92 การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT เอกสารอ้างอิง 1. ธีระศักดิ์ วณั นาวิบลู . กัวซาบ้าบัด ขจดั สารพัดโรค กรงุ เทพฯ: สา้ นกั พิมพบ์ ริษัทซีเอด็ ยเู คชัน่ . 2554. 2. Braun M., Schwickert M., Nielsen A., Brunnhuber S., Dobos G., Musial F. and et al Effectiveness of Traditional Chinese “Gua Sha” Therapy in patients with Chronic Neck Pain: A Randomized Controlled Trial. Pain Medicine. 2011; 12: 362-9. 3. Lee MS., Choi TY., Kim JI. and Choi SM. Using Gausha to Treat Musculoskeletal Pain: A Systematic Review of Controlled Clinical Trials. Chinese medicine.2010; 5:5. 4. Nielsen A., Knoblauch NT., Dobos GJ., Michalsen A. and Kaptchuk TJ. The Effect of Gua Sha on the microcirculation of Surface Tissue: A Pilot Study in Healthy Subjects. Explore. 2007; 3: 456-66.
การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 93 บทท่ี 7 การดูแลผวิ หน้าผู้ใหญแ่ ละผู้สูงอายพุ ืนฐาน (Fundamental Facial Skin Care of Adult and Elederly) การดแู ลผวิ หนา้ ผใู้ หญ่ (Adult facial skin care) ผู้ใหญ่เป็นวัยท้างานท่ีมีอายุช่วงระหว่าง 21-60 ปี เป็นช่วงชีวิตที่มี ระยะเวลาในการทา้ กิจกรรมต่างๆ ได้ยาวนาน และมีบทบาทส้าคญั ในการด้าเนิน ชีวิต เป็นช่วงท่ีมีการท้างานหาเล้ียงชีพ มีครอบครัว มีกิจกรรมท่ีต้องเผชิญกับ สิ่งแวดล้อมต่างๆ ตลอดจนภาระหน้าท่ีในการดูแลทั้งในด้านการงานและ ครอบครวั โดยแบง่ ชว่ งวัยในผู้ใหญอ่ อกเปน็ 2 ชว่ ง ได้แก่ 1. วัยผูใ้ หญ่ตอนตน้ (Early adulthood) อายุ 20-40 ปี 2. วัยกลางคน (Middle age หรอื Middle adulthood) อายุ 40-60 ปี ในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับการท้างาน การเริ่มต้นในการ ท้างานหรือ การเปลยี่ นต้าแหน่งหน้าท่ีการงานเพื่อความเจริญก้าวหน้าในชีวิต มี ภาระหนา้ ที่มากข้ึน ส่งผลใหม้ ีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ และการเปลยี่ นแปลง ทางภายนอกรา่ งกาย ในเพศหญงิ จะเพิ่มในเร่ืองของการแต่งหน้า เพ่ือเสริมให้ตัวเอง ดูดีข้ึน ตลอดจนการท้างานก็ส่งผลให้ร่างกายเกิด ความเครียด วิตกกังวล มีการ เปล่ียนแปลงสภาพร่างกาย เกิดโรคภัยไข้เจ็บ เม่ือมีการเปลี่ยนแปลงทางด้าน ร่างกาย ก็ส่งให้เกิดปัญหาของผิวพรรณได้ ปัญหาผิวหน้าจึงเป็นส่ิงท่ีท้าให้ผู้พบ และสังเกตเห็นในคร้ังแรก มีใบหนา้ ท่ไี มส่ ดใสจากการทา้ งานหนัก การพักผ่อนไม่ เพียงพอการเจ็บป่วย เกิดจุดด่างด้า ริ้วรอยท่ีใบหน้า โดยปัญหาใบหน้าท่ีเกิดขึ้น ของวยั ผู้ใหญ่ที่พบไดบ้ อ่ ยมดี ังนี้
94 การดแู ลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 1. สวิ (Acne) รปู ที่ 98 ภาพแสดงสวิ อดุ ตันและสิวอกั เสบทบ่ี ริเวณใบหน้า สิวเป็นการอักเสบของรูขุมขนและต่อมไขมัน เป็นโรคผิวหนังท่ีเกิดจาก การอุดตันของทอ่ ต่อมไขมันหรอื รูขุมขน ซ่ึงอาจมีการอักเสบของรูขมุ ขนหรือต่อม ไขมัน ดังแสดงในรูปท่ี 98 โดยแบ่งสิวออกเป็น สิวไม่มีการอักเสบ (Non- inflammatory acne) เ ช่ น สิ ว หั ว ปิ ด (Closed comedone) สิ ว หั ว เ ปิ ด (Opened comedone) สว่ นสวิ อกั เสบ (Inflammatory acne) เชน่ สวิ ทีเ่ ป็นตุ่ม แดง (Papule) ตุ่มหนอง (Pustule) ยังมีสิวที่เกิดจากการปัจจัยภายในและ ภายนอกร่างกาย เช่น การใช้เคร่ืองส้าอาง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครยี ด การรบั ประทานยาบางชนดิ เป็นต้น ปัจจยั อ่ืนที่เป็นสาเหตุท้าให้เกิด สิวได้มากเช่นกันคือเกิดจากเชื้อแบคที่เรียท่ีก่อให้เกิดการอักเสบ ได้แก่ Proionibacterium acnes (P. acnes) นอกจากนีย้ งั ขึน้ อยู่กับชนิดผวิ โดยพบว่า คนท่ีมีผิวมันจะมีโอกาสเป็นสิวได้ง่ายกว่าคนท่ีมีผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง การดูแล และรักษาสิวทีใ่ บหน้า แบ่งตามลักษณะสิว โดยสิวไม่มีการอักเสบและสิวอักเสบ ดงั นี้
การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 95 1. ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ท้าความสะอาดผิว ท่ีอ่อนโยนไม่ระคายเคืองผิวและ สามารถลดความมันและป้องกันการอดุ ตนั ของรขู ุมขน ไมเ่ กิดอาการแพ้ และไม่มี เม็ดขดั ผวิ 2. หลีกเล่ียงการบีบสิว แกะสิว เพราะจะทา้ ให้เกิดการตดิ เช้ือและลุกลามเป็นสิว อักเสบ 3. ตวั ยาทใ่ี ชใ้ นการละลายหวั สวิ ลดการอดุ ตนั ตา้ นการอักเสบ ได้แก่ 3.1 กรดไวตามินเอ (Retinoids) เช่น Tretinoin, Isotretinoin เปน็ ต้น ออกฤทธิล์ ะลายไขมันทีอ่ ุดตัน ตา้ นการอักเสบ โดยใช้ทาบางๆ ที่บริเวณหวั สิวกอ่ น นอน ยานีอ้ าจท้าให้เกดิ การระคายเคืองท่ีผิวหน้า เช่น หน้าแห้ง แดง ผิวไวต่อแสง ยาจึงควรใชเ้ วลากลางคืน และควรหลีกเลี่ยงแสงแดด นอกจากน้ีในหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตรควรหลกี เลี่ยงการใชย้ าในกลุ่มนี้ 3.2 Benzoyl peroxide ออกฤทธ์ิในการฆ่าเชื้อ P. acnes ที่บริเวณ ท่อตอ่ มไขมนั ใช้ละลายหวั สิวไดแ้ ตน่ อ้ ยกวา่ ไวตามินเอ โดยทาบางๆ บรเิ วณทเี่ ป็น สิว ทิ้งไว้ประมาณ 5-15 นาที โดยในคร้ังแรกท่ีเริ่มใช้ ถ้ามีอาการคันหรือระคาย เคอื งท่ีใบหนา้ ให้ล้างออกก่อนได้ หลังจากนนั้ คอ่ ยๆ เพมิ่ เวลาข้ึน ทาวนั ละ 2 ครั้ง เช้าและเยน็ เร่ิมเหน็ ผลประมาณ 2-4 สปั ดาห์ หวั สวิ จะเริ่มบางและหลุดออกไดง้ ่าย 3.3 Azeleic acid ออกฤทธิ์ต้านเช้ือแบคทีเรีย และลดการอุดตันของ สิว อาจมีการระคายเคืองท่ีบริเวณใบหน้าแต่พบได้น้อย นอกจากจะช่วยลดการ อุดตันของสิวแล้ว ยังช่วยลดรอยด้าที่เกิดจากสิว โดยใช้ทาบางๆ ให้ท่ัวใบหน้า วันละ 2 ครง้ั เชา้ และกอ่ นนอน 4. การรับประทานยา จะใช้รักษาสิวที่มีการอักเสบปานกลางถงึ รุนแรง เป็นกลุ่มยา ตา้ นจลุ ชีพ ได้แก่ กลุ่ม Tetracyclines เช่น Tetracyclines, Minocycline เป็นต้น
96 การดูแลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT ยากลุ่มนี้ควรหลกี เลย่ี งการใชย้ ากบั เด็กทอ่ี ายุนอ้ ยกวา่ 8 ปี และสตรีมคี รรภ์ ซึ่งอาจ ส่งผลในการด้านการเจริญเติบโตของเด็ก ยากลุ่ม Macolides เช่น Erythromycin, Azithromycin ใหย้ าในผูป้ ่วยที่ใช้ยากลุ่ม Tetracyclines ไม่ได้ ซึง่ ยาจะออกฤทธ์ิ ไปยับยั้งการเจริญเติบโตของ P. acnes ต้านการอักเสบโดยรับประทานยา ต่อเนอ่ื ง อยา่ งน้อย 4-6 สัปดาห์ 5. การใช้สารเคมีลอกผิว (Chemical peeling) โดยใช้สารท่ีมีคุณสมบัติเป็นกรด ไดแ้ ก่ Glycolic acid, Salicylic acid ใช้รกั ษาสวิ อดุ ตัน ลดการอักเสบ ความเข้มข้น ของสารที่ใช้อยู่ในช่วง 30-70 % โดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกความเขม้ ข้นของสารท่ีใช้ ซ่ึงความเข้มข้นที่สูงจะใช้ท่ีโรงพยาบาลหรือคลินิก ส่วนที่น้าไปใช้ทาที่บ้านจะเป็น ชนิดอ่อนๆ หลังการใชส้ ารเคมลี อกผวิ อาจทา้ ให้เกิดการระคายท่ีผวิ ผิวแสบแดง จึง ควรหลกี เลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดเป็นประจ้าทุกวนั การดูแลผวิ หน้าหลงั การใชเ้ คมลี อกผวิ 5.1 ภายหลังการลอกหน้าด้วยสารเคมี ผิวหน้าอาจตกสะเก็ด ห้ามลอก แกะ หรือดงึ เอาสะเกด็ ออก เพราะจะทา้ ใหผ้ ิวบรเิ วณนัน้ เป็นแผลเป็นได้ 5.2 ลา้ งหนา้ โดยใชส้ บ่อู อ่ น ไมร่ ะคายเคืองผวิ ไมค่ วรใชน้ ้าอุ่นล้างหน้า 5.3 ถา้ รู้แสบร้อนท่บี ริเวณท่ลี อกหน้า ใชน้ ้าเยน็ ประคบผวิ หน้าได้ 5.4 หลีกเลี่ยงแสงแดด กางร่ม ใส่หมวก และใช้ทากันแดดเป็นประจ้าทุก วันก่อนออกจากบา้ น 5.5 หลีกเลียงการทรีทเม้นท์หลังการใช้เคมีลอกหน้า เช่น การนวดหน้า การอบโอโซน การอบซาวน่า เพราะอาจทา้ ให้เกดิ การระคายเคอื งทผี่ วิ หนา้ ได้ 5.6 หลกี เลยี งการเล่นกฬี ากลางแจง้ หรือท้ากิจกรรมทส่ี ัมผัสกบั แสงแดด
การดแู ลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 97 6. การกดสิว ควรท้ากับแพทย์หรือผู้ที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ร่วมถึงใน เรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการกดสิว ซึ่งเปน็ หัตถการในการช่วยรักษา สิวทีอ่ ุดตันโดยมีขน้ั ตอนการกดสิว อุปกรณ์ และวธิ ีการดงั นี้ ขันตอนการกดสิว จุดประสงค์ในการกดสิว เพื่อเอาส่ิงที่เรียกว่าไขมันอุดตัน (Comedone) ออกจากใบหน้า สิวที่อุดตันจะยุบลง ผลท่ีอาจตามมาจะเป็นรอยด้าหรือรอยช้าท่ี ใบหนา้ ซ่งึ ขน้ึ อยทู่ ่เี ทคนคิ ในการกดสวิ ความสะอาด ประเภทของสวิ และการดูแล แนะน้าหลังการกดสวิ รูปท่ี 99 ภาพแสดงอุปกรณ์ท่ีใช้ในการกดสวิ อุปกรณ์ในกดสิว ดังแสดงในรปู ที่ 99 1. ถงุ มอื (Glove) 2. สา้ ลแี อลกอฮอล์ (Alcohol pad) 3. เข็มปลอดเช้อื (Sterile needle) เบอร์ 18-20 4. เหลก็ กดสวิ (Comedone remover) 5. หน้ากากอนามยั (Mask)
98 การดแู ลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT รูปที่ 100 ภาพแสดงเหลก็ กดสิว เหล็กกดสิว (Comedone remover) มีให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ดังแสดงในรูปที่ 100 มีราคาต้ังแต่ ราคาหลักสิบบาท จนถึงหลักพันบาททีเดียว ประสิทธิภาพก็บอกตามราคา ราคาที่ถูกมากก็ไม่คงทน และประสิทธิภาพก็จะสู้ ของที่มีคุณภาพดีไม่ได้ โดยเหล็กกดสิวจะท้าจากสแตนเลส ท้าความสะอาดง่าย ไม่เป็นสนมิ การกดสิว ถือเปน็ วิธกี ารรักษาสวิ ทม่ี มี านานหลายสิบปีแล้ว การกดสิว ชว่ ยรักษาสิวที่ไม่อักเสบ เช่น สิวหัวขาว สิวหัวดา้ ปจั จบุ ันมีการนา้ เครื่องเลเซอรม์ า ใช้ในการรักษาสิว เนื่องจากให้ผลการรักษาอย่างรวดเร็ว เจ็บน้อยกว่า แต่ราคาสูง กว่าการกดสิวมาก Wise and Graber (2011) ได้ท้าการรักษาโดยการใช้เหล็กกดสิวร่วมกับ กรดไวตามินเอ (Isotretinoin) พบว่าการรับประทานยาร่วมกับการกดสิว ให้การ รกั ษาได้ดีกวา่ การให้ยาเพียงอยา่ ง โดยไม่พบแผลเป็น และผิวเรียบเนียนข้ึน จะเห็น ว่าการกดสิวนั้น ช่วยรักษาสิวท่ีมีการอุดตันที่ไม่อักเสบได้ดีกว่าการกินยารักษาสิว อยา่ งเดยี ว โดยคนทรี่ ับประทานยาอยา่ งเดียว สวิ มโี อกาสจะกลบั มาเปน็ อกี คร้ัง ข้อควรระวังในการกดสิวก็คือ เรื่องความสะอาด และเทคนิคการกดสิวท่ี ถูกต้อง เร่ิมจากเหล็กกดสิวท่ีต้องท้าความสะอาดทุกครั้งเมื่อใช้กับคนไข้แล้ว ใชก้ ารฆ่าเชอื้ แบบปราศจากเชื้อ (Sterile) ท้าให้มน่ั ใจในการใช้ไดม้ าก หรอื ใช้หม้อ น่ึงเครื่องมือแพทย์ วิธีสุดท้ายเป็นการแช่ในน้ายาฆ่าเชอ้ื เช่น แอลกอฮอล์ 70 %
การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 99 เป็นต้น ส่วนเทคนิคการกดสิวนั้น ก็ต้องดูลักษณะของสิวว่า สิวพร้อมท่ีจะหลุด ออกหรอื ไม่ ถ้าผวิ ช้ันนอก (Stratum corneum) ยังไม่บาง และหัวสิวอยู่ลึก ควร ใช้ยาไปละลายหัวสิวประมาณ 2-4 สัปดาห์ เวลากดสวิ จะหลดุ ออกง่ายและไม่เกิด รอยด้า แต่ถ้าไม่อยากรับประทานยาหรือทายา ซึ่งบางคนจะเกิดอาการข้างเคียง จากการใช้ยาได้ เช่น หน้าแห้งมาก ก็อาจใช้การอบโอโซนเพ่ือเปิดรูขุมขน ก็จะ ช่วยให้การกดสิวง่ายเช่นกัน จะเห็นว่าการกดสิวท่ีถูกวิธี สะอาด และถูกต้อง สามารถช่วยลดสิวลงได้ โดยสิวท่ีเหมาะกับการกดสิวไดแ้ ก่ สวิ ท่ีไมม่ ีการอกั เสบแต่ ปัจจุบันเรานิยมซ้ือเครื่องกดสิวมาใช้ที่บ้านแล้วกดกันเอง โดยไม่ได้ค้านึงความ สะอาดและการท้าใหเ้ กิดบาดแผล จนท่มี าของแผลเป็นขนาดใหญ่ วิธกี ารกดสวิ การกดสิว เราจะกดเฉพาะสิวอุดตัน ไม่มีการอักเสบ ก่อนท้าการกดสิว จะตอ้ งท้าความสะอาดผิวด้วยแอลกอฮอล์ 70% เพื่อฆ่าเช้ือโรค ดงึ ผิวให้ตึงใช้เหล็ก กดสิววางบริเวณหัวสิว น้าหนักลงท่ีน้ิวโป้ง สิวที่อ่อนตัวจะหลุดออกได้ง่าย กรณีที่ กดแลว้ สิวอุดตันไม่หลุดออกมาสามารถกดซ้าได้อีกครัง้ โดยห้ามกดเค้น เพราะอาจ ท้าให้เกิดแผลเป็นได้ สวิ จะออกได้ดีก็ต่อเม่ือผิวหนังที่หวั สิวบางพรอ้ มหลุดออก โดย มกี ารทายาเพ่อื ไปละลายหวั อย่างน้อย 2-4 สปั ดาห์ ดังแสดงในรูปท่ี 101 รปู ท่ี 101 ภาพแสดงวิธกี ารกดสิว
100 การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT การดแู ลหลังการกดสวิ 1. หา้ มแตง่ หน้าหรอื ใชข้ องบ้ารุงทาจนกว่าแผลท่ีกดสวิ จะผสานกันดี 2. หลกี เลยี่ งแสงแดด และควรทาครีมกนั แดดกอ่ นออกจากบา้ นทุกคร้ัง 3. บริเวณท่ีกดสิว อาจตกสะเก็ด ไม่ควรแกะแผล ปล่อยให้หลุดออกเอง เพอ่ื ไมใ่ หเ้ กดิ รอยแผลเป็น 7. การอบโอโซนดูดสิวเสี้ยน เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการอุดตันของท่อต่อม ไขมันและรูขุมขน ลดและป้องกันการเกิดสิวได้ โดยการอบโอโซนจะช่วยให้รู ขุมขนเปิดเล็กน้อย เมื่อท้าการดูดสิวจะเอาสิ่งสกปรก และไขมันที่อยู่ตามรูขุม ขนออกได้ง่าย สามารถอบโอโซนและดูดสิวได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยมี อุปกรณ์และข้ันตอนดังนี้ อุปกรณใ์ นการอบโอโซนดดู สิว 1. เครื่องอบโอโซน (Vapozone) 1 เครื่อง 2. เคร่ืองดูดสวิ (Vacuum comedone remover) 1 เคร่อื ง 3. หลอดดูดสวิ (Suction acne tube) 1 อนั 4. สา้ ลีเปยี ก (Wet cotton) 6 ชิน้ 5. กระดาษทิชชู (Tissue) 2 ชิน้ เครือ่ งอบโอโซน (Vapozone) เคร่ืองอบโอโซน เป็นเคร่ืองท้าไอน้า ร่วมกับการเพ่ิมโอโซนออกมา ขณะ อบไอน้า ช่วยให้รูขุมขนเปิดเวลาดูดสิว ท้าให้สิวหลุดออกได้ง่าย ผิวสะอาด นุ่มนวล นอกจากนี้ยงั ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดการเจริญเติบโตของ เชือ้ โรคบางชนิด ดังแสดงในรปู ที่ 102
การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 101 รปู ท่ี 102 ภาพแสดงเครื่องอบโอโซน วธิ ีการใช้ 1. เทน้าลงในโถแก้ว ไม่เกินสีแดงท่ีก้าหนดไว้ ใส่ลงที่ตัวเครื่อง หมุนที่ปิด โถแก้วใสน่ ้าให้แน่น น้าที่ใสค่ วรเป็นน้ากรองหรือด่ืมไมใ่ ช้น้าประปา เพราะจะท้า ให้เกิดตะกอนจบั ทเ่ี คร่ืองได้ง่าย 2. กดสวทิ ซ์ ON เพอื่ ให้เคร่อื งทา้ งาน 3. ใชส้ า้ ลีชบุ นา้ สะอาดปิดตา ป้องกันความร้อนระคายเคอื งรอบดวงตา 4. เมอ่ื โอโซนพน่ ไอนา้ ออกมา ใหท้ ง้ิ หา่ งจากใบหน้า อย่างน้อย 1 ฟตุ 5. ใช้เวลาอบโอโซนประมาณ 3-5 นาที หรอื เมอ่ื รขู ุมขนเปิด จงึ เร่มิ ทา้ การดูดสวิ 6. ไม่ควรท้ิงผู้ป่วยไว้ล้าพัง เพราะอาจลืมอบไอน้าไว้นาน ท้าให้ไอน้า ทา้ อันตรายตอ่ ผวิ หน้าได้ เช่น หนา้ แดงไหม้ การดูแลรกั ษาเครอ่ื ง 1. ปดิ สวิทซป์ ิดเครอ่ื ง และสวิทซป์ ิดโอโซน 2. ระวังไม่ให้น้าแห้งต้่ากว่าตัวเครื่องท่ีต้มน้า เพราะจะท้าให้เครื่องเกิด ความรอ้ นสูง เครือ่ งเสียได้
102 การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 3. หา้ มเตมิ กลน่ิ น้ามนั ลงในน้าทีใ่ ช้ตม้ เพราะอาจทา้ ใหเ้ คร่อื งอดุ ตนั 4. ท้าความสะอาดโถใส่นา้ และเปล่ียนนา้ ใหมท่ ุกวนั 5. ใช้น้าส้มสายชู ผสมน้า 1/1 ส่วน แช่น้าทิ้งไว้ 1 คืนแล้วล้างออก เพื่อป้องกัน หนิ ปนู เกาะทข่ี ดลวด ควรทา้ อย่างน้อย เดอื นละ 1 คร้งั เครอ่ื งดูดสิว (Vacuum Comedone Remover) เคร่ืองดูดสิว ใช้ดูดสิวและสิ่งสกปรกตามรูขุมขน ช่วยท้าให้สิวเสี้ยนและ สิวอุดตันหลุดออกได้ง่าย ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว ไขมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกบน ใบหนา้ ไดอ้ ยา่ งหมดจด ทา้ ใหผ้ ิวหนา้ สะอาด ดังแสดงในรปู ท่ี 103 รปู ท่ี 103 ภาพแสดงเครือ่ งดูดสิว การดูดสวิ ก่อนท้าการดูดสิว ให้ท้าความสะอาดใบหน้า เก็บผมให้เรียบร้อย ใช้ส้าลี เปียกปิดตาทงั้ 2 ข้าง อบโอโซนเปน็ เวลา 3-5 นาที สังเกตดูวา่ รขู ุมขนเริม่ เปดิ โดย ขนจะตัง้ ชนั ใหเ้ ร่มิ การดดู สิวได้ ข้ันตอนเร่มิ อบโอโซนจนเสร็จส้ินการดูดสวิ ไม่ควร เกิน 10-15 นาที
การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 103 รปู ท่ี 104 ภาพแสดงวธิ กี ารดดู สวิ วธิ ีการดดู สวิ ดังแสดงในรปู ที่ 104 1. น้าหลอดดดู สวิ ที่เตรียมไว้มาตอ่ กบั เครือ่ งดูดสิว 2. เปิดสวิทซ์ ON ทดสอบความแรงกบั หลงั มือวา่ แรงเกนิ ไปหรือนอ้ ยไป 3. เร่ิมดูดสิวที่คาง ตามแนวกล้ามเนื้อ ดูดตามรูขุมขน เพื่อเอาสิ่งสกปรก ออก โดยเร่ิมดูดสิวที่บริเวณคาง ไล่มาท่ีแก้ม จมูก หน้าผาก การดูดสิวในครั้งแรก ควรลากมือในการดดู สิวสนั้ ๆ เพราะยังไม่คุน้ เคย การดูดสิวลากยาวอาจท้าใหห้ น้า ช้าได้ ท้าเช่นน้ี 2 รอบ ไม่ควรดูดสิวที่เดียวกันหลายๆ รอบ ท้าให้บริเวณดังกล่าว มีรอยช้าเกดิ ขึ้นได้ หลีกเลยี่ งการดดู สิวท่อี ักเสบ มหี นอง 4. ปิดเคร่ือง OFF ทกุ ครัง้ หลังจากเสรจ็ จากการใชง้ าน 5. นา้ หลอดดูดสิวออก ท้าความสะอาด แช่ฆา่ เชือ้ ในแอลกอฮอล์ 70% เป็น เวลา 30 นาที หรอื น้าไปตม้ อย่างนอ้ ย 15 นาที ผ่ึงให้แหง้ เก็บใสภ่ าชนะทส่ี ะอาด
104 การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT การดแู ลรกั ษาเครื่อง 1. ปดิ เครื่องทุกคร้งั หลังจากใชง้ านเสรจ็ แลว้ 2. ถอดหลอดดูดสิวออก ทา้ ความสะอาดหลงั จากใช้งานทุกคร้ัง 3. เกบ็ สายดูดสิวเข้าทใ่ี ห้เรียบรอ้ ย การดแู ลหลงั การอบโอโซนดดู สวิ 1. หลีกเลี่ยงแสงแดด เน่ืองการการอบโอโซนดูดสิว เอาสิ่งสกปรกออกจาก ใบหน้า เซลลท์ ่ีตายแลว้ ออกบางส่วน ควรหลีกเล่ียงการโดนแสงแดดหลังทา้ 2. ทาครมี กันแดดก่อนออกจากบา้ น 3. ไม่บบี หรอื แกะสิว ท้าให้สวิ อุดตันลกุ ลามเปน็ สิวอกั เสบได้ 4. ไม่ควรอบโอโซนดูดสิวทุกวัน เน่ืองจากจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันท้างาน มากกว่าปรกติ ควรอบโอโซนดดู สิวสปั ดาห์ละ 1-2 ครง้ั 2. ฝ้า (Melasma) รูปที่ 105 ภาพแสดงฝ้าบรเิ วณใบหนา้ ฝ้าเป็นป้ืนสีน้าตาลท่ีเกิดข้ึนบริเวณใบหน้า ลักษณะเป็นแบบสมมาตรกัน โดยขึ้นท้ัง 2 ข้างของใบหน้า (Symmetry) โดยเมื่อพบที่ด้านซ้ายก็จะพบที่ ด้านขวาเชน่ กัน ดังแสดงในรปู ที่ 105
การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 105 ฝ้าเกิดจากการท้างานที่ผิดปกติของเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ส่งผลให้มีการผลิตเม็ดสี (Melanin) มากข้ึน และมีการกระจายตัวของเม็ดสีไป เซลล์ข้างเคียง โดยสาเหตุมาจากกรรมพันธ์ุ แสงอัลตราไวโอเลตในแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนทั้งภายในร่างกาย เช่น ภาวะต้ังครรภ์ หรือภายนอกร่างกายจากการได้รับยาท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงฮอรโ์ มน ซ่ึงฝ้า พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยฝา้ แบ่งได้ออกเปน็ 3 ประเภทได้แก่ 1. Epidermal type พบไดบ้ รเิ วณชน้ั หนังกา้ พรา้ 2. Dermal type เกิดขึ้นในช้ันหนังแท้ 3. Compound type พบฝ้าทง้ั ชนิดท่ี 1 และ 2 ปัจจบุ ันมีวิธกี ารรกั ษาฝ้าได้หลายวธิ ี แตค่ นส่วนใหญ่ยงั นยิ มซอื้ ยามาทาเอง ก่อนที่จะพบแพทย์ เนื่องจากหาซ้ือได้ง่ายและราคาไม่สูงมาก จึงต้องแนะน้า วธิ ีการใชย้ าในการดแู ล เรื่องฝา้ โดยยารักษาที่ใชใ้ นการรกั ษาฝา้ ควรอย่ใู นการดแู ล ของแพทย์ ส่วนตัวยาท่ีเป็นลักษณะ เวชส้าอางสามารถหาซื้อมาใช้เองได้ ควร ปรกึ ษาเภสัชกร หรือผู้เชย่ี วชาญด้านผลิตภัณฑ์ ตวั ยาทีใ่ ช้รกั ษาฝ้า มดี งั นี้ 1. ยาลดรอยด้า ท่ีเกิดจากสร้างเม็ดสีที่มากกว่าปกติ พร้อมปรับสภาพผิวให้ขาว โดยการไปออกฤทธิ์ลดการท้างานของเอนไซม์ Tyrosinase เช่น Hydroquinone, Retinoic acid เป็นต้น โดยแพทย์จะเป็นผู้ส่ังยาตามอาการของฝ้า และนัดดู อาการเพื่อประเมินการตอบสนองยาของคนไข้ ควรหลีกเล่ียงการซื้อยามาใช้เอง ซึ่งอาจได้รับปริมาณยาท่ีมากเกินไป ท้าใหผ้ ิวหน้าบางและสง่ ผลต่อเซลล์สร้างเมด็ สี เมอ่ื หยุดใช้ท้าใหผ้ วิ หน้ากลับดา้ กว่าเดมิ 2. ป้องกันการเกิดฝ้า โดยใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด สามารถแบ่งออกได้เป็น แบบ Inorganic sunscreen หรือ Physical sunscreen มีคุณสมบัติทึบแสง
106 การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT ท้าให้แสงไม่สามารถผ่านไปได้ ส่งผลให้มีการสะท้อนกลับของแสง และแบบ Organic sunscreen หรือ Chemical sunscreen มีคุณสมบัติในการดูดซับแสง ส้าหรับคนท่ีเป็นฝ้า และผู้ท่ียังไม่เป็นฝ้าควรทาก่อนออกจากบ้านหรือสัมผัสกับ แสงแดดเปน็ ประจ้าทกุ วัน 3. สารสกัดทช่ี ่วยลดรอยฝ้า กลมุ่ สารสกัดจากธรรมชาติท่ีมีสรรพคุณในการลดรอยฝ้า ชว่ ยให้ใบหนา้ ขาว ไดแ้ ก่ 3.1 Kojic acid เป็นสารที่สร้างจากเชื้อรา ออกฤทธิ์โดยยบั ยั้งการท้างาน ของเอนไซมท์ ีย่ บั ยง้ั เอนไซม์ Tyrosinase และยงั ชว่ ยดดู ซบั รงั สยี ูวี 3.2 Arbutin เปน็ สารทส่ี กัดไดจ้ ากต้น Bearberry ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase 3.3 Licorrice สารสกดั จากชะเอม สามารถยับย้ังเอนไซม์ Tyrosinase 4. การลอกหน้าดว้ ยสารเคมี (Chemical peeling) สารเคมีท่ีนยิ มนา้ มาใชใ้ นการ ผลดั เซลลผ์ วิ เพ่อื ลดรอยดา้ ได้แก่ Alpha hydroxy acid (AHA) ตัวท่ีนยิ มนา้ มาใช้ ในการลอกได้แก่ Glycolic acid, Trichloroacetic acid (TCA) ความเขม้ ข้นทใ่ี ช้ ข้ึนกับชนิดของฝ้า ลักษณะของผิว หลังการลอกหน้าควรแนะน้าให้หลีกเล่ียง แสงแดด ใชค้ รีมกันแดดกอ่ นออกจากบา้ น การดูแลและป้องกนั 4.1 หลงั ทำควรประคบด้วยควำมเยน็ เพ่ือลดอำกำรแสบรอ้ น 4.2 ห้ำมลอก แกะ หรือดึง บริเวณผิวมกี ำรลอก อำจทำให้เกดิ แผลเป็นได้ 4.3 สำมำรถล้ำงหน้ำได้ตำมปกติ โดยใช้สบู่อย่ำงอ่อน หลีกเลี่ยงกำรใช้ นำอุน่ ลำ้ งหน้ำ 4.4 หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยเฉพำะในช่วง 2 สัปดำห์แรก และทำครีมกัน แดดทุกครงั ก่อนออกจำกบ้ำน
การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 107 5. การท้าเลเซอร์ (Laser) เลเซอร์ย่อมาจาก Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation เป็นเทคโนโลยีที่มีมานานกว่า 20 ปี โดยใช้การจัดระเบียบอนุภาคของแสงไปยังต้าแหน่งที่เราต้องการ ปัจจุบันมี เครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัยและ มีความจา้ เพาะเจาะจงกับปัญหาของผิวมากกว่า สมัยก่อนมาก ซ่ึงก่อนท้าเลเซอร์ ควรศึกษาประเภทของเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ใน การดูแลผิว ระยะเวลาในการท้าส่วนมากจะท้าประมาณ 3-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับ ปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ จะเป็นผู้ท้าให้ โดยใช้เลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงในการรักษาปัญหาของผิวท่ีมีสี คลา้ กว่าสีผิวปกติ ที่มีความยาวคลื่นแบบเฉพาะเจาะจงกับเม็ดสี โดยไปท้าลาย เม็ดสีแต่ไม่ท้าลายผิวข้างเคียงซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ก้าหนดช่วงของคลื่น และ ระยะเวลาในการท้า ได้แก่ Q-switched, Fraxel, Intense pulsed light (IPL) เป็นต้น การดแู ลและป้องกัน 5.1 หลังท้าอาจจะอาการเจ็บ แสบร้อนใบหน้า ใช้ Cold pack ประคบ บริเวณท่ีทา้ เลเซอร์ 5.2 หา้ มไมใ่ ห้แผลโดนน้าหลังท้าเลเซอร์ประมาณ 24 ชั่วโมง 5.3 ท้าแผลทกุ วัน ดว้ ยล้าสชี บุ น้าเกลือ (0.9% NSS) กรณที ม่ี บี าดแผล 5.4 หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องส้าอาง จนกว่าแผลแห้งและสะเก็ดหลุดหมด (3-7 วัน) 5.5 หลีกเลีย่ งแสงแดดจัดหลงั การทา้ เลเซอรอ์ ยา่ งนอ้ ย 2-4 สัปดาห์ 5.6 ทายาตามแพทยส์ งั่ และครีมกนั แดดเป็นประจา้ ทุกวนั
108 การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT ฝ้าเป็นแล้วหายได้ยากมาก ถึงแม้ปัจจุบนั จะมีเครื่องมือท่ีทันสมัยมาใช้ใน การรักษา เช่น เครื่องเลเซอร์ แต่การป้องกันไม่ให้เกิดฝ้า และการดูแลไม่ให้ เป็นมากขึ้นมีความส้าคัญมากกว่า เพราะการรักษาฝ้าต้องอาศัยเวลาและการ รักษาท่ีต่อเนื่อง ปญั หาฝ้าไม่ได้รุนแรงถงึ ขั้นเสียชีวิต แต่ปญั หาฝ้าทา้ ใหผ้ ู้หญิงและ ผู้ชายขาดความม่ันใจ และลดความสวยงามของใบหน้าได้ โดยมีการดูแลและ ปอ้ งกันฝา้ ดงั นี้ 1. หลีกเล่ียงแสงแดด กรณีที่ต้องท้างานหรือต้องสัมผัสกับแสงแดด ควรทาครีมกัน แดด และป้องกันอย่างอ่นื ร่วมด้วย ได้แก่ การสวมหมวก กางร่ม ใส่เสือ้ คลมุ เป็นตน้ 2. การใชย้ าทาฝ้าควรทาอย่างสม่า้ เสมอไม่ควรหยดุ ทาเอง เนื่องจากการยาทาฝ้า บางชนิดตอ้ งมปี รบั ความเขม้ ข้นของยา แลว้ จงึ คอ่ ยๆหยุดยา 3. ด่มื นา้ ให้เพียงพอ ไมใ่ ห้ผิวแห้ง 4. รับประทานผักและผลไม้ทม่ี ไี วตามนิ ซีสงู จะชว่ ยท้าให้ฝ้าจางเรว็ ขึน้ 3. เชือกลากบนใบหน้า (Tinea faciei) โรคติดเชื้อกลากที่บริเวณใบหน้า เป็นเช้ือราท่ีผิวหนังชนิดต้ืน เกิดจาก การติดเชื้อในโรคในกลุ่ม Microsporum spp., Trichophyton spp., และ Epidermophyton spp. กลากมีลักษณะแสดงเฉพาะได้แก่ มีผื่นเป็นลักษณะ วงกลม (Annular) มีขอบเขตชัดเจน ลักษณะนูนแดง มีขุย และมีอาการคัน เกิดจากการแพร่กระจายเชื้อมาจากบริเวณอ่ืน เช่น ฝ่าเท้า ฝ่ามือ และเล็บจาก การแกะเกา นอกจากพบท่ีบริเวณใบหน้าแล้ว ยังสามารถพบได้ทบี่ ริเวณอื่น เช่น ศีรษะ ล้าตัว แขน ขา เท้า และอวยั วะเพศ บางรายอาจพบผน่ื เปน็ ลักษณะผืน่ เป็น ปื้นหนาคล้ายโรคผิวหนังชนิดอื่น จึงต้องท้าการตรวจทางห้องปฎิบัติการเพ่ือ ยนื ยันการวินจิ ฉัยโรค
การดแู ลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 109 การรักษากลากสามารถซ้ือยามาทาบริเวณภายนอกได้ โดยมีจ้าหน่ายใน ร้านขายยาทั่วไป กรณีที่เป็นมากหรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียเพ่ิม ควรพบแพทย์ เพ่ือรับประทานยาและได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ยาท่ีใช้รักษากลากจะเป็นยาใน กลุ่มต้านเช้ือรา ได้แก่ กลุ่ม Azoes เช่น Ketoconazole, Fluconazole, กลุ่ม Allylamines เช่น Terbinafine และกลุ่ม Griseofulvin การทายารักษากลากท่ี บริเวณใบหน้า สามารถทาบริเวณท่ีเป็นโดยทาติดต่อกันจนกว่าจะหาย หลังจาก นั้นให้ทาตอ่ เนื่องอีก 1 สปั ดาห์เพอ่ื ไม่ให้กลบั มาเป็นซ้า กรณีท่ตี ้องรบั ประทานยา เช่น ติดเช้ือมาก หรือบริเวณท่ีมีการดูดซึมยาไม่ดี เช่น เล็บ ผม ฝา่ เท้า ควรอยู่ใน การดูแลของแพทย์ เน่ืองจากต้องรับประทานยาเป็นระยะเวลานาน อาการ ขา้ งเคียงจากการใช้ยา เช่น คลื่นไส้ โดยยาจะถูกก้าจัดออกที่ตับและไต จึงต้องมี การติดตามการทา้ งานของตบั และไตเป็นระยะ การดูแลและป้องกนั 3.1 ท้าความสะอาดใบหน้าอยา่ งน้อยวันละ 2 ครั้ง เลอื กผลิตภัณฑ์ให้ตรง กบั สภาพของผิว ไม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทต่ี ้านเช้อื แบคทีเรียนานๆ เพราะจะท้าให้ เช้อื ราทผ่ี ิวหนงั เจรญิ เติบโตได้งา่ ยขน้ึ 3.2 เม่ือเกิดบาดแผลที่บริเวณใบหน้า ควรท้าความสะอาดและทายา ฆา่ เช้อื เพอื่ ป้องกนั เชื้อราเขา้ ทางผวิ หนัง 3.3 กรณีทเ่ี ป็นเชอ้ื ราท่ีผวิ หนัง ควรทาออกนอกบริเวณเลก็ นอ้ ย เม่ือทายา จนหายแล้ว ใหท้ ายาต่ออีก 1สัปดาห์ เพอ่ื ป้องกนั การกลับมาของโรค 3.4 หลีกเลี่ยงการใช้ส่ิงของร่วมกัน เช่น รองเท้า เส้ือผ้า เพราะอาจ แพรก่ ระจายของเชอ้ื ไปสู่คนรอบข้าง
110 การดแู ลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 3.5 เคร่ืองนอน เช่นผ้าห่ม ผ้าปูท่ีนอน ปลอกหมอน ควรซักท้าความ สะอาดใหส้ ะอาดและแห้งอย่เู สมอ 3.6 หลังการออกกา้ ลังหรือท้างาน ควบอาบน้าท้าความสะอาด เชด็ ตวั ให้แหง้ 4. ผื่นแพ้จากการสัมผัส (Contact dermatitis) โรคผิวหนังท่ีเกิดจากการสัมผัสสารภายนอก ผื่นแพ้จากการสัมผัสพบได้ บ่อยในวัยผู้ใหญ่ โดยเฉพาะวัยท้างานที่มีการใช้เครื่องส้าอางหรือสัมผัสกับสาร ท่กี ่อให้เกิดอาการแพ้หรอื ระคายเคืองทีผ่ ิวหนัง โดยอาจพบการอักเสบท่ีผวิ หนัง ทว่ั รา่ งกายจากการสัมผสั สารเคมใี นส่งิ แวดล้อมที่ทา้ งานกอ่ ใหเ้ กดิ การแพ้ ในกรณี ทพ่ี บที่บริเวณใบหน้า มกั เกิดจากการแพ้เครอ่ื งส้าอาง ของบ้ารงุ ผิวหน้า ซ่งึ อาการ ทพ่ี บจะมีลักษณะเป็นผ่ืนแดง เปน็ ตุ่มน้า ตุ่มหนอง อาจมีอาการคันรว่ มด้วย เมื่อ เกิดอาการแพด้ งั กลา่ ว ให้หยดุ สงิ่ ที่ใช้ งดการใชเ้ ครอื่ งสา้ อางหรอื ของบ้ารุงผิวหน้า เพือ่ ไม่ให้อาการเปน็ มากขน้ึ โดยแบ่งตามกลไกการเกดิ ผื่นได้ 4 ชนิด ดงั น้ี 1. ผื่นภูมิแพ้จากการสัมผัส (Alergic contact dermatitis) ได้แก่ สารที่ก่อให้เกิด อาการแพ้ เช่น สารในเคร่อื งสา้ อาง นกิ เกิล ยางสังเคราะห์ และยารักษาโรค เปน็ ต้น 2. ผน่ื ผิวหนงั อักเสบจากการระคายเคอื ง (Irritant contact dermatitis) เกิดจาก การไปสัมผัสสารที่มีฤทธ์ิระคายเคืองสูง เช่น กรด ด่าง ผงซักฟอก แมลง และ สารเคมี ท้าใหเ้ กิดผนื่ ชนิดเฉียบพลนั 3. ผ่ืนสัมผัสจากพิษของสารร่วมกับแสง (Phototoxic contact dermatitis) เกิด จากการทายาหรือสารเคมี เมือ่ ถูกแดดแล้วท้าให้ผิวเกิดการอักเสบ 4. ผ่ืนสัมผัสจากการแพ้สารร่วมกับแสง (Photoallergic contact dermatitis) เป็นปฏิกิริยาที่เก่ียวกับภูมิแพ้ คือเม่ือได้รับสารหรือยา เม่ือถูกแสงแดดจะ กลายเป็นสารที่กอ่ ใหเ้ กิดการระคายเคืองทีผ่ ิว
การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 111 การรักษาผน่ื แพ้ท่ีบริเวณใบหน้า ในกรณีทม่ี ีผ่ืนเล็กน้อย ใช้ยาทาภายนอก ท่มี ีส่วนผสมของ Corticosteroid ทาบริเวณทม่ี ีอาการแพ้ ส้าหรับกรณีท่ีเป็นมาก ควรพบแพทย์เพ่ือได้รบั ยารับประทานรว่ มกบั ยาทาเพอื่ ลดอาการอกั เสบท่ผี ิวหน้า อาการคนั และปอ้ งกนั การติดเช้ือโรคอน่ื แทรกซ้อน การดูแลและปอ้ งกนั 4.1 ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ระคายเคืองกับผิว ไม่ขัดหน้า นวดหน้า พอกหนา้ จนกวา่ ผนื่ แพจ้ ะหาย 4.2 หลีกเล่ียงการแต่งหน้า การใช้ของบ้ารุงผิว เพราะจะทา้ ให้อาการแพ้ เปน็ มากข้ึน 4.3 หลีกเล่ียงแสงแดด ความร้อนจัด เย็นจัด เพราะกระตุ้นให้อาการของ โรคเป็นมากขึ้น 4.4 สังเกต และจดจ้าสิ่งที่แพ้เพ่ือหลีกเล่ียงไมไ่ ปสัมผัสสิ่งทเ่ี ป็นสาเหตุท้า ใหเ้ กดิ อาการแพ้ 5. รงั แคบนใบหน้าหรือโรคหน้าลอก (Seborrheic dermatitis) โรคผิวหนังเร้ือรังท่ีมีลักษณะแดงเป็นขุย มีผิวหนังลอก พบมากบริเวณ ขอบผม เหนือค้ิว ข้างจมูก หลังหู และหนังศีรษะ อาจพบผื่นได้ตามตัว ปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุของโรค โดยพบว่ามีปัจจัยการเกิดโรคได้หลายอย่าง ได้แก่ เช้ือยีสต์ท่ีพบบริเวณผิวหนัง การท้างานของต่อมไขมันที่มากขึ้น โดยพบได้ใน ช่วงแรกในวัยทารก พบหลังคลอด 1 สัปดาห์ และหายไปได้เอง อีกช่วงจะพบใน วัยผู้ใหญ่ที่มีความสัมพันธ์กับการเปล่ียนแปลงของฮอร์โมน สภาพอากาศ ความเครียด และโรคประจา้ ตัว
112 การดแู ลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT การรักษาจะรักษาคลา้ ยกับโรคผื่นแพ้ที่ผิวหนัง แต่อาจเพ่ิมยาในบางราย ที่มีอาการติดเช้ือแทรกซ้อน เช่น ยาต้านเช้ือรา ยากดภูมิของร่างกาย เป็นต้น โดยการรกั ษาจะเป็นการรักษาตามอาการของโรคและการปอ้ งกนั ไม่ให้เกดิ อาการ แทรกซอ้ นหรอื อาการของโรคเพ่มิ ข้นึ การดแู ลและปอ้ งกนั 5.1 เนอื่ งจากเปน็ โรคผิวหนังเร้ือรัง จงึ ต้องดูแลเร่ืองความสะอาดของผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและหนังศีรษะ เพอื่ ป้องกนั การเกดิ โรคแทรกซอ้ น 5.2 พยายาหาสาเหตุและสงิ่ กระตุ้นที่ท้าให้เกิดโรคหรือปัจจยั ท่ีกระตนุ้ ให้ โรคก้าเรบิ 5.3 หลีกเลยี่ งการท้าทรีทเม้นท์ใบหน้าขณะมีอาการ ได้แก่ การนวดหน้า ขัดหน้า พอกหน้า เพราะจะส่งเสรมิ ให้อาการเปน็ มากขึน้ 6. โรคเริม (Herpes simplex) โรคเริมเกิดจากเช้ือไวรัส Herpes simplex virus (HSV) พบได้ 2 ชนิด คือ HSV-1 พบได้ท่ีบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก และ HSV-2 พบบริเวณอวัยะเพศ การติดต่อโดยการสัมผัสกับเชื้อโดยตรง ได้แก่ ทางน้าลาย ทางเพศสมั พันธ์ หรือ ทางชอ่ งคลอด ในกรณีที่มารดาก้าลงั เป็นโรคอยู่ อาการของโรคทีพ่ บจะเปน็ ตุ่มน้า ที่ผิวหนัง โดยพบการเกิดคร้ังแรกในเด็กท่ีอายุน้อยกว่า 5 ปี มาด้วยอาการไข้สูง มีแผลตื้น มแี ผน่ สีขาวคลมุ ทบี่ ริเวณเพดานปาก ล้ิน เหงอื ก กระพุ้งแกม้ และคอหอย มอี าการเจ็บปวด กลืนน้าลายลา้ บาก ร่วมกบั มีต่อมน้าเหลืองที่คอโต อาการหาย ได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ โดยเมื่ออายุมากข้ึนอาการของโรคจะถูกกระตุ้นด้วย ความเครียด ภาวะเจ็บป่วย จะเกิดอาการข้ึนช้า โดยพบตุ่มน้าบริเวณรอบปาก มีอาการปวด คัน เมอ่ื ตมุ่ น้าแตกจะเปน็ สะเกด็ ปกคลุมทผี่ ิวหนัง
การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 113 การรกั ษาจะเป็นการรกั ษาตามอาการ ดแู ลเรือ่ งความสะอาด รักษาอาการ ปวดและการติดเชื้อ การให้ยาจะเป็นกลุ่มยาต้านไวรัส ได้แก่ Acyclovir, Valacyclovir ทั้งชนิดทาและชนิดรับประทานโดยพิจารณาจากความรุนแรงของ โรค โดยเริ่มรักษาภายใน 3 วันแรกของการเกิดโรค จะช่วยลดอาการและ ระยะเวลาการเกิดโรค การดแู ลและปอ้ งกนั 6.1 เน่ืองจากโรคเริมเป็นโรคที่ติดต่อทางการสัมผัสและทางการมี เพศสัมพันธ์ จึงควรให้ความรู้ในการติดต่อของโรค โดยงดการมีเพศสัมพันธ์ขณะ เกิดโรคและหลังจากหายแล้ว 1-2 วัน หลังจากน้ันควรควบคุมโรคด้วยการใช้ ถงุ ยางอนามัยเพ่ือปอ้ งกนั การแพร่กระจายของโรคไปส่ผู ู้อนื่ 6.2 ท้าความสะอาดแผลด้วยน้าเกลือล้างแผลวันละ 2 คร้งั และทายาตา้ น เชื้อไวรัสจนกวา่ แผลจะหาย 6.3 พกั ผอ่ นให้เพยี งพอ ไมเ่ ครียด 7. รวิ รอย (Wrinkle) รูปที่ 106 ภาพแสดงรว้ิ รอยที่บริเวณใบหน้า
114 การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT ปจั จุบันคนหนั มาดแู ลดา้ นความสวยความงามมากขึ้น จะเหน็ ไดจ้ ากยอดขาย ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยชะลอและลดร้ิวรอยท่ีเป็นสินค้าอยู่อันดับต้นๆ ของการใช้จ่าย และยังมีคลินิกที่ เปิดให้บริการด้านความงามโดยเฉพาะ เพ่ือใหบ้ ริการดา้ นการลด ริ้วรอย ดังแสดงในรูปท่ี 106 ปัญหาร้ิวรอยเหี่ยวย่น พบมากในผู้ใหญ่ท่ีมีความ หย่อนคล้อยของผวิ ไขมันใตผ้ ิวเร่มิ เส่อื มสภาพ การสร้างคอลลาเจน ของผิวลดลง ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของโครงสร้างผิวประกอบไปด้วย ปัจจัยภายใน ร่างกาย เกิดจากฮอร์โมนและกระบวนการทางชีวเคมีของร่างกาย ส่วนปัจจัย ภายนอกท่ีมาจาก สิ่งแวดลอ้ มต่างๆ เช่น รงั สียวู ี พฤติกรรมส่วนบุคคล เช่น การสูบ บหุ รี่ ดมื่ แอลกอฮอล์ การทา้ งานหนกั พักผ่อนน้อย รวิ้ รอยไมใ่ ช่ปัญหาผวิ พรรณของ ทุกคนแต่มากกว่ารอ้ ยละ 80 สนใจ และการดแู ลผวิ หน้าด้วยการทาครมี ลดริ้วรอย รวมถึงการท้า ทรที เม้นท์กันอย่างแพร่หลาย โดยสรปุ เป็นการรักษารว้ิ รอย ดังน้ี 1. การทาครีมลดริ้วรอย ซงึ่ มีสว่ นผสมของสารท่ีช่วยชะลอริ้วรอย ท้ังสารเคมีและ สารสังเคราะห์จากธรรมชาติ ได้แก่ คอลลาเจน ไวตามินอี ไวตามินเอ และสาร ไฮยาลโู รนกิ แอซิด เปน็ ต้น 2. การฉีดโบท๊อกซ์ (Botox) โบท๊อกซ์สกัดมาจากแบคทีเรียท่ีมีชอ่ื คลอสทริเดียม โบทูลนิ ัม (Clostridium Botulinum) สร้างสารพิษชอ่ื โบทูลินัมท็อกซนิ ที่กอ่ ให้เกิด โรคอาหารเป็นพษิ ในอาหารกระป๋องท่ีไม่สะอาด โดยชนิดที่น้ามาใชเ้ พือ่ ความงาม เป็นโบทูลนิ ัมชนิดเอ การทา้ งานของสารนี้จะท้าให้กล้ามเนอื้ คลายตัวช่ัวคราว ท้า ให้ลดรอยเห่ียวย่นได้ การฉีดโบท๊อกซ์ต้องท้าโดยแพทย์ท่ีได้รับการฝึกฝนมาเป็น อย่างดี เพราะตอ้ งมีความช้านาญและเช่ียวชาญในการวเิ คราะห์ใบหน้าของแตล่ ะ บุคคล ดังน้ันควรเลือกการลดริว้ รอยวิธีน้ีกบั แพทย์ทีม่ ีประสบการณ์และไดร้ ับการ ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี โดยบริเวณท่ีนิยมฉีดโบท๊อกได้แก่บริเวณหางตา หน้าผาก
การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 115 และที่หัวคิ้ว นอกจากจะช่วยลดรวิ้ รอยที่บริเวณใบหน้าแลว้ ยังสามารถใช้ลดขนาด ของกล้าม น่อง แขน ขา ลดกลน่ิ ตัว ปรับแต่งรปู คิ้ว และแกป้ ัญหาหน้ามันได้ โดย หลังการฉดี สารจะคงอยู่ประมาณ 3-8 เดือน ขึน้ กับต้าแหน่งทฉี่ ีดและปริมาณสาร โบท๊อกซท์ ่ีได้รับเขา้ สู่กล้ามเนื้อในแตล่ ะคร้ัง และที่สา้ คญั ควรงดรับประทานยาใน กลุม่ ตา้ นการแขง็ ตัวของเลือดอยา่ งนอ้ ย 1 สัปดาห์ กอ่ นการฉดี สารโบทอ๊ กซ์ ไดแ้ ก่ ยาแก้ปวดเม่ือยกล้ามเน้ือ แอสไพริน ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ไวตามินอี น้ามันตบั ปลา แปะก๊วย เปน็ ต้น การดแู ลหลงั การฉีดโบทอ๊ กซ์ 2.1 หลงั การฉีดโบท๊อกซ์ ควรนัง่ ตรงไม่นอนราบอย่างน้อย 4 ช่วั โมง 2.2 ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่รับการฉีด เพ่ือให้กล้ามเนื้อดูดซึมยาได้ดี ในช่วง 4 ชว่ั โมง 2.3 งดการนวดหนา้ การท้าทรีทเมน้ ท์ใบหนา้ อย่างนอ้ ย 1 สปั ดาห์ 2.4 ภายหลังการฉีดยา อาจจะมีอาการขยับกล้ามเน้ือบริเวณที่ฉีดไม่ถนัด มอี าการตงึ ใบหน้า อาการดังกล่าวจะคอ่ ยๆ หายไปไดเ้ อง 2.5 ภายหลังการฉีดอาจมอี าการปวดบริเวณท่ีฉดี สามารถใช้ยาพาราเซต ตามอลบรรเทาอาการปวดได้ 2.6 ภายหลังการฉีดอาจเป็นรอยจุดแดงจากรอยเข็ม จุดแดงดังกล่าวจะ หายไปภายใน 5-7 วนั สามารถทาแป้งเพอ่ื ปดิ ริว้ รอยดงั กลา่ วได้ 3. การเติมสารฟิลเลอร์ (Filler) ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มให้กบั ผิวหน้า ลดปัญหา รวิ้ รอย ที่เปน็ ร่องลึกได้ดี สารอยู่ในกลุ่มไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic acid) มี คณุ ในการรวมตัวกับน้าและสลายได้เองตามธรรมชาติ สารมคี วามคงตัวสูง ไม่ได้ สกัดจากสัตว์จึงไม่ต้องเส่ียงกับอาการแพ้ ย่อยสลายเองได้จึงมีความปลอดภัยสูง
116 การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT กอ่ นฉดี ควรงดรับประทานยาท่ีทา้ ให้เลอื ดออกงา่ ย เช่น แอสไพริน ยาป้องกนั การ แขง็ ตวั ของเลือด ไวตามินอี นา้ มนั ตับปลา แปะกว๊ ย การดูแลหลงั การฉดี สารฟิลเลอร์ 3.1 หลังการฉีดฟลิ เลอรค์ วรประคบด้วยนา้ แขง็ เพอื่ ป้องกันและลดรอยช้า อาจมีอาการบวมบรเิ วณทฉ่ี ดี ได้ 3.2 หลีกเล่ียงการนวดหน้า การท้าทรีทเม้นท์ใบหน้าที่ใช้ความร้อน เช่น การอบโอโซน การทา้ เซาน่า การใชเ้ คร่ืองยกกระชบั ใบหน้า อยา่ งน้อย 2 สัปดาห์ 3.3 หลีกเลยี่ งการทาสารทีม่ ีส่วนผสมของ AHA, BHA, และกรดไวตามนิ อี 3.4 ควรดื่มน้าวันละ 8-16 แก้ว ช่วยให้สารฟิลเลอร์อุ้มน้าได้ดีขึ้น เพิ่ม ความเตง่ ตงึ ใหก้ บั ใบหนา้ การดูแลใบหน้า จะเน้นเรื่องการทายา ทาครีมบ้ารุงเป็นส่วนใหญ่ จึงควรมี ข้นั ตอนการทายาและครมี บ้ารุงถูกต้อง เพื่อใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา ควรทราบขั้นตอนการทายาที่ถกู ตอ้ งโดยมีล้าดบั การทายา และครมี บา้ รงุ ดงั น้ี 1. ทายาหรือครมี บา้ รุงให้ทากอ่ น เพือ่ ให้ผวิ หน้าชมุ่ ช้ืน 2. ยาทเี่ ป็นนา้ โลชนั่ ควรทากอ่ นยาท่ีเป็นครมี 3. ยาทาเฉพาะที่หรือจุดท่ีเป็นทาเปน็ ล้าดับสุดท้าย ควรเว้นห่างการทายา จากตัวแรก 3-5 นาที เพื่อใหย้ าตวั แรกซึมเขา้ ส่ผู วิ 4. ก่อนการทายาทกุ คร้ัง ควรตรวจสอบใชย้ าให้ตอ้ งถกู ต้องกับปญั หาของผิว การทายาผิด ผดิ ต้าแหน่ง ผิดวิธี ผดิ เวลา และผดิ วตั ถุประสงค์กอ่ ให้เกดิ อันตรายกับ ผวิ หนังผปู้ ่วยได้
การดแู ลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 117 การดแู ลผวิ หนา้ ในผสู้ งู อายุ (Elderly facial skin care) การดูแลสุขภาพของผ้สู ูงอายุสว่ นใหญ่จะเปน็ การแนะน้าการดูแลเกี่ยวกับโรค เช่น โรคความดันโลหติ สูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ปัญหาทางด้านผวิ พรรณ โดยเฉพาะปญั หาทางผวิ หน้าจงึ เป็นปัญหาทค่ี นส่วนใหญ่มองข้ามหรอื ให้ความสา้ คัญ น้อยกว่า ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายดี ก็ส่งผลให้สุขภาพผิวดีด้วย ผิวพรรณของ ผู้สูงอายุจะพบมีการเปล่ียนแปลงไปตามวัยที่เพิ่มข้ึน ซึ่งการเปล่ียนแปลงของ ผู้สูงอายุเป็นการเปลี่ยนแปลงภายนอกท่ีสังเกตได้ เช่น ผิวหนัง เส้นผม ต่อมไขมัน เล็บมือ เล็บเท้า การเปลี่ยนแปลงด้านประสาทสัมผัส เช่น สายตา การได้ยิน การสัมผัส การรับความรู้สกึ การรับรส และการรับกล่ิน นอกจากน้ยี ังมีการเปล่ียนแปลงทางด้าน ระบบกล้ามเน้ือและกระดูก ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบหายใจ ระบบย่อย อาหาร การขับถา่ ยและอวยั วะสืบพันธ์ุ โดยจัดผสู้ ูงอายุแบ่งออกเปน็ 3 ชว่ ง ได้แก่ 1. ช่วงอายุ 65-74 ปี คอื ผู้สงู อายวุ ัยต้น (Early old age) 2. ชว่ งอายุ 75-84 ปี คอื ผู้สูงอายุวยั กลาง (Middle old age) 3. ช่วงอายุ 85 ปีข้ึนไป คอื ผู้สงู อายวุ ัยปลาย (Late old age) รปู ท่ี 107 ภาพแสดงการเปลยี่ นแปลงทบ่ี รเิ วณใบหน้าของผสู้ ูงอายุ
118 การดูแลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT การดแู ลผู้สูงอายุในปัจจุบันมงุ่ เน้นการดูแลลกั ษณะแบบองคร์ วม ประกอบ ไปด้วยการดูแลทั้งทางดา้ นร่างกายและจิตใจ โดยเน้นใหผ้ ู้สูงอายสุ ามารถดูแลตวั เอง ประเมนิ ปัญหาทางด้านสขุ ภาพกายและสุขภาพจิตเบ้ืองต้นได้ การเปลีย่ นแปลงใน ผสู้ ูงอายุท่ีเห็นชัดเจนจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภายนอก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง ทผ่ี ิวหนงั ผิวหนงั มีการลดการสร้างของคอลลาเจน ทา้ ใหผ้ ิวมคี วามยืดหยุน่ น้อยลง การลดการสรา้ งของต่อมไขมนั ท้าให้ผิวแห้งและผวิ หนังบางลง ส่งผลให้เกดิ ร้วิ รอย ตามมา การเปลี่ยนแปลงท่ีผิวหนังโดยเฉพาะท่ใี บหน้า ดังแสดงในรูปท่ี 107 อาจ ส่งผลถึงความมั่นใจของแต่ละบุคคล ดังนั้นการดูแลผิวหน้าจึงมีส่วนส้าคัญใน ผู้สูงอายุ เพ่ือเพิ่มความมั่นใจและสามารถป้องกันแลดูแลปัญหาดังกล่าวใน เบือ้ งต้น โดยปญั หาผิวหน้าที่พบมากใน ผู้สงู อายุจากการศึกษาของ Reszke และ คณะ (2015) พบปญั หาของผิวหนา้ ในผ้สู ูงอายุ ดงั น้ี 1. กระแดด (Solar lentigo) เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเซลล์สร้างเม็ดสี ท่ีถูกกระตุ้นด้วยรังสี อลั ตราไวโอเลต ในแสงแดดรว่ มกับความเสื่อมของสภาพผิวตามวัย ท้าใหเ้ กิดเป็น จุดสีน้าตาลถึงสีน้าตาลเข้มที่บริเวณผิวหนัง สังเกตพบได้ชัดท่ีบริเวณสัมผัสกับ แสงแดด ได้แก่ บริเวณใบหน้า แขน เป็นตน้ โดยที่ปัญหาดงั กล่าวไม่มผี ลต่อสขุ ภาพ ร่างกายใดๆ อาจไม่ต้องรักษาถ้าไม่กังวลเร่ืองความสวยงาม โดยท่ีขนาดของกระ จะมีขนาดใหญข่ ้ึน และมกี ารเพ่ิมจ้านวนขนึ้ ตามระยะเวลาการสมั ผสั กบั แสงแดด การรักษาพบมากในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เนื่องจากใส่ใจเร่ืองความ สวยงามมากกว่า ซึ่งการรกั ษาส่วนใหญเ่ ปน็ การทาครีมลดรอยดา้ การลอกผิวด้วย สารเคมี การใช้เครอื่ งเลเซอร์ ดังนี้
การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 119 1.1 การทาครมี ลดรอยด้า รอยด้าท่ีเกดิ จากกระในผูส้ ูงอายุมกั มีสีเข้มและ มขี นาดใหญก่ ว่าในวัยผู้ใหญ่ การใช้ครีมลดรอยด้าจะอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับครีมที่ ใช้รักษาฝ้า และรอยดา้ ทก่ี ลา่ วไว้ขา้ งต้น แต่รูปแบบควรอยู่ในรูปของครีมเพ่อื เพ่ิม สารบ้ารุงผิว ให้ผวิ ชุ่มชื้นไม่แห้ง นอกจากลดรอยด้าแล้วยงั ช่วยในการบ้ารงุ ผิวไป ในตัวด้วย 1.2 การลอกผิวด้วยสารเคมี ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ เน่ืองจาก ผู้สูงอายุจะมีผิวบาง มีผิวหน้าที่แห้งกว่าในวัยผู้ใหญ่ท้าให้เกิดการระคายเคืองได้ ง่ายกว่า และการลอกหน้าด้วยสารเคมีจะท้าให้ผิวแห้งยิ่งข้ึน หรือเลือกครีมที่มี ส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวในปริมาณที่เหมาะสมกับวัยและปัญหาผิว จะช่วย ลดรอยด้าไดเ้ ชน่ กัน 1.3 การท้าเลเซอร์ ควรอยใู่ นการดูแลของแพทย์ จากปญั หาผิวของผ้สู ูงอายุ ท่อี าจมีผลข้างเคียงจากการท้าเลเซอร์ท่ีมากกว่าวยั ผู้ใหญ่ 1.4 การป้องกัน เป็นการทางเลือกท่ีดีท่ีสุดไม่ให้เกิดกระด้วยการใช้ครีม กนั แดดเป็นประจ้าทุกวันก่อนออกจากบ้าน โดยที่ไม่ต้องท้ากิจกรรมที่สัมผสั แดด เน่ืองจากแสงแดดเป็นคล่ืนที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น บางครั้งอยู่ในที่ร่มก็อาจ สัมผัสกับแสงแดดได้ 2. ผวิ แหง้ ในผู้สงู อายุ (Xerosis) ผิวแห้งเป็นภาวะท่ีพบบ่อยท่สี ดุ ในผูส้ งู อายุ จากการเปลย่ี นแปลงของสภาพ ผิว การลดปริมาณของไขมนั ในผิวชน้ั นอก ร่วมกบั ผู้สงู อายไุ ด้รับยารักษาโรคทีเ่ ป็น โรคเรื้อรัง เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมันในเลือด ท้าให้ผิวของผู้สูงอายุแห้งทั่ว ร่างกาย พบมากที่บริเวณขา ท้าให้เกดิ อาการคัน ผูส้ ูงอายุจะเกา บางรายเกาจน
120 การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT เกิดบาดแผลมีการติดเชื้อตามมา ส่วนของใบหน้าจะแห้ง รว่ มกับการอาบน้าและ ลา้ งหน้าด้วยนา้ อุ่นจะสง่ เสรมิ ให้ผิวหน้าแหง้ จดุ ด่างด้า และริ้วรอยมากขน้ึ การดูแลผิวของผู้สูงอายุไม่ควรอาบน้าอุ่นจัด เพราะจะช้าละล้างไชมัน ทผ่ี ิวหนังออก ท้าให้ผิวแห้งมากขึ้น หลังอาบน้าควรทาโลช่ันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ที่ผิว หลกี เลี่ยงแสงแดดเพราะผิวแห้งและบางจะท้าให้ผวิ ไหมไ้ ดง้ ่าย ส่วนการดแู ล ผิวหน้า ควรใช้เป็นครีมบ้ารุงผิวเพ่ือให้ความชุ่มชื้นเพ่ือชดเชยน้าและไขมัน ที่บริเวณใบหน้า หลีกเลี่ยงการใช้ครีมบ้ารุงผิวที่มีน้าหอมเพราะอาจท้าให้เกิด การแพ้และระคายเคอื งไดง้ า่ ย การดูแลและป้องกัน 2.1 ด่ืมน้าให้เพยี งพอกับความต้องการของรา่ งกาย เพ่ือช่วยเพ่ิมความชุ่ม ช้ืนให้กับผิว ในกรณีท่ีผู้สูงอายุมีโรคประจ้าตัว ได้แก่ โรคหัวใจ โรคไต ความดัน โลหิตสูง ควรปรกึ ษาแพทย์เพ่ือได้รับปริมาณน้าให้เพียงพอกับความต้องการของ ร่างกายและไมส่ ง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ อาการของโรค 2.2 หลีกเลี่ยงการอาบน้าอุ่นจัด หลังอาบน้าควรทาครีมที่มีส่วนผสมของ ครีมบ้ารุงผิว กรณีที่ผิวหนังมีขุย อาจเลือกครีมบ้ารุงที่มีส่วนผสมของกรดแลก ติกหรือไกลโคลกิ ช่วยขจดั ขุยที่ผิวหนัง ผลิตภณั ฑ์ที่ผสมยูเรีย หรอื ลาโนลนิ จะชว่ ย ให้ผวิ หนังช่มุ ชืน้ 2.3 หลีกเล่ียงแสงแดดจัด เพราะอาจท้าเกิดการระคายเคืองในผิวแห้งได้ ควรทาครีมกันแดดเป็นประจ้าทุกวันหลังทาบ้ารุงผิว เพ่ือป้องกนั แสงแดดกระตุ้น ใหเ้ กดิ การท้างานของเม็ดสีทีผ่ ดิ ปกติและเกดิ ปัญหาผิวตามมาได้
การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 121 3. กระเนอื (Seborrheic keratosis) พบมากในต้าแหน่งที่สัมผัสแสงแดด ได้แก่ บริเวณ ใบหน้า แขนด้านนอก และหลังมือ เป็นต้น ผิวจะมีลักษณะยกนูน ขรุขระ สีเนื้อ สีน้าตาลถึงด้า จัดเป็น เนื้องอกของชั้นหนังก้าพร้า (Epidermal tumor) พบมากในผู้ใหญ่ตอนปลาย และเพิม่ ขึ้นในผู้สูงอายุ ก้อนจะมีมีขนาดใหญ่ข้ึนแต่ไม่ใช่มะเร็งทผี่ ิวหนงั การเพิ่ม ของกระเน้ืออย่างรวดเร็ว อาจเปน็ อาการแสดงของมะเรง็ ท่ีพบในร่างกาย (Leser- Trélat Sign) เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร ล้าไส้ เป็นต้น สาเหตุท่ีท้าให้เกิดโรคมา จากกรรมพันธุ์ การสัมผัสแสงแดด การติดเชอ้ื ท่บี รเิ วณผวิ หนัง และการเปลี่ยนแปลง ของเซลลท์ ีผ่ ิวหนัง การรักษากระเนื้อ แพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยในการรักษา หากพบปัญหาไม่ มากจะใช้วิธีเอาออก (Shave excision) การจ้ีด้วยความเย็น (Liquid nitrogen therapy) หรือใช้ไฟฟ้าร่วมกับการขูดออก (Curettage with electrocautery) ในกรณีท่ีเปน็ มาก อาจใช้ยาทาและการลอกผิวร่วมด้วย ด้านการดูแลและป้องกัน ก็จะคล้ายกับโรคท่ีพบในผู้สูงอายุ โดยเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเป็นหลัก หลกี เลยี่ งแสงแดด ใส่หมวก กางร่ม ทาครมี กันแดดเปน็ ประจา้ ทกุ วัน วัยผู้สูงอายุจะมีการเส่ือมของสภาพร่างกายท่ีแสดงออกได้ชัดเจนทาง ผวิ หนัง โดยผู้สูงอายจุ ะมีผิวแห้ง เกิดรอยด้าและร้ิวรอยได้งา่ ย จึงต้องมีหลักการ ดแู ลใบหนา้ ของผสู้ งู อายุเพือ่ ปอ้ งกนั และลดปัญหาทีเ่ กิดกบั ผิวหนา้ ดงั นี้ 1. หลกี เล่ยี งการอาบนา้ อ่นุ จัด เพราะจะลดปริมาณไขมนั ท่ีผวิ หนังทา้ ให้ผิวแห้ง 2. ควรทาครมี บา้ รงุ ทกุ ครั้งหลงั อาบน้า ช่วยปอ้ งกนั ผิวแหง้ และลดอาการคันท่ีผิวได้ 3. หลีกเลยี่ งแสงแดดจัด กรณที ี่ตอ้ งสัมผสั กับแสงแดดควรทาครมี กันแดด กางร่ม ใส่หมวกเพอ่ื ปอ้ งกนั รงั สใี นแสงแดด ทา้ ใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงของเม็ดสี
122 การดูแลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 4. สังเกตและจดจา้ สง่ิ ท่ีทา้ ให้เกิดการแพ้และระคายเคืองท่ผี วิ 5. ด่ืมนา้ ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายอย่างน้อย 6-8 แก้ว เพื่อไม่ให้ ผิวแห้ง 6. หลีกเลย่ี งการเกา เพราะจะท้าให้ผวิ หนังบริเวณดังกล่าวเปน็ แผล มีการหนาตัว ของผิวหนัง กรณีมีอาการคันให้ใช้ยากลุ่มท่ีมีฤทธ์ิต้านฮิสตามีน ช่วยลดอาการ ดังกล่าวได้
การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 123 เอกสารอ้างอิง 1. กาญจนา จนั ทรส์ ูง และ ประณิธิ หงสประภาส. อาการวทิ ยาทางอายรุ ศาสตร์ ฉบับ เรยี บเรียงคร้งั ที่ 3. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 4. หจก. ขอนแก่น: โรงพมิ พ์คลังนานาวทิ ยา; 2559. 2. วรพล สุขีวัฒนา. Botox & Filler Bible. พิมพ์ครงั้ ท่ี 2. กรงุ เทพฯ: บริษัทอมรนิ ทร์ พร้นิ ต้งิ แอนด์พบั ลชิ ซ่ิง จา้ กดั . 2559. 3. วราภรณ์ จรรยาประเสรฐิ . นาโนเทคโนโลยใี นการน้าส่งทางผิวหนัง. พมิ พ์ครั้งที่1. กรุงเทพฯ: บรษิ ัทประชาชนจา้ กัด. 2555. 4. วาสนภ วชริ มน. 10 + โรคผิวหนงั ตอ้ งร.ู้ กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์; 2559. 5. วิทยา ศรีดามา. Clinical Practice Guideline 2010. พมิ พ์ครัง้ ที่ 1. กรุงเทพฯ: โรง พมิ พ์แหง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั . 2553. 6. วีรภาพ เมืองไพศาล. รู้จริงและเข้าใจ สุขภาพผุ้สูงวัยและภาวะสมองเสื่อม. กรุงเทพฯ: บริษัท วี. พร้ินท์ (1991) จ้ากัด. 2559. 7. ปรียา กุลละวณชิ ย์ และ ประวติ ร พศิ าลบตุ ร. ตา้ ราโรคผวิ หนงั ในเวชปฏบิ ัติปจั จบุ ัน Dermatology 2010. กรงุ เทพฯ: บริษัท โฮลสิ ตกิ พบั ลิชชิ่ง จา้ กัด. 2548 8. ปรยี า กลุ ละวณิชย์ และ ประวิตร พศิ าลบตุ ร. ตา้ ราโรคผวิ หนังในเวชปฏิบตั ปิ ัจจุบัน Dermatology 2020. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั โฮลสิ ติก พับลิชช่ิง จา้ กัด. 2555 9. เพลินพิศ ฐานวิ ัฒนานนท์. การดแู ลสูค่ วามเปน็ เลศิ ทางการพยาบาลตามกลุ่มอาการ ทพ่ี บ บ่อยในผู้สงู อายุ. พิมพ์ครั้งที่ 2. สงขลา: ชานเมอื งการพิมพ์. 2559. 10. เพ็ญวดี พัฒนปรีชากุล สุมนัส บุณยะรัตเวช และ วรัญญา บุญชัย. SIRIRAJ DERMATOLOGY DIGEST โรคผิวหนัง ไม่ผิวเผิน. พิมพ์ครั้งท่ี 2. กรุงเทพฯ: ห้าง หนุ้ สว่ นจ้ากดั ภาพพมิ พ. 2555. 11. ผ่องศรี ศรีมรกต. การพยาบาลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ เล่ม 1. กรงุ เทพฯ: ไอกรปุ๊ เพรส. 2551.
124 การดแู ลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 12. สมนึก กลุ สถติ พร. กายภาพบา้ บัดในผู้สูงอายุ. พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ: ออฟเซ็ท เพรส. 2549. 13. ศริ ิพันธ์ุ สาสัตย์. การพยาบาลผู้สูงอายุ. พิมพค์ รั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัทกราฟฟิค แมส จ้ากดั . 2551. 14. Desman GT and Barnhill RL. Barnhill’s Dermatopathology Challenge: Selt-Assessment & Review. Newyork: McGraw-Hill Education. 2016. 15. Kelly A.P. and Taylor S.C. Dermatology for Skin of Color. China: The McGraw-Hill Companies. 2009. 16. Lichterfeld A., Lahmann N., Blume-Peytavi U. and Kottner J. Dry skin in nursingcare receivers: A multi-centre cross-sectional prevalence study in hospitals and nursing homes. International Journal of Nursing Studies. 2016;56: 37-44. 17. Reszke R., Pelka D., Walasek A., Machaj Z. and Reich A. Skin disorders in elderly subjets. Inf Journal Dermatology. 2015; 54(9): 332-8. 18. Wise EM and Graber EM. Pearl: Comedone Extraction for Persistent Macrocomedones While on Isotretinoin Therapy. J Clin Aesthet Dermatol. 201; 4: 20-1. 19. Zouboulis CC., Katsambas A.D. and Kligman AM. Pathogenesis and Treatment of Acne and Rosacea. Spring-Verlag Berlin Heidelberg. 2014.
การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 125 Index A Acne, 94 Acyclovir, 113 Adult Facial Skin care, 93 AHA, 19, 106, 116 Alar part, 80 Alcohol pad, 18, 97 Aleo vera mask, 77 Alergic contact dermatitis, 110 Allylamines, 109 Alpha hydroxy acid, 106 Androgen, 6 Annular, 108 Arbutin, 106 Arrector pilli, 6 Axillary, 64 Azeleic acid, 95 Azoes, 109 B Blood vessels, 4 Beating, 35 Base cream, 66 Bearberry, 106
126 การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT B Benzoyl peroxide, 95 BHA, 116 Botox, 114 Brush, 18, 19, 37 Bowl, 23, 37 C Cervical nodes, 64 Chemical peeling, 96, 106 Chemical sunscreen, 106 Chloride, 6 Cholesterol, 4 Cleansing gel, 66 Cleansing sponge, 19 Clostridium Botulinum, 114 Coconut oil, 66 Cold pack, 107 Collagen, 4 Combination skin, 8, 10 Comedone remover, 97, 98 Comedone, 97 Compound type, 105 Compressor nails, 80 Contact Dermatitis, 110
การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 127 C Corrugator Supercilii, 79 Corticosteroid, 111 Cotton bud, 18, 37, 38 Cotton pad, 37 Cotton, 20 Cupping, 35 Curettage with electrocautery, 121 D Deep vascular plexus, 7 Dermal type, 105 Dermis, 1, 4 Dilator nails, 80 Dry Skin, 8, 9 E Early adulthood, 93 Early old age, 117 Edema, 62 Effleurage, 32, 33, 47, 49, 56, 76, 77 Elastic, 4 Elderly Facial Skin Care, 117 Emil Vodder, 64 Epidermal tumor, 121 Epidermal type, 105 Epidermis, 1, 2
128 การดแู ลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT E Epidermophyton spp., 108 Erythromycin, 96 Essential oil, 12 Eye cream, 18 F Face mask, 24 Facial cleansing gel, 17, 37 Facial implement, 18 Facial lift massage, 79, 82 Facial mask, 38, 57, 66 Facial massage cream, 17, 37 Facial massage preparation, 37 Facial moisturizer cream, 18 Facial moisturizer, 38, 60 Facial scrub cream, 37 Facial Scrub/exfoliation, 46 Facial scrub/exfoliator cream, 17 Facial scrub/exfoliator, 38 Facial tissue, 18, 37 Facial toner, 17, 38, 45 Fat absorption and Transportation, 63 Fibroblast, 4 Filler, 115 Fluconazole, 109
การดแู ลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 129 F Fluid balance, 62 Fraxel, 107 Free fatty acids, 4 Friction, 36, 46 Frontalis, 79, 84, 89 Fundamental facial lymphatic drainage procedure, 65 G Glove, 97 Glycolic acid, 96, 106 Griseofulvin, 109 Groin, 64 Gua sha, 87, 89 Gua sha therapy, 91 H Hacking, 35 Hair follicle, 6 Herpes simplex virus, 112 Herpes simplex, 112 HSV, 112 Hyaluronic acid, 115 Hydroquinone, 105 Hypodermis, 1, 6 I Inflammatory acne, 94
130 การดูแลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT I Inorganic sunscreen, 105 Intense pulsed light, 107 IPL, 107 Irritant contact dermatitis, 110 Isotretinoin, 95, 98 K Keratinocytes, 2, 3 Ketoconazole, 109 Kneading, 34 Knuckling, 34, 41, 50 Kojic acid, 106 L Lactate, 6 Langerhans, 2, 3 Laser, 107 Late old age, 117 Leser-Trélat Sign, 121 Licorrice, 106 Light Amplification by Stimulated Emission of Radiation, 107 Lipid, 4 Liquid nitrogen therapy, 121 Lubricant, 87 Lymph, 62 Lymphatic node, 62
การดแู ลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 131 L Lymphatic tissue, 62 Lymphatic vessels, 4 Lymphedema, 64 Lymphocytes, 3 M Macolides, 96 Make up remover, 38, 66 Manual lymphatic drainage, 64 Mask, 25, 37, 66, 97 Medium towel, 37, 66 Melanin, 2, 105 Melanocytes, 2, 105 Melasma, 104 Mentalis, 89 Merkel, 2 Microsporum spp., 108 Middle adulthood, 93 Middle age, 93 Middle old age, 117 Milking, 34 Minocycline, 95 Mucous membrane, 6 Myelin, 7
132 การดูแลรักษาใบหน้า FACIAL TREATMENT N Nasalis, 80 Neck pain, 91 Nerve, 4, 7 Non-inflammatory acne, 94 Normal skin, 8 NSS, 107 O Oily Skin, 8, 9 Orbicularis oculi, 79 Orbicularis oris, 80, 84 Organic sunscreen, 106 P P. acnes, 94, 95, 96 Papillary layer, 5 Papule, 94 Parotid lymph node, 71, 72, 73, 74, 75 Petrissage, 34 Photoallergic contact dermatitis, 110 Phototoxic contact dermatitis, 110 Physical sunscreen, 105 Pinching, 34, 53 Plastic spatula, 18, 21 Platysma, 80, 82 Potassium, 6
การดูแลรกั ษาใบหน้า FACIAL TREATMENT 133 P Pounding, 35 Preauricular nodes, 64 Proionibacterium acnes, 94 Pustule, 94 Q Q-switched, 107 Quacking, 35 R Reticular layer, 5 Retinoic acid, 105 Retinoids, 95 Right lymphatic duct, 62 Risorius, 80, 83 Robe, 66 Rolling, 34, 54 S Salicylic acid, 96 Sebaceous glands, 6 Seborrheic dermatitis, 111 Seborrheic keratosis, 121 Shaker, 36 Shave excision, 121 Skin appendage, 6 Small towel, 37, 66
134 การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT S Sodium, 6 Solar lentigo, 118 Sponge, 18, 37 Sterile needle, 97 Sterile, 98 Sternocleidomastoid, 80 Stratum basale, 2 Stratum corneum, 2, 3, 4, 99 Stratum germinativum, 2 Stratum granulosum, 2, 3 Stratum lucidum, 2, 3 Stratum spinosum, 2, 3 Stroking, 32 Subclavian vein, 62 Submandibular, 71 Superficial cervical lymph node, 71, 73 Superficial vascular plexus, 7 Supraclavicular nodes, 64 Sweat glands, 6 Symmetry, 104 T Tapotement, 35 Tapping, 35, 54 TCA, 106
การดูแลรกั ษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT 135 T Temporalis, 80 Terbinafine, 109 Tetracyclines, 95, 96 Therapist, 30 Thermal therapy, 91 Thoracic duct, 62 Tinea faciei, 108 Tissue, 21, 100 Top blanket, 37 Top towel, 66 Towel, 23 Transverse part, 80 Tray, 22 Tretinoin, 95 Trichloroacetic acid, 106 Trichophyton spp., 108 Triglycerides, 6 Tyrosinase, 105, 106 U Urea, 6 V Vacuum Comedone Remover, 100, 102 Valacyclovir, 113 Vibration, 36
136 การดูแลรักษาใบหนา้ FACIAL TREATMENT W Wax, 6 Welcome, 12 Wet cotton pad, 18, 66 Wringing, 34 Wrinkle, 113 X Xerosis, 119 Z Zygomaticus major, 80, 82, 83 Zygomaticus minor, 80, 82, 83
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145