โครงการจดั ทำ� สื่อ ๖๐ พรรษา ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรับนกั เรียน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ เลม่ ๑ 4/10/2018 9:36:49 PM .3.indd 2
เฉลิมพระเกยี รติ สมโเคดรจ็ งพการระจเทดั พทรำำ ัตสนื่อร ๖า๐ชส พุดราร ฯษาสยามบรมราชกุมารี ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ๓ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี (ส�ำหรบั นกั เรียน) เลม่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชอื่ -สกลุ เลขท่ี ชั้นประถมศึกษาปที ี่ โรงเรยี น สำ� นกั งานโครงการสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี .3.indd 3 4/10/2018 9:36:50 PM
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำ� หรบั นักเรียน) ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ เลม่ ๑ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ จดั ท�ำโดย สำ� นกั งานโครงการสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
คำ� นำ� ตามที่ส�ำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้จัดท�ำ ชุดการเรียนรู้ ส�ำหรับใช้ในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กท่ีขาดครู มีครูไม่ครบชั้นหรืออยู่ในพื้นที่ ห่างไกลทุรกันดาร ซ่ึงประกอบด้วยชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำหรับครูผู้สอน) และชุดกิจกรรม การเรยี นรู้ (ส�ำหรับนักเรยี น) หลงั จากทมี่ กี ารนำ� ไปใช้ พบว่าส่อื ดงั กลา่ วช่วยพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา ของโรงเรยี นขนาดเลก็ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานจงึ เหน็ ควรใหม้ กี ารนำ� ส่ือดังกล่าวมาใช้ในโรงเรียนประถมศึกษาทั่วไป เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับประถมศึกษา ให้ดยี ่งิ ขึ้น ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีจึงได้ปรับปรุงชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพ่ือให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรต์ ามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ และเพ่ือให้สะดวกตอ่ การนำ� ไปใช้โดยจดั แยกเป็นรายชน้ั (ประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖) และเป็นรายภาค (ภาคเรียนท่ี ๑ และ ๒) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ (ส�ำหรับนักเรียน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์นี้ จัดท�ำขึ้นให้ สอดคล้องกับตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยมุ่งเน้น ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านการสืบเสาะหาความรู้ มีการท�ำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติ เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และน�ำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการด�ำรงชีวิตและ รู้เท่าทนั การเปลีย่ นแปลงของโลกได้ สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยหี วงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรนู้ ี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ และเป็นส่วนส�ำคัญในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงและ จัดทำ� เอกสารมา ณ โอกาส น้ี สถาบนั สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สารบัญ หนา้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ๑ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตว ์ ๒ เรอื่ ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของสตั ว์ ๒ เร่ือง การสญู พันธุห์ รือดำ� รงพันธ์ขุ องส่งิ มีชวี ติ ๑๒ หน่วยย่อยท่ี ๒ ลกั ษณะทางพันธุกรรมของเรา ๑๙ เร่อื ง ลกั ษณะทางพันธุกรรมของเรา ๑๙ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ ส่งิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาต ิ ๒๗ หน่วยย่อยที่ ๑ สงิ่ แวดลอ้ ม เรือ่ ง สง่ิ แวดลอ้ มของฉนั ๒๘ เรอ่ื ง ความสมั พนั ธข์ องสิง่ มีชีวิตและส่ิงแวดล้อม ๒๘ ๓๘ หนว่ ยย่อยที่ ๒ ทรพั ยากรธรรมชาติ เรอ่ื ง ทรัพยากรธรรมชาตขิ องเรา ๔๗ เรื่อง การใชท้ รพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งย่ังยนื ๔๗ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ วัตถแุ ละวสั ดุ ๕๘ หนว่ ยย่อยท่ี ๑ สมบัตขิ องวัสดแุ ละการเปล่ียนแปลงของวัสด ุ ๖๕ เรอื่ ง สมบตั ขิ องวสั ดุและการใชป้ ระโยชน์ ๖๖ เร่อื ง แรง ความรอ้ นกับการเปล่ียนแปลงของวัสดุ ๖๖ ๗๖ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๔ แรง ๘๓ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ ผลของการออกแรง ๘๔ เรื่อง ผลของการออกแรง ๘๔ หน่วยย่อยที่ ๒ แรงโน้มถ่วงของโลก ๙๐ เรอ่ื ง แรงโน้มถว่ งของโลก ๙๐ เรื่อง การหานำ�้ หนักของวัตถุ ๑๐๒ แบบทดสอบ ๑๐๘ บรรณานกุ รม ๑๑๕ คณะผ้จู ัดทำ� ๑๑๖
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ ลกั ษณะทางพันธุกรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ 1
ใบงาน บ.๑.๑ / ผ. ๑.๑ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสัตว์ เรอ่ื ง ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตว์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ 2
ชือ่ -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ.บ๑. ๑๒/.๑ผ./ ๑ผ..๑ ๑ - -๐ ๐๑๑ วนั ที ่ พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๑ รไู้ หมว่า..พ่อแม่ฉนั อยูไ่ หน จุดประสงค์ สงั เกตและอธิบายลักษณะท่คี ล้ายคลงึ กนั ของพอ่ แมแ่ ละลูกสตั ว์ วัสดุ-อปุ กรณ์ รูปครอบครวั สัตว์ชนิดตา่ ง ๆ วิธที �ำ ๑. สังเกตรูปลกู สตั ว์ในใบงาน ๐๑ แลว้ เลอื กพอ่ หรอื แมส่ ัตวใ์ หถ้ กู ตอ้ ง ๒. ตดิ รปู ครอบครวั สตั ว์ ๑ ครอบครวั พรอ้ มเขยี นบรรยายลกั ษณะทคี่ ลา้ ยคลงึ กนั ของสมาชิกในครอบครัว ๓. ร่วมกนั อภปิ รายลกั ษณะทางพันธกุ รรมของสัตว์ 3
ช่อื -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ. บ๑.๑ ๒/.๑ผ./๑ผ.๑. ๑ - -๐ ๑๐๑ วันท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : ครอบครวั สตั ว์ บันทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม จบั คโู่ ยงเส้นลูกสตั วก์ บั พ่อแมส่ ตั ว์ใหถ้ ูกตอ้ ง ๑. ก. ๒. ข. ๓. ค. ๔. ง. 4
ชื่อ-สกุล เดอื น ชัน้ เลขที่ บบ..๑ ๒.๑.๑/ /ผ.ผ๑. ๑.๑ - - ๐๑ วันที ่ พ.ศ. รูปครอบครวั สตั ว์ ค�ำบรรยาย 5
ช่ือ-สกลุ เดือน ชนั้ เลขที่ บบ. .๑ ๒.๑.๑/ ผ/ .ผ๑. .๑ - ๐๑ วันที่ พ.ศ. ค�ำถามหลงั จากทำ� กจิ กรรม ๑. สงิ่ มีชีวติ ชนดิ เดยี วกนั มลี กั ษณะคล้ายกันหรอื แตกตา่ งกัน ๒. สิ่งมชี วี ิตต่างชนดิ กันมีลกั ษณะคล้ายกนั หรอื แตกต่างกัน ๓. จากรปู ครอบครวั สตั ว์ ลกู สตั วม์ ลี กั ษณะอะไรบา้ งทค่ี ลา้ ยกบั พอ่ แม่ ๔. ลกั ษณะของลกู สตั วม์ คี วามคลา้ ยคลงึ กบั ลกั ษณะของพอ่ แม่ เพราะเหตุใด 6
ชื่อ-สกุล เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ.บ๑. .๒๑.๑/ ผ/.ผ๑. ๑ -- ๐ ๐๑๑ วนั ท ่ี พ.ศ. กับพ่อและแม่ ๕. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ได้วา่ อยา่ งไร ลูกสัตว์แต่ละชนิดจะมลี กั ษณะ ลกั ษณะภายนอกที่ถา่ ยทอดจากพอ่ แม่สลู่ กู เรียกวา่ ลกั ษณะทค่ี ลา้ ยกบั พอ่ และแมน่ ไ้ี ดร้ บั การถา่ ยทอดจากพอ่ แมส่ ลู่ กู เรยี กลกั ษณะ น้วี ่า 77
ชอ่ื -สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ.บ๑.. ๒๑./๑ผ/. ๑ผ.๑ ๑ - - ๐ ๐๒๑ วันที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แขบอบงสฝัตกึ วห์ ัดเร่ือง ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ๑. กากบาททับค�ำตอบท่เี ลอื กและเขยี นเหตผุ ล ๑.๑ พอ่ หรือแมข่ องสัตวใ์ นรูปขา้ งบนคือข้อใด เพราะเหตุใด ก. ข. ค. ง. เพราะ ๑.๒ พ่อหรือแมข่ องสตั วใ์ นรปู ขา้ งบนคือขอ้ ใด เพราะเหตุใด ก. ข. ค. ง. เพราะ 8
ช่อื -สกลุ เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. บ๑.๑ ๒/.๑ผ./๑ผ.๑. ๑ - -๐ ๒๐๑ วันท ี่ พ.ศ. ๑.๓. พ่อหรอื แมข่ องสตั ว์ในรูปข้างบนคอื ขอ้ ใด เพราะเหตใุ ด ก. ข. ค. ง. เพราะ ๑.๔ พ่อหรือแม่ของสัตว์ในรปู ข้างบนคอื ขอ้ ใด เพราะเหตุใด ก. ข. ค. ง. เพราะ 9
ชอ่ื -สกลุ ชนั้ เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒ วันท่ี เดือน พ.ศ. ๒. เลอื กพอ่ และแม่ของกระต่ายให้ถกู ตอ้ ง ก. ข. ค. ง. จ. ฉ. ช. ซ. ฌ. ญ. พ่อกระตา่ ย คอื แมก่ ระตา่ ย คอื เหตผุ ลท่ีเลือกพ่อแม่คูน่ ี้คือ 10
ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. บ๑. ๑๒/.๑ผ./๑ผ.๑. ๑ - -๐ ๒๐๑ วนั ที ่ พ.ศ. ลักษณะใดบ้างของลูกกระต่าย จัดเป็นลักษณะทางพันธุกรรม 1111
ใบงาน บ.๑.๑ / ผ. ๑.๒ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของสตั ว์ เร่อื ง การสูญพันธ์ุหรือด�ำรงพันธขุ์ องส่งิ มีชวี ติ ชชั้นน้ั ปปรระะถถมมศศึกกึ ษษาาปปีทีที่ ่ี๓๓ 12
ชอื่ -สกลุ เดอื น ช้ัน เลขท่ี บ.บ๑. .๒๑./๑ผ/. ผ๑. ๒๑ -- ๐ ๐๑๑ วันท่ ี พ.ศ. กจิ กรรมที่ ๑ สง่ิ มีชีวติ สญู พนั ธุ์หรือดำ� รงพนั ธ์ุเพราะอะไร จุดประสงค์ ๑. สืบค้นข้อมลู และอภปิ รายเกี่ยวกบั การสญู พนั ธุ์ของสงิ่ มชี ีวติ บางชนิด กับการปรับตัวของสง่ิ มีชวี ติ ๒. บรรยายการปรบั ตวั ของสิ่งมีชีวติ บางชนิดท่ดี ำ� รงพันธอุ์ ยูจ่ นถึงปจั จุบนั วสั ด-ุ อปุ กรณ์ - วิธีทำ� ๑. สบื คน้ ข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตขุ องการสญู พันธข์ุ องส่ิงมชี วี ติ ๑ ชนิด บันทึกผล ๒. รว่ มกนั อภปิ รายความสมั พนั ธข์ องสาเหตกุ ารสญู พนั ธก์ุ บั การปรบั ตวั ของสง่ิ มชี วี ติ ทเ่ี ลอื กสบื คน้ ขอ้ มลู บนั ทกึ ผล ๓. สบื คน้ ข้อมูลการปรับตัวของสง่ิ มชี ีวติ ๑ ชนดิ ทีย่ งั มีอยู่ในปจั จบุ ัน และเขยี นบรรยายการปรบั ตวั ของสิ่งมีชวี ิต 13
ชอ่ื -สกุล เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ.บ๑.. ๑๒./๑ผ/. ๑ผ.๒ ๑ - - ๐ ๐๑๑ วันท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : สูญพนั ธหุ์ รอื ดำ� รงพนั ธุ์ บันทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม สงิ่ มีชีวิตท่ีสญู พนั ธแ์ุ ล้ว คอื สาเหตกุ ารสูญพนั ธุ์ ไดแ้ ก่ ความสัมพันธ์ของการสูญพันธกุ์ บั การปรับตัว คือ 14
ชอ่ื -สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. บ๑. ๑๒/.๑ผ./ ๑ผ..๒ ๑ - -๐ ๐๑๑ วนั ท ่ี พ.ศ. สงิ่ มีชวี ติ ท่มี ีการปรับตัว คอื การปรับตัวของส่งิ มชี วี ิต ไดแ้ ก่ ค�ำถามหลงั จากทำ� กจิ กรรม ๑. สิ่งมีชวี ิตที่สญู พันธ์ุไปแล้วเก่ียวข้องกบั การปรบั ตวั อย่างไร ๒. สง่ิ มีชวี ิตทย่ี ังมีชวี ิตอย่เู ก่ยี วข้องกับการปรับตัวอยา่ งไร 15
ช่ือ-สกลุ เดือน ชน้ั เลขที่ บบ. ๑. ๒.๑.๑/ ผ/.ผ๑. .๑๒ - ๐๑ วนั ท ่ี พ.ศ. ๓. จากกจิ กรรมน้ี สรุปไดว้ า่ อย่างไร 16
ชอ่ื -สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ.บ๑. .๒๑.๑/ ผ/.ผ๑.. ๒๑ - ๐๐๒๑ วนั ที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หัด เรอื่ งการสูญพันธ์หุ รือดำ� รงพนั ธุ์ ของส่งิ มีชวี ติ อา่ นสถานกาณ์ต่อไปน้ี แล้วตอบค�ำถามให้ถูกตอ้ ง ในปา่ ทางภาคใต้ของไทย มนี กชนิดหน่งึ ที่มสี วยงามเปน็ ๑ ใน ๓๐ ชนิด ของโลก ชอื่ วา่ นกแตว้ แลว้ ทอ้ งดำ� ซงึ่ จะทำ� รงั อยทู่ ตี่ น้ ระกำ� หรอื หวายทมี่ หี นามแหลม ใกล้ ๆ ลำ� ธารในป่า เพ่อื เป็นท่ีอยู่อาศัย เลยี้ งดูลูก และใช้หลบภัยศัตรู กินไส้เดือน หนอน กบ แมลง เปน็ อาหาร ดมื่ นำ�้ ทล่ี ำ� ธาร และใชอ้ ากาศในการหายใจ จะเห็นว่าส่ิงมีชีวิตหนึ่งจะอยู่ตามล�ำพังไม่ได้ ต้องมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ชีวิต นกแตว้ แล้วท้องด�ำ อยรู่ อดได้ ปัจจบุ ันนกแต้วแลว้ ท้องดำ� จดั เปน็ สัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าหายากใกล้จะสญู พนั ธเ์ุ พราะเหลอื จำ� นวนนอ้ ยมาก เนอ่ื งจากพนื้ ปา่ ซงึ่ เปน็ ทอี่ ยอู่ าศยั เปลยี่ นเปน็ พนื้ ทเี่ พาะปลกู โดยมนษุ ย์ เมอ่ื แหลง่ ทอี่ ยถู่ กู ทำ� ลาย นกแตว้ แลว้ ทอ้ งดำ� ทไี่ มส่ ามารถปรบั ตวั หรอื ปรบั รปู รา่ ง หรอื พฤตกิ รรมใหอ้ ยรู่ อดได้ ในพ้ืนที่เพาะปลูกน้ี อาจอพยพหรือตายไป ท�ำให้เป็นสัตว์อีกชนิดหน่ึงท่ีใกล้ จะสญู พนั ธไุ์ ปจากประเทศไทย 17
ชอ่ื -สกุล เดอื น ช้นั เลขท่ี บบ. .๑ ๒.๑.๑/ ผ/ .ผ๑. .๑๒ - - ๐๑๒ วันท ี่ พ.ศ. ๑. สาเหตุใดทที่ ำ� ใหน้ กแตว้ แล้วทอ้ งดำ� ใกลจ้ ะสูญพนั ธุ์ ๒. เมอื่ สิง่ แวดล้อมเปล่ยี นแปลงมีผลตอ่ นกแต้วแล้วทอ้ งด�ำอย่างไร ๓. เรามีส่วนช่วยกนั อนรุ ักษส์ ่งิ มชี วี ติ อยา่ งไร 18
ใบงาน บ.๑.๒ / ผ. ๒ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒ ลักษณะทางพันธกุ รรมของเรา เรอ่ื ง ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของเรา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ 19
ช่อื -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ.บ๑. ๒.๒.๑/ ผ/.ผ๒. -๑ ๐ -๑ ๐๑ วันที่ พ.ศ. กจิ กรรมท่ี ๑ มนษุ ย์เราจะมีหนา้ ตาคล้ายใคร จุดประสงค์ ๑. สงั เกต เปรยี บเทยี บ และระบลุ กั ษณะทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยกนั ของพอ่ แมก่ บั ลกู ๒. สืบคน้ ข่าวในชีวติ ประจ�ำวันทเ่ี กี่ยวกบั การนำ� ความรเู้ รอ่ื งลักษณะ ทางพันธกุ รรมไปใชป้ ระโยชน์ วสั ดุ – อุปกรณ์ - วธิ ที �ำ ๑. สงั เกตรปู ครอบครวั ในใบงาน ๐๑ และเลอื กลกั ษณะทเ่ี หมอื นหรอื คลา้ ยกนั ของพอ่ กบั ลูก บนั ทกึ ผล ๒. สงั เกตลักษณะของสว่ นตา่ ง ๆ ของตวั เราว่ามีลกั ษณะใดบ้างทเ่ี หมอื น หรือคลา้ ยกบั พ่อหรอื แม่ หรือทั้งพ่อทัง้ แม่ ๕ ลกั ษณะ บนั ทึกผลในตาราง ๓. ร่วมกันอภิปรายและนำ� เสนอผลการสังเกต ๔. รว่ มกนั สืบคน้ ข่าวท่เี ก่ยี วกบั การน�ำความรเู้ รอ่ื งลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ไปใช้ประโยชน์ และนำ� เสนอ 20
ชื่อ-สกลุ เดอื น ชน้ั เลขที่ บบ.. ๑๒.๒.๑//ผผ. .๒ ๑ - - ๐ ๐๑๑ วนั ท่ ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : ลักษณะทางพนั ธกุ รรม บันทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม ๑. เลือกข้อความที่แสดงลกั ษณะทเ่ี หมอื นหรือคล้ายกันของพอ่ กบั ลกู แล้วเขียนขอ้ ความทีเ่ ลือกลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง ผมสดี ำ� ผมสนี ำ้� ตาล หนงั ตาชน้ั เดยี ว หนงั ตาสองชน้ั มลี กั ยมิ้ ไมม่ ลี กั ยม้ิ เสน้ ผมหยกั ศก เสน้ ผมเหยยี ดตรง รปู หนา้ รี รปู หนา้ เหลย่ี ม คนที่ ๑ คนที่ ๒ พอ่ กับลกู คนที่ ๑ พอ่ กับลูกคนที่ ๒ สผี ม 21 หนังตา ลกั ยิม้ เส้นผม รูปใบหนา้
ช่อื -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ.. ๑๒..๒๑//ผผ. .๒ ๑ - - ๐ ๐๑๑ วนั ท่ ี พ.ศ. ๒. ขดี √ ลงในชอ่ งลกั ษณะของพอ่ แม่ ทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยกบั ฉนั ตาราง ลักษณะของสว่ นต่าง ๆ ของฉนั ที่เหมอื นหรือคลา้ ยกบั พอ่ หรอื แม่ ลกั ษณะของส่วนตา่ ง ๆ ของฉัน ลักษณะของส่วนตา่ ง ๆ ของพ่อ ท่ีเหมือนหรือคลา้ ยกับพอ่ หรือแม่ หรือแมท่ ีเ่ หมอื นหรือคล้ายกบั ฉัน ๑. พ่อ แม่ ๒. ๓. ๔. ๕. 22
ชื่อ-สกลุ เดือน ชนั้ เลขท่ี บบ. .๑ ๒.๒.๑/ /ผ.ผ๒. ๑ - -๐ ๑๐๑ วันท่ ี พ.ศ. ฉนั มลี กั ษณะสว่ นใหญท่ เี่ หมอื นหรอื คลา้ ยกบั ลักษณะทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยกบั พอ่ ไดแ้ ก่ ลักษณะท่เี หมอื นหรอื คลา้ ยกบั แม่ ได้แก่ ลกั ษณะทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ยทง้ั พอ่ และแม่ ไดแ้ ก่ 23
ช่อื -สกลุ เดือน ชนั้ เลขท่ี บ.. ๑๒..๒๑//ผผ. .๒ ๑ - - ๐ ๐๑๑ วนั ท่ ี พ.ศ. คำ� ถามหลังจากท�ำกิจกรรม ๑. นกั เรยี นมลี กั ษณะของสว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายอะไรบา้ งทเี่ หมอื นหรอื คลา้ ย กบั พอ่ แม่ ๒. ลกั ษณะของส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายทเี่ หมือนหรือคลา้ ยกับพ่อแม่ เรยี กว่าอะไร ๓. มนษุ ยน์ �ำความรเู้ รื่องลกั ษณะทางพันธกุ รรมไปใช้ประโยชนอ์ ะไรบา้ ง ยกตัวอยา่ ง ๔. จากกิจกรรมนี้ สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร 2244
ช่อื -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บบ. ๑. ๒.๒.๑/ ผ/ .ผ๒. ๑- ๐-๒ ๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หดั เรือ่ งลักษณะทางพันธกุ รรม ตอบคำ� ถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ กู ตอ้ ง ๑. พจิ ารณาลกั ษณะของลกู จากข้อความต่อไปน้ี ๑.๑ ชอบอาหารรสเปร้ยี วเหมือนพ่อ ๑.๒ มีนว้ิ เท้ายาวเหมอื นพอ่ ๑.๓ มแี ผลท่คี ิว้ เหมือนแม ่ ๑.๔ มีลกั ยิ้มเหมอื นแม่ ลกั ษณะของลกู ในขอ้ ใดบา้ งทไ่ี มไ่ ดร้ บั การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม จากพอ่ หรอื แม่ เหตุใดจึงคิดเช่นน้ัน ขอ้ ทเ่ี ลอื ก เพราะ ๒. ลกั ษณะทางพันธุกรรมคืออะไร 25
ชือ่ -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บบ. .๑ ๒.๒.๑/ ผ/ .ผ๒. ๑ - ๐- ๒๐๑ วันท่ี พ.ศ. ๓. ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษยไ์ ดแ้ ก่อะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ ง 26
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๒ สิง่ แวดลอ้ มและ ทรพั ยากรธรรมชาติ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ 27
ใบงาน บ.๒.๑ / ผ. ๑.๑ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ ส่งิ แวดลอ้ ม เร่อื ง สง่ิ แวดล้อมของฉนั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ 28
ช่อื -สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท ่ี พ.ศ. กจิ กรรมท่ี ๑ สง่ิ รอบตวั มอี ะไรบ้าง จุดประสงค์ สังเกต ระบคุ วามหมายของสิง่ แวดลอ้ มและจ�ำแนกประเภทของสิ่งแวดลอ้ ม วสั ดุ-อุปกรณ์ - วิธีทำ� ๑. สำ� รวจสิ่งตา่ งๆ รอบตวั บนั ทึกส่งิ ท่ีสังเกตได้ ๒. จ�ำแนกสิ่งทส่ี งั เกตได้ออกเปน็ สงิ่ มชี ีวติ กบั สง่ิ ไมม่ ชี วี ิต บนั ทกึ ผล ๓. จำ� แนกส่ิงไม่มีชวี ิตออกเปน็ • ส่ิงที่เกิดขนึ้ เองตามธรรมชาติ • ส่งิ ทม่ี นุษย์สร้างขึน้ บนั ทึกผล ๔. อ่านเรอ่ื งปญั หาขยะใต้ทะเล แล้วระบุประเภท ของส่ิงแวดลอ้ ม บนั ทกึ ผล 29
ช่อื -สกุล เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. บ๒.. ๑๒./๑ผ/. ผ๑. .๑ - ๐๐๑๑ วนั ท ่ี พ.ศ. ปญั หาขยะใตท้ ะเล เตา่ ตนเุ ปน็ สตั วท์ ะเลทหี่ ายาก เตา่ ตนทุ พี่ กิ าร บาดเจ็บและมคี วามผดิ ปกตเิ นอ่ื งจากขยะใตท้ ะเล จะถูกนำ� มารกั ษาในบ่อพักฟื้นของศูนย์อนุรักษ์ ทรพั ยากรทางทะเลและชายฝั่งท่ี ๕ จังหวัดภูเก็ต โดยแตล่ ะปจี ะมเี ตา่ ทะเลเกยตน้ื จากสาเหตดุ งั กลา่ ว เต่าตนุ ปลี ะกวา่ ๕๐ ตวั ซง่ึ ไมร่ วมสตั วท์ ะเลหายากชนดิ อน่ื ๆ รปู ของกองขยะใตท้ ะเล บรเิ วณหาดกะรนจงั หวดั ภเู กต็ สะทอ้ นใหเ้ หน็ ภาพชดั เจน ของปญั หาขยะทะเลทรี่ นุ แรงมากขน้ึ ขอ้ มลู จากกรมทรพั ยากรทางทะเลชายฝง่ั ระบไุ วด้ งั น้ี ขยะที่จมอยู่ใต้ทะเลเป็นเหมือนปัญหาที่ถูกแอบซ่อนไว้เมื่อกระแสน้�ำยังน่ิง ขยะที่จมอยู่ก็จะยังไม่ถูกน�้ำพัดข้ึนฝั่งมาสร้างความขายหน้าให้กับการท่องเท่ียว แ ล ะ ป ั ญ ห า นี้ ก� ำ ลั ง มี แ น ว โ น ้ ม รุ น แ ร ง มากขน้ึ หากเมอื งทอ่ งเที่ยวยังมงุ่ หวงั ผลก�ำไร จากธุรกิจมากกว่าการรักษาทรัพยากรท่ีมีอยู่ ทมี่ า : ปรบั ปรงุ ขอ้ มลู จากขา่ วพพี ที วี ี ประจำ� วนั ท่ี ๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ 30
ชอ่ื -สกุล เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : สงิ่ รอบตวั บันทึกผลการทำ� กิจกรรม ผลการส�ำรวจ สิ่งทพี่ บ “ในหอ้ งเรียนของเรา” ไดแ้ ก่ สง่ิ ท่พี บ “นอกหอ้ งเรยี นของเรา” ไดแ้ ก่ 31
ช่อื -สกุล เดือน ชัน้ เลขที่ บ.บ๒.. ๒๑./๑ผ/.ผ๑. .๑ - ๐๑ วันท่ี พ.ศ. จำ� แนกสง่ิ ตา่ ง ๆ ทพี่ บท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี นไดด้ งั นี้ ในห้องเรยี น สิง่ มีชวี ติ ส่ิงไมม่ ีชวี ิต เกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาติ มนุษยส์ ร้างขึ้น 32
ชื่อ-สกุล เดือน ช้ัน เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท ่ี พ.ศ. นอกห้องเรยี น สงิ่ มีชวี ิต สิง่ ไมม่ ชี วี ิต เกดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติ มนษุ ยส์ ร้างขึ้น 33
ช่อื -สกุล เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ. ๒บ. ๑๒./๑ผ/. ผ๑.. ๑- ๐ ๐๑๑ วันท่ ี พ.ศ. จากการอ่านเรอ่ื งปญั หาขยะใต้ทะเล สง่ิ มชี วี ติ ไดแ้ ก่ สิ่งไมม่ ชี วี ิต ได้แก่ สิ่งทเ่ี กดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติ ได้แก่ ส่งิ ทีเ่ กิดขนึ้ โดยมนุษยส์ ร้างข้นึ ได้แก่ 3344
ชือ่ -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑ วันท ี่ พ.ศ. ค�ำถามหลังจากทำ� กิจกรรม ๑. สง่ิ แวดล้อมหมายถึงอะไร ๒. ส่งิ แวดล้อมท่ีเปน็ สงิ่ ท่เี กิดข้นึ ตามธรรมชาติ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ๓. สิง่ แวดล้อมทเี่ ปน็ สิ่งทมี่ นษุ ย์สรา้ งขึ้น ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง ๔. จากกจิ กรรมนี้ สรปุ ได้วา่ อย่างไร 35
ชอื่ -สกลุ เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๒บ. ๑๒./๑ผ/. ผ๑.. ๑- ๐ ๐๒๑ วันที ่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหดั เรอื่ งสงิ่ แวดลอ้ มรอบตัว สังเกตรูปต่อไปน้ี แล้วขีด √ ลงใน หน้ารูปที่เป็นส่ิงที่เกิดข้ึนเอง ตามธรรมชาติ และขีด X ลงใน หน้ารูปท่ีเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น พรอ้ มทง้ั ระบปุ ระโยชนข์ องสง่ิ ทอี่ ยใู่ นรปู ทมี่ ปี ระโยชนต์ อ่ สงิ่ มชี วี ติ ประโยชนต์ อ่ สงิ่ มชี วี ติ ๑. ๒. ๓. ๔. 36
ช่อื -สกุล เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒ วันที่ พ.ศ. ประโยชนต์ อ่ สงิ่ มชี วี ติ ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. 37
ใบงาน บ.๒.๑ / ผ. ๑.๒ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ ส่งิ แวดล้อม เรื่อง ความสัมพันธข์ องส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๓ 38
ชอ่ื -สกลุ เดือน ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วันท่ี พ.ศ. กิจกรรมท่ี ๑ ส่งิ มีชีวติ สัมพนั ธ์กับส่ิงแวดล้อมอย่างไร จุดประสงค์ สงั เกตและระบคุ วามสมั พันธ์ระหว่างสง่ิ มชี ีวติ กับส่งิ แวดล้อม วสั ด-ุ อปุ กรณ์ –– วธิ ีทำ� ๑. สงั เกตรูปในใบงาน ๐๑ และระบคุ วามสมั พนั ธข์ องสิ่งมีชีวติ กบั สิง่ แวดลอ้ ม บันทึกผล ๒. เลอื กส�ำรวจบริเวณท่สี นใจ ระบชุ นิดของสง่ิ มีชวี ติ ทพ่ี บ และความสัมพนั ธ์ ระหวา่ งสิ่งมชี ีวติ กบั สิ่งแวดล้อม บนั ทกึ ผล ๓. อา่ นชีวติ ของปลาการ์ตูน ร่วมกันอภปิ รายความสมั พนั ธข์ องปลาการต์ นู กบั สงิ่ แวดลอ้ ม บนั ทึกผล 39
ชื่อ-สกลุ เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒บ. ๑๒./๑ผ/. ผ๑.. ๒๑ -๐ ๐๑๑ วันที ่ พ.ศ. ชวี ติ ของปลาการ์ตนู ปลาการ์ตูนเป็นปลาที่มีสีสัน สวยงาม โดยทั่วไปประกอบด้วย สสี ้ม แดง ดำ� และเหลือง อาศัยอยู่ ทะเล หรือมหาสมุทร มีเขตท่ีอยู่ ของตนเอง ปลาการ์ตูนจะอยู่ รวมกันหลาย ๆ ตัว อาศัยอยู่เป็น ครอบครวั ตามกอดอกไมท้ ะเล โดย ปลาการ์ตูนจะกินแพลงก์ตอนและ สัตว์น้�ำขนาดเล็กท่ีอยู่ตามดอกไม้ ทะเลเป็นอาหาร ปลายหนวดของ ดอกไม้ทะเลเต็มไปด้วยเข็มพิษจ�ำนวนมหาศาล แต่ไม่ท�ำอันตราย กับปลาการ์ตูน เพราะปลาการ์ตูนมีเมือกปกคลุมอยู่รอบตัว เมื่อมีศัตรู มารบกวน ปลาการต์ นู ยงั ใชด้ อกไมท้ ะเลเปน็ ทหี่ ลบศตั รู โดยรบี วา่ ยเขา้ ไป หลบซอ่ นอยใู่ นกอดอกไมท้ ะเล ปลาการต์ นู บางชนดิ มกี ารวางไขต่ ามโขดหนิ บางชนิดวางไขใ่ ต้กอของดอกไมท้ ะเล 40
ชอ่ื -สกุล เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ที่ พ.ศ. ใบงาน ๐๑ : ความสัมพันธ์ของส่ิงมีชีวิตและส่ิงแวดลอ้ ม บันทึกผลการท�ำกิจกรรม ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมชี วี ติ กบั สิ่งแวดลอ้ ม หนูแฮมสเตอร์มีความสัมพันธ์กับขี้เลื่อย ในด้าน หนแู ฮมสเตอรน์ อนในขีเ้ ลอ่ื ย เต่าทองมคี วามสัมพันธก์ บั ใบไม้ ในด้าน เต่าทองกินใบไม้ นกมคี วามสัมพันธ์กบั หิน ในด้าน นกมคี วามสมั พันธ์กบั แมลง ในดา้ น นกคาบแมลงมาเลยี้ งลกู ทอี่ ยบู่ นรงั บนหนิ 41
ชื่อ-สกลุ เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๒บ.๑ ๒/.๑ผ./ ๑ผ.๒ ๑- -๐ ๐๑๑ วนั ท ่ี พ.ศ. ผลการส�ำรวจบริเวณที่เลือก สงิ่ มชี วี ิตทพ่ี บ ไดแ้ ก่ ความสมั พันธ์ของสิ่งมชี วี ิตกบั สง่ิ มีชวี ิต ได้แก่ ความสัมพนั ธ์ของสิง่ มีชีวิตกบั ส่งิ ไมม่ ีชีวติ ไดแ้ ก่ 42
ชือ่ -สกุล เดือน ชั้น เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑ วนั ที ่ พ.ศ. ผลการอภปิ รายเรอื่ งชวี ติ ปลาการต์ นู ดอกไม้ทะเล ในดา้ น แพลงกต์ อนและสตั วน์ ำ้� ขนาดเลก็ ในดา้ น ปลาการต์ นู มคี วามสมั พนั ธก์ บั น�้ำ ในดา้ น โขดหนิ ในดา้ น 43
ชือ่ -สกุล เดือน ชัน้ เลขที่ บ.บ๒. ๑๒./๑ผ/. ผ๑.. ๑๒ - ๐๑ วันท ่ี พ.ศ. ค�ำถามหลังจากท�ำกจิ กรรม ขดี √ ใน หนา้ ขอ้ ความทเ่ี ลอื ก (ตอบไดม้ ากกวา่ ๑ คำ� ตอบและเขยี นคำ� ตอบเพม่ิ เตมิ ได)้ ๑. สิง่ มชี วี ติ มคี วามสัมพันธ์กบั สงิ่ มีชีวติ ดา้ นใดบ้าง เป็นทอ่ี ยอู่ าศยั เป็นทหี่ ลบภยั เปน็ แหลง่ อาหาร เป็นทเ่ี ลย้ี งดลู กู อ่ืนๆ อนื่ ๆ ๒ สิ่งมชี ีวิตมคี วามสมั พนั ธก์ บั สง่ิ ไม่มีชีวติ ด้านใดบา้ ง เปน็ ทอ่ี ย่อู าศยั เปน็ ที่หลบภัย เป็นแหล่งอาหาร เป็นท่เี ลยี้ งดูลูก อนื่ ๆ อน่ื ๆ ๓. จากกจิ กรรมน้ี สรปุ ได้ว่าอยา่ งไร 44
ชือ่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒ วันท ี่ พ.ศ. ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หัด เรื่องความสมั พนั ธข์ องสิ่งมีชีวิต กบั ส่งิ แวดลอ้ ม ตอบค�ำถามต่อไปนี้ให้ถกู ต้อง ๑. ไกม่ คี วามสมั พนั ธ์กับเล้าไกอ่ ย่างไร ไกม่ ีความสัมพนั ธ์กับขา้ วเปลือกอยา่ งไร ๒. ปูมีความสมั พันธก์ ับดินอย่างไร 45
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121