Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

P.1

Published by janvisitk022532, 2019-05-14 02:53:13

Description: P.1

Search

Read the Text Version

-1- แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่มิ เติม การปอ้ งกันการทจุ ริต” ระดบั ประถมศกึ ษาช้ันปีที่ 1 ชดุ หลักสูตรต้านทุจริตศกึ ษา (Anti - Corruption Education) สานกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ รว่ มกบั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2561

-2- ก คานา ยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะท่ี 3 (พ.ศ. 2560 – 2564) ได้กาหนดยุทธศาสตร์ที่ 1 สร้างสังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต อันมีกลยุทธ์ว่าด้วยเรื่องของการปรับฐานความคิดทุก ช่วงวัยตั้งแต่ปฐมวัยให้สามารถแยกระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ส่งเสริมให้มีระบบ และกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมเพื่อต้านทุจริต ประยุกต์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเครื่องมือ ต้านทุจริต เสริมพลังการมีส่วนร่วมของชุมชน (Community) และบูรณาการทุกภาคส่วนเพ่ือต่อต้านการทุจริต คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) จึงได้มีคาส่ังแต่งต้ัง คณะอนุกรรมการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และสื่อประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริต ข้ึน เพอ่ื ศกึ ษา วิเคราะห์ และรวบรวมข้อมูล กาหนดแนวทางและขอบเขตในการจัดทาหลักสูตร ยกร่างและจัดทา เนื้อหาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ พิจารณาให้ความเห็นเพิ่มเติม กาหนดแผนหรือ แนวทางการนาหลักสูตรไปใช้ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และดาเนินการอื่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมาย คณะอนุกรรมการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการ ทุจริตได้ร่วมกันสร้างหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา : Anti-Corruption Education ประกอบด้วย ๕ หลักสูตร ดังน้ี ๑. หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (รายวิชาเพ่ิมเติม การป้องกันการทุจริต) ๒. หลักสูตรอุดมศึกษา (วัยใส ใจสะอาด “Youngster with good heart”) ๓. หลักสูตรตามแนวทางรับราชการ กลุ่มทหารและ ตารวจ ๔. หลักสูตรสร้างวิทยากรผู้นาการเปล่ียนแปลงสู่สังคมท่ีไม่ทนต่อการทุจริต และ ๕. หลักสูตรโค้ชเพ่ือ การรู้คิดต้านทุจริต หลักสูตรดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการนาไปทดลองใช้ เพ่ือปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ สาหรับการใช้ในกลุ่มเป้าหมายต่อไป นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการจัดทาหลักสูตรหรือชุดการเรียนรู้และส่ือ ประกอบการเรียนรู้ ด้านการป้องกันการทุจริตยังได้คัดเลือกส่ือการเรียนรู้ จากแหล่งต่าง ท้ังในประเทศและ ต่างประเทศ เพ่ือประกอบการเรยี นการสอนต่อไป สานักงาน ป.ป.ช. หวังเป็นอย่างย่ิงว่าหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา : Anti-Corruption Education จะ สร้างความรู้ความเข้าใจและทักษะให้แก่ผู้เรียนหรือผู้ผ่านการอบรมในเรื่อง การคิดแยกแยะระหว่าง ผลประโยชนส์ ่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ความอายและความไม่ทนต่อการทุจริต STRONG : จิตพอเพียง ต้านทุจรติ และพลเมอื งกับความรับผิดชอบต่อสงั คม เพื่อร่วมกนั ป้องกันหรือต่อต้านการทุจริต มิให้มีการทุจริต เกดิ ขน้ึ ในสงั คมไทย รว่ มสรา้ งสังคมไทยทไี่ ม่ทนตอ่ การทจุ ริตต่อไป พลตารวจเอก (วชั รพล ประสารราชกิจ) ประธานกรรมการ ป.ป.ช. 14 มีนาคม ๒๕๖๑

-3- สารบญั หนา้ โครงสรา้ งรายวชิ า 1 หน่วยที่ 1 การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม 2 หนว่ ยท่ี 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 73 หนว่ ยท่ี 3 STRONG / จติ พอเพยี งต่อตา้ นการทจุ ริต 118 หนว่ ยท่ี 4 พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สังคม 155 ภาคผนวก 216 คาสั่งแต่งตัง้ คณะอนกุ รรมการจดั ทาหลักสตู รหรือชุดการเรียนรู้และ 217 สอ่ื ประกอบการเรยี นรู้ ดา้ นการป้องกนั การทุจริต สานกั งาน ป.ป.ช. รายช่อื คณะทางานจัดทาหลกั สูตรหรอื ชุดการเรียนรแู้ ละส่ือประกอบการเรียนรู้ 220 ดา้ นการป้องกันการทุจริต กลุ่มการศึกษาขนั้ พื้นฐาน รายช่ือคณะบรรณาธกิ ารกจิ หลักสตู รหรอื ชุดการเรยี นรูแ้ ละส่อื ประกอบการเรียนรู้ 223 ดา้ นการปอ้ งกนั การทุจรติ กลุ่มการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน รายช่อื คณะผปู้ ระสานงานการจัดทาหลักสตู รหรอื ชดุ การเรียนรแู้ ละส่ือประกอบการเรยี นรู้ 225 ดา้ นการปอ้ งกนั การทจุ ริต กลุ่มการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน สานักงาน ป.ป.ช.

-4- โครงสรา้ งรายวชิ า ระดับประถมศึกษาช้ันปีที่ 1 ลาดบั หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง รวมช่ัวโมง 1. การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์ 16 - การคิดแยกแยะ 10 สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม - ระบบคิดฐาน 2 4 - ระบบคดิ ฐาน 10 10 2. ความละอายและความไมท่ นต่อการ - การทาการบา้ น ทจุ รติ - การทาเวร 40 - การสอบ 3. STRONG / จติ พอเพียงต่อตา้ นการ - กิจกรรมนักเรียน ทุจรติ - ความพอเพียง - ความโปร่งใส 4. พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม - ต้านทุจรติ - ความเอ้ืออาทร - ความหมายบทบาทและสิทธิ - การเคารพสทิ ธิหน้าที่ต่อตนเองและผู้อนื่ - ระเบียบ กฎ กติกา กฎหมาย - ความรบั ผิดชอบ (ต่อตนเองกบั ต่อผู้อ่ืน) - ความเป็นพลเมือง รวม

-2- หนว่ ยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตน และผลประโยชน์สว่ นรวม

-3- แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยท่ี 1 ช่อื หนว่ ย การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การคิดแยกแยะ (ของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวม) เวลา ๒ ช่ัวโมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามร้คู วามเข้าใจเก่ียวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม 1.2 สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของของใช้ส่วนตนได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของของใช้สว่ นรวมได้ ๒.๓ นักเรียนสามารถแยกแยะของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ่วนรวมได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การคิดแยกแยะของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวม ซึ่งของใช้ส่วนตน หมายถึง ส่ิงของท่ีใช้เฉพาะ บุคคล เช่น ดินสอ แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดหน้า และของใช้ส่วนรวม หมายถึง ส่ิงของที่ใช้ร่วมกัน เช่น โต๊ะ เกา้ อี้ กระดานดา เปน็ ตน้ ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ความสามารถในการสื่อสาร ๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ ๑.๒ การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคิด ๒.๑ การแยกแยะของใช้ส่วนตนและของใชส้ ่วนรวม ๓.๓ คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ 1) มีความซ่ือสตั ย์ 2) อยอู่ ย่างพอเพยี ง ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี ๑ ๑) ครูนาเข้าสู่กิจกรรมโดยใช้คาถาม ดงั น้ี ๑.๑ นกั เรยี นรูจ้ ักของใช้สว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวมหรอื ไม่ ๑.๒ ของใชส้ ว่ นตนของนักเรียนมีอะไรบ้าง ๑.๓ อะไรทเ่ี ปน็ ของใชส้ ่วนรวมบา้ ง ๑.๔ ในหอ้ งเรียนของเรามีอะไรบา้ งทีเ่ ปน็ ของใช้สว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม 2) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ละ ๕-๖ คน ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และรวบรวมของใช้ส่วนตนและ ของใช้ส่วนรวมท่มี อี ยู่ภายในห้องเรยี นใหไ้ ด้มากที่สดุ 3) ครูและนกั เรยี นร่วมกนั แยกแยะของใชว้ า่ สง่ิ ใดเปน็ ของใช้ส่วนตนและสิ่งใดเป็นของใช้สว่ นรวม 4) ครูแจก ใบงานท่ี ๑ เร่ืองการจดั หมวดหมู่ภาพของใชส้ ่วนตนและของใชส้ ่วนรวม

-4- 5) ใหส้ มาชิกในกลุม่ ร่วมกันสรปุ ความหมายของของใช้สว่ นตนและของใชส้ ว่ นรวม ชวั่ โมงท่ี ๒ ๑) ให้ตัวแทนนักเรียนออกมานาเสนอผลงานการทาใบงานหน้าช้ันเรียน ครูและนักเรียนร่วมกัน สนทนา ๒) ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั กาหนดขอ้ ตกลงการใช้ของใชส้ ่วนตนและของใช้ส่วนรวมแล้วปฏิบัติตาม ข้อตกลง เช่น ๒.๑ ไมห่ ยบิ ของผู้อื่นก่อนได้รับอนญุ าต ๒.๒ ไมน่ าของส่วนรวมมาเป็นของส่วนตน ๓) ครูให้ความรู้เก่ียวกับของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมเพ่ือเป็นการเพ่ิมพูนความรู้อีกคร้ังหนึ่ง ๔.๒ สือ่ การเรียนรู้ ๑) สงิ่ ของทม่ี ใี นห้องเรียน เชน่ โตะ๊ เก้าอี้ กระดานดา ดินสอ แปรงสีฟัน ผา้ เชด็ หน้า ๒) ใบงานที่ ๑ เรอื่ ง การจดั หมวดหมภู่ าพของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธีการประเมนิ ๑) ตรวจผลงานการทาใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง การจดั หมวดหมู่ภาพของใชส้ ว่ นตนและของใชส้ ่วนรวม ๒) สงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๓) การประเมินการทางานกลุ่ม ๕.๒ เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ในการประเมนิ ๑) แบบใหค้ ะแนนการตรวจใบงาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๓) แบบประเมนิ การทางานกลมุ่ ๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ ๑) นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน ๒) นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดขี นั้ ไป ถือวา่ ผ่าน ๖. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. .................................................................... ......................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)

7. ภาคผนวก -5- ภาพของใชส้ ่วนตัวและของใชส้ ่วนรวม

-6- ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การจดั หมวดหมภู่ าพของใชส้ ่วนตนและของใชส้ ่วนรวม คาชี้แจง ให้นักเรียนแยกแยะและจัดหมวดหมู่ภาพของใช้ส่วนตนและของใช้ส่วนรวมโดยให้นักเรียนนาภาพ มาติด ลงในชอ่ งวา่ ง ของใชส้ ว่ นตน ของใชส้ ว่ นรวม เกณฑ์การประเมิน - นกั เรยี นได้คะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ถอื วา่ ผา่ น (ตอบถกู 8 ขอ้ ข้นึ ไป)

-7- แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เร่อื ง การแยกแยะของใช้ส่วนตนและของใชส้ ่วนรวม รายการประเมนิ รวม สรุปผล ท่ี ช่อื -สกลุ บอกของใช้ส่วนตน บอกของใชส้ ่วนรวม ๑๐ ผ่าน ไม่ผา่ น (5) (5) คะแนน ลงชอื่ .................................................. ผ้ตู รวจ (....................................................) เกณฑ์การประเมิน - นักเรียนไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน (ตอบถกู ๘ ข้อขึ้นไป)

-8- แบบสังเกตพฤติกรรมการทางาน ชื่อ-สกลุ ......................................................................ชน้ั ...................ภาคเรียนที่...........ปีการศึกษา................... คาชแี้ จง ใหก้ าเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องวา่ งที่ตรงกบั พฤติกรรมท่ีเกิดข้นึ จริง ระดับการปฏิบตั ิ (คะแนน) ท่ี ข้อตกลง ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ ๑ (๕ คะแนน) (๐ คะแนน) ๒ รวมคะแนน ลงช่ือ..................................................ผ้ตู รวจ (....................................................) เกณฑก์ ารประเมิน - ไดค้ ะแนน ๖-๑๐ คะแนน ถือวา่ ผ่าน - ได้คะแนน 0-5 คะแนน ถือวา่ ไมผ่ ่าน

-9- แบบประเมินการทางานกลุ่ม เรอ่ื ง ................................................................................. รายการประเมิน ที่ ชอื่ กล่มุ ความ การแสดง ความตงั้ ใจ การรับฟัง การรว่ ม รวม รว่ มมือ ความ (2) ผู้อ่ืน ปรับปรุง ๑๐ คะแนน คิดเหน็ (2) ผลงาน (2) (2) (2) ลงช่อื ..................................................ผู้ตรวจ (....................................................) เกณฑ์การประเมนิ - นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ถือว่า ผา่ น

- 10 - แบบประเมนิ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ชอื่ -นามสกุลผู้เรียน .......................................................................ชั้น .......................................... เลขท่ี ............. ใหค้ รูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงคด์ ้าน ๓ ๒๑๐ ๑. ซื่อสตั ย์ สจุ รติ ๑. ใหข้ ้อมลู ทถ่ี ูกต้องและเปน็ จรงิ ๒. ปฏบิ ัติในสิ่งท่ถี ูกต้อง ๒. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ๑. ใช้ทรพั ยส์ ินและสิง่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ๒. ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ๓. ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออม คะแนน สรปุ ผลคะแนน ลงชอื่ ..................................................ผ้ปู ระเมิน (....................................................) เกณฑ์การให้คะแนน ให้ ๓ คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ ๒ คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ชิ ดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ ๑ คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิบางคร้ัง ให้ ๐ คะแนน - พฤติกรรมท่ีไมป่ ฏบิ ัติ สรปุ เกณฑ์การประเมิน  ดีมาก ได้ ๑๔ – ๑๕ คะแนน  ดี ได้ ๙ – ๑๓ คะแนน  พอใช้ ได้ ๔ – ๘ คะแนน  ปรับปรงุ ได้ ๐ – ๓ คะแนน

- 11 - แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 1 ชอื่ หน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง การคิดแยกแยะ (สถานทีส่ ว่ นตนและสถานทส่ี ่วนรวม) เวลา ๒ ชัว่ โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกับการแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม 1.2 สามารถคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกความหมายของสถานท่ีสว่ นตนได้ ๒.๒ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของสถานท่สี ว่ นรวมได้ ๒.๓ นักเรียนสามารถแยกแยะสถานท่สี ่วนตนและสถานท่สี ว่ นรวมได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การคิดแยกแยะสถานท่ีส่วนตนและสถานที่ส่วนรวม ซึ่งสถานท่ีส่วนตน หมายถึง สถานท่ีที่ใช้ เฉพาะบุคคล เช่น บ้าน หอ้ งนอน และสถานทสี่ ่วนรวม หมายถงึ สถานที่ท่ีใช้ร่วมกัน เช่น สวนสาธารณะ ศาสนสถาน เปน็ ตน้ ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ 1) ความสามารถในการสื่อสาร ๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ ๑.๒ การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคดิ ๒.๑ การแยกแยะสถานทสี่ ว่ นตนและสว่ นที่สว่ นรวม ๒.๒ การสรปุ ความหมายของสถานท่สี ่วนตนและสถานที่สว่ นรวม ๓.๓ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ 1) มวี ินยั 2) มคี วามซ่ือสัตย์ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขัน้ ตอนการเรยี นรู้ ชว่ั โมงที่ ๑ 1) ครูเปิดเพลง “ชุมชนแสนสุข” ให้นักเรียนฟัง แล้วสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับเนื้อหาของเพลง เช่น ๑.๑ ชุมชนของนักเรียนเป็นอย่างไร ๑.๒ เราจะทาอย่างไรให้ชุมชนของเราน่าอยู่ 2) ครตู ง้ั คาถามเพือ่ ทบทวนความร้ขู องนักเรียนเกยี่ วกับส่งิ ท่ีเรยี นมาแลว้ ดงั น้ี ๒.๑ ของใช้สว่ นตนหมายถึงอะไร ได้แกอ่ ะไรบ้าง ๒.๒ ของใช้สว่ นรวมหมายถงึ อะไร ได้แก่อะไรบ้าง

- 12 - 3) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ละ ๕-๖ คน จากนั้นครูอธิบายความหมายของสถานท่ีส่วนตนและ สถานทส่ี ่วนรวม พรอ้ มยกตัวอยา่ งชอ่ื สถานท่ตี ่าง รอบตวั 4) ครูให้นักเรียนร่วมกันคิดแยกแยะสถานท่ีต่าง ว่าสถานท่ีใดเป็นสถานท่ีส่วนตนและสถานที่ใด เปน็ สถานท่สี ่วนรวม 5) ให้สมาชิกในกลุม่ รว่ มกนั สรุปความหมายของสถานท่สี ่วนตนและสถานท่ีส่วนรวม โดยการทาใบ กิจกรรมท่ี ๑ การแยกแยะสถานทส่ี ่วนตนและสถานทส่ี ว่ นรวม ซึ่งให้นกั เรียนทาเครื่องหมาย  ทับภาพท่ีเป็น สถานท่สี ว่ นตน และ  ลอ้ มรอบภาพทเี่ ปน็ สถานที่ส่วนรวม ชั่วโมงท่ี ๒ ๑) ครูนาภาพห้องนอน และสวนสาธารณะมาให้นักเรียนดู และร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับภาพ ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑.๑ ภาพทน่ี กั เรียนเหน็ คอื ภาพอะไร ๑.๒ ภาพใดเปน็ สถานทส่ี ่วนตน ๑.๓ ภาพใดเป็นสถานทีส่ ่วนรวม ๒) ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานการทาใบงานที่ ๑ หน้าช้ันเรียน และสนทนา รว่ มกนั ๓) นักเรียนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตนเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมโดยการดูแลรักษาสถานที่ ต่าง รอบตัว แล้วบันทึกการปฏบิ ัตติ นในแบบบนั ทึกการทาความดี ๔) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับสถานท่ีส่วนตนและสถานที่ส่วนรวม (สถานที่ ส่วนตน หมายถงึ สถานท่ีท่ีใชเ้ ฉพาะบุคคล เชน่ บา้ น ห้องนอน และสถานท่ีสว่ นรวม หมายถึง สถานท่ีท่ีใช้ รว่ มกัน เชน่ สวนสาธารณะ ศาสนสถาน) ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้ ๑) เพลง “ชมุ ชนแสนสุข” จาก https://www.youtube.com/watch?v=bQvlKMtuJO0 2) ภาพสถานทตี่ า่ ง เชน่ ภาพบา้ น ภาพโรงเรียน ภาพสวนสาธารณะ ภาพศาสนสถาน 3. ใบงานท่ี ๑ เร่ือง การแยกแยะสถานทีส่ ว่ นตนและสถานที่ส่วนรวม ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ๑) ตรวจผลงานการทาใบงานท่ี ๑ เรอื่ ง การแยกแยะสถานทสี่ ่วนตนและสถานที่ส่วนรวม ๒) การสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น ๓) การประเมนิ การทางานกลุ่ม ๕.๒ เครอื่ งมือทใี่ ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบตรวจผลงานใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน ๓) แบบประเมินการทางานกล่มุ ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมิน ๑) นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถือวา่ ผ่าน

- 13 - ๖. บนั ทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ................................................ครผู สู้ อน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 14 - เพลง “ชุมชนแสนสุข” ชุมชนของเรานา่ อยู่ หนๆู ช่วยดแู ลรักษา ทิ้งขยะลงถงั ให้งามตา มาเถดิ มาเราช่วยกนั ดแู ล แหล่งทมี่ า : https://www.youtube.com/watch?v=bQvlKMtuJO0

- 15 - ภาพสถานที่ต่างๆ แหลง่ ข้อมูลภาพ : https://i1.wp.com/www.central.co.th/e-shopping/wp-content/uploads/2016 /12/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0% B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8% 81.jpg?resize=750%2C500 แหล่งข้อมลู ภาพ : https://ds.lnwfile.com/_/ds/_raw/hx/mo/fn.jpg

- 16 - ใบงานท่ี ๑ เรอ่ื ง การแยกแยะสถานทส่ี ว่ นตนและสถานท่สี ว่ นรวม คาชี้แจง ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย  ทับภาพท่ีเป็นสถานที่ส่วนตน และ  ล้อมรอบภาพท่ีเป็นสถานที่ ส่วนรวม

- 17 - แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เรอื่ ง การแยกแยะสถานท่ีสว่ นตนและสถานทสี่ ว่ นรวม ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมนิ รวม สรุปผล ๑๐ ผ่าน ไมผ่ า่ น บอกสถานท่ี บอกสถานท่ี คะแนน ส่วนตน (5) ส่วนรวม (5) ลงชอ่ื ................................................ผู้ตรวจ (..................................................) เกณฑก์ ารประเมนิ - นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ถือว่า ผ่าน

- 18 - แบบบนั ทึกความดี ชอื่ ...................................................................ชนั้ ........................................เลขท่.ี .......... คาชี้แจง ให้นักเรยี นบันทึกข้อมูลเกีย่ วกบั การดูแลรักษาสถานทส่ี ว่ นตนและสถานท่สี ่วนรวม ความดขี อง หนู

- 19 - แบบประเมินการทางานกลุ่ม เรอ่ื ง การแยกแยะสถานท่ีส่วนตนและสถานที่สว่ นรวม รายการประเมนิ ความ การแสดง ความตง้ั ใจ การรับฟงั การร่วม รวม ท่ี ชือ่ กลุ่ม รว่ มมอื ความ (2) ผูอ้ น่ื ปรบั ปรุง ๑๐ (2) คดิ เหน็ (2) ผลงาน คะแนน (2) (2) ลงช่อื ..................................................ผ้ตู รวจ (......................................................) เกณฑ์การประเมิน - นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ถือว่า ผ่าน

- 20 - แบบประเมินลักษณะอันพึงประสงค์ ชอื่ -นามสกลุ ผ้เู รยี น .....................................................................ช้ัน .......................................... เลขที่ ............. ใหค้ รูสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ งที่ตรงกับระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น ๓ ๒๑๐ ๑. มีวินยั รับผิดชอบ ๑. ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครวั มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ ง ๒. ซอื่ สตั ย์ สจุ ริต ในชีวติ ประจาวัน ๑. ใหข้ อ้ มูลทถ่ี ูกต้อง และเป็นจริง ๒. ปฏบิ ตั ิในสง่ิ ท่ีถกู ต้อง คะแนน ลงชือ่ ..................................................ผู้ประเมิน (....................................................) เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ดั เจนและสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ตั บิ างครัง้ ให้ ๑ คะแนน - พฤตกิ รรมทไี่ มป่ ฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน สรุปเกณฑก์ ารประเมนิ  ดีมาก ได้ ๑๓ – ๑๕ คะแนน  ดี ได้ ๑๐ – ๑๒ คะแนน  พอใช้ ได้ ๘ – ๙ คะแนน  ปรบั ปรุง ได้ ๐ – ๗ คะแนน

- 21 - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยท่ี 1 ช่อื หน่วย การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ชน้ั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื งการคิดแยกแยะ ระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและส่วนรวม เวลา ๒ ชว่ั โมง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรคู้ วามเข้าใจเก่ยี วกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม 1.2 สามารถคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์สว่ นตนได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกความหมายของผลประโยชน์ส่วนรวมได้ ๒.๓ นักเรียนสามารถแยกแยะผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์สว่ นรวมได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ซึง่ ผลประโยชนส์ ว่ นตน หมายถึง การคานงึ ถึงตวั เอง ความตอ้ งการส่วนบุคคล และผลประโยชนส์ ว่ นรวม หมายถงึ การคานึงถงึ บุคคลอ่ืนมากกวา่ ตนเอง ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ความสามารถในการส่ือสาร ๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ ๑.๒ การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคดิ ๒.๑ การคดิ แยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ๓.๓ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ 1) รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2) มีความซื่อสัตย์ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ 1) ครนู าเข้าสู่กิจกรรมโดยใช้คาถามเพื่อทบทวนเกี่ยวกับเร่ืองที่เรยี นมาแล้ว ดงั นี้ ๑.๑ ของใชส้ ่วนตนหมายถึงอะไร ได้แก่อะไรบา้ ง ๑.๒ ของใชส้ ว่ นรวมหมายถงึ อะไร ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง ๑.๓ สถานที่ส่วนตนหมายถึงอะไร ได้แกอ่ ะไรบ้าง ๑.๔ สถานท่ีส่วนรวมหมายถึงอะไร ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง 2) ให้นักเรียนดูวีดีโอการแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ตอน “คุณว่า ใครชนะ” 3) นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั วดี โี อทช่ี ม จากนน้ั ครูตงั้ ประเด็นคาถาม เช่น

- 22 - ๓.๑ จากวีดโี อทนี่ ักเรยี นไดช้ ม นกั เรียนรสู้ ึกอย่างไร ๓.๒ เม่อื นักเรียนดูวดี ีโอนแี้ ล้ว นกั เรียนมคี วามคดิ เห็นอย่างไร ๓.๓ จากวีดีโอนักเรียนคิดว่าพฤติกรรมใดบ้างท่ีเป็นผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ ส่วนรวม 4) ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรปุ ความหมายและแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยการทาใบงานที่ ๑ เร่ือง การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ซ่ึงให้นักเรียนทา เครื่องหมาย  หน้าข้อการกระทาท่ีเป็นประโยชน์ส่วนตน และทาเครื่องหมาย  หน้าข้อการกระทาที่เป็น ประโยชนส์ ว่ นรวม ช่ัวโมงท่ี ๒ ๑) ใหน้ กั เรยี นออกมานาเสนอผลงานการทาใบงานหนา้ ช้นั เรียน ๒) นาผลงานการแยกแยะผลประโยชนส์ ว่ นตนกบั ส่วนรวมตดิ บอรด์ ประชาสมั พันธช์ น้ั เรียนเพอื่ เผยแพร่ให้เพ่อื นชน้ั เรยี นอ่ืน ได้ศึกษา ๓) ครใู ห้ความร้เู ก่ียวกับผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวมเพ่ือเป็นการเพิ่มพูนความรู้ อกี ครั้งหน่ึง ๔.๒ สอื่ การเรียนรู้ ๑) วีดีโอ เร่ือง “คณุ ว่าใครชนะ” ๒) ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง การแยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนกบั ผลประโยชน์ส่วนรวม ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ตรวจผลงานการทาใบงาน ๕.๒ เครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ แบบตรวจให้คะแนนใบงาน ๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป ถือวา่ ผา่ น ๖. บันทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ................................................ ครผู สู้ อน (.................................................)

- 23 - 7. ภาคผนวก ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง การแยกแยะผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์สว่ นรวม คาชี้แจง ให้นักเรียนทาเคร่ืองหมาย  หน้าข้อการกระทาท่ีเป็นประโยชน์ส่วนตนและทาเคร่ืองหมาย หนา้ ขอ้ การกระทาท่ีเป็นประโยชน์ส่วนรวม  ๑. การแซงควิ ซ้ืออาหารในร้านอาหาร  ๒. ขายเสอื้ ผา้ ตามรมิ ถนนในตัวเมือง  ๓. การขายพวงมาลยั ตามแยกไฟแดง  ๔. ท้งิ ขยะในถงั ขยะโดยแยกขยะกอ่ นทงิ้  ๕. ทาการเกษตรในเขตที่ดินสาธารณะ  ๖. ปลกู ต้นไมร้ มิ ถนน  ๗. นาดอกไมท้ เ่ี ก็บในสวนสาธารณะมาจัดแจกนั ตั้งในห้องรับแขกทีบ่ ้าน  ๘. สร้างรีสอรท์ รกุ ลา้ ในเขตป่าสงวน  ๙. จอดรถจกั รยานยนตบ์ นทางเทา้  ๑๐.ดแู ลรกั ษาความสะอาดบรเิ วณศาสนสถานในชุมชน เกณฑ์การให้คะแนน - ข้อละ 1 คะแนน (ตอบถูก 8 ข้อขนึ้ ไป ถอื ว่า ผ่าน)

- 24 - แบบตรวจให้คะแนนใบงาน เรือ่ ง การแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ที่ ช่อื -สกุล บอกผลประโยชน์สว่ น รวม สรุปผล ตนและผลประโยชน์ ๑๐ ผา่ น ไม่ผา่ น คะแนน ส่วนรวมได้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) ลงชือ่ ..................................................ผตู้ รวจ (....................................................) เกณฑ์การประเมนิ - นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป ถือว่า ผ่าน

- 25 - แบบประเมนิ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชอ่ื -นามสกุลผเู้ รยี น .......................................................................ชนั้ .......................................... เลขที่ ............. ใหค้ รสู งั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงค์ดา้ น ๓ ๒๑๐ ๑. รักชาติ ศาสนก์ ษัตริย์ ๑. ยินตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ ๒. เขา้ รว่ มกิจกรรมท่สี รา้ งความสามัคคี ปรองดองและเป็น ๒. ซ่อื สัตย์ สจุ ริต ประโยชน์ต่อโรงเรยี น ๓. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบัตติ ามหลัก ศาสนา ๔. เข้าร่วมกิจกรรมเกย่ี วกบั สถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่ โรงเรียนจัดข้ึน ๑. ใหข้ อ้ มลู ทถี่ ูกต้อง และเป็นจริง ๒. ปฏบิ ตั ิในสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง คะแนน สรุปผลคะแนน ลงชอื่ ..................................................ผปู้ ระเมิน (....................................................) เกณฑ์การใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤติกรรมทปี่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน - พฤติกรรมท่ีปฏิบัติบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี มป่ ฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน สรปุ เกณฑ์การประเมิน  ดีมาก ได้ ๑๔ – ๑๕ คะแนน  ดี ได้ ๙ – ๑๓ คะแนน  พอใช้ ได้ ๔ – ๘ คะแนน  ปรบั ปรงุ ได้ ๐ – ๓ คะแนน

- 26 - แผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยที่ 1 ชื่อหนว่ ย การคดิ แยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ระบบคิดฐาน 2 (ความหมายและพฤติกรรม) เวลา 2 ชั่วโมง ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามร้คู วามเข้าใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกความหมายระบบคิดฐาน 2 2.2 นักเรยี นสามารถบอกพฤติกรรมทแี่ สดงออกแบบระบบคดิ ฐาน 2 ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ “ระบบคิดฐาน ๒ (Digital)” คือ เป็นระบบคิดที่สามารถแยกเรื่องประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวมออกจากกันได้อย่างชัดเจน ไม่นามารวมกัน สิ่งไหนถูกส่ิงไหนผิด ส่ิงไหนทาได้ส่ิงไหนทา ไมไ่ ด้ ผลประโยชน์ส่วนรวมย่อมสาคญั กวา่ ผลประโยชนส์ ว่ นตน ควรยึดผลประโยชน์สว่ นรวมเป็นหลกั ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ความสามารถในการสื่อสาร ๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ ๑.๒ การดูวีดโี อ 2) ความสามารถในการคิด การบอกพฤติกรรมที่แสดงออกแบบระบบคิดฐานสอง ๓.๓ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ อย่อู ย่างพอเพยี ง ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี ๑ 1) ครูนาเสนอวดี ีโอ เรื่อง หยิบ มาใหน้ กั เรียนดู และรว่ มกนั สนทนา โดยใชค้ าถาม ดงั นี้ ๑.๑ เรอ่ื งทน่ี กั เรยี นดเู กิดขนึ้ ท่ีไหน และมตี ัวละครใดบา้ ง ๑.๒ นักเรยี นชอบตัวละครตวั ไหน เพราะอะไร ๑.๓ นักเรยี นอยากเปน็ เหมือนตัวละคร ( นกั เรยี นในคลปิ ) นนั้ ไหม เพราะอะไร 2) ครเู ขียนความหมายของระบบคิดฐาน ๒ บนกระดาน 3) ครูอ่านความหมายของระบบคดิ ฐาน ๒ อย่างช้า จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันอา่ นพร้อมกัน 4) ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนา พร้อมยกตัวอย่างพฤติกรรมท่ีแสดงออกของระบบคิดฐาน ๒ และจดบันทกึ ตัวอย่างพฤตกิ รรมที่นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นบนกระดาน เช่น ปิดน้าทุกคร้ังหลังจากใช้งาน , ไม่ทิง้ ขยะในสนาม เป็นต้น 5) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ละ 4 – 5 คน จากน้ันแจกกระดาษวาดภาพให้นักเรียนกลุ่มละ 1 แผ่น พรอ้ มสไี ม้ 6) ใหน้ ักเรยี นรว่ มกันวาดภาพพฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกถงึ ระบบการคิดฐาน 2 กล่มุ ละ 1 ภาพ พรอ้ มทั้งระบายสีให้สวยงาม

- 27 - ชัว่ โมงที่ 2 ๑) ครูทบทวนความรู้เกีย่ วกับความหมายและพฤตกิ รรมทแี่ สดงออกของระบบคดิ ฐาน 2 ที่เรยี นไป ในชว่ั โมงท่แี ล้ว ๒) ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรียน และสนทนารว่ มกัน ๓) ครยู กตวั อย่างสถานการณเ์ ก่ยี วกับระบบการคดิ ฐาน 2 ให้นักเรยี นฟัง พรอ้ มใชค้ าถามและ สนทนาร่วมกัน ดงั นี้ เด็กหญิงพอเพยี งเดด็ ดอกไมใ้ นสวนหยอ่ มหนา้ โรงเรยี นนาไปให้ครูประจาชน้ั ทุกวัน การกระทา ของเด็กหญิงพอเพยี งถูกหรือไม่ เพราะอะไร (ถกู เพราะดอกไม้อยู่ในโรงเรียนใครจะเดด็ กไ็ ด้ , ไมถ่ ูก เพราะดอกไมเ้ ป็นของส่วนรวมไม่ควรเดด็ ) ๔) ครูแจกใบงานที่ 1 เรอื่ ง หนูน้อย...คดิ ฐาน ๒ ๕) ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ องคค์ วามร้ใู นส่ิงท่ีเรียนเพื่อเพ่ิมพนู ความรู้ ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ ๑) วีดีโอ เรอ่ื ง หยบิ 2) กระดาษวาดภาพ 3) สีไม้ 4) ใบงานที่ 1 เรื่อง หนนู ้อย...คิดฐานสอง ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) ตรวจใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น ๕.๒ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในการประเมนิ ๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น ๕.๓ เกณฑ์การประเมนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ 80 ขนึ้ ไป ถือว่า ผ่าน ๖. บนั ทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ ลงชือ่ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 28 - ใบงานท่ี 1 เร่อื งหนูนอ้ ย...คดิ ฐานสอง คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นบอกพฤติกรรมทีแ่ สดงออกของระบบคิดฐาน ๒ ที่พบเห็นภายในห้องเรยี น หนจู ะ ................

- 29 - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี น ชอ่ื นักเรยี น................................................................................ ชน้ั ..............ภาคเรยี นท่ี...........ปกี ารศึกษา ............. คาชแ้ี จง การบนั ทึกให้กาเครื่องหมาย  ลงในช่องทต่ี รงกับพฤติกรรมท่ีเกิดข้ึนจรงิ ที่ พฤติกรรม ระดับการปฏบิ ัติ ไม่ทาเลย/ ไม่ชดั เจน ๑ มีความรับผิดชอบในหน้าทก่ี ารงาน เปน็ ประจา บางครง้ั น้อยครง้ั ๒ ตัง้ ใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบัติหนา้ ทที่ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (๓) (๒) (๑) (๐) ๓ ทางานด้วยความเพียรพยายาม ๔ ร้จู กั แกป้ ญั หาในการทางานเมื่อมีอุปสรรค ๕ อดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย ๖ ปรบั ปรุงและพฒั นาการทางานใหด้ ีขึ้นด้วยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ ผ้ปู ระเมนิ  ครู  พ่อแม/่ ผูป้ กครอง  ตนเอง  เพื่อน ลงช่ือ..................................................ผู้ประเมิน (......................................................) เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์การประเมนิ ดีเย่ยี ม ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดข้อหน่ึง ดี ตา่ กวา่ ๒ คะแนน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อใดขอ้ หน่ึง ผา่ น ต่ากว่า ๐ คะแนน ไมผ่ ่าน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มผี ลการประเมนิ ขอ้ ใดข้อหน่ึง ต่ากวา่ ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๐-๕ คะแนน

- 30 - แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน เลขที่ ช่อื – สกลุ คะแนนทีไ่ ด้ สรปุ ผล (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 สรุป ลงชื่อ..................................................ผตู้ รวจ (....................................................) เกณฑก์ ารให้คะแนน - ได้คะแนนรวม 8 คะแนนขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น (ข้อละ 2 คะแนน)

- 31 - แบบประเมินลักษณะอนั พึงประสงค์ ชอ่ื -นามสกลุ ผเู้ รียน .......................................................................ช้นั .......................................... เลขท่ี ............. ให้ครสู ังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงค์ดา้ น ๓ ๒๑๐ ๑. ใชท้ รัพยส์ นิ และสิง่ ของโรงเรียนอยา่ งประหยัด อยู่อย่างพอเพียง ๒. ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า ๓. ใชจ่ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงิน ๔. ไมเ่ หน็ แก่ตวั คะแนน สรปุ ผลคะแนน ลงชอ่ื ..................................................ผปู้ ระเมิน (....................................................) เกณฑก์ ารให้คะแนน - พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสมา่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน - พฤติกรรมท่ปี ฏิบัตบิ างคร้ัง ให้ ๑ คะแนน - พฤติกรรมทไ่ี ม่ปฏิบัติ ให้ ๐ คะแนน สรปุ เกณฑก์ ารประเมิน  ดมี าก ได้ ๑๔ – ๑๕ คะแนน  ดี ได้ ๙ – ๑๓ คะแนน  พอใช้ ได้ ๔ – ๘ คะแนน  ปรบั ปรงุ ได้ ๐ – ๓ คะแนน

- 32 - แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยที่ 1 ช่ือหนว่ ย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง ระบบคิดฐาน 2 (สถานการณ์ใกล้ตวั ) เวลา ๒ ช่วั โมง ๑. ผลการเรยี นรู้ มีความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกบั การแยกแยะระหว่างผลประโยชนส์ ว่ นตนและผลประโยชนส์ ่วนรวม ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถยกตวั อย่างของระบบคดิ ฐาน ๒ 2.2 นกั เรียนสามารถแยกแยะพฤตกิ รรมทแ่ี สดงออกของระบบคดิ ฐาน ๒ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ “ระบบคิดฐาน ๒ (Digital)” คือ เป็นระบบคิดที่สามารถแยกเรื่องประโยชน์ส่วนตนและ ผลประโยชน์ส่วนรวมออกจากกันได้อย่างชัดเจน สามารถแยกแยะพฤติกรรมที่แสดงออกของระบบคิดฐาน ๒ เชน่ ไมน่ าไม้กวาดของโรงเรยี นไปใช้ที่บ้าน , ทง้ิ ขยะลงในถงั ขยะ , ปดิ น้าทุกคร้งั หลงั จากเลกิ ใช้ เปน็ ต้น ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ความสามารถในการส่ือสาร ๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ ๑.๒ การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคิด การแยกแยะพฤติกรรมที่แสดงออกของระบบคดิ ฐาน 2 ๓.๓ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ อยู่อย่างพอเพยี ง ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1) ครนู าเขา้ กิจกรรมดว้ ยการบริหารสมองโดยใช้กิจกรรม Brain Gyms เพลง มือ ตัก ตกั มอื 2) ครูทบทวนเกีย่ วกบั ความหมายและพฤตกิ รรมทแี่ สดงออกของระบบคดิ ฐาน 2 ที่ได้เรียนไปเม่ือ ชัว่ โมงที่แลว้ 3) ครูนาภาพ 2 ภาพ (ภาพท่ี 1 การยืนเข้าแถวซื้อของอย่างเป็นระเบียบ , ภาพที่ 2 การแซง ควิ ซ้อื ของ) มาใหน้ ักเรยี นดูแล้วสนทนาร่วมกัน โดยใชค้ าถาม ดงั นี้ ๓.๑ วา่ ภาพท่ีนกั เรียนเหน็ น้เี ปน็ ภาพอะไร ๓.๒ พฤติกรรมท่ีแสดงออกเป็นอย่างไร ๓.๓ นกั เรียนคดิ ว่าภาพใดควรปฏบิ ัติ และภาพใดไม่ควรปฏิบัติ ๓.๔ ภาพใดสือ่ ถึงระบบการคดิ ฐานสอง 4) ครูใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งพฤตกิ รรมที่แสดงของระบบคิดฐาน ๒ ภายในห้องเรียน แล้วเขียนลง บนกระดาน เชน่

- 33 - ๔.๑ ไม่นาไมก้ วาดของหอ้ งเรยี นไปใช้ท่ีบา้ น ๔.๒ ไมห่ ยิบของเลน่ ในห้องเรยี นกลับไปเล่นท่ีบา้ นไดโ้ ดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาตจากครู ๔.๓ เขา้ แถวส่งงานครูอย่างเปน็ ระเบยี บ ๔.๔ ไมท่ ้ิงขยะไวใ้ ตโ้ ต๊ะเรียน 5) ครใู ห้นกั เรียนทาใบงานท่ี 1 เรอื่ ง คดิ ...คิด...คิด โดยให้บอกพฤติกรรมใดเป็นระบบคดิ ฐาน 2 ชัว่ โมงท่ี 2 ๑) ครูสุ่มนกั เรยี นเพอ่ื ออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรยี น และรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกบั การนาเสนอ ๒) ครแู จกรูปสตก๊ิ เกอร์ดาวสแี ดง และดาวสีเขียว ใหก้ ับนกั เรียนคนอยา่ งละ 1 อนั ๓) ครูจัดทาภาพท่ีแสดงพฤติกรรมระบบคิดฐาน 2 จานวน 1 ภาพ มาตดิ บนกระดาน ๔) ให้นักเรยี นนารูปสตกิ๊ เกอรด์ าวที่ไดร้ บั ไปมาติดบนกระดาน โดยถ้าคิดว่าเปน็ ตรงพฤติกรรม ระบบคิดฐาน 2 ใหต้ ดิ ดาวสีเขยี ว และถา้ คิดว่าไม่ใชร่ ะบบคดิ ฐาน 2 ให้ติดดาวสีแดง (ให้นักเรียน ตดิ ดาวไดเ้ พียงดวงเดยี วเทา่ นั้น) ๕) จากนน้ั ครูนบั จานวนดาวแตล่ ะสวี ่ามจี านวนเท่าใด พร้อมท้ังอธิบายถึงการติดดาวแตล่ ะดวง ว่า ดาวสแี ดงคือไม่ใชพ่ ฤติกรรมระบบคิดฐาน ๒ ส่วนดาวสีเขียวคอื พฤติกรรมที่แสดงออกของระบบการคดิ ฐาน ๒ ๖) ครูสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนวา่ สามารถแยกแยะภาพได้หรือไม่ วา่ ภาพที่เหน็ เป็นระบบการ คิดฐาน 2 หรือไมใ่ ช่ระบบการคดิ ฐาน ๒ ๗) ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปองค์ความรเู้ ร่ืองพฤติกรรมตวั อย่างระบบการคิดฐาน ๒ ๔.๒ สื่อการเรียนรู้ ๑) เพลงมือ ตัก ตกั มือ จาก https://www.youtube.com/watch?v=YCmjhLOXtzA ๒) ภาพการยนื เข้าแถวซื้อของอย่างเปน็ ระเบียบ และการแซงคิวซอ้ื ของ 3) ใบงานที่ 1 เร่ือง คิด...คดิ ...คดิ 4) สต๊ิกเกอร์ดาวสีแดง 5) แผน่ ภาพทแ่ี สดงพฤติกรรมระบบคิดฐาน 2 ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี น ๕.๒ เคร่ืองมือท่ใี ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบตรวจใหค้ ะแนนใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมนิ ๑) นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 80 ขึ้นไป ถือวา่ ผ่าน

- 34 - ๖. บนั ทึกหลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ................................................ ครูผู้สอน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 35 - มือ ตัก ตัก มือ เพลงมือ ตกั ตกั มอื ตัก ตกั มือ ขวา ซา้ ย ขวา ซ้ายมือ ตัก ตกั มือ มือ หมุน หมนุ มือ Brain Gym for kid Brain Based Learning ตัก ตกั มือ มอื ศอก ศอก มือ ตกั ตัก มือ ขวา ซ้าย ขวา ซา้ ยมอื ตกั ตกั มือ มอื ไหล่ ไหล่ มือ ตกั ตัก มือ มือ หมนุ หมุน มือ ตัก ตกั มือ มือ เพื่อน เพื่อน มอื ตกั ตัก มือ มอื ศอก ศอก มือ ตัก ตกั มือ มือ ไหล่ ไหล่ มือ ตกั ตกั มือ มอื เพื่อน เพ่ือน มือ แหล่งข้อมูล : https://www.youtube.com/watch?v=YCmjhLOXtzA

- 36 - ภาพการยนื เข้าแถวซื้อของอยา่ งเปน็ ระเบยี บ ภาพการแซงควิ ซ้อื ของ

- 37 -

- 38 - ใบงานท่ี 1 เร่อื งคดิ ...คิด...คดิ คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนระบายสีเขียวลงใน  ให้ตรงกบั ขอ้ ความพฤตกิ รรมการแสดงออกของระบบคิดฐาน สอง และระบายสแี ดงใน  ตรงกับข้อความพฤติกรรมท่ีไม่ใชร่ ะบบคิดฐาน 2  ปดิ ก๊อกน้าทุกครัง้ หลังใช้งาน  ไมห่ ยบิ ของเลน่ ในห้องไปเล่นทีบ่ ้าน  เขา้ แถวรอรบั อาหารอย่างเปน็ ระเบียบ  ท้ิงขยะลงในถงั ขยะ  ใชน้ ้าโรงเรียนลา้ งป่นิ โตอาหารของตนเอง ปิดพัดลมทุกคร้งั หลังออกจากห้องเรยี น  ไมเ่ อาไม้กวาดของห้องเรยี นไปใช้ที่บ้าน เอาแทบ็ เล็ตของตนเองมาชารท์ ทโี่ รงเรยี น  ไม่นากบเหลาดินสอของหอ้ งเรยี นไปใชท้ ่ี ไมน่ ากระดาษของห้องเรยี นไปใชง้ าน โตะ๊ ตนเอง สว่ นตัว ช่ือ.....………………………………….……………………..……………..……ชนั้ …………....เลขท…ี่ ………..

- 39 - ตัวอย่างสตกิ๊ เกอรด์ าว ดาวสีแดง ดาวสเี ขยี ว

- 40 - แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น ชอ่ื นกั เรยี น................................................................................ ชนั้ ..............ภาคเรียนท.ี่ ..........ปกี ารศกึ ษา ............. คาชแี้ จง การบันทกึ ให้กาเครื่องหมาย  ลงในช่องทต่ี รงกบั พฤติกรรมทเ่ี กิดขนึ้ จริง ท่ี พฤติกรรม เป็นประจา ระดบั การปฏิบัติ ไมท่ าเลย/ (๓) ไมช่ ดั เจน ๑ มีความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่กี ารงาน บางคร้งั นอ้ ยคร้ัง ๒ ตั้งใจและเอาใจใส่ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (๒) (๑) (๐) ๓ ทางานดว้ ยความเพยี รพยายาม ๔ รจู้ กั แก้ปญั หาในการทางานเม่ือมีอปุ สรรค ๕ อดทนเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย ๖ ปรับปรุงและพฒั นาการทางานให้ดขี ้ึนดว้ ยตนเอง รวมคะแนน/ระดับคุณภาพ ผู้ประเมนิ  ครู  พอ่ แม่/ผปู้ กครอง  ตนเอง  เพ่ือน เกณฑก์ ารประเมนิ ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน ระดบั คุณภาพ (.................................................) ดีเย่ยี ม ดี เกณฑ์การประเมนิ ผา่ น ไม่ผ่าน ไดค้ ะแนนรวมระหว่าง ๑๕-๑๘ คะแนน และไม่มีผลการประเมินข้อ ใดข้อหนึ่งต่ากว่า ๒ คะแนน ได้คะแนนรวมระหวา่ ง ๑๑-๑๔ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อ ใดข้อหนึ่งตา่ กว่า ๐ คะแนน ไดค้ ะแนนรวมระหวา่ ง ๖-๑๐ คะแนน และไม่มีผลการประเมนิ ข้อ ใดขอ้ หน่ึงตา่ กวา่ ๐ คะแนน ได้คะแนนรวมระหว่าง ๐-๕ คะแนน

- 41 - แบบการให้คะแนนการตรวจผลงาน เลขท่ี ช่อื – สกลุ คะแนนทไี่ ด้ สรุปผล (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรุป เกณฑก์ ารประเมนิ - นักเรียนผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 80 ขนึ้ ไปถือว่า ผา่ น (ตอบถกู 8 ขอ้ )

- 42 - แบบประเมินลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ชื่อ-นามสกลุ ผ้เู รียน .......................................................................ชั้น .......................................... เลขท่ี ............. ใหค้ รูสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อันพงึ ประสงคด์ า้ น ๓ ๒๑๐ ๑. ใช้ทรัพย์สนิ และส่ิงของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด อยู่อย่างพอเพยี ง ๒. ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า ๓. ใชจ่ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ ๔. ไมเ่ ห็นแก่ตัว คะแนน สรุปผลคะแนน ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมนิ (....................................................) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน - พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ ๓ คะแนน - พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและบ่อยคร้ัง ให้ ๒ คะแนน - พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางครง้ั ให้ ๑ คะแนน - พฤติกรรมที่ไม่ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน สรุปเกณฑก์ ารประเมิน  ดมี าก ได้ ๑๔ – ๑๕ คะแนน  ดี ได้ ๙ – ๑๓ คะแนน  พอใช้ ได้ ๔ – ๘ คะแนน  ปรับปรุง ได้ ๐ – ๓ คะแนน

- 43 - แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยที่ 1 ชื่อหน่วย การคิดแยกแยะระหวา่ งผลประโยชนส์ ่วนตนและผลประโยชนส์ ว่ นรวม ชัน้ ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เรือ่ ง ระบบคิดฐาน 2 (การประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ) เวลา ๒ ชวั่ โมง ๑. ผลการเรียนรู้ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั การแยกแยะระหวา่ งผลประโยชน์สว่ นตนและผลประโยชน์ส่วนรวม ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรยี นสามารถนาระบบคิดฐาน ๒ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันในการอยู่รว่ มกับผู้อน่ื ได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ระบบการคิดฐานสอง เปน็ วิธีคิดที่สง่ ผลถงึ พฤติกรรม มมุ มอง และทัศนคติของมนุษย์ ซึ่งวิธกี าร นามาปรับใช้ในชวี ติ ประจาวนั ของระบบคดิ ฐานสอง เชน่ ไมแ่ ทรกแถวเพ่ือรบั อาหารหรือนม ไมข่ ดี เขียนตาม ฝาผนงั ในหอ้ งเรียน ไม่เล่นของเลน่ แลว้ ไมต่ ้องเกบ็ เขา้ ที่ เป็นต้น ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ 1) ความสามารถในการสื่อสาร ๑.๑ การสนทนาถาม – ตอบ ๑.๒ การทาใบงาน 2) ความสามารถในการคิด การบอกวธิ ีการนาระบบคิดฐาน 2 ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ อย่อู ยา่ งพอเพียง ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรียนรู้ ชว่ั โมงที่ 1 1) ครเู ปดิ คลปิ วดี ีโอ เร่ือง ไม่แซงควิ ก็เร็วได้ ของสานักงานผู้ตรวจการแผน่ ดิน ให้นกั เรยี นดู แล้วสนทนารว่ มกนั โดยใชค้ าถาม ดังตอ่ ไปนี้ ๑.๑ เร่อื งท่ีนักเรยี นดูเกิดขน้ึ ที่ไหน ๑.๒ เกิดเหตุการณ์อะไรข้ึนบ้าง ๑.๓ นักเรยี นอยากเป็นเหมือนตัวละครนน้ั ไหม เพราะอะไร ๑.๔ ถา้ นักเรยี นโดนกระทาเหมือนในคลิปวีดโี อดงั กลา่ วจะรู้สกึ อยา่ งไร 2) ครใู หน้ ักเรียนแบ่งเป็นกลุม่ ละ 3-4 คน พร้อมแจกใบความรู้ เร่ืองตัวอย่างระบบคิดฐานสอง ให้ร่วมกันคดิ ตัวอยา่ งพฤตกิ รรมที่บ่งชี้ของระบบคิดฐาน ๒ จากเรือ่ งของตัวเองหรือคนใกล้ตัว ตามความเข้าใจ ของนักเรยี น 3 เหตกุ ารณ์ และครูเขยี นตัวอยา่ งดงั กล่าวบนกระดาน 3) ครูแจกใบงานที่ 1 เรือ่ ง สารวจระบบคิดฐาน ๒ ให้นกั เรยี นทา และรว่ มกันสรปุ ส่ิงทเ่ี รยี นไปใน วนั นี้

- 44 - ช่วั โมงที่ 2 ๑) ครูยกตัวอยา่ งสถานการณเ์ รอ่ื งการเรยี นตอนลูกสอบไม่ติดทาอย่างไรดี ให้นักเรยี นฟงั แล้ว สนทนารว่ มกนั ดังนี้ ในวันนเี้ ปน็ การเลอื กตั้งหวั หน้าชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 มผี ้ลู งสมคั ร 2 คน คือ เด็กหญิงพอเพียง เกง่ การคดิ และเด็กชายเพิ่มพูน ทวสี ขุ สองคนนม้ี ีลักษณะนสิ ัยทแ่ี ตกต่างกัน เด็กหญงิ พอเพียง เก่งการ เปน็ เดก็ ดี ตัง้ ใจเรียน เช่อื ฟงั คุณครู สว่ นเดก็ ชายเพ่ิมพนู ทวสี ขุ ไม่ตั้งใจเรียน ชอบแกล้งเพอ่ื น ก่อนการ เลือกต้งั หนงึ่ วันเด็กชายเพิ่มพูนนาของขวญั มาจากเพ่ือน ในห้องคนละ 1 ชิน้ แต่เพ่อื น ทุกคนไมย่ อมรับ ของขวญั น้นั เพราะคิดว่าเดก็ ชายเพม่ิ พูนนามาแจกเพราะอยากใหเ้ ลอื กตนเปน็ หัวหน้าจึงปฏิเสธไป เด็กชาย เพ่มิ พนู รู้สกึ ผดิ หวังกบั สงิ่ ที่ตนเองทามาก เพราะทาให้ไม่มเี พื่อนคนไหนเลือกตนเองเปน็ หวั หน้าเลย สรุปผล การเลอื กต้ังออกมาเด็กหญงิ พอเพยี ง เกง่ การคดิ เป็นผูช้ นะการคัดเลือกเป็นหวั หนา้ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 ๑.๑ ถา้ เปน็ นักเรยี นจะทาเชน่ น้ีหรือไม่ เพราะอะไร - ๑.๒ เพราะอะไรเพอ่ื น ถึงไม่รับของขวญั จากเด็กชายเพ่ิมพูน ทวสี ขุ ๑.๓ นักเรียนมีวธิ ีการแกไ้ ขพฤตกิ รรมของเดก็ ชายเพม่ิ พูน ทวสี ุข อย่างไร ๒) แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนนาเสนอผลงาน อภปิ รายรว่ มกนั และสรปุ หน้าชั้นเรยี น ๓) ครูและนกั เรียนรว่ มกันสนทนาและหาสถานการณ์ ตัวอย่างใกลต้ ัวของอ่นื ของระบบคิดฐาน สอง ว่าการกระทาใดที่เราควรปฏิบัติ และการกระทาใดท่ีไม่ควรปฏิบัติ ๔) ให้นกั เรยี นเขียนสงิ่ ทคี่ วรปฏิบตั ลิ งในใบงานที่ 2 เร่ืองประยุกตใ์ ช้ระบบคิดฐานสอง คนละ 1 ข้อ แลว้ ตดิ ทปี่ า้ ยนเิ ทศหนา้ ห้องเรียน ๕) ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปตัวอยา่ งของระบบคดิ ฐานสอง จากการนาเสนอ ว่าสง่ิ ใดควรหรอื ไม่ ควรปฏิบัติ และมีผลกระทบกับคนรอบข้างอย่างไรบา้ ง ๔.๒ ส่ือการเรียนรู้ ๑) ไม่แซงคิวกเ็ รว็ ได้ จาก https://www.youtube.com/watch?v=AYbjiII02JE ๒) ใบความรู้ เรื่องตวั อยา่ งระบบคดิ ฐานสอง 3) ตัวอยา่ งสถานการณ์ 4) ป้ายนเิ ทศ 5) ใบความรู้ เรอื่ งตัวอย่างระบบคดิ ฐานสอง 6) ใบงานที่ 1 เรอื่ ง สารวจระบบคิดฐานสอง 7) ใบงานท่ี 2 เร่อื ง ประยุกต์ใช้ระบบคดิ ฐานสอง ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมนิ ๑) ตรวจใบงาน ๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน ๕.๒ เคร่ืองมอื ทีใ่ ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบตรวจให้คะแนนใบงาน ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรยี น

- 45 - ๕.๓ เกณฑก์ ารประเมิน ๑) นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ 80 ข้ึนไป ถือว่า ผ่าน ๖. บนั ทกึ หลังสอน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ................................................ ครผู ้สู อน (.................................................)

7. ภาคผนวก - 46 - ใบความรู้ เร่อื ง ตวั อยา่ งระบบคดิ ฐานสอง สงิ่ ทเ่ี รา พงึ ปฏบิ ัติครบั

- 47 - ใบงานที่ 1 เรือ่ ง สารวจพฤติกรรมระบบคดิ ฐานสอง คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นขีด แบบสารวจดงั ตอ่ ไปน้ี ในข้อท่นี ักเรียนเคยปฏบิ ัติมาแลว้ ขอ้ ท่ี รายการพฤติกรรม การปฏบิ ัติ เคย ไมเ่ คย 1 นาไม้กวาดของโรงเรียนไปใช้ที่บา้ น 2 หยิบของเล่นในห้องเรียนกลับไปเล่นที่บา้ นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากครู 3 นาสิง่ ของเพื่อนมาเป็นของตนเอง 4 ชอบทาของใชส้ ว่ นรวมพังเสียหาย 5 ชอบขดี เขยี นตามฝาผนังในห้องเรียน รวมคะแนน สรุป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook