แผนรวม ม.1

12 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ความหมายของศลิ ปะไดถ้ กู ตอ้ ง 6. ภาพพิมพ์พน้ื ราบ มลี ักษณะอย่างไร ก. ส่งิ ทส่ี วยงาม ข. การสรา้ งสรรค์ ก. เป็นกระบวนการพิมพ์ทไ่ี ดภ้ าพพิมพต์ รงกบั แม่พมิ พ์ ค. ส่งิ ที่มนษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ง. สง่ิ ทม่ี นุษยส์ ร้างขึ้นจากความพงึ พอใจ ข. เป็นกระบวนการพมิ พ์ที่นำเอาแผน่ หนิ มาเปน็ แมพ่ มิ พ์ 2. จิตรกรรม ประตมิ ากรรม สถาปตั ยกรรม และภาพพิมพ์ จดั ค. เปน็ กระบวนการสรา้ งแม่พมิ พ์โดยการทำใหเ้ กิดสว่ นลกึ อยใู่ นศลิ ปะสาขาใด ก. โสตศลิ ป์ และส่วนนูน ข. ทัศนศลิ ป์ ค. ประยกุ ตศ์ ิลป์ ง. เปน็ กระบวนการสรา้ งแม่พมิ พโ์ ดยการสร้างภาพหรือร้วิ ง. อตุ สาหกรรมศลิ ป์ รอยลงบนแม่พิมพ์ 3. ประติมากรรม หมายถึง การสรา้ งสรรค์งานด้วยวธิ ีใด 7. ปราสาทหินนครวดั นครธม เปน็ สถาปัตยกรรมขนาดใหญท่ ่ี ก. การขดู ขีด ลาก ข. การตกแตง่ ลวดลาย สรา้ งขึน้ จากอทิ ธพิ ลความเช่ือและความศรัทธา ตั้งอยู่ใน ค. การปัน้ การแกะสลัก การหลอ่ ง. การออกแบบกอ่ สร้างอาคารตา่ งๆ ประเทศใด 4. ผูส้ ร้างสรรคผ์ ลงานสถาปตั ยกรรม เรยี กชอื่ ตามข้อใด ก. ไทย ข. พมา่ ก. จติ รกร ข. สถาปนิก ค. กมั พูชา ง. อนิ โดนีเซยี ค. ประตมิ ากร ง. สถาปัตยกรรม 8. สนุ ทรยี ภาพทเ่ี กดิ จากการชมผลงานทางทศั นศลิ ปต์ รงกับข้อใด 5. ขอ้ ใดต่อไปนเ้ี ป็นสถาปัตยกรรมแบบปิดท่สี รา้ งขึน้ เพอ่ื ก. ชว่ ยลดความแข็งกระด้างภายในใจ ตอบสนองความเชอ่ื ความศรัทธาทางศาสนา ก. โบสถ์ ข. ช่วยให้ประมาณคณุ คา่ ของผลงานได้ ข. เทวรปู ค. เกิดแรงบันดาลใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ค. ศาลาการเปรยี ญ ง. พระธาตดุ อยสเุ ทพ ง. จดจำรายละเอียดของงานทัศนศิลปไ์ ด้อยา่ งดี 9. ข้อใดไม่ใช่คณุ ค่าของงานทศั นศิลป์ ก. ชว่ ยอนุรักษ์ธรรมชาติ ข. ถา่ ยทอดความรู้สกึ ที่เป็นสากล ค. พฒั นาเทคโนโลยีตา่ งๆ ให้มคี วามทันสมัย ง. สร้างความพงึ พอใจใหก้ บั อารมณ์ของมนษุ ย์ 10. การสรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ปจ์ ะต้องประกอบดว้ ยสงิ่ ใด ตอ่ ไปนี้ ก. การรับรู้ จนิ ตนาการ ประสบการณ์ ข. สงิ่ แวดล้อม ธรรมชาติ จินตนาการ ค. ประสบการณ์ ความคิดสรา้ งสรรค์ จินตนาการ ง. องคป์ ระกอบศลิ ป์ การรับรู้ วธิ ีการสรา้ งสรรค์ มฐ. ศ 1.1 ม.1/1 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ข 3. ค 4. ข 5. ง 6. ข 7. ค 8. ก 9. ค 10. ก

13 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 คำชแ้ี จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ปจ์ ะต้องประกอบด้วยสงิ่ ใด 6. ประตมิ ากรรม หมายถึง การสร้างสรรคง์ านดว้ ยวิธีใด ตอ่ ไปน้ี ก. ส่ิงแวดลอ้ ม ธรรมชาติ จนิ ตนาการ ก. การขูด ขีด ลาก ข. การรบั รู้ จนิ ตนาการ ประสบการณ์ ค. องค์ประกอบศิลป์ การรับรู้ วิธกี ารสรา้ งสรรค์ ข. การตกแตง่ ลวดลาย ง. ประสบการณ์ ความคิดสรา้ งสรรค์ จินตนาการ ค. การปั้น การแกะสลัก การหลอ่ 2. สนุ ทรยี ภาพทเ่ี กดิ จากการชมผลงานทางทศั นศลิ ปต์ รงกับขอ้ ใด ง. การออกแบบกอ่ สร้างอาคารตา่ งๆ ก. จดจำรายละเอยี ดของงานทัศนศิลป์ได้อยา่ งดี ข. เกิดแรงบนั ดาลใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน 7. ข้อใดต่อไปนีเ้ ป็นสถาปตั ยกรรมแบบปดิ ที่สรา้ งขึน้ ค. ชว่ ยใหป้ ระมาณคณุ ค่าของผลงานได้ ง. ชว่ ยลดความแข็งกระด้างภายในใจ เพ่ือตอบสนองความเชื่อความศรัทธาทางศาสนา 3. ข้อใดไมใ่ ช่คณุ ค่าของงานทศั นศลิ ป์ ก. สรา้ งความพงึ พอใจให้กบั อารมณข์ องมนุษย์ ก. พระธาตดุ อยสุเทพ ข. ศาลาการเปรยี ญ ข. พัฒนาเทคโนโลยตี า่ งๆ ใหม้ คี วามทนั สมยั ค. ถา่ ยทอดความรู้สึกทเี่ ป็นสากล ค. เทวรูป ง. โบสถ์ ง. ชว่ ยอนุรกั ษ์ธรรมชาติ 4. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ความหมายของศลิ ปะได้ถูกต้อง 8. ปราสาทหินนครวัด นครธม เปน็ สถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ ก. ส่ิงทม่ี นษุ ย์สรา้ งข้ึนจากความพึงพอใจ ข. ส่ิงที่มนษุ ยส์ ร้างข้นึ สรา้ งข้ึนจากอทิ ธพิ ลความเชื่อและความศรัทธา ตัง้ อยู่ใน ค. การสร้างสรรค์ ง. สง่ิ ท่สี วยงาม ประเทศใด 5. ผูส้ ร้างสรรค์ผลงานสถาปตั ยกรรม เรยี กชอ่ื ตามข้อใด ก. สถาปัตยกรรม ก. อินโดนเี ซยี ข. กมั พชู า ข. ประตมิ ากร ค. สถาปนกิ ค. ไทย ง. พม่า ง. จติ รกร 9. จิตรกรรม ประตมิ ากรรม สถาปตั ยกรรม และภาพพมิ พ์ จดั อยู่ในศลิ ปะสาขาใด ก. อตุ สาหกรรมศลิ ป์ ข. ประยกุ ตศ์ ลิ ป์ ค. ทศั นศิลป์ ง. โสตศลิ ป์ 10. ภาพพมิ พ์พน้ื ราบ มลี กั ษณะอยา่ งไร ก. เป็นกระบวนการสร้างแมพ่ ิมพ์โดยการสรา้ งภาพหรือร้ิว รอยลงบนแมพ่ มิ พ์ ข. เป็นกระบวนการสรา้ งแมพ่ มิ พ์โดยการทำใหเ้ กดิ สว่ นลึก และส่วนนูน ค. เป็นกระบวนการพิมพ์ที่นำเอาแผน่ หนิ มาเป็นแม่พมิ พ์ ง. เป็นกระบวนการพมิ พ์ทีไ่ ดภ้ าพพิมพ์ตรงกบั แมพ่ มิ พ์ มฐ. ศ 1.1 ม.1/1 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ง 3. ข 4. ก 5. ค 6. ค 7. ก 8. ข 9. ค 10. ค

14 บนั ทึกหลังการสอน รายวิชาศลิ ปะ นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 วิชาศิลปะ ครูผู้สอน นายปฏิภาณ ไชยเทพา เร่ือง ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ยี วกับทศั นศลิ ป์  ดา้ นความรู้ . ผู้เรยี นเกิดความตระหนัก เทคนคิ การต่อเรือ่ งราว ความรู้เบ้ืองตน้ เก่ยี วกบั ทศั นศลิ ป์ ของนกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปี ท่ี 1  ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1.สมรรถนะดา้ นการจัดการตัวเอง นกั เรยี นมีความรับผดิ ชอบในระดบั ปานกลาง คอื ใหท้ ำงานยงั ไมก่ ระตือรือล้น เท่าไหร่ 2.สมรรถนะด้านการส่อื สาร นักเรียนไดม้ ีสว่ นร่วมในการแสดงความคิดเกย่ี วกับทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ โดยครู สุ่มถาม ซง่ึ นักเรยี นได้แสดงความคิดโดยการสอ่ื สารพูดในความคดิ ของนกั เรยี นเอง 3.สมรรถนะด้านการรวมพลังทำงานเป็นทีม นักเรียนมีการแบง่ หน้าท่ใี นการทำงาน เชน่ การแบ่งกลุ่มสมาชกิ และแบง่ ชื่อเร่ืองทจี่ ะศึกษาเองโดยครูคอยชแ้ี นะ เป็นตน้ 4.สมรรถนะดา้ นการคดิ ชั้นสงู นักเรยี นยงั มีความรูเ้ กี่ยวกบั ทัศนศิลป์ไมม่ ากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคดิ ในการตอบ 5.สมรรถนะด้านการเปน็ พลเมอื งที่เข้มแขง็ นักเรียนบางส่วนมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าที่ทีไ่ ด้รบั เป็นอย่างดี  ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั นกั เรยี นสว่ นมากมีวินัยในตนเองดี รบั ผิดชอบตอ่ ตนเองดี มีบางส่วนยังขาดวนิ ัยตอ่ ตนเอง 2. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรยี นสบื ค้นหาข้อมลู เองโดยทค่ี รูกำหนดหัวข้อให้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน นกั เรยี นบางคนมุ่งม่ันตง้ั ใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี  ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมทีม่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อปุ สรรค เดก็ นักเรยี นบางคนไมเ่ ขา้ เรียน นกั เรียนชายหลายคนสนใจในเรอื่ งอ่ืนมากกวา่ การเรียน เช่น อยากซ้อมกีฬา คุย กนั เสยี งดงั  แนวทางการแกไ้ ข คนที่ไม่เขา้ เรยี นครจู ะไมเ่ ช็คเวลาเรยี นให้ และมกี ารหักคะแนน และครตู ั้งเงื่อนไขกบั นักเรียน ถ้าต้งั ใจเรียนจะ ปลอ่ ยเร็ว

15 ความเหน็ ของครพู ี่เลยี้ ง ข้อเสนอแนะ มีการจดั การเรียนการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ ักเรียนบรรลุตามตัวชีว้ ัดทต่ี ้ังไว้ มคี ำถามทห่ี ลากหลาบ มีการ ประเมินตามตัวชีว้ ดั . ลงชื่อ . (นางสาวมณรี ตั น์ เนียรประดษิ ฐ) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลุ่มสาระศลิ ปะ ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น . ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลมุ เนอื้ หาและตวั ช้ีวัดเหน็ ควรใชใ้ นการสอนนักเรียนได้ . . ลงชอื่ . (นายเชดิ ศกั ดิ์ เอกปรญิ ญา) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นเหล่าหลวงประชานสุ รณ์

16 แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนเหลา่ หลวงประชานสุ รณ์ ตำบลเหล่าหลวง อำเภอเกษตรวสิ ยั จงั หวดั ร้อยเอด็ กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง ทัศนธาตุ เวลา 5 ช่ัวโมง 1 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั ศ 1.1 ม.1/1 บรรยายความแตกตา่ งและความคล้ายคลงึ กนั ของงานทศั นศิลป์และส่งิ แวดลอ้ ม โดยใชค้ วามรู้เรื่อง ทศั นธาตุ 2 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด ทศั นธาตุเปน็ ส่วนประกอบการมองเหน็ หรือสง่ิ ทีเ่ ป็นปจั จยั การเห็นในงานทัศนศิลป์ จะปรากฏทงั้ ในงานทัศนศิลป์และ สง่ิ แวดล้อม ซึง่ สามารถบรรยายความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กันของทัศนศลิ ป์และสงิ่ แวดล้อมได้ โดยใช้ความรู้เรื่องทศั นธาตุ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - ความแตกต่างและความคล้ายคลงึ กันของทศั นธาตุในงานทศั นศลิ ป์และสิ่งแวดลอ้ ม 3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่ิน 1) องค์ประกอบของทศั นธาตุ 2) การจัดองค์ประกอบศลิ ป์ 4 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการวิเคราะห์ 2) ทกั ษะการจำแนกประเภท 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2.ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

17 6 ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงาน เร่อื ง ทศั นธาตุ 7 การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรอื่ ง ทัศนธาตุ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง เสน้ แบบตา่ งๆ 2) ตรวจใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง องค์ประกอบย่อยของทัศนธาตุ 3) ตรวจใบงานท่ี 2.3 เรอื่ ง หลกั การจดั องค์ประกอบศิลป์ 4) ตรวจใบงานท่ี 2.4 เร่ือง สิง่ แวดล้อมและงานทศั นศิลป์ 5) ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน 6) ประเมินการนำเสนอผลงาน 7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล 8) สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 9) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.3 การประเมนิ หลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง ทัศนธาตุ 7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจรายงาน เร่อื ง ทศั นธาตุ 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ ก่อนเรยี นนกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2

18 เร่ืองท่ี 1 องคป์ ระกอบของทศั นธาตุ 2 ชวั่ โมง วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุม่ ข้ันที่ 1 มผี ูน้ ำและมีการแบ่งหนา้ ที่รับผดิ ชอบ ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มเลือกหัวหน้ากลมุ่ และเลขานกุ ารกลมุ่ ขั้นที่ 2 วางแผน ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผนศึกษาความรู้เร่ือง องคป์ ระกอบของทัศนธาตุ จากหนังสอื เรียน และ แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ โดยครเู นน้ ยำ้ ให้นักเรยี นแบ่งหัวข้อในการศึกษาใหเ้ ทา่ เทยี มกันตามความเหมาะสม ขน้ั ท่ี 3 ปฏบิ ัตติ ามแผน 1. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศกึ ษาความรเู้ รื่อง องคป์ ระกอบของทศั นธาตุ จากหนังสือเรียน และแหล่งข้อมลู สารสนเทศ ตามแผนท่ีได้วางไวใ้ นขน้ั ที่ 2 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั อภปิ รายความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการศึกษา ผลัดกันซักถามข้อสงสัยและอธิบายจนทกุ คนมีความ เข้าใจชัดเจนตรงกัน 3. นกั เรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 2.1 เร่ือง เสน้ แบบต่างๆ เม่ือทำเสรจ็ แลว้ ครูและนกั เรยี นช่วยกันเฉลยคำตอบในใบ งาน 4. ครแู จกใบงานที่ 2.2 เรื่อง องคป์ ระกอบย่อยของทศั นธาตุ ให้นักเรียนกลุม่ ละ 1 ชดุ แล้วให้แต่ละกลุ่มแบง่ หนา้ ที่ ใหส้ มาชกิ แต่ละคนปฏิบัติ 5. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลมุ่ หมนุ เวยี นเปลี่ยนหนา้ ทีก่ นั ในการตอบคำถามในใบงานท่ี 2.2 จนครบทกุ ขอ้ ข้นั ท่ี 4 ประเมนิ ผลการปฏิบัติงาน นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 2.2 หน้าชน้ั เรียน ครูและเพอ่ื นกลุม่ อ่ืนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นและให้ ข้อเสนอแนะ ขน้ั ที่ 5 ปรับปรุงและพฒั นา นักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันปรับปรุงผลงานในใบงานที่ 2.2 ตามคำแนะนำท่ีไดร้ ับในขน้ั ท่ี 4 เสรจ็ แล้วนำสง่ ครตู รวจ

19 ใบงานท่ี 2.1 เสน้ แบบต่างๆ คำช้ีแจง ให้นักเรยี นวาดลกั ษณะของเส้นตามทกี่ ำหนด พร้อมบอกความร้สู กึ ของเส้น ชนิดของเสน้ ลกั ษณะของเส้น ทำใหเ้ กดิ ความร้สู กึ 1. เสน้ ต้งั 2. เสน้ นอน หรอื เสน้ ระดับ 3. เส้นตรงเฉียง 4. เสน้ โค้ง 5. เส้นคด 6. เสน้ ฟันปลา 7. เสน้ ประ หรือเสน้ ขาด

20 ใบงานท่ี 2.1 เสน้ แบบตา่ งๆ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นวาดลักษณะของเสน้ ตามทกี่ ำหนด พร้อมบอกความร้สู ึกของเส้น ชนิดของเส้น ลักษณะของเส้น ทำให้เกดิ ความร้สู กึ 1. เสน้ ตัง้ ม่ันคง แขง็ แรง สง่างาม เปน็ ระเบียบ 2. เส้นนอน ราบเรียบ สงบน่งิ ปลอดภยั ไมม่ อี ันตราย หรอื เส้นระดับ เอียง ไม่ตรง ความรวดเรว็ 3. เสน้ ตรงเฉยี ง 4. เส้นโค้ง ออ่ นโยน อ่อนช้อย นมุ่ นวล 5. เสน้ คด เคลือ่ นไหวต่อเนื่องไมส่ ิ้นสดุ 6. เสน้ ฟันปลา การเปลย่ี นแปลงทศิ ทางอย่างรวดเรว็ ใหจ้ งั หวะกระแทก เกรง็ รุนแรง ต่ืนเตน้ 7. เส้นประ หรือเสน้ ขาด ไมเ่ ปน็ ระเบยี บ สบั สน วุ่นวาย ไมม่ ่นั คง เกา่ เสอื่ มโทรม อนั ตราย

21 ใบงานท่ี 2.2 องค์ประกอบย่อยของทัศนธาตุ ตอนที่ 1 คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขียนอธบิ ายตามประเด็นท่ีกำหนดลงในแผนภมู ิ 1. รปู ร่ำง รปู ทรง 2. น้ำหนกั อ่อน-แก่ 3. พน้ื ทว่ี ่ำง 4. พน้ื ผวิ 5. ควำมสำคั ญ ของสใี น กำร เขยี น ภำพ

22 ตอนท่ี 2 คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นระบายสลี งในวงกลม ใหต้ รงกบั อารมณ์และความรู้สึกท่กี ำหนด 1. หนักแน่น เยือกเย็น สงบ 2. เยอื กเยน็ มเี สนห่ ์ ลกึ ลบั 3. ใจเยน็ สงา่ ฉลาด สขุ ุม 4. รอ้ นแรง เร้าใจ อันตราย 5. สว่าง ร่าเรงิ ศรทั ธา 6. อบอุน่ แห้งแลง้

23 ใบงานท่ี 2.2 องค์ประกอบย่อยของทัศนธาตุ ตอนที่ 1 คำช้แี จง ให้นกั เรียนเขยี นอธบิ ายตามประเด็นที่กำหนดลงในแผนภมู ิ 1. รปู ร่ำง รปู ร่ำง จะมคี วำมกวำ้ งและควำมยำว สว่ นรปู ทรงจะมลี กั ษณะ 3 มติ ิ รปู ทรง คอื มคี วำมกวำ้ ง ควำมยำว และควำมหนำ 2. น้ำหนกั เป็นส่วนประกอบทสี่ ำคญั มำกทสี่ ดุ ในกำรวำดภำพ เพรำะแสงและเงำ อ่อน-แก่ จะทำใหส้ ำมำรถมองรปู ทรงของสงิ่ ต่ำงๆ ในภำพเป็นมติ ไิ ด้ 3. พน้ื ทว่ี ำ่ ง ทวี่ ่ำงระหวำ่ งวตั ถุ สงิ่ ของโดยรอบของวตั ถุสงิ่ ของนนั้ ๆ กำรจดั วำง ในอตั รำส่วนทเี่ หมำะจะทำใหภ้ ำพไดส้ ดั สว่ นสวยงำม 4. พน้ื ผวิ ควำมแตกต่ำงของผวิ หน้ำวตั ถสุ ง่ ผลใหก้ ำรรบั รทู้ แี่ ตกตำ่ งกนั เทคนิคกำรสรำ้ งพ้นื ผวิ สำมำรถทำไดท้ งั้ แบบ 2 มติ ิ และแบบ 3 มติ ิ 5. มอี ทิ ธพิ ลเหนอื จติ ใจมนุษย์ สแี ตล่ ะสใี หค้ วำมรสู้ กึ ต่ำงกนั เช่น สนี ้ำเงนิ ควำมสำคั ใหค้ วำมรสู้ กึ หนักแน่น สุภำพ สงบ สเี ขยี ว ใหค้ วำมรสู้ กึ เยอื กเยน็ สมี ่วง ใหค้ วำมรสู้ กึ สงบนิง่ ผดิ หวงั ไมแ่ น่นอน เศรำ้ เป็นตน้ ญ ของสใี น กำร เขยี น ภำพ

24 ตอนท่ี 2 คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นระบายสลี งในวงกลม ใหต้ รงกบั อารมณ์และความรู้สึกท่กี ำหนด 1. หนักแน่น เยือกเย็น สงบ 2. เยอื กเยน็ มเี สนห่ ์ ลกึ ลบั 3. ใจเยน็ สงา่ ฉลาด สขุ ุม 4. รอ้ นแรง เร้าใจ อันตราย 5. สว่าง ร่าเรงิ ศรทั ธา 6. อบอุน่ แห้งแลง้

25 เร่ืองท่ี 2 ทศั นธาตกุ บั การจดั องคป์ ระกอบศิลป์ 2 ชวั่ โมง วธิ สี อนแบบ กระบวนการกลุ่มสมั พนั ธ์ ขั้นที่ 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครใู หน้ กั เรียนรวมกลมุ่ เดมิ แลว้ ครแู จกภาพวาดให้นกั เรียนกลุ่มละ 2 ภาพ จากนน้ั ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะห์ ความแตกตา่ งของภาพดังกล่าว 2. ครูสุ่มนักเรยี นแต่ละกลมุ่ บอกความแตกต่างของภาพดังกล่าว ครูและเพ่ือนกลุ่มอ่นื รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เพ่มิ เติมในส่วนท่ี แตกตา่ งกันออกไป ขน้ั ที่ 2 จดั การเรียนรู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ จบั คู่กนั เป็น 2 คู่ ให้แตล่ ะครู่ ว่ มกันศกึ ษาความรู้เร่ือง ทศั นธาตุกับการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ จากหนงั สือเรยี น และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ในหวั ข้อทีก่ ำหนดให้ ดังน้ี - คู่ท่ี 1 ศึกษาความรเู้ รือ่ ง เอกภาพ ความสมดุล จังหวะและจุดสนใจ - คู่ท่ี 2 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง ความกลมกลนื และความขัดแย้ง และสดั สว่ น จากนัน้ ร่วมกันสรปุ สาระสำคัญ 2. สมาชิกแต่ละคชู่ ว่ ยกนั ทำใบงานที่ 2.3 เรื่อง หลกั การจดั องคป์ ระกอบศิลป์ 3. สมาชกิ แตล่ ะคนู่ ำความรู้ท่ีได้จากการศึกษาและจากการทำใบงานที่ 2.3 มาอธิบายใหเ้ พื่อนอีกค่หู นึ่งฟัง ผลัดกนั ซักถามข้อสงสยั และอธิบายจนทุกคนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกัน จากนั้นร่วมกันคัดเลอื กผลงาน ในใบงานที่ดี ท่สี ดุ เพอ่ื เตรียมนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 4. ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจว่า การจดั องคป์ ระกอบศิลป์เปน็ ทฤษฎเี บ้ืองต้นของการสร้างงานศิลปะ เนอื่ งจากเปน็ แนวทางท่ีศิลปนิ ใชเ้ ปน็ หลักในการสรา้ งสรรค์ผลงานและการพจิ ารณาคณุ ค่าของงานศลิ ปะ ข้ันท่ี 3 สรปุ และนำหลักการไปประยุกต์ใช้ 1. สมาชกิ แต่ละกลุ่มร่วมกนั สรปุ ความรู้เร่อื ง ทัศนธาตุกับการจัดองค์ประกอบศลิ ป์ 2. ครเู น้นย้ำใหน้ ักเรียนเห็นความสำคัญของการจดั องค์ประกอบศลิ ป์ และแนะนำใหน้ กั เรยี นนำความรู้ท่ไี ดจ้ าก การศกึ ษาไปประยุกตใ์ ช้ในการสรา้ งสรรค์ผลงานทศั นศลิ ป์ต่อไป ข้ันที่ 4 วัดและประเมินผล นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอใบงานที่ 2.3 หนา้ ชน้ั เรียน ครูและเพอ่ื นกล่มุ อ่นื ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและให้ ข้อเสนอแนะ

26 ใบงานที่ 2.3 หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนหาภาพผลงานทัศนศลิ ปท์ ่สี นใจ มา 1 ภาพ แล้วบนั ทกึ ข้อมูล (ตดิ ภาพ) 1. ช่ือภาพ 2. ภาพนี้เป็นผลงานของ 3. วเิ คราะหก์ ารจดั องค์ประกอบศลิ ป์ 1) เอกภาพ 2) ความสมดุล 3) จังหวะและจุดสนใจ 4) ความกลมกลนื และความขดั แย้ง 5) สดั ส่วน

27 ใบงานท่ี 2.3 หลักการจัดองค์ประกอบศลิ ป์ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนหาภาพผลงานทัศนศลิ ปท์ ่สี นใจ มา 1 ภาพ แล้วบันทกึ ข้อมลู (ตดิ ภาพ) 1. ชอื่ ภาพ 2. ภาพนี้เป็นผลงานของ 3. วเิ คราะห์การจดั องค์ประกอบศลิ ป์ 1) เอกภาพ 2) ความสมดุล 3) จังหวะและจุดสนใจ 4) ความกลมกลืนและความขัดแยง้ 5) สัดสว่ น (พจิ ารณาตามผลงานของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)

28 เร่ืองท่ี 3 ทศั นธาตใุ นงานทศั นศิลป์ และสิ่งแวดล้อม 1 ชวั่ โมง วธิ ีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิคคคู่ ิดส่สี หาย ขนั้ นำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูให้นกั เรยี นสงั เกตธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มทอี่ ยู่รอบตวั แลว้ ให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ความสนใจของ มนุษยท์ ่มี ีตอ่ ธรรมชาติ 2. ครูอธิบายเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรียนเหน็ ความสำคัญของธรรมชาตทิ ม่ี ีตอ่ การสรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ แลว้ ใหน้ กั เรยี น ยกตวั อย่างจิตรกรทีน่ กั เรียนชน่ื ชอบท่ใี ชธ้ รรมชาติเปน็ แรงบนั ดาลใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ขั้น สอน 1. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ จับคู่กนั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ต่ละครู่ ว่ มกันศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง ทศั นธาตุในสิง่ แวดล้อม และ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลึงของทัศนธาตุในงานทัศนศิลปแ์ ละสงิ่ แวดล้อม จากหนังสอื เรยี น แลว้ ชว่ ยกนั สรุปสาระสำคญั 2. นักเรียนแตล่ ะคู่ชว่ ยกันทำใบงานที่ 2.4 เร่ือง ส่ิงแวดล้อมและงานทศั นศิลป์ เมือ่ ทำเสร็จแลว้ ชว่ ยกันตรวจสอบ ความถูกต้องและเติมเต็มคำตอบใหส้ มบรู ณ์ 3. นักเรยี นแตล่ ะคนู่ ำความรู้ทีไ่ ด้จากการศึกษาและจากการทำใบงานที่ 2.4 มาอธบิ ายให้เพ่ือนอีกค่หู นง่ึ ฟงั ผลดั กัน ซักถามข้อสงสยั และอธบิ ายจนทกุ คนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนตรงกัน 4. ครูและนักเรียนช่วยกนั เฉลยคำตอบในใบงานท่ี 2.4 ขน้ั สรปุ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรเู้ ร่ือง ทัศนธาตุในงานทัศนศิลปแ์ ละส่ิงแวดล้อม  ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทำรายงาน เรื่อง ทัศนธาตุ โดยให้ครอบคลุมประเด็นตามที่ กำหนด หลังเรียนนักเรียนทำแบบทดสอบ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2

29 ใบงานที่ 2.4 สง่ิ แวดล้อมและงานทัศนศิลป์ คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเลือกภาพท่ี 1-6 ลงในช่องวา่ งหน้าตวั อักษร ท่ีมีขอ้ ความสมั พันธก์ ับภาพ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพท่ี 5 ภาพท่ี 6 ก. แหล่งทีท่ ำใหเ้ กดิ ความสนใจปรากฏการณธ์ รรมชาติ ข. มนษุ ย์นำสิง่ แวดลอ้ มมาสร้างเปน็ ผลงานประติมากรรม ค. มนุษย์นำสิง่ แวดลอ้ มสอื่ สารด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ง. สง่ิ แวดล้อมท่ีเกิดจากฝีมอื ช่วยให้สังคมมีการเปลยี่ นแปลง จ. ความงดงามทางธรรมชาตแิ ต่เป็นแรงบันดาลใจในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์ ฉ. ทศั นธาตุถา่ ยทอดสร้างสรรค์ธรรมชาตใิ หม้ องเหน็ รปู ลกั ษณะเปน็ ลวดลาย เส้น สี

30 ใบงานที่ 2.4 สงิ่ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเลอื กภาพท่ี 1-6 ลงในช่องวา่ งหนา้ ตวั อักษร ท่ีมีข้อความสมั พันธก์ ับภาพ ภาพที่ 1 ภาพท่ี 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพท่ี 5 ภาพท่ี 6 4 ก. แหล่งทีท่ ำใหเ้ กดิ ความสนใจปรากฏการณธ์ รรมชาติ 2 ข. มนษุ ย์นำสง่ิ แวดลอ้ มมาสรา้ งเป็นผลงานประตมิ ากรรม 6 ค. มนษุ ยน์ ำสิ่งแวดล้อมสอื่ สารด้วยการออกแบบทางสถาปัตยกรรม 3 ง. สิ่งแวดลอ้ มท่ีเกดิ จากฝีมอื ชว่ ยให้สังคมมีการเปลยี่ นแปลง 1 จ. ความงดงามทางธรรมชาติแต่เป็นแรงบนั ดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานทศั นศิลป์ 5 ฉ. ทัศนธาตถุ า่ ยทอดสรา้ งสรรค์ธรรมชาติให้มองเห็นรปู ลกั ษณะเป็นลวดลาย เสน้ สี

31 9 สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนงั สือเรียน ทศั นศลิ ป์ ม.1 2) บัตรภาพ 3) ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง เส้นแบบตา่ งๆ 4) ใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง องคป์ ระกอบย่อยของทศั นธาตุ 5) ใบงานท่ี 2.3 เรอื่ ง หลกั การจดั องค์ประกอบศลิ ป์ 6) ใบงานที่ 2.4 เร่อื ง สง่ิ แวดล้อมและงานทัศนศลิ ป์ 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/04 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/05

32 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินรายงาน เร่อื ง ทัศนธาตุ รายการประเมนิ ดมี าก (4) คำอธบิ ายระดบั คุณภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การอธบิ าย อธบิ ายองค์ประกอบ ของ อธบิ ายองค์ประกอบ ของ อธบิ ายองคป์ ระกอบ ของ อธิบายองคป์ ระกอบ ของ องคป์ ระกอบของ ทศั นธาตุ ทศั นธาตุไดถ้ ูกตอ้ ง ทศั นธาตุได้ถกู ต้อง ทศั นธาตไุ ดถ้ กู ต้อง ทัศนธาตไุ ดถ้ กู ต้องเพยี ง ละเอยี ด ชัดเจน ชดั เจนเปน็ ส่วนใหญ่ ชดั เจนเปน็ บางส่วน สว่ นน้อย และ ไม่ชัดเจน 2. การวเิ คราะห์ ทศั น วเิ คราะหท์ ัศนธาตุกบั การ วิเคราะห์ทัศนธาตกุ บั การ วิเคราะห์ทศั นธาตกุ บั การ วิเคราะห์ทศั นธาตุกบั การ ธาตกุ บั การจัด จัดองค์ประกอบศิลป์ได้ จัดองค์ประกอบศิลป์ได้ จดั องค์ประกอบศลิ ป์ได้ จดั องคป์ ระกอบศิลป์ได้ องค์ประกอบศิลป์ ถกู ต้อง ละเอียด ชัดเจน ถูกต้อง ชัดเจนเปน็ สว่ น ถูกต้อง ชดั เจนเปน็ ถูกตอ้ งเพียงส่วนนอ้ ยและ ใหญ่ บางสว่ น ไม่ชัดเจน 3. การวิเคราะหค์ วาม วิเคราะหค์ วามแตกต่าง วิเคราะหค์ วามแตกตา่ ง วิเคราะหค์ วามแตกตา่ ง วเิ คราะหค์ วามแตกต่าง แตกตา่ งและความ และความคลา้ ยคลงึ ของ และความคลา้ ยคลงึ ของ และความคลา้ ยคลงึ ของ และความคล้ายคลงึ ของ คลา้ ยคลึงของทัศน ทัศนธาตุในงาน ทัศนธาตใุ นงาน ทัศนธาตุในงาน ทศั นธาตุในงาน ธาตุในงานทศั นศลิ ป์ ทศั นศิลปแ์ ละ ทัศนศลิ ป์และ ทศั นศิลป์และ ทัศนศิลปแ์ ละ และส่งิ แวดล้อม สง่ิ แวดลอ้ มได้ถูกต้อง สงิ่ แวดล้อมได้ถกู ตอ้ ง สง่ิ แวดล้อมได้ถูกตอ้ ง สิง่ แวดลอ้ มได้ถูกต้อง ละเอียด ชัดเจน ชดั เจนเปน็ สว่ นใหญ่ ชดั เจนเป็นบางสว่ น เพยี งส่วนนอ้ ย และไม่ ชดั เจน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ำกว่า 6 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรงุ

33 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 คำชี้แจง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. สว่ นประกอบทสี่ ำคญั ทสี่ ุดของทศั นธาตุ คอื อะไร 6. สีขัน้ ที่ 2 เกิดจากแม่สี 2 สผี สมกันในอตั ราส่วนเทา่ ไร ก. สี ข. เส้น ก. อตั ราสว่ น 1 : 1 ค. รูปทรง ง. แสงเงา ข. อตั ราส่วน 1 : 2 2. ขอ้ ใดต่อไปนี้ ไม่ใช่องค์ประกอบของทศั นธาตุ ค. อัตราส่วน 1 : 3 ก. นำ้ หนัก ทีว่ า่ ง ข. เสน้ สี แสงเงา ง. อัตราส่วน 1 : 4 ค. รปู ร่าง รูปทรง พื้นผิว ง. ความสมดุล สัดส่วน จุดสนใจ 7. สีในข้อใดใหค้ วามรสู้ กึ “ใจเย็น สงา่ ฉลาด สขุ มุ ” 3. เส้นท่ใี ห้ความรสู้ ึกแข็งแรงมน่ั คง คือขอ้ ใด ก. สมี ่วง ข. สสี ม้ ก. เสน้ ฟนั ปลา ข. เส้นตรงตามแนวตง้ั ค. สีเทา ง. สนี ้ำตาล ค. เส้นตรงตามแนวนอน ง. เส้นเอยี งหรอื เสน้ ทแยง 8. การจดั องค์ประกอบศลิ ป์ที่ตอ้ งการให้เปน็ อนั หนงึ่ 4. ขอ้ ใดคือลกั ษณะของรูปทรงทีถ่ กู ตอ้ ง อันเดยี วกนั คอื ข้อใด ก. รปู ทรงมี 2 มติ ิ ข. รปู ทรงมี 3 มติ ิ ก. จังหวะและจดุ สนใจ ค. รปู ทรงไมม่ ีนำ้ หนัก ง. รปู ทรงไมม่ ีปรมิ าตร ข. ความเปน็ เอกภาพ 5. สีข้นั ที่ 1 หรอื แมส่ ี ไดแ้ ก่สีอะไรบา้ ง ค. ความสมดุล ก. สแี ดง สสี ม้ สมี ่วง ข. สนี ำ้ เงิน สีเขยี ว สีแดง ง. สดั ส่วน ค. สีเหลือง สีน้ำเงิน สมี ่วง ง. สีแดง สีเหลือง สนี ้ำเงิน 9. ขอ้ ใดคอื การจัดองคป์ ระกอบศิลป์ ก. การจัดบริเวณใหเ้ หมาะสม ข. การนำ แสง เงา สี จังหวะ มาจดั ร่วมกนั ค. การแยกสว่ นประกอบของทัศนธาตุออกให้ชดั เจน ง. การนำทศั นธาตมุ าประกอบกันให้เกดิ งานทัศนศลิ ป์ 10. ส่ิงแวดลอ้ มกบั การสร้างสรรคง์ านทศั นศิลป์มีความ สัมพันธ์ กันอย่างไร ก. สิง่ แวดล้อมทำใหม้ นษุ ยเ์ กิดแรงบนั ดาลใจในการ สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ ข. สิ่งแวดลอ้ มทำใหม้ นษุ ยเ์ รียนรกู้ ารเปล่ยี นแปลงของ ธรรมชาติ ค. ส่งิ แวดล้อมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสขุ ให้กับ มนษุ ย์ ง. สงิ่ แวดลอ้ มทำใหม้ นษุ ย์มกี ารดำรงชวี ิตมาแตโ่ บราณ มฐ. ศ 1.1 ม.1/1 ไดค้ ะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ง 3. ข 4. ข 5. ง 6. ก 7. ค 8. ข 9. ง 10. ก

34 แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. สใี นข้อใดใหค้ วามรสู้ กึ “ใจเยน็ สงา่ ฉลาด สขุ มุ ” 6. สงิ่ แวดล้อมกับการสรา้ งสรรค์งานทัศนศิลปม์ คี วาม สมั พนั ธ์ ก. สีน้ำตาล กันอย่างไร ข. สีสม้ ก. สิง่ แวดลอ้ มทำใหม้ นุษยม์ ีการดำรงชวี ิตมาแตโ่ บราณ ค. สีมว่ ง ข. สงิ่ แวดลอ้ มเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสุขใหก้ ับ ง. สเี ทา มนุษย์ ค. ส่ิงแวดล้อมทำให้มนุษยเ์ รียนร้กู ารเปลี่ยนแปลงของ 2. สีขั้นที่ 2 เกิดจากแมส่ ี 2 สผี สมกนั ในอตั ราส่วนเทา่ ไร ก. อตั ราส่วน 1 : 4 ธรรมชาติ ข. อัตราสว่ น 1 : 3 ค. อตั ราสว่ น 1 : 2 ง. สิง่ แวดล้อมทำใหม้ นษุ ย์เกิดแรงบนั ดาลใจในการ ง. อัตราสว่ น 1 : 1 สร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ 3. สขี นั้ ที่ 1 หรือแม่สี ได้แกส่ ีอะไรบา้ ง ก. สแี ดง สีเหลือง สีน้ำเงนิ 7. ส่วนประกอบทสี่ ำคัญทสี่ ุดของทศั นธาตุ คืออะไร ข. สีเหลือง สีน้ำเงนิ สีมว่ ง ค. สนี ้ำเงิน สเี ขียว สีแดง ก. รูปทรง ข. แสงเงา ง. สแี ดง สสี ้ม สมี ว่ ง ค. เสน้ ง. สี 4. การจดั องคป์ ระกอบศลิ ปท์ ต่ี อ้ งการให้เปน็ อนั หนึ่ง อันเดียวกนั คือขอ้ ใด 8. เสน้ ท่ีให้ความรู้สึกแข็งแรงมนั่ คง คือขอ้ ใด ก. สัดสว่ น ข. ความสมดลุ ก. เส้นเอียงหรือเสน้ ทแยง ค. ความเปน็ เอกภาพ ง. จงั หวะและจดุ สนใจ ข. เสน้ ตรงตามแนวนอน 5. ขอ้ ใดคอื การจัดองคป์ ระกอบศลิ ป์ ค. เส้นตรงตามแนวตัง้ ก. การนำทัศนธาตุมาประกอบกันให้เกดิ งานทศั นศิลป์ ข. การแยกสว่ นประกอบของทัศนธาตอุ อกให้ชดั เจน ง. เสน้ ฟนั ปลา ค. การนำ แสง เงา สี จังหวะ มาจัดร่วมกัน ง. การจัดบริเวณใหเ้ หมาะสม 9. ขอ้ ใดคอื ลักษณะของรูปทรงทถ่ี กู ตอ้ ง ก. รูปทรงมี 3 มิติ ข. รูปทรงมี 2 มิติ ค. รูปทรงไมม่ ปี ริมาตร ง. รปู ทรงไมม่ นี ำ้ หนกั 10. ข้อใดตอ่ ไปนี้ ไมใ่ ช่องค์ประกอบของทศั นธาตุ ก. ความสมดุล สดั ส่วน จดุ สนใจ ข. รูปรา่ ง รูปทรง พื้นผิว ค. เสน้ สี แสงเงา ง. น้ำหนกั ทีว่ า่ ง มฐ. ศ 1.1 ม.1/1 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ง 2. ง 3. ก 4. ค 5. ก 6. ง 7. ค 8. ค 9. ก 10. ก

35 บันทกึ หลังการสอน รายวชิ าศลิ ปะ นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 วชิ าศลิ ปะ ครผู ้สู อน นายปฏภิ าณ ไชยเทพา เรอื่ ง ทศั นธาตุ  ด้านความรู้ . ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ เกดิ กระบวนการกลุ่มสมั พันธ์ และนกั เรียนสามารถทำงานเปน็ คไู่ ด้  ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1.สมรรถนะด้านการจดั การตัวเอง นักเรยี นมีความรับผิดชอบในระดบั ปานกลาง คือใหท้ ำงานยงั ไม่กระตอื รือลน้ เท่าไหร่ 2.สมรรถนะดา้ นการสอื่ สาร นักเรียนไดม้ สี ว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เก่ยี วกับทัศนธาตุในงานทศั นศลิ ป์ โดยครู สมุ่ ถาม ซ่ึงนักเรียนได้แสดงความคิดโดยการส่อื สารพดู ในความคดิ ของนักเรยี นเอง 3.สมรรถนะดา้ นการรวมพลงั ทำงานเป็นทีม นักเรียนมีการแบ่งหนา้ ทใ่ี นการทำงาน เชน่ การแบ่งกลมุ่ สมาชิก และแบง่ ชอื่ เร่อื งที่จะศกึ ษาเองโดยครูคอยช้แี นะ เปน็ ต้น 4.สมรรถนะด้านการคดิ ชั้นสูง นกั เรยี นยังมคี วามรู้เกย่ี วกบั ทศั นศลิ ป์ไม่มากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะดา้ นการเป็นพลเมืองที่เข้มแขง็ นกั เรียนบางส่วนมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าที่ทไ่ี ด้รบั เป็นอย่างดี  ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย นกั เรียนสว่ นมากมีวนิ ยั ในตนเองดี รบั ผิดชอบตอ่ ตนเองดี มีบางส่วนยังขาดวนิ ัยต่อตนเอง 2. ใฝ่เรียนรู้ นักเรยี นสืบค้นหาขอ้ มลู เองโดยท่ีครกู ำหนดหัวขอ้ ให้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน นกั เรยี นบางคนมุ่งมั่นตัง้ ใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี  ด้านอ่ืนๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่มี ปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )  ปัญหา/อุปสรรค เดก็ นกั เรยี นบางคนไม่เขา้ เรยี น นักเรียนชายหลายคนสนใจในเร่ืองอน่ื มากกว่าการเรียน เชน่ อยากซ้อมกีฬา คุย กนั เสียงดัง  แนวทางการแกไ้ ข คนท่ีไมเ่ ข้าเรยี นครจู ะไม่เชค็ เวลาเรยี นให้ และมีการหักคะแนน และครตู ั้งเงื่อนไขกับนกั เรยี น ถ้าตัง้ ใจเรยี นจะ ปล่อยเร็ว

36 ความเห็นของครูพี่เลยี้ ง ขอ้ เสนอแนะ มกี ารจัดการเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำใหน้ กั เรยี นบรรลุตามตวั ชว้ี ัดท่ีต้ังไว้ มีคำถามทหี่ ลากหลาบ มีการ ประเมนิ ตามตัวช้วี ดั ใช้สื่อได้เหมาะสมกับการเรียนการสอน . ลงชอื่ . (นางสาวมณรี ัตน์ เนยี รประดิษฐ) ตำแหน่ง หวั หนา้ กล่มุ สาระศิลปะ ความเหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียน ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลมุ เนอื้ หาและตัวชว้ี ัดเหน็ ควรใชใ้ นการสอนนกั เรียนได้ . . . ลงชอ่ื . (นายเชิดศกั ดิ์ เอกปริญญา) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานสุ รณ์

37 แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรียนเหล่าหลวงประชานุสรณ์ ตำบลเหลา่ หลวง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวดั รอ้ ยเอด็ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง การออกแบบงานทัศนศลิ ป์ เวลา 4 ช่วั โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ม.1/2 ระบแุ ละบรรยายหลกั การออกแบบงานทัศนศลิ ป์ โดยเนน้ ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลืน และความ สมดุล 2 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การออกแบบเปน็ สว่ นสำคญั ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์ ซงึ่ จะต้องเปน็ ไปตามหลักการออกแบบ เพอื่ ให้ได้ผลงานท่ีมี ความสวยงาม สะท้อนถงึ ความคิดสรา้ งสรรค์ 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลนื ความสมดุล 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ - ความหมายและความสำคัญของการออกแบบงานทัศนศิลป์ 4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการเปรียบเทียบ 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ผลงานการออกแบบภาพวาดสถานที่ท่ฉี นั ประทับใจ

38 7 การวัดและการประเมินผล 7.1 การประเมินก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง การออกแบบงานทศั นศิลป์ 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ความหมายและความสำคญั ของการออกแบบ 2) ตรวจใบงานที่ 3.2 เรื่อง หลกั สำคัญของการออกแบบ 3) ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน 4) ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 5) สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ 7) สงั เกตคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การออกแบบงานทศั นศลิ ป์ 7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจผลงานการออกแบบภาพวาดสถานทีท่ ี่ฉันประทบั ใจ 8 กจิ กรรมการเรียนรู้ กอ่ นเรยี นนกั เรยี นทำแบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3

39 เร่ืองที่ 1 ความหมายและความสาคญั ของ การออกแบบ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สบื เสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ข้ันท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage) 1. ครใู ห้นักเรียนดูภาพผลงานการออกแบบทางทัศนศลิ ปร์ ปู แบบตา่ งๆ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นวา่ ผลงาน ดงั กลา่ วมกี ารออกแบบอยา่ งเหมาะสมลงตัวหรือไม่ พร้อมอธบิ ายเหตผุ ล 2. ครอู ธบิ ายเชื่อมโยงให้นักเรียนเขา้ ใจความสำคัญของการออกแบบ ขนั้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Explore) ครูใหน้ ักเรยี นรวมกลุ่มกนั กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจ แล้วให้แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั ศึกษาความรู้เร่ือง ความหมาย และความสำคัญของการออกแบบ จากหนังสือเรยี น และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain) สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มผลัดกันนำความร้ทู ไี่ ด้จากการศึกษามาอธบิ ายให้เพอื่ นในกลุ่มฟัง ผลัดกันซกั ถามข้อสงสยั และอธิบายจนทุกคนมคี วามเขา้ ใจชัดเจนตรงกนั ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) 1. นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ความหมายและความสำคัญของการออกแบบ เมือ่ ทำเสร็จแลว้ ตรวจสอบความถูกตอ้ งและเติมเต็มคำตอบใหส้ มบูรณ์ 2. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มผลดั กันอธบิ ายผลงานในใบงานที่ 3.1 ของตนให้เพื่อนฟัง ผลดั กันซักถามขอ้ สงสยั และหลอม รวมเป็นผลงานของกลุม่ จากน้ันนำส่งครูตรวจ 3. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ หาภาพผลงานการออกแบบทางทัศนศิลปท์ ี่ดี เหมาะสมลงตวั และภาพผลงานการออกแบบ ทางทศั นศิลป์ที่ไมด่ ี ไมเ่ หมาะสมลงตวั มาอย่างละ 1 ภาพ (ครูนดั หมายใหน้ ักเรยี นเตรยี มตัวมาล่วงหน้า) 4. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกันพจิ ารณาภาพผลงานการออกแบบทางทศั นศลิ ปท์ ่ีกล่มุ ของตนหามาว่า ภาพดังกลา่ วมีการ ออกแบบท่ีดหี รือไม่ดีอย่างไรบ้าง แล้วเขียนสรปุ ลงในกระดาษทค่ี รูแจกให้ ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) 1. ครตู รวจสอบผลงานนักเรยี นจากการทำใบงานที่ 3.1 2. ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลการวเิ คราะห์ภาพผลงานการออกแบบทางทัศนศิลป์หนา้ ช้ันเรยี น โดยครูและเพ่ือนกลุม่ อ่นื รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้องและใหข้ ้อเสนอแนะ 3. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เกี่ยวกับความหมายและความสำคญั ของการออกแบบ

40 ใบงานท่ี 3.1 ความหมายและความสำคัญของการออกแบบ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นหาภาพสงิ่ ของเคร่ืองใชท้ ่มี ีการออกแบบท่นี ักเรียนประทับใจ จำนวน 1 ภาพ มาติดลงในกรอบ พรอ้ มอธิบายเหตผุ ล (ติดภาพ) • เพราะเหตุใด นักเรยี นจึงประทบั ใจผลงานในภาพ

41 ใบงานท่ี 3.1 ความหมายและความสำคญั ของการออกแบบ คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นหาภาพสง่ิ ของเครื่องใชท้ ่มี ีการออกแบบทนี่ ักเรียนประทบั ใจ จำนวน 1 ภาพ (ตวั อยำ่ ง) มาติดลงในกรอบ พร้อมอธบิ ายเหตผุ ล (ตดิ ภาพ) • เพราะเหตุใด นักเรยี นจงึ ประทบั ใจผลงานในภาพ เพราะผลงานในภาพมีการออกแบบทโ่ี ดดเด่น แตกต่างจากแบบทว่ั ๆ ไป โดยเน้นการใชร้ ปู ทรงทแี่ ปลกตา แมจ้ ะใชล้ วดลายที่พบเห็นทัว่ ไป เช่น ดอกไม้ สัตวต์ า่ งๆ เป็นตน้ แตส่ รา้ งเอกลักษณด์ ว้ ยการใชส้ ที ่ีฉูดฉาด ทำใหผ้ ลงาน มีความสวยงาม โดดเดน่ ชวนมองมากยิง่ ขึ้น แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความคดิ สร้างสรรคข์ องผอู้ อกแบบ และยงั คงใชป้ ระโยชน์ ในการใชส้ อยไว้ไดอ้ ย่างครบถ้วน เปน็ การชว่ ยเพ่มิ มลู คา่ ของผลงานอกี ทางหนึ่ง (พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

42 เรอื่ งที่ 2 หลกั สาคญั ของการออกแบบ 2 ชวั่ โมง วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการเรียนความร้คู วามเข้าใจ ข้นั ที่ 1 สังเกต ตระหนัก 1. ครจู ัดเตรยี มกระดาษโปสเตอร์ 2 สี ตัดเป็นรปู ทรงเรขาคณิต และรูปรา่ งอสิ ระ อย่างละ 1 สี ขนาดพอเหมาะแก่การปฏบิ ัติ กิจกรรมของนักเรยี น โดยด้านหลังของกระดาษติดเทปกาว เพอ่ื นำไปตดิ กับผ้าสกั หลาด สำหรบั สาธติ หนา้ ชน้ั เรียน 2. ครูขออาสาสมคั รนักเรยี น 2 กลมุ่ ออกมารับรปู ทรงเรขาคณติ และรูปร่างอิสระทเี่ ตรยี มไว้ไปติดบนผ้าสักหลาดหนา้ ชนั้ เรียน โดยอาศัยการออกแบบตามความเขา้ ใจของนกั เรียน แล้วใหน้ กั เรียนกลมุ่ อน่ื ร่วมกันแสดงความคดิ เห็น ครคู อยอธิบายเพมิ่ เตมิ ในสว่ นทบ่ี กพรอ่ ง ข้ันท่ี 2 วางแผนปฏบิ ตั ิ 1. ครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง หลักสำคัญของการออกแบบ จากหนงั สือเรยี น หอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ ำหนด 2. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ แบง่ หนา้ ทก่ี ันรบั ผิดชอบในการศกึ ษาและสบื คน้ ความรู้ในประเดน็ ท่กี ำหนดตามความเหมาะสม ขั้นที่ 3 ลงมือปฏิบตั ิ สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรูเ้ รือ่ ง หลักสำคัญของการออกแบบ จากหนงั สือเรยี น ห้องสมุด และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ใน ประเดน็ ท่คี รกู ำหนด ตามท่ีไดว้ างแผนรว่ มกันไว้ในขน้ั ที่ 2 ขน้ั ที่ 4 พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ 1. สมาชกิ แต่ละกลุม่ รว่ มกนั ทำใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง หลกั สำคัญของการออกแบบ เมื่อทำเสรจ็ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง เรยี บรอ้ ยก่อนนำส่งครตู รวจ 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบในใบงานท่ี 3.2 ขั้นท่ี 5 สรปุ 1. นักเรยี นร่วมกันสรุปความรเู้ รื่อง หลักสำคัญของการออกแบบ 2. ครูเน้นยำ้ ใหน้ ักเรยี นเห็นความสำคัญของการออกแบบและรจู้ กั นำหลักสำคัญของการออกแบบไปใช้ในการสรา้ งสรรค์ผลงาน เพอ่ื ใหไ้ ด้ผลงานทีส่ วยงาม เหมาะสมตามความตอ้ งการ

43 ใบงานที่ 3.2 หลักสำคัญของการออกแบบ คำชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเขียนแผนผังความคดิ แสดงหลกั สำคัญของการออกแบบ ควำมสมดลุ ควำมเป็นเอกภำพ หลกั สาคญั ของการออกแบบ ควำมกลมกลนื

44 ใบงานที่ 3.2 หลักสำคัญของการออกแบบ คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขียนแผนผังความคดิ แสดงหลักสำคัญของการออกแบบ (ตวั อยำ่ ง) สมดลุ แบบทงั้ 2 ขำ้ ง สมดุลแบบทงั้ 2 ขำ้ ง กำรจดั องคป์ ระกอบ จดั ใหเ้ ป็นหน่วยเดยี วกนั ไมเ่ หมอื นกนั เหมอื นกนั ทงั้ ส่วนใหญแ่ ละสว่ นย่อย หรอื สมั พนั ธเ์ ชอื่ มโยง ควำมสมดุล ใหเ้ ป็นอนั หนงึ่ ต่อเนอื่ งกนั อนั เดยี วกนั จดั ผลงำนใหเ้ ป็น ควำมเป็นเอกภำพ กลุ่มเดยี วกนั ไมก่ ระจดั กระจำย หลกั สาคญั ของการออกแบบ กลมกลนื ดว้ ยเสน้ ควำมกลมกลนื กลมกลนื ดว้ ย รปู รำ่ ง รปู ทรง กลมกลนื ดว้ ยสี (พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)

45 เรือ่ งที่ 3 การออกแบบงานทศั นศิลป์ 1 ชวั่ โมง วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการปฏิบัติ ขัน้ ท่ี 1 สังเกต รบั รู้ 1. ครูนำตวั อย่างผลงานทัศนศิลป์ทมี่ กี ารจดั ภาพที่ดีและไม่ดี มาใหน้ กั เรียนดู แล้วใหน้ ักเรียนรว่ มกันพิจารณา และอภปิ รายวา่ ภาพดังกลา่ วมีความแตกต่างกนั อยา่ งไรบา้ ง โดยพิจารณาจากหลักสำคัญของการออกแบบงานทศั นศลิ ป์ 2. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรียนเขา้ ใจความสำคญั ของการออกแบบ เพ่ือให้ไดผ้ ลงานท่ีสมบูรณ์ สวยงาม สนองตอ่ ความ ต้องการตามทม่ี งุ่ หวงั ขนั้ ท่ี 2 ทำตามแบบ 1. ครูสาธิตการออกแบบภาพวาดสง่ิ ต่างๆ ในหอ้ งเรียน โดยใช้ส่วนประกอบของทศั นธาตใุ นการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน พร้อมอธบิ ายประกอบ เพื่อให้นักเรียนเขา้ ใจความเป็นเอกภาพ ความกลมกลนื และความสมดลุ ในการออกแบบ ผลงาน ตามลำดบั ขัน้ ตอน 2. นักเรียนแต่ละคนฝกึ ออกแบบภาพวาดสิ่งตา่ งๆ ในห้องเรยี น โดยใชส้ ่วนประกอบของทัศนธาตุในการสรา้ งสรรค์ ผลงาน และคำนึงถงึ หลักสำคัญในการออกแบบผลงาน ตามแบบที่ครสู าธติ 3. ครูสังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมของนักเรียน และให้ข้อเสนอแนะแก่นักเรียนเปน็ รายบุคคล เพ่ือให้นกั เรยี นสามารถ ปฏบิ ัตไิ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม ข้ันท่ี 3 ทำเองโดยไม่มแี บบ 1. นกั เรียนแต่ละคนออกแบบภาพวาดส่งิ ตา่ งๆ ในห้องเรยี น ตามลำดับขัน้ ตอน โดยไมต่ ้องดูแบบ 2. นักเรียนแต่ละคนผลดั กนั อธิบายผลงานของตนให้เพื่อนในกลุ่มฟงั แลว้ นำข้อเสนอแนะท่ีไดจ้ ากเพ่ือนมาปรับปรุง ผลงานของตนเองใหส้ มบรู ณ์มากยง่ิ ข้ึน 3. ครูส่มุ นกั เรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอผลงานของตนเองให้เพอ่ื นฟงั หน้าชน้ั เรยี น ครใู ห้ข้อเสนอแนะและอธิบาย เพิ่มเติม เพื่อใหน้ กั เรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ และสามารถออกแบบผลงานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ข้นั ที่ 4 ฝกึ ทำให้ชำนาญ  ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนออกแบบภาพวาดสถานที่ที่นักเรียนประทับใจ ตามหลักการออกแบบ พรอ้ มบรรยายประกอบ โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ ำหนด

46 หลังเรยี นนกั เรยี นทำแบบทดสอบ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 9 สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ทัศนศลิ ป์ ม.1 2) ตวั อยา่ งผลงานทศั นศลิ ป์ 3) อุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการวาดภาพระบายสี 4) กระดาษขนาด A4 กระดาษโปสเตอร์ 2 สี และกระดาษวาดเขียน 5) ผ้าสักหลาด เทปกาว 6) บัตรภาพ 7) ใบงานที่ 3.1 เร่ือง ความหมายและความสำคญั ของการออกแบบ 8) ใบงานที่ 3.2 เร่อื ง หลกั สำคญั ของการออกแบบ 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งเรียน 2) ห้องสมดุ 3) แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/06 - http://www.aksorn.com/LC/Va/M1/07

47 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ ผลงานการออกแบบภาพวาดสถานทท่ี ่ฉี ันประทับใจ รายการประเมิน ดีมาก (4) คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ / ระดับคะแนน ปรับปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การออกแบบผลงาน ผลงานท่อี อกแบบมี ผลงานทีอ่ อกแบบ ผลงานที่ออกแบบ ผลงานทีอ่ อกแบบ ถกู ต้อง เหมาะสมตาม ถูกต้อง เหมาะสมตาม ไม่ถูกตอ้ งตามหลักสำคญั ทัศนศิลป์ ความสมบรู ณ์ ถกู ตอ้ ง หลักสำคญั ของการ หลักสำคัญของการ ของการออกแบบ ออกแบบ 2 ขอ้ ออกแบบ 1 ข้อ เหมาะสมตามหลกั สำคญั ของการออกแบบ ทั้ง 3 ข้อ ได้แก่ 1) ความเป็นเอกภาพ 2) ความกลมกลนื กัน 3) ความสมดลุ 2. การบรรยาย หลกั เขยี นบรรยายหลักสำคัญ เขยี นบรรยายหลกั สำคญั เขียนบรรยายหลกั สำคัญ เขียนบรรยายหลักสำคัญ ของการออกแบบงาน ของการออกแบบงาน ของการออกแบบงาน สำคัญของการ ของการออกแบบงาน ทัศนศิลปไ์ ด้ถกู ต้อง ทศั นศิลป์ไดถ้ ูกต้อง ทศั นศิลป์ไดถ้ กู ต้อง 1 ละเอียด ชดั เจน 2 ข้อ ละเอยี ด ชดั เจน 1 ขอ้ ข้อ แต่ไมล่ ะเอียด และไม่ ออกแบบ งาน ทศั นศิลป์ได้ถูกต้อง ชัดเจน ทัศนศิลป์ ละเอยี ด ชัดเจน ท้งั 3 ข้อ 3. ความคิดรเิ ร่มิ ผลงานแสดงออกถึง ผลงานแสดงออกถงึ ผลงานแสดงออกถึง ขาดความคดิ รเิ ริ่ม สรา้ งสรรค์ ความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์ ความคดิ รเิ รม่ิ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ ไม่มกี าร สอดแทรกเทคนิคกลวิธี สอดแทรกเทคนิคกลวธิ ี สอดแทรกเทคนคิ กลวิธี สอดแทรกเทคนคิ กลวธิ ี แปลกใหมไ่ ดอ้ ยา่ ง แปลกใหม่ไดอ้ ย่าง แปลกใหมไ่ ด้ค่อนข้าง แปลกใหม่ และไม่ เหมาะสม ลงตวั เหมาะสม ลงตวั เหมาะสม ลงตัว นา่ สนใจ และมคี วามนา่ สนใจ และคอ่ นข้างนา่ สนใจ แต่ไม่ค่อยนา่ สนใจ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ำกวา่ 6 ระดบั คุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง

48 แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การออกแบบ คอื อะไร 6. ความกลมกลืน หมายถงึ การจดั ภาพให้มคี วามรสู้ กึ อย่างไร ก. การรู้จักใช้ความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ก. เหมือนจรงิ ทุกองคป์ ระกอบ เพือ่ ให้เกดิ ความแปลกใหม่ ข. เป็นรปู ธรรมและนามธรรม ข. การนำทัศนธาตุทกุ ชนิดมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ ค. สอดคลอ้ งเขา้ กันได้ ค. การปลูกฝงั สุนทรยี ภาพและพฒั นาจิตใจ ง. มคี วามรสู้ กึ ขดั แย้ง ง. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานจากเศษวสั ดุ 7. นำ้ หนักและแรงถว่ งท่เี สมอกนั เปน็ ความสำคญั ของเร่ืองใด 2. การออกแบบควรคำนงึ ถึงเรือ่ งใดเปน็ สำคัญ ก. ความสมดลุ ก. วัสดทุ ใ่ี ช้ ข. ความเป็นเอกภาพ ข. ความสวยงาม ค. ความกลมกลืนด้วยเส้น ค. ประโยชน์ใชส้ อย ง. ความกลมกลืนด้วยรปู ร่าง รูปทรง ง. ความคดิ สร้างสรรค์ 8. ความสมดุลซา้ ย-ขวา เท่ากนั คอื อะไร 3. ใครเป็นผมู้ ีความคดิ สรา้ งสรรค์ ก. รปู ร่าง รูปทรง และสเี หมือนกันทงั้ สองขา้ ง ก. ออยชอบฟงั เพลง ข. รูปร่างมีขนาดเทา่ กันท้งั สองข้าง ข. นงชอบอ่านหนงั สือ ค. รปู ทรงมขี นาดเท่ากันท้ังสองข้าง ค. จ๋มุ ชอบทำสิ่งแปลกใหมอ่ ยเู่ สมอ ง. สเี หมอื นกนั ทง้ั สองข้าง ง. สม้ ชอบไปเท่ยี วอทุ ยานแหง่ ชาติ 9. ถา้ นกั เรยี นต้องการสรา้ งผลงานโดยเนน้ ความกลมกลืนของ 4. ขอ้ ใดไม่ใช่หลกั สำคัญของการออกแบบ สี นักเรยี นควรเลือกใชส้ ีอย่างไร ก. ความสมดุล ก. เลอื กใช้สีที่หลากหลาย ข. ความขัดแย้ง ข. เลือกใช้สีในวรรณะเดียวกัน ค. ความกลมกลนื ค. เลือกใช้สีใหเ้ หมาะสมกบั ผลงานทที่ ำ ง. ความเป็นเอกภาพ ง. เลอื กใชส้ ที ม่ี ีราคาแพง เพื่อใหไ้ ด้สที ี่สวยงาม 5. ความเปน็ เอกภาพให้ความสำคญั เกย่ี วกบั เรอ่ื งใด 10. ผลงานในภาพมหี ลักสำคญั ก. การวางเรยี งกันของเสน้ และรูปรา่ ง ในการออกแบบอยา่ งไร ข. การแสดงความต้ืน ลึก หนา บาง ของภาพ ค. การแสดงแสงเงาของภาพใหเ้ หมอื นจริง ก. ความเป็นเอกภาพ ง. การนำทัศนธาตมุ าประกอบกันให้เปน็ อันหนึง่ ข. ความกลมกลนื ดว้ ยเสน้ ค. ความกลมกลืนด้วยรูปร่าง รปู ทรง อันเดียวกัน ง. ความสมดุลแบบทั้ง 2 ข้างไมเ่ หมอื นกัน มฐ. ศ 1.1 ม.1/2 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ก 2. ง 3. ค 4. ข 5. ง 6. ค 7. ง 8. ก 9. ข 10. ค

49 แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ผลงานในภาพมหี ลักสำคัญ 6. การออกแบบ คอื อะไร ในการออกแบบอยา่ งไร ก. การสรา้ งสรรค์ผลงานจากเศษวสั ดุ ข. การปลกู ฝงั สุนทรยี ภาพและพัฒนาจิตใจ ก. ความสมดลุ แบบทง้ั 2 ขา้ งไมเ่ หมอื นกนั ค. การนำทัศนธาตุทุกชนดิ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์ ข. ความกลมกลนื ดว้ ยรปู ร่าง รปู ทรง ง. การรจู้ ักใช้ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ส่งิ ตา่ งๆ ค. ความกลมกลืนด้วยเส้น เพื่อให้เกิดความแปลกใหม่ ง. ความเป็นเอกภาพ 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หลกั สำคญั ของการออกแบบ 2. ความกลมกลนื หมายถึง การจดั ภาพให้มีความรสู้ กึ อย่างไร ก. ความเป็นเอกภาพ ข. ความกลมกลนื ก. สอดคลอ้ งเขา้ กันได้ ค. ความขดั แย้ง ข. มคี วามรสู้ ึกขัดแย้ง ง. ความสมดลุ ค. เปน็ รปู ธรรมและนามธรรม ง. เหมือนจรงิ ทกุ องคป์ ระกอบ 8. ความเป็นเอกภาพให้ความสำคัญเกย่ี วกบั เร่ืองใด 3. ความสมดลุ ซา้ ย-ขวา เท่ากัน คืออะไร ก. การนำทัศนธาตุมาประกอบกันใหเ้ ป็นอันหนง่ึ ก. สีเหมือนกนั ท้ังสองข้าง ข. รปู ทรงมขี นาดเท่ากนั ทัง้ สองขา้ ง อนั เดียวกัน ค. รปู รา่ งมีขนาดเท่ากนั ท้งั สองข้าง ข. การแสดงความตืน้ ลกึ หนา บาง ของภาพ ง. รปู รา่ ง รปู ทรง และสเี หมือนกันทง้ั สองข้าง ค. การแสดงแสงเงาของภาพให้เหมอื นจรงิ 4. ถ้านักเรยี นตอ้ งการสรา้ งผลงานโดยเน้นความกลมกลนื ของ ง. การวางเรยี งกันของเสน้ และรูปรา่ ง สี นักเรียนควรเลอื กใช้สอี ย่างไร ก. เลือกใช้สที ี่มีราคาแพง เพอ่ื ใหไ้ ด้สที ่สี วยงาม 9. การออกแบบควรคำนงึ ถงึ เรอื่ งใดเป็นสำคัญ ข. เลือกใชส้ ีใหเ้ หมาะสมกบั ผลงานทที่ ำ ก. ประโยชน์ใช้สอย ค. เลอื กใช้สีในวรรณะเดียวกัน ข. ความคดิ สร้างสรรค์ ง. เลอื กใช้สที ีห่ ลากหลาย ค. ความสวยงาม 5. นำ้ หนักและแรงถ่วงที่เสมอกันเป็นความสำคญั ของเรือ่ งใด ง. วัสดทุ ใ่ี ช้ ก. ความกลมกลืนดว้ ยรูปรา่ ง รูปทรง ข. ความกลมกลืนด้วยเส้น 10. ใครเปน็ ผมู้ ีความคดิ สร้างสรรค์ ค. ความเป็นเอกภาพ ก. สม้ ชอบไปเทย่ี วอทุ ยานแห่งชาติ ง. ความสมดลุ ข. จมุ๋ ชอบทำสิง่ แปลกใหม่อยเู่ สมอ ค. นางชอบอ่านหนังสือ ง. ออยชอบฟังเพลง มฐ. ศ 1.1 ม.1/2 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 10 เฉลย 1. ข 2. ก 3. ง 4. ค 5. ก 6. ง 7. ค 8. ก 9. ข 10. ข

50 บันทกึ หลังการสอน รายวชิ าศิลปะ นกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 วชิ าศิลปะ ครูผสู้ อน นายปฏภิ าณ ไชยเทพา เรื่อง การออกแบบงานทัศนศลิ ป์  ด้านความรู้ . ผเู้ รยี นเกิดทกั ษะกระบวนการเสาะหาความรู้ เกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจ การลงมอื ปฏบิ ตั ิ  ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.สมรรถนะดา้ นการจดั การตัวเอง นกั เรยี นมีความรับผดิ ชอบในระดบั ปานกลาง คือให้ทำงานยงั ไมก่ ระตอื รือลน้ เท่าไหร่ 2.สมรรถนะด้านการสอ่ื สาร นกั เรยี นได้มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เกี่ยวกบั ทัศนธาตุในงานทศั นศลิ ป์ โดยครู สุ่มถาม ซึง่ นักเรียนได้แสดงความคดิ โดยการสื่อสารพูดในความคิดของนกั เรยี นเอง 3.สมรรถนะด้านการรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม นักเรียนมีการแบ่งหน้าทีใ่ นการทำงาน เชน่ การแบ่งกลุม่ สมาชกิ และแบ่งชอื่ เรื่องที่จะศึกษาเองโดยครูคอยชีแ้ นะ เปน็ ตน้ 4.สมรรถนะดา้ นการคิดชน้ั สงู นกั เรยี นยังมีความรูเ้ ก่ียวกบั ทศั นศลิ ป์ไมม่ ากพอ และขาดการไตรตรองในการใช้ ความคิดในการตอบ 5.สมรรถนะดา้ นการเปน็ พลเมืองที่เข้มแข็ง นกั เรยี นบางสว่ นมีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีทไี่ ด้รบั เป็นอย่างดี  ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั นักเรยี นส่วนมากมีวินยั ในตนเองดี รบั ผดิ ชอบต่อตนเองดี มบี างสว่ นยงั ขาดวินยั ต่อตนเอง 2. ใฝ่เรยี นรู้ นักเรยี นสบื ค้นหาขอ้ มลู เองโดยทคี่ รูกำหนดหวั ข้อให้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน นักเรยี นบางคนมุ่งมน่ั ต้งั ใจในการทำงานเป็นอยา่ งดี  ด้านอ่ืนๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )  ปญั หา/อุปสรรค เด็กนักเรียนบางคนไม่เขา้ เรียน นักเรยี นชายหลายคนสนใจในเรอื่ งอืน่ มากกว่าการเรยี น เช่น อยากซ้อมกีฬา คุย กันเสยี งดงั  แนวทางการแกไ้ ข คนที่ไมเ่ ข้าเรียนครูจะไมเ่ ช็คเวลาเรียนให้ และมกี ารหักคะแนน และครตู ั้งเงื่อนไขกับนกั เรียน ถา้ ตง้ั ใจเรียนจะ ปลอ่ ยเร็ว

51 ความเห็นของครูพเ่ี ลีย้ ง ข้อเสนอแนะ มกี ารจดั การเรยี นการสอนตามแผนการสอน ทำให้นกั เรียนบรรลุตามตัวช้ีวัดที่ต้ังไว้ มีคำถามท่หี ลากหลาบ มีการ ประเมนิ ตามตัวช้ีวัด ใชส้ ื่อได้เหมาะสมกบั การเรียนการสอน บรรยากาศในห้องเหมาะกบั การเรียน . ลงชื่อ . (นางสาวมณรี ัตน์ เนยี รประดษิ ฐ) ตำแหนง่ หวั หนา้ กลมุ่ สาระศิลปะ ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียน . ข้อเสนอแนะ การสอนครอบคลมุ เนือ้ หาและตัวชว้ี ัดเหน็ ควรใช้ในการสอนนกั เรยี นได้ . . ลงชือ่ . (นายเชิดศกั ดิ์ เอกปริญญา) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนเหลา่ หลวงประชานุสรณ์

52 แผนการจัดการเรียนรู้ โรงเรยี นเหลา่ หลวงประชานสุ รณ์ ตำบลเหลา่ หลวง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวดั รอ้ ยเอด็ กลุม่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง ความรู้เบอ้ื งตน้ เกีย่ วกับการวาดภาพระบายสี เวลา 4 ชั่วโมง 1 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ดั ศ 1.1 ม.1/3 วาดภาพทศั นียภาพแสดงใหเ้ ห็นระยะไกลใกล้ เป็น 3 มติ ิ 2 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การวาดภาพระบายสีนัน้ ผู้วาดจะตอ้ งรู้วธิ ใี ช้และเก็บรักษาเครื่องมือและอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี ตลอดจนแนวทางพนื้ ฐานในการวาดภาพระบายสี 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง - หลักการวาดภาพแสดงทศั นียภาพ 3.2 สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่ 1) ความเป็นมาและแนวทางปฏบิ ัตใิ นการวาดภาพระบายสี 2) เครื่องมอื และอุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี 4 สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 5 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1.มวี ินยั 2.ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 6 ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

53 1.การสาธติ วธิ ีใชแ้ ละเกบ็ รักษาเครื่องมอื และอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี (ชน้ิ งานที่ 1) 2. การวาดภาพระบายสหี ุ่นนิ่ง (ชนิ้ งานที่ 2) 7 การวัดและการประเมนิ ผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกบั การวาด ภาพระบายสี 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง ความเปน็ มาและแนวทางปฏบิ ตั ิในการวาดภาพระบายสี 2) ตรวจใบงานที่ 4.2 เรอื่ ง เครื่องมือและอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี 3) ตรวจใบงานที่ 4.3 เรอื่ ง องคป์ ระกอบในการวาดภาพ 4) ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น 5) ประเมนิ การนำเสนอผลงาน 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล 7) สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ 8) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เร่ือง ความรเู้ บอื้ งต้นเก่ยี วกบั การวาด ภาพระบายสี 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) 1) สงั เกตการสาธิตวิธใี ชแ้ ละเก็บรกั ษาเครือ่ งมือและอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี 2) ตรวจผลงานการวาดภาพระบายสีหุ่นน่ิง 8 กจิ กรรมการเรยี นรู้ กอ่ นเรยี นนกั เรียนทำแบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4

54 เรือ่ งที่ 1 ความเป็นมาและแนวทางปฏิบตั ิ ในการวาดภาพระบายสี 1 ชวั่ โมง วธิ ีสอนโดยการจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมอื : เทคนคิ ค่คู ิด ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครูให้นกั เรยี นดูภาพเขยี นสที ค่ี น้ พบในถ้ำหรอื หนา้ ผาในประเทศไทย แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันแสดงความคิดเห็นในประเด็นท่ี กำหนด 2. ครูอธบิ ายเชื่อมโยงให้นกั เรยี นเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความเปน็ มาของการวาดภาพระบายสี ข้นั สอน 1. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ แลว้ ให้แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รื่อง ความเปน็ มาและแนวทางปฏิบัตใิ นการวาดภาพระบายสี จากหนงั สอื เรยี น 2. สมาชกิ แต่ละคนนำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศึกษามาอภปิ รายร่วมกนั แล้วสรุปสาระสำคัญ ครูคอยอธิบายเพ่มิ เตมิ เพอ่ื ให้นกั เรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจชดั เจนมากยิ่งขึ้น 3. นกั เรยี นแต่ละคนทำใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง ความเป็นมาและแนวทางปฏิบตั ิในการวาดภาพระบายสี เมื่อทำเสรจ็ แล้วจบั คูก่ บั เพ่ือนในกลมุ่ ผลดั กันอธิบายคำตอบในใบงานให้คขู่ องตนเองฟัง แลว้ ร่วมกันสรุปเปน็ คำตอบของคู่ ตนเอง 4. ครเู ฉลยคำตอบในใบงานที่ 4.1 ให้นักเรยี นตรวจคำตอบตามแนวทคี่ รเู ฉลย ข้นั สรุป นักเรียนและครูร่วมกนั สรุปความรูเ้ รือ่ ง ความเป็นมาและแนวทางปฏบิ ัติในการวาดภาพระบายสี

55 ใบงานท่ี ความเป็นมาและแนวทางปฏิบตั ิ 4.1 ในการวาดภาพระบายสี ตอนที่ 1 คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนอธิบายความเป็นมาของการวาดภาพระบายสี ตอนที่ 2 2. คำช้แี จง ให้นักเรียนดภู าพ แลว้ บอกลักษณะของภาพ 1. 3. 4.

56 ใบงานท่ี ความเป็นมาและแนวทางปฏิบตั ิ 4.1 ในการวาดภาพระบายสี ตอนที่ 1 คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอธิบายความเป็นมาของการวาดภาพระบายสี การวาดภาพ เปน็ การแสดงออกถงึ ความสามารถในการสรา้ งสรรค์ทางศลิ ปะของมนษุ ย์ เปน็ สงิ่ ท่ีถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกในจติ ใจของตัวเอง สอื่ สารออกมาในรูปผลงานทางศิลปะ ซึ่งมนษุ ย์ร้จู กั การวาดภาพมาตง้ั แตส่ มยั ดกึ ดำบรรพ์ ดังเหน็ ได้จากภาพบนผนงั ถำ้ ท่มี นุษยน์ ้ันเคยอาศยั อยู่ โดยในระยะแรกเปน็ การวาดภาพเพื่อถ่ายทอดจากความทรงจำ ของมนษุ ย์ ซึง่ ช่วยบอกเรือ่ งราวของมนุษยส์ มัยโบราณ และทำใหเ้ หน็ พัฒนาการของงานศิลปะ มีการถา่ ยทอดจากรุน่ สรู่ นุ่ จากสังคมหนึง่ สสู่ ังคมหนึ่ง ทำให้เกิดการคดิ ค้น ดดั แปลง แกไ้ ขกนั ตอ่ ๆ มาจนทำใหแ้ ตล่ ะชนชาติ มีแบบอย่าง ทางด้านจิตรกรรมทเ่ี ป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตน ตอนท่ี 2 2. คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ บอกลักษณะของภาพ 1. ภาพวาดลายเส้นโดยใช้ปากกาปลายสักหลาด ภาพวาดสนี ้ำมัน 3. 4. ภาพวาดลายเสน้ โดยใช้ดนิ สอ ภาพวาดสีไม้

57 เรอื่ งท่ี 2 เครื่องมอื และอปุ กรณ์ในการวาดภาพ ระบายสี 1 ชวั่ โมง วธิ ีสอนโดยใช้การ สาธิต ข้นั ที่ 1 เตรยี มการสาธติ 1. ครูนำอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการวาดภาพระบายสี มาใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกันบอกว่า นกั เรียนร้จู กั หรอื เคยใช้ อุปกรณ์ชนิดใดบา้ ง 2. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันศึกษาความรู้เรื่อง เครื่องมือและอุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี จากหนงั สอื เรียน 3. ครอู ธิบายวธิ ใี ช้และวิธเี กบ็ รกั ษาเคร่ืองมือและอปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสแี ต่ละชนิดให้นกั เรยี นเข้าใจและครู จดั เตรียมเครื่องมือและอปุ กรณใ์ นการวาดภาพระบายสี เพ่ือประกอบการสาธติ ขั้นที่ 2 สาธิต 1. ครูสาธติ วิธีใชแ้ ละวธิ เี กบ็ รักษาเครอ่ื งมือและอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการวาดภาพระบายสีทลี ะชนิด พรอ้ มอธิบายประกอบ ทลี ะขนั้ ตอนอย่างละเอยี ด เพ่ือใหน้ กั เรียนสงั เกตวธิ ีการและสามารถนำไปปฏิบัตไิ ด้อย่างถูกต้อง 2. สมาชิกแต่ละกล่มุ ร่วมกนั ฝึกใชแ้ ละเกบ็ รักษาเครื่องมือและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการวาดภาพระบายสี แล้วให้เพื่อนใน กลุม่ ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง หากมีข้อสงสัยให้ศกึ ษาความรเู้ พ่มิ เติม 3. ครสู ังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรมของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล หากมีข้อบกพรอ่ งครูให้ขอ้ เสนอแนะ ขั้นท่ี 3 สรปุ การสาธติ นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั สรุปวธิ ใี ช้และวธิ ีเก็บรกั ษาเครื่องมอื และอุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการวาดภาพระบายสี ขน้ั ที่ 4 วดั ผลประเมินผล 1. นักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้เรื่อง วธิ ใี ชแ้ ละเกบ็ รักษาเครอื่ งมือและอปุ กรณ์ในการวาดภาพระบายสี 2. นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 4.2 เร่ือง เคร่ืองมือและอุปกรณ์ในการวาดภาพระบายสี เมอ่ื ทำเสร็จแลว้ นำสง่ ครู ตรวจ  ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนใช้และเก็บรกั ษาเครื่องมือและอุปกรณ์ท่ีใช้ในการวาดภาพระบายสี แล้ว นำมาทดสอบกบั ครเู ป็นรายบคุ คล (นอกเวลาเรยี น) โดยให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามที่กำหนด

58 ใบงานที่ 4.2 เครอื่ งมอื และอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนดภู าพ แล้วบอกวิธกี ารใช้ และวิธกี ารเก็บรักษา 1. วิธีการใช้ วิธีการเก็บรกั ษา 2. วธิ กี ารใช้ วธิ กี ารเกบ็ รักษา 3. วิธีการใช้ วิธีการเกบ็ รักษา 4. วิธีการใช้ วิธกี ารเกบ็ รักษา 5. วิธกี ารใช้ วิธีการเก็บรักษา

59 ใบงานท่ี 4.2 เครอื่ งมือและอุปกรณใ์ นการวาดภาพระบายสี คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นดภู าพ แล้วบอกวธิ ีการใช้ และวิธีการเก็บรักษา 1. วิธีการใช้ ใชว้ าดภาพลายเส้น วธิ กี ารเก็บรกั ษา เม่อื ใช้งานเสรจ็ แล้วควรปดิ ฝาทุกครง้ั แลว้ เกบ็ ใส่กลอ่ งให้เรียบรอ้ ย 2. วิธีการใช้ ใช้ลากเสน้ สรา้ งมมุ โดยการลากเส้นต้องลากจากดา้ นซา้ ย ไปดา้ นขวา และลากจากบนลงล่าง วิธกี ารเกบ็ รักษา ใช้ผ้าชบุ น้ำเชด็ สี หรือหมกึ ท่ีหลงเหลอื อยู่ใหห้ มด ก่อนเก็บ 3. วธิ กี ารใช้ ใชล้ บภาพ โดยไมค่ วรใช้ยางลบชนดิ แข็ง เพราะจะทำให้ กระดาษเป็นขุย วิธกี ารเกบ็ รกั ษา หลงั จากเลกิ ใชง้ านควรเอาเศษผ้าหรือกระดาษชำระ เช็ดใหส้ ะอาดทัว่ ทุกดา้ น แล้วเก็บใสก่ ลอ่ งใหเ้ รยี บรอ้ ย 4. วธิ ีการใช้ ใชร้ ะบายสี วธิ ีการเก็บรกั ษา ควรลา้ งสีออกจากพกู่ นั ใหห้ มดเสยี ก่อนและสลดั นำ้ ออกจากพกู่ ันใหห้ มด แล้วจงึ เอาผา้ เช็ดหรอื ซบั ทปี่ ลายพู่กัน ถา้ ปลาย พูก่ ันไม่เรยี บควรเอามอื ลูบที่ปลายพู่กันให้เปน็ ทรงเดิม 5. วิธกี ารใช้ ผสมกับนำ้ กบั กาวกระถินหรือกาวอน่ื ๆ เพื่อให้สตี ดิ แน่น กับกระดาษหรือวสั ดุทีต่ ้องการ เมอื่ ผสมสเี ข้ากนั ดแี ล้วสามารถใชง้ าน ไดท้ ันที โดยระบายทบั กนั ก่ีครง้ั กไ็ ด้ แต่ถา้ ตอ้ งการสีหนักให้ผสมสดี ำ ลงไป สเี บาใหผ้ สมสีขาวลงไป วิธกี ารเกบ็ รักษา ใช้เสร็จแลว้ เก็บใส่ภาชนะ ปิดฝาใหม้ ดิ ชดิ เพื่อไมใ่ ห้ สถี กู ความชนื้ จากอากาศจนจบั ตวั เป็นกอ้ น

60 เรอ่ื งท่ี 3 องคป์ ระกอบในการวาดภาพ 1 ชวั่ โมง วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสรา้ งเจตคติ ขัน้ ที่ 1 สังเกต ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพวฏั จกั รแหง่ ชีวติ ของพชิ ัย นริ ันต์ แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การจัด องค์ประกอบของภาพ ขั้นท่ี 2 วเิ คราะห์ 1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มรว่ มกันศึกษาความรูเ้ รื่อง องคป์ ระกอบในการวาดภาพ จากหนังสือเรียน แล้วรว่ มกันสรุป สาระสำคัญ 2. ครูอธบิ ายความรู้เกย่ี วกบั องค์ประกอบในการวาดภาพให้นักเรียนฟังเพิม่ เติม เพื่อให้นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ ชัดเจนมากย่งิ ขน้ึ 3. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ จับคู่กนั เป็น 2 คู่ ใหแ้ ต่ละคู่หาภาพผลงานที่มกี ารจดั องคป์ ระกอบของภาพท่ีดี และไม่ดมี า วเิ คราะห์ตามองคป์ ระกอบในการวาดภาพ แลว้ บนั ทกึ ผลลงในใบงานท่ี 4.3 เรอื่ ง องค์ประกอบในการวาดภาพ 4. นักเรียนแต่ละคู่ผลดั กันเลา่ ผลงานในใบงานท่ี 4.3 ให้เพื่อนอีกค่หู นึ่งภายในกลุ่มฟัง แลว้ เลือกผลงานท่ดี ีท่ีสดุ เพอ่ื เตรียมออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น 5. ตัวแทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 4.3 หน้าชนั้ เรียน ครตู รวจสอบความถูกต้อง ข้นั ที่ 3 สรุป 1. นักเรยี นรว่ มกันสรุปความรู้เรื่อง องค์ประกอบในการวาดภาพ 2. ครูเน้นยำ้ ใหน้ กั เรยี นนำความรู้ทีไ่ ด้จากการศึกษาไปประยกุ ต์ใช้ในการสร้างสรรคผ์ ลงานภาพวาดระบายสีของตน ต่อไปในอนาคต

61 ใบงานที่ 4.3 องคป์ ระกอบในการวาดภาพ คำชี้แจง ให้นกั เรียนหาภาพผลงานท่ีมีการจดั องคป์ ระกอบในการวาดภาพทดี่ ีและไม่ดี มาติดลงในกรอบ นำมา วเิ คราะหแ์ ลว้ บันทึกผล ภาพท่ีมีการจดั องค์ประกอบในการวาดภาพท่ีดี (ติดภาพ) 1. ชอื่ ภาพ 2. ผลงานของ 3. ภาพดังกล่าว มกี ารจัดองคป์ ระกอบในการวาดภาพทดี่ ี ดังน้ี