Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อินเดียไดอารี่

อินเดียไดอารี่

Published by aomameiei76, 2021-05-01 04:43:20

Description: อินเดียไดอารี่

Search

Read the Text Version

๑๐๐ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๘ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.

มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ ๑๐๑ บันทึกธรรม

๑๐๒ ๑๒ สารนาถ ปฐมเทศนา วนั นเ้ี ราจะเดนิ ทางอกี ประมาณ ๒๕๐ กม. เพอ่ื จะไปยงั เมอื งพาราณสี ทต่ี ง้ั สำคญั ของสงั เวชนยี สถานอกี แหง่ หนง่ึ คอื เปน็ ท่ี ๆ พระผมู้ พี ระภาคไดแ้ สดงธรรมครง้ั แรก แกป่ ญั จวคั คยี จ์ นสำเรจ็ มรรคผล เปน็ การทำสง่ิ ทย่ี ากเพราะพระธรรมทพ่ี ระองคต์ รสั รนู้ น้ั ลกึ ซง้ึ เขา้ ใจไดย้ าก การทม่ี ผี เู้ ขา้ ใจและดวงตาเหน็ ธรรมได้ กเ็ ปน็ สญั ญาณวา่ กงลอ้ แหง่ ธรรมหมนุ ตอ่ ไปได้ (ภาพท่ี ๑) เรยี กวา่ มธี รรมจกั รมผี เู้ ขา้ ใจธรรมและปฎบิ ตั ติ ามได้ ความ สำเรจ็ นเ้ี ปน็ สง่ิ ทด่ี งั สะเทอื นไปถงึ เทวโลก พรหมโลก ทว่ั โลกธาตหุ วน่ั ไหว หลงั จากนน้ั ตลอด ๔๕ ปขี องพระพทุ ธองค์ ดว้ ยการเดนิ ดว้ ยเทา้ บกุ ปา่ ฝา่ ดง ทง้ั รอ้ นหนาว ทง้ั ฝนุ่ ทัง้ โรคภัย ไขเ้ จบ็ ทว่ั ดนิ แดนทรี่ าบภาคเหนอื ของอนิ เดีย ด้วยพระเมตตา พระองค์ได้ อทุ ศิ ตนเทศนา อบรมสง่ั สอนคนใหเ้ ปน็ คนดี นบั ลา้ น ๆ คน จนตลอดชวี ติ ของพระองค์ และพระศาสนา กไ็ ดเ้ ผยแพรส่ บื ตอ่ จนมาถงึ รนุ่ เรา ถา้ กลา่ วคำวา่ สารนาถ อาจยงั ไมค่ นุ้ เคยชอ่ื เทา่ คำวา่ ปา่ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั ตามทีพ่ วกเราได้รับร้มู าจากพุทธประวตั ิ เป็นสถานทเี่ ดียวกัน พวกฝร่งั กจ็ ะรจู้ ักกันใน ชอ่ื วา่ Deer Park หรอื สวนกวางนน่ั เอง (ภาพท่ี ๒) สมยั พทุ ธกาลสถานทน่ี เ้ี ปน็ ทช่ี มุ นมุ ของพวกฤษี ทป่ี ฎบิ ตั ติ นเพอ่ื หาทางพน้ ทกุ ข์ คำวา่ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั มคี ำแปลวา่ ปา่ - เปน็ ทใ่ี หอ้ ภยั แกเ่ นอ้ื อนั เปน็ ทต่ี กไปแหง่ ฤษี คอื ปา่ ทไ่ี มม่ ภี ยั แกส่ ตั วซ์ ง่ึ เปน็ ทช่ี มุ นมุ ของ พวกฤษขี ณะเวลานน้ั ในสมยั พทุ ธกาล พวกทา่ นปญั จวคั คยี ก์ เ็ ดนิ ทางมาแสวงหาธรรม ยังสถานที่นี้ เหตุการณ์เป็นอย่างไร พระผู้มีพระภาคตรัสอะไรกับท่านปัญจวัคคีย์ ขอเชญิ อา่ นจาก พระสตู ร พระวนิ ยั ปฎิ ก มหาวรรค เลม่ ๔ ภาค ๑ เรอ่ื งพระปญั จวคั คยี ์ ๑. พระผมู้ พี ระภาคเสดจ็ จารกิ ไปโดยลำดบั ในเวลาเยน็ วนั อาสาฬหปรู ณมี นน้ั นน่ั เอง เสดจ็ ถงึ ปา่ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั แขวงเมอื งพาราณสี ทรงเขา้ ไปทางสำนกั พระปญั จวคั คยี ์ พระปญั จวคั คยี แ์ สดงอาการไมเ่ คารพ และทลู คดั คา้ นการบรรลธุ รรม

สารนาถ ปฐมเทศนา ๑๐๓ ของพระผมู้ พี ระภาค แตก่ ท็ รงสามารถใหพ้ ระปญั จวคั คยี ย์ นิ ยอมได้ พระปญั จวคั คยี ไ์ ด้ ยอมเชอ่ื ฟงั พระผมู้ พี ระภาค เงย่ี โสตสดบั ตง้ั จติ เพอ่ื รยู้ ง่ิ ธมั มจกั กปั ปวตั ตนสตู ร ปฐมเทศนา ๒. ลำดบั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคตรสั กะพระปญั จวคั คยี ว์ า่ “ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ที่สุดสองอย่างนี้อันบรรพชิตไม่ควรเสพ คือ การประกอบตนให้พัวพันด้วยกามสุข ทง้ั หลาย เปน็ ธรรมอนั เลว เปน็ ของชาวบา้ น เปน็ ของปถุ ชุ น ไมใ่ ชข่ องพระอรยิ ะ ไม่ ประกอบดว้ ยประโยชน์ ๑. การประกอบความเหนด็ เหนอ่ื ยแกต่ น เปน็ ความลำบาก ไมใ่ ชข่ องพระอรยิ ะ ไมป่ ระกอบดว้ ยประโยชน์ ๑. ๓. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ปฏปิ ทาสายกลาง ไมเ่ ขา้ ไปใกลท้ ส่ี ดุ สองอยา่ งนน้ั ตถาคตไดต้ รสั รแู้ ลว้ ดว้ ยปญั ญาอนั ยง่ิ ทำดวงตาใหเ้ กดิ ทำญาณใหเ้ กดิ ยอ่ มเปน็ ไปเพอ่ื ความสงบ เพอ่ื ความรยู้ ง่ิ เพอ่ื ความตรสั รู้ เพอ่ื นพิ พาน ๔. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย กป็ ฏปิ ทาสายกลางนน้ั เปน็ ไฉน ไดแ้ ก่ อรยิ มรรค มี องค์ ๘ นแ้ี หละ คอื ปญั ญาเหน็ ชอบ ๑ ดำรชิ อบ ๑ เจรจาชอบ ๑ การงานชอบ ๑ เลย้ี งชพี ชอบ ๑ พยายามชอบ ๑ ระลกึ ชอบ ๑ จติ ตง้ั มน่ั ชอบ ๑ ๕. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย นแ้ี ลคอื ปฎปิ ทาสายกลางนน้ั ทต่ี ถาคตไดต้ รสั รแู้ ลว้ ดว้ ยปญั ญาอนั ยง่ิ ทำดวงตาใหเ้ กดิ ทำญาณใหเ้ กดิ ยอ่ มเปน็ ไปเพอ่ื ความสงบ เพอ่ื ความรยู้ ง่ิ เพอ่ื ความตรสั รู้ เพอ่ื นพิ พาน ๖. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ขอ้ นแ้ี ลเปน็ ทกุ ขอรยิ สจั จ์ คอื ความเกดิ เปน็ ทกุ ข์ ความแกเ่ ปน็ ทกุ ข์ ความเจบ็ ไขเ้ ปน็ ทกุ ข์ ความตายเปน็ ทกุ ข์ ความประจวบดว้ ยสง่ิ ไม-่ เปน็ ทร่ี กั กเ็ ปน็ ทกุ ข์ ความพลดั พรากจากสง่ิ เปน็ ทร่ี กั กเ็ ปน็ ทกุ ข์ ปรารถนาสง่ิ ใด ไมไ่ ดส้ ง่ิ นน้ั กเ็ ปน็ ทกุ ข์ โดยยอ่ อปุ าทานขนั ธ์ ๕ เปน็ ทกุ ข์

๑๐๔ สารนาถ ปฐมเทศนา ๗. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ขอ้ นแ้ี ลเปน็ ทกุ ขสมทุ ยั อรยิ สจั จ์ คอื ตณั หาอนั ทำให้ เกดิ อกี ประกอบดว้ ยความกำหนดั ดว้ ยอำนาจความเพลนิ มปี รกตเิ พลดิ เพลนิ ใน อารมณน์ น้ั ๆ คอื กามตณั หา ภวตณั หา วภิ วตณั หา ๘. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ขอ้ นแ้ี ลเปน็ ทกุ ขนโิ รธอรยิ สจั จ์ คอื ตณั หานน่ั แลดบั โดยไมเ่ หลอื ดว้ ยมรรคคอื วริ าคะ ความสละ ความสละคนื ความหลดุ พน้ ความ ไมม่ อี าลยั ๙. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ขอ้ นแ้ี ล เปน็ ทกุ ขนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทาอรยิ สจั จ์ คอื อรยิ มรรคมอี งค์ ๘ นแ้ี หละ คอื ปญั ญาเหน็ ชอบ ๑ ดำรชิ อบ ๑ เจรจาชอบ ๑ การงานชอบ ๑ เลย้ี งชพี ชอบ ๑ พยายามชอบ ๑ ระลกึ ชอบ ๑ จติ ตง้ั มน่ั ชอบ ๑ ๑๐. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ดวงตา ณาณ ปญั ญา วชิ ชา แสงสวา่ ง ไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ แกเ่ รา ในธรรมทง้ั หลายทเ่ี ราไมเ่ คยฟงั มากอ่ นวา่ นแ้ี ลทกุ ขอรยิ สจั จ์ ทกุ ขอรยิ - สจั จน์ น้ี น้ั แลควรระลกึ รู้ และทกุ ขอรยิ สจั จน์ น้ี น้ั แลเราไดร้ แู้ ลว้ ๑๑. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ดวงตา ญาณ ปญั ญา วชิ ชา แสงสวา่ งไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ แกเ่ รา ในธรรมทง้ั หลายทเ่ี ราไมเ่ คยฟงั มากอ่ นวา่ นท้ี กุ ขสมทุ ยั อรยิ สจั จ์ ทกุ ขสมทุ ยั อรยิ สจั จน์ น้ี น้ั แลควรละเสยี และทกุ ขสมทุ ยั อรยิ สจั จน์ น้ี น้ั แลเราละไดแ้ ลว้ ๑๒. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ดวงตา ญาณ ปญั ญา วชิ ชา แสงสวา่ งไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ แกเ่ รา ในธรรมทง้ั หลายทเ่ี ราไมเ่ คยฟงั มากอ่ นวา่ นท้ี กุ ขนโิ รธอรยิ สจั จ์ ทกุ ขนโิ รธ อรยิ สจั จน์ น้ี น้ั แลควรทำใหแ้ จง้ และทกุ ขนโิ รธอรยิ สจั จน์ ้ี นน้ั แลเราทำใหแ้ จง้ แลว้ ๑๓. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ดวงตา ญาณ ปญั ญา วชิ ชา แสงสวา่ งไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ แกเ่ รา ในธรรมทง้ั หลายทเ่ี ราไมเ่ คยฟงั มากอ่ นวา่ นท้ี กุ ขนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทาอรยิ สจั จ์ ทกุ ขนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทาอรยิ สจั จน์ น้ี น้ั แล ควรใหเ้ จรญิ และทกุ ขนโิ รธคามนิ ปี ฏปิ ทา อรยิ สจั จน์ น้ี น้ั แล เราใหเ้ จรญิ แลว้

สารนาถ ปฐมเทศนา ๑๐๕ ญาณทสั สนะมรี อบ ๓ มอี าการ ๑๒ ๑๔. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ปญั ญาอนั รเู้ หน็ ตามความเปน็ จรงิ ของเรา ในอรยิ - สจั จ์ ๔ น้ี มรี อบ ๓ มอี าการ ๑๒ อยา่ งน้ี ยงั ไมห่ มดจดดแี ลว้ เพยี งใดเรายงั ยนื ยนั ไมไ่ ดว้ า่ เปน็ ผตู้ รสั รสู้ มั มาสมั โพธญิ าณอนั ยอดเยย่ี มในโลก พรอ้ มทง้ั เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมสู่ ตั ว์ พรอ้ มทง้ั สมณพราหมณ์ เทวดาและมนษุ ย์ เพยี งนน้ั ๑๕. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย กเ็ มอ่ื ใดแล ปญั ญาอนั รเู้ หน็ ตามความเปน็ จรงิ ของ เรา ในอรยิ สจั จ์ ๔ น้ี มรี อบ ๓ มอี าการ ๑๒ อยา่ งน้ี หมดจดดแี ลว้ เมอ่ื นน้ั เราจงึ ยนื ยนั ไดว้ า่ เปน็ ผตู้ รสั รสู้ มั มาสมั โพธญิ าณอนั ยอดเยย่ี มในโลก พรอ้ มทง้ั เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมสู่ ตั ว์ พรอ้ มทง้ั สมณพราหมณเ์ ทวดาและมนษุ ย์ ๑๖. อนง่ึ ปญั ญาอนั รเู้ หน็ ตามเปน็ จรงิ ไดเ้ กดิ ขน้ึ แกเ่ ราวา่ ความพน้ วเิ ศษ ของเราไมก่ ลบั กำเรบิ ชาตนิ เ้ี ปน็ ทส่ี ดุ ภพใหมไ่ มม่ ตี อ่ ไป” ๑๗. กแ็ ล เมอ่ื พระผมู้ พี ระภาคตรสั ไวยากรณภาษติ นอ้ี ยู่ ดวงตาเหน็ ธรรม ปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทนิ ไดเ้ กดิ ขน้ึ แกท่ า่ นโกณฑญั ญะวา่ “สง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ มคี วาม เกดิ ขน้ึ เปน็ ธรรมดา สง่ิ นน้ั ทง้ั มวลมคี วามดบั เปน็ ธรรมดา” ๑๘. ครง้ั พระผมู้ พี ระภาคทรงประกาศพระธรรมจกั รใหเ้ ปน็ ไปแลว้ เหลา่ ภมุ เทวดาไดบ้ นั ลอื เสยี งวา่ “นน่ั พระธรรมจกั รอนั ยอดเยย่ี ม พระผมู้ พี ระภาคทรงประกาศ ใหเ้ ปน็ ไปแลว้ ณ ปา่ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั เขตพระนครพาราณสอี นั สมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรอื ใคร ๆ ในโลกจะปฏวิ ตั ไิ มไ่ ด”้ ๑๙. เทวดาชน้ั จาตมุ หาราชไดย้ นิ เสยี งของพวกภมุ มเทวดาแลว้ กบ็ นั ลอื เสยี ง ตอ่ ไป เทวดาชน้ั ดาวดงึ สไ์ ดย้ นิ เสยี งของพวกเทวดาชน้ั จาตมุ หาราชแลว้ กบ็ นั ลอื เสยี ง ตอ่ ไป เทวดาชน้ั ยามาไดย้ นิ เสยี งของพวกเทวดาชน้ั ดาวดงึ สแ์ ลว้ กบ็ นั ลอื เสยี งตอ่ ไป เทวดาชน้ั ดสุ ติ ไดย้ นิ เสยี งของพวกเทวดาชน้ั ยามาแลว้ กบ็ นั ลอื เสยี งตอ่ ไป เทวดาชน้ั นมิ มานรดไี ดย้ นิ เสยี งของพวกเทวดาชน้ั ดสุ ติ แลว้ กบ็ นั ลอื เสยี งตอ่ ไป เทวดาชน้ั ปรนมิ - มติ วสวดี ไดย้ นิ เสยี งของพวกเทวดาชน้ั นมิ มานรดแี ลว้ กบ็ นั ลอื เสยี งตอ่ ไป…..

๑๐๖ สารนาถ ปฐมเทศนา ๒๐. เทวดาทน่ี บั เนอ่ื งในหมพู่ รหม ไดย้ นิ เสยี งของพวกเทวดาชน้ั ปรนมิ มติ - วสวดแี ลว้ กบ็ นั ลอื เสยี งตอ่ ไปวา่ “นน่ั พระธรรมจกั รอนั ยอดเยย่ี ม พระผมู้ พี ระภาคทรง ประกาศใหเ้ ปน็ ไปแลว้ ณ.ปา่ อสิ ปิ ตนมฤคทายวนั เขตพระนครพาราณสี อนั สมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรอื ใคร ๆ ในโลก จะปฏวิ ตั ไิ มไ่ ด”้ ๒๑. ชว่ั ขณะกาลครหู่ นง่ึ เทา่ นน้ั เสยี งไดก้ ระฉอ่ นขน้ึ ไปจนถงึ พรหมโลกดว้ ย ประการฉะนแ้ี ล ทง้ั หมน่ื โลกธาตนุ ไ้ี ดห้ วน่ั ไหวสะเทอื นสะทา้ น ทง้ั แสงสวา่ งอนั ยง่ิ ใหญ่ หาประมาณมไิ ดไ้ ดป้ รากฏแลว้ ในโลก ลว่ งเทวานภุ าพของเทวดาทง้ั หลาย ๒๒. ลำดบั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคทรงเปลง่ อทุ านวา่ “ทา่ นผเู้ จรญิ โกณฑญั - ญะไดร้ แู้ ลว้ หนอ ทา่ นผเู้ จรญิ โกณฑญั ญะไดร้ แู้ ลว้ หนอ” เพราะเหตนุ น้ั คำวา่ “อญั - ญาโกณฑญั ญะ” น้ี จงึ ไดเ้ ปน็ ชอ่ื ของทา่ นพระโกณฑญั ญะ ดว้ ยประการฉะน.้ี ........ คำวา่ สารนาถมาจากคำวา่ สารงั คนาถ แปลวา่ พน้ื ดนิ ทเ่ี ปน็ ทพ่ี ง่ึ ของสตั ว์ คอื กวาง หมายถงึ ทพ่ี ง่ึ อนั ประเสรฐิ ของมวลมนษุ ย์ จากการประกาศพระธรรมจกั ร คอื ทางเดนิ ทเ่ี ลอื กไวด้ แี ลว้ ไดแ้ กม่ ชั ฌมิ าปฏปิ ทา ในสมยั พระเจา้ อโศก สารนาถ มคี วาม สำคัญมาก มีการขุดค้นโบราณสถานนี้ พบเสาอโศกที่มีรูปสิงโต ๔ ทิศ ที่ประเทศ อนิ เดยี นำมา เปน็ เครอ่ื งหมายของประเทศสว่ นเสาทเ่ี หลอื หกั เปน็ ๔ ทอ่ นพบอยดู่ งั ภาพท่ี ๓ จาก หลกั ฐานสารนาถ ถกู ทำลายจากกองทพั มสุ ลมิ เมอ่ื ประมาณ พทุ ธศตั วรรษท่ี ๑๘ และจมดนิ จมทรายมาถงึ อกี ๗๐๐ ปี Alexander Cunningham ทำการขดุ คน้ ทาง โบราณคดี พบหลกั ฐานมคี า่ มากมาย นบั วา่ สารนาถเปน็ Ruins Site ทพ่ี บโบราณวตั ถุ นา่ ชมและ ศกึ ษาอยา่ งมาก สว่ นทส่ี วยสงา่ นา่ ประทบั ใจเดน่ ทส่ี ดุ ทส่ี ารนาถกค็ อื ธมั เมกขสถปู ธมั เมกข = ธมั มะ + อกิ ขะ : อกิ ขะ แปลวา่ เหน็ ธมั มะ สถปู องคน์ เ้ี คยงดงาม สงา่ ดว้ ยพทุ ธศลิ ป์ หลวงจนี ฟาเหยี นบนั ทกึ ไวค้ ราวมานมสั การวา่ รอบสถปู ทง้ั ๘ ชอ่ ง มพี ระพทุ ธรปู ทองคำ ประดิษฐานอยู่ครบ รูปทรงเป็นลอมฟางส่วนล่างเป็นหินแกะสลักทึบตัน ส่วนด้าน บนเรยี วลงกอ่ ดว้ ยอฐิ มลี วดลาย ความสงู ทง้ั หมดประมาณ ๓๓ เมตร สว่ นทน่ี า่ สนใจ มากก็คือลวดลายแกะสลักเป็นลายรูปทรงเรขาคณิต (ภาพที่ ๔) ดูคล้ายลวดลาย

สารนาถ ปฐมเทศนา ๑๐๗ ๑ ๒๓ ๔๕ ๖ สมยั ใหม่ และกส็ ลบั ดว้ ยลายรปู คนกบั นก ซง่ึ นา่ จะหมายถงึ ราชวงศ์ เมารยนั หรอื นกยงู ของพระเจ้าอโศกมหาราช ยังมีลวดลายบางส่วนชัดเจนสวยงามมากทั้ง ๆ ที่อยู่ต้าน ลมฝนมากวา่ ๒,๐๐๐ ปี คณะของเราสามารถเลอื กใชพ้ น้ื ทส่ี นามหญา้ (ภาพท่ี ๕) ภายใตร้ ม่ เงาของ สถปู ในยามอาทติ ยใ์ กลอ้ สั ดง สนทนาธรรมในบรรยากาศอนั สงบ เยน็ สบาย เสรจ็ แลว้ ก็ พรอ้ มกนั เวยี นเทยี นทกั ษณิ าวตั รรอบพระสถปู เพอ่ื เปน็ การสกั การะ (ภาพท่ี ๖) สถานท่ี อนั ศกั ดสิ ทิ ธแ์ิ หง่ น้ี อนโุ มทนา

๑๐๘ สารนาถ ปฐมเทศนา บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๙ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.

สารนาถ ปฐมเทศนา ๑๐๙ บันทึกธรรม

๑๑๐ ๑๓ พาราณสี คอื แควน้ กาสี ไฟแหง่ การเผาศพทน่ี ไ่ี มเ่ คยดบั มากวา่ ๓,๐๐๐ ปแี ลว้ (ภาพท่ี ๑) เดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วในอนิ เดยี ยงั มอี ะไรใหช้ มอกี มากมาย บางทกี ารเดนิ ออกนอก รายการจากทผ่ี จู้ ดั วางไว้ อาจไดเ้ หน็ อะไรเหมอื น หนา้ ทไ่ี มไ่ ดส้ วมหนา้ กาก ไดเ้ หน็ สง่ิ ท่ี ไมเ่ คยเหน็ ไดฟ้ งั สง่ิ ทไ่ี มเ่ คยฟงั ไปเดนิ ตามตลาดสด (ภาพท่ี ๒) กอ็ าจเหน็ ความยากจน ความมง่ั คง่ั ของชาวบา้ น ไดเ้ หน็ วา่ เขากนิ อะไร สวมเสอ้ื ผา้ แบบไหน ถา้ ยง่ิ ไดพ้ ดู คยุ กย็ ง่ิ ดี และมกี ลอ้ งถา่ ยรปู เกบ็ ภาพไว้ จะทำใหก้ ารเดนิ ทางมคี วามหมายขน้ึ มากทเี ดยี ว เวลาเรา เหน็ ผคู้ นทล่ี ำบากเขญ็ ใจกวา่ เรา (ภาพท่ี ๓) กเ็ ปน็ แงค่ ดิ ทำใหม้ กี ำลงั ใจ ขอบคณุ กรรม- เกา่ ทท่ี ำไวด้ ี ทำใหไ้ ดร้ บั วบิ ากทด่ี ี ควรจะสะสมกรรมดตี อ่ ไป ทกุ อยา่ งรอบตวั เปน็ บทเรยี น เปน็ ธรรมะ เอามาสอนเราไดต้ ลอดเวลา หากสะสมการฟงั มาดี สตกิ เ็ กดิ ทำใหล้ ะคลาย การยดึ มน่ั ถอื มน่ั ไดเ้ สมอ ไดส้ มั ผสั พดู คยุ กบั คนอนิ เดยี จรงิ ๆ แลว้ ไมไ่ ดน้ า่ รงั เกยี จอะไร ทพ่ี าราณสนี ม่ี ี คราวหนึ่งเรากำลังจะลงเรือเพื่อชมแม่น้ำคงคาในตอนเช้า มีเด็กเข้ามาขายของพวก ตะเกยี ง กระทงทจ่ี ะลอยในคงคา ตอ๊ื ตดิ ตาม เคลา้ แขง้ เคลา้ ขาทง้ั ฉดุ ทง้ั ดงึ เรากไ็ มย่ อม ซอ้ื แตก่ เ็ ลน่ ดว้ ย เดก็ ตดิ ตามขน้ึ ไปบนเรอื กบั พวกเราดว้ ย พดู คยุ แลกเปลย่ี นทอ่ี ยู่ กอดคอ กนั ถา่ ยรปู จนกลายเปน็ เพอ่ื นกนั ไป ลมื เรอ่ื งขายของเสยี สนทิ แตใ่ นทส่ี ดุ กม็ พี วกสหาย ธรรมชว่ ยกนั ซอ้ื กนั จนหมด อีกคราวหนึ่งเกือบจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลด้วยความเป็นนักกฏหมายของคน อินเดีย ครั้งนั้นที่หน้าโรงแรมในพุทธคยาแต่ตอนเช้าตรู่ ก่อนที่จะเดินทางออกไป ทอ่ งเทย่ี วมหี นมุ่ อนิ เดยี หนา้ แหลมมาเสนอขายผา้ ไหมถงึ ตวั ผเู้ ขยี นกม็ องดวู า่ สวยดี แต่ ไมส่ นใจทจ่ี ะถามราคาและกไ็ มน่ กึ อยากไดเ้ ลย กบ็ อกใหไ้ ปขายโนน่ พวกสหายธรรมท่ี เปน็ ผหู้ ญงิ ดกี วา่ พอ่ นกั ขายชาวภารตะนก่ี แ็ ปลกจรงิ ๆ ไมย่ อมไปขายคนอน่ื ตอ๊ื เราอยนู่ น่ั แหละ เรากบ็ อกวา่ No no no I said no. แลว้ กบ็ อกวา่ Later....... เหตกุ ารณว์ นั นน้ั จบลง ขายเราไมไ่ ด้ โลง่ อกไปที พอวนั รงุ่ ขน้ึ แตเ่ ชา้ เลยกำลงั จะเดนิ ทางไปชมบา้ นนางสชุ าดา ทอ่ี ยอู่ กี ฝง่ั แมน่ ำ้ พอ่ หนมุ่ ขายผา้ ไหมกย็ น่ื หนา้ แหลมมาหาเราทนั ทเี ลย สง่ ภาษามาบอก

พาราณสี คอื แควน้ กาสี ๑๑๑ วา่ เขามาตามสญั ญานะ อยา่ เบย้ี ว เรากง็ ง เฮย้ ..... สญั ญาอะไรกนั พอ่ คนขายกบ็ อกวา่ กเ็ มอ่ื วานน้ี ยบู อกวา่ Later แปลวา่ ยงั ไมซ่ อ้ื เมอ่ื วานน้ี เราเลยมาวนั น้ี วนั นต้ี อ้ งซอ้ื นะจะ๊ นายจา๋ อยา่ เบย้ี วอาบงั นะ่ ผดิ สญั ญานะนายยยย ไอห๋ ยา อยา่ งนค้ี งเสยี ทา่ อาบงั เผน่ ดกี วา่ ผเู้ ขยี นอาศยั ตอนทเี ผลอ แอบหนขี น้ึ รถบสั ไป เพราะพวกขายของนจ่ี ะไมก่ ลา้ ขน้ึ ไปบนรถ คงเปน็ กฎเขม้ งวดของพวกรถทวั ร์ เพอ่ื ปอ้ งกนั ของหาย จนกระทง่ั รถออก เฮอ้ ... รอดไป รถวง่ิ ไปประมาณ ๒ - ๓ กม. ขา้ ม สะพานไปอกี ฝง่ั ของแมน่ ำ้ เนรญั ชรา รถจอดเพอ่ื จะลงเดนิ ไปชมสถปู บา้ นนางสชุ าดา พอ ผเู้ ขยี นใสห่ มวก หอบขา้ วของลงจากรถ ทนั ใดนน้ั กเ็ จอกบั เจา้ หนา้ แหลมพรอ้ มจกั รยาน คชู่ พี ยนื หอบแฮก่ ๆ แลว้ รอ้ งเรยี นกบั พวกรถทวั รว์ า่ เราไดก้ ระทำการอกุ อาจผดิ สญั ญา กบั แขก วา่ จะซอ้ื แลว้ กห็ นขี น้ึ รถ แลว้ เรม่ิ ทำหนา้ เครยี ด เอะอะ โวยวายดงั ขน้ึ ๆ โอโ้ ฮ คดใี หญ่ อายเขาทว่ั โลกา ผ้เู ขยี นทง้ั ขดั เคอื งและทง้ั แปลกใจในความบา้ ของเจา้ หนา้ แหลม และกเ็ กดิ ความเหน็ ใจในการตอ๊ื ของเจา้ หนา้ แหลมขน้ึ มาดว้ ย กเ็ ลยถามราคาวา่ ผา้ นผ่ี นื ละเทา่ ไหร่ บงั บอกวา่ อนี ่ี ๒๐๐ รปู ี รวมคา่ ปน่ั จกั รยานแลว้ ละ่ นาย เราใหพ้ วกคน รถตอ่ เหลอื ผนื ละ ๑๕๐ รปู ไี ดไ้ หม แลว้ อยา่ เอาความกบั เราเลย แขกเงยี บไปหนอ่ ยแลว้ ก็ ตอบ ตกลง เออ หมดเรอ่ื ง เรากลบั ทำเปน็ ใจดี บอกวา่ ฉนั จะซอ้ื ๒ ผนื เจา้ แขกจอมตอ๊ื กลบั ตอบวา่ ๑๕๐ รปู ี ขายใหผ้ นื เดยี วนะนาย เอาอกี ผนื ตอ้ ง ๒๐๐ รปู ไี มล่ ดให้ เออ ดเู จา้ แขกมนั ทำ ตามใจ ฉนั ไมซ่ อ้ื กไ็ ด้ ผนื เดยี วพอ แลว้ ไปไกล ๆ ไดแ้ ลว้ ......... ชอ่ื พาราณสี เพย้ี นมา จากคำวา่ วาราณสี ไดม้ าจาก คำวา่ วารณุ กบั อสี เพราะเปน็ ทบ่ี รรจบของแมน่ ำ้ วรณุ กบั แมน่ ำ้ อสี กอ่ นจะไหลลงสคู่ งคา เปน็ นครศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ ทม่ี อี ายเุ กา่ แกก่ อ่ นประวตั ศิ าสตรอ์ นิ เดยี เสยี อกี ปจั จบุ นั มปี ระชากรประมาณ ๑.๔ ลา้ น- คน พาราณสมี ชี อ่ื เสยี งจากเรอ่ื งประเพณเี ชอ่ื ถอื วา่ การลงอาบนา้ ในแมน่ ำ้ คงคาเปน็ การ ลา้ งบาป (ภาพท่ี ๔) และการเผาศพคนตายแลว้ นำเอาเถา้ กระดกู ลอยองั คารในสายนำ้ คงคาจะทำใหผ้ ตู้ ายไปสวรรค์ แตถ่ า้ บคุ คลนน้ั เปน็ เดก็ หญงิ สาวพรหมจรรย์ นกั บวช หรอื คนทถ่ี กู งกู ดั หรอื ฟา้ ผา่ ตาย ศพกจ็ ะถกู ลอยลงวารไี ปโดย ไมต่ อ้ งเผาเสยี กอ่ น(ภาพท่ี ๕) ความเชื่อนี้มีมาหลายพันปีแล้ว ก็ยังยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาจนทุกวันนี้ มองผ่านไปสังเกตุดี ๆ ท่านจะเห็นหอสำหรับสูบน้ำประปา ของการประปาพาราณสี

๑๑๒ พาราณสี คอื แควน้ กาสี อยใู่ กลๆ้ กบั ทเ่ี ผาศพนน่ั แหละ เปน็ อนั วา่ ชาวพาราณสกี ไ็ ดร้ บั บรกิ ารความศกั ดส์ิ ทิ ธจ์ิ าก คงคา delivery ถงึ บา้ นทเี ดยี ว สว่ นปราสาททส่ี วย ๆ รมิ นำ้ ใกล้ ๆ ทเ่ี ผาศพนน่ั ไมใ่ ชข่ อง มหาราชาทไ่ี หนหรอกครบั เจา้ ของคอื สปั เหรอ่ ประจำฌาปนกจิ สถานทเ่ี ปน็ มหาเศรษฐี รำ่ รวยมาเปน็ ศตวรรษแลว้ ครบั ท่องเที่ยวไปตามถนนอาจเห็นเรื่องราวทั้งสวยสดงดงามและความน่าสลด หดหู่ (ภาพท่ี ๖) ใหเ้ หน็ วา่ ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งยอ่ มไมเ่ ทย่ี ง เกดิ แลว้ กไ็ มค่ งทนอยไู่ ด้ ตอ้ งดบั ไป (ภาพท่ี ๗) ในพาราณสหี รอื แควน้ กาสนี ้ี มเี รอ่ื งราวในชาดกเกดิ ขน้ึ ตาม คำเทศนาของ พระผู้มีพระภาคมากมาย เห็นภาพเหล่านี้แล้วนึกถึงพระสูตรเรื่องหนึ่ง พระสูตรเรื่อง ตอ่ ไปนเ้ี กย่ี วกบั ในสมยั โนน้ มผี มู้ ศี รทั ธา ถงึ ขนาดแมอ้ วยั วะ รา่ งกายของตนกส็ ละเพอ่ื การใหท้ านได้ ทำให้ พระพทุ ธองคท์ รงบญั ญตั พิ ระวนิ ยั ขน้ึ ขอเชญิ อา่ นพระสตู ร........ พระสตุ ตนั ตปฎิ ก องั คตุ รนกิ าย เอกนบิ าต-ทกุ นบิ าต เลม่ ๑ ภาค ๒ ประวตั นิ างสปุ ปยิ าอบุ าสกิ า ในสตู รท่ี ๗ พงึ ทราบวนิ จิ ฉยั ดงั ตอ่ ไปน.้ี ดว้ ยบทวา่ คลิ านปุ ฏฐฺ ากานํ ทา่ นแสดงวา่ นางสปุ ปยิ าอบุ าสกิ า เปน็ เลศิ กวา่ พวกอบุ าสกิ าผอู้ ปุ ฏั ฐากภกิ ษไุ ข.้ ดงั ไดส้ ดบั มา นางสปุ ปยิ าอบุ าสกิ าน้ี ครง้ั พระพทุ ธเจา้ พระนามวา่ ปทมุ ตุ ตระ. บังเกิดในเรือนสกุล กรุงหังสวดี ต่อมากำลังฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา เห็น พระศาสดาทรงสถาปนาอุบาสิกาผู้หนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวก อบุ าสกิ าผอู้ ปุ ฏั ฐากภกิ ษไุ ข้ จงึ ทำกศุ ลใหย้ ง่ิ ยวดขน้ึ ไป ปรารถนาตำแหนง่ นน้ั . นางเวยี น- ว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์ถึงแสนกัป ในพุทธุปบาทกาลนี้บังเกิดในเรือนสกุล กรุง- พาราณส.ี บดิ ามารดาจงึ ตง้ั ชอ่ื นางวา่ สปุ ปยิ า. ตอ่ มาพระศาสดามภี กิ ษสุ งฆเ์ ปน็ บรวิ าร ไดเ้ สดจ็ ไปกรงุ พาราณส.ี ดว้ ยการเฝา้ ครง้ั แรกเทา่ นน้ั นางฟงั ธรรมแลว้ ดำรงอยใู่ นโสดา- ปัตติผล. อยู่มาวันหนึ่ง นางไปพระวิหารเพื่อฟังธรรมเที่ยวจาริกไปในพระวิหาร

พาราณสี คอื แควน้ กาสี ๑๑๓ ๒๓ ๑ ๔ ๕๖ ๗ ๘๙ พบภิกษุไข้รูปหนึ่งไหว้แล้ว ทำการต้อนรับ ถามว่าพระผู้เป็นเจ้าควรจะได้อะไร ภกิ ษไุ ขต้ อบวา่ ทา่ นอบุ าสกิ า ควรไดอ้ าหารมรี ส [เนอ้ื ] จะ้ . นางกลา่ ววา่ เอาเถดิ เจา้ ขา้ ดิฉันจักส่งไปถวายไหว้พระเถระแล้ว เข้าไปในเมือง วันรุ่งขึ้น ก็ส่งทาสีไปตลาดเพื่อ ต้องการปวัตตมังสะ [เนื้อที่ขายกันในตลาด]. ทาสีนั้นหาปวัตตสะทั่วเมืองก็ไม่ได้ ก็บอกนางว่าไม่ได้เสียแล้ว. อุบาสิกาคิดว่า เราบอกแก่พระผู้เป็นเจ้าไว้ว่า จักส่งเนื้อ ไปถวาย ถา้ เราไมส่ ง่ ไป พระผเู้ ปน็ เจา้ เมอ่ื ไมไ่ ดจ้ ากทอ่ี น่ื กจ็ ะลำบาก ควรทเ่ี ราจะทำเนอ้ื อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ สง่ ไปถวาย แลว้ กเ็ ขา้ หอ้ ง เฉอื นเนอ้ื ขาใหแ้ กท่ าสี สง่ั วา่ เจา้ จงเอาเนอ้ื น้ี

๑๑๔ พาราณสี คือแควน้ กาสี ๑๐ ปรงุ ดว้ ยเครอ่ื งปรงุ นำไปวหิ ารถวายพระผเู้ ปน็ เจา้ ถา้ ทา่ นถามถงึ เรา กจ็ งแจง้ วา่ เปน็ ไข.้ ทาสนี น้ั กไ็ ดก้ ระทำอยา่ งนน้ั พระศาสดาทรงทราบเหตนุ น้ั วนั รงุ่ ขน้ึ เวลาแสวงหาอาหาร กม็ ภี กิ ษสุ งฆเ์ ปน็ บรวิ าร เสดจ็ ไปเรอื นของอบุ าสกิ า. นางทราบวา่ พระตถาคตเสดจ็ มาจงึ ปรกึ ษาสามวี า่ ลกู เจา้ ดฉิ นั ไมอ่ าจไปเฝา้ พระศาสดาไดพ้ ท่ี า่ นจงไปกราบทลู เชญิ พระศาสดาใหเ้ สดจ็ เขา้ เรอื นแลว้ ใหป้ ระทบั นง่ั เถดิ . สามนี น้ั กไ็ ดก้ ระทำอยา่ งนน้ั . พระศาสดาตรสั ถามวา่ สปุ ปยิ า ไปไหนเสยี เลา่ . สามกี ราบทลู วา่ นางเปน็ ไข้ พระเจา้ ขา้ . ตรสั สง่ั วา่ จงเรยี กนางมาเถดิ . นางคิดว่า พระศาสดาทรงสงเคราะห์เกื้อกูลแก่ชาวโลกทั้งปวง ทรงทราบเหตุของเรา จงึ ใหเ้ รยี กหา กล็ กุ ขน้ึ จากเตยี งอยา่ งฉบั พลนั . ครง้ั นน้ั ดว้ ยพทุ ธานภุ าพ แผล [ทเ่ี ฉอื นเนอ้ื ขา] ของนางกง็ อกขน้ึ ทนั ทที นั ใด ผวิ กเ็ รยี บผวิ พรรณผอ่ งใสยง่ิ กวา่ เดมิ . ขณะนน้ั อบุ าสกิ ากย็ ม้ิ ได้ ถวายบงั คมพระทศพล ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ นั่ง ณ ที่ส่วนข้างหนึ่ง. พระศาสดาทรงดำริว่า อุบาสิกาผู้นี้ ไมส่ บายเพราะเหตไุ ร จงึ ตรสั ถาม นางจงึ เลา่ เรอ่ื งทต่ี นทำทกุ อยา่ งถวาย. พระศาสดา เสวยเสรจ็ แลว้ เสดจ็ ไปพระวหิ าร ทรงประชมุ ภกิ ษสุ งฆ์ แลว้ ทรงตำหนภิ กิ ษนุ น้ั เปน็ อยา่ ง มาก ทรงบัญญัติสิกขาบท. เรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างนี้. กำลัง พระศาสดาประทับนั่ง ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาพวกอุบาสิกาไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ ตามลำดับ จงึ ทรงสถาปนานางสปุ ปยิ าอบุ าสกิ าไวใ้ นตำแหนง่ เอตทคั คะเปน็ เลศิ กวา่ พวกอบุ าสกิ า ผอู้ ปุ ฏั ฐากภกิ ษไุ ข้ แล. จบอรรถกถาสตู รท่ี ๗

พาราณสี คอื แควน้ กาสี ๑๑๕ ยังมีอีกพระสูตรหนึ่ง เหตุการณ์ที่เกิดที่ริมฝั่งแม่น้ำแบบนี้ ได้ฟังจากการ บรรยายในเทปของทา่ นอาจารยส์ จุ นิ ต์ ทบ่ี นั ทกึ เมอ่ื หลายสบิ ปมี าแลว้ ยงั ไมล่ า้ สมยั รสู้ กึ ซาบซง้ึ และเลอ่ื มใสในความรกั สจั จะ และความมปี ญั ญาของพระโพธสิ ตั ว์ ชาดก เรื่องนี้เปิดให้ลูกหลานฟังก็จะสนุก ได้รับความสนใจและชอบมาก ขอเชิญอ่าน พระสตู ร......... พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย จรยิ าปฎิ ก เลม่ ๙ ภาค ๓ กปลิ ราชจรยิ า วา่ ดว้ ยจรยิ าวตั รของพระยาวานร ในกาลเมอ่ื เราเปน็ พระยาวานร อยู่ ณ ซอกเขาใกลฝ้ ง่ั แมน่ ำ้ ในกาลนน้ั เรา ถกู จระเขเ้ บยี ดเบยี นไปไมไ่ ด้ เรายนื อยู่ ณ โอกาสใด โดดจากฝง่ั นไ้ี ปยงั ฝง่ั โนน้ จระเขม้ นั เปน็ สตั วด์ รุ า้ ยแสดงความนา่ กลวั อยู่ ณ โอกาสนน้ั จระเขน้ น้ั กลา่ วกะ เราวา่ มาเถดิ แมเ้ รากก็ ลา่ วกะจระเขน้ น้ั วา่ จะมา เราโดดลงเหยยี บศรี ษะ จระเข้ นน้ั แลว้ โดดไปยนื อยฝู่ งั โนน้ เรามไิ ดท้ ำตามคำของจระเขท้ ก่ี ลา่ วหลอกลวงนน้ั หามไิ ด้ ผเู้ สมอดว้ ยคำสจั ของเราไมม่ ี นเ้ี ปน็ สจั จบารมขี องเรา ฉะนแ้ี ล. จบ กปลิ ราชจรยิ าท่ี ๗ อรรถกถากปลิ ราชจรยิ าท่ี ๗ พงึ ทราบวนิ จิ ฉยั ในอรรถกถากปลิ ราชจรยิ าท่ี ๗ ดงั ตอ่ ไปน้ี บทวา่ ยทา อหํ กปิ อาสึ ความว่าในกาลเม่ือเราเกดิ ในกำเนดิ วานร อาศยั ความเจรญิ ไดเ้ ป็นพระยา วานรมกี ำลงั ดจุ ชา้ งสาร สมบรู ณด์ ว้ ยเรย่ี วแรง มรี า่ งกายใหญป่ ระมาณเทา่ ลกู มา้ . บทวา่ นทกี เู ล ทรสี เย ความวา่ เราอยทู่ ซ่ี อกเขาแหง่ หนง่ึ ใกลฝ้ ง่ั แมน่ ำ้ แหง่ หนง่ึ . ไดย้ นิ วา่ ในกาลนน้ั พระโพธสิ ตั วม์ ไิ ดด้ แู ลฝงู เทย่ี วไปผเู้ ดยี ว. ก็ ณ ทา่ มกลาง แมน่ ำ้ นน้ั มเี กาะอยเู่ กาะหนง่ึ สมบรู ณด์ ว้ ยผลไมม้ ขี นนุ และมะมว่ งเปน็ ตน้ หลาย ๆ อยา่ ง. พระโพธสิ ตั วเ์ พราะสมบรู ณด์ ว้ ยกำลงั เรว็ กระโดดจากฝง่ั นข้ี องแมน่ ำ้ ไปถงึ แผน่ หนิ แผน่ หนง่ึ ซง่ึ มอี ยใู่ นทา่ มกลางเกาะและแมน่ ำ้ .กระโดดจากแผน่ หนิ นน้ั ไปถงึ เกาะนน้ั . พระยา วานรเคย้ี วกนิ ผลาผลหลาย ๆ อยา่ ง ณ เกาะนน้ั ตอนเยน็ กก็ ลบั โดยวธิ นี น้ั นน่ั เองอยใู่ น

๑๑๖ พาราณสี คอื แควน้ กาสี ทอ่ี ยขู่ องตน รงุ่ ขน้ึ กท็ ำอยา่ งนน้ั อกี สำเรจ็ การอยโู่ ดยทำนองน.้ี ในกาลนน้ั มจี ระเขต้ วั หนง่ึ พร้อมด้วยนางจระเข้อาศัยอยู่ใกล้แม่น้ำนั้น. นางจระเข้เมียของจระเข้นั้นเห็น พระโพธสิ ตั วไ์ ป ๆ มา ๆ อยเู่ กดิ แพท้ อ้ งอยากกนิ เนอ้ื หวั ใจของพระโพธสิ ตั ว์ จงึ บอกกะ จระเขผ้ เู้ ปน็ ผวั วา่ นายจา๋ ฉนั แพท้ อ้ งอยากกนิ เนอ้ื หวั ใจลงิ นน้ั . จระเขก้ ลา่ ววา่ ไดซ้ เิ ธอ. แลว้ กไ็ ปดว้ ยหวงั วา่ จกั จบั พระยาลงิ นน้ั ซง่ึ กลบั จากเกาะในตอนเยน็ จงึ อยบู่ นหลงั แผน่ หนิ . พระโพธสิ ตั วเ์ ทย่ี วหาอาหารตลอดวนั ในตอนเยน็ ไดย้ นื บนเกาะนน่ั เอง มองดแู ผน่ หนิ คดิ วา่ หนิ แผน่ น้ี บดั นป้ี รากฏวา่ สงู กวา่ เดมิ จะมเี หตอุ ะไรหนอ เพราะพระมหาสตั ว์ สงั เกตปรมิ าณของนำ้ และปรมิ าณของแผน่ หนิ ไวเ้ ปน็ อยา่ งด.ี ดว้ ยเหตนุ น้ั พระโพธสิ ตั วจ์ งึ ดำรวิ า่ วนั นน้ี ำ้ ของแมน่ ำ้ นก้ี ย็ งั ไมล่ ด. แตท่ ำไมแผน่ หนิ นจ้ี งึ ปรากฏใหญม่ าก. คงจะเปน็ เจา้ จระเขน้ อนหมายจะจบั เรา ณ ทน่ี น้ั เปน็ แน.่ พระยาวานรคิดว่า เราจักทดลองจระเข้นั้นก่อน จึงยืนอยู่อย่างนั้น ทำเปน็ พดู กบั แผน่ หนิ พดู วา่ เฮย้ เจา้ หนิ กไ็ มไ่ ดร้ บั คำตอบ พดู วา่ เฮย้ เจา้ หนิ อยู่ ๓ ครง้ั หนิ กไ็ มใ่ หค้ ำตอบ. พระโพธสิ ตั วจ์ งึ พดู อกี วา่ เฮย้ เจา้ หนิ ทำไมวนั น้ีไมใ่ หค้ ำตอบแกเ่ ราเลา่ . จระเข้คิดว่า หินนี้ในวันอื่น ๆ คงให้คำตอบแก่พระยาวานรเป็นแน่. แต่วันนี้หินไม่ให้ คำตอบเพราะเราครอบไว.้ เอาเถดิ เราจะใหค้ ำตอบแกพ่ ระยาวานร จงึ พดู วา่ วา่ อยา่ งไร พระยาวานร. ถามวา่ เจา้ เปน็ ใคร. ตอบวา่ เราเปน็ จระเข.้ ถามวา่ เจา้ มานอนทน่ี เ้ี พอ่ื อะไร ตอบวา่ ตอ้ งการหวั ใจทา่ น. พระโพธสิ ตั วค์ ดิ วา่ เราไมม่ ที างไปทางอน่ื ทางไปของเรา ถกู ปดิ เสยี แลว้ . ดงั ทพ่ี ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั ไวว้ า่ :- เราถกู จระเขเ้ บยี ดเบยี นไปไมไ่ ด้ เรายนื อยู่ ณ โอกาสใด โดดจากฝง่ั น้ี ไปยงั ฝง่ั โนน้ . จระเขม้ นั เปน็ สตั วด์ รุ า้ ย แสดงความนา่ กลวั อยู่ ณ โอกาสนน้ั . ในบทเหลา่ นน้ั บทวา่ ปฬี โิ ต สสํ มุ าเรน ทา่ นทำความทก่ี ลา่ วดว้ ยกง่ึ คาถา เทา่ นน้ั ใหป้ รากฏดว้ ยคาถาวา่ ยมโฺ หกาเส ดงั น.้ี บทวา่ ยมโฺ หกาเส คอื ยนื อยทู่ อ้ งทอ่ี นั ไดแ้ กห่ ลงั แผน่ หนิ ซง่ึ ตง้ั อยทู่ า่ มกลางแมน่ ำ้ ใด. บทวา่ โอรา คอื ฝง่ั ใน ไดแ้ กเ่ กาะ. บทวา่ ปารํ คอื ฝง่ั นอกแหง่ แมน่ ำ้ อนั เปน็ ทอ่ี ยขู่ องเราในครง้ั นน้ั . บทวา่ ปตามหํ คอื เรากระโดด

พาราณสี คอื แควน้ กาสี ๑๑๗ ไปถงึ . บทวา่ ตตถฺ จฉฺ ิ ความวา่ จระเขเ้ ปน็ สตั วด์ รุ า้ ย เปน็ ฆาตกร เปน็ ศตั รแู สดงความ หยาบคายรา้ ยกาจเหน็ แลว้ นา่ กลวั มนั อยบู่ นหลงั แผน่ หนิ นน้ั . ลำดบั นน้ั พระมหาสตั วด์ ำรวิ า่ เราไมม่ ที างอน่ื จะไป. วนั นเ้ี ราจะลวงจระเข.้ เรา จะเปลอ้ื งจระเขจ้ ากบาปใหญด่ ว้ ยอาการอยา่ งน,้ี และเรากจ็ ะไดช้ วี ติ ดว้ ย. พระมหาสตั ว์ จงึ กลา่ วกะจระเขว้ า่ จระเขส้ หาย เราจกั โดดไปบนตวั ทา่ น. จระเขก้ ลา่ ววา่ พระยาวานร ทา่ นอยา่ มวั ชกั ชา้ เชญิ มาขา้ งนซ้ี .ิ พระมหาสตั วไ์ ดก้ ลา่ ววา่ เรากำลงั มา. แตท่ า่ นจงอา้ ปากของทา่ นไว้ แลว้ จบั เราตอนทเ่ี รามาหาทา่ น. กเ็ มอ่ื จระเขอ้ า้ ปากตาทง้ั สองขา้ งกห็ ลบั . จระเขน้ น้ั มไิ ดก้ ำหนดเหตกุ ารณน์ น้ั จงึ อา้ ปาก. ตาของจระเขก้ ห็ ลบั . จระเขอ้ า้ ปากนอน ไมล่ มื ตาเลย. พระมหาสตั วร์ คู้ วามเปน็ จรงิ ของจระเขน้ น้ั จงึ กระโดดจากเกาะไปเหยยี บ หวั จระเข้ แลว้ กระโดดจากนน้ั ไปยนื บนฝง่ั โนน้ ดจุ สายฟา้ แลบ. ดงั ทพ่ี ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั ไวว้ า่ :- จระเขน้ น้ั กลา่ วกะเราวา่ จงมา. แมเ้ รากก็ ลา่ วกะจระเขว้ า่ เราจะมา. เราโดดลงเหยยี บหวั จระเขน้ น้ั แลว้ โดดไปยนื อยทู่ ฝ่ี ง่ั โนน้ . ในบทเหลา่ นน้ั บทวา่ อสสํ ิ คอื ไดก้ ลา่ วแลว้ . บทวา่ อหมเฺ ปมิ คอื แมเ้ รากก็ ลา่ ว กะจระเขน้ น้ั วา่ เราจะมา. อนง่ึ เกาะนน้ั นา่ รน่ื รมย์ ประดบั ดว้ ยแนวตน้ ไมผ้ ลมมี ะมว่ ง หวา้ ขนนุ เปน็ ตน้ และเหมาะทจ่ี ะเปน็ ทอ่ี ย.ู่ แมพ้ ระมหาสตั วร์ กั ษาคำสจั เพราะไดใ้ หป้ ฏญิ ญา ไวว้ า่ เราจะมา กไ็ ดก้ ระทำอยา่ งนน้ั วา่ เราจกั มาแนน่ อน. ดงั ทพ่ี ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั ไว้ วา่ :- เรามไิ ดท้ ำตามคำของจระเขท้ ก่ี ลา่ วหลอกลวงนน้ั หามไิ ด.้ เพราะรกั ษาคำสจั น้ี ไดส้ ละชวี ติ ของตนทำแลว้ ฉะนน้ั พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั ไวว้ า่ :- ผเู้ สมอดว้ ยคำสจั ของเราไมม่ .ี นเ้ี ปน็ สจั จบารมขี องเรา.

๑๑๘ พาราณสี คอื แควน้ กาสี จระเข้เห็นความอัศจรรย์ดังนั้นคิดว่า พระยาวานรนี้ทำอัศจรรย์ยิ่งนักจึง กลา่ ววา่ พระยาวานรผเู้ จรญิ บคุ คลผปู้ ระกอบดว้ ยธรรม ๔ อยา่ งในโลกน้ี ยอ่ มครอบงำ ศตั รไู ด.้ ธรรมทง้ั หมดนน้ั คงมอี ยใู่ นตวั ของทา่ น. ทา่ นพระยาวานร ธรรม ๔ อยา่ งเหลา่ น้ี คอื สจั จะ ธรรม ธติ ิ จาคะ มอี ยแู่ กผ่ ใู้ ด เหมอื นอยา่ งทา่ น ผนู้ น้ั ยอ่ มลว่ งพน้ ศตั รไู ด.้ ในบทเหลา่ นน้ั บทวา่ ยสสฺ บคุ คลไร ๆ. บทวา่ เอเต คอื ทา่ นแสดงถงึ ขอ้ ทค่ี วร กลา่ วไวใ้ นบดั น.้ี บทวา่ จตโฺ ร ธมมฺ า คอื คณุ ธรรม ๔ ประการ.บทวา่ สจจฺ ํ คอื วจสี จั จะ. ทท่ี ่านกลา่ ววา่ เราจกั มาสำนกั ของเรา แลว้ ไมโ่ กหกมาจนได้ นเ้ี ปน็ วจสี จั จะของทา่ น. บทวา่ ธมโฺ ม คอื วจิ ารณปญั ญาไดแ้ กป่ ญั ญาไตรต่ รอง ปญั ญาทเ่ี ปน็ ไปวา่ เมอ่ื เราทำ- อยา่ งน้ี จกั เปน็ อยา่ งนช้ี อ่ื วา่ วจิ ารณปญั ญาของทา่ น. บทวา่ ธติ ิ ไดแ้ กค่ วามเพยี รทไ่ี มข่ าด แมค้ วามเพยี รนก้ี ม็ แี กท่ า่ น. บทวา่ จาโค คอื การบรจิ าคตน ทา่ นสละตนมาหาเราเรา ไมส่ ามารถจะจบั ทา่ นได้ นเ้ี ปน็ ความผดิ ของเราเอง. บทวา่ ทฏิ ฐฺ คอื ศตั ร.ู บทวา่ โส อตวิ ตตฺ ติ ความวา่ ธรรม ๔ อยา่ งเหลา่ นม้ี อี ยแู่ กบ่ คุ คลใดเหมอื นอยา่ งมแี กท่ า่ น ผนู้ น้ั ยอ่ มกา้ วลว่ ง คอื ครอบงำศตั รขู องตนเหมอื นทา่ นพน้ เราในวนั น.้ี จระเขส้ รรเสรญิ พระโพธสิ ตั วอ์ ยา่ งนแ้ี ลว้ ไดไ้ ปทอ่ี ยขู่ องตน. จระเขใ้ นครง้ั นน้ั ได้ เปน็ เทวทตั ในครง้ั น.้ี เมยี จระเขค้ อื นางจญิ จมาณวกิ า. สว่ นพระยาวานร คอื พระโลกนาถ. แมใ้ นจรยิ าน้ี พงึ เจาะจงกลา่ วถงึ บารมที เ่ี หลอื ของพระโพธสิ ตั วน์ น้ั โดยนยั ดงั กลา่ วแลว้ ใน หนหลงั นน่ั แล.อนง่ึ พงึ ประกาศคณุ านภุ าพมอี าทอิ ยา่ งน้ี คอื การรวู้ า่ จระเขน้ อนบนแผน่ หนิ ดว้ ยสงั เกตประมาณของนำ้ และของหนิ ดว้ ยกำหนดเอาวา่ บดั นป้ี รากฏหนิ สงู เกนิ ไป. การตดั สนิ เนอ้ื ความนน้ั โดยอา้ งวา่ เคยพดู กบั หนิ . การเปลอ้ื งจระเขใ้ หพ้ น้ จากบาปใหญ่ เพราะรบี ทำดว้ ยการเหยยี บหวั จระเขแ้ ลว้ ไปยนื อยทู่ ฝ่ี ง่ั โนน้ ทนั ท.ี การรกั ษาชวี ติ ของตน. และการตามรกั ษาสจั จวาจา. จบ อรรถกถาปลิ ราชจรยิ าท่ี ๗

พาราณสี คือแควน้ กาสี ๑๑๙ เมอื งพาราณสมี สี ถานทน่ี า่ สนใจอกี หลายแหง่ ตอนหนา้ จะเลา่ เรอ่ื งซง่ึ ถอื เปน็ ไฮไลท้ ข์ องการเดนิ ทางทเี ดยี ว เพราะเราจะไดเ้ ขา้ ไปกราบสกั การะพระบรมสารรี กิ ธาตุ อนั เปน็ ทห่ี วงแหน เกบ็ รกั ษาในหอ้ งมน่ั คงอยา่ งดี ดว้ ยความโชคดที ผ่ี ดู้ แู ลมคี วามเคารพ และเลอ่ื มใส คนุ้ เคยกบั ทา่ นอาจารยส์ จุ นิ ตแ์ ละคณะผจู้ ดั เปน็ พเิ ศษ ทกุ คนจะไดเ้ ขา้ กราบ แบบเรยี งตวั (ภาพท่ี ๑๐) และพระภกิ ษผุ ดู้ แู ลจะอญั เชญิ ผอบแกว้ ทป่ี ระดษิ ฐานพระ- บรมสารีริกธาตุนั้นเทินบนศีรษะของพวกเราทุกคน คนละครั้งเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ พวกเราทกุ คน แตก่ เ็ ปน็ เรอ่ื งอศั จรรยแ์ ละอาถรรพอ์ ยทู่ กุ ปี ทง้ั ๆ ทพ่ี ระบรมสารรี กิ ธาตุ องค์ ทา่ นกไ็ มใ่ ชเ่ ลก็ และอยใู่ นครอบแกว้ ใส มองเหน็ ชดั เจน กป็ รากฎวา่ มสี หายธรรมบางคน เขา้ ไปจอ้ งดู กราบแลว้ พอกลบั ออกมากบ็ อกวา่ มองไมเ่ หน็ พระบรมสารรี กิ ธาตุ ออกมาก็ ถามกนั ใหญว่ า่ ตรงไหนละ่ ๆ ปรศิ นาน้ี เปน็ เพราะอะไร คราวหนา้ จะมาเลา่ ใหฟ้ งั ครบั กราบอนโุ มทนา

๑๒๐ พาราณสี คือแควน้ กาสี บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๑๐ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.

พาราณสี คอื แควน้ กาสี ๑๒๑ บันทึกธรรม

๑๒๒ ๑๔ ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี ยงั มอี กี สองสามแหง่ ใน พาราณสี ทเ่ี ราจะไปเยย่ี มชม แหง่ แรกกค็ อื พพิ ธิ ภณั ฑ์ โบราณคดีแห่งสารนาถ (ภาพที่ ๑) ตั้งอยูใกล้ ๆ บริเวณ ธัมมเมกขสถูปนั่นเอง พพิ ธิ ภณั ทแ์ หง่ นเ้ี ปน็ ท่ี เกบ็ รกั ษาโบราณวตั ถทุ ข่ี ดุ คน้ ไดใ้ นบรเิ วณสารนาถ มพี ระพทุ ธรปู (ภาพท่ี ๒) พระโพธสิ ตั ว์ (ภาพท่ี ๓) เทวรปู เครอ่ื งใชส้ อยในยคุ นน้ั โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ปฏมิ ากรรมพระพทุ ธรปู ทเ่ี ปน็ ปางปฐมเทศนา (ภาพท่ี ๔) ดา้ นหลงั เปน็ ประภามณทล อนั หมายถงึ ธรรมจกั ร คอื กงลอ้ แหง่ ธรรมเรม่ิ หมนุ นว้ิ มอื งอ เขา้ หากนั เรยี กวา่ ธรรมจกั ร มทุ รา เปน็ อาการของการหมนุ วงกลม งดงามยง่ิ นกั นอกจากนน้ั ทน่ี า่ สนใจเปน็ พเิ ศษ คอื สงิ หอ์ นั เปน็ ตราราชการแผน่ ดนิ ของอนิ เดยี ซง่ึ จอมจกั รพรรดอิ โศกสรา้ ง และประดษิ ฐาน ไวค้ ราวเมอ่ื เสดจ็ มาทำการบชู าสถานทท่ี พ่ี ระพทุ ธองคท์ รง แสดงปฐมเทศนา (ภาพท่ี ๕) ศลิ าจารกึ สว่ นทเ่ี ปน็ หวั เสาชน้ิ น้ี ประดษิ ฐานขน้ึ ดว้ ยหนิ ทรายอยา่ งดี มรี ปู สงิ โต ๔ ตวั หนั หลงั เขา้ หากนั หนั หนา้ ออก ๔ ทศิ ทข่ี อบแทน่ สลกั เปน็ รปู กงลอ้ ธรรมจกั ร และรปู สตั ว์ ๔ ชนดิ สลบั กนั คอื ราชสหี ์ ชา้ ง มา้ และโค สตั วท์ ง้ั ๔ คอื ความหมายแหง่ อำนาจ ความกล้าหาญ และความมั่นใจ โดยพลัง หมายถึงผู้พิทักษ์ทิศทั้ง ๔ ส่วนดอกบัว หมายถงึ ตน้ กำเนดิ ชวี ติ ดา้ นลา่ งของสงิ ห์ มอี กั ษรเทวนาคี ถอดความไดว้ า่ “ความจรงิ เทา่ นน้ั มชี ยั ชนะเหนอื ทกุ สง่ิ ” ดว้ ยความหมายทอ่ี ดุ มเชน่ นร้ี ฐั บาลอนิ เดยี จงึ ไดใ้ ชร้ ปู สงิ ห์ จตรุ ทศิ อนั สงา่ งามทส่ี รา้ งขน้ึ ในสมยั อโศกมหาราชน้ี ใชเ้ ปน็ ตราแผน่ ดนิ เชน่ เดยี วกบั ตรา ครฑุ ของไทยเรา บรเิ วณภายในพพิ ธิ ภณั ฑไ์ ดจ้ ดั แสดงศลิ ปวตั ถมุ จี ำนวนเปน็ พนั ชน้ิ นบั วา่ เกา่ แก่ สวยงามมคี ณุ คา่ แกช่ นรนุ่ หลงั อยา่ งมาก ทา่ นเซอ่ ร์ Alexander Cunningham เปน็ หวั หนา้ ทำการขดุ คน้ เมอ่ื ปี ค.ศ. ๑๘๖๑ สมยั ทท่ี า่ นเปน็ ผสู้ ำเรจ็ ราชการจากกรงุ ลอนดอน มาดแู ลประเทศราช อยทู่ อ่ี นิ เดยี น่ี ทา่ นกไ็ ดจ้ ดั การคน้ ควา้ บนั ทกึ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บ สว่ นหนง่ึ ทา่ นคงนำลงเรอื ไปเกบ็ ไวท้ พ่ี พิ ธิ ภณั ทท์ ก่ี รงุ ลอนดอนบา้ ง เพอ่ื การศกึ ษา ทา่ นคงไมไ่ ดเ้ อา ไปจนหมดไมเ่ หลอื ไวใ้ หค้ นอนิ เดยี ชมหรอกครบั ทา่ นคงเอาไปแตช่ น้ิ ใหญ่ ๆ ทส่ี วยและ สมบรู ณเ์ ทา่ นน้ั (ภาพท่ี ๖) เพราะผเู้ ขยี นเคยไดม้ โี อกาสเหน็ ท่ี British Museum สวย ๆ

ทำกศุ ลท่พี าราณสี ๑๒๓ ใหญ่ ๆ นับไม่ถ้วนจริง ๆ ครับ (ภาพที่ ๗) มีมากกว่าที่นี่อีกถ่ายรูปได้ตามสบาย ไมเ่ หมอื นทน่ี ่ี หา้ มถา่ ยรปู ดว้ ย นะครบั ดงั นน้ั จงอยา่ ถา่ ยใหใ้ ครเหน็ ทเ่ี กบ็ ไวใ้ น British Museum มมี ากมาย ถา่ ยรปู มาใหด้ เู ปน็ หลกั ฐานดว้ ย จากเมอื งพาราณสไี ปทางทศิ เหนอื ประมาณ ๙ กม.เศษ กจ็ ะถงึ บรเิ วณเจา คันธีสถูป (ภาพที่ ๘) หรือสถูปเก่าที่เป็นอนุสรณ์ของปัญจวัคคีย์ สร้างขึ้นในสมัย ศตวรรษท่ี ๗ เพอ่ื เปน็ เครอ่ื งระลกึ ถงึ วา่ ครง้ั เมอ่ื พระปญั จวคั คยี ห์ ลกี หนพี ระพทุ ธองค์ ดว้ ยสำคญั ผดิ เพราะ มมี จิ ฉาทฏิ ฐอิ ยา่ งแรง ไดม้ าอาศยั อยทู่ น่ี ้ี หลงั จากทรงตรสั รแู้ ลว้ พระพุทธองค์ทรงมี พระเมตตาเสด็จมาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ ที่จุดนี้เป็นครั้งแรก และได้ทำความเข้าใจกันใน เบื้องต้น จากนั้นนำไปสู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตรสั สอนธรรมะอนั เปน็ เครอ่ื งนำออกจาก ทกุ ข์ ณ ทน่ี น้ั เลยไปอีกหน่อย คือ สมาคมมหาโพธิ์แห่งประเทศอินเดีย คณะของเรา ไดน้ มิ นตพ์ ระภกิ ษนุ านาชาติ จากทกุ ชาตทิ ม่ี าศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาทพ่ี าราณสี รวม ๑๒๐ รปู (ภาพท่ี๑๑) มาทำบญุ เลย้ี งอาหารเพลและถวายเครอ่ื งไทยธรรม รวมทง้ั บรจิ าค เงนิ เพอ่ื อดุ หนนุ เปน็ ทนุ ในการดำเนนิ การของสมาคม (ภาพท่ี ๑๒) สำหรับเหตุการณ์ในสมัยพุทธกาล หลังจากพระพุทธองค์ได้เทศน์โปรด ปญั จวคั คยี ท์ ป่ี า่ อสิ อิ ปตนมฤคทายวนั แลว้ พระผมู้ พี ระภาคไดเ้ สดจ็ มาโปรด ยสกลุ บตุ ร ทำใหเ้ กดิ อบุ าสกเปน็ อกี บรษิ ทั หนง่ึ เปน็ ครง้ั แรก ขอ้ ความในพระสตู รมคี วามไพเราะมาก คงเคยได้ยินประโยคว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ขัดข้องหนอ มาจากพระสูตรนี้เอง ขอเชญิ อา่ นพระสตู ร พระวนิ ยั ปฎิ ก มหาวรรค เลม่ ๔ ภาค ๑ เรอ่ื งยสกลุ บตุ ร [๒๕] กโ็ ดยสมยั นน้ั แล ในพระนครพาราณสี มกี ลุ บตุ ร ชอ่ื ยสเปน็ บตุ รเศรษฐี สขุ มุ าลชาติ ยสกลุ บตุ รนน้ั มปี ราสาท ๓ หลงั คอื หลงั หนง่ึ เปน็ ทอ่ี ยใู่ นฤดหู นาว หลงั หนง่ึ เปน็ ทอ่ิ ยใู่ นฤดรู อ้ น หลงั หนง่ึ เปน็ ทอ่ี ยใู่ นฤดฝู นยสกลุ บตุ รนน้ั รบั บำเรอดว้ ยพวกดนตรี ไมม่ ี

๑๒๔ ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี บรุ ษุ เจอื ปนในปราสาทฤดฝู นตลอด ๔ เดอื นไมล่ งมาเบอ้ื งลา่ งปราสาท คำ่ วนั หนง่ึ เมอ่ื ยสกลุ บตุ รอม่ิ เอบิ พรอ้ มพรง่ั บำเรออยดู่ ว้ ยกามคณุ ๕ ไดน้ อนหลบั กอ่ น สว่ นพวกบรวิ าร ชนนอนหลบั ภายหลงั ประทปี นำ้ มนั ตามสวา่ งอยตู่ ลอดคนื คนื นน้ั ยสกลุ บตุ รตน่ื ขน้ึ กอ่ น ไดเ้ หน็ บรวิ ารชนของตนกำลงั นอนหลบั บางนางมพี ณิ ตกอยทู่ ร่ี กั แร้ บางนางมตี ะโพน วางอยขู่ ้างคอ บางนางมีเปิงมางตกอยู่ทอี่ ก บางนางสยายผม บางนางมนี ้ำลายไหล บางนางบน่ ละเมอตา่ ง ๆ ปรากฏแกย่ สกลุ บตุ รดจุ ปา่ ชา้ ผดี บิ ครน้ั แลว้ ความเหน็ เปน็ โทษ ได้ปรากฎแก่ยสกุลบุตร จิตตั้งอยู่ในความเบื่อหน่าย จึงยสกุลบุตรเปล่งอุทานว่า ทา่ นผเู้ จรญิ ทน่ี ว่ี นุ่ วายหนอ ทน่ี ข่ี ดั ขอ้ งหนอ แลว้ สวมรองเทา้ ทองเดนิ ตรงไปยงั ประตู นเิ วศน์ พวกอมนษุ ยเ์ ปดิ ประตใู หด้ ว้ ยหวงั ใจวา่ ใคร ๆ อยา่ ไดท้ ำอนั ตรายแกก่ ารออกจาก เรือนบวชเป็นบรรพชิตของยสกุลบุตรเลย ลำดับนั้น ยสกุลบุตรเดินทรงไปทางประตู พระนคร พวกอมนษุ ยเ์ ปดิ ประตใู หด้ ว้ ยหวงั ใจวา่ ใคร ๆ อยา่ ไดท้ ำอนั ตรายแกก่ ารออก จากเรือนบวชเป็นบรรพชิตของยสกุลบุตร ทีนั้น ยสกุลบุตรได้เดินทรงไปทางป่าอิสิ- ปตนะมฤคทายวนั . [๒๖] ครน้ั ปจั จสุ มยั แหง่ ราตรี พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตน่ื บรรทมแลว้ เสดจ็ จงกรม อยู่ ณ ทแ่ี จง้ ไดท้ อดพระเนตรเหน็ ยสกลุ บตุ รเดนิ มาแตไ่ กล ครน้ั แลว้ เสดจ็ ลงจากทจ่ี งกรม ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้ ขณะนั้น ยสกุลบุตร เปล่งอุทานในที่ไม่ไกลพระผู้มี- พระภาคเจา้ วา่ ทา่ นผเู้ จรญิ ทน่ี ว่ี นุ่ วายหนอ ทน่ี ข่ี ดั ขอ้ งหนอ ทนั ทนี น้ั พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั กะยสกลุ บตุ รวา่ ดกู อ่ นยส ทน่ี ไ่ี มว่ นุ่ วาย ทน่ี ไ่ี มข่ ดั ขอ้ ง มาเถดิ ยส นง่ั ลง เราจกั แสดง ธรรมแกเ่ ธอ ทน่ี น้ั ยสกลุ บตุ รรา่ เรงิ บนั เทงิ ใจวา่ ไดย้ นิ วา่ ทน่ี ไ่ี มว่ นุ่ วาย ทน่ี ไ่ี มข่ ดั ขอ้ ง ดงั น้ี แลว้ ถอดรองเทา้ ทองเขา้ ไปเฝา้ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ถวายบงั คมพระผมู้ พี ระภาคเจา้ แลว้ นง่ั ณ ทค่ี วรสว่ นขา้ งหนง่ึ เมอ่ื ยสกลุ บตุ รนง่ั เรยี บรอ้ ยแลว้ พระผมู้ ีพระภาคเจา้ ไดท้ รง แสดงอนปุ พุ พกิ ถา คอื ทรงประกาศ ทานกถา สลี กถา สคั คกถา โทษ ความตำ่ ทราม ความเศรา้ หมองของกามทง้ั หลาย และอานสิ งสใ์ นความออกจากกาม เมอ่ื พระองคท์ รง ทราบวา่ ยสกลุ บตุ รมจี ติ สงบ มจี ติ ออ่ นมจี ติ ปลอดจากนวิ รณ์ มจี ติ เบกิ บาน มจี ติ ผอ่ งใส แล้ว จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนา ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วย พระองคเ์ อง คอื ทกุ ขส์ มทุ ยั นโิ รธ มรรค ดวงตาเหน็ ธรรมปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทนิ วา่ สง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ มคี วามเกดิ ขน้ึ เปน็ ธรรมดา สง่ิ นน้ั ทง้ั มวลมคี วามดบั เปน็ ธรรมดาไดเ้ กดิ แก่

ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี ๑๒๕ ยสกลุ บตุ ร ณ ทน่ี ง่ั นน้ั แล ดจุ ผา้ ทส่ี ะอาดปราศจากมลทนิ ควรไดร้ บั นำ้ ยอ้ มเปน็ อยา่ งดี ฉะนน้ั . บดิ าของยสกลุ บตุ รตามหา [๒๗] ครน้ั รงุ่ เชา้ มารดาของยสกลุ บตุ รขน้ึ ไปยงั ปราสาท ไมเ่ หน็ ยสกลุ บตุ ร จงึ เขา้ ไปหาเศรษฐผี คู้ หบดี แลว้ ไดถ้ ามวา่ ทา่ นคหบดเี จา้ ขา้ พอ่ ยสกลุ บตุ รของทา่ นหายไป ไหน ฝา่ ยเศรษฐผี คู้ หบดสี ง่ ทตู ขม่ี า้ ไปตามหาทง้ั ๔ ทศิ แลว้ สว่ นตวั เองไปหาทางปา่ อสิ -ิ ปตนะมฤคทายวัน ได้พบรองเท้าทองวางอยู่ ครั้น แล้วจึงตามไปสู่ที่นั่น พระผู้มี- พระภาคเจ้าได้ทอดพระเนตรเห็นเศรษฐีผู้คหบดีมาแต่ไกล ครั้นแล้วทรงพระดำริว่า ไฉนหนอ เราพงึ บนั ดาลอทิ ธาภสิ งั ขารใหเ้ ศรษฐคี หบดี นง่ั อยู่ ณ ทน่ี ไ้ี มเ่ หน็ ยสกลุ บตุ รผนู้ ง่ั อยู่ ณ ทน่ี แ้ี ลว้ ทรงบนั ดาลอทิ ธาภสิ งั ขารดงั พระพทุ ธดำริ ครง้ั นน้ั เศรษฐผี คู้ หบดไี ดเ้ ขา้ เฝา้ พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ทูลถามว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นยสกุลบุตรบ้างไหม พระพทุ ธเจา้ ขา้ . พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั วา่ ดกู อ่ นคหบดี ถา้ อยา่ งนน้ั เชญิ นง่ั บางทท่ี า่ นนง่ั อยู่ ณ ทน่ี จ้ี ะพงึ ไดเ้ หน็ ยสกลุ บตุ รผนู้ ง่ั อยู่ ณ ทน่ี .้ี ครง้ั นน้ั เศรษฐผี คู้ หบดรี า่ เรงิ บนั เทงิ ใจวา่ ไดย้ นิ วา่ เรานง่ั อยู่ ณ ทน่ี แ้ี หละจกั เหน็ ยสกลุ บตุ รผนู้ ง่ั อยู่ ณ ทน่ี ้ี จงึ ถวายบงั คมพระผมู้ พี ระภาคเจา้ แลว้ นง่ั ณ ทค่ี วรสว่ นขา้ งหนง่ึ เมอ่ื เศรษฐผี คู้ หบดนี ง่ั เรยี บรอ้ ยแลว้ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ไดท้ รงแสดงอนปุ พุ พกิ ถา คอื ทรงประกาศทานกถา สลี กถา สคั คกถา โทษ ความตำ่ ทราม ความเศรา้ หมองของกาม ทง้ั หลาย และอานสิ งสใ์ นความออกจากกาม เมอ่ื พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทรงทราบวา่ เศรษฐี ผคู้ หบดี มจี ติ สงบมจี ติ ออ่ น มจี ติ ปลอดจากนวิ รณ์ มจี ติ เบกิ บาน มจี ติ ผอ่ งใสแลว้ จงึ ทรง ประกาศพระธรรมเทศนา ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทง้ั หลายทรงยกขน้ึ แสดงดว้ ยพระองคเ์ อง คอื ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค ดวงตาเหน็ ธรรม ปราศจากธลุ ี ปราศจากมลทนิ วา่ สง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ มี ความเกดิ ขน้ึ เปน็ ธรรมดา สง่ิ นน้ั ทง้ั มวลมคี วามดบั เปน็ ธรรมดา ไดเ้ กดิ แกเ่ ศรษฐผี คู้ หบดี ณ ทน่ี ง่ั นน่ั แล ดจุ ผา้ ทส่ี ะอาดปราศจากมลทนิ ควรไดร้ บั นำ้ ยอ้ ม ฉะนน้ั .

๑๒๖ ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี ครน้ั เศรษฐผี คู้ หบดี ไดเ้ หน็ ธรรมแลว้ ไดบ้ รรลธุ รรมแลว้ ไดร้ ธู้ รรมแจม่ แจง้ แลว้ มธี รรมอนั หยง่ั ลงแลว้ ขา้ มความสงสยั ไดแ้ ลว้ ปราศจากถอ้ ยคำ แสดงความสงสยั ถงึ ความเปน็ ผแู้ กลว้ กลา้ ไมต่ อ้ งเชอ่ื ผอู้ น่ื ในคำสอน ของพระศาสดา ไดท้ ลู คำนแ้ี ดพ่ ระผมู้ -ี พระภาคเจา้ วา่ ขา้ แดพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ภาษติ ของพระองคแ์ จม่ แจง้ นกั ภาษติ ของพระองค์ ไพเราะนกั พระพทุ ธเจา้ ขา้ พระองคท์ รงประกาศธรรมโดยอเนกปรยิ ายอยา่ งน้ี เปรยี บ เหมอื นบคุ คลหงายของทค่ี วำ่ เปดิ ของทป่ี ดิ บอกทางแกค่ นหลงทาง หรอื สอ่ งประทปี ในท่ี มดื ดว้ ยตง้ั ใจวา่ คนมจี กั ษจุ กั เหน็ รปู ดงั น้ี ขา้ พระพทุ ธเจา้ น้ี ขอถงึ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ พระ ธรรม และพระสงฆว์ า่ เปน็ สรณะ ขอพระองคจ์ งทรงจำขา้ พระพทุ ธเจา้ วา่ เปน็ อบุ าสกผู้ มอบชวี ติ ถงึ สรณะจำเดมิ แตว่ นั นเ้ี ปน็ ตน้ ไป. กเ็ ศรษฐผี คู้ หบดนี น้ั ไดเ้ ปน็ อบุ าสกกลา่ วอา้ งพระรตั นตรยั เปน็ คนแรกในโลก ยสกลุ บตุ รสำเรจ็ พระอรหตั ต์ [๒๘] คราวเมอ่ื พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทรงแสดงธรรม แกบ่ ดิ า ของยสกลุ บตุ ร จติ ของยสกลุ บตุ ร ผพู้ จิ ารณาภมู ธิ รรมตามทต่ี นไดเ้ หน็ แลว้ ไดร้ แู้ จง้ แลว้ กพ็ น้ จากอาสวะ ทง้ั หลาย เพราะไมถ่ อื มน่ั ครง้ั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ไดท้ รงพระดำรวิ า่ เมอ่ื แสดงธรรม แกบ่ ดิ าของยสกลุ บตุ รอยู่ จติ ของยสกลุ บตุ ร ผพู้ จิ ารณาเหน็ ภมู ธิ รรมตามทต่ี นไดเ้ หน็ แลว้ ไดร้ แู้ จง้ แลว้ พน้ แลว้ จากอาสวะทง้ั หลาย เพราะไมถ่ อื มน่ั ยสกลุ บตุ รไมค่ วรจะกลบั เปน็ คฤหสั ถบ์ รโิ ภคกาม เหมอื นเปน็ คฤหสั ถค์ รง้ั กอ่ น ถา้ กระไร เราพงึ คลายอทิ ธาภสิ งั ขารนน้ั ไดแ้ ลว้ พระองคก์ ไ็ ดท้ รงคลายอทิ ธาภสิ งั ขารนน้ั เศรษฐผี คู้ หบดไี ดเ้ หน็ ยสกลุ บตุ รนง่ั อยู่ ครน้ั แลว้ ไดพ้ ดู กะยสกลุ บตุ รวา่ พอ่ ยส มารดาของเจา้ โศกเศรา้ ครำ่ ครวญถงึ เจา้ จงใหช้ วี ติ แกม่ ารดาของเจา้ เถดิ ครง้ั นน้ั ยสกลุ บตุ รไดช้ ำเลอื งดพู ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ๆ ไดต้ รสั แก่ เศรษฐผี คู้ หบดวี า่ ดกู อ่ นคหบดี ทา่ นจะสำคญั ความขอ้ นน้ั เปน็ ไฉน ยสกลุ บตุ รไดเ้ หน็ ธรรมดว้ ยญาณทสั สนะเพยี งเสขภมู เิ หมอื นทา่ น เมอ่ื เธอพจิ ารณาภมู ธิ รรมตามทต่ี นได้ เห็นแล้ว ได้รู้แจ้งแล้ว จิตพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น ดูก่อนคหบดี ยศกลุ บตุ รควรหรอื เพอ่ื จะกลบั เปน็ คฤหสั ถบ์ รโิ ภคกาม เหมอื นเปน็ คฤหสั ถค์ รง้ั กอ่ น. เศรษฐผี คู้ หบดกี ราบทลู วา่ ขอ้ นน้ั ไมค่ วรเลย พระพทุ ธเจา้ ขา้ .

ทำกศุ ลท่พี าราณสี ๑๒๗ ๑๒ ๓ ๔๕ ๖๗ ๘ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั รบั รองวา่ ดกู อ่ นคหบดี ยสกลุ บตุ รไดเ้ หน็ ธรรมดว้ ย ญาณทสั สนะเพยี งเสขภมู เิ หมอื นทา่ น เมอ่ื เธอพจิ ารณาภมู ธิ รรมตามทต่ี นไดเ้ หน็ แลว้ ได้ รแู้ จง้ แลว้ จติ พน้ แลว้ จากอาสวะทง้ั หลาย เพราะไมถ่ อื มน่ั ดกู อ่ นคหบดี ยสกลุ บตุ รไม่ ควรจะกลบั เปน็ คฤหสั ถบ์ รโิ ภคกามเหมอื นเปน็ คฤหสั ถค์ รง้ั กอ่ น.

๑๒๘ ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ เศรษฐีผู้คหบดีกราบทูลว่า การที่จิตของยสกุลบุตรพ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไมถ่ อื มน่ั นน้ั เปน็ ลาภของยสกลุ บตุ ร ยสกลุ บตุ รไดด้ แี ลว้ พระพทุ ธเจา้ ขา้ ขอพระ- ผมู้ พี ระภาคเจา้ มยี ศกลุ บตุ รเปน็ ปจั ฉาสมณะ จงทรงรบั ภตั ตาหารของขา้ พระพทุ ธเจา้ เพอ่ื เสวยในวนั พรงุ่ นเ้ี ถดิ . พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทรงรบั โดยดษุ ณภี าพ ครน้ั เศรษฐผี คู้ หบดี ทราบการรับนิมนต์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ได้ลุกจากที่นั่ง ถวายบังคมพระผู้มี- พระภาคเจา้ ทำประทกั ษณิ แลว้ กลบั ไป. กาลเมอ่ื เศรษฐผี คู้ หบดกี ลบั ไปแลว้ ไมน่ าน ยสกลุ บตุ รไดท้ ลู คำนต้ี อ่ พระผมู้ -ี พระภาคเจา้ วา่ พระพทุ ธเจ้าข้า ขอข้าพระองคพ์ ึงไดบ้ รรพชาพึงได้อุปสมบทในสำนัก พระผมู้ พี ระภาคเจา้ . พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรสั วา่ เธอจงเปน็ ภกิ ษมุ าเถดิ แลว้ ไดต้ รสั ตอ่ ไปวา่ ธรรม อนั เรากลา่ วดแี ลว้ เธอจงพระพฤตพิ รหมจรรยเ์ ถดิ .

ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี ๑๒๙ พระวาจานน้ั แล ไดเ้ ปน็ อปุ สมบทของทา่ นผมู้ อี ายนุ น้ั . สมยั นน้ั มพี ระอรหนั ตเ์ กดิ ขน้ึ ในโลก ๗ องค.์ ยสบรรพชา จบ พระสตู รยงั ยาวกวา่ น้ี ไปหาอา่ นเพม่ิ เตมิ ไดใ้ นพระไตรปฎิ กหรอื คลกิ ไปท่ี http://www.dhammahome.com/front/tipitaka/ ยงั มเี รอ่ื งเลา่ เกย่ี วกบั พาราณสอี กี ตอ้ งไวค้ ราวหนา้ ขออนโุ มทนาและพกั ผอ่ นใหส้ บายนะครบั

๑๓๐ ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๑๑ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.

ทำกศุ ลทพ่ี าราณสี ๑๓๑ บันทึกธรรม

๑๓๒ ๑๕ จากแควน้ กาสสี แู่ ควน้ มคธ การเดินทางท่องเที่ยวอินเดียสำหรับกลุ่มพวกเรานี่จะแตกต่างกับทัวร์ที่อื่น หลายอย่างทุกท่านที่เคยไปกับทัวร์อื่น ท่านจะได้รับการการดูแลแบบมีไกด์คอยให้ ความรใู้ นสถานทต่ี า่ ง ๆ ทไ่ี ปอยา่ งเชย่ี วชาญชำนาญไกด์ จดั รายการแบบเทย่ี วกนั จรงิ ๆ ดกู นั จรงิ ๆ แตส่ ำหรบั คณะเราจะแตกตา่ งกนั คอื คณะเราจะไมม่ ไี กดบ์ รรยาย อยาก จะรกู้ ถ็ ามกนั เอาเอง หรอื ไมก่ ห็ าอา่ นกนั เอาเอง แตเ่ ราจะมกี ารสนทนาธรรมะ ตลอด รายการ ทใ่ี ดทส่ี ถานทส่ี ะดวก เวลาพอสมควรทา่ นอาจารยส์ จุ นิ ต์ ทา่ นกจ็ ะเมตตา ให้ ความรู้ คำสง่ั สอน เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเหน็ ถกู เขา้ ใจถกู เพม่ิ พนู ขน้ึ ในบางสถานทท่ี ไ่ี มส่ ำคญั ทางธรรมะ กอ็ าจจะแบง่ เปน็ สองกลมุ่ พวกหนง่ึ ทไ่ี มเ่ คยไปกไ็ ปเทย่ี วกนั พวกทไ่ี ปหลาย ครั้งแล้วก็อยู่ฟังธรรมสนทนาธรรมกันที่โรงแรม หรือตามร่มไม้ เป็นอย่างนี้ไปตลอด รายการ คณะเราจะไมพ่ ักตามวดั ไทยในอนิ เดยี อาจเพราะเปน็ คณะใหญไ่ มค่ วรไป รบกวนพระเจา้ หรอื อาจเปน็ เพราะผจู้ ดั ตอ้ งการอำนวยความสะดวกอยา่ งเตม็ ทก่ี ไ็ ด้ ผจู้ ดั กไ็ ดพ้ ยามหาโรงแรมทด่ี ที ส่ี ดุ แลว้ แตใ่ นบางท่ี โรงแรมทม่ี อี ยยู่ งั มมี าตรฐานตำ่ เปน็ เพราะ สถานทต่ี า่ ง ๆ ทเ่ี ราไปพกั อยตู่ ามชนบทไกล ๆ มนี กั ทอ่ งเทย่ี วมานอ้ ย การดแู ลบำรงุ รกั ษา โรงแรมกแ็ ยต่ ามไป อกี ประการหนง่ึ คอื เรอ่ื งไฟฟา้ ทม่ี กี ำลงั ไฟไมพ่ อ ไมส่ ามารถเปดิ เครอ่ื ง ปรบั อากาศได้ อาจขาดความสะดวกสบายไปบา้ งแตก่ ไ็ มไ่ ดเ้ ปน็ เรอ่ื งใหญโ่ ตอะไร เพราะ สหายธรรมทร่ี ว่ มคณะมาสว่ นมากกเ็ ปน็ ผใู้ หญก่ นั แลว้ มคี วามอดทนและใจเยน็ ถอื วา่ มา เดนิ ทางเพอ่ื ใหไ้ ดบ้ ญุ กลบั ไป มคี วามอดทนไดถ้ อื วา่ เปน็ ขนั ตบิ ารมี หงดุ หงดิ ขดั ขอ้ งใจ เกดิ แลว้ กด็ บั แลว้ ไปทำกศุ ลดกี วา่ สถานทจ่ี ะเลา่ ตอ่ ไปนเ้ี รยี กกนั วา่ มลู คนั ธกฎุ ี (ภาพท่ี๑) แตเ่ ดมิ เปน็ อาคารเกา่ สมัยพุทธกาล ได้ถูกทิ้งรกร้างมานับพันปี จนกระทั่งสมาคมศรีมหาโพธิ์ Sri Lankan Mahabodhi Society ไดด้ ำเนนิ การสรา้ งอาคารมลู คนั ธกฎุ ขี น้ึ มาใหม่ (ภาพท่ี ๒) บน สถานที่เดิม พร้อมกับประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ เก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย มขี อ้ ความในพระสตู รกลา่ วไวว้ า่ ทา่ นนนั ทยิ ะไดเ้ ปน็ ผสู้ รา้ งมลู คนั ธกฎุ แี หง่ นเ้ี ปน็ อาราม ถวายแกพ่ ระพทุ ธเจา้ และพระพทุ ธองคเ์ สดจ็ ประทบั ในการจำพรรษาแรกทน่ี ่ี การถวาย

จากแควน้ กาสสี แู่ ควน้ มคธ ๑๓๓ ทท่ี า่ น นนั ทยิ กระทำในครง้ั พทุ ธกาลนน้ั เปน็ มหาทาน จงึ ขอเชญิ นอ้ มไป อา่ นขอ้ ความใน พระสตู ร......... พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม่ ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ เรอ่ื งนายนนั ทยิ ะ [๑๗๓] ขอ้ ความเบอ้ื งตน้ พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในป่าอิสิปตนะ ทรงปรารภนายนันทิยะตรัส พระธรรมเทศนานว้ี า่ “จริ ปปฺ วาส”ึ เปน็ ตน้ . นนั ทยิ ะเปน็ อนชุ าตบตุ ร ไดย้ นิ วา่ ในกรงุ พาราณสี ไดม้ บี ตุ รแหง่ ตระกลู ซง่ึ ถงึ พรอ้ มดว้ ยศรทั ธาคนหนง่ึ ชอ่ื นนั ทยิ ะ, เขาไดเ้ ปน็ ผสู้ มบรู ณด์ ว้ ยศรทั ธาบำรงุ สงฆแ์ ทอ้ นรุ ปู แกม่ ารดาบดิ าเทยี ว. ครน้ั ในเวลาที่เขาเจริญวัยมารดาบิดาได้มีความจำนงจะนำธิดาของลุงชื่อว่าเรวดี มาจาก เรอื นอนั ตรงกนั ขา้ ม. แตน่ างเปน็ คนไมม่ ศี รทั ธา ไมม่ กี ารใหป้ นั เปน็ ปกต,ิ นายนนั ทยิ ะจงึ ไมป่ รารถนานาง. ลำดบั นน้ั มารดาของเขากลา่ วกะนางเรวดวี า่ “แม่ เจา้ จงฉาบทาสถานทน่ี น่ั ของภกิ ษสุ งฆ์ แลว้ ปลู าดอาสนะไวใ้ นเรอื นน,้ี จงตง้ั เชงิ บาตรไว.้ ในเวลาภกิ ษทุ ง้ั หลายมา แลว้ จงรบั บาตร นมิ นตใ์ หน้ ง่ั เอาธมกรกกรองนำ้ ฉนั ถวาย แลว้ ลา้ งบาตรในเวลาฉนั เสรจ็ ; เมอ่ื เจา้ ทำไดอ้ ยา่ งน้ี กจ็ กั เปน็ ทพ่ี ่งึ ใจแกบ่ ุตรของเรา.” นางไดท้ ำอยา่ งนน้ั แลว้ . ต่อมา มารดาบดิ าเลา่ ถงึ ความประพฤตขิ องนางนน้ั แกบ่ ตุ ร วา่ “นางเปน็ ผอู้ ดทนตอ่ โอวาท“ เมอ่ื เขารบั วา่ “ดลี ะ“ จงึ กำหนดวนั แลว้ ทำอาวาหมงคล. ลำดบั นน้ั นายนนั ทยิ ะกลา่ วกะนางวา่ “ถา้ เธอจกั บำรงุ ภกิ ษสุ งฆแ์ ละมารดา ของฉนั , เปน็ เชน่ น้ี เธอกจ็ กั ไดพ้ สั ดใุ นเรอื นน,้ี จงเปน็ ผไู้ มป่ ระมาทเถดิ .“ นางรบั วา่ “ดลี ะ“ แลว้ ทำทเี ปน็ ผมู้ ศี รทั ธาบำรงุ อยู่ ๒ - ๓ วนั จนคลอดบตุ ร ๒ คน. มารดาบดิ าแมข้ องนาย นนั ทยิ ะ ไดท้ ำกาละแลว้ . ความเปน็ ใหญท่ ง้ั หมดในเรอื น กต็ กอยแู่ กน่ างเรวดนี น้ั คนเดยี ว.

๑๓๔ จากแควน้ กาสสี ูแ่ ควน้ มคธ นนั ทยิ ะดำรงตำแหนง่ ทานบดี จำเดิมแต่มารดาบิดาทำกาละ แม้นายนันทิยะก็เป็นมหาทานบดีเตรียมตั้ง ทานสำหรบั ภกิ ษสุ งฆ.์ และเรม่ิ ตง้ั คา่ อาหารแมส้ ำหรบั คนกำพรา้ และคนเดนิ ทาง เปน็ ตน้ ไวท้ ป่ี ระตเู รอื น. ในกาลตอ่ มา เขาฟงั พระธรรมเทศนาของพระศาสดา กำหนดอานสิ งสใ์ น การถวายอาวาสไดแ้ ลว้ ใหท้ ำศาลา ๔ มขุ ประดบั ดว้ ยหอ้ ง ๔ หอ้ ง ในมหาวหิ ารในปา่ - อสิ ปิ ตนะแลว้ ใหล้ าดเตยี งและตง่ั เปน็ ตน้ เมอ่ื จะมอบถวายอาวาสนน้ั ไดถ้ วายทานแก่ ภกิ ษสุ งฆ์ มพี ระพทุ ธเจา้ เปน็ ประมขุ แลว้ ถวายนำ้ ทกั ขโิ ณทก แดพ่ ระตถาคต. ปราสาท- ทพิ ยส์ ำเรจ็ โดยรตั นะ ๗ ประการ สมบรู ณด์ ว้ ยหมนู่ ารี มปี ระมาณ ๑๒ โยชนใ์ นทศิ ทง้ั ปวง เบื้องบนสูงประมาณ ๑๐๐ โยชน์ผุดขึ้นในเทวโลกชั้นดาวดึงส์ พร้อมด้วยการตั้งน้ำ ทกั ขโิ ณทก ในพระหตั ถข์ องพระศาสดาทเี ดยี ว. พระมหาโมคคลั ลานะไปเยย่ี มสวรรค์ ภายหลงั วนั หนง่ึ พระมหาโมคคลั ลานเถระไปสทู่ จ่ี ารกิ ในเทวโลกยนื อยแู่ ลว้ ใน ทไ่ี มไ่ กลจากปราสาทนน้ั ถามเทวบตุ รทง้ั หลายซง่ึ มาสสู่ ำนกั ของตนวา่ “ปราสาททพิ ย์ เตม็ ดว้ ยหมนู่ างอปั สรนน่ั เกดิ แลว้ เพอ่ื ใคร.” ลำดบั นน้ั พวกเทวบตุ รนน้ั เมอ่ื จะบอกเจา้ ของ วมิ านแกพ่ ระเถระนน้ั จงึ กลา่ ววา่ “ทา่ นผเู้ จรญิ วมิ านนน่ั เกดิ แลว้ เพอ่ื ประโยชนแ์ กบ่ ตุ ร คฤหบดชี อ่ื นนั ทยิ ะ ผสู้ รา้ งวหิ ารถวายพระศาสดา ในปา่ อสิ ปิ ตนะ.“ ฝา่ ยหมนู่ างอปั สร เหน็ พระเถระนน้ั แลว้ ลงจากปราสาทกลา่ ววา่ “ทา่ นผเู้ จรญิ พวกดฉิ นั เกดิ ในทน่ี ้ี ดว้ ยหวงั ว่า ‘จักเป็นนางบำเรอของนายนันทิยะ‘ แต่เมื่อไม่พบเห็นนายนันทิยะนั้น เป็นผูร้ ะอา เหลอื เกนิ ; ดว้ ยวา่ การละมนษุ ยส์ มบตั แิ ลว้ ถอื เอาทพิ ยสมบตั ิ กเ็ ชน่ กบั การทำลายถาดดนิ แลว้ ถอื เอาถาดทองคำฉะนน้ั พระผเู้ ปน็ เจา้ พงึ บอกเขา เพอ่ื ประโยชนแ์ กก่ ารมา ณ ทน่ี .้ี “ ทพิ ยสมบตั เิ กดิ รอผทู้ ำบญุ พระเถระกลับมาจากเทวโลกนั้นแล้ว เขาไปเฝ้าพระศาสดาทูลถามว่า ”พระเจา้ ขา้ ทพิ ยสมบตั ยิ อ่ มเกดิ แกบ่ คุ คลผทู้ ำความดที ย่ี งั อยมู่ นษุ ยโ์ ลกนเ่ี อง หรอื หนอ แล ? “

จากแควน้ กาสสี ่แู ควน้ มคธ ๑๓๕ พระศาสดา. โมคคลั ลานะ ทพิ ยสมบตั ทิ เ่ี กดิ แลว้ แกน่ ายนนั ทยิ ะในเทวโลก อนั เธอเหน็ แลว้ เองมใิ ชห่ รอื ? ไฉนจงึ ถามเราเลา่ ? โมคคลั ลานะ. ทพิ ยสมบตั เิ กดิ ไดอ้ ยา่ งนน้ั หรอื ? พระเจา้ ขา้ . ลำดบั นน้ั พระศาสดาตรสั กะพระเถระนน้ั วา่ โมคคลั ลานะ เธอพดู อะไรนน่ั ? เหมอื นอยา่ งวา่ ใคร ๆ ยนื อยทู่ ป่ี ระตเู รอื น เหน็ บตุ รพน่ี อ้ ง ผไู้ ปอยตู่ า่ งถน่ิ มานาน (กลบั ) มาแตถ่ น่ิ ทจ่ี ากไปอยู่ พงึ มาสเู่ รอื นโดยเรว็ บอกวา่ ‘คนชอ่ื โนน้ มาแลว้ .’ เมอ่ื เปน็ เชน่ นน้ั พวกญาตขิ องเขากย็ นิ ดรี า่ เรงิ แลว้ ออกมาโดยขมขี มนั พงึ ยนิ ดยี ง่ิ กะผนู้ น้ั วา่ ‘พอ่ มาแลว้ พอ่ มาแลว้ ่ ฉนั ใด; เหลา่ เทวดา (ตา่ ง) ถอื เอาเครอ่ื งบรรณาการอนั เปน็ ทพิ ย์ ๑๐ อยา่ ง ตอ้ นรบั ดว้ ยคดิ วา่ ‘เรากอ่ น เรากอ่ น‘ แลว้ ยอ่ มยนิ ดยี ง่ิ กะสตรหี รอื บรุ ษุ ผทู้ ำความดไี วใ้ น โลกน้ี ซง่ึ ละโลกนแ้ี ลว้ ไปสโู่ ลกหนา้ ฉนั นน้ั เหมอื นกนั ดงั นแ้ี ลว้ “ ไดท้ รงภาษติ พระคาถา เหลา่ นว้ี า่ :- ๙. จริ ปปฺ วาส ปรุ สิ ํ ทรู โต โสตถฺ มิ าคตํ ญาตี มติ ตฺ า สหุ ชชฺ า จ อภนิ นทฺ นตฺ ิ อาคตํ ตเถว กตปญุ ญฺ มปฺ ิ อสมฺ า โลกา ปรํ คตํ ปญุ ญฺ านิ ปฏคิ ณหฺ นตฺ ิ ปยิ ํ ญาตวี อาคต.ํ ”ญาติ มติ ร และคนมใี จดที ง้ั หลาย เหน็ บรุ ษุ ผไู้ ปอยตู่ า่ งถน่ิ มานาน มาแลว้ แตท่ ไ่ี กลโดยสวสั ดยี อ่ มยนิ ดยี ง่ิ วา่ ‘มาแลว้ ‘ ฉนั ใด. บญุ ทง้ั หลายกย็ อ่ มตอ้ นรบั แมบ้ คุ คลผกู้ ระทำบญุ ไว้ ซง่ึ ไปจากโลกนส้ี โู่ ลกหนา้ ดจุ พวกญาตเิ หน็ ญาตทิ ร่ี กั มาแลว้ ตอ้ นรบั อยู่ ฉนั นน้ั แล. แกอ้ รรถ

๑๓๖ จากแควน้ กาสสี แู่ ควน้ มคธ บรรดาบทเหลา่ นน้ั บทวา่ จริ ปปฺ วาสึ คอื จากไปแลว้ นาน. บาทพระคาถาวา่ ทรู โต โสตถฺ มิ าคตํ ความวา่ ผไู้ ดล้ าภคอื มสี มบตั อิ นั สำเรจ็ แลว้ เพราะทำพาณชิ ยกรรม หรอื เพราะทำหนา้ ทร่ี าชบรุ ษุ มาแลว้ แตท่ ไ่ี กล ไมม่ อี ปุ ทั วะ. บาทพระคาถาวา่ ญาตี มติ ตฺ า สหุ ชชฺ า จ ความวา่ เหลา่ ชนทช่ี อ่ื วา่ ญาติ เพราะสามารถเกย่ี วเนอ่ื งกนั ดว้ ยตระกลู และชอ่ื วา่ มติ รเพราะภาวะมเี คยเหน็ กนั เปน็ ตน้ แลว้ ชอ่ื วา่ มใี จดี เพราะความเปน็ ผมู้ หี ทยั ด.ี บาทพระคาถาว่า อภินนฺทนฺติ อาคตํ ความวา่ ญาตเิ ป็นต้น เหน็ เขาแล้ว ยอ่ มยนิ ดยี ง่ิ ดว้ ยอาการเพยี งแตพ่ ดู วา่ ‘มาดเี เลว้ ‘ หรอื ดว้ ยอาการเพยี งทำอญั ชล,ี อนง่ึ ยอ่ มยนิ ดยี ง่ิ กะเขาผมู้ าถงึ เรอื นแลว้ ดว้ ยสามารถนำไปเฉพาะซง่ึ บรรณาการมปี ระการ ตา่ ง ๆ. บทวา่ ตเถว เปน็ ตน้ ความวา่ บญุ ทง้ั หลาย ตง้ั อยใู่ นฐานะดจุ มารดาบดิ า นำ เครอ่ื งบรรณาการ ๑๐ อยา่ งนค้ี อื “อายุ วรรณะ สขุ ยศ ความเปน็ อธบิ ดอี นั เปน็ ทพิ ย;์ รปู เสยี ง กลน่ิ รส โผฏฐพั พะ อนั เปน็ ทพิ ย์ เพลนิ ยง่ิ อยู่ ชอ่ื วา่ ยอ่ มรบั รองบคุ คลแมผ้ ทู้ ำบญุ ไว้ แลว้ ซง่ึ ไปจากโลกนส้ี โู่ ลกหนา้ ดว้ ยเหตนุ น้ั นน่ั แล. สองบทวา่ ปยิ ํ ญาตวี ความวา่ ดจุ พวกญาตทิ เ่ี หลอื เหน็ ญาตทิ ร่ี ักมาแลว้ รบั รองอยใู่ นโลกนฉ้ี ะนน้ั . ในกาลจบเทศนา ชนเปน็ อนั มากบรรลอุ รยิ ผลทง้ั หลาย มโี สดาปตั ตผิ ลเปน็ ตน้ ดงั นแ้ี ล. เรอ่ื งนายนนั ทยิ ะ จบ. มูลคันธกุฎี เป็นที่ที่พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาแรกและพรรษาที่ ๑๒ ปจั จบุ นั เปน็ อาคารใหมส่ รา้ งเมอ่ื ปี ค.ศ. ๑๙๓๐ โดยสมาคมมหาโพธแิ หง่ ศรลี งั กา ตวั อาคารสร้างด้วยศิลาสีชมพู มีลวดลายสวยงามมาก ด้านข้างตัวอาคารทางด้านทิศ- ตะวนั ออกเปน็ ตน้ ศรมี หาโพธ์ทิ น่ี ำหนอ่ มาจากตน้ เดมิ ทศ่ี รลี งั กา (ภาพท่ี ๓) อนั เปน็

จากแควน้ กาสสี ่แู ควน้ มคธ ๑๓๗ ๑๒ ๓๔ ต้นเดียวกับที่ พระนางสังฆมิตตา พระ- ธดิ าของพระเจา้ อโศกมหาราชนำไปจาก ต้นเดิมที่พระพุทธองค์ ประทับตรัสรู้ที่ พทุ ธคยานน่ั เอง ทน่ี จ่ี ะมศี ลิ าจารกึ ธมั มะ- จกั กปั ปะวตั ะนสตู ร เปน็ ภาษาตา่ ง ๆ โดย รอบต้นศรีมหาโพธิ์ ภายในห้องโถง ๕ ประดษิ ฐานดว้ ย พระพทุ ธรปู สที องปาง- ปฐมเทศนา ผนงั โดยรอบเปน็ ภาพเขยี น- พทุ ธประวตั วิ าดโดยศลิ ปนิ ชาวญป่ี นุ่ ชอ่ื Kosetsu Nosu นบั เปน็ ภาพเขยี นทเ่ี ราชาวไทย อาจดแู ปลกตาไปหนอ่ ย แตก่ ส็ วยงามมากทเี ดยี ว (ภาพท่ี ๔) ทน่ี พ่ี วกเรากจ็ ะไดร้ บั การ ตอ้ นรบั จากพระภกิ ษผุ ดู้ แู ลรกั ษาพระบรมสารรี กิ ธาตเุ ปน็ อยา่ งดี โดยทา่ นเปดิ พระ- วหิ ารใหเ้ ปน็ พเิ ศษ ทา่ นอาจารย์ สจุ นิ ตจ์ ะเปน็ ผไู้ ปอญั เชญิ พระบรมสารรี กิ ธาตมุ าจาก หอ้ งมน่ั คงทเ่ี กบ็ รกั ษาของมคี า่ ดว้ ย การเทนิ ไวเ้ หนอื ศรี ษะ มากระทำพธิ สี กั การะ

๑๓๘ จากแควน้ กาสสี แู่ ควน้ มคธ ๖๘ ๗ พธี รี อบแรกจะเปน็ การสวดมนตก์ ลา่ วคำนอบนอ้ มตอ่ พระรตั นตรยั (ภาพท่ี ๕) แลว้ ใหท้ กุ คนเขา้ ไปชมพระบรมสารรี กิ ธาตทุ ลี ะคน ทา่ นเจา้ อาวาสจะเปน็ ผปู้ ระคององค์ ผะอบครอบแก้ว และใช้ปลายดอกบัวทองชี้ไปที่องค์พระบรมสารีริกธาตุพร้อม คำอธบิ าย และมพี ระผชู้ ว่ ยถอื ไฟฉายสอ่ งใหเ้ หน็ ถนดั (ภาพท่ี๖) ขณะเดยี วกนั พระลกู วดั กจ็ ะสวดมนตเ์ ปน็ ภาษาบาลี ทว่ งทำนองแบบอนิ เดยี ลงั กา ทกุ ๆ คนกจ็ ะไดเ้ ขา้ ชมดว้ ย สายตาตนเองและกม็ ี เพอ่ื น ๆ คอยถา่ ยรปู ไวใ้ ห้ รอบทส่ี องทกุ คนกจ็ ะเขา้ แถวเรยี งหนง่ึ ไปคกุ เขา่ ประนมมอื ทา่ นเจา้ อาวาสจะ ประคองอญั เชญิ พระบรมสารรี กิ ธาตวุ างบนศรี ษะเรา (ภาพท่ี ๗) เปน็ การสกั การะไว้ เหนอื หวั จรงิ ๆ ทกุ ๆ คนกจ็ ะตง้ั ใจนอ้ มจติ ระลกึ ถงึ พระพทุ ธมหากรณุ าแหง่ องคพ์ ระ- สมั มาสมั พทุ ธเจา้ ดว้ ยความปติ ิ ซาบซง้ึ อยา่ งทส่ี ดุ ในชวี ติ หลาย ๆ คนกลบั ออกมาแลว้ กเ็ กดิ อาการสงสยั วา่ ตรงไหนนะเปน็ สว่ นทเ่ี ปน็ สว่ นขององคพ์ ระบรมสารรี กิ ธาตุ บางคนกม็ วั ไปมองหาสง่ิ ทต่ี วั เองคดิ วา่ องคพ์ ระบรม- สารีรกิ ธาตุจะตอ้ งเปน็ เหมอื นเม็ดขา้ วสารหรือสสี วยแวววาวเขยี ว ๆ ม่วง ๆ เหมือนท่ี เมอื งไทยเผยแพรก่ นั ตามหนงั สอื ตา่ ง ๆ อยา่ งนก้ี ม็ องหาไมเ่ หน็ หรอกครบั เพราะพระธาตทุ โ่ี ปรโมทกนั ในเมอื งไทยบาง ราย ไมไ่ ดส้ รา้ งความเลอ่ื มใสศรทั ธาจากความรคู้ วามเขา้ ใจในคำสอนของพระศาสดา เพียงอย่างเดียว แต่ต้องพึ่งปาฏิหารย์ข่าวลือบวกกับสีสรรของเถ้ากระดูกเพื่อจะเพิ่ม ความนา่ นบั ถอื ใหเ้ กนิ จรงิ เขา้ ไปอกี พระบรมสารรี กิ ธาตทุ แ่ี ทน้ น้ั ไมต่ อ้ งมกี ารเพม่ิ สสี รร

จากแควน้ กาสสี แู่ ควน้ มคธ ๑๓๙ เตมิ แตง่ เรอ่ื งราวอศั จรรยใ์ ด ๆ เปน็ เถา้ ของพระสรรี ะองั คาร ทม่ี อี ายถุ งึ ๒,๐๐๐ กวา่ ปี จงึ เปน็ สนี ำ้ ตาลชน้ิ เลก็ ๆ วางอยบู่ นแผน่ โลหะในครอบแกว้ (ภาพท่ี ๘) ความศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ และปาฏหิ ารยม์ าจากคำสอนอนั ลกึ ซง้ึ ดว้ ยเมตตาทเ่ี ราจะเกดิ สตริ ะลกึ และปญั ญาทจ่ี ะ สามารถเขา้ ถงึ ไดจ้ ากการอบรมเจรญิ ภาวนานน่ั เอง เพอ่ื นสหายธรรมบาง ทา่ นกม็ าสารภาพวา่ พ่ี หนไู มร่ เู้ ลยวา่ พระบรมสารรี กิ ธาตุ คอื ตรงไหนหนมู วั แตต่ น่ื เตน้ พระทา่ นก็ ช้ี ๆ พดู อะไรกแ็ ปลไมอ่ อก หนมู องไปนกึ วา่ สี ทอง ๆ นน่ั คอื พระธาตุ หนกู ร็ บี ไหว้ แลว้ กม็ วั แตต่ ง้ั ทา่ ใหเ้ พอ่ื นถา่ ยรปู กลอ้ งหนเู มโมรก่ี ็ หมด อาศยั กลอ้ งเพอ่ื นถา่ ยให้ เลยรบี ไปหนอ่ ย ไมร่ เู้ รอ่ื งเลย ลงมาถงึ ไดร้ วู้ า่ ทห่ี นไู หวน้ น่ั นะ่ ฐานของครอบแกว้ แท้ ๆ คราวหนา้ หนจู ะมาอนิ เดยี อกี จะมากราบแกต้ วั ใหม่ ออ้ ยงั ดที ห่ี นไู หวไ้ ปทฐ่ี านครอบแกว้ กน็ บั วา่ ใกลเ้ คยี ง ไมไ่ ปไหวเ้ อาดอกบวั หรอื ไฟฉายทพ่ี ระทา่ นถอื กบ็ ญุ แลว้ นเ่ี หละปรศิ นาทห่ี ลาย ๆ คนเดนิ ทางมาไกลเพอ่ื จะได้ เหน็ พระบรมสารรี กิ ธาตุ แตก่ ย็ งั ไมไ่ ดเ้ หน็ ไปเหน็ อยา่ งอน่ื นน่ั กเ็ พราะเหตแุ หง่ การสะสม ตา่ งกนั นน่ั เอง คราวหนา้ เราจะเดนิ ทางไปยงั แควน้ มคธ ยงั มเี รอ่ื งนา่ สนใจ และพระสตู รดี ๆ มาใหอ้ า่ นอกี นะครบั ขอบคณุ และขออนโุ มทนา

๑๔๐ ๑๖ พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ สมยั นก้ี ารเดนิ ทางพรอ้ มกลอ้ งถา่ ยรปู เปน็ เรอ่ื งงา่ ย ๆ ไปเสยี แลว้ อยากจะบอก เพอ่ื น ๆ วา่ ไปไหนกเ็ อากลอ้ งไปดว้ ยเถอะครบั ไมจ่ ำเปน็ จะตอ้ งไปเรยี นการถา่ ยรปู จน เปน็ มอื อาชพี หรอกครบั เดย๋ี วนก้ี ลอ้ งดจิ ติ อล ถา่ ยงา่ ย มรี ะบบปอ้ งกนั การสน่ั สะเทอื น ตง้ั อัตโนมตั ิ ถ่ายยังไงก็ชดั ครบั ไม่จำเป็นตอ้ งเก่งขนาดร้เู รือ่ งแสงและเท็คนิคขั้นสงู อะไร ฟิล์มก็ไม่ต้องซื้อ รูปสวยไม่สวยหรือน่าสนใจแค่ไหน มันอยู่ที่เรื่องราวและมุมมองว่า มนั นา่ สนใจบง่ บอกอะไรกบั เรา กลบั มาเกบ็ ไวไ้ ดน้ าน ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งไปอดั ทกุ รปู หรอก ครบั เปลอื งเงนิ เอาเกบ็ ไวใ้ นคอมพวิ เตอรก์ อ่ น เอาออกมาดมู าแบง่ กนั ดไู ดภ้ ายหลงั ไป อนิ เดยี คราวนถ้ี า่ ยเยอะ ๆ (ภาพท่ี ๑) หามมุ มองบางจดุ ทน่ี า่ สนใจ กลบั มาโพสทด์ กู นั อยา่ งนอ้ ยกท็ เ่ี วบ็ ธมั มะโฮมนย่ี งั เนอ้ื ทอ่ี กี มาก พอทจ่ี ะจดั เวทโี ชวภ์ าพถา่ ยอนิ เดยี และ เรอ่ื งธรรมะกนั คง จะดมี าก ๆ เลย แตย่ งั ไง พ่ี ๆ ปา้ ๆ ทย่ี งั ไมค่ อ่ ยคนุ้ เคยกบ็ อกใหล้ กู หลานเตรยี มเซท็ ขนาดภาพ และจดั เตรยี มเมโมรก่ี ารด์ ทม่ี คี วามจใุ หพ้ อกบั การเดนิ ทางหลาย ๆ วนั นะครบั เพราะเรา จะไปหวงั ซอ้ื ฟลิ ม์ ใสเ่ พม่ิ มนั ไมใ่ ชแ่ ลว้ ผเู้ ขยี นเหน็ บอ่ ยวา่ ตง้ั ขนาดภาพใหญเ่ กนิ ไป และ เมโมรก่ี ารด์ เลก็ ไป แอค็ ทก์ นั แถว ๆ รูปปน้ั พระยานาค ก่อนขน้ึ เคร่อื งบนิ ทส่ี ุวรรณภมู ิ พอถงึ อนิ เดยี อา้ ว การด์ หมดแหลว่ .. กลอ้ งกเ็ ลยตอ้ งเอาไปเกบ็ หมดสนกุ ไปเยอะ อยา่ งน้ี ตอ้ งเอาการด์ มาโหลดฝากพวกเราทห่ี อบเอาสตอเรจสำหรบั เกบ็ ภาพไปดว้ ย แลว้ กลบั มาค่อยไร้ท์ใส่แผ่นส่งไปให้ แล้วก็อย่าลืมปรับขนาดภาพให้เล็ก ๆ หน่อยก็ได้นะครับ อย่างไรก็ตามอย่ามัวตั้งหน้าถ่ายรูปกันจนลืมเรื่องการเจริญกุศลนะครับกายวาจา ไมส่ ำรวม ใจจะเปน็ บญุ กศุ ลไดอ้ ยา่ งไร ใชไ่ หมครบั อกี อยา่ งเรอ่ื งปลก๊ั ไฟสามตานะครบั เอาแบบยนู เิ วอรแซลทใ่ี ชไ้ ดท้ ว่ั โลกไปนะ ครบั หาทเ่ี สยี บทม่ี หี ลาย ๆ ชอ่ งไป โทรศพั ทม์ อื ถอื ทอ่ี นิ เดยี ใชไ้ ดท้ ว่ั ไปครบั แตค่ า่ โทรแพง หน่อย มีทริปหนึ่งของเราเองก็ โทรมือถือ บลูทูธ กล้องภาพนิ่ง สตอเรจเก็บรูป เครอ่ื งเอม็ พ๓ี +ลำโพง เครอ่ื งตม้ นำ้ รอ้ น หกชอ่ งแลว้ เรากเ็ ลยหอบสายตอ่ แบบมปี มุ่ แดง (ภาพท่ี ๒) ไป คดิ วา่ สบายแรว้ วววว โชคดมี ากครบั รมู เมทเราดู ๆ ไมนา่ มอี ะไรมากเหน็ เป็นผู้ใหญ่ แล้วพอค่อย ๆ ปล่อยทีเด็ดมา กล้องวีดีโอ ๒ ตัว กล้องภาพนิ่งอีกหนึ่ง

พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ ๑๔๑ สตอเรจเกบ็ รปู โทรศพั ทม์ อื ถอื ครเี อตฟี เอม็ พี ๔ และรสู้ กึ วา่ ในกระเปา๋ ใหญย่ งั ไมไ่ ดร้ อ้ื ออกมาอกี หลาย ชน้ิ อาจเปน็ เครอ่ื งเปา่ ผม เตารดี ขนาดเลก็ ปาลม์ มนิ โิ นต้ บคุ๊ แต.่ ... ทา่ นพไ่ี มไ่ ดเ้ อาสาย พว่ งหรอื ปลก๊ั ไฟมาเลยครบั อยา่ งนแ้ี หละสนกุ เตม็ ไปดว้ ยเครอ่ื งตดิ ขอ้ งเครอ่ื งผกู มดั และ รอ้ ยรดั กลางดกึ ตอ้ งงวั เงยี ลกุ ขน้ึ มาสลบั กนั ชารจ์ แบต็ เดนิ ทางจากพาราณสไี ปยงั พทุ ธคยา ระยะทางประมาณ ๒๒๐ กม. เราคงใช้ NH ๒ ไฮเวย์สายหลักที่ตัดตรงไปทางตะวันออกสู่เมืองกัลกัตตา ภูมิประเทศเป็นที่ ราบเรยี บตลอด เขา้ สรู่ ฐั พหิ ารทก่ี ลา่ ววา่ มคี วามยากจนมาก เคยประสบภยั แหง่ ความ แห้งแล้งและแผ่นดินไหว มีผู้คนล้มตายหลายแสนคน พอเราข้ามแม่น้ำ Sone ผ่านเมืองชื่อ Aurangabad ก็จะพบว่าชาวบ้านยังพูด ภาษามคธ Magadhi อยู่ นั่นก็หมายความว่าเราเข้ามาสู่แคว้นมคธอันยิ่งใหญ่ในอดีตแล้ว ภาษามคธนั่นก็คือ ภาษาบาลี ทเ่ี ปน็ ภาษาทพ่ี ระบรมศาสดาใชใ้ นการเผยแผพ่ ระศาสนาและเปน็ ภาษาใน พระไตรปฎิ กนน่ั เอง ถงึ เมอื งนแ้ี ลว้ กอ็ ยากชวนคณุ คำปน่ั หรอื คณุ ลงุ นภิ ทั ร ผรู้ ภู้ าษาบาลี ประจำมลู นธิ ลิ งไป สปก๊ี บาลกี บั ชาวบา้ น ดซู จิ ะพดู กนั รเู้ รอ่ื งไหม ปลอ่ ยพวกเราไวท้ น่ี ค่ี ง ไมอ่ ดตายหรอกครบั อยา่ งนอ้ ยคำวา่ กวฬงิ การาหาร ทแ่ี ปลวา่ อาหารเปน็ คำ ๆ น่ี คงพอ หากนิ ไดก้ ระมงั ครบั จากการสงั เกตสุ องขา้ งทางกด็ มู คี วามอดุ มสมบรู ณด์ ปี ลกู ขา้ วมากมาย ตาม คนั นาจะมตี น้ ปาลม์ โบราณปลกู เปน็ ระยะ ลำตน้ หกั คดไปคดมา พศิ ดารนา่ สงสยั มาก บางตน้ สงู มากคงมีอายุหลายร้อยปที เี ดยี ว จากการสอบถามชาวบา้ นด้วยภาษามือก็ ประมาณวา่ ปาลม์ เหลา่ นค้ี อื ตน้ Date หรอื อนิ ทะผาลมั นน่ั เอง (ภาพท่ี ๓) การทล่ี ำตน้ หักคดไปมาก็ เกิดจากการที่ชาวบ้านถากข้าง ๆ ลำต้นบางส่วนออก ให้น้ำเลี้ยงของ ตน้ ปาลม์ ทม่ี คี วาม หวานไหลลงมาสภู่ าชนะเพอ่ื ใชเ้ ปน็ วตั ถดุ บิ ในการผลติ นำ้ ตาล ออ้ ... พอลำตน้ ด้านน้ี น้ำตาลไหลนอ้ ยกไ็ ปถากฟนั อกี ดา้ นของต้นปาลม์ ลำตน้ เลยคดไปมา ฉลาดนะไมต่ อ้ งปนี ขน้ึ ไปปาดตาลเหมอื นบา้ นเรา แตเ่ ปน็ การทรมานตน้ ไมพ้ ลิ กึ เชยี ว ในบางทรปิ พวกเรามาถงึ พทุ ธคยากม็ ดื คำ่ แลว้ พวกเรากจ็ ะยงั ไมเ่ ขา้ ทพ่ี กั เรา ตรงไปกราบนมสั การพระศรมี หาโพธเ์ิ ลยทเี ดยี ว การเดนิ เขา้ สพู่ ระวหิ ารแหง่ พทุ ธคยาถา้ เปน็ ครง้ั แรกละก็ นบั เปน็ เวลาทต่ี น่ื เตน้ ประทบั ใจแบบทเ่ี รยี กวา่ Breathtaking หรอื ลมื

๑๔๒ พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ หายใจกนั เลยทเี ดยี ว อาจเปน็ เพราะการ Approach เขา้ ไป เนอ่ื งจากเราตอ้ งลงจากรถ ทางด้านทิศเหนือของพระวิหาร เดินเลียบกำแพงมุ่งหน้าไปทางแม่น้ำเนรัญชรา ตลอดทางกม็ กี ารขายของ มขี อทานและเปดิ เสยี งเพลงสวดมนตแ์ ละไดก้ ลน่ิ ธปู อนิ เดยี ไป ตลอดทาง พอสดุ กำแพงเลย้ี วขวา จะเปน็ บรเิ วณวดั ไมม่ ขี อทานและบรรยากาศกจ็ ะ เงยี บสงบลงจดั การฝากรองเทา้ แลว้ เดนิ ไปอกี นดิ เดยี วทางขวามอื จะเปน็ ประตใู หญเ่ ขา้ สู่ เจดยี พ์ ทุ ธคยาตรงนแ้ี หละครบั ทนั ทที เ่ี ราหนั หนา้ ไปทางขวา เจดยี พ์ ทุ ธคยาปรากฎแก่ สายตาสงบนิ่งอยู่ (ภาพที่ ๔) เหมือนภาพที่เรารอคอยมาตลอดชีวิต ความรู้สึกที่ได้ เขา้ ใกลพ้ ระบรมศาสดาทำใหเ้ กดิ ความปลม้ื ปติ ิ เนอ่ื งจากสถานทต่ี ง้ั ของพระเจดยี อ์ ยตู่ ำ่ ลงไป คงเปน็ เพราะเปน็ ฝง่ั แมน่ ำ้ แตเ่ ดมิ (ภาพท่ี ๕) แลว้ มกี ารขดุ คน้ สรา้ งถนนสงู ขน้ึ มา กับมีการส่องไฟอันสวยงาม จึงทำให้การได้เห็นเจดีย์พุทธคยามีความขลังและขรึม และเปน็ การเหน็ แบบหนั มา กไ็ ดเ้ หน็ ทนั ทจี งึ ทำใหป้ ระทบั ใจจรงิ ๆ (ภาพท่ี ๖) จากนน้ั เปน็ การเดนิ ลงบนั ไดไป เหมอื นเปน็ การเดนิ จากแมน่ ำ้ เขา้ สตู่ น้ มหาโพธ์ิ ทม่ี โี พธบิ ลั ลงั กอ์ ยขู่ า้ งหนา้ (ภาพท่ี ๗) เจดยี แ์ ละพระพทุ ธรปู ในนน้ั เสมอื นองคพ์ ระผมู้ -ี พระภาคประทบั อยู่ ณ ทน่ี น้ั หนั พระพกั ตรสทู่ ศิ ตะวนั ออก คอื ฝง่ั แมน่ ำ้ เนรญั ชรา (ภาพท่ี ๘) นน่ั เอง ถงึ ตอนน้ี เราคงตอ้ งอา่ นพระสตู รกนั กอ่ น เพอ่ื จะไดเ้ ขา้ ใจเหตกุ ารณใ์ นครง้ั พทุ ธกาลวา่ เกดิ อะไรขน้ึ เจา้ ชายสทิ ธตั ถะไดไ้ ดเ้ ดนิ ทางจากกรงุ กบลิ พสั ด์ุ จนมาถงึ ตำบล อรุ เุ วลาเสนานคิ มเพอ่ื การตรสั รอู้ ยา่ งไร เชญิ อา่ นพระสตู ร ......... พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ์ เลม่ ๙ ภาค ๒ พระโพธสิ ตั ว์ เสดจ็ ไปดว้ ยเหตทุ ใ่ี หเ้ กดิ สริ อิ ยา่ งน้ี เสดจ็ หนทาง ๓๐ โยชนผ์ า่ น ๓ ราชอาณาจกั ร ราตรเี ดยี วเทา่ นน้ั กถ็ งึ รมิ ฝง่ั แมน่ ำ้ อโนมา. ลำดบั นน้ั พระโพธสิ ตั วท์ รง ยืน ณ ริมฝั่งแม่น้ำ ตรัสถามนายฉันนะว่าแม่น้ำนี้ชื่อไร ทูลตอบว่า แม่น้ำอโนมา ทรงใชส้ น้ พระบาท กระแทกมา้ ใหส้ ญั ญาณแกม่ า้ มา้ กโ็ ดดไปยนื อยรู่ มิ ฝง่ั โนน้ แหง่ แมน่ ำ้ ซง่ึ กวา้ ง ๘ อสุ ภะ พระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ลงจากหลงั มา้ ประทบั ยนื ทห่ี าดทรายเสมอื นกอง แกว้ มกุ ดา เรยี กนายฉนั นะมาตรสั สง่ั วา่ สหายฉนั นะ เจา้ จงนำอาภรณข์ องเรากบั กณั ฐกะ กลบั ไปเราจกั บวช.

พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ ๑๔๓ ๑ ๒๓ ๔๕ ๖ นายฉนั นะทลู วา่ แมข้ า้ พระบาทกจ็ กั บวช พระลกู เจา้ . พระโพธสิ ตั วต์ รสั วา่ เจา้ ยงั บวชไมไ่ ด้ เจา้ ตอ้ งกลบั ไป ทรงหา้ ม ๓ ครง้ั แลว้ ทรงมอบอาภรณแ์ ละมา้ กณั ฐกะแลว้ ทรงดำรวิ า่ ผมของเราอยา่ งน้ี ไมเ่ หมาะแกส่ มณะจำจกั ตดั ผมเหลา่ นน้ั ดว้ ยพระขรรค์ ทรง จบั พระขรรคอ์ นั คมกรบิ ดว้ ยพระหตั ถข์ วา รวบพระจฬุ าพรอ้ มดว้ ยพระเมาลดี ว้ ยพระหตั ถ์ ซ้ายแล้วตัด เหลือพระเกศาสององคุลีเวียนขวา ติดพระเศียร พระเกสาเหล่านั้นก็มี ประมาณเทา่ นน้ั จนตลอดพระชนมชพี สว่ นพระมสั สุ กเ็ หมาะแกป่ ระมาณพระเกสานน้ั แตพ่ ระองคไ์ มม่ กี จิ ทจ่ี ะตอ้ งปลงพระเกศาและพระมสั สอุ กี เลยน้ี พระโพธสิ ตั วท์ รงรวบ พระจฬุ าพรอ้ มดว้ ยพระเมาลี อธษิ ฐานวา่ ถา้ เราจกั เปน็ พระพทุ ธเจา้ ไซร้ ผมนจ้ี งตง้ั อยใู่ น อากาศ ถา้ ไมเ่ ปน็ ไซร้ กจ็ งหลน่ ลงเหนอื พน้ื ดนิ แลว้ เหวย่ี งไปในอากาศ กำพระจฬุ ามณี นั้น ไประยะประมาณโยชน์หนึ่งแล้วก็ตั้งอยู่ในอากาศ. ลำดับนั้น ท้าวสักกะเทวราช ทรงตรวจดูด้วยจักษุทิพย์ ทรงเอาผอบรัตนะขนาดโยชน์หนึ่งรับกำพระจุฬามณีนั้น แล้วทรงสถาปนาเป็นพระจุฬามณีเจดีย์สำเร็จด้วยรัตนะ ๗ ประการ ขนาด ๓ โยชนไ์ วใ้ นภพดาวดงึ ส์ ดงั ทท่ี า่ นกลา่ วไวว้ า่

๑๔๔ พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ ๗ ๘๙ ๑๐ ๑๑ เฉตวฺ าน โมลึ วรคนธฺ วาสติ ํ เวหายสํ อกุ ขฺ ปิ ิ อคคฺ ปคุ คฺ โล สหสสฺ เน โต สริ สา ปฏคิ คฺ หิ สวุ ณณฺ จงโฺ กฏวเรน วาสโว. พระผู้เป็นบุคคลผู้เลิศ ทรงตัดพระเมาลีที่อบด้วยของหอมอย่างดี ทรงเหว่ยี งข้นึ สอู่ ากาศ ทา้ ววาสวะสหสั สนยั น์ ทรงเอาผอบทองอยา่ งดรี ับไวด้ ว้ ยเศยี ร เกลา้ . พระโพธสิ ตั วท์ รงดำรอิ กี วา่ ผา้ กาสเี หลา่ นน้ั มคี า่ มาก ไมเ่ หมาะแกส่ มณะของ เรา ลำดบั นน้ั ฆฏกิ ารมหาพรหม สหายเกา่ ครง้ั พระกสั สปพทุ ธเจา้ ของพระโพธสิ ตั วน์ น้ั ดำรโิ ดยมติ รภาพทไ่ี มถ่ งึ ความพนิ าศตลอดพทุ ธนั ดรหนง่ึ วา่ วนั นส้ี หายเราออกอภเิ นษ- กรมณ์ จำเราจกั ถอื สมณบรขิ ารไปเพอ่ื สหายนน้ั จงึ นำบรขิ าร ๘ เหลา่ นน้ั ไปถวาย คอื ตจิ วี รญจฺ ปตโฺ ต จ วาสี สจู ิ จ พนธฺ นํ ปรสิ สฺ าวนญจฺ อฏเฺ ฐเต ยตุ ตฺ โยคสสฺ ภกิ ขฺ โุ น.

พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ ๑๔๕ บรขิ าร ๘ เหลา่ นค้ี อื ไตรจวี ร บาตร มดี เขม็ รดั ประคด และผา้ กรองนำ้ เปน็ ของภกิ ษผุ ปู้ ระกอบความเพยี ร. พระมหาบุรุษทรงครองผ้าธงชัยแห่งพระอรหันต์ ถือเพศบรรพชาสูงสุด ทรงเหวย่ี งคผู่ า้ [นงุ่ หม่ ] ไปในอากาศ. ทา้ วมหาพรหมรบั คผู่ า้ นน้ั แลว้ สรา้ งเจดยี ส์ ำเรจ็ ดว้ ย รตั นะขนาด ๑๒ โยชนใ์ นพรหมโลก บรรจคุ ผู่ า้ นน้ั ไวข้ า้ งใน. ลำดบั นน้ั พระมหาสตั วต์ รสั กะนายฉันนะว่า ฉนั นะเจ้าจงบอกแก่พระชนกพระชนนีตามคำของเราว่า เราสบายดี แลว้ ทรงสง่ ไป. แตน่ น้ั นายฉนั นะกถ็ วายบงั คมพระมหาบรุ ษุ ทำประทกั ษณิ แลว้ หลกี ไป สว่ นมา้ กณั ฐกะยนื ฟงั คำของพระโพธสิ ตั วผ์ ปู้ รกึ ษากบั นายฉนั นะ รวู้ า่ บดั นเ้ี ราจะไมเ่ หน็ นายของเราอีก พอละสายตาของพระมหาบุรุษนั้น ไม่อาจทนวิปโยคทุกข์ได้ กห็ วั ใจแตกตายไปบงั เกดิ เปน็ เทพบตุ รชอ่ื กณั ฐกะ ในภพดาวดงึ ส์ ซง่ึ เปน็ ภพทข่ี า้ ศกึ ของ เทวดาครอบงำไดแ้ สนยาก การอบุ ตั ขิ องกณั ฐกะเทพบตุ รนน้ั พงึ ถอื เอาตามอรรถกถา วมิ านวตั ถุ ชอ่ื วมิ ลตั ถวลิ าสนิ .ี ความโศกไดม้ แี กน่ ายฉนั นะเปน็ ครง้ั ท่ี ๑ เพราะความตาย ของมา้ กณั ฐกะ นายฉนั นะ ถกู ความโศกครง้ั ท่ี ๒ เบยี ดเบยี น กร็ อ้ งไหค้ รำ่ ครวญ เดนิ ทาง ไปดว้ ยความทกุ ข.์ ฝา่ ยพระโพธสิ ตั ว์ ทรงผนวชแลว้ ในประเทศนน้ั นน่ั แล มสี วนมะมว่ งชอ่ื อนปุ ยิ ะ อยู่ จงึ ทรงยบั ยง้ั อยู่ ณ อนปุ ยิ อมั พวนั นน้ั ๗ วนั ดว้ ยความสขุ ในบรรพชาภายหลงั จากนน้ั กท็ รงสำรวมดว้ ยผา้ กาสาวะอนั ดี เหมอื นดวงรชั นกี รเตม็ ดวง สำรวมอยใู่ นหมเู่ มฆทอ่ี าบ ดว้ ยแสงสนธยา แมล้ ำพงั พระองคก์ ร็ งุ่ เรอื งเหมอื นชนเปน็ อนั มากแวดลอ้ มแลว้ ทรงทำ บรรพชานน้ั เหมอื นนำ้ อมฤตตอ้ งของเหลา่ มฤคและปกั ษที อ่ี ยปู่ า่ ทรงเทย่ี วไป พระองค์ เดยี วเหมอื นราชสหี ์ ทรงเปน็ นรสหี ะ เหมอื นควาญผู้ รจู้ กั ลลี าของชา้ งตกมนั ยงั แผน่ ดนิ ให้ เบาดว้ ยฝา่ เทา้ เสดจ็ เดนิ ทาง ๓๐ โยชน์ วนั เดยี วเทา่ นน้ั ทรงขา้ มแมน่ ำ้ คงคา ซง่ึ คลง่ั ดว้ ย ฤดูและคลื่น แต่ไม่ขัดข้อง เสด็จเข้าสู่นครราชคฤห์ เรือนหลวงอันแพรวพราวด้วย ประกายแสงแห่งรัตนะ ครั้นเสด็จเข้าไปแล้ว ก็เที่ยวแสวงหาภิกษาตามลำดับตรอก. ทว่ั ทง้ั นครนน้ั กส็ ะเทอื นเพราะการเหน็ พระรปู ของพระโพธสิ ตั ว์ เหมอื นนครนน้ั สะเทอื น เมื่อช้างธนบาลเข้าไปเหมือนเทวนครสะเทือน เมือ่ จอมอสูรเข้าไป. เมือ่ พระมหาบุรุษ เสดจ็ เทย่ี วแสวงหาภกิ ษา พวกมนษุ ยช์ าวพระนคร เกดิ ความอศั จรรยส์ ำหรบั ผเู้ กดิ ปตี ิ

๑๔๖ พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ โสมนสั เพราะเหน็ พระรปู ของพระมหาสตั ว์ กไ็ ดม้ ใี จนกึ ถงึ การเหน็ พระรปู ของพระโพธ-ิ สตั ว.์ บรรดามนษุ ยเ์ หลา่ นน้ั มนษุ ยผ์ ้หู น่งึ กลา่ วกะมนษุ ยผ์ หู้ นง่ึ อยา่ งนว้ี ่าทา่ นเอย เหตุอะไรหนอ จันทร์เพ็ญ ที่มีช่อรัศมีที่ถูกภัยคือราหูกำบังแล้ว ยังมาสู่มนุษยโลกได้. มนษุ ยอ์ น่ื นอกจากนน้ั กย็ ม้ิ พดู อยา่ งนว้ี า่ พดู อะไรกนั สหายทา่ นเคยเหน็ จนั ทรเ์ พญ็ มาสู่ มนษุ ยโลกกนั เมอ่ื ไร นน่ั กามเทพมดี อกไมเ้ ปน็ ธงมใิ ชห่ รอื ทา่ นถอื เพศอน่ื เหน็ ความเจรญิ ของลลี าอยา่ งยง่ิ ของมหาราชของเราและชาวเมอื ง จงึ เสดจ็ มาเลน่ ดว้ ย. คนอน่ื นอกจาก นน้ั กย็ ม้ิ พดู อยา่ งนว้ี า่ ทา่ นเอย ทา่ นเปน็ บา้ กนั แลว้ หรอื นน่ั พระอนิ ทรผมู้ สี รรี ะรอ้ นเรอื ง ดว้ ยความโหมของเพลงิ ยญั อนั เรอื งแรง ผเู้ ปน็ ทา้ วสหสั นยั น์ เปน็ เจา้ แหง่ เทวดามาในทน่ี ้ี ดว้ ยความสำคญั วา่ อมรปรุ ะ คนอน่ื นอกจากนน้ั หวั รอ่ นดิ หนอ่ ยแลว้ กลา่ ววา่ ทา่ นเอย พูดอะไรกัน ท่านผิดทั้งคำต้นคำหลัง ท่านผู้นั้นมีพันคาที่ไหน มีวชิราวุธที่ไหน มีช้าง เอราวณั ทไ่ี หน ทแ่ี ท้ ทา่ นผนู้ น้ั เปน็ พรหม ทา่ นรวู้ า่ คนทเ่ี ปน็ พราหมณป์ ระมาทกนั จงึ มา เพอ่ื ประกอบไวใ้ นพระเวทแลเวทางคเ์ ปน็ ตน้ ตา่ งหากเลา่ . คนอน่ื ทเ่ี ปน็ บณั ฑติ กป็ รามคน เหลา่ นน้ั ทง้ั หมดพดู อยา่ งนว้ี า่ ทา่ นผนู้ ม้ี ใิ ชพ่ ระจนั ทรเ์ พญ็ มใิ ชก่ ามเทพ มใิ ชท่ า้ วสหสั นยั น์ มใิ ชพ่ รหมทง้ั นน้ั แตท่ า่ นผนู้ ้ี เปน็ อจั ฉรยิ มนษุ ย์ จะเปน็ ศาสดาผนู้ ำโลกทง้ั ปวง. เมอ่ื ชาวนครเจรจากนั อยอู่ ยา่ งน้ี พวกราชบรุ ษุ กก็ ราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพ่ ระเจา้ พมิ พสิ ารวา่ ขา้ แตส่ มมตุ เิ ทพ เทพ คนธรรพ์ หรอื นาคราช ยกั ษ์ หรอื ใครหนอเทย่ี วแสวงหา ภกิ ษาในนครของเรา. พระราชาทรงสดบั เรอ่ื งนน้ั แลว้ ทรงยนื ณ ประสาทชน้ั บน ทรงเหน็ พระมหาบรุ ษุ เกดิ จติ อศั จรรยไ์ มเ่ คยมี ทรงสง่ั พวกราชบรุ ษุ วา่ พวกทา่ นจงไปทดสอบทา่ น ผนู้ น้ั ถา้ เปน็ อมนษุ ย์ กจ็ กั ออกจากนครหายไป ถา้ เปน็ เทวดา กจ็ กั ไปทางอากาศ ถา้ เปน็ นาคราช กจ็ กั มดุ ดนิ ถา้ เปน็ มนษุ ย์ กจ็ กั บรโิ ภคภกิ ษาตามทไ่ี ดม้ า. ฝา่ ยพระมหาบรุ ษุ มอี นิ ทรยี ส์ งบ มพี ระหฤทยั สงบเปน็ ประหนง่ึ ดงึ ดดู สายตา มหาชน เพราะความงามแห่งพระรูป ทรงแลชั่วแอก รวบรวมอาหารระคนกัน พอยัง อตั ภาพใหเ้ ปน็ ไปได้ เสดจ็ ออกจากนครทางประตทู เ่ี สดจ็ เขา้ มา บา่ ยพระพกั ตรไ์ ปทาง ตะวนั ออกแหง่ รม่ เงาภเู ขาปณั ฑวะ ประทบั นง่ั พจิ ารณาอาหาร ไมม่ อี าการผดิ ปกตเิ สวย. แตน่ น้ั พวกราชบรุ ษุ กไ็ ปกราบทลู เรอ่ื งนน้ั แดพ่ ระราชา.

พทุ ธคยาศรมี หาโพธ์ิ ๑๔๗ ลำดบั นน้ั พระเจา้ แผน่ ดนิ แควน้ มคธ พระนามวา่ พมิ พสิ าร ผอู้ นั เหลา่ พาลชน นกึ ถงึ ไดย้ าก ผมู้ เี ขาพระเมรแุ ละเขามนั ทาระเปน็ สาระ ผทู้ รงเปน็ แกน่ สารแหง่ สตั ว์ ทรงมี ความตน่ื เตน้ เพราะการเหน็ ทเ่ี กดิ เพราะไดส้ ดบั คณุ ของพระโพธสิ ตั วเ์ หลา่ นน้ั ทรงรบี เสดจ็ ออกจากพระนครบา่ ยพระพกั ตรต์ รงภเู ขาปณั ฑวะ เสดจ็ ไปแลว้ ลงจากพระราช- ยาน เสด็จไปยังสำนักพระโพธิสัตว์อันพระโพธิสัตว์ทรงอนุญาตแล้วประทับนั่งเหนือ พน้ื ศลิ า อนั เยน็ ดว้ ยความรกั ของชนผเู้ ปน็ พวกพอ้ งทรงเลอ่ื มใสในพระอริ ยิ าบถของพระ- โพธิสัตว์ ทรงได้รับปฏิสันถารแล้วทรงถามถึงนามและโคตร ทรงมอบความเป็นใหญ่ ทกุ อยา่ งแดพ่ ระโพธสิ ตั ว.์ พระโพธสิ ตั วต์ รสั วา่ ขา้ แตพ่ ระมหาราช หมอ่ มฉนั ไมป่ ระสงค์ ด้วยวัตถุกาม หรือกิเลสกาม หม่อมฉันปรารถนาแต่พระปรมาภิสัมโพธิญาณจึงออก บวช. พระราชาแม้ทรงอ้อนวอนหลายประการ ก็ไม่ได้น้ำพระหฤทัยของพระโพธิสัตว์ จงึ ตรสั วา่ จกั ทรงเปน็ พระพทุ ธเจา้ แน่ จงึ ทลู วา่ กพ็ ระองคเ์ ปน็ พระพทุ ธเจา้ แลว้ โปรดเสดจ็ มาแควน้ ของหมอ่ มฉนั กอ่ น แลว้ เสดจ็ เขา้ สพู่ ระนคร. อถ ราชคหํ วรราชคหํ นรราชวเร นครํ ตุ คเต คริ ริ าชวโร มนุ ริ าชวโร มคิ ราชคโต สคุ โตปิ คโต. เมอ่ื พระนรราชผปู้ ระเสรฐิ เสดจ็ สกู่ รงุ ราชคฤห์ ซง่ึ มเี รอื นหลวงอยา่ งประเสรฐิ พระจอมครี ผี ู้ประเสรฐิ พระจอมมนุ ผี ู้ประเสรฐิ เสดจ็ ไปเปน็ เชน่ พระยามฤค [ราชสหี ]์ เสดจ็ ไปแลว้ ชอ่ื วา่ เสดจ็ ไปดแี ลว้ .......... ถึงตอนนเ้ี รากค็ งทราบกนั แลว้ วา่ พระจฬุ ามณี ทเ่ี คยไดย้ นิ บอ่ ย ๆ นน้ั คอื อะไร อยทู่ ไ่ี หน และทา่ นทา้ วมหาพรหมนน้ั กไ็ มใ่ ชใ่ คร เคยเปน็ สหายเกา่ ของพระบรมศาสดา มาตง้ั แตส่ มยั พระกสั สปะพระพทุ ธเจา้ อนั นานแสนนานมาแลว้ นน่ั เอง เหตกุ ารณต์ าม พระสตู รจะเปน็ อยา่ งไรคอยอา่ นตอ่ ไปนะครบั ตอนหนา้ จะพาทกุ ทา่ นรจู้ กั แควน้ มคธ เพม่ิ ขน้ึ รบั รองวา่ มสี ถานทแ่ี ละเหตกุ ารณท์ ค่ี วรคา่ แกก่ ารศกึ ษาอยา่ งมากทส่ี ดุ ครบั ขอ กราบอนโุ มทนา

๑๔๘ ๑๗ โพธบิ ลั ลงั ก์ ทรงตรสั รู้ พระสตู รตอนตอ่ ไปนก้ี ลา่ วถงึ ตอนทพ่ี ระโพธสิ ตั วไ์ ดเ้ ลา่ เรยี นกบั ทา่ น อาฬาร- ดาบส และอทุ กดาบสจนไดส้ มาบตั ิ ๘ แลว้ รวู้ า่ ไมใ่ ชห่ นทางจงึ บำเพญ็ ทกุ รกริ ยิ าโดยการ อดอาหารท่ี ถำ้ ดงคศริ ิ อกี รวมเวลาเปน็ ๖ ปี จนซบู ผอมเกอื บสน้ิ พระชนม์ กย็ งั ไมอ่ าจแทง ตลอดในญาณได้ จงึ กลบั มาเสวยอาหารแลว้ ออกบณิ ฑบาตมิ าจนถงึ บรเิ วณพทุ ธคยา แหง่ น้ี ณ ทแ่ี หง่ นเ้ี มอ่ื กวา่ ๒,๕๐๐ ปมี าแลว้ มเี หตกุ ารณท์ พ่ี ระผมู้ พี ระภาคไดต้ รสั รธู้ รรม หลงั จากพระองคบ์ ำเพญ็ บารมมี าสอ่ี สงไขยแสนกปั ป์ เปน็ เหตกุ ารณท์ ช่ี า่ งและจติ รกร ชาวพุทธ นิยมนำไปวาดเป็นภาพฝาผนัง (ภาพที่ ๑) และสร้างเป็นพระพุทธรูปปาง หนึ่งเรียกว่า ปางมารวิชัย แต่จะวาด หรือปั้นจำลองอย่างไรก็ไม่สามารถบรรยายให้ ครบถว้ นได้ รายละเอยี ดเปน็ อยา่ งไร ขอเชญิ อา่ นพระสตู ร ......... พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย พทุ ธวงศ์ เลม่ ๙ ภาค ๒ สมยั นน้ั วนั วสิ าขบรู ณมี พระมหาบรุ ษุ เสวยขา้ วมธปุ ายาส ซง่ึ เทวดาใสท่ พิ - โอชะ อนั หญงิ วยั รนุ่ ชอ่ื สชุ าดา ผบู้ งั เกดิ ในครอบครวั ของเสนานกี ฎุ มุ พตี ำบลอรุ เุ วลา เสนา นคิ มถวายแลว้ ทรงถอื ถาดทองวางลงสกู่ ระแสแมน่ ำ้ เนรญั ชรา ปลกุ พระยากาฬนาคราช ผหู้ ลบั ใหต้ น่ื แลว้ . ครง้ั นน้ั พระโพธสิ ตั วท์ รงพกั กลางวนั ณ สาลวนั ซง่ึ ประดบั ดว้ ยดอกไม้ หอม มแี สงสเี ขยี ว นา่ รน่ื รมย์ รมิ ฝง่ั แมน่ ำ้ เนรญั ชราเวลาเยน็ เสดจ็ มงุ่ ตรงไปยงั ตน้ โพธ-ิ พฤกษต์ ามทางทเ่ี ทวดาทง้ั หลายประดบั แลว้ . เทวดานาคยกั ษส์ ทิ ธาเปน็ ตน้ พากนั บชู า ดว้ ยดอกไมข้ องหอมเครอ่ื งลบู ไล.้ สมยั นน้ั คนหาหญา้ ชอ่ื โสตถยิ ะถอื หญา้ เดนิ สวนทาง มา รอู้ าการของพระมหาบรุ ษุ จงึ ถวายหญา้ ๘ กำ พระโพธสิ ตั วท์ รงรบั หญา้ แลว้ เสดจ็ เขา้ - ไปยงั โคนโพธพิ ฤกษช์ อ่ื ตน้ อสั สตั ถะ ซง่ึ เปน็ วชิ ยั พฤกษอ์ นั รงุ่ โรจนก์ วา่ หมตู่ น้ ไมท้ ง้ั หลาย คลา้ ยอญั ชนั คริ สี เี ขยี วครามประหนง่ึ ชว่ ยบรรเทาแสงทนิ กร มรี ม่ เงาเยน็ เยน็ ดว้ ยพระ- กรณุ า ดงั พระหฤทยั ของพระองค์ เวน้ จากการชมุ นมุ ของวหิ คนานาชนดิ ประดบั ดว้ ยกง่ิ อนั ทบึ ตอ้ งลมออ่ น ๆ โชยมาประหนง่ึ ฟอ้ นรำ และประดจุ ยนิ ดดี ว้ ยปตี ิ ทรงทำประทกั ษณิ พญาอสั สตั ถพฤกษ์ ๓ ครง้ั ประทบั ยนื ทางทศิ อสี าน ทรงจบั ยอดหญา้ เขยา่ . ทนั ใดนน่ั เอง กม็ บี ลั ลงั ก์ ๑๔ ศอก หญา้ เหลา่ นน้ั กเ็ ปน็ เหมอื นจติ รกรวาดไว.้ พระโพธสิ ตั วป์ ระทบั นง่ั

โพธบิ ลั ลงั ก์ ทรงตรสั รู้ ๑๔๙ ขดั สมาธเิ หนอื สนั ถตั หญา้ ๑๔ ศอก ทรงอธษิ ฐานความเพยี รประกอบดว้ ยองค์ ๔ ทรงทำ ลำตน้ โพธพิ ฤกษ์ ๕๐ ศอกไวเ้ บอ้ื งหลงั ดงั ลำตน้ เงนิ ทเ่ี ขาวางไวเ้ หนอื ตง่ั ทอง กน้ั ดว้ ยกง่ิ โพธพิ ฤกษเ์ หมอื นฉตั รมณไี วเ้ บอ้ื งบน ประทบั นง่ั . กย็ อดออ่ นโพธพิ ฤกษล์ ว่ งลงมาทจ่ี วี ร สที องของพระองค์ กร็ งุ่ โรจนเ์ หมอื นวางแกว้ ประพาฬไวท้ แ่ี ผน่ ทอง. เมื่อพระโพธิสัตว์ ประทับนั่ง ณ โพธิบัลลังก์นั้น (ภาพที่ ๒) วสวัตดีมาร- เทพบตุ รคดิ วา่ สทิ ธตั ถกมุ ารประสงคจ์ ะลว่ งวสิ ยั ของเรา บดั นเ้ี ราจกั ไมใ่ หส้ ทิ ธตั ถะกมุ าร นน้ั ลว่ งวสิ ยั จงึ บอกความนน้ั แกก่ องกำลงั ของมาร แลว้ พากองกำลงั มารออกไป. ไดย้ นิ วา่ ทพั มารนน้ั ขา้ งหนา้ ของมาร กข็ นาด ๑๒ โยชน์ ขา้ งขวาและขา้ งซา้ ยกอ็ ยา่ งนน้ั แตข่ า้ ง หลงั ตง้ั อยสู่ ดุ จกั รวาล เบอ้ื งบนสงู ๙ โยชน.์ ไดย้ นิ เสยี งคำราม ดงั เสยี งแผน่ ดนิ คำราม ตง้ั แตเ่ กา้ พนั โยชน.์ สมยั นน้ั ทา้ วสกั กเทวราช ทรงยนื เปา่ สงั ข์ ชอ่ื วชิ ยตุ ตระ เขาวา่ สงั ขน์ น้ั ยาวสอง- พันศอก. คนธรรพ์เทพบุตรชื่อปัญจสิขะ ถือพิณสีเหลืองดังผลมะตูม ยาวสามคาวุต บรรเลง ยนื ขบั รอ้ งเพลงประกอบดว้ ยมงคล ทา้ วสยุ ามเทวราช ทรงถอื ทพิ ยจามร อนั มสี ริ ิ ดงั ดวงจนั ทรย์ ามฤดสู ารท ยาวสามคาวตุ ยนื ถวายงานพดั ลมออ่ น ๆ. สว่ นทา้ วสหมั บด-ี พรหม ยนื กน้ั ฉตั รดงั จนั ทรด์ วงทส่ี อง กวา้ งสามโยชน์ ไวเ้ บอ้ื งบนพระผมู้ พี ระภาคเจา้ แม้ แตม่ หากาฬนาคราช อนั นาคฝา่ ยฟอ้ นรำแปดหมน่ื แวดลอ้ ม รา่ ยคาถาสดดุ นี บั รอ้ ยยนื นมัสการพระมหาสัตว์ เทวดาในหมื่นจักรวาล บูชาด้วยพวงดอกไม้หอมและจุรณธูป เปน็ ตน้ พากนั ยนื ถวายสาธกุ าร. ลำดบั นน้ั เทวบตุ รมารขน้ึ ชา้ งทก่ี นั ขา้ ศกึ ได้ เปน็ ชา้ งทป่ี ระดบั ดว้ ยรตั นะ ชอ่ื คริ เิ มขละ งามนา่ ดอู ยา่ งยง่ิ เสมอื นยอดหมิ ะคริ ี ขนาดรอ้ ยหา้ สบิ โยชน์ เนรมติ แขนพนั แขน ใหจ้ บั อาวธุ ตา่ ง ๆ ดว้ ยการจบั อาวธุ ทย่ี งั ไมไ่ ดจ้ บั .แมบ้ รษิ ทั ของมารมกี ำลงั ถอื ดาบ ธนู ศร หอก ยกธนู สาก ผาล เหลก็ แหลมหอก หลาว หนิ คอ้ น กำไลมอื ฉมวก กงจกั ร เครอ่ื ง สวมคอ ของมคี ม มหี นา้ เหมอื นกวาง ราชสหี ์ แรด กวาง หมู เสอื ลงิ งู แมว นกฮกู และมี หน้าเหมือนควาย ฟาน ม้า ช้างพลาย เป็นต้น มีกายต่าง ๆ น่ากลัว น่าประหลาด นา่ เกลยี ด มกี ายเสมอื นมนษุ ยย์ กั ษป์ ศี าจ ทว่ มทบั พระมหาสตั วโ์ พธสิ ตั ว์ ผปู้ ระทบั นง่ั ณ โคนโพธพิ ฤกษ์ เดนิ หอ้ มลอ้ ม ยนื มองดกู ารสำแดงของมาร.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook