62 ภาพทม่ี กี ารจดั องค์ประกอบในการวาดภาพไมด่ ี (ตดิ ภาพ) 1. ช่ือภาพ 2. ผลงานของ 3. ภาพดงั กล่าว มีการจัดองคป์ ระกอบในการวาดภาพท่ีไม่ดี ดังน้ี
63 ใบงานท่ี 4.3 องคป์ ระกอบในการวาดภาพ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนหาภาพผลงานที่มีการจดั องคป์ ระกอบในการวาดภาพทีด่ แี ละไมด่ ี มาตดิ ลงในกรอบ นำมา วเิ คราะห์แล้วบนั ทกึ ผล ภาพทม่ี ีการจดั องค์ประกอบในการวาดภาพท่ีดี (ติดภาพ) 1. ช่ือภาพ 2. ผลงานของ 3. ภาพดงั กลา่ ว มกี ารจดั องค์ประกอบในการวาดภาพท่ีดี ดังนี้ (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)
64 ภาพท่มี กี ารจดั องคป์ ระกอบในการวาดภาพไม่ดี (ตดิ ภาพ) 1. ช่อื ภาพ 2. ผลงานของ 3. ภาพดังกลา่ ว มกี ารจดั องค์ประกอบในการวาดภาพที่ไมด่ ี ดังน้ี (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยให้อย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
65 เร่อื งที่ 4 ขนั้ ตอนในการวาดภาพ 1 ชวั่ โมง วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการปฏบิ ตั ิ ขั้นท่ี 1 สังเกต รับรู้ 1. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพวาดระบายสี แล้วใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นในประเดน็ ที่กำหนด โดยครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียน แสดงความคิดเห็นอยา่ งอสิ ระ จากนนั้ ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม 2. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ข้ันตอนในการวาดภาพ จากหนังสือเรยี น และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ แล้ว ร่วมกันสรุปสาระสำคัญ 3. ครูเปิดวีซีดสี าธติ การวาดภาพระบายสใี ห้นกั เรียนดู แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั สงั เกตว่า มีขัน้ ตอนในการปฏบิ ัตเิ หมอื นหรอื แตกต่างจากทนี่ ักเรยี นศกึ ษามาอยา่ งไรบา้ ง จากนน้ั ครูอธบิ ายเชอื่ มโยงให้นกั เรียนเขา้ ใจขั้นตอนในการวาดภาพระบายสี ขั้นท่ี 2 ทำตามแบบ 1. ครสู าธิตการวาดภาพระบายสีหุ่นน่งิ ให้นกั เรยี นดู โดยเลือกวัตถุหรือสิ่งของที่อยูร่ อบๆ ตัวเป็นแบบ พร้อม อธบิ ายประกอบในแตล่ ะขน้ั ตอน เพ่ือให้นักเรียนจดจำและสามารถนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้อย่างถูกต้อง 2. นกั เรียนแตล่ ะคนฝึกวาดภาพระบายสหี นุ่ น่ิง ตามข้ันตอนท่ีครสู าธิต หากไม่เขา้ ใจให้ศึกษาความรู้เพิ่มเติมจาก หนงั สอื เรยี น หรอื สอบถามจากครู 3. ครูสงั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล แล้วใหค้ ำแนะนำเพื่อให้นกั เรยี นสามารถปฏิบตั ิได้อยา่ ง ถกู ต้อง ขั้นที่ 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ 1. นกั เรียนแต่ละคนวาดภาพระบายสหี ุ่นนิง่ จากวตั ถหุ รือส่งิ ของท่ีอยู่รอบๆ ตัว โดยไมต่ ้องดแู บบ 2. ครสู งั เกตการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนักเรียนเป็นรายบุคคล แล้วให้คำแนะนำเพื่อใหน้ ักเรยี นสามารถปฏิบตั ไิ ด้อย่าง ถูกต้อง ขัน้ ท่ี 4 ฝึกทำให้ชำนาญ ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนวาดภาพระบายสีหุ่นนิ่ง โดยเลือกวัตถุหรือสิ่งของที่อยู่รอบๆ ตัว (วัตถุหรือ สง่ิ ของดงั กล่าวตอ้ งไมซ่ ้ำกับที่ครูสาธิต) โดยให้ครอบคลมุ ประเด็นตามท่ีกำหนด หลังเรียนนกั เรียนทำแบบทดสอบ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4
66 9 สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ทศั นศลิ ป์ ม.1 2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพ่ิมเติม (1) ศลิ ป์ พีระศรี. 2550. ประวัติศาสตรแ์ ละศลิ ปะโดยสังเขป. นครปฐม : สำนักพมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร. (2) ฉตั ร์ชัย อรรถปักษ์. 2552. องค์ประกอบศิลปะ. กรุงเทพมหานคร : วิทยพฒั น์. 3) วีซดี ีสาธิตการวาดภาพระบายสี 4) วตั ถุหรอื สิง่ ของท่ีอย่รู อบๆ ตัว เปน็ แบบ เช่น แจกนั แกว้ น้ำ ดอกไม้ หรือผลไม้ เป็นตน้ 5) อปุ กรณท์ ่ใี ช้ในการวาดภาพระบายสี ได้แก่ แจกัน แกว้ นำ้ ปากกา ยางลบ เครื่องมอื ชว่ ยตเี สน้ กระดาษวาดภาพ แผ่นรองเขียน พู่กัน จานผสมสี และสชี นิดต่างๆ 6) ปลอก และกลอ่ งเกบ็ อปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการวาดภาพระบายสี 7) บตั รภาพ 8) ใบงานที่ 4.1 เรอื่ ง ความเปน็ มาและแนวทางปฏบิ ตั ใิ นการวาดภาพระบายสี 9) ใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง เครือ่ งมอื และอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี 10) ใบงานท่ี 4.3 เรอื่ ง องคป์ ระกอบในการวาดภาพ 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/08 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/09
67 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ การสาธิตวธิ ีใชแ้ ละเกบ็ รกั ษาเครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ ในการวาดภาพระบายสี (ช้นิ งานท่ี 1) รายการประเมนิ ดมี าก (4) คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การมที ักษะในการใช้ ใช้เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ ใชเ้ ครอ่ื งมือและอุปกรณ์ ใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ ใช้เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ เคร่อื งมือและ ในการวาดภาพระบายสี ในการวาดภาพระบายสี ในการวาดภาพระบายสี ในการวาดภาพระบายสี อุปกรณ์ในการวาด ได้ถกู ต้อง เหมาะสม และ ได้ถกู ตอ้ ง แต่มี ได้ถูกตอ้ ง แต่มี ได้ถกู ต้อง แต่มี ภาพระบายสี มีความคลอ่ งแคล่ว ขอ้ บกพร่องบา้ งเลก็ น้อย ข้อบกพร่องเป็นบางสว่ น ข้อบกพรอ่ งมาก และมีความคลอ่ งแคล่ว 2. การมที ักษะในการ เกบ็ รกั ษาเครือ่ งมอื เกบ็ รกั ษาเคร่อื งมือ เก็บรักษาเครอื่ งมอื และ เก็บรักษาเคร่ืองมือ และ เกบ็ รักษาเครอื่ งมอื และอุปกรณ์ในการ และอุปกรณ์ในการ อปุ กรณ์ในการ วาด อุปกรณใ์ นการ วาด และอุปกรณ์ ใน วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายสี ภาพระบายสี ได้ ภาพระบายสี ได้ การวาดภาพระบาย ได้ถูกต้อง เหมาะสม ได้ถกู ต้อง แต่มี ถกู ต้อง แตม่ ีจุดบกพร่อง ถูกตอ้ ง แตม่ ีจดุ บกพรอ่ ง สี ทุกชนิด จดุ บกพร่องบ้างเล็กนอ้ ย เป็นบางสว่ น มาก ช่วงคะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ 4-5 ตำ่ กวา่ 4 ระดบั คุณภาพ พอใช้ ปรบั ปรุง 8 6-7 ดีมาก ดี
68 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินผลงานการวาดภาพระบายสีหุน่ นง่ิ (ช้นิ งานที่ 2) รายการประเมนิ ดีมาก (4) คำอธบิ ายระดับคณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. องค์ประกอบ ผลงานมอี งค์ประกอบใน ผลงานมีองค์ประกอบใน ผลงานมอี งคป์ ระกอบใน ผลงานมอี งคป์ ระกอบใน ในการวาดภาพ การวาดภาพ ครบถ้วน การวาดภาพ การวาดภาพสมบรู ณ์ 1 การวาดภาพ 1 สมบรู ณ์ ท้ัง ครบท้ัง 2 ลกั ษณะ และ ลกั ษณะ ลกั ษณะ แต่ไมส่ มบรู ณ์ 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ เกือบสมบรู ณ์ 1) องค์ประกอบของภาพ 2) องคป์ ระกอบทาง เนอ้ื หา 2. การวาดภาพระบาย วาดภาพระบายสตี าม วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายสี วาดภาพระบายสี สี ขน้ั ตอนไดอ้ ย่างถกู ต้อง ตามข้ันตอนไดอ้ ยา่ ง ตามขน้ั ตอนไดอ้ ยา่ ง ตามขัน้ ตอนได้อย่าง เหมาะสม ทง้ั ถกู ต้อง เหมาะสม ถูกต้อง เหมาะสม ถูกตอ้ ง 1 ขั้นตอน 3 ขนั้ ตอน ไดแ้ ก่ 2 ขั้นตอน 1 ขน้ั ตอน แตไ่ มค่ อ่ ยเหมาะสม 1) ขนั้ เตรยี มการ 2) ขน้ั รา่ งภาพ 3) ข้นั ลงนำ้ หนกั 3. ความสวยงาม ผลงานมีความสวยงาม ผลงานค่อนขา้ งสวยงาม ผลงานสวยงามบา้ ง ผลงานไมส่ วยงาม ขาด ประณตี และสะอาด ประณตี และสะอาด เลก็ น้อย ขาดความ ความประณตี และไม่ เรยี บรอ้ ย เรียบร้อย ประณตี และไมส่ ะอาด สะอาด ไม่ เรยี บร้อย เรียบรอ้ ย เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ตำ่ กว่า 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรงุ
69 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ภาพวาดสมยั กอ่ นประวัติศาสตร์มกั พบบริเวณใด 7. ใครใช้คุณสมบตั ขิ องสีน้ำในการวาดภาพระบายสีได้ถูกต้อง ก. วดั ข. ปราสาท ก. ปุ้มใช้พกู่ นั ชุบนำ้ เปลา่ ทาบริเวณทจี่ ะระบายสี ค. บ้านเรือน ง. ผนังถำ้ แลว้ ท้ิงไว้ใหห้ มาดกอ่ นลงสี 2. ภาพวาดสมยั กอ่ นประวตั ิศาสตรเ์ ป็นภาพวาดเกี่ยวกบั ข. ป้ยุ ใชส้ ีขาวผสมให้ออ่ นหรอื สวา่ งขนึ้ แล้วใชส้ ดี ำ เร่อื งราวใด ผสมสใี หเ้ ข้มหรือมดื ลง ก. สัตว์ ข. มนุษย์ ค. ป๊กุ ใช้สีนำ้ ผสมกับกาวเพอ่ื ให้สตี ดิ แนน่ กับกระดาษ ค. ความรกั ง. บ้านเรือน ง. ปยุ๋ ระบายสที บั กนั หลายๆ ครั้ง เพอ่ื ให้สีสด ตดิ ทนนาน 3. เคร่ืองมอื และอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี 8. ขอ้ ควรระวังในการระบายสีนำ้ คอื อะไร มคี วามสำคญั อย่างไร ก. ใช้พู่กนั จุ่มสรี ะบายบนภาพจรงิ ไดเ้ ลย ก. เปน็ สอ่ื สรา้ งสรรคใ์ หเ้ กดิ ผลงานศลิ ปะทุกประเภท ข. ไม่ควรระบายต่อเน่ืองในแนวท่ีสียงั ไม่แห้ง ทกุ แขนง ค. อย่าระบายสที บั กนั หลายครั้ง เพราะจะทำให้สดี ่าง ข. เปน็ สว่ นสำคญั ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานใหเ้ ป็นศลิ ปะ ง. ระบายดา้ นขวาไปดา้ นซา้ ย และระบายจากบนลงล่าง ประจำชาติ 9. ขอ้ ใดเรียงลำดับวธิ กี ารใชพ้ กู่ นั ไดถ้ กู ตอ้ ง ค. เป็นการเรียนรเู้ รื่องการเลอื กใช้วัสดุ-อปุ กรณ์ 1) พกู่ นั ท่ีซือ้ มาใหมต่ อ้ งล้างนำ้ ใหก้ าวที่ตดิ ปลายพ่กู ัน บางประเภทเทา่ นน้ั ออกใหห้ มดกอ่ น ง. เป็นการถ่ายทอดการคดิ คน้ ดัดแปลงวสั ดุ-อปุ กรณ์ 2) ล้างสีท่ตี ดิ พู่กันออกให้หมด สลัดนำ้ ออก ใชผ้ ้าเช็ด ในการวาดภาพ ทีป่ ลายพกู่ นั 4. ดนิ สอดำชนดิ ออ่ น (B) เหมาะสำหรบั ใช้งานลักษณะใด 3) อยา่ แช่พูก่ นั ไว้ในแกว้ นำ้ เพราะจะทำให้ปลายพู่กนั งอ ก. งานเขียนทั่วๆ ไป หรือแตก ข. ร่างภาพและแรเงา 4) พูก่ ันเบอร์เลก็ ใหร้ ะบายในพื้นท่ีเลก็ พูก่ นั เบอรใ์ หญ่ ค. ออกแบบและเขียนภาพ ให้ระบายในบรเิ วณกวา้ ง ง. ระบายเฉพาะเงาตกทอด ก. 1) 2) 3) 4) ข. 3) 4) 2) 1) 5. ใครใชย้ างลบผิดวิธี ค. 2) 3) 4) 1) ง. 1) 4) 3) 2) ก. ฝนใชย้ างลบถเู พยี งเบาๆ ไปทิศทางเดียวกนั 10. ขั้นตอนแรกของการวาดภาพระบายสี คอื อะไร ข. ฟ้าใช้ยางลบถจู ากทางซ้ายมอื ไปทางขวามอื ก. กำหนดเร่อื ง ข. แต่งกรอบ ค. ฝันใชผ้ า้ สะอาดหรือแปรงปดั เศษยางลบออก ค. รา่ งภาพ ง. ตัดเสน้ ง. ฝา้ ยลบรอยดินสอหลงั ระบายสเี สรจ็ 6. การวาดภาพแรเงาและระบายสี มปี ระโยชน์อย่างไร ก. ได้ภาพ 3 มิติ มคี วามเปน็ เอกภาพ มฐ. ศ 1.1 ม.1/3 ข. ไดภ้ าพ 3 มิติ มคี วามกลมกลืน ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ ค. ได้ภาพเหมือนจรงิ มากยง่ิ ขึ้น 10 ง. ได้ภาพท่ีแสดงทศั นียภาพ เฉลย 1. ง 2. ก 3. ก 4. ข 5. ง 6. ค 7. ก 8. ค 9. ง 10. ค
70 แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขน้ั ตอนแรกของการวาดภาพระบายสี คืออะไร 6. ดินสอดำชนดิ อ่อน (B) เหมาะสำหรบั ใช้งานลกั ษณะใด ก. งานเขยี นทว่ั ๆ ไป ก. ตดั เสน้ ข. ร่างภาพ ข. รา่ งภาพและแรเงา ค. ระบายเฉพาะเงาตกทอด ค. กำหนดเรอื่ ง ง. แต่งกรอบ ง. ออกแบบและเขยี นภาพ 2. การวาดภาพแรเงาและระบายสี มปี ระโยชนอ์ ย่างไร 7. ใครใชย้ างลบผิดวธิ ี ก. ฝา้ ยลบรอยดนิ สอหลงั ระบายสเี สรจ็ ก. ไดภ้ าพทแ่ี สดงทศั นียภาพ ข. ฝนั ใช้ผา้ สะอาดหรอื แปรงปัดเศษยางลบออก ค. ฟ้าใช้ยางลบถูจากทางซ้ายมือไปทางขวามอื ข. ได้ภาพเหมอื นจรงิ มากยิง่ ขน้ึ ง. ฝนใช้ยางลบถเู พยี งเบาๆ ไปทศิ ทางเดยี วกนั ค. ไดภ้ าพ 3 มิติ มีความกลมกลนื ง. ได้ภาพ 3 มิติ มคี วามเปน็ เอกภาพ 3. ใครใช้คุณสมบัตขิ องสีนำ้ ในการวาดภาพระบายสีได้ถูกต้อง ก. ปุ๊กใชส้ ีนำ้ ผสมกบั กาวเพ่อื ให้สีตดิ แน่นกบั กระดาษ ข. ปุ๋ยระบายสที ับกันหลายๆ คร้ัง เพอ่ื ให้สสี ด ตดิ ทนนาน 8. ภาพวาดสมัยกอ่ นประวตั ิศาสตรม์ กั พบบรเิ วณใด ค. ปุย้ ใชส้ ีขาวผสมใหอ้ อ่ นหรอื สวา่ งขนึ้ แลว้ ใช้สดี ำ ก. บ้านเรือน ข. ผนงั ถ้ำ ผสมสใี หเ้ ข้มหรอื มดื ลง ค. ปราสาท ง. วดั ง. ป้มุ ใช้พูก่ ันชุบน้ำเปลา่ ทาบรเิ วณทจี่ ะระบายสี 9. ภาพวาดสมัยก่อนประวัตศิ าสตร์เปน็ ภาพวาดเกย่ี วกบั แลว้ ทิง้ ไว้ใหห้ มาดกอ่ นลงสี เรอื่ งราวใด 4. ข้อใดเรยี งลำดบั วธิ ีการใช้พกู่ ันไดถ้ กู ตอ้ ง ก. มนุษย์ ข. บา้ นเรือน 1) พกู่ นั ท่ซี ้ือมาใหมต่ อ้ งล้างน้ำใหก้ าวทต่ี ิดปลายพกู่ ัน ค. สตั ว์ ง. ความรัก ออกให้หมดกอ่ น 10. เครอ่ื งมือและอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี 2) ล้างสีทตี่ ดิ พกู่ ันออกให้หมด สลัดนำ้ ออก ใชผ้ า้ เชด็ มคี วามสำคัญอย่างไร ที่ปลายพู่กัน ก. เป็นการถ่ายทอดการคดิ คน้ ดัดแปลงวัสดุ-อุปกรณ์ 3) อย่าแช่พกู่ ันไวใ้ นแกว้ นำ้ เพราะจะทำใหป้ ลายพู่กนั งอ ในการวาดภาพ หรือแตก ข. เป็นการเรยี นรเู้ รอื่ งการเลือกใชว้ สั ดุ-อุปกรณ์ 4) พูก่ นั เบอรเ์ ลก็ ใหร้ ะบายในพื้นท่ีเลก็ พกู่ ันเบอร์ใหญ่ บางประเภทเท่าน้ัน ให้ระบายในบรเิ วณกว้าง ค. เป็นส่วนสำคญั ในการสรา้ งสรรค์ผลงานใหเ้ ป็นศลิ ปะ ก. 1) 4) 3) 2) ข. 2) 3) 4) 1) ประจำชาติ ค. 1) 2) 3) 4) ง. 3) 4) 2) 1) ง. เปน็ สื่อสร้างสรรค์ใหเ้ กดิ ผลงานศลิ ปะทุกประเภท 5. ข้อควรระวงั ในการระบายสนี ้ำ คืออะไร ทกุ แขนง ก. ระบายด้านขวาไปด้านซา้ ย และระบายจากบนลงล่าง ข. ใชพ้ ู่กนั จุ่มสีระบายบนภาพจริงไดเ้ ลย มฐ. ศ 1.1 ม.1/3 ได้คะแนน คะแนนเตม็ ค. ไม่ควรระบายตอ่ เนอ่ื งในแนวที่สียงั ไมแ่ ห้ง 10 ง. อย่าระบายสที ับกันหลายครัง้ เพราะจะทำใหส้ ดี ่าง เฉลย 1. ข 2. ข 3. ง 4. ก 5. ง 6. ข 7. ก 8. ข 9. ค 10. ง
71 บันทกึ หลังการสอน รายวิชาศลิ ปะ นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 วชิ าศิลปะ ครูผู้สอน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เร่อื ง ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับการวาดภาพระบายสี ด้านความรู้ . ผู้เรยี นเกดิ ทกั ษะการทำงานเป็นคู่ สามารถสาธิตการวาดภาพได้ การสร้างเจตคติทดี่ ี และการลงมอื ปฏบิ ัติ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.สมรรถนะด้านการจดั การตัวเอง นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบในระดบั ปานกลาง คือใหท้ ำงานยังไม่กระตือรือล้น เทา่ ไหร่ 2.สมรรถนะด้านการสอื่ สาร นักเรยี นได้มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เกีย่ วกบั ทัศนธาตใุ นงานทัศนศิลป์ โดยครู สมุ่ ถาม ซึ่งนักเรียนได้แสดงความคดิ โดยการสื่อสารพดู ในความคดิ ของนักเรยี นเอง 3.สมรรถนะดา้ นการรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม นักเรียนมีการแบง่ หนา้ ท่ใี นการทำงาน เชน่ การแบง่ กลมุ่ สมาชิก และแบง่ ชอ่ื เรื่องทีจ่ ะศกึ ษาเองโดยครคู อยช้ีแนะ เปน็ ต้น 4.สมรรถนะด้านการคิดชนั้ สงู นักเรียนยังมคี วามร้เู กยี่ วกบั ทัศนศิลป์ไม่มากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะด้านการเป็นพลเมอื งที่เขม้ แขง็ นกั เรียนบางส่วนมีความรบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีทีไ่ ดร้ ับเปน็ อย่างดี ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย นักเรียนสว่ นมากมวี ินยั ในตนเองดี รับผดิ ชอบตอ่ ตนเองดี มบี างสว่ นยังขาดวินัยตอ่ ตนเอง 2. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรียนสืบค้นหาข้อมลู เองโดยที่ครกู ำหนดหวั ข้อให้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน นักเรยี นบางคนมงุ่ มน่ั ตั้งใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรียนเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี)) ปญั หา/อุปสรรค เดก็ นกั เรียนบางคนไมเ่ ขา้ เรียน นกั เรยี นชายหลายคนสนใจในเรื่องอ่นื มากกวา่ การเรียน เชน่ อยากซอ้ มกีฬา คุย กนั เสยี งดัง แนวทางการแก้ไข คนทไ่ี มเ่ ขา้ เรียนครูจะไม่เช็คเวลาเรยี นให้ และมกี ารหักคะแนน และครูต้งั เง่อื นไขกับนักเรยี น ถา้ ตั้งใจเรยี นจะ ปล่อยเร็ว
72 ความเห็นของครูพเ่ี ลีย้ ง ข้อเสนอแนะ มกี ารจัดการเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ ักเรยี นบรรลุตามตวั ชวี้ ดั ท่ตี ั้งไว้ มีคำถามท่ีหลากหลาบ มกี าร ประเมินตามตัวชว้ี ัด ใชส้ อื่ ไดเ้ หมาะสมกบั การเรยี นการสอน บรรยากาศในห้องเหมาะกับการเรียน . . ลงช่ือ . (นางสาวมณรี ตั น์ เนยี รประดษิ ฐ) ตำแหน่ง หวั หนา้ กลุ่มสาระศิลปะ ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลุมเน้ือหาและตวั ชวี้ ัดเห็นควรใช้ในการสอนนักเรียนได้ . . ลงชอื่ . (นายเชิดศักด์ิ เอกปรญิ ญา) ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานุสรณ์
73 แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรยี นเหล่าหลวงประชานุสรณ์ ตำบลเหลา่ หลวง อำเภอเกษตรวสิ ยั จังหวดั ร้อยเอ็ด กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอื่ ง หลักการวาดภาพแสดงทศั นียภาพ เวลา 6 ช่ัวโมง 1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม.1/3 วำดภำพทศั นยี ภำพแสดงใหเ้ หน็ ระยะไกลใกล้ เป็น 3 มติ ิ 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพเป็นเทคนคิ กำรวำดภำพทแ่ี สดงระยะไกลใกล้ เป็น 3 มติ ิ ซง่ึ ผวู้ ำดจะตอ้ งรู้ หลกั และวธิ กี ำรวำด เพอ่ื ใหภ้ ำพถ่ำยทอดควำมประทบั ใจผ่ำนภำพออกมำไดอ้ ย่ำงสวยงำม สมจรงิ อกี ทงั้ ตอ้ งมี ทกั ษะในกำรใชแ้ ละเกบ็ รกั ษำเคร่อื งมอื และอุปกรณ์ในกำรวำดภำพระบำยสดี ว้ ย 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - หลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ำรณำตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะกำรนำควำมรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) กำรวำดภำพระบำยสภี ำพแสดงทศั นียภำพ
74 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 5 เรอ่ื ง หลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงำนท่ี 5.1 เรอ่ื ง กำรสรำ้ งควำมลกึ ลวงตำ 2) ตรวจใบงำนท่ี 5.2 เรอ่ื ง กำรวำดเสน้ แสดงทศั นยี ภำพ 3) ตรวจใบงำนท่ี 5.3 เร่อื ง กำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นียภำพ 4) ตรวจใบงำนท่ี 5.4 เรอ่ื ง กำรวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ 5) ตรวจแบบบนั ทกึ กำรอำ่ น 6) ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน 7) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล 8) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุม่ 9) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 5 เร่อื ง หลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจผลงำนกำรวำดภำพระบำยสภี ำพแสดงทศั นียภำพ 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 5
75 เร่อื งที่ 1 การสร้างความลึกลวงตา แบบ 3 มิติ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครใู หน้ กั เรยี นดภู ำพวำดระบำยสแี สดงทศั นยี ภำพ และภำพจติ รกรรมฝำผนงั แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั วเิ ครำะหค์ วำมแตกต่ำงของภำพทงั้ 2 ภำพ จำกนนั้ ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจพน้ื ฐำนสำคญั ในกำร เขยี นภำพแสดงระยะไกลใกลเ้ ป็น 3 มติ ิ ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 6 คน คละกนั ตำมควำมสำมำรถ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละคนเลอื กหมำยเลข ประจำตวั เป็นหมำยเลข 1-6 ตำมลำดบั 2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรสรำ้ งควำมลกึ ลวงตำ แบบ 3 มติ ิ จำกหนงั สอื เรยี น โดยแบง่ หน้ำทใ่ี หส้ มำชกิ แต่ละคนศกึ ษำ คนละ 1 หวั ขอ้ ดงั น้ี - หมำยเลข 1 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรศกึ ษำจำกภำพบรรยำกำศ - หมำยเลข 2 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง ใชก้ ำรซอ้ นทบั - หมำยเลข 3 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง เน้นรำยละเอยี ดและเสน้ ขอบ - หมำยเลข 4 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง สงั เกตขนำดและชอ่ งว่ำง - หมำยเลข 5 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง เล่นกบั โครงสรำ้ ง - หมำยเลข 6 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง ใชก้ ำรมองตำแหน่งในแนวดงิ่ ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. สมำชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ นำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำมำเล่ำใหเ้ พอ่ื นในกล่มุ ฟังทลี ะคนแบบเลำ่ เรอ่ื งรอบวง เรยี งลำดบั ตำมหมำยเลข 1-6 2. สมำชกิ แต่ละกลมุ่ ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และอธบิ ำยจนทกุ คนมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจชดั เจนตรงกนั แลว้ ครู อธบิ ำยเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจชดั เจนมำกยงิ่ ขน้ึ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. สมำชกิ แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 5.1 เรือ่ ง การสร้างความลกึ ลวงตา เมอ่ื ทำเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ งและเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบูรณ์ จำกนนั้ นำสง่ ครตู รวจ 2. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั สบื คน้ ควำมรจู้ ำกหอ้ งสมุด และแหล่งขอ้ มลู สำรสนเทศเกย่ี วกบั เทคนิคทใ่ี ช้ ในกำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพว่ำมเี ทคนคิ อะไรอกี บำ้ ง แลว้ นำมำเล่ำสู่กนั ฟัง (นอกเวลำเรยี น) ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจำกกำรทำใบงำนท่ี 5.1
76 เร่อื งที่ 2 หลกั การวาดภาพแสดงทศั นียภาพ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิ คเลา่ เร่อื งรอบวง ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ ว่ำ กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพคอื อะไร และมหี ลกั ในกำรวำด อย่ำงไร โดยครเู ปิดโอกำสใหน้ กั เรยี นแสดงควำมคดิ เหน็ ไดอ้ ย่ำงอสิ ระ แลว้ ครอู ธบิ ำยเพมิ่ เตมิ ขนั้ สอน 1. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง หลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ จำกหนงั สอื เรยี น 2. สมำชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ ผลดั กนั อธบิ ำยควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มฟังแบบเล่ำเร่อื งรอบวง ทลี ะคน ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และอธบิ ำยจนทุกคนมคี วำมเขำ้ ใจชดั เจนตรงกนั จำกนนั้ ครูอธบิ ำยเพม่ิ เตมิ 3. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั อภปิ รำยวำ่ หลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพ มคี วำมสำคญั อย่ำงไร โดยครู กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นทกุ คนมสี ว่ นร่วมในกำรแสดงควำมคดิ เหน็ 4. ตวั แทนแตล่ ะกล่มุ ออกมำนำเสนอผลกำรอภปิ รำยหน้ำชนั้ เรยี น ครแู ละเพอ่ื นกลมุ่ อ่นื รว่ มกนั แสดงควำม คดิ เหน็ และใหข้ อ้ เสนอแนะ ขนั้ สรปุ นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ควำมรเู้ รอ่ื ง หลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ ในประเดน็ ทก่ี ำหนด
77 เรือ่ งที่ 3 วิธีวาดภาพแสดงทศั นียภาพ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยใช้การ สาธิต ขนั้ ที่ 1 เตรยี มการสาธิต 1. ครใู หน้ กั เรยี นทเ่ี คยวำดภำพแสดงทศั นียภำพออกมำเล่ำประสบกำรณ์และวธิ กี ำรวำดใหเ้ พอ่ื นฟังหน้ำชนั้ เรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ จำกนนั้ ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจวธิ วี ำดภำพแสดง ทศั นียภำพ 2. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง วธิ วี ำดภำพแสดงทศั นียภำพ จำกหนงั สอื เรยี น และแหล่งขอ้ มลู สำรสนเทศ จำกนนั้ สรุปสำระสำคญั 3. ครจู ดั เตรยี มเคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ เพอ่ื ประกอบกำรสำธติ วธิ กี ำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ แบบจดุ เดยี ว และวธิ กี ำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพแบบสองจดุ ขนั้ ท่ี 2 สาธิต 1. ครชู แ้ี จงจุดประสงคก์ ำรสำธติ วธิ กี ำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพแบบจดุ เดยี ว และแบบสองจุด ใหน้ กั เรยี นทรำบ 2. ครสู ำธติ วธิ กี ำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพแบบจุดเดยี ว และแบบสองจดุ พรอ้ มอธบิ ำยประกอบทลี ะขนั้ ตอน อยำ่ งละเอยี ด เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสงั เกตวธิ กี ำร และสำมำรถนำไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง 3. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ฝึกวำดภำพแสดงทศั นียภำพแบบจุดเดยี ว และแบบสองจุด แลว้ ใหเ้ พอ่ื นในกล่มุ ช่วยกนั ตรวจสอบควำมถูกต้อง หำกมขี อ้ สงสยั ใหศ้ กึ ษำควำมรเู้ พม่ิ เตมิ จำกหนงั สอื เรยี น หรอื แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ หรอื สอบถำมจำกครู 4. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรำยบคุ คล หำกมขี อ้ บกพรอ่ งครใู หข้ อ้ เสนอแนะเพอ่ื ใหน้ ักเรยี น สำมำรถปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 3 สรปุ การสาธิต สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั สรุปวธิ กี ำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพแบบจุดเดยี ว และแบบสองจดุ ขนั้ ท่ี 4 วดั ผลประเมินผล 1. ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจำกกำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพแบบจดุ เดยี ว และแบบสองจุด 2. นกั เรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 5.2 เรื่อง การวาดเส้นแสดงทศั นียภาพ เมอ่ื ทำเสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู รวจ ตำมกำหนดเวลำทต่ี กลงกนั 3. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปควำมรเู้ ร่อื ง วธิ กี ำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพแบบจุดเดยี ว และแบบสองจุด
78 เร่อื งที่ 4 การวาดภาพทิวทศั น์ที่แสดงทศั นียภาพ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยใช้การ สาธิต ขนั้ ท่ี 1 เตรียมการสาธิต 1. ครใู หน้ กั เรยี นดูภำพวำดทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงระยะไกลใกล้ แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั อภปิ รำย ในประเดน็ ทก่ี ำหนด 2. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นยี ภำพ จำกหนงั สอื เรยี น และหอ้ งสมุด แลว้ สรปุ สำระสำคญั 3. ครจู ดั เตรยี มเครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ เพอ่ื ประกอบกำรสำธติ วธิ กี ำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดง ทศั นียภำพ ขนั้ ท่ี 2 สาธิต 1. ครชู แ้ี จงจุดประสงคก์ ำรสำธติ วธิ กี ำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นยี ภำพ ใหน้ กั เรยี นทรำบ 2. ครสู ำธติ วธิ กี ำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นยี ภำพ พรอ้ มอธบิ ำยประกอบทลี ะขนั้ ตอนอยำ่ งละเอยี ด เพอ่ื ให้ นกั เรยี นสงั เกตวธิ กี ำร และสำมำรถนำไปปฏบิ ตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ ง 3. นกั เรยี นแต่ละคนฝึกวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นียภำพ เสรจ็ แลว้ จบั คกู่ บั เพอ่ื นในกลุ่ม ผลดั กนั ตรวจสอบ ควำมถูกตอ้ ง และใหข้ อ้ เสนอแนะ หำกมขี อ้ สงสยั ใหศ้ กึ ษำควำมรเู้ พม่ิ เตมิ จำกหนงั สอื เรยี น หรอื สอบถำม จำกครู 4. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรำยบุคคล หำกมขี ้อบกพรอ่ งครใู หข้ อ้ เสนอแนะเพอ่ื ให้ นกั เรยี นสำมำรถปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง ขนั้ ที่ 3 สรปุ การสาธิต สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรุปวธิ กี ำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นียภำพ ขนั้ ท่ี 4 วดั ผลประเมินผล 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำใบงานที่ 5.3 เร่อื ง การวาดภาพทิวทศั น์ท่ีแสดงทศั นียภาพ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู รวจ ตำมกำหนดเวลำทต่ี กลงกนั 2. ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจำกกำรทำใบงำนท่ี 5.3 แลว้ ครคู ดั เลอื กผลงำนทด่ี ที ส่ี ุด 3 อนั ดบั เพอ่ื นำมำจดั ป้ำยนเิ ทศแสดงผลงำนของนกั เรยี น 3. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปควำมรเู้ รอ่ื ง กำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นียภำพ
79 เรือ่ งที่ 5 การวาดภาพคนท่ีแสดงทศั นียภาพ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้ ครใู หน้ กั เรยี นดวู ซี ดี สี ำธติ วธิ กี ำรวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นยี ภำพ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สงั เกต และแสดง ควำมคดิ เหน็ ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ 1. ครสู ำธติ กำรวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นยี ภำพ ใหน้ กั เรยี นดู พรอ้ มอธบิ ำยประกอบแตล่ ะขนั้ ตอน เพอ่ื ให้ นกั เรยี นสำมำรถนำไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง 2. นกั เรยี นฝึกวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ ตำมแบบทค่ี รสู ำธติ หำกไมเ่ ขำ้ ใจใหศ้ กึ ษำควำมรเู้ พมิ่ เตมิ จำก หนงั สอื เรยี น หรอื สอบถำมจำกครู 3. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรำยบุคคล แลว้ ใหค้ ำแนะนำเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสำมำรถปฏบิ ตั ไิ ด้ อยำ่ งถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไม่มแี บบ 1. นกั เรยี นแตล่ ะคนวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ โดยไม่ตอ้ งดแู บบ 2. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรำยบุคคล แลว้ ใหค้ ำแนะนำเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสำมำรถปฏบิ ตั ไิ ด้ อยำ่ งถูกตอ้ ง ขนั้ ท่ี 4 ฝึ กทาให้ชานาญ 1. นกั เรยี นแต่ละคนฝึกวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ จนเกดิ ควำมชำนำญ 2. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำใบงานที่ 5.4 เรอื่ ง การวาดภาพคนที่แสดงทศั นียภาพ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ นำสง่ ครตู รวจ ตำมกำหนดเวลำทต่ี กลงกนั 3. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั สรุปควำมรเู้ รอ่ื ง กำรวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ
80 เรือ่ งที่ 6 การกาหนดเงาของวตั ถุ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมือ : เทคนิ คค่คู ิด ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น 1. ครใู หน้ กั เรยี นดูภำพแสงสุวรรณภูมิ (วดั ระฆงั ฯ) และแสงสุวรรณภูมิ (วดั พระศรฯี ) ผลงำนของปรชี ำ เถำทอง แลว้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั กำรถ่ำยทอดแสงเงำของภำพทงั้ 2 ภำพ 2. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจควำมสำคญั ของกำรถ่ำยทอดแสงเงำลงในภำพวำด ขนั้ สอน 1. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรกำหนดเงำของวตั ถุ จำกหนงั สอื เรยี น และหอ้ งสมดุ แลว้ ร่วมกนั สรปุ สำระสำคญั 2. ครสู ำธติ กำรวำดภำพระบำยสที แ่ี สดงแสงเงำของวตั ถุ พรอ้ มอธบิ ำยวธิ กี ำร และขนั้ ตอนกำรกำหนดแสงเงำ ในกำรวำดภำพประกอบ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจชดั เจนมำกยง่ิ ขน้ึ 3. นกั เรยี นแตล่ ะคนฝึกวำดภำพระบำยสที แ่ี สดงแสงเงำของวตั ถุ โดยใชอ้ ปุ กรณ์ทค่ี รเู ตรยี มไวใ้ ห้ เสรจ็ แลว้ จบั ค่กู บั เพอ่ื นในกลุ่ม ผลดั กนั อธบิ ำยและใหค้ ำแนะนำในกำรปรบั ปรุงผลงำน หำกมขี อ้ สงสยั ใหส้ อบถำม จำกครู 4. ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจวธิ กี ำร และควำมสำคญั ของกำรกำหนดแสงเงำของวตั ถใุ นกำรวำดภำพ ขนั้ สรปุ นกั เรยี นร่วมกนั สรุปควำมรเู้ ร่อื ง กำรกำหนดเงำของวตั ถุ ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละคนวาดภาพแสดงทศั นียภาพ โดยอาจเป็นภาพทิวทศั น์ หรือภาพ คนก็ได้ พร้อมระบายสีตกแต่งผลงานให้สวยงาม จากนัน้ นาส่งครู โดยให้ครอบคลุมประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5
81 9 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ทศั นศลิ ป์ ม.1 2) วซี ดี สี ำธติ กำรวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ 3) อปุ กรณ์ทใ่ี ชใ้ นกำรวำดภำพระบำยสี ไดแ้ ก่ ดนิ สอดำ ปำกกำ ยำงลบ เคร่อื งมอื ช่วยตเี สน้ กระดำษวำดภำพ แผ่นรองเขยี น พกู่ นั จำนผสมสี และสชี นิดต่ำงๆ 4) บตั รภำพ 5) ใบงำนท่ี 5.1 เรอ่ื ง กำรสรำ้ งควำมลกึ ลวงตำ 6) ใบงำนท่ี 5.2 เรอ่ื ง กำรวำดเสน้ แสดงทศั นียภำพ 7) ใบงำนท่ี 5.3 เร่อื ง กำรวำดภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงทศั นียภำพ 8) ใบงำนท่ี 5.4 เรอ่ื ง กำรวำดภำพคนทแ่ี สดงทศั นียภำพ 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สำรสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/10 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/11 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/12
82 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินผลงานการวาดภาพระบายสีภาพแสดงทศั นียภาพ รายการประเมิน ดมี ำก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. องคป์ ระกอบ ผลงำนมอี งคป์ ระกอบ ผลงำนมอี งคป์ ระกอบ ผลงำนมอี งคป์ ระกอบ ผลงำนมอี งคป์ ระกอบ ในการวาดภาพ ในกำรวำดภำพ ในกำรวำดภำพ ในกำรวำดภำพ ในกำรวำดภำพ สมบูรณ์ 1 ลกั ษณะ 1 ลกั ษณะ แตไ่ ม่ สมบรู ณ์ ครบถว้ น สมบรู ณ์ ครบทงั้ 2 ลกั ษณะ ทงั้ 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ และเกอื บสมบูรณ์ 1) องคป์ ระกอบของภำพ 2) องคป์ ระกอบทำง เน้อื หำ 2. การมีทกั ษะในการ มที กั ษะในกำรใชแ้ ละ มที กั ษะในกำรใชแ้ ละ มที กั ษะในกำรใชแ้ ละ มที กั ษะในกำรใชแ้ ละ ใช้และเกบ็ รกั ษา เกบ็ รกั ษำเครอ่ื งมอื และ เกบ็ รกั ษำเคร่อื งมอื และ เกบ็ รกั ษำเคร่อื งมอื และ เกบ็ รกั ษำเครอ่ื งมอื และ เครอ่ื งมอื และ อปุ กรณ์ในการ อุปกรณ์ ในกำรวำดภำพ อปุ กรณ์ ในกำรวำดภำพ อุปกรณ์ ในกำรวำดภำพ อปุ กรณ์ในกำรวำดภำพ วาดภาพระบายสี ระบำยสไี ดถ้ กู ตอ้ ง ระบำยสไี ดถ้ กู ตอ้ ง แตม่ ี ระบำยสไี ดถ้ กู ตอ้ ง ระบำยสไี ดถ้ ูกตอ้ ง แตม่ ี เหมำะสม และมคี วำม ขอ้ บกพรอ่ งบำ้ งเลก็ น้อย แต่มขี อ้ บกพรอ่ งเป็น ขอ้ บกพรอ่ งมำก คลอ่ งแคล่ว และมคี วำมคล่องแคล่ว บำงสว่ น 3. ความคิดริเริ่ม ผลงำนแสดงออกถงึ ผลงำนแสดงออกถงึ ผลงำนแสดงออกถงึ ขำดควำมคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ ควำมคดิ รเิ รม่ิ สรำ้ งสรรค์ ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ สรำ้ งสรรค์ ไมม่ กี ำร สอดแทรกเทคนคิ กลวธิ ี สอดแทรกเทคนิคกลวธิ ี สอดแทรกเทคนคิ กลวธิ ี สอดแทรกเทคนิคกลวธิ ี แปลกใหมไ่ ดอ้ ย่ำง แปลกใหม่ไดอ้ ย่ำง แปลกใหมไ่ ดค้ อ่ นขำ้ ง แปลกใหม่ และไม่ เหมำะสม ลงตวั เหมำะสม ลงตวั เหมำะสม ลงตวั น่ำสนใจ และมคี วำมน่ำสนใจ และค่อนขำ้ งน่ำสนใจ แต่ไมค่ อ่ ยน่ำสนใจ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ำกว่ำ 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
83 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงข้อเดียว 1. กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพ คอื กำรวำดภำพ 6. กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพแบบสองจุด คอื กำรมอง เพ่อื ตอ้ งกำรแสดงสงิ่ ใด วตั ถุอย่ำงไร ก. กำรใชเ้ สน้ ชนิดตำ่ งๆ ก. มองวตั ถทุ ด่ี ำ้ นหน้ำของวตั ถทุ อ่ี ย่ใู กลท้ ส่ี ดุ ข. กำรถำ่ ยทอดทเ่ี หมอื นจรงิ ข. มองวตั ถทุ ม่ี ุมใดมมุ หน่งึ ทอ่ี ยใู่ กลท้ ส่ี ดุ ค. กำรแสดงขนำดของวตั ถสุ ง่ิ ของ ค. มองวตั ถุทด่ี ำ้ นขำ้ งดำ้ นใดกไ็ ด้ ง. ควำมเป็นมติ แิ สดงระยะไกลใกล้ ง. มองวตั ถจุ ำกดำ้ นบนของวตั ถุ 2. กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพใหด้ เู หมอื นจรงิ มำกขน้ึ 7. กำรวำดภำพทวิ ทศั นจ์ ำเป็นตอ้ งเรมิ่ ตน้ จำกหลกั กำรใด ควรใชว้ ธิ ใี ด ก. หลกั กำรเขยี นทศั นยี ภำพ ก. สอี อ่ น บำง ข. สเี ขม้ ชดั เจน ข. กำรกำหนดเสน้ ระดบั สำยตำ ค. สเี ขม้ ผสมสดี ำ ง. สอี ่อนผสมสขี ำว ค. หลกั กำรวำดภำพเหมอื นจรงิ 3. ภำพใดคอื ภำพทแ่ี สดงควำมลกึ ลวงตำ ง. เน้นหลกั กำรใชจ้ ุดรวมสำยตำ 8. ภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงควำมลกึ ของภำพควรเขยี นเสน้ ก. ข. ทศั นยี ภำพใหม้ จี ดุ รวมสำยตำกจ่ี ดุ ก. 4 จุด ข. 3 จุด ค. ง. ค. 2 จดุ ง. 1 จดุ 9. กำรวำดภำพทแ่ี สดงทศั นียภำพเม่อื อย่หู ่ำงออกไป 4. กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพควรคำนงึ ถงึ เร่อื งใด จะมลี กั ษณะอยำ่ งไร ก. ไมเ่ คร่งครดั กำรใชจ้ นิ ตนำกำรและหลกั กำร ข. เน้นหลกั กำรวำดภำพเหมอื นจรงิ ทุกขนั้ ตอน ก. ขนำดเลก็ กว่ำสว่ นหน้ำเลก็ น้อย ค. เครง่ ครดั ในกำรใชจ้ นิ ตนำกำรถำ่ ยทอดผลงำน ง. เน้นหลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพทุกขนั้ ตอน ข. กำหนดขนำดไดเ้ องตำมใจชอบ 5. จำกภำพเป็นกำรวำดภำพทศั นยี ภำพแบบกจ่ี ดุ ค. ขนำดเลก็ ลงไปเรอ่ื ยๆ ก. แบบจุดเดยี ว ข. แบบสองจดุ ง. ขนำดเทำ่ สว่ นหน้ำ ค. แบบสำมจดุ ง. แบบจุดเดยี วและสองจุด 10. เงำของวตั ถทุ เ่ี กดิ จำกจุดรวมสำยตำ คอื ขอ้ ใด ก. มรี ปู ร่ำงเหมอื นวตั ถนุ นั้ บำงส่วน ข. อทิ ธพิ ลจำกแหล่งกำเนดิ แสง ค. กำหนดแสงเงำไดถ้ ูกตอ้ ง ง. มรี ปู ร่ำงตำมวตั ถุนนั้ มฐ. ศ 1.1 ม.1/3 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ข 3. ข 4. ก 5. ก 6. ข 7. ข 8. ง 9. ค 10. ง
84 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งข้อเดียว 1. กำรวำดภำพทวิ ทศั นจ์ ำเป็นตอ้ งเรม่ิ ตน้ จำกหลกั กำรใด 6. กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพใหด้ เู หมอื นจรงิ มำกขน้ึ ก. เน้นหลกั กำรใชจ้ ุดรวมสำยตำ ควรใชว้ ธิ ใี ด ข. หลกั กำรวำดภำพเหมอื นจรงิ ก. สอี อ่ นผสมสขี ำว ข. สเี ขม้ ผสมสดี ำ ค. กำรกำหนดเสน้ ระดบั สำยตำ ค. สเี ขม้ ชดั เจน ง. สอี อ่ น บำง ง. หลกั กำรเขยี นทศั นยี ภำพ 7. ภำพใดคอื ภำพทแ่ี สดงควำมลกึ ลวงตำ 2. ภำพทวิ ทศั น์ทแ่ี สดงควำมลกึ ของภำพควรเขยี นเสน้ ทศั นยี ภำพใหม้ จี ุดรวมสำยตำกจ่ี ดุ ก. ข. ก. 1 จดุ ข. 2 จดุ ค. 3 จุด ง. 4 จดุ ค. ง. 3. กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพแบบสองจดุ คอื กำรมอง วตั ถุอย่ำงไร 8. จำกภำพเป็นกำรวำดภำพทศั นยี ภำพแบบกจ่ี ุด ก. แบบจุดเดยี วและสองจุด ก. มองวตั ถจุ ำกดำ้ นบนของวตั ถุ ข. แบบจดุ เดยี ว ค. แบบสองจุด ข. มองวตั ถทุ ด่ี ำ้ นขำ้ งดำ้ นใดกไ็ ด้ ง. แบบสำมจดุ ค. มองวตั ถุทม่ี ุมใดมมุ หน่งึ ทอ่ี ยใู่ กลท้ ส่ี ุด 9. กำรวำดภำพแสดงทศั นียภำพ คอื กำรวำดภำพ เพ่อื ตอ้ งกำรแสดงสง่ิ ใด ง. มองวตั ถทุ ด่ี ำ้ นหน้ำของวตั ถทุ อ่ี ย่ใู กลท้ ส่ี ดุ ก. ควำมเป็นมติ แิ สดงระยะไกลใกล้ ข. กำรแสดงขนำดของวตั ถสุ งิ่ ของ 4. เงำของวตั ถุทเ่ี กดิ จำกจดุ รวมสำยตำ คอื ขอ้ ใด ค. กำรถำ่ ยทอดทเ่ี หมอื นจรงิ ง. กำรใชเ้ สน้ ชนดิ ตำ่ งๆ ก. มรี ปู ร่ำงตำมวตั ถนุ นั้ 10. กำรวำดภำพทแ่ี สดงทศั นียภำพเม่อื อย่หู ำ่ งออกไป ข. กำหนดแสงเงำไดถ้ กู ตอ้ ง จะมลี กั ษณะอย่ำงไร ก. ขนำดเท่ำส่วนหน้ำ ค. อทิ ธพิ ลจำกแหล่งกำเนดิ แสง ข. ขนำดเลก็ ลงไปเรอ่ื ยๆ ค. ขนำดเลก็ กวำ่ สว่ นหน้ำเลก็ น้อย ง. มรี ปู ร่ำงเหมอื นวตั ถุนนั้ บำงส่วน ง. กำหนดขนำดไดเ้ องตำมใจชอบ 5. กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพควรคำนึงถงึ เรอ่ื งใด ก. เน้นหลกั กำรวำดภำพแสดงทศั นยี ภำพทกุ ขนั้ ตอน ข. เครง่ ครดั ในกำรใชจ้ นิ ตนำกำรถำ่ ยทอดผลงำน ค. เน้นหลกั กำรวำดภำพเหมอื นจรงิ ทุกขนั้ ตอน ง. ไมเ่ คร่งครดั กำรใชจ้ นิ ตนำกำรและหลกั กำร มฐ. ศ 1.1 ม.1/3 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ค 2. ก 3. ค 4. ก 5. ง 6. ค 7. ง 8. ข 9. ก 10. ข
97 บันทึกหลังการสอน รายวิชาศลิ ปะ นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 วิชาศลิ ปะ ครผู สู้ อน นายปฏภิ าณ ไชยเทพา เรอ่ื ง หลักการวาดภาพแสดงทัศนียภาพ ด้านความรู้ . ผ้เู รยี นเกิดทักษะการทำงานเป็นคู่ สามารถสาธิตการวาดภาพได้ การสรา้ งเจตคติทด่ี ี และการลงมือปฏบิ ัติ ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1.สมรรถนะดา้ นการจัดการตัวเอง นกั เรยี นมีความรับผิดชอบในระดับปานกลาง คอื ใหท้ ำงานยงั ไม่กระตือรือล้น เทา่ ไหร่ 2.สมรรถนะดา้ นการส่ือสาร นกั เรียนไดม้ ีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเก่ียวกับทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ โดยครู สุม่ ถาม ซง่ึ นักเรียนได้แสดงความคดิ โดยการส่ือสารพดู ในความคิดของนกั เรียนเอง 3.สมรรถนะดา้ นการรวมพลังทำงานเปน็ ทีม นักเรียนมีการแบง่ หน้าทใ่ี นการทำงาน เช่น การแบง่ กลมุ่ สมาชิก และแบง่ ชื่อเร่อื งท่จี ะศกึ ษาเองโดยครคู อยชแี้ นะ เปน็ ต้น 4.สมรรถนะดา้ นการคดิ ชน้ั สูง นกั เรยี นยงั มีความร้เู กีย่ วกับทศั นศิลป์ไม่มากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะดา้ นการเปน็ พลเมืองที่เขม้ แขง็ นกั เรียนบางสว่ นมีความรบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ีท่ีได้รับเป็นอย่างดี ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย นักเรียนสว่ นมากมวี นิ ัยในตนเองดี รบั ผดิ ชอบต่อตนเองดี มีบางส่วนยงั ขาดวนิ ัยตอ่ ตนเอง 2. ใฝ่เรยี นรู้ นักเรียนสบื ค้นหาข้อมลู เองโดยท่คี รูกำหนดหัวขอ้ ให้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน นักเรยี นบางคนมุ่งม่นั ต้ังใจในการทำงานเปน็ อยา่ งดี ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อปุ สรรค เด็กนักเรียนบางคนไมเ่ ขา้ เรียน นักเรยี นชายหลายคนสนใจในเรอ่ื งอ่นื มากกวา่ การเรยี น เช่น อยากซอ้ มกีฬา คุย กันเสียงดงั แนวทางการแก้ไข คนทไี่ มเ่ ข้าเรียนครูจะไม่เช็คเวลาเรยี นให้ และมกี ารหักคะแนน และครูตงั้ เงือ่ นไขกับนกั เรยี น ถ้าต้ังใจเรยี นจะ ปลอ่ ยเร็ว
98 ความเห็นของครูพเ่ี ลีย้ ง ข้อเสนอแนะ มกี ารจัดการเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ ักเรยี นบรรลุตามตวั ชวี้ ดั ท่ตี ั้งไว้ มีคำถามท่ีหลากหลาบ มกี าร ประเมินตามตัวชว้ี ัด ใชส้ อื่ ไดเ้ หมาะสมกบั การเรยี นการสอน บรรยากาศในห้องเหมาะกับการเรียน . . ลงช่ือ . (นางสาวมณรี ตั น์ เนยี รประดษิ ฐ) ตำแหน่ง หวั หนา้ กลุ่มสาระศิลปะ ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลุมเน้ือหาและตวั ชวี้ ัดเห็นควรใช้ในการสอนนักเรียนได้ . . ลงชอื่ . (นายเชิดศักด์ิ เอกปรญิ ญา) ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานุสรณ์
99 แผนการจดั การเรยี นรู้ โรงเรียนเหล่าหลวงประชานสุ รณ์ ตำบลเหลา่ หลวง อำเภอเกษตรวิสยั จงั หวดั ร้อยเอ็ด กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 6 เร่ือง งานป้นั และงานส่ือผสม เวลา 4 ชว่ั โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม.1/4 รวบรวมงำนปั้นหรอื ส่อื ผสมมำสรำ้ งเป็นเรอ่ื งรำว 3 มติ ิ โดยเน้นควำมเป็นเอกภำพ ควำมกลมกลนื และกำรส่อื ถงึ เร่อื งรำวของงำน 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กำรสรำ้ งสรรคง์ ำนปั้นและงำนสอ่ื ผสมจะตอ้ งเขำ้ ใจขนั้ ตอนและวธิ กี ำรปฏบิ ตั แิ ละจดั แสดงผลงำนตำม ขนั้ ตอน เพอ่ื ใหส้ ำมำรถจดั แสดงผลงำนไดต้ รงตำมจนิ ตนำกำร และเป็นเร่อื งทป่ี ระทบั ใจของผชู้ ม 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - เอกภำพและควำมกลมกลนื ของเรอ่ื งรำวในงำนปัน้ หรอื งำนสอ่ื ผสม 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ำรณำตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะกระบวนกำรคดิ สรำ้ งสรรค์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) กำรสรำ้ งสรรคแ์ ละจดั แสดงผลงำนปั้นหรอื ผลงำนสอ่ื ผสมเป็นเรอ่ื งรำว 3 มติ ิ
100 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง งำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงำนท่ี 6.1 เรอ่ื ง งำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม 2) ตรวจใบงำนท่ี 6.2 เรอ่ื ง สนุกกบั งำนปัน้ 3) ตรวจใบงำนท่ี 6.3 เร่อื ง กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนสอ่ื ผสม 4) ตรวจแบบบนั ทกึ กำรอ่ำน 5) ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน 6) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล 7) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุม่ 8) สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง งำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจกำรสรำ้ งสรรคแ์ ละจดั แสดงผลงำนปั้นหรอื ผลงำนสอ่ื ผสมเป็นเรอ่ื งรำว 3 มติ ิ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6
101 เรอื่ งท่ี 1 ลกั ษณะของผลงานปัน้ และงานส่ือผสม 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนร้แู บบร่วมมอื : เทคนิ คค่คู ิดส่ีสหาย ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรยี น ครใู หน้ กั เรยี นดตู วั อย่ำงผลงำน หรอื ภำพผลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำม คดิ เหน็ เกย่ี วกบั ลกั ษณะของผลงำนปั้นและงำนสอ่ื ผสม จำกนนั้ ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจควำมแตกต่ำง ของผลงำนทงั้ 2 ประเภท ขนั้ สอน 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน คละกนั ตำมควำมสำมำรถ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มจบั คู่กนั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ต่ละครู่ ว่ มกนั ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง ลกั ษณะของผลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม จำกหนงั สอื เรยี น และ หอ้ งสมดุ จำกนนั้ รว่ มกนั สรุปสำระสำคญั 2. นกั เรยี นแตล่ ะค่นู ำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำมำเป็นพน้ื ฐำนในกำรทำใบงานท่ี 6.1 เรอ่ื ง งานปัน้ และ งานส่ือผสม เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบควำมถูกตอ้ งและเตมิ เตม็ คำตอบใหส้ มบรู ณ์ 3. นกั เรยี นแตล่ ะคนู่ ำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำและกำรทำใบงำนท่ี 6.1 มำเล่ำใหเ้ พอ่ื นอกี คหู่ น่งึ ภำยในกลมุ่ ฟัง ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และอธบิ ำยจนทกุ คนมคี วำมเขำ้ ใจชดั เจน แลว้ สรปุ คำตอบในใบงำนท่ี 6.1 เป็น ผลงำนของกล่มุ 4. ครอู ธบิ ำยควำมรเู้ ก่ยี วกบั ลกั ษณะของผลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสมเพมิ่ เตมิ ใหน้ กั เรยี นฟัง เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมี ควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจชดั เจนมำกยงิ่ ขน้ึ 5. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคำตอบในใบงำนท่ี 6.1 ขนั้ สรปุ นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ ควำมรเู้ รอ่ื ง ลกั ษณะของผลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม
102 เร่อื งท่ี 2 หลกั การจดั ทาผลงานปัน้ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยใช้การ สาธิต ขนั้ ท่ี 1 เตรียมการสาธิต 1. ครใู หน้ กั เรยี นทเ่ี คยสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ ออกมำเลำ่ ประสบกำรณ์ในกำรจดั ทำผลงำนปัน้ ใหเ้ พอ่ื นฟัง หน้ำชนั้ เรยี น ในประเดน็ ทก่ี ำหนด จำกนนั้ ครอู ธบิ ำยควำมรเู้ กย่ี วกบั ผลงำนปัน้ ใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจ 2. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง ผลงำนปัน้ จำกหนงั สอื เรยี น แลว้ สรปุ สำระสำคญั 3. ครอู ธบิ ำยวธิ ใี ชแ้ ละวธิ เี กบ็ รกั ษำวสั ดุ อุปกรณ์ และเครอ่ื งมอื สำหรบั กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปั้นแต่ละชนิด ใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจ 4. ครจู ดั เตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่อื งมอื สำหรบั กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ เพอ่ื ประกอบกำรสำธติ กำรจดั ทำ ผลงำนปัน้ ขนั้ ที่ 2 สาธิต 1. ครแู จง้ ใหน้ กั เรยี นทรำบว่ำ ครจู ะสำธติ วธิ ที ำผลงำนปัน้ พรอ้ มชแ้ี จงจุดประสงคก์ ำรสำธติ ใหน้ กั เรยี นทรำบ 2. ครสู ำธติ วธิ ที ำผลงำนปัน้ พรอ้ มอธบิ ำยประกอบทลี ะขนั้ ตอนอยำ่ งละเอยี ด เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสงั เกตวธิ กี ำร และสำมำรถนำไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง 3. นกั เรยี นแต่ละคนฝึกทำผลงำนปั้น ตำมขนั้ ตอนทค่ี รสู ำธติ แลว้ ใหเ้ พอ่ื นในกลุ่มช่วยกนั ตรวจสอบควำม ถกู ตอ้ ง หำกมขี อ้ สงสยั ใหศ้ กึ ษำควำมรเู้ พม่ิ เตมิ จำกหนังสอื เรยี น หรอื จำกเอกสำรประกอบกำรสอน 4. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรำยบคุ คล หำกมขี อ้ บกพรอ่ งครใู หข้ ้อเสนอแนะเพอ่ื ใหน้ กั เรยี น สำมำรถปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง 5. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำใบงานท่ี 6.2 เร่อื ง สนุกกบั งานปัน้ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ นำสง่ ครูตรวจ ขนั้ ที่ 3 สรปุ การสาธิต สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรุปขนั้ ตอนกำรจดั ทำผลงำนปัน้ ครเู ปิดโอกำสใหน้ กั เรยี นซกั ถำมเพมิ่ เตมิ ขนั้ ท่ี 4 วดั ผลประเมินผล นกั เรยี นแตล่ ะคนออกมำนำเสนอผลงำนในใบงำนท่ี 6.2 ครคู อยใหข้ อ้ เสนอแนะ แลว้ คดั เลอื กผลงำนทด่ี ที ส่ี ดุ 3 อนั ดบั เพอ่ื นำมำจดั แสดงผลงำนของนกั เรยี น
103 เรือ่ งที่ 3 หลกั การจดั ทาผลงานสื่อผสม 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบตั ิ ขนั้ ที่ 1 สงั เกต รบั รู้ 1. ครพู ำนกั เรยี นไปชมกำรแสดงศลิ ปกรรมแหง่ ชำติ หรอื ใหน้ กั เรยี นดูภำพผลงำนสอ่ื ผสม แลว้ ใหน้ กั เรยี น สงั เกตและตอบคำถำมทก่ี ำหนด 2. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง งำนส่อื ผสม จำกหนงั สอื เรยี น แลว้ รว่ มกนั สรุปสำระสำคญั ขนั้ ท่ี 2 ทาตามแบบ 1. ครสู ำธติ กำรสรำ้ งผลงำนสอ่ื ผสม ใหน้ กั เรยี นดู พรอ้ มอธบิ ำยประกอบแต่ละขนั้ ตอน เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นสำมำรถ นำไปปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ย่ำงถูกตอ้ ง 2. สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนสอ่ื ผสม ตำมแบบทค่ี รสู ำธติ หำกมขี อ้ สงสยั ใหศ้ กึ ษำควำมรู้ เพม่ิ เตมิ จำกหนงั สอื เรยี น หรอื เอกสำรประกอบกำรสอน หรอื สอบถำมจำกครู 3. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นอยำ่ งใกลช้ ดิ และคอยใหค้ ำแนะนำในกรณที น่ี กั เรยี นปฏบิ ตั ิ ไม่ถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 3 ทาเองโดยไม่มีแบบ 1. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนสอ่ื ผสม โดยไม่ตอ้ งดแู บบ 2. ครสู งั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของนกั เรยี นเป็นรำยบคุ คล แลว้ ใหค้ ำแนะนำเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสำมำรถปฏบิ ตั ไิ ด้ อย่ำงถกู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 4 ฝึ กทาให้ชานาญ 1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั ทำใบงานที่ 6.3 เรื่อง การสร้างสรรคผ์ ลงานสื่อผสม 2. ตวั แทนแต่ละกลุม่ ออกมำนำเสนอผลงำนในใบงำนท่ี 6.3 หน้ำชนั้ เรยี น ครคู อยใหค้ ำแนะนำและขอ้ เสนอแนะ
104 เร่ืองท่ี 4 การแสดงผลงานปัน้ หรอื ผลงานส่ือผสม 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ ขนั้ ที่ 1 มผี ้นู าและมีการแบง่ หน้าท่ีรบั ผิดชอบ 1. ครถู ำมนกั เรยี นว่ำ นกั เรยี นคนใดเคยชมนทิ รรศกำรทแ่ี สดงงำนปัน้ หรอื งำนสอ่ื ผสมมำแลว้ บำ้ ง ถำ้ เคย นกั เรยี นเคยชมทใ่ี ด 2. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ คดั เลอื กหวั หน้ำกลมุ่ และเลขำนุกำรกลุ่ม โดยครเู น้นย้ำใหน้ ักเรยี นทุกคนรว่ มมอื และชว่ ยเหลอื กนั ตลอดกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรแสดงผลงำนกำรปั้นหรอื สอ่ื ผสมเป็นเร่อื งรำว 3 มติ ิ จำกหนงั สอื เรยี น และหอ้ งสมดุ จำกนนั้ รว่ มกนั สรุปสำระสำคญั ครมู อบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั วางแผนสร้างสรรคแ์ ละจดั การแสดงผลงานปัน้ หรือผลงานส่ือผสมเป็นเรื่องราว 3 มิติ โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด ขนั้ ที่ 2 วางแผน สมำชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วำงแผนกำรสรำ้ งสรรคแ์ ละจดั แสดงผลงำนปั้นหรอื ผลงำนสอ่ื ผสม โดยครคู อย กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นทุกคนมสี ่วนรว่ มในกำรแสดงควำมคดิ เหน็ ขนั้ ท่ี 3 ปฏิบตั ิตามแผน สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ หรอื ผลงำนสอ่ื ผสม (ครใู หน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมนอกเวลำ เรยี น) แลว้ นำมำจดั แสดงเป็นเร่อื งรำว 3 มติ ิ ตำมแผนทไ่ี ดว้ ำงไวใ้ นขนั้ ท่ี 2 ขนั้ ท่ี 4 ประเมินผลการปฏิบตั ิงาน 1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงำนปัน้ หรอื ผลงำนสอ่ื ผสมเป็นเร่อื งรำว 3 มติ ิ ครแู ละเพอ่ื นกลมุ่ อน่ื ชว่ ยกนั แสดงควำมคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ และใหข้ อ้ เสนอแนะ 2. ครใู หน้ กั เรยี นเลอื กผลงำนทช่ี ่นื ชอบมำกทส่ี ุด พรอ้ มอธบิ ำยเหตผุ ลประกอบ 3. ครใู หข้ อ้ เสนอแนะนกั เรยี นเป็นรำยกลุ่ม แลว้ ครชู มเชยนกั เรยี นทส่ี รำ้ งสรรคผ์ ลงำนไดด้ เี พอ่ื เสรมิ กำลงั ใจ ขนั้ ที่ 5 ปรบั ปรงุ และพฒั นา 1. สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั ปรบั ปรงุ และพฒั นำผลงำนปั้นและผลงำนสอ่ื ผสมเป็นเร่อื งรำว 3 มติ ิ ตำมคำแนะนำ ทไ่ี ดร้ บั จำกครผู สู้ อน 2. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปควำมรเู้ รอ่ื ง กำรแสดงผลงำนกำรปัน้ หรอื สอ่ื ผสมเป็นเร่อื งรำว 3 มติ ิ
105 นักเรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 9 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ทศั นศลิ ป์ ม.1 2) เอกสำรประกอบกำรสอน 3) ตวั อย่ำงผลงำนงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสม 4) วสั ดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมอื สำหรบั กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ ไดแ้ ก่ ดนิ เหนียวหรอื ดนิ น้ำมนั ลูกกลง้ิ หรอื วสั ดทุ รงกระบอก ชุดเครอ่ื งมอื ปัน้ และกระดำนรองปัน้ 5) วสั ดุ อปุ กรณ์ และเคร่อื งมอื สำหรบั กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนสอ่ื ผสม เช่น เศษกระดำษ เปลอื กไม้ แผ่นพลำสตกิ เหลอื ใช้ กรรไกร กำว และสชี นิดต่ำงๆ เป็นตน้ 6) บตั รภำพ 7) ใบงำนท่ี 6.1 เรอ่ื ง งำนปั้นและงำนสอ่ื ผสม 8) ใบงำนท่ี 6.2 เร่อื ง สนุกกบั งำนปั้น 9) ใบงำนท่ี 6.3 เร่อื ง กำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนสอ่ื ผสม 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) งำนแสดงศลิ ปกรรมแห่งชำติ
106 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินการสรา้ งสรรคแ์ ละจดั แสดงผลงานปัน้ หรอื ผลงานสื่อผสมเป็นเรอ่ื งราว 3 มิติ รายการประเมิน คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน 1. การออกแบบ ดมี ำก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1) ผลงาน ผลงำนทอ่ี อกแบบมี ผลงำนทอ่ี อกแบบ ผลงำนทอ่ี อกแบบ ผลงำนทอ่ี อกแบบ 2. การสรา้ งสรรค์ ควำมสมบูรณ์ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง เหมำะสมตำม ถูกตอ้ ง เหมำะสมตำม ถูกตอ้ งตำมหลกั สำคญั ผลงานปัน้ เหมำะสมตำมหลกั หลกั สำคญั ของกำร หลกั สำคญั ของกำร ของกำรออกแบบ 1 ขอ้ สำคญั ของกำรออกแบบ ออกแบบ 2 ขอ้ ออกแบบ 1 แบบ แตไ่ ม่เหมำะสม 3. การสร้างสรรค์ ทงั้ 3 ขอ้ ไดแ้ ก่ ผลงานส่ือผสม 1) ควำมเป็นเอกภำพ สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ 2) ควำมกลมกลนื ไมส่ วยงำม ขำดควำม 4. การจดั แสดง 3) ควำมสมดุล ประณตี ผลงานปัน้ หรอื ผลงานส่ือผสม สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนปัน้ สรำ้ งสรรคผ์ ลงำน สอ่ื ผสมไดไ้ ม่สวยงำม ไดส้ วยงำม ละเอยี ด ไดส้ วยงำม ละเอยี ด ไดค้ ่อนขำ้ งสวยงำม ไม่มคี วำมคดิ สรำ้ งสรรค์ ประณตี ทุกขนั้ ตอน ประณีตเป็นส่วนใหญ่ ละเอยี ด ประณีต จดั แสดงผลงำนปัน้ หรอื เป็นบำงส่วน ผลงำนส่อื ผสมดว้ ย รปู แบบทวั่ ไป สรำ้ งสรรคผ์ ลงำน สรำ้ งสรรคผ์ ลงำน สรำ้ งสรรคผ์ ลงำน ไม่น่ำสนใจ และไมม่ ี ส่อื ผสมไดส้ วยงำม สอ่ื ผสมไดส้ วยงำม สอ่ื ผสมไดค้ อ่ นขำ้ ง จุดเด่น แสดงถงึ ควำมคดิ แสดงถงึ ควำมคดิ สวยงำม แสดงถงึ สรำ้ งสรรคท์ ุกชน้ิ สรำ้ งสรรคเ์ ป็นส่วนใหญ่ ควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ เป็นบำงสว่ น จดั แสดงผลงำนปัน้ จดั แสดงผลงำนปัน้ จดั แสดงผลงำนปัน้ หรอื ผลงำนส่อื ผสม หรอื ผลงำนส่อื ผสม หรอื ผลงำนส่อื ผสม ดว้ ยรปู แบบทแ่ี ปลกใหม่ ดว้ ยรปู แบบทแ่ี ปลกใหม่ ดว้ ยรปู แบบทวั่ ไป มจี ุดเด่นน่ำสนใจ มจี ดุ เด่นน่ำสนใจ แต่มจี ุดเดน่ น่ำสนใจ เป็นส่วนใหญ่ บำ้ งเลก็ น้อย เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ำกว่ำ 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
107 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะสำคญั ของงำนปัน้ 7. ผลงำนปัน้ และงำนส่อื ผสมทจ่ี ะนำมำจดั แสดงควรมลี กั ษณะ อย่ำงไร ก. กำรใชด้ นิ เหนยี วทำใหเ้ กดิ รปู ทรง ก. ผลงำนปัน้ แบบนูนต่ำ และสอ่ื ผสมแบบนูนสงู ข. ผลงำนปัน้ แบบนูนสงู และสอ่ื ผสมแบบนูนสงู ข. กำรใชด้ นิ น้ำมนั กดในแมพ่ มิ พ์ ค. ผลงำนปัน้ แบบลอยตวั และสอ่ื ผสมแบบนูนสงู ง. ผลงำนปัน้ ทุกประเภท และสอ่ื ผสมแบบนูนสงู ค. กำรเทของเหลวลงในแม่พมิ พ์ 8. กำรออกแบบร่ำงกำรแสดงผลงำนปัน้ และงำนส่อื ผสม ง. กำรเตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ใหพ้ รอ้ ม มปี ระโยชน์ในเร่อื งใด ก. ทำใหก้ ำรดำเนนิ งำนล่ำชำ้ 2. เงนิ เหรยี ญเป็นงำนปัน้ ประเภทใด ข. ไม่กำหนดองคป์ ระกอบอ่นื ๆ ค. ปรบั เปลย่ี นแกไ้ ขผลงำนจรงิ ได้ ก. ลอยตวั ข. นูนต่ำ ง. สอ่ื ควำมคดิ ใหอ้ อกมำเป็นรปู ธรรมทช่ี ดั เจน ค. นูนสงู ง. ไม่มมี ติ ิ 9. กำรตกแตง่ ขนั้ สุดทำ้ ยควรระมดั ระวงั ในเรอ่ื งใด ก. เพมิ่ มติ แิ สงไฟสอ่ งชน้ิ งำนปัน้ ดนิ น้ำมนั 3. รปู ปัน้ พระพุทธรปู เป็นงำนปัน้ ประเภทใด ข. เพม่ิ เสยี งทส่ี อดคลอ้ งกลมกลนื กบั ผลงำน ค. สรำ้ งบรรยำกำศทำใหก้ ำรแสดงผลงำนมคี วำม ก. นูนสงู ข. นูนต่ำ ประทบั ใจ ง. เกบ็ รำยละเอยี ดใหภ้ ำพรวมมคี วำมเป็นเอกภำพ ค. ลอยตวั ง. ไมม่ มี ติ ิ และกลมกลนื 4. ในกำรปัน้ ดนิ ถำ้ ตอ้ งกำรใชข้ ำ้ มคนื ควรปฏบิ ตั อิ ยำ่ งไร 10. ขอ้ ใดเป็นศลิ ปะสอ่ื ผสม ก. นงลกั ษณ์ทำหน้ำตนเองสขี ำว จำกนนั้ กแ็ สดงละคร ก. ใชผ้ ำ้ ชุบน้ำคลมุ ไว้ ใบ้ ข. นนั ทนชั นำเอำภำพถ่ำย หนังสอื พมิ พ์ นิตยสำร ข. ใชผ้ ำ้ หมำดๆ คลุมไว้ มำปะตดิ บนกระดำษ ค. นิภทั รำใชส้ อี ะครลิ กิ สนี ้ำมนั สนี ้ำ และสเี ทยี นระบำย ค. พ่นน้ำลงบนงำนปัน้ ลงบนแผน่ ไมอ้ ดั ง. ศรณิ ญำนำโทรศพั ทไ์ ปตงั้ ซอ้ นกนั 3 เคร่อื ง แสดง ง. พน่ น้ำลงบนงำนปัน้ แลว้ คลมุ ดว้ ยผำ้ หมำดๆ ไว้ ภำพของอมรรตั น์กำลงั ทำงำนศลิ ปะรปู แบบต่ำงๆ 5. งำนสอ่ื ผสมคอื งำนทม่ี ลี กั ษณะในขอ้ ใด มฐ. ศ 1.1 ม.1/4 ได้คะแนน คะแนนเตม็ ก. กำรนำผลงำนจติ รกรรมและภำพพมิ พ์ 106. ก 7. ค 8. ง 9. ก 10. ข มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ ข. กำรนำผลงำนจติ รกรรมและกำรวำดเสน้ มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ ค. กำรนำผลงำนจติ รกรรมและประตมิ ำกรรม มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ ง. กำรนำผลงำนทศั นศลิ ป์ ทกุ ประเภทและวธิ กี ำรต่ำงๆ มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ 6. กำรจดั แสดงผลงำนปัน้ และผลงำนส่อื ผสม มปี ระโยชน์ อยำ่ งไร ก. เพ่อื ช่วยใหผ้ ลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสมมคี ุณคำ่ ข. เพอ่ื ใหผ้ อู้ น่ื รบั รผู้ ลงำนปัน้ และงำนส่อื ผสม ค. เพอ่ื ชอ่ื เสยี งและคณุ คำ่ ของเจำ้ ของผลงำน ง. เพอ่ื ประชำสมั พนั ธผ์ ลงำน เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ง 5. ง
108 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพยี งขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดเป็นศลิ ปะสอ่ื ผสม 5. กำรตกแตง่ ขนั้ สุดทำ้ ยควรระมดั ระวงั ในเรอ่ื งใด ก. ศรณิ ญำนำโทรศพั ทไ์ ปตงั้ ซอ้ นกนั 3 เคร่อื ง แสดง ภำพของอมรรตั น์กำลงั ทำงำนศลิ ปะรปู แบบตำ่ งๆ ก. เกบ็ รำยละเอยี ดใหภ้ ำพรวมมคี วำมเป็นเอกภำพ ข. นิภทั รำใชส้ อี ะครลิ กิ สนี ้ำมนั สนี ้ำ และสเี ทยี น ระบำยลงบนแผ่นไมอ้ ดั และกลมกลนื ค. นันทนัชนำเอำภำพถ่ำย หนงั สอื พมิ พ์ นิตยสำร มำปะตดิ บนกระดำษ ข. สรำ้ งบรรยำกำศทำใหก้ ำรแสดงผลงำนมคี วำม ง. นงลกั ษณ์ทำหน้ำตนเองสขี ำว จำกนนั้ กแ็ สดงละคร ใบ้ ประทบั ใจ 2. กำรจดั แสดงผลงำนปัน้ และผลงำนส่อื ผสม มปี ระโยชน์ ค. เพมิ่ เสยี งทส่ี อดคลอ้ งกลมกลนื กบั ผลงำน อย่ำงไร ก. เพอ่ื ประชำสมั พนั ธผ์ ลงำน ง. เพม่ิ มติ แิ สงไฟสอ่ งชน้ิ งำนปัน้ ดนิ น้ำมนั ข. เพ่อื ช่อื เสยี งและคณุ ค่ำของเจำ้ ของผลงำน ค. เพอ่ื ใหผ้ อู้ น่ื รบั รผู้ ลงำนปัน้ และงำนส่อื ผสม 6. ขอ้ ใดคอื ลกั ษณะสำคญั ของงำนปัน้ ง. เพอ่ื ช่วยใหผ้ ลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสมมคี ุณค่ำ ก. กำรเทของเหลวลงในแมพ่ มิ พ์ 3. กำรออกแบบรำ่ งกำรแสดงผลงำนปัน้ และงำนส่อื ผสม มปี ระโยชนใ์ นเรอ่ื งใด ข. กำรใชด้ นิ เหนยี วทำใหเ้ กดิ รปู ทรง ก. สอ่ื ควำมคดิ ใหอ้ อกมำเป็นรปู ธรรมทช่ี ดั เจน ข. ปรบั เปลย่ี นแกไ้ ขผลงำนจรงิ ได้ ค. กำรเตรยี มวสั ดุ-อปุ กรณ์ใหพ้ รอ้ ม ค. ไม่กำหนดองคป์ ระกอบอน่ื ๆ ง. ทำใหก้ ำรดำเนินงำนลำ่ ชำ้ ง. กำรใชด้ นิ น้ำมนั กดในแมพ่ มิ พ์ 4. งำนส่อื ผสมคอื งำนทม่ี ลี กั ษณะในขอ้ ใด 7. เงนิ เหรยี ญเป็นงำนปัน้ ประเภทใด ก. กำรนำผลงำนจติ รกรรมและกำรวำดเสน้ มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ ก. นูนต่ำ ข. นูนสงู ข. กำรนำผลงำนทศั นศลิ ป์ ทุกประเภทและวธิ กี ำรตำ่ งๆ มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ ค. ไมม่ มี ติ ิ ง. ลอยตวั ค. กำรนำผลงำนจติ รกรรมและภำพพมิ พ์ มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ 8. ในกำรปัน้ ดนิ ถำ้ ตอ้ งกำรใชข้ ำ้ มคนื ควรปฏบิ ตั อิ ยำ่ งไร ง. กำรนำผลงำนจติ รกรรมและประตมิ ำกรรม มำสรำ้ งสรรคใ์ หม่ ก. พ่นน้ำลงบนงำนปัน้ ข. ใชผ้ ำ้ ชุบน้ำคลุมไว้ ค. พน่ น้ำลงบนงำนปัน้ แลว้ คลมุ ดว้ ยผำ้ หมำดๆ ไว้ ง. ใชผ้ ำ้ หมำดๆ คลมุ ไว้ 9. รปู ปัน้ พระพุทธรปู เป็นงำนปัน้ ประเภทใด ก. ไมม่ มี ติ ิ ข. ลอยตวั ค. นูนสงู ง. นูนต่ำ 10. ผลงำนปัน้ และงำนสอ่ื ผสมทจ่ี ะนำมำจดั แสดงควรมลี กั ษณะ อย่ำงไร ก. ผลงำนปัน้ แบบลอยตวั และส่อื ผสมแบบนูนสงู ข. ผลงำนปัน้ ทกุ ประเภท และสอ่ื ผสมแบบนูนสงู ค. ผลงำนปัน้ แบบนูนต่ำ และสอ่ื ผสมแบบนูนสงู ง. ผลงำนปัน้ แบบนูนสงู และส่อื ผสมแบบนูนสงู มฐ. ศ 1.1 ม.1/4 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ค 2. ง 3. ก 4. ข 5. ง 6. ข 7. ก 8. ค 9. ข 10. ก
109 บันทกึ หลังการสอน รายวชิ าศลิ ปะ นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 วิชาศิลปะ ครูผสู้ อน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เรอื่ ง งานปั้นและงานส่ือผสม ด้านความรู้ . ผเู้ รยี นเกดิ ทักษะการทำงานเป็นคู่ สามารถสาธติ การวาดภาพได้ การสร้างเจตคติท่ดี ี และการลงมอื ปฏบิ ัติ ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.สมรรถนะด้านการจดั การตัวเอง นกั เรียนมีความรับผิดชอบในระดบั ปานกลาง คอื ให้ทำงานยงั ไมก่ ระตือรือล้น เท่าไหร่ 2.สมรรถนะดา้ นการส่ือสาร นักเรยี นไดม้ ีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เกยี่ วกับทัศนธาตุในงานทัศนศลิ ป์ โดยครู สมุ่ ถาม ซึง่ นักเรียนได้แสดงความคดิ โดยการส่อื สารพดู ในความคดิ ของนกั เรยี นเอง 3.สมรรถนะด้านการรวมพลังทำงานเป็นทีม นักเรียนมีการแบง่ หนา้ ท่ีในการทำงาน เช่น การแบง่ กลมุ่ สมาชกิ และแบ่งชือ่ เร่อื งทจี่ ะศกึ ษาเองโดยครูคอยช้ีแนะ เป็นต้น 4.สมรรถนะด้านการคิดชน้ั สงู นกั เรียนยงั มคี วามร้เู กย่ี วกับทศั นศิลป์ไม่มากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะด้านการเปน็ พลเมอื งที่เข้มแข็ง นกั เรียนบางส่วนมีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีทไ่ี ดร้ ับเป็นอยา่ งดี ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย นกั เรยี นส่วนมากมวี นิ ยั ในตนเองดี รับผิดชอบตอ่ ตนเองดี มบี างสว่ นยงั ขาดวนิ ยั ต่อตนเอง 2. ใฝเ่ รียนรู้ นกั เรียนสืบค้นหาข้อมลู เองโดยทค่ี รูกำหนดหวั ขอ้ ให้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน นักเรยี นบางคนมุ่งมัน่ ตั้งใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี ด้านอื่นๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค เด็กนกั เรยี นบางคนไม่เขา้ เรยี น นักเรียนชายหลายคนสนใจในเรือ่ งอืน่ มากกว่าการเรยี น เชน่ อยากซอ้ มกีฬา คุย กนั เสยี งดัง แนวทางการแกไ้ ข คนท่ีไม่เข้าเรยี นครจู ะไมเ่ ชค็ เวลาเรียนให้ และมกี ารหักคะแนน และครตู ั้งเงือ่ นไขกบั นกั เรียน ถา้ ต้ังใจเรยี นจะ ปล่อยเร็ว
110 ความเหน็ ของครูพเี่ ลยี้ ง ข้อเสนอแนะ มกี ารจดั การเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ กั เรยี นบรรลตุ ามตัวชว้ี ดั ท่ีต้ังไว้ มีคำถามทหี่ ลากหลาบ มกี าร ประเมนิ ตามตัวชว้ี ดั ใชส้ ่ือได้เหมาะสมกบั การเรยี นการสอน บรรยากาศในห้องเหมาะกบั การเรียน . . ลงช่อื . (นางสาวมณีรัตน์ เนยี รประดษิ ฐ) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระศิลปะ ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ขอ้ เสนอแนะ การสอนครอบคลุมเน้อื หาและตวั ชี้วัดเห็นควรใชใ้ นการสอนนักเรยี นได้ . . ลงชอื่ . (นายเชดิ ศกั ด์ิ เอกปรญิ ญา) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเหล่าหลวงประชานุสรณ์
111 แผนการจัดการเรยี นรู้ โรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานุสรณ์ ตำบลเหลา่ หลวง อำเภอเกษตรวิสยั จังหวดั รอ้ ยเอ็ด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 เรื่อง การออกแบบรูปภาพ สัญลกั ษณ์ และงานกราฟิก เวลา 6 ชั่วโมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม.1/5 ออกแบบรปู ภำพ สญั ลกั ษณ์ หรอื กรำฟิกอ่นื ๆ ในกำรนำเสนอควำมคดิ และขอ้ มลู 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กำรออกแบบรูปภำพ สญั ลกั ษณ์ และงำนกรำฟิก ผอู้ อกแบบจะตอ้ งมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจหลกั กำร วธิ กี ำร ออกแบบ มที กั ษะในกำรทำงำน และมคี วำมคดิ สรำ้ งสรรค์ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง - กำรออกแบบรูปภำพ สญั ลกั ษณ์ หรอื งำนกรำฟิก 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ำรณำตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะกระบวนกำรคดิ สรำ้ งสรรค์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) กำรออกแบบโปสเตอรร์ ณรงคล์ ดภำวะโลกรอ้ นในโรงเรยี น
112 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 7 เร่อื ง กำรออกแบบรปู ภำพ สญั ลกั ษณ์ และงำนกรำฟิก 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงำนท่ี 7.1 เร่อื ง กำรออกแบบรปู ภำพ 2) ตรวจใบงำนท่ี 7.2 เร่อื ง กำรวเิ ครำะหส์ ญั ลกั ษณ์ 3) ตรวจใบงำนท่ี 7.3 เร่อื ง กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ 4) ตรวจใบงำนท่ี 7.4 เร่อื ง กำรออกแบบงำนกรำฟิก 5) ตรวจแบบบนั ทกึ กำรอำ่ น 6) ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน 7) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบคุ คล 8) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ 9) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 7 เรอ่ื ง กำรออกแบบรปู ภำพ สญั ลกั ษณ์ และงำนกรำฟิก 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจผลงำนโปสเตอรร์ ณรงคล์ ดภำวะโลกรอ้ นในโรงเรยี น 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7
113 เรอื่ งท่ี 1 การออกแบบรปู ภาพ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) ครใู หน้ กั เรยี นดูภำพผลงำนกำรออกแบบในรปู แบบต่ำงๆ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ จำกนนั้ ครอู ธบิ ำยเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจควำมหมำย ประเภท และควำมสำคญั ของกำรออกแบบ ขนั้ ที่ 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กล่มุ ละ 4 คน คละกนั ตำมควำมสำมำรถ แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนเลอื กหมำยเลข ประจำตวั เป็นหมำยเลข 1-4 ตำมลำดบั 2. สมำชกิ แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรออกแบบรปู ภำพ จำกหนงั สอื เรยี น โดยใหแ้ ตล่ ะหมำยเลข ศกึ ษำควำมรตู้ ำมประเดน็ ทก่ี ำหนด ดงั น้ี - หมำยเลข 1 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบรปู ภำพดว้ ยจุด - หมำยเลข 2 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบรปู ภำพดว้ ยเสน้ - หมำยเลข 3 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบภำพคน และภำพต้นไม้ - หมำยเลข 4 ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบภำพสตั ว์ และภำพสงิ่ ของ ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explain) 1. สมำชกิ แตล่ ะหมำยเลขผลดั กนั นำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำมำเล่ำใหเ้ พอ่ื นในกลมุ่ ฟังแบบเลำ่ เรอ่ื งรอบวง เรยี งตำมลำดบั หมำยเลข 1-4 ผลดั กนั ซกั ถำมขอ้ สงสยั และอธบิ ำยเพมิ่ เตมิ จนทกุ คนมคี วำมเขำ้ ใจตรงกนั 2. ครอู ธบิ ำยควำมรเู้ กย่ี วกบั กำรออกแบบรูปภำพ ใหน้ กั เรยี นฟังเพม่ิ เตมิ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. สมำชกิ แต่ละกลุ่มช่วยกนั ทำใบงานที่ 7.1 เร่อื ง การออกแบบรปู ภาพ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบ ควำมถกู ตอ้ งเรยี บรอ้ ย และตกแตง่ ผลงำนใหส้ วยงำม จำกนนั้ นำสง่ ครตู รวจ 2. สมำชกิ แต่ละกลุม่ ร่วมกนั อภปิ รำยควำมรเู้ ก่ยี วกบั กำรใชท้ ศั นธำตุต่ำงๆ ในกำรออกแบบรูปภำพ แลว้ เขยี น สรปุ เป็นแผนผงั ควำมคดิ ลงในกระดำษทค่ี รแู จกให้ ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นจำกกำรทำใบงำนท่ี 7.1 2. ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมำนำเสนอผลงำนกำรเขยี นแผนผงั ควำมคดิ หน้ำชนั้ เรยี น ครูและเพอ่ื นกลุ่มอ่นื รว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ 3. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปควำมรเู้ รอ่ื ง กำรออกแบบรปู ภำพ
114 เรอื่ งท่ี 2 การออกแบบสญั ลกั ษณ์ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ กระบวนการกลุม่ สมั พนั ธ์ ขนั้ ที่ 1 นาเข้าส่บู ทเรยี น 1. ครนู ำภำพสญั ลกั ษณ์ตำ่ งๆ มำใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกควำมหมำยของสญั ลกั ษณ์ดงั กลำ่ ว 2. ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจวำ่ สญั ลกั ษณ์ตำ่ งๆ มหี ลำยประเภท กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์จะตอ้ ง เขำ้ ใจวตั ถปุ ระสงคห์ ลกั ทต่ี อ้ งกำรสอ่ื ควำมหมำยใหเ้ ขำ้ ใจตรงกนั แลว้ แปรออกมำเป็นสญั ลกั ษณ์ทส่ี มบูรณ์ สอ่ื ควำมหมำยใหท้ ุกคนเขำ้ ใจชดั เจนตรงกนั ขนั้ ที่ 2 จดั การเรียนรู้ 1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ จำกหนงั สอื เรยี น หนงั สอื คน้ ควำ้ เพมิ่ เตมิ และหอ้ งสมุด โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ทก่ี ำหนด 2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั อภปิ รำยควำมรเู้ กย่ี วกบั กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ ครคู อยอธบิ ำยเพมิ่ เตมิ 3. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั ทำใบงานท่ี 7.2 เรื่อง การวิเคราะหส์ ญั ลกั ษณ์ เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบควำมถูกตอ้ ง จำกนนั้ นำสง่ ครตู รวจ 4. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำใบงานที่ 7.3 เร่ือง การออกแบบสญั ลกั ษณ์ เป็นกำรบำ้ น เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ นำสง่ ครู ตำมกำหนดเวลำทต่ี กลงกนั ขนั้ ที่ 3 สรปุ และนาหลกั การไปประยกุ ตใ์ ช้ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปควำมรเู้ รอ่ื ง กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ ในประเดน็ ทก่ี ำหนด 2. ครแู นะนำใหน้ กั เรยี นนำควำมรทู้ ไ่ี ดจ้ ำกกำรศกึ ษำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำนกำรออกแบบ สญั ลกั ษณ์ตอ่ ไปในอนำคต ขนั้ ท่ี 4 วดั และประเมินผล ครวู ดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นจำกกำรทำใบงำนท่ี 7.2-7.3
115 เรือ่ งท่ี 3 การออกแบบงานกราฟิ ก 2 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรียนความรคู้ วามเข้าใจ ขนั้ ท่ี 1 สงั เกต ตระหนัก 1. ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตหน้ำปกหนงั สอื เรยี น ทศั นศลิ ป์ ม.1 แลว้ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมทก่ี ำหนด 2. ครอู ธบิ ำยเช่อื มโยงใหน้ กั เรยี นเขำ้ ใจว่ำ ภำพหน้ำปกหนงั สอื เรยี นทน่ี กั เรยี นดนู นั้ คอื กำรออกแบบกรำฟิก ซง่ึ เป็นกำรออกแบบเพอ่ื กำรเผยแพร่ ชกั ชวน หรอื เสนอแนวคดิ ตำ่ งๆ เป็นกำรออกแบบในลกั ษณะของ หนงั สอื สอ่ื โฆษณำ เครอ่ื งหมำย สญั ลกั ษณ์ ซง่ึ เรำสำมำรถพบเหน็ ไดท้ วั่ ไปในกำรดำเนนิ ชวี ติ ประจำวนั ขนั้ ท่ี 2 วางแผนปฏิบตั ิ 1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกนั วำงแผนในกำรศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบงำนกรำฟิก จำกหนงั สอื เรยี น หนงั สอื คน้ ควำ้ เพม่ิ เตมิ และหอ้ งสมดุ โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตำมทก่ี ำหนด 2. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั วำงแผนในกำรศกึ ษำ โดยกำหนดประเดน็ ในกำรศกึ ษำใหส้ มำชกิ แตล่ ะคนตำม ควำมเหมำะสม ขนั้ ที่ 3 ลงมือปฏิบตั ิ สมำชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรออกแบบงำนกรำฟิก จำกหนงั สอื เรยี น หนงั สอื คน้ ควำ้ เพม่ิ เตมิ และหอ้ งสมุด ในประเดน็ ทก่ี ำหนด ตำมแผนทไ่ี ดว้ ำงไวใ้ นขนั้ ท่ี 2 จำกนนั้ ร่วมกันสรุปสำระสำคญั ขนั้ ที่ 4 พฒั นาความรู้ ความเข้าใจ 1. สมำชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั ทำใบงานที่ 7.4 เรื่อง การออกแบบงานกราฟิ ก เม่อื ทำเสรจ็ แลว้ ชว่ ยกนั ตรวจสอบควำมถูกตอ้ งเรยี บรอ้ ย 2. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมำนำเสนอผลงำนในใบงำนท่ี 7.4 ครแู ละเพอ่ื นกลมุ่ อ่นื รว่ มกนั แสดง ควำมคดิ เหน็ และใหข้ อ้ เสนอแนะ ขนั้ ที่ 5 สรปุ 1. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปควำมรเู้ ร่อื ง กำรออกแบบงำนกรำฟิก ในประเดน็ ทก่ี ำหนด 2. ครเู น้นย้ำใหน้ กั เรยี นเหน็ ควำมสำคญั ของกำรออกแบบงำนกรำฟิกเพอ่ื นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นกำรออกแบบ สรำ้ งสรรคผ์ ลงำนตำ่ งๆ ตอ่ ไป เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลงำนทส่ี วยงำม เหมำะสมตำมควำมตอ้ งกำร ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ออกแบบโปสเตอรร์ ณรงคล์ ดภาวะโลกรอ้ นในโรงเรยี น โดยใช้ความร้เู กี่ยวกบั การออกแบบท่ีได้ศึกษามา โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตำมทกี่ ำหนด
116 นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 9 ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น ทศั นศลิ ป์ ม.1 2) หนงั สอื คน้ ควำ้ เพมิ่ เตมิ (1) นพิ นธ์ ทวกี ำญจน์. 2530. การเขียนตวั อกั ษรและภาพประกอบตวั อกั ษร. กรงุ เทพมหำนคร : โอ. เอส. พรน้ิ ตง้ิ เฮำส.์ (2) ประพนั ธ์ งำมเนตร. 2545. ค่มู ือ Graphic Design ออกแบบส่ิงพิมพ.์ กรงุ เทพมหำนคร : สุขภำพใจ. 3) กระดำษขนำด A4 4) บตั รภำพ 5) ใบงำนท่ี 7.1 เร่อื ง กำรออกแบบรปู ภำพ 6) ใบงำนท่ี 7.2 เรอ่ื ง กำรวเิ ครำะหส์ ญั ลกั ษณ์ 7) ใบงำนท่ี 7.3 เรอ่ื ง กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ 8) ใบงำนท่ี 7.4 เร่อื ง กำรออกแบบงำนกรำฟิก 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ - หอ้ งสมุด
117 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินผลงานโปสเตอรร์ ณรงคล์ ดภาวะโลกรอ้ นในโรงเรยี น รายการประเมิน ดมี ำก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การออกแบบ ออกแบบรปู ภำพ ออกแบบรปู ภำพ ออกแบบรปู ภำพ ออกแบบรปู ภำพ รปู ภาพ โดยใชท้ ศั นธำตตุ ่ำงๆ โดยใชท้ ศั นธำตตุ ำ่ งๆ โดยใชท้ ศั นธำตตุ ำ่ งๆ โดยใชท้ ศั นธำตตุ ำ่ งๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง เหมำะสม ไดถ้ ูกตอ้ ง เหมำะสม ไดถ้ กู ตอ้ ง เหมำะสม ไดค้ ลำ้ ยคลงึ กบั แบบ สวยงำม แสดงถงึ ค่อนขำ้ งสวยงำม ค่อนขำ้ งสวยงำม ทวั่ ไป และไมค่ อ่ ย ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ แสดงถงึ ควำมคดิ รเิ รมิ่ แต่ขำดควำมคดิ รเิ รมิ่ สวยงำม และขำด สรำ้ งสรรคเ์ ป็นบำงส่วน ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ สรำ้ งสรรค์ 2. การออกแบบ ออกแบบสญั ลกั ษณ์ได้ ออกแบบสญั ลกั ษณ์ได้ ออกแบบสญั ลกั ษณ์ได้ ออกแบบสญั ลกั ษณ์ได้ สญั ลกั ษณ์ ถกู ตอ้ ง เหมำะสม ถูกตอ้ ง เหมำะสม ถูกตอ้ ง เหมำะสม ถูกตอ้ ง แต่ไมค่ ่อย ส่อื ควำมหมำยได้ สอ่ื ควำมหมำยได้ สอ่ื ควำมหมำยได้ เหมำะสม และสอ่ื ชดั เจนทกุ สญั ลกั ษณ์ ชดั เจนเป็นสว่ นใหญ่ ชดั เจนเป็นบำงสว่ น ควำมหมำยไมช่ ดั เจน 3. การออกแบบ ออกแบบงำนกรำฟิก ออกแบบงำนกรำฟิก ออกแบบงำนกรำฟิก ออกแบบงำนกรำฟิก งานกราฟิ ก ไดส้ วยงำม แสดงถงึ ไดส้ วยงำม แสดงถงึ ไดส้ วยงำม แสดงถงึ ไดไ้ มส่ วยงำม และไมม่ ี ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ ควำมคดิ รเิ รมิ่ สรำ้ งสรรค์ ควำมคดิ สรำ้ งสรรค์ เป็นส่วนใหญ่ เป็นบำงสว่ น 4. การจดั ผลงำนทอ่ี อกแบบมี ผลงำนทอ่ี อกแบบมี ผลงำนทอ่ี อกแบบมี ผลงำนทอ่ี อกแบบมี ควำมสมบรู ณ์ ถกู ตอ้ ง ควำมสมบูรณ์ ถกู ตอ้ ง ควำมสมบรู ณ์ ถกู ตอ้ ง องคป์ ระกอบศิลป์ ควำมสมบูรณ์ ถูกตอ้ ง เหมำะสมตำมหลกั กำร เหมำะสมตำมหลกั กำร เหมำะสมตำมหลกั กำร จดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ จดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ จดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ เหมำะสมตำมหลกั กำร 2 ขอ้ 1 ขอ้ 1 ขอ้ แตไ่ ม่เหมำะสม จดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ ทงั้ 3 ขอ้ ไดแ้ ก่ 1) ควำมเป็นเอกภำพ 2) ควำมกลมกลนื 3) ควำมสมดลุ เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 14 - 16 11 - 13 8 - 10 ต่ำกว่ำ 8 ระดบั คณุ ภาพ ดมี ำก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
118 แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดกล่ำวถงึ ควำมหมำยของกำรออกแบบไดถ้ กู ตอ้ ง 6. รปู แบบทน่ี ยิ มนำมำใชใ้ นกำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ ไดแ้ ก่ ก. กำรสรำ้ งสรรคส์ ง่ิ ใหม่ๆ ข. กำรศกึ ษำองคป์ ระกอบ อะไรบำ้ ง ค. กำรประยกุ ตเ์ อกภำพ ง. กำรพฒั นำขนั้ พน้ื ฐำน ก. รปู แบบเรขำคณติ และรปู แบบอสิ ระ 2. เพรำะเหตุใด กำรออกแบบจงึ มบี ทบำทสำคญั ในสงั คม ข. รปู แบบจำกธรรมชำติ และรปู แบบจำกตวั อกั ษร ปัจจบุ นั ก. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั หลกั กำรจดั องคป์ ระกอบ และตวั เลข ข. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั กำรสอ่ื สำรรบั รขู้ อ้ มลู ค. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั กำรนำเสนอขอ้ มลู ค. รปู แบบอสิ ระ รปู แบบเรขำคณิต และรปู แบบ ง. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั ควำมแปลกใหม่ ตวั อกั ษรและตวั เลข 3. กระบวนกำรออกแบบรปู ภำพทจ่ี ำเป็น คอื ขอ้ ใด ก. ขนำดของแบบ สที ใ่ี ช้ ง. รปู แบบเรขำคณติ รปู แบบจำกธรรมชำติ และรปู แบบ ข. จำนวนจดุ ลกั ษณะของเสน้ ค. สงั เกต แกป้ ัญหำ วำงแผน ตวั อกั ษรและตวั เลข ง. ศกึ ษำหลกั กำรจดั องคป์ ระกอบ 7. แนวทำงกำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ คอื ขอ้ ใด 4. กำรออกแบบรปู ภำพ เป็นองคป์ ระกอบหลกั ของกำร ออกแบบประเภทใด ก. สอ่ื ควำมหมำยใหเ้ ขำ้ ใจตรงกนั ก. งำนประดษิ ฐ์ ข. งำนแกะสลกั ข. ดดั แปลงจำกของเดมิ เท่ำนนั้ ค. งำนโฆษณำ ง. งำนปัน้ ค. มคี ำบรรยำยประกอบ 5. กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์จะตอ้ งคำนงึ ถงึ เรอ่ื งใดมำกทส่ี ดุ ง. มรี ปู ทรงแปลกใหม่ ก. กำรตอบสนองทำงอำรมณ์ ข. กำรสอ่ื ควำมหมำยใหเ้ ขำ้ ใจรว่ มกนั 8. ขอ้ ใดเป็นกำรออกแบบงำนกรำฟิก ค. กำรสะทอ้ นควำมคดิ ของเจำ้ ของผลงำน ง. กำรนำรปู ร่ำงแบบเรขำคณิตมำจดั วำงเป็นระเบยี บ ก. กำรวำงแผนกำรเลอื กใชท้ ศั นธำตุ ข. กำรรวบรวมกระบวนกำรทศั นศลิ ป์ ค. กำรรวบรวมกระบวนกำรพมิ พท์ กุ แขนง ง. กำรส่อื ควำมหมำยใหส้ มบูรณ์โดยใชค้ อมพวิ เตอร์ 9. ควำมสำคญั ของกำรออกแบบงำนกรำฟิก คอื อะไร ก. นำไปใชต้ รงตำมวตั ถุประสงค์ ข. มแี นวคดิ ทท่ี นั สมยั และกำ้ วหน้ำ ค. ผลติ ส่อื สงิ่ พมิ พช์ ว่ ยเสรมิ กำรรบั รู้ ง. สรำ้ งควำมประทบั ใจใหก้ บั ผพู้ บเหน็ 10. ขอ้ ใดคอื วตั ถุประสงคใ์ นกำรออกแบบงำนกรำฟิก ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ ก. กำรเสรมิ สรำ้ งลกั ษณะเดน่ ของผลงำน ข. ผลงำนสรำ้ งควำมน่ำเช่อื ถอื ค. ผลงำนดงึ ดดู ควำมสนใจ มฐ. ศ 1.1 ม.1/5 ง. ผลงำนมคี วำมประณีต ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ข 6. ง 7. ก 8. ค 9. ค 10. ง
119 แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดียว 1. ขอ้ ใดเป็นกำรออกแบบงำนกรำฟิก 6. ขอ้ ใดกลำ่ วถงึ ควำมหมำยของกำรออกแบบไดถ้ ูกตอ้ ง ก. กำรสอ่ื ควำมหมำยใหส้ มบูรณ์โดยใชค้ อมพวิ เตอร์ ก. กำรประยกุ ตเ์ อกภำพ ข. กำรรวบรวมกระบวนกำรพมิ พท์ กุ แขนง ข. กำรพฒั นำขนั้ พน้ื ฐำน ค. กำรรวบรวมกระบวนกำรทศั นศลิ ป์ ค. กำรสรำ้ งสรรคส์ งิ่ ใหม่ๆ ง. กำรวำงแผนกำรเลอื กใชท้ ศั นธำตุ ง. กำรศกึ ษำองคป์ ระกอบ 2. ขอ้ ใดคอื วตั ถปุ ระสงคใ์ นกำรออกแบบงำนกรำฟิก 7. กระบวนกำรออกแบบรปู ภำพทจ่ี ำเป็น คอื ขอ้ ใด ดว้ ยคอมพวิ เตอร์ ก. ศกึ ษำหลกั กำรจดั องคป์ ระกอบ ก. ผลงำนมคี วำมประณตี ข. สงั เกต แกป้ ัญหำ วำงแผน ข. ผลงำนดงึ ดดู ควำมสนใจ ค. จำนวนจดุ ลกั ษณะของเสน้ ค. ผลงำนสรำ้ งควำมน่ำเช่อื ถอื ง. ขนำดของแบบ สที ใ่ี ช้ ง. กำรเสรมิ สรำ้ งลกั ษณะเด่นของผลงำน 8. กำรออกแบบสญั ลกั ษณ์จะตอ้ งคำนึงถงึ เร่อื งใดมำกทส่ี ดุ 3. รปู แบบทน่ี ยิ มนำมำใชใ้ นกำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ ไดแ้ ก่ ก. กำรนำรปู ร่ำงแบบเรขำคณติ มำจดั วำงเป็นระเบยี บ อะไรบำ้ ง ข. กำรสะทอ้ นควำมคดิ ของเจำ้ ของผลงำน ก. รปู แบบเรขำคณติ รปู แบบจำกธรรมชำติ และ ค. กำรส่อื ควำมหมำยใหเ้ ขำ้ ใจรว่ มกนั รปู แบบตวั อกั ษรและตวั เลข ง. กำรตอบสนองทำงอำรมณ์ ข. รปู แบบอสิ ระ รปู แบบเรขำคณิต และรปู แบบ ตวั อกั ษรและตวั เลข 9. กำรออกแบบรปู ภำพ เป็นองคป์ ระกอบหลกั ของกำร ค. รปู แบบจำกธรรมชำติ และรปู แบบจำกตวั อกั ษร ออกแบบประเภทใด และตวั เลข ก. งำนโฆษณำ ง. รปู แบบเรขำคณติ และรปู แบบอสิ ระ ข. งำนปัน้ ค. งำนประดษิ ฐ์ 4. แนวทำงกำรออกแบบสญั ลกั ษณ์ คอื ขอ้ ใด ง. งำนแกะสลกั ก. มรี ปู ทรงแปลกใหม่ ข. มคี ำบรรยำยประกอบ 10. เพรำะเหตุใด กำรออกแบบจงึ มบี ทบำทสำคญั ในสงั คม ค. ดดั แปลงจำกของเดมิ เท่ำนนั้ ปัจจบุ นั ง. ส่อื ควำมหมำยใหเ้ ขำ้ ใจตรงกนั ก. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั ควำมแปลกใหม่ ข. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั กำรนำเสนอขอ้ มลู 5. ควำมสำคญั ของกำรออกแบบงำนกรำฟิก คอื อะไร ค. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั กำรสอ่ื สำรรบั รขู้ อ้ มลู ก. สรำ้ งควำมประทบั ใจใหก้ บั ผพู้ บเหน็ ง. ชวี ติ มนุษยเ์ กย่ี วขอ้ งกบั หลกั กำรจดั องคป์ ระกอบ ข. นำไปใชต้ รงตำมวตั ถุประสงค์ ค. มแี นวคดิ ทท่ี นั สมยั และกำ้ วหน้ำ มฐ. ศ 1.1 ม.1/5 ง. ผลติ สอ่ื สงิ่ พมิ พช์ ว่ ยเสรมิ กำรรบั รู้ ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ก 3. ก 4. ง 5. ง 6. ค 7. ข 8. ค 9. ก 10. ค
120 บันทกึ หลังการสอน รายวชิ าศิลปะ นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 วิชาศิลปะ ครูผ้สู อน นายปฏภิ าณ ไชยเทพา เร่อื ง การออกแบบรปู ภาพ สัญลกั ษณ์ และงานกราฟกิ ดา้ นความรู้ . ผู้เรยี นเกิดทกั ษะการทำงานเป็นคู่ สามารถสาธติ การวาดภาพได้ การสรา้ งเจตคตทิ ่ดี ี และการลงมอื ปฏบิ ัติ ด้านสมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1.สมรรถนะดา้ นการจดั การตัวเอง นักเรียนมีความรับผิดชอบในระดับปานกลาง คอื ให้ทำงานยงั ไมก่ ระตอื รือลน้ เท่าไหร่ 2.สมรรถนะดา้ นการส่อื สาร นกั เรยี นได้มสี ่วนรว่ มในการแสดงความคิดเก่ยี วกับทัศนธาตุในงานทัศนศลิ ป์ โดยครู สมุ่ ถาม ซ่ึงนักเรียนได้แสดงความคิดโดยการส่อื สารพูดในความคดิ ของนกั เรียนเอง 3.สมรรถนะด้านการรวมพลงั ทำงานเป็นทีม นักเรียนมีการแบง่ หน้าท่ีในการทำงาน เชน่ การแบ่งกลุ่มสมาชกิ และแบง่ ชื่อเรอื่ งท่จี ะศึกษาเองโดยครคู อยช้ีแนะ เป็นต้น 4.สมรรถนะดา้ นการคดิ ช้นั สูง นักเรียนยังมีความรู้เกี่ยวกบั ทศั นศิลป์ไมม่ ากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะด้านการเป็นพลเมืองที่เขม้ แขง็ นักเรยี นบางส่วนมีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ทไี่ ด้รับเป็นอย่างดี ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย นกั เรยี นส่วนมากมวี นิ ยั ในตนเองดี รบั ผิดชอบต่อตนเองดี มบี างส่วนยงั ขาดวนิ ยั ต่อตนเอง 2. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี นสืบค้นหาข้อมลู เองโดยที่ครกู ำหนดหัวขอ้ ให้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน นักเรยี นบางคนมุ่งมน่ั ต้ังใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี ดา้ นอนื่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี)) ปัญหา/อปุ สรรค เด็กนกั เรยี นบางคนไมเ่ ขา้ เรียน นักเรียนชายหลายคนสนใจในเรื่องอ่นื มากกวา่ การเรยี น เช่น อยากซอ้ มกีฬา คุย กนั เสียงดัง แนวทางการแกไ้ ข คนท่ไี ม่เข้าเรยี นครูจะไม่เชค็ เวลาเรยี นให้ และมีการหักคะแนน และครตู ้ังเงือ่ นไขกบั นกั เรยี น ถ้าต้งั ใจเรียนจะ ปล่อยเร็ว
121 ความเหน็ ของครูพเี่ ลยี้ ง ข้อเสนอแนะ มกี ารจดั การเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ ักเรยี นบรรลตุ ามตัวชว้ี ดั ท่ีต้ังไว้ มีคำถามทหี่ ลากหลาบ มกี าร ประเมนิ ตามตัวชว้ี ดั ใชส้ ่ือได้เหมาะสมกบั การเรยี นการสอน บรรยากาศในห้องเหมาะกบั การเรียน . . ลงชื่อ . (นางสาวมณีรัตน์ เนยี รประดษิ ฐ) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระศิลปะ ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ขอ้ เสนอแนะ การสอนครอบคลุมเน้อื หาและตวั ชี้วัดเห็นควรใชใ้ นการสอนนักเรยี นได้ . . ลงชอื่ . (นายเชดิ ศกั ด์ิ เอกปรญิ ญา) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นเหล่าหลวงประชานุสรณ์
122 แผนการจดั การเรียนรู้ โรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานุสรณ์ ตำบลเหล่าหลวง อำเภอเกษตรวสิ ัย จังหวดั ร้อยเอ็ด กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 8 เร่อื ง หลกั การประเมินงานทศั นศิลป์ เวลา 2 ช่วั โมง 1 มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม.1/6 ประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ และบรรยำยถงึ วธิ กี ำรปรบั ปรุงงำนของตนเองและผอู้ ่นื โดยใชเ้ กณฑท์ ก่ี ำหนดให้ 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด กำรประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ นนั้ มวี ตั ถปุ ระสงคท์ แ่ี ตกตำ่ งกนั ซง่ึ ผปู้ ระเมนิ จะตอ้ งยดึ หลกั เกณฑป์ ระเมนิ ผลงำน ทศั นศลิ ป์ เพอ่ื ใหป้ ระเมนิ ผลงำนไดอ้ ย่ำงเหมำะสม 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - กำรประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ 3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ (พจิ ำรณำตำมหลกั สตู รสถำนศกึ ษำ) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะกำรประเมนิ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รำยงำนกำรประเมนิ ผลงำนทศั นศลิ ป์ ทช่ี ่นื ชอบ
123 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 8 เรอ่ื ง หลกั กำรประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 1) ตรวจใบงำนท่ี 8.1 เร่อื ง หลกั กำรประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ 2) ตรวจใบงำนท่ี 8.2 เรอ่ื ง กำรประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ 3) ตรวจแบบบนั ทกึ กำรอ่ำน 4) ประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน 5) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล 6) สงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุม่ 7) สงั เกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี 8 เร่อื ง หลกั กำรประเมนิ งำนทศั นศลิ ป์ 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรำยงำนกำรประเมนิ ผลงำนทศั นศลิ ป์ ทช่ี ่นื ชอบ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 8
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181