69 แบบประเมินกำรนำเสนอผลงำน คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกับระดับคะแนน ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 ความถูกต้องของเน้อื หา 2 การลาดับขั้นตอนของเรือ่ ง 3 วธิ ีการนาเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมสี ว่ นรว่ มของสมาชิกในกลมุ่ รวม ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางส่วน เกณฑ์กำรตัดสนิ คณุ ภำพ ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภำพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ
70 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 2 การยอมรับฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ 3 การทางานตามหนา้ ที่ทไี่ ด้รบั มอบหมาย 4 ความมนี า้ ใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............../.................../............. เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง้ เกณฑ์กำรตัดสินคุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภำพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรุง
71 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลมุ่ คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ ตรงกบั ระดับคะแนน กำรมี ลำดับที่ ชอ่ื – สกลุ กำรแสดง กำรยอมรบั กำรทำงำน ควำมมี สว่ นร่วมใน รวม ของนกั เรยี น ควำม ฟังคนอน่ื ตำมท่ีไดร้ ับ นำ้ ใจ กำร 15 คดิ เหน็ มอบหมำย คะแนน ปรบั ปรุง ผลงำนกลมุ่ 321321321321321 เกณฑ์กำรให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ............../.................../............... ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน
72 บนั ทกึ หลงั กำรจดั กำรเรยี นรู้ แผนที่ 2 เรอื่ ง เทคโนโลยภี มู สิ ำรสนเทศ ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเนื้อหา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของสื่อ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลท่ีเกิดขึ้นกับผูเ้ รียน 1) นักเรยี นอธบิ ายความสาคัญและประโยชนข์ องเทคโนโลยภี มู ิสารสนเทศได้ 2) ประยุกตค์ วามร้เู กีย่ วกับเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ 3) เห็นคณุ คา่ ของการศึกษาเทคโนโลยีภมู สิ ารสนเทศเพอื่ การใช้ประโยชน์ในชีวติ เพิม่ มากขน้ึ 2. ปัญหำและอุปสรรค นกั เรยี นบางส่วนยงั ขาดความสนใจในการเรียน และยงั ไมค่ อ่ ยใฝ่เรยี นรู้ 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดย การมีกิจกรรม ให้นักเรยี นได้มีสว่ นร่วมมากขนึ้ ลงช่ือ……….........………….......….…..……. ผสู้ อน ( นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ) ตาแหน่ง : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงช่ือ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพพี รรณ กตี า) ผอู้ านวยการโรงเรยี น
73 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก เวลา 15 ชัว่ โมง 1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั ส 5.1 เข้าใจลกั ษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธข์ องสรรพส่งิ ซง่ึ มผี ลตอ่ กนั ใชแ้ ผนท่แี ละ เครอื่ งมือทางภมู ิศาสตร์ในการค้นหา วเิ คราะห์ และสรปุ ขอ้ มลู ตามกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ตลอดจนใชภ้ ูมสิ ารสนเทศอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ม.4-6/1 วิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งไดร้ บั อิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ 2. สำระกำรเรียนรู้ 2.1 สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง 1) การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ (ประกอบดว้ ย 1. ธรณภี าค 2. บรรยากาศภาค 3. อุทกภาค 4. ชวี ภาค) ของพ้ืนทใ่ี นประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึง่ ไดร้ บั อิทธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ 2) การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพที่สง่ ผลตอ่ ภมู ิประเทศ ภมู ิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ 2.2 สำระกำรเรยี นรูท้ ้องถิ่น (พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา) 3. มโนทัศนส์ ำคัญ (Key Concept) - ปจั จยั ทางภูมศิ าสตรม์ ีอิทธพิ ลต่อการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ซ่ึง ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ 4. คำถำมหลัก (Big Question) 1. ปจั จัยทางภูมศิ าสตรท์ ี่สง่ ผลต่อการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพมีอะไรบา้ ง อย่างไร 2. การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพส่งผลต่อภูมิประเทศ ภมู อิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติในประเทศไทย และภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกอยา่ งไร
5. กำรรู้เรื่องภูมศิ ำสตร์ (Geo–Literacy) 74 ควำมสำมำรถทำงภมู ศิ ำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ทกั ษะทำงภมู ศิ ำสตร์ 1. การใหเ้ หตุผลทางภูมิศาสตร์ 1. การตงั้ คาถามเชิงภมู ิศาสตร์ 1. การแปลความข้อมูลทางภมู ศิ าสตร์ 2. การตดั สนิ ใจอย่างเป็นระบบ 2. การรวบรวมข้อมูล 2. การคิดเชงิ พ้นื ท่ี 3. การจดั การขอ้ มูล 4. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล 5. การสรุปเพือ่ ตอบคาถาม 6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทางาน 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู 3) ทักษะการวเิ คราะห์ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 7. ชิน้ งำน/ภำระงำน (รวบยอด) จดั ป้ายนเิ ทศแสดงผลการสบื คน้ ขอ้ มูลเร่ือง การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของโลก 8. กำรวดั และกำรประเมนิ ผล วธิ ีวัด เครอื่ งมือ เกณฑ์กำร รำยกำรวัด ประเมิน 8.1 การประเมินช้นิ งาน/ - ประเมนิ การจดั ปา้ ยนิเทศ - แบบประเมินการจัดปา้ ย - ระดบั คุณภาพ 2 ภาระงาน (รวบยอด) แสดงผลการสบื คน้ ขอ้ มลู เรื่อง การเปล่ยี นแปลง นิเทศแสดงผลการสบื ค้น ผา่ นเกณฑ์ ทางกายภาพของโลก ข้อมูล เรอื่ ง การ เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ท า ง กายภาพ ของโลก
75 รำยกำรวัด วธิ วี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ำร - แบบทดสอบก่อนเรียน ประเมนิ 8.2 การวดั และประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ - รอ้ ยละ 60 ผา่ น เกณฑ์ กอ่ นเรยี น ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การเปลี่ยนแปลง ทางกายภาพของโลก 8.3 การวัดและประเมินผล ระหวา่ งการจดั กิจกรรม 1) ธรณภี าค - ตรวจใบงานท่ี 2.1 - ใบงานท่ี 2.1 - ร้อยละ 60 ผ่าน - ใบงานที่ 2.2 เกณฑ์ 2) บรรยากาศภาค - ตรวจใบงานท่ี 2.2 - ใบงานที่ 2.3 - ร้อยละ 60 ผ่าน - ใบงานท่ี 2.4 เกณฑ์ 3) อุทกภาค - ตรวจใบงานที่ 2.3 - ใบงานท่ี 2.5 - รอ้ ยละ 60 ผา่ น เกณฑ์ 4) ชีวภาค - ตรวจใบงานที่ 2.4 - ร้อยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ 5) การเปลี่ยนแปลง - ตรวจใบงานท่ี 2.5 - รอ้ ยละ 60 ผ่าน ทาง เกณฑ์ - ประเมินการนาเสนอ กายภาพท่ีสง่ ผลต่อ ผลงาน - แบบประเมิน - ระดบั คุณภาพ 2 ภูมิประเทศ - สังเกตพฤติกรรม ผลการนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์ ภมู อิ ากาศ และ การทางานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2 ทรัพยากรธรรมชาติ - สังเกตพฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์ 6) การนาเสนอผลงาน การทางานกลุ่ม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2 7) พฤติกรรม การทางาน การทางานกลุม่ ผ่านเกณฑ์ รายบุคคล 8) พฤตกิ รรม การทางานกล่มุ
76 รำยกำรวัด วธิ วี ดั เครอื่ งมอื เกณฑ์กำร ประเมนิ 9) คุณลักษณะ - ประเมินคณุ ลักษณะ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ - ระดับคุณภาพ 2 อนั พงึ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ 8.4 การวัดและประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น - รอ้ ยละ 60 ผ่าน เกณฑ์ หลงั เรียน หลงั เรยี น - แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ือง การเปล่ียนแปลง ทางกายภาพของโลก 8.5 การรูเ้ ร่อื งทาง - ประเมนิ การจดั ป้ายนเิ ทศ - แบบประเมนิ การจดั ป้าย - ระดับคุณภาพ 2 ภมู ศิ าสตร์ แสดงผลการสืบค้นข้อมูล นิเทศแสดงผลการสบื ค้น ผ่านเกณฑ์ เรื่อง การเปล่ียนแปลง ข้อมูล เร่ือง การ ทางกายภาพของโลก เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ท า ง กายภาพ ของโลก 9. กิจกรรมกำรเรียนรู้ นกั เรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เร่ืองที่ 1 : ธรณภี ำค วธิ สี อนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) เวลำ 3 ชว่ั โมง ขนั้ นำ นักเรียนชมภาพหรือคลิปวิดีโอเกีย่ วกบั การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลก แล้วตอบคาถามกระตุ้นความคิด ข้นั สอน ขั้นท่ี 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภูมิศำสตร์ 1. นักเรียนดภู าพและคลปิ วดิ โี อเก่ยี วกับโครงสร้างของเปลอื กโลก การเลือ่ นของทวปี และการเคลื่อนทีข่ อง แผ่นธรณภี าค แล้วรว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ 2. นกั เรยี นช่วยกนั ตั้งคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์
77 ขน้ั ท่ี 2 กำรรวบรวมขอ้ มลู 1. ครใู ห้นักเรียนแบ่งกลุ่ม และให้ร่วมกนั สบื ค้นขอ้ มูลเกยี่ วกับการเปลย่ี นแปลงทางธรณีภาค โดยใช้ เครื่องมือทางภูมศิ าสตรต์ ามประเด็นทีน่ ักเรียนรว่ มกนั กาหนด 2. ครูแนะนาแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศเพม่ิ เติม ขน้ั ท่ี 3 กำรจดั กำรขอ้ มลู 1. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มนาขอ้ มูลที่ตนไดจ้ ากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลย่ี นความรู้ระหวา่ งกนั 2. จากน้นั สมาชิกในกลุ่มช่วยกันคดั เลือกขอ้ มลู เพื่อให้ไดข้ ้อมลู ที่ถูกตอ้ ง ขั้นที่ 4 กำรวเิ ครำะห์และแปลผลขอ้ มูล 1. สมาชิกแตล่ ะกลุม่ นาขอ้ มูลท่ีได้จากการศึกษามาทาการวิเคราะห์ และร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องของ ข้อมลู โดยครูช่วยชแี้ นะเพมิ่ เติม 2. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มอภิปรายผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูล และเชอื่ มโยงความรู้เพมิ่ เติมถึงโครงสร้างทาง ธรณีวทิ ยา การกร่อนของหินและดิน รวมไปถงึ การพดั พาและการทับถม 3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอขอ้ มูลจากการศกึ ษาธรณภี าคและการเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค สมาชกิ กลุ่ม อ่นื เสนอข้อคิดเหน็ หรอื ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ ข้นั ที่ 5 กำรสรุปเพ่อื ตอบคำถำม 1. นกั เรียนรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกับการใช้เครื่องมือทางภมู ศิ าสตร์ และเครอ่ื งมือด้านเทคโนโลยใี นการสบื ค้น ธรณีภาคและการเปล่ยี นแปลงทางธรณภี าค 2. สมาชิกในแต่ละกลุ่มชว่ ยกันสรปุ สาระสาคัญเพอื่ ตอบคาถามเชิงภูมิศาสตร์ 3. นกั เรียนรว่ มกนั ทาใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ปรากฏการณท์ างธรณีภาค และร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของ ใบงาน ข้นั สรุป นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ธรณีภาคและการเปลี่ยนแปลงทางธรณีภาค ตลอดจนความสาคัญทม่ี ีอทิ ธพิ ลต่อการ ดาเนนิ ชีวติ ของประชากร เรื่องที่ 2 : บรรยำกำศภำค เวลำ 3 ชว่ั โมง วิธสี อนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ขั้นนา นกั เรยี นชมภาพหรอื คลปิ วดิ โี อเกย่ี วกบั การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกด้านบรรยากาศภาค แล้วตอบคาถามกระตุ้นความคิด
78 ข้ันสอน ข้นั ท่ี 1 กำรต้ังคำถำมเชิงภูมศิ ำสตร์ 1. นกั เรียนดูภาพและคลิปวิดีโอเก่ียวกับการแบง่ ช้ันบรรยากาศ แล้วรว่ มกันตอบคาถาม 2. นกั เรียนชว่ ยกนั ตัง้ คาถามเชงิ ภูมิศาสตร์ ขน้ั ที่ 2 กำรรวบรวมขอ้ มูล 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม และให้ร่วมกันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางบรรยากาศภาค โดยใช้ เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตรต์ ามประเด็นทีน่ กั เรียนร่วมกนั กาหนด 2. ครูแนะนาแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศเพมิ่ เตมิ ขั้นท่ี 3 กำรจดั กำรขอ้ มูล 1. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลที่ตนได้จากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลีย่ นความรู้ระหวา่ งกนั 2. จากน้ันสมาชิกในกลุ่มชว่ ยกันคัดเลือกขอ้ มูลเพ่ือใหไ้ ดข้ ้อมลู ที่ถกู ตอ้ ง ขน้ั ท่ี 4 กำรวิเครำะหแ์ ละแปลผลข้อมลู 1. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ นาข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการศกึ ษามารว่ มกันวิเคราะห์ตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมูล และ วเิ คราะหเ์ ชอ่ื มโยงเพิม่ เตมิ ถึงลักษณะอณุ หภูมิเฉล่ียทัง้ ของโลกและของไทย ความกดอากาศ ทิศทางการ เคลอื่ นท่ีของลม ประเภทของลม รวมไปถึงนา้ และการเปลีย่ นแปลงสถานะ โดยครูช่วยช้ีแนะเพมิ่ เตมิ 2. สมาชิกแตล่ ะกล่มุ อภิปรายผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอขอ้ มูลจากการศกึ ษาบรรยากาศภาคและการเปลยี่ นแปลงทางบรรยากาศภาค สมาชกิ กลมุ่ อื่นเสนอข้อคิดเหน็ หรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ขัน้ ที่ 5 กำรสรปุ เพ่ือตอบคำถำม 1. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ เกยี่ วกบั การใช้เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ และเครอื่ งมอื ดา้ นเทคโนโลยใี นการสบื คน้ บรรยากาศภาคและการเปลยี่ นแปลงทางบรรยากาศภาค 2. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ ชว่ ยกนั สรุปสาระสาคญั เพ่ือตอบคาถามเชงิ ภูมิศาสตร์ 3. นักเรียนรว่ มกนั ทาใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง บรรยากาศภาคและการเปล่ยี นแปลงทางบรรยากาศภาค และ ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องของใบงาน ขน้ั สรุป นักเรียนร่วมกนั สรปุ บรรยากาศภาคและการเปลี่ยนแปลงทางบรรยากาศภาค ตลอดจนความสาคัญท่มี ีอิทธิพล ตอ่ การดาเนินชีวติ ของประชากร
เรื่องที่ 3 : อทุ กภำค 79 วธิ ีสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process) เวลำ 3 ชัว่ โมง ขน้ั นา นกั เรียนชมภาพหรอื คลิปวดิ ีโอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกด้านอุทกภาค แลว้ ตอบคาถาม กระต้นุ ความคิด ขัน้ สอน ข้นั ที่ 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภมู ิศำสตร์ 1. นกั เรียนดูแผนผงั แสดงวฏั จกั รทางอุทกวิทยา แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคิดเห็น 2. นกั เรียนช่วยกันต้งั คาถามเชิงภูมิศาสตร์ ขนั้ ที่ 2 กำรรวบรวมขอ้ มลู 1. ครูให้นักเรยี นแบ่งกล่มุ และใหร้ ว่ มกันสืบค้นขอ้ มูลเกีย่ วกบั การเปล่ยี นแปลงทางอุทกภาค โดยใช้ เครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตรต์ ามประเด็นที่นกั เรยี นร่วมกนั กาหนด 2. ครแู นะนาแหล่งข้อมลู สารสนเทศเพม่ิ เตมิ ข้นั ท่ี 3 กำรจดั กำรข้อมูล 1. สมาชกิ แตล่ ะคนในกล่มุ นาข้อมูลท่ีตนไดจ้ ากการรวบรวมมาอธิบายแลกเปลยี่ นความรู้ระหว่างกนั 2. จากนนั้ สมาชกิ ในกลมุ่ ช่วยกนั คัดเลอื กข้อมูลเพ่ือให้ไดข้ ้อมลู ท่ีถกู ต้อง ข้ันท่ี 4 กำรวเิ ครำะห์และแปลผลข้อมูล 1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ นาข้อมูลท่ีได้จากการศึกษามารว่ มกนั วิเคราะหต์ รวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมลู และ วิเคราะหเ์ ช่ือมโยงถงึ แหล่งนา้ ใต้ดนิ แหลง่ น้าผวิ ดิน พ้นื ทีล่ ุ่มนา้ สาคัญ รวมถงึ การไหลเวียนและอิทธพิ ลของ กระแสนา้ ในมหาสมุทร โดยครูช่วยช้ีแนะเพ่ิมเตมิ 2. สมาชิกแต่ละกลมุ่ อภิปรายผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล 3. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มนาเสนอขอ้ มูลจากการศกึ ษาอุทกภาค สมาชกิ กลุ่มอ่ืนเสนอข้อคิดเห็น หรือ ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติม 4. นักเรยี นรว่ มกนั ทาใบงานท่ี 2.3 เรื่อง ปรากฏการณท์ างอทุ กภาค และร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ ใบงาน ข้ันท่ี 5 กำรสรปุ เพื่อตอบคำถำม 1. นักเรยี นร่วมกันสรปุ เกย่ี วกบั การใชเ้ คร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ และเคร่ืองมอื ดา้ นเทคโนโลยีในการสืบค้น อทุ กภาค
80 2. สมาชิกในแตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั สรปุ สาระสาคัญเพ่ือตอบคาถามเชงิ ภมู ิศาสตร์ ขั้นสรปุ นักเรยี นร่วมกนั สรปุ อทุ กภาค ตลอดจนความสาคัญที่มีอทิ ธพิ ลต่อการดาเนินชวี ติ ของประชากร เร่อื งท่ี 4 : ชีวภำค เวลำ 3 ชว่ั โมง วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process) ข้ันนา ครูใหน้ กั เรียนดภู าพระบบนเิ วศแต่ละพน้ื ที่ เช่น ทุนดรา ป่าฝนเขตรอ้ น ทะเลทราย เทอื กเขาสูง ป่าสน ทงุ่ หญา้ เขตรอ้ น ฯลฯ จากนัน้ อภปิ รายแสดงความคดิ ร่วมกนั ขัน้ สอน ขน้ั ที่ 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภูมิศำสตร์ 1. ใหน้ ักเรยี นศึกษาแผนท่ีแสดงเขตชีวนิเวศของโลก แลว้ รว่ มกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ 2. นักเรียนช่วยกนั ตั้งคาถามเชิงภูมิศาสตร์ ขน้ั ที่ 2 กำรรวบรวมขอ้ มูล 1. ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลุ่ม และใหร้ ่วมกันสืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกับการเปลยี่ นแปลงทางชีวภาค โดยใช้ เคร่ืองมือทางภมู ิศาสตรต์ ามประเดน็ ท่นี กั เรียนรว่ มกนั กาหนด 2. ครแู นะนาแหล่งข้อมูลสารสนเทศเพมิ่ เติม ขั้นท่ี 3 กำรจดั กำรข้อมลู 1. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ นาขอ้ มูลที่ตนได้จากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลยี่ นความร้รู ะหวา่ งกนั 2. จากนนั้ สมาชิกในกลุ่มชว่ ยกนั คัดเลือกขอ้ มลู เพื่อให้ไดข้ อ้ มูลที่ถกู ตอ้ ง ขั้นที่ 4 กำรวิเครำะห์และแปลผลข้อมลู 1. สมาชิกแตล่ ะกลมุ่ นาข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการศกึ ษามารว่ มกันวิเคราะห์ และตรวจสอบความถกู ตอ้ งของขอ้ มูล รวมถึงทาการวิเคราะหเ์ ช่อื มโยงถึงความหลากหลายทางชีวภาค โดยครูช่วยช้ีแนะเพม่ิ เติม 2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มนาเสนอและรว่ มกนั อภปิ รายผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล สมาชิกกล่มุ อืน่ เสนอขอ้ คิดเหน็ หรอื ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม 3. นักเรียนร่วมกันทาใบงานที่ 2.4 เรือ่ ง ระบบชีวนเิ วศ และรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน
81 ขนั้ ที่ 5 กำรสรปุ เพื่อตอบคำถำม 1. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกบั การใช้เคร่อื งมือทางภมู ิศาสตร์ และเครอื่ งมอื ดา้ นเทคโนโลยีในการสืบค้น ชวี ภาคและการเปลยี่ นแปลงทางชีวภาค 2. สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สรปุ สาระสาคญั เพ่ือตอบคาถามเชงิ ภูมิศาสตร์ ขั้นสรุป นักเรยี นร่วมกนั สรุปชีวภาคและการเปล่ียนแปลงทางชีวภาค ตลอดจนความสาคญั ท่ีมอี ทิ ธพิ ลตอ่ การดาเนิน ชวี ติ ของประชากร เรอื่ งท่ี 5 : กำรเปลย่ี นแปลงทำงกำยภำพทส่ี ่งผลต่อภูมปิ ระเทศ ภูมอิ ำกำศ และทรพั ยำกรธรรมชำติ วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) เวลำ 3 ชวั่ โมง ขน้ั นา ครูให้นกั เรียนดภู าพตัวอยา่ งการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพทส่ี ง่ ผลต่อภมู ิประเทศ ภูมอิ ากาศ และ ทรพั ยากรธรรมชาติ จากนั้นสุ่มนักเรยี นเพ่ือตอบคาถามและอภิปรายแสดงความคิดรว่ มกนั ขน้ั สอน ขนั้ ที่ 1 กำรต้ังคำถำมเชิงภูมศิ ำสตร์ 1. นักเรยี นดูรปู ถ่ายทางอากาศและภาพจากดาวเทียมทีเ่ กย่ี วข้องกบั การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพทีส่ ่งผล ต่อภมู ปิ ระเทศ ภูมอิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ แล้วร่วมกนั ตอบคาถาม 2. นักเรียนร่วมกันศึกษาโครงสรา้ งภูมปิ ระเทศท่ีเกดิ จากนา้ ใตด้ ินและนา้ ทะเล 3. นักเรียนร่วมกันตง้ั คาถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ ขัน้ ท่ี 2 กำรรวบรวมข้อมลู 1. ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุม่ และให้รว่ มกนั สืบคน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพท่ีส่งผล ต่อภมู ปิ ระเทศ ภูมอิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ โดยใชเ้ ครือ่ งมือทางภูมศิ าสตรต์ ามประเดน็ ท่ี นักเรียนรว่ มกันกาหนด 2. ครแู นะนาแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศเพ่มิ เตมิ ข้นั ท่ี 3 กำรจดั กำรข้อมูล 1. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลท่ีตนไดจ้ ากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปลี่ยนความร้รู ะหวา่ งกนั 2. จากนัน้ สมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลอื กข้อมลู เพ่ือให้ไดข้ ้อมลู ท่ีถกู ต้อง
82 ขัน้ ท่ี 4 กำรวเิ ครำะหแ์ ละแปลผลข้อมูล 1. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ นาข้อมูลทไี่ ดจ้ ากการศึกษามาทาการนาเสนอ และร่วมกนั วิเคราะห์ตรวจสอบความ ถกู ตอ้ งของขอ้ มลู โดยครูชว่ ยชแ้ี นะเพิ่มเตมิ 2. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอและร่วมกันอภปิ รายผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล รวมถงึ ตอบคาถามเพ่ือเป็นการ วเิ คราะหเ์ พมิ่ เตมิ เกี่ยวกับการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพทีส่ ่งผลต่อภูมปิ ระเทศ ภูมิอากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติ 3. นักเรียนรว่ มกันทาใบงานที่ 2.5 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่ส่งผลต่อภูมปิ ระเทศ ภูมอิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ แล้วร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ งของใบงาน ข้นั ที่ 5 กำรสรุปเพอื่ ตอบคำถำม 1. นกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั การใชเ้ ครือ่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ และเคร่ืองมือด้านเทคโนโลยใี นการสบื ค้น การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพทส่ี ่งผลต่อภูมปิ ระเทศ ภูมิอากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ 2. สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สรปุ สาระสาคญั เพ่ือตอบคาถามเชิงภมู ศิ าสตร์ ข้ันสรุป นกั เรียนร่วมกนั สรปุ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพทสี่ ่งผลตอ่ ภมู ปิ ระเทศ ภมู ิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนความสาคัญทีม่ ีอทิ ธพิ ลตอ่ การดาเนนิ ชวี ิตของประชากร 10. ส่อื /แหลง่ กำรเรยี นรู้ 10.1 สอื่ กำรเรียนรู้ 1) หนงั สือเรยี นภูมิศาสตร์ ม.4-6 2) แบบฝึกสมรรถนะและการคดิ ภูมิศาสตร์ ม.4-6 3) แบบวดั และบันทึกผลการเรยี นรู้ ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 4) หนังสอื คน้ ควา้ เพิม่ เติม (1) โครงการตาราวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์มลู นิธิ สอวน. 2557. ภูมิศำสตร์กำยภำพ. กรงุ เทพมหานคร : ด่านสุทธาการพมิ พ์. (2) โครงการตาราวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตรม์ ูลนธิ ิ สอวน. 2559. ภูมศิ ำสตร์เทคนคิ . กรงุ เทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์. (3) โครงการตาราวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์มลู นิธิ สอวน. 2557. ภูมศิ ำสตร์มนษุ ย์. กรุงเทพมหานคร : ดา่ นสทุ ธาการพิมพ.์ (4) ปญั ญา จารุศริ .ิ ธรณวี ทิ ยำแปรสัณฐำน. 2558. กรุงเทพมหานคร : ภาควิชาธรณวี ิทยา คณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (5) แผนทีท่ หาร, กรม. ม.ป.ป. แผนที่เล่มประเทศไทยมำตรำส่วน 1 : 3,000,000. กรุงเทพมหานคร : กรมแผนทีท่ หาร.
83 5) เคร่ืองมือทางภูมศิ าสตร์ ได้แก่ แผนท่ี ลูกโลกจาลอง รูปถา่ ยทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม 6) ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ปรากฏการณท์ างธรณีภาค 7) ใบงานที่ 2.2 เรื่อง บรรยากาศภาคและการเปลย่ี นแปลงทางบรรยากาศภาค 8) ใบงานที่ 2.3 เรอื่ ง ปรากฏการณ์ทางอทุ กภาค 9) ใบงานที่ 2.4 เรื่อง ระบบชีวนิเวศ 10) ใบงานที่ 2.5 เรอ่ื ง การเปล่ียนแปลงทางกายภาพทส่ี ่งผลตอ่ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และ ทรัพยากรธรรมชาติ 10.2 แหลง่ กำรเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.learners.in.th/blogs/posts/32187 - http://earth.google.co.th - http://maps.google.co.th - http://thaigoodview.com - https://www.youtube.com/watch?v=fsUnFAQdUSA - https://www.youtube.com/watch?v=fjfXZzx04So - https://www.youtube.com/watch?v=3NAuTj_iCbA - https://etcgeography.wordpress.com
84 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี 2 คำชี้แจง : ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดเปน็ สว่ นของเปลอื กโลกทีเ่ รียกวา่ ธรณภี าค 7. เพราะเหตใุ ด อณุ หภูมิบนยอดเขาจึงเยน็ กวา่ อุณหภูมิของ ก. ชน้ั เปลือกโลกเพยี งอยา่ งเดียว อากาศบรเิ วณเชงิ เขา ข. ชน้ั เนื้อโลกส่วนกลางกบั ชนั้ แก่นโลก ก. บนยอดเขามีลมพัดแรงกวา่ เชงิ เขา ค. ช้นั เนือ้ โลกสว่ นบนกับชั้นเปลือกโลก ข. บนยอดเขามตี ้นไม้มากลมจงึ พดั ไดแ้ รง ง. ชนั้ เปลือกโลกทั้งหมดกบั ชนั้ ในเน้อื โลก ค. บนยอดเขามคี วามกดอากาศนอ้ ยกว่าเชิงเขา 2. การเลอ่ื นของทวปี ท่ีเรียกวา่ แผน่ ดินพันเจีย มีลักษณะอยา่ งไร ง. บนยอดเขามีความกดอากาศมากกว่าเชิงเขา ก. พน้ื ผิวทเ่ี ป็นทะเล 8. การเคลือ่ นทีข่ องลมมีทิศทางเปน็ อย่างไร ข. ทวีปท่แี ยกกันเป็น 2 ทวปี ก. จากหยอ่ มความกดอากาศสูงไปสู่หย่อมความกดอากาศตา่ ค. แผ่นดนิ ท่ีจมอยใู่ ตม้ หาสมุทร ข. จากหยอ่ มความกดอากาศตา่ ไปส่หู ย่อมความกดอากาศสูง ง. เปลอื กโลกทเี่ ชื่อมตอ่ กนั เป็นทวปี เดยี ว ค. จากหยอ่ มความกดอากาศสงู ไปสู่หย่อมความกดอากาศสงู 3. เทอื กเขาหิมาลยั เกิดจากปรากฏการณท์ างธรณภี าคแบบใด ง. จากหย่อมความกดอากาศต่าไปส่หู ย่อมความกดอากาศตา่ ก. การชนกนั ของแผน่ เปลอื กโลก 9. ชัน้ โอโซนมีประโยชนต์ ่อโลกอยา่ งไร ข. การแยกกันของแผน่ เปลือกโลก ก. ช่วยให้อากาศสดชืน่ ค. การเฉือนกนั ของแผ่นเปลอื กโลก ข. ช่วยดดู กลืนรงั สอี ัลตราไวโอเลต ง. การคดโค้งโกง่ งอของแผ่นเปลือกโลก ค. ช่วยลดปรมิ าณสารพิษในอากาศ 4. ขอ้ ใดสาคญั เปน็ อนั ดับแรกในการบง่ บอกถงึ การเป็นบริเวณ ง. ชว่ ยเพมิ่ ปรมิ าณออกซิเจนในอากาศ วงแหวนแหง่ ไฟ 10. ข้อใดเป็นลกั ษณะการเกดิ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ก. มีแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณภี าคหลายแผน่ ก. นา้ ในมหาสมทุ รแปซฟิ ิกดา้ นตะวนั ตกมอี ุณหภูมิคงที่ ข. มกี ารเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาคตลอดเวลา ข. นา้ ในมหาสมทุ รแปซฟิ ิกดา้ นตะวนั ตกมอี ุณหภูมิสงู ข้ึน ค. มภี เู ขาไฟระเบิดมากทีส่ ุดในโลก ท้ังในแผน่ ดนิ และ ค. นา้ ในมหาสมทุ รแปซฟิ ิกด้านตะวันออกมีอณุ หภูมสิ ูงขึ้น ใต้มหาสมทุ ร ง. นา้ ในมหาสมุทรแปซฟิ กิ ด้านตะวนั ออกมีอณุ หภมู ิลดลง ง. มีแผ่นดนิ ไหวรนุ แรงมากทส่ี ุดในโลกถึงรอ้ ยละ 80 ของการ 11. ปัจจัยในข้อใดทีส่ าคญั ทสี่ ดุ ในการเกิดวฏั จักรของน้า เกิดแผ่นดินไหวในโลก ก. ลม ข. ปา่ ไม้ 5. กระแสน้า ลม ธารนา้ แข็ง แรงโนม้ ถ่วงของโลก เรียก ค. ส่ิงมชี วี ิต ง. ความร้อน กระบวนการน้วี า่ อะไร 12. หากใช้แหล่งนา้ จืดข้อใดในปรมิ าณมาก จะมีผลตอ่ การทรดุ ตัว ก. การกร่อน ข. การพัดพา หรือยบุ ตัวของแผ่นดนิ ค. การตกตะกอน ง. การผุพังอยู่กบั ที่ ก. นา้ ในดิน 6. บรรยากาศชั้นใดของโลกทเี่ กดิ เมฆพายฝุ นฟ้าคะนอง ข. นา้ ผิวดนิ ก. เมโซสเฟียร์ ข. โทรโฟสเฟียร์ ค. นา้ บาดาล ค. เทอร์โมสเฟียร์ ง. สแตรโทสเฟียร์ ง. นา้ ในอ่างเกบ็ น้า
85 13. เพราะเหตใุ ด การสรา้ งเข่ือนกนั้ แม่นา้ โขงของประเทศจีน 17. ปัจจยั ทางกายภาพขอ้ ใดมีอิทธพิ ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงระบบ จึงส่งผลกระทบต่อระบบนเิ วศของแมน่ า้ โขงตอนลา่ ง ชีวนิเวศของโลกมากทสี่ ดุ ก. ทาใหน้ ้าตื้นเขิน ก. ดิน ไฟป่า ข. ทาให้มีสารพษิ ในน้า ข. อุณหภูมิ ความชืน้ ค. ทาใหต้ ล่งิ กั้นนา้ พงั ทลาย ง. แสงสวา่ ง แก๊สในบรรยากาศ ง. ทาใหก้ ารขึ้นลงของน้าผดิ ปกติ ค. กระแสน้า ความกดอากาศ 14. ข้อใดเป็นสาเหตทุ ที่ าให้ลักษณะทางกายภาพของท้องทะเล 18. ระบบนเิ วศในบริเวณใดท่ีมีความหลากหลายของส่งิ มีชีวติ เมืองดไู บ มกี ารเปล่ียนแปลงไปจากเดมิ มากท่ีสุด ก. การทิ้งของเสยี จากครวั เรอื น ก. ป่าฝนเขตร้อนในแถบศูนย์สตู ร ข. การขยายพ้นื ที่ด้วยการถมทะเล ข. ทงุ่ หญ้าสะวนั นาในทวปี แอฟริกา ค. การจับสตั วน์ า้ และเก็บปะการังมากเกินไป ค. ปา่ เขตอบอนุ่ ในทวปี ออสเตรเลยี ง. การรวั่ ไหลของน้ามันเชอื้ เพลงิ จากเรือประมง ง. ปา่ สนหรือไทกาในไซบีเรยี ประเทศรัสเซยี 15. “คูริลแบงส์” พบไดใ้ นบริเวณใด 19. เมอ่ื เกดิ การเปล่ยี นแปลงแทนท่แี บบปฐมภูมิบรเิ วณภูเขาไฟท่ี ก. มหาสมุทรอินเดยี ข. กลางมหาสมทุ รแปซฟิ ิก ปะทใุ หม่ ๆ สิ่งมีชวี ติ ที่จะเข้ามาอยูใ่ นพนื้ ทีไ่ ดเ้ ป็นกล่มุ แรก ค. ทางตะวนั ตกของประเทศญี่ป่นุ ง. ทางตะวันออกของประเทศญีป่ ุ่น คอื ขอ้ ใด 16. ป่าที่ขนึ้ ได้ดีในสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ป็นดินเลนและนา้ กร่อย ก. ไม้ล้มลกุ ข. หญ้าและวัชพืช มีพนั ธ์ไุ ม้และสตั วน์ า้ เจริญเติบโตไดด้ ีคอื ป่าชนิดใด มีความสาคัญอยา่ งไร ค. มอสส์และไลเคน ง. เหด็ ราและสาหร่าย ก. ปา่ สน : แหลง่ ประมง ข. ป่าแดง : แหลง่ ท่องเทีย่ ว 20. ปัจจยั ร้ายแรงทส่ี ุดท่ที าให้เกดิ การเปลีย่ นแปลงแทนที่ของ ค. ปา่ ดงดิบ : แหล่งเก็บปะการงั ชายฝงั่ ง. ปา่ ชายเลน : แหล่งรกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศชายฝง่ั สิ่งมีชวี ิตในธรรมชาติคอื ขอ้ ใด ก. ปจั จยั ทางเคมี ข. ปัจจยั ทางฟิสิกส์ ค. ปัจจัยทางชวี ภาพ ง. ปจั จัยทางกายภาพ เฉลย 1. ค. 2. ง. 3. ก. 4. ง. 5. ก. 6. ข. 7. ค. 8. ก. 9. ข. 10. ค. 11. ง. 12. ค. 13. ง. 14. ข. 15. ง. 16. ง. 17. ข. 18. ก. 19. ค. 20. ค.
86 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 3 หน่วยท่ี 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เรอื่ ง ธรณภี ำค สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 3 ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 ผ้สู อน นายยงยทุ ธ์ ออ่ นนวล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชวี้ ัด 1.1 ตัวชี้วดั ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพนั ธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผลตอ่ กนั ใช้แผนที่ และเครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตรใ์ นการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปขอ้ มลู ตามกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ตลอดจนใช้ ภมู สิ ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ ม.4-6/1 วเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซง่ึ ได้รับอทิ ธพิ ลจากปจั จยั ทางภมู ศิ าสตร์ 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1. วิเคราะห์การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณีภาคของพืน้ ที่ในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของ โลก ซง่ึ ไดร้ ับอิทธิพลจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ได้ (K) 2. วิเคราะห์โครงสรา้ งและกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางธรณภี าคของโลกได้ (K) 3. เลอื กใชเ้ คร่อื งมือทางภูมศิ าสตรใ์ นการศึกษาการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณภี าคของพ้นื ทีใ่ น ประเทศไทยและภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ซึ่งได้รบั อิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ได้ (P) 4. สนใจศึกษาการเปล่ียนแปลงทางกายภาพของพน้ื ท่ีในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่ง ได้รบั อิทธิพลจากปจั จัยทางภูมศิ าสตร์เพ่มิ มากขน้ึ (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ สำระกำรเรียนรูจ้ ำกสอ่ื (พจิ ารณาตามหลกั สตู ร - การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ สำระกำรเรยี นรู้แกนกลำง ของ 1) การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพ สถานศึกษา) พน้ื ทใี่ นประเทศไทยและ (ประกอบด้วย 1. ธรณีภาค ภูมภิ าค 2. บรรยากาศภาค 3. อทุ กภาค 4. ชวี ภาค) ของพืน้ ท่ีใน ต่าง ๆ ของโลกในด้านธรณี ประเทศ ภาค ไทยและภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซง่ึ ได้รับอิทธพิ ลจากปัจจยั ทาง ภมู ิศาสตร์
87 2) การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ ที่ ส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ 4. มโนทศั นส์ ำคญั (Key Concept) - ปัจจยั ทางภูมิศาสตร์มอี ิทธพิ ลตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณีภาคในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่างๆ ของโลก ซึ่งส่งผลต่อภมู ิประเทศ ภูมิอากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ 5. คำถำมหลัก (Big Question) 1. ปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรท์ ่สี ่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณภี าคมีอะไรบ้าง อย่างไร 2. การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพด้านธรณภี าคส่งผลต่อภมู ิประเทศ ภูมิอากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ ในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลกอยา่ งไร 6. กำรรเู้ ร่อื งภมู ศิ ำสตร์ (Geo–Literacy) ทักษะทำงภมู ิศำสตร์ 1. การแปลความข้อมูลทาง ควำมสำมำรถทำงภูมศิ ำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ภูมศิ าสตร์ 1. การให้เหตุผลทางภูมศิ าสตร์ 1. การต้ังคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ 2. การคิดเชิงพน้ื ท่ี 2. การตัดสนิ ใจอย่างเป็นระบบ 2. การรวบรวมข้อมลู 3. การจดั การขอ้ มูล 4. การวเิ คราะหข์ ้อมูล 5. การสรปุ เพอื่ ตอบคาถาม 7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคดิ 1. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทักษะการทาให้กระจา่ ง 2. มุง่ มัน่ ในการทางาน 2) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
88 8. กิจกรรมกำรเรียนรู้ วิธสี อนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process) ชว่ั โมงที่ 1 ขั้นนา 1. ครูแจง้ ให้นกั เรยี นทราบถึงวิธสี อนแบบกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process) ชอื่ เร่อื งที่จะเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูให้นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ ของโลก 3. ครูให้นักเรยี นวิเคราะหร์ ว่ มกนั เก่ยี วกับปจั จยั ท่ีก่อให้เกดิ การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของโลกตาม ความคิดโดยเบื้องตน้ ของนักเรียน 4. ครใู หน้ ักเรียนดภู าพ หรือคลปิ วิดโี อเก่ยี วกับการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพของโลก ด้านธรณีภาค เชน่ - เปลือกโลกและโครงสรา้ งของเปลือกโลก - ทฤษฎกี ารเล่อื นของทวปี - การเคล่ือนทขี่ องแผ่นธรณีภาค - การเปลีย่ นแปลงภายในเปลอื กโลก - การเปล่ยี นแปลงบนเปลอื กโลก 5. ครูถามคาถามกระตุ้นความคดิ โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกันตอบคาถาม เชน่ - การเปล่ยี นแปลงธรณีภาคของโลก กอ่ ใหเ้ กิดผลอย่างไรได้บา้ ง (แนวตอบ เช่น การเกดิ แผน่ ดินไหว การปะทุของภูเขาไฟ การเกดิ โครงสรา้ งหินหรอื ดินในรูปแบบต่าง ๆ) ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภูมิศำสตร์ 1. ครใู ห้นกั เรียนดูโครงสร้างของเปลือกโลก จากหนงั สอื เรียนภูมศิ าสตร์ ม.4-6 แล้วรว่ มกันแสดง ความคดิ เหน็ ตามประเด็น เช่น 1) พนื้ ผวิ ของโลก มีลักษณะเชน่ ไร (แนวตอบ พื้นผิวของโลกมีเนื้อที่ประมาณ 525 ล้านตารางกิโลเมตร โดยส่วนใหญ่เป็นทะเลหรือมหาสมุทร ส่วนทเี่ ป็นแผน่ ดนิ มีระดบั ของพ้ืนผิวทีแ่ ตกตา่ งกันออกไปตามลกั ษณะภมู ปิ ระเทศแบบตา่ ง ๆ ท้งั เทอื กเขาสูง ที่ ราบ หุบเขา โดยจุดสูงท่ีสุดของพื้นผิวโลกอยู่บริเวณท่ีเป็นแผ่นดิน คือ ยอดเขาเอเวอเรสต์ เทือกเขาหิมาลัย ส่วนจดุ ท่ีต่าทส่ี ดุ อยูใ่ นมหาสมทุ รแปซิฟกิ คือ ร่องลกึ ก้นมหาสมทุ รมาเรียนา)
89 2) นกั เรียนคิดวา่ ปจั จัยที่ทาให้บรเิ วณเปลือกโลกมีสัณฐานและคุณสมบัติทางเคมีแตกตา่ งกันคือ อะไร (แนวตอบ เชน่ เน่อื งดว้ ยปัจจัยวตั ถธุ าตุต้นกาเนิด กระบวนการเกิด สภาพแวดล้อม และระยะเวลา การเกดิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ) 2. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับแมกมา จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 แล้ว รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเพิม่ เตมิ 3. จากนั้นครูให้นักเรียนดูคลิปวิดโี อที่เกี่ยวข้องกับการเลื่อนของทวีป หรือทฤษฎปี ระกอบการเลื่อน ไหลของทวีป จากอินเทอรเ์ น็ต และข้อมูลประกอบจากหนังสือเรียนภูมศิ าสตร์ ม.4-6 แล้วรว่ มกันแสดง ความคิดเห็นตามประเดน็ เชน่ - เพราะเหตุใด แผน่ ธรณีภาคของโลกเม่อื 250 ลา้ นปกี อ่ น จงึ มคี วามแตกตา่ งจากในปจั จบุ นั (แนวตอบ เพราะแผ่นธรณีภาคท่ีเปน็ ของแขง็ ของโลก เป็นช้นั หินท่ีลอยอยบู่ นฐานธรณีภาคและ แมกมาร้อนที่มีการหลอมเหลวและมีการเคล่ือนตัวอย่างต่อเนื่อง อันมีสาเหตุจากการถ่ายเท พลังงานความรอ้ น ทาใหแ้ ผ่นธรณภี าคค่อย ๆ เคลอื่ นท่อี ยา่ งช้า ๆ ตลอดเวลา ดังนนั้ จึงเป็นสาเหตุที่ ทาให้แผ่นธรณีภาค หรือแผ่นเปลือกโลกมีการเคลื่อนท่ีไปเรื่อย ๆ จนเกิดการชนกัน มุดเกยกัน หรือ แยกตัวออกจากกนั จงึ ทาใหแ้ ผน่ ธรณีภาคของโลกเมื่อ 250 ลา้ นปกี อ่ น มคี วามแตกต่างจากในปจั จุบัน เปน็ อย่างมาก) 4. ครูใหน้ ักเรียนรว่ มกันศกึ ษา Geo Tip เกยี่ วกับหลกั ฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีการเลือ่ นของทวีป จาก หนังสอื เรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เพม่ิ เติม 5. ครูให้นักเรียนดูคลิปวิดีโอเก่ียวกับธรณีภาคท่ีมีการเปลี่ยนแปลงในบริเวณพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก จากน้นั สอบถามความคิดของนักเรียนเก่ียวกับสาเหตุการเกิด บรเิ วณพ้ืนท่ที เี่ กดิ และผลกระทบท่ีเกดิ ขึน้ 6. ครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเก่ียวกับการเคลื่อนท่ีของแผ่นธรณีภาค จาก หนงั สอื เรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6 แลว้ ร่วมกันอภปิ รายเพิ่มเตมิ ตามประเดน็ ลกั ษณะการเคลอ่ื นทีข่ องแผน่ ธรณีภาค โดยครูแนะนาเพม่ิ เติม อันไดแ้ ก่ 1) การเคลอื่ นทข่ี องแผ่นธรณภี าคลู่เข้าหากัน 2) การเคลอ่ื นที่ของแผ่นธรณภี าคแยกจากกนั 3) การเคลือ่ นทข่ี องแผน่ ธรณภี าคตามแนวระดับ 7. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาภาพประกอบหรือคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีภาค ทั้ง 3 ลักษณะ จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 หรือจากแหล่งการเรียนรู้อ่ืน ๆ เช่น หนังสือในห้องสมุด เวบ็ ไซต์ในอนิ เทอรเ์ นต็ เพิม่ เติม 8. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ตั้งประเดน็ คาถามเชงิ ภูมิศาสตรเ์ ก่ยี วกับธรณภี าคและการเปล่ียนแปลงทาง ธรณภี าค เพือ่ ค้นหาคาตอบ เชน่ 1) การเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลกมกี ระบวนการอยา่ งไร 2) การเปล่ียนแปลงภายในเปลอื กโลกส่งผลต่อลกั ษณะทางกายภาพอยา่ งไร
90 3) การเปล่ียนแปลงบนเปลอื กโลกสง่ ผลตอ่ ลักษณะทางกายภาพของโลกอย่างไร 4) ประเทศไทยประสบปญั หาการเปล่ียนแปลงทางธรณีภาคในประเดน็ ใดมากที่สุด เพราะเหตุใด ข้ันที่ 2 กำรรวบรวมข้อมลู 1. ครใู ห้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 6-8 คน สบื ค้นข้อมลู เก่ียวกบั การเปลยี่ นแปลงทางธรณีภาค ประกอบการใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่แสดงแผ่นเปลือกโลกสาคัญ จากหนังสือ เรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6 หรือจากแหล่งการเรยี นร้อู ื่น ๆ เชน่ หนังสอื ในหอ้ งสมดุ เวบ็ ไซต์ในอินเทอรเ์ นต็ ในประเดน็ ต่อไปนี้ 1) กระบวนการเปล่ยี นแปลงภายในโลก 2) กระบวนการปรบั ระดับพ้นื ผิวโลก 2. ครแู นะนาแหล่งข้อมลู สารสนเทศที่น่าเช่อื ถือให้กบั นกั เรยี นเพิม่ เตมิ ชว่ั โมงที่ 2 ขัน้ ท่ี 3 กำรจดั กำรขอ้ มูล 1. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลที่ตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรู้ระหวา่ ง กัน 2. จากน้ันสมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกข้อมูลที่นาเสนอเพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และร่วม อภปิ รายแสดงความคิดเห็นเพ่ิมเตมิ 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มใช้สมาร์ตโฟนค้นหาการกระจายของขนาดของแผ่นดินไหวในบริเวณ พื้นทต่ี ่าง ๆ ของโลกเพ่ิมเติม แลว้ นาข้อมูลมาอภิปรายร่วมกันภายในช้ันเรียน ขัน้ ท่ี 4 กำรวิเครำะห์และแปลผลข้อมลู 1. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มวิเคราะห์เพ่ิมเติมถึงลักษณะและผลกระทบของการปะทุของภูเขาไฟแต่ ละรูปแบบ ตลอดจนยกตัวอยา่ งการปะทขุ องภูเขาไฟทพ่ี บในแตล่ ะภูมิภาคของโลกประกอบการวิเคราะห์ เช่ือมโยงกับการเปลย่ี นแปลงทางธรณีภาคเพมิ่ เตมิ 2. สมาชิกแต่ละกลุ่มนาข้อมูลของตนเองมาวิเคราะห์ถึงความเช่ือมโยงกับโครงสร้างทางธรณีวิทยา ว่ามคี วามเก่ียวข้องกนั หรือไม่ อย่างไร ตลอดจนยกตัวอยา่ งประกอบเพิ่มเตมิ 3. ครูนาตัวอย่างหินตะกอน หินอัคนี และหินบะซอลต์มาให้นักเรียนดู พร้อมท้ังสอบถามนักเรียน เกี่ยวกบั ท่ีมา โครงสร้าง และความสัมพันธ์ทางธรณวี ทิ ยา จากนัน้ ครูแนะนาเพิ่มเตมิ 4. นักเรียนวิเคราะห์และเชื่อมโยงความสัมพนั ธ์ของโครงสร้างทางธรณีวิทยาจากการดูตัวอย่างหนิ กบั กระบวนการปรับระดบั พื้นผิวโลก ระหว่างน้ันครูอาจให้นกั เรยี นใช้สมารต์ โฟนสบื คน้ เพ่อื ขยายความรู้ เกีย่ วกบั การผพุ ังของหนิ และแร่ จากหนังสอื เรยี นภูมิศาสตร์ ม.4-6 เพม่ิ เติม จากน้ันร่วมกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ งของข้อมลู
91 5. ครูให้นักเรียนร่วมกนั ยกตัวอย่างสถานท่ีท่องเท่ียวในโลกหรอื ในประเทศไทยท่ีเกดิ จากการกรอ่ น ของหนิ และดนิ พร้อมทั้งวเิ คราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั สถานทด่ี งั กล่าวร่วมกัน 6. ครูให้นักเรยี นรว่ มกันใช้สมาร์ตโฟนสืบคน้ เพื่อขยายความรูเ้ ก่ียวกบั การพดั พาและการทับถม จาก หนงั สอื เรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 เพ่มิ เตมิ 7. ครูให้สมาชิกแต่ละกลุ่มนาข้อมูลที่รวบรวมมาไดท้ าการวเิ คราะห์ร่วมกันเพื่ออธิบายคาตอบ และ ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จากน้ันแต่ละกลุ่มนาเสนอข้อมูลจากการศึกษาธรณีภาคและการ เปลย่ี นแปลงทางธรณภี าค สมาชิกกลมุ่ อื่นผลดั กันใหข้ อ้ คิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ขัน้ ท่ี 5 กำรสรปุ เพื่อตอบคำถำม 1. นกั เรียนในชัน้ เรียนรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกับการใชเ้ คร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์ และเครือ่ งมอื ดา้ น เทคโนโลยีในการสืบคน้ ธรณภี าค 2. ครูใหส้ มาชกิ ในแต่ละกล่มุ ช่วยกันสรุปสาระสาคัญเพื่อตอบคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ 3. นักเรียนกล่มุ เดมิ รว่ มกันทาใบงานที่ 2.1 ปรากฏการณ์ทางธรณีภาค โดยครูแนะนาเพม่ิ เตมิ 4. นกั เรยี นทาแบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 เกี่ยวกับเรอื่ ง ธรณีภาค เพ่อื เปน็ การบ้านสง่ ครู ในช่วั โมงถัดไป ขนั้ สรุป ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรเู้ ก่ยี วกับธรณภี าค ตลอดจนความสาคัญที่มีอิทธพิ ลตอ่ การดาเนินชีวิต ของประชากร หรือใช้ PPT สรุปสาระสาคัญของเน้อื หา ขนั้ ประเมนิ 1. ครปู ระเมนิ ผลโดยสงั เกตจากการตอบคาถาม การร่วมกนั ทางาน และการนาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น 2. ครตู รวจสอบผลจากการทาใบงาน และแบบฝกึ สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 9. กำรวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ น - รอ้ ยละ 60 ผ่าน รายการวดั กอ่ นเรยี น เรยี น เกณฑ์ 9.1 การวัดและประเมนิ ผล ก่อนเรยี น - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเปลยี่ นแปลง ทางกายภาพของโลก
92 9.2 การวดั และประเมินผล - ตรวจใบงานที่ 2.1 - ใบงานที่ 2.1 - รอ้ ยละ 60 ผ่าน ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม เกณฑ์ การเรียนรู้ - ประเมินการนาเสนอ 1) วเิ คราะหก์ าร ผลงาน - แบบประเมนิ การ - ระดับคุณภาพ 2 เปลีย่ นแปลงทาง กายภาพด้านธรณภี าค ของพ้ืนทีใ่ น ประเทศไทยและ ภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ซ่งึ ได้รับอทิ ธิพล จากปัจจัยภูมิศาสตรไ์ ด้ 2) วิเคราะห์โครงสรา้ งและ กระบวนการ เปลีย่ นแปลงทาง ธรณภี าคของโลกของ โลกได้ 3) การนาเสนอผลงาน นาเสนอ ผา่ นเกณฑ์ ผลงาน 4) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกต - ระดบั คณุ ภาพ 2 การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์ การทางานรายบคุ คล 5) พฤติกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต - ระดบั คุณภาพ 2 การทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์ การทางานกลุ่ม 6) คุณลกั ษณะ - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2 อันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มน่ั ใน การทางาน คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์ 9.3 การรู้เรือ่ งภูมิศาสตร์ - ประเมนิ การใชเ้ ครื่องมือ ทางภมู ศิ าสตร์ อนั พงึ ประสงค์ - แบบประเมนิ การใช้ - ระดบั คณุ ภาพ 2 เคร่อื งมือทาง ผา่ นเกณฑ์ ภมู ิศาสตร์
93 10. สอื่ /แหลง่ กำรเรียนรู้ 10.1 สือ่ กำรเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 2) แบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 3) หนงั สอื คน้ คว้าเพมิ่ เติม (1) โครงการตาราวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์มูลนธิ ิ สอวน. 2557. ภมู ศิ ำสตร์กำยภำพ. กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์. (2) ปัญญา จารุศิริ. ธรณวี ทิ ยำแปรสณั ฐำน. 2558. กรงุ เทพมหานคร : ภาควิชาธรณวี ทิ ยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั . (3) แผนทท่ี หาร, กรม. ม.ป.ป. แผนทเ่ี ลม่ ประเทศไทยมำตรำส่วน 1 : 3,000,000. กรงุ เทพมหานคร : กรมแผนที่ทหาร. 4) เคร่ืองมือทางภมู ศิ าสตร์ ได้แก่ แผนท่ี ลกู โลกจาลอง รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจาก ดาวเทยี ม 5) ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ปรากฏการณท์ างธรณภี าค 10.2 แหลง่ กำรเรียนรู้ 1) ห้องสมุด 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://earth.google.co.th - http://maps.google.co.th - http:// thaigoodview.com - https://www.youtube.com/watch?v=fsUnFAQdUSA - https://www.youtube.com/watch?v=fjfXZzx04So - https://www.youtube.com/watch?v=3NAuTj_iCbA
94 ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง ปรากฏการณ์ทางธรณีภาค คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนสบื คน้ ข้อมูลปรำกฏกำรณ์ทำงธรณีภำคท่ีนกั เรียนสนใจมำ 1 เหตกุ ำรณ์ แล้วนำมำ วิเครำะห์ตำมหัวขอ้ ท่กี ำหนด เร่อื ง.......................................................................... 1. ปรากฏการณ์ดงั กล่าวเปน็ กระบวนการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพทเ่ี กดิ จากปัจจยั อะไรบา้ ง 2. กระบวนการเปลย่ี นแปลงนม้ี ลี กั ษณะอย่างไร 3. ปรากฏการณด์ ังกลา่ วสง่ ผลต่อลกั ษณะทางกายภาพอยา่ งไร 4. ปรากฏการณด์ ังกล่าวสง่ ผลกระทบต่อชีวิตและทรัพยส์ นิ อยา่ งไร สามารถปอ้ งกันไดห้ รอื ไม่ อธิบายเหตผุ ล
เฉลย 95 ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง ปรากฏการณ์ทางธรณีภาค คาช้ีแจง : ให้นักเรียนสบื คน้ ขอ้ มูลปรำกฏกำรณ์ทำงธรณภี ำคที่นักเรยี นสนใจมำ 1 เหตกุ ำรณ์ แลว้ นำมำ วิเครำะหต์ ำมหัวขอ้ ท่ีกำหนด (ตวั อย่าง) เรือ่ ง (ภูเขาไฟปะทุ) 1. ปรากฏการณด์ ังกล่าวเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพทีเ่ กดิ จากปจั จยั อะไรบ้าง เกดิ จากกระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในเปลอื กโลก 2. กระบวนการเปลย่ี นแปลงน้มี ลี ักษณะอยา่ งไร มลี กั ษณะเปน็ การถา่ ยพลังความร้อนของแมกมา การไหล หรอื ปะทุของแมกมา หรือการเคลื่อนไหล ของแมกมาใตเ้ ปลือกโลก 3. ปรากฏการณด์ ังกลา่ วส่งผลต่อลกั ษณะทางกายภาพอย่างไร ทาใหเ้ กิดปากปลอ่ งภเู ขาไฟ ซง่ึ มหี ลากหลายขนาด เมือ่ ภเู ขาไฟสงบหรอื ดับสนทิ แลว้ ปากปล่องจะ เปน็ แหล่งเกบ็ นา้ เมอื่ นา้ เตม็ ปล่อง จะไหลล้นออกมาเกิดการกรอ่ นปากปลอ่ งภูเขาไฟเปน็ ทางนา้ ไหล 4. ปรากฏการณ์ดังกลา่ วสง่ ผลกระทบตอ่ ชีวติ และทรัพยส์ ินอยา่ งไร สามารถป้องกันไดห้ รือไม่ อธิบายเหตุผล เถา้ ถ่านของภูเขาไฟ ทาให้เกิดมลพิษทางอากาศ ทาให้หายใจติดขดั ลาวาและความร้อนจากภูเขาไฟ ทาใหเ้ กิดความเสยี หายต่อชีวิตและทรัพย์สนิ อย่างมากจนไม่สามารถประมาณค่าได้ สามารถปอ้ งกันได้ โดยการติดตามข่าวสารอยา่ งใกล้ชดิ และเตรียมสงิ่ ของจาเปน็ เพ่ือพร้อมอพยพไดท้ นั ที
96 แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการ แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน ลำดับท่ี รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา 2 การลาดับขั้นตอนของเรื่อง 3 วิธีการนาเสนอผลงานอยา่ งสร้างสรรค์ 4 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมีสว่ นรว่ มของสมาชกิ ในกลมุ่ รวม ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมิน ............/................./................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินบางสว่ น เกณฑก์ ำรตัดสนิ คุณภำพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง
97 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนรำยบุคคล คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี ตรงกับระดบั คะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผ้อู ่ืน 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย 4 ความมีน้าใจ 5 การตรงต่อเวลา รวม ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../............. เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ เกณฑ์กำรตัดสนิ คณุ ภำพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภำพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง
98 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี ตรงกบั ระดบั คะแนน กำรมี ลำดับที่ ชอ่ื – สกลุ กำรแสดง กำรยอมรับ กำรทำงำน ควำมมี ส่วนรว่ มใน รวม ของนกั เรยี น ควำม ฟังคนอื่น ตำมที่ไดร้ ับ น้ำใจ กำร 15 คดิ เห็น มอบหมำย คะแนน ปรบั ปรุง ผลงำนกล่มุ 321321321321321 เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ............../.................../............... ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้ง ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน
99 บนั ทกึ หลังกำรจดั กำรเรียนรู้ แผนที่ 3 เรื่อง ธรณีภำค ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเน้อื หา ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของส่ือ ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. อนื่ ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลที่เกิดขึ้นกับผูเ้ รียน นกั เรยี นวเิ คราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงทางกายภาพดา้ นธรณีภาคของพ้ืนที่ในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ได้ นักเรียนเลือกใช้เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ในการศึกษา การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้านธรณีภาคของพื้นที่ในประเทศไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งได้รับ อทิ ธิพลจากปจั จัยทางภูมิศาสตรไ์ ด้ 2. ปญั หำและอุปสรรค นกั เรียนยงั ขาดความกระตือรือรน้ สนใจในการเรียน 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ขอ้ เสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ให้นักเรยี นได้มีส่วนรว่ มมากขน้ึ ลงชื่อ……….........………….......….…..……. ผ้สู อน ( นายยงยทุ ธ์ อ่อนนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเห็นของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชอื่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กตี า) ผูอ้ านวยการโรงเรียน
100 แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 4 หน่วยที่ 2 การเปลีย่ นแปลงทางกายภาพของโลก เรอื่ ง บรรยำกำศภำค สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 3 ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 ผู้สอน นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั 1.1 ตวั ช้ีวัด ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธข์ องสรรพสิ่งซึ่งมีผลต่อกัน ใช้ แผนท่ีและเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใช้ภูมสิ ารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ ม.4-6/1 วิเคราะหก์ ารเปลีย่ นแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รบั อทิ ธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 1. วเิ คราะห์การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพด้านบรรยากาศภาคของพน้ื ทใี่ นประเทศไทยและภมู ิภาค ต่าง ๆ ของโลก ซึง่ ไดร้ บั อิทธิพลจากปจั จัยทางภมู ิศาสตร์ได้ (K) 2. อธิบายชน้ั บรรยากาศและบอกองค์ประกอบสาคัญของชน้ั บรรยากาศของโลกได้ (K) 3. เลือกใชเ้ คร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพดา้ นบรรยากาศภาคของ พนื้ ทใี่ นประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซ่ึงไดร้ บั อิทธพิ ลจากปจั จัยทางภมู ศิ าสตร์ได้ (P) 4. สนใจศึกษาการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพของพืน้ ที่ในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซึ่ง ไดร้ บั อิทธพิ ลจากปจั จยั ทางภูมิศาสตร์เพิ่มมากขนึ้ (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรียนรทู้ ้องถ่นิ สำระกำรเรียนรู้จำกส่ือ (พจิ ารณาตามหลกั สตู ร - การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง ของพ้ืนทใ่ี นประเทศไทยและ 1) การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สถานศึกษา) ภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลกในด้าน (ประกอบด้วย 1. ธรณีภาค บรรยากาศภาค 2. บรรยากาศภาค 3. อทุ กภาค 4. ชีวภาค) ของพน้ื ท่ใี น ประเทศ ไทยและภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซงึ่ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากปัจจยั ทาง ภมู ิศาสตร์
101 2) การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพ ท่ีส่งผลตอ่ ภูมปิ ระเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ 4. มโนทศั น์สำคญั (Key Concept) - ปจั จยั ทางภูมิศาสตรม์ อี ิทธิพลต่อการเปลยี่ นแปลงทางกายภาพดา้ นบรรยากาศภาคในประเทศไทยและ ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ซ่ึงส่งผลต่อภูมิประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ 5. คำถำมหลกั (Big Question) 1. ปัจจัยทางภมู ศิ าสตร์ทีส่ ง่ ผลต่อการเปลีย่ นแปลงทางกายภาพดา้ นบรรยากาศภาคมอี ะไรบ้าง อย่างไร 2. การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพดา้ นบรรยากาศภาคสง่ ผลตอ่ ภมู ิประเทศ ภมู อิ ากาศ และ ทรพั ยากรธรรมชาติในประเทศไทยและภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างไร 6. กำรรู้เร่อื งภูมิศำสตร์ (Geo–Literacy) ทักษะทำงภูมศิ ำสตร์ 1. การแปลความขอ้ มลู ทาง ควำมสำมำรถทำงภูมศิ ำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมศิ ำสตร์ ภูมิศาสตร์ 1. การให้เหตุผลทางภูมิศาสตร์ 1. การต้ังคาถามเชงิ ภูมิศาสตร์ 2. การคดิ เชิงพนื้ ท่ี 2. การตัดสนิ ใจอย่างเปน็ ระบบ 2. การรวบรวมขอ้ มลู 3. การจัดการข้อมูล 4. การวิเคราะห์ข้อมลู 5. การสรปุ เพอ่ื ตอบคาถาม 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด 1. ใฝเ่ รียนรู้ 1) ทักษะการทาใหก้ ระจา่ ง 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 2) ทักษะการนาความรู้ไปใช้ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
102 8. กิจกรรมกำรเรียนรู้ วธิ สี อนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process) ชั่วโมงที่ 1 ขนั้ นา 1. ครูแจง้ ชื่อเรอ่ื งทจ่ี ะเรียนรู้ และผลการเรียนรู้ 2. ครูให้นักเรยี นดูภาพหรือคลิปวิดีโอเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงทางกายภาพของโลกด้านบรรยากาศภาค เชน่ ภาพการจราจรท่ีตดิ ขดั ภาพการเผาขยะมูลฝอย ภาพพายุหมิ ะ ภาพการละลายของนา้ แข็งขวั้ โลก 3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นจากภาพ หรือคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงท าง กายภาพของโลกด้านบรรยากาศภาค ตลอดจนแสดงความคิดเห็นจากการศึกษา Geo Tip เกี่ยวกับแก๊ส ไนโตรเจนจากหนงั สือเรยี นภูมิศาสตร์ ม.4-6 แลว้ รว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเพ่ิมเตมิ 4. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคดิ โดยให้นกั เรียนร่วมกนั ตอบคาถาม เช่น 1) บรรยากาศของโลกมีลักษณะอย่างไร
103 (แนวตอบ บรรยากาศของโลกเป็นอากาศที่ห่อหุ้มโลก ซ่ึงประกอบด้วย แก๊สต่าง ๆ ไอน้า และฝุ่น ละออง ทง้ั นี้สามารถแบง่ ออกได้เป็นชัน้ ต่าง ๆ ตามระดับความสงู และสภาวะในชัน้ น้ัน) 2) ความสาคญั ของบรรยากาศของโลกต่อการดารงชวี ติ ของมนุษย์ คอื อะไร (แนวตอบ บรรยากาศมีแกส๊ ออกซิเจนท่ีมนุษยใ์ ช้หายใจ มีแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ใหพ้ ืชเพือ่ ใชใ้ นการ สังเคราะห์แสง นอกจากนี้ ยังช่วยกรองรังสีต่าง ๆ ท่ีเป็นอันตรายต่อมนษุ ย์ ช่วยทาหน้าท่ีคล้ายเรือน กระจกอบความร้อน ทาให้อุณหภูมิในระหว่างกลางวนั กบั กลางคืนไมแ่ ตกต่างกันมากนัก ตลอดจนเป็นแหล่ง สะสมไอน้าและทาให้เกิดการเปลีย่ นแปลงของวัฏจักรน้า) ขนั้ สอน ข้ันที่ 1 กำรต้ังคำถำมเชิงภมู ศิ ำสตร์ 1. ครูให้นักเรียนดูภาพการแบ่งช้ันบรรยากาศ จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 จากนั้นให้ นกั เรียนลองบอกสง่ิ ท่เี หน็ จากสายตา 2. ครูให้นักเรียนดูคลิปวิดีโอท่ีเกี่ยวข้องกับการแบ่งชั้นบรรยากาศของโลก จากน้ันครูถามคาถาม กระตนุ้ ความคิดโดยให้นกั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม เชน่ 1) ช้นั บรรยากาศในสภาวะปกตมิ ปี ระโยชนต์ อ่ โลกอย่างไร (แนวตอบ ช้ันบรรยากาศในสภาวะปกติจะช่วยกรองแสง ความร้อน และรังสีต่าง ๆ ของดวง อาทติ ย์ใหล้ งสู่พน้ื ผิวโลกในปริมาณท่เี หมาะสม) 2) เมฆ หมอก ฝน หมิ ะ พายุ หรืออากาศทแี่ ปรปรวน มักเกดิ ขนึ้ ในชนั้ บรรยากาศใด (แนวตอบ ชนั้ บรรยากาศท่ีกอ่ ให้เกิดเมฆ หมอก ฝน หมิ ะ พายุ หรอื อากาศที่แปรปรวน คอื ช้ัน โทรโพสเฟียร์ เป็นชั้นบรรยากาศท่ีอยู่ติดกับพ้ืนผิวโลก ณ บริเวณเส้นศูนย์สูตรประมาณ 17 กโิ ลเมตร และบริเวณขัว้ โลกประมาณ 9 กโิ ลเมตร) 3) แสงออโรรา หรือแสงท่ีมีลักษณะเป็นวงโค้ง มองเห็นได้ในเวลากลางคืนบนท้องฟ้าแถบขั้ว โลกจะพบไดใ้ นชัน้ บรรยากาศใด (แนวตอบ แสงออโรราจะพบได้ในชน้ั เทอร์โมสเฟียร์ ทีม่ ีระดบั ความสูงจากพน้ื โลกประมาณ 80 กิโลเมตรข้นึ ไป) 3. ครกู ระตุ้นใหน้ กั เรยี นช่วยกันตง้ั ประเดน็ คาถามเชิงภูมิศาสตร์ เช่น 1) การเปลีย่ นแปลงดา้ นบรรยากาศของโลกเกิดจากปจั จัยใดบ้าง 2) ชั้นบรรยากาศทหี่ อ่ หุ้มโลกมอี ะไรบ้าง และใช้สง่ิ ใดเปน็ เกณฑใ์ นการแบ่ง 3) การเปลี่ยนแปลงบรรยากาศที่เกิดข้ึนในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก มีลักษณะที่เหมือนหรือ แตกตา่ งกนั หรือไม่ อยา่ งไร 4) แนวทางการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ สามารถทาได้ อยา่ งไร
104 ข้ันที่ 2 กำรรวบรวมขอ้ มลู 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงทางบรรยากาศภาค จากหนังสอื เรยี นภูมศิ าสตร์ ม.4-6 หรอื จากแหลง่ การเรยี นรอู้ ืน่ ๆ เชน่ หนงั สือในห้องสมดุ เว็บไซต์ในอินเทอร์เนต็ ประกอบการใชเ้ คร่ืองมอื ทางภูมิศาสตร์ในประเด็นตอ่ ไปนี้ 1) อุณหภูมิ 2) ความกดอากาศ 3) ลมและทิศทางลม 4) ความชน้ื และหยดนา้ ฟา้ 2. ครแู นะนาแหล่งข้อมลู สารสนเทศทีน่ า่ เชอื่ ถือใหก้ บั นักเรียนเพ่ิมเติม ช่ัวโมงท่ี 2 ขนั้ ที่ 3 กำรจัดกำรขอ้ มูล 1. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มนาขอ้ มูลที่ตนได้จากการรวบรวม มาอธิบายแลกเปลี่ยนความรรู้ ะหว่าง กัน 2. จากน้ันสมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกข้อมูลที่นาเสนอเพ่ือให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และร่วม อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เพม่ิ เติม 3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มใช้สมาร์ตโฟนค้นหา วันและระยะเวลาที่โลกได้รับรังสีดวงอาทิตย์ที่ แตกต่างกันจนมีชื่อเรียกท่ีแตกต่างกันออกไปเพ่ิมเติม เช่น วันวสันตวิษุวัต วันอุตตรายัน แล้วนาข้อมูลมา อภปิ รายรว่ มกนั ภายในชัน้ เรียน ข้นั ที่ 4 กำรวเิ ครำะหแ์ ละแปลผลขอ้ มลู 1. ครใู ห้สมาชกิ แต่ละกลุ่มวิเคราะห์เพมิ่ เติมถึงลักษณะอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกและของไทย รวมถึง ตาแหน่งท่ใี กลแ้ ละไกลจากดวงอาทิตยม์ ากท่สี ุด 2. ครูให้นักเรยี นวิเคราะหค์ วามเชอ่ื มโยงถึงการรับและคายความรอ้ นทแ่ี ตกต่างกนั ของพ้นื ดินและ พื้นน้า จากนั้นให้นักเรียนใช้สมาร์ตโฟนส่องดู QR Code เก่ียวกับคลื่นความร้อน (heat wave) จากหนังสือ เรยี นภูมิศาสตร์ ม.4-6 โดยครูแนะนาเพิม่ เตมิ 3. นักเรียนวิเคราะห์และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของความกดอากาศ กับอุณหภูมิของพ้ืนผิวโลก โดยระหวา่ งนน้ั ครูอาจใหน้ กั เรียนใช้สมาร์ตโฟนสบื ค้นเพ่อื ขยายความรู้เกย่ี วกับความกดอากาศของโลก จากหนงั สือเรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 เพ่ิมเติม และรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มลู 4. ครูให้นักเรียนศึกษาแผนท่ีแสดงบริเวณความกดอากาศและทิศทางการเคลื่อนที่ของลม เดือน มกราคม จากหนังสอื เรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6 จากน้นั รว่ มกันอภิปรายและแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ลมและ ทิศทางลม รวมถึงยกตัวอย่างบริเวณท่ีมีความกดอากาศท่ีแตกตา่ งกนั โดยครูแนะนาเพม่ิ เตมิ
105 5. ครูให้นักเรียนร่วมกนั ใช้สมาร์ตโฟนสืบค้นเพื่อขยายความรู้เกี่ยวกบั ทิศทางการเคลื่อนท่ขี องลม จากหนงั สอื เรยี นภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 เพ่ิมเตมิ จากนนั้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 6. ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกันวิเคราะห์ถงึ ประเภทของลม จากน้นั ครูถามคาถามนกั เรียนเพิ่มเติม เชน่ 1) ลมประจาเวลาและลมประจาถ่ิน มีความแตกต่างกนั อยา่ งไร (แนวตอบ ลมประจาเวลา จะเกิดสลับกันระหว่างกลางวันและกลางคืน เช่น ลมบก ลมทะเล แตห่ ากเปน็ ลมประจาถ่ิน จะพดั ประจาถ่ินหรือในพ้นื ท่ีประเทศใดประเทศหน่งึ สลบั ช่วงเวลายาวนานกวา่ ลมประจาเวลา) 2) ลมประจาฤดู สามารถเรียกอกี ช่ือหนงึ่ ไดว้ ่าอย่างไร และมลี กั ษณะเฉพาะอยา่ งไร (แนวตอบ ลมประจาฤดู สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ลมมรสุม มีลักษณะเฉพาะ คือ พัด เปล่ียนทิศทางกลับตรงข้ามกนั ในรอบปี) 3) หากอาศยั อยใู่ นแถบคาบสมทุ รอนิ โดจนี ในชว่ งฤดูหนาวจะเผชิญกับลมประจาฤดูประเภทใด (แนวตอบ ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ) 4) เพราะเหตใุ ด ลมประจาปีในซีกโลกเหนอื จงึ เคลือ่ นท่ีจากจุดกาเนดิ ไปทางขวามือ แต่ในขณะ ที่ซกี โลกใตจ้ ะเคลอื่ นท่ไี ปทางซา้ ยมอื (แนวตอบ เป็นผลมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก ที่มีทิศทางจากทิศตะวันตกไปทางทิศ ตะวันออก) 5) เมฆคิวมูลสั และควิ มูโลนมิ บสั เกดิ จากการเคล่อื นที่ของลมในลกั ษณะใด (แนวตอบ เกิดจากการพัดเข้าหากันของลมค้าตะวันออกเฉียงเหนอื จนเกิดเป็นร่องและความ กดอากาศต่าแถบศูนย์สูตร ทาใหเ้ กิดกระแสอากาศลอยขน้ึ สู่ดา้ นบน จงึ ทาให้เกดิ เป็นเมฆควิ มูลสั และเมฆ คิวมโู ลนมิ บสั ) 7. ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษาเมฆชนดิ ต่าง ๆ จากหนงั สอื เรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 จากน้นั ร่วมกนั อภิปราย และแสดงความคดิ เห็นเชอ่ื มโยงกบั ความชืน้ และหยาดน้าฟ้า รวมถงึ สถานะของนา้ ในกาศ 8. ครูสุ่มนักเรียนให้ใช้สมาร์ตโฟนสืบค้นภาพตัวอย่างของเมฆ เพ่ือขยายความรู้เก่ียวกับชนดิ ของ เมฆและการจดั หมวดหมขู่ องเมฆตามระดบั ความสูงและรูปร่าง จากหนงั สอื เรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6 เพ่มิ เติม 9. ครูอาจให้นักเรียนศึกษา Geo Activity จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 เพื่อประกอบการ วเิ คราะหแ์ ละแปลผลข้อมูลเพม่ิ เตมิ 10. ครูใหส้ มาชิกแต่ละกลุ่มนาข้อมลู มารวบรวม เชือ่ มโยง และวิเคราะห์ร่วมกันเพือ่ อธิบายคาตอบ 11. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ส่งตัวแทนนาเสนอผลงานหน้าชั้น เรียน สมาชิกกลุ่มอืน่ ผลัดกนั ให้ข้อคิดเหน็ หรอื ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เติม ขน้ั ที่ 5 กำรสรุปเพ่อื ตอบคำถำม 1. นกั เรยี นในชน้ั เรียนร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกบั การใชเ้ ครอื่ งมือทางภมู ิศาสตร์ และเครื่องมือดา้ น เทคโนโลยีในการสืบคน้ บรรยากาศภาค 2. ครูใหส้ มาชกิ ในแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปสาระสาคัญเพื่อตอบคาถามเชิงภูมศิ าสตร์
106 3. นกั เรียนกล่มุ เดมิ ร่วมกันทาใบงานท่ี 2.2 เรื่อง บรรยากาศภาคและการเปล่ยี นแปลงทาง บรรยากาศภาค 4. ครใู หน้ กั เรียนทาแบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 เกย่ี วกับเร่ือง บรรยากาศภาค เพือ่ เป็น การบา้ นส่งครูในชวั่ โมงถัดไป ขนั้ สรปุ ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรูเ้ ก่ยี วกบั บรรยากาศภาค ตลอดจนความสาคญั ท่ีมีอิทธพิ ลตอ่ การดาเนิน ชีวติ ของประชากร หรือใช้ PPT สรปุ สาระสาคญั ของเนื้อหา ขน้ั ประเมนิ 1. ครูประเมนิ ผลโดยสงั เกตจากการตอบคาถาม การรว่ มกนั ทางาน และการนาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรยี น 2. ครูตรวจสอบผลจากการทาใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6 9. กำรวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ำรประเมิน - ตรวจใบงานท่ี 2.2 - ใบงานที่ 2.2 - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ รำยกำรวัด 9.1 การวัดและประเมินผล ระหว่างการจดั กจิ กรรม การเรยี นรู้ 1) วเิ คราะห์การ เปลยี่ นแปลงทาง กายภาพด้าน บรรยากาศภาคของ พ้นื ที่ในประเทศไทย และภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซง่ึ ได้รบั อทิ ธพิ ลจากปัจจยั ภมู ิศาสตรไ์ ด้ 2) อธิบายชั้นบรรยากาศ และบอกองคป์ ระกอบ สาคญั ของชั้น บรรยากาศของโลกได้
107 3) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2 นาเสนอ นาเสนอ ผ่านเกณฑ์ 4) พฤตกิ รรม ผลงาน ผลงาน การทางานรายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกต - ระดบั คุณภาพ 2 การทางาน พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์ 5) พฤตกิ รรม รายบุคคล การทางาน การทางานกลุ่ม รายบุคคล - ระดบั คณุ ภาพ 2 - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกต ผ่านเกณฑ์ 6) คุณลกั ษณะ การทางานกลุ่ม พฤติกรรม อันพงึ ประสงค์ การทางานกลุม่ - ระดบั คณุ ภาพ 2 - สังเกตความใฝ่ - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์ 9.2 การรู้เร่อื งภูมศิ าสตร์ เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ และมงุ่ ม่ันในการ อนั พงึ ประสงค์ ทางาน - ประเมนิ การใช้ - แบบประเมินการใช้ - ระดับคุณภาพ 2 เครื่องมือ ทางภมู ิศาสตร์ เคร่อื งมือทาง ผ่านเกณฑ์ ภมู ิศาสตร์ 10. สื่อ/แหล่งกำรเรยี นรู้ 10.1 สอื่ กำรเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 2) แบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 3) หนังสอื คน้ คว้าเพ่ิมเตมิ (1) โครงการตาราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตรม์ ูลนิธิ สอวน. 2557. ภมู ศิ ำสตรก์ ำยภำพ. กรงุ เทพมหานคร : ด่านสุทธาการพมิ พ์. (2) โครงการตาราวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มลู นิธิ สอวน. 2559. ภูมศิ ำสตร์เทคนคิ . กรุงเทพมหานคร : ดา่ นสทุ ธาการพิมพ์. 4) เครอื่ งมือทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ แผนท่ี ลกู โลกจาลอง รูปถา่ ยทางอากาศ และภาพจาก ดาวเทียม 5) ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง บรรยากาศภาคและการเปล่ียนแปลงทางบรรยากาศภาค 10.2 แหล่งกำรเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
108 - http://www.lesa.biz - http://earth.google.co.th - http://maps.google.co.th - http:// thaigoodview.com - https://www.youtube.com/watch?v=G3RZY7-X2H4 - https://www.youtube.com/watch?v=0vyim0kPCkY
109 ใบงำนที่ 2.2 เรือ่ ง บรรยำกำศภำคและกำรเปลี่ยนแปลงทำงบรรยำกำศภำค คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นพิจำรณำภำพทกี่ ำหนดให้ แล้ววิเครำะหเ์ ชอื่ มโยงเพื่อบรรยำยควำมสัมพนั ธ์ของ บรรยำกำศภำคกับกำรเปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดขึ้นทำงบรรยำกำศภำคตำมภำพทก่ี ำหนดให้ จำนวน 6-8 บรรทัด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เฉลย 110 ใบงำนท่ี 2.2 เรือ่ ง บรรยำกำศภำคและกำรเปล่ียนแปลงทำงบรรยำกำศภำค คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนพจิ ำรณำภำพท่ีกำหนดให้ แลว้ วเิ ครำะหเ์ ชือ่ มโยงเพื่อบรรยำยควำมสัมพนั ธ์ของ บรรยำกำศภำคกบั กำรเปลี่ยนแปลงทีเ่ กดิ ขึน้ ทำงบรรยำกำศภำคตำมภำพท่ีกำหนดให้ จำนวน 6-8 บรรทดั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (พจิ ารณาคาตอบของนกั เรียน จากดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน)
111 แบบประเมนิ กำรนำเสนอผลงำน คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนประเมินผลการนาเสนอผลงานของนักเรียนตามรายการ แลว้ ขดี ลงในช่องที่ ตรงกับระดบั คะแนน ลำดับที่ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนือ้ หา 2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเรอ่ื ง 3 วิธกี ารนาเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 4 การใช้เทคโนโลยใี นการนาเสนอ 5 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุม่ รวม ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมนิ ............/................./................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น เกณฑ์กำรตัดสนิ คุณภำพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง
112 แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรทำงำนรำยบคุ คล คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี ตรงกบั ระดับคะแนน ลำดับท่ี รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผ้อู นื่ 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ่ีได้รับมอบหมาย 4 ความมนี ้าใจ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../............. เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครง้ั เกณฑ์กำรตัดสนิ คุณภำพ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภำพ 12-15 ดี 8-11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง
113 แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรทำงำนกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน กำรมี ลำดับที่ ชอื่ – สกุล กำรแสดง กำรยอมรับ กำรทำงำน ควำมมี ส่วนรว่ มใน รวม ของนกั เรยี น ควำม ฟงั คนอ่นื ตำมที่ไดร้ ับ นำ้ ใจ กำร 15 คดิ เหน็ มอบหมำย คะแนน ปรบั ปรุง ผลงำนกลุม่ 321321321321321 เกณฑก์ ำรให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............../.................../............... ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน
114 บนั ทึกหลงั กำรจัดกำรเรยี นรู้ แผนท่ี 4 เรื่อง บรรยำกำศภำค ความเหมาะสมของกิจกรรม ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของเนอื้ หา ดี พอใช้ ปรบั ปรุง………………………. ความเหมาะสมของเวลา ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. ความเหมาะสมของสือ่ ดี พอใช้ ปรับปรุง………………………. อ่นื ๆ……………………………………………………………………………………….....………..…………………… …........................................................................................…………………...………...................... 1. ผลทเ่ี กดิ ข้ึนกบั ผเู้ รียน นักเรียนสามารถอธิบายช้ันบรรยากาศและบอกองค์ประกอบสาคัญของชั้นบรรยากาศของโลกได้ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้านบรรยากาศภาคของพ้ืนท่ีในประเทศไทยและภูมิภาค ต่าง ๆ ของโลก ซึ่งได้รบั อิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตรไ์ ด้ 2. ปญั หำและอปุ สรรค นกั เรยี นบางสว่ นยงั ขาดความสนใจในการเรยี น และยงั ไมค่ ่อยใฝเ่ รียนรู้ 3. แนวทำงแกป้ ัญหำ/ข้อเสนอแนะ ใช้เทคนิคการสอนที่ตรงกับสภาพของนักเรียน และมีการกระตุ้นความสนใจโดยการมีกิจกรรม ใหน้ กั เรยี นไดม้ สี ่วนร่วมมากข้ึน ลงชอื่ ……….........………….......….…..……. ผู้สอน ( นายยงยทุ ธ์ อ่อนนวล ) ตาแหนง่ : ครู 4. ควำมคิดเหน็ ของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี น ………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………….…… ลงชือ่ ………...………….......…...........…..…….…. (นางสาวรพีพรรณ กตี า) ผ้อู านวยการโรงเรยี น
115 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 5 หน่วยที่ 2 การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก เรอ่ื ง อุทกภำค สาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 3 ช่วั โมง ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ผสู้ อน นายยงยุทธ์ ออ่ นนวล ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด 1.1 ตัวช้ีวัด ส 5.1 เข้าใจลักษณะทางกายภาพของโลกและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซง่ึ มีผลต่อกัน ใช้ แผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการค้นหา วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลตามกระบวนการทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนใชภ้ ูมสิ ารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ม.4-6/1 วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงทางกายภาพในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก ซ่งึ ไดร้ ับอิทธิพลจากปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 1. วเิ คราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงทางกายภาพด้านอุทกภาคของพ้นื ทใี่ นประเทศไทยและภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของ โลก ซงึ่ ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางภมู ิศาสตร์ได้ (K) 2. อธิบายวัฏจักรทางอุทกวิทยา และผลกระทบที่เกดิ จากน้าในมหาสมทุ รได้ (K) 3. เลือกใช้เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตรใ์ นการศกึ ษาการเปล่ียนแปลงทางกายภาพดา้ นอทุ กภาคของพน้ื ทใ่ี น ประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก ซึ่งได้รบั อทิ ธิพลจากปัจจัยทางภูมศิ าสตรไ์ ด้ (P) 4. สนใจศกึ ษาการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของพน้ื ที่ในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซ่ึง ได้รบั อิทธพิ ลจากปัจจยั ทางภูมิศาสตร์เพิ่มมากขนึ้ (A) 3. สำระกำรเรยี นรู้ สำระกำรเรยี นรู้ท้องถนิ่ สำระกำรเรยี นรู้จำกสอ่ื (พิจารณาตามหลักสตู ร - การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ สำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำง ของ 1) การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สถานศึกษา) พ้นื ทใ่ี นประเทศไทยและ (ประกอบดว้ ย 1. ธรณีภาค ภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลกในดา้ น 2. บรรยากาศภาค 3. อุทกภาค อทุ กภาค 4. ชวี ภาค) ของพื้นทใ่ี น ประเทศไทยและภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลกซึง่ ไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากปจั จัย ทางภูมิศาสตร์
116 2) การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ ท่สี ง่ ผลตอ่ ภมู ิประเทศ ภูมอิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ 4. มโนทศั นส์ ำคัญ (Key Concept) - ปัจจัยทางภมู ิศาสตร์มอี ิทธพิ ลตอ่ การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพดา้ นอทุ กภาคในประเทศไทยและ ภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ซึง่ ส่งผลต่อภมู ิประเทศ ภูมิอากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ 5. คำถำมหลัก (Big Question) 1. ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพด้านอุทกภาคมีอะไรบา้ ง อยา่ งไร 2. การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพดา้ นอทุ กภาคสง่ ผลตอ่ ภมู ิประเทศ ภมู อิ ากาศ และทรพั ยากรธรรมชาติ ในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกอย่างไร 6. กำรรู้เรื่องภมู ศิ ำสตร์ (Geo–Literacy) ทักษะทำงภมู ิศำสตร์ 1. การแปลความขอ้ มูลทาง ควำมสำมำรถทำงภูมิศำสตร์ กระบวนกำรทำงภูมิศำสตร์ ภูมศิ าสตร์ 1. การให้เหตุผลทางภมู ิศาสตร์ 1. การต้ังคาถามเชิงภูมิศาสตร์ 2. การคดิ เชิงพื้นที่ 2. การตดั สินใจอย่างเป็นระบบ 2. การรวบรวมขอ้ มลู 3. การจดั การขอ้ มลู 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มูล 5. การสรปุ เพ่อื ตอบคาถาม 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ความสามารถในการคิด 1. ใฝ่เรียนรู้ 1) ทกั ษะการทาใหก้ ระจา่ ง 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 2) ทกั ษะการนาความรู้ไปใช้ 2. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
117 8. กิจกรรมกำรเรียนรู้ วิธสี อนแบบกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process) ชั่วโมงที่ 1 ข้ันนา 1. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพหรอื คลิปวิดีโอเกย่ี วกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลกด้านอุทกภาค ในประเทศไทยและภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก เชน่ 1) โกรกธาร เขตอทุ ยานแหง่ ชาตอิ อบหลวง จังหวัดเชียงใหม่ 2) แกรนด์แคนยอน ประเทศสหรฐั อเมริกา 3) การระเบิดแกง่ หินและสันดอนทรายในประเทศจนี 4) ดนิ ดอนสามเหล่ียมบริเวณปากแม่น้าไนล์ ประเทศอยี ปิ ต์ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นจากภาพ หรือคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงทาง กายภาพของโลกด้านอทุ กภาค 3. ครูให้นักเรียนดูแผนผังแสดงวัฏจักรทางอุทกวิทยา จากหนังสือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 จากนั้นให้ นกั เรียนลองบอกส่งิ ทีเ่ ห็นจากสายตา 4. ครูถามคาถามกระตุ้นความคดิ โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม เชน่ 1) ปัจจัยท่ที าใหเ้ กดิ การไหลเวียนของกระแสนา้ ในมหาสมุทรคอื อะไร (แนวตอบ การไหลเวียนของกระแสน้าในมหาสมุทรเกิดจากปัจจัยหลายประการ เช่น ความแตกต่าง ของระดบั นา้ อณุ หภมู ิและความหนาแน่นของนา้ รวมถงึ ลมประจาฤดูและลมประจาถนิ่ นอกจากน้ี ยงั เกดิ จาก การลดและเพ่ิมของระดับน้าจากปรากฏการณ์น้าขึน้ -นา้ ลง แผ่นดินไหว หรือภเู ขาไฟปะทุไดอ้ กี ดว้ ย ) 2) การไหลเวียนของกระแสน้าในมหาสมุทรมีอิทธิพลต่อทรัพยากรธรรมชาติที่มีประโยชน์ทาง เศรษฐกจิ อย่างไร (แนวตอบ อิทธพิ ลจากการไหลเวียนของกระแสน้าในมหาสมุทรต่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจของมนุษย์ ท่ีสาคัญ เช่น ก่อให้เกิดแหลง่ ทาการประมงที่สาคญั ของโลก เน่ืองจากบรเิ วณท่ีกระแสนา้ อนุ่ และกระแสน้าเย็น ไหลมาปะทะกันจะมีอุณหภูมิเหมาะสมสาหรับการเจริญเติบโตของแพลงก์ตอนซึ่งเป็นอาหารของปลา ทาให้ บรเิ วณนม้ี ีปลาชุกชมุ มาก เรยี กว่า แบงส์ เช่น ครู ลิ แบงส์ ของประเทศญ่ปี ุ่น)
118 ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 1 กำรตั้งคำถำมเชิงภูมศิ ำสตร์ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษา Geo Tip เก่ียวกับเกรตอาร์ทีเชียนเบซิน จากหนังสือเรียน ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 และแสดงความคดิ เห็นร่วมกัน 2. ครูกระต้นุ ใหน้ กั เรียนช่วยกันตง้ั ประเดน็ คาถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ เชน่ 1) ปจั จัยทางภมู ิศาสตร์มอี ทิ ธิพลตอ่ วัฏจกั รทางอุทกวิทยาอย่างไร 2) การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพด้านอทุ กภาค ทาใหน้ า้ จืดและน้าเคม็ เกิดปญั หาอย่างไร 3) ผลกระทบจากปัญหาของนา้ จืดและน้าเคม็ คืออะไรบา้ ง 4) การไหลเวยี นของกระแสนา้ ในมหาสมทุ รในภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก มีลักษณะใดบ้าง ขนั้ ที่ 2 กำรรวบรวมข้อมูล 1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม สืบค้นข้อมูลเก่ยี วกับอุทกภาค จากหนังสือเรียนภูมศิ าสตร์ ม.4-6 หรือ จากแหลง่ การเรียนรู้อ่ืน ๆ เช่น หนงั สอื ในห้องสมดุ เว็บไซตใ์ นอนิ เทอรเ์ นต็ ประกอบการใชเ้ ครอื่ งมอื ทาง ภมู ศิ าสตร์ เช่น แผนทีแ่ สดงนา้ ผวิ ดินที่สาคญั ของโลก ในประเด็นต่อไปนี้ 1) วัฏจักรทางนา้ 2) ระบบนา้ จดื 3) ระบบน้าเค็ม 2. ครแู นะนาแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศทนี่ า่ เชือ่ ถอื ให้กบั นักเรยี นเพมิ่ เตมิ ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 3 กำรจัดกำรขอ้ มูล 1. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลที่ตนได้จากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปล่ียนความรูร้ ะหว่าง กัน 2. จากน้ันสมาชิกในกลุ่มช่วยกันคัดเลือกข้อมูลท่ีนาเสนอเพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีถูกต้อง และร่วม อภิปรายแสดงความคดิ เห็นเพม่ิ เติม ขั้นที่ 4 กำรวเิ ครำะห์และแปลผลข้อมลู 1. ครูใหน้ ักเรยี นดแู ผนที่แสดงกระแสน้าในมหาสมุทร จากหนงั สอื เรียนภูมศิ าสตร์ ม.4-6 จากนั้น รว่ มกนั วเิ คราะหแ์ ละเชื่อมโยงการไหลเวียนของกระแสน้าในมหาสมทุ รเพ่มิ เตมิ 2. ครูให้สมาชกิ แต่ละกลมุ่ นาขอ้ มูลทร่ี วบรวมมาไดท้ าการวเิ คราะห์รว่ มกันเพอื่ อธิบายคาตอบ 3. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล 4. ตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน สมาชิกกลุ่มอื่นผลัดกันให้ข้อคิดเห็น หรือ ขอ้ เสนอแนะ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265