“พอล้มใหร้ ีบลกุ รูต้ ัวว่าลม้ แล้วต้องรบี ลกุ แล้วต้งั หลักใหม่ จะไปยอมมัน ไมไ่ ด้ ก็เหมอื นกับตอนทีแ่ กเปน็ เดก็ คลอดออกมา กว่าจะเดนิ เปน็ แกกต็ อ้ งหดั เดิน จนเดนิ ได้ แกตอ้ งล้มกที่ เี คยนบั ไหม พอล้มแกกต็ ้องลกุ ข้ึนมาใหม่ใชไ่ หม คอ่ ยๆ ทำ�ไป” “ตอ้ งปฏิบัติธรรมให้มาก ถ้ารู้วา่ ใจเรายงั แข็งแกร่งไมพ่ อ ถกู โลกเลน่ งานง่ายๆแกต้องทำ�ให้ใจแกแขง็ แกรง่ ใหไ้ ด้ แกถึงจะสู้กับมนั ได้” “ถา้ แกเกลียดกเิ ลสเหมอื นหมาเน่าหรือของบูดเนา่ ก็ดี ใหเ้ กลยี ดให้ได้อยา่ งน้นั ” หลวงปเู่ คยปรารภไวว้ ่า... จะเป็นชายหรอื หญิงก็ดี ถ้าต้งั ใจประพฤติปฏิบตั ิ มีศลี รกั ในการปฏิบตั ิ จิตมุ่งหวังเอาการพ้นทกุ ข์เป็นทสี่ ดุ ย่อมมโี อกาสเปน็ พระกนั ได้ทกุ ๆ คน มโี อกาสทีจ่ ะบรรลุมรรค ผล นพิ พานไดเ้ ทา่ เทยี มกนั ทกุ คน ไมเ่ ลอื กเพศ เลอื กวัยหรอื ฐานะแตอ่ ยา่ งใด ไม่มีอะไรจะมาเป็นอุปสรรคในความส�ำ เรจ็ ได้ นอกจากใจของผูป้ ฏิบตั ิเอง ทา่ นได้แนะเคล็ดในการบวชจิตวา่ ในขณะท่ีเรานัง่ สมาธิเจริญภาวนานั้นค�ำ กล่าววา่ พุทธัง สรณงั คัจฉามิ ให้เรานกึ วา่ เรามีพระพุทธเจา้ เปน็ พระอุปัชฌายข์ องเรา ธัมมัง สรณัง คจั ฉามิ ให้เรานกึ วา่ เรามพี ระธรรม เปน็ พระกรรมวาจาจารย์ สังฆงั สรณัง คจั ฉามิ ใหเ้ รานกึ ว่า เรามพี ระอริยสงฆ์ เปน็ พระอนุสาวนาจารย์แล้วอย่าสนใจขนั ธ์ ๕ หรือร่างกายเราน้ี ใหส้ ำ�รวมจติ ให้ดี มีความยนิ ดีในการบวช ชายกเ็ ป็นพระภิกษุ หญิงก็เป็นพระภกิ ษุณี อย่างนี้กจ็ ะมอี านสิ งสส์ ูงมาก จดั เปน็ เนกขัมบารมีขัน้ อกุ ฤษฎ์ทเี ดยี ว “การไปอยูก่ ับพระอรหันต์ อย่าอยูก่ บั ทา่ นนาน เพราะเมื่อเกิดความมกั คุ้นแล้วมกั ท�ำ ใหล้ มื ตัว เห็นทา่ นเปน็ เพื่อนเลน่ คยุ เล่นหัวท่านบ้าง ให้ทา่ นเหาะให้ดูบ้าง ถงึ กบัออกปากใชท้ ่านเลยก็มี การกระทำ�เชน่ น้ี ถอื เป็นการปรามาสพระ ลบหลคู่ รูอาจารยแ์ ละเปน็ บาปมาก ปดิ กั้นทางมรรคผลนิพพานได้ จึงขอใหพ้ วกเราส�ำ รวมระวงั ให้ด”ี “แกจำ�ไว้เลยนะ คนทีท่ �ำ เป็นเขาไม่พูด คนท่ีพดู น่นั ยังท�ำ ไมเ่ ปน็ ” ๑๐๑คตธิ รรมคำ�สอนหลวงปูด่ ู่
“ไม่มีใครผดิ หรอก เพราะจุดมุ่งหมายตา่ งกเ็ ป็นไป เพื่อความพ้นทกุ ขเ์ ชน่ กนัเพียงแตเ่ ราจะทำ�ให้ดี ดยี งิ่ ดีทสี่ ุดเทา่ นัน้ ” “เอ็งกนิ เหล้า เมายา ไมว่ ่าหรอก แต่อยา่ ออกนอกทางไปใหเ้ สยี ผล จงอยา่ กินสินบาท คาดสนิ บน เรามนั ชน ชั้นปัญญา ตุลาการ\" “ดแู ล้วให้จ�ำ จำ�แลว้ เอาไปทำ� (ปฏิบัติ) ท่บี า้ น ถ้าเราท�ำ เป็น ทำ�ท่บี ้านเรากเ็ ห็นไมต่ ้องมาวัดหรอก” “เร่ืองของคงกระพันชาตรนี ะ่ ท�ำ ง่าย แคข่ นลกุ กเ็ หนยี วแลว้ แคล้วคลาดนะ่ดีกว่าเพราะไมเ่ จบ็ ตัว การเสกพระทำ�น้ำ�มนต์ให้ดีให้ขลงั ตอ้ งทำ�ใจของเราใหม้ ีเมตตาคือรักเขายงิ่ ชวี ิตแล้วจะไดผ้ ลด ี การเสกพระให้มพี ทุ ธคุณทางเมตตาน่ะ ท�ำ ยากท่สี ดุหม่ันปฏิบตั ิไปเถิด” “คนท่ีเขาเก่งเม่ือเขารวู้ ่ายังมีการปฏบิ ัตทิ ส่ี งู กว่าน้ี ทา่ นก็ปรึกษาจากพระที่ท่านท�ำ ถ้าคนเราลองมที ิฐวิ ่าขา้ แน่ ก็จะไม่เจอะของดี” “ของทด่ี ี ทสี่ ูง คนน�ำ ไปใชก้ ็ตอ้ งท�ำ จิตของตนให้สงู ตามไปดว้ ย ต้องมศี ลี จึงจะได้ผล” “ของดีนัน้ อยู่ท่เี รา ของดีนั้นอยุท่ ีจ่ ติ จิตนั้นมี 3 ขนั้ ตรี โท เอก ถา้ ตรกี ต็ �ำ่หนอ่ ย โทก็ปานกลาง เอกน่ีอย่างอกุ ฤษฏ ์ มันไม่มีอะไร ก็ อนิจจัง ทกุ ขัง อนัตตา” “เรือ่ งของโลก มีแตเ่ ร่อื งย่งุ ของคนอน่ื ท้งั นน้ั ไม่มที ี่สน้ิ สดุ เราไปแกไ้ ขเขาไม่ได้ ส่วนเร่อื งธรรมน้ันมที ี่สุด มาจบทีต่ วั เรา ใหม้ าไลด่ ูตวั เอง แก้ไขท่ตี วั เราเอง ตนของตน เตือนตน ด้วยตนเอง” “คนเรานน้ั ถา้ ไมม่ พี ุทธงั ธมั มงั สงั ฆัง เป็นของดีภายใน ถึงแม้จะไดข้ องดีภายนอกไปแล้ว กไ็ มเ่ กิดประโยชน์อะไร”๑๐๒ คตธิ รรมคำ�สอนหลวงป่ดู ู่
คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงปดู่ ู่ ๑๐๓
คติธรรมคำ�สอนของพระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) “ก่อนนง่ั สมาธทิ ุกครง้ั ต้องสมาทานศลี กอ่ นหลวงปู่ว่าไว้” “การฝนั ยังเปน็ การสรา้ งบารมี เชน่ ฝันว่าสวดมนต์ ฝนั วา่ ไปให้ทาน ขนาดนอน ขนาดฝนั ยังได้บุญเลย” “มนุษย.์ .. มองด้วยตา วญิ ญาณ... มองดว้ ยใจ” “ตา มองคนท่ัวไป และพิจารณาให้เกิดปญั ญา ดูตัวเรา มองกเิ ลส ตณั หาอปุ ทาน” “บารมีหลวงป่เู ต็มแผ่นดิน เอาบารมีท่านมาใช”้ “วธิ ีการเขา้ ถงึ ไตรสรณคมน์ คอื จติ อยู่ทีพ่ ระ แลว้ สวดพุธธัง ธมั มงั สังฆงัสรณงั คจั ฉามิ เวลาเจอพระ จิตก็เขา้ ไปกราบ เวลาเรามองแมช่ ี เราก็อนุโมทนา ต้องฝกึจติ ให้ติดก็จะไม่เบอื่ ” “เราตอ้ งฝกึ กระแสของพลงั งาน ต้องเข้าใจพลงั งาน พลงั งานอาศยั จิต จติอาศยั ธาตุ เราสามารถดึงพลังงานจากใครก็ได้ แล้วแผไ่ ปทงั้ ๓ แดนโลกธาตุ เวลาสวดจักรพรรดิ นรกก็จะหยุด สวรรค์ก็จะสวดดว้ ย” “เราตอ้ งเขา้ ใจเร่อื งพลังงาน ให้เข้าใจจติ เราตอ้ งน้อมพลงั งานเข้าตัว ตอ้ งทรงอารมณ์สบายใหไ้ ด้ ถ้ายังโกรธ หงดุ หงดิ ยังเกลียดอยู่ กต็ ้องเริ่มใหม”่ “เราตอ้ งร้เู ร่ืองพลงั งาน การสะสมพลังงานทัง้ เชา้ ทั้งเย็น เอาพลังงานหลวงปู่มาใช้” “ฟงั ให้มาก พูดใหน้ ้อย” ๑๐๕คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ยังไง ชอบไมช่ อบ... นง่ิ ไว้ พยายามภาวนาและนกึ ถึงหลวงปใู่ หไ้ ด้ท้งั วนัเวลานอนก็สวดมนตไ์ ปตลอด อาทิสมานกาย แยกบอ่ ยๆ เด๋ียวก็ชิน” “วญิ ญาณกลวั ท�ำ ไม เวลาเราตายเราก็กลายเป็นผี วิญญาณนะ่ น่าคบกวา่ คนอกี ” “เวลานอนใหส้ วดบทจักรพรรดิจนหลบั จิตจะได้อดั บุญตอนนอน พอต่นืนอนสวดก่อนลุกจะไดร้ บั บญุ กลางวัน อยไู่ ม่นานก็ม่อง (ตาย) แลว้ เวลาสวดใหน้ กึ ถึงถ�ำ้ นึกถึงหลวงปู่ ส่งบญุ ใหเ้ จ้ากรรมนายเวร ไปไหนก็ใหน้ กึ ถึงท่าน นอนก็นึกถงึ ท่านเวลาสวดมนต์ ตอ้ งสวดแบบมอี ารมณส์ บายๆ” “ถา้ ไม่เกินกรรม พระผงช่วยไดท้ ุกอยา่ ง” “ท�ำ ไม่ยากหรอก อยูท่ ่จี ะท�ำ หรือไมท่ �ำ ” “ถา้ ตง้ั ใจสวด บุญกส็ ามารถทะลทุ ะลวงผา่ นรปู นามได้” “ไปไหนก็ช่างต้องทำ�ตัวให้มีประโยชน์ถ้าไม่มีประโยชน์กับคนก็ให้มีประโยชน์กบั ภพภมู ิเทวดาต่างๆ โดยสวดการสวดบทจกั รพรรดแิ ล้วแผไ่ ปให้ท่ัวๆ เป็นการฝากกระแส เปน็ การมีบุญตอ่ กัน ไม่ต้องไปกลัว ใช้รูปและนามในปัจจบุ ันใหม้ ีประโยชน”์ “สวดไปเรือ่ ยๆ จติ ก็จะละเอียดขน้ึ เรอื่ ยๆ จนเปน็ พรหม (น่ิงๆ สบายๆ) จะสรา้ งบารมี หรอื จะไม่เกดิ มันกไ็ มย่ าก” “มันไมย่ ากหรอก ไอ้ทยี่ ากน่ะ มนั ไมท่ �ำ ” “เวลากินให้สพั เพไป เพราะกระแสหมหู รือสตั วท์ เี่ รากนิ เป็นกระแสแห่งความอาฆาต ส่วนผกั กต็ ้องสพั เพเพราะบางทผี กั กม็ สี ารพิษ ใชบ้ ทสัพเพชว่ ยฟอกสารพิษได”้ ๑๐๖ คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ถ้าอารมณ์ดี... บุญจะบันทึกเขา้ ไปในจติ ทกุ ลมหายใจเข้าออก ตอ้ งทรงอารมณใ์ ห้ดี” “เช้าสวด เย็นพจิ ารณาอารมณ์ ความคิดไปทางไหน ดีมาก ไมด่ มี าก ถา้ อารมณ์ไมด่ มี าก บุญจะไม่รับ ถา้ อารมณ์ดี บารมกี ็เกดิ แสงสว่างกเ็ กดิ ” “ตา... กราบรปู ใจ... กราบนาม สวดจกั รพรรดิ เปน็ การฝากกระแส” “สูตรหลวงปูด่ ู่ หลบั ยังได้กรรมฐาน” “จิตหยุด คอื จติ พัก พกั ได้เมอ่ื นั่งสมาธิ” “เราต้องปรับจิต เพื่อฟอกธาตุ” “สวดจักรพรรดิ สวดอย่ ู ไม่ไดค้ ดิ อะไร กเ็ ป็นสมาธิ” “หลับยงั ได้บญุ เพราะเวลาหลับก็ฝันว่าไปท�ำ บญุ ไปส่งวญิ ญาณ ไปสัพเพ” “เราหลบั ในจกั รพรรดิ บุญก็เกิดในจิตแล้วสง่ มาท่ธี าตอุ กี ที เปน็ สายใยกัน บางครั้งสวดไปเรอ่ื ยๆ มนั จะนง่ิ ไปเลย เงียบไปเลย” “สวดจะใหด้ ตี อ้ งว่ากนั เป็นปี วา่ กันเป็นหลายปี อยา่ เลกิ สวดละกนั มนั ต้อง ตอ่ เน่ือง สวดแคส่ องทมุ่ ครึ่ง มันไมพ่ อ นอ้ ยไป” “เราเพ่งิ เริม่ ตน้ เราตอ้ งจดจ่อท่ีไหนที่หนงึ่ ไปเรอื่ ยๆ เช่น น่ังดูรปู หลวงปู่ไปเรอ่ื ยๆ ก็ได้ พยายามทำ�ให้ได้กอ่ นจะไดไ้ ม่ตอ้ งไปฝึกใหม่ ต้องขยนั และมีความสม่ำ�เสมอ เวลาตัง้ ใจสวด กระแสจะเข้าที่จิต แลว้ เดยี๋ วมนั จะออกทางธาต”ุ “อารมณด์ ี อยู่ในสถานทีด่ ี แสงสว่างกจ็ ะเขา้ ไปที่จติ ” ๑๐๗คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตามา้
“เวลามองเหน็ ภาพหลวงปู่ มนั ก็จะเข้าไปทใี่ จ แลว้ จะออกทธ่ี าตุ เชน่ เกิดปตี ิแต่ถา้ ภาพท่านเปลยี่ น แสดงวา่ หลวงปเู่ ขา้ ไปทีใ่ จ” “ถ้าจะเอาพลังงานท่านมาใช้ ต้องนกึ ถึงทา่ นบ่อยๆ จะท�ำ อะไรตอ้ งนกึ ถงึ ท่านกอ่ นทุกครัง้ เอ็งคิดถึงข้า พลังงานไปกลบั ระหวา่ งกันมากถึง ๙ คร้งั ทนี ี้ ต้องมตี วั ศรัทธาพลังงานก็จะเตม็ ” “อารมณด์ ี อยูใ่ นสถานท่ีดี แสงสว่างก็จะเขา้ ไปท่ีจติ ” “ท�ำ ตวั ให้สบาย ท�ำ อารมณ์ให้ดี ถ้าอารมณ์ไม่ดี บญุ ไม่รบั นะ” “อารมณ์ไมด่ ีระวัง... กรรมจะตามมานะ” “ความคิด กระแส ตัวอารมณ์ ทำ�ตวั ใหส้ บายทุกวนั ท�ำ อารมณใ์ หด้ ีไว้” “เปล่ียนทศิ ทางของความคดิ เปลย่ี นกระแสโดยการสวด” “ถา้ เรายงั ไมม่ ีก�ำ ลงั รบั สิ่งไมด่ ี ให้หนซี ะ ถา้ รับได้ มันก็จะเบนกระแสจากไม่ดีใหด้ ีได้” “อารมณ์ไมด่ กี ใ็ หค้ ยุ กบั หลวงปู่ เราไม่มกี �ำ ลงั เราก็บอกหลวงปู่ อารมณเ์ ราก็จะดขี ึ้น ทำ�ยังไงก็ได้ให้หยดุ อารมณต์ รงนน้ั ให้ได”้ “เราเกดิ มาเพอื่ รับเศษของกรรมและสรา้ งกรรมใหม่ เราจะตัดกรรมได้ไมไ่ ด้อยทู่ ี่ก�ำ ลังของเรา ตอ้ งพจิ ารณาตัวเองว่าท�ำ ยงั ไงให้หลีกหนีกรรมใหไ้ ด้ ตอ้ งตดั ตรงไหน รบี เกิด รีบท�ำ รีบตาย จะได้สรา้ งกำ�ลัง จะไมเ่ กิด จะได้มีกำ�ลัง พอมกี �ำ ลงั เราจะไม่เกดิ ก็ง่าย จะไม่เกิดอยูท่ ี่กำ�ลัง ถา้ หนไี มอ่ อกก็รบั กรรมไป” “ท�ำ กรรมฐาน รักษาศีล ภาวนา หนกั เป็นเบา เบาเปน็ หาย”๑๐๘ คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“อธิษฐานส่ิงใดท่เี ก่ยี วขอ้ งเกี่ยวพันธ์กบั ขา้ พเจ้า ขอรทู้ ันตามสภาพของความเปน็ จริง อธษิ ฐานซ้ำ�ๆ เดี๋ยวกด็ ีเอง” “นมิ ิตกบั ความฝันคลา้ ยกัน ต่างกนั ตรงนงั่ เห็นกับนอนเห็น” “ทำ�กรรมฐานอยา่ ไปท�ำ ให้ธาตุมนั ปวด มันตอ้ งท�ำ ใจให้สบาย” “ตายกอ่ นกำ�หนด เปน็ พวกตกภูมิ หรอื สัมพเวสี เราฝากกระแสไปกบั เทวดาและเหลา่ วิญญาณสัมพเวสี บางครงั้ พวกท่ีตกค้างนแ่ี หละที่ทำ�ให้เกดิ อุบัตเิ หตุบ่อยๆเวลาสวดกำ�หนดไปใหภ้ พภูมแิ ถวนน้ั มาเอาบญุ ดว้ ยกนั ตามภูมแิ ถวนัน้ กจ็ ะได้บญุ ไปด้วย” “เวลาสวดอย่าไปกลวั ภพภูมไิ มท่ �ำ อะไรเราหรอก เค้ามาเอาบญุ ” “วัดนกี้ รรมฐาน คอื การสวดจกั รพรรดิ หรือ ไตรสรณคมน์” “อธิษฐานขอกำ�ลังพระทกุ พระองค์ สิ่งทีเ่ ก่ยี วข้องกบั ขา้ พเจา้ ทง้ั หลาย ทางตาหู จมกู ล้นิ กาย ใจ ใหร้ ้สู ัมผัสตา่ งๆ ตามความเปน็ จริง” “พทุ ธงั ชีวติ ตัง ธมั มงั ชวี ิตตงั สงั ฆัง ชีวิตตัง เราเอาชีวติ เปน็ เครอ่ื งบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” “เวลาอยู่ท่อี ่ืน เราอาจคิดนึกวา่ เรามาสวดบนถ�ำ้ ก็ได้ เวลาเจบ็ ปว่ ย แยกจติ ออกจากธาตใุ ห้ได้ จะเป็นการทเุ ลาความเจบ็ ปวดได”้ “แค่นกึ จิตก็ไปแลว้ คิดบาปกไ็ ดบ้ าป คิดบุญกไ็ ด้บญุ ” “จักรพรรดิ สวดไปก็ชว่ ยใหส้ ่งิ ไม่ดไี ม่เกดิ ได้ ทำ�ให้เกดิ บุญฤทธิ์ อิทธิฤทธ์ิและปิดอบายภูม”ิ ๑๐๙คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตามา้
“กระแสที่ดีตอ้ งมใี ห้ไดท้ ุกลมหายใจเข้าออก ถา้ จิตไม่ดี อารมณ์ก็จะเศร้าหนา้ ตากจ็ ะไมผ่ ่องใส ถา้ เราทำ�อารมณใ์ หส้ บาย จิตมนั กจ็ ะติดความสบาย ท�ำ อะไรก็ง่ายที่ก่อนนอนให้สวดเพราะเราจะได้รกู้ ระแสของจิต ต้องใช้เวลาไปเรือ่ ยๆ วิธีนีเ้ ปน็ วิธีการฝกึ สติอยา่ งหนงึ่ ” “การท�ำ กรรมฐานที่จะฝึก ไม่ใชฝ่ กึ ร่างกายของเราให้น่ิงได้นาน แต่เราจะฝกึสติของเราตา่ งหาก จบั จดุ ใหด้ ี” “ใหเ้ รารวมบญุ ทกุ วนั เวลาเรารวมบุญ เทพพรหม เทวดา ภพภมู กิ ็จะมารวมบญุ กบั เราดว้ ย เวลาแผ่บญุ ให้ภพภมู ิ บอกเค้าว่า มาร่วมอนุโมทนาบุญกบั เราด้วยนะ ท�ำ แบบน้ี ไปไหนกม็ ปี ระโยชนก์ ับวญิ ญาณ ก่อนจะสัพเพแผบ่ ญุ ก็นกึ ถึงหลวงป่กู อ่ นหรือไมก่ ก็ �ำ พระ” “บุญกับบาปจะถูกบนั ทกึ ทีจ่ ติ โดยอาศยั ธาตุ พจิ ารณาใหด้ ”ี “พลังงานจะไม่หายไปจากโลก” “อธษิ ฐาน... ขอใหเ้ ทพพรหมภพภูมทิ ัง้ สามแดนโลกธาตุ เทพพรหมภพภูมทิ กุผูท้ กุ นาม ทุกสถานท่ที ข่ี ้าพเจา้ ไป เชญิ รว่ มอนโุ มทนาบญุ กบั ข้าพเจา้ และหลวงป่ตู ลอดชวี ิต” “อนาคตอยากเปน็ อยา่ งไร ทำ�ปัจจุบันให้ด”ี “เอ็งท�ำ อะไร ทำ�เลย ไมต้องกลวั ถ้าเป็นเร่ืองดี ทำ�ไปเลย สาธุ” “สว่ นใหญท่ ี่เรากังวล เพราะเรากังวลเรอื่ งอนาคต เราไมร่ อู้ นาคต แตถ่ ้าผา่ นมันไปได้ มันก็ง่าย สบาย” “ทกุ อย่างอยู่ท่ีตวั เรา เราจะเอายงั ไง จะท�ำ หรือไม่ท�ำ ” ๑๑๐ คติธรรมค�ำ สอนหลวงตาม้า
“ชีวติ มนั ส้นั ตอ้ งรีบท�ำ ไมต่ อ้ งรอ” “การฟอกบญุ ฟอกท่ีมนษุ ย์ แตส่ ามารถเป็นประโยชน์กบั มนุษย์และวญิ ญาณ” “พลังงานรบั ทจ่ี ิตออกที่ธาตุ” “สวดไปเร่ือยๆ ๓ ปี จะมีทพิ ยอ�ำ นาจ” “สังฆานสุ ติ ท�ำ เพือ่ ใหม้ กี ำ�ลัง เพ่อื พิจารณาสิ่งที่เขา้ มากระทบ” “กรรมฐาน คอื งานของจิต” “ในยุคน้จี กั รพรรดแิ รงสุด มที งั้ อทิ ธฤิ ทธ์ิและบญุ ฤทธิ์ มที ้งั ทางโลกและทางธรรม สวดไมต่ ่ำ�กว่า ๓ ปี จะมที พิ ยอำ�นาจ จะไม่เกิดหรอื สร้างบารมีกง็ า่ ย” “แค่สวดบทจกั รพรรดิทุกวนั ก็ปลอดภัยจากโรคแล้ว สวดไปเรือ่ ยๆ จะมีความระลึกรู้ เดี๋ยวหลวงป่กู ม็ าบอกกเอง” “การอธิษฐาน คอื การฝากกระแสนนั่ เอง” “จิตภาวนาตอ้ งอาศัยธาตุ ถา้ ธาตไุ มอ่ ำ�นวย แสดงว่าเป็นเศษกรรมในอดีตไม่ต้องไปสนใจ... ท�ำ ต่อไป” “พลงั งานผ่านรูปและนาม ผา่ นจิตและกายเรา ตามส่งิ ทเ่ี รานึกคดิ ” “ให้อธษิ ฐาน บุญทีท่ �ำ ตงั้ แต่อดีต ปัจจุบัน ละอนาคต ขอให้ภพภูมิ เทพพรหมเทวา มาอนุโมทนาตลอดชวี ิตของข้าพเจา้ เมื่อไปไหน ทวั่ ทั้งสามแดนโลกธาตุ ขอพลงั งานหลวงปู่จงครอบวมิ านใหท้ กุ ผ้ทู กุ นามตลอดชีวติ ของขา้ พเจา้ ”คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตามา้ ๑๑๑
“การแยกจติ ออกจากกายไปหลายๆ ที่ บญุ กจ็ ะไดเ้ พ่มิ ขนึ้ โดยอัตโนมตั ิ” “กรรมในอดตี แกไ้ ม่ไดแ้ ตส่ ามารถหนีได”้ “เวลาไปโรงพยาบาล สัพเพแผ่เมตตา ครอบวิมานใหเ้ ค้าไปเลย เคา้ รไู้ มร่ ูไ้ ม่ต้องสนใจ เพราะตายไปเดยี๋ วกร็ เู้ อง รู้จกั หลวงปู่ กไ็ ปตามกรรมงา่ ยข้ึน” “เวลานั่งสมาธิ...หรอื จะไปไหน... ใหน้ ึกถงึ พระก่อน เพราะสายใยจะสง่ถงึ กัน กระแสจิตกบั กระแสพระจะอยรู่ ่วมกัน นึกถึงพระบอ่ ยๆ เมือ่ นานไป สามารถใช้พลังงานจากพระมาเปน็ ประโยชน์ได้ ท้ังทางโลกและทางธรรม” “กรรม คือ เรอ่ื งในอดีต ถา้ ไมค่ ิดมนั กไ็ ม่มา กอ็ ย่าไปคิดถงึ มัน ภาวนาไป” “อดีต คือ ปัจจุบนั การกระทำ�ปัจจุบัน คือ อนาคต จะเปลยี่ นอดตี หรอื อนาคตต้องเปลีย่ นทีป่ จั จบุ นั ” “อธษิ ฐาน... ลกู ขอตัง้ สัจจะอธิษฐาน บญุ ที่ขา้ พเจ้าได้ท�ำ ในชาตินี้ ขออทุ ิศให้เจา้ กรรมนายเวร บดิ า มารดา หม่ญู าติท้งั หลาย ภพภูมิ เทพพรหมเทวา และทุกผ้ทู กุ นามท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั ขา้ พเจ้า ขอทุกๆ ท่านมาอนุโมทนากบั ขา้ พเจ้าตลอดชวี ติ ขา้ พเจา้ ไปไหนขอให้ภพภมู มิ าอนุโมทนากับขา้ พเจา้ ทุกสถานทีท่ ่ีไป” “ถ้าเรานกึ ปรามาสพระ ให้เรานึกโยโทโสทกุ ครั้ง ตอ้ งขอขมาทกุ ครงั้ ” “บาปบญุ กอ็ ยู่ทจ่ี ิต แต่อยูค่ นละมิติ” “จิตมนั ไว มันเกิดๆ ดับๆ จับจิตไวท้ ่ใี ดท่หี น่งึ กพ็ อ” “อยากให้คนอ่ืนท�ำ ดี เราตอ้ งท�ำ ความดีให้คนอ่ืนเคา้ เห็น เราไมส่ ามารถเปลย่ี นใครได้ ก็อเุ บกขาเสยี ตัวใครตวั มัน”๑๑๒ คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ส่งิ ที่พักเวลานอน มันเปน็ การพกั ผ่อนธาตุ ดนิ น้ำ� ไฟ ลม แต่จิตเราไม่เคยได้พักเลย เวลาฟ้งุ ซ่านมากๆ กใ็ ห้สูดหายใจลกึ ๆ แล้วคอ่ ยปลอ่ ยลมออกมาทลี ะนิด ไมต่ ้องเร่งสบายๆ จากวนั เป็นเดือน จากเดอื นเป็นปี เดีย๋ วกด็ ีเอง” “กรรมหนีไมไ่ ด้ แตเ่ ราเลอื กท่ีจะไม่คดิ ถงึ มนั ได้ แตเ่ ราเอาบุญฤทธ์ิไปตัดอาจจะช่วยได้โดยการอธษิ ฐาน ถือศีล สวดมนต์ บวช เพ่ือตัดกระแส ไมใ่ หน้ ึกถึงกรรมไม่ดีได้” “ไปไหนให้ฝากกระแสกบั เทวดาท่เี ราไป อนุโมทนาบุญกบั ผู้สร้าง ตง้ั แต่อดตี ปัจจุบนั และอนาคต และขอเชิญเทวดามาอนโุ มทาบญุ ของเราด้วย เราจะได้มพี วกเยอะๆ” “เราตอ้ งตามดูตัวเองบอ่ ยๆ เราจะได้เขา้ ใจตวั เอง ต้องรักษาจิตและรกั ษาธาตุเพ่อื การดำ�รงชีพปจั จุบัน และส่ิงที่เราอยากจะไปในอนาคต กรรมไม่รจู้ ะมาตอนไหนเราจึงต้องปรบั จิต ปรับใจ เตรียมตวั ไว้ให้ดี” “ศลี ขาด ดกี ว่าไม่มศี ีลเลย มีปมกด็ ีกว่าไมม่ ีอะไรเลย” “พทุ ธงั ชวี ิตตัง เมปเู ชิ ขอถวายชวี ติ เป็นพุทธบูชา” “ต้องรกั ษาอารมณ์ไมใ่ หข้ ึ้นลงมากจนเกนิ ไป ใหห้ ลกี การกระทบของอารมณ์ตวั เอง ตอ้ งต้งั จติ อารมณ์ สติ ใหด้ ี ทำ�อารมณใ์ หส้ บาย ใหพ้ จิ ารณาทุกวนั ” “อธษิ ฐาน ขออาราธนาบารมีกำ�ลงั จักรพรรดิทลี่ กู ไดส้ วดทกุ วนั สงิ่ หนง่ึ สง่ิ ใดก็ตามทเ่ี กยี่ วพันธ์กบั ขา้ พเจ้า ท้ัง ตา หู จมกู ล้นิ กาย ใจ ขอใหข้ ้าพเจา้ รูเ้ ห็นตามสภาพความเป็นจรงิ ” “เวลาส่งวญิ ญาณกจ็ บั ภาพหลวงปู่ แล้วกน็ ึกภาพหลวงปซู่ ้อนไปในสิง่ ที่เราจะส่ง ถา้ มเี วลาก็สพั เพ” ๑๑๓คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“เช็คอารมณ์ตวั เองบอ่ ยๆ คดิ ดี หรอื ไม่ดี ให้ตรวจทกุ วัน พิจารณาทุกวนั ” “ไมม่ ีใครชว่ ยเราได้นอกจากตวั เราเอง” “สวดจกั รพรรดิสบายๆ ใหไ้ ดท้ ้งั วนั ไม่จำ�เปน็ ตอ้ งนบั หรอกว่าไดก้ ่จี บ สวดให้ไดต้ ลอดเวลา ไม่ตอ้ งพดู กับใครมาก สวดไป ง่วงก็นอนสวด ตื่นมาก็สวดตอ่ ” “เราแก่ลงทกุ วนั เวลาเหลือน้อยแลว้ ต้องรบี สร้างกำ�ลงั เพื่อจะเคลื่อนภพภูมิ จะออกจากทุกข์ จะสร้างบารมี จะชว่ ยเหลือศาสนา กแ็ ล้วแต่คำ�อธิษฐาน ปฏบิ ัติมาท้ังหมดกเ็ พื่อเตรยี มตวั ไป สร้างก�ำ ลงั ของเราเอง ตอ้ งทำ�” “ใหเ้ ช็คทกุ วัน วา่ วันนี้ เราภาวนาเปน็ ยังไง ใหร้ ตู้ ัวตลอดว่าหยุดภาวนาไปชว่ งไหน แคภ่ าวนา ท�ำ อารมณใ์ ห้ดี ฝึกนัง่ สมาธิ การไมเ่ กิด ไม่ใชเ่ รือ่ งยาก อย่าหยดุ ท�ำ ละกนั ” “คาถาลา้ งหนา้ พุทธัง ล้างหนา้ ธมั มงั ล้างทกุ ข์ สังฆัง เพิ่มสขุ สวัสดี ลาโภ นะโมพทุ ธายะ” “จบั ภาพหลวงป่ไู ด้ ภาวนาไป แค่ ๑๐ ปี รู้หมดทว่ั ท้งั ๓ แดนโลกธาตุ ไม่มีเร่อื งใดทไี่ ม่ร”ู้ “กระแสผ่านเราไปยงั ท่ที ่เี รานกึ ถึง... จากศตั รมู าเปน็ มติ ร” “กนิ ไดแ้ ต่อยา่ ให้ตดิ อยา่ ติดรส ไม่ง้ันต้องไปแสวงหามาเข้าปาก” “โลกนไ้ี ม่มเี ร่อื งบังเอิญ... ไมม่ ี” “พลังงานจากรปู ลกั ษณท์ เ่ี ราอธิษฐาน กระแสจะแผ่ออกไปได้ ประมาณ ๓กโิ ลเมตร”๑๑๔ คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ถ้าเราทำ�จติ ใจใหส้ บาย กส็ ามารถท�ำ ให้ลืมความเจ็บปวดจากธาตุขนั ธไ์ ด้” “การโมทนากนั และกันน่คี อื การฝากกระแส เช่น ไปวดั กโ็ มทนาบุญกับผูท้ ่ีสร้างวัดนต้ี ัง้ แตอ่ ดตี ปจั จุบัน อนาคต ขอเทวดา ภพภูมบิ ริเวณวดั มาอนโุ มทนาบญุ กับข้าพเจา้ ด้วยต้งั แต่อดีต ปัจจบุ ัน อนาคต ไปไหนมาไหนกฝ็ ากกระแสไป มนั อย่ทู ี่เราจะคดิ ออกไหมว่าจะอนุโมทนาบญุ อะไร” “พยายามรเู้ ท่าทันความรู้สึกของตวั เอง” “บุญคอื ความสบาย บุญเกบ็ อย่ทู จ่ี ิต” “ใครเดินมา... ครอบวมิ านให้เลยได้ยงิ่ ดี” “สวดบอ่ ยๆ เบรกกรรมไมด่ ไี มใ่ ห้เขา้ มาได”้ “การสะสมบญุ สะสมที่ใจ แสงสว่างกจ็ ะเกดิ ” “หมนั่ สวดมนต์ ภาวนาบ่อยๆ จะสรา้ งบารมกี ง็ า่ ย จะไมเ่ กดิ กง็ า่ ย” “ขยันสวด ขยนั พจิ ารณาวา่ สวดแล้วเปน็ อย่างไร พิจารณาตอนเยน็ วา่ วันนี้เปน็อย่างไร รักษาศลี ครบไหม ท�ำ ตัวให้เปน็ ประโยชนห์ รอื เปล่า แล้วเราจะต้องปรับปรุงตวัเราตรงไหน” “ถ้าจะเปล่ยี น ต้องเปล่ียนที่ปัจจบุ ัน” “เวลาเดนิ ไปไหนมาไหนกใ็ ห้สวดไปดว้ ย ก็จะมีกระแส มพี ลังงาน” “ท�ำ อย่างไรอารมณถ์ ึงจะดี วันน้ีขาดทนุ หรือก�ำ ไร”คติธรรมคำ�สอนหลวงตามา้ ๑๑๕
“พลงั งาน วัตถุ หรอื รูปลักษณ์ หรือ การกระทำ� เชน่ การท้ิงพลงั งานในที่ตา่ งๆ พอเรานึกย้อนไป เรามักจะจำ�ได้ในเรือ่ งเก่าๆ ในสถานที่เกา่ ๆ อนั น้ีเรียกการท้งิพลังงาน” “เวลาดใี จกไ็ มเ่ พลดิ เพลินเกนิ เวลาทุกขใ์ จก็ทกุ ข์ไม่นาน” “ให้เตรียมตวั ตาย ยงั ไงก็ตอ้ งตายอยู่แล้ว จำ�หนา้ หลวงปู่ให้ได้ก็จบ” “ลองน่งั สมาธิจนนง่ิ ดู แลว้ จำ�อารมณต์ อนน้ันไว้ พอชนิ กบั อารมณ์ตรงนน้ัแล้ว เมอื่ มีปญั หา หรอื มีอะไรก็ตามมากระทบ เรากจ็ ะเข้าอารมณ์ตรงนัน้ เลย” “จิตเรามีพลงั งาน ให้สวดจักรพรรดิ แล้วทรงอารมณด์ ีๆ หลายๆ ปี คนอยูใ่ กล้ก็จะอบอ่นุ จะเปน็ ทร่ี ักของมนษุ ยแ์ ละเทวดา” “ง่าย ... แตท่ �ำ ยาก... อยทู่ จี่ ะนกึ ออกไหม” “เวลาเราน่งั นง่ิ ๆ สบายๆ เรากจ็ ะระลกึ รู้ได้หมดแหละ” “คนเราเกิดมามีไมเ่ ท่ากัน บางคนก็เสวยบุญ บางคนกเ็ สวยกรรม” “จะไปนิพพาน แคร่ กั ษาศลี ยา่ งเดียวไม่พอ ต้องทำ�บารมี 10 ให้เต็ม” “จะท�ำ ตบะกไ็ ม่ตอ้ งสนใคร” “บุญ คือ ความสบาย ถา้ ทำ�สบายก็ไดบ้ ุญ” “ต้องท�ำ อารมณด์ ีทกุ ลมหายใจ ถ้าอารมณ์ไมด่ บี ุญอัดไม่เขา้ ” “วันหนง่ึ อารมณเ์ ปน็ ไง มีบญุ หรอื มีบาปมาก” คติธรรมคำ�สอนหลวงตามา้ ๑๑๖
“บางทอี ารมณไ์ มด่ ีเกิดจากอารมณ์ในอดตี เราแก้ไขไมไ่ ด้ เพราะเราไมม่ ีกำ�ลังจะชว่ ยได้ จะแกไ้ ด้ คอื ตอ้ งสวดมนต์ พอสวดไปนานๆ พอกระแสท่ไี มด่ ีเข้ามา มันกช็ ว่ ยทุเราความโกรธลง เราไมส่ ามารถตัดอารมณไ์ ม่ดีไดห้ รอก แต่เราสามารถเบนกระแสได้ จติ อดั บุญ ออกทางธาตุ นี่คอื บารมหี รอื บุญทสี่ ะสมไว้ ถ้าเราอัดบุญอยทู่ ่ใี จมากๆ กจ็ ะมแี สงสว่าง อัดบุญ คอื การท�ำ อารมณด์ ี สวดมนต์” “จะสะสมบารมตี ้องใช้จิตและธาตุ ตอ้ งสะสมไปทุกวัน เราตอ้ งพิจารณาทุกวนั เพือ่ ให้มแี สงสว่างแห่งบุญ พิจารณาส่งิ ท่ีกระทบอารมณ์ทีร่ ับ เวลากระแสมาว่าอารมณไ์ ปตามกระแสท่ีรบั หรือเปล่า จะปรับปรงุ ยงั ไงให้เราดีข้นึ ทกุ วนั ” “บทสวดจักรพรรดิ เป็นบญุ ฤทธ์แิ ละอทิ ธิฤทธิท์ ่สี ะสมไว้ในจิตของเรา” “จะมวั ดูคนอืน่ ไมไ่ ด้ เราตอ้ งดทู ่ีตัวเรา” “ถ้าเราท�ำ อารมณ์ดไี ด้ สวดแค่วันเดยี วก็ได้มาก คอ่ ยๆ สะสมไป เพยี ง ๕ ปีหรอื ๑๐ ปี นัง่ ใกลๆ้ กร็ ้สู ึกเลย” “ถ้าสวดในใจทุกวนั จะรู้เลยวา่ จะมีส่ิงดหี รอื ไมด่ ีเข้ามา เราก็จะไดห้ ลบทนั ” “อารมณ์ดกี ็บุญ อารมณไ์ มด่ กี ็บาป เราต้องทรงอารมณ์ใหด้ ”ี “ถา้ เราท�ำ กันจริงๆ จังๆ ไม่นาน ตนื่ มากร็ บี ท�ำ เลย เวลาคุยกันกใ็ ห้นกึ ถงึ ภาพนึกถงึ กระแสเวลาคุย นึกถึงค�ำ สวด สะสมไปเร่ือย จากวันเปน็ เดือน จากเดือนเปน็ ปี ขอแคจ่ รงิ จังนะ จบ” “ไปไหว้พระสวดมนต์ที่ไหน อยา่ ลมื พุทธงั ชวี ิตตัง เวลานอนก็ให้สวดมนต์จนกว่าจะหลับ หลวงปู่ว่า “ฝนั ของเองกจ็ ะไดบ้ ุญ” ท�ำ ให้เปน็ ปกติ กอ่ นต่ืนนอนกส็ วดกอ่ นคอ่ ยลุก”คติธรรมค�ำ สอนหลวงตามา้ ๑๑๗
“สมัยน้ใี หเ้ อาตวั รอด อย่าไปดคู นอน่ื เคา้ จะดีไม่ดี เรื่องของเขา เราไมเ่ ก่ยี ว แค่ตัวเราบางวนั ยงั ดมี ่งั ไมด่ ีม่งั เลย” “ปฏบิ ัติธรรมทช่ี ้าเพราะกระแสภายนอก การคยุ การไม่จริงจงั ” “ธรรมะ คอื การพจิ ารณากบั การภาวนา” “การภาวนาจะดหี รือไม่ อยู่ทก่ี ารสะสมพลังงานระหว่างท่ีสวดว่าคดิ ไปทางไหน เวลาสวดสบายๆ หรือคิดเร่ืองอืน่ ทกุ อยา่ งตอ้ งทำ�จรงิ จงั อธิษฐาน มีการทำ�ติดต่อกนั อยู่กับตวั เอง ยงุ่ กบั คนอนื่ น้อยๆ ภาวนาไป” “ขอขมาใหเ้ ปน็ ขอแลว้ ก็ปรับปรุงตัวใหม่ แกไ้ ขไปเรือ่ ยๆ พจิ ารณาไป” “เรื่องไม่ดีของคนอ่นื อยา่ พดู เพราะถา้ เราเป็นตัวเริ่ม มันจะเป็นบาปต่อบาปที่ไม่ดี” “วญิ ญาณเรร่ ่อน สัพเพไป ให้เคา้ เปล่ียนภพแลว้ ค่อยให้เค้ารับบุญ เวลาจะ สัพเพหรอื อยากชว่ ยใคร ให้ใช้บารมหี ลวงปู่ก่อนแล้วกส็ พั เพไป นกึ หลวงปู่มาครอบท่ีเราก่อน แลว้ กระแสก็จะสง่ ผ่านไปคนท่เี รานึกถงึ จะสง่ ไดด้ ีไมด่ ี ขึน้ อยกู่ ับว่าเรานึกถงึหลวงปไู่ ด้มากขนาดไหน น้อมหลวงปไู่ ดด้ ีแคไ่ หน” “บทจักรพรรดิ เปน็ บทท่ีเปน็ ทิพย์ เอาจติ มาผกู ไวท้ ่ีคำ�สวด จิตก็เป็นทิพย์ เราก็จะร้วู ่า ตอนนจ้ี ิตเราอยทู่ ี่ไหน รใู้ หไ้ ดต้ ลอดวัน และดงึ กลับมาใหเ้ รว็ ” “การตง้ั กองบุญ ตง้ั ตามพระพทุ ธ ตัง้ ตามเจดีย์ แลว้ รวมบญุ บารมีของเราเข้าไปในกองบุญนน้ั ” “พลงั งานทีเ่ ตม็ จะรวู้ ่ารูอ้ ะไรหลายๆ อยา่ งไปเรือ่ ย ความระลกึ รู้ สัมผสั ร ู้ ทำ�ไปนานเป็นภาพเลย” ๑๑๙คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“อธษิ ฐาน ขอตงั้ สจั จะอธิษฐาน ลกู ไปสวดทไี่ หนขอให้พลังงานแผไ่ ปท่นี ัน่ฝากกระแสผู้ท่กี ราบพระองคน์ ้ี ขออนโุ มทนาบญุ และให้ทกุ ท่านมาโมทนาบญุ กบัข้าพเจ้า” “ฝกึ จติ ใหเ้ หนือธาต”ุ “จติ จะพกั ได้ต่อเม่อื น่งั สมาธิ หรอื ภาวนา ถ้าหลบั ไป ต่ืนเชา้ เลยไมฝ่ ันแสดงจิตเร่ิมนิ่ง” “พจิ ารณาตามสภาพความเปน็ จรงิ กจ็ ะเลกิ สงสัย ใหพ้ ิจารณาว่า สวดแล้วมีประโยชนไ์ หม” “อาทสิ มานกายต้องนกึ ดว้ ยจิต” “ทิพยอำ�นาจ นึกถงึ ความดี นึกถึงพลงั งาน ฝกึ จนจิตมีอ�ำ นาจมีพลงั ” “จกั รพรรดกิ บั พทุ ธเหมอื นเหรยี ญที่อยคู่ นละด้าน” “ทรงอารมณใ์ ห้ดีในเวลาสวด ทิพยอ�ำ นาจจะเกดิ ” “ต้องวางอารมณใ์ ห้ดี ชว่ งท่ีสวดอยา่ ใหจ้ ติ มนั เศรา้ สวดไปเรือ่ ยๆ สบายๆ แค่นึกถงึ หลวงปู่ แลว้ นึกถึงคนท่ีอยากสพั เพให้ ก็จบแลว้ แคน่ กึ ” “ถา้ ต่นื มาเชา้ ไม่เพลยี แสดงวา่ จติ ได้พกั ” “รู.้ . รู้ตามสภาพความเปน็ จรงิ ” “ช่วยวญิ ญาณได้ ชว่ ยคนได้ เปน็ ศาสตร์ทง่ี า่ ยท่สี ดุ และมปี ระโยชนส์ ูงสุด จะไมเ่ กดิ กไ็ ด้ ดึงพลงั งานมาใช้ นีท่ างลัดสดุ ๆ แล้ว”๑๒๐ คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ตอ้ งเช็คตัวเองว่า สวดนานๆ แลว้ ดีขนึ้ ไหม เชน่ เชค็ ตามความฝนั ” “ตอนนอน ถา้ สวดแลว้ นอน ก็เป็นการอัดบญุ ทัง้ คนื ธาตนุ ะ่ พกั ผ่อน แต่จิตกำ�ลงั ทำ�งาน” “บอกหลวงปูเ่ ปดิ ๓ แดนโลกธาตใุ ห้เคา้ เห็น ให้วิญญาณเห็น แลว้ พอเคา้ ร้เู คา้กไ็ ป ไปตามกรรมของแตล่ ะคน” “ความกงั วลเปน็ ตวั ตัดบุญ” “วธิ อี ดั บญุ อดั พลงั งานสร้างบารมี โดยการสวดภาวนา เพือ่ เพิ่มก�ำ ลงั ” “ลองพจิ ารณาดวู า่ แต่ก่อนกับเดย๋ี วนเี้ ปน็ ยังไง” “ตอ้ งรบี ทำ�เวลามนี อ้ ย” “อดั จกั รพรรดิเข้าไปในจิต จิตอย่ทู ่ีจกั รพรรดิ (จิตผกู กบั พลงั งาน)” “โพธิสตั ว์ น่ังกบั คดิ ” “พุทธะ กบั พระอรหันต์ พลงั งานสญู ไปแล้ว มแี ตแ่ นวทางใหเ้ ดนิ พลังงานท่ีจะนำ�ไปใชไ้ ด้ จะเป็นพลังงานของโพธสิ ตั ว”์ “จะอดั พลังงานไมไ่ ด้ถา้ ไมอ่ าศยั ธาตุ” “ครอบวมิ าน เหมอื นครอบบุญ น�ำ บุญจากผมู้ ีบญุ มาให้คนอนื่ ผา่ นรปู และนามของเรา” “บุญ บาป อยทู่ ีจ่ ติ ” ๑๒๑คติธรรมค�ำ สอนหลวงตาม้า
“อธิษฐาน ขอความขัดขอ้ ง อยา่ ไดเ้ กิดท้งั ทางโลกและทางธรรมจนกวา่ จะพน้ทกุ ข์ จนกวา่ จะสมความปรารถนา” “คลนื่ พลังงานคล้ายคล่ืนของจติ คลนื่ ของบุญ บญุ คือ ความสบายใจ” “สมาธิ และ พจิ ารณา ตอ้ งทำ�ควบคกู่ นั ไป” “สวดมนต์และทรงอารมณใ์ ห้ด”ี “ภายในสภู่ ายนอก จากจิตออกธาต”ุ “ปรับจติ เขา้ ถึงพรหมวิหาร ทรงอารมณใ์ หด้ ”ี “รู้แล้วไม่ทำ�กไ็ มเ่ กิดประโยชน์อะไร” “อย่าไปกลวั วญิ ญาณ เพราะถา้ เราไม่สวดเคา้ กร็ บั ไม่ได”้ “กระแสทที่ �ำ บุญทที่ �ำ ศีลทีร่ กั ษา กระแสบญุ ที่ดีเปน็ ตวั เช่อื มพลงั งานมาที่เรา(เรามรี ปู มีนาม) แล้วกก็ ระจายไปทวั่ เป็นประโยชน์กบั ตวั เอง และประโยชนก์ ับภพภมู ิ” “สวดเปน็ ประจ�ำ เวลาสวดให้ภพภูมิมาสวดด้วยตอ้ งบอกเคา้ ” “ปรบั ทเี่ ราแลว้ ไปท่ภี พภมู ิ เราเปน็ ตวั สื่อทด่ี กี ับวญิ ญาณทีอ่ ยู่ (ภพภมู ทิ ีอ่ ยู่)สวดไปเรอื่ ย พลงั งานกเ็ พม่ิ มากขนึ้ ท่านกส็ ว่างข้นึ ตามเรา พลังงานบุญจะชว่ ยต่อตา้ นพลังงานท่ไี มด่ ีได”้ “การกระจายพลังงานของหลวงป่ใู หค้ นทไ่ี ดเ้ ข้าใจอานิสงส์เยอะ” “บุญหาง่าย แต่จิตเราจะน้อมไปหรอื เปลา่ ” คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตามา้๑๒๒
“บทสวดเปน็ ตัวเชือ่ มเรากบั พลงั งาน ถา้ เรามกี ระแสอยทู่ ี่หลวงปู่ อย่ทู ี่จักรพรรดิ กระแสเรากบั กระแสทา่ นอยู่ดว้ ยกนั แคม่ องรปู กพ็ อ ใหอ้ ธษิ ฐานเอา” “คาถา... พทุ ธัง คง หนัง ธัมมัง คง เนอื้ สงั ฆงั คง กระดูก” “คณุ ไสย... ทำ�น�้ำ มนต์ให้กนิ อธษิ ฐานให้เคา้ หาย ใหเ้ จา้ กรรมนายเวรมาอนุโมทนากับหลวงป”ู่ “จติ เราถ้ากระทบอะไร ตอ้ งรีบดึงอารมณก์ ลับมาให้เร็วเท่านัน้ ” “ถ้าเราคดิ วา่ ตวั เองลำ�บาก ก็ลำ�บาก ถ้าคิดว่าตวั เราสบาย มันกส็ บาย” “สวดเพอ่ื ประโยชน์แกต่ วั เอง แก่สรรพสตั วท์ งั้ หลายและวิญญาณ” “อธษิ ฐาน ขอความขัดขอ้ งอยา่ ไดเ้ กดิ เพอ่ื เอาธาตุขันธ์ รูปและนาม ของขา้ พเจ้าทง้ั หลายเพ่ือประโยชน์ในทุกๆ สถานทที่ ีข่ า้ พเจา้ ไป ทุกสถานท่ที ี่ข้าพเจา้ อย”ู่ “เวลาสวดกำ�หนดจิตไปทต่ี ่างๆ กเ็ หมือนเราไปสวดในสถานที่นั้น โดยเราอาศัยทิพยอ�ำ นาจ น่คี ือการแยกโดยอาศัยมโน ให้กำ�หนดไปหลายๆ ท่ี” “ไมเ่ หน็ แตร่ สู้ ึกได้” “จะทำ�แลว้ อย่าไปทุกข์ ทท่ี กุ ข์เพราะเอาจิตเข้าไปยดึ ” “จะท�ำ แล้วอย่าไปทกุ ข์ ท่ที ุกข์เพราะเอาจิตเขา้ ไปยึด” “ถ้าเค้าด่าเรา ก็คดิ ว่าเคา้ ดา่ ธาตุ ไม่ใชด่ ่าเรา เอาความโลภ โกรธ หลง ทงิ้ ไวใ้ นโลก กอ่ นตาย จบ”คติธรรมค�ำ สอนหลวงตาม้า ๑๒๓
“การเวยี นว่ายตายเกิดอยทู่ ี่จติ อยทู่ ีเ่ รากำ�หนด” “อธิษฐานก�ำ หนดขอหลวงปู่ ใหห้ ลวงปู่เป็นทกุ อยา่ ง ขอให้ท่านชว่ ยเหลือทั้งทางโลกและทางธรรม” “จบั ภาพให้ชัด มองภาพไป นกึ ถงึ ภาพ นึกถงึ พลังงาน เหมอื นเรยี นด้วยใจ” “โลกนไ้ี มม่ ีคำ�ว่าบงั เอิญ” “มองตัวเอง อย่ามวั แตม่ องคนอ่ืน ถ้าเกิดเรือ่ งผิดเราตอ้ งโทษตัวเองกอ่ น” “คนดีเค้าไม่โทษใคร” “สบายแล้ว สว่างแล้ว สงบแล้ว ให้อธิษฐาน ต้องอธษิ ฐานใหเ้ ปน็ ” “อธษิ ฐาน ส่งิ ใดท่เี กย่ี วขอ้ งเกีย่ วพันธ์กับขา้ พเจ้าทาง ตา หู จมูก ลน้ิ กาย ใจ ขอให้ข้าพเจ้ารับรตู้ ามสภาพของความเป็นจริง” “ทรงอารมณใ์ ห้ดี อารมณด์ ี จติ กบ็ นั ทึกส่ิงดี คิดไม่ดจี ติ เราก็บันทึกไมด่ ี” “สจั จะ คือ ความจรงิ อธษิ ฐาน คือ ความมั่น” “เม่อื เกิดความไม่พอใจ ใหพ้ จิ ารณา อเุ บกขาซะ” “อย่าไปติใคร ใหต้ ิทต่ี ัวเอง” “ผิดแลว้ เริ่มใหม”่ “ท�ำ แล้วอย่ากลวั กลัวแลว้ อย่าท�ำ ” คติธรรมคำ�สอนหลวงตามา้๑๒๔
“เราไมส่ ามารถใหใ้ ครเปน็ ดังใจเราได้ แต่เราสามารถปรบั ใจของเราให้ยอมรับในตวั ตนทีเ่ คา้ เป็นได้” “สูตรหลวงปู่ ใช้ชวี ติ บชู าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์” “ลมื ตาปุบ๊ สวดเลย ๒-๓ จบ กราบพระ นงั่ สมาธิ นกึ ถงึ หลวงปู่ นัง่ ภาวนาไปลืมตา หลับตาดรู ูป ให้บันทึกกระแสจกั รพรรดิทจี่ ิตให้ได้ ถา้ สวดเม่ือไรแลว้ เกิดปตี ิ ก็ใช้ได้ เขา้ ถงึ กระแสจกั รพรรดิ กระแสหลวงปู่ เดินไปเดินมากส็ วดไป กอ่ นนอนก็กราบพระแลว้ ก็สวดจนหลบั หลายวันเขา้ จติ กจ็ ะแยกไดว้ า่ อันไหนสบายหรือไมส่ บาย จติกจ็ ะแยกบนั ทกึ บันทกึ แต่สง่ิ สบาย สง่ิ ไมด่ ีกจ็ ะลืม ช่วยใหก้ ระแสกรรมในอดีตไมเ่ กดิเพราะจติ เราไปอยูก่ บั กระแสของจักรพรรดิ กระแสของหลวงปูด่ เู่ ปน็ ประโยชนม์ ากปัญหาว่ามันจะทำ�หรือเปลา่ ถ้าไม่ท�ำ ท่านก็ชว่ ยอะไรไม่ได”้ “เรามรี ปู และนาม เราเปน็ ตัวบุญ อยา่ กลวั (วญิ ญาณ) ท�ำ ใจใหส้ บาย” “ท�ำ บ่อยๆ (ภาวนา) กรรมในอดตี ก็เขา้ มาไมไ่ ด้ ทำ�หลายวันเข้ากจ็ ะรบั รูเ้ รือ่ งราวต่างๆ ไปเรอ่ื ย น้อมพลังพระพุทธรูปท่ีเรากราบมาท่ีเรา หรอื นอ้ มพลงั งานหลวงปู่ไปทีพ่ ระองคน์ ัน้ ฝากกระแสความระลึกถึงกนั ดว้ ยการโมทนาบุญซง่ึ กนั และกนั ต้งั แต่อดตี ปัจจบุ นั และอนาคต เราตอ้ งเวียนว่ายตายเกิด พวกเรากจ็ ะเยอะ ใหส้ วดไปและแผ่เมตตาไป ท�ำ นานๆ เขา้ เราก็จะเปน็ ทีอ่ บอนุ่ ของมนษุ ยแ์ ละเทวดา สะสมไวต้ งั้ แตต่ ืน่ ยังหลบั ใช้เวลาหนอ่ ย กส็ ามารถมาเปน็ ประโยชน์ได”้ “เวลาสวดใหน้ ึกถงึ หลวงปู่ หรอื จกั รพรรดกิ ็ได้ สวดไปจติ ก็สบาย เวลาเรานกึ ถึงหลวงปู่ดู่ นึกถึงจักรพรรดิ คอื การฝากกระแสไป นานเข้า ๒-๓ ปี กส็ ามารถอธษิ ฐานอะไรก็ได”้ “ถา้ เราตั้งอธษิ ฐานแลว้ ท�ำ ไม่ได้ เราตอ้ งเร่มิ ใหม่ และเพมิ่ ไปอกี เทา่ ตัว” “ทำ�ง่ายแต่ไมย่ อมท�ำ ” ๑๒๕คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“จบั ภาพยังไงถึงเรยี กว่าคล่อง เวลานกึ ทไี รก็มคี วามรูส้ ึกทุกที หรือถ้านึกอะไรกไ็ ด้ตามที่นึก ถือวา่ ใช้ได้ ถา้ ยงั ท�ำ ไมไ่ ด้ ใหต้ ง้ั หลกั สวดใหม่ หรอื นกึ ถามอะไรทเี่ ราไม่ร้กู ็จะมคี �ำ ตอบ นี่แหละความคลอ่ งหละ” “จะไปนิพพาน ตอนนไี้ ด้กี่เปอรเ์ ซ็นต์ มันอยู่ทกี่ ารกระท�ำ ความคิด การอธิษฐาน การวางแผน” “หลวงตาเจอหลวงปู่ ตอนอายุ ๓๔ ก็เร่มิ สวดมาต้ังแตต่ อนน้ัน” “ผทู้ ีห่ วังนพิ พาน สวดจักรพรรดไิ ป พิจารณาไป ไม่มีอนาคต ปัจจบุ ันลว้ นๆอยู่แตป่ จั จบุ ัน พระอรหนั ต์ หรือพระปัจเจก ไมม่ อี นาคต อย่กู บั ปัจจบุ ัน ตดั กิเลสตณั หาท�ำ บารมี ๑๐ ใหเ้ ตม็ ” “ให้จดจ่อท่พี ลงั งาน ถา้ มันคดิ ไปทอี่ น่ื มาก แสดงวา่ จติ ไมบ่ นั ทึก” “ถา้ อารมณด์ จี ติ กส็ ว่าง อารมณ์ไมด่ ีจติ กไ็ ม่บันทึก” “ฝกึ สมาธิใหม่ๆ กล็ �ำ บาก แตพ่ อหลายวัน หลายเดอื น หลายปี มันกจ็ ะนง่ิ ” “อยา่ ให้อารมณ์ในอดีตมาทำ�ให้เราเศรา้ ไป” “จะทำ�อะไรต้องพิจารณาก่อน หลายๆ รอบ” “เราเกิดมาเพอ่ื เสวยกรรมดี และกรรมไมด่ ี และสร้างกรรมใหม่ เราจะหนีออกจากกรรมไดโ้ ดยการหาพลังงาน คือ ผ้มู กี �ำ ลงั นึกถงึ กระแสของผู้มกี �ำ ลัง” “บทสวดแต่ละบทก็มพี ลงั งานไมเ่ หมอื นกัน” “ตอ้ งฟงั ใหเ้ ยอะ” คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตามา้๑๒๖
“พลงั งานของบทสวดท้ังหมดสว่ นใหญ่ อยใู่ นไตรสรณคมน์ พุทธัง ธัมมังสงั ฆงั สวดแล้วกม็ ีพลังงาน มีความเพลดิ เพลนิ มคี วามสบาย สวดไปเรอื่ ยๆ กระแสของบทสวดกจ็ ะอยู่ท่ีจิต แลว้ ก็ดึงพลังงานตรงน้นั มาใช้ (โดยการอธิษฐาน)” “ไตรสรณคมน์ คือ ทำ�จติ ให้ไปท่ี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สามารถปดิอบายภมู ิ” “เวลาสวดให้กระแสของบทสวดอยู่ทจี่ ติ ใหต้ ้งั ใจสวด พิจารณาเอา” “เน้นตอนทส่ี วดอารมณ์เป็นไง ถา้ อารมณ์สบายๆ การบนั ทึกกระแสของพลงั งานมนั กเ็ พมิ่ ขึน้ ถ้าอารมณไ์ ม่ดี กระแสทอ่ี ัดมันก็ไม่เต็มที”่ “หลวงตาอยากให้คนเข้าใจเรื่องพลังงานอยากให้บทสวดจักรพรรดิมีประโยชน์ ในกาลข้างหน้า” “สวดไปถา้ บันทกึ กระแสของจกั รพรรดิได้ดดี ี เพียง ๓ ปี กจ็ ะมที ิพยอำ�นาจสามารถน�ำ มาใชป้ ระโยชนท์ งั้ ทางโลกและทางธรรมได้” “ตราบใดทเี่ ราเอาจิตเราไปผูกกับกระแสของจกั รพรรดิ ผกู กับหลวงปู่ ก็เป็นการอัดกระแสไปเรอ่ื ย” “สวดแบบทรงอารมณ์ใหด้ ี อยา่ ให้ตัวบาปเขา้ มาบอ่ ย เพราะเปน็ ตัวตัด ตัดอปุ กเิ ลส ๑๖ ออก สวดไปเรอื่ ย อย่าสนใจใคร ใหว้ างอเุ บกขา ให้นกึ ถงึ ตวั เอง ใหร้ กั ษาตวั เอง พรหมปัญโญ เมตตา กรุณา มทุ ิตา อเุ บกขา” “ถ้ารกั ษาศลี แลว้ แผบ่ ุญไปใหท้ ่ัวๆ เทพพรหม ภพภมู ิก็ชอบ” “ถา้ จบั ภาพทา่ นได้ตลอดแล้วไมต่ ้องสวดก็ได้ ทีใ่ ห้สวดเพราะเปน็ พลังงานกับจติ แค่คิดกไ็ ปแล้ว” ๑๒๗คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตามา้
“ชอบหรอื ไม่ชอบใคร ใหส้ ัพเพไปให้ อโหสิกันและกันเร่อื ยๆ” “เราตอ้ งรกั ษาชีวติ ของเราไว้เพ่ือท�ำ ประโยชน์ เพ่ือต่อบญุ ” “สวดนานๆ สวดบอ่ ยๆ กระแสพลังงานก็เขา้ ไป นกึ ถึงจักรพรรดิ นึกถึงหลวงป่บู ่อยๆ กระแสกรรมดีหรอื ไมด่ ี มเี กดิ จากจติ ” “การอธษิ ฐานตง้ั สัจจะท่ีดี ต้องอธิษฐานสง่ิ ทีเ่ ราท�ำ ได้ ไมเ่ กินกำ�ลัง” “บญุ สว่ นบญุ ... บาปสว่ นบาป... สวดจกั รพรรดกิ ็ไปนิพพานได้” “ลองสวดนงิ่ ๆ ดู จิตก็เปน็ พรหม” “เวลาอะไรกระทบก็ใหน้ ง่ิ ๆ ทำ�ใจให้สบายๆ” “เอ็งกะข้าเทา่ กนั เราเปน็ มนษุ ยเ์ ทา่ กัน ถ้าเอ็งอยากเป็นอย่างข้า กต็ อ้ งท�ำ เดีย๋ วก็จะเปน็ อย่างขา้ ” “มาวัด เดนิ ไปเดินมา สวดอย่างเดยี ว ไม่ตอ้ งไปย่งุ กับใคร” “เราทำ�ด.ี .ไม่ตอ้ งบอกใคร..มันเกิดกบั ตัวเรา” “ทพิ ยอ�ำ นาจ จะเกดิ ได้ตอ้ งมจี ิตท่ดี ี ต้องทรงอารมณ์พรหมวหิ ารได”้ “อารมณ์บางอารมณ์ท่มี ันเกิดขน้ึ มาเอง ใหเ้ รารู้จกั วางอุเบกขา พยายามใช้ความรกั ความเมตตา ต่อตวั เอง ซอ่ื ตรงตอ่ ตวั เราเอง ไม่มเี ลศนัยกับตวั เอง” “อย่าประมาทเด็ดขาด จติ ตอ้ งเขา้ ถึงไตรสรณคมน์”๑๒๘ คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ปฏิบตั ิเพ่อื ให้เขา้ ใจการเวียนวา่ ยตายเกดิ ได้เรยี นรู้ ดีกวา่ เกิดมาฟรีๆ ตายฟรๆีจะไดไ้ ม่ทุกขม์ าก เพราะยังไงเรากต็ อ้ งตายและตอ้ งเกิดอยแู่ ลว้ ” “อยากมีฤทธิ์ ใหส้ วดไปเรือ่ ยๆ สวดให้เพลิน ใหน้ กึ ถึงหลวงปู่ หรอื นึกถึงพระทรงเคร่ือง สวดไปจะเกิดความปตี ิ พลังงานจะอัดเขา้ ทีจ่ ติ ต้องสวดค�ำ สวดใหเ้ ป็นสมาธิสวดแลว้ ต้องนง่ิ เพราะเราตอ้ งการให้จติ น่งิ ๆ สบายๆ เพอ่ื ให้จิตบนั ทึกพลงั งานไดด้ ีข้นึ ” “ชาตนิ ตี้ ้องเอาทกุ อยา่ งใหเ้ ตม็ เชน่ ทาน กรรมฐาน สวดภาวนาไปเรือ่ ยๆ อยู่ท่กี ารบนั ทึก เราไม่สามารถก�ำ หนดได้ว่าตอนไหน เวลาไหนเราจะอารมณ์สบาย ก็ให้สวดไปเรอ่ื ยๆ สบายๆ หลวงตาก็ท�ำ ทุกอริ ิยาบถ สวดจักรพรรดิไป ทำ�ดว้ ยใจสบาย” “เวลามเี ยอะ... แตไ่ ม่ยอมท�ำ ” “ถา้ อารมณไ์ ม่สบาย ตอ่ ใหส้ วดทัง้ วนั จติ ก็ไม่บันทกึ ” “การสวดมนต์กำ�พระเนยี๊ ะสดุ ยอดเลย อยู่ทีก่ ระแสจิตเรา ให้น้อมจิตเขา้ ไปให้เกิดปตี ิ เวลาเจอพระ ก็เคารพ จะโมทนา ไมต่ ิใคร ไมท่ ำ�ใหใ้ จเศรา้ หมอง เราตอ้ งวางอารมณใ์ หด้ ี ตอ้ งถนอมกายและใจให้ดี ตอ้ งพิจารณาและปรบั ปรุงตัวให้ดี ดูตัวเอง ปรับและแก้ท่ีตัวเอง” “การโมทนา เปน็ การผกู กระแสปัจจบุ นั ไปอนาคต การโมทนาเป็นการฝากกระแสบญุ ล้วนๆ” “คนเราทำ�เอง..ทุกข์เอง” “ถ้าไม่มพี ระผงก�ำ กใ็ หร้ ะลึกถงึ หลวงปูด่ แู่ ทน ไดเ้ หมอื นกัน” “เราทำ�กันอยนู่ ้ี คอื การฝกึ ไว้เตรียมตวั ตาย นกึ เอาบ่อยๆ เข้ากช็ ิน” ๑๒๙คติธรรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“ถึงมเี งินฝากเปน็ แสนล้านก็สกู้ ารมสี มาธไิ มไ่ ด”้ “ฝึกแล้วต้องเอามาเป็นประโยชน์ให้ได้ ๓ ปี ๑๐ ปี ๒๐ ปี มันต้องมีการเปลีย่ นแปลง ตอ้ งมีการกลายพนั ธ”์ุ “การท�ำ ดีหรอื ไม่ดี การกระทำ�จะซึมซับเข้าทีละน้อย เราจึงต้องคอ่ ยๆ ซึมซบัความดไี ปเรอ่ื ย” “ใหร้ จู้ ักวิธเี กดิ และใหร้ ู้จกั วิธตี าย ไหวพ้ ระสวดมนต์ นงั่ สมาธิ ท�ำ กรรมฐานรักษาศีล ศกึ ษาเร่ืองธรรมะ เพราะยงั ไงเรากต็ อ้ งตายและเกดิ อยดู่ ”ี “สาย (การปฏิบตั )ิ หลวงปู่ เวลาทุกลมหายใจจะเปน็ กรรมฐานหมด ทำ�กรรมฐานแบบไมร่ สู้ กึ ตัว ท�ำ ท้งั วันต้งั แตต่ ื่นยนั หลบั มีประโยชนม์ าก จะกินกส็ พั เพ เหน็ คนป่วยก็สัพเพ ธาตุและจติ ไปไหนก็เปน็ ประโยชนต์ อ่ ภพภูมิ ทำ�ซัก ๑ ปี ธาตุข้างในกจ็ ะกลายพันธ์ุ ปฏิบัตสิ ายหลวงปู่ไม่มีตายโหง เพราะมีประโยชนต์ ่อโลกวญิ ญาณ ไปไหนแลว้ ขนลกุ พรบึ ถือว่าใช้ได”้ “นึกไมด่ กี บั พระเมอื่ ไร ตง้ั ใจหรือไม่ตัง้ ใจกด็ ี ใหโ้ ยโทโสเลย ท�ำ ให้เปน็ ปกติเดยี๋ วมนั ก็เลิกเอง” “อา่ นเยอะได้แต่ต้องพจิ ารณาเอา” “ดจู ติ ว่ามันลดไหม โลภ โกรธ หลง ตัณหา อปุ ทาน” “ทุกวันเราตอ้ งท�ำ บุญใหม้ ากท่สี ดุ เท่าทีจ่ ะมากได้” “ทีร่ วมบุญ เพอ่ื สะสมบญุ ไปเรอ่ื ย จะนำ�มาใชก้ ใ็ หอ้ ธิษฐาน” “เวลาเรารวมบญุ เทพพรหม เทวดา ภพภมู ิ กม็ กี �ำ ลังเพมิ่ ข้นึ ด้วย” ๑๓๐ คติธรรมค�ำ สอนหลวงตาม้า
“บุญทเี่ รามี บารมี ๑๐ ทเ่ี ราทำ� เม่ือรวมไป ภพภูมกิ ม็ าโมทนา ตา่ งคนตา่ งกไ็ ด้” “บางท่เี ราเสยี เวลาไปกับคนอ่ืน เสียเวลาไปกบั อารมณ์ของตัวเอง เราต้องพจิ ารณา ท�ำ ไมจิตเราบนั ทกึ ไม่เตม็ ” “ถ้าเอง็ อารมณส์ บาย ถ้าอารมณไ์ ม่สบายเข้ามา เอง็ จะรับไหม..กไ็ ม่รับ..” “ทุกอย่างที่เป็นเราท่ีเกิดข้ึนกับเรามันเกิดจากการกระทำ�ในอดีตทั้งนั้นมันไม่มีค�ำ วา่ บงั เอิญ หรอื อุปมาไปเอง อนาคตเปน็ ยงั ไง อย่ทู ีป่ จั จุบันท่เี ราก�ำ ลงั ทำ�” “ทท่ี �ำ ไมไ่ ดเ้ พราะข้ีเกยี จ หรอื เพลิดเพลนิ กับปัจจบุ ัน หรือตดิ คุยกนั ” “เจอครบู าอาจารยแ์ ลว้ ปรกึ ษาได้เลยไมต่ ้องอาย” “ทำ�ใจให้สบาย ท�ำ อะไรกไ็ ดเ้ ยอะ ท�ำ บญุ ก็ได้มาก” “เวลาสวด ก็ท�ำ ใจใหส้ บาย จบั ภาพจกั รพรรดิ จับภาพหลวงปู่ เรียกภพภมู ิ แถวน้นั มาสวดดว้ ย แผ่บุญใหเ้ จา้ กรรมนายเวร” “ใหก้ ระแสจติ กับกระแสจกั รพรรดอิ ยู่ในกระแสเดียวกัน นึกถงึ หลวงปมู่ ากก็ได้มาก” “ตอ้ งเขา้ ใจเรอื่ งจักรพรรดิ สวดไปเรื่อยๆ ก็จะเขา้ ใจเอง” “ต้องทำ�ใหเ้ ปน็ สมาธิ จิตอย่กู ับบทสวด จิตจึงจะบันทึก” “การสวดจักรพรรดิ..เป็นการทำ�ใหจ้ ติ มพี ลัง” “เคา้ มีแต่นามไมม่ ีรูป เค้าต้องพ่งึ เรา” ๑๓๑คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตามา้
“การกำ�พระเปน็ การปิดกระแสของอบายภูมิ เห็นพระนกึ กราบ เหน็ คนไปทำ�บญุ มาก็โมทนา เห็นคนตกทุกขไ์ ด้ยากกเ็ วทนา ทัง้ หมดเป็นความรสู้ ึก พลงั งานเขา้ ที่ตาไปทใ่ี จ ฝกึ ไปเร่อื ย กฟ็ อกจิตไปเรื่อย เดย๋ี วก็ไปไดเ้ รว็ ” “ที่เราก�ำ ลงั สวดจักรพรรดอิ ยเู่ ป็นการชารจ์ พลังงาน เมอื่ เต็ม เราสามารถนำ�มาใชไ้ ด้ด้วยการอธษิ ฐาน ถ้าเราอารมณ์ดตี ลอด ไม่มีเรื่องอะไรทีเ่ ราไมร่ ู้ ฝากกระแสไวก้ บัครูบาอาจารย์ ถา้ อารมณส์ บาย กจ็ ะมคี วามสขุ พอมีความสุขท่จี ติ กรรมกจ็ ะเข้ามาท่ีเราไมไ่ ด้” “คนท่ีป่วยอยา่ คดิ ถึงส่ิงท่ไี มด่ ”ี “เวลาสวดให้กำ�หนดไปหลายๆ ที่ เหมอื นเราไปน่งั สวดอยู่ตรงนน้ั ” “สวดมนตก์ ับนั่งสมาธิมันกอ็ ันเดยี วกัน” “ให้สวดมนต์และแผเ่ มตตา น้คี ือหนา้ ท่ีของเรา ภาระที่เราตอ้ งปฏบิ ตั ”ิ “พอนึกภาพออกมนั กค็ ุยกับภาพได้ มนั เป็นความระลกึ ร ู้ เวลาถามใหถ้ ามบ่อยๆ เวลาว่างๆ เหมอื นกับเราเปน็ ลูก ผกู กระแสจิตไวก้ บั ทา่ น เป็นการสร้างความค้นุเคยกับทา่ น” “ความรู้สึกแมน่ กวา่ การมองเหน็ ” “ผกู กระแสของเราไปท่หี ลวงปู่ ไปท่จี กั รพรรด”ิ “น้อมจติ นอ้ มพลังงานมาทเ่ี ราและแผ่ไป” “ถ้าอารมณ์ดี ไม่เกิดก็ได้..ท�ำ กรรมฐานตลอด”๑๓๒ คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“ทุกคนจะไม่เกิด ได้หมด ท�ำ ได้ ต้องจริงจงั ต้องอารมณ์ดี มันง่ายๆ ไมไ่ ด้ยาก” “จะท�ำ กรรมฐานตอ้ งท�ำ อารมณ์ให้ดี จติ จะไดบ้ ันทึกแต่ความด”ี “อารมณด์ ี... รา่ งกายกด็ ี อารมณ์ไม่ด.ี .. ร่างกายก็ไมด่ ”ี “ขีเ้ กียจกต็ อ้ งทำ� เพราะยังไงเรากต็ อ้ งตาย” “แค่เอาจริง ทำ�อยา่ งจริงจงั ก็จบ” “ที่ยังไมไ่ ปนิพพาน เพราะอธิษฐานชว่ ยกนั อยู่ ไมท่ ้งิ กนั ” “เวลาสวดให้เปน็ เน้ือเดียวกนั กบั บทสวด ทำ�อารมณ์ให้ดี” “ทรงอารมณใ์ หไ้ ด้ บันทึกบญุ ท่ีจิตไปเรอ่ื ยๆ อาศยั รูปและนาม จติ และกาย ๑๐ ปี ไม่เกดิ กไ็ ด้” “หลับก็บนั ทึก ตืน่ ก็บันทกึ พยายามอยา่ ไปกระทบกบั อารมณ์ทางโลก” “จิตเราเป็นตวั จุดกระแส กระแสดแี ละกระแสไม่ดี นึกดีกระแสดกี เ็ ข้า นกึ ไมด่ ีกระแสไม่ดีก็เข้า อยทู่ ่เี ราจะนึกไปยงั ไง” “พอรู้สึกตวั ก็สวด ไปไหนก็แผ่เมตตา ท�ำ ทั้งหลบั และต่ืน จติ กจ็ ะปรบั ความสบายใจก็จะเกดิ เพราะตัวเราจะมปี ระโยชน์ตอ่ คนและวญิ ญาณ ทำ�นานๆ จิตกจ็ ะหลบจากกระแสท่ไี ม่ดี ความดีก็จะเพิ่มขึน้ จะสร้างบารมีก็เรว็ จะไมเ่ กิดกง็ ่าย ให้ทำ�ท้งั วนั ท้ังคนื ” “นั่งน่งิ ๆ สบายๆ จติ ก็เปน็ พรหม ไมม่ สี ุขไมม่ ีทุกข์ เหมือนตอไม้ นงั่ นง่ิ ๆ มนัก็สงบ” ๑๓๓คติธรรมคำ�สอนหลวงตามา้
“เรามีบญุ เรากแ็ ผไ่ ด้ หรือนึกถึงหลวงปดู่ ู่ แลว้ แผ่ไปกไ็ ด้ นึกไปถงึ ข้างบนตรงกลาง และขา้ งลา่ ง นกึ ถงึ หลวงปูก่ ใ็ ห้น้อมบุญของหลวงปู่แผไ่ ปดว้ ย” “โลกของวิญญาณไมม่ กี ลางวัน กลางคนื อยู่ไดด้ ว้ ยแสงสวา่ งของบญุ เคา้ มองเหน็ เรา แต่เรามองไมเ่ หน็ เค้า” “สวดคนเดยี วไดค้ นเดยี ว สวดหลายคนกไ็ ดพ้ วกเยอะ ให้นกึ ใหภ้ พภูมิบรเิ วณนั้นมาสวดด้วย ขออัญเชิญภมู ิทั้ง ๓ แดนโลกธาตุ เวลากำ�หนดใหน้ ึกถึงหลวงปู่ก่อนแล้วคอ่ ยนึกถงึ ๓ แดนโลกธาตุ” “ตอนทเี่ ปน็ มนษุ ยใ์ ห้ไมเ่ อา พอเป็นวิญญาณแลว้ ก็รบั หมด” “ทกุ อยา่ งอยทู่ ก่ี ารนกึ นกึ บอ่ ยๆ เช่น นกึ วา่ กายในเราเปน็ จกั รพรรดิ แตถ่ ้าจะไมเ่ กิดให้นึกวา่ ตัวเองเป็นพระดที ส่ี ุด บวชใน” “พิจารณาทกุ วนั วันนด้ี ีกวา่ เดมิ หรือเปลา่ ในแตล่ ะวัน” “กราบรูปไปหานาม พลังงานก็พงุ่ มา เราเปน็ ตัวดงึ พลังงานมาใช้ เพราะเรามีทง้ั รูปและนาม” “ถา้ เราจะทรงอารมณ์ของเราให้ดี เรากไ็ มต่ ้องไปสนใจคนอนื่ ตอ้ งคลายความไม่สบายใจให้เรว็ ทีส่ ดุ ถา้ จติ เราเขา้ ถงึ ไตรสรณคมน์ก็ไม่ตอ้ งไปสนใจ เพราะทกุ คนมีทงั้ ดแี ละไม่ดีอยา่ ไปยึดติด” “การท�ำ บญุ ทุกครง้ั หลวงปูใ่ ห้อธิษฐานใหเ้ สรจ็ ตั้งแต่บ้านเลย” “หอ้ ยพระแลว้ อบอุน่ ตลอดก็ถอื ว่าใชไ้ ด้ บารมีรวมของทา่ นรวมกับบารมีของเรา”๑๓๔ คติธรรมคำ�สอนหลวงตามา้
“ตอนสวดเราช่วยภพภูมิได้ท้งั ๓ แดนโลกธาตุ แบบไมม่ ปี ระมาณ” “วญิ ญาณตกภูมิ คอื คนหรอื สตั ว์ที่ตายก่อนกำ�หนด จากการปว่ ย จากอบุ ัติเหต”ุ “อธิษฐาน ท�ำ บญุ ทีไ่ หนใหภ้ พภมู บิ ริเวณน้ันมาโมทนาบุญกบั เราตลอดชีวิต” “สวดมนต์ นง่ั สมาธิ เป็นการฝกึ จิต ท�ำ ทานเป็นการสร้างบารมี” “ก�ำ ลังจากการสวดบทจกั รพรรดิ เอามาเป็นก�ำ ลงั เพ่ือให้พน้ จากทุกข์ เอามาเป็นกำ�ลงั เพื่อสร้างบารม”ี “สวดใหส้ งบ..สวดให้เพลนิ ..ใช้ได้” “ถ้า ๓ ปี ยังไม่รอู้ ะไร แสดงว่าสวดผิด บนั ทึกผดิ ” “ทกุ อยา่ งอยูท่ ี่ความรู้สกึ ท�ำ ใจใหส้ บาย เดยี๋ วกจ็ ะรู้” “พลงั งานรับที่จติ ออกท่ีธาต”ุ “การสวดมนต์กับการน่งั สมาธิ นน้ั เปน็ ฐาน สวดไปนานๆ พจิ ารณาไป จะไปไหนกไ็ ด”้ “พลงั งานเกิดจากการกระท�ำ ของเรา” “หม่ันภาวนาไป เวลาหลบั ให้รู้วา่ หลบั เวลาตน่ื ใหร้ ูว้ า่ ตน่ื ” “จติ ต้องปราศจาก ความปรารถนา ก็ปลอดจากความทกุ ข”์ “การบนั ทกึ บญุ หรอื บาป มันบันทึกที่ใจ” ๑๓๕คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“สวดจนจิตเราไปผกู กบั หลวงปกู่ ับจกั รพรรดิ นานๆ เข้าอารมณ์ไมด่ ี กระแสไม่ดีมันจะไมบ่ ันทกึ จะบันทึกแตส่ ่งิ ดีดี” “บทสวดนีไ้ ม่ธรรมดา ใหส้ วดเปน็ ประจ�ำ สวดไปจรงิ จังสกั ๓ ปี จิตจะบนั ทกึก�ำ ลงั จกั รพรรดิ บนั ทึกก�ำ ลังหลวงปดู่ ู่ เวลาอธิษฐานกจ็ ะไดต้ ามกำ�ลงั ทเ่ี รามี” “เจา้ กรรมนายเวร คือ คนทอ่ี ยรู่ อบๆ ตวั เรา ท่เี คยอาฆาตกันมา” “ช่วงท่ีภาวนา หรอื สวดใหด้ วู า่ จิตเราไปท่ไี หน จติ เรากบ็ นั ทึกท่ีน้ัน” “ถ้าจิตสบายๆ กจ็ ะคดิ ถึงพลงั งานอย่างเดียว คิดถึงหลวงปดู่ ู”่ “คิดดมี ากๆ... ธาตุขันธก์ ็ด ี คิดไมด่ มี ากๆ... ธาตขุ นั ธ์ก็ไม่ด”ี “ไมม่ ีใครหยดุ คิดได้ จะหยุด หยุดไดด้ ้วยการภาวนา สวดมนต์ หรือ มองภาพหลวงป”ู่ “ชีวติ เราตอ้ งก�ำ หนดเองได้ ไม่ไปตามกระแสกรรม” “ให้สวดไป... จนกวา่ จะหลับ ใหก้ ระแสจิตไปอยู่กับไตรสรณคมน์ หรือจักรพรรด”ิ “ใครก็ได้ เอาพลงั งานทา่ นมาใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชนไ์ ด้ ชว่ ยกนั ก�ำ จัดขยะของวญิ ญาณให้หมด โดยใช้พลงั งานของทา่ น” “มนุษย์เปน็ ตวั ผ่านของทุกภพภมู ิ เพราะมนษุ ยม์ ีรูปและนาม” “ทพิ ยอ�ำ นาจเปน็ กระแสของจักรพรรดิ กระแสของหลวงปดู่ ู่ กระแสของ ไตรสรณคมน”์ ๑๓๗คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“เรามหี น้าทค่ี ดิ อยา่ งเดยี วว่า จะทำ�ยงั ไงให้อารมณด์ ีใหไ้ ดท้ ัง้ วนั สนใจตรงน้ี” “ให้จิตเกาะท่ีพลังงานของพระ ให้จติ เกาะท่ีรปู ของทา่ น (ภาพทา่ นมชี ีวิต)พลังงานกระทบทจี่ ิตออกทธี่ าตุ จะใช้พลงั ไดต้ อ้ งนึกถงึ พระบ่อยๆ นานไป กจ็ ะสามารถอธษิ ฐานไดท้ ัง้ ทางโลกและทางธรรม” “สวดแลว้ ไมค่ ดิ อะไรเลย มีแคเ่ รากับจักรพรรดิ ใช้ใจสบายๆ สะสมไป ๑ปี ถงึ จะใช้ได้ แตถ่ า้ จะคดิ ใหน้ ึกถงึ หลวงปกู่ ่อน แลว้ ค่อยนกึ ถงึ ปัญหาทเี่ ราติด กจ็ ะมีทางออก ทกุ อย่างอยู่ที่จะพิจารณาเอาพลังงานมาใช”้ “ถา้ ไปไหนนึกถงึ หลวงปดู่ ู่ ภพภมู แิ ถวนน้ั กจ็ ะไดด้ ว้ ย โดยอตั โนมตั ”ิ “พระโพธิสัตว์ มีมากกวา่ เมด็ ทรายในมหาสมทุ ร” “ผี เทวดา ไมม่ ีสัญชาติ ไม่มศี าสนา” “ทพิ ยอ�ำ นาจเป็นกระแสของจกั รพรรดิ กระแสของหลวงปู่ดู่ กระแสของ ไตรสรณคมน”์ “อยทู่ ก่ี ารบันทึกพลังงาน ตอ้ งบนั ทึกให้แน่น จงึ จะนำ�พลงั งานที่บนั ทกึ มาใชไ้ ด้” “สอ่ เสียด นินทา ผดิ ศลี เป็นตวั ตัดพลังงาน” “คนที่ท�ำ ไดต้ อ้ งเปน็ คนอารมณ์ดี นง่ิ ไมเ่ ครยี ด จะท�ำ ทิพยอำ�นาจได้ ท�ำ ไดแ้ น่ถ้าเราลดกรรมที่ไมด่ ลี ง ไมว่ ่าจะเปน็ ลดวจีกรรม มโนกรรมและกายกรรมลง” “มันไมไ่ ด้ง่ายๆ แตข่ อใหส้ วดสม่�ำ เสมอ ทำ�ใจใหส้ บายๆ เหน็ หรือไม่เห็นก็อยา่ ไปเครียด เจอเหตุการณ์ท่ไี ม่ดีกเ็ ฉยๆ ว่างจติ สบายๆ อเุ บกขาไว”้๑๓๘ คติธรรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“ท�ำ ยังไงใหห้ ลดุ พ้นไดง้ า่ ย บันทกึ บญุ มากๆ บนั ทกึ บาปนอ้ ยๆ ทกุ อยา่ งต้องฝกึ จติ ภาวนาเยอะๆ สวดไปนานๆ ตอ้ งมีกำ�ลงั มากจงึ จะตดั ภพตดั ชาติได้” “คนท่จี ะไมเ่ กดิ ตอ้ งไมย่ ึดทง้ั บญุ และบาป เอาบญุ เยอะๆ แลว้ ก็ทงิ้ บญุ ไปเลย” “บญุ ต่อบุญ บาปต่อบาป ใหห้ มนั่ นึกถึงบุญใหม้ ากๆ กระแสบญุ ก็จะเขา้ ถ้าเรานกึ ถงึ สงิ่ เศร้า สิง่ ไม่ดกี ็จะเขา้ นกึ บญุ ได้บุญ นกึ บาปไดบ้ าป ใหค้ ิดดดี ีบ่อยๆ” “โทสะ จะแก้ได้ต้องหมน่ั สวดมนต์และแผเ่ มตตาบอ่ ยๆ อธษิ ฐานขอบารมีหลวงป่ดู ู่ ใหไ้ ด้เจอแตส่ งิ่ ทีด่ ี สงิ่ ท่ไี มด่ อี ย่าให้มาเกดิ อธิษฐานใหท้ ่านเบนพลังงานทไี่ ม่ดีให”้ “คนถา้ ไดล้ องเขา้ มาไหว้พระสวดมนต์ นงั่ สมาธิ ถา้ ทำ�จรงิ ๆ จงั ๆ นะ ไม่เกิดไดท้ กุ คน” “ท่านสอนใหร้ ู้การเกิดและรูก้ ารตาย ตายแลว้ ไปไหน เพอ่ื ในอนาคตเราจะสามารถบังคับจติ เราเองได้ ว่าตายแลว้ เราจะไปไหน” “ทา่ นใหศ้ ึกษาตามสภาพของความเป็นจรงิ ” “คนเรามีกรรมเปน็ แดนเกิด ไมม่ ใี ครแกก้ รรมของตัวเราได้ นอกจากเราจะแก้ทตี่ วั เราเอง แค่ไหวพ้ ระสวดมนต์ ก็สามารถแก้กรรมไดแ้ ล้ว” “กระแสเอง็ ทำ�ปับ๊ มันอยทู่ ีจ่ ติ พลังงานอยู่ตรงท่เี ราเคยท�ำ เราแก้ตรงนี้ไม่ได้แตท่ �ำ เปน็ ลืมได้ ใหภ้ าวนาไป” “การภาวนา ถา้ ภาวนานิ่งๆ มันจะบนั ทึก ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าภาวนาไปนกึ สิง่อืน่ ไปกไ็ ดแ้ ค่ ๕๐ เปอรเ์ ซน็ ต”์คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตาม้า ๑๓๙
“จงปดิ กระแสที่ไม่ดี ความโลภ ความโกรธ ความหลง โดยการเบนกระแสบอ่ ยๆ ไปทีก่ ารสวดมนต์ ใหส้ วดมนตภ์ าวนาบ่อยๆ อธิษฐานบ่อยๆ ก็จะเบนกระแสท่ีไมด่ ีได”้ “กรรมทส่ี ง่ ผลเรว็ คอื กรรมทอ่ี อกท้งั กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม” “การคดิ ถึงส่งิ ไม่ดีเร่อื ยๆ กรรมที่ทำ� เป็นกรรมละเอยี ด สิ่งที่สง่ ผลมากจ็ ะช้าเพราะเป็นกรรมละเอียด” “การบนั ทกึ พลงั งาน บนั ทกึ ท่จี ติ เวลากำ�พระ จิตกอ็ ยทู่ ี่พระ ถา้ คิดถงึ หลวงปู่ จติ เรากไ็ ปอยู่ที่หลวงปู่ มนั เปน็ การหยุดความคดิ ทีไ่ ม่ดี หลบพลงั งานที่ไมด่ ี โดยการก�ำ พระหรือนกึ ถึงหลวงปู่ พลงั งานกับจติ เรากจ็ ะเป็นหน่งึ เดียว เพราะจิตไปอยูก่ ับ ไตรสรณคมนก์ บั หลวงปดู่ ู่” “เวลาสวดใหมๆ่ กค็ ดิ โน้นคดิ น่ี นานๆ ไปกจ็ ะสงบ เปน็ การพกั จิตไปดว้ ย” “อารมณ์ จิต สติ ถา้ พจิ ารณาไปดว้ ย ก็จะดีมาก” “เราเป็นมนษุ ย์ เราสามารถนำ�พลังงานทีเ่ ราแผ่ไปให้โอปาติกะได้ทุกชั้น ท ่ีพอมาเอาบุญได้ รวมถึงแผ่ให้กบั มารดา บดิ า ญาติมติ ร หลวงปู่จึงใหน้ กึ ไปเวลาท่เี ราทำ�ดี เวลาทำ�บุญ สวดมนตใ์ หแ้ ผ่ไปท่ัวๆ เพราะเรามรี ูปและนาม สามารถท�ำ ประโยชน์ใหก้ บั มนุษยแ์ ละภพภูมิ เรามเี กิดมตี าย ภพภูมเิ ทวดาก็มเี กดิ มีตาย เราก็จะมพี วกเยอะเพราะเคยท�ำ ดีมาต้ังแตอ่ ดตี ” “เพยี งนกึ ถึงบุญ กระแสบุญก็มาที่จติ เรา แลว้ ไปยังที่เรานึก โอปาติกะ และหมู่ญาตทิ เ่ี รานึกไปก็จะไดแ้ สงสว่างได้บุญดว้ ย” “เรามีรปู และนาม บุญมาฟอกท่ีเรา ภพภูมเิ ค้าทำ�ไมไ่ ด้ จะไดก้ ต็ อ่ เมอื่ เราแผไ่ ปใหเ้ ค้า”๑๔๐ คตธิ รรมคำ�สอนหลวงตามา้
“ตง้ั จติ อธิษฐาน ผู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งเก่ยี วพนั ธก์ บั ข้าพเจ้าต้ังแตอ่ ดตี ให้มารวู้ ิธกี ารปฏิบตั ธิ รรมตามแนวของหลวงปดู่ ู่ดว้ ยกนั จะได้รถู้ งึ การเกดิ การตาย รู้ทุกสภาพของความเป็นจรงิ ” “พลังงานมันผสมกันอยู่ทงั้ บญุ และบาป พลังงานอยูด่ ้วยกนั มนั อยูท่ เ่ี ราจะนึกอะไร” “สวดจักรพรรดิ แลว้ พจิ ารณาพลงั งานของจกั รพรรดิ ใหบ้ นั ทึกพลงั งานของจกั รพรรดิเยอะๆ แลว้ จะไดท้ งั้ อิทธิฤทธ์แิ ละบญุ ฤทธิ”์ “เช่ือ ศรทั ธา ในตวั หลวงปู่ ทำ�จติ ใจให้ผอ่ งใส ท�ำ อารมณ์ให้ด”ี “อธิษฐานขอใช้ธาตขุ ันธ์ในการปฏิบตั ิธรรม ช่วยเหลอื ศาสนา ชว่ ยโอปาตกิ ะชว่ ยแผบ่ ญุ ชว่ ยให้อายยุ ืน เพราะมีจติ สบาย กายท�ำ ดี อายุก็ยนื ” “นัง่ กรรมฐานจริงๆ เค้าไมม่ ีเวลา เค้าท�ำ ตง้ั แต่ต่ืนยันหลับ ว่างกท็ �ำ ” “ให้นึกถงึ ความหมายของบทสวดแลว้ จึงสวด พลงั งานกจ็ ะบันทกึ ท่ีจิตได้อย่างดี” “อดตี คือ ปจั จบุ นั การกระทำ�ปัจจบุ ัน คอื อนาคต” “เวลากราบพระท่ีไหนกช็ ่าง อยา่ ลืม พุทธัง ชวี ติ ตัง เมปูเชม.ิ .. ธมั มัง ชีวติ ตังเมปูเชม.ิ .. สงั ฆงั ชีวิตตงั เมปูเชมิ...” “การอทุ ิศบญุ ทด่ี ที ่ีสุด คือ นกึ ถงึ ความดีที่ทำ�บนโลกนี้ แลว้ ค่อยแผไ่ ป” “ทีเ่ ราทรงอารมณอ์ ยทู่ ุกวันนี้ แตพ่ อเจอสิง่ ที่ไมด่ กี ็รบั ไมไ่ ด้ แสดงวา่ เราก�ำ ลังไมพ่ อ ต้องสะสมตอ่ ไป” ๑๔๑คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“การแผบ่ ญุ ชว่ ยในการลดตัวของตัวเอง ลดทิฐิ ลดความโลภ ได้ทต่ี วั เรา” “หลวงปใู่ หห้ ยุดไปตามกรรม ให้ศกึ ษาธรรม สวดมนต์ ไหว้พระ ให้เรยี นรู้การเวียนวา่ ยตายเกิด ความทกุ ข์คอื อะไร ความสุขมนั คอื อะไร ใหพ้ ิจารณา ให้รู้จักท่ีจะเกิดที่จะตาย” “อยา่ หายใจทง้ิ ไปเปล่าๆ ใหภ้ าวนา สวดมนต์ คิดแตส่ ง่ิ ดีดี” “หลวงป่เู มตตาทกุ คน ทกุ วิญญาณ แคเ่ รานอ้ มไปพลังงานก็ส่งไปได้แล้ว” “ค�ำ วา่ ก�ำ ลัง คือ การทนทุกอย่าได้ ทนทกุ กระแสได้ คอื การวางเฉย” “พลังงานของความไม่สบาย เมอ่ื กระทบก็ใหห้ ลบโดยการภาวนา หรือจับภาพ จะใหต้ ดั เลยไม่ได้ แตเ่ บนกระแสได้ ใหส้ วดบ่อยๆ ในใจ กระแสจะได้หนาแน่นขึ้น เวลาเบนกระแส จะเบนได้ดี สามารถตดั กระแสเก่าๆ กับความคิดเกา่ ๆ ได้ มันไมไ่ ด้ตดั นะ แตม่ นั ลืมคิดไป” “การสวดมนต์เป็นพื้นฐานของจิต ท�ำ ให้สามารถหลีกอารมณ์ ความคิดทไ่ี มด่ ีของตวั เอง สามารถหลีกอารมณ์ไมด่ ีทม่ี ากระทบได”้ “พลังงานวิ่งไปตามกระแสคลื่นของจติ ” “ความไมเ่ ที่ยง.. เกิดแล้วกต็ าย..หวิ แลว้ กอ็ ิ่ม..อม่ิ แล้วกห็ วิ .” “เวลาแผพ่ ลงั งานไปไหน ใหน้ ึกถึงหลวงปู่ เพราะเราใช้พลังงานทา่ น พลงั งานจะมาทีเ่ ราแลว้ กส็ ง่ ไปท่ีทเี่ รานึก” “จะสรา้ งบุญ สรา้ งพลงั ตอ้ งปรบั ท่ตี วั เรา พลงั งานบุญ คอื ความสบาย พลงั งานบาป คอื ความไม่สบาย”๑๔๒ คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตาม้า
“ต่อให้สัพเพใหใ้ คร แตใ่ จเราไม่สบาย จติ ไม่สบาย ก็ส่งไปไม่ได้ ใหว้ างอารมณใ์ หม่ ให้สบายๆ แล้วคอ่ ยๆ แผไ่ ป อยทู่ ใ่ี จเปน็ ส�ำ คัญ จะอดั บญุ หรอื สัพเพให้ใครนกึ ไดใ้ ห้รบี ท�ำ เลย เลน่ กอ่ นเลย แผไ่ ปเลย” “สิง่ ทที่ ำ� สงิ่ ท่ีคดิ ส่งิ ทพี่ ูด ทกุ อย่างเป็นพลงั งาน สะสมไปเรอื่ ยๆ ทกุ อยา่ งมนัสะสมในจติ แลว้ ไปลงทธี่ าตุ แคค่ วามคดิ ก็ออกธาตุได”้ “มนั อย่ทู ีเ่ ราจะคิดยังไง ถ้าสะสมนานๆ คิดดีกด็ ี คิดไม่ดีธาตกุ จ็ ะแยเ่ อา” “ข้าพเจ้าขอต้ังสัจจะอธิษฐานสิ่งที่ไม่ดีในอดีตท่ีข้าพเจ้าและผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายทเ่ี คยท�ำ ไป ขอใหห้ ลดุ ออกไปจากกาย วาจา ใจ ขอให้เริม่ ใหมเ่ พอ่ื ท�ำ ดี เปน็ประโยชนแ์ กต่ ัวเองและศาสนา” “ถา้ เราครอบวิมานใหค้ นทีใ่ กล้ตาย ถึงแม้คนที่จะตายเกดิ คดิ ไม่ดีก่อนตาย ก็ไม่เปน็ ไร เพราะยังมแี สงสวา่ งอย่”ู “แค่เรานอนแลว้ รู้วา่ เราหลบั เม่อื ไร พอตอนเช้าตน่ื มาแลว้ พจิ ารณาว่า เมอ่ื คนืหลบั ไปตอนไหน ถ้าจ่อไปจริงๆ กร็ อู้ ยู่ แคน่ ี้กเ็ ลอื กได้แล้ววา่ ชาติหนา้ จะเกิดเป็นอะไร” “เราต้องถามทา่ นบ่อยๆ ทำ�ให้กระแสจติ กบั ธาตเุ ราคุ้นเคยกัน ใหถ้ ามบ่อยๆคุยบ่อยๆ ท�ำ ให้กระแสและพลังงานอยดู่ ้วยกัน (สงั ฆานสุ ต)ิ ” “คยุ กบั หลวงปู่บอ่ ยๆ หลวงปกู่ จ็ ะอยกู่ ับเรา เพราะเรานึกถึงทา่ น จิตกไ็ ปผกู กับท่าน” “จิตตอ้ งเปน็ สมาธิ และต้องท�ำ การฝกึ ฝน” “ใช้ความนง่ิ แลว้ อธษิ ฐาน พ้นื ฐาน คอื สมาธิ อยากจะทำ�อะไรกอ็ ธษิ ฐาน ขอเอา อยทู่ ีต่ ัวเราเอง” ๑๔๓คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“การสร้างพระ มกี �ำ ลงั มาก มกี ำ�ลังในการตัดภพชาติได้ ตัดหนี้สงฆ์ ตัดหนี้กรรมในอดตี ได้ การสร้างพระกค็ อื การสรา้ งกำ�ลงั ความน่งิ ความสงบ ศีล สมาธิอธษิ ฐาน” “เวลาสวดมนต์ไปเรือ่ ยๆ นกึ ถึงบคุ คล นกึ อธษิ ฐานไปเรอ่ื ยๆ ได้เลย ถา้ คดิอะไรไม่ออก เชน่ ตอนสัพเพกใ็ ห้จับภาพหลวงปไู่ ว้ก็พอ” “เวลาทำ�ดี กราบพระ ทำ�บญุ ท�ำ อะไรก็ตาม ให้นกึ ถึงตัวเองเปน็ พระ” “ความคดิ บางทีก็คดิ ดี บางทกี ็คิดไม่ดี... ธรรมดา... คิดใหด้ ีใหม้ ากๆ ละกัน” “ความหนาแนน่ ของพลังงาน ชว่ั โมงบนิ เยอะ สามารถถอดจติ ไปตามทต่ี า่ งๆและสามารถพดู คุยได้ด้วย” “ท�ำ ไปนานๆ จะชำ�นาญ โดยใชพ้ ลังงานของทา่ น โดยการอดั พลังงาน โดยการสวดมนตภ์ าวนา ใหก้ ระแสของเราไปผูกกับท่าน ผกู กับจักรพรรดิ จากวนั เปน็ เดือนจากเดือนเปน็ ปี ทำ�ไปเรื่อยๆ” “ใครนกึ ถึงหลวงตา ขอให้ไดร้ บั พลังงานของหลวงปูด่ ู่” “ไปไหน... อย่าไปปรามาสนกั ปฏบิ ัตธิ รรม หา้ มใช้พระ (ถา้ ไม่จ�ำ เปน็ ) ควรระวังตัว” “ถวายทา่ นใหห้ มด เราเปน็ เพียงผ้ดู แู ล เป็นการฝากกระแสใหก้ บั ผูท้ มี่ กี �ำ ลังอีกทั้งเปน็ การไม่ติดไม่ยดื กบั ส่ิงของด้วย ฝากพ่อฝากแม่ ฝากลกู ฝากกิจการ ฝากชวี ติไว้กับทา่ น ถวายทา่ นไปเลย” “เวลาเราเจอพลงั งานทไ่ี ม่ดมี ันกจ็ ะเกิดความรำ�คาญ ถ้าเราไม่หนเี รากต็ อ้ งสวดมนต์ ใหจ้ ิตหนไี ปอยูก่ บั พลังงานอื่น เอาจิตไปไว้ท่ีอนื่ ”๑๔๔ คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตาม้า
“สวดจนกว่าจะหลับ จิตกจ็ ะอยใู่ นบุญ กรรมท่ีเกิดจากปาณาตบิ าตก็จะเขา้ ไม่ได้” “นอนแล้วสวดไปจะเปน็ การบนั ทกึ บุญ ไมม่ ีกระแสของกรรมในขณะฝนั ” “ให้พิจารณาธาตกุ บั จิต จากจติ ออกธาตุ กบั ธาตุบบี จติ ” “ให้ทรงอารมณด์ ดี ี สบายๆ คอื การท่ีท�ำ ให้จติ ถนอมธาตุ จะได้อยู่เพือ่ ทำ�ความดไี ด้นานๆ” “ทุกครัง้ ทเี่ ราไปฝากกระแสไว้ทไี่ หน เวลาสวดมนต์ แผ่เมตตา ภพภมู ติ รงนั้นก็จะได้ทกุ ครั้ง” “เวลามีเรือ่ งรา้ ย... ให้มองภาพหลวงป ู่ และขอพลังงานจากทา่ น โดยการอธษิ -ฐาน” “อธษิ ฐานสั้นๆ ก่อนสวด คอื ขออัญเชิญเทพพรหมท่วั ท้ัง ๓ แดนโลกธาตุ มาร่วมสวดกบั เราด้วย” “พลังผา่ นจากเราไปเปน็ ประโยชน์กับภพภูมิแถวท่ีเราสวดมนต”์ “ความหงดุ หงดิ ความไม่สบายกาย ความไมส่ บายใจ มนั เปน็ กรรม กรรมมันเข้า” “ภาวนาไปแล้วสบาย แลว้ อารมณด์ ี กระแสไม่ดกี เ็ ขา้ ไมไ่ ด้ ทำ�ใจให้สบาย” “ให้พจิ ารณาอดตี มาปจั จบุ นั เพ่ือจะแก้ไขในอนาคต” “อย่าไปนกึ อย่าไปเศร้า ใหน้ ึกถึงความตาย แกก่ ็ตาย เด็กกต็ าย หนุ่มก็ตาย” ๑๔๕คตธิ รรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“การอธษิ ฐาน คอื การสรา้ ง และการเสวย คือ การรับ และการท�ำ ” “กรรมก็เปรียบเหมือนเงิน ถ้าเรามเี งนิ เราใช้ไปใช้ไปไม่เติมก็หมด เปรียบเหมือนกรรม ใช้ไปใช้ไปเร่อื ยๆ เดีย๋ วก็หมด ถ้าไมเ่ พมิ่ กรรมใหม่” “ให้จติ จดจ่อกับค�ำ ภาวนา ใหน้ ึกถึงภาพพระไว้” “เวลาตายอยู่ทจ่ี ิตตอนสุดท้าย แล้วอยู่ทกี่ ารสะสมบญุ จะไปเกิดเปน็ อะไรก็อยู่ตรงน”้ี “พลงั งานอาจเปรยี บเหมอื นเงิน ถา้ มีเงนิ มาก จะใชห้ รอื ไม่ใช้กไ็ ด้ จะใหใ้ ครก็ได้ พลังงานก็เหมอื นกัน” “ภาวนา สวดมนต์ พิจารณาใหด้ ี คิดถงึ ความตายบอ่ ยๆ” “หลวงตาไปกนิ ทไี่ หนก็แผ่ที่น่ัน ไปอย่ทู ่ีไหน ผ่านท่ไี หนก็ไปแผท่ ่นี น่ั สวดไปแผไ่ ป” “เอ็งเร่ิมไหว้พระ สวดมนต์ นง่ั สมาธิ ดวงเอ็งก็เปล่ียนแลว้ ให้ฝากดวงไวก้ ับพุทธะ ธมั มะ สงั ฆะ มันอยู่ทีต่ วั แกเอง” “พระอรหนั ต ์ คือ ผู้ท่ดี ูตวั เอง ดกู าย ดใู จ ดูอารมณ์ กิเลส ตัณหา อุปทาน ต้องนอ้ มเขา้ หาตัว อย่ามองคนอื่น แกท้ ต่ี ัวเอง คดิ ถงึ ความตาย ทำ�อะไรกน็ กึ ถึงการไม่เกดิ กูไม่เกิดแล้ววะ่ หว่ งตวั เองมากกวา่ คนอ่ืน” “พระโพธสิ ตั ว์ คอื เกดิ มา กน็ กึ แลว้ ว่าจะสร้างบุญยงั ไง มองหาชอ่ งทางบญุ ท่ีจะสรา้ งได้ ตน่ื ขึน้ มา วนั นี้จะเอาบุญยังไงดี ห่วงคนอ่นื มากกว่าหว่ งตัวเอง” “เวลาสวดภพภูมิท่าน ก็มาทั้งหมด มาตามแสง”๑๔๖ คติธรรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“จติ เร็วกว่าแสง นึกไปตรงไหน กไ็ ปถงึ ตรงนน้ั ” “สมบตั ิและพลงั งานจะเพ่ิมขนึ้ ได้ เนอ่ื งจากการกระทำ�” “ถ้าจะเร่งไมเ่ กิด ตอ้ งสวดมนตแ์ บบอารมณ์ดี สบายๆ ทุกอริ ยิ าบถ ยืน เดิน นั่งนอน จ่อใหไ้ ด้ทุกอารมณต์ ้ังแต่ตืน่ ยันหลบั อยกู่ ับตัวเอง อยูก่ ับคำ�ภาวนา พูดนอ้ ยๆ ไม่นานกม็ พี ลัง” “พลงั งานบันทกึ จากทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม สงิ่ เหลา่ น้ี คือ พลงั งานเวลาเรานึกทีไร พลงั งานกจ็ ะเขา้ มากระทบทจี่ ิตเรา” “จิตคิดไมด่ มี ากๆ มนั กจ็ ะกินธาตุ ตอ้ งเบนกระแสทไี่ ม่ดอี อกไป” “การบันทึกพลังงานตอ่ ใหร้ ักษาศีลเปน็ ๑,๐๐๐ ขอ้ ถา้ ทรงอารมณ์ไม่ดีกไ็ มม่ ีประโยชน์ เพราะแสงสว่างไมเ่ กดิ ทจ่ี ติ กรรมบถ ๑๐ ต้องดู ส่ิงไม่ดที ่ีทำ�ใหข้ นุ่ มวั อย่าทำ� ให้ดตู วั เอง ทำ�ตัวเองใหส้ บายใจกพ็ อ ไม่ต้องนกึ ถงึ คนอนื่ พอบันทึกไปนานๆ ก็มกี �ำ ลงัจะเกิดหรอื ไม่เกิดก็ได้” “เจ้ากรรมนายเวร เราไม่รวู้ ่าเค้าอยูต่ รงไหน ถา้ เป็นภพภมู เิ ทวดาและพรหมเค้ากเ็ สวยบุญอยู่ ถา้ อยใู่ นนรกกข็ ้นึ มาทวงไม่ได้ ถา้ เป็นคนหรือสัมภเวสี เรากไ็ ม่รอู้ ีกว่าเป็นใคร ใหท้ �ำ กรรมปัจจบุ ันให้ดี ไมเ่ ก่ยี วกนั ว่าถ้าจะอธิษฐานไปนิพพานเจา้ กรรมนายเวรจะมาทวง ไม่เกี่ยวกัน” “คนเรามนั ก็คดิ ไปเร่ือยไม่มหี ยดุ คดิ ใหเ้ บนความคดิ ไปอยู่ทคี่ �ำ ภาวนา ทำ�อารมณใ์ หด้ ี แสงสว่างจะได้มาก และไมเ่ ปน็ การเสยี เวลาในการสวดมนต์ เพราะอารมณ์ดบี ญุ มนั อดั ไดอ้ ยู่แลว้ ” “ใครจะท�ำ กรรมฐาน จ�ำ ไว้ ใหท้ รงอารมณใ์ หด้ ี จะไดม้ ีแสงสว่างทกุ ลมหายใจเข้าออก” ๑๔๗คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
“เวลาอารมณ์ด.ี .. จติ ก็เปน็ เทวดา พออารมณไ์ ม่ด.ี .. กเ็ หมอื นเป็นสัตว์ เปน็ การท�ำ รา้ ยตวั เอง” “คนเราเกดิ มา มาเจอกนั มารกั กนั แลว้ กต็ ายจากกนั ไม่มใี ครรักกนั จนช่วั ชวี ิตหรอก คนท่เี ปน็ เจ้ากรรมนายเวรจริงๆ กค็ ือคนใกล้ตวั แหละ” “สวดน่ะดี ไปไหนก็เปน็ ผูม้ ปี ระโยชน์ มีประโยชน์ตอ่ หมู่คณะ ตอ่ ภพภมู ิ ต่อตัวเรา หม่นั สวดไป วา่ งก็สวด” “มนุษยเ์ กดิ มาเพ่ือรบั เศษกรรม และท�ำ กรรมใหม่ พอตายก็เสวยกรรมตามที่เคยท�ำ มา พอมาเกิดกท็ �ำ กรรมใหม่ เวียนวา่ ยไปแบบน้ีไมม่ สี ิ้นสุด จะสนิ้ สุดกค็ อืท�ำ กรรมด ี ละกรรมไมด่ ี” “การท�ำ อะไรก็แลว้ แต่ ดกู ารกระท�ำ ของตัวเอง ท�ำ ไปดว้ ยคดิ ไปด้วย เปน็ การพจิ ารณาให้เกดิ ปญั ญา” “กนิ ข้าวยังกินทกุ วนั เลย อธิษฐานก็ต้องอธษิ ฐานทกุ วัน” “ไม่มใี ครรตู้ วั เราเท่ากบั ตัวเราเอง” “สวดมนต์สวดท่ีใจ สวดท่ีไหนก็ได้ จะทำ�กรรมฐานอยา่ ทา่ มาก ตน่ื มาใหท้ ำ�เลย ทำ�จนกวา่ จะหลับ” “กระแสอยู่ท่ีใจ พลงั งานอยทู่ ่ีทเี่ คยกระทำ�” “เราเปน็ ตวั บุญ เพยี งนกึ ถงึ เคา้ เค้าก็มา มารบั บญุ กบั เรา” “ให้สวดสบายๆ อารมณด์ ีดี แสงสว่างจะไดเ้ กดิ หายใจเขา้ ก็สว่าง หายใจออกก็สว่าง”๑๔๘ คติธรรมค�ำ สอนหลวงตามา้
“บญุ คอื ความสบาย บาป คอื ความไม่สบาย รับบญุ หรือรับบาป รับทาง ตา หูจมูก ลนิ้ กาย สัมผสั ท่ใี จ” “กรรมบถ ๑๐ ให้ละให้ได้ ใหค้ ิดดี พดู ดี ทำ�ดี อารมณ์ดี” “วธิ ีการฝากกระแสของผูม้ พี ลังงาน ก็โดยการนึกถึงหลวงปู่ แล้วขอทา่ นรับรองไมม่ วี นั จน คนเราไมค่ ยุ กันกไ็ ม่สนิทกนั ใหค้ ุยกับหลวงปู่ คยุ กบั ทา่ น ขอกับทา่ นเวลานกึ ถงึ หลวงปู่ เป็นการฝกึ กรรมฐานแบบสบายๆ ฝึกรบั อารมณ์แบบสบายๆ ทำ�ตวัใหส้ บาย ท�ำ อารมณใ์ ห้สบาย” “อารมณท์ ีส่ วดมนต ์ ด่าใครไมไ่ ดห้ รอก โกรธใครกไ็ ม่ได้ ทยี่ งั โกรธยังดา่ อยู่แสดงวา่ ไมไ่ ด้สวดมนต”์ “การจะแกก้ รรมในอดตี มันอย่ทู ่ใี จ ตอ้ งหมัน่ สวดมนต์ รกั ษาศลี ภาวนา เด๋ยี วก็ค่อยๆ ลืม อย่าไปคดิ เรื่องทไ่ี ม่ดใี นอดตี ถา้ เร่อื งอดีตไม่ดีต้องคิดในแงด่ ”ี “ท�ำ กรรมกับบิดามารดา ถงึ แมท้ ่านอโหสกิ รรมใหเ้ ราแลว้ กย็ ังมีเศษกรรมอยู่อาจเจ็บปว่ ยหรือไม่สมหวัง” “ถ้าเราอารมณส์ บาย ธาตุ ดนิ น�้ำ ไฟ ลม ของเรากส็ บาย ถา้ อารมณ์ไม่สบายธาตุกไ็ ม่สบาย” “การฟอกธาตุ กใ็ หฝ้ ึกที่จติ โดยการสวดมนต์ ภาวนา รักษาศีล ฟอกธาตุไปเร่อื ย” “เวลาคิด เวลาฟัง ตอ้ งพิจารณาใหด้ ี อย่าไปเชอื่ ใครงา่ ยๆ อยา่ เชอื่ เพยี งมองเหน็ เชอ่ื เพราะฟังตอ่ ๆ กันมา เช่ือเพราะเปน็ ครบู าอาจารย์ เราต้องพจิ ารณาก่อนที่จะเชือ่ตาม”คติธรรมค�ำ สอนหลวงตามา้ ๑๔๙
“อยากหนีกรรมต้องสวดมนต์ และนั่งสมาธิ พอจิตน่ิง จิตกเ็ ปน็ พรหม ไมม่ ีบุญหรอื บาป สะสมไปเร่ือยหลายวนั หลายเดือน หลายปี พอใกล้ตายกเ็ ลอื กได้ว่าจะไปไหน” “รปู อยู่... นามไป... ไปแตล่ ะที ่ จิตมีความเป็นทิพย ์ คิดไปไหนกถ็ ึงท่นี ัน้ ตอ้ งมีก�ำ ลังบันทึกเขา้ ไปในจติ ระหวา่ งสวดกต็ ้องโยงจิตเข้าไปในพลงั งาน โยงเข้าหาหลวงปู่ โยงเข้าหาจกั รพรรดิ” “ความคิดเป็นพลังงาน คิดดกี เ็ ป็นพลังงานด”ี “ใหห้ ลวงพอ่ เดนิ หนา้ ... ผมอยขู่ ้างหลัง... มีอะไรให้หลวงพ่อปะทะไว้ก่อน” “สวดบทจักรพรรด.ิ .. สามารถปดิ อบายภูมิได้ ถ้าสวดไป... ฝกึ ไป... นานเข้า ก็ช่วยเรือ่ งความเจบ็ ปวด ช่วยตอนจติ สดุ ท้ายก่อนตายได้ ต้องฝึก” “พรหมเปน็ ชัน้ ทีล่ ะเอียดที่สุด สงู ท่ีสดุ จะกำ�หนดสรา้ งบารมี หรือจะพน้ ทุกข์กง็ ่าย” “คนที่ไม่เคยฝึกสวด ฝกึ ภาวนาเลย แต่ถ้าใกล้จะไปแล้ว ให้น�ำ ภาพหลวงปู่ไปใหเ้ คา้ ดู” “ถา้ เมื่อใดจิตบบี ธาตเุ มื่อไร สติเรามักจะไม่อยูก่ บั คำ�ภาวนา ใหฝ้ กึ ไว้เผอ่ื วนั ท่ีเราต้องไป หรืออนาคตท่ตี อ้ งเจบ็ ป่วย เอาจิตไปไวท้ ี่อื่น อย่าให้ติดอยูก่ ับธาตุ จะไดไ้ ม่ทรมาน” “เชา้ ขึน้ มา... ต้องรีดหน้า สวดมนต์ แล้วตอ้ งยมิ้ น่งั สมาธแิ ล้วก็อธิษฐาน” “ทีส่ วดมนต์ ภาวนา กเ็ พ่อื เตรยี มตวั ตาย เตรียมตัวกับความเจบ็ ป่วย เตรยี มรบั มือกบั สิ่งทีจ่ ะเกิดขึ้นในอนาคต”๑๕๐ คติธรรมคำ�สอนหลวงตาม้า
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192