๕๐ กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั หยาบช้า มีฝ่ามือเปื้อนเลือด ปักใจในการฆ่าตี ไม่มีความ กรุณาในสัตว์ทั้งหลาย องคุลิมาลโจรนั้น กระทำบ้านไม่ให้เป็นบ้านบ้าง กระทำนิคมไม่ให้เป็นนิคมบ้าง กระทำชนบทไม่ให้เป็นชนบทบ้าง เขาเข่นฆ่าพวกมนุษย์แล้วเอานิ้วมือร้อยเป็นพวง ทรงไว้ ขา้ แตส่ มณะ พวกบรุ ษุ สบิ คนกด็ ี ยส่ี บิ คนกด็ ี สามสบิ คนกด็ ี สส่ี บิ คนกด็ ี ยอ่ มรวม เปน็ พวกเดยี วกนั เดนิ ทางน้ี แมบ้ รุ ษุ ผนู้ น้ั กย็ งั ถงึ ความพนิ าศ เพราะมอื ขององคลุ มิ าลโจร. เมอ่ื คนพวกนน้ั กราบทลู อยา่ งนแ้ี ลว้ พระผมู้ พี ระภาคทรงนง่ิ ไดเ้ สดจ็ ไปแลว้ . [๕๒๒] แมค้ รง้ั ทส่ี อง พวกคนเลย้ี งโค ....ขอ้ ความซำ้ [๕๒๓] แมค้ รง้ั ทส่ี าม พวกคนเลย้ี งโค ....ขอ้ ความซำ้ [๕๒๔] องคลุ มิ าลโจรไดเ้ หน็ พระผมู้ พี ระภาคเสดจ็ มาแตไ่ กล. ครน้ั แลว้ เขาไดม้ คี วามดำรวิ า่ นา่ อศั จรรยจ์ รงิ หนอ ไมเ่ คยมเี ลย พวกบรุ ษุ สบิ คนกด็ ี ยส่ี บิ คนกด็ ี สามสบิ คนกด็ ี สส่ี บิ คนกด็ ี กย็ งั ตอ้ งรวมเปน็ พวกเดยี วกนั เดนิ ทางน้ี แม้บุรุษพวกนั้นยังถึง ความพินาศเพราะมือเรา เออก็สมณะนี้ผู้เดียว ไม่มีเพื่อน ชรอยจะมาขม่ ถา้ กระไร เราพงึ ปลงสมณะเสยี จากชวี ติ เถดิ . ครง้ั นน้ั องคลุ มิ าลโจรถอื ดาบและโล่ห์ผูกสอดแล่งธนู ติดตามพระผู้มีพระภาคไปทางพระปฤษฎางค์. ครั้งนั้น พระผมู้ พี ระภาคทรงบนั ดาล อทิ ธาภสิ งั ขาร โดยประการทอ่ี งคลุ มิ าลโจรจะวง่ิ จนสดุ กำลงั กไ็ มอ่ าจทนั พระผมู้ พี ระภาค ผเู้ สดจ็ ไปตามปกต.ิ ครง้ั นน้ั องคลุ มิ าลโจรไดม้ คี วามดำรวิ า่ นา่ อศั จรรยจ์ รงิ หนอ ไมเ่ คยมี เลยดว้ ยวา่ เมอ่ื กอ่ น แมช้ า้ งกำลงั วง่ิ มา้ กำลงั วง่ิ รถกำลงั แลน่ เนอ้ื กำลงั วง่ิ เรากย็ งั วง่ิ ตามจบั ได้ แตว่ า่ เราวง่ิ จนสดุ กำลงั ยงั ไมอ่ าจทนั สมณะน้ี ซึ่งเดินไปตามปกติ ดังนี้ จึงหยุดยืนกล่าวกะพระผู้มีพระภาคว่า จงหยุดก่อนสมณะ จงหยดุ กอ่ นสมณะ พระผมู้ พี ระภาคตรสั วา่ เราหยดุ แลว้ องคลุ มิ าล ทา่ นเลา่ จงหยดุ เถดิ . องคลุ มิ าลโจรละพยศ [๕๒๕] ครง้ั นน้ั องคลุ มิ าลโจรดำรวิ า่ สมณศากยบตุ รเหลา่ นน้ั มกั เปน็ คนพดู จรงิ มปี ฏญิ ญาจรงิ แตส่ มณะรปู นเ้ี ดนิ ไปอยเู่ ทยี ว กลบั พดู วา่ เราหยดุ แลว้ องคลุ มิ าล
กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั ๕๑ ท่านเล่าจงหยุดเถิด ถ้ากระไร เราพึงถามสมณะรูปนี้เถิด. ครั้งนั้น องคุลิมาลโจรได้ กราบทลู พระผมู้ พี ระภาคดว้ ยคาถาความวา่ ดกู รสมณะ ทา่ นกำลงั เดนิ ไป ยงั กลา่ ววา่ เราหยดุ แลว้ และ ทา่ นยงั ไมห่ ยดุ ยงั กลา่ วกะขา้ พเจา้ ผหู้ ยดุ แลว้ วา่ ไมห่ ยดุ ดกู รสมณะ ขา้ พเจา้ ขอถามเนอ้ื ความนก้ี ะทา่ น ทา่ นหยดุ แลว้ เปน็ อยา่ งไร ขา้ พเจา้ ยงั ไมห่ ยดุ แลว้ เปน็ อยา่ งไร? พระผมู้ พี ระภาคตรสั วา่ ดกู ร องคลุ มิ าล เราวางอาชญาในสรรพสตั วไ์ ดแ้ ลว้ จงึ ชอ่ื วา่ หยดุ แลว้ ในกาลทกุ เมอ่ื สว่ นทา่ นไมส่ ำรวมในสตั วท์ ง้ั หลาย เพราะฉะนน้ั เราจงึ หยดุ แลว้ ทา่ นยงั ไมห่ ยดุ . องคลุ มิ าลโจรทลู วา่ ดกู รสมณะ ทา่ นอนั เทวดามนษุ ยบ์ ชู าแลว้ แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ มาถึงป่าใหญ่เพื่อจะสงเคราะห์ข้าพเจ้าสิ้นกาลนานหนอ ขา้ พเจา้ นน้ั จกั ประพฤตลิ ะบาป เพราะฟงั คาถาอนั ประกอบดว้ ยธรรมของทา่ น องคลุ มิ าล โจรกลา่ วดงั นแ้ี ลว้ ไดท้ ง้ิ ดาบและอาวธุ ลงในเหวลกึ มหี นา้ ผาชนั องคลุ มิ าลโจรไดถ้ วาย บงั คมพระบาททง้ั สองของพระสคุ ต แลว้ ไดท้ ลู ขอบรรพชากะพระสคุ ต ณ ท่ี นน้ั เอง. กแ็ ล พระพทุ ธเจา้ ผทู้ รงประกอบดว้ ยพระกรณุ าทรงแสวงหาคณุ อนั ยง่ิ ใหญ่ เปน็ ศาสดาของ โลกกบั ทง้ั เทวโลก ไดต้ รสั กะองคลุ มิ าลโจรในเวลานน้ั วา่ ทา่ นจงเปน็ ภกิ ษมุ าเถดิ อนั น้ี แหละเป็นภิกษุภาวะขององคุลิมาลโจรนั้น ดังนี้. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคมีพระ- องคลุ มิ าลเปน็ ปจั ฉาสมณะ เสดจ็ จารกิ ไปทางพระนครสาวตั ถี เสดจ็ จารกิ ไปโดยลำดบั เสดจ็ ถงึ พระนครสาวตั ถแี ลว้ . พระเจา้ ปเสนทโิ กศลเขา้ เฝา้ [๕๒๖] ไดย้ นิ วา่ ณ ทน่ี น้ั พระผมู้ พี ระภาคประทบั อยู่ ณ พระเชตวนั อารามของ ทา่ นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี เขตพระนครสาวตั ถ.ี กส็ มยั นน้ั หมมู่ หาชนประชมุ กนั อยทู่ ป่ี ระตู พระราชวงั ของพระเจา้ ปเสนทโิ กศล สง่ เสยี งออ้ื องึ วา่ ขา้ แตส่ มมตเิ ทพในแวน่ แควน้ ของ พระองค์ มโี จรชอ่ื วา่ องคลุ มิ าล เปน็ คนหยาบชา้ มฝี า่ มอื เปอ้ื นเลอื ด ปกั ใจในการฆา่ ตี ไมม่ คี วามกรณุ าในสตั วท์ ง้ั หลาย องคลุ มิ าลโจรนน้ั กระทำบา้ นไมใ่ หเ้ ปน็ บา้ นบา้ ง กระทำ นคิ มไมใ่ หเ้ ปน็ นคิ มบา้ ง กระทำชนบทไมใ่ หเ้ ปน็ ชนบทบา้ ง เขาเขน่ ฆา่ พวกมนษุ ยแ์ ลว้ เอา นว้ิ มอื รอ้ ยเปน็ พวงทรงไว้ ขอพระองคจ์ งกำจดั มนั เสยี เถดิ . ครง้ั นน้ั พระเจา้ ปเสนทโิ กศล เสด็จออกจากพระนครสาวัตถี ด้วยกระบวนม้าประมาณ ๕๐๐ เสด็จเข้าไปทาง พระอารามแต่ยังวันทีเดียว เสด็จไปด้วยพระยานจนสุดภูมิประเทศที่ยานจะไปได้
๕๒ กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั เสดจ็ ลงจากพระยานแลว้ ทรงพระราชดำเนนิ ดว้ ยพระบาทเขา้ ไปเฝา้ พระผมู้ พี ระภาค ถงึ ทป่ี ระทบั ครน้ั แลว้ ถวายบงั คมพระผมู้ พี ระภาค ประทบั นง่ั ณ ทค่ี วรสว่ นขา้ งหนง่ึ . [๕๒๗] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะพระเจ้าปเสนทิโกศลผู้ประทับนั่ง ณ ทค่ี วรสว่ นขา้ ง หนง่ึ แลว้ วา่ ดกู รมหาบพติ ร พระเจา้ แผน่ ดนิ มคธจอมเสนาทรงพระนามวา่ พิมพสิ าร ทรงทำใหพ้ ระองค์ทรงขดั เคอื งหรือหนอ หรอื เจา้ ลจิ ฉวี เมอื งเวสาลี หรอื ว่า พระราชาผเู้ ปน็ ปฏปิ กั ษเ์ หลา่ อน่ื ? พระเจา้ ปเสนทโิ กศลกราบทลู วา่ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ พระเจา้ แผน่ ดนิ มคธ จอมเสนาทรงพระนามวา่ พมิ พสิ ารมไิ ดท้ รงทำหมอ่ มฉนั ใหข้ ดั เคอื ง แมเ้ จา้ ลจิ ฉวเี มอื งเวสาลี กม็ ไิ ดท้ รงทำใหห้ มอ่ มฉนั ขดั เคอื ง แมพ้ ระราชาทเ่ี ปน็ ปฏปิ กั ษ์ เหลา่ อน่ื กม็ ไิ ดท้ ำใหห้ มอ่ มฉนั ขดั เคอื ง ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ในแวน่ แควน้ ของหมอ่ มฉนั มโี จรชอ่ื วา่ องคลุ มิ าล เปน็ คนหยาบชา้ มฝี า่ มอื เปอ้ื นเลอื ด ปกั ใจในการฆา่ ตี ไมม่ คี วาม กรณุ าในสตั วท์ ง้ั หลาย องคลุ มิ าลโจรนน้ั กระทำบา้ นไมใ่ หเ้ ปน็ บา้ นบา้ ง กระทำนคิ มไมใ่ ห้ เป็นนิคมบ้าง กระทำชนบทไม่ให้เป็นชนบทบ้าง เขาเข่นฆ่าพวกมนุษย์แล้วเอานิ้วมือ รอ้ ยเปน็ พวงทรงไว้ หมอ่ มฉนั จกั กำจดั มนั เสยี . ภ. ดกู รมหาราช ถา้ มหาบพติ รพงึ ทอดพระเนตรองคลุ มิ าลผปู้ ลงผมและหนวด นงุ่ หม่ ผา้ กาสายะ ออกจากเรอื นบวชเปน็ บรรพชติ เวน้ จากการฆา่ สตั ว์ เวน้ จากการลกั - ทรพั ย์ เวน้ จากการพดู เทจ็ ฉนั ภตั ตาหารหนเดยี ว ประพฤตพิ รหมจรรย์ มศี ลี มกี ลั ยาณ- ธรรม มหาบพติ รจะพงึ ทรงกระทำ อยา่ งไรกะเขา? ป. ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ หมอ่ มฉนั พงึ ไหว้ พงึ ลกุ รบั พงึ เชอ้ื เชญิ ดว้ ยอาสนะ พงึ บำรงุ เขา ดว้ ยจวี ร บณิ ฑบาต เสนาสนะและคลิ านปจั จยั เภสชั บรขิ าร หรอื พงึ จดั การ รกั ษา ปอ้ งกนั คมุ้ ครองอยา่ งเปน็ ธรรม ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ แตอ่ งคลุ มิ าลโจรนน้ั เปน็ คน ทศุ ลี มบี าปธรรม จกั มคี วามสำรวมดว้ ยศลี เหน็ ปานน้ี แตท่ ไ่ี หน? ทรงเหน็ พระองคลุ มิ าลแลว้ ตกพระทยั [๕๒๘] กส็ มยั นน้ั ทา่ นพระองคลุ มิ าลนง่ั อยไู่ มไ่ กลพระผมู้ พี ระภาค. พระผมู้ -ี พระภาค ทรงยกพระหตั ถเ์ บอ้ื งขวาขน้ึ ชต้ี รสั บอกพระเจา้ ปเสนทโิ กศลวา่ ดกู รมหาบพติ ร
กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั ๕๓ ๑๒ ๓๔ นน่ั องคลุ มิ าล. ลำดบั นน้ั พระเจา้ ปเสนทโิ กศล ทรงมคี วามกลวั ทรงหวาดหวน่ั พระโลม- ชาตชิ ชู นั แลว้ . พระผมู้ พี ระภาคทรงทราบวา่ พระเจา้ ปเสนทโิ กศลทรงกลวั ทรงหวาดหวน่ั มพี ระโลมชาตชิ ชู นั แลว้ จงึ ไดต้ รสั กะพระเจา้ ปเสนทโิ กศลวา่ อยา่ ทรงกลวั เลย มหาบพติ ร อยา่ ทรงกลวั เลย มหาบพติ ร ภยั แตอ่ งคลุ มิ าลนไ้ี มม่ แี กม่ หาบพติ ร. ครง้ั นน้ั พระเจา้ ปเสน- ทโิ กศลทรงระงบั ความกลวั ความหวาดหวน่ั หรอื โลมชาตชิ ชู นั ไดแ้ ลว้ จงึ เสดจ็ เขา้ ไปหา ทา่ นองคลุ มิ าลถงึ ทอ่ี ยู่ ครน้ั แลว้ ได้ ตรสั กะทา่ นองคลุ มิ าลวา่ ทา่ นผเู้ จรญิ พระองคลุ มิ าล ผเู้ ปน็ เจา้ ของเรา. ทา่ นพระองคลุ มิ าลถวายพระพรวา่ อยา่ งนน้ั มหาบพติ ร. ป. บิดาของพระผู้เป็นเจ้ามีโคตรอย่างไร มารดาของพระผู้เป็นเจ้ามีโคตร อยา่ งไร? อ. ดกู รมหาบพติ ร บดิ าชอ่ื คคั คะ มารดาชอ่ื มนั ตาน.ี
๕๔ กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั ป. ทา่ นผเู้ จรญิ ขอพระผเู้ ปน็ เจา้ คคั คะมนั ตานบี ตุ ร จงอภริ มยเ์ ถดิ ขา้ พเจา้ จกั ทำความขวนขวาย เพอ่ื จวี ร บณิ ฑบาต เสนาสนะและคลิ านปจั จยั เภสชั บรขิ ารแกพ่ ระผ-ู้ เปน็ เจา้ คคั คะมนั ตานบี ตุ ร. กส็ มยั นน้ั ทา่ นองคลุ มิ าลถอื การอยใู่ นปา่ เปน็ วตั ร ถอื เทย่ี ว บณิ ฑบาต เปน็ วตั ร ถอื ผา้ บงั สกุ ลุ เปน็ วตั ร ถอื ผา้ สามผนื เปน็ วตั ร. ครง้ั นน้ั ทา่ นองคลุ มิ าล ได้ถวาย พระพรพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า อย่าเลยมหาบพิตร ไตรจีวรของอาตมภาพ บรบิ รู ณ์ แลว้ . [๕๒๙] ครั้งนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ ประทบั ถวายบงั คมพระผมู้ พี ระภาคแลว้ จงึ ประทบั นง่ั ณ ทค่ี วรสว่ นขา้ งหนง่ึ . แลว้ ได้ กราบทลู ว่า ขา้ แต่พระองค์ผเู้ จรญิ นา่ อศั จรรย์นกั ไม่เคยมมี า ที่พระผู้มพี ระภาคทรง ทรมานไดซ้ ง่ึ บคุ คลทใ่ี คร ๆ ทรมานไมไ่ ด้ ทรงยงั บคุ คลทใ่ี คร ๆ ใหส้ งบไมไ่ ด้ ใหส้ งบได้ ทรงยงั บคุ คลทใ่ี คร ๆ ใหด้ บั ไมไ่ ด้ ใหด้ บั ได้ เพราะวา่ หมอ่ มฉนั ไมส่ ามารถจะทรมานผใู้ ดได้ แมด้ ว้ ยอาชญา แมด้ ว้ ยศาตรา ผนู้ น้ั พระผมู้ พี ระภาคทรงทรมานไดโ้ ดยไมต่ อ้ งใชอ้ าญา ไมต่ อ้ งใชศ้ าตรา ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ หมอ่ มฉนั ขอทลู ลาไปในบดั น้ี หมอ่ มฉนั มกี จิ มาก มกี รณยี ะมาก พระผมู้ พี ระภาคตรสั วา่ ขอมหาบพติ รจงทรงทราบกาลอนั ควรในบดั นเ้ี ถดิ ลำดบั นน้ั พระเจา้ ปเสนทโิ กศลเสดจ็ ลกุ จากทป่ี ระทบั ถวายบงั คมพระผมู้ พี ระภาคแลว้ เสดจ็ หลกี ไป. พระองคลุ มิ าลโปรดหญงิ มคี รรภ์ [๕๓๐] ครง้ั นน้ั เวลาเชา้ ทา่ นพระองคลุ มิ าลครองอนั ตรวาสกแลว้ ถอื บาตร และจวี ร เขา้ ไปบณิ ฑบาตยงั พระนครสาวตั ถ.ี กำลงั เทย่ี วบณิ ฑบาตตามลำดบั ตรอกอยู่ ในพระนครสาวัตถี ได้เห็นสตรีคนหนึ่งมีครรภ์แก่หนัก. ครั้นแล้วได้มีความดำริว่า สตั วท์ ง้ั หลายยอ่ มเศรา้ หมองหนอ สตั วท์ ง้ั หลายยอ่ มเศรา้ หมองหนอ ดงั น.้ี ครง้ั นน้ั ทา่ น พระองคลุ มิ าลเทย่ี วบณิ ฑบาตในพระนครสาวตั ถี เวลาปจั ฉาภตั กลบั จากบณิ ฑบาตแลว้ เขา้ ไปเฝา้ พระผมู้ พี ระภาคถงึ ทป่ี ระทบั ถวายบงั คมพระผมู้ พี ระภาคแลว้ นง่ั ณ ทค่ี วรสว่ น ขา้ งหนง่ึ . ครน้ั แลว้ ไดก้ ราบทลู วา่ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ขอประทานพระวโรกาส เวลาเชา้ ขา้ พระองคค์ รองอนั ตรวาสกแลว้ ถอื บาตรและจวี ร เขา้ ไปบณิ ฑบาตยงั พระนครสาวตั ถี กำลงั เทย่ี วบณิ ฑบาตตามลำดบั ตรอกอยใู่ นพระนครสาวตั ถี ไดเ้ หน็ สตรคี นหนง่ึ มคี รรภ์
กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั ๕๕ แกห่ นกั . ครน้ั แลว้ ไดม้ คี วามดำรวิ า่ สตั วท์ ง้ั หลายยอ่ มเศรา้ หมองหนอ สตั วท์ ง้ั หลายยอ่ ม เศรา้ หมองหนอ ดงั น.้ี [๕๓๑] พระผมู้ พี ระภาคจงึ ตรสั วา่ ดกู รองคลุ มิ าล ถา้ อยา่ งนน้ั เธอจงเขา้ ไปหา สตรนี น้ั และกลา่ วกะสตรนี น้ั อยา่ งนว้ี า่ ดกู รนอ้ งหญงิ ตง้ั แตเ่ ราเกดิ มาแลว้ จะไดร้ สู้ กึ วา่ แกลง้ ปลงสตั วจ์ ากชวี ติ หามไิ ด้ ดว้ ยสจั จวาจาน้ี ขอความสวสั ดจี งมแี กท่ ่าน ขอความ สวสั ดจี งมแี กค่ รรภข์ องทา่ นเถดิ . ทา่ นพระองคลุ มิ าลกราบทลู วา่ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ กอ็ าการนน้ั จกั เปน็ อนั ขา้ พระองคก์ ลา่ วเทจ็ ทง้ั รอู้ ยเู่ ปน็ แน่ เพราะขา้ พระองคแ์ กลง้ ปลง สตั วเ์ สยี จากชวี ติ เปน็ อนั มาก. ภ. ดกู ร องคลุ มิ าล ถา้ อยา่ งนน้ั เธอจงเขา้ ไปหาสตรนี น้ั แลว้ กลา่ วกะสตรนี น้ั อยา่ งนว้ี า่ ดกู รนอ้ งหญงิ ตง้ั แตเ่ ราเกดิ แลว้ ในอรยิ ชาติ จะไดร้ สู้ กึ วา่ แกลง้ ปลงสตั วเ์ สยี จาก ชวี ติ หา มไิ ด้ ดว้ ยสจั จวาจาน้ี ขอความสวสั ดจี งมแี กท่ า่ น ขอความสวสั ดจี งมแี กค่ รรภข์ อง ทา่ น เถดิ . พระองคลุ มิ าลทลู รบั พระผมู้ พี ระภาคแลว้ เขา้ ไปหาหญงิ นน้ั ถงึ ทอ่ี ยู่ ครน้ั แลว้ ไดก้ ลา่ ว กะ หญงิ นน้ั อยา่ งนว้ี า่ ดกู รนอ้ งหญงิ ตง้ั แตเ่ วลาทฉ่ี นั เกดิ แลว้ ในอรยิ ชาติ จะแกลง้ ปลงสตั ว์ จากชวี ติ ทง้ั รหู้ ามไิ ด้ ดว้ ยสจั จวาจาน้ี ขอความสวสั ดจี งมแี กท่ า่ น ขอความสวสั ดจี งมแี ก่ ครรภข์ องทา่ นเถดิ . ครง้ั นน้ั ความสวสั ดไี ดม้ แี กห่ ญงิ ความสวสั ดไี ดม้ แี กค่ รรภข์ องหญงิ แลว้ . พระองคลุ มิ าลบรรลพุ ระอรหตั [๕๓๒] ครั้งนั้น ท่านพระองคุลิมาลหลีกออกจากหมู่อยู่แต่ผู้เดียว เป็นผู้ไม่ ประมาท มคี วามเพยี ร มตี นสง่ ไปแลว้ อยไู่ มน่ านนกั กก็ ระทำใหแ้ จง้ ซง่ึ ทส่ี ดุ พรหมจรรยอ์ นั ไมม่ ธี รรมอน่ื ยง่ิ กวา่ ทก่ี ลุ บตุ รทง้ั หลายผอู้ อกจากเรอื นบวชเปน็ บรรพชติ ตอ้ งการ ดว้ ย ปญั ญาอนั ยง่ิ เองในปจั จบุ นั แลว้ เขา้ ถงึ อยู่ ไดร้ ชู้ ดั วา่ ชาตสิ น้ิ แลว้ พรหมจรรยอ์ ยจู่ บแลว้ กจิ ทค่ี วรทำทำเสรจ็ แลว้ กจิ อน่ื เพอ่ื ความเปน็ อยา่ งนอ้ี กี มไิ ดม้ ี ดงั น.้ี กท็ า่ นพระองคลุ มิ าล ไดเ้ ปน็ อรหนั ตอ์ งคห์ นง่ึ ในจำนวนพระอรหนั ตท์ ง้ั หลาย.
๕๖ กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั [๕๓๓] ครง้ั นน้ั เวลาเชา้ ทา่ นพระองคลุ มิ าลนงุ่ แลว้ ถอื บาตรและจวี ร เขา้ ไป บณิ ฑบาตในพระนครสาวตั ถ.ี กเ็ วลานน้ั กอ้ นดนิ ... ทอ่ นไม้ ... กอ้ นกรวดทบ่ี คุ คลขวา้ งไป แมโ้ ดยทางอน่ื กม็ าตกลงทก่ี ายของทา่ นพระองคลุ มิ าล ทา่ นพระองคลุ มิ าลศรี ษะแตก โลหิตไหล บาตรก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ฉีกขาด เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ. พระผมู้ พี ระภาคไดท้ อดพระเนตรทา่ นพระองคลุ มิ าลเดนิ มาแตไ่ กล ครน้ั แลว้ ไดต้ รสั กะ ท่านพระองคุลิมาลว่า เธอจงอดกลั้นไว้เถิดพราหมณ์ เธอจงอดกลั้นไว้เถิดพราหมณ์ เธอได้เสวยผลกรรมซึ่งเป็นเหตุจะให้เธอ พึงหมกไหม้อยู่ในนรกตลอดปีเป็นอันมาก ตลอดรอ้ ยปเี ปน็ อนั มาก ตลอดพนั ปเี ปน็ อนั มากในปจั จบุ นั นเ้ี ทา่ นน้ั . พระองคลุ มิ าลเปลง่ อทุ าน [๕๓๔] ครง้ั นน้ั ทา่ นพระองคลุ มิ าลไปในทล่ี บั เรน้ อยู่ เสวยวมิ ตุ สิ ขุ เปลง่ อทุ านน้ี ในเวลานน้ั วา่ กผ็ ใู้ ด เมอ่ื กอ่ นประมาท ภายหลงั ผนู้ น้ั ไมป่ ระมาท เขายอ่ มยงั โลกนใ้ี หส้ วา่ ง ดงั พระจนั ทรซ์ ง่ึ พน้ แลว้ จากเมฆ ฉะนน้ั ผใู้ ดทำกรรมอนั เปน็ บาปแลว้ ยอ่ มปดิ เสยี ไดด้ ว้ ย กุศล ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจพระจันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น ภิกษุใดแล ยงั เปน็ หนมุ่ ยอ่ มขวนขวายในพระพทุ ธศาสนา ภกิ ษนุ น้ั ยอ่ มยงั โลกนใ้ี หส้ วา่ ง ดจุ พระ- จันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ ฉะนั้น ขอศัตรูทั้งหลายของเราจงฟังธรรมกถาเถิด ขอศัตรู ทง้ั หลายของเราจงขวนขวายในพระพทุ ธศาสนาเถดิ ขอมนษุ ยท์ ง้ั หลายทเ่ี ปน็ ศตั รขู องเรา จงคบสตั บรุ ษุ ผชู้ วนใหถ้ อื ธรรมเถดิ ขอจงคบความผอ่ งแผว้ คอื ขนั ติ ความสรรเสรญิ คอื เมตตาเถดิ ขอจงฟงั ธรรมตามกาล และจงกระทำตามธรรมนน้ั เถดิ ผทู้ เ่ี ปน็ ศตั รนู น้ั ไมพ่ งึ เบยี ดเบยี นเราหรอื ใคร ๆ อน่ื นน้ั เลย ผถู้ งึ ความสงบอยา่ งยง่ิ แลว้ พงึ รกั ษาไวซ้ ง่ึ สตั วท์ ส่ี ะดงุ้ และทม่ี น่ั คง คนทดนำ้ ยอ่ มชกั นำ้ ไปได้ ชา่ งศรยอ่ มดดั ลกู ศรได้ ชา่ งถากยอ่ มถากไมไ้ ด้ ฉนั ใด บณั ฑติ ทง้ั หลาย ยอ่ มทรมานตนได้ ฉนั นน้ั คนบางพวก ยอ่ มฝกึ สตั ว์ ดว้ ยทอ่ นไม้ บา้ ง ดว้ ยขอบา้ ง ดว้ ยแสบ้ า้ ง เราเปน็ ผทู้ พ่ี ระผมู้ พี ระภาคทรงฝกึ แลว้ โดยไมต่ อ้ งใชอ้ าญา ไมต่ อ้ งใชศ้ าตรา เมอ่ื กอ่ นเรามชี อ่ื วา่ อหงิ สกะ แตย่ งั เบยี ดเบยี นสตั วอ์ ยู่ วนั นเ้ี รามชี อ่ื ตรง ความจรงิ เราไมเ่ บยี ดเบยี นใคร ๆ เลย เมอ่ื กอ่ นเราเปน็ โจร ปรากฏชอ่ื วา่ องคลุ มิ าล ถกู กเิ ลสดจุ หว้ งนำ้ ใหญพ่ ดั ไป มาถงึ พระพทุ ธเจา้ เปน็ สรณะแลว้ เมอ่ื กอ่ นเรามมี อื เปอ้ื นเลอื ด ปรากฏชอ่ื วา่ องคลุ มิ าล ถงึ พระพทุ ธเจา้ เปน็ สรณะ จงึ ถอนตณั หาอนั จะนำไปสภู่ พเสยี ได้
กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั ๕๗ เรากระทำกรรมทจ่ี ะใหถ้ งึ ทคุ ตเิ ชน่ นน้ั ไวม้ าก อนั วบิ ากของกรรมถกู ตอ้ งแลว้ เปน็ ผไู้ มม่ หี น้ี บรโิ ภคโภชนะ พวกชนทเ่ี ปน็ พาลทรามปญั ญา ยอ่ มประกอบตามซง่ึ ความประมาท สว่ น นักปราชญ์ทั้งหลายย่อมรักษาความไม่ประมาทไว้ เหมือนทรัพย์อันประเสริฐ ฉะนั้น ทา่ นทง้ั หลายจงอยา่ ประกอบตามซง่ึ ความประมาท อยา่ ประกอบตามความชดิ ชมดว้ ย สามารถความยนิ ดใี นกาม เพราะวา่ ผไู้ มป่ ระมาทแลว้ เพง่ อยู่ ยอ่ มถงึ ความสขุ อนั ไพบลู ย์ การทเ่ี รามาสพู่ ระพทุ ธศาสนานน้ี น้ั เปน็ การมาดแี ลว้ ไมป่ ราศจากประโยชน์ ไมเ่ ปน็ การ คดิ ผดิ บรรดาธรรมทพ่ี ระผมู้ พี ระภาคทรงจำแนกไวด้ แี ลว้ เรากไ็ ดเ้ ขา้ ถงึ ธรรมอนั ประเสรฐิ สุดแล้ว (นิพพาน) การที่เราได้เข้าถึงธรรมอันประเสริฐสุดนี้นั้น เป็นการถึงดีแล้ว ไม่ ปราศจากประโยชน์ ไมเ่ ปน็ การคดิ ผดิ วชิ ชา ๓ เราบรรลแุ ลว้ คำสอนของพระพทุ ธเจา้ เรากระทำแลว้ ดงั น.้ี จบองั คลุ มิ าลสตู ร ข้อความพระสตู รคอ่ นขา้ งยาว แตก่ ค็ งไมไ่ ดย้ าวเกนิ ไปกวา่ บทภาพยนตรท์ เ่ี ขา เอามาแตง่ เตมิ กนั เพอ่ื ใหด้ เู ปน็ ความบนั เทงิ นะครบั ภาพท่ี ๔ นแ่ี หละครบั เปน็ สถปู องคลุ -ิ มาล ชอ่ งตรงกลางอาคารจะมลี กั ษณะเปน็ หอ้ งเดนิ เขา้ ไปได้ เสรจ็ แลว้ กจ็ ะมชี อ่ งตำ่ ๆ แคบ ๆ พอทค่ี นจะเลอ้ื ยตวั ลอดออกไปขา้ ง ๆ สถปู ไดแ้ บบนา่ กลวั นดิ ๆ กม็ คี ำบอกเลา่ วา่ หากใครอธษิ ฐานขออะไรแลว้ มดุ ลอดชอ่ งแคบนอ้ี อกไปไดก้ จ็ ะสมปรารถนา มโี ชคดี มี โรคภยั ไขเ้ จบ็ กจ็ ะหาย หลายคนกจ็ ะนยิ มเขา้ ไปลอดดู แตจ่ ะมโี ชคสมปรารถนาเพยี งไร ยงั ไมส่ ามารถสรปุ ได้ มอี ยสู่ มยั หนง่ึ เมอ่ื รถบสั ของพวกเรามาจอด ทา่ นผอู้ าวโุ สทร่ี ว่ มทางนง่ั ตดิ กนั มา กบั รถเรากเ็ ลา่ กบั ผเู้ ขยี นวา่ ครง้ั หนง่ึ ลกู ชายไมส่ บาย ปว่ ยรกั ษาไมห่ าย กเ็ คยมาลอดถำ้ น้ี และอธษิ ฐาน ตอนลอดถำ้ กไ็ ดเ้ กบ็ กอ้ นหนิ สดี ำเอาไปเปน็ ทร่ี ะลกึ บชู า หลงั จากนน้ั ทกุ คน ในรถกล็ งไปทอ่ งเทย่ี วชมสถปู ทง้ั สองแหง่ นจ้ี นกระทง่ั กลบั เขา้ มาในรถ ผเู้ ขยี นกไ็ ดถ้ าม ทา่ นผอู้ าวโุ สทา่ นนน้ั วา่ หนิ ดำ ๆ อยา่ งนห้ี รอื เปลา่ ครบั เกบ็ เอากลบั ไปบา้ นจะดหี รอื ครบั ไมร่ ทู้ างเจา้ ของเขาหวงหรอื เปลา่ ยงั ไมอ่ ยากเปน็ นว้ิ ท่ี ๑,๐๐๑ ขององคลุ มิ าลนะครบั
๕๘ กรงุ สาวตั ถี มหาโจรและมหาเศรษฐี อยทู่ น่ี ด่ี ้วยกนั มีการวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่ว่า เอาไปดีไม่ดีก็อาจโชคร้ายเป็นโรครักษา ไมห่ ายขน้ึ มาจะวา่ ยงั ไง..... ถา้ ทกุ ๆ คนเชอ่ื วา่ เอาอฐิ หนิ เหลา่ นก้ี ลบั ไปบา้ นแลว้ จะมโี ชค- ลาภ อกี หนอ่ ย สถปู นค้ี งหมดเปน็ แน.่ .. บางคนเคยเอาของตอ้ งหา้ มเหลา่ นไ้ี ปแลว้ ประสบ เคราะห์กรรมต่าง ๆ นา ๆ มีคนหนึ่งเอาไปแล้ว ธุรกิจล้มละลายตั้งสองรอบ ต้องฝากพวกทัวรเ์ อากลบั มาคนื ..บรื๋อว์ .. ขณะนน้ั รถบสั กำลังจะถอยออกจากท่จี อด ผเู้ ขยี นเรม่ิ ตาแหกแลว้ ... เลยตอ้ งรอ้ งวา่ ... เดย๋ี ว ๆ บาบ.ู ..อยา่ เพง่ิ ไป...เปดิ ประตรู ถหนอ่ ย ...จะเอาหนิ องคลุ มิ าลไปคนื เสรจ็ แลว้ กล็ งจากรถเพอ่ื จะวง่ิ ขา้ มถนนเอาหนิ ไปเกบ็ ทส่ี ถปู ทนั ใดนน้ั กม็ เี สยี งคนในรถรอ้ งเรยี กขน้ึ มาวา่ .... พ่ี ๆ ๆ ๆ ...... เดย๋ี ว ๆ ...หนฝู ากดว้ ย .. หนกู ฝ็ ากดว้ ย ... ไมเ่ อาแหลว่ ... หนิ องคุลิมาล ..... เอาไปเด๋วถูกตัดนิ้ว ... ไม่อยากเป็นนิ้วที่ห้อยคอ องคุลิมาล .... คอ่ ยยงั ชว่ั หนอ่ ย ยงั มเี พอ่ื น ............... เฮอ้ ... วง่ิ ซะเหนอ่ื ย ...... ทง้ั เครยี ด ทง้ั ขำ เปน็ ธรรมะ
๕๙ ๘ วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา พระผมู้ พี ระภาคบำเพญ็ พทุ ธกจิ อยใู่ นเมอื งสาวตั ถนี านถงึ ๒๕ พรรษา โดย อยทู่ เ่ี ชตวนั ๑๙ พรรษา และทป่ี พุ พารามวหิ ารของนางวสิ าขาสรา้ งถวายอกี ๖ พรรษา จึงนับว่าพระพุทธองค์ได้เสด็จมาประทับที่เชตวันนานที่สุดในการเผยแผ่พระศาสนา (ภาพท่ี ๑) ทพ่ี ระเชตวนั วหิ าร และกรงุ สาวตั ถนี ้ี พระพทุ ธองคไ์ ดเ้ ทศนาพระสตู รไวถ้ งึ ๘๗๑ สตู ร เปน็ ฑฆี ะนกิ าย ๖ สตู ร, มชั ฌมิ นกิ าย ๗๕ สตู ร, สงั ยตุ นกิ าย ๗๓๖ สตู รและ องั คตุ รนกิ าย ๕๔ สตู ร มพี ระสตู รทส่ี ำคญั และเปน็ ทร่ี จู้ กั กนั ดี และนยิ มสวดกนั มากใน ปจั จบุ นั คอื มงคลสตู ร ขอเชญิ อา่ นและศกึ ษาดู ......... มงคลสตู รในขทุ ทกปาฐะ [๕] ขา้ พเจา้ ไดส้ ดบั มาแลว้ อยา่ งน้ี สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี ใกลพ้ ระนครสาวตั ถี ครง้ั นน้ั แล ครน้ั ปฐมยามลว่ งไป เทวดาตนหนง่ึ มรี ศั มงี ามยง่ิ นกั ยงั พระวหิ ารเชตวนั ทง้ั สน้ิ ใหส้ วา่ งไสว เขา้ ไปเฝา้ พระผมู้ พี ระภาคถงึ ท่ี ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มี- พระภาคดว้ ยคาถาวา่ [๖] เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้พากัน คิดมงคล ทง้ั หลาย ขอพระองคจ์ งตรสั อดุ มมงคล พระผมู้ พี ระภาคตรสั พระคาถาตอบวา่ การไม-่ คบคนพาล ๑ การคบบณั ฑติ ๑ การบชู าบคุ คลทค่ี วร บชู า ๑ นเ้ี ปน็ อดุ มมงคล การอยู่ ใน ประเทศอนั สมควร ๑ ความเปน็ ผมู้ บี ญุ อนั กระทำแลว้ ในกาลกอ่ น ๑ การตง้ั ตน- ไวช้ อบ ๑ นเ้ี ปน็ อดุ มมงคล พาหสุ จั จะ ๑ ศลิ ป ๑ วนิ ยั ทศ่ี กึ ษาดแี ลว้ ๑ วาจา- สภุ าษติ ๑ นเ้ี ปน็ อดุ มมงคล การบำรงุ มารดาบดิ า ๑ การสงเคราะหบ์ ตุ รภรรยา ๑ การงานอันไม่อากูล ๑ นี้เป็นอุดมมงคลทาน ๑ การประพฤติธรรม ๑ การสงเคราะหญ์ าติ ๑ กรรมอนั ไมม่ โี ทษ ๑ นเ้ี ปน็ อดุ มมงคล การงดการเวน้ จาก- บาป ๑ ความสำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๑ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑
๖๐ วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา ๑๒ ๔ ๓ ๕๖ ๗๘
วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา ๖๑ นี้เป็นอุดมมงคล ความเคารพ ๑ ความประพฤติถ่อมตน ๑ ความสันโดษ ๑ ความกตัญญู ๑ การฟังธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ความอดทน ๑ ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑ การได้เห็นสมณะทั้งหลาย ๑ การสนทนาธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล ความเพียร ๑ พรหมจรรย์ ๑ การเห็นอริยสัจ ๑ การกระทำ- นิพพานให้แจ้ง ๑ นี้เป็นอุดมมงคล จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว ยอ่ มไมห่ วน่ั ไหว ๑ ไมเ่ ศรา้ โศก ๑ ปราศจากธลุ ี ๑ เปน็ จติ เกษม ๑ นเ้ี ปน็ อดุ มมงคล เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทำมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่ปราชัยในข้าศึกทุกหมู่เหล่า ยอ่ มถงึ ความสวสั ดใี นทท่ี กุ สถาน นเ้ี ปน็ อดุ มมงคลของเทวดาและมนษุ ยเ์ หลา่ นน้ั ฯ จบมงคลสตู ร พระวหิ ารเชตวนั ไดร้ บั การดแู ลอยา่ งดมี กี ารลอ้ มรว้ั กนั ไมใ่ หผ้ คู้ นทว่ั ไป เขา้ มา บกุ รกุ ทำลาย เมอ่ื เดนิ เขา้ ประตหู นา้ จะเหน็ วา่ มกี ารบรู ณะไปตามรอ่ งรอยของอาคารเกา่ ทางดา้ นซา้ ยจะเปน็ กฏุ ขิ องอคั รสาวก พระอรหนั ตอ์ งคส์ ำคญั กจ็ ำพรรษาอยทู่ อ่ี ารามน้ี เช่น พระอานนท์ ราหุล โมคคัลลานะ สารีบุตร องคุลีมาล ตรงไปจะเป็นต้นโพธิ์ที่ พระอานนท์ปลูกเอาไว้ (ภาพที่ ๒) ทางด้านซ้ายมือเป็นพระคันธกุฎีที่ประทับของ พระพทุ ธเจา้ (ภาพท่ี ๓) บริเวณทั่ว ๆ ไปมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นมากมายเป็นลักษณะสวนที่เย็นร่มรื่นเป็น อยา่ งยง่ิ (ภาพท่ี ๔) นอกจากนั้นยิ่งมองเห็นอิฐที่เรียงเป็นวงกลม เหมือนบ่อน้ำแต่ปิดฝาและ ไม่ฉาบปูน เตี้ยเล็กใหญ่สูงต่างขนาดกัน ซึ่งจะเป็นสถูปบรรจุสารีริกธาตุของท่าน พระอรหนั ตท์ ง้ั หลาย ดา้ นขวามอื เลยเขา้ ไปกค็ อื ทป่ี ระชมุ สงฆ์ หรอื ธรรมสภา (ภาพท่ี ๕) สถานท่ี นเ้ี องทเ่ี กดิ เรอ่ื งราวสำคญั มากมาย ครง้ั หนง่ึ มหี ญงิ งามชอ่ื นางจญิ จมานวกิ า บกุ มาถงึ ธรรมสภา แห่งนี้มากล่าวตู่พระพุทธเจ้า เป็นเหตุการณ์ที่พระพุทธองค์ทรงมีชัยชนะ ในการกล่าว ร้ายจากแผนการของพวกเดียรถีย์ และปรากฎในบทสวดที่เรียกว่า สวดพาหงุ ขอเชญิ อา่ นพระสตู ร .........
๖๒ วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย คาถาธรรมบท เลม่ ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ ๙. เรอ่ื งนางจญิ จมาณวกิ า [๑๔๕] ขอ้ ความเบอ้ื งตน้ พระศาสดาเมอ่ื ประทบั อยใู่ นพระเชตวนั ทรงปรารภนางจญิ จมาณวกิ า ตรสั พระธรรมเทศนานว้ี า่ “เอกธมมฺ มตตี สสฺ ๑“ เปน็ ตน้ . พวกเดยี รถยี ร์ ษิ ยาพระพทุ ธศาสนา ความพสิ ดารวา่ ในปฐมโพธกิ าล เมอ่ื สาวกของพระทศพลมมี ากหาประมาณมไิ ด.้ เมอ่ื พวกเทวดาและมนุษย์หยั่งลงสู่อริยภูมิ, เมื่อการเกิดขึ้นแห่งพระคุณของพระศาสดา แผ่ไปแล้ว. ลาภสักการะเป็นอันมากเกิดขึ้นแล้ว. พวกเดียรถีย์ เป็นผู้เช่นกับแสง หิ่งห้อยในเวลาดวงอาทติ ย์ขนึ้ เป็นผเู้ สอ่ื มลาภสกั การะ. พวกเดียรถีย์เหล่านัน้ ยนื ใน ระหวา่ งถนน แมป้ ระกาศใหพ้ วกมนษุ ยร์ แู้ จง้ อยอู่ ยา่ งนน้ั วา่ “พระสมณโคดมเทา่ นน้ั หรอื เป็นพระพุทธเจ้า. แม้พวกเราก็เป็นพระพุทธเจ้า; ทานที่เขาให้แล้วแก่พระสมณโคดม นั้นเท่านั้นหรือ มีผลมาก. ทานที่เขาให้แล้วแม้แก่เราทั้งหลายก็มีผลมากเหมือนกัน; ทา่ นทง้ั หลาย จงให้ จงทำ แกเ่ ราทง้ั หลายบา้ ง” ดงั นแ้ี ลว้ ไมไ่ ดล้ าภสกั การะแลว้ ประชมุ คิดกันในที่ลับว่า “พวกเรา พึงยังโทษให้เกิดขึ้นแก่พระสมณโคดม ในระหว่างมนุษย์ ทง้ั หลาย พงึ ยงั ลาภสกั การะใหฉ้ บิ หายโดยอบุ ายอะไรหนอแล ?” กาลนน้ั ในกรงุ สาวตั ถี มนี างปรพิ าชกิ าคนหนง่ึ ชอ่ื วา่ จญิ จมาณวกิ า เปน็ ผทู้ รงรปู อนั เลอโฉม ถงึ ความเลศิ ดว้ ย ความงาม เหมอื นนางเทพอปั สรฉะนน้ั ,รศั มยี อ่ มเปลง่ ออกจากสรรี ะของนางนน้ั . นางจญิ จมาณวกิ ารบั อาสาพวกเดยี รถยี ์ ลำดับนั้น เดียรถีย์ผู้มีความรู้เฉียบแหลมคนหนึ่ง กล่าวอย่างนั้นว่า “เรา ทง้ั หลายอาศยั นางจญิ จมาณวกิ า พงึ ยงั โทษใหเ้ กดิ ขน้ึ แกพ่ ระสมณโคดมยงั ลาภสกั การะ (ของเธอ) ให้ฉิบหายได้.” เดียรถีย์เหล่านั้น รับรองว่า “อุบายนี้มีอยู่.” ต่อมา นาง จญิ จมาณวกิ านน้ั ไปสอู่ ารามของเดยี รถยี ไ์ หวแ้ ลว้ ไดย้ นื อย.ู่ พวกเดยี รถยี ไ์ มพ่ ดู กบั นาง. นางจึงคิดว่า “เรามีโทษอะไรหนอแล ?” แม้พูดครั้งที่ ๓ ว่า “พระผู้เป็นเจ้าทั้งหลาย ดฉิ นั ไหว”้ ดงั นแ้ี ลว้ จงึ พดู วา่ “พระผเู้ ปน็ เจา้ ทง้ั หลาย ดฉิ นั มโี ทษอะไรหนอแล ? เพราะเหตุ อะไร ทา่ นทง้ั หลาย จงึ ไมพ่ ดู กบั ดฉิ นั ?”
วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา ๖๓ เดียรถีย์. น้องหญิง เจ้าย่อมไม่ทราบซึ่งพระสมณโคดม ผู้เบียดเบียนเรา ทง้ั หลายเทย่ี วทำ เราทง้ั หลายใหเ้ สอ่ื มลาภสกั การะหรอื ? นางจิญจมาณวิกา. ดิฉันยังไม่ทราบ เจ้าข้า. ก็ในเรื่องนี้ดิฉันควรทำ อยา่ งไรเลา่ ? เดียรถีย์. น้องหญิง ถ้าเจ้าปรารถนาความสุขแก่เราทั้งหลายไซร้,จงยังโทษ ใหเ้ กดิ ขน้ึ แก่ พระสมณโคดมแลว้ ยงั ลาภสกั การใหฉ้ บิ หายเพราะอาศยั ตน. นางกลา่ ววา่ “ดลี ะ พระผเู้ ปน็ เจา้ ทง้ั หลาย. ขอ้ นจ้ี งเปน็ ภาระของดฉิ นั เอง. ทา่ น ทง้ั หลาย อยา่ คดิ แลว้ ” ดงั นแ้ี ลว้ หลกี ไป หม่ ผา้ มสี ดี ุจแมลงคอ่ มทอง มขี องหอมและ ระเบยี บ ดอกไมเ้ ปน็ ตน้ ในมอื มงุ่ หนา้ ตรงพระเชตวนั ไปอยใู่ นสมยั เปน็ ทฟ่ี งั ธรรมกถา แหง่ ชน ชาวเมอื งสาวตั ถแี ลว้ ออกไปจากพระเชตวนั ตง้ั แตก่ าลนน้ั เพราะความทน่ี างเปน็ ผฉู้ ลาด ในมารยาทของหญงิ . เมอ่ื ผอู้ น่ื ถามวา่ “นางจะไปไหนในเวลาน้ี ?” จงึ กลา่ ววา่ “ประโยชน์ อะไรของทา่ นทง้ั หลายดว้ ยทท่ี เ่ี ราไป” พกั อยใู่ นวดั ของเดยี รถยี ใ์ นทใ่ี กลพ้ ระ- เชตวัน เมื่อคนผู้เป็นอุบาสกออกจากพระนครแต่เช้าตรู่ ด้วยหวังว่า “จักถวายบังคม พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ” (นาง) ทำทเี หมอื นอยใู่ นพระเชตวนั เขา้ ไปสพู่ ระนคร เมอ่ื คนผเู้ ปน็ อบุ าสก ถามวา่ “ทา่ นอยู่ ณ ทไ่ี หน ?” แลว้ จงึ กลา่ ววา่ “ประโยชนอ์ ะไรของทา่ นทง้ั หลาย ดว้ ย ทท่ี เ่ี ราอย”ู่ โดยกาลลว่ งไป ๑ - ๒ เดอื น เมอ่ื ถกู ถามจงึ กลา่ ววา่ “เราอยใู่ นพระคนั ธกฎุ ี เดยี วกนั กบั พระสมณโคดม ในพระเชตวนั ” ยงั ความสงสยั ใหเ้ กดิ ขน้ึ แกป่ ถุ ชุ นทง้ั หลายวา่ “ขอ้ นน้ั จรงิ หรอื ไมห่ นอ ?” โดยกาลลว่ งไป ๓ - ๔ เดอื น เอาทอ่ นผา้ พนั ทอ้ ง แสดงเพศของหญงิ มคี รรภ์ ใหเ้ หลา่ ชนอนั ธพาลถอื เอาวา่ “ครรภบ์ งั เกดิ ขน้ึ เพราะอาศยั พระสมณโคดม” โดยกาลลว่ งไป ๘ - ๙ เดอื น ผกู ไมก้ ลมไวท้ ท่ี อ้ งหม่ ผา้ ทบั ขา้ งบน ใหท้ บุ หลงั มอื และเทา้ ดว้ ยไมค้ างโค แสดงอาการบวมขน้ึ มอี นิ ทรยี บ์ อบชำ้ เมอ่ื พระตถาคตประทบั นง่ั แสดงธรรมบนธรรมาสนท์ ป่ี ระดบั แลว้ ในเวลาเยน็ , ไปสธู่ รรมสภา ยนื ตรงพระพกั ตรข์ อง
๖๔ วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา พระตถาคตแลว้ กลา่ ววา่ “มหาสมณะ พระองค์ (ดแี ต)่ แสดงธรรม แกม่ หาชนเทา่ นน้ั . เสยี งของพระองคไ์ พเราะ. พระโอษฐข์ องพระองคส์ นทิ ; สว่ นหมอ่ มฉนั อาศยั พระองคไ์ ด้ เกดิ มคี รรภค์ รบกำหนดแลว้ พระองคไ์ มท่ รงทราบเรอื นเปน็ ทค่ี ลอดของหมอ่ มฉนั , ไมท่ รง ทราบเครอ่ื งครรภบ์ รหิ ารมเี นยใสและนำ้ มนั เปน็ ตน้ , เมอ่ื ไมท่ รงทำเอง กไ็ มต่ รสั บอกพระ- เจา้ โกศล หรืออนาถบณิ ฑกิ ะ หรอื นางวสิ าขามหาอบุ าสกิ า คนใดคนหนึง่ แม้บรรดา อปุ ฏั ฐากทง้ั หลายวา่ ท่ า่ นจงทำกจิ ทค่ี วรทำแกน่ างจญิ จมาณวกิ าน,้ี พระองคท์ รงรแู้ ตจ่ ะ อภริ มยเ์ ทา่ นน้ั ไมท่ รงรคู้ รรภบ์ รหิ าร” เหมอื นพยายามจบั กอ้ นคถู ปามณฑลพระจนั ทรฉ์ ะนน้ั ดา่ พระตถาคตในทา่ ม กลางบรษิ ทั แลว้ . พระตถาคต ทรงงดธรรมกถาแลว้ เมอ่ื จะทรงบนั ลอื เยย่ี งอยา่ งสหี ะจงึ ตรสั วา่ “นอ้ งหญงิ ความทค่ี ำอนั เจา้ กลา่ วแลว้ จะจรงิ หรอื ไม่ เราและเจา้ เทา่ นน้ั ยอ่ มร.ู้ ” นางจญิ จมาณวกิ า. อยา่ งนน้ั มหาสมณะ ขอ้ นน้ั เกดิ แลว้ โดยความทท่ี า่ นและ หมอ่ มฉนั ทราบแลว้ . เทพบตุ รทำลายกลอบุ ายของนางจญิ จมาณวกิ า ขณะนั้น อาสนะของท้าวสักกะแสดงอาการร้อน. ทา้ วเธอทรงใคร่ครวญอยู่ กท็ ราบวา่ “นางจญิ จมาณวกิ า ยอ่ มดา่ พระตถาคตดว้ ยคำไมเ่ ปน็ จรงิ ” แลว้ ทรงดำรวิ า่ “เราจกั ชำระเรอ่ื งนใ้ี หห้ มดจด” จงึ เสดจ็ มากบั เทพบตุ ร ๔ องค.์ เทพบตุ รทง้ั หลายแปลง เปน็ ลกู หนกู ดั เชอื กทผ่ี กู ทอ่ นไมก้ ลม ดว้ ยอนั แทะทเี ดยี วเทา่ นน้ั . ลมพดั เวกิ ผา้ หม่ ขน้ึ . ไม-้ กลมพลดั ตกลงบนหลงั เทา้ ของนางจญิ จมาณวกิ านน้ั . ปลายเทา้ ทง้ั ๒ ขา้ งแตกแลว้ . มนษุ ยท์ ง้ั หลายพดู วา่ “แนะ่ นางกาลกรรณี เจา้ ดา่ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ” ถม่ เขฬะลงบน ศรี ษะ มมี อื ถอื กอ้ นดนิ และทอ่ นไม้ ฉดุ ลากออกจากพระเชตวนั . นางจญิ จมาณวกิ าถกู แผ่นดนิ สูบ ครน้ั ในเวลานางลว่ งคลองพระเนตรของพระตถาคตไป แผน่ ดินใหญแ่ ตก แยกช่องให้แล้ว. เปลวไฟตั้งขึ้นจากอเวจี. นางจิญจมาณวิกานั้นไปเกิดในอเวจี เปน็ เหมอื นหม่ ผา้ กมั พลทต่ี ระกลู ให.้ ลาภสกั การะของพวกเดยี รถยี เ์ สอ่ื มแลว้ (แตก่ ลบั ) เจรญิ แกพ่ ระทศพลโดยประมาณยง่ิ .........
วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา ๖๕ ด้วยบรรยากาศทร่ี ม่ รน่ื เยน็ สบาย หลงั จากทไ่ี ดน้ มสั การตน้ โพธพ์ิ ระอานนท์ มกี ารวางดอกไม้ ธปู เทยี นแลว้ หลาย ๆ คนกจ็ ดั เตรยี มนำ้ มารดนำ้ ดว้ ย จากนน้ั กห็ าทใ่ี ต้ รม่ ไมโ้ บราณเหลา่ น้ี เพอ่ื สนทนาธรรม ประวตั ติ น้ โพธพ์ิ ระอานนท์ เนอ่ื งจากทา่ นอนาถบณิ ฑกิ ะ มศี รทั ธาในพระศาสนามาก ไดส้ ละทรพั ย์ ๔๕ โกฏิ สรา้ งพระเชตวนั มหาวหิ าร และไดท้ ำบญุ อน่ื ๆ อกี เปน็ เงนิ จำนวนมากเหลอื คณนา ดงั นน้ั ทา่ นจงึ ไดร้ บั เกยี รตพิ เิ ศษจากพระเจา้ ปเสนทโิ กศล คอื ใหท้ า่ นเปน็ คนปลกู ตน้ โพธ์ิ ไวห้ นา้ พระเชตวนั มหาวหิ าร มชี อ่ื วา่ อานนั ทโพธิ มลู เหตใุ หม้ กี ารปลกู โพธต์ิ น้ น้ี มเี รอ่ื งเลา่ ไว้ในกาลิงคชาดก ท่านอนาถบิณฑิกได้เข้าไปหาท่านพระอานนท์ ในคราวที่ พระพทุ ธองคเ์ สดจ็ มาสพู่ ระเชตวนั มหาวหิ ารครง้ั หนง่ึ แลว้ เรยี นทา่ นวา่ ......... วหิ ารนเ้ี มอ่ื พระตถาคตเจา้ เสดจ็ จารกิ ไปโปรดสตั ว์ ณ ทอ่ี น่ื เสยี กไ็ มม่ รี อ่ งรอย อะไรเหลอื ไวเ้ ลย คนทง้ั หลายถอื ดอกไมข้ องหอมมากไ็ มม่ ที บ่ี ชู า ขอพระคณุ เจา้ ชว่ ยทลู ถามเรอ่ื งนแ้ี ดพ่ ระตถาคตเจา้ ดว้ ยวา่ หากจะสรา้ งปชู นยี สถานขน้ึ สกั แหง่ หนง่ึ จะไดห้ รอื ไม?่ ท่านพระอานนทร์ ับคำทา่ นเศรษฐี แล้วเขา้ เฝา้ พระพทุ ธองค์ทูลถามถึงพระ- เจดยี ว์ า่ มเี ทา่ ไร? พระพุทธองค์ตรัสว่า มี ๓ คือ สารีริกธาตุเจดีย์ ปาริโภคิกเจดีย์ และอุททิ- สกิ เจดยี ์ ท่านพระอานนท์จึงกราบทูลเรื่องที่ท่านอนาถบิณฑิกเรียนถวาย แล้วทูลขอ อนุญาตนำพืชโพธิ์จากต้นศรีมหาโพธิ์มาปลูกไว้ที่พระเชตวันมหาวิหาร เพื่อให้เป็น ปูชนียสถานแก่ประชาชนชาวนครสาวัตถีแทนพระองค์ในคราวที่เสด็จจาริกไปที่อื่น พระพทุ ธองคท์ รงอนญุ าตใหป้ ลกู ได้ ทา่ นพระอานนทจ์ งึ ไดแ้ จง้ เรอ่ื งนแ้ี ดพ่ ระเจา้ ปเสนท-ิ โกศล ทา่ นอนาถบณิ ฑกิ เศรษฐี และนางวสิ าขา มหาอบุ าสกิ า เปน็ ตน้ แลว้ ขอนมิ นตท์ า่ น
๖๖ วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา พระมหาโมคคลั ลานะ ใหเ้ หาะไปนำเมลด็ โพธจ์ิ ากตน้ ศรมี หาโพธ์ิณ ตำบลอรุ เุ วลาเสนา- นคิ มมา ซง่ึ ทา่ นพระมหาโมคคลั ลานะ กไ็ ดเ้ หาะไปนำมาไดส้ ำเรจ็ ในวนั นน้ั เอง ครน้ั นำมาแลว้ กป็ รกึ ษากนั วา่ จะใหใ้ ครเปน็ คนปลกู จงึ จะสมกบั ความสำคญั ของตน้ โพธน์ิ ้ี ทง้ั พระสงฆแ์ ละประชาชนไดต้ กลงกนั ถวายเกยี รตใิ หพ้ ระเจา้ ปเสนทโิ กศล ราชาแหง่ แควน้ โกศลเปน็ ผปู้ ลกู แตพ่ ระเจา้ ปเสนทโิ กศลทรงปฏเิ สธ และทรงแนะนำวา่ ควรจะให้เกียรตินี้แก่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นคนปลูก เพราะท่านเป็นคนสร้าง สถานที่นี้ แล้วทรงพระราชทานพืชโพธิ์ให้ท่านเศรษฐี ท่านเศรษฐีจึงได้เอาน้ำหอม ประพรมเมลด็ โพธแ์ิ ลว้ ปลกู ลงไว้ แลว้ ทำการฉลองเปน็ การใหญ่ และไดบ้ ชู าตน้ โพธด์ิ ว้ ย สกั การะมากมาย ตน้ โพธน์ิ ป้ี รากฏชอ่ื วา่ อานนั ทโพธิ เพราะทา่ นพระอานนทเ์ ปน็ ผใู้ ห้ ปลกู . อา่ นเพม่ิ เตมิ ไดท้ .่ี ........ พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ขทุ ทกนกิ าย ชาดก เลม่ ๓ ภาค ๖ ในปา่ ขา้ งวหิ ารเชตวนั นม้ี ฝี งู ลงิ อาศยั อยจู่ ำนวนมาก (ภาพท่ี ๖) และกม็ กั จะ มานั่งเล่นใกล้ ๆ วงสนทนาธรรมของพวกเราเสมอ ดูอาการคล้ายกับคนนั่งฟังธรรม เหมอื นกนั ไมท่ ราบวา่ จะเลยี นแบบคนหรอื เปลา่ ถา้ ลงิ จะเลยี นแบบคนกค็ งไมเ่ ปน็ ไร แต่ คนอยา่ ไปเลยี นแบบลงิ กแ็ ลว้ กนั (ภาพท่ี ๗) ถา้ ไปเปน็ ลงิ ทง้ิ ถว่ั กจ็ ะเสยี ของดี ๆ ไปหมด ถา้ เปน็ ลงิ ตดิ ตงั ยง่ิ ดน้ิ กย็ ง่ิ ตดิ เหมอื นกเิ ลสนน่ั แหละในทส่ี ดุ กต็ อ้ งมว้ ยมรณเ์ พราะแพ้ กเิ ลส การสนทนาธรรมกจ็ ะดำเนนิ ไปจนคำ่ มดื พวกเราจะไดเ้ วยี นเทยี นทกั ษณิ าวตั ร รอบพระคนั ธกฎุ ี ๓ รอบแลว้ เปน็ อนั จบการเดนิ ทางวนั ท่ี ๕ จงึ กลบั ไป เตรยี มตวั เดนิ ทาง ตอ่ ไปยงั ลมุ พนิ ี ซง่ึ ตอ้ งขา้ มเขตชายแดนเขา้ ไปยงั ประเทศเนปาลในวนั พรงุ่ น้ี ทง้ั เครยี ด ทง้ั ขำ เปน็ ธรรมะ อนโุ มทนา
วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา ๖๗ บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๕ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.
๖๘ วหิ ารเชตวนั พระพทุ ธองคป์ ระทบั ๒๕ พรรษา บันทึกธรรม
๖๙ ๙ ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ ลุมพินีวัน ปัจจุบันมีเนื้อที่ประมาณ ๒,๐๐๐ ไร่ อยู่ในเขตประเทศเนปาล ตดิ ชายแดนประเทศอนิ เดยี ทางเหนอื เมอื งโครกั ปรู ์ ทางการเรยี กสถานทน่ี ว้ี า่ รมุ มนิ เด มีสภาพเป็นชนบท มีผู้อาศัยอยู่ไม่มาก มีสิ่งปลูกสร้างเป็นพุทธสถานเพียงเล็กน้อย แตม่ วี ดั พทุ ธอยใู่ นบรเิ วณนห้ี ลายวดั ๒ ๑ ๓ ๕ ๖ ๔ ระยะทางทเ่ี ราจะเดนิ ทางวนั น้ี ประมาณ ๑๖๐ กม. ถา้ เปน็ ในเมอื งไทยเราอาจ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ แต่สำหรับเช้าวันนี้ที่เราจะมุ่งหน้าสู่ลุมพินีก็คงต้องใช้ เวลาทั้งวัน เนื่องจากต้องใช้เส้นทางตามชนบท เลียบชายแดนเนปาลไปทางทิศ ตะวนั ออก ไปขา้ มพรมแดนทเ่ี รยี กวา่ Sonauli อาจตอ้ งเสยี เวลาทด่ี า่ นพอสมควร เมอ่ื ขา้ มพรมแดนเขา้ ไปเนปาล เราจะพกั ทเ่ี มอื งชอ่ื Bhairawa หรอื มชี อ่ื ใหมอ่ กี ชอ่ื หนง่ึ วา่ สทิ ธตั ถะนคร เปน็ เมอื งเลก็ ๆ ประชากรประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน ถา้ เราดจู ากแผนทท่ี างอากาศ จะเหน็ ไดช้ ดั วา่ บรเิ วณทเ่ี ปน็ แวน่ แควน้ ของเจา้ ศากยะ เปน็ ทร่ี าบเชงิ เขาหมิ าลยั ทง้ั หมด จากเมอื งไพราวา ไปประมาณ ๒๐ กม. กเ็ ปน็
๗๐ ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ ๗๙ ๘ ๑๐ ๑๒ ๑๑ เมอื งภทู วาล นน่ั กเ็ ปน็ เชงิ เขาหมิ าลยั แลว้ และมเี สน้ ทางท่ี เรยี กวา่ สทิ ธารถะไฮเวย์ ลดั เลาะตามยอดเขาหมิ าลยั ไป จนถงึ เมอื ง Pokra อนั มชี อ่ื เสยี งของเนปาล เมอ่ื ปี ๒๕๔๒ ๑๓ คณะของพวกเราได้ใช้เส้นทางนี้ บุกบั่นไปชมเทือกเขา Anapurana ทจ่ี ดั วา่ สวยทส่ี ดุ ในโลกมาแลว้ และเดนิ ทาง ต่อโดยรถยนต์ไปจนถึงกรุง Katmandu เมืองหลวงของประเทศเนปาล แล้วกลับ กรงุ เทพ ฯ ทางเครอ่ื งบนิ ถา้ ดหู ลกั ฐานจาก Wikipedia และ Google Earth จะพบวา่ กรงุ กบลิ พสั ด์ุ Kapilavastu เมอื งของพระเจา้ สทุ โธทนะ พระบดิ าของเจา้ ชายสทิ ธตั ถะ ตง้ั อยบู่ นฝง่ั แมน่ ำ้ สายหนง่ึ ใกลเ้ มอื ง Taulihawa ตดิ เชงิ เขาหมิ าลยั ทเี ดยี ว (ภาพท่ี ๑) ใตล้ งมาประมาณ ๖ กม. เปน็ สถปู นโิ ครธาราม (ภาพท่ี ๒) สถานท่ี ๆ พระพทุ ธ- องคเ์ สดจ็ มาเทศนใ์ นพรรษาแรกหลงั ตรสั รปู้ รากฎเปน็ หลกั ฐานอยู่ หากขดี เสน้ ตรงใน แผนทไ่ี ปทาง ทศิ ตะวนั ออก ระยะประมาณ ๖๐ กม. จะมหี ลกั ฐาน เปน็ Mound ของเมอื ง เทวะทะหะ Devadaha เมอื งของพระบดิ าของพระนางสริ มิ หามายา พระมารดาของ
ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ ๗๑ พระโพธสิ ตั ว์ ปรากฎอยรู่ มิ แมน่ ำ้ อกี สายหนง่ึ ระหวา่ งเสน้ ทางนก้ี ค็ อื ลมุ พนิ วี นั ตง้ั อยหู่ า่ ง จากกรงุ กบลิ พสั ดป์ุ ระมาน ๒๕ กม. สถานทแ่ี หง่ นค้ี อื จดุ หมายของพวกเรา เปน็ สถานท่ี ทพ่ี ระโพธสิ ตั วอ์ บุ ตั มิ าบนโลกมนษุ ย.์ .....ขอเชญิ อา่ นพระสตู รเรอ่ื งน้ี พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค มหาทปานสตู ร เลม่ ๒ ภาค ๑ ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ธรรมดามอี ยดู่ งั น้ี ๑. เมอ่ื ใด พระโพธสิ ตั วจ์ ตุ จิ ากชน้ั ดสุ ติ เสดจ็ ลงสคู่ รรภข์ องพระมารดาเมอ่ื นน้ั ในโลกพรอ้ มทง้ั เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมสู่ ตั วพ์ รอ้ มทง้ั สมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ ทั้งหมื่นโลกธาตุนี้ ย่อมหวั่นไหวสะเทือนสะท้าน แสงสว่างอันยิ่งไม่มี ประมาณ ยอ่ มปรากฎในโลกลว่ งเทวานภุ าพของเทวดาทง้ั หลาย ๒. ชอ่ งวา่ งซง่ึ อยใู่ นทส่ี ดุ โลก อนั มไิ ดถ้ กู อะไรปกปดิ ไว้ ทม่ี ดื มดิ กด็ ี สถานทท่ี ่ี พระจนั ทรแ์ ละพระอาทติ ยเ์ หลา่ นซ้ี ง่ึ มฤี ทธม์ิ าก มอี านภุ าพมากเหน็ ปานน้ี สง่ แสงไป ไมถ่ ึงกด็ ี ในที่ทัง้ สองแหง่ นน้ั และหม่นื โลกธาตนุ ย้ี ่อมหว่ันไหวสะเทือนสะท้าน ทั้ง แสงสวา่ งอนั ยง่ิ ไมม่ ปี ระมาณ ยอ่ มปรากฎในโลก ลว่ งเทวานภุ าพของเทวดาทง้ั หลาย ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๓. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ลงสคู่ รรภข์ องพระมารดา เทวบตุ ร ๔ องค์ ย่อมเข้าไปรักษาทิศทั้ง ๔ โดยตั้งใจว่า ใคร ๆ คือ มนุษย์หรืออมนุษย์ก็ตาม อย่า เบยี ดเบยี นพระโพธสิ ตั ว์ หรอื มารดาของพระโพธสิ ตั วน์ น้ั ได้ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๔. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ลงสพู่ ระครรภข์ องพระมารดา พระมารดาของ พระโพธสิ ตั วโ์ ดยปกตผิ ทู้ รงศลี งดเวน้ จากการฆา่ สตั ว์ งดเวน้ จากการลกั ทรพั ย์ งดเวน้ จากการประพฤตผิ ดิ ในกาม งดเวน้ จากการกลา่ วเทจ็ งดเวน้ จากการดม่ื นำ้ เมา คอื สรุ าและเมรยั อนั เปน็ ทต่ี ง้ั แหง่ ความประมาท ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๕. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ลงสพู่ ระครรภข์ องพระมารดา พระมารดาของ พระโพธสิ ตั ว์ ยอ่ มไมเ่ กดิ มานสั ซง่ี เกย่ี วดว้ ยกามคณุ ในบรุ ษุ ทง้ั หลาย พระมารดาของ
๗๒ ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ พระโพธสิ ตั ว์ ยอ่ มเปน็ หญงิ ทบ่ี รุ ษุ ใด ๆ ซง่ึ มจี ติ กำหนดั แลว้ จะลว่ งเกนิ ไมไ่ ด้ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๖. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ลงสพู่ ระครรภข์ องพระมารดา พระมารดาของ พระโพธสิ ตั วย์ อ่ มไดก้ ามคณุ ๕ พระนางเพยี บพรอ้ มพรง่ั พรอ้ มดว้ ยกามคณุ ๕ ไดร้ บั บำเรออยู่ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๗. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ลงสพู่ ระครรภข์ องพระมารดา อาพาธใด ๆ ยอ่ มไมเ่ กดิ แกพ่ ระมารดาของพระโพธสิ ตั วเ์ ลย พระมารดาของพระโพธสิ ตั วย์ อ่ มทรง สำราญ ไมท่ รงลำบากพระกาย และพระมารดาของพระโพธสิ ตั วท์ อดพระเนตรเหน็ พระโพธสิ ตั วซ์ ง่ึ เสดจ็ อยภู่ ายในพระครรภ์ มอี วยั วะครบถว้ น มอี นิ ทรยี ไ์ มบ่ กพรอ่ ง ขอ้ น้ี เปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๘. ในเมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติแล้วได้ ๗ วัน พระมารดาของ พระโพธสิ ตั วย์ อ่ มทวิ งคต เสดจ็ เขา้ ถงึ ชน้ั ดสุ ติ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๙. หญงิ อน่ื ๆ บรหิ ารครรภ์ ๙ เดอื นบา้ ง ๑๐ เดอื นบา้ ง จงึ คลอด พระ- มารดาของพระโพธสิ ตั วห์ าเหมอื นอยา่ งนน้ั ไม่ ทรงบรหิ ารพระโพธสิ ตั วด์ ว้ ยพระครรภ์ ครบ ๑๐ เดอื นบรบิ รู ณจ์ งึ ประสตู ิ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๑๐. พระมารดาของพระโพธสิ ตั ว์ ยอ่ มไมป่ ระสตู เิ หมอื นหญงิ อน่ื ๆ ซง่ึ นง่ั หรอื นอนคลอด ส่วนพระมารดาของพระโพธิสัตว์ทรงประทับยืนประสูติพระโพธิสัตว์ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๑๑. แมพ้ ระนางมหามายาเทวี ทรงบรหิ ารพระโพธสิ ตั วด์ ว้ ยพระครรภ์ ๑๐ เดอื นแลว้ มพี ระครรภบ์ รบิ รู ณ์ มพี ระประสงคจ์ ะเสดจ็ ไปเรอื นพระญาติ จงึ กราบทลู พระเจ้าสุทโธทนมหาราชว่า “ข้าแต่พระทูลกระหม่อม หม่อมฉันปรารถนาจะไปยัง เทวทหนคร เพคะ” ๑๒. พระราชาทรงอนญุ าตแลว้ โปรดใหป้ ราบทางจากกรงุ กบลิ พสั ด์ุ จนถงึ เทวทหนครใหร้ าบเรยี บ ใหป้ ระดบั ดว้ ยตน้ กลว้ ย หมอ้ เตม็ ดว้ ยนำ้ ธงชาย และ ธงแผน่ -
ลุมพนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ ๗๓ ผา้ เปน็ ตน้ ใหป้ ระทบั นง่ั ในวอทอง ใหอ้ ำมาตยพ์ นั คนหามไป ทรงสง่ ไปพรอ้ มดว้ ย บรวิ ารเปน็ อนั มาก ระหวา่ งพระนครทง้ั สอง มมี งคลสาลวนั ชอ่ื ลมุ พนิ วี นั ทค่ี วรใชส้ อย ของชาวนครทง้ั สอง ๑๓. มงคลสาลวนั ในสมยั นน้ั ออกดอกบานสะพรง่ั ไปหมด ตง้ั แตโ่ คนจนถงึ ยอด เพราะทรงเหน็ วนะงาม เสมอื นสวนจติ ลดาวนั อนั เปน็ ทส่ี ำเรงิ สำราญแหง่ เทพ ซง่ึ หมแู่ มลงผง้ึ อนั ผง้ึ อน่ื ๆ เลย้ี งดู ผเู้ พลนิ ในรสหวานทท่ี ำความยนิ ดอี ยา่ งยง่ิ อนั นา่ รน่ื รมย์ ยนิ ดดี ว้ ยความเมา มรี วงรงั อนั เสพแลว้ รำ่ รอ้ งกระหม่ึ อยตู่ ามระหวา่ งกง่ิ และระหวา่ ง ดอกทง้ั หลาย พระเทวไี ดเ้ กดิ มพี ระประสงคจ์ ะลงเลน่ ในสวนสาลวนั ๑๔. เหลา่ อำมาตย์ พาพระราชเทวเี ขา้ ไปยงั ลมุ พนิ วี นั พระนางเสดจ็ ไปยงั โคนตน้ มงคลสาละ มพี ระประสงคจ์ ะจบั กง่ิ ใดของมงคลสาละนน้ั ซง่ึ มลี ำตน้ ตรงเรยี บ และกลม ประดบั ดว้ ยดอก ผลแลใบออ่ น กง่ิ มงคลสาละนน้ั ไมม่ แี รง รวนเรเหมอื นใจคน กน็ อ้ มลงมาเองถงึ ฝา่ ประหตั ถข์ องพระนาง ๑๕. ลำดบั นน้ั พระนางกท็ รงจบั กง่ิ สาละนน้ั ดว้ ยพระกรขา้ งขวาอนั งามดว้ ย กำไลพระกรทองใหม่ มพี ระองคลุ กี ลมกลงึ ดงั กลบี บวั อนั รงุ่ เรอื งดว้ ยพระนขานนู มสี แี ดง พระนางประทบั ยนื จบั กง่ิ สาละนน้ั เปน็ พระราชเทวงี ดงาม เหมอื นจนั ทรเลขาออ่ น ๆ ทลี อดหลบื เมฆสเี ขยี วคราม เหมอื นแสงเปลวไฟซง่ึ ตง้ั อยไู่ ดไ้ มน่ าน และเหมอื นเทวที เ่ี กดิ ในสวนนนั ทวนั ๑๖. ในทนั ใดนน้ั เอง ลมของพระนางกเ็ กดิ ปน่ั ปว่ น ขณะนน้ั ชนเปน็ อนั มาก กก็ น้ั ผา้ มา่ นเปน็ กำแพงแลว้ หลกี ไป พระนางเมอ่ื ประทบั ยนื จบั กง่ิ สาละอยนู่ น้ั เอง พระ- โพธสิ ตั วก์ ป็ ระสตู จิ ากพระครรภข์ องพระนางนน้ั ๑๗. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย ธรรมดามอี ยดู่ งั น้ี ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ออก จากพระครรภ์ของพระมารดา พวกเทวดารับก่อน พวกมนุษย์รับทีหลัง ข้อนี้เป็น ธรรมดาใน เรอ่ื งน้ี
๗๔ ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ ๑๘. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ประสตู จิ ากพระครรภพ์ ระมารดา และยงั ไมท่ นั ถงึ แผน่ ดนิ เทวบตุ ร ๔ องคป์ ระคองรบั พระโพธสิ ตั วน์ น้ั วางไวเ้ บอ้ี งหนา้ พระ- มารดา กราบทลู วา่ “ขอจงมพี ระทยั ยนิ ดเี ถดิ พระเทวี พระโอรส ของพระองค์ ผเู้ กดิ แลว้ มศี กั ดใ์ิ หญ”่ ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๑๙. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ประสตู จิ ากพระครรภข์ องพระมารดา เสดจ็ ประสตู อิ ยา่ งงา่ ยดายทเี ดยี ว ไมเ่ ปรอะเปอ้ื นดว้ ยนำ้ ไมเ่ ปรอะเปอ้ื นดว้ ยเสมหะ ไม่ เปรอะเปื้อนด้วยโลหิต ไม่เปรอะเปื้อนด้วยของไม่สะอาดอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นผู้ บรสิ ทุ ธผ์ิ ดุ ผอ่ ง ๒๐. ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย แกว้ มณอี นั บคุ คลวางไวใ้ นผา้ กาสกิ พสั ตร์ แกว้ มณี ย่อมไม่ทำผ้ากาสิกพัสตร์ให้เปรอะเปื้อนเลย ถึงแม้ผ้ากาสิกพัสตร์ก็ไม่ทำแก้วมณีให้ เปรอะเปอ้ื น ขอ้ นน้ั เพราะเหตไุ ร เพราะสง่ิ ทง้ั สองเปน็ ของบรสิ ทุ ธ์ิ แมฉ้ นั ใด ฉนั นน้ั เหมอื นกนั แล ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๒๑. ในเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ประสตู จิ ากพระครรภข์ องพระมารดา ธารนำ้ ยอ่ มปรากฎจากอากาศสองธาร เยน็ ธารหนง่ึ รอ้ นธารหนง่ึ สำหรบั สนานพระโพธสิ ตั ว์ และพระมารดา ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๒๒. พระโพธสิ ตั วผ์ ปู้ ระสตู แิ ลว้ ไดค้ รหู่ นง่ึ ประทบั ยนื ดว้ ยพระบาททง้ั สองอนั สมำ่ เสมอ ผนิ พระพกั ตรท์ างดา้ นทศิ อดุ ร เสดจ็ ดำเนนิ ไปไดเ้ จด็ กา้ ว และเมอ่ื ทวยเทพ กน้ั เศวตฉตั รตามเสดจ็ อยู่ ทรงเหลยี วแลดทู ว่ั ทกุ ทศิ ทรงเปลง่ วาจาวา่ “เราเปน็ ยอดใน- โลก เราเปน็ ใหญแ่ หง่ โลก เราเปน็ ผปู้ ระเสรฐิ แหง่ โลก ความเกดิ ของเรานเ้ี ปน็ ครง้ั ทส่ี ดุ บดั นค้ี วามเกดิ อกี มไิ ดม้ ”ี ดงั นข้ี อ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาในเรอ่ื งน้ี ๒๓. เมอ่ื ใด พระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ ประสตู จิ ากพระครรภข์ องพระมารดา เมอ่ื นน้ั ในโลกพรอ้ มทง้ั เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมสู่ ตั วพ์ รอ้ มทง้ั สมณพราหมณ์ เทวดา และมนุษย์ แสงสว่างอันยิ่งไม่มีประมาณย่อมปรากฎล่วงเทวานุภาพของเทวดา ทง้ั หลาย ชอ่ งวา่ งซง่ึ อยทู่ ส่ี ดุ โลกมไิ ดถ้ กู อะไรปกปดิ ทม่ี ดื มดิ กด็ ี สถานทท่ี พ่ี ระจนั ทรแ์ ละ พระอาทติ ยเ์ หลา่ นซ้ี ง่ึ มฤี ทธม์ิ าก มอี านภุ าพมากเหน็ ปานนส้ี อ่ งแสงไปไม่ ถงึ กด็ ี ในท่ี
ลมุ พนิ วี นั สถานท่ปี ระสตู ิ ๗๕ ทง้ั สองแหง่ นน้ั แสงสวา่ งอนั ยง่ิ ไมม่ ปี ระมาณ ยอ่ มปรากฎในโลกลว่ งเทวานภุ าพของ เทวดาทง้ั หลาย และหมน่ื โลกธาตนุ ้ี ยอ่ มหวน่ั ไหวสะเทอื นสะทา้ น ขอ้ นเ้ี ปน็ ธรรมดาใน เรอ่ื งน้ี ๒๔. ในสมยั ใด พระโพธสิ ตั วส์ มภพ ณ.ลมุ พนิ วี นั พระเทวพี ระราชมารดา พระราหุล พระอานนท์ นายฉันนะ กาฬุทายีอำมาตย์ พระยาม้ากัณฐกะ ตน้ มหาโพธพิ ฤกษ์ และ หมอ้ ขมุ ทรพั ย์ ๔ กบ็ งั เกดิ ขน้ึ พรอ้ มกนั ในสมยั นน้ั ๒๕. บรรดาขมุ ทรพั ยท์ ง้ั ๔ นน้ั ขมุ ทรพั ยม์ ปี ระมาณ ๑ คาวตุ ขมุ ทรพั ยห์ นง่ึ ขนาดกง่ึ โยชน์ ขมุ ทรพั ยห์ นง่ึ ขนาด ๓ คาวตุ ขมุ ทรพั ยห์ นง่ึ ขนาด ๑ โยชน์ เหลา่ น้ี ชอ่ื วา่ สหชาตทิ ง้ั ๗ ลุมพินีวัน เดิมเป็นสวนป่าสาธารณะหรือวโนทยานที่ร่มรื่นเหมาะแก่การ พกั ผอ่ น ตง้ั อยกู่ ง่ึ กลางระหวา่ งเมอื ง กบลิ พสั ด์ุ กบั เมอื งเทวทหะ ในแควน้ สกั กะบนฝง่ั แมน่ ำ้ โหรณิ หี ลงั จากพระพทุ ธเจา้ ปรนิ พิ านแลว้ พระเจา้ อโศกมหาราช ไดโ้ ปรดใหส้ รา้ ง เสาหนิ ขนาดใหญม่ าปกั ไวต้ รงบรเิ วณทป่ี ระสตู ิ เรยี กวา่ เสาอโศก ทจ่ี ารกึ ขอ้ ความเปน็ อกั ษรพราหมวี า่ พระพทุ ธเจา้ ประสตู ทิ ต่ี รงน้ี บรเิ วณจดุ ทเ่ี ปน็ สงั เวชนยี สถาน ไดม้ กี ารบรู ณะโดยทางการเนปาล มกี ารขดุ - ค้น (ภาพที่ ๓) พบร่องรอยหินแกะสลักอันมีค่ามากมายและได้มีการสร้างโครงสร้าง เหลก็ ครอบ สถานทศ่ี กั ดส์ิ ทิ ธเ์ิ อาไว้ (ภาพท่ี ๔ - ๕) สว่ นบนของโครงสรา้ งทำเปน็ สถปู แบบมหายาน (ภาพท่ี ๖) เพอ่ื จะประดษิ ฐานรปู แกะสลกั พระนางมายาเทวกี บั เจา้ ชาย สทิ ธตั ถะขณะกำลงั ทรงประสตู ิ (ภาพท่ี ๗) มหี นงั สอื บางเลม่ รายงานการตรวจพสิ จู น์ หินแกะสลัก และร่องรอยพระพุทธบาทที่ล้อมเป็นห้อง กระจกไว้ด้านใต้สถูป มีอายุ เทา่ กบั ชว่ งเวลาทพ่ี ระโพธสิ ตั วเ์ สดจ็ มาประสตู ิ และการแกะสลกั หนิ รปู พระเทวนี น้ั กม็ ี รอ่ งรอยการตดั หนิ ทเ่ี รยี บคม ไมเ่ หมอื นการตดั ดว้ ยการแกะสลกั สมยั เกา่ แตม่ ลี กั ษณะ เหมอื นถกู ตดั ดว้ ยพลงั อะไรบางอยา่ งทเ่ี รยี บคมเปน็ พเิ ศษ ยงั ไมส่ ามารถพสิ จู นไ์ ด้ “พระเจา้ อยหู่ วั ปยิ ทสั สี ผเู้ ปน็ ทร่ี กั แหง่ ทวยเทพ เมอ่ื อภเิ ษกได้ ๒๐ พรรษา ไดเ้ สดจ็ มาและทรงกระทำการบชู า เพราะวา่ พระพทุ ธศากยะมณุ ไี ดป้ ระสตู ิ ณ ทน่ี ไ้ี ด้ โปรดใหส้ รา้ งรว้ั ศลิ า และประดษิ ฐานเสาศลิ าจารกึ ขน้ึ ไว”้ (ภาพท่ี ๘)
๗๖ ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ บนเสาอโศกยังมีร่องรอยเหมือนภาษาจีนแกะสลักลงไปอีก (ภาพที่ ๙) มี ขอ้ ความบนั ทกึ ในคมั ภรี ข์ องหลวงจนี ฟาเหยี น ทม่ี าจารกิ และเรยี นพระธรรมในอนิ เดยี วา่ ไดพ้ บเสาอโศก ทม่ี รี อยแตกผา่ กลางอยบู่ รเิ วณน้ี และใกล้ ๆ กนั กค็ อื สระนำ้ ทพ่ี ระเทวที รง สรงน้ำหลังจาก พระโพธิสัตว์ทรงประสูติ (ภาพที่ ๑๐) เสาอโศกต้นที่ว่านี้ได้รับการ บรู ณะซอ่ มแซมตง้ั ขน้ึ ใหม่ ยงั เหน็ รอยแตกผา่ กลางไดอ้ ยา่ งชดั เจน (ภาพท่ี ๑๑) สว่ น สระนำ้ นน้ั กม็ ตี น้ โพธโ์ิ บราณอนั รม่ รน่ื ขน้ึ อยู่ เปน็ สถานทเ่ี หมาะยง่ิ นกั ทพ่ี วกเราใชเ้ ปน็ ท่ี สนทนาธรรม เสร็จจากการสักการะสังเวชนียสถานถ้ามีโอกาสก็เดินดูชีวิตความเป็นอยู่ ของชาวเนปาลนดิ หนอ่ ยนะครบั สงั เกตดุ ชู าวเนปาลกไ็ มค่ อ่ ยกนิ เนอ้ื สตั วก์ นั สว่ นมาก เปน็ ผกั และเผอื กมนั (ภาพท่ี ๑๒) การแตง่ กายสตรชี าวเนปาลไมไ่ ดห้ ม่ สา่ หรเี หมอื นชาว อนิ เดยี แตจ่ ะเปน็ กระโปรงยาวดสู วยดเี หมอื นกนั (ภาพท่ี ๑๓) สำหรบั การพกั โรงแรม ขอแอบบอกลว่ งหนา้ นะ ครบั วา่ มี ๒ ท่ี ทเ่ี ปน็ เจา้ ประจำ สำหรบั ทา่ นทโ่ี ชคชะตายงั ดี ไมม่ พี ระศกุ รเ์ ขา้ พระเสารแ์ ทรก ทา่ นกจ็ ะไดพ้ กั ทโ่ี รงแรมนวิ ารนะ เกา่ หนอ่ ยแตก่ น็ บั วา่ ยงั มคี วามเมตตากบั แขก ผพู้ กั ไมถ่ งึ กบั ทารณุ โหดเหย้ี มจนเกนิ ไป นอนหลบั ได้ ให้ ๓ ดาว สำหรบั ทา่ นทด่ี วงกำลงั ตก โชคชะตาไมเ่ ขา้ ขา้ ง ทา่ นจะตอ้ งถกู สง่ ไปฝกึ ความ อดทนทโ่ี รงแรมพาวนั ทน่ี ท่ี า่ นกจ็ ะไดร้ บั อสิ ระภาพอยา่ งเตม็ ท่ี อยากจะทำอะไรไมม่ ใี คร สนใจทา่ น ไมเ่ คยมใี ครมายงุ่ ทห่ี อ้ งของทา่ น เจา้ ของโรงแรมคงขาดเมตตาและเกลยี ดชงั แขกผู้พักอาศัยมาแต่ชาติปางก่อน ห้องจึงเต็มไปด้วยขี้ฝุ่นสะสมไว้นาน กลิ่นรบกวน ฆานปสาทะท่านอย่างหนัก ตามทางเดินก็มีรังผึ้งมาเกาะอยู่เป็นธรรมชาติล้วน ๆ กลางคนื ระวงั ใหด้ ที า่ นทต่ี อ้ งชารจ์ แบตเตอรก่ี ลอ้ ง กระแสไฟฟา้ อาจตดิ ๆ ดบั ๆ และมกี าร กระชาก มคี นทำแบตกลอ้ งพงั มาแลว้ เรอ่ื งแอรล์ มื ไปไดเ้ ลย เปดิ โอกาสใหร้ บั ลมเยน็ จาก เทอื กเขาหมิ าลยั อยา่ งเตม็ ท่ี ถอื เปน็ การฝกึ ขนั ติ บวกกบั การรบั อกศุ ลวบิ าก อยา่ ไปโทษ ใครเดด็ ขาด พวกเราคงไมไ่ ดอ้ ยทู่ น่ี ห่ี ลายวนั หรอก โรงแรมนร้ี บั ไปเลย ๑ ดาว เครยี ด ๆ ขำ ๆ กเ็ ปน็ ธรรมะนะครบั อนโุ มทนา
ลมุ พนิ วี นั สถานท่ปี ระสตู ิ ๗๗ บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๖ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.
๗๘ ลมุ พนิ วี นั สถานทป่ี ระสตู ิ บันทึกธรรม
๗๙ ๑๐ กสุ นิ ารา มหาปรนิ พิ พาน วนั นเ้ี ปน็ การเดนิ ทางวนั ท่ี ๗ แลว้ นะครบั เปน็ วนั เสาร์ ทก่ี รงุ เทพ แมจ้ ะเปน็ วนั หยดุ ราชการกต็ าม รถรากค็ งยงั ตดิ เหมอื นเดมิ นกั เรยี นยงั คงตอ้ งไปแยง่ กนั เรยี นพเิ ศษ ตามรอบ ๆ ศนู ยก์ ารคา้ พอ่ แมก่ ย็ งั ตอ้ งเสยี คา่ เรยี นพเิ ศษกนั มากมายอยา่ งทท่ี ราบกนั ดี อยแู่ ลว้ มองไปทางไหนกม็ แี ตค่ นเดนิ พดู โทรศพั ทม์ อื ถอื ไมว่ า่ จะเปน็ เดก็ ประถม มธั ยม หรือมหาวิทยาลัย หันกลับมามองดินแดนพุทธภูมินี่ หลังจากที่พวกเราได้นมัสการ สังเวชนียสถาน แห่งแรกที่ลุมพินีแล้ว ทุกคนก็คงมีความรู้สึกปิติที่ไดเจริญกุศลที่หา โอกาสไดย้ าก เปน็ บญุ ของพวกเราจรงิ ๆ ครบั ท่ไี ดม้ โี อกาสไดฟ้ งั พระธรรม และเพ่มิ ความ เหน็ ถกู ความเขา้ ใจถกู ชวี ติ คนเรามไิ ดย้ นื ยาวสกั เทา่ ไหรย่ งั เปน็ เดก็ เมอ่ื ไมน่ านมาน้ี ตอนน้ี กอ็ ยา่ งนอ้ ยอายุ ๕๐ - ๖๐ ปี กนั เกอื บหมดแลว้ เหน็ ไหมครบั หากมวั ยดึ ถอื ตดิ ขอ้ ง กอบ- โกย คดิ แตเ่ รอ่ื งของตนไมส่ ามารถละคลายอกศุ ลลงไดบ้ า้ ง กจ็ ะสะสมความตดิ ขอ้ งใน กเิ ลสตอ่ ไป หากสามารถเขา้ ใจธรรมะวา่ เปน็ ธรรมะ มคี วามเหน็ ถกู วา่ เปน็ รปู ธรรม นาม ธรรม ไมใ่ ชส่ ตั ว์ บคุ คล ตวั ตน ยง่ิ เขา้ ใจธรรมะมากขน้ึ ความละคลายจากอกศุ ลธรรมก็ จะคอ่ ย ๆ เปน็ ไป เดนิ ทางในอนิ เดยี ตามชนบทสำหรบั ผเู้ ขยี นแลว้ รสู้ กึ ชอบเปน็ พเิ ศษ ถงึ แมจ้ ะไป ไดช้ า้ กไ็ มเ่ ปน็ ไรเพราะเรากไ็ ดเ้ ตรยี มเวลามาถงึ ๒ สปั ดาห์ พอจะมเี วลาคอ่ ย ๆ ไป ถนน ตามชนบทจะเลก็ ๆ พอรถวง่ิ สวนกนั ไดต้ ามในภาพ สองขา้ งทางเปน็ ทงุ่ นาบา้ ง ไรถ่ ว่ั ไรอ่ อ้ ยบา้ ง (ภาพท่ี ๑) มตี น้ ไมใ้ หญ่ ๆ เปน็ ระยะ ๆ (ภาพท่ี ๒) แตไ่ มม่ เี สาไฟฟา้ เลย รถ- สว่ นตวั และมอเตอรไ์ ซคก์ ไ็ มค่ อ่ ยมใี หเ้ หน็ แสดงวา่ ชาวชนบทยงั มวี ถิ ชี วี ติ อยอู่ ยา่ งชนบท เดมิ ๆ จรงิ ๆ ถนนจะตดั ผา่ นหมบู่ า้ นหรอื เมอื งเปน็ ระยะ กจ็ ะเหน็ ภาพชวี ติ สองขา้ งถนน ที่ชาวบ้านยึดเอาถนนเป็นที่ค้าขายจนเหลือที่ให้รถวิ่งเพียงแคบ ๆ รู้สึกว่าบ้านช่อง ตามทถ่ี นนตดั ผา่ นคงจะมมี านานนบั เปน็ พนั ปี ซง่ึ ในสมยั โบราณ กจ็ ะมเี พยี งรถมา้ หรอื ววั ควาย เทา่ นน้ั (ภาพท่ี ๓)
๘๐ กสุ นิ ารา มหาปรนิ ิพพาน เราตอ้ งเดนิ ทางลงใตม้ งุ่ สเู่ มอื ง โครกั ขปรู ์ เปน็ เมอื งทเ่ี ปน็ ศนู ยก์ ลางของวดั ใน ศาสนาฮนิ ดู ชอ่ื วดั โกรกั ขนาถ อนั เปน็ ทม่ี าของชอ่ื เมอื งทม่ี ปี ระชากรประมาณ ๑.๔ ลา้ น คน เมอ่ื รถวง่ิ ไปสกั ๑ ชว่ั โมงหรอื ๒ ชว่ั โมงกจ็ อดพกั รถบา้ ง เขา้ หอ้ งนำ้ ธรรมชาตหิ รอื แวะ ดม่ื นำ้ ชา บางครง้ั เรากพ็ บเหน็ ความเปน็ อยอู่ าหารการกนิ แบบชาวอนิ เดยี สว่ นใหญน่ า่ สนใจดี ที่พบมากคือการดื่มชาใส่นมที่เรียกว่า กะลำไจ และการทำ “นาน” ที่มีการ นวดแปง้ แลว้ เอาเขา้ ไปอบในเตาทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยโอง่ เอาออกมาเสริ ฟ์ พรอ้ มชารอ้ น ๆ รสชาดอรอ่ ยดี (ภาพท่ี ๔) ดว้ ยระยะทางประมาณ ๑๕๐ กม.เรากเ็ ดนิ ทางมาถงึ กสุ นิ ารา Kushinakgar ปจั จบุ นั เปน็ ชมุ ชนเลก็ ๆ ของรฐั อตุ รประเทศทม่ี ปี ระชากรเพยี งไมถ่ งึ ๒๐,๐๐๐ คน สาละ- วโนทยานแหง่ กสุ ินาราแหง่ น้ี ในอดีตเปน็ แว่นแคว้นของกษตั ริยม์ ลั ละ แหง่ แคว้นวชั ชี ตง้ั อยใู่ กลแ้ มน่ ำ้ หริ ญั วดี สถานทร่ี อบบรเิ วณนม้ี ซี ากโบราณสถานมากมายทพ่ี ระเจา้ - อโศกมหาราชไดส้ รา้ งไวเ้ ปน็ ทบ่ี ชู าสกั การะองคพ์ ระผมู้ พี ระภาค ฯ มกี ารพบเหน็ รอ่ งรอย ความเจรญิ รงุ่ เรอื งของอาคารสถานท่ี แตไ่ ดถ้ กู ทอดทง้ิ รา้ งมานบั พนั ปตี ง้ั แตป่ ระมาณ พุทธศตวรรษที่ ๕ จนกระทั่งได้รับการค้นพบและบูรณะจากทางการใหม่เมื่อ พุทธ- ศตวรรษที่ ๑๙ นี่เอง (ภาพที่ ๕) และนี่แหละสถานที่สำคัญแห่งพุทธประวัติที่ พระบรมศาสดา หลงั จากทไ่ี ดต้ รากตรำพระวรกาย เผยแผค่ ำสอนอนั ศกั ดส์ิ ทิ ธส์ิ งู คา่ แก่ มวลมนษุ ยม์ าตลอดเวลาทท่ี รงพระชนม์ พระองคไ์ ด้ทอดร่างลงกลา่ วปจั ฉิมโอวาท แลว้ ปรนิ พิ พาน ถึงตอนนี้เมื่อกล่าวคำนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยแล้ว และเมื่อมีการอ่าน ขอ้ ความตามมหาปรนิ พิ พานสตู ร (ภาพท่ี ๖) ขอ้ ความชวนใหร้ ะลกึ ถงึ วา่ พระพทุ ธองค์ ผทู้ ท่ี กุ คนกราบไหวเ้ คารพ สงู สดุ ไดป้ รนิ พิ พาน ณ สถานทน่ี ้ี สหายธรรมบางทา่ นถงึ กบั นำ้ ตาไหลดว้ ยความสลดใจ และความปลม้ื ปติ ิ ซาบซง้ึ บรรยากาศเปน็ ไปดว้ ยความสงบ สำรวม (ภาพท่ี ๗) เชญิ อา่ นพระสตู ร.............
กสุ นิ ารา มหาปรนิ ิพพาน ๘๑ พระสตุ ตนั ตปฏิ ก ฑฆี นกิ าย มหาวรรค มหาปรนิ พิ พานสตู ร เลม่ ๒ ภาค ๑ ปรนิ พิ พาน ครง้ั นน้ั แล พระผู้มีพระภาคทรงหายจากพระประชวรแล้วไม่นานเสด็จออกจากวิหาร ประทับนั่งบนอาสนะที่เขาปูไว้ในร่มด้านหลังวิหาร ท่านพระอานนท์ได้เข้าเฝ้าถวาย บงั คม แลว้ นง่ั อยู่ ณ. ทค่ี วรสว่ นขา้ งหนง่ึ กราบทลู พระผมู้ พี ระภาควา่ “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ ขา้ พระองคไ์ ดเ้ หน็ พระองคท์ รงสำราญแลว้ ขา้ พระองค์ ไดเ้ หน็ ความอดทนของพระผมู้ พี ระภาคแลว้ พระเจา้ ขา้ แมก้ ระนน้ั รา่ งกายของขา้ พระ- องค์ เปน็ ประหนง่ึ จกั งอมไป ทศิ ทง้ั หลายกไ็ มป่ รากฏแกข่ า้ พระองค์ ธรรมทง้ั หลายกม็ ไิ ด้ แจม่ แจง้ แกข่ า้ พระองค์ เพราะอาการทรงพระประชวรของพระผมู้ พี ระภาค กแ็ ตว่ า่ ขา้ พระองคไ์ ดม้ คี วามเบาใจบางประการวา่ ตราบเทา่ ทพ่ี ระองคย์ งั ไม่ ทรงปรารภภิกษุสงฆ์แล้วทรงมีพระดำรัสอย่างใดอย่างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคจักยังไม่ เสดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พาน ดงั น้ี พระเจา้ ขา้ ” พระผมู้ พี ระภาคตรสั วา่ “ดกู รอานนท์ กภ็ กิ ษสุ งฆย์ งั หวงั อะไรในเราตถาคตเลา่ ธรรมทต่ี ถาคตแสดงแลว้ ไดท้ ำมใิ หม้ ใี น มใิ หม้ นี อก กำมอื แหง่ อาจารยใ์ นธรรมทง้ั หลาย มไิ ดม้ แี กต่ ถาคต ดกู รอานนท์ ผใู้ ดพงึ มคี วามดำรอิ ยา่ งนว้ี า่ เราจกั บรหิ ารภกิ ษสุ งฆก์ ด็ ี หรอื วา่ ภกิ ษสุ งฆพ์ งึ ยกยอ่ งเรากด็ ี ดกู รอานนท์ แทจ้ รงิ เขาผนู้ น้ั พงึ ปรารภภกิ ษสุ งฆแ์ ลว้ กล่าวถ้อยคำบางประการ ดูกรอานนท์ ตถาคตมิได้มีความดำริอย่างนี้ว่า “เราแลจัก บรหิ ารภกิ ษสุ งฆ์ หรอื วา่ ภกิ ษสุ งฆพ์ งึ ยกยอ่ งเราตถาคต” ดงั น้ี ดกู รอานนท์ กใ็ นกาลบดั น้ี เราตถาคตแก่ เฒา่ แลว้ เปน็ ผใู้ หญ่ ลว่ งกาลผา่ นวยั โดยลำดบั แลว้ วยั ของตถาคตเขา้ ๘๐ ปีแล้ว ดูกรอานนท์ เกวียนเก่าคร่ำคร่า เดินไปได้ด้วยการแซมด้วยไม้ไผ่แม้ฉันใด รา่ งกายของตถาคตกด็ ำเนนิ ไปได้ เหมอื นการแซมดว้ ยไมไ้ ผ่ ฉนั นน้ั นน่ั แล ดกู รอานนท์ ในสมัยใด ตถาคตเข้าถึงเจโตสมาธิ หานิมิตมิได้อยู่ เพราะไม่มนสิการนิมิตทั้งปวง เพราะเวทนาทง้ั หลายบางอยา่ งดบั ไป ในสมยั นน้ั รา่ งกายของตถาคตมคี วามผาสกุ ยง่ิ
๘๒ กสุ ินารา มหาปรนิ พิ พาน เพราะเหตนุ น้ั แหละ อานนท์ เธอทง้ั หลายจงมตี นเปน็ เกาะ มตี นเปน็ ทพ่ี ง่ึ อยู่ เถดิ อยา่ มสี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ จงมธี รรมเปน็ เกาะ มธี รรมเปน็ ทพ่ี ง่ึ อยา่ มสี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ เลย ดกู ร- อานนท์ ภกิ ษเุ ปน็ ผมู้ ตี นเปน็ เกาะมตี นเปน็ ทพ่ี ง่ึ อยู่ ไมม่ สี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ เปน็ ผมู้ ธี รรม เปน็ เกาะ มธี รรมเปน็ ทพ่ี ง่ึ ไมม่ สี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ อยา่ งไร? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในพระศาสนานี้ พิจารณาเห็นกายในกายอยู่มี ความเพยี ร มสี มั ปชญั ญะ มสี ติ กำจดั อภชิ ฌาและโทมนสั ในโลกเสยี ได้ พจิ ารณาเหน็ เวทนาในเวทนาอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัส ในโลกเสยี ได้ พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติกำจัดอภิชฌา และโทมนสั ในโลกเสยี ได้ พจิ ารณาเหน็ ธรรมในธรรมอยู่ มคี วามเพยี ร มสี มั ปชญั ญะ มสี ติ กำจดั อภชิ ฌาและโทมนสั ในโลกเสยี ได้ ดูกรอานนท์ ภิกษุเป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง เปน็ ผมู้ ธี รรมเปน็ เกาะ มธี รรมเปน็ ทพ่ี ง่ึ ไมม่ สี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ ดว้ ยอาการอยา่ งนแ้ี ล ดกู รอานนท์ เพราะวา่ ในกาลบดั นก้ี ด็ ี โดยการทเ่ี ราตถาคตลว่ งลบั ไปแลว้ กด็ ี ภกิ ษทุ ง้ั หลายพวกใดพวกหนง่ึ จกั เปน็ ผมู้ ตี นเปน็ เกาะมตี นเปน็ ทพ่ี ง่ึ ไมม่ สี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ จกั มธี รรมเปน็ เกาะ มธี รรมเปน็ ทพ่ี ง่ึ ไมม่ สี ง่ิ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ ภกิ ษผุ ใู้ ครใ่ นการศกึ ษาเหลา่ นน้ั จกั เปน็ ผปู้ ระเสรฐิ สดุ ยอด” ดงั นแ้ี ล พระผมู้ พี ระภาคเสวยภตั ตาหารของนายจนุ ทะ เมอ่ื พระผมู้ พี ระภาคเสวยภตั ตาหารของนายจนุ ทกมั มารบตุ รแลว้ เกดิ อาพาธ อยา่ งรนุ แรง มเี วทนากลา้ เกดิ แตก่ ารประชวรลงพระโลหติ ใกลจ้ ะปรนิ พิ พาน พระองค์ ทรงมีพระสติสัมปชัญญะ ทรงอดกลั้นเวทนาเหล่านั้นไว้ มิได้ทรงพรั่นพรึง ตรัสเรียก พระอานนท์มารับสั่งว่า “มาไปกันเถิดอานนท์ เราจะไปยังเมืองกุสินารา” ท่านพระ- อานนทท์ ลู รบั พระดำรสั แลว้ ปกุ กสุ สมลั ลบตุ รถวายคผู่ า้ แดพ่ ระผมู้ พี ระภาค
กสุ ินารา มหาปรนิ พิ พาน ๘๓ ๑๒ ๓๔ ทา่ นพระอานนทไ์ ดก้ ราบทลู วา่ “ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ นา่ อศั จรรย์ เหตไุ มเ่ คย มมี าแลว้ พระฉววี รรณของพระตถาคตบรสิ ทุ ธผ์ิ ดุ ผอ่ งยง่ิ นกั คผู่ า้ เนอ้ื ละเอยี ด มสี ดี งั ทอง สงิ คี ซง่ึ เปน็ ผา้ ทรงน้ี ขา้ พระองคน์ อ้ มเขา้ ไปสพู่ ระกายของพระผมู้ พี ระภาค ยอ่ มปรากฏ ดงั ถา่ นไฟทป่ี ราศจากเปลว” พระผมู้ พี ระภาคตรสั วา่ “ขอ้ นเ้ี ปน็ อยา่ งนน้ั อานนท์ กายของพระตถาคตยอ่ ม บรสิ ทุ ธ์ิ ฉววี รรณผดุ ผอ่ งยง่ิ นกั ในกาลทง้ั สอง คอื ในราตรที ต่ี ถาคตตรสั รอู้ นตุ ตรสมั มา- สัมโพธิญาณ ๑ ในราตรีทีต่ ถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ๑ ในกาล ทง้ั สองนแ้ี ล กายของพระตถาคตยอ่ มบรสิ ทุ ธ์ิ ฉววี รรณผดุ ผอ่ งยง่ิ นกั ดูกรอานนท์ ในปัจฉิมยามแห่งราตรีวันนี้แล ความปรินิพพานของตถาคต จกั มใี นระหวา่ งไมส้ าละคใู่ นสาลวนั อนั เปน็ ทแ่ี วะพกั ของมลั ลกษตั รยิ ท์ ง้ั หลาย”
๘๔ กสุ ินารา มหาปรนิ พิ พาน ๕ ๖ ๗ ๘๙ ลำดบั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคพรอ้ มดว้ ยภกิ ษสุ งฆห์ มใู่ หญ่ เสดจ็ ไปยงั ฝง่ั โนน้ แหง่ แม่น้ำหิรัญวดี เมืองกุสินารา และสาลวันอันเป็นที่แวะพักแห่งมัลลกษัตริย์ ครั้งแล้ว รับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า “ดูกรอานนท์ เธอจงช่วยตั้งเตียงให้เรา หันศีรษะไปทาง ทศิ อดุ รระหวา่ งไมส้ าละคู่ เราเหนอ่ื ยแลว้ จกั นอน” ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสแล้ว ตั้งเตียงหันพระเศียรไปทางทิศอุดร ระหว่างไม้สาละคู่ พระผู้มีพระภาคทรงสำเร็จสีหไสยา โดยปรัศว์เบื้องขวา ทรงซ้อน พระบาทเหลอ่ื มพระบาท มพี ระสตสิ มั ปชญั ญะ ครง้ั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคตรสั เรยี กทา่ นพระอานนทม์ ารบั สง่ั วา่ “ดกู รอานนท์ ไมส้ าละทง้ั คเู่ ผลด็ ดอกบานสะพรง่ั นอกฤดกู าล ดอกไมเ้ หลา่ นน้ั รว่ งหลน่ โปรยปรายลงยงั
กสุ นิ ารา มหาปรนิ พิ พาน ๘๕ สรรี ะของตถาคต เพ่อื บชู าตถาคต แมด้ อกมณฑารพอนั เปน็ ของทพิ ย์ กต็ กลงมาจาก อากาศ แมจ้ ณุ แหง่ จนั ทนอ์ นั เปน็ ของทพิ ย์ กต็ กลงจากอากาศ จณุ แหง่ จนั ทนเ์ หลา่ นน้ั ร่วงหล่นโปรยปรายลงสรีระของตถาคต เพื่อบูชาตถาคต ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า กป็ ระโคมอยใู่ นอากาศ แมส้ งั คตี อนั เปน็ ทพิ ย์ กเ็ ปน็ ไปในอากาศเพอ่ื บชู าตถาคต ดกู รอานนท์ ตถาคตจะชอ่ื วา่ อนั บรษิ ทั สกั การะ เคารพ นบั ถอื บชู า นอบนอ้ ม ดว้ ยเครอ่ื งสกั การะประมาณเทา่ นห้ี ามไิ ด้ ผใู้ ดแลจะเปน็ ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก อบุ าสกิ า กต็ าม เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ธิ รรมสมควรแกธ่ รรม ปฏบิ ตั ชิ อบ ปฏบิ ตั ติ ามธรรมอยู่ ผนู้ น้ั ยอ่ มชอ่ื วา่ สกั การะ เคารพ นบั ถอื บชู าตถาคต ดว้ ยการบชู าอยา่ งยง่ิ เพราะเหตนุ น้ั แหละ อานนท์ พวกเธอพงึ สำเหนยี กอยา่ งนว้ี า่ “เราจกั เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั ธิ รรม สมควรแกธ่ รรม ปฏบิ ตั ชิ อบ ประพฤตติ ามธรรมอย”ู่ ดงั น้ี สงั เวชนยี สถาน ๔ ตำบล “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อก่อนพวกภิกษุผู้อยู่จำพรรษาในทิศทั้งหลาย ยอ่ มมาเพอ่ื เฝา้ พระตถาคต พวกขา้ พระองคย์ อ่ มไดเ้ หน็ ไดเ้ ขา้ ไปนง่ั ใกล้ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั ผใู้ หเ้ จรญิ ใจเหลา่ นน้ั กโ็ ดยกาลลว่ งไปแหง่ พระผมู้ พี ระภาค พวกขา้ พระองคจ์ กั ไมไ่ ดเ้ หน็ ไมไ่ ดเ้ ขา้ ไปนง่ั ใกลพ้ วกภกิ ษผุ ใู้ หเ้ จรญิ ใจ” “ดูกรอานนท์ สังเวชนียสถาน ๔ แห่งเหล่านี้ เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มี ศรทั ธา สงั เวชนยี สถาน ๔ แหง่ เปน็ ไฉน คอื สงั เวชนยี สถานอนั เปน็ ทค่ี วรเหน็ ของกลุ บตุ รผมู้ ศี รั ทธา ดว้ ยมาตามระลกึ วา่ พระตถาคตประสตู ใิ นทน่ี ้ี ๑ พระตถาคตตรสั รพู้ ระอนตุ ตรสมั มาสมั โพธญิ าณในทน่ี ้ี ๑ พระตถาคตทรงยงั ธรรมจกั รใหเ้ ปน็ ไปในทน่ี ้ี ๑ พระตถาคตเสดจ็ ปรนิ พิ พานแลว้ ดว้ ย อนปุ าทเิ สสนพิ พานธาตใุ นทน่ี ้ี ๑ สงั เวชนยี สถาน ๔ แหง่ นแ้ี ล เปน็ ทค่ี วรเหน็ ของกลุ บตุ ร ผมู้ ศี รั ทธา ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก อบุ าสกิ า ผมู้ ศี รทั ธาจกั มาดว้ ยระลกึ วา่ พระตถาคต ประสูติในที่นี้ก็ดี พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในที่นี้ก็ดี พระ- ตถาคตยงั ธรรมจกั รใหเ้ ปน็ ไปในทน่ี ก้ี ด็ ี พระตถาคตเสดจ็ ปรนิ พิ พานแลว้ ดว้ ยอนปุ าทเิ สส
๘๖ กสุ นิ ารา มหาปรนิ พิ พาน นพิ พานธาตใุ นทน่ี ก้ี ด็ ี กช็ นเหลา่ ใดเหลา่ หนง่ึ จารกิ ไปยงั เจดยี ์ มจี ติ เลอ่ื มใส จกั ทำกาละ ลง ชนเหลา่ นน้ั ทง้ั หมด เบอ้ื งหนา้ แตต่ ายเพราะกายแตก จกั เขา้ ถงึ สคุ ตโิ ลกสวรรค”์ ครง้ั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคตรสั เรยี กทา่ นพระอานนทม์ า รบั สง่ั วา่ “ดกู รอานนท์ บางทพี วกเธอจะมคี วามคดิ อยา่ งนว้ี า่ “ปาพจนม์ พี ระศาสดาลว่ งแลว้ พระศาสดาของ- พวกเราไม่มี ก็ข้อนี้ พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมและวินัยอันใดเราแสดงแล้ว บญั ญตั แิ ลว้ แกพ่ วกเธอ ธรรมและวนิ ยั อนั นน้ั จกั เปน็ ศาสดาของพวกเธอ โดยกาลลว่ งไป แหง่ เรา” ปจั ฉมิ วาจา ลำดบั นน้ั พระผมู้ พี ระภาครบั สง่ั กะภกิ ษทุ ง้ั หลายวา่ “ดกู รภกิ ษทุ ง้ั หลาย บดั น้ี เราขอเตอื นพวกเธอวา่ สงั ขารทง้ั หลาย มคี วามเสอ่ื มไปเปน็ ธรรมดา พวกเธอจงยงั ความ- ไมป่ ระมาทใหถ้ งึ พรอ้ มเถดิ นเ้ี ปน็ ปจั ฉมิ วาจาของตถาคต” ปรนิ พิ พาน ลำดบั นน้ั พระผมู้ พี ระภาคทรงเขา้ ปฐมฌาน ออกจากปฐมฌานแลว้ เขา้ ทตุ ยิ - ฌาน ออกจากทตุ ยิ ฌานแลว้ เขา้ ตตยิ ฌาน ออกจากตตยิ ฌานแลว้ เขา้ จตตุ ถฌาน ออก- จากจตตุ ถฌาณแลว้ เขา้ อากาสานญั จายตนะ ออกจากอากาสานญั จายตนสมาบตั ิ แลว้ เขา้ วญิ ญาณญั จายตนะ ออกจากวญิ ญาณญั จายตนสมาบตั แิ ลว้ เขา้ อากญิ จญั ญา- ยตนะ ออกจากอากิญจัญญายตนสมาบัติแล้ว เข้าเนวสัญญานาสัญญายตนะ ออกจากเนวสญั ญานาสญั ญายตนสมาบตั แิ ลว้ ทรงเขา้ สญั ญาเวทยติ นโิ รธ ครง้ั นน้ั ทา่ นพระอานนทไ์ ดถ้ ามทา่ นพระอนรุ ทุ ธะวา่ “พระผมู้ พี ระภาคเสดจ็ ปรนิ พิ พานแลว้ หรอื ” ทา่ นพระอนรุ ทุ ธะตอบวา่ “อานนทผ์ มู้ อี ายุ พระผมู้ พี ระภาคยงั ไม่ เสดจ็ ปรนิ พิ พาน ทรงเขา้ สญั ญาเวทยติ นโิ รธ” ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคออกจากสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติแล้วทรงเข้า เนวสญั ญานาสญั ญายตนะ ออกจากเนวสญั ญานาสญั ญายตนสมาบตั แิ ลว้ เขา้ อากญิ -
กสุ ินารา มหาปรนิ พิ พาน ๘๗ จญั ญายตนะ ออกจากอากญิ จญั ญายตนสมาบตั แิ ลว้ เขา้ วญิ ญาณญั จายตนะ ออก- จากวญิ ญาณญั จายตนสมาบตั แิ ลว้ เขา้ อากาสานญั จายตนะ ออกจากอากาสานญั จา- ยตนสมาบัติแล้ว เข้าจตุตถฌาน ออกจากจตุตถฌานแล้ว เข้าตติยฌาน ออกจาก- ตตยิ ฌานแลว้ เขา้ ทตุ ยิ ฌาน ออกจากทตุ ยิ ฌานแลว้ เขา้ ปฐมฌาน ออกจากปฐมฌาน แลว้ เขา้ ทตุ ยิ ฌาน ออกจากทตุ ยิ ฌานแลว้ เขา้ ตตยิ ฌาน ออกจากตตยิ ฌานแลว้ เขา้ จตุตถฌาน พระผู้มีพระภาคทางออกจากจตุตถฌานแล้ว เสด็จดับขันธปรินิพพาน โดยลำดบั แหง่ การพจิ ารณาองคจ์ ตตุ ถฌานนน้ั เมอ่ื พระผมู้ พี ระภาคเสดจ็ ปรนิ พิ พานแลว้ พรอ้ มกนั นน้ั ไดเ้ กดิ แผน่ ดนิ ไหวใหญ่ เกดิ ความขนพองสยองเกลา้ นา่ สะพรงึ กลวั ทง้ั กลองทพิ ยก์ บ็ นั ลอื ขน้ึ บรรดาภกิ ษทุ ง้ั หลายนน้ั ภกิ ษเุ หลา่ ใด ยงั มรี าคะไมไ่ ปปราศแลว้ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั บางพวกประคองแขนทง้ั สองครำ่ ครวญอยู่ ลม้ ลงกลง้ิ กลอื กไปมา ดจุ มเี ทา้ อนั ขาดแลว้ รำพันว่า “พระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานเเร็วนัก พระสุคตเสด็จปรินิพพานเเร็วนัก พระองคผ์ มู้ จี กั ษใุ นโลก อนั ตรธานเสยี เรว็ นกั ” สว่ นภกิ ษเุ หลา่ ใดทม่ี รี าคะไปปราศแลว้ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั มสี ตสิ มั ปชญั ญะอดกลน้ั โดยธรรมสังเวชว่า “สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ เพราะฉะนั้น เหล่าสัตว์จะพึงได้ใน สงั ขารนแ้ี ตท่ ไ่ี หน” จบพระสตู ร กราบไหว้พระพุทธรูปในวิหารแล้ว ออกมาทำประทักษิณเวียนเทียนรอบ พระสถปู ทบ่ี รรจพุ ระบรมสารรี กิ ธาตุ แลว้ กจ็ ะหามมุ ลานรอบพระสถปู เพอ่ื สนทนาธรรม เป็นการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ตามพระโอวาทที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ ณ ทน่ี เ้ี มอ่ื ๒๕๕๐ ปที แ่ี ลว้ (ภาพท่ี ๘) ตอนหนา้ เราไปนมสั การ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ และมา อา่ น เรอ่ื งเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ หลงั จากพระพทุ ธองคท์ รงดบั ขนั ธป์ รนิ พิ พานกนั วา่ กษตั รยิ ์ มลั ละ ไดจ้ ดั การกบั พระสรรี ะองั คารของพระผมู้ พี ระภาคอยา่ งไร อนโุ มทนา
๘๘ กสุ ินารา มหาปรนิ พิ พาน บนั ทกึ การเดนิ ทาง วนั ท่ี ๗ ๐๑.๐๐ น. ๐๒.๐๐ น. ๐๓.๐๐ น. ๐๔.๐๐ น. ๐๕.๐๐ น. ๐๖.๐๐ น. ๐๗.๐๐ น. ๐๘.๐๐ น. ๐๙.๐๐ น. ๑๐.๐๐ น. ๑๑.๐๐ น. ๑๒.๐๐ น. ๑๓.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. ๑๕.๐๐ น. ๑๖.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๐๐ น. ๒๐.๐๐ น. ๒๑.๐๐ น. ๒๒.๐๐ น. ๒๓.๐๐ น. ๒๔.๐๐ น.
กสุ นิ ารา มหาปรนิ พิ พาน ๘๙ บันทึกธรรม
๙๐ ๑๑ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ เดนิ ทางมาเปน็ วนั ท่ี ๘ แลว้ ครง่ึ ทางแลว้ นะครบั บางคนเรม่ิ คดิ ถงึ บา้ น เมอื งไทย อันเป็นที่รักของเรา แต่บางคนเริ่มซึมซับความเป็นอินเดียมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ยก ตวั อยา่ ง เชน่ กนิ อาหารแขกทกุ มอ้ื โดยเฉพาะหวั หอมและเครอ่ื งเทศ กลน่ิ ตวั พวกเราเรม่ิ จะเปน็ อนิ เดยี แลว้ พวกผหู้ ญงิ กเ็ ปลย่ี นชดุ เปน็ สา่ หรี (ภาพท่ี ๑) สวมกำไลแขนสง่ เสยี ง กรุ๊ง กริ๊ง กันแล้ว ยิ่งเดินไปไหนพวกขอทานก็จะติดตามเป็นพรวนพร้อมกับเสียงร้อง มหารานี ๆ พรอ้ มกบั แบมอื รปู ี ๆ ๆ ๆ ๆ ยง่ิ ดสู งา่ งามไมน่ อ้ ยเลย หญงิ ไทยเราหนา้ หมวย ๆ น่ี พอแตง่ ชดุ สา่ หรเี ขา้ ไปแลว้ รบั รอง สวยทนั ตาเหน็ (ภาพท่ี ๒) อยา่ บอกใครเชยี ว ถา้ มาอนิ เดยี น่ี ตอ้ งหามาแตง่ ใหไ้ ดน้ ะครบั ขอเพยี งอยา่ งเดยี วเตรยี มเขม็ กลดั ไป เยอะ ๆ ผกู มดั ใหร้ ดั กมุ เดย๋ี วไปรมุ่ รา่ ม ไปหลดุ เผละกลางตลาดจะหาคนชว่ ยแตง่ ใหม่ ไมไ่ ดจ้ ะยงุ่ เพง่ิ หดั แตง่ คงไมง่ า่ ยเหมอื นนงุ่ กางเกงยนี สน์ ะครบั คนอนิ เดยี นบั วา่ เปน็ ชนชาตทิ ป่ี รบั ตวั ใหท้ ำธรุ กจิ ไดง้ า่ ยมากครบั (ภาพท่ี ๓) ไม่ ตอ้ งรอเฟรนไชสห์ รอื เทค็ โนโลยใ่ี ด ๆ ทง้ั สน้ิ มพี น้ื ดนิ พรอ้ มอปุ กรณเ์ ลก็ นอ้ ยกเ็ ปดิ กจิ การ ไดแ้ ลว้ ครบั (ภาพท่ี ๔) สำหรบั ชาวบา้ นชายหญงิ ในรปู ขา้ งลา่ งนเ้ี ลน่ ดนตรรี อ้ งเพลง ขบั กลอ่ มอยทู่ ห่ี นา้ ประตทู างเขา้ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ (ภาพท่ี ๕) สมุ้ เสยี งทำนองเศรา้ สรอ้ ย ไดบ้ รรยากาศดจี รงิ ๆ ผเู้ ขยี น ไปทน่ี ห่ี ลาย ๆ ครง้ั เขา้ จนจำกนั ได้ เมอ่ื คราวทแ่ี ลว้ ดว้ ยความ ชอบพอเปน็ พเิ ศษ เลยชวนเพอ่ื น ๆ แจกรปู แี ละสละเสอ่ื ผา้ ชดุ เกง่ ใหไ้ ป ๒ - ๓ ชดุ แตเ่ ปน็ เทร็นด์แบบฮิปฮ็อป ไม่ทราบป่านนี้ท่านโยนทิ้งไปหมดแล้วก็ไม่รู้ ส่วนอีกรูปที่เป็น หญงิ สาวแยม้ วสิ ตู รออกมาจาก ประตนู น่ั (ภาพท่ี ๖) คอื ชาวบา้ นทห่ี มบู่ า้ นนายจนุ ทะ แหง่ เมอื งปาวา อนั สบื เผา่ พนั ธเ์ุ กา่ แกน่ บั พนั ปี มาแลว้ ห่างจากสถปู และพระวหิ ารท่ปี ระดษิ ฐานพระพทุ ธรปู มหาปรนิ ิพพานไมไ่ กล บนถนนเดยี วกนั คอื มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ (ภาพท่ี ๗) สถานทถ่ี วายพระเพลงิ มองเหน็ เปน็ เนิน ก่อด้วยอิฐเคยมีนักขุดค้น เจาะลึกลงไปพบกองขี้เถ้าและรอยดินไหม้ไฟ และ หลกั ฐานอน่ื ๆ ยืนยนั วา่ เปน็ สถานท่ถี วายพระเพลงิ บรเิ วณโดยรอบมรี ่องรอยอาคาร โบราณปรากฎอยมู่ ากมาย (ภาพท่ี ๘) ผมู้ าสกั การะพรอ้ มกนั กราบนมสั การ กระทำเวยี น
มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ ๙๑ เทียนประทักษิณ น้อมระลึกเสมือนหนึ่งได้มากราบยังพิธีถวายพระเพลิงพุทธสรีระ (ภาพที่ ๙) เหตุการณ์เมื่อ ๒๕๕๐ ปีก่อนเป็นประการใดเชิญอ่านพระสูตรเกี่ยวกับ พทุ ธประวตั ติ อนน้ี ......... พระสตุ ตนั ตปฎิ ก ทฆี นกิ าย มหาวรรค เลม่ ๒ ภาค ๑ แจง้ ขา่ วปรนิ พิ พาน สมยั นน้ั พวกเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารา ประชมุ กนั ทส่ี ณั ฐาคารดว้ ยเรอ่ื งพระ- นพิ พานนน้ั . ลำดบั นน้ั ทา่ นพระอานนทไ์ ปยงั สณั ฐาคารของเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารา ไดบ้ อกแกเ่ จา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ าราวา่ ดกู อ่ นวาสฏิ ฐะทง้ั หลายพระผมู้ พี ระภาคเจา้ เสดจ็ ปรนิ พิ พานแลว้ ขอทา่ นทง้ั หลายจงสำคญั การอนั ควรในบดั นเ้ี ถดิ . เจา้ มลั ละ โอรส สณุ สิ า และปชาบดฟี งั คำนข้ี องทา่ นพระอานนทแ์ ลว้ มคี วามทกุ ข์ เสยี พระทยั เปย่ี มดว้ ย ทกุ ขใ์ จ บางพวกสยายผมประคอง พระหตั ถท์ ง้ั สองครำ่ ครวญ ลม้ ลงกลง้ิ เกลอื กไปมา เหมือนมีพระบาทขาดแล้วทรงรำพันว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าปรินิพพานเร็วนัก พระสคุ ตปรนิ พิ พานเรว็ นกั พระองคผ์ มู้ จี กั ษใุ นโลกอนั ตรธานเรว็ นกั . ครง้ั นน้ั เจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารารบั สง่ั กะพวกบรุ ษุ วา่ พวกทา่ นจงเตรยี มของ หอมดอกไม้ และเครอ่ื งดนตรที กุ ชนดิ ในเมอื งกสุ นิ าราใหพ้ รอ้ ม.เจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารา ถอื เอาของหอมดอกไมเ้ ครอ่ื งดนตรที กุ ชนดิ และผา้ ๕๐๐ คู่ เสดจ็ ไปยงั สาลวนั อนั เปน็ ท่ี แวะพกั ของพวกเจา้ มลั ละ เสดจ็ เขา้ ถงึ สรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ สกั การะ เคารพ นบั ถอื บชู าพระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยการฟอ้ นรำขบั รอ้ ง ประโคม ของหอม ดอกไม้ ดาดเพดานผา้ ตกแตง่ โรงมณฑล ยงั วนั นน้ั ใหล้ ว่ งไปดว้ ยประการอยา่ งน.้ี พวกเจ้ามัลละมีพระดำริว่า การถวายพระเพลิงพระสรีระของพระผู้มี- พระภาคเจา้ ในวนั นห้ี มดเวลาเสยี แลว้ พรงุ่ นพ้ี วกเราจกั ถวายพระเพลงิ พระสรรี ะของ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ . พวกเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารา สกั การะ เคารพ นบั ถอื บชู าพระ- สรรี ะของพระผมู้ ีพระภาคเจา้ ดว้ ยการฟอ้ นรำ ขบั รอ้ งประโคม ของหอมดอกไม้ ดาด เพดานผา้ ตกแตง่ โรงมณฑล ยงั วนั แมท้ ่ี ๒ ท่ี ๓ ท่ี ๔ ท่ี ๕ ท่ี ๖ ใหล้ ว่ งไป
๙๒ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานท่ถี วายพระเพลงิ แลว้ ครน้ั ถงึ วนั ท่ี ๗ พวกเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารามพี ระดำรวิ า่ พวกเราสกั การะเคารพ นบั ถอื บชู าพระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยการฟอ้ นรำขบั รอ้ ง ประโคม ของหอม ดอกไม้ จกั เชญิ ไปทางทศิ ทกั ษณิ แหง่ พระนครเชญิ ไปภายนอกพระนคร ถวายพระเพลงิ พระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทางทศิ ทกั ษณิ แหง่ พระนคร. มลั ลปาโมกข์ ๘ สมยั นน้ั มลั ลปาโมกข์ ๘ องค์ สระสรงเกลา้ แลว้ ทรงนงุ่ ผา้ ใหมด่ ว้ ยทรงดำรวิ า่ เราจกั ยกพระสรรี ะพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ยอ่ มไมอ่ าจจะยกขน้ึ ได.้ พวกเจา้ มลั ละเมอื ง กสุ นิ ราไดถ้ ามทา่ นพระอนรุ ทุ ธะวา่ ทา่ นอนรุ ทุ ธะอะไรหนอเปน็ เหตุ อะไรหนอเปน็ ปจั จยั มลั ลปาโมกข์ ๘ องคน์ ้ี ผสู้ ระสรงเกลา้ แลว้ ทรงนงุ่ ผา้ ใหมด่ ว้ ยดำรวิ า่ เราจกั ยกพระสรรี ะ ของพระผมู้ พี ระภาคจา้ ยอ่ มไมอ่ าจยกขน้ึ ได.้ พระอนรุ ทุ ธะกลา่ ววา่ ดกู อ่ นวาสฏิ ฐะ ทง้ั หลาย พวกทา่ นมคี วามประสงคอ์ ยา่ งหนง่ึ พวกเทวดามี ความประสงค์อย่างหนึ่ง. เจ้ามัลละถามว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ พวกเทวดามีความ ประสงคอ์ ยา่ งไร. พระอนรุ ทุ ธะกลา่ ววา่ ดกู อ่ นวาสฏิ ฐะทง้ั หลาย พวกทา่ นมคี วามประสงคว์ า่ เราสกั การะ เคารพ นบั ถอื บชู าพระสรรี ะพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยการฟอ้ นรำ ขบั รอ้ ง ประโคม ดอกไม้ ของหอม จกั เชญิ ไปทางทศิ ทกั ษณิ แหง่ พระนคร แลว้ เชญิ ไปภาย- นอกพระนคร ถวายพระเพลงิ พระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ทางทศิ ทณั ษณิ แหง่ พระนคร เทวดามคี วามประสงคว์ า่ เราสกั การะเคารพ นบั ถอื บชู าพระสรรี ะของ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยการฟอ้ นรำ ขบั รอ้ ง ประโคม ดอกไม้ ของหอม อนั เปน็ ทพิ ยจ์ กั เชญิ ไปทางทศิ อดุ รแหง่ พระนครแลว้ เขา้ สพู่ ระนครโดยทวารทศิ อดุ ร เชญิ ไปทา่ ม- กลางพระนคร แลว้ ออกโดยทวารทศิ บรู พา แลว้ ถวายพระเพลงิ พระสรรี ะของพระผมู้ -ี พระภาคเจ้า ที่มกุฏพันธนเจดีย์ของพวกเจ้ามัลละ ทางทิศบูรพาแห่งพระนคร. เจา้ มลั ละกลา่ ววา่ ขอใหเ้ ปน็ ไปตามความประสงคข์ องพวกเทวดาเถดิ . สมยั นน้ั เมอื งกสุ นิ าราดารดาษไปดว้ ยดอกมณฑารพ โดยถอ่ งแถวประมาณ แคเ่ ขา่ จนตลอดทต่ี อ่ แหง่ เรอื นบอ่ ของโสโครกและกองหยากเยอ่ื ครง้ั นน้ั พวกเทวดา
มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานท่ถี วายพระเพลงิ ๙๓ ๑ ๒๓ ๔๕๖ และพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินาราสักการะเคารพ นับถือ บูชาพระสรีระของพระผู้มี- พระภาคเจา้ ดว้ ยการฟอ้ นรำ ขบั รอ้ ง ประโคม ดอกไม้ ของหอม ทง้ั ทเ่ี ปน็ ทพิ ย์ ทง้ั ทเ่ี ปน็ ของมนษุ ย์ เชญิ ไปทางทศิ อดุ รแหง่ พระนครแลว้ เชญิ ไปสพู่ ระนครโดยทวารทศิ อดุ ร เชญิ ไปทา่ มกลางพระนคร แลว้ ออกไปโดยทวารทศิ บรู พา แลว้ วางพระสรรี ะพระผมู้ -ี พระภาคเจา้ ณ มกฏุ พนั ธนเจดยี ข์ องพวกเจา้ มลั ละ ทางทศิ บรู พาแหง่ พระนคร. ลำดบั นน้ั พวกเจา้ มลั ละไดถ้ ามทา่ นพระอานนทว์ า่ พวกขา้ พเจา้ จะพงึ ปฏบิ ตั ิ ในพระสรรี ะของพระตถาคตอยา่ งไร. ทา่ นพระอานนทก์ ลา่ ววา่ ดกู อ่ นวาสฏิ ฐะทง้ั หลาย พวกท่านพึงปฏิบัติ ในพระสรีระพระตถาคต เหมือนที่เขาปฏิบัติในพระสรีระของ พระเจา้ จกั รพรรดฉิ ะนน้ั . เขาปฏบิ ตั ใิ นพระสรรี ะของพระเจา้ จกั รพรรดเิ ปน็ อยา่ งไรเลา่ . ดกู อ่ นวาสฏิ ฐะทง้ั หลาย เขาหอ่ พระสรรี ะของพระเจา้ จกั รพรรดดิ ว้ ยผา้ ใหม่ แลว้ ซบั ดว้ ยสำลแี ลว้ หอ่ ดว้ ยผา้ ใหม่ โดยอบุ ายนห้ี อ่ พระสรรี ะของพระเจา้ จกั รพรรดิ ดว้ ยผา้ ๕๐๐ คแู่ ลว้ เชญิ พระสรรี ะลงในรางเหลก็ อนั เตม็ ดว้ ยนำ้ มนั ครอบดว้ ยราง- เหล็กอื่น แล้วกระทำจิตกาธานด้วยไม้หอมทุกชนิดถวายพระเพลิงพระสรีระของ พระเจา้ จกั รพรรดแิ ลว้ สรา้ งพระสถปู ของพระเจา้ จกั รพรรดไิ วท้ ท่ี ท่ี างใหญ่ ๔ แพรง่ เขาปฏบิ ตั ใิ นพระสรรี ะของพระเจา้ จกั รพรรดดิ ว้ ยประการฉะนแ้ี ล พวกทา่ นพงึ ปฏบิ ตั ใิ น
๙๔ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ ๗ ๘ ๑๐ ๑๑ ๙ ๑๒ ๑๓ ๑๔ พระสรีระพระตถาคต เหมือนที่เขาปฏิบัติในพระสรีระของพระเจ้าจักรพรรดิฉะนั้น พึงสร้างพระสถูปพระตถาคตไว้ในหนทางใหญ่ ๔ แพร่ง ชนเหล่าใดจักยกขึ้น ซง่ึ พวงมาลยั ของหอมหรอื จณุ จกั อภวิ าท หรอื จกั ยงั จติ ใหเ้ ลอ่ื มใสในพระสถปู นน้ั ขอ้ นน้ั จกั เปน็ ไปเพอ่ื ประโยชนเ์ กอ้ื กลู เพอ่ื ความสขุ แกช่ นเหลา่ นน้ั ตลอดกาลนาน. ลำดบั นน้ั พวกเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ ารารบั สง่ั กะพวกบรุ ษุ วา่ ดกู อ่ นพนาย ถา้ อยา่ งนน้ั พวกทา่ นจงเตรยี มสำลไี วพ้ รอ้ มเถดิ . พวกเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ าราหอ่
มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานท่ถี วายพระเพลงิ ๙๕ พระสรรี ะพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยผา้ ใหมแ่ ลว้ ซบั ดว้ ยสำลี แลว้ หอ่ ดว้ ยผา้ ใหมโ่ ดยอบุ าย น้ี หอ่ พระสรรี ะพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยผา้ ๕๐๐ คู่ แลว้ เชญิ ลงในรางเหลก็ อนั เตม็ ดว้ ย นำ้ มนั ครอบดว้ ยรางเหลก็ อน่ื แลว้ กระทำจติ กาธานดว้ ยไมห้ อมทกุ ชนดิ แลว้ จงึ เชญิ พระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ขน้ึ สจู่ ติ กาธาน. เรอ่ื งพระมหากสั สปเถระ สมยั นน้ั พระมหากสั สปะพรอ้ มดว้ ยภกิ ษสุ งฆห์ มใู่ หญป่ ระ-มาณ ๕๐๐ รปู เดนิ ทางจากเมอื งปาวาสเู่ มอื งกสุ นิ ารา. ลำดบั นน้ั ทา่ นมหากสั สปะแวะออกจากทาง แลว้ นง่ั พกั ทโ่ี คนไมต้ น้ หนง่ึ . สมยั นน้ั อาชวี กคนหนง่ึ ถอื ดอกมณฑารพในเมอื งกสุ นิ าราเดนิ ทางไกลมาสู่ เมอื งปาวา. ทา่ นมหากสั สปะไดเ้ หน็ อาชวี กนน้ั มาแตไ่ กล จงึ ถามอาชวี กนน้ั วา่ ดกู อ่ นผู้ มีอายุ ท่านยังทราบข่าวพระศาสดาของเราบ้างหรือ. อาชีวกตอบว่า เราทราบอยู่ พระสมณโคดมปรนิ พิ พานได้ ๗ วนั เขา้ วนั น้ี นด้ี อกมณฑารพเราถอื มาแตท่ น่ี น้ั บรรดา ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั ภกิ ษเุ หลา่ ใดยงั ไมป่ ราศจากราคะภกิ ษเุ หลา่ นน้ั บางพวกประคองแขน ทง้ั สองครำ่ ครวญอยู่ ลม้ ลงกลง้ิ เกลอื กไปมาเหมอื นเทา้ ขาดแลว้ รำพนั วา่ พระผมู้ -ี พระภาคเจา้ ปรนิ พิ พานเรว็ นกั พระสคุ ตปรนิ พิ พานเรว็ นกั พระองคผ์ มู้ พี ระจกั ษใุ นโลก อนั ตรธานเรว็ นกั . สว่ นภกิ ษเุ หลา่ ใดปราศจากราคะ ภกิ ษเุ หลา่ นน้ั มสี ตสิ มั ปชญั ญะ อดกลน้ั อยวู่ า่ สงั ขารทง้ั หลายไมเ่ ทย่ี งหนอขอ้ นน้ั จะหาไดใ้ นสงั ขารนแ้ี ตท่ ไ่ี หน. ถวายพระเพลงิ ลำดบั นน้ั ทา่ นพระมหากสั สปะเขา้ ไปถงึ มกฏุ พนั ธนเจดยี ข์ องพวกเจา้ มลั ละ ในเมอื งกสุ นิ ารา และถงึ จติ กาธานของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ แลว้ ครน้ั เขา้ ไปแลว้ กระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่งประนมอัญชลีกระทำประทักษิณจิตกาธาน ๓ รอบ แลว้ เปดิ ทางพระบาท ถวายบงั คมพระบาททง้ั สองของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยเศยี ร เกลา้ . แมภ้ กิ ษุ ๕๐๐ รปู เหลา่ นน้ั กระทำจวี รเฉวยี งบา่ ประนมอญั ชลี กระทำ ประทกั ษณิ ๓ รอบแลว้ ถวายบงั คมพระบาททง้ั สองของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ดว้ ยเศยี ร-
๙๖ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ เกลา้ . เมอ่ื ทา่ นพระมาหากสั สปะและภกิ ษุ ๕๐๐ รปู นน้ั ถวายบงั คมแลว้ จติ กาธานของ พระผมู้ พี ระภาคเจา้ กโ็ พลงขน้ึ เอง. เมอ่ื พระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ถกู เพลงิ ไหมอ้ ยู่ พระอวยั วะสว่ นใด คอื พระฉวี พระจมั มะพระมงั สะ พระนหารุ หรอื พระลสกิ า เถา้ เขมา่ แหง่ พระอวยั วะ สว่ นนน้ั มไิ ดป้ รากฏเลย เหลอื อยแู่ ตพ่ ระสรรี ะอยา่ งเดยี ว. เมอ่ื เนยใส และนำ้ มนั ถกู เพลงิ ไหมอ้ ยู่ เถา้ เขมา่ มไิ ดป้ รากฏฉนั ใด เมอ่ื พระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ถกู เพลงิ ไหมอ้ ย.ู่ . .เหลอื อยแู่ ตพ่ ระสรรี ะอยา่ งเดยี วฉนั นน้ั เหมอื นกนั . บรรดาผา้ ๕๐๐ คู่ เหลา่ นน้ั เพลงิ ไหมเ้ พยี ง ๒ ผนื เทา่ นน้ั คอื ผนื ในทส่ี ดุ กบั ผนื นอก. เมอ่ื พระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ถกู เพลงิ ไหมแ้ ลว้ ทอ่ นำ้ กไ็ หลหลง่ั มา จากอากาศดับจิตกาธานของพระผู้มีพระภาคเจ้า. น้ำพุ่งขึ้นแม้จากไม้สาละ ดับ จติ กาธานของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ . พวกเจา้ มลั ละเมอื งกสุ นิ าราดบั จติ กาธานของพระ- ผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยน้ำหอมทุกชนิด. ลำดับนั้น พวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา ทำสตั ตบิ ญั ชร ในสณั ฐาคาร แวดลอ้ มดว้ ยธนปู ราการสกั การะ เคารพ นบั ถอื บชู าพระสรรี ะของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตลอด ๗ วนั ดว้ ยการฟอ้ นรำ ขบั รอ้ ง ประโคม ดอกไม้ ของหอม. สถปู บา้ นนายจนุ ทะ บรเิ วณสถปู โบราณ อนั เปน็ ทห่ี มายวา่ ทแ่ี หง่ นค้ี อื บา้ นของนายจนุ ทกมั มาร- บตุ ร ชา่ งทองชาวเมอื ง ปาวา ทถ่ี วายภตั ตาหารมอ้ื สดุ ทา้ ย ชอ่ื สกุ รมทั ทวะ ตอ่ บรม- ศาสดา เปน็ เหตใุ หก้ ารประชวรทรดุ หนกั และเสดจ็ ไปยงั เมอื งกสุ นิ ารา เพอ่ื ปรนิ พิ พาน ตามพทุ ธ ประสงค์ ปจั จบุ นั ตง้ั อยทู่ ห่ี มบู่ า้ นปาวานาคาร์ หา่ งจากเมอื งกสุ นิ าราประมาณ ๑๙ กม. มีสถูปโบราณเหลือเป็นเนินสูงประมาณ ๕๐ ฟุต ตามหลักฐานการขุดค้นได้ พระพทุ ธรปู ทบ่ี รรจใุ นสถปู น้ี ๓ - ๔ องค์ ตามพระพทุ ธประวตั กิ ลา่ ววา่
มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานท่ถี วายพระเพลงิ ๙๗ เมอ่ื พระภาคเจา้ ประทบั อยใู่ นโภคนครพอสมควรแกเ่ วลาแลว้ ตรสั เรยี กพระ- อานนทแ์ ละเสดจ็ พระดำเนนิ ไปยงั เมอื งปาวาพรอ้ มกบั พระภกิ ษสุ งฆห์ มใู่ หญ่ เมอ่ื ไปถงึ เมอื งปาวาแลว้ ประทบั อยู่ ณ สวนมะมว่ ง ของนายจนุ ทะ เปน็ บตุ รของนายชา่ งทอง ความจริงเมืองปาวานั้นเป็นศูนย์กลางของพวกที่นับถือศาสนา นิครนถนาฏบุตร นายจุนทะได้ทราบว่าพระพุทธองค์เสด็จถึงเมืองปาวา กำลังประทับอยู่ ณ อัมพวัน จงึ เดนิ ทางไปเขา้ เฝา้ กราบทลู นมิ นตพ์ ระพทุ ธองคพ์ รอ้ มกบั พระภกิ ษสุ งฆใ์ หเ้ สดจ็ ไปฉนั ภตั ตาหารในวนั รงุ่ ขน้ึ นายจนุ ทะจดั เตรยี มของเคย้ี วของฉนั อนั ประณตี และสกุ รมทั ทวะ มาถวายเฉพาะพระองค์ ให้ถวายอาหารอื่นแก่พระภิกษุสงฆ์ เมื่อฉันแล้ว ตรัสสั่ง ใหน้ ำสกุ รมทั ทวะทเ่ี หลอื ไปฝงั เสยี “ดกู อ่ นจนุ ทะ ทา่ นจงฝงั สกุ รมทั ทวะทเ่ี หลอื เสยี ในหลมุ เรายงั ไมเ่ หน็ ใครเลยใน มนุษย์โลก เทวโลก มารโลก พรหมโลก ที่บริโภคสุกรมัททวะนั้นแล้ว จักพึงให้ย่อย ไปดว้ ยดี นอกจากตถาคต” นายจนุ ทะทำตามพทุ ธบชู า เขา้ ไปเฝา้ พระพทุ ธเจา้ พระองคท์ รงแสดงพระ- ธรรมเทศนา ทำใหน้ ายจนุ ทะเกดิ ความเขา้ ใจในขอ้ อรรถขอ้ ธรรม มคี วามรน่ื เรงิ เบกิ บาน ในธรรมะทไ่ี ดส้ ดบั นน้ั ตอ่ จากนน้ั พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ลกุ จากอาสนะเสดจ็ กลบั ทป่ี ระทบั ในวนั นน้ั เอง หลงั จากทเ่ี สวยสกุ รมทั ทวะของนายจนุ ทะแลว้ พระพทุ ธเจา้ ทรง- ประชวรดว้ ยโรคชอ่ื “ปกั ขนั ทกิ าพาธ” มอี าการลงพระโลหติ ทรงไดร้ บั ทกุ ขเวทนาอยา่ ง แรงกล้า แต่ยังทรงมีสติสัมปชัญญะ มั่นคง ไม่ทุรนทุราย ทรงอดกลั้นทุกขเวทนานั้น ดว้ ยพลงั ขนั ตธิ รรม คอื อธวิ าสนขนั ติ พระพุทธเจ้าเสด็จจากเมืองปาวาพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ขณะที่ เสดจ็ ดำเนนิ ทรงกระหายนำ้ จงึ เสดจ็ แวะลงพกั ณ โคนตน้ ไมท้ ร่ี มิ ทางนน้ั ตรสั สง่ั ใหพ้ ระ- อานนทป์ ผู า้ สงั ฆาฎซิ อ้ นกนั เปน็ ๔ ชน้ั ประทบั บนอาสนะทพ่ี ระอานนทป์ ลู าดถวายไว้ รบั สง่ั ใหพ้ ระอานนทไ์ ปตกั นำ้ จากลำคลองเลก็ ทอ่ี ยใู่ นบรเิ วณนน้ั มา เพราะทรงกระหาย ใครจ่ ะดม่ื นำ้ พระอานนทไ์ มไ่ ปตกั นำ้ ตามพทุ ธบญั ชา เพราะเหน็ วา่ เกวยี น ๕๐๐ เลม่
๙๘ มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ เพง่ิ ขา้ มแมน่ ำ้ นน้ั ไปไมน่ าน ทำใหน้ ำ้ ขนุ่ กราบทลู แนะนำใหเ้ สดจ็ ตอ่ ไปยงั แมน่ ำ้ ใหญช่ อ่ื “กกธุ ารนที” ซง่ึ อยไู่ มไ่ กลจากทน่ี น้ั พระพทุ ธเจา้ ตรสั ยนื ยนั ถงึ ๓ ครง้ั ใหพ้ ระอานนท์ ไปตกั นำ้ มา พระอานนทเ์ ถระ เมอ่ื พระพทุ ธองคท์ รงยนื ยนั ใหไ้ ปตกั นำ้ ถงึ ๓ ครง้ั จงึ ถอื บาตร ไปยงั แมน่ ำ้ นอ้ ยเพอ่ื นำนำ้ ไปถวายตามพทุ ธประสงค์ แตเ่ มอ่ื พระอานนทเ์ ดนิ เขา้ ไปใกล้ นำ้ ในแมน่ ำ้ ทข่ี นุ่ มวั เพราะถกู ลอ้ เกวยี นยำ่ ไป กลบั ใสสะอาด ไมข่ นุ่ มวั มกี ระแสไหลไป ตามปกติ เหมอื นกบั วา่ ไมม่ ลี อ้ เกวยี นยำ่ ผา่ นไป แมน่ ำ้ ทอ่ี ยใู่ กลเ้ มอื งกสุ นิ ารา คอื กกฎุ ฐา หรอื กกธุ ารนที ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทรง- สรงสนาน แมน่ ำ้ สายนอ้ี ยใู่ นเขตของเมอื งปาวา สวนอมั พวนั ของนายจนุ ทะ ตง้ั อยรู่ มิ ฝง่ั แมน่ ำ้ กกฎุ ฐาน้ี พระพทุ ธเจา้ หลงั จากทเ่ี สวยสกุ รมทั ทวะของนายจนุ ทะแลว้ ทรงประชวร- ปกั ขนั ทกิ าพาธ ประทบั อยทู่ อ่ี มั พวนั น้ี ตรสั ใหพ้ ระอานนทน์ ำความไปบอกแกน่ ายจนุ ทะ โดยทำใหเ้ ขามน่ั ใจวา่ การทเ่ี ขาถวายสกุ รมทั ทวะแดพ่ ระตถาคตเปน็ อาหารมอ้ื สดุ ทา้ ย หลังจากที่ทรงเสวยแล้วทรงประชวรนี้ ไม่มีข้อที่น่าตำหนิ แต่กลับมีอานิสงส์มาก ตำนานบอกวา่ เมอ่ื พระพทุ ธเจา้ ทรงสรงสนานในแมน่ ำ้ กกฏุ ฐานแ้ี ลว้ บรเิ วณรมิ ฝง่ั แมน่ ำ้ และปลาทกุ ตวั ในแมน่ ำ้ ไดก้ ลายสภาพเปน็ ทองคำ ขา่ วการเสดจ็ ปรนิ พิ พานของพระพทุ ธเจา้ แพรส่ ะพดั อยา่ งรวดเรว็ และกวา้ ง ไกล พระเจ้าอชาตศัตรูแห่งกรุงราชคฤห์ กษัตริย์ลิจฉวีแห่งไพศาลี ศากยะแห่งกรุง- กบิลพัสดุ์ ปุรีแห่งอลากัปปา โกลิยะแห่งรามคาม มัลละแห่งปาวา รวมทั้งพราหมณ์ คนหนง่ึ ตา่ งอา้ งสทิ ธไ์ิ ดส้ ว่ นแบง่ พระบรมสารรี กิ ธาตุ จากมลั ละแหง่ กสุ นิ ารา เกอื บจะ เกดิ สงครามจากการแยง่ ชงิ แตไ่ ดโ้ ทณพราหมณเ์ ขา้ มาจดั การโดยตกลงกนั อยา่ งสนั ติ (ภาพที่ ๑๐) ให้มีการแบ่งออกเป็นแปดส่วนเท่ากัน ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งตกเป็นของ มลั ละแหง่ กสุ นิ ารา ซง่ึ ไดส้ รา้ งสถปู ทส่ี ำคญั ขน้ึ มาแหง่ หนง่ึ ในเมอื งของตนดว้ ยพธิ อี ยา่ ง สมเกยี รติ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ (ภาพที่ ๑๑) ตั้งอยู่ระหว่างกึ่งกลางของสาล วโนทยานทเ่ี สดจ็ ปรนิ พิ พานกบั มกฏุ พนั ธนเจดยี ์ ทถ่ี วายพระเพลงิ พทุ ธสรรี ะ ปจั จบุ นั มี
มกฎุ พนั ธนเจดยี ์ สถานทถ่ี วายพระเพลงิ ๙๙ เจา้ คณุ พระวเิ ทศโพธคิ ณุ (วรี ยทุ โธ) ปฏบิ ตั หิ นา้ ทป่ี ระธานสงฆ์ หรอื เจา้ อาวาส พรอ้ มดว้ ย ภกิ ษจุ ำพรรษา ๑๙ รปู ขณะนม้ี กี ารเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา เชน่ การปฏบิ ตั กิ รรมฐาน รักษาศีล และให้การสงเคราะห์ด้วยการเปิดสถานรักษาพยาบาล กุสินาราคลินิก ตรวจรกั ษาคนยากคนจน ผดู้ อ้ ยโอกาสประมาณวนั ละ ๕๐ – ๑๑๐ คน มนี ายแพทย์ แพทย์หญิง พยาบาลและเภสัชกร มาทำงานทุกวัน โดยรักษาฟรี ไม่เลือกชั้นวรรณะ โดยไมค่ ดิ มลู คา่ ใด ๆ ได้ทราบจากท่านเจ้าคุณว่าสถาปนิกผู้ออกแบบวัดที่สวยงามอลังการณ์ แหง่ นค้ี อื ทา่ นอาจารยภ์ ญิ โญ สวุ รรณครี ี อาจารยท์ างสถาปตั ยกรรมไทยทม่ี ฝี มี อื เยย่ี ม ที่สุดของไทยที่เป็นที่ร่ำลือกันว่าฝีมืออาจารย์ภิญโญนี่ ต่อให้เอาจั๊กกะแร้หนีบดินสอ เขยี นลายไทยแขง่ กนั ทว่ั เมอื งไทยกย็ งั ไมม่ ใี ครสไู้ ด้ ขนาดนน้ั เมอ่ื สามสบิ กวา่ ปที แ่ี ลว้ ผเู้ ขยี นกเ็ คยเปน็ ศษิ ยข์ องทา่ นในวชิ าสถาปตั ยกรรมไทย มาถงึ เวลานย้ี งั นกึ ประหลาดใจ วา่ อาจารยท์ ำไมทา่ นดงึ วชิ ากลบั ไปหมดเลย ลายไทยตา่ ง ๆ ทท่ี า่ นสอนไวท้ ำไมเราเขยี น ไม่ได้แม้แต่เส้นเดียว ถ้ายังไงการฟังธรรมะหลาย ๆ ปีมานี่ หวังว่าไม่กลับคืนไปยัง ทา่ นอาจารยจ์ นหมดเหมอื นสมยั เรยี นหนงั สอื นะครบั หวงั วา่ คงเหลอื ไวไ้ ดข้ ดั เกลาเจรญิ ปญั ญาบา้ งตามสมควร ที่กุสนิ ารานี่เราก็จะแยกกันพักเป็นสองโรงแรมอีกแล้วครับ โรงแรมที่เห็นใน ภาพที่ ๑๓ สวยไหมครับ ใครอยากพักที่นี่ก็ลองจอง ๆ ไว้ก่อนนะครับ เมื่อปี ๔๘ พวกเรามาเขาเพิ่งเปิดรับเราเป็นแขกชุดแรกด้านหน้าสวย ด้านหลัง ยังทาสีไม่เสร็จ หรอกครบั ตอนกลางคนื ไฟดบั กค่ี รง้ั ไมท่ ราบ ผเู้ ขยี นไมไ่ ดม้ าพกั ดว้ ยครบั เขาเมตตาใหไ้ ป พกั อกี โรงแรมหนง่ึ หลบั สบายและฝนั ดี ขออนโุ ทนาครบั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186