53 . ไม่ควรดสู ือลามกโดยเฉพาะกบั คู่รัก เพราะจะทาํ ใหท้ งั สองฝ่ ายเกิดอารมณ์ทางเพศ และนาํ ไปสู่การมพี ฤตกิ รรมทางเพศทีไม่เหมาะสม . การไปเทียวในงานวนั สาํ คญั ตา่ ง ๆ เชน่ วนั วาเลนไทน์ วนั ลอยกระทง วนั ขึนปี ใหม่ ทเี ป็นการเทียวในเวลากลางคืน แลว้ จะไปตอ่ กนั ในสถานทีทีอาจจะมีเพศสัมพนั ธ์กนั ได้ ดงั นันการไปเทียวกบั ครู่ ักในวนั สาํ คญั ดงั กล่าวควรระมดั ระวงั ตวั ใหด้ ี ถา้ เราคิดว่าไม่น่าไวว้ างใจกไ็ ม่ควรไปโดยหาทางปฏิเสธอย่าง นุ่มนวล . การไปเทียวงานสังสรรค์หรือตามสถานบนั เทิงกบั คนรักควรระมดั ระวงั ตัวดว้ ย เพราะอาจดืมเครืองดืมทีมีแอลกอฮอลแ์ ลว้ ทาํ ใหม้ ึนเมาไม่รู้สึกตวั . อยา่ ใจอ่อนถา้ ถูกขอทีจะมีเพศสัมพนั ธ์ดว้ ย อยา่ หลงคารมเขาเป็ นอนั ขาด และไม่ ตอ้ งกลวั เขาโกรธ รักษาความบริสุทธิของเราดกี ว่า หากพลาดพลงั ไปแลว้ กค็ วรระวงั อยา่ ใหเ้ กิดขนึ อกี . ในกรณีเมืออย่กู บั เพือนชาย ควรปฏิบตั ิดงั นี . อยา่ ใหม้ าถูกเนือตอ้ งตวั โดยไม่จาํ เป็ น เพราะถา้ วนั ใดทีเพือนชายมีโอกาส ผูห้ ญิง อาจพลาดท่าเสียทีได้ . อยา่ ไวใ้ จใครมากนกั มเี พือนหลายคนทีหลอกพาเพือนไปข่มขืน บางรายใหเ้ พือน คนอนื ๆ ขม่ ขนื ดว้ ยตามทมี ีขา่ วใหพ้ บเห็นอยบู่ อ่ ย ๆ . ไมไ่ ปเทยี วแบบคา้ งคนื ถึงแมจ้ ะไปเป็นหมคู่ ณะกต็ อ้ งระมดั ระวงั . การไปเทียวตามสถานบนั เทิงแลว้ กลบั ดึกอาจเป็ นอนั ตราย ถา้ มีเพือนอาสาไปส่ง บา้ นกค็ วรระวงั เพราะอาจพาไปทีอนื ได้ . ในกรณีเมอื อย่กู บั คนแปลกหน้า ควรปฏิบตั ดิ งั นี . อยา่ ไวใ้ จคนแปลกหนา้ เป็นอนั ขาด เพราะยงั ไม่รู้จกั นิสัยใจคอเขาดีพอ ถา้ หลงเชือ อาจถกู เขาหลอกได้ โดยเฉพาะถา้ พบกนั ในสถานบนั เทิงเริงรมยเ์ ขาอาจจะมองเราวา่ เป็นผูห้ ญิงทีรักสนุก คงจะมี เพศสัมพนั ธด์ ว้ ยไมย่ าก . ไมค่ วรเดินทางไปในทเี ปลียวยามคาํ คืน เพราะมีผูห้ ญิงถูกคนร้ายลกั พาตวั ไปข่มขืน มาหลายรายจนนบั ไมถ่ ว้ นแลว้ ในสถานการณ์เช่นนี . อย่าเชือคนทีรู้จกั กนั ทางอินเทอร์เน็ต ถึงแมจ้ ะคุยกนั จนเหมือนรู้จักกนั ดีแลว้ ก็ตาม เพราะยงั ไมเ่ คยเหน็ หนา้ กนั กย็ งั คงเป็นคนแปลกหนา้ อยดู่ ี หญงิ สาวหลายรายทถี กู คนทรี ู้จกั กนั ทางอินเทอร์เน็ตหลอก ไปขม่ ขืน บางรายมกี ารถา่ ยรูปไวเ้ พือข่มข่แู ละตอ่ รองเรืองอนื ๆ อกี ดว้ ย . ในกรณีเมืออยู่กับพ่อเลียงหรือญาติ ผูห้ ญิงทีถูกคนใกลช้ ิดในครอบครัวข่มขืนนันมีมาก และมกั ไม่ยอมบอกใคร บางรายถูกข่มขืนมานานนบั ปี บางครังเกิดการตงั ครรภ์ เพราะคนในครอบครัวนัน ใกลช้ ิดเห็นกนั อยทู่ กุ วนั หรือพบกนั บ่อย ไวใ้ จกนั มาก ในเรืองนีผูห้ ญิงควรปฏบิ ตั ติ นดงั นี . ใหส้ ังเกตการณ์สัมผสั ของบุคคลเหลา่ นนั ว่า สัมผสั ดว้ ยความเอ็นดูแบบลูกหลานหรือ แบบชสู้ าว ถา้ มกี ารสมั ผสั นาน ลบู คลาํ จบั ตอ้ งของสงวน ตอ้ งระมดั ระวงั อย่าเขา้ ใกล้ . ควรนอนในหอ้ งทีมิดชิดใส่กลอนหรือลอ็ คกุญแจใหเ้ รียบร้อย . ถา้ บุคคลเหล่านนั มึนเมาอยา่ ไวใ้ จ เพราะทาํ ใหข้ าดสติ และกระทาํ ในสิงทไี มค่ าดคิด ได้
54 . การแต่งตวั อยบู่ า้ น การอาบนาํ ตอ้ งกระทาํ อยา่ งมิดชิด อยา่ เปิ ดเผยเรือนร่างมากนัก เพราะอาจเป็นการยวั ยอุ ารมณ์ทางเพศแก่บคุ คลเหลา่ นนั ได้ . ถา้ ถกู บุคคลเหลา่ นนั ลวนลามควรบอกใหค้ นในบา้ นทราบ หรือร้องตะโกนให้ผูอ้ ืน ชว่ ยเหลอื ไมต่ อ้ งอายเพราะเขาทาํ ไมถ่ กู ตอ้ ง ข้อควรคดิ เกียวกับการมเี พศสัมพนั ธ์ มผี หู้ ญิงบางคนทีคดิ วา่ การมเี พศสมั พนั ธ์เป็นเรืองปกติไม่ใชเ่ รืองผดิ ไมร่ ับรู้ถงึ ขนบธรรมเนียม และวฒั นธรรมไทย จึงควรตรวจสอบตนเองว่ามีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมเพียงใด โดยตอบคาํ ถาม เหล่านีใหไ้ ดเ้ สียก่อนทีจะคิดมีเพศสัมพนั ธ์ . ถา้ ยนิ ยอมมีเพศสมั พนั ธ์ เราจะยอมรับกบั ผลทจี ะตามมาไดเ้ พยี งใด เช่น คาํ ครหาของคนใน สงั คม ความกลวั คนอนื จะล่วงรู้ การตงั ครรภ์ การถูกผูช้ ายทิงหลงั จากไดเ้ สียกนั แลว้ การเสียความบริสุทธิไป แลว้ ผชู้ ายคนนีคอื คนทจี ะเป็นคู่ชวี ิตของเราหรือไม่ เป็นตน้ . เมอื เรายงั ไม่พร้อมทีจะมีลกู จะป้ องกนั ตนเองอยา่ งไร รู้วิธีป้ องกนั การตงั ครรภเ์ พียงใด เมือ ป้ องกนั แลว้ จะผิดพลาดไดห้ รือไม่ ถา้ พลาดมีลกู ขึนมาจะทาํ อยา่ งไร ผูช้ ายจะรับผิดชอบหรือไม่ ตนเองไม่อบั อาย คนอนื ๆ หรือถา้ จะตอ้ งไปทาํ แทง้ การทาํ แทง้ มีอนั ตรายเพยี งใด . การตังครรภ์ทไี ม่พึงประสงค์ในวัยรุ่น การตงั ครรภท์ ีไม่พึงประสงคใ์ นวยั รุ่น หมายถึง การตงั ครรภท์ ีเกิดขึนในวยั รุ่นเพศหญิงซึง เป็นผลสืบเนืองมาจากการมีเพศสมั พนั ธท์ เี กิดขึนโดยไม่ไดต้ งั ใจ โดยอาจมีสาเหตุสาํ คญั มาจากพฤติกรรมทางเพศ ทไี ม่เหมาะสมของวยั รุ่น หรืออาจเกิดจากการถูกขม่ ขืนกระทาํ ชาํ เรา . ปัญหาและผลกระทบของการตงั ครรภ์ทไี ม่พึงประสงค์ในวัยรุ่น ปัญหาการตงั ครรภท์ ไี มพ่ ึงประสงคผ์ ลกระทบทสี าํ คญั ดงั นี ) ส่งผลกระทบตอ่ วยั รุ่นทตี งั ครรภโ์ ดยไมพ่ งึ ประสงคโ์ ดยตรง ซึงผลกระทบดงั กล่าว สร้างปัญหาทตี ดิ ตามมา เป็นตน้ วา่ ปัญหาทางดา้ นจิตใจและอารมณ์ วยั รุ่นทีมีปัญหาการตงั ครรภ์ทีไม่พึงประสงคม์ กั มี ความรู้สึกวา่ ตนเองทาํ ผดิ เกิดความละอายใจ และมีความคิดว่าไม่มีใครรักใครตอ้ งการอีก ซึงบางคนอาจแสดง พฤติกรรมทางเพศทีไม่เหมาะสมและรุนแรงขึน หรือบางคนอาจไม่แสดงออกและมกั เกบ็ กดอยากทาํ ลายชีวิต ตนเอง ฯลฯ ซึงภาวะทางจิตใจและอารมณ์ของวยั รุ่นทีตงั ครรภ์โดยไม่พึงประสงค์นีจะมีมากหรือนอ้ ยขึนอยกู่ บั การยอมรับและความเขา้ ใจของคนในครอบครัว ถา้ ครอบครัวยอมรับเขา้ ใจ และให้อภยั ปัญหาทางดา้ นจิตใจ และอารมณ์กจ็ ะลดนอ้ ยลงได้ ปัญหาทางดา้ นสุขภาพ ปัญหาทีมกั พบ คือ ปัญหาโรคเอดส์และโรคติดต่อทาง เพศสัมพนั ธ์ การมีเพศสัมพนั ธ์โดยไม่ไดม้ ีการป้ องกนั และคุมกาํ เนิดยอ่ มมีโอกาสให้วยั รุ่นเพศหญิงไดร้ ับเชือ เอดส์ หรือโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธจ์ ากฝ่ ายชายในอตั ราเสียงทีสูง ปัญหาทางทาํ แทง้ ซึงมกั จะส่งผลกระทบต่อ ผูท้ าํ แทง้ ไดโ้ ดยเป็นอนั ตรายต่อชีวติ ซึงมกั เกิดจากการตกเลือดหรือการติดเชืออย่างรุนแรง นอกจากนันยงั เป็ น อุปสรรคตอ่ การมบี ุตรในอนาคต แมก้ ารทาํ แทง้ จะผ่านพน้ ไป แต่การทาํ แทง้ อาจทาํ ใหเ้ กิดการอกั เสบเรือรังใน โพรงมดลูกและท่อมดลูก เป็นผลใหโ้ พรงมดลูกและท่อมดลูกตีบตนั มดลูกทะลุหรืออกั เสบอย่างรุนแรงเพราะ
55 เครืองมอื ทาํ แทง้ ทาํ ใหบ้ างคนตอ้ งตดั มดลกู ทงิ หรือการขยายปากมดลกู ขณะทาํ แทง้ ทาํ ให้ ปากมดลูกฉีกขาด หู รูดของปากมดลูกหลวม เกิดภาวการณ์แทง้ บุตรไดง้ ่าย และยงั ส่งผลใหม้ ีปัญหาสุขภาพทีต่อเนือง โดยเฉพาะ มกั จะพบวา่ มีการอกั เสบเรือรังในชอ่ งเชิงกราน ) ส่งผลกระทบตอ่ ครอบครัวของวยั รุ่นทีตงั ครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ มกั พบเสมอ ว่าเมือวยั รุ่นเพศหญิงตงั ครรภโ์ ดยไม่พึงประสงค์ขึน วยั รุ่นของเพศชายมกั จะไม่แสดงความรับผิดชอบต่อสิงที เกิดขนึ ภาระความผิดชอบจึงตกเป็นของฝ่ ายหญงิ และครอบครัวเพยี งฝ่ ายเดียว ถา้ ครอบครัวฝ่ ายหญิงมีความเขา้ ใจและ ใหอ้ ภยั ตอ่ ความผดิ พลาดทีเกิดขึน และครอบครัวยงั พร้อมทีจะร่วมแกป้ ัญหาการเลียงดูเดก็ ทีจะเกิดขึนได้ กจ็ ะ ช่วยลดปัญหาทางดา้ นอารมณ์และจิตใจของวยั รุ่นเพศหญิงลงได้ แตใ่ นทางตรงขา้ ม หากครอบครัวของวยั รุ่นเพศ หญิงไมส่ ามารถยอมรับปัญหาทีเกดิ ขึนดงั กลา่ วกอ็ าจส่งผลใหเ้ กิดปัญหาตา่ ง ๆ ตามมาได้ ) ส่งผลกระทบตอ่ สังคมและประเทศชาติ การตงั ครรภ์ทีไม่พึงประสงค์ของวยั รุ่นทาํ ให้เกิดปัญหาทางสังคมต่าง ๆ ตามมาดงั ทีไดก้ ล่าวมาแลว้ นอกจากนี ประเทศชาติตอ้ งสูญเสียงบประมาณ บางส่วนทตี อ้ งนาํ มาใชเ้ พอื การบาํ บดั รักษา ดูแลสุขภาพของวยั รุ่นเพศหญิงทีตงั ครรภโ์ ดยไม่พึงประสงค์ ตอ้ งจัด งบประมาณในการเลียงดปู ระชากรส่วนหนึงทเี กิดจากผลพวงของปัญหาดงั กลา่ ว . การป้ องกันการตงั ครรภ์ทีไม่พงึ ประสงค์ในวัยรุ่น การป้ องกนั มแี นวทางในการปฏบิ ตั ิ ดงั นี ) ตอ้ งรู้จกั หลีกเลยี งสถานการณ์ทเี อืออาํ นวยใหเ้ กดิ การมเี พศสัมพนั ธ์ มกั พบว่าการมี เพศสัมพันธ์ทีไม่ได้ตังใจของวัยรุ่นมกั จะเกิดจากสถานการณ์หรื อบรรยากาศทีเอือให้เกิดโอกาสต่อการมี เพศสมั พนั ธ์ เช่น การอยตู่ ามลาํ พงั สองต่อสองในทีลบั ตาคน หรือการเขา้ ร่วมในกิจกรรมพบปะสังสรรค์ทีมีการดืม เครืองผสมแอลกอฮอล์ เป็นตน้ ) ต้องรู้จักใชท้ กั ษะในการปฏิเสธเพือแกไ้ ขสถานการณ์เสียงต่อการมีเพศสัมพนั ธ์ วธิ ีการหลกี เลยี งและแกไ้ ขสถานการณ์ดงั กลา่ ว ฝ่ ายหญงิ ตอ้ งนาํ ทกั ษะการปฏิเสธไปใช้ ซึงการปฏิเสธของฝ่ ายหญิง จะเป็นสัญญาณเตือนใหฝ้ ่ ายชายหยดุ แสดงพฤติกรรมทางเพศทีไม่เหมาะสมออกมา แนวทางในการใชค้ าํ พูดที เป็นทกั ษะของการปฏเิ สธ มีหลายขอ้ ความ เชน่ “หยดุ นะ อยา่ ทาํ แบบนี” ฉันไม่ชอบหยดุ นะ” “อย่านะ ฉันจะ ตะโกนให้ลนั เลย” “คุณไม่มีสิทธิทีจะทาํ แบบนี” และอืน ๆ ตามความเหมาะสมซึงคาํ พูดทีเป็ นทกั ษะในการ ปฏิเสธมกั จะมีคาํ วา่ “ไม”่ “อยา่ ” หรือ “หยดุ ” ) ตอ้ งรู้จกั ใหเ้ กียรตซิ ึงกนั และกนั การทฝี ่ ายหญิงและฝ่ ายชายนาํ หลกั ความเสมอภาค ทางเพศ และการวางตวั ทเี หมาะสมต่อเพศตรงขา้ มมาใช้ ถือว่าเป็ นการใหเ้ กียรติซึงกนั และกนั ซึงจะช่วยป้ องกนั อารมณ์ในขณะพบปะพูดคุยกนั ไม่ใหพ้ ฒั นาไปสู่ความตอ้ งการทางเพศได้ ) ต้องระมดั ระวังในเรืองการแต่งกาย ปัจจุบันรู ปแบบการแต่งกายของวัยรุ่ น โดยเฉพาะวยั รุ่นเพศหญิงมกั นิยมสวมเสือผา้ ทีรัดรูปหรือนอ้ ยชืนเกินไป ซึงการแต่งกายดงั กล่าวจะทาํ ใหเ้ ห็น รูปร่างสัดส่วนชดั เจนขนึ การแตง่ กายในลกั ษณะดงั กล่าวจะส่งผลเร้าใหเ้ พศตรงขา้ มเกิดอารมณ์และขาดความ ยงั คดิ อาจนาํ ไปสู่การแสดงพฤตกิ รรมการลว่ งละเมดิ ทางเพศทเี ป็นอนั ตราย จนถึงการตงั ครรภท์ ีไม่พึงประสงค์ ในเพศหญิงได้
56 ) ควรหลีกเลียงการเดินทางตามลาํ พงั ในยามวิกาลหรือในเส้นทางทีเปลียว จาก สถิตขิ องวยั รุ่นเพศหญงิ พบว่า อนั ตรายทีไดร้ ับจากการถูกข่มขืนมกั เกิดขึนในยามวิกาลหรือในเส้นทางทีเปลียว ผูค้ นสญั จรนอ้ ย ดงั นนั วธิ ีการป้ องกนั ทดี ีทีสุดหากจาํ เป็นจะตอ้ งเดนิ ทางในสถานการณ์ดงั กล่าว ควรจะมีเพือน หรือญาตริ ่วมเดนิ ทางไปดว้ ยเพอื ป้ องกนั อนั ตรายทีอาจเกิดขนึ . ความรู้เบืองต้องเกยี วกับกฎหมายคุ้มครองสิทธผิ ู้ถกู ล่วงละเมิดทางเพศ กฎหมายไดร้ ะบฐุ านความผิดเกียวกบั การถูกล่วงละเมิดทางเพศไว้ ลกั ษณะ ดงั นี . ความผดิ ฐานข่มขืนกระทําชําเรา ผูท้ ขี ่มขนื กระทาํ ชาํ เราเดก็ หญงิ อายไุ มเ่ กิน ปี ซึงมิใช่ภรรยาตน โดยเดก็ หญิงนนั จะ ยนิ ยอมหรือไม่กต็ าม ตอ้ งระวางโทษจาํ คกุ ตงั แต่ - ปี และปรับตงั แต่ , - , บาท (ประมวลกฎหมาย อาญามาตรา วรรคหนึง) ถา้ การกระทาํ ความผิดตามวรรคแรก เป็นการกระทาํ แกเ่ ดก็ หญงิ อายไุ ม่เกิน ปี ตอ้ ง ระวางโทษจาํ คุกตงั แต่ ปี ถงึ ปี และปรับตงั แต่ , - , บาท หรือจาํ คุกตลอดชีวิต (ประมวลกฎหมาย อาญามาตรา วรรคสอง) ถา้ การกระทาํ ผิดตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ไดก้ ระทาํ โดยร่วมกระทาํ ความผิด ดว้ ยกนั อนั มีลกั ษณะเป็นการโทรมเดก็ หญิง (คือร่วมกนั กระทาํ ความผิดตงั แต่ คนขึนไป) โดยเดก็ หญิงนันไม่ยนิ ยอม หรือไดก้ ระทาํ โดยมีอาวุธ เช่น อาวธุ ปื น หรือวตั ถุระเบิด หรือโดยการใชอ้ าวุธอืน ๆ ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกตลอด ชวี ิต (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา วรรคสาม) แต่มีข้อยกเวน้ คือ ถ้าการกระทาํ ดงั กล่าวข้างตน้ เป็ นการกระทาํ ทีชายกระทาํ กบั เดก็ หญิงอายมุ ากกว่า ปี แต่ไม่เกิน ปี โดยเดก็ หญิงนนั ยินยอม และภายหลงั ศาลอนุญาตให้สมรสกัน ผูก้ ระทาํ ผิดไมต่ อ้ งรับโทษ และถา้ ศาลอนุญาตใหส้ มรสกนั ในระหว่างทีผูก้ ระทาํ ผิดกาํ ลงั รับโทษในความผิดนนั อยู่ ศาลตอ้ งสังปล่อยผูก้ ระทาํ ความผิดนนั ไป (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา วรรคสี) ถา้ เป็นการกระทาํ ชาํ เราเดก็ หญิงอายยุ งั ไมเ่ กิน ปี ซึงมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กหญิง นนั จะยนิ ยอมหรือไมก่ ต็ าม หรือเป็ นการกระทาํ แก่เด็กอายไุ ม่กิน ปี แลว้ เป็ นเหตุใหเ้ ด็กหญิงไดร้ ับอนั ตราย สาหสั เช่น ไดร้ ับบาดเจ็บสาหสั ผูก้ ระทาํ ตอ้ งระวางโทษตงั แต่ ปี ถึง ปี และปรับตงั แต่ , - , บาท หรือจาํ คุกตลอดชีวติ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ทวิ ( ) ) และหากเดก็ นนั ถึงแกค่ วามตาย ผูก้ ระทาํ ตอ้ งระวางโทษประหารชวี ติ หรือจาํ คุกตลอดชีวติ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ทวิ ( ) ) หากการกระทาํ ชาํ เราเดก็ หญิงอายยุ งั ไม่เกนิ ปี หรือการกระทาํ แก่เด็กหญิงอายยุ งั ไม่ เกิน ปี ดงั กล่าวขา้ งตน้ ไดร้ ่วมกระทาํ ความผดิ ดว้ ยกนั อนั มลี กั ษณะเป็นการโทรมหญิง หรือกระทาํ โดยมอี าวุธ ปื น หรือวตั ถุระเบิดหรือโดยการใชอ้ าวธุ และเป็นเหตใุ หเ้ ด็กหญิงผูถ้ ูกระทาํ ไดร้ ับอนั ตรายสาหสั ผูก้ ระทาํ ตอ้ ง ระวางโทษประหารชวี ติ หรือจาํ คุกตลอดชวี ิต และหากเดก็ หญิงทีถูกกระทาํ ถึงแก่ความตาย ผูก้ ระทาํ ตอ้ งไดร้ ับ โทษประหารชวี ิต และหากเดก็ หญิงทถี กู กระทาํ ถงึ แก่ความตาย ผูก้ ระทาํ ตอ้ งไดร้ ับโทษประหารชีวิต (ประมวล กฎหมายอาญามาตรา ตรี)
57 . ความผดิ ฐานกระทําอนาจารต่อเด็ก ผูท้ ีกระทาํ อนาจารแกบ่ ุคคลอายตุ าํ กวา่ ปี โดยข่เู ขญ็ ดว้ ยประการใด ๆ โดยใชก้ าํ ลงั ประทษุ ร้าย โดยบุคคลนนั อยใู่ นภาวะทีไมส่ ามารถขดั ขืนได้ หรือโดยทาํ ใหบ้ ุคคลนนั เขา้ ใจผิดว่าตนเป็ นบุคคล อนื ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไม่เกนิ ปี หรือปรับไม่เกิน , บาท หรือทงั จาํ ทงั ปรับ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา วรรคหนึง) ถา้ การกระทาํ อนาจารนนั กระทาํ ตอ่ เดก็ อายไุ มเ่ กนิ ปี และผูก้ ระทาํ ผิดไดก้ ระทาํ โดยการขเู่ ขญ็ ดว้ ยประการใด ๆ โดยใชก้ าํ ลงั ประทุษร้าย โดยบุคคลนนั อยู่ในภาวะทีไม่สามารถขดั ขืนได้ หรือ โดยทาํ ใหบ้ คุ คลนนั เขา้ ใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอนื มีโทษหนกั คอื ผูก้ ระทาํ ตอ้ งระวางโทษจาํ คุกไม่เกิน ปี หรือ ปรับไม่เกิน , บาท หรือทงั จาํ ทงั ปรับ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา วรรคสอง) หากการกระทาํ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ เป็นเหตุใหผ้ ูถ้ ูกกระทาํ ไดร้ ับอนั ตรายสาหสั ผูก้ ระทาํ อนาจารตอ้ งระวางโทษจาํ คุกตงั แต่ ปี ถึง ปี และปรับตงั แต่ , - , บาท และหากผูถ้ กู กระทาํ ถึงแก่ความตาย ผูก้ ระทาํ ตอ้ งระวางโทษประหาร ชวี ิต หรือจาํ คกุ ตลอดชวี ติ (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ) การข่มขืนกระทาํ ชาํ เราผูเ้ ยาว์ และการกระทาํ อนาจารแกเ่ ดก็ อายไุ มเ่ กนิ ปี โดยเด็ก นนั จะยนิ ยอมหรือไมก่ ต็ าม เป็นความผดิ อาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความกนั ได้ แตถ่ า้ เป็นการขม่ ขืนกระทาํ ชาํ เราหญิงทีมใิ ช่ภรรยาตน โดยเด็กหญิงนันไม่ใช่ผูเ้ ยาว์ และการกระทาํ อนาจารแกบ่ ุคคลอายตุ าํ กว่า ปี ทงั สองกรณีนี ถา้ มไิ ดก้ ระทาํ ต่อหนา้ ธารกาํ นลั คอื ในทเี ปิ ดเผย และไม่เป็ นสาเหตุให้ผู้ถูกกระทาํ ไดร้ ับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็ นการกระทาํ แก่ ผูส้ ืบสันดาน คอื ลูก หลาน เหลนของตนเอง มใิ ชเ่ ป็นการกระทาํ ต่อศษิ ยซ์ ึงอยใู่ นความดูแล มิใช่เป็ นการกระทาํ ตอ่ ผูอ้ ยใู่ นความควบคุมตามหนา้ ทีราชการ หรือมิใช่เป็ นการกระทาํ ต่อผูอ้ ยใู่ นความพิทกั ษห์ รือในความอนุบาล กรณีทงั หมดทกี ล่าวมาเป็นความผิดอนั ยอมความได้ คือเป็นกรณีทผี ูเ้ สียหายหรือผูถ้ ูกกระทาํ และผูก้ ระทาํ ความผิด ตกลงหรือสมคั รใจไมเ่ อาความตอ่ กนั กเ็ ป็นอนั เลกิ แลว้ ต่อกนั (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา )
58 กจิ กรรม . สรีระร่างกายทีเกยี วข้องกับการสืบพนั ธ์ุของเพศหญิงและเพศชาย มีอะไรบ้าง จงอธบิ ายพอสังเขป เพศหญิง________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ เพศชาย________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ . เขยี นสรุปเกียวกับการเปลยี นแปลงเพอื เข้าสู่วัยหนุ่มสาว เพศหญงิ ________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ เพศชาย________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ . วิธีการหลีกเลยี งพฤติกรรมทนี ําไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวยั อนั ควรมีอะไรบ้าง ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________ ______________________________________________________________________________
59 เรืองที สุขภาพทางเพศ “ความสุข”เป็นสิงทีมนุษยท์ กุ คนตอ้ งการไมเ่ คยถกู จาํ กดั ดว้ ยเพศ วยั ชนชาติ “สุขภาวะทางเพศ”กเ็ ป็นเรืองทที ุกคนลว้ นตอ้ งการเชน่ กนั แผนงานสร้างเสริมภาวะทางเพศ โดยสาํ นักงานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สส.)และ มูลนิธิสร้างความเขา้ ใจเรืองสุขภาพผหู้ ญิง (สคส.)ไดด้ าํ เนินงานผลกั ดนั วาระการสร้างสุขภาวะทางเพศขึนอย่าง ต่อเนือง เพราะสุขภาวะทางเพศไมไ่ ดม้ ีความหมายแคบๆแค่เรืองเพศสมั พนั ธ์แต่มคี วามหมายลึกซึงและมิติทีกวา้ ง กว่านนั เรืองเพศจึงไมใ่ ชแ่ ค่เรืองของเนือตวั ร่างกายแต่ยงั หมายถึงความรับผิดชอบการดูแลสุขภาพร่างกายการ สร้างความสมั พนั ธท์ ดี รี ะหวา่ งกนั การเคารพสิทธิกนั และกนั และความเท่าเทียม เพราะสังคมนนั มคี วามหลากหลาย ทางเพศมากวา่ แค่หญิงหรือชาย ผูท้ มี ีสุขภาวะทางเพศทดี ีกจ็ ะปฏิบตั ิตอ่ คนทมี วี ิถที างเพศแตกตา่ งจากตวั เองดว้ ยความเคารพไม่ว่าจะเป็ น สาวประเภทสองหรือหญงิ รักหญงิ ชายรักชาย หรือผูท้ ีรักสองเพศและยงั ปฏิบตั ิกบั เพือคู่รักหรือชายทีสาํ คญั คือมี ความรับผดิ ชอบต่อสังคมและตนเองในเรืองการมีเพศสัมพนั ธ์ทีปลอดภยั สังคมจาํ เป็นตอ้ งลบความคดิ ทางลบว่าเรืองเพศเป็นเรืองเพศเป็นเรืองสกปรก อนั ตรายทีตอ้ งหลีกใหห้ ่าง แตค่ วามจริงเราจาํ เป็นตอ้ งศกึ ษาเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจเพราะเรืองเพศเป็ นสิงทีสามารถแสดงออกอยา่ งอิสระมีความสุข บนพืนฐานของความปลอดภยั เพอื ดาํ เนินชวี ติ ไดอ้ ยา่ งเป็นสุข แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศไดจ้ ดั ทาํ ความรู้สุขภาวะทางเพศในแต่ละช่วงวยั ไวเ้ พราะแต่ละช่วง วยั กจ็ ะมีความสนใจและความตอ้ งการตา่ งกนั ในวยั เดก็ เป็ นช่วงเวลาแห่งการสร้างพืนฐานสุขภาวะทางเพศทีดีได้ เดก็ เล็ก อายุ - ปี เริมรับรู้ไดถ้ ึง บทบาททางเพศว่าสังคมสร้างใหห้ ญิงชายมีความแตกต่างกนั ดว้ ยกจิ กรรม ดว้ ยการกาํ หนดกรอบ กฎเกณฑต์ ่างๆที ชายทาํ ได้ หญงิ ทาํ ไม่ได้ หญิงทาํ ได้ ชายทาํ ไม่ได้ ซึงขดั ขวางพฒั นาการและสร้างความเขา้ ใจผดิ ๆใหเ้ ดก็ วนั แรกรุ่น อายุ - เป็ นช่วงวยั ทีตอ้ งเตรียมความพร้อมเพือกา้ วเขา้ สู่วยั รุ่น ซึงช่วงนีเป็ นวยั แห่งการ เปลียนแปลงการไดร้ ับขอ้ มูลทีถูกตอ้ งและพร้อมใช้ จึงเป็ นสิงทีทาํ ให้เด็กมีภูมิคุม้ กนั ทีจะเขา้ สู่วยั รุ่นไดอ้ ยา่ ง สวยงามจาํ เป็นตอ้ งเขา้ ใจและอธิบายถึงการเปลียนแปลงนนั และเปิ ดโอกาสให้เดก็ รับผิดชอบในครอบครัวให้เด็ก ไดต้ ดั สินใจดว้ ยตวั เองและรับผิดชอบผลทจี ะตามมาไมใ่ ชต่ ดั สินใจแทนทกุ อยา่ ง เดก็ วยั นีเริมจะมีการเปลยี นแปลงทางอารมณ์ และความรู้สึกทางเพศ ไม่ใช่เรืองผิดแต่การใหข้ อ้ มูลและ ความรู้ทถี กู ตอ้ งเป็นสิงจาํ เป็นการตอบคาํ ถามแบบตรงไปตรงมา เปิ ดโอกาสให้เด็กไดเ้ รียนรู้ในสิงทีเหมาะทีควร เป็ นเรื องทีควรส่งเสริ ม เมอื กา้ วเขา้ สู่วยั รุ่น ช่วงอายุ - ปี ช่วงแห่งการเปลยี นแปลงในทกุ ๆ ดา้ น จาํ เป็นตอ้ งไดร้ ับขอ้ มลู เรือง เพศอยา่ งถูกตอ้ งและรอบดา้ น เพือใหเ้ ทา่ ทนั การเปลยี นแปลงของตวั เอง ทงั ดา้ นกายใจและอารมณ์ จาํ เป็นตอ้ งสร้างทกั ษะของเพศสัมพนั ธท์ ปี ลอดภยั ร่วมไปกบั ความรับผดิ ชอบเพอื ใหส้ ามารถแยกแยะได้ วา่ เซ็กส์ไมใ่ ชแ่ คเ่ รืองสนุกแต่มีผลทจี ะตามมาอกี มากมาย การใหค้ วามรู้อยา่ งตรงไปตรงมาไมท่ าํ ให้เรืองเซ็กส์เป็ น ความผดิ ละอาย ทาํ ใหเ้ กิดเพศสมั พนั ธท์ ีปลอดภยั และมคี วามรับผิดชอบขึนได้
60 ผูใ้ หญจ่ าํ เป็นตอ้ งเขา้ ใจกระบวนการเรียนรู้ของมนุษยว์ ่าตอ้ งใชเ้ วลาในการสังสมความรู้ประสบการณ์ ความภูมิใจในตวั เองจึงสามารถมีเพศสัมพนั ธ์ทีมีความสัมพนั ธ์ทีมีความปลอดภยั และเป็ นสุขได้ “การให้ขอ้ มูล ไมไ่ ดเ้ ป็นการชโี พรงใหก้ ระรอก แต่เป็นการสร้างความเขา้ ใจและทกั ษะในชวี ิตใหเ้ ดก็ สามารถเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่ที เขา้ ใจและมีความรับผดิ ชอบได้ วิธีการปฏบิ ตั ิเพอื การมสี ุขภาพทางเพศทีดี ควรคาํ นึงถงึ การมเี พศสมั พนั ธ์ทีปลอดภยั โดยไมเ่ ปลยี นคหู่ รือมเี พศสัมพนั ธ์กบั บุคคลทีไม่ใช่สามีภรรยาของตน ถา้ คดิ จะมีเพศสัมพนั ธก์ บั บคุ คลทีไมใ่ ช่คู่ของตนควรป้ องกนั ความไม่ปลอดภยั ทอี าจเกดิ ขนึ โดยใชถ้ ุงยางอนามยั เนน้ การรักษาความสะอาดส่วนบุคคล เมือมีเพศสัมพนั ธ์แลว้ ควรตอ้ งรีบทาํ ความสะอาดส่วนบุคคลไม่ หมกั หมม เพราะจะทาํ ใหเ้ กิดเชอื โรคซึงเป็นตน้ เหตุของอาการคนั จนลกุ ลามเป็นโรคทอี วยั วะเพศได้ ควรมเี พศสมั พนั ธ์แบบธรรมชาติ ไม่ผิดธรรมชาติของคนปกติ เช่นการใชว้ ตั ถุแปลกปลอมในการร่วม เพศ การร่วมเพศโดยใชว้ ตั ถเุ ลยี นแบบธรรมชาตเิ ชน่ ตุ๊กตายาง ใหค้ าํ นึงถึงความปลอดภยั การคุมกําเนิด เป็นส่วนหนึงของการวางแผนครอบครัวในเรืองระยะทีพร้อมจะมีบุตรเมือใดคาํ นวณบุตรทีจะมีกีคน หรือระยะห่างของการมบี ุตรเวน้ นานเท่าใด ทงั นีเพือให้เหมาะสมกบั ความพร้อมและความตอ้ งการของคู่สมรส การคุมกาํ เนิดเป็นวิธีการปฏบิ ตั ิเพือป้ องกนั การตงั ครรภ์ การวางแผนครอบครัวและการคุมกาํ เนิด การวางแผนครอบครัวและการคมุ กาํ เนิด (Family Planning and Birth Control) คอื การที คู่สมรสวางแผนใน เรืองการมบี ตุ รว่าจะมบี ตุ รเมือใด จะมีบุตรกีคน แต่ละคนจะเวน้ นานเท่าใดทงั นีเพือใหเ้ หมาะสมกบั ความพร้อม และความตอ้ งการของคสู่ มรส ส่วนการคุมกาํ เนิดนนั เป็นวิธีการเพอื มใิ หเ้ กิดการตงั ครรภซ์ ึงมอี ยหู่ ลายวธิ ี .การใช้ถงุ ยางอนามยั (Condom) ถงุ ยางอนามยั มีลกั ษณะเป็ นถุงทีทาํ ดว้ ยยางบางๆยืดได้ ใชส้ วมอวยั วะ เพศชายขณะทีแข็งตัวพร้อมทีจะร่ วมเพศ การใช้ถุงยางอนามัยเป็ นการป้ องกันไม่ให้ตัวอสุจิเข้าไปใน โพรงมดลกู ผสมกบั ไขข่ องฝ่ ายหญงิ ได้ เพราะถกู ถงุ ยางป้ องกนั ไว้ ตวั อสุจิและนาํ อสุจิจะอยู่ในถุงยางอนามยั เมือ ใชเ้ สร็จแลว้ จะถอดออกใหใ้ ชก้ ระดาษชาํ ระจบั ขอบถุงยางใหก้ ระชบั อวยั วะเพศก่อนแลว้ จึงถอดถุงยางออกแลว้ นาํ ไปทงิ ถงั ขยะ มีการผลิตถุงยางอนามยั สาํ หรับผูห้ ญิงใชเ้ หมือนกนั ขนาดใหญ่กว่าถุงยางอนามยั ทีผูช้ ายใชแ้ ต่ไม่ค่อย ไดร้ ับความนิยม .การรับประทานยาเม็ดคุมกําเนิด(Contraceptive Pill) ยาเม็ดคุมกําเนิดจะประกอบดว้ ยฮอร์โมน สังเคราะห์ ชนิด คือ เอสโตรเจน โพรเจสเทอโรน ซึงจะออกฤทธิคลา้ ยกบั ฮอร์โมนทีมีอยตู่ ามธรรมชาติใน ร่างกายของผูห้ ญิง และสร้างกลไกตา่ งๆ ในร่างกายเพอื ทจี ะป้ องกนั การตงั ครรภ์ดว้ ยการป้ องกนั ไม่ให้ไข่สุกและ ยบั ยงั การตกไข่ ตลอดจนทาํ ใหม้ กู บริเวณ ปากมดลูกเหนียวขน้ จนตวั อสุจิจะผ่านเขา้ สู่โพรงมดลูกไดย้ าก แต่ถา้ กลไกทงั ประการนีไม่ไดผ้ ล มนั จะเปลยี นแปลงเยอื บุโพรงมดลูกไม่ใหเ้ หมาะสมสําหรับการฝังตวั ของไข่ทีถูก ผสมแลว้ ยาเมด็ คมุ กาํ เนิดทใี ชอ้ ยทู่ วั ไปมี แบบ คอื . แบบ เมด็ ยาเมด็ ในแผงจะประกอบดว้ ยฮอร์โมนทงั หมด การเริมรับประทานยาเมด็ แรกให้เริม ตรงกบั วนั ของสัปดาห์ทีระบุแผงยา เช่น ประจาํ เดือนมาวนั แรกคือวนั ศุกร์ก็เริมกินที “ศ” หรือวันศุกร์ โดย รับประทานวนั ละ เมด็ เป็นประจาํ ทุกวนั ตามลูกศรชจี นหมดแผง หลงั จากนนั ใหห้ ยดุ ใชย้ า วนั เมือหยดุ ยาไป
61 ประมาณ - วนั กจ็ ะมเี ลือดประจาํ เดือนมาและเมือหยดุ จนครบ วนั แลว้ ไมว่ า่ เลอื ดประจาํ เดือนจะหมดหรือไม่ก็ ตามใหเ้ ริมแผงใหมท่ นั ที . แบบ เมด็ ยาเมด็ ในแผงหนึงจะประกอบดว้ ยฮอร์โมน เมด็ และส่วนทไี ม่ใชฮ้ อร์โมนอีก เม็ด ซึงมกั จะมีขนาดเลก็ หรือใหญ่กว่า เม็ดแรก การเริมรับประทานยาแผงแรกให้เริมรับประทานยาในวนั แรกที ประจาํ เดอื นมา โดยรับประทานยาเมด็ แรกในส่วนทีระบุวา่ เป็นจุดเริมตน้ แลว้ รับประทานทุกวนั ตามลูกศรชีจน หมดแผง โดยเมือรับประทานหมดแผงแลว้ ใหร้ ับประทานยาแผงใหม่ต่อไปเลยทนั ทีไม่ว่าประจาํ เดือนจะหมด หรือยงั กต็ าม วธิ ีรับประทานแบบ เมด็ จะค่อนขา้ งสะดวกกว่าแบบ เมด็ ทีไมต่ อ้ จดจาํ วนั ทีตอ้ งหยดุ ยา ถา้ ลืมรับประทาน เม็ด ให้รับประทานทันทีเมือนึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปเวลาเดิม ถ้าลืม รับประทาน เมด็ ใหร้ ับประทานยาวนั ละ เมด็ ติดตอ่ กนั ไปเป็ นเวลา วนั โดยแบ่งรับประทานตอนเชา้ เมด็ ตอนเยน็ เมด็ และใชว้ ิธีการคุมกาํ เนิดแบบอืนร่วมดว้ ย เช่นใชถ้ ุงยางอนามยั เป็ นเวลา วนั ถา้ ลืมรับประทาน เมด็ ขนึ ไป ควรหยดุ ยาและรอให้เลือดประจาํ เดือนมาก่อนแลว้ ค่อยเริมแผงใหม่และใชว้ ิธีการคุมกาํ เนิดแบบอืน ร่วมดว้ ย . แบบรับประทานหลังร่วมเพศภายใน ชัวโมง แต่เดือนหนึงไม่ควรใชเ้ กิน ครัง ยานีใชก้ ินทนั ที หรือภายใน ชวั โมงหลงั ร่วมเพศ และควรกนิ ยาอีกหนึงเมด็ ในเวลา ช่วงโมงต่อมายาเมด็ นีมกั มีปริมาณของ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) สูง การใชย้ าชนิดนีใหผ้ ลเสียมากกว่าผลดี พบว่าเป็ นอาการขา้ งเคียง คือ คลืนไส้ อาเจียน มเี ลือดออกมากกว่าปกติ และทาํ ใหท้ ่อนาํ ไข่เคลอื นไหวชา้ อนั เป็นเหตุทาํ ใหเ้ กิดทอ้ งนอกมดลกู ได้ .การฝังยาเม็ดคุมกําเนิดใต้ผิวหนัง ยาประเภทนีมีส่วนประกอบของเอสโตรเจนสูงมีฤทธิทาํ ใหไ้ ข่ที ผสมแลว้ ไม่สามารถฝังตวั ไดใ้ นผนงั มดลกู เป็นยาเม็ดคุมกาํ เนิดชนิดฝังไวใ้ ตผ้ ิวหนังบริเวณดา้ นใตท้ อ้ งแขนของ ฝ่ ายหญิง มีลกั ษณะเป็นแคปซูลเลก็ ๆ อนั ยาจะซึมจากแคปซูลเขา้ สู่ร่างกายอยา่ งสมาํ เสมอ สามารถคุมกาํ เนิดได้ นานถึง ปี ตวั ยา่ ทีใส่ในแคปซูลเป็นชนิดเดียวกบั ยาเมด็ คุมกาํ เนิดแบบ เมด็ .การใส่ห่วงอนามัย (Iucd :: Intra Uterine Contraceptive Device) ใชโ้ ดยการใส่ห่วงอนามยั ไวใ้ นโพรง มดลกู ซึงแพทยจ์ ะเป็นผใู้ ส่ห่วงให้ สามารถคมุ กาํ เนิดได้ - ปี แลว้ จึงมาเปลียนใหม่แต่ก็มีบางชนิดทีตอ้ งเปลียน ทกุ ๆ ปี วิธีนีไมเ่ หมาะสาํ หรับผูห้ ญิงทียงั ไมเ่ คยมบี ุตร .การฉีดยาคุมกําเนิด ใชก้ บั ผู้หญิงฉีดครังหนึงป้ องกนั ไดน้ าน เดือน อาจมีข้อเสียอยู่บา้ งคือเมือ ตอ้ งการมีบุตรอาจตอ้ งใชเ้ วลานานกวา่ จะตงั ครรภ์ และไมเ่ หมาะสาํ หรับผูท้ มี ีประจาํ เดอื นมาไม่สมาํ เสมอ .การนับระยะปลอดภยั (Count safe Period) คือนบั วนั ก่อนประจาํ เดือนมา วนั และหลงั ประจาํ เดือนมา วนั เพราะไขย่ งั ไมส่ ุกและเยอื บโุ พรงมดลกู กาํ ลงั เปลียนแปลง แตถ่ า้ ประจาํ เดือนมาไม่แน่นอน การคุมกาํ เนิดวิธี นีอาจผดิ พลาดได้ .การหลงั อสุจิภายนอก คือการหลงั นาํ อสุจิออกมานอกช่องคลอด แต่ก็อาจมีนาํ อสุจิบางส่วนเขา้ ไปใน ชอ่ งคลอดได้ วิธีนีจึงมีโอกาสตงั ครรภไ์ ดส้ ูง . การผ่าตัดทําหมัน เป็ นการคุมกาํ เนิดแบบถาวร ดงั นันผูท้ ีคิดจะทาํ หมนั จะตอ้ งแน่ใจแลว้ ว่าจะไม่มี บตุ รอีก ซึงสามารถทาํ ไดท้ งั ผูห้ ญงิ และผูช้ าย
62 . การทําหมันชาย ทาํ โดยแพทยใ์ ชเ้ วลาประมาณ นาที โดยการใหผ้ ูท้ จี ะทาํ หมนั นอนบนเตียงผ่าตดั มมี ่านกนั มิใหเ้ หน็ ขณะทแี พทยก์ าํ ลงั ผ่าตดั เจา้ หนา้ ทจี ะโกนขนบริเวณอวยั วะเพศออกเลก็ นอ้ ยแลว้ แพทยจ์ ะฉีดยา ชาเฉพาะที แลว้ จึงเจาะถุงอณั ฑะเพอื ผกู ท่ออสุจิโดยไม่ตอ้ งเยบ็ หา้ มแผลถูกนาํ วนั หลงั ทาํ หมนั ชายแลว้ จะตอ้ ง คุมกาํ เนิดแบบอืนไปก่อนฝ่ ายชายจะหลงั นาํ อสุจิประมาณ ครัง แลว้ นาํ อสุจิครังที หรือมากกว่าไปใหแ้ พทย์ ตรวจว่ายงั มีตวั อสุจิหรือไม่ ถา้ แพทยต์ รวจว่าไม่มีตัวอสุจิแลว้ ก็สามารถมีเพศสัมพนั ธ์ไดโ้ ดยไม่ต้องใชก้ าร คมุ กาํ เนิดแบบอืนอกี ต่อไปเลย . การทาํ หมนั หญิง แบ่งออกเป็น แบบคือ .การทําหมันเปี ยก คือการทาํ หมนั หลงั คลอดบุตรใหม่ๆภายใน - ชวั โมง เพราะจะทาํ ได้ งา่ ยเนืองจากมดลูกยงั มีขนาดใหญ่และลอดตวั สูง โดยขอบบนอยสู่ ูงเกือบถงึ สะดอื วิธีนีจะผ่าตดั ทางหนา้ ทอ้ ง .การทําหมันแห้ง คือการทาํ หมนั ในระยะปกติขณะทีไม่มีการตงั ครรภ์หรือหลงั การคลอด บุตรมานานแลว้ มดลูกจะมีขนาดปกติและอยู่ลึกลงไปในอุง้ เชิงกราน การทาํ หมนั แห้งอาจทาํ ไดห้ ลายวิธี เช่น ผ่าตดั ทางดา้ นหนา้ ทอ้ ง ผ่าตดั ทางช่องคลอด โดยใช้เครืองมือต่างๆทีทันสมยั ช่วยการไปรับบริการทาํ หมนั นี สามารถไปรับบริการไดใ้ นหลายหน่วยงานทีให้บริการทางดา้ นสาธารณสุขทงั ของภาครัฐและเอกชน เช่น โรงพยาบาลต่างๆ สมาคมพฒั นาประชากรและชุมชน สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย สมาคมทาํ หมนั แห่งประเทศไทย เป็นตน้ .การคุมกําเนิดด้วยยาเม็ดคุมกําเนิดฉุกเฉิน เป็ นการป้ องกนั การตงั ครรภ์เฉพาะฉุกเฉินเช่น การมี เพศสัมพนั ธ์โดยไม่ไดใ้ ชก้ ารป้ องกนั วธิ ีอนื มาก่อน ใชถ้ งุ ยางอนามยั เสร็จแลว้ ไม่แน่ใจว่ารัวหรือแตก ลมื กินยาแบบ ประจาํ วนั ติดต่อกนั สองวนั ใส่ห่วงอนามยั แต่ห่วงหลุด มีเพศสัมพนั ธ์ในช่วงทีไม่ปลอดภยั กรณีถูกข่มขืน ซึง องคก์ รอนามยั โลกไดใ้ หก้ ารรับรองวา่ การกนิ ยาเมด็ คุมกาํ เนิดแบบฉุกเฉินเป็ นวิธีทีปลอดภยั และมีประสิทธิภาพ ในการป้ องกนั การตงั ครรภไ์ ดร้ ะดบั หนึง ยาเมด็ คมุ กาํ เนิดฉุกเฉินจะมปี ระสิทธิภาพสูงกต็ อ่ เมอื มีการนาํ มาใชต้ ามขอ้ บง่ ชที กี าํ หนดไว้ และใชเ้ ท่าที จาํ เป็ นเท่านนั สําหรับผลขา้ งเคียงทีเกิดขึนบ่อย คือ การมีรอบระดูผิดปกติ คลืนไส้อาเจียน แต่หากใชบ้ ่อยและ ตอ่ เนืองมีโอกาสตงั ครรภน์ อกมดลกู ได้ การทาํ แท้ง การทาํ แทง้ หมายถงึ การทาํ ใหก้ ารตงั ครรภส์ ินสุดกอ่ นอายคุ รรภ์ สปั ดาห์สาํ หรับในประเทศไทยการ ทาํ แทง้ ยงั ไม่เป็นเรืองทผี ดิ กฎหมายไมว่ ่าจะกระทาํ โดยแพทยป์ ริญญาหรือหมอเถอื นกต็ าม กฎหมายจะอนุญาตให้ ทาํ แทง้ ได้ กรณี คือ กรณีถูกข่มขืนและกรณีตังครรภน์ ันเป็ นอตั ราต่อสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ เท่านนั เมือเกดิ การตงั ครรภไ์ มพ่ งึ ประสงคเ์ ดก็ วยั รุ่นจะเกิดความกงั วลจากความไม่พร้อมทีจะเป็ นผูร้ ับผิดชอบ กบั การมบี ุตร จึงคดิ หาวธิ ีการทาํ ลายเดก็ ในครรภ์ โดยการทาํ แทง้ กบั หมอเถอื นทผี ิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม เพราะใน สังคมไทยไมเ่ ปิ ดใหม้ ีการทาํ แทง้ แบบเสรี นอกจากการตงั ครรภใ์ นครังนนั แพทยพ์ ิจารณาใหท้ าํ แทง้ ได้ ในกรณี อาจเกดิ อนั ตรายถึงชีวติ ผูเ้ ป็นแม่ เชน่ การทอ้ งนอกมดลูก ครรภเ์ ป็นพิษ ทอ้ งไขป่ ลาดุก หรือในกรณีทีแม่ไดร้ ับเชือ โรคหลงั จากการตงั ครรภแ์ ลว้ เช่น ไดร้ ับเชอื หดั เยอรมนั การทาํ แทง้ โดยทวั ไปของเด็กวยั รุ่นจะทาํ แทง้ กบั ผูท้ ีไม่มีความรู้ดา้ นการแพทยท์ ีแทจ้ ริง จึงทาํ ให้เกิด อนั ตรายกบั ผูม้ าทาํ แทง้ เช่น เกดิ การตกเลอื ด หรือไดร้ ับอนั ตรายอาจเกิดการติดเชือโรค จากเครืองมือ อุปกรณ์ที นาํ มาใช้ เกดิ ความสกปรกจากการใชอ้ ปุ กรณ์ สถานทีจนทาํ ใหม้ ารดาเป็นบาดทะยกั ไดด้ ว้ ย
63 การแทง้ บุตรทที าํ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สุขภาพของผูเ้ ป็นแมเ่ นืองจากมบี างส่วนของทารกหรือรกหลงเหลือ อยจู่ ึงตอ้ งนาํ ส่วนทีเหลือออกจากมดลูกใหห้ มดโดยแพทยต์ อ้ งใชเ้ ครืองดูดหรือใชว้ ิธีขูดจากโพรงมดลูก หรืออาจ ตอ้ งใชฮ้ อร์โมนทใี หใ้ หม้ ดลกู เกดิ การบบี ตวั ขบั ส่วนทีคา้ งออกและในบางกรณีแพทยต์ อ้ งใชย้ าปฏิชีวนะเพือการ รักษาหรือป้ องกนั การติดเชอื ติดเชอื HIVS ส่วนใหญเ่ กดิ จากการมีเพศสมั พนั ธ์กบั บุคคลอืนทไี ดร้ ับเชอื ไวรัส HIV ในร่างกายรองลงมาเกดิ จาการใช้ สารเสพตดิ ชนิดฉีดเขา้ เส้นเลือดทาํ ใหไ้ ดร้ ับเชอื HIV จากเลอื ดทสี มั ผสั หรือเลือดทีไดร้ ับเขา้ สู่ร่างกาย บคุ คลทมี โี อกาสไดร้ ับเชอื ไวรัส HIV VS โดยไม่ไดเ้ กดิ จากการมีเพศสัมพนั ธ์และไม่ไดใ้ ชเ้ ข็มฉีดยาใด ๆ ส่วนหนึงจะเกดิ กบั บคุ คลส่วนหนึงทางการแพทย์ ทีมีโอกาสสัมพนั ธน์ าํ เลอื ดนาํ เหลือง ทีคดั หลงั จากผูป้ ่ วยโดย ไม่ไดป้ ้ องกนั ตนเองโดยการใชถ้ ุงมอื ก่อนสัมผสั กบั ผูป้ ่ วยจึงมีโอกาสไดร้ ับหรือตดิ เชอื HIV VS ได้ การตงั ครรภเ์ มอื ไม่มีความพร้อม การมเี พศสัมพนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร เป็ นปัญหาของสังคมไทยมากขึน ทงั นีเพราะค่านิยมในเรือง การรัก นวลสงวนตวั ของเพศหญิง หรือการเห็นคุณค่าในการรักษาความบริสุทธิของตนจนถึงวยั แต่งงาน เด็กวยั รุ่น ปัจจุบนั ไม่ไดค้ าํ นึงถงึ ทงั นีอาจเป็นเพราะการดูแลเอาใจใส่ใหก้ ารอบรมจากบิดามารดามีนอ้ ยลง เดก็ ยุคใหม่รับ อารยะธรรมความกา้ วหน้าหรืออิทธิพลต่างประเทศมากขึน จึงไม่ค่อยเชือฟังบิดามารดา จึงเป็ นสิงจาํ เป็ นทีตอ้ ง ปลูกฝังใหเ้ กิดจิตสาํ นึกโดยครอบครัวชุมชนโรงเรียนสถาบนั ทีมีส่วนเกยี วขอ้ งควรเขา้ มามีบทบาทรณรงคป์ ้ องกนั ปัญหานีร่วมกนั การมีเพศสัมพนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร เป็ นพฤติกรรมทีก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาในชีวิตตลอดจนเป็ น ปัญหาหรือภาระแก่สังคม ชุมชนดว้ ย เช่นเกิดการติดโรคทางเพศสัมพันธ์และยงั เป็ นบุคคลแพร่เชือโรคทาง เพศสัมพนั ธ์แก่คนอืนดว้ ยถา้ บุคคลนันใหบ้ ริการทางเพศการตงั ครรภเ์ มือไม่มีความพร้อมหรือตงั ครรภ์โดยไม่ คาดคิดนอกจากจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของตนเองแลว้ ยงั ส่งผลกระทบต่อครอบครัว ทาํ ใหบ้ ิดามารดา ญาติพี นอ้ งอบั อายเสียใจรวมส่งผลกระทบต่อสงั คม เชน่ ปัญหาเดก็ ถกู ทอดทงิ เพราะพอ่ แมไ่ มต่ อ้ งการบตุ ร หรือไม่พร้อม จะรับเลียงดบู ุตรเนืองจากยงั ไม่มีอาชพี เรียนไมจ่ บ ดงั นันจึงตอ้ งให้คาํ แนะนาํ อบรมสังสอนให้พฤติกรรมตนอยู่ในกรอบของสังคมทีดีไม่ยุ่งเกียวเรือง เพศสัมพนั ธ์ป้ องกนั ตนเองไมป่ ลอ่ ยตวั ใหม้ เี พศสัมพนั ธใ์ นวยั ทียงั ไม่สมควรให้ตงั ใจศึกษาเล่าเรียน และสามารถ ประกอบอาชีพจนเลียงตวั เองไดแ้ ลว้ จึงคิดมีครอบครัวภายหลงั .สอนความรู้เรืองเพศ เพศสัมพนั ธ์และการคุมกาํ เนิดแก่เดก็ นกั เรียน นกั ศึกษาทีกาํ ลงั กา้ วเขา้ สู่วยั รุ่น พร้องทงั ชีใหเ้ หน็ ขอ้ ดขี อ้ เสียของการมีเพศสัมพนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร และการตงั ครรภเ์ มือไม่พร้อม โดยเน้นยาํ ให้ เห็นผลเสีย ไดแ้ ก่ การสูญเสียโอกาสในการศกึ ษา และการประกอบอาชีพการงานทีดี ตลอดจนโอกาสในการเจอ ค่คู รองทีดใี นอนาคต .สอนวยั รุ่นชายใหม้ คี วามรับผดิ ชอบและใหเ้ กียรตผิ ูห้ ญงิ เนืองจากในสังคมไทยยงั ยกย่องเพศชายว่า เป็นเพศทแี ขง็ แรงกว่าจึงควรสอนใหผ้ ูช้ ายมคี วามคิดทีจะปกป้ องช่วยเหลือ เพศหญิงมากกว่านอกจากนีเพศชาย จะตอ้ งใหเ้ กยี รตผิ ูห้ ญงิ และมคี วามรับผิดชอบในการกระทาํ ของตนเองปัญหาการทาํ แทง้ ส่วนใหญ่พบว่าฝ่ ายชาย ไมย่ อมรับการตงั ครรภ์
64 3.ปลูกฝังคา่ นิยมในการรักนวลสงวนตวั ตงั แต่วยั เด็ก และเน้นยาํ มากขึนในวยั รุ่น ไดแ้ ก่การแต่งกายให้ สุภาพ ไมแ่ ต่งกายลอ่ แหลม ยวั ยอุ ารมณ์เพศตรงขา้ มซึงเป็นเหตุใหเ้ กิดการข่มขนื กระทาํ ชาํ เรา .สอนให้รู้จักการปฏิเสธในสถานการณ์ทีไม่เหมาะสมไดแ้ ก่ปฏิเสธทีจะไปเทียวต่อหลงั เลิกเรียน ปฏเิ สธทจี ะไปไหนๆกบั เพือนชายตามลาํ พงั ไมเ่ ปิ ดโอกาสใหเ้ พศตรงขา้ มถกู เนือตอ้ งตวั เป็นตน้ แนวทางการแกไ้ ขปัญหาการตงั ครรภ์ไม่พึงประสงคน์ ีคงตอ้ งเริมจากการปลูกฝังนิสัยตงั แต่วยั เด็กให้ สอดคลอ้ งกบั สภาพสังคมในยคุ โลกาภวิ ตั นน์ ี เชือวา่ ปัญหาการทาํ แทง้ ผดิ กฎหมายอาจเบาบางลงไป
65 บทที สารอาหาร สาระสําคญั ความตอ้ งการสารอาหาร ตาม เพศ วยั ของร่างกาย เป็นความตอ้ งการสารอาหารในบุคคลแต่ละช่วง และ แต่ละเพศ ยอ่ มมีความแตกต่างกนั เป็นทยี อมรับกนั ทวั ไปแลว้ วา่ อาหารมีส่วนสาํ คญั อย่างมากในวยั เดก็ ทงั ในดา้ น การเจริญเตบิ โตของร่างกายและการพฒั นาการในดา้ นความสัมพนั ธ์ของระบบการเคลือนไหวของร่างกาย ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั . วิเคราะห์ปัญหาสุขภาพทเี กิดจากการบริโภคอาหารไมถ่ กู หลกั โภชนาการ . บอกสารอาหารทีร่างกายตอ้ งการตามเพศ . อธิบายวิธีการประกอบอาหารเพอื รักษาคุณคา่ ของอาหาร ขอบข่ายเนือหา เรืองที . สารอาหาร เรืองที . วธิ ีการประกอบอาหารเพือคงคณุ ค่าของสารอาหาร เรืองที . ความเชอื และค่านิยมเกียวกบั การบริโภค เรืองที . ปัญหาสุขภาพทีเกดิ จากการบริโภคอาหารไมถ่ กู หลกั โภชนาการ
66 เรืองที สารอาหาร ปริมาณความตอ้ งการสารอาหาร ตาม เพศ วยั และสภาพร่างกาย ความสาํ คญั ของอาหารและความ ตอ้ งการสารอาหารในบุคคลแต่ละช่วง และแต่ละเพศ มีความแตกต่างกนั ตามธรรมชาติ ดงั นัน ปริมาณของ สารอาหารทีควรไดร้ ับในแตล่ ะบคุ คลจะแตกต่างกนั 1. ความต้องการสารอาหารในวัยเด็ก เป็นทียอมรับกนั ทวั ไปแลว้ ว่า อาหารมีส่วน สําคญั อยา่ งมากในวยั เด็กทงั ในดา้ นการเจริญเติบโตของ ร่างกายและการพฒั นาการในดา้ นความสมั พนั ธ์ของระบบการเคลอื นไหวของร่างกายตลอดจนในดา้ นจิตใจ และ พฤติกรรมในการแสดงออกและปัจจยั ทมี ีส่วนสาํ คญั ทที าํ ใหเ้ ดก็ ไดร้ ับอาหารทีถูกหลกั ทางโภชนาการ ไดแ้ ก่ .ครอบครัวทีคอยดแู ลและเป็นตวั อยา่ งทดี ี .ตวั เดก็ เอง ทจี ะตอ้ งถกู ฝึ กฝน .สิงแวดลอ้ มทาํ ใหเ้ กิดการปฏิบตั อิ ยา่ งคนขา้ งเคยี ง อาหารทถี ูกหลกั โภชนาการในวยั เดก็ นนั เป็ นทีทราบดีอย่แู ลว้ ว่าเดก็ ตอ้ งการอาหารครบทงั ประเภท เพือการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการ สิงทีตอ้ งคาํ นึงถึงคอื อาหารทใี หเ้ ดก็ ควรไดร้ ับ ไดแ้ ก่ .อาหารทีใหโ้ ปรตีน ไดแ้ ก่ นม ไข่ เนือสตั ว์ ตลอดจนโปรตีนจากพชื จาํ พวกถวั เขียว ถวั เหลอื ง .อาหารทีใหพ้ ลงั งาน ไดแ้ ก่ขา้ ว แป้ ง นาํ ตาล ไขมนั และนาํ มนั ส่วนนาํ อดั ลม หรือขนมหวาน ลูกกวาด ต่าง ๆ ควรจาํ กดั ลง เพราะประโยชนน์ อ้ ยมากและบางทที าํ ใหม้ ีปัญหาเรืองฟันผดุ ว้ ย .อาหารทีให้วิตามินและเกลือแร่ไดแ้ ก่ พวก ผกั ผลไม้ และอาหารทีมีใยอาหารทีมีส่วนทาํ ใหเ้ กบ็ ไม่ ทอ้ งผกู . ความต้องการสารอาหารของเดก็ วัยเรียน ในปัจจุบนั ภาวะของความเร่งรีบในสงั คมอาจจะทาํ ใหพ้ ่อแม่หรือผูป้ กครองละเลยเรืองอาหารเชา้ ของ เดก็ วยั เรียน เดก็ วยั เรียนเป็นวยั ทีร่างกายกาํ ลงั เจริญเติบโต ตอ้ งการอาหารเชา้ ถา้ เดก็ ไม่ไดร้ ับประทานอาหารเชา้ จะทาํ ใหเ้ ดก็ ขาดสมาธิในการเรียน สมองมึน ง่วง ซึม และถา้ เดก็ อดอาหารเป็ นเวลานาน ๆ ติดต่อกนั จะทาํ ให้มี ผลเสียต่อระบบการยอ่ ยอาหาร และเป็นโรคขาดสารอาหารไดด้ งั นันการเลือกอาหารเชา้ ทีเด็กวยั เรียนควรไดร้ ับ ประทานและหาไดง้ า่ ย คือ นมสด กล่อง ขา้ วหรือขนมปัง ไข่ อาจจะเป็นไข่ดาว ไข่ลวก หรือไข่เจียว ผลไมท้ ีหา ไดง้ ่าย เช่น กลว้ ยนาํ วา้ มะละกอ หรือสม้ เท่านีเดก็ กจ็ ะไดร้ ับสารอาหารทเี พยี งพอแลว้ . ความต้องการสารอาหารในวยั รุ่น วยั รุ่น เป็นวยั ทมี กี ารเจริญเติบโตในดา้ นร่างกายอยา่ งมาก และมีการเปลียนแปลงทางอารมณ์และจิตใจ คอ่ นขา้ งสูง มีกจิ กรรมต่าง ๆ ค่อนขา้ งมากทงั ในดา้ นสังคม กีฬา และบนั เทิง ความตอ้ งการสารอาหารยอ่ มมีมากขึน ซึงจะตอ้ งคาํ นึงทงั ปริมาณและคุณภาพใหถ้ ูกหลกั โภชนาการ ปัจจยั ทสี าํ คญั คอื .ครอบครัว ควรปลูกฝังนิสัยการรับประทานอาหารทีถูกหลกั โภชนาการ เริมตน้ จากทีบา้ นทสาํ หรับ วยั รุ่นทีพยายามจาํ กดั อาหารลง คนในครอบครัวจะตอ้ งใหค้ าํ แนะนาํ เพือไม่ไปจาํ กดั อาหารทีมคี ณุ คา่ และจาํ เป็นต่อ ร่างกาย .วยั รุ่น จะเริมมีความคิดเห็นเป็ นของตวั เองมากขึน การรับความรู้เกียวกบั โภชนาการ มีความจาํ เป็ น เพอื ใหเ้ ห็นความสาํ คญั ของการรับประทานอาหารทีมีคุณคา่ ทางโภชนาการอยา่ งสมาํ เสมอซึงจะมีผลดีต่อตวั วยั รุ่น เองโดยตรง
67 .สิงแวดลอ้ มในโรงเรียนหรือสถานศึกษาอิทธิพลจากเพือนฝูงมีส่วนทีทาํ ให้วยั รุ่นเลียนแบบกนั เรือง การรับประทานอาหาร ตลอดจนการบริโภคสารอนั ตราย เช่น เหลา้ บุหรี และยาเสพติด การดูแลอย่างใกลช้ ิด ตลอดจนการสนบั สนุนให้วยั รุ่นเล่นกีฬา หรือทาํ กิจกรรมทีมีประโยชน์จะมีผลทางออ้ ม ทาํ ใหน้ ิสัยทีดีในการ บริโภคอาหารไมถ่ กู เบยี งเบนไป ความตอ้ งการอาหารทใี หโ้ ปรตนี พลงั งาน และวติ ามนิ ตอ้ งเพยี งพอสําหรับวยั รุ่น วติ ามินตอ้ งเหมาะสมและโดยเฉพาะอยา่ งยงิ อาหารทีมเี กลือแร่ประเภทแคลเซียมและเหลก็ ตอ้ งเพยี งพอ . ความต้องการสารอาหารในวยั ผู้ใหญ่ วยั ผูใ้ หญถ่ ึงแมจ้ ะหยดุ เจริญเติบโตแลว้ ร่างกายยงั ตอ้ งการสารอาหารอยา่ งครบถว้ น เพอื นาํ ไปทาํ นุบาํ รุง อวยั วะ และเนือเยอื ตา่ ง ๆ ของร่างกาย ใหค้ งสภาพการทาํ งานทีมสี มรรถภาพต่อไป และปัจจัยสําคญั อยา่ งหนึง ที จะทาํ ใหว้ ยั ผูใ้ หญ่ยงั คงแขง็ แรงไดแ้ ก่ การบริโภคอาหารทีถูกตอ้ งตามหลกั โภชนาการ การควบคุมอาหารในวยั ผูใ้ หญ่ มีขอ้ แนะนาํ ดงั นี .ให้บริโภคอาหารหลายชนิด เนืองจากไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึงทีให้คุณค่าทางโภชนาการได้ ครบถว้ น . บริโภคอาหารในปริมาณทพี อเหมาะ เพือใหน้ าํ หนกั อยใู่ นเกณฑท์ ีตอ้ งการ . หลีกเลียงการรับประทานทมี ไี ขมนั มากเกนิ ไป . บริโภคอาหารทมี ีปริมาณของแป้ งและกากใยใหเ้ พยี งพอ . หลีกเลียงการบริโภคอาหารทีปรุงดว้ ยปริมาณนาํ ตาลจาํ นวนมาก . หลกี เลียงการบริโภคอาหารเคม็ มากเกินไป . หลีกเลียงเครืองดืมทีมแี อลกอฮอล์ . ความต้องการสารอาหารของวัยผู้สูงอายุ ผูส้ ูงอายใุ นทนี ีหมายถงึ ผูท้ อี ยใู่ นวยั ปี ขนึ ไป สาํ หรับปัญหาเรืองอาหารการกินหรือโภชนาการในวยั นี ขอให้รับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่และ ควบคุมปริมาณ โดยดูจากการควบคมุ นาํ หนกั ตวั ไม่ใหม้ ากขึน และกรณีนาํ หนกั เกินอยแู่ ลว้ ควรจะลดนาํ หนักให้ สัมพนั ธ์กบั ส่วนสูง ข้อแนะนําในการดแู ลเรืองอาหารในผู้สูงอายมุ ีดังนี .โปรตีน ควรให้รับประทานไข่วนั ละ ฟอง และดืมนมอยา่ งนอ้ ยวนั ละ แกว้ สําหรับโปรตีนจาก เนือสตั วค์ วรลดนอ้ ยลง .ไขมนั ควรใชน้ าํ มนั ถวั เหลืองหรือนาํ มนั ขา้ วโพด ในการปรุงอาหารเพราะเป็ นนาํ มนั พืชทีมีกรดไล โนเลอกิ .คาร์โบไฮเดรต คนสูงอายคุ วรรับประทานขา้ วลดลงและไมค่ วรรับประทานนาํ ตาลในปริมาณทมี าก .ใยอาหาร คนสูงอายคุ วรรับประทานอาหารทีเป็ นพวกใยอาหารมากขึน เพือช่วยป้ องกนั การทอ้ งผูก ช่วยลดระดบั โคเลสเตอรอลในเลอื ดและลดอุบตั กิ ารของการเกดิ มะเร็งลาํ ไสใ้ หญ่ลงได้ .นาํ ดืม คนสูงอายคุ วรดืมนาํ ปริมาณ ลิตรตลอดทงั วนั แต่ทงั นีสามารถปรับเองไดต้ ามความตอ้ งการ ของร่างกาย โดยสังเกตดูว่าถ้าปัสสาวะมีสีเหลืองอ่อน ๆ เกือบขาว แสดงว่านาํ ในร่างกายเพียงพอแล้ว ส่วน เครืองดืมแอลกอฮอลร์ วมทงั นาํ ชา กาแฟ ควรงดเวน้ ถา้ ระบบยอ่ ยอาหารในคนสูงอายไุ ม่ดี ท่านควรแบ่งเป็ นมือ ยอ่ ย ๆ แลว้ รับประทานทีละนอ้ ย แต่หลายมือจะดกี วา่ แต่อาหารหลกั ควรเป็นมอื เดียว
68 .ความต้องการสารอาหารในสตรีตงั ครรภ์ สตรีตงั ครรภ์ นอกจากตอ้ งมีสารอาหารทงั ประเภทไดแ้ ก่โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมนั วิตามิน เกลือ แร่ และนาํ ในอาหารทรี ับประทานเป็นประจาํ ใหค้ รบทกุ ประเภทแลว้ สตรีตงั ครรภต์ อ้ งทราบอีกว่า ควรทีจะเพิม สารอาหารประเภทใด จึงจะทาํ ใหเ้ ดก็ ในครรภไ์ ดร้ ับประโยชนส์ ูงสุดดงั นี .อาหารทีให้โปรตีน ไดแ้ ก่ไข่ นม เนือสัตว์ เครืองในสัตว์และถัวเมล็ดแห้ง สตรีตงั ครรภ์จึงควร รับประทานไข่วนั ละ - ฟอง นมสดวนั ละ - แกว้ เนือสตั วบ์ กและสตั วท์ ะเล ซึงจะไดธ้ าตุไอโอดีนดว้ ยอาหาร ประเภทเตา้ หูแ้ ละนมถวั เหลอื ง กม็ ีประโยชนใ์ นการใหโ้ ปรตนี ไมแ่ พเ้ นือสตั วเ์ ช่นกนั .อาหารทีให้พลงั งาน ไดแ้ ก่ ขา้ ว แป้ ง นาํ ตาล ไขมันและนาํ มนั สตรีตงั ครรภ์ควรรับประทานข้าว พอประมาณร่วมกับอาหารทีให้โปรตีนดงั กล่าวแลว้ ควรใชน้ าํ มนั พืชซึงมีกรดไขมนั จาํ เป็ น ในการประกอบ อาหาร เช่นนํามนั ถวั เหลือง นาํ มนั ขา้ วโพด สตรีตงั ครรภค์ วรจะตอ้ งรับอาหารทีจะให้พลงั งานมากขึนวนั ละ ปริมาณ แคลลอรี .อาหารทีให้วิตามินและเกลือแร่ สตรีตังครรภ์ตอ้ งการอาหารทีมีวิตามินและเกลือแร่เพิมขึนควร รับประทานอาหารประเภทผกั และผลไมท้ กุ ๆวนั เชน่ ส้ม มะละกอ กลว้ ย สลบั กนั ไป จะไดใ้ ยอาหารเพอื ประโยชน์ ในการขบั ถา่ ยอจุ จาระดว้ ย เกลือแร่ทีสําคญั ควรรับประทานเพิมไดแ้ ก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เหล็ก สงั กะสี และไอโอดีน ส่วนวิตามนิ ไดแ้ กก่ ลุม่ ทีละลายในไขมนั เช่น เอ ดี อี เค และทีละลายในนาํ ไดแ้ ก่วิตามินบี และวิตามนิ ซี ร่างกายเราตอ้ งการสารอาหารทีมอี ยใู่ นอาหารต่างๆ เพอื ใหม้ สี ุขภาพทดี ี แต่เราจะตอ้ งรู้ว่าจะกินอย่างไร กินอาหารอะไรบา้ งมากนอ้ ยเพียงใดจึงจะไดส้ ารอาหารครบเพียงพอกบั ความตอ้ งการของร่างกาย ขอ้ ปฏิบตั ิการ กินอาหารเพือสุขภาพทีดีของคนไทย ขอ้ หรือโภชนาการบญั ญตั ิ ประการนีจะช่วยไดถ้ า้ ท่านปฏิบตั ิตามหลกั ดงั ต่อไปนี .กนิ อาหารครบ หม่แู ตล่ ะหมู่ใหห้ ลากหลายและหมนั ดแู ลนาํ หนกั ตวั .กินขา้ วเป็นอาหารหลกั สลบั กบั อาหารประเภทแป้ งเป็นบางมือ .กนิ พชื ผกั ใหม้ ากและกนิ ผลไมเ้ ป็นประจาํ .กินปลา เนือสัตวท์ ไี ม่ตดิ มนั ไข่ ถวั เมลด็ แหง้ เป็นประจาํ .ดมื นมใหเ้ หมาะสมตามวยั .กนิ อาหารทีมีไขมนั พอสมควร .หลีกเลยี งการกนิ อาหารรสหวานจดั และเคม็ จดั .กนิ อาหารทีสะอาดปราศจากการปนเปื อน .งดหรือลดเครืองดืมทีมีแอลกอฮอล์ สารต้านอนุมลู อสิ ระ ในร่างกายของคนเราเซลล์จะผลิตสารชนิดหนึงเพือทาํ ลายเนือเยือตนเองเพิมมากขึน สารนนั เรียกว่า อนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระนีเป็นตวั การสาํ คญั ทีทาํ ใหเ้ กิดปัญหาทางสุขภาพหลายประการ ทงั ภาวะความจาํ เสือม โรคมะเร็งเป็ นตน้ ในขณะเดียวกนั ร่างกายกส็ ามารถจดั การกบั อนุมูลอิสระไดโ้ ดยสร้างสารตา้ นอนุมูลอิสระออกมาใน กระแสเลอื ด เพือจบั กบั อนุมูลอิสระไดถ้ ึง . % คงเหลอื ทาํ ลายเซลลอ์ ย่เู พียง . % แต่กระนันก็ทาํ ให้เซลลเ์ กิด การบาดเจบ็ และยงิ นานวนั รอยแผลกส็ ะสมมากขึน เมือคนเราแก่ลงร่างกายก็จะสร้างสารตา้ นอนุมูลอิสระลดลง
69 ร่างกายจะตอ้ งการสารตา้ นอนุมูลอิสระมากขึน เพือส่งผลใหอ้ ายยุ ืน สุขภาพแข็งแรงต่อตา้ นโรคชรา โรคมะเร็ง เป็ นตน้ สารตา้ นอนุมลู อิสระทสี าํ คญั ทเี ราพบในแหลง่ อาหาร มีดงั นี .เบตา้ -แคโรทนี มีมากในแครอท และผกั สีเหลืองส้มผกั สีเขียวเขม้ ต่างๆเช่นมะเขือเทศ ฟักทอง ตาํ ลึง ผกั บงุ้ ผกั กวางตงุ้ ผกั คะนา้ ยอดแค เป็นตน้ .วติ ามนิ ซี มมี ากในฝรัง ส้ม มะขามป้ อม มะนาว มะเขอื เทศ ผกั ผลไมส้ ด ตา่ งๆ ผกั คะนา้ และกระหลาํ ด อกมวี ติ ามนิ ซีสูงมาก วิตามิน ซี ถูกทาํ ลายไดง้ า่ ย ดว้ ยความร้อนความขึนและแสง .วิตามินอี มีในรําละเอียด ในพวกธญั พืชทีไม่ขดั ขาว ขา้ วโพด ถวั แดง ถวั เหลือง ผกั กาดหอม เมล็ด ทานตะวนั งา นาํ มนั รํา นาํ มนั ถวั ลสิ ง นาํ มนั จากเมลด็ พชื ต่างๆ .ซีลิเนียม พบในอาหารทะเลเนือสัตว์ธัญพืชทีไม่ขัดขาวนอกจากนียงั มีสารทีพบในผักผลไมท้ ีมี คณุ สมบตั ิในการตา้ นสารอนุมูลอิสระซึงสามารถจบั กบั อนุมูลอิสระลดอนั ตรายไม่ใหเ้ กดิ โรคมะเร็งได้ พบไดม้ าก ในตระกลู ส้ม องุ่น และผลไมส้ ดอนื ๆรวมทงั ผกั ผลไมต้ ่างๆ เช่น กระเทยี ม ผกั ตระกลู ผกั กาด ตวั อยา่ ง ประเภทและจาํ นวนของอาหารทีคนไทยควรรับประทานอาหารใน วนั สาํ หรับเดก็ อายุ ปี ขนึ ไปถงึ วยั ผูใ้ หญ่และผูส้ ูงอายโุ ดยแบง่ ตามการใหพ้ ลงั งาน กลมุ่ อาหาร หน่วยครัวเรือน พลงั งาน (กโิ ลแคลอรี) , ,, ทพั พี ทพั พี ขา้ ว – แป้ ง ทพั พี = กรัม หรือ ครึงถว้ ยตวง ทพั พี ทพั พี ส่วน ผกั ทพั พี = กรัม หรือ ครึงถว้ ยตวง ( ) ทพั พี ทพั พี ชอ้ น ผลไม้ ส่วน = สม้ เขยี วหวาน ผล หรือ ( ) ส่วน ส่วน กินขา้ ว กลว้ ยนาํ วา้ ผล หรือ เงาะ ผล แกว้ เนือสตั ว์ ชอ้ นกินขา้ ว = ปลาทูครึงตวั หรือ ชอ้ น ชอ้ น ไข่ครึงฟอง หรือไกค่ รึงน่อง กนิ ขา้ ว กนิ ขา้ ว นม แกว้ = ซีซี ( ) แกว้ แกว้ นาํ มนั นาํ ตาล และ ชอ้ นชา ใชแ้ ตน่ อ้ ยเท่าทจี าํ เป็น เกลอื หมายเหตุ เลขใน ( ) คือปริมาณทีแนะนาํ สาํ หรับผูใ้ หญ่ , กิโลแคลอรี สาํ หรับ เดก็ อายุ - ปี หญิงวยั ทาํ งานอายุ - ปี ผูส้ ูงอายุ ปี ขนึ ไป , กโิ ลแคลอรี สาํ หรับ วยั รุ่น หญิง-ชาย อายุ - ปี วยั ทาํ งานอายุ - ปี , กิโลแคลอรี สาํ หรับ หญงิ -ชาย ทีใชพ้ ลงั งานมากๆ เช่น เกษตรกร ผูใ้ ชแ้ รงงาน นกั กีฬา
70 สรุป อาหารเป็นปัจจยั ทีมผี ลต่อการเจริญเติบโต และพฒั นาการของมนุษย์ การรับประทานอาหารควรยึดหลกั โภชนาการ เพือใหไ้ ดพ้ ลงั งานและสารอาหารทีพอเพยี ง วยั รุ่น เป็นวยั ทีกาํ ลงั เจริญเติบโตจึงควรบริโภคอาหารให้ ถูกตอ้ งตามหลกั โภชนาการ เรืองที วธิ ีการประกอบอาหารเพอื คงคุณค่าของสารอาหาร . หลกั การปรุงอาหารทีถูกสุขลกั ษณะ เพอื ใหไ้ ดอ้ าหารทีสะอาด ปลอดภยั และมีคุณค่าทางโภชนาการ มีหลกั การปรุงอาหารทีถูกสุขลกั ษณะ โดยคาํ นึงถงึ หลกั ส คือสงวนคณุ คา่ สุกเสมอ สะอาดปลอดภยั สงวนคุณค่า คือ การปรุงอาหารจะตอ้ งปรุงดว้ ยวิธีการปรุง ประกอบเพือสงวนคุณค่าของอาหารใหม้ ี ประโยชน์เตม็ ที เชน่ การลา้ งใหส้ ะอาดก่อนหนั ผกั การเลอื กใชเ้ กลอื เสริมไอโอดีน สุกเสมอ คือ ต้องใชค้ วามร้อนในการปรุงอาหารให้สุกโดยเฉพาะอาหารประเภทเนือสัตว์ทังนีเพือ ตอ้ งการจะทาํ ลายเชือโรคทีอาจปนเปื อนมากบั อาหาร การใชค้ วามร้อนจะต้องใชค้ วามร้อนในระดบั ทีสูง ใน ระยะเวลานานเพยี งพอทีความร้อนจะกระจายเขา้ ถึงทุกส่วนของอาหาร ทาํ ให้สามารถทาํ ลายเชือโรคไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ สะอาดปลอดภยั คือ จะตอ้ งมีการตรวจสอบคณุ ภาพมาตรฐานของอาหารก่อนการปรุงประกอบว่าอยู่ใน สภาพทสี ะอาด ปลอดภยั ไดม้ าตรฐาน เช่น เนือหมูสด ตอ้ งไม่มีเม็ดสาคู (ตวั อ่อนพยาธิตวั ตืด) นาํ ปลา จะตอ้ งมี เครืองหมาย อย.รับรอง เป็นตน้ และจะตอ้ งมกี รรมวีธีขนั ตอนการปรุง ประกอบอาหารทีสะอาด ปลอดภยั และถูก สุขลกั ษณะ มผี ูป้ รุง ผูเ้ สิร์ฟอาหารทีมีสุขวิทยาส่วนบุคคลทีดี รู้จกั วิธีการใชภ้ าชนะอุปกรณ์และสารปรุงแต่งรส อาหารทีถกู ตอ้ งเชน่ วกี ารสดปริมาณสารพษิ กาํ จัดศตั รูพืชทีตกคา้ งในผกั สด การใชช้ อ้ นชิมอาหารเฉพาะในการ ชมิ อาหารระหว่างการปรุงอาหาร . หลกั การทาํ อาหารใหส้ ะดวกและรวดเร็ว อาหารทปี รุงเองนอกจากจะประหยดั แลว้ ยงั ไดอ้ าหารทีสะอาด สด ใหม่ มีรสถูกปากและลดความเสียง จากการมสี ารเคมปี นเปื อนแต่ เวลา มกั จะเป็ นขอ้ จาํ กดั ในการลงมือทาํ อาหาร แม่บา้ นอาจมีวิธีการเตรียมอาหาร พร้อมปรุงในวนั หยดุ เกบ็ ไวใ้ นตเู้ ยน็ แลว้ นาํ มาปรุงใหม่ไดโ้ ดยใชเ้ วลานอ้ ยแต่ไดค้ ณุ คา่ มากเริมจากอาหารประเภท เนือสัตว์ เช่น หมู ไก่ กุง้ ปลา เมอื ซือมาจดั เตรียมตามชนิดทีตอ้ งการปรุงหรือหุงตม้ แลว้ ทาํ ให้สุก ดว้ ยวิธีการตม้ หรือรวน แลว้ แบง่ ออกเป็นส่วนๆตามปริมาณทจี ะใชแ้ ตล่ ะครัง แลว้ เกบ็ ไวใ้ นตูเ้ ยน็ ถา้ จะใชใ้ นวนั รุ่งขึน หรือเก็บ ไวใ้ นช่องแชแ่ ขง็ ถา้ จะเกบ็ ไวใ้ ชน้ าน เมอื ตอ้ งการใชก้ ็นาํ ออกมาประกอบอาหารไดท้ นั ที โดยไม่ตอ้ งเสียเวลา รอ ให้ละลายเหมือนการเกบ็ ดิบๆ ทงั ชินใหญ่โดยไม่หนั การเตรียมล่วงหนา้ วิธีนี นอกจากจะสะดวก รวดเร็วแล้ว ยงั คงรสชาติและคณุ คา่ ของอาหารอีกดว้ ย . หลกั การเกบ็ อาหารใหส้ ะอาดปลอดภยั การเก็บอาหารตามหลกั การสุขาภิบาลอาหารมีวตั ถุประสงคเ์ พือยืดอายุของอาหารทีใชบ้ ริโภค โดย จะตอ้ งอยใู่ นสภาพทสี ะอาดปลอดภยั ในการบริโภค หลกั การในการเก็บอาหารให้คาํ นึงถึงหลกั ส. คือสัดส่วน เฉพาะ สิงแวดลอ้ มเหมาะสม สะอาดปลอดภยั
71 สัดส่วนเฉพาะ คือ ตอ้ งเกบ็ อาหารให้เป็ นระเบียบ แยกเก็บตามประเภทอาหารโดยจัดให้เป็ นสัดส่วน เฉพาะไมป่ ะปนกนั มีฉลากซือหรือเครืองหมายอาหารแสดงกาํ กบั ไว้ สิงแวดลอ้ มเหมาะสม คือ ตอ้ งเกบ็ อาหารโดยคาํ นึงถึงการจัดสภาพสิงแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมกบั อาหาร แต่ละประเภทโดยคาํ นึงถงึ อณุ หภมู คิ วามชืนเพือชว่ ยทาํ ใหอ้ าหารสดสะอาดเก็บไดน้ านไม่เน่าเสียง่ายสิงแวดลอ้ ม ของอาหารจะจดั การใหอ้ ยใู่ นสภาพทจี ะป้ องกนั การปนเปื อนได้ เช่น การเกบ็ อาหารกระป๋ องในบริเวณทีมี อาหาร หมนุ เวยี น สูงจากพืนอยา่ งนอ้ ย ซม. การเกบ็ นมพาสเจอไรส์ไวใ้ นอุณหภมู ติ าํ กว่า องศาเซลเซียส เป็นตน้ สะอาดปลอดภยั คือ ตอ้ งเก็บอาหารในภาชนะบรรจุทีถูกสุขลกั ษณะ สะอาด ปลอดภยั มีการทาํ ความ สะอาดสถานทีเก็บอยา่ งสมาํ เสมอไม่เกบ็ สารเคมีทีเป็ นพิษอืนๆเช่น การใชถ้ ุงพลาสติก/กล่องพลาสติกสาํ หรับ บรรจุอาหารในการบรรจุอาหารทีเกบ็ ไวใ้ นตเู้ ยน็ /ตแู้ ชแ่ ขง็ เป็นตน้ . อณุ หภมู เิ ทา่ ไหร่จึงจะทาํ ลายเชอื โรคได้ เชอื จุลินทรียม์ อี ยทู่ วั ไปตามสิงแวดลอ้ มมนุษย์ สัตว์ อาหาร ภาชนะอุปกรณ์และสามารถจะดาํ รงชีวิตอยู่ ไดใ้ นชว่ งอณุ หภูมิตาํ กวา่ องศาเซลเซียส จนถงึ องศาเซลเซียส โดยเฉพาะเชือจุลินทรียท์ กี อ่ ใหเ้ กดิ โรคระบาด ทางเดินอาหารมกั จะเป็นเชอื จุลนิ ทรียท์ สี ามารถเจริญเติบโตไดด้ ีทอี ณุ หภูมหิ อ้ งประมาณ องศาเซลเซียส ถึง องศาเซลเซียส ฉะนนั การทาํ ลายเชอื จุลนิ ทรียท์ ีก่อใหเ้ กดิ โรคระบบทางเดินอาหารจาํ เป็ นจะตอ้ งกาํ หนดช่วงอุณหภูมิที เหมาะสมเพือจะได้แน่ใจว่าเชือจุลินทรียถ์ ูกทาํ ลายจนหมดสินในขบวนการผลิตอาหารทางอุตสาหกรรมการ ทาํ ลายเชอื โรคจาํ เป็นตอ้ งอาศยั อณุ หภมู ิทเี หมาะสมควบคู่ไปกบั ระยะเวลาทีเหมาะสมจึงจะมีประสิทธิภาพในการ ทาํ ลายทีดี คืออุณหภูมิทีสูงมากใชร้ ะยะเวลาสัน( องศาเซลเซียสเป็ นเวลา นาที)และอุณหภูมิทีตาํ ใชร้ ะยะ เวลานาน( องศาเซลเซียส เป็ นเวลา นาที)ทงั ทียงั มีปัจจัยอืนทีเกียวขอ้ งในการควบคุมไดแ้ ก่ปริมาณ เชอื จุลนิ ทรียป์ ระเภทของอาหารค่าความเป็นกรด ดา่ ง ความชนื สาํ หรับในการปรุงประกอบอาหารในครัวเรือนอุณหภูมิทีสามารถทาํ ลายเชือจุลินทรีย์ คือ องศา เซลเซียส- องศาเซลเซียส (อุณหภูมินาํ เดอื ด)เป็นเวลานาน นาทีสาํ หรับอุณหภมู ิในตเู้ ยน็ องศาเซลเซียส- องศาเซลเซียส เชอื จุลนิ ทรียส์ ามารถดาํ รงชวี ติ อยไู่ ด้ และสามารถเพิมจาํ นวนไดอ้ ยา่ งชา้ ในขณะทีอุณหภูมิแซ่แข็ง ตาํ กวา่ องศาเซลเซียส เชอื จุลินทรียส์ ามารถดาํ รงอยไู่ ดแ้ ตไ่ มเ่ พมิ จาํ นวนอุณหภูมิทีเชือจุลินทรียต์ ายคือ- องศา เซลเซียส และฉะนนั เพอื ความปลอดภยั ในการบริโภคอาหารโดยเฉพาะอาหารเนือสัตวค์ วรปรุงอาหารใหส้ ุกเสมอ โดยทวั ทุกส่วนทอี ณุ หภูมิสูงกวา่ องศาเซลเซียส ขึนไปหรือสุกเสมอ สะอาด ปลอดภยั . อุณหภูมิทเี หมาะสมในการเกบ็ อาหารสดประเภทเนือสัตว์ อาหารเนือสัตวส์ ด เป็ นอาหารทีมีความเสียงสูง เพราะมีปัจจัยเอือต่อการเน่าเสียไดง้ ่าย คือมีปริมาณ สารอินทรียส์ ูง มีปริมาณนาํ สูง ความเป็นกรดด่างเหมาะสมในการเจริญเติบโตของเชอื จุลนิ ทรีย์ การเกบ็ เนือสัตวส์ ดทีถกู สุขลกั ษณะ คือตอ้ งลา้ งทาํ ความสะอาดแลว้ จึงหันหรือแบ่งเนือสัตวเ์ ป็ นชิน ๆ ขนาดพอดีทีจะใชใ้ นการปรุงประกอบอาหารแต่ละครังแลว้ จึงเก็บในภาชนะทีสะอาดแยกเป็ นสัดส่วนเฉพาะ สาํ หรับเนือสัตว์สดทีต้องการใชใ้ ห้หมด ภายใน ชัวโมงสามารถเก็บไวใ้ นอุณหภูมิตูเ้ ยน็ ระหว่าง องศา เซลเซียส - องศาเซลเซียสในขณะทเี นือสตั วส์ ดทตี อ้ งการเกบ็ ไวใ้ ชน้ าน (ไม่เกิน วนั )ตอ้ งเก็บไวใ้ นอุณหภูมิตูแ้ ช่ แขง็ อุณหภูมิตาํ กวา่ องศาเซลเซียส ทงั นีเมือจะนาํ มาใชจ้ าํ เป็นจะตอ้ งนาํ มาละลายในไมโครเวฟ แต่ถา้ ละลายใน นาํ เยน็ จะตอ้ งเปลียนนาํ ทุก นาที เพือให้อาหารยงั คงความเยน็ อยู่และนาํ ทีใชล้ ะลายไม่เป็ นแหล่งสะสมของ เชอื จุลนิ ทรียท์ อี าจจะปนเปื อนมาทาํ ใหม้ ีโอกาสเพิมจาํ นวนไดม้ ากขึนจนอาจจะเกดิ เป็นอนั ตรายได้
72 สรุปอุณหภมู ิทีเหมาะสมในการเกบ็ อาหารเนือสัตวส์ ดคืออุณหภูมิตูเ้ ยน็ ตาํ กว่า องศาเซลเซียสในกรณี ทีจะใชภ้ ายใน ชวั โมง และตาํ กว่า องศาเซลเซียส (อุณหภูมิแช่แขง็ ) ในกรณีทีจะใชภ้ ายใน วนั ซึงเป็ น อณุ หภมู ทิ เี ชอื จุลินทรียย์ งั คงดาํ รงชวี ิตอยไู่ ดแ้ ต่มอี ตั ราการเจริญเติบโตตาํ จนถงึ ไม่มีการเจริญเติบโตทาํ ให้สามารถ เกบ็ รักษาเนือสตั วใ์ หส้ ด ใหม่ สะอาด ปลอดภยั . ภาชนะบรรจุอาหารสาํ คญั อยา่ งไร ภาชนะบรรจุอาหารเป็นปัจจยั สาํ คญั ทเี สียงตอ่ การปนเปื อนเชอื โรค สารเคมีทีเป็ นพิษกบั อาหารทีพร้อม จะบริโภค ทงั นี สามารถจะก่อให้เกิดการปนเปื อนไดท้ ุกขนั ตอน ตงั แต่ขนั ตอนการเกบ็ อาหารดิบ ขนั ตอนการ เสิร์ฟใหก้ บั ผูบ้ ริโภค ขนั ตอนการเกบ็ อาหารดิบถา้ ภาชนะบรรจุทาํ ดว้ ยวสั ดทุ เี ป็นพิษหรือภาชนะทีปนเปื อนเชอื โรคก็จะทาํ ให้ อาหารทีบรรจุอยปู่ นเปื อนไดโ้ ดยเฉพาะภาชนะบรรจุอาหารเนือสัตว์สด เมือใชแ้ ลว้ ตอ้ งลา้ งทาํ ความสะอาดให้ ถกู ตอ้ งกอ่ นจะนาํ มาบรรจุเนือสัตวส์ ดใหมเ่ พราะอาจจะเป็นแหล่งสะสมของเชือจุลินทรียไ์ ดง้ ่ายขนั ตอนการปรุง ประกอบอาหารถา้ ภาชนะอปุ กรณ์ทีใชใ้ นการปรุง ประกอบอาหาร ถา้ ภาชนะอุปกรณ์ทีใชใ้ นการปรุงประกอบมี การปนเปื อนดว้ ยสารเคมที เี ป็นพิษ กส็ ามารถปนเปื อนอาหารทปี รุงประกอบไดเ้ ช่น ตะแกรงทาสีบรอนด์เวลาปิ ง ปลา สีบรอนด์ และสารตะกวั กอ็ าจจะปนเปื อนกบั เนือปลาไดใ้ ชภ้ าชนะพลาสติกอ่อนใส่นาํ ส้มสายชูทาํ ให้มีการ ปนเปื อนสารพลาสติกออกมากบั นาํ ส้มสายชทู าํ ใหม้ กี ารปนเปื อนสารพลาสติกออกมากบั นาํ ส้มสายชไู ด้ ขนั ตอนการเสิร์ฟอาหารพร้อมบริโภคอาหารปรุงสําเร็จถา้ ภาชนะทีใช้ลา้ งไม่สะอาดมีการปนเปื อน เชอื จุลินทรียส์ ารเคมที ีเป็นอนั ตรายกจ็ ะปนเปื อนอาหารจนอาจก่อใหเ้ กิดอนั ตรายกบั ผูบ้ ริโภคได้ ฉะนันเพือให้ไดภ้ าชนะอุปกรณ์ทีสะอาด ปลอดภยั สิงสําคญั กค็ ือจะต้องรู้จักวิธีการเลือกใชภ้ าชนะ อปุ กรณ์ทีถกู ตอ้ งไม่ทาํ จากวสั ดุทีเป็นพษิ และใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ประเภทของอาหารรวมทงั ตอ้ งรู้จกั วธิ ีการลา้ งและ การเกบ็ ภาชนะอุปกรณ์ใหถ้ กู ตอ้ ง เรืองที ความเชือและค่านิยมเกียวกบั การบริโภค คา่ นิยม (Value) หมายถึง ลกั ษณะดา้ นสังคมซึงมีความเชือถือ (Beliefs) กนั อย่างกวา้ งขวาง ซึงเป็ นแนวทางในการพิจารณาพฤติกรรมทีเหมาะสม โดยมีการยอมรับอย่างแพร่หลายจากสมาชิกของสังคม หรือหมายถึง ความเชือถือของส่วนรวมซึงมีมานาน โดยมีจุดมุ่งหมายเพือการมีชีวิตอยูร่ ่วมกนั เป็ นความรู้สึก เกยี วกบั กจิ กรรม ความสัมพนั ธ์กนั หรือจุดม่งุ หมายซึงมคี วามสาํ คญั ตอ่ ลกั ษณะหรือความเป็ นอยู่ของชุมชน สิง ทคี นกล่มุ หนึง ๆ ว่าอะไรกต็ ามทคี นในสังคมส่วนใหญช่ อบ ปรารถนาหรือตอ้ งการใหเ้ ป็น ในปัจจุบนั เรามกั จะให้ยินว่าคนไทยมีค่านิยมชอบใชข้ องต่างประเทศ ชอบเลียนแบบชาว ต่างประเทศโดยรับเอาวฒั นธรรมของต่างประเทศเขา้ มามาก โดยลืมคิดถึงความเสียหายทีจะเกิดขึน ซึงคาํ ว่า “คา่ นิยม” ถือวา่ เป็นปัจจยั ภายนอกซึงเป็นปัจจยั ทมี อี ทิ ธิพลต่อความรู้สึกนึกคดิ ของบุคคลเป็ นสิงทีเกิดขึนจากการ เรียนรู้ หรือสิงอนื ใดกต็ ามทีเป็นตวั กาํ กบั หรือควบคุมพฤติกรรมของบคุ คลเป็นสิงทเี กดิ ขนึ จากการเรียนรู้ หรือสิง อนื ใดกต็ ามทเี ป็นตวั กาํ กบั หรือควบคุมพฤตกิ รรมของบุคคลทีอยใู่ นสังคมนนั ๆ ซึงความสาํ เร็จหรือความลม้ เหลว ของธุรกิจทางการตลาดขึนอยู่กับความสอดคลอ้ งกับค่านิยมเป็ นสําคญั ดงั นัน ค่านิยมจึงเกียวขอ้ งกับการ ตอบสนองต่อสิงกระตุน้ ดว้ ยวิธีทีมีมาตรฐาน ซึงบุคคลจะถูกกระตุน้ ให้มีส่วนร่วมในพฤติกรรมเพือใหบ้ รรลุ ค่านิยม และความเกียวขอ้ งกบั พฤติกรรมผูบ้ ริโภคและกลยุทธ์ทางการตลาด ในขณะทีแต่ละชนั ของสังคมจะมี
73 ลกั ษณะของคา่ นิยมและพฤตกิ รรมในการบริโภคจะแตกตา่ งกนั ออกไป ตวั อยา่ งค่านิยมกบั พฤติกรรมการบริโภค ของคนไทย มดี งั นี 1. กลุ่มค่านิยมความรํารวย และนิยมใช้ของจากต่างประเทศ จดุ เด่นทเี ป็ นนิสัยของคนไทย ชอบทาํ ตวั ว่าตวั เองเป็ นคนรํารวยเนืองมาจากการใช้สินค้า สินคา้ ทีนิยมใชจ้ ะเป็ นสินคา้ ที นาํ เขา้ มาจากต่างประเทศเทา่ นนั ส่วนทเี กยี วข้องกบั พฤตกิ รรมการบริโภค เป็นบคุ คลทชี อบใชข้ องแพง ๆ ทาํ ใหค้ นอืนมองวา่ ตวั เองเป็นผทู้ รี ํารวย ตอ้ งการใหค้ นยกย่อง นบั ถอื เป็นคนทตี อ้ งมีเกียรติ ตอ้ งการเป็นผนู้ าํ ในการใชส้ ินคา้ นิยมใชส้ ินคา้ ทนี าํ เขา้ มาเท่านนั มองว่าสินคา้ ใน ประเทศเป็นสินคา้ ทีไม่มคี ุณภาพ ไมม่ มี าตรฐาน เป็นสินคา้ ดอ้ ยคณุ ภาพ จะรู้สึกภูมใิ จทกุ ครังเมือไดใ้ ชส้ ินคา้ ทีเป็ นสินคา้ จากต่างประเทศ ชอบไปเทียวต่างประเทศเพือไป ซือสินคา้ บางครังซือมาแลว้ ก็ไม่ไดใ้ ช้ ประโยชนก์ จ็ ะซือ หรือบางครังอาจจะไม่มเี วลาไปเทียวตา่ งประเทศกช็ อบฝากให้คนอืนซือ มีความเป็ นต่างชาติ สูงมาก จะเป็ นบุคคลทีเนน้ การแต่งกายดีตงั แต่ศีรษะจรดเทา้ เพือเสริมสร้างบุคลิกภาพ สร้างความน่าเชือถือ นิยมใชบ้ ตั รเครดิตการ์ด ชอบความสะดวกสบายไม่ชอบการรอคอยนาน ๆ ชอบสังคมกบั เพือนทีมีฐานะรํารวย เท่าเทียมกนั ไม่ชอบคบหาสมาคมกนั คนทีดอ้ ยกว่าหรือจนกว่า ทาํ อะไรคิดถึงตวั เองมากกว่าคนอืน บางครัง อาจจะประสบกบั ปัญหาทางดา้ นการเงนิ แตก่ ลวั วา่ คนอนื จะรู้ถึงฐานะของตนเองตอ้ งยอมกูเ้ งินเพือพยุงฐานะของ ตนเองกย็ อมเพือรักษาภาพลกั ษณ์ของตนเอง โดยไม่ตอ้ งการใหใ้ ครมามองว่าตวั เองจนลาํ บากหรือตาํ ตอ้ ยกว่า คนอืน ผลกระทบกบั ค่านิยมแบบนี ลกั ษณะแบบนี ควรจะปรับปรุงแกไ้ ขเพือสังคมจะไดด้ ีขึน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ไม่ควรให้ ฟ้ ุงเฟ้ อซึงจะเป็นการสร้างค่านิยมทีไมด่ ี และถอื ว่าค่านิยมแบบนีจะเป็นอนั ตรายตอ่ ประเทศชาตอิ ยา่ งมาก ซึงอาจ ก่อให้เกิดความเสียหาย เท่ากบั ว่าประเทศของเราไดต้ กไปเป็ นเมืองขึนของต่างชาติ ซึงเป็ นการยากทีเราจะกู้ ประเทศชาตกิ ลบั คืนมาได้ ซึงควรจะไดม้ ีการปรับปรุงแกไ้ ข . ค่านิยมสุขภาพดี จดุ เด่นทีเป็ นนิสัยของคนไทย เป็นบคุ คลทรี ักษาสุขภาพของตนเอง และครอบครัว เพือทจี ะไดม้ ชี วี ติ ยนื ยาว ส่วนทเี กียวข้องกบั พฤตกิ รรมการบริโภค พฤตกิ รรมของบุคคลทีมีค่านิยมสุขภาพดี มกั จะเป็ นคนทีดูแลตนเองเป็ นอย่างดี มีการออก กาํ ลงั กายอยา่ งสมาํ เสมอ ชอบความสะอาด ไปพบแพทยเ์ ป็นประจาํ มกี ารพกั ผ่อนอยา่ งเพียงพอเลือกรับประทาน อาหารทมี ีคณุ คา่ มีประโยชนต์ อ่ ร่างกาย เพอื ทาํ ใหส้ ุขภาพแขง็ แรง รวมทงั ดูแลคนในครอบครัวดว้ ยตอ้ งการให้ คนในครอบครัวปราศจากโรคภยั ไขเ้ จ็บ ตอ้ งการมชี ีวิตทียนื ยาว มีร่างกายทีแขง็ แรงและสมบูรณ์ ชอบพกั ผ่อนอยู่ กบั บา้ น และทานอาหารในบา้ นเพราะเนน้ ความสะอาด ชอบดหู นงั ฟังเพลงอยใู่ นบา้ น
74 สินคา้ ทีนิยมบริโภค ไดแ้ ก่ 1. อาหารมงั สวิรัติ 2. อาหารเสริม 3. นมทีมีแคลเซียม เพอื เสริมสร้างกระดกู 4. นมพร่องมนั เนย, โยเกริ ์ต 5. วิตามนิ ต่างๆ เช่น วติ ามินซี, วิตามินบี ฯลฯ 6. ผกั ปลอดสารพิษ 7. ดมื นาํ ผลไม้ 8. ดืมนาํ แร่ 9. โสมเกาหลี, เห็ดหลนิ จือ 10. ไก่ต๋นุ ยาจีน, ไกด่ าํ 11. ยารักษาโรค (จากแพทยส์ ัง) ผลกระทบกับค่านิยมแบบนี เป็นคา่ นิยมทดี นี ่าจะมีการสนบั สนุนเพราะจะทาํ ใหค้ นมสี ุขภาพดีขึน เพอื ชีวิตความ เป็นอยใู่ นครอบครัวดีขึน และทาํ ใหค้ รอบครัวมคี วามสุขมากขึน บุคคลทมี คี ่านิยมแบบนี เป็นบุคคลทมี ีฐานะในระดบั B ขึนไป และเป็นผูด้ ูแลเอาใจใส่ตอ่ สุขภาพ กลุ่มเป้ าหมาย เป็นกลุม่ วยั กลางคนทีเนน้ ดแู ลสุขภาพใหแ้ ขง็ แรงปลอดจากโรคภยั ไขเ้ จ็บ . ค่านิยมรักความสนุก จุดเด่นทเี ป็นนิสัยของคนไทย เป็นบุคคลทรี ักความสนุก มคี วามรืนเริงอยตู่ ลอดเวลา ชอบ ENTERTAIN ชอบสังสรรคไ์ ม่ วา่ จะเป็นเทศกาลใดกต็ าม ส่วนทีเกียวข้องกบั พฤติกรรมการบริโภค ลกั ษณะของพฤติกรรมบคุ คลจะเป็นบคุ คลทรี ักสนุก ชอบความรืนเริง มคี วามสังสรรคใ์ นหมู่ ญาติพีนอ้ ง เพอื นฝงู อยตู่ ลอดเวลา ไม่วา่ จะเป็ นการจัดปาร์ตีทุกสินเดือน หรือเป็ นเทศกาลต่าง ๆ เช่น วนั ขึนปี ใหม,่ วนั ตรุษจีน, วนั สงกรานต์ ฯลฯ ทุกเทศกาลกจ็ ะมีความสนุกสนานตลอดเวลา สินคา้ ทีนิยมบริโภค ไดแ้ ก่ 1. รับประทานอาหารทกุ ชนิด เช่น อาหารกบั แกลม้ อาจทาํ ทานเอง หรือไป ทานนอกบา้ น 2. เครืองดืมทุกชนิด เชน่ นาํ อดั ลม 3. ผลไมต้ ่าง ๆ (ผลไมไ้ ทยและผลไมน้ าํ เขา้ ) 4. ขนมขบเคยี วต่าง ๆ 5. ดืมสุรา (ผลิตในประเทศไทยและนาํ เขา้ จากต่างประเทศ) 6. ชอบร้องเพลง KARAOKE (อาจจะร้องเพลงอยใู่ นบา้ น หรือตาม สถานเริงรมยต์ า่ ง ๆ)
75 7. ชอบดูภาพยนตร์ 8. ชอบไปรับประทานอาหาร และฟังเพลงตามโรงแรม, หอ้ งอาหารตา่ ง ๆ และตามคาเฟ่ 9. ชอบไปเทยี วตามสถานทใี นตา่ งจงั หวดั เช่น ไปนาํ ตก, ภเู ขา และทะเ ผลกระทบกบั ค่านิยมแบบนี บคุ คลทีมคี า่ นิยมแบบนีอยา่ งนอ้ ยกน็ ่าจะสนบั สนุน เพราะทาํ ใหเ้ กิดสภาพคล่องทางการเงินทาํ ใหเ้ งนิ ทองไมไ่ หลออกนอกประเทศ มีการใชจ้ ่ายภายในประเทศ ซึงเป็นการกระจายรายไดไ้ ปยงั สถานท่องเทียว ตา่ งๆ ภายในประเทศไดเ้ ป็นอยา่ งดี ทาํ ให้มีการจับจ่ายใชส้ อยและเป็ นการสร้างรายไดใ้ ห้กบั ชุมชนต่างๆ และ แหลง่ ท่องเทยี วตา่ งๆ ทาํ ใหค้ นมอี าชีพมากขึนซึงจะทาํ ใหเ้ กิดการหมนุ เวียนทางดา้ นการเงินอาจส่งผลใหภ้ าวะทาง เศรษฐกจิ ในประเทศดีขึน . ค่านิยมบริโภคนิยม จดุ เด่นทีเป็ นนิสัยของคนไทย เป็นบุคคลทมี นี ิสยั ชอบบริโภคเป็นหลกั ซึงไม่ไดค้ าํ นึงถึงคณุ ภาพ ส่วนทีเกยี วขอ้ งกบั พฤตกิ รรมการบริโภค ลกั ษณะพฤติกรรมการบริโภคชอบรับประทานอาหารนอกบา้ น พยายามสรรหาร้านอาหารที อร่อยๆ ไม่ว่าจะอยใู่ กล้หรือไกล ถา้ ขึนชือในระดบั เชลลช์ วนชิม, แมช้ อ้ ยนางรํา และไม่ลองไม่รู้ ซึงมีใบ รับประกัน ชอบทีจะไปทดลองชิมดูว่าอร่อยสมชือหรือเปล่า ชอบร้านอาหารทีมีลกั ษณะสะอาด มีความ สะดวกสบาย มีทีจอดรถสะดวก บางครังบริโภคมากจนเกนิ ความจาํ เป็นและมผี ลตอ่ สุขภาพ ทาํ ให้เกิดโรคต่างๆ ไดง้ า่ ย เช่น โรคไขมนั อดุ ตนั โรคเบาหวาน ความดนั อาหารไม่ยอ่ ยอาหารเป็นพษิ ฯลฯ สินค้าทนี ิยมบริโภค ได้แก่ 1. อาหารทกุ ชนิด เช่น ร้านอาหารดงั ๆ 2. อาหาร fast food เช่น KFC, McDonald 3. ร้านอาหารญีป่ นุ เชน่ Oishi, ฟจู ิ 4. ร้านไอศกรีม เชน่ Swensens 5. ขนมขบเคยี วตา่ งๆ 6. เครืองดืมทุกชนิด 7. สุรายหี อ้ ต่างๆ ผลกระทบกบั คา่ นิยมแบบนี บคุ คลทีมีค่านิยมแบบนี อาจจะปันทอนสุขภาพได้ เพราะไม่ไดร้ ะมดั ระวงั ในเรืองของการ รับประทานอาหาร ควรจะมีการปรับปรุงแกไ้ ขเพือให้มีสุขภาพแข็งแรง และมีชีวิตทียืนยาวได้ ผูท้ ีมีค่านิยม บริโภคแบบนี ถา้ เป็นผูส้ ูงอายจุ ะทาํ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สุขภาพ เช่น มกั จะพบกบั โรคภยั ไขเ้ จ็บตา่ งๆ และมกั จะมี อายสุ ัน
76 เรืองที ปัญหาสุขภาพทเี กดิ จากการบริโภคอาหารไม่ถูกหลกั โภชนาการ ปัจจุบนั การดาํ เนินชวี ิตของประชาชนโดยเฉพาะในเขตเมือง เป็นไปอยา่ งเร่งรีบ ทาํ ใหก้ ารบริโภคอาหาร กเ็ นน้ อาหารตามทีรับประทานไดส้ ะดวกรวดเร็ว เช่น อาหารฟาสต์ฟูดส์ (Fast Food) ทาํ ให้เกิดปัญหาโรคอว้ น และโรคอนื ๆอกี มาก ดงั นนั จึงควรทาํ ความเขา้ ใจถงึ องคป์ ระกอบสาํ คญั ดงั นี ) อาหาร (Food) หมายถงึ สิงทีเรากนิ ไดแ้ ละมปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย สิงทกี ินไดแ้ ตไ่ มเ่ ป็ นประโยชน์หรือ ใหโ้ ทษแก่ร่างกาย อาทิ สุรา เหด็ เมา เรากไ็ ม่เรียกสิงนนั ว่าเป็นอาหาร ) โภชนาการ (Nutrition) มีความหมายกวา้ งมากกว่าอาหาร โภชนาการ หมายถึง เรืองต่างๆทีว่าดว้ ย อาหาร อาทิ การจัดแบ่งประเภทสารอาหาร ประโยชน์ของอาหาร การย่อยอาหาร โรคขาดสารอาหาร เป็ นตน้ โภชนาการเป็นวชิ าสาขาหนึงซึงมีลกั ษณะเป็นวิทยาศาสตร์ประยกุ ต์ ทกี ล่าวถงึ การเปลียนแปลงตา่ งๆของอาหารที เรารับประทานเขา้ ไปเพือใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นการเจริญเตบิ โตและซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย ) สารอาหาร ( Nutrient) หมายถึง สารเคมีทีเป็ นส่วนประกอบสําคัญในอาหาร สารเคมีเหล่านีมี ความสําคญั และจาํ เป็ นต่อร่างกาย อาทิ เป็ นตัวทาํ ให้เกิดพลงั งานและความอบอุ่นต่อร่างกาย ช่วยในการ เจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมส่วนทีสึกหรอทาํ ใหร้ ่างกายทาํ งานไดต้ ามปกติ เมือนาํ อาหารมาวิเคราะห์จะพบว่ามี สารประกอบอยมู่ ากมายหลายชนิด ถา้ แยกโดยอาศยั หลกั คณุ ค่าทางโภชนาการจะแบ่งออกเป็ น ประเภท ไดแ้ ก่ โปรตนี คาร์โบไฮเดรต ไขมนั วติ ามิน เกลือแร่ และนาํ ) พลงั งานและแคลอรี ไขมนั คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ใหป้ ระโยชน์แก่ร่างกายหลายอยา่ งทีสาํ คญั คือ การใชพ้ ลงั งานแก่ ร่างกาย พลงั งานในทีนีหมายถึงพลงั งานทีร่างกายจาํ เป็ นตอ้ งมี ตอ้ งใชแ้ ละสะสมไว้ เพือใชใ้ นการทาํ งานของ อวยั วะทงั ภายในและภายนอกร่างกาย นกั วทิ ยาศาสตร์วดั ปริมาณของพลงั งานหรือกาํ ลงั งานทไี ดจ้ ากอาหารเป็นหน่วยความร้อนเรียกวา่ แคลอรี โดยกาํ หนดวา่ แคลอรี เทา่ กบั ปริมาณความร้อนทีทาํ ใหน้ าํ กรัม มีอุณหภูมิสูงขึน องศาเซลเซียส แต่ในทาง โภชนาการพลงั งานทไี ดร้ ับจากการอาหารทีกินเขา้ ไป แคลอรี (ใหญ่) เท่ากบั ปริมาณ ความร้อน ทีทาํ ให้นาํ กโิ ลกรัม มอี ณุ หภูมสิ ูงขนึ องศาเซลเซียส ) อาหารหลัก หมู่ อาหารเป็ นสิงจาํ เป็ นยิงสาํ หรับการเจริญเติบโต การบาํ รุงเลียงส่วนต่างๆของ ร่างกาย มกั พบวา่ บางคนเลอื กทีจะกินและไม่กินอาหารอยา่ งหนึงอย่างใด ซึงเป็ นการกระทาํ ทีไม่ถูกตอ้ ง หากไม่ กินอาหารตามความตอ้ งการของร่างกาย การกินอาหารตอ้ งคาํ นึงถึงคุณค่าของสารอาหารมากกว่า ความชอบ หรือไม่ชอบ การเลอื กกินหรือไม่กนิ อาหารเกิดจากสาเหตหุ ลายประการ ดงั นี ความคนุ้ เคย เราจะเลอื กอาหารทีเราคุน้ เคยหรือกินอยู่เป็ นประจาํ และจะไม่เลือกกินอะไรทีไม่คุน้ เคย ดงั นนั จึงมีอาหารอกี หลายอยา่ งทเี รายงั ไมเ่ คยกิน ซึงอาจจะอร่อยถกู ปากกไ็ ด้ รสชาติ หรือความ “อร่อย” เป็ นเหตุผลทีคนเราเลือกอาหาร ความอร่อยของแต่ละคนจะไม่เหมือนกนั อาหารอยา่ งหนึงบางคนจะบอกว่าอร่อยแต่บางคนจะเฉยๆ หรือไม่อร่อย ลกั ษณะเฉพาะของเนืออาหาร อาทิ บางคนชอบอาหารกรอบ อาหารนุ่ม บางคนชอบเคียวอาหารพวกเนือ ทเี หนียวๆ เป็นตน้ ทศั นะคติ ของคนไทยครอบครัวหรือเพือนจะมีอิทธิพลต่อความชอบไม่ชอบอาหารของท่าน อาทิใน ครอบครัวทีพ่อไม่กนิ ตน้ หอมหรือผกั ชเี ลย ไปกินอาหารทไี หนกจ็ ะเขยี ตน้ หอมผกั ชอี อกจากจานทุกครัง ลูกๆก็จะ เลียนแบบกลายเป็นไม่ชอบไปดว้ ย
77 ดงั นนั เพือสุขภาพเราจึงควรลองกนิ อาหารทีไม่เคยกินทลี ะอยา่ งสองอยา่ งโดยคาํ นึงถึงประโยชน์ของมนั มากกว่า เมอื ไดล้ องกินแลว้ อาจะพบว่าจริงๆ แลว้ มนั ก็อร่อยไม่แพอ้ าหารจานโปรด และไม่เกิดปัญหาสุขภาพที เกดิ จากการบริโภคอาหารไมถ่ กู หลกั โภชนาการดว้ ย ปัญหาจากการบริโภคอาหารไม่ถูกหลกั โภชนาการไดแ้ ก่ - ภาวะทุพโภชนาการ - ภาวะโภชนาการเกิน (โรคอว้ น) ภาวะทพุ โภชนาการ (Malnutrition) ภาวะทุพโภชนาการ หมายถงึ ภาวะทรี ่างกายไดร้ ับสารอาหารผดิ เบยี งเบนไปจากปกติ อาจเกดิ จากไดร้ ับ สารอาหารน้อยกว่าปกติหรือเหตุ ทุติยภูมิ คือเหตุเนืองจากความบกพร่องต่างจากการกินการย่อยการดูดซึมใน ระยะ - ปี แรกของชีวิต จะมีผลกระทบต่อระดบั สติปัญญา และการเรียนภายหลงั เนืองจากเป็ นระยะทีมีการ เจริญเตบิ โตของสมองสูงสุด ซึงระยะเวลาทีวกิ ฤติต่อพฒั นาการทางร่างกายของวยั เดก็ มากทีสุดนนั ตรงกบั ช่วง เดือนหลงั การตังครรภ์จนถึงอายุ - เดือนหลังคลอด เป็ นระยะทีมีการปลอกหุ้มเส้นประสาทของระบบ ประสาท และมกี ารแบง่ ตวั ของเซลล์ ประสาทมากทีสุด เมืออายุ ปี มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต ถึงร้อยละ สําหรับผลกระทบทางร่างกาย ภายนอกทมี องเหน็ ไดค้ ือเดก็ มีรูปร่างเตีย เลก็ ซุบผอม ผิวหนงั เหียวยน่ เนืองจากไขมนั ชนั ผิวหนงั นอกจากนีออวยั วะภายในตา่ งๆ กไ็ ดร้ ับผลกระทบเช่นกนั 1. หวั ใจ จะพบวา่ กลา้ มเนือหวั ใจไม่แน่นหนา และการบีบตวั ไมด่ ี 2. ตบั จะพบไขมนั แทรกอยใู่ นตบั เซลลเ์ นือตบั มลี กั ษณะบางและบวมเป็นนาํ สาเหตุใหท้ าํ งานไดไ้ มด่ ี 3. ไต พบว่าเซลลท์ วั ไปมลี กั ษณะบวมนาํ และตดิ สีจาง 4. กลา้ มเนือ พบว่าส่วนประกอบในเซลลล์ ดลง มนี าํ เขา้ แทนที นอกจากการขาดสารอาหารแลว้ การไดร้ ับอาหารเกิน ในรายทีอว้ นฉุก็ถือเป็ นภาวะทุพโภชนาการเป็ นการไดร้ ับ อาหารมากเกินความตอ้ งการ พลงั งานทมี มี ากนันไม่ไดใ้ ชไ้ ป พลงั งานส่วนเกินเหล่านนั กจ็ ะแปลงไปเป็ นคลอเร สเตอร์รอลเกาะจบั แน่นอยตู่ ามส่วนต่างๆของร่างกาย และอาจลุกลามเขา้ สู่เส้นเลือด ผลทีตามมากค็ ือ โรคอว้ น โรคเบาหวาน โรคหวั ใจ และโรคต่างๆ การประเมินสภาวะโภชนาการ 1. ประวตั ิ ทนี าํ เดก็ มาจากโรงพยาบาลเพอื หาสาเหตุชกั นาํ ใหเ้ กดิ ภาวะขาดสารอาหาร 2. การตรวจร่างกาย เพอื หาร่องรอยการผิดปกตซิ ึงเกิดจากการขาดสารอาหารและวติ ามิน การตรวจร่างกาย เพือประเมินสภาวะโภชนาการของเด็กแบ่งไดเ้ ป็ น ตอน คือ การตรวจร่างกายทวั ไป กบั การ ตรวจโดยการวดั ความเจริญทางร่างกาย การตรวจร่างกายทวั ไปโดยแพทย์ จะเป็นแนวทางชว่ ยประเมนิ สภาวะของเด็ก และเป็ นแนวทาง วินิจฉัยการขาดสารอาหารและวิตามนิ การตรวจโดยการวดั ความเจริญทางร่างกาย เป็นการวดั ขนาดทางร่างกายคอื ส่วนสูงและนาํ หนัก เพอื บอกถงึ โภชนาการของเดก็
78 ภาวะโภชนาการเกนิ เมอื คนเราบริโภคอาหารชนิดใด ชนิดหนึง เกินความตอ้ งการของร่างกาย จะทาํ ให้เกิดภาวะโภชนาการ เกินจนเกดิ โรคได้ และโรคทีเกดิ จากภาวะโภชนาการเกิน เป็นสาเหตุของการสูญเสียชีวิตเป็ นจาํ นวนไม่น้อย และ เป็นตน้ เหตุของการเจ็บป่ วยทีตอ้ งเสียคา่ ใชจ้ ่ายในการรักษายาวนานเช่นโรคหวั ใจและหลอดเลือด ตลอดจนโรค อว้ น เป็นตน้ โรคหัวใจและหลอดเลอื ด (Cardiovascular Disease) โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็ นสาเหตุการตายทีสําคญั ในลาํ ดบั ตน้ ๆ ของประชาชนไทยมาโดยตลอด โรคดงั กล่าวเป็ นการเปลียนแปลงทางอายุรศาสตร์ทีเกียวขอ้ งกบั หัวใจและหลอดเลือด ซึงจะหมายรวมถึงโรค ตา่ งๆ และภาวะอาการของโรค เช่น โรคหลอดเลือดหวั ใจ (Coronany heart disease) ภาวะหลอดเลือดหวั ใจแข็ง (Arterioselerosis) และอาการความดนั เลอื ดสูง (Hypertension) เป็นตน้ โรคทีสําคญั ในกลุ่มนีคือ โรคหลอดเลือด หวั ใจหรือโรคหลอดเลอื ดหวั ใจตบี ซึงจดั ว่าเป็นโรคทีเป็นสาเหตขุ องการป่ วย และการตายทีสูงของประชาชนชาว ไทยในปัจจุบนั โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลอื ดหวั ใจ เป็นโรคชนิดหนึงทีเกดิ จากหลอดเลือดแดงหัวใจแข็ง ตีบ ตนั ขาดความ ยืดหยนุ่ หลอดเลอื ดหวั ใจตีบหรือตนั หรือเกิดจากลิมเลือดอดุ ตนั หลอดเลอื ดหวั ใจ จนทาํ ใหก้ ลา้ มเนือหัวใจขาดเลือด หรือ ทาํ ให้กลา้ มเนือหัวใจตาย โรคนีเป็ นสาเหตุสําคัญของอัตราการป่ วยการตาย ของคนไทยในปัจจุบนั และมี แนวโนม้ จะเพิมมากขนึ ในอนาคต สาเหตุ 1. กรรมพนั ธุ์ ผูท้ ีพอ่ แม่ ปู่ยา่ ตายาย ป่ วยเป็นโรคหลอดเลือดหวั ใจจะมคี วามเสียงมากกว่า ไขมนั ในหลอดเลือด ถา้ สูงกว่าปกตจิ ะทาํ ใหห้ ลอดเลือดแขง็ เสียงต่อการเป็นโรคหลอดเลอื ดหวั ใจ 2. ความดนั เลือดสูง 3. เบาหวาน ผูท้ เี ป็นเบาหวานมกั จะเป็นโรคหลอดเลือดหวั ใจดว้ ย 4. ความอว้ น ความอว้ นกบั โรคหลอดเลือดหวั ใจ มกั จะเกิดขึนดว้ ยกนั เสมอ โดยเฉพาะคนอว้ นทีพุง มกั จะมไี ขมนั ในเลอื ดสูงจนเป็นโรคหลอดเลือดหวั ใจดว้ ย 5. ออกกาํ ลงั กายนอ้ ยหรือขาดการออกกาํ ลงั กาย การไหลเวยี นเลือดไม่คล่องพอ การเผาผลาญพลงั งาน นอ้ ย ทาํ ใหส้ ะสมไขมนั จนกลายเป็นโรค 6. ความเครียด และความกดดนั ในชวี ิต อาจส่งผลทาํ ใหเ้ ป็นโรคนีได้ 7. การสูบบุหรี สารนิโคตนิ และทาร์จากควนั บุหรีมผี ลต่อการเกิดโรคนี นอกจากสาเหตทุ สี าํ คญั ดงั กล่าว ซึงจดั วา่ เป็นปัจจัยทีสามารถเปลียนแปลงได้ อาจมีปัจจัยเสียงอืน ๆ ที เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลอื ดหวั ใจ เช่น เพศ อายุ เชือชาติ เป็ นตน้ จากการศึกษาพบว่าเพศชายเสียงต่อ การเกดิ โรคนีมากกวา่ เพศหญิง ยกเวน้ ผหู้ ญงิ ในวยั หมดประจาํ เดอื นเนืองจากมีระดบั ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง มี ไขมนั ในเลอื ดสูง สาํ หรับอายพุ บวา่ มีอตั ราการเกิดโรคนีสูงมากในผูส้ ูงอายุ และเชือชาติพบว่าในคนผิวดาํ มีอตั รา การเกดิ โรคนีมากกวา่ คนผิวขาว
79 อาการ 1. เจ็บหนา้ อกเป็นๆ หายๆ หรือเจบ็ เมอื เครียด หรือเหนือย ซึงเป็นลกั ษณะอาการเริมแรก 2. เจบ็ หนา้ อกเหมือนมอี ะไรไปบีบรัด เจ็บลกึ ๆ ใตก้ ระดูกดา้ นซ้ายร้าวไปถึงขากรรไกรและแขนซ้าย ถงึ นิวมอื ซา้ ย เจ็บนานประมาณ - นาที ผูป้ ่ วยอาจมีเหงือออกมาก คลืนไส้หายใจลาํ บาก รู้สึกแน่นๆ คลา้ ยมี เสมหะตดิ คอ บางครังมีอาการคดั จมกู คลา้ ยเป็นหวดั เมือเป็นมากจะมีอาการหนา้ มดื คลา้ ยจะเป็นลม และอาจถึงขนั เป็นลมได้ บางครังพอเหนือยกจ็ ะรู้สึกงว่ งนอนและเผลอหลบั ไดง้ ่าย 3. ผูป้ ่ วยมีอาการหวั ใจสัน หวั ใจเตน้ ไมส่ มาํ เสมอ 4. ในกรณีทรี ุนแรง อาการเจ็บหน้าอกจะรุนแรงมาก มกั จะเกิดจากการทีมีลิมเลือดไปอุดตนั บริเวณ หลอดเลอื ดทตี ีบ ทาํ ใหเ้ กดิ กลา้ มเนือหวั ใจตาย ผปู้ ่ วยอาจมีอาการหวั ใจวาย ชอ็ ก หวั ใจหยดุ เตน้ ทาํ ใหเ้ สียชวี ติ อยา่ ง กะทนั หนั ได้ การป้ องกนั 1. หากพบว่าบคุ คลในครอบครัวมีประวตั ิเป็นโรคนี ควรเพิมความระมดั และหลีกเลียงจากปัจจยั เสียง เพราะอาจกระตนุ้ การเกดิ โรค 2. ลดอาหารทที าํ จากนาํ มนั สัตว์ กะทิจากมะพร้าว นาํ มนั ปาลม์ และไขแ่ ดง 3. ไม่ควรรับประทานอาหารทมี ีรสเคม็ จดั 4. ลดอาหารจาํ พวกแป้ ง คาร์โบไฮเดรต รับประทานอาหารพวกผกั ผลไมม้ ากๆ 5. งดอาหารไขมนั จากสตั วแ์ ละอาหารหวานจดั 6. ออกกาํ ลงั กายอยา่ งสมาํ เสมอ 7. พกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอวนั ละ - ชวั โมง และหาวิธีผ่อนคลายความเครียด 8. หลกี เลียงหรืองดการสูบบุหรี โรคอ้วน (Obesity) โรคอว้ นเป็นสภาวะทีร่างกายมไี ขมนั สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมากเกินกว่าเกณฑป์ กติ ซึงตาม หลกั สากลกาํ หนดว่าผูช้ ายไม่ควรมีปริมาณของไขมนั ในตวั เกินกว่า - % ของนาํ หนกั ตวั ผูห้ ญิงไม่ควรมี ปริมาณของไขมนั ในตวั เกินกว่า - % ของนาํ หนกั ตวั ซึงการตรวจนีหากจะให้ไดผ้ ลแน่นอนควรไดร้ ับการ ตรวจจากหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร แต่นกั เรียนอาจประเมินว่าเป็นโรคอว้ นหรือไม่ดว้ ยวิธีง่ายๆ ดว้ ยวิธีตรวจสอบกบั ตาราง นาํ หนกั และส่วนสูงของกรมอนามยั ดงั ตารางทเี รียนมาแลว้ สาํ หรับในผูใ้ หญ่อาจประเมินไดจ้ าก การหาคา่ ดชั นีมวลกาย (Body Mass Index) ไดจ้ ากสูตรดงั นี _ นาํ หนกั (กิโลกรัม) BMI ส่วนสูง (เมตร) คา่ ทีไดอ้ ยรู่ ะหวา่ ง . - . ถอื ว่าอยใู่ นเกณฑป์ กติ ไมอ่ ว้ นหรือผอมเกนิ ไป
80 สาเหตุ 1. กรรมพนั ธุ์ 2. การรับประทานอาหารเกนิ ความตอ้ งการของร่างกาย และมีพฤตกิ รรมการรับประทานอาหารทีไม่ดี เชน่ กินจุบจิบ 3. ขาดการออกกาํ ลงั กาย 4. สภาวะทางจิตและอารมณ์ เช่น บางคนเมือเกิดความเครียดก็จะหันไปรับประทานอาหารมาก จนเกนิ ไป 5. ผลขา้ งเคียงจากการไดร้ ับฮอร์โมนและการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาคุมกาํ เนิด ฮอร์โมนส เตยี รอยด์ เป็นตน้ อาการ มีไขมนั สะสมอยใู่ นร่างกายจาํ นวนมาก ทาํ ใหม้ ีรูปร่างเปลียนแปลงโดยการขยายขนาดขึนและมีนาํ หนัก ตวั มากขนึ การป้ องกนั . กรรมพนั ธุ์ หากพบว่ามีประวตั ิของบุคคลในครอบครัวเป็ นโรคอว้ น ควรตอ้ งเพิมความระมดั ระวงั โดยมีพฤติกรรมสุขภาพในเรืองตา่ งๆ ทีเกียวขอ้ งกบั โรคอว้ นอยา่ งเหมาะสม . รับประทานอาหารแต่พอสมควรโดยเลือกรับประทานอาหารทีมปี ระโยชน์ หลีกเลียงอาหารรสหวาน และอาหารทมี ไี ขมนั สูง รับประทานผกั และผลไมม้ ากๆ และหลากหลาย . ออกกาํ ลงั กายสมาํ เสมออยา่ งนอ้ ยสัปดาห์ละ วนั วนั ละ นาที . หาวธิ ีการควบคุมและจดั การความเครียดอยา่ งเหมาะสม พกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอ . การใชย้ าบางชนิดทีอาจมผี ลขา้ งเคียง ควรปรึกษาแพทย์ และใชย้ าตามทีแพทยแ์ นะนาํ อยา่ งเคร่งครัด การดแู ลสุขภาพและมพี ฤติกรรมบริโภคทถี กู ตอ้ ง “ไม่ตามใจปากและไม่ตามใจอยาก” โรคอว้ นกอ็ าจไม่มาเยอื น การลดความอว้ นกไ็ ม่จาํ เป็น
81 บทที โรคระบาด สาระสําคญั การมีความรู้ความเขา้ ใจเกียวกบั สาเหตุ อาการ การป้ องกนั และการรักษาโรคติดต่อทีแพร่ ระบาดและเป็นปัญหาตอ่ สุขภาพของประชาชนในชุมชน จะชว่ ยใหร้ ู้วธิ ีป้ องกนั ตนเองและครอบครัว และร่วมมือ ป้ องกนั การแพร่กระจายเชอื โรคไปสู่บคุ คลอนื อนั จะเป็นแนวทางสาธารณสุขของประเทศได้ ผลการเรียนรู้ทคี าดหวงั เพือใหผ้ เู้ รียนสามารถ 1. บอกความหมาย ความสาํ คญั และการแพร่กระจายของเชอื โรคได้ 2. อธิบายสาเหตุ อาการ การป้ องกนั และการรักษาโรคตดิ ตอ่ ทีแพร่ระบาดและเป็นปัญหา สาธารณสุขได้ ขอบข่ายเนือหา ความหมาย ความสาํ คญั และการแพร่กระจายของเชอื โรค โรคทเี ป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ เรืองที เรืองที
82 เรืองที ความหมาย ความสําคญั และการแพร่กระจายของเชือโรค ความหมายและความสําคญั โรคติดต่อจัดเป็ นปัญหาสาธารณสุขทีสาํ คญั ของประเทศ เมือเกิดการระบาดจะนาํ มาซึงความสูญเสีย สุขภาพ ชวี ติ และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เพราะขณะเจ็บป่ วยบุคคลนันไม่สามารถเรียน หรือทาํ งานไดต้ ามปกติ ซึงจะทาํ ใหเ้ สียการเรียนและรายไดต้ ามทีเคยไดร้ ับ นอกจากนี ในขณะเจ็บป่ วยก็จะเป็ น ภาระของบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวในการดูแลผูป้ ่ วย รวมทังเสียเงินในการรักษาพยาบาล ซึงใน ระดบั ชาติ ประเทศชาติตอ้ งเสียงบประมาณในการดูแลรักษาผูป้ ่ วย ค่าเวชภณั ฑ์ ค่าบุคลากร รวมถึงตอ้ งสร้าง อาคารสถานทีในการดแู ลผูป้ ่ วย ซึงเป็นการสูญเสียทรัพยากรทีจะสามารถนาํ ไปใชพ้ ฒั นาประเทศดา้ นอืน ๆ ได้ โรคติดตอ่ ส่วนใหญ่สามารถป้ องกนั ได้ หากทกุ คนเห็นความสาํ คญั ตระหนกั ถึงอนั ตรายของโรคและมีส่วนร่วม ในการป้ องกนั แกไ้ ขปัญหาโรคติดต่อทีเกดิ ขนึ . ความหมายของโรคติดต่อ โรคตดิ ตอ่ หมายถึง โรคทเี กดิ จากเชอื โรคแลว้ สามารถติดต่อจากคนไปสู่บคุ คลอืนได้ หรืออาจ ตดิ ต่อระหวา่ งคนสู่คน หรือสัตวส์ ู่คนได้ หรือตดิ ตอ่ ระหว่างสัตว์ดว้ ยกนั เองได้ โดยมีพาหะ เช่น คน สัตว์ หรือมี ตวั กลางนาํ เชอื โรค เป็นตน้ โรคระบาดเป็นโรคติดต่อทีแพร่กระจายไปยงั คนอนื ๆ ไดร้ วดเร็ว บางโรคตอ้ งใชเ้ วลาในการ รักษาเป็นเวลายาวนานและใชว้ ิธีรักษาทซี ับซ้อน สินเปลืองค่าใชจ้ ่ายในการรักษาเป็ นจาํ นวนมาก โดยโรคทีเป็ น สาเหตุของการเจ็บป่ วยและเสียชีวติ ทนี บั ว่าสาํ คญั ไดแ้ ก่ ไขม้ าลาเรีย โรคไขห้ วดั นก โรคซาร์ส โรคอหิวาตกโรค และโรคไขห้ วดั ใหญ่สายพนั ธุ์ใหม่ ลักษณะของโรคตดิ ต่อ 1. เชอื โรคสามารถแพร่กระจายไปยงั บคุ คลอืนไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 2. การแพร่กระจายของโรคมกั เกิดจากพฤตกิ รรมของบุคคลหรือปัญหาสุขาภบิ าลสิงแวดลอ้ ม 3. มอี ตั ราการเจบ็ ป่ วยค่อนขา้ งสูงและโอกาสทีจะเกดิ โรคเป็นไดท้ กุ เพศทกุ วยั โรคติดต่อทีควรทราบและต้องแจ้งความ โรคติดต่อทีควรทราบมี โรค ไดแ้ ก่ ไขท้ รพิษ กาฬโรค ไขเ้ หลือง โรคอหิวาตกโรค โรค บาดทะยกั ในเดก็ เกิดใหม่ โรคคอตีบ โรคโปลิโอ โรคพิษสุนขั บา้ โรคไขส้ มองอกั เสบ ไขร้ ากสาดใหญ่ โรคแอน แทรกซ์ โรคทริคโิ นซีส โรคไขก้ าฬหลงั แอน่ โรคคดุ ทะราดระยะติดต่อ . ชนิดของเชือโรค เชอื โรคทตี ดิ ต่อไดแ้ บ่งออกเป็น ชนิด คอื แบคทีเรีย ไวร้ ัส ริกเกตเซีย รา ปรสิต แบคทีเรีย จัดอยใู่ นจาํ พวกพืชเซลลเ์ ดียว มีขนาดเล็กมากตอ้ งใชก้ ลอ้ งจุลทรรศน์ขยายจึงจะ มองเหน็ ได้ สามารถดาํ รงชวี ิตอยไู่ ดใ้ นสภาวะแวดลอ้ มแทบทุกอยา่ ง
83 ไวรัส ไม่สามารถมองเห็นดว้ ยตาเปล่า ตอ้ งดูดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ชนิดพิเศษ เชือไวรัสจะมีอยู่ ทวั ไปในอากาศโรคทีเกดิ จากเชอื ไวรัสมหี ลายโรค เชน่ ไขห้ วดั หดั ไขท้ รพษิ คางทมู ไขเ้ ลือดออก อสี ุกอีใส เป็นตน้ ริกเกตเซีย มีขนาดเล็กกว่าแบคทีเรีย สามารถมองเห็นดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์มกั อาศยั อย่รู ่วมกบั สิงมีชวี ิตอนื ๆ เช่น เห็บ หมดั เหา พยาธิไส้เดอื น เป็นตน้ โรคทีเกดิ จากเชอื โรคชนิดนีไดแ้ ก่ ไขร้ ากสาดใหญ่ รา เป็นเชอื โรคทีจดั อยใู่ นจาํ พวกพชื สามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ เช่น ยสี ต์ สามารถ นาํ มาใชใ้ นการทาํ ขนมปัง แต่ส่วนใหญท่ าํ ใหเ้ กดิ โรคผิวหนงั ต่าง ๆ เชน่ กลาก เกลือน นาํ กดั เทา้ ปรสิต จดั อยใู่ นจาํ พวกสัตว์ มีขนาดใหญก่ ว่าชนิดอนื ๆ มีทงั พวกเซลลเ์ ดียวและพวกหลายเซลล์ เชน่ เชอื บิด พยาธิใบไม้ พยาธิปากขอ พยาธิตวั ตดื . การแพร่กระจายของเชือโรค มี ลักษณะคอื 1. การสัมผัสโดยตรง หมายถงึ การแพร่จากแหลง่ หนึงไปยงั แหล่งหนึง โดยไม่มีพาหะเป็ น ตวั นาํ สมั ผสั โดยตรงจากผปู้ ่ วย หรือนาํ ลาย นาํ เหลอื ง หนอง เลือด เชอื โรคเขา้ สู่ร่างกายแลว้ ทาํ ใหเ้ กิดโรคได้ 2. การสัมผัสทางอ้อม หมายถึง การแพร่โดยมีพาหะเป็ นตวั นาํ เช่น หากเชือโรคปะปนอยู่ ในนาํ อาหาร เมอื เรารับประทานอาหาร ดมื นาํ หรือยงุ กดั เชอื โรคกจ็ ะเขา้ สู่ร่างกายได้ การเข้าสู่ร่างกายของเชือโรค การเขา้ สู่ร่างกายของเชอื โรคสามารถเขา้ สู่ร่างกายได้ ทางดว้ ยกนั คอื 1. ระบบทางเดนิ หายใจ เมอื เราหายใจเอาเชอื โรคทีลอยอยใู่ นอากาศเขา้ สู่ร่างกายทาํ ใหเ้ กิด โรคได้ เชน่ ปอดบวม ไขห้ วดั ไขห้ วดั ใหญ่ วณั โรค เป็ นตน้ เมือไอหรือจามควรปิ ดปาก ปิ ดจมูก นอกจากนีการ บว้ นนาํ ลายหรือเสมหะสามารถทาํ ใหเ้ ชอื โรคแพร่กระจายเขา้ สู่ร่างกายได้ 2. ระบบทางเดินอาหาร เชอื โรคบางชนิดอาศยั อยูใ่ นนาํ และอาหาร เมือเรารับประทานนาํ หรืออาหารทีมีเชือโรคเขา้ ไปเชือโรคจะปนเปื อนเข้าสู่ร่างกายทาํ ใหเ้ กิดโรคติดต่อได้ เช่น อหิวาตกโรค บิด อจุ จาระร่วง 3. ผวิ หนัง เชอื โรคบางชนิดสามารถเขา้ สู่ร่างกายโดยผา่ นผวิ หนงั ไดโ้ ดยวิธีการตา่ ง ๆ เชน่ 1) จากการรับเลือดหรือฉีดยา เชน่ โรคเอดส์ โรคตบั อกั เสบชนิดบี 2) โดยการสมั ผสั เช่น โรคกลาก โรคเกลือน 3) ถกู สตั วห์ รือแมลงกดั เช่น ไขเ้ ลอื ดออก ไขม้ าลาเรีย 4) เขา้ ทางรอยขดี ขว่ นหรือบาดแผล เชน่ บาดทะยกั 5) โดยการไชทะลุผ่านทางผิวหนงั เช่น พยาธิปากขอ 4. ทางเพศสัมพันธ์ ติดต่อโดยการร่วมประเวณีกบั ผูป้ ่ วยทาํ ให้ติดโรคได้ เช่น โรคเอดส์ กามโรค 5. ทางสายสะดอื โรคทีตดิ ต่อไดท้ างสายสะดือโดยติดต่อจากมารดาสู่ลูกทีอยู่ในครรภ์ คือ ซิฟิ ลิส หดั เยอรมนั 6. ทางเยอื บุต่าง ๆ เชอื โรคบางชนิดสามารถเขา้ สู่ทางเยอื บุตา่ ง ๆ ได้ เช่น เยอื บุปาก เยอื บุตา ทาํ ใหเ้ กดิ โรคเชอื ราในชอ่ งปาก โรคตาแดง
84 เรืองที โรคทเี ป็ นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ ปัจจุบนั มโี รคตดิ ตอ่ ทแี พร่ระบาดจากคนสู่คน และจากสตั วส์ ู่คน ซึงทาํ ใหเ้ กดิ การเจ็บป่ วยและ เสียชีวิตแก่ประชาชนจาํ นวนมาก โดยมีการแพร่กระจายเชือโรคอยา่ งรวดเร็ว จากชุมชนไปสู่เมือง และจากเมือง แพร่กระจายไปยงั ประเทศตา่ ง ๆ เนืองจากการเดินทางตดิ ต่อระหวา่ งกนั สามารถทาํ ไดง้ ่ายและสะดวกรวดเร็ว ทาํ ใหก้ ารแพร่กระจายโรคเป็นไปอยา่ งรวดเร็วดว้ ยเช่นกนั โรคระบาดซึงเป็ นปัญหาสาธารณสุขสาํ คญั ของประเทศ ในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ โรคซาร์ส โรคไขห้ วดั นก โรคมาลาเรีย โรคอหิวาตกโรค โรคชิคุนกุนยา โรคไขห้ วดั ใหญ่และ ไขห้ วดั ใหญ่สายพนั ธุ์ใหม่ เป็นตน้ โรคซาร์ส โรคซาร์ส เกดิ ขนึ ครังแรกในประเทศจีน เมือเดอื นพฤศจิกายน ปี พ.ศ. (ค.ศ. ) และ เริมแพร่ระบาดไปทวั โลกในตน้ ปี พ.ศ. (ค.ศ. ) องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ไดร้ ับรายงานเกียวกบั ผูท้ ี สงสัยวา่ จะป่ วยเป็นโรคซาร์สมากกว่า ราย จากเกือบ ประเทศทวั โลก โดยผูป้ ่ วย ส่วนใหญ่เป็ นผูท้ ีเคย เดินทางไปยงั พนื ทีทีมกี ารระบาดของโรคในชว่ ง วนั กอ่ นเริมแสดงอาการ และเป็ นผูท้ ีอย่ใู กลช้ ิดกบั ผูท้ ีสงสัย ว่าจะป่ วยเป็นโรคซาร์ส จาํ นวนผูเ้ สียชวี ติ ทงั หมดทีรายงานทวั โลกในเดอื นเมษายน ปี มีมากกวา่ ราย เชือไวรัสซาร์ส ห้องปฏิบตั ิการขององคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ไดต้ รวจพบเชือไวรัสชนิด ใหมใ่ นผูป้ ่ วยโรคซาร์ส เรียกว่า เชือโคโรน่าไวรัส เชือไวรัสซาร์สมีการกลายพนั ธุ์ไดเ้ ร็ว ปัจจุบนั พบว่า มีอยา่ ง นอ้ ย สายพนั ธุ์ เชอื ทกี ลายพนั ธุ์อาจมกี ารกอ่ อนั ตรายรุนแรงขึนหรืออาจอ่อนตวั ลง แต่สามารถอยู่ในคนเราได้ ยาวนาน ระยะฟักตวั องคก์ ารอนามยั โลกกาํ หนดระยะฟักตวั ของเชือไวรัสซาร์สอย่ใู นระยะ - วนั ไมเ่ กิน วนั จึงมกี ารกกั บริเวณผูต้ ิดเชอื เพือเฝ้ าดอู าการเป็นระยะเวลา - วนั อาการ อาการสาํ คญั ของผปู้ ่ วยโรคซาร์ส ไดแ้ ก่ มีไขต้ วั ร้อน หนาวสนั ปวดเมือยกลา้ มเนือ ไอ ปวดศรี ษะ และหายใจลาํ บาก ส่วนอาการอืนทอี าจพบไดม้ ีทอ้ งเดิน ไอมเี สมหะ นาํ มกู ไหล คลืนไส้อาเจียนผปู้ ่ วยที สงสยั วา่ จะเป็นโรคซาร์ส ผูป้ ่ วยมีอาการป่ วยเกยี วกบั โรคทางเดินหายใจและสงสยั ว่าจะเป็นโรคซาร์ส ตอ้ งมีอาการ ตามเกณฑท์ ี WHO กาํ หนดไวค้ อื มีไขส้ ูงเกิน 30 C หรือ 100.4 F และมีอาการไอ หายใจติดขดั และในช่วง วนั กอ่ นมอี าการ เคยไปหรืออาศยั อยใู่ นพืนทีทีมีการระบาดของโรค หรือใกลช้ ิดกบั ผูท้ ีมีอาการป่ วยเกียวกบั โรค ทางเดินหายใจซึงเดินทางไปในพืนทีทีมีการระบาดของโรค หรือผูท้ ีสงสัยว่าจะเป็ นโรคซาร์สแมว้ ่าผูป้ ่ วยทีมี อาการขา้ งตน้ และมอี าการคลา้ ยกบั ปอดบวมหรือปอดอกั เสบปรากฏในฟิ ลมเ์ อก็ ซเรย์ ก็ไม่ไดแ้ สดงว่าจะตอ้ งเป็ น โรคซาร์ส นอกจากตรวจพบเชอื ไวรัสโคโรน่าชนิดใหม่เท่านนั จึงจะสรุปไดว้ ่าเป็นโรคซาร์ส
85 การแพร่กระจายของเชือโรค เชอื โรคซาร์สตดิ ตอ่ ไดท้ างระบบหายใจ และอาจตดิ ตอ่ ทางอาหารการกนิ ไดอ้ กี ดว้ ย เนืองจากมี การศกึ ษาพบว่า เชอื นีมอี ยใู่ นนาํ เหลือง อจุ จาระและปัสสาวะของผูป้ ่ วย เมอื อาการป่ วยยา่ งเขา้ สัปดาหท์ ี การป้ องกนั และรักษา โรคนีติดต่อไดโ้ ดยการสัมผสั ละอองนาํ ลาย เสมหะ เขา้ ทางปากและจมูก แต่เดิมเชือว่า เชือ ไวรัสโคโรน่าจะมชี วี ติ อยนู่ อกร่างกายมนุษยไ์ ดไ้ ม่เกิน ชวั โมง แต่จากขอ้ มลู การศึกษาใหม่ ๆ พบว่า เชือนีอยู่ได้ นานกว่า วนั โดยเฉพาะในอุจจาระและปัสสาวะจะอยไู่ ดน้ านหลายวนั การป้ องกนั ทีดีทีสุดไดแ้ ก่ การลา้ ง มือ การปฏบิ ตั ติ ามหลกั สุขอนามยั อยา่ งเคร่งครัด และการใส่หนา้ กากอนามยั ในการป้ องกนั โรคซาร์สนนั มขี อ้ แนะนาํ ดงั นี 1. รักษาสุขภาพใหแ้ ขง็ แรงอยเู่ สมอดว้ ยการรับประทานอาหารทีมปี ระโยชน์ ออกกาํ ลงั กายสมาํ เสมอ พกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอ พยายามลดความเครียด และไม่เสพสารเสพติด 2. ใชผ้ ้าปิ ดปากปิ ดจมูกทุกครังเมือไอหรือจาม ขณะทีเป็ นหวดั ควรใชห้ น้ากากอนามัยอยู่ เสมอ 3. รักษาความสะอาดของมืออยเู่ สมอ ดว้ ยการลา้ งมือบอ่ ย ๆ ดว้ ยนาํ สบู่ 4. ไม่ควรใชม้ อื ขยตี า แคะจมกู แคะฟัน หากมคี วามจาํ เป็ นตอ้ งลา้ งมือให้สะอาดทงั ก่อนและ หลงั การกระทาํ ดงั กล่าว 5. อยา่ ใชผ้ า้ เชด็ ตวั หรือผา้ เชด็ หนา้ ร่วมกบั ผูอ้ นื ถา้ ใชก้ ระดาษเชด็ นาํ มูกควรทิงในถงั ขยะมีฝา ปิ ด 6. ใชช้ อ้ นกลางเมือรับประทานอาหารร่วมกบั ผูอ้ นื 7. รักษาความสะอาดของบ้านเรือน ของใช้ในบ้าน เช่น โทรศัพท์ควรเช็ดด้วยผา้ ชุบ นาํ สะอาดบิดหมาดหรือแอลกอฮอล์ 8. เปิ ดประตหู นา้ ต่างใหอ้ ากาศภายในบา้ นถ่ายเทไดส้ ะดวก 9. หากมีอาการไข้ ไอ หรือจาม ควรหลีกเลียงสถานทีทีมีคนหนาแน่นหรือการระบายอากาศ ไมด่ ี และควรไปพบแพทยท์ นั ที 10. ในขณะเดินทางอยบู่ นรถโดยสารไม่ควรอยใู่ กลช้ ิดผูท้ ีเป็นไข้ ไอ หรือจาม 11. หลกี เลยี งการคลุกคลีใกลช้ ิดกบั ผูป้ ่ วย และผูท้ เี ดินทางมาจากประเทศทมี ีการระบาด 12. งดหรือหลีกเลียงการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศทีมีการแพร่ระบาดของ โรคนี
86 การรักษา ส่วนใหญ่จะเป็ นการรักษาตามอาการและใชอ้ ุปกรณ์ช่วยการหายใจ (ในรายทีมี ภาวะหายใจลม้ เหลว) ไดม้ ีการทดลองใชเ้ ซรุ่มจากผูป้ ่ วยทีหายจากโรค ซึงพบว่าจะไดผ้ ลหากใหเ้ ซรุ่มในระยะ สัปดาหแ์ รกของโรคในปัจจุบนั มกี ารทดลองผลิตยาตา้ นไวรัสซาร์สโดยเฉพาะ ซึงอยใู่ นระหว่างการพฒั นาและ คาดว่าจะสามารถนาํ มาใชไ้ ดใ้ นอนาคตอนั ใกล้ โรคไข้มาลาเรีย (Malaria) ไข้มาลาเรี ยหรื อไข้จับสัน เป็ นโรคติดต่อทีเกิดจากเชือปรสิตจําพวกโปรโตซัว ชือ พลาสโมเดยี ม (Plasmodium) ซึงเกิดจากยุงกน้ ปล่องเป็ นพาหะนาํ โรคมาสู่คน และเป็ นโรคทีมีสถิติการระบาดสูง มาก โดยเฉพาะในภาคใตแ้ ละในจงั หวดั ทเี ป็นป่ าเขาทีมีฝนตกชกุ อยบู่ อ่ ย ๆ สาเหตุ ยุงก้นปล่องเป็ นพาหะนาํ โรคเมือยุงกดั คนทีเป็ นไขม้ าลาเรียแลว้ ไปกดั คนอืนก็จะแพร่เชือ ใหก้ บั คนอนื ๆ ตอ่ ไป อาการ ผูท้ ไี ดร้ ับเชอื ไขม้ าลาเรียจะมีอาการวิงเวยี นศีรษะ ออ่ นเพลยี มีไขส้ ูง หนาวสัน อาเจียน และมี เหงือมาก บางรายทีเป็นชนิดรุนแรงมไี ขส้ ูงขนึ สมอง อาจมีอาการเพอ้ ชกั หมดสติหรือตายในทีสุด บางรายไม่ตาย แต่เพอ้ คลงั เสียสติ และความจาํ เสือม การตดิ ต่อ ติดต่อโดยยงุ กน้ ปล่องตวั เมียไปกดั และกนิ เลอื ดคนทีเป็นไขม้ าลาเรียแลว้ ไดร้ ับเชือมาลาเรียมา จากคนทเี ป็นไข้ เชอื นนั จะเจริญในตวั ยงุ ประมาณ วนั กจ็ ะมอี าการไขม้ าลาเรีย การป้ องกัน 1. นอนในมงุ้ อยา่ ใหย้ งุ กดั ได้ 2. ทาํ ลายแหลง่ เพาะพนั ธุย์ งุ เช่น ภาชนะทมี ีนาํ ขงั ใหห้ มดไป 3. เมอื เขา้ ป่ าหรือแหล่งทีมีไขม้ าลาเรียระบาด ระวงั อยา่ ใหย้ งุ กดั โดยใชย้ ากนั ยงุ ทา 4. ผูอ้ ยใู่ นพืนทีแหล่งไขม้ าลาเรียระบาดควรปลกู ตน้ ตะไคร้หอมไวก้ นั ยงุ 5. ถา้ สงสยั ว่าเป็ นไขม้ าลาเรีย ควรไปรับการตรวจเลือด และรับการรักษาเพือป้ องกนั การ แพร่ตอ่ ไปยงั ผูอ้ นื การรักษามาลาเรีย เนืองจากในปัจจุบนั พบเชอื มาลาเรียทดี อื ตอ่ ยา และอาจมโี รคแทรกซ้อนร้ายแรง (เชน่ มาลาเรีย ขนึ สมอง) โดยเฉพาะอยา่ งยงิ สาํ หรับผูท้ ีอยใู่ นเมอื ง ซึงไมม่ ภี มู ติ า้ นทานโรคนี ดงั นนั ถา้ หากมีอาการน่าสงสัย เชน่ มไี ขห้ ลงั กลบั จากเขตป่ าเขาหรือเขตมาลาเรีย กค็ วรรีบไป หาหมอเพือตรวจหาเชอื
87 โรคไข้หวดั นก (Avian Influenza หรือ Bird Flu) เมอื ปี ทีผ่านมา ไดเ้ กิดโรคระบาดทีเกิดจากเชือไวรัสชนิด H5N1 ทีเรียกว่าไขห้ วดั นกและ ระบาดไปทวั โลก เดิมเชือไข้หวดั นกเป็ นเชือไวรัสโดยธรรมชาติจะติดต่อในนกเท่านัน โดยเฉพาะนกป่ า นกเป็ ดนาํ จะเป็ นพาหะของโรค เชือจะอยใู่ นลาํ ไส้นก โดยทีตวั นกไม่มีอาการ แต่เมือนกเหล่านีอพยพไปตาม แหลง่ ต่าง ๆ ทวั โลก กจ็ ะนาํ เชอื นนั ไปดว้ ย เมือสตั วอ์ นื เช่น ไก่ เป็ด หมู หรือสตั วเ์ ลียงอืน ๆ ไดร้ ับเชือไขห้ วดั นก กจ็ ะเกิดอาการ แบบ คือ 1. หากไดร้ ับเชอื ชนิดไม่รุนแรงสัตวเ์ ลียงนนั อาจจะมอี าการไม่มากและหายไดเ้ อง 2. หากเชอื ทีไดร้ ับมอี าการรุนแรงมากกจ็ ะทาํ ใหส้ ตั วเ์ ลียงตายไดภ้ ายใน วนั ปัจจุบันมีการระบาดของไขห้ วดั มากกลบั มาอีกครัง โดยเชือโรคไดแ้ พร่ไปทวั โลกเกิดการ ระบาดของเชอื ไขห้ วดั นกชนิด H5N1 ในไก่และแพร่กระจายสู่คนทาํ ใหม้ ีผเู้ สียชีวิตจาํ นวนมากทวั ไป จนมีการเฝ้ า ระวงั โดยหากทราบว่ามไี กต่ ายดว้ ยเชือไขห้ วดั นก จะตอ้ งรีบแจง้ เจ้าหน้าทีรัฐและมีการควบคุมการแพร่เชือโรค ดว้ ยการทาํ ลายไก่ในพืนทีนนั ๆ ทนั ที เช่น การฝังกลบและฉีดพ่นสารฆ่าเชือเพือตดั วงจรการแพร่ระบาดสู่คน ต่อไป โรคไขห้ วดั นก เป็นโรคตดิ ต่อของสัตวป์ ี ก ตามปกตโิ รคนีตดิ ตอ่ มายงั คนไดไ้ ม่ง่ายนกั แต่คนที สมั ผสั ใกลช้ ดิ กบั สตั วท์ เี ป็นโรคอาจติดเชอื ได้ สาเหตุ เกิดจากเชือไวรัสชนิดเอช็ ไฟว์เอ็นวนั (H5N1) พบในนก ซึงเป็ นแหล่งเชือโรคในธรรมชาติ โรคอาจแพร่มายงั สัตวป์ ี กต่าง ๆ ได้ เช่น ไกท่ เี ลียงอยใู่ นฟาร์ม เลียงตามบา้ นและไกช่ น รวมทงั เป็ดไล่ทุ่งดว้ ย ระยะฟักตัว ระยะฟักตวั ในคน ถงึ วนั อาการ ผูป้ ่ วยมอี าการคลา้ ยไขห้ วดั ใหญ่ ไขส้ ูง หนาวสัน ปวดศีรษะ ปวดเมือยกลา้ มเนือ อ่อนเพลีย เจบ็ คอ ไอ ผปู้ ่ วยเดก็ เลก็ ผูส้ ูงอายุ หรือผูท้ ีมีโรคประจาํ ตวั หากมีภูมิคุม้ กนั ไม่ดี อาจมีอาการรุนแรงได้ โดยจะมี อาการหอบ หายใจลาํ บาก เนืองจากปอดอกั เสบรุนแรง การตดิ ต่อ โดยการสมั ผสั ซากสัตวป์ ี กทปี ่ วยหรือตาย เชอื ทีอยใู่ นนาํ มกู นาํ ลาย และมูลสัตวป์ ่ วย อาจตดิ มา กบั มอื และเขา้ สู่ร่างกายทางเยือบุของจมูกและตา ผูท้ ีเสียงต่อโรคไขห้ วดั นก ไดแ้ ก่ ผูท้ ีทาํ งานในฟาร์มสัตวป์ ี ก ผูท้ ีฆ่าหรือชาํ แหละสัตวป์ ี ก ผูเ้ ลียงสตั วป์ ี กในพืนทีทเี กดิ โรคไขห้ วดั นกระบาด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176