Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน 2561

เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน 2561

Published by Bunchana Lomsiriudom, 2020-06-30 10:31:32

Description: เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน 2561

Keywords: เรื่องน่ารู้,ครูนกฮูก,กศน,เขตหนองแขม,กศน.เขตหนองแขม

Search

Read the Text Version

สัตวก์ ลุ่มน้ีส่วนใหญม่ ีสารท่ีชื่อวา่ ฮีโมไซยานิน (Hemocyanin) และคอปเปอร์ (ทองแดง) เป็นองคป์ ระกอบ ในเลือด ซ่ึงจะทาใหเ้ ลือดมีสีฟ้ าออ่ นหรือจางจนแทบไม่มีสี จึงอาจเป็ นสาเหตุที่ทาใหห้ ลายคนเขา้ ใจผดิ มา ตลอดวา่ ปูไม่มีเลือด โดยเลือดสีฟ้ าที่เกิดจากฮีโมไซยานิน (Hemocyanin) และคอปเปอร์น้นั มีประโยชน์ มากมายในทางการแพทย์ เนื่องจากมีคุณสมบตั ิที่ไวตอ่ ส่ิงเร้าเป็นพิเศษจนสามารถจบั เช้ือแบคทีเรียท่ีมี ปริมาณนอ้ ยนิดได้ (ปัจจุบนั มีการรีดเลือดจากแมงดาทะเลเพ่อื นามาใชท้ าวคั ซีนหรือยาตา้ นเช้ือท่ีมี ประสิทธิภาพสูง) สรุปง่ายๆก็คือ เลือดสีฟ้ าใส เกิดจาก ฮีโมไซยานิน + คอปเปอร์เลือดสีแดง เกิดจาก ฮีโมโกลบิน + เหล็ก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองที่ 330 ช่วงน้ีมีข่าววา่ ITU ไดอ้ อกมาประกาศมาตรฐาน 5G กนั แลว้ กม็ ีหลายคนอยากจะรู้วา่ 5G คืออะไร ใชท้ าอะไร แลว้ เราจะ ไดใ้ ชเ้ ม่ือไร วนั นผ้ มจะมาไข คาตอบกนั ครับ 1G - 5G คืออะไร 1G การคุยกนั ดว้ ยเสียง 2G รองรับ การส่งขอ้ ความหากนั 3G เชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตทว่ั ไป 4G ดูภาพและ เสียงได้ 5G การเชื่อมต่อส่ิงของทุก สรรพส่ิง 5G คืออะไร? 5G ที่เราเรียกๆกนั อยนู่ ี่ มนั ยอ่ มาจาก เจนเนอเรชนั่ ที่ 5 ของการส่ือสารดว้ ยโทรศพั ทม์ ือถือ (5th Generation of Cellular Mobile Communications) ซ่ึงปัจจุบนั ไดม้ ีขอ้ กาหนดออกมาเกือบสมบรู ณ์แลว้ และเตรียมจะ ประกาศใชใ้ นช่วงปี 2020 ที่จะถึงน้ี ปัจจุบนั เราจะไดเ้ ห็นการเตรียมพร้อมของแตล่ ะเครือขา่ ยทว่ั โลกพฒั นา ตนเองใหร้ องรับการมาของ 5G ต้งั แต่ปี หนา้ กนั แลว้ โดยคุณสมบตั ิของเครือขา่ ยท่ีจะเรียกตวั เองวา่ 5G ได้ น้นั จะมีดงั น้ี ความเร็วสูงสุด 10Gbps ระยะเวลาการเชื่อมต่อไปยงั ปลายทาง นอ้ ยกวา่ 0.001 วนิ าที มีความ เสถียรใชง้ านได้ 99.9999% ครอบคลุมพ้ืนที่ 100% มี Bandwidth เพิ่มข้ึน 1000 เทา่ ในแต่ละพ้ืนท่ี รองรับการ เช่ือมต่อจากอุปกรณ์ เพิม่ ข้ึน 100 เทา่ ในแตล่ ะพ้นื ท่ี ใชพ้ ลงั งานในการเชื่อมต่อนอ้ ยลง 90% อุปกรณ์ IoT พลงั งานต่าเม่ือเช่ือมต่อแบตจะมีอายกุ ารใชง้ านไดถ้ ึง 10 ปี เราจะไดป้ ระโยชน์อะไรจาก 5G? หลงั จากเห็นตวั เลขอะไรมากมายน่ามึนหวั สาหรับหลายๆคนมาแลว้ มา ลองดูการใชง้ านจริงกนั บา้ งดีกวา่ วา่ ถา้ เปลี่ยนจากตวั เลขเหล่าน้นั เป็นการใชง้ านจริง อะไรจะเกิดข้ึนไดบ้ า้ ง เพิม่ ศกั ยภาพการรับ-ส่งขอ้ มลู เม่ือมีความเร็วท่ีมากข้ึนแลว้ เราก็สามารถสตรีมวดิ ีโอความละเอียดสูงๆระดบั 4K, ทางานทุกอยา่ งอยบู่ น Cloud โหลดภาพโหลดขอ้ มูลต่างๆมาไดแ้ ทบจะทนั ท่ีที่ตอ้ งการ รองรับการ เช่ือมต่อจานวนมากๆได้ กส็ ามารถใชง้ านเหล่าอุปกรณ์ IoT ที่คาดกนั วา่ จะมีเพิม่ ข้ึนหลายร้อยเท่าตวั จากใน

ปัจจุบนั ลองนึกภาพส่ิงของทุกชิ้นท่ีเราใชง้ านในชีวติ ประจาวนั ท้งั รถยนต์ พดั ลม ประตูบา้ น โทรทศั น์ ตูเ้ ยน็ ไมโครเวฟ ฯลฯ เช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ตไดโ้ ดยไมต่ อ้ งใช้ WiFi แตผ่ า่ นเครือขา่ ยมือถือแทน การเชื่อมต่อ จะมหาศาลแคไ่ หน นน่ั เป็นเหตุผลวา่ ทาไม 5G จึงตอ้ งรองรับการเช่ือมต่อเพ่ิมข้ึนจากตอน 4G ถึง 10 เทา่ ตวั นน่ั เอง การเชื่อมต่อท่ีเสถียรและตอบสนองไว จนเราสามารถควบคุมอุปกรณ์ตา่ งๆระยะไกลไดแ้ บบไมต่ อ้ ง กงั วลถึงการดีเลยข์ องภาพและเสียง การศึกษาผา่ นระบบ AR, แพทยค์ วบคุมการผา่ นตดั จากท่ีอ่ืน หรือ ควบคุมรถยนตไ์ ร้คนขบั ก็จะสามารถทาไดอ้ ยา่ งไรกงั วลนน่ั เอง โดยสรุปคือในปี 2020 สาหรับคนไทยท่ี ตอ้ งการใช้ 5G เราจะมีเครือข่ายที่พร้อมใชง้ านแน่ๆแลว้ ไม่ตอ้ งห่วงวา่ เทคโนโลยบี า้ นเราจะตามใคร แตท่ ี่ ตอ้ งคิดมากกวา่ คือคนไทยที่มีความพร้อมใชง้ าน 5G น้ีจะมีมากเทา่ ไหร่ เตรียมพร้อมกบั ความเปลี่ยนแปลง ของโลกท่ีกาลงั จะมาเร็วๆน้ีหรือยงั ครับ เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี 331 วนั น้ีจะมาติว วิชาการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ า โวลล์ วตั ต์ แอมป์ แตกต่างกนั อยา่ งไร โวลท์ (volt หรือ V) คือ หน่วยท่ีใชเ้ รียกเพ่ือบอกขนาดของแรงดนั ไฟฟ้ าในบา้ น อาทิ 220 V หมายถึง ขนาดของแรงดันไฟฟ้ าเท่ากับ 220 โวลท์ (ประเทศไทยก็ใช้ไฟระบบน้ี) แอมแปร์หรือแอมป์ (ampere หรือ A) คือ หน่วยที่ใชเ้ รียกสาหรับบอกปริมาณของกระแสไฟฟ้ าที่ไหลผา่ น ตวั นา หรืออุปกรณ์ไฟฟ้ านนั่ เอง อาทิ 5 A หมายถึง ปริมาณกระแสไฟฟ้ าท่ีไหลผา่ นเท่ากบั 5 แอมแปร์ วตั ต์ (watt หรือ W) คือ หน่วยวดั กาลังไฟฟ้ าที่เป็ นตัวบอกพลังงาน ไฟฟ้ าของอุปกรณ์หรือเครื่องใชไ้ ฟฟ้ า แต่ละชนิดใช้ในการทางาน เช่น หลอดไฟ 100 วตั ต์ หมายความว่า หลอดไฟดวงน้ีกินไฟ 100 จูลย์ต่อ วินาทีนน่ั เอง ถา้ จะเทียบให้เห็นภาพ เปลี่ยนจากไฟฟ้ าเป็ นน้าไหลVolt คือ ความดันของป๊ัมน้า ยิ่งดันแรงน้าย่ิง ไหลไวAmp คืออตั ราการไหลของน้าในท่อWatt คือหน่วยวดั กาลงั ท่ีไดจ้ ากการเอาน้ามาหมุนใบพดั (เท่ากบั แรงดนั ของน้า * อตั ราการไหลของน้าในท่อ) (เวลาจะหมุนกงั หนั น้า โดยการเอาน้าฉีดกงั หนั , เราจะทาให้ กงั หนั หมุนเร็วข้ึนไดส้ องวธิ ีคือ เพิ่มแรงดนั ของน้าท่ีฉีดใส่ หรือเพิ่มขนาดหนา้ ตดั ท่อใหม้ ีปริมาณน้าท่ีฉีดใส่ กงั หนั มากข้ึน)

เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องที่ 332 ช่วงน้ีมีข่าวเล้ียงโต๊ะจีนบ่อย เลยอยากนาเสนอท่ีมา ของโต๊ะจีนครับ โต๊ะจีนแสดงว่าไม่ใช่ของคนไทย ต้นกาเนิดโต๊ะจีน ได้เข้ามาในประเทศไทยคงต้อง เทา้ ความไปไกลถึงสมยั กรุงศรีอยุธยา ท่ีสมยั น้นั มีชาวจีนเยอะ การกินแบบคนจีนคือการนงั่ กินบนเกา้ อ้ี ซ่ึง แตกต่างจากคนไทยที่นงั่ กินบนพ้นื เพราะเป็นวฒั นธรรมจีนที่สืบกนั ต่อมาอยา่ งยาวนาน แต่เกา้ อ้ีที่วา่ ก็ไม่ได้ หมายถึงเกา้ อ้ีสูงๆเท่าน้นั มีเกา้ อ้ีเต้ียๆก็มี ส่วนการนงั่ ทานก็นง่ั รอบวงกนั กินพร้อมๆกนั บนโต๊ะอาหารก็มี อาหารหลายๆอยา่ งให้เลือกทานอยา่ งนอ้ ย 8-10 อย่าง ที่มาของการกินโตะ๊ จีนจุดเริ่มตน้ ของการกินโต๊ะจีน น้นั สันนิษฐานวา่ น่าจะมาจากวฒั นธรรมในการทานอาหารของคนจีน เพราะคนจีนมกั อยกู่ นั เป็ นครอบครัว ใหญ่ และมกั อยู่อาศยั ในบา้ นเดียวกนั เป็ นลกั ษณะท่ีเรียกว่า \"กงสี\" ทาให้เกิดวฒั นธรรมการทานอาหาร ร่วมกนั แบบนง่ั ลอ้ มโต๊ะพร้อมหนา้ กนั ในหมู่ ญาติ พี่นอ้ ง มีขอ้ สันนิษฐานอีกว่าที่คนจีนมกั ใช้โต๊ะกลมเป็ นโต๊ะอาหาร แทนท่ีจะเป็ นโต๊ะ ทรงสี่ เหล่ียมผืนผ้าแบบที่นิยมใช้ในชาติ ตะวนั ตก ก็เพราะคนจีนตอ้ งการสอนลูกหลาน ให้มีความรักใคร่กลมเกลียวกันในหมู่ญาติพี่ นอ้ ง และไม่มีเล่ห์เหลี่ยมต่อกนั นนั่ เอง อาหาร บนโตะ๊ จีนมีหลากหลาย และใชต้ ะเกียบเป็นอุปกรณ์ในการทานเป็ นหลกั อาหารท่ีทานกนั บนโตะ๊ จีนจะเป็ น อาหารที่ปรุงสาเร็จพร้อมรับประทานไดท้ นั ที ตามหลกั ของเต๋า คือความพอดี อาหารทุกอยา่ งจะถูกคานึงถึง เรื่องรสชาติและความสมดุล ไม่ว่าจะเป็ นเน้ือสัตว์ ผกั หรือเครื่องปรุง เคร่ืองเทศต่างๆท่ีนามาใช้ การ รับประทานอาหารโต๊ะจีนตอ้ งทานกนั หลายคนและไม่รีบร้อน เพ่ือให้ผูร้ ับประทานได้ลิ้มรสอาหารและ สนทนากนั ซ่ึงอาหารที่จะนามาเสิร์ฟบนโต๊ะจีนก็มกั จะเป็ นอาหารที่มีความหมายเป็ นสิริ มงคลอีกด้วย นอกจากน้ีในการเจรจาการคา้ ของคนจีนกม็ กั จะทาบนโตะ๊ อาหารในลกั ษณะน้ีเช่นกนั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องท่ี 333 วนั น้ีขอนาเสนอ เร่ืองราวของ ‘รูปป้ันโมอาย แห่ง เกาะอีสเตอร์’‘โมอาย’ (Moai) รูปป้ันหินขนาดยกั ษแ์ กะสลกั เป็ นรูปหนา้ คนสุดแปลกแห่งน้ี ต้งั อยบู่ นเกาะอี สเตอร์ (Easter Island) ภายในอุทยานแห่งชาติราปานูอี ประเทศชิลี จากการสารวจพบว่า มีรูปป้ันโมอาย มากกวา่ 600 ตวั กระจดั กระจายอย่รู อบเกาะ โดยโมอาย ขนาดทวั่ ไป สูงประมาณ 3.5 เมตร หนกั 20 ตนั ส่วน ขนาดที่ใหญ่ท่ีสุดน้นั สูงประมาณ 10 เมตร หนกั กวา่ 82 ตนั เลยทีเดียว โมอายเกือบท้งั หมดถูกแกะสลกั มาจากหิน กอ้ นเดียวกนั นน่ั คือหินภูเขาไฟจากเหมืองหินราโนรารา คู (Rano Raraku) ซ่ึงเป็ นสถานท่ีแกะสลกั และยงั พบอีก วา่ มีโมอายกวา่ 400 ตวั ท่ียงั อยใู่ นกระบวนการแกะสลกั

ณ เหมืองหินที่ถูกทิ้งร้างแห่งน้ี นกั โบราณคดีสันนิษฐานว่า รูปป้ันโมอายเป็ นผลงานของชาวโพลีนีเซียน (Polynesian) ที่เขา้ มาปกครองเกาะแห่งน้ีในช่วงปี ค.ศ. 1250 โดยเช่ือวา่ ชาวโพลีนีเซียนสร้างโมอายข้ึนมา เพอ่ื เป็นตวั แทนของบรรพบุรุษผลู้ ่วงลบั หรือเป็นตวั แทนของบุคคลสาคญั ในยคุ สมยั น้นั และจากการสารวจ ของนกั โบราณคดีท่ีพยายามขดุ ลงไปเพอื่ ศึกษาส่วนลาตวั เพิ่มเติมพบวา่ มีการแกะสลกั รูปสัญลกั ษณ์ต่างๆ ที่ ไมม่ ีใครสามารถถอดความหมายได้ บา้ งก็เชื่อวา่ น่ีเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของผลู้ ่วงลบั หรืออาจจะเป็ นรอย สักของคนในยคุ สมยั น้นั แต่เหตุผลท้งั หมดท้งั มวลน้ีเป็ นเพียงแค่ขอ้ สันนิษฐานเท่าน้นั การสร้างโมอายท่ีมี ความสูงกวา่ 3 เมตร และหนกั มากกวา่ 10 ตนั หาใช่เรื่องง่ายสาหรับคนในยุคโบราณท่ีไม่มีเคร่ืองทุ่นแรง ใดๆ ไม่ หากแต่ปริศนาสาคญั ท่ีนกั โบราณคดีต่างพากนั สงสัยคือ พวกเขาใชว้ ิธีการใดในการเคลื่อนยา้ ยรูป ป้ันโมอายขนาดมหึมาที่สร้างเสร็จแลว้ ไปยงั บริเวณต่างๆ ที่ตอ้ งการ และวตั ถุประสงคห์ ลกั ในการสร้างน้นั คืออะไร ปริศนา ที่ยงั คลุมเครือและยงั ไม่มีใครสามารถหาคาตอบที่ชดั เจนได้ แต่ก็มีชาวทอ้ งถิ่นจานวนไม่ นอ้ ยท่ีเชื่อวา่ รูปป้ันเหล่าน้ีเดินข้ึนมาเองจากทอ้ งทะเล นอกจากน้ีในบรรดารูปป้ันหินโมอาย ยงั มีรูปป้ันหิน โมอายท่ีโดดเด่นกวา่ รูปป้ันอนั อ่ืน มนั ถูกต้งั ชื่อวา่ ‘ตคู ูตูริ’ (Tukuturi) ที่แกะสลกั จากหินสคอเรีย สาเหตุท่ีมนั แตกต่างจากรูปป้ันตวั อ่ืนเพราะมนั อยู่ในท่าคุกเข่าแทนที่จะยืนตรง อาจเป็ นไปได้ว่ามนั ถูกสร้างมาเพื่อ พิธีกรรมบางอยา่ งของชาวโพลีนีเซียนโบราณ ในตานานของเกาะน้นั กล่าวถึงหวั หนา้ เผา่ ซ่ึงเสาะหาท่ีต้งั บา้ น ใหม่ และเขาไดเ้ ลือกหมู่เกาะอีสเตอร์ หลงั จากท่ีหวั หนา้ เผา่ ตายไป เกาะก็ไดถ้ ูกแบ่งให้เหล่าลูกชายของเขา เพอ่ื ใหเ้ ป็นหวั หนา้ เผา่ ใหม่ เม่ือหวั หนา้ เผา่ คนใดตายไปก็มีการนาโมไอไปต้งั ไว้ ณ สุสาน ชาวเกาะท้งั หลาย เชื่อวา่ รูปป้ันโมไอจะรักษาจิตวญิ ญาณของหวั หนา้ เผา่ เหล่าน้นั ไว้ เพื่อใหน้ าส่ิงดี ๆ มาสู่เกาะ เช่น ฝนตก พืช พรรณสมบูรณ์ อยา่ งไรก็ตาม ตานานน้ีอาจมีการบิดเบือนไปจากความจริงเนื่องจากไดม้ ีการเล่าสืบต่อกนั มา เป็ นระยะเวลายาวนาน เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี 334 ตวั ตลกหนา้ ตาตลกๆ(แต่ผมวา่ สยอง) หนา้ ขาวๆ จมูก แดงๆ หวั หยกิ หยอง มีท่ีมาจากนกั แสดงตลก ชาวองั กฤษ เช้ือสายอิตาเลียนนามวา่ \"โจเซฟ กริมาลดี\"(Joseph Grimaldi) ในช่วงต้น ศตวรรษท่ี 19 ซ่ึงไดเ้ พน้ ทห์ นา้ ตาของตนเป็ น สีขาว และตกแต่งด้วยสีสันต่างๆเวลาแสดง โชว์ กริมาลดิจะออกมาให้ความบนั เทิงกบั ผูช้ มโดยการแต่งหนา้ เป็ นตวั ตลก เอาเส้ือผา้ โป่ งๆพองสีฉูดฉาดมาใส่ แลว้ ก็ออกมาแสดง ทา่ ทางซุ่มซ่าม ป้ าๆเป๋ อๆให้ผชู้ มไดห้ วั ร่อกนั และตวั ตลกของกริมาลดิจะมีอย2ู่ แบบดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ตวั ตลกหนา้ ขาว(Blanc) หรือ \"ตวั ตลกผเู้ ศร้าสร้อย\"(Sad clown) สาหรับบทน้ี เจา้ หน้าขาวมกั จะมีอารมณ์ที่ค่อนสร้างเศร้าสร้อย และทาตวั ซุ่มซ่ามไม่ระมดั ระวงั

เพราะเศร้าเกินกวา่ จะใส่ใจกบั อะไรสาหรับบทต่อมา คือ โอกุสต(์ Auguste)หรือ \"ตวั ตลกผสู้ ุขสันต\"์ (Happy clown) มกั จะแต่งหนา้ ดว้ ยสีที่ฉูดฉาดกวา่ สีขาว เป็นตวั ตลกอารมณ์ ดีท่ีมกั จะเทาอะไรดว้ ยความอยากรู้อยาก เห็นอยากลองอยู่เสมอๆ แลว้ ก็ซุ่มซ่ามตามเคย อารมณ์เดียวกบั มิสเตอร์บีนน่นั แหละครับและการแสดง ดงั กล่าวของกริมาลดิกไ้ ดร้ ับผลตอบรับเป็ นอยา่ งดี จนกระทง่ั อีกกวา่ ทศวรรษใหห้ ลงั นกั แสดงชาวอเมริกนั นาม\"(George L. Fox) ไดน้ าเอารูปแบบตวั ตลกของกริมาลดิไปเผยแพร่ต่อในงานละครสัตวท์ ่ีอเมริกา จนตวั ตลกไดก้ ลายมาเป็นของคู่กบั ละครสตั วใ์ นเวลาต่อมาจากน้นั เป็ นตน้ มา บรรดาละครสัตวก์ ็มกั จะมีตวั ตลกไว้ คอยใหค้ วามสะดุง้ เอย๊ ย สนุกสนาน แก่ผมู้ าเยยี่ มชมเสมอ พร้อมกบั เสียงร้องไหจ้ า้ ของเด็กเลก็ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องท่ี 335 เวลาเราเห็นแฟนๆนกั ร้องเกาหลี เรียกนกั ร้องเกาหลีวา่ โอปป้ า แลว้ ทราบกนั ไหมครับวา่ โอปป้ า น้ีแปลวา่ อะไร คาวา่ โอปป้ า แปลวา่ พช่ี าย เป็นคาที่นอ้ งสาวใช้ เรียกพชี่ าย ส่วนคาบอกสถานะอ่ืนๆ ก็ ออนนี่ นอ้ งสาวเรียกพี่สาว ฮยอง นอ้ งชายเรียกพ่ีชาย นูนา นอ้ งชายเรียกพี่สาว นมั ดงแซง นอ้ งชาย ยอดงแซง นอ้ งสาว นมั จา ผชู้ าย ยอจา ผหู้ ญิง ยอดง พส่ี าวเรียกนอ้ งสาว ฮยองซู พ่ีสะใภ้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม เรื่องท่ี 335 เวลาเราเห็นแฟนๆนกั ร้องเกาหลี เรียกนกั ร้องเกาหลีวา่ โอปป้ า แลว้ ทราบกนั ไหมครับวา่ โอปป้ า น้ีแปลวา่ อะไร คาวา่ โอปป้ า แปลวา่ พี่ชาย เป็นคาที่นอ้ งสาวใช้ เรียกพชี่ าย ส่วนคาบอกสถานะอ่ืนๆ ก็ ออนน่ี นอ้ งสาวเรียกพสี่ าว ฮยอง นอ้ งชายเรียกพชี่ าย นูนา นอ้ งชาย เรียกพ่สี าว นมั ดงแซง นอ้ งชาย ยอดงแซง นอ้ งสาว นมั จา ผชู้ าย ยอจา ผหู้ ญิง ยอดง พีส่ าวเรียกนอ้ งสาว ฮยองซู พส่ี ะใภ้

เร่ืองน่ารู็กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องที่ 336 วนั น้ีไดฟ้ ังข่าวมีคนขโมยขุดศพเด็กในป่ าชา้ ก็เลย สงสัยวา่ ทาไม ถึงเรียนกวา่ ป่ าชา้ คาวา่ ป่ าชา้ มีผรู็ ู้ ค่ือศาสตราจารย์ ดร. ประเสริฐ ณ นคร ราชบณั ฑิตสาขา ภาษาไทย ท่านไดส้ มมุติฐาน วา่ ป่ าชา้ น่าจะมาจาก ป่ า ท่ีมาจาก ที่ท่ีมีตน้ ไมจ้ านวนมาก กบั คาว่า ช้า ท่ีมาจากคาวา่ ไม่ดี ความไม่ดี เช่น ชวั่ ชา้ รวมกนั ได้ ป่ าช้าคือ ป่ าที่ไม่ดีคนไม่ชอบ ป่ าอัปมงคล สมยั โบราณ ในอินเดีย ป่ าชา้ จะใชเ้ ป็ นที่ทิ้งศพ เขา ไมเ่ ผา คนไม่ค่อยเขา้ ไป มีสัตวร์ ้ายที่กินทรากสัตว์ เช่น สุนัขป่ า งู ตะกวด ฯลฯ อาจเป็ นอนั ตรายได้ พระภิกษุในยุคโบราณสามารถปลีกวิเวก เขา้ ไป พิจารณานั่งดูศพ เพื่อปลงอสุภกรรมฐาน เป็ น ประโยชน์ต่อการปฏิบตั ิธรรม ในเมืองไทย ตาม ชุมชน หมบู่ า้ นตา่ งๆ กน็ ่าจะมีป่ าชา้ อยใู่ กลๆ้ มาตงั้ แต่โบราณ เพราะธรรมเนียมโบราณ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ เมื่อมีคนตาย ชาวบา้ นเขาจะรีบหามเอาไป ฝัง จากน้นั หลายๆ เดือนตอ่ มา พอเน้ือหนงั ตา่ งๆ ยอ่ ยสลายหมดแลว้ เหลือแต่กระดูก ลูกหลานและญาติก็จะ ขดุ กระดูกข้ึนมาทาพธิ ีเผาอีกทีหน่ึง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องที่ 337 วนั น้ีไดม้ ีโอกาสดูรายการทางโทรทศั น์ เป็ นรายการพ ยากรณืดวงชะตาในปี 2562 กเ็ ลยสงสัยวา่ เรา อยู่ราศีใดกันแน่ การนับราศีที่แท้จริงเป็ น แบบใด ราศี ท่ีมีการแบ่ง เป็ น 2 อยา่ ง แบบท่ี 1 15 เมษายน-15 พฤษภาคม (เร่ิมท่ี กลางเดือนของราศีน้นั ) แบบท่ี 2 21 มีนาคม- 20 เมษายน (เร่ิมราววนั ท่ี 21-23 ของเดือน ก่อน)แบบที่ 1 น้นั นะครับ เป็น ราศีที่เป็ น หมู่ ดาวบนฟ้ าจริงๆ ครับซ่ึงเป็ นแบบด้งั เดิม ท่ี แขก ไทย ใชอ้ ยู่มีจุดเร่ิมตน้ ราศีแรก คือ ราศีเมษบนฟ้ าจริง เม่ือราวกลางเดือนเมษา เป็ นตน้ ไปในแต่ละปี ส่วนอีกแบบหน่ึง เป็ น ราศีที่ไม่ไดเ้ กิดจากการอา้ งอิงหมู่ดาวบนฟ้ าจริงๆ ครับแต่อาศยั จุดอา้ งอิงพิเศษที่มา จากการตดั กนั ของเส้นผ่าศ.ก.ฟ้ า ซ่ึงอิงจากโลกเอา กบั เส้นสุริยวิถี (เส้นท่ีพระอาทิตยโ์ คจรรอบโลก ใน ฐานะสังเกตบนโลก)จุดตดั น้ี เรียกว่า จุด วิษุวตั หรือฝร่ังเรียกวา่ จุด Equinoxไม่ไดเ้ กิดจากการแบ่งหมู่ดาว บนฟ้ าจริงๆอย่างคนโบราณท่ีอาศยั หมู่ดาวบนฟ้ าจริง เป็ นเครื่องสังเกต ครับ ซ่ึง แต่ละปี จะเริ่มตน้ เอาเมื่อ ราววนั ที่ 21 มีนาคม ของทุกปี ราศีแบบหลงั น้ี เป็ นแบบเสมือนเป็ นแบบฝรั่ง ทางตะวนั ตกใชแ้ บ่งราศีกนั ถา้

ถามวา่ แบบไหนถูก ตอบวา่ ถูกไปตามนิยามแบบน้นั ๆครับ และในภาคคานวณ หากแบ่งแบบไหน พอใน ภาคทานาย ก็พงึ ใหอ้ าศยั แนวทางน้นั ทานายครับ จะไมน่ ามาปะปนกนั เวลาอา่ นดวงก็ดูดว้ ยนะครับวา่ เขาอิง ตามตาราใด เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองที่ 338 ในทางโหราศาสตร์ซ่ึงเป็ นศาสตร์แห่งการพยากรณ์ เช่ือวา่ กลุ่มดาวจกั รราศีมีท้งั หมดเพียง 12 กลุ่มเท่าน้นั แต่ในทางดาราศาสตร์ยอมรับว่าดวงอาทิตยไ์ ดเ้ ดิน ทางผา่ นกลุ่มดาวท้งั หมดในรอบ 1 ปี ถึง 13 กลุ่ม ดว้ ยกนั ซ่ึงดาวกลุ่มท่ี 13 มีชื่อวา่ กลุ่มดาวคนแบกงู หรือ กลุ่มดาว ออฟิ อุคคสั (Ophiuchus) ซ่ึงอยู่ ระหวา่ งกลุ่มดาวแมงป่ อง และกลุ่มดาว คนยิงธนู กลุ่มดาวคนแบกงู นับเป็ น กลุ่มดาวขนาดใหญป่ ระมาณ 25 ดวง ซ่ึง จะปรากฎอยบู่ นทอ้ งฟ้ าในช่วงฤดูหนาว แต่อาจสังเกตุไดย้ ากเน่ืองจาท กมีแสง ที่ริบหร่ีมาก แต่ถึงกระน้ันกลุ่มดาวคน แบกงูน้ีกลบั เป็ นท่ีรู้จกั กนั มาต้งั แต่สมยั กรีก ท้งั ยงั ปรากฎรายช่ือในตาราดารา ศาสตร์ของโรมนั ท่ีรวบรวมกลุ่มดาวท้งั 48 กลุ่ม ในซีกโลกเหนือไวด้ ว้ ย ตามตานานกรีกเล่าวา่ กลุ่มดาวน้ีคือตวั แทนของแพทยอ์ จั ฉริยะชาวกรีกนาม วา่ แอสคลีปิ อุส (Asclepius) ซ่ึงวนั หน่ึงเขา้ ไดล้ ่วงรู้ความลบั การทาใหช้ ีวติ เป็นอมตะจากการสังเกตสมุนไพร ที่งูนามากินเป็ นประจา เม่ือมหาเทพซุสไดร้ ู้เขา้ จึงทาการสังหาร แอสครีปิ อุส ทนั ที เพื่อไม่ให้ความลบั ของ สวรรค์ร่ัวไหลและเพ่ือรักษาสมดุลของโลกมนุษยไ์ ว้ จากน้ันซุสจึงนาดวงวิญญาณของ แอสครีปิ อุส ไป ประดบั เป็ นกลุ่มดาวคนแบกงูบนทอ้ งฟ้ า เพื่อไวอ้ าลยั และระลึกถึงเขาเหตุผลปัจจยั หน่ึงท่ีแบ่งเพียง 12 ราศี ไม่แบ่ง 13 ราศี ก็เพราะ เลข 12 มีตวั หารไดค้ ือ 2,3,4,6,12 และทาให้สามารถแบ่งย่อยๆ ไดเ้ ป็ นตวั หาร 24 ชวั่ โมงตอ่ วนั ตลอดจน ขยายออกไปไดถ้ ึง 360 ส่วนเท่าๆกนั ซ่ึงใกลเ้ คียงกบั ระยะเวลา 1 ปี 365 วนั เศษ ได้ ง่ายกวา่ ใช้ 13 ราศี สาหรับ 360 ส่วนเทา่ ๆกนั ของ วงรอบ 1 รอบ จึงเป็นที่มาของมุม ในวงกลม แบ่งเป็ น 360 องศา นนั่ เอง ส่วน 1 วนั ขอบฟ้ าของโลก มีการยา้ ยราศีทุกๆ ราว 2 ชม. จึงเป็ นท่ีมาของ 12x2 =24 ชม.ต่อ 1 วนั นน่ั เอง เป็นเร่ืองของ หลกั การหา ตวั คูณร่วมนอ้ ย/ หารร่วมมาก เพ่ือความสะดวกลดทอนในการคานวณ ดว้ ยครับคนโบราณจึงเลือกใช้ 12 ราศี ที่ simplified กวา่ 13 ราศี อยมู่ ากหลกั การแบ่ง 13 อาจจะมีในวิธี มุมมองจากการสงั เกต แต่ในความเรียบง่าย ระบบ 12 ราศี จึงเป็ นถูกนามาเป็ นหลกั การแบ่งราศีและเรียก 12 ราศีวา่ \"ทวาทศราศี\" ตามท่ีปรากฏในคมั ภีร์, ปกรณ์โบราณต่างๆครับ

เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองที่ 339 ทวั่ โลกในวนั ที่ 25 ธนั วาคม เป็ นวนั ฉลองวนั แห่ง ความสุข แต่สาหรับในประเทศโรมาเนีย ในวนั น้ีเป็ นวนั ฉลองวนั แห่งอิสรภาพ อิสรภาพท่ีแลกด้วยเลือดและเน้ือของ ช า ว โ ร ม า เ นี ย จ า ก ก า ร ป ล ด แ อ ก คอมมิวนิสต์ นบั ต้งั แต่สิ้นสงครามโลก คร้ังที่ 2 ในปี 1944 โรมาเนียกลายเป็ น ป ร ะ เ ท ศ ที่ ป ก ค ร อ ง ด้ ว ย ร ะ บ อ บ คอมมิวนิสต์อย่างเขม้ งวด โดยการนา ของทรราชเชาเชสคู และหน่วยตารวจ ลบั ซิกูริตาเต้ คุณภาพชีวติ ของประชากร ยา่ แยอ่ ยา่ งถึงขีดสุด แต่เม่ือฟ้ าในยโุ รปตะวนั ออกเปล่ียนสีดว้ ยนโยบายกราสนอต และเปเรสทรอยกา้ ทาให การเมืองในประเทศยโุ รปตะวนั นออกเปลี่ยนไป การลม้ ระบอบคอมมิวนิสตเ์ กิดข้ึนทวั่ ยุโรปตะวนั ออก จาก โปแลนด์ สู่ฮงั การี่ เยอรมนั ตะวนั ออก และมาถึงโรมาเนียในเดือนธนั วาคม 1989 โดยเร่ิมจากการประทว้ งท่ี เมืองทิมิสซัวร่า อนั เกิดจากการที่หน่วยซิกูริตาเตเ้ ขา้ จบั บาทหลวงชาวโรมาเนียเช้ือสายฮงั การ่ี ที่ไดร้ ับการ เคารพอยา่ งสูง จากการขอให้ทางการปล่อยบาทหลวงกลายเป็ นการเรียกร้องเสรีภาพ ซ่ึงลุกลามดุจไฟไหม้ ฟาง จาก ทิมิส ไปยงั บราซอฟ คอนสแตนตา้ บูคาเรสต์ และลามไปทว่ั ประเทศอยา่ งรวดเร็ว เชาเชสคูตกใจ กบั การลุกฮือของประชาชนคร้ังน้ีเป็นอยา่ งยง่ิ และไดส้ ัง่ ให้ หน่วยซิกูริตาเต้ และกองทพั เขา้ ปราบปรามอยา่ ง รุนแรง แต่กองทพั โรมาเนียเปล่ียนใจเขา้ ขา้ งประชาชน แลว้ เขา้ ต่อสู้กบั หน่วยซิกรู ิตาเต้ อยา่ งดุเดือด ทาให้ ประชาชนชาวโรมาเนียเสียชีวิตหลายพนั ศพ การต่อสู้ยาวนานนบั อาทิตย์ จนกระทงั่ สิ้นสุดลงดว้ ยการท่ีเชา เชสคู และครอบครัวหลบหนีออกจากกรุงบูคาเรสต์ แต่ก็ถูกจบั ไดแ้ ละถูกประหารชีวิตท้งั นิโคไล และอีเลีย น่า เชาเชสคู ผเู้ ป็นภรรยา สิ้นสุดการปกครองดว้ ยระบอบคอมมิวนิสต์ อนั ทารุณที่ต่อเน่ืองยาวนานกวา่ 50 ปี ในโรมาเนียลง ในวนั น้นั ผมยงั เด็กมากแต่เห็นการต่อสู้ของพวกคุณในวนั น้นั ทา ให้ผมรักพวกคุณอยา่ งสุด หวั ใจ ขอบคุณท่ีคุณสู้เพ่ืออิสรภาพ ขอบคุณที่พวกคุณแสดงใหเ้ ห็นถึงความรักชาติ สาหรับผมแลว้ วนั ที่ 25 ธนั วาคม จะไมใ่ ช่วนั คริสตม์ าสแตจ่ ะเป็นวนั ฉลองอิสรภาพ ของชาวโรมาเนีย

เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี 340 เคยสงสัยกันบ้างไหมค่ะว่า ทาไมบางทีในวนั คริ สต์มาส แทนท่ีจะเขียนว่า \"Merry Christmas\" แต่กลบั เขียนวา่ \"Merry X'mas / Merry Xmas\" มาค่ะวนั น้ีเรามีเฉลย เป็ นท่ี ทราบกนั ดีว่า \"X'mas\" น้นั มีความหมายถึง \"Christmas\" ซ่ึงคาว่า \"X'mas\" น้ันถือว่า เป็ นคาย่อของคาว่า คริสต์ ซ่ึงคาว่า Christ น้ัน ภาษากรีกใช้คาว่า Christmas และ พยญั ชนะ ch ของกรีกเท่ากบั พยญั ชนะ x ฉะน้นั x จึงกลายเป็นคายอ่ ของ Christ โดยเฉพาะ ซ่ึงแต่แรกเริ่มน้นั ก็เขียนวา่ \"Christmas\" กนั ตามปกติ แต่ เม่ือยคุ สมยั เปลี่ยนไปกเ็ ร่ิมมีการนาเอาคาวา่ \"X'mas\" มาใชแ้ ทน ซ่ึงจากหลกั ฐานปรากฎวา่ การใช้ \"X\"เป็ นคา ยอ่ แทนคาวา่ \"Christ\"น้นั ปรากฎคร้ังแรกไม่เกิน ค.ศ. 1100 และคาวา่ \"X'mas\" ปรากฎข้ึนคร้ังแรกในปี ค.ศ. 1551จะวา่ ไปคาวา่ \"X'mas\" ถือไดว้ า่ เป็นการเขียนท่ีไมถ่ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษาเท่าไหร่นกั สาหรับชาวต่างชาติ บางคนที่เคร่งครัดการใชภ้ าษาจริง ๆ อาจจะไม่ใชค้ าน้ีกนั แต่สาหรับวยั รุ่นทวั่ ๆ ไปน้นั อาจจะนิยมเขียนกนั มากกว่า ที่จริงฝรั่งเองเขาไม่ชอบเขียนคา X'mas แทน Christmas เท่าใดนกั และจดั ไวว้ า่ เป็ นภาษาท่ีไม่มี ระดบั หนงั สือฝร่ังบางเล่มถึงกบั ไม่ยอมใชค้ าน้ีเลยก็มีถา้ จะให้เปรียบกบั ภาษาไทยแลว้ เราวา่ น่าจะคลา้ ยกบั คาวา่ อยา่ งไร ซ่ึงเป็ นคาที่ใชม้ ากในภาษาเขียน แต่สาหรับเด็ก ๆ ทว่ั ไปหรือคนทวั่ ๆ ไปมกั จะใชค้ าวา่ ยงั ไง มากกวา่ นน่ั เองเอาล่ะจา้ ยงั ไงกร็ ู้ท่ีมาที่ไปของคาคาน้ีกนั ไปแลว้ ต่อไปน้ีไม่วา่ จะใชค้ าวา่ \"X'mas\" หรือคาวา่ \"Christmas\" กแ็ ลว้ แตย่ งั ไงกถ็ ือวา่ ใชไ้ ดเ้ หมือน ๆ กนั นะจะ๊ เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี 341 วนั น้ีเป็ นวนั ปฏิวตั ิโรมาเนีย (25 ธนั วาคม) เมื่อพดู ถึง ประเทศโรมาเนียสิ่งแรกท่ีเราจะนึกถึงคือ แดร็กคูล่า แดร็ก คูล่า คือตานานที่ถูกเล่าขานมานานจนถึงปัจจุบันของ เจา้ ชายผซู้ ่ึงถูกกล่าวหาวา่ เป็ นแวมไพร์ หรือ ผดี ูดเลือด แต่ เม่ือไรท่ีกล่าวถึง แดร็กคูล่าน้นั คนส่วนมากจะจินตนาการ ถึงเจา้ ชาย ผซู้ ่ึงใส่เส้ือคลุมยาวสีดา มีเข้ียวที่แหลมคม และ ตื่นข้ึนมาตอนกลางคืนซ่ึงภาพเหล่าน้นั คือจินตนาการจาก ภาพยนตร์ที่ถูกถ่ายทอดออกมา แต่ในความเป็ นจริงแล้ว แดร็กคูล่ามีตัวตนอยู่จริงในยุคสมยั กลาง มีพระนามว่า เจา้ ชายวลา้ ดท่ี 3 มีตน้ กาเนิดมาจากประเทศโรมาเนีย ที่ซ่ึง ผคู้ นกล่าวครวญกนั ว่าเป็ นประเทศแห่งตานาน และความ ล้ีลบั เจา้ ชายวลา้ ดที่ 3 ( แดร็กคูล่า ) หรือท่ีรู้จกั ในนาม วลา้ ด เทเปส (Vlad Tepes) มีพระนามอื่นอีก คือ

วลาดิสลาฟ ดรากูลา เกิดเม่ือปี ค.ศ.1431 เป็ นบุตรชายคนกลางของเจา้ ชายวลา้ ดท่ี 2 ดรากูล ถือกาเนิดใน ดินแดนวาลาเชียหรือโรมาเนียในปัจจุบนั ตน้ ตระกูลของเจา้ ชายวลา้ ดที่ 3 คือเจา้ ชายบาซาราบมหาราช ผู้ กอบกูเ้ อกราชแควน้ วาลาเชียจากฮงั การีในปี ค.ศ.1310 และปกครองวาลาเชียในช่วงปี ค.ศ. 1310 – 1352 \"แดร็กคูล่า\" เป็ นนามที่ไดม้ าจาก เจา้ ชายวลา้ ดท่ี 1 ซ่ึงเป็ นนกั รบท่ีมีชื่อเสียงโด่งดงั จากการสู้รบที่ไม่กลวั ชน เผา่ เติร์ก จนไดร้ ับการแต่งต้งั จากพระจกั รพรรดิซิกิสมุนด์ แห่งนูเรมเบิร์ก ให้เป็ น \"อศั วินมงั กร\" (Knight of Dragon's Order) ซ่ึงเป็ นตาแหน่งที่ตกทอดถึงทายาทดว้ ย และบุตรชายคนท่ี 2 ของเจา้ ชายวลา้ ดท่ี 1 ไดร้ ับ ฉายาวา่ \"แดร็กคูล่า\" หมายถึง \"บุตรของมงั กร ( Son of Dragon )\" ในขณะที่ฝ่ ายเยอรมนั แซ็กซอน ศตั รูอีก ฝ่ ายหน่ึงของวาลาเชีย เรียกวา่ \"บุตรของปี ศาจ\" ในวยั 13 พรรษา แดร็กคูล่าถูกส่งไปอยเู่ อเดรียนโนเปิ ลนาน 4 ปี เพื่อเป็นตวั ประกนั ภายใตจ้ กั รวรรดิออตโตมนั ในฐานะประเทศราช ซ่ึงการสืบราชบลั ลงั กข์ องราชวงศว์ า ลาเชียไม่ไดม้ ีกฎตายตวั วา่ ตอ้ งสืบราชบลั ลงั ก์ตามสายเลือดหรือตามลาดบั รัชทายาท แต่มาจากการเลือกต้งั โดยเหล่าขนุ นางผเู้ ป็นเจา้ ของท่ีดินตระกลู ตา่ งๆ ดงั น้นั จึงเกิดศึกชิงบลั ลงั กแ์ ละลอบสงั หารกนั บอ่ ยคร้ัง ต่อมา เม่ือพระราชบิดาของพระองคค์ ือ เจา้ ชายวลา้ ดท่ี 2 และพระเชษฐา เจา้ ชายเมียร์ชาที่ 2 (Mircea II) ถูกพวกขุน นางภายใตส้ ังกดั ฮงั การีปลงพระชนมใ์ นค.ศ. 1447 จกั รวรรดิออตโตมนั จึงพยายามกาจดั อิทธิพลของฮงั การี โดยการส่งกองทพั มายึดวาลาเชีย และต้งั แดร็กคูล่าในวยั 17 พรรษา เป็ นเจา้ ชายผคู้ รองรัฐภายใตอ้ าณตั ิแห่ง จกั รวรรดิออตโตมนั แต่แดร็กคูล่าก็ตอ้ งเสียบลั ลงั ก์ ท่ามกลางความโหดร้ายของสงครามท่ีญาติพี่น้องถูก สังหาร ประกอบกบั การเติบโตมาในช่วงสงครามแดร็กคูล่าสะสมความกลวั และความแคน้ แปรเปล่ียนเป็ น ความโหดเห้ียมและเลือดเยน็ ในปี ค.ศ.1456 แดร็กคูล่าก็กลบั มาทวงบลั ลงั ก์ไดอ้ ีกคร้ัง และครองวาลาเชียใน นามเจา้ ชายวลา้ ดท่ี 3 ต้งั เมืองหลวงชื่อทีร์โกวสิ ต์ สร้างปราสาทและรูปป้ันของตนเองไวใ้ นเมือง ซ่ึงพระองค์ ไดร้ ับปรัชญาในการปกครองน้ีมาในสมยั ที่พระองค์ไปอยู่กบั จกั รวรรดิออตโตมนั ซ่ึงเชื่อวา่ กษตั ริยท์ ี่ดีคือ กษตั ริยท์ ี่คนกลวั มิใช่กษตั ริยท์ ี่คนรัก จากการออกนโยบายปกครองแบบปิ ดประเทศ บวกกบั รสนิยมส่วนตวั ที่ชอบความรุนแรง ทาให้แดร็กคูล่าบริหารความโหดเห้ียมของตนไดเ้ ต็มท่ี มีเร่ืองเล่าวา่ เจา้ ชายองค์น้ีเชิญ ขอทาน คนแก่ และคนที่เจ็บป่ วยเขา้ วงั แลว้ ต้งั คาถามวา่ \"ท่านอยากเป็ นคนท่ีถูกละเลยและทอดทิ้งหรือไม่\" เมื่อชาวบา้ นตอบว่า “ไม่ ” แดร็กคูล่าจึงเผาคนกลุ่มน้ีให้ตายท้งั เป็ น ดว้ ยเหตุผลว่าจะไดไ้ ม่มีคนแก่ คนจน หรือคนมีปัญหาในประเทศอีก และวา่ กนั วา่ ในช่วงรัชสมยั ของพระองคจ์ นถึงปี ค.ศ.1462 พระองคไ์ ดส้ ังหาร ประชาชนท่ีไร้ทางสู้ไปราว 40,000 - 100,000 คน ในจานวนน้ีหลายคร้ังท่ีพระองคเ์ สวยพระกระยาหารและ ชมการประหารชีวิตแบบโหดร้าย โดยนาร่างของนกั โทษหรือศตั รูไปเสียบเหล็กแหลมจนร้องครวญคราง ดว้ ยความเจ็บปวดและดิ้นทุรนทุรายจนขาดใจตายในที่สุด และฟังเสียงร้องขอชีวิตของเหย่ือผเู้ คราะห์ร้าย ราวกบั ฟังเสียงดนตรีกล่อมประสาท ดว้ ยเหตุน้ีเองทาใหพ้ ระองคไ์ ดร้ ับฉายาวา่ \"วลา้ ด นกั เสียบ\" ( Vlad the Impaler ) ในปี ค.ศ.1476 ระหวา่ งที่ถูกทพั เติร์กโจมตี แดร็กคิวล่าเสียชีวิตท่ีบูคาเรสต์ เช่ือวา่ ผสู้ ังหารคือคน ของพระองคเ์ อง กษตั ริยข์ องเติร์กสั่งให้ตดั ศีรษะของแดร็กคูล่าแขวนไวท้ ่ีกรุงคอนสแตนติโนเปิ ล ส่วนร่าง แยกไปฝังที่เกาะของตระกูลสนากอฟ ที่แดร็กคูล่าเคยอุปถมั ภ์ แต่ภายหลงั ท่ีมีการขุดคน้ อุโมงค์ในปี ค.ศ. 1931 กลบั ไม่พบโลงศพของแดร็กคูล่า จึงทาใหเ้ กิดเร่ืองราวเล่าขานที่น่าสะพรึงกลวั ยง่ิ ข้ึนตอ่ มาไดม้ ีนกั เขียน

ชาวไอริชนามวา่ บราม สโตเกอร์ ไดร้ ับแรงบนั ดาลใจในการเขียนเรื่องแดร็กคูล่า ซ่ึงเป็ นนวนิยายเรื่องท่ี 5 ของเขาน้ีมาจากประวตั ิศาสตร์ของเจา้ ชายนกั รบช่ือ วลา้ ด เทเปส และความเห้ียมโหดของพระองค์ มาผกู เร่ืองกบั \"ท่านเคาทแ์ ดร็กคูล่า\" ซ่ึงเป็ นตวั ละครท่ีถูกสร้างข้ึนมา โดยลกั ษณะที่กลางวนั นอนในโลงศพ และ กลางคืนลุกข้ึนมาดูดเลือดเหยื่อท่ีมกั เป็ นสาวสวย จากนิยายสยองขวญั ก็ไดก้ ลายมาเป็ นภาพยนตร์ท่ีทาให้ ผคู้ นไดจ้ ดจา วลา้ ด นกั เสียบในฐานะแดร็กคิวล่า ผกู้ ระหายเลือด เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องที่ 342 แรงท้งั สี่ในจกั รวาลคืออะไร แรงพ้ืนฐานในธรรมชาติ เทา่ ท่ีนกั วทิ ยาศาสตร์คน้ พบแลว้ มีท้งั หมด 4 ชนิดคือ แรงโนม้ ถ่วง แรงแม่เหล็กไฟฟ้ า แรงนิวเคลียร์อยา่ งเขม้ และ แรงนิวเคลียร์อยา่ งอ่อน ทุกสิ่งทุกอยา่ งในในจกั รวาลน้ี ไม่วา่ จะเป็ น ฟ้ าผา่ ใบไมร้ ่วง นอ้ งฟรัง ไอโฟน7 อิเล็กตรอน ฮนั น่ีโทส หม่อมสุขุมพนั ธ์ หรือแมแ้ ต่การเส่ือมสลายของธาตุกมั มนั ตรังสี ลว้ นแต่เกิดข้ึนต้งั อยู่ และดบั ไปเพราะแรงพ้ืนฐานในธรรมชาติเหล่าน้ีท้งั สิ้น แรงชนิดแรกคือ แรงโน้มถ่วง (gravity) เป็ นแรง ดึงดูดระหว่างวัตถุ ย่ิง วตั ถุมีมวลมากก็ยิ่งมีแรง โน้มถ่วงมาก อย่างแอด มินเดินสวนกับน้องอลิ สก็มีแรงดึงดูดระหว่าง กัน แต่เพราะเราท้ังคู่มี มวลไม่มากเท่าไหร่ แรง ท่ีเกิดเลยไม่มากพอจะดูด ให้ ตวั ติดกนั ได้ แต่ท่ีพวก เราไม่หลุดลอยไปนอกอวกาศก็เพราะถูกแรงโนม้ ถ่วงของโลกดึงดูดไว้ เพราะโลกมีมวลมากกวา่ เรามหาศาล (ดวงจนั ทร์ท่ีมีมวลนอ้ ยกวา่ โลก ก็จะมีแรงโนม้ ถ่วงนอ้ ยกวา่ โลกดว้ ย พอเรากระโดดทีจะลอยข้ึนไดส้ ูงมาก) หรือการที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตยไ์ ม่หลุดลอยไปในหว้ งอวกาศอนั หนาวเหน็บก็เพราะแรงดึงดูดระหวา่ ง ดวงอาทิตยก์ ับโลก หรือ ดาวเทียมโคจรรอบโลกได้ก็เพราะแรงดึงดูดเหมือนกนั ต่อมาเราก็ไดร้ ู้จกั แรง แม่เหล็กไฟฟ้ า (electromagnetic force) เจา้ แรงแม่เหล็กท่ีทาให้แม่เหล็กดูดกนั ผลกั กนั เน่ียโลกไดร้ ู้จกั มาเป็ น พนั ปี ละ ส่วนไฟฟ้ าก็มีการคน้ พบไฟฟ้ าสถิตและประจุไฟฟ้ ามานานหลายร้อยปี ซ่ึงทีแรกเราคิดวา่ ท้งั สองตวั น้ีไม่เกี่ยวกนั จนมิสเตอร์ เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์ ไดค้ บ้ พบวา่ จริงๆ 2 อนั น้ีคือสิ่งเดียวกนั อธิบายไดด้ ว้ ย สมการชุดเดียวกกัน เลยจบั รวมกนั ซะเลย กลายเป็ นทฤษฎีสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้ าของแมกซ์เวลล์ (ไอน์สไตน์กใ็ ชท้ ฤษฎีน้ีเป็นพ้ืนฐานในการพฒั นาทฤษฎีสัมพนั ธภาพพิเศษอีกที) ซ่ึงความสาเร็จของการรวม แรง 2 แรงน้ีเขา้ ดว้ ยกนั ไดส้ ร้างความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยใี หก้ บั โลกเราอยา่ งมากเลยทีเดียว ไฟฟ้ าท่ีเราใช้ อยตู่ ามบา้ น เคร่ืองป่ันไฟ อแดปเตอร์โนตบุค สญั ญาณมือถือ สัญญาณไวไฟ อินเตอร์เนท สายยเู อสบี มาจาก แรงน้ีท้งั หมด แรงที่ 3 ตอ่ มาคือ แรงนิวเคลียร์อยา่ งเขม้ (strong nuclear force) เป็ นแรงที่มีพลงั มากท่ีสุด ก่อน

น้ีนกั วทิ ยาศาสตร์เคยสงสยั วา่ อะตอมมนั แบบที่มนั เป็นไดย้ งั ไง ในเมื่ออะตอมของธาตุบางตวั น้นั มีโปรตอน อยหู่ ลายตวั แลว้ โปรตอนตา่ งก็มีประจุบวก ตามทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้ า (แรงท่ี 2) ข้วั บวกกบั ข้วั บวกมาอยใู่ กล้ กนั กน็ ่าจะผลกั กนั สิ ไม่น่าจะสมานฉนั ทอ์ ยใู่ นอะตอมเดียวกนั ได้ แลว้ พอคน้ ควา้ ทดลองไปก็ไดพ้ บวา่ มนั มี แรงนิวเคลียร์อยา่ งเขม้ น่ีแหละคอยเป็ นกาวใจเชื่อมไว้ โดยความเขม้ ของแรงน้ีมนั มากกวา่ แรงผลกั กนั ของ แรงแม่เหล็กไฟฟ้ า โปรตอนเลยถูกดูดให้อยู่ด้วยได้ เรียกว่าถ้าไม่มีแรงชนิดน้ี อาจจะไม่มีสสารใดๆ ใน จกั รวาลน้ีเลยก็เป็ นได้ แรงสุดทา้ ยคือ แรงนิวเคลียร์อยา่ งอ่อน (weak nuclear force) แรงน้ีต่างจากแรงอื่นๆ หน่อย ตรงที่มนั ไมไ่ ดม้ ีไวย้ ดึ อะไรไวก้ บั อะไร แต่เป็นแรงท่ีเกิดข้ึนจากการเปลี่ยนสภาพของสารกมั มนั ตรังสี จากธาตุชนิดหน่ึงไปเป็ นอีกชนิดหน่ึง เช่นนกั โบราณคดีสามารถวดั อายุของวตั ถุต่างๆ ดว้ ยการตรวจสอบ กมั มนั ตรังสีของคาร์บอน14 ท่ีมีอยใู่ นวตั ถุ เพราะธาตุคาร์บอน14 ตามธรรมชาติจะเส่ือมสลายไปในปริมาณ และช่วงเวลาท่ีค่อนขา้ งแน่นอน และในกระบวนการเส่ือมสลายน้นั จะมีการปลดปล่อย อิเล็กตรอน และแอน ตินิวตริโน ออกมาดว้ ย ซ่ึงก็อาศยั แรงนิวเคลียร์อยา่ งอ่อนน่ีแหละท่ีช่วยใหเ้ กิดการปลดปล่อยอนุภาค (เรียก กระบวนการน้ีวา่ beta decay) แรงท้งั หมดท่ีเล่ามาก็ตอ้ งอาศยั อนุภาคชนิดพิเศษ (เรียกรวมๆวา่ Boson) เป็ น ตวั นาพาไปเช่นกนั ไม่ใช่วา่ แรงมนั จะเดินไปไหนไดเ้ องนะ เช่น แรงแม่เหล็กไฟฟ้ าใชโ้ ฟตอน (Photon) เป็ น พาหะนาพา ส่ือนาของแรงนิวเคลียร์แบบเขม้ เรียกกลูออน (Gluon) ส่วนแรงนิวเคลียร์แบบอ่อนมีสื่อนาสอง ตวั คือ W และ Z Boson ซ่ึงอนุภาคพวกน้ีนกั วทิ ยาศาสตร์คน้ พบหมดแลว้ ยกเวน้ อนุภาคของแรงโนม้ ถ่วงที่ เรายงั หาไม่เจอ แตใ่ นทางทฤษฎีเราคิดวา่ มนั น่าจะมี ก็เลยต้งั ชื่อรอไวก้ ่อนวา่ กราวติ อน (Graviton) เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน เขตหนองแขม เร่ืองนี้ 343 แหลมสมิหลา สถานท่ีท่องเท่ียวสาคญั และถือวา่ เป็ น แลนมาร์กแห่งหน่ึงของ จ.สงขลา ท่ีจะมี นักท่องเที่ยวเข้ามาแวะเวียนเย่ียมชมเป็ น จานวนมาก โดยมีลกั ษณะเป็ นหาดโขดหินย่ืน ลงทะเล สามารถมองเห็นทิวทศั น์โดยรอบได้ โ ด ย เ ฉ พ า ะ อ ย่า ง ย่ิ ง เ ก า ะ ห นู เ ก า ะ แ ม ว นอกจากน้ียงั มีประติมากรรมนางเงือกน่ังอยู่ บนโขดหิน เป็นสัญลกั ษณ์ของท่ีนี่เช่นเดียวกนั บ า ง ค ร้ ั ง ห ล า ย ค น บ อ ก ว่ า ห า ก ไ ม่ ไ ด้ ม า ที่ แหลมสมิหลาก็เหมือนยงั เดินทางมาไม่ถึง จ. สงขลา สาหรับ รูปป้ันนางเงือกทองที่ต้งั อยบู่ ริเวณปลายแหลมสมิหลา ถูกสร้างจากนิยายปรัมปราของไทย เม่ือปี พ.ศ. 2509 โดยนางเงือกาลงั ทาท่าหวผี ม หล่อดว้ ยบรอนซ์รมดา ฝี มือการออกแบบ ป้ัน และหล่อโดย อ.จิตร บวั บุศย์ งบประมาณ 60,000 บาท ในพ.ศ.น้นั ซ่ึง ขนุ วจิ ิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพนั ธ์) บอกเล่าว่า นางเงือกจะมานง่ั หวผี มบนหาดดว้ ยหวที องคา แต่มีชายชาวประมงเดินผา่ น นางเงือกตกใจหนีลงทะเล แต่ลืม หวเี อาไว้ ชาวประมงก็เก็บหวมี าเอาไว้ หลงั จากน้นั นางเงือกก็ไม่ปรากฎตวั อีกเลย...

เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน เขตหนองแขมเรื่องที่ 344 วนั น้ีจะมีการเคลื่อนยา้ ยอนุสาวรียพ์ ิทกั ษร์ ัฐธรรมนูญ หรืออนุสาวรีย์ปราบกบฎ เลยอยากเล่าถึงท่ีมาของ อนุสาวรี ย์แห่งน้ีครับ สาหรับที่มาของการสร้าง อนุสาวรี ย์ปราบกบฏน้ี มีความสื บเนื่องมาจาก เหตุการณ์ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2476 เม่ือมีบุคคลคณะ หน่ึงท่ีประกอบดว้ ยทหารและพลเรือน เรียกตวั เองว่า “คณะกู้บ้านเมือง” มี นายพลเอก พระวรวงศ์เธอ พระองคเ์ จา้ บวรเดช เป็ นผนู้ า ไดน้ าทหารจานวนมาก จากหวั เมือง ท้งั จากอุบลราชธานี นครราชสีมา สระบุรี อยุธยา นครสวรรค์ พิษณุโลก ปราจีนบุรี ราชบุรี และ เพชรบุรี มายดึ บริเวณดอนเมือง เพ่ือบีบบงั คบั ใหร้ ัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนาลาออกหรือปฏิบตั ิตามขอ้ เรียกร้องของคณะกบู้ า้ นเมือง ขณะท่ีฝ่ ายรัฐบาลไดส้ ่งตวั แทนไปเจรจากบั คณะกูบ้ า้ นเมืองใหล้ ม้ เลิกความคิด ลม้ ลา้ งรัฐบาล และถอนทหารกลบั สู่ท่ีต้งั แต่กลบั ไม่เป็นผล ดงั น้นั พระยาพหลฯ จึงต้งั ใหห้ ลวงพิบูลสงคราม เป็ นแม่ทพั คุมกาลงั ทหารออกปราบปรามฝ่ ายคณะกูบ้ า้ นเมือง โดยมีการปะทะกนั ท่ีบางเขนต้งั แต่วนั ท่ี 12 ตุลาคม จนถึงวนั ท่ี 16 ตุลาคม พ.ศ. 2476 ฝ่ ายคณะกบู้ า้ นเมืองไดพ้ ่ายแพ้ พระองคเ์ จา้ บวรเดชทรงล้ีภยั ไปอิน โดจีน แต่อย่างไรก็ตาม ฝ่ ายรัฐบาลได้สูญเสียทหารและตารวจจานวน 17 นาย ในการปกป้ องระบอบ รัฐธรรมนูญคร้ังน้ี หลงั เหตุการณ์สงบเรียบร้อย รัฐบาลไดน้ าศพของผเู้ สียชีวติ มาทาบุญอุทิศส่วนกุศล ณ วดั ราชาธิวาส และไดจ้ ดั พิธีฌาปนกิจอยา่ งยง่ิ ใหญบ่ นทอ้ งสนามหลวงอยา่ งสมเกียรติในฐานะวรี ชนของชาติ ใน วนั ที่ 18 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2477 ซ่ึงเป็ นคร้ังแรกในประวตั ิศาสตร์ที่มีการจดั งานศพของสามญั ชนบนทอ้ ง สนามหลวง จากน้นั ไดบ้ รรจุอฐั ิไวใ้ นปลอกกระสุนปื นใหญ่ทองเหลืองตามประเพณีของทหารและต้งั ไวท้ ี่ กรมกองตน้ สังกดั ของเหล่าทหารและตารวจท้งั 17 นาย เป็ นเวลา 3 ปี ต่อมาเมื่อทางราชการสร้างอนุสาวรีย์ ปราบกบฏ ท่ีตาบลหลกั สี่ อาเภอบางเขน จงั หวดั พระนคร จึงนาอฐั ิของวรี ชน 17 นาย มาบรรจุไวท้ ี่อนุสาวรีย์ ท้งั น้ี หากพิจารณาแนวคิดท่ีจะสร้างอนุสาวรีย์ เริ่มปรากฏนับต้งั แต่ปลายปี พ.ศ. 2476 ก่อนที่จะมีพิธี ฌาปนกิจทหารและตารวจท่ีเสียชีวิตในเหตุการณ์ปราบกบฏบวรเดช ณ ทอ้ งสนามหลวง โดยในวนั ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2477 พระยาพหลฯ นายกรัฐมนตรีขอให้ที่ประชุมสภาผแู้ ทนราษฎรพิจารณาญตั ติด่วนเรื่อง “ร่างพระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการจดั ซ้ือท่ีดินและอสังหาริมทรัพยอ์ ยา่ งอื่นเพื่อขยายและตดั ถนนเช่ือมคมนาคม กรุงเทพพระมหานครกบั ดอนเมือง และเพื่อสร้างอนุสสาวรียท์ หารปราบกบฏ พ.ศ. 2476”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook