงิ อยเู่ สมอ และเม่ือมีเหตุการณ์ต่างๆ ซ่งึ เป็นปัญหาเขาจะ ก. ความสุขระดับญาณ ใชว้ ิธคี ิดตามแนวพุทธมาใชใ้ นการแกป้ ัญหา ขอ้ ความ ข. การลดละกเิ ลสอาสวะได้โดยส้นิ เชิง ดงั กล่าวสอดคล้องกับข้อใด ค. การฝกึ ฝนจติ ใจใหเ้ ปน็ สมาธติ งั้ มั่น ก. การพฒั นากาย ข. การพัฒนาศลี ง. มีความภูมใิ จวา่ ตนมีความประพฤติสุจรติ ค. การพฒั นาจติ ใจ ง. การพัฒนาปัญญา 7. การท่พี ระพุทธศาสนาสอนไม่ใหเ้ บยี ดเบียนตนและ 2. นรนิ ทร์ทกั ทายโอภาสด้วยคำพูดทส่ี ภุ าพ และมกี ิริยา ผู้อนื่ จะสง่ ผลดีในข้อใดมากท่ีสุด หน้าตาย้มิ แยม้ แต่โอภาสกลับหน้าบ้ึงไม่พูดตอบนรินทร์ ก. มคี วามรกั ต่อกนั คดิ วา่ โอภาสอาจจะมีความทกุ ขใ์ จ เขาจึงไม่โกรธโอภาส ข. สงั คมมกี ารพัฒนา ขอ้ ความดังกลา่ วแสดงว่า นรินทรเ์ ปน็ ผ้ทู ม่ี ีลักษณะใน ค. สังคมเกดิ สันติภาพ ขอ้ ใด ง. ความเจริญรุ่งเรอื งต่อผปู้ ฏิบัติ ก. มีเหตผุ ล ข. เป็นคนใจกว้าง ค. มสี ายตากว้างไกล ง.ไม่ยดึ ม่ันถือมัน่ 8. พระพุทธศาสนามหี ลักคำสอนให้คนในสงั คมมีความรัก ความสามคั คีกนั เพราะปฏบิ ัติตามหลักธรรมในข้อใด 3. หลกั แห่งการแกป้ ญั หาชีวิตตามแนวทาง ก. เบญจศีล ข. เบญจธรรม พระพทุ ธศาสนาคอื ข้อใด ค. สมั มาอาชีวะ ง. สาราณยี ธรรม ก. อริยสัจ 4 ข. ปฏจิ จสมุปบาท 9.การยอมรับความแตกต่างของบคุ คลสอดคล้องกับข้อใด ค. ความรกั ความเมตตา ก. การแก้ปัญหา ง. ความสัมพนั ธแ์ ห่งเหตุปัจจัย ข. การสรา้ งความสุข ค. การสร้างสนั ตภิ าพ 4. ตน้ กล้าชอบสูบบุหรี่ทกุ วนั จนกระทง่ั กลายเปน็ ตดิ ง. ความสมั พนั ธ์ของเหตแุ ละผล บหุ ร่ี ถา้ ตน้ กล้าจะเลกิ บุหรไ่ี ด้เขาจะต้องใช้หลกั ธรรมใด 10. ถงึ แม้ว่ากานดาจะไมช่ อบสายธาร และชอบพูดจาดู ก. ฉนั ทะ ข. วริ ยิ ะ ถูกสายธารอยูเ่ สมอ แตส่ ายธารก็ไมโ่ ตต้ อบ การกระทำ ค. จิตตะ ง. กรรม ของสายธารสอดคล้องกับคำสอนของพระพทุ ธศาสนาใน 5. บคุ คลใดมีการกระทำท่ีตรงกันขา้ มกบั “อปั ปมาท ข้อใด ธรรม” ก. ความรักและความเมตตา ก. นนท์ชอบชวนเพอื่ นไปเรียนพิเศษทุกวนั เสาร์ ข. บคุ คลพงึ ไม่โกรธตอบผู้อื่น ข. กลา้ ต้องการสอบใหไ้ ด้ท่ีหนึง่ ของระดบั ช้นั ค. การไมเ่ บยี ดเบยี นผู้อน่ื ทางวาจา ค. ฉัตรบอกกับเพื่อนวา่ เขาต้องทำการบา้ นให้เสร็จ ง. พึงเอาชนะความช่ัวด้วยความดี ในวันน้ี ง. เดชเหน่อื ยจากการซ้อมกีฬาจึงนอนพักก่อน 1. ง 2. ก 3. ก 4. ข 5. ง ทำการบ้าน 6. ข 7. ค 8. ง 9. ค 10. ง
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คำชแี้ จง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกับระดับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ 43 2 1 1. รักชาติ 1.1 ยืนตรงเมอื่ ได้ยินเพลงชาติ ร้องเพลงชาติได้ และอธิบายความหมายของเพลงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.2 ปฏบิ ัติตนตามสิทธิและหน้าท่ขี องนักเรียน 1.3 ให้ความรว่ มมือ รว่ มใจ ในการทำงานกับสมาชกิ ในชัน้ เรียน 2. ซอื่ สัตย์ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีสรา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น สุจริต และชมุ ชน 1.5เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบัติตนตามหลักของศาสนา 3. มีวนิ ยั 1.6 เข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี กยี่ วกับสถาบันพระมหากษตั ริย์ตามที่โรงเรียนและชมุ ชน รบั ผดิ ชอบ จดั ขน้ึ 4. ใฝ่เรียนรู้ 2.1 ให้ข้อมลู ท่ีถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏบิ ตั ิในส่ิงทถี่ กู ต้อง ละอาย และเกรงกลัวท่ีจะทำความผิด ทำตามสัญญาที่ตน 5. อยู่อย่าง ใหไ้ ว้กับเพือ่ น พอ่ แมห่ รือผู้ปกครอง และครู พอเพียง 2.3 ปฏบิ ัตติ อ่ ผู้อ่ืนดว้ ยความซอื่ ตรง 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครวั และโรงเรยี น มี ความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ 4.2 มกี ารจดบันทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ 4.3 สรุปความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล 5.1 ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ อย่างประหยดั คุ้มค่า และ เก็บรกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอย่างเหมาะสม 5.2 ใชท้ รัพยากรของสว่ นรวมอย่างประหยัด คุ้มค่า และเก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี 5.3 ปฏิบัติตนและตัดสนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตุผล 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ ่นื และไม่ทำใหผ้ อู้ น่ื เดอื ดร้อน พร้อมใหอ้ ภัยเมอื่ ผู้อ่นื กระทำ ผดิ พลาด 5.5 วางแผนการเรยี น การทำงานและการใช้ชีวติ ประจำวันบนพน้ื ฐานของความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร 5.6 รเู้ ทา่ ทันการเปล่ียนแปลงทางสังคม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรับ และปรบั ตัว อยู่ร่วมกับผ้อู ืน่ ได้อยา่ งมีความสุข
คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อันพึงประสงค์ 4321 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 6. มุง่ มั่นในการ 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออุปสรรคเพ่ือใหง้ านสำเร็จ ทำงาน 7.1 มีจติ สำนกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 7. รกั ความเป็น 8.1 รู้จักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน ไทย 8.2 อาสาทำงาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทำ และแบง่ ปันส่ิงของให้ผอู้ นื่ 8.3 ร้จู กั ดูแล รกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสง่ิ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8. มจี ติ สาธารณะ 8.4 เข้ารว่ มกิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนข์ องโรงเรยี น ลงช่ือ ....................................................ผูป้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน 191 - 108 ดีมาก 73 - 90 ดี 54 - 72 พอใช้ ตำ่ กว่า 54 ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รหสั วชิ า ส33101 ภาคเรยี นที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พระธรรม เวลาเรยี น 3 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 หลักคำสอนของศาสนาตา่ ง ๆ เพื่อการอยรู่ ่วมกันอยา่ งสันตสิ ุข เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ครผู ู้สอน นางสาวกัลยากร เชวงสุข 1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด ศาสนาทุกศาสนามเี ปา้ หมายทีส่ ำคัญ คือ สอนใหท้ ุกคนทำแตค่ วามดี มีความรักความเมตตาเอื้ออาทรต่อกัน การปฏิบตั ิตามหลกั คำสอนของแต่ละศาสนา เคารพและให้เกียรตกิ ันกจ็ ะทำใหท้ ุกคนอยรู่ ่วมกันอยา่ งสันตสิ ุข 2. ตัวชว้ี ดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตัวชีว้ ดั ส 1.1ม.4-6/21 วเิ คราะห์หลกั ธรรมสำคัญในการอยู่รว่ มกนั อยา่ งสันตสิ ขุ ของศาสนาอื่น ๆ และ ชักชวน สง่ เสริมสนบั สนุนใหบ้ คุ คลอนื่ เห็นความสำคัญของการทำความดตี ่อกนั 2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั คำสอนของศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ศาสนาสิกข์ และศาสนาอสิ ลาม (K) 2. วเิ คราะห์หลักธรรมสำคญั ในการอยู่รว่ มกนั อย่างสันติสขุ ของศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาสิกข์ และศาสนาอิสลาม (P) 3. เหน็ คณุ ค่าและความสำคัญของการปฏิบตั ิตนในการอยู่รว่ มกนั อย่างสันตสิ ุขกบั ศาสนาตา่ ง ๆ (A) 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรู้ • หลกั คำสอนในศาสนาครสิ ต์ • หลักคำสอนในศาสนาอสิ ลาม • หลักคำสอนในศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู • หลักคำสอนในศาสนาสิกข์ 3.2 สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 4. ภาระงาน : ชิน้ งาน - ช้ินงาน เรื่อง หลักคำสอนของศาสนาต่าง ๆ เพื่อการอยู่ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ุข 5. แนวทางการวัดผลประเมนิ ผล • การประเมินการเรียนรู้ 1. ประเมินความรู้ เรื่อง หลักคำสอนของศาสนาต่าง ๆ เพือ่ การอยู่ร่วมกันอย่างสนั ตสิ ุข (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมนิ
• แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) - แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ รายการการ ระดับคณุ ภาพ ประเมนิ 4321 กระบวนการ มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด ทำงานกลมุ่ สมาชกิ ชัดเจน และมี สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ ไม่มกี าร บทบาทสมาชกิ การชแ้ี จงเป้าหมาย มีการช้แี จงเป้าหมาย ช้ีแจงเป้าหมายอย่าง และไม่มีการชแ้ี จง การทำงาน มีการ อยา่ งชัดเจนและ ชดั เจนปฏิบัตงิ าน เป้าหมาย สมาชกิ ปฏิบัติงานร่วมกัน ปฏิบัตงิ านร่วมกนั ร่วมกนั ไม่ครบทกุ คน ตา่ งคนตา่ งทำงาน อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไม่มกี ารประเมนิ พรอ้ มกับการประเมนิ เปน็ ระยะ ๆ เปน็ ระยะ ๆ - แบบประเมินชน้ิ งาน เร่ือง หลกั คำสอนของศาสนาตา่ ง ๆ เพ่อื การอยรู่ ่วมกันอยา่ งสันติสุข รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมนิ 432 1 นำเสนอแนวทาง การปฏบิ ัติตน นำเสนอแนวทาง นำเสนอแนวทาง นำเสนอแนวทาง นำเสนอแนวทาง ตามหลกั ธรรมคำ การปฏบิ ตั ติ น สอนของศาสนา การปฏบิ ตั ติ น การปฏบิ ัตติ น การปฏบิ ตั ิตน ตามหลกั ธรรมคำสอน ที่ตนเองนบั ถือ ของศาสนา เพื่อสรา้ งสันติสุข ตามหลกั ธรรมคำ ตามหลักธรรมคำสอน ตามหลกั ธรรมคำ ท่ีตนเองนับถือ ในการอยู่ร่วมกัน เพื่อสร้างสนั ตสิ ุข สอนของศาสนา ของศาสนา สอนของศาสนา ในการอยู่รว่ มกนั และยินดจี ะปฏิบัติ ท่ตี นเองนับถือ ทต่ี นเองนบั ถือ ทีต่ นเองนบั ถือ เพื่อประโยชน์ตอ่ ตนเอง เพ่ือสร้างสันติสุข เพ่อื สร้างสนั ติสุข เพือ่ สร้างสนั ติสุข ในการอย่รู ่วมกนั ในการอย่รู ว่ มกนั ในการอยู่รว่ มกนั เพอื่ ประโยชนต์ ่อคน เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ และยินดจี ะปฏิบัติ ในสงั คม มีความช่นื ชม ชุมชน มคี วามเตม็ ใจ เพอื่ ผู้อน่ื และภมู ิใจในส่งิ ที่ ท่ีจะปรับปรงุ การ ปฏบิ ตั ิ ปฏิบตั ิใหด้ ขี น้ึ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115